❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณทีมใคร????

ทีมปิญญ์ # หล่อเลวแบบนี้ใช่เลย จัดหนักจัดเต็ม
26 (15.3%)
ทีมขนมผิง # แกมาทำร้ายชั้นเรอะ ไม่ยอม ฉันจะเอาคืน
38 (22.4%)
ทีมแฝดลูกหมู # ปล่อยให้พ่อๆไปเคลียกันเอง มุ้งมิ้งกันสองคน
106 (62.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 170

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖  (อ่าน 291119 ครั้ง)

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
โอ้ย ใจคอขุ่นพระเอกทำด้วยอะไรคร้าาาเนี่ย
แล้วลูกในท้องจะเป็นยังงายยยยย :ling1:
ใจร้ายมาก มาต่อด่วน อยากให้ผิงกลับมาแก้แค้นไวไว


ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ทำไมลูกผิง เรียกผิงว่า ป๊าละ น่าจะเรียกม๊า หรือแม่ น่ารักกวีาอีกนะ เรียกป๊าแล้วมันยังไงไม่รู้อะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คุณเลขาแอบชอบผิงเหรอ? เรามาดันให้คุณเลขาเป็นพระเอกกันเถอะ อิอิ :mew3:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ความเข้มแข็งจงอยู่คู่กับขนมผิง~ :call:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เอาคืนให้หนักเลยนะ  :katai4:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
เด็กๆมาแล้ว
เอาคืนพระเอกให้หนักเลยนะ

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ติดตามจ้าาาาา ชอบผิงที่ไม่อ่อนแอ แอบตกใจชื่อน้องสลิ่มกะปลากริม5555 ป้าอยากกินน

คนแต่งจ๋า ไม่รู้เราอ่านไม่ครบรึเปล่า แต่อังกฤษไม่ได้อยู่ในทวีปอเมริกาเนาะ

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
ขนมผิงอย่าไปยอมเขา
เอาให้หนัก
 :z13:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ขุ่นพ่อน้องแฝดเลวมาก เห็นแก่ตัวสุดๆ  :katai1:
ผิงจัดหนักเลย!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PingPong_Hunlay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องแฝดน่ารักมากกกกก :-[
ผิงจัดการให้ราบคาบเลยนะ  :angry2:

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
อ้างจาก: me12inzy link=topic :mew1:=49093.msg3206175#msg3206175 date=1445091489
ติดตามจ้าาาาา ชอบผิงที่ไม่อ่อนแอ แอบตกใจชื่อน้องสลิ่มกะปลากริม5555 ป้าอยากกินน

คนแต่งจ๋า ไม่รู้เราอ่านไม่ครบรึเปล่า แต่อังกฤษไม่ได้อยู่ในทวีปอเมริกาเนาะ

โอ้ ขอบคุณมากเลยจ้า
สงสัยจะรีบเกินไปทำให้ใส่ผิด เดี๋ยวยังไงจะรีบแก้ให้จ้า

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
5 ก้าวแรกของการเอาคืน

              ในเช้าวันรุ่งขึ้น สำหรับขนมผิงแล้ววันนี้เป็นเหมือนกับก้าวแรกที่จะนำพาเขาไปสู่เป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะก้าวขึ้นไปยังที่สูงจากจุดที่ต่ำสุด ตาคู่สวยมองตัวเองในชุดสูทเข้ารูปผ่านกระจกเงาพลางยิ้มให้กับความคิด ตอนนี้เขากำลังจะก้าวเข้าไปรับตำแหน่งรองประธานของมณีรัตน์กรุ๊ป

              “ไปกันได้แล้วครับเด็กๆ เดี๋ยวคุณตาจะรอนานนะครับ”ขนมผิงเรียกเด็กแฝดที่กำลังนั่งเล่นกันเจี๊ยวจ๊าวแต่เช้ากับคุณยาย

              “ฮ๊าบบบบบ/ฮ๊าบบบบบ”พากันขานรับอย่างอารมณ์ดีให้คนเป็นยายเสียดายที่ถูกหลานๆทิ้งทันทีที่ถูกขนมผิงเรียก

 

              ------------------------------------------------------------

 

              “ตามที่ทุกคนพึ่งจะทราบกันดีว่าผมมีลูกชายแล้ว ซึ่งตอนนี้ลูกชายของผมก็พึ่งจะเรียนจบมา ผมอยากให้ทุกคนรู้จักกับเขาเอาไว้ในฐานะคนที่จะมาแทนผมคนนี้ เอาเป็นผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับขนมผิงลูกชายของผมเลยก็แล้วกัน”ผู้เป็นพ่อกล่าวในห้องประชุมให้พนักงานระดับสูงในห้องประชุมพากันปรบมือต้อนรับ

              ขนมผิงยืนขึ้นก่อนจะค้อมตัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย

              “ชื่อจะน่ากินไปหน่อยยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะ”พิศณุกล่าวติดตลกอย่างเป็นกันเองเรียกเสียงหัวเราะ

              “สวัสดีครับอย่างที่พ่อของผมได้แนะนำไป จะเรียกผมสั้นๆว่าผิงก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะเข้ามาเรียนรู้งานจากทุกๆคน ยังไงผมก็ต้องฝากตัวและขอคำแนะนำจากทุกๆคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”

              ขนมผิงรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นรัวรัวอยู่ภายในอก เขากำลังกระหายกับผลตอบรับที่จะตามมา ใบหน้านิ่งสงบยิ้มรับกับเสียงปรบมือของทุกคนในห้องประชุม

              “หลายคนอาจจะสงสัยว่าเด็กน่ารักน่ากอดสองคนนี้เป็นใคร วันนี้ผมตั้งใจเอามาอวดกับพวกคุณโดยเฉพาะเชียวล่ะ คนแรกคนผิวสีเข้มๆหน่อยชื่อปลากริม ส่วนอีกคนชื่อสลิ่ม ชื่ออาจจะน่ากินเหมือนกับพ่อของเขา แต่อย่าพึ่งวางใจกันล่ะเพราะความแสบนี่ไม่ได้หวานตามชื่อเลย ก็ขอฝากทุกคนดูแลหลานๆของผมด้วยก็แล้วกันนะ”พิศณุยังคงกล่าวติดตลกอย่างเป็นกันเอง

              แม้สายตาหลายคู่ที่มองมาจะเต็มไปด้วยความสงสัยและมึนงงกับลูกชายและหลานที่โตขนาดนี้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะยิ้มรับอย่างผ่อนคลายกับบรรยากาศที่รายล้อม มันคงจะเป็นเรื่องที่ปุบปับเกินไปกับการมีตัวตนของขนมผิงในครั้งนี้

              “เป็นแฝดเหรอครับ”ใครบางคนก็ยกมือขึ้นถาม

              “เป็นแฝดครับ”ขนมผิงตอบพลางยิ้ม

              “ทำไมสีผิวต่างกันจังเลยคะ”

              “อันนี้ผมก็สงสัยเหมือนกันนะครับ”

              “แล้วคุณแม่ของเด็กๆล่ะค่ะ”เป็นคำถามที่ทำให้ขนมผิงหันกลับไปมองหน้าผู้เป็นบิดา…เขายังไม่อยากให้ใครรู้ความจริงของเขา

              “เอาเป็นว่าอย่าไปสนใจเรื่องแม่เด็กเลยนะ รู้แค่ว่าหลานของผมก็พอ ยังไงก็เตรียมตัวรับมือกันให้ดีๆล่ะ รับรองว่าแสบจนลืมไม่ลงเลยล่ะ”พิศณุพูดเบี่ยงประเด็นให้ขนมผิงพรูลมหายใจออกมาเบาเบา

 

              ------------------------------------------------------

 

              “เล่มนี้ข้อมูลเปรียบเทียบของเรากับผู้ประกอบการรายอื่นนะครับ”เอกสารแฟ้มใหญ่ถูกวางบนโต๊ะด้วยมือของแทนทัพผู้ที่จะมารับงานต่อจากสุพจน์ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวพ่อของขนมผิง

              แทนทัพจะเป็นคนเรียนรู้งานมาจากพ่อของตนเองก่อนจะนำมาถ่ายทอดให้กับขนมผิงอีกทีเพื่อเป็นการคัดกรอง

              “แล้วข้อมูลที่ผมอยากได้ล่ะ”

              ขนมผิงถามหาข้อมูลที่เขาเจาะจงให้แทนทัพหาให้ซึ่งเป็นข้อมูลที่เปรียบเทียบระหว่างมณีรัตน์กับอนันตไพลิน

              “อยู่ในแฟ้มแล้วครับ”

              “ขอบคุณ ผมขอดูเอกสารพวกนี้สักพักก็แล้วกัน"บอกเป็นเชิงขอเวลาส่วนตัว

               “ถ้ามีอะไรเรียกผมนะครับ ผมอยู่ด้านนอกตลอด”แทนทัพบอกก่อนจะเดินออกไป

              เหลือแค่ขนมผิงในห้องประจำตำแหน่งที่ครึ่งหนึ่งถูกเนรมิตให้เป็นสวนสนุกขนาดย่อม

              ตาคู่สวยจ้องมองกราฟแท่งเปรียบเทียบราคาของหุ้น ประกอบกับตัวเลขที่บอกผลประกอบการอย่างเป็นทางการของมณีรัตน์กรุ๊ปกับอนันตไพลิน ซึ่งผลที่แสดงอยู่ตรงหน้าก็บ่งบอกถึงความไฟแรงของผู้บริหารหนุ่มอย่างปิญญ์ชานนท์ได้เป็นอย่างดี

              แต่อีกไม่นานหรอก เขาคนนี้จะเป็นคนโค่นอีกฝ่ายและจะก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดเดียวกัน และสักวันเขาจะต้องทำให้อนันตไพลินอยู่ในจุดต่ำกว่าที่ที่เขายืนให้ได้

              ขนมผิงหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดปลายสายต่อไปยังเบอร์ต่างประเทศ เขากำลังต่อปลายสายไปยังเพื่อสนิท

              “สวัสดีเดล นี่ฉันเอง ผิง”กล่าวทักทายเป็นภาษาสากล

              ‘ไงผิงผิง ไม่ได้คุยกันนานนายสบายดีไหม’อีกฝ่ายทักกลับมาเป็นภาษาเดียวกัน

              “อืม สบายดี แล้วนายล่ะ”

              ‘เช่นกัน ว่าแต่โทรมามีอะไรเหรอ หรือว่านายอยู่ลอนดอน’

              “เปล่าหรอก ฉันแค่อยากจะถามนายว่านายจำเรื่องที่เราเคยคุยกันก่อนหน้านี้ได้ไหม เกี่ยวกับธุรกิจของนาย”ถามลองเชิงออกไป

              ‘อ้อ!!จำได้สิ นี่นายได้ขึ้นเป็นซีอีโอแล้วเหรอ ดีใจด้วยนะ’

              “ขอบคุณ แล้วโปรเจคที่นายพูดถึงเกี่ยวกับคอลเลคชั่นหน้าร้อนล่ะเริ่มหรือยัง”ขนมผิงถามถึงคอลเลคชั่นหน้าร้อนที่เพื่อนของเขากำลังจะลงทุน

              ‘กำลังจะเริ่มทำอยู่พอดีเลยล่ะ ฉันลองถามดีไซน์เนอร์แล้วนะ เขาบอกว่าเขากำลังสนใจสินค้าที่มาจากเอเชียอยู่เลยล่ะ เพราะงานค่อนข้างจะละเอียดและดูมีคุณค่า เขาบอกว่าอยากจะลองเทสดูกับคอลเลคชั่นนี้ หากออกมาเวิร์คเขาก็จะใช้สินค้าของนายในแบรนด์ของเขาตลอดเลยล่ะ’

              “งั้นเหรอ ฉันดีใจที่นะที่ได้ยินนายบอกแบบนี้ ขอบใจนายมากนะเดล”บอกออกไปด้วยความดีใจ

              ‘ไม่เป็นไร แล้วกู๊ดบอยของฉันล่ะ สบายดีไหม’เดลถามถึงเด็กๆเพราะค่อนข้างจะรู้จักกับเด็กๆเป็นอย่างดี

              “สบายดีจนฉันแทบจะปวดหัวเลยล่ะ แต่ตอนนี้หลับไปแล้ว”ขนมผิงตอบ

              เขาคุยกับเพื่อนสนิทอยู่พักใหญ่ก่อนจะวางสาย ริมฝีปากสวยยกยิ้มให้กับบันไดก้าวแรกที่กำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง เขาชักจะรอวันที่ได้เห็นสีหน้าหมดหวังของคนคนนั้นไม่ไหวซะแล้ว

 

              ---------------------------------------------------------------

 

              ในขณะที่คู่ควงของปิญญ์ชานนท์กำลังเลือกซื้อของอย่างสบายอารมณ์ ชายหนุ่มปลีกตัวออกมาเพราะความเบื่อหน่ายในความจุกจิกของหญิงสาวเจ้าที่ถูกผู้ใหญ่ที่รู้จักกับพ่อของตนเองแนะนำมาอีกที

              การที่ต้องสละเวลาที่มีค่ากับเรื่องไร้สาระกับเรื่องเช่นนี้ยิ่งทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจ จึงได้แยกตัวออกมาในตอนที่อีกฝ่ายเผลอ

              เขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงโซนของเล่นเด็กทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมาทำไม แต่พอเห็นของเล่นเด็กพวกนี้วูบหนึ่งก็ทำให้เขานึกถึงเด็กแฝดที่เจอในงานเลี้ยงขึ้นมาทันที ความถูกชะตาที่เขาเฝ้าย้ำว่าเป็นการคิดไปเองทำให้เขาส่ายหน้า แต่พลันราวกับโชคชะตาเล่นตลกเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเด็กแฝดที่เขากำลังคิดถึง แต่ครั้งนี้เด็กแฝดที่ว่ากลับมีเพียงคนเดียว

              เขาเฝ้ามองร่างอ้วนท้วนของเด็กน้อยพยายามกระโดดเพื่อที่จะหยิบกล่องหุ่นยนต์บนชั้นวาง เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อร่างป้อมๆนั้นยิ่งพยายามเท่าไรก็ทำไม่ได้สักที

              “อยากได้อันนี้ใช่ไหม”ส่วนลึกที่อยู่ในจิตใจสั่งให้ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้กับเด็กน้อยแล้วถามออกไป

              “คุณยุงงงงงง”

              เขาไม่ได้หวังจะให้เด็กคนนี้จำเขาได้ ก้อนเนื้อที่อยู่ในอกมันรู้สึกวูบวาบขึ้นมาแปลกๆจนเขาเองก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้เลย

              “ว่าไงล่ะ เธออยากได้ใช่ไหม”

              “ฮับ”ปลากริมพยักหน้าเร็วรัวให้กับคำถาม

              “แล้วคนน้องล่ะ”ถามพลางยื่นกล่องหุ่นยนต์ให้

              “อยู่กับปะป๊าฮับ”เจ้าตัวรับไปกอดแนบอกแล้วยิ้มจนตาหยี

              “แล้วปะป๊าของเธออยู่ไหนล่ะ”

              ถามพลางมองดูเจ้าตัวส่ายหน้ามึนงงแล้วหันซ้ายหันขวา ดูท่าเจ้าตัวดีคงจะหลงทางกับพ่อของตัวเองมาสินะ

              “ปะป๊าหาย”คราวนี้เจ้าตัวเริ่มเบ้ปากเมื่อมองหาใครไม่เจอ

              “ปะป๊าเธอไม่หายไปไหนหรอก เดี๋ยวก็คงจะมาเอง”ปิญญ์ชานนท์พูดปลอบออกไปไม่รู้ตัว

              “จริงเหรอฮับ”คราวนี้ตาคู่กลมโตใสแจ๋วราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้ทำท่าจะร้องไห้

               “อืม”

               “นี่ คุงยุงฮับ”

              “มีอะไร”ถามเมื่อมือป้อมกระตุกมือของเขาเบาๆ

              “คือว่า…เอาอีกอันได้ไหมฮับ”

              “จะเอาไปทำอะไรตั้งสองตัว”

              “เอาให้น้องหลิ่มฮับ แบ่งกันคนละตัว มีเหมือนกันได้รักกัน”เสียงใสตอบพลางยิ้มกว้างโชว์เหงือกสีสด

              ปิญญ์ชานนท์เหลือบไปดูบนชั้นวางเพื่อที่จะหยิบเพิ่มอีกตัวแต่ก็ไม่มีหุ่นยนต์ตัวที่เหมือนกันเหลืออยู่แล้วเขาจึงส่ายหน้าตอบเด็กชายเบาๆ

              “มันเหลืออยู่แค่ตัวเดียว”

              คำตอบของเขาทำเอาเจ้าตัวหน้ากลมมุ่ยหน้าก่อนจะส่งหุ่นยนต์คืนให้

              “งั้นไม่เอาแล้วฮับ ถ้าน้องหลิ่มไม่ได้ กิมก็ไม่เอา”

              “’ถ้าอย่างนั้นเธอจะลองเลือกตัวอื่นดูไหมล่ะ ฉันจะซื้อให้”

              “จริงเหรอฮับ”ตาคู่กลมลุกวาว

              “อืม”

              “ขอบคุงฮับคุงยุง”ปลากริมยกมือไหว้แล้วก้มตัวเก้าสิบองศา

นั่นให้ชายหนุ่มอย่างปิญญ์ชานนท์ชะงักเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดที่จะต้องการได้คำขอบคุณอะไรจากเด็กคนนี้สักนิด

              เขาไม่เคยทำอะไรเพียงเพื่อที่จะได้รับแค่คำขอบคุณ ตลอดเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เขาทำคือการหวังผลตอบแทน

              “งั้นเลือกเอาก็แล้วกันว่าจะเอาตัวไหน”

              มันก็ไม่เลวนักกับการใช้เวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์เพื่อทำอะไรที่ไม่เคยทำ ทำในสิ่งที่ไม่ได้อะไรเลยนอกจากคำขอบคุณจากเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน

 

              ------------------------------------------------

 

              ทางด้านของขนมผิงในฐานะผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ของมณีรัตน์ แน่นอนว่าย่อมเป็นที่จับตามองและน่าสนใจจากหลายๆฝ่าย

              ข่าวลือมากมายที่เกี่ยวกับตัวของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วอย่ารวดเร็ว หลายคนพยายามที่จะขุดค้นประวัติจนลุกลามไปถึงประวัติของลำดวนแม่ของเขา บางคนก็คาดเดาต่างๆนานาว่าแม่ของเด็กแฝดที่ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน บางข่าวลือก็บอกว่าแม่ของเด็กๆเสียชีวิตไปแล้ว หรือไม่ก็ถูกทิ้งให้เลี้ยงลูกคนเดียว

              แต่นั่นขนมผิงไม่ได้ใส่ใจกับข่าวลือพวกนั้นเลย กลับกันเขากลับพึงพอใจที่ข่าวลือพวกนั้นกำลังลบล้างตราบาปที่ติดตัวแม่ของเขามานาน  ยิ่งถูกขุดคุ้ยเท่าไรตรานั้นมันก็ยิ่งลบเลือนไปมากเท่านั้น

              ตราบใดที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนอุ้มท้องเด็กๆเขาก็จะไม่สนใจว่าใครกำลังพยายามขุดคุ้ยเรื่องพวกนั้น

              “ปลากริมอย่าไปไกลนะครับ อยู่ใกล้ๆปะป๊าไว้”ขนมผิงว่าพลางเลือกซื้อผลไม้ระหว่างทางกลับบ้านตามที่แม่ของเขาได้สั่งเอาไว้

              เจ้าตัวเล็กคนพี่เดินตามพลางเกาะชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ตาก็มองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น และถึงแม้เด็กแฝดจะเกิดมาพร้อมๆกันแต่อุปนิสัยบางอย่างมันก็ค่อนข้างจะต่างกัน

              คนพี่ชอบที่จะเดินเองมากกว่าเพื่อที่จะมองไปรอบๆ แต่คนน้องชอบที่จะนั่งบนรถเข็นหรือให้อุ้มเพราะมักจะรักสบายและให้คนอื่นเอาใจ

              โชคดีที่เด็กๆค่อนข้างจะสงบเพราะเขาตกลงที่จะซื้อของเล่นใหม่ให้ถ้าเด็กๆไม่ดื้อหลังจากที่พึ่งจะผ่านล็อคของเล่นมาได้อย่างทุลักทุเล

              ในขณะที่ขนมผิงกำลังเลือกผลไม้อยู่นั่งเอง สายตาก็เหลือบไปเห็นว่าตอนนี้ข้างๆตนเองไม่มีเจ้าตัวเล็กอยู่แล้ว พลันหัวใจก็ราวกับตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

               “สลิ่มครับ!! ปลากริมไปไหน สลิ่มเห็นบ้างไหมครับ”ความตกใจทำให้ถามลูกชายคนเล็กออกไปด้วยความกระตือรือร้น

              “หลิ่มไม่เห็นฮับ ไม่รู้พี่กิมไปหนาย”สลิ่มส่ายหัว คำตอบขอลูกชายคนเล็กยิ่งทำให้ร้อนรน

 

              ขนมผิงเข็นรถเข็นเดินตามหาลูกชายคนโตจนทั่วอย่างกระวนกรวายใจ ความคิดบางอย่างแวบขึ้นมาเมื่อก่อนหน้านั้นเขากับเด็กๆผ่านล็อคของเล่นที่อยู่ไม่ไกลจากแผนกของสดเท่าไร บางทีปลากริมอาจจะเดินย้อนไปที่นั่น

              ในเวลานี้เขารู้สึกแทบบ้าเลยทีเดียว ร่างสูงโปร่งวกรถเข้าไปในล็อคขายของเล่นอย่างรีบร้อน แต่แล้วสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจของแทบแหลกสลาย

              ความเป็นแม่ทำให้เขาปรี่เข้าหาทันทีเมื่อเห็นลูกชายอยู่กับผู้ชายที่เขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

              “คุณปิญญ์!!”ขนมผิงเรียกชื่อของอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ

              และดูเหมือนปิญญ์ชานนท์เองก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อมองเห็นเด็กแฝดคนน้องอีกคนอยู่ในรถเข็นของขนมผิง

              ตอนนี้ความคิดของขนมผิงราวกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราด ตาคู่สวยจ้องมองพ่อที่แท้จริงของลูกกำลังจับแขนลูกชายคนโตเอาไว้ เขาแทบอยากจะเข้าไปทุบตีอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะเอาลูกไปจากตน

              “ปะป๊า”ปลากริมเรียกด้วยความดีใจ แต่นั่นก็ทำให้ปิญญ์ชานนท์เลิกคิ้วมองขนมผิงด้วยความประหลาดใจทันที

               “คุงยุง”สลิ่มเรียกปิญญ์ชานนท์ราวกับว่าคุ้นเคย

              มันหมายความว่ายังไงกันแน่!! กับท่าทีของเด็กๆที่มีต่อปิญญ์ชานนท์

              “คืนปลากริมมาให้ผม!!”

              “แล้วทำไมฉันต้องส่งเด็กนี่ให้นายล่ะ เด็กนี่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนายกัน”อีกฝ่ายตอบกลับมา

              รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าคมคายนั้นทำให้ขนมผิงแทบคลั่ง เขาหวงลูกจนอยากจะตรงเข้าไปกระชากดึงเอาลูกแย่งกลับคืนมาจากอีกฝ่าย ทว่าเขาไม่ต้องการให้ลูกๆของเขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

              “ส่งเขาคืนให้ผมด้วยครับ”

              “ปะป๊า คุณยุงจะชื้อของเล่นให้กิมด้วย”ปลากริมเรียกซ้ำ แล้วกระชับมือที่ถูกมือใหญ่จับเอาไว้แน่น

              คำแทนตัวที่ปลากริมใช้เรียกขนมผิงนั้นทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหยียดหยามทันที

              “ไม่คิดจะแนะนำให้ฉันรู้จักสักหน่อยเหรอ”

              “หวัดดีฮับคุณยุง”สลิ่มยกมือไหว้ยิ่งทำให้ขนมผิงแน่ใจได้ทันทีว่าเด็กๆเคยเจอกับปิญญ์ชานนท์มาก่อน

              “ไม่จำเป็น แค่คุณคืนปลากริมมาให้ผมก็พอ”

              บอกก่อนจะตรงเข้าหาลูกชายคนโตเพื่อที่จะแย่งกลับคืนมา ทว่าร่างสูงก็เบี่ยงตัวมาบังเอาไว้ไม่ให้เขาเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้ ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งวางลงบั้นเอวของขนมผิงด้วยการอาศัยจังหวะที่เผลอ

               “คุณจะทำอะไร!!”ปัดมือนั้นออกแทบจะทันที

              “เด็กๆเป็นลูกนายอย่างนั้นเหรอ ไม่ยักรู้ว่านายมีลูกแล้วโตขนาดนี้แล้ว”ว่าก่อนจะมองมาที่ขนมผิงหัวจรดเท้า

              ใบหน้าคมคายห่างจากใบหน้าเกลี้ยงเกลาเพียงแค่คืบ ลมหายใจที่เป่ารดลงมานั่นสร้างความอึดอัดและความกลัวให้กับขนมผิงได้เป็นอย่างดี

              “นั่นมันเป็นเรื่องของผม คืนลูกของผมมาเดี๋ยวนี้!!”มันแทบจะทนไม่ไหวแล้วที่เขาจะพูดดีกับอีกฝ่ายต่อหน้าเด็กๆ

              “ฉันชักอยากรู้แล้วสิว่าใครกันที่เป็นแม่ของเด็กๆ”

              “ผม บอก ให้ คืน ลูก ผม มา”กดเสียงต่ำเน้นออกไป

              “ขอร้องฉันสิ แล้วฉันจะคืนเด็กๆให้…..แต่ก่อนอื่น”พูดเว้นเอาไว้ให้ขนมผิงต้องถามกลับ เขาไม่อยากที่จะให้เด็กๆอยู่ใกล้กับอีกฝ่ายนานไปกว่านี้ “บอกฉันมาก่อนสิ ว่าใครเป็นแม่ของเด็ก”

              “จะเป็นใครก็ไม่สำคัญในเมื่อเธอไม่อยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นที่จะต้องไปใส่ใจ”

              “จะไม่สนใจได้ยังไงในเมื่อนายเองก็เคยบอกว่านายท้องกับฉัน แล้วสามปีให้หลังนายกลับโผล่มาพร้อมกับเด็กๆ นายจะให้ฉันคิดยังไงดีล่ะขนมผิง ดูท่าทางเด็กสองคนนี้ก็คลับคล้ายคลับคลากับฉันอยู่นะ หรือว่าไม่จริง?”

              “ปลากริมกับสลิ่มไม่ใช่ลูกของคุณ!! เด็กสองคนนี้ไม่มีวันจะเป็นลูกของคุณ!! คุณไม่เชื่อนี่ว่าผมท้อง ใช่แล้ว!! สามปีที่ผ่านมาผมโกหกคุณพอใจรึยัง เพราะฉะนั้นคืนลูกมาให้ผมได้แล้ว!!”

              พูดออกไปด้วยความโมโห ใจของเขาร้อนรนด้วยกลัวว่าถ้าหากอีกฝ่ายรู้แล้วจะมาแย่งลูกเอาไป ร่างสูงโปร่งพยายามจะเบี่ยงตัวเพื่อแย่งตัวลูกชายคนโตคืน แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไรอีกฝ่ายก็ยิ่งใช้ตัวเป็นโล่กำบังซ่อนลูกชายของเขาเอาไว้ด้านหลัง

              “นายนี่มันไร้ค่าไม่เปลี่ยนจริงๆ นายจะให้ฉันคืนเด็กให้นายทั้งที่นายปล่อยให้เด็กเดินหลงมาคนเดียวเนี่ยนะ ยังมีหน้าจะมาขอเด็กนี่คืนอีกรึไง”

              “แล้วมันยังไงล่ะ ยังไงเขาก็เป็นลูกของผม คุณไม่มีสิทธิจะมายุ่งกับเขา คุณไม่มีสิทธิแม้แต่จะแตะต้องเขาด้วยซ้ำ”

              ขนมผิงพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น มือทั้งสองข้างกำลังสั่นเทาอย่างไม่อาจจะควบคุม ความหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายกำลังจะแย่งลูกไปทำให้คิดอะไรไม่ออก

              “ได้โปรด คืนลูกมาให้ผม ”

              ขนมผิงยอมข้อร้องทั้งที่ไม่ต้องการจะให้มันเป็นอย่างนั้น เขาต้องการที่จะปกป้องเด็กๆจากน้ำมือของพ่อที่แท้จริง มันเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสำหรับเขาตอนนี้

              “หึ! ไม่คิดว่านายจะเป็นถึงขนาดนี้นะขนมผิง ยังไงซะความไร้ค่าของนายมันก็ไม่ได้หายไปเหมือนกับที่นายหายไปสามปีสินะ”

               “คุณยังต้องการอะไรอีกในเมื่อผมขอร้องคุณไปแล้ว อีกอย่างหากคุณยังมีจิตสำนึกพอ อย่าได้พูดเรื่องพรรค์นี้ต่อหน้าเด็กๆ”

              “แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่นายขอล่ะ มันน่าน้อยใจออกไม่ใช่รึไงที่เมียตัวเองดันหนีหายไปสามปีแล้วไปมีชู้จนลูกโตขนาดนี้”

              ผลั่ก!!

              หมดสิ้นกับความอดทนที่มีอยู่ ขนมผิงผลักอกอีกฝ่ายจนเซถอยหลังไปครึ่งก้าว แล้วเค้นเสียงบอกออกไปราวกับงูที่กำลังหวงไข่

              “อย่าได้มาพูดเรื่องนี้กับผมอีก”แต่ก่อนทีเรื่องจะเริ่มยุ่งไปมากกว่านี้เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวก็ดังขึ้นแทรกสถานการณ์

              “อะไรกัน!! มีอะไรกันรึเปล่าคะ”

              “ไม่มีอะไรหรอก คนรู้จักน่ะ…รู้จักเป็นอย่างดีเลยล่ะ”ริมฝีปากได้รูปเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้ขนมผิงได้ดึงปลากริมกลับไป

              ขนมผิงปรายตามองอีกฝ่ายด้วยความแค้นเคือง ใครกันแน่ที่สมควรจะถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำดูถูกในเมื่ออีกฝ่ายนั้นกำลังกำลังควงแขนอยู่กับผู้หญิง

              เขาอุ้มปลากริมใส่รถเข็นให้อยู่กับสลิ่มก่อนจะเข็นรถกลับไป เขาไม่แม้จะหันกลับมามองว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งมองตามตนเองด้วยแววตาที่แตกต่างออกไปจนลับสายตา

 

              ---------------------------------------------------------

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 07:00:52 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ผิงเป็นนานเอกที่เข้มแข็งมาก ชอบๆ o13

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ก่อนที่จะว่าคนอื่นก็ย้อนดูตัวเองเสียมั่งนะคะคุณพระเอก

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากรู้จังตอนผิงขึ้นเป็นผู้บริหารข้างศัตรูนี่ปิญญ์จะอกแตกตายไหม เชียร์ผิงเต็มที่เลยอ่ะ

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
มารอดูว่าปิญญ์จะเปนไงถ้ารู้ว่าผิงแท้จริงแล้วคือใคร
อยากให้อกแตกตายไปเลย

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
รอดูขุ่นพระเอกอกแตกตาย
เลวยังไงก็ยังงั้นเลย คิดว่าเงินเปนทุกสิ่งเหรอ แหม เด๋วให้ผิงจัดหนักให้เปนบ้าไปเลย
เด็กๆก็น่าร๊ากกก

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ล้มเขาให้ได้นะผิง

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
คนพ่อนี่ปากแข็ง แต่ใจก็ตามหา
ผิงเล่นตัวเยอะๆ แก้แค้นกลับบ้างเลย เอาให้รู้สึก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
6 ชะล่าใจ

              “เข้ามาได้”

              เสียงทุ้มลึกไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดใดของเจ้าของบอกอนุญาตเลขาคนสนิท

              “มีอะไรคืบหน้าบ้างไหมเกี่ยวกับข้อมูลของเด็กสองคนนั้น”

              “ครับ ตามที่ผมลองค้นข้อมูลดูคร่าวๆ ดูเหมือนว่าในระบบข้อมูลที่เราสามารถเข้าถึงได้ในตอนนี้จะไม่มีข้อมูลระบุเอาไว้เลยว่าใครเป็นแม่ของเด็กแฝดทั้งสองคน และอีกอย่างผมได้สืบทราบมาว่า เด็กทั้งสองคนได้รับสัญชาติอังกฤษ ทั้งที่มีเชื้อชาติเป็นคนไทย ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้นถึงแม้ว่าเด็กจะเกิดที่อังกฤษก็ตาม”

              “เป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อเด็กทั้งสองคนมีเป็นคนไทย ทำไมถึงได้รับสัญชาติอังกฤษได้”ถามพลางครุ่นคิด คนอย่างขนมผิงไม่มีปัญญาที่จะทำให้ลูกชายทั้งสองคนมีสัญชาติอังกฤษได้ง่ายๆแน่

              “ผมรู้มาแค่ว่าทางสถานทูตได้อนุมัติเป็นกรณีพิเศษแต่ข้อมูลไม่ได้ถูกระบุเอาไว้ว่าเป็นเพราะอะไร ดูเหมือนจะเป็นความลับของทางสถานทูตนะครับ แล้วอีกอย่าง…”

              “อีกอย่างอะไร”ปิญญ์ชานนท์เลยหน้าขึ้นมามองเลขาหนุ่ม

              “ดูเหมือนว่าข้อมูลหลายๆอย่างที่ก่อนหน้านี้พยายามตามหากำลังค่อยๆถูกเปิดเผยเหมือนกับมีคนจงใจจะทำให้มันเป็นอย่างนั้น แล้วผมได้ทราบมาอีกว่าเมื่อสามปีที่แล้วคุณขนมผิงได้เปลี่ยนนามสกุลจากวารีจินดาเป็นมณีรัตน์ แต่ด้วยเหตุผลอะไรตอนนี้ทางเรายังตามสืบกันอยู่ คาดว่าทางนั้นน่าจะเปิดเผยข้อมูลออกมาเรื่อยๆ”

              “ทำไมมันถึงได้ง่ายดายผิดปกติล่ะ”

              อะไรบางอย่างมันกำลังบอกถึงความไม่ชอบมาพากลที่ขนมผิงเปลี่ยนนามสกุลเป็นมณีรัตน์ แล้วที่บอกกับเขาว่าท้องก่อนที่จะหายตัวไปคืออะไรกัน กับกว่าสามปีที่อายุเทียบเท่ากับของเด็กๆ

              มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยรึไงที่ข้อมูลพวกนี้มันได้มาอย่างง่ายดายราวกับถูกจับมากองเอาไว้ตรงหน้า ยังไงซะเขาต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคนชั้นต่ำไร้ค่าถึงได้มีเกราะป้องกันตัวอย่างดีคอยโอบอุ้มเอาไว้ได้

              ปิญญ์ชานนท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหาน้องชายด้วยท่าทีนิ่งเฉย โชคดีที่น้องชายของเขาไม่ได้เข้าเวรเขาจึงมีโอกาสได้ถามอีกฝ่ายทันทีในตอนที่อีกฝ่ายกดรับสาย

              ‘ว่าไงครับพี่ปิญญ์  โทรมาหาผมมีอะไรเหรอครับ ปกติไม่เคยเห็นโทรมา’ฝ่ายนั้นกรอกเสียงลงมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกได้ชัดเจนว่ากำลังข้องใจ

              “ฉันมีเรื่องอยากจะถามอะไรนายสักหน่อย”

              ‘ถามอะไรเหรอครับ’

              “นายเคยบอกฉันว่าที่ขนมผิงหายไปน่ะ เขาไปเรียนต่อใช่ไหม”

              ‘ครับเห็นว่าไปเรียนต่อ ว่าแต่พี่ปิญญ์ถามทำไมครับ’

              “เปล่าหรอก ฉันแค่อยากจะรู้เฉยๆว่าขนมผิงไปเรียนต่อที่ประเทศอะไร”ปิญญ์ชานนท์ถามพลางนึกเคืองที่น้ำเสียงน้องชายดูเปลี่ยนไปทันทีที่พูดถึงขนมผิง

              ‘ตามที่ขนมผิงบอกผมก็ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษน่ะครับ พี่ปิญญ์มีอะไรรึเปล่า’

              “เปล่าหรอก ฉันแค่อยากรู้ ”ปิญญ์ชานนท์ตัดสายพลางยกยิ้มมุมปาก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น

              “มาลิศ ฉันมีอะไรอยากจะให้ทำเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่ง”ปิญญ์ชานนท์หยิบใบรับรองแพทย์ที่เคยรับมาจากขนมผิงออกมาจากลิ้นชัก

              “อะไรเหรอครับ”มาลิศเลขาหนุ่มถามด้วยสีหน้าฉงน

              “นายช่วยติดต่อนัดพบแพทย์คนนี้ให้ฉันหน่อยสิ”ปิญญ์ชานนท์เลื่อนกระดาษที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีให้กับเลขาหนุ่ม

              “นี่มัน”มาลิศเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อหยิบยกเอกสารแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านคร่าวๆเพื่อเก็บข้อมูล

              “ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลในนั้นเป็นของจริงรึเปล่า ฉันต้องการคุยกับแพทย์คนนั้นเป็นการส่วนตัว”ปิญญ์ชานนท์จ้องมองไปที่แผ่นกระดาษนิ่ง

              ไม่ว่าจะอย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาหลังจากที่ขนมผิงได้ปรากฏตัวขึ้น

              “ครับ ผมจะลองติดต่อแพทย์คนนี้ดู ถ้าได้เรื่องยังไงผมจะนัดพบให้คุณได้คุยกับเขาเป็นการส่วนตัว”มาลิศพูดจบก็ยื่นเอกสารแผ่นสำคัญคืนเจ้านาย

              “ฝากด้วยล่ะ ฉันต้องการจะคุยกันแพทย์คนนี้ให้เร็วที่สุด”

              มือใหญ่เอื้อมหยิบใบรับรองแพทย์ขึ้นมาดูอีกครั้ง ความข้องใจที่ถูกกักเก็บเอาไว้ในใจยิ่งทวีเพิ่มมากขึ้นและกำลังก่อกวนจิตใจของเขา เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วแม่ของเด็กแฝดสองคนนั้นคือใคร ใบหน้าที่ดูคล้ายคลึงกับเขาทำให้เขาอดที่จะสงสัยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ขนมผิงเคยบอกไว้ก่อนหน้าก่อนที่จะหายตัวไปไม่ได้เลย

              “แล้วก็ ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องเรียนให้คุณได้ทราบนะครับ”

              “เรื่องอะไร”ปิญญ์ชานน์ประสานมือแล้วเท้าศอกเอาไว้บนโต๊ะ ถามเลขาคนสนิท ตอนนี้จิตใจของเขามันว้าวุ่นเมื่อกำลังนึกถึงแต่เรื่องของขนมผิง

              “นี่เป็นข้อมูลราคาหุ้นที่ฝ่ายการตลาดคาดคะเนราคาหุ้นของเราเอาไว้ล่วงหน้าประจำไตรมาศที่จะถึงนี้ครับ”มาลิศยื่นแฟ้มเอกสารให้เจ้านาย

              “มีอะไรทำไมฉันถึงดูเร่งด่วน ปกติไม่เห็นมีอะไรมีปัญหานี่”ปิญญ์ชานนท์เลิกคิ้วแล้วรับเอาแฟ้มมาเปิด

              ปกติแล้วราคาหุ้นของอนันตไพลินจะอยู่ในอันดับต้นของตลาดสิ่งทออยู่แล้วไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ศักยภาพของลูกค้าและความเชื่อถือในตัวขององค์กรมีมากพอที่จะไม่ต้องไปกระตุ้นหรือเร่งอะไรเพราะมันได้อยู่ในจุดสูงสุดอยู่แล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่ประคับประคองมันตามที่เคยทำ

              “ทางฝ่ายการตลาดเขาคะเนราคาหุ้นของเราว่าจะตกลงไปอาจจะสองถึงห้าเปอร์เซ็นต์น่ะครับ”เลขาหนุ่มเกริ่น

              “มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกัน ตลาดหุ้นก็ปกติดีไม่มีอะไรผันผวนหรือมีแววที่จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของเราแล้วทำไมทางฝ่ายการตลาดถึงได้คะเนราคาหุ้นของทางเราว่าจะตกลงมาได้”ปิญญ์ชานนท์ถาม

              น้ำเสียงเริ่มบ่งบอกถึงความไม่พอใจในการคะเนราคาหุ้นของไตรมาศที่จะถึง มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อราคาหุ้นของอนันตไพลินอยู่ในอันดับหนึ่งมาตลอดในบรรดาธุรกิจสิ่งทอ

              “ตามที่รับรายงานมา ดูเหมือนว่ามณีรัตน์กรุ๊ปจะมีโปรเจ็คใหม่เกี่ยวกับการเปิดตลาดแบรนด์ระดับโลกที่ลอนดอนเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาครับ นั่นอาจทำให้ราคาหุ้นสิ่งทอผันผวนไปมาก แนวโน้มราคาหุ้นของมณีรัตน์มีสิทธิเพิ่มขึ้นมา แต่นั่นเป็นเพียงแค่การคาดคะเนของฝ่ายการตลาดของเราเท่านั้นครับ”

              “หึ ตลาดใหม่งั้นเหรอ แค่ของพรรค์นั้นมันจะทำให้ราคาหุ้นของอนันตไพลินตกไปได้ยังไงกัน ยังไงซะฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือของเราก็ยังมั่นคงอยู่แล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามณีรัตน์กรุ๊ปนั่นจะขึ้นมาเทียบอนันตไพลินได้ ไม่มีทาง!”

              ปิญญ์ชานนท์แสยะยิ้มอย่างเหยียดหยามเมื่อนึกถึงคู่แข่งที่เล่นไม่ซื่อส่งคนเข้ามาดึงข้อมูลเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งคนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นผู้หญิงทรยศซึ่งเป็นแม่ของเด็กคนนั้น เด็กคนที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาตามหามาถึงสามปีเต็ม และมันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่แน่ที่จู่ๆราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทคู่แข่งจะเกิดผันผวนขึ้นมา

              “เอาเป็นว่านายส่งคนไปคอยตามขนมผิงให้ดี คอยดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมณีรัตน์กรุ๊ปบ้างไหม ได้เรื่องอะไรแล้วมารายงานฉันด้วยล่ะ”

              “ครับ”มาลิศรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป

 

              -------------------------------------------------

 

              “รายงานการคาดเดาราคาหุ้นล่วงหน้าจากฝ่ายการตลาดมาแล้วนะครับคุณผิง”แทนทัพยื่นแฟ้มเอกสารให้หลังจากที่ขนมผิงเพิ่งจะกล่อมเด็กๆให้นอนหลับอยู่ในคอกที่กั้นเอาไว้ให้เจ้าตัวโดยเฉพาะ

               “ขอบคุณ”

              “หลับกันแล้วเหรอครับ”แทนทัพถามพลางจ้องมองเด็กๆอย่างเอ็นดู

              มันทำให้วูบหนึ่งขนมผิงนึกถึงปิญญ์ชานนท์ขึ้นมา หากอีกฝ่ายมีความเป็นห่วงเด็กๆแบบนี้ก็คงจะดี ว่าแล้วก็ส่ายหัวเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดฟุ้งซ่าน

              “เป็นอะไรไปครับ”แทนทัพถามเมื่อเห็นขนมผิงส่ายหัวไปมา

              “เปล่าหรอก แค่ง่วงนิดหน่อย สงสัยจะกล่อมเด็กๆเพลิน กว่าเด็กๆจะหลับก็เล่นเอาง่วงตามเลยล่ะ”บอกปัดไปพลางยันตัวขึ้นลุก

              แต่ด้วยความที่นั่งนานไปหน่อยเลยทำให้ขาชาและเสียหลัก ดีที่แทนทัพคว้าเอาไว้ทันไม่อย่างนั้นเขาคงจะล้มลงไปบนพื้นแน่

              “ระวังหน่อยสิครับ ถ้าล้มลงไปจะแย่เอา”แขนแข็งแรงโอบเอวสอบเอาไว้แน่น

              “อะ เอ่อ ปล่อยเถอะ”ขนมผิงบอกก่อนจะดันอกอีกฝ่ายออกเมื่อความใกล้ชิดมันทำให้เขาอึดอัด

              “ครับ ขอโทษที่ผมเสียมารยาท”

              “ผมว่าเราไปคุยเรื่องราคาหุ้นกันดีกว่า”ขนมผิงบอกก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

 

              “แผ่นแรกจะเป็นข้อมูลของปัจจุบันเปรียบเทียบระหว่างเรากับอนันตไพลินกรุ๊ป ส่วนแผ่นที่สองจะเป็นการคาดเดาแนวโน้มการผันผวนของราคาหุ้นของทั้งสองฝ่ายในไตรมาศที่จะถึงนี้ครับ”แทนทัพอธิบาย

              “นี่มันแค่สองถึงห้าเปอร์เซ็นต์เอง ทำไมแนวโน้มราคาหุ้นถึงได้เพิ่มขึ้นแค่นี้ล่ะ ที่ผมคาดเอาไว้มันน่าจะสูงกว่านี้”

              “ผมคิดว่าทางการตลาดของอันตไพลินมั่นคงอยู่พอตัว ฐานของลูกค้าทางฝั่งนั้นเลยค่อนข้างที่จะมีความมั่นใจกับทางนั้นมากกว่าน่ะครับ”

              “มันต้องมีทางให้มันได้มากกว่านี้สิ”ขนมผิงบอกพลางครุ่นคิด

              แบบนี้มันช้าไป เขาต้องการที่จะล้มยักษ์ปักหลั่นตัวนั้นให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันค่อนข้างจะยากพอตัวเลยล่ะ

              “นี่เป็นแบบการประเมิณราคาหุ้นหลังจากจบคอลเล็คชั่นในซัมเมอร์นี้ครับ แต่ถ้าทางเราได้เซ็นสัญญาระยะยาวผมเชื่อว่าราคาหุ้นของเราอาจจะพุ่งขึ้นมาสูงเทียบเท่าของอนันตไพลินได้”

               “จริงสิ เรายังไม่ได้เซ็นต์สัญญากับM Techเลยนี่นะ”คำตอบของแทนทัพทำให้ขนมผิงยกยิ้ม

              “หากเราได้เซ็นต์สัญญาเมื่อไร ผมว่าบางเปอร์เซ็นต์ที่ราคาหุ้นของเราจะเทียบเท่าฝ่ายนั้นจะมีสูงขึ้นเป็นเท่าตัวนะครับ”

              “ดี งั้นติดต่อไปทางต้นสังกัดของM Tech ว่าทางเราต้องการเซ็นต์สัญญาระยะยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเรื่องสินค้าทางเราจะลดราคาให้เป็นพิเศษหากทางนั้นเลื่อนระยะเวลาการร่างสัญญาให้เร็วขึ้น”

              “ครับ แล้วผมจะติดต่อฝ่ายนั้นให้เร็วที่สุด”แทนทัพรับคำก่อนจะหันหลังเดินออกไป

              “อ้อ ผมมีเรื่องจะรบกวนคุณแทนทัพอีกอย่าง”เรียกเอาไว้ให้แทนทัพหันกลับมา

              “ครับ”

              “ผมต้องการพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้สักสองคน”

              “ทำไมจู่ๆถึงอยากได้พี่เลี้ยงเด็กล่ะครับ ที่ผ่านมาคุณเองก็เอาแต่ยืนยันว่าจะเลี้ยงเองตลอด”

              “ผมก็อยากจะเลี้ยงเองอยู่หรอก แต่ว่าตอนนี้ผมอยากจะทุ่มเททุกอย่างให้กับงานมากกว่า”

              และที่สำคัญ เขากลัวว่าจะเผลอเปิดโอกาสให้ปิญญ์ชานนท์เข้าใกล้ลูกๆได้อีกเหมือนกับครั้งที่แล้ว

              “ถ้าอย่างนั้นผมจะลองหาให้ดูนะครับ แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ในเร็ววัน การที่จะหาใครที่ไว้ใจได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ”

               “ไม่เป็นไร เอาตามที่คุณคิดว่าดีก็พอแล้วล่ะ”

 

              -------------------------------------------------------

 

              “ปลากริมสลิ่ม ตื่นได้แล้วครับ วันนี้เราจะไปคอนโดกัน”

               “ห๊าววว อารายนะฮับ ไปคอนโดเหรอฮับปะป๊า”เจ้าตัวกลมผิวเข้มคนพี่ผงกหัวขึ้นมาขยี้ตามองงัวเงีย

              “ครับไปคอนโด”

              “ทำไมวันนี้ไปคอนโดล่ะฮับ”สลิ่มงัวเงียตามมาติดๆ

              “ไม่อยากไปเหรอ แต่ว่าถ้าใครได้ไปแล้วจะได้กินไอติมนะครับ”

              “จริงเหรอฮับ!!”

              “ปะป๊าไม่หลอกนะฮับ”

              “จริงครับ ปะป๊าไม่หลอก”

              “งั้นกิมไปฮับ ไปคอนโดปะป๊า”

              “หลิ่มก็ไปด้วย ไปคอนโดปะป๊าด้วยเหมือนกัน”

              “ถ้างั้นก่อนอื่นเราไปล้างหน้ากันก่อนดีกว่า ไหนวันนี้ใครอยากกินอะไรบ้างลองบอกปะป๊ามาสิครับ”

              “อยากกินต้มจืดฮับ”คนพี่ยกมือตอบเสียงใส

              “แล้วสลิ่มล่ะ”ขนมผิงหันไปถามเจ้าตัวแสบคนเล็กที่กำลังนั่งทำหน้ามุ่ย

              “หลิ่มไม่อยากกินผัก”

              “ไม่ได้นะครับ ถ้าไม่กินผักจะไม่แข็งแรงแล้วก็ตัวเล็ก ไม่อยากแข็งแรงแล้วตัวโตเหมือนพี่ปลากริมเหรอครับ”

              “ช่ายๆ พี่กิมกินผักเ แข็งแรงที่ซู๊ดดดด”สลิ่มเบ่งกล้ามโชว์ให้ขนมผิงอดยิ้มตามไม่ได้

              “แต่มันไม่อร่อยเลยนะ”

              “แต่จะไม่แข็งแรงเหมือนพี่กิมนะ”

              “งือ ก็ได้ กินต้มจืดแบบพี่กิมก็ได้ แต่หลิ่มอยากกินกุ้งทอดด้วยได้ไหมฮับปะป๊า”

              “ได้ครับ แต่ว่าทั้งสองคนต้องช่วยปะป๊าทำกับข้าวด้วยนะครับ”

              “เย้ กิมช่วยปะป๊าทำกับข้าว”เจ้าตัวโตกว่ากระโดดขึ้นมากอดคอให้เขาได้เซ

              “หลิ่มก็จาช่วยฮับ”เจ้าตัวเล็กก็ไม่แพ้กัน ขนมผิงเกือบจะเซหงายหลังเมื่อสองแสบโถมตัวเข้ามากอดคอเขาแน่น

              ดูเหมือนว่าตอนนี้ทั้งสองคนจะโตไวจนเขาเริ่มจะตั้งรับการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบแทบไม่ไหวเลยล่ะ ขนมผิงยิ้มให้กับความแสบของลูกแฝด

 

              -------------------------------------------------------------------

 

              ระหว่างทางขนมผิงได้แวะซื้อของสดก่อนจะมาถึงคอนโด ตาคู่สวยปรายตามองเด็กๆที่แบ่งกันช่วยถือของเบาๆเดินนำเขาเข้าไปในตัวตึก ริมฝีปากเล็กๆยิ้มโชว์เหงือกสีสดให้กับคนที่เดินผ่านไปมาอย่างอารมณ์ดี แต่ทว่าระหว่างที่กำลังเดินผ่านล็อบบี้ชั้นล่างขนมผิงก็ต้องชะงักเมื่อถูกเรียกเอาไว้

              “ผิง!! พี่ว่าจะโทรหาอยู่พอดีเลยล่ะ”

              เสียงเรียกที่ทำให้ขนมผิงตกใจแล้วหันไปมองเป็นใครไม่ได้นอกจากคุณวุฒิ

              “พี่วุฒิ”

              “พอดีพี่ผ่านมาก็เลยว่าจะมาทักทายน่ะ”คุณวุฒิตอบ ภายใต้แว่นสายตาดวงตาของเขากับลังเป็นประกายด้วยความดีใจ

              แต่กลับขนมผิงแล้วมันกลับตรงกันข้ามเลยในเมื่อคุณวุฒิมาหาเขาที่นี่โดยไม่ได้บอกกล่าว และตอนนี้เด็กๆก็กำลังจ้องมองคุณวุฒิด้วยความสงสัย คุณวุฒิเองก็ไม่แพ้กัน จ้องมองเด็กๆพร้อมกับมองมาที่เขา

              “ในเหรอฮับปะป๊า”สลิ่มเดินมากระตุกชายเสื้อของขนมผิงเบาๆ

              “สะ…สวัสดีคุณลุงสิครับ”ขนมผิงตั้งสติก่อนจะบอกกับเด็กๆออกไป

              “สวัสดีฮับ/สวัสดีฮับ”สองแฝดยกมือไหว้ก้มตัวเก้าสิบองศาให้คุณวุฒิได้รับไหว้ด้วยท่าทีงงงวย

              “ลูก…ใครเหรอผิง”

              เขาควรจะตอบคุณวุฒิไปว่ายังไงดี เวลานี้ใจของขนมผิงนึกอยากจะโกหกอีกฝ่ายเพื่อที่จะยืดระยัเวลาความสัมพันธ์ให้นานขึ้น เขากลัวว่าคุณวุฒิจะเปลี่ยนไปหากรู้ว่าเขามีลูกแล้วและเป็นคนอุ้มท้องเด็กๆ

              “ลูกผิงเอง”

              “อะไรกัน ผิงกำลังอำพี่อยู่ใช่ไหม ผิงจะมีลูกโตขนาดนี้ได้ยังไงพี่ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย นี่มันเป็นมุกตลกที่ไม่ขำเลยนะ”

              ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่สีหน้าจริงจังของขนมผิงนั้นทำให้คุณหมอยิ้มเจื่อนออกมา

              “ลูกผิงจริงๆ คนนี้ปลากริม คนนี้สลิ่มครับ”ขนมผิงแนะนำด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

              แนะนำออกไปแล้ว เขาบอกเรื่องที่เขาพยายามจะปกปิดออกไปแล้ว ภายใต้นัยน์ตาที่แสดงออกถึงความนิ่งเฉยนั้นกำลังรอลุ้นผลที่กำลังจะตามมา และใบหน้าของคุณวุฒิก็ซีดเผือดลงแทบจะทันที

              “ได้ยังไงกัน…แล้วแม่ของเด็กล่ะ”

              “เอาเป็นว่าเราไปคุยกันข้างบนดีกว่านะครับ”ขนมผิงบอกก่อนจะแตะแขนของคุณวุฒิเบาๆเพื่อเป็นการบอกให้อีกฝ่ายคืนสติหลังจากที่ดูเหมือนจะตกใจในสิ่งที่เขาบอก

              แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เขาได้เห็นใครบางคนกำลังถือกล้องถ่ายรูปหันมาทางเขากับคุณวุฒิ และนั่นขนมผิงรู้ได้ทันทีว่าคนคนถูกส่งมาโดยใคร

 

              ขนมผิงเล่าพาเด็กๆเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเล่าทุกอย่างให้กับคุณวุฒิฟัง ทุกอย่างที่เขาปั้นน้ำออกมาเป็นตัวเพียงเพื่อจะปกปิดความลับเอาไว้ เขาโกหกว่าแม่ของเด็กๆเสียไปตั้งแต่ตอนคลอด และสีหน้าของคุณวุฒิก็เริ่มจะดีขึ้นเมื่อเขาบอกไปแบบนั้น มือใหญ่คว้ามือทั้งสองของเขาไปกุมเอาไว้

              “ถ้าอย่างนั้น…พี่ก็ยังมีโอกาสใช่ไหม”

              “โอกาสอะไรเหรอครับ”

              “ก็โอกาสที่…จะมาหาผิงบ่อยๆไง”คุณวุฒิยิ้ม ก่อนที่จะเอื้อมมือมาลูบหัวของขนมผิงเบาๆ

              “ผมไม่ใช่เด็กนะครับ ผมเป็นพ่อคนแล้วอย่ามาลูบหัวผมจะได้ไหม”เบี่ยงหัวหลบฝ่ามือนั้นทั้งที่ก้อนเนื้อในอกนั้นเต้นรัว

              เพราะท่าทีที่ผ่อนคลายของอีกฝ่ายขนมผิงจึงเรียกเด็กๆให้ออกมาจากห้องนอนที่แยกเป็นห้องของเด็กๆโดยเฉพาะ ทั้งปลากริมกับสลิ่มต่างก็พากันเดินต้วมเตี้ยมจูงมือกันกล้าๆกลัวๆ ตาคู่กลมจ้องมองคนแปลกหน้าก่อนจะพากันปีนขึ้นไปบนโซฟาแล้วนั่งแหมะลงขนาบข้างกับขนมผิง

              “คุณยุงเป็นใครเหรอฮับปะป๊า”ปลากริมเงยหน้าถาม

              “คุณลุงคือคุณลุงวุฒิครับ คุณลุงวุฒิเป็นคุณหมอ ถ้าใครดื้อคุณลุงวุฒิจะจับฉีดยากลัวไหมครับ”

              “อื้อ/กลัวฮับ”สองแสบพยักหน้าหงึกๆทันที

              “ไม่เอาฉีดยาฮับ กิมกับน้องหลิ่มเป็นเด็กดี”

              “งั้นเด็กดีบอกคุณลุงวุฒิหน่อยสิครับว่าใครชื่ออะไรบ้าง”ขนมผิงว่าพลางดันร่างจ้ำม่ำไปข้างหน้าเพื่อให้คุณวุฒิได้เห็นชัดๆ

              “อันนี้กิมฮับ”

              “อันนี้หลิ่มฮับ”สองแสบแนะนำตัวก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆเมื่อคุณหมอยิ้มออกมาอย่างใจดี

              “เกือบจะแยกไม่ออกแล้วสิ”

              “อันนี้อะไรเหรอฮับคุณยุงหมอ”มือป้อมจิ้มไปที่แว่นตาของคุณวุฒิ

              “อันนี้เรียกว่าแว่นตาครับ”
              “แล้วใส่ทำไมเหรอฮับ”

              “ใส่ให้มองเห็นได้ชัดเจนครับ”

              “แล้วกิมกับน้องต้องใส่ไหมฮับ”
              “ถ้ากินผักเยอะๆก็จะไม่ต้องใส่นะครับ”

              “งั้นแสดงว่าคุณยุงหมอไม่กินผักใช่ไหมฮับ”เจ้าตัวแสบย้อนกลับมาให้คุณหมอเด็กที่คิดว่ารับมือกับเด็กๆได้ง่ายๆพลาดท่าเข้าให้

              ขนมผิงหัวเราะเสียงเบาให้คุณวุฒิได้ขมวดคิ้วอย่างอายๆ

              “หัวเราะอะไรครับ”

              “เปล่านี่ ผิงแค่หัวเราะที่คุณหมอเด็กเถียงแพ้เด็ก”

              “ได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะ”

              “เอาเป็นว่าวันนี้ถ้าไม่รังเกียจก็อยู่กันข้าวเย็นด้วยกันนะครับ”

              ไม่เพียงแค่คุณคุณเท่านั้นที่มีท่าทีผ่อนคลาย แต่ขนมผิงเองก็เริ่มคลายความกังวลไปได้บ้างเมื่อเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายและเห็นเด็กๆเข้ากับคุณวุฒิได้เป็นอย่างดี ขนมผิงจงใจที่จะยื้อเวลาชวนให้คุณวุฒิอยู่ต่อ ความต้องการจากส่วนลึกของเขามันบอกอย่างนั้น

              ได้สิ พี่นึกว่าผิงจะไม่ชวนซะแล้ว วันนี้โชคดีจังเลยนะ ได้มาเจอผิงแล้วยังจะได้กินกับข้าวฝีมือผิงอีก”

              ว่าพลางหันไปรับของเล่นจากมือเด็กๆที่ส่งมาให้อย่างอารมณ์ดี เรียกให้คุณวุฒิต้องหันไปมองเด็กๆแทนเพราะเลือกไม่ถูกว่าจะมองทางไหนดี

 

              เมื่อมื้อเย็นจบลงขนมผิงก็พาเด็กๆมานั่งดูรายการเด็กหน้าทีวี

              “เดี๋ยวปะป๊าไปส่งคุณลังหมอก่อนนะครับ ห้ามซนกันนะครับเด็กๆ”

              “แล้วคุณยุงหมอจะมาอีกไหมฮับปะป๊า”แฝดคนพี่เงยหน้าถาม

              “จะมาอีกไหมฮับ”คนน้องถามบ้างอย่างเสียดายเมื่อก่อนหน้านี้ได้เล่นกับคุณลุงหมอจนสนิทกันดี

              “อันนี้คงต้องถามปะป๊าปลากริมกับสลิ่มแล้วล่ะครับว่าจะให้ลุงหมอคนนี้มาหาอีกไหม”คุณวุฒิก้มตัวบอกพลางมองมาที่ขนมผิง

              “ให้มาอีกนะฮับ ให้ยุงหมอมาอีก”

              “นะฮับปะป๊า”

              “มาได้ทุกเมื่อครับ แต่ต้องโทรมาบอกกันก่อน ปกติพวกเราจะไปนอนที่บ้านกัน ผิงไม่อยากให้พี่วุฒิรอนาน”คำตอบของขนมผิงดูเหมือนว่าจะทำให้คุณวุฒิดีใจไม่ได้ ริมฝีปากได้รูปยิ้มออกมากว้างเลยทีเดียว

              “ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าลุงหมอจะซื้อขนมมาฝากนะครับ”

              “เย้ๆๆๆ”

              “จริงๆนะฮับ”

              “จริงสิครับ”พยักหน้าตอบเด็กๆที่ลุกขึ้นกระโดดดีใจ

              “งั้นรอปะป๊าในห้องแล้วอย่าซนนะครับเข้าใจไหม”

              “เข้าใจฮ๊าบบบบ”

              “เข้าใจฮับป๋ม”

 

              “ผิงเก่งมากเลยนะที่เลี้ยงเด็กๆได้ดีขนาดนี้”

              “ก็ลูกผิงนี่ครับ ถ้าไม่เลี้ยงลูกให้ดีแล้วจะให้เลี้ยงใครล่ะครับ”บอกก่อนจะเปิดประตูห้องเมื่อเห็นว่าเด็กๆนั่งดูการ์ตูนกันเรียบร้อยดี

              “นั่นสินะ คงจะเหนื่อยแย่ ขนาดพี่เองแค่ไม่กี่ชั่วโมงยังรู้สึกเหนื่อยเลย”

              “เหนื่อยแต่ก็มีความสุขครับ”บอกออกไปก่อนจะชะงักเมื่อมือใหญ่ของคุณวุฒิแตะลงมาที่หน้าผากของเขาเบาๆเพื่อเช็ดเหงื่อออกให้

              “ถ้าพี่ช่วยได้พี่ก็อยากจะช่วยไม่ให้ผิงเหนื่อยอยู่คนเดียวแบบนี้”คุณวุฒิพูดแฝงความนัยน์

              “มืดแล้วถ้าไม่รีบกลับเดี่ยวรถจะติดเอานะครับ”

              แต่ขนมผิงก็เลือกที่จะเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

               “ไม่เป็นไรแค่รถติดพี่ไม่กลัวหรอกครับ กลัวว่าจะไม่ได้เจอผิงมากกว่า”

              “ต้องเจอสิครับ ผิงไม่ได้หนีไปไหน”

              “ใครบอกไม่หนีครับ สองครั้งเชียวนะครับที่หนีพี่ไปจนพี่นึกว่าจะไม่ได้เจอผิงอีก”

              คุณวุฒิบอกเสียงเบาก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ หัวใจของขนมผิงสั่นวูบเมื่อจ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาผ่านกรอบแว่น ความอ่อนโยนและตัดพ้อนัยน์ตาของคุณวุฒิแสดงออกมาแบบนั้น

               “ต่อไปนี้ผิงจะไม่หนีไปไหนอีกแล้วครับ พี่วุฒิไม่ต้องกลัว”

              เพราะตอนนี้เขามั่นใจว่าเขามีกำลังมากพอที่จะไม่ได้หนี มากพอที่จะต่อสู้เพื่อตัวองและครอบครัว

               “สัญญานะครับ”เสียงทุ้มหูบอกเบาก่อนจะเอื้อมมือแตะลงบนผิวแก้มของเขาอย่างเบามือ

              “ครับ ผิงสัญญา”



              ---------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 07:02:06 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2015 17:43:21 โดย NeLy เนลี่ »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเลขาแอบชอบขนมผิงอยู่จริงๆ ด้วย :o8:

ปล. คำผิดจ้า ^^

แสงแฟรช(แสงแฟลช), ไฮโว(ไฮโซ), เฉลืมฉลอง(เฉลิมฉลอง), เทศการ(เทศกาล),

ปิญญ์ชานนท์มองตามแรงดึงก็เจอเข้ากับเด็กแฝดน่ารักสงคน(สองคน),

ประปา(ปะป๊า)บอกว่าอยู่นี่ให้พูดแบบที่พูดกะปะป๊านะ,

มารยา(มารยาท), น่ากาก(หน้ากาก) พุกพ่าน(พลุกพล่าน),

ปิญญ์ชานนท์เดินไปยังร่างอ้วนลม(อ้วนกลม)ทั้งสอง,

แก้มน้ำส้ม(แก้วน้ำส้ม), เหลือยมอง(เหลือบมอง),

พอเห็นเด็กสองคนนี้ก็ถึงถึง(นึกถึง)ใครอีกคนขึ้นมาอย่างหงุดหงิด,

ใครจะไปเอ(เชื่อ)เรื่องพรรค์นั้นกัน

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
 :mew1:

เอาไปรวมกันแล้วจ้า ทั้งครึ่งแรกครึ่งหลัง เพราะแก้ไขกับเพื่อมเติมเยอะอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2015 19:56:06 โดย NeLy เนลี่ »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
อย่าให้โดนลากไปอีกนะ
 :katai5:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
อยากให้เช็คคำผิดนะคะ คำผิดเยอะเลย ตรวจให้เรียบร้อยก่อนลงจะดีมากๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ก็ถูกของขนมผิงเขานะคะคุณปิณณ์ เพราะถ้าไม่นึกสนใจกันจริงๆ จะเสียเวลาตามหาทำไมตั้งสามปี :hao3:

ปล. คำผิดจ้า ^^

คนที่เขาตามมา(ตามหา)มาตลอดสามปีกว่า

ปิญญ์ชานนท์ขบกราว(กราม)แน่นจนสันกรามขึ้นนูน

มันกำลังคิดผิดที่ย้อนกลับมายยุ่งกับอนันตไพศาลอีก

เดี่ยว(เดี๋ยว)จะพากันไม่สบาย

ทำให้ผมเอาแต่จ้องประตุ(ประตู)ห้องน้ำ

แต่ถ้าคุณพุด(พูด)แบบนี้ก็แสดงว่าคุณติดตามผมอยู่

อ่าว(อ้าว) อยู่นี่เองผิง

รองเท้าหนังขัดมันอย่างดีจงใจเหยีบ(เหยียบ)ลงไปบนเท้าของเขา

ออฟไลน์ nutipkra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ PingPong_Hunlay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ้ากกกกกก :serius2: เมื่อไรปิญจะรู้ว่าสลิ่มกับปลากริมเป็นลูกละเนี้ย คงสะใจพิลึก หึหึ   :oo1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด