....ใกล้ๆจะได้งานทำแล้วคับ ผมจะพยายามแต่งล่วงหน้าจนจบเลยละกัน เดี๋ยวทำงานแล้วไม่มีเวลาเอามาลงคับ-ตอนที่ 26
ใกล้งานวันสถาปนาโรงเรียนแล้ว ทุกคนต่างต้องเตรียมงานกันอย่างหนัก ทั้งอาจารย์ ซึ่งปกติแล้วจะต้องสอนกันอย่างบ้าระห่ำ แต่ช่วงสองวันนี้อาจารย์งดคาบเป็นว่าเล่นเลยคับ ต้องไปช่วยงานโน่นงานนี้ ก็สบายพวกผมเลยคับที่จะได้ไม่ต้องเรียน เวลาว่างๆ ของผมก็จะหมดไปกับการเล่นในห้อง เล่นไพ่บ้าง น้ำเต้าปูปลา (เพราะออกไปเตะบอลในคาบเรียนไม่ได้คับ) บางทีก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย
บ่ายวันศุกร์ ขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจเชิบ กับเพื่อนผม 2-3 คน ที่เหลือมันไปไหนไม่รู้คับ
“ไอ้ใหญ่” - เดชแหย่ผม
“มึงเข้ามาห้องกูได้ไง”
“เดินเข้ามาดิ”
“ถ้าไอ้ไม้อยู่ล่ะมึงจะเข้ามาป่ะ”
“เดินมาให้โง่เหรอ”
“แล้วมาหากูถึงนี่มีไรเนี๊ยะ” – ผมถามมันอย่าง งง งง
“คิดถึงมึง”
“พวกไอ้เข้มไปไหนล่ะ”
“อาจารย์สอนภาษาไทยใช้มันไปเก็บของที่หมวด”
“แล้วมึงไม่ไปกับมันอ่ะ”
“กูบอกมันว่ากูปวดหัว มันก็เลยไม่ว่าอะไร งั้นมึงไปอ่านการ์ตูนที่ห้องกูละกัน กูจะได้มีเพื่อนคุย” -มันจัดแจงเสร็จสรรพ
“เอ๊ะ!!! ก็ตอนนี้กูจะอ่านการ์ตูน กูไม่อยากคุยกับมึง”
“การ์ตูนน่ะ เมื่อไหร่ก็อ่านได้ แต่เพื่อนอย่างเดช มีวันนี้วันเดียวนะมึง” - ยังจะมาเล่นสำนวนกับผมอีก
“เออ กูไม่อ่านก็ได้วะ เพื่อนอย่างมึง มีครั้งเดียวในชีวิต” – ผมโยนการ์ตูนให้เพื่อนผม บอกมันว่าไม่อ่านแล้ว เดี๋ยวจะไปเช่าเองละกัน แล้วก็เดินออกจากห้องไปกับเดช
ที่ห้องเรียนของเดช มีคนอยู่ไม่มากเช่นกัน
“เฮ้ย พวกมึง นี่เพื่อนกู ชื่อใหญ่ อยู่ห้อง 6”- เดชแนะนำผมให้เพื่อนในห้องที่เหลืออยู่รู้จักผม ผมก้มหัวเล็กน้อยเป็นการแนะนำตัว
“เด็กห้องคิง เขายอมมาเป็นเพื่อนมึงเหรอวะ” - เพื่อนคนนึงในห้องพูดขึ้นมา
“มึงไม่รู้เหรอว่ามันสองคนคบกันอยู่น่ะ” – ไอ้เต้ปากหมา ป่าวประกาศให้คนทั้งห้องเขารู้หมดแล้ว
“ถ้ากูสองคนคบกัน แล้วใครจะทำไม” - ไอ้เดชหันไปด่าไอ้เต้
“ไม่ทำไมหรอกคับ ใครจะกล้ามีเรื่องกับคนอย่างมึง สาด....” - ไอ้เต้กัดไอ้เดช
“ไอ้ใหญ่ เพื่อนกูก็อย่างงี๊แหล่ะ อย่าไปถือสา”
“เออ กูไม่ถือหรอก”
“ดีแล้วมึง มึงนี่น่าจะมาอยู่ห้องกูเนอะ”
“กูอยู่ห้อง 6 ก็ดีอยู่แล้วมึง”
“ห้องคิงอ่ะ มีแต่เด็กเรียน ไม่เฮฮาหรอก”
“ใครบอก พวกกูนั่นแหล่ะทำห้องคิงให้มันมีสีสัน”
“ห้องเรียนกูนี๊ใหญ่ จริงใจ ไม่มีเม้ม” - อะไรของมันวะ
“เออ ให้กูทำเรื่องย้ายห้องมาเลยป่ะ”
“มาเลย เดี๋ยวกูจัดโต๊ะไว้ให้มึง”
“มึงให้กูนั่งตรงไหน”
“ข้างกูเลย นี่นี่” - มันปัดที่นั่งข้างๆมันให้ผมดู
“แล้วตรงนั้นใครนั่งอยู่วะ”
“ไอ้เอก เดี๋ยวให้แม่งไปนั่งกับน้องเตยสุดสวยแทน” - น้องเตยเป็นกระเทยสุดสวยของห้องไอ้เดชคับ
“เหอะๆ……..” - ผมหัวเราะ
“เดชกูถามไรมึงหน่อยดิ” - ผมถามมัน
“อะไรวะ”
“คือว่า.......มึงรู้สึกยังไงวะ เวลาที่ เอ่อ.....คือ...แบบว่า... มันยังไงอ่ะ”
“ไอ้เชี่ยนี่ มึง ไปเรียนภาษาไทยใหม่ป่ะ เรียบเรียงคำพูดยังไม่ถูกเลย” – ไอ้เดชด่าผม
“เออ กูรู้แล้ว”
“แล้วมึงจะถามอะไรกู”
“เอาตามตรงนะ มึงชอบต่ายใช่ป่ะตอนนี้”
“ใช่ มึงก็รู้อยู่แล้วไม่น่าถาม”
“ชอบมากป่ะวะ”
“มากเลยมึง เพ้อถึงต่ายทุกคืน อยากให้เขาเป็นแฟนกูไว้ๆ”
“ถ้ามีคนเขามาชอบมึง แต่มึงชอบต่าย มึงจะเลือกใครวะ”
“..........”
“กูแค่ถามเล่นๆนะ อย่าไปซีเรียส” – ผมบอกมัน ท่าทางมันจะคิดนานเอามากๆ
“ใครจะมาชอบคนอย่างกูวะใหญ่” - มันถามผม
“สมมุติเฉยๆ ว่ามีคนมาชอบมึง แล้วมึงชอบต่ายอยู่แล้วใช่ป่ะล่ะ”
“เออ”
“แล้วมึงจะเลือกใคร”
“เอ่อ.......ตอบยากว่ะใหญ่ กูเองไม่เคยมีประสบการณ์คนที่เขามาชอบกู”
“มึงไม่ต้องรีบตอบก็ได้ว่ะเดช” - ผมบอกมัน
“แล้วมึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ”
“ก็.............เอ่อ กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงนี่หว่า กูก็เลย ถามเล่นๆ” - ผมบอกมัน
“ถ้าคนที่เขามาชอบกูนิสัยดี กูก็อาจจะพิจารณาว่ะ”
“มึงไม่สนใจหน้าตาเขาหน่อยเหรอวะ”
“ไม่ว่ะ ความรักมันก็เหมือนทุเรียนล่ะวะ ข้างนอกแม่งดูโหดร้าย แต่ข้างในแม่งอร่อยชิบ”
“แต่ต่ายเขาสวยนะมึง”
“ถึงเวลาจริงๆ กูอาจจะไม่ได้เป็นแฟนต่ายก็ได้”
“ยังไงของมึงวะ กูงง”
“ก็ต่ายอาจจะเป็นแฟนกับไอ้ไม้ แล้วกูก็แห้วกระป๋อง”
“แต่ว่าตอนนี้ต่ายก็ยังไม่ได้เอาใครไปเป็นแฟนซักหน่อย”
“ก็เออดิ กูจะแข่งโว้ย แข่งจนวินาทีสุดท้าย ถ้าต่ายเลือกใครก็อีกเรื่องนึง”
“สรุปก็คือ.......”
“ใช่ กูจะพยายามเอาชนะใจต่ายให้ได้ แล้วกูก็ต้องมีโค้ชที่ดีเช่นมึงอยู่ข้างกู” - มันเอามือมากอดไหล่ผม
“อืม” - ซึมเลยผม
“แล้ววันอาทิตย์หลังงานโรงเรียน มึงว่างใช่ป่ะ”
“มึงบังคับให้กูไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่หว่า”
“เออ ลืมไป” - คิดดูละกันเรื่องของผมมันยังลืม
“แล้วมึงจะพากูไปทำไร”
“ซื้อของขวัญให้ต่าย”
“ต่ายเกิดวันไหนวะ” – ผมถามมัน ผมเป็นเพื่อนกับต่ายผมยังไม่รู้วันเกิดต่ายเลย
“16 พ.ย.”
“อีกเป็นชาติ มึงจะรีบซื้อทำไมวะ”
“ก็กูอยากซื้อให้ต่ายอ่ะ กูผิดเหรอ”
“เออ ไม่ผิด”
“ต่ายชอบไรวะใหญ่”
“ไม่รู้ กูไม่เคยถาม แต่กูว่าต่ายชอบเหมือนกูว่ะ”
“อะไรวะ”
“ของฟรีไง ต่ายชอบมาก โดยเฉพาะหนังสือคู่มือน่ะ” – ผมเดาส่งๆไป ผมไม่รุ้จริงๆคับ
“เหรอ เหรอ เออ ดีดีว่ะ” - เดชดูตื่นเไม้มากๆ
“ไอ้คู่นั้นน่ะ แยกกันได้แล้วมึง ชาวบ้านเขาอิจฉา” – เสียงไอ้เต้คับ แม่งขัดความสุขผม
“กูรักไอ้ใหญ่ พวกมึงจะทำไม” – มันเล่นบทเกย์กับผมซะงั้น ลากผมเข้าไปกอด ผมก็ดิ้นๆนิดหน่อยเป็นพิธี
“เดช มึงเปลี่ยนแนวเหรอวะ” - เพื่อนคนนึงตะโกนถาม
“เออ กูรักไอ้ใหญ่ที่สุดในโลกเลย”
ผมก็ได้แต่นั่งเป็นจำเลยให้พวกมันพูดกันไป ทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่พวกมันคิด แต่ผมก็อยากให้เดชคิดกับผมอย่างงั้นจริงๆ แต่มันก็คงจะไม่มีทางหรอกคับ มันชอบต่าย ยังไงก็ชอบต่าย ไม่มีทางมาชอบผมเป็นอันขาด แต่นิสัยไอ้เดชผมว่าคนในห้องมันก็คงจะรู้ดีนะคับ ว่ามันเป็นคนที่ขี้เล่นพอควร ใครว่ามันก็เหมือนยุมัน แล้วมันก็ยุขึ้นด้วย
สัญญาณบอกเวลาโรงเรียนเลิก
“กูกลับห้องก่อนนะ”
“มึงอย่าลืมเย็นนี้” - มันคว้ามือผมก่อนที่ผมจะเดินออกไป
“กูรู้แล้ว”
ตั้งแต่มีเรื่องงานโรงเรียนมา ผมไม่ได้ไปเรียนพิเศษเลยคับ และเย็นนี้เราประชุมกันหนักมากๆ เพราะมันคงเป็นการประชุมเตรียมงานกันครั้งสุดท้าย พี่ส้มดูโหดเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าแกไปกินอะไรที่มันผิดสุขลักษณะมาหรือเปล่า หน้าแกบูดๆตั้งแต่เริ่มประชุมจนจบการประชุม กินเวลาไปกว่า 4 ชั่วโมง เฮ้อ กว่าจะเลิกประชุม 2 ทุ่มครึ่งแล้ว แล้วไอ้เดชมันจะยังรอผมหรือเปล่า ผมรีบเปิดประตูห้อง หวังจะเจอเดช แต่แล้วก็.........
.
.
.
.
“นานจังวะวันนี้ กูหิวจนอิ่มแล้วหิวอีกรอบแล้วมึง”
“โทษว่ะ วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงลำดับพิธีการเยอะเหมือนกัน”
“รีบไปเหอะใหญ่ กูหิว”
ผมลาพี่ส้มและรุ่นพี่คนอื่นๆ แล้วก็รุ่นน้องด้วย มารยาทดีจังผม แล้วก็เดินออกจากโรงเรียนไปกับเดช ระหว่างทาง เราไม่ได้คุยกันมากนัก เมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุม ผมจึงเริ่มที่จะถามคำถามนี้ขึ้นมา
“กูถามไรมึงอีกอย่างได้ป่ะ”
“อะไรวะ ว่ามาดิ”
“เวลามึงโดนแซวกับกู มึงรู้สึกไรมั่งป่ะวะ”
“ก็ไม่นิ กูไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว”
“แล้วเมื่อบ่ายที่ห้องมึงอ่ะ มึงเล่นกับกูอย่างงั้น มึงไม่กลัวเพื่อนมึงเข้าใจมึงผิดเหรอวะ”
“ก็ช่างเขา แต่ว่าเพื่อนที่ห้องกูก็รู้แหล่ะว่ากูเป็นคนอย่างงี๊”
“เหรอ........”
“กูคิดมาตั้งแต่วันที่พี่ส้มแซวมึงกับกูอ่ะ กูกลัวมึงคิดมาก แต่กูก็ไม่กล้าถามมึง”
“กูไมคิดอะไรอยู่แล้วใหญ่ มึงเป็นเพื่อนกูนะ มึงไม่ได้ชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงจะมาถามอะไรเรื่องนี้วะ”
“อืม................ก็ใช่ สงสัยกูคิดมากไปเอง” – ผมเงียบๆไป ซึมดิคับ แต่ก็ดีแล้วที่มันยังไม่รู้
“กูรักมึงนะไอ้ใหญ่ กูรักมึงเพราะมึงเป็นเพื่อนรักกู กูคงไม่คิดกับมึงเป็นอย่างอื่นหรอก”
“เหรอ............................” - จิตตกไปเลยผม
“หรือมึงคิดกับกู........เฮ้ย”
.
.
.
.
“ไอ้บ้า สยองว่ะ” – สายตาลอกแลก ปากไม่ตรงกับใจ นี่เลยตัวผม
“มึงรักกูไม๊ไอ้ใหญ่”
“กูรักมึง มาก มาก ไอ้เดช” – ผมมองมัน สายตาจริงจัง การบอกรักของผมจะผ่านประโยคนี้ทุกวัน โดยที่มันเองก็คงไม่รู้ตัว
“เราจะรักกันไปตลอดนะเว้ย มึงห้ามทิ้งกู กูก็จะไม่ทิ้งมึง”
“เออ”
“กูก็จะรักมึงแบบนี้ไปเรื่อยๆนะไอ้เชี่ยเดช” – ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ไม่ให้มันได้ยิน
-------------------
ต่อตอนหน้าคับ