The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446327 ครั้ง)

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงสมุทร  :m15:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
พึ่งเคยได้อ่านงานของคุณ Baby เป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจวางไม่ลงจริง ๆ จ้ะ  :mew1: ให้รายละเอียดได้สมจริงมาก ๆ เนื้อหาเยอะมาก คืออ่านในมือถือแบบสารภาพว่าอ่านแบบสแกนเลยจ้า  :o8: คงต้องไปอ่านทวนอีกครั้งในเล่ม ชอบบุคลิกตัวละครที่ดูมีเอกลักษณ์มาก เรื่องออกไปแนวแมน ๆ เลย อ่านแล้วลุ้นดีว่าความรักของไฟจะไปลงตัวที่จุดใด ตอนนี้เราอ่านอยู่ที่ตอน 35 น่ะจ้ะ อ่านไปก้อรู้สึกลุ้นแทนไฟมาก ๆ ชอบพี่ธานกับพายุมาก ๆ ตอนแรกรู้สึกเหมือนว่าธานน่าจะคู่กับพายุ แต่อ่านบางช่วงกลับรู้สึกว่าน่าจะเป็นโปรดแทน 5555 และบางครั้งก้ออดหมั่นไส้สมุทรไม่ได้ แต่อ่านจนถึงตอนนี้ทางคนเขียนก้อยังไม่หลุดคาแรคเตอร์ตัวละครน่ะ  o13 ไปติดตามต่อ  :mew3:

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
คิดถึงพี่ธานจังเลยค่ะ เอ๊ยยย ไม่ใช่
คิดถึงไฟขา สมุทร และเบบี้จังเลยค่ะ

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :hao7: ตอนเห็นเลขหน้า 59 รู้มั๊ยยยว่า มันกรีดร้องงงงงงง
   :katai4:ไหร่เธอจะกลับมา เมื่อไหร่หนา ฉันจะได้เจอ :call:

 :z10: :z10: :z10:

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 
:serius2: ยังไม่มาใช่มั๊ย เค้าเข้าใจ เค้า...ไปอ่านต้าข้าว อีกรอบก็ได้  :o12:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ตั้งใจ สุขใจในการอ่าน หามรุ่งหามค่ำกันทีเดียว

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ยังไงก็รอเสมอค่ะ

คิดถึงพี่ไฟ :)

ออฟไลน์ kik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
คิดถิงมากกกกกกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงคุณไฟกับสมุทร  :L2: รอ ๆ  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :o12:พี่ไฟขา น้องมารอพี่ไฟที่หน้าเล้าทุกวันเลย :katai5: รีบกลับมานะคะ น้องรออยู่  :z3:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟนะคะ

รอเสมอค่ะ :)

ออฟไลน์ PANGGii

  • ★ บังเอิญไม่มีจริง ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เข้ามาส่องดูทุกวัน คิดถึงสมุทรรรร

คิดถึงพี่ธานนนน

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
แวะมาปัดกวาดเช็ดถูบ้าน รอท่านเจ้าคุณไฟเจ้าค่ะ #พับเพียบรอเงียบๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :hao3: ยังคงเข้ามาเกือบทุกวันสิน่า ถ้าทุกคนตอบทุกวัน อิอิ ป่านนี้กี่หน้าไปแระ  :katai2-1:

รอไฟขาทุกวันเลย ทูนหัวของบ่าว  :call:

ออฟไลน์ rosekiller

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงคุณไฟและสมุทรมากๆเลย :really2:
และแอบกังวลว่าคุณเบบี้จะป่วยไข้ไม่สบายหรือเปล่า
อย่างไรก็ขอให้คุณเบบี้สุขภาพแข็งแรงนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

[ ศุกร์ที่ 5 พ.ค 60 ] ตอนที่ 43  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.1680


_ _ _ _ _ _ _ _ _ _

ตอนที่ 44
..ไฟ..



ไฟ : สติกเกอร์ส่งจูบ

สมุทร : อ่านข้อความแล้ว  /ไม่มีการตอบกลับ

ไฟ : แกะปลาสลิดให้หน่อย

สมุทร : อ่านข้อความแล้ว  /ไม่มีการตอบกลับ

“........” ผมนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ไปพลาง  เคี้ยวอาหารไปพลาง  อีกทั้งกลั้นหัวเราะไปพลาง  ข้อความล่าสุดเป็นเหตุทำให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  เอื้อมมือหยิบปลาสลิดเพื่อแกะให้ผมตามที่ขอ 


ไฟ : ว่าง่ายจังนะ

หน้าจอโทรศัพท์ของสมุทรที่วางอยู่บนตักของเจ้าของสว่างขึ้นอีกครั้งเมื่อได้รับข้อความใหม่จากผม  ครั้งนี้เจ้าของโทรศัพท์เลือกที่จะไม่หยิบขึ้นดู  แต่เขาคงเห็นข้อความแล้วจึงทำเป็นแกะปลาสลิดต่อหน้าตาเฉย  ไอ้เข้มที่กำลังกินข้าวต้มอยู่แอบชำเลืองมองมาที่มือของสมุทรที่กำลังวางเนื้อปลาสลิดลงบนจานข้าวของผม  ส่วนไอ้เด่นจะรู้อะไร  มันเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินลูกเดียว 


ไฟ : เย็นชาจัง

“หึ !” ผมหัวเราะ  ข้อความเดิมนี้ถูกส่งไปซ้ำ ๆ ถึงหลายครั้งจนทำให้สมุทรถึงกับพ่นลมหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดอ่านอย่างตัดรำคาญ

“ขำอะไรเหรอครับนาย” ไอ้เด่นถามตาใส

“ขำหน้ามึงมั้ง” ผมตอบ  หยิบตะเกียบคีบปลาสลิดที่สมุทรแกะไว้ให้เข้าปาก 


สมุทร : หยุดเล่นได้แล้วครับ

อีกฝ่ายทนไม่ไหว  ถึงกับจุ่มมือลงในขันเพื่อล้างน้ำก่อนเช็ดมือทำความสะอาด  แล้วพิมพ์ข้อความส่งกลับมาให้ผมอย่างตั้งอกตั้งใจ  พอส่งข้อความเสร็จก็เอาแต่จ้องผมเขม็งคล้ายรอให้ผมทำตามที่เขาสั่งบ้าง

“อะไร” ผมเบิกตากว้าง ๆ  ทำเป็นตีหน้าซื่อต่อหน้าทุกคน  ไอ้เข้มกับไอ้เด่นมองเราทั้งคู่งง ๆ
 
“เขาโกรธอะไรน่ะ ?” ผมหันไปถามไอ้เด่นพร้อมชี้มือไปทางสมุทรด้วย

“พี่สมุทรโกรธอะไรอยู่เหรอครับ” ไอ้เด่นถามต่อให้ผม

“หึ ๆ ๆ” ผมกัดฟันกลั้นหัวเราะ  มือที่กำลังจะหยิบช้อนเพื่อตักข้าวต้มเข้าปากกลับต้องหยุดชะงักเพราะรู้สึกเจ็บแปลบที่แผลขึ้นมา 

“เจ็บ.. แม่ง” ผมบ่น  พ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อตั้งสติ

“เป็นอะไรไหมครับนาย” ไอ้เด่นตกใจ

“โรคกรรมมั้งครับนั่นน่ะ” สมุทรสวนทันที  ผมแสยะยิ้มกว้างกับให้กับมุกนี้
 
“พรืด ! หึ ๆ ๆ ๆ” ผมกัดฟันหัวเราะ  โดนเล่นเข้าให้แล้ว

เช้าวันนี้ อาหารเช้าของพวกเราตั้งโต๊ะกันที่ระเบียงหน้าบ้าน  โต๊ะไม้แบบนั่งพื้นขนาดหนึ่งเมตรคูณหนึ่งเมตรจึงพอดีสำหรับรองรับพวกเราได้สี่คน  ผมเป็นคนเอ่ยปากเองว่าให้ทุกคนตั้งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน  อาหารของผมได้พัฒนาขึ้นจากเดิมแล้ว  ก่อนหน้านี้ที่เป็นเพียงข้าวต้มกับโจ๊กแสนธรรมดา  แถมต้องป่นจนเนื้อข้าวละเอียด  ตอนนี้ผมได้สัมผัสผักต้มกับเนื้อปลาด้วยลิ้นของตัวเอง  แน่นอนว่าแดกเองได้แล้วครับ

“ขอโทษครับคุณไฟ” ผมหันไปมอง  คนของหงส์เข้ามาหาอย่างอ่อนน้อม

“พอดีว่าพวกเรามีธุระจะเข้าไปในเมืองน่ะครับ ทางคุณไฟต้องการจะไปด้วยกันกับเราไหมครับ” อีกฝ่ายถาม  ตามองมาที่คนของผมที่นั่งอยู่ด้วย

“อยากไปไหมละ” ผมถามไอ้เด่น

“อยากไปครับ” มันตอบแทบไม่คิด

“มึงนี่มันระริกระรี้จริง ๆ” ผมพ่นถอนหายใจ  ทุกคนหัวเราะเบา ๆ

“รออีกสักเดี๋ยวได้ไหม กินข้าวใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ ฉันขอฝากมันสองคนไปด้วยแล้วกัน” ผมบอก

“ได้ครับ” เขาผงกหัวยิ้มรับ

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปรอที่รถเลยนะ” แกมองไอ้เข้มกับไอ้เด่น

“ครับ” ทั้งคู่ขานรับ

“ไปเอากระเป๋าสตางค์มาให้ฉันหน่อย” ผมสั่งสมุทร  อีกฝ่ายผงกหัวและรีบลุกกลับเข้าไปในบ้านทันที  ให้หลังไม่เท่าไหร่กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลเข้มของผมก็ถูกนำมาวางอยู่ตรงหน้า 

“คิดว่าทำอะไรดี” ผมตั้งคำถาม  ทั้งสามคนมองมาอย่างสงสัย

“ทำอาหารกลางวันสักอย่างให้คนงานที่นี่น่ะ ต้องหม้อใหญ่ใช่ไหม” ผมมองหน้าสมุทร  เขาคงรู้ดีกว่าผมและที่เหลืออีกสองตัวนี้ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอาหารสำหรับคนหมู่มากเท่าไหร่นัก  ผมอยากทำอาหารขอบคุณทุกคนที่นี่ก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯ สักหน่อย

“ครับ” สมุทรผงกหัว

“เอาเมนูที่นายถนัดแล้วกัน เพราะนายเป็นคนทำ” ผมพูด

“งั้น...เอาเป็น” สมุทรพึมพำขณะใช้ความคิด

“พะโล้หมูสามชั้นไหมครับ ทำไม่ยากเท่าไหร่ แล้วก็กินง่ายด้วย ผมเห็นที่ไร่ปลูกผักชี ในโรงครัวของที่นี่ก็มีผักคะน้ากับผักชีเป็นกะละมังทุกมื้อเลย น่าจะกินเข้ากันดีกับพะโล้น่ะครับ” สมุทรเสนอ  สายตาของเขาดูตื่นเต้นนิดหน่อย

“พะโล้ก็ดีครับ อากาศก็เย็น อยากกิน” ไอ้เด่นยิ้มกว้าง

“แล้วก็..ชาเย็นด้วยดีไหมครับ” สมุทรพูด

“เอางั้นก็ได้ ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ล่ะ เอาไปสองพันพอรึเปล่า” ผมถาม

“พอครับ” สมุทรตอบ

“งั้นสักสามพันแล้วกัน เผื่อขาด...นายก็เขียนให้พวกมันไปว่าซื้ออะไรบ้าง เอาให้ละเอียดล่ะ...ไอ้เด่นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก” ผมว่า

“นายอะ” คนถูกว่ายิ้มเขิน

“เจอพุดดิ้งซื้อมาให้กูด้วย” ผมสั่ง  อยากกินอะไรหวาน ๆ มาหลายวันแล้ว

“ได้ครับ” ไอ้เด่นผงกหัวพร้อมรับเงินไป

“ดูด้วยนะ” ผมหันไปมองหน้าไอ้เข้มเพื่อให้มันดูแลน้องชายด้วย  ฝ่ายคนเป็นพี่พยักหน้ารับ  หลังมื้ออาหารที่จำเป็นต้องเร่งรีบกะทันหันเพราะเกรงใจว่าคนของหงส์จะรอนาน  สมุทรรีบจัดแจงเขียนวัตถุดิบที่ต้องการให้ไอ้เข้มกับไอ้เด่นรับผิดชอบไปซื้อมาให้  ใช้เวลาเขียนเพียงไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย 

ไอ้เข้มกับไอ้เด่นออกไปกับคนของหงส์ตอนประมาณแปดโมง  สมุทรจัดการเก็บโต๊ะและล้างจานชาม  เขาใช้เวลาอยู่ในครัวค่อนข้างนาน  ดูท่าจะทำความสะอาดครัวด้วย  วันนี้หงส์ยังไม่กลับมาเลยเห็นว่าเธอเข้าเวรตั้งแต่เมื่อวานคืน  ผมก็นั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ค่อยได้ขยับตัวมากนัก  รู้ตัวเองดีว่าร่างกายเป็นอย่างไรจึงพยายามที่จะรักษาตัวเอง  ปู่หาญแวะมาทักทายผมหลังจากกลับออกมาจากเข้าไร่ในตอนเช้า  เรานั่งคุยและจิบน้ำชาไปด้วย  ปู่ชวนสมุทรคุยบ้าง  ส่วนใหญ่ถามเรื่องทั่ว ๆ ไปและดูท่าจะถูกคอเรื่องไร่สวน  คงเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้ผมรู้สึกง่วงนอนอีกครั้งหนึ่ง  เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนงานมาตามให้ปู่กลับเข้าไร่อีกครั้งพอดี  ผมจึงได้เวลาพักผ่อน  เลือกนอนพักที่ห้องนั่งเล่นริมระเบียง  ลมเย็น ๆ ที่โกรกผ่านประตูและหน้าต่างมุ้งลวดเข้ามายิ่งทำให้รู้สึกสบายใจ  ทิวทัศน์ที่มองผ่านระเบียงบ้านเต็มไปด้วยร่มไม้เขียวขจี  ไม่นานนักสติผมก็ทิ้งดิ่งลง...


- - - - - - - - - - - - - - -


ตับ !  ตับ !!  ตับ !!!

เสียงรบกวนด้านนอกปลุกให้ตื่น  คล้ายกับเป็นเสียงทุบหรือผ่าไม้ขนาดใหญ่  ผมลืมตามองนาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียง  บอกเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว  เด็กเล็กวิ่งกันจอแจได้ยินแว่วไกล ๆ  เสียงของไอ้เด่นตะโกนมาจากหลังบ้านตรงทางเข้าไปในไร่ว่า “เดี๋ยวมานะครับ !” เท่านั้น  ผมได้แต่นึกสงสัยว่ามันกลับมาถึงเมื่อไหร่แล้วนั่นมันกำลังจะไปไหนของมันอีก  จากนั้นลูกน้องของผมก็หายไปพร้อมกับเสียงของเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง  ผมลุกขึ้นนั่ง  หยิบโทรศัพท์มือถือเปิดออก  มีสายไม่ได้รับจากพี่ธานหนึ่งสายเมื่อยี่สิบนาทีก่อนหน้า  ผมจึงโทรกลับไป

“ครับ” ผมเอ่ยทัก  มือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ลูบใบหน้าตัวเองเพื่อปลุกให้ตื่นเต็มตา

“ขอโทษครับ ผมโทรไปรบกวนรึเปล่า” ปลายสายถามอย่างเป็นกังวล

“ไม่หรอก ผมเพิ่งตื่นน่ะ” ผมตอบ

“อาการเป็นยังไงบ้างครับ” พี่ธานถาม

“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ มีอะไรสำคัญรึเปล่า” ผมถามกลับ   

“เปล่าหรอกครับ คุณทัพเขาเป็นห่วงเลยอยากทราบความคืบหน้า”

“เป็นห่วงหรือกลัวว่าผมจะถอนตัวไม่ทราบ” ผมพูดติดตลก  ทำให้พี่ธานหลุดหัวเราะได้นิดหน่อย

“พายุกับดินเป็นไงบ้าง”

“ดีครับ คุณดินดูตั้งอกตั้งใจกับการสอบรอบนี้มากเลย แปลกตาผมอยู่เหมือนกัน” พี่ธานรายงาน  ผมหัวเราะในลำคอ

“ได้ข่าวว่า...” ปลายสายเอ่ยคล้ายกับมีเรื่องที่ต้องการจะพูด

“คุณหงส์บอกว่าคุณไปได้ดีกับสมุทรงั้นเหรอครับ”

“ประเด็นที่โทรมาเพราะต้องการรู้เรื่องนี้รึไงครับพี่ใหญ่” ผมแซว

“หึ ๆ  ถ้าปฏิเสธก็จะกลายเป็นการโกหกใช่ไหมครับ” อีกฝ่ายตอบปัดติดตลก

“ไม่มีอะไรพิเศษนะ ปกติออกครับ” ผมพูดพลางพ่นลมหายใจ

“ก็แค่...ได้อยู่ด้วยกันส่วนตัวมากขึ้นล่ะมั้ง” ผมตอบ  จะว่าคืบหน้าหรือไม่  คงต้องถามสมุทรมากกว่าที่จะมาถามผม

“ไม่โกรธเขาเรื่องที่ครัววันนั้นแล้วใช่ไหมครับ” พี่ธานถาม

“ก็...ไม่ได้โกรธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะลืมไปซะหมดหรอกนะ” ผมกวนกลับ

“คุณไฟครับ” พี่ธานทำเสียงอ่อนลงนิดหน่อย

“ถ้าคุณไม่เชื่อที่ผมพูด ถามอีกฝ่ายไปตรง ๆ เลยดีไหมครับ สมุทรก็เป็นคนตรงไปตรงมาอยู่นะครับ”

“พูดได้ดีนี่ !” ผมกระแทกเสียงชมกึ่งประชด 

“โธ่ คุณไฟครับ ผมก็แค่อยากช่วย”

“........” ผมเงียบฟัง  ปลายสายจึงหยุดพูดไปดื้อ ๆ

“ผมไม่อยากให้คุณกังวลทางนี้ ถือซะว่านี่เป็นโอกาสดีที่ได้มีเวลาเรียนรู้กันไม่ดีกว่าเหรอครับ ผมคิดว่าสมุทรก็คงได้เห็นคุณไฟอีกด้านที่เขาไม่เคยเห็นก็ได้นะครับ” พี่ธานไม่เลิกตะล่อม

“อยากได้เหรอ ?” ผมสวนถามกลับคนละประเด็น  มุมปากหุบยิ้มลงสนิท

“ครับ ?” พี่ธานขานรับอย่างสงสัย

“ฟังดูเหมือนพี่อยากได้เขามาเป็นเจ้านายอีกคนน่ะ” ผมแซ็ว

“หึ ๆ ๆ” พี่ธานหัวเราะเบา ๆ

“ผมที่ต้องนอนเตียงเดียวกับหมอนั่นทุกคืนโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันแย่ยิ่งกว่าแผลที่เป็นอยู่ซะอีกนะ” ผมพึมพำบ่นให้ฟัง  ปลายสายยังคงหัวเราะคิกคักดูท่าจะชอบใจ

“ฝากดูแลทางนั้นด้วยแล้วกัน ผมดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่เกินอาทิตย์คงได้กลับ” ผมบอก

“ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะครับ” พี่ธานรับปาก  เราไม่ได้ร่ำลาอะไรมากนักผมก็ตัดสายลงก่อน  ความหนาวเย็นทำให้ต้องหยิบผ้าห่มผืนเล็กนำขึ้นพาดบ่าติดตัวเดินออกมาที่ระเบียงบ้านด้วย 

ผมออกไปหยุดยืนอยู่ริมระเบียงตรงใกล้กับทางขึ้นลงบันได  เห็นสมุทรกำลังตักน้ำจากในโอ่งดินแล้วเทใส่ถังสแตนเลส  แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมได้อย่างทันทีคือส่วนที่ปกปิดร่างกายของอีกฝ่ายอยู่  น้ำเต็มถังแล้ว  ผมแสยะยิ้มจ้องมองสมุทรที่นุ่งผ้าขาวม้าไว้ครึ่งท่อนโดยขมวดปมไว้ที่เอวอย่างลวก ๆ  พออีกฝ่ายยืนตัวตรงขึ้นคล้ายกับมองหาอะไรสักอย่าง  ผมจึงเบี่ยงตัวหลบเข้าที่ข้างเสาในทันที  เกรงว่าคนด้านล่างจะสังเกตเห็นเอาได้ 

“เข้ม ! พี่แขวนกางเกงไว้ที่ราว เห็นกางเกงพี่รึเปล่า” สมุทรตะโกนถาม  ตามองหาของของตนที่ราวตากผ้าไม้ใผ่ใกล้ ๆ

“เอ๊ะ พี่สมุทรยังจะใส่อยู่เหรอครับ ผมเอาไปลงเครื่องซักผ้าไปแล้ว” ไอ้เข้มตอบ

“อ่าว เหรอ” สมุทรยิ้มเจื่อน

“ขอโทษครับที่ไม่ถามก่อน นึกว่าพี่จะไม่ใส่แล้วน่ะครับ” ไอ้เข้มพูด  เสียงของมันดังมาจากใต้ถุนบ้าน

“ไม่เป็นไร พี่แค่กลัวกางเกงเปียกน่ะเลยเปลี่ยนไว้ แต่ตามจริงแล้วผ้าขาวม้าสบายกว่านะ” สมุทรตอบปนหัวเราะ

“ผมก็ว่างั้น นึกถึงสมัยเป็นเด็กเลยครับ” ไอ้เข้มพูดอย่างอารมณ์ดี

ดูเหมือนคนของผมกำลังจะเตรียมทำอาหารที่ลานหน้าบ้านและคงยุ่งอยู่กับงานบ้านอีกด้วย  เตาถ่านขนาดใหญ่ถูกวางเตรียมไว้ใกล้ ๆ กับแคร่ไม้  ข้าง ๆ กับแคร่ไม้มีโต๊ะไม้ความสูงเกือบเท่าเอวตั้งอยู่  บนนั้นเต็มไปด้วยวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร  สมุทรวิ่งกลับเข้าไปใต้ถุนบ้านทำให้ผมมองไม่เห็น  ไม่แน่ใจว่าพวกมันกำลังทำอะไรอยู่  เสียงพูดคุยค่อนข้างเบา  สมุทรวิ่งกลับออกมาอีกครั้งแล้วตรงไปที่ที่ลานผ่าฟืนที่อยู่ถัดจากโอ่งดินออกไป

“ฝากด้วยนะสมุทร !” เสียงชายวัยกลางคนตะโกนมาจากทางฝั่งของโรงครัว

“ครับ !” สมุทรขานรับอย่างยินดี

ผมยืนพิงเสา  กอดอกมองอย่างตั้งอกตั้งใจกับหุ่นของคนตรงหน้าที่กำลังจับโน่นทำนี่อย่างไม่ระวังตัว  เขาคงคิดว่าผมกำลังหลับอยู่  ถ้ารู้ว่าผมตื่นอยู่เขาคงไม่ปล่อยตัวเองให้นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวแบบนี้เป็นแน่  เสียงที่ก่อกวนให้ผมตื่นจากการนอนคงเป็นเสียงผ่าฟืนจากเขานั่นละ  แถมชำนาญใช่หยอก  สมุทรแทบไม่ต้องออกแรงเลยนอกจากเล็งขวานให้ตรงตามเนื้อไม้และปล่อยขวานไปอย่างไม่ลังเล  ตั้งแต่สังเกตสมุทรมา  ดูเหมือนว่าหมอนี่มันเป็นมนุษย์จิปาถะ  เพราะทำเป็นเกือบหมดทุกอย่างจนผมไม่กังขาในประวัติการทำงานที่ผ่านมาของเขา  แผ่นหลังกับโครงสร้างของหัวไหล่ที่ผมหลงใหลกำลังจับกันเป็นก้อน ๆ  ท่าจับขวานดูมั่นคง  กล้ามเนื้อถูกเกร็งขึ้นโดยธรรมชาติยิ่งทำให้เห็นรูปร่างของร่างกายได้ชัดเจนมากกว่าเดิม  ผิวที่ถูกแดดเผาจนสีผิวเปลี่ยนเป็นส่วน ๆ ยิ่งชวนมอง  ผ้าขาวม้าที่เจ้าตัวนุ่งอยู่ทำให้เห็นกล้ามเนื้อที่หน้าท้องเรียงตัวสวยงาม  แบบว่ามัน.. น่าเลียฉิบหายเลยโว้ย !  สวรรค์...หรือว่าตอนนี้กูยังไม่ตื่น

“เดี๋ยวผมทำเองครับ” ไอ้เข้มวิ่งออกมา  ทำท่าจะเข้าไปขอขวานเพื่อรับหน้าที่ด้วยตนเอง

“ไม่เป็นไร ทำกองนี้เสร็จก็เสร็จแล้ว” สมุทรบอก

“ผมทำเองดีกว่าครับ พี่เตรียมของตั้งหลายอย่างแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดก็ยังไม่ได้หยุดเลยนี่ครับ” ไอ้เข้มยืนยันคำเดิมด้วยสีหน้าเกรงใจ

“เอางั้นเหรอ” สมุทรยิ้มน้อย ๆ  ไอ้เข้มพยักหน้า  รับขวานจากสมุทรไปรับหน้าที่ต่อ  พอสมุทรเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมถึงกับชะงัก  ผมยืนนิ่ง  คิ้วเลิกขึ้นกล่าวทักทายพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วร่างกายนั่น  ดวงตาของเขาดูเหมือนจะตกใจในทีแรก  แต่เจ้าตัวก็ยังรักษาอาการได้เก่งเหมือนเคย 

“เอ๊ะ นายตื่นแล้วเหรอครับ” ไอ้เข้มยิ้มทัก  ผมพยักหน้า  เดินลงบันไดไปหาพวกนั้น  อยากยืดเส้นยืดสายสักหน่อย

“ลงมาแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” สมุทรถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ผ่าไปทำไมเยอะแยะ” ผมถามกลับคนละเรื่อง

“เอาไปเก็บในโรงครัวครับ บางส่วนเอาไปให้คนงานที่ท้ายไร่” สมุทรตอบ

“ใช้เตาแก๊สไม่ได้เหรอ” ผมถาม

“ไม่ได้หรอกครับ หม้อมันใหญ่เกินไป แล้วต้องใช้เวลาตุ๋นนานเพื่อให้เนื้อนุ่มด้วยน่ะครับ” สมุทรตอบ  ไอ้เข้มเริ่มลงมือผ่าฟืนต่อ  เสียงเริ่มรบกวนบทสนทนา  ผมจึงเดินหนีไปนั่งลงที่แคร่ไม้ไผ่  สมุทรหายกลับเข้าไปในครัว  เขาออกมาอีกครั้งพร้อมกับอาหารในมือ

“ตอนที่คุณหลับ เด่นโทรมาบอกว่าหาซื้อพุดดิ้งให้คุณไม่ได้น่ะครับ บางร้านดูท่าว่าจะหวานมาก เด่นเลยไม่กล้าซื้อมาให้ ผมเลยให้เขาซื้ออุปกรณ์มาทำเต้าฮวยฟรุตสลัดแทน นี่ครับ” สมุทรบอกอย่างใจเย็น  ในมือยังถือถาดที่มีเตาฮวยฟรุตสลัดวางอยู่บนนั้น   

“ไม่หวานเท่าไหร่นะครับ ผมกลัวว่าคุณจะกินไม่ได้”

“ขอบคุณ” ผมบอก  สมุทรก้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมวางถาดลงใกล้มือของผม  ผมมองตามใบหน้าที่อยู่ไม่ไกลตัวเองนัก  ความรู้สึกในใจลึกลงไปสั่งงานให้ร่างกายเข้าประชิดอีกฝ่าย  สมุทรตกใจ  ทำท่าจะเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่ทันความไวจากผม  จุ๊บ !  เสียงจุ๊บแก้มดังพอให้เราทั้งคู่ได้ยินชัดเจน  สมุทรถลึงตาโตเป็นไข่ห่าน  มือยังไม่ละไปจากถาดอาหารที่ตนจับอยู่  ผมยิ้มกว้างให้กับสายตาไม่พอใจตรงหน้า  สายตาแบบที่ว่าคงลืมไปซะแล้วว่าผมเป็นเจ้านายเขาอยู่

“ตกใจอะไรกับแค่หอมแก้ม” ผมกะพริบตาปริบ ๆ

“ทั้งที่ตัวเองเคยเป็นฝ่ายล็อกคอคนอื่น แล้วสอดลิ้นเร่าร้อนเข้าปากเขามาแล้วแท้ ๆ” ผมเล่นเสียง  จงใจยียวนไม่หยุด  สมุทรเงียบไป  ไม่ยอมสบตา  มือผละออกจากถาดแล้วลุกขึ้นยืนดี ๆ  ผมกวาดตามองไม่กะพริบ  ใบหูของสมุทรเริ่มมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ  และท่าทีของเขาก็เหมือนกับกำลังเก้อเขินอยู่อย่างนั้น  ผมเองก็ไม่ใช่ว่าไม่แปลกตาหรอกที่ได้เห็นปฏิกิริยาไม่ได้คาดหวัง  แบบนี้ล่ะ ที่ผมบอกว่าเขามีเสน่ห์  ใบหน้าที่พยายามกลั้นรอยยิ้มของตนเองเอาไว้  มันแฝงไปด้วยความเก้อเขินจนทำให้อยากพุ่งเข้าใส่ให้รู้แล้วรู้รอดจริง ๆ  น่ารัก

“........” ผมกับสมุทรหุบปากเงียบด้วยกันทั้งคู่  ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจู่ ๆ เราถึงนึกเรื่องที่จะคุยต่อไม่ออก  ต่างฝ่ายต่างสบตากันเป็นระยะ  ไม่ใช่สิ เราพยายามที่จะไม่มองตากันมากกว่า 

“พี่สมุทรครับ ! แค่นี้พอไหมครับ” ไอ้เข้มหันมาตะโกนถาม  สมุทรหันตัวกลับไปมอง

“เท่านั้นก่อนก็ได้ เข้มเอาส่วนนึงเข้าโรงครัวไปก่อนนะ ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่ผ่าเอง ขอบใจมาก” สมุทรตอบ

“ได้ครับ” ไอ้เข้มขานรับ  รีบจัดแจงนำฟืนใส่รถเข็น

“รีบไปเลย” ผมไล่  ไอ้เข้มหันมาผงกหัวให้ผมปลก ๆ แล้วรีบเข็นรถเข็นเข้าไปในโรงครัวในทันที

“อย่าก่อกวนละครับ” ลูกน้องคนใหม่เอ่ยปากปรามอย่างรู้ทัน  ผมยิ้มกว้าง  เท้าแขนไปด้านหลังทั้งสองข้าง  ตาจ้องมองหน้าท้องส่วนล่างที่มองเห็นเส้นเลือดนูนชัดเจนประปราย  สมุทรเดินหนีไปที่โต๊ะวางอาหาร  เขาจัดการทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน  นำของสดออกจากถุงผ้า  บางอย่างอยู่ในถุงพลาสติก  ผมเอนตัวนอนลงบนแคร่  หางตาของคนที่กำลังยืนจัดอาหารอยู่แอบเหลือบมาทางผมบ้างเป็นระยะ  ผมนอนตะแคงเท้าแขนขวาไว้ในท่าที่กำลังสบาย  ครู่หนึ่งสมุทรก็เดินกลับขึ้นบ้านไปโดยไม่ได้บอกกับผมว่าหายไปทำอะไร  กลับลงมาอีกครั้งพร้อมกับหมอนหนึ่งใบในมือ

“หมอนครับ เดี๋ยวจะเจ็บแผลนะครับ” สมุทรบอก  ผมรับหมอนมาแล้วทิ้งตัวหนุนหมอนแทน  นอนบนแคร่ไม้ไผ่ด้วยท่าที่ผมทำก่อนหน้านี้  ถ้านานไปมันก็ไม่ค่อยสบายนักหรอกครับ 

“อากาศดีเป็นบ้า” ผมพึมพำตามองไปบนท้องฟ้า

“ให้ช่วยไหม” ผมถาม  ผ้าห่มถูกคลี่ออกห่มตัวเองไว้อย่างลวก ๆ

“ไม่ครับ ขอบคุณ” อีกฝ่ายตอบชัดถ้อยชัดคำ

“ถามไปงั้น ไม่ได้คิดจะช่วยจริง ๆ อะนะ” ผมว่า  สมุทรไม่ได้หันมามองผม  ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มนิดหน่อยเท่านั้น

“เมื่อเช้าฝึกเป็นไง” ผมถามถึงไอ้เข้มกับไอ้เด่น

“ดีครับ คงเพราะอากาศดีอย่างที่คุณบอกด้วย ทุ่นแรงไปได้เยอะเลย” สมุทรหันหน้ากลับมา

“พวกมันปีนต้นไม้เก่งใช่ไหมละ” ผมพูดถึง

“ครับ เร็วอย่างกับลิง” สมุทรหน้าถอดสี  เขาดูตกใจมากจริง ๆ

“ก็มันเป็นลิง” ผมตอบปนหัวเราะโดยไม่ได้อธิบายว่าเพราะอะไรไอ้สองคนนั้นถึงได้ปีนต้นไม้เก่งอย่างนั้น  สมุทรเองก็หัวเราะด้วยเหมือนกัน 

เขาเริ่มทยอยนำฟืนที่ผ่าไว้มาวางใกล้ ๆ กับเตาถ่าน  นั่งยอง ๆ ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่สักพักหนึ่งไฟในเตาก็ติด  ควันคลุ้งโขมง  ทำให้เราทั้งคู่ประสานเสียงกันไอเนือง ๆ  สมุทรออกปากบอกให้ผมกลับขึ้นบนบ้าน  คงเพราะเป็นห่วงอาการของผม  แน่นอนว่าผมปฏิเสธ  ขึ้นไปแล้วก็ไม่มีอะไรทำนอกจากนั่ง ๆ นอน ๆ  ผมอยากดูอีกฝ่ายทำอาหารมากกว่า 

หม้อทำอาหารขนาดใหญ่ถูกตั้งลงบนเตาถ่านพร้อมกับเทน้ำเปล่าลงไปหลายลิตร  ไข่ไก่จำนวนยี่สิบกว่าลูกถูกนำใส่ลงไปในหม้อเพื่อต้มให้สุก  ไข่ไก่พวกนี้เป็นไข่จากในฟาร์มของที่นี่ซึ่งหงส์เป็นคนสั่งให้คนงานนำมาให้ตั้งแต่เมื่อเช้านี้แล้ว  ระหว่างที่รอให้ไข่ต้มสุกสมุทรก็จัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำพะโล้ต่อไป

ให้หลังเกือบยี่สิบนาที  ไข่ต้มสุกถูกนำวางไว้บนแคร่  สมุทรจำเป็นต้องตั้งน้ำเปล่าใหม่อีกครั้งเพื่อทำน้ำพะโล้  เขายังคงกระเตง ๆ ทำโน่นทำนี่โดยที่ยังนุ่งผ้าขาวม้าอยู่อย่างนั้น  ผมคิดว่าเขาชอบนุ่งผ้าขาวม้าเป็นนิสัยอยู่แล้วเพราะเขาไม่เขินและดูเป็นธรรมชาติ  พวกผมเองเวลาที่มาพักอยู่ที่บ้านของหงส์ก็มักจะนุ่งผ้าขาวม้าเป็นประจำ  มันสะดวกสบายมากกว่าใส่กางเกงบ๊อกเซอร์  แต่สมุทรคงจะไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เขาคิดว่ามันปกติธรรมดานั้นมันไม่ธรรมดาในสายตาผม  หรือไม่ อีกฝ่ายเองก็จงใจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองถูกมองอยู่ตลอด  ก็มีกันแค่สองคน  แถมยังเงียบด้วยกันทั้งคู่  มีอะไรให้มองก็มองไป

เครื่องปรุงกำลังถูกเทใส่ลงไปในหม้อทีละอย่างอย่างใจเย็น  สมุทรยืนหันหลังให้ผมที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่  ผ้าขาวม้าบาง ๆ ตัวเดียวบนร่างกาย  แผ่นหลังของเขาทำให้ผมนึกแต่เรื่องนอกลู่นอกทางเต็มหัวไปหมด  กล้ามเนื้อระหว่างเอวมาจนถึงสะโพกแทบละสายตาไปทางอื่นเป็นไม่ได้  ขอบผ้าขาวม้าที่ถูกดึงจนตึงจากการมัดจากข้างหน้ายิ่งเน้นบั้นท้ายของเขาจนเผยให้เห็นกางเกงชั้นในได้นิดหน่อย  ความเงียบรอบตัวเกือบทำให้ผมได้ยินเสียงความคิดตัวเอง  ใบไม้กระเด็นไปไกลจากการถูกลมพัดอย่างแรง  ลิ้นที่เกลี่ยไปตามไรฟันอย่างเนิบช้าขยับพร้อม ๆ กับผมที่ลุกขึ้นนั่ง  อยากทำฉิบหาย  อยากสุด ๆ ไปเลย  มันคือความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวในตอนนี้  คิดแต่เรื่องอัปรีย์จนรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้า  หมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้สวยสะอาดกำลังถูกเทลงไปในหม้อต้ม  สมุทรยืนจ้องหม้อต้มอยู่อย่างนั้น  ขณะเดียวกันผมก็เอื้อมแขนออกไปยังเป้าหมาย  นิ้วที่โค้งงอเกี่ยวขอบผ้าขาวม้าออกอย่างแรง  ตั้งใจให้มันหลุด

“คุณไฟ !” สมุทรตกใจหันตัวกลับมาร้องเสียงหลง  มือข้างขวาของเขาคว้าขอบผ้าขาวม้าเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะหลุดออกจากตัว  ผ้าขาวม้าหลุดออกอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ เท่านั้น  ผมยิ้มกว้าง  สมุทรจิปากอย่างหงุดหงิด  รีบวางถาดใส่หมูสามชั้นที่ตนถืออยู่ลงบนแคร่ในทันที

“ก็...นายบอกให้ฉันดึง” ผมพูด

“ผมพูดตอนไหนไม่ทราบครับ !” สมุทรย้อนว่าเสียงดัง  ผมหัวเราะในลำคอ

“เล่นอะไรก็ไม่รู้ ถ้าเกิดมีคนมาเห็นเข้าละครับ” เขาดุ  คิ้วขมวดเป็นโบแต่หน้ากลับแดงชัดเจน

“ถ้าพูดตรง ๆ จะโกรธไหม” ผมถามกลับหน้าตาย

“โกรธครับ” สมุทรแทบจะกระแทกเสียง 

“โอเค” ผมพยักหน้า  กะพริบตารับทราบพร้อมผายมือขึ้นทั้งสองข้างยอมความ

“........” สมุทรหุบปากเงียบ  มือข้างขวายังคงกำขอบผ้าขาวม้าไว้แน่น  ขณะเดียวกันผมเห็นว่าหงส์กำลังเดินมาพอดี  สมุทรเห็นอย่างนั้น  ความอายของเขาก็เพิ่มทวีคูณขึ้นอีก  หงส์มองไปที่สมุทรกะหลับกะเหลือกพลางปิดปากอมยิ้มกรุ้มกริ่มคล้ายอ่านสถานการณ์ออก  สมุทรผงกหัวให้หงส์เล็กน้อยแล้วรีบมัดผ้าขาวม้าให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 18:03:50 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“โดนมันแกล้งอะไรอีกล่ะ” หงส์ถาม 

“เปล่าครับ” สมุทรปฏิเสธ  ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไป

“จะไปไหน” ผมรีบถาม

“ไปใส่กางเกงครับ” อีกฝ่ายหันมาตอบหน้าเข้มเสียงเข้ม  ดูท่าจะเคือง

“ไม่เอาน่า เปลืองเสื้อผ้าออก” ผมกะพริบตาปริบ ๆ ยียวนไม่เลิก

“จริง ๆ” ผมชูมือขึ้นทั้งสองข้างประกอบเพื่อปฏิญาณตน  ใช้น้ำเสียงอ่อนลงหวังว่าเขาจะเชื่อ  สุดท้ายสมุทรก็เลยยอมนุ่งผ้าขาวม้าเหมือนเดิม  หงส์ส่ายหัวยิ้มน้อย ๆ

“โฮ่ง ! โฮ่ง ! โฮ่ง !” เพื่อนรักของหงส์ส่งเสียงขู่คนรอบข้างมาแต่ไกล  ร็อตไวเลอร์สีดำสนิทวิ่งตรงเข้าหาเจ้าของ  สมุทรถึงกับชะงักงันอยู่กับที่  ตัวแข็งเป็นหินไปแล้ว 

“ชู่” หงส์เป่าปากปราม  บานเย็นปฏิบัติตามคำสั่ง  หยุดยืนตรงขนาบข้างกับเธอ

“นี่บานเย็น” หงส์แนะนำให้สมุทรได้ทราบ  สมุทรนิ่งไปครู่คล้ายตกใจในชื่อแปลกหูของหมาที่เพิ่งได้ทำความรู้จัก

“ชื่อน่ารักปะละ” หงส์ชมหมาตัวเอง  สมุทรหลุดขำออกมาพร้อม ๆ กับหงส์เองก็ยิ้มเช่นกัน  ใครได้ยินชื่อหมาของเธอตัวนี้ก็งุนงงในทีแรกทั้งนั้นละครับ  จนถึงตอนนี้ผมเองก็ยังรับไม่ได้เลย

“มองหน้าทำไม” ผมช้อนตาถาม  คนถูกถามจ้องกลับเขม็ง

“จะกัดกูเหรอ ? ได้กลิ่นกูแล้วไม่ถูกจมูกงั้นซินะ” ผมพึมพำพลางยิ้มให้  ยิ่งจ้องตาท้าทายอีกฝ่ายมากเท่าไหร่เสียงคำรามในลำคอก็ครางดังขึ้นมากเท่านั้น

“ฮึ ! กูก็ไม่ชอบขี้หน้ามึงเหมือนกันแหละ”

“ครืออออ”

“เอาสิ กัดเลย มึงกัดกูเมื่อไหร่ กูจะจับนายหญิงของมึงทำเมีย ถ่ายทอดสดให้มึงนั่งดูข้างเตียงด้วยเลยดีไหม แค่คิดก็น่าสะพรึงกลัวแล้วใช่ไหมละ เกิดใหม่อีกสิบชาติ...มึงก็ยังจะฝันถึงเรื่องของกูทุกวันเลยล่ะ”

“ขนาดตัวกูเอง กูยังไม่รู้เลยว่าจะทำลงรึเปล่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ผมยกไหล่  หัวเราะลั่นให้กับมุกก่อกวนเพื่อนสนิท  เล่นเองกูก็ตลกเองได้


เพี้ยะ !

“หึ ๆ ๆ” ผมตัวเซ  หน้าหันไปตามแรงที่ถูกหงส์ตบเข้ามาเต็มที่

“โฮ่ง !” บานเย็นเห่าสมทบทันทีทันใด

“อัปรีย์เกินเยียวยาจริง ๆ” หงส์พูดเรียบ ๆ  สมุทรยิ้มกว้างดูท่าจะชอบปฏิกิริยาจากหงส์  เธอเดินไปยืนเท้าเอวมองหม้ออาหารที่สมุทรกำลังปรุงอยู่  น้ำเดือดได้ที่  ส่งกลิ่นหอมมากทั้งที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี

“หอมจังนะ” หงส์ชม  คนทำอมยิ้มเล็กน้อย

“วัน ๆ กินหมูบ้าง เลือดลมจะได้สูบฉีด” ผมพูดขึ้นลอย ๆ  หมายถึงเพื่อนสนิทที่ชอบกินแต่ผักหญ้าท่าเดียว

“...กระเส่าด้วย” ผมขยายความ  หงส์กลั้นอมยิ้ม  หางตาเหล่ปรามมาทางผมที่นอนอยู่

“อยากกินมะม่วง ไปสอยให้หน่อยสิ” เธอสั่ง  เดินมานั่งลงข้าง ๆ ผม

“เดี๋ยวผมสอยให้ครับ” สมุทรพูดขึ้น  ทำท่าจะวิ่งไปแทนแทบจะทันที

“ไม่ต้อง” หงส์ออกปากห้าม  อีกฝ่ายชะงัก

“นายมีหน้าที่อยู่แล้วนี่ ฉันใช้มัน” หงส์ชี้นิ้วเจาะจงที่ผม

“เรียกไอ้เข้มสิ” ผมถอนหายใจ  ขี้เกียจขยับตัว  ไม่อยากเอาตัวเองออกจากผ้าห่มด้วย

“ไม่เอา เร็ว ๆ สิไฟ สอยมะม่วงให้หน่อย” หงส์ทำเสียงยานคาง  หน้าหงิกงอจะเอาให้ได้ 

“เฮ้อ” ผมถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นนั่ง  เอี้ยวตัวใส่รองเท้าแตะอย่างช่วยไม่ได้  หงส์ยิ้มกว้างด้วยสีหน้าพอใจ  สมุทรทำท่าจะตามผมมา  ผมจึงปัดมือไล่เขาแล้วเดินไปหยิบที่สอยมะม่วงที่วางพาดอยู่ฝั่งเดียวกับราวตากผ้าก่อนเดินมองหาต้นมะม่วงแต่ละต้นว่าต้นไหนยังมีลูกสวย ๆ หลงเหลืออยู่ 

“ผู้หญิงนี่แม่งเรื่องเยอะฉิบเป๋ง” ผมบ่นกับต้นไม้ใบหญ้า  เงยหน้าขึ้นพร้อมเล็งที่สอยมะม่วงไปยังลูกที่ต้องการ

“เอ๊ะ นายทำอะไรครับ !” เสียงไอ้เข้มโวยวายมาแต่ไกล  ผมไม่ได้หันกลับไปมองเพราะลูกที่ต้องการอยู่ค่อนข้างสูง  จู่ ๆ ภาพน้ำปลาหวานก็ผุดเข้ามาในหัวซะงั้น  น้ำลายสอจนต้องรีบกลืนเก็บมันกลับเข้าที่เดิม

“ผมทำให้ครับนาย เดี๋ยวจะเจ็บแผลนะครับ” ไอ้เข้มเข้ามาละล้าละลังอยู่ข้าง ๆ

“ว่าที่เมียมึงจะให้กูสอย มึงหุบปากไปเลย” ผมพูดอย่างตัดรำคาญ  ไอ้เข้มหุบปากสนิท  ผมหันขวับกลับไปจ้องหน้ามัน  อีกฝ่ายก้มหน้าหนีทันที

“อ๋อ...นี่มึงกะเอาเพื่อนกูทำเมียจริง ๆ ว่างั้น” ผมเบิกตาถาม  ไม้สอยมะม่วงยังคงเล็งอยู่ในท่าเดิม

“เปล่าครับ” ไอ้เข้มเงยหน้าขึ้นปฏิเสธ 

“หึ” ผมแสยะมุมปาก

“ถ้าสมมติ พายุมันมีแฟนขึ้นมามึงคิดว่าไง” ผมเลิกคิ้ว
 
“เอ่อ...” ไอ้เข้มอ้ำอึ้ง

“ให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น ขึ้นไปอยู่บนต้นมะม่วง แล้วเอาที่สอยมะม่วงสอยกระปู๋มันเล่นก็ท่าจะดี มึงอยากจะลองขึ้นไปแทนไอ้ห่านั่นก่อนไหมละ ?”

“........” ไอ้เข้มไม่ตอบ  มันยังไม่ยอมเงยหน้าด้วยซ้ำ

“หยอกเล่นน่า” ผมหัวเราะ  เสียงขั้วมะม่วงหลุดดัง เปราะ ! ได้ลูกที่ต้องการ  ไอ้เข้มเงยหน้าขึ้นมองตาม 

“เอ่อ ลูกนั้นดีไหมครับนาย” มันชี้ลูกที่อยู่ข้าง ๆ กัน

“มันสุกไป หงส์ไม่ชอบมะม่วงสุก” ผมพูด  เมื่อได้มะม่วงลูกที่ต้องการจากต้นมาสามลูก  ไอ้เข้มก็รีบเข้าไปหยิบมะม่วงออกจากตะกร้อแล้วเอาไปถือไว้เอง 

“กินไหม” ผมถามมัน

“ครับ” อีกฝ่ายผงกหัวอย่างเกรงใจ

“เอาแบบไหน” ผมถาม  เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่เคยได้สังเกตสักทีว่าไอ้เข้มกับไอ้เด่นชอบกินมะม่วงแบบไหน

“เอาพอสุกครับ” ไอ้เข้มตอบ  ผมเล็งลูกเดิมที่ไอ้เข้มชี้ก่อนหน้านี้และอีกลูกที่ค่อนข้างสุกแล้วมาพร้อมกันสองลูก  เสร็จแล้วมันก็รีบเข้ามารับไม้สอยมะม่วงจากผมไปถือไว้แทน 

“ไปล้างแล้วปลอกมาด้วย” ผมชี้นิ้วสั่ง  หมายถึงส่วนของหงส์

“ครับ”

“ผสมพริกเกลือมาด้วยล่ะ เอาเกลือนำนะ มันไม่ชอบกินหวาน” ผมสั่งทีเดียวเสร็จสรรพ  หงส์กับสมุทรหยุดบทสนทนาลงเมื่อเห็นว่าผมเดินกลับมา   

“ไม่ปลอกให้ด้วยเหรอ” เธอขมวดคิ้วมองเมื่อเห็นว่าผมกลับมาตัวเปล่า 

“ใครปลอกก็เหมือนกันแหละน่า” ผมตอบห้วน ๆ  เป็นคนไม่ค่อยชอบเข้าไปในครัว

“ไม่เหมือนสักหน่อย บางคนชอบหั่นหนา กูไม่ชอบอะ” หงส์หน้างอ  ผมถอนหายใจซ้ำอีกรอบก่อนหย่อนก้นนั่งลงบนแคร่

“หั่นพอดีคำด้วย !” หงส์ตะโกนสั่งไอ้เข้มที่เพิ่งเก็บที่สอยมะม่วงเข้าที่และกำลังจะเดินตรงไปที่ครัว

“ครับ” ไอ้เข้มผงกหัวขานรับ

“หึ” ผมหลุดขำ  เสียงลูกน้องผมมันขานรับซะหวานเชียว

“ร้านผลไม้บางที่หั่นอย่างหนา โอ้โฮ ปากคนหรือปากฮิปโป เหงือกกูถลอกพอดี” หงส์บ่นไม่เลิก  สมุทรยิ้มกว้างที่ได้ยิน  ผมเอนตัวนอนลง  หนุนหัวลงบนตักของหงส์แทนที่จะนอนบนหมอนดี ๆ อย่างก่อนหน้า  บานเย็นที่นอนเอาหน้าแนบไปกับพื้นดินเหลือบมาเห็นพอดี  มันขยับใบหน้าขึ้นชะโงกคอจ้องมองผมยกใหญ่ 

“บานเย็นเป็นเด็กดีสิ ไอ้นี่มันเด็กไม่ดีน่ะ” หงส์พูดกับหมาตัวเอง  ผมอมยิ้ม  บานเย็นเอียงคอคล้ายงุนงงก่อนยอมนอนลงเหมือนเดิมอย่างเนิบช้า

“.........” ครู่หนึ่งไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้น  สมุทรก้มตัวหยิบทัพพี  ขณะเดียวกันเขาก็เหลือบมองมาทางผมที่นอนอยู่  เราสบตากันพอดีเพราะผมนอนมองเขาอยู่ก่อนแล้ว 

“สมุทรทำอาหารเก่งจังนะ” หงส์ชม

“ไม่หรอกครับ” คนถูกชมอมยิ้ม

“แล้ว...มีแฟนรึยังล่ะ” หงส์ถามขึ้นโต้ง ๆ  แม้กระทั่งผมเองก็ชะงักกับคำถามนี้จากเธอ

“ไม่มีครับ” สมุทรหันกลับมามองหน้าหงส์  หงส์อือออในลำคอและพยักหน้าอย่างขอไปที

“แล้วทำไมไม่โกนหนวด” หงส์ก้มลงขมวดคิ้วมองหน้าผม

“ไม่มีใครทำให้” ผมตอบ  ตาเจาะจงไปยังสมุทรพลางแสยะยิ้ม  อีกฝ่ายเหล่มองผมด้วยหางตาก่อนเบือนหน้ามองไปที่หม้ออาหารต่อ

“มือมึงเป็นง่อยรึไง” เธอบ่น

“แล้วทีมึงใช้กูให้ไปสอยมะม่วงนี่มึงเป็นง่อยเหรอครับ” ผมย้อน  หงส์อมยิ้มเก้อเขิน

“สมุทรก็ ช่วยโกนให้มันหน่อยแล้วกันนะ” หงส์พูด  เธอแอบยักคิ้วให้ผมหนึ่งที  ผมยิ้มกว้างที่มันรู้ใจ

“...ครับ” สมุทรนิ่งไปครู่ก่อนขานรับอย่างเสียไม่ได้

“พรุ่งนี้กูอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม” ผมถาม

“อืม” หงส์ผงกหัว  ขณะเดียวกันผมแอบเหลือบเห็นว่าเพื่อนรักกำลังมองเข้าไปทางด้านหลังบ้าน

“เดี๋ยวก็มาน่า” ผมแซ็ว

“อะไร !” หงส์เสียงหลง  รีบปั้นหน้าตัวเองให้เป็นปกติ  ให้หลังไม่ถึงห้านาทีไอ้เข้มก็มาพร้อมกับจานมะม่วงและพริกเกลือ  มันวางเสิร์ฟให้ตรงหน้าหงส์  ส่วนมะม่วงอีกจานเป็นมะม่วงสุกซึ่งมันแบ่งเอาไปให้สมุทรกิน

“ขอบใจ” หงส์บอก  ไอ้เข้มผงกหัวน้อย ๆ  กลับเข้าหลังบ้านไปอีกครั้ง  หงส์ใช้นิ้วจิ้มพริกเกลือเพื่อตรวจสอบรสชาติก่อนเป็นอันดับแรก  ดูเหมือนจะได้รสแบบที่ชอบถึงได้ไม่เอ่ยปากบ่น

“วันนี้ที่ครัวรู้ว่าสมุทรจะทำพะโล้หมูสามชั้น ทางนั้นก็เลยทำผักต้มกับปลาร้าหลน ครบรสพอดี” หงส์ชวนคุย

“ครับ ไม่รู้ว่าจะถูกปากทุกคนรึเปล่านะครับ” สมุทรยิ้มกว้าง

“คนที่นี่กินได้หมดแหละ กินง่ายอยู่ง่าย” เธอบอก

“ตอนเย็นจะทำสลัดนะ มีสเต๊กด้วย เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” หงส์พูดกับผม

“มึงก็รู้ว่ากูยังกินไม่ได้” ผมพึมพำ

“เฉพาะของคุณ ดิฉันได้เตรียมปลาแซลมอนไว้ให้แล้วค่ะ” หงส์ย้อน  ผมอมยิ้ม  บทสนทนาจบลงห้วน ๆ พร้อมกับเสียงปิดฝาหม้อดัง แกรก  สมุทรเอ่ยปากขอตัว  เดินผ่านบานเย็นแล้วกลับขึ้นบ้านไป 

“ผ้าพันแผลแสนโอเว่อร์นี่น่ะ พรุ่งนี้ก็ถอดแล้วโยนทิ้งได้แล้วนะ” หงส์พูดเสียงแข็งเมื่อเราทั้งคู่ปลอดคน

“โอเว่อร์ห่าไร กูเจ็บจะตาย” ผมพูด

“หึ คนอื่นรู้ไหมว่ามึงชอบเขาน่ะ” หงส์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่ธานกับไอ้โปรดรู้ พายุก็ดูออกมั้ง กูก็ไม่ได้ปิดอะไร อยากทำอะไรกูก็ทำ” ผมตอบ  ขยับขาขวาขึ้นพาดไปบนขาซ้ายที่ตั้งฉากอยู่

“แล้วเจ้าตัวเขารู้รึเปล่า”

“รู้” ผมตอบ  พลิกตัวหันไปนอนตะแคง  สบตากับบานเย็นที่นอนอยู่พอดี

“เขาดู เข้าถึงยากอยู่นะ” หงส์พูดเสียงเบาลงคล้ายกับบ่นให้ฟังเท่านั้น

“........” ผมเงียบ

“ถ้ากูเป็นผู้หญิง กูไม่คิดชอบคนแบบนี้หรอก ถ้าเขาไม่รักกูจนโงหัวไม่ขึ้น อยู่ด้วยต้องร้องไห้ทุกวันแน่ ๆ  เหมือนกับที่ไม่คิดที่จะชอบคนอย่างมึงมั้ง ไม่รู้ทำไม...กูรู้สึกว่า กลิ่นฉุนเหมือนกันไม่มีผิด” หงส์รำพึงรำพัน

“หึ” ผมหัวเราะขึ้นจมูก

“เอ๊ะ กูก็เป็นผู้หญิงนี่หว่า” เธอฉงนเสียเอง 

“มึงจำได้ไหมไฟ สมัยมัธยม...ตอนที่เราขึ้นไปบนเขากันน่ะ ตอนที่ เอ่อ...หนีน้ำป่า” หงส์พยายามจะอธิบายถึงเรื่องในอดีตให้ผมได้นึกย้อนดู  ผมอือออตอบในลำคอเท่านั้น  ตามจริงไม่ว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรผมก็จำได้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเรานั่นล่ะ

“กูยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ มึงเคยพูดกลางวงเหล้าถึงสเปกของมึง” หงส์เล่ายิ้ม ๆ

“ใครสักคนที่ทำให้รู้สึกไม่เสียดายเวลาและคุณค่าที่ได้เสียสติไป คำพูดมึงน่ะ...กูนึกว่ามีโรงลิเกในป่าซะอีก ฮ่า ๆ ๆ” หงส์พูดปนหัวเราะ 

“แล้ว...ความหมายของมึงตอนนั้น มันตรงตัวแบบนี้เลยเหรอวะ” เธอเค้นขอคำตอบ   

“........” เราต่างเงียบลงหนึ่งอึดใจ  ผมยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ  แทบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองเคยพูดอย่างนั้นเอาไว้  ไม่คิดว่าหงส์จะจำเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ได้ด้วย 

“ก่อนที่มึงจะกลับกรุงเทพฯ กูอยากรู้ว่า...กับคนนี้ มึงจริงจังแค่ไหน ? ประโยคที่มึงเคยพูดบอกกับกูไว้น่ะ ใช้กับเขาได้ไหม” หงส์ถาม  ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยซ้ำ  แต่กลับทราบได้ด้วยโทนเสียงว่าประเด็นที่เรากำลังพูดกันอยู่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เราทั้งคู่จะล้อเล่นกันได้ 

“แผลที่มึงดูแลให้กูอย่างสวยงามนี่น่ะ...” ผมเอ่ยเสียงเบาอยู่ในลำคอ

“มันควรเป็นของหมอนั่นน่ะ แบบนี้เรียกจริงจังแล้วรึเปล่าวะ ?” ผมถามกลับ  เอี้ยวใบหน้าขึ้นมองเจ้าของตัก  รอขอคำตอบอย่างไม่มีการกวนตีนใด ๆ

“ไม่ใช่เล่น” หงส์ที่ก้มหน้ามองผมอยู่ก่อนแล้วตอบผมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“หึ !” เราต่างพ่นหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แล้วอีกฝ่ายเขาชอบมึงรึเปล่า”

“มันเคยบอกว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชาย” ผมเล่าถึงเรื่องวันที่เกิดขึ้นที่พัทยา

“แต่...ไม่ได้รู้สึกไม่ดี อะไรประมาณนั้นมั้ง” ผมขยายความ

“เหรอ แต่เขาดูแลมึงดีมากเลยนะ แบบว่า...เหมือนไม่ได้ทำตามแค่หน้าที่ ไม่ได้คอยแต่กลัวมึงงก ๆ เหมือนเด่นอะไรแบบนั้น คนละอารมณ์กัน ดูใส่ใจในรายละเอียด...ในฐานะมากกว่าเพื่อนมนุษย์”

“ในฐานะมากกว่าเพื่อนมนุษย์ ? เปรียบได้ดีนี่” ผมเอ่ยชม

“ฮ่า ๆ ๆ” หงส์อ้าปากกว้าง

“แต่ถ้าคิดแบบนั้นก็จะหลงตัวเองนะครับ”

“มึงก็เป็นมาแต่เด็กแล้วไม่ใช่ไง” หงส์ประชดทันที

“ในโลกนี้ไม่มีใครให้กูหลงได้มากกว่าตัวกูเองนี่ อีกอย่าง...เจ้าโลกกูก็ทรงสวยระดับมาสเตอร์พีซ” ผมพูดยิ้ม ๆ

“เฮ้ออออ !” อีกฝ่ายได้ยินถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง

“แล้วจะปล่อยไปแบบนี้เหรอ” เธอถาม 

“อือ” ผมตอบ

“ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ คนเราก็ต้องมีช่วงเวลาที่คลุมเครือกันทั้งนั้น” ผมว่า

“แล้วถ้าเกิด อยู่มาวันนึงอีกฝ่ายปฏิเสธล่ะ” หงส์ถาม  ดูเหมือนเธอจะระแวงแทนผม

“ประสบการณ์ใหม่ของกูมั้ง” ผมตอบติดตลก

“เออ ช่ายยย” หงส์แสยะยิ้มทำหน้าสนุกขึ้นมาได้ในทันที

“มันจะเป็นการอกหักครั้งแรกของมึงนี่หว่า เอาเป็นว่ากูไม่เชียร์ละกันนะ เพราะกูอยากเห็น กร๊าก” 

“ปากดี” ผมกัดฟัน  ยกมือขึ้นตีหัวเธอเบา ๆ ด้วยนึกมันเขี้ยว  ครู่หนึ่งเราสองคนต่างก็หยุดหัวเราะลงดื้อ ๆ  ลมพัดโชยมาค่อนข้างแรงทำให้กิ่งไม้ที่อยู่บนพื้นกระเด็นออกไปไกล  บานเย็นชูคอขึ้นสูงและหลับตาพริ้ม  ทำท่าอิ่มเอิบไปกับอากาศอย่างกับมันเป็นมนุษย์อย่างนั้น

“สิ่งที่มึงถามน่ะ” ผมเอ่ย  ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง  ตาเหลือบมองไปบนบ้านพักและไม่พบใคร

“ไม่ว่าจะมึง กู พี่ธาน ไอ้โปรด รึไอ้โช ความหมายคือ...”

“เราต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว ว่าถ้าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะไม่สมบูรณ์ คนที่เลือกให้เข้ามาในชีวิตจะต้องเป็นคนที่ทำให้ไม่รู้สึกเสียดายเวลาแม้แต่วินาทีเดียว พวกเราหวงแม้แต่วินาทีเดียวของเราไม่ใช่เหรอหงส์ ? ถ้าสุดท้ายมันจะป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ก็ขอเลือกอะไรที่มันเหมาะสม...ให้มายืนประชันหน้ากันแบบเพื่อนได้อยู่ล่ะมั้ง” ผมพึมพำ 

แม้ “วินาทีเดียว” กับความหลงใหลที่ผมจะมีให้กับใครสักคน  มันมีค่ามากเกินไป  ไม่ว่าผมหรือหงส์ต่างก็รู้จักกันและกันลึกลงไปเป็นอย่างดี  ถ้าคนภายนอกมองมาอาจเหมือนกับว่าพวกเราคงหลงตัวเองมากเกินไปหน่อย  แต่ผมหรือหงส์ต่างก็รู้ดีว่าเราใช้ชีวิตแบบที่ว่า  เราปลีกตัวออกจากทุกคนที่ทำให้เรารู้สึกเสียดายเวลา  แม้แค่บทสนทนาสั้น ๆ ก็รู้สึกไม่อยากที่จะพูดคุยด้วย  ไม่ต้องการทำความรู้จักหรือเรียนรู้กันให้ลึกซึ้ง  กระทั่งลูกน้อง.. เราก็เขี่ยคนที่ไม่ชอบพฤติกรรมออกไป  เขี่ยออกจนเหลือแต่พวกเราด้วยกันเอง  ถึงอย่างนั้นเรากลับไม่คิดที่จะเสน่หาพวกกันเองเสียอย่างนั้น  มันอาจเป็นเพราะว่า  โดยพื้นฐานพวกเรารู้สึกสมบูรณ์ในสิ่งที่มีอยู่กันอยู่แล้ว  และถ้าผมต้องเสียเสี้ยววินาทีที่สมบูรณ์แบบของผมให้กับใครสักคน  ผมก็ขอคนที่มีศีลสูงกว่าผมหน่อยละกันน่ะนะ   

สมุทรกำลังเดินลงมาจากบนบ้าน  เขาเปลี่ยนจากนุ่งผ้าขาวม้าเป็นใส่กางเกงบอลและเสื้อยืดสีขาวแทนแล้ว  ในมือของเขากำอะไรมาด้วยสักอย่าง  หงส์ไม่ชวนผมคุยอีก  เธอนั่งนิ่งไปสนิทจนสมุทรถึงกับกะหลับกะเหลือกมองผมกับเธออย่างสงสัย

“ลูกอมครับคุณไฟ” สมุทรแบบมือออกตรงหน้า

“หึ” ผมกับหงส์หลุดหัวเราะ  แม้แต่ลูกอมเราก็ยังคัดเลือกรสชาติที่ชอบเลย



...............(ไฟ)..............

ผู้เขียน :

สวัสดีค่ะ  หลังจากที่ห่างหายไปนาน  ที่ผ่านมาไม่สามารถปลีกเวลามาต่อให้ได้เลย  ติดหลาย ๆ อย่าง  สำหรับสองสามตอนมานี้จะค่อนข้างเบา ๆ สบาย ๆ นะคะ  (รวบรวมสมาธิสำหรับตอนหน้าไว้ล่วงหน้าก็ดีค่ะ ฮ่า ๆ ๆ  :hao6: ((อีโมนี้คือสิ่งใด))  แต่สำหรับตอนต่อไปอาจจะมาต่อได้ค่อนข้างช้า  ช่วงนี้ไม่ว่างพอที่จะโฟกัสเรื่องนี้ได้เลยค่ะ  ต้องขออภัยด้วย  อย่างไรก็ตาม ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และกำลังใจนะคะ  :ruready

เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 16:56:11 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงสมุทรกับคุณไฟมากเลย  มาแต่ละทีก็ไม่เคยจะเบานะคะ  โดยเฉพาะคุณไฟที่มีอารมณ์นำมาตลอด  จนคนอ่านเริ่มแยกไม่ออกละว่าตื่นอจริง ๆ หรือว่าฝันอยู่   :laugh:  เพราะเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะดีขึ้นมากเลย  ชอบตอนทั้งสองคนเขินกัน  ทำเอาอ่านไปก็เขินไปจริง ๆ   :heaven  ขอฉากฟิน ๆ แบบนี้อีกสักหกฉาก   :m3:  ชอบ

รอตอนต่อไปค่ะ  ปล.จะรวบรวมสมาธิ สติ ปัญญา ทุกอย่างเลยเพื่อตอนหน้า   :hao6:  (ชอบอีโม่นี้ 5555)


 :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 18:34:00 โดย Pam_ban »

ออฟไลน์ มะม่วงแรด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไฟที่รักกกกก สมุทรที่รักมากกว่าาาาา
ในที่สุดก็มา เรามาเฝ้ารอเธอที่ท่าน้ำทุกวันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
กำลังจะเข้ามาบอกคิดถึง เจอพอดี มีความสุขขขขขขขขข  :กอด1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
 :mew1: :mew1: :mew1: ชอบตอนไฟกับสมุทรอยู่ด้วยกันสองคนมากกกก

ออฟไลน์ Sadistic_seme

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
สมุทรในสายตาไฟนี่คือ เซกซี่มาก มองแต่ละทีนี่ความคิดโคตรอิโรติก ฮ่าๆๆ
อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจได้ว่าที่ผ่านมาไฟไม่จริงจังกับใครเพราะชีวิตฮีเพอรเฟ็คอยู่แล้ว มีทั้งเพื่อนทั้งน้องที่รักและใส่ใจจากใจจริงเลยไม่สนเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวสินะ แต่สมุทรนี่คือทำให้ไฟเห็นว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ตัวเองจะเสียความเพอร์เฟ็คของชีวิตตัวเองได้

ที่จริง คุณไฟของเราก็โรแมนติกเหมือนกันนะเนี้ยยยยยย กริ๊ดดด เขินแทนสมุทร :-[

อยากรู้ว่าสมุทรจะคิดเหมือนไฟบ้างไหม คุณไฟก็น่าจะคุ้มค่าพอให้สมุทรยอมรับรัก นะๆ
ชอบๆคุณไฟมีความใจเย็นรอให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่คนอ่านจะทนไม่ไหวแทน ควรจะจับกดไปเลยค่ะ โอกาสมาถึงแล้ว :hao6: :oo1:

รอนานแต่ก็หายคิดถึงไปได้บ้างอิอิ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
คิดถึงไฟสมุทรมากๆ >o<
 :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ยยยยย ตายๆๆๆๆ ... คือคุณไฟคะ? อิฉันอยากบอกว่า... คุณเก่งมาก ที่แสดงอาการ "หื่น" ออกมา เพียงแค่เอาข้อนิ้วเกี่ยวขอบผ้าขาวม้าผู้ชายคนนั้นลง (แบบทีเล่นทีจริง)  บอกกันตรงๆเลยว่า ถ้าอิฉันได้ใช้แต้มบุญสุดท้าย เพื่อแปลงร่างเป็นคุณไฟแทนได้นั้น สมุทรแกไม่มีทางได้รับโมเม้นท์ยืนลอยชายอวดซิกแพ๊ควีเชฟท้าสายลมล่อเลือดกำเดาฉันอยู่แบบนี้แน่นอน ฉันสาบาน  :haun1: :haun1: :haun1:

เบบี้เตือนมา ตอนหน้าเตรียมตัวให้ดี ตายๆๆๆๆ ไม่อยากจะคิด งือออออออ :m10: :m10: :m10:  พร้อม!!  :give2: :give2: :วู้วว1:  เลิฟนะยูวววว   :man1:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
กอดเบบี้ก่อน กอดไฟ กอดสมุทร :กอด1: :กอด1: :กอด1:   มาให้หายคิดถึง
หงส์กับไฟเพื่อนรู้ใจเพื่อนจริงๆ  สมุทรยังกับแม่ศรีเรือนเลย ทำได้ทุกอย่าง

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
แค่ไฟกับสมุทรอยู่ด้วยกันแค่นี้ก็รู้สึกมีความสุขสำหรับคนอ่านละ

คิดถึงเบบี้ที่สุด 555555555555  :กอด1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ไปแบบเอื่อยๆ ปล่อยไปตามธรรมชาติจิมๆคู่นี้ 555

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
มีฉากฟินๆให้จิ้นกันด้วย   :z1: :z1: :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด