รอยชัง อินไซด์
'คู่ชีวิต'

'คืนนี้กูมีนัดกับเพื่อน ไม่กลับห้องนะ'
'คืนนี้กูมีธุระ คงกลับดึกๆ'
'มึงกินข้าวก่อนเลย ไม่ต้องรอกู กูยังติดงานอยู่'
'ฝากเอาเสื้อผ้ามาให้หน่อย วันนี้มีฝึก คงค้างกับเพื่อน'
'วันนี้วันเกิดหัวหน้า กูคงกลับดึก นอนก่อนเลย'
โสภณชินจนไม่รู้จะชินอย่างไรกับอีกคนที่เริ่มเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะมันมีสังคม แต่เขาไม่ ความต้องการที่จะอยู่กับเพื่อนของเขาเท่ากับศูนย์ ในขณะที่ของมันมีอยู่เต็มร้อย ชีวิตของเราสองคนเริ่มกลายเป็นทางเดินคู่ขนาน มันก็ใช้ชีวิตของมัน เขาก็มีชีวิตของเขา อะไรๆมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ไม่เหมือนปีที่แล้วที่ชีวิตมันดูหอมหวานไปหมด ไม่มีอีกแล้วคนที่เคยเป็นเพื่อนข้างกายคนเดิม
เขาถอนหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรงก่อนจะนั่งลงบนเตียงกว้าง เอนกายพิงหัวเตียงแล้วเปิดโทรทัศน์ดูไปเรื่อยๆอย่างไร้อารมณ์ วินัยเริ่มเป็นแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้ว นานๆทีจะกลับมาห้อง บางทีก็หายไปหลายวัน บอกว่ามีธุระบ้าง ไปกับเพื่อนบ้าง เขาเองไม่รู้ว่าควรจะหึงหรือหวงดีไหม ควรจะห่วงหรือเรียกร้องอะไรได้บ้าง แต่ในใจมันก็เอาแต่ตั้งคำถามว่าตอนนี้เราคบกันในฐานะอะไร เขายังจำเป็นอยู่ไหมกับชีวิตมัน ถ้าไม่มีเขาแล้ว
... มันจะอยู่ได้ใช่ไหม ..
รุ่งเช้าโสภณรีบตื่นตั้งแต่หกโมง เขาอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปซื้อโจ๊กหมูมาสองถุง โจ๊กหมูที่มันชอบ เพราะเขาคิดว่ามันจะกลับมาเมื่อเลิกงาน แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เขานั่งรอมันอยู่ที่โต๊ะทานข้าว นั่งอยู่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า จนตอนนี้เวลามันก็ล่วงเลยมาจนถึงเก้าโมงแล้ว
.. แต่ก็ไม่มีวี่แววของอีกคน ไม่มีแม้แต่สายโทรเข้าหรือข้อความ ..
เขาพยายามไม่คิดมาก ปล่อยให้อีกคนเที่ยวให้พอใจ ให้อีกคนใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็น ในเมื่อเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามใครได้อยู่แล้ว มันคงเลือกแล้วว่าสังคมสำคัญกว่าเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอยากถามให้รู้เรื่อง พูดกันตรงๆในแบบที่เคย แต่พอเอาเข้าจริง เขาก็ไม่อยากเห็นมันหงุดหงิด เขาไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้มัน เขาก็แค่ทำใจรอ รอจนกว่าอีกคนจะเห็นว่าเขายังรออยู่ตรงนี้ แล้วกลับมาหากัน
เกือบเดือนแล้วที่ทุกอย่างมันยังเป็นเหมือนเดิม เกือบเดือนที่เขาได้เห็นหน้ามันไม่ถึงสิบวัน เกือบเดือนที่ได้กอดมันอย่างแนบแน่นแค่ครั้งเดียวตอนที่มันกลับมาแล้วบอกว่าอยากให้เขากอด นอกนั้นเขาก็กลายเป็นใครไม่รู้ที่อาศัยอยู่ในห้องมัน คอยเก็บกวาดเช็ดถูโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของห้องจะกลับมาเมื่อไหร่
เขาเองก็แก่แล้ว อะไรๆที่เคยหวัง ตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาเองไม่เคยคิดจะจากมันไปไหน แต่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม ในเมื่ออีกคนไม่ต้องการเขาแล้ว ถ้าหากว่ามันไปแอบมีคนอื่น ถ้าเกิดมันอยากให้เขาออกไปจากชีวิตมัน แต่ไม่กล้าพูดล่ะ เขาควรจะถามดีไหม หรือจะเดินออกไปเองอย่างเงียบๆดี เขาเองก็คิดไม่ตก
โสภณปิดทีวี วันนี้กะว่าจะนอนเร็วเสียหน่อย แต่พอดีมีสายเข้าจากลูกชายเสียก่อน เขาเลยเปิดระเบียงออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก พลางคุยกับจอมขวัญไปด้วย
( พ่อจ๋า ทำอะไรอยู่ ) เสียงจากปลายสายทำให้เขาน้ำตาตก คิดถึงลูกมากเหลือเกิน
"พ่อออกมานั่งรับลมเล่น ขวัญล่ะ ทำอะไรอยู่"
( ขวัญเพิ่งกล่อมลูกๆหลับครับ คิดถึงพ่อจังเลยโทรมา ) ตอนนี้จอมขวัญย้ายไปอยู่ที่เกาะเรียบร้อยแล้ว อยู่ไกลกันแบบนี้ เลยคิดถึงมากเป็นพิเศษ
"คิดถึงลูกเหมือนกัน สบายดีนะ"
( ครับ ขวัญสบายดี พ่อล่ะสบายดีไหมครับ แล้วนี่พี่วินัยอยู่หรือเปล่า ) จอมขวัญยังไม่ทราบเรื่องของเขากับมัน
"ไม่อยู่หรอก" ตอบออกไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร "พ่อสบายดี ขวัญไม่ต้องห่วง"
( อ .. อ้าว แต่ฟังจากเสียงเหมือนพ่อไม่สบายเลย คิดมากอะไรอยู่หรือเปล่าครับ อยากลงมาอยู่กับขวัญไหม พี่วินอยากให้พ่อมาอยู่ด้วยกันนะ ขวัญเองก็อยาก คิดถึงพ่อ อยากให้พ่อมาอยู่ด้วยกัน )
แค่ได้ยินลูกพูดแบบนี้ เขาก็ชื่นใจ
"พ่อเองก็คิดถึงขวัญ อยากไปอยู่กับขวัญนะลูก" เขาเอ่ย "ถ้าวันนึงที่พ่ออยากลงไป พ่อจะบอกนะ"
( ดีจังเลยครับ ขวัญกับพี่วินต้อนรับพ่อเสมอนะครับ รักพ่อนะ )
"พ่อก็รักลูกครับ ดูแลตัวเองดีๆด้วย"
จอมขวัญวางสายไปแล้ว เขายังคงสูบบุหรี่ต่อ มือก็เลื่อนดูโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ หวังจะมีสายไม่ได้รับหรือข้อความเข้ามาบ้าง แต่ก็เปล่า
.. เขาคงจะไม่มีอะไรสำคัญสำหรับมันอีกต่อไปแล้ว ..
อีกสองวันต่อมาโสภณตัดสินใจเข้าไปทำงานที่ไร่ของเพื่อนที่รู้จักแนะนำให้ เขาไม่อยากทำตัวเป็นภาระอีกแล้ว แม้ว่าเงินทองจะมีเหลือใช้ แต่การอยู่เฉยๆโดยไม่มีงานทำมันก็เหมือนการงอมืองอเท้า รอให้อีกคนคอยเลี้ยง
เขาตัดสินใจมาทำงานเลยหลังจากเข้ามาคุยกับผู้จัดการไร่แล้ว ที่นี่เป็นไร่ไม้อีกแห่งในลำปาง เจ้าของเองก็ดูจะเป็นคนดี และที่เขารีบตกลงก็เพราะเขาเองอยากให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ ในแต่ละวันที่ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีมัน มันน่าเบื่อ หากว่าเขามีงานทำ เขาจะได้ไม่ต้องคิดมากเรื่องมัน ออกมาแต่เช้า กลับตอนค่ำ ชีวิตจะได้ไม่ต้องหมกมุ่นอยู่แต่กับมันอีก
วุฒิภาวะและประสบการณ์การทำงานที่ล้นเหลือทำให้โสภณได้เป็นหัวหน้าคุมงานเหมือนที่เคยทำที่ไร่ของอัศวิน แต่อาจจะเป็นเพราะจู่ๆเขาก็ได้เข้ามาแทนที่ลูกพี่คนเก่าของพวกคนงาน จึงมีบางพวกที่ไม่ค่อยเคารพเขา แถมยังคอยเขม่นเขาตลอดเวลา หาว่าเขามีเส้นสายบ้าง เป็นต้นเหตุให้ลูกพี่มันต้องโดนไล่ออกบ้าง บอกเลยว่าโสภณเองเหนื่อยจะสู้ในเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว ใครอยากจะคิดอะไรก็คิดไป เขาไม่ได้เป็นสักอย่างจะต้องกลัวอะไร
"ไง ไปไหนมาวะ" เสียงคนที่หายไปหลายวันถามทันทีเมื่อเขากลับมาถึงห้อง เขาเพิ่งจะได้เลิกงาน กว่าจะนั่งรถกลับมาอีกก็ใช้เวลานานพอสมควร
"กู .." เขาชั่งใจ "ไปธุระมา"
"ธุระอะไร ทำไมไม่เอารถยนต์ไป" มันถาม รินน้ำใส่แก้วเอามาให้เขา
โสภณแค่ไม่อยากเอารถมันไปใช้โดยพลการ "ไม่เป็นไร มึงกลับมาห้องได้แล้วเหรอ"
พูดตอนที่เดินไปในห้อง เตรียมตัวอาบน้ำ
"ช่วงนี้กู .." มันเองทำท่าอึกอัก "กูอาบน้ำให้นะ"
ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไป โดยที่เขาเองก็ไม่ได้คำตอบเช่นกัน
..........
ร่างสองร่างกอดรัดกันแนบแน่น อีกฝ่ายดูเหมือนจะสุขสม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย โสภณนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหลังจากที่เพิ่งเสร็จกิจกรรมบนเตียง มันนอนหันหลังให้เขา หลับไปก่อนแล้ว หลังจากที่เหนื่อยมามากทั้งคู่
เขาเองที่จริงวันนี้ก็ทำงานหนักมาทั้งวัน อยากจะพักผ่อนร่างกายบ้าง แต่เพราะความคิดถึงที่มีทำให้เขาปฏิเสธที่จะกอดมันไม่ได้
"นัย" เขาพลิกตัวกอดคนรัก มันขยับตัวเล็กน้อยให้เขากอดได้ถนัด
"หืม" ตอบรับพลางวางมือลงบนมือเขา
"กูได้งานทำแล้วนะ ต่อไปนี้คงได้เจอกันตอนเย็นๆ" เขาเอ่ยออกไป ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นเขามากกว่าที่ต้องเป็นคนรอ
"ทำไม!" มันหันมาตวาดเขาเสียงดัง "อยู่ห้องอย่างเดียวไม่ได้หรือไง มึงต้องการเงินอะไรหนักหนา"
.. ไม่เลย เขาไม่เคยต้องการเงินเลยแม้แต่น้อย ..
"กูไม่อยากให้มึงทำอะไร กูจ่ายเองได้ ไม่ว่าจะค่าห้อง ค่ารถ ค่าใช้จ่าย มึงไม่ทำได้ไหม" มันเปลี่ยนมาอ้อนเขา อ้อนในแบบของมันที่ชอบอ้อน
"แต่กูไม่อยากเป็นภาระมึง .. อีกอย่างอยู่ห้องมันก็ไม่มีอะไรทำ" โสภณอยู่ห้องคนเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
"มึงโกรธที่กูไม่ค่อยกลับห้องใช่ไหม" มันเขี่ยอกเขาเล่น เงยหน้าถามเสียงเครียด
"กูขอโทษ กูยอมรับว่าช่วงนี้กูติดเพื่อนจริงๆ แต่กูจะไม่ทำแล้ว กูสัญญา" วินัยกอดคนตัวโตออดอ้อน
โสภณรู้สึกจุกในใจ สุดท้ายมันก็ติดเพื่อน เห็นคนอื่นสำคัญกว่าเขาจริงๆ
"ไม่เป็นไร" โสภณส่ายหน้า "มึงอยากทำอะไรก็ทำเถอะ กูเองก็อยากออกไปทำงานจะแย่แล้ว"
.. อยากเที่ยว ก็เที่ยวเสียให้พอเถอะ ..
.. อย่าให้เขามาขัดความสุขของมันเลย ..
"ไม่เอา มึงเป็นอะไร กูขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ กูไม่เที่ยวแล้ว อย่าเป็นแบบนี้สิวะ กูคิดถึงมึงนะป๋า" ที่ผ่านมามันแค่อยากเที่ยวบ้าง แบบนี้ใช่ไหมที่จะพูด
"นัย" เขาลูบแขนนิ่ม "อย่าทำอะไรเพื่อกูอีกเลย มึงมีสังคม มีเพื่อน กูเข้าใจดี อายุมึงก็แค่นี้ เที่ยวให้คุ้มเถอะ กูจะอยู่ตรงนี้ ไม่ได้คิดจะไปไหน"
.. เขาก็แค่เหงาบ้าง แต่ก็ดีกว่าเห็นมันมาจมปลักกับคนอย่างเขา ..
"ถ้าวันใดมึงเจอใครที่ดีกว่ากู แค่บอกกู กูจะเป็นคนเดินออกไปเอง"
บางทีเขาก็ไม่คู่ควรกับมัน มันเป็นถึงตำรวจมียศศักดิ์ มีสังคมและครอบครัว ในขณะที่เขาไม่มีอะไรเลย บางทีเขาก็อยากให้มันเจอคนที่ดีกว่านี้ คนที่ดูแลมันได้ และเข้ากับมันได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่ตาแก่แบบเขา ที่จะมาจมปลักให้ตัวเองไร้อนาคตอยู่แบบนี้ เขาไม่มีอะไรเลย ไม่สักอย่าง ช่วงแรกที่เราดูจะเข้ากันได้ มันคงเป็นแค่ความหลงใหลชั่ววูบ ผ่านมาสักพักถึงได้รู้ว่าต่างคนต่างมีทางเดินของตัวเอง
"อึ่ก .. กูผิดไปแล้ว อย่าพูดแบบนี้สิวะ" มันกอดเขาไว้แน่น กอดเหมือนกลัวว่าเขาจะหนีมันไป ไม่เลย เขาไม่เคยเดินออกไปจากมัน เป็นมันต่างหากที่ค่อยๆเดินออกจากเขาไปทีละนิด "มึงจะไปจากกูเหรอวะ ไม่ให้ไป กูไม่ให้มึงไป"
"กูเคยพูดหรือว่าจะไป" โสภณจูบหน้าผากมันด้วยความรัก "มึงเองไม่ใช่เหรอที่ไม่อยากอยู่กับกูแล้ว"
"มึงอะ! กูยิ่งรู้สึกผิดเลย กูขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ จากนี้จะไม่ทำแล้ว กูแคร์มึงนะ ที่กูเที่ยวบ่อยขึ้นเพราะกูปฏิเสธเพื่อนไม่ได้ กูผิดเอง ป๋า มึงรักกูไหม เชื่อใจกูนะ กูจะไม่ทำอีก นะครับ"
มันขึ้นมานั่งคร่อมตักเขา ใช้สองมือโอบรอบคอเขาอย่างออดอ้อน ปากเล็กพรมจูบตามแนวสันกรามไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอก
"แล้วแต่ใจมึงเถอะ" โสภณเอ่ย "เรื่องงานกูไม่เปลี่ยนใจนะ กูตกลงเขาไปแล้ว"
"อือ ก็ได้" วินัยซบหน้ากับบ่าผัว "แค่มึงไม่โกรธกู แค่นี้ก็ขอบคุณแล้ว"
พูดจบก็ฉกจูบคนตรงหน้าอย่างไม่รีรอ ไม่ต้องรอให้มันเป็นคนจูบ เขาที่เป็นคนผิดก็ต้องทำอะไรให้มันบ้าง วินัยจูบปากหนาอย่างเร่งเร้า มือนิ่มสางผมคนรักก่อนจะเปลี่ยนมาเกาท้ายทอยให้อย่างเบามือ อยากจะอ้อนให้คนตรงหน้าหายโกรธ อ้อนให้คนตรงหน้าไม่จากไปไหน เขาผิดไปแล้วที่หลงไปกับแสงสี ผิดไปแล้วที่ทิ้งให้คนรักต้องนอนลำพังคนเดียว จากนี้ไปจะไม่ทำอีก สัญญา
..........
( มึงต้องเข้าใจนะว่าเขาอายุมากแล้ว ส่วนมึงยังเลือกได้ ถ้าเขาจะกลัวมึงเดินจากไปมันจะแปลกอะไรวะ ) วินัยอยากจะง้อคนแก่ขี้งอน แต่ทำอย่างไรโสภณก็ยังดูไม่เป็นคนเดิม เขากังวลมาก เลยโทรถามเพื่อนรัก เผื่อจะได้ไอเดียอะไรดีๆบ้าง
"กู..กูแค่" วินัยพูดไม่ออก
( คนที่เขาตกลงจะคบกันแล้ว เขาไม่ทำแบบนี้หรอก ทิ้งผัวไปเที่ยว หลายวันไม่กลับห้อง เป็นกูกูคงเสียใจ ออกจากห้องมึงมานานละ )
"เหี้ย .. กูผิดไปแล้วว่ะ แต่กูไม่ได้อยากทิ้งเขาเลยนะเว้ย" ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งแก้ตัว
( คู่ชีวิตที่ดี เขาจะไม่ทอดทิ้งอีกคนหรอกนัย มึงคิดว่าแค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่อารมณ์ชั่ววูบของมึงมันทำให้อีกคนไม่มั่นใจไปแล้ว เขาอายุเท่าไหร่ เขารักมึงเท่าไหร่ แล้วดูสิ่งที่มึงทำกับเขา ถามจริงๆมีชู้หรือเปล่า )
"เห้ย! ไม่มีนะ กูไม่ได้นอกใจมัน" วินัยรีบปฏิเสธ
( ขวัญเล่าให้กูฟังว่าพี่ภณดูคิดมาก เสียงก็กังวลอยู่ตลอด มึงคิดว่าเรื่องอะไรล่ะ นี่ขวัญก็ลองชวนพ่อมันมาอยู่ด้วยกันนะ แต่เขาก็ไม่มา เขารักมึงมากนะนัย คราวหลังจะทำอะไรคิดก่อนทำบ้าง ความรักที่มันไม่เท่ากัน มึงคิดว่ามันจะยืดเหรอวะ )
.. เจ็บจนจุก เรื่องจริงทั้งนั้นที่อัศวินพูดมา ..
"เอออ กูมันเลวเอง กูจะไม่ทำอีกแล้ว" วินัยล้มตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก โธ่เว้ย ไม่น่าเลยกู
แกร๊ก
เสียงไขกุญแจดังขึ้น
"วินๆ แค่นี้นะ ผัวกูกลับมาแล้ว"
( ผัวเต็มปากเต็มคำ เออๆ อ้อนผัวดู เอาแบบที่มันต้องยอมให้อภัยมึงอะ ลองซะ! โชคดีเพื่อน )
"ไอ้เพื่อนเลว" วินัยสบถเมื่ออัศวินวางไปแล้ว อ้อนแบบไหนล่ะวะ ก็อ้อนกันทุกคืนอยู่แล้ว จะต้องทำอย่างไรอีก
"กลับมาแล้วเหรอ" ดูแอ๊บไปหรือเปล่าวะ เอาใหม่ "ป๋าเหนื่อยไหม" เอ่ยออกไปแล้วก็ต้องวกกลับมาคิด
.. ไอ้สัตว์ แรดฉิบหาย ..
คนตรงหน้าส่ายหน้าช้าๆก่อนจะลงไปนั่งบนโซฟาอย่างเนือยๆ วินัยรีบยกน้ำเย็นๆชื่นใจมาเสิร์ฟให้ ลดตัวลงนั่งแล้วบีบนวดต้นคอให้คนรัก
"คืนนี้ดื่มไวน์กันนะ พรุ่งนี้หยุดนี่" ออดอ้อนออเซาะ แบบนี้เหรอวะที่ไอ้วินมันว่า
"เอาสิ ว่าแต่ไม่สบายหรือเปล่าเมีย" โสภณแตะหน้าผากคนตรงหน้า อยู่ดีๆก็มาซบมาอ้อนเอาใจ
"เปล่า .. ไม่ได้เป็นอะไร" ซบอกแกร่งก่อนจะลูบไล้ไปมา "คิดถึง ไม่ได้เจอตั้งสิบชั่วโมง"
โสภณชะงัก "เป็นอะไร หืม"
.. คิดถึงเพราะไม่ได้เจอสิบชั่วโมง มีที่ไหนกัน ..
"อยากเหรอ.." ถามออกมาเพราะนึกว่าอีกคนอ้อนเพราะอยากจะทำเรื่องอย่างว่า
"อยากก็ส่วนอยาก .. แต่ตอนนี้คิดถึงมากกว่า" กอดคนที่เหม็นเหงื่อมาทั้งวันแน่น
"ฮื่อ ตัวกูเหม็น ไว้อาบน้ำก่อนค่อยมากอด" โสภณดันตัวอีกคนออก เพราะรู้สึกตัวเองตัวเหม็นไม่ไหวแล้ว
"ไม่เห็นเหม็นเลย" วินัยไม่ยอมห่าง "กลิ่นนี้แหละที่กูชอบ"
กลิ่นกายแกร่งผสมกลิ่นน้ำหอมที่ชอบ ยิ่งทำให้รู้สึกดี
"อ้อนจังเลย มีอะไรหรือเปล่า" โสภณลูบหัวเด็กน้อย "ยั่วกูมากๆจะโดนดีนะเมีย"
ลูบก้นนิ่มเล่นพลางขยำ ยั่วมากแบบนี้ใครจะไปทน
"ป๋าอยากทำอะไรป๋าก็ทำสิครับ" อีกคนขบเม้มริมฝีปากหนา ส่วนล่างก็ส่ายไปมาอย่างเย้ายวน
.. ไม่รู้หรอกคำว่าออดอ้อนของคนอื่นคืออะไร แต่คำว่าออดอ้อนของเขาจะต้องไม่ธรรมดา ..
คนตัวโตกว่าจูบกลับอย่างรุนแรง แค่ถูกอีกคนยั่วยวนเขาก็ไม่อยากจะทนแล้ว มือหนาฟอนเฟ้นก้มนุ่ม ขยำก้อนเนื้อแน่นอย่างหมั่นเขี้ยว วินัยสอดมือเข้าถอดกระดุมเสื้อเชิ้ต ลูบไล้อกแกร่งอย่างตั้งใจ ซุกหอมต้นคออย่างโหยหา
"ในอ่างได้ไหม.." โสภณเอ่ยถาม เขาเหนียวตัวรู้สึกอยากอาบน้ำ
"ในไหนก็ได้ .. แต่ขอแรงๆนะ" กระซิบเสียงหวาน ก่อนจะถูกร่างแกร่งอุ้มกระชับพาเข้าไปในห้องน้ำ
ร่างเปลือยเปล่าก้าวตามลงมา ฝ่ามือหนาดันปลายคางอีกคนขึ้น กดจูบลงบนเรียวปากอุ่น ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้าไปดูดคลึงความร้อนภายใน เขาดันคนตรงหน้าให้นอนพิงอ่างก่อนจะถลกชายเสื้อของคนตัวเล็กกว่าออกจากหัว และดึงกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ออกทิ้งไว้ข้างล่าง ร่างหนักๆแทรกตัวลงกึ่งกลาง ความเป็นชายของเขาตั้งตระหง่า เรียกร้องจะเข้าไปด้านในเต็มที่แล้ว
"อยากให้ใช้ปากให้ไหม อยากชิม" วินัยแลบลิ้นยั่ว มือบางเอื้อมไปจับส่วนแข็งขืน ค่อยๆลูบก่อนจะชักขึ้นลงจนโสภณสูดปาก
"อมสิครับเมีย" โสภณเปลี่ยนไปนั่งบนขอบอ่าง "เข้ามานี่มา"
ฉุดมือเมียให้มาใกล้ๆ อ้าขาออกเล็กน้อยให้คนตรงหน้าแทรกเข้ามาได้ง่ายๆ
วินัยแลบลิ้นเล็กแตะตรงส่วนสีชมพูลื่นมือ โสภณขยุ้มผมเมียตอนที่มันแกล้งดูดแท่งร้อนของเขาเป็นลูกอมจูปาจุ๊บ
"ซี้ด .. เสียวมาก" พออยากอ้อนก็อ้อนเสียทุกอย่าง อ้อนด้วยการเลียแท่งร้อนด้วยความเสียวซ่านมากกว่าครั้งไหนๆ มีการหยอกล้อกับร่องเล็ก อมรั้งจนมิดด้าม เร็วและแรงจนในที่สุดก็แตกคาปาก
"แฮ่ก .. ออกเยอะ" กลืนน้ำกามสีขาวบางส่วนลงคอ น้ำขาวขุ่นที่เหลือไหลลงจากริมฝีปากเรื่อยลงมาตามแนวคอขาว
.. เย้ายวน .. เร้าใจ .. จนไม่อยากให้ใครได้ลิ้มลอง ..
"รัก" โสภณกระชับกอด ไม่เอาแล้วบึ้งตึงดึงดันและงอนงอด ไม่เอาแล้วความเฉยชาที่เคยเป็น คนเรารักกัน อีกคนผิดพลาดเราก็ต้องให้อภัย
"รักป๋า .. อึ่ก .. ขอโทษนะ" วินัยโอบรอบคอหนา ที่ยอมทำเพื่อคนรักขนาดนี้ก็เพราะว่ารู้ว่าตัวเองผิดมากจนไม่น่าให้อภัย
มือหนาสะกิดยอดอกเล็ก
"รักป๋าก็ต้องเป็นของป๋านะรู้ไหม"
"อือออ .. ครับ .. เป็นของป๋าคนเดียว"
คนข้างใต้ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายขยับเข้ามาตรงกลางได้ถนัด วินัยสะดุ้งแอ่นรับเมื่ออีกฝ่ายกดปลายนิ้วเข้ามากระตุ้น ทั้งยังช่วยรูดรั้งส่วนกลางให้อย่างเอาใจ
“อาห์” เสียงพร่าสั่นร้อง “เสียวครับ” เอ่ยอ้อนจนคนที่สอดนิ้วเข้าออกถึงกับคำราม
"ขอเข้าไปเลยได้ไหม ไม่ไหวแล้ว" โสภณโน้มลงถูไถแก่นกายชูชันกับปลีน่องขาว คนตัวโตจับเนินเนื้อด้านหลังให้แยกออกช้าๆ คนใต้ล่างกัดปากแน่นพลางด้วยการยกเอวขึ้น ขยับขาออกกว้างเป็นการเอาใจ
"อ่าส์" วินัยนิ่วหน้าเมื่อส่วนร้อนผ่าวค่อยๆแทรกเข้ามาด้านใน อุณหภูมิของคนตรงหน้าและแรงอารมณ์ที่สูงขึ้นแน่นอยู่ในร่างเขา
ความแข็งขืนสอดเข้ามาทีละน้อยจนเต็มด้าม โสภณขยับกายโอบรัด กระแทกตัวเข้าออกทีละนิด
"เมียจ๋า อย่าตอดแน่นนักสิ" เขาขยับแทบไม่ได้ เมื่อผนังนุ่มบีบรัดจนต้องแหงนหน้าคำราม
"ดีไหม" คลายกล้ามเนื้อช่องทางก่อนจะใช้สองมือโอบรอบคอคนรัก
"ดีครับ ดีมาก" อ้อมแขนแข็งแรงของคนด้านบนกอดรัดอีกร่างแน่น โสภณขยับตัวจากแผ่วเบากลายเป็นเร่งเร้าและหนักหน่วง สอดลึก ดุนดันเข้าไปลึกเพื่อให้เขากลืนกินจนสุดแท่ง
แก่นกายร้อนสอดเข้าออกถี่แน่นจนร่างทั้งร่างสั่นคลอน ลิ้นร้อนฉวยโอกาสกวาดต้อนคลอเคลีย วินัยครางเสียงหวาน เขารักมัน รักมันคนเดียว
"อ๊ะ .. อ๊ะ .. ป๋า .. อือ .. ป๋า"
โสภณเคลื่อนไหวรุนแรงรุกเร้า แต่ละจังหวะของการสอดประสานเติมเต็มซึ่งกันและกันจนแนบสนิท
เขาโอบกอดคนตรงหน้า จ้องมันเอาไว้ด้วยสายตาครอบครอง ให้มันรู้ว่าใครที่มีสิทธิ์ในตัวมัน ใครที่มีสิทธิ์กระแทกกระทั้นและสอดแทรกภายในของมันแบบนี้
"อย่าดื้ออีก .. คราวหน้าจะไม่ยอมแล้ว"
เอ่ยเสร็จก็ก้มลงกัดริมฝีปากบวมแดง
คนด้านล่างยกแขนขาวขึ้นโอบรัด ปลายนิ้วจิกเกร็งเนื้อแน่นเมื่อคนด้านบนขยับตัวแรงขึ้น ผิวเนื้อกระทบเสียดสีกันจนร้อนไหม้ แก่นกายร้อนขยับเข้าออกดังลั่น รับรู้ได้ถึงความร้อนผ่าวของคนด้านบนที่ส่งเข้ามาภายใน อยากจะกอดรัดอีกฝ่ายไว้ทั้งวันทั้งคืน
เสียงครางดังระงมไปทั่วห้องน้ำ กลิ่นคาวร้อนแต้มด้วยกลิ่นเหงื่อไคล ร่างกายกำยำขยับเคลื่อนตัวเป็นจังหวะ คนด้านล่างตอดรัดแน่นถี่กระชั้นจนเขาแทบแตก
โสภณก้มลงจูบปากอิ่มอีกครั้ง
เขาลูบปอยผมชื้นเหงื่อที่ปรกหน้าผากมันออก เกลี่ยแก้มนิ่มด้วยความรัก แววตาอบอุ่นโลมไล้จนคนด้านล่างอุ่นใจ ริมฝีปากร้อนผละออกไล้วนที่หน้าอก ดูดดึงเม็ดอกสีอ่อนแล้วคลึงส่วนแข็งขืนช่วย แก่นกายวินัยแข็งสู้มือ โสภณทั้งขยับหน้าขา อีกทั้งมือก็เล้าโลมคนรักให้ถึงปลายทาง
"อื้อ .. เสียวจัง .. ป๋าจ๋า" คนตัวเล็กบิดร่างไปมาอย่างเสียวซ่าน เขาแทบจะทนไม่ไหวเมื่อมือสากขยับรั้งรุนแรง
.........