The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446092 ครั้ง)

ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตอนนี้น่ารักกกกก ไฟสมควรโดนสมุทรเล่นให้หนักจริงๆซักทีน้าาา น่ารักมาก หมั่นเขี้ยววว

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณไฟเริ่มรุก แบบจริงๆจังๆแล้ว โว๊วๆๆ



สงสารพวกนักเลงที่มาหาเรื่องคุณไฟจังว่ะ



อุตส่าห์ขนกันมาเป็นโขยง แต่ไร้ความสามารถเลยโดน บาทาไร้ปราณี ของคุณไฟไปเต็มๆ



เป็นห่วงสมุทรจัง คุณไฟแกเข้าข่ายโรคจิต เป็นบุคคลหลายอารมณ์ และ อารมณ์ร้ายด้วย



สมุทรต้องระวังหลังดีๆนะ คนไฟแกไม่เคยข่มขืนใรก็จริง



สมุทรอาจฟลุ๊คโดนคนแรก ฮ่าๆๆ เพราะดูๆแล้วคุณไฟ เหงี่ยนมากกกกกก



ดีนะของฝากน้องเมฆไม่เสียหาย ถ้าโดนเหยียบเละละก็ ป้าจะไปตบกะโหลก



ไอ้นักเลงบ้าบิ่น ที่มากวนไม่เลือกเวลานี่จริงเลย รักน้องเมฆเด็กมืดมนเหมือนเดิม :katai2-1:

ออฟไลน์ sexysunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
แวะมาส่องหน้าค่ายมวยทุกวัน  เผื่อเจอสมุทรพาลูกน้องพี่ไฟในค่ายออกมาซ้อมบ้าง   ฮือออ คิดถึง   

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มาเกาะขอบเวทีรอ นักมวย

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
มาไหมนะ คิดถึงจะแย่แล้วพี่ไฟ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
คิดถึงคุณไฟ  :o12: :o12:


ออฟไลน์ Sadistic_seme

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงสมุทรกับคุณไฟแล้ว อยากรู้ว่าความรู้สึกของทั้งสองคนจะหวานขึ้นหรือเปล่า สมุทรจะตามใจคุณไฟได้มากแค่ไหน  :L2:



รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เหมือนจะมาสวีทกันนะ แต่.... 5555555

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 o9 o9 o9 o9 o9 o9 เมื่อไรคุณไฟจะมาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ SunShinee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อื้อออ ในที่สุดก็จูบกันแล้วววววว  สมุทรแบบไร้วี่แววอ้ะ รู้สึกยังไงกันแน่นะดูไม่ออกเลย  :o12:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
มาตอเถอะนะคุณไฟ แงงงงง คิดถึงมากๆเลย

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :katai5:เข้ามารอ :z2:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
บี้จ๋า คนอ่านคิดถึงงงงงมากมาย ^_______^

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ไม่เจอไฟเดือนแล้วนึงแล้ว คิดถึงจัง

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ขำตัวเอง เห็นเรื่องนี้อยู่ฟีดหน้าแรกบรรทัดต้นๆ มองไวๆเห็นเป็นวันที่ 11 รีบพรวดพราดเข้ามาดูด้วยความดีใจ อ้าว!! ตอนเก่านี่หว่าอัพตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.59 นิ๊ ไม่ใช่ 11 พ.ย.59  :a5:  ฮาาาาาว่ะ  อายจุง

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ชี้แจงและตอบคำถามเกี่ยวกับตัวละคร [ วันที่ 11 พ.ย 59 ] หน้า 39 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.msg3514362#msg3514362


ตอนที่ 31
..ไฟ..




KEETHARA HOTEL, PATTAYA
การกลับมาถึงโรงแรมโดยที่มีพายุ  ไอ้เข้มและไอ้เด่นรออยู่ที่ห้องพักของผมอยู่แล้วนั้นน่าจะเดาได้ไม่ยากว่าพวกมันทราบเรื่องที่ตลาดเรียบร้อยแล้ว  พี่ธานคงเป็นคนบอก  ผมโยนไม้เท้ามองหน้าที่ให้กับไอ้เด่นเพื่อให้มันนำไปจัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย  อีกฝ่ายรับไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก  ประตูห้องนอนปิดลงอย่างแรงเพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าเจ้าของห้องต้องการอยู่คนเดียวสักพักหนึ่ง 

เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ  แผลที่ตัวก็เริ่มออกอาการเตือนว่าก่อนหน้านี้มันยังไม่หายดีและปัจจุบันมันกำลังกำเริบขึ้นจากการที่ผมเคลื่อนไหวร่างกายมากเกินไป  ความเจ็บปวดในตอนนี้ไม่ได้รุนแรงมากถึงขนาดทำให้ละความยึดติดในความเจ็บปวดนั้นไม่ได้  ผมถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือย  รู้สึกแขยงทั้งเลือดและทั้งเหงื่อของตัวเอง  น้ำในอ่างไม่ได้มีคนเปิดรอไว้อย่างทุกครั้งทำให้ต้องทำความสะอาดร่างกายอย่างลวก ๆ แทน  แม้ที่ท้องจะไม่มีสีช้ำเลือดช้ำหนองแต่ก็ระบมอยู่ตลอดเวลา  หลังอาบน้ำเสร็จผมก็ซุกตัวเข้าเตียงพร้อมกับกางเกงในตัวเดียว  และอยู่ ๆ ร่างกายก็รู้สึกเพลียขึ้นมา..
 


ก๊อก  ๆ ๆ
“เฮีย..” เสียงพายุเรียกขึ้นหลังจากเสียงเคาะประตูเบา ๆ คล้ายเกรงใจ  ผมลืมตาขึ้น  เหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบบ่ายสองโมงเต็มแก่แล้ว  เวลาหลับไปไม่นานแต่การหลับที่ดิ่งลึกทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้นบ้าง  คนข้างนอกเงียบสนิท  ผมนอนนิ่งอย่างไม่คิดที่จะขานรับ  คาดว่าอีกประเดี๋ยวมันก็คงจะเปิดประตูเข้ามาเองเพราะผมไม่ได้ล็อก  ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ  พายุเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารและยา

“ยาก่อนอาหาร” มันบอก  พี่ธานตามเข้ามาพร้อมกล่องยาอเนกประสงค์อีกคน  ประตูห้องถูกปิดลงอย่างเบามือ  ผมนอนมองไม่ขยับจนพายุยื่นแก้วยามาให้จึงยอมขยับตัวขึ้นกึ่งนั่งและรับมากินโดยดี  ตามองข้าวต้มกุ้งในชามกับจานผลไม้บนถาด  กลิ่นก็หอมดีอยู่หรอก แต่ไม่ค่อยมีอารมณ์

“กูไม่ใช่คนป่วยที่แดกอะไรไม่ได้สักหน่อย” ผมเอ่ยปาก

“ก็เกือบจะป่วยแล้วแหละ” พายุย้อนเสียงแข็งแกมประชด  พี่ธานเหลือบตามาสบกะล่อนอ่านใจผมออก 

“ไม่กิน ไม่มีอารมณ์” ผมเทตัวลงนอน

“กินยาก่อนอาหารแล้วไม่กินอาหารได้ยังไง” พายุขมวดคิ้ว

“.........” ผมเงียบ  ในห้องจึงเงียบตาม  เสียงการคนข้าวต้มในชามดังขึ้นแว่ว ๆ

“เฮียครับ” มันเรียกอีกครั้ง  ผมเหลือบตามองก่อนถอนหายใจยอมความลุกขึ้นนั่งดี ๆ  ขาหย่อนลงจนเท้าแตะพื้นพรม  ช้อนที่ตักข้าวต้มและถูกเป่าให้คลายร้อนยื่นมาจ่อรอที่ปาก  ผมอ้าปากรับมากินโดยง่าย 

“ขออนุญาตนะครับ” พี่ธานเอ่ยขอก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ กับผม  เมื่อข้าวต้มถูกกลืนลงคอก็เหมือนน้องชายผมมันจะดูออก  ช้อนต่อไปตักมาจ่อปากรอทันที  ผมกินไปได้รวมสามคำ  มือคว้าหยิบจานผลไม้บนถาดมาวางบนตักตนเอง 

“พอแล้ว” ผมท้วง  ขอเลือกที่จะกินผลไม้ต่อแทนข้าว  พายุถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ห้ามอีก  มันย้ายไปนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแทน  แขนซ้ายของผมยกขึ้นสูงเพื่อให้พี่ธานทายาได้ถนัดขึ้น
 
“ทำไมเฮียไม่ใส่เสื้อผ้า เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” พายุขมวดคิ้วมองมา

“บ่นมากจริง” ผมบ่นเสียงเนือยด้วยนึกรำคาญหู

“เจ็บไหมครับ” พี่ธานถาม

“นิดหน่อย” ผมตอบส่ง ๆ  เราสามคนพากันนั่งเงียบจนเอวของผมถูกทายาให้จนเสร็จ

“ดีนะครับแผลที่คิ้วไม่เปิด คุณอย่าโกรธบ่อยนักสิครับ” พี่เขาบ่นเสียงเรียบ

“ไม่ได้โกรธเลย” ผมพูดจากใจ  โดยละคำว่า “..มั้งนะ ?” ต่อท้ายไว้เบื้องลึก  ตาลอยมองผนังห้องตรงหน้าพร้อม ๆ กับมือข้างขวาหยิบแอปเปิลเข้าปากไปด้วย  น้ำแอปเปิลหวาน ๆ ไหลลงคอช่วยทำให้รู้สึกดีทันที

“เดี๋ยวยุจะออกไปห้างหน่อยนะ” พายุพูดขึ้นคล้ายขออนุญาต

“ไปทำไม” ผมเหล่ตาไปมอง  พายุกลอกตากลอกแกลก

“นี่มันเลยเคอร์ฟิวที่สั่งห้ามชอปปิงรึยังนะ” ผมคุยกับพี่ธาน  อีกฝ่ายอมยิ้มอ่อน ๆ ตอบ  ทำท่าเหมือนจะเข้าข้างน้องชาย

“อย่าตามใจมันนักเลยน่า” ผมส่ายหัวบ่นพี่เขา

“สระว่ายน้ำที่นี่สวยดี ยุอยากลง..แต่ไม่ได้เอากางเกงว่ายน้ำมา” พายุแก้ตัว  ผมชะงักก่อนเหลือบตามองไปที่พายุ

“เหรอ ?” ผมเลิกคิ้วรับทราบ

“..........” ในห้องเงียบลง  ต่อมสมองลึก ๆ กำลังประมวลผลก่อนแสยะยิ้มส่งไปให้พี่ธาน

“ความคิดดีนี่” ผมชมน้องชาย  พี่ธานที่กำลังแปะผ้าก๊อซที่หางคิ้วให้ผมอยู่เหลือบตาลงต่ำ  มองผมด้วยแววตากรุ่มกริ่มไม่ต่าง 

“ซื้อมาให้กูด้วยตัวนึง” ผมสั่ง

“เฮียจะลงสระได้ยังไง แผลยังไม่หายเลย”

“เออน่า กูแค่อยากใส่อาบแดดของกูเฉย ๆ ไม่ได้รึไง หรือจะให้กูใส่กางเกงในลงไป มึงนี่ไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย” ผมย้อน

“ไม่ยักรู้ว่ารู้จักคำว่า ‘กาลเทศะ’ กับเขาด้วย” มันตอกกลับเอือม ๆ

“ฮึ!” ผมสบถหัวเราะขึ้นจมูกอย่างชอบใจ  ทำเมินไม่สนใจหน้าตาซื่อบื่อของน้องชาย  หันตัวกลับไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนหัวเตียงพร้อมยื่นบัตรเครดิตบัตรเสริมที่ผมเปิดไว้ให้พายุได้ใช้ยื่นให้กับมัน  พายุรับไปไม่ถามไถ่  บัตรเครดิตบางบัตรหากเป็นบัตรเสริมที่มีวงเงินที่สูงผมจะเก็บไว้ที่ตัวเอง  จะอนุญาตให้พวกมันเอาไปใช้ได้บางครั้งบางคราวเท่านั้นเพราะต้องดูสาเหตุที่จะให้มันเอาไปใช้ด้วย  กับไอ้ดินยังพอเกรงกลัวไม่กล้าใช้วงเงินเยอะหากไม่ได้รับอนุญาต  แต่กับไอ้พายุนี่เผลอเป็นไม่ได้  ถึงมันจะเป็นคนรู้จักใช้และเป็นระเบียบในเกือบทุก ๆ เรื่อง  แต่หากมันไปเจอของสิ่งใดที่ถูกใจจนตกหลุมรักมากจนไม่สามารถออกจากร้านได้จริง ๆ ละก็  เหตุผลของมันมักหายไปกับสายลมเลยละครับ   

“ซื้อให้พวกนั้นด้วย” ผมพยักพเยิดหน้าออกไปนอกห้อง

“เอาให้ครบนะ” ผมกำชับ

“แล้วอยากได้อะไรก็ซื้อมา” ผมอนุญาต

“ได้!” พายุผงกหัวยิ้มกว้าง  มีน้องฉลาดในเรื่องที่ไม่ควรฉลาดนี่มันดีแก่ใจจริง ๆ

“อิ่มแล้ว ขอบใจ” ผมจิ้มสับปะรดเข้าปากอีกสามสี่ชิ้นเป็นการปิดจบพร้อมยื่นจานกลับไปให้  พายุสลับมือยื่นยาหลังอาหารมาให้ทันควัน  ผมรับมากินง่าย ๆ เพราะจะได้จบเรื่องไป  เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเป็นไปตามที่มันต้องการแล้วมันก็ลั่นล้าหูตั้งหางแกว่งออกจากห้องไปก่อน 

“คิดอะไรอีกครับ ?” พี่ธานพูดขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงกล่องยาอเนกประสงค์ที่ถูกปิดลง

“อะไรกัน ผมต้องตอบด้วยเหรอ..นึกว่าพี่รู้ใจผมที่สุดซะอีก” ผมแซวกลับพร้อมกะพริบตาถี่ ๆ  เท้าแขนทั้งสองข้างเอนตัวไปทางด้านหลัง  อีกฝ่ายกลั้นอมยิ้มเอาไว้

“เดทผมล้มไม่เป็นท่า” ผมบ่นพร้อมถอนหายใจ  ฟันกัดลิ้นในปากด้วยความเคยชิน  ขยับเลื่อนตัวกลับไปเอนหลังพิงหมอนที่หัวเตียง

“นั่นเรียกว่าเดทได้ด้วยเหรอครับ” พี่ธานประชด  ผมอมยิ้มเพราะหน้าพี่แกกวนตีน 

“ช่วยอะไรหน่อยสิ..” ผมพูด 

“กางเกงว่ายน้ำของอีกฝ่ายน่ะ น่าจะไซซ์เดียวกันกับพี่กับผมนั่นแหละ แล้วพี่ก็ออกปากชวนให้เขาใส่ ตะล่อมบอกว่ามันแพง..ใส่หน่อยเดี๋ยวพายุจะเสียน้ำใจ” ผมเสนอ

“นั่นมันจุดอ่อนเขาครับ” พี่ธานย้อน

“ใช่..นั่นมันจุดอ่อนหมอนั่น” ผมยักคิ้วยิ้มรับ

“คุณไฟครับ ตอนอยู่ที่ค่าย..บางครั้งเขาก็ถอดเสื้อซ้อมอยู่แล้วนี่ครับ” พี่ธานพูดด้วยสีหน้าไม่เข้าใจขึ้นมา  ปกติผมกับพี่ธานจะถอดเสื้อซ้อมไม่ว่าจะซ้อมกับใครก็ตาม  เหตุผลพื้นฐานแสนธรรมดาคือชอบอะไรที่สะดวกสบาย  เคลื่อนตัวได้คล่องตัว  แต่สำหรับสมุทร ถ้าหากเขารับหน้าที่เป็นเทรนเนอร์  อีกฝ่ายมักจะใส่เสื้อยืดหรือไม่ก็เสื้อกล้ามทำหน้าที่นั้นเสมอ  เขาจะถอดเสื้อซ้อมก็ต่อเมื่อขึ้นซ้อมส่วนตัวเท่านั้น 

“พี่ก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกัน” ผมแก้ต่าง

“หน้าตาตื่นเต้นจังเลยนะครับ”

“หึ ๆ” ผมหัวเราะยอมรับ

“นะครับ ช่วยหน่อยน่าพี่ใหญ่” ผมย้ำขอ  ขณะเดียวกันก็ขยับตัวนอนซุกเข้าไปใต้ผ้าห่มมากกว่าเดิม  พี่ธานส่ายหัวยิ้มน้อย ๆ ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

“สมุทรเขาคงเบื่อผมแล้วแน่ ๆ” พี่ธานพูดแกมบ่น 

“อีกนิดเดียวเจ้าตัวคงจะรู้แกวว่าผมให้ท้ายคุณ” พี่เขาบ่นด้วยสีหน้าหนักใจ

“หึ ๆ” ผมหัวเราะ

“ผมอยากนอนต่ออีกสักหน่อย” ผมตัดบท

“งั้นเดี๋ยวผมรอข้างนอกนะครับ”

“ขอบคุณครับ” ผมบอก  อารมณ์ครุกรุ่นเมื่อครู่แทบหายไปแทบหมดสิ้น  ทางออกในบางครั้งของผมก็คือพยายามไม่นึกถึงมัน  พี่ธานจัดผ้าห่มให้ผมก่อนออกจากห้อง  แอร์ปรับอากาศทำให้รู้สึกหนาวขึ้นเรื่อย ๆ  โทรศัพท์มีสายโทรเข้าเป็นระยะแต่ผมไม่ได้สนใจที่จะนำมากดดูว่าจากใคร  ตัดสินใจปิดไฟดวงหลักในห้องเพื่อนอนพักต่อ  เสียงจอแจของคนด้านนอกเงียบไปแล้ว  พายุคงพากันออกไปซื้อของแล้วเป็นแน่  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรืออะไร  อยู่ดี ๆ หนังตาก็หนักขึ้นมาอีกครั้งเสียอย่างนั้น..


- - - - - - - - - - - - - - -


ก๊อก  ๆ ๆ 

เสียงเคาะประตูดังแว่วไม่แรงนัก  มันค่อนข้างเบามากอย่างกับคนเคาะไม่ค่อยกล้าจะเข้ามารบกวน  ตาปรือพยายามปรับหรี่ขึ้นมอง  ประตูห้องเปิดแง้มเข้ามาอย่างเนิบช้า  หน้าของพี่ธานชะโงกเข้ามาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น  อีกฝ่ายทำหน้าตาประหลาด ๆ ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมองเต็มตา  รู้สึกว่าตัวเองได้นอนเต็มอิ่มในรอบหลายอาทิตย์ก็คราวนี้  ไม่ทันให้สอบถามอะไรพี่เขาก็หายตัวไป  เสียงพูดคุยของพี่ธานกับสมุทรแว่ว ๆ  ครู่เดียวสมุทรก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร  เขาเลือกที่จะไม่ปิดประตูโดยแง้มมันไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น 


.. อีกฝ่ายนำถาดวางลงตรงโต๊ะที่หัวเตียงไม่พูดไม่จา  ผมพลิกตัวนอนหงายมองอย่างไม่คิดที่จะเอ่ยปากทักก่อนด้วยเช่นกัน

“คุณพายุสั่งเอาไว้ว่าให้คุณกินเวลานี้ครับ เป็นยาจีนน่ะครับ” สมุทรอธิบายถึงการมาขอตน  น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะสำลัก

“ไม่” ผมตอบเด็ดขาด  กลิ้งตัวตะแคงข้างเหมือนเดิม  ยาจีนของไอ้พายุน่ะเหรอ.. รสชาติป่วยนรก!

“แต่ว่า..” สมุทรอ้ำอึ้ง 

“ฉันมียาหมออยู่แล้ว ๆ ก็กินไปแล้วด้วย ทำไมฉันต้องกินยาจีนอีก นี่ไม่ได้ติดอยู่ในป่านะ”

“ในป่าหายาจีนดี ๆ แบบนี้ไม่ได้หรอกนะครับ” อีกฝ่ายย้อนเสียงเรียบ  ผมเงียบ.. แม่งเสือกฉลาด

“เป็นยาที่จะบำรุงช่วยให้ร่างกายของคุณอาการดีขึ้นเร็ว ๆ น่ะครับ กินเถอะนะครับ” สมุทรพูดด้วยน้ำเสียงอะลุ่มอล่วย  ผมซุกหน้าเข้าที่หมอนนอนฟังเงียบ ๆ  อยากยอมว่าง่ายอยู่สักหน่อยเพื่อตามใจหวังเอาใจอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน  แต่ความเป็นตัวเองมันดันเรียกร้องให้เป็นตัวเองต่อไป

“ฉันดีขึ้นมากแล้ว” ผมบอก  เสียงอู้อี้อยู่ในหมอน

“เหรอครับ..” สมุทรขานรับเท่านั้นก่อนเงียบไปง่าย ๆ  ผมยังคงนอนเฉย  คิดว่าอีกเดี๋ยวเขาคงจะยอมแพ้แล้วออกจากห้องไปเอง


หมับ!   

“โอ๊ย! แม่งเอ๊ย!” ผมตวาดเสียงดัง  ตัวสะดุ้งลุกขึ้นนั่งพร้อมปัดมือสมุทรออกจากท้องอย่างแรง  อีกฝ่ายบีบมือเข้ามาที่แผลเต็มกำลังโดยไม่มียั้งมือแม้แต่น้อย 

“สัส!!” ผมด่าอย่างหงุดหงิด  พี่ธานเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยสีหน้าตกใจไม่ต่างจากคนที่ถูกว่ากลับ  ผมนั่งเงียบ  พ่นลมหายใจทิ้งไปกับอารมณ์ที่ขึ้นอย่างกะทันหัน  มือกุมท้องที่ถูกจู่โจมเอาไว้อย่างได้สติ

“เปล่า ไม่มีอะไร” ผมยกมือปัดบอกพี่ธาน  พี่เขาเหลือบมองหน้าสมุทรเล็กน้อยก่อนผงกหัวรับทราบแล้วออกจากห้องไป  สมุทรยืนนิ่งจ้องมองมา 

“ขอโทษครับ” อีกฝ่ายพูด  ผมเงียบ  หันหน้าหนี  ตามจริงแล้วก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรทำนองนั้นหรอก

“มือผมเร็วไปหน่อย” เขาขยายความเรียบ ๆ

“ผมแค่รู้สึก หมันไส้คุณ..อยู่นิดหน่อยน่ะครับ” สมุทรพูดคล้ายพยายามจะอธิบายการกระทำของตน  คำพูดประโยคนี้ที่เกือบทำให้ผมหลุดยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกไปจริง ๆ  สายตาเพียงเหลงบนเตียงเท่านั้น

“ดื่มหน่อยนะครับ คุณพายุอุตส่าห์ทำเตรียมไว้ให้ก่อนจะออกไป” อีกฝ่ายสรุปเองเสร็จสรรพ  ก้มลงยกถ้วยยาจีนยื่นมาให้ผม  ผมถอนหายใจแรงและไม่คิดจะพูดอะไร  สมุทรยืนเงียบจ้องมองมาอยู่อย่างนั้นและดูเหมือนเขากำลังเหนื่อยใจที่จะให้เป็นอย่างนี้ต่อไปด้วย  เจ้าตัวนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ หยิบถาดมาวางเทินบนตักของตนเพื่อเป็นฐานรองถ้วยยา  ฝาของมันถูกเปิดออกช้า ๆ ทำให้ไอร้อนพุ่งออกมากระทบหน้าพวกเราในทันที  กลิ่นดุดันโชยหึ่ง  ผมถอนหายใจเบา ๆ อีกครั้ง  นำมืออีกข้างลูบนวดระหว่างกลางคิ้วเพื่อให้ใบหน้าตัวเองได้รู้สึกผ่อนคลาย

“หึ..” น้ำเสียงหัวเราะน้อย ๆ ในลำคอทำให้ผมหันกลับไปมอง

“อะไร ?” ผมถาม  ได้ยินแล้วดันไม่สบอารมณ์

“มันไม่ใช่เรื่องที่คุณควรเครียดเลยนะครับ เป็นเด็กรึไง” สมุทรยิ้มมอง  ผมเมินหน้าหนีครู่หนึ่ง

“ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้ แต่แค่ไม่มีอารมณ์..มีอารมณ์เมื่อไหร่ก็เรียกหาเองนั่นแหละ” ผมตอบ

“ถึงเวลาที่เรามีอารมณ์เรียกหา คนที่เราอยากให้ทำให้กิน อาจไม่อยู่ทำให้แบบนี้แล้วก็ได้นะครับ” สมุทรย้อน  น้ำเสียงนุ่ม ๆ เฉือนไปด้วยความหมายที่เถียงไม่ออก 

“..........” ผมยังคงนิ่ง  ในห้องเงียบสนิท  คนข้าง ๆ ไม่ขยับไปไหนเช่นกัน

“อยากให้ฉันกินก็เป่าซะ” ผมสั่งโดยยังไม่หันไปมอง  ทิ้งช่วงไปครู่หนึ่ง เสียงพ่นลมหายใจทางจมูกดังขึ้นนิดหน่อย  แต่แล้วก็ได้ยินเสียงของช้อนที่ขยับคนเป็นวงกลมไปรอบ ๆ ถ้วย  ผมเหลือบตามองไปที่เป้าหมาย

“ไอร้อนซะขนาดนี้นี่มันคิดจะฆ่ากูรึไง” ผมบ่นหน้าขยาดถึงไอร้อนในถ้วยยาที่ยังคงพุ่งออกมากระทบหน้าสมุทรอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาใช้ปากเป่า  ควันมีมากอย่างกับว่าถ้วยมันตั้งอยู่บนเตาร้อน ๆ อยู่อย่างนั้น  สมุทรอมยิ้มตั้งอกตั้งใจคนไปเป่าไปไม่ว่าอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2016 23:37:58 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“เป็นน้องชายที่ดีนะครับ”

“คุณเขากำชับนักหนาว่าพี่ชายเขาไม่ชอบของร้อนถ้าไม่มีอารมณ์ ถ้วยนี่ก็สั่งทำจากญี่ปุ่นใช่ไหมครับ คุณเขาอุตส่าห์เตรียมเผื่อไว้ ทำอย่างกับรู้ว่ามันจำเป็นต้องได้ใช้งาน” สมุทรเหลือบตามองมา  นัยยะแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์อยู่ลึก ๆ
 
“จัดแจงหมดทุกอย่างว่าอะไรที่คุณควรกิน อะไรที่คุณชอบ..อะไรที่คุณไม่ชอบ” เขาสาธยายเสร็จก็วางช้อนลงที่จานรองแล้วยื่นถ้วยมาตรงหน้า  ผมรับฟังเพราะมันก็จริงตามนั้น  มือรับถ้วยมาถือไว้พร้อมเป่าอีกครั้งเพราะยังคงไม่ไว้ใจในความร้อนนั่น

“อะไรที่ฉันไม่ชอบงั้นเหรอ ? มันทำมาเสมอนั่นแหละ” ผมว่าก่อนยกถ้วยขึ้นจิบนิด ๆ  รสชาติขมฝาดแตะโดนลิ้นพุ่งตรงเข้าไปที่ประสาทการรับรู้อย่างรวดเร็ว  ผมยื่นถ้วยกลับไปให้  สมุทรเหลือบมองถ้วยด้วยใบหน้านิ่งเฉยโดยไม่ยอมรับกลับไปดี ๆ

“ดื่มให้หมดครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ ที่แฝงนัยยะไปด้วยความแน่วแน่  ใช่..ผมชอบเขาที่เป็นคนแบบนี้  แต่ก็ไม่ได้หมายถึงในกรณีนี้หรอกนะครับ

“มันขมน่า ร้อนด้วย” ผมบ่น  ทิ้งถ้วยวางลงบนถาดที่อยู่บนหน้าตักสมุทร  อีกฝ่ายรีบจับจานรองถ้วยไว้ในทันทีอย่างกลัวว่ามันจะหก

“กินสักครึ่งนึงก็ยังดีครับ นี่คุณจิบไปแค่นิดเดียวเอง”

“นายนี่อะไร..? บังคับเป็นเมียเลย เป็นก่อนได้ไหมละ จะยอมให้บังคับ” ผมตั้งใจกวนตีนล้วน ๆ เพราะตัดความรำคาญ  ไม่ได้จงใจหยอดแฝงนัยใด ๆ

“.........” สมุทรนั่งนิ่งเฉยทันควัน  อีกฝ่ายจงใจเงียบปากคล้ายจะเริ่มสงครามประสาทใส่ผม  ผมเลยจงใจเงียบด้วยจนคนตรงหน้าถอนหายใจออกมา  เขาก้มหน้าหยิบช้อนคนอีกครั้งอย่างไม่ลดละในความพยายาม  เมื่อควันจางลงสมุทรจึงวางช้อนกลับที่เดิมพร้อมยกถ้วยขึ้นเป่าด้วยปากซ้ำ  ผมนั่งมองอย่างไม่คิดทัก  รู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องได้ดื่มต่ออีกแน่ ๆ  ในหัวหมอนี่คงกำลังคิดงัดไม้ตายอะไรออกมาสู้ผมอยู่ 

“วันจันทร์ไปเดทต่อนะ..” ผมสรุปขึ้นโต้ง ๆ  เพื่อหยุดยั้งความคิดของเขาทั้งหมด

“อุ่นกำลังดีแล้ว ดื่มได้ครับ” สมุทรทำเป็นไม่ได้ยิน  ยื่นถ้วยมาจ่อตรงหน้า

“..เอาราดหน้าฉันเลยไหมละ ?” ผมประชดเบิกตามอง  ถ้วยจะกระแทกหน้ากูอยู่ละ  มันยังคงไม่ขยับไปไหนไกล  คนที่ถือถ้วยอยู่จงใจเหล่ตาไปทางอื่นไม่คิดตอบ

“ตั้งใจกวนตีนเหรอ ก็ได้อยู่นะ” ผมเบะปากรับทราบ

“โปรโมชั่นเขาไม่ได้มีมากันบ่อย ๆ หรอกนะครับ คิดจะขอก็ขอรึไง ผมบอกให้ดื่มครับ” อีกฝ่ายย้ำเสียงเข้มด้วยสีหน้าจริงจัง 

“เอาน่า ฉันเชื่อฟังนายอยู่แล้ว หรือนายอยากจะเป็นผัวก็ได้นะ..เอาไหมละ ? เล่นผัวเมีย น่าสนุกออก!” ผมแสยะยิ้มกว้าง  ยักคิ้วหลิ่วตาถาม

“คุณนี่มัน จิ..จริง ๆ เลย” อีกฝ่ายกัดฟันสบถออกมาอย่างเหลืออด

“ฮึ” ผมกลั้นหัวเราะ ..แม่งตลก  มือรับถ้วยจากสมุทรมายกดื่มจนหมดภายในครั้งเดียว  มันอุ่นกำลังดีอย่างที่เขาว่า  ถ้ามันเย็นกว่านี้รสชาติคงห่วยแตกบรมกว่านี้เป็นแน่  สมุทรรับถ้วยจากมือผมวางลงบนถาด  เขาเอี้ยวตัวนำถาดไปวางที่เก้าอี้ตรงหัวเตียงก่อนรินน้ำเปล่าพร้อมยื่นกระดาษทิชชู่มาให้  ผมดื่มน้ำจนหมดแก้ว  นำกระดาษทิชชู่เช็ดปากตบท้าย  สมุทรมองตามการกระทำของผมไม่วางตา  เหมือนเขาอยากรู้อยากเห็นว่าผมจะทำเป็นขั้นตอนเหมือนที่ใครสักคนคงได้บอกกำชับเขาไว้รึเปล่าอยู่แน่

“ชอบฉันขึ้นมาแล้วใช่ไหมละ” ผมแกล้งถลึงตาทำท่าตกใจ

“แปลกนะครับที่คุณยังหายใจอยู่” สมุทรย้อนเสียงนุ่ม

“หึ ๆ ๆ” ผมหลุดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่  อ้าปากยิ้มมองเขาด้วยความหลงใหล 

“นายก็รู้ความรู้สึกของฉันแล้ว ..แล้วยังไงต่อดี ?” ผมกลั้นใจถามเมื่อเห็นสมุทรทำท่าจะลุกขึ้น  อีกฝ่ายชะงัก  ตามจริงแล้วผมก็อยากปล่อยผ่านอยู่หรอก  ประมาณว่าสิ่งที่พูดออกไปแล้วอีกฝ่ายก็คงจะรับทราบแล้วเรียบร้อย  แต่ลึก ๆ ยังมีความลังเลและค่อนข้างไม่ค่อยมั่นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าคนที่รับสารเข้าใจสิ่งที่ผมบอกแน่รึเปล่า  ในเมื่อตัวเองมีความกล้าพูดออกไปอย่างนั้น  ผมก็ไม่อยากให้สถานการณ์มันเลยตามเลยไปสำหรับเขา  แน่นอนว่าความกังวลใจจะตกมาอยู่ที่ผมด้วย


.. สมุทรที่นั่งนิ่งหันกลับมามอง  เราสบตากันในความเงียบ  สีหน้าของเขาไม่ได้ดูลำบากใจแต่ก็ไม่ได้ดูปีติเช่นกัน  คงดีหน่อยที่เขาไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจออกมาต่อหน้าผมอย่างโจ่งแจ้งก็เท่านั้น

“อย่าเพิ่งพูดอะไรได้ไหม รู้สึกเหมือนฉันกำลังมวนท้องน่ะ” ผมถอนหายใจแรง  นำมือลูบที่ต้นคอคล้ายปลอบประโลม

สมุทรก้มหน้าลงเล็กน้อย  อยู่ ๆ ผมก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา  การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นไปอย่างเนิบช้าและงงงวย  บอกไม่ถูกว่ามันใช่อาการเขินรึเปล่าแต่มันแค่จับต้นชนปลายไม่ถูก  ผมคิดว่าคนที่ต้องมาฟังสิ่งที่ผมพูดอยู่ในตอนนี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกันนัก  เขาคงกระอักกระอ่วน  อีกฝ่ายเหลือบตาขึ้นสบผมอยู่เป็นระยะ ๆ แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา  คล้ายกับรอให้ผมเป็นฝ่ายพูดก่อนมากกว่า  บางทีการกระทำของผมในตอนนี้อาจทำให้เขาพูดไม่ออกอยู่ก็เป็นได้

“ขอบอกให้รู้....” ผมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

“ว่าฉันไม่เคยพูดแบบนี้กับใครมาก่อน” นี่เป็นการขยายความเพื่อกันการเข้าใจผิดของสมุทร  อีกฝ่ายที่ปกติเป็นคนมองโลกในแง่ดีแต่หลายครั้งผมทราบว่าลึก ๆ เขาดันมีความคิดติดลบต่อตัวผม 

“ถ้าจะถามฉันว่า ‘ทำไม’ ละก็..”

“ไม่มีเหตุผล” ผมทิ้งน้ำเสียงห้วนลง

“ดูเหมือน..เหตุผลจะไม่มีมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว แบบว่า..ระบบการจัดการรวนน่ะ” ผมเบ้ปากบอกปนหัวเราะก่อนจบสิ่งที่ต้องการบอก  ตอนนี้คนตรงหน้าเงียบยิ่งกว่าผีดิบซะอีก  การเงียบสงบของเขาทำให้ผมหายใจไม่สะดวกและใจกำลังเต้นด้วยความกังวลจนแทบเป็นบ้าได้แล้ว

“ขอบคุณครับ” สมุทรพูดทำให้ผมเงยหน้าขึ้นทันที  อีกฝ่ายจ้องมองมาเช่นกัน

“สิ่งที่คุณพูดมันไม่ใช่เรื่องไม่ดี ..ผมเลยขอบคุณ” เขาขยายความด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มนิดหน่อย  ผมยิ้มได้เพียงมุมปากเท่านั้น  รับรู้สถานการณ์ได้เลยว่าคนตรงหน้าเตรียมพร้อมที่จะเอ่ยปากปฏิเสธผมอยู่เป็นแน่  อย่างที่พี่ธานเคยพูดทีเล่นทีจริงนั่นละว่าคน ๆ นี้จะต้องมีวิธีที่ปฏิเสธผมอย่างอะลุ่มอล่วยรออยู่แล้ว 

“จะปฏิเสธเหรอ ?” ผมจ้องเขม็งว่าตรง ๆ  ทำให้เขาหลบสายตาไปทางอื่น  เราทิ้งช่วงเงียบครู่หนึ่ง 

“นายจะไม่ให้โอกาสฉันเลยรึไง ฉันสารภาพคำศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ” ผมอดกวนเพื่อแก้สถานการณ์ไม่ได้  ใจจริงแล้วมันก็แค่อาการกลบเกลื่อนบางประเด็นเท่านั้นละมัง

“..คือว่านะ” ผมเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง  ตามองต่ำลงที่เตียง

“อย่าใจร้ายไปหน่อยเลยน่า ฉันยังไม่เคยอกหัก..ไม่อยากฟังอะไรแบบนั้นหรอก” ผมพูดห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เบาลงทุกที  สมุทรมองมาด้วยแววตาเหลือเชื่อ  ผมมองตอบ

.. น่าอายฉิบ  คงไม่มีอะไรในจักรวาลนี้ที่จะน่าอับอายไปมากกว่าตอนนี้อีกแล้ว

“คุณไฟครับ..” สมุทรเอ่ยปากเสียงเบาไม่ต่าง  ซึ่งผมคงจะไม่ตกใจเลยถ้าตัวเองไม่ได้ยินน้ำเสียงถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนเกริ่นคำพูดจากเขาแบบนี้

“ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณชอบผมขนาดไหน และใช่แบบที่ผมเข้าใจอยู่ตอนนี้รึเปล่า ผมจะไม่ขอให้คุณอธิบายไปมากกว่านี้ด้วย” ผมเงียบปากอย่างตั้งใจรับฟังน้ำเสียงนุ่มน่าฟังที่กำลังพูดในสิ่งที่ผมไม่อยากฟังเท่าไหร่

“ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรอกนะครับ แต่..สำหรับผม ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นความรู้สึกที่ยอมรับโดยง่าย” สมุทรเงียบลงโดยที่สายตายังคงจับจ้องผมอยู่ตลอด  สายตาที่แน่วแน่ของเขาทำให้ผมปากหนักจนแทบพูดไม่ออก 

“อีกอย่าง มากไปกว่านั้น ตอนนี้ผม คือ..ผมไม่คิดว่าตัวเองพร้อมที่จะเรียนรู้ใคร ถ้าหากผมไม่ปฏิเสธคุณตอนนี้ แล้วถ้ามันยืดเยื้อเกินไป คนที่จะเป็นฝ่าย...” คำพูดของเขาเริ่มตะกุกตะกักแบบพยายามที่จะอธิบายให้ทุกอย่างลงตัว

“น่าสนใจดีนะ” ผมพูดแทรกก่อนที่เขาจะได้พูดจบ  ผมจะไม่มีทางให้เขาได้พูดประโยคแบบนั้นจบแน่นอน

“..........” เราต่างเงียบพร้อมกันในทันที

“เหมือนกับนายไม่ได้กำลังบอกฉันว่า นายจะไม่มีทางชอบฉัน น่ะ” ผมอมยิ้ม  อีกฝ่ายถลึงตาโตคล้ายได้สติ

“รู้อะไรไหม.. ฉันคิดว่าฉันเข้าใจคำพูดของนายอยู่นิดหน่อย” ผมบอก 

“..........” ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง  ครั้งนี้นานกว่าก่อนหน้าพอดู  เราไม่ได้มองหน้ากันหรอก  แต่ผมคิดว่าเรากำลังสังเกตปฏิกิริยาของกันและกันอยู่มากกว่า

“อยากลองดูน่ะ ให้ฉันลองได้ไหม ?” ผมพูดเชิงถาม  ช้อนตาขึ้นมองหน้าสมุทรอีกครั้ง

“ฉันก็อยากรู้จักตัวฉันเองมากกว่านี้เหมือนกัน เรา..ก็แค่ลองมายืดเยื้อกันดู” ผมเบะปากเล็กน้อย  คำพูดแฝงนัยยะกวนทิ้งท้ายทำให้ใบหน้าเคร่งเครียดของสมุทรมองผมด้วยแววตาที่ผ่อนคลายลงได้บ้าง

“ฉัน..ไม่เคยขอใครแบบนี้หรอกนะ นายไม่คิดว่ามันแย่เหรอ ถ้านายไม่ให้โอกาสฉันเลย..”

“อันดับแรกคือคุณกำลังลำดับขั้นตอนผิดนะครับ” สมุทรพูดแทรกด้วยน้ำเสียงที่ยังคงนุ่มนวล

“นึกถึงหน้าที่การงานคุณบ้างสิครับ ถ้าคุณทำตัวแบบที่พูด..ลูกน้องคนสนิทของคุณจะว่ายังไง”

“อันดับแรกเลยคือฉันไม่สน นั่นเป็นปัญหาของพวกมัน” ผมตอบด้วยสีหน้าตึงเครียดไม่ต่างจากเขา

“คุณกำลังกดดันผมนะครับ กำลังใช้อำนาจกดดันผม” สมุทรย้อน

“ใช่..ฉันใช้อำนาจกดดันนาย” ผมยอมรับผิดมองเขาอย่างอ่อนโยน  เพราะแม้กระทั่งสิ่งที่เขาพูดอยู่นี้ที่เหมือนกำลังต่อว่าผม  แต่ผมคิดว่ามันเหมือนอีกฝ่ายบ่นให้ฟังมากกว่า  ลึก ๆ แล้วเขาหนักใจและหาทางออกไม่ได้  เขาเกรงใจที่จะปฏิเสธผมอย่างไร้เยื่อใย..นั่นละเขา 

“นายก็แค่อยู่เฉย ๆ  ฉันจะเป็นฝ่ายจีบนายเอง ข้อเสียคือ..ฉันจะเข้าหายิ่งกว่าที่ผ่านมา แน่นอนว่าบางทีนายอาจเดือดร้อนเลยล่ะ” ผมพูดคล้ายบ่น

“ผมไม่ชอบเรื่องเดือดร้อนครับ” อีกฝ่ายสวนกลับคล้ายกล่าวเตือน

“นายอาจตกหลุมรักฉันเพราะเรื่องเดือดร้อนตื่นเต้นก็ได้นะ” ผมมองเจ้าเล่ห์  สมุทรมองปราบด้วยแววตาดุแฝงมาให้

“ขอบอกให้รู้อีกอย่าง..ว่าถึงนายจะปฏิเสธฉันตอนนี้ ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะจีบนายต่ออยู่ดี แย่ใช่ไหมละ ? ไม่ว่านายเลือกทางไหนก็ดูเหมือนจะแย่ไปหมด นอกจากนายจะพูดตอนนี้เลยว่า ‘ผมขยะแขยงคุณมากครับ กรุณาอยู่ให้ห่างจากผมด้วย’ ฉันจะหยุดทุกอย่างทันที” ผมเสนอถึงทางออกที่ดีที่สุดให้

“หรือไม่ก็ ‘ผมมีคนที่รักอยู่แล้วครับ’ ก็ได้ แต่ก่อนหน้านี้นายเป็นคนบอกฉันเองนี่นะว่าไม่มีใคร” ผมดักคอถึงทางเลือกนี้ไว้ก่อนเลย

“.........” สมุทรนิ่งเงียบ  เงียบอย่างกับมีใครไปปิดสวิตซ์

“ไม่โกรธหรอก” ผมเอ่ยปาก

“ถ้าเหตุผลนั้นออกมาจากก้นบึ้งของใจนายน่ะนะ เกลียดฉันก็บอกว่าเกลียดฉัน ฉันจะไม่โกรธนายเลยสักนิดเดียว” ผมขยายความ  คนข้าง ๆ ละสายจากผมก่อนก้มหน้าลงเล็กน้อย 

“คุณนี่เป็นคนที่ผมเหนื่อยจะคุยด้วยจริง ๆ” สมุทรบ่น

“ฉันก็เหนื่อยเวลาคุยกับนายเหมือนกัน” ผมย้อนอย่างไม่ยอมพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ 

“แต่ก็ชอบอะนะ ..อยากเหนื่อย” ผมยักคิ้วพลางอมยิ้ม 

“ที่ฉันพูดทั้งหมด เป็นเพราะไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ดูเหมือนนายจะคิดว่าฉันมองนายเป็นตัวตลก”

“ก็คุณมันกะล่อนนี่” สมุทนหันขวับมาย้อนแทบจะทันที

“นึกภาพไม่ออกแฮะว่าถ้าเราเจอกันก่อนหน้านี้อีกสักหน่อย เราจะเป็นไง” ผมกลั้นอมยิ้มเอาไว้  เขาพูดมาอีกเรื่องผมก็ย้อนอีกเรื่อง 

“..เอาแต่ใจ” อีกฝ่ายสวนกลับในหัวข้อก่อนหน้าโดยแกล้งทำเป็นไม่ฟังคำพูดจากผม 

“ไม่แน่ว่าคนที่ชอบก่อนอาจเป็นนายก็ได้” ผมแสยะยิ้มกวนไม่หยุด  ครั้งนี้สมุทรถึงกับนิ่งลงได้  เรามองตากันเขม็ง

“เอาเป็นว่า ผมจะถือว่าผมรับรู้ไว้ก็แล้วกัน” สมุทรตัดบทโต้ง ๆ  สีหน้าขึงขังบวกไปกับแววตาที่ดูเหนือกว่าเหมือนจงใจให้เป็นอย่างนั้น  คล้ายกับเจ้าตัวกำลังบอกผมว่าถึงผมจะดื้อดึงยืดเยื้อต่อไปยังไงเขาก็จะไม่ยอมลงให้ง่าย ๆ อะไรทำนองนั้น

“แล้วถ้าคุณทำให้ผมเดือดร้อนเกินไปละก็ ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ..”

“ในฐานะเจ้านายฉันจะทำให้นายเดือดร้อนแค่ไหนก็ได้” ผมยักไหล่พูดแทรก 

“หึ..ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนกลับกลอกแบบคุณจะทนได้สักเท่าไหร่” อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์  ผมนิ่งมองเพราะรอยยิ้มเมื่อครู่ดูท่าจะเอาจริง

“ผมถือว่าผมบอกคุณแล้ว คุณเลือกเองนะครับ” สมุทรหุบยิ้มลง  น้ำเสียงและสายตาที่จริงจังทำให้เป็นเรื่องน่ากังวลใจอยู่ลึก ๆ  เหมือนกับกำลังเตือนว่า “จะหาว่าผมใจร้ายไม่ได้”  แต่ถึงความหมายจะสื่ออย่างนั้นผมยังคงจ้องตอบเอาเป็นเอาตายเช่นเดิม  เขาพูดออกมาแบบนี้ได้แสดงว่าความรู้สึกนึกคิดมันก็คงไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก


.. สมุทรลุกขึ้นยืนทำท่าจะออกจากห้องไปดื้อ ๆ  ผมสะบัดตัวออกจากผ้าห่มพร้อมเอื้อมมือไปคว้าแขนอีกฝ่ายกระชากมาเต็มแรงจนตัวเองหงายหลังล้มลงบนเตียง  สมุทรตกใจ  ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ล้มทับลงมา  เสียงตัวเรากระแทกดัง “ตุบ!” นอนอยู่บนเตียง  ไม่ทันให้สมุทรได้ตั้งสติ  ผมก็ออกแรงขึ้นคร่อมตัวเขาในทันที

“คุณไฟ!” สมุทรร้องเสียงหลงตาโตด้วยความตกใจ  ผมยิ้มกว้างพลางยักคิ้วให้ 

“ฉันรู้สึกว่าเราจะเข้ากันได้ดีเรื่องบนเตียงด้วยน่ะนะ นายคิดว่างั้นไหม แบบว่า..เราต้องเป็นคู่รักที่เร่าร้อนสุด ๆ แน่ ๆ” ผมกวาดตามองใบหน้าของเขาใกล้ ๆ  ก่อนจ่อหน้าเข้าไปหามากขึ้น  คนตรงหน้าที่ดูจะตกใจก่อนหน้านี้  เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีสีหน้าก็กลับมานิ่งขรึมได้ปกติอย่างเคย

“หึ..ผมไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเรื่อยเปื่อยกับใครมานานแล้ว คิดว่าง่ายไหมครับ..ไอ้บทเร่าร้อนแสนมั่นใจของคุณที่ว่านั่นน่ะ” อีกฝ่ายย้อนกลับด้วยแววตากวนอารมณ์   

“อู้~ น่าสนใจจังนะ” ผมยิ้มกว้างชอบใจที่ได้ยิน 

“แบบว่า..” ผมแนบจมูกเข้าไปคลอเคลียใกล้กับปลายจมูกอีกฝ่าย  ทำให้เจ้าตัวเงียบปากลง  ตาเหลือบมองตามการกระทำผมไม่หยุด

“ปฏิญาณตนให้ฟังว่าจะไม่ครางออกมาแม้จะเสียวสุด ๆ อะไรแบบนั้นน่ะ เอาน่า..ฉันจะทำให้รู้สึกดีแบบที่นายไม่เคยเจอมาก่อนเลยในชีวิต” ผมแสยะยิ้มแซวตาวาว  จมูดสูดกลิ่นไปตามริมฝีปากของเขา  อีกฝ่ายกัดฟันแน่นคล้ายรำคาญใจ  ทันทีนั้นเขาก็ดันตัวผมออก  ด้วยความรวดเร็วผมจึงคว้าคอเสื้อของสมุทรยึดเอาไว้จนเจ้าตัวหล่นทับผมมา  สมุทรหน้าเหวอกับเหตุการณ์พลิกผันที่เกิดขึ้น  แขนทั้งสองข้างของเขาพยายามดันตัวเองขึ้น  แต่เพราะผมดึงคอเสื้อของเขาไว้แน่นจึงทำให้เขาลุกไปไม่ได้โดยง่าย  มือของสมุทรเท้ากางออกลงบนเตียงคร่อมผมไว้ทั้งสองข้างเพื่อให้ตัวเองเว้นระยะห่างจากผมให้มากที่สุด  ผมยักคิ้วยิ้มมองพร้อมนำขาทั้งสองข้างเกี่ยวตัวสมุทรให้เข้ามาแนบชิดกับตัวของผมในทันที

“คุณไฟ!” สมุทรตะคอกหน้าถอดสีกว่าเดิม  แขนยังคงเท้าเตียงไว้แต่ตัวของเขากลับประชิดติดผมเสียแล้ว

“คุณแก้ผ้าทำไมครับ!!” เขาโวยวาย 

“หึ ๆ ๆ  นาน ๆ ทีนายจะเสียงดังนะเนี่ย” ผมกลั้นหัวเราะในลำคอ  แม่ง..ตลกฉิบหาย  สมุทรถอนหายใจแรง

“แก้ผ้าตรงไหน กางเกงในได้ปิดในส่วนที่ควรปิดอยู่แล้ว” ผมตอบกลับงง ๆ

“คุณนี่มัน..” สมุทรกัดฟันแน่น  คิ้วขมวดเป็นปมใหญ่เชียว 

“คุณไฟ..อย่าครับ” อีกฝ่ายเบือนหน้าหนีผมที่พยายามชะโงกหน้าเข้าไปคลอเคลีย  เสียงประตูด้านนอกดังขึ้นพร้อมกับเสียงของฝีเท้าที่เดินเข้ามา  พวกพายุคงกลับมาถึงแล้วละมัง  สมุทรตาโตมองไปที่ประตูห้องนอนปนระแวง  ผมดึงคอเสื้อของเขาเหนี่ยวแรงขึ้นกว่าเดิมจนลำตัวของเขาแนบสนิทกับผมมากขึ้น

“จูบก่อน เดี๋ยวปล่อย” ผมกระซิบบอก

“คุณไฟ!” สมุทรหน้างอพร้อมเหวี่ยง  น้ำเสียงที่ถูกกดเอาไว้ดูท่าแล้วคงจะหงุดหงิดมากทีเดียว  มือขวาที่เท้าเตียงอยู่เปลี่ยนตำแหน่งมาจับล็อกคอผมอย่างห้ามปรามการกระทำในทันที  ผมนอนยิ้มกว้างด้วยความพอใจ  แขนซ้ายถูกล็อกขึงไว้จากคนที่คร่อมอยู่จึงทำให้ผมขยับตัวได้ลำบากนิดหน่อย   

“วู้~ ถูกล็อกแฮะ” ผมแสยะยิ้ม  นอนมองอย่างสบายใจ

“กำลังถูกรุกเหรอเนี่ย เอาเลย..ต่อไปทำอะไรต่อดี ?” ผมยียวนมองคนตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น  แต่ดูเหมือนการกระทำของผมจะทำให้เขาโมโหมากกว่าเดิมเสียแล้ว



ก๊อก  ๆ ๆ   ..เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เฮีย..” พายุเรียกจากด้านนอก  ทันทีนั้นสมุทรทำท่าจะลุกออก  ยอมรับว่าอยู่ ๆ ก็ดันได้อารมณ์ขึ้นมา 

“ฉันบอกว่าจูบก่อนไงเล่า” ผมกัดฟันกระชากคออีกฝ่ายมาอย่างแรง

“คุณ..” สมุทรเบี่ยงหน้า  การเรียกชื่อของผมที่เรียกไม่จบเป็นไปแบบกวนใจ  ยิ่งพอเขาพยายามจะขยับตัวหนีกลับยิ่งทำให้ด้านล่างของเรามันเสียดสีกันไปมายกใหญ่

“อยู่เฉย ๆ เถอะน่า เดี๋ยวมันตั้งขึ้นมาจะแย่เอานะ” ผมแสยะยิ้มกระซิบเตือน  สมุทรหยุดชะงักอย่างกับสั่งได้  ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยแขนผมออกเป็นอิสระ  ขาของผมยังคงเกี่ยวตัวสมุทรไว้ไม่ปล่อย  ผมตั้งข้อศอกขึ้นเท้าบนเตียงทำให้ใบหน้าของเราใกล้แทบจะชนกัน  อีกฝ่ายไม่ขยับตัวสู้ต่อแล้ว  เสียงเรียกด้านนอกก็เงียบไปด้วย



แกรก~   ..พายุเปิดประตูเข้า  แต่แล้วคำว่า “เฮีย..” ก็หลุดหายเข้าไปในลำคอ  มันหยุดยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก

“ปิดประตูด้วยครับ” ผมยิ้มบอกน้องชาย

“ขอโทษครับ” พายุผงกหัวน้อย ๆ  รีบปิดประตูจากไปอย่างว่าง่าย

“นั่นน้องคุณนะ” สมุทรหันขวับมาขมวดคิ้วดุ

“รู้อยู่หรอก ก็ให้เงินกินใช้อยู่ทุกเดือน เลี้ยงอย่างกับลูก” ผมตอบ

“คุณนี่มัน..” สมุทรกัดฟันอีกครั้ง  ครั้งนี้สันกรามปูดนูนขึ้นเด่นชัด  ผมฉีกยิ้มรอรับฟังคำต่อว่าคำต่อไป

“เกินเยียวยาจริง ๆ!” อีกฝ่ายกระแทกเสียงดังด้วยความหงุดหงิดใจเต็มพิกัด  ผมตาโตยิ้มมอง  ไม่ทันให้ผมได้แก้ตัวอะไร  อยู่ ๆ สมุทรก็โขกหน้าผากเข้ามาที่หน้าผากผมอย่างจัง  เสียงดัง.. “โป๊ก!!!” 

“โอ๊ย” ผมร้องขำ ๆ  เทตัวนอนลงอย่างหมดแรง  จะขำก็จะขำ เจ็บก็เจ็บ  สมุทรผละตัวออกจากผมทันทีที่ได้โอกาส  เดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะยกถาดกับถ้วยยาออกไปด้วย

“หึ ๆ ๆ ๆ” ผมนอนกลั้นหัวเราะ  นำแขนกางออกกว้าง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2016 15:20:46 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

.. ตามตรงแล้วก็เหมือนโดนปฏิเสธแสกหน้าอยู่หรอกนะ  แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนร่างกายกระชุ่มกระชวยอย่างนี้ก็ไม่ทราบ
 
“ฮ้า~” ผมพ่นลมร้องครางด้วยรู้สึกโล่งอย่างไรบอกไม่ถูก  ตัวพลิกนอนตะแคง  นำหน้าซุกลงเข้าที่เตียง  ใบหน้าของอีกฝ่ายเมื่อครู่หวนกลับมาในหัวทำให้อมยิ้มมุมปากได้ไม่หุบ  มือขวาทุบเตียงสองสามทีอย่างไม่รู้ว่าตัวเองแม่งเป็นห่าอะไร

“อ้ากกก! หมันเขี้ยวฉิบหาย!!!” ผมกัดฟันคำรามอย่างสุดจะกลั้น  ลมพัดเข้ามาทางประตูทำให้ต้องเหลือบขึ้นมอง  พี่ใหญ่เข้ามาพร้อมสายตาปราม ๆ โดยไม่เอ่ยปากขออนุญาตอย่างทุกที  ใบหน้ากลั้นรอยยิ้มคล้ายเอือมระอานั่นยิ่งทำให้ผมหัวเราะหนักกว่าเดิม 

“สมุทรมันกล้าเอาหัวโขกผมด้วย” ผมพลิกตัวนอนหงายฟ้องก่อนเลย 

“ผมได้ยินคำว่า ‘เกินเยียวยา’ ดังแว่ว ๆ ด้วยน่ะครับ คุณพายุเลิ่กลั่กหน้าแดง แล้วสมุทรที่หน้าบอกบุญไม่รับขนาดนั้น เขา..ที่เพิ่งพูดเสียงดังในรอบหลายอาทิตย์ คุณต่างหากละครับที่ผมควรจะถามว่า..ทำอะไรลงไป” พี่ธานพูดชัดถ้อยชัดคำ  ผมยิ้มกว้างนอนมองพี่เขาตาเยิ้ม

“พี่ไม่คิดเหรอว่าหมอนั่น.. หุ่น ‘ฮื้ม’ มาก” ผมบดฟัน  ลิ้นเกลี่ยริมฝีปากไปพลาง

“อะไรคือ ‘ฮื้ม’ ที่ว่าครับ” พี่ธานถามกลับยิ้ม ๆ

“เอาน่า..พี่ก็รู้อยู่แล้วว่า ‘ฮื้ม’ ของผมคืออะไร แบบ..เห็นแล้วมัน ฮ้ากกก~” ผมกัดฟันแน่นพร้อมคำรามในลำคอประกอบอารมณ์  พี่ธานปิดปากหัวเราะเหมือนสุดทนในทันที

“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจ  ขยับแขนขึ้นเท้าศีรษะทั้งสองข้าง 

“เอาไงต่อดีนะ” ผมพึมพำมองเพดาน

“กางเกงว่ายน้ำไหมครับ ?” พี่ธานถาม  ผมเหลือบมอง  เราต่างยิ้มกว้างให้กันจนเห็นฟันหน้าครบทุกซี่

“พี่นี่น่ากลัวเป็นบ้าเลยว่ะ” ผมส่ายหัวบ่นที่อีกฝ่ายรู้ใจขนาดนี้

“หึ ๆ” พี่เขาหัวเราะก่อนเดินออกจากห้องไป  กลับมาอีกครั้งพร้อมกับถุงกางเกงว่ายน้ำของผม   

เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกจับได้ว่าประสงค์ไม่ดีต่อการซื้อกางเกงว่ายน้ำนี้มา  ผมจึงลงมาที่สระว่ายน้ำก่อนพร้อมกับพี่ธานและไอ้เด่น  พี่เขาจึงออกปากสั่งให้สมุทรและไอ้เข้มตามพายุลงมาทีหลังเพราะน้องชายผมมันเตรียมตัวค่อนข้างนาน  ผมใส่กางเกงว่ายน้ำ  สวมชุดคลุมอาบน้ำทับมาลวก ๆ  คนในค่ายบางส่วนกำลังเล่นน้ำที่สระ  บางส่วนออกไปเดินเล่นที่ชายหาด  บางส่วนออกไปเที่ยวนอกโรงแรม  ส่วนที่เหลือนอนเอกเขนกอยู่ในบ้านพัก 


.. โรงแรมมีสระว่ายน้ำสองส่วนแยกกันชัดเจนทั้งสระผู้ใหญ่และสระสำหรับเด็ก  ผมสั่งให้พี่ธานสั่งเครื่องดื่มมาเผื่อสำหรับทุกคน  ไอ้เด่นเข้ามารับชุดคลุมอาบน้ำออกจากตัวผมทันทีที่ผมทำท่าจะถอดออก  มันนำไปแขวนไว้ที่เดียวกันกับพี่ธาน  ผมไม่ลงเล่นหรอกครับ  แผลเต็มตัวซะขนาดนี้ลงไปจะเป็นที่น่ากังวลสำหรับคนอื่นเอาได้  แต่แค่อยากออกมานั่งพักผ่อนสมองกับลูกน้องสบาย ๆ ก็เท่านั้น  อีกอย่าง จุดประสงค์ที่สำคัญกว่านั้นคือ “บุคคลที่กำลังจะมาถึงทีหลังนั่นต่างหากล่ะ” 

 
“ผมบอกชอบหมอนั่นไปแล้ว” ผมเปิดประเด็นขึ้นโต้ง ๆ เมื่อไอ้เด่นลงไปเล่นน้ำกับคนในค่าย  ตอนนี้ที่โต๊ะริมสระว่ายน้ำจึงมีเพียงผมและพี่ธาน

“อะไรนะครับ !?”

“หึ ไม่คิดว่าพี่จะตกใจขนาดนี้นะ” ผมยิ้มพูดจากใจจริง  มือคว้าแก้วน้ำผลไม้ขึ้นจิบ

“ผมก็ไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ” พี่ธานอึกอักด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ

“สถานการณ์มันพาไปน่ะ” ผมบอกพลางถอนหายใจ  ตามองผู้หญิงที่โต๊ะริมสระว่ายน้ำอีกฝั่งหนึ่งเนื่องจากหุ่นของเธอเฟิร์มสะดุดตาเป็นอย่างมาก  พี่ธานหันไปมองอย่างสนใจเช่นกัน

“คือ..ก็ไม่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะบอกหรอก แต่ความรู้สึกที่รู้อยู่แล้วจะเร็วหรือช้าก็มีค่าเท่ากัน ผมว่าสถานการณ์ตอนนั้นมัน ..พูดยากน่ะ” ผมเบ้ปากนิดหน่อย 

“แล้วสมุทรเขาว่ายังไงบ้างครับ” 

“ก็นิ่ง ตามสไตล์หมอนั่น เขาบอกว่าจะรับรู้ไว้ ดูเหมือนจะแค่นั้น” ผมหัวเราะขึ้นจมูก  มือหยิบแว่นกันแดดขึ้นสวม 

“ผมคิดว่า..เขาคิดว่าผมแค่อยากลองดูเล่น ๆ  ไม่ได้จริงจังอะไรละมั้ง ก็เลยยอมเลยตามเลย” ผมวิเคราะห์ 

“ผมว่าสมุทรเขาเป็นคนที่..” พี่ธานเอ่ย  ทิ้งน้ำเสียงเว้นวรรคลงหนึ่งอึดใจ  มือของพี่เขาที่ทำท่าจะรินวิสกี้ใส่แก้วของตนก็หยุดไปด้วย

“ไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่” ผมพูดขึ้น

“ใช่ครับ ประมาณนั้น” อีกฝ่ายเห็นด้วย

“ไม่ใช่ไม่รู้สึกดี ทั้งที่ไม่อยากทำให้เสียใจ แต่ใจจริงแล้วก็ไม่ได้รัก” ผมพูด  ขยายความเมื่อต้องนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีตของตัวเอง

“แล้วเขาดูกังวลหลายอย่างนะครับ หลายอย่างแบบที่คนละประเด็นกับเรา” พี่ธานอมยิ้ม

“เขาดูเป็นคนที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะโฟกัสแต่เรื่องงานกับครอบครัว แบบสุดโต่ง..เรื่องอื่นคือเรื่องรอง ผมรู้สึกอย่างนั้น” พี่เขาพูดปนหัวเราะ

“ก็เหมือนเราไม่ใช่เหรอ” ผมว่ายิ้ม ๆ

“ครับ..ก็เหมือนอยู่ แต่ที่ไม่เหมือนคือ..” อีกฝ่ายเหล่ตามองไปทางสระว่ายน้ำ

“เขามีเหตุผลกว่าเราอยู่พอสมควร”

“ฮ่า ๆ ๆ” ผมหัวเราะในทันทีที่ได้ยินประโยคขยายความติดตลกนั่น

“คิดเยอะไปหน่อย” ผมยักคิ้วบ่น  พี่ธานขำ

“ก็พวกเรามันเป็นพวกทำตามอารมณ์นี่นะ” ผมเบะปาก

“มาโน่นแล้วครับ” พี่ธานยักคิ้วไปอีกฝั่ง  ผมหันหน้าไปมอง  ไอ้เด่นส่งเสียงเรียกพายุพร้อมโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณให้เห็น
 
“ทางนี้ครับคุณพายุ!!!” คนในสระส่งเสียงจอแจตื่นเต้นกันใหญ่

“จุ ๆ ๆ เฮ้ย..เบา ๆ” พี่ธานหันไปดุปรามทำให้ทุกคนสงบลงไปได้ 

ผมอมยิ้ม  เอนหลังมองลอดผ่านแว่น  พายุเดินนำสมุทรกับไอ้เข้มมาโดยทุกคนใส่ชุดคลุมอาบน้ำไว้พร้อม  มีเพียงพายุคนเดียวเท่านั้นที่นุ่งผ้าขนหนูไว้ครึ่งตัว  เดินหน้ามึนไม่สนใจอะไร  แขกที่อยู่ริมสระว่ายน้ำต่างมองมันเป็นตาเดียว  เสียงของพี่ธานทักถามพายุว่า “ดื่มอะไรดีครับ”  ซึ่งผมไม่ได้สนใจที่จะหันไปฟังคำตอบ  จงใจจับจ้องมองไปที่สมุทรผ่านแว่นตากันแดดที่สวมอยู่  ใช่..มันมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นักหรอก แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบน่ะนะ 


.. สมุทรเหลือบตาขวางมาทางผมครู่หนึ่ง  เขาจงใจปรามผมด้วยสายตาคู่นั้น  เจ้าตัวคงรู้เป็นแน่ว่าผมมองเขาอยู่แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นลูกตาของผมก็ตาม  ผมแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมคิ้วก็ถูกยกขึ้นสูงให้

“ยุก็อยากสั่งอาหารบ้าง” พายุพูดขึ้นคล้ายบ่นให้ผมได้ยิน  ประโยคงง ๆ ที่ไม่รู้พูดเพื่อฟ้องเลียนแบบใครเพราะที่โต๊ะผมยังไม่มีใครสั่งอาหารเลยสักอย่าง
 
“ก็ไปสั่งสิ” ผมอนุญาตโดยที่ตายังไม่เหเป้าหมายไปทางอื่น 

“แพงแค่ไหนก็ได้เหรอ ?” มันถาม

“เออ อย่าสั่งทองมาแดกก็พอ” ผมตอบห้วน ๆ  พายุพึมพำ “ดีจัง” แล้วร่าเริงเดินจากไปทำให้ไอ้เข้มต้องตามหลังไปติด ๆ  สมุทรเดินไปที่ริมสระพูดคุยกับคนในค่าย  ผมหันกลับมาสบตากับพี่ธานที่กำลังอมยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ต่าง 

“จ้องมากไปแล้วครับ” อีกฝ่ายว่า  ผมไม่ปฏิเสธ  รอยยิ้มไม่จางไปจากใบหน้าของเราทั้งคู่ 

“สมุทร” พี่ธานตะโกนเรียกไม่ดังเท่าไหร่

“ครับ” สมุทรขานรับ  รีบจ้ำเท้ากลับมาหาพี่ธาน

“อยากกินอะไรรึเปล่า”

“เอ่อ ไม่ครับ” สมุทรปฏิเสธ 

“เครื่องดื่มหมดก็สั่งได้เลยนะ ตามสบาย คุณไฟรับผิดชอบ” พี่ธานพูดบอกด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ  ผมไม่คิดจะห้ามปราม  ได้แต่นั่งเฉยมันอยู่อย่างนี้

“ขอบคุณครับ” สมุทรผงกหัวให้เราทั้งคู่  ดูเหมือนเขาจงใจที่จะไม่หันมามองผมตรง ๆ ด้วย

“ตามสบายเลย ถือว่าพักผ่อนแล้วกัน” พี่ธานพูด

“ครับ” สมุทรผงกหัวอีกครั้ง 

“..........” อยู่ ๆ เราสามคนพากันเงียบลงพร้อมกันซะอย่างนั้น  ผมคิดว่าพี่ธานจงใจมากกว่า  มันจึงทำให้สมุทรเก้ ๆ กัง ๆ ที่พี่ธานไม่เอ่ยปากให้เขาไปจากตรงนี้  เขาเลยดูเหมือนไม่กล้าพูด  คล้ายกับเกรงว่าพี่ธานมีเรื่องอะไรจะสั่งอีกรึเปล่า 

ผมนำนิ้วชี้ดันแว่นออกจากระดับของสายตาจนแว่นเลื่อนลงมาอยู่ที่ปลายจมูกเพื่อให้มองอะไร ๆ ได้สะดวก  สมุทรหันมาเห็นเข้าพอดี  ตอนนี้ภาพตรงหน้าจึงมองเห็นได้ชัดแจ๋วทีเดียว  แบบว่าภาพเป็นสีปกติน่ะนะ  พี่ธานยังคงนั่งเงียบเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ผมอมยิ้มพลางยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นทักทายทำให้คนตรงหน้าจ้องเขม็ง  สีหน้าขึงขังที่เหมือนจะคิดสู้ผมครู่เดียวก็เริ่มเปลี่ยน  เผยให้เห็นเป็นใบหน้าที่เก้อเขินต่อสถานการณ์  แม้จะไม่พบรอยยิ้มสักนิดเดียวแต่กลับเป็นอาการที่ปิดไม่มิดซะงั้น

“ขอตัวนะครับ” สมุทรตัดบทโดยเจาะจงหันไปบอกพี่ธานคนเดียว  พี่ธานพยักหน้ารับซื่อ ๆ

“หึ!” ผมหัวเราะทันทีทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะส่ายหัวยิ้ม ๆ  สมุทรกลับไปฝั่งของพวกคนในค่ายแล้ว  ผมยังคงนั่งมองเพราะยังไงก็ตามเขาจะต้องลงสระแน่ ๆ  สมุทรยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างสระ  มือที่จับปมชุดคลุมอาบน้ำยังไม่ดึงออกในทันที  ผมคิดว่าเขากำลังลังเลอยู่ว่าควรถอดมันออกดีหรือไม่  ไม่ว่าจะเป็นผมหรือพี่ธานก็คงรอดูอะไร ๆ ไม่ต่างกัน  ครู่เดียวสมุทรก็หันข้างไปทางอื่นโดยจงใจหันหลังให้ผม  ผมหัวเราะด้วยความพอใจ  ตั้งข้อศอกเท้าลงบนที่วางแขนโดยไม่คิดที่จะดันแว่นกันแดดกลับขึ้นใส่ในระดับปกติตามเดิม

“พี่สมุทร! เร็วครับ!!” ไอ้เด่นเร่งเสียงดังลั่นทำให้นักมวยคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสระต่างก็พากันเรียกแต่ชื่อเขา 


.. เอาเลย ถอดออกเลย  ผมนั่งนึกรออย่างใจจดจ่อ  ทันทีนั้นอีกฝ่ายคงจำใจทำในสิ่งที่ตนก็ลำบากใจอยู่ไม่มากก็น้อย  สมุทรปดปมชุดคลุมออกอย่างช้า ๆ  เสื้อคลุมที่ถูกถอดออกเผยให้เห็นกางเกงว่ายน้ำขาสั้นแบบรัดรูปสีขาวตัดดำปรากฏตรงหน้า  และนั่น.. คล้ายกับมีใครมากดปุ่มเปิดสวิตช์ในตัวของผมออกในทันที

“Holy ..shit!” ผมสบถเสียงสั่น  ตาค้างยิ้มกว้างมองด้วยความพอใจ  สมุทรเบี่ยงตัวหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำตรง ๆ  ผมคิดว่าเขารู้แน่ว่าโต๊ะของผมกับพี่ธานคงมองอยู่แต่ทำเป็นไม่หันมา  ฝ่ายที่ยืนริมสระโดยหันข้างอยู่จึงทำให้ผมเห็นรูปร่างด้านข้างของเขาได้ชัดเจน

ด้วยความที่เจ้าตัวก็มีเลือดของนักกีฬาอยู่พอสมควร  เขาเลือกที่จะไม่ลงไปในสระทันทีทั้งที่ไม่ใช่สถานการณ์ควรรอ  สมุทรยืนอบอุ่นร่างกายอยู่ข้างสระด้วยท่าทางไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก  ผมตั้งตามองอย่างกับภาพตรงหน้าคืองานศิลปะระดับโลกอย่างนั้น  ก็เคยคิดอยู่หรอกว่าผมชอบหุ่นของเขามาก  มันพอดิบพอดีเสริมให้หน้าตาของอีกฝ่ายที่ไม่ค่อยมีอะไรเด่นให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นได้  แต่ผมว่าวันนี้ผมจะคิดใหม่สักหน่อย  เพราะดูเหมือนมันจะอาการหนักกว่าเดิม  สรีระเต็ม ๆ ตาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เลือดลมลุกโชนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ฟู่~ ขอบคุณสวรรค์ที่ให้กูมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้” ผมพึมพำติดตลกทำให้พี่ธานหลุดหัวเราะเอาเป็นเอาตายซะงั้น

“คุณพายุเซ้นต์ดีเหมือนเคยนะครับ รู้ว่าใครเหมาะกับอะไร” พี่ธานชม  สายตาของพี่ธานก็มองไปที่สมุทรคล้ายกับพินิจพิเคราะห์ไม่ต่าง  ผมเอียงลำคอเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองมองอะไร ๆ ได้ถนัดมากยิ่งขึ้น  ขณะเดียวกันสมุทรก็กระโดดพุ่งตัวหนีลงสระไปซะแล้ว  ผมกัดลิ้นด้วยนึกเสียดาย  นิ้วชี้ดันจมูกแว่นตากลับเข้าที่อย่างเดิม  ลมหายใจพ่นออกทางปากพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มากขึ้นจนเกือบกลายเป็นเลื้อย  พี่ธานยิ้มมอง

“หุ่นหมอนั่นนะ ของแท้ทั้งร่าง เล่นเอาท่อนล่างผมเต้นไม่หยุดเลย” ผมบ่น  พี่ธานกลั้นหัวเราะอีกครั้ง

ผมชอบผู้ชายหุ่นแบบสมุทรหรือพี่ธานทำนองนี้  แต่หากคน ๆ หนึ่งที่ผมต้องนอนด้วยอาจเป็นหุ่นเล็กบางไม่มีกล้าม  ผมขออย่างเดียวคืออย่ามีหน้าท้องก็พอ  บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงหมดอารมณ์ได้บ้างทีที่เห็น  หุ่นแบบพี่ธานและสมุทรเป็นหุ่นที่จัดว่าใส่เสื้อเชิ้ตแล้วน่ามองสำหรับผม  ด้วยเพราะเนื้อผ้าที่มักจะเต็มรูปร่างส่วนบนจนดูออกเลยว่าอีกฝ่ายออกกำลังกายอย่างแน่นอน  ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ชอบหุ่นตัวเอง  ผมพอใจในหุ่นของตัวเองมาก  แต่อย่างที่บอกว่าหุ่นของผมกับสมุทรนั้นคนละทรงกัน  ซึ่งถ้าจะให้ผมหุ่นแบบสมุทรผมก็ไม่เอาเหมือนกัน  เพราะผมชอบหุ่นตัวเองเวลาที่ใส่เสื้อเชิ้ตมากกว่า  ขอบคุณที่มันปั้นมาเพื่อให้เหมาะกับหน้าตาของผมแล้ว

“ยุสั่งอาหารมาเผื่อคนในค่ายด้วยนะ เห็นว่าไม่มีขนมกินเล่น” พายุเดินยิ้มแป้นแล้นกลับมา

“อยากลงเหมือนกันน้า~” ผมออกปากทันทีเพราะพี่ธานลุกขึ้นทำท่าจะอบอุ่นร่างกาย 

“ไม่ได้นะครับ คุณยังไม่หายดีเลย” พี่เขาปรามทันควัน 

“รู้แล้วน่า” ผมกลอกตาเซ็ง ๆ  หันข้างมามองน้องชายที่นั่งอยู่  นึกหมันเขี้ยวเลยเอานิ้วไปเขี่ยหัวนมมันเล่น

“เฮีย!” พายุกระแทกเสียงปัดมือออกอย่างแรง  ไอ้เข้มที่เห็นเหตุการณ์รีบก้มหน้าก้มตากลั้นใบหน้ายิ้ม ๆ ของตนเอาไว้
 
“อยากตาบอดรึไงวะ” พายุกัดฟันหันไปว่าไอ้เข้ม  ผมหัวเราะ

“ขอโทษครับ” ไอ้เข้มผงกหัวหน้าเจื่อน

“แม่ง..มีแต่คนเพี้ยน” พายุสบถพร้อมลุกขึ้นปลดผ้าขนหนูออกจากเอว  ผมจ้องเขม็งไปที่เป้าของมันที่อยู่เบื้องหน้าในระดับสายตาพอดี

“เฮีย!!”

“ชี่..เสียงดังทำเหี้ยไรวะ ไม่ได้อยากดูหรอกน่าหนอนน้อยมึงน่ะ ดูอนาคอนด้าของพี่ธานสบายตากว่าเยอะ” ผมยักคิ้วพร้อมทำเสียงซี๊ดซ๊าด  พี่ธานถึงกับขบกรามไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา  เจ้าของอนาคอนด้าถอนหายใจคล้ายเหนื่อยหน่าย  ส่วนพายุขมุบขมิบปากบ่นเดินหนีลงน้ำไปแล้ว

“ไอ้เข้ม” ผมเรียก

“ครับ” ไอ้เข้มเงยหน้าขานรับ

“พี่ใหญ่มึงเขายัดผ้าไว้เหรอวะ ? ไม่ต้องตุงขนาดนั้นก็ได้มั้ง แหม่..น่าสงสารคู่กรณี” ผมถามด้วยน้ำเสียงซื่อ ๆ  จ้องมองไปที่เป้ากางเกงพี่แก  อีกฝ่ายฉีกยิ้มเขิน ๆ  ไอ้เข้มปิดปากกลั้นอมยิ้มเอาไว้จนหูมันแดงทำให้พี่ธานถึงกับต้องเอื้อมมือไปตบหัวปรามมัน

“เฮ้อ..” พี่ธานส่ายหัวเหนื่อย ๆ  หนีลงน้ำไปอีกคน

“ไม่ลงรึไง” ผมถามถึงไอ้เข้มที่นั่งสงบเสงี่ยม

“รอให้พี่ใหญ่ขึ้นมาก่อนดีกว่าครับ” มันตอบอย่างเป็นกังวล  แน่นอนว่าถ้าผมไม่มีพี่ธานอยู่ข้าง ๆ  หน้าที่ดูแลผมจะต้องเป็นใครสักคน  ซึ่งถ้ามันเสนอหน้าลงไปตอนนี้ผมก็ไม่ว่าอะไรมันหรอกนะครับ  แต่คนที่จะดุมันก็คือพี่ใหญ่โน่นละ

พี่ธานกับพายุเล่นน้ำด้วยกัน  แต่เหมือนพี่เขากำลังถูกซักคำถามโดยพายุมากกว่า  สมุทรว่ายน้ำสลับกับคุยเล่นกับคนในค่ายบ้าง  ผ่านไปยี่สิบนาทีเห็นจะได้อาหารก็นำมาเสิร์ฟ  บางคนกระจายตัวขึ้นมาจากสระ  พอพี่ธานกลับขึ้นมานั่งที่โต๊ะไอ้เข้มก็สลับลงสระไป  พายุนั่งลงข้างผมโดยนำผ้าขนหนูคลุมไหล่เอาไว้  อาหารที่นำมาเสิร์ฟที่โต๊ะของผมมีมันบดจัดจานอลังการจานเบ้อเริ่ม  กุ้งอบชีส  สลัดอกเป็ดรมควัน  ปิดท้ายด้วยซาชิมิชุดใหญ่  ผมนั่งมองอาหารเงียบ ๆ  พายุนั่งหน้าตายหยิบช้อนส้อมเตรียมลงมือกิน  พนักงานนำบิลค่าอาหารมายืนเก้ ๆ กัง ๆ ข้างพายุ  น้องชายตัวดีจึงรับสมุดบิลมาวางลงตรงหน้าผมให้อย่างรู้หน้าที่  ผมถอนหายใจเซ็ง ๆ  รับมาเปิดดูราคาที่ค่อนข้างสูงก่อนวางบัตรเครดิตให้  เนื่องจากเป็นโอกาสนาน ๆ ครั้งพายุก็ต้องเลือกของดีให้คนในค่ายได้กินอยู่แล้ว  ดังนั้นราคาจะสูงก็คงไม่แปลก  ผมมองคนในค่ายที่กำลังกินอาหารอยู่อีกโต๊ะหนึ่งอย่างอิ่มเอม  พายุคีบปลาแซลมอนมาจ่อที่ปากให้  ผมจึงอ้าปากรับกินง่าย ๆ 

“อร่อย” มันยิ้มสาธยาย  ผมเคี้ยวโดยไม่ตอบ 
 
“เฮีย..จีบพี่สมุทรเหรอ ?” จู่ ๆ พายุก็ถามขึ้น  พี่ธานช้อนตาขึ้นมองมา

“ดีปะละ ?” ผมกวนตอบให้มันคิดเอาเอง  พายุชะงัก  เคี้ยวอาหารในปากพลางกลอกตาขึ้นคล้ายกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

“ไม่รู้สิ” พายุตอบเสียงค่อย

“พี่เขาก็ดูเป็นคนดีนะ แต่ว่า..”

“ถ้าดีจริงก็ไม่น่าจะเอาเฮียหรอก ก็เฮียนิสัยอย่างเนี้ย!” มันแสยะปากรับไม่ได้  ผมแลบลิ้นนำมากัดไว้ด้วยนึกชอบใจคำขยายความของน้องชายขึ้นมา

“พูดได้ดี ถือว่ารู้จักกันจริง” ผมยิ้มรับ




..............(ไฟ)..............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2016 00:10:44 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ไฟนี่นะ มันเหมือนคนโรคจิต แต่มันคือตัวตนที่แท้จริง 5555

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
รอเก็บเลยนะเรื่องนี้  รักจังเลยยยยย  ช้อบบบ555

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
“นายนี่อะไร..? บังคับเป็นเมียเลย เป็นก่อนได้ไหมละ จะยอมให้บังคับ”
อหหหหหห. ต้องอ่านยังไงให้คนอื่นไม่มองว่าเป็นคนบ้า
แล้วนั่งอ่านในออฟฟิศคือแบบ กลั้นยิ้มจนแก้มจะแตก
ฮือออ พี่ไฟแม่ง จังไร คงเส้นคงวา จังไรเอ็กซ์เปิด มากอ่ะ
ขำมากที่สระว่ายน้ำ ฮ่าๆๆ
พี่ธานจะมีคู่กรณีให้อ่านใช่ไหม ขอทุกคู่ อยากอ่านๆ
เออดี ยืดเยื้อกันเข้าไป เราอยากให้ทั้งคู่ได้ลองงงง... ศึกษากันดู คึคึ
แฮปปี้มาก ขอบคุณเบบี้

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ยยยยยย ชอบอ่ะ 555555   :katai2-1:

ครืออ อ่านโพสแรก รู้สึกเลยว่า สงสารไฟ #ทีมไฟ สงสารนางมาก นาง "ระบบจัดการรวน" เป็นคำสารภาพที่... น่าเอ็นดูที่สุด เท่าที่เคยอ่านนิยายมาเลย  :o8:
 
มาโพสสอง.... เอิ่มมมมม เริ่มเข้าใจความรู้สึกสมุทรละ คือ ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ งานช้างแน่ ความปวดหัวจะตามสมุทรมาอย่างไม่หยุดหย่อนแน่ๆ  :laugh:

โพสสาม ... เกลียดอิไฟ! 555555 ขอย้ายค่าย #ทีมสมุทร หมั่นใส้อิไฟมากกกก นางหื่นได้ไร้ขีดจำกัดมาก ชัดเจน ถ้าซี้ดปากได้ น้ำลายไหลได้ ไม่อายลูกน้อง ไม่กลัวสมุทรโกรธ นางคงทำไปแล้วววว แน่ๆ 555555  ถ้าสมุทรยอมคบ สมุทรต้องเจอกับอะไรเนี่ย? ไม่อยากคิดแทนเลย  :haun4:

ฮาตอนอิไฟ มันจ้องเป้าน้องกับแซวพี่ธารอ่ะ ที่ว่าพี่ธารเอาผ้าห่อไว้เหรอ? 55555 ทะลึ่งสุดโต่งจริงๆ อิไฟ ว่าแต่ขนาดของพี่ธารนี่ สมฉายาพี่ "ใหญ่"  จริงๆใช่มะ  :hao6:

โอ๊ยยย ชอบๆๆ สนุกค่ะ มาต่อเร็วๆน้าาาา  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด