รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112588 ครั้ง)

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
....ใกล้ๆจะได้งานทำแล้วคับ ผมจะพยายามแต่งล่วงหน้าจนจบเลยละกัน เดี๋ยวทำงานแล้วไม่มีเวลาเอามาลงคับ-

ตอนที่ 26
 :laugh:
ใกล้งานวันสถาปนาโรงเรียนแล้ว ทุกคนต่างต้องเตรียมงานกันอย่างหนัก ทั้งอาจารย์ ซึ่งปกติแล้วจะต้องสอนกันอย่างบ้าระห่ำ แต่ช่วงสองวันนี้อาจารย์งดคาบเป็นว่าเล่นเลยคับ ต้องไปช่วยงานโน่นงานนี้ ก็สบายพวกผมเลยคับที่จะได้ไม่ต้องเรียน เวลาว่างๆ ของผมก็จะหมดไปกับการเล่นในห้อง เล่นไพ่บ้าง น้ำเต้าปูปลา (เพราะออกไปเตะบอลในคาบเรียนไม่ได้คับ) บางทีก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย

บ่ายวันศุกร์ ขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจเชิบ กับเพื่อนผม 2-3 คน ที่เหลือมันไปไหนไม่รู้คับ

“ไอ้ใหญ่” - เดชแหย่ผม
“มึงเข้ามาห้องกูได้ไง”
“เดินเข้ามาดิ”
“ถ้าไอ้ไม้อยู่ล่ะมึงจะเข้ามาป่ะ”
“เดินมาให้โง่เหรอ”
“แล้วมาหากูถึงนี่มีไรเนี๊ยะ” – ผมถามมันอย่าง งง งง
“คิดถึงมึง”
“พวกไอ้เข้มไปไหนล่ะ”
“อาจารย์สอนภาษาไทยใช้มันไปเก็บของที่หมวด”
“แล้วมึงไม่ไปกับมันอ่ะ”
“กูบอกมันว่ากูปวดหัว มันก็เลยไม่ว่าอะไร งั้นมึงไปอ่านการ์ตูนที่ห้องกูละกัน กูจะได้มีเพื่อนคุย” -มันจัดแจงเสร็จสรรพ
“เอ๊ะ!!! ก็ตอนนี้กูจะอ่านการ์ตูน กูไม่อยากคุยกับมึง”
“การ์ตูนน่ะ เมื่อไหร่ก็อ่านได้ แต่เพื่อนอย่างเดช มีวันนี้วันเดียวนะมึง” - ยังจะมาเล่นสำนวนกับผมอีก
“เออ กูไม่อ่านก็ได้วะ เพื่อนอย่างมึง มีครั้งเดียวในชีวิต” – ผมโยนการ์ตูนให้เพื่อนผม บอกมันว่าไม่อ่านแล้ว เดี๋ยวจะไปเช่าเองละกัน แล้วก็เดินออกจากห้องไปกับเดช

ที่ห้องเรียนของเดช มีคนอยู่ไม่มากเช่นกัน

“เฮ้ย พวกมึง นี่เพื่อนกู ชื่อใหญ่ อยู่ห้อง 6”- เดชแนะนำผมให้เพื่อนในห้องที่เหลืออยู่รู้จักผม ผมก้มหัวเล็กน้อยเป็นการแนะนำตัว
“เด็กห้องคิง เขายอมมาเป็นเพื่อนมึงเหรอวะ” - เพื่อนคนนึงในห้องพูดขึ้นมา
“มึงไม่รู้เหรอว่ามันสองคนคบกันอยู่น่ะ” – ไอ้เต้ปากหมา ป่าวประกาศให้คนทั้งห้องเขารู้หมดแล้ว
“ถ้ากูสองคนคบกัน แล้วใครจะทำไม” - ไอ้เดชหันไปด่าไอ้เต้
“ไม่ทำไมหรอกคับ ใครจะกล้ามีเรื่องกับคนอย่างมึง สาด....” - ไอ้เต้กัดไอ้เดช
“ไอ้ใหญ่ เพื่อนกูก็อย่างงี๊แหล่ะ อย่าไปถือสา”
“เออ กูไม่ถือหรอก”
“ดีแล้วมึง มึงนี่น่าจะมาอยู่ห้องกูเนอะ”
“กูอยู่ห้อง 6 ก็ดีอยู่แล้วมึง”
“ห้องคิงอ่ะ มีแต่เด็กเรียน ไม่เฮฮาหรอก”
“ใครบอก พวกกูนั่นแหล่ะทำห้องคิงให้มันมีสีสัน”
“ห้องเรียนกูนี๊ใหญ่ จริงใจ ไม่มีเม้ม” - อะไรของมันวะ
“เออ ให้กูทำเรื่องย้ายห้องมาเลยป่ะ”
“มาเลย เดี๋ยวกูจัดโต๊ะไว้ให้มึง”
“มึงให้กูนั่งตรงไหน”
“ข้างกูเลย นี่นี่” - มันปัดที่นั่งข้างๆมันให้ผมดู
“แล้วตรงนั้นใครนั่งอยู่วะ”
“ไอ้เอก เดี๋ยวให้แม่งไปนั่งกับน้องเตยสุดสวยแทน” - น้องเตยเป็นกระเทยสุดสวยของห้องไอ้เดชคับ
“เหอะๆ……..” - ผมหัวเราะ
“เดชกูถามไรมึงหน่อยดิ” - ผมถามมัน
“อะไรวะ”
“คือว่า.......มึงรู้สึกยังไงวะ เวลาที่ เอ่อ.....คือ...แบบว่า... มันยังไงอ่ะ”
“ไอ้เชี่ยนี่ มึง ไปเรียนภาษาไทยใหม่ป่ะ เรียบเรียงคำพูดยังไม่ถูกเลย” – ไอ้เดชด่าผม
“เออ กูรู้แล้ว”
“แล้วมึงจะถามอะไรกู”
“เอาตามตรงนะ มึงชอบต่ายใช่ป่ะตอนนี้”
“ใช่ มึงก็รู้อยู่แล้วไม่น่าถาม”
“ชอบมากป่ะวะ”
“มากเลยมึง เพ้อถึงต่ายทุกคืน อยากให้เขาเป็นแฟนกูไว้ๆ”
“ถ้ามีคนเขามาชอบมึง แต่มึงชอบต่าย มึงจะเลือกใครวะ”
“..........”




“กูแค่ถามเล่นๆนะ อย่าไปซีเรียส” – ผมบอกมัน ท่าทางมันจะคิดนานเอามากๆ
“ใครจะมาชอบคนอย่างกูวะใหญ่” - มันถามผม
“สมมุติเฉยๆ ว่ามีคนมาชอบมึง แล้วมึงชอบต่ายอยู่แล้วใช่ป่ะล่ะ”
“เออ”
“แล้วมึงจะเลือกใคร”
“เอ่อ.......ตอบยากว่ะใหญ่ กูเองไม่เคยมีประสบการณ์คนที่เขามาชอบกู”
“มึงไม่ต้องรีบตอบก็ได้ว่ะเดช” - ผมบอกมัน
“แล้วมึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ”
“ก็.............เอ่อ กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงนี่หว่า กูก็เลย ถามเล่นๆ” - ผมบอกมัน
“ถ้าคนที่เขามาชอบกูนิสัยดี กูก็อาจจะพิจารณาว่ะ”
“มึงไม่สนใจหน้าตาเขาหน่อยเหรอวะ”
“ไม่ว่ะ ความรักมันก็เหมือนทุเรียนล่ะวะ ข้างนอกแม่งดูโหดร้าย แต่ข้างในแม่งอร่อยชิบ”
“แต่ต่ายเขาสวยนะมึง”
“ถึงเวลาจริงๆ กูอาจจะไม่ได้เป็นแฟนต่ายก็ได้”
“ยังไงของมึงวะ กูงง”
“ก็ต่ายอาจจะเป็นแฟนกับไอ้ไม้ แล้วกูก็แห้วกระป๋อง”
“แต่ว่าตอนนี้ต่ายก็ยังไม่ได้เอาใครไปเป็นแฟนซักหน่อย”
“ก็เออดิ กูจะแข่งโว้ย แข่งจนวินาทีสุดท้าย ถ้าต่ายเลือกใครก็อีกเรื่องนึง”
“สรุปก็คือ.......”
“ใช่ กูจะพยายามเอาชนะใจต่ายให้ได้ แล้วกูก็ต้องมีโค้ชที่ดีเช่นมึงอยู่ข้างกู” - มันเอามือมากอดไหล่ผม
“อืม” - ซึมเลยผม
“แล้ววันอาทิตย์หลังงานโรงเรียน มึงว่างใช่ป่ะ”
“มึงบังคับให้กูไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่หว่า”
“เออ ลืมไป” - คิดดูละกันเรื่องของผมมันยังลืม
“แล้วมึงจะพากูไปทำไร”
“ซื้อของขวัญให้ต่าย”
“ต่ายเกิดวันไหนวะ” – ผมถามมัน ผมเป็นเพื่อนกับต่ายผมยังไม่รู้วันเกิดต่ายเลย
“16 พ.ย.”
“อีกเป็นชาติ มึงจะรีบซื้อทำไมวะ”
“ก็กูอยากซื้อให้ต่ายอ่ะ กูผิดเหรอ”
“เออ ไม่ผิด”
“ต่ายชอบไรวะใหญ่”
“ไม่รู้ กูไม่เคยถาม แต่กูว่าต่ายชอบเหมือนกูว่ะ”
“อะไรวะ”
“ของฟรีไง ต่ายชอบมาก โดยเฉพาะหนังสือคู่มือน่ะ” – ผมเดาส่งๆไป ผมไม่รุ้จริงๆคับ
“เหรอ เหรอ เออ ดีดีว่ะ” - เดชดูตื่นเไม้มากๆ
“ไอ้คู่นั้นน่ะ แยกกันได้แล้วมึง ชาวบ้านเขาอิจฉา” – เสียงไอ้เต้คับ แม่งขัดความสุขผม
“กูรักไอ้ใหญ่ พวกมึงจะทำไม” – มันเล่นบทเกย์กับผมซะงั้น ลากผมเข้าไปกอด ผมก็ดิ้นๆนิดหน่อยเป็นพิธี
“เดช มึงเปลี่ยนแนวเหรอวะ” - เพื่อนคนนึงตะโกนถาม
“เออ กูรักไอ้ใหญ่ที่สุดในโลกเลย”

ผมก็ได้แต่นั่งเป็นจำเลยให้พวกมันพูดกันไป ทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่พวกมันคิด แต่ผมก็อยากให้เดชคิดกับผมอย่างงั้นจริงๆ แต่มันก็คงจะไม่มีทางหรอกคับ มันชอบต่าย ยังไงก็ชอบต่าย ไม่มีทางมาชอบผมเป็นอันขาด แต่นิสัยไอ้เดชผมว่าคนในห้องมันก็คงจะรู้ดีนะคับ ว่ามันเป็นคนที่ขี้เล่นพอควร ใครว่ามันก็เหมือนยุมัน แล้วมันก็ยุขึ้นด้วย

สัญญาณบอกเวลาโรงเรียนเลิก

“กูกลับห้องก่อนนะ”
“มึงอย่าลืมเย็นนี้” - มันคว้ามือผมก่อนที่ผมจะเดินออกไป
“กูรู้แล้ว”

ตั้งแต่มีเรื่องงานโรงเรียนมา ผมไม่ได้ไปเรียนพิเศษเลยคับ และเย็นนี้เราประชุมกันหนักมากๆ เพราะมันคงเป็นการประชุมเตรียมงานกันครั้งสุดท้าย พี่ส้มดูโหดเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าแกไปกินอะไรที่มันผิดสุขลักษณะมาหรือเปล่า หน้าแกบูดๆตั้งแต่เริ่มประชุมจนจบการประชุม กินเวลาไปกว่า 4 ชั่วโมง เฮ้อ กว่าจะเลิกประชุม 2 ทุ่มครึ่งแล้ว แล้วไอ้เดชมันจะยังรอผมหรือเปล่า ผมรีบเปิดประตูห้อง หวังจะเจอเดช แต่แล้วก็.........
.
.
.
.
“นานจังวะวันนี้ กูหิวจนอิ่มแล้วหิวอีกรอบแล้วมึง”
“โทษว่ะ วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงลำดับพิธีการเยอะเหมือนกัน”
“รีบไปเหอะใหญ่ กูหิว”

ผมลาพี่ส้มและรุ่นพี่คนอื่นๆ แล้วก็รุ่นน้องด้วย มารยาทดีจังผม แล้วก็เดินออกจากโรงเรียนไปกับเดช ระหว่างทาง เราไม่ได้คุยกันมากนัก เมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุม ผมจึงเริ่มที่จะถามคำถามนี้ขึ้นมา

“กูถามไรมึงอีกอย่างได้ป่ะ”
“อะไรวะ ว่ามาดิ”
“เวลามึงโดนแซวกับกู มึงรู้สึกไรมั่งป่ะวะ”
“ก็ไม่นิ กูไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว”
“แล้วเมื่อบ่ายที่ห้องมึงอ่ะ มึงเล่นกับกูอย่างงั้น มึงไม่กลัวเพื่อนมึงเข้าใจมึงผิดเหรอวะ”
“ก็ช่างเขา แต่ว่าเพื่อนที่ห้องกูก็รู้แหล่ะว่ากูเป็นคนอย่างงี๊”
“เหรอ........”
“กูคิดมาตั้งแต่วันที่พี่ส้มแซวมึงกับกูอ่ะ กูกลัวมึงคิดมาก แต่กูก็ไม่กล้าถามมึง”
“กูไมคิดอะไรอยู่แล้วใหญ่ มึงเป็นเพื่อนกูนะ มึงไม่ได้ชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงจะมาถามอะไรเรื่องนี้วะ”
“อืม................ก็ใช่ สงสัยกูคิดมากไปเอง” – ผมเงียบๆไป ซึมดิคับ แต่ก็ดีแล้วที่มันยังไม่รู้
“กูรักมึงนะไอ้ใหญ่ กูรักมึงเพราะมึงเป็นเพื่อนรักกู กูคงไม่คิดกับมึงเป็นอย่างอื่นหรอก”
“เหรอ............................” - จิตตกไปเลยผม
“หรือมึงคิดกับกู........เฮ้ย”
.
.
.
.
“ไอ้บ้า สยองว่ะ” – สายตาลอกแลก ปากไม่ตรงกับใจ นี่เลยตัวผม
“มึงรักกูไม๊ไอ้ใหญ่”
“กูรักมึง มาก มาก ไอ้เดช” – ผมมองมัน สายตาจริงจัง การบอกรักของผมจะผ่านประโยคนี้ทุกวัน โดยที่มันเองก็คงไม่รู้ตัว
“เราจะรักกันไปตลอดนะเว้ย มึงห้ามทิ้งกู กูก็จะไม่ทิ้งมึง”
“เออ”






























“กูก็จะรักมึงแบบนี้ไปเรื่อยๆนะไอ้เชี่ยเดช” – ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ไม่ให้มันได้ยิน
-------------------
ต่อตอนหน้าคับ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อ่านแล้วก็อึดอัดอีกหงะ

แล้วอย่างงี้มันจะไปต่อยังไงละเนี่ย

เฮ้อออออ...

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 27
 :m30:
งานวันสถาปนาโรงเรียนมาถึงแล้วคับ หลังจากที่ทางโรงเรียนเตรียมจัดงานนี้มาเป็นระยะเวลากว่าหลายเดือน เป็นภาระทั้งอาจารย์และเด็กที่ช่วยงานอาจารย์ และคณะกรรมการนักเรียนอย่างพวกผม ถึงเวลาแล้วที่จะได้แสดงศักยภาพให้ผู้ใหญ่ที่ทางโรงเรียนได้เชิญมา เห็นซักทีว่า เดี๋ยวนี้โรงเรียนของเราได้พัฒนาอะไรไปเยอะ

แล้วก็มาถึงลำดับการแสดงของนักเรียนกันบ้างคับ ก็จะมีหลายชุดตั้งแต่รำอวยพร แปลอักษรของเด็ก ม.1 วงโยธวาธิต แล้วก็เป็นการโชว์ยิงปินในสนามรบ ซึ่งเป็น Highlight ของการแสดงเลยก็ว่าได้ ผมคิดเอาเองมั้งคับ แต่ก็จริงแหล่ะ เพราะเดชอยู่ในโชว์ชุดนี้นี่หว่า

ระหว่างการแสดงชุดของเดช ทุกคนดูตั้งใจมาก ผมเคยไปดูพวกมันซ้อมแค่ครั้งเดียวเองคับ ตอนนั้นมันไม่เห็นจะพร้อมเพรียงอะไรกันอย่างงี๊เลย พอมาวันนี้ มันดูแข็งแรง พร้อมเพรียงกัน และดูเท่ห์ มีความเป็นสง่ามากเลยคับ ไม่ได้พูดเว่อร์ไปนะคับ แต่มันก็จริงแหล่ะคับโรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนที่สืบเชื่อสายทหาร เรื่องอย่างงี๊มันก็ต้องให้ลูกทหารอย่างเดชนั่นแหล่ะคับ เหมาะที่สุดแล้ว สายตาของผมส่วนใหญ่จะมองที่เดชเพียงคนเดียว ก็แน่แหล่ะ ผมรักมันนี่นา

หลังจากการแสดงของเดชจบ ก็จะเป็น ผ.อ. กล่าวถึงผลงานโรงเรียนในด้านต่างๆ แล้วก็เรื่องอื่นๆ ของโรงเรียน แล้วก็เชิญผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เป็นศิษย์เก่าขึ้นมากล่าวอะไรไม่รู้ แล้วพิธีการก็เสร็จสิ้นลง แต่งานของผมก็ยังไม่จบลง ผมยังต้องคอยต้อนรับผู้ใหญ่พวกนี้อยู่อีกซักพัก เมื่องานของพวกผมจบลง อาจารย์กล่าวขอบคุณพวกผม แล้วก็บอกว่าวันอังคารจะเลี้ยงอาหารนักเรียนที่มาช่วยงานทั้งหมด แง่ะๆ ก็ลาบปากผมดิคับ ดีเลยไม่ต้องเสียเงินซื้อข้าวกิน

ผมเสร็จธุระทั้งหมดแล้วผมก็เก็บของ ผมอยุ่ในชุดนักเรียน(ของผม) แล้วก็เดินมาหาเดช เดชอยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดสีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว

“มึงจะกลับไปเปลี่ยนชุดป่ะว่ะไอ้ใหญ่” - มันถามผม
“ไม่ว่ะ ไปงี๊แหล่ะ”
“เออ มึงไม่กลัวโรงเรียนอื่นมาตีกับมึงเหรอวะ”
“กูเดินกับมึง ใครจะกล้ามาหาเรื่องวะ” - ผมกวนมัน
“สาด...คนหล่อเว้ย คนหล่อ”
“เออ - แล้วจะไปไหนล่ะ”
“หาข้าวกินก่อนเหอะว่ะ”
“เมื่อกี๊มึงไม่ได้กินเหรอวะ”
“ตอนไหน”
“อาจารย์เอาข้าวกล่องมาแจกอ่ะ”
“แจกแต่พวกมึงน่ะดิ กูไม่เห็นได้เลย” - ไอ้เดชค้อนใส่ผม
“สงสัยจะเป็นอย่างงั้น เออ ก็ได้ เดี๋ยวกูไปกินข้าวเป็นเพื่อนมึง” - ผมจัดแจงเสร็จสรรพ
“หาไรกินที่เสาวรีย์ก่อนนะ แล้วค่อยไปสยามกัน”
“กินไรดีวะ”
“ข้าวมันไก่ ตกลงนะไอ้ใหญ่”

ผมหรือจะปฏิเสธ แม้ผมจะกินข้าวมาแล้วก็เหอะ ข้าวกล่องน่ะไม่ค่อยจะอร่อยหรอกคับ ผมก็เลยกินข้าวมันไก่เป็นเพื่อนมันอีกจาน คราวนี้ผมละอิ่มแปร่เลย ระหว่างรออาหารในกระเพาะของผมย่อย

“มึงจะไปสยามทำไมวะ” - ผมถามมัน
“มึงเรียนพิเศษวันนี้ไม่ใช่เหรอ”
“เปล่า เมื่อวาน”
“อ้าวเหรอ แต่กูรู้ว่ามึงเรียนวันนี้นะ”
“นั่นมันสัปดาห์ก่อน ที่มึงบังคับให้กูมารอมึงอ่ะ แล้วมึงก็ให้กูไปเรียนกับต่ายที่สยาม มึงจำได้ป่ะ”
“ปกติมึงไม่ได้เรียนรอบวันอาทิตย์เหรอวะ”
“เปล่า กูเรียนวันเสาร์อยุ่แล้ว”
“ไม่เป็นไร ช่างเหอะ”
“แล้วมึงจะไปสยามทำไม” – ผมยังคงถามมัน ผมยังไม่ได้รับคำตอบจากมันเลย
“ก็ว่าจะไปซื้อของให้ต่าย แล้วจะฝากให้มึงเอาไปให้”


“...............” - เงียบไป



“เป็นไรวะใหญ่”
“อ่อ เปล่าๆ เออ กูว่านะ มึงก็มาให้กูวันจันทร์ แล้วก็ฝากเอาไปให้ต่ายวันจันทร์ก็ได้”
“ไม่เอา ไม่เอา วัยรุ่นใจร้อน”
“เออ เออ ก็ได้”

จริงๆ แล้วผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วคับว่า ต่ายจะไม่มาเรียนวันอาทิตย์ เพราะต่ายมาเรียนกับผมเมื่อวันเสาร์แทน วันนี้เหมือนต่ายจู้ว่าจะต้องมีรถไฟชนกัน ก็เลยหลีกรถไฟทั้งสองขบวนไม่ให้ชนกัน โดยต่ายเปลี่ยนวันเรียนโดยไม่ให้ผมบอกใคร แต่ผมก็บอกไอ้ไม้ไปแล้ว (ตอนที่ 19 คับ ย้อนไปอ่านดู) หลังจากไอ้ไม้กลับไปแล้ว ต่ายโทรมาหาผมแล้วผมก็โดนสวดไปหลายตลบ เพราะต่ายอยากเรียนแบบมีความสุข ไม่ชอบให้มีใครมารบกวน

แล้ววันนี้ผมจะทำไงอ่ะคับ ผมจะบอกเดชยังไงว่า วันนี้ต่ายไม่ได้เรียนวันนี้ ตอนนี้ต่ายจะต้องอยู่ที่บ้านแน่ๆ สับสนจริงๆ จะบอกมันยังไงอ่ะ มันตั้งใจมากๆ เลยด้วยที่มันจะซื้อของให้ต่าย ถ้าผมบอกไปจะเกิดอะไรขึ้น หรือผมควรจะให้มันเลยตามเลยดีล่ะ สับสนไปหมดแล้ว ทำไงดีไอ้ใหญ่ ช่วยด้วย ผมควรจะพึ่งใครดีล่ะ

“มึงเป็นไรใหญ่”- ไอ้เดชถามผม
“กินเยอะไปหน่อย ปวดท้องละมั้ง” - ผมโกหก
“ให้กูพาไปห้องน้ำป่ะ”
“เออ ดีว่ะ ขอบใจ” – เราสองคนจ่ายเงินเสร็จก็ไปห้องน้ำห้างที่ใกล้ที่สุด เดชยืนอยู่คร่อมโถฉี่ ผมเข้าห้องส้วมไป


ทำไงดีว้า.......
.
.
.
.
.
.
“กูรอข้างนอกนะเว้ยใหญ่” - ไอ้เดชเคาะประตูห้องน้ำบอกผม
“เออ”
.
.
.
ถ้าผมบอกเดชตรงๆ ว่าต่ายไม่ไปเรียน เดชจะเสียใจหรือเปล่า หรือถ้าไม่บอก เลยตามเลย แล้วเราทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น อันนี้อาจจะดีกว่า แต่มันก็จะเสียใจอยู่ดี ไม่ว่าจะยังไง วันนี้มันต้องเสียใจแน่ๆ ที่ไม่ได้เอาของที่มันจะซื้อให้ต่าย

“ไปกันได้ยัง เสร็จแล้ว” – ผมบอกเดช
“เออ ไปดิ”
“ไปยังไง รถเมล์นะ” - ผมเสนอ
“ไม่เอา ไปรถไฟฟ้า เร็วดี”
“ไม่ต่างกันหรอก เชื่อกู ไม่งั้นกูไม่ไปกับมึง”
“เออ ไอ้ใหญ่งก”
“กูงก กูจะได้มีเงินเก็บไว้เลี้ยงข้าวมึงไงเดช”
“ขอบคุณมากๆ ไอ้งก”
“สาย 54 มาน่ะ ไปเหอะ”

ผมบอกกระเป๋ารถเมล์  “2 คนคับ”

“มึงมาออกค่ารถให้กูทำไม” - มันถามผม
“ถ้าเป็นรถไฟฟ้า กูก็ไม่ออกให้มึงหรอกไอ้เดช”
“เออ ขอบใจว่ะ”

จริงๆก็อย่างว่าล่ะคับ รถไฟฟ้ามันเร็วกว่ามากๆ (แต่ก็ไม่มากกว่ากันเท่าไหร่ อันนี้ผมเคยลองมาแล้วนะคับ) ที่ผมเลือกนั่งรถเมล์ เพราะผมอยากอยู่กับมันนานนาน นานพอที่ว่าผมจะได้มองหน้ามัน แล้วก็บอกรักมัน (ในใจ) อย่างที่ผมทำทุกวัน ท่าทางมันคงจะเหนื่อยมาหลายวันน่ะคับ ขึ้นรถเมล์ได้ไม่นานมันก็หลับไป รถติดอยู่นานเหมือนกัน อากาศวันนั้นไม่รู้จะเอาใจแม่บ้านกันไปถึงไหน ร้อนได้ร้อนดี ผมหยิบเศษกระดาษจากกระเป๋าของผมมาพัด ไม่ได้พัดให้ตัวเองหรอกคับ แต่........ผมพัดให้เดช แม้มันจะไม่รู้ตัวก็ตามทีเหอะ แต่ผมสังเกตว่าเหงื่อมันเริ่มไหล แสดงว่ามันก็คงร้อนเหมือนกัน ผมเลยพัดให้มัน หวังว่ามันคงจะเย็นขึ้น แล้วตัวผมล่ะ? – ช่างเถอะคับ ผมมีความสุขมากพอแล้วที่ผมจะได้ดูแลมัน แม้มันจะไม่รู้เลยก็ตาม ผมยินดีที่จะทำคับ

ถึงที่หมายซักที ป้ายรถเมล์หน้าห้างสยามเซนเตอร์ ผมเขย่าตัวมันเบาๆ แล้วก็บอกว่าถึงแล้ว

“เห็นป่ะ ถ้ามารถไฟฟ้า ป่านนี้ถึงนานแล้ว” - มันด่าผมเล็กน้อย
“เออ กูขอโทษ”
“ไม่เป็นไรว่ะ ช่างเหอะ ถือว่ากูมาชมเมือง”
“เออ หลับเนี๊ยนะ ชมเมืองตรงไหนของมึง”
“เออน่า แม้กูหลับกูก็เห็นนะเว้ย” – เอาแล้วสิ มันจะเห็นสิ่งที่ผมทำกับมันหรือเปล่า
“แล้วจะไปซื้ออะไรวะ” - ผมถามมัน
“ศูนย์หนังสือจุฬา ป่ะ”
“ไปทำไรที่นั่นวะ ที่นั่นมีของ gift shop ขายเหรอ”
“กูไปซื้อหนังสือเว้ย มึงน่ะใหญ่ ไปช่วยกูเลือกเลย”
“เออ”

แล้วเราสองคนก็เดินไปที่ศูนย์หนังสือจุฬา ผมเองไม่ได้เลือกอะไรหรอกคับ อันไหนเดชว่าดีผมก็ว่าดี เดชหยิบหนังสือเยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือพวกคู่มือเตรียมสอบอ่ะคับ มันบอกว่า แต่ละสำนักพิมพ์ก็เขียนไม่ค่อยเหมือนกันหรอก ต้องอ้างอิงหลายๆที่ ความรู้ถึงจะน่าเชื่อถือ (อะไรของมันวะ) แล้วเดชก็มาหยุดที่โซนหนังสือแนวรักๆ ของวัยรุ่น มันหยิบหนังสือรักใสๆ น่ารักๆ มาเล่มหนึ่ง แล้วหันมาทางผม

“มึงว่าต่ายเขาจะอ่านป่ะวะ”
“มั้ง”
“ไอ้ใหญ่ มึงอย่ามากวนกูดิ”
“ก็กูไม่รู้นี่หว่า กูเห็นเขาอ่านแต่หนังสือเรียน”
“อ่านมากๆ ระวังเครียดนะเว้ย กูต้องซื้อนิยายหนุกๆ ให้ต่ายอ่านแก้เครียด ดีป่ะ”
“แล้วในตระกร้าของมึงล่ะ ไม่เรียกว่าเครียดเหรอ” - ผมย้อนถามมัน
“เห้ย อย่างกูน่ะเรียกว่า เพิ่มพูนความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ทำโจทย์ว้ย”
“กูว่ามึงมาสร้างประสบการณ์จีบต่ายให้ติดเหอะ อะไรวะ รู้จักต่ายมาจะเดือนนึงละ แม่งยังจีบไม่ติด”
“เออ กูมันไม่มีน้ำยา กูมันป๊อด”
“นี่ มานี่เลยไอ้เดช กูแนะนำ “คู่มือพิชิตใจเพื่อนต่างเพศ” กูว่าเหมาะกับมึงแน่นอน มึงซื้อดิ”
“เชี่ยใหญ่ แม่ง”
“ซื้อเลย เชื่อกู”
“กูไม่ซื้อหรอกใหญ่”- มันจับมือผม กอดคอผม “ก็กูมีเพื่อนที่รักกูอย่างมึงช่วยกูอยู่น่ะ”



“.................”
.
.
.
.
“เห้ย ตกลงมึงว่าไงวะใหญ่ เล่มนี้ชอบป่ะวะ”
“ชอบ” – ผมไม่รู้หรอกคับว่าสิ่งที่ผมตอบ คือผมตอบแทนต่าย หรือตอบออกไปจากใจตัวเอง สติผมขาดไปแล้วคับ
“เออดี” – มันหยิบหนังสือรักใสๆ เล่มนั้นลงตะกร้า
“...........”
.
.
.
.
.
“ใหญ่ ไอ้ใหญ่ ใหญ่โว้ย”
“หา ไรเหรอ” - มันดึงสติผมให้กลับมาที่ตัวเองแล้ว
“ป่ะ จ่ายตังกัน”
“เออ”

ผมเดินตามมันไปที่เคาเตอร์จ่ายเงิน แล้วก็เดินออกไปจากศูนย์หนังสือจุฬา เพื่อเดินทางไปยังที่เรียนพิเศษ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เดชบอกผมว่าจะนั่งรออยู่ข้างล่าง แล้วจนกว่าต่ายจะมา แล้วมันจะให้ผมเอาหนังสือเล่มนั้นให้ต่าย ก็โอเคคับ แผนของมัน แต่ผมรู้คำตอบล่วงหน้าแล้วคับ ว่ายังไงวันนี้ต่ายจะไม่มาที่นี่แน่นอน แล้วผมจะนั่งอยู่นี่ทำไมล่ะ


























คับ ผมนั่งกับคนที่ผมรัก แต่มันคงจะไม่รุ้หรอกว่าผมรักมัน
---------------
กะว่าพรุ่งนี้ลงสองตอน ดีป่ะคับ
มีplotเรื่องใหม่มาแล้วอ่ะคับ เครื่องร้อน แต่เรื่องนี้ยังไม่จบเลย

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อ่านไปก็แอบคิดไปนะ

ดีจิงๆ เลยที่สักครั้งหนึ่งเราจะได้เจอคนที่เรารักจิงๆ

แต่อีกใจก็คิดนะ  เฮ้ออออ  เรารักเขาข้างเดียวนี่หว่า

มันสุขก็จริง  แต่มันก็ทุกข์ด้วยนี่สิ

เฮ้อออออ เหนื่อยใจ   :เฮ้อ:

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอึดอัดแทนอ่ะ

มะไหร่จะรู้กันไปซักทีนะ :sad2:

รู้สึกว่าเรื่องมันค่อนข้างยืดๆอ่ะคับ

ถ้าเขียนกระชับกว่านี้ก็จะดีนะคับ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 28
 :oni3:
เรามาถึงที่เรียนพิเศษ เวลาประมาณบ่าย 3 โมงล่ะคับ ก็ตามรอบเรียนปกติจะเริ่มเรียนบ่ายสามโมงครึ่ง เราสองคนนั่งรอต่ายอยู่ ระหว่างที่รอผมง่วงมากคับ ก็เลยขอนอนซักนิดนึง เดชบอกว่าเดี๋ยวต่ายมาจะปลุก

แล้วเวลาก็ผ่านไป

4 โมง ตรง
.
.
.

4 โมง 15
.
.
.
4 โมง 20
.
.
.
4 โมง ครึ่ง
.
.
.
.
.
.
4 โมง 40

“ไอ้ใหญ่ ไอ้ใหญ่” - เดชเขย่าตัวผม
“อะไรวะ แม่ง กำลังนอน”
“กลับบ้าน”
“ทำไมวะ”
“ต่ายไม่มาแล้วมึง”
“เหรอ แล้วหนังสือที่จะให้เขาล่ะ”
“ฝากมึงเอาไปให้พรุ่งนี้ละกัน”
“เออ ได้ๆ”
“กูไปนะ”

มันเดินออกไปจากที่เรียนพิเศษเลยคับ ไม่รอผมเลย ผมวิ่งตามมันจนทัน

“มึงรีบไปไหนน่ะ” - ผมถามมัน
“เปล่า”
“แล้วมึงรีบออกมาทำไม กูวิ่งตามเกือบไม่ทัน”
“เปล่า”
“แล้วมึงจะไปไหน”
“กลับหอกูดิ อยู่ให้โง่ทำไม ต่ายเขาหลอกกู เมื่อวานกูโทรไปหาเขา เขาบอกกูว่าเขาจะเรียนวันนี้ กูก็เลยมารอ”
“................”
“แล้วไง กูมันก็ไอ้โง่คนนึงให้เขาหลอกว่ะ”
“............”
“เขาคงเห็นว่าคนบ้านนอกอย่างกู เป็นของเล่นล่ะมั้ง”
“..............”
“กูคงไม่มีหน้าไปหาต่ายแล้วล่ะใหญ่”
“ใจเย็นเด่ะวะ”
“ต่ายคงไม่รู้หรอกว่ากูทำทุกอย่างเพื่อเขา” – มันพูดไปเริ่มร้องไห้ ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้มัน
“ใจเย็นเดชะ” – ผมปลอบมัน
.
.
“มึงเคยรักใคร แล้วเขาโกหกมึงป่ะ” – ผมสะอึกเลยคับ ผมนั่นแหล่ะที่รักมัน
“ไม่เคย มึงก็รู้ กูรักใครไม่เป็น”
“กูจะสอนให้นะเว้ย ........!!”
“พอพอ มึงไม่ต้องพูดไรละ ยิ่งพูดยิ่งฟังไม่รุ้เรื่อง” – มันร้องไห้มากๆเลยคับ
“..+.๑..๔ภ*-*52--/%” – เดชพูดไม่เป็นภาษาคนเลยคับ มันคงเสียใจมากๆ
“เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงไอติม ไปกับกูนะ”

มันพยักหน้าหงึกๆ เอาผ้าเช็ดหน้าผมเช็ดน้ำตามัน แล้วเราก็เดินกันไปที่ร้านไอติมชื่อดังแถวสยาม

“ขอบใจว่ะใหญ่”
“เออ”
“ทำไมมึงดีกับกูอย่างงี๊วะ” – ตามันยังแดงๆ อยู่
“กู ก็...........ก็กูเป็นเพื่อนมึงนี่หว่า”
“มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลยใหญ่”
“คำถามไรวะ”
“มึงเคยรักใคร แล้วเขาโกหกมึงป่ะ กูเสียใจมากที่ต่ายเขาโกหกกู”
“ใจเย็นเด่ะ บางทีต่ายอาจติดธุระก็ได้นะมึง”
“อย่างน้อยก็น่าจะบอกกูก่อน จะได้ไม่มานั่งรอ”
“ธุระด่วนไงมึง บางทีเขาอาจจะไม่ได้บอกมึงก็ได้”
“ช่างเหอะใหญ่ ยังไง กูฝากเอาหนังสือให้เขาด้วยล่ะ”
“เออ”
“กูดีใจที่มีมึงเป็นเพื่อนกูนะใหญ่”


“..............”


“กูว่านะ ใครซักคน ถ้าเขาได้เป็นแฟนมึง กูว่าแม่งโชคดีสุดๆ” – ไอ้เดช มึงไม่ต้องเอางานเข้ามาให้กูก็ได้นะ
.
.
“............. กูยังไม่พร้อมว่ะ” - ผมบอกปัด
“มึงเป็นคนดีมากอ่ะใหญ่”
“เออ มึงเลิกยอกูได้หรือยัง กูลอยไปดาวอังคารแล้วมึง” – ผมแซวมัน มันหัวเราะได้เล็กน้อย แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วคับ
“กูขอบใจมึงมากนะ”
“ถ้ากูไปมีแฟน กูก็คงไม่ได้มานั่งกับมึงที่นี่หรอก ฮ่าๆๆ”
………
……..
……

กินไอติมกันเรียบร้อย เดชกับผมไม่ได้คุยอะไรกันมากหรอกคับ เพราะเดชอยู่ในอาการที่เศร้าอยู่ แล้วผมก็เป็นประเภทที่ว่า ปลอบใครไม่เป็นด้วยล่ะสิ แต่การที่เดชเป็นอย่างงี๊ เพราะผมหรือเปล่า ผมไม่ยอมบอกสิ่งที่ผมรู้

แต่......ถึงผมจะบอกไปเดชจะเชื่อผมเหรอ ไม่รู้สิคับ ยังไงวันนี้เดชต้องเสียใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ เดชร้องไห้เมื่อไหร่ หัวใจผมแทบจะสลายไปตรงหน้าเลยคับ ผมอยากให้คนที่ผมรักมีความสุข ไม่อยากให้มันทุกข์ และเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ที่ถ้าจะทำให้มันร้องไห้ ผมจะไม่มีวันทำให้มันเกิดขึ้นได้อีก

“กลับบ้านเหอะใหญ่”
“กลับไงวะ”
“รถเมล์”
“เออดี มาแล้วนั่นน่ะ ป่ะ” - ผมจูงมือมันขึ้นรถเมล์ที่เข้าป้ายมาเมื่อกี๊

“2 คนคับ”  - ผมบอกกระเป๋ารถเมล์
“มึงออกค่ารถให้กูอีกแล้วนะ”
“เอาน่า กูเลี้ยง”
“แต่กู...........”
“ช่างเหอะ กูอยากให้มึงสบายใจ”
“กู..........ไม่รู้ว่าจะขอบคุณมึงยังไงว่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็..............เราเป็น............อืม เพื่อนกันนี่นา” – สายตาลอกแลก ไม่มองหน้าเดช กลัวมันจับได้

รถเมล์ไม่ถึงกับแน่นมากหรอกคับ แต่เราสองคนไม่ได้นั่ง ที่นั่งเต็มทุกที่ แล้วก็มีคนยืนกับเราแค่ 2 -3 คนเอง เราสองคนยืนใกล้กันมาก ผมพยายามขยับตัวเข้าไปหาเดชให้มากที่สุด ดูเหมือนว่าเดชเองก็รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด มันก็ยังคงยืนแบบเหม่อๆ ไม่รู้ว่าตอนนั้นมันคิดไรอยู่

“มึงลงไหนใหญ่” - มันถามผม
“ป้ายตลาดกลางอ่ะ มึงอ่ะ” – ผมถามมัน ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ามันต้องนั่งไปถึงไหน
“กูนั่งสุดสายว่ะ แล้วเดินไปอีกนิดก็ถึงหอกูแล้ว”
“อืม”
“การบ้านมึงเสร็จยังวะ”- มันถามผม
“ยังหรอก ช่วงนี้งานเยอะ กะว่าคืนนี้เคลียร์ทีเดียว แล้วมึงล่ะ”
“ก็อีกนิดหน่อย เดี๋ยวก็คงเสร็จ กูไม่ดินพอกหางหมูเหมือนมึงหรอก” - ยังมีอารมณ์กัดกูอีกเน้อ
“เออ กูมันขี้เกียจ แต่อยู่ห้องคิง”
“กูอยากเป็นมึงว่ะใหญ่ ถ้ากูเป็นมึง สาวๆกรี๊ดตรึมแน่”
“เหอๆๆ ก็มีบ้าง รุ่นน้องชอบมาแอบมองกู” – จริงๆคับ มีรุ่นน้องผู้หญิงคนนึงเขาบอกว่าชอบผมด้วย แต่ผมบอกเขาไปว่าผมคงเป็นได้แค่พี่ชายแหล่ะคับ เพราะผมไม่ชอบผู้หญิงนี่นา
“ไม่เอาเป็นแฟนไปวะ”
“กูไม่พร้อมว่ะ เป็นพี่น้องกันดีกว่า”
“คนอย่างมึง กูยากที่จะเข้าใจ”
“เออ คนอย่างกุมันก็เป็นอย่างงี๊แหล่ะ มึงไม่เข้าใจกูหรอกเดช”
“กูอยากจะเข้าใจมึงนะใหญ่ ทุกวันนี้มึงคิดอะไรอยู่”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้กูคิดอะไร กูจะอยู่ไปทำไม นอกจากทำความฝันให้พ่อกับแม่กูเป็นจริงก็แค่นั้น”
“พ่อกับแม่มึงอยากให้มึงเป็นไร”
“หมอ”
“มึงคงเป็นได้แหล่ะมั้งใหญ่ มึงเก่งจะตายห่า”
“มึงจะมาเข้าใจกูยังไงวะ ก็กูไม่อยากเรียน กูอยากเรียนสิ่งที่กูชอบ ซึ่งตอนนี้ กูยังไม่เจอ แต่ไม่ใช่หมอแน่นอน”
“............”
“แล้วพ่อกับแม่มึงเขาอยากให้มึงเรียนไรวะเดช”
“วิศวะ”
“เห็นป่ะล่ะ”
“แต่กูชอบ กูอยากเรียน แต่หัวกูไม่ดี กูจะพยายาม”
“ดีแล้วมึง มึงชอบ มึงรัก มึงคงทำได้ดี” - ผมบอกมัน
“มันก็เหมือนความรักแหล่ะไอ้ใหญ่ วันนึงมึงก็คงจะเจอความรักดีดี รักที่มึงชอบ แล้วกูว่ามึงต้องมีความสุขกับมัน”
“.....................กูคงจะเจอซักวันแหล่ะ แล้วกูจะบอกมึงนะเดช”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เห้ย เชี่ยเลยป้ายกูแล้ว” – ผมบอกมัน
“ทำไงดีล่ะ” - มันถาม
“กูไม่ลงก็ได้วะ แม่งอีกป้ายแม่งไกล”
“งั้นมึงไปหอกูนะ” – มันยิ้มเล็กน้อย
“อืม”











จริงๆ แล้ว ผมตั้งใจนั่งรถเลยป้ายแหล่ะคับ
ผมอยากอยู่กับมันนานนาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะชวนไปที่หอมัน
--------------

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 29
 :a1:
ผมคิดแค่ว่า ผมนั่งรถเลยป้าย ก็แค่จะอยู่กับเดชนานนาน แต่ก็ไม่คิดว่าผมจะได้ไปที่หอมันอีกครั้ง แล้วตอนนี้ผมก็พาตัวเองมาที่หอของเดช เดชเข้าห้องไปอยากแรกที่เดชทำก็คือ การถอดเสื้อกับกางเกงยีนส์ของมัน มันเหลือกางเกงในตัวเดียวอีกแล้ว มันก็คงลืมอีกแล้วว่าผมอยู่ในห้องมันด้วย แถมมันยังบอกผมให้ถอดตามมันอีก ผมก็เลยถอดแค่เสื้อนักเรียนวางไว้ที่กระเป๋าของผม แล้วมันยื่นไม้แขวนเสื้อมาให้ บอกว่าเดี๋ยวมันยับ (ไม่เป็นไรหรอกน่า เย็นแล้ว จะกลับบ้านแล้ว)

หลังจากที่เราสองคนทำธุระกันเสร็จแล้ว ธุระในที่นี้หมายถึงธุระของเดชนะคับ ก็คือเมื่อมันถึงห้องแล้วมันจะต้องเก็บของอะไรของมันไม่รู้ แล้วมันก็บอกให้ผมไปนั่งรอบนเตียง ผมว่าง่ายทันทีเลยคับ ไปนอนรอในสภาพที่ไม่ใส่เสื้อ ระหว่างที่ผมรอผมก็เอาหนังสือรักใสๆ ที่เดชมันจะซื้อให้ต่ายมาอ่านคับ อ่านไปแค่คำนำเอง ขี้เกียจอ่านแล้ว วันหลังค่อยไปยืมต่ายอ่านแล้วกัน แล้วหลังจากที่เราสองคนทำธุระกันเสร็จ มันก็หยิบไดอารี่ของมันขึ้นมาเขียนข้างๆ เตียง

“เขียนไรวะ”
“เรื่องของคนเจ็บ โดนคนรักหักหลัง”
“กูว่าเรื่องอย่างงั้นอย่าไปเขียนเลยว่ะ” - ผมเสนอความเห็น
“ไม่ว่ะ กูเขียนทุกเรื่อง”
“เออ เรื่องของมึง”

ระหว่างที่มันกำลังเขียนไดอารี่ ผมจ้องหน้ามัน จ้องอยู่นานมาก แต่มันเองก็ไม่รู้ตัว แล้วความรู้สึกที่ต้องการของผมมันก็หยุดไม่ได้ ผมหยุดไม่ได้ที่จะเป็นได้แต่ผู้มองเท่านั้น ผมเอาหน้าของผมไปใกล้ ใกล้ และใกล้กับหน้าของมัน จริงๆแล้วหน้ามันก็ไม่ได้ใสเหมือนนายแบบวัยรุ่นอะไรหรอกคับ มีสิวนิดๆ แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะคับ ผมจ้องมันใกล้มาก......ใกล้เกินไปแล้ว

“อะไรติดหน้ากูวะใหญ่”
“เปล่า ไม่มีไร กูมองสิวมึง”
“เออเนี๊ย ทำไงให้หายวะ กูรำคาญ หน้าแม่งไม่หล่อเลย”
“ไปซื้อผงพิเศษตราร่มชูชีพมาละลายน้ำแล้วทาก่อนนอน” - ผมอธิบายเสร็จสรรพ
“ขอบใจว่ะ”

แล้วมันก็ก้มไปเขียนไดอารี่ต่อ ผมก็ยังคงจ้องหน้ามันต่อไป ผมจ้องหน้ามันด้วยความรักที่ผมมีให้กับมัน และมันก็ไม่เคยได้รู้ว่าผมรักมัน ผมได้รักมันฝ่ายเดียวก็สุขใจแล้วคับ

หลังจากที่ผมจ้องหน้ามันมานาน ผมเริ่มลงไปจ้องอย่างอื่นมั่งแล้วคับ เริ่มตั้งแต่เม็ดลูกเกดของมัน มันก็เป็นคนที่ผิวไม่ได้ขาวมากนัก ลูกเกดของมันจึงเป็นสีน้ำตาล มีขนาดเกือบเท่าเหรียญสลึงเลย น่ากัดมากๆ Six pack ของมันก็น่าหมั่นเคี่ยวมากๆคับ แล้วยิ่งมองตรงนั้น อารมณ์ของผมก็เริ่มบังเกิดขึ้นมาแล้วล่ะคับ ผมจึงเอื้อมมือของผมเข้าไป

“ใหญ่ หิวป่าว”- อยู่ดีดีมันก็เงยหน้าขึ้นมาถามผม ผมรีบเอามือกลับมาอยุ่ที่หน้าตักตัวเอง
“นิดหน่อย”
“เดี๋ยวไปหาไรกินกันก่อนมึงกลับบ้านนะ”
“เออ ก็ดี”

มันเก็บไดอารี่ ที่มันเพิ่งจะเขียนเสร็จใส่ลงในโต๊ะเขียนหนังสือของมัน แล้วมันก็หยิบกีต้าร์มานอนบนเตียง ผมนอนอยู่ มันก็นั่งพิงหัวเตียง บอกผมว่าหยิบหนังสือเพลงข้างๆ เตียงอีกฝั่งให้มันด้วย

“มึงอยากฟังเพลงไร” - มันถามผม
“อะไรก็ได้”
“งั้น นี่เลย เพลง “รอ” ของกะลา กูชอบมาก แม่งเข้ากับชีวิตกู”
“เออ เอาดิ กูฟังอยู่” – ผมพูดแล้วมองหน้ามันไปด้วย

ปิดตัวเองให้มืดมน อย่างคนที่ไร้ความคิด
ปล่อยชีวิต ยึดติดกับคำว่ารอ
ในความรัก ในความหวัง
มีความช้ำคอยซ้ำรอยต่อ
ตอกย้ำว่าต้องรอ เรื่อยไป

กับความรักที่เลื่อนลอย ที่ลดน้อยลงทุกที
เท่าที่มี ข้างกายคือความเงียบเหงา
อยากมีเธอ เคียงข้างกาย ไขว่คว้าได้เพียงแค่เงา
อ้างว้างและเหน็บหนาว เหงาในหัวใจ

เหนื่อยจนท้อ ต้องรออีกนานเท่าไหร่
ความรัก ของเรามันคงสุดทาง
เหนื่อยเพียงไหน
เมื่อมันยิ่งรอ ยิ่งหมดความหวัง
ความฝัน คงไม่มีวันเป็นจริง
เหนื่อยและท้อ ต้องรอไปจนเมื่อไหร่
ยิ่งหวัง ยิ่งไกลออกไปทุกที เหนื่อยและล้า
ไขว่คว้าเท่าไหร่ ไม่ถึงเธอซักที
สิ่งที่เจอวันนี้ ฉันมีแต่ความว่างเปล่า

จะวันนี้ จะวันไหน จะยังเฝ้ารออย่างนี้
กี่เดือนปีเลยผ่าน จะรอเรื่อยไป
ด้วยดวงใจที่มั่นคง จะนานแสนนานเท่าไร
แต่หัวใจ ยังย้ำทุกวันว่ารอ

เหนื่อยจนท้อ ต้องรออีกนานเท่าไหร่
ความรัก ของเรามันคงสุดทาง
เหนื่อยเพียงไหน
เมื่อมันยิ่งรอ ยิ่งหมดความหวัง
ความฝัน คงไม่มีวันเป็นจริง
เหนื่อยและท้อ ต้องรอไปจนเมื่อไหร่
ยิ่งหวัง ยิ่งไกลออกไปทุกที เหนื่อยและล้า
ไขว่คว้าเท่าไหร่ ไม่ถึงเธอซักที
สิ่งที่เจอวันนี้ ฉันมีแต่ความว่างเปล่า

สิ่งที่รู้วันนี้ ฉันมีแต่คำว่ารอ


“เพราะดีว่ะ กูชอบเพลงนี้เหมือนมึงเลยเดช” - ผมบอกมัน
“ทำไมชอบเพลงนี้วะ เพลงนี้มันเศร้านะเว้ย”
“กูชอบที่มันร้องได้อารมณ์ดี” – ผมบอกมัน จริงๆแล้วที่ผมชอบด้วยเหตุผลเดียวกับเดชแหล่ะคับ เดชร้องเพลงนี้ให้ต่าย ส่วนผมก็ร้องเพลงนี้ให้เดชเช่นกัน
“มึงเล่นกีต้าร์เป็นป่ะใหญ่”
“ไม่เป็น สอนกูหน่อยดิ”
“เออ เดี๋ยวกูสอนให้”

แล้วมันก็สอนผมจับคอร์ดกีต้าร์พื้นฐานสองคอร์ดคับ C กับ D (ทุกวันนี้ผมยังจำได้เลยคับว่ามันจับยังไง และก็จับเป็นแค่ 2 คอร์ดนี้เท่านั้นนะคับ) มันจับมือผมจับคอร์ด ด้วยมือผมที่ไม่เคยจับเครื่องดนตรีมาก่อน มือผมเลยเก้ๆกังๆ ไม่ค่อยถนัด จากตอนแรกเราสองคนนั่งหันหน้าตรงข้ามกันกลายเป็นว่าตอนนี้เดชนั่งซ้อนด้านหน้าผมแล้วคับ ทำให้ผมได้สัมผัสแผ่นหลังของเดช ผมแอบเอาจมุกไปดมอยู่บ่อยๆ เวลามันเผลอ มันก็ไม่รู้ตัวหรอกคับ มือผมที่จับคอกีต้าร์แทบอยากจะโอบโหล่มันใจจะขาด แต่ผมทำไม่ได้คับ ผมไม่กล้า

ระหว่างที่มันกำลังสอนผมจับคอร์ดกีต้าร์อยู่นั้น ตอนนั้นผมนั่งอยู่ข้างหลังมันทางด้านขวาของมัน ขณะที่ผมกำลังเอาหน้าจ้องไปที่ไหล่ของมัน มันดันหันมาทางขวาพอดี เป็นจังหวะที่ผมก้มหัวพอดี เกิดอะไรขึ้นเหรอคับ ผมก็เลยได้เอาจมูกของผมสัมผัสแก้มนุ่มๆของมัน เหมือนว่าโลกหยุดหมุน เราสองคนค้างอยู่ในสภาพนี้ซักพัก ผมก็ดึงเอาหน้าตัวเองออกมา


















“ไหนล่ะ จับยังไง ยังตีคอร์ดไม่ได้เลย” - ผมบอกมัน
“เออ ก็ตามเนี๊ยะ ไปหัดเอาเองละกัน กูจะร้องเพลงให้มึงฟัง”
“ไรวะแม่ง อุตส่าห์จะเล่นเป็น”
“กูว่าคนอย่างมึงเรียนเก่ง กับทำกิจกรรมเก่งๆ ก็พอแล้ว”
“มึงจะฟังเพลงอะไร” - มันถามผม
“อะไรก็ได้”
“ฝนตกที่หน้าต่าง ละกันนะ”
……..
……..
……….
………….








“กูรักต่ายโว้ย” - อยู่ดีดีมันก็ตะโกนหลังจากร้องเพลงจบ
“เบาๆ ดิ ข้างห้องเดี๋ยวเขาก็มาด่ามึงหรอก”
“เออ กูขอโทษ”
“ขอโทษกูทำไม คนเดือดร้อนน่ะมึง ไม่ใช่กู”
“ขี้เกียจเล่นแล้ว นอนเล่นกับมึงดีกว่าไอ้ใหญ่” – แล้วมันก็เก็บกีต้าร์ของมัน แล้วก็ล้มตัวนอนข้างๆผม
“............”
“โตขึ้นมึงอยากเป็นอะไรวะ” - อยู่ดีดีก็ถามเรื่องนี้
“คนดีว่ะ”
“เออ ดีแล้วมึง”

จากการนอนหงาย มันก็นอนตะแคงข้าง หันหน้ามาทางผม

“อะไรของมึงเดช”
“กูมองหน้าเพื่อนรักกู กูผิดเหรอ”
“ไม่ผิด”
“ถ้ากูอยากจับแก้มเพื่อนรักกู กูจะผิดป่ะวะ”
“............” - แล้วมันก็จับแก้มของผม




“ถ้ากูอยากบีบจมูกเพื่อนรักกู กูจะผิดป่ะวะ”
“............” – แล้วมันก็บีบจมูกผม




“กูรักมึงนะใหญ่”
“กูก็รักมึงว่ะเดช”
“มึงรู้ป่ะ มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกู”
“กูยินดีว่ะเดช” – ผมพูดจบก็เอื้อมือไปลูบหัวมัน แล้วก็เกาหัวให้มัน อย่างที่มันชอบ
“ดีว่ะ กูอยากให้ต่ายเขามาทำอย่างงี๊กับกูมั่งจัง ใหญ่ มันจะเป็นไปได้ป่ะวะ”
“......................”
“เฮ้ย ฟังกูป่ะเนี๊ย”
“เป็นไปได้ มั้ง”
........
.........
..........
..............
“อืม................กูเริ่มปลงแล้วว่ะ”
------------------
พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้แวะมานะคับ ถ้าได้มาจะมาลงให้อีก 1 ตอนละกัน

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอึดอัดแทนอ่ะ

มะไหร่จะรู้กันไปซักทีนะ :sad2:

รู้สึกว่าเรื่องมันค่อนข้างยืดๆอ่ะคับ

ถ้าเขียนกระชับกว่านี้ก็จะดีนะคับ

คือว่า ตอนผมแต่งออกมา ผมยังอึดอัดตัวเองเลยคับ ทำไมไม่บอกไปซักที ท่าทีมันก็โคตรจะคลุมเครือ แต่ก็อย่างที่บอกอ่ะคับ รักเขาข้างเดียว บอกอะไรไปมันก็คงไม่เข้าใจ เพราะมันไม่ได้คิดว่าผมเป็นเกย์ ส่วนเรื่องที่มันยืดๆ น่ะเหรอคับ แบบว่าไงดีอ่ะั คือมันเป็นเรื่องจริงเป็นส่วนใหญ่น่ะคับ เรื่องจริงๆที่ผมรู้จักมัน ใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่าๆ เนื้อเรื่องมันก็เลยยาวและยืดๆ แล้วก็จะมีเรื่องของระยะเวลาของตัวละครอยู่บ้าง เอาอย่างงี๊ละกันในตอนหลังจากนี้ ผมอาจจะตัดบางเหตุการณ์ที่มันไม่ค่อยจะสำคัญบ้างละักัน จะได้กระชับมากขึ้นนะคับ

(แต่จริงๆแล้วผมไม่ค่อยอยากตัดเท่าไหร่หรอกคับ ผมจำมันได้แทบจะทุกอันเลย แต่เพื่อความไม่เย่นเย้อ ผมจะลองทำดูละกันคับ)

ขอบคุณมากๆเลยคับ (+1 แถมให้)

อ่านไปก็แอบคิดไปนะ

ดีจิงๆ เลยที่สักครั้งหนึ่งเราจะได้เจอคนที่เรารักจิงๆ

แต่อีกใจก็คิดนะ  เฮ้ออออ  เรารักเขาข้างเดียวนี่หว่า

มันสุขก็จริง  แต่มันก็ทุกข์ด้วยนี่สิ

เฮ้อออออ เหนื่อยใจ   :เฮ้อ:

คับ ผมเองยังเหนื่อยใจเองเลย ตอนนั้น เฮ้อ!! เจ็บลึกๆ แต่พูดไม่ได้ (+1) อีกละกันนะคับ

อ่านแล้วก็อึดอัดอีกหงะ

แล้วอย่างงี้มันจะไปต่อยังไงละเนี่ย

เฮ้อออออ...

ลองดูละกันคับว่าจะต่อยังไง แต่บอกละกันว่าหลังสอบกลางภาคเสร็จ ใหญ่จะเริ่มปฏิบัติการแล้ว เป็นยังไง ลุ้นละกันคับ


ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
^
^
^
^
^
จิ้มค๊าบ  :laugh:


ไปอ่านก่อน :oni1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ทั้งสุข ทั้งเศร้าได้ในเวลาเดียวกัน  o7

รอลุ้นปฏิบัติการของใหญ่ต่อไป   :pig4:




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






chatnaha

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วคิดถึงตัวเอง :sad2:

ตอนนั้น เรามองอะไรไม่ออกหรอก o2

แต่มันผ่านแล้วมองย้อนไป เราจะรู้ว่า o7

เรารักคนอื่นน้อยกว่ารักตัวเองอย่างนั้นได้ยังไง <<<<<<<<ฮ่า ฮ่า แอบมีสาระ(หรือเปล่า)

 :laugh: :serius2: :o12:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
งั้นจารอตอนที่ใหญ่เริ่มปฏิบัติละกันนะ  อิอิ

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
แล้วตอนนี้พี่ใหญ่เรียนหรือว่าทำงาน  อะไรหรอค่ะ
พี่เดชล่ะได้เป็นวิศวะอย่างที่อยากเป็นรึเปล่า 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ... ตามอ่านทุกตอน   :bye2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
แล้วตอนนี้พี่ใหญ่เรียนหรือว่าทำงาน  อะไรหรอค่ะ
พี่เดชล่ะได้เป็นวิศวะอย่างที่อยากเป็นรึเปล่า 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ... ตามอ่านทุกตอน   :bye2:

เดชเป็นวิศวะสมใจอยากมันเลยคับ
ส่วนผมเองก็ได้งานทำแล้วคับ(สดๆ วันนี้เลย) อาจจะไม่ได้มา Update บ่ิอยๆ แล้วล่ะ แต่ก็จะพยายามมาลงให้มากที่สุดละกัน

ขอบคุณทุกท่านนะคับ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 30
 :laugh:
หลังงานวันสถาปนาโรงเรียน ก็เป็นเทศกาลของการสอบกลางภาคกันแล้ว ตอนนี้ทุกคนดูเหมือนจะต้องขยันเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะผมเองที่เดิมทีก็ไม่ค่อยจะเรียนอยู่แล้ว แถมดองงานเอาไว้อีกมากมาย กำหนดส่งก่อนสอบกลางภาค ซึ่งมันก็อีกแค่ 2 สัปดาห์ กับงานที่มันมหาศาล ผมจะทำทันป่ะเนี๊ย โชคยังดีอยู่บ้างที่ผมได้อยู่ห้องคิง บรรดาเทพทั้งหลายก็ได้ลงมาช่วยผมทำงาน ทั้งแนะนำหนังสือ เวบไซต์ แหล่งอ้างอิงต่างๆ ในรายงานส่วนตัวของผม แทบจะขอบคุณมากๆเลย จริงๆแล้วมันคงสงสารผมมากกว่า ถ้าผมไม่มีใบขอเวลาเรียนนะ รับรอง ป่านนี้ผมไม่มีสิทธิ์สอบแล้วล่ะ

ก็เพราะงานที่ผมค้างมามากมายเนี๊ยแหล่ะคับ ทำให้บางทีผมต้องอยู่เย็น ในขณะที่เพื่อนผมบางคนก็กลับบ้านไปก่อน บางคนก็ไปเล่นเกม แต่ผมก็ต้องมาสะสางงานที่มันค้างๆมาทั้งหมด แต่ก็ดีนะคับที่ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว มีอีกคนอยู่เป็นเพื่อนผมด้วย

“เมื่อไหร่จะเสร็จวะ” - เดชถามผม
“ซักพักว่ะ”
“ให้กูช่วยตรงไหนได้มั่ง”
“มึงตัดรูปให้กูหน่อยดิ แล้วก็ใส่ในแฟ้มอันนั้นน่ะ”
“แฟ้มลายน่ารักเชียวมึง” – มันกัดผม แฟ้มผมลายเป็ดน้อยคับ
“มันก็เหมาะกับคนอย่างกูอยู่แล้ว”
“ใช้ของขัดกับหน้าตาว่ะมึง ไอ้ใหญ่”

มันตัดรูปให้ผมไปเรื่อยๆคับ ตัดไปคุยไป ผมก็ลอกงานไป ว่าง่ายๆ ห้องไม่เงียบหรอกคับ ลืมบอกไปว่าผมไปทำงานที่ห้องเรียนมันนะคับ มีหวังทำที่ห้องเรียนตัวเอง อยู่กับผีแน่ๆ ไม่มีคนเลยคับ ห้องมันมีคนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สนใจผมหรอกคับ ก็เดี๋ยวนี้ผมเดินเข้าออกห้องมันอย่างกับเป็นห้องตัวเอง ไอ้เต้มันยังบอกเลยคับว่า มันไปบอกอาจารย์ที่ปรึกษาห้องมันให้แล้วว่ามีนักเรียนย้ายมาจากห้องคิงแล้ว

ระหว่างเดชตัดกระดาษอยู่ดีดี คงจะเมามันกับการพูดมากของมันล่ะคับ
-
-

จึ๊ก!!!
.
..
...
....
.....
.....

“โอ๊ย+++!!!! ไอ้ใหญ่”

คัดเตอร์เฉือนนิ้วมือมันคับ เลือดออกเป็นสายเลย ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไง สิ่งแรกที่ผมคิดได้ก็คือ เอานิ้วของมันที่เลือดออกเข้าปากผม ผมดูดเลือดให้มัน ผมทำอะไรลงไปเนี๊ย ผมไม่กล้ามองหน้ามัน ผมอายมากๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ที่รู้คือมันเงียบ ไม่ร้อง ไม่พูดอะไรทั้งนั้น หลังผมดูดเลือดให้มันซักพัก ผมก็อมเลือดมาปล่อยที่ถังขยะ แล้วจึงเดินออกไปหาน้ำสะอาดให้มันล้างแผล

“ระวังหน่อยเด่ะวะ” – ผมบอกมัน
“ขอบใจว่ะใหญ่”
“ไม่เป็นไรวะ เล็กน้อย ปฐมพยาบาลแค่นี้เอง”
“เออ”
“อีกอย่างถ้ากูไม่ให้มึงตัดกระดาษ มึงก็คงไม่เจ็บตัว” - ผมพูดออกไปเพราะรู้สึกผิด
“ช่างเหอะไอ้ใหญ่ มา ตรงไหนต่อ แผ่นไหนอีก”
“เดี๋ยวกูไปตัดเองที่บ้านก็ได้ ไม่เป็นไรว่ะ ขอบใจ”
“ได้ไงวะ ภารกิจยังไม่ลุล่วง เสียชื่อเดชหมด”
“มึงตัดไหวแน่นะ” - ผมถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“อืม”
“ก็ที่เหลือน่ะ แล้วก็ที่ติดกระดาษแถบสีเหลือง สามแผ่น พอแล้ว”
“อืม............”

จากห้องเรียนของมันที่มีคนอยู่ประมาณ 10 คน เป็นผู้ชายทั้งห้อง ตอนนี้ก็ได้เริ่มหายไปทีละคน สองคน จนเหลือแค่ผม เดช แล้วก็ไอ้เต้ ไอ้เต้กำลังจะกลับบ้าน มันก็บอกผมกับเดชก่อนกลับว่า “ถ้าจะทำอะไรก็เบาๆหน่อย โรงเรียนไม่ใช่หอ” ไอ้เต้พูดจบเดชก็เลยสนองไอ้เต้ด้วยการเตะตูด 1 ที จากนั้นเราอยู่ด้วยกันอีกซักพัก ผมเขียนรายงาน เดชตัดรูปภาพให้ จนได้เวลาตึกปิด ถึงเวลาซักทีที่ผมจะออกจากที่นี่
 
เราสองคนเดินออกจากโรงเรียนไป เดี๋ยวนี้ผมกลับบ้านกับเดชทุกวันแล้วคับ ถ้ามองจากภายนอก เราสองคนจะเป็นคู่ที่ใครมองข้างนอกก็คงคิดว่าเราเป็นแฟนกัน หรือว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ แต่จริงๆแล้วเราคิดกันคนละอย่างกันคับ เดชคิดกับผมแค่เพื่อน แต่ผมคิดกับเดชมากกว่าเพื่อน ทำไงดีล่ะ

“สอบเสร็จมึงไปเที่ยวไหนป่ะวะ” - เดชถามผม
“ก็คงเซ็นทรัลแหล่ะ ที่ประจำ”
“กูหมายถึงต่างจังหวัด”
“ไม่ว่ะ ไม่เคย”
“ไปกับกูนะ”
“ไปที่ไหน”
“บ้านไอ้เข้ม ที่ชุมพร”
“ไกลว่ะ เดี๋ยวกูขอที่บ้านก่อนนะ”
“เดี๋ยวกูโทรขอให้ป่ะ”
“ไม่ต้อง กูมีปาก กูขอเองได้ แต่ก็ไม่ประกันนะเว้ย ว่ากูจะได้ไปหรือเปล่า”
“มึงต้องไปให้ได้นะไอ้ใหญ่ กูอยากให้มึงไป”
“ใครไปมั่งวะ” - ผมถามมัน
“ก็มีกู แล้วก็แก๊งพวกกู แล้วก็มีอีก 2-3 คน”
“มีแต่ห้องมึงอ่ะ กูห้อง 6 คนเดียว กูไปจะสนุกเหรอวะ”
“มึงอย่าคิดดิว่าไปกับห้องอื่น มึงคิดว่าไปกับกู”
“แต่มันก็อดคิดไม่ได้นะมึง ก็กูไม่ค่อยรู้จักใครในห้องมึง”
“เอาน่า ไปสนุกด้วยกัน นะนะ ใหญ่จ๋า ไปเหอะ กูอยากให้มึงไปนะ”
“เดี๋ยวกูบอกมึงละกัน”
“มึงต้องบอกกูว่าไปนะเว้ย”
“............”
“กูกลับก่อนนะ รถมาแล้วว่ะ”
“มึงอย่าลืมนะเว้ย”
“เออ”

รถเมล์กลับบ้านผมมาแล้วคับ จริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้เดชจะเดินมาส่งผมทุกวัน แต่ก็จะผ่านหมู่บ้านที่ต่ายอยู่ก่อน เอาเป็นว่าไม่ได้เห็นหน้าบ้าน เห็นหมู่บ้านก็ยังดี แต่ผมชินแล้วแหล่ะคับ เดินทางอ้อมโลกกว่าจะถึงบ้าน แต่ก็ได้อยู่กับคนที่ผมรัก

มาถึงตอนนี้ ผมได้รู้จักกับเดชก็เดือนกว่าๆ แล้วคับ ตั้งแต่ผมรู้จักมัน เท่าที่รู้ ผมไม่รู้ตัวเองหรอกคับว่ารักมันไปตอนไหน ช่วงเวลาไหนที่ผมเกิดไปหลงรักมัน แต่ในเมื่อผมรู้ตัวเองแล้วว่าผมรัก ผมจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด บางครั้งก็มีบ้างเวลาเดชอยุ่ที่หอ ผมอยากที่จะทำอะไรอย่างงั้นกับเดช แต่ผมก็ไม่กล้า แม้แต่จะเอ่ยปาก เราพูดว่า “กูรักมึง” ทุกวัน แต่ในความหมายของมันกับผมมันเป็นคนละความหมายคับ สำหรับมันคงหมายถึงรักของเพื่อนที่บริสุทธิ์ แต่สำหรับผมหมายถึงความรักที่ผมพร้อมจะเป็นผู้ให้ทั้งตัวและก็หัวใจ

แล้วผมจะทนอยู่อย่างงี๊ได้อีกซักเท่าไหร่ ทุกวันนี้ผมรู้สึกอึดอัด เหมือนแบกโลกเอาไว้คนเดียว ผมมีเพื่อน แต่เพื่อนผมก็ปรึกษาอะไรอย่างงี๊ไม่ได้หรอกคับ จริงอยู่ว่าเพื่อนรู้ว่าผมเป็นเกย์ แต่มันก็คงจะตอบผมไม่ได้หรอกคับว่ารักแบบของผม มันจะมีทางออกยังไง ทุกครั้งที่ผมได้เจอกับเดช อยู่ใกล้ๆเดช ใจนึงก็ดีใจมากๆ ที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก แต่อีกใจก็เจ็บ ว่าเขาไม่เคยได้รับรู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน มันก็ยังคงชอบต่าย และตามจีบต่ายอย่างไม่ย่อท้อ




























ถ้าผมบอกเดชว่าผมคิดยังไงกับเดชล่ะ?
-----------

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 31
 :oni3:
วันสอบกลางภาคเข้ามาทุกทีแล้วคับ หนังสือก็อ่านไม่ทัน (จะบอกว่าจริงแล้วไม่เคยคิดจะอ่านเลยมากกว่า – คือผมอ่านรอบเดียวก็พอทำข้อสอบได้แล้วคับ แต่มันจะออกแนวไม่ชัวร์) แต่เดชก็ช่วยผมได้เยอะเหมือนกัน เพราะผมตกลงจะไปนอนหอเดชสองวันก่อนสอบ เพราะมันบอกว่ามันอยากติวเคมีกับผม ก็โอเคคับ ผมไม่ปฏิเสธ ออกแนวจะเต็มใจด้วยซ้ำ

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ขณะที่เราอ่านหนังสือกันอย่างบ้าระห่ำ ยามบ่ายสองโมงวันเสาร์ อยู่ดีดีเดชก็พูดขึ้นมา
 
“พรุ่งนี้ไปข้างนอกกับกูครึ่งวันนะ”
“ไปไหน”
“ที่เดิมน่ะ”
“ที่เดิมมันที่ไหนวะ”
“ก็ 000000 ไง (ชื่อสถาบันกวดวิชา)”
“ให้กูไปทำไมล่ะ กูไม่ได้เรียนที่นั่น”
“เหอะน่า ไปอ่านที่นั่นกัน”
“ไอ้ห่า ที่อื่นมีเยอะแยะ”
“ก็กูเรียนตอนเช้าไง แล้วก็รอต่ายเลิกเรียนตอนเที่ยง แล้วก็ไปกินข้าวกัน โอเคป่ะ”
“.....................”
“เฮ้ย!! โอเคป่ะเนี๊ย”
“อืมๆ............” – ผมก้มลงไปอ่านหนังสือของผมต่อ

นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกอึดอัด ผมควรทำไงล่ะ อยากตะโกนบอกฟ้าว่าผมรักมันแค่ไหน แต่บอกไปแล้วถ้ามันไม่เหมือนเดิมล่ะ ผมกลัวมากคับ กลัวว่ามันจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม และกลัวว่ามันจะห่างจากผมไป แม้สายตาผมอยู่ที่หนังสือแต่ผมไม่ได้อ่านมันซักนิด

เราก็ยังคงทำตัวสนิทกันเหมือนทุกที เราสองคนไม่ใส่เสื้อเวลาอยู่ที่หอเดช เดี๋ยวนี้ผมเริ่มกล้าบ้างแล้ว บ่อยครั้งที่ผมชอบเอามือไปหยิกหัวนมของเดช มันน่าหมั่นเคี่ยวนี่คับ นมสีสำตาลอ่อนๆ ขนาดเกือบเท่าเหรียญสลึง กล้ามท้องนิดๆของมัน โอ่ย มันเองก็ใช่ย่อย มาเล่นพุงผมมั่งล่ะ หยิกหัวนมผมคืนมั่งล่ะ แต่ทุกครั้งมันเริ่มเล่นกับผมก่อนนะ แต่ที่ผมเล่นอย่างงี๊ ผมมีความสุข แต่ไม่รู้ว่ามันสุขด้วยหรือเปล่า

คืนวันเสาร์ เดชชวนผมขึ้นไปบนดาดฟ้าของหอมัน เป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกมาดูวิวยามค่ำคืนของเมืองหลวง จริงๆแล้วผมไม่มีอารมณ์จะดูนักหรอกคับ หนังสือยังอ่านไม่จบเลยซักกะวิชา แต่เดชบอกว่าพักผ่อนซักนิด ก็ดีเหมือนกันคับ

เราสองคนเปิดประตูดาดฟ้าของหอ ลมพัดค่อนข้างแรง ทางเดินค่อนข้างจะมืด แต่ก็มีแสงจากตึกข้างๆ ให้เราเห็นอยู่บ้าง เราสองคนเดินไปจนสุดขอบกำแพงที่สูงแค่เอว ตรงนั้นมีเก้าอี้เก่าๆ อยู่ 3-4 ตัว แต่เราก็ไม่เลือกที่จะนั่งเก้าอี้ เราสองคนยืนอยู่เงียบๆ เลือกที่จะเป็นอย่างงั้น เพราะที่ผมสังเกตดูรู้ว่าตอนนี้เดชดูอารมณ์ปลดปล่อยไปกับสายตาที่ทอดยาว ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เดชคิดอะไรอยู่ แล้วเดชจะรู้ไหมว่ามีใครยืนอยู่ตรงนี้ด้วย

“เวลากูมีเรื่องอะไร ก็จะชอบมานั่งตรงนี้ว่ะ” - เดชพูดขึ้น
“กูว่าบรรยากาศดี” - ช่างสรรหาคำได้ไม่เหมาะสมซะจริงๆ
“มึงเคยป่ะใหญ่ คนอย่างมึงน่ะ เวลามีเรื่องที่ไม่สบายใจ มึงชอบไปไหนวะ”
“ที่นอนกู กูก็หนีเข้าห้องนอน”
“เหรอ แสดงว่ามึงเป็นพวกชอบหนีความจริง”
“มึงรู้ได้ไง”
“กูก็เดาๆ น่ะ”
“ใครเขาจะไปอารมณ์ติ๊สเหมือนมึงล่ะไอ้เดช” – ผมเขกหัวมัน 1 ทีเบาๆ
“ไอ้ห่า เขกหัวกูไม” – มันขยี้หัวผม
“หัวกูยุ่งหมด ไอ้ห่า กูยิ่งหล่อๆอยู่” – ผมด่ามัน จากนั้นเราสองคนก็หัวเราะพร้อมกัน
“ใหญ่ มึงรู้ป่ะ ที่นี่มันเป็นที่ที่ทำให้กูเติมพลังชีวิตเลยน่ะ”
“ยังไง”
“เวลากูมีอะไร ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ กูชอบขึ้นมาที่นี่”
“....................อืมๆ” - ผมพยักหน้า
“บางครั้งกูก็พูดคนเดียว เหมือนคนบ้า”
“อืม....................” – ผมพยักหน้าต่อ
“จริงๆแล้วกูอ่อนแอกว่าที่มึงเห็นเยอะอ่ะใหญ่ มึงน่ะเห็นมุมที่มันไม่ค่อยจะเป็นตัวกูซักเท่าไหร่หรอก”
“.............”
“มันก็เหมือนหัวโขนแหล่ะใหญ่ เวลากูออกบ้านกูก็ต้องใส่ ให้คนเขาคิดว่ากูเป็นอย่างงั้นอย่างงี๊”
“..........”
“แต่จริงๆ แล้วกูอยากเป็นมึง”
“ยังไง” – ผมสงสัย เลยถามมัน
“กูเห็นมึงง่ายๆ สบายๆ อย่างที่กูเคยบอกว่า กูแอบปลื้มมึงอยู่”
“ยังไง” – ผมยังคงสงสัยไม่เลิก
“ชีวิตมึง ไอ้ใหญ่ มึงมีแต่ความสวยงาม เหมือนโรยด้วยกุหลาบเลยว่ะ”
“ไม่หรอก กูก็มีแหล่ะเรื่องเครียดๆ”
“มึงน่ะเพื่อนเยอะ มีคนมาชอบมึง ทำกิจกรรมก็เยอะ เรียนก็เก่ง”
“มึงพอเถอะ เดี๋ยวกูลอยไปดาวอังคาร” - ผมแซวมัน
“มึงรู้ป่ะ ก่อนที่กูจะมาเรียนที่นี่ พ่อกูบอกว่า ให้กูตั้งใจเรียน”
“พ่อกูก็บอก”
“ไม่ใช่อย่างงั้นน่ะดิ พ่อกูทำงานได้อีกไม่มากแล้วมึง พ่อกูจะเกษียณอายุ กูอยากให้ที่บ้านกูสบาย”
“แม่มึงทำไรวะเดช”
“ก็เป็นแม่บ้าน ช่วยดูแลงานที่บ้าน”
“ที่ว่าอุปกรณ์ของทหารภาคสนามนั่นป่ะ”
“อืม”
“..............”
“กูอยากเรียนจบเร็วๆ กูจะได้ทำงาน หาเงินให้ที่บ้านกูซักที”
“มึงทำได้อยู่แล้วน่า ไอ้เดช มึงเชื่อกู” - ผมตบไหลมันเบาๆ
“ขอบใจว่ะใหญ่” – มันเอาหัวมาซบไหล่ผม ผมลูบหัวมัน

เราปล่อยให้ความเงียบคอบปลอบมัน เราสองคนไม่พูดอะไรอีก ผมเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ลูบหัวมันไปอย่างงี๊เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าอยู่ดีดี ทำไมมันถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันเคยบอกผมว่า ตอนนี้ผมเป็นคนที่รู้เรื่องส่วนตัวมันมากที่สุดไปแล้ว ใช่ดิ มันเล่นเล่าให้ผมฟังแทบจะทุกวัน จริงๆ แล้วผมก็ชอบฟังนะคับ แฮ่ะๆ คือเรื่องของคนที่ผมรัก ยังไงมันก็น่าฟังเสมอแหล่ะ

ยิ่งผมอยู่ใกล้เดชแค่ไหน ผมก็ยิ่งรักมันไปมากขึ้นเท่านั้น ผมอยากเห็นมันมีความสุข ไม่ใช่เป็นอย่างงี๊ ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันสมควรหรือไม่ ผมเข้ามาในชีวิตมันมากไปแล้ว มากพอที่ผมจะยอมทุกอย่าง เพียงเพื่อให้มันมีความสุข

ผมเลิกเกาหัวมันแล้ว ลดมือลง สายตาของผมจากเดิมที่มองอะไรอยู่ก็ไม่รู้กลับมามองที่มัน มันก็ยังคงมองอะไรไม่รู้อย่างไร้จุดหมาย เหมือนคนเลื่อนลอย


.
.
.
กูเองเดชที่จะเอามึงกลับมาตรงนี้



ผมค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตัวเองลงบนหูของเดช แล้วบอกกับเดชเบาๆ ว่า

“มึงเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรหรอก กูคิดถึงที่บ้านน่ะ”
“เหรอ แล้วมึงรู้สึกดีขึ้นยัง”
“ดีแล้วแหล่ะใหญ่ ไปเหอะ”
“แต่กูยังอยากอยู่ที่นี่” - ผมบอกมัน
“งั้นเดี๋ยวกูมานะ”

มันไปไหนล่ะ อ้าว ซะงั้นน่ะ ผมอุตส่าห์ว่าอยากอยู่กับมันซักหน่อย บรรยากาศดาดฟ้ายามค่ำคืน ลมเย็นๆ มันก็โรแมนติกอยู่หรอกคับ ผมอยากอยุ่กับมันให้นานกว่านี้หน่อย นานพอที่ผมจะได้บอกอะไรกับมันบ้าง

“อ่ะ ไอ้ใหญ่ มึงจะยืนอีกนานป่ะ กูเมื่อย” – อ่อ มันไปเอาเสื่อมาปูให้นั่งนี่เอง
“เมื่อกี๊มึงไปเอาเสื่อมาเหรอ”
“เออดิ กูเมื่อย มึงมาซักทีดิ”
“ขอบใจว่ะ” – ผมบอกมัน

มันเอาเสื่อมาปูที่ลานตรงกลางดาดฟ้าคับ ตรงกลางดาดฟ้าไม่มีอะไรอยู่เลย ตรงนั้นค่อนข้างมืดกว่าที่ที่ผมอยู่ตอนแรก พอมันปูเสื่อเสร็จ มันก็ล้มตัวลงนอนทันที ผมก็นั่งอย่างเขินๆ เล็กน้อย

“นอนเดชะใหญ่ หรือจะให้กูจับมึงนอน”
“เออ นอนก็ได้ๆ” – ผมล้มตัวลงนอน สาตาอยู่ที่ดวงดาวบนท้องฟ้า
“มึงดูดาวเป็นป่ะ” - มันถามผม
“ไม่เป็น นอกจากดูเฉยๆ น่ะได้ แต่ดวงไหน กลุ่มไหน ชื่ออะไรเนี๊ย ดูไม่เป็นว่ะ”
“เหรอ เออไม่เป็นไร”
“..............” – สายตาของเราสองคนกำลังจ้องที่เป้าหมายเดียวกัน ก็คือ ท้องฟ้าและดวงดาวยามค่ำคืน
“มึงคิดไรอยู่วะใหญ่”
“เปล่า เรื่อยเปื่อย” - ผมคิดว่าผมโชคดีที่สุดแล้วที่ได้มาดูดาวกับมัน
“เหรอ มึงรู้ป่ะเวลาคนดูดาวจะมี 2 อารมณ์”
“อารมณ์ยังไงวะ”
“อารมณ์ปกติ กับอารมณ์ตกอยู่ในความรัก”
“...................”
“มึงอยู่ในอารมณ์ไหนวะใหญ่”
“แล้วมึงละเดช” – ผมไม่ตอบก่อนหรอกคับ เดี๋ยวเสียเชิง
“อารมณ์รัก แต่รักอย่างหม่นๆว่ะ”
“ยังไง”
“มึงยังจะให้กูอธิบายอีกเหรอ ต่ายเขาอยู่บนโน้น กูก็อยู่แค่ตรงนี้ เราห่างไกลกันมาก จนเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาชอบกู” - เอาอีกแล้วมันวนเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว
“...................”
“แล้วมึงอ่ะใหญ่ มึงยังไม่บอกกูเลย มึงดูดาวอารมณ์ไหนอยู่”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“อารมณ์รัก”
--------------
ปล. ผมจะหายไปซัก 1 สัปดาห์นะคับ แบบว่าไงอ่ะ เพิ่งจะได้งานทำอ่ะคับ คงไม่ได้มาอับให้บ่ิอยๆ นะคับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
1 สัปดาห์  :o   :serius2:

 :m23:  รอได้เสมอ

ตั้งใจทำงานนะ  :a2:

เป็นกำลังใจเหมือนเดิม  :L2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
1 อาทิตย์   :a5:

แต่ก็จารอคร้าบบบ

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m4:
เอาใจช่วยพนักงานใหม่ค๊าบบบบ  :oni1:
ตั้งใจทำงานแล้วรีบกลับมา up นิยายต่อ
 :L2:

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะ

ขอเป็นกำลังใจให้ในการเขียนต่อไปนะ สู้ๆ....สู้ตาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปก็กดดันไป  มันจะเป็นไปในทางไหนเนี่ย :a5:

มันดูคลุมเคลือในทุกทางเเละทุกคนเลยอ่ะ o2

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเเล้วกันเนอะ

ทั้งเรื่องการงานเเละความรัก

 :L2: :L2: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
^
^
^

จิ้มพี่อ้อ


รอต่อไปคับ  อ่านแล้วอึดอัดดี

เมื่อใรจะถึงวันที่บอกเดชน้า

bishonen

  • บุคคลทั่วไป
มาเต๊อะ.....มาต่อ :serius2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 32
 o7
วันสอบกลางภาคมาถึงแล้วคับ ระหว่างที่สอบกลางภาค ผมอยู่ที่บ้านตัวเอง โรงเรียนของผมจะสอบวันเว้นวันคับ ดังนั้นวันที่ผมอยู่บ้าน ผมก็จะอ่านหนังสือ แต่ผมก็ไม่ค่อยจะได้อ่านหรอกคับ หมดเวลาไปกับการนอน และการคุยโทรศัพท์กับเดชเป็นส่วนมาก ซึ่งมันก็โทรมาเช่นเดียวกับทุกวันที่มันเคยโทรแหล่ะคับ

สอบกลางภาคเสร็จ มันก็เป็นธรรมเนียมของห้องผม ก็คือการไปเดินห้างเพื่อคลายความเครียด โดยปกติแล้วจะไปกันแต่เพื่อนที่สนิทๆ เท่านั้นแหล่ะ แต่ห้องผมเหรอ ไปกันทีแทบจะทั้งห้อง เดินไปอย่างกับคณะทัวร์ไปทัศนศึกษา คิดแล้วก็ตลกดีคับ ผมเดินห้างกับเพื่อนมากที่สุดถึง 30 คนกันเลย

ไอ้ไม้ก็ยังคงเดินตามต่ายอยู่เสมอ ตั้งแต่ออกจากโรงเรียน ราวกับว่าต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องถนุถนอมไว้ตลอดเวลา ห่างไม่ได้ ต่ายก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่รำคาญแต่อย่างใด เพื่อนกันนี่นา จะไล่ออกไปก็น่าเกลียด เห็นต่ายเขาว่าอย่างงั้น

ถ้ายังจำเรื่องหนังสือรักใสๆ ที่เดชซื้อมาจากศูนย์หนังสือจุฬานั่นน่ะ ผมยังไม่ได้ให้ต่ายหรอกคับ เดชบอกว่าให้สอบเสร็จก่อนแล้วค่อยให้ก็ได้ เดี๋ยวต่ายจะไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ ก็ดีคับ ผมจะได้อ่านก่อน (อ่านไปนิดเดียวเองคับ น่าเบื่อ แล้วต่ายจะชอบแนวนี้เหรอ) ผมจึงส่งไอ้ไม้บอกว่าต่ายหิวน้ำ ไปซื้อน้ำให้ต่ายหน่อย ไม่รู้ซะแล้วว่ากูหลอกมึง จากจากที่ไอ้ไม้โดนหลอกไปซื้อน้ำ ผมส่งหนังสือเล่มนั้นให้ต่าย

“อะไรน่ะ” - ต่ายถาม
“แกเห็นเป็นอะไรล่ะ กล้วยแขกเหรอ” – พักนี้ผมกับต่ายเริ่มจะสนิทกันมั่งแล้วล่ะคับ ก็มีเรื่องของเดชมาให้ต่ายปวดหัวร่วมกับผม
“ไอ้บ้า ............. อืม รักใสๆ ชื่อเรื่องน่าสนใจ แกซื้อให้เราเหรอ”
“เดช”
“หา เดชซื้อให้เรา” - ต่ายทำท่าแปลกใจ
“แปลกตรงไหน ก็เออดิ มันซื้อให้แก”
“ฝากขอบใจมันด้วยนะ”
“เออ แล้วอ่านด้วยนะ เดี๋ยวมันถามเรา เราจะตอบไม่ได้ เราไม่ได้อ่าน”
“งั้นแกเอาไปอ่านก่อนก็ได้ใหญ่”
“อย่าเลย อ่านไปแล้วแหล่ะ ไม่ค่อยชอบอ่ะ อะไรไม่รู้ งง”
“แล้วเราจะอ่านรู้เรื่องป่ะเนี๊ย”
“เฮ้ย!! ต่าย เก็บๆ ไอ้ไม้มาแล้ว แล้วแกอย่าบอกไอ้ไม้นะว่าหนังสือเล่มนี้เดชซื้อให้แก”
“อืม....”

ไอ้ไม้มาเร็วเกินคาด ไม่รู้ว่ากลัวต่ายหายหรือยังไง

หลังจากเดินห้างกันจนพวกผู้หญิงเบื่อกันแล้ว ถึงเวลาแล้วสิที่พวกผู้ชายจะไปหาความสำราญกันต่อ อย่าคิดไปไกลนะคับ ร้านเกมส์นั่นเอง ไอ้ไม้กับพวกห้องผมแทบจะเป็นขาประจำกันแล้ว ผมก็ไปเล่นอยู่บ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก แล้วก็ตั้งแต่ขึ้น ม.5 มาเนี๊ย ผมยังไม่ได้ไปเล่นกับพวกมันเลย มีทั้งงานโรงเรียน สอบกลางภาค รายงานท่วมหัว เวลาของผมจึงถูกแบ่งไปให้พวกนั้นมากกว่าการเล่นเกมส์

“มึงยังคุยกับไอ้เดชป่ะวะ” - ไอ้ไม้ถาม
“อืม คุยอยู่บ้าง” – ไม่กล้าบอกความจริงมัน เดี๋ยวหาว่าผมเป็นสปาย
“แล้วไอ้เดชให้มึงทำอะไรมั่งป่ะเนี๊ย”- ไอ้ไม้ยังคงซักผม
“ก็ไม่ค่อยว่ะ โทรมาคุยกับกูบ้าง”
“อืมๆ แต่ที่กูรู้มา มึงไปไหนกับไอ้เดชตลอดเลยนะเดี๋ยวนี้”
“ก็ เอ่อ..........ก็กูต้องทำงานกับมันนี่หว่า”
“งานไรวะ” – ซักกูไม่เลิก ไอ้ไม้
“งานโรงเรียนที่ผ่านมาน่ะ ที่กูชอบหายไปบ่อยๆ น่ะ”
“เออ”
“ทำไมเหรอ มึงสงสัยอะไรกู”
“ก็วันก่อน เมื่อช่วงสอบ ก็ไอ้ตินมันเห็นมึงไปกินข้าวกับไอ้เดชที่แถวห้วยขวาง”
“อ่อ แปลกตรงไหนวะ” - ผมเริ่มไม่มีข้ออ้างแล้ว
“ไม่หรอก มึงรู้จักคนเยอะ แต่มึงอย่าลืม ต่ายจะต้องเป้นแฟนกู ไม่ใช่คนอื่น”
“กูรู้น่า”

แล้วสมาธิของผมก็กลับไปอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง เมื่อถึงตาที่ผมต้องเล่นแล้ว

ผมเล่นเกมส์ได้ไม่นาน (6  ชั่วโมงเนี๊ยนะเรียกว่าไม่นาน) ผมขอตัวพวกมันกลับบ้าน ก็สองทุ่มแล้วแหล่ะคับ พวกมันยังคงไม่กลับกันง่ายๆ เพราะเป็นวันศุกร์ด้วย วันเสาร์ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ผมง่วงแล้วดิ เฮ้อ!!! นอนดีกว่า

“ไอ้ใหญ่” – เสียง PCT ผมดังนั้น ผมได้โทรศัพท์ PCT มาตอนช่วงก่อนสอบคับ
“เออ ว่าไง”
“อยู่ไหนน่ะ”
“ร้านเกมส์”
“กลับบ้านยัง”
“เออ กำลังกลับอยู่เนี๊ย”
“แล้วมึงขอแม่มึงยัง”
“ขอเรื่องไรวะ” – ผม งง งง
“ที่ว่าไปทะเล ที่บ้านไอ้เข้มน่ะ”
“...................” - ผมลืมไปเลยคับ
“สงสัยยังไม่ได้ขอ”
“เออ”
“เดี๋ยวกูไปขอให้เอาป่ะ”
“กูขอเองได้”
“จะบอกมึงว่า เดินทางวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม นะเว้ย”
“อาทิตย์หน้าอ่ะดิ”
“เออดิ”
“เออ เดี๋ยวกูขอที่บ้านได้แล้วกูจะโทรบอกมึง”
“ไม่ทันแล้วแหล่ะ ยังไง มึงต้องไปกับกู กูซื้อตั๋วมาให้มึงแล้ว”
“เกิดกูไปไม่ได้ขึ้นมาล่ะ”
“กูรู้ว่ามึงไม่มีทางปฏิเสธกู ไอ้ใหญ่”
“ไปกันกี่คนวะ” – ผมถามมัน
“7 คน รวมมึงด้วย”
“เออ กูรู้แล้ว กูจะขอให้ได้ละกัน”
“กูอยากให้มึงไปนะ เดี๋ยวกูดูแลมึงเองใหญ่”
“ยังไงวะ”
“เออน่า กูดูแลมึงเอง”

ผมถึงบ้านแล้วคับ ผมอ่อนแม่อยู่นานกว่าจะอนุญาตให้ผมไปเที่ยว เขาคงจะกลัวแหล่ะคับว่าเด็กวัยรุ่นไปเที่ยวกันเองแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ความพยายามบวกกับนิสัยของผม แม่จึงปล่อยไปแต่โดยดี พ่อบอกว่าอย่าไปเถลไถลอะไรนะลูก “คับๆ” ผมรับปากแต่โดยดี

แต่ถ้าผมไปมันจะสนุกเหรอวะ เพื่อนห้องผมก็ไม่มีซักคน ไปกับใครก็ไม่รู้อีกหลายคน แม้ผมจะรู้จักพวกเขาอยู่บ้าง ก็ไม่กี่คน จริงๆ จะไม่ไปก็ได้นะ แต่มันอยากให้ไปเหลือเกิน

“กูไม่ไปได้ป่ะวะ” – ผมโทรไปหาเดช ไม่ต้องรอให้มันโทรหาหรอกคับเดี๋ยวนี้
“มึงมีเหตุผลอะไร”
“ก็ กูเป็นห้อง 6 คนเดียวอ่ะ แต่พวกมึงน่ะห้อง 8 หมดเลย”
“ถ้าเป็นเรื่องนี้ มึงไม่ต้องห่วง กูจะดูแลมึงเอง”
“...................”- -ซึ่งดิคับ  “ไปก็ไป”
“ดีมากๆ”
“.....................”
“มึงเอาหนังสือให้ต่ายยัง”
“ให้แล้ว”
“เขาว่าไงมั่งวะ”
“ก็ไม่ว่าไงหรอก ก็รับไว้ เดี๋ยวเขาคงไปอ่าน”
“กูว่าจะไปซื้ออีกเล่มดีป่ะ”
“เพื่ออะไรวะ??”
“ก็เผื่อต่ายถาม จะได้ตอบได้ไงล่ะ”
“แล้วแต่มึงละกัน”
“ดีดี งั้นวันอาทิตย์นี้ไปซื้อหนังสือกับกูอีกนะ”
“เออ”

คุยกันอีกนิดหน่อยก็วางหูกันไป

คืนนี้ทั้งคืนผมนอนไม่หลับเท่าไหร่หรอกคับ คิดมากอยู่นั่นน่ะ ไปทะเล จะสนุกไม๊วะเนี๊ย ผมพร้อมที่จะบอกอะไรกับเดชแล้วหรือยัง บอกไปแล้วมันจะรู้สึกยังไง มันจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า  แล้วก็คิดไปถึงฉากหวามๆ ของผมกับเดช ซึ่งมันก็คงเป็นไปไม่ได้

เช้าวันจันทร์ (ข้ามเสาร์ อาทิตย์ไปละกัน มันก็ไม่มีอะไร) ผมมาโรงเรียนแต่เช้า กินข้าวกับเดช แทบจะเรื่องปกติของผมไปแล้ว ผมถามเรื่องที่จะไปทะเลกันว่าเราจะไปไหนกันบ้าง มันก็ยังคงบอกว่าไม่ต้องห่วง สนุกแน่นอน

วันเวลาผ่านไป ล่วงเลยไปจนถึงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางความอึดอัดของผมที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ถ้าไม่ได้ปล่อยออกไปคงตายแน่ ผมคิดว่า วันนี้ ยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะบอกเขา คนนั้น ให้รับรู้ถึงสิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ ผมรู้สึกยังไง นานแค่ไหนแล้ว และจะเป็นยังไงต่อไปหลังจากนี้ ผมคงไม่รู้อนาคตของผมกับมันหรอกคับ หลังจากที่ผมได้บอกความในใจไป

หลังเลิกเรียน ผมเดินไปหาคนคนนั้น เพื่อที่จะบอกความในใจที่ผมมีมาตลอดเกือบ 2 เดือน
.
..
...
....
.....
......
.......
........
.........
..........
.........
........
.......
.....
....
...
..
.















“เรารักเดชว่ะ”
-----------

ปล. ขอบคุณทุกๆท่านที่มาเม้นเป็นกำลังใจนะคับ

งานที่ได้ทำก็ไม่ได้เยอะมากมายหรอกคับ เพียงแค่ว่าต้องนอนเร็วๆ แล้วก็ตื่นเช้ามืด และที่ทำงานก็ไม่มีคอมให้ใช้ด้วย วิธีแก้เหงาก็คือผมก็ print นิยายเรื่องที่ผมอ่านตามอยู่ในบอร์ดนี้เอาไปอ่านตอนผมเบื่อๆน่ะคับ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายเรื่องเลยคับ (ถ้าบางคนอาจจะเห็นชื่อผมไปอยู่ในนิยายเรื่องอื่นๆ เยอะแยะมากมาย)
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ผมไม่มีเวลามาลงนิยายอ่ะคับ

ยังไงพรุ่งนี้จะเเวะมาอีกซักตอนนะคับ ตอนนี้พิมพ์แบบตอนชนตอนเลยคับ แทบไม่ทันแล้วคับ

ขอบคุณมากๆนะคับ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีคำบรรยาย ............ขอเงียบซัึกพัก .....เคลียด

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีคำบรรยาย ............ขอเงียบซัึกพัก .....เคลียด

เครียดไรอ่ะ บอกหน่อยดิ

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
จะบอกรักกันเเล้วเหรอ  เเล้วจะเป็นำงต่ออ่ะเนี่ย

 :a5: :a5:

bishonen

  • บุคคลทั่วไป
ต่อสิคะ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แอบเดาว่าไม่ได้ไปบอกกับเดช

เริ่มงานใหม่  ตั้งใจทำงานนะครับ

เป็นกำลังใจให้  สู้ๆ  :L2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจคนแต่งจ๊ะ   :L2:
ถึงจะอ่านไปอึดอัดใจไปมั่ง  แต่แค่นี้(ศรี)ทนด๊ายยยยย    :laugh:
รออ่านตอนต่อไปน้า......

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด