- - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)  (อ่าน 165600 ครั้ง)

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
อ้างถึง
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

 

 

Broken Man

'ใจแตก'




 

 


เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ "ปูน" จากเรื่อง Nightmare อยากให้คืนนี้ไม่ต้องฝันร้าย

เนื้อเรื่องค่อนข้างขาดออกจากกัน จึงไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องก่อนหน้านี้ก็ได้นะคับ




*ผลงานที่ผ่านมาของเช่*

Nightmare อยากให้คืนนี้ไม่ต้องฝันร้าย http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47376.0


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2016 18:50:06 โดย vivacestory »

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1 p.1][081158]
«ตอบ #1 เมื่อ08-11-2015 12:38:03 »


 
แตกที่ 1

…Mojito...


 
ท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันไปมาบนโลกใบนี้

 


จะมีใคร...ได้ยินเสียงของผมบ้างไหม?

 

 

 

 

 

 

เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทถูกสวมลงบนร่างสมส่วนของ ‘ปูน’ ที่กำลังฮัมเพลงเบาๆ เด็กหนุ่มหยิบเอาทั้งเนคไทและเสื้อกั๊กสีขาวเข้าชุดกันออกมาจากล็อคเกอร์ที่มีตราของโรงแรมติดไว้ แล้วสวมมันทับลงไปก่อนที่จะจัดแต่งทรงผมอีกนิด

 

“เสร็จยังปูน พี่บอยเดินมาตามแล้วนะ”

 

“เออ เดี๋ยวตามไป”

 

ปูนทำหน้ายุ่งน้อยๆพลางตอบเพื่อนร่วมงานที่รีบวิ่งกุลีกุจอออกไปแล้วทิ้งเขาไว้ในห้องแต่งตัวนี้แต่เพียงลำพัง ร่างเล็กยืนสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกอีกสักพักเหมือนกับลืมไปแล้วว่าถูกเตือนอะไรไว้ เขาฉีดน้ำหอมที่ข้อมือนิดหน่อยปิดท้ายก่อนจะเดินออกไปเจอกับกัปตันประจำบาร์ที่กำลังทำหน้าไม่พอใจสุดๆอยู่

 

“มาทำงานไม่ทันไร ก็คิดจะออกลายแล้วหรอ”

 

ปูนเงยขึ้นมองป้ายชื่อซึ่งสลักคำว่า ‘Boyd’ ไว้ของอีกฝ่ายที่ตัวสูงกว่าเขามากจนอดที่จะอิจฉาเล็กๆไม่ได้ ดวงตาคมกริบไม่ต่างจากคมมีดจ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตรนักแต่สำหรับคนที่เคยร่วมงานกันมาก่อนอย่างปูนนั้นกลับรู้สึกว่ามันเป็นเพียงสายตาธรรมดาๆ ที่ชายตรงหน้ามักจะมอบให้เขาเสมอ

 

“อย่าบ่นนักเลยพี่ สายนิดสายหน่อย อีกอย่างบาร์ยังไม่เปิดด้วยซ้ำ”

 

 “แล้วมึงไม่คิดจะเข้าบลีฟงานเหมือนน้องใหม่คนอื่นเขาบ้างรึไง”

 

“ไม่คิดครับ ก็ผมไม่ใช่น้องใหม่สักหน่อย”

 

 

ชายผู้เป็นหัวหน้าถอนหายใจยาวๆอย่างเบื่อหน่ายแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ร่างเล็กพูดนั้นเป็นความจริง ช่วงขายาวภายใต้กางเกงสีกรมท่าก้าวมาถึงยังบาร์เทนเดอร์คนใหม่ที่แม้จะอายุน้อยกว่าแต่ก็มีประสบการณ์โชกโชนพอๆกับเขา

 

“จะทำอะไรก็ทำ แต่ถ้ามีปัญหาเมื่อไหร่ กูล่อมึงแน่...”

 

“ครับๆ รู้แล้วล่ะน่า”

 

ปูนยิ้มน้อยๆพลางยื่นมือมาจัดปกเสื้อให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินแยกออกไปประจำเคาน์เตอร์ของตัวเองอย่างไม่รีบร้อน เขามองไปรอบๆบาร์ขนาดใหญ่ ที่เป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของโรงแรมชื่อดังในชลบุรีแห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับเชิญให้มาเสิร์ฟเครื่องดื่มที่นี่ แต่มันกลับไม่ใช่ความทรงจำที่ปูนอยากนึกถึงสักเท่าไหร่

 

ร่างเล็กหยิบเอาขวดตากิล่าออกมารินใส่แก้วช็อตแล้วกระดกเข้าปากเหมือนที่ทำทุกๆครั้งก่อนราตรีที่แสนยาวนานจะเริ่มขึ้น พนักงานคนอื่นต่างมองมาที่เด็กหนุ่มอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดหรือว่าอะไร เพราะต่างก็เห็นแล้วว่าแม้แต่กัปตันสุดเฮี้ยบอย่างบอย ยังยอมปล่อยผ่านเขาไปง่ายๆ

 

“โดนพี่บอยดุรึเปล่าปูน”

 

 

ปูนที่กำลังเก็บขวดตากิล่าเข้าที่หันมามองตามเสียงเรียกของใครบางคนที่ไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบข้างเอาเสียเลย ดวงตากลมโตเพ่งมองใบหน้าของอีกฝ่ายดีๆจึงเห็นว่าคนคนนี้คือเด็กเสิร์ฟคนที่ทิ้งเขาไว้ในห้องแต่งตัวนั่นแหละ

 

“นิดหน่อย ไม่มีอะไรมากหรอก”

 

“หรอ ดีแล้วแหละ เราชื่อพลัสนะ พลัสที่แปลว่าบวกน่ะ”

 

พลัสพูดกับปูนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าภูมิใจกับชื่อของตัวเองนักหนา ร่างเล็กพยักหน้าไปส่งๆทั้งที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะแนะนำตัวกับเขาทำไมและต้องการอะไรกันแน่ เพราะนอกจากพี่บอยที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว เขาแทบจะไม่รู้จักใครเลย ส่วนพลัสปูนก็รู้เพียงแค่ว่าคนคนนี้เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่จะเข้ามาทำงานที่นี่เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น

 

ร่างเล็กไม่สนใจอีกฝ่ายที่พยายามชวนเขาพูดคุยไป ปูนตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆที่ตัวเองจำเป็นต้องใช้ด้วยท่าทางนิ่งเฉย ต่างจากพลัสที่สีหน้าเริ่มแย่ลงเรื่อยๆเมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่ตัวเองต้องการจะผูกมิตรไม่แม้แต่จะฟังเขา

 

“ละ แล้วปูนเรียนอยู่ที่มอxเหมือนกันใช่ไหม เราเรียนอยู่การจัดการปีสาม แล้วปูนล่ะ เรียนคณะไหน ปีอะไร”

 

 

พลัสเลือกที่จะถามเรื่องพื้นๆออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายสะดวกใจที่จะพูดคุยกับตน ซึ่งมันก็ได้ผล

 

 

“จัดการเหมือนกัน แต่เรียนอยู่ที่กรุงเทพ”

 

 “อ้าว แล้วมาทำอะไรที่นี่อะ หรือมาทำแค่เสาร์อาทิตย์เหมือนเรา”

 

“เปล่า ทำประจำ ไม่เห็นตรานี่หรอ”

 

ปูนชี้ไปยังเข็มติดเนคไทสีทองอร่ามบ่งบอกถึงตำแหน่งพนักงานประจำที่ต่างกับเนคไทที่ไม่มีเครื่องประดับใดๆของพลัส บาร์เทนเดอร์หนุ่มมองคนที่สงสัยไปเสียทุกอย่างด้วยความรู้สึกที่ติดจะเอ็นดูเล็กๆ เพราะมันทำให้ปูนคิดถึงใครบางคนที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาพักใหญ่

 

“แต่นี่ยังไม่ปิดเทอมเลยนะ ถ้าปูนมาทำงานที่นี่แล้วเรื่องเรียนล่ะ”

 

“เลิกถามมากสักทีเถอะน่า เอานี่ไปกินไป” ร่างเล็กว่ายิ้มๆก่อนจะยื่นแก้วช็อตที่มีตากีล่าอยู่ให้ แต่คนที่ถูกเสนอกลับทำสีหน้าลำบากใจแทนซะอย่างนั้น

 

“เฮ้ย ไม่เอา เดี๋ยวพี่บอยว่า”

 

“ไม่เป็นไร กูเลี้ยงเอง”

 

“แต่เรากินไม่เป็น...” คำตอบที่มาพร้อมกับอาการหน้าแดงน้อยๆของอีกฝ่ายทำให้ปูนได้แต่ขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย

 

“กินเหล้าไม่เป็นแล้วมาทำงานที่นี่ทำไม”

 

“เรา...แค่อยากหาประสบการณ์น่ะ”

 

“นี่ไงประสบการณ์ที่มึงว่า กินเข้าไปซะ”

 

ปูนมองคนที่ตัวสูงกว่าตนเล็กน้อยแกมบังคับขณะที่ยื่นแก้วช็อตที่มีของเหลวสีใสจรดริมปากของอีกฝ่าย พลัสทำหน้าลังเลพยายามปฏิเสธคำเชิญนั้นทางสายตา แต่บาร์เทนเดอร์เจ้าของดวงตากลมโตนั้นกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย เด็กเสิร์ฟต็อกต๋อยอย่างเขาจึงได้แต่หลับตาแล้วเปิดปากรับน้ำรสขมแสบคอเข้าไป

 

“อื้อ! ขะ ขม”

 

“หึ แล้วเป็นไง ชอบไหม”

 

“ไม่...”

 

“งั้นก็จำไว้ ว่าถ้ามีแขกยื่นแก้วให้เมื่อไหร่ก็บอกเขาไปว่าแพ้ หรือไม่ก็อมแล้วค่อยไปบ้วนทิ้ง แต่จะให้ดีก็ไปขอกัปตันเปลี่ยนไปทำบุฟเฟต์ข้างล่างซะ” ปูนพูดด้วยท่าทางนิ่งๆแต่มันกลับทำให้คนฟังอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

 

“ปูนเป็นห่วงเราหรอ”

 

“เปล่า สมเพชต่างหาก ถ้ายังไม่อยากเสียบางอย่าง...ที่มากกว่าแค่เสียรู้ ก็ทำตามที่บอกซะ”

 

แทนที่จะสลด ใบหน้าซื่อๆของพลัสกลับเผยรอยยิ้มกว้างออกมาแทนจนปูนแปลกใจ รวมไปถึงกัปตันอย่างบอยที่ยืนมองทั้งคู่อยู่นานแล้ว

 

“ว่าแล้วเชียว ปูนใจดีอย่างที่คิดเลย”

 

“ฮะ? ใจดี?”

 

“อืม ไม่รู้สิ เราแค่คิดว่าปูนน่าจะเป็นคนแบบนั้น”

 

คนถูกชมนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเป็นจังหวะเดียวกันกับการเปิดออกของประตูกระจกบานใหญ่ พนักงานทั้งหลายที่ยืนประจำอยู่ในที่ของตัวเอง ต่างก็หันไปมองในจุดๆเดียวกันแล้วโค้งน้อยๆอย่างมีมารยาท โคมไฟที่ส่องสว่างค่อยๆหรี่ลงจนบรรยากาศในห้องแห่งนี้เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับริมฝีปากของบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่กำลังเปลี่ยนเป็นยกยิ้มเย้อหยัน

 

“เจอพวกน่ารำคาญอีกแล้ว...”

 

.

.

.

.

.

.

.

 

 

เพลงสบายๆในช่วงหัวค่ำเปลี่ยนเป็นเร่งจังหวะขึ้นพร้อมกับบรรดาแขกทั้งหลายที่เริ่มออกลวดลายกันบนฟลอร์เล็กๆซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของบาร์ พลัสที่ทำงานที่นี่เป็นสัปดาห์ที่สามกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับการเก็บแก้วและจานที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เขาเบี่ยงตัวเองออกมาจากทางเดินที่แสนวุ่นวายไปยังส่วนของพนักงานซึ่งมีคนที่แต่งตัวคล้ายๆกับเขาต่างกำลังช่วยกันล้างภาชนะต่างๆด้วยท่าทางตื่นตัวแม้เวลาจะล่วงเข้ามาเกือบตีหนึ่งแล้ว

 

“เฮ้ย น้องว่างอยู่ป่ะ พี่วานเอาแก้วนี่ไปไว้ที่เคาน์เตอร์ที ของทางนั้นน่าจะใกล้หมดแล้ว”

 

ชายคนหนึ่งที่ดูมีอายุมากกว่าเล็กน้อยพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังถาดใส่แก้วฟรอเซียร่าที่ถูกขัดล้างจนสะอาด พลัสตอบรับคำสั่งนั้นก่อนจะยกถาดที่ว่ามาถือไว้แล้วเดินไปยังทางออกอีกทาง ที่ติดอยู่กับเคาน์เตอร์ที่บาร์เทนเดอร์หน้าหวานคนนั้นกำลังชงเครื่องดื่มให้แขกอยู่

 

“ปูน เราเอาแก้วมาให้”

 

“อืม ขอบใจมาก ช่วยจัดไว้บนตู้ให้หน่อยได้ไหม ตรงช่องที่สามนับจากด้านซ้าย ข้างกับแก้วมัคนั่นแหละ”

 

ร่างเล็กที่สีหน้าดูสนุกกว่าเก่าพูดกับพลัสโดยไม่มองหน้า เพราะกำลังให้ความสนใจกับแขกชาวต่างชาติที่เอาแต่พูดชมเครื่องดื่มที่ปูนชงให้ไม่ขาดปาก พลัสทำหน้าที่ของตัวเองพลางชำเลืองมองมือเรียวที่กำลังหมุนของเหลวสีอำพันในมืออย่างคล่องแคล่วก่อนจะยื่นมันให้แขกด้วยความหลงใหล จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีใครเดินมายืนอยู่ข้างๆ

 

“ถ้าทำแก้วแตก อย่าหวังเลยว่าวันนี้จะได้ค่าจ้าง”

 

พลัสสะดุ้งสุดตัวจนเกือบทำแก้วใบสุดท้ายหลุดมือ แต่เคราะห์ดีที่บอยคว้ามันเอาไว้ได้ทัน ร่างบางก้มหน้าแล้วรีบบอกขอโทษด้วยเสียงสั่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับคนตัวสูงที่ลูกน้องทุกคนต่างก็เกรงใจยกเว้นแต่ปูนที่หันมามองทางนี้เมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวายเล็กๆที่เกิดขึ้น

 

“อะไรกันพี่ ดุเด็กมันทำไม”

 

“มันมัวแต่มองมึงจนเกือบทำแก้วแตก”

 

“แต่ก็ไม่แตกไม่ใช่หรอ เลิกทำหน้าดุสักที มันจะร้องไห้แล้วนั่น”

 

“เรื่องของกู กลับไปทำงานได้แล้ว ที่หลังอย่าให้เป็นอย่างนี้อีก ส่วนมึงไอ้ปูน อย่าแหกกฎให้มาก...นายเขาไม่ชอบ”

 

บอยบอกกับพลัสด้วยท่าทางเช่นเดิมก่อนจะหันไปพูดกับปูนด้วยน้ำเสียงกดต่ำจนน่าสงสัย บาร์เทนเดอร์หนุ่มยอมพยักหน้าให้จนร่างใหญ่เดินไปตรวจดูความเรียบร้อยตรงอื่นต่อ พลัสมองตามแผ่นหลังนั้นไปแล้วถอนหายใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้หมุนตัวกลับไปทำงานบ้างก็ถูกปูนหยุดเอาไว้ซะก่อน

 

“มีอะไรหรอปูน”

 

“มาช่วยกูหน่อย”

 

“แต่เราต้องไปเก็บแก้วต่อ...”

 

“ให้คนอื่นทำไปสิ เห็นยืนอู้ทำหน้าสลอนกันตั้งหลายคน”

 

 

ปูนไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธอีก เขาดึงร่างบางให้มายืนใกล้ๆกันก่อนจะยื่นแก้วฟรอเซียร่าที่พลัสเป็นคนนำมาให้คนที่ดูตื่นเต้นไปเสียทุกอย่างถือไว้ ส่วนเขาก็เริ่มชงเครื่องดื่มใหม่ด้วยท่าทางคล่องแคล่วอย่างเคย ไม่นานนักโมฮีโต้สีใสอมเขียวอ่อนๆก็ถูกรินใส่แก้วก่อนจะประดับมันด้วยมะนาวฝานและใบสะระเหน่อีกนิดหน่อย

 

 

“สวยจัง”

“แดกซะ กูเลี้ยง” พลัสเบิกตาโพล่งจนปูนและแขกที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ต่างก็ขำออกมาเมื่อเห็นท่าทางไม่ประสีประสานั้น

 

 

“มะ ไม่ดีมั้ง เรากินไม่เป็น”

 

“รู้ว่ากาก กูชงอ่อนๆให้ แดกได้ไม่เมาหรอก”

 

“รับไปเถอะครับ บาร์เทนเดอร์มือหนึ่งอุตส่าห์ทำให้ทั้งที”

 

แขกชาวต่างชาติที่นั่งคุยกับปูนอยู่ก่อนพูดขึ้นด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ พลัสมองทั้งคู่สลับกันไปมาด้วยความลังเล แต่ด้วยเพราะความอยากลิ้มลองที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ร่างบางจึงตัดสินใจยกแก้วใสใบนั้นขึ้นจิบ

 

“อร่อยจัง!”

 

รอยยิ้มเล็กๆถูกจุดขึ้นตรงมุมปากของคนทำ พลัสที่เห็นอย่างนั้นก็อดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้ ปูนช่วยสอนเพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่สนใจเรื่องเครื่องดื่มอยู่หลายอย่างโดยมีเหล่าลูกค้าที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์นั้นนั่งฟังแล้วพูดคุยไปด้วย

 

 

เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าถูกรินผ่านลำคอขาวของพลัสเช่นเดียวกับสติที่เริ่มหลุดลอยมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงดนตรีที่ดังอยู่รอบตัวค่อยๆเบาลงจนเขาไม่ได้ยินอะไร ร่างบางรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ถูกลากผ่านผิวกายสลับกับความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สติที่ขาดหายเริ่มถูกประติดประต่อกลับมาด้วยเสียงๆหนึ่งที่ฟังดูแข็งกร้าวแต่กลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

 

 

“พลัส ตื่น พลัส!”

 

“อื้อ...”

 

“พลัส ได้ยินไหม”

 

ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นเมื่อได้ยินคนกำลังเรียกชื่อของตนเอง แสงจากหลอดไฟมันจ้าเสียจนเขาไม่สามารถเห็นสิ่งรอบตัวได้ในทันที เปลือกตาสีนวลกระพริบถี่ๆพร้อมกับร่างกำลังยันกายขึ้นนั่ง

 

“เมาหมดสภาพเลยนะมึง”

 

เสียงดุๆของบอยดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มรู้ได้โดยไม่ต้องหันกลับไปมองว่าคนที่เรียกชื่อของเขานั้นคือใคร ทันทีที่ตั้งสติได้ร่างบางก็หันไปมองรอบๆก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวของบาร์ที่ถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อยไม่เหลือสภาพความวุ่นวายเดิมๆให้เห็น

 

 

“พี่บอย...”

 

ร่างสูงเลิ่กคิ้วขึ้นน้อยๆเมื่อพนักงานพาร์ทไทม์หน้าอ่อนเรียกเขาด้วยสรรพนามที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูเหมือนว่าร่างบางจะยังมึนงงเกินกว่าจะรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกมา

 

“เออ กูเอง จำได้ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง”

 

“พลัส...กินเหล้าที่ปูนชงให้”

 

“แล้วก็กิน...ทั้งที่รู้ตัวว่ากินไม่เป็น”

 

“ขะ ขอโทษครับ”

 

พลัสสะดุ้งน้อยๆแล้วก้มหน้าลงอย่างสำนึกในความผิดที่ตัวเองกระทำลงไป เขาได้ยินเสียงอีกคนถอนหายใจยาวๆแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองอยู่ดี จนกระทั่งรองเท้าหนังสีดำมันแปลบคู่หนึ่งเดินมาหยุดลงตรงหน้าพร้อมกับอาการเจ็บน้อยๆที่หัวเพราะถูกอีกฝ่ายใช้กำปั้นเขกมาเบาๆ

 

“รู้แล้วก็อย่าทำอีก หัดรู้ลิมิตตัวเองซะบ้าง”

 

“ครับ...”

 

“งั้นก็กลับไปได้แล้ว ขับรถไหวรึเปล่าหรือจะนอนที่นี่”

 

“ไหวครับ หอผมอยู่ใกล้นิดเดียว”

 

บอยพลักหน้าน้อยๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงสร่างแล้วพอสมควรเพราะสรรพนามที่ใช้ถูกเปลี่ยนไปเป็นแบบทางการอีกครั้ง ร่างบางลุกขึ้นยืนอย่างโงนเงนในตอนแรกแต่พอเริ่มตั้งหลักได้ พลัสก็หันมายกมือไหว้ขอบคุณเจ้านายของตนที่กำลังเดินไปหยิบบางอย่างออกมาจากเครื่องคิดเงิน

 

“นี่ค่าจ้างของมึง ถ้าพรุ่งนี้มาไม่ไหวจะหยุดสักวันก็ได้”

 

“ผมจะมาครับ ขอบคุณมากนะครับ”

 

เด็กหนุ่มว่ายิ้มๆก่อนจะยื่นมือไปรับเงินจำนวนห้าร้อยบาทมาถือไว้ด้วยความภูมิใจ คนเป็นเจ้านายมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนร่างเล็กเกือบจะเดินออกไปจากห้อง

 

“เลิกยุ่งกับมันซะ”

 

“ครับ??”

 

“ไอ้ปูนน่ะ...ถ้าไม่อยากเสียใจที่หลัง ก็อย่าไปยุ่งกับมันอีก”

 

พลัสมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้รับคำอธิบายใดๆกลับมา เด็กหนุ่มยืนนิ่งมองเจ้านายของตนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งบอยทนไม่ไหว ร่างสูงตัดสินใจหยิบยื่นคำใบ้ที่แสนอันตรายให้คนที่ไม่สมควรรู้ไปจนได้

 

“ห้อง507…ไปหาคำตอบเอาเองแล้วกัน”

 

.

.

.

.

.

.

.

.

 

 

พลัสมองไฟบนแผงปุ่มกดของลิฟต์ที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เวลาตอนนี้ล่วงเลยมาเกือบตีสาม ถึงแม้เขาจะไม่มีเรียนในวันถัดไปแต่จากสภาพร่างบางควรจะกลับไปที่ห้อง แล้วนอนหลับให้สบายเหมือนกับทุกครั้งๆ แต่จุดหมายที่เขากำลังจะเดินทางไปกลับเป็นหนึ่งในห้องพักของโรงแรมที่พนักงานพาร์ทไทม์อย่างพลัสไม่สมควรจะเข้ามา ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะคำพูดของคนคนนั้น เขาจะไม่ทำแบบนี้แน่ๆ

 

“507…507…”

 

พลัสเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆจนหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพักที่มีตัวเลขสีเงินตามที่บอยบอกไว้แปะอยู่ เด็กหนุ่มรู้สึกลังเล เขารู้ว่าตัวเองไม่สมควรขึ้นมาบนนี้และไม่สมควรเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของใคร แต่ถึงอย่างนั้นความขี้สงสัยที่เป็นข้อเสียของเขากลับทำให้ร่างบางทำมันไปจนได้

 

“เอาไงดี จะกดกริ่งดีไหมนะ”

 

เด็กหนุ่มมองประตูบางนั้นด้วยความลังเลใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังลอดออกมาจากประตูที่ปิดไม่สนิท

 

“แฮ่ก...อย่างนั้นแหละ”

 

หัวใจของคนแอบฟังเต้นแรง เขาไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าเสียงหอบกระเส่าที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของใครและกำลังทำอะไรอยู่ ไวกว่าความคิด พลัสยื่นมือออกไปจับลูกบิดประตูที่ไม่ได้ล็อคก่อนจะดันมันเข้าไป

 

สิ่งที่ได้ยินเพียงเบาๆเมื่อครู่ตอนนี้ชัดเจนเต็มสองหู ทั้งเสียงเตียงที่ดังเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงเฉอะแฉะที่เร็วขึ้นเรื่อยๆทุกก้าวที่เขาเดินเข้าไปใกล้ พลัสยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเมื่อเงาที่สะท้อนอยู่บนกระจกบานใหญ่นั้น มันชัดเจนเสียจนเขาไม่อาจคิดหาคำแก้ตัวใดๆให้อีกฝ่ายได้

 

“แรงอีกสิ อ๊า กอดผมแรงๆสิครับ”

 

ปูนที่กำลังนอนครวญครางอยู่ใต้ร่างของแขกฝรั่งตัวใหญ่ร้องขอในสิ่งที่น่าอายแม้ว่าความจริงแค่ขนาดที่สมส่วนกับตัวนั้นทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า เรียวขาขาวทั้งสองข้างยกขึ้นเกี่ยวรัดสะโพกของอีกฝ่ายแล้วดึงเข้าหาตัวยิ่งปลุกความต้องการของคนที่กำลังเดินเข้าสู่ประตูสวรรค์ได้เป็นอย่างดี

 

 

ทั้งสองโหมกายเข้าใส่กันเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆโดยมีสายตาคู่หนึ่งมองมาอย่างตกใจระคนผิดหวังไปพร้อมๆกัน จนกระทั่งถึงจังหวะสุดท้ายที่ร่างเล็กพลิกตัวขึ้นไปควบความใหญ่โตนั้นด้วยตัวเอง ใบหน้าที่ชื้นเหงื่อแหงนขึ้นมองด้านบนตามอารมณ์ที่ไต่สูงอย่างห้ามไม่ไหว ปูนหันไปมองทางประตูด้านหน้าเมื่อหางตาเขาจับสังเกตบางอย่างได้

 

 

 

ปัง!!

 

ทันทีที่ดวงตาทั้งสองคู่สบกันนั้น พลัสที่เพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องโดยไม่ทันระวังแม้แต่จะปิดประตูให้เบากว่านี้ ดวงตาสีน้ำข้าวพยายามมองไปยังต้นเสียงอย่างตกใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อริมฝีปากสีแดงสดของบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่แสนเร่าร้อนคนนี้ จุดจูบลงตรงข้างหูอย่างออดอ้อน

 

“ทำต่อเถอะครับ อย่าสนใจเลย”

 

 

 

 

ปูนที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยยืนสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกบานที่สะท้อนทุกๆอย่างสู่สายตาของคนที่อ่อนต่อโลกอย่างพลัส เขาจัดผมที่เปียกชื้นเล็กน้อยของตัวเองให้เข้าที่ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงเพื่อหยิบเอากระดาษสีเทาเท่าจำนวนตามที่ตกลงกันไว้โดยไม่คิดปลุกลูกค้าที่กำลังหลับสบายให้ตื่นขึ้นมาบอกลากัน

 

“ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ”

 

ร่างเล็กเปิดประตูห้องออกไปโดยไม่ลืมที่จะเช็คให้แน่ใจว่าคราวนี้มันจะถูกปิดสนิทดีไม่เหมือนกับตอนก่อนหน้า เขาเปรยตามองคนที่กำลังนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่บนพื้นด้วยสายตาเฉยชา ผิดกับอีกฝ่ายที่ทั้งดวงหน้าเปียกปอนไปหมด

 

“ยังไม่ไปอีกหรอ”

 

“ทำไมปูนทำแบบนี้...ฝรั่งคนนั้น เป็นแฟนของปูนหรอ”

 

“จะถามทำไมในเมื่อมึงก็รู้ความจริงอยู่แล้ว”

 

ปูนก้มตัวลงหยิบเอาแบงก์สีม่วงที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของพลัสออกมา ก่อนจะเอาเงินจำนวนห้าพันบาทของตนใส่กลับเข้าไปแทนที่

 

“เยอะใช่ไหมล่ะ...เงินนี่น่ะ”

 

“...เอาเงินเราคืนมา เงินสกปรกแบบนี้เราไม่อยากได้”

 

“ก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ฟรีๆสักหน่อย”

 

ปูนดึงขอเสื้อของอีกฝ่ายเข้าหาตัวแล้วช่วงชิงริมฝีปากแดงช้ำนั่นมาอย่างเอาแต่ใจ ร่างบางพยายามขัดขืนแต่เมื่อถูกเรียวลิ้นพลิ้วไหวนั้นสอดเข้าไปเกี่ยวรัดลิ้นของตนอย่างไม่ผ่อนให้หยุดพักเรี่ยวแรงทั้งหมดก็พลันหายไปดื้อๆ หัวใจของเด็กหนุ่มพองโตจากการกระทำน่ารังเกียจจนน่าโมโห จนหยดน้ำตาที่แห้งไปแล้วนั้นกลับมารินไหลอีกครั้ง

 

“ขอบคุณที่ให้บริการ...แต่ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”

 

เขาลุกขึ้นยืน เก็บเงินห้าร้อยบาทที่เคยเป็นของคนที่เอาแต่ร้องไห้ใส่กระเป๋าของตนแทนแล้วเดินออกไปโดยไม่คิดจะหันหลังกลับมามอง ปูนกดลิฟต์แล้วยืนรออยู่อย่างนั้น ทำเป็นมองไม่เห็นเงาดำมือของคนอีกคนที่ยืนหลบมุมอยู่จากจุดที่สามารถเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้

 

เด็กหนุ่มเดินไปเรื่อยๆบนถนนเลียบชายหาดที่มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขาในยามนี้ เสียงเกลียวคลื่นที่ดังมาจากที่ไกลๆทำให้หัวใจของเขาค่อยๆสงบลงอีกครั้ง ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิตต่อไปในแต่ละวัน

 

“คืนนี้เงียบจังเลยนะ”

 

 

 

 

 

 

ท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันไปมาบนโลกใบนี้

 

 

ไม่มีใคร...

 

ได้ยินเสียงของผมเลยสักคน

 

 
 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!

 

ลัดคิวอีกแล้วววววว ยังเขียนตอนพิเศษพี่กาลไม่เสร็จหลบมาเขียนน้องปูนก่อนจนได้ เด็กเส้นจริงๆ  :katai3: แล้วที่ฮามาก คือคู่รองโผล่มาจากไหน5555 เช่ตั้งใจแล้วนะว่าเรื่องนี้จะให้มีคู่เดียว แต่เขียนไปเขียนมาได้มาซะงั้น น่าเอ็นดูสุดๆด้วย โถๆ เจอเด็กดีแตกของเช่เข้าไปถึงกับร้องไห้ มาม๊ะๆ มาให้พี่ๆเขาปลอบ  :hao6:

ตอนต่อไปคงอีกสักใหญ่ถึงจะมานะครับ ทั้งงานแล้วก็ทำรูปเล่มเลยอาจจะไม่ทันใจกัน ขอให้พ้นช่วงนี้ไปก่อนจะกลับมาลงให้อย่างเดิม (ซึ่งก็ไม่ได้เร็วเลย) หลายคนเห็นชื่อเรื่องอาจจะคาดหวังเอ็นซีเยอะๆ ถามว่าเยอะไหม ก็คงเยอะกว่าไนท์แมร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีทุกตอนหรอกนะคับ เพราะเช่แม่งกากเรื่องนี้จริงๆ แล้วถามว่าดราม่าปวดตับไหม ไม่ดราม่าหรอกเอาจริงๆ มีปมนิดๆแต่ไม่มากและซับซ้อนเท่าเรื่องนั้น ถ้าใครผ่านไนท์แมร์มาได้อาจจะมองว่าเรื่องนี้ขนมไปเลยก็ได้นะ  :katai2-1:

ขอบคุณทุกคนที่ตามเช่มาถึงตอนนี้นะคับ แล้วก็ต้อนรับนักอ่านท่านอื่นที่เพิ่งเข้ามาอ่านผลงานของเช่ด้วย อย่างที่บอกเรื่องนี้เป็นตอนที่งอกมาจากไนท์แมร์ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันมาก ไม่อ่านเรื่องนั้นก็สามารถอ่านเรื่องนี้ได้เลย เอาตามที่สะดวกกันเนอะ :กอด1:
 

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1][081158]
«ตอบ #2 เมื่อ08-11-2015 13:15:26 »

ติดตามมมๆ

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1][081158]
«ตอบ #3 เมื่อ08-11-2015 19:53:24 »

ตามมาแล้วจ้า

น้องปูนเป็นขนาดนี้เพราะกาลหรือว่าอะไรเนี่ย เปลี่ยนไปเยอะเลย

คิดถึงเช่นะจ๊ะ

ออฟไลน์ SUPERMUAY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1][081158]
«ตอบ #4 เมื่อ08-11-2015 21:35:56 »

ชื่อเรื่องดักมากเลยค่ะ 555
น่าติดตามๆๆๆ

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1][081158]
«ตอบ #5 เมื่อ09-11-2015 09:32:00 »

รออ่านเรื่องราวของปูนค่ะ

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #1][081158]
«ตอบ #6 เมื่อ09-11-2015 09:43:29 »

อยากอ่านต่อ รีบมาต่อนะจ๊ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #7 เมื่อ14-11-2015 12:18:09 »

 

แตกที่ 2

…โชคชะตา...

 

 

 

 

บางครั้งโชคชะตากับเวรกรรม

 

ก็อยู่ใกล้กันเสียจนแทบแยกไม่ออก

 

 

 

 

เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ในมือของตัวเองไปเรื่อยๆโดยไม่คิดจะสนใจผู้ใด แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องผิดที่ปูนไม่คิดจะลุกขึ้นมาช่วยพนักงานคนอื่นเตรียมของเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางไม่สนใจโลกและความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้บรรดาสาวเสิร์ฟต่างก็มองมายังร่างเล็กด้วยความไม่พอใจ

 

“ไอ้ปูน มาช่วยทางนี้หน่อย”

 

ปูนละสายตาจากโปรแกรมแชทในมือแล้วหันไปหาเจ้านายจอมเฮี้ยบของตนที่กำลังบรรจงเช็ดแก้วแต่ละใบอย่างเบามือ

 

“ไม่เอาอะ พี่บอยไปใช้คนอื่นสิ”

 

“ทั้งห้องนี้มีแต่มึงคนเดียวที่ว่างนั่งกระดิกตีนอยู่ มานี่...”

 

ร่างเล็กจิ๊ปากอย่างไม่พอใจแต่ก็ยอมเดินไปหาบอยเพราะไม่อยากมีเรื่อง เขาหยิบผ้าสะอาดอีกผืนออกมาจากใต้เคาน์เตอร์แล้วลงมือเช็ดแก้วไปพร้อมกับบ่นเบาๆหวังให้ร่างใหญ่เปลี่ยนใจ แต่กัปตันหนุ่มอย่างบอยกลับไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย

 

“ทำไมต้องมาใช้ผมด้วยก็ไม่รู้ ไม่ใช่เวลางานสักหน่อย”

 

“ไม่ใช่เวลางานแล้วเสือกมานั่งเล่นนอนเล่นที่นี่ทำไม หรืออยากมีศัตรูเพิ่มแบบที่ทำงานเก่าอีก”

 

บอยพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกระด้างแต่สำหรับคนฟังอย่างปูนนั้นกลับสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงเล็กๆที่เจืออยู่ในนั้น เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากพลางหันไปจ้องผู้หญิงสองคนที่กำลังนินทาพวกเขาอยู่อย่างสนุกปาก จนพวกนั้นสะดุ้งกันเป็นแถว

 

“ต่อให้ผมเข้าไปช่วย ใช่ว่าจะไม่โดนเกลียดสักหน่อย”

 

“อืม...ก็จริง หน้ามึงมันกวนส้นตีนนี่เนอะ”

 

ร่างใหญ่หัวเราะในลำคอแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆนัก เล่นทำเอาเด็กเสิร์ฟคนอื่นต่างเคลิ้มกันเป็นแถบๆยกเว้นแต่ปูนที่ยืนอยู่ข้างกันนี่แหละที่รู้สึกอยากจะเอาผ้าเช็ดแก้วในมือยัดเข้าไปในปากมอมๆนั่นสักที ร่างเล็กทำหน้าหงุดหงิดอยู่สักพักก่อนร้ายๆจะถูกจุดขึ้นมาเมื่อนึกหาวิธีแก้เผ็ดเจ้านายของตนได้

 

“ว่าแต่ผม พี่เองก็โดนเกลียดเหมือนกันไม่ใช่รึไง เห็นคนอื่นว่ามันไม่มาทำงานสองอาทิตย์แล้วนี่”

 

บอยที่กำลังเช็คจำนวนแก้วหยุดนิ่งไปแต่ก็แค่แปปเดียวเท่านั้น ร่างใหญ่หันมาตอบปูนด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สา แต่สำหรับคนที่รู้จักกันมานานกลับไม่เห็นว่าเป็นอย่างนั้นเลยสักนิด

 

“...มันจะมาไม่มาก็ไม่เกี่ยวกับกู”

 

“หึ เย็นชาจังนะ ทั้งที่เป็นความผิดของตัวเองแท้ๆ”

 

“เป็นความผิดมึงที่มาทำเรื่องเหี้ยๆในโรงแรมนี้ต่างหาก”

 

“ความผิดพี่นั่นแหละ...รู้ทั้งรู้ว่าถ้าส่งมันมาแล้วจะเป็นยังไง”

 

ปูนว่าเบาๆก่อนจะเร่งเช็ดแก้วตรงหน้าให้เสร็จ ผิดกับบอยที่หยุดมือซึ่งกำลังทำงานไปโดยไม่รู้ตัว คนที่ไม่เต็มใจมาช่วยงานในทีแรกคอยตรวจดูเครื่องดื่มที่เหลืออยู่เป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะหันพูดกับเจ้านายของตนที่ยังคงแสดงสีหน้าแปลกๆออกมาให้เห็น

 

“พี่คิดจะทำอะไรผมก็ไม่รู้หรอก แต่อย่าเอาผมมาเอี่ยวด้วยแล้วกัน”

 

ร่างเล็กพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่คิดจะบอกลาใครสักคน เขาหยิบเอากระเป๋าถือใบเล็กออกมาสะพายไว้แล้วเดินตรงไปที่หน้าโรงแรมซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินกันอยู่เต็มสองข้างทางต่างจากภาพที่เขาเห็นทุกครั้งที่เลิกงาน ปูนหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองออกมาขณะทรุดตัวลงนั่งข้างฟุตบาทที่มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกล

 

‘สรุปวันนี้ว่างรึเปล่า’

 

เสียงเตือนดังขึ้นสั้นๆพร้อมกับภาพประจำตัวว่างเปล่าเหมือนกับที่ลูกค้าหลายคนของปูนชอบทำปรากฏขึ้น ร่างเล็กเลื่อนอ่านข้อความที่อีกฝ่ายพยายามขอนัดเจอกับเขาอยู่หลายครั้งแต่เพราะคิวของ ‘ลูกค้า’ ประจำที่ยาวมาจนถึงต้นอาทิตย์ทำให้ปูนต้องบอกปัดชายหนุ่มคนนี้ไปทั้งที่ค่าตอบแทนที่อีกฝ่ายเสนอมานั้นสูงเอาการ

 

‘ตอนนี้ก็ว่างครับ ไม่มีอะไรทำพอดี’

 

‘ถ้าอย่างนั้นมาเจอพี่ได้ไหม เดี๋ยวพาไปกินอะไรอร่อยๆ”

 

ร่างเล็กเหยียดยิ้มเมื่อเห็นข้อความสื่อความหมายของอีกฝ่าย เขาตอบตกลงกลับไปเพราะวันนี้ตัวเองก็ว่างอย่างที่ว่า ปูนบอกข้อตกลงที่เขาจำเป็นต้องบอกกับลูกค้าทุกคนเสมอไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าโดยที่ฝ่ายนั้นก็ยินดียอมรับมันอย่างไม่อิดออด ก่อนที่เงินจำนวนหนึ่งจะถูกโอนเข้ามาในบัญชีของปูนทันทีเพื่อเป็นการรับประกันว่าเขาจะต้องมอบร่างกายให้อีกฝ่ายใช้ฟรีๆ 

 

‘แล้วพี่จะให้ผมไปเจอที่ไหน’

 

‘น้องยังอยู่ที่บางแสนอยู่รึเปล่า’

 

‘ครับ ตอนนี้ผมนั่งอยู่แถวหาด’

 

‘งั้นสองทุ่มเจอกันที่โรงแรม The Next นะ พี่จะใส่สูท Armani สีน้ำเงินแล้วมีดอกกุหลาบสีแดงวางอยู่บนโต๊ะด้านในสุด’

 

มือที่กำลังจะพิมพ์ข้อความกลับไปหยุดชะงักทันทีที่เห็นชื่อโรงแรมนั้น ปูนเผลอกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นเมื่อความทรงจำที่มีกลิ่นไอฝนติดอยู่ย้อนกลับมาให้คิดถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

“โรงแรมของเพื่อนพี่กาล...”

 

ร่างเล็กเอ่ยชื่อของคนคนนั้นออกมาอย่างยากลำบาก เขารีบลดมือที่ถือมือถือลงแล้วหันไปมองทางอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นภาพความทรงจำที่ดีและร้ายต่างก็ประดังประเดเข้ามาอย่างที่เขาไม่สามารถควบคุมไว้ได้ ปูนรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังทิศตรงข้ามกับโรงแรมแห่งนั้นพร้อมกับพยายามลืมเรื่องนัดนั้นไปซะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินหนีไปได้ไกล เสียงพูดคุยเคล้าเสียงหัวเราะของวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ดังขึ้นจนทำให้เท้าของเด็กหนุ่มต้องหยุดชะงัก

 

“เฮ้ยพวกมึงอ่านหนังสือสอบกันยังวะ”

 

“อ่านเชี้ยไรล่ะ งานกูยังทำไม่เสร็จเลย”

 

“อ้าว ทำไมยังไม่เสร็จอีกวะ อีกสองอาทิตย์สอบแล้วนะเว้ย”

 

“ก็เพราะมึงไม่ช่วยกูทำไงไอ้เชี้ย!”

 

ปูนหันไปมองชายคนนั้นถูกเพื่อนรุมตบหัวกันทั้งวงแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เขามองเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดที่พวกนั้นสวมใส่ก่อนจะหันกลับมามองตัวเองที่สวมเสื้อยืดคอป้านสีดำไม่เหมือนกันเลยสักนิดทั้งชุดและสถานะที่เขาเป็นอยู่ ร่างเล็กกำโทรศัพท์ในมือให้แน่นขึ้นก่อนจะหันเท้ากลับไปยังทิศทางตรงกันข้ามด้วยความรู้สึกที่หนักแน่นกว่าเก่า

 

 

‘ตกลงครับ...แล้วเจอกันนะ’

 

มันอาจจะยาก...แต่คงไม่แย่มากไปกว่านี้

.

.

.

.

.

.

.

.



ร่างเล็กปีนลงจากหลังรถมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างที่จอดก่อนถึงหน้าโรงแรมที่ลูกค้านัดไว้เพียงเล็กน้อย เขาจัดการจ่ายเงินก่อนจะเดินเข้าไปข้างในโรงแรมซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่ทำงานของเขาไม่มากแต่ในด้านของความสวยงามและความสะดวกสบายนั้นกลับไม่ด้อยไปกว่ากันเลย เด็กหนุ่มเข้าไปถามพนักงานต้อนรับที่หน้าฟร้อนท์ว่าห้องอาหารที่ตัวเองจะต้องไปนั้นอยู่ทางไหน สาวสวยในชุดเครื่องแบบสีเขียวไข่กาก็ยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรแล้วอาสานำทางไปให้ถึงที่

 

“ขอบคุณมากนะครับ”

 

ปูนบอกขอบคุณเธอที่พาเขามายังห้องอาหารกึ่งบาร์ที่อบอวนไปด้วยบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง เด็กหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาชายในชุดสูทสีน้ำเงินที่บนโต๊ะมีดอกกุหลาบสีแดงวางไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางขี้สงสัยแบบนั้นกลับดึงดูดสายตาของใครหลายคนให้หันมามองด้วยความสนใจ ยกเว้นแต่ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะด้านในสุด

 

“สูทสีน้ำเงิน...กุหลาบสีแดง...”

 

ร่างเล็กพิจารณาการแต่งกายของอีกฝ่ายแล้วมั่นใจว่าคงจะเป็นลูกค้าที่นัดตนไว้เป็นแน่ ปูนเดินตรงไปทางนั้นทันทีแม้จะเริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่มองมาแต่เขากลับสนใจเพียงลูกค้ารายใหม่ ที่สร้างความประทับใจแรกให้เขาไม่หยอก

 

“สวัสดีครับ รอผมนานไหม”

 

เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงกันข้ามกับร่างสูงใหญ่นั่น คนที่กำลังมองออกไปทางระเบียงด้านนอกหันใบหน้าที่เนียนสะอาดสะอาดกลับมาก่อนจะใช้ดวงตาเล็กๆที่รับกับคิ้วคมเข้มจ้องมองมาที่ปูนนิ่งๆ จนทำให้เด็กหนุ่มต้องพยายามรักษากริยาไปด้วยแม้ความจริงเขาอยากจะสำรวจรูปร่างแสนเพอร์เฟคภายใต้เสื้อผ้าราคาแพงนั่นอีกสักหน่อย แต่ไม่เป็นไรเพราะยังไงคืนนี้คงไม่จบลงด้วยการกินของอร่อยอย่างที่อีกฝ่ายว่าแน่ๆ

 

“พี่? เป็นอะไรรึเปล่า” ปูนถามเบาๆเมื่อเห็นคนตรงหน้านิ่งไป แต่อาการที่แสดงกลับมานั้นคือคิ้วเข้มๆที่เขาชอบกำลังขมวดกันเป็นปมจนน่าสงสาร

 

“ปวดหัวหรอครับ หรือว่าตื่นเต้น”

 

ปูนเอื้อมมืดออกไปนวดเบาๆตรงระหว่างคิ้วนั้นพร้อมกับระบายยิ้มออกมาเพื่อให้ชายตรงหน้าคลายความกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะเป็นการซื้อบริการครั้งแรกเหมือนที่ลูกค้ารายเก่าๆของเขาเป็น

 

“เปล่า”

 

“หรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอย้ายที่หน่อยแล้วกัน”

 

ร่างเล็กยังคงยิ้มให้แต่มันกลับดูติดจะยั่วยวนจนคนมองรู้สึกได้ เขาลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวข้างๆอีกฝ่ายซึ่งมันใกล้เสียจนเขาสามารถได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากร่างกายของชายคนนี้ได้เลย ใบหน้าหล่อเหล่าดูฉงนอยู่เพียงครู่ก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมาอย่างถูกใจ จึงเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีให้ปูนกล้าเดินเกมรุกต่อ

 

“จะว่าไปพี่ยังไม่ได้บอกชื่อผมเลย”

 

“ชื่อหรอ?”

 

“หรือไม่สะดวกใจที่จะบอกครับ ไม่เป็นไรนะผมเข้าใจ ส่วนพี่เรียกผมว่าปูนก็ได้ เห็นเรียกแต่น้องๆ รู้สึกเหมือนกำลังถูกทะนุถนอมยังไงก็ไม่รู้”

 

ปูนพูดขำๆแล้วชวนร่างสูงคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆเพื่อให้เราทั้งสองคนรู้สึกสนิทใจกันมากกว่านี้ คนที่ดูติดจะเงียบๆในตอนแรกเริ่มพูดคุยโต้ตอบกับเขามากขึ้น จากฝ่ายที่ถูกชวนกลายเป็นคนหาเรื่องตลกๆมาเล่าให้ปูนฟังจนทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเบาๆของทั้งสองคน ร่างเล็กที่ลิ้มรสไวน์ไปมากโขเผลอเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเสียจนหน้าแทบจะติดกัน คนตัวโตกว่าพอเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มให้ก่อนจะสั่งไวน์ขวดใหม่มาดื่ม

 

“เมาแล้วรึเปล่าเนี่ย ไหวไหม”

 

“ไหวครับ ปูนไม่เมาหรอกน่า แค่ไวน์เอง”

 

“หึหึ แต่พี่ว่าเมาแล้วแน่ๆ”

 

ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อได้ยินเด็กหนุ่มข้างกายหลุดแทนตัวเองด้วยชื่อ ใบหน้าหวานๆติดออกจะน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อไม่ต่างจากของเหลวในขวดแก้วที่ตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นบาร์เทนเดอร์อย่างที่เล่าให้ฟังจริงแต่ดื่มไปมากขนาดนี้ก็คงมีเซกันบ้าง

 

“ก็บอกว่าไม่เมาไง พี่ไม่เชื่อปูนหรอ”

 

ร่างเล็กทำหน้าไม่พอใจพลางดึงแขนเสื้อของร่างสูงแต่มันดูน่าเอ็นดูมากกว่าน่าเกลียดเป็นไหนๆ

 

“เชื่อดีไหมเนี่ย หน้าแดงขนาดนี้”

 

“ดีสิ เชื่อปูนนะ นะๆๆๆ”

 

ปูนถูกใบหน้าของตัวเองลงบนท่อนแขนได้รูปของคนข้างๆ ก่อนจะลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะเสียงดังแล้วลูบหัวของเขาไปด้วย

 

“ฮ่าๆ งั้นเชื่อก็ได้ แต่ไม่ให้กินมากกว่านี้แล้วนะ เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้”

 

“ใครบอกว่าปูนจะกลับล่ะ ปูนจะนอนที่นี่”

 

“นอนที่นี่? ห้องเบอร์อะไรล่ะ”

 

“ไม่รู้สิ แล้วแต่พี่แล้วกัน”


:hao6:(มีต่อเม้นต์ล่าง) :hao6:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #8 เมื่อ14-11-2015 12:21:37 »

 

ร่างเล็กพูดแค่นั้นก่อนจะซบลงบนบ่าของอีกฝ่ายแล้วหลับตาพริ้ม แม้จะคุยสนุกก็จริงแต่เขาก็ต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จเหมือนกัน ปูนได้ยินเสียงถอนหายใจดังขึ้นใกล้ๆหูก่อนที่ร่างของเขาจะถูกพยุงขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่สามารถพาเขาเดินไปได้ทั้งที่แกล้งไม่ได้สติอยู่ เขาหลับตาลงจึงไม่เห็นอะไรสักอย่าง แต่เสียงกระทบกันเบาๆของลูกกุญแจและเสียงของลิฟต์ที่ดังขึ้นก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าจุดหมายปลายทางของมื้ออาหารแสนอร่อยนี้กำลังจะจบลงแล้ว

 

“อ้าวคุณคณิต จะไปไหนคะ”

 

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกับเสียงลิฟต์ที่กำลังเปิดออก ปูนแอบปรือตาดูก็เห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทดูทะมัดทะแมงแต่รอยยิ้มบนใบหน้าสวยนั้นทำให้ภาพลักษณ์ที่ออกมาดูสง่ามากกว่าจะแข็งกระด้าง

 

“จะพาลูกค้าขึ้นไปบนห้องน่ะ”

 

สถานะที่ถูกแทนให้ทำให้ปูนนึกสงสัยแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร น้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นสุดๆของผู้หญิงที่รีบก้าวเข้ามาในลิฟต์ก็ดังขึ้น

 

“แฟนหรอคะ?! แฟนใช่ไหมๆๆๆ อิงกะแล้วว่าคุณต้องชอบแบบนี้!!”

 

“เฮ้ย ไม่ใช่! นี่มันเด็กผู้ชายนะอิง ผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง”

 

“แหม ไม่ต้องปิดบังอิงหรอกค่ะ อิงเข้าใจ”

 

ร่างสูงยังคงปฏิเสธเป็นพันละวันในขณะที่ปูนเริ่มเข้าใจเรื่องทุกอย่างได้รางๆ เขายังคงหลับตาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งถูกพาออกมาจากลิฟต์โดยมีเสียงหัวเราะอย่างชอบใจของผู้หญิงที่ชื่ออิงดังตามหลังมา อ้อมแขนที่กำลังประคองเขาอยู่ดึงเขาที่ร่างกายอ่อนยวบเข้ามาใกล้มากขึ้น

 

ห้องๆหนึ่งถูกเปิดออก กลิ่นไม้หอมอ่อนๆชวนให้รู้สึกสบายใจลอยฟุ้งทันทีที่ร่างของเขาถูกวางลงบนเตียงนอนที่นุ่มจนปูนอยากนอนหลับให้สบาย แต่มือเล็กๆกลับคว้าแขนของชายที่กำลังหมุนตัวออกไปไว้แทน

 

“อ้าว ตื่นแล้วหรอ”

 

“อื้อ จะไปไหนครับ”

 

“กลับไปทำงานต่อน่ะ เรานอนเถอะ ห้องนี้พี่เปิดให้”

 

ร่างสูงยิ้มให้ก่อนจะลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลของปูนเบาๆ เด็กหนุ่มพอได้ยินดังนั้นก็เดาไปว่าอีกฝ่ายคงเป็นพนักงานของที่นี่บวกกับสถานะลูกค้าที่ใช้บอกกับผู้หญิงที่ชื่ออิงก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจอย่างนั้น แต่เขาคงจะปล่อยให้พนักงานดีเด่นคนนี้กลับไปทำหน้าที่ไม่ได้...เพราะเขาเองก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเหมือนกัน

 

“แล้วปูนล่ะ...พี่จะทิ้งปูนไว้คนเดียวหรอ”

 

“ฮ่าๆ เมาแล้วงอแงนะเราน่ะ”

 

“นะครับ อย่าทิ้งปูนไว้คนเดียวนะ”

 

ร่างเล็กลูบไล้เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกับสบตาคู่นั้นไปด้วย คนที่เคยยิ้มเริ่มเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วแทนเมื่อมือของคนเด็กหนุ่มเคลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆจนไปหยุดอยู่ตรงหน้าท้องเป็นลอนที่ถูกสัมผัสผ่านเนื้อผ้า คณิตพยายามดึงมือของปูนออกแต่คนตัวเล็กกลับขืนไว้แล้วยิ่งลงน้ำหนักตรงฝามือให้หนักขึ้น เด็กหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจเมื่อสังเกตเห็นความโป่งนูนที่ดันเป้ากางเกงของอีกฝ่ายออกมาน้อยๆ

 

“ปูน หยุด!”

 

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเป็นในนี้ล่ะก็ไม่มีใครเห็นหรอกว่าพี่กำลังจะทำอะไร...กับเด็กผู้ชายแบบผม”

 

“ไม่ใช่อย่างนั้น!”

 

“หรือถ้าพี่ไม่ชอบ...ก็หลับตาลงก็ได้ ผมไม่ว่า”

 

ปูนออกแรงกระชากอีกฝ่ายให้ล้มลงนอนบนเตียงที่เขานั่งอยู่ก่อนจะพลิกร่างขึ้นไปทาบทับไว้ทันที ริมฝีปากอิ่มเล็กพรมจูบลงบนลำคอของร่างสูงแล้วค่อยๆเคลื่อนขึ้นไปตามสันกรามก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงปากที่กำลังสั่งให้เขาหยุดการกระทำนี้ ปูนสอดลิ้นเข้าไปทันทีก่อนจะทักทายโพรงปากของอีกฝ่ายด้วยลีลาที่ลูกค้าหลายคนชมว่ามันยอดเยี่ยม ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็กำลังสาละวนอยู่กับการปลดกางเกงของคณิตลงจนก้อนเนื้อสีแดงก่ำดีดผึงออกมาด้านนอก

 

“เดี๋ยวปูน อย่าทำแบบนี้!”

 

“ทำไมล่ะครับ ก็ในเมื่อพี่จ้างผมมาทำให้ไม่ใช่หรอแล้วพี่ก็...รู้สึกมากขนาดนี้แล้วแท้ๆ”

 

ร่างเล็กยิ้มร้ายให้ก่อนจะประคองกลางกายของคณิตมาไว้ในมือแล้วขยับมันเบาๆ คนที่รับแอลกอฮอล์ไปพอๆกันสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อไม่สามารถทำอะไรๆได้อย่างใจ เขามองคนตัวเล็กเอื้อมไปหยิบถุงยางอนามัยออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังแล้วฉีกซองออกด้วยปากในขณะที่นวดความแข็งขืนนั้นรอจนมันพองโตเต็มที่

 

“เข้าใจผิดแล้วปูน พี่ไม่ได้… อึก!”

 

ปากที่มีถุงยางอนามัยอยู่กลืนกินกลางกายของคณิตลงไปโดยไม่คิดจะฟังคำเล่นตัวอะไรอีก ปูนใช้มือช่วยดึงในส่วนที่ปากของเขาเข้าไปไม่ถึงก่อนจะขยับหัวขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับลมหายใจหอบของอีกฝ่ายที่ไม่อาจขัดขืนได้อีก มือของร่างสูงคว้าท้ายทอยของเด็กหนุ่มไว้พร้อมกับพยายามฝืนตัวไม่ให้เด้งเอวส่วนไปตามสัญชาติญาณ

 

 ร่างเล็กที่โพรงปากถูกเติมเต็มด้วยความเป็นชายลืมตาขึ้นสบกับเจ้าของมันอย่างชอบใจที่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหล่านั้นเหยเกไปเพราะการกระทำของตัวเอง เขาเคลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้หน้าท้องแกร่งของอีกคณิตช้าๆในขณะที่อีกมือก็กำลังพยายามปลดกางเกงของตัวเองออกไปด้วย

 

“อื้อ ปูน พอ!”

 

คณิตร้องบอกแต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เด็กหนุ่มที่บัดนี้เหลือเพียงแค่เสื้อคอวีสีอ่อนติดกายเร่งริมฝีปากของตัวเองให้กระชั้นขึ้นอีกจนเสียงครางในลำคออย่างพอใจของร่างสูงจะดังระงมแข่งกับเสียงชื้นแฉะจากช่องทางด้านหลังของปูนที่กำลังถูกเจ้าตัวเบิกทางรอเอาไว้อย่างรู้หน้าที่

 

“ไม่เป็นไร อึก พี่จะต้องชอบแน่ๆ”

 

ปูนยอมคลายปากที่กักขังตัวตนของคณิตไว้แล้วยันกายขึ้นคร่อมให้บั้นท้ายของตัวเองทับลงบนหน้าท้องของร่างสูงจนท่อนเนื้อบวมเป่งนั้นสัมผัสตรงกับช่องทางของเขาพอดี ชายหนุ่มที่อารมณ์มาไกลเกินจะยับยั้งไหวมองดูกลางกายของตนค่อยๆถูกกลืนกินเข้าไปอีกครั้งด้วยอวัยวะที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนี้แต่กลับให้ความรู้สึกดีเสียจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้

 

“อ๊า แน่นจัง อื้ออออ”

 

“ค่อยๆทิ้งลงมา อ่า...อย่างนั้นแหละ”

 

คณิตพูดกำกับพร้อมกับช่วยประคองสะโพกมนให้ไม่ทิ้งตัวมาเร็วเกินไป ปูนดันตัวเองออกเล็กน้อยแล้วดันเข้าไปใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเขาสามารถครอบครองชายหนุ่มใต้ร่างเอาไว้จนหมด เสียงลมหายใจถี่หอบของทั้งคู่ดังขึ้นผสานกันจนแทบแยกไม่ออก คณิตที่พลิกตัวมาเป็นฝ่ายคุมเกมยึดก้มกลมของปูนไว้ให้มั่นแล้วตบสะโพกของตัวเองลงไปโดยที่สายตายังคงจ้องมองไปยังกลางกายที่ขยับเข้าออกช่องทางเล็กๆที่ขึ้นสีแดงช้ำนั่นด้วยอารมณ์ที่ไต่ขึ้นสูง ปูนพยายามโน้มใบหน้าหล่อเหล่านั่นลงมาจูบเพื่อระบายความใคร่ของตัวเองแต่ก็โดนปฏิเสธด้วยการถูกดันให้คว่ำหน้าลงกับเตียงแทน

 

“แรงอีกครับ อ๊า แรงอีก”

 

“เงียบไปเลย อึก!”

 

ร่างสูงรัวสะโพกของตัวเองเร็วจี๋เมื่อเห็นขอบสวรรค์อยู่รำไรโดยไม่คิดช่วยเด็กหนุ่มที่พยายามใช้มืออีกข้างขยับกลางกายของตัวเองไปด้วยเพื่อให้ถึงที่หมายไปพร้อมๆกัน ปูนหวีดร้องเสียงดังเมื่อความรู้สึกจากทั้งข้างหน้าและข้างหลังโจมตีเขาเสียจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ก่อนสายน้ำสีขาวขุ่นจะปะทุออกมาเปื้อนผ้าปูที่นอนสีครีมสะอาดในขณะที่คณิตเองก็ปลดปล่อยออกมาแทบจะพร้อมๆกัน

 

“อ๊า อื้อออออออ”

 

“แฮ่กๆๆ”

 

คณิตที่ยังคงหอบน้อยๆ ดึงทั้งแท่งเนื้อของตัวเองและถุงยางที่มีน้ำสีขาวอยู่ข้างในออกมาทิ้งลงถังขยะข้างเตียงแทบจะทันที ปูนที่รู้สึกถึงการหายไปของสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มเขาเกือบชั่วโมงพยายามควบคุมลงหายใจของตัวเองให้สงบลงก่อนจะพลิกตัวมาคุยกับคนที่ทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ

 

“เป็นอะไรครับพี่ ไม่ชอบหรอ”

 

“ปล่อย...”

 

“ฮะ?”

 

“ก็บอกให้ปล่อยไงวะ!”

 

เสียงตะคอกและท่าทางที่เปลี่ยนไปทำให้ปูนยอมปล่อยแขนของอีกฝ่ายแทบจะทันที คณิตลุกขึ้นคว้าเอาอันเดอร์แวร์และกางเกงที่ถูกร่างเล็กปลดไปกลับมาใส่ โดยไม่คิดจะหันไปมองคนที่กำลังนั่งงงอยู่บนเตียง

 

“พี่เป็นอะไรครับ ผมทำอะไรผิดรึเปล่า”

 

“ผิดสิ ผิดมากด้วย!”

 

“???”

 

คณิตที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วหันมามองปูนด้วยสายตาเกรี้ยวกราดแทบไม่เหลือภาพหนุ่มอารมณ์ดีที่ทำให้เขาหัวเราะอย่างสนุกสนานเหมือนตอนหัวค่ำ ร่างสูงหยิบเอากางเกงของปูนปาลงบนเตียงใกล้กับที่ที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่อย่างแรงจนร่างเล็กเผลอสะดุ้งก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

 

“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากที่นี่ซะ แล้วอย่าให้ฉันเห็นเธอมาหากินที่นี่อีก”

 

“อะ อะไรกันพี่ ทำไม”

 

“โรงแรมของฉันไม่ใช่ซ่อง!!! แล้วฉันก็จะไม่ยอมให้คนที่ใช้ร่างกายหากินเข้ามาหลอกเงินแขกของที่นี่!!!”

 

ใบหน้าหวานรู้สึกชาไปทั้งแทบ คนที่แสร้งยิ้มมาตลอดแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวออกมาเมื่อโดนดูถูกเข้าอย่างจัง ปูนก้าวลงจากเตียงโดยยังไม่หยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ เขาเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับคนตัวสูงที่กำลังมองมาอย่างดูแคลนอย่างไม่พอใจแต่ก็ยังห้ามตัวเองไม่ให้เขาไปชกหน้าของอีกฝ่ายแรงๆ

 

“ใครหลอกใคร! ผมมาที่นี่ก็เพราะคุณสั่งให้มา!”

 

“ฉันไม่เคยสั่งใครมานอนด้วยทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายแบบเธอ!”

 

“ผู้ชายแล้วยังไงวะ สุดท้ายมึงก็เอากูไปแล้ว! หลักฐานก็มี เงินก็โอนเข้ามาแล้วยังจะปฏิเสธอีกหรอ”

 

ปูนเดินไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดข้อความจากธนาคารที่แจ้งว่ามีเงินจำนวนหนึ่งถูกโอนเข้ามา ก่อนจะยื่นให้คณิตดู

 

“นี่ไม่ใช่เลขบัญชีของฉัน แล้วฉันก็ไม่มีทางเสียเงินขนาดนี้เพื่อเธอแน่ๆ”

 

“ถ้าอย่างนั้นแล้วนี่ล่ะ!”

 

ร่างเล็กรีบเปิดหาบันทึกการสนทนาจากโปรแกรมแชทที่เขามีไว้เพื่อใช้คุยกับลูกค้า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เปิดอ่านก็มีสัญลักษณ์สีแดงขึ้นเตือนว่าลูกค้าชุดสีน้ำเงินที่ว่านั้นได้ส่งข้อความมาแต่เขายังไม่ได้เปิดอ่าน

 

‘ขอโทษนะครับ เมียพี่โทรมาตามไปไม่ได้จริงๆ เก็บเงินไว้ก่อนนะแล้วพี่จะติดต่อนัดวันไปใหม่ที่หลัง’

 

ปูนรู้สึกหน้าชารอบสอง มือที่ถือโทรศัพท์ไว้สั่นเสียจนคณิตอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงแย่งมันมาถือไว้เองในขณะที่ร่างเล็กไม่ทันได้ระวัง

 

 “หึ...เป็นอย่างนี้นี่เองสินะ”

 

“เอาคืนมานะ!!”

 

 “จิ๊ ไอ้เด็กไม่มีหัวคิด”

 

ร่างสูงดีดหน้าผากคนที่พยายามแย่งโทรศัพท์คืนไปแรงๆจนปูนร้องโอดโอยเสียงดัง คณิตโยนมือถือที่เขาถือวิสาสะเปิดอ่านข้อความที่เด็กหนุ่มแชทคุยกับลูกค้ามากมายลงบนเตียงราวกับว่าไม่ต้องการจะสัมผัสมันอีก

 

“ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่ลูกค้าที่นัดเธอมา”

 

“เออ! แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกวะ!”

 

“ที่หลังก็หัดฟังบ้างสิเว้ย! แล้วก็...พูดจากกับผู้ใหญ่หัดมีสัมมาคารวะซะบ้าง ไอ้เด็กเวร!” คณิตดีดหน้าผากของปูนแรงๆอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป แต่ก็ยังไม่ทันทีเขาจะไปถึงประตูห้องก็ถูกปูนหยุดไว้อีกครั้ง

 

“เดี๋ยว! ถึงจะเข้าใจผิดแต่มึงก็ต้องรับผิดชอบ!!”

 

ร่างเล็กพูดออกไปด้วยเสียงกร้าวๆแต่ก็ต้องถอยออกมาเมื่อโดนคณิตจ้องมองมาอย่างไม่พอใจที่เขายังใช้คำพูดไม่ดีกับอีกฝ่ายอยู่ทั้งที่อายุน้อยกว่า

 

“รับผิดชอบ? หมายถึงเงินน่ะหรอ?”

 

“...ใช่”

 

ร่างสูงเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาค้นมันอยู่สักพักก่อนจะวางสิ่งหนึ่งลงบนมือของปูน มันเป็นซองพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเงินแบบเดียวกันกับที่เด็กหนุ่มใช้มันกับเขา

 

“เท่านี้คงพอนะ ถือว่าหายกันแล้ว”

 

คณิตว่ายิ้มๆแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่มีใครเข้ามาขัดขวางอีก ปูนมองดูถุงยางอนามัยที่อยู่ในมือของตัวเองอย่างพูดไม่ออก ตัวของร่างเล็กกำลังสั่นด้วยความโมโหแต่กลับระบายมันออกมาไม่ได้นอกจากการปาสิ่งที่อีกฝ่ายใช้จ่ายแทนเงินมานั้นลงกับพื้นแล้วกระทืบมันซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด

 

“ไอ้แก่เหี้ย!!!!!”

.

.

.

.

.

.

.

.


ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำยืนมองร่างเล็กๆของเจ้าเด็กใจแตกเดินหน้าตึกออกจากโรงแรมของเขาไปผ่านหน้าต่างห้องชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งนี้ คณิตหลุดขำนิดๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความไม่ระวังของเขา

 

“หน้าตาก็ออกจะน่ารัก ไม่น่าทำแบบนี้เลยนะ”

 

เขานึกย้อนไปถึงใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ติดออกจะน่ารักมากกว่าหล่อเหลาซึ่งแม้ว่าตนเองจะไม่ได้ชอบผู้ชายเป็นทุนเดิมก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ยิ่งการที่อีกฝ่ายเข้ามาคุยกับเขาที่กำลังนั่งพักผ่อนระหว่างรอตรวจงานลูกน้องเป็นเรื่องเป็นราวโดยที่เข้าใจผิดไปเอง ก็ทำให้คณิตนึกสนุกยอมตามน้ำไปด้วยเพราะอยากเห็นสีหน้าเหวอๆของเด็กคนนั้นเมื่อรู้สึกตัว แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเขาเองนี่แหละที่ต้องเหวอแทนเพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนซื้อบริการซะอย่างนั้น

 

“แล้วยังเป็นเด็กผู้ชายอีก โอ้ยตายๆๆๆ เวรกรรมอะไรของกูว่ะเนี่ย!!”

 

 

 

 

แล้วครั้งนี้มันคือเวรกรรม...หรือโชคชะตากันแน่

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!

หายไปนานโคตรๆ ติดภารกิจกองเท่าภูเขาอยู่คับ แก้ตัวด้วยการเสิร์ฟNCให้เบาๆสำหรับการเจอกันครั้งแรกของบ่าวสาว  :hao6: :pighaun: แซบลืมมมมมมม แถมน้องปูนโดนพี่คณิตชักดาบอีก >//////< นิสัยไม่ได้ เพี้ยะๆ  :z3:

ช่วงนี้เช่คงหายไปประมานนี้อีกนะคับ จนกว่าจะปิดเทอมจะยุ่งมากกกกกกก ขอโทษด้วยที่ทำให้ขาดตอนกัน ว่างๆกลับไปอ่านพี่กาลรอก่อนนะ ใครอยากได้หนังสือก็จองกันเข้ามาได้ เหลือเวลาอีกแค่สองเดือนนิดๆเท่านั้น หมดแล้วหมดเลยนะ

ขอบคุณสำหรับทุกเม้นต์ทุกโหวต เรื่องนี้ไม่แนวดราม่าแต่เช่หวังว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังจนเกินไปนะคับ :mew1:


ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #9 เมื่อ14-11-2015 12:35:29 »

ลงซ้ำหรือเปล่า? 55

ลองดูนะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
« ตอบ #9 เมื่อ: 14-11-2015 12:35:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #10 เมื่อ14-11-2015 12:37:17 »

ลงซ้ำหรือเปล่า? 55

ลองดูนะๆ


จริงด้วย  :a5: ขอบคุณที่เตือนนะคับ ^^

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #11 เมื่อ14-11-2015 14:02:15 »

 :mew1:

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #12 เมื่อ14-11-2015 20:06:39 »

พี่คณิตแซ่บมากกกก หลอดฟันน้องฟรีอีก :ling1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #13 เมื่อ15-11-2015 00:07:04 »

พี่คณิตกับน้องปิงสินะ

ออฟไลน์ taanarok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #14 เมื่อ15-11-2015 02:42:28 »

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ SUPERMUAY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #15 เมื่อ16-11-2015 00:26:36 »

น้องโดนหลอกฟันฟรีเลย
น่าสงสารรรรรรออก 555

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #16 เมื่อ16-11-2015 02:01:28 »

เอาหน่าาาายังไงก็ได้น้องไปแล้วหล่ะนะ

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #2][141158]
«ตอบ #17 เมื่อ16-11-2015 10:19:44 »

แปะ!!!!!!!

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #18 เมื่อ18-11-2015 20:29:46 »



แตกที่ 3

…โชคชะตา(อีกครั้ง)...

 

 

ทุกเช้าห้องอาหารของโรงแรมแห่งนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ บรรดาคนครัวทั้งหลายต่างก็ทำงานกันมือเป็นระวิงยาวมาตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงสาย พนักงานเสิร์ฟที่มีทั้งหญิงและชายช่วยกันต้อนรับแขกของโรงแรมที่มีบัตรรับประทานอาหารอยู่แล้ว และนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจเข้ามาชิมอาหารรสเลิศของที่นี่แม้จะไม่ได้นอนค้างก็ตาม คณิตที่ได้นอนหลับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงยืนกำกับลูกน้องด้วยรอยยิ้มที่สดใสเหมือนเช่นทุกครั้ง แม้เนื้อในคำพูดจะเต็มไปด้วยคำตำหนิแต่ในฐานะของผู้จัดการใหญ่และเจ้าของโรงแรมเขาจึงไม่สามารถวางมาดของหนุ่มอารมณ์ดีลงได้

 

 

“ให้เด็กไปเอาข้าวต้มออกมาเพิ่มด้วยนะ ส่วนเนื้อไก่เดี๋ยวเอามาให้ผมชิมก่อนค่อยเอาไปวาง”

 

 

ผู้ช่วยในครัวคนหนึ่งรับคำก่อนก้าวยาวๆกลับไปทำงานของตัวเอง ในขณะที่คณิตแอบมายืนหลบมุมอยู่ตรงส่วนจัดแสดงของฝากประจำจังหวัดที่ทางโรงแรมได้คัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้แขกทั้งหลายสามารถเลือกซื้อกลับไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาตระเวรหาที่อื่น

 

 

“สวัสดีค่ะคุณคณิต เช้านี้ก็ขี้เก๊กเหมือนเดิมเลยนะคะ”

 

 

เสียงหวานๆของอิงอร หนึ่งในทีมบริหารที่ที่ควบตำแหน่งหนึ่งในเพื่อนสนิทดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มชวนฝันเช่นเดิม

 

 

“ว่าแต่คนอื่นตัวเองก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ”

 

 

“ตอบอย่างนี้ไปกินรังแตนที่ไหนมาค่ะ แล้วนี่น้องคนนั้นไปไหนซะแล้วล่ะ หรือว่ายังไม่ตื่น”

 

 

คณิตมองแววตาวิบวับของหญิงตรงหน้าด้วยความละเหี่ยใจ ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าอิงอรกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะผิวพรรณแบบลูกคนจีนแท้ๆบวกกับช่วงเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยที่เขาใช้มันร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่มีความหลากหลายทางเพศสูงมาตลอดจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนอื่นมักจะเข้าใจว่าคณิตเป็นเกย์  อิงอรเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบยัดเยียดรสนิยมทางเพศแบบนั้นให้เขามาตลอด แต่มันก็ไม่เคยมีเค้าลางความจริงจนกระทั่งเมื่อคืนนี้เนี่ยแหละ...

 

 

“กลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

 

 

“อ้าว ทำไมไม่ให้นอนค้างซะล่ะคะ กลับไปตอนกี่โมงล่ะเนี่ย”

 

 

“หึ ให้กลับไปนั่นแหละดีแล้ว ขืนอยู่นานกว่านี้คงไม่ได้เสียแค่ถุงยางถุงเดียว” พูดของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้อิงอรเขินอายแต่อย่างใด ดวงตากลมโตที่ผ่านการตบแต่งด้วยเครื่องสำอางมาอย่างดีพองขึ้นราวกับมีใครอัดลมใส่เข้าไปในนั้น มือที่ถือแฟ้มอยู่ฟาดเข้าที่แขนล่ำของร่างสูงอย่างแรงจนทำเอาคณิตเซไปข้างๆ

 

 

“แล้วแกปล่อยให้กลับไปทำไมล่ะวะ! ชิ ไม่ได้เรื่องเลย”

 

 

“เออ...คุณอิงอรครับ คุณเป็นผู้หญิงนะ”

 

 

“ก็ผู้หญิงไง เห็นผู้ชายรึไงเล่า” ร่างสูงตอบว่าใช่เบาๆในใจ พลางส่ายหัวขณะที่มองตามแผ่นหลังของอิงอรที่เดินผละไปอย่างอารมณ์เสีย แต่ยังไม่ทันไรหญิงสาวก็หันกลับมาเมื่อเพิ่งนึกบางอย่างขึ้นมาได้

 

 

“อย่าลืมมาเข้าบลีฟเรื่องงานประชุมที่โรงแรม The Pilot สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วยนะล่ะคณิต มาช้าแกตายแน่!”

 

 

อิงอรพูดทิ้งไว้ก่อนจะหายเข้าไปในลิฟต์ทิ้งไว้เพียงคณิตที่ขำออกมาเมื่อได้เห็นมาดหลุดๆของเพื่อนสาวที่พยายามปกปิดนิสัยเดิมไว้ภายใต้เครื่องสำอางราคาแพงและรอยยิ้มสวยหรูทั้งที่สำหรับเขาแล้วไม่เห็นความจำเป็นเลยสักนิด

 

 

“โมโหทีไรหลุดทุกทีสิน่า”

 

 

คณิตหัวเราะท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนของอิงอรจนพาลคิดไปถึงดวงหน้าหวานของเด็กที่หญิงสาวเข้าใจว่าเป็นคนรักของเขา

 

 

 

“เมื่อคืนเราทำเกินไปรึเปล่านะ”

 

 

ชายหนุ่มถามตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้นับตั้งแต่แผ่นหลังเล็กๆนั่นเดินจากไป เมื่อคืนหลังจากที่ขึ้นไปอาบน้ำตั้งสติอยู่นานคณิตก็ลงมาตรวจสอบรายชื่อลูกค้าที่โทรมาจองโต๊ะไว้  จนเจอชื่อของลูกค้าคนหนึ่งที่โทรมายกเลิกกลางคันแล้วโต๊ะที่อีกฝ่ายจองไว้นั้นก็คือโต๊ะที่เขาดันไปนั่งพักก่อนหน้าที่เด็กคนนั้นจะเดินทางมาถึงเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นเอง

 

 

คณิตพินิจเบอร์โทรศัพท์นั้นอยู่นานทั้งที่มันไร้ความหมาย เพราะชายคนนั้นเป็นเพียงหนึ่งในลูกค้าที่หวังเชยชมเพียงร่างกายของเด็กหนุ่มที่ชื่อปูนเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรเลยไม่ต่างจากเขาที่ถึงแม้จะไม่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแต่สุดท้ายก็ทำผิดไปไม่ต่างกัน

 

 

“ถ้าได้เจอกันอีก...จะขอโทษก็แล้วกัน”

 

 

.

.

.

.

.

.

.

.

 

 

รถบิ๊กไบค์สีดำสนิทเช่นเดียวกับแจ็คเก็ตของคนขับเลี้ยวเข้าไปในซอยด้านหลังของโรงแรมที่จัดไว้ให้พนักงานใช้เข้าออกแทนส่วนหน้าที่มีไว้สำหรับแขกเท่านั้น พนักงานทั้งหลายที่กำลังพักกินข้าวเที่ยวกันอยู่ต่างก็ทักทายชายหนุ่มที่ก้าวลงมาจากรถของตนที่จอดหลบมุมไว้ โดยที่บอยเองก็ทักตอบไปโดยไม่ถือตัวอะไร

 

 

“กินข้าวกันพี่!”

 

 

“เอาเถอะ กูกินมาจากข้างนอกแล้ว”

 

 

“อ้าว แล้วก็ไม่บอก รู้งี้จะฝากซื้อพิซซ่าเข้ามาหน่อย อยากกินว่ะ”

 

 

“เก็บตังไว้ให้ถึงสิ้นเดือนบ้างเหอะมึง เงินเดือนแค่นี้อยากแดกหรูทุกมื้อ”

 

 

พนักงานครัวที่โดนบอยว่ากลับไปไม่ได้มีท่าทางโกรธเคืองอะไรกลับกัน เขากลับหัวเราะชอบใจที่โดนลูกพี่ใหญ่ดุเข้าให้เสียด้วยซ้ำ ร่างใหญ่ของบอยเดินเข้าไปทักพนักงานคนอื่นที่ต่างก็คุ้นหน้ากันดีก่อนจะเดินหอบหมวกกันน็อคใบใหญ่เข้าไปในห้องแต่ตัวของพนักงานซึ่งตั้งอยู่ชั้นเดียวกับบาร์ที่ตัวเองดูแลอยู่

 

 

ทันที่ที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง สายตาของชายหนุ่มก็ปะทะเข้ากับแผ่นหลังเล็กที่นั่งหลบมุมอยู่ตรงริมล็อกเกอร์ตู้ในสุดจนแทบสังเกตไม่เห็น ร่างๆนั้นสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาแต่ก็ยังไม่หันกลับมามองบอยแต่อย่างใด

 

 

“กลับมาทำงานได้แล้วรึไง”

 

 

พลัสที่ไม่ยอมมาทำงานเกือบสามอาทิตย์รู้สึกหน้าชาไปทั้งแทบ เขาไม่รู้ว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องคือใครแต่อีกฝ่ายกลับรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังมานั่งทำใจอยู่ตรงนี้คือเขาที่หายหน้าไปโดยไม่ได้บอกเหตุผล

 

 

“ขอโทษครับ...”

 

 

เด็กหนุ่มพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นอีกคนที่อยู่ในห้องแห่งนี้ก็ได้รับฟังคำขอโทษนั้นแล้ว

 

 

“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นแค่พนักงานพาร์ทไทม์แล้วจะขาดได้โดยที่ไม่ต้องบอก ทุกครั้งที่คนหนึ่งหายไปคนอื่นก็ต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพราะต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งที่พวกเขาไม่มีความผิด...อย่าทำแบบนี้อีก”

 

 

ร่างโปร่งที่นำคำพูดเหล่านั้นตอกย้ำลงไปในใจของตัวเองทุกคำตอบรับทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ บอยเปรยตามองพลักนิดๆก่อนจะเดินไปเปิดล็อกเกอร์ของตัวเองทำเป็นว่าไม่เห็นหยดน้ำใส่ที่ไหลลงมากระทบรองเท้าคัทชูที่ขัดจนเป็นมันเงาของเด็กหนุ่ม ทั้งห้องไร้คำพูดจาใดๆแต่กลับมีเสียงสะอื้นเบาๆของโปร่งดังคลออยู่เรื่อยๆ กัปตันหนุ่มติดกระดุมเชื้อเชิ้ตของตัวเองอย่างอ้อยอิงราวกับต้องการประวิงเวลาจนกระทั่งน้ำตาของเด็กคนนั้นได้หยุดลง

 

 

“ขอโทษอีกครั้งนะครับ ผมจะไม่ทำแบบนี้อีก...”

 

 

“อืม แล้ววันนี้มึงต้องทำล่วงเวลาอีกสองชั่วโมงโดยไม่ได้ค่าจ้าง ส่วนทิปที่ได้มาจากแขกก็เอาไปแบ่งให้คนที่ต้องทำงานมึงด้วย เข้าใจไหม”

 

 

“ครับ”

 

 

“งั้นไปล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปช่วยงานเช็คจานกับช้อนส้อมซะ ตอนเย็นจะมีงานเลี้ยงใหญ่ งานหนักหน่อยล่ะวันนี้”

 

 

บอยพูดพลางกระชับเนกไทสีเข้มของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงแรงกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อด้านหลัง

 

 

“อะ เออ หัวหน้าครับ ผม...ฝากนี้ไปให้ปูนหน่อยได้ไหม”

 

 

ธนบัตรสีเทาห้าใบที่ถึงแม้จะถูกพับอย่างดีแต่ก็ยังปรากฏรอยยับให้เห็นถูกยื่นออกมาให้บอยที่จำเหตุการณ์วันนั้นได้เป็นอย่างดี

 

 

“เดี๋ยวมันก็มาทำงาน เอาไปคืนมันเองเถอะ”

 

 

“แต่ผม...”

 

 

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ปล่อย กูจะไปทำงาน”

 

 

ร่างใหญ่ดึงเสื้อของตัวเองที่อีกฝ่ายจับไว้จนพลัสไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้อีก ชายหนุ่มเตรียมตัวเดินออกไปจากห้องแต่คราวนี้กลายเป็นคำพูดของร่างโปร่งที่หยุดการก้าวเดินของเขาไว้แทน

 

 

“แล้วทำไมพี่ต้องทำให้ผมเห็นภาพแบบนั้นด้วย...”

 

 

“...”

 

 

“พี่รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าปูนกำลังทำอะไร ทำไมพี่ถึงไม่ห้ามเขา...มันผิดไม่ใช่หรอการเอาตัวเองไปขายแบบนั้นน่ะ...ทำไมพี่ไม่หยุดเขา ทำไมพี่ไม่หยุดผม”

 

 

บอยหันมามองหน้าพลัสที่กำลังมองมาอย่างตัดพ้อตรงๆโดยไม่มีทีท่าหวั่นไหวเลยสักนิดแม้คำพูดของเด็กหนุ่มจะสะกิดความรู้สึกของเขาเข้าอย่างจัง

 

 

“ที่กูไม่หยุดมันก็เพราะมันไม่ใช่เรื่องของกู ตัวของตัวเองมันยังไม่คิดจะรักษาก็ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างเราจะเข้าไปแส่...ส่วนมึง”

 

 

“...?”

 

 

“ที่กูไม่หยุดมึง เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นมึงคงไม่เลิกยุ่งกับมัน”

 

 

พลัสได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งอึ้งไป เขาพยายามทำความเข้าใจคำพูดของบอยใหม่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลให้การกระทำนั้นได้อยู่ดี

 

 

“ทำไมพี่ถึงไม่อยากให้ผมไปยุ่งกับปูนล่ะครับ”

 

 

ร่างโปร่งถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาของตัวเองนั้นทำให้อีกคนคิดไปไกลแค่ไหน

 

 

“ก็เพราะมัน...เป็นคนไม่ดียังไง”

 

 

กัปตันหนุ่มพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง ทันทีที่แสงจากด้านนอกสาดเข้ามารอยยิ้มสุภาพก็ถูกสวมลงบนใบหน้าคมเข้มของบอยเหมือนเช่นทุกครั้ง เขาเดินเข้าไปทักทายหัวหน้าฝ่ายจัดเลี้ยงที่เข้ามาจัดแจงเรื่องงานเลี้ยงตอนเย็นด้วยท่าทีปกติ ทำเหมือนกับว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรไม่ดีทิ้งไว้

 

 

ขอแค่เด็กคนนั้นไม่มองไปที่ใคร ไม่ว่าวิธีไหนเขาก็จะใช้มัน...

 

.

.

.

.

.

.

.

.

 

 

ทุกๆครั้งก่อนที่ฤดูการท่องเที่ยวครั้งใหม่จะเวียนมาถึง โรงแรมทั้งน้อยใหญ่ในย่านนี้ต่างก็ต้องเข้ามาประชุมหารือกันเพื่อหาแนวทางในการบริการลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มากเสียจนแทบรับรองไม่ไหว แล้วก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่งานนี้ถูกจัดขึ้น ณ โรงแรมที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดอย่าง The Pilot ที่เป็นหนึ่งทั้งในด้านขนาดและความสะดวกสบาย อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่มีเครืออยู่ในทุกเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดใหญ่ๆของประเทศ

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถลำพองในความยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ตลอด เพราะในย่านบางแสนแห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งโรงแรมที่มีความสามารถด้านการบริการโดดเด่น จนสามารถแย่งลูกค้าไปจากที่นี่ได้เสมอ

 

 

“ว่าไงไอ้คณิต ทำหน้าเหมือนจะตายเลยนะ”

 

 

‘เมษา’ หรือ ‘เมษ’ ทายาทหนุ่มไฟแรงแห่งโรงแรม The Pilot เดินเข้ามาตบบ่าของคณิตผู้เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งเบาๆก่อนจะยกแก้วไวน์ในมือของตนมาชนกับอีกฝ่ายด้วยท่าทางสบายๆผิดกับบรรยากาศของงาน

 

 

“ก็ใกล้จะตายจริงๆล่ะวะ ประชุมติดกันหกชั่วโมง มึงบ้าป่ะเนี่ย”

 

 

ร่างสูงของคณิตบ่นไปพลางกระดกไวน์เข้าปากไปพลาง โดยไม่คอยละเมียดรสของมันอย่างเคย

 

 

“ก็ช่วยไม่ได้ พวกโรงแรมเล็กๆเขาก็ไม่อยากเสียผลประโยชน์ของตัวเองเหมือนกัน มึงกับกูเลยต้องเหนื่อยแบบนี้ไง เอาน่า มันก็เป็นแบบนี้ทุกปีแหละ”

 

 

“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับกูเลย กี่ปีๆแขกกูก็เท่าเดิม”

 

 

“นั่นก็เพราะมึงไม่ยอมขยายโรงแรมเพิ่มเองต่างหากเลยรับรองแขกได้เท่านั้น แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะชนะกูได้ล่ะวะ”

 

 

“ขอบายว่ะ เรื่องแพ้ชนะกูไม่สน ตอนนี้กูสนแค่ของกินตรงหน้าเท่านั้นแหละ แม่ง หิวฉิบหาย”  ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินไปตักอาหารที่จัดไว้เป็นบุปเฟ่ต์มาใส่จานของตัวเอง โดยไม่คิดรักษามาดใดๆ เขาถือมันไปนั่งกินที่โต๊ะซึ่งมีอิงที่มาในงานครั้งนี้ด้วยนั่งรออยู่โดยไม่สนใจว่าคู่แข่งอย่างเมษาจะตามมานั่งด้วยเช่นกัน

 

 

“เรื่องบูธงานเทศกาลก็เอาตามที่ที่ประชุมว่า ส่วนโปรโมชั่นเดี๋ยวค่อยกลับไปคุยกับทุกฝ่ายอีกที”

 

 

“โอเค แล้วนี่แกจะไปเปลี่ยนชุดเลยไหม เลขาแกเตรียมชุดมาให้แล้ว”

 

 

หญิงสาวพูดถึงชุดสูทที่เตรียมไว้สำหรับงานเลี้ยงรับรองที่จะจัดขึ้นในคืนนี้ เธอรู้ดีว่าคนอย่างคณิตคงไม่สนใจแต่เพราะว่ามันเป็นงานเธอจึงต้องมาตามย้ำร่างสูงแทนเลขาสาวหน้าใหม่ ที่ไม่กล้าตื้อต่อเมื่อโดนปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง

 

 

“บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าไม่อยากไป อิงไปคนเดียวก็พอแล้ว”

 

 

“แต่นี่โรงแรมของแกนะ จริงจังหน่อยสิ”

 

 

“ก็จริงจังอยู่ แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยมาก อยากกลับไปนอนพัก”

 

 

ร่างสูงพูดพลางนวดหัวตาเบาๆเมื่อความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันเริ่มย้อนกลับมาโจมตีเขาเข้าอย่างจังจนแทบลืมตาไม่ขึ้น

 

 

“ขึ้นไปนอนบนห้องกูก่อนก็ได้ เดี๋ยวงานเริ่มแล้วค่อยลงมา”

 

 

เมษาที่ฟังอยู่เสนอทางออกให้เพราะตัวเองก็ไม่อยากจะอยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้โดยไร้เพื่อนดวลเหล้าอย่างคณิตเหมือนกัน อิงอรที่ได้ยินดังนั้นก็รีบบอกเห็นด้วยกับข้อเสนอของเจ้าของโรงแรมหนุ่มเป็นการใหญ่

 

 

“เออๆก็ได้วะ เหล้าออกมาเมื่อไหร่ค่อยไปตามกูแล้วกัน”

 

 

“งั้นเดี๋ยวกูพาไป จะขึ้นไปเปลี่ยนชุดด้วย”

 

 

“โอเค เดี๋ยวกูไม่เอาชุดก่อน”

 

 

คณิตตอบตกลงก่อนจะแยกไปเอาชุดสูทสำหรับงานกลางคืนที่เลขาของตนเตรียมไว้ให้แล้วบอกให้อีกฝ่ายกลับไปก่อนได้เลยเพราะดูท่าแล้วคืนนี้เมษาคงไม่ปล่อยให้เขากลับบ้านไปง่ายๆ พอได้ชุดมาเป็นที่เรียบร้อยชายหนุ่มก็รีบเดินไปหาเมษาที่กำลังยืนรออยู่ที่ลิฟต์ตัวกลาง ในขณะที่อิงอรแยกตัวมาคุยกับตัวแทนจากโรงแรมอื่นแทนในส่วนของคณิต

 

 

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม  งั้นไปกันเหอะ กูเหนียวตัวจะแย่”

 

 

หนุ่มหล่อทั้งสองพากันเดินเข้าไปข้างในลิฟต์ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองมาอย่างสนใจ แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาใช้ลิฟต์ร่วมกับทั้งคู่ ยกเว้นแต่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่รีบวิ่งมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าประตูลิฟต์นั้นใกล้จะปิดลง

 

 

“รอด้วยครับ!”

 

 

ปูนที่กำลังจะเข้างานสายตะโกนบอกคนในลิฟต์ด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ ร่างเล็กรีบแทรกตัวเข้าไปด้านในทันทีที่ประตูเหล็กบานนั้นเปิดออกอีกครั้งก่อนจะหันไปเพื่อบอกขอบคุณคนที่ช่วยกดลิฟต์ให้ แต่พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้น ปากของเขาก็หยุดไปซะดื้อๆ

 

 

“เธอ!”

 

 

“...!!!!"

 

 

กลายเป็นคณิตที่ร้องทักขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เขาช่วยกดลิฟต์ให้คือเจ้าเด็กสิ้นคิดที่ชายหนุ่มเผลอไปนอนด้วยเมื่อหลายวันก่อน เช่นเดียวกับปูนที่จำชายตรงหน้าได้ในทันที ใบหน้าน่ารักที่ดึงดูดความสนใจของคณิตได้ตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มออกอาการบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ จนเมษาที่ยืนอยู่ในลิฟต์ด้วยมองทั้งคู่สลับกันไปมาด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม

 

 

“ใครวะมึง? คนรู้จักหรอ”

 

 

“ฮะ? อะ เออ เปล่า...”

 

 

หนุ่มหล่อเจ้าของดวงตาเจ้าเสน่ห์ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆเมื่อไม่รู้ว่าจะอธิบายสถานะของพวกเขาทั้งสองว่ายังไง คนรู้จักก็ไม่ใช่ แต่จะให้บอกว่าเป็นเด็กที่เคยนอนด้วยก็ยิ่งไม่ได้อีก เพราะต่อให้น่ารักยังไง มันก็เด็กผู้ชายชัดๆ!

 

 

ปูนที่กำลังพยายามห้ามตัวเองไม่ให้เข้าไปตั้นหน้าไอ้แก่ที่ชักดาบค่าตัวของเขาไปหลายวันก่อนยืนมองอาการอ้ำอึ้งของคณิตและชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆกันด้วยความสนใจ รอยยิ้มเล็กๆที่ดูร้ายกาจผุดขึ้น เมื่อโอกาสที่จะได้ระบายความแค้นใจที่เด็กหนุ่มต้องแบกรับมาหลายวันโดยมีหลักฐานคือถุงยางอนามัยของอีกฝ่ายที่เขาพกติดตัวไว้ด้วยตลอดจะมาถึงไวกว่าที่คิด

 

 

 

“ป๋าฮะ! จะมาที่นี่ทำไมไม่บอกปูนก่อนล่ะฮะ!”

 

 

“เฮ้ย!!” คณิตร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆคนที่เพิ่งทำหน้าราวกับจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ กลับเปลี่ยนทีท่าเป็นตัดพ้อน้อยใจแล้วพุ่งเข้ามากอดเขาไว้ทั้งตัว

 

 

“มาก็ไม่บอก โทรไปก็ไม่รับ ปูนงอนป๋าแล้วนะรู้ไหม”

 

 

ใบหน้าขาวใสที่แดงระเรื่อเพราะไอแดดซุกเข้าที่อกหนาแล้วถูไปมาอย่างออดอ้อนขัดกับคำพูดที่เอ่ยออกมาลิบลับ แต่มันกลับไม่สำคัญเลยสักนิดเมื่อเทียบกับความเข้าใจผิดที่ร่างเล็กตั้งใจสร้างขึ้น

 

 

“ป๋า???” เมษาทวนคำพูดของเด็กหนุ่มที่แทบจะรวมร่างกับเพื่อนของเขาอยู่แล้วอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าคณิตเพื่อขอคำอธิบาย

 

 

“ไม่ใช่นะเว้ยไอ้เมษ ไอ้เด็กนี่มัน...!”

 

 

“นี่ใครหรอฮะป๋า เพื่อนป๋าหรอ สวัสดีฮะ ผมชื่อปูนนะฮะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

 

 

เด็กหนุ่มรีบชิงพูดก่อนที่คณิตจะได้อธิบาย มือเล็กยื่นไปตรงหน้าเมษาที่จับมือกลับมาทั้งที่ยังงงๆ แต่ดูเหมือนคนที่ทั้งงงและพูดไม่ออกมากที่สุดจะกลายเป็นร่างสูงที่ยืนเหวออยู่ข้างๆ

 

 

“เออ...พี่ชื่อเมษาครับ เป็นเพื่อนไอ้คณิต แล้วน้องปูน??”

 

 

“ปูนเป็น...อ่า ขอโทษนะฮะ ป๋าเคยสั่งว่าห้ามบอกใครว่าเราเป็นอะไรกัน ใช่ไหมฮะ...ป๋า”

 

 

ร่างเล็กแสร้างทำเป็นหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดเน้นคำว่าป๋าในท้ายประโยคพร้อมกับหันไปมองคณิตด้วยสายตาหวานเชื่อม เมษาที่เริ่มเข้าใจ(ผิด)ได้ลางๆมองทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างอึ้งๆ จนคณิตที่แทบจะจับปูนมาขย้ำด้วยความโมโหรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพันละวัน

 

 

“ไม่...อื้อ!!!”

 

 

แต่ทันทีที่ลิฟต์เคลื่อนมาถึงชั้นที่ปูนทำงานอยู่ เด็กหนุ่มก็รีบล้วงเอากระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาแล้วหยิบถุงยางอนามัยที่คณิตเคยให้ไว้ยัดเข้าไปในปากของร่างสูงที่กำลังจะพูดแก้ตัวกับเพื่อน ก่อนจะกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้าหาตัวจนใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกคน

 

 

“ปูนไปทำงานก่อนนะฮะ ส่วนนี่ที่ป๋าลืมทิ้งไว้คราวก่อน...ปูนมาเอาคืน”

 

 

ปูนแกล้งทำเป็นพูดผิดก่อนจะหอมแก้มของชายหนุ่มที่เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วแรงๆ ร่างเล็กหันมาส่งยิ้มหวานให้เมษาอีกครั้งแล้วเดินออกจากลิฟต์พร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างสบายใจ เด็กหนุ่มยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคนดังทะลุออกมาจากลิฟต์สีเงินที่เคลื่อนไปถึงชั้นอื่นแล้ว

 

 

“ไอ้เด็กเวร มึงเจอดีแน่!!!!!”

 

 

เด็กหนุ่มหยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปมองพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่มีใครยืนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของชายคนที่ครั้งหนึ่งเคยดูถูกเขาไว้อย่างร้ายกาจ

 

 

“ก็บอกแล้ว ว่าผมมาเอาคืน”

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!!

เป็นตอนที่สั้นและปวงมาก 555555 ตอนหน้าบอกได้เลยว่าน้องปูน ชิพ lost แน่ๆ  :hao3: :katai1:

ขอบคุณทุกเม้นทุกโหวตนะคับ  :katai2-1:


 

 

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #19 เมื่อ18-11-2015 21:12:46 »

นี่น้องปูนหรือคริสหอวัง :hao7: ปังและสตรองมากกกกก

แต่ถ้ารู้ว่าใครเป็นใครจะไม่แย่เอาหรอ พี่คณิตที่ตั้งใจจะขอโทษก็น่าจะโกรธแล้วด้วยตอนนี้ :katai1:

ชิบหายจริงๆด้วยตอนหน้า :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-11-2015 21:12:46 »





ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #20 เมื่อ19-11-2015 18:57:34 »

ตามมาจากรัตติกาลจ้า เรื่องนั้นไม่ทันเม้นเรื่องนี้รีบสมัครยูสมาเม้นเลย ทีมปูนๆ :L1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #21 เมื่อ19-11-2015 19:20:48 »

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #22 เมื่อ19-11-2015 19:33:33 »

แหม ไปแกล้งเขาไว้เดี๋ยวจะโดนเขาเอาคืนนะ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #3][181158]
«ตอบ #23 เมื่อ19-11-2015 21:15:59 »

ทำแบบนี้เดี่ยวก็โดนเอาค่นหรอกิแทนที่จะได้คุยกันดีๆ

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #24 เมื่อ21-11-2015 17:16:46 »

 

แตกที่ 4

…หนีไม่พ้น...

 





เมษามองภาพเพื่อนของตนเอาแต่บ้วนปากด้วยน้ำยาของเขาเสียจนมันพร่องไปค่อนขวด เสื้อผ้าราคาแพงของคณิตที่กำลังหัวเสียเปียกชุ่มไปหมดแต่เจ้าของกลับไม่สนใจมันเลยสักนิด เพราะในหัวของชายหนุ่มมีแต่ความโมโหเท่านั้น



“มึงจะบ้วนให้ปากพังไปเลยรึไงวะ”



“เออ! แต่นอกจากปากกูแล้ว ไอ้เด็กนั่นต้องพังด้วย!”



ชายหนุ่มเจ้าของผิวแทนเข้มหัวเราะดังออกมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงภาพของเด็กหนุ่มตัวเล็กที่ใจกล้าหยิบเอาของต่ำอย่างถุงยางอนามัยมายัดใส่ปากหนุ่มหล่อมาดดีอย่างคณิตที่ไม่เคยถูกใครกล้าทำตัวแบบนี้ด้วยมาก่อน



“แล้วตกลงมึงกับเด็กนั่นนี่อะไรยังไงวะ ดูท่าแล้วจะไม่เป็นแบบที่น้องเขาบอกใช่ไหม หรือว่าใช่?”



ร่างสูงหันไปมองหน้าเมษาที่ทำหน้าตาราวกับว่ากำลังสนุกสุดๆอยู่ด้วยความไม่ชอบใจ เขายอมรับเลยว่าหมอนี่เป็นเพื่อนที่ดีแต่หนึ่งเหตุผลที่ทำให้คณิตรู้สึกไม่ลงรอยกับเมษาอยู่ลึกๆก็เป็นเพราะนิสัยชอบเห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลกของมันนั่นแหละ



“ใช่ก็บ้าแล้ว หน้ากูเหมือนพวกชอบเลี้ยงเด็กรึไง”



“ฮ่าๆ ของแบบนี้มันดูกันที่ภายนอกไม่ได้นี่ ขนาดมึงที่ว่าแมนๆสุดท้ายยังไปเอาเด็กผู้ชายได้เลย”



คณิตที่กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดปากของตัวเองหยุดชะงักไปก่อนจะจ้องไปที่เขม็ง เมษาเองพอยิ่งเห็นท่าทางของเพื่อนก็ยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่เขาเข้าใจนั้นถูกต้อง



“เอากันมาจริงๆสินะ”



“กูเปล่า”



“หึ ปฏิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วเว้ย ถ้ามึงไม่ได้นอนกับน้องเขามาจริงๆ มึงก็น่าจะพูดว่า ‘หน้ากูเหมือนพวกชอบผู้ชายรึไง’ มากกว่า”



“สัด ฉลาดกว่าหมาที่บ้านกูอีกนะมึง”



เมษาไม่ได้ถือสาคำจิกกัดของคณิตแต่อย่างใด เขาหัวเราะเบาๆพลางเดินไปหยิบเสื้อตัวใหม่มาให้เพื่อนใช้เปลี่ยนแทนตัวเก่าที่เปียกชุ่ม คณิตรับมันมาแต่โดยดีแล้วเปลี่ยนทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกหนาวนิดๆ



“กูจะไม่ถามแล้วกันว่ามึงไปได้เขามายังไง แต่ที่กูอยากรู้คือทำไมน้องเขาถึงทำกับมึงแบบนี้วะ”



“...ไม่มีอะไรมาก แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”



“เข้าใจผิด?”



“เออ ไม่ต้องซักอะไรแล้ว กูไม่อยากนึกให้อารมณ์เสีย” ร่างสูงรีบตัดบทเพราะไม่อยากถูกต้อนในต้องพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูด คณิตเดินไปหยิบข้าวของของตัวเองรวมถึงชุดสูทที่ยังคงถูกแขวนไว้อย่างดีมาถือไว้




“มึงจะถือของไปไหน”



“ก็กลับบ้านไง หมดอารมณ์แดกเหล้าแล้ว”



“อ้าว ทิ้งกันเฉยเลยหรอวะ”



“เออ ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นหมาหง่อยไอ้สัด ไว้กูจะมาเลี้ยงที่หลัง”



เมษาถอนหายใจแล้วยอมพยักหน้ารับทั้งที่ในใจยังนึกเสียดาย ทั้งเรื่องเพื่อนดวลเหล้าและเรื่องของเด็กคนนั้นที่เขายังคงคาใจอยู่ แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ยอมให้คณิตเดินออกจากห้องพักส่วนตัวของเขาไปแต่โดยดี



คณิตก้าวเข้ามาในลิฟต์ตัวเดิมด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวกว่าครั้งแรก ชายหนุ่มเผลอกำมันแน่นด้วยความคับแค้นใจ ทั้งที่เคยตั้งใจไว้แล้วว่าจะยอมขอโทษเด็กนั้นหากมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่คณิตจะได้ทำอะไรเขากลับถูกอีกฝ่ายแสดงพฤติกรรมแย่ๆใส่ในที่สาธารณะ ยังถือว่าโชคดีที่ในตอนนั้นมีเพียงแค่เมษาที่อยู่ตรงนั้นด้วย เพราะหากเป็นคนอื่นทั้งตัวเขาเองและปูนคงเสียหายจากการกระทำที่เกิดจากอารมณ์เพียงชั่ววูบนั่นแน่ๆ




ชายหนุ่มก้าวออกมาจากลิฟต์แล้วเดินตรงไปที่รถของตนโดยไม่ได้เข้าไปบอกกล่าวเพื่อนร่วมงานสาวอย่างอิงอรแต่อย่างใด เขาโยนถุงสูทเข้าไปในรถลวกๆก่อนจะสตาร์ทรถออกไปทันทีโดยมีจุดหมายอยู่ที่บ้านซึ่งเขาคงไม่พ้นโดนบิดาดุแน่ๆที่แอบหนีกลับมาก่อนทั้งที่งานเลี้ยงนั่นก็ถือเป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งในงานของเขา



“จะว่าไป เด็กนั่นมันบอกว่ามาทำงานอย่างนั้นหรอ...”



.

.

.

.

.

.



.

.

.



บรรดาเด็กเสิร์ฟทั้งหลายที่อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยงพิเศษในค่ำคืนนี้ล้วนแต่หันมามองบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างปูนที่กำลังฮัมเพลงเบาๆพลางเช็ดแก้วไปด้วยราวกับว่ามันเป็นของแปลก คนที่ปกติเอาแต่ทำท่าทางเงียบขรึมอมยิ้มน้อยๆตลอดการทำงานแม้จะรู้สึกได้ถึงสายตามากมายจับจ้องมาที่ตนแต่ร่างเล็กกลับไม่ถือสาอะไรใครทั้งนั้น เพราะความหงุดหงิดใจทั้งหมดเขาได้เทมันใส่ใครบางคนไปด้วยวิธีที่สะใจที่สุดแล้ว



“หยุดทำตัวน่าขนลุกสักที มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย”



บอยที่ทนกับบรรยากาศแปลกๆในบาร์ไม่ไหวเดินมาถามปูนด้วยสีหน้าติดจะรำคาญ แต่เด็กหนุ่มที่ไม่เคยเกรงกลัวชายผู้เป็นทั้งหัวหน้าและรุ่นพี่ที่รู้จักกันดีคนนี้ก็ยังคงฮัมเพลงต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะวางแก้วใบสุดท้ายลงบนชั้น



“เห็นแก่เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมจะทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดหยาบคายของพี่แล้วกันนะ”



“กรุณาได้ยินมันเถอะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน”



ปูนจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสียที่บอยไม่รับมุขเอาซะเลย แต่ก็ยังคงยิ้มได้เมื่อนึกถึงสีหน้าเหวอๆของคณิตขึ้นมา



“วันนี้เลิกแล้วอย่าเพิ่งกลับล่ะ เดี๋ยวพวกผู้จัดการเขาจะเรียกพนักงานประจำมาคุยกันเรื่องแคมเปญใหม่ของเดือนหน้า”



“โห้ย มาเรียกคุยอะไรตอนนั้นวะ โดดได้ไหมอะ”




รอยยิ้มของปูนหายไปทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะกว่างานเลี้ยงคืนนี้จะเลิกก็ดึกมากแล้ว




“ไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องมาบ่นมาก อย่าลืมว่ากูยังไม่ได้ทำโทษเรื่องที่มึงมาสายแล้วดันไปใช้ลิฟต์ของแขกเข้าทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตอีก”



“ก็สายแล้วนี่พี่ จะให้ผมวิ่งอ้อมไม่เข้าทางด้านหลังก็ใช่เรื่อง”



ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีวี่แววของความรู้สึกผิด หนำซ้ำเขายังรู้สึกดีด้วยซ้ำที่วันนี้เขาตัดสินใจใช้ลิฟต์ตัวนั้นแทนลิฟต์ของพนักงานที่ใช้เป็นประจำ



“แต่กฎก็คือกฎ ถ้าเตรียมของเรียบร้อยแล้วก็ช่วยเรียกสติของมึงกลับมาด้วย คงไม่ต้องให้กูบอกนะว่าถ้ามึงยังไม่หยุดจะเจอกับอะไร”



บอยพูดทิ้งไว้ก่อนจะเดินไปเช็คความเรียบร้อยตรงอื่นขณะที่เวลาเริ่มงานเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที ปูนเบ้ปากอย่างหมั่นไส้แต่ก็ยอมทำตามนั้น เขาตรวจกูจำนวนเครื่องดื่มและมิกเซอร์ที่ต้องใช้อย่างถี่ถ้วนแต่ในระหว่างที่เขากำลังนับจำนวนแก้วไวน์ที่น่าจะต้องใช้เยอะเป็นพิเศษนั้นเอง ร่างเล็กก็สังเกตเห็นเงาของคนบางคนกำลังยืนซ้อนอยู่ตรงหน้า



“ปูน...”



พลัสในชุดเครื่องแบบที่ไม่ได้สวมมานานเรียกปูนด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความประหม่าและความกระดากใจ ปูนเองพอรู้ว่าเป็นใครก็เปลี่ยนเป็นท่าทางนิ่งๆพร้อมกับเปรยตามองไปยังบอยที่ยืนมองพวกเขาทั้งคู่มาจากที่ไกลๆด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว



“ไง กลับมาทำงานได้แล้วหรอมึง”



“อืม...เราเอาเงินมาคืน”



เงินห้าพันบาทที่ร่างเล็กเคยยัดเยียดให้ไว้ถูกยื่นกลับไปสู่ผู้เป็นเจ้าของอีกครั้ง แต่ปูนกลับทำเพียงมองมันเฉยๆโดยไม่คิดจะยื่นมือออกไปรับ



“กูให้มึงแล้วก็เอาไปสิ”



“แต่เราไม่อยาก...”



“ถ้าไม่อยากได้ก็ให้คนอื่น ไม่ก็ทิ้งๆไปซะ ความจริงมันก็น่าจะทำอย่างนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วนิ...เงินสกปรกไม่ใช่รึไง”



ปูนพูดประชดออกมาไม่ใช่เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจแต่เป็นการตอกย้ำถึงสิ่งที่เขากระทำเท่านั้น สีหน้าของพลัสแย่ลงทันทีจนบอยที่มองอยู่สังเกตได้แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่ได้เดินเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด



“ทำไมปูนถึงทำแบบนี้...มันไม่ดีนะ”



“ดีสิ ดีจะได้ มึงทำงานงกๆตั้งหลายชั่วโมงได้เงินแค่ห้าร้อย แต่กูแค่ลงไปนอนให้เขาฟัดนิดๆหน่อยๆได้มาแล้วตั้งห้าพัน หึ มันจะไม่ดีได้ยังไง”



“เราไม่ได้หมายถึงเรื่องเงิน เราแค่จะบอกว่ามันไม่ถูกต้อง”



“แล้วอะไรล่ะที่ว่าไม่ถูกต้อง”



เด็กหนุ่มนิ่งไปเมื่อถูกร่างเล็กถามย้อนมาแบบนั้น แววตาที่แข็งกร้าวของปูนไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมา กลับกันมันดูเรียบนิ่งเสียจนคาดเดาอะไรไม่ได้



“มัน...ผิดศีลธรรม ปูนอาจจะไปผิดลูกผิดเมียเขาอยู่ก็ได้”



“งั้นถ้าคนพวกนั้นไม่มีลูกมีเมียที่ไหน กูก็ขายตัวให้พวกมันได้สินะ”



คำพูดของปูนหยุดปากของพลัสไว้ได้อีกครั้ง บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มเยาะคนที่ตายเพราะคำพูดของตัวเองโดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่เขาพูดกับพลัสเมื่อครู่จะเข้าหูใครหรือไม่ ก่อนที่เขาจะหยิบเงินที่ร่างบางถือไว้เอง



“ศีลธรรมที่มึงว่ามันก็บอบบางเหมือนเงินในมือกูนี่แหละ ดูสวยงามและมีค่าแต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่กระดาษแผ่นเดียวที่ถูกทำลายได้ง่ายๆ...ถ้ามึงคิดว่าสิ่งที่มึงคิดมันถูกต้องก็รักษามันไว้ให้ดีแล้วกัน”



ปูนยัดเงินพวกนั้นกลับไปในกระเป๋ากางเกงของพลัสที่ไม่อาจพูดอะไรกลับมาได้เลย ปูนหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปในห้องพักของตัวเองเพื่อรอเวลาที่งานจะเริ่มอีกครั้ง แต่เขาก็หันกลับมาหาร่างบางก่อนเมื่อนึกอะไรขึ้นได้



“อ่อ แต่ไม่ต้องห่วงไปหรอก ถึงกูจะนอนกับพวกมีลูกมีเมียอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพราะการเป็นเมียน้อยคนอื่นมันไม่ใช่ทางกูว่ะ”



ร่างเล็กบอกออกมาด้วยท่าทางทีเล่นที่จริงแต่กลับแฝงความเจ็บปวดและจริงจังไว้ในนั้น ภาพและเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เคยพบพานย้อนกลับมาให้เขาเจ็บแปลบในหัวใจแต่ก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเวลาเท่านั้น




ปูนเข้าไปนั่งสติอารมณ์ตัวเองอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินออกไปทำหน้าที่ของตนทันทีที่งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ด้วยความที่ลูกค้าส่วนใหญ่คือพวกผู้บริหารและครอบครัวของโรงแรมในย่านนี้ทำให้เด็กหนุ่มไม่ต้องชงเครื่องดื่มแรงๆเหมือนเช่นทุกครั้ง ส่วนใหญ่เครื่องดื่มที่เขาจะต้องทำก็เป็นพวกม็อกเทลที่ไม่มีแอลกอฮอล์สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายและไวน์รสเยี่ยมสำหรับคนที่พอมีอายุหน่อยเท่านั้น



“ขอบลูแก้วนึงครับ”




เสียงทุ้มๆของใครบางคนดังขึ้นขณะที่ปูนกำลังเดินไปหยิบไวน์ขวดใหม่ออกมา เขาขานรับโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะหยิบเอาวิสกี้ราคาแพงมารินใส่แก้วให้โดยไม่ลืมเสิร์ฟพร้อมกับน้ำแร่เย็นๆอีกแก้วหนึ่ง



“นี่ครับ”



“ขอบคุณนะครับ...น้องปูน”



เด็กหนุ่มชะงักไปทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเขาออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบเข้ากับชายหนุ่มคนที่เป็นพยานเพียงหนึ่งเดียวที่เห็นว่าเขาทำเรื่องร้ายกาจอะไรลงกับไปคณิตผู้เป็นแขกของที่นี่



“คุณ...”



“เมษครับ ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงลืมชื่อพี่ซะแล้วหรอ”



เมษาพูดแซวเด็กหนุ่มออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงโดยที่เก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใน เขายกน้ำแร่ที่ปูนเตรียมไว้ให้ขึ้นมาดื่มเพื่อล้างปากก่อนจะจิบวิสกี้รสเยี่ยมตามลงไปโดยที่ไม่ละสายตาไปจากร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย



“ขอโทษทีครับ พอดีตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่”



ปูนตอบไปตรงๆโดยที่ยังรักษารอยยิ้มไว้ได้แม้ข้างในจะกำลังรู้สึกร้อนรน เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้สอดส่ายสายตามองหาคนที่ตนไปแกล้งไว้ แต่คนที่อายุมากกว่ากลับมองอาการหลุกหลิกเล็กๆนั่นออกอยู่ดี



“ไม่ต้องมองหาหรอกครับ คณิตมันกลับไปแล้ว”




ร่างเล็กเผลอถอนหายใจออกมาจนทำให้เมษาหลุดขำไปด้วย



“ฮ่าๆๆ กลัวมันมาเจอขนาดนั้นเลยหรอ”



“ปะ เปล่าครับ” 



ปูนพยายามปฏิเสธกลับไป แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เชื่อน้ำคำของเขาเลยแม้แต่น้อย เมษาวางแก้วในมือลงก่อนจะเท้าคางมองปูนด้วยสีหน้ายิ้มๆ



“ไม่เป็นไรน่า พี่เข้าใจ เพื่อนพี่ตอนโมโหมันน่ากลัวน้อยเสียที่ไหน”



“แล้วนี่พี่มาทำอะไรที่นี่ครับ”



เด็กหนุ่มยิ้มรับก่อนจะถามกลับไปเมื่อดูท่าแล้วเมษาจะไม่ได้โกรธเคืองอะไรที่เขาแกล้งเพื่อนของชายหนุ่มไปแบบนั้นบวกกับความสงสัยที่เห็นชายหนุ่มผิวเข้มคนนี้มาอยู่ที่งานเลี้ยงซึ่งสงวนไว้ให้แต่แขกพิเศษเท่านั้น



“พี่ก็เป็นพนักงานของโรงแรมแหละครับ พอดีเห็นเรายืนชงเหล้าอยู่เลยเข้ามาคุยด้วย พี่ไม่กวนใช่ไหม”



“ก็กวนนิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นไร ตราบใดที่ผมไม่โดนดุน่ะนะ”



เมษาหัวเราะน้อยๆก่อนจะชวนปูนคุยไปเรื่อยๆโดยที่ร่างเล็กก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยจากการพูดคุยกันทำให้ปูนนั้นรู้ว่าคณิตไม่ได้บอกเพื่อนอย่างเมษาว่าเขาเคยทำอะไรไว้ ซึ่งมันออกจะผิดจากที่เขาคาดการณ์ไว้สักหน่อย



“เขาบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรอครับ”



“อืม แต่ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อเท่าไหร่เลย”



ชายหนุ่มพูดทิ้งไว้แค่นั้นโดยที่ไม่ได้คาดคั้นต่อและนั่นก็เป็นสิ่งที่ร่างเล็กต้องการ เพราะต่อให้เขาไม่แคร์กับสิ่งที่ตัวเองทำแค่ไหนแต่นั่นก็ไม่ได้รวมถึงผลที่อาจจะตามมาเกี่ยวกับหน้าที่การงานของเขาด้วย



“แล้วพี่เมษไม่โกรธหรอครับ ที่ผมทำกับเพื่อนพี่แบบนั้น”



“ฮ่าๆไม่โกรธหรอกครับ ตราบใดที่เราไม่เอาถุงยางมายัดใส่ปากพี่”



ร่างเล็กเผลอเม้มปากแน่นเมื่อถูกเมษจ้องมาตรงๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มให้อย่างเดิม ปูนรู้สึกได้ว่าเมษาเป็นคนที่ตัวเองไม่ถนัดรับมือด้วยสักเท่าไหร่ เพราะภายใต้รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมักมอบให้กับใครต่อใครง่ายๆ เด็กหนุ่มรู้สึกว่ามันกลับมีบางสิ่งบางอย่างถูกซ่อนไว้แล้วมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย



“แต่ก็นะ คงไม่มีใครทำตัวแบบนั้นโดยไม่มีเหตุผลหรอกใช่ไหม”



“ครับ ขอโทษนะครับที่ทำตัวไม่ดีไป”



ปูนบอกขอโทษออกมาอย่างเสียไม่ได้ แม้ว่าคนที่เขาทำไม่ดีด้วยจะเป็นคณิตไม่ใช่เมษาก็ตาม



“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่อย่าไปทำแบบนี้ต่อหน้าแขกคนอื่นอีกแล้วก็...ลิฟต์ของพนักงานอยู่ด้านหลังนะครับน้องปูน”



“คุณเมษาครับ รบกวนเชิญทางนี้หน่อย”



ยังไม่ทันที่ปูนจะได้ถามอะไรออกไป กัปตันอย่างบอยก็เดินเข้ามาหาแล้วพูดกับเมษาด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อมกว่าเคย ร่างเล็กมองทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ จนทำเอาชายหนุ่มที่ปิดบังสถานะของตัวเองไว้ตลอดขำออกมานิดๆ



“แล้วเจอกันนะครับน้องปูน ขอบคุณมากที่ทำให้พี่นึกอะไรดีๆออก”



เมษาเดินจากไปโดยทิ้งคำถามมากมายไว้ในหัวของเขา บอยโค้งให้ชายหนุ่มคนนั้นเล็กๆก่อนจะหันมามองปูนที่ยังคงทำหน้าเหร่อหราแล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ทำให้ปูนแทบอยากจะเอาหัวโขกเคาน์เตอร์แรงๆ



“มึงไปรู้จักคุณเมษา เจ้าของโรงแรมตั้งแต่ตอนไหน”



“อะไรนะ!!?”



o22(มีต่อเม้นต์ล่าง) o22

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #25 เมื่อ21-11-2015 17:17:25 »



ปูนทีกำลังนั่งอยู่บนรถตู้มองออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดถึง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน หลังจากที่เขาโดนบอยดุไปเกือบสิบนาทีเพราะจู่ๆดันตะโกนเสียงดังขึ้นมาจนแขกตกใจกันหมด พวกพนักงานประจำอย่างเขาก็ต้องเข้าไปนั่งฟังการมอบหมายงานด่วนโดยมีคนที่ทำให้เขาต้องโดนดุอย่างเมษานั่งยิ้มชอบใจอยู่ตรงหัวโต๊ะ



‘ผมจะให้คุณปานภัทร์เป็นตัวแทนบาร์เทนเดอร์ ไปออกบูทที่กรุงเทพ’



หลังจากเมษาเอ่ยความต้องการของตัวเองออกมานั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบแม้แต่ปูนผู้ซึ่งถูกพาดพิงก็เช่นกัน แน่ล่ะ เขาเพิ่งย้ายเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นานแต่กลับถูกเลือกให้เป็นตัวแทนไปทำเรื่องสำคัญทั้งที่มีบาร์เทนเดอร์คนอื่นอีกมากที่ทั้งมีฝีมือและมีประสบการณ์มากกว่าเขา แน่นอนว่าการตัดสินใจนั้นมีคนจำนวนหนึ่งคัดค้านรวมถึงบอยที่ให้เหตุผลว่าตัวปูนนั้นยังเด็กและอ่อนประสบการณ์เกินไป แต่เมษากลับบอกว่านั่นก็เป็นหน้าที่ของเจ้านายที่จะต้องเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับลูกจ้างของตัวเอง



“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย มึงทำคนอื่นเครียดไปหมดแล้ว”



บอยที่นั่งอยู่ข้างๆกันพูดขึ้นทั้งที่ยังนั่งหลับตาอยู่ ปูนหันไปมองพนักงานคนอื่นๆที่ต้องมาร่วมจัดบูธในครั้งนี้ด้วยก็ถูกคนพวกนั้นหลบตากันหมดไม่รู้ว่าเป็นเพราะอย่างที่บอยว่า หรือข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของปูนและเมษาผู้เป็นเจ้าของโรงแรมที่กระจายไปทั่วกันแน่



“คนอื่นหรือพี่กันแน่ที่เครียด เสียดายล่ะสิที่เด็กนั่นไม่ได้มาด้วย”



“เลิกพูดจาหาเรื่องกูซะไอ้ปูน แค่นี้ยังหัวเดียวกระเทียมลีบไม่พอรึไง”



ร่างใหญ่พูดขู่ออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนะแต่เด็กหนุ่มรู้ดีว่าถ้าเขายังไม่หยุดพาดพิงถึงพลัส บอยคงจะตัดหางปล่อยวัดเขาจริงๆ ปูนขำเบาๆในลำคอก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง



“ขอให้ผมได้กัดพี่หน่อยเถอะน่า...ไม่งั้นผมคงบ้าตายแน่ๆ”



“...เพราะต้องกลับไปกรุงเทพอย่างนั้นหรอ”



ปูนไม่ตอบคำถามนั้นแต่บอยก็ได้รับมันผ่านความเงียบไปแล้ว



“แอบหนีไปซะจะดีไหมนะ”



“ถ้าหนีอีกคราวนี้จะไปที่ไหน”



“...ไม่รู้สิ คนอย่างผมจะไปไหนรอด”



บอยและปูนไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งรถตู้ของโรงแรมเลี้ยวเข้ามาในศูนย์ประชุมใหญ่ที่มีการจัดเทศกาลส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศอันเป็นที่หมายของพวกเขา ปูนและพนักงานที่ถูกเลือกมาคนอื่นเดินตามบอยผู้เป็นหัวเรือใหญ่เข้าไปในงานซึ่งสามารถสังเกตเห็นบูธของพวกเขาได้โดยง่าย ร่างเล็กถูกบังคับให้เข้าไปทักทายพนักงานจากสาขาอื่นรวมถึงบาร์เทนเดอร์อีกหลายๆคนที่ถูกเรียกตัวมาให้ทำหน้าที่เดียวกับเขา



ปูนที่อยู่ในชุดบาร์เทนเดอร์พิเศษยืนตกลงหน้าที่และคิวรวมกับคนอื่นด้วยสีหน้าที่บ่งบอกความเบื่อหน่าย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จดจำรายละเอียดต่างๆได้ขึ้นใจก่อนที่ร่างเล็กจะถูกจับให้ไปยืนประจำที่อยู่ในบูธม็อกเทลเล็กๆที่จัดไว้เพื่อเชิญชวนลูกค้ากลุ่มผู้หญิงและเด็กที่ไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้



“ปูนทำถึงเที่ยงนะ แล้วเดี๋ยวมาเปลี่ยนกัน”



บาร์เทนเดอร์คนหนึ่งบอกกับปูนที่เริ่มทำงานมือเป็นระวิงแต่ร่างเล็กก็ไม่ว่างแม้แต่จะตอบรับ แค่เริ่มงานได้ไม่นานผู้คนมากมายที่หวังจะได้ดีลพิเศษหรือส่วนลดเพื่อจะได้ไปท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ที่ใกล้จะมาถึงต่างก็หลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะบูธของโรงแรม The Pilot ที่มีชื่อเสียงมานานจึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แล้วยิ่งมีการจัดเครื่องดื่มต่างๆคอยให้บริการผู้ที่สนใจเข้ามาชมยิ่งทำให้พนักงานแต่ละคนแทบจะไม่ได้พักหายใจกันเลย



“ไปพักได้แล้วปูน เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง”



“อืม งั้นเดี๋ยวผมค่อยกลับมาช่วยใหม่แล้วกัน”



ร่างเล็กบอกไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเลาะออกไปทางด้านหลังเพื่อที่จะได้ไม่ต้องฝ่าดงลูกค้าออกไปให้เหนื่อยเปล่า เขาถอนหายใจออกมาหนักๆพลางทุบไปตามขาที่รู้สึกล้าเพราะต้องยืนมานานหลายชั่วโมงแต่พอมองไปรอบๆกลับไม่เห็นเก้าอี้แม้แต่ตัวเดียวให้เขาใช้นั่งพัก



“ไปนั่งข้างนอกแล้วกัน”



พอตัดสินใจได้อย่างนั้นปูนก็เดินไปหยิบข้าวกล่องและน้ำดื่มส่วนของตัวเองมาหนึ่งชุดแล้วเดินออกไปนั่งตรงสนามหญ้าเล็กๆที่มีพวกไม้ประดับปลูกอยู่ใกล้กับลานจอดรถซึ่งตั้งอยู่ไกลจากฮอลล์พอสมควร เด็กหนุ่มกินข้าวที่เย็นจนหมดความอร่อยไปเรื่อยๆพลางซึมซับความวุ่นวายของเมื่อหลวงที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมันมาได้สักพัก แต่สุดท้ายกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นเลยสักนิด



“อ๊ะ ปลิวหมดแล้ว!”



เสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่กระดาษเอสี่มากมายจะถูกพัดโดยลมแรงๆจนปลิวว่อนไปทั้งสนาม ปูนซึ่งได้ยินดังนั้นก็รีบวางข้าวส่วนของตัวเองลงแล้วช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังพยายามเก็บสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเอกสารสำคัญด้วยตัวคนเดียว พวกเขาช่วยกันเก็บไปเรื่อยๆจนกระทั่งกระดาษใบสุดท้ายถูกหยิบขึ้นจากพื้นด้วยมือของปูน ผู้หญิงคนนั้นก็รีบวิ่งเข้ามาหา



“ขอโทษนะคะที่รบกวน แล้วก็ขอบคุณมากเลยที่ช่วยเก็บให้”



“ไม่เป็นไรครับ”



“อ๊ะ น้องเมื่อวันนั้นนี่นา!”



ปูนมองสาวสวนตรงหน้าที่จู่ๆก็คว้ามือของเขาขึ้นมาจับไว้แล้วทำหน้าตาราวกับว่ากำลังมีความสุขสุดๆ เด็กหนุ่มที่ยังคงจำเธอไม่ได้ในคราวแรกค่อยๆพินิจใบหน้าสวยเก๋ที่ถูกตบแต่งมาอย่างดีก่อนจะไล่มายังชุดสูทของผู้หญิงที่มีเข็มกลัดรูปตัว N สีเงินติดไว้ตรงอก



“The Next งั้นหรอ...”



“อื้อ ใช่แล้วจ๊ะ พี่เจอเราตอนที่อยู่กับคณิตในลิฟต์ไง จำได้ไหม”



ร่างเล็กถึงบางอ้อทันทีเมื่อหญิงสาวเตือนความจำให้เขาถึงขนานนั้น และมันก็ขุดความกังวลเล็กๆของปูนขึ้นมาด้วย




“เออ ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนแล้วกัน”



“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปสิ”



แขนของปูนถูกรั้งไว้โดยอิงอรที่ส่งยิ้มมาให้อย่างเคยแต่ร่างเล็กกลับรู้สึกว่ามันดูมีพลังอำนาจแปลกๆแบบที่เขาคิดว่าอย่าไปขัดใจสาวเจ้าจะดีกว่า



“คะ ครับ”



“ฮ่าๆ ไม่ต้องทำท่ากลัวพี่ขนาดนั้นก็ได้ พี่ชื่อิงนะ เราล่ะชื่ออะไร”



“ชื่อปูนครับ”



“ปูนหรอ ชื่อน่ารักสมตัวเลยนะ แล้วนี่น้องปูนมาหาคณิตใช่ไหม”



เด็กหนุ่มเผลอกำมือของตนแน่นเมื่อรู้ว่าคู่กรณีที่ตัวเองเคยไปก่อเรื่องไว้อยู่ในงานนี้ด้วย ปูนรีบส่ายหน้าแรงๆแล้วพยายามขืนตัวออกเล็กน้อยแต่อิงอรกลับไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ



“เปล่าครับ ผมมาทำงานแล้วก็ใกล้จะต้องกลับไปแล้วด้วย”



“ทำงาน? พี่นึกว่าเรายังเรียนอยู่ซะอีก”



อิงอรพูดโดยไม่ได้คิดร้ายอะไรแต่กลายเป็นปูนที่สะอึกไปเอง



“ครับ ผมเป็นบาร์เทนเดอร์ของ The Pilot”



ปูนยิ้มน้อยๆแล้วตอบกลับไปหวังให้อิงอรเลิกสงสัยแล้วปล่อยเขากลับไปทำงานซะที แต่ที่ไหนได้พอได้ยินชื่อโรงแรมนี้ หญิงสาวก็ร้องออกมาดังๆ



“อ้าว งั้นคนที่คุณเมษส่งมาให้ช่วยทางนี้ก็คือปูนน่ะสิ!”



“ฮะ???”



“พอดีฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมพี่เขาติดธุระด่วนเลยมาไม่ได้ แถมไม่มีคนมาแทนด้วย คุณเมษเลยบอกว่าจะให้ยืมคนของเขาไปทำให้”



หญิงสาวอธิบายด้วยท่าทางร่าเริงสุดๆพร้อมกับดึงปูนให้เดินไปพร้อมๆกันแต่พ้นไปเพียงไม่กี่ก้าว เด็กหนุ่มก็ขืนตัวเอาไว้



“เดี๋ยวก่อนครับพี่ คือ...เขาอาจจะหมายถึงคนอื่นที่ไม่ใช่ผมก็ได้”



“คนอื่น?  แสดงว่ามีบาร์เทนเดอร์หลายคนหรอจ๊ะ แล้วคนที่ชื่อปานภัทร์นี่คือใครหรอ ปูนพอจะรู้ไหม”



พอได้ยินชื่อจริงของตนออกมาจากปากอิงอร ร่างเล็กก็ถึงกับพูดไม่ออก หญิงสาวพอเห็นท่าทางอึกอักของเด็กหนุ่มที่เธอเข้าใจว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับคณิตก็เลยหวังดี ต่อสายถึงนายใหญ่แห่งโรงแรมคู่แข็งเพื่อสอบถามให้ชัดเจน



“คุณเมษนี่อิงอรนะคะ...”



หญิงสาวถามไถ่เมษาโดยมีปูนยืนฟังอยู่ด้วย ร่างเล็กภาวนาให้ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่สุดท้ายสิ่งที่ผิดก็คงเป็นการที่เขามีเมษาเป็นเจ้านายนั่นแหละ



“แทนการลงโทษเรื่องวันนั้น ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ”



“ครับ...”



ปูนที่ใช้โทรศัพท์ของอิงอรคุยกับเมษายอมตบปากรับคำเพราะปฏิเสธไม่ได้ หญิงสาวที่ยืนฟังอยู่ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าคนที่ถูกไหว้วานกำลังทำหน้าราวกับถูกสั่งให้ไปตายอย่างนั้นแหละ



“งั้นเราไปกันเลยดีกว่า ป่านนี้คณิตหัวหมุนไปแล้วแน่ๆ”



อิงอรว่าก่อนจะพาปูนเดินเข้าไปในฮอลล์เดียวกันกับที่บูธของปูนตั้งอยู่แต่บูธของคณิตกลับอยู่ลึกเข้าไปด้านในมากกว่า



“หอมจัง”



ปูนเผลอพูดออกมาเบาๆเมื่อได้กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยเข้ามาในจมูกในตอนที่พวกเขาเดินไปเกือบถึงที่ บูธที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาไม่ได้ใหญ่โตและมีสิ่งน่าสนใจมากมายอย่างที่โรงแรมอื่นพยายามพรีเซ้นต์ให้ลูกค้าเห็น ห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกิดไปถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เป็นส่วนใหญ่รวมถึงดอกไม้สดที่ถูกนำมาทำเป็นพวงมาลัยและของตกแต่งอันน่าจะเป็นต้นตอของกลิ่นหอมๆที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายในทันทีที่มาถึง



“ช้ามากเลยนะอิง ไปเอาเอกสารถึงไหนเนี่ย”



เสียงทุ้มๆของคนที่ปูนไม่อยากเจอมากที่สุดดังขึ้นทำให้ปูนต้องหันไปมอง คณิตที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองนวลตัดกับสีเขียวอ่อนๆโดยรอบพูดกับเพื่อนร่วมงานสาวของตนโดยไม่ทันสังเกตเห็นร่างเล็กที่ยืนหลบอยู่ทางด้านหลัง ปูนเผลอมองร่างสูงสง่าของคนตรงหน้าอย่างเผลอไผลจนอดไม่ได้ที่จะแอบหยิกตัวเองทันทีที่รู้สึกตัวว่าตอนนี้เขาได้เข้ามาอยู่ในแดนของศัตรูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



“อย่าบ่นได้ไหมคะคุณคณิต อิงอุตส่าห์ไปพาน้องมาช่วยนะคะ”



“น้อง? น้องไหน?”



“ก็คนที่คุณเมษส่งให้มาช่วยเราไง ดูสิว่าอิงพาใครมา”



อิงอรยิ้มร่าก่อนจะดันปูนที่ยืนหลบอยู่หลังเธอให้เดินขึ้นมาข้างหน้า ดวงตาเรียวเล็กของคณิตเบิกโพลงอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ที่กำลังยืนหลบตาเขาด้วยท่าทางที่ผิดไปจากตอนที่เจอกันครั้งล่าสุด







“นี่นาย...!!!”









“สวัสดีครับป๋า...เจอกันอีกแล้วนะ”





--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!

แวะมาอัพให้ก่อนจะหายไปจนถึงสิ้นเดือนคับ ติดงานทั้งอาทิตย์ บวกกับจะแอบเขียนตอนพิเศษพี่กาลให้ได้สักสามตอนแล้วค่อยมาอัพน้องปูนสลับกันไป เพราะแอบลัดคิวพี่เขามาหลายตอนแล้ว (พี่กาลงอน5555)  :hao7: ตอนแรกกะจะให้น้องโดนของหนักเลยแต่เอาไว้ก่อนดีกว่าเนอะ  เดี๋ยวเด็กมันจะตื่นซะก่อน ตอนต่อไปค่อยให้ป๋าคณิตออกโรงปราบเด็กดื้อ  :hao6:

ขอบคุณทุกเม้นต์ทุกโหวตนะคับ ขอโทษด้วยที่ไม่ค่อยได้อัพบ่อยๆเหมือนเคย ชีวิตเช่ยุ่งมาก แต่เดี๋ยวสักเดือนสองเดือนคงจะลงตัวมากกว่านี้ อยากอัพเรื่องใหม่แต่ก็ขอทำเล่มไนท์แมร์ให้เสร็จก่อนแล้วกัน ใครยังไม่ได้จับจองก็เชิญกันได้นะคับ ยิ่งแต่งน้องปูนยิ่งคิดถึงพี่กาล เฮ้อ เอาจริงๆนะ เช่คิดถึงน้องตอนอยู่กับพี่กาลชะมัด (อารัณย์ถึงกับจ้องเขม็ง 555) :katai1:


ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #26 เมื่อ21-11-2015 17:58:18 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Sakurai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #27 เมื่อ21-11-2015 17:59:48 »

 ตอนหน้าจะดุเด็ดเผ็ดเผือกแค่ไหนกันน๊า รอเน้อๆๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #28 เมื่อ21-11-2015 18:05:13 »

ปูนยังไม่เลิกเล่นสินะ

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #4][211158]
«ตอบ #29 เมื่อ22-11-2015 11:08:00 »

เป็นตอนที่เหมือนไม่มีอะไีรแต่เราแอบเขิน

น้องปูนน่ารักอะโง้ยยย มีแอบมองพี่เขาด้วย หล่ออะดิ๊ :katai3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด