The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446064 ครั้ง)

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ไฟสู้ๆๆๆๆเขานะเว้ยยยยยยยยยย

นี่ลุ้นไปกับไฟด้วยเลย เห้อออออออ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเลย

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 o13 o13 ชอบโม้เมนไฟกับเมฆ จะว่าแข็งๆแต่ก็อ่อนโยน เจ้าเด็กมืดหมน!!

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
งืม ไฟสู้ๆ ทำไมรู้สึกว่าลึกๆแล้วมันหนวงนะ? :hao4:

ออฟไลน์ namaquaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ชอบคุณไฟ ชอบสมุทรด้วย ชอบฟิลตอนเขาคุยกันมากๆ อ่านไปอมยิ้มไป

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เด็กมืดมน ฮาจริงกับคำนี้ :laugh:

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :serius2:4 ทุ่มนะจ๊ะแม่สาวน้อย เป็นสาวเป็นนางไปหาผู้ชายถึงย้านค่ำๆมืดๆแบบนั้นมันดีรึ ฮึ๊ย!!!!!!!! ไฟอย่าเพิ่งกลับนะ นอนแม่งบ้านสมุทรนั่นแหละคืนนี้ :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แค่บทพูดธรรมดาๆ ทำไมทำเราเขินไปได้นะ 55555

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
มองบน.... อีตาสมุทรนี่ไม่มีทีท่าอะไรเลย
สงสัยจริงๆ จะไปสปาร์กกันยังไง

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เอวา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เป็นนิยายที่อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยเพราะต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา อะไรมันจะตื่นเต้นปานนี้555555
คาดเดาการกระทำและความคิดไม่ค่อยได้เลยยยยย

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
จะมาทำไมตอนนี้คะคุณขา   :m16:

อ่านตอนน้องเมฆอยากกินลูกชิ้นทำลูกชิ้นตกทำไมเราน้ำตาซึมอ่ะอารมไหนบอกไม่ถูก :mew2:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
โอ้โหมาผิดที่ผิดเวลามากค่ะคุณณณณกำลังลุ้นเลยว่า

ไฟจะพูดยังไงกับสมุทร :ling1:

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
หึงละซิคุณไฟ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
เรื่องราวชักจะเข้มข้นขึ้นมาแล้ว ไฟให้ท่าจนได้เรื่อง ขอให้สำเร็จนะคะคุณไฟของป้า สมุทรกำลังสัมผัสถึงความรู้สึกจริงจังของไฟและตอบโต้กลับมาบ้างแล้ว ไม่รู้ใครให้ท่าใครมากกว่ากัน  :o8:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ถูกขัดจังหวะซะงั้น

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เป็นนิยายที่เส้นเรื่องยาวมาก
ติดตามครับ

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ไฟเราเชื่อว่านายจะหึงได้มากกว่านี้ เราอยู่ข้างนาย

ออฟไลน์ pkjoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ลุ้นตลอด มาไวๆ นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ไฟกำลังจะอธิบายให้สมุทรเข้าใจ แล้วทำไมต้องมีมารมาขัดขวาง :เฮ้อ: ชอบน้องเมฆเจ้าเด็กมีดมน ชอบโมเม้นครอบครัวสมุทร

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โอ้ยเหนื่อยแทน ลุ้นตลอด!
เมื่อไหร่เขาจะได้กัน ฮ่าๆๆ :hao7:
#ทีมพี่ไฟค่ะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณไฟเริ่มรุกแบบจริงจังแล้วซินะ



แบบนี้ก็ถือว่าก้าวหน้าพอสมควร ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย




น้องเมฆน่ารัก  อยากกินลูกชิ้นจนยอมดื้อนิดๆแต่พี่สมุทร





ดีนะป๋าไฟไปด้วย ไม่งั้น เด็กมืดอดกินลูกชิ้นงานวัดแน่ๆ

ออฟไลน์ เอวา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คิดถึงไรท์เตอร์ คิดถึงสมุทร คิดถึงไฟ วอนให้ไรท์มาต่อไวๆนะค่ะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 26
..ไฟ..




ผมนั่งทอดอารมณ์อยู่ในบ้านหน้าตาเฉยอย่างกับบ้านของตัวเอง  สมุทรพาผู้หญิงที่ชื่อหยาขึ้นไปคุยบนบ้าน  เขาดูลำบากใจที่จะถามผมว่า “คุณจะกลับบ้านเลยไหมครับ ?”  แน่นอนว่าประโยคนี้ไม่ได้หลุดออกมาจากปากเขา  ผมรู้นิสัยตรงส่วนนี้ของเขาดีจึงเลือกที่จะไม่เอ่ยปากออกไปว่า “ฉันกลับละ” ตามมารยาทที่ควรทำ  สายตาของหยาที่กะหลับกะเหลือกมองมาทำให้ผมอ่านเธอออกว่าเธอคงมีคำถามสงสัยในตัวผมและดูไม่ไว้ใจ  แต่ใครจะสน  ยิ่งถ้าการกระทำแบบนี้ทำให้เธอสงสัยผมได้มากเท่าไหร่ผมก็จะทำไปเรื่อย ๆ

.. เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีที่ทั้งคู่หายขึ้นไปบนบ้าน  ดูท่าทางแล้วเหมือนผู้หญิงคนนี้กำลังมีปัญหาหนักใจ  สีหน้าของเธอเหมือนเพิ่งร้องไห้มาอย่างหนัก  เธอค่อนข้างโทรมทั้ง ๆ ที่แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า  แต่ก็ช่างหัวเธอเถอะ  ผมไม่ได้รู้สึกสงสารเธอเลยสักนิด

“คุณไฟครับ เอ่อ..เดี๋ยวผมต้องออกไปส่งหยาที่บ้านนะครับ” สมุทรเดินลงมา  เขานำทางมาก่อน  ผมนั่งฟังด้วยทีท่านิ่งเฉยไม่รับรู้สถานการณ์ใด ๆ  ผู้หญิงที่ชื่อหยาตามหลังลงมา  ปกติเธอคงจะพูดทักทายตามมารยาทแล้วแต่ครั้งนี้เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาลูกเดียว

“โอเค” ผมตอบรับห้วน ๆ  ประมาณว่า “ยังไงก็ได้” พร้อมกับลุกขึ้น 

“เอารถฉันไปสิ” ผมนึกขึ้นได้จึงยื่นกุญแจรถไปให้ 

“เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ ผมนั่งแท็กซี่ไปส่งเธอดีกว่า” สมุทรตอบด้วยสีหน้าหนักใจ 

“เอาไปเถอะน่า” ผมดึงดันอยู่อย่างนั้น  ถ้าอีกฝ่ายไม่รับไปผมก็ต้องกลับเดี๋ยวนี้เลยนะสิ

“ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ” สมุทรหลบสายตาคล้ายกับเลี่ยงการปฏิเสธผมอย่างจริงจัง

“ฉันยังไม่กลับอะ เหนื่อย ๆ  ขี้เกียจขับรถ” ผมเหล่มอง  โยนกุญแจลงบนโต๊ะและเลือกที่จะนั่งกลับลงที่เดิม  สมุทรหันมามองสีหน้าปนไปด้วยความตกใจ  หยาเองก็เช่นกัน 

“หมุด..เดี๋ยวหยากลับเองก็ได้” เธอพูดขึ้น

“เดี๋ยวผมไปส่ง” สมุทรหันกลับไปห้าม  คำพูดคำจาที่ฟังดูไม่คุ้นหูผมจากปากของคนตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา 

“คุณไฟครับ..” สมุทรเดินเข้ามาใกล้  ผมเหลือบมองนิ่ง ๆ  อยากดูว่าเขาจะทำยังไง

“นี่กุญแจบ้านนะครับ คือ..ถ้าคุณต้องการจะกลับก่อน ผมรบกวนให้คุณล็อกบ้านแล้ววางกุญแจไว้ใต้กระถางต้นไม้หน้าบ้านให้ผมหน่อยนะครับ” สมุทรพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน  ใช่..ผมสะใจที่ได้เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนแบบสุด ๆ ของเขาแบบนี้  แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมกลับขยับตัวไม่ได้  จะบอกว่าอึ้งกับการกระทำก็นิดหน่อย  ในหัวเพียงแต่คิดแย้งขึ้นได้ประโยคเดียวว่า “ให้กูล็อกบ้านให้ นี่กูเจ้านายมึงนะเว้ย!”

“ได้” ผมเสือกคว้ากุญแจมาจากมือเจ้าของบ้านง่าย ๆ

“ขอบคุณครับ” อีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาผงกหัว

“ขอตัวก่อนนะคะ” หยาพูด  เธอโค้งตัวเล็กน้อยบอกลา  ผมเบือนหน้ามาอีกทางโดยไม่สนใจที่จะตอบรับเธอ  ทั้งคู่ออกจากบ้านไปแล้วและผมก็เพิ่งมารู้สึกตัวว่าตัวเองเลือกผิดยังไงชอบกลที่เลือกที่จะอยู่ต่อแบบนี้ 

“มีใครหน้าด้านมากกว่ากูอีกไหมเนี่ย” ผมบ่นพลางถอนหายใจ  แต่เมื่อย้อนกลับไปคิด  หากแก้ไขได้ผมก็ยังเลือกที่จะอยู่ต่อแบบนี้อยู่ดี  เพราะถ้าให้ผมเดินกลับออกไปพร้อมกับทั้งคู่  ผมเองก็คงรู้สึกพิลึกไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่นักหรอก 

เสียงฝีเท้าของทั้งคู่เงียบหายไปสนิท  ชุมชนนี้ตอนกลางคืนเงียบสงบอย่างนี้เป็นปกติรึเปล่าไม่ทราบ  แม้กระทั่งเสียงวัยรุ่นก็ยังไม่มีมาให้กวนใจ  ขนาดเสียงหายใจของตัวเองยังได้ยินชัดเจน  ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่นฆ่าเวลา  อย่างแรกที่ดูคือดูเวลาที่สมุทรออกจากบ้านไป  แน่นอนว่าส่วนหนึ่งของตัวผมกำลังตั้งคำถามว่า “กูกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ?” 

ผมเลือกกดเปิดเฟซบุ๊กของสมุทร  ตอนแรกก็ว่าจะไม่กดอยู่แล้วเชียวแต่มือมันลั่นไปเองก่อนที่จะคิดคำนวณใด ๆ ด้วยซ้ำ  และเมื่อเลื่อนดู ภาพที่เห็นทำให้ผมอมยิ้มออกมาไม่ได้  ดาวแท็กรูปภาพที่พวกเราไปเที่ยวงานวัดเมื่อตอนหัวค่ำกับสมุทร  ผมไม่ได้มีเฟซบุ๊กของดาวและไม่คิดที่จะเพิ่มเป็นเพื่อนด้วย  สำหรับผมมันยังไม่ถึงเวลาและไม่เหมาะควร  นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเรื่องเดิม ๆ ไม่มีอะไรอัพเดท  ผมไล่ดูโพสเก่า ๆ ของเขาเมื่อสองสามปีก่อนทั้ง ๆ ที่ก็เคยเลื่อนดูก่อนหน้านี้มาแล้ว  มีรูปที่ถ่ายคู่กับผู้หญิงที่ชื่อหยาอยู่พอสมควร  ไม่ใช่การจงใจถ่ายรูปคู่แต่เป็นรูปที่ถ่ายเผลอในมุมมองต่าง ๆ มากกว่า  เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีนะครับ  แม้แต่กับในรูปที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใกล้ชิดกับหยามากนัก  แต่ก็ดูออกว่าเขาเป็นคนที่อบอุ่นและใจดี  แต่ในขณะเดียวกันผมคิดว่าเขาก็มีอารมณ์ส่วนที่เข้าถึงได้ยากอยู่  สีหน้าบนรูปนั้น ๆ คล้ายกับความจริงแล้วนั่นยังไม่ใช่เขาทั้งหมด 

การตัดสินใจหยุดดูสิ่งที่มันค่อนข้างแคลงใจเป็นเรื่องยาก..แต่เป็นสิ่งที่คนเราควรทำ  ผมเลื่อนดูหน้าฟีดข่าว  พบว่าไอ้โปรดกำลังอยู่ผับแถวตะวันออกกลางในวันนี้  ภาพของมันทำให้ผมหัวเราะ  สภาพอย่างกับแยงกี้ญี่ปุ่น  ผมไล่ดูไปเรื่อย ๆ  มีข่าวบ้านเมืองที่ยังไม่ทราบก็กดอ่านมันจนหมด  เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงผมเริ่มลุกขึ้นเดินสำรวจสิ่งของในบ้านตามนิสัยส่วนตัวที่ชอบสังเกต  กรอบรูปตั้งอยู่ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ  ส่วนใหญ่น่าจะมาจากฝีมือของดาวเพราะติดสติกเกอร์รอบ ๆ กรอบรูปน่ารักเชียว  ผมสำรวจเสียทั่ว  เรียกว่าถ้าเป็นโจรบ้านนี้จะไม่เหลือของไว้ให้ขโมยสักชิ้นเดียวเพราะมันเงียบโปร่งมากจริง ๆ  ผมล้วงกระเป๋า  ถอนหายใจเดินออกมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้าน  มองไปรอบ ๆ พบแต่ความมืด  แสงไฟที่ให้ความสว่างส่วนใหญ่นั้นมาจากไฟฟ้าจากหน้าบ้านของบางบ้านเท่านั้น  เสาไฟฟ้าแต่ละเสาอยู่ห่างกันพอสมควรจนแทบนับต้นได้

ตามองดูนาฬิกาข้อมืออยู่เรื่อย ๆ  มันหมุนช้าหรือผมใจร้อน  หลายครั้งที่อดคิดไม่ได้ว่าควรกลับไปซะตอนนี้ดีหรือไม่  ไม่ต้องสู้หน้ากันและพรุ่งนี้ก็กลับสู่โหมดปกติเช่นเดิม  เท้าสอดสวมเข้าไปในรองเท้าก่อนที่จะคิดอะไร  ในหัวย้อนตีกลับมาว่าตัวผมได้ก้าวข้ามเส้นมาเกินสามสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว  ความจริงคือถ้าผมไม่สนผมจะไม่ต้อน  ไม่รู้ว่าผมถอนหายใจกับการกระทำของตัวเองในตอนนี้ไปแล้วกี่ครั้ง 

.. ผมยังไม่น่าจะรักสมุทรหรอก  ผมถูกใจอีกฝ่าย  ผมชอบองค์ประกอบหลาย ๆ ส่วนที่ก่อรวมเป็นตัวเขา  ซึ่งมันค่อนข้างดึงดูดผม  ยอมรับว่าในใจตอนนี้ผมอยากรู้อยากเห็นมากเกินควร  ผมต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายจะกลับมาไหม  ทั้ง ๆ ที่คาดว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผมเดาไปตามพื้นฐานนิสัยของเขา ๆ จะต้องกลับมา  แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมกลับไม่รู้สึกมั่นใจเอาเสียเลย

“หรือกูควรกลับ ?” ผมก้มหัวพลางถอนหายใจ  มือลูบท้ายทอยตัวเองด้วยรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาที่ตัวเองดันสองจิตสองใจแบบนี้ 

“พี่ไฟคะ..” เสียงทักทายน้อย ๆ แว่วมาจากในบ้าน

“อ่าว ยังไม่นอนอีกเหรอครับ” ผมหันไปมองดาวผ่านมุ้งลวด  ตัวของเธอมีผ้าคลุมไหล่ปิดมาด้วย

“ดาวลุกมาเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ เห็นว่าไฟชั้นล่างเปิดอยู่แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยลงมาดู” เธอพูดบอกด้วยแววตาเป็นกังวล

“พี่อยู่ครับ..ขึ้นไปนอนเถอะ เดี๋ยวสมุทรมาถึงพี่ก็จะกลับแล้ว” ผมยิ้มให้  เธอเงียบไปครู่  ตากวาดมองไปรอบ ๆ

“ดาว..ยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงเข้มดุพูดทักขึ้น  เราหันไปมองที่ต้นเสียง  สมุทรเดินจ้ำเข้ามา  ผมนิ่งมองว่าอีกฝ่ายตกใจอะไร

“ดาวแค่ลุกมาดู” เธอตอบเสียงค่อยคล้ายกลัวความผิด 

“กลับเข้าบ้านไปได้แล้วครับ” สมุทรบอก

“ค่ะ” ดาวผงกหัว

“ฝันดีนะครับ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์มองดาวด้วยนึกอยากกวนพี่ชายของเธอขึ้นมา  ทีแบบนี้อาการดันอ่านออกง่ายซะหมด  ดาวก้มหน้าด้วยแววตาเก้อเขิน  ใบหน้าของเธอยิ้มน้อย ๆ  เสียงวิ่งดังจากไป  คราวนี้เองสมุทรจ้องผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างนั้น  ผมช้อนตาขึ้นมองเขาครู่หนึ่งก่อนกลอกตาลงอีกทาง  ลิมิตความคุกรุ่นมันช่างน่ารำคาญจริง ๆ

“ออกมานั่งตรงนี้นานรึยังครับ” เขาถาม  น้ำเสียงเปลี่ยนจากเมื่อกี้นี้ที่ค่อนข้างมาก

“ไม่นานเท่าไหร่” ผมตอบส่ง ๆ

“แล้ว.. ดาว ออกมานานรึยังครับ” สมุทรถามอีกครั้ง  ครั้งนี้อ้ำอึ้งคล้ายเกรงใจ  ผมอมยิ้มมุมปากนิด ๆ  คิดว่าคำถามนี้เขาอยากได้คำตอบมากที่สุด

“ก็นานมั้ง” ผมเบะปากยักไหล่กวน

“.........” สมุทรนิ่งเงียบไปเลย  แต่แล้วเขาก็ไม่แสดงอาการใด ๆ อีก

“นั่งแบบนี้ยุงไม่กัดเหรอครับ” อีกฝ่ายขมวดคิ้ว  น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงแต่ถ้าหากไม่ปิดตัวเองให้ตาบอดเขาก็ใจดีแบบนี้กับทุกคนน่ะนะ  ผมไม่ได้ดีใจอะไรหรอกที่ถูกถาม  หากมองตามพื้นฐานของเขาทุกคนก็เทียบเท่ากันอย่างไม่พิเศษอะไร  ผมคิดว่าจริง ๆ แล้วสมุทรเองก็มีจิตใจที่ไม่ต่างไปจากผมเท่าไหร่  เพียงแต่มีนัยยะแฝงลึกไปคนละแง่มุมเท่านั้น
 
“นายนี่เป็นห่วงไปซะทุกคนจนน่าหมันไส้เลยนะ” ผมพูดปนหัวเราะก่อนลุกขึ้นยืน

“ฉันนึกว่านายจะไม่กลับซะอีก” เรายืนประชันหน้ากันด้วยความห่างเพียงไม่กี่เมตร

“..ไปจบที่โรงแรมอะไรทำนองนั้นน่ะ” ผมเบะปากยิ้ม ๆ

“ส่วนฉันก็คงคุยกับดาวยาวเลย” ผมหุบยิ้มบอกด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ  ตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาว่างเปล่า

“กรุณาระวังปากด้วยครับ” อีกฝ่ายตักเตือนเสียงเย็น  สีหน้าดุ ๆ  ที่แฝงไปด้วยความนิ่งสงบปรากฏทันทีแบบที่ผมคาดไว้ไม่มีผิด 

“จะทำไมฉันงั้นเหรอ ?” ผมอมยิ้มพร้อมเดินเข้าไปใกล้อย่างท้าทายมากขึ้น

“กับเรื่องแค่นี้..ทำไมต้องของขึ้นด้วย ฉันรอก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่านายจะเป็นไปตามส่วนใหญ่ที่มักหายหัวไปใช้ถุงยางรึเปล่าแค่นั้นเอง” ผมยียวนไม่หยุด  สมุทรถอนหายใจเฮือกหนึ่ง  เขาเบือนหน้าหนีคล้ายสุดจะฟัง 

“ได้กันแล้วสินะ ฉันได้กลิ่นน่ะ” ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้พลางสูดดม  ทันทีนั้นคิ้วของอีกฝ่ายก็ชนกันพร้อมหันหน้ากลับมาผลักผมออกอย่างแรง  ผมยิ้มกว้าง  บอกแล้วว่าหมอนี่ชอบอารมณ์ขึ้นกับเรื่องทำนองนี้เสมอ  ซึ่งเป็นการจี้จุดที่มักใช้ได้ผล  ขาของผมจ้ำอ้าวพุ่งเข้าหาพร้อมสวนหมัดไปที่เป้าหมาย  สมุทรหลบด้วยความไวได้ตามที่คาด  หมัดซ้ายฮุกเข้าที่ท้องแบบที่อีกฝ่ายหลบไม่ทัน  เขากัดฟันแน่น  แววตาดุดันมาพร้อมกับหมัดขวาที่ชกสวนเข้าที่หน้าผมอย่างจัง  ซึ่งแน่นอนว่าผมตั้งใจยืนรับมันซะด้วย   

“.........” ความเงียบก่อตัวขึ้นทันที  ทุกอย่างสงบลงเมื่อเราสองคนได้สติ  ผมยืนนิ่ง  รู้ตัวอยู่หรอกว่าตัวเองผิดที่ปากหมา  แต่คนปากหมามันก็ยากที่จะไม่ปากหมานั่นแหละ  ใบหน้าชาเล็กน้อย  ไม่ได้เจ็บ  ไม่ได้เซ  เป็นหมัดที่สวนมาเต็ม ๆ  แต่ค่อนข้างยั้งแรงไว้พอควร  สมุทรก้าวขาเข้ามาหาผมทีละก้าวอย่างลังเล  ผมเหลือบมองหน้าที่ถอดสีของเขาและมันเกือบทำให้ผมหลุดขำ

“ผมขอโทษ” สมุทรแตะมือลงที่ปลายคางผมเบา ๆ  ผมยืนเฉย  แววตาร้อนรนมองหาแผลบนใบหน้าของผม  ซึ่งมันทำให้ผมพอใจอยู่ไม่น้อยที่ได้เห็นอีกฝ่ายรู้สึกผิดอย่างที่ต้องการ
 
“คือ..ผมขอโทษครับ” สมุทรย้ำพูดไม่ยอมสบตาผมอีก  ปฏิกิริยาคล้ายกับลูกน้องกำลังรู้สึกผิดต่อเจ้านายมากกว่าที่จะมีอะไรเกินไปกว่านี้

“ไม่เจ็บหรอกน่า” ผมปัดข้อมืออีกฝ่ายออกเป็นการบอกว่าให้เขาเลิกจับหน้าผมสักที  เราต่างเงียบลง  สายตาของสมุทรมองลงต่ำไม่ต่างจากผม

“ถ้าแค่นี้เจ็บฉันตายไปตั้งแต่แปดขวบแล้ว” ผมพูดติดตลก 

“นายไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าฉันเข้าหานายแบบนี้ทำไม” ผมถามปนหัวเราะ  นำลิ้นดุนออกมากัด  ปากมันแข็งจนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าควรพูดอะไรก่อนหลังดี  สิ่งที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะถาม  สุดท้ายก็อดต้อนถามออกไปซ้ำ ๆ ไม่ได้ 

“.........” สมุทรไม่ตอบรับ  แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นสับสน

“ฉันก็เพิ่งรู้ตัวเมื่อกี้ ว่านายทำให้ฉันเป็นบ้าได้นิด ๆ” ผมเบะปากแกมหัวเราะ  ครั้งนี้ผมเลือกที่จะเงียบอยู่ไม่นานและคิดว่าควรได้เวลากลับสักที   

“กุญแจบ้านอยู่บนโต๊ะ..” ผมชี้มือกลับไปบนโต๊ะไม้หินอ่อนทางด้านหลังก่อนนำมือล้วงกระเป๋าอีกครั้ง

“ไม่คิดจะเอาไว้ในกระถางตั้งแต่แรกอยู่แล้วน่ะนะ” ผมบอกก่อนเดินออกมา  จู่ ๆ สมุทรก็เข้ามาคว้าแขนผมไว้  ผมหยุดเดินหันกลับไปมอง

“คือ ..ผมไม่เข้าใจ” อีกฝ่ายเอ่ยด้วยสีหน้าลังเลใจ  รู้สึกผิด  สงสัย  หลาย ๆ อย่างผสมปนเปกัน  ผมเลือกที่จะสบตาและกวาดมองสีหน้าของเขาตรง ๆ เพื่อจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ  เขาเองก็มองผมอยู่ตลอดอย่างไม่วางตาคล้ายกับอยากได้ความกระจ่างกว่านี้เช่นกัน  ที่จริงแล้วผมมันผิดน่ะนะที่ทำให้เขารู้สึกผิดได้แบบนี้

“ขอโทษครับ” อีกฝ่ายก้มหน้าลงเล็กน้อย  คำขอโทษในครั้งนี้มันคนละประเด็นกับประเด็นก่อนหน้าอย่างโจ่งแจ้งทีเดียว  ผมอมยิ้มนิด ๆ ที่เขาดูไยดีเกินเหตุ  สมุทรปล่อยมือออกจากแขนผมแล้ว

“ตามที่ฉันพูดเมื่อกี้นั่นแหละ” ผมบอก  ทิ้งน้ำเสียงลงเว้นพักหายใจ 

“ที่ฉันอยู่รอ ก็เพราะอยากรู้ว่านายจะไปจบที่โรงแรมจริง ๆ รึเปล่า” ผมขยายความ

“ไง..? อยากชกอีกสักหมัดไหมล่ะ” ผมหัวเราะ  สีหน้าคิดหนักของเขาอึ้งไปไม่น้อยที่ได้ยิน

“จำสิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม ?” ผมเอ่ยถาม  ดวงตาของเราสะท้อนภาพกันและกัน

“ช่างมันเถอะ” ผมปัดยิ้ม ๆ  ก่อนเดินจากมา


- - - - - - - - - - - - - - -


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2016 16:22:22 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

07:05 น. : ค่ายมวยชัยโรจน์
“สามสิบ พักครับ” ไอ้นพพูด  เราวิดพื้นจบลงทั้งหมดห้าเซต  ผมมาซ้อมมวยตั้งแต่เช้าแล้ว  ที่จำได้คร่าว ๆ  น่าจะวิ่งมาถึงค่ายตอนประมาณหกโมง

“นายครับ!” ไอ้เด่นตะโกนเรียก  มันวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในค่ายพร้อมกับคนอื่น ๆ

“ใครตาย” ผมถามไปงั้น  รู้อยู่แล้วว่าที่มันรีบวิ่งมาแบบนี้เพราะตามผม  ผมออกวิ่งมาตั้งแต่เช้าก็เพื่อต้องการออกมาคนเดียวไม่รอใคร 

“นายทำไมไม่รอพวกผมก่อนละครับ” ไอ้เด่นพูดหน้าแหย

“กูต้องตอบคำถามมึงไหม ?” ผมตาขวางมอง  ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดานหน้าสลด

“วันหลังกูจะเอาไก่ทั้งฟาร์มไปไว้ในห้องมึง ตื่นสายโด่งทำมาพูด” ผมบ่นปัดไปที  หันตัวเดินหนีเพราะไม่อยากจะทำให้เสียบรรยากาศ

“ขอโทษครับ” พวกมันประสานเสียงก้มหน้างุดสำนึกผิด 

“น้ำครับ” พี่ธานยื่นขวดน้ำเย็นมาให้  ผมรับมาดื่มไม่พูดไม่จา

“สวัดดีครับพี่ธาน สวัดดีครับ” ผมชะงักหันไปมองเสียงทักทาย  สมุทรเพิ่งมาถึง  เขาใส่เสื้อผ้าชุดทำงานตามปกติ 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ แล้วมาซ้อมด้วยกัน” พี่ธานบอกอีกฝ่าย

“ครับ” สมุทรตอบยิ้ม ๆ  เขาหันมาผงกหัวทักทายผมเล็กน้อยก่อนเดินตรงเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

“คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ” พี่ธานถาม  ผมเงียบ  เหลือบไปเห็นไอ้เด่น  ไอ้เข้มและไอ้รุ่งพากันจับกลุ่มลงซ้อมแล้ว
   
“ไอ้หินไปเรียนเหรอ” ผมถามกลับคนละเรื่อง

“ใช่ครับ แล้วตกลง..คุณเป็นอะไรรึเปล่า” พี่เขาวกกลับมาเรื่องเดิม

“เปล่านี่” ผมตอบแกมหัวเราะ  พี่ธานจ้องหน้าผมอย่างเอาความมันทำให้ผมถอนหายใจออกมาเซ็ง ๆ

“แค่อยากอยู่คนเดียวน่ะ” ผมตัดรำคาญตอบกลับไป  นำมือเสยผมขึ้นลวก ๆ
 
“แสดงว่ามีอะไรใช่ไหมครับ”

“อะไร ? การที่คนเราอยากอยู่คนเดียวนี่ต้องมีอะไรด้วยรึไง” ผมขมวดคิ้วพูดปนหัวเราะ

“ใช่ครับ เวลาผมมีอะไร ผมมักจะอยากอยู่คนเดียว” พี่ธานยิ้มตอบ  เราสบตากันนิดหน่อย  ผมปิดพี่ธานไม่มิดหรอก  มันก็พอ ๆ กับที่พี่ธานก็ปิดผมไม่มิดเหมือนกัน

“คือ..ที่จริงก็มีนิดหน่อย แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอก”

“ครับ ผมพอทราบ แต่ผมพร้อมรับฟังเสมอนะครับ” อีกฝ่ายตอบทันทีด้วยสีหน้าเป็นจริงเป็นจัง 

“รับฟังในฐานะไหน..พี่ใหญ่ หรือลูกน้องดี” ผมอดกวนไม่ได้

“คุณมันก็เป็นซะแบบนี้” พี่ธานถอนหายใจ

“ทุกคน..มารับตารางเดินทางกันด้วยนะคะ!” พี่นีออกมาจากออฟฟิศตะโกนบอกเสียงดังฟังชัด

“คร้าบ” พวกนักมวยพากันขานรับ  เราแยกกันซ้อมต่อ  ตามจริงแล้วผมหนีพี่ธานโดยเป็นคู่ซ้อมกับไอ้นพตามปกติ  ส่วนสมุทรหลังจากที่อบอุ่นร่างกายเสร็จก็ขึ้นชกกับพี่ธานต่อ  หลังจากที่ซ้อมกันเสร็จก็แยกย้ายทำงานตามหน้าที่  ลูกค้าภาคเช้าทยอยกันเข้ามาแล้ว  พวกผมและลูกน้องจึงเดินเท้ากลับบ้านเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำและเริ่มงานสำหรับวันนี้

“สมุทรจะอาบห้องพี่หรือจะอาบห้องคุณไฟ” พี่ธานจงใจแกล้งถามต่อหน้าผม  เราสามคนต่างหยุดยืนอยู่ตรงตีนบันไดระหว่างทางขึ้นไปห้องผมและห้องของพี่ธาน  ผมมองเฉย  ไม่ได้ตอบรับมุกอย่างทุกครั้ง  สมุทรเองก็ชะงักดูไม่กล้าให้คำตอบเช่นกัน  ก็แน่ล่ะ..เขาเป็นตัวกลางนี่นะ  จะให้เลือกฝั่งไหนก็คงไม่เหมาะ 

“เอ่อ อาบห้องพี่แล้วกัน” พี่ธานตัดบทด้วยแววตาไปไม่เป็น

“ครับ” สมุทรผงกหัวรับ  พี่ธานเงยหน้ามองผมเล็กน้อยก่อนตบไหล่สมุทรสองสามทีเหมือนบอกให้เขาเข้าห้องไปก่อน  สมุทรผงกหัวให้พวกเราก่อนเดินไปอย่างว่าง่าย   

“คุณไฟ” อีกฝ่ายเรียก

“อ้า ปวดฉี่” ผมปัด  เดินหนีขึ้นห้องมาก่อนที่จะให้พี่ธานมีจังหวะได้ซักอะไรไปมากกว่านั้น 

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมกับพี่ธานเข้ามาทำงานพร้อมกันในห้องทำงาน  วันนี้พี่เขาไม่มีธุระที่จะต้องออกไปที่ไหน  เราเคลียร์เรื่องดอกเบี้ยจากลูกหนี้ของผมทั้งหมดและผมจะนำเงินส่วนนี้ไปเข้าธนาคารบ่ายวันนี้ด้วย

“เฮ้อ” ผมถอนหายใจ  เอนตัวหมดแรง   

“สมองกับพลังงานในตัวนี่มันแยกกันรึเปล่านะ ให้ใช้แรงงานหนัก ๆ ยังดีกว่าอีก เวลาใช้สมองหนักแล้วเหมือนร่างกายมันย่ำแย่กว่ายังไงไม่รู้” ผมบ่น

“หึ ๆ” พี่ธานหัวเราะ

“คุณเป็นนักมวยอาชีพแต่แรกก็หมดเรื่องไปแล้วนี่ครับ” พี่ธานยิ้มแซว  ลุกขึ้นเก็บเอกสารเรียงกลับเข้าบนชั้นอย่างเก่า
 
“นั่นสิ ตอนนั้นไม่น่าลังเลเลย ก็เพราะพี่นั่นแหละ” ผมตอบ

“เพราะผม ?” พี่ธานหันตัวมาหัวเราะน้อย ๆ

“ใช่..เพราะพี่” ผมอมยิ้ม  หยิบน้ำมาดื่มจนหมด

“พี่เอาพวกรายละเอียดเกี่ยวกับตลาดไปให้สมุทรหน่อยสิ ให้เขาอ่านไว้ก่อน”

“เรื่องทั่ว ๆ ไปเหรอครับ” พี่ธานหันกลับมาถาม  ผมพยักหน้า

“ได้ครับ” 

“เฮ้อ..เวลาที่ลูกหนี้จ่ายดอกตรงเวลานี่ชีวิตก็สงบดีเหมือนกันนะว่าไหม สงบแบบ..พวกไอ้เด่นก็ไม่ต้องเหนื่อยด้วย” ผมเงยหน้าขึ้นมองบนเพดาน  นำสองมือกุมอยู่ตรงท้องพลางหมุนเก้าอี้ไปมา

“หึ จะพานให้พวกมันไม่รู้หน้าที่ไปด้วยน่ะสิครับ” ผมอมยิ้มที่พี่ธานไม่เห็นดีด้วยซะงั้น

“ผมให้อีกประมาณเดือนเดียว เสี่ยหลงต้องกลับมาจีบปากจีบคอขอกู้เงินอีกก้อนแน่ ๆ” ผมเดา  เสี่ยหลงใช้หนี้ผมครบแล้ว  ได้ข่าวจากสายของเฮียกานต์ที่ไอ้เข้มได้สืบมาว่าช่วงนี้เสี่ยหลงขาขึ้นที่บ่อนน่าดู 



ก๊อก  ๆ ๆ

“เฮีย..ยุเอง”

“เข้ามา” ผมตอบ  พายุเปิดประตู  มันเหลือบสำรวจดูก่อนว่าในห้องมีใครบ้างก่อนจะปิดประตูลง 

“มีอะไร” ผมถาม

“เฮียดูนี่สิ” พายุเดินมาหยุดตรงโต๊ะทำงานของผมพร้อมกับยื่นแท็บเล็ตของมันมาให้  ผมทิ้งน้ำหนักลงตรงที่วางแขนมอง  บนนั้นเป็นวิดีโอการต่อสู้ของค่ายเสี่ยปรีดาที่อัพโหลดลงบนเว็บไซต์ชื่อดัง  ศาสตร์มวยโบราณที่น้อยคนนักจะรับสอน  หนึ่งในนักมวยที่วาดลวดลายมวยได้สวยงามเป็นอย่างมากคือเพื่อนร่วมอาชีพที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมานานนมแล้ว  ผมนั่งดูอย่างนั้นจนจบ  พายุเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามนั่งลงเงียบ ๆ  พี่ธานยืนขนาบข้างอยู่ทางด้านหลังของพายุและสงบปากสงบคำเช่นกัน

“มันมาอยู่ที่ค่ายเสี่ยปรีดาได้ไง” ผมถามถึง  “บูรณ์” หนึ่งในนักมวยไทยฝีมือเก่งกาจที่เคยชกกับผมมาแล้วถึงสี่เวที  ซึ่งมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ผมเคยแพ้คะแนนให้กับมัน  หลังจากที่ไอ้บูรณ์แพ้ผมไปในเวทีสุดท้ายมันก็หายหน้าหายตาจากวงการมวยไปหลายปี  ผมแทบไม่ได้ข่าวคราวของมันอีกเลยจากนั้นมา

“ยุว่าแล้วว่าเฮียต้องยังไม่รู้”

“กูจะไปรู้ห่าอะไร ไอ้เสี่ยปรีดามันยังไม่ใส่ชื่อนักมวยของมันด้วยซ้ำ” ผมว่า

“ดูเหมือนจากที่มันให้สัมภาษณ์ล่าสุด มันน่าจะขึ้นชกเองนะ” พายุพูด  ผมเหลือบตามอง

“วิดีโอโปรโมทงานที่พัทยาน่ะ” พายุขยายความ

“เสี่ยปรีดาไม่ได้จะส่งไอ้สิงโตหรอกเหรอ” ผมขมวดคิ้วพลางถอนหายใจ

“นั่นน่ะสิ” พายุพึมพำงง ๆ

“หรือว่าเพราะเสี่ยรู้ว่ากูส่งไอ้นพ” ผมเดา  ทุกคนเงียบ 

“ช่างแม่งเหอะ ประเด็นคือไปขุดไอ้เหี้ยบูรณ์มาจากไหนวะ” ผมสงสัย

“แล้วนี่มึงรู้ได้ไง” ผมถาม  เพราะปกติพายุจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้  ถ้าเรื่องไหนที่ผมไม่สั่งมันก็มักจะไม่ยุ่ง  พายุไม่ได้สนใจเรื่องค่ายมวยเท่าไหร่นัก  ส่วนใหญ่ก็จะขลุกอยู่แต่กับงานและการเรียนของตัวเองมากกว่าซึ่งผมเองก็ไม่ได้บังคับ

“เพื่อนส่งมาให้ดูเมื่อกี้” มันตอบ

“ขอบใจ แต่มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วอยู่ดี” ผมบอก  จุดยืนของผมอย่างไรก็ยังเป็นอย่างเดิม  ผมตั้งใจแต่แรกอยู่แล้วว่าจะส่งไอ้นพและในตอนนี้ก็ไม่มีใครเก่งไปกว่ามันอีกด้วย 

“เอ่อ..เพื่อนยุมันถามว่าให้พนันข้างไหนดี” พายุพูดด้วยสีหน้าหนักใจเหมือนต้องการคำตอบจากผมจากใจจริง

“เพื่อนมึงตั้งใจกวนส้นตีนกูเหรอครับ” ผมเหตามอง  ยังมีหน้าเอาเรื่องนี้มาทำหน้าซื่อบื้อถามตรง ๆ อีก

“ข้างเฮียก็ได้” พายุพยักหน้างึก ๆ


ตืด  ๆ ๆ   
“ว่า” ผมทักปลายสาย  เบอร์โทรเข้าจากไอ้โปรด

“ไปกินข้าวกัน ไอ้คินเลี้ยง” มันทักเสียงใสมาเลย

“มึงถึงไทยเมื่อไหร่” ผมถาม  ก็เมื่อคืนยังเห็นอยู่นอกประเทศอยู่เลย

“เมื่อเช้า กูนอนโรงแรมไอ้คินเนี่ย” มันตอบ

“มึงนี่ไม่เหนื่อยบ้างรึไงวะ” ผมถอนหายใจบ่นเอือม ๆ  เห็นแล้วเหนื่อยแทน

“ขยัน..จนน้ำล้นออกทางตา” มันพูดเสียงเรียบ ๆ  กวนตีนอีก

“กี่โมง ?” ผมอมยิ้มถามต่อ  วันนี้หลังจากนำเงินเข้าธนาคารผมก็จะว่างพอดี 

“แล้วแต่มึง” ไอ้โปรดบอก

“งั้นบ่ายสองครึ่ง” ผมตอบ  นี่ก็เที่ยงกว่าแล้วและผมยังไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด

“ได้..เจอกันที่โรงแรมไอ้คินนะ”

“อืม” ผมตอบแล้วตัดสายเพราะขี้เกียจได้ยินน้ำเสียงรื่นเริงของมัน

“พี่ธาน เอกสารรวมตึกที่ขายอยู่ไหนครับ” ผมถามถึง

“อยู่บนโต๊ะผมครับ” พี่ธานตอบ  รีบเดินไปหยิบมาให้  ผมรับมาดูและไล่ดูที่อยู่ของแต่ละที่ทั้งหมด

“คุณไฟจะเข้าไปดูเหรอครับ”

“อือ วันนี้จะไปดูตรงที่ใกล้ ๆ กับตลาด” ผมตอบ  หยิบสมุดโน้ตออกมาจดตึกที่ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดชโนทัยมากที่สุด 

“ยุ..วันนี้มึงเข้าไปดูที่ห้างด้วย ไปกับพี่ธานแล้วกัน” ผมสั่งก่อนลุกขึ้นยืน  เปิดกล่องที่เก็บเช็คไว้ยื่นเช็คที่เซ็นเสร็จเรียบร้อยแล้วให้พายุไป

“ค่าซ่อมแซม เอาให้พี่มลด้วย..เขารู้” ผมสั่ง

“ครับ” พายุพยักหน้ารับ

“ไอ้ดินเป็นไงบ้าง” ผมถามความประพฤติ  เพราะช่วงนี้ผมแทบไม่ได้เจอหน้ามันจริง ๆ จัง ๆ เลย

“ก็ดี..ดูเอาจริงเอาจังกับการแข่งดี” พายุตอบ 

“ตกลงเฮียให้ใครอยู่เฝ้าบ้านสุดสัปดาห์นี้เหรอ”

“ไอ้หินอยู่ พี่ไม่ได้ให้มันไป แล้วเดี๋ยวให้ไอ้เป็ดมานอนนี่ด้วย” ผมตอบ  บางทีผมก็เปลี่ยนสรรพนามตัวเองที่ใช้กับพายุอยู่บ้าง  แต่ส่วนใหญ่จะชินคำว่า “กู” มากกว่า

“ไปละ” ผมตัดบท

“คือว่าเฮีย..” พายุดักเอาไว้  มันรีบลุกขึ้นเหมือนมีอะไรจะพูดมากกว่านี้  ผมมองอย่างจับผิด

“คือว่าเฮีย ?” ผมย้ำคำพูดเลียนแบบเพื่อแกล้งมัน 

“ยุอยากได้ ..นี่อะ” พายุไม่พูดเปล่า  รีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่กำไว้อยู่ในมืออยู่นานแล้วขึ้นชูมาตรงหน้าผม  คือลักษณะท่าทางของมันนั้นเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้เลย  ผมมองไปบนหน้าจอ  เห็นรูปหมาพันธุ์ Belgian Malinois สีดำลายน้ำตาลคล้าย ๆ ลายเสือท่าทางน่าเกรงขาม

“สวยดี” ผมแกล้งพูดหน้าซื่อ ๆ บ้าง  รู้อยู่หรอกว่ามันหมายถึงอะไร

“เอาไว้ค่อยคุยกัน”

“แล้วเฮียจะให้ไหมครับ” พายุรีบซักถามด้วยสีหน้ามีความหวัง

“เอาไว้ค่อยคุยกันไง” ผมปัดย้ำอีกครั้ง

“งั้นยุซื้อเองก็ได้” มันทำเสียงแข็งทันที  ผมชะงัก  เหล่ตากลับไปมอง

“ลองถามพี่ธานดูซิว่าคำพูดเมื่อกี้มึงควรพูดกับกูไหม”


- - - - - - - - - - - - - - -


14:35 น. : RATIO HOTEL
ผมเดินทางมาถึงที่นัดหมายโดยมีสมุทรเป็นคนขับรถเพราะผมอนุญาตให้ไอ้เด่นไปซ้อมสนุกเกอร์เนื่องจากอีกสองอาทิตย์จะถึงการแข่งขันนัดแรกแล้ว  ปกติไอ้เด่นจะไม่ค่อยเอ่ยปากขออนุญาตผมนักถ้าไม่ใกล้วันแข่งขันจริง ๆ  ส่วนผมกับสมุทรยังคงเหมือนเดิม  โดยทั่วไปเขาก็ไม่ค่อยพูดมากอยู่แล้ว  ยิ่งเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนเราทั้งคู่ก็เลยพูดกันนับคำได้ซึ่งไม่มีการนอกเรื่องนอกจากเรื่องงานเลย

ไอ้โปรดทราบเรียบร้อยแล้วว่าผมรออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม  เป็นการรอที่เงียบเชียบ  พนักงานโรงแรมนำน้ำมาเสิร์ฟ  ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากชวนอีกฝ่ายคุยหรอกนะครับ  แต่บอกปัดไม่ได้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้วันนี้เรามีเส้นบาง ๆ แบ่งเอาไว้พอควร  สมุทรยังคงทำหน้าที่ได้ดี  เขายังคงนิ่งขรึมและเป็นปกติคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น 

“ไฟ” ไอ้โปรดเรียก  มันกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากฝั่งของคาเฟ่  ผมลุกขึ้นยืนและกลับต้องหยุดนิ่งเมื่อเหลือบไปเห็นไอ้คินเดินออกมาพร้อม ๆ กับพลอย  เธอยิ้มแป้นมาเลย
 
“อ่าว ไม่ดีใจเหรอ” ไอ้โปรดยิ้มเจื่อนมองหน้าผม  พลอยหยุดยืนยิ้มกว้างเขิน ๆ ให้สมุทร  คนถูกยิ้มให้เองก็ผงกหัวตอบน้อย ๆ เช่นกัน 

“แล้วเด่นไปไหนอะ” ไอ้โปรดถามหา

“ซ้อมสนุ๊ก” ผมตอบ  อยู่ดี ๆ ก็หมดอารมณ์ขึ้นมาซะงั้น

“จะกินอะไร” ผมถาม

“นี่จะไม่ทักกันเลยใช่ไหม” พลอยทำเสียงไม่พอใจมาทางผม

“สวัสดี เธอก็มาด้วยเหรอ” ผมแกล้งทักด้วยสีหน้าตกใจ  ทุกคนต่างหัวเราะยกเว้นพลอยที่ค้อนผมตาแทบคว่ำ
 
“ไหนบอกต้องไปภูเก็ตไง” ผมถามดี ๆ

“พอดีมาเยี่ยมลูกค้ากะทันหัน..เขาพักอยู่ที่นี่ แล้วบังเอิญเจอคุณคินพอดีก็เลยถูกชวนกินข้าวน่ะ ฉันหิ้วท้องรอคุณตั้งนาน” พลอยตอบยิ้ม ๆ  คำตอบกลบเกลื่อนผ่านไปที  และผมไม่คิดจะซักเอาความอีก

“คิน..นี่สมุทร ลูกน้องใหม่ฉัน ส่วนนั่นภาคิน เพื่อนฉันเอง” ผมแนะนำ

“สวัสดีครับ” สมุทรโค้งทักทาย  ไอ้คินผงกหัวทักทายยิ้ม ๆ

“นายไปรอฉันที่คาเฟ่ก่อนแล้วกัน” ผมบอกสมุทร

“อ่าว สมุทรไม่กินด้วยกันเหรอ” พลอยถามด้วยสีหน้าตกใจ

“ให้มันน้อย ๆ หน่อย” ผมว่าเธอ  พลอยยักไหล่เชิด ๆ มาให้

“เอ่อ จะเป็นอะไรไหมคะถ้าพลอยอยากให้สมุทรร่วมโต๊ะด้วย” พลอยถามไอ้โปรดกับไอ้คิน  ทั้งคู่มองพลอยด้วยสายตาไม่เข้าใจนักแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ 

“ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ถามป๋าเขาเถอะ” ไอ้คินชี้นิ้วมาทางผมด้วยท่าทางติดตลก 

“ไปเถอะค่ะ อาหารจีนใช่ไหมคะ” อีกฝ่ายตัดบทยิ้ม ๆ

“เอ่อ..” สมุทรอ้ำอึ้ง  มีทีท่าลังเลไม่ยอมเดินตามพลอยไปทำให้พลอยหันมาค้อนใส่ผมทันที  ผมแสยะยิ้มเพราะอย่างไรสมุทรก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของผมมากกว่าเธออยู่แล้ว

“ให้สมุทรไปกินด้วยนะ” เธอขอ  ผมถอนหายใจ  หันไปมองหน้าสมุทรก่อนพยักหน้าอนุญาต  เมื่อถึงร้านอาหารพลอยจัดแจงเลือกที่จะนั่งข้าง ๆ สมุทรอย่างโจ่งแจ้ง  ไอ้โปรดและไอ้คินมองหน้าผมกะหลับกะเหลือก  ผมไม่สนใจนักหรอก  เลื่อนเก้าอี้นั่งลงที่หัวโต๊ะ  ส่วนไอ้โปรดนั่งทางซ้ายมือ  ไอ้คินนั่งถัดจากไอ้โปรดอีกทีหนึ่ง 

“กูสั่งหมูหันกับเป็ดปักกิ่งชุดใหญ่เตรียมไว้ให้แล้ว จะเอาอะไรก็สั่งเลยนะ..ป๋าเลี้ยง” ไอ้คินยิ้มให้ทุกคนโดยพยักหน้ามาทางผม

“อะไรของมึง ที่กูมาเพราะไอ้โปรดบอกว่ามึงเลี้ยง” ผมว่าอย่างเอาเรื่อง

“แล้วทำไมกูต้องเป็นฝ่ายเอาเงินของกูมาจ่ายเข้าโรงแรมกูด้วย แค่ค่าบัตรวีไอพีห้องอาหารญี่ปุ่นให้น้องมึงกูก็ช้ำพอแล้ว” ไอ้คินกระแทกเสียงไม่เข้าใจ

“งั้นหาร กูไม่เลี้ยง” ผมพูดเสียงเข้มไม่แคร์ใคร  ไอ้โปรดหัวเราะ

“ขี้งก” พลอยหันมาว่า

“เธอเองก็จ่ายส่วนของลูกน้องฉันด้วยแล้วกันนะ ถือซะว่าเป็นค่าตัวของหมอนี่น่ะ” ผมกวน

“สมุทรไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งก์นะ” พลอยขึ้นเสียงด้วยสีหน้าเก้อเขิน

“ฉันสั่งให้เขาลุกออกไปรอข้างนอกตอนนี้ยังได้เลย” ผมตอบกลับเสียงเข้มทำเอาพลอยถึงกับหุบปากสนิท

“ก็ได้! เลี้ยงทั้งชีวิตก็ยังได้เลย ชิ” พลอยเบะปากใส่ผมตามนิสัยของคนชอบเอาชนะ  ผมแสยะปากทำหน้ารับไม่ได้ใส่เธอ

“เอาไก่แช่เหล้า” ผมสั่ง  พนักงานก้มหน้าก้มตาจดเมนู

“กูเอาอะไรดีน้า” ไอ้โปรดกับไอ้คินพึมพำมองเมนูคล้ายตัดสินใจไม่ได้  ผมแอบชำเลืองมองสมุทร  ใจจริงก็ห่วงว่าเขาอาจจะเกร็งอยู่ก็ได้และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ  อีกฝ่ายไม่ยอมเปิดเมนู  เอาแต่นั่งด้วยท่าทางเจียมการกระทำเท่านั้น  พลอยเอาใจด้วยการชวนให้เขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเมนูต่าง ๆ  ทั้ง ๆ ที่ปกติเธอเป็นคนตัดสินใจรวดเร็วแท้ ๆ  พอเห็นอาการแบบนี้แล้วมันน่าถีบจริง ๆ

“ปลาหิมะนึ่งซีอิ้ว” ผมสั่งอีก

“ครับ” พนักงานรับทราบ

“ฮะเก๋ากุ้งสองที่ ปูผัดหมี่หมื่นลี้” ผมพูด  ตามจริงแล้วผมไม่ต้องมองเมนูเลยก็ยังได้เพราะมีแต่ของโปรดของพายุทั้งนั้น  ซึ่งเวลาที่ไปนั่งร้านอาหารจีนทีไรผมก็มักจะสั่งเมนูเดิม ๆ อยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ 

"เนื้อเปื่อยน้ำแดง” ผมพูดต่อไม่ได้สนใจสายตาใครที่จับจ้องมา

“นี่! คนอื่นยังไม่ได้สั่งเลยนะ” พลอยหันมาโวยใส่  ผมหลุดยิ้มมุมปาก

“ไม่ใช่ปัญหาของฉันสักหน่อย” ผมตอบหน้าตาย

“เกี๊ยวกุ้งทอด ฟองเต้าหู้ห่อเนื้อนึ่ง” ไอ้โปรดสั่งบ้าง

“เอาอย่างละสองที่..รีบจดเลย เดี๋ยวไม่ทันมัน” มันพูดติดตลกทำเอาผมกับไอ้คินหัวเราะ

“สมุทรจะกินอะไรก็สั่งตามสบายเลยนะ” ไอ้คินบอก

“ขอบคุณครับ” สมุทรผงกหัวนิด ๆ  แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะสั่งอยู่ดี

“พลอย..เอาปลิงทะเลไหม ?” ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะ  พลอยหันมามองผมตาขวาง

“ฉันหมายถึงปลิงทะเลน้ำแดงน่ะ” ผมอมยิ้มเจ้าเล่ห์ขยายความให้ฟังทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดงทันที

“เอาหอยเชลล์ผัดซอส แล้วก็เปาฮื้อด้วยค่ะ” พลอยสั่งด้วยน้ำเสียงงอนเล็ก ๆ  ด้วยความที่เธอนั่งฝั่งขวามือติดกับผม ๆ จึงนำเท้าสอดเข้าไปสะกิดขาเธอเบา ๆ

“ไฟ!” พลอยถลึงตาโตปราม  ผมเบะปากยิ้ม ๆ พลางยักไหล่ให้ก่อนพิงพนักเก้าอี้มองหน้าเธอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2016 16:29:20 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยบทสนทนาเรื่องทั่ว ๆ ไปโดยส่วนใหญ่ไอ้คินจะชวนเปิดประเด็นซะมาก  อาหารเต็มโต๊ะจนแทนล้นไม่มีที่วาง  ผมได้แต่นั่งเงียบรับฟังและอือออตอบบ้างเป็นระยะเท่านั้น  เพราะมีคนอื่นพูดแทนแล้วผมก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดให้มาก  ส่วนพลอยก็ชวนสมุทรคุยตลอดที่มีโอกาส  ดูเธอจะสนใจสมุทรมากจริง ๆ  อาหารที่สั่งมามากนั้นเหมือนจะกินไม่หมดแต่ก็ถูกตักตอดเข้าปากไปทีละนิด  พลอยคอยตักเสิร์ฟให้สมุทรตลอดเวลาแต่เจ้าตัวไม่ค่อยกินเท่าไหร่นัก  ดูไม่เจริญอาหารแต่อีกฝ่ายก็ตักอาหารให้พลอยบ้างเช่นกัน  การกระทำแบบนั้นของทั้งสองคนทำให้ไอ้โปรดชำเลืองมองด้วยสายตาแปลก ๆ มาทางผมคล้ายอยากได้คำอธิบาย  ผมนิ่งเฉย  เรียกว่ามาเพื่อแดกอย่างเดียวเลยก็ว่าได้

“ยังจับมือปืนที่ยิงวันนั้นไม่ได้อีกเหรอวะ” ไอ้โปรดบ่น  มันเริ่มลงมือกินขนมหวานตบท้าย 

“อืม” ผมพยักหน้าตอบไม่มองหน้าใคร 

“ไฟถูกดักยิงอีกแล้วเหรอ” พลอยอุทานด้วยความตกใจ

“ทำไม..เป็นห่วง ? เปิดห้องเลยไหมละ” ผมหันไปมองหน้าเธอพลางกวนไปเคี้ยวอาหารในปากไป  ไอ้โปรดกับไอ้คินได้แต่อมยิ้ม  พลอยค้อนเล็กน้อย  ขณะเดียวกันผมสังเกตเห็นทางหางตาว่าสมุทรหันไปมองทางด้านขวามือของเขา  เจ้าตัวนิ่งผิดปกติทำให้ผมต้องมองไปที่ต้นเหตุ  ผู้หญิงที่ชื่อหยาปรากฏตัวในร้านนี้พร้อมกับผู้ชายแปลกหน้าที่ผมไม่เคยพบมาก่อน  ฝ่ายตรงข้ามก็ดูตกใจเช่นกันที่เห็นสมุทรอยู่ที่นี่ด้วย 

“สมุทรอิ่มแล้วเหรอคะ เอาของหวานไหม” พลอยยิ้มเอาใจเหมือนเดิมไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว

“อิ่มแล้ว ไม่ครับ..ขอบคุณ” สมุทรหันกลับมาผงกหัวยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน  ผมหัวเราะขึ้นจมูกกับสิ่งที่เห็น   

“ใครเหรอคะ” พลอยถามตรง ๆ  คงเพราะเห็นว่าหยาจ้องมาที่พวกเราไม่วางตา  พอเธอสบตาเข้ากับผม  เธอก็หลบตาผมอีกเหมือนเคย

“เพื่อนน่ะครับ” สมุทรตอบ  ผมจิ้มเป็ดปักกิ่งชิ้นสุดท้ายมากินเปล่า ๆ  พลอยมองตามด้วยสีหน้าแปลก ๆ อีกแล้ว

“กินเยอะไปแล้วนะ” ดูเธออดทนว่าไม่ได้

“ทำอย่างกับไปตายอดตายอยากมาจากไหน” พลอยบ่นเสียงเบา

“เสียดายของ” ผมพูดส่ง ๆ  ชำเลืองเห็นสมุทรหยิบโทรศัพท์ออกมา  หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาสว่างเตือน  ขณะเดียวกันผู้หญิงที่ชื่อหยาก็เดินออกจากร้านไป  ส่วนผู้ชายที่มากับเธอยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังสั่งอาหารอยู่ 

“พลอยไม่มีงานต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วเหรอ” ไอ้คินถาม

“ช่วงนี้ไม่มีแล้วค่ะ ที่ไปรอบก่อนนั่นก็ไปเคลียร์ครั้งใหญ่เลย เบื่อจะไปเต็มแก่แล้ว” พลอยตอบ  ผมหยิบน้ำขึ้นดื่มโดยสังเกตท่าทางของสมุทรอยู่ตลอด

“เอ่อ..คุณไฟครับ” เขาหันมาจนได้  ทุกคนหยุดคุยและมองไปที่เขาเป็นตาเดียว

“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่ได้ไหมครับ” สมุทรพูด  ผมพยักหน้าอนุญาต

“ขออนุญาตนะครับ” เขาบอกทุกคน  ผงกหัวน้อย ๆ ก่อนลุกจากที่นั่งออกจากร้านไป  พลอยมองตามหลังจนลับตา  ด้วยนึกหมันไส้ผมจึงลุกขึ้นแล้วเข้าไปคว้าหน้าของเธอมาก่อนกดปากจูบปากของเธอลงอย่างแรง

“อื้อ!” พลอยหน้าหยีด้วยความตกใจ  เมื่อได้สติก็พยายามที่จะสู้แรงผลักผมออก

“อื้อออ ม๊วบ! ฮ้า~” ผมแกล้งทำเสียงกวนอารมณ์ก่อนยอมปล่อยหน้าเธอออก

“ไฟ! ไอ้บ้า!!” เธอโวยวายหน้าเสีย  ผมแสยะยิ้มพลางนำลิ้นออกมากัดขำ ๆ  ทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม  ปากของเธอแรงระเรื่อจากการถูกกดทับ  ไอ้คินกับไอ้โปรดได้แต่ยิ้มกว้าง  มันสองคนกลั้นหัวเราะไว้เต็มที่  ส่วนพลอยหน้าแดงก่ำปิดเงียบปากไปแล้ว

“เตือนแล้วว่าต่อหน้าฉันนี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย” ผมพูดนิ่ง ๆ  เหล่ตามองไปที่พนักงานที่คล้ายกับมองพวกเราอยู่  พวกมันก้มหน้างุดหนีสายตาผมในทันที

“ชี่! ไอ้ไฟ พนักงานโรงแรมกูกลัวมึงหัวหดกันหมดแล้ว” ไม่รู้ว่าไอ้คินมันบ่นหรือปรามอยู่กันแน่

“ถ้าพลอยเป็นข่าวขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ไฟจะรับผิดชอบงั้นเหรอ” พลอยวางมาดอีกครั้ง

“ฮึ..กับอีแค่ตัวอักษรที่เขียนเรื่องไม่จริงบนกระดาษ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องแคร์สักหน่อย” ผมตอบ

“สุภาพบุรุษสุด ๆ” เธอบ่นอุบอิบ

“พลอยก็ไม่น่าไปเล่นกับมันแต่แรกอยู่แล้วครับ เล่นกับหมา ๆ เลียปาก” ไอ้โปรดพูดปนหัวเราะ

“นั่นสินะคะ” พลอยอมยิ้มหน้าทะเล้นที่มีคนช่วยสมทบเธอ

“ที่จริงกูก็ไม่ได้เลียแค่ปากน่ะนะ..” ผมย้อนด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ ทันควัน  ไอ้โปรดกับไอ้คินอ้าปากเหวอที่ได้ยินประโยคนี้  พลอยหันขวับมา  หน้าแดงหูแดงหนักกว่าเดิม

“โกรธเหรอครับ จะให้เลียให้ตรงนี้เลยไหมละ แบบที่คุณชอบน่ะ” ผมยิ้มหน้าตาย 

“เหมือนกูได้ดูหนังเรทอาร์บนโต๊ะอาหาร” ไอ้คินบ่น  มันถอนหายใจซะแรง  ผมฉีกยิ้มมองพลอยด้วยความหลงใหล  เวลาที่เธองอนก็น่ารักดี   

“งั้นก็เสียใจด้วยแล้วกันที่นายจะไม่ได้แตะต้องตัวฉันอีก” พลอยกระแทกเสียงด้วยความเชิดหยิ่ง  คำพูดของเธอที่ตอบกลับมาต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผมนอนด้วย  แน่นอนว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะไม่ตอบหรือมีท่าทีเช่นนี้

“หึ ๆ  มันอยู่ที่ว่าฉันอยากจะแตะหรือไม่อยากแตะต่างหากล่ะ” ผมพูด

“ไฟ!!” พลอยหันมามองผมอึ้ง ๆ  ครั้งนี้ดูท่าจะงอนจริง 

“ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอเตือนด้วยน้ำเสียงงอน ๆ  ผมยิ้มน้อย ๆ มอง  พลอยหันหน้าหนีไปแล้ว  ผมถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนโน้มตัวเข้าไปหาเธอ


จุ๊บ~   ..ผมลูบผมของเธอไว้อย่างเบามือพร้อมหอมลงที่หัวของเธอเบา ๆ  เจ้าตัวยังคงนั่งนิ่งเฉย

“ขอโทษครับ” ผมกระซิบบอก

“เดี๋ยวมา..ไปฉี่” ผมตัดบทด้วยน้ำเสียงอีกโทนหนึ่งโต้ง ๆ  จ้ำเท้าเดินออกมาเลย 

“ไอ้คนสองบุคลิก!” เสียงพลอยบ่นไล่หลังคล้ายหงุดหงิด  ผมถามพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่หน้าร้านว่าสมุทรออกไปทางไหน  ก็แน่ละ..ผมไม่คิดหรอกว่าเขาขอตัวออกมาห้องน้ำจริง ๆ  พอทราบทางแล้วจึงเดินตามไป  ฝั่งนั้นเป็นทางบันไดหนีไฟซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับทางไปห้องน้ำชายพอดี

“มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะครับหยา” เสียงสมุทรดังแว่ว ๆ  และชื่อที่ถูกเรียกที่รู้จักทำให้แน่ใจว่าเป็นเขา  ผมหยุดยืนอยู่ตรงปากประตูทางเข้าห้องน้ำซึ่งมีกำแพงที่สามารถกำบังให้ผมเสือกได้อย่างพอดิบพอดี

“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ” หยาย้อนตอบ  น้ำเสียงของทั้งคู่เป็นการพูดคุยปกติแต่ลึก ๆ ฟังดูแล้วตัดพ้ออยู่ไม่น้อย
 
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับใคร มันเกี่ยวกับเราสองคน” สมุทรตอบ  หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เงียบลงสักพักหนึ่ง

“ผู้หญิงคนนั้นดูดีนะ” หยาพูด  หัวเราะทิ้งท้ายนิด ๆ

“นั่นเป็นเพื่อนของเจ้านายครับ ต้องให้ผมพูดคำ ๆ นี้ย้ำอีกกี่ครั้ง” สมุทรพูดเสียงแข็ง 

“สมุทรก็รู้ว่าหยายังรักสมุทรอยู่” เธอย้อนหน้าเศร้า

“หยา..” อีกฝ่ายย้ำเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงคล้ายกับบอกให้เธอหยุด

“ที่นั่งอยู่ในนั้นนั่นคู่หมั้นคุณนะครับ”   

“ถ้าสมุทรดึงดันอย่างที่ทำอยู่นี้สักนิด เราสองคนก็คงไม่เป็นแบบนี้” เธอขึ้นเสียง  ผมยืนพิงผนังฟังสบาย ๆ  เพราะเป็นบทสนทนาที่ได้ยินค่อนข้างชัดจนไม่ต้องพยายามเลยทีเดียว 

“ที่จริงสมุทรไม่ได้รักหยาด้วยซ้ำ..ใช่ไหมล่ะ ก็แค่พูดออกมา” เธอต่อว่า

“ผมรักหยา” สมุทรย้อนทันที  อยู่ ๆ  ใจผมก็เป็นบ้า  มันเต้นแรงขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ

“หยาก็รู้ว่าผมพร้อมจะอยู่ข้าง ๆ หยา แต่..เราสองคนก็แค่เลือกทางเดินกันคนละทางเท่านั้น”

“หึ..แก้ตัวแบบนี้มันไม่ตลกเลยนะ” หยาพูดปนหัวเราะ  เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างใจเย็นพอสมควร  ผมฟังดูจากน้ำเสียงน่ะนะ  คิดว่าเธอน่าจะเป็นคนฉลาดพอดู

“งั้นหยาจะให้ผมทำยังไงครับ ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้”

“มันเป็นไปไม่ได้เพราะสมุทรไม่อยากให้มันเป็นไปต่างหากล่ะ” หยาย้อนทันควัน

“ทำไมสมุทรไม่ห้ามหยาสักนิดเวลาที่หยาบอกว่าจะแต่งงาน” เธอพูดเสียงเครือ  สมุทรเงียบไปครู่

“เราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะครับ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว หยาทำแบบนี้..พี่แชมป์เขาจะรู้สึกยังไง” สมุทรพูดเชิงต่อว่า

“อ๋อ..หยาผิดงั้นเหรอ” เธอขึ้นเสียงอีกครั้ง  ครั้งนี้ลักษณะต่างจากก่อนหน้า 

“หยาก็แค่อยากได้ยินสมุทรพูดออกมาตรง ๆ ว่าตอนนี้สมุทรมีคนอื่น”

“ผมไม่มีใคร” สมุทรพูด  น้ำเสียงยังคงเย็นนุ่มเช่นเคยแม้ในสถานการณ์แบบนี้

“งั้นถ้าหยาถอนหมั้นล่ะ” หยาถามด้วยแววตามีหวัง 

“ถึงหยาถอนหมั้น สำหรับผม..ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม” สมุทรบอก  ครั้งนี้อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ  ผมจ้องมอง  สมุทรเอื้อมมือลูบที่ศีรษะของเธอไว้อย่างอ่อนโยน

“ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าหยายังไง” หยากำมือตีสมุทรทำให้น้ำตาคลอไหลออกมา

“หยาครับ..แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ” สมุทรปลอบ  อยู่ ๆ เธอก็ทำท่าจะเข้าไปกอดสมุทรแต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบนิดหน่อย  เสียงพูดคุยดังขึ้นทำให้ต่างฝ่ายต่างหยุดชะงัก  สมุทรหันกลับมามองทางปากประตูร้านอาหารอย่างระแวง  เสียงเงียบไปแล้ว  หยาผลักเขาออกด้วยความโกรธก่อนเดินตรงเข้าห้องน้ำหญิง  สมุทรเดินไปหยุดยืนรอเธออยู่ที่ปากทางเข้าอยู่สักพักหนึ่งจนหยาเดินออกมา  ครั้งนี้เธอไม่มองสมุทรแล้ว  หยาจ้ำฝีเท้าตรงกลับเข้าร้านทันที  คนเดินตามหลังหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูร้านอาหารพลางถอนหายใจ  เขาทิ้งช่วงยืนอยู่ตรงนั้นประมาณสองสามนาทีให้หลังก่อนจะกลับเข้าร้านไปอีกคน
 
“ไอ้อาการอยากรู้อยากเห็นนี่คืออะไร ?” ผมบ่นพลางบิดขี้เกียจแล้วยืนพิงกำแพงอยู่ต่ออย่างนั้น

“เป็นไรรึเปล่า” ผมเกือบสะดุ้งหันไปมอง  ไอ้โปรดมายืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ 

“กูมาฉี่นี่กูต้องเป็นไรด้วยเหรอ” ผมพูดหน้าตาเฉยพร้อมยืนตั้งตัวดี ๆ

“อ๋อ..มึงฉี่นานขนาดนี้ ค-ยมึงยาวสามร้อยเมตรเหรอไอ้สาด” มันว่า  ผมหัวเราะ  เดินตรงไปที่อ่างล้างมือ  ห้องน้ำไม่ค่อยมีใครใช้นัก  คงเพราะว่าในร้านอาหารเองก็ไม่ค่อยมีลูกค้าในช่วงเวลานี้

“สมุทรกับพลอยนี่ยังไงวะ” ไอ้โปรดเปิดประเด็น  ผมเงียบ

“เธอดูสนใจสมุทรออกนอกหน้าเลย แล้วมึงก็รู้” มันขมวดคิ้วนิด ๆ งงกับสิ่งที่เห็น

“ก็สนใจไง มันก็เรื่องของพลอย” ผมพูดได้แค่นั้น

“........” ไอ้โปรดเงียบไป  ตามองผมเขม็งอย่างเอาความทำให้ผมถอนหายใจแรง

“เลิกถามเรื่องนี้ได้ไหมวะ ทั้งมึงทั้งพี่ธานเลยน่ารำคาญฉิบหาย” ผมบ่น

“เอาจริงดิ นี่มึงชอบสมุทรเหรอวะ” ไอ้โปรดพึมพำด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“หะ ?” ผมขานตอบงง ๆ

“หะ ?” ไอ้โปรดเลียนเสียงตามผม  เราต่างมองหน้ากัน

“คนนี้ใช่ไหมที่มึงถามถึงก่อนหน้านี้น่ะ” มันวิเคราะห์  ผมกลอกตาดำขึ้นมองไอ้โปรดผ่านกระจกก่อนจะหันตัวกลับไปประชันหน้ามันตรง ๆ 

“มันมีอะไรที่ทำให้จมูกมึงดมกลิ่นได้ไวขนาดนั้นเลยรึไง” ผมพูดอย่างสงสัย

“แน่นอนว่ามี” ไอ้โปรดผงกหัวกวน ๆ  เหมือนเราจะเล่น ๆ กันอยู่แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างจริงจังกันพอดู 

“ถ้าเป็นพลอย มึงไม่มีทางตามออกมาแบบนี้แน่” ไอ้โปรดพูด  เรามองหน้ากันแทบไม่กะพริบตา  ผมถือว่ามันอ่านออกทุกอย่างเร็วดีจริง ๆ 

“เอาจริงนะมึง...” มันเอ่ยเป็นงานเป็นการพร้อมผายมือขึ้น  ผมเงียบรอฟัง  ดูท่าแล้วมันคงจะไม่ปล่อยผมไปง่าย ๆ แน่ถ้าไม่ได้ความ

“นั่นแม่งโคตรแมนเลยนะเว้ย ให้อารมณ์แบบ..ถ้าเป็นพ่อของลูก ก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีอะ คือกูก็พอรู้อยู่หรอกว่ามึงชอบคนลักษณะแบบนี้ กูจะไม่ห้ามด้วย..แต่ที่กูจะบอกคือ กูไม่ได้กลิ่นแปลก ๆ เลยสักนิดว่ะ” ไอ้โปรดไม่พูดเปล่า  มันทำท่าขยับจมูกเหมือนหมาประกอบด้วย

“จริง ๆ แล้วพี่ธานก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีนะ แต่กูก็ไม่ได้อยากมีอะไรกับพี่ธานเหมือนกัน” ผมอ้างประชดถึงกรณีตัวอย่าง 

“หึ..สำหรับพี่ธานกูจัดให้อยู่อีกหมวดนึง” ไอ้โปรดเบะปากยักไหล่ 

“กูพอจะเข้าใจอารมณ์มึงอยู่ เวลาที่เห็นอีกฝ่ายเขินมันน่ารักจนอยากจับแดกน่ะ แต่..แบบนี้แดกยากนะมึง เผลอ ๆ มึงจะไม่ได้แดกซะอีก” ไอ้โปรดเตือน  ผมหัวเราะน้อย ๆ  สมุทรเป็นคนที่เขินอายคนอื่นค่อนข้างง่ายมาก  เวลาที่ถูกแซวอะไรเขามักจะยิ้มในลักษณะให้อารมณ์เก้อเขินอยู่นิด ๆ เสมอ

“.........” เราเงียบ  ห้องน้ำแม่งก็เงียบ  ในหัวผมก็เงียบไปหมด   

“บางทีกูอาจจะมีวิธีทำให้ตัวเองได้แดกก็ได้นะ” ผมเบะปากพูดขึ้น

“โอ้ คุณไฟผู้มั่นใจในตัวเองกลับมาแล้ว” ไอ้โปรดผายมือออกกว้างทำหน้าทะเล้นแซว

“มึงรู้อะไรไหม เมื่อกี้น่ะ..มึงดูไม่มั่นใจตัวเองสุด ๆ เลยว่ะ” มันยิ้มมองผมด้วยแววตาสนุกสนาน  ผมไม่เถียง

“งั้นทำไมมึงไม่จีบเขาดี ๆ ไปเลยวะ”

“กูจีบแล้ว” ผมถอนหายใจเอือม ๆ  แม่งชักขี้เกียจจะพูดถึงประเด็นนี้แล้วนะครับ

“จีบห่าอะไร เจ้าตัวเขาพูดเองว่ามึงชอบหยอกชอบแกล้งเขาติดเป็นนิสัย ..เสีย” ไอ้โปรดประชด

“มึงถามมาเหรอ” ผมตกใจ

“เออ”

"กูจีบอยู่..แต่คนอย่างนั้น ถ้ากูไม่ทำแบบนี้มึงจะให้กูจีบยังไง เออ..ถ้าแม่งพูดง่าย ๆ เหมือนชวนมึงว่า รบกวนสละเวลามาขึ้นเตียงกันหน่อยเถอะครับ ได้กันแล้ว ๆ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาคิดกันอีกทีว่าเข้ากันได้ไหม..งี้ก็ว่าไปอย่าง" ผมบ่นด้วยน้ำเสียงขึ้น ๆ ลง ๆ

“กูไม่ได้ง่าย ไอ้เหี้ย!” ไอ้โปรดสบถพร้อมเตะขาเข้ามาที่ขาผมเขิน ๆ 

“อีกอย่าง..มึงก็พูดอยู่ว่าติดเป็นนิสัย” ผมขมวดคิ้วยอมรับ  ไอ้โปรดหัวเราะ

“เวลาอีกฝ่ายทำท่าไม่พอใจตอนกูบังคับให้ทำอะไร แม่งถูกใจกูฉิบหาย” ผมบอกตรง ๆ

“สัตว์..แต่ทีคนอื่นทำท่าไม่พอใจใส่ มึงเกือบแดกเขาเนี้ยนะ” ไอ้โปรดส่ายหัวบ่นอย่างไม่เข้าใจ  ข้อนี้ผมก็ไม่เถียงอีกนั่นละ

“งั้นกูมีทางลัด..” มันเอ่ย  ผมรอฟังด้วยความตั้งใจ  ถึงแม้เพื่อนผมคนนี้จะสมองน้อยแต่ไม่แน่ว่าเผื่อจะช่วยอะไรได้ก็ได้

“อันนี้นี่หลังจากทำแล้วมึงมักจะจีบได้เร็วสุด กูเห็นในละครเขาทำกัน” ไอ้โปรดทำหน้าเชื่อมั่น

“ปล้ำแม่งเลย พิศาลไง..Safe house มึงก็มีออกเยอะแยะ”   

“ไอ้สัตว์ หึ ๆ” ผมส่ายหัวขำ ๆ

“ทางมึงเลยนี่ จิ! แต่แม่งคงยากหน่อยว่ะ ดูจากทรงแล้ว..เป็นมวยด้วยใช่ไหม ? ไอ้ฉิบหายเอ๊ย เตียงพังซะมั้ง” ไอ้โปรดเท้าเอวบ่นด้วยสีหน้าหนักใจแทนผม  แต่มันดันทำให้ผมหัวเราะ  ไม่รู้ว่าตกลงเพื่อนผมมันทำหน้าเครียดกับประเด็นก่อนหรือหลังกันแน่  ฟังแล้วงงไปหมด

“ถามหน่อยดิ..” มันเอ่ย  ผมพยักหน้าอนุญาต

“อันที่จริงกูก็ไม่เคยคิดมาก่อนหรอกนะว่าจะต้องมาตั้งคำถามแบบนี้กับมึง คือ..อยู่ดี ๆ แม่งก็เป็นประเด็นน่าศึกษาสำหรับกูเลยว่ะ กูก็พอรู้ว่าแบบไหนที่มึงชอบ แต่ก็ไม่เคยมองภาพออกเป็นรูปเป็นร่างเลยว่าคนที่มึงเลือกจะเป็นคน ..แบบนั้น” มันจ้องตาผมเขม็ง  ผมนิ่งเฉยรอคำถาม

“มันทำให้กูมีคำถามน่ะ..ว่า ถ้าอีกฝ่ายรุก มึงก็ยอมรับได้รึเปล่าวะ” ไอ้โปรดถามด้วยสีหน้าจริงจัง  ผมแสยะยิ้มมุมปากทันที

“นั่นใช่ปัญหาสำหรับกูเหรอ...” ผมเลิกคิ้วตอบอย่างไม่แคร์  ไม่เคยคิดเรื่องนี้ในหัวเลยด้วยซ้ำ  ดังนั้นถือว่าไอ้โปรดตั้งประเด็นได้น่าสนใจสำหรับผมทีเดียว

“เป็นปัญหาสำหรับอีกฝ่ายมากกว่ามั้ง” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์  ไอ้โปรดหลุดยิ้มออกมาทีละนิด

ถ้าผมได้สมุทรมาเป็นของผมจริง ๆ  อย่างเดียวที่ผมแน่ใจเลยคือผมจะไม่ปล่อยให้ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของเขาลอยนวลไปอย่างแน่นอน  ใช่..ผมหลงร่างกายของเขามากกว่าหน้าของเขาซะอีก  ในทางกลับกันอย่างที่ไอ้โปรดถาม  ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะเป็นฝ่ายรับ  เพราะตรรกะง่าย ๆ ของผมคือผมชอบทำ  ผมชอบใส่ของ ๆ ผมเข้าไปในตัวคนอื่น  ผมไม่ได้ต้องการความเป็นผู้นำเพราะมันเหนื่อย  แต่ในหัวของผมมีแต่ความต้องการแบบนั้น  มันเป็นอารมณ์ที่สร้างความอิ่มเอมในชีวิต  ในขณะเดียวกันผมไม่เคยปฏิเสธหรือขยะแขยงในการถูกให้เป็นฝ่ายรับ  ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่านั่นคือประเด็นที่เป็นปัญหา  ความจริงกว่านั้นคือไม่ว่าคู่นอนที่เข้ามาในชีวิตผมจะแมนแค่ไหนก็ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าที่จะบังคับให้ผมเป็นแบบนั้นได้  ถึงแม้จะมีบางคนกล้าเอ่ยปากขออยู่บ้างซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติ  แต่เมื่อผมเงียบก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรต่อ  ไม่ได้โกรธหรอก ไม่ได้ไม่ชอบ ไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้รู้สึกว่าตนเสียศักดิ์ศรีในความเป็นชายแต่อย่างใด  แต่แค่ไม่ได้ให้สิทธิ์ก็เท่านั้น  บางทีใบหน้าของผมมันคงมีความหมายตอบให้คนพวกนั้นไปโดยนัยยะว่า.. อย่าเอาหน้าแบบนั้น  มาสะเออะกล้าขอสิทธิ์ที่ควรได้รับมากเกินไป ละมัง

“ถือว่าตอบได้ดี” ไอ้โปรดพึมพำผงกหัวขึ้นลง

“มึงนี่จิตใช้ได้เลยกูชอบ” มันชมตาวาวคล้ายเหลือเชื่อ

“กูไม่ได้โรคจิตแบบมึงครับ กูแค่พูดว่า..นั่นไม่ใช่ปัญหาของกู” ผมแสยะปากส่ง ๆ ไปที

“งั้นปัญหาแรกตอนนี้คือ มึงทำให้เขาชอบมึงให้ได้ก่อนเหอะ!” อยู่ ๆ ไอ้โปรดก็สบถออกมาซะดัง  ผมหัวเราะร่วน

“บางทีมันอาจจะชอบกูแล้วก็ได้นะ” ผมเบ้ปากตอบ  เพื่อนรักกลอกตาทำหน้าเอือมจัด

“เร็ว ๆ นี้ต้องชอบกูแน่ ๆ” ผมกัดฟันพร้อมฉีกยิ้มกว้าง  สยามเมืองยิ้ม

“กูจะรอดูนะ” ไอ้โปรดถอนหายใจพร้อมผายมือมาให้

“ขอบคุณครับ” ผมผงกหัวจับมือมันตอบอย่างนักธุรกิจ  เราผละมือออกก่อนเข้าไปทำธุระส่วนตัว  เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกันด้วยสีหน้าชื่นมื่นปกติ  ไอ้คินบ่นทักอยู่บ้างที่พวกผมหายหัวกันมานาน  แน่นอนว่าสมุทรเองก็มองผมด้วยสายตาที่ดูสงสัยเป็นอย่างมาก 

“น้อง..คิดเงินเลย” ไอ้โปรดกวักมือส่งสัญญาณให้พนักงาน 

“มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง ฉลองหน่อย” ไอ้โปรดทำเสียงกระเส่า  ยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าสมุทร  คนถูกมองใบหน้าเปื้อนยิ้มน้อย ๆ ไม่กล้าสบตาไอ้โปรดมากนัก  ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งลงพลางแสยะยิ้มกว้างไม่ว่าอะไร  ก็ผมชอบเพื่อนผมจะตาย..หึ   

“เรื่องอะไรวะ” ไอ้คินขมวดคิ้วสงสัย

“เรื่องที่พ่อมึงจับได้ว่ามึงแอบดูผู้หญิงแก้ผ้าตอนเจ็ดขวบมั้ง” ไอ้โปรดทำหน้าแขยง
 
“ไอ้โปรด ปากมึงแม่ง” ไอ้คินด่าเขิน ๆ

“ไฟ..เดี๋ยวให้สมุทรไปส่งพลอยได้ไหม” พลอยถาม 

“เอ่อ เดี๋ยวผมต้องไปส่งคุณไฟนะครับ” สมุทรพูดแทรก  พลอยมองสมุทรหงอย ๆ  ก่อนหันมาค้อนใส่ผมอีกครั้งคล้ายบังคับกลาย ๆ

“อยากให้มันไปส่ง ?” ผมพูดห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง  ชี้นิ้วไปที่สมุทรด้วยสีหน้ากวนเบื้องต่ำต่อหน้าทุกคน  หน้าของพลอยถอดสีเลิ่กลั่ก

“มีอะไรแลกเปลี่ยนล่ะ” ผมเท้าศอกลงบนโต๊ะ  เทินหน้ามองไปทางพลอย  ปลายเท้าที่อยู่ใต้โต๊ะเกลี่ยอยู่ที่ข้อเท้าของเธออย่างจงใจแกล้ง  พลอยชะงัก 

“อยากไปไหมล่ะ” ผมช้อนตาขึ้นเจาะจงถามสมุทร  เขาเหสายตาลงอย่างเกรงใจ

“ไปด้วยกันนะคะ” พลอยเอี้ยวตัวไปยิ้มชวน

“ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องทำงานนะครับ” สมุทรตอบ

“ดีแล้วล่ะ จำไว้ว่าชีวิตจะรุ่ง..งานต้องมาก่อนผู้หญิง” ผมกระแทกเสียงพร้อมปรบมือชมดังลั่นร้านดัง “แปะ ๆ ๆ!” จนคนในร้านหันมามองกันหมด 

“หึ ๆ ๆ” ไอ้โปรดกับไอ้คินส่ายหัวปิดปากกลั้นหัวเราะ  ส่วนพลอยกัดริมฝีปากหน้าหงิกหน้างอไปแล้ว

“จับเงิน..ต้องจับให้ได้บ่อยกว่าจับถุงยาง ถ้าหากจับถุงยางบ่อยกว่าเงิน ถุงยาง..จะต้องทำเงินได้” ผมพูดตาลอย 

“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้เหี้ยนี่” ไอ้โปรดหลุดขำเป็นจริงเป็นจัง  พลอยเหมือนจะพูดไม่ออก  เมื่อเราลุกขึ้นผมจึงคว้าเอวเธอเข้ามากอดเพื่อให้เดินไปด้วยกัน  เจ้าตัวไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืนคงเพราะอายสมุทรนั่นละ  ครั้งนี้ผมเลือกที่จะไม่ยอมให้สมุทรเดินไปส่งพลอยที่รถแม้พลอยจะเอ่ยขอ  ตัวสมุทรเองก็ฟังคำสั่งผมเป็นอย่างดี  บางทีการที่เราใช้หน้าที่กระตุกเชือกที่ปลอกคอกับคนของเราอาจเป็นเรื่องที่ควรทำในบางสถานการณ์น่ะนะ

.. สมุทรตามผมมาที่รถและกุลีกุจอเปิดประตูรถให้  รถขับเคลื่อนตัวออกมาทั้งอย่างนั้นโดยมีพลอยยืนหน้าบึ้งใส่ผมจนลับตา  บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปเป็นอย่างกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้หมุนวนกลับมาทักทาย  ผมไม่พูดและเขาไม่เอ่ย 



............(ไฟ)............



ขอบคุณค่ะ
เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2020 11:20:00 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
บรรยากาศระหว่างสมุทรกับคุณไฟแลดูอึมครึมกระอักกระอ่วนได้อีก
ว่าแต่สมกับที่เป็นโปรดนะ จมูกไวยิ่งกว่ากังฟู 
ชอบที่โปรดคุยกับคุณไฟนะ 
เหมือนเพื่อนที่รู้ใจ ช่วยเติมพลังใจให้ฮึดสู้ในวันที่ห่อเหี่ยว   
ถ้าเราเป็นคุณไฟนี่สารภาพเลยว่าคงถอดใจยอมแพ้ไปนานแล้ว
เพราะดูท่างานนี้คงไม่มีวันได้กินแน่ๆ แมนซะขนาดนั้น
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทางเดียวที่น่าลองคือทุบหัวยัดใส่กระสอบลากเข้าถ้ำ
พูดเล่นไป สมุทรหน้าหล่อ ตัวอย่างกะยักษ์ หมัดหนัก สู้กันคงสูสี
เห็นแววคุณไฟน่วม อ่วมทั้งกายและใจ 5555555555555
สู้เค้านะ คนอ่านลุ้นอยู่

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่ไฟ #ปากหมา #ขี้อ่อย #ถ่อยไม่เลือกจริงๆ 55555

บางทีก็แอบเห็นใจพี่ไฟนะ คือไม่นิ่งเพราะสมุทรนี่ เสียความเป็นพี่ไฟไปเยอะเลย สมุทรบอก #ผมเกี่ยวไรด้วย XD

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด