The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 444893 ครั้ง)

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
มุมไฟฝั่งดาร์ก ต้องมาาาาาา  สมุทร... รับไหวไหม?  แต่มองให้ลึก คนโหดสุดก็อ่อนแอสุดและอยากมีคนคอยดูแลนะ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ปากบอกไม่ช่วย ไม่ทำนะจ๊ะคุณไฟ แต่นี้พี่มาจัดโหดเลย  o22
ใจอ่อนเร็วๆ นะคะคุณสมุทรสุดสวาท พี่ไฟต้องการคนดูแลทั้งกายและใจอย่างใกล้ชิดดดดด :กอด1:

ออฟไลน์ Sadistic_seme

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ตอนเช็ดแขนนิ สมุทรเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นเลย555 แต่ชอบโม้เม้นที่ไฟแอบกระซิบข้างหู มีความตื่นเต้น อิอิ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
อารมณ์ไฟนี่มันขึ้นลงได้ใจจริงๆ :hao3:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
คุณไฟโหดมากกกก
เหมือนดูหนังอยู่เลย
สมุทรต้องทำใจแล้วล่ะ
อนาคตอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
ต้องใจแข็งไว้ๆ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
คุณไฟอย่างมาเฟียเลย แต่ก็ต้องโหดละนะเพื่อความอยู่รอด เราห่วงอย่างเดียวว่าสมุทรจะไม่โอเค  :o12:

ออฟไลน์ super hero

  • gen y(aoi)
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
บอกได้คำเดียว

พี่ไฟโหดมาก!

โหดดีแท้
ไอ้เอกกับป้าน้อยแม่งอยู่ยากแล้วอะ

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โหดดดได้ใจ ซวยชิบหายวายวอดหมดละมึง นี่ถิ่นใครให้รู้ไว้ หึหึ!!!ไอ้เด็กสองคนนี่ฝันร้ายไปอีกหลายคืน เข็ดไหมละ เจอของจริง อิอิ!! //ตามล่าไอ้เอก เดี๊ยะได้เจอพี่ไฟคนจริง วิ่งหนีไม่ทันแน่มึง 55555 //นี้วิธีขู่แค่เบาๆเองนะสมุทร แบบเด็กๆ ก็แหม่พวกปากหนักมันต้องเจอโหดบ้างถึงจะคายสิ่งที่มันอมไว้ ต้องเข้าใจไฟมันนิดนึงงงง 5555555 //ตอนแรกเข้าใจอารมณ์ไฟนะ แบบไม่อยากทำไร บางทีมันเหนื่อย ปล่อยวาง ก็อยากเลื้อยยยไปเรื่อย วอแว คลอเคลียอ้อน ทำตามใจ ถ้าใครมาบังคับจะหงุดหงิดแบบนั้นละ คืออยากกเลื้อยยอ่ะ อย่าเพิ่งให้ทำอะไร 5555555 //สมุทรมันจะรักไฟตอนไหนยังไงวะ สายแข็งจริง เดี๋ยวเจอสายหื่นไป จอด!!! 55555555 //รอๆตอนต่อไปค่ะ ตามล่าไอ้วายร้ายเอก เสร็จก็ไปเดทกันต่อเนาะ 555

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ตอนนี้ไฟมาสายโหด โหดมากด้วย :sad4: ช่วงทายกลั้นหายใจอ่านโดยไม่รู้ตัว  รู้ตัวอีกทีแบบอ้าวจบตอนแล้วหรอ  :a5: ลุ้นมาก ลุ้นแทนเด็กผู้หญิงตอนทำกระสุนตกว่าจะรอดมั้ย  :katai1: ไฟนี่คือไฟจริงๆ    :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2016 00:10:42 โดย karashi »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ฟ้าคคคคค
ตามล่าตามล้างกันแน่ค่ะมึง
อหหหห. มันส์พะยะค่ะ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
อารมณ์ของคุณไฟของอิฉันน่ากลัวมาก เหมือนคนเป็นไบโพลาร์เลย T______T
แบบนี้สมุทรจะกล้ารักมั้ย แงๆๆๆ
ตอนนี้คุณไฟตบสมุทร ตอนหน้าคุณไฟจะทำอะไร (กดสมุทรสิ กดๆๆ เอ้ยไม่ใช่ 5555555 )
แบบนี้ลำบากแน่ สมุทรเป็นคนใจอ่อนเกิดวันนึงคุณไฟสั่งให้สมุทรฆ่าคนแล้วสมุทรไม่ทำ นี่สมุทรไม่โดนคุณไฟกระทืบตายหรอ

แต่เราก็เข้าใจในมุมคุณไฟนะ ถ้าไม่มีใครมากระตุกหนวดเฮียก่อนเฮียก็ไม่ร้ายอ่ะ
การจะรีดข้อมูลได้มันก็ต้องทำกันแบบนี้แหละ


ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หมั่นไส่คุณไฟ :m16:
อะไรก็ใส่อารมณ์กับสมุทร :angry2:
สมุทรอย่าใจอ่อนง่ายๆนะ
เล่นตัวไปนานๆเลย :katai3:


ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
พอจะได้จีบ ก็มีเรื่อง แล้วไฟจะทำคะแนนตอนไหน ในสายตาสมุทรไฟคงติดลบเยอะ :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไฟนี่นอกจากพี่ธานคงไม่มีใครเดาอารมณ์ได้ถูกละ


ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ช่วงนี้คุณไฟอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะคะ สมุทรช่วยปลอบที  :กอด1: โหดเหลือเกิน  :z10:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ Sadistic_seme

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ่านแบบจุใจเลย



ตอนที่ 31 - 32 - 33 



คุณไฟคะ  ป้าว่าที่คุณไฟหงุดหงิด ผีเข้าผีออกนี่



นอกจากจะเพราะเรื่องงาน เรื่องตลาด เรื่องค่ายมวย แล้ว



สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดจนสติกระจาย คงเพราะความ #เงี่ยน # นี่แหละ



ยิ่งเปิดตัวเปิดใจแล้วด้วย ยิ่งอยากได้สมุทรหนักขึ้นไปอีก



เลยเกิดอาการฟาดงวงฟาดงาเข้าไปใหญ่



ก็ถ้าจีบแล้วสมุทรยังเฉยๆ ก็อ่อยเลย ยอมให้สมุทรทำประตูไปก่อน



แล้วค่อยไปรวบหัวรวบหางสมุทรคราวหน้า แบบทบต้นทบดอก



สมุทรหนีไปใหนไม่พ้นแน่ๆ ดีกว่าเก็บกดแล้ว มาโวยวายสติแตกแบบนี้อีกนะ



ความเงี่ยนมัน ไม่ปราณีคุณไฟจริงๆ อยากฟีชเจอริ่งกับสมุทร จนกระปู๋สั่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
หลากหลายอารมณ์มาก อ้อนๆอยู่ ก็กลายเป็นคนบ้า อารมผันแปรยิ่วกว่ากระแสไฟฟ้า

แล้วเมื่อถึงเวลางานก็เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว แถมจิตด้วย

แต่ถึงยังไงเราก็ยังอยู่ทีมไฟนะ  :pighaun:

ขอบคุณเบบี้ค่ะ :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไฟ ตอนนี้อารมณ์ดำดิ่ง
แม้จะมีอะไรที่ทำให้หน่วง หน่าย
รวมทั้งเรื่องยา แต่ที่แน่ๆ สมุทรเป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าสมุทร มีทีท่าตอบรับไฟ  :เฮ้อ:
ไฟ คงอารมณ์ดีแน่ๆ มีอ้อนๆสมุทรด้วย
สมุทร มีทั้งเข้มแข็ง ซื่อบื้อ ใจอ่อน ปนกันไป
แต่ไม่รู้จะอ่อนใจกับไฟ มั้ย อย่าอ่อนใจเลยนะ
ใจอ่อนกับคุณไฟ ซักทีเฮอะ
แน่ะ.....ไฟ รู้ตัวด้วยว่าทั้งหิว ทั้งเงี่ยน อะจ๊ากกกกก
ที่แน่ๆ ไอ้เอก หลานของป้าน้อย ที่ขายหมูตลาดของไฟ
มึงถูกหมายหัวไว้แล้ว :z6: :z6: :z6:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
บางครั้งก็กลัวไฟ บางครั้งก็ตลก55555555

แต่ว่าไฟน่ากลัวจริงๆนะ ส่วนสมุทรน่ารัก ~

ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ไม่ว่าไฟจะ dark แค่ไหน แต่เรายังมองเห็นจุดสีชมพูเล็ก ๆ  :mew3:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
มารออออออออออออออ  :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงคุณสมุทรผู้แสนอ่อนโยน  :กอด1:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

[ พุธที่ 30 พ.ย 59 ]  ตอนที่ 33 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.1200


_ _ _ _ _ _ _ _ _ _

ตอนที่ 34
..ไฟ..





16:45 น. : ย่านมารัต

เสร็จภารกิจที่ตลาด  ผมแยกตัวออกมาพร้อมกับสมุทรโดยเอ่ยปากกับเขาเองว่าต้องการมากินข้าวเย็นที่บ้านของเขา  ครับ..อีกฝ่ายไม่ได้ชวนผมหรอก 

“หน้าพี่ไฟไปโดนอะไรมาหรือคะ” ดาวถามด้วยสีหน้าตกใจ  ปนแปลกใจ  เธอถลึงตามองมาที่หางคิ้วของผม

“ขึ้นชกแทนนักมวยในค่ายน่ะครับ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก” ผมอมยิ้มติดให้เห็นนิดหน่อย

“งั้นเหรอคะ” เธอผงกหัวเข้าใจโดยง่าย

“งั้น! ให้หนูทำแผลให้ไหมคะ หนูทำเก่งนะ แต่ก่อนทำให้พี่สมุทรตลอดเลยค่ะ พี่หนูอะ..มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน” ดาวฉีกยิ้ม  ผมเหลือบหางตามองบุคคลที่เพิ่งถูกเอ่ยถึงที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังบ้านพร้อมกับขันนำ

“ไม่ต้องเลยค่ะ” สมุทรปราม  วางมือลงบนศีรษะของน้องสาวอย่างอ่อนโยน

“มีอะไรทำก็ไปทำเลย ยายอยู่หลังครัวทำอาหารคนเดียว”

“หวงน้องจังนะ” ผมพูดแซวโต้ง ๆ ทำให้ดาวอมยิ้มด้วยท่าทีเขินอาย 

“ไปได้แล้วครับ” สมุทรย้ำคำสั่งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นมากขึ้น

“ค่า~” ดาวขานรับเสียงใสลุกจากเก้าอี้ไปโดยดี
 
“มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน” ผมพึมพำแซวถึงอดีตของเขา

“น้ำครับ” เจ้าตัวเปลี่ยนเรื่อง  วางขันน้ำเปล่าลอยดอกมะลิลงบนโต๊ะ  ผมจ้องมองขันเงียบ ๆ  รับรู้ได้ว่าตนเองกำลังถูกจับจ้องเขม่นตาใส่อยู่  เมื่อรู้อย่างนั้นจึงช้อนตาขึ้นสบพร้อมเลิกคิ้วใส่  เป็นการถามกลับไปว่า “อะไร ?”  แกล้งตีหน้าซื่อถามไปอย่างนั้นทั้งที่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเขามองแบบนี้มันเพราะอะไร

“ทีหลัง..ห้ามทำสายตาแบบเมื่อครู่ใส่น้องสาวผมอีก” สมุทรตอบตรง ๆ

“แบบเมื่อครู่” ผมพึมพำตาใส

“..แบบไหน ?” ผมเผยอปากถามกลับ

“คุณไฟครับ” เขาย้ำเสียงเข้ม

“ไม่เอาน่า ยังไงมันก็คนละแบบกับที่ฉันเอาไว้มองนายอยู่แล้ว นายก็รู้ดีแก่ใจ หรือไม่ใช่ ?” ผมอมยิ้มมุมปาก  ส่งสายตาแบบที่ชอบเอาไว้มองอีกฝ่ายสื่อให้ตรงไปตรงมา   

“ดาว..เธอยังเด็ก แยกแยะไม่ได้หรอกนะครับ” สมุทรบ่นด้วยสีหน้าจริงจังในทันที
 
“ก็เพราะโอบอุ้มกันไว้แบบนี้ไง” ผมถอนหายใจบ่น  สมุทรเบือนหน้าหนีเล็กน้อยคล้ายไม่สบอารมณ์ที่ถูกผมพูดแทงใจดำ

“ภูมิคุ้มกันคนเรามันก็ต้องสร้างด้วยตัวเอง”   

“บางคนเกิดมาเพื่อบ้าผู้ชายหัวปักหัวปำ โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่ากลับยังอ่อนแอเหมือนเดิมอยู่เลย นายว่ามันแปลกไหมละ ส่วนบางคน..เกิดมาเพื่อเรียนรู้ที่จะไม่หัวปักหัวปำ แต่ในฐานะพี่..ถ้าให้เลือกแบบเลวร้ายที่สุด เราก็ต้องอยากให้น้องเราเป็นประเภทหลังอยู่แล้วล่ะนะ” ผมพูดวกไปวนมาชวนให้คิดตาม  สมุทรยังคงไม่หันกลับมามอง

“สุดท้ายแล้ว เราก็บังคับคนให้เหมือนหมาไม่ได้อยู่ดี อะนะ!” ผมเบะปากทิ้งเสียงลงห้วน ๆ ถึงความจริงในใจที่ค่อนข้างไม่สบอารมณ์เช่นกัน 

“แต่..” ผมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง  ทิ้งน้ำเสียงห่างพอดู 

“เราบังคับคนที่ไม่ใช่น้องเราได้ ก็พอทำได้อยู่” ผมพึมพำยิ้มเจ้าเล่ห์  อีกฝ่ายได้ยินอย่างนั้นเขาก็เกือบที่จะหลุดยิ้มออกมา  สายตาที่เหล่มองมาที่ผมเริ่มอ่อนลงในความหมาย 

“สงสารคุณพายุกับคุณดินนะครับ” สมุทรยิ้มบอก

“อ้อ..ไม่ต้องห่วงไอ้ดินหรอก ใครได้มันไปมีแต่จะน่าสงสารซะมาก” ผมว่า  อีกฝ่ายยิ้มกว้าง
 
“ฉันไม่ยุ่งกับผู้หญิงแบบน้องสาวนายหรอก” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังวกกลับเข้าเรื่องก่อนหน้าทำให้คนฟังถึงกับหยุดกลางคัน

“..มันไม่สนุก” แม้น้ำเสียงจะห้วนเพราะไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นแต่ก็เป็นสิ่งที่พูดจากใจ

“ดีแล้วครับ” สมุทรเอ่ยทันที

“..เพราะผมเองก็จะไม่สนุกด้วยเหมือนกัน” เขาขยายความก่อนตรงกลับเข้าครัวไปหน้าตาเฉย  ผมแสยะยิ้มจ้องมองตามหลัง

“ขู่จริงแฮะ หึ” ผมหัวเราะ  ..ชอบฉิบเลยแบบนี้! ชอบมากกว่านี้กูอาจจะเพี้ยนตายก็ได้นะ

“หนูมาแล้ว!” เสียงใส ๆ ตะโกนบอกคนในบ้าน  ทันทีนั้นประตูมุ้งลวดก็เปิดออก  คนที่เพิ่งมาถึงแทบผงะเมื่อเห็นว่าผมนั่งอยู่  ผมแกล้งฉีกยิ้มตาหยีพร้อมยกมือขวาขึ้นขยับกระดิกนิ้วทักทาย

“ว่าไง มืดมน” ผมกดน้ำเสียงต่ำลง

“..........” เมฆหยุดยืนอยู่กับที่  สีหน้าเลิ่กลั่ก  แขนสองข้างของมันขยับขึ้นอย่างช้า ๆ  มือพนมยกไหว้

“มาแล้วเหรอ” สมุทรออกมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนัง

“ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเลย แล้วเอาการบ้านลงมาทำด้วยครับ”

“ครับ” เมฆผงกหัว

“คุณป้าฝากส้มมาให้ยาย!” มันชูถุงส้มให้สมุทรดูอย่างดีใจ

“ขอบคุณด้วยรึเปล่า” สมุทรถาม

“อื้อ” เมฆผงกหัว

“พี่สมุทร ทำน้ำส้มคั้นนะ” เมฆพูด 

“อืม” สมุทรรับคำและหยิบถุงจากมือน้องชายไปถือไว้  เมฆวิ่งขึ้นบ้านไปแล้ว  ผมนั่งเฉย  สมุทรสบตาผมครู่หนึ่งก่อนเดินกลับเข้าหลังบ้านพร้อมกับถุงส้ม  สายตาที่ถูกมองเมื่อกี้นี้คล้ายเหยียดกวนทำให้กระตุ้นความรู้สึกลึก ๆ ได้อยู่ไม่น้อย  ไม่นานนักสมุทรก็กลับออกมาอีกรอบพร้อมกับจานผลไม้ที่ถูกปลอกและจัดวางซะสวยน่ากิน 

“ผลไม้ครับ” สมุทรวางจานลงใกล้มือผม

“ขอบคุณ” ผมบอก  เจ้าของบ้านเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงหน้า  ขยับกล่องกระดาษทิชชู่มาใกล้ ๆ กับจานผลไม้  ผมจึงหยิบแอปเปิลขึ้นกินก่อนอันดับแรก  การกัดกินเป็นไปอย่างสงบจนแทบได้ยินเสียงเคี้ยวแอปเปิลชัดเจน

“โกรธฉันเรื่องที่ตลาดรึเปล่า ?” ผมถามถึง  ถึงแม้ว่าการแยกย้ายออกมาจากตลาดจะมีบรรยากาศที่ดีขึ้น  ถือว่าสมุทรแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้พอสมควร  เขายังคงปฏิบัติต่อผมตามหน้าที่เหมือนผมเป็นเจ้านายคนหนึ่งที่เขาควรรับฟัง  ซึ่งผมเองก็ปฏิบัติต่อเขาเป็นปกติด้วย 

“ปกติชอบผลไม้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ” สมุทรหันหน้ามามอง  คำถามที่ถูกสวนกลับคนละประเด็นอย่างสิ้นเชิงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกผิดแปลก  ตามจริงก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่  อีกฝ่ายเองก็คงรู้  หรือไม่..เขาเองก็คงไม่อยากพูดถึงมันเหมือนกัน   

“ฝรั่ง..มั้ง” ผมกลอกตาดำขึ้นนึกอย่างใช้ความคิด

“หวาน ๆ” ผมขยายความ 

“แม่บ้านที่ต้องคอยเอาฝรั่งเสิร์ฟให้คุณ ไม่ต้องคอยชิมก่อนตลอดเลยรึไงครับ” อีกฝ่ายประชดด้วยใบหน้าเหมือนจะรับไม่ได้
 
“คงงั้น ก็มันหน้าที่ของแม่บ้านไม่ใช่รึไง” ผมเบะปากยอมรับว่าพวกเธอก็อาจทำตามอย่างนั้นจริง ๆ เพราะถ้าหากผมอยู่บ้าน  ผมไม่เคยได้กินฝรั่งที่มีรสเฝื่อนลิ้นเลย

“ฟักทองก็ดีนะ” ผมยักคิ้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  สมุทรอมยิ้ม  แอปเปิลในมือผมหมดลงแล้วและผมยังคงจับจ้องคนตรงหน้า  ใบหน้าของเขาเริ่มหุบยิ้มลงทีละนิด  เป้าหมายของสายตาคือจานผลไม้

“อยากให้วันพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์จังนะ” ผมเอ่ยบอกไม่ดังมากนัก  สมุทรหันหน้ามา  เขาสบตาผมอยู่นิดเดียวด้วยความรู้สึกที่สุภาพแล้วก็เหสายตาลง

“เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อของที่ตลาดสักหน่อย..”

“เป็นของที่ต้องใช้ทำขนมขายวันพรุ่งนี้ เลย..รบกวนขอให้คุณอยู่รอก่อนได้ไหมครับ” สมุทรถาม
 
“แต่ถ้าคุณอยากจะไปด้วย หรือ..”

“ได้” ผมพูดแทรกห้วน ๆ  เพราะรู้ว่าประโยคต่อไปจะเป็นไปในทำนองไหน  สมุทรหุบปากทันควัน
 
“จะไล่ฉันกลับทางอ้อมงั้นเหรอ ไม่กลับหรอกน่า..ฉันยังไม่ได้แกล้งไอ้เมฆเลย” ผมทำหน้าประหลาดประกอบ

“หึ” สมุทรหัวเราะในลำคอ 

“งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ” อีกฝ่ายลุกขึ้น 

“ตามสบาย” ผมพยักหน้ารับทราบ  เขาเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่ลิ้นชักพร้อมกับตะกร้าจ่ายตลาดติดตัวออกไปด้วย  เสียงฝีเท้าที่เดินเงียบหายไปไกลแล้ว  ผมภาวนาแค่ว่าอย่าให้มีลูกค้ามาเรียกซื้อขนมหวานในระหว่างที่เขาไม่อยู่ก็พอเพราะผมไม่อยากเอ่ยปากเรียกดาวที่อยู่หลังบ้าน


ให้หลังไม่ถึงสิบห้านาทีเมฆก็ลงมาพร้อมกับกระเป๋าเรียน  อีกฝ่ายวางกระเป๋าไว้บนเก้าอี้ไร้คำพูดทักทาย  หันซ้ายหันขวาคงกำลังมองหาพี่ชาย  พอไม่พบใครมันก็เลือกที่จะไม่ถามผมแต่กลับวิ่งไปที่หลังบ้าน  ไม่ถึงนาทีก็วิ่งกลับมาใหม่  ปีนขึ้นนั่งบนเก้าอี้  เปิดกระเป๋าเรียนออกเงียบ ๆ  ผมนั่งมองพลางหยิบแอปเปิลกินด้วย  นิ้วมืออีกข้างที่ว่างอยู่ดันขอบจานผลไม้อย่างแรงจนจานขยับเลื่อนไปอยู่ที่กลางโต๊ะ  เสียงการเคลื่อนตัวของจานทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมอง  ผมยักคิ้วให้  เมฆก้มหน้าลงครู่หนึ่งก่อนชันเข่าขึ้น  เอื้อมมือหยิบสับปะรดไปถือไว้เก้ ๆ กัง ๆ  สีหน้าเหยเกแสดงออกในทันทีที่สับปะรดถูกกัดเข้าไปในปาก

“หึ” ผมหัวเราะ  เดาไว้ก่อนหน้าอยู่แล้วว่าคงเปรี้ยวไม่น้อย  ไม่อย่างนั้นคงไม่มีพริกเกลือวางแนบมาด้วย 

ผลไม้พร่องลงเรื่อย ๆ จากการช่วยกันกินจนจานว่างเปล่า  ผมพลิกนาฬิกาข้อมือ  สมุทรไปตลาดเกือบชั่วโมงแล้วและดูเหมือนเมฆก็ทำการบ้านใกล้จะเสร็จแล้วด้วย  วันนี้หมอนี่ทำเองคนเดียวได้  ไม่ดูเหมือนมีอะไรติดขัดตรงไหน



ตืด  ๆ ๆ   .. เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นตรงชั้นวางของ  เราทั้งคู่มองตามไปที่ต้นเสียง  โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนชั้นนั้นกำลังสั่นและผมจำได้ว่ามันเป็นเครื่องของสมุทร  เจ้าของคงลืมมันทิ้งไว้หรือไม่ก็อาจตั้งใจไม่เอาไป 

“ทำไป” ผมสั่งเมฆพร้อมลุกขึ้นยืนเมฆจึงตั้งใจทำการบ้านต่อ  ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ชั้นดังกล่าว  มือล้วงกระเป๋า  ตาจ้องมองไปที่ของที่มีไฟกะพริบถี่ ๆ  หน้าจอโทรศัพท์โชว์เบอร์โทรเข้า “คุณพลอย” ที่บันทึกไว้อย่างชัดเจนแบบที่ไม่ต้องตีความว่าอาจจะเป็นคนชื่อซ้ำ 

สายยังคงสั่นอยู่อย่างนั้น  ผมยังคงนิ่งเฉยไม่คิดกดรับแทน  อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะหยุดสั่นเมื่อไหร่  ไม่ถึงนาทีหน้าจอก็ดับมืดสนิท  แต่ให้หลังไม่นานหน้าจอก็สว่างขึ้นอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับตัวหนังสือที่โผล่ขึ้นเป็นข้อความจากโปรแกรมไลน์  แจ้งว่า “ว่างแล้วโทรกลับหาพลอยด้วยนะคะ”  พร้อมกับสติกเกอร์ที่น่าจะปัญญาอ่อนพอ ๆ กับข้อความ
 
เสียงประตูมุ้งลวดถูกเลื่อนออก  ผมหันหน้ามองเจ้าของบ้านที่กลับมาถึง  ในมือของเขาถือของพะรุงพะรัง  สมุทรหยุดยืนอยู่หน้าประตู  ตามองมาที่ผมอย่างสงสัยก่อนเหลือบมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่แสงสว่างบนหน้าจอเพิ่งดับลงไป   

“มีคนโทรหาพี่ด้วย” เมฆพูดบอกพี่ชายทำลายความเงียบ  สมุทรเดินตรงมาใกล้  ผมจึงคว้าโทรศัพท์มือถือของเขาแล้วยื่นไปให้แทน  อีกฝ่ายไม่สบตานักเมื่อชื่อของพลอยเตือนกะพริบขึ้นตรงหน้าเราทั้งคู่  แม้สถานการณ์จะค่อนข้างกระอักกระอ่วน  แต่เจ้าของที่ไม่เอ่ยปฏิเสธก็รับของ ๆ เขาคืนไปโดยไม่ลืมที่จะผงกหัวแทนคำขอบคุณ


- - - - - - - - - - - - - - -


20:38 น. : Classic Move Bar & Restaurant

“สวัสดีครับคุณไฟ ไม่พบหน้านานเลยนะครับ” ผู้จัดการร้านยิ้มสุภาพต้อนรับ  ชื่อจริงของเขาคือไลโอเนล  ชาติพันธุ์เป็นต่างชาติโดยแท้ที่มากำเนิดบนแผ่นดินไทย  พูดภาษาไทยได้เพราะหู  พวกผมมักเรียกกันติดปากสั้น ๆ ง่าย ๆ กันว่า “คุณเนล” 

“ยูอยู่รึเปล่า” ผมถาม

“อยู่ครับ อยู่ในห้องทำงาน” คุณเนลตอบ

“แล้วพี่กิ่งล่ะ” ผมถามถึง

“คุณกิ่งไปดูร้านที่เชียงใหม่ครับ จะกลับมาที่กรุงเทพอีกทีหลังจากกลับจากอินโดนีเซียเลยน่ะครับ”

“เดี๋ยวผมจะพาไปพบคุณยูนะครับ” คุณเนลยิ้มพร้อมผายมือออก

“ไม่ต้อง จัดโต๊ะให้คนของผมก็พอ” ผมยกมือขึ้นปรามเพื่อเป็นการบอกว่าผมต้องการความเป็นส่วนตัว 

เสร็จจากที่กินข้าวเย็นที่บ้านสมุทรไอ้เด่นก็ไปรอรับผมกลับบ้าน  ความคืบหน้าที่เชื่อมโยงเป็นเหตุทำให้ผมเตือนตัวเองให้หยุดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้  นั่นเป็นผลว่าทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้โดยไม่ได้ทำการนัดกับทางร้านเสียก่อน  พี่ธานกับไอ้เด่นแยกตัวไปพร้อมกับคุณเนล  ผมมุ่งตรงไปที่หลังร้านอย่างคุ้นเคย  เสียงในห้องทำงานเงียบมากเหมือนบอกว่าไม่มีคนอยู่  เมื่อลองเคาะดูก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนด้านในเช่นกันจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปและก็ไม่พบใครในนั้นตามที่คาด  ผมปิดประตูลงอย่างเดิม  เลือกเดินตรงลึกเข้าไปเพื่อไปที่ห้องทำงานของพี่กิ่ง 

“ปล่อย!”

“อยู่เฉย ๆ เถอะน่า”


“บอกให้ปล่อย! ขยะแขยง..สัส ปล่อย! คุณเนล!!”

“ขยะแขยงกูเหรอ! หื้อ! กูจะดูซิว่ามึงจะหยุดขยะแขยงกูเมื่อไหร่”

“แม่งเอ๊ย อย่าขืนสิวะ” เสียงฮึดฮัดดังมาจากทางด้านหลัง  น้ำเสียงที่ฟังได้ยินถนัดชัดเจนเลยว่าเรื่องทำนองไหนกำลังเกิดขึ้น  ผมอมยิ้มให้กับเรื่องแก้เบื่อ  ขามุ่งตรงไปที่ที่เกิดเหตุ 

“เล่นอะไรอยู่เหรอ ดูน่าสนุกจัง” ผมยิ้มทักพร้อมคร่อมแขนทั้งสองข้างมือแตะติดกำแพง  คนที่กำลังคร่อมคนอื่นอยู่ถูกคร่อมจากผมอีกทีจึงทำให้เจ้าตัวถึงกับตาเบิกโต

“ไฟ” ยูทักด้วยสีหน้าตกใจไม่ต่าง

“ขอเล่นด้วยคนสิ” ผมฉีกยิ้มทักท้ายคนสนิท  จงใจทำเมินคนตรงกลางที่กอดตัวยูไว้อยู่ 

“หือ กูถามว่ามึงเล่นสนุกอะไรอยู่” ผมแสยะยิ้มขยับตัวเข้าประชิด  กระซิบถามที่ข้างหูของชายแปลกหน้าร่างกายกำยำ  ท่าจะเป็นพวกคลั่งการเล่นกล้ามสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ..จนดูท่าจะกลายเป็นหลงตัวเองเสียแล้ว

“ยะ.. อย่าเสือก!!” อีกฝ่ายให้คำตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก  ผมเหล่มอง  กัดฟันแน่นด้วยนึกหงุดหงิดพร้อมกระแทกเป้าใส่ก้นมันอย่างแรงจนตัวมันเซไปด้านหน้าชนเข้ากับยู  ทำให้ยูที่มีรูปร่างสันทัดสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ  ผมกระชากคอเสื้อมันมาเพื่อให้คนสนิทหนีออกได้ถนัด   
 
“ทำอะไรวะ!” อีกฝ่ายตะคอก  สะบัดตัวออกทำท่าจะสู้  มือผมตะบบเข้าที่กกหูพร้อมออกแรงดันจนหัวของมันกระแทกกับกระจกห้องทำงานดัง “ปึก !!!”  ..ไร้หนทางสู้ 

 “กูถามว่ามึงเล่นสนุกอะไร..?” การเอ่ยอีกครั้งเย็นต่ำลง  ตาถลึงเพื่อย้ำขอคำตอบจากคำถามเดิม  เหลือบมองเห็นเข็มขัดของมันที่ถูกปลดออกคล้ายเตรียมการ  มือขวาที่ว่างอยู่จึงช่วยรูดซิบกางเกงของมันต่ำลงเพื่อให้คว-ยมันได้หายใจสะดวก  เสียงซิปดัง “ฟืด!”

“มึง..” เจ้าของกางเกงกัดฟันแน่นด้วยสีหน้าแค้นจัด  ผมแสยะใบหน้า  ลิ้นเกลี่ยออกมาจากริมฝีปากอย่างเคยชิน  มือล้วงเข้าไปในกางเกงของมันในทันที

“ยะ อย่า!” มันร้องขอหน้าซีดเปลี่ยนจากเมื่อครู่  ผมหัวเราะในลำคอนึกชอบใจต่อปฏิกิริยาที่ได้รับ  มือขยำบีบไข่ผ่านกางเกงในของมันอย่างสนุกมือ  มือซ้ายที่ล็อกคอมันอยู่เลื่อนนำไปปิดปากมันไว้แน่นจึงทำให้มันหยุดดิ้นเหมือนกับพยายามจะบอกว่า.. ขอยอมแพ้แล้ว

“ไหงแข็งซะล่ะ ?” ผมหัวเราะขึ้นจมูกแซว  เลิกตามองอย่างเย้ยหยัน
 
“ไฟ..” ยูที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ข้าง ๆ เอ่ยปราม  ผมไม่คิดฟัง  มือกระชากกางเกงมันกองลงกับพื้นแล้วแนบลำตัวเข้าประชิด  มือผละออกจากเป้าของคนตรงหน้า  ปืนที่เหน็บอยู่ทางด้านหลังนำขึ้นจ่อไปที่หัวของมันอย่างใกล้ชิด..เป็นกันเอง   

“อ้าปาก” ผมสั่งเสียงเรียบพร้อมขยับมือขึ้นบีบแก้มเชิงบังคับ  เมื่อมันไม่ยอมอ้าง่าย ๆ  มือจึงจำเป็นต้องออกแรงบีบหนักขึ้น  หมากฝรั่งที่อยู่ในปากผมถูกเคี้ยวได้ที่จนรสหวานอร่อยหมดไปนานแล้ว  เมื่ออีกฝ่ายทนความเจ็บปวดไม่ไหวปากจึงเผยออ้าออกทีละน้อย   


ถุย!!   .. ไม่ถึงวินาทีหมากฝรั่งก็เปลี่ยนที่อยู่ไปอยู่ที่ปากของเจ้าของคนใหม่  ผมยิ้มพอใจ  กวาดตามองแววตาที่หวาดกลัวแปลก ๆ ของมัน  แต่อย่างนั้นคว-ยมันที่โดนตัวผมอยู่กลับไม่อ่อนลงสักนิด 

“รูนั่นน่ะ ..ของกู” ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
     
“ถ้าคิดแตะต้องมันอีกละก็ คนของกูคงถูกใจเวลาที่ได้ยินเสียงมึงครางเป็นหมา แล้วขยับสะโพกเรียกร้องของของพวกมันจนลืมไม่ลง” ผมอมยิ้มมุมปาก  นึกไปนึกมาก็มีอารมณ์กับคนตรงหน้าขึ้นมาเหมือนกัน

“ฟังดูอีโรติกจัง! ฮิ ๆ ๆ” ผมเอนตัวออกหัวเราะชอบใจ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2016 16:07:57 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ปากกระบอกปืนลากจากท้องน้อยต่ำลงไปที่ส่วนสำคัญอย่างเนิบช้าจนอีกฝ่ายตัวสั่นเทิ้ม  สะโพกที่ขยับหนีอย่างหวาดกลัวทำให้ก้นแนบไปติดกับกำแพงทันควัน  ขาทั้งสองข้างพยายามอ้าออกเพื่อหลบหลีก  ลำปืนหยุดขยับเมื่อมันถูกวางแทรกกลางระหว่างขาพอดี  ปากกระบอกปืนถูกปิดสนิทกับกำแพง  ผมขยับลำปืนขึ้นสูงจนมันกระแทกเข้ากับจุดสำคัญของผู้ชายอย่างเรา  จุดที่ไวต่อความรู้สึก 

“ขะ..ขอโทษ” อีกฝ่ายเอ่ย  น้ำลายถูกกลืนลงคอดูท่าจะลำบาก
 
“ฮึ!” ผมพ่นลมออกจมูก  แนบหน้าเข้าไปใกล้มันจนมันต้องเบือนหน้าหนี  จมูกของผมจ่ออยู่ที่แก้มอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นและค้างมอง  เราต่างหยุดขยับอยู่พักหนึ่ง

“ถ้าอีกฝ่ายเขาบอกว่าขยะแขยง แสดงว่าเขาไม่อยากได้ไอ้นั่นของคุณ ขอให้เข้าใจตรงกันนะครับ ?” ผมกระซิบบอก

“อึก” มันไม่ตอบ  สันกรามกัดไว้แน่นและพยักหน้ารับ  ผมจ่อใบหน้าเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม “จุ๊บ~”  เสียงหอมแก้มอย่างหยอก ๆ ดังชัดเจนจนเจ้าตัวสะดุ้งก่อนที่ผมจะผละตัวออก  กวาดตามองร่างกายของคนตรงหน้าที่มีเพียงชายเสื้อปิดกางเกงในไว้เท่านั้น 

“ถ้าอยากให้ช่วยก็รอหน้าร้านได้นะครับ” ผมแสยะยิ้มก่อนเดินหนีออกมา  ยูจ้ำเท้าตามมาติด ๆ  ประตูห้องทำงานของเขาเปิดออกอีกครั้ง  เมื่อเจ้าของห้องเข้ามาแล้วเจ้าตัวก็ปิดพร้อมลงกลอนทันควัน

“เฮ้อ!” อีกฝ่ายถอนหายใจเต็มที่  ทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจอย่างกับโลกใกล้แตก

“อุตส่าห์ช่วย” ผมเบ้ปากจงใจกวน

“ช่วยสร้างเรื่องสิไม่ว่า” ยูเขม่นตารู้ทัน  ผมอมยิ้มพร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง  ทำหูทวนลมไปที

“สู้ได้ทำไมไม่สู้ อยากโดนรึไง เล็กออก..เสียเวลา” ผมบ่น

“ก็แค่ลูกค้างี่เง่าน่ะ” ยูขมวดคิ้วบ่นเซ็ง ๆ

“อย่างนี้ครูเสียใจแย่ที่ลูกศิษย์แก้ปัญหาไม่เข้าท่า” ผมแซวไปถึงพายุที่เป็นแรงบันดาลใจให้ยูได้กล้าเรียนศิลปะการต่อสู้เพื่อนำไว้ปกป้องตัวเอง

“ให้ฉันหาแฟนให้พายุเอาไหม เอาแบบทนมือทนเท้าพี่ชาย” ยูอมยิ้ม

“อย่ายุ่งน่า หาของตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ” ผมถอนหายใจเซ็ง ๆ  อีกฝ่ายคงแกล้งลืมประโยคต่อท้ายให้จบว่า “จะได้เลิกยุ่งเรื่องของฉันสักที” อะไรทำนองนั้น  ผมเอนหลังพิงโซฟาจนแทบนอน  ตาเหล่มองไปทางเขา  ยูเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม  เปิดตู้หยิบวิสกี้ออกมาพร้อมแก้วสำหรับวิสกี้อีกสองใบ  เขากลับมาที่โซฟา  วางแก้วลงบนโต๊ะก่อนรินวิสกี้ให้ผม  อีกฝ่ายหย่อนก้นนั่งลงขณะเดียวกันกับที่ผมเอื้อมมือไปหยิบแก้วของตัวเอง  ยูนำแก้วของเขาสะกิดชนแก้วผมเบา ๆ เสียงดัง “กิ้ง” ทำให้เราหลุดยิ้มได้นิดหน่อย  ต่างคนต่างยกวิสกี้ขึ้นดื่มจนหมดไร้บทสนทนาคล้ายย้อมใจ

“มีเรื่องสินะถึงได้โผล่หน้ามาได้”

“ทำนองนั้น” ผมเบะปากปฏิเสธไม่ลง 

“โปรดล่ะ บินเหรอ” ยูถามพร้อมลุกขึ้นยืนเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์  ผมจึงหยิบขวดวิสกี้ริสใส่แก้วของเราเพิ่ม
 
“มั้งนะ..ไม่เห็นมันติดต่อมา”   

“พายุเป็นไง สบายดี” เขาถามอีก  คำถามที่ถูกยิงมาเหมือนต้องการรู้ความเป็นไปโดยภาพรวมก่อนเข้าเรื่องอื่น

“เรื่อย ๆ” ผมตอบ

“ก็ไลน์คุยกันอยู่แล้ว จะถามทำไม” ผมพูดปนหัวเราะ  ยกแก้ววิสกี้จิบไปพลาง

“ไม่ได้คุยทุกวันสักหน่อย” ยูหัวเราะขึ้นจมูก  ผมเงียบมองเขาที่กำลังตั้งใจเช็ดมือของตัวเองด้วยกระดาษทิชชู่เปียก  ในห้องเงียบสนิท  กระดาษทิชชู่ถูกทิ้งลงในถังขยะใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์  น้ำเปล่าถูกยกขึ้นดื่มด้วยมือที่สั่นเทิ้มจนสังเกตเห็นได้ด้วยสายตา   

“ฮ้า ~ ผู้ชายสมัยนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดน้า” จู่ ๆ ยูก็ถอนหายใจพูดโต้ง ๆ  เท้าเอวเงยหน้าขึ้นเหมือนบ่นให้เพดานฟัง  ผมได้แต่อมยิ้ม  เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องได้เก่งเหมือนเคย

“พอสังคมเปิดเข้าหน่อย เอ๊ะอะก็จะเอามาใส่ลูกเดียว ดูไม่ออกรึไงว่าของแบบนี้ถ้าไม่มีอารมณ์จริง ๆ มันต้องเล้าโลมก่อนน่ะ” อีกฝ่ายที่ยืนเท้าเอวหันมาขมวดคิ้วใส่ผมทำให้ผมหัวเราะได้กับใบหน้าติดตลกนั่น

“อีกอย่าง ควรดูบุคคลด้วยว่าถึงเป็นเกย์แต่ก็ไม่ได้อยากได้น่ะนะ” ยูเบะปากหน้าแขยง

“หึ ๆ ๆ” ผมขำอีกครั้งทั้งที่กำลังยกวิสกี้ขึ้นดื่ม  ยูก้มหน้าลงจบคำพูดตัวเองทั้งอย่างนั้น  เขาพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นจนถึงข้อศอกทั้งสองข้าง  ใบหน้าที่แสดงความรู้สึกแบบก่อนหน้าปรากฏให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง

“พี่กิ่งทิ้งงานไว้ให้อีกแล้วเหรอ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
 
“อืม” ยูอมยิ้มน้อย ๆ ตอบไม่ยอมสบตา  มือคว้ากระดาษทิชชู่เปียกออกมาอีกสองแผ่นและนำมาเช็ดมือซ้ำอีกครั้ง  ครั้งนี้เขาเลือกเช็ดยาวไปจนถึงข้อมือ  ผมจึงหยุดพูดเพื่อให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง  เมื่อเจ้าตัวเห็นว่าร่างกายสะอาดจนพอใจแล้วจึงกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวข้าง ๆ

“ได้ข่าวว่านอนกับคุณตุล เจ้าของนิตยสาร TRAVEL with Us แล้วเหรอ ? นายนี่มันจริง ๆ”

“รู้ได้ไง” ผมมองอย่างระแวง  เขามีเรื่องแปลกประหลาดให้ผมต้องระแวงได้อยู่ตลอด

“มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่รู้บ้าง” ยูยักไหล่เชิด ๆ  ผมยิ้มไม่ปฏิเสธ  ยูเหล่ตาอมยิ้มไม่ว่าอะไรอีก  ผมจึงนำแก้ววิสกี้ชนที่แก้วของเขา  เจ้าของแก้วจึงยกวิสกี้ขึ้นดื่มอีกครั้ง

“เห็นว่าช่วงนี้ทั้งตำรวจ ทั้งคนใหญ่คนโต แวะเวียนกันมายืมใช้สถานที่เป็นว่าเล่นเลยนี่” ผมเอ่ย  ยูเงียบปากด้วยท่าทีนิ่งเฉย  หยิบกล่องบุหรี่เปิดฝาออก  บุหรี่ถูกคาบไว้ในปากหนึ่งมวนก่อนปิดฝา  ผมเลยหยิบไฟแช็กที่อยู่ใกล้มือนำขึ้นจุดไฟให้  ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมาอย่างแรงในครั้งแรกด้วยเสน่ห์ที่เซ็กซี่ไม่เคยเปลี่ยน   

“งงไปหมดว่ามาทำไม” คางของยูเชิดขึ้นประมาณสามสิบองศา  เจ้าตัวพึมพำตาลอยด้วยสีหน้าที่เอือมระอาต่อวงการนี้พอดู

“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ 

“วันครบรอบวันตายคุณลุงน่ะ..” ยูเอ่ยขึ้น  ทิ้งน้ำเสียงเว้นระยะขณะขยับขาซ้ายขึ้นไขว่ห้าง

“ฉันไปปฏิบัติธรรมมา”

“พรวดดด!!!” ผมพ่นหัวเราะลั่น  วิสกี้ที่กำลังจะกลืนลงคอได้เกือบหมดกลับสำลักพ่นออกจากปากแบบยั้งเอาไว้ไม่ทัน  ปากเปื้อนนิดหน่อย  ผมรีบหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดโดยกลั้นยิ้มเอาไว้ด้วย

“นี่..ไอ้บ้า!” ยูกัดฟันว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ว่าแล้ว ไม่บอกรึก็ดี” เขามองตาขวาง

“ขอบคุณนะ” ผมพูด  ยิ้มกว้างมองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูจึงทำให้ยูอ่อนท่าทีลง 

“ป่านนี้พ่อผมคงบ่นแย่ ไอ้พวกลูกเวร..พวกแกไม่คิดจะทำบุญมาให้กันเลยรึไง ยูมันลูกฉันรึก็ไม่ใช่” ผมแซวด้วยน้ำเสียงงอน ๆ แบบที่พ่อชอบใช้บ่น  ยูฉีกยิ้มกว้าง  รอยยิ้มของเขาสดใสน่ารักเสมอ

“แต่ก็เหมือนลูกละนะ” ผมพูดต่อท้าย  ยูเบือนหน้ากลับด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ   

“มีอะไรให้ช่วยงั้นเหรอ ?” เขาถามเข้าประเด็น

“ก็ไม่เชิง” ผมเหตาลง

“แต่ต้องมีของมาแลกนะ” อีกฝ่ายแสยะยิ้ม  นำปลายเท้าซ้ายสะกิดมาที่ขาผมอย่างหยอกเย้า
 
“ไปหิวมาจากไหนไม่ทราบ” ผมเขม่นตาแซว

“หิวสิ..ก็นายเล่นหายหัวไป ฉันนึกว่าตายไปแล้ว” ยูบ่นเสียงหลง

“ก็โทรมาสิ” ผมย้อน 

“ไม่ล่ะ เล่นหุ้นใจเต้นแรงกว่า” ยูยักไหล่กวนกลับทำเอาผมหัวเราะให้กับนิสัยที่ชอบกอบโกยเงินทองของเขาได้เหมือนเดิม
 
ยูขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟาของตนมานั่งคร่อมบนตัวผมแทน  ผมมองเฉย  อีกฝ่ายสูดบุหรี่เข้าไปอีกครั้งหนึ่งด้วยสายตาที่ยังจับจ้องกันอยู่  วิสกี้ของผมที่เหลือค่อนแก้วถูกยกขึ้นดื่มจนหมด  ยูเห็นอย่างนั้นจึงขยี้บุหรี่ที่เหลือลงในแก้ว  ก่อนจับแก้วออกจากมือผมนำไปวางไว้ที่โต๊ะข้างโซฟา

“ทำให้รู้สึกดีจนลืมโลกไปเลยได้ไหม” เขายิ้มเจ้าเล่ห์

“มันก็เป็นอย่างนั้นทุกรอบอยู่แล้ว ไม่ใช่รึไงเล่า” ผมสบถด้วยสีหน้ารับไม่ได้จนอีกฝ่ายหลุดหัวเราะ 


- - - - - - - - - - - - - - -


เสียงเพลงสากลในทำนอง R&B เปิดทิ้งมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว  ผมผละตัวออก  ลุกขึ้นก้มหยิบกางเกงในขึ้นใส่  คนข้าง ๆ หลังจากที่ลุกขึ้นไปเปิดเพลงก็นอนเปลือยเปล่าเอกเขนกไม่ยอมลุกแต่งตัวดี ๆ  หุ่นของยูที่นอนคว่ำหน้าอยู่ยังคงเซ็กซี่อย่างกับราชินีเหมือนเคย  ไม่แปลกที่ถึงเขาไม่ต้องทำอะไรมากแต่กลับมีแต่คนอยากเข้าหา ทำความรู้จัก เลวร้ายหน่อยก็จ้องมุ่งแต่ร่างกายนี้   


กรอบเขตแดนที่เข้าถึงก้นบึ้งของหัวใจผู้ชายคนนี้มันชัดเจนเกินไป  แค่ใช้สายตามองในฐานะคนใกล้ชิดยังรู้สึกได้ถึงความห่างไกลและอยากช่วยเหลือ  ไม่ต้องพูดถึงคนที่ไม่สนิทด้วย  นอกจากจะไม่สำคัญแล้วก็แทบอยู่นอกสายตาไปเหมือนกัน  ท่านอนคว่ำที่ชอบนอนแบบนี้ทุกครั้งเมื่อเสร็จกิจ  มันดูน่าหดหู่  อย่างกับมีอะไรให้ตรอมใจ  แต่นั่นล่ะ..ผมอ่านใจยูไม่ออกพอ ๆ กับที่เขาเองก็ไม่เคยคิดอยากแตะต้องความคิดของผมเช่นกัน   

.. วิสกี้ถูกยกขึ้นดื่มจากขวดก่อนลุกขึ้นใส่กางเกงอย่างลวก ๆ  ยังไม่ทันได้รูดซิปกางเกงผมก็นั่งลงอีกครั้ง 

“ไปหาที่บ้านได้ตลอดนะ” ผมพูดขึ้นลอย ๆ  เป็นคำบอกใบ้ที่ย้ำให้ฟังรอบที่ล้านแล้วละมั้ง  หางตาเห็นว่ายูขยับใบหน้ามา  ผมจึงหันไปมอง   

“ขอแต่งงานเหรอ” อีกฝ่ายอมยิ้มหน้าทะเล้น

“ผมหมายถึงถ้าคุณเหงาน่ะ” ผมขยายความกวนกลับ  อีกฝ่ายนอนนิ่ง  หลบตาหนีคงเพราะผมพูดแทงใจดำ  แม้ยูจะอายุมากกว่าแต่ผมก็ไม่เคยเรียกเขาว่าพี่  แต่อย่างนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างยูกับครอบครัวผมที่ผ่านมามันเป็นมากกว่าคนรู้จักไปแล้ว  “เราเหลือกันแค่นี้” นั่นคือความจริงที่ผมพยายามบอกเขามาตลอด  มากกว่าคู่นอนที่สนองให้กันได้  เรารู้จักกันและกันมากกว่าเพื่อนโดยไม่ต้องใช้คำพูดให้มาก  แก้เหงาให้เขาหรือสิ่งที่เขาพยายามตอบแทนให้ผม  เขาคงลืมไปว่าที่จริงแล้วผมต่างหากที่เป็นฝ่ายสนองให้เขามาตลอด  แต่นั่นล่ะ..ก็ไม่ใช่เรื่องไม่เต็มใจน่ะนะ

“เพราะคุณเป็นแบบนี้ พายุก็เลยไม่กล้าชวนคุณเลย” ผมเปลี่ยนเป็นพูดติดตลก

“หึ” อีกฝ่ายยิ้มอ่อนโยนทันทีที่พูดถึงชื่อของน้องรัก 

“มันบ่น ๆ ว่า หรือว่าคุณมีคนที่คบแล้วกันนะ” ผมยักคิ้ว

“ไอ้บ้า” ยูว่า  คงรู้ว่าพายุไม่ได้พูดแต่เป็นผมที่ปั้นน้ำเป็นตัว
 
“ใจอ่อนไปเหอะน่า” ผมพูดปนสบถ

“แก่ ๆ กันหมดแล้ว..เดี๋ยวก็ตาย หกสิบจะอยู่ถึงรึเปล่าก็ไม่รู้..หึ” ผมแซวไปถึงคู่กรณีอีกคนที่ตามตื๊อจีบยูมานานหลายปี  ยูถอนหายใจ  ขยับตัวกลับมานอนหงาย  ผมจึงจับขาขวาของเขาให้ตั้งชันขึ้นก่อนประทับปากจูบลงที่หัวเข่ายิ้ม ๆ
 
“นายก็รีบมีคนรักซะสิ นายมีเมื่อไหร่ ฉันอาจจะใจอ่อนกับหมอนั่นก็ได้”

“เอาแล้ว ฮ่า ๆ ๆ รู้ด้วยว่าพูดถึงใคร” ผมยิ้มกว้างทำเสียงทะลึ่งทำให้คนตรงหน้าหน้ามุ่ยทันควัน  เท้าถีบมาที่ไหล่ผมเต็มแรงดัง “ปึก!” ปรามคำพูด  การถูกถีบที่ไม่เคยคิดโกรธทั้งที่ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้มาก่อน  อีกฝ่ายลุกขึ้นนั่ง หยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นสวมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นิดหน่อย

“มีคนที่ถูกใจอยู่น่ะ” ผมพูดขึ้นโต้ง ๆ  ยูหันขวับมามอง

“แต่ดูเหมือนจะแห้วเร็ว ๆ นี้ รึแห้วแล้วก็ไม่รู้” ผมขยายความติดตลก  ยูหัวเราะน้อย ๆ

“ผม ..ไม่รู้อะไรเลย”

“ยัยริศานั่นน่ะเหรอ ได้ข่าว” อีกฝ่ายกัด  เบี่ยงประเด็นหักเลี้ยวแก้สถานการณ์

“ชิ ฝีมือคุณตกรึไง” ผมรับไม่ได้  หยิบเสื้อที่พาดอยู่ที่โซฟามาใส่

“งั้นฉันต้องใจอ่อนแล้วงั้นซิ ? ไร้สาระ” ยูบ่นอย่างไม่แคร์

“เจอคนแบบคุณผมคงเลิกจีบไปแล้ว” ผมว่าถึงความใจแข็งของเขา  ยูหัวเราะในลำคอไม่ปฏิเสธ

“จีบใครอยู่ก็ ไม่อยากรู้หรอกนะ แต่..พยายามเข้าล่ะ” เขามองอย่างยียวน

“จีบติดแล้ว ฉันค่อยถามพายุเอาเวลานั้นก็ได้” อีกฝ่ายขยิบตา


ก๊อก  ๆ ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2016 16:14:21 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“นายครับ” ไอ้เด่นเรียก  ผมถอนหายใจลุกเดินไปเปิดประตูให้แล้วเดินกลับมาทันที  ไอ้เด่นปิดประตูห้องลง  เมื่อมันหันมาเห็นว่ายูยังไม่ได้ใส่ชั้นในมันก็รีบละสายตาก้มหน้าลงมองพื้น

“พี่ธานให้มาบอกว่า ไอ้กริดมาครับ” มันรายงาน

“มึงเฝ้าหน้าห้องไว้ก่อน” ผมสั่ง  ไอ้เด่นผงกหัวน้อย ๆ ก่อนออกจากห้องไป

“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกทำแบบนี้สักที อยากตายรึไง” ผมพูด  นำหลังมือไปแตะหน้าผากยูก่อนลูบหัวเขาไว้ด้วย
 
“ก็ไม่เหลือใครให้ห่วงสักหน่อย” ยูยิ้ม  ทำท่าสนุกเพื่อปัดสถานการณ์ตามเคย  ผมนั่งลงข้าง ๆ

“ต้องให้ผมพูดอีกกี่ครั้ง ว่าคุณคือคนในครอบครัว” ผมเริ่มไม่พอใจ  ยูเงยหน้าขึ้นมองตาปริบ   

“อย่ามาทำให้ไขว้เขวน่า” เขาต่อว่า

“แล้วนายมีอะไรล่ะ” ยูถามอีกครั้ง

“เจ้าของผับ Blackfoot น่ะ ..ใคร ?” ผมถาม

“กาย” ยูให้คำตอบอย่างไม่ลังเล

“เฮอะ..ไปเจออะไรเข้ามาล่ะ” ยูเงยหน้าหัวเราะขึ้นจมูก  ผมเผยอปากอย่างเซ็งอารมณ์  ลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อพร้อมจัดองค์ทรงเครื่องให้สภาพเหมือนตอนที่มา 

“รู้ไหมว่ามันเป็นเด็กใคร” ยูตั้งคำถามแบบที่ผมให้คำตอบไม่ได้

“ถ้านาย ‘ไม่รู้’ ก็ไม่แปลกอะนะ แต่ฉันก็จะเตือนเหมือนที่นายพูดกับฉันเหมือนกันว่า..อยากตายรึไง ?” ยูกวน  ผมนั่งลงอีกครั้งโดยไม่คิดพูดอะไร     

“ทีสมิธ” ยูพูดขึ้น  ผมขมวดคิ้วกับชื่อที่พอคุ้นหูถึงบุคคลใต้ดินที่ยังไม่มีใครเคยพบหน้า  เรียกว่าอยู่ในวงการแบบดำสนิท

“มากกว่าสองปากพูดกันว่า กาย..เข้าออกบ้านพักตากอากาศของนายดำริเป็นว่าเล่น” ยูยักไหล่เล่า

“นักการเมืองดีเด่นแห่งชาตินั่นน่ะนะ ?” ผมประชดถึง

“อาฮะ..” ยูเลิกคิ้วรับ

“คุณกำลังบอกว่าทีสมิธคือดำริงั้นเหรอ”

“เปล่า..ฉันไม่ได้พูดสักหน่อย” ยูทำตาใสปฏิเสธ  คล้ายเกรงที่จะให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา 

“เห็นว่าเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง แอบเลี้ยงน่ะ เลี้ยงเหมือนเด็กปั้นกลาย ๆ  ทุกคนรู้แค่ว่ามันเป็นหลาน” ยูขยายความ

“เป็นข่าวเดียวที่ฉันไม่กล้าขาย” ยูเบะปากระหว่างยิ้มนิดหน่อย

“งั้นแสดงว่าที่จริงร้านนั้นเป็นของทีสมิธ” ผมพูด  ยูอมยิ้มพร้อมยักไหล่นิดหน่อย

“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอก แต่ช่วงนี้..พวกไอ้กายกับไอ้กริดมากินที่ร้านบ่อย ๆ  มันจองที่นั่ง VIP ตลอด อย่างที่บอก มาบ่อยพอ ๆ กับสายตำรวจที่ทำฉันปวดหัวไปหมด” ยูพูดคล้ายบ่นให้ฟังโดยไม่ลืมที่จะถอนหายใจไปด้วย

“..นั่งนานแค่ไหน” ผมถาม

“ก็สัก..สองสามชั่วโมงได้ บางทีก็แค่ยี่สิบนาทีทั้งที่เปิดไวน์ขวดครึ่งแสนยังไม่ทันหมด แปลกใช่ไหมละ”

“เคยได้ยินพวกมันพูดกันว่า พ่อของริศาให้เช่าท่าเรือแถวฉะเชิงเทราด้วยนะ”

“คุณรู้ใช่ไหมว่าพวกมันขนอะไรกัน” ผมถามตรง ๆ  ยูจ้องไปที่แก้ววิสกี้ครู่หนึ่งก่อนเหลือบมามอง

“..ก็ไม่ใช่เรื่องดี หน้าตาพวกมันเหมือนทำเรื่องดี ๆ เป็นประจำเหรอ” อีกฝ่ายตอบติดตลกก่อนลุกขึ้นแต่งตัว  ผมหลุดหัวเราะ  นั่งมองให้เวลาจนยูแต่งตัวเสร็จ

“เท่าไหร่..?” ผมเอ่ย  ทำให้คนที่ได้ยินเหล่ตามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“งานครั้งนี้น่ะ” ผมขยายความ  ดึงเอวอีกฝ่ายมาอย่างแรงจนยูเซล้มตัวนั่งลงบนตัก

“แลกกับเมื่อกี้ไปแล้ว” ยูตอบเสียงแข็ง 

“ไม่ยักรู้ว่าคุณขายข่าวแลกเซ็กส์แล้ว จนตรอกขนาดนั้นเลย” ผมประชดแกล้ง  ยูนำมือมาหยิกแก้มผมด้วยท่าทางหมันไส้ก่อนผละตัวลุกขึ้นยืน   

“ก็..นายมัน ยกให้กรณีพิเศษมั้ง” อีกฝ่ายย้อนส่ง ๆ  เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์   

“บอกมาเถอะน่าว่าเท่าไหร่” ผมย้ำเสียงนุ่มลง  ยูไม่ตอบอีก  ทำเมินเฉยหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม  ผมถอนหายใจกับนิสัยแบบนี้ของเขา  เอาไม่อยู่หรอก คน ๆ นี้มีเรื่องฝังใจเยอะเกินไปและก็ “กวนตีนนิด ๆ ด้วย”

“เอาเป็นว่าผมจะโอนเข้าบัญชีให้พรุ่งนี้แล้วกันนะ” ผมสรุปอย่างทุกที

“อย่ามาทำอะไรไร้สาระ!” ยูขมวดคิ้วขึ้นเสียงยกใหญ่   

“ให้ไปพักร้อน เผื่อเอาไว้นอนเล่นที่มัลดีฟส์สักห้าหกวัน..ไม่ชอบเหรอ” ผมยิ้ม  พอได้ยินอย่างนั้นเจ้าตัวก็ทำตากลอกวนไปมา  มุมปากทั้งสองข้างหลุดยิ้มน้อย ๆ

“คุณนี่มัน นิสัยแย่จริง ๆ” ผมส่ายหัวบ่น

“คึ ๆ” ยูทำท่าปิดปากหัวเราะหน้าทะเล้น  เราเดินออกมาจากห้องพร้อมกัน

“ว่าไงเด่น” ยูทักไอ้เด่นที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง

“สวัสดีครับคุณยู” ไอ้เด่นผงกหัวปลก ๆ

“บอดี้การ์ดสุดหล่อของฉันล่ะ”

“พี่ธานดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์กับคุณกานต์น่ะครับ” ไอ้เด่นตอบ  คำตอบที่ทำให้ยูเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเป็นหุบยิ้มจนผมหลุดหัวเราะชอบใจ  ผมเดินนำออกมาก่อน  เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมาจากด้านนอกทำให้สัญชาตญาณบอกให้ฝีเท้าต้องทำการชะลอลง 


“แม่งเอ๊ย! มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร!!” เสียงไอ้กริดโวยวายดังลั่นสู้กับเสียงเพลงคลาสสิกแสนหรู  ผมหยุดยืนพิงกำแพงก่อนที่จะพ้นทางเดิน  ตามองไปในส่วนของหน้าร้าน  ไอ้กริด ไอ้กาย พร้อมกับลูกน้องของพวกมันกำลังประชันหน้ากับคนที่ผมเพิ่งได้รู้จัก “ไอ้เต้” ลูกน้องของพี่ทัพ  ดูท่าดวงผมกับมันจะสมพงษ์กัน

“ผมขอละครับ” คุณเนลเข้าห้ามกลางด้วยสีหน้าร้อนใจ
 
“ขอโทษกูเดี๋ยวนี้” ไอ้กริดข่มน้ำเสียงแทบกลายเป็นสบถ

“ฮ่า ๆ ๆ!” ไอ้เต้หัวเราะตอบอย่างยียวน

“หึ” ผมแสยะปากมองอย่างเพลินตา  ไอ้ลูกน้องของพี่ทัพคนนี้นี่มันพยศได้ใจจริง ๆ 

“ระวังปากหน่อยก็ดีมั้ง คุณกริด” ไอ้เต้พูดเสียงเย็นพร้อมพุ่งตัวเข้าหา  คุณเนลเข้าไปยืนขวางกลาง 

“ไปตามคุณยูมา” ไอ้กายที่นิ่งกว่าใครสั่งขึ้น 

“ไม่ต้อง” ผมห้ามพร้อมดึงตัวยูเข้ามาใกล้  เขายอมหยุดอยู่กับที่อย่างว่าง่าย   

“คุณยูพบแขกอยู่ครับ” คุณเนลบอก  สถานการณ์สงบลงครู่หนึ่ง ไอ้กายก็เดินเข้าหาไอ้เต้  ทั้งคู่ประชันหน้ากัน  ปากของไอ้กายขยับพูดอะไรสักอย่าง  ความมืดของร้านทำให้ผมอ่านปากได้ไม่ถนัด 

“อ้าว! คุณเนล มีอะไรครับเนี้ย!!” เสียงเฮียกานต์ตะโกนโผล่เข้ามาด้วยน้ำเสียงติดสนุกทักทายคุณเนลอย่างไม่ดูสถานการณ์ใด  ผมยิ้มกว้าง  เพราะรู้ว่าเฮียจงใจแก้สถานการณ์ให้เป็นไปอย่างนั้น

“ไง..กริด กาย ไม่เจอกันนานเลย มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า ?” เฮียแกล้งทักหน้าซื่อตาใส  ทุกคนต่างชะงักและเลือกที่จะผงกหัวทักทายเฮียกานต์ตอบโดยง่าย 
 
“ไอ้บ้า” ยูพึมพำว่าเสียงแข็ง  ผมกัดฟันกลั้นหัวเราะทำให้ยูมองค้อนและนำมือตีหน้าอกผมเบา ๆ 
 
“เฮียแก..เหมาะกับคุณดีออก” ผมยิ้มกวน  การที่ยูยังอยู่ในวงการนี้อย่างเฉิดฉายทั้งที่ก็ทำเรื่องที่เสี่ยงต่อชีวิตตัวเอง  หนึ่งเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คงเพราะตัวหัวหน้าต่างก็รู้ดีว่ายูเป็นที่หมายปองของเฮีย


.. ผมเห็นเฮียกานต์แอบสะกิดคุณเนลไม่ทันให้ใครสังเกต  คุณเนลจึงขอตัวและเดินตรงมาทางพวกเรา 

“ฝากด้วย!” ยูกระแทกเสียงบอกงอน ๆ ก่อนเดินกลับทางเดิม  คุณเนลที่กำลังจะผ่านไปผงกหัวให้ผมน้อย ๆ แล้วตามตูดยูเข้าห้องทำงานไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก 

“มึงว่า ไอ้เต้เนี่ย มันจะโง่เรื่องผู้หญิงไหมวะ” ผมตั้งคำถามเพื่อฆ่าเวลา 

“หรือน่าจะโง่พอ ๆ กับมึง”

“โธ่ นายครับ” ไอ้เด่นบ่นอิดออด

“มันบ้าดีว่ะ” ผมหัวเราะขึ้นจมูก

“แต่บ้าไม่เลือกที่แบบนี้ จัดว่าปัญญาอ่อนไปหน่อย” ผมบ่น

“อยู่กับกู มึงต้องใจเย็นกว่านี้นะ แบบไอ้พวกนี้..กูไม่ชอบ” ผมบอกเรียบ ๆ  ไอ้เด่นเพียงขานรับ “ครับนาย” เท่านั้น  เรายืนมองสถานการณ์ด้านนอกสบาย ๆ  เพื่อนของไอ้เต้ที่มาด้วยกันซึ่งไม่น่าจะใช่ตำรวจเข้าไปห้ามให้มันใจเย็นลง  เฮียกานต์คุยกับไอ้กายอย่างเป็นมิตร  ทั้งหมดต่างแยกตัวได้เพราะเฮียแกก่อนที่เฮียจะตามไอ้เต้และเพื่อนออกไปส่งที่นอกร้าน  ทั้งที่นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเฮียเลยสักนิด 

“เก็บมันซะ” ผมมองริมฝีปากของไอ้กายที่ขยับพูดกับไอ้กริด  แสงจากบาร์เครื่องดื่มสะท้อนเข้าพอดีด้วยไม่มีใครยืนบังจึงทำให้อ่านริมฝีปากได้อย่างชัดเจน  ไอ้กริดยังคงฮึดฮัดโมโหไม่หาย  ไม่นานให้หลังทุกคนต่างก็แยกตัวออกจากร้านไปทีละกลุ่ม  พี่ธานโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำฝั่งทิศใต้อย่างกับใครได้คิว  สงสัยคงเข้าไปหลบอยู่ในนั้นตั้งแต่เริ่มแล้วละมัง 


“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้  ยิ้มกว้างทักเฮียกานต์ที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม

ไอ้สัส! เห็นหมดแล้วสินะ” เฮียสบถยกใหญ่  พี่ธานเลื่อนเก้าอี้ข้าง ๆ เฮียกานต์ให้ผมได้นั่ง  ผมหัวเราะ  เท้าแขนลงบนเคานเตอร์พิงไว้ข้างหนึ่งโดยหันหน้าตรงเข้าหาเฮียที่นั่งหันข้างให้  ส่วนพี่ธานยืนเฝ้าอยู่ทางด้านหลังผมอยู่กับไอ้เด่น 

“ไม่ใช่เรื่องของเฮียสักหน่อยนี่” ผมแซว

“ไอ้ตำรวจนั่นเลือดร้อนเป็นบ้า เด็กใหม่ใครวะ..ไฟแรงฉิบเป๋ง” เฮียส่ายหัวด้วยสีหน้ารับไม่ได้

“มันจะใจร้อนกันไปไหนว้า อยู่วงการนี้ทำตัวให้มันใจเย็นกันหน่อยเซ่ แล้วไอ้คำพูดที่ว่า ‘มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร’ ก็ควรจะเลิกพูดได้แล้ว แบบนี้..กูถึงได้เบื่อไอ้คนที่เรียกรวมไอ้พวกนี้ว่ามาเฟีย” เฮียถอนหายใจ  ยกแก้ววิสกี้ขึ้นกระดกอย่างหงุดหงิด  ผมได้แต่ยิ้มมอง  ดูท่าเฮียแม่งจะหงุดหงิดจริง ๆ

“White house” ผมเหลือบตาสั่งบาร์เทนเดอร์ที่รอรับออเดอร์อยู่ 

“..........” อยู่ดี ๆ เฮียกานต์ก็เงียบลงไปซะอย่างนั้น  ตากลอกมองไปทางเดินทางด้านหลังที่ไปยังห้องทำงานของยูก่อนเหลือบสายตามองมาที่ผมอย่างจับผิด

“มึงมานานแค่ไหนแล้ว ?” เฮียกานต์ถามเสียงเย็น

“ก่อนหน้าเฮียแป๊บเดียว” ผมโกหกเอาหน้ารอด 

“ผมคิดว่าวันชกที่พัทยา เฮียน่าจะได้จากผมไปหลายสิบล้านนะ แบ่งให้เขาไปเท่าไหร่ล่ะ” ผมยกความดีความชอบกลับมาพูด  เฮียแสยะปากใส่  เปิดกล่องบุหรี่ขึ้นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก  ผมจึงใช้มือซ้ายที่ไม่ได้พิงเท้าเคาน์เตอร์อยู่หยิบไฟแช็กของเฮียที่วางอยู่ตรงหน้านำไปจุดให้ถึงปากของเจ้าของ

“อมยิ้มหาพ่อมึงเหรอ ไอ้สัสไฟ!” อีกฝ่ายหันมาตวาดซะดัง  ปากที่คาบบุหรี่อยู่ก็ปล่อยควันออกมาในขณะเดียวกัน

“หึ ๆ ๆ” ผมก้มหน้าฟุบลงบนเคาร์เตอร์พลางหัวเราะ  เฮียกานต์ยังไม่หยุดพึมพำต่อว่า “เกลียดรอยยิ้มมึงฉิบหาย กูอยากจะข่วนหน้ามึงนัก” ให้ได้ยินกันเท่านี้

“ได้แล้วรึยัง ?” อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“อะไรครับ ?” ผมถามกลับ  ทำเป็นไม่เข้าใจในความหมาย

“.........” เฮียกานต์ไม่ตอบ  คีบบุหรี่ออกจากปากพลางกัดริมฝีปากล่างของตนไว้

“กูถามว่ามึงน่ะ ได้ใช้ถุงยางกับ ‘เมีย’ กูไปแล้วรึยัง” เฮียถามย้ำเสียงเข้ม  ผมกะพริบตามองเฮียกานต์อย่างเนิบช้า  ปากขยับจะให้ความจริง..

“ไม่ต้องตอบ!” เฮียกระแทกเสียงแทรกขึ้น  ซึ่งมันทำให้ผมเกือบหลุดหัวเราะได้อีกครั้ง

“เช็ดแม่งเอ๊ย กูมาทำอะไรที่นี่..” อีกฝ่ายสบถบ่นด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ  ยัดบุหรี่เข้าปากอีกครั้ง  วิสกี้ถูกเสิร์ฟตรงหน้าผม  ผมจึงเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เล็กน้อย  มือหยิบวิสกี้ขึ้นจิบพลาง ๆ  เราไม่มีบทสนทนาอีกเพราะดูเหมือนผมจะทำให้เฮียกานต์ไม่สบอารมณ์เสียแล้ว 

“ดูแลให้ดีกว่านี้หน่อยสิครับ ผมอุตส่าห์ไว้ใจเฮียนะ” ผมพูด

“เหลือแต่กราบตีนนะที่กูยังไม่ได้ทำ” เฮียประชดกลับ  ผมหันไปยักคิ้วยิ้ม ๆ ให้พี่ธาน  พี่เขายิ้มกว้างเช่นกัน  ขณะเดียวกันพี่ธานก็เหลือบมองไปทางด้านหลังผมพร้อมผงกหัวน้อย ๆ  ผมจึงหันตัวกลับไปมอง  ยูเดินออกมาพอดีและตั้งใจตรงเข้าหาพี่ธานทันทีเลย

“พี่ธานยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะ” ยูชม  มือแตะลงบนปกเสื้อพี่ธานอย่างถึงเนื้อถึงตัว

“คุณยูก็เหมือนกันครับ” พี่ธานยิ้มตอบอย่างสุภาพ

“ขอบคุณ” ยูยิ้มเขิน  หันตัวกลับมายืนอยู่ตรงหน้าผมโดยตั้งใจทำเมินเฮียกานต์ที่ร่วมวงสนทนาอยู่ด้วย 

“มีอะไรต้องคุยกันเหรอ ?” ยูถาม  ประโยคค่อนข้างกำกวมแต่ฟังดูก็รู้แล้วว่าประชดที่ผมมีเรื่องต้องคุยกับเฮียกานต์

“ก็กำลังคุยว่า คุณชอบผู้ชายแบบไหนกันแน่น่ะ” ผมใส่ไฟเสียเลย 

“หึ” ยูหัวเราะในลำคอเล็กน้อย  มือจับคอเสื้อผมให้เป็นระเบียบ

“ผู้ชายจิตบริสุทธิ์น่ะ” ยูตอบ 

“พรืดดด~ คึ! หึ ๆ ๆ” ผมนำมือปิดปากกลั้นหัวเราะในทันทีเพราะเฮียกานต์นั่งสำลักควันบุหรี่ไปซะแล้ว 

“..ทำงานสุจริต” ยูขยายความ  ตามองมาที่อกของผมโดยมือทั้งสองข้างยังคงลูบไล้ไปมาอย่างใจเย็น  เฮียกานต์กลอกตาไปทางคล้ายกับกำลังระงับอารมณ์ของตนไม่ให้เถียงตอบอยู่

“ผู้ชายธรรมดาที่ไม่โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล แล้วที่สำคัญ..พูดเพราะหูหน่อยก็ดี” ยูเชิดหน้าพูดอย่างเย่อหยิ่ง

“แต่..แบบไฟก็ได้นะ” ยูฉีกยิ้มสรุปตาวาวจงใจยั่วคนข้าง ๆ  ผมนิ่งเฉยเพราะรู้ดีว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ

“งั้นไปก่อนดีกว่า” ยูตัดบท  ปากเผยอพ่นลมอย่างเบาบางก่อนผลิยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

“พอดี...” เขาทิ้งน้ำเสียงลง

“ฉันแพ้ควันบุหรี่น่ะ อ้า ~ Disgusting.” ยูเบะปากเสียงเรียบ  สีหน้าขยะแขยงส่งไปทางเฮียกานต์พลางโบกมือขึ้นปัดใกล้กับใบหน้าของตน  เดินหน้าเชิดออกไป  เฮียกานต์อ้าปากเหวอมองตาม  ปากขยับพะงาบ ๆ พูดไม่ออก

“มึงก็สูบไม่ใช่รึไงวะ!” เฮียสบถไล่หลัง  เสียงที่ค่อนข้างดังทำให้บาร์เทนเดอร์ต่างหันขวับเป็นจุดสนใจ  แต่นึกเหรอครับว่ามันจะไปกระทบต่อมใด ๆ ของยู  เจ้าตัวเดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉยเลย 

“เวรเอ๊ย” เฮียสบถ  คว้าแก้ววิสกี้ของตัวเองขึ้นดื่มจนหมด  เสียงกลืนดัง “อึก!” ให้ได้ยิน

“ดัดจริตฉิบ ไม่รู้จะกวนส้นตีนกูไปถึงไหน”

“มันเป็นเกย์ภาษาอะไร วันก่อน..จับนิดจับหน่อย ตบกูซะงั้น!” เฮียหันมาบ่นอย่างอึดอัดใจ  พร้อมคำพูดต่อท้ายว่า “ต่อหน้าลูกน้องกูด้วย” นั้นพึมพำหายเข้าไปเหมือนไม่อยากให้ผมได้ยินถนัด  นิ้วของเฮียเคาะลงที่เคาน์เตอร์สองสามทีเป็นการส่งสัญญาณบอกให้บาร์เทนเดอร์เติมเครื่องดื่ม

“อะไรที่อีกฝ่ายไม่ชอบก็เลิกทำซะสิครับ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง  เฮียกานต์จึงนิ่งลงได้

“คนแบบเขาไม่มีทางพูดหรอก เฮียก็รู้ เขาเลือกที่จะตายอย่างโดดเดี่ยวน่ะ ก็แค่..กลั้นใจไม่หนีฆ่าตัวตายตัดปัญหาไปซะก่อน ถ้าเฮียไม่เลิกเอง..ชาตินี้ไอ้จู๋เฮียไม่มีทางได้เข้าไปทะลวงร่างกายนั้นอีกรอบแน่ คนละสิบล้านดีไหมครับ ?” ผมเลิกคิ้วชี้แนะ

“มึงนี่ ..น่าหมันไส้จนน่าถีบ” เฮียกานต์หันมาว่าตาขวาง  ผมยิ้มกว้าง

“ยกพายุให้กูสิ มึงก็รู้ว่าเตี่ยกูอยากได้คนที่ไว้ใจได้มาคุมท่าเรือที่มาเก๊า แล้วกูก็อยากได้พายุ” เฮียกานต์พูด

“ไม่ให้ครับ” ผมตอบทันที  น้ำเสียงเรียบเฉยแต่ก็ยิ้มประกอบให้  เฮียกานต์กวาดหางตามองมา  เราจ้องตากันเขม็ง

“นั่นมันลูกหมาของผมนะ” ผมขยายความ  เราต่างหัวเราะให้กันในลำคอ


ปัง !!!  .. ผมกับเฮียกานต์ผงะมองหน้ากัน  เสียงแว่วคล้ายเสียงปืนเงียบไปได้ไม่ถึงวินาที

ปั้ง ! ปั้ง !!  ปั้งงง !!!!

เสียงปืนดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง  ครั้งนี้สามครั้งติดไม่มีเว้นช่วง  ไม่ทันเวลาที่เราจะพูดอะไร  ในสมองของผมนึกถึงแต่ “ยู” ที่เพิ่งออกจากร้านไปเท่านั้น  ทั้งผมและเฮียกานต์วิ่งปรี่แทบชนสิ่งของที่ขวางทางอยู่เพื่อวิ่งออกไปยังหน้าร้านอย่างเร็วที่สุด  เสียงปืนเงียบหายไปแล้ว ไปพร้อม ๆ กับเสียงมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์  ผมกับเฮียกานต์ยืนนิ่ง  ตากวาดมองหาบุคคลสำคัญที่ลานจอดรถทางด้านหน้า  หวังในใจเพียงว่าจะไม่ใช่คนของเรา  แต่แล้วก็พบร่างคุ้นตาพร้อม ๆ กับไอ้เต้ที่กำลังขยับตัวคลานเข้าไปหาร่างนั้น

“ยู !!!” เฮียกานต์อุทานดังลั่น  ฝีเท้าและสีหน้าที่วิ่งตื่นอย่างกับคนบ้าที่วิ่งหนีตัวประหลาดสักอย่างที่กลัวที่สุดในชีวิต  แต่ครั้งนี้กลับเป็นการวิ่งเข้าหา  ฝุ่นตลบโดนใบหน้าพวกเรา  เฮียกานต์ทรุดนั่งลงข้าง ๆ ร่างของยู  ผมนั่งลงเปิดมือของยูที่จับอยู่ที่เอวของเขาออก

“โทรตามรถพยาบาลสิวะ!” ผมตะคอกใส่ไอ้เต้ที่ทำหน้าถอดสีอยู่ข้าง ๆ  มันผงกหัวลุกลี้ลุกลนรับทราบและทำตามที่บอก

“ยะ ยู” เฮียเรียก  ประคองร่างกายของยูไว้  มือของเฮียสั่นคล้ายไม่กล้าจับโดนหน้าของเจ้าของร่างกาย

“แค่เฉี่ยวน่ะเฮีย” ผมบอกเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็น  ยูหรี่ตาขึ้นมองเฮียกานต์

“โดนแค่นี้ ทำหน้าพิลึก” ยูหัวเราะมองด้วยใบหน้าอ่อนโยนตามเคย
 
“ใครทำ..?” เฮียกานต์ถามเสียงสั่น

“ฉันเจ็บนะ เวลานี้..ถามอะไรไม่เข้าท่า” ยูบ่ายเบี่ยงเสียงค่อย 

“แม่งเอ๊ย! ใครทำวะ!!” เฮียตะคอกใส่อย่างขาดสติ  ดวงตาคล้ายกับจะร้องไห้  สีหน้าร้อนรนแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  เสียงคุยโทรศัพท์จากคนข้าง ๆ เงียบไปแล้ว  ผมหันไปมองหน้าไอ้เต้เมื่อนึกขึ้นได้ทำให้มันหลบตาทันที

“..มันจะยิงมึง” ผมพูดเสียงเย็นลง   

“มันตั้งใจจะยิงมึงใช่ไหม!” ผมพุ่งตัวเข้าหาแต่พี่ธานเข้ามาห้ามผมไว้ 

“กูไม่รู้! กูขอโทษ!” มันตอบ  ตัวเซถอยห่างออกไป

“ไฟ พอเถอะ” ยูเรียกด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ

“ไปด้วยกัน” ผมลุกขึ้น  ไอ้เต้เงยหน้าขึ้นมอง  มันดูงงงวยแต่ก็ยอมลุกขึ้นยืนโดยง่าย

“ไฟ ..อย่าไปนะ” ยูบอกเสียงเครือ  ผมไม่ได้มองหน้ายูอีก  น้ำเสียงนั่นนุ่มนวลเกินกว่าจะมองได้  เฮียกานต์ยังคงนั่งก้มหน้ากอดยูไว้แน่น  ฟันที่ขบกัดของเฮียมันเด่นชัดจนผมรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่คิดห้ามผมแน่  มีแต่จะรีบไล่ให้ผมไปอยู่ในใจ  เพราะถ้าผมไม่ไปเจ้าตัวก็คงจะทำอะไรสักอย่าง  ไม่ได้มีความผูกพันมากมายกับประเทศนี้อยู่แล้ว  ..นอกจากคนที่นั่งกอดอยู่นั่น



...............(ไฟ)..............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2016 17:48:52 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อยู่ไหนง่ะตอนที่ 34  :z3: :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด