The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446165 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ชอบผู้ชายจีบกันแบบนี้

พี่ไฟลุยเลยจ้า....น้องเป็นกำลังใจให้

อ่านแล้วอ่านอีก หลงรักพี่ไฟ :)

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ครั้งที่แล้ว KFC  มาครั้งนี้ฮันนี่โทส เพิ่มเนยเยอะๆ 
คุณไฟนี่สายแบ๊วจริงๆด้วย น่าร้ากกกน่ารัก 
บทจะโหดก็สุดตีน บทจะแบ๊วก็น่าเอ็นดู 
รักเลยนะสมุทร คนแปลกๆแบบนี้หายากรู้มั้ย
 :laugh: :laugh: :laugh:
 
 

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
หวานๆ สไตล์คุณไฟ หรือเปล่าเนี่ย

เหมือนมาเดทกัน 5555

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ตอนแรกนึกว่าไฟสมุทร
แต่ทำไมตอนนี้ไฟเคะแตกจัง ดูตุ๊ดมาก
เพลียแปป

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
ไฟ...ขี้อ่อยยยย!!!

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
เรียกว่าเค้าจีบกันได้ไหมนะ
หรือแค่เรียกลองเชิงกันเฉย ๆ ดี :hao6:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เขาจีบกันนนนนนนน
เขิลลลลลลลล

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เค้าทำอะไรกัน
เค้าจีบกันอยู่ใช่มั้ยยยย
เราไม่ได้เข้าใจผิดใช่มั้ย 55555555

ออฟไลน์ rk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
มารอทุกวันเลยค่ะ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่ 14
..ไฟ..




16:05 น. T-Racer International ..นนทบุรี

"พี่ธานอยู่นั่น!" ไอ้เด่นตื่นเต้น  ชี้มือไปที่สนามแข่งทำอย่างกับเพิ่งเคยเห็นพี่ธานขับรถครั้งแรกอย่างนั้น

ตอนนี้เราอยู่ในส่วนพื้นที่ของ Stadium  ทีแรก  ผมกะว่ามาถึงแล้วจะเข้าไปในออฟฟิศเลยแต่เห็นป้ายโฆษณาทางด้านนอกว่าวันนี้มีการทดลองรถจึงแวะมาดูก่อน  รถยนต์ยี่ห้อดังจากยุโรปได้มาเช่าพื้นที่สนามเพื่อทำการทดลองรถของเขา  ซึ่งคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการใช้บริการสนามของเราในครั้งแรก  ที่สนามของเราเปิดกว้างทุกอย่างเกี่ยวกับรถและความเร็ว  ไม่ว่าจะเปิดให้เช่าสนามเพื่อทดลองรถ  ทดลองความเร็วของรถแข่ง  เป็นสนามแข่งของทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ทางเรียบ  จัดงานมอเตอร์โชว์ต่าง ๆ ก็ด้วย

"หึ" ผมยิ้มให้  พี่ธานหันมาเห็นผมพอดี  อีกฝ่ายจึงโบกมือทักทายผมพอเป็นพิธี  พริตตี้ที่ยืนอยู่ข้างสนามมองพี่ธานที่กำลังจะขึ้นไปทดลองรถกันเป็นตาเป็นมัน  พี่ใหญ่ก็ยังคงเป็นขวัญใจสาวแท้สาวเทียมอีกเหมือนเคย 

"อยากเป็นพี่ใหญ่จัง" ไอ้เด่นทำหน้าเพ้อถึงไอดอลของมัน

"ยาก" ผมแกล้งตอบไปลอย ๆ

"นายอ่ะ!" ไอ้เด่นขึ้นเสียงหน้างอ  สมุทรอมยิ้มมองเราทั้งคู่

"นายก็อยู่กับไอ้เด่นไว้แล้วกันนะ เผื่อหาฉันไม่เจอ" ผมหันไปบอกสมุทรเอาไว้ก่อนเพราะสนามกว้างมาก  เกิดมีเหตุอะไรขึ้นมาเดี๋ยวอีกฝ่ายจะทำตัวไม่ถูก  หาไม่เจอ  งงเป็นไก่ตาแตกไปกันใหญ่

"ครับ" สมุทรพยักหน้าตอบ  ผมเดินลัดลงไปที่สนาม  พนักงานประจำหันมายกมือไหว้ทักทาย  ผมเพียงพยักหน้าตอบทุกคนเท่านั้น 

"สวัสดีครับคุณไฟ" ผมหันไป  ผู้ชายมีอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาทักแต่ผมไม่ได้ทักตอบในทันทีเพราะไม่รู้จัก  อีกทั้งไม่คุ้นตา  เขายิ้มแย้มยกมือไหว้  ผมจึงรีบยกมือไหว้กลับเพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็ดูมีอายุมากกว่ามาก  ผมเหลือบมองป้ายที่หน้าอกของเขา  ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการรถยี่ห้อดังที่นำมาทดลองในสนามในวันนี้

"ผมวาณิตครับ ผู้จัดการบริษัท xxx" อีกฝ่ายยิ้มแนะนำตัวเองพร้อมกับผายมือมาให้

"สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ผมผงกหัวยิ้มตอบพร้อมกับจับมือตอบเขาเช่นกัน

"เป็นไงครับ ราบรื่นดีนะ" ผมถาม

"ครับ..สะดวกสบายเลย เพิ่งมาใช้บริการครั้งแรก สนามใหญ่มากเลยนะครับ" วาณิตยิ้มชม

"นี่รถรุ่นใหม่เหรอครับ" ผมถามถึง

"ครับ..นำเข้ามาทดลองขับก่อน กลางปีนี้จะโฆษณาจริงจังแล้วละครับ..อาจจะเข้าร่วมกับทีมแข่งรถด้วย" อีกฝ่ายพูดตอบและกุมมือไว้ด้วยท่าทีสุภาพ 

"จะลองหน่อยไหมล่ะครับ" เขาถามผม

"อ๋อ..ไม่เป็นไรครับ ไม่ดีกว่า" ผมตอบปัดแกมหัวเราะ  ไม่ใช่เพราะเกรงใจแต่ไม่มีอารมณ์มากกว่า

"ไฟ!" ผมหันไปตามเสียง  ไอ้โปรดวิ่งหน้าตั้งมา



บรื้น ~~  ....ผมและทุกคนหันไปมองตามเสียงการออกตัวรถที่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว  คันนั้นเป็นคันของพี่ธาน  ไอ้โปรดชะงักมองตามและเริ่มทำหน้าเบ้

"โหย แย่งซีน" ไอ้โปรดพึมพำทำท่าหมันไส้  เวลาผ่านไปเท่าไหร่มันก็มักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพี่ธานเสมอ  ผมและทุกคนหัวเราะ  อันที่จริงแล้วผมรู้ว่าไอ้โปรดชอบฝีมือการขับรถของพี่ธานมาก  มันก็แค่หมันไส้ที่เห็นว่าพี่เขามีดีหลายด้านนั่นละครับ
 
"คุณวาณิต รู้จักกันแล้วนะ" ไอ้โปรดหันมามองเราทั้งคู่  ผมสองคนพยักหน้า

"ลองหน่อยไหม ผมลองแล้ว" ไอ้โปรดยื่นกุญแจรถมาให้  มันเปลี่ยนสรรพนามการเรียกระหว่างเราเมื่อไหร่ที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นที่ค่อนข้างเป็นทางการ

"ไม่ละ ขี้เกียจ" ผมตอบตามตรง 

"คุณขี้เกียจทุกอย่างแหละ วันหลังคุณก็ขี้เกียจหายใจซะด้วยเลยนะ" ไอ้โปรดฉีกปากว่า  มันคงอยากด่าแรงกว่านี้เต็มแก่แต่ไม่สามารถทำได้

"คุณว่าผมได้เหรอครับ" ผมยิ้มตอบกวน ๆ วาณิตหัวเราะเบา ๆ

"ขอบคุณมากครับคุณวาณิต" ไอ้โปรดยื่นกุญแจคืนให้ผู้จัดการรถทั้งสองมือ  อีกฝ่ายก็ก้มหัวรับด้วยท่าทางนอบน้อมเช่นกัน 

"คันของพี่ธานนั่นกี่ซีซี" ผมถามไอ้โปรด  ตาจับจ้องมองการขับขี่ของพี่ธานที่อยู่บนสนาม

"สี่พันมั้ง" ไอ้โปรดเหลือบมองไปที่วาณิตเหมือนไม่แน่ใจ

"คันที่กำลังลองอยู่นั่นเหรอครับ..คันนั้นสามพันเก้าร้อยซีซีครับ" วาณิตตอบแทน

"ห้าร้อยแรงม้า" ผมพึมพำ

"ครับ..ห้าร้อยสิบแรงม้า ความเร็วสูงสุดสามร้อยสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง" วาณิตขยายความ  เราสามคนหันไปมองรถคันของพี่ธานที่ขับอย่างรวดเร็วและปราดเปรียว  ฝีมือจากนักแข่งรุ่นเก่าที่จะเก๋ารึเปล่าคงต้องให้เจ้าตัวแสดงฝีมือด้วยตัวเอง

"คนของผมคงชอบน่าดู" ผมพึมพำมองพี่ธานที่ดูจะสนุกสุดปลายเท้าอยู่กับรถยี่ห้อดัง

"ราคาเท่าไหร่ละครับ" ผมอมยิ้มถาม

"เกือบ ๆ สิบห้าล้านครับ" วาณิตยิ้มตอบ  ผมพยักหน้ารับ  พี่ธานขับรถเข้ามาเทียบจอดใกล้ตรงหน้าผมพอดี  พนักงานในส่วนต่าง ๆ เข้าไปพูดคุยด้วยและเตรียมรถเพื่อนำไปทดลองในขั้นต่อไป  พี่เขาเดินตรงมาทางพวกเรา

"เป็นยังไงบ้างครับ" วาณิตถามพี่ธาน  พี่ธานอมยิ้มน้อย ๆ

"ถ้าลองทางตรง ความเร็วคงได้อีกเยอะนะครับ..แต่ผมเกรงใจ" พี่ธานตอบทีเล่นทีจริง  พวกผมหัวเราะในลำคอ  พี่เขายื่นกุญแจคืนให้กับวาณิต

"เอาไว้ลองรถของเราดีกว่านะ" ผมเหน็บพี่ธานติดตลกจนอีกฝ่ายหัวเราะ

"เชิญตามสบายเลยนะครับคุณวาณิต มีอะไรก็ติดต่อพนักงานได้เลย..เดี๋ยวผมคงต้องขอตัวก่อน" ผมบอกเขา

"ขอบคุณมากครับ" วาณิตหันมายิ้มให้  ผมยกมือไหว้เป็นการบอกลาก่อนที่เขาจะลาทุกคนและกลับเข้าไปในส่วนของงาน

"พี่สนอยู่ไหน" ผมถาม  ปกติจะต้องเห็นมาต้อนรับแขกอยู่แถวนี้

"น้ำครับ" ไอ้เข้มวิ่งมาพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้พี่ใหญ่ของมัน  พี่ธานรับไปเปิดดื่ม

"กำลังมา พี่สนบอกให้มึงอยู่ก่อน..เค้ามีเรื่องจะคุยกับพวกเรา" ไอ้โปรดบอก  ผมพยักหน้า  เหลือบหันไปมองอีกทาง  เห็นเพื่อน ๆ ของพวกไอ้กริดอยู่ในสนามตอนนี้ด้วย

"วันนี้ ไม่ได้มีเฉพาะคนในเหรอ" ผมถามอย่างรักษาท่าที  หันกลับมามองพี่ธาน  พี่ธานเหลือบมองตามจุดหมายของผมในครั้งแรกและเข้าใจในทันทีว่าผมหมายถึงอะไร

"พ่อมันเป็นบริษัทตัวแทนขายอยู่ที่พัทยานะครับ" พี่ธานขยายความถึงเพื่อนของไอ้กริดที่น่าจะชื่อ "นัด" หรืออะไรสักอย่างผมไม่แน่ใจ  ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนสนิทในวงการรถยนต์ของไอ้กริด  มันมาที่สนามแข่งรถของผมเป็นประจำคงเพราะเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้กรุงเทพมากที่สุดละมัง  ประมาณว่าไม่มีตัวเลือกอะไรทำนองนั้น

"อีกอย่าง..วันอาทิตย์นี้จะมีรวมตัวทดลองรถที่จะลงแข่ง Super BT มันก็เลยขอเช่าสนามหลังจากจบอีเวนต์นี้น่ะครับ" พี่ธานบอก 

"มึงไม่รู้เหรอ" ไอ้โปรดถาม

"อืม..กูก็ไม่ยักรู้ ว่ากูจะได้ใกล้ชิดพวกมันขนาดนี้ เพราะถ้ากูเป็นมัน..กูจะไม่มา มันเป็นหลักการใช้ชีวิตที่คิดง่าย ๆ ด้วยตัวเอง" ผมพูดไปงั้นอย่างไม่คิดหนักอะไร  ไอ้โปรดหัวเราะ

"พูดถึงก็มา" ผมพึมพำเพราะเห็นไอ้กริดเดินเข้ามาหาเพื่อนมันที่สนามพอดิบพอดี  ผมหันหน้าหนีทันทีเพราะไม่อยากมอง

"มันคงชอบชีวิตมึงน่าดูเลยนะ ตามติดตูดมึงต้อย ๆ อีกเดี๋ยวมันจะต้องทำสนามแข่งแบบมึงแน่ เพราะขนาดผับมึง..มันยังอยากจะฮุบเลย" ไอ้โปรดแซวแกมหัวเราะ  ไอ้นี่ว่าอะไรเป็นเรื่องตลกไปหมดแหละครับ

"ดี..กูจะได้ขายหุ้นทิ้ง" ผมว่า 

"พรุ่งนี้เช้ากูมีบิน..จะกลับมาวันเสาร์เช้า วันอาทิตย์กูจะเข้ามานี่..พี่สนสั่งด้วยแหละ มึงจะมาไหม" ไอ้โปรดถาม  ผมพยักหน้าตอบไปลอย ๆ

"ตอบเป็นคำพูดสิ..พยักหน้ากูจะเข้าใจไหม" ไอ้โปรดว่าให้  น้ำเสียงฟังดูรำคาญ  ผมหัวเราะและก็ยังไม่คิดจะตอบอีกเหมือนเดิม

"รอบนี้ไม่เปลี่ยนตัวนักแข่งใช่ไหม" ผมถามพี่ธาน

"ครับ BT 500 สนลงเองเหมือนเดิม ส่วน BT 300 เต๋อกับสตีเฟ่นลง" พี่ธานตอบ 

พี่ธานอายุเท่ากับพี่สน  ลูกพี่ลูกน้องของไอ้โปรด  ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน  เคยเป็นคู่หูลงแข่งรถยนต์ทางเรียบด้วยกันสมัยรุ่น BT 300  ตอนที่ยังเอ๊าะ ๆ อยู่  นอกจากผมแล้วเพื่อนสนิทของพี่ธานที่สนิทมากที่สุดก็พี่สนนี่ละครับ  แถมพี่สนยังเป็นที่รักของพายุอีกด้วย  ด้วยความที่พี่สนและพี่ธานสนิทกันมาก  พี่ธานจึงเรียกพี่สนว่า "สน" เฉย ๆ และมีคำว่ามึง-กูให้ได้ยินอยู่เนือง ๆ

"พวกของไอ้กริดก็ลงเหรอ" ผมถามอีก  ไอ้โปรดกับพี่ธานพยักหน้าพร้อมกัน

"เพื่อนสนิทมันไง ที่ชื่อไอ้ดอยอะไรนั่น..ลงรุ่น 300" ไอ้โปรดตอบ 

"เอาซะกูไม่อยากดูเลย" ผมแสยะปากบ่น  ล้วงกระเป๋าหยิบลูกอมออกมาหนึ่งเม็ด

"ขอบ้าง" ไอ้โปรดแบมือตรงหน้า

"ไม่เอา กูมีแค่สองเม็ด" ผมบอกและไม่คิดจะให้ด้วย  จะมาโทษผมก็ไม่ได้นะ  ก็พี่ธานอนุญาตให้ผมกินแค่วันละสองเม็ดเอง 

"แค่ลูกอมมึงก็ยังหวงกับกูอ่ะเนอะ" ไอ้โปรดว่า  พี่ธานอมยิ้ม

"ว่าไปว่ามา กูก็อยากลงเหมือนกันน้า" ไอ้โปรดพึมพำตามองไปไกลเหมือนกำลังใช้ความคิด  พูดนั่นพูดนี่ทำอย่างกับการแข่ง Super BT จะใครก็ลงแข่งได้อย่างนั้น  มันเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าการแข่งประเภทนี้เป็นการแข่งที่รวมนักแข่งระดับเซียนเอาไว้  จัดขึ้นทุกปี  ในแต่ละสนามจึงหมายถึงว่านักแข่งมีสิทธิ์แก้มือหนึ่งครั้งต่อหนึ่งสนาม  ภายในครั้งเดียวต่อปีก็เท่านั้น  ซึ่งนอกจากพรสวรรค์แล้วนักแข่งแต่ละคนยังต้องฝึกซ้อมอย่างหนักจนแทบไม่มีวันหยุดกับเขาเลยด้วยซ้ำ

"..แต่ไม่ดีกว่า กลัวหลับ" มันพูดแทรกขึ้นท่ามกลางประโยคของตัวเองแบบง่าย ๆ ซะงั้น 

"สภาพมึงตอนนี้อะนะ ไปขี้เหอะ!" ผมสบถว่าให้

"หึหึหึ" พี่ธานหัวเราะ  ไอ้โปรดกัดฟันแน่นทำท่าจะแดกผมแล้ว

"พี่ธานครับ น้าอาจเรียกให้ไปที่ Pit หน่อยครับ!" พนักงานตะโกนเรียก  พี่ธานหันมาผงกหัวขออนุญาตผมก่อนรีบวิ่งไปพร้อมกับไอ้เข้ม

"เอ๊ะ! นั่นใครอ่ะ!" ไอ้โปรดถลึงตาโตมองไปทางด้านหลังของผม  ผมหันกลับไปมองตาม  ไอ้เด่นกับสมุทรยืนอยู่ถัดจากผมไปประมาณสองสามเมตร  ผมหันกลับมามองไอ้โปรดอีกครั้ง  ตอนนี้มันกลับเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาทั้งสองคนแล้ว

"เด่น..คนนี้ใครเหรอ" ไอ้โปรดทักด้วยท่าทางตื่นเต้นยิ้มแย้มหางกระดิก  ผมรีบเดินตามมันไปแล้วยืนขนาบข้างเพราะไอ้นี่มันไวปานลิงจริง ๆ

"เอ่อ พี่สมุทรครับ" ไอ้เด่นยิ้มตอบ  สมุทรอมยิ้มน้อย ๆ ด้วยท่าทีเกรง ๆ

"นี่สมุทร..ส่วนนี่ไอ้โปรด เพื่อนฉันเอง" ผมแนะนำ  สมุทรทำท่าจะยกมือไหว้

"ไม่ต้องไหว้หรอก" ไอ้โปรดรีบบอกปัด  สมุทรยิ้ม  หลังจากนั้นไอ้โปรดก็หุบปากเงียบไปเสียเฉย ๆ มันเงยหน้ายิ้มจ้องสมุทรไปวางตา  มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าจนเจ้าตัวถึงกับหลบสายตายิ้มเขิน

"สเปกอ่ะ!" ไอ้โปรดว่าโผงขึ้นเสียงดัง  สมุทรผงะด้วยความตกใจ

"ลูกน้องกู" ผมดักคอ

"ใครสน" ไอ้โปรดหันมาตอบหน้าตาย  ผมมองปรามแล้วเข้าไปกอดคอไอ้โปรดมาอย่างแรง  เดินลากคอไอ้โปรดออกมาจากสมุทร  ไอ้โปรดร้อง  เดินตามผมมาแบบที่สู้แรงผมไม่ไหว
 
"ใคร" ไอ้โปรดเงยหน้ามาถามเอาความ  ผมมองตรงลูกเดียว 

"กูถามว่าใคร" มันพึมพำอยู่ใกล้ซอกคอของผมอย่างจงใจ 
 
"ลูกน้อง.. ใหม่" ผมตอบ  ทิ้งเสียงห้วน ๆ ไม่มองหน้ามัน

"ใคร" ไอ้โปรดย้ำเสียงอีกครั้ง  ครั้งนี้ผมเลือกที่จะไม่ตอบและชูมือขวาขึ้นตรงหน้าของไอ้โปรด

"อะไร" มันถามงง ๆ มองตามไปที่มือผม

"ป้ายแจ้งเตือน" ผมอมยิ้มตอบ  ไอ้โปรดหันมามองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจอีกครั้ง  ผมจึงนำมือที่ชูอยู่นั้นตีเข้าที่หน้าผากมันอย่างแรงดัง "เพี้ย!"

"โอ๊ย!" มันร้องหน้ามุ่ย

"ไอ้ไฟ!" ไอ้โปรดกระแทกเสียงใส่  ผมยิ้มพร้อมกับผลักมันออกจากตัวอย่างแรง  อีกฝ่ายโวยวายไม่หยุด  ผมเดินผ่านพวกกลุ่มของไอ้กริดโดยไม่มองแม้สักตา  ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น  ผมเดินผ่านพวกมันเพื่อจะตรงเข้าไปในส่วนของออฟฟิศด้านใน Stadium  ไอ้โปรด  สมุทรและไอ้เด่นเดินตามหลังมาไม่ห่าง     

"รถพี่สนเอาคันไหนเข้าแข่งวะ" ผมเปลี่ยนเรื่องถามไอ้โปรดอย่างสงสัย

"AR8" ไอ้โปรดตอบ

"ไปรออยู่ที่ห้องฉันก่อนแล้วกัน" ผมหันกลับไปบอกทั้งสองคนเพราะผมและไอ้โปรดต้องไปรอพี่สนที่ห้องประชุม

"ครับ" ไอ้เด่นพยักหน้าตอบ  ไอ้โปรดหันไปอมยิ้มมองสมุทรพร้อมกับโบกมือให้น้อย ๆ ด้วยท่าทางทะเล้นด้วย  สมุทรผงกหัวยิ้ม ๆ ตอบให้ไอ้โปรด  เมื่อผมและมันเดินมาถึงห้องประชุม  จึงแยกย้ายกันนั่งที่ประจำคือเก้าอี้ตัวละฝั่งตรงข้ามกัน

"ไม่ใช่แค่ลูกน้องหรอกใช่ไหม.." ไอ้โปรดพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ  ผมไม่ตอบ  เราต่างมองแต่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่นอยู่

"ชื่อสมุทรเหรอ แปลกดีนะ" อีกฝ่ายยังพูดจ้อไม่หยุด  ผมยังรักษาความเงียบต่อไป  ทำเป็นไม่ได้ยินเดี๋ยวมันก็คงเงียบปากไปเอง
 
"..กูขอได้ป่ะ" มันว่า  ผมเหลือบมองไอ้โปรดช้า ๆ มันอมยิ้มจ้องหน้าผมอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับยักคิ้วกวนอีกด้วย  ผมกดปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วนำไปวางลงบนโต๊ะ  ไอ้โปรดเบะปากเลิกคิ้วทำหน้ากวนอารมณ์ไม่หยุด  มันเลื่อนเก้าอี้หมุนไปมาไม่หยุดอยู่กับที่  ผมเมินหน้าไปอีกทาง  อย่างทำอะไรก็ให้มันทำไป  ครู่หนึ่งจู่ ๆ มันก็ไถลเก้าอี้ของมันมาตรงหน้าผม

"มึงหวงลูกน้องด้วยเหรอ กูไม่ยักจะรู้" ไอ้โปรดพูด  หน้าของเราห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น  ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันอย่างไม่มียอมความ

"มันไม่น่าจะเป็นสเปกมึงนะ" ผมย้อนหน้านิ่ง  ถึงแม้รูปร่างของสมุทรน่าจะโดนใจไอ้โปรดน่าดู  แต่ผมรับรองเลยว่านิสัยของสมุทรจะไม่ใช่ในแบบที่ไอ้โปรดชอบอย่างแน่นอน

"อ๋อ..แน่นอน ก็เพราะนั่นสเปกมึงไง!" ผมเงียบฟังไอ้โปรดที่กลับย้อนตอบผมได้อย่างรวดเร็ว

"สเปกแบบที่มึงต้องการ แต่หาไม่ค่อยได้ซะด้วย" ไอ้โปรดขยายความพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์

"แหม่ กูนี่ทำไมเก่งจัง" มันเอามือทาบอก  กลอกตาขึ้นบนทำหน้าภูมิอกภูมิใจจนน่าถีบ

"ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะชอบมึงนี่" ผมย้อนว่า

"ก็นั่นน่ะสินะ..ก็ไม่ได้หมายความว่ากั๊กไว้แล้ว เค้าจะชอบมึงเหมือนกัน" ไอ้โปรดยักคิ้วย้อนตอบ

"เปลี่ยนความคิดซะ กูไม่ได้กั๊ก" ผมพูดเสียงเรียบอย่างไม่แคร์

"ก็ถ้ามึงบอกว่า..ไม่ได้ กูจะไม่ยุ่ง" ไอ้โปรดอมยิ้ม  ผมแสยะยิ้มมองหน้ามันด้วย

"ทำไมกูต้องพูด" ผมเบะปากกวนกลับ  ไอ้โปรดทำท่าหัวเราะออกมาอย่างกวนส้นตีน  ผมหมันไส้จึงเอื้อมมือไปกำหูไอ้โปรดไว้เต็มกำมือพร้อมกับออกแรงลากมาตามแรงจนเจ้าของหูร้องเสียงหลงดังลั่นห้อง

"โอ๊ย! ไอ้ไฟ..กูเจ็บนะเว้ย!" มันร้องหน้าแดง  ตัวของไอ้นี่มันแดงง่ายมาก  ผมยิ้มกว้างและออกแรงบิดมากกว่าเดิม

"กูเจ็บ..ไอ้ไฟ กูเพื่อนมึงนะ" ไอ้โปรดเรียกร้องสิทธิ์

"เออ ๆ ๆ กูจะไม่ยุ่ง!" มันตะโกนลั่น  ผมอมยิ้มให้  คลายมือออกทีละนิด  ไอ้โปรดลูบหูตัวเองหน้ามุ่ย  สักพักหนึ่งสายตาที่มองค้อนผมก็เปลี่ยนไปเป็นเริ่มจับผิด

"หึหึหึ ว้าว..ว้าว ๆ ๆ ๆ อะไรกันนี่~" ไอ้โปรดหัวเราะในลำคอพร้อมกับนำมือปิดปากตัวเองทำท่าหยอกล้อผมไม่เลิก  ตามันแวววาวจนน่าถีบมากจริง ๆ อีกฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ถอยหลังกลับไปที่เดิมท่าทางทะเล้นตามเคยจนผมอดอมยิ้มไม่ได้

"ลูกของลูกน้องเก่าพ่อกู จะดูแลเป็นพิเศษก็เป็นเรื่องธรรมดา" ผมว่าแล้วถอยเก้าอี้ออกจากโต๊ะเล็กน้อยเพื่อต้องการจะพาดขาไปบนเก้าอี้อีกตัว  ผมว่าผมมารยาทเสียแล้วแต่ไอ้โปรดกลับหนักกว่า  มันยกขาขึ้นพาดไปบนโต๊ะประชุมด้วยท่าทางสบายซะไม่มี 



แกรก ~  ...พี่สนเปิดประตูเข้ามาถึงกับชะงักมองมาที่ปลายเท้าของเราทั้งสองคนด้วยท่าทางหน่ายใจ

"เอาขาหน้าของมึงสองตัว ลงจากอุปกรณ์การทำงานอันศักดิ์สิทธิ์ของกูด้วย" พี่สนว่าเสียงแข็ง

"หึหึหึ" ผมกับไอ้โปรดหัวเราะและทำตามที่สั่ง  ผมกับไอ้โปรดชอบแกล้งพี่สนด้วยอะไรไม่เข้าท่า  บางทีก็สร้างเสียงหัวเราะได้บ้างเพราะพี่สนแกค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่  มีนิสัยจริงจัง  เล็ก ๆ น้อย ๆ แกบ่นหมด  บ่นอย่างกับผู้หญิงนะครับ

"มีใครเค้าบ่นหุ้นส่วนกันแบบนี้" ไอ้โปรดบ่นแกมหัวเราะ

"หุ้นส่วนที่ทิ้งงานให้กูดูคนเดียว แล้วตัวเองก็ไปทำงานประจำกันสบายใจเฉิบ..เชิญขายหุ้นไปได้เลย" พี่สนย้อนเสียงแข็งเหมือนคนจะโกรธ  ไอ้โปรดหัวเราะกว้างกว่าเดิม  มันไม่รู้สึกอะไรหรอกครับเชื่อผมเถอะ

"หุ้นส่วนเค้าก็ทำงานกันอย่างนี้นี่แหละ..มีหน้าที่ลอยชายไป ลอยชายมา อีกอย่าง..ขายหุ้นแล้วกูจะไปกวนตีนใครวะ" ไอ้โปรดพยักพเยิดหน้ามาทางผมเหมือนหาแนวร่วมกวนพี่ชายตัวเอง  ผมหัวเราะเบา ๆ

"คุยเรื่องงานก่อน..มีแต่ลูกค้าน่าปวดหัว" พี่สนบ่นหน้าเครียด

"ค้าบ" ไอ้โปรดขานรับ

"มึงจะว่างมาลงแข่งเมื่อไหร่ไฟ พี่จะได้จัดตารางให้" พี่สนถามแล้วเดินผ่านหลังไอ้โปรดมาเลื่อนเก้าอี้นั่งที่หัวโต๊ะ

"ไว้ก่อนว่ะพี่ ช่วงนี้ตารางมวยแน่นมาก..มีแต่เรื่องด้วย" ผมตอบ 

"เรื่องอะไร" พี่สนขมวดคิ้วถาม

"หมาต้อนแมว" ผมตอบส่ง ๆ แต่กลับมองหน้าพี่สนด้วยสายตาจริงจัง  พี่สนยิ่งทำหน้างงไปใหญ่เพราะคงไม่รู้ว่าผมพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่

"แมวต้อนหนู.." ผมพูดไปยิ้มไป

"หนูหนีแมว" ไอ้โปรดต่อให้อย่างรู้ใจผม  ผมหัวเราะเล็กน้อย

"คอแมวติดลูกกรง หนู..ก็เลยวิ่งหายไป" ผมกวนพี่สนไม่หยุด

"หึหึ" ไอ้โปรดหัวเราะ  พี่สนเอนหลังพิงเก้าอี้  ถอนหายใจเซ็ง ๆ มองตาขวางมาที่เราทั้งคู่

"งั้นก็เรื่องของมึงเหอะ" พี่สนกระแทกเสียงว่าปัด  ไอ้โปรดหัวเราะ  ผมยิ้ม

"ความลับเยอะนะมึงสองตัว" พี่เขาบ่นประโยคเดิม ๆ อีกแล้ว  ทั้งที่ผมและไอ้โปรดก็ไม่ได้มีความลับอะไรกันเท่าไหร่  แต่เรื่องบางเรื่องมันก็แค่พูดบอกออกไปไม่ได้  ซึ่งดูเหมือนพี่สนจะคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นความลับสำหรับพี่เขานะครับ  ไม่รู้ว่าจะให้ผมบอกทุกเรื่องเลยหรือยังไง

"เอา! บัญชีเดือนนี้ แล้วนี่เช็คของพวกคุณท่าน" พี่สนยื่นเอกสารและซองขาวมาให้ผมและไอ้โปรด  ผมรับมาดู  ทั้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายและตรวจรายรับในส่วนของผมในเดือนนี้ด้วย

"วันอาทิตย์นี้พี่ไม่เข้านะ ต้องไปมาเลย์..เรื่องแข่งรถนี่แหละ พี่บอกไอ้ธานแล้ว" พี่สนพูดขึ้น  เราสองคนพยักหน้า

"ผมกับไอ้โปรดตั้งใจจะมากันอยู่แล้ว" ผมบอก

"โอเค..พี่จะได้สบายใจ งั้นฝากพวกแกดูด้วยแล้วกัน" พี่สนพยักหน้าก่อนเปิดสมุดตรงหน้าออก

"ตกลง ที่กูขอให้ไอ้ธานมาทำประจำ..ว่าไง" พี่สนกลับมาพูดเรื่องเดิมที่เคยเกริ่นขอกับผมเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว  สายตาพี่สนเอาแต่มองเอกสาร 

"ยี่สิบล้าน..ผมขายเลย" ผมยักคิ้วบอก  พี่แกเงยหน้ามองผมในทันที 

"หึหึหึ" ไอ้โปรดปิดปากกลั้นขำอย่างชอบใจ  พี่สนอมยิ้ม

"นี่ก็สนามมึงนะไอ้ไฟ" พี่สนเตือนความจำ  ผมเงียบและได้แต่อมยิ้มอย่างเถียงไม่ออก

"เอาเป็นว่าผมขอก็แล้วกัน คนนี้ให้ไม่ได้จริง ๆ" ผมยังแกล้งพี่สนไม่เลิก  พี่สนถอนหายใจแรง

"ไม่ใช่ว่าไฟไม่เสนอนะ ผมเสนอแล้ว" ผมขยายความให้ทั้งสองคนรับทราบในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

"เอาเป็นว่า..ช่วงนี้ก็ให้พี่ธานอยู่ไม่ประจำเหมือนเดิม พี่อยากเรียกใช้เมื่อไหร่ก็โทรเคลียร์คิวกับพี่ธานเอาเองเลย" ผมอนุญาต  พี่สนพยักหน้าเข้าใจแต่ดูแล้วคงผิดหวังน่าดู 

"ไม่ใช่อะไร..ถ้าไอ้ธานมันอยู่ประจำไม่ได้ กูจะได้หาพนักงานตำแหน่งมันมาทำประจำสักที" พี่สนพูดพลางถอนหายใจ  น้ำเสียงฟังดูแอบหงุดหงิดเล็ก ๆ ผมรู้ดีว่าพี่สนอยากได้พี่ธานมาทำงานที่นี่มาก ๆ ก็รู้ใจกันขนาดนั้น  จะอยากได้ตัวมาไว้รึก็ไม่แปลก

"........." ผมเงียบ  เท้าคางยิ้มกริ่มมองหน้าพี่สน

"ผมให้พี่เค้าเลือกแล้วระหว่างผมกับพี่ ช่วยไม่ได้นะ..ก็พี่ธานเค้าเลือกผม" ผมพูด  พี่สนเงยหน้าขึ้นมองเพดานเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก

"ฉิบหาย มันมาบ้าง..ไม่มาบ้าง กูก็กั๊กตำแหน่งไว้รอมัน คนดี ๆ ก็เลยหายหัวไปสนามอื่นหมด" พี่สนไม่วายบ่นต่อ     

"อืม..ตามนั้นแหละครับ" ผมพยักหน้าตามใจพี่แก  อยากบ่นให้พี่แกบ่นไปครับ

"ไอ้ธานเหี้ยไรก็ให้ถามมึง ๆ กูเบื่อฉิบ..มันเทิดทูนมึงยิ่งกว่าพ่อมันอีกมั้ง" พี่สนหงุดหงิดว่าซะงั้น

"อิจฉาเหรอ" ผมแสยะยิ้มแซว

"สัตว์" พี่สนยิ้มเขิน  หยิบปากกามาเขวี้ยงใส่ผมทันที  เราเริ่มคุยงานกันต่อด้วยคำพูดที่จริงจังมากขึ้น  ที่จริงแล้วพี่สนแกก็เป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับงานมาก  ผมถึงไว้ใจที่จะร่วมหุ้นด้วย  ติดเล่นติดหัวก็มีแค่ไอ้โปรดเท่านั้นละครับ 

หนึ่งชั่วโมงให้หลังเราก็ต้องแยกย้ายกันไป  ไอ้โปรดกลับไปที่สนามอีกครั้งเพราะต้องไปลากับบริษัทรถเนื่องจากมันรู้จักกับผู้จัดการบริษัทเป็นการส่วนตัว  ถ้าบริษัทนี้พอใจในการบริการของสนามของเรา  เราอาจจะได้ร่วมงานกันอีกในระยะยาว  ส่วนพี่สนต้องเข้าไปดูรถของตนที่จะต้องนำทดลองเครื่องในวันอาทิตย์นี้ด้วย  ซึ่งถ้าพี่สนไม่อยู่ก็จำเป็นต้องสั่งงานกับทีมงานไว้  ผมที่ไม่ต้องการไปทั้งดูรถหรือรับรองลูกค้าจึงอาสานำเอกสารทั้งหมดกลับไปให้พนักงานในออฟฟิศแทน 

ผมเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นในส่วนของออฟฟิศห้องทำงานของผมและไอ้โปรด  ซึ่งลูกน้องของผมจะรู้กันดีว่าถ้าต้องการอยู่รอผม  พวกมันจะต้องไปนั่งรออยู่ที่นั่นเพราะจะสะดวกกว่าการไปรอในห้องรับรองแขกหรือห้องพักของนักแข่งรถอะไรพวกนั้น  พื้นที่ในแต่ละส่วนเราได้แยกส่วนกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เช่น โซนของออฟฟิศ  ห้องอาหารของพนักงาน  ห้องทำงานของผม  ไอ้โปรดและพี่สน  ห้องประชุมเล็กและห้องประชุมใหญ่  ทั้งหมดนี้จัดอยู่ในโซนเดียวกัน  นอกเหนือจากนั้นเป็นโซนสำหรับลูกค้าและทีมงานส่วนอื่น ๆ

"ไปไหนของมันวะ" ผมบ่น  พบว่าห้องนั่งเล่นนั้นว่างเปล่า  ไม่มีใครอยู่เลยสักคน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2015 16:31:57 โดย เบบี้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ก๊อก  ๆ ๆ  ...ผมหันไปมองที่ประตูทางเข้าห้อง  ยังไม่ทันเอ่ยปากอนุญาตอีกฝั่งหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาซะเฉย  พอเห็นคนที่เดินยิ้มหน้าบานเข้ามาก็ได้แต่มองไม่ได้ต่อว่าอะไรออกไป  "เดียร์"..พริตตี้ประจำสนามแข่งของเรา  เธอเป็นตัวเก็งและดาวเด่นตัวทำเงินของที่นี่เลยก็ว่าได้

"เห็นพี่ธานบอกว่าวันนี้คุณไฟมาด้วย" เดียร์ยิ้มกว้าง  เดินเข้ามาหาพร้อมกับนำแขนเข้ามาคล้องคอผมอย่างสนิทสนม  สถานะของเรามันเกินการวางท่าทีกันไปแล้ว  ซึ่งถ้าอยู่กันส่วนตัวแล้วเธอไม่ทำอะไรเกินตัว  ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ได้ว่าปรามอะไร  ผมยืนนิ่งยิ้มมอง  นำมือคล้องเอวอีกฝ่ายไว้หลวม ๆ

"มีอะไร..วันหลังอย่าเข้ามาแบบนี้สิ" ผมพูดเรียบ ๆ ไม่ได้ต่อว่าหนักอะไรนัก  เราสองคนเคยร่วมหลับนอนด้วยกันแล้วสองครั้ง  ครั้งหนึ่งนั้นเป็นตอนที่ออกไปต่างจังหวัดกับทีมงานในบริษัทเมื่อสองเดือนก่อน  ถัดจากนั้นมาอีกไม่กี่วันก็เกิดขึ้นอีกครั้งและก็ห่างหายกันไป  สถานะของเจ้านายและลูกน้องยังคงเหมือนเดิม  ผมคิดว่าเดียร์เองก็น่าจะรู้ตัวดีว่าไม่ควรก้าวข้ามเข้ามาหาผมมากเกินจำเป็น  ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ให้เธออยู่ในสถานะพิเศษกว่าพนักงานคนอื่นแต่อย่างใด  การอยู่อย่างไม่ประกาศตัวตนของเดียร์เป็นการอยู่อย่างฉลาด  ใช้ชีวิตปกติ  วางตัวค่อนข้างดีในหมู่พริตตี้ทีเดียว  พริตตี้คนอื่น ๆ จึงไม่ค่อยกล้ามีปัญหาหรือปากเสียงกับเธอนัก

สำหรับผม  เดียร์ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยและหุ่นโดดเด่นกว่าพริตตี้คนอื่น ๆ ในบริษัทของเรา  ไม่รู้ว่าวัน ๆ หนึ่งมีคนเข้ามาจีบเธอแล้วกี่คนต่อกี่คน  หุ่นเธอเซ็กซี่มากแบบที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลัง  มีอย่างเดียวที่เธอทำมาคือหน้าอก  ซึ่งผมว่ามันก็ดูดีไม่ใหญ่จนน่าเกลียดอะไร  หน้าอกที่ทำมาจนใหญ่เกินธรรมชาติ  ผมบอกตามตรงว่าผมกลัว  เวลามีอะไรกับใครจึงค่อนข้างสำรวจหุ่นอยู่พอสมควร  เดียร์จัดว่าเป็นผู้หญิงที่รูปหน้าสวย  เธอได้ไปทำอะไรมาบ้างผมไม่รู้เพราะถ้าใบหน้าไม่ศัลยกรรมมาจนสุดโต่งผมก็ดูไม่ค่อยออกนัก  ใบหน้าของเดียร์จัดว่าเป็นคนที่สวยแปลกตากว่าพริตตี้คนอื่น ๆ สิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบคือเธอแต่งหน้าค่อนข้างจัด  ผมว่ามันก็คืองานของเธอน่ะนะและมันจำเป็นต้องทำ  ผู้ชายที่เข้ามาในสนามของเราก็ต้องชอบของสวย ๆ งาม ๆ กันทั้งนั้น  แต่ถ้าให้ถามผมว่าผมชอบมองพวกเธอทั้งหมดไหมก็คงต้องตอบว่า "ไม่" อาจจะฟังดูตอแหลในสายตาของผู้ชายคนอื่น ๆ สิ้นดี  เอาความจริงผมมองจนเบื่อแล้ว  ผมอยู่วงการนี้มาพอสมควร  เจอพริตตี้มานักต่อนักซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่ตรงสเปกของผม  น้อยครั้งมากที่ผมจะถูกใจและนอนกับพริตตี้  นอกจากเดียร์ที่ดูโดดเด่นกว่าพริตตี้คนอื่น ๆ แล้ว  นอกนั้นปัจจุบันนี้ผมยังไม่รู้สึกตื่นเต้นอยากทำความรู้จักกับใครอีก  มองไปทางไหนทั้งหน้าตาและการแต่งตัวก็ดูคล้ายกันไปหมด  บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าผมอาจจะตายด้านเร็ว ๆ นี้ก็เป็นได้  แต่ก็เปล่า  อีกมุมหนึ่งผมยังเห็นว่าเดียร์ยังสามารถทำให้เลือดลมผมสูบฉีดได้อยู่  รูปหน้า หน้าอก ก้น เอว สะโพก..ทุกอย่างมันเว้าโค้งในแบบที่ควรจะเป็น  เดียร์เป็นผู้หญิงที่ชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์  นอกจากเป็นพริตตี้แล้วเธอยังหลงใหลการขับรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย  ดังนั้น..ใครที่เห็นท่าทางและหุ่นของเธอขณะคร่อมมอเตอร์ไซค์เอาไว้ก็เป็นต้องอยากพลีกายเป็นมอเตอร์ไซค์กันเกือบทุกราย  เรียกว่าเป็นสินค้าขายดีของสนามของเราเลยละครับ

"ก็คุณไฟไม่ค่อยมาเลย" เดียร์ทำหน้ามุ่ย

"ปีหน้าก็ต้องรับพริตตี้ใหม่เพิ่มด้วย ถ้าเดียร์ไม่รีบทำคะแนน..แล้วเดียร์จะอยู่ยังไงละเนี้ย" เดียร์บ่นอุบอิบ  ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ

"ก็ไปทำกับพี่สนสิ" ผมบอกแล้วจับแขนเธอออกอย่างช้า ๆ เพราะอย่างไรคนที่มีสิทธิ์ทุกอย่างเป็นอันดับหนึ่งในสนามนี้ก็คือพี่สนเพียงคนเดียวเท่านั้น

"ก็พี่สนมีแฟนแล้วนี่คะ อีกอย่าง..พี่สนขี้บ่น น่าเบื่อจะตาย" เดียร์ว่าด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมอดขำไม่ได้  ผมที่กำลังจะเดินหนีเดียร์ออกมากลับต้องชะงักในทันทีเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นว่ามีคนแอบฟังอยู่ที่ด้านนอก  อยู่ตรงประตูห้อง  ผมรักษาท่าที  เดินหันกลับไปหาเดียร์อีกครั้ง  สายตาเหลือบมองสำรวจไปที่รองเท้าและเงาสะท้อนตรงกระจก  ดูจากลักษณะรูปร่างอย่างคร่าว ๆ ก็รู้ในทันทีว่าไอ้ถ้ำมองคนนั้นนั่นคือใคร.."ไอ้กริด"

"อุ้ย" เดียร์ร้องด้วยความตกใจที่จู่ ๆ ผมก็เข้าไปกระชากเอวของเธอกลับเข้ามากอดอย่างกะทันหัน

"ถูกไอ้กริดจีบอยู่รึไง" ผมก้มลงไปกระซิบถามที่ข้างหู  เดียร์หลบสายตายิ้มเขินที่ผมดันรู้ทัน
 
"ค่ะ"

"หึ" ผมก้มลงจูบที่ต้นคอเดียร์เบา ๆ เธอไม่ได้ว่าอะไร  เดียร์รู้ว่าผมไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนเกินไป  กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอจึงเตะจมูกอย่างบางเบาเท่านั้น  เดียร์นำมือมาจับไหล่ผมเพื่อประคองตัวไว้  ปลายนิ้วของผมจับเส้นผมของเธอละไปทางด้านหลัง  อีกมือหนึ่งลูบไล้จากเอวของเธอต่ำลงไปอย่างเนิบช้าจนถึงสะโพก  ปากยังคงคลอเคลียอยู่ที่ใบหูอย่างไม่จริงจังอะไรนัก  มือที่คลึงอยู่เลื่อนต่ำลงไปถึงก้นอย่างตั้งใจยั่วอารมณ์คนที่ยืนอยู่ด้านนอก 

"คุณไฟ~" เดียร์ร้องเสียงเบาเมื่อถูกผมรุกมือหนักขึ้นโดยเลื่อนมือซุกเข้าไปในกระโปรงเพื่อไปบีบแก้มก้นของเธออย่างไม่ต้องการให้มีสิ่งใดมาขวางกั้น  เดียร์สะดุ้งกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม  ไม่มีท่าทีขัดขืน  เธอเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตายั่วยวนทำท่าจะเข้ามาจูบผมก่อน  ผมก้มหน้าลงไปแต่ไม่ยอมจูบอีกฝ่ายตรง ๆ ปากแตะลงที่ปลายคางอย่างแกล้งหยอกจนเดียร์หลับตาพริ้มในทันที 


แกรก ~ 

"เอ๊ะ!" เดียร์ร้องหน้าเสีย  ผมไม่ตกใจอะไรนัก  เราสองคนหันไปมองที่ปากประตู  ผมชะงักทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามากลับไม่ใช่ไอ้กริดอย่างที่คิด 

"ขอโทษครับ" สมุทรก้มหน้าหนี  ผมผละออกจากตัวเดียร์ช้า ๆ เธอรีบดึงกระโปรงลงปิดร่างกาย

"ขอตัวก่อนนะคะ" เดียร์รีบบอกไม่สบตาแล้ววิ่งออกจากห้องไป  ผมนำมือลูบต้นคอตัวเองตามองสมุทรที่ยังไม่ยอมสบตาผมตรง ๆ 

"คือ..ผมไม่ทันได้เห็น" สมุทรพยายามจะแก้ตัว

"ช่างมันเถอะ" ผมบอก  เรามองหน้ากันครู่หนึ่งสมุทรก็เหลือบสายตาหนีไปอีกทาง

"มีอะไร" ผมถาม

"เด่นลืมโทรศัพท์มือถือน่ะครับ" สมุทรตอบแล้วเดินตรงไปที่โต๊ะกลางห้อง  ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนนั้นด้วย 

"มันใช้นายเหรอ" ผมถาม  รู้สึกสะกิดใจนิด ๆ

"เปล่าครับ" สมุทรเลี่ยงตอบ

"วันหลัง ถ้ามันใช้นาย..นายห้ามทำ เข้าใจไหม" ผมพูดเตือน  สมุทรพยักหน้านิ่ง ๆ การไม่ขานตอบรับผม  โดยพื้นฐานนิสัยของสมุทร  สำหรับผมแล้วนั่นหมายถึงเขายังไม่รับทราบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

"เข้าใจไหม" ผมย้ำถามอีกครั้ง

"อีกฝ่ายกำลังสนุกอยู่ ผมไม่อยาก.." สมุทรพยายามจะพูดบอก

"ฉันถามว่าเข้าใจรึเปล่า" ผมพูดเสียงแข็งจนสมุทรนิ่งไป 

"ครับ" สมุทรพยักหน้า  ผมเดินออกมาจากห้อง  สมุทรเดินตามหลังมา  พี่ธาน  ไอ้เด่นและไอ้เข้มเพิ่งกลับเข้ามาจากสนามทางด้านนอก  ผมหันตัวกลับไปเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากมือสมุทร  อีกฝ่ายมองตามด้วยสีหน้าลำบากใจ  ผมมองคาดโทษไอ้เด่น

"ทีหลัง..ถ้าไม่มีปัญญาเดินกลับมาเอาเอง มึงก็ซื้อใหม่ซะ" ผมพูด  ไอ้เด่นก้มหน้าก้มตารับโทรศัพท์มือถือของมันจากมือผมไป

"ขอโทษครับนาย"

"เอากุญแจรถมา" ผมแบมือ  ไอ้เด่นเงยหน้าขึ้นมองผมหน้าหงอย

"กลับได้แล้วนะ" ผมสั่งพี่ธาน

"ครับ" พี่ธานพยักหน้า

"เอ่อ..นายไม่ให้ผมขับให้เหรอครับ" ไอ้เด่นรั้งผมไว้เมื่อเห็นผมจะเดินออกมา  ผมไม่ได้ตอบมันแต่หันไปมองหน้าสมุทรแทน  อีกฝ่ายยืนทำหน้าไม่ถูก

"สมุทร" ผมเรียกแล้วเดินนำออกมาก่อนเลย  ได้ยินแว่ว ๆ ว่าสมุทรพูดอะไรกับไอ้เด่นสองสามคำก่อนจะเดินตามผมมา  ผมให้สมุทรเป็นคนขับรถกลับไปที่บ้านของเขา  เสร็จจากที่ผมส่งเขาเสร็จผมก็ขับกลับบ้านทันที  วันนี้ต่างคนต่างกลับเร็วหน่อยก็คงดี  เพราะว่าพรุ่งนี้เราต้องไปค่ายมวยแต่เช้า  เสียเวลามาหลายวันแล้ว..


- - - - - - - - - - - - - - -


7:15 น. บ้านเลิศประสงค์

ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอสมุทรตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า  ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปค่ายมวยเรียบร้อย  เช้านี้ซัดกล้วยไปแล้วสองลูกซึ่งน่าจะอิ่มไปได้จนซ้อมมวยเสร็จ  พี่ธานตื่นแล้วเช่นกัน  ตอนนี้พี่เขาเดินทางนำไปที่ค่ายมวยพร้อมกับพวกลูกน้องของผมก่อนแล้ว

"ขอโทษครับ" ผมหันไปมอง  สมุทรมาถึงตามเวลาพอดี  ตั้งแต่วันแรกที่นัดกันก็ยังไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะมาสายเลยสักครั้ง

"ไปกันเลยแล้วกัน" ผมพับหนังสือพิมพ์แล้ววางลงบนโต๊ะก่อนลุกขึ้น  สมุทรมองตามเหมือนมีอะไรจะพูดด้วย

"เอ่อ คือว่า..เย็นนี้ผมขอกลับเร็วหน่อยจะได้รึเปล่าครับ" เขาถาม 

"ทำไม" ผมถามกลับ

"ผมต้องไปรับเมฆที่โรงเรียน พอดีว่าดาวมีซ้อมรำถึงค่ำน่ะครับ..ไปรับแทนให้ไม่ได้"

"คงจะไม่ได้" ผมตอบ 

"วันเสาร์นี้มีพบผู้ปกครองด้วยนะครับ ผมต้องไปรับใบจากครูที่โรงเรียน" สมุทรยังคงยืนยันเหตุผลของตนเอง

"ไม่ได้หรอก..เพราะกลางวันนี้ฉันตั้งใจไว้แล้วจะเข้าตลาด เสร็จจากนั้นฉันจะพานายกลับมาที่ค่ายอีก..จะได้ดูว่าตอนเช้ากับตอนเย็นเราทำงานกันยังไง ฉันอยากให้มันจบไปวันนี้ไปเลย" ผมบอกถึงเหตุผลของผม  สมุทรนิ่งเงียบเหมือนยังคงวิตกกังวล

"เอางี้แล้วกัน..เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปรับให้" ผมบอก

"ไม่ได้หรอกครับ เค้า..เอ่อ ไม่ไว้ใจคนอื่นน่ะ ผมกลัวว่าเค้าจะไม่ยอมมา" สมุทรพูดหน้าเครียด  ผมเงียบลง

"ฉันจะให้พายุไปรับ นายก็โทรบอกครูที่โรงเรียนว่าจะมีคนไปรับแล้วกัน" ผมพูดเองเสร็จแต่สมุทรก็ยังดูไม่สบายใจอยู่ดี

"เห็นอย่างนั้น..พายุเก่งนะ เปิดโรงเรียนศิลปะป้องกันตัวอยู่..ดูแลเด็กเล็กเยอะแยะไปหมด วางใจเถอะ..ฉันจะให้พายุพาเมฆไปส่งให้ที่ค่ายมวยแล้วกัน" ผมบอกสรรพคุณน้องชายตัวเองบ้าง  ลูกศิษย์ของพายุตัวเล็กตัวน้อยเยอะแยะไปหมด  เวลารวมตัวกันแล้วน่าปวดหัวจะตาย  เห็นพายุหน้านิ่งแบบนั้นแต่ก็เอาเด็กอยู่หมัดเหมือนกัน  สมุทรจ้องหน้าผมอย่างใช้ความคิดก่อนยิ้มออกมาหน่อย ๆ เหมือนยอมความแล้ว

"ก็ได้ครับ" เขาตอบ

"สี่โมงใช่ไหม ฉันจะได้โทรบอกพายุให้"

"ครับ โรงเรียนเลิกสี่โมงเย็น" สมุทรบอกชัดถ้อยชัดคำเหมือนกลัวว่าคนของผมจะผิดเวลา

"โทรบอกครูที่โรงเรียนไป คนที่จะไปรับชื่อพายุ..พายุ เลิศประสงค์ ถ้าไม่ไว้ใจก็จะขอดูบัตรประชาชนก่อนก็ได้" ผมพูดแล้วเดินนำออกมา  เสียงขานรับเบา ๆ จากสมุทรดังตามหลังให้ได้ยิน 

"เอากุญแจรถมารึเปล่า" ผมหันกลับไปถาม  สมุทรชะงักไปเหมือนไม่เข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร

"มอเตอร์ไซค์น่ะ"

"อ๋อ เอามา" สมุทรพยักห้าตอบ   

"ขับตามมาแล้วกัน ลองขับเลย..จะได้ชิน" ผมบอกแล้วเดินนำไปที่โรงรถ  สมุทรเดินตามมา  เขากวาดตามองรถมอเตอร์ไซค์ของผม  ของพี่ธานและของลูกน้องของผมทุก ๆ คันที่จอดเรียงรายอยู่นับหลายสิบคัน  ผมเดินไปหยุดอยู่ที่วางหมวกกันน็อกตรวจส่วนของผมกับพี่ธาน  เลือกใบใหม่ที่ซื้อมาแต่ยังไม่ได้ใช้ออกมาสองใบก่อนหยิบให้สมุทรไปหนึ่งใบที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับเขามากที่สุด 

"นายใช้อันนี้ไปก่อนแล้วกัน ฉันซื้อมาใหม่..ยังไม่ได้ใช้" ผมบอก

"ขอบคุณครับ" สมุทรรับไป

"เกือบสองหมื่นนะ ดูดี ๆ หน่อยล่ะ" ผมเตือน  สมุทรหันมามองทันที  ผมหัวเราะน้อย ๆ ที่เห็นหน้าเขาดูจะตกใจ

"แล้วก็ถุงมือ ฉันวางไว้ตรงนี้แล้วกันนะ..ส่วนหมวกกันน็อกของนาย ถ้าเอารถมาจอดที่นี่ให้เอาทุกอย่างไว้โซนนี้ อย่าเอาไปรวมกับไอ้พวกนั้นเด็ดขาด ปัญหาจะไม่เกิด" ผมเตือนไว้ก่อนเพราะลูกน้องผมทะเลาะกันประจำเรื่องรถ  สมุทรหลุดหัวเราะคงเข้าใจในความหมายที่ผมพูดเตือน

"คันนี้" ผมหันกลับไปชี้บอกมอเตอร์ไซค์คันของสมุทร  คันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์คันที่สองของผม  ซื้อสมัยตอนอยู่มัธยมศึกษาตอนปลาย  เป็นสปอร์ตขนาดกลาง  รูปทรงของตัวรถขับออกแบบมาให้ขับได้ทั้งทางใกล้และทางไกลได้  ซึ่งรูปร่างอย่างสมุทรสามารถขับได้สบายไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

"โอเคไหม" ผมถามถึง  กลัวว่าอีกฝ่ายจะขับไม่ได้เพราะดูจะเกร็ง ๆ

"ครับ" สมุทรพยักหน้ารับ

"เคยขับบิ๊กไบค์มาก่อนรึเปล่า" ผมถาม  ลืมไปเลยว่าลืมถาม 

"ก็เคยอยู่บ้างครับ" สมุทรตอบ  ผมหยิบมวกกันน็อกมาสวม  สมุทรเองก็สวมเช่นกัน

"แล้วเคยไปลงเรียนไหม" ผมถามอีกเพราะอยากจะรู้รายละเอียดเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเอง

"ไม่เคยครับ" สมุทรตอบ  ผมพยักหน้าเข้าใจเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าการลงเรียนคอร์สนั้นก็เป็นพื้นฐานที่สำคัญ

"ไม่เป็นไร..เดี๋ยววันหลังฉันสอน วันนี้ขับไปก่อนแล้วกัน จะได้ชินมือ" ผมบอก

"เอ่อ เกียร์ธรรมดา ขับมีคลัตช์เป็นใช่ไหม" ผมเริ่มระแวง

"หึ พอเป็นครับ" สมุทรตอบยิ้ม ๆ

"หึ..อะไรคือพอเป็น โอเค งั้นขึ้นก่อนเลย" ผมบอกแกมสั่งเพราะจะดูวิธีการทรงตัวของเขาและจะดูการออกตัวด้วย  สมุทรพยักหน้าแล้วขึ้นคร่อม

"สตาร์ทไฟฟ้านะ เสียบกุญแจ" ผมบอก  สมุทรทำตามที่สั่ง

"น้ำหนักรถสองร้อยกิโลโดยประมาณ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาดเครื่อง 820cc ออกตัวรถอย่ารีดคลัตช์ล่ะ ทำบ่อย ๆ เครื่องยนต์จะเสื่อม โอเคนะ" ผมแนะนำคร่าว ๆ ให้ก่อนเป็นความรู้  คิดว่าเด็กจบเทคนิคอย่างสมุทรน่าจะเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไว  สมุทรพยักหน้าเข้าใจ

"ออกตัวรถให้ดูหน่อย" ผมสั่งเพราะอยากจะรู้ว่าเขาออกตัวรถได้ถูกต้องหรือไม่  ซึ่งถ้าเขาใช้คลัตช์เป็นและไม่รีดคลัตช์ให้ผมระคายหูก็ถือว่าสอบขั้นต้นผ่าน  สมุทรสตาร์ทรถและขับเคลื่อนตัวรถออกไปให้ผมดูระยะทางหนึ่ง  เพียงแค่ฟังเสียงการออกตัวรถผมก็รู้ทันทีว่าเขาจะควบคุมมันได้หรือไม่  ซึ่งการออกตัวของเขาถือว่าใช้ได้  แสดงว่ามีความรู้อยู่บ้างพอสมควร

ผมอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างพอใจและขึ้นคร่อมรถคันของตนเอง  สมุทรหยุดรถรอผมอยู่ที่เดิม  เขายังไม่ขับออกไปก่อน  ผมชอบวิถีการทำงานในหน้าที่นี้ของเขาเพราะผมแทบไม่ต้องบอกอะไรเลยเกี่ยวกับการวางตัวว่าเขาควรทำตัวอย่างไร  อีกฝ่ายดูจะเรียนรู้สิ่งรอบ ๆ ตัวได้ด้วยตัวเอง  ซึ่งเวลาที่เขาทำอะไรก็ดูไม่น่ารำคาญจนเกินไปอีกด้วย 

ผมขับรถนำออกมา  สมุทรขับทิ้งช่วงจากผมไว้ประมาณหนึ่ง  เสียงรถของเราค่อนข้างดังเมื่อขับมาพร้อม ๆ กันแบบนี้  เพียงไม่กี่นาทีถึงที่หมาย  ผมขับไม่เร็วเท่าไหร่เพราะแถวนี้เป็นเขตชุมชน  เมื่อขับมาถึงค่ายมวย  นักมวยที่ซ้อมมวยกันอยู่พากันหันมามอง  พวกมันคงสงสัยที่ดันเห็นรถคันโปรดของผมมาพร้อมกันถึงสองคันทั้งที่พี่ธานก็อยู่ที่ค่ายมวยแล้วเรียบร้อย 

ผมนำรถไปจอดในที่จอดรถสำหรับมอเตอร์ไซค์  เดินเข้ามาในค่าย  ผมหันกลับไปมองสมุทรก็พบว่าเขากำลังสำรวจไปรอบ ๆ ค่ายตลอดเวลา  ผมเงียบมอง  ปล่อยให้เขาดูได้เต็มที่จนสมุทรหันมาสบตากับผมพอดี  เราต่างเงียบมองหน้ากัน

"เปลี่ยนไปเยอะนะครับ" สมุทรอมยิ้มบอก  สีหน้าเหมือนนึกถึงความหลัง 

"นายเคยมาเหรอ" ผมถามเพราะไม่รู้มาก่อน  สมุทรพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนไม่ต้องการจะตอบ

"แค่ครั้งสองครั้ง ที่จริง..จำไม่ค่อยได้แล้ว" สมุทรตอบแกมหัวเราะ  เขาเบือนหน้าไปอีกทาง  เราต่างเงียบอยู่ครู่หนึ่ง  ผมนำกระเป๋าไปวางที่เก้าอี้ข้าง ๆ ประตูทางเข้าออฟฟิศ  สมุทรนำมาวางตาม 

"ค่ายนี้เป็นสาขาใหญ่ เรามีอีกสองสาขาย่อยคือที่สุขุมวิท แล้วก็ที่สมุทรปราการ..สองที่นั้นส่วนใหญ่รับสอนมวย แต่ที่สาขาใหญ่ นักมวยที่ขึ้นชกให้จะอยู่ที่นี่เป็นหลัก" ผมเริ่มแนะนำรายละเอียด

พ่อขยายค่ายมวยออกไปหลายสาขา  มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 3 สาขา  สาขาใหญ่คือที่นี่  ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ้านของผมมากที่สุด  อาจไม่ได้อยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพอย่างสาขาย่อยอื่น  แต่ก็ยังอยู่ในตัวกรุงเทพที่สามารถมาไหนไปไหนได้สะดวกทั่วถึง  ผมชอบอยู่แถวนี้มากกว่าอยู่ใจกลางเมืองเพราะแค่ขนาดแถบนี้เองการจราจรก็ยังวุ่นวายบรม 

สาขาย่อยสาขาแรก  พ่อของผมริเริ่มก่อตั้งมันตั้งแต่สมัยที่พ่อยังมีไฟ  สาขานั้นอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท  ส่วนอีกสาขาหนึ่งอยู่ที่สมุทรปราการ  ในส่วนของประเทศไทยก็มีอยู่เท่านี้  ส่วนค่ายมวยสาขาที่ต่างประเทศมีแค่ที่ฮ่องกง  พ่อของผมเคยเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่นั่น  ปัจจุบันผมขายหุ้นไปแล้วแต่ยังคงติดต่อกับค่ายที่นั่นและร่วมงานกันมาเสมอ 

พ่อของผมได้เริ่มลงทุนและก่อตั้งค่ายมวยที่ฮ่องกงร่วมกับเพื่อนสนิทชาวฮ่องกงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันอย่าง "ลุงฮาน"  ทุกวันนี้ที่นั่นลุงฮานเป็นคนดูแลอยู่  ผมเดินทางไปเยี่ยมแกบ้าง  ไปดูงานบ้างเป็นระยะ  บางครั้งก็พาลูกน้องไปเที่ยวพักผ่อนด้วย  ระหว่างค่ายมวยของลุงฮานที่นั่นกับค่ายมวยของผมที่ประเทศไทย  เรายังติดต่อ  แลกเปลี่ยนผลัดกันดูแลนักมวยของกันและกันเป็นระยะ

"สาขาใหญ่เป็นที่เดียวที่สอนมวยไทยโบราณด้วย..ศาสตร์มวยลพบุรี มวยพระนคร" ผมเล่าประวัติและที่มาที่ไปอย่างคร่าว ๆ พ่อของสมุทรอย่างลุงยอดเองก็เป็นที่รู้กันดีในวงในว่าแกมีฝีมือเชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์มวยคาดเชือกเป็นอย่างมาก  ถ้าแกไม่ด่วนเสียชีวิตไปซะก่อนก็คงเป็นครูฝีมือดีอีกคน  และผมคิดว่าลูกไม้คงจะหล่นไม่ไกลต้นนักน่ะนะ

"นายก็น่าจะพอรู้ แม่ไม้พวกนี้เราไม่สอนคนนอก" ผมบอก

"ไอ้นนท์..เด่นมวยโคราช ศิษย์เก่าพ่อเกียรติ..สมัยเด็กมันเติบโตที่นั่น" ผมบอกถึงชื่อนักมวยที่เก่งฉกาจทางด้านมวยโคราชคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดีในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง

"เกียรติ โคราช" สมุทรพูดขึ้น

"ใช่" ผมตอบ  ว่าแล้วว่าอีกฝ่ายต้องรู้จัก

"นั่นไอ้นพ..ศาสตร์มวยโบราณ มือดีที่สุดของค่ายเราในตอนนี้" ผมชี้ไปที่ไอ้นพที่กำลังวอร์มร่างกายอยู่ข้างเวทีทางด้านหน้าออฟฟิศ  ไอ้นพหันมาเห็นผมพอดี  มันรีบยกมือไหว้ทักทาย  ผมพยักหน้าให้

"นายล่ะ" ผมหันกลับไปหลอกถาม  สมุทรนิ่งไป 

"ผมก็เป็นมวยทั่ว ๆ ไป เท่าที่ควรจะเป็นนั่นแหละครับ" อีกฝ่ายหลบหลีกที่จะตอบความจริง  ผมไม่ได้ต้องการต้อนเขาแต่ผมเพียงแค่ต้องการความจริง

"ที่บอกพายุว่าจะไม่โกหกนั่นก็โกหกสินะ" ผมอดเหน็บไม่ได้  สมุทรช้อนตามองผมนิ่งอย่างเอาเรื่อง

"ก็คุณกำลังทำในสิ่งที่คุณต้องการนี่ครับ" สมุทรพูดเสียงเรียบชี้แจง  ผมอมยิ้มมุมปากน้อย ๆ

"เคยเรียนคาดเชือกรึเปล่า" ผมถาม  สมุทรยังคงนิ่ง  เขาคงปรับอารมณ์ตามผมไม่ทัน

"ครับ..ก็พอเป็นบ้าง" อีกฝ่ายยังคงเลือกที่จะตอบเหมือนขอปัดประเด็นไปที  ผมเลือกที่จะไม่พูดอะไรอีกเพราะของแบบนี้ต้องใช้เวลาเดี๋ยวก็รู้ 

"โซนนั้น..ที่พักนักมวยทั้งหมด ที่จอดรถของคนในออฟฟิศ เราแยกส่วนกับลูกค้ากันชัดเจน" ผมชี้ไปอีกฝั่งหนึ่งของค่ายมวย   

"นี่เป็นออฟฟิศ พนักงานจัดตาราง โปรแกรมทุกอย่าง..ค่ายเราทำงานกันที่นี่ มีปัญหาอะไรติดต่อที่นี่ได้เลย มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำทุกวัน ตรงนู้นเป็นห้องน้ำกับห้องอาบน้ำของนักมวยและเทรนเนอร์ ฝั่งนู้นของลูกค้า" ผมชี้บอกทาง  สมุทรมองตามอย่างตั้งใจจดจำ

"ปกติแถวนี้นักมวยจะซ้อม แต่สอนลูกค้า..เทรนเนอร์ เครื่องออกกำลังกายจะอยู่ฝั่งนู้น" ผมชี้มือไปเดินแนะนำไปด้วย  สมุทรเดินตามและพยักหน้ารับทราบตลอดเวลา

"มีคำถามไหม" ผมถามกลับบ้าง

"ลูกค้ามากแค่ไหนครับ" สมุทรถาม

"ต่อวันก็ ไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน" ผมตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้กลัวว่าอีกฝ่ายจะเกร็ง  ซึ่งบางที่จริงยอดมากกว่านี้  แต่สมุทรก็ยังมีท่าทางนิ่งขรึมเช่นเคย 

"ห้องประชุมอยู่ทางด้านหลังออฟฟิศ..อยู่ไปนาน ๆ เดี๋ยวก็คงรู้ดีว่าอะไรเป็นยังไง" ผมบอก

"ครับ"

"พี่นี" ผมหันไปเรียกเพราะเห็นพี่นีเพิ่งมาทำงานพอดี  เธอชะงักที่เห็นผมแต่เช้าและรีบยกมือไหว้  ผมกวักมือให้เธอเข้ามาหา

"นี่พี่นี..ส่วนนี่สมุทรครับ" ผมแนะนำ

"สวัสดีค่ะ" พี่นียิ้ม  ทั้งสองคนยิ้มทัก  ผมหันไปมองหาลุงลอย

"ลุงลอยแกไปไหน" ผมบ่นถึง

"พี่ธาน! ลุงลอยล่ะ" ผมตะโกนถามพี่ธานที่กำลังกระโดดเชือกอยู่กับพวกไอ้เด่น 

"ลุงลอย!" พี่ธานตะโกนสุดเสียงเรียกให้  เช้า ๆ แบบนี้ยังไม่มีลูกค้า  ส่วนใหญ่เราก็จะอยู่กันแบบง่าย ๆ สบาย ๆ บ้าน ๆ อย่างนี้ละครับ

"ลุง..ลุงลอย! คุณไฟเรียกกกกก!!" พวกลูกน้องของผมพากันช่วยประสานเสียงเรียกซะดังลั่นจนพี่ธานต้องหุบปากเงียบไป  ผมหัวเราะ  เหมือนพวกมันจงใจจะเรียกแกล้งลุงไปอย่างนั้นเอง  ทุกคนต่างพากันยิ้มรับเมื่อได้ยินเสียงลุงลอยขานรับไกล ๆ ว่า.."เอ้อ!" ในสำเนียงติดถิ่นเกิด  ครู่หนึ่งลุงลอยก็เดินมา  ผมยกมือไหว้  แกมองมาที่สมุทรด้วยสีหน้าสงสัย  สมุทรรีบกยกมือไหว้ทักทายอย่างนอบน้อม

"ลุงครับ..นี่สมุทร ลูกของลุงยอด แล้วก็นี่ลุงลอย จะเป็นคนดูแลนายที่ค่ายนี้" ผมแนะนำทั้งคู่  ลุงลอยเงยหน้ามองหน้าสมุทรไม่วางตา  สมุทรยกมือไหว้อีกครั้ง  เราสี่คนเงียบลงครู่หนึ่ง  ลุงลอยมองสมุทรหัวจรดเท้า   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2015 18:15:30 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

"สบายดีนะ" ลุงลอยยิ้มถาม  ลุงแกเคยรู้จักกับลุงยอดแต่ไม่สนิท  เนื่องจากลุงก็เป็นคนหนึ่งที่เติบโตมากับค่ายมวยของพ่อผมเช่น  เขาจึงรู้ที่มาที่ไปของชีวิตครอบครัวของผมเป็นอย่างดี  พ่อเองก็คงเล่าอะไร ๆ ให้แกฟังบ้าง

"ครับ..ผมสบายดี" สมุทรอมยิ้มตอบไปซื่อ ๆ เหมือนอีกฝ่ายเองก็ไม่อยากจะถามความอะไรให้ยืดยาวเช่นกัน   

"พี่นี..เป็นผู้จัดการของค่ายฉัน มีอะไรก็ปรึกษาพี่นีได้เลย" ผมบอก  สมุทรพยักหน้ายิ้ม ๆ ให้พี่นี

"ฝากพี่นีเอาข้อมูลของค่ายแล้วก็รายละเอียดของนักมวยในค่ายให้สมุทรด้วยแล้วกันนะครับ" ผมสั่งงาน

"ได้ค่ะ" พี่นีพยักหน้ารับ

"แรก ๆ เอาลูกค้าทั่วไปที่เพิ่งมาหัดส่งให้สมุทรแล้วกัน ระหว่างนี้คู่ซ้อมนายคือลุงขัน แต่มีอะไรให้ฟังลุงลอย โอเคนะ" ผมสั่ง  สมุทรผงกหัวให้ลุงลอยอีกครั้ง

"อีกคนนึงที่ฉันอยากให้นายรู้จักคือพี่เอิท..นักโภชนาการของที่นี่ พี่แกยังไม่มา..ถ้านายอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ถามพี่เค้าได้"

"ส่วนตารางงานของสมุทรก็ตามที่ผมเคยให้ไปนะครับพี่นี แต่ตารางฝึก..ส่วนใหญ่ก็จะเหมือนของไอ้พวกนั้น รบกวนพาเค้าไปที่ตู้ล็อกเกอร์แล้วก็แนะนำวิธีใช้ในส่วนของห้องอาบน้ำด้วยแล้วกัน" ผมบอกพี่นี

"นายก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย" ผมหันไปบอกสมุทร 

"มาจ้ะ" พี่นียิ้มเรียกและเดินนำสมุทรไป

"หุ่นใช้ได้เลยนะ" ลุงลอยพูดขึ้น  ตามองตามหลังสมุทรไปจนลับตา  ในรูปร่าง  น้ำหนักและส่วนสูงประมาณสมุทร  ถือว่าในวงการมวยไทยนั้นจะหาหุ่นของคนไทยแบบนี้ได้ยากทีเดียว  โดยปกติทั่วไปนักมวยชาวไทยจะมีส่วนสูงอยู่ที่ 165 - 175 เซนติเมตรโดยประมาณ  รุ่นน้ำหนักจะอยู่ที่ 105 ปอนด์ขึ้นไป  เปรียบเทียบรุ่นแล้วเราจะมักเห็นกันบ่อย ๆ ก็จะอยู่ที่รุ่นสตรอว์เวทไปจนถึงรุ่นเวลเทอร์เวท  ซึ่งเมื่อดูตามประวัติของสมุทรที่เขาได้ให้กับพี่ธานไว้  เขามีส่วนสูงถึง 183 เซนติเมตรกับน้ำหนักที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ระหว่าง 68 - 72 กิโลกรัม  เขาสูงกว่าผมสองเซนติเมตร  และอีกแค่สองเซนติเมตรเขาก็จะสูงเท่ากับพี่ธานแล้ว  ในส่วนสูงและน้ำหนักระหว่างพี่ธาน  ผม  ไอ้นพหรือแม้กระทั่งสมุทร  มักจะได้คู่ชกเป็นชาวต่างชาติเสียมาก  ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับค่ายมวยของผมนักเพราะส่วนใหญ่ผมและนักมวยที่น้ำหนักเท่า ๆ กันมักจะได้ไปชกที่ต่างประเทศเนื่องจากได้เงินดีกว่า  เกณฑ์ส่วนสูงและน้ำหนักเท่านี้จึงได้เจอคู่ชกเป็นชาวต่างชาติเสียมาก  จะไปเป็นปัญหาก็ตรงที่เมื่อไหร่เราได้คู่ชกชาวต่างชาติที่ตัวสูงใหญ่กว่าเรานั่นละครับ 

"ไอ้เจ้านี่ใช่ไหมที่เคยว่า เป็นลูกของไอ้ยอดหรอกรึ" ลุงลอยถามถึง

"ครับ..ชกอยู่ที่ค่ายศรไกรน่ะ" ผมตอบ 

"ฝากลุงดูเชิงมวยเค้าให้หน่อยแล้วกัน ชกกับผมแล้วเค้าหัวดื้อ..ไปหน่อย" ผมพูดติดขำไปงั้น  ลุงลอยหันมามองหน้าผมก่อนหัวเราะออกมา

"วันนี้ให้ลุงขันจัดหนักไปเลยแล้วกัน..ผมจะดูว่าเค้าปรับตัวกับค่ายเราได้แค่ไหน ทำงานเป็นเทรนเนอร์โอเคไหม..หน่วยก้านเป็นยังไง ลุงว่าเค้าจะพอไหวในระดับไหนแล้วค่อยว่ากันอีกที" ผมบอก  ลุงลอยพยักหน้ารับทราบ  เนื่องจากว่าสมุทรเป็นงานเทรนเนอร์กับค่ายมวยศรไกรมาบ้างแล้วและเขาก็มีประสบการณ์ต่าง ๆ พอสมควร  ผมคิดว่าเขาน่าปรับตัวได้เร็ว  ลูกค้าประจำส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติที่มีฝีมือค่อนข้างเก่งในระดับหนึ่ง  ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับสมุทรมากกว่าให้ไปเป็นเทรนเนอร์ให้กับลูกค้าทั่ว ๆ ไป

"จะให้เทรนไอ้พวกบ้านั่นเหรอ" ลุงพยักหน้าไปทางพวกไอ้เด่นที่กำลังถูกพี่ธานซ้อมอย่างบ้าคลั่ง  ผมพยักหน้ายิ้มหน่อย ๆ

"ครับ..ตั้งใจว่าอย่างนั้น ถ้าพี่ธานติดงาน ผมจะให้สมุทรเทรนแทน..ถ้าทำได้ดี ผมจะให้คุมประจำนักมวยรุ่นเล็กไปก่อน" ผมวางแผนไว้อย่างนั้น

"แล้วก็ ที่จริงผมอยากได้เค้ามาเป็นคู่ซ้อมน่ะ"   

"ผมอยากรู้ว่าเค้ามีของไหม" ผมมองลุงลอยอย่างเจ้าเล่ห์  อีกฝ่ายอมยิ้มกลับ  ในเมื่อสมุทรไม่ต้องการขึ้นชก  ผมก็ต้องหาทางออกให้กับเขาแต่ผมยังไม่บอกเขาหรอกครับ  กว่าเขาจะไปถึงจุดที่จะควบคุมนักมวยรุ่นต่าง ๆ ได้  ผมอยากให้เขาแสดงฝีมืออกมาให้ทุกคนเห็นจนเป็นที่ไว้ใจในสายตาทุกคนซะก่อน

"เค้าไม่ยอมปล่อยของน่ะ..ก็เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ มีหรือไม่มี" ผมพูดยิ้ม ๆ

"เดี๋ยวผมจะเอาซีดีบันทึกการชกของเค้ามาให้ลุงดู ยังไงก็ปิดเป็นความลับหน่อยก็แล้วกัน..ผมไม่อยากให้เจ้าตัวรู้"

"ทำไม..อยากปั้นงั้นเหรอ" ลุงถาม

"หึ..ลุงก็รู้ ถ้าไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ปั้นให้ตาย..ช่างปั้นก็เหนื่อยเปล่า" ผมอมยิ้มตอบปัดไปทีเพราะผมไม่ได้คิดมากเรื่องปั้นหรือไม่ปั้นเขา  แน่นอนว่าผมต้องการให้เขาทำชื่อเสียงในนามของค่ายผมในระดับหนึ่ง  ผมไม่ต้องการบอกสาเหตุให้สมุทรรู้ด้วยซ้ำว่าทำไมผมถึงได้อยากให้เขาทำงานที่นี่  ทำอะไรบ้างเพราะอะไรเพราะทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน  มันคงดูประจวบเหมาะไปเสียหน่อยที่อีกฝ่ายก็อยากศึกษาและทำงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย  แต่ก็อย่างว่าละครับ  ถ้าเป็นเรื่องของอนาคตผมก็ไม่อยากวิเคราะห์ให้มาก

เราเริ่มแยกย้ายกันไปเมื่อนักมวยมากันพร้อมหน้า  บางกลุ่มเพิ่งกลับออกมาจากไปวิ่งในตอนเช้า  ลูกน้องแยกย้ายกันไปฝึกด้วยตนเอง  ผมเป็นคู่ซ้อมกับพี่ธานเพราะตัวสูสีกันที่สุด  สมุทรลงนวมกับลุงขัน  ครูมวยมือดีอีกคนของค่ายผม  รอง ๆ จากลุงลอยแล้วต้องลุงขันนี่ละ  ปั้นนักมวยชาวต่างชาติให้เชิงมวยสวยอย่างกับชาวไทยสมัยก่อนมาหลายต่อหลายคนแล้ว  แม้ลุงแกจะดูเหมือนคนขาดสารอาหารไปบ้าง  รูปร่างสูงโย่ง  ตัวดำคล้ำ  หน้าตาน่ากลัว  แต่ที่จริงแล้วแกเป็นคนที่ใจดีมาก  เป็นคนที่มีฝีมือ  แม่ไม้มวยไทยโบราณต้องแกเลยเพราะแกเก็บรายละเอียดทุกอย่าง  ผ่านเวทีมวยมาแล้วหลายสนาม  เห็นร่างกายผอมแห้งอย่างนั้นแต่ก็เป็นกล้ามเนื้อทั้งหมดทั้งที่อายุก็ไป ๆ กับลุงลอยแล้ว

ส่วนพี่ธานเลิกชกมวยตั้งแต่อายุ 29  สมัยก่อนเราเป็นคู่ซ้อมด้วยกันเสมอ  ตั้งแต่ที่พี่ธานวางมือเราก็ห่าง ๆ ในการซ้อมร่วมกันไปบ้าง  ส่วนผมวางแผนไว้ว่าอีกไม่กี่ปีก็คงจะเลิกชกแล้วเหมือนกันเพราะอายุเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เดี๋ยวนี้ให้ขึ้นชกกับชาวต่างชาติที่ร่างกายเท่าเราแต่อายุน้อยกว่า  บางครั้งก็น่วมกลับมาเหมือนกัน  ตอนนี้ผมเองก็ปาไป 27 แล้ว  อีกไม่กี่ปีก็คงถึงเวลาของผม  เรียกว่าตามพี่ธานไปติด ๆ สมุทรเองก็คงจะเห็นอนาคตกับเวทีมวยของตัวเองด้วยเหมือนกัน  เขาถึงไม่ได้ใฝ่เอาดีทางด้านนี้อย่างสุดโต่งนัก  ดูเขาไม่ค่อยหวังอะไรกับมันมาก  ได้มาก็พร้อมปล่อยออกไปอะไรทำนองนั้น  ผมคิดว่าเขาคงวางแผนไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาสก็คงจะเลิกขาดเช่นกัน  สายตาและท่าทีของเขามันสื่อบอกผมอย่างนั้น

หลังจากที่ผมซ้อมเสร็จเรียบร้อยผมก็จัดหนักให้ลูกน้องผมต่อโดยผมเป็นคนดูแทน  พี่ธานไปช่วยเทรนการอุบอุ่นร่างกายให้สมุทรต่อจากลุงขัน  ทั้งลุงขัน  ลุงลอย  พี่ธานและสมุทรพูดคุยกันไปด้วย  ดูจะเข้ากันได้ดีไม่มีปัญหา  ลูกค้าเริ่มทยอยกันเข้ามามากแต่เทรนเนอร์บางคนขอลา  ผมจึงสั่งให้ไอ้เด่นและไอ้หินอยู่ช่วยที่ค่ายไปก่อน  ส่วนผม  พี่ธาน  สมุทรและไอ้เข้มเดินทางกลับมาที่บ้านอีกครั้งเพื่ออาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว  ผมเตรียมตัวเข้าตลาด  ส่วนพี่ธานจะต้องไปเยี่ยมดูค่ายมวยที่สาขาสุขุมวิทกับสมุทรปราการพร้อมกับไอ้เข้มแทนผม 

"สมุทร..มาอาบห้องพี่" พี่ธานกวักมือเรียกสมุทรให้ตามเข้ามา  ผมที่กำลังจะแยกตัวขึ้นไปบนบ้านหันไปเหล่สายตามองพี่ธานเล็กน้อย  อีกฝ่ายหันมาอมยิ้มมองเจ้าเล่ห์กลับให้ผมด้วย

"อะไรครับ" พี่ธานตีหน้าซื่อถามผม

"เปล่า" ผมยักไหล่เบะปากตอบอย่างรักษาท่าที  สมุทรมองเราทั้งสองคนยิ้ม ๆ รอยยิ้มนิ่ม ๆ เหมือนไม่ประสีประสาอะไรยังคงปรากฏให้เห็นในสถานการณ์แบบนี้น่ะนะ

"ผมอาบที่ไหนก็ได้ครับ" สมุทรพูดเหมือนยืนยันว่าตนเองไม่เรื่องมาก

"อาบห้องพี่นะดีแล้ว พี่เป็นคนที่ไม่ทำอะไรตามใจตัวเองแบบใครบางคน" พี่ธานพูดขึ้นลอย ๆ แล้วเดินเข้าห้องนอนตัวเองนำไปก่อน  สมุทรยืนนิ่งมองตามแต่คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ธานพูดเมื่อครู่  ผมยืนกัดลิ้นตัวเองอย่างเคยชิน  พยายามจะนึกคำสวนกลับพี่ธานแต่กลับนึกออกไม่ทัน  พอถูกสมุทรหันกลับมาจ้องมอง  ผมจึงอดมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์กลับไม่ได้

"โตมาด้วยกันสินะครับ" สมุทรพูด  เขาคงมองอะไรออก  ผมไม่เถียงเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการจะหมายถึงอะไรในประโยคนี้กันแน่ 

"นายรู้ไหมว่าฉายาพี่ธานคืออะไร.." ผมพูดแกล้งกลับ  ถ้าผมจะเดาใจพี่ธานไม่ผิด  ผมคิดว่าพี่เขาจะต้องแอบยืนฟังอยู่จากในห้องแน่ ๆ เนื่องจากประตูห้องนอนของพี่เขายังไม่ปิดสนิท
 
"อะไร" สมุทรถามกลับด้วยสีหน้าสงสัย 

"พี่ใหญ่เก้านิ้ว" ผมตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมทำสีหน้าเครียด ๆ ชูลำแขนขึ้นกำมือเป็นภาพประกอบให้ด้วย  สมุทรชะงักไปคล้ายกับใช้ความคิดอย่างหนักมากกว่าเดิม

"คุณไฟ!!" พี่ธานเดินปรี่ออกมาหน้าตาถมึงทึง  ผมหัวเราะยิ้มกว้างแล้วรีบเดินหนีมา 

"คุณนี่มันจริง ๆ เลย" พี่ธานบ่นไล่หลัง  ผมวิ่งขึ้นบันไดหนีออกมาทั้งที่ยังขำไม่หยุด  เสียงแก้ตัวและพูดคุยกันของคนสองคนข้างล่างพูดกันเบา ๆ เหมือนระวังผม  และต้องการจะได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น  รู้ตัวอีกทีว่าตัวเองหัวเราะกว้างไปหน่อยก็ตอนที่ผมถึงห้องนอนแล้วนั่นละครับ



............ไฟ............


หมายเหตุ:

.. เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้  ทางเบบี้เคยได้บอกกับคนอ่านส่วนหนึ่งไว้ว่า  ถ้าร่างกายเบบี้ไหว  เบบี้อาจจะต่อให้ถึงตอนที่ 15 ภายในปี 2558 นี้  ตอนที่ 13 และตอนที่ 14 ต่อให้ยาวมากและค่อนข้างเหนื่อย  เบบี้จึงขอชี้แจงตรงนี้ว่า.. ขอชะลอการต่อนิยายเรื่อง The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ภายในปี 2558 นี้ไว้หยุดที่ตอนที่ 14 นะคะ  ส่วนตอนที่ 15 จะขอต่อเป็นปีหน้าพ.ศ. 2559 แทน  ซึ่งไม่ขอรับปากว่าเป็นประมาณวันที่เท่าไหร่อย่างไร  ขอโทษด้วย  ขอบคุณมากค่ะ..เบบี้

......................

ขอตอบความคิดเห็นของคุณ kms นะคะ


โอ้ยยนย รำไฟ เบื่อมาก ดูเล่นกะสมุทรไปทุกอย่าง
สงสารสมุทรตอนไม่ได้กลับบ้าน กลับต้องมานั่งกินเฟร้นฟรายงี่เง้า
ตอนแรกนึกว่าไฟสมุทร
แต่ทำไมตอนนี้ไฟเคะแตกจัง ดูตุ๊ดมาก
เพลียแปป

ทางเบบี้ได้เคยเตือนผู้อ่านแล้วก่อนหน้านี้  ไม่ว่าจะคำเตือนก่อนที่จะอ่านนิยายเรื่องนี้ก็ตาม  หรือการแจ้งเตือนจากผู้เขียนในท้ายของตอนที่ 11 ก็ตามเกี่ยวกับแนวเรื่องของตัวละคร  สำหรับความคิดเห็นของคุณ kms ขอความกรุณาให้คุณเลือกอ่านสิ่งที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบและสบายใจต่อคุณนะคะ  เพราะในหลายกรณีเบบี้ได้เคยแจ้งเตือนก่อนหน้านี้แล้ว 

แน่นอนค่ะว่า  ส่วนตัวผู้เขียนยังหาความ "ตุ๊ด" ของไฟไม่เจอ  ซึ่งคนเราก็ต่างคนต่างมุมมอง  และถ้าผู้อ่านรู้สึกว่า "ไฟตุ๊ดจัง" ผู้เขียนเองไม่มีสิ่งใดจะแก้ตัว หรือ จะไม่ขอแก้เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้ในส่วนใดในอนาคต  เนื้อหาของตัวละครได้ดำเนินไปตามลักษณะนิสัยของตัวละครนั้น ๆ การดำเนินเรื่องต่าง ๆ ก็ใช้เวลาการทำงานคิดอย่างดีแล้ว เบบี้ขอเรียนว่า.. ถ้าคนอ่านท่านใดไม่พบความบันเทิงใด ๆ เกี่ยวกับตัวละครของนิยายในเรื่องนี้ หรือ ไม่พบว่ามีเนื้อหาสารประโยชน์ใด ๆ ให้กับคุณได้เลย คุณสามารถเลือกที่จะออกจากนิยายเรื่องนี้ได้ในทันที  มากไปกว่านั้น.. เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้ในภายภาคหน้าก็จะยังคงประมาณนี้ต่อไป  ซึ่งอาจจะดูงี่เง่ามากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำค่ะ  ซึ่งถ้าใครคิดว่าตอนนี้ตัวละครก็ดูตุ๊ดอยู่แล้ว  ในอนาคตอาจจะต้องดูตุ๊ดมากยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ  ..ขอบคุณค่ะ..

แนบเนื้อหาเดิมจากที่เคยชี้แจงก่อนหน้านี้
..สำหรับคนอ่านท่านใดก็ตามที่รับไม่ได้กับคำไม่สุภาพใด ๆ ไม่ชอบความรุนแรง  หรือเคยอ่านนิยายของเบบี้แล้ว(ตามรายชื่อนิยายที่แจงไว้ทางด้านบน) แต่ที่ผ่านมาแนวการเขียนนิยายของเบบี้นั้นไม่ถูกจริตการอ่านของท่าน  เขียนไม่ได้อารมณ์ตามอย่างที่คุณต้องการได้  แมนไป..สาวไป  หรือบทน่ารำคาญไม่ชอบใจอย่างไรก็แล้วแต่  คุณสามารถกดออกจากหน้านิยายเรื่องนี้ได้ทันทีค่ะ  และขอย้ำว่า  เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ยังคงคอนเซปการเขียนของเบบี้อย่างเคย  ดังนั้น..รบกวนให้ผู้อ่านเลือกทำในสิ่งที่ทำแล้วจะทำให้เราทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ปล. จากผู้เขียน

1). มีการพูดคุย  สงสัยและคาดเดากันเกิดขึ้นมากในกรณีที่ว่า ตอนของไฟนี้.. ผู้ใดรุก และ ผู้ใดรับ ^ - ^ เบบี้ไม่สามารถตอบให้ได้ในตอนนี้เพราะต้องการให้ทราบในตอนต่อ ๆ ไปในอนาคตด้วยตัวผู้อ่านเอง  แต่เนื่องจากว่าเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง(ขออ้างเฉพาะนิยายบางเรื่องของตัวเบบี้เอง)เคยเกิดกรณีที่ผู้อ่านบางท่าน "รับไม่ได้" กับเนื้อหาพลิกผันที่เกิดขึ้น ฯลฯ  ดังนี้..จึงขอเตือนก่อนล่วงหน้าว่า  ถ้าหากท่านจะไม่สามารถรับได้..ถ้า..ใครก็ตามจะรุก หรือ ใครก็ตามจะรับ  เพื่อกันไม่ให้เกิดสภาวะสะเทือนใจต่อผู้อ่าน(ท่านที่รับไม่ได้)เกิดขึ้น  เบบี้จึงขอเตือนว่าท่านสามารถหยุดอ่านได้ตั้งแต่ตอนนี้ยังทันนะคะ  เพราะทางเบบี้มีเนื้อหาที่วางไว้ในใจอยู่แล้วและจะไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใด 


เบบี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 11:32:00 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ขำที่ไฟชี้ให้โปรดดูป้ายแจ้งเตือน  55555 เหมือนกับว่ากูเตือนแล้วนะ คนนี้ของกู แต่ไม่ยอมพูดออกมา
ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่ธาน รู้ใจไฟทุกอย่างจริงๆ แถมรู้ทันไปซะทุกอย่าง

พี่ธานคะ เก้านิ้วจริงหรือป่าวคะ  :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 06:47:30 โดย rujaya »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
พี่ใหญ่เก้านิ้ว5555555
เจอกันอีกทีปีหน้า สวัสดีปีใหม่(ล่างหน้า) คะ >///<
#ไฟสมุทร #สมุทรไฟ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
อยากเห็นสมุทรแบบเท่ๆ คึคึ
นี่มันใจมากว่า ถ้าปล่อยของต้องปังมากแน่ๆ
ชอบตอนที่พี่ไฟหวงสมุทร (หวงใช่มั้ย น่าจะใช้คำนี้ได้)
คือแบบ โปรดก็โปรดเหอะ ต้องรู้นะว่าคนนี้ของใคร
>< เราชอบเวลาเบบี้อธิบายลักษณะการใช้ชีวิต การทำงานอะไรงี้
มันอยู่แบบเราใกล้กับตัวละครเข้าไปอีก
ไปม่สบายก็นอนเยอะๆ พักเยอะๆ จะรออ่านตอน 15 นะะ ^^

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่ธานนนนนนน จริงม้ายยยยยยย เค้าอยากรู้ XD

ออฟไลน์ Madness69

  • Love@Sickness
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-0
    • Madness69 Fanpage
เย้ๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้อ่านตอน 14 ปีนี้

<------------------ Edit Comment ------------------------>

ให้พายุไปรับน้องเมฆ แอร๊ย!!!~ อิชั้นเริ่มมีฟามหวังรำไร อยากให้มีโชตะ พายุ x น้องเมฆ (น้อยหอยสังข์)

อะไรยังไงกันคะพี่ไฟ ไม่ระบุสถานะตัวตนที่ชัดเจน แต่มีถึงขั้นลงมือเบิร์ดกะโหลกเพื่อนโปรด เป็นมาตรการสั่งห้ามขั้นเด็ดขาด หวงก้างนิหว่า ...... ชริส์

แล้วยังไงล่ะ หวังจะโชว์ลีลาสีหญิงอวดไอ้คุณกริด กลายเป็นสมุทรมาเจอซะงั้น ทีนี้ละคุณไฟเอ๋ย จงตามจีบ ตามหยอด ตามหวง ตามกวนประสาทเค้าไปเหอะ อีกยาวววววววว กว่าจะได้แอ้ม ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้าหว่ะ
แต่ให้คะแนนความดีหน่อยนึงก็ได้ ทีทำให้คนอื่นๆ รู้ว่าต้องให้เกียรติสมุทร

 :mew1:
ขอบคุณน้องบี้จ้า
อากาศเปลี่ยนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นรักษาสุขภาพ พักผ่อนบ้างนะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 21:14:43 โดย Madness69 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
แกล้งกันตลอดพี่ธารกับคุณไฟ


รอตอนต่อไปค่ะ และสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า  :mc4:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
ชอบ พี่ใหญ่เก้านิ้ว!!!

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
พี่ใหญ่เก้านิ้ว ชอบอะ55555555
  :-[

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
สมุทรคงไม่คิดว่าอยู่กันมาตั้งนานเพิ่งรู้ว่าพี่ธานพิการ มีเก้านิ้วเอง
ปกติคนอื่นมี10นิ้วนะพี่ :z1:
อิจฉาแฟนพี่ธานในอนาตคเลย

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ชอบพี่โปรดจังเลยค่ะ บุคลิกพี่เค้ากวน...... ดี  :haun5:
ปล.พี่ใหญ่เก้านิ้ว อืมมมมม เป็นฉายาที่น่ากลัวนะคะเนี่ย 5555

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
แกล้งสมุทรอีกแล้ววววววว

อยากให้สมุทรไปอาบน้ำห้องตัวเองสิไม่ว่า...ใช่ไหมคะ??

พี่ไฟ  :)

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ matilda.taon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
งื้ออออออ  ชอบบบบบบบบบบบบ :-[ :-[
ทุกครั้งที่อ่านนิยายของพี่เบบี้ ก็จะต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมา ระหว่างรอตอนต่อไป

ชอบไฟ หวงเขาตลอดดด :hao7: :hao7:
ชอบพี่ธาน แกล้งไฟตลอดดด
 :hao3: :hao3:
รอเปิดสมุทร พร้อมไฟ

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
บี้จะลง ตอนที่15 ปีหน้าเลยเหรอ!!! อีกหลายวันเลยนะกว่าจะปีหน้าTwT เสียใจ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เย้ๆๆๆๆๆ  พี่พายุจะได้เจอน้องเมฆน้อยแล้ว ดีใจจัง น้องเมฆจะได้มีสังคมที่กว้างขึ้น






คุณไฟขี้หวงนะเนี่ย   ขนาดยังไม่ได้คิดอะไรแน่ชัดกับสมุทร ยังออกอาการตลอต ครึ ครึ






อยากให้ สมุทรไปอาบน้ำห้องคุณไฟจัง (พี่ธาน เก้านิ้ว แล้วคุณไฟละกี่นิ้ว)







สมุทรนี่ ขยับหยิบจับอะไร ก็ถูกใจคุรไฟไปหมดเลยน๊าาาาาาาาา







(คุณไฟถึงกับโกรธเลยเว๊ย ที่สมุทรไปหยิบโทรศัพห์ให้ไอ้เด่น ฮ่าๆคนของไฟใครอย่าแตะ)







ขนาดคุณโปรดถึงกับโดนดีดหน้าผาก โทษฐาน จะลามของหวง ฮ่าๆๆๆ







คุณไฟ กู่ไม่กลับแล้วแบบนี้ ชอบเค๊าแล้วอะดิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด