.. ตามตรงแล้วก็เหมือนโดนปฏิเสธแสกหน้าอยู่หรอกนะ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนร่างกายกระชุ่มกระชวยอย่างนี้ก็ไม่ทราบ
“ฮ้า~” ผมพ่นลมร้องครางด้วยรู้สึกโล่งอย่างไรบอกไม่ถูก ตัวพลิกนอนตะแคง นำหน้าซุกลงเข้าที่เตียง ใบหน้าของอีกฝ่ายเมื่อครู่หวนกลับมาในหัวทำให้อมยิ้มมุมปากได้ไม่หุบ มือขวาทุบเตียงสองสามทีอย่างไม่รู้ว่าตัวเองแม่งเป็นห่าอะไร
“อ้ากกก! หมันเขี้ยวฉิบหาย!!!” ผมกัดฟันคำรามอย่างสุดจะกลั้น ลมพัดเข้ามาทางประตูทำให้ต้องเหลือบขึ้นมอง พี่ใหญ่เข้ามาพร้อมสายตาปราม ๆ โดยไม่เอ่ยปากขออนุญาตอย่างทุกที ใบหน้ากลั้นรอยยิ้มคล้ายเอือมระอานั่นยิ่งทำให้ผมหัวเราะหนักกว่าเดิม
“สมุทรมันกล้าเอาหัวโขกผมด้วย” ผมพลิกตัวนอนหงายฟ้องก่อนเลย
“ผมได้ยินคำว่า ‘เกินเยียวยา’ ดังแว่ว ๆ ด้วยน่ะครับ คุณพายุเลิ่กลั่กหน้าแดง แล้วสมุทรที่หน้าบอกบุญไม่รับขนาดนั้น เขา..ที่เพิ่งพูดเสียงดังในรอบหลายอาทิตย์ คุณต่างหากละครับที่ผมควรจะถามว่า..ทำอะไรลงไป” พี่ธานพูดชัดถ้อยชัดคำ ผมยิ้มกว้างนอนมองพี่เขาตาเยิ้ม
“พี่ไม่คิดเหรอว่าหมอนั่น.. หุ่น
‘ฮื้ม’ มาก” ผมบดฟัน ลิ้นเกลี่ยริมฝีปากไปพลาง
“อะไรคือ
‘ฮื้ม’ ที่ว่าครับ” พี่ธานถามกลับยิ้ม ๆ
“เอาน่า..พี่ก็รู้อยู่แล้วว่า
‘ฮื้ม’ ของผมคืออะไร แบบ..เห็นแล้วมัน
ฮ้ากกก~” ผมกัดฟันแน่นพร้อมคำรามในลำคอประกอบอารมณ์ พี่ธานปิดปากหัวเราะเหมือนสุดทนในทันที
“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจ ขยับแขนขึ้นเท้าศีรษะทั้งสองข้าง
“เอาไงต่อดีนะ” ผมพึมพำมองเพดาน
“กางเกงว่ายน้ำไหมครับ ?” พี่ธานถาม ผมเหลือบมอง เราต่างยิ้มกว้างให้กันจนเห็นฟันหน้าครบทุกซี่
“พี่นี่น่ากลัวเป็นบ้าเลยว่ะ” ผมส่ายหัวบ่นที่อีกฝ่ายรู้ใจขนาดนี้
“หึ ๆ” พี่เขาหัวเราะก่อนเดินออกจากห้องไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับถุงกางเกงว่ายน้ำของผม
เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกจับได้ว่าประสงค์ไม่ดีต่อการซื้อกางเกงว่ายน้ำนี้มา ผมจึงลงมาที่สระว่ายน้ำก่อนพร้อมกับพี่ธานและไอ้เด่น พี่เขาจึงออกปากสั่งให้สมุทรและไอ้เข้มตามพายุลงมาทีหลังเพราะน้องชายผมมันเตรียมตัวค่อนข้างนาน ผมใส่กางเกงว่ายน้ำ สวมชุดคลุมอาบน้ำทับมาลวก ๆ คนในค่ายบางส่วนกำลังเล่นน้ำที่สระ บางส่วนออกไปเดินเล่นที่ชายหาด บางส่วนออกไปเที่ยวนอกโรงแรม ส่วนที่เหลือนอนเอกเขนกอยู่ในบ้านพัก
.. โรงแรมมีสระว่ายน้ำสองส่วนแยกกันชัดเจนทั้งสระผู้ใหญ่และสระสำหรับเด็ก ผมสั่งให้พี่ธานสั่งเครื่องดื่มมาเผื่อสำหรับทุกคน ไอ้เด่นเข้ามารับชุดคลุมอาบน้ำออกจากตัวผมทันทีที่ผมทำท่าจะถอดออก มันนำไปแขวนไว้ที่เดียวกันกับพี่ธาน ผมไม่ลงเล่นหรอกครับ แผลเต็มตัวซะขนาดนี้ลงไปจะเป็นที่น่ากังวลสำหรับคนอื่นเอาได้ แต่แค่อยากออกมานั่งพักผ่อนสมองกับลูกน้องสบาย ๆ ก็เท่านั้น อีกอย่าง จุดประสงค์ที่สำคัญกว่านั้นคือ
“บุคคลที่กำลังจะมาถึงทีหลังนั่นต่างหากล่ะ” “ผมบอกชอบหมอนั่นไปแล้ว” ผมเปิดประเด็นขึ้นโต้ง ๆ เมื่อไอ้เด่นลงไปเล่นน้ำกับคนในค่าย ตอนนี้ที่โต๊ะริมสระว่ายน้ำจึงมีเพียงผมและพี่ธาน
“อะไรนะครับ !?” “หึ ไม่คิดว่าพี่จะตกใจขนาดนี้นะ” ผมยิ้มพูดจากใจจริง มือคว้าแก้วน้ำผลไม้ขึ้นจิบ
“ผมก็ไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ” พี่ธานอึกอักด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ
“สถานการณ์มันพาไปน่ะ” ผมบอกพลางถอนหายใจ ตามองผู้หญิงที่โต๊ะริมสระว่ายน้ำอีกฝั่งหนึ่งเนื่องจากหุ่นของเธอเฟิร์มสะดุดตาเป็นอย่างมาก พี่ธานหันไปมองอย่างสนใจเช่นกัน
“คือ..ก็ไม่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะบอกหรอก แต่ความรู้สึกที่รู้อยู่แล้วจะเร็วหรือช้าก็มีค่าเท่ากัน ผมว่าสถานการณ์ตอนนั้นมัน ..พูดยากน่ะ” ผมเบ้ปากนิดหน่อย
“แล้วสมุทรเขาว่ายังไงบ้างครับ”
“ก็นิ่ง ตามสไตล์หมอนั่น เขาบอกว่าจะรับรู้ไว้ ดูเหมือนจะแค่นั้น” ผมหัวเราะขึ้นจมูก มือหยิบแว่นกันแดดขึ้นสวม
“ผมคิดว่า..เขาคิดว่าผมแค่อยากลองดูเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรละมั้ง ก็เลยยอมเลยตามเลย” ผมวิเคราะห์
“ผมว่าสมุทรเขาเป็นคนที่..” พี่ธานเอ่ย ทิ้งน้ำเสียงเว้นวรรคลงหนึ่งอึดใจ มือของพี่เขาที่ทำท่าจะรินวิสกี้ใส่แก้วของตนก็หยุดไปด้วย
“ไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่” ผมพูดขึ้น
“ใช่ครับ ประมาณนั้น” อีกฝ่ายเห็นด้วย
“ไม่ใช่ไม่รู้สึกดี ทั้งที่ไม่อยากทำให้เสียใจ แต่ใจจริงแล้วก็ไม่ได้รัก” ผมพูด ขยายความเมื่อต้องนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีตของตัวเอง
“แล้วเขาดูกังวลหลายอย่างนะครับ หลายอย่างแบบที่คนละประเด็นกับเรา” พี่ธานอมยิ้ม
“เขาดูเป็นคนที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะโฟกัสแต่เรื่องงานกับครอบครัว แบบสุดโต่ง..เรื่องอื่นคือเรื่องรอง ผมรู้สึกอย่างนั้น” พี่เขาพูดปนหัวเราะ
“ก็เหมือนเราไม่ใช่เหรอ” ผมว่ายิ้ม ๆ
“ครับ..ก็เหมือนอยู่ แต่ที่ไม่เหมือนคือ..” อีกฝ่ายเหล่ตามองไปทางสระว่ายน้ำ
“เขามีเหตุผลกว่าเราอยู่พอสมควร”
“ฮ่า ๆ ๆ” ผมหัวเราะในทันทีที่ได้ยินประโยคขยายความติดตลกนั่น
“คิดเยอะไปหน่อย” ผมยักคิ้วบ่น พี่ธานขำ
“ก็พวกเรามันเป็นพวกทำตามอารมณ์นี่นะ” ผมเบะปาก
“มาโน่นแล้วครับ” พี่ธานยักคิ้วไปอีกฝั่ง ผมหันหน้าไปมอง ไอ้เด่นส่งเสียงเรียกพายุพร้อมโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณให้เห็น
“ทางนี้ครับคุณพายุ!!!” คนในสระส่งเสียงจอแจตื่นเต้นกันใหญ่
“จุ ๆ ๆ เฮ้ย..เบา ๆ” พี่ธานหันไปดุปรามทำให้ทุกคนสงบลงไปได้
ผมอมยิ้ม เอนหลังมองลอดผ่านแว่น พายุเดินนำสมุทรกับไอ้เข้มมาโดยทุกคนใส่ชุดคลุมอาบน้ำไว้พร้อม มีเพียงพายุคนเดียวเท่านั้นที่นุ่งผ้าขนหนูไว้ครึ่งตัว เดินหน้ามึนไม่สนใจอะไร แขกที่อยู่ริมสระว่ายน้ำต่างมองมันเป็นตาเดียว เสียงของพี่ธานทักถามพายุว่า
“ดื่มอะไรดีครับ” ซึ่งผมไม่ได้สนใจที่จะหันไปฟังคำตอบ จงใจจับจ้องมองไปที่สมุทรผ่านแว่นตากันแดดที่สวมอยู่ ใช่..มันมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นักหรอก แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบน่ะนะ
.. สมุทรเหลือบตาขวางมาทางผมครู่หนึ่ง เขาจงใจปรามผมด้วยสายตาคู่นั้น เจ้าตัวคงรู้เป็นแน่ว่าผมมองเขาอยู่แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นลูกตาของผมก็ตาม ผมแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมคิ้วก็ถูกยกขึ้นสูงให้
“ยุก็อยากสั่งอาหารบ้าง” พายุพูดขึ้นคล้ายบ่นให้ผมได้ยิน ประโยคงง ๆ ที่ไม่รู้พูดเพื่อฟ้องเลียนแบบใครเพราะที่โต๊ะผมยังไม่มีใครสั่งอาหารเลยสักอย่าง
“ก็ไปสั่งสิ” ผมอนุญาตโดยที่ตายังไม่เหเป้าหมายไปทางอื่น
“แพงแค่ไหนก็ได้เหรอ ?” มันถาม
“เออ อย่าสั่งทองมาแดกก็พอ” ผมตอบห้วน ๆ พายุพึมพำ
“ดีจัง” แล้วร่าเริงเดินจากไปทำให้ไอ้เข้มต้องตามหลังไปติด ๆ สมุทรเดินไปที่ริมสระพูดคุยกับคนในค่าย ผมหันกลับมาสบตากับพี่ธานที่กำลังอมยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ต่าง
“จ้องมากไปแล้วครับ” อีกฝ่ายว่า ผมไม่ปฏิเสธ รอยยิ้มไม่จางไปจากใบหน้าของเราทั้งคู่
“สมุทร” พี่ธานตะโกนเรียกไม่ดังเท่าไหร่
“ครับ” สมุทรขานรับ รีบจ้ำเท้ากลับมาหาพี่ธาน
“อยากกินอะไรรึเปล่า”
“เอ่อ ไม่ครับ” สมุทรปฏิเสธ
“เครื่องดื่มหมดก็สั่งได้เลยนะ ตามสบาย คุณไฟรับผิดชอบ” พี่ธานพูดบอกด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ผมไม่คิดจะห้ามปราม ได้แต่นั่งเฉยมันอยู่อย่างนี้
“ขอบคุณครับ” สมุทรผงกหัวให้เราทั้งคู่ ดูเหมือนเขาจงใจที่จะไม่หันมามองผมตรง ๆ ด้วย
“ตามสบายเลย ถือว่าพักผ่อนแล้วกัน” พี่ธานพูด
“ครับ” สมุทรผงกหัวอีกครั้ง
“..........” อยู่ ๆ เราสามคนพากันเงียบลงพร้อมกันซะอย่างนั้น ผมคิดว่าพี่ธานจงใจมากกว่า มันจึงทำให้สมุทรเก้ ๆ กัง ๆ ที่พี่ธานไม่เอ่ยปากให้เขาไปจากตรงนี้ เขาเลยดูเหมือนไม่กล้าพูด คล้ายกับเกรงว่าพี่ธานมีเรื่องอะไรจะสั่งอีกรึเปล่า
ผมนำนิ้วชี้ดันแว่นออกจากระดับของสายตาจนแว่นเลื่อนลงมาอยู่ที่ปลายจมูกเพื่อให้มองอะไร ๆ ได้สะดวก สมุทรหันมาเห็นเข้าพอดี ตอนนี้ภาพตรงหน้าจึงมองเห็นได้ชัดแจ๋วทีเดียว
แบบว่าภาพเป็นสีปกติน่ะนะ พี่ธานยังคงนั่งเงียบเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ผมอมยิ้มพลางยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นทักทายทำให้คนตรงหน้าจ้องเขม็ง สีหน้าขึงขังที่เหมือนจะคิดสู้ผมครู่เดียวก็เริ่มเปลี่ยน เผยให้เห็นเป็นใบหน้าที่เก้อเขินต่อสถานการณ์ แม้จะไม่พบรอยยิ้มสักนิดเดียวแต่กลับเป็นอาการที่ปิดไม่มิดซะงั้น
“ขอตัวนะครับ” สมุทรตัดบทโดยเจาะจงหันไปบอกพี่ธานคนเดียว พี่ธานพยักหน้ารับซื่อ ๆ
“หึ!” ผมหัวเราะทันทีทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะส่ายหัวยิ้ม ๆ สมุทรกลับไปฝั่งของพวกคนในค่ายแล้ว ผมยังคงนั่งมองเพราะยังไงก็ตามเขาจะต้องลงสระแน่ ๆ สมุทรยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างสระ มือที่จับปมชุดคลุมอาบน้ำยังไม่ดึงออกในทันที ผมคิดว่าเขากำลังลังเลอยู่ว่าควรถอดมันออกดีหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นผมหรือพี่ธานก็คงรอดูอะไร ๆ ไม่ต่างกัน ครู่เดียวสมุทรก็หันข้างไปทางอื่นโดยจงใจหันหลังให้ผม ผมหัวเราะด้วยความพอใจ ตั้งข้อศอกเท้าลงบนที่วางแขนโดยไม่คิดที่จะดันแว่นกันแดดกลับขึ้นใส่ในระดับปกติตามเดิม
“พี่สมุทร! เร็วครับ!!” ไอ้เด่นเร่งเสียงดังลั่นทำให้นักมวยคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสระต่างก็พากันเรียกแต่ชื่อเขา
..
เอาเลย ถอดออกเลย ผมนั่งนึกรออย่างใจจดจ่อ ทันทีนั้นอีกฝ่ายคงจำใจทำในสิ่งที่ตนก็ลำบากใจอยู่ไม่มากก็น้อย สมุทรปดปมชุดคลุมออกอย่างช้า ๆ เสื้อคลุมที่ถูกถอดออกเผยให้เห็นกางเกงว่ายน้ำขาสั้นแบบรัดรูปสีขาวตัดดำปรากฏตรงหน้า และนั่น..
คล้ายกับมีใครมากดปุ่มเปิดสวิตช์ในตัวของผมออกในทันที“Holy ..shit!” ผมสบถเสียงสั่น ตาค้างยิ้มกว้างมองด้วยความพอใจ สมุทรเบี่ยงตัวหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำตรง ๆ ผมคิดว่าเขารู้แน่ว่าโต๊ะของผมกับพี่ธานคงมองอยู่แต่ทำเป็นไม่หันมา ฝ่ายที่ยืนริมสระโดยหันข้างอยู่จึงทำให้ผมเห็นรูปร่างด้านข้างของเขาได้ชัดเจน
ด้วยความที่เจ้าตัวก็มีเลือดของนักกีฬาอยู่พอสมควร เขาเลือกที่จะไม่ลงไปในสระทันทีทั้งที่ไม่ใช่สถานการณ์ควรรอ สมุทรยืนอบอุ่นร่างกายอยู่ข้างสระด้วยท่าทางไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก ผมตั้งตามองอย่างกับภาพตรงหน้าคืองานศิลปะระดับโลกอย่างนั้น ก็เคยคิดอยู่หรอกว่าผมชอบหุ่นของเขามาก มันพอดิบพอดีเสริมให้หน้าตาของอีกฝ่ายที่ไม่ค่อยมีอะไรเด่นให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นได้ แต่ผมว่าวันนี้ผมจะคิดใหม่สักหน่อย เพราะดูเหมือนมันจะอาการหนักกว่าเดิม สรีระเต็ม ๆ ตาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เลือดลมลุกโชนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ฟู่~ ขอบคุณสวรรค์ที่ให้กูมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้” ผมพึมพำติดตลกทำให้พี่ธานหลุดหัวเราะเอาเป็นเอาตายซะงั้น
“คุณพายุเซ้นต์ดีเหมือนเคยนะครับ รู้ว่าใครเหมาะกับอะไร” พี่ธานชม สายตาของพี่ธานก็มองไปที่สมุทรคล้ายกับพินิจพิเคราะห์ไม่ต่าง ผมเอียงลำคอเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองมองอะไร ๆ ได้ถนัดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันสมุทรก็กระโดดพุ่งตัวหนีลงสระไปซะแล้ว ผมกัดลิ้นด้วยนึกเสียดาย นิ้วชี้ดันจมูกแว่นตากลับเข้าที่อย่างเดิม ลมหายใจพ่นออกทางปากพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มากขึ้นจนเกือบกลายเป็นเลื้อย พี่ธานยิ้มมอง
“หุ่นหมอนั่นนะ ของแท้ทั้งร่าง เล่นเอาท่อนล่างผมเต้นไม่หยุดเลย” ผมบ่น พี่ธานกลั้นหัวเราะอีกครั้ง
ผมชอบผู้ชายหุ่นแบบสมุทรหรือพี่ธานทำนองนี้ แต่หากคน ๆ หนึ่งที่ผมต้องนอนด้วยอาจเป็นหุ่นเล็กบางไม่มีกล้าม ผมขออย่างเดียวคืออย่ามีหน้าท้องก็พอ บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงหมดอารมณ์ได้บ้างทีที่เห็น หุ่นแบบพี่ธานและสมุทรเป็นหุ่นที่จัดว่าใส่เสื้อเชิ้ตแล้วน่ามองสำหรับผม ด้วยเพราะเนื้อผ้าที่มักจะเต็มรูปร่างส่วนบนจนดูออกเลยว่าอีกฝ่ายออกกำลังกายอย่างแน่นอน ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ชอบหุ่นตัวเอง ผมพอใจในหุ่นของตัวเองมาก แต่อย่างที่บอกว่าหุ่นของผมกับสมุทรนั้นคนละทรงกัน ซึ่งถ้าจะให้ผมหุ่นแบบสมุทรผมก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะผมชอบหุ่นตัวเองเวลาที่ใส่เสื้อเชิ้ตมากกว่า ขอบคุณที่มันปั้นมาเพื่อให้เหมาะกับหน้าตาของผมแล้ว
“ยุสั่งอาหารมาเผื่อคนในค่ายด้วยนะ เห็นว่าไม่มีขนมกินเล่น” พายุเดินยิ้มแป้นแล้นกลับมา
“อยากลงเหมือนกันน้า~” ผมออกปากทันทีเพราะพี่ธานลุกขึ้นทำท่าจะอบอุ่นร่างกาย
“ไม่ได้นะครับ คุณยังไม่หายดีเลย” พี่เขาปรามทันควัน
“รู้แล้วน่า” ผมกลอกตาเซ็ง ๆ หันข้างมามองน้องชายที่นั่งอยู่ นึกหมันเขี้ยวเลยเอานิ้วไปเขี่ยหัวนมมันเล่น
“เฮีย!” พายุกระแทกเสียงปัดมือออกอย่างแรง ไอ้เข้มที่เห็นเหตุการณ์รีบก้มหน้าก้มตากลั้นใบหน้ายิ้ม ๆ ของตนเอาไว้
“อยากตาบอดรึไงวะ” พายุกัดฟันหันไปว่าไอ้เข้ม ผมหัวเราะ
“ขอโทษครับ” ไอ้เข้มผงกหัวหน้าเจื่อน
“แม่ง..มีแต่คนเพี้ยน” พายุสบถพร้อมลุกขึ้นปลดผ้าขนหนูออกจากเอว ผมจ้องเขม็งไปที่เป้าของมันที่อยู่เบื้องหน้าในระดับสายตาพอดี
“เฮีย!!” “ชี่..เสียงดังทำเหี้ยไรวะ ไม่ได้อยากดูหรอกน่าหนอนน้อยมึงน่ะ ดูอนาคอนด้าของพี่ธานสบายตากว่าเยอะ” ผมยักคิ้วพร้อมทำเสียงซี๊ดซ๊าด พี่ธานถึงกับขบกรามไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา เจ้าของอนาคอนด้าถอนหายใจคล้ายเหนื่อยหน่าย ส่วนพายุขมุบขมิบปากบ่นเดินหนีลงน้ำไปแล้ว
“ไอ้เข้ม” ผมเรียก
“ครับ” ไอ้เข้มเงยหน้าขานรับ
“พี่ใหญ่มึงเขายัดผ้าไว้เหรอวะ ? ไม่ต้องตุงขนาดนั้นก็ได้มั้ง แหม่..น่าสงสารคู่กรณี” ผมถามด้วยน้ำเสียงซื่อ ๆ จ้องมองไปที่เป้ากางเกงพี่แก อีกฝ่ายฉีกยิ้มเขิน ๆ ไอ้เข้มปิดปากกลั้นอมยิ้มเอาไว้จนหูมันแดงทำให้พี่ธานถึงกับต้องเอื้อมมือไปตบหัวปรามมัน
“เฮ้อ..” พี่ธานส่ายหัวเหนื่อย ๆ หนีลงน้ำไปอีกคน
“ไม่ลงรึไง” ผมถามถึงไอ้เข้มที่นั่งสงบเสงี่ยม
“รอให้พี่ใหญ่ขึ้นมาก่อนดีกว่าครับ” มันตอบอย่างเป็นกังวล แน่นอนว่าถ้าผมไม่มีพี่ธานอยู่ข้าง ๆ หน้าที่ดูแลผมจะต้องเป็นใครสักคน ซึ่งถ้ามันเสนอหน้าลงไปตอนนี้ผมก็ไม่ว่าอะไรมันหรอกนะครับ แต่คนที่จะดุมันก็คือพี่ใหญ่โน่นละ
พี่ธานกับพายุเล่นน้ำด้วยกัน แต่เหมือนพี่เขากำลังถูกซักคำถามโดยพายุมากกว่า สมุทรว่ายน้ำสลับกับคุยเล่นกับคนในค่ายบ้าง ผ่านไปยี่สิบนาทีเห็นจะได้อาหารก็นำมาเสิร์ฟ บางคนกระจายตัวขึ้นมาจากสระ พอพี่ธานกลับขึ้นมานั่งที่โต๊ะไอ้เข้มก็สลับลงสระไป พายุนั่งลงข้างผมโดยนำผ้าขนหนูคลุมไหล่เอาไว้ อาหารที่นำมาเสิร์ฟที่โต๊ะของผมมีมันบดจัดจานอลังการจานเบ้อเริ่ม กุ้งอบชีส สลัดอกเป็ดรมควัน ปิดท้ายด้วยซาชิมิชุดใหญ่ ผมนั่งมองอาหารเงียบ ๆ พายุนั่งหน้าตายหยิบช้อนส้อมเตรียมลงมือกิน พนักงานนำบิลค่าอาหารมายืนเก้ ๆ กัง ๆ ข้างพายุ น้องชายตัวดีจึงรับสมุดบิลมาวางลงตรงหน้าผมให้อย่างรู้หน้าที่ ผมถอนหายใจเซ็ง ๆ รับมาเปิดดูราคาที่ค่อนข้างสูงก่อนวางบัตรเครดิตให้ เนื่องจากเป็นโอกาสนาน ๆ ครั้งพายุก็ต้องเลือกของดีให้คนในค่ายได้กินอยู่แล้ว ดังนั้นราคาจะสูงก็คงไม่แปลก ผมมองคนในค่ายที่กำลังกินอาหารอยู่อีกโต๊ะหนึ่งอย่างอิ่มเอม พายุคีบปลาแซลมอนมาจ่อที่ปากให้ ผมจึงอ้าปากรับกินง่าย ๆ
“อร่อย” มันยิ้มสาธยาย ผมเคี้ยวโดยไม่ตอบ
“เฮีย..จีบพี่สมุทรเหรอ ?” จู่ ๆ พายุก็ถามขึ้น พี่ธานช้อนตาขึ้นมองมา
“ดีปะละ ?” ผมกวนตอบให้มันคิดเอาเอง พายุชะงัก เคี้ยวอาหารในปากพลางกลอกตาขึ้นคล้ายกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“ไม่รู้สิ” พายุตอบเสียงค่อย
“พี่เขาก็ดูเป็นคนดีนะ แต่ว่า..”
“ถ้าดีจริงก็ไม่น่าจะเอาเฮียหรอก ก็เฮียนิสัยอย่างเนี้ย!” มันแสยะปากรับไม่ได้ ผมแลบลิ้นนำมากัดไว้ด้วยนึกชอบใจคำขยายความของน้องชายขึ้นมา
“พูดได้ดี ถือว่ารู้จักกันจริง” ผมยิ้มรับ
..............(ไฟ)..............