ตึกใหญ่ของตระกูลโรจนโภคินในวันนี้เปิดห้องอาหารต้อนรับแขกของคุณหนูคนสำคัญ ไอ้เหมอเพิ่งเคยได้ลองก้าวเท้ามาตึกใหญ่เป็นครั้งแรก มันจึงตื่นตะลึงกับความอลังการงานสร้างของตึกที่มีคุณพ่อรูปหล่อของชนะเป็นเจ้าของ แต่ดีที่วันนี้ทราบข่าวว่าคุณพ่อท่านไปที่เชียงรายกับขุ่นแม่เพี้ยน ไอ้เหมอมันจึงโล่งใจที่ไม่ต้องอึดอัดตอนที่ต้องร่วมโต๊ะอาหารด้วย
โต๊ะอาหารในห้องอาหารหรูหรานั้นยาวพอสำหรับคนยี่สิบคน แต่ตอนนี้มีเพียงไอ้เหมอและลูกชายเจ้าของบ้านอีกสองคนเท่านั้นที่มาใช้บริการ สามคนนั่งรวมกันอยู่ฟากหนึ่งของโต๊ะตัวยาว บนโต๊ะมีอาหารทั้งไทยและเทศให้ไอ้เหมอที่ทั้งสัปดาห์ได้กินแต่อาหารของแม่ครัวที่โรงเลี้ยงของโรงเรียนถึงกับน้ำลายสอ ความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้รับจากคนรูปหล่อก็ยังไม่สามารถทำให้มันอิ่มทิพย์กับแค่มองอาหารหน้ากินพวกนี้ได้
“กินเยอะๆ นะเหมอ ดูผอมลงไปเยอะเลย” ชยตักกับข้าวให้อย่างเอาใจ ไม่ลืมที่จะตักให้พี่ชายของตัวเองด้วย
“เหมอผอมจริงเหรอ” ไอ้เหมอถามแล้วยิ้มกว้าง “เห็นไหมนะ ยะยังบอกว่าเหมอผอมเลย มีแต่นะที่บอกว่าเหมออ้วน”
“ก็เหมอตัวหนัก” ชนะเถียง ตักข้าวป้อนให้ไอ้หัวเกรียนมันเลิกพูด “กินข้าว มัวแต่ยิ้ม จะอิ่มหรือ”
“มองหน้านะก็อิ่มแล้ว ฮี่ๆ” ไอ้เหมอมันก็หวานไม่ได้เกรงใจน้องชายของแฟนที่หน้าแดงแกล้งกระแอมไอให้ได้รู้ว่ายังคงมีตัวตนอยู่ด้วย
“เว่อตลอด” ชนะส่ายหน้า ก่อนจะตักขาหมูเยอรมันให้ชยบ้าง แต่ปากก็บอกน้องชายว่า “ระวังอ้วน แก้มตัวจะแตกอยู่แล้ว”
“นะอ่ะ!” น้องชายมองค้อน ส่วนไอ้เหมอหัวเราะก๊าก เพราะเห็นแก้มของชยใกล้แตกอย่างที่ชนะว่าจริงๆ “เหมออย่าหัวเราะสิ ทำไมมาแกล้งกันอย่างนี้ ทั้งสองคนเลย”
“ขอโทษๆ เหมอตักนี่ให้นะ กินเยอะๆ เสริมพุง”
“เสมออออ”
ชนะหัวเราะพลางกับส่ายหน้ามองน้องชายกับไอ้หัวเกรียนด้วยความเอ็นดู
มื้ออาหารจบลงด้วยเสียงหัวเราะ ชยยิ้มแย้ม ไอ้เหมอมันก็อิ่มท้อง ส่วนคนรูปหล่อที่เจริญอาหารมากกว่าทุกวันก็มีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าเช่นกัน
“ไม่เคยเห็นนะกินข้าวเยอะขนาดนี้เลย ถ้าอยู่กับเหมอทุกวันคงลงพุงแหงๆ” ชยบอกแล้วมองพี่ชายที่หน้าตามีความสุขเสียจนน่าหมั่นไส้
“ก็กินอย่างนี้ทุกวัน” ชนะไม่ยอมรับ แต่อ้าปากให้ไอ้เหมอได้ประเคนผลไม้เข้าปาก
“แสดงว่าทุกวันก็มีคนป้อนอย่างนี้เหรอ” ไอ้เหมอแกล้งถาม คิ้วมันก็ขมวดมอง
“เรื่องนี้ยะไม่เกี่ยวนะ” ชยออกตัว มองพี่ชายตัวเองที่หน้าเหวอไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยิ้มกริ่มมองแฟนตัวเองที่หลบสายตาเพราะรอยยิ้มที่ชยเห็นก็ยังต้องยอมรับว่าหวานมากจริงๆ
“อย่ารวนสิครับ...ผมมีเหมอป้อนให้คนเดียว” ชยเบะปากกับความเลี่ยน แต่เสมอคงชินเสียแล้ว เพราะเห็นพยักหน้าแล้วหัวเราะเกลื่อนความเขิน
“ยะก็อยู่ นะพูดอะไรก็ไม่รู้”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก...หวานกันได้เต็มที่เลย”
ไอ้เหมอมันแสร้งทำจริตไปอย่างนั้น ที่จริงมันไม่เคยเกรงใจใครหรอก มันนึกจะหวานก็หวาน นึกจะทำให้ใครเป็นส่วนเกินมันก็ทำ ไอ้กวิ้นโดนบ่อย ไอ้สามเสือเพื่อนซี้มันก็โดนมาแล้ว นับประสาอะไรกับน้องชายแฟน ขนาดพี่สมัยของมันก็ยังเหมือนเป็นแค่หัวหลักหัวตอเสียด้วยซ้ำ
ชยอยู่คุยด้วยอีกไม่นานก็ขอตัวไปอ่านหนังสือ ส่วนไอ้เหมอกับชนะก็กลับตึกฝั่งตะวันออกที่ชนะเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
“ชนะ” ไอ้เหมอมองคนที่เดินจับมือกันมาจนถึงสวนดอกไม้ที่สว่างไปด้วยไฟสนามสีสวย “ดอกกุหลาบของเหมอล่ะ”
“ก็อยู่ที่เดิม เหมอไม่เอาไปสักที ลุงแสงใส่กระถางไว้ให้แล้ว” ชนะบอกแล้วชี้ไปยังโต๊ะทรงกลมที่ศาลาซึ่งมีกระถางดอกกุหลาบวางอยู่
“งั้นเหมอเอากลับไปด้วยเลยนะ”
“อืม”
ชนะพาไอ้เหมอเดินไปยังสะพานกลางน้ำ ลมเย็นๆ พัดผ่านจนไอ้เหมอห่อตัว คนรูปหล่อเห็นดังนั้นจึงชักนำมันเข้ามาในอ้อมแขน รอบบริเวณที่มืดสลัวนั้นดูเงียบสงบและวังเวงไม่ใช่น้อย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้ากลับพบความงามของธรรมชาติที่ไม่อาจละสายตา ครั้งหนึ่งไอ้เหมอเคยมายืนดูดาวกับชนะที่นี่ มันเห็นผีพุ่งใต้มากมายจนยกมืออธิษฐานไม่หวาดไม่ไหว ครั้งนี้ก็ภาวนาให้ได้เห็นอีก เพราะไอ้เหมอมีคำอธิษฐานที่จะขอกับผีพุ่งใต้
“เวลามายืนตรงนี้นะไม่กลัวเหรอ ทำไมไม่ให้คนมาติดไฟไว้บ้าง” ไอ้เหมอเอ่ยถาม มองคนรูปหล่อที่สุดแสนอินดี้เข้าใจยากของตัวเองด้วยแววตารักใคร่ “เกิดตกน้ำตกท่าไป ไม่มีใครเห็นอีก”
“ผมอยากเห็นดาวชัดๆ ถ้าสว่างเกินไป...คงไม่เห็นแสงดาวหรอก”
“นะจ๋าโรแมนติกเหมือนกันเนอะ”
“ไม่รู้ว่าโรแมนติกไหม ผมแค่ชอบอะไรแบบนี้” ชนะไม่รู้หรอกว่าคำจำกัดความสำหรับนิสัยของตัวเองเป็นยังไง และไม่สนใจว่าใครจะมองเขาเป็นแบบไหนด้วย ชนะแค่ชอบทำตามความต้องการของตัวเองก็เท่านั้น
“แล้วชอบเหมอรึเปล่า” ไอ้เหมอมันก็หยอดถาม เพราะมันชอบฟังให้หัวใจได้อิ่มเอม
“ไม่ชอบ” ชนะตอบ ก้มลงหอมแก้มไอ้หัวเกรียนในอ้อมแขน “รักเหมอต่างหาก”
“ได้ยินแล้วรู้สึกโรแมนติกจัง มีดาว มีน้ำเป็นพยานด้วย”
ไอ้เหมอพูดราวกับมันเป็นนางเอกลิเก แต่พ่อพระเอกของมันก็แสนจะโรแมนติกจริงๆ
“อยากให้ดาว...ให้น้ำ เป็นพยานรักมากกว่านี้ไหม”
“ยังไงอ่า”
ชนะไม่ตอบ แต่ไซ้ริมฝีปากไปตามซอกคอของไอ้เหมอ มันขนลุกเกรียว แต่ก็ยกสองแขนโอบรอบคอชนะไว้ บ่งบอกว่ามันสมยอมจะให้ดาวกับน้ำเป็นพยาน...รักของมัน
ไอ้เหมอถูกยกตัวขึ้นให้นั่งบนราวสะพาน กางเกงของมันถูกรั้งลงจนถึงข้อเท้า ความเย็นสัมผัสกับผิวเนื้อทำให้รู้สึกเสียววาบ ชนะอมยิ้มมองสบตาไอ้เหมอผ่านความมืดสลัว ไอ้หัวเกรียนมันก็โอบรั้งอีกฝ่ายไว้เพราะกลัวจะหงายหลังตกจากสะพานลงไปว่ายน้ำเล่น
“เสมอ...คนดีของผม” ชนะกระซิบเสียงพร่า รูดรั้งกายแกร่งให้พร้อมสำรวจช่องทางลับของคนรัก ไอ้เหมอครางฮือเมื่อถูกลิ้นร้อนรุกล้ำที่ยอดอก สาบเสื้อถูกแหวกออกกว้างให้คนรูปหล่อได้ปรนเปรอ ช่องทางลับที่ตอนนี้กระตุกถี่ก็ขมิบตอดรับนิ้วของอีกฝ่าย ก่อนจะกลืนกินเจ้ามังกรที่พร้อมสำรวจเข้าไปจนหมด
“เข้าไปแล้ว...” เสียงของชนะสั่นพร่าด้วยความสุขสมที่เจ้ามังกรของเขาถูกต้อนรับจากโพรงภายในของคนรักเป็นอย่างดี “เป็นของผมจริงๆ สินะครับ...เข้าได้สบายเลย”
“พูดอะไรน่าอาย” ไอ้เหมอทุบอกท้วง ก่อนร่างกายจะโอนเอนเมื่อคนรูปหล่อเริ่มขยับโยก “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้”
“เหมอยั่วผมไม่ใช่เหรอ” ชนะยิ้มแล้วแกล้งกระทุ้งให้คนหัวเกรียนสูดปากเสียงดัง “อย่าเสียงดังสิครับ ถ้ามีใครมาเห็นคงไม่ดี”
ไอ้เหมอได้แต่เม้มปากกลั้นเสียงคราง แม้ตัวมันจะโยกคลอนแค่ไหน แม้เสียงเนื้อกระทบเนื้อจะเร่งเร้าอารมณ์เพียงใด ไอ้เหมอก็ไม่มีหลุดเสียงครางเลยสักนิด ทั้งๆ ที่อยากร้องครางเรียกชื่อคนรักใจแทบขาด ชนะราวกับชอบทรมานไอ้เหมอเล่น ตั้งแต่ที่ทะเลในครั้งนั้น...การร่วมรักกับชนะก็เต็มไปด้วยความรุนแรง คนรูปหล่อที่ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด กอดรัดร่างไอ้เหมอ ชิมอย่างตะกละตะกลาม ราวกับโหยหากันและกันมาช้านาน ชนะไม่เบาแรง กระแทกกระทั้นจนไอ้เหมอกระสันไปทั้งร่าง เจ็บแต่ถึงใจ...ขึ้นสวรรค์ไปถึงไหนต่อไหน ไอ้เหมอสุขสมเห็นดาวไปหลายครั้ง แต่พ่อรูปหล่อสุดที่รักยังถึงฝั่งแค่ครั้งเดียว ความอึดความอดทนของชนะอีกเหมือนกันที่ทำให้ไอ้เหมอถูกสูบเอาพลังชีวิตไปจนเกือบหมด
“อยากได้มากกว่านี้ไหมครับคนเก่ง” ชนะถามทั้งๆ ที่รู้ว่าคำตอบของไอ้เหมอคือการพยักหน้า เอวสอบขยับรัว กระทุ้งจุดกระสันไอ้เหมอถี่ยิบ จนไอ้หัวเกรียนกลั้นเสียงครางไม่ไหว ต้องโผเข้าหาริมฝีปากของคนรูปหล่อมาช่วยปิดกั้น
ยิ่งคบกันไอ้เหมอก็ยิ่งรู้ว่าชนะเป็นผู้ชายที่ร้อนแรง เขาทำให้ไอ้เหมอเสพติดจนในบางคืนมันนึกโหยหาสัมผัสของอีกฝ่าย อยากโดนสัมผัส...อยากโดนอีกฝ่ายครอบครอง อยากโดนเสียงทุ้มที่มักจะสั่นพร่ากระซิบถามในเรื่องน่าอาย ชนะเป็นแบบนั้นเสมอ ชอบให้บอกว่าต้องการ ชอบให้ไอ้เหมอพูดด้วยความกระสันอยากให้ครอบครอง จนบางทีเมื่อเสร็จกิจ ไอ้เหมอจึงมักจะมองหน้าอีกฝ่ายไม่ติดอยู่ร่ำไป คงเพราะหลังจากที่หายจากความมึนเมาในรสกามแล้ว...ความกระดากอายก็เข้ามาแทนที่
“นะ..อ้ะ อา...อา..อา...” ไอ้เหมอครางเสียงหอบ ริมฝีปากหลุดออกจากคนรูปหล่อ มันเชิดหน้าหอบหายใจเมื่อเสร็จสม ในขณะที่คนรักของมันกระตุกเอวตามมาติดๆ มือของชนะฟาดลงที่สะโพกจนไอ้เหมอกระตุกเผลอตอดรัดเจ้ามังกรที่กำลังพ่นน้ำอยู่ภายใน ชนะมีสีหน้าพึงพอใจ ฟาดมือลงอีกครั้งไอ้เหมอก็ตอดรัดแรงขึ้น จนเมื่อรู้สึกว่าเจ้ามังกรมันหยุดกระตุกแล้ว ไอ้เหมอจึงหยุดรัดแล้วปล่อยให้เจ้ามังกรได้เป็นอิสระ
“นะ... อือออ อืมมม” ไอ้เหมอตาเยิ้ม ร้องเรียกได้แค่ไม่กี่คำก็ถูกดูดงับริมฝีปาก
“อิ่มแล้ว” ชนะกระซิบบอก “อยากกลับบ้านหรือยังครับคนดี”
“ตัวเสร็จก็จะไล่เขากลับเลยใช่ไหม” ไอ้เหมอมองค้อน ก่อนจะสูดปากเมื่อนิ้วของชนะเข้ามาหมุนคว้านอยู่ภายใน “นะ...ไว้เหมอทำเอง”
“เหมอทำเอง...ไม่สะอาดเท่าผมทำให้หรอก” ชนะจูบที่แก้มไอ้เหมออย่างเอาใจ “ขอบคุณนะครับที่ให้ปล่อยใน...ทั้งที่มันเสี่ยง”
“รู้แล้วทำไมไม่ใช้ถุงยาง ที่ทะเลก็ไม่ใช้”
“ผมไม่ได้ซื้อไว้...ดูไม่มีความรับผิดชอบเลยใช่ไหม ขอโทษนะเหมอ ผมจะทำให้ดีกว่านี้” ชนะหนุ่มไร่อ้อยบอกเสียงออดอ้อน ทั้งที่ในใจจริงนั้น...ตั้งใจจะไม่ใช้เสียมากกว่า ถึงไม่ได้ซื้อเตรียมไว้ ไม่เกี่ยวกับว่าไว้ใจ ไม่เกี่ยวกับว่าคนนี้เป็นแฟนที่รักจริงถึงไม่อยากใช้ แต่เพราะรสนิยมทางเพศของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชนะมีแฟนมาหลายคน และแต่ละคนก็ไม่ได้คบกันเหมือนเด็กมัธยมวัยป๊อบปี้เลิฟ ชนะสวมเครื่องป้องกันทุกครั้ง ทั้งป้องกันโรคและป้องกันการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม แต่กับเสมอ ชนะแค่อยากลอง...เป็นแค่ความเห็นแก่ตัวของผู้ชายที่อยากลองให้อีกฝ่ายตอดรัดโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น ครั้งแรกติดใจจนลองแล้วลองอีก ครั้งนี้...ไม่ลอง ชนะลองจนรู้แล้วว่ามันสุขเกินจะทน จึงตั้งใจที่จะให้อีกฝ่ายครอบครองโดยไร้เครื่องป้องกัน
“อืม...ไม่เป็นไรหรอก ไว้เราไปตรวจโรคด้วยกัน เพื่อความปลอดภัยสบายใจหายห่วง เนอะ” เสมอคนซื่อมันตามไม่ทัน เชื่อคำพูดหวานหูของคนรักอย่างหมดใจ แค่เห็นอีกฝ่ายสำนึกผิด มันก็ไม่ถือสาเอาความ แม้ในใจจะกังวัลกับความสะอาดความปลอดภัยอยู่บ้างก็ตาม
“โอเคครับ” ชนะกดจูบที่ขมับของไอ้เหมอ ก่อนจะช่วยคนรักแต่งตัวให้เรียบร้อย “เดินไหวไหม”
ไอ้เหมอพยักหน้า แม้ขาจะยังสั่น รู้สึกอ่อนแรง และเจ็บที่ต้องกางขาออกกว้างเป็นเวลานานเพื่อให้คนรักได้แทรกตัวเข้ามาโดยง่าย
ยิ่งขยับเดินก็ยิ่งรู้สึกว่ามีน้ำไหลทะลักออกมา ไอ้เหมอยิ้มแหย รู้สึกว่ากางเกงในเปียกชุ่มไปหมด ให้ขึ้นนั่งบนรถคันหรูของชนะก็คงไปทำให้เบาะหนังราคาแพงเลอะเทอะ ไอ้เหมอจึงกระซิบบอกขออนุญาตเข้าห้องน้ำราวกับนักเรียนประถมขอคุณครู คนรูปหล่อยิ้มขำกับท่าทางของมันแล้วใจดีพาไปที่ห้องน้ำบนชั้นสองในห้องนอนของตัวเอง
“ให้ผมเข้าไปช่วยไหม”
“มะ...ไม่ต้อง เหมอทำเองได้ มันไม่น่ามองเท่าไหร่หรอก”
“แต่ตอนทำที่ทะเล...ผมก็ทำให้”
“ตอนนั้นเหมอไม่มีแรง ตอนนี้แรงเหลือเฟือ ให้เหมอทำเองนะ”
“ดื้อจริง” ชนะยอมความให้ ไอ้เหมอจึงได้เข้าไปทำความสะอาดตัวเองในห้องน้ำเพียงลำพังสมใจ
“นะจ๋า” ไอ้เหมอขยับเข้าชิดประตูที่มันล็อคไว้แน่นหนา ร้องเรียกคนรักที่อยู่อีกฝั่ง ชนะขยับเข้าใกล้บานประตู มือจับที่ลูกบิด
“มีอะไรครับ”
“นะ..อาาา เหมอเสียวจังเลย น้ำของนะ...เต็มไปหมด อาาาา” ไอ้เหมอแกล้งร้องเสียงหวาน จนชนะขบกรามแน่น
“เหมอ...เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้”
แต่ไอ้เหมอมันยังคงแกล้ง ปากพร่ำพูดของมันไปทั้งๆ ที่ตอนนี้มันทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วและกำลังจัดการซักกางเกงในของตัวเอง
“เสมอ...ได้โปรด อย่าทรมานผมเลย”
ไอ้เหมอได้ยินมันก็ได้แต่หัวเราะคิกคัก รู้อยู่แล้วว่าชนะชอบให้ร้องเรียก ยิ่งครางเรียกชื่อคนรูปหล่อแล้วพูดลามกให้ได้ยิน ชนะยิ่งมีอารมณ์ เสียงทุบประตูปึงปังจนไอ้เหมอกลัวว่าประตูจะถูกพังเข้ามา แต่มันก็ค่อนข้างมั่นใจความแข็งแรงของประตูบานหรูนี้อยู่แล้ว จึงแกล้งคนรูปหล่อของมันไม่หยุด จนเมื่ออีกฝ่ายเงียบเสียงไปนาน ไม่มีการตอบรับ ไอ้เหมอที่เสร็จธุระแล้วก็พึงพอใจกับผลงานตัวเอง มันเปิดประตูออกไปอย่างระมัดระวัง
“อ้าว...หายไปไหนแล้ว” ไอ้เหมอหน้าเหวอ เพราะในห้องไม่มีใครอยู่เลย มันที่เดินเปลือยท่อนล่างออกมาจึงได้แต่หันมองซ้ายขวา ก่อนทั้งร่างจะถูกรัดโดยอสรพิษร้ายด้วยพละกำลังมากล้นจนไอ้เหมอขยับหนีไม่ได้
“นะ...ปล่อยเหมอก่อน” คนรูปหล่อที่นิ่งขรึมจนไอ้เหมอใจสั่นไม่ตอบรับอะไรทั้งสิ้น เนคไทเส้นสวยมัดเข้าที่ข้อมือของไอ้เหมอ ก่อนจะพามันมาเหวี่ยงลงบนเตียง
ไอ้เหมอขยับหนี เพราะใบหน้านิ่งขรึมของชนะน่าหวาดหวั่นเสียจนไม่กล้าเข้าใกล้ “นะ...เดี๋ยว เหมอขอโทษ แก้มัดให้เหมอนะ แบบนี้ไม่เอา”
คำอ้อนวอนไร้ผล ขาทั้งสองข้างของไอ้เหมอถูกจับอ้าออกกว้าง กางเกือบร้อยแปดสิบองศาจนมันหน้าตาเหยเกเพราะความเจ็บ ช่องทางร้อนที่เพิ่งถูกทำความสะอาดบัดนี้ถูกมังกรตัวร้ายเสือกไสตัวเข้ามาแล้วขยับรัวแรง
“เหมอขอโทษ...ไม่แกล้งแล้ว นะจ๋า อ้ะ อา อาาาา เหมอจะขาดใจอยู่แล้ว นะเบาหน่อย...”
“เรียกชื่อผมสิครับ แล้วครางให้ดังๆ” ชนะบีบคางของไอ้เหมอ ก้มลงกัดริมฝีปาก “ตามใจผม...เชื่อฟังผม เข้าใจไหมครับ”
ทำไมถึงรู้สึกกลัว...ไอ้เหมอบอกไม่ถูก ร่างกายมันราวกับกำลังถูกคนๆ นี้บดขยี้ แรงที่โรมรันเข้าหาก็บ้าคลั่งเสียจนความเจ็บเริ่มแล่นริ้วขึ้นมา
“เสมอ...เรียกชื่อผม” ชนะยังคงกระซิบเสียงดุ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างไม่ยอมฟังคำสั่ง “เรียกชื่อผม...แล้วบอกว่าเป็นของผมคนเดียว”
ไอ้เหมอมองคนรักอย่างหวั่นใจ มันยอมเอ่ยเรียกชื่อคนรูปหล่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย “ชนะ...เหมอเป็นของชนะ...เหมอรักชนะ...รักมาก อื้ออออ อ๊า! เหมอ...เจ็บ นะจ๋า...แรงไปแล้ว”
“ดีมากครับ”
เมื่อไอ้เหมอยอมเชื่อฟัง มันจึงได้รับรางวัลเป็นรสสวาทที่ทำเอาหัวใจของมันแทบขาดรอนๆ สำลักความสุขที่อีกฝ่ายมอบให้จนแทบละลายไปในอ้อมแขนแกร่ง ข้อมือที่ถูกมัดบิดเร่าจนเกิดรอยแดง ไอ้เหมออยากเป็นอิสระ แต่ก็ยากที่จะพูดให้ชนะยอมปล่อย มือใหญ่ที่ยึดจับเอวไอ้เหมอไว้ ร่างทั้งร่างที่ทาบทับ...กอดรัดแน่นราวกับจะให้ตายไปในอ้อมกอดนี้
“จำไว้นะครับ...ทั้งหัวใจและร่างกายของเหมอ เป็นของผม ถ้าผมอยากสัมผัส...เหมอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
ไอ้เหมอพยักหน้า นึกโทษตัวเองที่ดันไปแกล้งเล่นบ้าๆ จนต้องมาสิ้นท่าแบบนี้ “รู้แล้วจ้ะ”
“ขอโทษนะครับ แต่อยู่แบบนี้ไปก่อน ผมอยากรักเหมอมากกว่านี้อีกหน่อย”
“แต่เหมออยากกอดนะบ้าง...ข้อมือก็เจ็บไปหมดแล้ว” ไอ้เหมอส่งสายตาอ้อนวอน ชูข้อมือที่แดงก่ำเพราะแรงเสียดสีของเนคไทให้ดู
“อดทน...ได้ไหม”
“ง่า... ซาดิสม์ใช่ไหมเนี่ย”
“เพิ่งรู้เหรอ”
แววตาจริงจังลุ่มลึกของชนะ ทำเอาไอ้เหมอยิ้มแหย มันอยากบอกว่ามันเพิ่งรู้ เพิ่งรู้เลยยยย ทำไมคนที่สุขุม ดูเป็นสุภาพบุรุษ พูดจาก็หวานหู ขายอ้อยให้กันมาทั้งไร่ ถึงได้เป็นแบบนี้ ตอนนี้ไอ้เหมอเหมือนตัวเองกำลังโดนหลอกให้กินยา คนป้อนบอกว่าหวาน...ทั้งๆ ที่จริงมันอาจจะขม แล้วตอนนี้...มันขมหรือมันหวาน...ไอ้เหมอก็แยกแทบไม่ออก เพราะกำลังถูกมอมเมาโดยคนรูปหล่อที่มันแสนหลงแสนรักคนนี้
“กลัวรึเปล่า”
“กลัว...นิดหน่อย” ไอ้เหมอตอบตามจริง “แต่ชอบมากกว่า แฮ่ๆ”
เพราะคำตอบของไอ้เหมอ...เป็นที่น่าพึงใจ ชนะจึงไม่รอช้าที่จะพิสูจน์ความชอบที่ไอ้เหมอมีให้...
คุณหญิงเสมือนกลับมาจากงานเลี้ยงก่อนหน้าลูกชายคนเล็กแค่ไม่กี่นาที ทันได้รับไหว้ว่าที่ลูกเขยที่เดินมาส่งไอ้เหมอมันถึงในบ้าน มาขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่ที่พาไอ้เหมอมาส่งช้า คุณหญิงเสมือนที่ชอบในความหล่อเหลาของแฟนลูกอยู่แล้วก็ได้แต่หัวเราะร่วนบอกปัดอย่างใจกว้าง
“คุณหญิงแม่คงเป็นห่วงเสมอ ผมขอโทษด้วยนะครับ เราไปทานข้าวด้วยกันแล้วเที่ยวเล่นอีกนิดหน่อย ไม่ทันได้ดูเวลาจนดึกป่านนี้”
“โอ้ย ไม่เป็นไรหรอกลูก ไอ้เหมอมันเด็กผู้ชาย ไม่เสียไม่หายอะไรหรอก แล้วนี่ต้องลำบากไปรับแล้วยังพามันไปทานข้าวด้วย แม่ล่ะเกรงใจชนะเสียจริงๆ”
ไอ้เหมอที่ได้ยินทำแค่เบะปาก มันแต่งตัวในเครื่องแบบที่กลับจากโรงเรียนอย่างเรียบร้อย ซ่อนร่องรอยรักที่พ่อคนรูปหล่อแสนสุภาพของคุณหญิงแม่ฝากไว้ให้ ทั้งรอยกัดรอยดูด เต็มแน่นทั่วร่างอย่างไม่คิดว่าผู้ชายแสนสุภาพตรงหน้าจะทำได้เลยสักนิด
“ไม่ลำบากเลยครับ ผมเต็มใจ ให้คุณหญิงแม่ไปรับเองก็เกรงว่าจะเหนื่อย ถ้าคุณหญิงแม่ไม่ว่าอะไร ผมก็อยากจะไปรับเสมอที่โรงเรียนทุกครั้ง ได้ไหมครับ”
“แม่ไม่ว่าอะไรลูก ไอ้เหมอมันก็คงเต็มใจ กระดี๊กระด๊าเสียด้วยซ้ำ”
“แต่ผมเกรงว่าคุณพ่อท่าน...” ชนะมีสีหน้ากังวลใจ แต่ไอ้เหมอมันเห็นสายตาที่คุณหญิงแม่ผู้หลงใหลในตัวสุดที่รักของมันตอนนี้คงไม่เห็น สายตาของงูร้ายที่กำลังหลอกล่อเหยื่อให้ตายใจ
“หายห่วงค่ะ แม่จัดการให้ ตอนนี้คงไม่ซ่าไปอีกนาน เพราะถูกไอ้เหมอมันงอนใส่ ไม่พูดด้วยมาสักพักแล้ว” คุณหญิงแม่ขายพ่อขายลูกให้ว่าที่ลูกเขยฟังจนไอ้เหมอมันมองค้อน ชนะคงถูกอกถูกใจคุณหญิงแม่เสียเหลือเกิน เพราะท่านอยากมีลูกชายที่รูปหล่อและคารมณ์ดีแบบนี้มานานหนักหนา เคยบอกว่าควงไปงานไหนก็คงได้หน้า เพราะพี่สมัยของไอ้เหมอก็แข็งทื่อ ไม่มีเสน่ห์ของบุรุษเพศเลยสักนิด ไอ้เหมอก็ตัวดำหัวเกรียน ไม่หล่อเหลาเข้าตากรรมการ ว่ากันว่าลูกไม้มักจะหล่นไม่ไกลต้น ไอ้เหมอชอบคนหล่อฉันใด คุณหญิงแม่ก็ชอบฉันนั้น
“คุณหญิงแม่ครับ พรุ่งนี้ผมขอมารับเสมอไปทำธุระด้วยได้ไหมครับ น้องชายผมจะบินไปญี่ปุ่นวันพรุ่งนี้ เสมอก็สนิทกับน้องด้วย...ถ้ายังไง...” ชนะยังพูดไม่ทันจบประโยค คุณหญิงเสมือนก็พยักหน้าอนุญาตโดยไม่มีข้อแม้
“ได้เลยจ้ะ แม่ไม่ว่า แล้วนี่น้องชายอายุเท่าไหร่กันคะ บินไปคนเดียวหรือเปล่า”
“ผมมีน้องชายฝาแฝดน่ะครับ คนที่ไปเป็นแฝดคนกลาง น้องบินไปเที่ยวกับเพื่อน ผมให้น้องซื้อครีมมาร์คหน้าที่คุณหญิงแม่ใช้ประจำมาให้ด้วยนะครับ”
“อุ้ย ตาย น้องนะรู้ได้ยังไงคะเนี่ยว่าแม่ใช้ของจากญี่ปุ่น แม่ฝากเพื่อนที่เป็นแอร์ซื้อมาให้ประจำเลย”
ไอ้เหมอมันตาโตแล้วตาโตอีก เรื่องชยไปญี่ปุ่นยังไม่เท่าไหร่ มันยังมาแปลกใจกับชนะที่ดูเหมือนจะมีข้อมูลของคุณหญิงแม่ของมันครบถ้วน
“ผมถามจากพี่สมัยน่ะครับ อยากช่วยดูแลคุณหญิงแม่บ้าง เพราะรู้สึกขอบคุณเหลือเกินที่ทำให้ผมได้เจอกับเสมอ และเลี้ยงดูเสมอเป็นอย่างดีทำให้เสมอน่ารักได้ขนาดนี้” ไอ้เหมอแทบอ้วก แต่คุณหญิงแม่ของมันยิ้มกว้างอย่างถูกใจเป็นที่สุด
“ปากหวานเสียจริงพ่อทูนหัวของแม่” คุณหญิงเสมือนไม่เคยเจอใครที่ปากหวานและแสนสุภาพเท่านี้ ท่านนายพลตอนจีบกันใหม่ๆ ยังไม่ได้ครึ่ง “ความจริงไม่ต้องลำบากก็ได้นะคะลูก”
“ไม่เลยครับ ผมเต็มใจ ...ผมไม่ได้เจอแม่มาหลายปีแล้ว แม่กับพ่อผมแยกทางกันน่ะครับ เลยไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ได้อยู่กับแม่เป็นแบบไหน ถ้าคุณหญิงแม่ไม่รังเกียจ ให้ผมได้ดูแลเหมือนกับผมเป็นลูกอีกคนหนึ่งได้ไหมครับ”
ไอ้เหมอมองคุณหญิงแม่ของมันที่น้ำตารื้น โอบกอดแฟนของมันด้วยความเอ็นดูสงสารแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความปากหวานและความเชี่ยวชาญในการเรียกร้องความเห็นใจของชนะ
“โถ ลูก ชนะก็เหมือนลูกชายอีกคนของแม่ ไอ้เหมอรักใครแม่ก็รักด้วย ก็น่ารักเสียขนาดนี้ ใครจะรังเกียจลง ว่างๆ ก็มาทานข้าวที่บ้านได้นะคะ ไอ้เหมอไม่อยู่ก็มาได้นะลูก”
“ขอบคุณครับ...ปกติผมก็กินข้าวที่บ้านคนเดียว พ่องานยุ่ง น้องก็เรียนหนัก” ไอ้เหมอเบ้ปากมองบน
“โถๆ น่าสงสารเสียจริง เอ...คืนนี้ก็ดึกมากแล้ว ชนะค้างที่นี่เลยไหมลูก ขับรถกลับก็อันตราย พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลามารับไอ้เหมอมันด้วย บ้านอยู่ไกลไหมคะ”
“ไกลพอสมควรเลยครับ”
ไอ้เหมออยากจะร้องบอกคุณหญิงแม่ของมันว่า บ้านชนะอยู่ห่างไปไม่กี่สิบป้ายรถเมล์ ถึงมันจะเหมือนไกล แต่ไอ้หล่อมันขับแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว เพราะมันตีนผี แต่ไอ้เหมอมันพูดได้เสียที่ไหน สายตางูร้ายจ้องจะฉกมันถ้ามันเอ่ยปากพูด ทั้งอีกใจก็อยากให้คนรูปหล่อของมันค้างด้วย ไอ้เหมอจึงทำได้แค่สงบปากสงบคำ
“งั้นค้างที่นี่นะคะ ยืมเสื้อผ้าของไอ้เหมอมันก็ได้ ตัวมันใหญ่ ชนะใส่ได้อยู่แล้ว”
“ขอบคุณครับคุณหญิงแม่” คนรูปหล่อยกมือไหว้ กราบลงที่ไหล่คุณหญิงที่ลูบศีรษะคนรูปหล่อด้วยความเอ็นดู
“ไอ้เหมอ” คุณหญิงแม่หันมามองลูกชายหัวเกรียนที่กำลังทำหน้าตาประหลาด
“จ๋า”
“ให้ชนะนอนบนเตียง ส่วนแกนอนโซฟานะ เตียงแกเล็ก”
“ง่ะ ทำไมงั้นอ่ะ”
“อย่าเถียงแม่”
“คุณหญิงแม่ให้เสมอนอนบนเตียงเถอะครับ ผมนอนโซฟาได้” ความง่ายๆ สบายๆ ไม่เรื่องมากของชนะทำให้คุณหญิงนึกปลื้มอกปลื้มใจ แต่ไอ้เหมออยากจะบอกคุณหญิงแม่ว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย ไอ้หล่อนี่กำลังหลอกคุณหญิงแม่อยู่!
“ไม่ต้องหรอกลูก ชนะคงไม่เคยนอนโซฟา มันไม่สบายตัว นอนบนเตียงดีแล้วค่ะ” คุณหญิงเสมือนมองคนรูปหล่อมาดคุณชายที่แค่ปราดสายตามองก็เห็นถึงความมีออร่าผู้ดี ทั้งยังเคยเจอกับบิดาของชนะมาแล้ว เห็นหน้ากันตามงานการกุศลหรือหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจร่ำไป นามสกุลหลังชื่อก็เป็นที่รู้จักในวงสังคมไฮโซ คงไม่ดีนักที่จะให้แขกคนสำคัญมานอนหลังขดหลังแข็งบนโซฟาในบ้านของคุณหญิงภรรยาท่านนายพล เสียชื่อกันพอดี
ด้วยเหตุนั้น ห้องนอนไอ้เหมอจึงได้เปิดต้อนรับแฟนรูปหล่อของมันเป็นครั้งแรก และจำต้องยกเตียงขนาดห้าฟุตที่มันใช้นอนมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยให้ชนะนอนไป ส่วนมันก็ระเห็จไปนอนโซฟา...ตามที่คุณหญิงเสมือนวางแผนไว้
............................................................TBC..........................................................
คุณหญิงแม่หลงพ่อหนุ่มไร่อ้อยเสียแล้ว ไอ้เหมอ ไม่รู้จะอิจแรงหรือสงสาร แต่ก็...อิจละกันนะ

ชอบให้ผู้ชายทารุณอ้ะะะ
ปล. ขอบคุณคอมเม้นยาวๆ จากคุณ yisren. Lichtmonz nijikii Freja Autonomyz และ kongxinya ทำให้เราได้เห็นถึงแนวทางของเรื่องในมุมมองของคนอื่นที่รับสารจากเรา ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ชอบมาก และที่ไม่ลืมเลยคือความคิดเห็นจากทุกคน ไม่ว่าจะสั้นจะยาวแค่ไหน ก็อ่านแล้วอ่านอีก อ่านแล้วก็ได้แต่...ปลื้มใจ ที่ทุกคนให้ความรักกับเสมอมากกกกก อยากเป็นคุณนายทหารกันล่ะซี