★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ จบ - 11/12/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ จบ - 11/12/58  (อ่าน 55915 ครั้ง)

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
อย่าปล่อยให้น้องปากดี ผยองไปปป จัดเลย จัดเลยยย กดซะให้เต็มที เอร๊ยยย

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ (ตอนพิเศษ 3)




ตอนพิเศษ : คิดถึง



เพลงประกอบ https://www.youtube.com/watch?v=FvbErM6ZTBA





มันเป็นเรื่องราวหลังจากที่สองสาวออกต่างจังหวัดไปเที่ยวกับเพื่อนเมื่อวันหยุด




“ไหนๆ ก็ไม่มีก้างแล้ว จะทำอะไรๆ ก็รีบทำล่ะ”




ซีเดินเข้ามากระซิบบอกพร้อมขยิบตาก่อนจะเดินขึ้นรถทัวร์ตามหลังหวานไป






“ป่ะ ไปทำอะไรๆ กันเถอะ” 




หัวเราะกับคำพูดของยัยตัวแสบ ยืนโบกมือตอบสองสาวแอนด์เดอะแก็งส์จนรถทัวร์แล่นออกไปลับตา เขาหันไปพูดกับคนที่ยืนข้างๆ แถมยังคว้ามือแล้วลากให้เดินตามไปอย่างเร็ว คนถูกลากคงจะชินกับคำพูดห่ามๆ เหล่านี้ไปแล้วจึงไม่เกิดการโวยวายอย่างที่เคยเป็น


“จะไปไหน” เมื่อออกรถแล้ว ตุ๊กตาหน้ารถก็ถามขึ้นหน้าตาง่วงงุนเต็มที   

“ไปดูไซด์งาน” ทำหน้านิ่งๆ เข้าไว้   

“ตอนนี้ ดึกๆ อย่างนี้อะนะ” ไม่ตอบพยักหน้าบอกแทน

“ไปดูอะไร เขาไม่ปิดกันหมดแล้วหรือพี่น้ำ” กลายเป็นคนขี้สงสัยถามไม่หยุดซะงั้น


ไซด์งานที่ ‘อ้าง’ ว่าจะไปดูเป็นพื้นที่ว่างอยู่นอกเมือง เขาลงพื้นที่เพื่อสำรวจเมื่อเทอมที่แล้วเป็นประจำ ถ่ายรูปไปส่งอาจารย์จนแทบจะจำต้นไม้ได้หมดทุกต้น หลับตาเดินในไซด์ยังได้สบาย ...เออ โทษทีครับ พอดีว่าช่วงนี้หายใจเข้าออกเป็นโปรเจ็ค พอแค่นี้ก่อนดีกว่าเดี๋ยวยาว 


“อื้อ อาจารย์ให้ลองไปดูรอบๆ ด้วยนิดหน่อยน่ะ ว่าจะมาดูอีกนิด”   


“แล้วทำไมไม่มาพรุ่งนี้ วันนี้มันดึกแล้วจะเห็นไรไหมเนี่ย”


“...” ไม่ตอบคำถามเช่นเคยแต่เอื้อมมือไปเปิดเพลงแทน เหลือบตามองเห็นไอ้ตัวยุ่งบ่นอะไรเบาๆ ตามประสา ไม่นานก็ผล็อยหลับไป




.


.


.






ขับรถมาถึงชายทะเลตอนเกือบๆ ตีหนึ่ง ตามคำบอกของซีก่อนขึ้นรถ




‘พี่ดีชอบทะเล’ 
   


หันไปมองคนที่นอนหลับอยู่เบาะข้างๆ ก็อดที่จะเอามือลูบแก้มขาวซีดนั้นไม่ได้ ซีบอกว่าดีเคยมาทะเลแค่สองครั้ง ในครั้งที่สาม ดีมากับเขา และเป็นครั้งแรกที่เรามาทะเลด้วยกัน


ดีขยับตัวเอียงหน้าเข้าหาฝ่ามืออุ่น เอี้ยวตัวไปหยิบผ้าห่มผืนบางของน้องสาวที่มักติดรถไว้ประจำมาคลุมให้อย่างเบามือ แอบหอมแก้มเบาๆ


เสียงเพลงที่เปิดคลอมาตลอดทางดังขึ้น




… I never thought that you would be the one to hold my heart
But you came around and you knocked me off the ground from the start …




ไม่นึกจริงๆ ว่า จะมาตกหลุมรักผู้ชายคนนี้

ถ้าวันนั้น ดี ไม่ก้มลงเก็บขยะ

ถ้าวันนั้นหวานไม่ได้บอกให้เขามารับที่คณะ





วันนี้จะมีใครมานั่งอยู่ตรงนี้กับเขาหรือเปล่า







ไล้ปลายนิ้วกับหน้าผากมน ผ่านคิ้วบางที่มักขมวดยามเจ้าตัวนิ่วหน้า จมูกเล็กนี้เองที่เจ้าตัวคอยย่นให้เขาเสมอเมื่อเจอหน้ากันแรกๆ ลากนิ้ววนเวียนบนแก้มขาวซีดที่น่ามองยิ่งกว่ายามเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ และปากเล็กนี้เองคอยว่า คอยกวนเขาอยู่เรื่อย ในที่สุดเขาก็รู้ว่าในถ้อยคำว่าร้ายเหล่านั้น ริมฝีปากนี้เต็มไปด้วยความหวานมากเพียงใด 


ร่างที่นอนอยู่ขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเขาลากนิ้วผ่านริมฝีปาก





“อื้อ..”





… I hope that you catch me, 'cause I'm already falling
I'll never let a love get so close

You put your arms around me and I'm home …





โดยไม่ทันได้คิด เขาโน้มตัวโอบกอดคนตรงหน้าเต็มสองแขน


“หือ...พี่น้ำ” ดีสะดุ้งตื่นขยับตัวเบาๆ แต่ไม่ได้ขัดขืน คงจะแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆ โดนเขากอด



“...”



“เป็นอะไร” สองมือผอมบางลูบแผ่นหลังเขา



“พี่..”



“เป็นอะไร...เหนื่อยเหรอ”



“...คิดถึงน่ะ”



“อ่า...อะไรเนี่ย” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขัดเขิน แม้อยู่ในความมืดเขาก็จินตนาการได้ว่าสองแก้มขาวซับสีชมพูอ่อน



“จริงๆ นะ คิดถึง”



“อืม...รู้แล้ว”



“ลงไปเดินเล่นกัน” คลายอ้อมกอด ดีเสมองออกไปที่หน้าต่างและทำตาโตเมื่อรู้ว่าพวกเราอยู่ที่ไหน




หาดทรายสีขาวสะท้อนแสงไฟเป็นประกายระยิบระยับทอดยาวไปในความมืด เวลาดึกสงัดมีเพียงเสียงคลื่นลูกใหญ่น้อยซัดเข้าหาฝั่งก่อนจะซึมหายไป ยามกลางวันสีของน้ำทะเลคงสวยงามกลมกลืนเป็นสีเดียวกันกับท้องฟ้าเบื้องบนเช่นเดียวกับราตรีนี้ที่ทั้งฝืนฟ้าและท้องน้ำเป็นสีดำสนิท ด้านบนมีดวงดาวแต่งแต้มใต้ฟ้ามีแสงไฟจากน้ำมือมนุษย์ทอประกายล้อกัน   



“ไม่เคยมาทะเลตอนกลางคืนมาก่อนเลย” ดีพูดขึ้นเมื่อเห็นภาพด้านนอกเต็มตา


“ใคร”


“ใคร...ก็ดีไง” คนพูดเลิกคิ้วขึ้นทำหน้าเหรอหรา


“เรียกชื่อตัวเองแล้วน่ารักดีนะ” ดีกำมือที่เรากุมกันไว้แน่ขึ้นแก้เขิน


“พี่ก็ไม่เคยมาทะเลกับดีเหมือนกัน...นี่ครั้งแรก” ส่งยิ้มตาหยีให้คนข้างๆ


“ดีจังนะ”












ไม่ต้องนึกถึงอดีต


ไม่ต้องกังวลกับอนาคต


แค่อยู่กับปัจจุบัน








อยู่กับ ‘ดี’ อย่างนี้





เขาก็มีความสุขที่สุดแล้ว










“ที่บอกว่าคิดถึงน่ะ ... พูดจริงๆ นะ”



คยฟังค่อยๆ ฉีกยิ้มจนตาหยี กระซิบตอบข้างหู





“ดีก็คิดถึงเหมือนกัน”



Fin
------------------------------
[4/12/58]
*พี่น้ำบอกรอให้เหยื่อตายใจก่อนแล้วคอยจัดการค่ะ 5555*
ส่งน้องดีมากอดพ่อทูนหัว
สุขสันต์วันพ่อค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
 :กอด1:
Lavender's blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 15:28:13 โดย Wendy »

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น่ารักกันจริง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :L1: :L1: ไม่จำเป็นต้องไปเสม็ดดีก็เสร็จได้ :L1: :L1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แอบหวานตอนน้องไม่อยู่เหรอ อิอิ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :o12:


จบแล้ว ไวมากเลย


อยากอ่านคู่หวานซี (ฮาาาา)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ (ตอนพิเศษ 4)



ตอนพิเศษ: คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย




ฝนตกลงมาห่าใหญ่เมื่อรุ่งเช้า กลิ่นไอดินระเหยปลิวมาตามสายลม น้ำขังบนพื้นถนนสะท้อนภาพท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนใส เมฆเป็นเพียงเงารางๆ สีขาวขุ่นล่องลอยบางเบาต่างจากหลายวันก่อนที่ก้อนเมฆเป็นสีเทาหมองมัวฟ้าไม่สดใสอย่างวันนี้ คงจะเป็นอย่างสำนวนที่กล่าวไว้ว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ภาพนั้นแตกกระจายไปเมื่อรถยนต์คันหนึ่งแล่นผ่าน


มันเป็นวันแรกของสัปดาห์ไม่แปลกใจที่การจราจรบนถนนสายหลักแห่งหนึ่งในย่านธุรกิจสำคัญของเมืองหลวงจะแน่นขนัดไปด้วยยานพาหนะทุกชนิด เสียงบีบแตรดังขึ้นแทบทุกนาที ผู้คนต่างรีบเร่งแข่งขันเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ต่างจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นมาจากบันไดรถไฟฟ้าใต้ดิน   


เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งแขนยาวแต่แขนเสื้อทั้งสองข้างกลับถูกพับขึ้นถึงท้องแขนโชว์ผิวสีน้ำผึ้งนวล ชายเสื้อปล่อยยาวลงมาถึงหน้าขาปิดกางเกงยีนส์ขายาวสีดำที่แนบสนิทไปกับลำตัว รองเท้าหัวแหลมสีดำเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตามจังหวะการก้าวเดิน



สองมือของเขาประคองกระดาษแผ่นใหญ่ที่ซ้อนกันหลายแผ่นจนหนา กระดาษนั้นคงจะมีความสำคัญไม่น้อย เห็นได้จากการระวังทุกย่างก้าวที่เขาจะคอยหลบหลีกผู้คนในโมงยามเร่งด่วนนี้ไปทางซ้ายทีขวาทีน่าเวียนหัว


ชายหนุ่มวิ่งไปซ้อนรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่เข้ามาทักว่า ‘ถาปัตย์ปะน้อง’   


ลงจากรถจ่ายเงินแล้ว เขาออกแรงวิ่งขึ้นบันไดสามสี่ขั้นเพื่อเข้าไปภายในอาคารสี่ชั้นหลังหนึ่ง ส่งยิ้มให้กับยามเฝ้าหน้าตึกที่ตะโกนแซวว่า ‘เอ้า วิ่งหน่อย อีกห้านาทีนะครับ’ เขาวิ่งทะลุออกมายังทางเชื่อมสู่อาคารหลังที่สองที่ซ้อนอยู่ในอาคารหลังแรก ตอนที่เดินผ่านโรงอาหารนักศึกษาหลายคนก็ส่งเสียงแว่วๆ มา ‘เมพเร็วหน่อยเว้ย อีกสามนาที’



เขามาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องที่มีป้ายทำจากทองเหลืองเขียนไว้ว่าง ‘ภาคภูมิสถาปัตยกรรม’ ติดอยู่เหนือบานประตูที่ตอนนี้ปิดสนิทซ้ำยังรูดม่านปิดหน้าต่างทุกบานไว้หมด เหลือเพียงหน้าต่างหนึ่งบานที่เปิดแง้มไว้ให้พอที่จะลอดมือเข้าไปได้ เขาเดินไปหยุดตรงหน้าต่างนั้น สอดกระดาษปึกหนานั้นเข้าไปในช่อง มือคู่หนึ่งยื่นออกมารับ แล้วปั้มตราประทับลงบนกระดาษทุกใบ เขาเซ็นชื่อลงในกระดาษ เมื่อได้ยินเสียงบอกเวลาจากคนที่นั่งอยู่ด้านใน ‘เจ็ดโมงห้าสิบเก้า’



เมื่อเซ็นชื่อเสร็จ เขาเป่าปากออกมาสุดแรง จนมีเสียงแซว


“เกือบไปแล้วนะ นรุตย์”
“สวัสดีครับอาจารย์” เขายกมือไหว้
“ถ้ามาช้าอีกนาทีเดียว เอฟแน่”
“ฮะฮะ ผมมี ‘โชคดี’ ประจำตัวน่ะครับ” ชายหนุ่มตอบรับคำกระเซ้าอย่างอารมณ์ดี
“เป็นคนสุดท้ายทุกทีสิน่า ตอนทำธีสีสอย่าเป็นอย่างนี้นา” อาจารย์ที่ปรึกษาตบบ่าแล้วเดินจากไป
“จะพยายามครับ ขอบคุณครับอาจารย์”









ชายหนุ่มเดินช้าๆ กลับมายังทางเชื่อมระหว่างสองตึกซึ่งเป็นโรงอาหารนั้น ยังไม่ทันที่เขาจะมองหาใครก็มีเสียงเรียก

“เฮ้ย ไอ้เมพน้ำ ทางนี้เว้ย”

“ไง” เขาเดินเข้าไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคนที่กำลังนั่งกินข้าวคุยเล่นกันอยู่
“คนสุดท้ายละซิเอ็ง”
“อืม หิววะ ไปหาไรกินก่อน” เขาลุกขึ้นเดินไปเลือกข้าวราดแกงสองอย่างโปะด้วยไข่ดาว กลับมานั่งที่โต๊ะ

“เมื่อวานกูเดินผ่านวิดวะ เห็นตอนรับน้องพอดี น้องๆ น่ารักๆ เพียบ” คนที่พูดกับเขาตั้งแต่มาถึงยังคงเล่าเรื่องได้เรื่อยๆ ไม่มีท่าว่าจะหยุด

“อย่างมึงต้องถามก่อน น้องที่ว่า ‘น่ารัก’ ของมึงเนี่ย ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ” อีกคนพูดขัดคอขึ้นมาทำให้คนทั้งโต๊ะรวมทั้งชายหนุ่มหัวเราะขำครืน

“เฮ้ย พวกมึง จะซ้ำเติมกูจนลูกบวชเลยไหม” คนถูกแซวโอด

“ไม่แน่วะ กูไม่รู้ว่ามึงจะมีลูกไหมนี่หว่า ขอแซวก่อน” แล้วก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอีกครืนใหญ่
ใครคนหนึ่งถามเจ้าตัวต่อไปว่า


