The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446108 ครั้ง)

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
พี่ธานเยี่ยมรู้ทันไฟคิดอะไร ไฟขี้แกล้งเมฆหวังอ่อยสมุทรหล่ะสิ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ไฟแกล้งเด็กอ่ะ แต่ชอบสมุทรเอาเมฆไปให้ไฟแกล้งบ่อยๆนะ  :laugh3: :laugh3:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ชอบตอนสมุทรคร่อม ???
55555
น่ารักมากกก  น้องเมฆก็ดี
อยากเห็นสมุทรทำงานตลาด จะเป็นไง ดุแบบไหน
รอออออ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ดูท่าทางแล้วไฟเคะแน่ๆ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อยากเห็นไฟชกใต้เข็มขัดสมุทร :z1:
ตอนกินข้าวบ้านสมุทร เหมือนครอบครัวกันเลย

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
คุณไฟนี่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 55555555 มีแอบมองตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย55

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
นิยายพี่เบบี้นี่เด็ดจริงๆ
ติดตามครับ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ไฟน่ารักเวลาแกล้งน้องเมฆ   แม้จะต้องการยั่วสมุทรแต่ก็รู้สึกได้ว่าไม่ได้เกลียดเด็กแน่นอน  :laugh: ชอบโมเม้นนี้ของไฟมาก ๆ ค่ะ อยู่กับน้องเมฆแลัวฮาดี


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ไฟมีมุมน่ารักแบบนี้ เชียร์ให้เป็นสมุทรไฟเลยค่ะ
ตอนนี้ได้กรี๊ดตลอด ขอบคุณนักเขียนมากๆค่ะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
โอ้ยย น้องเมฆที่น่าสงสาร 
คือรายนี้ก็ขี้แกล้งไง แกล้งพี่ธาน แกล้งพายุ แกล้งลูกน้อง แกล้งสมุทร   
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ กับหมาอิตาคุณไฟก็แกล้งมาแล้ว
ที่ช็อกคือแกล้งคนพี่ละยังจะไปแกล้งน้องเค้าอีก กับเด็กก็ไม่เว้น ขำหนักมาก 
น้องเค้าสุภาพมารยาทดี กลายเป็นไอเด็กมืดมนไปซะงั้น 5555555
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ไฟขี้แกล้งอะ เราเป็นเมฆนี่คงมีวิ่งหนีขึ้นบ้านแน่ ๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
น้องเมฆ น่ารักกกก

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
สงสารน้องเฆฆเวลาอยู่กับไฟ5555..

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
มารอคุณไฟ  อยากให้คุณไฟสอนการบ้านป้ามั่งได้ป๊ะ



คิดถึงสมุทร คิดถึงพี่ธานน้องพายุ  คิดถึงน้องเมฆด้วย



ป้ารอออออออออออออออออออออออออออออออ :katai5:

ออฟไลน์ Map

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้ยยยยยยย ฟิน ขี้อ่อยทั้งคู่ พี่ธารคนน่ารัก #สมุทรไฟ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 :m7: :m7: :m7: จะมาต่อหรือยังน้อ

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เมฆน่ารัก ชอบเมฆจัง
ไฟนี่ก็แอบอ่อยสมุทรเหรอ 55+

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มาแอบดูว่าสมุทรมายัง :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
รอเหมือนกัน อยากรู้เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
ไฟขี้อ่อยยยยหายไปไหนนะ

รอชั้นรอเธออยู่!!!

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงแล้ว  :L2:

ออฟไลน์ MRchai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เข้ามารอคุณไฟกะสมุทร

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ยังไม่มาอีกหรอคะ คิดถึงแล้วน้าาา
 :sad4:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 16
..ไฟ..




6:30 น. บ้านเลิศประสงค์
"นี่รูปความคืบหน้าของค่ายศรไกรครับ" อยู่ ๆ พี่ธานก็ยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าผมที่กำลังซิทอัพอยู่  วันนี้ผมกับพี่ธานตื่นตั้งแต่ตีห้า  ออกไปวิ่งด้วยกัน  กลับมาซ้อมมวย  ตอนนี้ก็วอร์มร่างกายใกล้เสร็จเต็มทีแล้ว

"พี่นี่ เริ่มทำอะไรไม่ต่างจากไอ้เด่นแล้วนะครับ" ผมว่าเรื่องมารยาท  พี่ธานยิ้มเขิน   

"งานเร็วดีนะ" ผมชม  พี่ธานปิดโทรศัพท์มือถือและวางทิ้งไว้  ก่อนนำมือมาแตะที่ขาของผมเหมือนบอกให้ยกสูงขึ้นเพื่อเพิ่มความยากในการฟิตร่างกาย  ผมหายใจเข้าและหายใจออกลึกยาวมากขึ้น 

"แล้ว..ตำรวจสงสัยอะไรไหม" ผมถามถึงเพราะตั้งแต่วันนั้นมา  สมุทรก็ไม่มีท่าทีกังวลอะไรเลย

"ไม่ครับ เรื่องเงียบกริบยิ่งกว่าแม่ค้าในตลาดตีกันซะอีก" พี่ธานพูดแกมประชด  ผมหัวเราะขึ้นจมูกอย่างเข้าใจในความหมาย

"วันเสาร์นี้พี่เข้าไปดูที่ค่ายอีกรอบแล้วกันนะ" ผมสั่ง

"ได้ครับ ผมว่ากำลังจะนัดสถาปนิกเรื่องแบบงานพอดี" พี่ธานตอบ  ผมพยักหน้ารับทราบ

"วันนี้คุณมีนัดกับป๋าจงนะครับ อย่าลืมล่ะ" พี่ธานเตือนความจำ

"รู้แล้วน่า" ผมพูด

"แล้ว จะให้ผมไปด้วยไหมครับ คุณมีคู่หูใหม่แล้วนี่" พี่ธานอมยิ้มแซว ๆ ผมเหล่มองและหยุดขยับร่างกาย 

"ว่าแล้วก็.." ผมเบ้ปากแกมเจ้าเล่ห์  พี่ธานยิ้มมองด้วยสายตาไม่ไว้ใจผมขึ้นมา

"เดี๋ยวผมไปกับหมอนั่นแล้วกัน" ผมยักคิ้วแสยะยิ้มกว้างกว่าเดิม  พี่ธานส่ายหัวยิ้ม ๆ 

"เป็นรอยยิ้มที่ไม่ซื่อตรงเลยนะครับ พี่หึงผมกับสมุทรก็พูดมาตรง ๆ ก็ได้" ผมพูดกวนพร้อมกับลุกขึ้นนั่งสบาย ๆ เท้าแขนไปทางด้านหลัง

"ถ้าคุณชอบจริง ๆ ก็จีบจริงจังไปเลยสิครับ" พี่ธานพูดตรงประเด็น  หย่อนก้นนั่งลงตรงเบาะที่นั่งของเครื่องออกกำลังกาย  ผมเงียบ  หันไปจ้องหน้าพี่เขา  อีกฝ่ายยักไหล่เหมือนกับบอกผมว่า..ผมพูดผิดตรงไหนกัน

".........." ผมอมยิ้มและรักษาความเงียบเอาไว้  ลุกขึ้นยืนเพราะไม่อยากให้เส้นยึดทันทีที่หยุดเคลื่อนไหวร่างกาย  พี่ธานมองตามผมตลอดเวลา  ผมเดินไปหยุดนำก้นพิงไว้ที่โต๊ะสนุกเกอร์ซึ่งห่างจากตรงที่พี่ธานนั่งอยู่เพียงเมตรสองเมตรเท่านั้น  เราต่างมองตากันไม่วางตา  ผมเคลื่อนไหวใบหน้าตัวเองไปมาอย่างต้องการใช้ความคิด  ที่จริงก็แค่อยากกวนตีนพี่ธานมากกว่าอะนะ

"ขอจูบก่อนได้ไหมล่ะ แล้วค่อยว่ากันทีหลัง" ผมพูดขึ้นเล่น ๆ ไปงั้น  พี่ธานหัวเราะขึ้นจมูก

"แค่จูบก็น่าจะตอบได้อยู่ว่าไปต่อได้ไหม" ผมยักคิ้วพลางหุบยิ้มลงทีละนิด

"หึหึหึ" พี่ธานหัวเราะออกมา  นำมือลูบท้ายทอยตัวเองแล้วถอนหายใจ 

"เขาบอกว่าปากผมสวยด้วย พี่คิดว่าไง" ผมกวนพี่ธานต่ออีก  พี่ธานหันมาเลิกคิ้วมองหน้าผมด้วยสีหน้าดูแปลกใจ  ผมเลิกคิ้ว  พยักหน้าตอบให้พี่ธานด้วยสีหน้าแบบเดียวกันกับพี่เขา  เรียกว่าเราชอบเลียนแบบสีหน้ากันมากขนาดแม้กระทั่งคนใกล้ตัวก็ยังเกลียดที่จะเห็นเราทั้งคู่อยู่ด้วยกันนะครับ

"ครับ คุณเป็นผู้ชายที่ปากสวย น่าจูบมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา" พี่ธานพูดบอก

"ก็ถ้าคุณไม่ใช่นายน้อยของผมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ลูกของคุณท่าน ฐานะเราเท่ากัน แล้วถ้าผมไม่ได้รู้ลึกนิสัยของคุณมาก่อน แน่นอนว่าปากของคุณมีส่วนให้ผมอยากลองจีบคุณดูแน่ ๆ" พี่ธานพูดกวน  ทั้งการใช้คำพูดและสีหน้าต้องการกวนตีนผมอย่างเห็นได้ชัด 

"นั่นสินะครับ ถ้าผมได้พี่ละก็..มีแต่กำไรเห็น ๆ" ผมแสยะยิ้มมองพี่ธานกลับอย่างไม่ยอมความและไม่รู้สึกใด ๆ ต่อคำกวนอารมณ์ของพี่เขาด้วย

"พี่ก็รู้ว่าผมเซ็กส์จัด แล้วจากที่เราอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าพี่กับผมบวกกันขึ้นมาละก็..อารมณ์นี่เรียกว่าขึ้นแบบลงไม่เป็นเลยนะ ตายคาเตียงแน่ ๆ" ผมยักคิ้วเจ้าชู้ให้

"คุณไฟ! หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยครับ!!" พี่ธานกระชากเสียงอย่างสุดทน  ผมหลุดหัวเราะ  มากวนผมก่อนเองแต่ดันรับไม่ได้ซะงั้น

"ถ้าคุณท่านมาได้ยิน ได้ฆ่าผมแน่" พี่ธานทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

"ถ้าพายุอยู่ มันต้องพูดว่า..ขอโทษอาป๊าที่อยู่บนสวรรค์ด้วยฮะ ยุดูแลเฮียไม่ดีเอง ฮ่า ๆ ๆ ๆ" ผมหัวเราะอย่างยั้งไม่อยู่  พี่ธานยิ้มคล้ายอ่อนใจ

"ก็เพราะปากคุณเป็นแบบนี้นี่ไงครับ พูดแต่ละคำ ดันตรงกันข้ามกับรูปปากไปซะหมด" พี่ธานบ่น  ผมหัวเราะอย่างไม่คิดอะไร  นำลิ้นออกมากัดอย่างรู้สึกแปลก ๆ ในความรู้สึกของตัวเอง  ถูกชมแกมกัดด่าก็โอเคอะนะ 

"แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าสมมุติผมเป็นสมุทร ในสายตาของเขาตอนนี้ คุณคือคนหล่อที่ไม่ควรเข้าใกล้" พี่ธานเลิกคิ้วพูด  สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย  ครั้งนี้ดูท่าจะจริงจัง

"นี่กำลังจะให้กำลังใจรึเปล่าครับ ผมจะได้ทำหน้าถูก" ผมถามยิ้ม ๆ

"คุณโปรดก็เคยบอกคุณแล้วนี่ครับ ว่าหน้าตาคุณถึงจะดีแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้ลดความร้ายกาจบนหน้าให้ลดลงไป ดังนั้น ถ้าอยากจีบเขาให้ติดละก็ ผมก็พอมีตัวช่วยอยู่บ้าง.." พี่ธานยักคิ้ว  ทำท่าเหนือกว่า  ผมแสยะยิ้ม  ครั้งนี้มองพี่ธานแทบแดก 

"ผมแนะนำว่า ให้คุณไฟกรุณาเลิกพูดกวนอีกฝ่าย เลิกใช้คำพูดสองแง่สองง่าม" พี่ธานบอก

"สองแง่สองง่าม" ผมขมวดคิ้วเบะปากย้ำคำพูดของพี่ธานพร้อมกับผายมือออกทั้งสองมืออย่างรับไม่ได้  เพราะไอ้สองแง่สองง่ามที่ว่านี่มันเกิดมาเพื่อผมเลยนะครับ

"เวลาที่ชอบใจอะไร ขอให้เลิกแสยะยิ้มแบบที่ผมพร่ำบอกแต่เด็กว่า..ให้ให้คุณเลิก" พี่ธานเริ่มเข้าโหมดคุณพ่อ  ผมหัวเราะน้อย ๆ เบะปาก  เลิกคิ้วมองพี่ธานอย่างอยากรู้ว่าพี่เขาจะว่าอะไรอีก

"แล้วก็เลิกไอ้นิสัยชอบเลิกคิ้วข้างเดียว ทำตาไม่รับรู้ระหว่างที่ฟังคนอื่นพูดอยู่ด้วยครับ ผมบอกเป็นร้อยครั้งแล้วว่ามันดูเสียมารยาท" พี่ธานว่า

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ" ผมหยุดหัวเราะเพราะเมื่อครู่พี่ธานทำหน้าตาตลกมากจริง ๆ

"หยุดฟังผมให้จบก่อนครับ" อีกฝ่ายทำเสียงเข้ม  ผมยกมือขึ้นส่งสัญญาณบอกว่าให้ต่อได้เลย

"ที่สำคัญไปกว่านั้น ขอให้เลิกทำตาเจ้าเล่ห์เวลามองเขาสักที ผมรู้ครับว่าคุณถูกใจเขาน่าดู แต่เพราะแค่หน้าเจ้าชู้ ๆ ของคุณ อีกฝ่ายคงเอือมที่จะเห็นจะแย่ จบครับ..หึหึ ต้องปรับตัวเยอะเลยนะครับท่าน" พี่ธานแสยะยิ้มเจ้าเล่ก์หนักกว่าเก่า  ผมเบะปากพยักหน้างึกงักขอผ่านไปที

"พี่น่ะ เริ่มเรียนรู้นิสัยลามปามผมตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะครับ บางทีผมชักเริ่มสงสัย" ผมพูด  พี่ธานยิ้มเขิน

"อีกอย่าง ใครจะอยากเกิดมาหน้าตาแบบนี้กัน พี่ก็รู้ ๆ อยู่.." ผมย้อน  เรามองตากันนิ่ง  สายตาของพี่ธานเริ่มระแวงมองมาที่ผม

"ไม่เห็นความยุติธรรมเลย กับบางคนที่เจ้าชู้หลบใน แต่กลับได้หน้าตานิ่ง ๆ อย่างกับหินอะนะ" ผมว่าเหน็บ

"ขอแนะนำอีกอย่าง.." พี่ธานเอ่ยแทรก 

"เชิญ" ผมอนุญาต  ประมาณว่า "ไม่ว่าพี่ธานจะพูดอะไร ผมก็รับได้ทุกอย่าง"

"ดูจากน้ำหนักการลงนวมเมื่อวานแล้ว คุณคงต้องหลอกให้อีกฝ่ายยอมโอนอ่อนเองด้วยนะครับ เพราะผมไม่อยากให้พี่ทัพมาเดือดร้อนช่วยปิดคดีนองเลือดของพวกคุณ" พี่ธานพูดติดตลกแต่ผมคิดว่ามันสามารถเป็นเรื่องจริงตามที่พี่ธานเตือนมากกว่า

"ท้าทายจริง ๆ" ผมทำเสียงกระเส่าจนพี่ธานหัวเราะ  พี่เขาจ้องผมไม่เลิกเลยเหมือนรอคำตอบอะไรอย่างนั้น

"เซ็กซี่ดีนะว่าไหม" ผมพูดคนละเรื่อง 

"ผมหมายถึงไอ้เข้มน่ะ" ผมเบ้ปาก  ชี้นิ้วไปที่ไอ้เข้มที่เดินใส่แค่กางเกงบอลออกมาจากด้านหลังห้องน้ำ  มันถือตะกร้อติดมือออกมาด้วย 

"นายครับ เล่นไหมครับ" ไอ้เข้มตะโกนถาม  ผมพยักหน้าตอบส่ง ๆ ก่อนที่ไอ้เข้มจะเดินไปที่ลานด้านนอก  ผมเหล่ไปมองที่คนข้าง ๆ อีกครั้งเพราะรู้สึกว่าพี่ธานยังคงจ้องผมอยู่ไม่ยอมไปไหนเลย

"กลัวแห้วเหรอครับ" พี่ธานพูด  ผมหันไปมองตรง ๆ กัดลิ้นไว้อย่างเคยชิน

"หึ" ผมหัวเราะขึ้นจมูก 

"..ก็แค่" ผมพึมพำนึกคำพูด  เท้าเอวพลางเงยหน้ามองไปอีกด้านของโรงฝึก
 
"หมาหยอกไก่ไปก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่ว่าอะไร..แล้วเดี๋ยวค่อยจีบ" พี่ธานอ่านใจผมทันที  ผมมองปรามเพราะอีกฝ่ายพูดได้ตรงประเด็นจนน่าหมันไส้จริง ๆ

"แต่งงานกันไหมครับ" ผมจ้องหน้าพี่ธาน  พี่ธานที่ทำหน้าขรึมแกมเจ้าเล่ห์อยู่เมื่อครู่หลุดยิ้ม

"ไม่มีใครรู้ใจผมเท่าพี่อีกแล้วนะ" ผมทำหน้าจริงจัง 

"อีกฝ่ายน่ะ เป็นคนที่ใจเย็นนะครับ ใจดี แต่ดูลึก ๆ แล้วนี่ค่อนข้างไปทางเย็นชาเลยล่ะ" พี่ธานเปลี่ยนเรื่องวิเคราะห์  ผมนิ่งฟัง

"ใช่..หึ พี่ก็เห็นเหมือนผมใช่ไหมล่ะ ผมสัมผัสได้ว่าหมอนั่นน่าจะตายด้าน" ผมว่า 

"ก็มีด้านที่เหมือนคุณอยู่ไม่น้อยนะ" พี่ธานย้อนยิ้ม ๆ

"ตกลงไก่ตุกติกบ้างไหมล่ะครับ เผื่อผมจะได้เอาใจช่วย" พี่ธานกลับมาแซวเรื่องเดิม

"ไก่ไม่ตุกติกเลย น่าใจหายจริง ๆ" ผมทำหน้าหนักใจ  พี่ธานหัวเราะอีกครั้ง

"หยอกไก่แล้วต่างหาก" ผมเบะปากพูดขึ้นโต้ง ๆ อย่างยอมรับนิด ๆ ว่าก็แหย ๆ บุคคลที่กำลังพูดถึงอยู่เหมือนกัน  ก็บอกปัดไม่ได้น่ะนะว่าผมถูกใจเขาหลาย ๆ อย่าง  พี่ธานหัวเราะอย่างอ่อนใจที่ผมตอบอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้

"เปล่าหรอก ก็แค่..ถูกใจน่ะ" ผมพูดแก้  เรามองหน้ากันครู่หนึ่ง 

"ระวังหน่อยก็ดีนะครับ เพราะรักก่อนมักเสียเปรียบ" พี่ธานยักคิ้วเตือน  สายตาดูเยาะเย้ยมากกว่าจะบอกเตือนน่ะนะ

"งั้นเหรอครับ" ผมอมยิ้มอย่างไม่สนใจ

"ผมว่า แบบนั้นยิ่งน่าลองไปกันใหญ่ ก็ผมมันได้เปรียบมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว" ผมย้อนตอบอย่างไม่วิตกต่ออะไร  ว่าไปว่ามาก็รู้สึกตื่นเต้นดีแปลก ๆ 

"หึ..คุณนี่มันจริง ๆ" พี่ธานส่ายหัวรับไม่ได้ 

ถ้าให้พูดตามตรงก็คงเป็นไปตามอย่างที่ผมบอกพี่ธาน  การได้รักใครสักคนที่เรารักจากใจจริงมันคงเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดดี  ตลอดมาผมรอคนที่จะสามารถทำให้ผมรู้สึกแปลกพิลึกแบบที่ผมต้องการรู้สึกและไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ได้  ประเด็นของผมอาจไม่ได้อยู่ที่อีกฝ่ายจะรักผมตอบหรือไม่  แต่มันคงอยู่ที่เพราะเขาสามารถทำให้ผมสนใจและตกหลุมรักได้ก็แค่นั้น  ถ้าเขาคือคน ๆ นั้นโดยแม้ว่าเขาจะรักผมหรือไม่ก็ตาม  ผมคิดว่าแค่นี้มันก็สุดยอดแล้ว  ตลอดมาผมไม่เคยรู้สึกรักใครจริง ๆ จัง ๆ  ไม่ใช่สิ ผมไม่เคยตกหลุมรักใครเลยสักครั้งมากกว่า  เคยได้แค่รู้สึกชอบ  ได้หลงใหลและมีความเป็นห่วงเป็นใยให้  กรอบสิ้นสุดอยู่แค่ที่ตรงนั้นมาเสมอ  ที่ผ่านมาเป็นเพียงความชอบและหลงใหลอย่างผิวเผิน  ซึ่งถ้าสมุทรจะทำให้ผมหลงรักได้หัวปักหัวปำขนาดที่พี่ธานอ่านออก  การที่ผมจะต้องเสียเปรียบสักนิดสักหน่อยเพื่อให้หัวใจได้ว้าวุ่นดูบ้าง  มันคงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมน่าดูชมทีเดียว

ผมกับพี่ธานเดินออกมาพร้อมกับพับขอบกางเกงเพิ่มไปอีกทบหนึ่ง  เพื่อให้ขากางเกงล่นขึ้นมา  มันจะสบายต่อการเคลื่อนไหวร่างกายมากยิ่งขึ้น  เราเริ่มจับกลุ่มเตรียมดวลตะกร้อ  ไอ้เด่นอยู่ฝั่งเดียวกับผม  ส่วนไอ้เข้มอยู่ฝั่งเดียวกับพี่ใหญ่ของมัน  ส่วนคนอื่น ๆ ยังคงออกกำลังกายอยู่ในโรงฝึก  พวกเราเล่นตะกร้อจนแทบลืมเวลา  จากที่เล่นติดสนุกในตอนแรกก็เริ่มนับคะแนนและต้องการเอาแพ้ชนะ  รู้ตัวอีกทีว่าเจ็ดโมงครึ่งแล้วก็ตอนที่สมุทรเดินทางมาถึงบ้าน  ดูเขาค่อนข้างแปลกใจที่เห็นผมและลูกน้องอยู่ที่สนามและยังไม่มีใครอาบน้ำเลยสักคนเดียว  หลายครั้งผมแอบรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ผมไม่มีลูกพี่ลูกน้องหรือญาติสนิทเป็นผู้หญิง  ไม่อย่างนั้นคงลำบากใจที่จะเลี้ยงดูแน่ ๆ เพราะพวกเราอยู่กันง่าย ๆ แบบนี้จนติดเป็นนิสัย  อีกนิดเดียวก็แทบแก้ผ้าต่อหน้ากันอยู่แล้ว   

"พอแล้วมึง เดี๋ยวพี่ธานจะแพ้ไปมากกว่านี้" ผมแซว  ไอ้เด่นอมยิ้ม  เราจับมือกันเพื่อเลิกเกมก่อนแยกย้าย  ส่วนไอ้เข้มยังคงเดาะตะกร้อคนเดียวต่อ  ผมเดินไปหาสมุทรที่ยืนอยู่ด้านในโรงฝึก 

"หวัดดีครับ" อีกฝ่ายทักทายพร้อมกับยิ้มให้นิด ๆ พอนึกถึงคำพูดของพี่ธานเมื่อกี้นี้ปุ๊บ  สายตาก็เหไปทางอื่นปั๊บอย่างกับโดนสะกิดต่อมอะไรในใจ

"เดี๋ยวเราต้องออกไปข้างนอก ฉันไปอาบน้ำก่อน" ผมบอก

"ครับ" สมุทรพยักหน้ารับทราบ  ผมเดินออกมา  ได้ยินพี่ธานกำลังคุยกับสมุทรต่อ  ผมกลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว  เสร็จแล้วก็กินข้าวเช้าต่อคนเดียวเพราะพายุยังไม่ตื่นและไอ้ดินก็ออกไปเรียนตั้งแต่เช้า  ประมาณเก้าโมงครึ่งผมเดินทางออกจากบ้าน  ไอ้เด่นเป็นคนขับรถอย่างเคย  สมุทรเลือกที่จะไปนั่งข้างหน้าด้านข้างคนขับ  ผมไม่ว่าอะไรเพราะถ้าเขาเลือกที่จะมานั่งข้าง ๆ ผมโดยที่ผมไม่ได้เอ่ยปากชวน  ผมคิดว่านั่นจะเป็นการเสนอหน้าเกินไป  ถ้าเขาทำแบบนั้นขึ้นมาจริง ๆ ผมอาจจะรู้สึกไม่ชอบใจและเปลี่ยนใจไม่ชอบเขาทั้งหมดทีเดียว  ทั้งที่ ๆ จริงแล้วผมก็อยากให้เขามานั่งด้านหลังมากกว่าน่ะนะ


- - - - - - - - - - - - - - -


11:02 น.  ร้านอาหารครัวยิ้ม

"สวัสดีครับป๋า" ผมยกมือไหว้ทักทายป๋าจงที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว  ผมเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับสมุทรโดยให้ไอ้เด่นเฝ้ารถอยู่ที่ลานจอดรถ  ลูกน้องของป๋านั่งแยกอยู่โต๊ะข้าง ๆ กันด้วย

"หวัดดี ๆ นั่ง ๆ" ป๋าจงปัดมืออย่างกันเอง  แกเหลือบมามองสมุทรด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนหันมามองหน้าผม  โดยปกติถ้าผมมาหาป๋า  ผมจะไม่ให้ใครเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยนอกจากพี่ธาน

"เอ่อ..ป๋าครับ นี่สมุทรครับ" ผมแนะนำ  สมุทรยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม  ป๋ายกมือรับไหว้แต่สายตาก็ยังไม่ยอมละจากสมุทรแม้แต่นิดเดียว

"สมุทร ลูกชายของลุงยอดน่ะครับ" ผมขยายความให้ทราบ  สมุทรอมยิ้มคงเพราะประหม่าในสายตาของป๋าจงที่มองเขาไม่วางตา  ป๋าอมยิ้มมองสมุทรคล้ายเอ็นดู 

"นั่งสิ..นั่งด้วยกัน" ป๋ายิ้มบอกแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงอีกครั้ง  ผมพยักหน้าอนุญาตให้สมุทรนั่งตามที่ป๋าบอก  สมุทรรอให้ผมนั่งลงก่อน  เขาจึงเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตามทีหลัง 

"เอาอะไรดี ไวน์ไหม" ป๋าถามผม

"น้ำเปล่าครับ" ผมบอกพนักงานที่เดินมาถึงพอดี

"เราล่ะ" ป๋าหันไปถามสมุทร

"น้ำเปล่าแล้วกันครับ ขอบคุณครับ คือผม..ไม่ดื่ม" สมุทรอมยิ้มน้อย ๆ ด้วยท่าทีเกรงใจ

"หึหึหึ ฮ่า ๆ ๆ!" ป๋าจงหัวเราะออกมาดังลั่น  ไม่รู้ว่าชอบใจอะไร  ผมส่ายหัวยิ้ม ๆ สมุทรชะงักไปแล้ว

"เหมือนไอ้ยอดไม่มีผิด" ป๋ายิ้มกว้างชี้หน้าสมุทร

"ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่..สมัยเป็นวัยรุ่น มันตามฉันกับพ่อไอ้ไฟไปช่วยเก็บเงินค่าที่ ผู้หญิงชวนมันไปนอนด้วย มันยังไม่ไปเลย! ชอบเข้าวัด เป็นเรารึเปล่าล่ะ" ป๋าพูดจ้อ  พยักหน้าให้สมุทรเหมือนเดาในคำตอบ  สมุทรไม่ตอบแต่กลับอมยิ้มและเหลือบตาต่ำลงคล้ายกับยอมรับ

"เข้าซ่องเสร็จ ต้องไปเข้าวัดเพราะมัน อั๊วประสาทจะแดก" ป๋าจงกระแทกเสียง  ผมปิดปากหัวเราะ  สมุทรยิ้มเขิน ๆ

"ได้นึกถึงวันเก่า ๆ แล้วมัน ดีจริง ๆ" ป๋ายิ้มกว้าง 

"เดี๋ยวสถาปนิกก็มาแล้ว รอแป๊บนะ..นี่ป๋าสั่งอาหารไปบ้างแล้ว แกสั่งสิไฟ" ป๋าพูดเสียงดังเหมือนจะบังคับกลาย ๆ

"ผมไม่ค่อยหิวอ่ะครับ" ผมบอกป๋า

"สั่งอะไรมากินเล่นก็ได้!" ป๋าไม่หยุดคะยั้นคะยอ  แกหันไปกวักมือเรียกพนักงานทันทีอย่างไม่รีรอ  ครู่หนึ่งพนักงานก็นำเมนูมาให้  ผมจึงสั่งอาหารกินเล่นไปสามอย่าง  ตัดรำคาญป๋าเพราะป๋าเป็นคนนิสัยแบบนี้  ลูกหลานที่รู้จักและรักต้องได้กินดีอยู่ดีเท่านั้น  เรานั่งคุยกันเพื่อฆ่าเวลารอสถาปนิกที่กำลังเดินทางมาถึง  ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องระหว่างธุรกิจของผมกับป๋าจง  หลังจากที่สถาปนิกนำแบบงานของผับมาให้ผมและป๋าจงได้เลือกดู  วันกำหนดงาน  แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายเบื้องต้น  จัดการทุกอย่างเสร็จก็ปาไปเกือบสองชั่วโมง  สถาปนิกก็ขอตัวกลับออกไป  ผมอยู่คุยกับป๋าจงแกก่อนเพราะแกคุยติดลมบน  กินไปคุยกันไป  ส่วนใหญ่ติดที่แกบ่นนู่นนี่ให้ฟังเสียมาก  คงเพราะนาน ๆ จะมีคนพูดคุยถูกคอนั่นแหละครับ 

"ป๋าอารมณ์ดี ๆ นะครับ" สมุทรชมหลังจากที่เราส่งป๋าจงขึ้นรถกลับออกไปแล้ว

"อืม..พ่อทูนหัวของไอ้พายุมันน่ะ" ผมพูดติดตลกไปอย่างนั้นเพราะพายุค่อนข้างเป็นที่รักของป๋าจงพอสมควร  และพายุเองก็รักป๋ามากเช่นกัน

"ดูเหมือน ป๋าจะสนิทกับพ่อของผมมาก" สมุทรพูดขึ้น  คำพูดคล้ายคำถามมากกว่า  ผมชะงัก 

"ก็ไม่เชิง" ผมตอบ  ที่จริงผมก็จำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่  ไม่รู้ว่าพ่อของผม พ่อของสมุทรและป๋าจงสนิทกันมากแค่ไหนอย่างไรก็ด้วย   

"ป๋าสนิทกับพ่อของฉันมาก ก็คง..พอได้เจอกันอยู่บ้างละมัง ฉันเอง..ตัวไม่ได้ติดกับพ่อน่ะ รายนั้นไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก ส่วนใหญ่ฉันอยู่กับพี่ธาน" ผมตอบปัด ๆ ไป  ความจริงคือลุงยอดตัวติดพ่อผมยิ่งกว่าพี่ธานที่ต้องตามติดผมตลอดเวลาเสียอีก  สมุทรพยักหน้าเงียบ ๆ เหมือนเพียงรับรู้แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไร  ผมเองก็ไม่อยากจะพูดให้มากไปกว่านี้ด้วย

"ป๋าแกขี้เหงาน่ะ" ผมเปลี่ยนเรื่อง  สมุทรอมยิ้มมองด้วยสายตาไม่เชื่อในคำพูดของผม

"แกมีเมียเยอะ" ผมว่า

"นั่นคือผลกระทบของความเป็นคนขี้เหงาเหรอครับ" สมุทรย้อน

"หึ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" ผมหัวเราะ  เอาซะยั้งไม่อยู่  สมุทรอมยิ้ม

"ฉันหมายถึง เป็นประเด็นที่แยกกันน่ะ เมียแก..ที่นับได้แบบจริงจังก็ห้าคน" ผมเริ่มเดินกลับไปที่รถช้า ๆ ไอ้เด่นเห็นผมแล้ว  มันจึงรีบมายืนรอพร้อมกับสตาร์ทเครื่องเตรียมรอไว้เรียบร้อย

"เมียแกทุกคนแกเปิดเผยด้วยหมด แต่ไม่เคยแต่งนะ..ก็แบบ มีไปเรื่อย ๆ" ผมเล่า

"เมียห้าคน มีลูกด้วยกันทุกคน..ทุกวันนี้ก็ยังดูแลทุกคนดีหมด ทั้งที่บางคนก็ไปมีครอบครัวใหม่แล้ว ป๋าแกเป็นคนเด็ดขาดน่ะ เห็นแกเสียงดังขี้โวยวายอย่างนั้น ตรงกันข้ามแกค่อนข้างใจดี" ผมหยุดเดินเมื่อถึงรถ  สมุทรยืนฟังอย่างตั้งใจ

"แต่แปลก ลูกของแกแทบไม่ได้ดีสักคน" ผมพูดพลางถอนหายใจ

"..ทำอะไรก็เจ๊ง ป๋าแกก็ค่อนข้างเขี้ยวกับลูกตัวเองน่ะ ไม่เคยให้เงินง่าย ๆ หรอก ลูกก็เกเรหนีไปนู่นไปนี่ แกก็เลยติดที่จะพูดคุยกับฉันแล้วก็พายุเป็นพิเศษ" ผมเล่าก่อนจะนิ่งมองหน้าสมุทรโดยทิ้งคำพูดไว้ในใจว่า "ไม่แน่ เดี๋ยวป๋าก็คงจะถูกใจนายด้วยอีกคน"

"ไปเถอะ" ผมตัดบทดื้อ ๆ ไอ้เด่นเข้ามาเปิดประตูรถให้ผมอย่างรู้หน้าที่  ผมสั่งให้มันขับรถตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ร้านอาหารครัวยิ้มมากที่สุด  วันนี้ผมไม่มีนัดที่ไหนแล้ว  อยากจะเดินเล่นสักหน่อย  โดยปกติผมชอบที่จะกลับบ้าน  แต่วันนี้ก็แค่อยากจะอยู่ข้างนอกต่อก็เท่านั้น 

"นายเข้าไปก่อนเลย" ผมสั่งสมุทร  เขาหันมามองผมเหมือนระแวงที่เห็นผมยืนอยู่กับไอ้เด่นด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ แต่สุดท้ายสมุทรก็ยอมเดินเข้าไปในตัวห้างก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2016 15:19:30 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

"เอากุญแจรถมา" ผมสั่ง  ไอ้เด่นมองผมงง ๆ แต่ก็ยื่นกุญแจรถให้  ผมหยิบเงินออกมาหนึ่งพันแล้วยื่นให้มัน

"วันนี้มึงกลับไปเลย" ผมบอก  ไอ้เด่นไม่รับเงินไปในทันที  มันมองผมอย่างลังเล  ผมมองเขม่นกลับทำให้มันรีบหยิบเงินออกจากมือผมด้วยความรวดเร็ว 

"อะไร" ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน  ชักเริ่มรำคาญตา

"แต่ว่านายครับ เดี๋ยวพี่ใหญ่แกจะดุผมเอาอีก" ไอ้เด่นทำหน้าลำบากใจ  หลายครั้งที่ไอ้เด่นมักจะถูกพี่ธานดุเมื่อไหร่ที่อยู่ในช่วงอันตรายและไอ้เด่นไม่อยู่ใกล้ ๆ ตัวผม  เพราะหน้าที่หลักของมันก็คือคนขับรถและคอยตามติดผมไม่ต่างจากพี่ธานก่อนหน้านี้ 

"เออน่า บอกพี่ธานไปว่ากูให้กลับ" ผมสั่งอย่างปัด ๆ ไปที  ไอ้เด่นหน้าสลด 

"งั้นนายระวังตัวด้วยนะครับ" ไอ้เด่นพูดอย่างเป็นห่วง  ไม่รู้มันจะห่วงอะไร

"มึงนั่นแหละ" ผมย้อนบอกแล้วรีบเดินหนีออกมาเลยเพราะขี้เกียจจะตอบคำถามอีก  เมื่อผมเดินเข้ามาด้านในตัวห้าง  สมุทรก็ยืนรออยู่ที่ปากประตูแล้ว  เขามองหน้าผม  สายตาปนสงสัยแต่ก็ไม่พูดถามอะไรอย่างที่ควร
 
"คุณมีธุระที่นี่เหรอครับ" สมุทรถาม  ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าส่ง ๆ ให้และเดินนำเข้ามาก่อน 

"ธุระอะไรครับ" สมุทรซัก  ผมว่าเขารู้อยู่แล้วว่าผมไม่มีธุระที่นี่เพราะจากการสังเกตของผม  สมุทรมักจะไม่ถามอะไรไร้สาระถ้ารู้ว่ากำลังอยู่ในการทำงาน  แต่เขาจะถามเมื่อไหร่ที่รู้ว่าผมกำลังจะนอกเรื่องมากกว่า   

"อยากดูหนังน่ะ" ผมตอบ  สมุทรนิ่งไป  เขาหยุดเดิน  ผมเหลือบสายตาไปมอง
 
"คุณไฟ" อีกฝ่ายย้ำเสียงคล้ายกับปรามผมอยู่  น้ำเสียงเหมือนปรามผมอยู่นี่นะ!  ถ้าคนอื่นทำผมคงซัดไปแล้ว  แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกแปลก ๆ น้ำเสียงแบบนี้มัน..ฟังแล้วชอบใจเป็นบ้า

"อะไร" ผมย้อนอย่างไม่แคร์ในสายตาคู่นั้น 

"ก็ฉันว่าง แล้วฉันอยากดูหนังมันผิดตรงไหน" ผมพูด 

"งั้นก็น่าจะให้เด่นมาดูด้วย" สมุทรบอก

"ไม่ได้" ผมตอบทันที

"ทำไม" สมุทรย้อนถามกลับ

"มันต้องเฝ้ารถ" ผมพูด 

"อีกอย่าง ไอ้เด่นกับพี่ธานคนละหน้าที่กัน..แล้วนายก็ทำหน้าที่แทนพี่ธาน และพี่ธานแทบไม่เคยอยู่ห่างฉัน" ผมตอบ  คำตอบนี้ทำให้สมุทรเถียงไม่ออกอีก  เรายืนมองหน้ากันจนสมุทรหลบสายตาผมและถอนหายใจออกมาเบา ๆ คล้ายยอมรับ

"คุณเป็นเด็กเล็กรึไงครับ ถึงได้ต้องให้มีคนมาคอยตามเฝ้าน่ะ" สมุทรพูดคล้ายเหน็บแนม  ผมอมยิ้ม

"งั้นก็ไม่ต้องตามสิ" ผมมองเขาเจ้าเล่ห์ลองเชิง 

"เชิญ" ผมยักไหล่ไล่ ๆ และเดินหนีออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองสมุทรอีก  ครู่หนึ่งอีกฝ่ายก็ยอมเดินตามหลังมาโดยไม่พูดอะไร  ผมเดินไปที่โรงภาพยนตร์และหยุดยืนดูโปรแกรมหนัง  สมุทรยืนอยู่ห่าง ๆ ผมจึงหันกลับไปมองเขา  อีกฝ่ายมองตอบแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

"ดูเรื่องอะไร" ผมถาม

"แล้วแต่คุณสิครับ" สมุทรตอบ  ผมหันกลับมามองโปรแกรมหนังที่ใกล้เวลาฉายมากที่สุด  นั่นก็คือเรื่อง xxxx  ผมเดินไปซื้อตั๋วหนัง  สมุทรเดินตามมาขนาบข้าง
 
"เรื่อง xxxx ครับ" ผมบอกพนักงาน

"มีรอบบ่ายโมงห้านาทีนะคะ" เธอยิ้มบอก

"ครับ รอบนี้เลย" ผมพยักหน้า  เมื่อผมเลือกที่นั่งเสร็จ  สมุทรทำท่าจะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงิน  ผมนำมือปรามไว้และเกือบจะหลุดหัวเราะ  รีบหยิบเงินจ่ายไปก่อน  เมื่อได้ตั๋วมาเรียบร้อยแล้วผมจึงยื่นบัตรให้สมุทรเป็นฝ่ายถือ 

"จะกินอะไรรึเปล่าครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้" สมุทรถาม  ผมไม่ตอบทันทีแต่มองไปที่ป้ายโฆษณาอาหารต่าง ๆ ที่เรียงรายอยู่ไม่ไกลตานัก 

"เอาป๊อปคอร์น หวานกับชีส" ผมบอก

"แล้วก็..น้ำเปล่า"

"ครับ" สมุทรพยักหน้า  ผมยื่นเงินที่ได้จากเงินทอนตั๋วหนังเมื่อกี้ไปให้เขา  อีกฝ่ายก้มลงมอง

"ไม่เป็นไร" เขาพูดแค่นั้น  ไม่ยอมหยิบเงินจากผมและเดินไปเลย

"หึ" ผมหัวเราะกับนิสัยหยิ่ง ๆ ในศักดิ์ศรีนั่นที่มันดูจะไร้เหตุผลไปสักหน่อย  ผมยืนรออยู่เกือบสิบนาที  สมุทรกลับมาพร้อมกับป๊อปคอร์นถังใหญ่หนึ่งถังและน้ำเปล่าสองขวด  เขายื่นถังป๊อปคอร์นมาให้ผมโดยตัวเองถือขวดน้ำไว้  ผมรับมาก็กินเลยทันที

"อะ เอาสิ" ผมยื่นถังป๊อปคอร์นไปให้เขาเพื่อแบ่งกันกิน  สมุทรส่ายหัวน้อย ๆ

"ผม..ไม่กิน" เขาบอก

"อ่าว แล้วซื้อถังใหญ่มาทำไม" ผมว่า  สมุทรไม่ตอบแต่กลับยิ้มเจื่อน ๆ ให้

"ไม่อยากเหรอ" ผมถามด้วยความอยากรู้

"ก็ไม่เชิง..ผม ไม่ค่อยชอบน่ะ" สมุทรตอบปัด  ผมขมวดคิ้วไปกินไปอย่างไม่เข้าใจ  ไม่ชอบกินป๊อปคอร์นนี่นะ  มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอครับ!

"ไม่สิ..ถ้าไม่รู้สึกอยากกินก็จะเฉย ๆ มากกว่า" เขาอธิบายอย่างขอไปที  สมุทรพลิกนาฬิกาข้อมือดู 

"จะเข้ารึยังครับ หรือว่าจะเข้าห้องน้ำก่อนรึเปล่า" สมุทรถาม 

"หึ" ผมหัวเราะ  เป็นอารมณ์ที่บอกไม่ถูก  ประโยคนี้คล้ายกับมีพี่ธานมายืนอยู่ตรงหน้า  ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะเดินตรงไปที่โรงสองตามที่ระบุไว้ทางหน้าตั๋ว  สมุทรรีบจ้ำมาข้าง ๆ เพื่อยื่นตั๋วให้กับพนักงานให้ทันผม  พนักงานตรวจตั๋วเรียบร้อย  เราเดินเข้ามาพร้อม ๆ กัน  สมุทรเดินนำผมไปหาที่นั่งให้ก่อน  ระหว่างที่นั่งดูหนังอยู่นั้นผมเองก็ไม่ได้ถึงกับขนาดแล้งน้ำใจ  ได้ยื่นกล่องป๊อปคอร์นไปให้คนข้าง ๆ บ้างเป็นระยะ  อีกฝ่ายกินบ้างสองสามครั้งแต่พอหลัง ๆ ก็ยกมือห้าม  พอหนังจบ  ผมเดินเล่นดูของใช้ในบ้านต่อ  ผมชอบดูเครื่องเรือนและชอบเข้าแผนกกีฬามาก ๆ สมุทรยังคงทำหน้าที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง  โดยเราไม่มีบทสนทนาใด ๆ ต่อกัน 


ตืด  ๆ ๆ ๆ   ..ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู  เห็นสายเข้าไปสายจากภาคิน  ความจริงเวลานี้ไม่ค่อยอยากรับเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมีอารมณ์พูด  แต่สุดท้ายก็กดรับด้วยเกรงว่าจะมีเรื่องด่วนอะไร

"ว่า" ผมทัก  ขาก้าวเดินตรงไปที่ร้านเค้กยี่ห้อประจำที่มักจะชอบซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย   

"คืนนี้เจอกันนะ" ไอ้คินพูดเองเสร็จสรรพ
   
"อะไรของมึง.." ผมว่าขำ ๆ

"เออน่า เจอกัน..มีคนอยากรู้จักมึง" ไอ้คินบอก  น้ำเสียงของมันกรุ้มกริ่มมาเชียว

"ไม่เอา ไม่ชอบ" ผมตอบตรง ๆ  ไม่ชอบในที่นี้หมายถึง  ไม่ชอบเข้าไปหาใครสักคนที่กำลังรอเราเหมือนรู้ว่าเราจะไปเพื่อเขาแน่อะไรทำนองนั้นทั้งที่เราไม่เคยรู้จักเขามาก่อนน่ะนะ

"เอา! ไอ้เหี้ย..มาเหอะน่า รับรองถูกใจมึงแน่ หึหึ" ไอ้คินสบถ  ผมเงียบ  เหลือบมองสมุทรเล็กน้อย  อีกฝ่ายยังคงทำหูทวนลม  ยืนด้วยท่าทางเคร่งขรึมทำหน้าที่ ๆ ดีต่อไป  พนักงานร้านเหลือมองเราทั้งคู่ 

"ไม่ผูกมัดแน่นอน แถมก้นงอนสุด ๆ" ไอ้คินบอกสรรพคุณ

"หึหึ" ผมหัวเราะอย่างอดไม่ได้  ไอ้นี่มันกวนตีน

"งั้นมึงก็จัดการเองไปเลยสิ" ผมว่า

"ไอ้ห่า จัดการไม่ได้..ผู้ชาย" ไอ้คินว่า  ผมเบะปากยิ้ม ๆ

"ก็ได้" ผมตอบรับอย่างไม่คิดมาก

"เปลี่ยนอารมณ์เร็วดีนะครับ" ไอ้คินประชด  ผมยิ้ม

"งั้นกูถือว่ามึงตกลง เจอกันที่ Shinta นะ บอกชื่อกู..กูจองไว้แล้ว" ไอ้คินบอก  Shinta ร้านนั่งดื่มกึ่งบาร์รับเฉพาะแขกระดับ VIP มีชื่อเสียง  เจ้าของร้านก็เพื่อนร่วมรุ่นของพวกผมนี่ละ  คนกันเองทั้งนั้น

"เออ" ผมรับปากแล้วตัดสายโต้ง ๆ ไม่ฟังเสียง  ผมหันไปมองสมุทร  เขาหันมามองหน้าผมเมื่อเห็นว่าผมคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว   

"นายเคยทำงานเลขามาก่อนเหรอ หรือติดตามใครอะไรทำนองนี้" ผมชวนคุย
 
"ก็มีบ้างครับ" สมุทรตอบซื่อ ๆ ผมคิดว่าคนลักษณะนิสัยอย่างเขา  ไม่ว่าเจ้านายคนไหนก็คงอยากเอาไปไว้ข้าง ๆ ด้วยเพื่อความอุ่นใจ  การจะมีใครสักคนที่คอยติดตามเราไปด้วยเสมอ ๆ ในชีวิตประจำวัน  สำหรับผม ไม่ใช่จะหยิบจับใครไปด้วยก็ได้  ต้องเป็นคนที่ถูกใจ  คุยกันถูกคอและรู้อารมณ์  ซึ่งบางครั้งก็ได้ถูกใจ  บางครั้งก็ไม่ถูกใจถึงกับเกลียดขี้หน้าเลยก็มี  ก็เหมือนกับพี่ธานและไอ้เด่น  เพราะถูกใจและถูกคอ  อะไร ๆ มันก็เลยง่ายไปหมด

"ก็ดีนะ ฉันชอบ" ผมเบะปากชม  สมุทรมอง  สายตาดูพิกลกว่าทุกที  ผมเลยมองกลับอย่างเจ้าเล่ห์แบบอดไม่ได้  พอได้เห็นสายตาคู่นี้มองด้วยสายตาแบบนี้ทีไร  มันอดไม่ได้ที่จะสู้กลับทุกที 

"เข้าใจคำว่าชอบที่ฉันพูดไหม" ผมแกล้งต้อนดู  สมุทรเหลือบสายตาไปทางอื่นทันควัน

"ไม่ครับ ผมไม่ขอเข้าใจดีกว่า" เขาตอบอย่างเลี่ยง ๆ เป็นคำตอบที่ฟังดูรู้ในความหมายของผม  ผมอมยิ้ม  นำมือล้วงกระเป๋าอย่างเคยชิน

"แล้วคุณจะไปไหนต่อครับ" สมุทรถาม

"เดี๋ยวมีซ้อมที่ค่าย แต่ว่า..ก็ยังไม่ถึงเวลา" ผมพลิกนาฬิกาข้อมือดู

"นายอยากไปไหนล่ะ" ผมถามกลับเพราะผมหมดแผนแล้ว  อีกอย่าง ตอนนี้รู้สึกสบาย ๆ ยังไงก็ได้

"ผมอยู่ในสถานะที่เลือกได้ด้วยเหรอ" สมุทรย้อนถามนิ่ง ๆ

"นี่กวนตีนเหรอ" ผมเลิกคิ้วถามยิ้ม ๆ

"ทำไมคุณถึงพูดไม่เพราะจังเลยครับ" สมุทรบ่นด้วยสีหน้าจริงจัง 

"ก็นายกวนตีน หรือนายจะปฏิเสธว่าเมื่อกี้นายไม่ได้ต้องการกวนตีนฉัน เอาสิ..ปฏิเสธเลย" ผมผายมือให้โอกาสแก้ตัว  สมุทรนิ่งไปเลย  เขาอมยิ้มออกมาทีละนิดคล้ายยอมรับ 

"หึ" ผมหัวเราะ

"ช่างเถอะ ครั้งนี้ฉันให้เลือก" ผมยักไหล่อนุญาตอย่างไม่สนใจอะไรนัก  สมุทรนิ่งไปครู่

"แน่ใจนะครับ" เขาย้ำถาม

"ตามสบาย" ผมตอบ

"ก็ได้ครับ" สมุทรพยักหน้ารับปากก่อนเดินนำผมไปก่อน  ผมแสยะยิ้มเดินตาม  เป็นครั้งแรกเลยมั้งครับที่ลูกน้องของผมเดินนำหน้าผมก่อนแบบนี้  ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกสะกิดใจอะไรนัก  แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ธานแล้วมาเดินนำผมไปแบบไม่รออย่างนี้  ผมคงเข้าไปเตะตัดขาไปแล้วละนะ  สมุทรหันตัวกลับมามองเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ 

"ขอโทษครับ" เขาพูด  ผมอมยิ้ม  ไม่มองหน้าสมุทรแต่เดินผ่านเขาไปเฉย ๆ สมุทรเดินตามหลังมา

"ยิ้มอะไรของคุณ" สมุทรว่า  ผมไม่ตอบ  เขาเดินตรงไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต  ผมยืนมองเขาที่เดินไปหยิบรถเข็นมาอย่างคล่องแคล่ว  ปกติผมไม่ค่อยมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ต  นอกจากถูกพายุบังคับ  หรือว่าจะใช้บริการด้วยตนเองก็ต่อเมื่ออยู่ต่างประเทศแค่นั้น 
เราเดินขนาบข้างกันไม่พูดไม่จา  สมุทรก็เข็นรถไปเรื่อย ๆ ผมเดินตามอย่างสงสัยว่าเขาต้องการมาซื้ออะไร  สมุทรเดินตรงไปที่แผนกกระดาษชำระ  เขาหยิบกระดาษชำระเปียกมาสามห่อและกระดาษชำระแบบพกพาด้วยอีกห่อใหญ่  ผมมองตาม  เขาดูมีเป้าหมายชัดเจน  มันก็ดูน่าสนใจดี  น่าสนใจกว่าตอนที่มาเป็นเพื่อนพายุตั้งเยอะ  รายนั้นละก็เลือกของกว่าจะได้แต่ละอย่าง  อ่านแล้วอ่านอีก  เปรียบเทียบราคา  เป็นการซื้อของที่น่าปวดหัวมาก

สมุทรเดินตรงต่อไปที่แผนกขนมขบเคี้ยว  เขายืนจ้องอยู่ประมาณห้านาทีเหมือนตัดสินใจไม่ได้  สีหน้าดูเป็นเรื่องใหญ่  ผมที่รออยู่นานมากและรู้สึกว่าตัวเองแทบจะหักห้ามใจไม่ให้เลือกซื้อขนมพวกนี้กลับบ้านก็หักห้ามใจไม่อยู่เสียแล้ว  ส่วนตัวเวลาที่มาซูเปอร์มาร์เก็ต  แผนกขนมขบเคี้ยวเป็นแผนกเดียวที่ผมมาก่อนเป็นอันดับแรก  บ่อยที่สุดและให้เวลานานที่สุด  กลับไปแบบไม่มีขนมนี่เหมือนมาไม่ถึงซูเปอร์มาร์เก็ตอะไรประมาณนั้น 

"เดี๋ยวฉันมานะ" ผมบอก  สมุทรหันมามองอย่างสงสัย

"ไปไหนครับ" เขาถาม  ทำท่าจะเดินตามมา  ผมปัดมือให้เขารออยู่ที่นี่และเดินออกมาเลย  ผมจ้ำเท้าเดินไปหยิบตะกร้าแล้วกลับไปหาสมุทรอีกครั้ง  เขายังคงหยุดอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน  พอสมุทรเห็นว่าผมกลับมาอีกฝ่ายถึงได้เลิกหันซ้ายหันขวารอผม  ผมหยิบขนมที่อยากกินอย่างไม่รีรอ  บางยี่ห้อที่ซื้อก็เป็นยี่ห้อประจำจนกินติดเป็นนิสัย  นำแต่ละห่อใส่ตะกร้าอย่างรวดเร็วไม่คิดมาก  ถึงซื้อไปเยอะแค่ไหน  ผมใช้เวลาไม่นานก็จัดการมันได้หมด  สบายมาก  ผมเดินไปทั่วแผนกขนมขบเคี้ยวจนหนำใจ  เดินกลับมาหาสมุทรอีกครั้ง  เขาจ้องมองมาที่ผมเขม็งเลย

"นี่คุณซื้อไปให้ใคร" สมุทรถาม

"กินเอง" ผมตอบ   

"........" สมุทรนิ่งเงียบ  ตามองตะกร้าในมือผมไม่พูดไม่จาอยู่ครู่ใหญ่  ผมเองก็ทำตัวไม่ถูกอยู่เล็ก ๆ ไม่ว่าลูกน้องผมคนไหน ๆ ก็ดูเหมือนจะชินหมดทุกคนกับนิสัยของกินขนมของผม  ไอ้เด่นกับไอ้เข้มยังชอบเหมือนผมเลย  คนที่ดุผมบ่อยที่สุดคงเป็นพายุ  ส่วนพี่ธานก็ห้ามผมไม่อยู่เท่าไหร่  บ่นไปผมก็ทำหูทวนลมอยู่ดี

"คุณเป็นเด็กรึไงครับ" สมุทรว่า

"เดี๋ยวนะ..บางอย่างมันเขียนว่าห้ามเด็กต่ำกว่า 6 ขวบ ฉันคิดว่ามันเป็นขนมสำหรับผู้ใหญ่" ผมตอบหน้าตาย 

"ทำไมคุณถึงได้ซื้อเยอะขนาดนั้นล่ะครับ" สมุทรยังไม่หยุด 

"ก็ฉันชอบกิน แป๊บเดียวก็หมดแล้วน่า" ผมว่า  ไม่เห็นเข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำหน้าเหมือนรับไม่ได้ขนาดนั้น

"แป๊บเดียวก็หมดแล้ว" สมุทรย้ำเสียงหลง  ขมวดคิ้วหน้าเครียด

"อะไร" ผมระแวง

"นี่คุณ ใช้ชีวิตยังไงของคุณครับเนี่ย" อีกฝ่ายบ่น 

"นายล่ะ..เลือกได้รึยัง นานจริง" ผมบ่นบ้าง  สมุทรถอนหายใจ  ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนหันไปมองขนมอย่างพิจารณาอีกครั้ง

"อันนี้สิ อร่อยนะ" ผมเดินไปหยิบถุงล็อคเกอร์เวเฟอร์รสวานิลลามาใส่รถเข็นของสมุทรให้

"ไม่เอาครับ มันแพง" สมุทรหยิบออกทันควัน

"แต่ว่า มันหอมนะ อร่อยด้วย" ผมท้วง  โห่..อะไรคือการหยิบไปเก็บเข้าวางที่เดิมแบบไร้เยื่อใยอย่างนั้น  แม่งไร้หัวใจสุด ๆ สมุทรหันกลับมาจ้องผม  ผมจ้องกลับ

"งั้นนี่..ถูกพอไหม" ผมเดินไปหยิบโอเค ทิน บิสกิต  รสนมกับรสชีสมาอย่างละห่อใหญ่  สมุทรหันไปเหลือบมองราคา  อีกฝ่ายยอมหยิบรสนมออกจากมือผมไปแค่แพ็กเดียว  ผมพยักหน้ายิ้ม ๆ กวนตอบแล้วนำอีกห่อไปวางที่เดิมอย่างยอม ๆ   

"คุกกี้รสนั้นก็โอเคนะ" ผมชี้  แนะนำไปอีกยี่ห้อหนึ่ง  ไม่ค่อยได้กินประจำแต่รสชาติก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง

"ผมอยากได้ห่อเล็ก ๆ ที่พกไปโรงเรียนได้ครับ" สมุทรพูดเชิงอธิบาย  ผมชะงักและนึกได้ทันทีว่าเขาคงจะซื้อไปให้น้อง  ไม่ได้ซื้อไปกินเล่นที่บ้านแบบผม  ใครจะไปคิดถึงจุดนั้นกันละครับ  ถ้าผมจะรู้ขนาดนั้นก็ฉลาดเกินมนุษย์ไปแล้ว

"..........." ผมยืนเงียบมองสำรวจ  ช่วยคิด  สมุทรเหมือนยังอยากได้อะไรจากตรงนี้อีกเพราะเขายังไม่ยอมขยับไปไหน

"เยลลี่กลิ่นโคล่าไง" ผมนึกถึงขนมที่ชอบกินสมัยเด็ก ๆ ขึ้นได้

"มันไม่เห็นจะมีประโยชน์เลยครับ เปลืองเงินเปล่าสิแบบนั้น" อีกฝ่ายว่าด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ

"นี่นายโตมาแบบไหนกันแน่ เด็ก ๆ ก็ชอบโคล่าทั้งนั้นแหละ" ผมย้อนว่า  สมุทรยิ้มนิด ๆ เหมือนยอมรับ

"คุณเลือกมาอีกซักอย่างสิครับ ผมเลือกไม่เป็นหรอก เอ่อ..ไม่ชอบกินอะไรพวกนี้น่ะ" สมุทรพูดขอ

"น้องนายชอบกินช็อกโกแลตไหม" ผมสอบถามข้อมูล

"แต่มันหวานนะครับ" สมุทรตอบคนละเรื่อง

"ฉันไม่ได้ถามความคิดเห็นนายว่ามันหวานไหม ฉันหมายถึงน้องนายชอบกินรึเปล่า" ผมกระแทกเสียงเกือบจะหมดความอดทน  สมุทรถอนหายใจคล้ายยอมความว่าเขาไม่สามารถเอาความชอบส่วนตัวไปตัดสินแทนความชอบของน้องตัวเองได้

"ก็คงชอบ ละมั้งครับ" เขาตอบปัดไปที  สีหน้ายังดูไม่เต็มใจอยู่นิด ๆ 

"หึ.." ผมหัวเราะ  เหลือบหันไปเห็นเวเฟอร์โคนรสช็อกโกแลตแบบแท่งเล็กพอดีสำหรับพกพา  ขายเป็นแพ็กอีกเหมือนกัน  ผมชี้ไป  สมุทรเดินตามมาดู  เขาเลือกหยิบรสช็อกโกแลตไปหนึ่งแพ็ก

"พอแล้วครับ ไม่เห็นจะมีประโยชน์สักอย่างเลย" อีกฝ่ายบ่นพึมพำนำไปใส่รถเข็น  ผมหลุดหัวเราะเพราะสีหน้าอีกฝ่ายเครียดมากจริง ๆ

"ประโยชน์ทางใจน่ะ" ผมย้อนบอก  สมุทรส่ายหัวน้อย ๆ ยิ้ม ๆ เขาเดินตรงไปที่แผนกพวกคัตเติ้ลบัต  ยาหอม  ยาหม่อง  เจลล้างมือ  โลชั่นทามือ  ทุกอย่างนั้นเข้าไปหยิบอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนเหมือนเคย  ผิดจากการเลือกซื้อขนมเมื่อครู่นี้ที่ดูหนักใจกว่าแผนกอื่น  เลือกซื้อเสร็จสมุทรก็หันมามอง  ทำหน้าเป็นคำถามประมาณว่า "คุณมีอะไรจะซื้ออีกไหม"  ผมเลยทำหน้ากลับประมาณว่า "นี่ฉันก็รอนายอยู่คนเดียวนี่แหละ"  เราเลยพากันไปจ่ายเงินโดยแยกจ่าย  ผมดูนาฬิกาอีกครั้ง  ได้เวลาที่ผมควรจะกลับบ้านไปเตรียมตัวเพื่อเข้าซ้อมที่ค่ายมวยแล้ว 

ขาขับรถกลับ  ผมยกหน้าที่คนขับรถของไอ้เด่นให้กับสมุทรไปทำ  ปกติถ้าไม่มีไอ้เด่นขับ  พี่ธานก็มักจะรู้หน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว  อาจมีบ้างบางครั้งที่ผมเลือกที่จะขับเอง  พี่ธานก็จะเอ่ยปากแซว ๆ ประมาณว่า "ดีจังเลยนะครับ มีเจ้านายขับรถให้ด้วยแบบนี้" อะไรทำนองนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2016 15:24:25 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

"ฝากบอกคนที่ค่ายมวยของนายด้วยนะ พรุ่งนี้..พี่ธานกับสถาปนิกจะเข้าไป พี่ธานจะช่วยดูเรื่องแบบให้" ผมพูดขึ้นระหว่างทาง

"ครับ" สมุทรตอบ

"เขาแนะนำอะไรก็ให้ทำตาม ไม่ต้องห่วงหรอก..เขามืออาชีพ เดี๋ยวงานก็เสร็จ บริษัทนี้เป็นบริษัทของพ่อเพื่อนฉันเอง ไอ้โปรดน่ะ..ที่เจอที่สนามแข่งวันนั้น" ผมพูดบอก

"อ๋อ..ครับ" สมุทรหันมาพยักหน้ารับทราบอีกครั้ง  ผมเงียบ  ในรถก็เงียบเพราะผมเลือกที่จะไม่เปิดอะไรฟังสักอย่าง  สมุทรก็ไม่มือบอนทำอะไรที่เสียมารยาทอย่างที่ผมไม่ได้สั่งเช่นกัน  ถ้าเป็นไอ้เด่นละก็  มักจะทำผิดกฎผมเสมอ ๆ ถ้าผมลงจากรถแค่ครู่เดียว  บางทีมันก็จะแอบเปิดวิทยุฟังบ้าง  พอผมเปิดประตูเข้ารถแบบกะทันหันมันมักจะตกใจ  ร้อนรนทำตัวไม่ถูกตลอด  ก็ตลกไปอีกแบบน่ะนะ

"ขอบคุณนะครับ" สมุทรพูดขึ้นโต้ง ๆ ผมเหลือบมองเขาแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร  เราเงียบจนใกล้ถึงบ้าน  ผมเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่องของเมฆ

"เออ..พรุ่งนี้สินะ ที่นายต้องไปประชุมผู้ปกครองน่ะ" ผมพูด

"ครับ" สมุทรพยักหน้า

"ไปกี่โมงล่ะ" ผมถาม

"เริ่มประชุมตอนแปดโมงน่ะครับ"

"แล้วเสร็จกี่โมง" ผมถาม  ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากรู้

"คงสิบโมงกว่า ๆ มั้งครับ ทุกทีเสร็จเกือบสิบเอ็ดโมง เสร็จแล้วผมจะรีบมาเข้างานเลยครับ" เขาตอบ

"คุณไฟมีอะไรรึเปล่าครับ"

"เปล่า" ผมตอบปัดก่อนเงียบพักหนึ่ง

"งั้นก็บอกครูไปเลยนะ เรื่องย้ายโรงเรียน หมดเทอมนี้..ก็ย้ายเลย" ผมพูดแกมสั่ง

"ได้ครับ" สมุทรพยักหน้า  เราจบบทสนทนาลงเท่านั้น  ผมให้สมุทรขับรถตรงไปที่ค่ายมวยเลยเพราะเขาเอ่ยปากว่าจะไม่ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเพราะต้องนำของที่ซื้อมากลับไปด้วย  ผมเลยบ่น ๆ เรื่องรถยนต์ที่บอกให้เขานำไปใช้ก่อน  อีกฝ่ายก็ปฏิเสธหนักแน่นอีกตามเคย 


- - - - - - - - - - - - - - -


21:08  ร้าน Shinta

ผมเดินทางมาร้าน Shinta ช้ากว่าเวลาที่ไอ้คินนัดไว้ประมาณยี่สิบนาที  วันนี้ให้ไอ้เด่นและไอ้เข้มขับรถออกมาให้  คาดว่าน่าจะอยู่ดึกจึงให้ไอ้เข้มมาอยู่เป็นเพื่อนกับไอ้เด่นด้วย  จะได้เปลี่ยนกันขับ   

ร้านนี้เป็นร้านนั่งดื่มตอบโจทย์ระดับลูกค้าที่มีเงินทุนจ่ายค่อนข้างสูง  หรูหราโอ่อ่า  ดนตรีเล่นสด  สามารถเรียกน้อง ๆ มานั่งขนาบข้างคอยเอาใจใส่หรือเป็นเพื่อนระหว่างดื่มไปด้วยได้  แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นเม็ดเงินทั้งหมด  ตอบโจทย์ความส่วนตัวของลูกค้าสูงมาก  เก็บความลับได้เงียบสนิท  ถ้าต้องการมาเจรจาธุรกิจไอ้คินก็มักจะมาที่นี่  แต่จะให้เรียกว่าเป็นเลาจน์ก็คงไม่ใช่อารมณ์นั้นเสียทีเดียว 

"ไง" ผมทักไอ้คิน  มันนั่งรออยู่ที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว  วันนี้ไอ้โปรดก็มาด้วย  เมื่อครู่มันยังโทรเร่งผมยิก ๆ อยู่เลย 

"อ่าว ไอ้ไฟ!" พี่ทัพหันมาพอดี  พี่แกยิ้มกว้างดีใจที่เห็นผม  ผมยกมือไหว้ทักทาย  "พี่ทัพ" พี่ชายแท้ ๆ ของภาคิน  นานมาแล้วที่ผมและพี่แกร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาหลายคดี

"สวัสดีครับสารวัต ไม่เจอกันตั้งนาน..ยังบ้ากามเหมือนเดิมเลยนะครับ" ผมยักคิ้วยิ้มกวน  ทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้หัวเราะ  รวมถึงพนักงานหญิงสาวของร้านที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนของพี่ทัพก็ด้วย

"มาถึงก็ปากดีเลย ลามปามกูนี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย" พี่ทัพกัดฟันยิ้มเขิน ๆ คล้ายย้อนผมกลับไม่ถูก   
 
"นั่งก่อนมึง" ไอ้คินลุกขึ้นมาโอบไหล่ผมให้นั่งลง  ผมยังไม่ยอมนั่งลงในทันที  เลือกที่จะกวาดตามองไปที่บุคคลที่ไม่รู้จักก่อนอย่างติดนิสัย  ผู้ชายที่นั่งอยู่อีกสามคนที่ผมไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน  ใส่สูทแต่งตัวภูมิฐาน  หน้าตาดีและอายุน่าจะประมาณเกือบสามสิบเห็นจะได้  หรือไม่ ก็อาจจะราว ๆ เดียวกับพี่ทัพ  ทั้งสามคนผงกหัวยิ้มทักทายผม  ผมผงกหัวยิ้มตอบ  ไอ้คินดันตัวผมให้ไปนั่งที่นั่งของมันเมื่อครู่  ซึ่งเป็นที่นั่งติดกับผู้ชายแปลกหน้าหนึ่งในนั้น 

"สวัสดีครับ" ผมผายมือทักทาย  ทั้งสามคนกึ่งลุกขึ้นยืนพลางโค้งตัวและจับมือผมตอบทันทีอย่างรู้มารยาททางสังคมเป็นอย่างดี  คาดว่าคงทำธุรกิจเป็นอาชีพแน่ 

"สวัสดีครับ" เขาจับมือผมตอบ  เราจับมือทักทายกันจนครบก่อนที่จะนั่งลง  โดยส่วนตัวผมไม่ชอบอารมณ์นี้เท่าไหร่  อารมณ์ที่เมื่อไหร่ที่ถูกเพื่อนสนิทชวนให้ออกมานั่งดื่มด้วยอารมณ์ชิว ๆ แต่มันกลับชวนคนอื่นที่ผมไม่รู้จักมาด้วย  สำหรับผม..การนั่งดื่มด้วยอารมณ์สบาย ๆ ต้องมาพร้อมกับบุคคลที่น่านั่งด้วยและรู้ใจ  จะให้มาทำความรู้จักกับคนอื่นอีกนั่นก็คงไม่ใช่เรื่อง  และเหล้าก็จะเสียรสซะเปล่า ๆ แต่ครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกัน  ผมรู้มาก่อนแล้วว่าไอ้คินไม่น่าจะชวนผมมาดื่มธรรมดาสบาย ๆ เพราะผมทำใจมาก่อนแล้วว่าจะมีคนอื่นมาร่วมวงสนทนาด้วย  ดังนั้น การปั้นหน้าอย่างธุรกิจก็ต้องเป็นมืออาชีพบ้างเป็นธรรมดา

"นี่ไฟ เพื่อนสนิทผมเองครับ เจ้าของหลายกิจการ..สาธยายคืนนี้ก็ไม่หมด! เมื่อกี้พูดไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ สนิทกันไปหน่อย..ขอโทษด้วยนะครับ" ไอ้คินรีบพูดซะยาวเหยียด  ผมนั่งมองทุกคนที่ดูจะเป็นกันเอง  หันไปเห็นไอ้โปรด  มันนั่งเท้าแขนที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับพนักงานหญิงของร้าน  ไอ้โปรดเหล่ตามองผมอยู่ตลอดเวลา  มันแสยะยิ้มและยักคิ้วให้เงียบ ๆ ผมรู้ทันทีว่ามันจะต้องมีอะไรแน่ ๆ ไอ้เวรพวกนี้นี่

"อ๋อ ไม่เป็นไรครับ" หนึ่งในสามคนพูดขึ้น

"นี่คุณเอก..ผู้บริหาร Wizardry" ไอ้คินผายมือไปที่ผู้ชายที่นั่งติดอยู่กับพี่ทัพ  อายุน่าจะเท่า ๆ กับพี่ทัพนั่นละ  เขาผงกหัวยิ้มให้ 

"นี่คุณกำธร ผู้จัดการโรงแรมกูเอง สาขาใหม่" ไอ้คินแนะนำบุคคลที่นั่งอยู่ตรงกลาง

"อ่าวเหรอครับ ผมไม่ทราบ..ไม่เคยได้ไปสักที" ผมยิ้ม  อีกฝ่ายหัวเราะเล็กน้อยอย่างนอบน้อม 

"กูก็นึกว่าโรงแรมสาขาใหม่มึงเจ๋งไปแล้วซะอีก" ผมพูดบอกไอ้คิน  ไอ้คินฉีกยิ้ม  ย้อนตอบไม่ถูก  ทุกคนหัวเราะเบา ๆ

"ส่วนนี่..คุณตุล เจ้าของนิตยสาร TRAVEL with Us" ไอ้คินแนะนำผู้ชายที่นั่งติดอยู่กับผมที่สุด  เขาอมยิ้มผงกหัวให้ผมอย่างรักษาท่าที  ผมผงกหัวยิ้มตอบให้เช่นกัน 

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ตุลพูด  ท่าทางเรียบร้อย  สายตาที่มองมาที่ผมผิดกับเอกและกำธรอย่างชัดเจน  ผมยิ้มให้เขามากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เสียมารยาทก่อนเบี่ยงตัวหันกลับไปทางไอ้คิน  มันอมยิ้มกรุ้มกริ่ม

"ที่กูมานี่ กูมีสิทธิ์ได้รับเครื่องดื่มไหม" ผมถามเพราะผมยังไม่มีเครื่องดื่มเลย  ตุลหัวเราะน้อย ๆ

"เออ ลืม! โทษ ๆ" ไอ้คินกระแทกเสียงยิ้ม ๆ มันรีบกวักมือเรียกพนักงานและสั่งเบียร์ยี่ห้อที่ผมชอบให้คล้ายรู้ใจ

"ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย" ผมพูดแกมสั่งไอ้คินไม่ดังเท่าไหร่เพราะกลัวว่าคนที่เพิ่งทำความรู้จักจะได้ยิน

"ไม่หิว" ไอ้คินตอบไม่มองหน้าผม  ผมแสยะยิ้มทันที  ไอ้เหี้ยนี่มันกวนส้นตีน

"ที่จริงมึงคงอยากแลกลิ้นกับกูต่อหน้าคนอื่นสินะ" ผมพูดหน้าตาย  ไอ้คินหันมามอง  ผมแลบลิ้นออกมากัดพร้อมเลิกคิ้วให้อย่างไม่แยแสว่ามันจะเลือกทางไหนเพราะผมกล้าจูบมันจริง ๆ ไอ้คินก็น่าจะรู้ดีว่าผมกล้าทำ 

"แม่ง" มันบ่นเซ็ง ๆ ยอมลุกขึ้น  พี่ทัพกับไอ้โปรดเหลือบมองเราสองคนเล็กน้อย

"เดี๋ยวมานะครับ ตามสบายเลยครับ" ไอ้คินโค้งน้อย ๆ ตามสไตล์คนชอบเอาใจแขก  ผมเดินนำไปทางห้องน้ำ  พนักงานหลีกทางให้อย่างถูกฝึกมาอย่างดี  ไอ้คินเดินตามหลังมาค่อนข้างทิ้งห่าง  พอถึงมุมลับตาและเงียบพอที่จะเป็นส่วนตัว  ผมจึงหยุดยืนรอมัน 

"คนไหน" ผมยิงคำถาม

"คุณตุลไง Come on! มึงแกล้งโง่ใช่ไหม" ไอ้คินกระแทกเสียงว่าด้วยท่าทางทะเล้น  ผมจ้องหน้ามันและไม่ตลกด้วย  ระดับเจ้าของนิตยสารการท่องเที่ยวชื่อดังขนาดนั้น  คงมีส่วนได้ส่วนเสียกับไอ้คินเป็นแน่

"แล้วไง.." ผมถามอย่างหยั่งเชิง  คะยั้นคะยอให้ผมเสียขนาดนี้  มันคงกำลังมีอะไรปิดบังผมอยู่บ้างละ

"ดูแลแขกให้กูหน่อยดิ..นะ" มันขอตรง ๆ ผมไม่ตอบทันทีเพราะแค่อยากเล่นตัวแกล้งมันเล่น  คุณตุลก็โอเคดี  หน้าตาดี  แต่งตัวสะอาดสะอ้านภูมิฐานสมอายุและฐานะ  ไม่มีอะไรที่ต้องติ
 
"แล้วไงล่ะ หน้าที่กู" ผมย้อนเชิงถาม

"ห่า..คุณตุลน่ารักออก มึงก็..เทคแคร์เขาหน่อย ถือว่ากูขอ" มันพูด

"กูรู้ว่ามึงก็ชอบ น่าจะ..ใช่ไหมวะ" ไอ้คินยิ้ม  แต่มันเริ่มทำหน้าไม่แน่ใจทิ้งท้าย

"นอกจากถ้ากูจะได้เขาแล้ว กูจะได้อะไรอีก" ผมเลิกคิ้วเชิงถามขอกำไร

"มึงจะเอาอะไรล่ะ" ไอ้คินย้อนถามด้วยสีหน้าเหนื่อยใจที่จะเล่นกับผมแล้ว  มันคงรู้ว่าผมกำลังกวนมันอยู่

"เอาอะไรเหรอ" ผมยืนนึก
 
"..ไม่มีว่ะ" ผมขมวดคิ้วตอบห้วน ๆ 

"ไอ้สัตว์ เลิกกวนตีนสักทีได้ไหม" มันว่าอย่างสุดทน

"หึหึหึ" ผมหัวเราะ

"ก็บอกกูมาตรง ๆ สิว่าทำไม อ้อมไปอ้อมมา..รำคาญ" ผมบ่น  ชักเริ่มหงุดหงิด

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก" ไอ้คินตอบ  น้ำเสียงพึมพำเบาลงทีละนิด

"เขา..ช่วยโปรโมตโรงแรมให้กูบ่อย ๆ ยอดแขกระดับผู้บริหารก็เลยทะลุเปรี้ยงปร้าง คุณตุลเขารับปากกูว่าจะเสนอชื่อโรงแรมกูในนิตยสารของต่างประเทศให้ กูก็เลย..อยากตอบแทนเขาเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ..เอ่อ กูเห็นเขาถามถึงเมื่อตอนกลางวัน แบบว่า..อยู่ดี ๆ ก็ถามทั้งที่กูไม่เคยเล่าเรื่องมึงให้ฟัง กูก็เลยคิดว่า..เขาน่าจะสนใจมึงน่ะ แฮ่~" ไอ้คินยิ้มไปเล่าไป  ผมจ้องมันเขม็ง
 
"เขารับปากจะเสนอชื่อมึง ก่อนที่มึงจะเรียกกูมา หรือ เขายังไม่ได้รับปากอะไร แล้วพูดถึงกู..ขอแบบไม่โกหก" ผมถาม

"เขารับปากก่อน!" ไอ้คินกระแทกเสียงตอบทันทีทันใด  ผมยังคงยืนนิ่ง

"อะ..ไอ้เหี้ย จริง ๆ เขารับปากก่อน คุณตุลไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอกมึง กูว่าเขาแยกแยะออกนะ อันไหนเรื่องงาน..อันไหนเรื่องส่วนตัว" ไอ้คินเกาหัว

"พอเขาถามถึงมึง แล้วกูเล่าเรื่องมึงปุ๊บ..ตาเขาดูแวววาวอะ" ไอ้คินพูดพร้อมทำตาประกอบให้ดูด้วย  ผมว่ามันดูอุบาทว์มากกว่าจะแวววาวอะนะ  ผมเงียบ  ถอนหายใจเล็กน้อยอย่างเริ่มคิดหนัก 

"แล้ว..เขา ประมาณไหน" ผมพยักหน้าไปทางด้านนอกซึ่งก็หมายถึงตุลนั่นแหละ

"แบบ..เอ่อ มั่วเซ็กส์ ง่าย ๆ..รึยาก หรือจริงจัง ถ้าอันหลังนี่กูขอบาย ไม่ช่วย" ผมรีบอธิบายและผายมือขึ้นปรามไอ้คินก่อนก้าวถอยหลังแบ่งระยะห่าง  ถ้าให้คบด้วย  แบบนี้ไม่สเปกเท่าไหร่ 

"กูก็ไม่รู้ว่ะ" ไอ้คินยิ้มแหย

"เอา ไอ้เวร!" ผมด่าลั่น

"หึหึ ไม่..กูหมายถึง กูไม่รู้ว่าเขาชอบมึงแบบไหน" ไอ้คินผายมือกว้างอธิบาย

"แต่ที่รู้ ๆ มาคือ ก็..เขาก็แอบมีแนวไม่ซีเรียสกับความสัมพันธ์นะ ดูเป็นผู้ใหญ่แบบ..ไงก็ได้ เขาเพิ่งเลิกกับแฟนด้วย กูว่า..ไม่แน่มึงอาจจะได้แดกเขา" ไอ้คินวิเคราะห์  การเล่นกับคนระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย  ในความคิดของผม  เราทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน  เหมือนได้รู้ความลับและคิดวิตกว่าใครจะเปิดเผยความลับของอีกฝ่ายไหมอะไรทำนองนั้น  มันไม่เหมือนการที่ได้จีบใครไปนอนด้วยสมัยเป็นวันรุ่น  หน้าตาทางสังคมถึงแม้จะใช้ชื่อเดิมและนามสกุลเดิม  แต่ระดับความผิดพลาดมักจะสูงทะยานขึ้นกว่าสมัยวัยรุ่นมาก

"..อายุเท่าไหร่" ผมถาม  ดูแล้วน่าจะราว ๆ ผมหรือไม่ก็มากกว่า

"กูเหรอ ก็เท่ามึงไง!" ไอ้คินกวนตีนชี้เข้าที่ตัวเอง  ผมเลยตบหัวมันเข้าให้ทีนึงเป็นการสั่งสอน

"หึหึหึ" มันหัวเราะ

"สามสิบ" ไอ้คินยิ้มตอบ

"หน้าเด็กจังวะ" ผมว่าแต่ถึงแม้จะดูหน้าเด็กในบางมุม  แต่ท่าทางก็โตตามอายุแหละครับ

"ระดับนี้แล้ว กูว่าเขาก็คงวางท่าเหมือนแหละ" ผมเดา  ไอ้คินพยักหน้าเห็นด้วย

"ขอค่าน้ำมันไปซื้อถุงยางหน่อย" ผมแบมือตรงหน้ามัน  ไอ้คินขมวดคิ้วแต่ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา

"เท่าไหร่" มันถามเสียงห้วนอย่างไม่พอใจเพราะคงรู้ว่าผมไม่ได้จะเอาเงินไปเป็นค่าถุงยางจริง ๆ
 
"สองหมื่น" ผมตอบ

"สัตว์" ไอ้คินกัดฟันว่า

"ไม่เอาก็ได้นะ งั้นกูกลับ" ผมเบะปากยิ้ม ๆ ให้มันเลือก  อันที่จริงจะให้กลับตอนนี้ก็นึกเสียดายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน  นี่มันระดับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ได้เป็นเจ้าของบริษัทตั้งแต่อายุยังแค่สามสิบเองนะครับ  น่าค้นหาจะตาย

"เออ ๆ" ไอ้คินรีบควักเงินออกมาให้  ผมยืนมอง  มันนับซะดีถี่ถ้วนเชียว  ผมรับมา

"ทำบัตร VIP ห้องอาหารญี่ปุ่นที่โรงแรมมึงให้พายุด้วย น้องมันอยากได้..แต่กูไม่อยากเสียเงิน" ผมพูดพร้อมกับนำเงินก้อนที่อยู่ในมือตีเข้าที่หน้าผากไอ้คินแกมสั่ง 

"โห่ เหี้ยไรวะ" ไอ้คินบ่น

"มึงนี่ทำเหมือนบ้านยากจนเนอะ" มันบ่น  ผมหัวเราะในลำคออย่างพอใจ  เอาเงินไปอย่างนั้นเพราะทำให้ฟรี ๆ มันมีไม่บ่อยนักหรอกครับ  ลูกน้องก็ยังต้องกินต้องใช้  เราเองก็ยังต้องกินต้องขี้  ใครได้ใครเสีย  เป็นช่วงเวลาของใครก็ว่ากันไป..

"กูขอเตือนไว้ก่อน" ผมพูด  ไอ้คินหันมาจ้องหน้า  ผมหุบยิ้มเพราะที่กำลังจะพูดนี้เป็นเรื่องจริงจัง

"กูจะเข้าหาตรง ๆ ถ้าอีกฝ่ายไม่มีท่าที แล้วก็จีบยาก..กูขอบาย สองหมื่นนี่กูไม่คืน" ผมพูด  กรณีรูปแบบนี้สำหรับคนฐานะระดับเท่านี้  มันก็ขึ้นอยู่หลายสาเหตุและปัจจัย  ซึ่งถ้ายากขึ้นมาจริง ๆ ผมเองก็ไม่อยากรู้เหตุปัจจัยนั้นหรอกครับ  มันเสียเวลาน่ะ

"แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นที่กระทบต่องานมึง กูไม่ขอรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" ผมพูดอย่างหนักแน่น

"บางทีกูก็อดคิดไม่ได้นะว่า ตกลงมึงเป็นเพื่อนสนิทกูแน่ไหม" ไอ้คินตอบกลับหน้านิ่งขรึม

"นี่กูควรคบมึงต่อดีรึเปล่า" มันบ่น

"หึหึ" ผมหัวเราะ  หันหน้าไปทางอื่นอย่างใช้ความคิด 

"มึงเลิกยิ้มแบบนี้สักที นี่กูหนาวสันหลังวาบ" ไอ้คินขยับหลังไปมา  ผมเหล่ตามองมันอย่างเจ้าเล่ห์

"แฮ่~" ผมแยกเขี้ยว  ทำเสียงเดียวกับเสือเวลาแยกเขี้ยวใส่แกล้งกวนมัน
 
"ไอ้สัตว์" ไอ้คินว่าแกมหัวเราะ

"กลับไปที่โต๊ะได้แล้ว" ผมไล่

"แล้วมึงก็บ่น ๆ ว่าก๊อกแตก น้ำเปียกเสื้อกู..ถามไอ้โปรดว่ามีเสื้อสำรองไหม อะไรทำนองนั้น" ผมพูดสั่ง

"แค่นี้.." ไอ้คินถาม

"อือ" ผมยักคิ้วตอบ

"จัดให้" ไอ้คินอมยิ้มก่อนเดินไป  ผมยืนรอทิ้งช่วงที่ไอ้คินจากไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ  นำมือหมุนก๊อกสุดอย่างแรงจนน้ำกระเด็นเปียกเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่  ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ในห้องน้ำต่างพากันมองผมกะหลับกะเหลือกคล้ายสงสัยว่าไอ้ควายนี่ทำเสื้อตัวเองให้เปียกทำไม  เห็นอย่างนั้นผมจึงแสยะยิ้มมุมปากให้ทุกคนด้วยรอยยิ้มสุภาพชนประดิษฐ์  ทุกคนหลบสายตาทันที  เสร็จจากนั้นจึงยืนกอดอกพิงอ่างรอ  เริ่มจับเวลา  เวลาผ่านไปเกือบ ๆ ห้านาที  ผมรู้สึกว่าเวลามันชักนานไปจนเกินจำเป็น  เกินคาดจนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในแผนที่กำลังลองใจอยู่ขึ้นมาชอบกล  แต่ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้คินว่าเอาไว้ก่อนหน้า  เหตุการณ์มันก็ไม่น่าพลาด



.............ไฟ..............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2016 15:34:03 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด