The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 445124 ครั้ง)

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พระเอกของเบบี้แต่ละคนนี่ต้องทนมือทนเท้าใช่มั้ย XD

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
เข้าใกล้กันอีกนิดแล้ว คิดอยู่ว่าสมุทรจะยอมใจอ่อนได้ยังไงในเมื่อไฟก็ยังคงก่อกวนอยู่แบบนี้ ต้องขอบคุณพี่ธารเลยค่ะ เป็นพระเอกงานนี้ คอยไกล่เกลี่ยจนสองฝ่ายใจเย็นลงจนเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าเชื่อคือเขินแปลก ๆ เวลาสองคนนี้อยู่ลำพังด้วยกัน แต่ชอบอ่ะ เหมือนจะมีบรรยากาศสีหวานอ่อน ๆ ลอยอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับใบหน้าอันฟกช้ำทั้งของไฟและสมุทร  :L2:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ยาวมากกกกกกกกก แล้วเปิดเรื่องมากเรางงเลยทำไมถึงต่อยกัน คุณไฟนี่ร้ายจริงๆถึงกับเผากับเลยหรา ร้ายร้อนแรง 5555
ขอบคุณค่ะ  :กอด1:

เกิดเรื่องชกต่อย  :z6: ตั้งแต่ตอนที่ 9 แล้วนะคะ  :mew1: :heaven

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ค่าขนมพอใช้ไหมจ๊ะ น้องเมฆ
555555555
เอ็นดูเหลือเกินนน

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ไฟกับสมุทรนี่จะมีมุ้งมิ้งกันได้ยังไงนึกภาพไม่ออกเลย

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
รอตามๆสนุกมากๆๆๆ อยากให้ต่อเร็วแต่เรารอได้นะ นานแค่ไหนก็รอ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
รออย่างเข้าใจ มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขอบคุณค่ะ :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ธานกับสมุทร มีนิสัยคล้ายๆกันอยู่มาก  ทั้งเรื่องความใจเย็น






และ ทนความ กวนประสาทองคุณไฟได้







คุณไฟ มีสมุทรมาอยู่ข้างๆแบบนี้ คง"ฟิน"ทั้งวันแน่ๆ







สนุกกับการคอยลอบสังเกตุอารมณ์ ของคนหน้านิ่ง







แต่ ต้องทำใจหน่อยนะ สมุทรนะ แกล้งให้อารมณ์ร้ายๆขึ้นย้าก กว่า แย่พายุอีก






พี่ธาน ดูจะมองคุณไฟได้ทะลุกว่าทุกคนนะ รู้ด้วยว่าสมุทร จะมาเป็นนายอีกคนของบ้าน ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
อะไรอ่ะไฟ มีทำตัวไม่ถูกด้วย
คิดอะไรกะสมุทรละหรอ
แต่เดาไม่ถูกเลยจะรักกันยังไงะคู่นี้
เจอกันแต่ละทีก็กวนตีนใส่กันตลอด
หรือจะรักกันเพราะความกวนตีนนะ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
อ่าน2ตอนรวดปวดตับกับไฟคือจะกวนไปไหนนี่ถ้าไม่ได้พี่ธาน

ที่ทำหน้าที่แทบจะเป็นพี่ใหญ่อยู่ด้วยกว่าสมุทรจะเข้าใจนี่ไม่ต้องต่อยกัน

ฟันร่วงหมดเลยหรอ...

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
นี่มันนางทาสหรือป่าว........ 5555555555

คู่หลักเขา ทรงจะใกล้ได้กันแล้วแหละ ไม่ต้องกังวลละ ทั้งทำตัวไม่ถูก ทั้งสนุกแฮปปี้ที่มีเธอขนาดนี้ ...ผ่านนนนนน

ชอบตอนพี่ไฟพี่ธานพูดเล่นกันว่าจะเอาโบนัสให้ไอ้เด่น พอพี่ธานบอกให้ไอ้เข้มแทนได้มั้ย หลุดขำกร๊ากเลย บ้าเอ้ยยยยย เจ้านายลูกน้องไปเปิดคณะตลกมั้ยคะ
พี่ธานแบบรู้ใจพี่ไฟมากกกกกกกก รู้ยิ่งกว่าเจ้าตัวรู้ใจตัวเองอีกมั้ง 555555 มีหนีไปตอนเขาทำแผลกันด้วยนะ แล้วแซวตลอดจ้าาาาา ทั้ง "ชอบสมุทรหรอ" "มีความสุขพอดูเลยนะ" แล้วก็ "นายใหญ่อีกคนของบ้าน" คือแบบ... หนูยกให้พี่ธานเป็นชิปเปอร์ไฟสมุทรหมายเลข1เลย ทำงานได้ดี เยี่ยมๆ 5555555

พี่ไฟนี่ขี้แกล้ง แล้วยังปากไม่ดีอีก สงสารสมุทรล่วงหน้าเลย
อ่อ... เป็นทั้งซาดิสทั้งมาโซเลยด้วย น่ากลัวเหลือเกิน



ชอบอ่ะะะะะะะะะะ ขำๆโหดๆ
ตอนอยู่ด้วยกันต้องสนุกแน่ๆ แง้ อยากอ่านต่อแล้ววววววววววววววว
รักและรอ คึคึ

ออฟไลน์ in_blu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
ทำไมรู้สึกเหมือนเห็นองค์ข้าว อยู่ในตัวไฟ และก็องค์พี่ต้าร์ อยู่ในตัวสมุทร ฮ่าาาาา


ออฟไลน์ Zxjmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านทันแล้วววววววววววว

ออฟไลน์ poompoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
อ่านตอนนี้แล้วทำไมรู็้สึกว่าไฟกำลังตามจีบสมุทร มากกว่าตามไปทำงานด้วยละเนี่ย


ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เบบี้หายไปนานเลย เป็นแฟนรุ่นเก่ามากถึงมากที่สุด 5555

ยินดีต้อนรับกลับนะคะ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
คุณไฟนี่เหมือนหมาบ้าเลยนะ 5555

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อยากอ่านตอนเขาอยู่ด้วยกันแล้วววววว มาเร๊วววววววววววววววววววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ my.atty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หายไป 2 ตอนนน อื้มหืมมมม  ชอบๆๆๆๆ  :katai1:   พี่ไฟน่าร้ากก สมุทรก้นะ ร้ายกาจเช่นกัน 5555 

รักกันไวๆๆนะคะ รอเชียร์ แต่น่าจะนานหน่อย แบบไม่ยอมกันอ่ะเนาะ   :ling1:

รอตอนต่อไปอย่างจดจ่ออ  :pig4:

ออฟไลน์ NCJung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 988
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-5
นี่นึกภาพให้สมุทรรับไม่ออกจริงๆ ก็ดูแมนๆอยู่พอๆกับคุณไฟ งืมมมมม

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่ 11
..ไฟ..




เมื่อวานหลังจากที่ผมได้พูดคุยข้อมูลคร่าว ๆ กับสมุทรไปแล้ว  ผมให้พี่ธานโทรไปแจ้งลาออกให้กับเขาและทราบกับทางบริษัทว่าสมุทรได้ไปยื่นใบลาออกด้วยตนเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ผมอนุญาตให้สมุทรกลับบ้านเพื่อไปเตรียมตัวเตรียมใจและจัดแจงเรื่องต่าง ๆ ของเขาเสียให้เรียบร้อย

"คุณไฟครับ สมุทรมาแล้วครับ" พี่ธานเดินมาบอก  ผมชะงัก  มองหน้าพี่ธานด้วยความแปลกใจเพราะตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงยี่สิบเท่านั้นเอง  ผมได้บอกกับเขาว่าการเริ่มงานของทุกวันคือแปดโมงเช้า  สายสุดไม่เกินแปดโมงครึ่ง  เขาจะต้องมาถึงที่บ้านของผมซึ่งผมจะตื่นหรือไม่ตื่นก็ตาม  เขาจะต้องมารอ 

ผมเหลือบไปมองเห็นสมุทรเดินเข้ามาตามที่พี่ธานรายงาน  เขามองหน้าผมคล้ายสงสัยที่เห็นผมและพี่ธานดันจบบทสนทนาลงดื้อ ๆ สมุทรชะลอฝีเท้าลงและมองเราสองคนอย่างประหม่า
 
"วันนี้ทำข้าวต้มเห็ดหมูสับนะ!" ทุกคนหันไปตามเสียงของพายุที่เดินมาบอก  พายุชะงัก  มองคนแปลกหน้าที่เพิ่งเข้ามาในบ้าน

"พายุ..นี่สมุทร" ผมแนะนำ  พายุยืนมองหน้าสมุทรนิ่ง ๆ ก่อนยกมือไหว้และอมยิ้มให้เล็กน้อย  สมุทรรีบยกมือรับไหว้แล้วยิ้มกว้างตอบทันที 

"นี่พายุ..น้องชายฉัน เอ่อ..คนละแม่น่ะ" ผมบอกไว้ก่อนเพื่อกันความเข้าใจผิดแบบระยะยาว

"สวัสดีครับ" สมุทรผงกหัวยิ้มให้อีกครั้ง 

"กินข้าวด้วยกันนะครับ" พายุชวน  สีหน้าของมันยังคงเรียบ ๆ ตามเคย  ผมเหลือบมองไปที่สมุทรว่าเขาจะตอบตกลงหรือเปล่า 
ปกติพายุไม่ค่อยชอบอยู่กับคนแปลกหน้า  หน้าตาย  ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับคนที่ไม่ต้องการสนิทด้วย  ไม่ชอบร่วมโต๊ะอาหารกับคนอื่น  ไม่ชอบรู้จักใครใหม่ ๆ หวงอาณาเขต  ชอบอยู่คนเดียว  ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่มันอยู่ในโลกส่วนตัวของมัน  ใครที่ไม่สำคัญในชีวิตมันแล้วละก็  คน ๆ นั้นจะเป็นจะตายยังไงมันก็ไม่สน  แต่ในทางตรงกันข้าม  พายุสามารถแสดงละครได้เก่งพอควร  มันรู้จักการเข้าสังคม  หลายครั้งที่พ่อพามันไปงานต่าง ๆ แม้พายุจะไม่ชอบแต่มันก็รู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในงานนั้นเสมอ  รู้ว่าเมื่อไหร่คืองานและจำเป็นต้องทำ  รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ  อย่างเรื่องของสมุทรเองก็เช่นกัน  ถ้ามองมุมหนึ่งแล้วเขาก็คือลูกน้องคนใหม่อีกคนหนึ่งเท่านั้น  ซึ่งพายุไม่จำเป็นต้องทำเป็นว่าเอาใจใส่หรืออยากรู้จักเลยก็ได้  เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งปกติที่มันชอบที่จะเป็นน่ะนะ

"ขอบคุณครับ แต่ผมกินมาแล้วน่ะครับ..ขอโทษด้วย" สมุทรอมยิ้มเจื่อน ๆ อย่างเกรงใจ  น้ำเสียงนุ่มนวลนั่นเป็นการปฏิเสธที่ฟังดูดีมากทีเดียว

"งั้นเหรอ" พายุพึมพำด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย  ผมแอบยิ้มเพราะตลกหน้าน้องตัวเอง

"ไอ้ดินล่ะ" ผมถามถึง

"ยังไม่ลงมาเลย" พายุพูดหน้าบอกบุญไม่รับ

"ดิน!" ผมตะโกนเรียก

"ค้าบ!!" ไอ้ดินตะโกนตอบทันที

"พอเป็นเฮียเรียกแล้วตอบอย่างไว ทีคนอื่นเรียก..เรียกให้คอแตกตายกว่าจะตอบ" พายุบ่นแล้วเดินหนีไป

"มากินข้าว เดี๋ยวสาย" ผมพูดเสียงค่อนข้างดัง  กลัวว่าไอ้ดินจะได้ยินไม่ชัดเนื่องจากว่าห้องนอนของไอ้ดินอยู่ห่างจากตรงที่ผมยืนอยู่นี้พอสมควร  บางทีก็แอบคิดว่าบ้านกว้างขวางไปก็ไม่ดีเท่าไหร่  อะไร ๆ ดูจะตามยากไปหมด 

เพียงครู่เดียวไอ้ดินก็วิ่งลงมาพร้อมกับกระเป๋าเป้เตรียมไปโรงเรียน  มันหันมาเห็นสมุทรแล้วก็ชะงักด้วยสีหน้าสงสัยอีกคน  ไอ้ดินยกมือไหว้สมุทรทันทีทั้งที่ไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อน

"นี่..สมุทร" ผมบอก  ไอ้ดินผงกหัวยิ้มรับ

"นี่ลูกน้าฉัน ชื่อดิน" ผมบอกสมุทร

"หวัดดีครับ" สมุทรผงกหัวยิ้ม ๆ

"พี่คนนี้ใครเหรอเฮีย" ไอ้ดินยิ้มกว้างถามหน้าซื่อ  ไม่ได้รู้จักมารยาทหรือกาลเทศะตามสไตล์มันเหมือนเคย

"เพื่อนกู ไปกินข้าวเลยไป" ผมตัดบท  ผลักหัวมันไล่ส่ง ๆ เพราะเรื่องนี้ไอ้ดินไม่จำเป็นต้องรู้ละเอียดก็ได้  เปลืองเวลาที่จะอธิบายเปล่า ๆ

"เพื่อนเฮีย เฮียมีเพื่อนด้วยเหรอเนี่ย!" ไอ้ดินเดินไปบ่นไปหน้าเครียด  แต่ผมว่ามันกำลังกวนตีนผมมากกว่า

"พาไปรอที่ห้องนั่งเล่น" ผมสั่งพี่ธาน  พี่ธานพยักหน้ารับ

"รอแป๊บแล้วกัน ฉันขอกินข้าวก่อน" ผมบอกสมุทร

"ครับ" สมุทรพยักหน้าตอบ  ผมเดินไปที่ห้องกินข้าว  พายุกับไอ้ดินกินนำกันไปก่อนแล้ว 

"คุณไฟจะรับอะไรเพิ่มไหมคะ" ป้าอิ่มยืนอยู่ข้าง ๆ โต๊ะอาหารยิ้มถาม  ผมมองไปที่ถ้วยข้าวต้มของตัวเองที่พายุน่าจะเป็นคนตักเตรียมไว้ให้  ไอ้คนทำเองก็รู้ว่าผมเกลียดการกินข้าวต้มตอนเช้าที่สุดแต่มันก็ยังจะทำ 

"ไม่ครับ" พายุชิงตอบ  เหมือนบังคับให้ผมกินข้าวต้มฝีมือมันให้จบ ๆ ไป  ป้าอิ่มก้มหน้ายิ้ม ๆ แต่ยังคงไม่ไปไหนเหมือนรอคำสั่งจากผมคนเดียว

"ไม่ครับ" ผมบอกป้าอย่างตัดใจ  ป้าอิ่มพยักหน้ารับ  ผมถอนหายใจและเริ่มหยิบช้อนคนอาหารตรงหน้า

"อร่อยไหม" พายุถามทันทีที่ผมเพิ่งกินข้าวต้มคำแรกเข้าปาก  ผมพยักหน้าตอบส่ง ๆ มันยิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจในคำตอบที่ได้รับ  อันที่จริงผมคิดว่าพายุไม่ต้องการจะทราบรายละเอียดปีกย่อยของรสชาติอาหารชามนี้มากกว่า  มันต้องการแค่ให้ผมแดกเข้าไปก็พอ

"เฮีย..อย่าลืมให้เงินดินนะ" ไอ้ดินทวง  ผมพยักหน้า  ตั้งหน้าตั้งตากิน

"ดินขอเพิ่มอีกสี่ร้อยนะครับ ค่าทำรายงานน่ะ" มันว่า  ผมเงยหน้ามองมัน

"รายงานอะไร" ผมถาม

"รายงานวิทยาศาสตร์..รวมกลุ่มกับเพื่อนหกคน เป็นโครงงานอ่ะ" ไอ้ดินรีบอธิบาย

"งานเสร็จแล้วเอามาให้กูดูด้วย" ผมตัดบท

"นี่เฮียไม่เชื่อใจดินเหรอ" ไอ้ดินโวยวาย

"อืม" ผมพยักหน้าตอบอีก

"ขอสี่ร้อย ทำอย่างกับสี่หมื่น" ไอ้ดินบ่นพึมพำ  ผมอมยิ้มไม่ได้ว่าอะไร

"หึหึ" พายุหัวเราะชอบใจ

"เดี๋ยวมึงเอาให้มันก่อน" ผมบอกพายุ  พายุพยักหน้ารับ

"เฮียจะให้เค้าทำงานอะไร" พายุเปลี่ยนเรื่องถามถึง
 
"ติดตามกูไง งานสบายดีออก" ผมเบะปากตอบส่ง ๆ

"ติดตามเฮียเนี่ยนะสบาย" พายุกับไอ้ดินพูดขึ้นเสียงสูงพร้อมกัน  ผมหัวเราะ  ขำหน้ามันทั้งสองคน

"พี่ธานมีงานเยอะแยะ กูจะให้พี่ธานเลิกดูงานที่ตลาด ช่วงนี้คงต้องให้หมอนั่นช่วยดูที่ตลาดไปด้วยจนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง" ผมว่า  ผมไม่อยากให้พี่ธานจัดการงานที่ตลาดแทนระหว่างปรับปรุง  ไม่ใช่ว่าพี่ธานจะทำไม่ได้หรือผมไม่ไว้ใจ  แต่ผมสามารถดูเองได้  ผมอยากให้พี่ธานไปทำงานส่วนอื่นได้เต็มที่  อย่างงานประจำที่สนามแข่งรถ  ถ้าพี่ธานอยากจะทำอย่างเต็มตัวผมก็ไม่ได้ว่าอะไร  อีกอย่างงานหินอีกงานคือการตามติดลูกหนี้ของผม  ซึ่งเป็นอีกงานสำคัญที่พี่ธานรับหน้าที่รับผิดชอบเป็นหลักด้วย

"..พี่คนนั้นเค้าไม่ใช่เพื่อนเฮียใช่ไหมล่ะ ดินดูออกหรอก เพราะเพื่อนเฮียมีแต่ประหลาด ๆ พี่คนนั้นดูปกติจะตาย..ฮ่า ๆ ๆ" ไอ้ดินอ้าปากกว้าง  พูดเองหัวเราะเอง  ผมเลยต้องเอื้อมมือตบกะโหลกปรามมันไปทีนึง  ผมอมยิ้ม  แอบนึกว่าถ้าพวกมันได้รู้จักกับไอ้โชละก็  สงสัยผมได้โดนประณามกว่านี้เป็นแน่  ที่ผ่านมาผมกับไอ้โปรดปิดเรื่องที่พวกเรายังคงติดต่อกับไอ้โชอยู่  ที่จริงก็ไม่ถึงกับขนาดปิดเป็นความลับ  แต่เราทั้งสามคนเหมือนรู้กันดีว่าการไม่พูดบอกใครคงจะดีและปลอดภัยกว่า  เพราะทั้งผมและไอ้โปรดไม่มีใครเดาใจไอ้โชได้เลยว่ามันต้องการจะเอายังไงกันแน่  ส่วนใหญ่เราจึงไม่พูดถึงไอ้โชต่อหน้าใคร

"อิ่มแล้ว" ผมบอก  วางช้อนลงแล้วหยิบน้ำมาดื่ม  เป็นการกินข้าวต้มไปได้ครึ่งชามด้วยความรวดเร็ว  พายุเหลือบดูผลงานในชาม  ดูท่ามันคงพอใจถึงได้ไม่ปริปากบ่นออกมา  ผมหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากก่อนดื่มน้ำจนหมดแก้วอีกครั้ง  แล้วจึงนำกระดาษทิชชู่แผ่นใหม่เช็ดปากซ้ำอีกทีหนึ่ง  ทำแบบนี้ทุกครั้งหลังกินอาหารเสร็จจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว

"รีบไปเรียนล่ะ" ผมมองค้อนไอ้ดินก่อนลุกเดินออกมาจากห้องแล้วตรงไปที่ห้องนั่งเล่น  สมุทรกำลังนั่งอ่านหนังสือนิตยสารมวยอยู่ตรงโซฟาหันมามองผม  พี่ธานไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว 

"มาเช้าดีนี่" ผมชม  นั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้ามกับเขา

"ตกลง..ตัดสินใจได้รึยังว่าจะเรียนต่ออะไร" ผมถาม  สมุทรพยักหน้าตอบ  เขาหลบสายตาลงเหมือนกับคนที่มีท่าทางกังวลใจ

"ว่ามาสิ" ผมเร่ง

"เอ่อ ผมอยากเรียน ..วิทยาศาสตร์การกีฬาน่ะ" สมุทรหันมาสบตา  ผมมองเขาด้วยความฉงน

"...ไม่ได้เหรอครับ" สมุทรถามทันที

"เปล่า..ได้สิ" ผมตอบกลับทันทีเช่นกัน  ทำเอาฝ่ายตรงข้ามยิ้มสบายใจออกมาได้

"แต่ว่า มันไม่ตรงกับสายที่นายจบมาไม่ใช่เหรอ" ผมพูด

"ครับ..ผมทราบ ผมดูรายละเอียดมาแล้ว ผมอยากเรียนมหาวิทยาลัย U เค้าอนุญาตให้เทียบหน่วยกิตได้บางหน่วยกิต..แล้วก็ไม่ได้บังคับเข้าเรียนน่ะครับ จะได้ทำงานให้คุณได้เต็มที่กว่านี้ด้วย" สมุทรพูด

"แล้วฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันไม่อยากให้นายเข้าเรียน นายมีหน้าที่เรียนก็เรียนไป..แค่นั้นเอง" ผมขมวดคิ้วอย่างอดว่าไม่ได้ที่เขาตัดสินใจเอาเอง

"ผมตัดสินใจแล้ว ถ้าคุณอยากให้ผมเรียน..ผมจะเลือกแบบนี้" สมุทรพูดย้ำ  เราต่างเงียบลงครู่หนึ่ง  เบือนหน้ากันไปคนละทาง  ผมถอนหายใจเบา ๆ

"อีกอย่าง..ถ้าเกิดน้องผมเป็นอะไร ผมก็จำเป็นจะต้องขาดเรียนอยู่ดี..มีค่าเท่ากันแหละครับ เมฆเค้า..ป่วยบ่อยน่ะ" สมุทรพูดขึ้นเหมือนพยายามจะอธิบายให้ผมเข้าใจ  ผมยอมความเพราะนี่มันอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกที่จะไม่เรียนต่อมาตลอดเลยก็ได้ละมัง 

"ก็ได้" ผมพยักหน้า

"แล้ว..ทำไมถึงอยากเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาล่ะ นายไม่ได้ชอบด้านก่อสร้างหรอกเหรอ"

"ผม..อยากเรียนมานานแล้ว แต่ว่า..ตอนนั้นมันเลือกไม่ได้น่ะ" สมุทรตอบตะกุกตะกัก  เขาเท้าแขนลงบนหน้าขา  ระหว่างพูดเราก็ไม่ได้มองหน้ากันเท่าไหร่นัก

"เอ่อ ตอนนั้นมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกนะครับ..แต่ผมเลือกเอง" เขายิ้มเล็กน้อยเหมือนต้องการให้ผมเปลี่ยนมุมความคิดที่กำลังคิดอยู่  ผมอมยิ้ม

"แล้วมวยล่ะ ชอบแค่ไหน" ผมจ้องหน้าเขาตรง ๆ สมุทรนิ่งลงทันที

"ผมชอบมวย แต่ผมไม่ชอบเวทีมวย" เขาตอบเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับจ้องตาผมกลับเช่นกัน  สายตาเรียบขรึมคล้ายกับเป็นการย้ำบอกอะไรบางอย่าง

"ทำไม" ผมถาม  มองอีกฝ่ายไม่กะพริบ

"...มันเหนื่อย" สมุทรตอบและเหหน้าหนีเหมือนไม่อยากจะพูดถึงอีก  ผมเหลือบสายตาต่ำลง  เราต่างไม่รู้จะพูดอะไร  ในความหมายของคำตอบนี้ผมเองก็พอจะเข้าใจดีอยู่ลึก ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่  แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็น  ผมไม่สนใจว่าเขาจะต้องการเวทีมวยหรือเปล่า  ประเด็นของผมคือ..นี่จะเป็นหนึ่งในงานของเขาด้วย 

"งั้นฉันก็ขอแสดงความเสียใจด้วยแล้วกัน ที่นายคงจะต้องคลุกคลีกับมันไปอีกสักพัก..ใหญ่ ๆ" ผมถอนหายใจพูดบอก  สมุทรหันกลับมามอง  ผมอมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ให้

"เรื่องนี้เอาไว้ก่อน" ผมตัดบทจบเพราะยังไม่ต้องการอธิบายอะไรที่ยังไม่มาถึง

"ฉันมอบหมายงานให้พี่ธานไปทำหลัก ๆ ด้านอื่นแทน ดังนั้น..งานส่วนที่ปกติพี่ธานต้องทำ นายต้องมาดูแทนพี่ธาน เอาเป็นว่าเรียนรู้กันไปก่อน" ผมพูดเข้าเรื่อง  สมุทรพยักหน้ารับเป็นงานเป็นการเช่นกัน

"เดี๋ยวพี่ธานจะอธิบายคร่าว ๆ ให้ ว่าที่นี่เราอยู่กินกันยังไง ทำงานอะไรกันบ้าง..นายมีอะไรก็ถามพี่เค้าแล้วกัน" ผมบอก

"ครับ" สมุทรตอบรับ

"ก็ไม่เชิงว่าเราอยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้องหรอกนะ" ผมพูด  สายตาเหลือบมองไปทางอื่นบ้างเป็นระยะเพราะไม่ค่อยอยากจะพูดเตือนถึงเรื่องนี้เท่าไหร่

"เพราะถ้าเคารพกันแบบพี่น้องมากเกินไป บางคนมันก็จะไม่รู้สถานะจริงของตัวเอง ดังนั้น..ฉันขอแค่ความซื่อสัตย์ต่อกันก็พอ" ผมบอก  สมุทรพยักหน้ารับอีกครั้ง

"งานประจำของนายอีกอย่างคือ เป็นเทรนเนอร์ให้ที่ค่ายมวยสาขาใหญ่ของฉัน" ผมพูดพร้อมกับเอื้อมไปเปิดสมุดบันทึกแล้วยื่นกระดาษโน้ตที่เขียนรายละเอียดงานของสมุทรไว้ไปให้เขา  สมุทรรับไปดู

"ทุกวันศุกร์ เสาร์ แล้วก็อาทิตย์..ตามเวลาที่ฉันเขียนไว้ นายจะต้องอยู่เป็นเทรนเนอร์ในที่ค่าย ในค่ายสาขาใหญ่เรามีเทรนเนอร์ประจำอยู่สิบสี่คน รวมนายไปด้วยก็เป็นสิบห้า..ตารางก็สับเปลี่ยนกันไป แต่นายจะประจำตามวันเวลานั้น" ผมอธิบาย

"ที่นั่นมีเทรนเนอร์ประจำอยู่แล้ว เค้าจะรู้ว่านายทำงานให้กับฉันด้วย ดังนั้นวันไหนที่นายต้องทำงานอยู่กับฉันแล้วไปทำงานที่ค่ายไม่ได้ ถ้าโทรไปบอกเจ้าหน้าที่ได้ก็โทรไปบอกหน่อย..แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ที่นั่นเค้ารู้อยู่แล้ว" ผมบอก
 
ผมนัดกับที่ค่ายมวยไว้เรียบร้อยแล้ว  พนักงานออฟฟิตที่ทำงานเกี่ยวกับการจัดการค่ายทั้งหมดจะอยู่ที่สาขาใหญ่  ซึ่งออฟฟิตจะรับผิดชอบงานในส่วนจัดเตรียมเทรนเนอร์  จัดตารางงานต่าง ๆ ให้กับนักมวยและเทรนเนอร์  ติดต่อลูกค้า  เรื่องบัญชี  เรื่องทนาย  ตารางการแข่งขันต่าง ๆ เรียกว่า หน้าที่เดียวที่ไม่ต้องรับผิดชอบคือสอนมวยนั่นละ  คนที่ค่ายและที่ออฟฟิตรู้ดีว่าลูกน้องคนไหนทำงานกับผมบ้าง  และเป็นที่ทราบกันดีว่าลูกน้องคนไหนที่ทำงานส่วนตัวกับผมจะมีตารางที่ไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่  ดังนั้น..การทำงานจึงมีการยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา

"ส่วนอีกแผ่นเป็นตารางฝึกของลูกน้องฉันที่นี่ ปกติก็จะตามนั้น..แต่สำหรับนายที่บ้านอยู่ค่อนข้างไกลกว่าพวกมัน นายก็มาซ้อมเฉพาะวันที่ฉันขีดแดงไว้..ถ้าไม่มีงานเข้ามาฉุกละหุกก็จำเป็นต้องทำ" ผมบอก

"วันอาทิตย์ หลังเทรนเนอร์เสร็จ..คือวันหยุดของนาย"

"ครับ"

"ส่วนวันอื่น นายจำเป็นต้องอยู่กับฉันตลอดเวลา แทนพี่ธาน..บางครั้งก็ต้องออกงานดึก" ผมพูด

"แต่ว่า..คือ น้องผม" สมุทรอึกอักขึ้นมาทันที

"มันเป็นงานเฉพาะหน้าน่ะ เกิดขึ้นแล้วค่อยว่ากัน" ผมพูดแทรก  สมุทรเงียบไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล

"แล้วรู้รึยังว่านายจะต้องเรียนประมาณเดือนไหนยังไง" ผมถามถึงเวลาเรียนเพราะจะได้เตรียมตัวให้ถูก  ช่วงนี้ผมจะให้เขาเรียนรู้งานเรื่อย ๆ ไปก่อน  อีกอย่างผมอยากจะดูฝีมือของเขาด้วยจะได้มอบหมายงานได้

"น่าจะประมาณเดือนกรกฎาครับ" สมุทรตอบ

"โอเค..เอาเป็นว่า ถ้าวิชาไหนเข้าเรียนได้ หรือนายอยากจะเข้าเรียน..นายก็ไปเข้าเรียนซะ แค่บอกให้ฉันรู้ก่อน ไม่ได้ว่าอะไร" ผมบอก

"ครับ..ขอบคุณครับ" สมุทรอมยิ้มตอบน้อย ๆ

"แล้วเรื่องโรงเรียนของน้องชายนายล่ะ" ผมถาม

"ครับ..โรงเรียนนฤนาถ ใกล้บ้านคุณดี" สมุทรรีบตอบ   

"อืม ก็ได้..ที่นั่น เปิดถึงมัธยมต้นเลยใช่ไหม" ผมพยักหน้าเห็นดีด้วยเพราะมันใกล้บ้านผมจริง ๆ และเป็นโรงเรียนที่ดีมีชื่อเสียงทีเดียว

"ครับ" สมุทรพยักหน้า

"เตรียมตัวไว้แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้ย้ายเทอมหน้าเลย" ผมสรุปเองเสร็จ

"แต่ว่า..มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ ผมว่าเอาเป็น.."

"เทอมหน้านี่แหละ ปัญหาคืออะไร" ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ 

"ผมกลัวว่าเค้าจะปรับตัวไม่ได้" สมุทรตอบ 

"อย่าไปคิดแทนน้อง" ผมว่าปัด  ทำเอาสมุทรเงียบลง

"แล้วน้องสาวของนาย มีปัญหาอะไรไหม..เรื่องค่าใช้จ่ายน่ะ" ผมถามถึง

"ไม่ครับ" สมุทรตอบ  ผมเงียบลงครู่หนึ่ง

"เออ..สำคัญ ทำงานกับฉัน ห้ามสูบบุหรี่..ห้ามติดเหล้า เวลางานห้ามดื่ม" ผมพูดบอก

"หึ..บอกตัวเองเถอะครับ" สมุทรย้อนตอบนิ่ง ๆ

"หึ" ผมหัวเราะ  อมยิ้มมองหน้าเขาอย่างพอใจ  ใครที่ไม่รู้จักผม  พอมองผมจากภายนอกก็มักจะเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าผมคงเป็นคนชอบสูบ  ชอบดื่ม  รักเที่ยวรักสนุก  ติดเพื่อนแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วผมไม่สูบบุหรี่และไม่ติดการดื่มเท่าไหร่  อีกทั้งไม่ติดเที่ยวหรือติดเพื่อนอีกด้วย  อาจเป็นเพราะว่าผมเที่ยวมามากซะจนรู้สึกเฉย ๆ ไปเสียแล้ว  ลองทุกอย่างมาหมดแล้ว  พอถึงจุด ๆ หนึ่งมันก็เบื่อเซ็งไปเองเสียดื้อ ๆ ประมาณว่า  สังสรรค์ก็ได้ หรือ ไม่สังสรรค์ก็ได้  แต่ส่วนตัวถ้าว่างก็จะออกไปดื่มบ้างบางโอกาสเพราะผมไม่ค่อยสนิทสนมกับสังคมไหนเป็นพิเศษ  นอกจากสังคมของคนในวงการเดียวกันที่ต้องไปมาหาสู่กันบ้าง  นอกนั้นที่ผมคบและออกไปไหนมาไหนด้วยก็คือเพื่อนสนิทเท่านั้น  ผมไม่ชอบรู้จักใครเยอะเกินสมควรเพราะถ้าเป็นแบบนั้น  ชีวิตคงจะรุงรังน่าดู 

"ขออนุญาตครับคุณไฟ" พี่ธานเดินเข้ามาพอดี  ผมพยักหน้าแล้วลุกขึ้น

"ผมจะไปอาบน้ำพอดี ฝากเค้าด้วยเลยแล้วกันนะ" ผมบอกพี่ธาน  พี่ธานพยักหน้ายิ้มรับ

"บอกเค้าให้หมดล่ะ ว่าเค้าจะต้องทำอะไรบ้างที่จะทำให้ผมพอใจ" ผมยักคิ้ว  พูดกำกวมจนพี่ธานส่ายหัวอย่างห้ามปราม  ผมยิ้มเจ้าเล่ห์มองตาพี่ธานก่อนเดินออกมา 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2015 17:01:40 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย  ผมเดินลงมาก็ไม่เห็นพี่ธานกับสมุทรอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว  พอออกไปที่โรงฝึกก็พบสองคนนั้นอยู่ที่นั่น

"นายมา!" ไอ้เด่นตะโกนบอกเพื่อนทันทีที่เห็นผม  สมุทรกับพี่ธานหันมา  พวกมันที่จับกลุ่มคุยกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่พากันกระจายตัวออก  ผมกวักมือให้พวกมันมารวมตัวกันที่ด้านหน้า

"เร็ว ๆ มีเรื่องจะคุยด้วย" ผมว่า  พี่ธานเดินมายืนใกล้ผมมากขึ้น  พวกลูกน้องพากันยืนเรียงแถวหน้ากระดาน  สมุทรยืนมองด้วยสีหน้าไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะยืนอยู่ตรงส่วนไหนกันแน่ถึงจะเหมาะควร 

"รู้จักกันแล้วใช่ไหม" ผมเกริ่น  พวกมันพยักหน้าพร้อมกัน

"ต่อไปนี้..งานบางส่วนของพี่ธาน สมุทรจะทำกับฉัน" ผมบอก  ทุกคนยืนฟังอย่างตั้งใจ  มันยืนตรงนิ่ง  นำมือทั้งสองมือกุมไว้ด้านหน้ากันทุกคนอย่างเป็นระเบียบ

"บางงานที่เป็นหน้าที่ของพี่ธาน สมุทรอาจจะต้องรับช่วงต่อ เช่น.."

"ฝึกพวกคุณ" ผมแสยะยิ้มออกมาน้อย ๆ พวกมันยิ้มกริ่มกันในทันที 

"ถ้ามันอ่อนปวกเปียกแบบพวกมึง..กูคงไม่คิดจะเอามาน่ะนะ" ผมเบะปากว่ากัดพร้อมเปลี่ยนสรรพนามในการเรียก  เป็นการย้ำสติดักความคิดของพวกมันเอาไว้ก่อน  พวกมันคงคิดว่าใครจะมาฝึกมันก็ได้เพราะคงจะดีกว่าให้พี่ธาน  พายุหรือว่าผมควบคุมการฝึกของพวกมัน  อีกทั้งพวกมันคงคิดว่าคนที่ดูท่าทางนิ่ง ๆ มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสุภาพอย่างสมุทรคงจะไม่มีทางโหดได้อย่างพี่ธานแน่  ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาส่วนไหนมาแน่ใจเหมือนกันว่าสมุทรจะทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีตามที่ผมต้องการหรือเปล่า  แต่จากการวิเคราะห์ลักษณะท่าทางของเขาแล้วผมคิดว่าสมุทรน่าจะเอาไหว  ความจริงแล้วผมตื่นเต้นสุด ๆ ไปเลยด้วยซ้ำว่าถ้าผมให้สมุทรเป็นคนฝึกทุกคนแทนพี่ธาน  เขาจะทำหน้าที่นี้ได้ดีไหมและด้วยนิสัยที่ดูสุภาพของเขานี้  จะสามารถแสดงออกมาให้พวกลูกน้องของผมสงบและเชื่อฟังเขาได้อย่างไร

ทุกคนเงียบมอง  สมุทรอมยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นทุกครั้งให้  พวกลูกน้องพากันอมยิ้มแล้วหลบสายตาสมุทรและผมไปอีกทางเหมือนกับยอมรับในคำพูดที่พูดดักพวกมันอย่างนั้น  ส่วนตัวผมคิดว่าผมชอบรอยยิ้มของสมุทร  รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยนและสุภาพไม่เว้นแม้แต่มีให้กับใคร  มองแล้วสบายตาดี  ผมว่าคนที่ทำแบบนี้ได้เป็นธรรมชาตินั้นประหลาดมาก  มันเหมือนกับผมที่สามารถแสยะยิ้มโกง ๆ ได้ธรรมชาติอย่างน่าประหลาดนั่นละ  หรือที่จริงอาจจะไม่ใช่แค่รอยยิ้มที่สื่อออกมาว่าสมุทรค่อนข้างเป็นมิตร  สายตาที่บ่งบอกถึงความอ่อนโยนออกมาระหว่างที่ยิ้มนั้นมันรับกันอย่างพอดิบพอดีจนน่ามอง  ขนาดเขายิ้มให้กับลูกน้องโฉด ๆ ของผม  เขากลับยังคงใช้รอยยิ้มแบบเดียวกันกับที่มีให้กับคนอื่น  แถมยังมีสายตาอ่อนโยนในแบบที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้

"คุณไฟครับ" พี่ธานเรียก

"หืม" ผมหันไปมองสงสัยว่าพี่ธานเรียกทำไม  พี่ธานเหลือบตาไปอีกทาง  ส่งสัญญาณบอกให้ผมมีสติพูดต่อสักที  ผมหลบสายตาพี่ธานยิ้ม ๆ เพราะเมื่อกี้ผมคงหยุดคิดนานไปหน่อย

"รุ่ง" ผมเรียก

"ครับ" ไอ้รุ่งขานรับ

"เดี๋ยวสมุทรจะไปเป็นเทรนเนอร์ที่ค่ายมวยด้วย ฉันให้พี่นีจัดตารางไว้แล้ว..มีอะไรก็แนะนำเค้าด้วยแล้วกัน" ผมสั่ง

"ได้ครับ" ไอ้รุ่งพยักหน้ารับทราบ  สมุทรผงกหัวยิ้ม ๆ ให้ไอ้รุ่งเล็กน้อย

"แล้วก็..มึงใกล้ขึ้นชกแล้ว อาทิตย์นี้กับอาทิตย์หน้าไปนอนเก็บตัวที่ค่ายเลย กูบอกลุงแล้วว่าให้มึงหยุดงานที่นี่ ถ้ามึงเข้ารอบแล้วค่อยว่ากันอีกที" ผมบอก

"ครับนาย" ไอ้รุ่งพยักหน้ารับอีกครั้ง

"นอกจากนี้ก็ทำความรู้จักกันเอาเองแล้วกัน แลกเปลี่ยนเบอร์กันไว้..จะได้ติดต่อกันได้สะดวก" ผมพูด  พวกมันพยักหน้ารับ

"วันนี้แค่นี้แหละ ใครมีหน้าที่อะไรไปทำก็ไปทำ"

"ครับ" พวกมันประสานเสียงพร้อมกันก่อนแยกย้ายไปแต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน 

"อันนี้เป็นกุญแจล็อกเกอร์ของที่นี่นะครับ ห้องล็อกเกอร์อยู่ทางนู้น" พี่ธานยื่นกุญแจไปให้สมุทรพร้อมกับชี้บอกทาง  สมุทรรับไปและมองตาม

"มีอะไรก็เอาไปเก็บไว้ในนั้นได้เลย..ปกติไอ้พวกนี้ก็มีกันหมดทุกคนละครับ พอมันอาศัยอยู่ที่นี่ มันก็ไม่ค่อยจะล็อกตู้ล็อกเกอร์กันหรอก พอของหายก็จะทะเลาะกันเอง..สมุทรก็ล็อกไปเถอะนะ" พี่ธานบอก

"ครับ" สมุทรผงกหัว  ผมเดินไปหยิบน้ำมาหนึ่งขวดแล้วเปิดดื่มระหว่างที่ยืนแอบเอาหูฟังอยู่ด้วย 

"ส่วน ถ้าวันไหนต้องฝึกที่นี่แล้วสมุทรอยากอาบน้ำ ก็ขึ้นไปอาบที่ห้องคุณไฟแล้วกันนะ"

"แคะ" ผมสำลักน้ำไม่ทันได้ตั้งตัว  เหล่ตาไปมอง  พี่ธานหันมายิ้มเหมือนรู้ว่าผมตั้งใจยืนฟังอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  สมุทรมองหน้าผมเขม็ง  ผมกลอกตาไปทางอื่นไม่ตอบกลับอะไร 

"พอดีว่าตรงส่วนห้องน้ำของโรงฝึกไม่มีที่สำหรับอาบน้ำนะครับ ปกติถ้าลูกน้องคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ก็จะต้องไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านหลังบ้าน" พี่ธานรีบอธิบายหลังจากกวนผมได้เสร็จ

"ครับ ผมอาบที่นั่นก็ได้" สมุทรตอบรับ  เข้าใจง่าย ๆ ซะงั้น

"อาบห้องฉันตามที่พี่ธานบอกนั่นแหละ" ผมพูดขึ้น  พี่ธานหันควับมามองหน้าผม

"ผมว่ามันไม่เหมาะหรอกครับ ผมเองก็เป็นแค่ลูกจ้าง" สมุทรบอก

"เอามาแทนผมได้นี่ไม่น่าจะเป็นแค่ลูกจ้างนะครับ" พี่ธานอมยิ้ม  ยักคิ้วข้างซ้ายใส่ผมให้ด้วย  พอสมุทรหันไปมองหน้าพี่ธาน  อีกฝ่ายก็รีบปรับเปลี่ยนใบหน้าเป็นตีหน้าซื่อทันควัน

"พี่ธาน" ผมปราม  สมุทรเหลือบมองมาทางผมทีสลับกับมองหน้าพี่ธานที

"งั้นอาบห้องพี่ก็ได้ พี่ไม่ถือหรอก" พี่ธานพูดแกมหัวเราะ  สมุทรอมยิ้มให้พี่ธานนิดหน่อยเหมือนไม่กล้าปฏิเสธ  ผมกัดลิ้นด้วยนึกหมันไส้  หยิบลูกอมออกมากิน  เหล่สายตามองพี่ธานเงียบ ๆ พี่เขาอมยิ้มไม่หยุด 

"ฝากด้วยแล้วกัน" ผมปัดมือตัดบทบอก  พี่ธานพยักหน้ารับคำสั่ง 

ผมกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง  ตรงไปที่ห้องทำงาน  หยิบแผ่นซีดีที่บันทึกการชกของสมุทรมาแล้วนำไปนั่งเปิดดูในโน้ตบุ๊กที่โต๊ะทำงาน  ก่อนหน้านี้ผมยังไม่ได้ดูซีดีแผ่นนี้ที่พี่ธานนำมาให้อย่างละเอียดดีเท่าไหร่นัก  วันนี้ว่างอยู่พอดีเลยกะว่าจะดูให้จบแผ่นไป  การบันทึกนี้เป็นการตัดต่อส่วนหนึ่ง  รวบรวมจากหลายเวทีที่สมุทรเคยไปแข่งชกมา 

ผมดูเทคนิคและเชิงมวยที่เขามีทั้งหมด  การชกของเขาคล้ายกับว่ามีของดีแต่ปล่อยออกมาไม่หมด  รูปแบบการชกแปลก ๆ หลาย ๆ เวทีที่เหมือนกับกั๊กบางสิ่งบางอย่างเอาไว้เพื่อรั้งให้เกมจบไปในคะแนนที่ชนะแบบสูสีเท่านั้น  บ่ายวันนี้เกือบทั้งบ่าย  ผมนั่งดูซีดีแผ่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแม่บ้านต้องนำอาหารมาให้ในห้องทำงาน  พอดูจนจบไปสามรอบก็นั่งอยู่ในห้องทำงานแทบไม่เคลื่อนไหวอยู่อย่างนั้นร่วมครึ่งชั่วโมง  ภาพการชกของสมุทรสลับวนไปวนมาอยู่ในหัวของผมจนสุดท้ายจำเป็นต้องหยุดคิด  ผมลุกออกมายืดเส้นยืดสาย  เรียกให้แม่บ้านเข้าไปเก็บจานชามที่อยู่ในห้องด้วย   

"จะทำยังไงกับมันดี" ผมยืนเท้าเอวบ่นพึมพำคนเดียวอยู่ในห้องนั่งเล่น  ตามองออกไปที่โรงฝึก  เห็นสมุทรนั่งคุยอยู่กับไอ้เด่น  ไอ้เข้มและพี่ธานอยู่ในนั้น  ผมพลิกนาฬิกาข้อมือดู  บอกเวลาสี่โมงครึ่งพอดิบพอดี  พอกำลังจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นก็เห็นพายุเดินกลับเข้ามาแล้ว  มันหอบอุปกรณ์กีฬารุงรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด

"อ่าว ไมกลับเร็ว" ผมถาม

"วันนี้ไม่มีซ้อม มีการบ้านด้วย" พายุตอบ  แม่บ้านรีบเดินเข้ามารับของจากพายุไป 

"พายุ มึงช่วยจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้สมุทรหน่อยสิ" ผมสั่ง

"ได้" พายุพยักหน้ารับ  ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่ธานเพราะขี้เกียจเดินออกไปตาม

"ครับ" พี่ธานรับสาย

"พาสมุทรเข้ามาในบ้านหน่อยครับ" ผมบอก

"ได้ครับ" พี่ธานตอบก่อนตัดสายไป  ผมกับพายุนั่งคุยกัน  เพียงไม่ถึงห้านาทีสมุทรก็เดินเข้ามาพร้อมกับพี่ธาน  ผมพยักหน้าอนุญาตให้พายุ  มันรีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับนำสายวัดตัวที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋าของตัวเองออกมา  มันหยิบง่ายอย่างกับพกไปไหนมาไหนด้วยตลอดอย่างนั้น  พายุนำไปวัดตัวสมุทรที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจว่ากำลังถูกทำอะไร  ผมนั่งมอง  สมุทรมองมาที่ผมที  มองไปที่พี่ธานทีเหมือนต้องการคำตอบจากใครสักคน

"ยกแขนขึ้นหน่อยครับ" พายุพูดแกมสั่ง  สมุทรที่ยืนงงอยู่ก็ยกแขนขึ้นตามที่ของ่าย ๆ พายุจัดการวัดตัวและจดรายละเอียดลงสมุด  เวลาผ่านไปประมาณเกือบห้านาทีก็เสร็จ

"เรียบร้อยแล้วฮะ" พายุพูดแล้วก้มลงมาหยิบกระเป๋าของตัวเอง

"เดี๋ยวจัดการให้" พายุหันมาบอกผม  ผมพยักหน้า

"เดี๋ยวคุณพายุจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้นะครับ สำหรับมาทำงาน..ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อเชิ้ตนี่ละครับ ใส่คล้าย ๆ กัน" พี่ธานอธิบาย  สมุทรพยักหน้าเข้าใจทั้งที่ยังมีสายตางง ๆ ปนให้เห็น

".........." อยู่ ๆ ทุกคนก็อยู่ในความเงียบแบบกะทันหัน  ผมนั่งเงียบมองว่ามันเกิดอะไรขึ้น  สมุทรมองหน้าผม  ผมมองไปทางพายุ  พายุยืนจ้องหน้าสมุทรไม่วางตาตั้งแต่หัวจรดเท้า  เป็นชั่วขณะหนึ่งที่เกิดขึ้นแบบงุนงงเล็ก ๆ

"คืออะไร" ผมพูดเชิงถาม  พายุยังคงเงยหน้าจ้องสมุทรอยู่อย่างนั้นจนคนถูกจ้องอยู่อมยิ้มออกมาเขิน ๆ

"วันนี้นายกลับบ้านไปได้แล้ว ไม่มีอะไรหรอก..แค่อยากให้มารู้จักกัน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มงาน" ผมพูด

"ครับ" สมุทรพยักหน้าตอบแต่ดูเหมือนเขาจะอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปทีพายุอีกครั้ง  พายุเองก็ยังคงจ้องสมุทรอยู่ไม่เลิก  สีหน้าเหมือนหมาสงสัยมากกว่าจะดูถูกอย่างหยิ่งยโสอย่างที่มันชอบเอาไว้มองคนอื่นที่มันไม่สนิทใจด้วย

"พี่ขี้โกหกรึเปล่า" พายุถามออกไปตรง ๆ ด้วยสีหน้าซื่อ ๆ เหมือนต้องการคำตอบแบบตรงไปตรงมา  พี่ธานหลุดหัวเราะ  ผมแสยะยิ้มมองเพราะอยากรู้คำตอบเช่นเดียวกัน

"หึหึ" สมุทรยิ้มกว้างก่อนก้มหน้าลงเหมือนไม่รู้จะตอบยังไง

"บางครั้งคนเราก็จำเป็นต้องโกหกละมั้งครับ ผมหมายถึงบางกรณีเท่านั้นนะ เพราะถ้าทำบ่อยเกินไปในเรื่องเดิม..แบบนั้นจะเรียกว่าสันดานเสีย" สมุทรสบตาตอบพายุอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน  พายุนิ่งไปก่อนจะพยักหน้าเข้าใจง่าย ๆ ซะงั้น

"โอเค" พายุพึมพำ  ดูเหมือนน้องชายผมจะทิ้งประเด็นนี้ด้วยคำตอบนี้จากสมุทรไปได้อย่างดื้อ ๆ เลยทีเดียว   

"ใช่สิ ลืมไป" ผมพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้  ทุกคนหันมามอง

"ถ้าเป็นไปได้..ก็ไปเรียนยิงปืนซะ เดี๋ยวฉันจะให้พี่ธานติดต่อให้" ผมบอกสมุทร

"ไม่ครับ" สมุทรย้อนตอบแทบจะทันที  เขาจ้องหน้าผมนิ่งเหมือนเป็นคำพูดเด็ดขาดเพื่อย้ำให้ผมทราบ

"ผมทราบว่าตอนนี้คุณคือเจ้านายของผม..แต่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมจะไม่ฟังคำสั่งคุณ" สมุทรพูดบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  ผมแสยะปากออกมา  ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์ไม่วางตา 

"ลาละครับ" สมุทรพูด  ผงกหัวให้ทุกคนเป็นการบอกลา  เขาหันไปยกมือไหว้พี่ธาน  พี่ธานรีบยกมือรับไหว้  พายุมองตามสมุทรจนเขาเดินออกไปลับตา 

"ฮึ" ผมหัวเราะขึ้นจมูก  ก้มหน้าลงพร้อมยิ้มกว้าง

"ประโยคเมื่อกี้ คุ้น ๆ นะครับ" พี่ธานอมยิ้มแซวมองไปที่พายุ  พายุเบะปากยักไหล่  ผมกับพี่ธานมองตากันนิ่งอย่างอ่านใจกันออก

"พี่เค้าก็ดูไม่ใช่คนก้าวร้าวนะ" พายุพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างผมกับพี่ธาน 

"..แต่ดูเหมือน เค้าจะไม่กลัวเฮียเลย" พายุพูดคล้ายต้องการประชดผม  ผมว่าน้องชายผมคงกำลังชอบใจอะไรสมุทรสักอย่างอยู่แน่ ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดอะไรหรอกนะ  ถูกใจกันได้แบบนี้ก็ดีแล้ว  ผมเหลือบตาขึ้นมองพายุในแบบที่พายุน่าจะเกลียดเข้าไส้  มันมองระแวงใส่ผมไม่หยุดเลย 

"ถูกใจตรงนี้" พี่ธานพูดแทรกต่อท้ายพายุให้อย่างกำกวม  พร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างเดาใจผมออกหมดอีกตามเคย  ผมกัดลิ้นยิ้ม ๆ มองพี่ธานไม่ได้ว่าอะไร  พายุจ้องเราทั้งคู่ด้วยสายตาจับผิด  ผมเอื้อมมือหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่าน  พี่ธานลงมานั่งทำเช่นเดียวกัน  ทั้งผมและพี่ธานต่างฝ่ายก็ต่างหาอะไรทำเพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์แปลก ๆ ที่ดูเหมือนจะทำให้น้องชายของผมกำลังสอดรู้สอดเห็นเป็นอย่างมาก  ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดูแปลกในสายตาของพายุไหม  หรือมีความหมายอะไรพิเศษไหม  แต่ที่ชอบใจที่สุดคือ..พี่ธานนี่รู้ใจผมไปซะทุกอย่างจริง ๆ


- - - - - - - - - - - - - - -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2015 13:44:26 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

อังคาร: 07:20 น.

วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเพื่อลุกมาออกกำลังกาย  ลูกน้องบางคนตื่นมาก็เจอผมที่โรงฝึกแล้ว  ดูพวกมันจะกระปรี้กระเปร่าในทันทีที่เห็นผม  วันนี้ผมต้องออกไปดูงานต่อเติมที่ตลาดตอนบ่ายและมีนัดเก็บดอกเบี้ยกับลูกหนี้อีกในช่วงเย็น  ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยกว่าจะเสร็จก็คงถึงค่ำ  โดยรวมแล้วช่วงนี้งานไม่หนัก  ถ้าไม่มีเรื่องมาให้ปวดหัวหรือต้องไปขัดขากับใครก็มักจะได้เงินมาง่าย ๆ แต่ก็ไม่ง่ายเสมอไป ๆ ซะตลอดเวลา  เวลาที่เราเดินทางก็ต้องเจอทางที่ดีและไม่ดีสลับกันไป  ถ้าจะบอกว่าเป็นครอบครัวที่ดูรวยดี  กระดิกตีนไปวัน ๆ ก็ได้เงินแล้ว  จะให้พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกซะหมดทีเดียว  เพราะแต่ละวันพวกผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าศัตรูได้เพิ่มจากทางทิศไหนบ้าง  ที่จริงแล้วงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่งานที่ปลอดภัยต่อชีวิตของคนในครอบครัวซะทีเดียว 

พอออกกำลังกายเสร็จ  ผมนั่งพักอยู่ครู่หนึ่งเพื่อรับลมและแดดยามเช้าก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว  เมื่อลงมาพี่ธานก็ออกจากบ้านไปแล้วเพราะต้องไปทำงานที่สนามแข่งรถ  เห็นว่าวันนี้มีจัด Event  ผมเดินไปหยุดอยู่ที่ ๆ เสียบกุญแจรถในห้องทำงาน  ยืนพิจารณาอยู่พักหนึ่งก่อนจะหยิบกุญแจรถยนต์ออกมาหนึ่งพวง  สมุทรมาถึงพอดี  พอเขาหันมาเห็นผมเขาก็หยุดอยู่กับที่

"คือ..ผม จะมาถามว่าวันนี้จะให้ผมทำอะไร" สมุทรรีบพูดเหมือนกลัวความผิดที่เขาเข้ามาในบ้านโดยพละการ  ผมโยนกุญแจที่เพิ่งหยิบออกมานั้นให้สมุทร  อีกฝ่ายรับไว้ได้ทันก่อนก้มลงมองของในมือ

"ฉันให้" ผมบอก 

"449 สีดำ..ไปหาเองแล้วกัน" ผมบอกรายละเอียดรถ  สมุทรเดินตรงเข้ามาหาผม  เขาเอื้อมมาจับมือผมไปก่อนนำกุญแจกลับมาวางใส่มือผมอย่างเดิม 

"ขอโทษครับ ผมไม่ขอรับ" อีกฝ่ายจ้องหน้าผมเขม็ง

"ให้ยืม" ผมพูด

"ไม่ครับ" สมุทรย้ำคำเดิม  น้ำเสียงหนักแน่นดูท่าจะไม่ยอมง่าย ๆ จริง ๆ

"นายจะขึ้นรถเมล์ ต่อสองแถวแล้วนั่งวินมอเตอร์ไซค์แบบนี้ทุกวันรึไง" ผมบ่น

"ผมยังไม่เดือดร้อน แล้วคุณจะเดือนร้อนทำไม" เขาย้อนว่า

"ฉันเดือดร้อนแน่ถ้านายให้เวลางานกับฉันไม่เต็มที่" ผมตอกกลับ  สมุทรนิ่งไป  เราต่างจ้องหน้ากันเขม็ง  ผมสูดหายใจเข้าอย่างแรงก่อนถอนหายใจออกมาอย่างแรงอีกเช่นกัน  สุดท้ายก็เลือกเดินกลับไปที่ห้องทำงานอีกครั้ง  เสียบกุญแจอันเดิมเข้าที่เก่า  แล้วหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์ออกมานำกลับไปยื่นให้สมุทร

"มอเตอร์ไซค์ ขับเป็นไหม" ผมถาม  สมุทรก้มลงมองมาที่กุญแจในมือผมและไม่มีทีท่าว่าจะรับไปง่าย ๆ

"เป็นครับ" สมุทรตอบ

"แต่หน้าผมเหมือนคนโง่เหรอ" สมุทรย้อนถาม

"อ่าว นี่นายฉลาดงั้นเหรอ" ผมเลิกคิ้วกวนตอบ  เรายืนจ้องหน้ากันเขม็ง  ผมถอนหายใจพร้อมหันหน้าหนี

"นายจะเรื่องมากอะไรอีก" ผมกระแทกเสียงอย่างเริ่มหงุดหงิด

"มันแพงครับ..เกิดเป็นอะไรขึ้นมา ผมรับผิดชอบไม่ไหวหรอก" สมุทรตอบหน้าเครียด  ผมถอนหายใจแรง  ยืนเท้าเอวอีกครั้งอย่างเคยชิน แม่ง..เรื่องมากเป็นบ้า    

"ได้" ผมตัดบท  เดินกลับเข้าห้องทำงานไปอีกครั้งหนึ่งแล้วเลือกหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันที่ราคาถูกที่สุดที่มีออกมาแล้วนำกลับไปให้เขาที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

"คันนี้ถูกที่สุดที่ฉันมี" ผมพูดบอก  น้ำเสียงกระแทกอย่างรำคาญ

"เอาไปซะ จะได้สะดวก..สะดวกขับมาก็ขับมา ไม่สะดวกก็จอดไว้" ผมบอก  สมุทรนิ่งมอง  เราต่างเงียบอยู่ร่วมห้านาที  ตัวไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย  ผมดูท่าทีว่าเขาจะรับไปไหม  สุดท้ายสมุทรก็หยิบกุญแจออกจากมือผมไป

"ขอบคุณครับ" เขาบอก

"ขับระวัง ๆ หน่อยแล้วกัน" ผมพูด  ไม่ใช่ห่วงรถแต่ห่วงคนมากกว่า

"ครับ" สมุทรพยักหน้า  ผมแอบชำเลืองมองไปที่นาฬิกาที่เพดาน  นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเท่านั้นแต่อีกฝ่ายมาถึงบ้านผมแล้ว  เขามาก่อนเวลาเกือบชั่วโมงมาสองวันติด  ผมไม่ได้พูดทักอะไรถึงประเด็นนี้เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะมาเช้าแบบนี้ไปได้สักกี่วัน  จากบ้านของสมุทรมาถึงบ้านของผม  ถึงแม้ว่าจะไม่ไกลอะไรมากนักแต่สำหรับการเดินทางในกรุงเทพนั้นก็ใช้เวลาพอสมควร  อย่างน้อยคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง  นี่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องตื่นกี่โมงถึงมาถึงบ้านผมได้ในเวลาเช้ามากแบบนี้

"ปกติ..ถ้าใครไม่มีเรียน ไม่มีงานหรือหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บ้านกัน..เพราะบางทีต้องเรียกใช้ฉุกเฉิน ตารางฉันไม่แน่นอน วันนี้บ่ายจะออกไปดูที่ตลาด ตอนเย็นก็มีนัดกับแขกกิตติมศักดิ์มากมาย..ระหว่างนี้นายอยากทำอะไรก็ทำแล้วกัน" ผมบอกแกมประชดให้สมุทรตีความเอาเอง  ปกติถ้าอยู่บ้านผมจะไม่ค่อยเข้มงวดกับลูกน้องเท่าไหร่  แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมเรียกใช้  พวกมันจะต้องกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติงานในทันที  ไม่ใช่ยืดยาดเอื่อยเฉื่อย

"อันนี้โทรศัพท์เบอร์ที่เอาไว้ติดต่องานกับฉัน ปกติพี่ธานจะเป็นคนรับให้..นายรับแทนด้วยแล้วกัน ฉันไม่ค่อยชอบพูดเพราะ ๆ กับคนแปลกหน้า" ผมยื่นโทรศัพท์มือถือให้  สมุทรรับไป

"เฮีย! ไปแล้วนะ" ไอ้ดินวิ่งลงมาจากด้านบนอย่างกับจรวด  มันวิ่งไปสะพายกระเป๋าเป้ไปอย่างรีบร้อน

"เอ้า..ดี ๆ ดี ๆ" ผมว่าดุกลัวว่ามันจะตกบันได

"หวัดดีครับ หวัดดีครับ" ไอ้ดินยกมือไหว้ผมกับสมุทรลวก ๆ แล้ววิ่งออกจากบ้านไปเลยโดยไม่กินข้าวเช้า

"ข้าวเช้า!" ผมตะโกนไล่หลัง

"กินที่โรงเรียน!" ไอ้ดินตะโกนกลับทั้งที่เท้าก็ไม่หยุดวิ่งไปที่หน้าบ้าน  ผมส่ายหัวเซ็ง ๆ 

"น้องคุณน่ารักดีนะ" สมุทรอมยิ้มบอก

"ลองเอาไปเลี้ยงสักวันสองวันไหมล่ะ" ผมหัวเราะตอบเขา  สมุทรเหลือบมองพายุที่เดินลงมาจากบนบ้านด้วยท่าทางงัวเงียอย่างกับศพมาเลย   

"หวัดดีฮะ.. กินข้าวกัน" พายุพูดชวนสมุทร  น้ำเสียงยานคางและเครือในลำคอ  ผมส่ายหัวยิ้ม ๆ ที่เห็นสภาพไร้วิญญาณของมัน

"เอ่อ.." สมุทรอ้ำอึ้ง  จะปฏิเสธพายุก็ไม่ทันแล้วเพราะเจ้าตัวพูดเสร็จมันก็เดินหนีเข้าไปที่ห้องกินข้าวก่อนเลย 

"เอาเถอะ ชวนบ่อยเดี๋ยวมันจะเคืองเอา" ผมพูดบอกเขา  สมุทรพยักหน้ายิ้มเล็กน้อยอย่างไม่มีทางเลือก  สมุทรเดินตามหลังผมเข้ามาในห้องกินข้าวห่าง ๆ ป้าอิ่มจัดอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  ปกติถ้าเลยเวลาประมาณหกโมงครึ่ง  พวกแม่บ้านจะรู้ดีว่าให้เตรียมอาหารเอาไว้เลยโดยไม่ต้องรอพายุสั่ง  เพราะถ้าวันไหนที่พายุนึกครึ้มจะทำอาหารด้วยตัวมันเอง  มันจะลุกมาตั้งแต่เช้ามืดนู่นละ 

"ป้าอิ่มครับ นี่สมุทร..สมุทร นี่ป้าอิ่ม..หัวหน้าแม่บ้าน" ผมแนะนำ  สมุทรยกมือยิ้มไหว้  ป้าอิ่มยกมือยิ้มรับไหว้เช่นกัน

"เตรียมให้เค้าด้วยครับ" ผมสั่ง

"รบกวนด้วยครับ" สมุทรผงกหัวอย่างเกรงใจ

"ได้จ้ะ นั่งเลยนะ" ป้าอิ่มยิ้มกว้าง  ผมเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะเพราะเป็นที่ประจำ  พายุนั่งทางด้านขวาซึ่งใกล้ทางเข้าประตูเพราะเป็นที่ประจำของมัน  จึงทำให้สมุทรเลือกที่จะนั่งลงข้าง ๆ กับพายุ  แทนที่จะมานั่งอีกฝั่งหนึ่งข้าง ๆ กับผมซึ่งที่จริงแล้วเป็นที่ประจำของพี่ธาน

"กินแล้วก็กินอีกได้ครับ" พายุหันหน้าไปพูดกับสมุทรทั้งที่มันยังหลับตาอยู่  ผมส่ายหัวยิ้ม ๆ ไม่รู้ว่ามันจะหลับตาทำไมเหมือนกัน

"หึ..ครับ" สมุทรหลุดหัวเราะ

"ง่วงจริง ๆ เลย" พายุส่ายหัวไปมาแบบไม่มีแรงจะพูดแล้ว

"นอนกี่โมง" ผมถาม

"ตีสามครึ่ง" มันตอบ

"งานไม่เสร็จ.." มันว่า

"ส่งวันไหน"

"อีกสองอาทิตย์ แต่อยากให้เสร็จก่อนอ่ะ..ช่วงนี้โค้ชให้อยู่ซ้อมปิงปองทุกเย็นเลย ไม่อยากพะวง" พายุตอบหน้ามุ่ย  ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ กับนิสัยแบบนี้ของน้องชายผมซึ่งก็เป็นเหมือนสมัยผมเรียนไม่ผิดเพี้ยนกัน

"นอนให้พอด้วย เดี๋ยวก็น็อกหรอก" ผมบ่น  การนอนไม่เต็มอิ่มกับการซ้อมกีฬาไม่ใช่ของที่มาคู่กันมาแต่ช้านานแล้วละนะ  พายุถอนหายใจเหมือนเหนื่อยใจ  ผมเริ่มลงมือตักอาหารกิน

"พี่สมุทรจบอะไรมาเหรอ" พายุหันไปชวนคุย  ให้มันชวนก็ดีแล้วเพราะผมไม่คิดจะชวนเขาคุยน่ะนะ

"มึงเรียกว่าอะไรนะ" ผมพูดแทรกขึ้นเพราะรู้สึกขัดหู

"พี่สมุทร ทำไม.." พายุหันมามองหน้าผม
 
"แล้วทำไมไม่เรียกกูว่าพี่" ผมว่า

"ก็เฮียเป็นเฮียอ่ะ" พายุเบะปากกระแทกเสียงตอบคล้ายรำคาญใจที่ผมไม่เข้าใจมันในจุดนี้สักที  ตั้งแต่เล็กจนโตก็เถียงกันเรื่องนี้มาตลอดจนเลิกเถียงกันแล้วละครับ

"ตกลง..พี่เรียนจบอะไรนะ" พายุหันไปสนใจสมุทรอีกครั้ง  นี่มันเห็นหัวผมบ้างไหมครับ

"เทคนิคครับ ช่างก่อสร้าง" สมุทรตอบด้วยท่าทางที่ยังคงเกร็ง ๆ อยู่อย่างเห็นได้ชัด  ป้าอิ่มนำอาหารชุดของเขามาเสิร์ฟให้  สมุทรหันไปผงกหัวรับอย่างนอบน้อมและช่วยป้าอิ่มจัดแจงด้วยอีกมือ  พายุลืมตามองเต็มตา  ดูท่ามันจะสนใจท่าทางของสมุทรเป็นพิเศษ  ปกติถ้าไม่ใช่คนที่พายุสนใจจริง ๆ มันก็ไม่คิดจะชวนคุยแบบนี้หรอกครับ  ผมหมายถึงถ้าไม่จำเป็นน่ะ  ที่จริงน้องชายผมไม่ใช่คนหยิ่งอะไร  เพื่อน ๆ ที่ตื๊อเป็นฝ่ายเข้าหามันก่อนจะรู้ดีว่าที่จริงแล้วพายุไม่ใช่คนมีพิษมีภัยอะไรเลย  แต่ได้โปรดเข้าใจด้วยว่ามันเป็นคนลักษณะแบบนี้จริง ๆ ในมุมของพี่ชายอย่างผมคือ..มันแอบซื่อบื้อเล็ก ๆ
 
"เทคนิคเหรอ" พายุพึมพำ

"ครับ" สมุทรหันมาพยักหน้าตอบแล้วก็หันไปมองป้าอิ่มอีกครั้ง  พายุพยักหน้างึกงัก  พอจัดอาหารเสร็จป้าอิ่มก็เดินออกจากห้องอาหารไป  สมุทรเริ่มจับส้อมกับมีดเตรียมกิน   

"ทำไมตัวสูงจังล่ะ" น้องชายผมถามขึ้นอีก  คำถามนี้ที่เอาผมเกือบหลุดขำเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับคำถามก่อนหน้าเลยสักนิด  สีหน้าพายุดูสงสัยสุด ๆ ผมอมยิ้มมุมปากไปกินไปโดยไม่ได้มองทั้งสองคน  เอื้อมมือหยิบซอสแม็กกี้มาเหยาะใส่ไข่ดาว  และหูยังคงรอฟังคำตอบอยู่

"ตอนเด็ก ๆ กินอะไรเหรอ" มันถาม

"..อืม กินผักกับนมมั้งฮะ" สมุทรตอบด้วยสีหน้าคิดย้อนความหลัง

"เหรอ" พายุแสยะปากเหมือนไม่เชื่อซะงั้นทำเอาสมุทรยิ้มกว้างออกมา

"ตอนเด็ก ๆ ไม่มีอะไรที่กินประจำเลยเหรอ" พายุยังไม่เลิกสงสัย  ที่มันซักไม่หยุดอย่างนี้เพราะมันอยากตัวสูงกว่าที่เป็นอยู่  ที่จริงความสูงของพายุ 174 เซนติเมตรนี้  เรียกว่าเป็นความสูงสมส่วนตามหุ่นของมันแล้ว  และก็อาจจะสูงมากกว่าเพื่อน ๆ ของมันอีกหลาย ๆ คนด้วย  ผมว่าวัยรุ่นสมัยนี้ตัวเล็กกันจะตายไป  ตอนเด็ก ๆ ถ้าพายุอาบน้ำด้วยนมและสามารถทำให้มันสูงขึ้นได้มันคงอาบไปแล้ว  เพราะถึงมันจะอัดอาหารดี ๆ มากขนาดไหน  มันก็ยังสูงไม่ทันผมอยู่ดี  นี่คงเป็นปมของมันอย่างหนึ่งละมังครับ

"ที่กินประจำก็แค่ ตับ..กับนมแหละครับ นอกนั้นก็ผัก แค่นี้จริง ๆ" สมุทรย้ำตอบว่าไม่ได้โกหก

"คงเพราะ พ่อแม่พี่สูงละมั้ง" สมุทรรีบแก้ตัว

"ไม่เห็นเกี่ยว.." พายุว่าหน้างอ  ผมหยุดมือที่กำลังกินและเหลือบมองมัน  สมุทรมองหน้าพายุยิ้ม ๆ

"พ่อผมกับเฮียก็สูง แต่เฮียดันสูงกว่าผม..ผมว่าทฤษฏีนี้มันผิด" พายุยักไหล่ทำหน้าเซ็งอย่างไม่ยอมโอนอ่อนตามทฤษฏี  เหมือนกับยอมรับความไม่ยุติธรรมนี้ไม่ได้  เสร็จจากนี้มันก็จบบทสนทนาลงดื้อ ๆ และเริ่มลงมือกิน  สมุทรจึงได้กินสักที

หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จแบบไร้บทสนทนาใด ๆ ผมกลับเข้าไปในห้องทำงานโดยปล่อยให้สมุทรอยู่กับพายุ  ผมต้องเตรียมจัดเอกสารหนี้ค้างชำระของลูกหนี้ที่มีทั้งหมด  รวมไปถึงวันที่ต้องชำระหนี้ก็ด้วย  บางส่วนได้ชำระเรียบร้อยแล้วแต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่ได้เก็บหรืออาจผิดเวลาไปบ้าง  รายละเอียดใหม่ ๆ เพิ่มเติมพี่ธานวางเตรียมไว้ให้ก่อนออกจากบ้านแล้ว  มีบางกรณีพิเศษที่ต้องได้รับการเฝ้าติดตาม  ในส่วนนั้นลูกน้องจำเป็นต้องไปสืบมาแล้วนำมารายงานให้ผม  ส่วนใหญ่ถ้าจ่ายดอกตรงเวลาก็มีปัญหาไม่มาก  การออกเงินกู้ของผม  ถ้ารายไหนไม่คลานเข้ามาหาผมเพื่อขอกู้จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ไปเสนอหน้าออกตัวบอกใครว่าผมปล่อยเงินกู้  ผมก็มีกฎของผมและผมคิดว่ากฎของผมมันเบามากถ้าต้องเทียบกับเสี่ย ๆ ที่ปล่อยให้กู้รายอื่น ๆ

ค่าใช้จ่ายรายเดือนในบ้าน  ที่ผ่านมาพ่อของผมแบ่งสัดส่วนไว้ดีแล้วว่าเงินส่วนไหนต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง  ซึ่งถึงแม้พ่อเสียผมก็ยังดำเนินไปแบบเดิม  เงินส่วนค่าใช้จ่ายของลูกน้องและคนในครอบครัวต้องมาก่อน  รองลงมาคือค่าเล่าเรียนและค่ารักษาพยาบาลของคนในบ้านซึ่งผมได้แบ่งแยกไว้เรียบร้อย  ทั้งของพายุและของไอ้ดิน  ผมเก็บเงินก้อนให้พวกมันเป็นประจำทุก ๆ เดือน  รายได้ที่เข้ามาจะหักเข้าส่วนนี้ไว้เป็นประจำโดยไม่ได้บอกให้พวกมันได้รับรู้  เพราะรู้มากก็ใช้มาก 

ส่วนเงินก้อนอื่น ๆ จะสามารถแบ่งสันปันส่วนไปได้  เนื่องจากรายได้ที่ผมได้คงที่ในทุก ๆ เดือนจะมาจาก  รายได้ส่วนของเงินเดือนของผมจากที่ตลาด  ค่าเช่าที่ดิน  ตึกและอาคารพาณิชย์ที่เปิดให้เช่า  และดอกจากการปล่อยเงินกู้ซึ่งเป็นรายได้ที่เข้ามาอย่างมั่นคงในทุกเดือน  ผมจะแบ่งเงินที่ได้จากส่วนนี้ออกเป็นหมวดหมู่เรียบร้อย  เป็นเงินนอนนิ่ง ๆ ที่สามารถทำให้ผมสบายใจว่าคนในบ้านจะไม่เดือดร้อนถ้าเกิดปัญหาใด ๆ ส่วนเงินรายได้ส่วนอื่น ๆ ที่แต่ละเดือนมักมีรายได้ที่ไม่คงที่นั้นจะเป็นเงินหมุนเวียนให้กับธุรกิจต่าง ๆ แม้ลูกน้องของผมเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นไม่มาก  แต่วันเวลาก็ยังคงดำเนินไป  โลกพัฒนาไปอย่างไม่รีรอคนทำมาหากิน  ดังนั้น รายจ่ายก็เพิ่มขึ้น  ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและคิดว่าแบบนี้มันก็ท้าทายดี

งานที่ผมทำอยู่จะว่าขาวสะอาดก็แน่นอนว่าไม่ทั้งหมด  บางอย่างอยู่บนพื้นที่สว่างแต่กลับมีสีเทา ๆ บ้างก็มี  ถึงแม้จะไม่อยากให้เกิดกรณีเสียชีวิตก็ตามแต่กลับต้องมีการนองเลือดบ้างในบางครั้ง  แน่นอนว่านอกจากการออกเงินกู้ให้พวกหน้าใหญ่ใจโตแล้ว  งานอื่น ๆ ของผมทั้งหมดนั้นเป็นงานสุจริตแต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมสุจริตเสมอไป  ถ้าเมื่อไหร่ที่คู่แข่งเล่นไม่ซื่อมา  ผมเองไม่เคยรีรอที่จะปกป้องงานของผมในแบบที่ผมจำเป็นต้องทำ  สำหรับวงการธุรกิจเรารู้กันดีอยู่ว่าสามารถแยกงานสุจริตออกไปได้ในหลายความหมาย  ผมไม่ขาวและผมไม่ดำ  พูดให้ถูก..คนเราก็ต้องมีด้านมืดกันบ้างเพื่อเอาตัวรอด  ซึ่งผมอาจจะมีเปอร์เซ็นต์อยู่ในมุมมืดมากไปหน่อย  อันที่จริงแล้วผมก็พยายามอย่างที่สุดที่จะทำทุกงานอย่างตรงไปตรงมา  ไม่เบียดเบียนใครให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้  แต่ธุรกิจแบบนี้การขัดขาคนใหญ่คนโตโดยที่เราไม่มีกำลังมากพอที่จะต่อสู้กลับ  มันก็เป็นเรื่องที่อยู่ได้ยาก  บางครั้งเราก็ต้องงัดความสามารถด้านมืดออกมาใช้เพื่อปกป้องตัวเองในบางกรณี  เพราะคงไม่มีใครหน้าไหนที่จะซื่อสัตย์ต่อเราได้มากเท่ากับตัวเราอีกแล้ว

สำหรับผม..งานที่บริหารยากหน่อยก็คงเป็นค่ายมวย  เพราะต้องรับผิดชอบคนมากในขณะที่รายได้ไม่คงที่  พอจังหวะดีก็ดีใจหาย  แต่บทจะมีเรื่อง  มีคดีความขึ้นมาก็เล่นเอาหนักเหมือนกัน  รายจ่ายที่เสียกับค่ายมวยต่อเดือนนั้นค่อนข้างสูง  ไม่ว่านักมวยจะแพ้ หรือ ชนะมาทุกคนยังต้องอยู่ต้องกิน  เรามีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตพวกเขา  ดังนั้น..ส่วนนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการบริหารเงินเป็นอย่างมาก  โชคดีที่ค่ายมวยของผมมีชื่อเสียงค่อนข้างดังในวงการมานาน  เป็นที่นับหน้าถือตามาตั้งแต่รุ่นปู่  และเป็นที่ไว้ใจให้คนมาศึกษาเล่าเรียน  นักมวยในค่ายก็ทำชื่อเสียงไว้มากตั้งแต่สมัยก่อน  การส่งนักมวยในค่ายไปออกรายการโทรทัศน์  โปรโมททางสื่อ  หรือไปฝึกสอนที่ต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะหารายได้ให้กับค่ายของเรา  ผมมีความสุขกับการบริหารค่ายมวยเป็นพิเศษ  คงเพราะเกิดมากับที่นี่  กินนอนและคลุกคลีมาด้วยกันจนเหมือนพี่เหมือนน้องกันไปแล้ว

หลังจากที่ผมเคลียร์งานเสร็จ  จัดการวางตารางงานเรียบร้อยว่าหลัก ๆ แล้วภายในอาทิตย์นี้ผมจะต้องทำอะไรวันไหนเวลาใดบ้าง  จึงเดินออกมาข้างนอกเพื่อยืดเส้นยืดสาย  พอตรงไปที่ห้องนั่งเล่น  ตั้งใจว่าจะมองไปที่โรงฝึกว่าสมุทรอยู่ในนั้นไหมแต่กลับไม่พบใคร.. 

"คุณไฟคะ..ป้ากำลังจะไปถามอยู่พอดี" ป้าจอมซึ่งเป็นญาติของป้าอิ่มเดินเข้ามา

"ครับ"

"จะกินกลางวันเลยไหมคะ เลยเวลามานานแล้ว" ป้าถาม

"เดี๋ยวก่อนครับ เอ่อ..สมุทรอยู่ไหน" ผมถาม

"อยู่ในครัวใหญ่น่ะค่ะ" ป้าจอมยิ้มตอบ  ผมพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาเลย  ผมเดินตรงไปที่ห้องครัวใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลังบ้าน  ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงคนพูดคุยและหัวเราะดังชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเดินไปถึงประตูทางเข้าครัวผมจึงหยุดยืนอยู่ตรงนั้น  แม่บ้านสองสามคนกำลังทำอาหารกันอย่างขะมักเขม้น  ส่วนสมุทรกำลังช่วยอยู่ด้วยอีกแรง  ในครัวดูจะสนิทกับสมาชิกใหม่ของบ้านเราได้เป็นอย่างดี  พวกเขาดูมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่มากแบบที่ผมไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่นัก  เพราะผมทำอาหารไม่เป็น  ตั้งแต่เด็กจนโตคิดว่านั่นคือหน้าที่ของแม่บ้านในบ้านมาเสมอ  นอกจากอาหารอะไรง่าย ๆ ที่พอทำได้เพื่อประทังชีวิตได้แล้วนอกนั้นผมขอโบกมือลา 

ผมยืนมองโดยรักษาความเงียบไว้  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่  เมนูอาหารคืออะไร  เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ก่อนหน้า  ทุกคนทำอย่างกับรู้จักกันมานานเป็นแรมปี  นั่นจึงทำให้ผมไม่กล้าเอ่ยทักขัดจังหวะออกไป  สมุทรเองก็คล่องมือมากพอสมควร  นาน ๆ ทีจะได้เห็นว่าผู้ชายอยู่ในครัวก็ดูมีเสน่ห์ดีอีกแบบ  เขาหยิบจับอะไรว่องไวเหมือนชินในการทำงานในครัวด้วย  ผมยืนมองอยู่อย่างนั้นไม่ละสายตา  รู้สึกเหมือนกับว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้นั้นแปลกใหม่ตามากทีเดียว..



.............ไฟ.............



ปล. จากผู้เขียน

1). มีการพูดคุย  สงสัยและคาดเดากันเกิดขึ้นมากในกรณีที่ว่า ตอนของไฟนี้.. ผู้ใดรุก และ ผู้ใดรับ ^ - ^ เบบี้ไม่สามารถตอบให้ได้ในตอนนี้เพราะต้องการให้ทราบในตอนต่อ ๆ ไปในอนาคตด้วยตัวผู้อ่านเอง  แต่เนื่องจากว่าเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง(ขออ้างเฉพาะนิยายบางเรื่องของตัวเบบี้เอง)เคยเกิดกรณีที่ผู้อ่านบางท่าน "รับไม่ได้" กับเนื้อหาพลิกผันที่เกิดขึ้น ฯลฯ  ดังนี้..จึงขอเตือนก่อนล่วงหน้าว่า  ถ้าหากท่านจะไม่สามารถรับได้..ถ้า..ใครก็ตามจะรุก หรือ ใครก็ตามจะรับ  เพื่อกันไม่ให้เกิดสภาวะสะเทือนใจต่อผู้อ่าน(ท่านที่รับไม่ได้)เกิดขึ้น  เบบี้จึงขอเตือนว่าท่านสามารถหยุดอ่านได้ตั้งแต่ตอนนี้ยังทันนะคะ  เพราะทางเบบี้มีเนื้อหาที่วางไว้ในใจอยู่แล้วและจะไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใด 

2). ตอนนี้เป็นไปแบบซอฟท์ ๆ หลังจากที่ดูน่าจะลุ้นและเนื้อหาอยู่กับไฟกันมานาน ^ . ^ ตอนต่อไปไม่สามารถรับปากได้ว่าเมื่อไหร่  แต่อาจจะไม่นานเกินรอ  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

..ขอขอบคุณคุณ Must ด้วยที่กรุณาทำสารบัญให้อีกเรื่องแล้ว  อย่างไรเบบี้จะแปะไว้ที่หน้าที่ 1 นะคะจะได้สะดวกต่อท่านอื่น ๆ ขอบคุณมากค่ะ..

เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2015 13:02:49 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ใครจะรับใครจะรุกเค้าไม่ซีนะ ผ่านข้าวตาร์มาได้ เรื่องอื่นก็วินๆ XD

ปล.งานนี้เหมือนพายุจะได้กำลังเสริมคนใหม่มาสู้กับอาเฮียนะ 5555+

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
สมุทรน่ารักสุดๆ อ่านตอนนี้จบรู้สึกวิ้งๆๆ (=^0^=)
ปล ใครรุกใครรับก็ได้ขอแค่ได้กันก็พอใจ๋แล้วววว

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ไม่มีปัญหาสำหรับรุกกะรับค่า ยังไงก็ได้  :z1:

รู้สึกว่าพายุของเราจะถูกชะตากะสมุทร ซึ่งมันเป็นผลดีกะเฮียไฟ 555

เฮียไฟเอาแต่มองสมุทรตลอดเวลา ระวังจะตกหลุมรักเข้านะ  :mew1:

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
แวบมาปักหมุดไว้หลังสอบเจอกันนนน >////////<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด