ตอนที่ 6 :
โจทย์เก่า
"หมูตุ๋น! ออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้!"
"ไม่เอา ไม่ออก"
"จะออกดีๆหรือว่าจะให้ใช้กำลังห้ะ แล้วอย่ามาหาว่าแม่ใจร้ายไม่ได้นะ"
"จะยังไงตุ๋นก็ไม่ออก แล้วแม่ก็บังคับตุ๋นไม่ได้ด้วย" คนข้างในยังคงดื้อดึงไม่ยอมทำตามที่บอก แม้ในเวลาปกติจะเป็นคนที่เชื่อฟังทุกอย่าง แต่ถ้าให้ดื้อขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ยากที่จะยอมทำตามคำสั่ง
"ได้เลย จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม วัท สน พังประตู!" พอสิ้นคำชายหนุ่มทั้งสองคนที่ถูกอบรมมาอย่างดีก็จัดการพังประตูตามคำสั่งนายหญิงของบ้านแต่ในใจทั้งคู่ก็หวั่น กลัวว่าจะโดนคนในห้องโกรธเอา
ถามว่าทำไมต้องแคร์คนข้างในห้อง ก็เพราะหมูตุ๋นกับพวกเขาเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง โตมาถึงพวกเขาจะเป็นแค่บอดี้การ์ดแต่ตุ๋นก็ไม่เคยมองว่าพวกเขาต่ำต้อยกว่า เวลาที่ทำขนมหรือมีของกินตุ๋นก็จะหยิบติดไม้ติดมือมาเผื่อพวกเขาเสมอ
ถึงจะกลัวคนในห้องแค่ไหนพวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่ง เพราะคนที่ทั้งสองคนกลัวมากกว่านายใหญ่เจสันและหมูตุ๋นก็คือนายหญิงนี่แหละ ก็มีใครบ้างที่จะกล้าหือกับนายหญิงล่ะ ขนาดนายใหญ่ของบ้านยังไม่กล้าเลย ทั้งคู่เลยตกลงกันไว้ก่อนว่าถ้าคนในห้องโกรธงอนก็ค่อยเอาขนมมาง้อทีหลังแล้วกัน เดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าขัดนายหญิงตอนนี้เดี๋ยวตายขึ้นมาไม่คุ้มกัน
โครม!
ร่างอวบที่ยืนอยู่ข้างในรีบกระโดดออกห่างจากประตูไม้บานสวยที่ล้มลงมาทว่าตอนนี้มันมีค่าเพียงแค่เป็นเศษไม้
เกือบโดนทับแล้วไหมล่ะ ตากลมละจากเศษไม้ตรงหน้าขึ้นมองพี่ชายคนสนิทด้วยสายตาเขียวปั๊ด ข้อหาพังข้าวของของตัวเองแล้วก็เกือบทำให้ตุ๋นโดนประตูทับ คนโดนมองเมื่อเห็นแบบนั้นก็หน้าเจื่อนลงทันที
"วัท ไปจับน้องชายสุดที่รักของแกไว้ สน ไปเก็บของใส่กระเป๋าให้ตุ๋นด้วย" สิ้นคำของผู้เป็นแม่ ร่างอวบก็พาขาสั้นๆของตัวเองวิ่งหนีร่างสูงของวัทแบบไม่คิดชีวิตไปทั่วห้อง ส่วนสนก็รีบไปเก็บเสื้อผ้าข้าวของของตุ๋นใส่กระเป๋าย่างรวดเร็วตามคำสั่งของนายหญิง
ปิ่นมณีพลูลมหายใจออกมาเพราะเหนื่อยใจกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
ดูซินั่น วิ่งหนีอย่างกับจะถูกจับไปโรงเชือดยังไงอย่างนั้น!
คราวนี้คงจะมีคนโดนงอนยาว ปิ่นมณีคิดในใจแต่คงไม่ใช่เธอหรอกที่โดนเกี่ยงงอนใส่ แต่คงจะเป็นพี่ชายบอดี้การ์ดของตุ๋นทั้งสองคนกับคนวางแผนการณ์อย่างปฐพีที่เป็นเพื่อนสนิท
"ม่าย!! ปล่อยตุ๋นเดี๋ยวนี้นะพี่วัท ไม่งั้นจะไม่คุยด้วยแล้ว ว้ากกกก" ตอนนี้ร่างอวบที่วิ่งอยู่เมื่อกี้โดนจับได้แล้ว คนเป็นพี่ก็แรงเยอะเหลือเกิน จะดิ้นยังก็ไม่หลุดก็เลยได้แต่ดิ้นโวยวายอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของพี่แบบนั้น
"เก็บของเสร็จแล้วครับนายหญิง" สนบอกกับปิ่นมณีพลางเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าใบที่ไม่ใหญ่มากนักเพราะ ของตุ๋นมีอยู่แค่นิดเดียว
"งั้นไปกันได้แล้ว" พูดจบปิ่นมณีก็เดินนำลิ่วลงไปข้างล่างตามด้วยสนและวัทที่ต้องสู้รบปรบมือกับตุ๋นไปด้วย
"พ่อครับ! ช่วยตุ๋นด้วย ตุ๋นไม่อยากไป" เมื่อลงมาข้างล่างตุ๋นก็เห็นพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ จึงรีบสะบัดตัวออกจากวัทแล้วรีบวิ่งมากอดคนเป็นพ่อไว้แน่น
เจสันมองลูกชายคนเล็กที่กำลังกอดเอวเขาแล้วน้ำคลอไปด้วยด้วยความสงสาร เขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างบนตั้งนานแล้ว สงสารลูกก็สงสารอยากจะขึ้นไปช่วยก็ทำไม่ได้เพราะโดนปิ่นมณีห้ามไว้ แต่ว่าเจสันก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมตุ๋นถึงไม่อยากไปอยู่กับจ้าวจอมทั้งที่ตอนเด็กก็ออกจะสนิทกัน รู้ว่าทะเลาะอะไรกันระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่หรือเปล่า
"เอ่อ…คือว่าคุณ" เจสันหันไปทางปิ่นมณีหวังจะขอร้องเพื่อช่วยลูก เผื่อเธอจะใจอ่อนหรือเห็นแก่เขาบ้าง
"หมดเวลาคุย วัทไปเอาตัวน้องมา" ทุกอย่างผิดคาด เจสันยังไม่ทันได้พูดปิ่นมณีก็ชิงตัดบทเสียก่อน นอกจากะไม่สงสารแล้วยังไม่ปล่อยให้ให้มีโอกาสได้คุยกับลูกอีก
***********************************************************
ปิ่นมณีอยากจะบ้าตาย ปวดหัวกับลูกชายจอมดื้อเงียบอย่างตุ๋น กว่าที่ทั้งห้าคน รวมปฐพีที่อาสาเป็นคนขับรถด้วย จะมาถึงคอนโดที่จ้าวจอมอยู่ก็กินเวลาไปเกือบๆ 3ชั่วโมงครึ่ง ทำไมน่ะหรือ
"ดิน ตุ๋นปวดฉี่จังเลย แวะปั๊มหน่อย" ออกจากบ้านมาไม่เท่าไหร่ตุ๋นก็เริ่มปฏิบัติการถ่วงเวลา
"อ๊ะ ปวดอึอีกละ" ปฐพีชำเลืองมองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหลังผ่านกระจก นี่มันเพิ่งออกจากปั๊มที่แล้วเองนะ!
"ดิน อยากแวะซื้อขนม"
"ดิน ตุ๋นลืมซื้อน้ำ แวะซื้อหน่อยสิ"
"ดิน ตุ๋นอยากกินเค้กร้านข้างหน้า"
"ดิน @#$%^&*()^&$#" และอีกมากมายที่ตามมา ทำให้ทุกคนแทบอยากจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากแทนมือเลยทีเดียว
ตอนอยู่บนรถก็แสบออกอยู่หรอก แต่ดูตอนนี้สิ
"ไม่ไปแล้ว ปล่อยตุ๋นเดี๋ยวนี้นะพี่วัท พี่สน ดินด้วย ตุ๋นโกรธจริงจังน้ะ!!" เสียงโวยวายของตุ๋นดังมาตลอดทางตั้งแต่ที่จอดรถผ่านล็อบบี้จนตอนนี้ขึ้นมาถึงชั้นที่จ้าวจอมอยู่ก็ยังไม่เลิกโวยวายแถมยังดิ้นพั่บๆจนวัทจับคนเดียวไม่อยู่เลยต้องให้วัทและปฐพีมาช่วยกันอีกแรงในการล็อกตัวคนดื้อให้อยู่นิ่งๆ
"ตุ๋นเงียบเดี๋ยวนี้นะ ไม่อายหรือไงโวยวายเป็นเด็กๆ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ออกมาด่าเอาหรอก" ปิ่นมณีเอ็ดลูกชาย ตั้งแต่เข้ามาในคอนโดเสียงลูกชายตัวดีของเธอก็เรียกสายตาจากหลายๆคน แต่ถามว่าเธออายไหมตอบเลยว่า ไม่!
"งั้นแม่ก็ให้ตุ๋นกลับบ้านสิครับ ตุ๋นไม่อยากมานี่ แม่ไม่สงสารตุ๋นหรอ" ตุ๋นพูดพร้อมกับส่งสายตาหงอยๆที่ใครเห็นก็ต้องสงสารเป็นแน่ แต่มันใช้ไม่ได้กับปิ่นมณีและปฐพีที่รู้นิสัยของร่างอวบจนถึงแก่นแท้
ในจังหวะที่วัทและสนกำลังหลงเชื่อความน่าสงสารของคนตรงหน้าทำให้ทั้งคู่เผลอคลายมือ เมื่อเห็นว่าเป็นจังหวะที่ควรใช้ให้เป็นประโยชน์คนหน้าสงสารก็แผลงฤทธิ์ออกมาอีกครั้งโดยการกระทืบเท้าของวัท มือนุ่มยกออกไปผลักสนและสะบัดตัวจากปฐพีออกอย่างแรงก่อนจะวิ่งหนีทั้งสี่คนไปทางลิฟต์ที่ใช้ขึ้นมาเมื่อครู่ แต่ยังไม่ทันที่จะวิ่งไปถึง ประตูห้องข้างหน้าก็ถูกเปิดออกมาโดยเจ้าของห้องอย่างกระทันหันเป็นจังหวะเดียวกับที่ตุ๋นกำลังวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต เลยทำให้
โครม! พลั่ก
"โอ๊ย!" ร่างอวบล้มลงกับพื้นพลางเอามือกุมหัวเอาไว้ด้วยความเจ็บ
"คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าของห้องที่กลายเป็นคนผิดแบบไม่ได้ตั้งใจรีบเข้ามาถามคนที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยความเป็นห่วง ชนเข้าไปแรงขนาดนั้นไม่รู้ว่าหัวแตกหรือเปล่า
"ไม่เป็นไรครับ" ตุ๋นบอกก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นโดยมีมือหนาของอีกคนช่วยพยุง
"ตุ๋น! เป็นอะไรหรือเปล่า" ปฐพีที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับทั้งสามคนรีบเข้ามาดูอาการของเพื่อน ไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ดันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ
"ว๊าย! เลือด" ปิ่นมณีร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นของเหลวสีแดงสดไหลลงมาจากศีรษะของลูกชายตรงที่ตุ๋นยกมือกุมอยู่
"อึก" ตุ๋นกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากพลางค่อยๆเลื่อนมือที่เปื้อนเลือดลงมาดู ก่อนจะ
ฟุ่บ
"ว๊าย!/เฮ้ย!" ทุกคนรีบเข้ามาหมายจะรับร่างอวบที่เป็นลมแต่ก็ยังช้ากว่าเจ้าของห้องที่เข้ามารับร่างของตุ๋นไว้ได้ทัน ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ผมว่าเดี๋ยวพาเข้ามาทำแผลที่ห้องผมก่อนดีกว่า" เจ้าของห้องบอกกับคนทั้งสี่ก่อนจะซ้อนคนสลบขึ้นอุ้มแล้วเดินเข้าห้องพาร่างของตุ๋นไปนอนที่เตียง
ร่างสูงเชิญแขกทั้งสี่ให้ไปนั่งรอที่โซฟาแล้วพาขายาวก้าวไปยังตู้เก็บยาก่อนจะหยิบแอลกอฮอล์และพวกยาที่จำเป็นออกมาแล้วเดินกลับมาที่เตียงที่ร่างของคนกลัวเลือดนอนอยู่ มือหนาค่อยๆบรรจงเอาสำลีเช็ดเลือดออกอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็หยิบสำลีอีกก้อนมาชุบแอลกอฮอล์แล้วเช็ดทำความสะอาดแผลอีกครั้ง ตามด้วยใส่ยาแล้วปิดแผลให้
"วัท สน เดี๋ยวไปจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบนให้ฉันเลยนะ ถ้ารอหมูตุ๋นคงอีกนาน" ในระหว่างที่รอลูกชายทำแผลปิ่นมณีก็สั่งให้วัทและสนไปจัดการเร่องตั๋วเครื่องบินให้ เพราะอีกสามวันเธอกับสามีจะกลับไปทำงานต่อที่สวิสต์แล้วก็ถือโอกาสไปฮันนีมูนด้วย
"แล้วนายหญิงกับดินจะพาตุ๋นไปไหวหรือครับ" วัทถามเกรงว่าปิ่นมณีและปฐพีคงจะเอาไม่ไหว
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเรียกให้ตาจอมมารับน้องมันเอง" ปิ่นมณีบอก ทั้งสองคนพยักหน้าใจก่อนจะเดินออกไป
ปิ่นมณีหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมากดต่อสายหาลูกชายคนโตที่อยู่ถัดไปไม่กี่ห้อง เพื่อให้มาเอาน้องกลับห้อง เอากลับทั้งๆที่หลับอยู่แบบนี้แหละจะได้ไม่มีปัญหา เกิดตื่นขึ้นมาแล้วแผลงฤทธิ์อีกจะลำบาก เธอะได้กลับไปจัดการเรื่องต่างๆต่อ เสียเวลามามากแล้ว
"ฮัลโหล จ้าวจอม"
//ครับ แม่มีอะไรหรือเปล่า//
"จอมอยู่ที่ห้องหรือเปล่า ถ้าอยู่มาหาแม่ที่ห้อง 3502ด้วย" ปิ่นมณีถาม แต่ก็รู้อยู่แล้วแหละว่ายังไงลูกชายคนโตก็อยู่ที่ห้องอยู่แล้วเพราะวันนี้ เป็นวันหยุดทั้งที ปกติก็ทำงานเต็มที่ทุกวันแทบไม่มีเวลาได้พัก วันหยุดก็คงไม่ได้ออกไปไหน
//คอนโดผมน่ะหรอ// จ้าวจอมถามเพื่อความแน่ใจ
"ใช่สิยะ รีบมาด่วน" พูดจบปิ่นมณีก็ตัดสายทิ้งไป
จ้าวจอมถอนโทรศัพท์ออกมาจากหู เขายังงงอยู่เลยว่าแม่มาทำอะไรที่นี่ แต่ก็นะแม่สั่งให้รีบก็คงจะมีเรื่องด่วนจริงๆนั่นแหละ ร่างสูงเปลี่ยนเสื้อให้ดูเรียบร้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อที่จะไปยังห้องที่แม่บอกอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้แม่อารมณ์เสีย ปล่อยให้ร่างระหงส์ของฑิตาที่นอนดูโทรทัศน์อยู่ไม่ทันได้อ้าปากถามว่าจะรีบไปไหน
หลังจากวางสายไปปิ่นมณีก็คุยกับปฐพีไปได้แค่ไม่กี่คำเจ้าของห้องก็เดินออกมาหลังจากที่ทำแผลให้ตุ๋นเสร็จ
"ผมทำแผลให้เรียบร้อยแล้วนะครับ รอสักพักก็คงจะตื่น" เจ้าของห้องพูดกับปิ่นมณี คนในห้องไม่ได้เป็นอะไรมากที่สลบไปเพราะว่ากลัวเลือดเฉยๆ ไม่ได้เกิดจากบาดแผล
"น้าว่าจะพากลับไปตอนนี้เลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นตื่นขึ้นมาเดี๋ยวแผลงฤทธิ์ใส่อีก" ปิ่นมณีบอกยิ้มๆ แค่นี้ก็รู้สึกเกรงใจมากพอแล้ว ถ้าตื่นขึ้นมาจริงๆคงจะลำบากมากกว่านี้
"งั้นเดี๋ยวผมอุ้มไปส่งแล้วกันครับ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำให้น้องเจ็บตัว" ร่างสูงบอกกับปิ่นมณี อันที่จริงเขาก็รู้สึกเอ็นดูคนในห้องไม่น้อย ดูเป็นคนซื่อๆ ขี้เกรงใจแล้วยังน่ารักอีกด้วย ผู้ชายผู้หญิงเขาไม่มีปัญหาหรอกนะ แค่เป็นคนที่รู้ใจอยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็พอแล้ว แต่ที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่เคยเจอเลยสักคน มีแต่คนที่เข้ามาแล้วออกไป
แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาทั้งไว้ใจ รักมากที่สุดรองจากแม่ เขาและเธอวาดฝันกันไว้ว่าจะมีงานแต่งงานที่สวยงามและอบอุ่น มีลูกตัวน้อยๆให้อุ้มอยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า แต่สุดท้ายเขามันก็แค่ไอ้น่าโง่ เป็นควายตัวนึงที่ไม่รู้อะไรสักอย่างว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงที่รักนั้นแอบเล่นชู้ ตอนนี้ได้ข่าวว่าเธอกับไอ้เวรนั่นกำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ ตอนแรกเขาก็ทำใจไม่ได้แต่พอมาคิดๆดูยังไงเขาก็คงไม่คิดจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเธอได้อีกต่อไป คนดีๆยังมีอีกเยอะ เขาไปหาคนใหม่ที่เหมาะสมกว่านี้ดีกว่า คิดได้แบบนั้นก็เลยค่อยๆตัดใจแล้วปล่อยให้เธอไปกับไอ้เวรนั่นซะ
แกร๊ก
ขณะที่เจ้าของห้องคิดอะไรเพลินๆก็มีคนมากดออด ก่อนจะประตูจะเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของจ้าวจอมที่เดินเข้ามา จ้าวจอมและร่างสูงผู้เป็นเจ้าของห้องต่างชะงักเมื่อเห็นหน้ากัน
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปส่งแล้ว พี่ชายเขามาพอดี เดี๋ยวน้าให้พี่ชายเขาดูแลกันเอง ขอบใจสำหรับความมีน้ำใจนะ" ปิ่นมณีบอก แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว
"ไอ้จ้าวจอม/ไอ้กานต์" เจ้าของห้องนามว่ากานต์ขบกรามแน่น ไอ้เหี้ยนี่แหละที่เป็นชู้กับแฟนเก่าของเขา มันเป็นคนที่ฑิตาเลือก มันทำให้ฑิตาทรยศเขา ถ้าวันนั้นไม่มีคนมาบอกว่ามันทั้งสองคนแอบพากันเข้าโรงแรมป่านนี้เขาก็ยังเป็นไอ้หน้าโง่ให้เธอสวมเขาต่อไปเรื่อย
วันนั้นเขารีบตามไปทันทีเมื่อลูกน้องที่เขาสั่งให้จับตาฑิตาไว้เพราะตอนนั้นเธอชอบทำตัวมีพิรุธโทรมาบอกว่าฑิตาเข้าโรงแรมไปกับผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อมาถึงโรงแรมเขาก็ใช้เงินจำนวนมากกว่าจะรู้ได้ว่าฑิตาและไอ้เวรนั่นมันอยู่ห้องไหน เมื่อได้เลขห้องมาเขายังไม่ได้เข้าไปอาระวาดเพราะเขาจะรอให้คนข้างในออกมาเผื่อลูกน้องของเขามันจะมองผิดคน ผ่านไปสองชั่วโมงเวลาแห่งการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อประตูห้องค่อยๆเปิดออกมาพร้อมกับความรู้สึกของกานต์ที่พังทลายเมื่อฑิตาเดินออกมาพร้อมกับไอ้จ้าวจอม วันนั้นเขากลับบ้านมาพร้อมกับแผลเต็มตัว จ้าวจอมก็ไม่ต่างกันแต่ฑิตาก็แสดงความเป็นห่วงมันอย่างกับมันกำลังจะตาย หลังจากวันนั้นเขาก็เลยตัดใจจากผู้หญิงมักมากคนนี้ ปล่อยให้ไอ้จ้าวจอมมันโง่โดนหลอกต่อไปเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่ได้มีแค่มันคนเดียวหรอก
…น่าขยะแขยงยิ่งกว่าอีตัว…
"ไง ไม่ได้เจอกันนาน ของเหลือๆที่ได้ต่อจากกูไปวันนั้นอร่อยถึงใจมึงดีไหมล่ะแต่กูคิดว่า…มันคงจะเน่าหมดแล้ว หึ" กานต์ยืนล้วงกระเป๋าทักทายแขกไม่ได้รับเชิญ ท่าทางยียวนชวนให้จ้าวจอมอยากจะกระแทกหมัดลงบนหน้านั่นสักหลายๆหมัด
"ไอ้เหี้ยกานต์ มึงไม่รู้อะไรก็หุบปากไป วันนี้กูไม่ได้จะมามีเรื่องกับมึง" จ้าวจอมกระซิบเสียงเรียบด้วยความโกรธ
"นี่ทั้งคู่รู้จักกันด้วยหรอ" ปิ่นมณีถามเพราะเห็นสองคนนั้นคุยกันไม่เหมือนคนที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรก
"ไม่/ครับ"
"แล้วตกลงยังไงกันแน่" ปิ่นมณีถามออกมาด้วยความสงสัย สองคนนี้ทำตัวแปลกๆ
"ช่างเถอะครับ เข้าเรื่องดีกว่า แม่ให้ผมมาที่นี่ทำไม" จ้าวจอมถามแม่ รู้สึกว่าพวกเขาชักจะออกนอกเรื่องมากไป แล้วเขาก็ไม่อยากจะเหยียบห้องไอ้กานต์นานกว่านี้ด้วย
"เออใช่ แม่จะให้จอมมาพาน้องกลับห้องหน่อยน่ะ นอนสลบอยู่ในห้องนู่น" ปิ่นมณีบอกกับลูกชายพลางชี้ไปยังห้องที่หมูตุ๋นนอนอยู่
"แล้วน้องเป็นอะไรมากไหมครับ!" ร่างสูงเผลอเสียงดังเพราะความเป็นห่วงน้อง ให้ตายสิคนนี้ชอบหาแต่เรื่องเจ็บตัวตลอด ถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะโดนเขาทำโทษซ้ำ บอกกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ว่าให้ดูแลตัวเองบ้างบอกจนปากเปียกปากแฉะ น้องก็สัญญาเป็นอย่างดีว่าจะทำตามแต่ผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม มีแต่แผลกลับมาบ้านแทบจะทุกวัน ดื้อนักเชียว!
"ไปดูเอาเองแล้วกัน" ปิ่นมณีบอกปัด ปล่อยให้ไปดูให้เห็นกับตาตัวเองไม่อย่างนั้นเดี๋ยวถามมาก
สิ้นคำพูด จ้าวจอมก็เดินตรงไปยังห้องที่ปิ่นมณีชี้โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของแม้แต่คำเดียว เมื่อเข้ามาในห้องตาคมก็จ้องมองไปยังร่างกลมๆของตุ๋นที่นอนหลับอยู่ ที่หน้าผากมนมีผ้าก็อตแปะไว้แต่ก็ยังมีเลือดซึมออกมา แก้มที่เวลาปกติจะแดงอยู่แล้วแต่ตอนนี่นั้นแดงไปเกือบทั่วทั้งใบหน้าเหมือนจะมีไข้ จ้าวจอมเดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างๆน้องก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้ตัวร้อนนิดนึงแต่คงไม่เป็นอะไรมาก จ้าวจอมลุกขึ้นแล้วสอดมือเข้าไปซ้อนที่หลังและข้อพับขาของคนเจ็บแล้วอุ้มขึ้น ถ้าว่าทำไมถึงอุ้มไหวก็ตัวของตุ๋นกับจ้าวจอมนั้นต่างกันอยู่มากโข ที่หมูตุ๋นอ้วนนั้นก็เพราะเตี้ยนั่นเอง น้ำหนักของน้องน้อยกว่าจ้าวจอมนิดนึงด้วยซ้ำ แต่เพราะได้ความสูงของพ่อมาเต็มทำให้จ้าวจอมรูปร่างดีแถมเขาก็ออกกำลังกายแทบทุกวันถ้ามีเวลา แต่คนน้องนี่กินอย่างเดียวไม่อ้วนได้ไง ขยายแต่แกน X ไม่ขยายแกน Y
ขณะที่จ้าวจอมกำลังจะพาน้องออกมาจากห้องก็มีเสียงของกานต์ขัดไว้ก่อน
"จะว่าไปน้องมึงก็น่ารักดีนะ แก้มก็แดง ดูเป็นคนซื่อๆ แถม… ตัวยังนิ่มแล้วก็หอมมากด้วย กูว่ากูเริ่มจะสนใจน้องมึงแล้วล่ะ" จ้าวจอมขบกรามแน่นเมื่อได้ฟัง แต่ก็พยายามจะเก็บอารมณ์ไว้
"กูขอเตือนว่ามึงอย่ามายุ่งกับน้องกู ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว" เสียงทุ้มถูกกดให้ต่ำลงจนดูเยือกเย็น
"มึงกลัวอะไรหรอจ้าวจอม หรือว่ามึงกลัวกูจะทำแบบเดียวกับที่มึงเคยแย่งฑิตาไปจากกู" กานต์บอก
"กูไม่ได้กลัว แต่กูไม่อยากให้น้องกูไปยุ่งกับคนแบบมึง แล้วที่สำคัญ
น้องกูเป็นผู้ชาย แล้วกูก็ไม่มีวันให้น้องกูไปข้องเกี่ยวกับมึงแน่นอน" จ้าวจอมย้ำ ไอ้กานต์มันอาจจะใช้น้องเขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นก็ได้ เขาไม่อยากให้น้องเจ็บ
"มึงคอยดูแล้วกัน ยังไงมึงก็ห้ามกูไม่ได้หรอก ยังไงกูก็มีวิธีที่ทำให้กูเข้าไปเกี่ยวข้องกับน้องมึงได้แล้วกัน"
**********************************************************************************************************
ลิสมาแล้ว ขอโทษที่มาช้านะคะ มีทั้งสอบและก็กิจกรรมของโรงเรียนเข้ามามากมาย
ไม่รู้ว่าตอนนี้ยาวพอหรือเปล่าแล้วก็ไม่รู้ว่าคนอ่านจะงงหรือเปล่า แต่ลิสพยามยามทำออกมาให้ดีที่สุดแล้ว
ลิสเขียนตอนนี้ใส่กระดาษใช้เวลาสามวัน แล้วก็พิมพ์ในคอมอีกประมาณ 5ชั่วโมง
คือนั่งหน้าคอมทั้งวัน แก้แล้วแก้อีก หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
สุขสันต์วันปีใหม่ทุกคนนะคะ ปีใหม่แล้วก็ปรับตัวใหม่ อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งมันไป
ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ สุขตลอดปีเลย เข้าสู่อาเซียนแล้วอย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษกันด้วยนะคะ
สุดท้ายก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจให้กับลิส ถ้าสิ่งไหนที่ลิสทำผิดไปก็ขอโทษด้วยนะคะ
ลิสอยากให้ทุกคนติดตามนิยายของลิสไปจนจบเลย ถ้าชอบคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ลิสได้นะคะ
HAPPY NEW YEAR 2016