- - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)  (อ่าน 165582 ครั้ง)

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #120 เมื่อ15-01-2016 09:24:48 »

ชอบนิยายเรื่องนี่อ่ะ มันแบบดูreal แบบทำให้เห็นการกระทำที่คนภายนอกมองว่ามันไม่ดีความจริงมันมีอะไรๆซ่อนอยู่ แล้วผลตอบแทนที่ได้มามันก็มีทั้งดีและไม่ดี






แต่สรุปคือ ชอบ!!!!!

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #121 เมื่อ15-01-2016 17:37:15 »

มุ้งมิ้งมากกกกกกก  ปูนร้ายน่ารัก
รอตอนกาลค่ะๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #122 เมื่อ15-01-2016 19:50:55 »

 :pig4:

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #123 เมื่อ16-01-2016 10:45:23 »

เม้นตอน14นะ

น่ารักมากกกกก และดีใจมากที่ปูนลืมกาลได้แต่ก็ยังไม่หายกลัวเนอะ :ling3:

ทุกอย่างต้องใช้เวลา ว่าแต่ฮามากทั้งพี่ทั้งน้อง ปูนก็ร้ายซะ น่าร๊ากกกกกกก :hao6:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #124 เมื่อ16-01-2016 15:42:37 »

ปูนน่ารัก หน่อยกับอิงก็นะแกล้งน้องกันได้ อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว อยากเห็นความน่ารักของปูนอีก ไม่หึงเนอะก็แค่หวง อิ

ออฟไลน์ FOUR EYES

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #125 เมื่อ16-01-2016 22:55:48 »

ทำไมหน่องปูนน่ารัก ขนาดนี้ๆ ขอกอดที  :กอด1: :-[

ขอบคุณค่าติดตามตอนต่อไป   :L2:

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #14][140159]
«ตอบ #126 เมื่อ17-01-2016 11:20:36 »

คิดถึงน้องปูนแล้วอะ รอๆๆๆๆ :impress2:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #127 เมื่อ18-01-2016 22:20:05 »



แตกที่ 15

…จับมือ...



คณิตยิ้มมุมปากให้น้องสาวอย่างหน่อยที่กำลังพยายามมองผ่านร่างของเขาไปเพื่อสบตากับปูนที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วเอาหัวโขกแผ่นหลังของเขาไม่หยุดด้วยความอับอาย แถมพอเขาหลุดหัวเราะเมื่อไหร่คนตัวเล็กก็ยิ่งจะโขกแรงขึ้นทุกที

 

“ออกมาเถอะน่า ยัยหน่อยมันไม่กัด”

 

“พี่นิด หน่อยไม่ใช่หมานะ”

 

“แล้วพี่พูดสักคำรึยังว่าเราเป็นหมา นี่ก็เลิกโขกสักทีโผล่หน้ามาได้แล้ว!”

 

ร่างสูงตัดสินใจเบี่ยงตัวออกแล้วบังคับฝืนดึงปูนให้มายืนอยู่ข้างกันแทนจนเด็กหนุ่มไม่อาจหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับน้องสาวของเขาได้อีกต่อไป นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเจ้าเด็กนี่ทำไมถึงไม่สังเกตนะว่าหน้าตาของเขากับยัยหน่อยออกจะคล้ายกันมากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าน้องสาวตัวดีแต่งหน้าจัดจนเกินไปก็คงเป็นอาการ ‘หวง’ ที่คนตัวเล็กว่าล่ะมั้งที่ทำให้ปูนมองไม่ออก

 

“สวัสดีอีกครั้งนะคะ”

 

“สะ สวัสดีครับ”

 

แค่พูดกันนี่ถึงกับติดอ่างเลยหรอ...

 

“ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะ ฉันชื่อหน่อย เป็นน้องสาวของพี่นิด ส่วนคุณ...”

 

“...”

 

“คุณเป็นใครหรอคะ ทำไมถึงได้ใส่ชุดพนักงานของที่นี่”

 

คณิตไม่รู้ว่าคำพูดนี้สะกิดใจปูนอะไรยังไงคนที่ดูเขินอายในทีแรกจึงมีท่าทีตกประหม่าให้เขาเห็น ถึงจะไม่ได้จับมือกันไว้แต่ร่างสูงก็พอสังเกตได้ว่ามือเล็กๆที่พักหลังเขาชอบเล่นกับมันมากเป็นพิเศษกำลังสั่น แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองกลับเห็นว่าน้องสาวของตัวเองก็กำลังยิ้มอยู่ ไม่ได้มีทีท่ากดดันอะไร

 

“เด็กนี่ชื่อปูน เป็นคนที่พี่ขอให้มาช่วยงาน”

 

ชายหนุ่มเลือกที่จะตอบคำถามนั้นแทนจนปูนที่ยืนอยู่ข้างๆกันหันมามองเขาตาโต ส่วนน้องสาวที่รู้ไส้รู้พุงกันดีถึงปากจะยิ้มแต่ดวงตารั้นๆนั้นก็แสดงความขัดใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

 

“น้องถามปูนอยู่นะ พี่นิดตอบแทนทำไม”

 

“ก็พอใจจะตอบ เลิกแกล้งเด็กมันได้แล้ว”

 

“แต่...”

 

“ไม่ต้องแต่ นี่ก็ใกล้เวลางานแล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดสักทีไป ที่เหลือเดี๋ยวให้อิงมันดูแลต่อ ส่วนเธอมากับฉัน”

 

คณิตรีบพูดตัดบทก่อนจะคว้ามือของปูนมาจับไว้แล้วออกแรงลากให้เดินไปด้วยกันท่ามกลางความตกใจของร่างเล็กและความหมั่นไส้ของหน่อยที่ยังไม่ได้แกล้งคนที่อิงอรบอกเธอว่าเป็นคนพิเศษของพี่ชายให้หนำใจเลย

 

“ป๋าทำแบบนี้จะไม่เป็นไรหรอ”

 

“ทำแบบนี้? ทำอะไร?”

 

“ก็...มือมัน...”

 

ปูนว่าพลางมองมือที่ใหญ่กว่ามากกำลังจับมือของเขาไว้โดยไม่สนใจสายตาของใครๆที่มองมา แม้กระทั่งน้องสาวของตัวเอง

 

“ไม่ดีรึไงที่ฉันจับมือเธอไว้แบบนี้”

 

แทนที่จะตอบคำถามคณิตกลับถามปูนกลับแทนขณะที่พาเด็กหนุ่มเข้ามายืนในลิฟต์ได้สำเร็จ โชคดีที่ภายในลิฟต์ตัวนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากพวกเขายืนอยู่ เพราะความรู้สึกที่เต้นอยู่ในอกดูเหมือนจะสงบลงได้เมื่อคณิตอยู่กับเขาแค่สองคน

 

“ก็ดี แต่คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนั้นนะ”

 

“หมายถึงยัยหน่อยน่ะหรอ”

 

“ใช่ และคนอื่นๆด้วย...”

 

“ไม่ยักกะรู้ว่าเธอแคร์สายตาคนอื่นด้วย”

 

คณิตพูดในสิ่งที่เขานึกแปลกใจ เพราะคิดว่าคนที่ยืนข้างๆกันจะดีใจซะอีกที่เขายอมจับมือถือแขนด้วยในที่ทำงาน จำได้ว่าตอนที่ไปเที่ยวกันคราวแรกๆปูนเป็นฝ่ายคว้ามือของเขาไปจับเองด้วยซ้ำ จนตอนนี้มันกลายเป็นความคุ้นชิน

 

“คนอื่นที่ว่าก็คนรอบตัวป๋าทั้งนั้น”

 

“ก็ในเมื่อพวกเขาเป็นคนรอบตัวฉัน เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์เลยไม่ใช่หรอ”

 

“...”

 

“ฉันคิดดีแล้วล่ะน่า อีกอย่างฉันก็รับผิดชอบการกระทำของตัวเองได้”

 

ร่างสูงปล่อยมือก่อนจะใช้มันลูบหัวของปูนเบาๆซึ่งคราวนี้คนตัวเล็กก็เอนศีรษะเข้ามาหาแล้วปล่อยให้เขาลูบจนกว่าจะพอใจ ต่อหน้าคนอื่นทำมาเป็นคิดมาก ทีอยู่ด้วยกันสองต่อสองก็ชอบที่เขาสัมผัสไม่ใช่รึไง

 

“จะว่าไปพอรู้ว่ายัยหน่อยเป็นน้องสาวฉัน ดูเธอไม่กล้าแผลงฤทธิ์เท่าไหร่เลยนะ ตอนแรกนึกว่าจะทำเหมือนเดิมซะอีก”

 

“เหมือนเดิม...นี่ป๋ารู้ด้วยหรอ!”

 

ใครไม่รู้ก็โง่แล้ว มุกน้ำหกเลอะเสื้ออย่างกับในละคร แล้วไหนจะรอยยิ้มร้ายๆที่ปูนส่งให้กับน้องสาวของเขานั่นอีก ไม่ยักกะรู้ว่านอกจากจะยั่วเก่งแล้วยังจอมมารยาขนาดนี้ ดูท่าถ้าคบกันไปนานๆเขาคงติดนิสัยมันมาบ้างแน่ๆ

 

“อืม ทั้งหมดนั่นแหละ”

 

“โอ้ย...ให้ตายสิ แล้วทำไมไม่บอกก่อนวะ!”

 

“ก็เธอไม่ได้ถาม”

 

“น่าอายชะมัด แล้วนอกจากป๋าจะมีคนอื่นรู้อีกไหมเนี่ย”

 

“ก็คงมีอิงอร ยัยนั่นตาดีแถมฉลาดเป็นกรด”

 

“แถมขี้แกล้งด้วย เหอๆ คนที่นี่นิสัยแบบนี้เหมือนกันหมดรึไงนะ”

 

คณิตปล่อยให้ปูนบ่นไปตามเรื่องจนกระทั่งประตูห้องพักส่วนตัวของเขาเปิดออก ร่างสูงจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งที่เพิ่งสวมใส่มันได้ไม่นานก่อนจะหันมาช่วยปูนปลดเปลื้องอาภรของตัวเองออกบ้าง โดยตลอดการกระทำนั้นคณิตก็ได้แต่จ้องปากที่บ่นขมุบขมิบไม่หยุดของปูนจะเพลินตา ทั้งที่ตัวเองไม่ชอบคนขี้บ่นแท้ๆ

 

“ป๋าจะอาบน้ำหรอ”

 

“อืม เหนียวตัวมาทั้งวัน แถมงานแต่งฉันก็ต้องไป”

 

“แล้วก็ไม่บอก จะได้ขึ้นมาอาบน้ำเลยตั้งแต่ทีแรกไม่ต้องเปลี่ยนก่อน”

 

“ไม่เป็นไรส่งซักไปก็จบ เข้าไปเตรียมน้ำให้ทีนะเดี๋ยวฉันตามเข้าไป”

 

คณิตดันหลังปูนให้เดินไปทางห้องน้ำ ส่วนตัวเองก็กลับไปค้นของอะไรบางอย่างออกมาจากลิ้นชักก่อนที่จะเดินเปลือยทั้งท่อนบนและล่างตามเข้าไปข้างใน ชายหนุ่มหยุดมองดูผิวขาวกระจ่างของคนตัวเล็กที่พออยู่ท่ามกลางแสงไฟและการตกแต่งห้องที่เป็นสีขาวเกือบทั้งหมดก็ดูกลมกลืนอย่างน่าประหลาด เขาชำเลืองมองนาฬิกาที่สีแขวนอยู่ในห้องน้ำเหมือนกันก็เห็นว่ายังพอมีเวลาให้เขาสามารถโอ้เอ้ได้อีกหน่อย คณิตจึงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้คนที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการเลือกครีมอาบน้ำโดยไม่ทันสังเกตเห็นเงาของเขาที่ทอดทับตัวเองอยู่ จนกระทั่งแผ่นหลังขาวๆของปูนถูกเขาใช้ริมฝีปากสัมผัสเข้าหน่อยถึงจะหันมาได้

 

“อื้อออ ป๋า เอากลิ่นไหนดี”

 

“อันไหนก็เหมือนกันนั่นแหละใส่ๆไปเถอะ”

 

“อ๊ะ ป๋าอย่าซนสิ อึก เดี๋ยวไปไม่ทันงานนะ”

 

ปูนเอี้ยวตัวหลบนิ้วแข็งๆที่มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวแผ่นอกของเขาอย่างเอาแต่ใจ แต่แทนที่จะสำนึกคณิตกลับยิ้มกริ่มแล้วออกแรงเพิ่มไปอีกจนอะไรต่อมิอะไรตื่นตัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างสูงหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มที่ขึ้นสีเลือดฝาดจนปูนเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก

 

“ป๋าแม่งหื่นว่ะ”

 

“หึๆ โกนหนวดให้หน่อยแล้วเดี๋ยวจะช่วย”

 

คณิตช้อนตัวปูนที่ยังคงอารมณ์ค้างเติ่งให้มานั่งห้อยขาอยู่ตรงอ่างล้างหน้าก่อนจะยื่นอุปกรณ์โกนหนวดที่เขาเพิ่งหยิบมาให้คนตัวเล็กถือไว้

 

“ต้องโกนแล้วหรอ ยังไม่เห็นมีเลย”

 

“มีสิ ตรงนี้ไง เมื่อเช้าไม่ได้โกน”

 

ร่างสูงชี้ให้ปูนดูไรหนวดและเคราที่ขึ้นพอเห็นจางๆชนิดที่ถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำแต่ปูนก็ยอมทำตามด้วยการโปะน้ำยาลงไปตามคามและสันกรามได้รูปของคนที่เอาแต่ลูบต้นขาของเขาไปมา ไม่รู้ว่าชอบอะไรนักหนา

 

“อย่าเพิ่งขยับนะ ไม่งั้นได้เรื่องแน่”

 

ปูนค่อยๆบรรจงใช้ใบมีดไล่ตามผิวหนังตามรอยน้ำยาที่เขาทาไว้ตั้งแต่แรก ท่าทางที่ดูตั้งอกตั้งใจและดวงตาที่จดจ้องอยู่กับสิ่งๆเดียวดูมีเสน่ห์และน่าจดจำมากสำหรับคนที่ถูกสั่งไม่ให้กระดุกกระดิกไปไหน คณิตจึงจำต้องปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งปูนบอกเขาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้นคนตัวโตก็จับคางของปูน บังคับให้เด็กหนุ่มเปิดปากออกก่อนเขาจะส่งลิ้นเข้าไปตัวตนของปูนที่อยู่ข้างในนั้นจนทำให้ฟองสีขาวที่ยังไม่ได้ล้างออกเปรอะเปื้อนใบหน้าของปูนจนอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน

 

“เลอะหมดแล้ว...”

 

“เดี๋ยวค่อยล้าง หรือว่าไม่ชอบ?”

 

“...ชอบ”

 

ปูนเอนกายเข้าหาคณิตเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง ทั้งสองคนแลกสัมผัสกันอยู่อย่างนั้นจนพอใจ แม้จะไปไม่สุดทางแต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่แย่มากนักกลับกันสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ต่างฝ่ายต่างทำให้กันมันก็ทำให้รู้สึกดีจนเกิดเสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังก้องไปทั่วทั้งห้องน้ำ ปูนที่ขึ้นจากอ่างก่อนเดินมาสวมเสื้อคลุมพร้อมกับยื่นอีกตัวที่ใหญ่กว่าไปให้คณิตที่ยืนรออยู่ทางด้านหลังแต่ร่างสูงกลับไม่ยื่นมือออกไปรับเดือดร้อนปูนนั่นแหละที่ต้องคอยสวมให้แทน

 

“เดี๋ยวเย็นนี้เธอไปกับฉันนะ ไม่ต้องไปช่วยงานแล้ว”

 

“อ้าว แล้วที่ผมคุยกับพี่อิงไว้ล่ะ”

 

“ไม่ต้องทำแล้ว อย่าลืมสิว่าถึงจะเก่งไม่เท่าเธอแต่ที่นี่ก็มีพอมีบาร์เทนเดอร์ที่มีชื่ออยู่เหมือนกัน”

 

เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมตกลงทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็เริ่มจะสนุกกับงานที่เริ่มทำได้ไม่นาน แล้วไหนจะเพื่อนร่วมงานที่เข้ากันได้ดีอีก

 

“ทำหน้าบึ้งทำไม เสียดายหรอ”

 

“ก็นิดหน่อย อุตส่าห์ทำมาตั้งขนาดนี้”

 

 “เริ่มอยากมาทำงานที่นี่แล้วล่ะสิ”

 

“...”

 

“ข้อเสนอที่ฉันเคยให้ไว้ มันยังมีผลอยู่นะ”

 

คณิตยิ้มให้ปูนก่อนจะรับผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมของตัวเองต่อโดยไม่ลืมกำชับให้อีกฝ่ายแต่งตัวให้ดีๆ ปูนมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าแล้วคิดเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขายังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เด็กหนุ่มจึงตัดใจแล้วหันไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยตามที่คณิตว่า

 

ใช้เวลาไม่นานผู้ชายสองคนที่สวมใส่ชุดที่ดีไซน์คล้ายกันแต่คนละไซส์ต่างก็ยืนสำรวจตัวเองผ่านเงาของกระจก  ปูนมองเสื้อสูทสีฟ้าอ่อนของตนสลับกับเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มของคณิตไปมา จริงอยู่ที่เขาไม่ได้ติดของแบรนด์เนมแต่ก็ไม่ใช่จะไม่รู้ว่าราคาของชุดที่ตัวเองกำลังสวมใส่อยู่มันสูงขนาดไหน

 

“ป๋านี่ ชักจะเป็นป๋าไปทุกทีแล้วเนอะ”

 

“ช่วยพูดอะไรที่เข้าใจง่ายๆหน่อยได้ไหม”

 

“ก็ที่ชอบซื้อของแพงๆให้ผมไง รองพื้นนั่นก็ทีนึงแล้ว แล้วไหนจะพวกเกมที่ห้องอีก แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าป๋าได้ยังไง”

 

ปูนว่ายิ้มๆ เอาเข้าจริงเขาก็ออกจะปลื้มเอามากๆ ไม่ใช่ราคาของของหรอกที่สำคัญ แต่เป็นความเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆที่คณิตมอบให้กับเขามาตลอดนั่นต่างหากที่ทำให้ปูนตัดสินใจก้าวเข้ามาในชีวิตของคนคนนี้...และเขาก็คิดถูกจริงๆ

 

“ของมันจำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น อย่างสูทนี่ก็ใช่ว่าจะใช้ครั้งเดียวทิ้งเลยซะเมื่อไหร่ ทำงานโรงแรมสักวันเธอก็ต้องใช้เก็บรักษาไว้ให้ดีๆแล้วกัน”

 

“ครับๆ ขอบคุณนะ”

 

ปูนเขย่งตัวไปจูบแก้วของร่างสูงแทนคำขอบคุณซึ่งมันก็ทำให้คณิตต้องยิ้มกว้างออกมา คนตัวเล็กตรวจเช็คความเรียบร้อยทั้งของคณิตและของตัวเองอีกครั้งก่อนพวกเขาจะพากันลงไปห้องจัดเลี้ยงด้านล่างที่ถูกเนรมิตจนกลายมาเป็นงานแต่งงานที่ทั้งสวยงามและน่าภูมิใจสำหรับผู้จัดทุกคน

 

คราวนี้คณิตไม่ได้จับมือของปูน แต่ไม่รู้ทำไมคนตัวเล็กถึงรู้สึกว่าต่อให้พวกเขาจะไม่ได้ทำอย่างนั้นแต่ด้วยเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันทำให้คู่ของพวกเขากลายมาเป็นที่จับตามองของผู้คนโดยเฉพาะพนักงานทั้งหลายที่ไม่คิดเลยว่าเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่คุณคณิตพามาทำงานด้วยจะดูดีขึ้นมากเมื่อได้สวมใส่ชุดแพงๆแต่ที่น่าคิดกว่านั้นคือความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ต่างหาก

 

“ป๋า คิดผิดรึเปล่าที่ซื้อเสื้อแบบนี้ให้ผมเนี่ย”

 

“มีปัญหาอะไรหรอ”

 

“ก็คนมองกันหมดเลย แบบนี้เดี๋ยวก็มีปัญหาไม่ใช่รึไง”

 

สีหน้าของปูนดูเครียดขึ้นนิดหน่อย ก็รู้อยู่หรอกว่างานนี้เป็นงานแต่งของลูกหลานนักการเมืองแต่เขาก็ไม่คิดว่าแขกเหรื่อที่มาจะมีพวกคนดังๆมากขนาดนี้ นี่ขนาดว่างานยังเริ่มไม่ได้นาน ปูนยังเห็นคนที่ได้ออกทีวีบ่อยๆมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าคน ความคิดกังวลจึงเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

 

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีปัญหา”

 

“แต่...”

 

“หรือว่าเธออายที่จะเดินกับฉัน”

 

คณิตยื่นมือมาตรงหน้าแทนคำพูดที่ตัวเขาไม่ได้เอ่ยออกไปตรงๆ ปูนก้มมองมันแล้วคิดถึงอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความหวาดกลัวและความสุขสมที่ยากจะห้ามใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เขาเห็นทั้งสายตาของผู้คนที่ชื่นชมแต่ก็มีหลายคู่ที่มองมาอย่างเดียดฉันท์ แล้วปูนก็หันกลับมามองคณิตอีกครั้ง...แววตาของชายตรงหน้าเขายังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเช่นเดิม

 

“ไม่มีทางอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”





:man1:(มีต่อเม้นต์ล่าง) :man1:

 

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #128 เมื่อ18-01-2016 22:22:22 »

 


ปูนว่าแล้วเอื้อมไปจับมือนั้นไว้ก่อนจะปล่อยให้คนตัวโตนำพาเขาไปยังที่ต่างๆ ปิดหูปิดตาทำเป็นไม่ได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนพวกนั้น เขาจ้องมองแค่แผ่นหลังของคณิต และได้ยินเพียงเสียงที่ออกมาจากปากของชายคนนี้เท่านั้น ปูนยกยิ้มให้กับตัวเองและคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัน รวมไปถึงอิงอรที่กำลังยิ้มให้ปูนอยู่

 

“มาเป็นแพ็คคู่เลยนะคะ กลัวคนแถวนี้ไม่รู้หรอว่ามาด้วยกัน”

 

“ประมานนั้น แล้วนี่ยัยหน่อยลงมารึยัง”

 

คำตอบของคณิตทำเอาปูนหลุดยิ้มในขณะที่อิงอรต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงอาการออกมา หญิงสาวแอบหยิกแขนของตัวเองก่อนจะตอบเพื่อนของเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ยิ่งเห็นว่าคณิตใช้สายตาแบบไหนลอบมองรอยยิ้มของคนตัวเล็กข้างๆอิงอรก็ชักจะทนไม่ไหวเข้าไปทุกที

 

“ยังเลยค่ะ น่าจะไปอยู่กับทางเจ้าสาวก่อน”

 

“หรอ แล้วงานส่วนอื่นๆเรียบร้อยดีไหม เป็นไปตามแผนรึเปล่า”

 

“แขกมาเยอะกว่าที่คิดพอสมควรค่ะ แต่ก็เพิ่มโต๊ะกับสั่งโรงครัวให้จัดอาหารมาเพิ่มแล้ว แถมคุณเมษาส่งพวกพนักงานพาร์ทไทม์มาช่วยด้วย ตอนนี้ทุกอย่างเลยยังไม่มีปัญหาอะไร”

 

ปูนขมวดคิ้วนิดๆเมื่อได้ยินเรื่องที่สองคนนี้คุยกัน แต่ก็พยายามปลอบตัวเองว่ามันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น ร่างเล็กพยายามไม่สนใจฟังบทสนทนาของทั้งสองคนอีก เขาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายบรรยากาศรอบๆที่พอเริ่มงานแล้วยิ่งสวยมากกว่าเดิมเสียอีก ปูนถ่ายรูปไปเรื่อยๆโดยที่บางรูปก็ติดคณิตที่ยืนซ้อนตัวเองอยู่ทางด้านหลังแต่ด้วยเพราะแขนที่สั้นกว่ามากคณิตจึงต้องกลายมาเป็นไม้เซลฟี่จำเป็นคอยถือโทรศัพท์ให้คนตัวเล็กถ่ายจนหนำใจ

 

“เดี๋ยวนี้รับจ็อบเป็นตากล้องแล้วหรอวะคณิต”

 

เสียงทุ้มๆของใครบางคนดังขึ้นทำให้คณิตเผลอหันโทรศัพท์ไปทางนั้น ภาพของเมษาที่อยู่ในชุดสูทสีเทาถูกถ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ปูนรับมือของของตัวเองมาจากคณิตก่อนจะยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าและมีศักดิ์เป็นนายจ้างของตนโดยไม่ต้องให้มีใครมาบอก ทายาทเจ้าของโรงแรมดังส่งยิ้มละมุนให้ปูนแต่ร่างเล็กกลับรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่แปลกยังไงก็ไม่รู้เลยเผลอก้าวถอยไปหลบอยู่หลังคณิตที่เอ่ยทักทายเพื่อนตามปกติ

 

“มาด้วยหรอวะ”

 

“อืม พอดีรู้จักกับพ่อเจ้าบ่าวนิดหน่อยน่ะ เขาเลยเชิญมา”

 

“งั้นที่หลังก็บอกให้เขาไปจัดที่โรงแรมมึงนู้น ที่นี่แคบจะตายห่า”

 

“ฮ่าๆ พอดีเขายกให้ฝ่ายเจ้าสาวเป็นคนตัดสินใจน่ะ เพื่อนน้องหน่อยเขาเลยไม่เลือกโรงแรมกู แต่ไม่ต้องห่วงงานนี้กูไม่หักค่านายหน้าส่วนของพาร์ทไทม์”

 

เมษาตบไหล่ของคณิตเบาๆ ก่อนจะหันไปทักทายอิงอรที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน ปูนมองผู้ใหญ่ทั้งสามคนแล้วรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ผิดที่ผิดทางจึงบอกคณิตว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะตามไปที่โต๊ะที่หลัง

 

ปูนยิ้มรับพนักงานหลายคนที่เอ่ยทักเขาตลอดทางกว่าจะไปถึงห้องน้ำ ร่างเล็กถอนหายใจออกมาแม้จะเคยทำงานในบรรยากาศแบบนี้อยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ไม่เคยชอบมันจริงๆสักที ปูนมองเงาของตัวเองในกระจกแล้วจับเซ็ตผมที่ยังไม่เข้าที่อยู่บ้างแต่ในขณะที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับผมของตัวเอง จู่ๆประตูห้องน้ำที่เขาเพิ่งเดินผ่านมันมาก็ถูกเปิดออก พร้อมกับการก้าวเข้ามาของคนที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ

 

“อ้าว มางานนี้ด้วยหรอพี่”

 

บอยที่อยู่ในชุดสูทกึ่งทางการ ถ้าให้ปูนเดารุ่นพี่ของเขาคงจะตามมาช่วยงานนั่นแหละ แต่แทนที่บอยจะตอบคำถามของร่างเล็กดีๆ ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาจับบ่าของปูนแล้วบีบอย่างแรง

 

“โอ้ย พี่เป็นบ้าไรวะ!”

 

“ทำไมมึงมาอยู่ที่นี่”

 

“เชี้ยพี่บอย ปล่อย!”

 

“มึงตามไอ้พลัสมาใช่ไหม!”

 

คำพูดของบอยทำเอาปูนที่งงอยู่แล้วยิ่งงงเข้าไปอีก

 

“ไอ้อ่อนนั่นมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ!?”

 

แววตาของบอยดูสับสนกว่าเคยซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผิดปกติเอามากๆ ปูนพยายามประติดประต่อเรื่องราวต่างๆในหัวก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อพอจะเดาสาเหตุที่ชายคนนี้หงุดหงิดออกได้

 

“ฮ่าๆ อย่าบอกนะว่าพี่คิดว่าผมตามมันมา หึ ตามมันมากจนเพี้ยนไปแล้วหรอ ผมไม่ได้เป็นสโตกเกอร์แบบพี่นะเว้ย!!”

 

ปูนตะโกนใส่หน้าบอยกลับไป ส่วนบอยก็เพิ่มแรงที่บีบบ่าของปูนอยู่ให้แรงขึ้น ทั้งคู่จ้องตากันอยู่อย่างไม่ลดละจนกระทั่งบอยเป็นฝ่ายถอนหายใจและคลายมือออกก่อน ส่วนปูนที่พยายามข่มความเจ็บปวดไว้ไม่แสดงออกทางสีหน้าก็ยกมือขึ้นจับบ่าของตนเบาๆแต่ก็ยังเจ็บจนต้องร้องโอ้ยออกมา

 

“มันบอกว่ามันชอบมึง”

 

ปูนเบ้ปาก สิ่งที่บอยบอกไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจมากนักกลับกันเขาแอบคิดด้วยซ้ำว่าคนที่ดูไม่ออกมันคงโง่มากๆ...ไม่ก็หลอกตัวเองโคตรๆ

 

“แล้วไงวะ ผมไม่ได้เล่นด้วยสักหน่อย”

 

“แต่มันอยากเล่นมึง”

 

“โอ้ย! เลิกเอาเรื่องมันมาเอี่ยวกับผมสักทีเหอะ ไอ้เชี้ยนั่นแม่งก็บ้า กูทำขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกว่ากูไม่เอา”

 

เด็กหนุ่มสบถอีกสองสามคำอย่างหัวเสีย พยายามหายใจเข้าลึกๆเพราะไม่อยากให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวขยายวงกว้างมากไปกว่านี้

 

“ปูน มีอีกอย่างที่มึงต้องรู้”

 

“อะไร?”

 

“...พลัสมันพยายามสืบเรื่องของมึงอยู่”

 

ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า ปูนคว้าเอาขวดสบู่อย่างดีที่วางอยู่แถวนั้นขว้างลงกับพื้นจนมันแตกไม่เหลือสภาพ ร่างเล็กเดินมาประชิดตัวหนุ่มรุ่นพี่แล้วคว้าเอาคอเสื้อของบอยไว้แม้ว่าความสูงต่างกันมาก

 

“พี่ว่ายังไงนะ มันสืบเรื่องกู”

 

“อืม....จากผู้หญิงที่ชื่อก้อย”

 

“อีเชี้ยนั่น...”

 

ปูนกัดฟันกรอดยามนึกถึงใบหน้าสวยหวานแต่อาบด้วยพิษร้ายของผู้หญิงคนนั้นที่เขานึกไม่ออกว่าเคยไปเหยียบหางมันไว้ตอนไหนถึงได้หันมาแว้งกัดกันแบบนี้ ถ้าให้เดาคงหนีไม่พ้นความอิจฉาบ้าๆบอๆแบบที่เขาเจอมาตลอดนั่นแหละ เพียงแต่ครั้งนี้มันต่างกัน...ตรงที่ปูนจะทำเป็นเมินเฉยไม่ได้

 

“มันรู้อะไรไปแล้วบ้าง...”

 

“เรื่องที่ร้านนั่น กับผู้ชายที่มารับส่งมึงที่คณะบ่อยๆ”

 

“พี่กาล...”

 

บอยไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับชื่อของผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่เขาเคยต้องได้ยินมันนับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่ปูนจะตกต่ำถึงขนาดนี้

 

“แล้วมีอะไรอีกไหม”

 

“ไม่ แต่ดูเหมือนมันจะสนใจเรื่องผัวเก่ามึงพอสมควร”

 

 

 

 

“เขาไม่ใช่ผัวเก่ากู!”

 

 

 

“นั่นมันเรื่องของมึง กูแค่อยากมาเตือนไว้”

 

 

ปูนแสยะยิ้ม นี่นะที่เรียกว่าเตือน บ่าของเขายังไม่หายเจ็บเลยด้วยซ้ำ ร่างเล็กยอมปล่อยคอเสื้อของบอยออกเพราะเห็นว่าคงทำอะไรไม่ได้ เพราะปัญหามันเกิดจากไอ้หน้าอ่อนจอมจุ้นจ้านนั้น ที่ไม่รู้ทำไมถึงได้ติดใจเขานักหนา

 

 

“ผมว่าพี่ควรทำอะไรสักอย่าง”

 

“คิดว่ากูไม่อยากทำรึไง”

 

“หึ พี่อยากแต่แม่งเสือกขี้ขลาดไม่กล้าทำ”

 

“น้อยๆหน่อยไอ้ปูน...ถึงกูจะยอมให้มึงมามากก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะไม่กล้ากระทืบมึง”

 

บอยจ้องปูนด้วยแววตาเกรี้ยวกราด แต่ร่างเล็กกลับไม่สนใจเลยสักนิด ในหัวของเขามีแต่ความวุ่นวายและกังวลว่าสิ่งที่พยายามเก็บเอาไว้ให้ลึกที่สุดจะถูกรื้อออกมาเพราะความอยากรู้อยากเห็นไม่เข้าท่าของคนเพียงคนเดียว ไม่สิ...ต้องรวมความไม่เด็ดขาดของคนข้างๆเขาไปด้วย

 

ทั้งที่อยู่ใกล้มือแต่ไม่เคยแตะต้อง

 

ทั้งที่หวงแต่ไม่เคยใส่ปลอกคอปล่อยให้เรร่อนสร้างความเสียหายไปทั่ว

 

 

 

“...!!!”

 

 

ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของปูน เขายกยิ้มในขณะที่บอยยังคงอยู่ในอาการหัวเสียเพราะคนที่ถึงจะอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วกลับไกลเหลือเกิน...

 

 

“พี่คิดว่าดอกไม้ มันสวยที่สุดตอนไหนกัน”

 

 

“พล่ามบ้าอะไรของมึง”

 

 

“ชิ ตอบมาเถอะน่า”

 

“...”

 

 

“...”

 

 

“ตอนอยู่บนต้น”

 

 

“ก็จริง แต่พี่เคยคิดบ้างไหมว่าสักวันจะมีคนมาแอบตัดดอกไม้ของพี่ไป”

 

 

“...!!!”

 

 

“ผมว่ามันถึงเวลาแล้วนะพี่”

 

 

“...”

 

 

 

“มันถึงเวลา...ที่พี่จะต้องตัดดอกไม้ดอกนั้นสัก”

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!

บันไซให้กับดาร์กโหมดของน้องปูนสามที เย้ๆ  o13 :hao3: นายเอกของเช่มันต้องแบบนี้เซ่ =w= จากตอนแรกมีแต่คนกลัวว่าพลัสจะทำอะไรปูน แต่นี่ใคร? นี่น้องปูนเด็กเส้นนะ หุหุ เปิดก่อนเลยคับบบบ น้องพลัสของเราจะบอบช้ำขนาดไหนกันล่ะเนี่ย  :jul1:


ตอนหน้าอาจจะหลบไปคู่รองบ้าง ป๋าปูนอาจจะมีนิดหน่อย ส่วนตอน14.5 ที่ว่าจะเขียนจริงๆเขียนเสร็จแล้วคับ แต่ยังไม่พอใจเลยว่าจะเขียนใหม่ เผื่อคนที่ยังไม่เคยอ่านพี่กาลจะได้รู้จักผู้ชายคนนี้สักหน่อย ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วจะได้รับรู้มุมมองของปูนบ้าง สั้นๆนะครับ ไม่ยาวมาก แถมบางส่วนยังเป็นแบบตัวละครเล่าเรื่องอีก ติดตามอ่านกันนะ  :a5:


ป.ล. ขอบคุณทุกเม้นทุกโหวตเลย ช่วงนี้ยุ่งทำเล่มคับ ตรวจคำผิดเป็นอะไรที่ทรมานมากกกกกก แถมรีไรท์ไปบางจุด ถ้าส่งหนังสือเรียบร้อยเช่จะทยอยลงตัวรีไรท์ในเว็บให้ใหม่ทุกเว็บเลยนะคับ จะได้อ่านกันง่ายๆเนอะ :)  :pig4:

ป.ล.ล. อย่าลืมจอง อย่าลืมโอนพี่กาลกันน้าาาาาา  :pig4:

 

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #129 เมื่อ18-01-2016 22:30:41 »

ตอนเม้นต์กันนะ




kanomjeeb >>>>> รักคนนี้มากกกกก เม้นให้เช่ตลอดเลย TT^TT


lucifermafis >>>>> ดีใจที่ชอบนะคับ แถมเข้าใจสิ่งที่เช่อยากจะแทรกไว้ด้วยอะ :mew4:


jum >>>>>  :L2:


นอนกินแรง >>>>> ตอนนี้ก็ยังถือว่าน่ารักนะคับ ใช่ไหม... ใช่สิๆ 5555


FOUR EYES >>>>> ให้สองกอดเลยคับ  :กอด1: :กอด1:


Toho48 >>>>> คิดถึงเหมือนกันคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
« ตอบ #129 เมื่อ: 18-01-2016 22:30:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cho-ningza-19891

  • สติไม่ค่อยมี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #130 เมื่อ18-01-2016 22:35:26 »

พี่บอย รีบจีบพลัสเลยครัช สู้ๆ

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #131 เมื่อ19-01-2016 13:45:48 »

มาแล้วๆๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #132 เมื่อ19-01-2016 14:17:07 »

เชียร์คุณเมษากับพลัสแทนได้ไหม แต่กลัวโดนบอยกระโดด :z6:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #133 เมื่อ19-01-2016 18:29:13 »

ตามอ่านมาเงียบๆ

เราชอบผู้ชายแบบพี่คณิตนะ  เป็นผู้ใหญ่ที่มั่นคงพอที่จะคุมปูนอยู่ แต่ก็แกร่งพอที่จะปล่อยให้ปูนเป็นในธรรมชาตินิสัยของปูน    แต่กลัวการหักมุมเพราะว่าการเป็นผู้ใหญ่นั้นมันไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ โลกของผู้ใหญ่มันซับซ้อน

งานนี้เป็นเพื่อนกันไม่รู้รัตติกาลจะโผล่หรือเปล่า  อาจจะก็ได้นะ  ถ้ามาเจอกันแล้วอย่างน้อยก็ขอให้จบดีๆ  ไม่ชอบบอยเท่าไหร่ค่ะ   ตัวเองได้แต่มองแล้วเอาความอันอั้นมาลงที่คนอื่น   ปูนอาจจะแรงแต่ยังไงก็ไม่ควรมาทำปูนเจ็บๆ

ส่วนนังก้อยนะคะ  ขยะสังคมค่ะ  เศร้าแต่จริงที่ในสังคมมีคนแบบนี้อยุ่เยอะเกิน  เป็นเราหรือจะช่วยเอาอาหารที่กินอยุ่ไปประดับหน้านางให้

เจอคำผิดตอนก่อนๆโน้นนะคะ

ควงแขน

อีกคำที่ผิดก็คือชื่อ หน่อยกลายเป็นนิดค่ะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #134 เมื่อ19-01-2016 19:19:42 »

พี่บอยเอาพลัสไปเก็บด่วน  :angry2:

ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #135 เมื่อ19-01-2016 20:10:01 »

โอ้ววว
 :katai4: :katai4:

ชอบคุณคณิต ดูอบอุ่นดูเข้าใจปูน

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #136 เมื่อ19-01-2016 21:51:58 »

ปูนร้ายยยยย คิดว่าตอนแรกจะโดนพลัสทำอะไรซะอีก :ling3:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #137 เมื่อ19-01-2016 22:09:16 »

นี่ก็แอบรำคาญพลัสเหมือนกัน อ่านตอนแรกๆนึกว่าซื่อแต่ไหงทำตัวร้าย ยุ่งเรื่องชาวบ้านล่ะ เชียร์ปูนให้จัด รออ่านตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #138 เมื่อ20-01-2016 20:18:29 »

ปูนร้ายได้น่ารักดีนะเราว่า รอพาร์ทคู่รอง :katai2-1:

ออฟไลน์ FOUR EYES

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
«ตอบ #139 เมื่อ22-01-2016 11:48:35 »

เย้ มาแล้ววว  o13
พี่นิดมั่นคงหลายๆ   :o8:
อยากให้พี่บอยจัดการพลัสเร็วๆจัง 555  :hao3:
ขอบคุณค่ะ :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #15][180159]
« ตอบ #139 เมื่อ: 22-01-2016 11:48:35 »





ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #140 เมื่อ22-01-2016 21:03:11 »




แตกที่ 16

…เด็ดดอกไม้...

 

 

 

“บอย...ป้าฝากดูแลน้องด้วยนะลูก”


 

 

คำพูดของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในหัวของบอยซ้ำไปซ้ำมาขณะที่เขากำลังยืนมองใบหน้าของพลัสที่กำลังส่งยิ้มละไมให้กับแขกที่เข้ามาใช้บริการในบาร์เหมือนกับทุกๆครั้ง หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป

 

 

นั่นก็คือไฟที่กำลังสุมอยู่ในอกนี่เอง...

 

 

“พี่บอยๆ เหล้านี่หมดว่ะ”

 

บาร์เทนเดอร์คนใหม่ที่หัวหน้าเพิ่งรับเข้ามาเดินมาแจ้งปัญหากับกัปตันที่กำลังยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ในมุมมืดของบาร์ที่แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็น ทันทีที่บอยได้ยินอย่างนั้นสีหน้าที่ติดจะนิ่งเฉยก็เปลี่ยนเป็นรำคาญใจ

 

“กูบอกให้มึงเช็คของดีๆแล้วไม่ใช่รึไง”

 

“ผมก็เช็คแล้วนะพี่ แต่ว่า...วันนี้แขกเยอะไง มันเลยไม่พอ”

 

บอยยิ้มเหยียดก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดตัวจนใบหน้าของอีกฝ่ายแทบจะจมหายไปในอกกว้างที่ถึงแม้จะมองผ่านเนื้อผ้าก็สามารถเดาได้ว่ามันสมบูรณ์แบบขนาดไหน บอยเดาะลิ้นของตัวเองก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาเคาะตรงขมับของชายที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางขึงขังแต่ก็กวนประสาทอยู่ในที บอยยังคงไม่พูดอะไรจนกระทั่งเพลงที่กำลังเล่นอยู่จบลง เสียงเย็นๆของชายหนุ่มก็ดังขึ้นแทนที่

 

“มึงรู้ไหม นอกจากคนที่กล้ามายุ่งกับของของกู...กูเกลียดคนแบบไหนมากที่สุด”

 

“มะ ไม่รู้ครับ”

 

“ไอ้พวกไร้ประโยชน์ไง”

 

“...!!!”

 

“รีบไสหัวไปทำงานของมึงซะ...ถ้าไม่มีปัญญาแก้ปัญหาที่ตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมาก็ลาออกไป มันรกหูรกตากู”

 

ไม่ต้องรอให้พูดย้ำมากไปกว่านี้ บาร์เทนเดอร์คนใหม่ที่คงจะอยู่ทำงานที่นี่เป็นวันสุดท้ายรีบเดินกลับไปยังจุดรับผิดชอบของตัวเองโดยไม่กล้าสบตาบอยเลยแม้แต่นิด ร่างใหญ่สบถอย่างหัวเสียพลางเสยผมของตัวเองขึ้นจนใครต่อใครสามารถเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาได้ชัดขึ้นเมื่อกัปตันหนุ่มจำเป็นต้องเดินออกมารับต้อนรับแขกที่ยังคงเข้ามาใช้บริการที่นี่ไม่ขาดสาย

 

แม้ว่าตลอดการทำงานบอยไม่สามารถสลัดภาพที่พลัสกำลังยืนคุยอยู่กับผู้หญิงคนนั้นและข้อสันนิษฐานของเธอที่บอกว่าเด็กที่เขาแอบมองมานานกำลังมีใจให้กับหนุ่มรุ่นน้องอย่างปูนออกไปได้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้...เพียงแต่เพราะมันเสียดแทงใจเขามากเกินไปจนไม่อยากจะทำเป็นรู้สึกถึงมันต่างหาก

 

“วันนี้มึงดูหงุดหงิดนะบอย”

 

บอยหันมาตามเสียงทักของนักธุรกิจใหญ่อย่างเมษาที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวแล้วมองไปยังพื้นเบื้องล่างด้วยสายตาที่ยากจะหยั่งถึง ร่างใหญ่หันไปมองรอบๆก็ไม่เห็นว่ามีใครยืนอยู่แถวนี้ โดยเฉพาะพลัสที่ทำท่าลุกลี้ลุกลนอย่างกับจะรีบไปไหนก็กำลังตั้งอกตั้งใจทำงานไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด

 

“ขอโทษครับ”

 

“พูดธรรมดาก็ได้ ตรงนี้ไม่มีใครได้ยินหรอก”

 

เมษาหันมายิ้มให้ก่อนจะชี้ไปยังที่ว่างข้างตัวแทนการออกคำสั่งให้คนที่เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนดื่มนั่งลงข้างๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นบอยกลับยืนอยู่ที่เดิมแล้วเติมไวน์ในแก้วให้เขาจนเต็มแทน

 

“ดื้อด้าน...หึ ว่าแต่หงุดหงิดอะไรมาล่ะถึงได้พาลไปลงกับเด็กใหม่”

 

“ได้ยินด้วยหรอครับ”

 

“ก็ไม่ทั้งหมดแต่เสียงมันก็ดังพอดู...อย่าให้เป็นแบบนี้อีกเข้าใจไหม”

 

ถึงรอยยิ้มจะไม่จางหายไปแต่น้ำเสียงที่เข้มขึ้นก็ทำให้บอยต้องก้มหัวลงเล็กน้อยให้กับคนที่ดูเกรงขามเหลือเกินในสายตาของเขา จริงอยู่ที่นอกเหนือเวลางานเขาอาจจะมองเมษาเป็นเพียงชายหนุ่มมากเสน่ห์ที่แสนอันตราย แต่สำหรับที่นี่เมษาคือคนที่มีอำนาจและเหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของท่านประธานที่คงเหลือเวลาอีกไม่นานเมษาก็จะเอื้อมคว้ามันมาได้

 

“ครับ ผมจะระวัง”

 

“เอาเถอะ คนทำงานห่วยเก็บไว้ก็เท่านั้น รีบหาคนมาทำแทนแล้วกัน”

 

“ครับ ว่าแต่...ถึงเวลารึยังที่เราควรจะตามปูนกลับมา”

 

บอยกัดฟันพูดชื่อของคนที่เป็นหนึ่งในเชื้อไฟที่สุมอกเขาอยู่ในตอนนี้ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าด้วยเพราะเหตุผลอะไร จึงมีคำสั่งจากเมษาส่งตรงมาถึงเขาให้เปลี่ยนผลัดการทำงานของปูนจากเดิมที่ทำงานอยู่ในช่วงวันหยุดซึ่งมีลูกค้ามากที่สุดให้ไปอยู่ในช่วงวันธรรมดา จริงอยู่ที่ The Pilot มีบาร์เทนเดอร์ฝีมือดีอีกมากและปูนเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น แต่การทำแบบนี้มันมีแต่เสียกับเสีย

 

“ยัง...หาคนอื่นมาทำแทนก่อนแล้วกัน แต่ถ้ามันเอาไม่อยู่จริงๆก็ติดต่อไปที่สาขาใหญ่ให้เขาส่งคนมาเพิ่ม”

 

“จะไม่เป็นปัญหาหรอครับ”

 

“เป็น...แต่ว่าฉันจัดการได้”

 

ในเมื่อลูกเจ้าของเขายืนยันมาแบบนี้แล้ว ลูกจ้างอย่างบอยจึงได้แต่น้อมรับคำทำตามอย่างไม่อาจโต้แย้ง เมษาชูแก้วที่ว่างเปล่าของตัวเองขึ้นให้บอยรินน้ำหมักรสเยี่ยมให้อีกครั้ง แต่คราวนี้แก้วทรงสูงที่มีไวน์สีแดงก่ำอยู่ประมานครึ่งแก้วกลับถูกยื่นไปให้ชายหนุ่มที่เพิ่งรินมันด้วยตัวเองดื่มแทน

 

“ดูมึงเครียดๆ มีอะไรอยากเล่าให้กูฟังไหม”

 

บอยไม่อาจตอบรับน้ำใจนั้นเขาจึงเลือกที่จะรับไวน์มาดื่มแทนแล้วยืนเงียบอย่างเก่า แต่บอยคงไม่รู้ว่านอกเหนือจากชั้นเชิงทางธุรกิจแล้วเมษาคือคนที่สามารถมองคนอื่นได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยเฉพาะเมื่อมันอาจจะนำพาเรื่องสนุกๆมาให้เขาที่กำลังเบื่อหน่ายคลายความเหงาลงบ้าง

 

“เรื่องเด็กนั่นสินะ”

 

“...!!!”

 

“หึ ไม่เอาน่าบอย อย่าบอกนะว่ามึงยังทำตัวเป็นหมาเฝ้ากระดูกอยู่อีก”

 

ใบหน้าทะมึนทึนของบอยแทนคำตอบที่เมษาอยากรู้ได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจก่อนจะหยิบเอาขวดไวน์มารินใส่แก้วอีกใบเอง

 

“กูนึกว่ามึงจะเป็นคนใจร้อนกับทุกเรื่อง”

 

“...คุณยังไม่รู้จักผมดีพอหรอกครับ”

 

“ก็อาจจะใช่...แต่ก็อาจจะไม่ใช่เหมือนกัน”

 

“...”

 

“อีกไม่นานหรอกบอย ความอดทนของมึงมันจะหมดลง”

 

เมษาพูดทิ้งไว้ให้คิดก่อนจะออกจากบาร์ไปพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกับเด็กๆที่เจอของเล่นถูกใจ กลับกันคนที่ถูกมองจนทะลุปรุโปร่งอย่างบอยได้แต่ยืนหัวเสียยิ่งกว่าเดิมจนบรรดาลูกน้องเข้าหน้าไม่ติด

 

“พลัส เอานี่ไปให้พี่บอยหน่อยสิ”

 

พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินมาสะกิดพลัสที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเช็ดโต๊ะตัวสุดท้ายโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เธอยื่นรายการของที่จำเป็นต้องใช้ในวันพรุ่งนี้มาให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องโดยที่ตัวเองทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆเมื่อเจอพลัสมองมาอย่างสงสัย

 

“ทำไมพี่ไม่เอาไปให้เขาเองล่ะครับ เอกสารสำคัญไม่ใช่หรอ”

 

“ก็ใช่...แต่พลัสดูหน้าพี่บอยสิ ใครเข้าไปตอนนี้เหมือนกับฆ่าตัวตายชัดๆ”

 

ร่างบางหันไปมองอย่างที่หญิงสาวว่าก่อนจะพบเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาที่เครียดขึงยิ่งกว่ายักษ์วัดแจ้งจนรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมากลบเสน่ห์เหลือร้ายที่บอยมีไว้จนมิด เห็นได้จากพี่คนนี้ที่ปกติพลัสเห็นว่าเธอพยายามหาเรื่องเข้าหากัปตันอย่างบอยจะตายแต่ตอนนี้กลับพยายามหนีห่างซะงั้น

 

“แล้วแบบนี้พี่จะยังส่งผมเข้าไปอีกหรอครับ ผมยังไม่อยากตายนะพี่”

 

พลัสพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ซึ่งคนมองก็ได้แต่บีบแขนของเด็กหนุ่มเบาๆอย่างขอโทษ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ

 

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเป็นพลัสล่ะก็”

 

“ถ้าเป็นผม?”

 

“อืม ถ้าเป็นพลัสล่ะก็พี่บอยไม่ดุหรอก นะๆเอาไปให้แทนพี่ทีนะ”

 

คำตอบของเธอทำเอาพลัสงงหนักเข้าไปใหญ่ พี่บอยที่แค่มองหน้าเขาก็กลัวหัวหดเนี่ยนะไม่ดุเขา จริงอยู่ที่ไม่เคยด่าตะคอกแรงๆแต่น้ำเสียงแข็งๆที่อีกฝ่ายชอบใช้กับเขาเสมอก็ทำให้พลัสไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ร่างใหญ่สักเท่าไหร่

 

“ไม่ดุอะไรล่ะพี่ วันก่อนเขายังว่าเรื่องที่ผมทำงานช้าอยู่เลย”

 

“นั่นก็ใช่ แต่ตอนนั้นมันเกือบตีสองแล้วพี่บอยเขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ นอกจากเรื่องพวกนี้พี่ก็ไม่เคยเห็นพี่แกดุอะไรพลัสเลย ใครๆเขาก็รู้ว่าพี่บอยน่ะเอ็นดูพลัสกันทั้งนั้น นี่พลัสไม่รู้ตัวเลยหรอ”

 

“...”

 

ร่างบางพูดไม่ออก รู้ตัวอีกทีกระดาษเจ้าปัญหาก็ถูกยัดลงในมือของเขาพร้อมกับคำอวยพรของคนที่ชิ่งเดินหนีไปไกลแล้วเพื่อไม่ให้พลัสปฏิเสธ หากแต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับคำพูดที่หญิงสาวบอกเอาไว้ อย่าว่าแต่รู้ตัวเลย...สำหรับพลัสมันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

“พี่บอยครับ พี่นิ้งฝากเอกสารมาให้”

 

เมื่อเห็นว่าปฏิเสธไม่ได้พลัสจึงยอมเดินเอามาให้แทน แต่ทันทีที่เด็กหนุ่มยื่นกระดาษออกไปแทนที่บอยจะยื่นมือมารับมันชายหนุ่มกลับหันมาจ้องพลัสด้วยสายตาดุๆแบบที่พลัสอยากจะลากตัวหญิงสาวที่มาพูดเรื่องเหลวไหลให้เขาฟังเห็นชัดๆว่าสายตาแบบนี้แหละที่ชายคนนี้ใช้มองเขา

 

“แล้วนิ้งไปไหน ทำไมไม่เอามาให้เอง”

 

“เออ...พี่เขาปวดท้องน่ะครับ เลยฝากให้ผมเอามาให้พี่”

 

พลัสเลือกที่จะโกหกไปเพื่อไม่ให้ใครเดือดร้อน แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคำโกหกนี้ไม่สามารถใช้กับชายตรงหน้าเขาได้เลย

 

“คือ...รับไปหน่อยได้ไหมครับ พอดีผมมีธุระต้องไปทำ”

 

“...”

 

“พี่บอยครับ”

 

“ธุระอะไร”

 

“ครับ?”

 

“ธุระที่ว่าน่ะ คือธุระอะไร”

 

 ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นตอนกลางวันแต่พลัสกลับรู้สึกว่าอาการรอบตัวเย็นลงอย่างน่าประหลาด จากที่เคยมองตากันอยู่เด็กหนุ่มกลับหลุบตาลงราวกับกลัวว่าดวงตาคมๆคู่นั้นจะบาดคว้านเข้าไปข้างในตัวเขาจนเผยให้เห็นอะไรที่มันไม่น่าดู

 

“ธุระส่วนตัวครับ...”

 

“ธุระส่วนตัว...หรือเรื่องของชาวบ้านกันแน่”

 

บอยยิ้มเยาะ เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ผู้หญิงคนนั้นให้ไว้กับคนตรงหน้าเขาได้ ว่าจะกลับมาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เหลือให้พลัสฟังหลังจากงานกะเช้าที่พลัสขอเลื่อนมาทำแทนกะกลางคืนเหมือนทุกครั้ง คนที่ถูกว่ากระทบดูอึ้งไป คงจะสับสนว่าเขาด่ามันทำไมหรือไม่ก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองฟังผิดรึเปล่า

 

“พี่ว่ายังไงนะครับ”

 

นั่นไง...เขาเดาผิดซะที่ไหน

 

“เปล่า กูรับไว้ก็ได้ แต่มีข้อแม้อยู่อย่าง”

 

“ครับ?”

 

“เย็นนี้มึงต้องมากับกู เราจะไปรับงานพิเศษกันที่โรงแรม The Next”

 

บอยทำท่าทางนิ่งเฉยเหมือนกับตัวเองเพิ่งพูดถึงสภาพอากาศ หากแต่ในความรู้สึกคนฟังมันช่างกะทันหันและไร้ซึ่งเหตุผล โดยเฉพาะกับคนที่แจ้งล่วงหน้าแล้วว่ามีธุระจะต้องไปทำ ดังนั้นเงื่อนไขที่บอยให้กับเขาไว้มันจึงดูไร้ความรับผิดชอบและไม่สบอารมณ์เอาซะเลย

 

“แต่ผมมีธุระ”

 

“คิดว่ากูแคร์รึไง”

 

“...!!!”

 

“งานนั้นเป็นงานใหญ่ ลูกหลานนักการเมืองมีชื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจจัดงานกันที่นั่นแต่ฝ่ายชายเป็นคนรู้จักคุณเมษาทางเราเลยจะส่งคนไปช่วยด้วย...มึงก็ต้องไปต่อให้ขอเปลี่ยนกะมาแล้วก็เถอะ”

 

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะครับ!”

 

พลัสท้วงออกไปเพราะรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล คนของที่นี่มีไม่ใช่น้อยๆแล้วทำไมถึงต้องบังคับให้พนักงานพาร์ทไทม์อย่างเขาไปด้วย แต่บอยกลับตอบคำถามของพลัสด้วยการหันมาเผชิญหน้าอย่างเต็มตัวจนร่างของเด็กหนุ่มถูกเงาของบอยทาบทับไว้จนมิด

 

“ที่กูพูดไปไม่เคลียร์ตรงไหน”

 

“ทั้งหมดนั่นแหละครับ! คนของที่นี่ก็มีตั้งเยอะแยะ ผมเองก็ขอเปลี่ยนกะไปแล้วและพี่นิ้งก็อนุญาตแล้วด้วย”

 

“แล้วเจ้านายของมึงชื่ออะไร”

 

“...!!!”

 

“กูจำไม่ได้ว่าเคยอนุญาตให้มึงหยุด แต่ถ้ามึงไม่อยากจะทำจริงๆก็ได้ ไปรับค่าจ้างครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ไม่ต้องโผล่หัวกลับมาอีก”

 

พลัสรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนชาไปทั้งแทบ ทำไมคนคนนี้ถึงไม่ยอมรับฟังอะไรเขาเลย เขาแค่มีธุระและเขาก็จัดการทำทุกอย่างถูกต้องแล้วแต่สุดท้ายมันก็จบลงแค่พี่บอยไม่ยอมรับมัน คนที่อุตส่าห์ทำงานอย่างแข็งขันเผลอกำมือแน่นด้วยความไม่พอใจและไม่เข้าใจ ส่วนบอยที่เห็นมันกลับทำหน้านิ่งอย่างเคย

 

“ไม่พอใจงั้นสินะ”

 

“...”

 

“นั่นก็เรื่องของมึง...แต่สิ่งหนึ่งที่มึงควรรู้ไว้ ถ้าหากมึงยังอยากทำงานที่นี่ รวมถึงจดหมายขอฝึกงานที่วางอยู่บนโต๊ะของกู”

 

“...”

 

“อย่าขัดคำสั่งของกูพลัส...อย่าทำให้กูโมโห”

 

บอยปลดเนคไทของตัวเองออกเล็กน้อยก่อนจะหยิบเอากระดาษที่นำพาความวุ่นวายมาสู่ร่างบางมาถือไว้แล้วเตรียมตัวจะเดินออกจากที่นี่ เพื่อไปเตรียมพร้อมสำหรับงานเย็นนี้ที่เขาเองก็ต้องตามไปดูแลด้วยเช่นกัน แต่จู่ๆรองเท้าขัดมันคู่ใหญ่ของชายหนุ่มก็หยุดลงพร้อมกับคำสั่งของบอยที่ตอกย้ำให้พลัสรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่มีสักส่วนเสี้ยวที่จะอ่อนโยนกับเขา

 

“งานจะเริ่มตอนเย็นแต่เราต้องไปที่นั่นตั้งแต่บ่าย มึงมีเวลาเตรียมตัวอีกแค่หนึ่งชั่วโมง...ถ้าคิดว่ากลับมาทันได้ก็ลองดู”

 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

 

 

เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ...พลัสบอกกับตัวเองแบบนั้น

 

 

 

“ให้ตายสิ ทำไมนายต้องนัดฉันให้มาตรงนี้ด้วย”

 

ก้อยที่อยู่ในชุดไปเที่ยวบ่นออกมาไม่หยุดตั้งแต่เธอเดินทางมาถึงโรงแรมที่จู่ๆพลัสก็บอกให้เธอเปลี่ยนมาพบเขาที่นี่ เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกหากไม่ใช่ว่าที่ที่ร่างบางนัดให้เธอมาคุยกันจะเป็นทางเข้าด้านหลังที่มีไว้ให้พนักงานเข้าออกแทนที่จะเป็นล็อบบี้หรือเล้าจ์แบบที่หญิงสาวคิดไว้

 

“ขอโทษด้วยนะ แต่เรามีงานด่วนเข้ามาแถมเวลาก็มีไม่มาก”

 

พลัสที่เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เตรียมพร้อมสำหรับงานตอนเย็นพูดกับก้อยด้วยสีหน้าที่แสดงความลำบากใจและรู้สึกผิด จนคนที่บ่นอุบในตอนแรกยอมพยักหน้าให้อย่างแกนๆแม้ว่าความจริงอยากจะหนีไปนั่งข้างในเต็มแก่

 

“แล้วตกลงแกอยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับไอ้ปูนมัน”

 

“ก็...ทั้งหมด”

 

“หึ ตกลงแกถูกใจมันจริงๆสินะ”

 

ร่างบางไม่ตอบ เขาเลือกที่จะมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายแทนเพื่อยืนยันความต้องการของตัวเองซึ่งดูเหมือนก้อยจะเข้าใจมันได้ดี

 

“เอาเถอะ เห็นแก่เรื่องน่าสนุกที่มันกำลังจะเกิดขึ้นจะบอกให้ก็ได้”

 

“...”

 

“ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องอื้อฉาวนั้น พวกเราก็ไม่มีใครคิดว่าปูนมันจะทำอาชีพนี้ เรารู้แค่มันทำงานพิเศษเป็นบาร์เทนเดอร์ ฝีมือมันก็ดี เคยประกวดได้รางวัลมาก็มาก ปูนมันก็เลยมีคนมาชอบเยอะเป็นผู้ชายทั้งนั้น แต่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องที่ว่า กลุ่มพวกฉันก็สังเกตกันว่าปูนมันเริ่มมีอะไรแปลกๆไป”

 

“อะไรที่ว่าแปลก”

 

“ของใช้ไงล่ะ ถึงงานนอกปูนมันจะเยอะแต่จากคนที่เคยแบกเป้ธรรมดามาเรียนจู่ๆก็เปลี่ยนมาใช้กระเป๋าแบรนด์เนมซะงั้น ใบหนึ่งราคาเป็นหมื่น แล้วใช่ว่าปูนมันจะรวยมาจากไหน ถ้าจะให้เดามันก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง”

 

“...”

 

“ไม่ถูกหวย...ก็ขายตัวเองกิน”

 

สีหน้าของก้อยดูเหยียดหยามและสะใจไปพร้อมๆกัน พลัสเลือกที่จะเงียบไว้และมองดูความอิจฉาที่ฉายชัดอยู่ในทุกอณูของผู้หญิงคนนี้

 

“แล้วก็เริ่มมีข่าวลือว่ามีคนมาคอยรับส่งปูนที่คณะบ่อยๆ เราเองก็ไม่รู้จักหรอกนะแต่เคยเห็นหน้าอยู่ครั้งหนึ่ง...หล่อมาก รถก็สวย พอถามไปถามมาก็มีคนบอกว่าเคยเห็นปูนกับผู้ชายคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันข้างนอก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีคนเห็นว่าสองคนนั้นน่าจะทะเลาะกันแล้วพากันไปเคลียร์ที่รถ”

 

“แล้วมันยังไงหรอ”

 

 

 

“หึ...ก็ขย่มกันจนรถสั่นเลยไง สมกับที่แกอยากรู้ไหมพลัส”

 

 

 

สีหน้าของพลัสซีดลง ก็คิดอยู่แล้วว่ามันคงลงเอยด้วยอีหรอบนี้แต่เขาก็ไม่คิดว่าคนอย่างปูนจะกล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบที่ผู้หญิงคนนี้บอก ก้อยที่เห็นว่าพลัสนิ่งอึ้งไปก็ยกยิ้มแล้วเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้มือของตัวเองลูบใบตามใบหน้าที่ถึงแม้จะไร้เครื่องสำอางแต่กลับขาวสะอาดเสียจนเธออดที่จะขำไม่ได้เมื่อต้องรับรู้ว่าเด็กน้อยแบบนี้กำลังตกหลุมรักคนที่เป็นยิ่งกว่าขยะในสายตาของเธออย่างปูน...นึกแล้วก็เสียดาย แต่คิดอีกทีก็น่าขำ

 

“ถ้าให้เราแนะนำ เราว่าแกเลิกชอบปูนดีกว่า”

 

“เราไม่ได้...”

 

“จะบอกว่าตัวเองไม่ได้ชอบ...จะบอกเราอย่างนั้นใช่ไหม งั้นขอเราถามอะไรแกสักอย่างสิพลัส”

 

“...”

 

 

 

 

“แกเคยนึกถึงภาพตัวเองกำลังทำอะไรมันอยู่รึเปล่า ถ้าไม่ก็ลืมคำเตือนของเราไป แต่ถ้าใช่...ก็อย่าหาว่าเราไม่เตือน”

 

 

 

คำถามของก้อยดังวนอยู่ในหัวของเขาแม้ว่าเธอจะจากไปแล้วพร้อมกับรอยลิปสติกที่ถูกทิ้งไว้ตรงข้ามแก้ม เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นแล้วยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของตัวเองเบาๆโดยที่ในหัวก็ยังคำนึงถึงความรู้สึกที่เขามีให้ปูนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองมาทางนี้ไม่วางตา

 

 

“คนอีกประเภทที่ฉันไม่ชอบ...คือคนที่ไม่ฟังคำสั่งของฉัน”

 

 

บอยมองร่างบอบบางของคนที่เหยียบย่ำหัวใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ได้ตั้งใจแต่มันกลับเจ็บปวดอย่างร้ายกาจ ทุกคำพูดและการกระทำของสองคนนั้นเขาได้รับรู้มันตั้งแต่ต้นจนจบโดยมีหลักฐานคือดอกไม้หลายดอก ที่กลับกลายเป็นเศษซากเพราะมือของร่างใหญ่ที่ใช้มันเป็นที่ระบายโทสะ โดยที่สายตาของบอยไม่ได้ละไปจากพลัสเลยแม้แต่วินาทีเดียว



 :impress3:(มีต่อเม้นต์ล่าง) :impress3:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #141 เมื่อ22-01-2016 21:04:58 »


แสงสีและบรรยากาศแสนที่อบอวลไปด้วยความรักในงานไม่ได้ทำให้จิตใจที่ขุ่นมัวของพลัสทุเลาเบาบางลงเลย เขาเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้บรรดาแขกในงานและฝืนยิ้มรับเมื่อแต่ละคนชมว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่ใครจะสนใจล่ะใครเป็นคนทำมันขึ้นมาเขายังไม่รู้เลยสักนิด

 

“ไหวไหมพลัส สีหน้าไม่ดีเลย”

 

เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลแขกในบริเวณเดียวกับเขาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะสังเกตเห็นว่าคนที่ถึงแม้จะซุ่มซ่ามแต่ก็มักจะร่าเริงเสมอดูไม่เป็นอย่างเคยตั้งแต่เข้ามารับงานรอบเย็น เอาที่จริงก็งงเหมือนกันว่าทำไมพลัสถึงโผล่มาทำงานนี้ได้ทั้งๆที่ตอนแรกขอแลกกะไปเพราะบอกจะไปทำธุระที่อื่น แต่พอถามเจ้าตัวก็เอาแต่ยิ้มแกนๆแล้วส่ายหน้าทุกครั้ง

 

“ไม่เป็นไร เราแค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ”

 

“ไปนั่งพักก่อนไหม เดี๋ยวเราดูแลต่อให้เอง”

 

“ไม่ต้องหรอก ช่วยๆกันดีกว่า เดี๋ยวเราไปยกน้ำมาเพิ่มก่อนนะ จะฝากเอาน้ำอะไรเพิ่มไหม”

 

“ขอม็อกเทล น้ำอัดลมแล้วก็น้ำเปล่าแล้วกัน”

 

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปด้านหลังบริเวณที่มีซุ้มเติมน้ำตั้งอยู่เพื่อลำเลียงเอาแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วไปวางไว้บนโต๊ะตรงจุดต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการบริการแขกให้ทั่วถึง พลัสค่อยๆหยิบแก้วแต่ละแบบตามจำนวนที่ต้องการลงบนถาดกลมสีน้ำตาลในปริมาณที่ถือไหว ก่อนจะเดินกลับไปยังจุดที่ตัวเองจะต้องประจำอยู่อีกครั้ง โดยไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าคนที่กำลังทำให้เขาวุ่นวายใจอย่างปูนเพิ่งเดินผ่านหน้าไปทั้งที่อยู่ใกล้แค่นิดเดียว

 

“ขอโทษนะครับ ผมขอน้ำเปล่าสักแก้วได้ไหม”

 

ก่อนที่พลัสจะไปถึงจุดของตัวเอง เขาก็ถูกเรียกไว้โดยแขกคนหนึ่งที่ยืนจับกลุ่มคุยอยู่ใกล้ๆพอดี เด็กหนุ่มยกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วที่มีน้ำเปล่ารินอยู่เต็มไปให้พร้อมกับปักหลอดไว้ในนั้นเรียบร้อยแล้ว

 

“นี่ครับ”

 

“ขอบคุณมาก อ้าว เธอนี่นา”

 

คำพูดของแขกแปลกหน้าทำให้พลัสหันมาให้ความสนใจกับคนที่เพิ่งรับน้ำไปจากเขาก่อนจะเบิกตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเจ้าของโรงแรมอย่างคณิตที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยเหลือเขาไว้กำลังยิ้มให้จนตาตี่ๆหรี่เล็กลงก็กว่าเดิม

 

“สะ สวัสดีครับคุณคณิต”

 

“คุณเคินอะไรกันล่ะ เรียกพี่ก็ได้ ว่าแต่เราชื่อพลัสใช่ไหมถ้าพี่จำไม่ผิด”

 

ร่างพยักหน้ารับก่อนที่ถาดบนมือเขาจะถูกแย่งไปโดยคนที่สูงกว่ามากโดยที่พลัสยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว

 

“ให้พี่ช่วยดีกว่า โต๊ะของเราอยู่ตรงไหน”

 

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำเอง”

 

“น่า มันหนักนะ รีบบอกมาเถอะ”

 

พลัสอยากถอนหายใจหนักๆให้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาซะเหลือเกิน เด็กหนุ่มยอมชี้ไปยังโต๊ะที่ตนรับผิดชอบก่อนที่คณิตจะเดินไปที่นั่นพร้อมกับถาดของเขาซึ่งทุกๆย่างก้าวทั้งสองคนต่างก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาหลายคู่ที่สงสัยว่าทำไมคณิตที่เป็นถึงเจ้าของโรงแรมถึงต้องลงมาทำงานเองแบบนี้

 

“พี่ครับ พอเถอะเดี๋ยวผมทำเอง”

 

ร่างบางพูดเสียงสั่นขณะที่คณิตกำลังจะลำเลียงน้ำในถาดมาวางลงบนโต๊ะซึ่งพอได้ยินแบบนั้นคณิตก็ใจอ่อนแล้วยอมคืนมันให้พลัสแต่โดยดี

 

“ขอโทษที พี่เห็นว่าหน้านายซีดมาก กลัวว่าจะถือไม่ไหว”

 

“ไม่เป็นไรครับ แล้วก็...ขอบคุณด้วย”

 

พลัสก้มหัวให้คณิตน้อยๆแล้วทำงานของตัวเองต่อไปโดยทำเป็นไม่สนใจคนที่กำลังยืนมองเขาอยู่ แต่จนแล้วจนรอดคณิตก็ยังยืนอยู่แบบนั้นจนร่างบางทนไม่ไหวทำใจกล้าถามออกไป

 

“เออ...มีอะไรรึเปล่าครับ”

 

“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่าบังเอิญจังเลยนะที่เรามาช่วยงานนี้ด้วย”

 

“ก็ไม่ได้อยากมาหรอกครับ”

 

เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อยแต่ถึงอย่างนั้นคณิตก็ยังได้ยินมันอยู่ดีแต่แทนที่จะโกรธ เจ้าของสถานที่กลับหัวเราะร่าแล้วเผลอลูบหัวของพลัสเบาๆด้วยความเอ็นดูเพราะยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าบางมุมของเด็กคนนี้ดูคล้ายปูนอยู่ไม่น้อย

 

“ฮ่าๆ ขอโทษที แต่พี่เองก็เบื่อเหมือนกัน อย่างชิ่งจะแย่แล้วเนี่ย”

 

คณิตพูดติดตลกก่อนจะหยิบเอาน้ำในแก้วมาดื่มโดยไม่ต้องให้ใครมาคอยบริการ พลัสมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วคิดว่าคณิตเป็นผู้ชายที่มีนิสัยประหลาด แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ไฟรอบตัวพวกเขาค่อยๆหรี่ลงพร้อมกับพิธีกรซึ่งเป็นเพื่อนของบ่าวสาวก้าวขึ้นเวทีไปเพื่อเปิดงานแล้วกล่าวถึงความรักที่สุกงอมของคนทั้งคู่ พลัสที่สติยังไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยไม่ได้ตั้งใจฟังมากนัก เช่นเดียวกับคณิตที่หันซ้ายหันขวาเหมือนกับกำลังตามหาใครสักคนอยู่

 

“เออ...พี่มาอยู่ตรงนี้ ไม่เป็นไรหรอครับ”

 

พลัสถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะแทนที่จะออกไปดูงานคณิตกลับมายื่นกินน้ำสบายใจอยู่ตรงนี้ขณะที่คนอื่นกำลังวิ่งวุ่น ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่หันมามองพลัสเล็กน้อยแล้วยิ้มให้ก่อนจะตอบ

 

“พี่ทำในส่วนของตัวเองเรียบร้อยไปแล้วน่ะ งานนี้น้องสาวเป็นแม่งานมากกว่า แต่ถ้ามีปัญหาอะไรพี่ค่อยลงไปช่วยอีกที”

 

“น้องสาว?”

 

“อืม น้องสาวแท้ๆน่ะ เป็นเพื่อนเจ้าสาว”

 

บทสนทนาของทั้งคู่ดำเนินไปเรื่อยๆเช่นเดียวกับพรีเซนเทชั่นที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอ คณิตยิ้มออกมาเหมือนทุกครั้งโดยมีพลัสที่หลุดขำเพราะมุกตลกที่ขัดกับบุคลิกและท่าทางของชายคนนี้เหลือเกินในความรู้สึกของเขา พลัสไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่รู้ตัวอีกทีรอบๆตัวของพวกเขาก็สว่างขึ้น เจ้าสาวที่อยู่ในชุดราตรียาวกำลังเดินเข้ามาในงานโดยมีคนคอยช่วยถือชายกระโปร่งให้ถือเป็นภาพที่เขาเห็นจนชินตาแต่ก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ทุกครั้งที่เห็น

 

“โอ้ย!”

 

เด็กหนุ่มถูกฉุดลงจากฝันเพราะแรงบีบที่ต้นแขนโดยฝีมือของบอยที่ทำหน้าเหมือนกับอยากเหยียบใครสักคนให้จมดิน ร่างบางมองเลยไปข้างหลังก็พบเข้ากับใบหน้าหวานของคนที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้กำลังยืนนิ่งและจ้องเข้ามาในดวงตาของเขาโดยไม่คิดหลบไปไหน พลัสคงดีใจกว่านี้ถ้าหากปูนกำลังมองเขาด้วยดวงตาแบบเดียวกันกับเวลาที่ปูนมองคณิต เพราะแววตาที่ปูนส่งมายังเขาในตอนนี้มันมีแต่ความเย็นชาและรังเกียจจนรู้สึกได้

 

“มีอะไรรึเปล่า”

 

ไม่ใช่พลัสที่เป็นคนถาม หากแต่เป็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเขากำลังหันไปพูดกับบอยที่สีหน้าไม่ได้สุภาพขึ้นเลยทั้งๆที่รู้อยู่ว่าคนที่กำลังถามนั้นเป็นใคร คณิตเห็นปูนแล้วแต่ความวุ่นวายเล็กๆที่เกิดขึ้นทำให้เขาเลือกที่จะจัดการมันก่อนมากกว่าที่จะถามเด็กขี้อ้อนของเขาว่าหายไปไหนมาตั้งนาน

 

“ผมมาตาม ‘คนของผม’ กลับไปทำงาน”

 

บอยเน้นย้ำในคำพูดที่บ่งบอกความเป็นเจ้าของเพียงแต่คนที่ถูกกล่าวอ้างนั้นไม่ได้เข้าใจมันเลยสักนิดเดียว

 

“อ่อ นายคงเป็นคนของไอ้เมษสินะ”

 

“ครับ”

 

“เข้าใจล่ะ แต่ว่าช่วยปล่อยแขนนั่นก่อนจะได้ไหม น้องเขาเจ็บ”

 

คำพูดของคณิตไม่ได้มีอะไรเจือปนอยู่นอกจากความเป็นห่วงแต่คนฟังอย่างปูนและบอยกลับรู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นกำลังขย้ำก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายให้เจ็บจุกจนไม่อาจปกปิดสีหน้าเอาไว้ได้ บอยบีบแขนของพลัสแรงขึ้นจนร่างบางน้ำตาเล็ก แต่ก็ยอมปล่อยมันไปในตอนสุดท้ายก่อนจะก้มหัวให้กับคนที่มีฐานะสูงกว่าด้วยแววตาที่ไม่ได้บ่งบอกถึงการสิโรราบ

 

คนคนนี้กำลังประชดเขา คณิตเข้าใจมันเป็นอย่างดี

 

แต่ที่ไม่เข้าใจเห็นจะเป็น คนที่กำลังเดินออกไปนอกงานนั่นมากกว่า

 

 

 

“ขอโทษด้วยที่กักตัว ‘คนของนาย’ ไว้ แต่ตอนนี้ผมมีธุระต้องไปทำ ขอตัวก่อนแล้วกัน...พลัส พี่ไปนะ”

 

คณิตบอกลาพลัสก่อนจะเดินตามแผ่นหลังเล็กของปูนออกไปทิ้งอีกสองคนที่ต่างอยู่คนละห้วงอารมณ์ให้เผชิญหน้ากันเองโดยไม่คิดจะรับผิดชอบ พลัสเผลอถอยหลังออกมาเมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคามบางอย่างที่บอยแสดงออกมาโดยไม่คิดจะปิดบัง แต่บอยกลับไม่ปล่อยให้ร่างบางทำอย่างนั้น ทันทีที่คณิตเดินพ้นไปชายหนุ่มก็คว้าแขนของพลัสไว้อีกครั้งแล้วบีบมันเข้าเต็มแรง

 

“พะ พี่บอย ผมเจ็บ”

 

“กูบอกมึงว่ายังไง”

 

“คะ ครับ?”

 

พลัสมองความโกรธเกรี้ยวของบอยด้วยความไม่เข้าใจ แล้วก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นอีกเมื่อใบหน้าที่แสนแกร่งขามก้มเข้ามาใกล้จนเขารู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่กำลังเป่ารดหน้าของตัวเองอยู่

 

“กูบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำให้กูโมโห...”

 

“แล้วพี่มาโมโหผมทำไม อึก ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

 

“ทำสิ และมันก็เป็นการกระทำที่ผิดพลาดมาก”

 

“...!!?”

 

“มึงทำให้ความอดทนกูหมดลงไปไงพลัส...ต่อจากนี้ถ้าอยากจะโทษใคร ก็โทษตัวเองที่ความรู้สึกช้าก็แล้วกัน”

 

สิ้นคำนั้นบอยก็ฉุดพลัสให้เดินไปด้วยกันโดยไม่สนว่าใครจะว่ายังไง ร่างใหญ่เหลือบมองคนเป็นนายอย่างเมษาที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับชูแก้วไวน์ในมือขึ้นราวกับกำลังอวยพรแด่ความอดทนที่พังทลายของเขา บอยก้มหัวให้เมษาน้อยๆก่อนจะพาพลัสที่เริ่มร้องโวยวายให้เดินตามกันไปโดยไม่คิดจะฟังคำทัดทาน

 

“ปล่อยผมนะพี่บอย! พี่จะพาผมไปไหน!”

 

“หุบปากซะ”

 

“ไม่! ผมจะพูดจนกว่าพี่จะบอกผม!!”

 

คราวนี้คำของร้องของพลัสมันเป็นผล แต่กลายเป็นร่างบางเองนั่นแหละที่ต้องหยุดลงเพราะบอยหันมาบีบมันเข้าเต็มแรงจนนัยน์ตากลมของเด็กหนุ่มแดงก่ำเพราะน้ำตา แต่เคยได้ยินไหมที่คนมักพูดกันว่าต่อให้ตัวเล็กแค่ไหนเสือก็ยังเป็นเสือ พลัสจ้องบอยกลับไปด้วยดวงตาที่บ่งบอกว่าเขาไม่คิดจะก้มหัวให้ความยิ่งใหญ่ของคนตรงหน้าอีกแล้ว ต่อให้ตอนนี้เขาจะเจ็บจนมีน้ำตา แต่ตราบใดที่พลัสไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดเขาก็ไม่จำเป็นต้องยอม

 

“ทำหน้าแบบนี้ คิดจะสู้กูรึไง”

 

“ผมสู้แน่ ถ้าสิ่งที่พี่ทำไปมันไม่มีเหตุผล”

 

“หึ เหตุผลน่ะหรอ...มีสิ”

 

“...”

 

 

 

“แต่มึงไม่จำเป็นต้องรู้”

 

 

 

 

 

บอยคว้าท้ายทอยของพลัสไว้แล้วกระชากเข้ามาจูบเต็มแรงจนสัมผัสแรกของพวกเขาเต็มไปด้วยรสเค็มปร่าของเลือด ร่างใหญ่ยัดลิ้นพรวดเข้ามาทีเดียวจนพลัสที่งงอยู่แล้วตั้งตัวไม่ทัน ในหัวของเด็กหนุ่มขาวโพลนเขารู้สึกได้เพียงแรงบีบเค้นตามร่างกายที่เกิดขึ้นจากมือที่แข็งแรงดั่งคีมเหล็กของคนตรงหน้า และลิ้นของบอยที่กำลังสำรวจไปทั่วโพร่งปากของเขาอย่างหื่นกระหาย

 

พอหลุดออกมาได้ พลัสก็ถูกคนเอาแต่ใจโถมเข้าใส่อีกครั้งจนร่างของเขาปะทะเข้ากับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของบอยที่จอดอยู่ในลานจอดรถกว้างที่ไร้เงาของคนอื่นนอกจากเขาทั้งสอง ร่างกายที่มีเสื้อผ้าปกคลุมอยู่ของพลัสถูกบอยฟอดเฟ้นไม่หยุดจนร่างบางรู้สึกเจ็บไปทั่วทั้วตัว กระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาถูกปลดออกก่อนที่มือของบอยจะล้วงเข้าไปด้านในแล้วบีบเค้นยอดอกที่ไม่เคยมีผู้ใดได้สัมผัสมาก่อนจนร่างบางเผลอหลุดสะอื้นออกมาเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นชิ้น

 

“พี่บอย ฮึก หยุดนะ”

 

“หึ ทีกูบอกให้มึงหยุด ทำไมมึงไม่ฟังกูบ้างพลัส”

 

“พะ พี่บอกผมตอนไหน อ๊ะ! อย่าจับ ฮึก อย่าจับตรงนั้น”

 

“กูบอกมึงตลอดนั่นแหละพลัส”

 

“อ๊าาา อย่า”

 

 

 

“แต่มึงนั่นแหละ...ที่ไม่เคยรู้สึกถึงมันเลย”

 

 

พลัสตัวสั่นอย่างกับถูกแช่ไว้ในถังน้ำแข็ง เพียงแต่ความร้อนเบื้องล่างทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกสถานที่ที่เขาอยู่นั้นคือนรกไม่ใช่สวรรค์อย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้ แท่งเนื้อบวมเป้งกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ในมือของบอยอย่างหมดท่า หากแต่ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นกลับทำให้พลัสต้องร้องครวญครางแทนที่จะร้องไห้ จวบจนหยาดหยดสุดท้ายของอารมณ์ที่ดำเนินมาถึงปลายทาง เสียงหอบกระเส่าของพลัสก็ดังขึ้น คลอไปกับเสียงของน้ำตาที่ร่างบางไม่มีวันได้ยิน

 

“มึงอยากรู้นักใช่ไหมว่าทำไมไอ้ปูนมันถึงมาขายตัว”

 

“ปล่อย...ปล่อยผม”

 

“ไม่ต้องเสียเวลาไปถามคนอื่นหรอก ถ้ามึงอยากรู้นักกูจะบอกมึงให้ก็ได้”

 

“...”

 

“ว่าความรู้สึกของคนที่ต้องใช้ร่างกายของตัวเองแลกกับสิ่งที่ต้องการ มันรู้สึกยังไง...กูจะซื้อมึงเองพลัส”

 

“...!!!”

 

 

 

 

 

“กูบังคับขาย...ต่อให้ตายมึงก็หนีกูไม่พ้น”

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!!

คำแรกเลย 'ป๋าโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ง้อเมียด่วนนนนนนนนนนนนน!!!!!!'  :z6: :a5: คืองอนนนนน พาร์ทป๋าปูนตอนนี้แทบจะไม่มีแล้วมาทำแบบนี้มันน่ากรีดร้องมากกกกกก (คนอ่าน : ได้ข่าวว่ามึงเป็นคนแต่ง  :z13:) ตอนหน้าเล่นป๋าหนักๆเลยนะปูน อย่าไปยอมนะ!!!! (คนอ่าน : อยากได้แบบไหน แต่งเอาเองเลยจ้า :z13:)

พาร์ทนี้วิญญาณจำเลยรักเข้าสิ่งเช่อย่างหนักคับ 55555555 แต่บอกแล้วนะว่าพลัสไม่ใช่แมวน้อย นางก็เสือดีๆนั่นแหละเพียงแต่ยังไม่โต เช่นี่รอคอยวันที่พลัสจะโตอย่างใจจดใจจ่อ นิยายเช่เคะเป็นใหญ่นะคับ ไม่สตรองอยู่ไม่ได้นะบอกเลย!!!  :katai3:

หลังจากพาร์ทนี่เช่จะขอหลบไปจัดการหนังสือพี่กาลให้เสร็จทุกสิ่งอย่างก่อนนะคับ บวกกับการบ้านที่เริ่มทยอยเข้ามาตั้งแต่ต้นเทอม อาจจะช้าและค้างไปบ้างอย่าได้ถือสา ...เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นานนนนน เพลงคสช.นี่ลอยมา ถ้าตารางชีวิตเคลียร์แล้วเช่จะรีบกลับมาอัพให้อย่างแน่นอน ไม่แน่อาจจะไม่นานอย่างที่คิดก็ได้นะคับ เคลียร์เสร็จเร็วก็กลับมาเร็ว เป็นกำลังใจให้เช่ด้วยนะ  :hao5:

พูดถึงหนังสือพี่กาล เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะปิดรอบแล้ว ใครที่ยังไม่ได้จองก็จอง ใครที่ยังไม่ได้โอนก็โอนกันเถิดนะ ไม่ใช่ว่าจองแต่ไม่โอน เช่นี่จะเงิบนะบอกให้ 5555555555 แล้วก็บอกหลายรอบแล้วว่าอาจจะไม่รีปริ้น หรือถ้ารีก็ไม่ใช่เร็วๆนี้แน่ๆ ตั้งใจไว้แล้วถ้าไม่ได้เป้าตามที่วางเอาไว้เช่จะไม่รีเด็ดขาด ตามประสบการณ์หลังจากปิดรอบไปคนจะมาขอรีเยอะมาก เช่เสียดายโอกาสคับบอกตรงๆ อยากขายก็อยากขายนั่นแหละ แต่เราก็อยากให้คนที่ชอบได้เก็บนิยายเรื่องนี้เป็นเล่มเหมือนกัน เพราะฉะนั้นลองพิจารณากันดูนะคับ ใครเก็บเงินไม่ทันลองมาคุยกับเช่หลังไมค์ดูก่อนได้ อย่าลืมนะ 4 กุมภานี้ ปิดรอบนะคับ :)  :call:

ป.ล. ขอบคุณทุกเม้น ทุกโหวต และทุกๆการสนับสนุน อ่านไปเริ่มเจอคอมเม้นต์ที่บอกว่าไม่ชอบพี่กาล เช่นี่ลั่น 55555 เพราะตอนเรื่องพี่กาลก็มีแต่คนไม่ชอบปูนเหมือนกัน แต่ยังไงก็แล้วแต่ทุกตัวละครมีเหตุผลและเรื่องราวของตัวเองนะคับ เช่ก็หวังแค่ว่าทุกคนจะมีความสุขกับมัน แล้วเจอกันตอนต่อไปนะ  :mew1:


 

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #142 เมื่อ22-01-2016 21:13:46 »



ตอบเม้นกันนนนนน :katai4:



cho-ningza-19891 >>>> ฉุดไปแบบนี้เรียกจีบไหมคับ  :a5:



sweetbasil >>>> ถ้าไม่ติดว่าขี้เกียจ อยากหาเมียให้คุณเมษสักคนเหมือนกันนะ



Freja >>>>> ขอบคุณที่ติดตามนะคับ แล้วก็ที่แจ้งจุดผิดให้ด้วย  :pig4:



 ่jum >>>>> เก็บเข้าห้องพี่แกไปเรียบร้อยแล้วคับ  :hao6:



hpimmc >>>>> ป๋าก็คือป๋าคับ  :กอด1:



kanomjeeb >>>>> พลัสอาจจะเป็นเสือ แต่ปูนก็ไม่เบานะ  :hao7:



นอนกินแรง >>>>> โดนจัดไปหนึ่งดอกเบาๆ  :fire:



Toho48 >>>>> หวังว่าจะชอบพาร์ทคู่รองนะคับ  :mew1:



FOUR EYES >>>>> จัดไปตามคำเรียงร้องคับ  o13


ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #143 เมื่อ22-01-2016 22:35:10 »

บอยอย่างโหดแต่ชอบนะ
ส่วนป๋าขัดใจมากกกกก อย่าใจดีไปทั่วได้ไหม :katai1:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #144 เมื่อ22-01-2016 22:41:50 »

พี่บอยโหดจัง

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #145 เมื่อ22-01-2016 23:34:12 »

อือหือ ประโยคสุดท้ายของเฮียบอย จัดว่าเด็ด  o13

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #146 เมื่อ22-01-2016 23:52:40 »

บอยฮาร์ดคอไปไหม เชียร์พลัสให้ป๋าดีกว่า :hao3:

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #147 เมื่อ23-01-2016 00:18:35 »

น้องก้อยๆๆๆๆ :beat: :beat:

ออฟไลน์ ลมเพลมพัด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #148 เมื่อ23-01-2016 02:25:00 »

ค้างงงงง ค้างมากกกกกก ตอนหน้าขอให้ต่อคู่รองให้จบก่อนได้มั้ยยยยย กรี๊ดดดดดดด  :ling1:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #16][220159]
«ตอบ #149 เมื่อ23-01-2016 18:26:19 »

พี่บอยโหดมากกกกก พลัสบอบช้ำน่าดูแต่ก็แอบสะใจ เลิกยุ่งเรื่องคนอื่นสักทีเถอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด