รอยชัง อินไซด์ ๑"พี่ภณ!" เสียงลูกน้องเรียก
"เออ!" เขาขานรับ รีบกลับเข้าบ้าน โชคดีที่หนีออกมาทัน
"เป็นไงบ้างพี่ ได้ฆ่ามันไหม" ลูกน้องเขาคงหมายถึงไอ้เสี่ยเกียง
"ไม่" เขาตอบ "แต่กูก็จัดการไม่ให้มันเดินได้ไปอีกทั้งชีวิต"
"พี่น่าจะฆ่ามันเสียจะได้จบๆ" ลูกน้องเขาเอ่ยด้วยความแค้น
"อย่างน้อยลูกน้องฝีมือดีของมันก็ตายไปหลายคนอยู่ มันคงทำอะไรไม่ได้ไปอีกนาน" เขาเอ่ย ถอดเสื้อแขนยาวลายสก็อตออกเหลือแค่เสื้อกล้ามสีขาวตัวเดียว
"แล้วคนอื่นๆล่ะพี่" มันถาม
"กูออกมาอีกทางว่ะ อีกเดี๋ยวพวกมันคงตามมา" เขาเองก็เป็นห่วง ยังมีลูกน้องเขาอีกสองสามคนที่ไปด้วยกัน ตอนนี้เขาและลูกน้องย้ายมาอยู่บ้านท้ายป่า ที่นี่เคยมีคนอาศัยแต่ก็ย้ายออกไปและขายไร่พร้อมบ้านให้ผู้ใหญ่ แกเห็นใจเลยให้มาอยู่ที่นี่กันไปก่อน
"แล้วพี่จะเอาไงต่อไป จะเอาไงก็บอกนะพี่ ผมเต็มใจช่วยพี่อยู่แล้ว" ลูกน้องตบขาเขาเบาๆ
"ขอบใจมึงมากที่เป็นห่วง" เขารับคำ
นั่นสินะ จะเอาอย่างไรต่อไปดี
ทุกคนต่างก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่โสภณเลือกที่จะตอบแทนคุณนายห้างด้วยการชุบเลี้ยงฟูมฟักลูกชายของท่านมาจนเติบใหญ่ จอมขวัญเป็นเด็กที่ป่วยง่ายเนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล การที่ต้องเกิดมามีมดลูกมันทำให้จอมขวัญดูเหมือนจะอ่อนแอเกินกว่าที่ผู้ชายปกติเขาเป็นกัน แต่จะโทษฮอร์โมนอย่างเดียวก็ไม่ได้ ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูด้วย
เขาเองรักจอมขวัญมากเหมือนลูกแท้ๆ เลี้ยงดูมาตลอดสิบแปดปียิ่งกว่าไข่ในหิน ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ไม่แปลกที่จอมขวัญจะดูตื่นกลัวอยู่ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในโลกภายนอก เขาพยายามหลีกเลี่ยงการพาจอมขวัญออกไปข้างนอก ไม่สามารถให้ลูกออกไปเรียนได้ เนื่องจากไม่วางใจ โลกเราเดี๋ยวนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าลูกเขาเป็นอะไรไป เขาคงไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร
จนตอนนี้เขาเองยังไม่รู้ความเป็นไปของจอมขวัญ แต่ก็นึกไว้อยู่ตลอดว่าทุกคนในบ้านหลังนั้นจะต้องเอ็นดูลูกชายเขาและหวังว่านายอัศวินจะไม่ทำร้ายลูกชายเขาเพียงเพราะเป็นลูกของคนทรยศหรอกนะ ความผิดทั้งหมดมาจากตัวเขาเองที่ตัดสินใจฝากชีวิตลูกไว้กับคนอื่น แต่เขาทำดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยจอมขวัญก็ไม่ต้องมาตายไปพร้อมกับเขา ให้ลูกได้มีครอบครัวใหม่ที่ดี นับจากนี้เขาคงต้องเป็นคนเปิดเผยความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะให้ตราบาปติดตัวลูกชายเขาแบบนี้ไม่ได้
"พี่! พวกมันมากันแล้ว!" เสียงตะโกนดังลั่น โสภณรีบเดินออกมาดู พบว่าพวกเพื่อนและลูกน้องกลับมากันอย่างปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"ภณ! มึงมานี่หน่อย" เสียงเพื่อนเขาเรียก คนนี้ชื่อเค เคยฝึกบอดี้การ์ดมาด้วยกันครั้งที่ยังอยู่กับนายห้าง
"เออ มึงมีอะไร" เขาเดินออกมา เลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจ
"พอดีไอ้เหี้ยเล็กมันเผลอไปสู้กับตำรวจ แล้วมันก็ปอดแหกไม่กล้าทิ้งร่างไว้แถวนั้น สรุปกูเลยต้องพามันมาด้วย"
"ไอ้เหี้ย! มึงหมายถึงพาตำรวจมา?" เขานวดคลึงขมับ ไอ้เล็กรุ่นน้องเขามันนิสัยแบบนี้ ชอบป๊อดเรื่องคนในเครื่องแบบเรื่องคุกเรื่องตาราง แต่เรื่องฆ่าคนเลวๆเนี่ยมันลุยเต็มที่
"เออ มึงไปด่าไอ้เหี้ยเล็กนู่น กูก็รีบ พอพามาจะทิ้งไว้ข้างทางแม่งก็ไม่ยอม" เคเอ่ย และโสภณก็ส่ายหัว
"ไหนวะตำรวจที่ว่า" โสภณถาม และเพื่อนเขามันก็เลื่อนเบาะให้ดู พบว่าตำรวจที่ว่านอนสลบอยู่เบาะหลัง
"มันมาคนเดียวหรือไง" เขาเอ่ย จำได้เมื่อเห็นหน้า ไอ้เด็กที่สู้กับเขา สงสัยจะพลาดไปสู้กับลูกน้องเขาต่อ ตำรวจก็แบบนี้ ถนัดแต่ใช้ปืนผา ต่อยตีสู้โจรได้เสียที่ไหน
"ไอ้เล็กเห็นมันมาคนเดียว สงสัยผ่านมาพอดี กูว่าคราวซวยมัน" เคเอ่ย และโสภณเองก็ถอนหายใจแรงๆ
"เอาล่ะ ตอนนี้พวกมึงแยกย้ายก่อนแล้วกัน ส่วนตำรวจนี่กูจะหาทางเอง" เขาว่า ไหนๆก็เข้าตาจนแล้ว ดูเหมือนมันจะมีบาดแผลเสียด้วย คงทิ้งไปไม่ได้ "คืนนี้ใครนอนนี่ก็เตรียมหาข้าว ไอ้เล็ก มาช่วยกูแบกตำรวจมึงเร็วๆเลย เพราะมึงคนเดียว!"
เขากับลูกน้องช่วยกันแบกร่างที่สลบเข้าไปในบ้าน จะให้มันอยู่ด้านนอกก็คงไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องแบกเข้าไปในห้องเขา ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้าย มีอีกสองสามคนที่นอนกับเขา อีกสักพักคงตั้งวงเหล้าฉลอง โชคดีที่บ้านพักของลุงผู้ใหญ่อยู่ในป่าพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีใครมารุกราน ง่ายต่อการซ่อนตัวยิ่งนัก
"มึงแทงมันเหรอวะ" หน้าคมๆขมวดคิ้วมุ่น
"เปล่าพี่ ไม่ใช่ผม เอาจริงๆที่ผมพามันมาด้วยเพราะสงสารมันนี่แหละ" ไอ้เล็กว่า
"ตกลงอะไรของมึง กูงงไปหมดแล้ว" โสภณเริ่มปวดหัว ประติดประต่อเรื่องไม่เห็นจะเข้าใจ
"ผมมาเจอมันตอนที่มันถูกแทงแล้ว กำลังจะหนีแม่งก็ไล่จะมาจับผม สุดท้ายคงทนพิษบาดแผลไม่ได้ ล้มลงไปซะอย่างนั้น ไอ้ผมมันก็ขี้สงสาร เลยต้องหอบมันมาด้วย" เล็กทำหน้าแหย เกาหัวแกรก
"ไอ้เวรเอ้ย ดันจะเป็นคนดี!" เขาถีบมันจนล้ม "ไปเอาผ้าชุบน้ำมา โชคดีนะยังพอมีอุปกรณ์ทำแผล"
โสภณไล่ลูกน้องไปเอากะละมังชุบน้ำ ส่วนเขาก็ออกไปหยิบกล่องยาสามัญประจำบ้าน พอเข้ามาเขาก็ใช้หมอนรองหัวมันให้สูง ไอ้หน้าอ่อนมันหน้าซีด แผลคงจะลึกน่าดู
"อ่ะ" เสียงครางเล็กๆเพราะความเจ็บทำให้โสภณชะงัก เครื่องแบบตำรวจถูกถอดออกทีละนิดจนเหลือแค่เสื้อกล้ามสีขาว ไอ้เด็กนี่รูปร่างดี เนื้อกายกำยำ ไม่อ่อนปวกเปียก ผิวก็ขาวไร้รอยขีดข่วน ที่หัวไหล่ตอนนี้เปื้อนเลือดแดงฉานเพราะรอยแทงลึกประมาณสองนิ้วเห็นจะได้ ลึกใช่ย่อย
"ตำรวจเหี้ยอะไรผิวดีฉิบ หล่ออย่างกะนายแบบเลยพี่" ไอ้เล็กตาโต พวกเขามันวันๆเอาแต่ลุยแดด ผิวดำกระด้าง มือก็สากไร้ความเนียนนุ่ม
"ตำรวจสมัยนี้มึงก็รู้ ส่วนมากนั่งในออฟฟิศ ไม่ก็ตั้งด่านหาแดก บางคนจบมาทั้งๆที่จับผู้ร้ายยังไม่เป็นก็มี" โสภณเอ่ยเยาะตามที่เห็นทั่วไปในสังคมทุกวันนี้
"มันจะตายไหมพี่" ไอ้เล็กส่งผ้าก็อตให้เขา
"ถ้าตายก็ใจเสาะเกินไปแล้ว แผลแค่นี้เอง ไปๆ มึงไปช่วยพวกมันทำครัว เย็นแล้วจะได้แดกข้าว"
"จ้าาาาา"
ไอ้เล็กเดินออกไปจากห้องพร้อมกะละมัง โสภณกดพัดลมให้ส่าย แผลแบบนี้พรุ่งนี้คงจะอักเสบ มันคงทรมานน่าดู แต่จะพาไปหาหมอก็ใช่เรื่อง แค่นี้ก็ถือว่าบุญโขแล้ว
...
จากนั้นพวกเขาก็ตั้งวงเหล้ากัน วันนี้ลุงผู้ใหญ่ให้เด็กขับรถเอาเหล้าชั้นดีมาให้ แต่ถึงแม้โสภณคิดจะซื้อเขาก็ทำได้เพราะเขายังมีเงิน กับแกล้มพร้อมเต็มพื้นที่ ข้าวปลาก็มีไว้รอ กะว่าเมาหัวร้างข้างแตกแค่ไหนก็ยังมีข้าวกินตอนเช้า
"คิดถึงเมียฉิบหาย เมาๆกอดเมียแล้วสุดดี" เสียงไอ้เข้มเอ่ย คนนี้มีเมียเด็ก ลูกก็สองแล้ว สงสัยคงยังไม่พอ
"มึงเพิ่งจะมาไม่กี่วัน เสี้ยนหาหอยจริงนะมึง!" ไอ้เคฟาดหัวมันไปที วงเหล้าล้วนมีแต่เรื่องอัปรีย์แล้วแต่ใครจะขุดมาเล่า
"โธ่พี่! ผมอยู่บ้านเอากะเมียทุกวัน ไม่ให้คิดถึงเมียจะให้คิดถึงใคร!"
"ไอ้สัตว์!" เจอยันเข้าไปอีกโครม ข้อหาคนอวดเมีย
"ว่าแต่พี่ภณเถอะ ยี่สิบปีที่ไม่มีเมียเนี่ย พี่เคยไปซ่องบ้างหรือเปล่าวะ ถามจริง" ไอ้เข้มมันเริ่มเมา เอ่ยไปตามที่ใจคิด
"มึงนี่มัน!" เคตั้งท่าจะถีบลูกน้องอีกที แต่โสภณห้ามไว้
"กูรักลูกกู วันๆกูไม่ได้คิดแต่เรื่องลามกแบบพวกมึง" เขาว่าพลางกระดกเหล้า
"แล้วพี่ไม่อยากเหรอวะ ขนาดผมไปต่างจังหวัด โทรมาได้ยินเสียงเมียยังให้มันครางให้ฟัง แตกคามือเลยว่ะพี่" มันเล่าความทุเรศอย่างไม่อายใคร
โสภณส่ายหัว อายุเขาก็ปูนนี้
"สี่สิบกำลังกลัดมัน เข้าเมืองไปหาเด็กๆสักคน ผมว่ามันคงครางไม่เป็นท่า อดอยากมายี่สิบปีเลยนะโว้ย" ไอ้เข้มโห่ร้องเหมือนเขาเป็นของดี ยิ่งไว้นานยิ่งขลัง
"ว่าก็ว่า ไอ้เล็กมึงชอบเที่ยวพวกโคมเขียว เป็นไงวะ เปลี่ยนเมียไปเรื่อยๆ มันส์สะเด็ดดีไหม" ไอ้เข้มเอ่ยอย่างสงสัย ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจ
"กูเคยเอาเด็กสิบห้า ไอ้เหี้ยฟิตจนกูต้องกระแทกจนแหก สงสารมันนะ แต่ตอนนั้นกูซอยอย่างเดียวว่ะ ฮ่าาา" เล็กเล่าประสบการณ์ชีวิตของตน
"ไอ้เหี้ยนี่ไม่เบานี่หว่า เด็กๆนี่มันน่าบีบว่ะ ฮ่าาา" ไอ้เข้มหัวเราะจนหงายหลัง โสภณที่แค่พอกรึ่มเห็นแล้วก็อดสังเวชไม่ได้ พวกนี้พอเมาแล้วเรื้อนทุกที นานปีเจอกันทนฟังมันหน่อยละกันเว้ย
"อยู่ในป่าแบบนี้คงต้องพึ่งมือสากๆของพวกมึงไปก่อน" เคร้องหึ จะให้ไปหาสาวๆที่ไหนแถวนี้ หมาสักตัวยังไม่เดินผ่าน
"แต่กูมีของเด็ดจะเสนอว่ะ ตอนที่ลูกพี่เช็ดตัวให้ไอ้ตำรวจนั่น เห็นผิวมันแล้วแม่งกูตั้งเลย" ไอ้เล็กทำหน้าหื่น เพราะมันเมาแล้วถึงได้พูดไปเรื่อยเปื่อย
"นั่นมันผู้ชายนะโว้ย!" เข้มทำท่ารังเกียจ
"มึงไม่รู้อะไร ผู้ชายนี่เด็ดกว่าผู้หญิงนะโว้ย เวลาบีบมันเต็มไม้เต็มมือดี เนื้อแน่นๆเวลาสอดใส่โคตรรัด แถมทนมือ เอาทั้งคืนก็ไม่ต้องกลัวตาย ครางเสียงแหบๆได้อารมณ์ฉิบหาย" ไอ้เล็กเปิดประเด็น หน้าลอยไปสวรรค์ชั้นเจ็ด
"มึงรู้ดีฉิบหาย เคยลองแล้วสิ" ไอ้เข้มโวยเพื่อน เล็กยักคิ้วเหนือกว่า
"คืนนี้เรามาลองกับไอ้ตำรวจนั่นดีไหม" ไอ้เล็กหาเรื่อง ชวนเพื่อนไปลองของใหม่
"ไอ้สัตว์ เมาแล้วพวกมึงน่ะ" โสภณว่า เมาแล้วคิดไม่เป็นทุกที พวกเหี้ยนี่ไว้ใจไม่ได้
"ขอผมเหอะพี่ เงี่ยนว่ะ" ไอ้เล็กเข้ามาคลอเคลีย ก่อนจะโดนโสภณถีบจนติดข้างฝา
"มึงเป็นคนช่วยมันแท้ๆไอ้เล็ก" เขาตบหัวมันซ้ำ "คิดเรื่องอับปรีย์มาได้"
"มึงมาให้กูเอาไหมล่ะไอ้เล็ก แบบนั้นน่าลองว่ะ" ไอ้เข้มแซวเพื่อน
"โอย กูจะอ้วก" เล็กส่ายหัวยิก ที่เขาพูดน่ะหมายถึงจะเป็นคนเสียบโว้ย ถ้าต้องมาถูกเสียบใครจะไปเอาวะ
"ตื่นเช้ามาถ้ากูเห็นน้ำคาวใครเกลื่อนบ้าน กูจะให้เลียเสียให้เข็ด ไอ้พวกนี้!" โสภณชี้หน้ารายตัว "กูจะไปนอนแล้ว พวกมึงอย่าเสียงดังให้มากล่ะ"
เขาเอ่ย กระดกเหล้าที่เหลือก่อนจะยืนเต็มความสูง
"อิจฉาโว้ยยยย ลูกพี่ได้นอนกับเนื้อแน่นๆขาวๆ" ไอ้เข้มส่งเสียงไล่หลัง "ระวังจะอดใจไม่ไหวนะพี่ ผู้ชายเวลามันตอดรัด เสียวจนเยี่ยวปริ ฮ่าาา"
"เดี๋ยวกูยิงทิ้งให้หมดไอ้พวกเวรตะไล!" โสภณหันกลับมาด่าลูกน้องอีกทีก่อนจะเดินเข้าห้อง ไอ้พวกนี้อย่าให้มันได้กินเหล้าเข้าปาก เห็นอะไรก็เป็นเรื่องล้อเล่นไปเสียหมด
โสภณสะบัดหัวไล่ความมึน คว้าผ้าเช็ดตัวออกมาเข้าห้องน้ำ เห็นพวกมันยังไม่เลิกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร อาบน้ำจนเสร็จเขาก็นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเข้ามาในห้อง ยืนมองดูแล้วว่าไอ้ตำรวจมันน่าจะอึดอัดเขาเลยช่วยมันถอดเข็มขัดดึงกางเกงสีกากีลงมา ดีที่มันใส่บอกเซอร์อยู่ จะได้ไม่ต้องหากางเกงมาให้เปลี่ยน
ที่นี่ฟูกง่อนแง่นก็วางไว้บนพื้นปูน ผ้าห่มก็ขาดๆรุ่ยๆ ไม่ได้มีความสะดวกอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็แค่หลบมากบดานสักพัก อีกเดี๋ยวเขาก็ต้องหาที่ใหม่
"ห ... หนาว" เสียงแหบครางจากปากคนข้างๆดังขึ้น โสภณที่นอนไกลออกมาต้องเอื้อมมือไปปิดพัดลมแล้วเปิดหน้าต่างระบายอากาศแทน ผ้าห่มมันเป็นผืนบางๆ เขาเองสละให้มันไปแล้วหวังว่าจะช่วย
เสียงจากด้านนอกเงียบไปแล้ว โสภณค่อยๆหลับตาเพื่อที่จะนอนอย่างจริงจัง อากาศคืนนี้ค่อนข้างเย็น ด้วยความเป็นบ้านปูนติดในป่าทำให้ค่อนข้างชื้น ลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างก็มากทำให้คนที่เริ่มแผลอักเสบกระสับกระส่าย เนื้อตัวมันร้อนแต่ข้างในมันก็หนาว จะนอนให้หลับสนิทเขาก็ต้องการความอบอุ่นมากกว่าผ้าห่มขาดรุ่ยนี้
...
"อืม" โสภณขยับตัวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคนข้างๆซุกเข้ามาหาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่ามันคงจะหนาว
เขายอมให้มันซุกเข้าหาความอบอุ่น เนื้อตัวเขามันร้อน ไอ้เด็กนี่คงจะชอบ ชั่วขณะหนึ่งที่เขากำลังเคลิ้มเขาลืมตัวคิดว่ามันเป็นลูกชายเขา คิดถึงเหลือเกิน เนื้อตัวนุ่มนิ่มที่ชอบมาซุกอกเขาเพราะจอมขวัญเป็นคนขี้หนาว เขาจรดจมูกโด่งลงบนกลุ่มผมสีดำสนิท ตวัดแขนกอดให้มันเข้ามาอยู่ในร่างเขาอย่างเต็มกอด เนื้อตัวที่เขากำลังกอดเต็มไม้เต็มมือ แขนสองข้างก็มีกล้ามเป็นลอน ไหล่กว้างเพียงแต่ไม่เท่าเขาที่ฝึกมาทั้งชีวิต กลิ่นตัวมันก็ไม่ได้เหม็นสาป ติดจะหอมมากด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างรักษาความสะอาดและสำอางค์มากทีเดียว
ด้วยความเมาบวกกับความเผลอไผลในความหอม เขาเผลอสอดมือเข้าไปในเสื้อกล้ามตัวบาง มันร้องครางอื้ออึงเมื่อเขาแตะไล่ที่สีข้าง จะว่าไปเขาก็ขาดเรื่องอย่างว่ามานานมากจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่เพราะยังไม่เจอคนที่อยากครองคู่ด้วยและเขามีความรับผิดชอบที่ต้องดูแล ทำให้เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศถูกจัดอยู่ในหมวดไร้สาระ
"อ๊ะ .. อา" เสียงมันครางพร่าเมื่อเขาตวัดขากอด ผ้าขาวม้าล่นลงไปอยู่ปลายเท้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ แต่ที่รู้ๆตอนนี้ทั้งความเมาความอยากปะปนกันไม่รู้ชั่วดี ไม่รู้ว่าเพศชายจะต้องทำอย่างไร เอากันทางไหน แค่รู้ว่าพอแตะบั้นท้ายกลมกลึงแล้วมันปล่อยเสียงคราง เขาก็รู้ทันทีว่าตรงไหนที่ควรจัดการ
"อ .. อย่า" วินัยเหมือนจะค่อยๆรู้สึกตัว เขาเจ็บราวไปทั่วไหล่ซ้าย ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน เขารู้แค่ว่าแสงจันทร์ที่สาดลงมาไม่มากทำให้เขาเห็นหน้าคนที่กอดรัดเขาอยู่เลือนลาง
โสภณไม่ได้เอ่ยตอบ เขาปลดพันธนาการของตน แท่งร้อนสีเดียวกับตัวผงาดเครียดตึงและแข็งขืน กว่ายี่สิบปีที่ไม่เคยได้เข้าใกล้เนื้อตัวหอม ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ตอนนี้ไฟอารมณ์มันเริ่มปะทุ เขาส่ายเอวร่อนให้มังกรเสียดสีกับขาอ่อนแข็งแรง มันครางอือยกมือดันหน้าอกแต่ทว่าเรี่ยวแรงไม่มี
กลิ่นชายฉกรรจ์คละคลุ้ง โสภณพลิกตัวขึ้นคล่อมมัน จับร่างที่นอนอยู่ให้นอนหงาย สองมือรูดกางเกงคนใต้ร่างลงจนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นแท่งร้อนของอีกฝ่ายที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่อย่างไรก็สู้ของเขาไม่ได้
"อ๊ะ .." มือหนาปาดลงกลีบลึกก่อนจะไล่มาที่พวงไข่ เขารู้ว่าจะทำอย่างไรผู้ชายด้วยกันถึงจะรู้สึกดี โสภณรูดรั้งแก่นกายคนใต้ล่างอย่างชำนาญ ความร้อนจากตัวเขาถูกถ่ายทอดผ่านมือสากที่กำลังสาวแก่นกายทำเอาคนใต้ร่างครางบิดตัวไม่เป็นท่า
แตะนิ้วชี้กับลิ้นเพื่อปาดน้ำลายไว้ใช้แทนเจลหล่อลื่น โสภณแยกขามันออกกว้าง ร่างกายหนาพอๆกะเขาในตอนนี้ดูเซ็กซี่เร้าอารมณ์ดิบ นิ้วแรกกดแทรกผ่านช่องทางสีสดที่ไม่เคยมีผู้ใดแทรกผ่าน คนด้านล่างจิกมือกับแขนเขา โสภณคำรามด้วยความกระสัน จริงอย่างที่มันบอก ขนาดแค่นิ้วแรกช่องทางมันยังตอดรัดถึงเพียงนี้ เขาสอดนิ้วจนสุด ควานหาจุดกระสันแบบที่เคยทำกับภรรยา เมื่อมันร้องตัวเกร็งเขาก็หยุดก่อนจะแทรกอีกนิ้วกระแทกลงจุดเสียวทำเอามันร้องครางเสียงดังลั่น
หวังว่าไอ้พวกเวรนั่นมันจะหลับตายกันหมดแล้ว
เขาคิดพลางขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น แก่นกายที่รออยู่บวมเป่งแทบจะขาดใจ เพราะเห็นว่ามันเป็นผู้ชายเขาจึงไม่ได้อ่อนโยนอะไรมาก เนื้อตัวขาวบิดส่ายไปทั่วฟูก เขาค่อยๆชักนิ้วออกมา ภายในมันขมิบรัดเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนมันจะถอนหายใจพลางหอบ
โสภณไม่รอช้าจ่อแท่งร้อนขนาดเต็มลำที่ปากทาง เขามองผ่านแสงจันทร์เห็นจีบพับสีสดขมิบตามจังหวะหายใจแล้วยิ่งเร้าอารมณ์ เมื่อเขากดส่วนหัวเข้าไปมันก็ร้องโอดโอยเหมือนคนใกล้ตาย โสภณยื่นมือไปปิดปากมัน แผลที่หัวไหล่คงจะกำลังอักเสบ เขาอยากจะหยุดแต่อารมณ์มันมาถึงขั้นนี้แล้ว
ยัดเยียดความร้อนเข้าไปเต็มกำลัง โสภณแช่ค้าง ความรู้สึกสุดยอดเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย เขาเคลื่อนกายด้วยความวาบหวิว ทุกนาทีที่ขยับ ช่องทางของมันจะตอดรัด แนบแน่น ขมิบถี่รัวจนเขาแทบทนไม่ไหว คงเป็นเพราะไม่ได้ร่วมรักกับใครมานาน แค่สอดใส่ติดผนังน้ำคาวก็ถูกฉีดใส่ภายในร่าง เขาตั้งสติ ก่อนจะเริ่มบทรักต่อไปอย่าได้ขาด ความร้อนที่พุ่งสูงทำให้วินัยเองก็สำเร็จความใคร่ตามไปด้วย เขาตอดรัดคนด้านบนอย่างไม่รู้ตัว เวลาที่ภายในถูกเสียดสีมันก็รู้สึกดีไม่น้อย
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแต่พายุอารมณ์ก็ไม่มีท่าทีจะสงบ มังกรยักษ์ยังคงทะลุทะลวงม่านเมฆไปทุกที่ โสภณพลิกกายมันติดผนัง ยกก้นลอยโด่ง ใช้แท่งร้อนตีไปที่ช่องทางเป็นการส่งสัญญาณเตือนก่อนจะสอดใส่เข้ากระชั้น วินัยนอนครางไม่รู้ศัพท์ ทั้งจิก ทั้งข่วน ทั้งกัด เขาทำมาทุกอย่าง ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมาถูกกระทำเหมือนตัวเองเป็นผู้ชายขายตัวแบบนี้
คราบคราวตลบอบอวลอยคลุ้งไปทั่วห้อง โสภณนอนซ้อนหลัง ยกขามันแยกออกกว้างก่อนจะแทรกผ่านความคับแน่น พวกเขาไม่มีการจูบหรือซุกไซร้ใดๆ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากมีเซ็กส์เท่านั้น เสียงกระแทกกระทั้นดังจนกลบเสียงคราง ช่องทางของวินัยแสบสันไปหมดเหมือนจะมีเลือดออก แต่คนด้านหลังยังไม่พอใจ ความแข็งกร้าวไม่มีท่าทีว่าจะอ่อนลง ยังคงเสือกกายเข้าออกอย่างรุนแรง
เสียงนาฬิกาข้างเตียงส่งเสียงร้องเป็นเวลาตีสาม ร่างกายกำยำของคนทั้งสองกอดก่ายพลิกเปลี่ยนท่าทางกันไม่รู้ต่อกี่ท่า มือสากช่วยรูดรั้งความเป็นชายของคนที่ไม่ได้ใช้การ คราบน้ำคาวเลอะเปรอะมือไม้และลำตัว ขาอ่อน แก้มก้น แม้กระทั่งหน้าอกก็ไม่มีที่ว่าง ความสุขสมออกมาจากเสียงครางและสีหน้า โสภณรู้สึกเป็นสุขหลังจากที่ได้ปลดปล่อย เขามีที่ระบายแล้วหลังจากห่างหายเรื่องอย่างว่ามานานนับยี่สิบปี พอถึงคราวตบะแตก ร่วมรักกับมันแม้จะเป็นสิบๆรอบมันก็ยังไม่พอ
"ม .. ไม่ไหวแล้ว" วินัยครางส่ายหัว ไม่รู้ว่าคนบ้านี่ไปตายอดตายอยากมาจากไหน เขานับๆดูแล้วไม่ต่ำกว่าสิบกว่ารอบที่น้ำคาวขุ่นคนด้านหลังแตก เวียนหัวจนอยากจะอาเจียน เจ็บแผลก็เจ็บยังไม่ได้พัก
"ตีสี่ .. กูขอแค่ตีสี่" โสภณเอ่ยขอ มันทำแค่ครางอือยอมรับชะตากรรม เขาเลยใช้เวลาที่เหลือเพื่อปลดปล่อย ไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายของผู้ชายอย่างมันจะเข้ากับเขาได้ดี เวลาที่แก่นกายสอดประสานเขารู้สึกได้ว่านี่คือเซ็กส์ที่เขาต้องการ มันก็ท่าทางแมนๆเหมือนกับเขา เพียงแต่ส่วนสูงและความหนาอาจจะน้อยกว่าหน่อย แปลกที่เขาชอบแบบนี้มากกว่าร่างนุ่มนิ่มอย่างที่ลูกน้องบอก
โสภณทำตามอย่างที่ขอจริงๆ พอใกล้ตีสี่เขาก็เดินหน้าเต็มกำลังและปลดปล่อยร่างกายของเขาทั้งสอง รีดน้ำคาวออกจนหมดเขาก็ล้มลงทับร่างกำยำของมัน พออะไรมันสร่าง เขาก็เพิ่งจะรู้สึกตัว ที่เขากระแทกอยู่น่ะตำรวจดีๆนี้เอง โชคดีที่เขาเก็บปืนมันไว้ในตู้แล้ว ไม่อย่างนั้นคืนนี้คงไม่กล้าหลับ
"มึงมันเหี้ย" วินัยนอนหอบ ถ้ามีแรงคงไม่ปล่อยให้มันทำแบบนี้แน่ๆ
"เออ กูเหี้ย กูยอมรับ" โสภณเอ่ย ยอมรับว่าเหี้ยจริงๆ สิ่งที่เขาด่าลูกน้องไปทั้งหมด เขากลับทำมันด้วยตัวเอง
"อดอยากมาจากไหนวะ" วินัยส่งมือไปขยำพวงไข่ อยากจะบีบให้แตก แต่ความรู้สึกเสียวที่ได้รับมันก็แปลกใหม่ จะว่าไปเขาเองก็คล้อยตามไปกับสัมผัสที่ได้รับหลายรอบอยู่
"เกือบยี่สิบปี ตั้งแต่เมียตาย" โสภณเอ่ยความจริง มาถึงขั้นนี้คงไม่ต้องปิดบัง มันเป็นตำรวจ ถ้าจะจับเขาเข้าคุกก็ง่ายนิดเดียว
"กูระบมไปหมด ของมึงก็ไม่ใช่เล็กๆ" วินัยปล่อยมือ ก่อนจะนอนขดตัว เจ็บทั้งแผลที่โดนแทง ไหนจะแผลที่ช่องทางอีก
"กูไม่แก้ตัวใดๆทั้งสิ้น กูเมา แล้วเนื้อตัวมึงก็น่าฟัด ถ้ามึงจะจับกูก็แล้วแต่ กูก็แค่ยอมเดินเข้าตาราง" และเขาเองก็ไม่คิดจะหนีด้วย
"เหอะ ให้กูแจ้งความว่ามึงข่มขืนกูที่เป็นตำรวจเนี่ยนะ ตลก" วินัยแค่นหัวเราะ "เรื่องของกูกับมึงจะต้องไม่มีใครได้รู้ ถ้ากูจะทำจริงๆ สิ่งนั้นคือกูคงต้องยิงมึงทิ้งเพื่อปิดปาก"
"กูก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศที่ไหน ถ้ามึงไม่รู้" โสภณว่า ไอ้เด็กน้อยนี่มันก็เด็ดได้ใจเขาเว้ย
"ก็ลองสิวะ มึงได้ตายสมใจแน่" วินัยขู่ เขาเป็นถึงตำรวจ ใช่ น่าจะจับมันส่งเข้าตารางได้ไม่ยาก แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่น่านำออกไปโพนทะนา จะมีแต่เสียชื่อเสียง และเขาเองที่จะตกเป็นผู้เสียหาย อับอายขายขี้หน้า
"ก็ถือว่ากูช่วยชีวิตมึง มึงช่วยทำให้กูได้ปลดปล่อย เท่านั้นก็จบ" โสภณหลับตาพูด เขาเหนื่อยและอยากนอนเต็มทน
"กูอยากจะฆ่ามึงจริงๆ" วินัยสบถ แต่แม้จะขยับยังยากเลย
"เอาไว้มึงหายดีก่อนค่อยมาพูด ตอนนี้นอนก่อนไหม ไอ้เด็กน้อย" โสภณขยับเข้าชิดร่าง โอบกอดมันไม่ให้ขยับหนี วินัยฮึดฮัดได้ไม่นานก็ต้องคล้อยหลับตามเพราะความเหนื่อยความง่วงทั้งระบมมันทำให้เขาแทบลืมตาไม่ขึ้น เวรกรรมของเขาจริงๆที่ต้องมาตกอยู่ในซุ้มโจรแบบนี้ รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น เขาเป็นฝ่ายโดนเสียบ ...
TBC.
Talk: บอกแล้วว่าหาสาระและเหตุผลไม่ได้ ตอนหน้าสลับไปคู่หลักนะคะ
ขอบคุณค่ะ