ตอนพิเศษ Rainy Day
[/b]
Rain Say พี่เรกับมีนเพิ่งผูกข้อไม้ข้อมือกันไป ย้ำเตือนชีวิตคู่ของพวกมันอย่างจริงจังหลังจากที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่พวกมันก็ผ่านพ้นมาได้ ด้วยความอดทนและเชื่อมั่นในกันและกัน ความรักของสองคนนั้นมากมายจนผมยังอิจฉา แล้วมีหรือน้องเรนจะน้อยหน้าถึงเวลาที่ผมจะบอกความในใจกับคนที่ผมเฝ้ารอมานานซักที
วันนี้เป็นวันที่ผมใช้เวลาอยู่หน้ากระจกนานกว่าทุก เพราะอยากดูดีที่สุดทั้งที่ปกติเรนคนนี้ไม่เคยกังวลในรูปลักษณ์ตัวเองเลย แล้วจบลงด้วยเสื้อโปโลสีครีมที่ตรงปกคอและแขนตัดด้วยสีน้ำตาลที่ซอนเน่ซื้อให้ วันนี้เป็ยวันเกิดซอนเน่ ผมไม่ลืมที่จะหยิบกล่องของขวัญขนาดกลางที่ห่อไว้อย่างดีติดมือขึ้นรถไปด้วย
ซอนเน่เป็นผู้หญิงที่สวยและเก่ง แต่เธอไม่มีใครเพราะทั้งชีวิตของผู้หญิงคนนี้ทุ่มเทให้กับงานและดูแลหลานๆ อย่างพวกผม เธอแทบจะไม่ได้พักร้อน เธอลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง ทั้งที่เธอมักจะทำเพื่อคนอื่นๆ เสมอโดยเฉพาะเพื่อให้ผมกับพี่มีความสุข
(วันนี้สินะ) เสียงไอ้พี่เรดังขึ้นในหัวขณะที่ผมกำลังออกจากห้อง
(ก็รอมานานแล้ว จะรุ่งหรือจะแห้วให้มันรู้กันไปเลย) ผมตอบ
(ขอให้สมหวังแล้วกัน ถ้าอกหักจำไว้มึงยังมีกู) ก็ยังไม่วายแช่งอีกนะพี่เวร เอาวะเป็นไงเป็นกัน
ผมขับรถมาที่ตึกสำนักงานของสภากลาง ผมเกลียดรถติดแต่ก็มาบ่อยเพราะหัวใจมันอยู่ตรงนี้ กดลิฟท์ไปชั้นรองสุดท้ายก่อนจะก้าวเดินไปตามโถงด้วยใจเบิกบาน มองของขวัญในมือด้วยรอยยิ้ม มันเป็นกรอบรูปที่ผมทำขึ้นเองกับมือ ในนั้นมีรูปของทุกคนในบ้านซานซิโออยู่ ซอนเน่ไม่ได้ชอบของแพงแต่เธอชื่นชอบของที่ทำออกมาจากใจ
"ท่านอาผมมาแล้ว" เสียงเจื้อยแจ้วทักทายพร้อมเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาวะ
"อ๊ะ เรน" ภาพตรงหน้าทำให้ผมแทบหยุดหายใจ เมื่อร่างบอบบางของคนที่ผมรักอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคน ท่านอายิ้มแห้งๆ มาให้ผมก่อนผละออกมาจากอ้อมแขนของอัลไสวเดอร์
"ไงเรน" เจ้าของเรือผมสีเงินเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม "ฉันเอาเค้กมาเซอร์ไพซอนเน่นะ" อัลไสวเดอร์บอกพลางยิ้มกว้างให้ซอนเน่ คนถูกมองได้แค่ก้มหน้าหลบอย่างเขินอาย ซึ่งมันก็ชัดอยู่แล้วว่าคนตรงหน้ารู้สึกต่อกันยังไง
"สะ สวัสดีครับ เอ่อ" ผมที่พึ่งหาเสียงตัวเองเจอทักตอบ "ผมแค่เอาของขวัญมาให้นะ"
"ขอบใจจ๊ะ หลานอาน่ารักที่สุด" ซอนเน่ยิ้มกว้างก่อนจะถลามากอดผมไว้แน่น พร้อมหอมแก้มอีกที หลานอา...ผมมันเป็นแค่หลานสินะ ผมได้แต่ยิ้มรับทั้งที่ใจไม่ยิ้มเลย
"งั้นผมกลับก่อนนะ ตามสบายเลยครับไม่อยากเป็น กขค" ปากก็แซวกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มันกำลังดิ่งของตัวเอง ก่อนจะหันหลังเดินออกมา
แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ผมยิ้มหยันให้กับความกากของตัวเอง มัวแต่ชักช้าโดนคนอื่นตัดหน้าซะได้ แถมไอ้คนที่ตัดหน้าชนะเขาทุกอย่าง เพราะเป็นคนที่ท่านอาปลื้มมานาน แถมยังเป็นถึงผู้นำตระกูลอาร์เคน เรื่องหน้าตาถึงหมอนั่นจะอายุขึ้นเลขร้อยแต่แวมไพร์ย่อมไม่แก่ตามกาลเวลา ช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบชนิดที่ว่าผมไม่มีสิทธิไปแทรกกลาง
ผมนั่งเหม่ออยู่ริมน้ำเยื้องๆ กับสะพานสูง หลังออกจากสำนักงานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงนี้เพราะมันเงียบดี เพื่อสงบจิตสงบใจ พร้อมโทรไปดราม่าให้พี่เรฟัง
"ไงคนอกหัก" ดูๆ มันทักเหมือนมันรู้
"แหมไอ้พี่ จะโทรมาให้โอ๋หมดอารมณ์เลยเนี่ย" ผมบ่นพลางยิ้มขื่น
"ร้องไห้ไหมน้องรัก เดี๋ยวจะไปหาให้ซบอก" มันแซว
"ใช่ซี้ ใครจะไปสมหวังในรักแบบมึงละครับ เฝ้ามาตั้งนานโดนหมาคาบไปแดกซะงั้น"
"สรุป คือจะร้อง!!!?"
"มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" ผมบอก อาจเพราะรักท่านอาข้างเดียวมันทุกข์ปนสุขมานาน พออกหักจังๆ เลยไม่เจ็บเท่าไหร่มั้ง มันก็แค่เคว้งๆ หน่วงๆ เดินไม่ได้ไปไม่เป็นก็แค่นั้น เพราะอีกใจหนึ่งผมก็ยินดีที่ซอนเน่ได้สมหวังกับคนที่ปลื้มมานาน ผมรักเธอมาก รักเธอในหลายๆ ความหมาย และก็รักมากพอที่จะมีความสุขหากซอนเน่ก็มีความสุข
...ผมไม่ได้หล่อแค่หน้าหรอกนะ ใจผมอะหล่อมากกกกก... "แล้วเอาไงต่อ" เรถาม
"ยังไม่รู้อะพี่ ยังไม่อยากกลับบ้านไปดูพวกท่านสวีทกันให้อิจฉาเล่น มันก็เฮิธๆ อะ อยากเมา อยากเหล้า อยากหาหญิงเอาให้ลืมเธอ" ตอนนี้คงต้องหาอะไรทำให้หายฟุ้งซ่านก่อนละ ผมไม่ใช่ประเภทมานั่งเศร้ากับชีวิต คนเรามีผิดหวังและเสียใจถ้าเรายังไม่ตายมันก็เริ่มใหม่ได้เสมอ
"ให้กูไปเป็นเพื่อนไหม"
"ไม่ต้องหรอกพี่ อยู่กับเมียไปเถอะ" ผมบอก โตแล้วไม่อยากให้ไอ้เรมาห่วงมาก "เกิดผมลากสาวๆ มาเต็มโต๊ะ ไอ้พี่มึงจะซวยเอา" ขนาดครั้งที่แล้วไอ้มีนเจอพี่เรในผับ ตอนนั้นพวกผมแฝงตัวทำภารกิจกัน มันยังโกรธจนหนีพี่ผมไป ตามหากันให้วุ่น
"ตามใจแล้วกัน"
"เฮ้ย!!!" ผมที่ทอดสายตามองไปเรื่อยๆ ก็ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ บนสะพานสูงข้างๆ กันมีคนกำลังปีนระเบียง แล้วกระโดด ในยามที่ร่างนั้นกำลังดิ่งสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง สัญชาตญาณสั่งให้ผมกางปีกทะยานเข้าหาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว
ฟุป!!! ผมรับร่างนั้นได้ทันก่อนที่มันจะกระแทกกับผืนน้ำ กระโดดจากสะพานสูงรวมห้าสิบเมตรลำพังแรงกระแทกก็ตายคาทีแล้วมั้ง ไม่ต้องรอให้จมหรอก
"ทำบ้าอะไร!!" ผมถามเสียงตื่นทันทีที่พาอีกคนเข้าฝั่ง พอเท้าถึงพื้นไอ้คนในอ้อมแขนก็ทั้งดิ้น ทั้งผลัก
"ปล่อยกู ฮึก ปล่อยกูสิ กูไม่อยู่แล้ว กูไม่เอาแล้วไอ้ชีวิตเฮงซวยเนี่ย" เสียงโวยวายเจือสะอื้นดังก้องบริเวณ ดีนะแถวนี้ไม่มีใครอยู่แถมเจ้าตัวคงไม่มีสติพอรับรู้ว่าผมช่วยด้วยวิธีไหน
"เฮใจเย็นสิ" ผมพยายามบอกพลางรวบร่างเล็กนั้นไว้แน่น
"ปล่อยเลย นายเป็นใคร ปล่อยดิวะ" เจ้าตัวยังคงตะโกนต่อไปจนเสียงแหบแห้ง ก่อนจะเริ่มหมดแรงแล้วแต่ก็ยังร้องไห้อย่างน่าสงสาร
พออีกคนยอมอยู่นิ่งๆ จึงมีโอกาสสำรวจคนที่เพิ่งช่วยไว้อย่างจริงจัง ใบหน้าหวานใสบัดนี้อาบไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีดำหมองเศร้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่เจอมันเลวร้ายแค่ไหนกัน ถึงทำให้คนๆ หนึ่งละทิ้งชีวิตได้ขนาดนี้
"มาช่วยทำไม" น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยถามพลางเงยหน้ามองผม ใบหน้าขาวๆ ตาโต จมูกนิด ปากหน่อย บอกผมสิว่านี่ผู้ชาย ยิ่งร้องไห้ จนจมูกแดง ขอบตาแดงกับน้ำตาคลอ แถมปากยังแดง...แม่งโคตร คาวาอี้เลยสัส...
"ไม่รู้เหมือนกัน ร่างกายมันไปเอง" ผมบอกเสียงเบา "ทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายละ"
"ก็ไม่มีใครต้องการเราแล้วนิ" เจ้าตัวบอกเสียงเบา พลางกัดปากเล็กๆ นั่นกั้นสะอื้น
"ไม่จริงหรอก"
"จริงสิ ฮึก...พ่อกับแม่ ก็ทิ้งเรา ยายก็ทิ้งเรา แฟนเราก็ทิ้งเราไปแต่งงานกับคนอื่น ฮือออ จีบเรามาตั้งนาน คบกันมาตั้งสามปี พอเรายอมให้มันเอาก็มาบอกว่าแค่อยากลองกับผู้ชาย ฮึกกกก...แม่งเหี้ย!!! ทำไมละ เรามันไม่ดีหรอ พี่เขาไม่เคยรักเราเลยใช่ไหม ฮึก" ร่างเล็กๆ สะอื้นตัวโยนจนต้องกอดเอาไว้แนบอกพลางลูบหัวเบาๆ
ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอ่อนไหวไปกับคนตรงหน้านัก ผมเองก็อกหักแต่อาการก็ไม่ได้หนักถึงขั้นฟูมฟาย ทั้งที่เจอกันครั้งแรกแต่ผมกับร้อนใจเสียจนลืมเรื่องเฮิธๆ ของตัวเองไปเลย
"ชู่ว!!! อย่าไปร้องไห้ให้คนเลวๆ เลย" เสียทุ้มเอ่ยปลอบ ผู้ชายคนนั้นแม่งควาย ทั้งที่มีคนรักมันถึงขั้นยอมตายให้ได้มันกลับไม่เห็นค่า ถ้าเป็นผมหากมีใครซักคนรักผมขนาดนี้ คงจะดูแลใครนั้นให้ดีที่สุด
"เราจะไปอยู่กับพ่อกับแม่ เราจะไปอยู่กับยาย บนสวรรค์ต้องมีคนรักเราแน่ๆ" คนตัวเล็กบอกอย่างเลื่อนลอย "ปล่อยเราไปเถอะนะ เราไม่ต้องการแล้วชีวิตนี้ เรา ฮึก ไม่อยากอยู่แล้ว" เสียงเศร้าๆ อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
"นายชื่ออะไร"
"ซัน" ชื่อก็ฟังดูสดใส แต่ชีวิตไม่สดใสเอาเสียเลย
"ไม่เอาแล้วใช่ไหมชีวิตของนายนะ" ผมถามพลางยิ้มบางๆ เมื่อนึกบางสิ่งได้ คนในอ้อมกอดส่ายหัวน้อยแทนคำตอบ นั่นยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างขึ้นอีก "งั้น ชีวิตนายถ้าไม่เอาแล้ว ผมขอแล้วกัน"
"ฮะ" คนตัวเล็กเงยหน้ามองผมตาโต
"ผมเป็นคนช่วยไว้ ชีวิตนายเป็นของผมแล้วนะ ตกลงตามนั้น"
"เอ่อ...
เฮ้ย!!!"
.......................
-มาแล้วววว เราไม่ได้ทิ้งเรนน้อยนะเเค่กำลังเห่อเรื่องใหม่
-ที่เราไม่เขียนให้มันเศร้า เพราะน้องเรนของเราเป็นคนไม่เครียดจ้า สดใสไรงี้
-อย่าลืมไปติดตามเรื่องใหม่หนูน้าาา Guardian of heart
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52090.0