บทที่ 19 Your Hero
[/b][/b]
Amun-re ผมไม่เคยเสียใจที่มีสายเลือดเรเวนเลย แม้หลังพ่อแม่ตายเราจะถูกตามล่ากันเป็นว่าเล่น จากคนที่หวังประโยชน์จากพลังของเรา ที่เราเอาตัวรอดได้จนมาเจอท่านพ่อ อีคารอส ซานซิโอ เพราะพลังที่มีเช่นกัน แต่ตอนนี้แอบเซงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นนิดๆ เพราะตอนโดนพวกซาโตนี่เล่นงานมันทำให้คนรักของผมเดือดร้อนไปด้วย แต่เรื่องก็ผ่านไปได้ด้วยดีแต่สถานการณ์ใช่ว่าจะสู้ดีเมื่อพ่อตา!? ของผมดันไม่ชอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็ไม่เห็นด้วยหากลูกชายคนเดียวของเขาต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ข้างกายผม จะว่าพ่อมีนใจร้ายก็ไม่ใช่ ก็แค่รักลูกมากเท่านั้นเอง เดาจากแรกๆ ที่เราคบกันพ่อของมีนก็ไม่ได้ห้ามอะไรขอแค่ลูกมีความสุขเขาก็พอใจ จากจุดนี้ผมจึงต่อรอง ให้ผมเลิกกับมีนง่ายๆ ผมเองก็ไม่ยอมหรอกครับ ข้อตกลงระหว่างผมกับคุณพ่อตาจึงเริ่มขึ้น หากผมอยากได้มีนคืนให้เอาสิ่งที่คิดว่ามีค่าเทียบเท่าคนที่ผมรักไปแลก...มันช่างประจวบเหมาะ กับบางสิ่งที่กำลังตามหาอยู่ ผมจัดการเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้วแต่ไม่มีใครรู้นอกจากผมกับน้อง ท่านอาและพี่มายา จะถามว่าทำไปทำไม ก็อยากเซอไพร์เมีย ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดประโยชน์เอาตอนนี้...ถ้าผมตามหาคนๆ นั้นเจอผมก็จะได้มีนคืนแน่นอน
ผมยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีทอดมองถนนตรงหน้า นับวันผมยิ่งบ้าสงสัยติดเชื้อไอ้แว่นเกรียนนั่นมาแน่ ว่าแล้วหน้ามึนๆ ของมันก็ลอยมาในความคิด ทั้งที่รับปากคุณพ่อตาไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งกับมันจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จ แต่ใครจะทนได้... ผมนอนกอดของผมทุกวัน ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา สุดท้ายอดไม่ได้ต้องแอบไปหามันถึงบ้าน ได้เห็นคนน่ารักนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ผิวขาวๆ ในเสื้อนอนตัวบางกับกลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะเจ้าตัว ผมเกือบจะลักหลับมันแล้วสิเมื่อคืน ต้องข่มกายขมใจนอนกอดมันไว้เฉยๆ มันซูบลงจนสังเกตเห็นได้ คงจะคิดมากเรื่องผมนี่แหละ ลากสังขารจากหนองคายกลับมาถึงคอนโด พี่มายาก็ส่งไลน์มาบอกข่าวดีแก่ผม จึงตัดสินใจโทรหามัน เติมกำลังใจให้ไอ้เกรียนมันหน่อยกลัวจะเฉาตาย แต่รอไม่นานผมก็ไปรับมันแล้ว ใจจริงอยากไปซะเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ติดงานล่าที่พึ่งรับมา ตอนนี้ต้องเอารายงานที่พึ่งปั่นเสร็จไปส่งที่สภากลาง
“ไงพี่เร” เสียงไอ้น้องรักทักทันทีที่เปิดประตูเข้าไปห้องทำงานของอาซอนเน่ พักนี้ถ้าไม่มีเรียนมันมาสิงที่นี่ตลอดแหละ ขยันทำคะแนนซะจริง
“อ้าวเร...! รายงานวางไว้โต๊ะก่อนเลยขี้เกียจจะอ่าน” ท่านอายังคนสวยบอกพลางสะบัดมือเบาๆ ให้น้ำยาทาเล็บสีแดงสดที่พึ่งทาแห้ง เดาจากขวดน้ำยาในมือไอ้เรน
(อย่าบอกนะมึงเป็นทาให้)
(เออกูเอง) มันยิ้มๆ
(นี่น้องกู...แต๋วแตกแล้วสินะ) ผมล้อ
(แหมๆ หัดไว้เห็นซอนเน่ชอบ เพื่อคนที่รักกูทำได้หมดแหละ หรือมึงไม่เป็นไอ้พี่เร) แล้วผมกับมันก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“นี่คงไม่แอบนินทาอาในใจกันใช่ไหมเนี่ย” ท่านอาทำหน้ายุ่ง ตวัดสายตามองไอ้เรน ไอ้ตัวแสบก็ยิ้มกวนๆ ตอบ ยิ่งทำให้ใบหน้าสวยนั่นเหวี่ยงไปอีก รังสีหวานแหววแปลกๆ เดาว่าน้องผมคงจะคืบหน้าไปบ้างแล้วละ ดูสองอาหลานหยอกกันไปมาเพลินๆ แรงสั่นในกระเป๋าเตือนว่าโทรศัพท์มีสายเข้าจึงเอาออกมาดู...ก็ต้องประหลาดใจกับเบอร์ที่โชว์
พ่อตาโทรมา!!!!!
“ฮัลโลครับ”
“มีนโดนจับไป” น้ำเสียงร้อนรนจากปลายสายทำใจผมกระตุกวูบ
“เมื่อไหร่ครับ”
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมง แม่บ้านที่อยู่อีกบ้านโทรมาบอกว่ามีนโดนใครไม่รู้ลากขึ้นเรือไป” ผมไม่น่าชะล่าใจเลย มีคนอื่นรู้ว่ามีนเป็นเงือก หลักๆ ก็คนในสภาที่ไปช่วยเราวันนั้น ไม่แน่พวกนั้นอาจบอกคนอื่นต่อ จึงมีคนคิดจะเอาตัวมีนไป
“ผมไม่น่าชะล่าใจเลย” รู้สึกเสียใจที่ยอมเล่นตามเกมคุณพ่อตา ปล่อยมีนอยู่ห่างตัว ถึงอยู่กับผมมันจะอันตรายแต่ผมก็ยังปกป้องดูแลมันได้
“เร...ป๋าจะทำยังดี” เสียงเขาสั่น “จะไปตามมีนที่ไหน...ได้ละ”
“ใจเย็นๆ นะครับ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องหามีนให้เจอ...พวกมันมีกี่คน”
“รู้สึกจะสอง”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ” ผมบอกก่อนตัดสายไป สบตากับน้องชายนิ่ง มันรับรู้ทุกอย่างแล้วเช่นกัน
“มีนโดนจับไป?...ฝีมือใคร” เรนถามเสียงเครียด ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ...ผมเองก็ไม่รู้ พยายามข่มใจที่เต้นรัวอย่างหวาดหวั่นในตอนนี้ให้สงบพร้อมคิดวิธีการ
“อาจะสั่งคนแถวนั้นไปตรวจสอบร่องรอย” ท่านอาบอกก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นสั่งงาน...
โทรศัพท์!!! คนเราต้องพกโทรศัพท์ติดตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นภารกิจที่ต้องมีการสั่งการอย่างลักพาตัวยิ่งต้องมี
“สัญญาณโทรศัพท์!!!!” เราโพล่งออกมาพร้อมกันก่อนที่ผมจะก้าวยาวๆ ไปห้องฝ่ายข้อมูลโดยมีน้องชายก้าวตามมาติดๆ
(พี่จะทำอะไร...)
(หาสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกใช้งานแถวๆ บ้านมีน ตอนเวลาช่วงที่มีนโดนจับไป...บ้านริมโขงค่อนข้างห่างจากหลังอื่น คงมีคนใช้โทรศัพท์จากบริเวรใกล้ๆ นั้นไม่มาก)
(เออ...ลองดู เผื่อมันโทรประสานงานกัน)
“รบกวนช่วยหาสัญญาโทรศัพท์ที่ใช้งาน แถวพิกัด….°....'….2"N …°…'….5"E ช่วงเวลา 16.00-18.00 น. ให้ผมที” ผมสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบทำตาม หมายเลขกว่ายี่สิบหมายเลขจะรัยขึ้นมาบนหน้าจอ “เบอร์นี่ไม่ใช่...เบอร์นี่ก็ด้วยๆ...” ผมตัดเบอร์ที่ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวมีนออกไป สงสัยใช่ไหมว่าผมรู้ได้ไง...ผมไปสืบมาหมดทุกอย่างเกี่ยวกับมีน พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง การศึกษา ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับมัน ผมค้นหาและจดจำไว้หมดเพราะมีนสำคัญกับผมนิ ผมจึงอยากรู้ทุกอย่าง
“หาจากเบอร์ที่เหลือ...ว่าเดินทางไปตรงไหนต่อบ้าง”
“เอ่อ ต้องให้เวลาค้นหาซักหน่อยนะค่ะ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอก ผมพยักหน้าเข้าใจแม้ภายในจะเดือดเต็มที
รอ...ผมเกลียดการรอ ไม่รู้มีนจะเป็นยังไง ผมเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนั้นอย่างวิตก เหมือนจะเกะกะเจ้าหน้าที่ในห้อง จนน้องผมต้องลากกลับห้องทำงานท่านอา เปิดประตูไปทำเอาผมอึ้ง มีทั้งอาหมอกับข้าวหอม อารอทกับโยนาห์ ทั้งหมดมารวมกันที่นี่เพื่อหาทางช่วยผม ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็วิ่งตามเอาพิกัดที่ตามจากสัญญาณทั้งหมดมาให้ผม จึงมีคำสั่งให้คนของสภาในพื้นที่ตามไปค้นตรวจตามที่อยู่จากพิกัดเหล่านั้น
มองเข็มนาฬิกาเดินไปกว่าสองชั่วโมงผ่านมาแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องบินส่วนตัวบินไปหนองคายเพื่อหาเอาเอง เพราะให้ทนรอแบบนี้ทนไม่ไหวจริงๆ แต่ยังไม่ทันก้าวออกจากห้องโทรศัพท์ก็มีสายเข้าอีกครั้ง ผมรีบหยิบมารับด้วยใจระทึก
"ฮัลโล..."
"เร...ฮึก...กูเอง" เสียงปลายสายจุดความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคนที่หายังมีชีวิตอยู่ "ฮึก...มาช่วยกูด้วย กูไม่ไหวแล้ว" แต่เสียงสะอื้นทำเอาผมใจแทบขาด...เพราะต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแน่นอน
"มีน ตอนนี้มึงอยู่ไหน กูตามหามึงให้ทั่ว"
"เรฮึก...พวกมัน...ฮือจะ..."
"ใจเย็นๆ นะครับ ตั้งสติ มีน...ตอนนี้อยู่ไหน"
"กูไม่รู้...ฮึกมันจับกูมา มันเกือบจะปล้ำกู" ปล้ำ...คำในทำให้จิตใจของผมร้อนรน "มันบอก...ฮือ... มันบอกจะเอากูไปขาย...กูต้องตายแน่ๆ เรกูกลัว ช่วยกูด้วย มันต้องฆ่ากูแน่ๆ" มีนร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพูดไม่เป็นคำ นำเสียงนั่นทั้งสั่นและหวาดกลัว บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวผ่านเรื่องเลวร้ายมาแค่ไหน
"มีน...."
ปัง!! ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ
"วุ่นวายนักนะมึง" ใครบางคนตะคอกตามด้วยเสียงโครมคราม
"
โอ๊ย!!! อย่า" เสียงร้องอย่างเจ็บปวดที่ดังผ่านสายทำเอาใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
"
มีน!!!! มีน ได้ยินไหม Pffff!!!! แม่ง!!!!" ผมตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง แต่สายตัดไปแล้ว ทำได้แค่ฟัง...ทำห่าอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง...โทรศัพท์เจ้ากรรมถูกบีบแน่นจนแทบแหลกคามือหากไอ้เรนไม่มาเกะมันออกไป พลางลูบไหล่ผมเบาๆ ให้ใจเย็นลง
"มีนว่าไงบ้าง" หมอริคถามขึ้น
"มันจะเอามีนไปขาย" ผมตอบเสียงเบา...เรื่องที่ว่ากินเนื้อเงือกจะทำให้เป็นอมตะ...เหมือนตอกย้ำๆ ให้รู้สึกแย่
"หรือว่าจะเป็น...งานประมูลใต้ดิน ที่กำลังจะเริ่มในอีกสองวัน" ซอนเน่บอกเสียงเครียด "ปกติสภาจะไม่ยุ่งกับงานพวกนี้ ไม่ว่าจะเอาอะไรไปประมูลกัน อาวุธ ของวิเศษ ของเวทย์มนต์ อะไรก็ตาม แต่นี่มันไม่ใช่ มันถือว่าผิดข้อตกลง เพราะเราไม่อนุญาตให้เอาสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ อย่างมนุษย์หรืออมนุษย์ไปประมูล...พอไม่ยุ่งหน่อยก็ทำข้ามหน้าข้ามตากันสินะ" ใบหน้าสวยแสดงความเกรี้ยวกราดออกมาชัดเจน
"ครั้งนี้จัดที่ไหน" ผมถาม
"ซิดนี่!!!! เห็นทีต้องไปจัดระเบียบกันซักหน่อย" หมอริคหักนิ้วกร๊อบ...แววตาดุดันขึ้นทันใด
"เจอแล้ว" อารอทโพล่งออกมาอย่างยินดีก่อนจะหันหน้าจอมาโชวร์พิกัดที่จับได้จากสัญญาณโทรศัพท์เมื่อครู่ หืม...ในเขตกรุงเทพฯ นี่เองใกล้ๆ กับสนามบิน "พี่ต้องไม่เชื่อแน่ บ้านหลังนี้เป็นของ วลัช เจ้าที่ฝ่ายการทูตของเรานี่แหละ" เพราะเป็นคนของสภากลางสินะจึงรู้ว่ามีนเป็นอะไร แต่ทุกที่ย่อมมีคนเลวประปนอยู่ไม่เว้นแม้แต่ที่นี่
"ผมจะไปคุยกับมัน" บอกแค่นั้นก่อนจะเดินไปห้องทำงานเป้าหมายโดยมีน้องชายเดินตามเป็นเงา
ปัง!!!! ผมเปิดประตูพรวดเข้าไป เจ้าของห้องดูตกใจเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะเหยียดยิ้มเย้ยหยันมองมาที่เรา
"คงไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทกับพวกเธอ" ชายวัยกลางคนว่า
"หึ....มีไม่มีไม่เกี่ยวหรอก" เรนบอกเสียงขุ่น
"แฟนกูอยู่ไหน" เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
"ผมจะไปรู้แฟนคุณหรอ" มันยังคงเฉไฉแต่แววตาเจ้าเล่ห์นั่นบอกให้รู้ว่ามันเข้าใจเรื่องที่ผมพูด "คงหมายถึงเงือกตัวน้อยๆ คนนั้นสินะ หึๆ"
"ผมไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับคุณ แล้วบ้านเลขที่...มันไม่ใช่ของคุณหรอกหรอ" เน้นคำย้ำชัดเจน ทำเอาอีฝ่ายชะงักงัน
"บ้านนั้น ฉันยกให้คนอื่นไปแล้ว ญาติๆ กันนี่แหละ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่ามันเอาไปทำอะไร ไม่ได้ไปเฝ้าทุกวัน"
ตอแหล!!!...ผมมองหน้ามันนิ่งๆ "หึ เด็กเมื่อวานซืนอย่ามาทำเป็นข่มหน่อยเลย หลักฐานก็ไม่มี อย่ามาปรักปรำกัน"
"คุณลืมไปหรอว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างเรา ก็เป็นคนของซานซิโอ เข้าใจสถานะตัวเองด้วย" ไอ้น้องรักเถียงกลับอย่างมีน้ำโห ปกติมันไม่เอาเรื่องตระกูลมาข่มใครเพราะเรามันแค่ลูกบุญธรรม
"แต่ฉันพูดจริงๆ ฉันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้" วลัชปฏิเสธ
"แต่จะไม่รู้เลยหรือไงว่าญาติตัวเองจะทำอะไร" เรนยังคนกดดันต่อ มันไม่อยากให้ผมลงมือเองเพราะอารมณ์ผมตอนนี้พร้อมหักคอได้ทุกคน
"ก็บอกว่าไม่รู้ไง" ผมเดินเข้าไปหาบ้าง ไม่รู้ว่าแววตาผมเป็นแบบไหน แต่วลัชถึงกับถอยกรูดจนล้มนั่งลงเก้าอี้ ผมจึงเอามือค้ำมันไว้ก่อนก้มลงมองตาใกล้ๆ จนอีกฝ่ายตัวสั่น
"แน่ใจในคำตอบแล้วสินะ" ถามเสียงเย็นเยียบ
"แน่ใจ สะ..
.อ๊าก!!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นห้องเมื่อผมคว้ามีดเงินที่เหน็บไว้ข้างเอวปักไหล่มันตรึงไว้กับเก้าอี้
หากคุณคิดว่า เร เป็นผู้ชายอบอุ่น หน้านิ่งแต่ใจดี คุณคิดผิด เพราะนั่นมีไว้ให้ครอบครัวและคนที่ผมรัก...สรุปง่ายๆ คงเป็น ถ้าดี ก็ดีใจหาย ถ้าร้ายก็ร้ายจนนึกไม่ถึง... เพื่อเป้าหมายผมทำได้ทุกอย่าง และคนตรงหน้าก็คงรู้ดีจากภารกิจเล็กใหญ่ที่ผมเคยสะสาง
"นาวิน!!!...ลูกพี่ลูกน้องฉัน อย่ากด" เสียงสั่นๆ หลุดออกมาในที่สุด จึงผ่อนแรงกดให้มันได้พล่าม "มันบอกจะเอาของไปประมูลรอบนี้...ของนี้แพงมาก มันมาขอยืมบ้านฉันเก็บของ มันบอกถ้าได้เงินมาจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้" ฉลาดนิ คิดว่าใช้บ้านทูตของสภากลางแล้วจะไม่โดนค้นสินะ
"จะขนของไปซิดนี่เมื่อไหร่"
"โอ๊ย ไอ้เด็กเวร" มันสบถด่าผมจึงกดมีดลงจนมิดด้าม "บอกแล้วๆ คืนนี้ อีกหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัว เที่ยวบิน TX-0318
(หนูมั่ว)...กองทัพอากาศ" วรัชละล่ำละลักบอก "แค่นี้ ฉันรู้แค่นี้" แววตามันสั่นไหวและหวาดกลัว มันคงไม่มีอะไรบอกแล้วจึงปล่อยมือจากด้ามมีดที่ทิ้งให้ปักไว้อย่างนั้น ทำเอาคนที่เคยเย่อหยิ่งอวดเก่งทรุดพิงเก้าอี้หมดสภาพ
เราทั้งหมดขนโขยงมายังสนามบินของกองทัพไม่มีแผนไม่มีเตรียมการเพราะเวลาไม่อำนวย โยนาห์กับข้าวหอมถูกสั่งให้เฝ้าวรัชไว้ที่สภา งานนี้คงถูกสอบกันหน่อย เพราะอะไรนะหรอ...พอมาถึงพวกนาวินก็เตรียมการต้อนรับซะยิ่งใหญ่อาวุธซะครบมืออยู่หน้าโกดัง เดาว่าญาติมันคงโทรมาเตือนเรียบร้อย ก็ตื่นเต้นดีเพราะไม่ค่อยได้ลงสนามกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวแบบนี้มานาน
กรรร!!! หมอริคกลายร่างเป็นแวร์วูฟตัวใหญ่ก่อนกระโจนเข้าไปประเดิมคนแรก ตามด้วยเพื่อนรักอย่างรอทพร้อมมีดคู่ใจ ส่วนซอนเน่วิ่งตามพวกเราที่ฝ่ามาด้านในรับมือพวกที่กระโจนเข้ามาไปพลาง ปกติแล้วผมไม่ค่อยเล่นถึงตายเอาแค่น่วมแล้วจับเข้าคุกทีหลัง แต่วันนี้มีหนักมือถึงตายกันบ้างเอาให้หนักให้สมกับที่ทำคนรักผมร้องไห้ เหมือนได้ระบายอารมณ์คุกรุ่นที่สะสมมาตลอดวัน พยายามฝ่าดงตีนไปตรงลานบิน และยิ่งเร่งฝีเท้าขึ้นเมื่อเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน Airbus ดังสนั่น ใช้เวลากว่าห้านาทีถึงสลัดไอ้พวกเหลือบไรนั้นหลุด เป็นจังหวะที่ตัวเครื่องกำลังทะยานไปตามรันเวย์เพื่อทะยานสู่ฟากฟ้า...
ไม่ทันการแล้ว!!! ฟึบ!!! ปัง ปัง!!!! ผมคว้าเอาปืนกลแถวนั้นสาดใส่ศัตรูก่อนกางปีกพุ่งตามก้อนเหล็กที่กำลังเร่งความเร็วขึ้นจนล้อเริ่มลอยจากพื้น เรนบินเซงหน้าผมไปคว้าเข้าช่องเก็บล้อ ยันล้อที่กำลังพับเอาไว้
"ไอ้พี่เร...เร็วดิวะ" น้องมันตะโกนแหวกเสียงลม เอื้อมมือมาหาผม จึงต้องเร่งสะบัดปีกพุ่งเข้าหามันแล้วมือเราก็คว้ากันทัน มันออกแรงดึงผมเข้าไปปล่อยขาที่ยันล้อไว้ประตูจึงเด้งปิดทันใด สองพี่น้องล้มกลิ้งไปกับพื้นใต้ท้องเครื่องบิน
(เกือบไม่ทัน!!!) ผมหอบหายใจหนักๆ ถ้าหลุดไปนี่ตามยันซิดนี่อะ คงยุ่งยากน่าดู เราพักหายใจกันชั่วครู่
(เอาไงพี่) ผมเงี่ยหูฟังไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงเครื่องยนต์และเสียงพูดคุยดังมาจากส่วนหน้า เดาว่ามันคงไม่รู้ว่าพวกผมขึ้นมาด้วยส่วนหนึ่งเพราะเราอำพรางกลิ่นไอและพลังของตัวเองไว้ตลอด ถ้าไม่เก่งถึงระดับพวกท่านอาคงยากจะรู้
(อย่าเพิ่งบวก เราต้องหาก่อนว่ามันเอามีนไว้ที่ไหน...น่าจะส่วนเก็บสินค้าโถงล่าง มองหากล่องหรือลังที่น่าจะยัดคนเข้าไปได้) ผมค่อยๆ เจาะเพดานด้านบนเป็นช่องพอลอดได้หลังจาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปตามด้วยไอ้เรน
(ผมไปดูโซนนั้นแล้วกัน) เรนบอกก่อนเดินแยกไป เพราะการจู่โจมกระทันหันทำให้มีพวกมันขึ้นมาบนเครื่องบินไม่มากส่วนหนึ่ง มันชะล่าใจว่าไม่มีใครตามมาจึงพากันไปรวมอยู่ห้องนักบินกับโซนโดยสารเป็นส่วนใหญ่
เสียงฝีเท้าเอื่อยๆ ตรงมุมขวาบอกให้รูว่ามีคนมา ผมย่อตัวลงอำพรางตัวเองกับความมืดในห้องก่อนจะล๊อคคอไอ้คนที่เดินผ่าน
แกร๊ก...ผมหักคอมันทิ้งก่อนจะลากไปซ่อนไว้ตามซอกลัง
(เจอแล้วพี่ ทางนี้) ผมรีบเดินไปหามันอย่างเร่งรีบ มันเป็นแทงค์กลมกว้างประมาณเมตรสูงสองเมตรครึ่ง
เรนแกะผ้าที่ห่อออกเผยให้เห็นคนที่ตามหา ร่างบอบบางที่มีเรือนหางสีมุกลอยนิ่งอยู่ในนั้น ดวงตาหลับพริ้มไม่ได้สติ สำรวจดูคร่าวๆ ก็ดูปลอดภัยดีนั่นช่วยให้รู้สึกเบาใจไปเปราะหนึ่ง ผมก้มเปิดวาวน้ำตรงฐานของแทงค์ มองหาฝาหรือช่องที่จะเอาคนในนั้นออกมา ไม่กล้าทุบครับ...กลัวเศษแก้วจะบาดเมีย...ด้านข้างไม่มี....หรือว่าจะเป็นข้างบน ผมปืนขึ้นไปข้างบน ก็เจอกับฝาที่ใส่กุญแจล๊อคอยู่ ผมกระชากมันขาดคามือก่อนจะเปิดแล้วอุ้มเอาคนที่อยู่ในนั้นออกมา เมื่อปราศจากน้ำร่างของมีนก็กลับคืนเป็นมนุษย์จึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างช่วยไม่ได้
(หืม...เมียพี่โคตรขาว....เข้าใจเลยว่าทำไมมึงหลงมันหัวปักหัวปำขนาดนี้) ไอ้เรนแซว พอเจอสายตาดุๆ ของผมก็หันหน้าหนีอย่างรู้งาน (ขี้หวงวะ)
"มีน...มีน..." ผมตบแก้มขาวเบาๆ
"เร..." มีเสียงครางเครือตอบแล้วก็นิ่งไป ผมได้กลิ่นยาสลบจางๆ จากในน้ำ รอสักพักน่าจะได้สติ ผมถอดเสื้อใส่ให้คนตัวเล็ก...พลันได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา อุ้มมีนหลบแทบไม่ทัน เรนก็หามุมแอบเช่นกัน
"
เฮ้ย!!!! พวกมึงทำอะไร" ผู้มาใหม่ร้องลั่นกับสภาพแทงค์ที่ว่างเปล่า เราฆ่าช้าไปเพราะมันดันกดสัณญาณเตือนภัยได้ซะก่อนทำเอาคนของนาวินกรูเข้ามาในห้องจนเกิดการประทะอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหนื่อยหน่อยก็ไอ้เรน เพราะผมยังอุ้มเมียอยู่ จึงเปลี่ยนท่าเอาคนตัวเล็กพาดบ่า เพื่อจะรับมือกับศัตรูที่โถมเข้ามาได้มากขึ้น
(เอาไงวะ...)
(ต้องหนี) ผมเหลือบมองประตูที่อยู่อีกฟากของพวกเรา (มึงไปเปิดประตูนั้นแล้วหาทางโดดออกไป)
ผลัก!!! ผมเตะเข้าซี่โครงของปีศาจซักตัวที่เข้ามา
ฟู่!!! คลื่นอากาศเหมือนจะดูดเราออกข้างนอกเมื่อเรนอาศัยจังหวะชุลมุนเปิดประตู แค่หันไปมองน้องแป๊ปเดียวก็ถูกชัดเสียหลักจนคนบนไหล่หลุดมือไถลไปตามพื้นแต่นั่นไม่น่าตกใจเท่าถูกแรงดูดอากาศดีงออกจากตัวเครื่องไปต่อหน้าต่อตา ใจผมถึงกับเคว้งรีบโดดตามออกไปแทบไม่ทัน ส่วนเรนหันไปประมือกับไอ้นาวินที่เข้ามารั้งก่อนจะซัดมันกระเด็น คว้าเอาระเบิดน้อยหน่าที่ตกอยู่แถวนั้นดึงสลักออกแล้วปาไปยังถังสารเคมีใกล้ๆ แล้วกระโดดตามออกมา ก่อนที่ระเบิดจะทำงาน เสียงระเบิดกัมปนาถดังก้องฟ้า ทำเอาเครื่องบินขาดเป็นสองท่อน
ร่างของมีนร่วงลงอย่างเร็วตามแรงโน้นถ่วง อากาศเย็นเยียบปลุกให้เจ้าตัวตื่นขึ้นกลางอากาศ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังดิ่งพระสุธา ผมสะบัดปีกทะยานไปหาร่างตรงหน้า อีกนิดเดียว...อีกนิด...มือเราเตะกัน แต่ความเร็วที่ไม่คงตัวทำเอามีนหลุดไปหลายครั้ง ผมโถมแรงทั้งหมดพุ่งไปหาคนตรงหน้า แล้วในที่สุดผมก็คว้าคนรักไว้ได้ทั้งที่อีกไม่ถึงร้อยเมตรจะกระแทกกับพื้นมหาสมุทรเบื้องล่าง ต่อให้เป็นเงือกหล่นมาสูงขนาดนี้ก็อาจตายได้
"ได้ตัวแล้ว" ผมดึงร่างนั้นมากอดไว้พลางสะบัดปีกชะลอความเร็วในแนวดิ่งของเราลง ปีกแทบขาดเพราะลงมาไวจัดเกินจะเบรกอยู่แต่ก็เบรกได้แหละ ชะลอตัวมาบินนิ่งๆ อยู่บนผิวน้ำได้สำเร็จ
"เฮ้อ....เกือบ" มีนเป่าปากพยายามตั้งสติ ส่วนผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก...ซะที่ไหน
"
ไอ้พี่เร หลบบบบบ!!!" เสียงตระโกนของไอ้น้องรักมาพร้อมกับตัวเครื่องบินที่ตกตามมา โลหะชิ้นใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง สว่างจ้าท่ามกลางหมู่ดาว ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา -*- ใครใช้ให้มึงเอาของฝากมาด้วย!!!!
"ชิบหายแล้ว" สัญชาติญาณสั่งให้ผมเอาตัวบังร่างในอ้อมแขนไว้ เตรียมใจรับแรงกระแทกที่จะเกิด
ตูม ซ่า!!!!! เสียงโลหะตกกระทบผืนน้ำดังสนั่น รุนแรงจนน้ำกระจายไปรอบๆ แต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลย จึงเงยหน้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ม่านน้ำขนาดใหญ่ปกป้องเราทั้งสามคนไว้จากเศษซากที่ร่วงลงมา เพราะมันถูกรับไว้ก่อนสายน้ำจะพัดพามันจมหายไปในทะเลห่างจากเรา
"พี่สะใภ้กูแม่งโคตรเจ๋ง" เรนออกปากชม ผมก้มมองคนในอ้อมแขน นัยน์ตาที่เคยดำสนิทบัดนี้เปล่งแสงสีครามเรืองรอง ยืนยันชัดว่าเป็นฝีมือของมีน...ใช่ เมียผม มักมีอะไรทึ่งๆ มาเซอร์ไพร์เสมอ จนรู้สึกพิศวงกับพลังของชาวน้ำ เมื่อทุกอย่างลงตัว มีนดูผ่อนคลายลงก่อนที่สีตาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
"ใช้พลังมากไปอีกแล้ว" มีนบอกเสียงเบาใบหน้าเหนื่อยเต็มทน ดวงตาคู่สวยมาหยุดที่ใบหน้าผม ก่อนที่มันจะรื้นไปด้วยน้ำตา เจ้าตัวโผเข้ากอดผมแน่น ตัวสั่นๆ บอกให้รู้ว่ามันกลัวมากแค่ไหน "โชคดีที่มีมึง...ฮึก ไม่งั้นคงแย่แน่"
"กูก็โชคดีที่มีมึงเหมือนกัน" ผมลูบหัวมันเบาๆ หันไปมองไอ้น้องรักก่อนยิ้มให้กันอย่างโล่งใจ
"เพราะมีมึง ไอ้มีน...ไม่งั้นคงโดนซากเครื่องบินหล่นใส่กลายเป็นนกเป็ดย่างทั้งพี่ทั้งน้อง ฮ่าๆๆๆ" น้องหัวเราะเสียงใส พร้อมเขยับมาใกล้ๆ เอื้อมมือมาลูบหัวมีนบ้าง "เพราะมีมึง พี่กูถึงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น นึกว่ามีพี่เป็นหุ่นยนต์ หึๆ" ผมยิ้มรับ "กูส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปแล้ว" เรนบอกพลางชู GPS ในมือที่มันหยิบติดมา "ไปหาที่นั่งพักก่อนเถอะ บินนานๆ กูก็เมื่อยนะ"
เรนนำผมมายังเกาะเล็กๆ ไม่ไกลมากนัก น้องผมเสียสละเสื้อของมันปูให้มีนนอน เพราะเสื้อของผมมีนใส่อยู่ ก่อนที่เราสองคนจะช่วยกันหาฟืนมาก่อไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างบางที่หลับไปแล้วเพราะยาไม่สิ้นฤทธิ์ดี สำหรับพวกผมอากาศไม่ค่อยมีผลนัก ถ้านึกสภาพไม่ออกลองไปเปิดการ์ตูนขำขันที่มีฉากติดเกาะดูแล้วกัน อารมณ์ประมาณนั้น
ทอดมองร่างที่สั่นน้อยๆ เพราะลมทะเลจึงตัดสินใจอุ้มมีนมาไว้บนตัก กดหัวมันให้ซบกับไหล่กอดไว้แบบนั้น คิดถึงมันจะแย่ได้มาเจอกันทั้งทีแต่ก็ในสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ เอามือข้างที่ว่างเกลี่ยแก้มเนียนเล่นขนาดตอนหลับยังน่ารัก
แม่งเอ้ย!!!!...
ฟอด!!! อดไม่ไหวหอมแก้มนิ่มนั้นซักที...มั้ง เอาอีกซักที
ฟอด!!!...จูบเลยงั้น!!!
"อื้อ!!!" คนถูกกวนคางประท้วงพลางหันหน้าหนี
(ไอ้พี่ มึงช่วยตรัสรู้ด้วยว่าน้องยังอยู่ตรงนี้) เสียงเรนดังแทรกในความคิด ผมจึงเงยมองมันที่มองมายิ้มๆ (ใจคอจะลักหลับมันตรงนี้เลยหรือไง...ไม่ได้อะไรนะ กูอิจฉา)
(โทษทีวะ ลืมตัว)
(เฮ้อ...ทำขนาดนี้แล้วพ่อตายังไม่ยอม จะช่วยพี่พามันหนีคอยดู)
(ระดับกู หึๆ เรื่องตัวเองเอาให้รอดเถอะ)
(เออ!! คอยดูแล้วกัน)
Talk Talk
[/b]
-เค้ามาแล้ว เหนื่อยมาหลายตา ถึงเวลาชิวบ้างเนอะ ให้มันเข้ากับ Thaiboy Love ซักนิด เพราะเรื่องข้อยชักออกทะเลไปไกลแล้ว
-วาเลนไทน์ เศร้าใจ แฟนอยู่ไกลเกิน เลยต้องเป็นคนโสดจำเป็นในวันนี้ ตะเตือนใจ