“แล้วเป็นไง น้องหนูดี สุดรักสุดสวาทของมึง”


“ฮึ้ย เอาคำว่า ’ของกู’ ออกไปได้ไหมวะ ตอนนั้นกูแต่เข้าใจผิดเว้ย คิดแล้วจะยังเจ็บไม่หาย”


“สมน้ำหน้ามึงไอ้ห่า น้องมันแมนขนาดนั้น มึงก็ยังคิดว่าเป็นทอม เป็นไงล่ะ โดนหมัดตอบรักเข้าไป ตราตรึงดีไหมสัด”


น้ำหัวเราะกับคำพูดของเพื่อนๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องโจ๊กที่สุดในตอนที่พวกเขาอยู่ปีสอง ช่วงรับน้องก่อนเปิดภาคเรียนเมื่อโจไปหลงรักเฟรชชี่ปีหนึ่งคณะวิศวะฯ คนหนึ่งเข้า เขาไม่ได้รู้จักหน้าตาแต่อย่างใดแต่คิดว่าคงหน้าตาดีระดับหนึ่งเพราะโจมาพูดให้ฟังบ่อยๆ


จนวันสุดท้ายของการทำกิจกรรมมาถึง วันก่อนเปิดเรียน โจเดินเข้าไปสารภาพรักกับน้องหนูดี ที่กลางสนามหลังเลิกกิจกรรมแล้วโดนต่อยหน้าหงายออกมา พร้อมประโยคที่เจ้าตัวตะโกนเสียงดังจนเขาที่นั่งอยู่แถวๆ จุดพยาบาลขอบสนามได้ยินว่า ‘ไอ้สัตว์ กูเป็นผู้ชายเว้ย’


“จำได้จนวันตายอะ แม่ง ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์มันก็มองคล้ายๆ กันหมดนี่หว่า”


สเปคโจเป็นสาวห้าว เท่าที่เขาสังเกตเห็นคนที่เพื่อนชอบแต่ละคนท่าทางแมนๆ ทั้งนั้น


“ขึ้นปีสองแล้ว กูยังไม่เจอเลยวะ ไม่รู้เป็นไงบ้างนะ”


“ถ้ามึงยังมีหน้าไปเจอน้องเขาอีกก็เกินไปแล้วว่ะ”


เขาไม่รู้ว่าเพื่อนจะพูดคุยกันต่อว่าอย่างไรเพราะหลังจากทานข้าวอิ่มแล้วก็กลับไปนอนหลับเป็นตายที่คอนโด


.

.

.


หลายวันต่อมาไป โจมาเล่าให้เพื่อนฟังว่าน้องหนูดี มีน้องสาว หน้าตาน่ารักมากเข้ามาเป็นเฟชรชี่ เรียนอยู่คณะครุศาสตร์


“คราวนี้ มึงแน่ในนะว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ” เพื่อนคนอื่นๆ เอ่ยแซว


“เออน่า กูเห็นมากับตา คุยกันแล้วโว้ย ใส่กระโปรงพลีทด้วยเว้ย” โจบอกเพื่อนๆ ด้วยสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยม


“ไอ้น้ำ น้องมึงก็เรียนครุฯ นี่หว่า ใช่ไหม แนะนำกูหน่อยสิ”


“ไม่เอา กูหวง” เขาบอกเสียงเข้ม


“โห ไอ้ห่า กูไม่ได้จะจีบน้องมึง แต่จะให้น้องมึงพามึงไปรู้จักน้องซีเฟ้ย” คนอื่นๆ ที่ฟังแผนโจขมวดคิ้ว


“แล้วทำไมต้องรู้จักกันผ่านน้องไอ้น้ำละ น้องหนูดีเขาไม่แนะนำมึงหรือไง” ใครบางคนท้วงขึ้น


“ใช่ๆ ไหนว่าคุยกันแล้ว ไอ้นี่โม้ว่ะ”


“ไม่ได้โม้เว่ย แต่กูจะรู้จักน้องไอ้น้ำไว้ คอยแอบถามเรื่องที่ถามพี่ชายน้องเค้าไม่ได้ดิว่ะ น้องดีมันหวงน้องจะตาย วันก่อนแค่กูมองน้องมันนิดเดียว ยังมองซะตาถลน” โจเล่าให้เพื่อนฟังยาว


“เป็นกูก็ไม่ไว้ใจมึงว่ะ ผู้ชายมึงยังจีบมาแล้วเล้ย” คำพูดนี้เรียกเสียงหัวเราะเกรียวกราวได้เป็นอย่างดี ไม่สนใจโจที่ฮึดฮัดกร่นด่าเพื่อนเป็นไฟ


ชายหนุ่มไม่รู้เหมือนกันว่าโจไปทำอย่างไรถึงสนิทกับหวาน น้องสาวของเขาได้ จนกระทั่งสนิทกับซี โจจะกลับมาเล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทุกครั้งเมื่อได้พบสองสาว



แล้วเขาก็เพิ่งรู้ว่าเพื่อนสนิทของน้องสาวตัวเองคือ ซี น้องสาวของชายหนุ่มคนแรกที่โจจีบเนื่องด้วยความเข้าใจผิดนี่เอง








หวานเล่าเรื่องของซีให้เขาฟังบ่อยๆ ถึงความสู้ชีวิตของสองพี่น้องที่พ่อต้องทำงานหาเงินไม่มีเวลาใส่ใจลูกน้อย มีแม่เลี้ยงใจร้ายคอยกลั่นแกล้ง ทำงานบ้านทุกอย่าง แต่กลับตั้งใจเรียนจนสามารถเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และทำงานหาเงินสารพัดตัวเป็นเกลียว


หวานมักจะจบเรื่องของซีและดีทุกครั้งด้วยประโยคที่ว่า




“ถ้ากลับซีเป็นหวานนะ หวานคงใจแตกไปนานแล้ว ไม่มาตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีอยู่อย่างนี้หรอก”





เรื่องราวของสองพี่น้องถูกเล่าผ่านน้องสาวตลอดเป็นเวลาเกือบสามปี จนวันหนึ่งที่เขาได้พบกับเจ้าตัว ภาพที่ดีนำเศษอาหารไปให้สุนัขจรจัด รวมทั้งก้มลงเก็บเศษขยะบนพื้นก็ทำให้เขาประทับใจไม่มีวันลืม



หัวใจเต้นสะดุดไปห้วงเวลาหนึ่ง มาพร้อมกับความคิดที่เขาเพิ่งจะปฏิเสธน้องสาวตัวยุ่งไปเสียงแข็ง




‘รักแรกพบมีอยู่นะพี่น้ำ เชื่อหวานสิ’










ตึกตัก!










ตึกตัก!











เขาเชื่อ...




เชื่อแล้ว







และเชื่อว่าความรักนี้จะ ‘ดี’ อย่างคนที่เขาตกหลุมรัก



Fin
---------------------------------------------------
 :pig4:
Lavender's blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 15:36:27 โดย Wendy »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่โจสนใจมาเจอแฟนเพื่อนตัวเองไหมล่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ makone

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★  (ตอนพิเศษ 5)





ตอนพิเศษ: ข้าวปั้น

 
 


โปรเจ็คจบของน้ำถูกนำเสนอไปแล้วเมื่อวาน เหนื่อยแทบจะขาดใจ ยิ่งกว่าโปรเจ็คตัวเองอีกเหอะ
แม่งงงงงง  ตัดโมเดล ทำต้นไม้ พ่นสี นั่นโน้นนี่ ดมกาวจนมึนหมดล่ะ



ดีว่าโปรเจ็คของผมเอง อ.ให้ส่งไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว ไอ้พี่น้ำเลยได้แรงงานมาช่วยปั่นโมเดลของมันได้อย่างเต็มที่ ทั้งๆ ที่สายรหัสของมันตั้งแต่น้องปีหนึ่งยันพี่ปีแก่มาช่วยกันออกจะเยอะแยะขนาดนั้นแล้วแท้ๆ


 
‘หนูดีทำต้นไม้ก็ได้ ง่ายๆ’ พี่แก่คนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อผมเข้ามาช่วยวันแรกๆ 

 


‘ไม่ต้องหรอก แค่นั่งส่งยิ้มหวานๆ เป็นกำลังใจให้พี่ก็พอแล้วล่ะ’



น้ำที่นั่งตัดโมเดลอยู่ข้างๆ พูดขึ้น พร้อมส่งยิ้มตาหยี ผมเริ่มยาวใกล้ลูกตาคนมองยื่นมือออกไปปัดออกให้ พอได้ยินที่น้ำพูดเท่านั้นแหละ จากปัดแทบจะเป็นผลักหัวทิ่ม ถ้าไม่ติดว่ามือถือคัดเตอร์อยู่นะ ไอ้พี่น้ำ!!


‘ฮิ้ววววว’  ลูกคู่ก็พร้อมกันเหลือเกิ้นนนนนน ให้ตายเถอะ
 



สถานการณ์อย่างนี้ชิวๆ ไม่สะดุ้งสะเทือนเว่ย แค่รู้สึกอากาศร้อนขึ้นมาเฉยๆ โดยเฉพาะที่แก้ม ทำไมมันร้อนๆ งี้อะ


ผมทำเป็นไม่สนใจทั้งที่แก้มยังร้อนผ่าว ขยับไปใกล้น้องคนหนึ่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิทำต้นไม้เล็กๆ อยู่ เธอหยิบเม็ดโฟมสีขาวขึ้นมาทากาวหลอดเหลืองแล้วเอาสิ่งที่ยัยหวานเรียกว่า ‘สก็อตไปรท์’ ที่ฉีกยีแล้วขึ้นมาติดบางๆ ทั่วเม็ดโฟม จากนั้นก็เอาเข็มหมุดปักลงไป



 ‘สก็อตไปรท์’ ที่ว่ามันคือแผ่นใยสังเคราะห์สีเขียว ทำมาเป็นแผ่นๆ ลักษณะคล้ายกับสก็ตไปรท์อย่างที่หวานเรียกจริงๆ นั่นแหละแต่จะบางกว่าและเนื้อสัมผัสนุ่มกว่า เวลาจะใช้ก็ยีให้แยกออกจากกันจากนั้นค่อยเอาไปติดกับโฟม เม็ดโฟมสีขาวๆ ก็จะกลายเป็นต้นไม้ไปเลย

สุดยอด ขอคารวะผู้คิดค้นด้วยใจจริง ไม่อย่างนั้นโปรเจ็คของเด็กสถาปัตย์คงต้องเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าซอมบี้แน่ๆ



ทำไมการทำต้นไม้ถึงเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่น้ำลากไปช่วยงานที่คอนโด ถามมันแล้วมันบอกว่า ‘ลักษณะของต้นไม้ และขนาดของโมเดลมันต่างกันเลยต้องใช้วิธีที่ต่างกันไปครับ’ โอเค น้ำเลิกทำหน้าตาจริงจังกับกูได้แล้ว กูไม่ได้เป็นอาจารย์ที่จะมาให้คะแนนโมมึงนะเฟ้ย

 









‘พี่เป็นแฟนกับพี่น้ำหรอคะ’




น้องปีหนึ่งที่ผมนั่งปั่นต้นไม้อยู่ด้วยทักขึ้น เมื่อเรานั่งกันเงียบๆ มาสักพักพอให้ได้ยินกันสองคน ดีแล้วครับดังกว่านี้คงได้ยินกันทั้งภาคไอ้พี่น้ำแหง





 ‘…………’ ผมไม่ตอบ
 





คือที่เงียบนี่ไม่ใช่ว่าไม่กล้าตอบนะ แต่คือจะให้พูดว่า ครับ ก็ไม่รู้ว่าคนฟังจะรับได้มากน้อยแค่ไหนกับความรักของพวกเรา ผมไม่ใช่คนที่จะอยู่รับความกดดันเหล่านี้แต่เป็นพี่น้ำ กลัวว่าพี่น้ำจะโดนมองด้วยสายตาแปลกๆ จากสังคมที่มันต้องใช้ชีวิตอยู่ แม้จะเป็นปีสุดท้ายที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็เถอะนะ แต่เด็กคณะนี้ก็สนิทกันมากรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็ยังแวะเวียนมาช่วยงาน แนะนำ รุ่นน้องไม่เคยขาด



‘เอ่อ...ถ้าทำให้ลำบาก ข้าวปั้นก็ขอโทษด้วยนะคะพี่’ น้องคงเห็นว่าผมเงียบไปนานเลยกล่าวขอโทษขึ้น



‘เอ้ยๆ ไม่ใช่ๆ ไม่ได้ลำบากไรหรอก ไม่ต้องขอโทษๆ’ ผมรีบยกไม้ยกมือรับไหว้ที่น้องเอ่ยขอโทษพร้อมยกมือไหว้ เด็กคณะนี้มันมารยาทดีขนาดนี้เลยเรอะ เออคือไม่ได้หมายความว่านิสัยไม่ดีนะแต่แบบ น้องมันเรียบร้อยไปอะ ดูไอ้พี่น้ำดิ เห็นเงียบๆ เรียบร้อยแบบนั้น ความจริงโคตรกวนตีน จริงๆ นะ

 


‘ถ้าไม่ลำบากอะไร....งั้นพี่หนูดีเป็นแฟนพี่น้ำใช่ไหมคะ’ ผมเหวอ ชั่วเสี้ยววินาทีทำไมเมื่อกี้เหมือนเห็นสายตาของน้องข้าวปั้นแอบเหมือนกับของยัยซีและหวานเวลาเห็นพี่น้ำมาหาผม เหมือนสายตาของเหมียวเล็กเวลาผมจะยื่นของกินไปให้อย่างนั้นละ




 
‘ก็เอ่อ...’ ผมยังคงอ้ำอึ้ง ไม่ทันได้สังเกตว่าคนในกลุ่มที่ทำเป็นพูดคุยบ้าง ทำงานตรงหน้าบ้างค่อยๆ รางานลง เสียงพูดคุยกันเงียบลงไป สายตาของคนทั้งกลุ่มมองมาที่ หนูดี เป็นตาเดียว





‘ถ้าลำบากที่จะพูด พี่ดีแต่พยักหน้าหรือไม่ก็ส่ายหน้าก็ได้นะคะ’ ข้าวปั้นพูดขึ้นอีกเมื่อผมทำหน้าไม่ถูก ไม่ตอบคำถามสักที

 





นึกถึงเวลาที่พี่น้ำมันคอยช่วยเหลือ ดูแลเราสองคนพี่น้อง เอาใจใส่เสมอ ยิ้มหน้าระรื่นทุกครั้งที่โดนสองสาวแซว พาไปรู้จักกับหลวงพ่อ พาไปเที่ยวบ้านแม่ ขอเป็นแฟน เวลามันไปไหนใครถามมันก็ไม่เคยปิดบังเลย



แค่นี้ทำไมจะตอบไม่ได้ล่ะ








‘อื้อ พี่เป็นแฟนพี่น้ำ’





ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และรอยยิ้มจนตาเป็นขีดโค้ง ก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงเป่าปาก โห่ ฮิ้ว ดังขึ้นแทบจะทันทีที่ผมยิ้มให้ข้าวปั้น
 


‘ฮิ้ววววววววววววว’ ทั้งสายรหัสส่งเสียงโห่แซว เดี๋ยวผมรู้ว่าแถวนี้มีม็อบ พวกคุณไปซื้อนกหวีดมาดีไหมจะได้ไม่เจ็บคอ ถ้าจะกรี๊ดกันขนาดนี้



‘เฮียยยยยยยย แฟนเฮียน่ารักโคตรๆ อะ’ ไอ้คนนี้สายรหัสปีสี่ของไอ้น้ำ มึงพูดอาร้ายยยย ใครน่ารัก กูหล่อเฟ้ย นั่นโดนไอ้น้ำโบกไปเรียบร้อย สม

 


‘ไอ้ปั้น มึงแน่มาก’ ไอ้นี่สายรหัสปีสอง ทำไมพวกมันต้องตีมือกันข้ามหัวผม แล้วน้องข้าวปั้นคนที่แทบจะนั่งพับเพียบปั่นต้นไม้กับผมเมื่อกี้หายไปไหน คนที่ยักคิ้วหลิ่วตาท่าทางกวนตีนคนนี้คือใครวะ!!

 




‘ไอ้น้ำ มึงไปเจออย่างนี้ที่ไหนวะ เดี๋ยวกูไปหามั่งดิ น่ารักชิบหาย’  ผมหล่อเข้าใจไหมครับพี่แก่ สลัด!!!

 



คำพูดทั้งหมดไม่ได้พูดออกไปแต่อย่างใด ตอนนั้นแค่อ้าปากพะงาบๆ ได้ก็บุญแล้วเหอะ

พอไอ้พี่น้ำลุกขึ้นยืน ทุกคนถึงได้เงียบเสียงลง




‘เบอร์โทรพิซซ่าเบอร์ไร จัดการเลย เดี๋ยวแถมไก่ทอดด้วย โบนัส’






‘ฮิ้วววววว ป๋ามากค่ะเฮีย’ นั่นคือน้องข้าวปั้นตัวจริงสินะ ไอ้เด็กสลัด!!
แล้วทั้งสายรหัสก็เข้าไปรุมข้าวปั้นที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสั่งพิซซ่าและไก่ทอดกันวุ่นวาย










ไอ้พี่น้ำเดินทำหน้าระรื่นเข้ามาหาผม เดี๋ยวนะ ให้เดาเองมันพระเอกอย่างผมจะเก่งเวอร์ไปเฟอร์เฟ็กไป ขอตามสเตปในทีวีแปบ ต้องเริ่มด้วยประโยคคลาสสิก


‘นี่มันเรื่องอะไรกันอะพี่น้ำ’



‘ฮ่าๆ วันประกาศตัวเป็นแฟนอย่างเป็นทางการของดีไง’




‘ประกาศตัวอะไร ดีไม่เห็นรู้เรื่อง’ 
 



‘พี่จะเลี้ยงข้าวสายรหัสที่มาช่วยงานเลยให้มันช่วยให้ดีพูดให้กำลังใจพี่หน่อยเป็นการตอบแทน’





ผมเอื้อมมือหมายจะไปโบกหัวไอ้พี่น้ำ แต่มันหลบ!! มันหลบได้





‘ไม่เอาน่า เป็นแฟนกัน แค่นี้ไม่ต้องเขินหรอกเนอะ’ ยังมีหน้ามาลิ่วตาล้อ






เนอะพ่องงงงงงงงง






แล้วผมก็ได้รู้ว่าสุภาษิตที่ว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง มันจริงแค่ไหน ฮึ้ย!!!





.


.


.

 




 
“พะ...ดี”

 




 

“พี่ดี”

 

 

 





“ไอ้พี่ดี”




“เฮ้ย อะไรวะ” จู่ๆ ก็มีมือดีมาตบหลังเสียงดังป้าบใครไม่สะดุ้งก็ไม่ใช่คนแล้วยัยซี
           
“เอ้า นั่งเหม่ออะไรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน ทำไม คิดถึงพี่น้ำอะเด้” ยัยซีในมาดแม่ครัวสวมผ้ากันเปื้อนเดินเข้านั่งข้างๆ กันบนโซฟา

“ตลกล่ะ สัด”

“เอ้าก็จริง เรียกตั้งนานให้มาช่วยกันพันสาหร่าย เนี่ยซีทำเสร็จแล้วยังนั่นเหม่ออยู่ได้”

“มึงทำอะไร”

“วุ้ย นี่อาการหนักนะเนี่ย ก็วันนี้ซีลองปั้นข้าวปั้นไง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปสอนหวานทำ”

“มึงทำข้าวปั้นเหรอ”

“อื้อ นี่เสร็จละ ช่วยชิมหน่อยดิ อร่อยไหมต้องเพิ่มไรป่าว”



ซียื่นข้าวปั้น ก้อนสามเหลี่ยมสีขาวมีสาหร่ายพาดตรงฐานมาให้ หากเป็นเมื่อก่อนก็ไม่มีความรู้สึกอะไรหรอกนะ แต่ตอนนี้เห็นแล้วแม่งเจ็บใจชะมัด



“ไม่เอา ไม่กิน กูไม่ชอบ”




“ชิมให้หน่อยสิ...นะ”





“ไม่!”


ถ้าเป็นปกติยัยซีจะต้องเสียงดังใส่แล้วก็โกรธโมโหจนพาลไม่ยอมให้ผมได้ชิมอาการที่มันทำสมใจ แต่...


“เอ๊ะพี่ดี ชิมเดี๋ยวนี้ อย่าให้คนทำเสียใจสิ”



แต่คราวนี้เล่นไม้อ่อน แอบเห็นน้ำตาคลอนิดๆ ด้วยอะ

เฮ้ย เดี๋ยวดิ อะไรวะแค่นี้ร้องไห้





 
“กูชิมชิ้นเดียวพอนะ”



“อื้อ เค้าตั้งใจทำที่สุดเลยน้า” หน้าตาเปลี่ยนมาระริกระรี้ทันควัน น้องใครวะ


“เหอะ จะเอาอาหารไปง้อแฟนแกที่โกรธกันเมื่อวันก่อนก็บอกมา”


“ฮะ!” ยัยซีทำหน้าช็อคโลกสุดๆ


“อะไร”


“แฟนอะไร ไม่มี” ปฏิเสธจนลิ้นพันพูดอู้อี้ในปาก




“ไม่ใช่แฟนก็ไม่ใช่แฟน ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”



พอเห็นยัยซีหน้าแดงแล้วก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมพวกมันถึงชอบล้อแล้วแกล้งให้คนอื่นเขินนัก มันสนุกแบบนี้เองสินะ




“แล้วนี่ไม่ได้ฝึกทำไปง้อยัยหวานจริงดิ”


แก้มยัยซีแดงเปล่งราวกับมะเขือเทศสุกจนน่ากลัวว่าจะระเบิด น้องสูดลมหายใจลุกตะโกนเสียงดังแล้วเดินหนีไปที่ครัวซะงั้น





“กินชิ้นเดียวไม่รู้รสหรอกพี่ดี ชิมไปหมดแหละ ของรอบแรกที่ทำด้วย กล้าแซวน้องได้ไง”




ไอ้นิสัยเถียงไม่ออกแล้วเดินหนีนี่คุ้นจังเลยว่าไหมครับ คงไม่ต้องบอกหรอกใช่ไหมว่าวันนี้ผมกินข้าวปั้นไปกี่ชิ้น เอาเป็นว่า แค่ได้กลิ่นก็แทบจะอ้วกแตกเลยล่ะ ผมคงแหยงกับอาหารชนิดนี้ไปอีกนาน แค่ชื่อก็แสบไปถึงทรวงจริงๆ




เป็นตายอย่างไรผมจะไม่ยอมให้ให้สองสาวไปรู้จักไอ้เด็กพันธุ์นั้นเด็ดขาด ให้ตายสิ!

 

 

Fin
--------------------------------
[7/12/58]
ได้ความคิดเกี่ยวกับตอนนี้จากการไปซื้อโอนิกิริมากิน
เจ็บใจมากที่แกะแล้วข้าวปั้นไม่เคยห่อสาหร่ายทั่วทั้งชิ้นสักที กินทีหล่นร่วงตลอดเลย TT
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
 :กอด1:
Lavender’s blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 15:41:58 โดย Wendy »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สมใจละสิพี่น้ำ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
สนุกมากค่ะ  +1 ให้คนเขียนเลย
เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ แต่มีจุดพีคทุกตอน
เราชอบนะ
ทั้งเรื่องคือพี่น้ำโคตรอบอุ่นอ่ะ แบบว่าดีใจที่สองพี่น้องได้เจออะไรที่ดีดี
แต่แอบบอกพี่น้ำปราบให้อยู่นะ พูดไม่เพราะฝากตีปากด้วย
เป็นเด็กเป็นเล็กไม่กูมึงกับพี่น้ำนะคะ
ฝากดูเรื่องคำผิดนิดนึงนะคะ
มีบ้างประปราย แต่น้อยมากแหละ ^^
แล้วก็ love at first sight << น่าจะใช้ sight ตัวนี้นะคะ ^^
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดี ที่อบอุ่นมากๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ และจะรออ่านเรื่องต่อไปนะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
xD


ตอนท้ายซีหวานจริงด้วย น่าร้ากกกกกกกกกกกก


เขียนยูริด้วยเถอะค่ะ กั่กๆ

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ (ตอนพิเศษ 6)




ตอนพิเศษ : อาหารเช้าที่มากเป็นพิเศษ

 

 

         


ก๊อกๆๆ!!

 

 



ก๊อกๆๆๆ!!!

 

 




ฉันยืนเคาะประตูเรียกพี่ดีแต่เช้า เมื่อคืนได้สูตรอาหารเช้าหน้าตาน่าทานมาจากอินเตอร์เน็ตเลยอยากลองทำบ้าง วันนี้ฉันจึงรีบตื่นแต่เช้าทำอาหารตามสูตร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเพิ่งจะเจ็ดโมงนิดๆ ไม่แปลกหรอกที่พี่ดียังไม่ตื่น แต่วันนี้ต้องตื่นนะ! ฉันลุกขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่หกโมงเลยนะ พี่ชาย!!

 



ปังๆๆๆ!!!!!






เคาะประตูไปหลายทีจนมือเจ็บเลยเปลี่ยนมาใช้มือตบประตูแทน คนในห้องก็ไม่ส่งเสียงอืออาตอบอย่างเคยสักนิด
ฉันจึงตะโกนเรียกพร้อมตบประตูไปด้วย



“พี่ดี ปังๆๆๆ ตื่นๆๆๆ ซีทำกับข้าวแล้ว ลุกมากินหน่อยเร็วๆๆๆ เดี๋ยวค่อยกลับไปนอนต่อ ก๊อกๆๆๆ” ยังคงเงียบ เอ๊ะพี่ดีนี่ยังไงนะ ไม่เคยตื่นยากขนาดนี้นิหว่า

“พี่ดีเร้วววววว เดี๋ยวเย็นหมดไม่อร่อยนะ แล้วมาว่าซีทำกับข้าวมะ---- เย้ย“

 

ฉันตกใจเมื่อประตูที่ปิดสนิทจู่ๆ ก็เปิดออก เสียงแปดหลอดของฉันที่กำลังจะเตรียมต่อว่าคนที่เปิดประตูพรวดออกมาหายไป กลายเป็นอ้าปากค้าง หุบแล้วอ้าอีกที แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ หลุดรอดออกมา ตาเบิ่งกว้างเท่าที่ตาตี่ๆ ของฉันจะสามารถทำได้
พนันได้ว่าถ้าหวานมาเห็นตาของฉันตอนนี้ เธอคงเลิกล้อฉันเรื่องตาเล็กต่างจากพี่ดีที่ตาโตไปอีกนาน เดี๋ยวสิ ตอนนี้มันใช่เวลาคิดถึงยัยตัวดีไหมเล่า!!


ผู้ชายค่ะ ผู้ชายไม่ใส่เสื้อ นุ่งแต่กางเกงขาสั้นสามส่วนสีดำที่ไม่ใช่พี่ชายของฉันเปิดประตูออกมา สายตาของฉันกวาดขึ้นลงตั้งแต่หัวจดเท้ากับร่างกายของคนตรงหน้า ขึ้นลงไปมากี่รอบไม่รู้ รู้แต่ว่ามากกว่าสามรอบแน่นอน



“ซี” เสียงทุ้มที่เรียกชื่อของฉันพร้อมกับมือหนาที่โบกไปมาทำให้สติของฉันกลับคืนมา


“ดะ..เดี๋ยวนะพี่น้ำ...ซะ ซีขอไปหยิบกล้อง เอ้ย ไม่ใช่ๆๆๆๆ ใส่แว่นก่อน มองไม่เห็นอะ อยู่นิ่งๆ ห้ามกระดุกกระดิกนะ ซีมองไม่เห็นว่านั่นคือพี่น้ำตัวจริงหรือเปล่า อาจเป็นคนอื่นที่หน้าตาเหมือนพี่น้ำปลอมตัวมาจะมาปล้ำ เอ้ย ปล้นบ้าน รอซีแปบนะ”


พูดด้วยความเร็วแสงจนลิ้นพันกันไปหมด แล้วออกวิ่งไปที่ห้องตัวเอง หยิบแว่นตาและกล้องถ่ายรูปตัวเก่าขึ้นมา ด้วยความเร็วกว่าร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องรีบๆ หน่อย ...เดี๋ยวเหยื่อ เอ้ย พี่น้ำจะตื่นซะก่อน ฮะฮะ ตอนช่วงเวลาตื่นเต้นก็ชอบเผลอหลุดความในใจออกไปเสียเรื่อยสิน่า 





ฉันมาหยุดหายใจหอบ สวมแว่นตาเงยหน้าขึ้นมองร่างกาย เฮ้ย ไม่ใช่ หน้าตาของผู้ชายคนตรงหน้าอีกครั้ง



คนที่ยืนนิ่งอยู่เป็นพี่น้ำนั่นแหละ ผมยาวตอนนี้ถูกตัดสั้นซอยไล่ระดับระต้นคอ แถวๆ คอมีรอยแดงเป็นทาง...รอยเล็บหรือเปล่านะ ขยับเข้าไปใกล้กว่านี้พี่น้ำจะหาว่าเราโรคจิตไหม เดี๋ยวนะๆ เห็นตัวผอมๆ อย่างนี้ พี่น้ำนี่ก็แอบมีกล้ามเหมือนกันนะ แม้จะไม่ใช่ซิกแพคหกลูกโตๆ แต่ก็มีเค้ารางๆ เหมือนกันแฮะ ถ้าถ่ายรูปเก็บไว้เจ้าตัวจะว่าอะไรหรือเปล่า 

 

















“ดี...” เสียงทุ้มกระซิบเรียกชื่อร่างบางเสียงพร่า ริมฝีปากขบเม้มลำคอขาวซีดเบาๆ รอยแดงก็ปรากฏขึ้น



“อื้อ...พี่น้ำ” ร่างเล็กสะท้านตัวสะบัดหน้าไปมาตามแรงอารมณ์ ทุกแห่งที่ริมฝีปากบางนั้นแตะแต้ม ร้อนรุ่มราวกับถูกเหล็กร้อนจี้ ความร้อนค่อยเพิ่มมากขึ้นดุจไฟสุมขอนที่ค่อยลุกลามเริ่มจากใบหน้า ลำคอ ตอนนี้ความร้อนจากทุกแห่งบนร่างกายไปรวมอยู่ที่บริเวณส่วนอ่อนไหวกึ่งกลางลำตัวเสียแล้ว



มือซีดขาวป่ายปะไปทั่ว แล้วค่อยถูกคว้าไปวางแนบกับลำคอแกร่ง เสียงกระซิบแหบพร่าดังขึ้นข้างหู




“กอดพี่แน่ๆ นะ”




สิ้นเสียงนิ้วทั้งสิบจิกลงลำคอนั้นทันที แล้วค่อยลากยาวผ่านไหล่กว้างเลยไปถึงแผ่นหลัง

 


















แม่เจ้า!! เลือดกำเดาจะกระฉูด กลับมาๆ พี่น้ำช่างร้อนแรงเสียจริง ซีอยากมุดไปอยู่ใต้เตียง

ฉันไล่สายตาขึ้นไปอีกรอบ ...นั่นตรงไหปลาร้านั่นมันอาร้ายยยยย รอยแดงเป็นจ้ำๆ จากประสบการณ์ที่สั่งสมในการเป็นสาววายแล้วละก็ฉันขอฟันธงเลยว่านั่นคือ รอยจูบ ฟันธง !!!! แชะ เก็บหลักฐาน

อะโห่ เห็นของจริงแบบนี้แล้วมัน โอ้ยยยย ---- พี่ดีนี่ร้อนแรงใช่เล่นนะเนี่ย

ไม่อยากจะคิดถึงรอยเล็บบนหลังเลยว่ามันจะ ...เต็มไปด้วยร่องรอยที่แสดงถึงความรู้สึกร้อนแรงที่ทั้งคู่มอบให้อีกฝ่ายอย่างหลงใหลในค่ำคืนที่ร้อนเร่า... อย่างที่เคยอ่านมาหรือเปล่า




















บทรักยังคงดำเนินต่อไป ร่างเล็กกลั้นเสียงร้องน่าอายของตนเองไว้อย่างเต็มที่ ริมฝีปากถูกเม้มจนขาวซีดซ้ำยังเผลอกัดเข้าอย่างแรงจนน่ากลัวว่าเลือดจะออก ร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านบนเห็นท่าไม่ดีจึงกระซิบบอก
 


“กัดพี่ อย่ากัดปาก”

 

“ฮื่อออออ” ร่างเล็กๆ นั้นโอบกอดเขาไว้เต็มตัว .... แนบชิดสนิทกว่าครั้งไหน .....ก่อนจะรู้สึกเจ็บแปลบ ดีกัดคอเขาเต็มเขี้ยว ไม่พอเจ้าตัวยังกัดย้ำๆ ตามจังหวะการเคลื่อนไหวของร่างกายเสียด้วย


 
















ฉันได้แต่ซับน้ำตาในใจ ทำม้ายยยย ทำไม เมื่อคืนถึงได้หลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเล้ยยยยย พลาดแล้ว พลาดแล้ว ไอ้ซี
โดยไม่รู้ตัว มือซ้ายถือกล้องถ่ายรูปมานั้นก็กดถ่ายรูปไม่ยั้งเสียแล้ว....ว้าไม่ได้โฟกัสเลย แต่ต้องรีบทำเวลาก่อนที่จะมีใครรู้ตัว ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง ขอเก็บหลักฐานก็พอใจแล้ว โธ่ๆๆ ต้องชวนพี่น้ำคุย มายื่นนิ่งๆ จ้องเอาๆ แบบนี้ ไม่ดีๆ

 

“พะ...พี่น้ำ มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” หลอกล่อ พี่น้ำกำลังงัวเงีย คงไม่ทันเห็นว่าเธอกำลังพยายามขยับเอียงตัวเพื่อให้เห็นสภาพในห้องหรอก ยื่นขาซ้ายออกไปอีกนิดแตะบานไม้ เออ ประตูกว้างขึ้นล่ะ เจ๋ง

“เกือบๆ ตีหนึ่งมั้ง ดีเมาเลยกลับมาก่อนน่ะ” พี่น้ำหาวเสียงดัง ยกมือนวดไหล่พร้อมโยกคอซ้ายขวา นั่นๆ กองผ้าห่มบนเตียงเห็นผมสีดำๆ โผล่มา แขย่งเท้าอีกนิดๆ จะ ...

“ซี”  ตอบพี่น้ำอืออา พี่ดีขาวขนาดนั้นเลยหรือวะ อยู่ด้วยกันไม่เคยสังเกต ผิวเนียนขนาดนั้น หัวไหล่งี้เนียนเชียว จะมีรอยฟันบ้างไหมนะ หรือว่า---

         

 













“อื้อ...เหนื่อยอะ” ร่างที่เคยซีดขาวบัดนี้กลับมีร่องรอยฝากรักของเขาเต็มไปหมด หลับตาพริ้มในอ้อมแขน เสียงแหบนั้นกลับแหบขึ้นกว่าเดิม จนต้องก้มไปฟังใกล้ๆ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเจ้าตัวแล้ว มันน่า...


“ฮื่ออออ พอแล้ว” ดิ้นดุ้กดิ้กจะขยับออกจากอ้อมกอดก็กลับรวบโดนกอดแน่น หัวไล่ขาวเนียนมันน่ามันเขี้ยวชะมัด


 

 

 

 

 
 









“พี่ว่าพอแล้วมั้ง”

เสียงพี่น้ำดังขึ้นอีกนิด พร้อมกับก้าวมายืนบังหน้าฉัน เหมือนจะเห็นรอยแดงๆ บนตัวพี่ดีเหมือนกันแฮะ โธ่ เห็นแวบๆ ไม่กี่วิเองนะพี่น้ามมมมมมม

“ฮะ...หา พออะไร” ฉันเงยหน้ามองหน้าคนพูด ตีหน้าซื่อเข้าไว้ ยิ้มแฮะๆ
“นี่...” นิ้วยาวของพี่น้ำชี้มาที่กล้องถ่ายรูปในมือของฉัน ส่งยิ้มหล่อมาให้
“แล้วก็...นั่นด้วยน่ะ”

“โอ้ย!!!”

นั่น คือการตบหัวหรือไงเล่า ฉันกำลังจะอ้าปากโวยวายกลบเกลื่อนความผิด พี่น้ำก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“อ้อ แล้วก็อย่าไปแซวมากละ เดี๋ยวเขินมาก พี่โดนตีแย่เลย” นั่นมันคำพูดของคนเกลียมัวหรือเปล่านะพี่น้ำ อะฮ้า พูดว่า เมีย ได้เต็มปากแล้วละซิ กิ้วๆ
“โถ่ ไม่หรอก..” ถุยยยย ไม่น้อยๆ แน่ๆ อ้ากกกก ฟินอะ กัดผ้าเช็ดหน้าได้ไหม กรี๊ดดดดดด
“ไม่อะไร” สมกับเป็นพี่ชายของหวานจริงๆ รอบคอบซะเหลือเกิน
“ไม่ทำค่ะ แต่รูปนี่..” ทำหน้าละห้อย ส่งสายตาวิ้งๆ พี่น้ำไม่สบตา ชิ กลัวจะใจอ่อนละซี่ สีของดวงตาของฉันกับตาของพี่ดีน่ะ คล้ายกันมากถึงแม้ว่าพี่ดีจะตาโต แล้วฉันตาตี่ก็เถอะนะ !!

“ลบ”  ทำเสียงเข้มเชียว

“งะ ขอไปแบ่งให้หวานดูก็ไม่ได้เหรอ เก็บไว้ทำอัลบั้มภาพเผื่อวันครบรอบไงพี่” อุ้ย แสบมาก ขนาดตัวฉันที่พูดเองยังรู้ว่าแถแหลกเลือดซิบ

พี่น้ำทำท่าคิด ...ดูท่าฉันจะรอดแหะ

“ก็เข้าท่านะ ให้ดูแค่หวานนะ ห้ามคนอื่น สมาคมชมรมอะไรของเราห้ามหมด พี่จริงจังนะ” พี่น้ำรีบสำทับเมื่อฉันยิ้มกว้าง ทำท่าลั่นล้าเกินเหตุ
“โอ้ย ได้ๆ สบายมากพี่น้ำ ซีจะเก็บแยกโฟรเดอร์ไว้ให้อย่างดี ใส่วันที่ให้พร้อมด้วยเลยนะ ไม่หลุดไม่รั่วแน่นอน รับรองได้”

ฉันยิ้มกว้าง ...พูดกันง่ายๆ เคลียร์ๆ แบบนี้ ซีเข้าใจ มัวแต่เขินโวยวายนั่นนี่แบบพี่ดี ซีไม่เข้าจายยยยย อิอิ 
ยิ่งเขินก็ยิ่งอยากแกล้ง พี่ดี รู้จักน้องตัวเองแบบพี่น้ำมั่งไหมเนี่ย






“พี่น้ำปลุกพี่ดีมากินข้าวสิ ซีทำอาหารไว้ละ” เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว มิชชั่นแรกที่มาเคาะประตูห้องพี่ดีก็ถูกหยิบยกขึ้นมา
“เดี๋ยวพี่ไปยกมาทานในห้องละกัน ดีคงยังไม่อยากตื่นง่ายๆ”
“ได้ๆ เดี๋ยวซีเตรียมไว้ให้นะ” โอ้ย สามีในอุดมคติสุดๆ ภรรยาลุกไม่ไหว ยกอาหารไปเสิร์ฟถึงบนเตียง แจ๋วอย่างอิฉันก็ต้องขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ มีแขก ไม่ใช่สิ พี่เขยเพิ่มขึ้นมาต้องรีบไปทำอาหารก่อนแล้ว


ต้องทำเพิ่มด้วยนะ ในนิยาย เอ้ย ไม่ใช่ๆ ทางทฤษฎีเค้าบอกว่า เมื่อผ่านคืนที่ร้อนแรงมาแล้วตอนเช้าจะหิวมาก ฟันธง!!

 

 

 

Fin
-----------------------
[8/12/58]
เป็นการเขียนฉากเข้าพระนายครั้งแรกเลยออกแค่วับๆแวบๆ ที่เหลือปล่อยให้คนอ่านจินตนาการกันเองแล้วกันนะคะ :o8:

ขอบคุณ คุณ A-J.seiya* เรื่องคำผิดค่ะ อันนี้รีบแก้เลย *อายมาก*
คุณ B52 ตอนนี้พี่น้ำคงสุขใจกว่าตอนที่แล้วเยอะเลยค่ะ 555
คุณ BlueCherries ความจริงมีแอบยูริกว่านี้หน่อยแต่คิดว่าจะไม่มีคนอ่านเราเลยลบออกไปบ้างค่ะ พอคุณBlueCherriesเชียร์มาเราเลยใส่เหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วยนิดหน่อย (เรียกว่ายุขึ้นสินะ 555)
 
เราไม่ค่อยกล้าตอบคอมเม้นท์เท่าไร กลัวไม่มีคนอ่าน 555
ซึ้งใจมากเลยที่มีคนคอมเม้นท์นะคะ
ขอบคุณค่ะ
 :กอด1:
Lavender’s blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 15:48:56 โดย Wendy »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew1:


พี่น้องรักกัน ~


โอ้ย ซีเอ๋ย ว่างๆต้องถอดเสื้อพี่ชายแล้วล่ะ มันเคะขนาดไหนนนนนนนนนนน

ฟินมากรับรอง  :jul1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตอนไหน อะไร อย่างไร!!!!!!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ z9_0

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คือดี ดีจริงๆ พีืน้ำก็น่ารักน่ะ จีบได้น่ารักดีออกแนวผู้ชายเบาๆ แต่รักจริง ชอบมากเลยค่ะ ดีมากเลยเรื่องราวน่าสนใจ อ่านแล้วยิ้มด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น่ารักอ่ะ พี่น้ำน่ารักอ่ะ อยากได้ๆๆ 55555555 #ดูแลดี ดีๆนะ o13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่น้ำน้องดี :z1: o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★  (ตอนพิเศษ 7)




ตอนพิเศษ  : ปืนฉีดน้ำ

 
 

 

“ดีนอนห้องพี่นะ”


ไอ้พี่น้ำพูดขึ้นทันทีที่เสียงประตูปิด ว่าแล้วก็ลากแขนผมหลุนๆ เข้าห้องตัวเองปิดประตูดังปัง!
ครับๆ พี่ใจเย็นครับ เพิ่งมาถึงจะรีบไปไหววะครับ!!



พรุ่งนี้วันสงกรานต์ พี่น้ำ และสองสาวตกลงกันว่าจะไปเล่นน้ำกัน โดยที่คืนนี้ให้ผมและซีมานอนที่คอนโดของสองพี่น้องก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง จะเล่นน้ำก็เดินลงมาแถวๆ คอนโดได้เลย ห้องพี่น้ำอยู่ใจกลางเมืองพอดี สะดวกกว่าบ้านของผมที่อยู่แถวๆ ชานเมือง ค่อนไปทางนอกเมือง


“ฮือ”


ผมปิดปากสนิทเมื่อถูกพี่น้ำบดเบียดริมฝีปากเข้ามาแนบแน่น


“นิดหนึ่ง”

พอเห็นว่าผมสั่นหัวพลางเอี้ยวตัวหนี ไอ้พี่น้ำก็เปลี่ยนแผนมาหอมแก้มดังฟอดทั้งซ้ายขวา ไม่ได้เจอกันหลายวันเพราะพี่น้ำเริ่มทำงานเมื่อต้นเดือนเมษายนครับ ส่วนผมจะเริ่มเดือนพฤษภาคม ยังมีเวลานอนเล่นอีกครึ่งเดือน

“จุ๊บหน่อย”

หอมแก้มผมจนพอใจแล้ว ก็เป็นฝ่ายเรียกร้อง ขอให้ทำให้บ้าง เหอะเห็นแก่ว่าอุตสาห์ไปรับมาหรอกนะ ว่าแล้วก็จุ๊บปลายคางเร็วๆ แล้วรีบชิ่งออกห้องมา


ฟู่ ร้อนมาก แอร์ก็ไม่เปิด แก้มร้อนไปหมดล่ะ






พี่น้ำกับหวานไปรับวันนี้เราพาเหมียวเล็กมาด้วย ตอนนี้นอนอยู่ในกรงในครัว หลับสบายเชียว 


หนีออกมาข้างนอกได้ก็เห็นสองสาวนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ได้ยินแว่วๆ ว่าจะหาของกินเล่นเตรียมไว้หลังจากเล่นน้ำเสร็จ เลยเดินไปบอกว่าอยากกินลูกชิ้นทอด คิดเหมือนกันไหมครับว่าตอนเล่นน้ำมาเหนื่อยๆ แล้วมาทานลูกชิ้นทอดเนี่ย อร่อยมากกกกก คนละความรู้สึกกับตอนที่ซื้อกินในวันปกติเลย



“พี่ดีอยากกินน้ำอะไรคะ โค้ก เป็บซี่ สไปรท์ น้ำแดง น้ำส้ม น้ำเขียว?” หวานละสายตาจากคอมพิวเตอร์มาถาม

“ได้หมด หวานเลือกเลย”

“ซีอยากกินโค้กกับน้ำแดง” ยัยซีอ้อน อืม...กับพี่มันไม่พูดเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้มั่งวะ

“พรุ่งนี้ก็แวะซื้อตอนกลับ อย่าลืมนะ” หวานย้ำกับเพื่อน

เออ พูดถึงเพื่อน นัดพวกไอ้แชมป์ เก่ง ท็อปด้วยดีกว่า ตกลงสถานที่นัดเจอกันแล้ว ไอ้พี่น้ำก็ชวนไปดูโทรทัศน์ พร้อมถือไอศกรีมรสช็อคโกแลตออกมาด้วย สาวๆ ปิดคอมพ์แล้วเราก็ย้ายกันไปดูหนังในห้องนั่งเล่น กว่าจะได้นอนก็เลยวันใหม่ไปแล้ว


ล้มตัวลงนอน พี่น้ำพลิกตัวมากอดเอว กระซิบด้วยเสียงง่วงๆ


“สวัสดีปีใหม่ครับ โชคดีของพี่”


นึกตลกคนที่บอกสวัสดีปีใหม่ในวันสงกรานต์ถึงแม้ในอดีตจะถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ก็เถอะ จำไม่ได้ว่าตอบไปยังไง รู้แต่ว่ายิ้มกว้างจนหลับไป



.


.

.



นัดกันว่าจะออกไปเล่นตอนบ่ายแก่ๆ ช่วงเช้าวันนี้สองสาวก็ออกไปซื้อของมาเพิ่มอีกพอทราบว่าผมบอกว่านัดเพื่อนมาเล่นน้ำด้วย ก่อนจะลงมือทอดลูกชิ้น ทอดข้าวเกรียบ ตอนที่ซีหั่นผลไม้ บอกให้พี่น้ำเดินเข้าไปหยิบกิน ซีไม่ว่าอะไรสักคำ ทีตอนที่ผมหยิบซีตีมือดังเพี๊ยะ โธ่ ไอ้น้องนิสัยเสีย


ซีกับหวานหาเสื้อยืดสายสก็อตสีฟ้า น้ำเงินมาให้ ลายเดียวกับที่พี่น้ำใส่ ส่วนสองสาวเป็นสายสีชมพูม่วงๆ กางเกงสามส่วนสีดำ รองเท้าแตะ สองมือถือถังน้ำใบเล็ก



พร้อมแล้ว ลุย!!

 
“พี่ดี! ทากันแดดก่อน” ยัยซีพูดขึ้นเสียงดังเมื่อผมตีเนียนทำท่าจะเดินออกจากห้องไปก่อน

“ฮื่อ ไม่เอา เหม็น” ป้าด ผู้ชายนะเฮ้ย ทาทำไมกันแดด ให้ผิวมันคล้ำๆ บ้างจะได้แมนๆ แค่นี้ก็ซีดจะแย่

ซีเห็นท่าผมไม่ยอมก็ยื่นกันแดดให้พี่น้ำแล้วเดินนำออกห้องไปพร้อมกับหวาน ไอ้พี่น้ำบีบครีมข้นๆ เหนียวๆ เหม็นๆ ลงบนฝ่ามือแล้วพยักหน้าให้ผมเข้าใกล้

 
“มันเหม็นจริงๆ นะ เหนียวด้วยอย่างกับเอากาวมาทาหน้า” ไอ้พี่น้ำป้ายครีมลงบนหน้าผมแล้วเกลี่ยทาไปจนทั่วใบหน้า และลำคอ

“แดดร้อน เดี๋ยวก็ไหม้หมดหรอก”  งะ โดนบีบแก้ม เจ็บนะเว้ย

“ทายังอะ” ผมถาม พี่น้ำไม่ตอบครับแต่สั่นหัว ทาให้ก็ทาคืนก็ได้ เป็นคนไม่ชอบติดหนี้ใคร


.

.

.
         

โคร่ม!!

ซ่า!!!

ปิ้ดๆๆ

แปะๆ!!

 

เดินออกมานอกคอนโดเท่านั้นแหละครับ ถังแรกเป็นของพี่ยาม ขันที่สองของลูกชายแก ลูกสาวฉีดปืนฉีดน้ำใส่ ไม่พอป้าแม่บ้านปะแป้ง โดนกันถ้วนหน้าครับ แอบเห็นว่าป้าแกปะแป้งไอ้พี่น้ำนานกว่าผมนะ เหอะ!


ไปถึงสี่แยกก็เจอไอ้แชมป์ ไอ้เก่ง ไอ้ท็อป กำลังปะแป้งสาวๆ กันอยู่ เป็นแชมป์ที่หันมาเจอพวกผมก่อน



“สวัสดีปีใหม่พี่น้ำ ดี แล้วก็สาวๆ ครับ” กับผมและพี่น้ำมันพูดทักทายเฉยๆ แต่กับสองสาวปะแป้งด้วยเว้ยเฮ้ย ไอ้ขี้หม้อ!! น้องกูนะเฟ้ยยยยย


ปัดมือมันออก เมื่อเห็นว่าอ้อยอิ่งปะแป้งสาวๆ นานไปหน่อย


“อะไรดี ปะแป้งไม่ได้? อ๋อ อยากโดนปะบ้างใช่ไหม เฮ้ยมึง! ปะแป้งหนูดีหน่อยดิ”  ไอ้แชมป์จับผมไว้แล้วหันไปตะโกนเรียกไอ้เก่งกับไอ้ท็อป สองคนตาเป็นมัน ล้วงแป้งมาเต็มมือแล้วละเลง

“โอ้ยๆๆๆ พอแล้วพวกมึ้งงงงง ไอ้พี่น้ำช่วยหน่อยเด้”

แป้งเข้าปากข้าตาจะแสบไปหมด ไอ้เพื่อนบ้าก็ไม่ออมมือกันบ้างเลย คนถูกร้องขอความช่วยเหลือหัวเราะซะงั้น ปล่อยให้พวกมันละเลงไปสักพักแล้วค่อยดึงผมออกมา เฮือก!! แป้งเต็มหน้า เต็มปากไปหมด ขมชะมัด

“ไม่ต้องอ้อนพี่น้ำเลยไอ้สลัด โดนนิดหน่อยทำบ่นนะมึง” ไอ้ท็อปรีบพูดขึ้นมาก่อนตอนที่ผมกำลังจะอ้าปาก

“เชี่ย มึงลองมากินแป้งกูไหมเล่า ขมจะตายชัก” ว่าแล้วก็ถึงเวลาแก้แค้น เอาแป้งไล่ป้ายพวกมันบ้าง โดนบ้างไม่โดนบ้างก็หัวเราะกันสนุกสนาน

“งั้นหวานกับซีไปก่อนนะพี่ๆ สวัสดีปีใหม่ค่า” สาวๆ ขอตัวออกไปเล่นกับเพื่อน นัดเจอกันอีกทีตอนหกโมงเย็น แล้วไปกินข้าวกินขนมที่ห้องพี่น้ำกัน

“ไปล้างหน้าก่อน” ผมหันไปดึงๆ ชายเสื้อพี่น้ำ ว่าจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าสักหน่อย ขมปากมากตอนนี้

“ไม่ต้องๆ กูเอาน้ำมา ล้างตรงนี้แหละ”

ไอ้เก่งที่สะพายกระเป๋าเป้มา หยิบขวดน้ำส่งมาให้ พี่น้ำเปิดขวด เทน้ำลงในมือแล้วค่อยๆ เอามาลูบหน้าผมเบาๆ

“พี่น้ำ ล้างแค่ตาก็พอ เดี๋ยวก็เปื้อนอีก” ไอ้ท็อปบอกเมื่อเห็นว่าพี่น้ำจะล้างหน้าผมจนสะอาดเอี่ยม

“เออๆ พี่ลืมไป ดีอ้าปากหน่อย” ว่าแล้วก็บ้วนปากไปสามรอบ จนน้ำเกือบหมดขวด  แอบเอาชายเสื้อพี่น้ำมาเช็ดปากด้วย  ไม่มีใครเห็นใช่ไหม

“ไปกันเถอะพวกมึง พร้อมหรือยางงงงง” ไอ้ท็อปถามเสียงใสเมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว

“พร้อมแล้ว!!” ตอบโดยพร้อมเพรียงกัน




“งั้นก็.....ลุยยยย!!”


หันไปคว้ามือพี่น้ำแล้วออกเดินเข้าไปสู่ถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน ที่จับมือไม่ใช่อะไรหรอก เดี๋ยวหลงแล้วเซ็ง ไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงมาด้วยสิ

 
“สวัสดีปีใหม่ค่า ปะแป้งหน่อยนะคะ” ประโยคนี้สาวๆ บอกเมื่อเดินเข้ามาปะแป้งทั้งผมและพี่น้ำ

"ปะแป้งหน่อยนะครับ” ประโยคนี้คือตอนไปปะแป้งสาวๆ ครับ จะมีแต่ผมแหละที่ไปปะ ไอ้พี่น้ำยืนเป็นคนถือถังแป้งกับยืนล่อให้สาวๆ มาปะแป้ง



ถนนที่เราไปเดินคนไม่แน่นมากเท่ากับข้าวสารหรือสีลมหรอกนะครับ คนเยอะขนาดนั้นไม่ชอบ เบียดกันเกินไป แล้วก็อันตรายด้วยครับ ทั้งจากการถูกล้วงกระเป๋าหรือถูกลวนลาม โธ่เห็นอย่างนี้ก็หวงตัวนะครับ ทั้งตัวเองและตัวคนข้างๆ นี่แหละ ไม่ต้องแซวแค่นี้ก็เขินจะแย่อยู่แล้ว

 

เดินเข้าตามถนนเข้ามาเรื่อยๆ จนไปเจอป้ายสีขาวมีตัวอักษรสีแดงตัวโต เขียนว่า

“อีก 50 เมตร กระเทยเล่นน้ำ”

ไอ้พี่น้ำอ่านให้ฟัง เห็นแล้วก็ขำ เจ้ๆ เป็นคนเอามาตั้งเองหรือว่าใครเอามาปักให้ครับ

“จับมือพี่ดีๆ อย่าให้หลุดนะ” พี่น้ำกระซิบแล้วออกเดินนำ หันไปมองหาเพื่อนๆ ก็ไม่เห็นแล้วครับ คงเดินตามหาสาวๆ ปะแป้งที่ไหนสักแห่ง





“ต้ายยยย สุดหล่อคะ มาให้เจ้ลวนลามทีค่ะ” แค่เราเดินผ่านป้ายนั้นมาเสียงเหล่าเจ้ๆ ก็นำมาก่อนเลยครับ ป้ายหลอกลวง ยังไม่ถึงห้าสิบเมตรเลยเว้ยเฮ้ย

ไม่กี่นาทีเราก็โดนสาวๆ ร่างใหญ่เล็กรุมปะแป้ง สาดน้ำ ฉีดน้ำจะชุ่มโชก พี่น้ำยังจับมือผมไว้แน่นไม่ปล่อย

“แป้งเข้าตาอ่า พี่น้ำ” เหยื่อรายใหม่เดินหลงเข้ามาสาวๆ ทั้งหลายก็ผละเราไป ผมยืนหลับตานิ่งๆ เมื่อพยายามกะพริบตาแล้วแสบตาจนแทบลืมตาไม่ได้

“ดียืนตรงเดี๋ยวพี่ไปขอน้ำมาให้ แปบนะ” พี่น้ำจูงมานั่งรอริมฟุตบาทที่ไม่มีคน แล้วก็หายไป






สักพักก็ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเหล่าเจ้ๆ แล้วก็เสียงคนเดินเข้ามาสองสามคน

“ไหนคะๆ แฟนคุณน้อง คุณพี่ขอดูหน่อย” เสียงแรกแหบห้าวแต่ก็พยายามดัดให้เล็กแหลม

“ต้าย ที่เมื่อกี้เจ้ยังชมเลยว่าน่ารักใช่ไหม แพ้แป้งหรือคะลูก” อีกเสียงหนึ่งพูดขึ้น พร้อมมือนุ่มนิ่มมีกลิ่นน้ำหอมก็ยกขึ้นมาลูบหน้าตา แล้วมืออุ่นๆ ที่มีน้ำอยู่ก็ค่อยๆ ลูบใบหน้าผม พี่น้ำนั่นเอง

“ดีลืมตาในน้ำหน่อยนะ” พี่น้ำจับมือแล้วให้ถือแก้วไว้ ผมลืมตาในน้ำประมาณสามรอบแล้วจึงลืมตาได้ ค่อยบรรเทาอาการแสบลง

พอลืมตาได้เงยหน้าขึ้นมามีคนสามคนจ้องตาเป๋ง พี่น้ำยิ้มให้ แล้วเอามือมายีหัว เจ้คนแรกผมสั้นเฉี่ยว คนที่สองสกินแฮดอวดหัวทุยสวยแล้วเจ้คนผมสั้นก็บอกพี่น้ำ  “เออ ค่อยดูได้หน่อย เมื่อกี้อย่างกับลูกหมาตกถังแป้งเปียก”

เจ้คนผมสกินแฮด ตีมือผมที่กำลังจะขยี้ตา “อย่าขยี้คุณน้อง เดี๋ยวตาแดงนะ แพ้แป้งก็บอกเจ้ๆ ได้ลูก เมื่อกี้ไม่พูดอะไรเลยไม่รู้ โทษทีนะลูกนะ”



อย่าเพิ่งไปสนเลยครับว่าตกลงเจ้ๆ จะนับผมเป็นน้องหรือลูก รู้แต่ว่าเจ้ๆ ใจดีจัง เห็นแบบนี้หลายคนอย่างไปตั้งแง่กับพวกเจ้ๆ เค้าเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมันก็ต้องมีคนที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้างปะปนกันไปหมด เจ้ๆ ก็เหมือนกัน อย่าไปทำร้ายหรือทำลายคนอื่นด้วยวาจาหรือท่าทางกับพวกเขาเลยครับ
 


“อ่า ขอบคุณครับ” เมื่อเห็นว่าผมดีขึ้นแล้วเจ้ทั้งสองก็ขอตัวออกไปเล่นน้ำต่อกับเพื่อนๆ

“เป็นไง แสบตาอยู่ไหม” พี่น้ำถามอีกรอบ ผมยังคงกะพริบตาเพื่อไล่น้ำตาออกมาช่วยบรรเทาอาการแสบตา

“น้อยลงแล้วล่ะ แล้วเมื่อกี้คนรู้จักเหรอ” ท่าทางสนิทสนมนะ

“ฮ่าๆ ไม่หรอกครับ ก็คนที่เค้ามารุมปะแป้งเราเมื่อกี้แหละ ตอนที่เราบอกแสบตาพี่ก็เดินไปขอน้ำจากเค้า”


อ๋อ เดี๋ยวนะแล้วทำไม...


“ตอนที่ไปขอน่ะ พูดว่า ‘ขอโทษครับพี่ ขอน้ำหน่อยนะครับ พอดีว่าแฟนผมแป้งเข้าตา’ แบบนี้ปะ”

“ดีรู้ได้ไง” ไอ้พี่น้ำทำตาโตอย่างแปลกใจ


แหม ไม่รู้ก็บ้าแล้วครับ มิน่าเจ้ๆ ถึงได้กรี๊ดแล้วเดินตามมาดูอาการกันแบบนั้น มีแฟนชอบแสดงออกต้องอดทนครับ ...ฮู้ว ออกไปเล่นน้ำกันเตอะ แก้มร้อนอีกแล้วววววววว












 
“รู้แล้ว ลืมอะไร!!” ผมพูดออกมาเสียงดังเมื่อเดินผ่านสาวๆ กลุ่มใหญ่ที่เข้ามารุมฉีดน้ำและปะแป้ง

“ลืมซื้อปืนฉีดน้ำอะ” ว่าแล้ว่าทำไมมันแปลกๆ มาเล่นน้ำได้แต่โดนคนอื่นสาด ไม่ได้ไปสาดน้ำฉีดน้ำคนอื่นเลย


ชวนพี่น้ำเดินไปถามราคา พอได้ยินก็ส่งยิ้มให้คนขาย บอกขอบคุณแล้วลากพี่น้ำที่ทำท่าจะซื้อออกมาโดยเร็ว โห แพงไปไหนครับเนี่ย หลายร้อยเลย ไม่ไหวๆ ปีหนึ่งใช้แค่หนสองหน ไม่คุ้มๆ


ถามร้านอื่นๆ อีกหลายร้านก็ราคาเท่ากันหมด ผมซื้อไม่ลงจริงๆ นะเนี่ย คนข้างๆ คงเห็นหน้าหงอยๆ จึงชวนพูดเพื่อคลายเครียด หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิมไม่รู้


“ดีรู้ไหมว่าปืนภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร”  ฮะ...มันใช่เวลามาทายปัญหาภาษาอังกฤษฟุดฟิดฟอไฟไหมพี่!!


“กันดิ ถึงจะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหมือนบางคนแต่ก็ตอบได้นะเว้ย” แซวพี่น้ำไปที เกียรตินิยมครับ อันดับหนึ่งเสียด้วย เก่งจริงๆ แฟนผมเนี่ย ตอนที่เกรดธีสิสพี่น้ำออก ดีใจยิ่งกว่าเกรดธีสิสตัวเองอีกครับ


“เก่งมาก พี่ว่าเราไม่ต้องซื้อแล้วก็ได้นะ ปืนฉีดน้ำน่ะ”
 
“ฮื่อ แพง ไม่ซื้อหรอก ให้สาวๆ ปะแป้งเฉยๆ ก็ได้ว่ะ” ถึงจะแอบเสียใจนิดๆ ที่ไม่ได้ฉีดน้ำคนอื่นก็เถอะนะ





“ไม่ใช่หรอก เราก็มี ‘กันและกัน’ อยู่แล้ว ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มหรอกครับดี” คนพูดยิ้มกว้าง ตาวาวระยับซะจนอยากเอานิ้วจิ้มตา




ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะรู้หรือเปล่าว่า ที่เจ้าตัวขยันหยอดมาบ่อยๆ ขนาดนี้จนเป็นแฟนกันแล้ว คนโดนหยอดอย่างผมก็ยังเขินได้เขินดีไม่หยุดเลยจริงๆ


อ้ากกกกก สาวๆ ครับปะแป้งให้หน่อย หนาๆ เลยครับ แก้มแดงจะแย่อยู่แล้วเนี่ย





.

.

.


 



“สวัสดีปีใหม่คร้าบพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เอ้าชนนนนน” สมกับเป็นเดอะแก๊งน้ำเมา พอไอ้พี่น้ำที่กึ่มๆ คุยเรื่องสงกรานต์เคยเป็นวันปีใหม่ไทยซึ่งใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นจบเท่านั้นแหละ ไอ้เก่งก็ยกแก้วสูง


เฮ้  เคร้ง !


“ขอให้พี่น้ำโชคดี มีแต่ดีๆๆๆๆๆ ตลอดไปนะคร้าบบบ เอ้าชนนนนน”


เฮ้  เคร้ง


“ขอให้น้องดีมีแต่น้ำๆๆๆ ไหลหลากตลอดปีตลอดไปนะจ๊ะ เอ้าชนนนนน”


เฮ้  เคร้ง

 

 



“พอครับๆ กูอายบ้างอะไรบ้างครับเพื่อน” ต้องรีบเบรคก่อนที่มันจะเกินเลยไปกว่านี้ ไอ้พวกนี้เมาแล้วบ้า เมาแล้วเรื้อน

 
“พี่ไม่อายนะดี” ไอ้พี่น้ำก็อีกคน เมาแล้วก็เงียบๆ บ้าง

 
สองสาวหัวเราะกิ๊กกั๊ก แก้มแดงเป็นลูกตำลึง ผมหันไปเห็นยัยซีกำลังจะเปิดน้ำหวานผสมแอลกอฮอล์อีกขวดจึงรีบไปห้าม

“พอเลยซี หน้าแดงไปหมดแล้วน่า”

“ขอนิ้ดดดดดน้าพี่ดี้” เอียงหัวซบแขนออดอ้อน

 
“พอแล้ว กินน้ำเปล่าเข้าไปเยอะๆ แล้วก็มาช่วยกันเก็บของเลย เร็ว” ซีซดน้ำเข้าไปหลายอึก แล้วรินน้ำให้หวานที่นั่งยิ้มตาเชื่อมอยู่บนโซฟา นั่งเล่นไพ่กับเพื่อนๆ ผม

 


“ปีนี้ดีจังเลยนะพี่ดี” ตอนที่ขนจานเข้ามาในครัวจนหมดเป็นรอบที่สาม แล้วช่วยล้างจาน ซีก็พูดขึ้น

“อืม ดีมากเลย”

“อยากให้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ จังน้า” ซีพูดเหมือนเพ้อใบหน้าแดงก่ำ

 “ต้องดีมากขึ้นทุกๆ ปีอยู่แล้วล่ะ” ผมพูดปลอบใจน้อง ปีนี้ผมเรียนจบทำงานแล้ว ชีวิตของเราสองพี่น้องคงไม่ลำบากเหมือนที่ผ่านๆ มา



บางทีปีหน้าถ้ามีเวลา...อาจกลับบ้าน ไปเยี่ยมพ่อกับแม่เลี้ยงบ้างก็ได้



ตั้งแต่ที่ผมป่วย ก็สนิทกับพ่อและแม่เลี้ยงมากขึ้น ความห่วงใยที่ได้รับทำให้รู้ว่า ครอบครัว ยังไม่หายไปไหน แม้จะเคยจางจนเกือบจะหายไปแต่เมื่อเราหันกลับมามองมันก็จะค่อยชัดเจนขึ้น


เรื่องบาดหมางในอดีตทั้งหลายถูกลืมเลือนไปตามเวลา ปีใหม่วันใหม่ฟ้าใหม่เคลื่อนเข้ามาแทนที่คืนวันอันโหดร้ายในอดีต จำไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้รับบทเรียนที่หนักหนา แต่เมื่อก้าวผ่านมาได้ก็เติบโตขึ้น ชีวิตเข้มแข็งขึ้น เข้าใจและดูแลคนที่เรารักและรักเรามากขึ้น


ล้างจานเสร็จกำลังเช็ดมือ ก็มีเสียงตะโกนดังลั่นจากห้องนั่งเล่น

“ดี ดี อยู่ไหนอะ แฟนคร้าบบบมากอดหน่อย คิดถึงจะแย่แล้ว”





อ๊ากกกกกก แก้มร้อนจนจะระเบิดอยู่แล้วเว้ย

ขอตัวไปลากไอ้พี่น้ำไปเก็บก่อนนะครับ

สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน 




Fin
------------------------------------------------
[10/12/58]
เขียนช่วงสงกรานต์ค่ะ มาลงตอนนี้เลยรู้สึกแปลกๆ
ถึงตอนนี้ไม่ใช่สงกรานต์ แต่ก็ใกล้ปีใหม่แล้วเนอะ (หัวเราะ)
ตอนหน้าก็จะเป็นตอนพิเศษสุดท้ายแล้ว
 :mew3:
Lavender’s blue

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:


พี่น้ำทำฟิน อิอิ

ตอนหน้าสุดท้ายแล้วเหรอคะ แงๆ

เปิดเรื่องใหม่ด่วนนนน

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★  (ตอนพิเศษ 8 )




ตอนพิเศษ  : ไม่พอ

 




“ผมดูงานคุณแล้ว ไม่เลวเลยสำหรับงานแรกนะ”


หัวหน้าเรียกผมไปพบแต่เช้า พูดเสียงนิ่ง พร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ เขาก็รับไหว้ หยิบเอกสารที่มีตัวหนังสือเขียนหวัดๆ เรียงเป็นพืดสามสี่แผ่นยื่นให้ แล้วพูดต่อ


“คอมเม้นท์งาน เอาไปแก้ไขนะดี”

 

 



เฟดเฟ่ !!


คำชมของหัวหน้าตอนแรกที่ทำให้หัวใจพองโต กลับแตกออกดังผั๊วะ หลังจากเห็นกระดาษคอมเม้นท์งานเป็นพืดในมือ ถ้าจะให้แก้แทบจะทุกตัวอักษร ทุกคำสั่งของโปรแกรมขนาดนี้ ให้ผมทำใหม่เลยเถอะครับ ถถถถถถถถ ปากดีไปงั้นแหละผม ให้เขียนโปรแกรมใหม่จริงๆ ก็ไม่ไหวครับ

 
หลังจากเรียนจบ ผมใช้เวลาเกือบเดือนในการพักผ่อนไปตามประสา ขอเวลาเที่ยวเล่น นอนอืด พักผ่อนบ้างทำเป็นพูดไปงั้น แต่จริงๆ แล้วคือ ส่งใบสมัครงานไปตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ยังไม่มีบริษัทไหนติดต่อกลับมาต่างหากเลยทำให้ว่าง  จนกระทั่งช่วงที่เงินใกล้จะหมด ผมได้รับการติดต่อจากบริษัทแห่งนี้ เข้ามาเป็นโปรแกรมเมอร์แทนคนเก่าที่ลาออกไปกะทันหัน

ตอนนี้ผ่านช่วงโปรฯ สี่เดือนมาแล้วครับ งานแรกที่ได้รับมอบหมายเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหลังจากเข้ามาเป็นพนักงานเต็มตัวส่งให้หัวหน้าเมื่อวันพุธ เช้าวันศุกร์ก็ถูกเชิญไปพบจนได้กระดาษคอมเม้นท์สามสี่หน้ามานั่นล่ะ



ผมเดินหน้ายุ่งกลับมาที่คอกของตัวเอง พี่ฟ้า หญิงสาวอายุสามสิบต้นๆ ก็หันมายิ้มให้ มองกระดาษในมือผมแล้วทำตาโต
“โห! น้องดี บอกพี่สินี่งานแรก”
“เฮ้อออ พี่ฟ้า เห็นแล้วเหนื่อยเลย” ตัวหนังสือในกระดาษคอมเม้นท์เขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินเรียงเป็นพืด เขียนมาเยอะขนาดนี้ปากกาหมดเป็นแท่งแล้วมั้งหัวหน้า
“เฮ้ย แกอย่ามา ได้แค่นี้นี่สุดยอดแล้วนะเนี่ย” พี่ฟ้าพยักพเยิดว่าขอดูกระดาษคอมเม้นท์ ผมจึงยื่นให้ เธอรับไปเปิดๆ ดูสักพักก็ยิ้มกว้าง
“สีน้ำเงินเยอะกว่าสีแดง เก่งอะน้องดี” พี่ฟ้ายื่นกระดาษคืน แล้วเอ่ยปากชม
“หา คือไรอะพี่”
ผมเปิดกระดาษคอมเม้นท์ดูแบบผ่านๆ ปรากฏว่าบางแห่ง หัวหน้าเขียนตัวสีแดงไว้จริงๆ ด้วย แต่มีปริมาณน้อยกว่าสีน้ำเงินอย่างเห็นได้ชัด

“คอมเม้นท์สีแดงคือไปทำมาใหม่ ส่วนสีน้ำเงินคือให้แก้ไขไง” ว่าแล้ว คิดไว้เหมือนกันล่ะนะ ยังไงก็ต้องแก้เยอะอยู่ดี
“ก็ต้องแก้เยอะอยู่ดีอะพี่ฟ้า”
“โอ้ย แกอยากเห็นกระดาษคอมเม้นท์ของฉันแผ่นแรกหรือเปล่าละ ปากกาแดงงี้แทบจะหมดโหล ปากกาน้ำเงินมีที่เดียว”
“ที่ไหนพี่”
“ชื่อพี่เอง” พี่ฟ้าพูดจบพร้อมทำหน้าเซ็ง ทำเอาผมและพี่คนอื่นที่แอบฟังอยู่หัวเราะออกมาเสียงกัง โธ่ววว คนอะไรเล่นตัวเองก็เป็น
“แก้ไขนี่แสดงว่าดีสุดๆ แล้วล่ะดี หัวหน้าเขาเนี้ยบจะตาย ระดับเอ ไม่เอา เอาแต่ เอบวกๆๆๆ เท่านั้น” พี่ชาติที่อยู่คอกตรงข้ามพูดกำลังใจ
“แหะๆ ขอบคุณครับพี่” มีคนมาชมมันก็อดเขินไม่ได้ครับ แต่วันนี้ไม่อยากจะอยู่โอทีเนี่ยสิ





เฮ้อออออ
ถอนหายใจกี่ครั้ง งานถึงจะเสร็จวะเนี่ย !! 
บ่นไปนั่น แต่ลองมือก็นั่งแก้ นั่งตรวจทานพลางพลิกอ่านกระดาษคอมเม้นท์ไปมา



เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ได้ยินเสียงแว่วๆ สองสามหนจากการบอกลากลับบ้านของพี่ๆ ผมทำแค่พูดส่งเสียงตอบรับกลับไปเท่านั้น ไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าใครจะพูดอะไรบ้าง



เงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกาอีกทีก็ตอนที่พี่ฟ้าสะกิดบอกว่าจะหมดเวลาโอทีนั่นแหละ
กะพริบตาแล้วเห็นเป็นจุดๆ สีรุ้งมั่วไปหมด ปวดกระบอกตาชะมัด

“น้องดี วันนี้พี่ชายสุดหล่อจะมารับไหมอะ” เมื่อเห็นว่าผมปิดคอมพิวเตอร์ เก็บของ พี่ฟ้าก็ชวนคุยทันที

“มาครับ”

“วุ้ย งั้นพี่ให้แฟนพี่รอข้างล่างบ้างดีกว่า จะได้ไปเจอสุดหล่อด้วย” พี่ฟ้าว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาส่งไลน์หาแฟนตัวเองยิก



ไม่ต้องถามนะครับว่า ‘พี่ชายสุดหล่อ’ คือใคร
ก็ ไอ้พี่น้ำ แหละครับ


สัปดาห์แรกที่มาทำงาน พี่น้ำเล่นขับรถมารับมาส่งผมจนพี่ๆ หลายคนสงสัย เลยบอกไปว่าเป็นพี่ชาย ไอ้พี่น้ำรู้ทำเอาเจ็บตัวไปหลายวัน ก็แหม จะให้บอกว่าเป็นแฟนก็เกินไปไหม ไม่รู้ว่าชีวิตการทำงานจะเป็นไงบ้างครับ ไม่ว่าทุกคนจะรับได้กับเรื่องแบบนี้เสียหน่อย ถูกมองบ่อยๆ เข้าเพราะบางทีไอ้พี่น้ำก็เลิกงานก่อน มานั่งรอใต้บริษัท ด้วยความอัธยาศัยดี มันก็ส่งยิ้มคุยกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว จนทั้งบริษัทละมั้งน่ะ เราเลยตกลงกันว่าให้มารับเฉพาะวันศุกร์


พี่ฟ้านี่ชอบไอ้พี่น้ำมากครับ วันศุกร์ทีไรพี่เขาจับคู่ทำโอทีกับผมทันที ไม่มีปฏิเสธ
‘ให้พี่ได้เห็นสิ่งที่เจริญหูเจริญตาบ้างน่า ลูกพี่จะได้อารมณ์ดีไปด้วย’
พูดจบก็เอามือลูบท้องตนเองซึ่งตอนนี้เริ่มนูนออกมาน้อยๆ มองเผินๆ นี่แนบจะไม่รู้เลยว่า พี่ฟ้าท้อง พี่เขาตัวเล็กครับแล้วก็เพิ่งท้องได้สี่เดือนพอดีกับที่ผมเริ่มทำงานเลย








“สวัสดีครับพี่ฟ้า”

กลิ่นกาแฟลอยฟุ้งในร้านเบเกอรี่ใต้สำนักงาน ไอ้พี่น้ำพอเห็นผมเดินเข้ามาก็ส่งยิ้มกว้างให้พร้อมยกมือไหว้สวัสดีพี่ฟ้าที่เข้าตามมา

“จ้าสุดหล่อ วันนี้ยังหล่อเหมือนเดิมเลย”

พี่ฟ้านั่งลงส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ไอ้พี่น้ำ รายนั้นก็ไม่ทำอะไร ส่งยิ้มลูกเดียว ผมนั่งลงข้างๆ ทิ้งตัวเองให้จมลงไปในเบาะ เงยหน้าหลับตาลง ฝ่ามืออุ่นๆ ก็สัมผัสไปตามลำคอและหน้าผาก ส่งเสียงอืออาให้คนที่เป็นห่วงรู้ว่า ไม่เป็นไร

“เหนื่อยไหม”
“อื้อ”

พี่น้ำละมือออกไป ได้ยินเสียงมันเปิดกระเป๋า แกะซองพลาสติก แล้วสัมผัสเย็นๆ หอมๆ ก็สัมผัสเข้าที่หน้าผาก ไล่มาแก้มและลำคอ ผมแย่งเอาผ้าเย็นมาเช็ดเสียเองทั้งๆ ที่ยังหลับตา ได้ยินเสียงคุยกับพนักงานเสิร์ฟ ก่อนจะโดนสะกิด

“เอ้า นี่ชาเขียว”

“อ้า”

นอนหลับตาอ้าปาก หมายจะให้พี่น้ำส่งหลอดชาเชียวเข้าปากก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของพี่ฟ้าเข้าเสียก่อนถึงได้สติ ลุกขึ้นมานั่งกินดีๆ

“ดีนี่ขี้อ้อนจังนะ” พี่ฟ้าพูดหลังจากหัวเราะกับท่าทางเหนื่อยอ่อนของผม
“..เออ ไม่ได้อ้อนเลยครับ” อ้อนเอิ้นอะไร ไม่มี เมื่อกี้คือเหนื่อยเฉยๆ เถอะ
“แล้วนี่ พี่วิทย์ยังมาไม่ถึงเหรอครับ” รีบเปลี่ยนเรื่องด่วนๆ ประเด็นยิ่งห่างจากทั้งผมและไอ้พี่น้ำไกลเท่าไรยิ่งดี
“ใกล้ถึงแล้วล่ะ รถติดจ้ะ”
“พี่ฟ้าสั่งอะไรทานไหมครับ”

เออดี ไอ้พี่น้ำมันชวนพี่ฟ้าคุยแทน ผมจะพักบ้าง วันนี้เหนื่อยจริงๆ นะเนี่ย แค่หัวข้อชวนคุยก็นึกไม่ออกแล้ว ผมนั่งฟังสองคนคุยกัน จนชาเขียวหมดแก้ว พี่วิทย์สามีของพี่ฟ้าก็มาถึง บอกขอบใจพวกผมยกใหญ่ ที่นั่งอยู่เป็นเพื่อนภรรยา ก่อนจะแยกกันไป พี่วิทย์ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้

“คูปองร้องคาราโอเกะของที่ทำงานพี่เอง เป็นแบบห้องส่วนตัว ไปเมื่อไหร่ก็ได้นะ”

 

 

 

 

 





 
กว่าจะกลับถึงบ้าน ผมหลับๆ ตื่นๆ ในรถไปสามรอบครึ่ง

ตอนนี้ที่บ้านมีเพียงผมกับพี่น้ำครับ เราให้สองสาวไปอยู่คอนโดเพราะสะดวกในการเดินทางไปเรียนและปลอดภัยมากกว่า ที่ทำงานของพี่น้ำไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ ไอ้พี่น้ำเลยย้ายตัวเองมาอยู่บ้านนี้ตั้งแต่เริ่มทำงานแล้วล่ะ

มาถึงผมก็ทิ้งตัวลงนอนหมดสภาพบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ พี่น้ำเดินหิ้วของที่ซื้อมาไปเก็บในห้องครัว


“ไปอาบน้ำ”
“อีกแปบ”

ถ้าถามแล้วผมตอบแบบนี้ก็จะโดนอะไรสักอย่างฟัดเข้าเบาๆ ก่อนเจ้าตัวละลากไปอาบน้ำ
แต่วันนี้มาแปลก พี่น้ำแค่ยักไหล่ก่อนจะเดินขึ้นหายไปชั้นสอง


เอ้ยยย ไรอ่า


ผมนอนนึกหาเหตุผลที่ไอ้พี่น้ำจะงอนผม จนแล้วจนรอดก็หาไม่เจอ
ก็แน่ละเพิ่งจะมาเจอกันวันนี้นิครับ มันเพิ่งกลับมาจากการอบรมชื่อภาษาอังกฤษยาวๆ สักอย่างตั้งสามวัน


ว้า เป็นไรเนี่ย


นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จึงลุกขึ้นดูประตูบ้านก็เห็นว่าถูกใครบางคนล็อคให้เรียบร้อยแล้ว
ปิดไฟชั้นล่าง ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน


เข้ามาในห้องได้ยินเสียงน้ำ สงสัยอาบน้ำอยู่
โหว นึกว่างอน ที่แท้ก็หนีมาอาบน้ำก่อนนี่เอง



เดินไปถอดเสื้อผ้า เพื่อรออาบน้ำก็เหลือบไปเห็นกระดาษคูปองร้องคาราโอเกะที่พี่วิทย์ให้เมื่อหัวค่ำ
หยิบโทรศัพท์กดหาน้องสาวทันที จอปรากฏภาพน้องสาวหัวยุ่งหน้าตาสะลืมสะลือ



“เพ่ดี” ยัยซีรับสาย น้ำเสียงง่วงสุดๆ
“อ้าวเฮ้ย นอนแล้วเหรอ โทษทีๆ” ปกติเห็นนอนกันดึก เลยไม่คิดว่าเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ใกล้เที่ยงคืนอย่างนี้จะนอนแล้ว เจ้าซีส่ายหัวบอกว่าไม่เป็นไร
“ทำรายอ่า”
“เออ ได้บัตรร้องเกะมา ไปกันป่าว” พองี้ละตาใสวิ้งเชียว เจ้าซีหันไปถามหวานที่นอนฟังตาแป๋วอยู่ข้างกันหงุงหงิงก่อนจะตอบ
“ไปๆ พรุ่งนี้เย็นๆ ไหม ไปกินข้าวด้วยเลย ไม่ได้เจอพี่น้ำตั้งหลายวัน” คนโทรมาคือพี่มึงเว้ย ทำไมบอกว่าอยากเจอไอ้พี่น้ำเล่า ทำหน้าบึ้งใส่จนทั้งสองสาวต้องง้อผมเป็นการใหญ่

“โด่ว ไรว้า พูดถึงไม่ได้เลยนะ” เจ้าซีส่ายหัว
“อิอิ ก็พี่น้ำหนีไปนอนกอดแต่พี่ดี พวกหนูก็คิดถึงแย่เลยอะ”
“กอดเกิดไร ไม่มีเถอะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เย็นๆ นะ” ได้ยินเสียงปิดประตูพอดีเลยบอกให้พี่น้ำมาคุยกับน้องก่อนที่ผมจะเข้าไปอาบน้ำ

 
ไอ้พี่น้ำรับโทรศัพท์ไปคุยต่อ ไม่นานก็ได้ยินเสียงหัวเราะทั้งของมันและสองสาวดังลั่น
ผมที่เดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วแต่ยังแอบแง้มประตูไว้เพื่อฟังเสียงก็ดีใจ
อย่างน้อยไอ้พี่น้ำก็หัวเราะได้แล้วล่ะ

 












ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ พี่น้ำก็นอนหลับไปแล้ว
ปกติมันต้องรอผมสิ ทำไมชิงหลับไปก่อนแบบนี้เล่า
หรือว่า มันจะงอนจริงเนี่ย ?!



 

 
.

.

.







 
ตื่นมาตอนสายๆ ก็พบว่าไอ้พี่น้ำตื่นก่อนแล้ว เดินลงมาข้างล่าง บนโต๊ะทานข้าวมีข้าวต้มกับกับข้าวหลายชนิดยังไม่พอข้างกันก็มีโพสท์อิทเปะไว้ ลายมือคุ้นตาเขียนว่า



‘ซื้อข้าวกลางวันมาเผื่อแล้ว ไปทำธุระ
เดี๋ยวตอนเย็นกลับมารับไปร้องเกะ’




ไม่มีลงท้ายด้วยถ้อยคำเลี่ยนๆ อย่าง ‘กินไม่หมดคนซื้อเสียใจ’ หรือ ’รักของพี่อยู่ในข้าวทุกเม็ด’ อะไรแบบนี้ ไม่มีแม้กระทั่งรูปยิ้ม หรือ ลงชื่อ ‘น้ำดี’ แบบกวนๆ




นี่ตกลงไอ้พี่น้ำงอนผมจริงเด้
เห้ยยยยย แล้วนี่ไปไหนอะ โทรไปก็ไม่รับ



หลังจากโทรหาจนมือหงิก ผมก็นั่งลงกินข้าวต้มกุ้ยที่ทำไว้ให้ จะกินไม่หมดก็กลัวจะมีคดีเพิ่มถึงได้ทนกินผัดผักบุ้งจนหมดจาน ไม่ต้องห่วงหมูทอด หมดก่อนข้าวต้มแล้วครับ นี่เห็นว่าไอ้พี่น้ำทำหรอกนะถึงกินน่ะ ไอ้ผักเขียวๆ ลื่นๆ แบบนี้ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน


ปล่อยตัวเองนั่งอืดดูโทรทัศน์เรื่อยเปื่อย นั่งคิดเอาเองก็แล้ว นอนคิดก็แล้ว จนมุมจริงๆ นั่นแหละถึงยอมโทรหาน้องสาว
แหม ก็ไม่อยากโดนล้ออะ เข้าใจกันหน่อยนะ




 
เหมือนที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด สองสาวรุมซักไซ้ผมละเอียดยิบ จนแทบอยากกลับไปบันทึกวีดีโอหรืออะไรไว้ให้พวกมัน จะได้ไม่ต้องถามมาก พอฟังจบสองสาวก็เงียบไปพักใหญ่จนผมทนไม่ไหวเริ่มหงุดหงิด


“ซี มึงเงียบทำไมนานเนี่ย”
“เออ พี่ดี นี่หวานเอง ซีไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“อ้าว เออโทษทีหวาน พี่นึกว่าซี” ทีเสียงกุกกักจากปลายสาย สายก็ถูกตัดไป อ้าว ไรวะเนี่ย ยังไม่ทันได้โทรกลับ ซีก็คอลมาทางไลน์ซะก่อน
“อยู่ดีๆ ก็ตัดสายทิ้ง เกือบโมโหแล้วไหมล่ะ” รับสายแล้วก็ใส่เลยผม
“ไรอะ แค่แฟนหาย นิดหน่อยทำโมโหนะพี่ดี” ซีแซวยิ้มๆ ดูจากในวีดีโอเห็นว่ามันยืนอยู่ที่ระเบียงหันหลังให้กับประตูห้อง
“แล้วตกลงมึงคิดได้ยังว่าไอ้พี่น้ำมันเป็นไรอะ” เจ้าซีทำหน้าเหนื่อย แล้วถอนหายใจดังๆ ให้ผมได้ยิน
อะไรเล่า ทำแบบนั้นหมายความว่าไงวะ!!


“พี่ดีคิดดูเด้ ไม่เจอหน้าแฟนตั้งหลายวัน เจอกันแฟนก็ดันไม่สนใจซะงั้นอะ เป็นซีก็น้อยใจเหอะ”
“แค่สามวันเอง” อดจะเถียงไม่ได้
“เออกี่วันก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่าไม่ได้เจอกันอะ”
“เอ้า ก็มันเหนื่อยจริงๆ นี่หว่า ไม่ได้นอนตั้งสองคืนนะเว้ย” สองคืนที่ว่าคือวันที่ปั่นโปรแกรมที่ส่งนายไปวันพุธและได้คอมเม้นท์มาวันนี้แหละครับ ถึงจะเป็นคืนวันจันทร์และอังคารก็เถอะ วันนี้วันศุกร์ก็นอนไม่พอหรอก


อยู่ๆ เจ้าซีก็ทำหน้านิ่งขึ้นมา
 

“อย่ามาแก้ตัวเลยพี่ดี  ตอนเย็นนี้รีบง้อพี่น้ำด่วนๆ ไม่งั้นทั้งซีกับหวานจะไม่ช่วยพี่ดีแล้ว โอเคมะ!!”

 

เฮ้ยยย ผมว่ามันไม่ใช่ประโยคคำถามแล้ว นี่มันประโยคคำสั่งชัดๆ
เจ้าซีพูดอะไรอีกนิดหน่อย ได้แต่รับคำแล้วก็ตัดสายไป




ง้อไอ้พี่น้ำเนี่ยนะ
ไม่ไหวมั้ง
 



 

.

.

.

.






ตอนเย็นพี่น้ำขับรถมารับมีสองสาวนั่งหน้าสลอนอยู่เบาะหลังเรียบร้อย ตลอดทางมีแต่เสียงคุยหนุงหนิงของสองสาว ทั้งผมและพี่น้ำยังไม่ได้พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว



แอบเห็นแหละว่าบางทีมันก็แอบมองผม ทำไมรู้นะเหรอ ผมก็แอบมองมันเหมือนกันไง มันแอบมองมาบ้างก็ยังดี อย่างน้อยเวลาง้อคงไม่เก้อเท่าไหร่มั้ง...คิดว่านะ



อ่า แค่คิดก็ อยากจะ .... เอาเป็นว่า ไม่คิดจะทำให้ใคร ทำให้ไอ้พี่น้ำคนเดียวละกันนะ 
อ้ากกกกก เขินเว้ย




“เออ พี่ดีคะ เข้าห้องเถอะค่ะ” คงเหม่อมากไปหน่อย หวานที่เดินตามมาคว้ามือดึงผมให้เดินเข้าไปในห้องร้องคาราโอเกะ


ได้สติเห็นสภาพห้องแล้วแทบร้อง โอ้โห ผนังห้องทั้งสีด้านบุเบาะเก็บเสียงทำจากหนังสีดำสนิท โซฟาหนังสีดำรูปตัวยูตั้งอยู่กลางห้อง ตรงกลางมีโต๊ะแก้ววางอยู่ ฝั่งตรงข้ามคือจอภาพขนาดใหญ่ เครื่องเสียงแบบเซอร์ราวด์รอบห้อง ขาตั้งไมค์วางอยู่มุมห้อง แทมบูรินวางอยู่บนเคาเตอร์แอบเห็นหูกระต่ายวิบวับด้วยนะเฮ้ย นี่มันไม่ใช่ห้องร้องคาราโอเกะทั่วไปแล้วหรือเปล่า สองสาวเห็นสภาพห้องแล้วก็ดี้ด้า รีบถ่ายรูปกันใหญ่


ไอ้พี่น้ำนั่งลงบนโซฟาตรงกลางตรงโค้งพอดี ผมจึงเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้าม มันเหลือบมามองนิดหน่อย แต่ก็ก้มหน้าเลือกอาหารและเครื่องดื่มจากบริกรต่อไปอย่างไม่สนใจ


“พี่น้ำ วันนี้มีแอลฯ ป่าวค้าบ” ยัยซีพอเห็นพี่น้ำเลือกเครื่องดื่มก็รีบเข้ามานั่งออดอ้อน
“ไม่ต้องเลยเจ้าซี เป็นเด็กเป็นเล็ก” ผมปรามมัน
“พี่ดีเงียบเลย ซีถามพี่น้ำต่างหากเล่า” ยัยซีเถียงทันควัน
“ซีอย่าว่า พีดี นะ” หวานว่าเพื่อนตัวเองเสียงดัง จนผมเองยังสะดุ้ง
“หวานนนนน” ซีลากเสียงง้อเพื่อนตัวเอง
“ซีขอโทษพี่ดี วันนี้วันเสาร์ให้น้องดื่มหน่อยเหอะน้า นะนะนะ” หวานไม่สนใจ ชี้นิ้วมาที่ผม ยัยซีก็รีบขอโทษพร้อมกับเข้ามาอ้อน คารวะน้องสาวพี่น้ำจริงๆ ที่ทำให้ยัยซีเชื่อฟังได้ขนาดนี้ เหลือบสายตามองพี่น้ำก็เห็นว่ามันมองอยู่
“ไม่เอาเว้ย กินแล้วก็เมาจะกินทำไม”
“เอ้า พี่ดีก็ กินไม่เมาจะกินทำไมเล่า น่านะ ให้น้องกินเหอะ น้องไม่เคยไปกินที่อื่นเลยน้า กินกับพี่ชายสุดหล่อตลอด นะนะ พี่น้ำ พี่ดีนะ” ลำยองจริงน้องกูยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไร บริกรก็บอกว่า
“บัตรที่ลูกค้าใช้สิทธิ์นี้ รับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีหนึ่งขวดครับ” ยัยซีและหวานส่งเสียง เย้ ดังลั่นกลายเป็นว่าทั้งยัยซีและหวานลำยองพอกันซะงั้น






สั่งอาหารเสร็จ พนักงานเข้ามาอธิบายวิธีการกดเพลง แนะนำการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ดนตรีเพลงคุ้นหูที่ฮิตกันทั้งเมืองก็ดังขึ้น จนผมที่กำลังกระดกน้ำโค้กถึงกับสำลัก



“แวบเดียวแค่ดู ก็ทำให้รู้ว่าเธอนะโดนหัวใจ
อยากบอกเหลือเกินว่าเธอน่ารักแค่ไหน
จริตมากไปกลัวมันไม่ดีไม่งาม”



ยัยซีกระโดดออกไปยืนตรงที่ว่างหน้าจอภาพ ฉากด้านหลังคือมิวสิควีดีโอเพลงดังกล่าว ยัยหวานไม่รอช้าหลังจากเห็นเพื่อนสาวออกลวดลายนำไปก่อนก็ตามไป



“ก็เลยเก๊กฟอร์ม ทำเป็นอ้อมค้อมทำเป็นว่าดูเฉยเมย
จนเธอมาขอ เบอร์โทรเข้าทางแล้วเอ๋ย
อยากบอกจังเลย ถึงบ้านให้รีบโทรหา”


พอถึงท่อนฮุกสองสาวมองหน้ากัน ยักคิ้วให้พวกผมกวนๆ แล้วก็เต้นตามเพลง เหมือนกับมิวสิควิดีโอด้านหลัง


“เบอร์โทรอื่น จะได้ยินเสียงรอสาย
แบบ แบบ แบบ ว่าให้รอ
แต่เบอร์นี้ จะได้ยินเสียงใจบอกว่า...
ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก หัวใจ
ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไป ใจให้เก็บรักษา
ยอมจำนนเธอแล้ววันนี้แค่แรก เห็นหน้า
ฝากไว้กับฉันนะหัวใจของเธอ แลกเบอร์โทร โอ๊ะ โอ โอย”



จบเพลงสองสาวตบมือไฮไฟว์กันเรียบร้อย ผมที่นั่งมองตาค้างก็ส่งเสียงแซวเป่าปากวี้ดวิ้ว ให้ตายเถอะ ไม่เคยรู้เลยว่าน้องสาวที่นอกจากบ้าเกาหลีและจิ้นวายไปวันๆ แล้ว ไอ้สองคนนี้มันเต้นเก่งด้วยอะ นั่น มองไปทางไอ้พี่น้ำก็เห็นหัวเราะ พูดแซวสองสาวอย่างอารมณ์ดี


ยิ้มกว้างๆ ไว้ล่ะพี่น้ำ

 

 



ยิ่งดึกเพลงเวียนไปจนแทบจะทุกแนว ตั้งแต่เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง เพลงไทยสากล เพลงไทยเดิม เพลงสากล เพลงญี่ปุ่น เพลงเกาหลี ตอนนี้ตีกันในหัวผมจนมึนงงไปหมด สองสาวยังคงเสียงดีไม่มีตก ไม่รู้ว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวมีมากแค่ไหน เมื่อกี้รู้สึกเหมือนเสียงเริ่มอ้อแอ้แล้วสิ


ทั้งผมและพี่น้ำโดนคะยั้นคะยอให้ร้องเพลงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ผมเอาแต่ส่ายหน้า ปฏิเสธไม่ว่าสองสาวจะมาไม้ไหนก็ไม่ร้องเลยสักเพลง


ผิดกับไอ้พี่น้ำ พอแอลกอฮอล์เข้าปากจากที่แข็งๆ ไม่ยอมร้องตอนแรกพอเจอลูกอ้อนของสองสาวเข้าไปก็เผลอร้องไปหลายเพลงแล้วน่ะนั่น


ถามถึงเพลงที่พี่น้ำร้องเหรอ เห็นเงียบๆ แบบนั้น เขาโปรเพลงร็อคนะครับ แม่เจ้า แต่ละเพลงนี่ โยกทีหัวแทบหลุด










เมื่อเห็นว่าแต่ละคนเริ่มเหนื่อยอ่อนกันแล้วก็ถึงเวลาพระเอกอย่างผมต้องออกโรงแล้วล่ะครับ เดินไปกระซิบกับยัยซี เจ้าตัวมองผมตาโต ก่อนจะยิ้มกว้าง เดินไปกดเพลงให้อย่างรวดเร็ว

ผมออกไปยืนเก้ๆ กังๆ ตรงพื้นที่ว่างหน้าจอ เหลือบมองสาวสาวเห็นยัยซีซุบซิบกับยัยหวานสองคน เลื่อนสายตาไปมองไอ้พี่น้ำ ที่กำลังมองตรงมาที่ผม


มือที่ถือไมโครโฟนสั่นเล็กน้อย จนต้องใช้สองมือจับ


“..พี่น้ำ .. ดี มีเพลงมาร้องใหม่ฟัง ตั้งใจฟังดีๆ นะ” รู้เลยว่าเขินมาก แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว เสียงดนตรีค่อยๆ บรรเลงเพลงขึ้นมาอ่อนหวาน




แล้วในห้วงของความคิด ภาพรอบกายเลือนไป ผมรับรู้เพียงเสียงเพลงที่ผมร้อง และดวงตาสีดำสนิทของพี่น้ำที่ผมจ้องมองอย่างแน่วแน่เท่านั้น
 



เพลงประกอบ https://www.youtube.com/watch?v=r7Yl3AxoEYk




“ในโลกที่มีความวกวน
ในโลกที่ทุกคนต้องดิ้นรน
ที่สับสน ร้อนรนจนใจ นั้นแสนเหนื่อย
ในโลกที่ความทุกข์ท้อใจ
ได้เดินผ่านเข้ามาเรื่อยๆ
จนบางครั้งไม่รู้จะข้ามไปเช่นไร”




ภาพในอดีตผ่านเข้ามาเพียงแวบเดียวก่อนจะจางหายไป เป็นเพียงความทรงจำอันเลือนราง



“แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ
กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ”




เจ้าของรอยยิ้มสว่างไสวดังแสงตะวันเข้ามาในห้วงความคิด แทนที่จะจางหายไปเหมือนความทรงจำอื่นๆ กลับค่อยชัดเจนขึ้น
น้ำเสียงตอนเริ่มร้องเพลงไม่รู้เหมือนกันว่า ไม่มั่นใจ สั่นไหวขนาดไหน แต่ในนาทีนี้ ตอนที่จะร้องท่อนนี้ออกไป ผมมั่นใจเต็มร้อย
 




“ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบ อะไร
ฉันก็รู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่...ตรงนี้”





ไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำเมื่อเห็นว่าพี่น้ำยังคงสบตาผม ใต้แสงไฟสลัวเหมือนเห็นมุมปากบางยกยิ้ม





“ในอุปสรรค ที่มากมาย
ในความหวาดหวั่น ที่วุ่นวาย
อนาคต ในปัจจุบัน และอดีต
ในความเจ็บปวดที่ต้องเจอ
ที่ไม่เคยพ้นไปสักที
และยังไม่รู้พรุ่งนี้ต้องเจอกับเรื่องใด”





ภาพในอดีตวนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ ราวกับฉายซ้ำ แต่แปลกที่คราวนี้ ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว คงเพราะ…





“ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบ อะไร
แต่ฉันรู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่...ตรงนี้”






โน้ตตัวสุดท้ายค่อยๆ แผ่วลงก่อนจะเงียบหายไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ สองสาวนั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิก พี่น้ำยังคงมองตรงมาที่ผมโดยไม่กะพริบตา


ผมสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดออกไมโครโฟนไปว่า


“ถึงจะไม่ได้พูดบ่อยๆ แต่ก็อยากให้รู้ว่า รักพี่น้ำนะ เลิกงอนได้แล้ว เข้าใจปะ!”



ดวงตาสีดำสนิทของพี่น้ำเหมือนจะมีน้ำตาคลอ แต่พอผมพูดประโยคสุดท้ายที่ติดมาจากเจ้าซีออกมาเท่านั้นแหละ ขำก๊ากขึ้นมากันทุกคน

โธ่ ก็คนมันอายไง อะไรที่มันบ้าๆ บอๆ ก็หลุดออกมาหมดแหละ

กำลังจะเดินกลับที่นั่งดันถูกดึงไปนั่งตักโดยไม่ทันตั้งตัว


“เฮ้ย!”


“ไหนพูดใหม่ซิ เมื่อกี้ไม่ค่อยได้ยิน” คงเชื่อหรอกครับ พูดออกไมค์ดังไปสามบ้านแปดบ้านขนาดนั้น

“ไม่เอาแล้ว ไม่ได้ยินก็พลาดแล้ว ส.จ เสียใจ”

 
“...รักพี่น้ำนะ...เลิกงอนได้แล้ว เข้าใจปะ” ยัยซีเอาโทรศัพท์มายื่นใกล้ๆ นั่นนี่เองคือเหตุผลที่สองสาวนิ่งเงียบไม่กระดุกกระดิกหลังเพลงจบ


อัดไว้ครบ มีทั้งภาพและเสียงเลย ถถถถถถถถถ


ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จนผมหมั่นไส้หยิกพุงไอ้พี่น้ำไปทีหนึ่งแรงๆ ไอ้พี่น้ำสบตาก็รู้ใจครับ รีบเรียกพนักงานมาเคลียร์บิลทันที ส่งสองสาวที่คอนโดแล้ว ก็ตรงดิ่งกลับบ้าน


 


ตลอดการเดินทางกลับบ้าน พี่น้ำจับมือผมไว้ตลอดเวลา
อุณหภูมิบนแก้มค่อยๆ ร้อนขึ้นจนลามไปทั่วตัว

 

 

 






“อื้อ”




ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง ริมฝีปากก็ถูกจู่โจม อ้าปากจะร้องห้ามคนต้นเหตุดันสอดลิ้นเข้ามาไล่กวาดต้อนลิ้นของผม เกาะเกี่ยวดูดดึงแนบสนิทกว่าครั้งไหนๆ



จนเริ่มหายใจไม่ทันนั่นแหละ คนขี้งอนถึงได้ยอมละจากริมฝีปากมายังพวงแก้ม ไล่เรื่อยขึ้นไปจูบหน้าผาก แตะแต้มรอยจูบบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ลงมายังจมูกและมอบจูบดูดดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า





ร่างกายถูกสองมือเฟ้นฟอนจนร้อนไปหมด ดวงตาสีดำนั้นหวานปานจะหยด ยิ่งมองเหมือนถูกหลอมละลายไปกับความอ่อนหวาน ผมสำลักความสุขครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายส่งมอบความสุขให้กับอีกฝ่ายอย่างเต็มใจ และยินยอมกว่าครั้งไหนๆ



ทุกครั้งที่ผิวกายโดนสัมผัสก็ร้อนวาบพร้อมหลอมละลายเสมอ ผิวเนื้อของตนเองที่มองเห็นจากแสงสลัวนั้นแดงเรื่อ ไม่ต่างจากชายหนุ่มอีกคนเลย ใบหน้าของน้ำเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เขากะพริบตาถี่ๆ เมื่อมันไหลเข้าตา ผมละมือจากการกอดรัดไปซับเหงื่อให้ เราสบตากัน




...นาทีนั้นเหมือนได้ตกหลุมรักอีกครั้ง





ร่างกายขมวดเกรงก่อนที่เราจะสำสักความสุขออกมาพร้อมกัน

 




“ถ้าจะยั่วขนาดนี้ เตรียมลางานเลยเถอะ”
“หะ!! นี่ยังไม่พอหรือไง”





แค่นี้ก็เดินลำบากแล้วนะเฟ้ย




ไอ้พี่น้ำยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ยิ้มอย่างนี้ก็รู้ชะตากรรมแล้วล่ะครับ







ลางานแน่ๆ

 
 







 



“รักเท่าไรก็ยัง...ไม่พอ”




 
อื้อหือ ไม่ต้องตอบมาเป็นเพลงแบบนั้นก็ด้ายยยยยย
แค่นี้ก็ยอมจนไม่รู้จะยอมยังไงแล้วเนี่ยยยยย





Fin

-------------------------------------------------------------
[11/12/58]
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ จบบริบูรณ์

ตอนสุดท้ายแล้ว ตอนแรกไม่กล้าเอามาลงเพราะกลัวไม่มีคนอ่าน 555
แต่ก็ตัดสินใจลง เพราะเป็นการตอบแทนที่เข้ามาอ่านนิยายจากเล้าเป็ดประจำ
หวังว่าคนอ่านจะมีความสุขอย่างที่เรามีเช่นเดียวกับอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ นะคะ
มีนิยายอีกเรื่อง หวังว่าอาทิตย์หน้าจะได้ทยอยลงค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนถึงตรงนี้ค่ะ
:pig4:
Lavender’s blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 16:00:11 โดย Wendy »

ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อร๊ายยยเขินแทนน้องดีอะ รับรักพี่เค้าเถอะนะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao7:

โอ้ยมันฟิน

ดีกับพี่น้ำนี่น่ารักมากกกกกกกกก แถมตอนดีง้อนี่ค่อดๆน่ารักเลย มาให้ป้ากอดที  :กอด1:

ออฟไลน์ bluerose

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพิ่งได้มีโอกาสอ่านเรื่อง อ่านยิงยาวทีเดียวทุกตอนเลยค่า บอกเลยว่าดีมาก สนุกมาก หยุดไม่ได้ วางไม่ลงเลยค่ะ >//<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด