รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112526 ครั้ง)

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #30 เมื่อ14-07-2008 11:08:04 »

เดี๋ยวก็รู้คับ
 o2
(ปล่อยให้อยากแล้วจากไป)

เข้ามาเจออย่างงี้ :sad2:สลบไปสองตลบครับ :sad2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #31 เมื่อ14-07-2008 23:00:22 »

ตอนที่ 6     ความสับสนในใจ
 :serius2:
วันนี้เป็นวันจันทร์คับ วันที่ผมต้องไปเรียน ร.ด. ผมจึงต้องตื่นเช้ากว่าเดิม เพราะกว่าจะแต่งชุด ร.ด.  มันยากกว่าชุดนักเรียนเยอะเลยคับ กว่าจะใส่เสื้อซับ เสื้อนอก กางเกง รองเท้า โอย เรื่องมากเลยคับ ซึ่งก็จะเป็นวันที่ผมมาโรงเรียนเช้าที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เช้าของผมก็เกือบจะพอดีเรียกเข้าแถวล่ะคับ ตามประสาคนบ้านใกล้โรงเรียน ผมกำลังเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้อง เดชมันก็เดินมาหาผมพอดี

“ใหญ่ กินข้าวยัง”
“ยัง”
“ไปกินกัน ป่ะ” ว่าแล้วเดชมันก็จูงมือผมไปโรงอาหารกับเพื่อนมัน
“เฮ้ย จะเข้าแถวอยู่แล้วนะ”
“กินทันน่า 5 นาที เคยบอกแล้วไงว่าข้าวเช้าสำคัญ”

เดชมันไม่ให้ผมได้พูดอะไรทั้งนั้นเลยคับ มันจูงมือผมเดินไปที่โรงอาหาร ที่โรงอาหารมีเพื่อนมันนั่งรออยู่แล้ว รวมผมแล้วก็เพื่อนเดชทั้งหมดก็ 5 คน มันให้ผมไปซื้อข้าวแล้วก็บอกว่าจะนั่งรอตรงนั้น ผมก็ว่าง่ายคับ เดินตามมันสั่งทุกประการ

“อ่ะ ของฝาก”
“ให้ต่ายเหรอ”
“เปล่า นี่น่ะของแก ส่วนของต่ายน่ะ อันนี้เว้ย...” แล้วมันก็หยิบของต่ายให้ผมดู เหมือนกับของผมเลยคับ ขนมสาลี่ “อ่ะ ฝากให้ต่ายด้วย” ผมก็รับมาแต่โดยดี
“เออ ต่ายมายัง” เดชถามผมต่อ
“ก็ยังไม่ได้ขึ้นห้อง จะรู้ได้ไง ก็แกลากเรามาโรงอาหารแบบไม่ให้เราพูดไรซักคำ”
“อ่อเหรอ เออ ก็เราเคยบอกนายนี่หว่า ว่าจะพานายมากินข้าวเช้ากับเรา ถ้านายมาเช้า”
“แกมาดักรอเราเหรอเดช” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็เออ เรามองลงมาจากห้อง เห็นนายกำลังเดินมา ก็เลยลงไปดัก”
“นี่แกมีอะไรจะคุยกับเราหรือเปล่าเนี๊ย”
“เด๋วออกไปเรียน ร.ด. กับเรานะ ห้ามปฏิเสธ เรามีเรื่องอยากคุยกับแกเยอะเลยใหญ่”
“โทรคุยก็ได้มั้ง คือเรา...ปกติเราไปกับเพื่อนห้องเราตลอด”
“ใหญ่ แกก็บอกไปดิ ว่าไปกับหัวหน้ากองร้อย รับรองไม่กล้าหือ”
“เอาเป็นว่า เราไม่ไปกับแกนะ มีไรก็คุยตรงนี้แหล่ะ ไม่งั้นก็โทรคุยละกัน”
“แกกลัวไอ้ไม้มันรู้เรื่องที่แกมาช่วยเราจีบต่ายเหรอ”
“เราไม่ได้ช่วยแกจีบต่าย แกเคยถามเราซักคำป่ะล่ะว่าเราอยากช่วยหรือเปล่า”
“............” - -เดชเงียบไปซักพัก
“เอ่อ….เราขอโทษละกัน” – ผมพูด แต่เดชมันก็เงียบไปจริงๆ หน้าเปลี่ยนสีเลย “เออขอโทษคร้าบ ผมจะไปกับท่านก็ได้คร้าบ”
 “จริงเหรอ แต่แกไม่ต้องทำอย่างงั้นก็ได้นะ แกไปกับเพื่อนแกเหอะ เราเข้าใจ เรามันมาทีหลัง ไม่ว่ายังไงเราก็คงชนะใจต่ายไม่ได้ แล้วนายก็ไม่ช่วยเราอีกด้วย เราเข้าใจ” – เดชพูดอย่างเจือน ๆ

ผมรีบกินข้าวแล้วก็ขอตัวจากโต๊ะนั้น ออดดังแล้ว ผมต้องไปเชิญธงชาติตามปกติคับ

คาบเช้าวันนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลยคับ คำพูดที่เดชมันพูดมันวนเวียนในหัว ผมไม่สามารถจะทรยศเพื่อนเอาคนที่เพื่อนชอบไปให้คนอื่นได้หรอก แต่ตอนนี้เดชมันก็เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน ผมได้รู้จักมันมากขึ้นกว่าคนอื่น มันก็เป็นคนดีคับ จริงใจ (แบบบ้านๆของมัน) ก็ถูกของมันนะคับว่ามันเป็นคนมาทีหลัง ไม้เป็นคนที่เริ่มจีบต่ายก่อน แต่ต่ายก็ยังไม่ใจอ่อน ความคืบหน้าระหว่างไม้กับต่ายก็ถือว่าไม่ได้เปรียบไปกว่าคนอื่นทั้งสิ้น ไม้ได้เปรียบอย่างเดียวคือไม้อยู่ห้องเดียวกับต่าย แล้วก็มีแบกอับอย่างผมและเพื่อนๆช่วยเหลือกันอยู่คับ ดังนั้นเดชจึงถือว่าไม่มีแบกอับเลยก็ว่าได้ สิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่เดชเสียเปรียบในการที่จะจีบต่าย ผมควรจะช่วยใครล่ะคับ คิดอะไรเพลินๆ หมดไปสองคาบแล้วคับ ไม่ได้เรียนเลย

ระหว่างเปลี่ยนคาบรออาจารย์มา ผมเอาของฝากให้ต่ายคับ บอกว่ามาจากเดช แต่ไม่ได้ให้ไม้มันเห็นหรอกคับ กลัวมันไปสืบแล้วรู้ว่ามาจากเดช ต่ายก็รับไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนแรกจะไม่รับ เกรงใจ ผมก็บอกว่าถ้าแกไม่รับผมจะเดือดร้อนคับ (เดือดร้อนเพราะไอ้เดชนั่นแหล่ะ) ต่ายก็เลยรับไว้ คาบต่อไปต่ายเลยย้ายมานั่งข้างผมคับ ผมกะว่าจะเรียนซักหน่อย

“เดชโทรหาแกอยู่อีกป่ะ”
“โทร เมื่อวันอาทิตย์โทรมาหลายรอบเลย” - ผมบอกต่ายไปตรงๆ
“แล้วแกก็ยังคุยกับมัน”
“ก็ใช่ดิ...คุยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ทำไมแกไม่บอกว่า ทำการบ้าน หรือว่ายุ่งอยู่วะ”
“เออว่ะ ลืมคิด” – ผมลืมคิดจริงๆคับ ผมน่าจะบอกว่าเมื่อวันอาทิตย์ผมไม่อยู่ เดชจะได้ไม่โทรมา
“แล้วเดชเอาสาลี่มาจากไหน”
“ซื้อมาจากสุพรรณ” – แล้วผมก็เล่าเรื่องที่เดชไปสุพรรณ ไปทำอะไรบ้าง แล้วก็เรื่องโทรศัพท์ที่เดชโทรหาผม
“ใหญ่ เราขอบคุณแกมากเลยนะ ที่แกต้องมาลำบากเพื่อเรา”
“ลำบากไรกัน ไม่เป็นไรหรอกแค่โทรศัพท์ อีกอย่างเราก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เรารู้ว่าแกยังไม่อยากมีแฟน แม้กระทั่งไอ้ไม้แกก็ไม่อยากเป็นแฟนมัน ทั้งที่มันทำดีกับแกสารพัด”
“ใหญ่อย่าทำให้เรารู้สึกผิดดิ” - ต่ายตีแขนเราแล้วก็ทำเป็นอายๆ
“แล้วมันจริงป่ะล่ะ”

ผมรู้สึกว่าคาบนั้นผมถูกจับตามองคับ ปกติต่ายไม่เคยเป็นคนแบบนี้ ต่ายจะตั้งใจเรียน ไม่เคยมาแอบคุยกันหลังห้อง และยิ่งกว่านั้น ไอ้ไม้มันมองผมตลอดเวลาเลยคับ ผมรู้ได้จากเพื่อนที่นั่งถัดจากผมไปสะกิดให้ผมมอง ผมยิ้มไปทางไอ้ไม้เล็กน้อยแล้วผมก็หันไปเรียน ปากผมก็พูดอยู่กับต่ายคับ ผมขอให้ต่ายรับของของเดชไว้คับ อย่างน้อยเวลามันเห็นมันจะได้ดีใจคับ

หลังหมดคาบ ผมกำลังจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆของผมคับ ผมพยายามเก็บกระเป๋าให้ช้าที่สุด เพื่อให้เพื่อนผมรอแล้วจะได้เดินไปด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จะได้ไม่ต้องเจอเดชคับ ผมไม่อยากตอบคำถามมัน ไม่อยากคุยกัยมัน ระหว่างทางไปกินข้าว ไม้ก็มาขอคุยกับผมคับ

 “แกคุยอะไรกับต่ายเมื่อเช้าวะ”
“หึงเหรอ” - ผมแหย่มัน
“เออ ถ้ากูไม่รู้จักมึงมาก่อน กูก็หึง แต่พอดีกูรู้ว่ามึงเป็นไง ก็เลยไม่”
“นั่นแน่” - - ผมแหย่มันอีกรอบ
“แล้วตกลงคุยไรกัน”
“การบ้านที่สอนพิเศษ ต่ายเอามาถามเรา” – ผมโกหกคับ ไม่อยากให้ไม้มันไม่สบายใจ
“จริงเหรอ” - ไม้ถามเหมือนรู้
“เออ”
“ไม่เห็นหนังสือเรียนพิเศษสักเล่ม”
“ต่ายเขาจดใส่กระดาษมาถาม เขาจะเอาหนังสือมาให้มันหนักทำไม”
“แล้วของที่ต่ายถือวันนี้มันคืออะไร”
“ไม่รู้” – ผมโกหกคับ
“ไม่รู้ได้ไง ในเมื่อ เมื่อเช้ามันอยู่กับแก แล้วมันก็ไปอยู่กับต่าย”
“ถุงเหมือนกันหนือเปล่า เมื่อเช้าเราเอาถุงนั้นมาใส่ของที่ห้องปกครอง”
“ของนั้นคือไรอ่ะ บอกเราได้ป่ะ”
“ของที่ยึดมาจากไอ้พวกเด็ก ม.1 น่ะ จะเอาไปบริจาคให้เด็กเล็ก”
“ตกลงแกก็ไม่รู้ใช่ป่ะว่าในถุงของต่ายที่ถือคือไร”
“ไม่รู้จริงๆ ให้บอกกี่รอบว้า....”
“แล้วแกคุยอะไรกับต่าย ตั้งนาน” - (ท่าทางไอ้ไม้มันจะจิตตกเรื่องต่าย ถามซ้ำไปซ้ำมา)
“ก็...เมื่อวันเสาร์ต่ายไปสยามกับเรา...”
“ทำไมไม่บอกกรู” - ไอ้ไม้เริ่มขึ้นเสียง
“เราเจอต่ายแบบบังเอิญ ปกติต่ายเรียนพิเศษวันอาทิตย์ ใช่ป่ะล่ะ”
“ว่าไปก็จริง ต่ายเรียนวันอาทิตย์ แล้วทำไมต้องย้ายไปเรียนวันเสาร์วะ”
“เขาจะทำการบ้านวันอาทิตย์ การบ้านเขาเยอะ มรึงคงไม่เคยสินะว่าต้องทำการบ้าน ก็ลอกต่ายเขาเป็นประจำนี่หว่า”
“สาด..แ_ร่ง หลอกด่า”
“ก็นั่นแหล่ะ กูไม่คิดว่าจะเจอเขาด้วยซ้ำ เรียนเสร็จเขาก็ไปศูนย์หนังสือกับเรา”
“2 คน?” – ไม้ถาม
“เออ”
“ต่ายคุยอะไรถึงเราป่ะ” – ไม้ถามอีกรอบ
“ไม่ ต่ายคุยโน่นนี่ เกี่ยวกับแผนการเรียนของเขา”
“ทำไมไม่คุยเรื่องอนาคตของเรากับต่ายวะ”
“เข้าข้างตัวเองเต็มที่เลยนะมรึงไอ้ไม้”
“เห็นพักนี้แกคุยกับต่ายบ่อยจังวะใหญ่”
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็เราเก่งกว่าแก มีอะไรเขาก็ถามเราดิ”
“แกช่วยเชียร์ให้ต่ายเขาใจอ่อนได้ป่ะละ”
“จะพยายามละกัน มันขึ้นกับต่ายนะเว้ยไม่ใช่ขึ้นกับเรา”
ผมถึงโรงอาหารซักทีคับ รั้งท้ายกันสองคนกับไอ้ไม้ ผมรีบกินข้าวแล้วก็ไปเรียน ร.ด. คับ

ผมเริ่มคิดมากแล้วคับ สับสนว่า ผมจะช่วยใคร ไม้มันก็เป็นเพื่อนห้องผม เป็นคนดี แทคแคร์ต่ายดี แล้วผมก็เห็นมันตลอดเวลาที่มันอยู่ที่โรงเรียนคับ ถ้าเพื่อนในห้องเป็นแฟนกันผมว่ามันก็โอเค อีกคนก็เดช เพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่คุยกันอย่างกับรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เดชเป็นคนตรงๆคับ แต่เรื่องผู้หญิงเนี๊ย มันไม่กล้า มันจึงต้องให้ผมช่วยเหลือ
--------------

ออฟไลน์ jeng_jey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #32 เมื่อ14-07-2008 23:40:53 »

จิ้มๆๆๆคับ
แล้วเมื่อไหร่
เดชจะหันมาชอบใหญ่ซะทีอะคับ
หวันไหวนะเนี่ย

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #33 เมื่อ15-07-2008 16:49:01 »

 :m32:

แอบมาอ่านครั้งแรก


 :laugh:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #34 เมื่อ15-07-2008 17:08:11 »

จะช่วยใครกันละทีนี้   o2

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #35 เมื่อ16-07-2008 21:52:20 »

ตอนที่ 7       ก็เราเป็นเพื่อนกัน
 :a1:
สุดท้ายผมก็ไปเรียน ร.ด. กับเพื่อนห้องผมคับ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อเช้าเดชโกรธผมจริงหรือเปล่า ผมไม่กล้าไปเรียนกับมันหรอกคับ ผมกินข้าวเสร็จก็เลยไปเรียนเลยคับ ไม่ได้รอเดชแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเป็นไปอย่างปกติ มันก็ยังคงเป็นหัวหน้ากองร้อยอันแสนจะขี้เก๊กในสายตาพวกผมอยู่ดี แต่สิ่งที่แปลกไป ผมเคยมองมันในแง่ลบตลอดเวลา วันนี้ผมได้มองมันอย่างที่ผมเคยมอง วันนี้ผมมองว่า มันเป็นเพื่อนของผมคนหนึ่งเช่นกัน

ระหว่างที่เรียน ร.ด. ก็จะมีพักเบรกกันบ้าง ไม่ให้ฝึกหนักกันจนเกินไป ระหว่างพักผมกำลังกินน้ำเปล่าอยู่เดชก็เดินเข้ามาทัก
“ไหนว่าจะมากับเราไงล่ะ”
 “ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่ามากับเพื่อนที่ห้องก็ได้ เราก็เลยไม่ได้รอ” “แกรอเราอยู่เหรอ”
“ก็ซักพัก พอรู้ว่านายออกไปแล้วก็เลย....”
“อ่อ งั้นเราขอโทษละกันนะ”
 “ไม่เป็นไรใหญ่ เราเป็นเพื่อนกันนะ”
“แกไม่โกรธเรื่องเมื่อเช้าหรอกเหรอ”
“น้อยใจมากกว่าอ่ะใหญ่ ก็นะ... ไอ้ไม้มันได้จีบต่ายเต็มๆ แต่เรากลับทำไรไม่ได้เลย”
 “ต่ายเขาก็ไม่ได้ชอบใครนี่หว่า เขายังไม่เปิดใจรับใคร”
“อืม”
“แกว่าตอนนี้ต่ายทำไรอยู่วะ”
 “จะรู้ไม๊ล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกับต่ายซักหน่อย”
“ก็อยากรู้อ่า....”
“เมื่อไหร่แกจะโทรไปหาต่ายซักทีวะ เบอร์ก็มี”
 “กลัวโดนต่ายด่า”
“กลัวก็ไม่ต้องจีบ โอเคมั้ย”

สัญญาณออดดังขึ้น หมดเวลาพักแล้ว ผมเลยขอลากับเดชตรงนั้น จากนั้นพวกผมก็ฝึกกันต่อคับ ฝึกกันจนหมดเวลา ทีนี้ก่อนกลับบ้าน ก็จะต้องมีแบบว่า สวนสนามอ่ะคับ เดินแถวอย่างเป็นระเบียบออกไปจากศูนย์ฝึก ผมเป็นหัวหน้าหมวด (ที่มันปักสีแดงอ่ะคับ - แต่ผมไม่เก๊กนะ) ผมก็ต้องกล่าวรายงานว่าวันนี้ในหมวดขาดกี่คน อะไรประมาณนั้นน่ะ แล้วก็เดินออกจากศูนย์ฝึก เพื่อมารอรถเมล์กลับบ้าน ถ้านึกสภาพออก รถเมล์ที่ผ่านตรงนั้นเมื่อมี ร.ด. เลิกเรียน จากรถว่างๆ จะกลายเป็นรถไม่มีที่นั่งได้ในพริบตา เล่นขึ้นกันไปยี่สิบว่าคนอ่ะคับ แล้วผมนั่งไกลซะด้วย ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินช้า ๆ กับเพื่อนอีก 2 คน (เขาคิดเหมือนผมคับ ให้รถแน่นๆ มันไปก่อน เหลือว่างๆ ให้เรานั่งกัน) ผมทำอย่างงี๊มานานแล้วคับ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ พอผมรู้จักเดช ทำไมผมต้องเจอกับมันแทบจะทุกอิริยาบท แม้กระทั่งผมจะกลับบ้าน ผมไม่เคยเห็นหน้ามันเลย วันนี้ผมก็เห็นมันคับ เดินอยู่กับเพื่อนกลุ่มของมัน กลุ่มเดิมที่มันเคยแนะนำให้ผมรู้จักคับ

“ใหญ่กลับสายไร”
“ปอ.23”
“กลับด้วยดิ”
“ปกติแกกลับสายนี้เหรอ”
“เปล่า วันนี้จะไปลงหน้าโรงเรียน แล้ว ปอ.23 มันถึงบ้านใหญ่ป่ะ”
“ไม่อ่ะ ปกติก็ลงหน้าโรงเรียน แล้วก็นั่งรถจากหน้าโรงเรียนกลับอีกมี” – “แล้วหอแกอยู่ไหนอ่ะเดช”
“ปกติเรานั่งสาย 117 กลับหอ พอดีวันนี้มีธุระแถวโรงเรียน เลยนั่งรถตามแก”
“บอกได้ป่ะธุระอะไร”
“ได้... จะไปบ้านต่าย เรารู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน เขาอยู่ใกล้ๆโรงเรียน”
“นึกว่านั่งตามเราซะอีก” – ผมแซวมันเล่น
ผมทิ้งเพื่อนที่เหลือไว้เลยคับ ลืมแนะนำให้รู้จัก กับเดช แล้วผมก็ทำหน้าที่พูตคับ แนะนำว่านี่คือเดชและผองเพื่อน และผมก็บอกเดชว่านี่ก็คือเพื่อนของผม ทักกัน 3-4 คำเดชมันก็คุยกับเราต่อ
“จริงๆ เราก็นั่งรถสายนี้ตามแกแหล่ะใหญ่”
“ทำไมล่ะ”
“ก็...เอ่อ...คือว่าเราอยากคุยกับแกเยอะๆ”
“แต่บางที...เอ่อ...เราไม่ต้องคุยกันตลอดเวลาก็ได้นะ”
“คนสุพรรณมันพูดมาก” - เพื่อนเดชเสริม
“ไอ้เวรนี่ขายกรูซะงั้น” - เดชหันไปด่าเพื่อนมัน
“ใหญ่พูดถูก   เดช มรึงน่ะพูดมาก มากมากจนบางทีพวกกรูก็รำคาญ” – เพื่อนอีกคนเสริม

จากนั้นเป็นการทะเลาะกันระหว่างเดชกับเพื่อนของมันคับ ทะเลาะกันเจ็บๆ คัน ๆ แล้วรถเมล์ก็มาพอดี ทุกอย่างจึงยุติ เพื่อนผม 2 คนมันนั่งที่นั่งคู่กับ (ปกตินั่งที่นั่งหลังสุด มันนั่งได้เยอะ แต่ทำไมวันนี้มันทำกับผมอย่างงี๊อ่ะ) ผมเลยเดินไปที่ที่นั่งคู่ที่ติดกับเพื่อนของผม เออผมนั่งคนเดียวก็ได้ (ผมคิดในใจ) เพื่อนเดชก็นั่งกันไป เดชมันก็อิดออดคับ สงสัยปกติเดชมันต้องนั่งกับเพื่อน แต่เหมือนเพื่อนแกล้งให้มันนั่งคนเดียว ผมนั่งไปซักพักเดชมันก็มานั่งกับผมคับ มันบอกว่าเหงา จริงๆผมว่าผมจะนอนซักหน่อย เพราะกว่าผมจะลงมันก็ไกลน่าดู แต่เมื่อเดชมานั่งข้าง ๆ  ผมคงไม่ได้นอนซะแล้ว มันชวนผมคุยคับ ตลอดทางเลยตั้งแต่เรื่องเรียนของมัน เรื่องไอ้ผองเพื่อนของมัน มันแฉหมดเลยคับใครเป็นยังไง แล้วมันก็ชวนผมไปบ้านต่ายคับ ผมเองยังไม่รู้จักบ้านต่ายเลย ผมเลยบอกว่าไม่ไปละกัน อีกอย่างก็เย็นแล้วด้วย (ตอนนั้น 6 โมงเย็นก็ถือว่าเย็นนะคับ) แต่ทว่ามันเอาของกินมาล่อผม แน่นอนดิคับ ผมก็เลยต้องเดินตามมันไป อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จริงๆแล้วถึงมันจะไม่เอาของกินมาล่อ ผมก็ต้องไปกับมันอยู่ดี มันบังคับผมอ่ะคับ มันบอกเพื่อนผมว่า ผมกับมันสนิทกันมาก แล้ววันนี้ผมจะไปที่หอมันคับ ก็เลยนั่งรถมาด้วยกัน (คิดในใจ อะไรวะ ไม่ได้ถามกรูซักคำ - ผมว่าพรุ่งนี้เตรียมตัวแก้ข่าวแน่เลย) สุดท้ายผมเลยต้องลงรถป้ายแถวบ้านต่าย (ก็อีก 2 ป้ายก็ถึงโรงเรียนแล้ว)

ผมเดินไปกับเดชและเพื่อนกลุ่มมันคับ มันก็คุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับเพื่อนมัน ทิ้งผมให้เดินคนเดียวคับ พอดีเพื่อนมันคนนึงเห็นผมเดินคนเดียว ก็เลยมาคุยด้วย มันบอกว่าแกไม่ต้องเกรงใจ เพื่อนเดชก็เพื่อนเราเหมือนกัน จำไว้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน จะว่าไปเพื่อนเดชทั้งหมดเป็นคนต่างจังหวัดหมดเลยคับ ซึ่งเด็กผู้ชายต่างจังหวัดมันจะมีนิสัยตรงๆ จริงใจ และดูเถื่อนๆ ผมไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้คับ ผมเลยรู้สึกตื่นเไม้(มั้ง) เพราะปกติห้องผมเป็นเด็ก กทม. เป็นส่วนใหญ่ ผมเลยไม่ค่อยจะเจอบรรยากาศกลุ่มเพื่อนแนวนี้อ่ะคับ

เดินไปก็ไกลแล้ว ยังไม่ถึงซักที เจอร้านน้ำปั่นร้านนึงคับ เดชก็เลยซื้อเลี๊ยงผม ผมกล่าวขอบคุณก่อนที่จะรับมากินอย่างชื่นใจ นอกจากจะชื่นใจเพราะฝึก ร.ด. มาจนเหนื่อยแล้ว น่ำปั่นแก้วนี้ฟรีคับ ระหว่างกำลังรอน่ำปั่นของเพื่อนๆเดชกัน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ต่ายออกมาซื้อกับข้าวไปกินตอนเย็นพอดี ต่ายแวะมาหาผมที่ร้านน้ำปั่น ตอนนั้นเดชทำอะไรไม่ถูกเลยคับ จากเดิมเป็นคนพูดมาก มันกลับไม่พูดอะไรเลยคับ

“ใหญ่มาทำไร แล้วเพื่อนๆเราล่ะ”
“มาซื้อน้ำปั่นน่ะ” - ผมโกหก
“เรามาซื้อกับข้าวเย็น”
“เพื่อนๆเราล่ะ แล้วพวกนี้ใครเหรอ”
“ต่าย คนนี้ชื่อเดช คนนี้ชื่อ เต้ เข้ม แล้วก็เอก”

ต่ายพยักหน้ารับคำทักทายของคนทั้งสาม (จริงๆแล้วต่ายรู้มานานแล้วว่าคนนั้นชื่อเดช) แล้วต่ายก็เรียกผมออกมาคุย

“แกมากับเดชได้ไง”
“ก็...เอ่อ จะว่าไงดีล่ะ แบบว่าหิวน้ำปั่น แล้วเพื่อนเราก็แยกกันกลับบ้านแล้วอ่ะ ก็เลย...มาคนเดียว แล้วพอดีเจอพวกนี้ ก็เลยเดินมาด้วยกัน ก็แค่นั้น”
“เรารู้นะใหญ่ว่าแกโกหก เหตุผลไม่ค่อยน่าเชื่อ ปกติแกต้องไปกับห้องเราดิ แล้วแกมาที่นี่ได้ไง”
“ก็มาซื้อน้ำปั่น” – ผมยังคงโกหก แต่ยิ่งบอกไปเท่าไหร่ต่ายก็ไม่เชื่อ
“ที่อื่นก็มีขาย ทำไมแกต้องมาซะถึงที่นี่”
“เรื่องนั้น....เออคือ ยังไงดีล่ะ ก็ไอ้ไม้มันบอกว่าน้ำปั่นแถวบ้านแกอร่อย ก็เลย...มาลองชิมดู” - – ผมก็ยังคงโกหก
“ไม้เคยมาแถวนี้ด้วยเหรอ”
“ไม่รู้ ก็มันบอกมาว่าอย่างงั้น”
“พรุ่งนี้เราคงต้องมีเรื่องคุยกันยาวนะใหญ่”
“แกจะคุยอะไรก็ตรงนี้ก็ได้ ถ้าเรื่องมันสำคัญ”
“เราอยากรู้ว่าแกมากับพวกนั้นได้ยังไง”
“คืองี๊ ..........” – ผมเล่าเหตุการณ์ที่ผมเจอมันที่ป้ายรถเมล์หน้าศูนย์ฝึก โดยละเอียด รวมถึงการที่ผมตามเดชมาก็เพราะเดชจะเลี๊ยงน้ำปั่นผม ผมเลยเดินตาม
“เห็นแก่ของกิน ว่างั้น” - ต่ายถาม
“ก็...ไม่ใช่อย่างงั้นซะทีเดียว มันบอกว่าจะมาดูแค่ปากซอยบ้านแก เราเห็นว่ามันก็ไม่น่าจะรบกวนแก ก็เลยให้มา”
“ดูปากซอยบ้านเราเนี๊ยนะ ตลกเนอะ”
“เราคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไร ก็เลย....”
“อ่ะอ่ะ งั้นเราไปก่อนนะ ที่บ้านรอกับข้าว”
“ต่าย เราขอไรอย่างได้ป่ะ สมมุติว่าถ้าเจอกับเดช แกก็ช่วยทักมันหน่อยเถอะ”
“แต่ว่า....”
“เรารู้ว่าแกไม่อยากมีแฟน แต่แกก็อย่าทำให้ชีวิตมันเฉาตายหน่อยเลย ถ้าเจอกับมันก็ทักๆมันบ้าง มันจะได้สดชื่น แล้วอีกอย่าง มันจะได้ไม่ต้องมาตามเราอีก”
“แล้วถ้าไม้รู้ล่ะ”
“เราก็รู้สึกผิดกับไม้มันนะ แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อแกยังไม่เลือก ก็มีโอกาสทั้งคู่ แกก็อย่าเพิ่งทำลายความหวังของเดชเลย จริงๆแล้วเราคารจะมาเชียร์ไม้มากกว่าเดชนะ”
“ไม้รู้แกจะทำไงล่ะใหญ่”
“เราเองมาพูดอะไรอยู่แล้วต่าย แกก็อย่าให้ไม้มันรู้ละกัน”

แล้วผมกับต่ายก็เลิกคุยกันคับ ผมพาต่ายไปบอกลากับเดชและเพื่อนๆ แล้วต่ายก็เดินกลับไปที่บ้าน หลังจากนั้นเดชก็ย้อนทางเดิมเพื่อกลับหอมันบ้าง ระหว่างนั้น....

“ต่ายคุยไรกับแกวะ”
“ก็...ถามว่าเพื่อนเราไปไหน มากับพวกแกได้ไง”
“แล้วตอบไปว่าไง”
“ตอบไปตามตรง ว่าแกบังคับเรามา”
“เสร็จกัน !! โธใหญ่...อย่างงี๊ต่ายก็เห็นเราเป็นคนป่าเถื่อนดิ”
“ไม่ทันแล้วแหล่ะ ฮ่าๆๆๆ” - ผมแซวเดชเล่นๆ
“แกพูดไรกับต่ายบ้างวะ”
“ก็...เอ่อ หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง.....” – ผมเว้นช่องว่างให้มันอยากรู้
“เรื่องไรล่ะ เร็ว...ๆๆ”
“เรื่องที่แกรู้ว่าน้ำปั่นร้านนี้อร่อย”
“จริงเหรอ”
“เออ แล้วก็อีกเรื่อง ถ้าเจอต่ายก็ทักได้นะ เราบอกต่ายแล้ว”
“จริงเหรอ ใหญ่ เพื่อนรัก ขอบคุณๆๆ” – พูดไปมันก็กอดผมจนแน่น ทามกลางสายตาของคน
“เออ แต่ตอนนี้ แกช่วยปล่อยเราออกก่อนเถอะ อายคน”
“อ่อ...ขอโทษๆๆ”

แล้วผมก็ขอตัวกลับบ้านคับ เดชและเพื่อนเดินไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์ ผมรออยู่นานพอควร ทำไงได้สายนี้ไม่ค่อยมีคับ (แต่นั่งจริงๆ ก็ไม่กี่ป้าย) ก็เลยคุยกันนานพอควร แล้วผมก็ได้ขึ้นรถเมล์กลับบ้านคับ
----------

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #36 เมื่อ16-07-2008 22:05:01 »

ต้องมีเศร้าแน่ๆเลยเรื่องเนี่ย   o7

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #37 เมื่อ16-07-2008 23:37:43 »

:m32:
ชอบชื่อเรื่องนะ...แม้ลักษณะการเขียนจะใช้สำนวนไม่สละสลวยสวยงามมากมาย
แต่ออกไปแนววัยรุ่น ดูทันสมัย และเนื้อเรื่องก็ชวนติดตามดี +1 ให้เป็นกำลังใจ...

ต่ายนี่น้องโดนัทป่าวเนี่ย...สวยเลือกได้  :m20:

แล้วตกลงเดชจะชอบใครว้า...แต่ที่แน่ ๆ ใหญ่ของเราชอบเดชแหง๋ ๆ
 :a2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #38 เมื่อ17-07-2008 02:22:29 »

คือเพิ่งจะหัดเขียนอ่ะคับ

มันเลยเป็นเรื่องที่เล่ามาจากปาก มากกว่าจะเป็นภาษาเขียนอ่ะคับ มันก็เลยดูหยาบๆไปบ้าง
 :pig4:
ขอบคุณสำหรับคำติชมคับ

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #39 เมื่อ18-07-2008 07:26:28 »

  :oni1: มารอตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
« ตอบ #39 เมื่อ: 18-07-2008 07:26:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #40 เมื่อ18-07-2008 22:10:29 »

ตอนที่ 8       ขอบคุณกันและกัน
 :a11:
“ใหญ่หวัดดี”
“เออ มีไร”
“รู้แล้วเหรอว่าใครโทรมา”
“เสียงแบบนี้มีอยุ่คนเดียว ไอ้เดช ใช่ป่ะล่ะ”
“รู้ใจจริงๆใหญ่”
“แล้วโทรมามีไร”
“เรายังไม่กล้าโทรหาต่ายอ่า... ทำไงดีใหญ่”
“หยิบโทรศัพท์มา กด 02-******* รอคนมารับสาย แล้วก็บอกว่าขอสายต่าย” - ผมตอบอย่างกวนๆ
“ไอ้นี่แมร่งกวนว่ะ”
“ก็แกถามว่า ทำไงดี ก็เลยบอกวิธีใช้โทรศัพท์ไงล่ะ”
“คือ กรูน่ะไม่กล้า”
“ก็กล้าซะเซ่ะ บอกต่ายให้ก็แล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของแกแล้ว”
“เรื่องมันยังไม่หมดแค่นั้น วันอาทิตย์นี้แกว่างป่ะ”
“ไม่ว่าง ไปค่าย”
“ค่ายอะไร ของใคร”
“ค่ายรับน้อง ม.1 ที่คณะกรรมการนักเรียนต้องจัดให้น้อง ม.1”
“ก็ไม่ว่างไปกับเราอ่ะดิ”
“แล้วจะให้ไปไหน”
“เฝ้าต่ายเรียนพิเศษ”
“ต่ายด่าแน่ๆ ถ้าต่ายรู้” - ผมเตือนมัน
“ไม่เป็นไร แกไม่ว่าง ไว้แกว่างก็ไปด้วยกัน”
“เออเออ” – ผมบอกปัด
“แล้วค่ายเกี่ยวกับไรวะใหญ่”
“รับน้อง ม.1 ไงล่ะ ม๊ะกี๊ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เตรียมงานกันยัง”
“ก็ พี่ ม.6 เขาเตรียมกันไว้แล้ว เดี๋ยวเราไปรับงานจากเขามาอีกที แค่นั้นเอง”
“ให้ไปช่วยป่ะล่ะ” – เดชถาม
“ไม่เป็นไรหรอก น่าจะทำกันได้”
“คณะกรรมการมีน้อยไม่ใช่เหรอ”
“ก็ อืม...10 กว่าคน”
“จะไปทำไรได้วะ ม.1 มีตั้งกี่คน”
“เออน่า...ทำได้ละกัน”
บทสนทนาของผมกับเดชในโทรศัพท์ เย็นหลังจากที่ผมไปเรียน ร.ด. แวะกินน้ำปั่นคับ เมื่อผมถึงบ้านได้ซักพักใหญ่ๆ ก่อนที่ผมจะคุยอะไรกับเดชอีกมากมาย เดชรับปากว่าค่ายรับน้องถ้ามีอะไรให้ช่วยก็จะยินดีช่วยเต็มที่ ผมบอกขอบคุณแต่ว่าถ้าจะใช้งาน เพื่อนห้องผมก็ใช้งานมันได้คับ
สัปดาห์นั้นผมก็ยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติของเด็ก ม.ปลายแหล่ะคับ เย็นวันอังคาร กับศุกร์ก็ต้องไปเรียนพิเศษ ระหว่างนั้นก็ต้องเตรียมงานรับน้อง ม.1 เข้าไปด้วยคับ วันไหนที่ผมไม่ต้องไปเรียนพิเศษ ผมก็ต้องไปประชุมเตรียมงานกันกับพวกพี่ ม.6 กันคับ ในคณะกรรมการนักเรียนผมสนิทกันทั้ง ม.4 ม.5 และ ม.6 เลยคับ นั่นก็เป็นเหตุผลที่พวก ม.6 มันใช้งานผมอย่างหนัก แต่ก็ฝีปากผมแหล่ะคับที่ต่อรองให้ผมไม่ต้องทำงานหนักเท่าที่ควร เดชโทรหาผมทุกวันเลยคับ แต่ก็ยังไม่โทรหาต่ายซักที ไม่รู้ว่าไม่กล้าหรือยังไง แต่ผมก็คุยได้ไม่นานมาก เพราะกว่าผมจะกลับบ้านก็ 2 ทุ่มกว่าแล้วคับ เหนื่อยด้วยก็เลยคุยกันไม่นาน เรื่องที่คุยกับเดชก็เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป เรื่องของต่าย รื่องของมันและเรื่องของผมคับ

เย็นวันศุกร์ วันที่ผมต้องประชุมใหญ่เพื่อเตรียมค่ายรับน้อง ก็มีอาจารย์มานั่งฟังด้วย แล้วก็มาซื้อขนมให้ผมกิน ช่วยออกความคิดนิดหน่อย ระหว่างที่ผมกำลังประชุมกันอยู่ ผมเห็นเดชกับเพื่อนของมันเดินผ่านมาทางห้องคณะกรรมการนักเรียน ซึ่งอยู่ติดกับทางออกประตูโรงเรียนคับ ผมก็นึกว่ามันกำลังจะกลับบ้าน ผมก็เลยขอตัวออกจากวงประชุมไปทักทายก่อนกลับบ้านน่ะคับ

“เฮ้ย ไม่ไปเรียนพิเศษเหรอวันนี้”
“แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพรุ่งนี้มีค่ายรับน้อง ม.1”
“แล้วแก....”
“ประชุมกันอยู่ เดี๋ยวประชุมเสร็จก็ต้องจัดของ อื่นๆอีก เยอะไปหมด”
“ให้ช่วยป่ะใหญ่”
“ไม่เป็นไร เกรงใจพวกแกอ่ะ เด๋วไอ้เต้ลูกคุณหนูจะกลับบ้านช้า แล้วหม่อมแม่จะห่วง” – ผมแซวเต้เพื่อนของเดชคับ
“ไม่เป็นไรใหญ่ อีกอย่างหม่อมแม่ไม่ตามเท่าไหร่หรอก ฮ่าๆๆ”  - เต้พูดไปหัวเราะไป
“เห็นป่ะใหญ่ ทุกคนไม่เป็นไร ให้พวกเราช่วยเหอะนะ” – เดชบอกกับผม
“แล้วเข้มกับเอกอ่า...”
“ไม่เป็นไร” – ทั้งสองคนแทบจะพูดพร้มกัน
“งั้นแกรอเราตรงนี้แป๊บนึง” – ผมบอกพวกมัน แล้วก็พาพวกมันเข้าไปในห้องคณะกรรมการ
“พี่ๆคับ อันนี้เพื่อนผมคับ เอามาช่วยงานคับ มันรนหาที่เองคับ” – ผมบอกกับที่ประชุม
“ชื่อไรกันมั่ง” – พี่ ม.6 คนนึงถาม
“ผมชื่อเดชคับ อีกคนชื่อเต้ คนนี้เข้ม สุดท้ายชื่อเอกคับ” – เดชจัดแจงแนะนำคนครบ
“ท่าทางเราจะพูดมากนะ” – พี่ ม.6 คนนึงแซวเดช ทำเอาเดชหน้าแดงเล็กๆ พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง
“เพื่อนพี่ใหญ่ แต่ทำไมอยู่คนละคณะสีกันล่ะ” – น้องคนนึงถาม
“คนละห้องอ่ะ” – ผมตอบไป

จากนั้นเราก็ประชุมกันต่อซักพัก แล้วก็เริ่มทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ผมได้รับมอบหมายในการจัดเรียงเอกสารของน้องค่ายและของใช้กองกลางของค่ายคับ ซึ่งมันอยู่ในห้องนั้นอยู่แล้วแค่จัดให้มันเป็นกลุ่มๆ แค่นั้นเอง ปัญหาอยู่ที่ของมันเยอะมากเลยคับ ผมทำคนเดียวคงไม่ไหวแน่ ตอนแรกจะมีน้อง ม.4 คนนึงมาช่วยผม (คงยังไม่ลืมนะคับว่า ผมอยู่ ม.5) แต่พอพวกเดชเข้ามาพี่ก็เลยเอาน้อง ม.4 คนนั้นไปที่อื่นคับ ตอนนี้ในห้องที่จัดของจึงมีแค่ผม เดช แล้วก็พวกเพื่อนๆเดชคับ พวกเราคุยกันสนุกสนานเสียงดังมากๆ จนพี่ ม.6 ที่อยู่ข้างนอกตะโกนแซวข้ามห้องออกมา ผมก็เลยเงียบๆไปบ้าง แต่ก็ยังไม่หยุดคุยกันซะทีเดียวเลยคับ

เราจัดของกันไปได้เยอะแล้วแหล่ะคับ เหลือก็อีกไม่มาก ผมบอกว่ากลับกันไปก่อนก็ได้ ตอนนั้นเวลาก็เกือบสามทุ่มแล้วคับ จริงอย่างว่าแหล่ะคับ ไอ้เต้มันกระวนกระวายมาตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ แล้ว เพราะมันกลัวโดนแม่มันด่าว่ากลับบ้านช้า (อันนี้เดชเล่าให้ฟัง) ส่วนเอกกับเข้มก็บ้านอยู่ตั้งไกล (ไกลกว่าผม) ดึกเกินก็อาจจะไม่มีรถเข้าบ้าน ดังนั้นทั้งสามคนจึงขอตัวกลับบ้านไปก่อน อ้าว....เดชยังไม่กลับคับ บอกว่าผมทำงานเสร็จเมื่อไหร่แล้วค่อยกลับ ผมบอกว่ามันก็อาจจะดึกนะ เดชก็จะรอคับ ดังนั้นเราสองคนก็เลยรีบๆ จัดของให้เสร็จคับ พอผมทำงานเสร็จก็ลาพี่ๆกลับบ้านคับ พี่บอกขอบคุณเดชแล้วก็เพื่อนๆ และเน้นย้ำเราว่า 6 โมงเช้าต้องถึงโรงเรียน โห่ย...ทรมานตัวเองจัง

ผมกับเดชเดินออกมาจากโรงเรียน ตอนนั้นก็เกือบสี่ทุ่มแล้วคับ ผมบอกว่าจะไปส่งเดชที่หอก่อนแล้วค่อยนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน ระหว่างทางกลับเดชก็คุยกับผม

“แกจะตื่นทันป่ะน่ะ”
“ไม่ทันก็ต้องทัน ไม่มีทางเลือก”
“แกจะตื่นได้เหรอใหญ่” - มันถามย้ำ
“ให้เราทำไงล่ะ”
“เด๋วเราโทรไปปลุกเอาป่ะ”
“ไม่เป็นไร เด๋วที่บ้านเราด่าเอา” – (ตอนนั้นยังไม่มีมือถือ การโทรเข้าโทรศัพท์บ้านก็เท่ากับการปลุกคนทั้งบ้านเลย)
“หรือแกจะมานอนหอเรา” – เดชเสนอทางเลือก
“ไม่อ่ะ ขอบคุณ”
“หิวว่ะใหญ่ หาไรกินกันนะ”
“เอาดิ กินไรดี หิวเหมือนกัน”
“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เจ้านี้อร่อยมาก” – เดชบอก “เคยมากินกับไอ้เข้ม”
“ก็ดีๆๆ เฮ้ยเด๋วเราเลี้ยงเอง นะนะ”
“ก็ดี ขอบใจว่ะ” – พูดไปเดชก็เอามือกอดไหล่เราไป
ระหว่างกินก๋วยเตี๋ยว
“แกว่าควรโทรหาต่ายดีป่ะตอนนี้” – เดชถาม
“ต่ายน่าจะนอนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“กินเสร็จแกลองโทรให้หน่อยละกัน” - เดชทำสายตาวิงวอนเต็มที่
“อ่ะอ่ะ เออ ก็ได้”
“เอ้ยใหญ่ เศษพริกแกติดปากอ่ะ” – แล้วมันก็ส่งทิชชู่มาให้
ทำเอาผมอึ้งไปซักพัก ก่อนที่ผมจะรับมาอย่างหน้าตางง แล้วก็เอามาเช็ดปากของผม
“ใหญ่เป็นไรไปป่ะ” – เดชถามผม เมื่อเห็นผมอึ้งๆไป
“เปล่าๆ ไม่มีไร อร่อยดีเนอะ ไม่เสียแรงที่แกแนะนำ” – ผมกลบเกลื่อนไป

พอกินเสร็จจ่ายเงิน แล้วก็เดินออกจากร้านมาที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะอ หยอดเหรียญไปบาทนึง ผมกดเบอร์ต่ายอย่างรวดเร็ว มันอยู่ในสมองของผมอยู่แล้ว ต่ายรับสายพอดี แทบจะเป็นไปไมได้ว่าต่ายยังไม่นอน

“ใหญ่เหรอ มีไร”
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“พรุ่งนี้วันเสาร์นะ ตื่นสายได้ ก็เลยนอนดึกนิดนึง”
“อ่อเหรอ”
“โทรมามีไรเปล่าใหญ่ เสียงแกดูกังวล” – กังวลจริงแหล่ะคับ เดชยืนประกบหลังเราไว้
“แก มีคนจะคุยกับแกอ่ะ” – ผมส่งโทรศัพท์ให้เดชคับ
“หวัดดีคับ เราเดชนะต่าย.....”
………
………
……..
คุยกันไปซักพัก 3-4 ประโยค เดชก็ส่งโทรศัพท์มาให้เรา บอกว่าต่ายจะขอคุยกับเราด้วย
“พรุ่งนี้มีค่ายเหรอใหญ่”
“แกรู้ได้ไง”
“เดชบอกเราม๊ะกี๊ว่าไปช่วยแกเตรียมของ ทำไมแกไม่บอกพวกไอ้ไม้ให้มันไปช่วยแกอ่ะ”
“ไม่อยากไปกวนพวกมัน เห็นว่ามันจะไปเรียนก็เลยไม่กล้าใช้พวกมัน...”
“แกก็เลยไปกวนเดช” - ต่ายสวนขึ้นมาทันที
“ก็แบบว่าพอดีเจอกัน เดชมันอาสามาช่วยเอง เราไม่ได้ขออ่ะ เราก็เลยมาเลี้ยงข้าวมันเป็นการขอบคุณ”
“งั้นแสดงว่าพรุ่งนี้ก็ไม่ไปเรียนพิเศษอ่ะดิ”
“ใช่ๆ”
“เราว่าจะไปเรียนพรุ่งนี้กับแกซักหน่อย แต่แกไม่ต้องบอกใครนะ เราอยากไปแบบสงบ”
“เออรู้แล้ว”
“ว่าแต่เดชอยู่กับแกแค่ 2 คนอ่ะนะ”
“ก็เออดิ”
“สองคน กลางคืน ระวังนะจ๊ะ” - ต่ายแซวผม
“แกจะบ้าเหรอไอ้ต่าย - เพราะแกนั่นแหล่ะที่มาเป็นอย่างงี๊”
“จ้าๆ เด๋วเราไปอ่านหนังสือต่อนะ”
“แกจะขยันไปถึงไหนวะ เรายังไม่อ่านเลย โน่น ใกล้สอบน่ะ”
“ก็ใหญ่ แกเก่งอยู่แล้ว ไม่ไปเรียนซักวันสองวันไม่เป็นไรหรอก”
“เหอๆๆ เออ แค่นี้นะ”

ผมวางหูโทรศัพท์แล้วก็เดินไปกับเดช ผมไปส่งเดชที่หอ ระหว่างนั้นเดชก็พูดกับผมบ้าง แต่พูดไม่มากเหมือนปกติ ไม่รู้ว่าเดชพูดอะไรกับต่าย ต่ายพูดอะไรกับเดช แล้วพอถึงหอผมก็ขอตัวกลับ บอกเดชว่าไม่ต้องโทรหาเราแล้วนะคืนนี้ เดชรับรู้แล้วก็ขึ้นหอไป
--------------------

MoD_els

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #41 เมื่อ19-07-2008 00:26:50 »

เหอๆ เพื่อนเรามาเล่นบอร์ดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
แถมมีเรื่องมาลงก่อนเราซะอีก มารีไว้ให้เพื่อนก่อนละกัน
ไว้เดี๋ยวจะมาตามอ่านนะ ไปทำรายงานต่อละ
ปล. ห้าปีแล้วแต่ยังพอเขียนได้เยอะแฮะ ไว้ว่างๆต้องเอามาลองลงบ้างละ ไงก็เอาใจช่วยนะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #42 เมื่อ19-07-2008 00:49:20 »

เจอเพื่อนเลย อิอิ

มะไหร่เดชจะสร้างตำนานหลงรักพ่อสื่อซะที  :oni2:

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #43 เมื่อ19-07-2008 11:55:37 »

อ่า ..
กำลังลุ้น

ว่าแต่ เดชคุยไรกะต่าย แล้วต่ายคุยไรกะเดช บ้างเนี้ย

งุงิ

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #44 เมื่อ19-07-2008 13:33:06 »

 :L2: :L2:

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #45 เมื่อ19-07-2008 18:27:31 »

สนุกมากครับ ว่างๆมาต่ออีกนะคร้าบบ

เป็นกำลังใจให้นะครับบบบบบบบบบบ

 :oni2:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #46 เมื่อ19-07-2008 21:03:01 »

อ่านจากชื่อเรื่อง ใหญ่น่าจะเกิดความรู้สึกกับเดช  :กอด1:

แต่ก็ยังหวังไว้ว่าที่เดชไม่ค่อยเคลียเนี่ยคงจะชอบใหญ่

ตามลุ้นๆต่อไปค๊าบบบ มาต่อไว้ๆ กำลังลุ้นๆ :a4:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #47 เมื่อ20-07-2008 11:01:15 »

ตอนที่ 9
 :c5:
งานรับน้อง ม.1 ได้เริ่มขึ้นคับ หลังจากที่ผมและคณะกรรมการนักเรียนเตรียมงานมาได้นาน 2 สัปดาห์ ก็เป็นวันที่น้อง ม.1 ต้องมาร่วมชะตากรรมตามโปรแกรมที่ได้วางแผนงานกันไว้คับ วันนี้น้อง ม.1 มากันแทบจะทุกคน หลังจากรับลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องมีการเรียกรวม ผมทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงประจำกลุ่มคับ เป็นกับเพื่อนคณะกรรมการนักเรียนด้วยกัน กิจกรรมดำเนินไปตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง ระหว่างที่ผมกำลังกินข้าวกลางวัน มีรุ่นน้องคณะกรรมการนักเรียนมาถามผมคับ เรื่องเมื่อวาน

“มีไรวะ” – ผมถามรุ่นน้อง
“เรื่องเมื่อวานอ่ะพี่”
“ทำไมเหรอ”
“คนที่มาช่วยพี่ pack ของอ่ะ ใครเหรอ”
“เพื่อนพี่อ่ะ –ถามไมเหรอ”
“เปล่าพี่ ไม่มีไรคับ”
“ไม่มีไรแล้วถามทำไมวะ มันต้องมีไรแน่ๆเลย”
“ก็คือว่า เขาฝากจดหมายอันนี้ให้พี่อ่ะคับ ตอน10โมงกว่า ตอนที่พี่กำลังเข้าซุ้ม”

ผมรับจดหมายมาแต่โดยดี เนื้อความข้างในจดหมายบอกว่า วันนี้เดชมาที่โรงเรียน จะมาอ่านหนังสือคนเดียว ตอนแรกจะมาช่วยเราทำกิจกรรม แต่ว่ากลัวรุ่นพี่ด่า ก็เลยฝากจดหมายให้รุ่นน้องคนนี้ แล้วก็ยังเขียนอีกว่า เที่ยงๆ จะซื้อของกินมาฝากผมคับ ให้ผมไปรอที่หน้าห้องคณะกรรมการ

ผมอ่านจบ ผมก็เดินไปที่ห้องคณะกรรมการเลยคับ ทั้งๆข้าวก็ยังกินไม่หมด แต่ปรากฏว่าผมใม่เจอใครเลยคับ ผิดหวังเล็กน้อย แล้วผมก็เดินกลับมาที่บริเวณที่กินข้าวม๊ะกี๊นี้ เพื่อนผมกับรุ่นน้องมันยังกินข้าวไม่เสร็จหรอกคับ แต่กล่องข้าวผมหาย ผมก็โวยวายดิคับ กล่องข้าวผมไปไหน เพื่อนผมบอกว่าโยนทิ้งไปแล้ว มันบอกว่าก็เห็นแกเดินออกไปก็นึกว่าไม่กินแล้ว ผม...จะโกรธก็ไม่ได้ เพราะผมเองไม่ได้บอกว่าผมจะไม่กินแล้ว อีกใจก็โกรธ กินไปได้ 3 คำเอง แถมอร่อยซะด้วย จะไปแย่งน้อง ม.1 กินก็ไม่ดี กับข้าวมันไม่อร่อย ผมก็เลยใส้แห้งไปคับมื้อกลางวัน

“เฮ้ย” – เสียงเดชตะโกนมาแต่ไกล ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปกินน้ำเปล่าแก้หิว “อ่ะ รู้ว่าหิว ของโปรดแก”
“อะไรอ่ะ อ่อ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เนี๊ยนะของโปรดเรา”
“อุตส่าห์ไปซื้อมายังจะมาปากหมาใส่อีก”
“อ่ะอ่ะ ขอบคุณ” – ผมรับมาแล้วก็กินอย่างอร่อย ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ชอบกินมันซักเท่าไหร่
“เย็นนี้เสร็จงานกี่โมง”
“5 โมงกว่าๆ น้องเสร็จกิจกรรม บ่าย 3 โมง แล้วเราก็เก็บของอะไรอีก ก็ 5 โมงแหล่ะ”
“ไปกินข้าวกัน เด๋วเราออกมารับ”
“เออ” – ผมบอกปัด “ไปก่อนนะ เฮ้ย ขอบคุณสำหรับหมูปิ้งว่ะเดช”


กิจกรรมตอนบ่ายก็ยังดำเนินไปตามปกติ น้อง ม.1 ดูจะเหนื่อยกว่าเมื่อเช้า เพราะอากาศค่อนข้างจะร้อน น้องก็เลยเหนื่อยกันง่าย แล้วก็มาถึงกิจกรรมสุดท้าย คือการให้น้องมอบดอกไม้ให้กับรุ่นพี่คนไหนก็ได้ เพื่อแสดงความขอบคุณที่เสียสละเวลามาจัดกิจกรรมให้น้อง ผมเองก็ได้ดอกไม้มาเยอะพอสมควร ส่วนหนึ่งเพราะหน้าตาดี อีกส่วนหนึ่งผมยิ้มง่ายมั้งคับ เลยเป็นที่รักของน้องในกลุ่ม มีน้องผู้หญิงคนนึงแอบหอมแก้มผมด้วย ถูกแซวไปยกใหญ่เลย ผมล่ะอายเขาจริงๆ

เสร็จงานรับน้อง ม.1 ซักทีคับ เป็นไปตามที่ผมคิด 5 โมงเย็นจริงๆ ผมก็ช่วยรุ่นพี่เก็บของไปเรื่อยๆ พี่บอกผมว่าเดชมารอผมหน้าห้องคณะกรรมการ บอกผมว่าไปเถอะ เดี๋ยวที่เหลือพี่เก็บกันเองก็ได้ ผมบอกขอบคุณกับพี่แล้วก็ออกไปจากห้อง นับว่าโชคดีทีเดียวที่เดชมา ไม่งั้นผมคงต้องอยู่เย็นกว่านี้ เดชพาผมไปกินข้าวคับ ร้านที่เดชพาไปเป็นร้านที่อยู่แถวบ้านของต่าย เดชเองไม่เคยมากินหรอกคับ แต่ศึกษาข้อมุลมาอย่างกับเป็นกูรูกันเลย เดชตกลงเลือกร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง

“สั่งไรวะใหญ่”
“มีไรแนะนำมั่งล่ะ”
“ก็ผัดมักกะโรนีขี้เมา แล้วก็สปาเกตตี้ราดซอส แล้วก็...”
“พอๆ” – ผมบอก รำคาญมันบรรยาย ในเมนูมันก็มีบอกคับ ไม่น่าโง่ถามมันเลย
“แล้วแกจะกินไรวะใหญ่”
“กระเพราไก่ไข่ดาวคับ” – ผมบอกกับพนักกงานเสริฟ
“เอาผัดมักกะโรนีขี้เมา น้ำแข็งเป่า 2 แก้ว โค้กขวดใหญ่แก้วนึง” - เดชสั่งบ้าง
“มีไรถึงได้มาเลี้ยงเราอ่ะ” - ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็แบบว่า อยากมาบ้านต่าย แต่ไม่มีเพื่อนมา ก็เลย....”
“ชวนเรา” - ผมสวนไปอย่างทันที
“ก็ใช่ละ เรารู้ว่ายังไงแกก็อยู่ที่โรงเรียนแน่ๆวันนี้ ก็เลยไปรอ จะได้มาบ้านต่าย และเราก้รู้ว่านายชอบของฟรี”
“มันก็ไม่แน่นะ บางครั้งเราก็ไม่อยากกินฟรีมั่งน่ะ ละอายตัวเอง”
“อืมๆ วันนี้เหนื่อยป่ะ” – เดชถามอย่างสนใจ
“ก็เหนื่อยนะ ไม่ใช่นั่งอ่านหนังสือเฉยๆเหมือนแกนี่หว่า”
“เฮ้ย เราว่านายเองเป็นพี่เลี้ยงได้ดีนะ ในกลุ่มเนี๊ยะ เด็กติดนายกันเยอะเลย เราเห็น”
“ไปเห็นตอนไหนวะ”
“ตอนที่เดินผ่านโรงพละ เรานั่งอ่านหนังสือแถวนั้น”
“ทำไมแกต้องไปอ่านแถวโรงพละวะ ที่อ่านอื่นๆก็มี เงียบกว่าตั้งเยอะ และก็โรงพละเป็นที่จัดกิจกรรม”
“จะได้มาดักเจอนายได้ทัน เด๋วนายเบี๊ยวไม่มากับเรา”
“แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเรารักษาสัญญา”
“ก็นะ...ตอนที่นัด นายไม่ค่อยเต็มใจจะมาเท่าไหร่นี่นา”
“ตอนนั้นเราคงเหนื่อยมั้ง ถ้าเราเหนื่อยเราจะไม่ค่อยอยากคุย อีกอย่างข้าวกลางวันเราก็ถูกทิ้งไปซะงั้น เป็นใครก็โมโหแหล่ะ”
“อืมๆ นายว่าต่ายอยู่บ้านป่ะตอนนี้ เราว่าต่ายต้องออกมาซื้อกับข้าวแถวนี้แน่เลย”
“อ่อ พอจะรู้แล้ว ที่แกชวนเรามากินข้าวเวลานี้ ต่ายก็จะออกมาซื้อกับข้าวแถวนี้พอดี แกก็จะได้เจอต่าย ถูกป่ะ”
“ก็นะ...ถูกของนาย”

อาหารที่สั่งมาแล้วคับ เราลืมเรื่องต่ายไปชั่วคราว เราอร่อยกับการกินอาหารตรงหน้ามากเลบคับ เป็นเพราะว่าผมหิวหรือว่าอย่างอื่น

 “พรุ่งนี้ว่างใช่ม๊ะ” - เดชเริ่มถามก่อน
“เออ ก็ว่าง ตอนแรกคิดว่าค่ายมี 2 วัน ก็ดีมีแค่วันเดียว”
“ไปเรียนพิเศษกับเรานะ”
“ทำไมต้องไปเรียนกับแกวะ เรียนที่เดียวกันเหรอ” – ผมถามอย่างงง ผมไม่รู้ว่าเดชเองก็เรียนพิเศษ
“นายเรียนที่ไหนล่ะ”
“สยาม ที่เดียว”
“แล้วที่ว่าเรียนภาษาอ่ะ...”
“อ๋อ ไม่เรียนแล้ว เรียนสดอ่ะ มีวันเดียวรอบเดียว”
“พรุ่งนี้ไปเรียนกับเราที่เสาวรีย์นะ”
“เราไม่ได้เรียนที่นั่น แล้วเราจะไปทำไม” – ผมถาม อย่างงง อีกแล้ว
“ก็เราเรียนที่นั่นไง”
“แล้วไงอ่ะ ก็เราไม่ได้เรียนที่นั่น แล้วเราจะไปทำไม” – ผมยังคงถาม อย่างงง อีกครั้ง
“ก็เราเรียนตอนเช้า แล้วต่ายเรียนรอบสาย ก็เดียวเราจะนั่งรอต่าย”
“อ่อ คือให้เราไปนั่งรอต่ายเป็นเพื่อนแก ว่างั้นเถอะ”
“ฉลาดมากๆไอ้หนู”
“แล้วเราไม่ต้องไปเรียนที่สยามรึไง” – ผมย้อนถามมัน
“สยามมันมีหลายรอบ เรารู้มา แกไปเรียนตอนเย็นก็ได้ เด๋วเราไปเป็นเพื่อน”
“ซะงั้นอ่ะ มาเปลี่ยนรอบเรียนคนอื่นตามใจชอบได้ไงวะ”
“เออน่า นายไปเรียนตอนเย็นกับเรา”
“แล้วแก.....”
“เออน่า เราก็เรียนที่สยามเหมือนกัน แต่เรียนวันพฤหัสน่ะ บางทีก็ไป บางทีก็ไม่ไป”
“เสียเงินเปล่าประโยชน์ว่ะ” - ผมด่ามัน
“เออน่ะ บางวันไม่ว่างนี่หว่า” - มันค้อนใส่ผมคับ
“ไม่ว่างไรวะ เห็นตอนเย็นทุกทีก็เรียกเราไปหาที่ห้อง นั่งคุยเรื่อยเปื่อย แล้วมาบอกว่าไม่ว่าง เราว่า แกเองเวลาที่เรียกเราไปหาที่ห้องอ่ะ ไปเรียนตามที่แกลงเรียนไว้เถอะ สงสารพ่อแม่ที่หาเงินว่ะ เงินแต่ละบาท....” - ผมเริ่มเทศน์ใส่มัน
“พอพอ ไอ้ใหญ่ เด๋วจะได้บุญ”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
“แล้วจะให้ไปหาที่ไหน” - ผมถาม
“แสดงว่าแกตกลง ใช่ป่ะ”
“อ้าวอ้าว ก็แกบอกให้ไป ตกลงเราไม่ไปก็ได้ใช่ป่ะ”
“เจอกันที่ (สถาบันXXX) ตอนเก้าโมงเช้า”
“ทำไมต้อง 9 โมงวะ”
“ก็เราเลิกเรียน 10 โมงอ่ะลงมาจะได้เจอนายพอดี จะได้ไม่เสียเวลารอ”
“แกนัดเรา 10 โมงก็ได้นะ เราไปไม่สายหรอกน่า”
“เออ มาให้ทันเราเลิกละกัน”

เป็นไปตามที่เดชคิดไว้จริงๆคับ ต่ายเดินออกมาซื้อกับข้าวเย็นแถวนั้นจริงๆ พอดีผมเห็นผมก็เลยเดินไปเรียกต่าย ผมถามต่ายเรื่องไปเรียนพิเศษคับ ต่ายบอกว่าวันนี้ไม่ได้ไปเรียน เพราะว่าวันนี้ต่ายจะเคลียร์การบ้าน (เอ๊ะยังไง ไหนบอกว่าจะทำวันอาทิตย์ อันนี้ก็ไม่รู้นะ เหตุผลของเขา) ก็เลยจะไปเรียนวันอาทิตย์ ตั้งแต่เช้าเป็นวิชาฟิสิกส์ สายเป็นวิชาเลข ตอนเย็นจะไปเรียนเคมีที่สยาม ผมก็เลยบอกต่ายว่าผมก็ไปเรียนรอบนั้นพอดี ยังไงเอาไว้เจอกันที่สยามแล้วกัน ต่ายไม่ได้ถามว่าเพราะอะไรผมถึงมาเรียนวันอาทิตย์คับ ต่ายคงรู้ว่าผมมีกิจกรรมรับน้อง แต่ว่าจริงๆแล้วที่ผมต้องไปเรียนเพราะถูกบังคับไปเรียนกับเดชคับ ผมคุยกับต่ายได้ซักพักก็ขอแยกตัวกลับไปหาเดชที่นั่งรออยู่ ต่ายบอกว่าจะไปหาเดชที่โต๊ะด้วย พอไปถึงที่โต๊ะ เดชแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยคับ พูดน้อย พูดเพราะ ไม่เห็นจะเหมือนตอนที่อยู่กับผมเลยคับ ต่ายพยายามชวนเดชคุย และก็บอกว่าเคยเห็นเดชที่เรียนพิเศษรอบเช้านั่นแหล่ะ (ก็คือรอบที่เดชมันเรียนอ่ะคับ ต่ายก็เรียนรอบนี้ด้วย) คุยกันประมาณ 10 นาทีต่ายก็ขอตัวกลับ

หลังกินข้าว ผมกับเดชก็เดินกลับบ้าน เดชเดินไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์
 
“น่ารักจังว่ะ” – เดชเริ่มเพ้อ “เขาคุยกับเราด้วยใหญ่” แล้วก็จับมือเรามาเขย่า
“ต่ายเขามารยาทดี เขาคุยดีกับทุกคน รวมถึง....”
“ไอ้ไม้” - เสียงเดชอ่อนลง
“ก็ทุกคนจริงๆที่หว่า ต่ายเขาเป็นคนดี ถ้าแกได้เป็นแฟนเขา แกต้องดูแลเขาดีดีนะ ไม่งั้นจะทวงคืนมาเป็นของตัวเอง” – ผมแหย่มันเล่น
“ไม่มีทาง เดชคนนี้จะรักษาต่ายเท่าชีวิต”
“เน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก” - ผมประชด
“ใหญ่ แกเดินให้มันใกล้ๆกับเราได้ป่ะวะ เดินซะห่างอย่างกับเจอ...”
“เจอไร”
“ขี้”
“กวน__ สาด แมร่ง” – ผมด่ามันพร้อมกับเตะที่น่องมัน
“ไอ้ใหญ่ทำกรูก่อนเรอะ นี่....” – มันเตะถึงตูดผมเลยคับ แต่เบาคับ แล้วมันก็หัวเราะที่ผมต้องวิ่งหนี

ผมกับเดชหัวเราะกันจนเหนื่อย เล่นเอาจุกไปเลยคับ ข้าวที่กินมาตอนนี้แทบจะออกมาอยุ่ที่คอ ผมก็เลยนั่งพักตรงฟุตบาทข้างวัดคับ (ระหว่างทางกลับบ้านผมจะมีวัดอยู่ด้วยคับ) แล้วมันก็วิ่งมานั่งข้างผม

“แค่นี้เหนื่อย” - มันตบหัวผมเบาๆคับ
“ใครเขาจะถึกเหมือนแกล่ะ”
“เด๋วก็ได้เอาไปปล่อยในวัดซะนี่”
“ปล่อยไรวะ”
“ตัวเฮ้และหมาในปากแกอ่ะเด่ะ” - ผมหัวเราะ
“ไอ้ใหญ่นี่กวนว่ะ”
“เฮ้ย ไปได้แล้วแหล่ะ ป้ายรถเมล์อยู่ใกล้แค่นี้เอง”
“อย่าพูดมาก เด๋วเดินไปส่ง”
“แต่...”
“ไม่ขัดซักครั้งจะได้ป่ะวะ”
“เราไปขัดอะไรแกตอนไหน”
“เยอะแยะ”
“ก็เกรงใจอ่ะ อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ทางกลับหอแกด้วย”
“ไม่เป็นไร”
“เออ ตามมาดิ”

มันเดินตามผมอย่างว่าง่ายคับ ซักพักเราก็ถึงป้ายรถเมล์ ไม่นานผมก็ได้ขึ้นรถเมล์ ก่อนขึ้นมันบอกว่าอย่าลืมพรุ่งนี้ 10 โมงนะ ลงมาต้องเจอ ถ้าไม่เจอเสียค่าปรับ ผมก็เออออกับมันไป
-------------

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #48 เมื่อ20-07-2008 12:11:49 »

ได้จิ้มตูดด้วยง่ะ

ฮ่าๆๆ

แฮ่  :m4:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #49 เมื่อ20-07-2008 20:09:57 »

รักวัยเยาว์...ยังหาทิศทางเรื่องไม่เจอเลยแฮะ  :m23:
แต่ก็นะ..สู้ ๆ
 :a1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
« ตอบ #49 เมื่อ: 20-07-2008 20:09:57 »





pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #50 เมื่อ22-07-2008 00:54:38 »

ตอนที่ 10
 :a5:
“ฮัลโหล” – ผมเดินไปรับโทรศัพท์
.................
.................
“ฮัลโหล”
“ฮัลโหล ไม่พูดจะวางหูนะคับ” – ผมจะวางหูจริงๆ
“รู้แล้วๆ แค่นี้ถึงกับต้องวางหูกันเลยเหรอ” - เดชตะโกนออกมาจากโทรศัพท์
“โรคจิต รับแล้วทำไมไม่พูดวะ”
“ก็...อยากฟังเสียง”
“กูไม่ใช่ต่าย”
“ไม่ใช่ก็อยากฟังอ่ะ”
“แล้วโทรมามีไร รบกวนเวลาความสุขเราจริงๆแกอ่ะ”
“ทำไรอยู่”
“ดูทีวี”
“งั้นก็คุยได้”
“อ้าวไอ้นี่ รายการโปรดนะเว้ย”
“คุยกับเพื่อนคนโปรดก็เหมือนกันล่ะน่า”
“อ้าว...เฮ้ย แล้วมีอะไรเล่า” – ผมเริ่มมีอารมณ์...โมโห
“โทรมาย้ำว่าพรุ่งนี้ 10 โมง”
“เออรู้แล้วล่ะน่าไม่ต้องย้ำหรอก ตรงเวลาแน่”
“อย่าลืมนะว่าถ้าสายจะโดนค่าปรับ”
“อะไรล่ะ เผื่อจะสาย”
“ไม่บอก ปล่อยให้ลุ้นเอา ยังไงก็อย่าสายละกัน”
“โทรหาต่ายยัง” - ผมถามบ้าง
“ก็ยังอ่ะ จากวันที่นายให้เราคุยกับต่ายทางโทรศัพท์ ก็ไม่ได้โทรคุยเองเลย”
“ก็โทรไปดิ ต่ายเองก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”
“แกอยากรู้ป่ะวันนั้นต่ายบอกอะไรกับเรา”
“อืม...”
“ต่ายบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามอย่าโทรหาเราบ่อยนัก รบกวนเขาอ่านหนังสือ แล้วก็ที่บ้านก็ไม่ค่อยชอบให้ผู้ชายโทรไปที่บ้าน”
“ก็เลยโทรมากวนเราซะงั้น”
“แกอ่านหนังสือป่ะล่ะ”
“ถ้าเราบอกว่าเราอ่านหนังสือ แกจะโทรมากวนป่ะล่ะ”
“โทร”
“อ้าว ทีต่ายบอกว่ากวน แกก็ไม่โทรหาเขา ทีเราบอกว่ากวน เสือกโทรหา”
“ก็รู้ไง ว่ายังไงแกก็ไม่อ่าน แกอ่านใกล้สอบ เรารู้ เราก็ทำอย่างงั้น”

“แล้วเมื่อวันนี้แกมาอ่านหนังสือที่โรงเรียนทำไม ทั้งๆที่แกก็รู้ว่าวันนี้โรงเรียนมีกิจกรรม”
“ก็...จะมาชวนแกไปกินข้าวตอนเย็น”
“เหรอ”
“ทำไมอ่ะ”
“เปล่า ไม่ได้ว่าอะไร แต่จะให้ดี ควรมาช่วยเราทำงานด้วยนะ”
“แต่เราไม่ได้.....”
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าแกจะช่วย เอางี๊ วันหลังถ้ามีงานอะไรให้ช่วยจะบอกละกันนะ กรรมการนักเรียนไม่เก็กเหมือนหัวหน้ากองร้อยหรอกน่า”
“เราเก๊กขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เออดิ”
คุยกันเล่นๆซักพักใหญ่ ผมก็ขอตัวคับ ง่วงนอน เหนื่อยด้วย

เช้าวันอาทิตย์คับ ปกติวันอาทิตย์เป็นวันที่ผมอยู่บ้านไม่ไปไหน เพราะว่าวันนี้ไม่มีเรียนพิเศษคับ แต่ว่าเมื่อวานผมไปจัดกิจกรรม วันอาทิตย์จึงต้องไปเรียนพิเศษแทน ผมเรียนตอนไหนก็ได้คับ Plan ของผมก็คือเรียนวันอาทิตย์ตอนสายคับ ไปกับเพื่อนที่เป็นคณะกรรมการ ม.5 ด้วยกัน แต่ว่าพอเดชมันนัดผมอย่างงี๊ผมก็ต้องไปกับมันคับ ผมตื่นสายกว่าปกติมากเลย เก้าโมงเช้าแล้วผมยังคงอยู่บนที่นอน แม่มาปลุกผมไปกินข้าวคับ ผมก็ไปอย่างว่าง่าย ไม่ได้รู้สึกเร่งรีบแต่อย่างใดว่า 10 โมงผมต้องไปให้ทันนัดเดช บ้านผมกับอนุเสาวรีย์มันก็ใกล้ๆคับ แต่ก็ไม่ใกล้ขนาดเดินไปได้ ผมจึงออกบ้านประมาณเก้าโมงห้าสิบซึ่งกะว่า 10 นาทีต้องถึงอย่างแน่นอน เป็นไปตามคาดคับ 10 นาทีผมก็ถึงที่หมายของผม แต่ว่า ผมมาสาย

“ไหนว่าไม่สาย”
“ก็เนี๊ยะ 10 โมงดูนาฬิกาเด่ะ” – ผมชี้ไปที่นาฬิกาของสถาบันกวดวิชา
“นาฬิกาเรามัน 10โมง 6 นาที”
“แต่ว่า...”
“ไม่รู้แหล่ะ นายมาสาย ต้องจ่ายค่าปรับ”
“อ้าวเฮ้ย” – ในใจคิดว่า ไม่ได้อยากจะมาเลยนะ ยังต้องมาทำอะไรอีกล่ะ
“ไม่รู้แหล่ะ ต้องเลี้ยงไอติมเรา”
“อ่อเนี๊ยะเหรอค่าปรับ”
“ไม่ใช่แค่นั้น วันนี้นายต้องตามใจเรา ไม่เถียง ไม่ปฏิเสธ”
“เราไปเป็นทาสแกตอนไหนวะ”
“ก็นายมาสาย ไม่รู้ล่ะ วันนี้ห้ามเถียงเราด้วย บอกอะไรต้องทำ”
“งั้นกลับบ้านดีกว่า” – ผมเดินออกไปจากมันคับ มันก็ฉุดแขนผมไว้
“โห ไม่ก็ได้ แต่วันนี้นายต้องอยู่เป็นเพื่อนเรานะ นะนะ”
“เออก็ได้”
“งั้นไปกินไอติมกัน”
“แล้วพวกไอ้เข้มไปไหนอ่ะ” - ผมถามหาเพื่อนกลุ่มห้องมัน
“ไปหาแฟนแล้ว เหลือแต่เราอ่ะ ที่ไม่มีแฟน”
“ต่ายน่ะเหรอ อืม ยากหน่อยนะ เขาใจอ่อนยาก”
“เราเข้าใจ เรามันต่ำต้อย ดอกฟ้าจะไปคู่ควรกับหมาวัดได้ยังไง”

ไอติมที่ไปกินกันน่ะ ไม่ใช่สเวนเซ่น บาสกิ้นรอบบิ้น หรืออะไรแพงๆ หรอกคับ เป็นไอติมเนสเล่ธรรมดาลูกละ 10 บาทที่ทางสถาบันกวดวิชาจัดจำหน่ายเป็นอาหารว่าง ที่สถาบันนี้มีที่นั่งเอาไว้สำหรับรอเรียน แล้วก็มีที่นั่งในมุมขายขนมด้วยคับ ถ้าใครที่ไม่มีเรียนหรือคนนอกก็สามารถเข้ามานั่งรอที่นี่ได้ อันนี้ผมไม่รู้คับ เดชเป็นคนพาผมเข้ามา

“รสนี้อร่อยว่ะ” – เดชพูดไปก็มาตักของผมไปกิน
“อร่อยก็ไปซื้อเองเดชะ อันนี้เลี้ยงเว้ย ไม่เกี่ยวกัน”
“แย่งแกกินน่ะอร่อย”
“แกเคยไปแย่งอะไรพวกไอ้เข้มกินมั่งป่ะ”
“ก็เยอะอยู่”
“ไม่อายเลยเนอะ”
“หลอกด่าเรอะ”
“โอ่ย” – ผมเจ็บเล็กๆคับ จากฝ่ามือของเดชที่ตบลงบนหัวผม หลังจากที่ผมหลอกด่ามัน
“เออไอ้ใหญ่มีเรื่องจะถามว่ะ”
“ว่ามา”
“คือถ้าธาตุตัวหนึ่งมีอัตราส่วน......” - เป็นคำถามวิชาเคมีคับ ผมถนัดอยู่แล้ว ผมก็เลยตอบมันไป
“แล้วอัตราส่วนความรักเดชในหัวใจต่ายล่ะ รู้ป่ะ”
“0” - ผมตอบไม่คิด
“ไอ้นี่” - ผมโดนตบหัวอีกครั้ง
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันเร็วนะ” – อยู่ดีดีเดชก็พูดกับผมเรื่องนี้
“ทำไมอ่ะ”
“เพื่อนห้องเราบางคนยังไม่สนิทเท่านายเลยใหญ่”
“เหรอ”
“แล้วนายสนิทกับใครเป็นพิเศษป่ะ”
“ไม่นะ ก็เพื่อนกันก็สนิทกันทุกคน”
“ดีว่ะ ก็แกท่าทางเป็นมิตรกับทุกคน”
“ใครดีมาเราก็ดีด้วย ใครร้ายมาเราก็ร้ายด้วย ใครเฉยๆมาเราก็เฉยๆด้วย เนี๊ยะ...นิสัยเรา ถ้าเขาไม่คุยกับเราก่อนเราก็ไม่คุยกับเขาก่อนเหมือนกันแหล่ะ”
“หยิ่งว่ะ”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
“เรายังคาใจว่ะใหญ่ เราขี๊เก๊กจริงเหรอ”
“จริง เก๊กแบบหมั่นใส้ว่ะ”
“ยังไงอ่ะ”
“อธิบายไม่ถูกว่ะ แบบว่าเห็นหน้าก็ไม่ชอบ เข้าใจป่ะ คนไรขี้เก๊ก โชว์พาว”
“เราเป็นคนอย่างงั้นจริงเหรอ”
“ก็เราเห็นอย่างงั้น เราไม่รู้จักแก ก็คิดไปก่อนว่าแกเป็นคนอย่างงั้น”
“แล้วตอนนี้อ่ะ”
“ก็...” – ผมลากเสียงยาวๆ แกล้งมัน
“เอาดีดี ก็ไร”
“ก็พอรู้จริงๆ นายก็เป็นคนดีนะ คงต้องมารู้จักอ่ะ คนนอกไม่มีทางรู้หรอก ทุกคนก็มองนายเหมือนที่เรามองตอนแรกนั่นแหล่ะ”
“เราควรปรับปรุงตัวยังไงมั่งอ่ะ”
“ก็เลิกทำเสียงเก๊กตอนเป็นหัวหน้ากองร้อย เลิกเดินแอ่นอก เลิกพูดเสียงดัง”
“มันก็ต้องเสริมบุคลิกภาพของหัวหน้ากองร้อย”
“เออเรื่องของแก ไหนบอกจะปรับปรุงตัว”
“อ่ะนะ”

ผมก็คุยเล่นกับเดชไปเรื่อยๆคับ ผมต้องรอต่ายตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเที่ยง เดชชวนผมไปเดินห้างแถวๆนั้น แต่ว่าผมขี้เกียจคับ ก็เลยบอกว่าขอนั่งเฉยๆละกัน ระหว่างที่กำลังรอผมก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากมายคับ คุยกันทุกวันบางครั้งก็เบื่อ เดชมันเอาหนังสือเรียนพิเศษมาอ่านคับ ขยันเหมือนกันนะ ส่วนผมก็นั่งดูทีวีที่เขาเปิดให้ดู ซักพักเดชมันก็ง่วง ก็เลยมานั่งฝั่งเดียวกับผมแล้วก็บอกว่า

“เกาหัวให้หน่อยดิ”
“ทำไมอ่ะ”
“ตอนเด็กๆ แม่ชอบเกาหัวให้ตอนนอน ตั้งแต่ย้ายเข้ามากรุงเทพ ก็ไม่มีใครเกาหัวให้เลย”
“เราไปเป็นแม่แกตั้งแต่เมื่อไหร่” - ผมย้อนถาม
“ตั้งแต่วันที่รู้จักกับนายอ่ะ”
“เหรอ เออ นอนไป” – ผมบอกแกมบังคับให้มันนอน ผมจะได้เกาหัวให้มัน
“คับแม่” - เดชย้อนกวนๆ
“ไอ้ห่า....”

เดชนอนฟุบลงไปบนโต๊ะคับ ผมก็ว่าง่าย ทำไมง่ายอย่างงี๊ เพื่อนในห้องผมยังไม่เคยทำอะไรอย่างงี๊เลย มันเป็นใคร ทำไมมันสั่งผมต้องทำตามอย่างไม่มีเหตุผล ผมคิดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ เพราะอะไรเราทำให้มัน ผมชอบมันเหรอ ไม่หรอกน่า ผมทำตามหน้าที่เฉยๆแหล่ะ ไม่มีทางหรอกที่ผมจะชอบมัน ไอ้ไม้เท่านั้นแหล่ะที่จะได้ต่ายไปเป็นแฟน ไอ้เดชน่ะเหรอ ไม่มีทาง ผมไม่ทรยศเพื่อนหรอก แต่...ไอ้เดชก็นิสัยดีนะ ถ้าต่ายได้เป็นแฟนเดชมันก็ดีไม่น้อย ผมว่าเดชมีความเป็นบุรุษมากกว่าไม้ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าไอ้ไม้ แต่...ไอ้ไม้ไม่เคยต้องมาขอร้องให้เพื่อนทำอะไร มันสามารถจีบได้ด้วยตัวเอง ใช้เพื่อนบ้างเป็นบางครั้ง แต่เดชล่ะ ทำไมมันไม่กล้าเหมือนไอ้ไม้  ถ้าเดชมันกล้าจีบต่ายเอง ผมก็คงไม่ต้องมานั่งที่นี่ วันนี้ ตอนนี้ ซึ่งวันนี้ ตอนนี้ผมควรอยู่ที่สยาม ไม่ใช่ที่นี่ ทำไมผมต้องมา เดชมันมามีอำนาจอะไรกับผม ผมตอบตัวเองไม่ได้ จนกระทั่ง....
--------------

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
จิ้ม  อิอิ :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ εїзป่วงน้อยεїз™

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
คุยกันหน่อยคับ
 :m23:
คือ ว่าเรื่องเล่าอันนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง แบบว่าเรื่องมันมีความยาวค่อนข้างมาก มีความสลับซับซ้อน แม้จะมีตัวละครหลักเพียง 4 คน ก็คือใหญ่ เดช ไม้ และต่าย แต่ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างที่จะซับซ้อน (เอ๊ะพูดซ้ำทำไมน่ะ) เหตุผลที่ผมต้องดำเนินเรื่องซะยาวขนาดนั้น เพราะว่าผมไม่อยากจะตัดตอนไหนออกไปเลยคับ ไม่อยากรวบรัดไปแม้แต่เหตุการณ์เดียว ทุกเหตุการณ์ในเรื่องนี้มันสำคัญและมีที่มาทั้งนั้นน่ะคับ ผมเองก็ไม่อยากลืมมันไปด้วย

ในแต่ละตอนที่ผมเอามาลงแต่ละตอนจะค่อนข้างยาว เพราะไม่รู้ว่าผมควรจะตัดตรงไหนยังไง ให้มันมีความต่อเนื่องของเรื่องราว และชวนติดตาม อย่าเพิ่งท้อนะคับ ผมเองยังรู้สึกท้อและก็ขี้เกียจพิมพ์เลยบางที เเต่ก็นึกถึงว่า ไหนๆจะทำอะไรเเล้ว ไม่น่าจะทำค้างๆคาๆ น่าจะทำให้มันเสร็จไปซะทีเดียว ดังนั้นผมจึงตั้งหน้าตั้งตาแต่งไปเรื่อยๆเลยคับ ตามกำลังที่ผมจะมีความสามารถในการพิมพ์

เรื่องราวที่เกิดขึ้นค่อน ข้างจะมีความซับซ้อน(อีกแล้ว พูดบ่อยจัง) เรื่องราวจึงมีความยาวมากๆ ดังนั้นในช่วงแรกๆ จะยังไม่รู้หรอกคับ ว่าใึีครรู้สึกยังไงกับใคร

-ใหญ่จะรู้สึกยังไงกับเดช
-แล้วเดชคิดอะไรอยู่ ชอบต่ายจริงๆเหรอ
-แล้วไอ้ไม้ล่ะ ไม้คิดอะไรกับใหญ่หรือเปล่า
-แล้วใหญ่คิดกับไม้ยังไง

ถ้า เปรียบกับเรื่องจริงก็เป็นเหมือนกำลังดูเชิงกันอยู่น่ะคับ ว่าใครจะมาชอบใคร แต่ที่แน่ๆ 10 ตอนแรกผ่านไป ไม้กับเดชต้องมาแข่งกันว่าใครจะจีบต่ายสำเร็จ อยากให้คนอ่านลองอ่านกันดูน่ะคับว่าจริงๆแล้วใครจะชอบใคร โดยใช้ข้อมูลจาก 10 ตอนแรกมาช่วยพิจารณา

ทนอ่านกันซักหน่อยนะคับ อย่าเพิ่ง:seng2ped:ไปซะก่อน ใครอาจจะลองเดาดูเล่นๆก็ได้นะคับ

ช่วงนี้ผมยังว่าง ก็เลยจะนั่งพิมพ์ไปเรื่อยๆละกัน มีอะไรติชมก็เม้นกันได้นะคับ
ขอบคุณคับ

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
 :o  ไม้จะชอบใหญ่หรอ แล้วเดชล่ะ คุยกันทุกวันนี่นา หรือว่าเดชจะชอบต่ายจริงๆ   :เฮ้อ:

ไม่เดาละรออ่านต่อไปดีกว่า  ... 555+   

+1 ให้ จขกท. น้า เป็นกำลังใจให้    :bye2:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
10ตอนผ่านไปแล้วคับ ยังจับทิศทางของเรื่องไม่ถูกกันเลย มาต่อตอนที่ 11 ละกันคับ เผื่อจะจับอะไรได้มั่ง  :a5:

ตอนที่ 11
 :o12:
“โอ๊ย!!! เจ็บๆ” - เดชร้องขึ้นมา
“เหรอ เฮ้ย ขอโทษ” - ผมขอโทษเดช
“เกาไรของแกวะ โคตรแรงเลย”
“โทษว่ะ คิดไรเพลินๆ”
“คิดไรอยู่วะ” - เดชถาม
“เรื่อยเปื่อย”
“บอกเราได้ป่ะ”
“ก็งานวันสถาปนาโรงเรียนอ่ะ เสาร์หน้า มีแขกผู้ใหญ่มาเยอะเลย เราคงจะวุ่นวายอีกแล้ว”
“เฮ้ย โทดว่ะใหญ่ เราช่วยนายงานนี้ไม่ได้นะ”
“ไม่เป็นไร”
“ก็เราสัญญาว่าถ้ามีอะไรช่วยได้ก็จะช่วย”
“ไม่เป็นไรหรอก เข้าใจ” – ผมพูดให้เดชมันสบายใจ
“ก็วันนั้นเราก็ต้องไปช่วยงานโรงเรียนเหมือนกัน”
“งานอะไรวะ”
“เป็นโชว์ยิงปืนในสนามรบ”
“เขามาเลือกแกเหรอ” - ผมถาม
“ก็เขาเห็นเราเป็นหัวหน้ากองร้อย ก็เลยเลือกเรา แล้วก็ให้เราหาเพื่อนอีก 5 คน ตอนแรกว่าจะชวนนาย แต่เขาบอกว่ากรรมการนักเรียนต้องช่วยงาน ก็เลยไม่ได้ชวน”
“เออดีแล้ว เราไม่ถนัดแนวแบบนั้น ทำงานกับพิธีการดีกว่า”
“โห ไอ้พวกเอาหน้า” - เดชกัดผม
“เออ เรามันเป็นคนเอาหน้า” - ผมกัดมันมั่ง
“แล้วไม่นอนแล้วเหรอ” – ผมถามเดช ตื่นมาก็กัดกันเลย
“ก็นายเกาหัวเราซะแรง ใครก็ต้องตื่นล่ะวะ กะว่าเกาเพลิน แมร่ง เกายังกับเกาแผล”
“เออ แล้วต้องเกาไงวะ” – ผมถาม ผมไม่เคยเกาหัว
“อย่างงี๊ไง”  - เดชเอามือผมไป แล้วก็เกาหลังมือผม ผมไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกคับ
“ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย” – ผมบอก
“งั้นก้มหัวลงไป” – เดชสั่งให้ผมก้มหัว ผมก็ก้มอย่างว่าง่าย แล้วมันก็เกาหัวผม จริงๆคับ ทำเอาผมเคลิ้มเลย
“เก่งว่ะ ทำเอาเคลิ้มเลย” - ผมบอก
“แม่ทำตั้งแต่เด็กน่ะ บอกว่าเกาหัวบ่อยๆแล้วหัวจะดี”
“เกี่ยวกันด้วยเหรอ” - ผมถาม
“ไม่น่าเกี่ยวมั้ง”
 “อ่ะนะ” – เราทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน

คุยกันไปเล่นกันไป เวลามันก็ช่างผ่านไปรวดเร็วคับ เที่ยงแล้ว ต่ายก็เลิกเรียนพอดี เพื่อนที่ห้องผมเรียนที่นี่กันเยอะคับ ดังนั้นผมจึงเห็นไอ้ไม้และเพื่อนๆผมเดินลงมากับต่ายด้วย เป็นไปตามคาดคับ ทุกคนต่างสงสัยว่าผมมาที่นี่ทำไม ผมบอกว่าพอดีมาซื้อของก็เลยแวะมา แล้วเพื่อนห้องเดชคนนึงก็เดินมาด้วย ดังนั้นผมจึงแยกกับเดชตั้งแต่ตรงนั้นคับ ตามแผนที่ได้ตกลงกันไว้ ต่ายและเพื่อนๆก็ไปกินข้าว เดชก็ไปกินข้าวกับเพื่อน ไม่ได้กินร้านเดียวกันหรอกนะคับ

ก่อนที่ต่ายจะเลิกเรียน เดชตกลงกับผมคับ บอกว่าถ้าเพื่อนห้องผมเดินลงมากับต่าย ให้ผมไปกับเพื่อนห้องผม แล้วไปเจอกับเดชที่หน้าสยามตอนบ่าย 3 โมง ทำไงก็ได้ให้ต่ายเดินออกมาที่ป้ายรถเมล์ตรงโรงหนังสยาม แล้วเดชจะไปกับเพื่อนเดช ทำทีว่าไม่ได้นัดกันมา เหมือนบังเอิญเจอกัน ผมตกลงคับ เพราะว่าผมคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่ผมควรจะมาที่นี่ เพราะเพื่อนๆจะรู้นิสัยของผมว่า ถ้าไม่มีธุระผมไม่มาให้มันเสียเวลาหรอก

ผมไปกินข้าวกับเพื่อนๆห้องผมคับ ไอ้ไม้ก็ไม่ลืมที่จะจงใจนั่งข้างต่าย คนอื่นๆก็เห็นคับ เป็นภาพชินตา ดังนั้นเพื่อกันเขินและกันหมา จึงเอาผมเข้าไปนั่งอีกข้าง เท่ากับว่าตอนนี้ต่ายก็นั่งอยู่ท่ามกลางชายหนุ่ม 2 คน คือไอ้ไม้กับผมคับ ระหว่างกินข้าวไอ้ไม้บอกว่าจะไปเฝ้าต่ายเรียนด้วยคับ ต่ายก็บอกว่าเกรงใจไม้ ไม่ต้องไปก็ได้ ไม้รับปากต่ายคับว่าจะไม่ไป เพราะต่ายท่าทางจะไม่อยากให้ไปจริงๆ แต่ไม้มันก็กำชับผมว่าดูแลต่ายดีดี แล้วเด๋วจะโทรหาผมหลังจากเรียนเสร็จ ผมตบปากรับคำจากมัน แล้วไอ้ไม้กับเพื่อนๆก็แยกย้ายกันไป เหลือผมกับต่าย 2 คนที่จะต้องเดินทางไปสยาม

“ใหญ่ ดูเด๋วนี้แกสนิทกับเดชจังนะ” - ต่ายเปิดประเด็น
“ก็เพื่อนกัน แล้วก็อีกอย่าง ก็เพราะว่าแกแหล่ะเราถึงมารู้จักมัน”
“แล้วมันยังโทรหาแกป่ะ”
“แกเปลี่ยนคำถามเหอะ ว่าวันไหนเดชไม่โทรมามั่งดีกว่า”
“มันโทรหาแกทุกวันเลยเหรอ”
“เออ บางวันก็ 2 รอบ ถ้าเรานอนดึก”
“คุยไรกันอ่ะ”
“เรื่องของแกแหล่ะต่าย บอกว่าถ้าเป็นแฟนต่ายจะอย่างงั้นอย่างงี๊ แล้วก็ถามว่าต่ายชอบอะไร บ้านต่ายดุไม๊ อะไรประมาณนั้น”
“เรื่องอื่นล่ะ”
“ก็เป็นเรื่องของตัวมัน เพื่อนมัน ที่บ้านของมัน บางวันมันร้องเพลงให้เราฟังด้วย”
“ร้องยังไง”
“ก็ร้องไปเกลากีต้าร์ไป เพลงประมาณลุกทุ่ง โลโซ ประมาณนั้น”
“แล้วแกก็ว่างฟังมันอ่ะนะ การบ้านก็มี”
“คือไม่ฟังมันก็โกรธเราอีกอ่ะ ขนาดวันนั้นไม่ไปเรียน ร.ด. กับมันยังโกรธแทบเป็นแทบตาย”
“ยังไง”
ผมเล่าวันที่เกิดขึ้นที่โรงอาหารให้ต่ายฟัง ที่ว่าผมจะไม่ช่วยมันจีบต่าย
“แล้วแกก็เลยต้องยอมมันเหรอ” - ต่ายถาม
“ก็ไม่ได้ยอมซะทีเดียวหรอก ประมาณว่าไงดีล่ะ แบบว่า...”
“แกชอบมันเหรอใหญ่” – ต่ายถาม จ้องหน้าเราอีกต่างหาก
“แกจะบ้าเหรอ คนพันธุ์นั้น”
“ดีแล้วแก เราว่าเดชอ่ะเห็นแก่ตัว”
“ยังไงวะ”
“ก็ที่มันคุยกับแกอ่ะ ถามแต่เรื่องของเรา แล้วก็คุยเรื่องตัวเอง ผู้ชายอย่างงี๊เราไม่เอามาเป็นแฟนหรอก”
“แต่มันก็ดูจริงใจดีนะ ถ้าแกเป็นแฟนมัน...ก็คง...”
“ไม่มีทางแน่นอน เดชมันเห็นแก่ตัว”
“ยังไงที่ว่าเห็นแก่ตัววะ ไม่เคลียร์เลย” - ผมถาม
“ก็ดูดิ มันไม่ถามแกซักคำเลยนะว่าแกเป็นไง ลำบากใจไหมที่ต้องคุย มันไม่เห็นถามถึงตัวแกเลย เดชถามแต่เรื่องของเรา แล้วก็แกก็ไม่รู้จักปฏิเสธเลยนะ”
“เคยแล้ว แต่มันไม่ฟัง”
“แกบอกไปว่าไง”
“ทำการบ้าน แต่มันไม่เชื่อ วันนั้นเราทำการบ้านจริงๆ เราก็เลยต้องมาลอกแกไงล่ะวันนั้น”
“อย่างงี๊เดือดร้อนนะ การบ้านไม่เสร็จ เอางี๊วันหลังแกให้ที่บ้านรับสาย บอกว่าไม่อยู่”
“ไม่มีทางหรอก เดชมันฉลาด มันให้เบอร์โทรกลับ แล้วก็โทรมาเช็คเป็นระยะ เคยลองแล้ว”
“แสดงว่ามันก็มีความพยายามมากๆ”
“อ่ะนะ”
“แล้วทำไมวันนี้ถึงมานั่งกับเดช”
“ก็อย่างที่บอกไงล่ะ ว่ามาซื้อของที่เสาวรีย์ บังเอิญเจอกัน มันก็เลยชวนเข้ามารอเพื่อนมัน” - ผมโกหกดิคับ
“อืม จริงเหรอ”
“จริงๆ” – ผมยืนยัน

ระหว่างทางไปสยามด้วยรถไฟฟ้า มันช่างรวดเร็วนัก ไม่ถึงบ่าย 2 โมงเราถึงสยามกันแล้ว ผมกับต่ายก็ไม่รู้จะไปที่ไหนกัน ก็เลยไปนั่งที่เรียนพิเศษกันเลย เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง ต่ายไม่ปล่อยเวลาให้มันเสียเปล่า เอาหนังสือที่กำลังจะเรียนมานั่งอ่านรอเวลา เอาการบ้านที่ไม่เข้าใจมาถามผม จริงๆแล้วผมน่ะขี้เกียจคับ ขี้เกียจอ่านหนังสือ แต่เวลาสอบคะแนนก็มักจะออกมาดี แม้จะเทียบกับระดับเทพของห้องไม่ได้ก็ตามทีเหอะ ดังนั้นผมที่ว่าจะนอนซักงีบก็เลยไม่ได้นอนแล้วคับ

เวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย 3 โมงแล้ว ถึงเวลาที่เดชนัดแนะไว้กับผมให้พาต่ายออกไปเจอ ที่ป้ายรถเมล์ที่โรงหนังสยาม แต่ผมไม่ทำตามคำสั่งมันหรอกคับ มันมาเป็นนายของผมเหรอ แต่ถ้าผมไม่ทำตามอะไรจะเกิดขึ้น แล้วมันจะกล้าทำไรผม ผมตัวสูงกว่ามันประมาณ 10 เซนได้ ไม่งั้นจะชื่อใหญ่ได้เหรอ ผมจึงไม่พูดอะไรกับต่ายและก็ไม่พาต่ายออกไปไหนด้วย  ปล่อยให้เวลาเข้าเรียนมาถึง ผมกับต่ายจึงขึ้นไปเรียนกัน

เมื่อเวลาเลิกเรียนมาถึง ตอนนั้นก็ประมาณ 6 โมงเย็น เด็กจะเยอะมาก เยอะจนตาลาย ผมก็เลยบอกต่ายว่ารอคนให้ไปกันก่อนแล้วค่อยเดินออกไป แต่เมื่อผมเดินออกไป ผมเห็นคนอยู่ 2 คน คนแรกคือไอ้ไม้ คนที่สองคือเดชคับ อยู่กันคนละฝั่งของที่เรียนพิเศษ ต่ายก็ต้องเลือกแหล่ะคับว่าต่ายจะไปกับใคร มันแน่นอนอยู่แล้วคับว่าต่ายจะต้องเลือกไปกับ.... ไปกับไม้ดิคับ เหตุผลที่ไปกับไม้ ผมคิดว่าไม้เป็นเพื่อนในห้องดียวกัน แล้วอีกอย่างผมก็เดินลงมาด้วยกัน ถ้าผมจะไปกับเดชมันก็คงจะแปลก ไม้เองเคยเห็นเดชก็ตอนที่เรียน ร.ด. แหล่ะคับ แต่ก็ไม่เคยที่จะได้คุยกัน แต่ไม้รู้คับว่าเดชก็มาเป็นคู่แข่ง ดังนั้นพวกเราสามคนจึงเดินไปด้วยกัน แต่ผมน่ะก็รู้ตัวว่าผมเองก็ไม่ควรที่จะยืนตรงนั้น แม้ต่ายกับไม้ก็เป็นเพื่อนกันก็จริง แต่เขากำลังจีบกันน่ะ ผมก็ควรที่จะเดินออกไปอย่างห่างๆ จะดีกว่า แต่ก็ไม่ทิ้งระยะห่างมากนัก ผมทำเป็นซื้อไอติมที่ป้ายรถเมล์ เพื่อให้ต่ายกับไม้ได้อยู่ด้วยกัน แต่ต่ายก็หยุดรอผมคับ เฮ้อ อุตส่าห์จะให้อยู่ด้วยกันแล้วเชียว ไอ้ไม้...ทำแต้มเดชะ (ผมคิดในใจ)

“รสไหนอร่อยวะใหญ่” – เสียงมาจากข้างหลังของผมคับ คุ้นหูแน่นอน
“อ้าว นึกว่าไปแล้ว”
“แกอยากให้เราไปใช่ป่ะล่ะ” - เดชตัดพ้อใส่ผม
“ก็มาถึงก็สามโมงจะครึ่งแล้ว ก็เลย...เอ่อ ไม่ได้ไป” – ผมโกหกคับ โกหกเก่งจัง
“แล้วไอ้ไม้มาได้ไง”
“ไม่รู้ มันบอกว่าจะไปเล่นเกมตั้งแต่บ่าย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมาอยู่ที่นี่”
“.........อ่ะ ซื้อให้ ค่าปรับที่เรามาสายไป 6 นาที เมื่อเช้าไง” – ผมยืนไอติมให้เดช “เอาน่า วันพระไม่ได้มีหนเดียว วันหน้าอาจจะเป็นแกน่ะเดช” - ผมปลอบมัน
“อย่าให้รู้ทีหลังนะว่าแกหักหลังเราอ่ะ เราไม่ชอบ และไม่เคยมีใครมาหักหลัง”
“บังเอิญจริงๆวะ วันนี้คงจะยังไม่ใช่วันของแก”

ไม้กับต่ายมองเห็นเหตุการณ์ตลอดเลยคับ แต่ก็นับว่าโชคดีที่ว่ารถเมล์กลับบ้านมาก่อน ผมก็เลยขอตัวกลับจากเดชไปขึ้นรถกับต่าย ไอ้ไม้ไม่ได้พูดอะไรกับผมแล้วก็ต่ายเลยคับ สีหน้าผมตอนนั้นตกใจมาก ไม่คิดว่าหลังจากที่แยกกันจากหน้าที่เรียนพิเศษแล้วก็ยังตามมาอีก เหมือนโรคจิตกลายๆ ต่ายทักผมว่าเป็นไรหรือเปล่า ผมบอกไม่เป็นไร ก่อนผมจะลง ไอ้ไม้กระซิบข้างหูผมแล้วบอกว่า...
“สามทุ่มจะโทรหานะ”
-------------------

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
รออ่านตอนต่อไปครับผม

 :o :o :o :o

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด