❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณทีมใคร????

ทีมปิญญ์ # หล่อเลวแบบนี้ใช่เลย จัดหนักจัดเต็ม
26 (15.3%)
ทีมขนมผิง # แกมาทำร้ายชั้นเรอะ ไม่ยอม ฉันจะเอาคืน
38 (22.4%)
ทีมแฝดลูกหมู # ปล่อยให้พ่อๆไปเคลียกันเอง มุ้งมิ้งกันสองคน
106 (62.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 170

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖  (อ่าน 291781 ครั้ง)

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

ตรงที่ลักพาตัวนั่นแหละ

พระเอกก็ปากแข็งเหลือเกิน

ดูซิจะจัดการนายเอก กับ คู่หมั่นยังไง

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ลุงปิญ์ต้องรู้อะไรมาแน่ๆถึงได้เปลี่ยนไปปปป
จะเอาผิงกะเด็กๆไปไหน
ค้างงงงงอร๊างงงงงง
ต้องเรียกขุ่นพ่อปิญญ์แล้วใช่ม๊าาาา

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ตกม้าตายตอนจบเลยค่ะผิง
สรุปลักพาตัวแม่ลูกไปอยู่ด้วยกันซะเลย
คือปิญญ์อยู่ๆก็มาทำอะไรอย่างนี้ โคตรขัดกับก่อนหน้าที่เจอหน้าผิงก็ด่าว่าร่าน แล้วก็ระเบิดอารมณ์ใส่กัน
ก็ดีอ่ะนะตรงไม่เครียด แต่งงๆอารมณ์มันกระโดด

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
แบบนี้เองล่อแม่เสือให้พาลูกเสือออกมา พ่อเสือจะได้สร้างครอบครัว 5555 :katai3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ onekiss

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ปิญญ์จะทำอะไรอีกล่ะทีนี้

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ไม่รู้ว่าใครจะอ่อนให้ใครก่อน ปิญทำผิดไว้มากน่าจะดัดหลังแบบน่ารักๆสักครั้งสองครั้ง

ผิงก็น่าตีมาพลาดตอนสุดท้าย ทำไมถึงได้ไว้ใจเขานะ :katai1:

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เริ่มมีความเป็นครอบครัวแล้วขนมผิงก็เริ่มปรับตัว ระลึกได้แล้วว่าควรจะทำหน้าที่แม่ให้ดีกว่านี้ รอตอนต่อไปค่ะ อัพเร็วดีค่ะ ชื่นชมๆ

ป.ล. เจอคำผิด ถิฐิ ต้องเป็น ทิฐิค่ะ  อ่านแล้วสะดุดตาเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
18 วังวนความคิด

 

                                 เพราะอะไรเขาถึงโทรไปนัดให้ขนมผิงกับลูกออกมาหาเขา ข้อนี้เขาเองก็ยังไม่เข้าใจ

                                 ในบางครั้งคนเรามักจะตัดสินใจเลือกทางที่ผิดแม้ว่าทางเลือกนั้นจะขัดกับความต้องการของตนเองก็ตาม

                                 แรงกดดันภายในครอบครัวเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มเลือกจะมองข้าม ความคิดที่ถูกยัดเยียดพวกนั้นทำให้ตัวตนของเขาสับสน

                                 ปิญญ์ชานนท์เดินเลี่ยงขึ้นมายังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นบนของบ้านหลังใหญ่

                                 คนอื่นเรียกว่าบ้านแต่เขากลับคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ที่พักอาศัยเสียมากกว่า

                                 เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอน วางถุงยาไว้ข้างๆอย่างไม่ใยดี คำแนะนำของแพทย์ทำให้เขาค่อนข้างจะหงุดหงิด

                                 คิดว่าเขาเป็นโรคประสาทหรือพวกโรคจิตรึยังไงกัน

                                 เขาหยิบนามบัตรที่ใส่เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อสูตร ชายหนุ่มคิดว่ามันไร้สาระเกินกว่าจะเก็บมันเอาไว้

                                 เขากำลังจะทิ้งมัน แต่สิ่งที่หยิบขึ้นมาพร้อมกับนามบัตรคือซองสีน้ำตาลถูกพับเป็นทบเรียกความสนใจให้หยุดชะงัก

                                 ผลตรวจดีเอ็นเอ…

                                 ความอยากรู้ผุดขึ้นมาอีกครั้งในความคิด

                                 ในสุดเขาก็ตัดสินใจเปิดซองนั่นออกมาเสียที เขากางแผ่นกระดาษที่พับเป็นบทออก

                                 ชั่ววินาทีที่กวาดสายตามองหาบรรทัดสำคัญ หัวใจที่ด้านชาก็กระตุกวูบ มันจุกหน่วงราวกับเข็มนับร้อยพันกระหน่ำทิ่มแทงลงมาที่จุดจุดเดียว

                                 นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไร!!

                                 เด็กสองคนนั้นเป็นลูกของเขาจริงๆ

                                 ลูกของเขากับขนมผิง

                                 หัวใจที่ด้านชามันเหมือนกับกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

                                 เขาแทบอยากจะทิ้งหัวตัวเอง กับสิ่งที่ได้รับรู้

                                 แจกันดอกไม้ที่หัวเตียงถูกปัดลงด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด

                                 เขาระบายความรู้สึกออกมทางการกระทำ เขาโกรธเกลียดทางเลือกที่ตัวเองเลือกผิด

                                 หากวันนั้นเขาเลือกที่จะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้

                                 เลือกที่จะทำตามความรู้สึกที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ เขาคงจะไม่ต้องตกอยู่ในวังวนความคิดบ้าบ้าเช่นนี้

                               

                               

 

                                 “สวัสดีครับคุณหมอบุษ”ปิญญ์ชานนท์กรอกเสียงลงไปในเครื่องมือสื่อสาร

                                 ในที่สุดกระดาษนามบัตรใบเล็กที่คิดว่าไม่มีความหมายกลับเป็นทางเลือกเดียวและทางเลือกสุดท้ายที่จะพึ่ง

                                 หลายชั่วโมงที่คิดซ้ำไปซ้ำมา ความคิดที่มันวกวนและวุ่นวาย

                                 เด็กแฝดสองคนนั้นเป็นลูกของเขา

                                 ใช่ เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กสองคนนั้นตั้งแต่แรกเห็น มันเหมือนกับมีสายใยบางอย่างที่มองไม่เห็น

                                 เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

                                 ‘สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรให้ช่วยเหลือคะ’

                                 อีกฝ่ายกรอกเสียงกลับมา…จิตแพทย์

                                 “ผมมีเรื่องต้องการจะปรึกษา”

                                 ‘คุณลองเล่ามาสิคะ ฉันจะได้ให้คำแนะนำได้ถูก’

                                 “คือผม…”สุดท้ายปิญญ์ชานนท์ก็อ้ำอึ้ง

                                 เป็นครั้งแรกที่เขาพูดอะไรไม่ออก

                                 ‘ค่ะ ไม่ต้องอายค่ะ ทุกอย่างหมอรับฟังได้ ขอแค่คุณพูดความจริงและสิ่งที่คุณรู้สึกออกมาก็พอ’

                                 “ผมรู้จักกับคนคนหนึ่ง ผมรู้สึกดีกับเขาแปลกจากที่รู้สึกกับคนอื่นๆ แต่มีเรื่องบางอย่างทำให้ผมเกลียด  ผมเกลียดเขามาก รังเกลียดจนเรียกได้ว่าไม่อยากจะเห็นหน้าเลยก็ว่าได้ ผมตัดสินใจทำร้ายเขาและทำในสิ่งที่ทำให้เขาเกลียดผมเช่นกัน สี่ปีที่ผมเกลียดเขา”ชายหนุ่มเงียบราวกับว่ามีก้อนอะไรมาจุกที่คอ

                                 ‘แล้วคุณคิดว่าปัญหาของคุณคืออะไร’

                                 “ผมพึ่งจะรู้ว่าเขามีลูก ลูกของผมกับเขา”ในที่สุดก็บอกออกไป

                                 ‘แล้วคุณต้องอะไรจากพวกเขา”

                                 “ผมไม่รู้ ผมแค่ต้องการใกล้ชิด”

                                 ‘งั้นหมอจะถามคุณกลับว่าทำไมคุณถึงอยากจะใกล้ชิดกับพวกเขา เอาอย่างนี้นะคะ หมอจะให้คำถามคุณ ให้เวลาคุณหาคำตอบมาให้หมอ เพราะอะไรคุณถึงคิดว่าอยากจะใกล้ชิดกับพวกเขา หมออยากให้คุณหาเวลาอยู่ใกล้กับพวกแล้วหาคำตอบให้เจอ’

                                 “งั้นก็ได้ ผมจะลองดู”

                                 ปิญญ์ชานนท์วางโทรศัพท์ลงบนที่นอน

                                 มันเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่มันก็จริงอย่างที่จิตแพทย์คนนั้นถามเขากลับมา

                                 เพราะอะไรเขาถึงอยากจะใกล้ชิดขนมผิงกับเด็กๆ

                                 เพราะหน้าที่ หรือเพราะความต้องการจากใจของเขาเอง

                                 เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่เจอ

                                 ทางเดียวที่จะรู้ก็คือต้องหาคำตอบ….

 

                               

                                 เขาตัดสินใจเปลี่ยนแผนการที่วางเอาไว้ทันที จากที่คิดแค่ว่าจะใช้สิ่งที่มีอยู่ต่อรองให้อีกฝ่ายตกเป็นเบี้ยล่าง

                                 ตอนนี้สิ่งนั้นกลับกลายเป็นเชือกเส้นใหญ่ที่เอาไว้ดึงรั้งขนมผิงกับลูกไม่ให้หนีไปไกลมากกว่านี้

 

                                 “คุณมาลิศ ผมอยากให้คุณติดต่อไปยังคนดูและเกาะส่วนตัวของตระกูล ให้เตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับเจ็ดวันให้พร้อม อ้อ แล้วก็ของใช้สำหรับเด็กสามขวบด้วยล่ะ”ปิญญ์ชานนท์ต่อสายถึงเลขาคนสนิท

                                 ‘หมายความว่ายังไงครับ อย่าบอกนะครับว่าผลตรวจ’

                                 “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องอธิบายอะไรให้นายฟัง ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”เขาตัดบท

                                 ตอนนี้เขากำลังสับสน เขาเกลียดและโกรธแค้นที่ขนมผิงเป็นลูกของผู้หญิงทรยศคนนั้น เกลียดที่ขนมผิงมีผู้ชายมากมายเข้าหา และทอดสะพานให้คนอื่นไม่เลือกหน้า

                                 คนที่ไม่ใช่เขา…

                                 แต่หลังจากนี้ไป คนอย่างขนอมผิงจะต้องยอมศิโรราบให้เขา ทั้งขนมผิงและลูกของเขา

                                 เขาจะทำให้ขนมผิงยอมรับสิ่งที่เขายัดเยียด จะต้องทำให้ขนมผิงไม่กล้าต่อกรเหมือนอย่างทุกวันนี้

                                 เขาไม่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับตัวขนมผิงและประธานมณีรัตน์กรุ๊ปว่าเป็นมาอย่างไร ทำไมขนมผิงถึงได้กลายเป็นทายาทของตระกูลคู่แข่งของเขา

                                 แล้วมิหนำซ้ำยังกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คิดจะทำ กล้าที่จะเล่นงานบริษัทคู่แข่งที่มั่นคงกว่าอย่างอนันตไพลิน

                                 ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย…เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น

                                 ขนมผิงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แข็งกร้าวและก้าวร้าวไม่ยอมแพ้เขาเหมือนก่อน

                                 มันอาจเป็นเพราะสิ่งที่เขาทำก็ได้….เขาทำผิดไปจริงๆ

                                 ผิดที่ผลักไสลูกของตัวเอง….

 

 

                                 วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มตื่นเช้ากว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะเขานอนไม่หลับหรืออะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจ

                                 เขาจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าที่ขายของใช้เกี่ยวกับเด็กโดยเฉพาะ

                                 นานนับหลายชั่วโมงที่ของมากมายถูกเลือกซื้อ เม็ดเงินที่เป็นของมีค่าสำหรับเขาถูกจับจ่ายให้กับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะซื้อมัน

                                 “ไม่ทราบว่าคุณปิญญ์ซื้อไปให้เด็กที่ไหนเหรอคะเนี่ย ทำไมซื้อซะเยอะเชียว แล้วเป็นเด็กแฝดเหรอค่ะ หรืออย่างละสองทุกอันเลย”ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาพูดประจบแทบจะทันที

                                 “ครับ เด็กแฝด”

                                 “แหม หรือว่าจะเป็นลูกของคุณปิญญ์คะเนี่ย”คำถามเหมือนจะแทงใจของเขา เขาหันกลับไปยืนบัตรเครติดสีทองให้เพื่อชำระเงิน

                                 “ครับ ลูกของผม”

                                 ชายหนุ่มตอบสั้นๆ ทำให้พนักงานมีสีหน้าตกใจเล็กๆ เขาเลือกตอบไปตามความจริง

                                 น่าแปลกที่เขารู้สึกดีเล็กๆกับคำตอบของเขา

                                 อาจจะเป็นเพราะนั่นคือทางเลือกที่เขาต้องการมาตลอด

                                 คนอย่างปิญญ์ชานนท์แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาและฐานะที่มั่งคั่ง ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชายโสดอย่างเขา

                                 ผู้หญิงหลายคนอยากที่จะได้เขาคนนี้ไปครอบครอง แต่เมื่อคำตอบของเขาที่คนถามไม่คาดคิดว่าจะได้กลับมาตอบออกไป ทำให้พนักงานได้ยินค่อนข้างที่จะแปลกใจไปตามๆกัน

                               

 

                               

 

                                 จนกระทั่งถึงเวลาตามที่นัดกันไว้

                                 ขนมผิงยังคงแสดงออกถึงความก้าวร้าวต่อเขาอย่างชัดเจน

                                 ชายหนุ่มพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ ตอนนี้ความสนใจของเขาพุ่งเป้าไปที่เด็กแฝดสองคนนั้นมากกว่า

                                 เขาดีใจที่เด็กสองคน…ลูกของเขาดีที่ได้เจอเขา

                                 ถึงแม้ว่าขนมผิงจะดูหวงลูกมากจนยากที่จะใกล้ชิดก็ตาม

                                 เขาทำในสิ่งที่คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเกลียดเขามากขึ้น

                                 เขาลักพาตัวทั้งขนมผิงและลูกมาที่เกาะส่วนตัว

                                 เจ็ดวันที่เขาต่อรองแลกกับข้อมูลบางอย่างที่อาจจะทำลายทั้งเขาและตัวขนมผิงได้

                                 มันเป็นวิธีที่สกปรก เขายอมรับ แต่เพื่อคำตอบที่เขาต้องการ เขาก็พร้อมที่จะยอมแลกมัน

                               

                                                                    -----------

 

                                 เขามาขนมผิงกับเด็กๆมาที่เกาะส่วนตัว เขาต้องการจะทำให้อีกฝ่ายหมดหนทางที่จะหนีไปจากเขาเหมือนที่เคยทำ

                                 เขาต้องการจะต้องให้ขนมผิงจนมุม…สั่งสอนให้ได้รู้ว่าเขาคือคนที่จะต้องชนะ

                                 “คุณบ้าไปแล้วรึไง เอาไฟล์วีดีโอมา แล้วพาผมกับเด็กๆกลับเดี๋ยวนี้”ประโยคคำสั่งบอกออกมาทันทีที่อยู่กันตามลำพัง

                                 มันทำให้เขาสังเกตเห็นจุดอ่อนของคนเป็นแม่อย่างขนมผิง

                                 “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากนายสักหน่อย”เขาเดินมานั่งที่เตียงปรายตามองอีกฝ่ายที่มีท่าทีพยายามระงับอารมณ์

                                 “งั้นก็ลบรูปพวกนั้นไปสิ แล้วก็พาผมกับลูกกลับบ้าน”

                                 “ยังกลับไม่ได้ ยังไม่ใช่ตอนนี้”เขาตอบกลับด้วยท่าทีสบายใจ ยังไงซะ ขนมผิงก็พาลูกหนีไปจากเขาไม่ได้อีกแล้ว

                                 “แล้วเมื่อไรกันล่ะ ถ้าคุณไม่พาผมกับเด็กๆกลับบ้าน ผมกลับเองก็ได้”อีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกไป ดูท่าคงจะยังไม่รู้ว่าที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของเขา

                                 “ถ้านายคิดว่านายไปได้ก็ลองดูสิ”

                                 “หมายความว่าไง”

                                 “ที่นี่เป็นเกาะส่วนตัว จะไม่มีเรือมาที่นี่จนกว่าจะผ่านไปครบหนึ่งอาทิตย์…ไง นายคิดว่าคนอย่างนายเก่งกาจจนสามารถออกไปจากเกาะนี้ได้รึเปล่าล่ะ”ปิญญ์ชานนท์ถามออกไปเป็นเชิงดูถูกท่าทีที่ไม่ยอมพ่ายให้กับเขา

                                 เขาเริ่มจะไม่พอใจกับปฏิกิริยาของขนมผิงที่ทำเหมือนกับไม่มีวันยอมศิโรราบ

                                 “ทำแบบนี้ทำไม”

                                 “ทำไมฉันต้องบอกเหตุผลให้คนอย่างนายฟังด้วย”

                                 ใช่…เขาไม่จำเป็นจะต้องบอกเหตุผลให้คนใจง่ายอย่างขนมผิงได้รับรู้ แม้ลึกๆแล้วเขาจะยังไม่มีเหตุผลให้ตัวเองก็ตาม

                                 “นี่คุณโรคจิตรึยังไง”ขนมผิงเดินถอนหลังไปครึ่งก้าวเพราะเขาเดินเข้าไปหาจนเกือบจะชิด

                                 “นั่นมันก็แล้วแต่นายจะคิด”

                                 เขาวางมือลงบนแก้มของขนมผิงแล้วเกลี่ยนิ้วลงบนนั้น…เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงการมีตัวตน และเพื่อที่จะยืนยันอะไรบางอย่าง

                               

                                 “หึ ผมรู้แล้ว”จู่ๆขนมผิงก็หัวเราะในลำคอ ริมฝีปากยกยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันทำให้ชะงัก

                                 อีกแล้งกับรอยยิ้มที่เขาไม่ชอบใจเวลาที่มองเห็นมัน

                                 “รู้อะไร?”เขาถามออกไป

                                 “หรือว่า…คุณจะหลงเสน่ห์ผมเหมือนคนอื่นๆขึ้นมาแล้ว”

                                 มันเป็นคำพูดเชิงเปรียบเทียบที่เป็นเหมือนตัวจุดชนวนให้อารมณ์ที่กักเก็บเอาไว้คุกรุ่นออกมาในชั่วพริบตา

                                 “อย่าเอาฉันไปเหมารวมกับคนพวกนั้น!!!”

                                 ใช่…เขาไม่เหมือนกับคนพวกนั้น ไม่ไม่ได้ต้องการให้ใครมาชักจูง เขาต้องการที่จะเป็นผู้ชนะ

                                 และที่สำคัญ เขาเป็นเจ้าของ เจ้าของเพียงคนเดียวเท่านั้น  เด็กๆพวกนั้นเป็นลูกของเขา และตัวเขาเองก็เป็นพ่อ เขามีสิทธิ มีสิทธิที่จะครอบครองทั้งหมด

                                 ชายหนุ่มกระชากให้อีกฝ่ายลอยไปปะทะกับเตียงแล้วตามขึ้นมาคร่อมทับ กักร่างเอาไว้ภายใต้อาณัติของเขา

                                 “คุณจะทำอะไร อย่ามาแตะต้องตัวผม”

                                 ถ้อยคำผลักไสเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่เติมลงมาให้เขายิ่งเพิ่มโทสะ

                                 ทีกับคนอื่นทำไมถึงยอมง่าย ทีกับเขาทำไมถึงได้เย่อหยิ่งและดื้อดึงจนยากจะรั้ง

                                 เขาเลิกเสื้อนอนของอีกฝ่ายออก จัดการตรึงมือที่ขัดขืนเอาไว้ ดึงรั้งกางเกงให้ร่นลง

                                 รอยแผลเป็นที่ทำให้เขานิ่งจะงักปรากฏสู่สายตาของเขา

                                 มันเหมือนกับมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง รอยแผลผ่าตัดที่แค่เห็นก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับ

                                 เขาไม่รู้ตัวว่าเอื้อมมือลงไปแตะรอยแผลนั้นเมื่อไร และนานแค่ไหน

                                 ข้อเสนอเจ็ดวันถูกบอกออกไปแลกกับภาพการร่วมรักที่เขาเก็บเอาไว้

                                 เขาใช่มันมาต่อรองและบังคับให้อีกฝ่ายต้องทำตามอย่างว่าง่าย ขอแค่เจ็ดวัน

                                 เจ็ดวันที่เขาต้องการพิสูจน์ทุกคำตามที่เขาต้องการคำตอบ แค่เจ็ดวัน

 

                                                       -----------------------

                                 วันแรกผ่านไป มันดูน่าตลกสิ้นดี เขาเดินเข้ามาในครัวเพื่อ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเข้ามาในนี้

                                 ขนมผิงมีท่าทีเหม่ลอย จนข้าวต้นที่เดือดอยู่ล้นออกมา และเมื่อเข้าทักอีกฝ่ายก็กระวีกระวาดปิดเตาจนทำให้ไอร้อนลวก

                                 “ทำบ้าอะไรของนาย!!”เร็วกว่าความคิดที่เขาเอื้อมมือไปดึงมือที่ปรากฏรอยแดงเห่อไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วเอาน้ำล้าง

                                 “ปล่อยมือผม แค่นี้ไม่ตายหรอก”

                                 “อ้อลืมไปว่านายหนังหน้า”เป็นคำพูดที่เขาเลือกจะตอบกลับไปเพื่อกลบเกลื่อนพฤติกรรมที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ

 

                                 “หวังว่านายคงจะไม่ใส่ยาพิษให้ฉันกินหรอกนะ”เป็นคำพูดที่ดูเหมือนจะแก้ต่างให้การกระทำของตัวเอง

                                 “ผมไม่ได้คิดสกปรกเหมือนคุณ”

                                 “งั้นก็ดี ฉันเองก็ยังไม่อยากตายยกครัวพ่อแม่ลูกหรอกนะ”ปิญญ์ชานนท์พูดออกไป

                                 ทว่าคำพูดที่พลั้งปากออกไปทำให้ความคิดของเขาชะงัก

                                 อีกฝ่ายเองก็เช่นกัน

                               

                                 มื้ออาหารจบลง เป็นขนมผิงที่ต้องรับหน้าที่การดูแลปากท้องและเก็บกวาด มันทำให้เขาค่อนข้างอารมณ์ดีและพอใจที่อีกฝ่ายต้องทำหน้าที่เหมือนกับเป็นครอบครัว

                                 เขาถือเอาโอกาสที่อีกฝ่ายยุ่งวุ่นวายอยู่ในครัว เข้าหาเด็กๆ ขนมมากมายที่เตรียมเอาไว้ถูกเอามาล่อให้เด็กๆเข้าหา ดวงตากลมโตมองมาที่เขาตาใสแล้วปีนขึ้นมานั่งบนตัก

                                 เสียงแหลมเล็กกับถ้อยคำออดอ้อน มือป้อมๆกระตุกเข้าหาเพื่อขอขนม มันทำให้เขามีความสุขและเริ่มรู้สึกถึงสถานะที่มันขาดหายไป

                                 สถานะของความเป็นพ่อที่ควรจะเป็น

                                 ใช่…เขาเป็นพ่อของเด็กพวกนี้

                                 แต่มันเหมือนกับเป็นเรื่องตลกที่ทำให้เขาเสียหน้า

                                 คนอย่างปิญญ์ชานนท์ไม่เคยมีคำว่าผิดพลาดกับสิ่งที่ลงมือทำ แต่แล้วมันเหมือนกับเป็นการตอกหน้ากันอย่างเห็นได้ชัด

                                 “ใครเป็นคนเปลี่ยนแพมเพิตให้เด็กๆ”เสียงดูเหมือนจะไม่พอใจไถ่ถาม ทำให้ต้องละจากหน้าจอทีวีหันไปมอง

                                 แพมเพิตอะไรนั่นเขาไม่รู้จักหรอกว่ามันใช้เรียกอะไร แต่คงจะหมายถึงผ้าอ้อมสำเร็จรูปขนมผิงถืออยู่

                                 “ฉันเปลี่ยนเอง จะมีใครมาเปลี่ยนให้นอกจากฉัน”

                                 ใช่ มันเป็นการทดลองทำหน้าที่ของพ่ออย่างแรกที่เขาทำล้มเหลวเมื่อถูกตอกใส่เต็มหน้าว่าทำผิด

                                 เขาใส่ผ้าอ้อมให้ลูกผิด!!

                                 มันเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดแต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว คนอย่างปิญญ์ชานนท์ก็มีเรื่องที่ทำไม่ได้เหมือนกัน

                                 แต่ก็เลือกที่จะเถียงไปข้างๆคูๆ การเถียงกันเล็กๆโดยปราศจากเรื่องบาดหมางทำให้เขาพอใจแล้วแอบยิ้มให้กับตัวเอง

                                 จนกระทั่ง

                                 “นายกำลังหาอะไรอยู่ล่ะ?”

                                 เขาถามออกไปเมื่อเห็นว่าขนมผิงกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ในห้องนอน

                                 “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”มันเป็นประโยคปฏิเสธที่ทำให้เขาไม่ค่อยพอใจ

                                 “เกี่ยวสิ นายรู้ดีว่าฉันกับนายเกี่ยวข้องกันยังไง”

                                 “ผมกับคุณก็เป็นเพื่อนร่วมโลกกัน ก็แค่นั้น”

                                 คำตอบที่ได้รับ ปิญญ์ชานน์ยอมรับว่ามันเป็นการตอกย้ำความเกลียดชังของขนมผิงที่มีต่อเขา

                                 “จนป่านนี้ยังจะไม่ยอมรับอีกรึไงว่านายอยู่ในฐานะอะไร…ทุกอย่างของนายก็คือ…ของฉัน”

                                 เขาพูดย้ำ เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายได้จดจำ

                                 ขนมผิงเป็นของเขา เป็นแม่ของลูกเขา

 

                                 “คู่แข่ง….ผมกับคุณอยู่ในฐานะของคู่แข่งยังไงล่ะ คู่แข่งที่วันหนึ่งจะทำให้คนอย่างคุณเต้นเป็นเจ้าเข้ายังไงล่ะ”

 

                                 ปึง!!!

                                 ในที่สุดก็ทนไม่ได้กับคำพูดผลักไสไล่ส่ง ทั้งที่พยายามระงับโทสะ แต่สุดท้ายก็ทำลงไป

                                 หมัดหลุ่นๆลอยไปกระแทกลงบนกระตูตู้เสื้อผ้าดังสนั่น

                                 ชั่ววินาทีเขากระชากร่างของอีกฝ่ายเข้ามาแล้วบดจูบลงไปอย่างรุนแรง

                                 เป็นบทลงโทษของการไม่ยอมรับสิ่งที่เขายัดเยียด เป็นการสั่งสอนให้ได้สำนึกว่าเขาเป็นเจ้าของ ไม่มีสิทธิที่จะผลักไส

 

                               

                                 “ในระหว่างที่อยู่ที่นี่ ฉันไม่ต้องการได้ยิน หรือว่าคุยเรื่องงาน จำเอาไว้!!หากนายขืนพูดเกี่ยวกับเรื่องงานแม้แต่คำเดียว ฉันไม่หยุดไว้แค่นี้แน่”

                                 เป็นคำขู่สำหรับขนมผิง แต่สำหรับเขามันคือคำขอร้อง

                                 เขาไม่อยากให้เรื่องงานถูกดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวในขณะใช้เวลาร่วมกัน

 

                                   “ปะป๊า คุนยุง เมื่อกี้เสียงอะไรเหยอฮับน้องหลิ่มกลัว”ปลากิมยื่นหน้าผ่านประตูเข้าเสียงเล็กๆใสใสเรียกให้เขาหันไปมอง

                                 “ไม่มีอะไรครับ คุณลุงซุ่มซ่ามสะดุดล้มไปโดนตู้น่ะครับ ปลากริมอย่าเอาอย่างนะครับ”อีกฝ่ายแกล้งตอบกลับไปคล้ายจะดิสเครดิตเขา แต่เปล่ามันกลับตรงกันข้ามมากกว่า

                                 “แล้วคุณยุงเจ็บมากไหมฮับ”

                                 ทว่าเจ้าตัวอ้วนกลมเดินมาจับมือคุณปิญญ์แล้วเป่าหน้าตาเฉย ท่าทางห่วงใยอันใสซื่อทำให้ขนมผิงแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ

                                 ทำให้เขายกยิ้มออกมาคล้ายกับโอ้อวด

                                 ปากเล็กๆเป่าลมออกมาให้เขาหายเจ็บ มันเป็นความสุขเล็กที่ที่ถูกก่อขึ้นในหัวใจของเขา

                                 เขายกมือขึ้นมาลูบหัวทุยๆนั้นอย่างเอ็นดู

                                 บางครั้งการกระทำที่ยากจะเข้าใจก็ควรจะปล่อยให้มันเลยผ่านไป
มีต่อ


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 07:36:28 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
ดูผลตรวจ DNA ก็พอมั้งปิญญ์ อะไรต้องลากมาดูแผลผ่าคลอดกันถึงเกาะส่วนตัว


แล้วหนมผิงก็ทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่องถามอะไรซ้ำไปมาอีกแล้ว
ผิงเป็นผู้ชายนะลูก ไม่ได้แตกสาวร้าวรานมาตั้งแต่แรก สู้ให้เหมือนตอนอยู่คอนโดสิ
ตอนนั้นไม่เห็นมีเครื่องช็อตฯ ต่อให้แพ้แรงอีปิญญ์ ยังสู้สุดตัวถวายหัวกันเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
อยู่ด้วยกันแบบนี้คนอ่านฟินมาก

ต่างคนต่างปากหนักเหลือนเกิน

แบบนี้เมื่อไร่จะมีน้องอะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :pig4:  7 วันจะกัดกันแบบนี้ทุกวันไหม

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เหมือนพ่อง้อแม่เลย ๕๕๕

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
7  วันนี้  ตั้งใจจะทำน้องให้ปลากริมกับสลิ่มอีกใช่มั้ย   คุณปิญญ์    :m12:
รู้แล้วใช่มั้ยอ่ะ  ว่า  ปลากริมกับสลิ่ม  เป็นลูกของตัวเอง   :hao3:
ดูผล  DNA  แล้วก็บอกมาเถอะ   :m11:
จะปากแข็งไปไหน   :hao4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
จับมาอยู่ด้วยกันแบบนี้อยากให้ขนมผิงใจอ่อนหรือเปล่า หรืออยากได้ลองใช้ชีวิตพ่อแม่ลูกดู?

ขนมผิงก็ยังขี้โวยวายเหมือนเดิม แอบรำคาญเบาๆ55555

มีน้องให้เด็กแฝดสักคนก็ดีนะ :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
แอบเหนื่อย
อย่าใจอ่อนง่ายๆเชียวนะผิง

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ผิงน่าจะใจเย็นหน่อย ดิ้นพล่านไปตามเกมประสาทของปิญญ์ทุกที
ปิญญ์รู้สึกผิดขึ้นมานิดนึงล่ะซิ อยากจะมีโมเม้นท์อบอุ่นครอบครัวแต่ก็ทำเขาไว้เยอะ ทิฐิค้ำคออีก ก็อึมครึมหน่วงๆกันต่อไป~~~

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ดูผลตรวจแล้วอ่าเดะ
ถึงได้เป็นขุ่นพ่อง้อขุ่นแม้แบบเน้
ตกลงจะเอางายยยย
จะเอาแม่กะลูกไว้กะตัวใช้ม้าาา
แล้วจะทำน้องไหมล่ะ มีน้องให้แฝดเลย

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ทำไปทำมา นิยาย รวนไปหมด ตอนแรกเกลียดกันจะตาย พอรู้ความจิง อยากเป็นพ่อมาเลย ขนมผิงน่าลำคานมาก ถึงมากที่สุด ดีแต่อะไรไม่รู้ น่าเบื่อมากกก อ่านแล้วค่อนข้างเบื่อเลย ทำไปทำมา เดี๋ยวก็ อยู่ใกล้กันก็เริ่มดีกันรักกัน จบ!!!!

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ตอนนี้มุ้งมิ้งมาก ชอบ อบอุ่นน่ารัก ปินส์รู้ความจริงแล้ว เย้

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2015 18:29:18 โดย NeLy เนลี่ »

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เง้อ....สั้นจริงด้วย  :mew5:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ขนมผิงมองคนอื่นในแง่ร้ายไปหน่อยไหม

เอาแต่คิดว่าคนอย่างคุณปิญญ์ เป็นคนถูกถูกคนอื่น คนเห็นแก่เงิน

แล้วการที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ผู้ชายเน้อ..ไม่เคยทำ แต่..ขนมผิงกลับมองว่าไว้ใจไม่ได้

นี่คืออะไร สับสนในความคิด หรือว่ามีปัญหาในการพูด

บอกก่อนว่ายังไงก็เชียร์คุณปิญญ์จ้า

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ตอนนี้ปิญน่ารัก ยอมรับ5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด