The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446080 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟ:)

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
คิดถึงสมุทรมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
คิดถึงจัง :mew2: :mew2: :mew2: เจอกันไหม

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 17
..ไฟ..




"เอ่อ นี่เสื้อยืดของคุณตุล" ไอ้คินโผล่หัวเข้ามาพร้อมกับเสื้อยืดสีดำในมือ  คุณตุลเดินตามหลังมันมาด้วย

"เออ! ใครโทรมาวะเนี่ย!" ไอ้คินตีหน้าซื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโต้ง ๆ

"อะ เปลี่ยนซะ" มันยื่นเสื้อมาให้  ผมรับมา

"ฝากไอ้ไฟด้วยนะครับคุณตุล" ไอ้คินหันไปบอกตุลอย่างลวก ๆ แล้วรีบเดินคุยโทรศัพท์ออกไปเลย  ผมหันไปมอตุลเล็กน้อย  อีกฝ่ายอมยิ้มด้วยสีหน้าประหม่าแบบที่ถ้าเป็นผู้ชายปกติก็คงจะไม่ทำกัน

"ของ..แฟนเก่าผมน่ะครับ น่าจะไซซ์เดียวกันกับคุณไฟ ถ้าคุณไม่รังเกียจ" เขาพูดขึ้นซะตรง  พูดขนาดนี้เปิดประตูซะอ้ากว้างทีเดียวเชียว  ผมอมยิ้มมุมปาก

"หึ..ไม่หรอกครับ ขอบคุณ" ผมตอบ 

"ฝากถือสักครู่ได้ไหมครับ" ผมยื่นเสื้อของคุณตุลกลับไปให้เขา

"ครับ" ตุลรับไปถือไว้และยังคงไม่เดินไปไหน  ผมหันตัวกลับมาทางกระจกอีกครั้ง  แกล้งทำเป็นมีมารยาทกับการถอดเสื้อออกต่อหน้าคนอื่นไปอย่างนั้นเอง  ผมปลดกระดุมลงช้า ๆ อย่างใจเย็น  นวยนาดเพราะนอกจากจะรู้สึกสนุกอยู่ลึก ๆ ในตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากอีกด้วย  จะหัวหรือก้อย  ผมไม่ได้คิดหนักอะไรเพราะผมไม่มีผลกระทบเดือดร้อนด้วยน่ะนะ 

เมื่อถอดเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ผมหันตัวกลับไปหาตุลอีกครั้ง  อีกฝ่ายยื่นเสื้อยืดกลับมาให้ไม่สบตาผมตรง ๆ ผมเลยแกล้งยื่นเสื้อเชิ้ตที่เพิ่งถอดกลับไปให้เขา  ตุลรับไปและผับเสื้อให้ผมเรียบร้อย  ผมอมยิ้มมองกะล่อนอย่างลืมตัวเพราะชอบที่ได้เห็นอะไรแบบนี้  อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมพอดีถึงกับชะงัก  หลบสายตาผมไปอีกทาง  เมื่อผมใส่เสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ตุลก็ยื่นเสื้อเชิ้ตของผมกลับมาให้ 

"ขอบคุณครับ" ผมบอก  ตุลยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน  ผมเองก็เลยลองยืนนิ่ง ๆ ดูบ้าง

"จะทำธุระก่อนไหมครับ ผมรอเป็นเพื่อน" ผมพูดเสนอก่อน

"เอ่อ..ครับ" ตุลตะกุกตะกักพยักหน้าตอบ  เข้าเดินแยกเข้าไปเข้าห้องน้ำแบบส่วนตัว  ผมเดินไปยืนพิงอยู่ตรงอ่างล้างมือโดยหันหน้าเข้าไปทางประตูห้องน้ำที่ตุลเพิ่งเข้าไป  ยืนหันหน้าตรง ๆ จงใจที่จะประชันหน้ากับอีกฝ่าย  ประมาณห้านาทีให้หลังคนในห้องน้ำก็เดินออกมา  ตุลชะงักที่เห็นผมจ้องอยู่ก่อนแล้ว  ดูเขาทำตัวไม่ค่อยถูกแต่ท่าทีก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่แย่นัก  ผมคิดว่าเขาก็น่าจะพออ่านสถานการณ์ในตอนนี้ออก  ผมคิดว่าถึงเป็นผู้ชายแท้ ๆ ก็คงอ่านออกว่าการกระทำของผมในตอนนี้มันแปลก 
ตุลเดินมาหยุดยืนล้างมืออยู่ที่อ่างน้ำข้าง ๆ กับที่ผมยืนอยู่  เขาเปิดก๊อกน้ำล้างมือ  ผมหันไปมอง

"คุณตุลเอารถมาเหรอครับ" ผมถาม

"ครับ" ตุลหันมายิ้มตอบ  ผมเงียบลงจนอีกฝ่ายล้างมือเสร็จ

"แล้ว..คุณไฟขับรถมาเองเหรอฮะ" อีกฝ่ายเริ่มยิงคำถามบ้าง 

"เปล่าครับ ให้ลูกน้องขับมาน่ะ" ผมตอบ  เอื้อมมือหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดมือยื่นไปให้  ตุลผงกหัวเล็ก ๆ และรับกระดาษทิชชู่ไปเช็ดมือจนแห้งดี  เขาก็นำกระดาษไปทิ้ง   

"แล้ว..เสร็จจากที่นี้จะไปไหนต่อเหรอครับ" ผมถามอีก  การยิงคำถามเป็นไปแบบไม่ยิงเร็วทันทีทันใดเพราะต้องสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายด้วย  เป็นการถามอย่างเว้นระยะเพื่อให้อีกฝ่ายได้ใช้เวลาคิดบ้างว่า  ผมจะถามต่อรึเปล่าอะไรทำนองนั้น 
 
"คงกลับโรงแรมเลยน่ะครับ พรุ่งนี้มีสัมมนาที่โรงแรมแต่เช้า" ตุลยิ้มหวานตอบ  ครั้งนี้เขาหันมามองหน้าผมตรง ๆ ผมจ้องมองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายชัด ๆ ให้เต็มตาอีกครั้ง  คุณตุลเหสายตาหนีไปอีกทาง

"พักที่โรงแรมของไอ้คินเหรอ"

"ครับ" ตุลพยักหน้า  ผมพยักหน้ารับเช่นกัน  เราเงียบลง  ผมเหสายตาลงพื้นอยู่ครู่หนึ่ง  ตุลไม่พูดทักอะไร  ยืนเงียบตรงหน้าผมคล้ายกับรอดูปฏิกิริยาของผมด้วย  ผมเงยหน้าขึ้น  เหลือบมองผู้ชายที่ล้างมือเสร็จและเขากำลังมองมาที่ผมและตุล  อีกฝ่ายคงสงสัยว่าผมสองคนกำลังจีบกันอยู่รึเปล่าละมัง

"ผมไปส่งเอาไหมครับ" ผมถามขึ้นโต้ง ๆ

"หะ.." ตุลอุทานเบา ๆ ด้วยใบหน้าดูตกใจ  ผมไม่ขยายความในประโยคที่เพิ่งพูดไปแต่มองเขาอย่างมีเล่ห์นัยให้ตีความเอาเอง  ตุลนิ่งไปครู่  รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดบนใบหน้าให้เห็น

"นี่เป็นการชวนขึ้นเตียงเหรอครับ" อีกฝ่ายพูด 

"หึ" ผมหลุดหัวเราะในทันที  ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดตรงไปตรงมานี้จะออกมาจากท่าทีประหม่าของคน ๆ เดียวกับเมื่อก่อนหน้า

"คงงั้นมั้งครับ" ผมตอบส่ง ๆ ไปทีแต่ก็ไม่ปฏิเสธ   

"ไอ้คิน บอกว่าคุณเป็นแขกคนสำคัญ มันบอกให้ผมดูแลคุณเป็นอย่างดีให้หน่อย แต่ว่าผม..ดูแลใครไม่เป็นนอกจากเรื่องแบบนี้ซะด้วย" ผมพูดพลางจ้องหน้าตุลเขม็งเป็นการบอกว่า "ผมไม่ได้พูดเล่น"  เขาเองก็จ้องตาผมไม่กะพริบเช่นกัน

"เพื่อนผมมันคงลืม ว่าผมชอบตีความผิดความหมายจากชาวบ้านทั่วไป แล้วก็ไม่อธิบายให้กระจ่าง" ผมยิ้มมุมปาก  ตุลยิ้มน้อย ๆ ไม่ว่าอะไร

"ผมเสียมารยาทกับคุณตุลซะแล้ว เอายังไงดีละครับ" ผมพูดเชิงถามให้เขาตัดสินใจ  ตุลยิ้มกว้างออกมาด้วยสีหน้าเขิน ๆ เขาเงียบไปประมาณหนึ่งอึดใจจนผมเริ่มขยับตัว  ตุลผงะ  ช้อนตาขึ้นมองตาม

"ถ้าคุณไฟไม่มีธุระที่ไหน" เขาพูดขึ้น  ผมยิ้มให้และเดินเข้าไปหาก่อนนำแขนโอบเอวอีกฝ่ายเบา ๆ

"ขอกุญแจรถด้วยครับ" ผมก้มลงไปกระซิบบอก  ตุลหน้าแดงทันที  เขาหยิบกุญแจรถออกมาให้ผมง่าย ๆ คนในห้องน้ำพากันมองมาที่เราทั้งคู่  ผมเหลือบมองเรียงรายตัวพร้อมแสยะยิ้มทักทายให้ทุกคนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว  เพื่อนสนิทผมเคยบอกว่าผมหน้าด้าน  ผมว่าผมไม่ได้หน้าด้าน  แต่ผมแค่เป็นคนที่ถ้าอยากทำอะไรผมก็ไม่อายต่อสถานที่เท่านั้นเอง..

หลังจากเคลียร์เรื่องในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย  ผมกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง  ทุกคนครื้นเครงกว่าเดิม  มีผู้หญิงนั่งขนาบข้างกันคนละคู่โดยไม่มีใครทักถามหรือสนใจที่ผมและตุลไม่เรียกให้ผู้หญิงมานั่งด้วย  มันเดาได้ไม่ยากว่า  ทั้งกำธรและเอกเองก็คงรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอยู่บ้างไม่มากก็น้อย 

ระหว่างที่นั่งดื่ม  เราคุยเรื่องธุรกิจและเรื่องทั่วไปกันบ้าง  ไม่ได้เจาะจงเรื่องซีเรียสอะไรเป็นพิเศษ  ผมที่นั่งติดกับตุลก็ชวนเขาชนแก้วบ้างครั้งคราว  ไม่ได้ออกท่าทีหวานเสน่ห์หรือจีบแบบตรงไปตรงมา  หรือหาทางหยอดตลอดเวลาอย่างที่ควรจะทำ  ผมไม่ชอบทำอะไรทำนองนั้น  คงเพราะโดยปกติผมก็ไม่ค่อยทำแบบนั้นกับใครอยู่แล้ว  อีกฝ่ายจะชอบผมหรือไม่ชอบผม  ส่วนใหญ่ผมมักไม่ค่อยเทคแคร์อะไรใครเป็นพิเศษ  ชวนคุยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เพื่อไม่ให้ต่างเกร็งกันจนเกินไป  แต่ถ้าจะให้ไปพะเน้าพะนอคลอเคลียคอยเอาอกเอาใจอีกฝ่าย  ผมไม่ทำ 

หลังจากที่ทุกคนเริ่มเข้าโลกของตัวเองแน่นอนว่าไม่มีใครจบแค่ที่โต๊ะนี้แน่  เวลาเกือบเที่ยงคืน  ผมขอตัวออกมาก่อน  ไอ้คินและไอ้โปรดดูท่าจะอ่านทุกอย่างออก  มันอมยิ้มกะล่อนพร้อมกับโบกมือบ้ายบายให้ผม  ระหว่างที่ตุลกำลังลาคนที่โต๊ะผมก็เดินนำออกมาก่อนเพื่อไม่ให้ตุลดูน่าเกลียด  ผมออกมายืนรอที่หน้าร้าน  ไอ้เข้มกับไอ้เด่นยืนรออยู่ก่อนนานแล้ว 

"เข้ม..เดี๋ยวมึงขับคันนี้ไปส่งกูที่โรงแรมของไอ้คิน" ผมยื่นกุญแจรถของตุลให้มัน  ไอ้เข้มรับไป  มันก้มหน้าก้มตารับฟังคำสั่งจากผมอย่างตั้งใจ

"ส่วนมึงขับรถกูไปจอดที่โรงแรม บอกเขาว่าของกู ทิ้งกุญแจรถไว้ที่ล็อบบี้แล้วกัน คืนนี้กูจะนอนนั่น" ผมสั่งไอ้เด่นแล้วหยิบเงินออกมาสองพันบาทยื่นให้กับมันสองคน ๆ ละหนึ่งพัน

"เสร็จแล้วมึงก็กลับบ้านกันได้เลย" ผมบอก

"ครับนาย" มันสองคนรับทราบ  ตุลเดินออกมาพอดี  อีกฝ่ายดูจะตกใจที่เห็นไอ้เข้มและไอ้เด่นยืนอยู่ด้วย  เขาอมยิ้มน้อย ๆ ทักทายมันทั้งคู่  ลูกน้องทั้งสองคนผงกหัวอย่างนอบน้อมและไม่มองหน้าของตุลอย่างรู้จักมารยาทและหน้าที่ 

"เชิญครับ" ผมผายมือให้เล็กน้อย  ไอ้เข้มกดหารถยนต์ของคุณตุล  เมื่อรถส่งสัญญาณมันก็รีบวิ่งนำตรงไปที่รถคันของตุลทันที  ผมและตุลเดินตามไปอย่างไม่เร่งรีบอะไร  อีกฝ่ายยิ้มให้ผมเป็นระยะแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกอะไรเกินงาน  ผมจึงเข้าไปโอบเอวตุลเข้ามาเพื่อให้เขาหายเกร็งและเดินไปด้วยกันแบบนั้น

"คนรักคุณไฟไม่หลงตายเลยเหรอครับ ทำอะไรไม่อายใครแบบนี้" ตุลแซวยิ้ม ๆ

"หึ" ผมหลุดหัวเราะและไม่คิดจะพูดขยายความใด ๆ

"เจ้าชู้นี่คือนิสัยสินะครับ" ตุลพูด  ใบหน้าทีเล่นทีจริง

"คุณตุลนี่เสียมารยาทจัง" ผมตอบปัดไปงั้น  อีกฝ่ายหัวเราะเบา ๆ ที่ถูกผมพูดหยอกกลับ   

"ผมดูเป็นงั้นเหรอครับ" ผมก้มหน้าถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

บางคนชอบพูดกับผมแบบนี้  ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวผมเจ้าชู้ขนาดที่สับรางเก่ง  ผมไม่เคยสับรางเพราะมันยุ่งยากน่ารำคาญ  เมื่อไหร่ที่ผมนอนกับใครหลายคนผมก็ไม่เคยปฏิเสธเพื่อรักษาน้ำใจใครที่ผมนอนด้วยว่าผมนอนกับเขาแค่คนเดียว  และสำหรับผม  คนเจ้าชู้คือคนที่ไม่พร้อมจะหยุดอยู่กับใคร  คบหา  ปิดบังและนอนกับใครก็ได้ทีละหลาย ๆ คน  ไม่มีความจริงใจหรือจริงจัง  บางครั้งก็ไม่ตรงไปตรงมาต่อผู้อื่น  ซึ่งผมคิดว่าผมไม่ได้มีส่วนนั้นทั้งหมด  ถ้าใครคิดคบกับผมแบบจริงจังไม่ได้หวังแค่ร่วมหลับนอนด้วย  และถ้ารับไม่ได้ที่ผมนอนกับคนอื่นในขณะเดียวกัน  ก็เชิญไปซะ  ผมไม่สนเพราะก่อนที่อีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายเข้ามาเสนอให้  จะต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าผมไม่คิดคบหาใครอย่างจริงจัง 

"ไม่หรอกครับ ขอโทษด้วย ผมก็แซวไปงั้น ก็เขินนี่นะ" ตุลยิ้มน้อย ๆ ตอบปัด  ผมก้มลงหอมแก้มเขาอย่างรู้สึกหมันเขี้ยว 

"คุณไฟ" ตุลปรามผมอย่างอาย ๆ ไอ้เข้มก้มหัวลงทันทีที่ผมหันไปสบตา  เมื่อถึงรถแล้วผมจึงเปิดประตูรถให้ตุลขึ้นไปก่อน  ไอ้เข้มรีบเปิดประตูรถฝั่งของผมรอ  ไอ้เด่นเคลื่อนรถมารออยู่ก่อนแล้ว  เมื่อไอ้เข้มขับนำออกมาก่อนมันจึงขับตามมา  เมื่อถึงโรงแรม  ตุลก็เดินนำพาผมขึ้นไปบนห้องพัก Suite ของเขา  โรงแรมของไอ้คินยังวิวดีอย่างเคย  ผมเคยมานอนแล้วครั้งสองครั้งแต่ไม่ใช่ห้องฝั่งนี้  มันชอบเลือกฝั่งที่วิวไม่ค่อยดีให้เพื่อนรักอย่างผมตลอด

ผมหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือนำไปวางลงบนโต๊ะกลางห้องก่อนเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูวิวด้านนอกให้ชัดเต็มตามากขึ้น  ตุลเดินเข้าไปในห้องนอน  ผมไม่ถามว่าเข้าไปทำไมเพราะส่วนใหญ่ที่หายไปก็มักจะไปทำธุระส่วนตัว  ครู่หนึ่งเขาก็ออกมา  ตุลถอดเสื้อสูทนอกออกเรียบร้อยแล้ว  ผมยืนมองนิ่ง ๆ

"เอ่อ สูบบุหรี่ได้ไหมครับ" ตุลถามเสียงเบามาก  ผมเหสายตา

"อย่าเลย ผมไม่ค่อยชอบน่ะ" ผมพูดตามตรง  บางครั้งการได้กลิ่นบุหรี่จากปากผู้ชายก็ไม่เท่าไหร่  รู้สึกพอทำใจได้  ยิ่งถ้าอารมณ์ถึงจุดหน้ามืดแล้วจะบุหรี่หรือกัญชาก็คงห้ามผมไม่อยู่  แต่ถ้าเป็นผู้หญิงและจำเป็นที่จะต้องจูบกัน  ถ้าอารมณ์ผมไม่ได้ดีคงที่เป็นทุนและมาได้กลิ่นบุหรี่จากปากของเธอ  มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมเสียอารมณ์ได้ไม่น้อยเหมือนกัน  ผู้หญิงคนไหนมีกลิ่นบุหรี่ติดมา  ส่วนใหญ่ผมไม่ไปต่อด้วย

"คุณไฟไม่สูบเหรอครับ หึ..หน้าไม่ให้เลยนะ" ตุลอมยิ้มแซว

"หึ" ผมหัวเราะเท่านั้นเพราะคำพูดนี้ไม่ได้หลุดออกมาจากปากเขาคนแรก  ผมได้ยินจนชินหูเสียแล้ว  ตุลเดินตรงเข้ามาหาแต่ก็เว้นระยะห่างไว้ประมาณเมตรหนึ่ง

"แต่ถ้าคุณติดก็ตามสบายนะ" ผมพูดลองเชิง

"ไม่หรอกครับ ก็ไม่รู้จะทำอะไร" ตุลตอบ  เขาหลบตาผมไปอีก

"อ่าว..นี่ไม่ได้มาเพื่อหาอะไรทำกันหรอกเหรอ" ผมกวนตอบหน้าตาย

"หึ บ้า" ตุลยิ้มเขิน  เข้ามาตีแขนผมเบา ๆ มือของอีกฝ่ายเลื่อนมาจับอยู่บนเสื้อที่อกผม  ผมจ้องมองหน้าตุลที่กำลังมองสำรวจร่างกายของผมอยู่

"คุณไม่เหมาะกับมันหรอก" ผมพูดบอก  ถึงบุหรี่และตัวเขา 

"กับใครครับ ไม่เหมาะกับคุณ หรือ บุหรี่" ตุลแสยะยิ้มถามผมกลับกวน ๆ ด้วยสายตาเย้าหยอกผมอีกด้วย

"ก็ทั้งคู่นั่นแหละ" ผมยิ้มตอบพร้อมกับเข้าไปโอบเอวของตุลมาทั้งสองมือ  เมื่อสำรวจจากรอบเอวแล้ว  เนื้อตัวไม่ได้ต่างจากที่สายตาได้เห็นภายนอก  ตัวของตุลแนบชิดเข้ามาติดกับตัวผม  ผมไล่มือต่ำลงจากสะโพกลงไปที่บั่นท้าย  กางเกงผ้าสีกากีตัดกับสีเสื้อเชิ้ตและสูทนอกที่เพิ่งถอดออกไปแสดงถึงความทันสมัยของคนใส่  แม้จะเป็นสีกากีทึบ ๆ แต่กลับยังเห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจนว่าก้นอีกฝ่ายคงสวยแบบที่ไอ้คินโฆษณาไว้เป็นแน่ 

"อะ" ตุลหลุดครางออกมาเมื่อผมจงใจบีบก้นของเขาอย่างแรงพร้อมกันทั้งสองมือ  เพราะรู้สึกหมันเขี้ยว  แขนอีกฝ่ายกอดเข้าที่ไหล่ผมทันสองข้าง  หน้าแม่งโคตรยั่วได้อีก  ผมว่าผมโดนของจริงเข้าให้แล้ว
   
"คุณไฟ..ขอ ตุล อาบน้ำก่อน" อีกฝ่ายกระซิบบอกที่ข้างหู  ผมไม่ฟังเสียงเพราะถ้ามีอารมณ์ก็ไม่อยากจะมานั่งรออะไรไม่เข้าท่าแบบนั้น  อีกอย่างกลิ่นตัวเขาก็ไม่ได้เหม็นน่ารังเกียจ  ติดจะหอมซะด้วยซ้ำ  นึกจะนอนกับนักธุรกิจแล้วไม่ทำระหว่างอยู่ในเครื่องแบบแล้วจะไปมีผลอะไร 

"ไฟ อ้า~" ตุลเผลอครางออกมา  ครั้งนี้เสียงหลงกว่าเก่า  ผมดึงกดเอวของเขาเข้ามากระแทกกับตัวทั้งสองมืออย่างย้ำแน่น  อีกฝ่ายตัวสั่นที่ถูกผมแทรกขาซ้ายเข้าไประหว่างขาของเขาทำให้รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมีอารมณ์อย่างมากจนเป้าแข็งเด่นออกมาแล้ว
 
ตุลเลื่อนมือที่จับไหล่ผมอยู่ไปจับข้อมือของผมที่กำลังนวดคลึงก้นของเขาอย่างสนุกมือไว้  คล้ายกับพยายามห้ามปราม  ผมมองสีหน้าของเขาไม่วางตา  รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วผมด้วยทีท่าหวงตัวไปอย่างนั้นเอง  หน้าตาเขามีอารมณ์ร่วมยั่วยวนสุด ๆ แบบที่รู้ทันทีเลยว่าคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ไม่ธรรมดาแน่  เพราะคู่ต่อสู้คนนี้คงเซ็กส์จัดพอดู  แต่ก็คงดีสำหรับผมละมัง  ถือว่าครั้งนี้ได้กำไรแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะถ้าเจอคนที่เซ็กส์เข้ากันได้  ผมเองก็เป็นคนเซ็กส์จัดไม่น้อย  ไม่ขอปฏิเสธ 


- - - - - - - - - - - - - - -


06:21 น. RATIO HOTEL

"จุ๊บ~" ผมสะดุ้งตื่นแต่ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นดูเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่นอนอยู่ด้วยเมื่อคืนนี้กำลังทำอะไรผม  ผมยังคงหลับต่ออย่างรู้สึกเพลีย ๆ เล็ก ๆ ริมฝีปากของตุลไล่จูบไปทั่วระหว่างหน้าอกและลำตัวของผม  ดูอีกฝ่ายจะเพลินพอได้เหมือนกัน  ผมสะลึมสะลือ  ลืมตาขึ้นมองดูเล็กน้อย  เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำผมตื่นแล้ว  ท่าทางการจูบไซ้อย่างเกร็ง ๆ เพราะกลัวว่าจะกวนผม  ทั้งอย่างนั้นดูเหมือนเขายังไม่หยุดที่จะรุกมากขึ้นเรื่อย ๆ

อยู่ ๆ ตุลก็ลุกขึ้นนั่ง  อ้าขาคร่อมอยู่บนตัวผม  แก้มอีกฝ่ายแดงระเรื่อ  หน้าตาบอกว่ามีอารมณ์สุด ๆ ขนาดเมื่อคืนทำจนร้องระงมจนนอนหมดแรงขนาดนั้น  เขายังลุกขึ้นมาด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 "อื้อ" ตุลพยายามกลั้นเสียงครางของตนไว้ในลำคอเมื่อเขานำก้นถูเข้ากับน้องชายของผมที่ใส่เพียงกางเกงในนอนปิดไว้  ดูท่าอีกฝ่ายจะชอบที่ของผมมันเริ่มแข็งขึ้นทีละนิด  มือทั้งสองมือลูบตัวผมไล่ขึ้นลงอย่างแผ่วเบาแต่ก้นกลับกระแทกถูหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนผมแอบสังเกตเห็นว่าน้องชายของตุลแข็งชันเด่นนูนออกมาจากกางเกงในสีขาว ๆ ที่เขาสวมใส่อยู่ 

"กวนอะไรแต่เช้า" ผมทนไม่ได้  ลืมตาขึ้นมองเต็มตา  ทำเสียงดุออกไป  อีกฝ่ายสะดุ้งหน้าเสีย  หยุดขยับทุกอย่างทันที  ผมนอนมองตาขวางก่อนนำมือลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อให้ตื่นเต็มตา  เมื่อหันกลับไปมองดูนาฬิกาก็เห็นเวลาว่ายังเช้าอยู่มากเลยไม่ได้ต่อว่าอะไรอีก  ส่วนตัวก็มีอารมณ์จะทำอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน  เซ็กซี่ขนาดนี้ปล่อยไปก็แปลกแล้วละมั้งครับ

"ขอโทษครับ" ตุลพูดเสียงหงอย  ทำท่าจะลงจากตัวผม  ผมจับสะโพกเขากดเอาไว้ให้นั่งอย่างเดิม   

"มีสัมมนาเช้านี้ไม่ใช่เหรอ" ผมถามห้วน ๆ ด้วยสีหน้าดุ ๆ แกล้งไปอย่างนั้น

"เอ่อ ต้องขึ้นเปิดงานตอนเก้าโมงน่ะครับ" ตุลตอบ  ผมอมยิ้มมุมปากมองอย่างเจ้าเล่ห์ 

"เมื่อคืนยังไม่พออีกรึไง" ผมว่าพร้อมกับแกล้งขยับเอวหนีเล็กน้อย  ตุลมองตามตาละห้อย 

"ไฟอะ อย่างแกล้งสิ" อีกฝ่ายอมยิ้ม  หน้าแดงด้วยท่าทางอาย ๆ ตุลก้มลงเข้ามาหาผมทำให้หน้าของเราประชันอยู่ตรงหน้ากันและกัน  ตุลทำท่าจะก้มลงมาจูบแต่ผมเบือนหน้าหนี  ริมฝีปากของเขาจึงกดลงหอมที่แก้มผมอย่างแรงและจูบแทบทั่วไปหน้าผมด้วยสายตาโหยหาแสดงออกจากโจ่งแจ้ง  ผมเบี่ยงหน้าหนีเขาตลอดเวลา  แกล้งไม่ต้องการให้อีกฝ่ายจูบ

"อื้อ!" ตุลประท้วงในลำคอหน้างอที่ผมไม่ยอมจูบเขาดี ๆ ผมยิ้มกว้าง  ปฏิกิริยาที่ตรงไปตรงมาของเขาก็ดูน่ารักดี  ผมได้จังหวะจึงแกล้งกระแทกน้องชายตัวเองสวนขึ้นไม่ทันให้เขาได้รู้ตัวก่อน  เสียงครางดังขึ้นอีกครั้ง  ตุลกัดฟันแน่นเป็นการบอกว่ากำลังมีอารมณ์อย่างหนัก  เขาหลับตาครวญครางด้วยน้ำเสียงยั่วยวนอยู่ในลำคอ  มืออีกข้างเท้าอยู่บนเตียงและอีกข้างไขว้หลังไปจับก้นของตัวเองเอาไว้ด้วย 

ตุลกดบั้นท้ายตัวเองลงขยี้สู้น้องชายผมกลับอย่างไม่ยอมแพ้  ผมกัดลิ้นมองอย่างหมดความอดทน  นำมือจับก้นของตุลไว้ทั้งสองมือพร้อมกับแหวกกางเกงในขึ้นรวบรวมมาดึงไว้ที่ซอกก้นอย่างจงใจแกล้งเขา  ก้นอีกฝ่ายทั้งกลมและพอดีมือแบบที่จับกี่ครั้งก็รู้สึกหมันเขี้ยวได้ตลอด  ผมตีแก้มก้นตุลอย่างแรง  เจ้าตัวครางเสียงหวาน  หลับตาพริ้มพร้อมกดหน้าลงเข้าที่ไหล่ผม  สะโพกส่ายไปมาสู้มือผมซะอย่างนั้น 

"อ้า! ไฟ อื้อ!" ตุลชันตัวเองขึ้นนั่งอีกครั้ง  ร้องครางหน้าตาเหยเก  น้องชายของตุลกระตุกจนน้ำเยิ้มออกมาแสดงถึงอารมณ์รุนแรงที่กำลังปะทุขึ้นอย่างหนัก  สะโพกส่ายไปมาสู้มือยกใหญ่  ผมชันตัวขึ้นเล็กน้อยเข้าไปดูดจูบหัวนมของเขาอย่างแรง  ครั้งนี้เองตุลครางระงมไม่รู้เรื่องเลย  มือของเขาขยุ้มหัวผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ พอผมปล่อยมือออกจากกางเกงใน  ตุลก็กดสะโพกลงที่เป้าของผมทันที  สุดยอดฉิบหาย.. ประธานบริษัท  ปล่อยจิตใต้สำนึกสุด ๆ ไปเลย

เวลาล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงการแกล้งหยอกตุลของผมก็จบลงโดยการให้เขาได้ถึงที่หมายอย่างอิสระ  นี่ไม่ใช่การทรมานแต่อย่างใด  นอกจากที่ผมได้ทำตามใจตัวเองแล้วก็ดูเหมือนคนที่ถูกแกล้งจะพอใจมากอีกด้วย 

ผมลุกขึ้นเดินไปเก็บถุงยางทิ้ง  ตุลนอนหมดสภาพอ้าขาแน่นิ่งอยู่บนเตียง  ทำกันเสร็จท่าไหนเขาก็ยังคงนอนอยู่ท่านั้น  ผมเหลือบมองอีกฝ่ายที่นอนหายใจหอบรวยริน  ผมกลับเข้าไปจูบหน้าผากเขาเบา ๆ เป็นการขอโทษที่ดูเหมือนจะแกล้งหนักไปหน่อย  อีกฝ่ายหันมาและไม่วายที่จะส่งสายตายั่วอารมณ์มาให้ผมอีกครั้ง  เราต่างมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตุลที่สั่นอยู่ตรงหัวเตียง  ครั้งนี้สั่นรอบที่สองแล้ว  ผมหยิบไปให้เพราะดูจากสภาพแล้วเจ้าของโทรศัพท์คงเอื้อมไปหยิบเองไม่ไหว 

"ฮัลโหล" ตุลพูดเสียงยานคาง

"ตื่นแล้วสิ" ตุลตอบห้วน ๆ ปลายสายคงเป็นลูกน้องเพราะน้ำเสียงฟังดูลุกลี้ลุกลนถามว่าเจ้านายของตนแต่งตัวเสร็จรึยัง

"ขอเวลาอีกสี่สิบนาที เดี๋ยวฉันไปแน่น่า" ตุลตอบปัด ๆ ไปที 

"ถ้าไม่ไงก็ให้คุณเมธาขึ้นพูดแทนฉันไปเลย" ตุลสั่ง
 
"อืม..ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ" ตุลลดน้ำเสียงลง  เขาถอนหายใจก่อนกดวางสาย  ผมนั่งมอง

"ไหวรึเปล่า" ผมถาม

"ไหวสิ" ตุลตอบยิ้ม ๆ ผมกดโทรศัพท์ในห้องเพื่อต่อเบอร์ไปที่ห้องอาหารของโรงแรม  สั่งให้นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟให้ที่ห้องนี้  ตุลลุกขึ้นนั่งมองผมยิ้ม ๆ

"ใจดีอย่างนี้กับทุกคนรึเปล่า" ตุลยิ้มถาม

"แบบนี้เรียกว่าใจดีแล้วเหรอ งั้นก็คงกับทุกคนละมั้ง" ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบอย่างไม่ปฏิเสธว่าใครพิเศษ

"ชิ ใจร้าย" ตุลเบะปากให้

"กินอะไรก่อนแล้วค่อยไปแล้วกันครับ" ผมพูดแกมสั่ง  เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป  สำหรับผมอาหารเช้าสำคัญที่สุด  ผมค่อนข้างจริงจังกับการกินอาหารให้ตรงเวลามาก  เบี้ยวไม่ได้เพราะมันสำคัญในการทำงานของผม  ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องมีอะไรรองท้องตรงตามเวลาอาหารหลัก  พ่อเคยพูดว่า ผู้นำที่ไม่ให้อาหารกับร่างกายตัวเองอย่างตรงเวลา  จะดูแลลูกน้องให้ดีได้ยังไง  แต่ก่อนผมก็เคยคิดว่าพ่อผมนี่พูดอะไรตลกอย่างกับเด็ก  แต่พอโตมาแล้วถึงได้รู้ว่ามันมีนัยยะที่สำคัญทีเดียว

"ปกติตอนเช้าผมกินแต่กาแฟนะ" ตุลบอก  ผมขมวดคิ้ว  รู้สึกไม่ชอบใจในทันที

"เอ่อ แต่วันนี้ขอกินกับคุณไฟด้วยก็แล้วกัน" ตุลรีบพูดแก้ตัว

"เรียกไฟเฉย ๆ ก็ได้" ผมพูดอย่างไม่คิดมาก 

"ไม่เอาอะ" ตุลเบะปากทีเล่นทีจริง

"หึ..อะไร" ผมหัวเราะ

"เดี๋ยวสนิทเกิน แล้วอยากได้อีก" ตุลยิ้มหน้าทะเล้น  ผมไม่ตอบกลับเพราะประโยคแบบนี้จะตอบทีเล่นทีจริงหรืออะไรก็ดูจะไม่ควร  ผมก็เป็นคนแบบนี้ละครับ  กำแพงก่อตัวเร็วยิ่งกว่าเวลาที่น้ำแตกซะอีก

"จะอาบน้ำเลยไหม" ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้น  ตุลมองตาม

"เดินเองไหวรึเปล่า" ผมถาม 

"ไหว.." ตุลพยักหน้า

"แต่อุ้มไปให้ด้วยน่าจะดีกว่า" อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นทำตาหวานใส่  ผมหัวเราะน้อย ๆ แต่ก็ก้มตัวลงไปอุ้มเขาขึ้นอย่างไม่คิดมากเพราะก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะอุ้มพาไปให้

"คุณไฟน่ะ ที่จริงเป็นคนใจดีสินะฮะ" ตุลพูดขึ้นทั้งที่ยังกอดคอผมอยู่  เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ  ผมจึงวางขาเขาลงช้า ๆ

"อะไร" ผมขมวดคิ้วยิ้ม ๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"ถึงตอนไม่ยิ้มจะดูดุ แต่ก็ดูไม่หยิ่ง ไม่เหมือนบางคน" ตุลพูดพร่ำ  ผมเอื้อมมือไปเปิดน้ำให้ทั้งที่ก็ยังถูกเกาะตัวอยู่อย่างนี้

"ตุลว่าตอนคุณไฟไม่ยิ้มยังดีกว่าตอนยิ้มอีก ตอนยิ้มดู..ไม่ค่อยน่าไว้ใจ" ตุลเงยหน้าบอก

"หึ..ตกลงอยากให้ยิ้ม หรือไม่อยากให้ยิ้มกันแน่" ผมว่า  ตุลอมยิ้มเขินและไม่ตอบไปซะดื้อ ๆ ผมก้มลงหอมที่หน้าผากอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนออกจากฝั่งห้องอาบน้ำมา  ผมออกมายืนล้างหน้าแปรงฟันก่อน  เมื่อตุลอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงเข้าไปอาบต่อ
ผมแยกตัวออกมาหลังจากที่กินอาหารเสร็จ  เราร่ำลากันเป็นปกติเหมือนกับเป็นการจากลาของคนที่เพิ่งรู้จักกันตามท้องถนนอะไรทำนองนั้น  เราไม่ได้แลกนามบัตรกันไว้  ใจผมคิดอยู่ลึก ๆ ว่าก็ไม่อยากให้ตุลถามถึงเช่นกัน  ใช่ว่าเรื่องบนเตียงเราเข้ากันได้ดีมากแต่ผมยังไม่มั่นใจว่าตุลจะเป็นลักษณะเดียวกันกับพลอยได้หรือไม่  ตุลเองก็ไม่เอ่ยเรื่องขอเบอร์ติดต่อ  มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่เขาไม่ถามผมต่อหน้าให้ผมรู้สึกลำบากใจ  ความหนักใจหายไปเป็นปริทิ้ง  ผมเดินลงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อขอรับกุญแจรถ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2016 16:14:01 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

"ไอ้ไฟ!" ผมหันไป  ไอ้คินวิ่งตาลีตาเหลือกมาหาอย่างไม่สนพนักงานในโรงแรมที่หยุดชะงักด้วยความตกใจที่เห็นเจ้าของโรงแรมมาป้วนเปี้ยนแถว ๆ นี้

"กูเหนื่อย ขี้เกียจพูด" ผมยกมือขึ้นปรามมัน

"ซะงั้น ไอ้สาดดดดด" ไอ้คินลากเสียงยาวยิ้มกว้าง

"ไงมึง..ทุกอย่าง ราบรื่นดีไหม" ไอ้คินเข้ามากระซิบถาม  สายตาแวววาวเลยทีเดียว  ผมไม่ตอบแต่พยักหน้ารับเท่านั้น
 
"ยันเช้าเลย แหม..โดนใจมึงเลยสิ" มันแซว  คงเพราะรู้ว่าที่ผ่านมาถ้าคนไหนไม่ถูกใจผมจริง ๆ ผมทำเสร็จผมก็มักจะเลือกที่จะกลับออกมาในคืนนั้นทันทีมากกว่าที่จะนอนค้างคืนต่อ  ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเลือกที่จะนอนถึงเช้าเท่าไหร่  ถ้าไม่หมดแรงจนเดินไม่ไหวจริง ๆ น่ะนะ

"ปากมากว่ะ" ผมว่าปรามแล้วเดินหนีออกมาเลย 

"กินข้าวยัง" ไอ้คินถาม  มันเดินตามตูดผมต้อย ๆ

"กินแล้ว" ผมตอบ

"กลับเลยเหรอ" มันซักอีก

"เออ..กูมีธุระ" ผมตอกห้วน ๆ ชักเริ่มอารมณ์ไม่ดี  พนักงานต้อนรับรีบประตูให้ผมและไอ้คิน  ผมเดินไปที่รถของตัวเองและเปิดท้ายรถออกก่อนเพราะอย่างน้อยได้เปลี่ยนเสื้อเป็นตัวใหม่ก็ยังดี

"คุณตุล เขาเดินไหวไหมน่ะ" ไอ้คินถามด้วยสีหน้าดูกังวล  มันนั่งลงที่ท้ายรถของผมทำให้เราสองคนประชันหน้ากัน  ผมหัวเราะและถอดเสื้อออกด้วย

"กูสิจะเดินไม่ไหว มึงกล้าพูด" ผมว่า  โยนเสื้อยืดของแฟนตุลคืนให้มัน

"เฮ้ย! จริงดิ" ไอ้คินปิดปากทำตาเหลือเชื่ออีก 

"แล้วมึงมาเปลี่ยนเสื้ออะไรตรงนี้เนี่ย โรงแรมกูห้าดาวนะ ไม่ใช่ม่านรูด" ไอ้คินส่ายหัวบ่น  มันมองเลิ่กลั่กเหมือนกลัวว่าลูกค้าคนอื่นจะมาเห็น   

"มึงจะให้กูเอาเสื้อเข้าไปเปลี่ยนในโรงแรมนี่นะ แค่ตัวเดียว" ผมบ่นมัน  เปิดกล่องที่เก็บเสื้อผ้าสำรองไว้ค้นหาเสื้อยืดสักตัว

"หุ่นกูดีจนลูกค้ามึงจะอดใจไม่ไหวน่ะสิ รอบหน้าให้กูแก้ผ้า ยืนกุมเป้าตัวเองเป็นไอคอนโฆษณาให้โรงแรมมึงเอาไหม กันเอง..คิดถูก ๆ โรงแรมมึงดังยันโลกหน้าแน่ ๆ" ผมยักคิ้วแสยะยิ้มให้ไอ้คินอย่างแกล้งหยอก 

"สัตว์! เก็บไว้ให้แม่มึงดูเถอะ!" ไอ้คินสบถด่าผม  เราพากันหัวเราะ  ผมหยิบเสื้อยืดสีขาวมาใส่

"เอาไปส่งซักแล้วคืนเจ้าของให้กูด้วย" ผมสั่งถึงเสื้อยืดสีดำของคุณตุลที่มันถืออยู่  ไอ้คินขยับปากบ่น ๆ แต่ก็ยอมพับเสื้อตัวนั้น  พยักหน้ารับรู้อย่างช่วยไม่ได้  ผมสะกิดให้ไอ้คินลุกขึ้นยืนและจัดการปิดท้ายรถ

"แล้วถ้าคุณตุลเขาขอเบอร์มึงอะไรแบบนี้ มึงให้กูทำไง" ไอ้คินถาม  ผมจ้องหน้ามัน

"ไม่ต้องให้..มีอะไรก็นัดกูก่อนแล้วกัน" ผมตอบ  ไอ้คินพยักหน้ารับง่าย ๆ อย่างรู้นิสัยผม 

"ไปแล้ว เจอกันมึง" ผมบอก  ไอ้คินพยักหน้า  มันตบไหล่ผมสองสามทีเป็นการบอกลาเช่นกัน
 
ผมขับรถออกมา  สองจิตสองใจอยู่ลึก ๆ กับสิ่งที่อยากทำในขณะนี้  ขณะที่รถกำลังติด  ผมกดโทรศัพท์โทรออกเป็นเบอร์โทรของสมุทร  โดยกดหน้าจอค้างไว้ที่หน้านั้นอยู่อย่างนั้น  นาฬิกาบนรถบอกเวลาเก้าโมงครึ่งโดยประมาณ  ตอนนี้สมุทรคงอยู่ที่โรงเรียนของเมฆเรียบร้อยแล้ว  ที่จริงเมื่อวานผมก็ตั้งใจไว้ว่าวันนี้อยากจะไปหาเขาที่โรงเรียนถึงได้ถามข้อมูลเขาออกไปแบบนั้น  พอถึงเวลานี้จริง ๆ กลับย้ำคิดย้ำทำว่าควรไปหรือไม่ควรไปดี 


ตืด  ๆ  ๆ  ๆ
"ครับ" ผมกดรับ  พี่ธานโทรมา

"คุณไฟครับ เรื่องที่ค่ายศรไกร วันนี้สถาปนิกมาดูและเริ่มลงมือทำงานแล้วนะครับ ได้รับค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งมาแล้ว" พี่ธานรีบรายงาน

"อ๋อ โอเคครับ" ผมตอบ

"แล้วนี่คุณอยู่ที่ไหนครับ"

"ผมเพิ่งออกมาจากโรงแรมของไอ้คินน่ะ"

"วันนี้พี่มีธุระที่ไหนรึเปล่า" ผมถามกลับ

"ไม่ครับ จะให้ผมทำอะไรรึเปล่าครับ" พี่ธานตอบ

"งั้นเดี๋ยวเข้าไปดูที่ตลาดแทนผมให้ด้วยนะว่างานไปถึงไหนแล้ว" ผมสั่ง

"ได้ครับ" พี่ธานรับปาก

"ครับ..เท่านั้นแหละ เดี๋ยวบ่าย ๆ ผมกลับเข้าบ้าน" ผมบอก

"โอเคครับ สวัสดีครับ" พี่ธานตอบก่อนตัดสายไป  ด้วยความไวของไฟเขียวที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นไฟแดงที่สี่แยกข้างหน้า  ผมก็หักรถเลี้ยวไปทางไปโรงเรียนของเมฆในทันทีแบบที่จิตใต้สำนึกมันคงสั่ง  แทนที่ผมจะตรงกลับบ้านแต่ผมดันเลี้ยวนี่นะครับ! ไอ้เย-ดแม่งเอ๊ย!!

"กูนี่มันดีจริง ๆ" ผมกัดฟันบ่นกับตัวเอง  พลางส่ายหัวอมยิ้มออกมาและสุดท้ายก็ปล่อยไปตามใจ
 
การทำไปตามจิตใต้สำนึกแสดงว่านั่นคือสิ่งที่ต้องการ  และบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลละมัง  ระหว่างทางที่จะต้องไปโรงเรียนของเมฆ  ผมเห็นว่ามีร้านเค้กเปิดอยู่พอดีจึงหยุดแวะซื้อเค้กติดไม้ติดมือไปด้วย  เหตุผลเพราะแค่อยากซื้อเท่านั้นเอง  ไม่มีอะไรลึกซึ้งไปมากกว่านั้น 

ผมหยุดรถจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียนของเมฆที่เก่าที่เดิมที่เคยจอดส่งสมุทรเมื่อครั้งก่อน  ดูนาฬิกาน่าจะใกล้เวลาที่ประชุมผู้ปกครองเลิกแล้ว  ถึงแม้ว่าคนผ่านไปผ่านมาจะพากันมองมาอย่างสนใจ  แต่ผมก็ยังเลือกที่จะออกมายืนรอที่ด้านนอกรถ  ให้หลังไม่ถึงห้านาทีก็เห็นผู้ปกครองเริ่มทยอยเดินออกทีละคนสองคน  ผมก็เห็นสมุทรเดินมาพร้อมกับเมฆ  เนื่องจากอีกฝ่ายโดดเด่นสะดุดตากว่าใครจึงมองหาได้ไม่ยาก  สมุทรตกใจที่เห็นผม  เขายืนหยุดนิ่งอยู่กับที่จนเมฆมองตามสายตาของพี่ชายตนเองมา  สมุทรเดินตรงมาหาผมโดยจับมือเมฆให้เดินมาด้วย 

"คุณมีธุระอะไรรีบร้อนรึเปล่าครับ" สมุทรถาม  ใบหน้าแสดงออกมาซื่อตรงอย่างที่ถามจริง ๆ

"ผ่านมาพอดี ก็เลย เอ่อ เดี๋ยวฉันไปส่ง" ผมบอกอย่างรวบรัด  สมุทรจ้องหน้าผมเหมือนไม่เชื่อที่ผมพูดอยู่  ผมหาเรื่องเบี่ยงประเด็น  ก้มหน้าลงนำนิ้วเข้าไปดีดที่หน้าผากเมฆแทนคำทักทาย

"นี่นายไหว้ฉันรึยัง" ผมทำเสียงขู่  เมฆขมวดคิ้วเบะปากด้วยท่าทางกลัว ๆ ผมไม่เลิก  มันรีบนำมือออกจากมือของสมุทรและพนมมือก้มหัวไหว้ผมในทันที  พอไหว้เสร็จมันก็เข้าไปจับมือสมุทรเหมือนเดิม

"ใช้น้ำเสียงให้มันเพราะ ๆ หน่อยได้ไหมครับ" สมุทรทำหน้าดุใส่ผม  ผมแสยะยิ้มมุมปาก

"ไปกินข้าวกัน" ผมชวน  มองหน้าอีกฝ่าย   

"ไม่ครับ ผมต้องรีบไปส่งน้อง..แล้วเดี๋ยวต้องไปค่ายมวยคุณอีก" สมุทรพูด

"ก็นี่ไง ไปกินข้าว ส่งน้องนาย แล้วนายก็ไปพร้อมกันกับฉันเลย" ผมยื่นข้อเสนอ  สมุทรนิ่งไปครู่

"คุณมาเพราะเรื่องแค่นี้เหรอครับ" สมุทรระแวง 

"นั่นน่ะสิ" ผมตอบเพราะนี่ก็กำลังงงตัวเองอยู่ไม่น้อยไปกว่าเขาหรอกครับ

"ตกลงว่าไง นี่ฉันต้องขับรถออกไปหาอะไรกินเองงั้นสินะ" ผมพูดแกมบ่น  สมุทรถอนหายใจน้อย ๆ
 
"กินแถวบ้านผมนะครับ น้องสาวผมยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน" สมุทรบอก

"โอเค เชิญ" ผมพยักหน้าและหันกลับไปกดเปิดรถ  เดินกลับมาที่ฝั่งคนขับ  สมุทรและเมฆขึ้นรถมาโดยเฆมยังเลือกที่จะนั่งตักพี่ชายตัวเองเหมือนเคย  ผมขับรถมาแถวชุมชนของบ้านสมุทรโดยจอดรถทิ้งไว้แถว ๆ ด้านหน้าปากซอย  คนพากันมองมาที่พวกเราอีกตามเคยอย่างที่ผมคาดไว้ไม่มีผิด  ผมหยิบกล่องขนมเค้กออกมาด้วยและนำไปยื่นตรงหน้าเมฆ

"ชอบรึเปล่า ฉันซื้อมาฝาก" ผมบอก  เมฆมองกล่องขนมเค้ก  ก่อนเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาที่ดูจะดีใจไม่น้อยแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมรับไป 

"ขอบคุณครับก่อนรับนะครับ" สมุทรก้มลงบอกน้องชายของตน  เมฆพยักหน้ารับทราบ  ยกมือไหว้ผมก่อนที่จะรับกล่องเค้กไปถือไว้ยิ้ม ๆ

"พูดว่าขอบคุณครับด้วย" สมุทรย้ำเสียงค่อนข้างดุ

"ขอบคุณครับ" เมฆพูดตามเสียงหงอยจนผมแทบจะหัวเราะ

"พี่พูดกี่ครั้งแล้วว่าเวลาใครให้ของอะไร หรือขอร้องให้คนอื่นทำอะไร เมฆต้องพูดขอบคุณครับด้วย" สมุทรพูดแกมบ่น 

"เอาน่า" ผมปัด  ชักจะสงสารไอ้มืดมนนี่ขึ้นมาตงิด ๆ

"เดี๋ยวพี่ถือให้" สมุทรบอก  นำกล่องเค้กไปถือแทนคงกลัวว่าถ้าน้องตัวเองถือแล้วจะไม่ปลอดภัย

"ขอบคุณครับ" เมฆพูดบอกซะงั้น 

"หึ ๆ" ผมหัวเราะ  สมุทรเองก็หลุดยิ้มด้วยเหมือนกัน   

"วันหลังไม่ต้องนะครับ" สมุทรบอกผม

"มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร" ผมบอก

"หึ ถึงมาตัวเปล่าผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณอยู่แล้ว เป็นเจ้านายนี่นะ" สมุทรยิ้มนิด ๆ ผมมองหน้าเขา  แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่ประโยคพูดอย่างซื่อตรง  เขาคงกำลังแกล้งประชดผมอยู่แน่ ๆ แต่ใครสนกันละครับ

"ก็ดี..ถือว่านายพูดเองนะ" ผมใช้โอกาสนี้ตอบกลับตรง ๆ ซะเลย  สมุทรหัวเราะขึ้นจมูก  เขาเดินนำไปก่อน  ผมเดินตามหลังเขาโดยเยื้อง ๆ ให้เล็กน้อย  เดินไปยิ้มไป  ในอกมันรู้สึกจี๊ด ๆ คัน ๆ ยังไงบอกไม่ถูก  เห็นหุ่นแล้วหมันเขี้ยวจนอยากจะเข้าไปขย้ำแม่ง!!!

ระหว่างทางที่สมุทรกำลังพาผมเดินไปในทางที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน  เขาโทรหาน้องสาว  ฟังดูเหมือนกับว่ามีคนมาหายายที่บ้านของสมุทรพอดี  สมุทรจึงสบายใจให้ดาวออกมากินอาหารกลางวันด้วยกันเลย  สมุทรบอกชื่อร้านดาวไป  แถวนี้คงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว  เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไทยโบราณ  ซึ่งดูจากสภาพบ้านที่ขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว  มันค่อนข้างโบราณสมชื่อมากเลยทีเดียว

"เอาอะไรดีครับ" สมุทรถาม  เราพากันนั่งลง  เขาวางกล่องเค้กลงบนโต๊ะตรงหน้าเมฆพอดี  เมฆนำไปจับไว้ทั้งสองมืออย่างกับกลัวว่าใครจะมาแย่งไปอย่างนั้น

"เส้นเล็กเนื้อเปื่อย" ผมบอก

"จานใหญ่มากไหม" ผมถาม

"ก็ไม่นะครับ คุณจะเอาพิเศษเลยไหม" สมุทรถาม

"อือ เพิ่มผักเยอะ ๆ" ผมพยักหน้า
 
"เมฆเอาเหมือนเดิมนะ" สมุทรถาม

"ครับ ขอบคุณครับ" เมฆพยักหน้าตอบ

"นี่ประชดพี่เหรอ" สมุทรเบิกตาถามเอาความ  เมฆเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาใสซื่อ

"เปล่า" เมฆตอบเสียงเบา  ผมหัวเราะ  สมุทรอมยิ้มลุกไปสั่งอาหารให้  เขากลับมานั่งยังไม่ถึงห้านาที  ดาวก็มาถึงร้านพอดี  เธอดูจะตกใจปนแปลกใจที่เห็นผมร่วมนั่งอยู่ด้วย 

"สวัสดีค่ะ" ดาวยกมือไหว้ยิ้ม ๆ

"สวัสดีครับ" ผมผงกหัวตอบ

"พี่สั่งแล้วนะ ดาวกินอะไรก็ไปสั่งสิ" สมุทรบอกเธอ  เขาลุกขยับเก้าอี้เลื่อนมาใกล้ ๆ กับผมมากขึ้นเพราะจัดการจะให้ดาวนั่งระหว่างตนกับเมฆ  ผมแอบอมยิ้มไว้ในใจ  ทั้ง ๆ ที่เก้าอี้ฝั่งของผมว่างอยู่หนึ่งตัว  ดูท่าอีกฝ่ายจะหวงน้องสาวน่าดูเลยทำอะไรซะโจ่งแจ้งเลยทีเดียว

"หึ" ผมหัวเราะ  ตามองออกไปนอกร้าน

"อะไรครับ" สมุทรถาม  สายตามองมาอย่างจับผิด

"เปล่านี่" ผมเบะปาก

"ดูท่าแล้วคุณคงผ่านผู้หญิงมาเยอะ แถมรอบ ๆ ตัวคุณก็มีแต่คนหล่อ ๆ สวย ๆ หวังว่าคงจะรู้นะครับว่าผมหมายความว่ายังไง" สมุทรพูดขึ้นตรง ๆ เขาหยิบแก้วน้ำแข็งที่พนักงานในร้านเพิ่งนำมาเสิร์ฟมารินน้ำให้

"ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ" ผมหันหน้าไปมองกวน ๆ สมุทรมองตาขวางด้วยสีหน้าไม่พอใจในทันที  ผมยิ้ม  เลิกคิ้วคล้ายรอให้เขาขยายความให้ด้วย

"อย่างน้องสาวนายนี่ก็แปลกดีน่ะนะ ฉันหมายถึง รอบ ๆ ตัวฉันก็หาแบบน้องนายได้ยาก" ผมได้ทีแกล้งเสียเลย

"แต่ก็นั่นแหละ..แบบนี้ฉันไม่นิยมเท่าไหร่ ตามจริงแล้วก็ไม่ใช่สเปกน่ะ" ผมบอกตรง ๆ

"แต่ถ้าน้องนายมาชอบฉันก่อน มันก็คงช่วยอะไรไม่ได้..รึเปล่า" ผมทำเสียงสูงทิ้งท้าย  เบะปากทำหน้าพิลึกใส่  เมฆเหลือบมองหน้าผมเล็กน้อย  คงฟังออกหมดนั่นแหละว่าผมสองคนกำลังคุยอะไรกันอยู่  แค่เด็กประถมแต่ไม่ได้หูหนวกสักหน่อย 

"คุณไฟ" สมุทรข่มน้ำเสียงปราม

"ครับ" ผมขานตอบยิ้ม ๆ มองเขาด้วยสายตามีนัยยะแอบแฝง  ซึ่งถ้าเขาจะตีความยังไงก็คงต้องแล้วแต่เขาเลย

"วันหลังถ้าจะพูดขออะไรใครน่ะ ก็พูดให้มันไพเราะหูหน่อยสิ" ผมแสยะยิ้มย้อนไปถึงประโยคที่เขาเคยพูดว่าผมไว้ก่อนหน้านี้  สมุทรถอนหายใจด้วยท่าทางเซ็งจัด  เขาเบือนหน้าหนียอมเลิกทัพ  ดาวกลับมานั่งที่โต๊ะ  เธอนั่งลงตรงกันข้ามกับผมพอดี 

"วันนี้ไม่มีเรียนเหรอครับ" ผมถามเธอ

"ค่ะ" ดาวยิ้มกว้างพยักหน้าตอบ  น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำคล้ายกับพี่ชายไม่มีผิด

"นี่ของใครอะ!" ดาวยิ้มกว้างเสียงใส  ชี้นิ้วไปที่กล่องเค้กตรงหน้าเมฆ

"ของหนู" เมฆแสดงความเป็นเจ้าของในทันที

"หูย~" ดาวทำจมูกย่นแกล้งตอบน้องชาย  เมฆยิ้มเขิน

"พี่คนนี้ซื้อให้" เมฆบอกพร้อมกับชี้มือมาที่ผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

"ฉันซื้อให้เอามาแบ่งกันต่างหากเล่า" ผมว่า  ดาวหัวเราะที่เมฆก้มหน้างุดไปแล้ว 

"ขอบคุณนะคะ" ดาวบอกผม 

"ไหน..ขอพี่ดูหน่อยซิ ไม่แย่งหรอกน่า" ดาวขยับเก้าอี้ไปใกล้ ๆ กับเมฆแล้วก้มลงดูเค้กในกล่อง  สองคนพากันพูดคุยถึงเค้กด้านในด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นจากน้องชาย  ผมเหลือบมองสมุทร  เขาอมยิ้มนิดหน่อยระหว่างที่มองดาวและเมฆอยู่  ครู่หนึ่งเขาก็หันมาทางผมอย่างกะทันหัน  ผมรู้ตัวว่าหลบสายตาไม่ทันซะแล้วจึงจัดการจ้องตอบไปตรง ๆ

ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ  ผมชวนดาวคุยบ้างเป็นระยะ  ส่วนใหญ่เป็นหัวข้อทั่ว ๆ ไปไม่ได้เกินเลยอะไร  ส่วนดาวเองก็เป็นเด็กที่รู้จักกาลเทศะ  ไม่ถามข้อมูลจากตัวผมอย่างละลาบละล้วงเลย  หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ  ผมเดินตามสมุทรไปที่บ้านของเขา  เขาพาน้อง ๆ ไปส่งถึงบ้านและเก็บเสื้อผ้าเตรียมไปค่ายมวยพร้อมกัน

"ที่คุณให้ผมทำงานที่ค่ายมวย คุณตั้งใจจะทำอะไร" สมุทรถามขึ้นระหว่างทางที่เขากำลังขับรถไปที่ค่ายมวย  ทั้ง ๆ ที่รักษาความเงียบมานานจนผมไม่คิดว่าเขาจะปริปากพูดกับผมแล้วซะอีก

"ฉันจะให้นายขึ้นชก ในนามของค่ายฉัน" ผมพูดตอบไปตรง ๆ

".........." สมุทรนั่งเงียบ  รถข้างหน้าติดชะงักพอดี  ผมหันไปมองสีหน้าที่เรียบเฉยของเขาและผมไม่คิดจะถามถึงเหตุผลด้วยว่าทำไมจริง ๆ แล้วเขาถึงไม่อยากขึ้นชก
 
"แล้วผมต้องทำนานแค่ไหน"

"มันก็ขึ้นอยู่ที่ฝีมือนาย" ผมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นกัน  ผมไม่คิดจะเอาชีวิตเขามาเล่นและแน่นอนว่านี่ไม่ใช่เกมการเล่นสนุก  ผมได้เขามาทำงานกับผมอย่างที่ต้องการแล้วและผมต้องการมอบงานที่เหมาะสมให้กับเขา  และก่อนที่จะไปถึงจุด ๆ นั้นเขาต้องแสดงฝีมือให้ทุกคนได้ยอมรับเสียก่อน  ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาด้วยว่าจะทำมันออกมาได้ดีแค่ไหน  เสร็จจากนั้นค่อยว่าความกันอีกที  ถ้าเขาไม่อยากที่จะเป็นคนติดตามผมไปตลอด  ความจริงแล้วผมก็พร้อมที่จะยอมให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำแต่ผมยังไม่บอกเขาหรอกครับ

"นักมวยค่ายคุณก็เยอะแยะ ทำไม.."
 
"ทำไมคุณต้องมาปั้นผมที่ไม่มีชื่อเสียงให้ขึ้นชกด้วย อย่างนั้นน่ะเหรอ" ผมแสยะยิ้มพูดแทรกขึ้น  สมุทรเงียบลงทันใด

"อยากได้ความจริงไหมล่ะ" ผมหันหน้าไปยิ้มถาม  สมุทรไม่ตอบ 

"หึ.." ผมหัวเราะ  เราจบบทสนทนาลงดื้อ ๆ ไม่ว่าคำตอบไหนจากผม  ผมคิดว่ามันก็คงไม่ได้เป็นที่น่าพอใจสำหรับเขานักหรอก  ดูเหมือนเขาเองก็พอจะทราบเลยไม่คิดจะถามซักไซ้ต่อด้วย

เมื่อถึงค่ายมวย  เราแยกกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  ผมทิ้งเวลาให้หลังประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ โดยหาอะไรทำยังไม่ซ้อมจริง  พอได้เวลาก็วอร์มร่างกาย  ผมไม่ได้กลับไปที่บ้านอีกเพราะว่าหมดเวลาแล้ว  นักมวยประจำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเริ่มออกมาวอร์มร่างกายกันอย่างพร้อมเพรียง  ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้านอก  ดังนั้น เป็นเวลาที่ควรเก็บเกี่ยวได้อย่างเต็มที่  พี่ธานตามมาถึงที่ค่ายหลังจากที่ผมวอร์มร่างกายเสร็จ  พี่เขาคงวิ่งวอร์มมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว  พอมาถึงก็จับเวลากระโดดเชือกพร้อมกันกับผมเลย 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2016 20:15:43 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

"ที่หายตัวไปนี่ คือไปรับสมุทรมาเหรอครับ" พี่ธานถามระหว่างที่เรากระโดดเชือกอยู่  ผมเหลือบมองนาฬิกา  ครบยี่สิบนาทีจึงนำเชือกไปแขวนไปที่เดิมโดยไม่ตอบคำถามจากพี่เขา  พี่ธานมองตามผมยิ้ม ๆ ผมเดินกลับมาที่ ๆ สำหรับยกเวท  หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดมือที่เหงื่อก่อน

"ผมไม่ยักรู้ว่าพี่ชอบรู้เรื่องจุกจิกอะไรทำนองนี้ด้วย" ผมแกล้งแซวกลับ  พี่ธานเดินนำเชือกมาเก็บเช่นกัน

"ก็มันเป็นเรื่องของนายที่เคารพนี่ครับ ผมก็จุกจิกเรื่องของคุณมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว" พี่ธานตอบ

"หึ" ผมหัวเราะ

"ผมเพิ่งจะเห็นว่ามีเจ้านายคอยไปหาลูกน้อง เทียวรับเทียวส่งแบบนี้ด้วย" พี่ธานมองมาอย่างเจ้าเล่ห์

"มีสิครับ ก็สมภารกินไก่วัดไง ในสังคมนี้มันเยอะแยะออกจะตายไป" ผมแสยะยิ้มกวน

"แต่สมัยมหาลัย ผมก็เคยไปรับพี่ออกบ่อย" ผมย้อนหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็รู้ว่าพี่ธานกำลังหมายถึงเรื่องอะไร

"อ๋อ นั่นคุณบังคับเอารถของผมไปรับเด็กคุณต่างหากครับ" พี่ธานพูดประชด 

"ฮ่า ๆ ๆ" ผมหัวเราะหนักกว่าเดิม

"ทำอย่างกับผมไม่ตอบแทนอย่างนั้น บ่นอะไรเรื่องเก่า ๆ ครับพี่ใหญ่" ผมพูด  พี่ธานอมยิ้ม  ผมเอนตัวนอนลงที่เตียงยกเวท  พี่ธานเข้ามาคอยเป็นเทรนเนอร์คุมอยู่ทางด้านหลังในทันที 

"ชักช้า ระวังแมวเหมียวคาบไปกินเอานะครับ ผู้ชายในอุดมคติ..พ่อของลูก" พี่ธานบอก  ตามองไปที่สมุทรที่กำลังยกน้ำหนักอยู่กับเทรนเนอร์ฝั่งตรงกันข้าม  ผมยิ้มกว้าง  ขณะเดียวกันร่างกายก็ยังไม่หยุดขยับออกกำลังไปด้วย 

"น่ะ พี่ก็เอาประสบการณ์แห้ว ๆ ของตัวเองมาเปรียบอีกละ" ผมกวนไม่หยุด  พี่ธานก้มหน้าหลุดหัวเราะ  นำมือปิดปากตัวเองอย่างเขิน ๆ

"อีกอย่าง พี่พูดเหมือนง่ายอย่างกับผมจีบใครก็ติดอย่างนั้น" ผมขมวดคิ้วบ่น

"นั่นสิครับ ผมลืม..ดูท่าแล้ว ถ้าคุณเอาจริงขึ้นมาละก็ งานหินไม่เบา" พี่ธานเบะปากวิเคราะห์  ผมหยุดมือ  กลอกตาขึ้นมองไปที่พี่ธานที่ยืนอยู่เหนือหัว   

"แต่ถ้าคุณแห้วละก็ ไม่เป็นไรหรอกครับ ในฐานะที่ผมทำงานกับคุณมานาน ผมจะพยายามหาคนที่หุ่นประมาณเขามาให้ก็แล้วกัน เผื่อจะแก้ช้ำในไปได้บ้าง" พี่ธานว่าเหน็บ

"หึ ๆ ๆ งั้นพี่ก็เสร็จผมก่อนเลยคนแรก" ผมว่าให้

"ฮ่า ๆ ๆ" พี่ธานหัวเราะดังลั่นจนคนที่ยืนอยู่ละแวกใกล้เคียงหันมามอง 

"เอาเข้าจริง.." ผมพูดและทิ้งน้ำเสียงลง  พี่ธานหยุดมองเหมือนรอฟังว่าผมจะพูดอะไร

"หมอนั่นก็ไม่ใช่คนหล่ออะไรมากมายพี่ว่าไหม ก็แค่ดูรวม ๆ แล้วโอเค" ผมขมวดคิ้ว  เบะปากบ่นถึง  ผมลุกขึ้นนั่ง  ตามองไปที่สมุทรอีกครั้ง 

"แต่เห็นหุ่นที่ไร จิ! ของขึ้นทุกที" ผมกัดฟัน  ส่ายหัวสบถอย่างไม่เข้าใจตัวเอง  พี่ธานยิ้มกว้างจนเกือบจะหลุดหัวเราะอยู่แล้ว

"ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่แค่หุ่นหรอกครับ ในค่ายเราคนหุ่นดี ๆ เยอะแยะ ไม่เห็นคุณจะว่าอะไรเลย" พี่ธานพูด

"เอา..พี่พูดอย่างนั้นได้ไง เดี๋ยวไอ้เข้มจะเสียใจเอานะ" ผมยิ้มบอกเพราะหุ่นไอ้เข้มมันดีไม่หยอกเลยนะครับ  ผมหันกลับไปมองหน้าพี่ธานอย่างจงใจคิดเบื้องต่ำ   

"จากประสบการณ์ ไอ้พวกขรึม ๆ นี่ เอาเข้าจริงขึ้นมา เล่นซะเคลิ้มยิ่งกว่าอาบเบียร์ซะอีก" ผมอมยิ้มยักคิ้วบอกถึงเรื่องบนเตียง

"ใช่..หมอนั่นต้องเป็นงั้นแน่ ๆ ผมดูคนไม่ผิดหรอก" ผมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง 

"คุณนี่เข้าค่ายเก็บกดแล้วนะครับ" พี่ธานพูด

"หึ ๆ เพิ่งมารู้ตัวเหมือนกัน" ผมรับคำ  ทำท่าขนลุกประกอบ  สมุทรหันมาเห็นพอดี  ผมเลยยักคิ้ว  นอนโบกมือทักทายเขาอย่างทะลึ่งทะเล้น  สมุทรมองมาที่ผมและพี่ธานด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
 
การซ้อมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด  ยิ่งใกล้วันแข่งยิ่งมีสารบางอย่างที่ทำให้ค่ายเราอึมครึมได้  เราต่างคนต่างซ้อม  รู้หน้าที่ของตน  พี่ธานล่อเป้าให้ไอ้เข้ม  ส่วนผมลงนวมกับลุงลอย  สมุทรลงนวมกับไอ้นพ  ดูทุกคนจะสมน้ำสมเนื้อกันดี
 
หลังจากที่ผมซ้อมเสร็จ  ผมก็ต้องรับหน้าที่ของเจ้าของค่ายมวยต่ออย่างไม่หยุดพัก  เพราะต้องปล้ำกับนักมวยไทยมืออาชีพชาวต่างชาติอย่างมาร์ค  มันเป็นนักมวยอาชีพของค่ายผมเอง  ตัวใหญ่ไป ๆ กับผม  ติดที่มาร์คจะตัวบางกว่าผมหน่อย
 
อีกฝ่ายยังอายุเพียงแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น  แต่รักในศิลปะแม้ไม้มวยไทยเป็นอย่างมาก  ครั้งแรกที่มาก็มาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้นี่ละ  พอตกหลุมรักก็อยู่ยาว  ขอให้พ่อกับแม่ที่เดนมาร์กเดินทางมาดูที่ค่ายเราด้วยตนเอง  พอเห็นว่าทางเราไว้ใจได้  ทางครอบครัวก็สบายใจและปล่อยให้ลูกชายของตนเองอยู่ยาวมาจนถึงทุกวันนี้

เสร็จจากการซ้อมหนัก  ต่างคนต่างพัก  เรานั่งพูดคุยกันตามประสานักมวย  ส่วนใหญ่ก็เพียงแค่นั่งทอดอารมณ์ไปอย่างนั้น  สมุทรเองดูจะผ่อนคลายมากขึ้นและเริ่มสนิทสนมกับนักมวยและเทรนเนอร์ในค่ายเป็นอย่างดีแล้ว  ผมว่าคงเพราะเขาเป็นคนเข้ากับคนง่ายและสุภาพละมังครับ  ก็เลยดูจะไม่เป็นปัญหาในการปรับตัว  พวกเราแยกย้ายกันไปอาบน้ำ  ผมและลูกน้องพากันกลับมาที่บ้าน..

"วันนี้เย็นมีอะไรกินละครับป้า" ผมถามป้าอิ่มที่เพิ่งเดินนำผลไม้มาให้ผมในห้องนั่งเล่นหลังจากที่เพิ่งขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามา  เธอจะรู้ดีว่าผมต้องกินผลไม้ก่อนอาหารทุกมื้อเสมอ

"วันนี้มีผัดหมี่ซั่วค่ะ เห็นธานบ่นอยากกินเมื่อวันก่อน พอดีกับคุณพายุบอกป้าเมื่อเช้าว่าอยากกินเป็ดอบยอดผัก ป้าก็เลยทำพร้อมกันเลย" ป้าอิ่มยิ้มตอบ

"หึ..เป็นที่รักของป้าจังเลยนะ" ผมยิ้มแซว

"แหม คุณไฟอยากจะกินอะไรก็บอกป้าสิคะ" ป้าอิ่มว่าเขิน ๆ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็กำลังอยากกินเป็ดอยู่พอดี"

"เดี๋ยวป้าขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ" เธอบอก  ผมพยักหน้า  พายุกลับมาจากข้างนอก  มันยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย  แสดงว่าคงตรงมาจากมหาวิทยาลัยแน่ ๆ 

"ไง" ผมทัก 

"หวัดดีฮะ" พายุทักกลับด้วยท่าทางอิดโรย  มันเดินมานั่งที่โซฟาพร้อมกับวางหนังสือและกระเป๋าสัมภาระลง
 
พอผมเห็นพายุหอบของพะรุงพะรังแล้วก็นึกถึงสมัยที่ตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย  ผมว่าทั้งผมและน้องชายมีนิสัยหลายอย่างที่คล้าย ๆ กัน  อย่างพวกของใช้จำเป็นและหนังสือเรียนก็มักจะหอบไปเยอะแยะเสมอจนต้องมีเป้ใบใหญ่สะพายประจำตัว  ถ้าเปรียบเทียบกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ส่วนมากที่มักจะเดินตัวปลิว  หลายครั้งผมเคยสงสัยว่าเพื่อน ๆ ของผมมันพกอะไรไปเรียนบ้าง  ซึ่งคำตอบที่ได้คือ "ปากกา" ด้ามเดียวและ "สมุด" หนึ่งเล่ม  บางทีปากกามันยังลืมเลยครับแต่โทรศัพท์มือถือมันกลับไม่เคยลืมนะ 

ผู้ชายไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าผู้หญิง  เพราะโดยส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่กลุ่มเด็กเรียนก็มักจะไปเรียนกันแบบแทบจะตัวเปล่าอยู่แล้ว  ส่วนผู้หญิงบางคน  ผมก็อดสงสัยไม่ได้อีกนั่นละว่าในกระเป๋าใบเล็ก ๆ ของพวกเธอนั้นใส่อะไรไว้บ้าง  บางทีอดสงสัยไม่ได้จนต้องขอแอบค้นของเพื่อนผู้หญิงที่สนิท ๆ กัน  แต่อย่างว่าละครับ  เพื่อนผู้หญิงที่ผมรู้จักมักจะตั้งใจเรียนหนังสือ  กระเป๋าของพวกเธอก็เลยหนักอึ้งเป็นธรรมดาไม่ต่างจากผมนัก  ส่วนกระเป๋าของพวกผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของผม  ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยเครื่องสำอางและพาวเวอร์แบงค์  บางทีผมก็บ่น ๆ พวกเธอว่า "เอาอะไรมาเรียนบ้างน่ะ"  ซึ่งคำตอบที่ได้คือ "ไฟนี่จุกจิกจัง" ซะอย่างนั้น  ก็กระเป๋ามันสำหรับการมาเรียนนี่ครับ  ไม่ได้มาเดินเล่นห้างซะหน่อย  ผมละไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

"เหนื่อยเหรอ" ผมถาม  พายุพยักหน้าตอบ  มันมองต่ำลงที่โต๊ะเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่อีกแล้ว  ผมนั่งเงียบมอง  พายุเหลือบตาขึ้นมองผมอีกครั้ง

"ยุว่ายุน่าจะป่วย เร็ว ๆ นี้" พายุพูดบอก  มันพึมพำ ๆ เหมือนกำลังวิเคราะห์ตัวเองอยู่

"เมื่อคืนนอนกี่โมง" ผมถาม  ลุกขึ้นเอื้อมมือไปแตะหน้าผากมัน  ตัวมันรุม ๆ นิดหน่อย

"ตีสองตีสามมาหลายคืนติดแล้ว" มันตอบเสียงเอื่อยเฉื่อย

"คืนนี้กินยาแล้วนอนเลย" ผมพูดแกมสั่ง

"อาทิตย์นี้มึงต้องนอนก่อนสี่ทุ่มครึ่ง ไม่งั้นก็งดซ้อม" ผมพูด

"........." พายุเงียบ  จ้องหน้าผมเขม็งเหมือนจะไม่ทำตาม  ผมจ้องกลับ  เลิกคิ้วเชิงถามมันว่า "มีปัญหาอะไร" มันไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนี

"ถ้ามึงไม่ทำตามที่กูสั่ง กูจะให้ไอ้ดินไปนอนด้วย" ผมขู่

"นั่นห้องยุ" มันย้อนกลับอย่างไม่ยอม

"อ๋อ..นี่บ้านกู" ผมลอยหน้าลอยตากวนตีนมันตอบ  พายุขมวดคิ้วเป็นปม

"เลือกเอา ระหว่าง..ให้ไอ้ดินไปพังห้องมึง หรือจะนอนก่อนสี่ทุ่มครึ่งดี ๆ" ผมว่า

"ร่างกายไม่พร้อม มึงจะเป็นนักกีฬาที่ดีได้ยังไง นี่โค้ชรู้รึเปล่า หรือกูต้องย้ำพื้นฐานให้มึงฟังงั้นเหรอ" ผมประชด  หันไปเห็นพี่ธานเดินเข้ามาคงอาบน้ำเพิ่งเสร็จ 

"มีอะไรกันเหรอครับ" พี่ธานถาม  เดินไปนั่งลงตรงข้ามกับพายุ

"คนแถวนี้กำลังจะป่วยน่ะ ฉลาดดีที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะป่วยด้วย" ผมพูดเหน็บ  เราทั้งสามคน  ไม่ว่าจะผม  พี่ธานหรือว่าพายุ  ถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้  เมื่อไหร่ที่ร่างกายผิดปกติ  คนที่รับรู้ได้รวดเร็วที่สุดคือตัวของเราเอง  เรามักจะสังเกตตัวเองเสมอเมื่อไหร่ที่มีอาการผิดแปลกไปและจะปฏิบัติอย่างไรไม่ให้สิ่งนั้นมาทำร้ายร่างกายเราได้หนักขึ้นกว่าเก่า  อย่างพายุเอง ตอนที่มันต้องไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว  การไวต่อการรับรู้นี้เป็นเรื่องที่ก็คงเกิดขึ้นปกติทั่วไป  เมื่อไหร่ที่ผิดปกติ  พ่อและแม่มักจะพาเราไปหาหมอเสมออย่างไม่รีรอว่าอาการจะหนักหรืออาการจะเบาเล็กน้อยก็ตาม

"ไปอาบน้ำได้แล้วไป" ผมไล่

"เบื่อเฮียจริง ๆ เลย" พายุบ่นหน้ามุ่ย  เก็บหนังสือเตรียมจะหนี

"คร้าบ ๆ" ผมพยักหน้างึก ๆ ขานตอบไปอย่างนั้น

"อาบแล้วลงมาล่ะ ป้าอิ่มเขาเตรียมอาหารอยู่" ผมบอก  พายุพยักหน้าตอบส่ง ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
 
"อยากกินเป็ดปักกิ่งขึ้นมาแฮะ" ผมบ่น

"พรุ่งนี้ก็ไปกินไหมล่ะครับ" พี่ธานถาม

"พี่เลี้ยงเหรอ" ผมถามกลับ  อีกฝ่ายยิ้มกว้าง

"ก็ได้ครับ" พี่เขาตอบรับ 

"หึ ๆ งั้นก็โอเค" ผมพยักหน้าตอบตกลงทันที

"เดี๋ยวผมไปดูในครัวหน่อย" ผมลุกขึ้นพลางถอนหายใจแรง  พี่ธานพยักหน้า  กดเปิดโทรทัศน์  ผมเข้ามาในครัวเพื่อถามหาส้มจะนำมาคั้นสดให้พายุ  ป้าอิ่มซื้อส้มมาใหม่เมื่อเช้านี้พอดี  ตอนแรกตั้งใจว่าจะคั้นให้พายุแค่คนเดียว  แต่ยิ่งคั้นก็ยิ่งสนุกข้อมือ  สุดท้ายผมก็คั้นน้ำส้มได้สี่แก้วใหญ่พอดี  ผมนำสามแก้วแช่เย็นไว้สำหรับของผม  พี่ธานและไอ้ดินหลังมื้อเย็นนี้  และนำแก้วที่ไม่ได้แช่เย็นขึ้นไปให้พายุที่ห้องนอน 

"ทำไมเฮียไม่เคาะห้อง!" พายุขึ้นเสียงว่าหน้าตาเหรอหรา  อย่างกับคนไม่ได้อ่อนเพลียแต่อย่างใด  ผมหัวเราะในลำคออย่างไม่แคร์  เดินเข้าไปหน้าตาเฉย  พายุนุ่งผ้าขนหนูเพิ่งอาบน้ำเสร็จพอดี 

"นาน ๆ ทีกูก็อยากมาดูห้องมึงบ้าง" ผมเบะปากหน้าตาเฉยอย่างไม่สนใจว่ามันจะโกรธหรือไม่

"ทำไม..มีความลับอะไร เมื่อกี้มึงคงไม่ได้ชักว่าวอยู่หรอกใช่ไหม" ผมขมวดคิ้วถามห้วน ๆ เหล่ตามองน้องชายตัวเองอย่างต้องการกวนอารมณ์มันเล่น

"ใครจะไปทำอะไรพิเรนทร์ ๆ" มันว่า

"หึ ๆ ชักว่าวนี่คือเรื่องพิเรนทร์เหรอวะ ไอ้เหี้ย..กูไม่รู้มาก่อนเลยอะ" ผมหัวเราะถามกลับ  พายุหน้างอหงิกแล้ว

"กินซะ" ผมยิ้ม  ยกมือยอมความมัน  นำถาดแก้วน้ำส้มไปวางไว้ที่โต๊ะสำหรับวางเครื่องดื่มและอาหาร  พายุไม่ชอบนำน้ำหรืออะไรที่เปียกได้ไปวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของมันเพราะมันรักหนังสือของมันมาก 

"ขอบคุณครับ" พายุบอกเสียงอ่อนลง  มันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง  ผมจึงเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดหาอะไรที่เป็นส่วนตัว ๆ ดู

"ห้ามค้นห้องยุ" เจ้าของห้องพูดปรามคิ้วขมวด

"ทีตอนเด็ก ๆ กูห้ามมึงเข้าห้องกู มึงยังสาระแนค้นห้องกูเอาเป็นเอาตายได้เลย" ผมว่ากลับ

"นั่นมัน.. ตอนเด็ก ๆ" มันอ้ำอึ้งตอบ  หน้าตาดูจะอายความจริง 

"นี่ใครให้มา" ผมถามถึงกล่องตุ๊กตาหมีสำหรับเอาไว้ทับกระดาษที่ดูเหมือนจะได้มาใหม่เอี่ยมซะด้วย

"เพื่อน" พายุตอบสั้น ๆ

"ผู้หญิง ผู้ชาย" ผมถาม

"ผู้หญิง" มันพึมพำ

"เขาชอบมึงเหรอ" ผมถาม

"อือ" พายุพยักหน้าตอบตรง ๆ ปกติมันก็เป็นคนพูดตรง ๆ ไม่ค่อยปิดบังอะไรอยู่แล้วน่ะนะ

"แล้วเขาไม่รู้เหรอว่ามึงไม่ได้ชอบผู้หญิง" ผมถามอย่างเป็นกังวล

"รู้" พายุตอบ

"อืม ก็ชัดเจนดี" ผมเบะปากพยักหน้าอย่างเคยชินในสังคมยุคปัจจุบัน

"แล้วไอ้หน้าตาโหงวเฮ้งไม่ดีนี่ใคร" ผมถาม  เห็นรูปผู้ชายคนหนึ่งรวมอยู่ในกลุ่มเพื่อนของพายุ  ซึ่งผมเคยเห็นหน้ามันบ่อย ๆ ที่ Fb. ของพายุด้วย

"เพื่อนฮะ" พายุตอบ  ผมจ้องมองรูปอย่างพินิจพิเคราะห์

"มันจีบมึง.." ผมถามตรง ๆ เพราะเคยเห็นหลายคอมเมนต์ของมันดูผิดปกติจากเพื่อนทั่ว ๆ ไปและทำอะไรโจ่งแจ้งอีกด้วย

"......." ครั้งนี้พายุไม่ตอบ  มันนั่งเงียบทำหูทวนลมทาโลชั่นไปเรื่อย  การเลี่ยงไม่ตอบสำหรับน้องชายของผมนี้มีอยู่สองสาเหตุ  ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิด  หนึ่งคือ มันไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย  กับสองคือ มันมีอะไรแต่ไม่ต้องการจะบอกผม

"ห้ามคบกับมันก็แล้วกัน กูไม่ชอบขี้หน้ามันเท่าไหร่" ผมว่า  โยนรูปที่อยู่ในมือลงส่ง ๆ พายุหันมามองด้วยสีหน้าสงสัยเต็มเปี่ยม  ผมยักไหล่ให้เพราะมันดันเลือกที่จะไม่ตอบคำถามผมก่อนหน้าเอง  การจะโดนผมกวนตอบก็คงไม่แปลก

"เฮียยังไม่ทันเจอเขาเลยไม่ใช่รึไง" พายุพูด

"ก็เหมือนกับที่มึงไม่ถูกชะตากับใครสักคนตั้งแต่ทีแรกแล้วปั้นหน้าเบื่อโลกใส่เขานั่นแหละ กูเห็นหน้าไอ้นี่กูก็รู้แล้วว่ามันหวังเงินมึง" ผมพูด

"นั่นเพื่อน แค่เพื่อน" พายุย้ำบอก

"ก็ดี" ผมตอบเสียงสูงปัด ๆ ไปที

"อ๋อ มันอาจจะหวังหัวนมชมพูกับซิกแพคมึงก็ด้วย" ผมเบะปากว่าเสริม

"ไอ้เฮีย!" พายุขึ้นเสียง  ผมหัวเราะดังลั่น

"ใส่เสื้อสักที เดี๋ยวก็ได้ป่วยขึ้นมาจริง ๆ" ผมบ่นหน้าเซ็งใส่  พายุลุกขึ้นไปหยิบชุดนอนมาใส่หน้างอ ๆ

"เฮีย..เป่าผมให้ยุหน่อย ยุขี้เกียจยกแขน" มันว่า  ทำเสียงเอื่อย ๆ ประกอบอีก  ผมถอนหายใจเซ็ง ๆ

"เมื่อกี้ยังไล่กูอยู่เลย" ผมเดินกลับไปหาพร้อมกับเขกหัวมันทีนึง  อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจยกใหญ่  พายุยื่นไดร์เป่าผมมาให้  ผมรับมาเปิดแล้วเป่าผมให้มัน  สมัยเด็กผมก็เคยเป่าผมให้มันแบบนี้บ่อย ๆ เพราะตอนเป็นเด็กพายุไว้ผมค่อนข้างยาว  แม่ของมันก็มักจะดุที่มันไม่ยอมเช็ดผมให้แห้งก่อนเข้านอน  ผมเลยตัดปัญหาจับมันไดร์ผมให้ซะเลย

"ใกล้จะครบรอบวันที่ป๋าเสียแล้ว ยุว่า..ปีนี้ยุจะไปทำบุญให้ป๋าที่วัดหลวงลุง โทรคุยกับอาม้าเมื่อวาน อาม้าฝากเงินมาซื้อของไปทำบุญด้วย แล้วก็จะเอาไปบริจาคให้เด็กที่มูลนิธิด้วย" พายุพูดขึ้นระหว่างที่ผมเป่าผมให้มัน  ผมพยักหน้ารับฟัง

"เฮียจะไปด้วยกันไหม" มันถาม  ที่จริงผมว่ามันกำลังชวนกึ่ง ๆ บังคับมากกว่า

"อือ ก็ไปสิ" ผมรับปาก

"ดี" พายุอมยิ้มอย่างดีใจ

"ที่จริงทำที่วัดแถว ๆ นี้ก็ได้ นอกจากได้ไปเจอหลวงลุงแล้ว มีเหตุอะไรที่ถึงขนาดต้องเหาะไปทำบุญถึงที่นั่นกัน" ผมพูดแกมบ่นไปอย่างนั้น  ไม่ได้คิดจริงจังอะไร

"ใช่..ว่าข้อแรกของการทำทานคืออยู่ที่ใจของเรา แต่เหตุที่ถึงกับต้องเหาะไปถึงที่นั่น ก็เพราะไปหานักบวชที่มีศีลดีไง เฮียนี่ไม่รู้อะไรเอาซะเลย" พายุบ่นค้อนใส่ผมผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง  ผมยิ้ม  ไม่รู้จะตอบอะไรมัน

"หลวงลุงเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติถูกต้อง มีความประพฤติเรียบร้อยตามพระวินัย หาได้ง่าย ๆ เหรอสมัยนี้น่ะ แถวนี้มีรึเปล่าล่ะ ไม่งั้นยุจะได้ไป เฮียก็ไม่ได้ไปหาหลวงลุงจะปีแล้วด้วย" พายุย้อนว่าหน้างออีกแล้ว  ผมเบะปากยอมความมันเพราะเถียงไม่ออก  ซึ่งจะไปเถียงมันเรื่องนี้ก็ไม่ได้ด้วยเพราะผมมันไม่ใช่คนลักษณะอยากรู้อยากเห็นเหมือนอย่างพายุน่ะนะ  ดังนั้น แม้กระทั่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง

"เราให้ทานกับพระไม่ดี ก็เหมือนเราไปส่งเสริมให้ศาสนาเสื่อมลง" มันบ่น

"ยาว! ยาวไปอีก" ผมดักคอมัน  ให้มันเลิกบ่น  พายุหุบปากลงและค้อนตาขึ้นมอง

"เฮียจะได้ไปฟังธรรมด้วยนะ นาน ๆ ที ยุจะให้หลวงลุงดุเฮีย" พายุยักคิ้วยิ้ม ๆ

"มึงกล้าพูดแบบนี้ในขณะที่กูมีไดร์อยู่ในมือเหรอ" ผมมองมันผ่านกระจก  พายุหัวเราะ

"พูดมาก..ย้ำอย่างกับกูเป็นคนบาปไปได้" ผมว่าและขยี้หัวมันแรงขึ้นจนมันร้อง

"หึ..ก็เฮียเป็นคนบาปไง จะได้โผล่พ้นน้ำขึ้นมาบ้าง" มันไม่หยุดปากดี  ผมเลยนำไดร์เป่าผมโขกหัวมันไปอีกทีเป็นการปรามปากมัน  พายุร้องเสียงหลง  ผมเป่าผมให้พายุต่ออีกสองสามนาทีผมของมันก็แห้ง  พายุเดินไปหยิบน้ำส้มดื่มจนหมดแก้วแล้วไปแต่งตัว  ผมกลับลงมา  พี่ธานกำลังช่วยป้าอิ่มจัดโต๊ะอาหาร  ส่วนไอ้ดินเพิ่งกลับจากเรียนพิเศษ  มันกำลังขึ้นไปเก็บกระเป๋า  ลงมาอีกทีพร้อมกับพายุ  เราสี่คนกินอาหารเย็นร่วมกัน  บรรยากาศสนุกสนานกลับมาเหมือนเดิม  เสียงหัวเราะเป็นเหมือนช่วงเวลาหนึ่งที่คอยย้ำกับเราว่า  การได้อยู่กับปัจจุบัน  มีเวลาให้กับครอบครัวนั่นคือสิ่งสำคัญใกล้ตัวที่เราควรจดจำไว้ให้ดี..



...........ไฟ............

หมายเหตุ:
.. สำหรับตอนที่ 17 นี้ยังมีความยาวที่เสมอ ๆ หรือมากกว่าตอนที่ผ่าน ๆ มานะคะ  หายไปนานเป็นเดือน  ตอนนี้มาให้ครบทั้งพายุ เมฆและดาว  III  ทางเบบี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าตอนต่อไปจะมาต่อให้ได้เมื่อไหร่ เนื่องจากปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างงานหนังสือภาคต่อเรื่องอื่นอยู่  ดังนั้น งานค่อนข้างหนักและร่างกายไม่ค่อยโอเค  ส่วนแต่ละตอนของไฟ-สมุทรที่จะมาลงก็ใช้เวลาในการทำงานนานพอดูค่ะ  อย่างไรหวังว่าคนอ่านจะเข้าใจและรอกันได้นะคะ  ขอโทษด้วย

ขอบคุณค่ะ
เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2016 16:28:08 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
รอวันที่คุณไฟตกเป็นของสมุทร

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ไฟแพ้ทางสมุทรนิดๆเนอะ5555

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โอยยยยย เค้าแพ้พี่น้องเวอร์ชั่นมุ้งมิ้ง พี่ไฟนี่เข้าข่ายปากหมาใจดีนะเนี่ย ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arakanji

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ่านแล้วก็ติดค่ะ
รอเบบี้เสมอนะค่ะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
พี่ไฟนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ แต่หลงสมุทรเข้าไปแล้วซินะ 5555

ชอบเวลาพี่น้องเค้าคุยกันมันดูน่ารักดีอยากเข้าไปร่วมวงคุยด้วย  :o8:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
น้องเมฆน่ารัก > <
 
fc น้องเมฆ

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ต้องอย่างสมุทรถึงจะโหงวเฮ้งดีถูกใจพี่ไฟเหรอฮะะะะะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
พี่ไฟนี่จังรี้สม่ำเสมอ
ได้กะนักธุรกิจในเครื่องแบบนี่แมร่มมมมมม
555555 ยอมเขาเลยจริงๆ
ใครจีบพายุบ้าง พายุจะได้ใคร นี่อยากรู้ละ
คึคึ รอตอนหน้าาาาาา

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
นานยังไง ก้อรอจ้ะเบบี้


ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ตกลงไฟรุกเกรอเนี้ย ไม่น่าเชื่ออ

ออฟไลน์ NCJung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 988
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-5
เฮียไฟคะ คุณตุลนี่จะมาสร้างปัญหาในภายหลังไหมคะ  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เรายังรอเสมอ

คิดถึงพี่ไฟ:)

อ่านเรื่องนี้มันรู้สึกดีจริงๆ พี่ไฟเจ้าเล่ห์มากกกกกประสบการณ์โชกโชน ทันคนทันความคิดคนอื่น
ตลอด  อยากจะให้มาหยุด ....หยุดที่สมุทรในเร็ววัน555

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ  รักษาสุขภาพด้วย :กอด1:

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
ไฟ..ขี้อ่อย!!!

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ยอมจริง ๆ ไอ้คุณไฟเนี่ยขนาดแค่อ่านนะไม่ได้เห็นสีหน้าจริง ๆ
ยังรับรู้ได้ถึงความกวน T ของไอ้คุณไฟมันเลย
สมุทรได้เมื่อไหรจัดหนัก ๆ ซักที่นะ (เอ๊ะสรุปสมุทรได้ไฟเหรอเนี่ย5555+++มโนล้วน ๆ)

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไฟกับพี่ธานนี่มีเรื่องไหนรู้ไม่ทันกันบ้าง..กับสมุทรก็พูดดีๆกับเค้าหน่อยอยากได้เค้าใจจะขาดแต่ปากเนี่ยนะร้ายยมาก

ขอบคุณที่มาต่อนานแค่ไหนก็รอได้

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณไฟนี่ อาการ ออกเยอะแล้วนะ



ถึงขนาดไปรับสมุทรด้วยตัวเองแบบไม่ได้คิดการล่วงหน้า  ใจสั่งมาล้วนๆ



กอดดดดดดดด  น้องเมฆน้อย มาคราวนี้ หนูมีบทพูดตั้งหลายคำ  :hao5: ป้าปลื้ม



ง่ะ/พี่ธานมัวแต่ มารู้ทัน มัวแต่มารู้ใจ คุณไฟอยู่นี่แหล่ะ น้องพายุ มีคนเข้าหาทั้งหญิงทั้งชายแล้ว



ทำเป็นนิ่ง ทำเป็น ไม่สนใจอยู่นั่นแหละ



ถ้าวันใหน น้องพายุ มีแฟนจริงๆจังๆขึ้นมา ป้าจะสมน้ำหน้าให้



คุณตุล นี่ป้าขอให้ผ่านแล้วผ่านเลยนะ อย่ามาเป็นประเด็นให้



ความรักในอนาคตที่ยังมองไม่เห็นของสมุทรกับคุณไฟมีปัญหานะ ป้าขู่ใว้เลย



ป.ล. กอดดดดดด  น้องเมฆน้อยอีกรอบ  (รักจริงจังเลยเด็กมืดมน ฮ่าๆๆๆๆ)

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนคุณตุลนี่คนละฟีลกับสมุทรเลย กับคุณตุลพี่ไฟดูเป็นผู้นำเกมให้เดินไปทางนั้นทางนี้ เจ้าเล่เซ็กซี่ และหล่อ หล๊อหล่อ 5555
แต่กับสมุทรนี่แบบ หวั่นไหวเหลือเกิน ทำอะไรมากก็ไม่ได้ 55555
ตอนพี่ไฟไปเจอสมุทรที่รร. ตอนที่เจอหน้ากัน รู้สึกมันอบอุ่นๆ สุขใจแปลกๆ ชอบบบ ชอบให้เขาอยู่ด้วยกัน งุ้ยยยย
แล้วก็ชอบพูดจากวนเขานะ กลัวพี่ไฟจะเฮิร์ตเพราะสมุทรสักดอกอยู่เนี่ย


พี่ธานดี๊ดี ยังคงแซวพี่ไฟอย่างสม่ำเสมอ 5555 อยากเห็นตอนพี่ธานมีความรักบ้าง คงไม่เวิ่นเว้อแบบพี่ไฟหรอก 55555
พายุก็แอบมีกิ๊กแล้วอ่า ดูดิๆ ฟ้องพี่ธาน เค้าอยากเห็นความคืบหน้าของคู่นี้ๆๆๆ

น้องเมฆก็น่ารัก เริ่มกลัวพี่ไฟน้อยลงแล้วมั้ย ตั้งแต่สอนการบ้านกันวันนั้น น่ารักจริงๆ พี่ไฟจะเข้าทางน้องล่ะสิ กร๊าก แซว


ปล. ไปไหว้หลวงลุง พาสมุทรไปด้วยนะะะะะะะะ

รอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ จุ๊บ!!

ออฟไลน์ kung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
สมุทรอย่ายอมอิไฟนะ มั่วขนาดนั้น เหมาะกับอิตุลย์ละ สมุทรของเจ้ต้องคู่ควรกับคนดีๆเนอะ คนขี้เอ.. อย่างไฟอย่าไปสน เบบี้หาคูแข่งสุดเท่แสนดีมาจีบสมุทรแย่งอิพี่ไฟสักคนสิคะ อยากเห็นพี่ไฟเต้นนนนน  :z2: :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด