The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 445082 ครั้ง)

ออฟไลน์ brapair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คิดถึงคุณไฟจังเลยค่ะ ฮืออออ  :hao5:

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :katai5: :katai5: :katai5:

คิดถึงจัง แวะมาบอก 

:call: เพี้ยง!!! พรุ่งนี้เข้ามา สมุทรได้กินไฟ  สาธุ  :call:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟนะคะ


ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 45
..ไฟ..




ปั้ง !  ปั้ง !!  ปั้ง !!!

“แหม Hot แต่เช้าเลยนะ” ผมแสยะปากยิ้มแซวคุณหมอที่กำลังซ้อมยิงปืนอยู่ที่สนามยิงปืนส่วนตัวของเธอ  หงส์เหล่หางตามองมาด้วยสีหน้าไม่พอใจที่มีผมเข้ามาร่วมชมการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ด้วย  ซึ่งไม่ใช่การรับเชิญ

“ไปตายซะ” หงส์พูด

“พูดไปเรื่อย !” ผมแกล้งสบถหน้าเป็น

“ทำแบบนั้นเดี๋ยวก็จะลำบากมึงอีก” ผมยิ้มกว้างให้เพื่อนรัก  อีกฝ่ายจิปากหงุดหงิด  ผมเดินเข้าหา  มือซ้ายแตะโอบเข้าที่เอวเล็กคอดของเธอพร้อมดึงเข้ามากอดจนเราทั้งคู่ประชิดกัน

“มากอดกูทำไมเล่า !” เจ้าของร่างกายหันหน้ามาโวยวาย  เสียงหัวเราะจากลูกน้องปู่หาญที่นั่งชมอยู่ไม่ไกลพากันหัวเราะชอบใจ  เหล่านั้นเป็นอดีตนักเลงเก่าทั้งนั้น

“เดี๋ยวปืนก็ลั่นไปโดนหมูโดนหมาหรอก” ผมยังคงแกล้งกะพริบตาปริบ ๆ  กระบอกปืนที่ถูกหันไปทางอื่นหยุดชะงักโดยทันที
 
“ไอ้เข้มแอบดูมึงอยู่บนบ้าน” ผมกระซิบที่ข้างหู

“อยากให้มันลงมาช่วยติวเข้มให้ไหมละ ? ศิษย์พี่ธานเชียวนะ” ผมอมยิ้มมุมปาก

“ระดับกูต้องพี่ธานคนเดียวเท่านั้น” หงส์ตอบอย่างเชิดหยิ่ง

“ฮิ !” ผมสบถหัวเราะ 

เมื่อครู่ ผมจับได้ว่าไอ้ลูกน้องตัวดีมันแอบอู้งานเพื่อมานั่งมองหญิงที่หมายตาได้พักใหญ่แล้ว  แถมแอบในมุมที่ฝ่ายที่ถูกเฝ้ามองจะไม่มีทางสังเกตเห็นอีกด้วย  วิถีการซ่อนตัวของมันช่างน่าประทับใจผมจริง ๆ 

หงส์จิปากบ่นพึมพำ “เบื่อพวกมึงจริง กลับกรุงเทพฯ ไปได้แล้วไป”  ผมได้แต่หัวเราะในลำคอพร้อมดันตัวหงส์ให้หันกลับไปยืนตรงดี ๆ  อีกฝ่ายนิ่งลง  ผมแตะมือลงที่ข้อศอกของเธอเพื่อให้ตั้งขึ้นในระดับพร้อมยิง  ปืนลูกซองน้ำหนักหลายกิโลถูกนำตั้งขึ้นอีกครั้งด้วยแรงของกล้ามแขนของเจ้าของปืน  ไม่ใช่จากผม  ผมแตะนิ้วลงที่หลังมือของหงส์เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าเราควรเล็งเป้าไหนก่อนเป็นอันดับแรก  ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย  รอบตัวเงียบสงัดลงอย่างเป็นใจ  เป้าล่อที่เหลืออยู่สี่เป้า  อยู่ห่างออกไปในระยะสิบเมตรโดยประมาณ  ทันทีที่เสียงนกบินผ่านเหนือหัว  เสียงลั่นไกก็ดังขึ้นสี่นัดติดอย่างไม่ลังเล  เป้ากระเด็นออกไปไกลไม่มีเหลือ 


แปะ ๆ ๆ ๆ

ผมกับหงส์หันไปมองเสียงปรบมือที่มาจากฝั่งของคนงาน  ปู่หาญยืนยิ้มชอบใจ  ทำให้ลูกน้องของปู่รีบปรบมือตามเพื่อเอาใจนายตัวเองด้วย 

“ปล่อยสิ” หงส์พยายามจะดันตัวเองออก  แต่ผมยังคงกอดเอวเธอไว้แน่น
 
“ปู่คะ ดูไอ้ไฟสิ !” หงส์หันไปฟ้องเสียงหลง 

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ  เออ ! กอดแน่น ๆ ไปเลยเว้ย” ปู่หาญหัวเราะดังลั่น  ท่าทางชอบอกชอบใจยกใหญ่  ผมยิ้มกว้าง

“ปู่ ! มันแตะอั๋งหนูอยู่นะ !” เธอโวยวายหน้าแดงที่เห็นว่าปู่ไม่เข้าข้าง

“แต่งงานกันเลยดีไหมละ” ปู่ตาวาว  ทีนี้ ลูกน้องพากันส่งเสียงเชียร์ยกใหญ่ 

“ใครจะไปเอามัน” หงส์หันกระบอกปืนลงพื้น  มือซ้ายที่ว่างอยู่ผลักผมออกอย่างแรง

“ดุอย่างหมา ไม่มีผัวหรอกครับ” ผมว่ากลับ  ยอมปล่อยแขนออกจากเอวอีกฝ่ายด้วย

“ฮ่า ๆ ๆ  ไอ้ไฟมันก็พูดถูก” ปู่เห็นด้วย  ขำดังกว่าเดิมเลยทีนี้

“แต่ก็อย่างว่าละครับปู่” ผมเดินเข้าหาปู่

“มันก็ยังมีคนประเภท ชอบเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้อยู่ละนะครับ” ผมยิ้มกว้าง

“ปากหมา” หงส์ว่าด้วยสีหน้าหวาดระแวง  ลูกน้องของปู่รีบเข้ามารับปืนจากหงส์เพื่อนำกลับไปเก็บให้

“อาการเป็นยังไงบ้างล่ะ” ปู่หาญถาม  จ้องมองมาที่ตัวผมที่ไม่ได้ใส่เสื้อท่อนบน  มีเพียงผ้าปิดแผลไว้ตรงหน้าท้องเท่านั้น

“ดีขึ้นมากจนปู่คาดไม่ถึงเลยล่ะ” หงส์ตอบแทนแกมประชด  ผมอมยิ้มน้อย ๆ ไม่ปฏิเสธ  ก็ดีขึ้นมากจริง ๆ นี่นะ

“ปู่มีเรื่องจะคุยด้วย” ปู่บอกผมพร้อมปัดมือไล่ลูกน้องของตนให้พ้นพื้นที่  บ้านไม้ไผ่ทรงเล็กขนาดกะทัดรัดที่สร้างไว้สำหรับนั่งเล่นนอนเล่นจึงว่างสำหรับเราสามคน

“เรารู้จักไอ้นี่รึเปล่า” ปู่หาญถามพร้อมยื่นรูปภาพมาให้  ผมรับมาดู  ใบหน้าคุ้นเคยปรากฏอยู่บนภาพ “ไอ้กริด” ขนาดเข้ามาอยู่ในป่า  บ้านนอกบ้านนาก็ยังจะตามมาหลอกหลอน

“..........” ผมเงียบ

“มันน่ะ มาขอซื้อที่ดินของเพื่อนปู่ที่ปราจีน แต่ปู่เห็นไม่ชอบมาพากลเลยบอกเพื่อนไว้ว่าอย่าเพิ่งปล่อยขาย” ปู่ขยายความ

“มันชื่อกริดน่ะ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด” ผมพูด 

“เหมือนมึงน่ะเหรอ ?” หงส์เข้าขัดกลางคัน  ปู่ผลิยิ้มชอบใจ

“ครับ แต่แค่เกือบนะ...” ผมแสยะปากพลางยักคิ้วให้เธอ

“เพราะกูเลือกคาบแต่ช้อนทองติดปากมาด้วยน่ะ” ผมกวนให้  หงส์เบะปากทำท่าทางหมั่นไส้ที่ไม่สามารถเถียงผมกลับได้ 

“ที่ดินของมันที่ปราจีนติดกับที่ดินของเพื่อนปู่ เป็นที่ดินเปล่า แต่ไม่ได้ติดแม่น้ำ ที่ข้าง ๆ กันของเพื่อนปู่ใกล้แม่น้ำมากกว่า มันเลยจะขอซื้อ แต่...เห็นแว่วมาว่าประวัติครอบครัวมันไม่เบา” ปู่หาญถอนหายใจ

“ห่วงว่าจะเอาไปทำเรื่องดี ๆ” แกเอ่ยแกมประชด  ผมหัวเราะขึ้นจมูกทันทีที่ได้ยิน
   
“ชาวบ้านแถวนั้นเห็นพวกมันมาที่นั่นทุก ๆ วันเสาร์ที่สองของเดือน ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาทำอะไร เพื่อนปู่มันก็อยากขายอยู่หรอก แถวนั้นไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ทำอะไรก็ยากไปหมด แต่ก็ไม่ได้รีบน่ะนะ ตามจริงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอะไร”

“อย่าขายเลยครับ” ผมพูดแทรก  ปู่หาญนิ่งลง

“อย่างที่ปู่พูดนั่นแหละ ครอบครัวมันไม่เบา” ผมบอก   

“ผม...ขอแผนที่ที่ดินของมันกับของเพื่อนปู่ได้รึเปล่าครับ”

“ได้” ปู่หาญพยักหน้าตัดบทไปที

“เฮ้อ ! นี่ฉันคงไม่ได้เอาไม้ไปแหย่รังแตนเข้าหรอกใช่ไหม” ปู่พูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้

“ขนาดต่อต่อย ต่อยังตายเลย แค่รังแตน...คงทำอะไรปู่ไม่ได้หรอกครับ” ผมแซ็วเล่นไปงั้น

“หึ ๆ ๆ ๆ” หงส์ก้มหน้ากลั้นหัวเราะยกใหญ่

“ฉันจะไม่ถามหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แผลน่ะ แค่อย่าเอามาเพิ่มก็พอ เห็นแก่พ่อแกที่เสียไปแล้วบ้าง” ปู่เหลือบมองมาทางผมอย่างเจ้าเล่ห์  คำพูดที่ทำให้ยิ้มกว้างออกมาได้  และไม่ขอเอ่ยแม้คำปฏิเสธ 


- - - - - - - - - - - - - - -


20:15 น.

“คุณขี่ม้าเป็นด้วยเหรอครับ”

“อยากลองขี่ดูไหมละ ?” ผมเสนอกลับด้วยใบหน้ารื่นเริง  แน่นอนว่าความหมายของผมกับของอีกฝ่ายนั้นมันคนละประเด็นกันอยู่แล้ว  สมุทรถึงกับนิ่งไป  คงเข้าใจในนัยยะจากผม  ผมกลั้นอมยิ้ม  ถูกสมุทรใช้หางตามองมา 

“ก็พอได้ นานแล้ว” ผมตัดบท  ยอมกลับเข้าประเด็นปกติ

“หัดตอนไหนเหรอครับ” 

“สมัยม.ต้นมาพักอยู่ที่บ้านหงส์ คนของปู่สอนให้อีกที ก็ไม่มีอะไรให้เล่นนี่นะ” ผมนึกถึงความหลังสมัยเก่า

“ดีจังนะครับ” อีกฝ่ายอมยิ้ม

“อยากขี่เหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปน้ำตกท้ายไร่ก็ขี่ไปสิ” ผมพูด

“ไม่ครับ เดินไปดีกว่า” สมุทรตอบ

“ไหงงั้นเล่า” ผมว่า 

“ผมชอบเดิน” อีกฝ่ายอมยิ้มด้วยใบหน้ามีเลศนัย 

“ฉันชอบนอน” ผมตอบกึ่งประชด  อีกฝ่ายหัวเราะขึ้นจมูกนิด ๆ 

ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าของผมเปียกชื้นนิดหน่อย  หลังอาหารมื้อเย็นเมื่อตอนหกโมง  พวกเราสี่คนนั่งพูดคุยกันที่โต๊ะอาหารก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน  ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ  สมุทรเองก็เช่นกัน  เย็นวันนี้อากาศเย็นกว่าทุกทีเราจึงแยกย้ายกันอาบน้ำแต่หัวค่ำ  ความหนาวเย็นของบ้านนอกในช่วงหัวค่ำจะทำให้เราขี้เกียจผิดปกติ

“มีน้ำตกท้ายไร่ด้วยเหรอครับ เมื่อกลางวันผมเห็นเด็กในไร่ตัวเปียกกันมาทุกคน” สมุทรพูดถึง

“อืม” ผมตอบในลำคอ  เขาพูดเยอะเป็นพิเศษในช่วงหลัง ๆ  ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวหรือเปล่า

“โทรหาที่บ้านบ้างรึเปล่า” ผมถาม

“ครับ โทรทุกวัน” สมุทรหันกลับมาผงกหัวตอบ  ผมเอนหลังพิงหัวเตียง  วางผ้าขนหนูไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ  สมุทรเข้ามาหยิบผ้าขนหนูของผมไปตากให้ก่อนเดินไปหยิบหนังสือวรรณกรรมของหงส์ที่วางทิ้งไว้ในห้องนี้มาถือไว้คล้ายเตรียมทำท่าจะอ่าน   

“ขอบคุณนะครับที่ให้คนคอยไปรับไปส่งน้องผม” สมุทรพูดขึ้นโต้ง ๆ  ผมเพียงพยักหน้ารับ  แสงไฟจากโคมไฟตรงโต๊ะใกล้กับชั้นวางโทรทัศน์ตรงหน้ากับแสงไฟจากโคมไฟฝั่งหัวเตียงของสมุทรให้ความสว่างรำไร  ผมไม่ได้บอกกับเขาหรอกว่าจะให้คนคอยไปรับไปส่งดาวกับเมฆและแวะไปดูยายของเขาให้ด้วย  พี่ธานคงบอกเขาล่ะมั้ง


ฟู !!!

“เหมือนฝนทำท่าจะตกเลยนะครับ” สมุทรพึมพำ  ชะโงกหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง

“........” ผมไม่ได้ขานรับ  เขายืนมองอยู่ตรงหน้าต่างและนิ่งเงียบไปเสียเฉย ๆ  ผมเหลือบมองแผ่นหลังอีกฝ่ายที่คล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่  เราต่างอยู่ในความสงบ  เสียงลมด้านนอกกลบเสียงโทรทัศน์ที่เปิดหรี่ไว้ซะสนิท  ลมพัดแรงมากจนทำให้บานหน้าต่างกระพือต้านไปตามแรงที่ถูกกระทบ  ไฟหรี่ที่หน้าห้องน้ำยังเปิดให้ความสว่างเพื่อให้สะดวกในการทำธุระในตอนกลางคืน  โดยปกติ เวลาเข้านอนของผมกับสมุทรอยู่ที่สี่ทุ่มโดยประมาณ  แต่ตั้งแต่มาพักที่บ้านของหงส์  สามทุ่มครึ่งหัวก็ถึงหมอนกันแล้ว

“ผมปิดหน้าตรงนี้ กับตรงหัวเตียงนะครับ” สมุทรหันกลับมาขออนุญาต  เขาชี้มือไปยังหน้าต่างที่อยู่เยื้องกับเตียงนอนและอีกบานบนหัวเตียง  ผมพยักหน้า  เพราะกำลังจะเอ่ยปากให้เขาปิดอยู่พอดี  ถ้าเรานอนกันโดยเปิดหน้าต่างตรงหัวเตียงไว้ทั้งที่อากาศเป็นแบบนี้  พรุ่งนี้เช้าไม่ใครก็ใครได้ไข้ขึ้นแน่  สมุทรวางหนังสือลงบนเตียงก่อนจัดการปิดหน้าต่าง  เปิดทิ้งไว้เฉพาะบานตรงด้านหลังห้องเท่านั้น  กระทั่งเปิดหน้าต่างไว้แค่บานเดียว  แต่กลับไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพัดลมเลยสักตัว 

“ผมชอบบ้านใต้ถุนสูงมากเลย” สมุทรพูดขึ้น  เดินกลับมานั่งลงที่เตียง 

“อืม” ผมอือออในลำคอประมาณว่า ฟังอยู่

อีกฝ่ายหยิบหนังสือขึ้นอ่าน  เอนหลังพิงหัวเตียง  ผมเลื่อยตัวจากกึ่งนั่งกึ่งนอนเป็นเกือบนอบราบไปกับเตียง  หยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดดูว่าตัวเองได้รับข้อความจากใครบ้าง  ส่วนใหญ่มาจากไอ้โปรด  ไอ้คิน  รวมถึงพลอยก็ด้วย  ผมได้รับข้อความจากเธอแทบทุกวัน  เปิดอ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับไป  แน่นอนว่าถูกอีกฝ่ายต่อว่ากลับมาอยู่เนือง ๆ ที่ทำเป็นไม่สนใจข้อความจากเธอแบบนี้  พลอยโทรติดต่อมาบ้างแต่ผมไม่ได้รับ  เพราะส่วนใหญ่ผมมักจะปิดเครื่อง  ถ้าพี่ธานมีธุระสำคัญจะติดต่อผ่านหงส์หรือปู่หาญอีกที 

ตอนนี้เพื่อนร่วมห้องกำลังตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือ  ผมปิดโทรศัพท์มือถือแล้วนำวางกลับเข้าที่เดิม  เสียงโทรทัศน์และเสียงของลมพัดขับกล่อมไม่ให้บรรยากาศวังเวงชวนอึดอัดเกินไปนัก  ตามจริงแล้วผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด  แต่ไม่ทราบว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ กันนี้กำลังรู้สึกนึกคิดอย่างไร  ผ้าห่มสองผืนที่วางทับบนตัวผมนั้นถูกจัดให้เป็นพิเศษ  สมุทรได้ไปขอผ้าห่มเพิ่มมาจากแม่บ้านของที่นี่เตรียมไว้ให้ผมตั้งแต่มาพักแรก ๆ แล้ว  ตอนนี้เราก็เลยใช้ผ้าห่มแยกกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2017 19:33:26 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“ชอบอ่านหนังสือ ?” ผมเริ่มก่อกวนด้วยคำถามห้วน ๆ  เท้าแขนข้างขวาเพื่อนอนตะแคงข้างมองเขา 

“ไม่เชิงครับ” สมุทรตอบ  ผมอมยิ้มในใจที่อีกฝ่ายดันเข้าใจในคำถามจากผมเสียด้วย   

“……..” ผมรักษาความเงียบ  ท่านอนตะแคงช่วยให้มองคนข้าง ๆ ได้ถนัด  สมุทรชันขาข้างขวาขึ้นเพื่อเป็นฐานในการวางหนังสือให้อ่านได้สะดวก  เสียงของนางร้ายในโทรทัศน์ทำให้ทราบว่าเธอกำลังคิดที่จะวางแผนทำร้ายนางเอก  ทำไมบทของนางร้ายในละครไทยส่วนใหญ่ถึงเสียงสูงขนาดนั้นนะ  ขนาดที่ว่า หรี่ลำโพงให้เบามากแล้วแต่กลับได้ยินคำพูดของเธอชัดเจนทีเดียว

เวลาผ่านไปค่อนข้างนาน  อาจจะเกือบยี่สิบนาทีที่ผมยังคงนอนอยู่ในท่าเดิมและสมุทรเองก็ไม่ขยับร่างกายเลยนอกจากมือที่ใช้พลิกกระดาษเท่านั้น  ถ้าเราโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน ผมจะยังชอบเขาอยู่รึเปล่านะ ?  รู้แต่ว่าเป็นการมองที่ไม่มีเบื่อเลย  การกระทำของตัวเองในตอนนี้ทำให้นึกย้อนไปถึงอดีตสมัยมหาลัย  เพื่อนผู้หญิงที่รู้จักในคณะ  ทุกครั้งที่เราทำกิจกรรมของสาขาร่วมกัน  เธอมักจะจับจ้องผมแบบนี้  ตอนนั้นผมเองก็คงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหมือนที่สมุทรปฏิบัติอยู่ตอนนี้ล่ะมั้ง  จำไม่ค่อยแน่ชัดเท่าไหร่  รู้แต่ว่าถูกจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายทีเดียว  เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจ้องผมด้วยความรู้สึกแบบไหน  ต่างฝ่ายต่างไม่คิดเข้าหา  ไม่แน่ว่าความรู้สึกของผมในตอนนี้อาจเหมือนเธอในตอนนั้นก็ได้
 
“พูดตามตรง...” ปากของสมุทรเริ่มขยับเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งชั่วโมง  ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือตรงหน้า  นิ้วกลางและนิ้วชี้ที่มือขวาคั่นกลางระหว่างหน้าที่ยังอ่านไม่จบเอาไว้

“คุณทำแบบนี้ ผมอ่านไม่รู้เรื่องครับ” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นตั้งตรงและนิ่งไป 

“ใจนายอยู่ที่ฉันงั้นเหรอ ?” ผมย้อนถาม  คำถามที่ทำให้สมุทรถึงกับหันหน้ากลับมา  ไม่รู้ว่าผมปิดรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของตัวเองได้มิดหรือไม่  ก็พยายามปกปิดอยู่น่ะนะ

“มันมีปัญหาตรงไหนไม่ทราบ ฉันยังไม่ได้ก่อกวนนายเลยสักนิด” ผมช้อนตาขึ้นมอง

“........” สมุทรไม่ตอบ  เขาจับจ้องผมแน่นิ่ง  แววตาเรียบ ๆ คล้ายพยายามที่จะบอกปรามกันอย่างนุ่มนวล  เขาพยายามสยบผมด้วยความอ่อนโยนที่มี  ซึ่งมันทำให้ผมอมยิ้มได้นิดหน่อย

“ฉันไม่เคยจ้องใครเกินสามนาทีหรอกนะบอกไว้ก่อน”

“จะให้ผมรู้สึกเป็นเกียรติงั้นเหรอครับ” อีกฝ่ายปั้นยิ้มอย่างไม่แยแส  หันหน้ากลับไปอ่านหนังสืออีกครั้ง

“หนังสือเรื่องนี้ ตัวเอกเป็นคนไม่น่าเข้าใกล้เลยครับ” สมุทรเล่าให้ฟัง  ผมหัวเราะในลำคอเพราะรู้ว่าถูกอีกฝ่ายพูดประชดใส่อยู่

“นาย...” ผมเอ่ยก่อนทิ้งเสียงลง  ความเงียบทำให้สมุทรเองก็นิ่งเฉยไปเช่นกัน

“ออกไปกับฉันเพราะเกรงใจพี่ธานงั้นเหรอ ?” ผมถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  จู่ ๆ ก็นึกถึงสิ่งพี่ธานบอกไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาว่าให้ผมถามออกไปให้ชัดเจน  โทนเสียงนุ่มเบาในครั้งนี้เพื่อเป็นการบอกอีกฝ่ายว่านี่ไม่ใช่การเปิดศึก  เป็นเพียงคำถามที่ต้องการให้หายคาใจเท่านั้น

“........” สมุทรไม่ตอบโดยทันที  เขาไม่ได้หันมามองทางผมอีกด้วย  หนังสือเป็นสิ่งเดียวที่เขามองอยู่ในตอนนี้

“ผมไม่เข้าใจคุณเลย” สมุทรพูดคล้ายบ่นกับตัวเอง   

“อึดอัดไหมละครับที่คุณไม่เข้าใจผมน่ะ ?” สมุทรหันกลับมาจ้องมองผมเขม็ง  เราต่างเงียบลงหนึ่งอึดใจ 

“นายจะบอกฉันว่าเราเหมือนกันงั้นสิ” ผมสวนถาม

“ก็ถ้าคุณรู้จักผมในระดับหนึ่ง คุณจะรู้ว่าผมจะไม่ออกไปกับใคร เพราะไอ้เหตุผลงี่เง่าที่คุณบอกว่าไปเดตหรอกนะครับ คุณไม่คิดว่าผมจะคิดเองได้เหรอ ว่าควรออกไป...หรือไม่ควรออกไป” สมุทรพูด  ก่อนเบือนหน้ากลับไปอีกครั้งคล้ายกับกำลังตั้งสติ  โทนเสียงที่เราทั้งคู่ใช้เป็นโทนเสียงเรียบสงบกว่าปกติ  จนผมเองก็อดตกใจไม่ได้  ผมมักจะใช้โทนเสียงแบบนี้เวลาอยู่ส่วนตัวกับแม่  ปู่  บางครั้งกับพี่ธาน  ความเป็นตัวเราที่ไม่ต้องปกปิดหรือพยายามอะไร     
 

หนังสือถูกปิดลงแล้ว  แต่สมุทรยังคงถือมันไว้ในมือ   

“........” ผมเหมองไปทางอื่น  กำลังตั้งสติไม่ต่างจากอีกฝ่าย  คำพูดคล้ายประชดประชันแต่กลับทำให้ผมดีใจแปลกพิกล

“การที่ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูดนอกจากเรื่องงาน ผมว่ามันก็มากเกินไปกับการที่ใครสักคนต้องมาเชื่อคนที่เพิ่งรู้จัก แล้วลักษณะภายนอกเป็นคนแบบคุณนะครับ” สมุทรขยายความ  ผมอมยิ้มมุมปาก  ดูท่าฝนคงจะลงเม็ดห่าใหญ่อีกไม่นานนี้แน่  ลมพัดเข้ามาในห้องระลอกใหญ่จนเส้นผมของเราทั้งคู่สะบัดไปตามแรงลม  นึกอยู่ไม่ทันไร  ฝนก็ตกลงมาโดยทันที

“ต่อว่าฉันอยู่เหรอ” ผมพูด

“งั้นมั้งครับ” อีกฝ่ายย้อน

“ก็ถ้าคิดงั้นมันก็ดูหลงตัวเองนี่ นายก็ชอบว่าฉันอยู่” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงเพื่อปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้ดีขึ้น

“คุณก็ดูหลงตัวเองมากเป็นปกติอยู่แล้วนี่ครับ” สมุทรย้อนเข้าให้ 

“หึ” ผมหัวเราะ

“อีกคำถาม” ผมเอ่ย  ตั้งใจที่จะเหวี่ยงหัวข้อไปอีกประเด็นหนึ่งที่ค้างคาใจมานาน 

“กับยัยพลอยนั่นน่ะ...”

“ผมจะไม่ขอพูดเรื่องของคุณพลอย จนกว่าคุณพลอยจะอนุญาตครับ” สมุทรพูดแทรก  ไอ้รูปประโยคที่ฟังดูทะแม่ง ๆ นี้สร้างความกวนใจให้ผมได้ในทันที  ผมดีดตัวลุกขึ้น  ขยับตัวเข้าไปหา  แม้จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดแต่อีกฝ่ายยังคงนิ่งไม่ไหวติง  ผมกางแขนออกคร่อมตัวสมุทรไว้  มือทั้งสองข้างตั้งฐานลงบนเตียง  คนที่กำลังจ้องมองหนังสืออยู่ช้อนใบหน้าขึ้นมองมาอย่างเนิบช้า  เราต่างเงียบมองกันและกันด้วยแววตาลองเชิงอยู่ครู่หนึ่ง 

“คุณนี่ก็มีเรื่องที่ไม่ฉลาดเหมือนกันนะครับ” สมุทรเย้ย  ใบหน้าอีกฝ่ายสะท้อนความกรุ้มกริ่มอยู่นิดหน่อย 

“แล้วไอ้ประโยคเมื่อกี้นี้มันอะไรไม่ทราบ” ผมย้อนถามอย่างใจเย็น

“ก็ตามที่พูดเลยครับ” สมุทรตอบด้วยน้ำเสียงคงเดิม  สีหน้าของเขาปนเปไปด้วยความยียวนจนรู้สึกได้  เขาคงรู้แน่ว่าผมกำลังไม่ชอบใจถึงได้กล้าทำแบบนี้

“พูดมาเดี๋ยวนี้” ผมพูดเชิงออกคำสั่ง

“ช่วยลดระดับเสียงด้วยได้ไหมครับ” อีกฝ่ายจ้องกลับ

“นายนี่มัน.. กวนตีนจริง ๆ  ไม่ใช่คนดีหรอกทำหน้าแบบนี้ได้” ผมขมวดคิ้วว่าออกไป  เห็นแล้วรำคาญลูกตา

“หึ ๆ ๆ” สมุทรหลุดหัวเราะ

“ตกลงจะบอกไหม”

“ไม่ครับ” สมุทรตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  ดวงตาแน่วแน่ว่าพูดคำไหนเป็นคำนั้น  ผมจิปาก  เบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อตัดใจที่จะไม่ซักถามต่อ

“ก็ได้ แค่อย่าคิดเอายัยนั่นลับหลังฉันก็พอ” ผมสรุป

“ผมไม่ทำเรื่องที่คุณชอบทำหรอก” สมุทรยิ้มมุมปากประชดกลับ

“หึ ก็ดี” ผมอมยิ้มตอบกลับให้เช่นกัน  เมื่อจังหวะการเข้าหาเป็นใจจึงแทรกตัวเข้าประชิดคนตรงหน้าให้มากขึ้น



โป๊ก !

จู่ ๆ สันหนังสือก็ถูกเคาะลงมากลางหน้าผากผมเต็มที่

“ทำไมนายถึงได้ชอบยุ่งกับหน้าผากของฉันนัก” ผมต่อว่า  แม้กระทั่งตอนนี้ เขาก็ไม่มีทีท่าตกใจหรือหวาดระแวงใด ๆ แสดงออกมาให้เห็น

“งั้นคุณก็ช่วยเลิกคร่อมตัวคนอื่นแล้วกลับไปนอนได้แล้วครับ นี่มันพฤติกรรมของคนเจ็บรึไง” สมุทรตักเตือนเสียงแข็ง

“หึ พูดยาวจังนะ” ผมแซ็ว  เผยยิ้มที่มุมปากมากขึ้นอย่างหยุดไม่ได้  ดูเหมือนสมุทรเลือกที่จะไม่ต่อความยาวกับผมอีก  เขาเป็นฝ่ายยอมเงียบลงก่อน  อีกทั้งสายตาก็สู้กลับอย่างไม่ลดละอีกด้วย  ผมอมยิ้มมอง  เพราะดันเป็นปฏิกิริยาแบบที่ทำให้พึงพอใจ

“เข้านอนได้แล้วครับ” สมุทรพูดขึ้นเรียบ ๆ 

“แค่จูบก็พอ...” ผมเอ่ย  แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่คำขออนุญาต  กระทั่งเป็นคำโกหก  กฏหนึ่งข้อสำหรับการที่จะต้องวางหมากกับคนที่คุณอ่านใจไม่ออกเช่นนี้  คือห้ามขออนุญาต  คนแบบสมุทรไม่ใช่คนที่ควรขออนุญาตด้วยได้  แน่นอนว่าเขาจะต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน  ดังนั้น.. อย่าเสือกขอ    

“ไม่” อีกฝ่ายย้อนด้วยน้ำเสียงเชิงข่มขู่  ไร้หางเสียงประกอบประโยคเช่นทุกที

“........” ผมไม่ตอบ  ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่  ความเงียบสงบก่อตัวขึ้นอีกครั้ง  ลึก ๆ แล้วความตื่นเต้นในร่างกายกลับตรงกันข้ามกับบรรยากาศโดยรอบ  คล้ายกับกองฟางที่พากันมากองทับถมทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นภูเขาที่ใกล้จะระเบิด  สมุทรจ้องมองผมอย่างเอาเป็นเอาตาย  นัยยะแฝงในดวงตานั้นคล้ายกับว่ากำลังบอกให้ผมหยุดการกระทำในอนาคต  ไม่แน่ว่าผมอาจจะโดนดีหากยังดื้อดึงต่อไป  ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน  ความต้องการจู่โจมแต่กลับไม่รู้ว่าควรเริ่มที่ตรงไหนก่อนดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2017 19:38:27 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ผมขยับตัวเข้าหาสมุทรอย่างเนิบช้า  รอดูปฏิกิริยาตอบสนองอย่างใจเย็น  ไม่โจ่งแจ้ง  ก่อนวางฝ่ามือข้างขวาปิดดวงตาของเขาไว้  สมุทรยังคงนั่งนิ่ง  ผมกวาดตามองใบหน้าของเขาที่ถูกปิดไว้จนเหลือให้เห็นเพียงจมูกและริมฝีปากเท่านั้น  ความใกล้ของร่างกายเราทั้งคู่เริ่มประชิดมากขึ้น  ทันทีนั้นชื่อของผมก็ถูกเรียกขึ้นในลำคอ... “...คุณไฟ”

“ว่าไง ?” ผมขานรับในลำคอเช่นกัน 


ซ่า !!!

ฝนเริ่มลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  ต้นไม้ใหญ่ที่ด้านนอกเคลื่อนไหวไปตามแรงลมเสียงดังมากทีเดียว  อย่างน้อยก็ช่วยทำลายความเงียบระหว่างเราไปได้บ้าง  ปลายจมูกของผมแตะถูกปลายจมูกของสมุทรพลางเขี่ยอย่างแผ่วเบา  ไม่ใช่การถูกเนื้อต้องตัวอย่างทันทีโดยตรง  หยั่งเชิง เพื่อไล่ให้คืบคลานไปด้วยกัน...

ฝ่ามือของผมขยับเลื่อนออกจากดวงตาของสมุทรช้า ๆ  ก่อนประคองไว้ระหว่างหัวใกล้กับใบหู  สมุทรที่เหมองต่ำอยู่  ช้อนตาขึ้นมองมาที่ผมไม่กะพริบ  เมื่อผมขยับเข้าใกล้มากขึ้น  อีกฝ่ายเลือกที่จะเบือนหน้าหนีเพื่อหลบเลี่ยงการเอ่ยปากปฏิเสธซ้ำอีก  ผมหยุดนิ่ง  เว้นระยะการเข้าหาไว้ครู่  ลมแรงซัดกระหน่ำเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง  ทันทีนี้ผมจึงเข้าประชิดจนปลายจมูกเกลี่ยไปตามข้างแก้มของเขา  ในหัวไม่มีแม้แต่คำเตือนว่า “ควรหยุด”

ขณะที่คิดว่าถ้าครั้งหน้าจะไม่มีโอกาสอีก  นิ้วก็กดปิดสวิตซ์โคมไฟที่หัวเตียงฝั่งของสมุทรไปเสียแล้ว 


แป้ก !

อีกฝ่ายเหล่มองมาในทันที  และแล้ว.. ความยียวนต่อกันและกันเพื่อหยั่งเชิงก็เริ่มจางหายไปจากสายตาของเราทั้งคู่ในคราวนี้  จู่ ๆ สมุทรก็นำหนังสือที่ตนยังคงถืออยู่นำขึ้นมาปิดระหว่างดวงตาของผมไว้  ผมนิ่งเฉย  ได้เพียงแต่หลุดหัวเราะเล็กน้อยเท่านั้น

“เอาปิดไว้ทั้งหน้านั่นแหละครับ” อีกฝ่ายพูดคล้ายต่อว่า  พลิกหนังสือให้เป็นแนวตั้งเพื่อขนานไปกับใบหน้าของผม

“ทำไม ?” ผมตั้งคำถามและยังไม่คิดที่จะปัดหนังสือออก   

“...อย่าทำแบบนี้เลยครับ” สมุทรบอก  น้ำเสียงเรียบ ๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดเป็นพิเศษ  อีกทั้งไม่ใช่การตักเตือนหรือขู่อย่างเช่นก่อนหน้า  ผมชั่งใจคิดถึงมุมของอีกฝ่ายบ้างแต่กลับไม่สามารถทำตามคำขอได้จึงจับข้อมือของเขาที่ถือหนังสือออกห่าง  เราได้สบตากันอีกครั้ง

“ถ้ารังเกียจก็ผลักฉันออกได้เลย” ผมพูดแทบกระซิบ  แม้จะกังวลปฏิกิริยาตอบรับแต่เพราะไม่มีหนทางอื่นแล้ว  การหยิบความเห็นแก่ตัวในรูปแบบนี้มาใช้เป็นครั้งแรกในชีวิต  เสียงกระซิบแผ่วเบาทั้งพะวงและมีนัยยะขอร้องแฝงอยู่  กระทั่งอย่างนั้นก็ยังอดกังวลความนึกคิดของคนตรงหน้าไม่ได้  ถ้าเขาไม่ยอม  ผมจะหยุดรึเปล่านะ  จะถึงขั้นต่อสู้จนมองหน้ากันไม่ติดรึเปล่า  ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน 

ไม่ว่าคู่นอนคนไหนที่ผ่านมา  ถ้าไม่ใช่ความ(ต้องการ)ทรมานที่ถูกร้องขอเพื่อให้ร่วมเล่นบทพิสดารบนเตียง  หรือออกปากปฏิเสธเพื่อแสร้งทำให้ตัวเองดูมีค่าขึ้น  หากถูกปฏิเสธแม้เล็กน้อยจะหยุดทันที  ไม่มีเหตุผลเพื่อไปต่อ  ไม่เคยรู้สึกว่าตนเองควรมีเหตุผลอื่นนอกจากความกระหายส่วนตัวเพื่อสานต่อเรื่องบนเตียงกับคน ๆ นั้น  ถือตัวตนของตัวเอง  เคารพความคิดของอีกฝ่าย  จึงไม่เคยคิดหยิบยกประโยคเด็ดที่ลึก ๆ แล้วมีความหมายของคนเห็นแก่ตัวฝังอยู่นี้ขึ้นมาใช้เพื่อบังคับให้ใครหลับนอนด้วยเพียงเพราะต้องการสบายตัวชั่วคราว


เมื่อไม่ถูกเจ้าของร่างกายเอ่ยปากห้ามอีก  หรือเขาอาจจะกำลังปฏิเสธผมอยู่ก็ได้  เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมมองหน้าผม  สมุทรเบือนหน้าหนีเหมือนทีแรกที่ทำ  ผมแตะปากลงที่แก้มเขาเบา ๆ อีกครั้ง  ทั้งปลายจมูกและริมฝีปากเกลี่ยหอมและสูดดมอยู่เช่นนั้นคล้ายหยอกเอิน  วนเวียนอยู่ที่เดิมซ้ำไปมาจนสมุทรยอมหันหน้ากลับมาทางผมอีกครั้งหนึ่ง  ผมจึงหยุด  สบตาเขาตรง ๆ  มือขวาที่กุมหัวของเขาอยู่เลื่อนต่ำลงมาที่ข้างแก้มและลำคอ  ครั้งนี้อีกฝ่ายหลบสายตามองต่ำ  เขาคงกำลังคิดอะไร  มือข้างที่เขาถือหนังสือเปลี่ยนมาจับข้อมือผมข้างที่จับใบหน้าของเขาอยู่  เสียงกระซิบพูดขอแผ่วเบาซ้ำอีกครั้งว่า “อย่าเลยครับ”

ไม่คิดยอมทำตามคำร้องขอนั้น  ผมเพียงหลบตา  ซบหน้าผากลงที่หน้าผากของอีกฝ่าย  ครู่หนึ่ง เมื่อแอบหรี่ตามอง  ฝ่ายตรงข้ามก็กำลังหลับตาอยู่เช่นกัน  การเคลื่อนไหวของเราทั้งคู่ต่างชะงักงัน  เราสบตามองกันอีกครั้งอยู่ในท่าเดิมพักใหญ่  นิ้วโป้งข้างขวาขยับเกลี่ยอยู่ที่ข้างแก้มของสมุทรไปพลาง  เรากำลังอ่านกันอยู่รึเปล่า  ถ้าเป็นอย่างนั้น  ทำไมสมองผมมันถึงได้ว่างเปล่าแบบนี้  สมุทรใจเย็นเป็นน้ำเลย 

ผมเอียงใบหน้าเล็กน้อย  ริมฝีปากเผยออกโดยอัตโนมัติก่อนแตะลงที่ปากของคนตรงหน้า  มันเบาบางขนาดที่ผมเองยังตกใจ  อย่างนั้น ดวงตาของเราทั้งคู่กลับไม่ละไปไหน  ผมขยับใบหน้าออกเพื่อเว้นช่วง  ขณะเดียวกันที่สมุทรเป็นฝ่ายหลบสายตาลง  ผมจึงช้อนจูบเข้าไปอีกครั้ง  และผ่อนแรงลงในตอนท้าย  ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาลองเครื่องยนต์ก่อนลงแข่งรถเลย  ไหงถึงนึกถึงเวลานั้นเสียได้..

.
การไม่ถูกผลักออกอย่างรังเกียจโดยทันทีเป็นปฏิกิริยาที่โชคดี  อุณหภูมิในร่างกายเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  น้ำหนักของริมฝีปากหนักแน่นมากขึ้นแต่ก็ไม่ลืมความนุ่มนวลที่ควร  บรรยากาศในตอนนี้เป็นใจเสียจริง  กลับกันก็รู้ดีอยู่ว่าไม่ควรเกินเลยมากนัก  เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือผมไม่ต้องการยัดเยียดความผิดแปลกนี้ให้กับความสัมพันธ์ที่ผมยังเป็นฝ่ายต้องการอยู่ฝ่ายเดียว

ครู่หนึ่ง.. เสียงจูบที่แว่วสวนเข้ามาในโสตประสาทไม่ใช่การเริ่มจากฝ่ายเดียว  ฝ่ามือของสมุทรข้างหนึ่งประคองมาที่ต้นคอผม  ผมหยุดทันทีที่ถูกแตะเนื้อตัวตอบในจุดสำคัญ  จับจ้องเขาไม่กะพริบ  อีกฝ่ายเองก็ทำอย่างเดียวกัน  กำลังถูกมองอย่างสำรวจตรวจสอบจนขณะหนึ่งสามารถทำให้คิดเข้าข้างตัวเองได้ไม่มากก็น้อย  ม่านตาของเรากะพริบไม่บ่อยนัก  ผมขยับใบหน้าเข้าหาฝ่ามือของสมุทรที่จับอยู่ระหว่างลำคอและใบหน้าของผม  สูดหอมและหลับตาลง  ริมฝีปากที่แตะลงตรงกลางฝ่ามือของสมุทรพอดีทำให้มือของเขากระตุกเล็กน้อย  ผมเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาก่อนยิ้มให้อย่างอดไม่ได้  ทันทีนั้นต้นคอก็ถูกดึงเข้าหาอย่างรวดเร็ว.. ลิ้นของผมสอดเข้าแทรกทันทีที่สมุทรเผยอปากออกเพียงเล็กน้อย  คล้ายกลัวว่าตนเองจะเสียโอกาสนี้ไป  รสจูบของเราเหมือนกับการจิบวิสกี้ไม่มีผิด  ละเลียดเล็กน้อยในทีแรกเพื่อเรียนรู้รสชาติก่อนยกดื่มจนหมดในทีเดียว  ปากบดจูบเนินนานจนเสียงหายใจเริ่มปะทะหนักขึ้นเนือง ๆ 

ที่ผ่านมาเคยจูบใครแบบนี้บ้างไหมนะ ?  รสจูบที่มีความต้องการอย่างเต็มเปี่ยมแต่ก็เป็นห่วง  ทั้งที่เคยถูกคนอื่นมองด้วยสายตาที่มีความหมายคล้ายกับสมุทร  บ้างเคยถูกมอบความรักมาให้อย่างตรงไปตรงมา  ทั้งที่เคยกังวลในความคิดของฝ่ายที่หลับนอนด้วย  ทั้งที่เคยกังวลความผิดของตัวเองที่ถูกร้องขอให้หลับนอนด้วยสักครั้ง  ทั้งที่รู้ว่าจะผิดไปหากมอบจูบเช่นนี้ไปให้  แต่ไม่ใช่กับคนตรงหน้าในตอนนี้  ไม่มีความสังเลหรือกังวลแบบนั้น  ตรงกันข้าม  ทั้งที่ถูกมองในลักษณะคล้ายกันแต่ผมกลับไม่แน่ใจว่าเขากำลังรู้สึกนึกคิดแบบเดียวกันกับผม  คนที่เคยบอกรักผมคงเหมือนผมในตอนนี้สินะ  น่าขำซะจริง 

แต่ไม่หยุดหรอก ! จะหยุดให้ก็ต่อเมื่อ  ถ้าหากท่อนล่างของอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง  ผมถึงจะหยุด  เพราะนั่นมันคือหายนะทางจิตใจอย่างหนึ่ง  หากเป็นคนอื่นคงไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อผมและผมคงไม่มีความคิดแบบนี้ด้วย  แม้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เคยผ่านมือมามักจะมีการตอบสนองอย่างรุนแรงแต่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ตอบสนองในทันใดเลยก็มี  แต่นั่นก็ไม่เคยสร้างปัญหาต่อความมั่นใจเพราะเหตุผลในสถานการณ์นั้น ๆ มันประกอบไปด้วยปัจจัยหลากหลาย

“เดี๋ยวครับ” สมุทรเริ่มออกปากทักท้วงเมื่อผมรุกหนักมากขื้น  เขาคงได้สติบ้างแล้ว  ผมหยุด  ก้มลงมองรูปร่างที่กำลังคร่อมอยู่  ถึงแม้อยากที่จะลูบคลำเนื้อตัวอย่างถึงที่สุดแต่ก็ไม่แตะต้อง  ได้เพียงหักห้ามใจเอาไว้  ผมลังเลในตัวเขาและคิดว่าเขาเองก็คงมีความลังเลในตัวผมอยู่เช่นกัน  ความสัมพันธ์ที่ไม่แยบคายนี้ทำให้เราทั้งคู่ต่างจำเป็นต้องขีดเขตแดน 

ผมก้มหน้าเข้าหาสมุทรอีกครั้ง  เขาหันหน้าหนีทันที  ทำให้ผมที่ตั้งใจจะเข้าจูบเปลี่ยนเป็นหอมแก้มเขาแทน  อีกฝ่ายออกปากบ่นเบา ๆ ในลำคอว่า “ผมพูดอะไรคุณเคยฟังบ้างไหม”  น้ำเสียงพึมพำคล้ายกับไม่ต้องการคำตอบ  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กระซิบตอบเขากลับไป “ขอโทษ”  สมุทรยอมหันกลับมามอง  ดวงตานิ่งเฉยไม่ได้เป็นไปในเชิงหงุดหงิด  ผมก้มลงจูบเขาอีกครั้ง  ครั้งนี้อีกฝ่ายยอมเผยปากออกมากขึ้น  ลิ้นของผมที่สอดเข้าไปถูกเกลี่ยตอบกลับมายิ่งทำให้ร่างกายขยับทุกส่วนไปพร้อมกันโดยธรรมชาติ  ฝนลงเม็ดหนักจนแทบไม่ได้ยินสติด้านดีพูดเตือน  ผมผละปากออก  ซุกไซ้ไปทั่วลำคอและใบหู  สมุทรพยายามขยับตัวเองให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอย่างเดิม  เดาเอาว่าเขาคงต้องการปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกรุกหนักไปกว่านี้ 

.
ขณะที่กำลังจูบจนอีกฝ่ายเผลอ  มือควานหาลงไปยังเป้าหมายที่จุดสำคัญของร่างกายโดยไม่คิดแม้แต่จะลูบไปที่ร่างกายท่อนบนเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ทาง  ทันทีที่มือของผมแตะโดนของของสมุทร  ดวงตาของเขาก็เบิกโต  ใจผมเต้นแรงโครมคราม  จับจ้องสมุทรไม่วางตา  มือสัมผัสได้ถึงท่อนลำอุ่น ๆ ที่กำลังมีปฏิกิริยาอยู่เหมือนกัน  สมุทรผละมือข้างหนึ่งออกจากลำคอของผมก่อนคว้าเข้าไปจับข้อมือของผมแล้วล็อกไว้ในทันที  เขาพยายามที่จะดึงมือผมออกจากตรงนั้น  แต่ผมยังดึงดัน  ยิ่งเราสู้แรงกันมากเท่าไหร่  ฝ่ามือของผมก็ยิ่งแนบไปกับเนื้อกางเกงของเจ้าตัวมากขึ้น  สมุทรขมวดคิ้วเป็นปม  ตัวเกร็ง  สันกรามที่ปูดนูนทำให้เห็นว่าเขากำลังบดกัดฟันเอาไว้แน่น  ผมกำของของสมุทรหนักมากขึ้นพร้อมขยับมือไปด้วยจนอีกฝ่ายเล็ดลอดเสียงครางออกมาตามไรฟัน “อะ !”  ร่างกายผมร้อนวูบตั้งแต่หัวจรดเท้า  สิ่งที่ได้ยินมันกะทันหันเกินไป  สมุทรเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ  ครั้งนี้เขาออกแรงกระชากแขนผมออกอย่างไม่สนความเกรงใจ  ผมเกือบเสียหลักจึงรีบเท้ามือข้างที่ผละออกมาไว้บนเตียงในท่าเดิมก่อนจู่โจมเข้าจูบอีกครั้งไม่ให้เสียจังหวะ  ลำตัวทิ้งลงแนบขนานไปกับลำตัวของสมุทรโดยทันที  ลิ้นลากพรมซุกไซ้จากใบหูมาถึงปลายคาง  สมุทรหอบหายใจแรง  หลับตาพริ้ม  ใบหน้าหันข้างออกนิดหน่อย  ผมเองก็เหมือนคนเสียสติ  เห็นอย่างนั้นยิ่งได้ใจหนักกว่าเดิม

ท่อนล่างของเราทั้งคู่มีปฏิกิริยาขนาดที่ว่าไม่ต้องมีการสัมผัสด้วยมือของกันและกันก็ยังรับรู้ได้  เพียงกางเกงนอนขาสั้นบาง ๆ กั้นระหว่าง  จากที่จับดูเมื่อครู่นี้  ดูเหมือนอีกฝ่ายจะใส่กางเกงในด้วย  ส่วนผมใส่แค่กางเกงขาสั้น  ไม่แก้ผ้านอนให้ก็ดีนักหนาแล้ว  สมุทรเคยขอเอาไว้ 

ผมจับปลายคางสมุทรเพื่อให้เขาหันมามองกันตรง ๆ  อีกฝ่ายเหลือบมา  ความหมายของแววตานี้นั้นคมกริบ  แต่ไม่ใช่ความหมายที่ว่างเปล่าอย่างที่คิดระแวง  ขณะหนึ่งที่เรากวาดตามองดวงตาของกันและกัน  ผมถึงได้แน่ใจว่าผมติดกับดักของคน ๆ นี้เข้าให้แล้วจริง ๆ  ริมฝีปากของเราทั้งคู่เผยอออกพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายก่อนประกบจูบอีกครั้งอย่างหนักหน่วง  ผมทิ้งน้ำหนักตัวไว้ที่ท่อนล่างจนรู้สึกว่าร่างกายที่เคยได้รับบาดเจ็บเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้าน  มันไม่รักดี  ดันจะมาประท้วงกันในเวลาแบบนี้  ผมจับขาข้างขวาของสมุทรแบะออกเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนที่สำคัญที่สุดของเราทั้งคู่เสียดดีกันได้ตรง ๆ มากขึ้น  มันแทบจะระเบิดแล้ว  เสียงหอบรุนแรงกว่าเดิม  รอบบริเวณแผลที่เคยทำท่าว่าจะหายดีแล้วเริ่มร้อนขึ้นเหมือนต้องการส่งสัญญาณบอกกับผมว่า กูยังไม่หายดี !  เมื่อเห็นท่าไม่ดีผมจึงลดระดับการวางแขนลง  การทำแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวผมกับสมุทรแนบสนิทมากกว่าเดิม 

.
ไม่มีคำพูดระหว่างเราหลุดออกมาเลยสักคำ  มีเพียงสายตาที่ทำหน้าที่พูดแทนได้  เสื้อยืดสีขาวบาง ๆ ของสมุทรย่นไม่ได้รูปเสียแล้ว  กล้ามเนื้อใต้ผ้านี้จะเป็นอย่างไร  ผมได้แต่นึกสงสัยในใจ  ทำได้แค่พรมจูบและสูดดมไปทั่วบริเวณไหล่ภายนอกเนื้อผ้า  มือไม้ลูบร่างกายไปทั่วโดยไม่ได้เจาะจงที่ใดในส่วนที่หลงใหลเป็นพิเศษ  เกรงว่าเจ้าของร่างกายจะตกใจ  ครู่หนึ่ง เหมือนจิตใต้สำนึกมันต้องการ  นิ้วเกี่ยวชายเสื้อขึ้นเล็กน้อยจนเห็นกล้ามหน้าท้องส่วนล่างของอีกฝ่าย  สมุทรรีบจับใบหน้าของผมช้อนขึ้นให้ไปมองเขาอย่างกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่  อีกทั้งยังส่งสายตาดุปรามมาให้  ผมจึงหยุดมือก่อนเข้าไปจูบอีกครั้ง  ในเมื่อไม่ให้รุกล้ำที่ตรงนั้นก็จะทำอย่างอื่นแทน  เอวเริ่มขยับโดยธรรมชาติ  ของแข็งเสียดสีกันผ่านเนื้อผ้าจนร้อน  เราต่างกดน้ำเสียงไว้ในลำคออย่างอดกลั้นอารมณ์ที่แท้จริง  ปฏิกิริยาตอบสนองทำให้การจูบเกิดเสียงแหบพร่า  ฝนตกหนักมากจริง ๆ  แต่น้ำเสียงที่ได้ยินชัดเจนกลับเป็นเสียงของคนตรงหน้านี้เท่านั้น

อุณหภูมิอุ่น ๆ จากอีกฝ่ายทำให้รู้สึกดีในอากาศเช่นนี้  ผมหยุดขยับ  ค้างตัวไว้ครู่หนึ่ง  เราต่างสบตากันนิ่ง ๆ  ไม่อยากให้จบเลย  แต่อวัยวะแข็งอุ่นใต้กางเกงของผมกำลังเต้นเร่า ๆ เรียกร้องความสนใจ  ลิ้นเกลี่ยไปตามไรฟันอย่างเคยชิน  เมื่อเล็งท่อนล่างได้ในระดับที่อยู่เสมอกับสมุทรแล้ว  ผมจึงเชิดปลายจมูกขึ้นเกลี่ยปลายคางของเขาอีกครั้งอย่างหยอกเอิน  และไม่ลืมที่จะขยับสะโพกไปพร้อมกัน  ความแนบแน่นที่กระทบถูกของของอีกฝ่ายมันพอดิบพอดีจนทำเอาสมองพร่าเบลอ  เสียงครางพร้อมใจกันหลุดออกมา

ฟันกรามที่ถูกผมกัดเอาไว้เกร็งไปหมด  ผมออกแรงขยับเอวอย่างไม่เว้นช่วงจนลืมความเจ็บปวดของแผลที่ยังไม่หายสนิท  สมุทรเองก็กัดฟันไว้แน่นเช่นกัน  จังหวะการหายใจและอารมณ์ของคนตรงหน้า  ไม่ใช่ผมที่หน้ามืดตามัวตั้งหน้าตาตาอยากมันอยู่ฝ่ายเดียว  ผมเท้าแขนขึ้นทั้งสองข้างอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ว่าเราใกล้จะไปเต็มแก่แล้ว  หน้าที่รับน้ำหนักอยู่ที่ลำตัวท่อนบนและกล้ามเนื้อแขน  สมุทรมองต่ำลงไปที่ท่อนล่างของเราทั้งคู่ก่อนไล่ระดับสายตาจ้องมาที่แผลของผมที่มีผ้าปิดแผลปิดไว้  ผมไม่ได้ใส่เสื้ออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  เห็นความกังวลในแววตาอีกฝ่าย  ผมจึงรีบจับใบหน้าเขาช้อนขึ้นเพื่อให้เขาเลิกมองอยู่ที่ตรงนั้นพร้อมก้มลงจูบโดยทันที  ลิ้นแตะเข้าหากันจนเปียกชุ่ม  กางเกงเองก็คงเป็นเหมือนกัน 

“อ้า !” ผมร้อง  ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บแปล๊บที่แผลที่ได้รับอย่างกะทันหันแต่ก็รู้สึกดีในคราวเดียวกัน

“คุณไฟ พอ...” สมุทรออกปากปราม  ผมจับข้อมือข้างหนึ่งของเขาล็อกไว้เพราะอีกฝ่ายทำท่าจะขืน  เอวขยับทำหน้าที่ไม่หยุด  ครั้งนี้สมุทรยอมโอนอ่อนตามน้ำ  เราทั้งคู่หอบกันไม่ได้สติ  ปากสลับจูบเป็นครั้งคราว

“สมุทร.. เรียกอีกสิ” ผมกระซิบขอที่ข้างหู  อีกฝ่ายพ่นลมออกทางปาก  เขาไม่ได้เรียกชื่อผมอีก  มือข้างหนึ่งของเขาประกบอยู่ที่เอวของผม  เสียงของกางเกงเสียดสีกันไปมาดังถนัดหูขึ้นเรื่อย ๆ  เราจูบกันอีกครั้งก่อนผละริมฝีปากออก  พยายามตั้งใจฟังอารมณ์ของเราทั้งคู่  แต่หูมันอื้อไปหมดจนแทบไม่ได้ยินอะไรแล้ว  ครู่หนึ่งเสียงหอบครางก็หายไปเพราะต่างพากลั้นกันแม้กระทั่งการหอบที่ควรออกมาโดยธรรมชาติ  สะโพกของผมขยับเร็วมากกว่าเดิมก่อนกระตุกครั้งสุดท้ายพร้อมกับปล่อยน้ำอุ่น ๆ ออกมา  สมุทรเองก็เช่นกัน  ตัวของเราทั้งคู่เกร็งค้างหยุดอยู่กับที่อย่างกับมีใครมากดหยุดเอาไว้  ต่างครางในลำคอแล้วพ่นลมหายใจออกมาให้เป็นปกติ “อา !!!”  ขณะที่อีกฝ่ายกำลังเผลอหลับตา  ผมคว้ามือลงไปที่ของของเขาเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาปล่อยออกมาเรียบร้อย  ทันทีที่มือแตะสัมผัสกางเกงที่แฉะเจ้าตัวก็สะดุ้งโหยง

“ฮะ ! คุณ...” สมุทรหลุดครางออกมาเสียงแหบพร่า  ขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมดึงแขนผมกลับออกมาอย่างแรง  ผมยิ้มให้ถึงแม้อีกฝ่ายไม่ยอมให้แตะต้องแต่กลับเป็นปฏิกิริยาที่พอใจ  ก้มลงหอบไปทั่วแก้มและข้างหูของเขาอีกครั้ง  เอวขยับโดนตรงนั้นซ้ำอีกอย่างอดไม่ได้  ทำอยู่อย่างนั้นจนทุกอย่างเบาลง 


ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงหายใจของเราทั้งคู่เริ่มสม่ำเสมอ  ผมซบหน้าลงที่ไหล่อีกฝ่าย  ทุกอย่างสงบลงทำให้สติหวนกลับมา  ความเจ็บปวดที่เอวพุ่งเข้าแทรกอย่างไม่รีรอ

“ขอเวลานอก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง  สมุทรนอนนิ่งไม่ขยับ 

“ผมจะไปตามคุณหงส์” อีกฝ่ายพูดอย่างรู้ทัน

“ไม่ต้อง” ผมแทบสบถ  ดันหงุดหงิดที่ร่างกายไม่ได้ดั่งใจ  สมุทรเงียบลง

“พักแป๊บเดียวก็หาย” ผมบอก 

มือของสมุทรทั้งสองข้างประคองอยู่ที่เอวของผมก่อนขยับเลื่อนอย่างแผ่วเบาไปที่ลำตัวคล้ายกับกำลังปลอบประโลมอยู่อย่างนั้น  มันทำให้แอบหลุดยิ้มได้เหมือนกัน  คำพูดต่าง ๆ มีเข้ามาในหัว  รวมไปถึงความรู้สึกกังวลต่อคนตรงหน้าก็ด้วย  ไอ้ความคิดก่อนหน้าที่ว่าขอเข้าข้างตัวเองหน่อยเถอะก็หดห่างออกไปทีละนิด  ไม่เชิงกลับไปยังจุด ๆ เดิม  อาจจะก้าวข้ามขั้นมาหน่อยแต่ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องการอยู่ดี  เรานอนกันอยู่ในท่าเดิมนี้จนผมเริ่มมีอาการง่วงเพราะฤทธิ์ยาที่เพิ่งกินไปหลังอาหาร  สมุทรคงมองออก  เขาเอ่ยปากให้ผมกลับไปนอนดี ๆ  ผมยอมทำตามเพราะคิดว่าเขาคงอยากใช้ห้องน้ำ 

สมุทรหายเข้าไปในห้องน้ำนานหลายนาที  ผมนอนฟังเสียงน้ำไหลอยู่บนเตียง  เขาคงกำลังทำความสะอาดร่างกาย  โทรทัศน์ยังคงฉายละครเรื่องเดิม  สมุทรเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมกับกางเกงนอนตัวใหม่  ผมนอนหายใจทิ้งโดยไม่คิดขยับตัว  จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เดินมานั่งลงข้าง ๆ เตียงพร้อมกับกล่องกระดาษทิชชู่  ผมเหลือบมองอย่างสงสัยที่เห็นเขาดึงกระดาษทิชชู่ออกแล้วทำท่าจะเข้ามาทำความสะอาดใต้กางเกงให้   เอาจริงดิ ?!  ผมแอบสบถในใจ  หมอนี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ

“ผมจะเช็ดให้ครับ” สมุทรบอกจุดประสงค์ 

“ฉันทำเอง” ผมปฏิเสธ  ไม่ได้อาย  แต่ไม่คิดว่าในใจของเขาต้องการจะทำตามหน้าที่ไปซะทุกอย่างเช่นกรณีนี้  สมุทรมองเก้ ๆ กัง ๆ  ผมรับกระดาษทิชชู่จากเขามาพร้อมดึงขอบกางเกงออกทำให้อีกฝ่ายรีบหันตัวกลับหลังหนีด้วยความรวดเร็ว

“หึ” ผมหลุดหัวเราะ 

“นายก็ตั้งใจจะเช็ดให้ฉันอยู่แล้วนี่ จะหันหลังทำไม” ผมพูดยิ้ม ๆ  ไอ้ลูกชายไม่รักดียังคงมีปฏิกิริยาอยู่เลย  น้ำออกมาโคตรเยอะ  ไอ้ห่า ! นึกว่าเขื่อนแตก  จำไม่ได้แล้วว่าเอาออกไปครั้งล่าสุดเมื่อไหร่  อยู่ป่าจนเกือบลืมตัวตนที่แท้จริง

“ก็คุณจะเช็ดเองนี่ครับ จำเป็นอะไรที่ผมต้องนั่งดูคุณเช็ดตัวเองด้วยล่ะ” สมุทรตอบเรียบ ๆ  ผมยิ้มกว้าง  ไม่คิดตอบโต้อีก
 
“จะเข้าห้องน้ำ เตรียมกางเกงตัวใหม่ไว้ให้ด้วย” ผมลุกขึ้นนั่งเมื่อเช็ดเสร็จเรียบร้อย

“...นะครับ” ผมเข้าไปกระซิบบอกจากด้านหลัง  อีกฝ่ายไม่ยอมหันกลับมามองแม้แต่น้อย  ผมหยิบกระดาษทิชชู่ที่ทำความสะอาดตัวเองติดมือมาเพื่อนำไปทิ้งถังขยะในห้องน้ำ  จัดการล้างไม้ล้างมือ  สมุทรนำกางเกงตัวใหม่มาให้ผมที่หน้าห้องน้ำ  เมื่อเปลี่ยนเสร็จแล้วเดินออกมาก็พบว่าโทรทัศน์ถูกปิดลง  โคมไฟตรงโทรทัศน์ก็ด้วย 

สมุทรยืนรออยู่เพื่อให้ผมได้ขึ้นเตียงก่อน  มันเป็นมารยาทที่เขาทำอยู่ทุกคืน  ผมหยิบยาก่อนนอนที่อีกฝ่ายเตรียมวางไว้ให้ตรงหัวเตียงขึ้นกินก่อนล้มตัวลงนอน  สมุทรเอ่ยปากขออนุญาต  ล้มตัวลงนอนพร้อมปิดโคมไฟฝั่งของเขา  ตอนนี้จึงเหลือแสงสว่างจากไฟตรงหน้าห้องน้ำเท่านั้น 

เราต่างนอนหงายทั้งคู่  ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกขอบคุณฟ้าดินที่ทำให้ฝนตกหนักอย่างกับฟ้ารั่ว  มันช่วยพวกผมได้มากทีเดียว  มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มกำลังคืบคลานเข้าหาคนข้าง ๆ  ไม่ว่าจะเขาหรือผมก็พูดไม่ออก  หมดคำพูดเสียแล้ว  ไม่รู้แม้กระทั่งจะเอ่ยอะไรที่เหมาะควร  ผมแตะมือลงที่มือของสมุทรที่อยู่ใต้ผ้าห่มและกุมไว้หลวม ๆ  เจ้าตัวไม่ได้ชักหนีหรือทักท้วง  และผมก็หลับไปทั้งอย่างนั้น...


..............(ไฟ)............


ผู้เขียน:
ต้องขออภัยด้วยกับเรื่องบัดสีบัดเถ-ลิงเช่นนี้  ครั้งหน้าจะระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก :m15:  :m20: 55555++


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2017 20:02:56 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
มาแล้ววววววว ดีต่อใจมากกกกกก       :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โธ่ สมุทร โดนล่อลวงซะแล้วววววว XD

ออฟไลน์ Sadistic_seme

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ค้างงงง  อ่านไปหยุดไปด้วยความลุ้นว่าไฟจะโดนถีบตอนไหน :haun4: :pighaun:  สมุทรมีความน่าร้าก กลัวมังกรของไฟเหรอลูก ฮ่าๆ ระวังนะ ไฟไม่หยุดแค่นี้แน่  :hao6:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
โอ้ยยยยยนี่ไม่ได้ขำพี่ไฟมานานเหลือเกินแล้ว 5555
ดีใจเหลือเกินพี่ไฟมาแล้วววว

ยอมใจพี่ไฟมาก นี่อ่านไปทั้งเขินทั้งขำลุ้นว่าสมุทรจะโกรธหรือห้ามพี่รึเปล่า
แต่ก็อย่างว่าแหละห้ามได้ที่ไหนยิ่งบรรยากาศเป็นใจแบบนี้ด้วย 

ขอบคุณเบบี้ สนุกมากกก เขินยิ้มแก้มจะแตก :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
โอ้ยยยยยนี่ไม่ได้ขำพี่ไฟมานานเหลือเกินแล้ว 5555
ดีใจเหลือเกินพี่ไฟมาแล้วววว

ยอมใจพี่ไฟมาก นี่อ่านไปทั้งเขินทั้งขำลุ้นว่าสมุทรจะโกรธหรือห้ามพี่รึเปล่า
แต่ก็อย่างว่าแหละห้ามได้ที่ไหนยิ่งบรรยากาศเป็นใจแบบนี้ด้วย 

ขอบคุณเบบี้ สนุกมากกก เขินยิ้มแก้มจะแตก :กอด1:


ขอบคุณค่า อ่านซ้ำไปซ้ำมาเก็บไว้ช่วงโปรเถอะค่ะ 555555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เย้ๆๆๆ    ดีใจคุณไฟ กับ สมุทรมาพอดี




คิดถึงมากกกกกกก :hao5: :katai2-1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
555555555555555555555555ไฟน่าสงสารอ่ะ 

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
 :impress2: ลุ้นยิ่งกว่าเชียร์มวยก็ตอนนี้แหละ กลัวสมุทรจะถีบไฟ

ขอบคุณเบบี้มากๆ :3123:

ปล.เราชอบความบัดสีของไฟที่สุด

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
เป็นการอ่านทุกตัวอักษรทุกบรรทัดแบบตาไม่กระพริบเลยค่ะ
ขอสารภาพตามตรงว่าเราลุ้นมากก ลุ้นไปกับไฟสุดๆเลยทีเดียว

รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจขึ้นมายังไงก็ไม่รู้นะคะ
ถึงสมุทรจะคาดเดาได้ยาก ไม่รู้ว่าคิดอะไร
แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ตอบได้ในหลายๆคำถาม
และไฟขา...ไม่น่าจะนกอีกต่อไป ฮ่าาาา
มีแรงใจในการเชียร์ให้ไฟขาได้กินหรือถูกกินก็ได้
เรายินดีไปหมดเลยค่ะ คืออะไรก็ได้  ณ ตอนนี้ 555

และที่แปลก อ่านตอนนี้จบ เรารู้สึกว่าสมุทรน่ารักมากๆ
อยู่ๆก็รู้สึกเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเพราะอะไรไฟถึงชอบ ถึงหลงใหล
เหมือนเป็นคนที่ระวังตัวไว้ก่อน หากขอจะปฏิเสธแน่นอน
เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้ทำแล้วสุดท้ายตัวเขาเองก็จะยินยอม?
สมุทรไม่เริ่มอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าไม่ปล่อยให้ไฟเริ่ม ทุกอย่างก็สงบ
แต่หากถ้าไฟเริ่ม ขัดได้ต้องขัด เพราะท้ายที่สุด ถ้าขัดไม่ได้ ก็ต้องยอม
ที่ขัดนี่แรกๆขัดไฟนะ หลังๆต้องขัดตัวเอง แต่สุดท้ายคงทำไม่ได้
เพราะว่าใจเอนเอียงไปแล้ว ใช่มั้ยล่ะ ฮ่าาา

ปล่อยเราเดาไปค่ะเบบี้ อ่านตอนนี้แล้วมีความสุข
ใจเรารักไฟอยู่แล้ว มาตอนนี้นี่แหละที่รู้สึกว่าชอบสมุทร
การเฝ้าสงสัยและคาดเดาว่าสมุทรคิดอะไรอยู่
มันก็เป็นบ่วงแรกที่ดึงสายตาเราให้ติดอยู่กับเขา
เฝ้ามองและสังเกต จากนั้นก็จะตกหลุมรักไม่รู้ตัว
เรารู้สึกว่าเรากำลังเป็นแบบไฟ แบบที่ไฟกำลังรู้สึกกับสมุทร

ขอบคุณเบบี้มากๆนะคะสำหรับนิยาย
และขอบคุณมากๆอีกทีสำหรับตอนนี้







ออฟไลน์ Aimiya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
รู้สึกยินดีกับไฟ 555555555+
สมุทรหนูห้ามไม่สุดนะลูกกกกกกก เจอบรรยากาศเข้าไปอีก ไฟเลยยิ่งเอาใหญ่เลยยย โอ๊ย เขินนนนนนนนนน

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อาาาาาาาา มันดีต่อใจเหลือเกินคุณเบบี้ขาาาา ฟินมากกกก   :-[ :-[  นี่ขนาดแค่ขั้นเบเบระดับมัธยมต้น ยังไม่ขึ้นสเตปแอดวานซ์เลย แต่ที่ทำเอาเราต้องอ่านไปกำมือแน่นไป คือลุ้นตามค่ะ กลัวสมุทรจะทำคุณไฟเธอจะนกกลางคัน  :laugh: :laugh: 

ฟินหนักเข้าไปอีก ตอนอ่านเจอบรรทัดสุดท้ายที่คุณไฟเสี่ยงตาย (อีกรอบ) ไปกุมมือแล้วสมุทรนิ่งไม่ชักออก ตายยยๆๆๆ  ไม่มีใจไม่ควรอ่อยให้ความหวังเยี่ยงนี้นะคะสมุทรรรรร งือออออออ //  นาทีทองของคุณไฟสวรรค์เกือบจะล่มเพราะสังขารไม่อำนวย ถถถถถถ  เอ็นดูพ่อคู้ณณณณ เอาจริง นาทีนั้นต่อให้แผลฉีกเลือดออกปุดๆ อิไฟของเราคงไม่มีทางยอมหยุดแน่นอน เรามั่นใจ 5555

อิกริดมาละ สโลว์ไลฟ์ได้ไม่กี่ตอน เดี๋ยวต้องลุยต่ออีกละ แต่กลับไปลุยรอบนี้แม้ร่างกายไม่เต็มร้อยแต่บอกเลย ใจคุณไฟมันคงฮึกเหิมมาก ฟินขนาดนี้  :man1: :man1:

ชอบเวลาสมุทรให้เกียรติไฟอ่ะ จะนอนก็ให้ไฟนอนก่อน จะขึ้นนอนก็ต้องขออนุญาต แต่เอ๊ะ! ทำไมตอนดึงคอไฟไปจูบไม่เห็นขออนุญาตก่อนเลยอ่ะ .... อ่อๆๆๆๆ เขาขอกันทางสายตาแล้ว ใช่มะๆๆๆๆ จูบกันไปสบตากันไป (ข้างล่างก็เบียดกันไป) แอร๊ยยยยยยย ฟินนนนนน  :o8:   ขอบคุณนะคะเบบี้   :กอด1:  หลับฝันดีละคืนนี้  :mew1:

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
รอตอนนี้มานานมาก สมหวังซะทีในที่สุดสมุทรก็โดนล่อลวงจนได้อิอิอิ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ทำเอาเลือดพุ่งกันเลยทีเดียว  คุณไฟยังคงมีจุดยืนที่ชัดเจนต่อความต้องการอันล้นปรี่ของตัวเองเสมอ   :m25:   แต่รู้สึกว่าสมุทรจะแอบร้ายนิด ๆ นะ เหมือนหลอกให้คุณไฟควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วเริ่มก่อน   :z1:  จนเกิดเรื่อง "บัดสี บัดเถ-ลิง" อย่างนี้


รอตอนต่อไปนะคะ  ปล.อยากให้ฝนตกหนัก ๆ อย่างนี้ทุกวันเลย  ชอบ  :laugh:


 :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pigment

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :m25: บรรยากาศเป็นใจ ชอบความสัมพันธ์แบบนี้
สมุทรนี่คือคนในฝันชัดๆ  หาคนแบบนี้ได้จากไหนนะ  น้ำนิ่งไหลลึกที่แท้จริง
ไฟสู้นะคะ 5555555555555555555555555 ตะล่อมไปเดี๋ยวก็เคลิ้มเอง

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew3:ลุ้นคู่นี้มากๆ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
โอ๊ยตายแล้ววววถือว่ามีความก้าวหน้าไปอีกขั้นละนะคุณไฟ5555


ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
รุกคืบไม่ใช่ มากกว่าคืบ ไฟอย่ารีบร้อน "....นะครับ"  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไฟรุกมากๆ อย่าให้พลาดโดนสมุทรเสียบขึ้นมาจะฮาให้ 55555

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
เป็นฉาก บัดสีบัดเถ-ลิง ที่ลุ่นมาก ๆ
ลุ้นว่าจะสำเร็จไหม  :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อุ๊ตะ อุ๊ต้า   :hao6: ขอบคุณฟ้างามๆ

ออฟไลน์ Maewjunsu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ขุ่นแม่ขาาาาาาาในที่สุดดดดเค้าก็ก้าวหน้ากันแล้ววววว :mc4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ในที่สุดก็......

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ตอนนี้พีคสุด สมุทรน่ารักมาก คุณไฟนี่ไม่เคยยั้งใจตัวเอง หื่นแตกตลอด แต่ตอนนี้ดีมากสมุทรไม่ขัดขืนเลย :katai4: ขอแบบนี้อีกค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด