[เรื่องเงือกๆ] Merman. ปาฏิหาริย์แห่งมหาสมุทร ตอนที่9-10(จบ) P.4 (23/12/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเงือกๆ] Merman. ปาฏิหาริย์แห่งมหาสมุทร ตอนที่9-10(จบ) P.4 (23/12/58)  (อ่าน 65155 ครั้ง)

ออฟไลน์ หลิว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โอจิซัง = ซุบารุซัง รึเปล่าเนี่ย
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ  :katai4:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
โอ้ยยยยยย  ปากระจกรัวๆน่ารักเกิ้๊นนนนน

ปล.ขอไฟล์รูปได้มั่ยค้า ว่างๆอยากจะปาดสีดูสักครั้ง

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
งินจะน่ารักไปไหนนนน

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จะดีมากค่ะ ถ้าเนื้อเรื่องจบแบบฉีกกระชากกฏเกณฑ์ที่ทสุกิยะพูดไว้ ว่าลูกครึ่งมีความเสี่ยงเป็นหมันสูง คืออยากเห็นลูกของงินกับโทวะ (เริ่มมโนละ)
เห็นปกแล้ว เงินในบัญชี สั่นไม่หยุดเลยค่ะ มีแววว่าอยากได้ 5555555
โอ๊ยยยยย ทำไมท้ายๆทำเราเขินเยี่ยงนี้

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อายุไขของพวกเขาช่างห่างกันเหลือเกิน
อย่านะ
อย่าดราม่าน๊าาาา
 :sad4:
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งินน่ารักดีจัง ลองตามดูๆ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อ่านไปตัวบิดไป น่ารักมาก

ออฟไลน์ chacogothicW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถึงโทวะซังจะเป็นเมะก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้อยากให้งินเมะเลยจริ๊งจริง555555555
รอนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เป็นโชตะที่โอจิคอนอย่างแปลกๆ จริงๆ ค่ะ ชอบ
งินคุงน่ารักไปอีก
*แต่ยังไงพี่เกรียงก็ยังเป็นที่หนึ่งนะ*
คนเขียนบอกปีหน้าก็รอค่ะ 555555
 :mew1:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :-[ ว๊ายๆ สารภาพรักแล้วอ๊าาา
โทวะนี่จู่โจมไว๊ไวอ๊า หนูงินน้อยจะว่าไงล่ะทีนี้  :m12:
แต่แอบมีสงสัยในหลายๆอยากอยู่นะ แต่คาดว่าอ่านไปเรื่อยๆคงเจอซักตอนแหละ (มั้ง)  :laugh:

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
งินน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก :mew1: :mew3:

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โอจิซัง = ซูบารุ?

ตามมาจากเพจค่ะ เรื่องนี้อ่านเพลินดี ติดตาม

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โอ๊ยยยย ชอบบบบบบ ฟินเฟร่อออ :-[
งินน่ารักมากเลย เค้าชอบมุ้งมิ้งๆ >3<
ดูท่าโทวะซังจะรู้ตัวเร็วแฮะ รุกเลยๆ!  :z2:
รอน้าาา

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog


Merman. ปาฏิหาริย์แห่งมหาสมุทร

ตอนที่6 ในดวงตา

                งินสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะจูบตอบผมอย่างอ่อนโยน พวกเราจูบกันแบบนั้นอยู่พักใหญ่ๆ หัวใจของผมเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อะไรบางอย่างระอุอยู่ในนั้น

                “งิน...” ผมเรียกชื่อเขาเสียงเบาระหว่างที่เราผละริมฝีปากออกจากกัน งินใช้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองผม ก่อนจะพูดตอบ “หายใจคล่องขึ้นหรือยังครับ?”

                ระบบความคิดของผมชะงักไปวูบหนึ่ง จากนั้นถึงพอเข้าใจว่าคำถามของเขาหมายถึงอะไร

                “โทวะซัง เป็นอะไรครับ ทำไมเคาะหัวตัวเองแบบนั้น?” งินถามด้วยความตกใจ ผมเคาะหัวตัวเองซ้ำอีกครั้ง ด้วยไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี ก่อนจะหัวเราะออกมา “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”

                เงือกหนุ่มตรงหน้ามองผมด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ในที่สุดก็ยอมพยักหน้า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ จริงสิ ผมมีที่นึงอยากให้คุณเห็น”

                พูดจบเขาก็ฉุดมือผมว่ายออกจากถ้ำไป

--------------------------------------

                งินพาผมว่ายฝ่ากระแสน้ำลึก ใช้เวลาประมาณครู่ใหญ่ๆ ก็มาถึงซากเรืออับปางซากหนึ่ง ผมคะเนดูจากขนาดและลักษณะแล้ว น่าจะเป็นเรือสำราญที่ล่มเมื่อนานมาแล้ว งินพาผมว่ายผ่านรอยแตกใหญ่ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เรืออับปางลง เข้าไปด้านใน แสงสว่างที่นี่มีไม่มากนัก แต่โชคยังดีที่ผมคว้าปลาเรืองแสงตัวนั้นติดมือมาด้วย

                โครงสร้างส่วนใหญ่ด้านในตัวเรือยังคงสภาพเดิมเอาไว้ มีเพียงสีและวัสดุตกแต่งผนังบางส่วนที่อาจจะถลอกหรือหลุดล่อนไปเพราะกระแสน้ำและกาลเวลา กระนั้นก็กลับมีเหล่าดอกไม้ทะเล เพรียง และหอยชนิดต่างๆ เข้ามาแทรกตัวแทนที่ ทำให้เกิดภาพแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง

                งินพาผมว่ายมาที่ห้องโถงของเรือ โคมไฟระย้าที่ครั้งหนึ่งคงเคยแขวนอย่างสง่างามอยู่ด้านบน บัดนี้หล่นเอียงกระเท่เร่อยู่ด้านล่าง ถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ทะเลนานาชนิด งินว่ายเข้าไปใกล้ แล้วผายมือเป็นเชิงอวดพร้อมพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ

                “สวยมั้ยครับ?”

                ผมพยักหน้า กวาดตามองโคมไฟระย้านั้นอีกครั้ง “ดอกไม้ทะเลพวกนี้ปลูกเองหรือ?”

                “ขึ้นเองบ้าง ปลูกบ้างครับ” งินตอบ “แบบนี้พอสวยเหมือนตอนที่มันยังไม่ล่มรึเปล่าครับ?”

                ผมเลิกคิ้ว นึกขึ้นมาได้ว่าเขาคงไม่เคยเห็นเรือสำราญในแบบที่มันควรจะเป็น เลยพูดตอบไป “ตอนมันยังไม่ล่มไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่ที่เป็นอยู่นี่ก็สวยไปอีกแบบนะ”

                “แล้วตอนยังไม่ล่มที่นี่เป็นยังไงหรือครับ?”

                ผมกวาดตามองไปรอบๆ แล้วชี้มือให้เขาดูด้านบนเพดาน “โคมไฟนี้น่ะ จริงๆ ต้องแขวนอยู่บนโน้น แล้วตรงนั้น” ผมชี้มือไปที่โต๊ะเก้าอี้ที่ล้มกระจัดกระจายอยู่ “เป็นที่ดินเนอร์ เลยไปหน่อยจะเป็นส่วนที่มีการแสดงดนตรี ตรงที่มีเปียโนล้มอยู่น่ะ”

                “หืม? โต๊ะทรงแปลกๆ นั่นน่ะหรือครับ เปียโน?”

                “ใช่” ผมพยักหน้า แล้วมองเขาด้วยความเอ็นดู “ไม่รู้จักล่ะสิ”

                คนถูกถามสั่นศีรษะ ผมเลยพูดต่อ “ไว้ว่างๆ ฉันจะเล่นให้ฟัง”

                “ว้าว” งินร้องด้วยความสนใจ “เล่นเป็นเหรอครับ? งั้นเล่นให้ผมฟังตอนนี้เลย” พูดจบเขาก็ทำท่าจะว่ายตรงไปที่เปียโนหลังนั้น ผมเลยต้องรีบดึงมือเขาไว้ “ตรงนี้ไม่ได้หรอก เปียโนเล่นในน้ำไม่ได้แน่”

                “อ้อ... จริงด้วย ผมลืมไปเลย”

                ผมหัวเราะ พลางมองเขาอีกครั้ง “เอางี้มั้ยล่ะ? เธอไปเที่ยวบ้านฉัน แล้วเดี๋ยวฉันจะเล่นให้ฟัง”

                งินรีบสั่นศีรษะทันที “ไม่ไหวหรอกครับ บ้านคุณอยู่บนบก คงไกลไม่ใช่เล่น ผมไปไม่ไหวแน่”

                “ไม่ไกลหรอก” ผมตอบเขา “เรานัดเจอกันที่ท่าเรือสักแห่ง ฉันจะเอารถไปรับเธอ คงถึงบ้านฉันก่อนพระอาทิตย์ตกแน่นอน”

                งินทำท่านึกอยู่พัก แล้วโพล่งขึ้นมา “แล้วถ้าพระอาทิตย์ตกผมกลับลงน้ำไม่ทันจะทำไงล่ะครับ”

                “ก็ค้างที่บ้านฉันไง” ไม่รอให้เขาพูดอะไรตอบ ผมรีบพูดต่อทันที “ขอแค่มีน้ำทะเลก็พอใช่ไหมล่ะ? เรื่องนั้นไม่ยากหรอก ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน”

                เงือกหนุ่มตรงหน้าผมทำท่าลังเลใจอยู่ครู่ใหญ่ๆ “ไม่รู้สิครับ... โอจิซังก็ไม่อยู่ด้วย ผมไม่รู้ว่าจะขึ้นไปได้มั้ย?”

                “แล้วโอจิซังของเธอเมื่อไหร่จะกลับล่ะ” ผมถามเขา พลางรู้สึกเหมือนกำลังจะพาเด็กเล็กๆ ไปเที่ยวแล้วต้องรอผู้ใหญ่อนุญาตก่อน งินมองผมครู่หนึ่ง แล้วสั่นศีรษะ “ไม่รู้สิครับ เอาไว้ยังไง ผมค่อยบอกคุณอีกทีดีกว่า”

                ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรหรอก ไว้เธอพร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปแล้วกัน แต่อย่านานนักล่ะ เดี๋ยวฉันจะแก่เสียก่อน เล่นให้เธอฟังไม่ไหว”

                “ไม่นานหรอกครับผมสัญญา” งินรีบพูดออกมา “ผมต้องไปดูโทวะซังเล่นเปียโนให้ได้เลย”

                ผมยิ้มให้เขา “สัญญาแล้วนะ”

                “ครับ” เงือกหนุ่มตรงหน้าผมพยักหน้าหนักแน่น ผมยื่นนิ้วก้อยให้เขาเหมือนเล่นกับเด็กๆ “งั้นเกี่ยวก้อยกัน”

                “เห?”

                “ก็เป็นการยืนยันสัญญาไง เกี่ยวก้อยกันแล้วหมายความว่าจะไม่ผิดสัญญาเด็ดขาด”

                “ไม่งั้นจะโดนยักษ์ตัดนิ้วใช่มั้ยครับ?” งินพูด แล้วหัวเราะออกมา “โทวะซังเชื่อเรื่องยักษ์ด้วยเหรอ?”

                “ไม่เชื่อหรอก”

                “งั้นเกี่ยวก้อยทำไมครับ”

                “.........” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร งินก็ยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวนิ้วผมไว้ แล้วพูดต่อ “แต่ผมเชื่อนะ เพราะผมเคยเห็น เพราะงั้น สัญญาครับ ผมจะไม่ให้ยักษ์มาตัดนิ้วเด็ดขาด”

                ผมอ้าปากค้างจะพูดแต่ก็ไม่ทันเขาอีกตามเคย งินคลายนิ้วออก แล้วว่ายตรงไปที่เปียโนที่ล้มอยู่หลังนั้น ก่อนจะยกมันขึ้นมาตั้ง

                “บนบกมันเป็นแบบนี้รึเปล่าครับ?”

                ผมจำต้องว่ายตามเขาไป แล้วหยิบเก้าอี้เปียโนที่วางอยู่ใกล้กันขึ้นมาตั้งไว้ จากนั้นก็ขยับไปเปิดฝาด้านหลังขึ้นมา “ปกติแล้วมันก็ตั้งแบบนี้แหละ”

                “ว้าว” งินทำหน้าพิศวง “แล้วเล่นยังไงครับ โทวะซังทำให้ผมดูหน่อย เอาแค่ท่าทางก็ได้ครับ ผมอยากเห็น”

                ผมมองหน้าเขา แล้วจำต้องนั่งปุลงตรงหน้าเปียโนที่ไม่น่าจะเล่นได้หลังนั้น ก่อนจะเปิดฝาครอบคีย์ขึ้น แล้ววางนิ้วลงไป

                “แบบนี้แหละ พอกดนิ้วลงไปแล้วมันจะมีเสียง” ผมพูดพลางกดนิ้วลงบนคีย์ด้วยความเคยตัว แต่ก็รู้สึกขึ้นมาได้หลังจากนั้นว่ามันคงไม่มีเสียง งินมองผมด้วยท่าทางตื่นเต้น “อยากได้ยินเสียงจัง ผมว่าเสียงมันต้องเพราะมากแน่ๆ”

                “อือ เสียงเพราะ ยิ่งถ้าได้เล่นคู่กับฟลุ้ตแล้วยิ่งเพราะมากเลยล่ะ”

                “ฟลุ๊ตคืออะไรครับ?”

                “เป็นเครื่องดนตรีคลาสสิกอีกชนิดน่ะ ใช้ปากเป่า เหมือนขลุ่ย” ผมพูดแล้วทำท่าทางให้เขาดู เพราะจะให้ผมไปค้นหาฟลุ้ตจากเศษข้าวของที่กระจัดกระจายกันอยู่คงลำบาก อีกอย่างไม่รู้ว่ามันจะยังมีสภาพดีอยู่อีกมั้ย งินมองแล้วพยักหน้า “ถ้าขลุ่ยแบบนั้นผมเคยเห็นบนบก ที่หมู่บ้านเคยมีคนเป่า”

                “อือ”

                “แต่ผมเล่นไม่เป็น”

                “ไม่เป็นไรหรอก แค่ฟังอย่างเดียวก็ดีแล้ว”

                เงือกหนุ่มตรงหน้าผมทำปากยื่น “แต่ถ้ามีฟลุ้ตเล่นคู่จะเพราะไม่ใช่หรือครับ หัดยากมั้ย?”

                “ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยหัดหรอก”

                “ฮือ... แล้วผมควรทำยังไงดี ไปฟังเฉยๆ ไม่ดีแน่เลย”

                “มันไม่ดีตรงไหนล่ะ”

                “ก็ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ครับ”

                ผมมองเขาอย่างเอ็นดู แล้วนึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ “เธอก็ร้องเพลงประกอบเป็นไง เสียงเธอเพราะนี่ ฉันเคยฟัง”

                “หืม? เมื่อไหร่ครับ?”

                “ก็ตอนเธอขึ้นจากหาด”

                “อ๋อ... ตอนนั้นที่คุณเป็นลม”

                “..............”

                “โทวะซัง...? โกรธเหรอครับ?”

                “เปล่า” ผมปฏิเสธ “แค่นึกทุเรศตัวเองน่ะ ดันเป็นลมไปซะได้”

                งินหัวเราะเสียงใส “ไม่แปลกหรอกครับ ก็คุณไม่เคยเห็นเงือกนี่ เวลาคนตกใจอะไรมากๆ ก็ต้องเป็นลมเป็นธรรมดานี่ครับ”

                “อืม...” ผมรับคำแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก ได้ยินเขาพูดต่อ “ต่อไปผมจะระวังไม่ทำอะไรให้คุณตกใจมาก คุณจะได้ไม่ทุเรศตัวเอง”

                ผมนึกทุเรศตัวเองหนักกว่าเก่า จนต้องรีบพูดขึ้นมา “ฉันไม่ใช่คนเป็นลมง่ายอะไรแบบนั้นหรอก”

                “เอ๋?”

                พอเห็นหน้าแปลกใจของเขาแล้วผมถึงขั้นต้องถอนหายใจแรงๆ อีกสองที “เอาว่าปกติฉันไม่ใช่คนตกใจง่ายๆ แล้วกัน อย่าว่าแต่เป็นลมเลย”

                “แสดงว่าตอนเห็นผมคุณตกใจมาก”

                “...อืม” ผมจำต้องพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะรีบพูดต่อ “แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นเงือก”

                “อ้อ...” งินส่งเสียงแล้วเงียบไป ท่าทางเหมือนกำลังตรึกตรองเรื่องอะไรอยู่ ผมเห็นแล้วก็อดถามไม่ได้ “มีอะไรหรือ?”

                “อ๋อ เปล่าหรอกครับ แล้ว... คุณกับโอ... เอ้อ ซุบารุซัง เป็นยังไงกันบ้างครับ ผมหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาน่ะ”

                “อ๋อ ปกติ” ผมตอบ แล้วนึกบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยพูดต่อทันที “คือฉันกับคามิซาวะเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เขาเป็นเลขาส่วนตัวฉัน แค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น บอกทสึกิยะเลยว่าไม่ต้องจองเวรฉันเรื่องคามิซาวะอีก”

                งินทำหน้าโล่งใจปนขำ “ฮ่าๆ ผมรู้แล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องทสึกิยะซัง... ผมว่าอธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจหรอก เขาเข้าใจอะไรยากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จริงสิครับโทวะซัง ถ้าคุณกลับไปแล้ว ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้ซุบารุซังกลับมาที่เกาะนี้ได้มั้ยครับ ผมมีเรื่องบางอย่างจะต้องคุยกับเขา”

                “อืม...” ผมส่งเสียงในคออย่างใช้ความคิด “ถ้าเธอพูดแบบนี้ แสดงว่าคามิซาวะไม่ยอมกลับมาที่เกาะนี้อีกเลยสินะ”

                “ใช่ครับ”

                “ฉันจะลองพยายามดูแล้วกัน”

                งินร้องด้วยความดีใจ “ขอบคุณนะครับโทวะซัง”

                “ไม่เป็นไรหรอก” ผมตอบเขา พลางนึกสงสัยว่าที่เขาพาผมมาที่นี่ เพราะต้องการจะพูดเรื่องนี้รึเปล่า “นี่ งิน”

                “ครับ?”

                “ที่ชวนฉันมาที่นี่ เพราะเรื่องคามิซาวะเหรอ?”

                “ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ” เงือกหนุ่มตรงหน้าผมรีบปฏิเสธทันที ก่อนจะพูดต่อ “ที่จริงผมชวนคุณมาที่นี่ เพราะคุณเป็นมนุษย์จากที่อื่นคนแรกที่ผมเจอตั้งแต่ผมเกิดมา ผมไม่เคยเจอคนจากที่อื่นเลยนะครับ คุณเป็นคนแรก”

                “แค่นั้นเหรอ?”

                งินดูแปลกใจกับท่าทางของผม “ทำไมล่ะครับ? คุณเป็นคนสำคัญมากนะ เป็นเจ้านายของซุบารุซัง และเป็นแขกของที่นี่ในรอบหลายปีด้วย”

                “งั้นถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน เธอก็จะชวนลงมาเหมือนกันงั้นสิ”

                “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ”

                “ถามดูน่ะ”

                งินเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็พึมพำอะไรบางอย่างที่ผมจับใจความไม่ได้ ผมเลยขยับตัวเข้าไปใกล้ “ว่าไงล่ะ?”

                เงือกหนุ่มที่มีเรือนผมสีเงินตนนั้นขยับหน้าหนี “เข้ามาใกล้เกินไปแล้วครับ”

                “ก็ฉันไม่ได้ยินนี่”

                “ผมไม่ได้ตอบให้คุณได้ยิน”

                “แล้วกัน” ผมคราง “แล้วเธอตอบให้ใครฟัง”

                “ให้ฟองน้ำฟังครับ”

                ผมนึกอยากตีก้นเขาขึ้นมาตงิด ติดแต่นึกได้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะกระทำกับเงือก เลยแสร้งปั้นหน้าดุถามต่อแทน “พูดให้ฟองน้ำฟังแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา ทำไมไม่พูดให้ฉันฟังล่ะ”

                “ก็ผมไม่อยากให้คุณได้ยินนี่”

                “ทำไมไม่อยากให้ฉันได้ยินล่ะ”

                “เดี๋ยวคุณจะว่าผม”

                “เพราะ?”

                งินก้มหน้างุด ไม่ยอมตอบคำถามผมเสียที ผมเห็นท่าเขาแล้วนึกอยากแกล้งขึ้นมา เลยตีเสียงดุต่อ “ก็ได้ เธอจะไม่บอกฉันก็ได้ ยังไงเสียฉันมันก็แค่แขกที่มาพัก ไม่ได้สลักสำคัญอะไรจริงๆ อยู่แล้วนี่”

                “ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ!”

                “แล้วทำไมถึงไม่ยอมพูดให้ฉันได้ยินล่ะ”

                “ก็...” งินทำหน้าอึดอัดใจ “ก็ผมไม่รู้นี่ว่าทำไม... ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นคุณ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่พาลงมา”

                “ทำไมล่ะ?”

                “ถ้าผมรู้ผมก็บอกคุณไปแล้วล่ะ” งินพูด แล้วก้มหน้างุด “อย่าโกรธผมเลยนะ”

                เดิมทีผมก็ไม่ได้โกรธอะไรเขาอยู่แล้ว ยิ่งเห็นท่าทางแบบนี้ ผมยิ่งโกรธเขาไม่ลงเข้าไปใหญ่ “ฉันจะไปโกรธอะไรเธอเล่า แค่เธอพาฉันลงมาที่นี่ ฉันก็ดีใจมากแล้ว”

                เงือกหนุ่มตรงหน้าผมเงยหน้าขึ้นมาทันที “จริงเหรอครับ?”

                “อือ” ผมพยักหน้า “จะมีคนสักกี่คนมีโอกาสแบบฉันล่ะ มาคราวนี้ถือว่าฉันไม่เสียเที่ยวจริงๆ”

                เขายิ้มออกมา “โทวะซัง ผมมีอีกเรื่องจะบอก”

                “อะไรหรือ?” พอเห็นท่าทางเหมือนอยากจะบอกความลับอะไรสักอย่างของเขา หัวใจผมก็เต้นดังอึงขึ้นมา งินขยับเข้ามาใกล้ ทำหน้าเขินๆ ใส่ผม หลังจากบิดไปบิดมาให้ผมตื่นเต้นเล่นอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็อ้าปากพูดได้เสียที

                “ที่นี่น่ะเป็นสถานที่ลับของผม คุณเป็นคนแรกและคนเดียวที่ผมพามาที่นี่ อย่าไปบอกใครนะครับ”

                หัวใจผมขยับผิดจังหวะไปนิดหน่อย เหมือนคาดเรื่องที่จะได้ฟังพลาดไป ถึงงั้นมันก็กลับมาเต้นระส่ำอีกหลังจากนั้นไม่นาน ตอนที่ได้เห็นดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่นั้นมองสบขึ้นมา

                “แค่คุณกับผม... ห้ามบอกใครนะครับ”

                “อือ... ฉันไม่บอกใครหรอก เธอเองก็ห้ามพาใครมาอีกล่ะ”

                “ครับ”

                ผมไม่รู้ว่าเขารับปากไปแบบนั้นหรืออะไรกันแน่ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคิดยังไงถึงพาผมมาที่นี่ ที่ผมรู้ก็แค่เสียงของหัวใจตัวเองที่เต้นอื้ออึงอยู่ในอก

                ผม...

------------------------------------------------------

                ตอนที่ผมขึ้นมาจากใต้ทะเล ก็เป็นเวลาพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าพอดี งินบอกผมว่าไม่อยากให้ผมค้างคืนในเมืองเงือก เพราะตอนกลางคืนพวกเงือกจะตื่นมาเยอะ แล้วพวกที่ไม่ชอบมนุษย์และดุกว่าทสึกิยะยังมี เขาไม่อยากให้ผมเสี่ยง ผมเองก็ไม่อยากโดนเงือกตามจองล้างจองผลาญในทริปวันหยุด เลยยอมกลับขึ้นฝั่งมาแต่โดยดี

                “พรุ่งนี้จะขึ้นมาอีกหรือเปล่า?” ผมถามตอนที่พวกเรานั่งกันอยู่บนหาด งินหันมองผม แล้วพยักหน้า “มาสิครับ โทวะซังอยากไปเที่ยวที่ไหนอีกรึเปล่า?”

                “เอาที่ที่เธออยากพาฉันไปน่ะ ฉันยังไงก็ได้”

                งินมองผมแล้วหัวเราะคิกคัก “งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ”

                “อือ อ้อ...!” ผมฉุดมือเขาไว้ก่อนที่เขาจะได้ทันลงน้ำ “มีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกเธอ”

                “ครับ?”

                ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้เขา แล้วแตะริมฝีปากลงไปหน่อยหนึ่ง งินสะดุ้ง แล้วพูดออกมา “โทวะซังอยากจะลงทะเลอีกเหรอครับ”

                ผมยิ้มให้เขา แล้วใช้มือข้างหนึ่งปิดปากเขาไว้ “ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้หรือไม่รู้นะงิน แต่บนบก ถ้าเอาปากแตะกันแบบนี้ หมายถึงคนรักกัน เข้าใจมั้ย?”

                ใบหน้าของเงือกหนุ่มตรงหน้าผมมีสีแดงซ่านขึ้นมาทันที เขารีบสะบัดหน้าแล้วหนีลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว

                ผมถอนหายใจเฮือก แล้วยกมือเขกหัวตัวเองทีหนึ่ง

                เฮ้อ... ให้ตายซี่

---------------------------------------------
**โอ๊ย มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยเขียนมา 555+ :hao7:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อืมมมมมมมมม

คามิซาวะซังน่าจะเป็นเงือก~ (มโน)


อยากให้งินไปเที่ยวบนบกบ้างงงงงงงงงง

โทวะซังเสกสระว่ายน้ำทะเลในร่มเลยค่ะ โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
OMG.  :ling1:   โอ้วคามิซามะช่วยด้วย หัวใจจะวาย 
นี่มันคือที่สุดของการอ่านโลลิค่อนสลับขั้ว. ฮ่าๆๆ
งินไม่รู้จริงๆใช่ไหมอะ. ต่อไปนี้คงรู้แล้วนะ ว่านี่มันไม่ใช่การขออากาศแต่เป็นจุมพิตกับคนรักน่ะ
ตอนนี้โรแมนติกแบบไม่รู้ตัวดี นึกฉากโทวะซังเล่นเปียโนแล้วงินยืนในภวังค์  :impress2:   
ตุนน้ำทะเลด่วนๆเลยค่ะเอาเป็นแท็งค์เลย ไม่รู้สระใหญ่ขนาดไหนสินะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2015 16:06:42 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
มุ้งมิ้งมากก บอกเลยค่าาาาา

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
นิยมคนแก่ที่เด็กกว่าสินะ โทวะซางงงงงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
งินนนนนน อยากได้งินนนน จะเอาๆๆๆๆๆ  :hao7: ทำไมงินน่ารักแบบนี้  :-[

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่โทวะเลี้ยงปู่งินเถอะค่ะบอกเจ๊มาเลยว่าอยากได้สระกว้างขนาดไหนลึกขนาดไหน เอาแบบนาเกลือ หรือบ่อกุ้งดี เดี๋ยวเอารถไปขุดให้ แว๊กกก.. เวอร์วังมาก

ก็อยากให้ปู่ได้ฟังเสียงเปียโนมั่ง งุงิ

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
โธ่ โทวะไม่น่ารีบบอก งินตื่นหนีกลับทะเลเลย กิกิ
เป็นเรื่องมุ้งมิ้งขั้นสุดที่เคยอ่านจากคุณ juon มาจริงๆ ค่ะ ตอนหน้าขอมุ้งมิ้งอีก
 :-[

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารัก... ว่าแต่ ถ้าหมดช่วงพักร้อนแล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำให้งินเขินแล้วทำไม มันส่งผลต่อผู้อ่านนะ -///-

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
 ไอ้เราก็นึกว่าเคลิ้มกับจูบ ฮาเงิบไปเลย
คุณซึบารุทำไงถึงขึ้นไปบนบก แล้วไม่กลับทะเลเป็นปีๆได้
ถ้างินขึ้นไปลำบาก โทวะซังลงไปอยู่กับงินก็ไม่เลวนะ หายใจไม่ออกก็จุ๊บเติมทีนึง  :z1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โง่ยยย น่าร้ากกกกกก  :-[

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
เล่นเอาฮาในตอนแรก แต่ตอนท้ายนี่มุ้งมิ้งง่ะ อร๊ายยยย  :m3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มุ้งมิ้งมากจริงๆ ค่าาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด