❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณทีมใคร????

ทีมปิญญ์ # หล่อเลวแบบนี้ใช่เลย จัดหนักจัดเต็ม
26 (15.3%)
ทีมขนมผิง # แกมาทำร้ายชั้นเรอะ ไม่ยอม ฉันจะเอาคืน
38 (22.4%)
ทีมแฝดลูกหมู # ปล่อยให้พ่อๆไปเคลียกันเอง มุ้งมิ้งกันสองคน
106 (62.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 170

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖  (อ่าน 291166 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 08:05:09 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
อ่านบางตอนก็รู้สึกเหนื่อย แต่ก็ลุ้นว่าจะลงเอยกันยังไง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เป็นตอนแรกของเรื่องนี้ที่อ่านแล้วรู้สึกสบายๆ
อยากให้รู้ว่าท้องเร็วๆ คราวนี้พ่อแม่ผิงคงไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะ ว่าพ่อเด็กเป็นใคร

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โอยยย เด็กเปรต เซ็งสองเด็กเปรตอ่ะ

อีปิญ จะง้อทั้งทีก็ควรจะเปิดผยตัวเองนะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เมื่อไรผิงจะรู้ใจตัวเองน้า   ครอบครัวจะได้เป็นครอบครัวเสียที  แล้วนี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่า ท้องอ่ะ   เอ๋?

ออฟไลน์ lalaly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไหร่คู่นี้เขาจะดีกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
แอบมีโมเม้นท์หวานๆ

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
29 ความลับที่ปกปิด

   “ยินดีด้วยนะครับ ตอนนี้คุณตั้งครรภ์ได้แปดอาทิตย์แล้ว หมอยังระบุไม่ได้ว่าครั้งนี้เป็นแฝดรึเปล่า หมอจะอัลตร้าซาวด์
ตรวจเด็กในครรภ์ให้ถ้าคุณต้องการ”

   “ไม่ครับ ผมไม่ต้องการ ขอบคุณ”ขนมผิงตอบรับด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ มือทั้งสองข้างสั่นเทา จิกเล็บลงบนอุ้งมือของตัว
เองแน่นจนเลือดซึม ทั้งที่น่าจะรู้สึกเจ็บแต่ในเวลาเขานี้เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย

   ร่างสูงโปร่งพาตัวเองเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยสภาพเหม่อลอย เขาควรจะทำอย่างไรดีกับประวัติศาสตร์ที่กลับไปซ้ำ
รอบเดิมกับผู้ชายคนเดิม ผู้ชายที่เขาเคยเกลียดสุดขั้วหัวใจ

   อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงมันยิ่งทวีเพิ่มมากขึ้นทุกวันจนทนไม่ไหว ทั้งที่กลัวคำตอบมาตลอด หลีกเลี่ยงที่จะเจอความจริง
แต่เขาไม่ไหวที่จะทนอีกต่อไป

   ขนมผิงก้าวเดินมาเรื่อยๆ มาหยุดอยู่ในห้องน้ำ มือทั้งสองข้างยังคงสั่นเทา จ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ภาพที่
เห็นนั่นมันกำลังพล่าเบลอและสั่นระริก เขาล้วงหยิบแทบแท่งตรวจสีขาวรูปร่างยาวเรียวขึ้นมาจ้องมองอีกครั้ง สิ่งนี้เป็นตัวชักนำ
ให้เขามาหาคำตอบที่นี่

   ที่ตรวจครรภ์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว รอยขีดสีแดงจางยังคงเด่นชัดในความคิด ขนมผิงปล่อยมันร่วงหล่นลงไปในถังขยะ
ด้วยความคิดที่กำลังสับสน

   เพราะอะไรเขาถึงปล่อยให้ตัวเองท้องกับปิญญ์ชานนท์เป็นครั้งที่สอง ทั้งที่คอยตอกย้ำว่าแสนเกลียดราวกับเส้นขนานที่
ไม่มีวันจะบรรจบกัน แต่เขาก็ปล่อยให้เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมันเกิดขึ้นอีกมาครั้ง

   

   -----------------------------------------------------------------------------------------

   “กลับมาแล้วเหรอผิง เข้าบริษัทมาเหรอ ไม่เห็นบอกแม่ แม่ว่าจะชวนไปซื้อของมาทำกับข้าว”

   “ไปธุระมาน่ะแม่ ผิงไม่ได้เข้าบริษัท”ขนมผิงตอบเสียงเนือย ดวงตาสีโศกหลุบมองปลายเท้าตัวเองเมื่อบังคับไม่ให้มันหยุด
สั่นไม่ได้

   “เป็นอะไรทำไมหน้าซีดๆ มานี่มาตอนนี้บ้านเรามีแขก เขากำลังคุยกับพ่ออยู่ในห้องรับแขกนู่น”

   “แขก?”ไม่บ่อยนักที่จะมีแขกมาที่บ้านทำให้ขนมผิงแปลกใจ ยอมเดินตามผู้เป็นมารดาเพราะในเวลานี้เขาไม่หลงเหลือ
พื้นที่ในความคิดให้คิดถึงสิ่งใดได้อีก

   แต่แล้วรอยยิ้มเบื้องหน้าที่ปรากฏสู่สายตานั้นก็ทำให้หัวใจของเขาราวกับร่วงหล่นกระแทกลงกับพื้น คนเดียวที่ไม่อยากจะ
เห็นหน้ามากที่สุดในเวลานี้กลับมาอยู่ตรงหน้าของเขา

   “คุณปิญญ์เขาเอากระเช้ารังนกมาขอบคุณเรื่องวันนั้น ผิงเข้าไปคุยกับเขาสิ รุ่นๆเดียวกัน ทำความรู้จักกันไว้เยอะๆ”ลำดวน
ดึงลูกชายให้เดินตามเข้ามา “มาแล้วค่ะลูกชายตัวดีของคุณแอบไปหนีเที่ยวมาไม่บอกไม่กล่าวอีกแล้ว”ลำดวนว่าพลางส่งยิ้มให้
แขก

   “ผมว่าผมของตัวดีกว่า”ขนมผิงหลุบตาหลบสายตาคู่คมที่ส่งมา

   ไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกมันบอกกับเขาแบบนั้น ดวงตาทั้งสองข้างมันเริ่มพร่ามัว มือทั้งสองข้างสั่นเทาจนผู้เป็นแม่เงยหน้า
มองลูก

   ลำดวนเบิกตากว้างเมื่อมองเห็นหยดน้ำตาไหลลงมาบนผิวแก้มที่ขาวซีดของลูกชาย แต่พอจะถามลูกชายของเธอก็กลับ
เดินหนีขึ้นบ้านไปเสียก่อน หากเธอไม่ได้เข้าใจผิด เหตุผลที่ทำให้ลูกชายของเธอมีท่าทีเช่นนี้ก็คงไม่พ้นชายหนุ่มที่อยู่ในห้อง
รับแขกในเวลานี้

   “อะ เอ่อ ขอโทษนะคะ สงสัยว่าตาผิงไม่สบาย คุยกันไปก่อนนะคะหนุ่มๆ”ลำดวนยิ้มแห้ง

   “ไม่เป็นไรครับ”รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าก่อนหน้านี้ของชายหนุ่มเลือนลางแทบจะทันทีเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนที่เฝ้ารอ
มานับชั่วโมง

   “ช่วงนี้ตาผิงไม่ค่อยสบายน่ะ เมื่อครู่เราคุยกันถึงไหนแล้วนะเรื่องออกรอบตีกอร์ฟใช่ไหม”

   “ครับคุณลุง”ตอบรับทั้งที่ตายังจับจ้องไปยังทางที่อีกฝ่ายเดินออกไปไม่วางตา

   “เมื่อไรดีล่ะ เอาเป็นอาทิตย์หน้าเลยไหม มีเพื่อนๆลุงว่างช่วงนี้พอดี ไปกันเยอะๆน่าจะสนุก”คำเรียกแทนตัวเปลี่ยนไปเมื่อ
คำสรรพนามที่ถูกเรียกนั้นต่างออกไปจากเดิม อายุอานามของเขาไม่ใช่มองแล้วจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังพยายามที่จะ
ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

   ไม่ได้ใช้วิธีที่รุกมากเกินไปจนน่าเกลียดแต่กลับเป็นวิธีที่เข้าหาแบบธรรมชาติจนเขาอดชมไม่ได้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องการพลิก
โอกาสทางธุรกิจที่กำลังล้มละลายแค่นั้น แต่เรื่องอื่นๆคนคนนี้ก็ทำได้เป็นอย่างดี แต่ประเด็นก็คือเวลานี้บ้านนี้ไม่มีลูกสาวให้หัว
บันไดบ้านไม่แห้งอีกแล้ว มีเหลือก็แต่ลูกชาย

   “ครับ อาทิตย์หน้าก็ได้ครับ ว่าแต่ขนมผิงช่วงนี้ไม่สบายบ่อยมากเลยเหรอครับ”

   “ก็บ่อยอยู่นะ ช่วงนี้ เห็นบ่นเหนื่อยบ้างเพลียบ้าง บางทีก็อาเจียน”

   “งั้นเหรอครับ แล้วคุณลุงทราบหรือเปล่าว่าขนมผิงป่วยเป็นอะไร”บทสนทนาถูกเปลี่ยนไปทันควัน เบื้องลึกในดวงตา
คมกริบแฝงไปด้วยความกังวล

   “ไม่รู้สิ ตอนนี้ก็ได้แค่คาดเดา ยังไม่ได้มีอะไรชี้ชัดว่ามันจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยรึเปล่า ขนมผิงเป็นคนไม่ค่อยพูด แล้วก็
ไม่ชอบให้ถามอะไรมากมายคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ได้แต่ดูห่างๆเพราะโตๆมีลูกมีเต้ากันแล้ว”

   “นั่นสินะครับ”ปิญญ์ชานนท์ตอบรับ รู้สึกเป็นห่วงขนมผิงจนแทบจะอยู่ติดที่นั่งต่อไปไม่ได้แล้ว จะว่าเขาว่าไร้มารยาทก็ได้
เพราะเขาแทบไม่ได้สนใจบทสนทนาเลย

   และนั่นก็ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามหรี่ตาจับจ้องมองมาที่เขายามที่เขาเหลือบตามองไปยังทางเดินของตัวบ้าน

   “ถ้าไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาท จะขอถามอะไรคุณได้ไหม”

   “ครับ?”

   “คุณรู้จักขนมผิงมากแค่ไหน รู้จักเด็กๆมากแค่ไหน”

   “ทำไมถึงถามล่ะครับ”

   “ก็แค่อยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับพวกเขา”คำถามนี้แฝงความนัยน์ได้อย่างชัดเจน เป็นคำถามที่ตรงประเด็นจนชายหนุ่มสะอึก
ดวงตาคมดุจ้องมองตอบชายสูงวัยแน่นิ่ง

   “ผม”

   “ว่ามาเลย ผมอยากให้คุณตอบผมตรงๆ ตอบเท่าที่คุณรู้”สายตาของชายสูงวัยเองก็จับจ้องมองชายหนุ่มนิ่งไม่แพ้กัน และ
กำลังคาดหวังในคำตอบที่จะได้ยิน

   “ผมรู้ว่าขนมผิงเป็นคน…”

   “ว่ามาเลยไม่ต้องเกรงใจ”พิศณุคาดคั้นเอาคำถาม

   “ผมรู้ว่าขนมผิงเป็นคนอุ้มท้องปลากริมกับสลิ่ม”ตอบไปหยั่งเชิงปฏิกิริยาของพิศนุ แต่ท่าทีของพิศนุยังนิ่งเฉยซ้ำยังมีรอย
ยิ้มเล็กๆอยู่บนมุมปาก

   “แล้วคุณคิดยังไงกับพวกเขาล่ะ”พิศนุตัวชาไปเล็กน้อยเมื่อคำตอบที่ได้รับคือความลับที่ทุกคนในบ้านพยายามปกปิดมา
ตลอด แต่ก็ถามออกไปอีกครั้ง

   “ถ้าคุณลุงต้องการคำตอบที่เป็นความจริง ผมก็จะตอบ”ปิญญ์ชานนท์เม้มปากแน่น ความรู้สึกกดดันทำให้เขาเริ่มประหม่า
อย่าไม่เคยเป็นมาก่อน “ความจริงแล้วผมรักลูกชายของคุณลุง”คำตอบของปิญญ์ชานนท์ทำให้พิศนุตอบกลับแทบจะทันที

   “ถึงแม้ว่าลูกชายของลุงจะเป็นผู้ชายและกำลังจะแต่งงาน?”

   “ครับเรื่องนั้นผมทราบดี”

   “ในเมื่อคุณทราบดีแล้วยังพยายามเข้าหาขนมผิงทำไม ขนมผิงเองก็ดูไม่พอใจคุณมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะคุณปิญญ์
ลูกชายของลุงเขากำลังจะแต่งงาน มีครอบครัว ถึงแม้ขนมผิงจะเคยมีใครแล้วเคยท้องมาก่อนก็ตาม ยอมรับว่าแปลกใจที่คุณรู้ว่า
ขนมผิงเป็นคนตั้งท้อง แต่เรื่องนั้นมันก็เป็นความลับ น้อยคนมากที่จะรู้เรื่องนี้ และตอนนี้ขนมผิงกับเด็กๆก็กำลังจะมีอนาคตที่ดี
คุณตัดใจเสียจะดีกว่า เพราะมันอาจจะเป็นผลเสียกับคุณไปด้วยอีกคน”

   “คุณลุงอาจจะไม่พอใจกับคำตอบของงผม ตามผมสารภาพไปแล้วว่าผมรักลูกชายของคุณลุง และผมก็ตั้งเป้าเอาไว้แล้วว่า
ผมจะไม่ถอยหลังเหมือนก่อนหน้านี้ หากว่าผมทำอะไรให้คุณลุงไม่พอใจนับจากนี้ผมต้องขอโทษล่วงหน้า เพราะผมเองก็จะไม่
ปล่อยให้ขนมผิงกับลูกอยู่ลำพังอีกแล้ว ขอโทษนะครับที่ทำให้วันนี้เสียบรรยากาศ ไว้วันหน้าผมจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ”ปิญญ์ชา
นนท์ยกมือไหว้ก่อนเดินออกมา

   “มันจะดีกว่านี้ถ้าคุณจะไม่มาให้ลูกชายของเราเห็นหน้าอีก”

   “เรื่องนั้นผมคงทำตามที่คุณลุงขอไม่ได้ ขอโทษด้วยครับ”ปิญญ์ชานนท์ชะงักเท้าก่อนจะตอบกลับคำพูดสุดท้าย

   เขารู้สึกหน้าชาจนต้องยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ เขาไม่ได้วางแผนมาก่อนว่าจะโดนพ่อของขนมผิงคาดคั้นความ
จริงและโดนปฏิเสธ นี่อาจจะเป็นผลของการกระทำในอดีตที่เขาเคยทำเอาไว้ก็เป็นได้ ปิญญ์ชานนท์ฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ
พักใหญ่ก่อนจะขับออกไป




   “ไปแล้วเหรอคะ ทำไมวันนี้เขากลับเร็วจัง”ลำดวนแตะแขนของสามีที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพลางมองตามรถยนต์คันสีดำ
สนิทของแขกขาประจำออกไป

   “เขาบอกว่ารักลูกของเรา บางทีสิ่งที่พวกเราคิดเอาไว้มันอาจจะเป็นเรื่องจริง”

   “เขาบอกกับคุณแบบนั้นเหรอคะ ตายจริง ปกติแล้วคุณปิญญ์เขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรออกมาตั้งแต่ไหนแต่
ไรทำไมเขาถึงได้บอกกับคุณ”

   “ผมถามเขาน่ะ”

   “แล้วเขารู้ไหมว่าลูกของเรา เอ่อ เคยท้อง”


   “เขารู้”

   “ได้ยังไงกันคะ เรื่องนี้เป็นความลับนี่ค่ะ น้อยคนมากที่จะรู้”




   “แล้วตาผิงล่ะเป็นยังไงบ้าง”พิศนุแตะแขนภรรยาพาเดินเข้าไปในบ้าน

   “ขังตัวเองเอาไว้ในห้องเรียกเท่าไรก็ไม่ยอมเปิดประตู เหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด”ทั้งอาการและปฏิกิริยา

   “ไว้พร้อมเมื่อไรลูกคงจะบอกเราเอง ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าคุณปิญญ์เขาจะทำยังไงต่อไปหลังจากที่ผมปฏิเสธเขาไป”

   “ตายจริง คุณปฏิเสธเขาไปได้ยังไงกัน”

   “คุณลืมแล้วรึไงว่าลูกของเรากำลังจะแต่งงาน”

   “แล้วลูกของเราดูมีความสุขบ้างรึเปล่าคะ”

   “แต่คุณก็รู้ว่าตาผิงไม่ชอบคุณปิญญ์”

   “แล้วเดหลีรักตาผิงจริงรึเปล่า บางทีคุณก็ต้องมองให้ลึกลงไป ถึงแม้ตาผิงจะเหมือนไม่พอใจคุณปิญญ์ทุกครั้ง แต่ทุกครั้ง
ที่เขาพูดออกมา ลูกของเราไม่เคยที่จะปฏิเสธอย่างจริงจังได้สักครั้ง ซ้ำยังปลากริมกับสลิ่มอีก”

   “ปิญญ์ชานนท์เป็นผู้ชาย”

   “ฉันจะไม่คัดค้านคุณหากว่าลูกของเราไม่เคยท้อง”

   “ยังไงมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว”พิศนุถอนหายใจ



   --------------------------------------------------------------------------------------------




   

   “คุณเป็นอะไร ทำไมหน้าซีด”สัญชาตญาณของคนเป็นหมอถามอาการของคนป่วยตรงหน้าทันทีหลังจากมื้อเย็นจบลงใน
ห้องคอนโดของเขา

   “ผมปวดหัวนิดหน่อย เดี๋ยวกลับไปนอนพักก็คงหาย”แทนทัพยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกดีที่คุณหมอตรงหน้าเป็นห่วงเขา ถึง
มันจะเป็นสัญชาตญาณของคนเป็นหมอก็ตาม แต่เขาก็อดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้

   คุณหมอไม่ตอบอะไรแต่เอื้อมมือไปแตะฝ่ามือลงบนหน้าผากกว้างของชายหนุ่มผิวแทนตรงหน้า อุณหภูมิที่ขึ้นสูงทำให้

คุณวุฒิแทบจะไม่ต้องเสียเวลาวินิจฉัยอาการของแทนทัพเลย

      “คุณมีไข้สูง เมื่อวานคุณตากฝนมารึไง”


   “ตอนวิ่งไปที่รถ แค่นิดเดียว นอนพักเดี๋ยวก็หาย”

   “คุณไม่เข้าใจคำว่ามีไข้สูงรึไง ตัวร้อนจนจะไหม้ขนาดนี้”ความเป็นคุณหมอทวีเพิ่มขึ้นมาเมื่อคนไข้ไม่ยอมเชื่อฟัง “ผมจะ
ไปหยิบยา วันนี้คุณต้องนอนค้างที่นี่ ยาแก้ไข้กินแล้วมันจะทำให้ง่วง คุณขับรถไม่ได้หรอก”พูดเองสั่งเองเสร็จสรรพ ขมวดคิ้วมุ่น
เดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบยา

   ทิ้งเอาไว้แต่ร่างสูงใหญ่ของแทนทัพนั่งอยู่กับที่ติดโต๊ะทานข้าว จะว่ามึนงงกับพฤติกรรมของคุณวุฒิก็ไม่เชิง เป็นห่วงเขา
หรืออะไรกันแน่ แต่มันก็ดีไม่น้อยที่มันไม่ได้จบลงแค่มื้ออาหารเย็นในคืนก่อนวันหยุดเหมือนทุกครั้งไป

   “นี่ยา กินเสร็จแล้วคุณก็เช็ดตัวเข้านอนได้เลย”

   “ผมยังไม่ง่วง อีกอย่างผมอาบน้ำได้ ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

   “คุณไม่เคยป่วยรึไง”

   “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ”แทนทัพตอบยิ้มมุมปาก คุณวุฒิจะทำท่าทางดุแบบนี้รึเปล่าหากคนไข้ของตัวเองไม่เชื่อฟังแบบเขา

   “งั้นก็ทำตามที่ผมบอก เช็ดตัว แล้วก็ไปนอน กินยาเข้าไปแล้วเดี๋ยวคุณก็ง่วงเอง ผมไม่เคยเจอคนไข้ที่เรื่องมากแบบคุณ
เลยสักครั้ง”

   “ครับๆ คุณหมอ”ยิ้มให้แล้วเดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำหลังจากกินยาเสร็จ

   จริงอย่างที่คุณวุฒิบอก พอกินยาเข้าไปก็รู้สึกง่วงจนตาแทบจะปิด พอออกมาจากห้องน้ำได้ อาหารปวดหัวผสมกับความ
เหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันทำให้แทนทัพทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มทันทีทั้งที่กายพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหมิ่นเหม่



   “เดือดร้อนจริง”คุณหมอบ่นอุบ

   รู้สึกว่าแทนทัพเงียบไปนาน พอเดินเข้ามาก็ถึงกับสะอึกเมื่อร่างกึ่งเปลือยของแทนทัพนอนแผ่กายอยู่บนเตียง ผ้าขนหนูผืน
ขาวพันเอวจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่เรียกให้ใบหน้าขาวสะอาดของคุณหมอแดงก่ำ

   พยายามพลิกร่างสูงใหญ่ของแทนทัพเพื่อที่จะจับใส่เสื้อผ้าให้ แต่ความที่ไม่เคยทำแบบนี้กับใครทำให้ชายหนุ่มถอน
หายใจเดินเอาเสื้อผ้าไปเก็บไว้ในตู้ดังเดิม

   แทนทัพทั้งขาแขนใหญ่ตัวหนักกว่าเขาเป็นกอง ไม่ไหวที่จะจับใครที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ใส่เสื้อผ้าเวลาหลับได้ ทำได้แค่จับ
ผ้าห่มคลุมกายร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเอาไว้แล้วซุกกายลงใต้ผ้าห่มอีกฟากเตียง


   ฝนข้างนอกเริ่มโปรยปรายหนักขึ้น อากาศเริ่มเย็นตัวลงทำให้ทั้งเข้าและแทนทัพขดกายเข้าหาไปอุ่นภายใต้ผ้าห่มผืนหน้า
อัตโนมัติ

   ดวงตารีเล็กพร่ามัวทันทียามที่ถอดแว่นออก แต่ก็ยังจ้องมองผ่านความมืดราวกับว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นสัมผัสได้ผ่านความรู้สึก

   ใบหน้าคมกร้านพร่าเบลอตรงหน้าทำให้หัวใจของคุณหมอสั่นไหว นานแล้วที่ไปมาหาสู่กัน ไปไหนด้วยกันบ่อยๆหลังจาก
เกิดเรื่องผิดพลาดในคืนนั้น

   พอรู้ตัวอีกทีแทนทัพก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ชีวิตที่กลับมาเงียบเหงาหลังจากขาดใครบางคนเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีก
เป็นครั้งที่สอง

   ไม่รู้ว่าภาพที่เลือนรางตรงหน้ามันจะเลือนรางไปมากกว่านี้หรือชัดเจนขึ้นกันแน่ แต่รู้แค่ว่าเขาคงทำใจไม่ได้อีกหากเสีย
ส่วนหนึ่งในชีวิตอีกเป็นครั้งที่สอง

   ฝ่ามือขาวนุ่มยื่นไปด้านหน้าลูบลงบนโครงหน้าคมคายอย่างเบามือ ถึงแม้จะพร่าเบลอจนเกือบจะมองไม่เห็น แต่เวลานี้เขา
ก็สัมผัสได้ถึงตัวตนที่อยู่เบื้องหน้าของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าแทนทัพคิดเหมือนกับที่เขาคิดรึเปล่า การที่ยอมรับตัวตนของอีกฝ่ายเข้ามา
ในชีวิต

   

   เสียงเรียกชื่อปลุกให้คุณวุฒิตื่นขึ้นมาอย่างัวเงียมือขาวควานไปบนชั้นข้างเตียงเพื่อหยิบเอาแว่นตาของตัวเองมาสวมใส่
เหมือนทุกที หากจำไม่ผิดวันนี้ไม่ใช่วันที่แม่บ้านจะมาทำความสะอาด ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีคนเรียกแต่เช้า

   แต่แล้วบุคคลที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้คุณวุฒิแปลกใจพึมพำชื่อของอีกฝ่ายออกมาทั้งที่ยังงัวเงีย

   “พี่วิน”

   “ไม่เห็นกับตานี่ฉันไม่เชื่อนายจริงๆ”

   “ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”คุณวุฒิยังคงขยี้ตาตัวเองพลางบิดขี้เกียจ

   “มาพิสูจน์ให้เห็นกับตาไง ถึงทุกคนในบ้านจะตามใจนายมาตลอดแต่ทำแบบนี้ไม่คิดว่ามันจะเกินไปรึไง”

   “อะไรของพี่แต่เข้า ผมไม่เข้าใจ”คุณวุฒิถามกลับพี่ชาย ดวงตารีเล็กจ้องมอใบหน้าของผู้เป็นพี่ชาย

   นอกจากจะโผล่มาที่คอนโดของเขาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงแล้วยังจะโวยวายอะไรที่เขาไม่เข้าใจ

   “ออกมาคุยกันข้างนอก แล้วก็ปลุกมันขึ้นมาด้วย”

   “ครับๆ”ยังไม่ทันตอบรับแต่คุณทรัพย์ก็เดินออกไปจากประตูห้องนอนเสียแล้ว

   คุณวุฒิยังคงมึนงงกับพี่ชายของตัวเอง แต่จะให้ปลุกคนป่วยก็ยังไงอยู่ เขาเลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำแล้วทำธุระส่วนตัวก่อน
จะเดินออกไปเจอพี่ชายนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โซฟา

   “มันเป็นใคร พี่บอกให้ปลุกมันขึ้นมา”

   “มัน? หมายถึงเขานั่นเหรอ ปลุกไม่ได้หรอก”

   “ทำไมถึงไม่ได้ แล้วทำไมถึงต้องนอนค้างที่นี่”

   “เขาไม่สบาย ก็เลยให้นอนค้าง ว่าแต่พี่วิน ทำไมพี่ถึงได้มาหาผมล่ะ”

   “กับมันเป็นอะไรกัน”

   “อย่าเรียกเขาว่ามัน ตอนนี้เป็นหมอกับคนไข้”

   “แล้วตอนอื่นล่ะ”

   “เป็นหมอกับเลขา”ตอบไปตามจริง ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้สึกรำคาญลูกชายคนโตของบ้านอย่างคุณทรัพย์

   “เขามาบ่อยแค่ไหน”

   “ทุกอาทิตย์”

   “มาทำไม”

   “มากินข้าว”

   “ตอบพี่มาตรงๆว่ากับเขาเป็นอะไรกัน”

   “แล้วทำไมต้องมาถามอะไรที่ผมไม่เข้าใจ ผมเป็นหมอยังไม่ถามคนไข้มากเท่าที่พี่ถามผมเลย”

   “ให้น้อยหน่อยคุณวุฒิถึงจะเป็นลูกคนสุดท้องแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรไม่ให้เกียรติครบครัวแบบนี้”

   “ผมขี้เกียจคุยกับพี่แล้วล่ะ”ลุกหนีอีกครั้งเมื่อไม่ได้ดั่งใจ

   “เดี๋ยวพี่ต้องไปประชุมต่อที่บริษัท อย่าหวังว่าพี่จะปล่อยเรากับมันไปง่ายๆ กลับบ้านด้วยล่ะ”ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะ
เงยหน้าขึ้นมาขู่ไล่หลัง

   “ผมไม่เข้าใจที่พี่พูดหรอก จะไปไหนก็รีบไปเถอะครับ”รีบไล่ก่อนที่คนที่โกหกไม่เก่งอย่างเขาจะถูกจับได้

   ความจริงทุกอย่างที่พี่ชายพูดมาเขารู้ดีว่ามันคืออะไร แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือที่บ้านรู้ได้ยังไง และมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาและ
แทนทัพแน่หากที่บ้านรู้เรื่องนี้



   “นั่นใครเหรอครับ”แทนทัพถามถึงคนที่เพิ่งออกไปจากห้องทำท่าเหมือนเพิ่งตื่นทั้งที่ตื่นได้สักพักพอที่จะได้ยินบทสนทนา
ของพี่น้องแล้ว

   “พี่ชายผม แล้วคุณหายปวดหัวรึยัง”ถามพลางแตะมือลงบนหน้าผากกว้าง

   “หายแล้วครับ แล้วเขาคุยอะไรกับคุณ”

   “ทักทายกันปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ”บอกเสียงเรียบทิ้งตัวลงขอบเตียงข้างกับแทนทัพไม่ใช่เพราะอยากจะนั่งข้างๆหรือว่า
อะไร แต่เพราะแค่อยากจะหลบสายตาคมนิ่งที่มองมา

   “วันนี้ไปดูหนังกันไหมครับ”

   “คนที่เขาไม่สบายเขาจะนอนพักผ่อนไม่ใช่ออกไปข้างนอกแบบคุณ”ประชดประชันทั้งที่ใจยังคงกังวล

   แต่ใบหน้าก็ต้องหันไปตามแรงดึงหลุบมาก้มลงมองมือของตัวเอง ยอมรับจูบร้อนที่ประทับลงมาแผ่วเบา ยอมให้อีกฝ่ายบด
เบียดและเคล้าคลึงสอดลิ้นนุ่มร้อนผ่าวเข้ามาตวัดรัดกับปลายลิ้นของตัวเอง

   แต่เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก็ต้องผละออกแทบจะทันที ดวงตารีเล็กภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้าง ขบฟันลงบนริมปีปาก
แน่น

   “ทำบ้าอะไร อยากให้ผมติดไข้ไปด้วยรึไง”

   “ไม่ต้องกลัว”และนี่คือคำตอบที่ได้รับจากชายหนุ่ม คำตอบที่ถ้าหากไม่คิดให้ลึกก็จะไม่รู้ความหมายที่แท้จริง

   แต่ถึงอย่างนั้นคุณวุฒิที่ไม่ค่อยจะใส่ใจกับรายละเอียดอะไรขัดกับความเป็นหมอกลับคิดเข้าข้างตัวเอง

   เพราะเขากำลังกลัว กำลังกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่เคยเกิดขึ้น



   ---------------------------------------------------------------------------------------------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 08:05:41 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
ต่อ

   “จะกลับแล้วเหรอครับ”แทนทัพถามเมื่อเห็นขนมผิงเดินออกมาจากห้องของผู้บริหาร

   “อืม ผมว่าจะไปรอรับเด็กๆที่โรงเรียน”ขนมผิงยิ้มเล็กน้อย

   “ให้ขับรถไปส่งไหมครับ หน้าคุณดูเหมือนไม่สบาย”

   “ไม่เป็นไร ผมปกติดี ฝากดูทางนี้ด้วยล่ะ”ขนมผิงส่ายหน้าตัดบทแล้วเดินออกมา


   ยิ่งนานวันเข้าอาการของคนท้องก็ยิ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเห็นได้ชัด เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ เวียนหัวราวกับเป็น
คนป่วยทำให้เขาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงที่จะคิดอะไรมากมายนอกจากคิดถึงชีวิตเล็กๆที่อยู่ในร่างกายเวลานี้เพราะยังมีอีกหลายสิ่ง
หลายอย่างที่ต้องจัดการ

   แต่พอก้าวขาออกจากประตูบริษัทได้เพียงก้าวเดียวเพื่อที่จะไปยังที่จอดรถส่วนตัวขนมผิงก็ต้องชะงักกับชายหนุ่มร่างสูงที่
ยืนพิงรถของเขาอยู่ หัวใจดวงเล็กเต้นระรัวราวกับผืนกองถูกกระหน่ำตี แต่ก็ต้องทำใจแข็งสู้ก้าวเดินต่อไปด้วยย่างก้าวที่มั่นคง

   “ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยรึไง”

   น้ำเสียงที่ยิ่งได้ยินนิ่งทำให้รู้สึกเหมือนกับน้ำที่ถูกกวนให้ขุ่นทำให้ตวัดสายตามองทั้งที่ทีแรกทำเมินหยิบกุญแจรถขึ้นมา
เปิดประตู

   “ถอยออกไป”

   “ทักทายกันก่อนสิ”

   “มีอะไร”กดเสียงต่ำพยายามฝืนดึงประตูให้เปิดออกเพราะมันถูกมือดีดันเอาไว้

   “ฉันมารับ ไปรับลูกด้วยกัน”

   “ไม่จำเป็น ลูกของผม ผมไปรับเองได้”

   “นายไปเองไม่ได้หรอก ลองดูดีดี เผื่อจะมองข้ามอะไรบางอย่างไป”ปิญญ์ชานนท์แสยะยิ้มมุมปากหรี่ตามองไปยังล้อ
หน้าที่แบนติดพื้น

   ขนมผิงถอนหายใจออกมาแรงๆเมื่อเห็นสิ่งที่เกิด ไม่มีวันที่รถของเขาจะยางรั่วหรือยางแบนได้โดยการจอดไว้เฉยๆแน่ และ
จะเป็นฝีมือใครไม่ได้นอกจากใครบางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

   “ไปด้วยกันเถอะน่า หรือว่านายกลัวฉันจะทำอะไร”

   “ผมจำเป็นต้องกลัวคุณด้วยรึไง?”

   “ก็แค่ไปรับลูกด้วยกัน”ปิญญ์ชานนท์ไหวไหล่ ไม่รอช้าชายหนุ่มดึงมือของขนมผิงให้เดินตามมาที่รถของตัวเองจัดการดัน
ให้ขนมผิงเข้าไปนั่งด้านข้างของคนขับเสร็จสรรพ

   

   “ดูนายไม่ค่อยสบายดีนะ”ปิญญ์ชานนท์จ้องมองใบหน้าซีดเผือด มองดูดวงตาสีโศกคู่คุ้นเคยสั่นระริกวูบหนึ่งก่อนจะกลับมา
เป็นเหมือนเดิมในเวลาที่เขาเอ่ยปากถาม

   ขนมผิงไม่ตอบแต่จ้องมองไปยังด้านนอกของตัวรถ มือทั้งสองข้างกำแน่นพยายามบังคับตัวเองไม่อ่อนไหวไปกับความ
รู้สึกชั่ววูบที่เกิดขึ้นยามอยู่ใกล้คนคนนี้

   แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ต้องสะอึกดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อยก็คือใบหน้าของปิญญ์ชานนท์ที่ยื่นเข้ามาจนชิดโดยไม่ทันตั้งตัว

   จมูกโด่งรั้นเฉียดลงมาที่พวงแก้มลากผ่านไปยังริมฝีปาก อีกแค่นิดเดียว อีกแต่เพียงปลายก้อยริมฝีปากนั้นจะแตะลงมา

   ทั้งที่ควรจะผลักไสแต่ใจที่กำลังเต้นรัวราวพายุโหมกระหน่ำนั้นทำให้นิ่งอึ้ง กระพริบตาอย่างเชื่องหน้ากับสายตาตรงหน้าที่
จ้องลึกลงมา ทำไมกันเขาถึงได้ไม่ผลักไสให้ปิญญ์ชานนท์ออกห่างทั้งที่ใกล้ชิดจนลมหายใจของต่างฝ่ายตกกระทบรดอยู่บน
ใบหน้า แค่เบือนหน้าหนีก็ยังดี แต่ก็ไม่ทำ

   เหมือนกับที่ปิญญ์ชานนท์กำลังคิด ให้เบือนหน้าหนียังดีเสียกว่าจ้องมองมาด้วยแววตาแบบนั้น หากเขาจะจูบก็ทำได้และ
นั่นก็คือความต้องการที่แท้จริง หากแต่ความโลภมันไม่เคยเข้าใครออกใคร เพียงแค่จูบเดียวนั้นมันคงไม่พอสำหรับเขา อย่าง

น้อยก็น่าจะพูดต่อว่าหรือผลักออกก็ยังดีกว่าเขาใจเต้นรัวกลืนน้ำลายลงคอตัวเองดึงสายเข็มขัดนิรภัยแล้วผละออกมาเช่นนี้

   นานนับครึ่งชั่วโมงระหว่างทางที่ความเงียบเข้ามาครอบงำภายในรถ มีเพียงเสียงเพลงเบาคลาสสิกเบาๆเปิดคลอ คนหนึ่ง
จ้องมองถนนด้านหน้า อีกคนจ้องมองบรรยากาศด้านนอก ต่างกันที่มุมมอง แต่เสียงหัวใจนั้นเต้นรัวไม่ต่างกัน

   แวบหนึ่งที่ปิญญ์ชานนท์ปลายตามองขนมผิงด้วยความเป็นห่วง แต่ภาพที่เห็นก็ทำให้อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ มือเล็กผอมของ
ขนมผิงกำลังกุมท้องของตัวเองอย่างเคยชินโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้ตัวว่าเผลอเรอทำให้อีกฝ่ายเห็น



   “ทำไมพ่อปิญญ์มากับปะป๊าล่ะฮะ”


   “รถปะป๊ายางแบน”

   “จริงเหรอฮะ แล้วยางแบนได้ไงล่ะฮะ”เจ้าตัวแสบสลิ่มเอียงคอถามมือข้างหนึ่งจับมือของผู้ใหญ่ตัวสูงแกว่งไปมาอีกมือก็
ถือไอศกรีมของโปรดเลียไปตลอดทาง

   “ไม่รู้สิครับ สงสัยหมาจรจัดแถวนั้นมันจะกัดจนยางรั่ว”ขนมผิงตอบพลางตวัดสายตามองชายหนุ่ม

   “จริงเหรอฮะ ทีทำงานปะป๊ามีน้องหมาด้วยเหรอฮะ”ปลากริมเอียงคอถามบ้าง

   “แต่ก่อนก็ไม่มีหรอกครับ แต่ไม่รู้ว่าวันนี้หลงมาจากไหน”

   “หึหึ ปากจัดจริงเลยนะคุณแม่”ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้แล้วกระซิบให้ได้ยินกันสองคน แทนที่จะรู้สึกไม่พอใจที่ถูก
ตอบโต้ แต่คำว่าคุณแม่ที่ได้ยินมันทำให้รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาแปลกๆทำให้ก้าวถอยหลังออกมาครึ่งก้าวแล้วเบือนหน้าหนีไปมอง
ทางอื่น

   “พ่อปิญญ์อุ้มหน่อยฮะ”สลิ่มกระตุกมืออ้อนให้ปิญญ์ชานนท์อุ้ม แต่คนเป็นแฝดกันถ้าอีกคนได้อะไรอีกคนก็ต้องได้บ้างเป็น
ธรรมดา

   “ปะป๊าอุ้มหน่อยฮะ”ปลากริมกระตุกมือขนมผิงบ้าง

   ยังไม่ทันที่ขนมผิงจะคว้าตัวเจ้าลูกหมูตัวอ้วนขึ้นอุ้มก็ถูกเบียดจนเซไปด้านข้าง

   “ฉันอุ้มเอง!”เจ้าตัวแสบถูกแย่งไปอุ้มหน้าตาเฉย

   “เกิดบ้าพลังอะไรขึ้นมา”

   “นายอุ้มไม่ได้หรอกน่า นายก็รู้ว่าลูกเราตัวแค่ไหน”คุณพ่อบ้าพลังในสายตาขนมผิงตอนนี้กำลังอุ้มลูกแฝดตัวไว้คนละข้าง
เรียกให้ผู้ปรกครองที่มารอรับเด็กๆคนอื่นๆต่างก็มองด้วยความชื่นชมด้วยความน่ารักน่าชังและความแข็งแรง

   “ผมอุ้มของผมไหวก็แล้วกัน”

   “ไม่ได้ก็ไม่ได้สิ นานจะดื้อไปทำไม”ปิญญ์ชานนท์เอี้ยวตัวหลบเมื่อขนมผิงพยายามจะแย่งหนึ่งในลูกหมูไปอุ้มเองเรียก
เสียงหัวเราะคิกคักจากเด็กๆได้เป็นอย่างดี

   “คุณมันน่ารำคาญ”

   “ถึงฉันจะน่ารำคาญแต่นายก็น่าจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้”คำพูดของปิญญ์ชานนท์ทำให้ขนมผิงชะงัก ความคิดวูบหนึ่งกลับ
มาที่ชีวิตเล็กๆในท้องทันที ถึงจะคิดว่ามันคนละความหมายกับที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ แต่มันก็คือความจริง

   

   ปิญญ์ชานนท์ขับรถมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวมณีรัตน์ ถึงแม้ว่าเมื่อไม่นานจะถูกสั่งห้ามไม่ให้มาที่นี่อีก แต่
เขาก็มาอีกจนได้

   “คิสฮะพ่อปิญญ์”ลูกหมูตัวอ้วนกวักมือป้อมๆให้ก้มลงไปหา แก้มสองข้างถูกลูกแฝดผลัดกันจุ๊บไปคนละทีก่อนเจ้าตัวจะวิ่ง
แข่งกันเข้าบ้านไปเหลือแต่เขากับขนมผิง

   ขนมผิงถอนหายใจเล็กๆกับชายหนุ่มที่ช่วงนี้เกิดหน้าด้านขึ้นมาอย่างปิญญ์ชานนท์ ไม่อยากจะใช้ความคิดกับสิ่งที่คนคนนี้
ทำในเวลานี้มากเกินไป แต่ก็อดคิดไม่ได้

   “เลิกยุ่งกับพวกเราสักที”

   ขนมผิงทิ้งท้ายเสียงเบาแล้วเดินเข้าบ้าน เพียงแค่ครึ่งก้าวดวงตาคมนิ่งก็ต้องเบิกโพล่ง แขนถูกรั้งเอาไว้แล้วดึงเข้าไปใกล้
วงแขนแข็งแรงโอบรัดเอวของเขาเอา

   เพียงแค่พริบตาทุกสิ่งทุกอย่างมันรวดเร็วจนมองไม่ทัน ริมฝีปากหยักกดจูบลงมา เร็วมากพอๆกับมือของขนมผิงที่ผลักชาย

หนุ่มออกด้วยความตกใจสุดแรงจนเซถอยหลังไปชนกับรถ

   “คิส!!”

   คำสั้นๆก่อนแสยะยิ้มให้ขนมผิงเดินหนีเข้าบ้านทั้งที่ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ทั้งที่เป็นหน้าบ้านของตัวเอง

   


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่สบายยาวววววววว  :mew4: เลยไม่ได้มาต่อ ยังมีคนอ่านเหลืออยู่บ้างรึเปล่าน้อ?

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
รายงานตัว ว่ายังตามอ่านอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
รอให้ปิญญ์รู้ว่าผิงท้องอีกรอบ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
เมื่อไหร่จะรู้ว่าท้องนะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ VICTORY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 787
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ต่อไปจะเป็นยังไงนี่ เริ่มเปิดใจให้กันแล้ว   ผิงยอมรับเถอะ ตอนนี้กำลังจะมีน้องอีกคนด้วย

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ปิญญ์ต้องรู้ว่าขนมผิงท้องแล้วแน่เลย สังเกตจากที่ยิ้มตอนที่ขนมผิงลูบท้อง แล้วก็ไม่ยอมให้ผิงอุ้มลูก  :katai2-1:

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2016 14:40:13 โดย NeLy เนลี่ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
 :m20:
หวงแม่ซินะ คุณพ่อเลยโดนขัดจังหวะ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ชอบอ่ะ " หวบแม่สินะ ! " คิดได้ไงเนี่ย 55555 น่ารัก

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เริ่มสัมผัสได้ถึงความมุ้งมิ้ง

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด