The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446102 ครั้ง)

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

[ จ. 22 ส.ค 59 ] ตอนที่ 26 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.840

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _



ตอนที่ 27
..ไฟ..



7:30 น.
“เอาอันนี้ตั้งโต๊ะเลยนะครับ” ผมชะงักเท้าทันที  ได้ยินเสียงสมุทรดังออกมาจากในห้องครัวจึงพลิกนาฬิกาข้อมือดู
 
“พี่สมุทร ฝากนี่ด้วยครับ” พายุพูด

“หิวแล้ว!” ผมแทบสะดุ้ง  หันไปมองทางด้านหลังก็พบว่าไอ้ดินโหวกเหวกวิ่งลงมาด้วยความรวดเร็ว


เพี้ย!   ..พอไอ้ดินเข้ามาใกล้มือ  ผมก็ฟาดปรามไปที่หัวมันเต็มแรงจนเจ้าตัวตัวเซหน้าแทบทิ่ม

“เดินให้มันดี ๆ ได้ไหม ตกบันไดนี่ไม่เข็ดสินะ” ผมบ่น  สมัยเด็ก ๆ มันตกบันไดเป็นประจำเพราะชอบวิ่งแบบนี้จนถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาลมาแล้วหลายครั้ง  จะเด็กหรือโตแม่งก็เหมือนเดิม 

“ดินยังไม่ตกสักหน่อย นี่เฮียมาตีก็เลยเจ็บเลยเนี่ย” มันจับหัวบ่นหน้างอ  ผมส่ายหัวพลางถอนหายใจ  ขณะเดียวกันสมุทรก็เดินออกมาจากฝั่งของห้องครัวพร้อมกับถาดอาหาร  พายุตามมาติด ๆ  เขาผงกหัวยิ้มทักทายเล็กน้อย  ผมเพียงมองอาหารบนถาดโดยไม่ได้มีปฏิกิริยาในการทักตอบ  เมื่อเข้าห้องอาหาร  ไอ้ดินอ้าปากหาวนั่งลงประจำที่  แม่บ้านและสมุทรช่วยกันจัดโต๊ะ  เขาเหลือบมามองหน้าผมครู่หนึ่ง  สีหน้าคล้ายสำรวจหาสิ่งผิดปกติจากใบหน้าผมสักอย่าง  ขณะนั้นพี่ธานก็เดินเข้ามาพอดี  ดูท่าคงอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว

“อ่าวสมุทร มาแล้วเหรอ” พี่เขาทัก

“ครับ ผมเอาขนมเปียกปูนมาให้น่ะครับ ทำเสร็จเมื่อเช้าก็รีบเอามาเลย” สมุทรยิ้มตอบ
 
“คุณไฟชอบ” พี่ธานถลึงตาดีใจแทนผมอย่างโจ่งแจ้ง  ผมนั่งนิ่งมองพลางหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“แต่หวานไหมล่ะ คุณเขาไม่ชอบกินหวานเท่าไหร่” พี่ธานเลื่อนเก้าอี้ออก

“เอ่อ ไม่หวานมากหรอกครับ” สมุทรแบ่งรับแบ่งสู้ตอบ  สายตาเหลือบมองหน้าผมด้วยท่าทางลังเล 

“หอมใบเตยมาก ๆ เลยค่ะ ขนมไทยทำสดใหม่นี่ดีจริง ๆ นะคะ” ป้าอิ่มยิ้มพร้อมนำจานขนมเปียกปูนขนาดกลางวางลงตรงหน้าผม  ส่วนอีกจานวางอยู่กลางโต๊ะระหว่างที่นั่งของพี่ธาน

“กินข้าวเช้ามารึยัง” อีกฝ่ายถามสมุทรอีกครั้ง

“เรียบร้อยแล้วครับ” สมุทรยิ้มน้อย ๆ

“แสดงว่าตื่นเช้ามากเลยสินะ” พี่ธานหัวเราะเหลือบตามามองผมอย่างเจ้าเล่ห์  ก็นะ..ตอบปัดไม่ได้ว่าผมชอบคนตื่นเช้า  อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอุ่นใจดี

“งั้นผมขอตัวนะครับ”

“ขอบคุณนะครับ” พายุพูด  สมุทรไม่ตอบและอีกทั้งผมไม่ได้มองด้วยว่าเขาทำหน้าเช่นไรอยู่  มือที่ว่างอยู่รีบนำตีหัวไอ้ดินเบา ๆ เพื่อบอกให้รู้หน้าที่ก่อนชี้ไปที่สมุทร

“ขอบคุณคร้าบพี่สมุทร” ไอ้ดินรีบพูดซะยกใหญ่  สมุทรยิ้มกว้างเหลือบมองผมเล็กน้อย  ผมเพียงพยักหน้าอนุญาตให้เขาออกไปได้

“อย่าเที่ยวคิดว่าเขาเป็นแค่ลูกน้องแล้วไม่ต้องไหว้ก็ได้ มือไม้หัดอ่อนซะบ้าง” ผมว่าห้วน ๆ ไม่ได้มองหน้าใคร 

“ครับ” ไอ้ดินขานรับเสียงหงอย

อาหารเช้ามีสีสันอีกมื้อเพราะอยู่ ๆ ไอ้ดินก็ชวนคุยแต่เรื่องแปลก ๆ ที่โรงเรียนของมัน  ผมคิดว่ามันคงคิดถึงโรงเรียนเต็มแก่แล้วมากกว่า  ฟังไปก็หัวเราะไป  บางเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนจนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กสมัยนี้ก็มีอะไรแปลก ๆ  แตกต่างจากสมัยของรุ่นผมเยอะไม่น้อย  ตอนที่พวกเราเป็นเด็กพ่อกับแม่เองก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน  หลังจากกินอาหารเสร็จพายุเดินทางไปมหาวิทยาลัย  วันนี้มันมีเรียนเช้า  ส่วนไอ้ดินกลับขึ้นห้องไปแล้ว  ผมสั่งให้พี่ธานไปตามสมุทรมาพบผมที่ห้องนั่งเล่น  เมื่อผมเข้ามาถึงก็พบพี่ธานและสมุทรยืนอยู่ก่อนแล้ว

"นั่งสิ พี่ด้วย” ผมสั่งส่ง ๆ นั่งลงก่อน  พี่ธานเดินมานั่งที่โซฟาทางด้านขวามือของผม  เมื่อพี่ธานนั่งลงแล้วสมุทรจึงนั่งตาม
 
“ส่วนที่เหลือ” ผมยื่นเช็คไปให้  สมุทรลุกขึ้นยืนเล็กน้อยรับเช็คจากมือผมไป  อีกฝ่ายก้มลงมองของในมือที่เพิ่งรับไปด้วยสีหน้าปนสงสัย

“อันนั้นเป็นส่วนที่เหลือที่ฉันบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้หนี้ให้เจ้าของค่าย แล้วเพิ่มให้อีกสองหมื่น..คงช่วยอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ซ่อมแซมค่าย บิลจะมาที่ฉัน” ผมบอก

“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ” สมุทรพูด  ผมดูรูปภาพที่ค่ายมวยล่าสุดที่พี่ธานนำมาให้แล้วซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดี  งานเสร็จไปกว่า 70% ถือว่าเร็วมาก  และผมก็เบื่อที่จะตามงานแล้วด้วย 

“ให้มันจบไปเป็นเรื่อง ๆ เถอะ” ผมตัดบททุกอย่างเพื่อให้กรณีนี้จบลง  สมุทรเงียบทันที  ผมต้องการเคลียร์ให้จบเป็นเรื่อง ๆ ไป  จิตใต้สำนึกกำลังบอกผมว่าอาจจะมีปัญหายุ่งยากมาให้ผมอีกในอนาคต  ยิ่งทั้งสิ่งที่ผมควรให้สมุทรเรื่องไหนเคลียร์ได้เร็วที่สุดผมก็ควรเคลียร์ออกไปก่อนด้วยตัวเอง  ดูจากท่าแล้วถ้าไม่เดือดร้อนจนขาดใจตายอีกฝ่ายก็คงไม่เข้ามาเอ่ยปากทวงเงินก้อนที่เหลือจากผมด้วยแน่ 

“ขอบคุณครับ” สมุทรผงกหัวเล็กน้อย

“แล้วก็..เรื่องเรียนต่อของนายน่ะ ถึงเวลาลงทะเบียนเมื่อไหร่ก็บอกฉันล่วงหน้าแล้วกัน ส่วนเรื่องเรียนของเมฆ พายุนัดวันพบครูไว้เรียบร้อยแล้ว วันศุกร์นี้แหละ เดี๋ยวนายไปพร้อมฉัน” ผมบอก

“ครับ” สมุทรขานรับ  เขานั่งหลังตรงไม่ต่างจากพี่ธานและวางท่าทีในแบบที่ไม่ขัดสายตา

“เท่านี้ล่ะ” ผมจบเรื่องแรกลง

“นายออกไปก่อน” ผมสั่ง

“ครับ” สมุทรพยักหน้ารับและลุกขึ้นปลีกตัวออก

“ให้ไอ้เข้มไปดู ว่าเงินก้อนนั้นถึงมือเจ้าหนี้เรียบร้อยไหม” ผมสั่งทันที  พเยิดหน้าหมายถึงคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป

“ได้ครับ” พี่ธานรับปาก  ผมนั่งนิ่งใช้ความคิดลำดับในหัวว่ามีอะไรจะสั่งพี่ธานอีกบ้าง

“ขอโทษครับนาย” ไอ้เข้มกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามา

“มีอะไร” ผมขมวดคิ้ว

“ขออนุญาตครับ” มันไม่ตอบคำถามทีเดียว  แต่เลือกที่จะไปเปิดปุ่มโทรทัศน์ก่อนเลื่อนไปที่ช่องข่าวเช้าประจำวันนี้  พวกเราต่างเงียบมองข่าวตรงหน้า  จับใจความข่าวส่วนที่เหลือได้ว่านักข่าวกำลังทำข่าวการตายของมือปืนรายหนึ่ง  ไอ้เข้มเบาเสียงโทรทัศน์ลงจนหรี่หลังจากที่ข่าวตัดภาพมาอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นด้านที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์คนที่พบศพคนแรก

“.........” ไอ้เข้มไม่พูดอะไร  มันยืนหน้าเครียดกุมมือรอ  ท่าทางของมันที่อธิบายแทนคำพูดหมดเรียบร้อย
 
“ช่วยไม่ได้นะ ซี้ไปซะแล้ว” ผมพูดติดตลก  ในห้องเงียบสนิท  ปลายนิ้วกระดิกหาทางออก

“แต่กูก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกที่มันจะตายง่ายขนาดนี้น่ะนะ” ผมอมยิ้มให้เห็น  เพราะถ้ามันฝีมือดีกว่านี้มันอาจยิงถูกผมบ้างสักนัดก็ได้ 

“นายให้ผมเอายังไงต่อดีครับ”

“ข่าวโยงว่าไง” ผมถามกลับ

“จากข่าว เห็นบอกว่ามันน่าจะเป็นมือปืนที่เคยฆ่าลูกหนี้ที่เป็นผู้มีอิทธิพลเมื่อกลางปีที่แล้วนะครับ ก็เลยไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่ามัน” ไอ้เข้มตอบ 

“กลางปี ใช่เสี่ยนักพนันนั่นรึเปลา ?” ผมจำได้คร่าว ๆ แต่จำชื่อเสียงเรียงนามไม่ได้

“ครับ..ตำรวจโยงว่าอาจจะเกี่ยวข้องกัน” ไอ้เข้มผงกหัว 

“จะมีเหตุผลอะไรที่คนที่สั่งมันมาเก็บผม จะเก็บมันเอง..เพราะผม” ผมพูดเชิงถาม  เหล่ตามองพี่ธานเล็ก ๆ  อีกฝ่ายนั่งหน้าเครียดเสียแล้ว

“ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรมันด้วยซ้ำอะนะ” ผมหัวเราะขึ้นจมูกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  ดุนลิ้นออกมากัดค้างไว้ด้วยคิดอะไรไม่ออก

“หรือมันรู้ว่าเราส่งคนไปตามสืบ” ผมว่า  พี่ธานเงยหน้าจ้องไอ้เข้มเขม็งทันควัน  ไอ้เข้มหลบสายตาพี่ใหญ่  ก้มหน้าก้มตากุมมือเข้าหากันอย่างกลัวความผิด  ผมปัดมือขึ้นกลางอากาศปรามพี่ธาน  อีกฝ่ายจึงเลิกจ้องลูกน้องของตัวเองลงได้

“มึงระวังตัวแค่ไหน” ผมถามเรียบ ๆ  ตามองโทรทัศน์

“ผมระวังตัวอย่างดีครับนาย” ไอ้เข้มตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  พวกเราอยู่ในความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง 

“ช่างมันเถอะ” ผมบ่นพลางถอนหายใจ

“ก็แค่รอ..ว่าจะมีอะไรอีก” ผมเตือน

“ส่งงานนี้ให้พี่ศรทำแทน สืบมาแค่ว่าก่อนหน้านี้มันฆ่าใครไปแล้วบ้าง พลาดไปกี่ครั้ง” ผมเอ่ยปากสั่ง

“แล้วก็..สั่งให้ไอ้เป็ดมาอยู่เฝ้าที่นี่จนกว่าพวกเราจะกลับ ห้ามไอ้ดินออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด ไอ้ดินไปไหน ไอ้หินต้องไปด้วย”

“ได้ครับ” พี่ธานรับคำ

“งั้นมึงก็เลิกตามสืบเรื่องนี้ได้แล้ว หยุดเคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้นจนกว่าการแข่งที่พัทยาจะจบ ที่นั่นคงเปิดประตูต้อนรับให้พวกเราไปเคลียร์อะไรอีกเยอะแยะ” ผมบอกเป็นนัยยะ

“ครับนาย” ไอ้เข้มผงกหัวรับคำสั่ง  ผมปัดมือไล่ให้มันออกจากห้องไป

“วันนี้คุณจะไปไหนบ้างครับ”

“ผมจะแวะเข้าไปดูค่ายสาขาอื่นหน่อย” ผมตอบ

“แล้ว..เมื่อวานเป็นยังไงบ้างเหรอครับ ที่ไปกินข้าวกับคุณโปรด”

“ก็ดี..มีแขกไม่ได้รับเชิญด้วยอะนะ” ผมตอบยิ้มมุมปากนิดหน่อย

“ใครครับ” พี่ธานขมวดคิ้ว

“พลอย” ผมตอบห้วน ๆ

“อ่าว ทำไมเป็นแบบนั้นละครับ” พี่ธานฉงน 

“ก็นะ” ผมถอนหายใจเพราะขี้เกียจจะพูดถึง   

“ผมจะไปกับไอ้เด่นนะวันนี้ พี่สั่งให้สมุทรออกไปซื้อของสำหรับจัดงานวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน หมอนั่นน่าจะรู้ดีกว่าไอ้ปัญญาอ่อนพวกนี้..พี่คิดว่าควรซื้ออะไรก็เขียนสั่งไป” ผมสั่ง  ชี้มือพูดถึงไอ้เข้มที่เพิ่งออกไปเป็นตัวอย่างว่า  นอกจากพี่ธานแล้วระดับสมองในการจับจ่ายใช้สอยข้าวของหรืออาหารการกินของลูกน้องผมนั้นเป็นศูนย์  ผมหยิบเงินออกจากกระเป๋าหนึ่งหมื่นบาทก่อนยื่นให้พี่ธาน  พี่เขาลุกขึ้นเข้ามารับเงินจากผมไปทั้งสองมือ

“ตามนั้น” ผมทิ้งท้ายห้วน ๆ  ประมาณว่าไม่ต้องถามอีก

พรุ่งนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของพายุแล้ว  ลูกน้องผมมักจะตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อใกล้วันพิเศษ ๆ  ผมสัมผัสได้ว่าพวกมันมักจะเก็บอาการตื่นเต้นนี้ไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าผม  วันนี้ไอ้เด่นอารมณ์ดีกว่าทุกวันทำให้มันพูดมากเป็นพิเศษ  ปกติก็พูดมากอยู่แล้วอะนะ  ผมไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะผมเองก็อารมณ์ดีพอใช้  ดังนั้น ถ้ามันไม่เมื่อยปากหรือกลัวว่าจะเปลืองน้ำลายก็ให้พูดไปให้สมใจอยากไปเถอะ 

การติดต่อดูความเรียบร้อยของค่ายมวยสาขาอื่น ๆ เป็นไปด้วยดี  การปรากฏตัวของผมที่ไม่ได้บอกกับคนที่ค่ายไว้ล่วงหน้าทำให้หลายคนแตกตื่น  นักมวยเตรียมความพร้อมกันเรียบร้อยทุกคนแล้วแบบที่ไม่ได้ทำตัวเป็นผักชีโรยหน้า  การชกที่พัทยานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่ในรายการร่วมของระดับสากล  แต่นัยยะหนึ่งเป็นเวทีค่อนข้างสำคัญเพราะเป็นเวทีใหญ่ที่รวมตัวจากค่ายมวยยักษ์ ๆ ขึ้นเวทีเท่านั้น  มันจึงเกี่ยวโยงไปถึงศักดิ์ศรี  หน้าตาและเงินทองอีกด้วย   

ผมกลับถึงบ้านประมาณเกือบ ๆ บ่ายสามจึงเดินทางเข้าค่ายมวยต่อเลยเพราะต้องการฝึกซ้อมร่างกาย  อีกทั้งขาดซ้อมกับไอ้นพไม่ได้  หลังจากที่เลิกค่ายได้มีการประชุมต่อ  กว่าผมจะได้กลับถึงบ้านก็เกือบ ๆ สามทุ่มโน่นล่ะ  แม่บ้านอยู่รอผมโดยรายงานอาหารที่จัดเตรียมสำหรับงานในวันพรุ่งนี้  เมื่อผมเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงเข้านอนแต่หัวค่ำเนื่องจากว่าวันรุ่งขึ้นผมจะมีภารกิจแต่เช้ามืด


- - - - - - - - - - - - - - -


05:00 น. : ของวันถัดมา..


ก๊อก  ๆ ๆ
“พายุ” ผมเรียกด้วยความงัวเงีย  สภาพสดเพิ่งตื่น  ตอนนี้แม้กระทั่งผมหรือลูกน้องที่ยืนอออยู่หน้าประตูห้องนอนของพายุยังคงอยู่ในสภาพชุดนอน  ยกเว้นพี่ธานที่อาบน้ำซะหอมฉุยเรียบร้อยอยู่คนเดียว

“.........” ในห้องเงียบกริบไร้การตอบรับใด ๆ



ก๊อก  ๆ ๆ

“ไอ้ยุ!” ผมตะโกนเรียกอีกครั้ง

“คร้าบ~” คนในห้องขานรับด้วยน้ำเสียงงัวเงียไม่ต่าง  อีกฝั่งหนึ่งเงียบไปครู่  ผมขมวดคิ้ว  หลับตายืนรอฟังว่ามันหลับต่อหรือว่ามันลุกมาแล้วกันแน่  ชั่งใจรออยู่เกือบ ๆ หนึ่งนาทีให้หลังเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมาครึ่งหลับครึ่งตื่น  คือตามันยังไม่ยอมเปิดขึ้นเลยครับ

“มึงช่วยลืมตาคุยกับกูด้วย” ผมพูด  พายุหรี่ตาขึ้นมองหน้าผมทีละนิด  ผมหัวเราะเพราะหน้ามันบวม ๆ บูด ๆ  พายุเหลือบมองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้ามึนงง

“สุขสันต์วันเกิดครับ” พี่ธานยิ้มบอก  พายุกวาดตามองพี่ธานตั้งแต่หัวจรดเท้า

“กี่โมงแล้วฮะ” มันขมวดคิ้วถามเสียงเครือในคอ

“ตีห้าครับ” พี่ธานตอบเสียงใส

“เฮียอะ~” เจ้าของวันเกิดร้องโอดครวญหน้ามุ่ยโยนความผิดมาทางผม 

“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ  คว้าหัวมันเข้ามาอย่างแรงจนเจ้าตัวตัวเซล้มซุกหน้าลงมาที่ไหล่

“สุขสันต์วันเกิด” ผมพูดบอกพร้อมหอมลงที่หัวพายุอย่างแรงด้วยความหมันเขี้ยว 

“สัขสันต์วันเกิดนะพี่ยุ” ไอ้ดินบอกด้วยน้ำเสียงยานคางทั้งที่กำลังยืนหลับตาอยู่  มันซบหน้าลงบนไหล่ของไอ้หินเป็นเสาหลักเอาไว้อย่างกับร่างไร้วิญญาณอย่างนั้น 

“ปีนี้ กูขอให้...” ผมพูดขึ้นก่อนทิ้งน้ำเสียงลงครู่หนึ่ง  พายุนิ่งฟังไม่ขยับ 

“ห้ามมึงคบใครโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกูก่อน” ผมบอก  พายุผลักตัวออกในทันที  มันมองหน้าผมฉงน ๆ 

“มึงก็รักใครไม่เป็นอยู่แล้วนี่” ผมอมยิ้ม  คราวนี้เองตามันกลับเบิกโตซะกว้าง  ผมแสยะยิ้มเลิกคิ้วกวนอารมณ์
 
“เป่าเค้กซะสิ” ผมชี้นิ้วไปที่เค้กปอนด์ที่พี่ธานถืออยู่ในมือ  มันยอมหันหน้าไปทางเค้กและพนมมืออยู่เสี้ยววินาทีก่อนเป่าเทียนจนดับลง 

“สุขสันต์วันเกิดครับ” พี่ธานยิ้มบอกอีกครั้ง

“สุขสันต์วันเกิดครับคุณพายุ” ลูกน้องผมพากันประสานเสียงยิ้ม ๆ

“ขอบคุณ” พายุอมยิ้มตอบเขิน ๆ

“ล้างหน้าล้างตา เตรียมออกวิ่ง” ผมสั่งทุกคน

“ครับนาย” พวกมันขานรับ

“ดินไปนอนต่อนะ เฮียยย~” ไอ้ดินลา  มันเดินหลับตากลับห้องนอนของมันไปทั้งอย่างนั้น

“กล่องของขวัญทั้งหมดพี่จัดไว้แล้ว..อยู่บนโต๊ะที่ห้องอาหารนะครับ เดี๋ยวพี่เอาเค้กไปเก็บ ตั้งโต๊ะอาหารเช้าเจ็ดโมง..แล้วเจอกันข้างล่างนะครับ” พี่ธานสั่งเสียเป็นลำดับ

“ขอบคุณครับ” พายุพยักหน้ารับทราบก่อนกลับเข้าห้องนอนไป 


- - - - - - - - - - - - - - -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2020 11:31:17 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

07:03 น. : วันเสาร์

หลังจากปาร์ตี้งานวันเกิดของพายุจบลงก็คล้ายกับเป็นสัญญาณบอกกับพวกเราว่า “หยุดเล่นสนุกได้แล้ว”  งานวันเกิดที่จัดขึ้นเฉพาะคนในครอบครัว  พายุเชิญให้สมุทรมาร่วมงานด้วย  เขาเดินทางมาพร้อมกับอาหารฝีมือของยายและดาว  เจ้าตัวพาเมฆมาเป็นเพื่อนด้วยอีกคน  มืดมนเลยถูกแกล้งไปตามเหตุปัจจัย  ทั้ง ๆ อย่างนั้นผมก็ไม่ได้พูดคุยกับสมุทรมากนักแม้บรรยากาศระหว่างเราจะดีขึ้นแล้ว  ตั้งแต่วันที่หยามาที่บ้านของเขาหรือตั้งแต่วันที่ผมแก้สถานการณ์วันที่พบพลอยที่โรงแรม  ความกระอักกระอ่วนจางลงแต่ผมก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเสียทีเดียว  ตามจริงผมอยากให้บรรยากาศระหว่างเราดีขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย
 
ทุก ๆ ปีผมมักจะจัดงานเล็ก ๆ แบบนี้เสมอ  พายุมักจะไม่ชวนให้เพื่อนมาร่วมแม้จะเป็นเพื่อนสนิท  มันไม่ชอบงานสังสรรค์ที่มีคนไม่สนิทอยู่เยอะ ๆ  มันก็เลยไม่เคยชวนใครอื่นมา  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพายุรู้ว่าผมไม่ชอบหรือเพราะมันเองก็ไม่ชอบด้วยเหมือนกัน
 
เมื่อวานนี้เป็นวันที่ผมเดินทางไปติดต่อโรงเรียนให้เมฆพร้อมกับสมุทร  ตามโควต้าของนักเรียนที่จะรับเข้าใหม่ในปีนี้ยังเหลืออยู่  ผมชอบที่รับนักเรียนต่อห้องไม่เกินสามสิบคนเท่านั้น  การที่พายุติดต่อเรื่องไว้ให้ก่อนทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น  แน่นอนว่าการที่ผมไปพบครูในวันนั้นก็เพื่อรับทราบรายละเอียดต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินด้วยตัวผมเอง  การจ่ายเช็คก่อนล่วงหน้าเป็นเสมือนการยืนยันว่า “ผมจะเข้าที่นี่แน่นอน” และอีกฝั่งหนึ่งก็ยืนยันให้ว่า “รับคนของคุณแน่นอน” เช่นกัน  สมุทรไม่เอ่ยปากใด ๆ แม้สีหน้าของเขาดูจะกังวลเมื่อเห็นเช็คในมือของผม  ผมเพียงบอกให้เขาเตรียมตัวให้เมฆไว้ให้พร้อม  จะเหลือก็แต่จ่ายค่าเล่าเรียนเท่านั้น  ซึ่งผมรับปากกับเจ้าตัวว่าจะมาจัดการให้อีกทีพร้อม ๆ กับให้เมฆมาด้วยกัน  เนื่องจากวันดังกล่าวจะต้องเป็นวันที่ซื้ออุปกรณ์การเรียนทีเดียว

“อยู่ทางนี้ ดูแลให้เรียบร้อย..ตามที่ฉันบอก ห้ามคลาดสายตาจากไอ้ดินเด็ดขาด” ผมย้ำ  เจ้าของชื่อยังนอนตูดกระดกอยู่บนห้องอยู่เลย

“ครับนาย” ไอ้หินผงกหัวรับทราบ  ลูกน้องเตรียมรถพร้อมออกเดินทางแล้ว  เรานำรถออกทั้งหมดสองคัน  คันของผมมีสมุทรเป็นคนขับพร้อมกับพี่ธานนั่งไปด้วย  ส่วนอีกคันของพายุและกังฟู  โดยมีไอ้เด่นเป็นคนขับและไอ้เข้มนั่งไปด้วย  ผมสั่งไม่ให้เอารถตู้ไปเพราะการเดินทางแบบนี้สะดวกกว่า  เมื่อผมไปถึงพัทยาเรามีภาระหน้าที่ ๆ จะต้องแบ่งงานกันทำ  ดังนั้นจึงไม่สามารถนำรถไปคันเดียวได้

“นี่บัตรเงินสดของฉัน อยากกินอะไรก็ให้มันกินไป แต่ถ้ามันอยากได้อะไรก็ลองพิจารณาดูแล้วกัน อย่าไปบอกมันล่ะว่าฉันให้ถือไว้” ผมยื่นบัตรเดบิตให้ไอ้หินเป็นคนดูแล  คนเดียวที่จะต้องรับหน้าที่หนักในการตามติดน้องผู้ปัญญาน้อยของผมอย่างไอ้ดิน

“ได้ครับ” ไอ้หินผงกหัว  ยื่นมือมารับบัตรไปทั้งสองมือ

“จดรายจ่ายมาด้วย อย่าไปตามใจมากนัก” ผมเตือน  เพราะอย่างไรไอ้หินก็ไม่ใช่พี่ธาน  จะมาออกปากห้ามไอ้ดินแบบเด็ดขาดมันก็คงทำไม่ทำตามเท่าไหร่  ไอ้ดินก็คือไอ้ดินนั่นละครับ  มันเองก็ดื้ออยู่พอสมควร  ผมถึงไม่อนุญาตให้มันถือบัตรด้วยตัวเอง
 
“กลับบ้านก่อนหกโมงนะครับ” ผมย้ำไปทางลุงทองอีกครั้ง  ลุงทองมีหน้าที่เป็นคนขับรถให้ไอ้ดินและไอ้หิน  ซึ่งผมได้แบ่งหน้าที่ให้เรียบร้อยแล้ว  การที่ผมไม่อยู่บ้านทุกคนจะได้ไม่เกี่ยงงานกัน

“ฝากด้วยนะครับ” ผมบอกพลางกวาดตามองทุกคน

“ไม่ต้องห่วงครับ” ลุงทองผงกหัวรับปาก

“ไปเถอะ” ผมบอกพี่ธาน

“เดินทางปลอดภัยนะครับ” ลุงทองยิ้มบอก  ผมยิ้มให้นิด ๆ  สมุทรเปิดประตูรถรออยู่ก่อนแล้ว  เมื่อผมขึ้นรถเรียบร้อย  ไอ้เด่นกับไอ้เข้มที่อยู่ประจำอีกคันทางด้านหลังถึงขึ้นประจำที่ของพวกมัน

“สิบโมงแวะกินข้าวนะครับคุณไฟ แล้วก็หลังจากที่คุณไฟเข้าฟิตเนส..คุณพายุเตรียมผลไม้ไว้ให้คุณแล้ว สมุทรจะจัดการให้ต่อนะครับ” พี่ธานรายงาน  รถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณบ้านอย่างช้า ๆ

“อือ” ผมขานรับ   

“อยากฟังเพลงไหมครับ” พี่ธานถามอีก 

“หึ..ก็ดีมั้ง” ผมตอบปัดไปที  เปิดก็ได้ไม่เปิดก็ได้  เสียงเพลงคลอเบา ๆ ขึ้นหลังจากที่ผมเอ่ยปากอนุญาต 

คนในค่ายเดินทางไปถึงที่พัทยาตั้งแต่เมื่อวานเช้าแล้ว  ประตูงานจะเริ่มเปิดวันนี้ตอนบ่ายโมงตรง  เมื่อถึงโรงแรมพี่ธานและพายุจะเดินทางไปดูความเรียบร้อยที่งานพร้อมกับคนในค่าย  ตารางของผมคือจะเข้าไปทีหลังเมื่อใกล้การขึ้นชก  คนขับรถของผมวันนี้รู้ตัวดีว่าตัวเองมีชื่อสำรองอยู่ในการแข่งขัน  แต่เขาไม่ได้พูดแสดงความกังวลใด ๆ  อีกทั้งไม่มีทีท่าที่จะไม่อยากทำตามคำสั่งอีกด้วย  เงียบขรึมไม่แสดงออกอย่างไรก็ยังคงเก็บอาการได้อยู่อย่างนั้น  ยอมรับว่าวันนี้ผมรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง  ความสบายใจและงานที่ราบรื่นมันสะกิดเตือนว่าไม่แน่อาจมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้นก็ได้ 


- - - - - - - - - - - - - - -


KEETHARA HOTEL, PATTAYA

“สวัสดีครับคุณไฟ!” คนในค่ายมวยพากันส่งเสียงทักทายเมื่อเห็นหน้าผม  เมื่อถึงโรงแรมผมก็ตรงมาทักทายทุกคนที่ที่พักก่อนเป็นอันดับแรก

“มีอะไรขาดเหลือไหม” ผมถาม

“ไม่มีครับ” ไอ้นพยิ้มตอบ  ผมพยักหน้ารับ  เดินสำรวจดูที่เคาน์เตอร์ห้องครัวในบ้านพัก  มีอาหารเยอะแยะมากมายทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง  ซึ่งผมเป็นคนสั่งให้พี่นีจัดการเรื่องนี้เนื่องจากจะได้ไม่ต้องออกไปซื้อกินกันตามมีตามเกิด  ใช้เงินส่วนตัวเดี๋ยวจะเป็นการถกเถียงกันอีก 

“พี่ธานมา! พี่ธานครับดูนี่ดิ!” นักมวยรุ่นน้องวิ่งกระโจนออกมาจากหลังบ้านแล้วตรงเข้าหาพี่ธานในทันที  ผมหัวเราะมองอยู่ไกล ๆ  พี่ใหญ่ยังเป็นที่รักของทุกคนเหมือนเคย 
 
“พวกลุงลอยจะออกเดินทางกี่โมง” ผมถามพี่นี

“เดี๋ยวออกกันแล้วค่ะ เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เธอตอบ  ยืนประกบผมไม่ห่าง

“ดี..เดี๋ยวพี่ธานกับพายุจะตามไปหลังจากนั้น แล้วเดี๋ยวผมตามไปเย็น ๆ  มีอะไรก็บอกพี่ธานแล้วกัน” ผมพูด

“ค่ะ”

“คุณพายุไปไหนละคะ” พี่นีมองหา

“เอาหมาไปฝากกับศูนย์หน้าโรงแรมน่ะ” ผมตอบ  เธอหัวเราะคิกคักเพราะรู้นิสัยของพายุ

“ผมขอตัวก่อนแล้วกัน ฝากด้วยนะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ” พี่นียิ้มรับ

“นพ” ผมเรียก

“ครับ” ไอ้นพละสายตาจากพี่ธานรีบวิ่งมาหาผมทันที

“มีอะไรจะสั่งเสียไหม” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์

“หึ” อีกฝ่ายหัวเราะเขิน ๆ

“ฉันเชื่อมือนาย” ผมตบมือลงที่ไหล่ของอีกฝ่ายด้วยความหนักแน่น 

“ขอบคุณครับคุณไฟ” ไอ้นพก้มหัวให้เล็กน้อย  เสียงจอแจเพราะการรวมตัวจากนักมวยและพนักงานจากหลายสาขาทำให้บรรยากาศครื้นเครง  ผมกวาดตามองทั่ว ๆ ซ้ำอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับออกมา  พี่ธานและสมุทรเดินตามหลังผมมาติด ๆ

“ถ้าพี่จัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วออกไปได้เลยนะ อย่าเกินบ่ายโมง” มือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางสั่งงานพร้อม 

“ให้ไอ้เข้มประกบพายุไว้” ผมพูดเป็นนัยยะเพราะคิดว่าน้องผมมันจะต้องดื้อกับทุกคนอีกแน่

“ครับ” พี่ธานขานรับ  เราแยกย้ายกันเข้าที่พัก  ห้องพักแรกแบ่งออกเป็นสองห้องนอนใหญ่กับหนึ่งห้องนั่งเล่นและห้องสำหรับจัดเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ  หนึ่งห้องนอนสำหรับผม  ส่วนพี่ธานและสมุทรนอนห้องเดียวกัน  อีกห้องพักเป็นห้องแบบเดียวกันกับของผม  โดยหนึ่งห้องนอนนั้นสำหรับพายุและอีกห้องหนึ่งสำหรับไอ้เข้มและไอ้เด่นนอนด้วยกัน  เมื่อจัดเตรียมของเข้าห้องเรียบร้อยพี่ธาน  พายุและไอ้เข้มเดินทางไปที่สนามมวยก่อน  ผมยังคงอยู่ที่โรงแรมเพราะต้องการเข้าใช้ฟิตเนสและจัดการตัวเองให้พร้อมก่อนออกเดินทาง  อีกทั้งไม่จำเป็นที่ผมจะต้องเดินทางไปก่อนเวลามากมายหลายชั่วโมง  ผม  สมุทรและไอ้เด่นลงมาใช้บริการฟิตเนสของทางโรงแรมด้วยกันโดยสมุทรเป็นคู่ซ้อมลงนวมให้ผมก่อน 

“พี่สมุทรนี่เจ๋งเป็นบ้า” ไอ้เด่นพึมพำมองหน้าสมุทร  ฝ่ายที่ถูกชมอมยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น  เขาแรงเยอะจริง ๆ แม้กระทั่งรับแรงผมกับไอ้เด่นทีเดียวสลับอย่างต่อเนื่องก็ยังสู้ไม่ถอย  ไม่มีบ่นสักคำ  หรืออาจจะบ่นในใจก็ไม่รู้ละนะ

“ใครมันจะไปอ่อนปวกเปียกแบบมึง” ผมพูด  นำนวมที่เพิ่งถอดออกตีหัวไอ้เด่นเบา ๆ

“ไปต่อเลย” ผมสั่ง 

“ครับ” ไอ้เด่นรับนวมจากผมไปใส่  ผมวอร์มร่างกายพร้อมมองดูการชกของไอ้เด่นไปพลาง  ตามจริงแล้วกล้ามของสมุทรมองแล้วมันเพลินตาดี  เราออกจากฟิตเนสให้หลังจากนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อแยกย้ายอาบน้ำแต่งตัวต่อ

“ผมปลอกแอปเปิล สับปะรดแล้วก็กล้วยเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ จะรับเลยไหมครับ” สมุทรลุกจากโซฟาทันทีเมื่อผมเปิดประตูออกมาจากห้องนอน 

“อือ” ผมพยักหน้ารับเดินไปนั่งที่โซฟา  อีกฝ่ายรีบกุลีกุจอเข้าไปในครัว  โทรทัศน์ฉายข่าวการเมืองแต่ไม่ค่อยเป็นที่สนใจสำหรับผมนัก  สายตาเหล่มองไปที่สมุทรที่กำลังนำจานผลไม้ออกจากตู้เย็น  เขาขยับจัดเรียงดูความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนนำมาเสิร์ฟ  ผมจึงเหตากลับมาที่โทรทัศน์ตามเดิม

“ผมเพิ่งเอาเข้าตู้เย็นเมื่อกี้นี้เองครับ” เจ้าตัวรายงาน  พี่ธานคงกำชับเขาแล้วแน่ ๆ ว่าผมไม่ชอบกินผลไม้ที่เย็นจนเกินไป

“ขอบคุณ” ผมบอก

“เอาน้ำอะไรดีครับ คุณพายุเตรียมน้ำส้มกับน้ำนมข้าวโพดมา” สมุทรก้มลงถาม  ผมเหสายตามองพื้นคิดครู่หนึ่ง

“น้ำข้าวโพด” ผมตอบ

“ได้ครับ” สมุทรผงกหัวกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง  ไม่นานนักเหยือกน้ำนมข้าวโพดก็ถูกนำมาวางตรงหน้า  ผมนั่งจ้องเงียบ ๆ  เพราะอยากรู้ว่าเขาจะรินออกมาในปริมาณที่ผมพอใจได้ไหม  เมื่อมือที่กำลังรินอยู่นั้นหยุดทันทีที่น้ำนมข้าวโพดเกินครึ่งแก้วไปนิดหนึ่ง  เป็นภาพที่ทำให้ผมเกือบหลุดหัวเราะออกมา 

“พี่ธานเป็นไง” ผมถามโต้ง ๆ  เพราะถ้าพี่ธานไม่บอกไว้เขาไม่มีทางรู้แน่

“เป็นพี่ที่ดีครับ” สมุทรยิ้มตอบพร้อมวางเหยือกลงบนถาดเสิร์ฟ

“โทรสั่งอาหารของโรงแรมสิ สั่งเผื่อไอ้เด่นด้วยแล้วกัน กินซะให้เรียบร้อย” ผมบอก

“คุณไฟจะไม่รับใช่ไหมครับ” สมุทรถามย้ำ  เขาคงไม่แน่ใจเพราะเห็นว่าอาหารของผมที่พี่ธานสั่งไว้มีแค่ตรงหน้านี้

“ไม่..” ผมตอบห้วน ๆ  หยิบรีโมทโทรทัศน์กดเปลี่ยนช่อง  สมุทรปลีกตัวกลับเข้าห้องนอนของเขาไปแต่ไม่ได้ปิดประตู  เสียงพูดคุยโทรศัพท์ดังลอดแว่วมาให้ได้ยิน  ห้านาทีสมุทรก็กลับออกมาอีกครั้ง  เขายืนกุมมือสงบเสงี่ยมอยู่ข้าง ๆ คล้ายรอคำสั่ง

“นั่งเถอะ” ผมพูดขึ้นทั้งที่ตายังเอาแต่จ้องโทรทัศน์อยู่

“ขอบคุณครับ” เขาขานตอบ  เดินอ้อมมานั่งที่โซฟาอีกตัวใกล้ ๆ กับผม  เมื่อได้ช่องตามที่สนใจแล้วจึงวางรีโมทลงก่อนคว้าน้ำเปล่าขึ้นดื่ม 

“เรื่องเงินที่ค่ายเรียบร้อยดีไหม ?” ผมหลอกถาม  มือจิ้มกล้วยเข้าปากไม่มองหน้าคู่สนทนา

“เรียบร้อยดีครับ” สมุทรตอบ  ไอ้เข้มรายงานให้ผมทราบตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่าสมุทรจัดการเรื่องเงินที่ผมให้กับเขาในทันทีที่ได้รับเงินไป  ซึ่งตั้งแต่นั้นผมก็ไม่ได้ถามเจ้าตัวอีกว่าเป็นอย่างไรบ้างจนถึงวันนี้  ก็แค่อยากจะรู้ว่าโกหกรึเปล่าก็เท่านั้น

“.........” บทสนทนาจบลงดื้อ ๆ


- ฮิปโปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม –
เสียงโทรทัศน์ช่วยให้ความเงียบระหว่างเราทั้งคู่ไม่อึดอัดนัก  การกินผลไม้ตรงหน้าใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีแบบที่ผมไม่ได้รีบร้อนอะไร  เคี้ยวอย่างช้า ๆ เพื่อให้ระบบในร่างกายไม่ต้องทำงานหนักในการย่อยอาหาร  ให้หลังไม่นานไอ้เด่นก็มาถึง  ทั้งคู่จึงย้ายกันไปนั่งที่โต๊ะอาหารแทนเพื่อความสะดวกและเหมาะสม  พนักงานโรงแรมนำอาหารมาเสิร์ฟถึงห้อง  อาหารเป็นแบบอาหารจานเดียว  จานหนึ่งเป็นข้าวผัดอเมริกัน  เดาได้ไม่ยากเลยว่าจะต้องเป็นของไอ้เด่นแน่เพราะมันชอบกิน  ส่วนอีกจานเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ  ถึงอีกจานหนึ่งไม่ใช่ของไอ้เด่นผมก็เดาได้ไม่ยากอีกนั่นละว่าข้าวผัดน้ำพริกลงเรือนี้จะต้องเป็นของสมุทร  ไอ้เด่นรีบทำหน้าที่แทนสมุทรเพราะอีกฝ่ายกำลังเก็บจานชามผลไม้และแก้วน้ำตรงหน้าผมที่เพิ่งกินเสร็จเข้าครัว

“เท่าไหร่” ผมลุกขึ้นถาม

“สี่ร้อยยี่สิบครับ” พนักงานโรงแรมก้มหน้าก้มตายื่นสมุดบิลมาให้  ผมรับมาเปิดดูก่อนวางแบงก์ห้าร้อย  ปิดสมุดพร้อมยื่นกลับไป

“ไม่ต้องทอน” ผมบอก

“ขอบคุณครับ” อีกฝ่ายผงกหัวน้อย ๆ  ไอ้เด่นเดินตามพนักงานโรงแรมไปเพื่อส่งแขกแปลกหน้าให้พ้นประตู

“กินกันตามสบายแล้วกัน..เสร็จเดี๋ยวออกกันเลย” ผมบอก

“ครับนาย” ไอ้เด่นรับทราบ  ผมกลับเข้าห้องนอนเพื่อทำธุระส่วนตัว  ล้างหน้าแปรงฟันอีกครั้ง  แต่งตัวให้เรียบร้อยกว่าเดิม  หยิบของสำคัญติดมือ  ใช้เวลาเกือบ ๆ สิบห้านาที  ออกมาอีกทีก็พบว่าทั้งคู่กินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พวกมันไวจนผมเกือบจะหลุดขำ

“เรียบร้อยแล้วครับ” สมุทรบอก  ผมล้วงกระเป๋ามองหน้าสมุทรกับไอ้เด่นสลับไปมา

“ออกไปเดินดูสาว ๆ ใส่บิกินี่กันก่อนไหมแล้วค่อยไป” ผมมองหน้าสมุทรกะว่าจงใจกวนอีกฝ่าย  สมุทรที่สบตาผมอยู่เหสายตาลงนิดหน่อยด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่แฝงไว้ข้างใน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2016 16:16:37 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตืด  ๆ ๆ   ..เสียงโทรศัพท์เครื่องของผมสั่นเตือน  สมุทรทำหน้าที่นำขึ้นกดรับแทนเจ้าของ

“สวัสดีครับ..ครับ” อีกฝ่ายขานตอบอยู่สองสามคำก่อนยื่นโทรศัพท์มาให้

“จากพี่ธานครับ” เขาบอก 

“ผมพูด” ผมทัก

“คุณไฟครับ นพอาการไม่ดีเลยครับ” พี่ธานเอ่ยเข้าประเด็น  ผมยืนนิ่ง  กลอกตาลงโดยไม่เอ่ยตอบใด ๆ

“เหมือนมันจะถูกวางยาน่ะครับ แล้วทางผู้จัดจะให้เราถอนตัวให้ได้” พี่ธานบอก 

“มันอาการหนักแค่ไหน” ผมถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย

“ถ่ายเป็นเลือดครับ” พี่ธานตอบด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน   

“เมื่อไหร่ ?” ผมซัก

“เมื่อครู่ครับ ผมเห็นอาการมันไม่ปกติมาสักพักแล้ว แต่เมื่อครู่อาการหนักขึ้น”

“มันพูดรู้เรื่องไหม”

“ไม่ค่อยรู้เรื่องครับ” พี่เขาตอบ  ผมเงียบลงชั่วขณะ  ปลายสายก็เช่นกัน 

“รถพยาบาลมารึยัง เอามันไปโรงพยาบาล” ผมสั่ง

“คือ..มันไม่ยอมไปน่ะครับ มันจะอยู่รอคุณให้ได้” พี่ธานอ้ำอึ้งบอกก่อนทิ้งน้ำเสียงลงอย่างเกรง ๆ

“คุณไฟครับ ผมว่า..” ปลายสายเอ่ยเสียงเบาลง

“เอาเป็นว่าผมจะไปเดี๋ยวนี้” ผมตัดบทพร้อมกดวางสายทันที  สมุทรรับโทรศัพท์กลับคืนไป

“ตรงไปสนาม ไอ้นพถูกวางยา” ผมบอก

“ครับนาย” ไอ้เด่นผงกหัวรับทราบ  เราออกเดินทางในทันที  ตารางการชกแบ่งออกเป็นทั้งหมดสี่คู่ภายในวันเดียว  โดยคัดจากนักมวยค่ายใหญ่เท่านั้น  หากคิดให้ดี การที่ตัดมือดีของผมออกไปนั่นหมายถึงว่าค่ายของผมจะต้องให้นักชกโนเนมอย่างสมุทรขึ้นชกแทน  ผมไม่ได้บอกว่าสมุทรไม่ไหว  แต่ผมกำลังบอกว่า “สมุทรโนเนม”  นั่นหมายความว่าพวกนั้นไม่คิดว่าสมุทรจะสามารถชนะในรอบลึก ๆ ได้  หรือทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ผมทำได้คือ  ผมจะต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน
 
นาฬิกาบอกเวลาเกือบ ๆ บ่ายโมงครึ่ง ณ ขณะนี้  งานจะเริ่มเปิดพิธีตอนบ่ายสองโมงครึ่ง  เริ่มการชกจริงของคู่หลักตอนบ่ายสามโมงครึ่งโดยประมาณ  หนึ่งคู่ต่อสามยกจึงเป็นการใช้เวลาหาเงินได้ในช่วงสั้น ๆ แต่สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเป็นกอบเป็นกำทีเดียว 

“.........” ทุกคนในห้องพักพากันลดเสียงลงทันทีเมื่อเห็นผมปรากฏตัว  ไอ้นพนอนอยู่บนเตียงเตรียมสำหรับเคลื่อนย้าย  ลุงหมอนพ่อของไอ้นพยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี  พี่ธานและไอ้เด่นเคลียร์คนในค่ายออกจากห้องในทันทีอย่างรู้หน้าที่  ประตูห้องปิดสนิทลงเมื่อนักมวยและพนักงานออกจากห้องไปจนเกือบหมด  เหลือเพียงครูมวย  เทรนเนอร์คนสำคัญ  พายุและลูกน้องของผมเท่านั้น  สภาพของไอ้นพไม่ต่างจากคนป่วยใกล้ตาย  ตัวของมันซีดเซียว  รูม่านตาที่ดูไม่ปกติ  ตามันเบิกขึ้นสะลึมสะลือเพื่อมองมาที่ผม

“กูอยากฆ่ามึงจริง ๆ” ผมกัดฟันบ่นเดินเข้าไปประชิดติดกับเตียง  สภาพหนักขนาดนี้ยังจะฝืนรออยู่อีก  ทั้งลุงหมอนและพยาบาลหลบทางให้

“จำได้ไหมว่ากินอะไรเข้าไปบ้าง” ผมถาม 

“.........” ไอ้นพเพียงกะพริบตา  มันส่ายหัวน้อย ๆ ไร้สติ  ความเงียบในห้องทำให้ผมได้ยินชัดเจนว่ามันหายใจไม่ถนัด 

“คุณ ..ไฟ” อีกฝ่ายเรียกเสียงเครือ  มือที่สั่นเทาพยายามขยับคล้ายกับจะยกขึ้น  ผมเห็นอย่างนั้นจึงเป็นฝ่ายนำมือเข้าไปจับมือของมันตอบเอาไว้ด้วยความหนักแน่น 

“ขอ.. โทษ” ไอ้นพพูดบอก  ปลายเสียงแหบหายเข้าไปในลำคอจนแทบได้ยินไม่ถนัด

“ขอโทษนะคะ เรารอไม่ได้แล้วนะคะ คนไข้ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล” พยาบาลพูดขึ้นหน้าเจื่อนไม่สบตาผม 

“เอาไปได้เลย” ผมบอกเธอ 

“ไม่ต้องห่วงทางนี้ หน้าที่มึงคือห้ามตาย..กูสั่ง” ผมพูดเสียงเข้มบอกคนที่นอนอยู่พลางวางมือของมันลงตามเดิม  ไอ้นพหลับตาหรี่ลงทั้งอย่างนั้น  เมื่อทีมปฐมพยาบาลเข้ามาจะนำตัวมันออกไป  ผมจึงวางมือลงบนหน้าผากของไอ้นพเบา ๆ อีกครั้งหนึ่ง  เสียงประตูปิดลง  ไอ้นพออกไปแล้ว   

“มึงตามไปเฝ้าไอ้นพไว้..เอาคนไปสองคน มีอะไรตุกติกลงมือได้เลย” ผมสั่งไอ้เด่น

“ครับนาย” ไอ้เด่นก้มหัวลงน้อย ๆ ตามทีมปฐมพยาบาลออกไปทันที  มือขวาที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงค่อนข้างแฉะ  ความนิ่งเฉยที่ปรากฏออกมา  ตามจริงแล้วในใจกำลังเดือดเป็นไฟ  ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่มองหน้าใครจึงทำให้ทุกคนในห้องในตอนนี้ไม่แม้แต่จะขยับตัว

“คุณไฟครับ..ทางนั้นถามเราว่า ตกลงจะเอาสมุทรขึ้นชกแทนหรือว่าจะถอนตัวน่ะครับ” พี่ธานเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ  ผมมองหน้าพี่ธานก่อนเหล่มองไปทางสมุทรครู่หนึ่ง  เจ้าของชื่อยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงอาการเช่นเคย

“สองทางเลือกเหรอ..?” ผมถามตาขวาง  พี่ธานหลบตาไม่ตอบ

“ฮึ! ง่ายไปมั้ง” ผมสบถห้วน ๆ
 
“ไฟ..ถือโอกาสเปิดตัวสมุทรไปเลยสิ” ลุงลอยเรียกสติ

“จบง่ายไปมั้งครับลุง” ผมพูดตัดบทลุงลอยตาขวาง  ลุงเงียบลง  ผมถอนหายใจเบา ๆ พยายามควบคุมตัวเอง

“ตำรวจอยู่ไหน ?” ผมกวาดตามองทุกคนด้วยคำถามที่ไม่ได้กระแทกกระทั้นแต่อย่างใด  แต่นั่นละว่า..ไร้เสียงตอบรับจากใครเช่นกัน

“อีหรอบเดิม” ผมแสยะปากหัวเราะ  คู่แรกที่ไอ้นพต้องขึ้นชกนั้นเป็นการขึ้นชกกับนักมวยชาวฝรั่งเศส  ซึ่งเป็นตัวแทนของค่ายน้ำมนต์จากภาคอีสาน  ผมเชื่อว่าสมุทรสามารถเอาชนะได้  แต่คนที่สร้างเรื่องคงไม่คิดอย่างเดียวกับผมแน่  สถานการณ์ในตอนนี้สำหรับผมมันเปลี่ยนไปแล้ว  ถึงสมุทรจะชนะแล้วยังไงไม่ทราบ  ถ้าเขาได้เข้าไปในรอบต่อ ๆ ไปทุกอย่างอาจจะเป็นไปตามแผนที่พวกมันวางไว้ทั้งหมดก็ได้

“ก็นะ..อีกฝ่ายอุตส่าห์เปิดเกมมาให้แล้วทั้งที” ผมฉีกยิ้มติดตลกแต่ในห้องกลับอึมครึมไม่ขำด้วยเสียอย่างนั้น

“ไฟ แกไปเล่นตอบมันแบบนั้น ถ้าเกิดแกเป็นอะไรขึ้นมาอีกคนล่ะ” ลุงลอยเตือนหน้าเครียด

“มันเป็นทฤษฏีหยอกเล่นน่ะครับลุง”

“กำลังมีคนท้าทายว่า ผม..ที่ไม่มีปู่กับพ่อคุ้มกะลาหัวอยู่ตอนนี้ ถ้าถูกเหยียบหน้าแบบนี้แล้วผมจะทำยังไงต่อ” ผมแสยะยิ้มอธิบาย  ลุง ๆ ต่างหน้าเสียที่ผมไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งกับลุงลอย



ก๊อก  ๆ ๆ

“เชิญ” ผมขานรับ  ผู้ชายแปลกหน้า  ใส่สูทใส่แว่นตาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าตื่น ๆ

“เอ่อ..สวัสดีครับคุณไฟ ทางเราอยากทราบว่า ตกลงทางชัยโรจน์จะส่งนักมวยขึ้นชกไหมครับ” อีกฝ่ายถามด้วยใบหน้าสุภาพจนน่าถีบ

“แน่นอนครับ” ผมยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรกลับ

“งั้นผมรบกวนขอให้ทางคุณคอนเฟิร์มเรื่องรายชื่อด้วยนะครับ” เขายิ้มให้

“ไฟ เลิศประสงค์ครับ” ผมตอบ

“เอ๊ะ!” อีกฝ่ายชะงัก  เหลือบตาโตขึ้นมองมา  ผมหมุนตัวตรง ๆ พลางเดินเข้าไปหาก่อนเว้นระยะไว้ช่วงหนึ่ง

“มีปัญหาอะไรงั้นเหรอครับ” ผมฉีกยิ้มถาม  อีกฝ่ายเลิ่กลั่กเปิดกระดาษในมือดูซ้ำอย่างร้อนรน

“เอ่อ แต่ว่า..รายชื่อที่ทางค่ายมวยชัยโรจย์ให้กับทางเรามาในตอนแรกไม่ใช่ชื่อนี้นี่ครับ เป็นชื่อ..เอ่อ นายสมุทร มั่นรักษา” มันว่า

“อ๋อ ลูกน้องผมคงเขียนชื่อผิดไปน่ะ โทษที” ผมปัด

“เอ่อ งั้นคงไม่ได้หรอกครับ คือว่า..มันผิดกฏน่ะครับ” อีกฝ่ายพูดหน้าเจื่อน  ผมหุบยิ้มลงทีละนิดเพราะขี้เกียจจะฉีกปากยิ้มเกินจำเป็นแล้ว 

“ใครตั้งกฏ ? ขอผมคุยด้วยหน่อยจะได้ไหมละครับ” ผมถาม

“หือ.. คุณแว่น” ปลายเท้าจ้ำเข้าหาอีกครั้งโดยไม่ทันสั่งการ  คนตรงหน้าหน้าถอดสีถอยหลังไปสองสามก้าวทันควัน

“รีบเก็บหางมึงแล้วไสหัวไปซะก่อนที่กูจะกรอกยามึงเหมือนที่ลูกพี่ของพวกมึงทำกับคนของกู!” ผมกัดฟันพูดเสียงเย็น  อีกฝ่ายไม่รอช้าวิ่งออกจากห้องไปในทันที 

“ระยำ! เฮือก!!” ผมร้องสบถ  ขาเตะเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างห้ามใจไม่อยู่  เสียงกระแทกดัง “โครม!”  ลั่นห้องก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง  ลมที่พ่นออกมาทางปากไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากนัก  กลับแต่จะหงุดหงิดมากกว่าเดิม  ผมหลับตาลงฟังเสียงลมหายใจของตัวเองอยู่พักหนึ่ง  เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“เอ่อ คุณไฟคะ” พี่นีเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ  เหมือนกับไม่แน่ใจว่าตัวเธอเองควรพูดออกมาดีหรือไม่

“เราส่งรายชื่อนักมวยเป็นคนแรก ๆ  ไม่ว่าจะเวทีไหนเซียนมวยก็ต่างพนันข้างนพทั้งนั้น พี่คิดว่า..ถ้าครั้งนี้เป็นแผน” พี่นีพูดเสียงเบา 

“ครับ เป็นแผนที่ตื้นดีใช่ไหมละครับ” ผมพูดห้วน ๆ ปนหัวเราะ  ตาเหลือบมองไปทางสมุทรอีกครั้ง  ผมจ้องหน้าเขาเขม็ง

“ก็ดี..งั้นผมจะเปลี่ยนแผนให้พวกมันใหม่” ผมยิงฟันให้ทุกคนพลางเท้าเอวมอง 

“ผมจะขึ้นเอง” ผมสรุป

“น่าสนุก..” ผมสบถยิ้ม ๆ  ลุงลอยถอนหายใจเฮือกใหญ่คล้ายเอือมระอา  แกส่ายศีรษะยิ้มน้อย ๆ ในที่สุด

“ทุกอย่างเหมือนเดิม ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป อย่างอื่นผมจัดการเอง” ผมสั่ง

“พี่นีรู้ไหมครับว่าห้องเสี่ยเจียนอยู่ไหน” ผมถาม

“รู้ยิ่งกว่ารู้ซะอีกค่ะ” เธอยิ้มตอบ

“หึ..ชอบจัง อะไรมั่นอกมั่นใจแบบนี้น่ะ” ผมยิ้มชมเธอทำให้เจ้าตัวหลุดหัวเราะเขิน ๆ  พี่นีเดินนำทางออกไปก่อน  เมื่อพายุเข้ามาขนาบข้างผม  พี่ธาน  สมุทรและไอ้เข้มจึงตามติดมา  เมื่อมาถึงห้องทำงานของเสี่ยเจียน  พี่นีเป็นฝ่ายเข้าไปติดต่อคนของเสี่ยเจียนให้  เมื่อเรียบร้อยแล้วผมจึงสั่งให้เธอกลับไปทำงานต่อ 

“เสี่ยครับ คุณไฟจากค่ายชัยโรจน์มาขอพบครับ” ไม่ทันให้ลูกน้องของเจ้าของกิจการคนปัจจุบันนี้ได้ส่งสารจบ  ผมก็เดินตรงดิ่งเข้าไปอย่างไม่รักษามารยาทใด ๆ  ทำให้คนในห้องต่างตื่นตระหนก 

“หวัดดีครับเสี่ย” ผมยิ้มทัก  เสี่ยเจียนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานที่กลางห้อง  เป็นที่รู้กันว่าแกเป็นคนดังที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ห้องทำงานของแกก็เลยใหญ่อลังการ  ถ้าให้แกบรรยายรายละเอียดในห้องนี้มาสักหนึ่งหน้ากระดาษเอสี่ก็คงไม่จบ

“ถ้าคนของเสี่ยไม่ลดปืนลง พวกเราคงคุยกันยากนะครับว่าไหม” ผมยิ้มเล็กน้อย  ลูกน้องคนสนิทที่ข้างโต๊ะทำงานของเสี่ยแกหนึ่งคนและประจำอยู่ที่มุมห้องอีกฝั่งละคน  เสี่ยเจียนกลอกตาขึ้นมองมาด้วยท่าทางสงบนิ่ง

“ก็ลื้อหุนหันพลันแล่นเข้ามาแบบนี้ มันก็เป็นธรรมดา” เสี่ยเจียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ก็มีเรื่องให้ต้องหุนหันพลันแล่นนี่ครับ” ผมตอบ  เสี่ยจ้องมองมา  ผมเองก็มองตอบกลับเช่นกัน

“กี่ปี ๆ  ลื้อก็ยังขวานผ่าซากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” เสี่ยแกอมยิ้มด้วยใบหน้าชอบใจ  แก้ววิสกี้ในมือของเสี่ยเคลื่อนวางลงอย่างเนิบช้า  ผมยืนเงียบ  ต้องยอมรับว่าเสี่ยเจียนเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของกิจการนี้มากกว่าเสี่ยปรีดาเยอะเลย
 
“ในบรรดาเด็กที่อายุเท่าลื้อที่ฉันรู้จัก มีแต่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมพึ่งบารมีพ่อแม่ทั้งนั้น คงมีแต่ลื้อนี่ล่ะที่ถูกใจอั้วที่สุด หึ ๆ ๆ” อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ 

“ขอบคุณครับ ตามตรงแล้วผมก็ชอบเสี่ยเหมือนกัน” ผมยิ้มตอบ

“เป็นไง..? น้องชายลื้อยังมือตีนไวอยู่เหมือนเดิมรึเปล่าล่ะ เฮ้อ~ อั๊วอยากได้คนแบบนี้ไปช่วยคุมร้านที่เมืองนอกจริง ๆ น้า นักเลงฝรั่งพวกนั้นน่ะ..มีแต่พวกร่างยักษ์ที่ไม่รู้ว่าควรจะเอามือตีนตัวเองไปเก็บไว้ที่ตรงไหน” เสี่ยถอนหายใจพูดแกมบ่นที่แฝงไปด้วยนัยยะกวน ๆ  ผมไม่ตอบ  พายุเองก็เฉยเช่นกัน

“เก็บปืนซะ..ฉันไม่อยากเห็นรอยตีนของมันบนหน้าพวกแกหรอกนะ” เสี่ยเจียนพูดติดตลก  กวาดตามองไปทางพายุพร้อมโบกมือขึ้นให้ลูกน้องของตนลดปืนลง 

“วันดี ๆ แบบนี้ มีอะไรให้ฉันช่วยรึไง ถึงได้ยกโขยงกันมา”

“นักมวยของผมถูกวางยา” ผมเข้าเรื่อง  เสี่ยเจียนชะงักไปครู่  เราต่างมองตากันเขม็ง  ผมแทบไม่เชื่อว่านี่คือแผนของเสี่ยเจียน  ตามสัญชาตญาณแล้วมันบอกผมว่า “ไม่น่าใช่”

“ลื้อพูดอะไรของลื้อ อั๊วให้คนดูแลเรื่องนี้อย่างดี” เสี่ยหน้าถอดสี

“งั้นผมคงวางยานักมวยค่ายตัวเองงั้นมั้งครับ” ผมย้อน  เสี่ยเจียนหุบปากเงียบ

“ผมไม่ขออะไรมาก..” ผมเอ่ยอย่างใจเย็น

“เปลี่ยนรายชื่อตัวสำรอง ผมจะขอเป็นคนขึ้นชกเอง” ผมพูด

“หึ ๆ ๆ เข้าง่าย..ออกคงไม่ง่ายหรอกมั้ง” เสียงคนแปลกหน้าแสยะพูดแทรกเข้ามา  ผมไม่หันกลับไปมองเพราะพอจะเดาได้ว่าเป็นเสียงหมาตัวไหน

“ฝาโลงตอนตายของเสี่ยเหรอครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ หากเสี่ยอยากออกยากกว่าผมละก็ ผมจะเจาะฝาโลงปิดให้เสี่ยอย่างมิดชิดเลย” ผมตอบกลับลอย ๆ

“ไอ้ไฟ!!!” เสี่ยปรีดาสบถ


ฉับ!  ปึก!!  กรอบ!!! ...เสียงกระดูกถูกบิดหักดังลั่น  เสียงลูกน้องของเสี่ยปรีดาที่เป็นเจ้าของมือที่ถือมีดอยู่ร้องดังระงม

แกรก!!!

“โว้ว~” ผมเล่นเสียงพลางยิ้มกว้าง  ทำตาเหลือกแกล้งเป็นตกตะลึงกับภาพตรงหน้า  ข้อมือของลูกน้องเสี่ยปรีดาถูกพายุบิดหักเข้าให้เสียแล้ว  ทำให้ปลายมีดที่ควรจะอยู่ที่คอผมกลับถูกจ่อไปที่คอของเจ้านายใหญ่ของมันแทน  เสี่ยปรีดายืนตาเหลือก  ปากกระบอกปืนจากไอ้เข้มจ่ออยู่ที่หัวของลูกน้องของเสี่ยอีกต่อหนึ่ง  ตอนนี้จึงไม่มีแม้แต่ใครจะขยับตัว  โดยเฉพาะไอ้เสี่ยอัปรีย์นี่ก็ด้วย 

“ไวเหลือเชื่อเลยใช่ไหมละครับ น้องชายผมน่ะ” ผมส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้

“ค่ายเราอยู่กันแบบหมากับเจ้านายน่ะครับ หมา..มักเลียนแบบพฤติกรรมเจ้านาย เจ้านายอ่อนปวกเปียก หมามันก็อ่อนปวกเปียกไม่ต่างหรอก..ว่าไหมละครับเสี่ย” 

“ที่สำคัญผมมีแต่หมาล่าเนื้อซะด้วย” ผมฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมทำเอาเสี่ยปรีดาเดือดตาแทบทะลัก

“ก่อนตาย..พ่อมึงคงทิ้งไว้แต่สมบัติ ไม่ได้สอนให้พวกมึงมีสัมมาคารวะสินะ ถุย!” เสี่ยปรีดาสบถยิ้ม ๆ

“หือ! เสี่ยนี่..ปากเหม็นจังเลยนะครับ” ผมทำท่าตกใจหน้าแขยงเห็นเป็นประเด็นตลก

“ไอ้เวรเอ๊ย!” เสี่ยปรีดาขึ้นเสียงด้วยความโมโหอีกครั้ง  พอมันขยับตัวจึงทำให้ปลายมีดที่แหลมคมเจาะเข้าไปที่คอหอยมากกว่าเดิมโดยที่พายุไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย

“อึก” อยู่ ๆ เจ้าตัวก็ชะงักนิ่งไปซะอย่างนั้น  ผมยิ้มเจ้าเล่ห์มองอย่างชอบใจโดยไม่คิดจะเอ่ยปากห้าม

“เฮีย..” เสี่ยปรีดาเรียกเสี่ยเจียนคล้ายขอความช่วยเหลือ  ผมนิ่งเฉยทำเป็นไม่ได้ยิน  ทุกคนเงียบสนิทอีกครั้ง

“อาไฟ บอกน้องลื้อให้ลดมือซะ” เสี่ยเจียนพูด

“.........” ผมเหลือบมองพายุก่อนพยักหน้าอนุญาตให้มันทำตามที่เสี่ยเจียนบอก  พายุปล่อยมือออกช้า ๆ อย่างระมัดระวัง  เมื่อมือของมันพ้นจากลูกน้องของเสี่ยปรีดาได้มันก็ตวัดตัวถีบตัวลูกน้องเสี่ยปรีดาจนอีกฝ่ายตัวกระเด็นไปติดกับกำแพงอีกด้านหนึ่ง  เสียงกระแทกดังลั่นแต่ไม่มีใครคิดจะสนใจว่ามันเจ็บปวดหรือไม่  เสี่ยปรีดาก้าวถอยห่างไปอย่างเว้นช่วง 

“ผมไม่มีเวลามาทะเลาะด้วยหรอกครับ คนพูดมาก..ฉิบหายมาเยอะแล้ว” ผมเบะปากยิ้ม ๆ ให้เสี่ยปรีดา  อีกฝ่ายขบฟันแน่นด้วยใบหน้าแค้นจัด

“รบกวนใส่ชื่อผมลงไปด้วยครับเสี่ย ด้วยความเคารพ..ถือว่าผมขอ” ผมพูดบอก  เสี่ยเจียนถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่

“แต่มันเป็นกฏนะ อั๊วเองก็ไม่อยากจะผิดคำพูดแบบนั้น” เสี่ยเจียนว่าหน้าเครียดไม่ต่าง

“ผมเข้าใจครับ แต่อย่าหาว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ ด้วยวิถีการทำงานแล้วผมเองก็เคารพเสี่ย พ่อผมก็เคารพเสี่ย แต่เรื่องนี้ผมคงปล่อยไปเงียบ ๆ ไม่ได้” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ  แม้ความลามปามกับคนตรงหน้าก็ตาม

“น่าแปลกนะครับ นักมวยชื่อดังที่เซียนมวยต่างมาเกาะเวทีเตรียมดูถูกวางยากะทันหัน แต่กลับไม่มีนักข่าวสักเงาหัวเดียว ผมไม่ยักรู้..ว่าคนของผมถูกลืมขนาดนั้น” ผมพูดปนหัวเราะก่อนหุบยิ้มลงทีละนิด

“ถ้าหากเสี่ยจะไม่เปลี่ยนเป็นชื่อผม ความสัมพันธ์ของเราคงจบกันตรงนี้ และขอเรียนให้ทราบ..ด้วยความสัจจริง ไอ้นพเป็นตัวเงินตัวทองของผม ดังนั้น..ผมจะขุดรากถอนโคนเอาตัวการออกมาเปิดโปง เก็บบัญชีให้หมดทุกบาททุกสตางค์แบบที่เสี่ยจะนึกภาพไม่ออกเลย” ผมเบะปากลงเล็กน้อย  เสี่ยเจียนกวาดตามองผมด้วยสายตาที่เริ่มไม่พอใจ  มือของแกหยิบซิการ์ขึ้นพลางจุดสูบ

“ฮึ!” เจ้าของห้องหัวเราะขึ้นจมูกขึ้นท่ามกลางห้องที่เงียบเชียบ

“อั้วเคยแอบคิดนะว่าไอ้หวนมันทำยังไงถึงได้ลูกแบบลื้อมา ในวงการเรา..มันก็บอกปัดไม่ได้ว่าอยากได้ลูกแบบลื้อสักคน แต่ไอ้คำพูดกร่าง ๆ กับอั้วนั่นน่ะ ลื้อคิดดีแน่แล้วใช่ไหม” เสี่ยเจียนอมยิ้มท้าทาย

“ครับ..พ่อก็เคยบอกให้ผมลด ๆ ลงบ้าง โทษทีครับที่ดูเหมือนจะฝังรากลึกมากไปหน่อย ถ้าหากเสี่ยคิดว่าผมท้าทาย ผมก็จะขอตอบว่าใช่” ผมตอบเสียงเข้มพร้อมจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

“ผมพยายามไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..เรื่องไหนทนได้ผมก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะนั่นคือวิถีการทำงานของพ่อ ผมคิดว่าเสี่ยคงทราบดี แต่นี่คือคนของผม..ผมไม่ได้ใจดีเหมือนพ่อหรอกนะครับ มีคนทำให้คนในบ้านของผมเดือดร้อน โดยที่จริง ๆ แล้ว คนพวกนั้นคงไม่รู้ว่ากฏที่สามารถทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนเป็นไฟได้น่ะ..มันเป็นยังไง” ผมเอ่ยแกมประชดถึงคนข้าง ๆ  เสี่ยเจียนนิ่งไป  แกเอนหลังพิงพนักพิงพลางมองพวกเราทุกคน

“รับปากอั้วได้ไหมล่ะว่าเรื่องนี้ต้องเงียบที่สุด” เสี่ยว่า

“ผมรับปากครับ” ผมตอบรับทันที

“เอาชื่ออาไฟเข้าการแข่งขัน” เสี่ยเจียนสั่งลูกน้องคนสนิท

“ครับเสี่ย” อีกฝ่ายผงกหัวรับทราบและรีบออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง

“เฮีย! เฮียทำแบบนี้ได้ยังไง มันผิดกฏที่เราตกลงกันไว้นะ!” เสี่ยปรีดาโวยวายเป็นเดือดเป็นร้อน

“ฉันตัดสินใจแล้ว หุ้นใหญ่ตอนนี้คือฉัน..และนี่มันงานของฉัน” เสี่ยเจียนตอบหน้านิ่ง  เสียงเข้มและเด็ดขาดทำให้เสี่ยปรีดาหันขวับมามองผมทันใด

“ขอบคุณครับเสี่ย” ผมยิ้มบอกก่อนหันกลับมามองตอบเสี่ยปรีดา  ทั้งผมและอีกฝ่ายต่างจ้องหน้ากันเขม็ง  สายตาที่เคียดแค้นจากมันบอกได้เลยว่า  พวกมันคงได้สูญเงินมหาศาลแน่ ๆ  ผมเดินเข้าหามันอย่างเนิบช้า  คนตรงหน้ายืนนิ่งสู้ไม่ขยับ

“การอยากได้ของ ๆ คนอื่น ชีวิตมักไม่สงบสุขหรอกครับ” ผมอมยิ้ม  มองเสี่ยปรีดาด้วยความว่างเปล่า  คนอย่างมันช่างว่างเปล่าไร้ความหมายสำหรับผมเสียจริง

“แล้วนี่..คือขั้นตอนแรกของการไม่สงบสุข” ผมเข้าไปกระซิบกระซาบที่ข้างหู 

“เปลี่ยนแผน..? ฮิ ๆ ๆ ๆ วู้!” ผมแสยะหัวเราะด้วยน้ำเสียงกวนอารมณ์พร้อมนำลิ้นออกมากัดดุนเล่นมองหน้าอีกฝ่ายอย่างนึกสนุก 

“ผมแนะนำอะไรให้เอาไหมครับเสี่ย ชู่~ แค่เงียบปากของเสี่ยเอาไว้ครับ” ผมทำปากจู๋พร้อมนำนิ้วชี้ปิดปากตัวเองประกอบ

“หากเสี่ยฉลาดพอ เสี่ยจะเป็นคนเดียวที่ยังพลิกเกมทัน” ผมพูด  เสี่ยปรีดาถลึงตาโต  คิดว่าอีกฝ่ายคงรู้แล้วแน่ว่าผมรู้ทัน 

“เอาเป็นว่า! หากเสี่ยรู้ตัวคนวางยาละก็..ฝากบอกคนพวกนั้นด้วยนะครับว่าให้ฝึกให้หนักกว่านี้ จะได้ไม่เที่ยวไปวางยาใคร” ผมฉีกยิ้ม

“...มันเปลืองเงินค่ายาน่ะครับ ก๊ากกก!!!” ผมขยายความ  เงยหน้าขึ้นสูงพร้อมอ้าปากหัวเราะดังลั่น  นำปลายนิ้วมือสะกิดตีเข้าที่ไหล่เสี่ยปรีดาหยอก ๆ สองสามทีทิ้งท้ายก่อนเดินจากมา




............(ไฟ)............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2016 16:38:35 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ไฟ สมุทร  :mew1: :mew1: :mew1:
รอ สมุทร ชอบไฟ
ชอบ ตาร์ข้าว
แต่ วิทย์เว มาจากชื่อเรื่องใด ใครรู้บอกหน่อย ได้โปรด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

วิทย์เว จาก Memorial รักแรก รักสุดท้าย 

วิทย์/เว  จากเรื่อง Memorial รักแรก รักสุดท้าย  ตามที่คุณ Maru_saki ได้ตอบไปข้างต้นเลยค่ะ
..หากต้องการทราบข้อมูลผลงานสามารถอ่านได้ที่หน้าที่ 1 (ของกระทู้นิยายนี้) เนื่องจากเบบี้ได้แจ้งรายละเอียดไว้ให้ก่อนเริ่มเรื่องเรียบร้อยแล้วนะคะ

เบบี้

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
พายุน่ารัก พี่ชายถึงได้หวงมาก ขนาดจะขอแสกนแฟนน้องด้วยตัวเองกันเลยทีเดียว  :jul3: พี่ธารดูพร้อมที่สุดในบรรดา


รอสมุทรกับคุณไฟสวีทวี้ดวิ้ว  :กอด1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เครียดเลย ตอนนี้  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
มันมากสนุกมากๆ ชอบไฟอ่ะชอบบบบบ
รอตอนต่อไปนะคะ ^ ^

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
พายุเท่ ไว ฟิ้วฟ้าวว
5555

ออฟไลน์ ปลายฝน ต้นหนาว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เข้ามาดูเรื่องนี้ทุกวันเลย ชอบบบบบบบบบบบ :katai4: :hao7:
ตอนนี้สมุทรแปลกๆ เพราะคุณไฟทำตัวแปลกใช่ไหมเนี่ย
พี่ธานนี่ชงสมุทรกับคุณไฟเข้มมาก ยอมใจ
 แซวแบบที่รู้กับคุณไฟสองคนด้วยนะ ขำ  :z2:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ชอบไฟว่ะ เท่ห์สาดดดดดดดดดดดดดดดด โอ๊ย สะใจทุกประโยค :กอด1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
มันเหมือนกะลังอ่านซีรีย์ฮ่องกง คมเฉือนคม 55555  ลุ้นทุกตัวอักษร

พายุนี่เป็นมือขวาของไฟอีกคนได้เลย รวดเร็ว เหมือนชื่อจริงๆ  o13




ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เหมือนดี แต่ก็อึมครึมใช้ได้ :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ขอบคุณ คุณเบบี๋ และ คุณMura_Saki มากค่ะ
ที่ทำให้รู้ว่า
วิทย์เว จาก Memorial รักแรก รักสุดท้าย

ยิ่งอ่าน ยิ่งแซ่บบบบ มัน สนุก มากกกก
ไฟ สมเป็นไฟ จริงๆ
คนหนึ่ง ร้อนเป็นไฟ
อีกคน เย็นเป็นน้ำ ไม่ใช่น้ำธรรมดา น้ำทั้งมหาสมุทรเลย
นี่แหละ สมเป็นคู่กั้น คู่กัน  น้ำ กับ ไฟ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2016 22:09:07 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
บอกได้แค่ว่าโคตรจะมันส์เลย o18

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
เรื่องนี้โคตรสนุก บอกได้เลย จะลงแดงแล้ว
เฮียไฟสู้ๆ เรารักเฮียไฟมากกกกก
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เรื่องนี้เนื้อเรื่องสนุกมาก
แต่ก็อยากให้สมุทรรักไฟเร็วๆเหมือนกัน ท่าทางไฟจะแซ่บ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ยิ่งอ่านยิ่งชอบคุณไฟเขาอ่ะ นางมีความกวน 5555555555

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
พี่ไฟแม่ง มาเหนืออออ
สะะะ อ่านๆไปใครจะรุกะรับนี่เคลิ้มหมด เอาเหอะ
ได้กันก็พอไม่เรื่องมาก ถถถถถ
กร๊ากกกก แค่คิดภาพเตียงพังก็มา
พี่ไฟยังคงจังไรเสมอต้นเสมอปลาย กะผู้หลักผู้ใหญ่ก็ไม่เว้น
เอานะ บางทีแก่แค่อายุ อย่างอื่นไม่แก่ตามก็ไม่น่าเคารพ
นี่เทข้างพี่ไฟเลย รอเชียร์มวย ก๊ากกกกก

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
ตอนต่อไปต้องมันแน่ๆ :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ไฟเท่มากกกกกก  เราโคตรชอบตัวละครบุคลิกแบบนี้เลย มีเสน่ห์มากๆๆๆๆ

รอมาต่อนะคะ เราชอบการบรรยายและเนื้อเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป

ตอนหน้าได้มันส์แน่ๆ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2016 14:30:22 โดย tempo_oil »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
พี่ไฟโหดได้กว่านี้ เท่จริงๆค่ะ จิกกัดพวกเสี่ยที่ชอบเป็นหมาลอบกัดไม่ดูตัวเองซะเลย พี่ไฟขึ้นชกคราวนี้เอาเด็กมันน็อคยกแรกไปเลยนะคะ!!!

ปล.เรื่องนี้ต้องค่อยๆอ่านเก็บรายละเอียด นิสัยของแต่ละคน ยิ่งอ่านยิ่งรัก

พี่ไฟ & สมุทร :)

ขอบคุณเบบี้ค่ะ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ไฟนี่ปากดีแต่ก็มีดีสมปาก เชียร์ไฟชนะน๊อกกันไปเลย

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
พลิกล็อกมาก นึกว่าไฟจะให้สมุทรลงแทนนพซะอีก เล่นเอาตัวเองลงแทนแบบนี้คู่แข่งคงเกร็งแย่เลย ไฟจะมีแผนอะไรซ่อนไว้หรือเปล่า เครียดๆๆๆ  :ling1: แต่ก็คิดว่า ไม่ว่ายังไงไฟก็ยังเป็นต่ออยู่ดี  :laugh:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ตอนนี้ยกใจให้ไฟ  :กอด1:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
คุณไฟกวนตีนได้ใจมากกกก
แต่สะใจสุดๆ
ลุยเลยคุณไฟ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
รักคุณไฟมากเลย ตอนที่คุณไฟคุกับนพนี่น้ำตาจะไหลเลย รู้เลยว่ารักลูกน้องมากแค่ไหน

จัดการมันเลยค่ะคุณไฟขา เอาให้หาทางกลับบ้านไม่เจอเลย  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด