❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณทีมใคร????

ทีมปิญญ์ # หล่อเลวแบบนี้ใช่เลย จัดหนักจัดเต็ม
26 (15.3%)
ทีมขนมผิง # แกมาทำร้ายชั้นเรอะ ไม่ยอม ฉันจะเอาคืน
38 (22.4%)
ทีมแฝดลูกหมู # ปล่อยให้พ่อๆไปเคลียกันเอง มุ้งมิ้งกันสองคน
106 (62.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 170

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖  (อ่าน 291158 ครั้ง)

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ลูกเอ้ยยยยย นึกว่าโดนใครจับไปอีก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
จบแล้ว รอตอนพิเศษ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 :mew4: จบแบบน่ารักมากๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
บางทีร่างกายก็ต้องการดราม่า เรื่องนี้น่ารักแบบละครไทย

อย่างนึงนะครับ คำผิดเยอะมาก เยอะแบบเปลี่ยนคำไปเลยด้วย

สู้ๆนะครับ รออ่านตอนที่เหลือ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ในที่สุดกะจบแบบแฮปปี้
ชอบเด็กแฝดน่ารักดี

ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากอ่านต่อ มีพิเศษ อยากอ่านๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
44

บทส่งท้าย

               สองเดือนต่อมา

                เชตุพลถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพื่อชดใช้ความผิดทั้งหมดที่ได้ทำเอาไว้ แต่เพราะได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในชั้นศาลจึงทำได้ลดหย่อนโทษลงมาเหลือแค่สิบปีและอายัตทรัพย์สินเอาไว้ส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาด้วยการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนเดหลี จากคำให้การของมือปืนที่ซักทอดว่าเธอเป็นคนออกคำสั่งฆ่าขนมผิงและปิญญ์ชานนท์ จึงทำให้เธอต้องโทษจำคุกไม่ต่างอะไรจากบิดา แต่ด้วยที่สภาพจิตใจของเธอ ศาลจึงลงความเห็นว่าเธอวิกลจริตและถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชแทน

 

                “เด็กๆ อย่าวิ่งเล่นกันแต่เช้าสิ พึ่งจะกินข้าวกันอื่มๆนะ”ขนมผิงปรามสองลูกหมูตัวแสบที่พากันวิ่งเล่นแต่เช้า

                “ฮ๊าบบบบบ”

                “ฮ๊าบบบบบ”

                พากันตอบรับเสียงใสแต่ก็ไม่ค่อยจะฟังกันเท่าไร ขนมผิงได้แต่ถอนหายใจออกมา มือข้างหนึ่งดันเอวของตัวเองเอาไว้

                “บ่นเป็นคนแก่แต่เช้าเลยนะขนมผิง”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนที่เอวจะถูกเกี่ยวเข้าไปกอด และถูกจูบลงมาบนแก้มรับอรุณที่แสนวุ่นวาย

                “เด็กก็พอเด็ก ผู้ใหญ่ก็พอผู้ใหญ่”ยังคงบ่นพลางส่ายหน้าไปมา หันไปผูกเนคไทให้กับผู้ใหญ่ที่ทำตัวน่าหมั่นไส้ขึ้นทุกวัน

                “เลิกบ่นได้แล้ว นายบ่นเหมือนเดิมทุกๆวันไม่เบื่อรึไง”

                “แล้วคุณล่ะ เมื่อไรจะเลิกผูกเนคไทเบี้ยวสักที เป็นถึงประธานบริษัททำไมถึงได้ไม่เรียบร้อยแบบนี้นะ”ว่าพลางผูกเนคไทให้คนที่จงใจผูกเบี้ยวทุกวี่ทุกวันเสียใหม่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆทำไมปิญญ์ชานนท์ถึงได้แต่งตัวไม่เรียบร้อยทุกวันทั้งที่ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ด้วยกันก็ออกจะเป็นคนเจ้าระเบียบดี

                “ฉันจงใจล่ะน่า”ปิญญ์ชานนท์ยิ้มกริ่ม ก้มมองเสี้ยวหน้าของขนมผิงตั้งอกตั้งใจผูกเนคไทให้เขาสีหน้าจิงจังแล้วกดจูบลงไปบนหน้าผากกลมมน

                เป็นเวลาสองเดือนแล้วหลังจากที่ขนมผิงออกจากโรงพยาบาล ขนมผิงกับเด็กๆรวมถึงตัวชายหนุ่มเองตัดสินใจแยกออกมาใช้ชีวิตส่วนตัวในแบบของครอบครัวในบ้านหลังขนาดพอดี เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจนไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยสำหรับปิญญ์ชานนท์

                ทุกเช้าขนมผิงจะตื่นเช้ามาทำอาหารเช้าเล็กๆน้อยๆเตรียมไว้ให้เขากับเด็กๆ และก่อนที่เขาจะแวะไปส่งเด็กๆที่โรงเรียนขนมผิงก็ต้องมาคอยเอ็ดไม่ให้ลูกๆวิ่งเล่นกันแต่เช้า และต้องมาคอยจัดเสื้อผ้าที่เขาจงใจใส่ไม่เข้าที่เข้าทาง ชายหนุ่มยิ้มกริ่มกับท่าทีของภรรยาที่เอาแต่บ่นแล้วก็บ่นทุกเช้า แต่นั่นเขาก็ไม่เคยเบื่อมันเลยสักนิด

                “แล้วเสื้อผ้าล่ะ คุณแน่ใจนะว่าเอาไปพอใส่ ของใช้เก็บลงกระเป๋าครบรึยัง แล้วอย่าลืมที่โกนหนวดล่ะ ครั้งที่แล้วคุณก็ลืมเอาไป”ถามแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่เขาต้องไปประชุมหรือไปติดต่อกับลูกค้าที่ต่างประเทศ

                “ฉันเก็บครบแล้ว ถ้าไม่ครบก็แค่หาซื้อใหม่เท่านั้นเอง ไม่เห็นจะยาก”และคำตอบของเขาก็เหมือนเดิมทุกครั้ง

                “เมื่อไรจะเลิกตัดสินปัญหาด้วยเงินสักทีนะ”เหมือนเดิมที่จะส่ายหน้าตอบกลับด้วยประโยคเดิมๆ

                “แล้วนายล่ะ ฉันไม่อยู่นายกับลูกต้องไปอยู่บ้านพ่อกับแม่ของนายล่ะ ฉันไม่ไว้ใจให้นายอยู่คนเดียว”

                “อีกตั้งสองเดือนกว่าจะถึงกำหนด คุณจะกังวลทำไมไม่เข้าเรื่อง”

                “ก็นั่นแหละ ฉันเป็นห่วงนายกับลูก”ว่าแล้วก็จับเข้าที่ท้องนูนๆแล้วลูบไปมา “รอพ่อหน่อยนะ แล้วจะรีบกลับมา จะซื้อขนมอร่อยมาฝาก”ทั้งที่รู้ว่าลูกๆในท้องไม่ได้ยิน แต่ก็คุยคนเดียวอยู่ร่ำไป

                “ไปได้แล้วครับ เดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอก”

                “เฮ้อ ไม่อยากไปเลย”

                แต่ก็ต้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะกลัวจะหาเงินไม่ทันเลี้ยงลูกสี่คน แล้วอีกอย่าง เขาเองก็มีโครงการที่จะมีลูกคนที่ห้า และแน่นอนว่าคนที่ห้าจะต้องเป็นลูกสาวเท่านั้น ถึงวันนั้นเขาคงจะได้ไว้หนวดสมใจ

                “ไปได้แล้วครับ ถึงแล้วก็โทรมาบอกผมด้วยล่ะ ผมขี้เกียจมาตามโทรเวลาเด็กๆถามหาคุณ”

                “นายเองก็ด้วย ถึงบ้านพ่อกับแม่นายแล้วโทรมาบอกฉันด้วย ถ้าโทรไม่ติดก็ส่งข้อความเอา”

                “ตกลงคุณจะไปไหมญี่ปุ่นน่ะ ถ้าไปส่งเด็กๆแล้วไปไม่ทันเครื่องขึ้นมาจะทำยังไง”

                “ไปไม่ทันก็ดีสิ ฉันจะได้อยู่กับนายกับลูกๆ”

                “เป็นเด็กรึไงกัน ไปได้แล้วครับ เดี๋ยวถ้าผมถึงบ้านพ่อแม่เมื่อไรแล้วจะส่งข้อความไปบอ อื้ออออ!!!”

                ไม่ทันที่ขนมผิงจะพูดจบ ปิญญ์ชานนท์ก็ฉวยเอาริมฝีปากได้รูปมาจูบ เพราะอีกหลายวันกว่าที่เขาจะได้กลับมา คิดแล้วก็เสียดายที่ขนมผิงกำลังท้องอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้ทำการบ้านทุกวี่ทุกวันอย่างที่เก็บเอาไปฝันบ่อยๆแน่

                “เย้ พ่อปินจุ๊บปะป๊า”

                “คิกๆ พ่อปินรักปะป๊า”

                สองลูกหมูหัวเราะร่วนกับบทรักยามเช้าของพ่อกับแม่

                “ผมบอกแล้วไงว่าอย่าทำต่อหน้าลูก”พอผละออกก็บ่นทันที

                “ไม่เห็นเป็นไรเลย ลูกๆจะได้รู้ว่าเรารักกัน”ปิญญ์ชานนท์ยิ้มเจ้าเล่ห์

                “อะไรของคุณเนี่ย!!”

                “ฉันรักนายนะ”

                “อืม ผมรู้แล้ว จะบอกอะไรทุกวันล่ะครับ”

                “ก็ฉันอยากบอกนี่ นายเองก็บอกรักฉันบ้างสิ”ปิญญ์ชานนท์กระชับอ้อมกอดพลางคลอเคลียจมูกลงบนแก้มของขนมผิง

                “ไม่เอาด้วยหรอก ปล่อยได้แล้ว รีบไปสักทีเถอะครับ”

                “นายบอกรักฉันก่อนสิฉันถึงจะยอมไป”

                “ก็บอกว่าไม่เอายังไงล่ะ คุณจะบ้ารึไง จะมาคาดคั้นเอาอะไรตอนนี้”

                “ก็ฉันอยากได้ยินเมียตัวเองบอกรักมันผิดด้วยเหรอ”

                “ก็ไม่ผิดหรอก แต่นี่มันใช่เวลาที่ไหนกันล่ะ”

                “แต่ฉันรักนายทุกเวลาเลยนะ เถอะน่า บอกมาเถอะนะ อย่าใจร้ายไปหน่อยเลย ฉันไปต่างประเทศตั้งหลายวันเลยนะ เติมพลังให้ฉันหน่อยสิ”

                ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่กลายมาเป็นคนอ้อนเมีย แต่ในความอ้อนก็แฝงเอาไว้ซึ่งความเอาแต่ใจไม่จางหาย

                “เฮ้อ คุณนี่มันจริงๆเลยเชียวคุณปิญญ์”ขนมผิงส่ายหน้า แต่ใบหน้าก็กลับแดงเรื่อ

                “นิดนึงนะ”

                “อืม ผมรักคุณ พอใจรึยัง แล้วก็ตั้งใจทำงานด้วยล่ะ อย่ามัวเถลไถล ถึงแล้วก็โทรมาบอกด้วย ส่วนของฝากลูกก็ไม่ต้องซื้อมาแล้ว คุณซื้อมาเยอะจนมันแทบจะล้นบ้านอยู่แล้ว”

                ก็แค่นี้แหละที่อยากจะได้ยิน เขาก็แค่อยากจะได้กำลังใจบ้างอะไรบ้าง แต่ก็อดหัวเราะในใจไม่ได้เมื่อคำบอกรักถูกต่อท้ายด้วยคำบ่นเพื่อกลบเกลื่อนความอายที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิด

 

 

 

                “นี่ขนมผิง นายกำลังทำอะไรอยู่”ปิญญ์ชานนท์กรอกเสียงลงไปในเครื่องมือสื่อสารจากที่ใช้เวลาช่วงพักเบรคในการคุยธุรกิจแอบมาโทรศัพท์

                ‘ทำไมคุณถึงโทรมาตอนนี้ล่ะ ตอนนี้คุณมีประชุมไม่ใช่รึไง’ขนมผิงตอบกลับมาเสียงเบา

                “มันก็ใช่ แต่ว่าตอนนี้เบรคเอาไว้สิบห้านาทีอีกเดี๋ยวก็ต้องเข้าประชุมต่อแล้วล่ะ”

                แค่สิบห้านาทีก็ยังดีที่จะได้ยินเสียงของคนรัก บอกไม่ได้เลยว่าตอนนี้เขารู้สึกคิดถึงขนมผิงแค่ไหน ทั้งคิดถึงทั้งอยากกอด อยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา จะว่าคนที่เคยเย็นชาอย่างเขาหลงครอบครัวก็ไม่ผิดเท่าไร

                ‘ถึงจะช่วงเบรคแต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะต้องโทรมานะครับ’

                “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ฉันก็แค่อยากจะได้ยินเสียงนาย”

                ‘ไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ’

                “แล้วลูกของเราล่ะ เป็นยังไงบ้าง ยังดิ้นแรงอยู่รึเปล่า”

                ‘ครับ วันนี้ดิ้นบ่อยมากเลยล่ะ อือ ผม กำลังจะไปโรงพยาบาล”ขนมผิงบอกก่อนจะครางเสียงแผ่ว

                “ทำไมเสียงนายถึงเป็นอย่างนั้นล่ะขนมผิง แล้วทำไมนายต้องไปโรงพยาบาลด้วย”

                จะว่าไป ตั้งแต่ตอนเริ่มคุยกันเสียงของขนมผิงก็เบาจนผิดสังเกต ไหนจะตอนนี้ยังหลุดเสียงครางออกมาเหมือนเจ็บปวดอีก อดไม่ได้ที่จะสงสัย จึงได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นเงี่ยหูฟังเสียงจากปลายสายแทน เผื่อว่าจะมีอะไรชัดเจนขึ้น

                ‘ผม…รู้สึกเจ็บท้องนิดหน่อย’

                “แล้วเจ็บที่นายว่ามันเจ็บแบบไหนล่ะ อย่าบอกนะว่านายกำลังปวดท้องจะคลอด ไหนหมอบอกว่าอีกตั้งสองเดือนไม่ใช่รึไง”

                ‘ผม….ไม่รู้ บางที ลูกอาจจะดิ้นแรงไป อะ อา เลยกะว่าจะไปเช็คดู’

                “นายแน่ใจนะว่าแค่ลูกดิ้นน่ะ”

                ‘มะ ไม่รู้สิ แต่ผมรู้สึกเจ็บจังเลย เจ็บกว่าทุกที อะ โอย คุณปิญญ์’

                “ขนมผิง!! ดะ เดี๋ยวสิ นี่นายคงไม่ได้เจ็บท้องจะคลอดจริงๆใช่ไหม นี่ฉันยังอยู่ญี่ปุ่นอยู่เลยนะ”

                ‘แค่นี้ก่อนนะ ผม อะ โอ้ยยย!!’

                แล้วปลายสายก็ถูกตัดไป ทิ้งให้คนที่กำลังร้อนรนแทบจะเต้นเป็นเจ้าเข้าได้กดหน้าจอเพื่อที่จะต่อหาปลายสายอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครยอมรับสายของเขาเลย

                ปิญญ์ชานนท์จึงได้แต่เดินวนไปวนมาในขณะที่กำลังรอสาย ทั้งที่อากาศออกจะเย็นสบายแต่หน้าผากของชายหนุ่มกลับชื้นไปด้วยเหงื่อ

                “คุณปิญญ์ครับ ได้เวลาเข้าไปแล้วนะครับ”เลขาหนุ่มเดินมาเตือน

                “อีกเดี๋ยวฉันตามเข้าไป”

                “คนอื่นจะรอเอานะครับ อีกอย่างนี่ก็เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายแล้วด้วย”เพราะอีกเดี๋ยวจะต้องลงนามเซ็นสัญญาการซื้อขายกันแล้ว

                “เดี๋ยวฉันตามเข้าไปไง ให้รอไปก่อน ฮะ ฮัลโหล!! ขนม โอ๊ะ!! คุณพ่อ แล้วขนมผิงล่ะครับ ขนมผิงอะไร ทำไมถึงตัดสายผมไปล่ะ”หันไปบอกกับเลขาก่อนจะกรอกเสียงใส่โทรศัพท์เมื่อปลายสายรับสายของเขาแล้ว

                และยิ่งทำให้ปิญญ์ชานนท์ตกใจเมื่อคนที่รับสายไม่ใช่ขนมผิงแต่เป็นพิศณุ

                เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าเลขากำลังยืนรอให้เขาเข้าไปในห้องประชุม และไม่ได้สนใจเลยสักนิดกับการประชุมที่กำลังรออยู่ สนใจเพียงอย่างเดียวคือความปลอดภัยของขนมผิงกับลูก

                ‘ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องผ่าตัดน่ะ กำลังจะคลอด’

                “อะไรนะครับ!! คะ คลอดเหรอครับ แต่ยังเหลืออีกตั้งสองเดือนนี่ครับ”ปิญญ์ชานนท์ตะโกนออกมาเสียงดังจนมาลิศพาลสะดุ้งไปด้วย

                ‘คงจะคลอดก่อนกำหนดนั่นแหละ แต่ก็ยังบอกอะไรได้ไม่มากนัก ทางนี้เองก็กำลังยุ่งเรื่องการเคลียพื้นที่กันคนนอกออกไปน่ะ’

                “คลอดก่อนกำหนด!? ได้ยังไงกัน แล้วลูกของผมจะเป็นยังไงบ้าง แล้วขนมผิงล่ะจะเป็นอะไรไหม ทำไมถึงจะคลอดออกมาตอนนี้ล่ะครับ”

                ยิงคำถามในชนิดที่ว่าไม่รู้ว่าปลายสายจะตอบทันไหม แล้วจะตอบครบรึเปล่า แต่ตอนนี้เขารู้สึกห่วงลูกเมียจนแทบอยากจะบินกลับไปซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

                ‘ใจเย็นๆก่อนสิ ขนมผิงเองก็กำลังอยู่กับหมอ’

                “จะให้ผมใจเย็นได้ยังล่ะครับ”

                ‘เอาเป็นว่าคุณคุยธุระฝั่งนู้นให้เสร็จก่อนเถอะ ได้เรื่องยังไงแล้วจะบอกอีกทีก็แล้วกัน จะทิ้งการประชุมสำคัญไปง่ายๆก็กระไรอยู่ใช่ไหมล่ะ’

                “แต่ว่า…”

                ‘ก็อย่างที่บอก ได้เรื่องยังไงแล้วจะบอกอีกทีนะ ทางนี้เองก็กำลังวุ่นวายอยู่ด้วย’แล้วสายก็ถูกตัดไป

                จะว่าก็ว่าเถอะ จะให้ปิญญ์ชานนท์คนนี้ใจเย็นอยู่ได้ยังไงเมื่อเมียกำลังจะคลอด แล้วตอนนี้เขาก็ดันติดประชุมสำคัญ

                ให้ตายเถอะ!! นี่เขากำลังถูกกลั่นแกล้งอยู่รึไง ลูกก็ดันจะมาคลอดเอาตอนที่เขาอยู่ต่างแดนไกลถึงขนาดนี้ แล้วอย่างนี้เขาจะเอาสมาธิที่ไหนมาลงกับการประชุมที่เหลือล่ะ

                “จะคลอดแล้วเหรอครับ”

                “ก็ใช่น่ะสิ!!”ปิญญ์ชานนท์ตอบเลขาเสียงดัง

                ใช้มือขยี้หัวตัวเองไปมาเมื่อสมองกำลังเลือกว่าจะทิ้งการประชุมตรงหน้าแล้วบินกลับไปดูขนมผิงที่กำลังจะคลอดกับอยู่ประชุมต่อแล้วกลับไปอีกทีลูกก็คลอดออกมาแล้ว

                แต่ว่าต้องเป็นเขาสิที่จะได้เห็นหน้าลูกก่อนคนอื่นๆ!!

                เขาเป็นพ่อของลูกนะ จะต้องอยู่ด้วยตอนที่ลูกคลอดออกมาสิ!!

                “กำลังคิดอะไรอยู่ครับ”เลขาถามเหมือนจะรู้ใจว่าเจ้านายกำลังจะคิดโดดการประชุมทั้งที่จวนจะจบลงด้วยดี

                “ฉันฝากนายจัดการต่อทีสิ”

                “ไม่ได้ครับ”ตอบกลับเสียงหนักแน่นทันควัน

                “แต่ลูกฉันกำลังจะคลอดนะ นายก็รู้ว่าฉันอยากจะเห็นหน้าลูกก่อนคนอื่นๆ”

                “ต่อให้คุณไปตอนนี้ก็ไม่ทันอยู่ดีครับ ทำใจแล้วกลับเข้าไปประชุมต่อเถอะครับ อีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว รีบทำให้เสร็จแล้วก็รีบกลับจะดีกว่า”

                สุดท้ายก็ต้องยอมเข้าประชุมและคุยขอตกลงทางธุรกิจที่เหลือเอาไว้ จริงๆแล้วต่อให้ข้อตกลงทางธุรกิจไม่ลงตัวหรือว่าเหลื่อมล้ำกันแค่ไหน เขาคนนี้ก็สามารถคุยจนมันลงตัวได้ แต่กลับตอนนี้ใจของชายหนุ่มแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ดีที่ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างลงตัวก่อนหน้าแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการไม่มีสมาธิแน่

 

 

 

                ใช้เวลากว่าหนึ่งวันเพื่อรอเที่ยวบินกับการใช้เวลาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจนมาถึงโรงพยาบาลที่เขาเคยมากับขนมผิงบ่อยๆ ปิญญ์ชานนท์รีบเร่งมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งแต่ลงจากเครื่องโดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นยังไม่ได้นอนมาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว

                เพราะใจของเขากำลังตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกแฝดที่พึ่งจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ก่อนหน้านี้ที่เขาได้รับสายจากพิศณุว่าขนมผิงกับลูกปลอดภัยดี แทบจะอดทนรอไม่ได้เลยที่จะได้เห็นหน้าลูกเมีย

                “ขนมผิงล่ะครับ”เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจอลำดวนกับพิศณุเดินออกมาจากห้องพิเศษของโรงพยาบาลที่ถูกกันเอาไว้เป็นพิเศษ

                “อยู่ข้างในน่ะ กำลังรออยู่เชียว”

                “ขอบคุณครับ”

                ไม่รอถามความให้ยืดยาว เจ้าของร่างสูงก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทันที

                ตาคู่คมกริบจ้องมองขนมผิงบนเตียงคนไข้ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ริมฝีปากคลี่ยิ้มเมื่อคนไข้ยิ้มส่งมาให้ทันทีที่เขาก้าวเข้ามา

                “มาแล้วเหรอครับ”เสียงเบาถามไถ่ราวกับว่าดีใจที่เขามาถึง

                “ฉันมาแล้ว”ปิญญ์ชานนท์ตอบรับด้วยน้ำเสียงอันปลื้มปิติ

                เขาหันไปมองข้างเตียงคนไข้มีตู้ใส่เด็กทารกอยู่สองตู้ ขาทั้งสองข้างก้าวไปข้างหน้าราวกับต้องมนต์เมื่อมองเห็นร่างเล็กๆกำลังดิ้นไปมาเล็กน้อย

                ปิญญ์ชานนท์จ้องมองมือและเท้าที่สวมถงมือถุงเท้าขยับไปมา ริมฝีปากเล็กๆเผยอขึ้นมาและลงเสียงอ้อแอ้ให้เขาได้ชื่นใจ โดยไม่รู้ตัวริมฝีปากหยักก็ยกยิ้มขึ้นมา ตาคู่คมกริบแทบจะไม่ละสายตาจากเด็กทารกสองคนตรงหน้าเลย

                “ทำไมไม่ลองอุ้มดูล่ะครับ”ขนมผิงบอกเสียงเบา

                มองดูปิญญ์ชานนท์ที่เอาแต่ยืนจ้องลูกอยู่หน้าตู้ตาแทบไม่กระพริบ

                “ฉะ ฉันอุ้มได้เหรอ”ปิญญ์ชานนท์ถามเสียงขาดหาย หันมามองขนมผิงอย่างกๆเงินๆเมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับความตื่นเต้นที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่

                “ได้สิ แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ”

                “แต่ว่า”ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง ยังคงจ้องมองเด็กทารกที่กำลังขยับตัวไปมาไม่วางตา

                “แต่อะไรครับ คุณไม่อยากอุ้มลูกของเราเหรอครับ”ขนมผิงเอียงคอมอง

                “ไม่ใช่ไม่อยากอุ้ม แต่ว่า….ลูกตัวเล็กมากเลยนะ”

                ลูกๆของเขาตัวเล็กจนเขาแทบจะไม่กล้าแตะต้องเลย กลัวว่าจะทำให้ผิวแดงๆที่ดูบอบบางนั้นเจ็บ เขาพึ่งจะได้เห็นเด็กแรกเกิดชัดๆก็ตอนนี้ ตัวทั้งเล็กและทั้งบอบบาง ใบหน้าที่ค่อยเอียงไปมานั้นหากเขากางมือของตัวเองยังใหญ่กว่าใบหน้านั้นเลย ทำเอาเขาไม่กล้าที่จะอุ้มเด็กๆขึ้นมาเลยทีเดียว

                “ไม่เป็นไร คุณอุ้มเขาได้”

                ขนมผิงค่อยๆขยับตัวขึ้นมานั่ง ใบหน้าซีดเซียวเบ้หน้าเล็กน้อยจากอาการเจ็บแผลผ่าตัด มือผอมเอื้อมไปอุ้มเอาเด็กทารกคนหนึ่งขึ้นมาจากตู้นอน

                “คนนี้อาลัวครับ”บอกพลางส่งร่างเล็กในมือให้กับชายหนุ่มได้รับไปอุ้มเอาไว้

                “ชื่ออาลัวเหรอ นายตั้งชื่ออย่างที่ฉันเคยบอกนี่”

                “ครับ ส่วนอีกคนชื่อบัวลอย”

                บอกก่อนจะจับมือใหญ่ช้อนใต้ศีรษะเด็กทารกในท่าที่ถูกต้อง ริมฝีปากได้รูปยิ้มออกมาราวกับขบขันเมื่อมองเห็นใบหน้าของปิญญ์ชานนท์ที่ดูเหรอหรา ตั้งอกตั้งใจอุ้มเป็นพิเศษจนตัวแข็งทื่อ

                “ชื่อขนมทั้งนั้นเลย”เสียงทุ้มตอบรับพลางก้มมองเด็กน้อยในอ้อมแขน

                “ละ แล้วนายล่ะ เจ็บแผลไหม เป็นอะไรรึเปล่า แล้วถ้าฉันอุ้มแบบนี้ล่ะ ได้รึเปล่า”

                “ได้ครับ ส่วนแผลอีกเดี๋ยวก็คงหาย”

                “ฉันว่าฉันวางลูกคืนดีกว่านะ”

                กลัวว่าจะทำเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนเจ็บเหลือเกิน แล้วตอนนี้เขาก็เกร็งตัวจนแขนจะชาอยู่รอมร่อ การเป็นคุณพ่อเนี่ยมันยากกว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ

                “อะไรล่ะครับ ก็พึ่งจะอุ้มเอง”

                “ก็ฉันกลัวทำลูกตก”

                “เป็นคุณพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลยนะครับ”ขนมผิงพูดแซพลางหัวเราในลำคอ

                “ทำเป็นพูดดีไปเถอะ แต่ฉันก็ยอมรับแหละนะ”เขายอมรับจริงๆว่าก่อนหน้าเขาอุตส่าห์เตรียมการอะไรเอาไว้มากมายเพื่อที่จะได้ทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อที่กำลังจะมีลูกอ่อน

                แต่พอถึงเวลาเข้าจริง แม้แต่อุ้มลูกเขาก็ยังไม่กล้าเลย หากรู้ถึงไหนก็อายไปถึงนั่น ปิญญ์ชานนท์คิดพลางค่อยๆวางลูกคืนที่เดิมทั้งที่มือและแขนกำลังสั่น

                “แล้วนายล่ะ ยังไม่ตอบฉันเลยว่านายเจ็บแผลมากไหม เจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า”คราวนี้หันไปถามขนมผิงด้วยความเป็นห่วง

                ตาคู่ดุจ้องมองร่างสูงโปร่งของคนรักกึ่งนอนทอดตัวยาวไปกับเตียง ก่อนที่จะขยับไปใกล้แล้วลูบมือลงไปบนโครงหน้าซีดเผือดอย่างเบามือ

                “ไม่เลย ผมไม่เจ็บเลยสักนิด”

                “แต่หน้านายซีดมากเลยนะ ฉันเป็นห่วงนายมากเลยนะรู้ไหมตอนที่นายตัดสายฉันทิ้งแล้วไม่ยอมรับโทรศัพท์”

                “ผมรู้”ขนมผิงพยักหน้าเบาๆ

                “ฉันรักนายนะขนมผิง รักนายแล้วก็ลูกของเราด้วย”

                “ผมก็รักคุณกับลูกเหมือนกัน”

                “ขอบคุณนะที่นายรักฉันและให้สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตกับฉัน”

                “ผมก็เหมือนกัน”

 

                สิ่งมีค่ามีที่ที่ได้รับมานั้นมันมากกว่าเงินทองหรือชื่อเสียงที่เขายืดมั่นมาตลอดทั้งชีวิต เป็นครอบครัวที่ทำให้เขาได้เรียนรู้การให้ที่แท้จริงโดยไม่หวังผลตอบแทน และเป็นครอบครัวที่ทำให้หัวใจที่ด้านชาของเขารู้สึกเติมเต็มไปด้วยความสุขจนมันเอ่อล้นออกมา

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------

อา จบจริงๆแล้ว อยากให้คนอ่านบรรยายความรู้สึกที่อ่านเรื่องนี้จนจบหน่อย ว่ารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ คร่าวๆก็ได้ อยากฟังความรู้สึกของคนที่อดทนอ่านจนจบ 555 เป็นนิยายที่ซินตั้งใจใส่ทุกรสชาติลงไปจริงๆ ตั้งแต่ดราม่า มุ้งมิ้ง ตลก อบอุ่น เศร้า และบลาๆๆ

ขอบคุณนะคะที่อยู่อดทนด้วยกันมาจนจบ สำหรับอายุหนึ่งปีกับอีกสามเดือนของนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณมากค่ะ อยากจะร้องไห้ ฮรือออออ ใจหายสุดๆ

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยากเห็นแฝดตอนได้เจอน้อง

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
สองลูกหมูคงตื่นเต้นดีใจแน่ ๆ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ในที่สุดก็เป็นคุณแม่ลูก 4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GF_pp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สนุกดีค่ะ ชอบเด็กๆๆมากๆๆเลย

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
บางเรื่องไม่เมคเซ้นส์ทิ้งลูกเอาไว้งี้ สอนลูกแต่ละอย่าง โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยอ่านแล้วน่ารำคาญ  เลยคำผิดก็เยอะ นะค่ะ ไม่มีในโลกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โดยรวมเนื้อเรื่องเนื้อหาน่าสนใจ การดำเนินเรื่องถือว่าดีมากสำหรับเรื่องแรก แต่ก็มีหลายจนที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และคำผิดมีค่อนข้างเยอะ แต่เราชอบ เราให้ผ่าน สู้ๆน๊า เป็นกำลังใจให้และขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆให้อ่านจ้า แอบตกใจตอนพิเศษที่ว่ามีท้อง3 คือแบบ ผิงนี่คนหรือแม่พันธุ์วัว ต่อปุ๊บติดปั๊บ 555.  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
อ่านจบแล้วววว
ขอบคุณมากค่ะ
ลุ้นให้ลงเอยกันด้วยดีมาก ๆ

 :mew3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โอ้ยย ใจก็อยากจะเกลียดเธอ แต่ทำไมมันทำไม่ด้ายย   :hao7:
เด็กแฝดน่ารักอ่ะ หลงแรง   :-[
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ armsa2531

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao6:เด็กอ้วนทอดกรอบ555

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
จบแบบมีความสุข ดีจังเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด