The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446128 ครั้ง)

ออฟไลน์ Maewjunsu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
มั่นใจว่าสมุทรพาไฟไปวัดแน่เลยคงกะให้ไฟราคะของไอ้โรคจิตลดลงมั้ง เวลาไฟอยู่กับสมุทรนี่ดูน่ารักเป็นสาวน้อยริรักผิดกับเวลาปกติที่ดูวิตถารมากๆ :ruready

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ไปไหนเนี่ยย วัดรึเปล่า
คุณไฟอย่าไปพังวัดเค้านะ ไปเดตที่ไหนเละที่นั่นล่ะคู่นี้ 555555   
เอาใจช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
 
ฉากที่อ่านแล้วคิดว่าคุณไฟเท่มากวันนี้ คือฉากรอสมุทรที่สวนอ่ะบี้ กรี๊ดๆ
นึกภาพตามคุณไฟแต่งตัวสบายๆในชุดลำลอง
รองเท้าผ้าใบ เกงยีนส์ เสื้อยืดสีขาวสกรีนลายโง่ๆ 
เอานิ้วเกี่ยวแจ็กเกตยีนส์พาดบ่าไว้แล้วหันมาตอนสมุทรเรียก โอ้ยยย เท่ระเบิด
ทำตัวปกติแบบชาวบ้านเค้าแล้วดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยคุณไฟของหนู >//////< 
 
ปล. ขอบคุณบี้ที่มาอัพค่ะ ถือว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ NOPKAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-1
สมุทรพาไฟไปวัด? จะใช่มั้ยหนอ? 5555

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เอ็นดูยูมาก ชอบบบ
ออกมาสองสามตอน รู้สึกเข้าใจเฮียกานต์
รอดูเดทแมนๆ ของไฟกับสมุทร
เอาใจช่วยให้ไฟลวนลามได้มากกว่านี้

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
สมุทรพาคุณไฟเข้าวัดชัวร์ กร๊ากกกก
เป็นเดทที่บรรยากาศมุ้งมิ้งดีจริงๆ รู้สึกถึงความเป็นตัวของตัวเองของสมุทรเวลาแบบนี้นะ มีกวนบ้างอะไรบ้าง เวลาเป็นบอดี้การ์ดจะกวนเยอะก็ไม่ได้(เพราะเจ้านายกวนกว่า)  :hao7:

คู่ของเฮียกับยูก็น่าสนใจ เหมือนเฮียจะเก่งกาจแค่ไหนก็ยังเอายูน้อยไม่อยู่  :-[

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เดาว่าพาไปวัด
สมุทรมีเขินอยู่บ้างนะ

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
คู่นี้คงอีกไกล

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
คุณไฟเหมือนสาวน้อยมาเดทครั้งแรก 5555555
แบบกังวลมั่งเขินมั่ง
น่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ขอให้สมุทรพาไฟไปวัดเถอะ  :m5: :m5: :m5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไฟนี่หลงสมุทรมากเลยนะเนี่ยเวลาอยู่กับสมุทรนี่ทั้งกวนเค้าทั้งหยอดเผลอๆมีจุ๊บอีกโอ๊ยน่ารัก


ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เขาไปเดทกันจริงๆจังๆแล้วววววว ดีงาม พี่ไฟมารออีกต่างหาก แอบลุ้นไปกับพี่ กลัวสมุทรไม่มาเหมือนกัน5555 

จุ๊บกันเบาๆ แม่งโครตจะน่ารักอ่ะ  ยอมรับตรงนี้ว่าอยากได้ผู้ชายแบบพี่ไฟเหลือเกินค่ะ  กริ๊ดดดดดด

นี่เป็นของขวัญ x'mas ที่อบอุ่นมาก ได้อ่านพี่ไฟกับสมุทร เขินมากบอกเลย เขินแทนพี่ไฟ

ขอบคุณเบบี้  :กอด1:




ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อ่านทันแล้วววว ฮ่าาาา

แต่เสียใจมากกว่าง่ะ เพราะต้องรอตอนต่อไป อ้ากกกกกกก
ก็เลยเว้นตอนล่าสุดไว้ยังไม่อ่าน555555

เนื้อเรื่องแปลกดี แนวมันแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆที่เคยอ่านมา แถมบรรยากาศของเรื่องมันใกล้ตัวมากๆ ใกล้แบบเจอทุกวันหลังข่าวภาคค่ำงี้ เหมือนละครเลยอะ แต่น่าสนใจกว่าละครทีวีเย้อออ มีแต่ตัวละครผู้ชาย 55555555555555 :-[

ตอนแรกๆ นี่อยากจะตั้งชื่อเล่นให้เรื่องนี้ว่า ชีวิตในวันๆหนึ่งของนายไฟ หรือการติดตามชีวิตนายไฟ 5555555 เห้ย คือคุณไฟเขามีวินัยมากเลยนะ ทำทุกอย่างมีระบบ เป็นตารางเวลาอย่างนี้ เราชื่นชมคนแบบนี้อะ เขาทำได้ยังไงกัน เป็นคนในอุดมคติอะ อยากทำได้แบบนี้มาตลอด แต่ทำไม่เคยได้ TT ติดขี้เกียจ5555555 เป็นคาแรคเตอร์ที่แตกต่างจากที่เคยอ่านๆมาอะ อีกอย่างเวลากลางวันครึ่งหนึ่งคนพวกนี้ให้กับการออกกำลังกายอะ! หุยยยยยย ไม่อยากนึกถึงหุ่น ฟิตเปรี๊ยะๆ กล้ามแน่น ซิกแพค ชอบบบบ เราชอบอ่านส่วนที่ออกกำลังกายอะ นึกภาพตามแล้ว ถอดเสื้อ เปลือยอก ชกลม ยกเวท หึยยยย แล้วทั้งคุณไฟ พี่ธาน สมุทร นพ เข้ม เด่น หุยยยยย แต่หลังๆไม่มีฉากออกกำลังแล้วอะ คุณไฟต้องพักร่างกาย เซงเลย555555

ว่าคุณไฟแกจิตไม่ปกติใช่มั้ย เอะอะจับนมจับเป้าเขาไปทั่ว แม้สถานการณ์จะน่าสิ่วหน้าขวานก็ตาม แต่เอ้ แล้วสมุทรล่ะ จะเป็นคนยังไงกันแน่ถึงจะคุมคนแบบคุณไฟอยู่ เอิ้กๆๆๆๆ :hao7:

เราได้ความรู้จากเรื่องนี้เยอะเลย ทั้งค่ายมวย การต่อยมวย ตลาด การจัดการหลายๆ อย่าง เอ้อ รถด้วย เราเพิ่งรู้นี้แหละว่าบิ๊กไบท์มันหนักเกือบ200โลอะ โหววววววหนักชิบ ขี่กันได้ยังไง -0-!!!
พื้นฐานเราชอบนิยายแบบนี้อะ คนเขียนพร้อมเตรียมมาดี ข้อมูลแน่น นอกจากสนุก ยังได้ความรู้อีก เยี่ยมไปเลย

ขอบคุณคนเขียน เป็นกำลังใจให้นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
เบบี้อัพตั้งยาว แต่ทำไมเราอ่านแล้วเหมือนมันสั้นอ่ะ
แบบว่าเพลินกับการจีบกับแบบ แบบยังไงดีละ
ให้คำนิยามไม่ออกว่าจีบกันเดทกันได้หรือเปล่าแต่คนอ่านฟิน  :impress2:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เบบี้อัพตั้งยาว แต่ทำไมเราอ่านแล้วเหมือนมันสั้นอ่ะ
แบบว่าเพลินกับการจีบกับแบบ แบบยังไงดีละ
ให้คำนิยามไม่ออกว่าจีบกันเดทกันได้หรือเปล่าแต่คนอ่านฟิน  :impress2:

 :pig4: ค่ะ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
แล้วก็อ่านตอนล่าสุดจนได้

คงไม่ได้พาไปวัดหรอกนะสมุทร 5555

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
เบบี้อัพตั้งยาว แต่ทำไมเราอ่านแล้วเหมือนมันสั้นอ่ะ
แบบว่าเพลินกับการจีบกับแบบ แบบยังไงดีละ
ให้คำนิยามไม่ออกว่าจีบกันเดทกันได้หรือเปล่าแต่คนอ่านฟิน  :impress2:

 :pig4: ค่ะ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ ..คึ!!!   :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ลุ้นจนเหนื่อย เกร็งไปหมด โมเมนท์เท่ามดแต่ฟินอลังการ 5555555555555555555555

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โหยยยยย อิพี่ไฟ ทำไมพี่อ้อยได้ขนาดนี้ ฉากช้อนตามองนี่ตายๆๆๆๆ รู้สึฟีโรโมนฟุ้งมาก ส่วนสมุทรนี่เวลาไม่ทำงานชักยังไงๆ อยู่นา อยากเห็นเวลาระเบิดความรู้สึกออกมา จะเป็นยังไง ตื่นเต้ๆๆๆๆ

ปล. พี่ไฟคะ รบกวนช่วยกลับไปยิงปืน ต่อยมวย เตะหญิง กวนบาทาเหมือนเดิมเถอะค่ะ 555555

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
พาไปชำระจิตใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไฟ ดูแลคนในครอบครัว ลูกน้อง ดีมาก
ไฟ น่าจะร้องเพลง หรือเปิดเพลงซึ้งๆ ให้สมุทรฟัง
อย่างเพลง  All That I am
When The Heart Ache Ends
น่าจะช่วยได้นะ (ขอโทษค่ะ วุ่นวาย ว้าย วาย อีกและ)
(ที่จริงชอบเพลงพวกนี้ เพราะคุณเบบี๋ นั่นแหละฟังกี่ที ก็ซาบซึ้งทุกที) :mew6: :mew6: :mew6:
สมุทร พาไฟไปวัดแน่ๆ ถึงต้องให้ไฟ สำรวม
ลุ้น ไฟ สมุทร มากๆ      :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2016 22:12:40 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เดทนี้แกทำตัวน่ารักว่ะไฟ
ชั้นเขิน  :o8: โอเค แกสอบผ่าน o13

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
มาลุ้นว่าเค้าจะพากันไปเดทที่ไหน!!!

ออฟไลน์ OJSG7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อย่าบอกนะว่าไปเดทกันที่วัด 555555 ดูหน้าคุณไฟด้วย~

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อ่านแล้วติดหนึบ ชอบสมุทร พายุ พี่ธาน ไฟบ้าๆบอๆ กวนมาก  ขอให้โดนสมุทรจัดการ555

ออฟไลน์ bon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
พักจากตอนหนักๆ มา ตอนนี้ดูละมุนมาก

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

[ อังคารที่ 20 ธ.ค 59 ]  ตอนที่ 35 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.1290

[ อาทิตย์ที่ 25 ธ.ค 59 ]  ตอนที่ 36  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.1320



_ _ _ _ _ _ _ _ _ _

ตอนที่ 37
..ไฟ..




ระยะทางระหว่างรถไฟฟ้าและการเดินเท้ามาวัดค่อนข้างไกลพอสมควร  ตามจริงแล้วผมเป็นคนเอ่ยปากเองว่าจะเดิน  ผมไม่แปลกใจกับเส้นทางที่กำลังไป  ตามตรงแล้วก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี  การเดินตามหลังของแผ่นหลังที่เดินตรงไปอย่างแน่วแน่ทำให้ภาพในอดีตย้อนกลับมา  ไม่ใช่ภาพของเขาเสียคนเดียวซะทีเดียว  ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที  ความเหนื่อยเกิดจากอากาศที่ร้อนมากกว่าระยะทาง  เราทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าสถานที่ที่แสนเงียบสงบแห่งหนึ่งในเมืองหลวง  ต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบปกคลุมเหนือหัว  ได้ยินเสียงนกร้องเพราะหู 

วัดนี้เป็นวัดประจำที่ตระกูลของผมมักเลือกใช้ทำพิธีให้กับคนในครอบครัวที่เสียชีวิต  ไม่ว่าจะลูกน้องหรือคนสนิท  เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่สมัยของปู่หรือพ่อของปู่โน่นล่ะ  เช่นเดียวกันว่าพ่อของคนที่มาด้วยกันกับผมก็เผาที่นี่เช่นกัน  เผาแบบไร้ญาติมิตร  มีแต่เพียงเพื่อนร่วมงานและคนในครอบครัวผมเท่านั้น  ผมหยุดยืนนิ่ง  แม้จะไม่แปลกใจหรือตื่นตระหนกต่อการมาถึง  แต่แค่สงสัยนิดหน่อยว่าคนตรงหน้ากำลังรู้สึกอย่างไร   


“ไปกันเถอะครับ”

ผมเงยหน้าขึ้นมองสมุทรที่หันกลับมาเรียกสติผมด้วยน้ำเสียงสุภาพ  เขาก้าวเข้าไปในตัววัดก่อน  ผมจึงก้าวตามไป  ระหว่างทางมีร้านดอกไม้ธูปเทียนวางขาย  โดยปกติแล้วผมไม่จุดธูปไหว้พระ  แต่เนื่องจากยังไม่รู้นิสัยใจคอของคนที่มาด้วยมากนักและเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทผมจึงเดินไปเพื่อจะซื้อดอกไม้ธูปเทียนติดมือไปด้วย  สมุทรหยุดเดินหันกลับมา  ผมจึงชี้นิ้วบอกจุดประสงค์เล็กน้อย  ไม่รู้ว่าคำพูดหายไปไหนหมด  แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เข้ามาคว้าแขนผมไว้  ผมหยุดมองอย่างสงสัย  เขาไม่พูดอธิบายใด ๆ แต่กลับดึงแขนผมให้เดินตามเขาไปทั้งอย่างนั้นจนเรามาหยุดอยู่ที่หน้าโบสถ์  รองเท้าที่ด้านหน้าไม่มีสักคู่ทำให้รู้ว่าด้านในคงจะไม่มีใคร  รอบ ๆ ตัวที่เห็นหนาตาหน่อยก็เป็นผ้าขาว  สมุทรปล่อยมือออกพร้อมถอดรองเท้า  ผมจึงทำตาม 

สัมผัสแรกที่เข้ามาถึงด้านในคือความเย็นสบายที่มีมากกว่าด้านนอก  ผมนั่งลงข้าง ๆ กับคนที่มาด้วย  เราต่างไหว้พระ  ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบเชียบและสงบ  ผมที่ไหว้พระเสร็จก่อน  เป็นการไหว้อย่างไม่มีการขอใด ๆ  เสร็จแล้วจึงได้แต่นั่งมองสมุทรอย่างรักษาความเงียบเอาไว้  อีกฝ่ายลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนก้มกราบสามครั้ง  ผมเหสายตามองไปที่ตักของเขาแทนที่เราจะสบตากันตรง ๆ

“วัดนี่นะ สถานที่ที่พิเศษสำหรับฉัน” ผมเปลี่ยนเรื่องพูดติดตลก

“ไม่ดีเหรอครับ” อีกฝ่ายยิ้มตอบ  ผมเงียบ  ได้เพียงแต่ยิ้มมุมปากนิดหน่อยเท่านั้น  ผมขยับขาเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ

“พ่อฉันจัดพิธีศพให้พ่อนายที่นี่” ผมพูดขึ้นโต้ง ๆ โดยหันหน้าออกไปทางประตูโบสถ์ 

“ครับ ผมทราบ” สมุทรตอบ  ผมทิ้งช่วงเงียบลงอึดใจหนึ่ง

“ทำพิธีเจ็ดวัน นานพอ ๆ กับญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว พ่อฉันต้องการแบบนั้น ปกติ.. ถ้าลูกน้องคนไหนที่ญาติไม่สะดวกนำกลับไปทำพิธีที่บ้านเกิด เรามักจะทำพิธีกันที่วัดนี้ ครอบครัวฉันจะช่วยเหลือค่าทำศพครึ่งหนึ่ง แล้วเป็นเจ้าภาพแค่บางวัน แล้วแต่คน”

“แต่ลุงยอด พ่อฉันไม่ให้ใครแตะเลย จัดการเองหมด” ผมเล่า  ทิ้งเสียงจากผมเราก็เงียบกันหลายนาทีเห็นจะได้

“ผมเคยเห็นคุณที่นี่..” สมุทรพูดขึ้นทำให้ผมหันขวับไปมองเขาในทันที  อีกฝ่ายเหสายตาลงไม่สบตา

“สมัย ที่พ่อเอาแต่..โอ๋คุณละมัง”

“หึ” ผมหัวเราะกับคำพูดติดตลกที่ประชดประชันนั่น

“ผมแอบมา ตอนนั้นหน้าวัดยังมีแต่ป่าอยู่เลย กลับถึงบ้านโดนแม่ตีใหญ่ว่าหายไปไหนมาดึกดื่น คืนนั้นเป็นงานศพของลูกน้องพ่ออีกทีมั้งครับ ที่สำคัญ..ผมว่าคุณหน้าตากวนประสาทตั้งแต่เด็กเลย” สมุทรช้อนตาขึ้นมอง  ผมจ้องจนเกือบจะหลุดขำ

“ผมจำหน้าคุณไม่ได้หรอก แต่จำความคิดตัวเองในใจตอนนั้นได้น่ะ”

“สาบานต่อหน้าพระนะว่านั่นพูดออกมาจากใจ” ผมพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“ครับ ไม่จำเป็นต้องโกหกนี่” อีกฝ่ายย้อน  ผมยิ้มนิดหน่อยอย่างไม่ปฏิเสธ  บทสนทนาถูกจบลงหลังจากนั้น  เราออกจากตัวโบสถ์เมื่อมีคนทยอยมากราบไหว้

“ฉันสงสัยน่ะ..” ผมเข้าไปยืนขวางตรงหน้าสมุทรไม่ให้อีกฝ่ายเดินต่อ
 
“ที่เขาบอกว่า การที่คนเราได้มาเจอกันอีกเพราะทำบุญทำกรรมร่วมกันมานี่มัน ..นายว่ามันจริงไหม ?” ผมถามหน้าเป็น  สมุทรจ้องเขม็ง  สีหน้ายังไม่บอกอารมณ์ไม่ชอบใจใด ๆ

“กรุณาสำรวมด้วยครับ” เขาตอบ

“ไม่สำรวมตรงไหน ก็แค่ถาม” ผมเบ้ปาก  กะพริบตาพลางยกไหล่ขึ้นทั้งสองข้าง 

“ครับ คงงั้นมั้งครับ” สมุทรตัดบทตอบปัดประเด็นไปที  เขาเบี่ยงตัวเดินผ่านหน้าผมไป  ผมได้แต่แสยะยิ้มมอง  อีกฝ่ายคงไม่อยากที่จะโกหกถึงได้ตอบรับมาเช่นนั้น  สมุทรเดินตรงไปที่แม่ค้าขายน้ำอ้อยตรงทางประตูเข้าบริเวณวัด   

“เอาไหมครับ” เขาหันมาถามพร้อมทำท่าจะซื้อให้ผมอีกถุง

“ไม่” ผมตอบแทบไม่ต้องคิด  เห็นก็รู้แล้วว่ามันคงจะหวานมาก  สมุทรับถุงน้ำอ้อยมาพร้อมกับจ่ายเงินให้แม่ค้าไป  ไม่ทันให้หลอดน้ำอ้อยเข้าปากคนซื้อ  ผมก็คว้ามือไปแย่งถุงมาก่อนจนยายคนขายมองตามแล้วหัวเราะ  สมุทรอมยิ้มส่ายหัวน้อย ๆ ไม่ว่าอะไร  น้ำอ้อยถูกดูดเข้าไปหลายอึกพร้อม ๆ กับเดินออกมาหยุดยืนที่ริมถนนใหญ่   

“อ้า หวานฉิบ” ผมขมวดคิ้วบ่นหน้าแหย  ยื่นถุงกลับคืนให้เจ้าของ   

“หึ” สมุทรอมยิ้ม  รับถุงกลับคืนไปดูดต่อ 

ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายเดินนำออกมาก่อน  ในหัวที่ไม่มีแบบแผนมาตั้งแต่ก่อนหน้ากำลังนึกไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าควรไปที่ไหนต่อเพื่อที่จะไม่ให้อีกฝ่ายเบื่อ  คิดไปคิดมาแล้ว บางทีหมอนี่อาจจะเบื่อตั้งแต่ก่อนมาแล้วก็ได้น่ะนะ  ดังนั้น ช่างหัวปะไร

สมุทรเดินตามหลังมาเงียบ ๆ  เราทั้งคู่ออกมายืนอยู่ที่หน้าปากซอยอีกครั้ง  ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายโบกเรียกแท็กซี่เองคล้ายกับกึ่ง ๆ บังคับให้คนที่มาด้วยไปต่อด้วยกัน  สถานที่ต่อไปเป็นเขตพระนคร  พิพิธภัณฑ์  ผมเคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จากปากของยู  เขาสนใจทางด้านนี้แต่ผมไม่เคยมีโอกาสได้มาสักที  ไม่วนเวียนอยู่กับแหล่งทำมาหากินก็อยู่แต่บ้านกับค่ายมวย  หากผมมีโอกาสมาที่นี่ปกติผมคงมาคนเดียวหรือไม่ก็คงจะชวนให้ยูมาด้วยกัน  สรุปแล้วสถานที่เช่นนี้ผมว่าการมาคนเดียวสะดวกกว่า  แต่วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษละมัง  เหมือนกับว่าไม่มีที่จะไปด้วยกันทั้งคู่  ถ้าจะเป็นห้างสรรพสินค้าก็คงไม่ต่างอะไรจากทุกที  อีกอย่างสมุทรก็คงไม่ได้พิสมัยห้างสักเท่าไหร่ 

“เบื่อก็บอกล่ะ” ผมพูดขึ้นหลังจากที่จ่ายเงินค่าเข้าพิพิธภัณฑ์สำหรับสองคนเสร็จ

“ยังไม่เคยมาที่นี่เหมือนกันครับ” สมุทรพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองตัวตึกของอาคารแห่งนี้  ไม่รู้เป็นบอกกล่าวหรือบ่นให้ฟังกันแน่ 

“ใช่สิ คุณไม่ต้องกินยาเหรอครับ” อีกฝ่ายขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

“ไม่ต้อง” ผมตอบปัด  ตามจริงแล้วยังมียาที่จำเป็นต้องกินเหลืออยู่แม้จะหายดีแล้ว  ผมไม่ได้พกมาด้วยเพราะมันน่ารำคาญ
 
“คุณนี่นะ” คนฟังถึงกับถอนหายใจ  ดูท่าเขาจะรู้ทัน

ผมพลิกนาฬิกาข้อมือดูก่อนที่จะเริ่มสำรวจด้านใน  เวลาตอนนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้ว  ดังนั้นจึงมีเวลาเหลือไม่มากสำหรับที่นี่  เราสองคนไม่ได้เกาะกลุ่มกันเดิน  ใครใคร่สนใจในสิ่งไหนก็อยู่กับจุดนั้นนานหน่อย  มีเพียงระหว่างเปลี่ยนไปชั้นอื่น ๆ เราก็แค่เดินตามไปด้วยกันก็เท่านั้น  ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของประเทศไทยในแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับเด็กนักเรียน  ส่วนใหญ่จึงมีแต่วัยรุ่นเข้ามาศึกษาหาข้อมูล  สิ่งที่ทำให้ผมกับสมุทรตื่นเต้นกันมากที่สุดก็คงจะเป็นพวกวัฒนธรรมเก่า ๆ ที่เราได้เคยสัมผัสกันในสมัยเด็ก  แต่ตอนนี้กลับเลืองรางเต็มทีและแทบไม่ได้เห็นว่าเด็กสมัยนี้จะได้สัมผัสถึงสิ่ง ๆ นั้น 

“หิวเลย” ผมเอ่ยปาก  ตาหยุดนิ่งมองรถเข็นส้มตำที่ทางพิพิธภัณฑ์จำลองเอาไว้  สมุทรหัวเราะในลำคอคล้ายเห็นด้วยกันกับผม

“สมัยเป็นเด็กผมเคยปิ้งปลาหวานขายที่หน้าบ้านด้วยนะครับ” สมุทรบอกขึ้นด้วยสีหน้าสนใจ  นิ้วชี้ไปที่ปลากระเบนหวานย่างบนเตา

“ฉันกับพี่ธานชอบซื้อมาปิ้งที่บ้านบ่อย ๆ” ผมสมทบ  ปลากระเบนหวานย่างคือหนึ่งในของเล่นและอาหารกินเล่นที่หลังบ้านของผมกับพี่ธาน 

เราเดินต่อไปเรื่อย  เล่นเกมที่ทางพิพิธภัณฑ์มีไว้ให้บ้าง  สุดท้ายมาจบที่ชั้นหนึ่งตามที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะดูภาพยนตร์ปิดท้ายก่อนกลับออกไป  ภาพยนตร์ที่ฉายเป็นเนื้อหาภาพยนตร์สั้นที่เกี่ยวกับความเป็นมาของประเทศไทย  คล้ายกับว่าสรุปให้เข้าใจโดยง่าย  มีเด็กเล็กบ้าง  ผู้ใหญ่บ้างไม่มากนักนั่งอยู่  ที่นั่งแบ่งเป็นสำหรับผู้ใหญ่นั่งได้สองคน  หากเป็นเด็กเล็กก็อาจจะจุได้สามถึงสี่คน  โดยเก้าอี้แต่ละตัวเว้นระยะห่างเท่าช่วงแขน 

แสงลอดผ่านผนังสีน้ำเงินเข้มส่องให้ความสว่างทำให้การดูเป็นไปโดยไม่มืดสนิทเสียทีเดียว  ผมแอบเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  เขาดูตั้งอกตั้งใจมากกว่าผมเสียอีก

“ถ้านายเบื่อ หลังจากนี้เราจะกลับกันเลย” ผมพูดขึ้นขณะที่กำลังดูภาพยนตร์อยู่  ใช้น้ำเสียงที่เบาได้ยินกันเพียงแค่สองคน  เวลานี้ก็จวนจะหมดวันเต็มแก่แล้ว

“คุณจะพูดเพื่อให้ผมเลือกทำไมละครับ” อีกฝ่ายย้อนทั้งที่ยังไม่ยอมมองมาที่ผมดี ๆ

“ถ้าผมเลือกกลับขึ้นมาล่ะ..” สมุทรเลิกคิ้วหันหน้ามาทางผม

“ฉันคิดว่าฉันจะตามนายไปด้วย ว่าจะขอฝากท้องฝีมือดาวสักหน่อย กำลังหิวข้าวพอดี” ผมตอบหน้าตาย  ทำให้สมุทรเบือนหน้าหันกลับไปดูภาพยนตร์ต่อ 

“เอาเป็นว่า ฉันจะคิดเอาเองว่านายไม่เบื่อก็แล้วกันนะ” ผมสรุปส่ง ๆ รวบรัดเข้าหาตัว  แน่นอนว่าไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้าง ๆ  เราดูจนภาพยนตร์จบ  กลับออกมาฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มผิดปกติ  บางส่วนแจ้งบางส่วนสว่าง  พยากรณ์อากาศเมื่อเช้าที่เพิ่งฟังมาชวนให้นึกถึงและอดด่าปรามไม่ได้ว่า “อย่าตกนะมึง”

“ไปไหนครับ” สมุทรหันมาถามเมื่อแท็กซี่คันหนึ่งหยุดจอดเทียบคล้ายกับรู้ว่าเราต้องการใช้บริการ

“เยาวราช” ผมตอบ  เขาหันกลับไปบอกที่หมาย  คนขับรถผงกหัวเป็นการตอบรับว่า “กูไป”  เวลานี้เป็นเวลาที่ผู้คนกำลังออกนอกบ้านออกจากที่ทำงาน ทำให้ระยะทางที่ไม่ไกลมากก็ไกลในบัดดล  รถค่อนข้างติด  ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง 


..
ส้มตำเจ๊เป็ด ครกระเบิด


“ปกตินายกินตำอะไร” ผมถามข้อมูลประกอบการสั่งอาหาร  เสร็จจากมื้อนี้ผมคงปล่อยเขาไปไม่ยื้อไว้อีก 

ลูกค้าที่มาร้านนี้ถ้าเลยหกโมงเย็นคนจะเยอะเป็นพิเศษกว่าเวลาอื่น ๆ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “เยอะฉิบหาย”  ปกติผมไม่ค่อยได้มากินบ่อยเพราะเวลาอยากกินมักจะสั่งให้แม่บ้านทำให้หรือไม่ก็ให้แม่บ้านไปซื้อที่ตลาดแล้วนำกลับมากินที่บ้านจะสะดวกกว่า

“ปูปลาร้าครับ เอ่อ..ผมกินได้หมด” สมุทรแบ่งรับแบ่งสู้
 
“คุณสั่งเลยครับ” เขาสรุป 

“โอเค” ผมรับทราบอย่างไม่เกรงใจ

“ตำปูปลาร้าหนึ่ง ตำปูม้าดองหนึ่ง ตำผลไม้รวมไข่เค็มหนึ่ง” ผมบอกพนักงาน  ความเคยชินของผมคือการสั่งแบบไม่ยั้งเมื่อกินอาหารประเภทนี้  มันเกิดจากความเคยชินที่ชอบกินกับลูกน้องและเราสามารถสั่งหลายอย่างได้เพราะมีคนช่วยกิน  มันสนุก มันอร่อย  แต่ถึงกินคนเดียวหรือกินแค่กับพี่ธานผมก็ยังชอบสั่งเยอะอยู่ดีน่ะนะ

“เผ็ดไหมครับ ?” พนักงานถาม

“เอารสเจ๊” ผมตอบห้วน ๆ

“เอาแน่น้า~ งั้นไม่เกรงใจน้าคร้าบ” มันขานรับเสียงทะเล้นก้มหน้าก้มตาจดทำเอาผมกับสมุทรได้แต่อมยิ้มให้กัน

“แล้วก็ตับหวานหนึ่ง ลาบวุ้นเส้น ปีกไก่ทอดน้ำปลา คอหมูย่าง ไก่ย่างด้วย..เอาเฉพาะตรงอกนะ สองไม้แล้วกัน” ผมร่ายยาว  สมุทรมองกะหลับกะเหลือก  ไม่เว้นแม้แต่พนักงาน

“เอ่อ คุณไฟครับ” สมุทรเอ่ยปากเตรียมเบรก  ผมยกมือขึ้นปรามเพราะใกล้จะพูดจบแล้ว

“ข้าวเหนียวสองกระติบ”

“ครับ” พนักงานพยักหน้ารับ

“น้ำแข็งถังนึง” ผมบอก 

“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ” พนักงานรับปากห้วน ๆ  มันทวนอาหารอีกครั้งและเดินไปอย่างคล่องแคล่ว  มีเด็กผู้ชายที่เป็นพนักงานอีกคนนำแก้วเปล่ากับน้ำแข็งมาวางให้  สมุทรเป็นฝ่ายจัดการรินน้ำใส่แก้วให้เรียบร้อย

“สั่งเยอะไปไหมครับ เดี๋ยวก็ท้องแตกตายหรอก” อีกฝ่ายบ่น

“หึ ๆ” ผมหัวเราะ

“ก็ไม่จำเป็นต้องกินหมดทุกอย่างสักหน่อย” ผมพูด

“เฮ้อ เอาจริง ๆ นะ” ผมถอนหายใจมองหน้าคนตรงหน้า  สมุทรจ้องมองกลับอย่างสนใจว่าผมจะพูดอะไร

“ส้มตำนี่มันที่สุดของชีวิตเลยนะ มันคืออาหารช่วยชีวิตน่ะ” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง  อีกฝ่ายหลุดหัวเราะ
 
“ปกติฉันชอบกินที่บ้านมากกว่าที่ร้าน” ผมบอก

“บางทีก็เลยใช้ให้คนที่บ้านไปซื้อ กินกับไอ้พวกนั้นอร่อยกว่า รึบางทีแม่บ้านก็จุดชุดใหญ่..ตำให้กินกับมือ ส่วนไอ้พวกเวรก็สนุก ได้ปิ้งโน่นนี่กันที่หลังบ้าน ครัวกระจายก็โดนพายุด่าไปตามระเบียบ” ผมเล่า

“หึ ๆ” สมุทรยิ้มกว้าง 

“แล้วนายล่ะ” ผมถามกลับ

“กินที่บ้านครับ ปกติก็กินกับดาวกับยาย ดาวชอบกินส้มตำมากเลย เธอชวนผมกินบ่อยมากจนบางทีผมต้องเบรกไว้บ้าง วัน ๆ นึกอยากแต่ส้มตำ”

“กินคนเดียวก็ไม่ได้ซะด้วย บังคับว่า..กินเป็นเพื่อนหน่อย กระเพาะก็คนละกระเพาะแท้ ๆ” สมุทรยิ้ม ๆ ผมหัวเราะ  เราหุบยิ้มลงทีละนิดก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย  แม้จะเป็นการคุยแบบเว้นช่วงไปบ้าง  ส่วนใหญ่จะเว้นช่วงโดยไม่พูดมากกว่าแต่ก็ไม่ได้มีความกระอักกระอ่วนเกิดขึ้น 

อาหารถูกนำมาเสิร์ฟไร่เรี่ยกันโดยแต่ละอย่างรอให้หลังกันไม่นานเท่าไหร่  ทั้งผมและเขาดูเหมือนจะกินอาหารรสชาติเดียวกัน  เรียกว่าเป็นการกินที่เป็นไปอย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่มีการหยุดขยับปากเลย  มีเพียงเสียงสบถชมถึงรสชาติให้ได้ยินเป็นระยะ  เวลาผ่านไปพักหนึ่ง ร่างกายของพวกเราเริ่มขยับช้าลงไปโดยธรรมชาติ  บริเวณท้องมีน้ำหนักมากขึ้น  อาหารตรงหน้าเหลือเพียงไม่กี่อย่างและดูเหมือนเราจะยัดกันเข้าไปไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  เสียงฝนลงเม็ดทำให้ต้องเหลียวหลังกลับไปมอง  ลูกค้าต่างบ่นอิดออดในทันทีที่ฝนตกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  ครู่หนึ่งสมุทรดูแปลกไป  ทีท่าคล้ายกับมีกังวลอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่เจ้าตัวพยายามที่จะซ่อนมันไว้ 

ให้หลังไม่เท่าไหร่เขาก็ขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ  ในมือถือโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย  ที่หน้าจอกะพริบสว่างขึ้นจนสังเกตได้ทัน  ผมยังคงเมินเฉย  หยิบน้ำเปล่าที่เหลือครึ่งแก้วขึ้นดื่มจนหมด  เว้นช่วงเวลาระยะหนึ่งถึงลุกตามหลังเขาไป  ร้านส้มตำธรรมดา ๆ ที่มีลูกค้ามากมายทำให้ต้องเตรียมพร้อมเรื่องห้องน้ำไว้ถึงสามห้องโดยแยกชายหนึ่งและหญิงสอง
 
“หยาอยู่ไหน” เสียงแว่วมาจากทางด้านหลังเลยประตูห้องน้ำชาย  ผมหยุดเท้าจงใจยืนฟัง 

“ที่บ้านคุณเป็นห่วงกันมากนะ ทำไมทำตัวแบบนี้” น้ำเสียงของคนที่พูดฟังดูไม่พอใจและดุนิดหน่อย  เขาเงียบลงครู่หนึ่ง  ลมหายใจพ่นออกมาค่อนข้างยาวจนได้ยินชัดเจน

“บอกมาครับว่าอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปหา” สมุทรตัดบท  ผมฟังเท่านั้นและสังเกตสถานการณ์ดูแล้วว่าบทสนทนาน่าจะจบลงในไม่ช้านี้  ผมจึงเลือกกลับมานั่งที่โต๊ะและเรียกเก็บเงิน  สมุทรกลับออกมาทั้งที่บิลค่าอาหารยังไม่มาถึงด้วยซ้ำ  ผมแกล้งทำเฉยเพราะเขาเองก็ทำเช่นกัน  ดวงตาสีดำสนิทกำลังมองขึ้นผ่านหัวผมเหนือไปเพียงเสี้ยววิ  ผมเอ่ยปากว่าจะจ่ายเงินเอง  วางเงินใส่ถาดเรียบร้อยแล้วจึงลุกขึ้นทันที  เมื่อมองขึ้นไปยังจุดหมายของสายตาเมื่อครู่นี้จึงรู้ว่าอีกฝ่ายมองนาฬิกาที่ฝาผนังของร้าน 

“เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่นะครับ” สมุทรพูด  เราหยุดยืนเยื้อง ๆ ข้างร้านส้มตำซึ่งติดกับถนน  ที่จริงที่ยืนมันไม่พอดีหรอกแต่ไม่มีตรงไหนให้หลบฝนได้แล้วนอกจากตรงนี้  ผมล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง  ซ้ำแล้วเสียงฝนที่เทสาดมาเต็มแรงดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

“มีธุระก็ไปก่อนได้เลย” ผมพูดขึ้นทำให้คนข้าง ๆ หันขวับมามอง  ผมเหล่ตามองไปที่เขาทั้งที่ใบหน้ายังคงตั้งตรงนิ่งเฉย

“ฉันเห็นว่านายดูให้ความสนใจกับนาฬิกาน่ะ” ผมขยายความเพื่อให้อีกฝ่ายหายสงสัย  สมุทรไม่ปฏิเสธ  ก็ไม่ได้หวังให้ปฏิเสธอยู่แล้วละนะ 

“เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ให้นะครับ” อีกฝ่ายสรุป  ประโยคเดิมเดียวกันกับก่อนหน้าแต่มีคำเสริมเติมแต่งเข้ามานิดหน่อย  หากฟังไม่ดีก็คงจะคลุมเครือ  สมุทรเดินออกไปที่ริมถนนจนตัวเขาเกือบเปียกฝน  การยืนเพื่อให้ตนเป็นที่สังเกตได้ถนัด  ผมไม่คิดห้าม  คนเราก็ต้องบากบั่นเพื่อให้ได้อะไรมา  ความพยายามของเขาทำให้เรียกแท็กซี่ได้ภายในเวลาไม่นาน  คนที่กระโดดเข้ากระโดดออกได้แต่ชะโงกมองยังคงต้องดำเนินต่อไป  สมุทรจัดการบอกจุดหมายของแท็กซี่ให้เรียบร้อยโดยไม่สอบถามผมก่อน  มือเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารรอ  แม้ทุกอย่างจะเคลื่อนไหวไปอย่างปกติแต่ผมกลับดูออกว่าเขามีความรีบร้อนจนแทบปิดไม่มิด

“ขอบใจ” ผมบอกเท่านั้น  อีกฝ่ายผงกหัวผลิยิ้มน้อย ๆ  พอประตูรถปิดสนิทคนขับก็เคลื่อนรถออกทันที 

“โทษนะครับ” ผมเอ่ย  เจ้าของรถเหลือบมองผมผ่านกระจกมองหลัง 

“จะขอให้เสียเวลาสักหน่อย”

“เลี้ยวขวาซอยข้างหน้าจะมีที่จอดรถ ผมขอเหมาสองพัน..จะขอให้คุณรอไม่กี่นาทีหรอก” ผมพูดโดยย่อ  แม้สีหน้าของคนขับจะงุนงงในทีแรกแต่เขาก็ผงกหัวทำตามที่สั่ง  ฝนยังคงกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง  แท็กซี่ได้ที่จอดรถไม่ยากจนเจ้าตัวก็ดูแปลกใจ  ร้านอาหารร้านดังที่ผมรู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี  เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นว่าคนที่นั่งแท็กซี่มาเป็นผมเขาก็โบกอนุญาตให้เข้าไปจอด  ผมลงจากรถตรงเข้าร้านสะดวกซื้อที่หน้าปากซอย  ร่มคันเล็กถูกนำไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์  ไม่นานนักผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่หัวมุมของร้านอาหารตามสั่งฝั่งตรงกันข้ามกับที่สมุทรยืนอยู่  เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม  ฝนก็คงไม่หยุดง่ายเร็ว ๆ นี้  เนื้อตัวเริ่มเหนียวชื้นน่ารำคาญใจ  ดูเหมือนสมุทรจะถูกแท็กซี่ปฏิเสธไปแล้วหลายคัน  สีหน้าของเขาเริ่มแสดงออกมากขึ้น  เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีก็โชคดีที่มีแท็กซี่บอกรับ  เลขทะเบียนรถและลักษณะของรถอยู่ในหัวเรียบร้อยจึงกลับมาขึ้นรถของตนพร้อมบอกจุดหมายที่ต้องการ  รวมถึงราคาค่าเสียเวลาที่เพิ่มขึ้นให้ก็ด้วย


“เตรียมรถด้วย อีกครึ่งชั่วโมงจะให้ออกมารับ” ผมสั่ง  ไอ้เด่นขานรับทราบก่อนที่ผมจะตัดสาย  ในแท็กซี่เงียบสนิท  คนขับแอบมองผมผ่านกระจกมองหลังกะหลับกะเหลือกมาหลายครั้งแล้ว  ครั้งนี้เป็นการตัดรำคาญจึงช้อนมองตอบกลับไป  เพลงลูกทุ่งถูกปิดไปเมื่อครู่นี้หลังจากที่ผมเอ่ยปากว่า “ไม่ต้องรีบ ตามคันข้างหน้าอย่าให้รู้ตัวก็พอ”  เขาเองก็คงต้องการสมาธิละมัง

จากเยาวราชไปถึงจุดหมายของสมุทรไกลพอดู  ใช้เวลาอยู่บนถนนเกือบสองชั่วโมง  ที่นานคงเพราะอุปสรรคบนท้องถนนและสภาพอากาศเป็นเหตุด้วย  ผมให้ค่าเสียเวลากับคนขับไปทั้งหมดห้าพันบาทและสั่งว่าไม่ต้องรอ  อีกฝ่ายรับเงินไปด้วยน้ำเสียงสุภาพปนดีใจ  สมุทรลงจากรถแล้ว  เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกผมตามอยู่  อีกฝ่ายเดินตากฝนทั้งอย่างนั้นไปตามตรอกซอกซอยที่ดูเหมือนจะคุ้นชิน  เท้าหยุดชะงักอยู่ริมฟุตปาธเมื่อคนที่กำลังตามอยู่หยุดยืนอยู่ที่หน้าโรงแรมหรูของอีกฝั่งถนนหนึ่ง  ผมกวาดตามองตาม  ผู้หญิงที่ชื่อหยาปรากฏตัวออกมาจากโรงแรมดังกล่าว  สมุทรหันรีหันขวารีบข้ามถนนไปหา  เธอเห็นว่าคนที่มาถึงเปียกโชกก็ดูจะตกใจ  ร่มที่เธอถือมาด้วยกางขึ้นเหนือหัวของสมุทร  ทั้งคู่หยุดยืนไร้บทสนทนาด้วยความใกล้เพียงฝ่ามือ  ร่มถูกสับเปลี่ยนคนถือก่อนที่ทั้งคู่จะเดินตรงเข้าโรงแรมไป



- - - - - - - - - - - - - - -

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2017 17:20:46 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

06:40 น. : บ้านเลิศประสงค์

“ต่อไปเป็นข่าวการเมืองค่ะ พรรคการเมือง...”

“น้ำแอปเปิลครับ” พี่ธานวางแก้วน้ำแอปเปิลปั่นสดลงบนโต๊ะ  หน้าจอโทรทัศน์กำลังฉายภาพนักการเมืองขณะให้สัมภาษณ์กับนักข่าว  โดยปกติผมไม่ค่อยดูข่าวพวกนี้และไม่คิดยุ่งเกี่ยว  อาจจะดูแบบผิวเผินบ้างเพื่อเป็นความรู้ 

“นั่งสิ” ผมพูด  พี่ธานเลือกที่จะนั่งโซฟาฝั่งซ้ายมือที่ตนยืนอยู่ 

“มีอะไรหรือครับ”

“ประวัตินักการเมืองคนนี้เป็นไง” ผมถาม

“ส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดี เป็นที่รักของประชาชนนะครับ แต่ว่า..” พี่ธานตอบ  ผมมองหน้าพี่เขาเมื่อได้ยินคำว่า “แต่ว่า” นั่น  มันสะกิดหูนิดหน่อย

“มีแว่วมาว่าก็ไม่เบาเหมือนกัน” พี่เขาขยายความพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็นะ” ผมหัวเราะสมทบ  เรื่องที่ยูบอกผมเกี่ยวกับดำริและทีสมิธนั้นผมยังไม่ได้ปริปากบอกใครสักคนแม้แต่พี่ธาน  ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจพี่ธานแต่ผมต้องการความแน่ใจมากกว่านี้เสียก่อน

“ถ้ามีคนแอบพูดถึงผมว่า ไอ้ไฟมันก็ดีนะ แต่ว่า..” ผมแกล้งทำหน้าเป็นจนคนฟังยิ้มกว้าง

“ก็ต้องมี ‘แต่ว่า’ อยู่แล้วละนะ เฮ้อ” ผมพูดปนหัวเราะ 

“มีลูกกี่คน ?” ผมถามถึง

“สองคนครับ”

“เห็นว่าอยู่ต่างประเทศทั้งคู่เลย เรียนดีมากด้วยนะครับ พี่ชายคนโตกำลังเรียนต่อด็อกเตอร์อยู่ ได้ทุนการศึกษาของทางต่างประเทศ แต่ประวัติทางญาติพี่น้องต่างหากที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่”

“งั้นเหรอ” ผมขานรับ   

“สงสัยอะไรงั้นเหรอครับ ?” อีกฝ่ายรู้ทัน  ผมกุมมือเข้าหากัน  พี่ธานทิ้งช่วงเงียบอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นว่าผมไม่ให้คำตอบโดยง่าย

“เฮีย!” เสียงไอ้ดินตะโกนแว่วมาแต่ไกล  ผมเหลือบมองเวลาที่ยังเช้าอยู่มาก  วันนี้มันจะต้องกลับไปโรงเรียนวันแรก
 
“Money!” มันกระแทกตัวนั่งลงข้าง ๆ ผม  มือขวาแบออกคล้ายบอกหน้าที่

“พูดภาษาอังกฤษเป็นอยู่คำเดียวแหละมึงอะ” ผมว่าด้วยน้ำเสียงเอือมระอา

“ก็มันเป็นคำที่สำคัญจะตาย” ไอ้ดินตอบหน้าทะเล้น

“หึ ๆ” พี่ธานกลั้นหัวเราะ 

“สอบวันไหน” ผมถาม  เอี้ยวตัวหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟามาถือไว้

“อีกสองอาทิตย์เอง อืม..อาทิตย์กว่า ๆ ก็ได้มั้ง” ไอ้ดินทำหน้าคิดไม่ตก

“ไปเอาวันเวลาที่แน่นอนมาให้กู วันนี้” ผมสรุป  ไอ้ดินเงียบไป  แบงก์พันถูกหยิบออกมาหนึ่งใบแล้วยื่นไปให้

“ทำไมเหรอครับ” มันถามเสียงอ่อยด้วยสีหน้าระแวง  ตามองเงินในมือผมโดยยังไม่ยอมรับไปดี ๆ  ขณะเดียวกันพายุก็เดินมาพร้อมกับแซนด์วิชในปาก  มันโยนห่อแซนด์วิชให้ไอ้ดินห่อนึง  ทั้งคู่แต่งตัวพร้อมไปเรียน

“ปิดเทอมนี้กูจะให้มึงไปอยู่ต่างประเทศ” ผมบอก

“แต่ดินอย่างอยู่นี่กับเฮีย” มันพูดเสียงแข็งเข้ามากอด

“ถึงมึงอยู่ไทย มึงก็ไม่เคยให้กูเห็นหัวมึงบ่อยอยู่แล้ว”

“มึงด้วยนะพายุ เอาวันสอบ วันปิดเทอมมาให้กูด้วย..ไม่เกินพรุ่งนี้ได้ยิ่งดี”

“ครับ” พายุรับปาก

“พี่ยุไม่สงสัยบ้างเลยรึไง!” ไอ้ดินหันไปเหวี่ยงที่พายุยอมรับโดยง่าย  คนถูกเหวี่ยงยังคงยืนเคี้ยวแซนด์วิชหน้าตาเฉย
 
“ดินจะไปก็ได้ ที่ไหนก็ได้ แต่เฮียต้องซื้อจักรยานคันใหม่ให้ด้วย” ไอ้ดินพูดเสียงแข็งเตรียมจะสร้างเงื่อนไข

“มึงเป็นพ่อกูเหรอ” ผมมองตาขวาง  อีกฝ่ายชะงัก  หันหน้าหนีทำท่าจะเคือง

“เอาสี่มาให้กูเห็นสักสองสามตัวแล้วค่อยยืดอกมาพูด” ผมโบกหัวกระบาลมันไปหลายทีด้วยความหมันไส้  ไอ้ดินหน้าหงายไปตามแรง  พี่ธานกับพายุได้แต่หัวเราะ

“แต่เลขสี่มันไม่เป็นมงคลนะเฮีย เลขหนึ่งน่ะ..เขาว่ามันมงคลที่สุดแล้ว” ไอ้ดินจงใจทำตาปริบ ๆ จนผมอมยิ้มออกมาเพราะดันเสือกจะขำหน้ามันตามคนอื่นไปอีกคน

“ได้..งั้นเงื่อนไขของกูคือ ถ้าเทอมนี้มึงได้เลขหนึ่งเกินหนึ่งตัว จักรยานมึงกูให้ได้ไม่เกินสามพัน บอกไว้ก่อน” ผมพูด  หันหน้ากลับมาจ้องโทรทัศน์อีกครั้ง  เงื่อนไขนี้ทำเอาน้องชายผมถึงกับพูดไม่ออกไปหลายวินาที

“ราคานั้นเรียกว่าจักรยานได้ด้วยเหรอ” ไอ้ดินทำหน้าแขยง 

“ก็ได้! งั้นถ้าเลขสี่อั๊วเกินสามตัวล่ะ !?” มันกระแทกเสียง  ผมยังคงทำเมิน

“ถ้าอั๊วทำได้ อั๊วขอคันละไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นนะ” มันย้อนด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ 

“มึงน่ะ..” ผมแสยะยิ้มขึ้นมุมปาก  เหล่ตากลับไปมองคนที่นั่งข้าง ๆ ที่ดูเหมือนกำลังขาดสติ

“เคยถามครูไหมว่าเขาคิดคะแนนเก็บก่อนสอบกับหลังสอบยังไง คะแนนสอบมิดเทอม ไฟนอลแบ่งเท่าไหร่ ? มึงไม่รู้ด้วยซ้ำ มึงสนแต่..มึงมีคะแนนอยู่ที่เท่าไหร่และต้องทำอีกเท่าไหร่มึงถึงจะรอดผ่านครึ่ง” ผมแสยะปากต้อนอย่างรู้ไส้รู้พุงยิ่งกว่ามุดเข้าไปในลำไส้ใหญ่ของมันด้วยตัวเอง

“กูให้แสนนึงเลย” ผมเลิกคิ้วยิ้มมอง  มือแบออกอย่างท้าทาย  ไอ้ดินกัดฟันทำหน้าฮึดฮัดเอาจริง

“Deal!!!” มันกระแทกเสียงรับคำท้าและนำมือจับมือผมตอบอย่างแรง

“ไม่น่าเชื่อ ..มึงพูดภาษาอังกฤษได้อีกคำแล้ว” ผมพึมพำตาโตหยอกมัน

“เฮียอ้า!” อีกฝ่ายโวยวายลุกขึ้นเขิน ๆ

“ไปเรียนละ กราบครับ กราบครับ” มันยกมือไหว้ผมอย่างสวยงามก่อนหันตัวไปไหว้พี่ธาน  หยิบแซนด์วิชที่วางอยู่บนโซฟาแล้ววิ่งออกไปหาแม่บ้าน  เสียงโหวกเหวกโวยวายลั่นไปทั่ว

“งั้นยุก็จะได้ด้วยใช่ไหม แสนนึงอะ” พายุแสยะยิ้มตาลอยวาดฝันไปแล้วเรียบร้อย

“หวัดดีครับ หวัดดีครับ” มันยกมือไหว้สรุปเองเสร็จแล้วจากไป

“ไอ้เวร ทำหน้าอย่างกับการ์ตูน” ผมบ่นถึงพายุ  มันมั่นใจอยู่แล้วว่ามันจะต้องได้ A หลายตัว  หรือไม่ก็คงไม่พ้น B, B+  ผลการเรียนของพายุเป็นอย่างนี้ประจำไม่เคยตก  มันถึงได้ลอยหน้าลอยตาทวงสิทธิ์แบบนั้นได้

“หึ ๆ ๆ” พี่ธานหัวเราะ

“เฮ้อ เด็กสมัยนี้ ต้องเอาเงินแลกเกรดแล้วเหรอวะเนี้ย” ผมเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย

“สมัยเรานะ..” ผมเอ่ยพลางนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตช่วงที่จำได้หลัก ๆ

“ไอ้ไฟ! ตกลงมึงจะเรียนไม่เรียน! ไอ้ลูกเวร มึงนี่มันเหี้ยจริง ๆ ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกกูเลย! มึงเลือกมา! ถ้ามึงจะทำตัวแบบนี้ พรุ่งนี้มึงไม่ต้องไปเรียน!!!” ผมเลียนเสียงดุดันเวลาที่พ่อโกรธ

“ตอนนั้น..ขนาดแค้นพ่อแค่ไหน ยังเลือกไปเรียนเลยคิดดู” ผมบอกยิ้ม ๆ สมเพชตัวเองฉิบเป๋ง

“ติดกระดุมชุดนักเรียนทั้งน้ำตา ไม่ได้เสียใจนะ..แค้นล้วน ๆ” ผมพูดติดตลกในส่วนที่ไม่เป็นจริง

“ฮ่า ๆ ๆ” พี่ธานก้มหน้าเห็นด้วย  สถานการณ์ตอนนั้นมันก็คงไม่ต่างกันนักหรอก

“ไอ้ตัวเหี้ยตัวนี้แม่งก็ลูกพ่อไม่ใช่รึไง สักวัน..จะต้องเอาคืนให้ได้ ตอนนั้นผมคิดอยู่แค่นี้เลยนะ” ผมยิ้ม

“แค้นพี่ด้วย” ผมเหล่ตาประชด

“ไหงงั้นละครับ” พี่ธานยิ้มเขิน  ต้นเหตุเพราะพ่อชอบเอาพี่ธานมาเปรียบเวลาด่าผมประจำ

“เตรียมติดต่อโรงเรียนภาษาที่เซี่ยงไฮ้ให้ผมหน่อย เอาลงเรียนครึ่งวันก็พอ ไอ้ดินมันได้เที่ยวทุกปิดเทอมมามากพอแล้ว” ผมพูดเป็นงานเป็นการ

“จะให้ไปอยู่กับคุณยูเหรอครับ”

“อืม” ผมพยักหน้า

“ยูจะได้ไม่เหงา อีกอย่าง..ให้พวกมันไปกวนเฮียกานต์หน่อยก็ดี” ผมแสยะยิ้ม   

“เฮียเขาต้องรู้แน่ว่าคุณจงใจส่งพวกคุณดินไปแกล้งน่ะ” พี่ธานส่ายหัวยิ้มเล็กน้อย

“ก็อยากให้รู้อยู่แล้วอะนะ” ผมเบ้ปาก

“แล้ว..เมื่อวาน เป็นไงบ้างครับ ?” พี่ธานเปลี่ยนเรื่องฉับพลัน  ผมเงียบแต่รอยยิ้มที่เจือจางเมื่อครู่ยังคงไม่หมดไปจากใบหน้าซะทีเดียว

“ก็ดี” ผมตอบส่ง ๆ

“ไม่สนุกเหรอครับ”

“ก็..ไม่เชิง” ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย  พี่ธานยังคงจ้องเหมือนรอคำตอบที่ขยายกว้างมากกว่านี้

“หมอนั่น มีมุมที่ทำให้รู้สึกว่าน่ารักว่ะ อะไรประมาณนั้น” ผมบอกปนหัวเราะ

“แต่มีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหมครับ”

“หึ..จะมีก็ไม่แปลกนี่ครับ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมตอบ  พี่ธานไม่พูดต่อความให้ยาวอีก  ผมเองก็เงียบด้วย 

“คืนนี้ผมจะไป Blackfoot ห้าโมงเย็นสั่งให้ไอ้เข้มกับไอ้เด่นเตรียมตัวด้วย ผมจะให้มันตามมงคลกับพี่เอิร์ธ เวลาเลิกงานพอดี..พวกมันคงจะเคลื่อนไหวอะไร” ผมสั่ง  พี่ธานผงกหับรับทราบ

“การที่ป้าน้อยถูกจ้างให้ดิสเครดิตตลาดเรา พวกมันคงมีเอี่ยวอะไรด้วย” ผมว่า

“ไอ้กริดนะเหรอครับ”

“เดาน่ะ” ผมตอบ

“เรื่องนี้ไอ้กายไม่น่าจะสั่ง ถ้าตามที่พี่ทัพบอก ผมคิดว่าไอ้กริดก็คงถูกใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจเหมือนกัน ไอ้กริดมันกว้างขวางออก ลูกหนี้เงินกู้มันมีเยอะกว่าผมซะอีก” ผมอมยิ้มมุมปาก

“แล้วคุณจะบอกเรื่องนี้กับคุณทัพก่อนไหมครับ” พี่ธานถามอีกครั้ง

“ไม่ล่ะ รอพี่ทัพเคลื่อนไหวแล้วผมจะบอกพี่แกอีกที มีหลายเรื่องที่ผมยังอยากให้แน่ใจ”


- - - - - - - - - - - - - - -


21:35 น.

ตึกเก่าใกล้ละแวกเคียงผับ Blackfoot เป็นร้านกี๋วยเตี๋ยวบะหมี่ที่มักเปิดขายในตอนกลางวันจนถึงหัวค่ำ  ไม่มีใครอยู่ที่ร้านนอกจากพนักงานแม่ลูกสองคน  ส่วนเจ้าของร้านมักจะกลับไปอาศัยที่บ้าน  ได้เรื่องมาว่าอย่างนั้น  ดาดฟ้ารกค่อนไปทางสกปรก  มีราวตากผ้ายาวเป็นทาง  ส่วนใหญ่เป็นพวกผ้าเช็ดโต๊ะที่ใช้ทำความสะอาดในร้าน  อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ  วิวที่นี่แม่งดีสุด ๆ ไปเลย

“การ์ดคุมหน้าร้านสี่คน กล้องวงจรปิดเอาซะรอบทิศ” ผมบ่น  นำกล้องส่องทางไกลออกก่อนตะแคงตัวหันกลับมานอนมองท้องฟ้า  คู่หูของผมวันนี้เป็นเจ้าเก่าคนเดิมที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจที่สุด “พี่ธาน”

“พี่ว่า ไอ้เอกหลานป้าน้อยนี่หน้ามันเหลี่ยมแบบไม่สมเหตุสมผลไปปะ” ผมชูรูปขึ้นมองและจดจำเข้าสมอง  พี่ธานที่กำลังตั้งใจปฏิบัติงานหัวเราะน้อย ๆ เอี้ยวตัวกลับมามองรูปอีกครั้ง

“บางคนก็เหลี่ยมมีเสน่ห์ในตัวอยู่หรอก แต่ไอ้นี่มันทั้งเหลี่ยมทั้งไม่หล่อ เอาซะจำง่ายไปอีก แต่ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ดีมั้ง” ผมวิเคราะห์ปนหัวเราะก่อนนำโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าเป้คู่ใจ 

“พี่ทัพโทรมาหาผมสองรอบแล้ววันนี้ น่าเบื่อฉิบ” ผมถอนหายใจ  พลิกตัวกลับมานอนในท่าเดิม  กล้องส่องทางไกลส่องตรงไปยังพนักงานผู้หญิงของร้านที่กำลังเดินเข้าเดินออกสวนกันเป็นว่าเล่น

“คนนั้นสวยนะ” ผมทัก

“ผมดำยาว หน้าม้านั่นน่ะ” ผมบอกพิกัด  พี่ใหญ่เหกล้องตามทันควัน

“หน้าอกนั่นก็ ทำมาสินะ” ผมพูด   

“คุณไฟครับ สิบสามนาฬิกา” พี่ธานทัก  ผมปัดเป้าหมายทันที  เราต่างเงียบมองผู้ชายร่างคุ้นตาที่กำลังทำท่าแปลก ๆ อยู่ทางด้านหลังรถยนต์ที่ลานจอดรถ 

“มันมาทำไม” ผมพูด  ไอ้บูรณ์ยืนลังเลคล้ายกับจะเข้าไปในร้านก็ไม่เชิง  ที่น่าแปลกคือมันก้าวขาและหยุดชะงัก  ทำซ้ำอยู่อย่างนั้น

“เฮ้ย! เคลียร์ลานจอดรถด้วย เดี๋ยวคุณกายมา” การ์ดหนึ่งในนั้นตะโกนสั่งพนักงานที่ยืนคุมลานจอดรถอยู่  ไอ้บูรณ์ที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ได้ยินอย่างนั้นมันก็กลับขึ้นรถของมันไป  ให้หลังประมาณห้านาที ไม่มีทีท่าว่าไอ้บูรณ์จะเคลื่อนไหว  จนรถยนต์ SuperCar สัญชาตเยอรมันเทียบจอดที่หน้าร้านอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนในนั้นจะเป็นใคร  การ์ดรีบเข้าไปต้อนรับ  ไอ้กายลงจากรถด้วยชุดลำลองสูทพร้อมกับผู้หญิงที่ทำให้ผมถึงกับต้องถอนหายใจแรง “ริศา”

“เฮ้อ น่าเบื่อฉิบเป๋ง” ผมเอ่ยปากบ่น  ขยับตัวลุกขึ้นนั่งยอง ๆ  ไอ้กายและริศาเข้าไปในร้านแล้ว  ส่วนรถยนต์ของมันก็ถูกขับไปจอดในที่ ๆ เหมาะที่สุดในร้านแล้วเช่นกัน

“ตกลงผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกมันบ้าง” ผมบ่น

“คงไม่ใช่แค่ประชดคุณเท่านั้นแล้วละมั้งครับ” พี่ธานพูด

“คุณย่าก็น่าจะทราบเรื่องนี้ ถึงได้ยอมเงียบไป หากทราบแล้ว คงกำลังมองหาผู้หญิงคนอื่นให้คุณอยู่แน่เลยครับ”

“พูดมากไปแล้วครับพี่ใหญ่” ผมปราม  พี่ธานอมยิ้มเก้อเขิน 

“คุณไฟครับ! นั่นมัน... สมุทรนี่ครับ”   




...............(ไฟ)..............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2017 10:10:03 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ arnis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นเดทที่หักมุมอีกละฯ เดาเรื่องไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
โอ๊ยยยยย ทำไมอ่านตอนนี้แล้วเคืองสมุทรบอกไม่ถูก
ปกติจะหมั่นไส้ไฟปนชอบใจนะ แต่ตอนนี้หมั่นสมุทรปนอยากจะฟาดซักที
ขัดใจอะ ตอนก่อนหน้าก็ฟินอยู่ดีๆ มาตอนนี้นี่แบบ... โดนซักทีดีมั้ย ฮึ สมุทร
กับผู้หญิงคนนั้นมันจะอะไรนักหนา จบแล้วจบเลยได้มั้ยเนี่ย
ในเมื่อเลือกทางเดินทางใครทางมันละก็ปล่อยนางไปเถอะ

เนื้อเรื่องก็เข้มข้นขึ้นไปอีกกกกก คุณเบบี้ก็ตัดฉับทำซะเราจะลงไปดีดดิ้น
ยังคงยืนยันว่าชอบไฟ สปอยไฟ เข้าข้างไฟ บัญชีความเคืองนี้เราจะทดไว้ในใจ
วันไหนที่สมุทรตกหลุมนะ ฮึ่มมมม จะยุไฟให้ใช้นิสัยความเป็นไฟทำให้หัวหมุน
ไม่ก็อกแตกตายไปเลย บางทีก็ขัดใจนิสัยสมุทรตรงที่เด็ดขาดไม่พอนี่แหละ เซ็ง

ขอบคุณเบบี้มากค่ะที่มาต่อ อาจจะเสียมรรยาทนิดนึงทั้งๆที่เบบี้เพิ่งมาต่อ
แต่อยากบอกว่าอยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ เราค้างมาก อยากอ่านอีกกกก
แต่ก็เข้าใจสิ่งที่เบบี้เคยเเจ้งมาแต่ต้น จึงได้แต่คร่ำครวญและรอต่อไป  :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด