+รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 45 24/01/2559 Page. 87 (The end)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 45 24/01/2559 Page. 87 (The end)  (อ่าน 688183 ครั้ง)

ออฟไลน์ มายาป่าฝน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36 02/01/2559 Page. 63
«ตอบ #1890 เมื่อ02-01-2016 17:56:28 »

สะใจ ฮี่ๆๆๆ แต่ทำไมรู้สึกหน่วงๆๆๆ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36 02/01/2559 Page. 63
«ตอบ #1891 เมื่อ02-01-2016 18:01:44 »

โอ้ยย นี่จะร้องไห้ พัง!!  เวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้ แรกๆก็เจ็บแบบนี้ล่ะ

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36 02/01/2559 Page. 63
«ตอบ #1892 เมื่อ02-01-2016 18:17:30 »

 :sad4: น้ำใสใสที่ไหลออกมาเจ็บปวดทั้ง2ฝ่าย เห้อ ได้แต่รอเวลา หวั่นใจกลัวน้องนะเป็นอะไรนะจุดนี้

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 37 02/01/2559 Page. 64
«ตอบ #1893 เมื่อ02-01-2016 18:20:42 »

ตอนที่ 37

ชนะยังคงแวะเวียนไปที่บ้านของเสมอตามปกติ ยังคงมีของฝากให้กับคุณหญิงเสมือน นัดออกรอบกับพี่สมัย หรือแม้กระทั่งช่วยท่านนายพลสมานทำสวน หลายๆ อย่างยังคงเป็นไปตามปกติราวกับคนรูปหล่อนั้นยังไม่เลิกรากับไอ้หัวเกรียนลูกคนเล็กของบ้านเดชาโชติกุล สมัยรับรู้แต่ไม่พูดอะไร พี่ชายของเสมอถูกอกถูกใจอดีตน้องเขยมากกว่าจะเลิกคบหาแค่เพราะการเลิกรากันของเด็กๆ ส่วนคุณหญิงเสมือนก็รักและเอ็นดูคนรูปหล่อมากเหลือคณา ในขณะที่ท่านนายพลนั้นยังไม่มีท่าทีชัดเจน แต่ก็คงไม่ได้รังเกียจคนรูปหล่อ

ชนะพาคุณหญิงเสมือนไปช็อปปิ้งบางครั้ง พาไปสปานวดหน้านวดตัวในบางที หรือพาท่านกับพี่สมัยมาทานข้าวกับครอบครัว แม้คนรูปหล่อจะไม่ยิ้มแย้มอย่างเคย แต่ก็ยังอ่อนโยนและนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ ถามไถ่ถึงไอ้เหมอของคุณหญิงเสมือนไม่ขาด แม้คุณหญิงจะเคยบอกให้มาทานข้าวเย็นด้วยกันเวลาที่ไอ้เหมอกลับบ้าน แต่คนรูปหล่อก็เลี่ยงอย่างสุภาพ ปฏิเสธว่าต้องทานข้าวกับที่บ้านอยู่ร่ำไป

“พรุ่งนี้ก็มาทานกับแม่ไม่ได้เหรอคะลูก” ชนะที่แวะเข้ามาพูดคุยกับคุณหญิงเสมือนเหมือนเช่นทุกวันกำลังถูกรบเร้าให้มาทานข้าวเย็นที่บ้านในเย็นวันพรุ่งนี้

“ไม่ได้หรอกครับ ผมรับปากกับป๋าว่าจะไปงานการกุศลด้วย”

“งานจัดที่โรงแรมพ่อน้องนะใช่ไหมลูก งานนั้นแม่ก็ไป งั้นเราไปเจอกันที่งานนะคะ”

“ครับ”

“เอ้า ทานขนม แม่อุตส่าห์จัดเตรียมไว้ให้ รู้ว่าน้องนะชอบ”

ชนะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหญิงเสมือนที่เมตตาเขามากเหลือเกิน มาที่บ้านทีไรท่านจะเตรียมของว่าง อาหารคาวอาหารหวานไว้ต้อนรับเป็นประจำ

“ขอบคุณครับคุณหญิงแม่”

“ไม่เป็นไรจ้ะ แล้วนี่เอาอะไรมาเยอะแยะ”

“ของบำรุงน่ะครับ ถุงนี้ของเหมอ คุณหญิงแม่ใช้ทำซุปให้เหมอนะครับ ผมได้ยินพี่สมัยบอกว่าเหมอฝึกหนัก คงต้องเสริมกำลังให้หน่อย” ชนะคลี่ยิ้ม ขยับของบำรุงที่หาซื้อมาให้ไปตรงหน้าคุณหญิง

“น้องนะ ไม่ต้องลำบากเลยลูก”

“ไม่ลำบากครับ ผมเต็มใจ แต่คุณหญิงแม่อย่าบอกเหมอนะครับ”

“จ้ะ” คุณหญิงเสมือนรับคำอย่างไม่ค่อยสบายใจ ชนะเป็นห่วงเป็นใยลูกของท่านอย่างเสมอต้นเสมอปลาย นอกจากของฝากราคาแพงที่มักซื้อมาให้คุณหญิงแล้ว คนรูปหล่อยังมีของบำรุงมาให้ไอ้เหมอของท่าน ตั้งแต่ที่เด็กทั้งสองคนคบกัน จนถึงตอนนี้เลิกรากันไป คนรูปหล่อก็ยังคงปฏิบัติเหมือนเดิม คุณหญิงเสมือนเคยคิดจะถามเหตุผลถึงการเลิกรากัน ทว่า...เพราะมันเป็นเรื่องของเด็กทั้งสองคน ผู้ใหญ่อย่างท่านเข้าไปยุ่งก็คงไม่ดี เคยเกริ่นถามไอ้เหมอแล้วแต่มันก็เงียบ แล้วตัดบทเปลี่ยนเรื่องคุยอยู่ร่ำไป

ชนะยังคงเป็นชนะที่ชอบให้ไอ้เหมอได้ใช้ของดีๆ ได้กินแต่ของดีๆ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็หาซื้อมาให้ แต่การทำเหมือนตอนยังคบกันคงทำให้เสมอลำบากใจ ชนะไม่อยากให้ความเห็นแก่ตัวของตัวเองสร้างปัญหาให้กับเสมออีก แค่ได้มาอยู่ในพื้นที่ของเสมอ ได้พูดคุยกับคนที่เสมอรัก ได้เห็นรูปตั้งแต่ตอนเด็กยันโตของเสมอติดอยู่บนผนังบ้าน เท่านี้...ชนะก็มีความสุขมากแล้ว

“คุณหญิงแม่ให้เหมอทานอันนี้ด้วยนะครับ มันเป็นวิตามินที่ทำให้เจริญอาหาร”

“ไอ้เหมอมันจะไม่อ้วนมากไปเหรอลูก” คุณหญิงเสมือนถามพลางนึกขำไอ้เหมอที่ช่วงก่อนมันบ่นว่าลงพุง เพราะอยู่กับชนะได้กินของอร่อยไม่ขาดปาก

“ผมเห็นคราวก่อนพุงหายไปหมดเลยครับ กับข้าวที่โรงเรียนคงไม่อร่อย”

“ไอ้เหมอมันลิ้นจระเข้ มันกินได้ทุกอย่างค่ะลูก ข้าวคลุกน้ำปลามันก็ซัดซะเกลี้ยงจาน เพราะงั้นอันนี้ให้น้องนะทานดีกว่า แม่ว่าผอมมากไปแล้ว ผอมกว่านี้คงไม่ดี”

คุณหญิงเสมือนเห็นว่าที่ลูกเขยแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ดวงหน้าหล่อเหลาอมทุกข์ รอยยิ้มที่เคยสดใสก็หมองจนเห็นได้ชัด มาทานข้าวที่บ้านด้วยทีไรก็ทานได้น้อย ชนะเหมือนคนป่วยที่นับวันยิ่งซูบซีด ไม่มีความเปล่งปลั่งหรือมีออร่าให้ได้เห็นอย่างเคย

“คุณหญิงแม่ครับ”

“คะลูก”

“ผมอาจจะยังไม่ได้บอก...ความจริงผมกับเสมอเลิกกันแล้วครับ” ชนะบอกพลางมองคุณหญิงเสมือนที่พยักหน้ารับ “คุณหญิงแม่อาจจะยังไม่รู้”

“แม่รู้ค่ะ”

“แต่ผมยังมาหาทุกวันแบบนี้...รบกวนหรือเปล่าครับ”

“ไม่เลยค่ะลูก แม่รับน้องนะเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งไปแล้ว”

ชนะคลี่ยิ้ม ยกมือขึ้นกราบลงบนตักของคุณหญิงที่รีบยกมือขึ้นลูบหัวคนรูปหล่อด้วยความเอ็นดู “ผมทำแบบนี้ ถ้าเหมอรู้ คงไม่ชอบใจ คุณหญิงแม่อย่าบอกเหมอนะครับ”

“ไม่ชอบใจก็เรื่องของมัน แม่ชอบของแม่”

ชนะซาบซึ้งใจที่คุณหญิงเสมือนเมตตาและรักใคร่เอ็นดูเขามาก ทว่า...ถ้าในวันหนึ่งที่เสมอพาคนรักมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก เขาก็ควรต้องถอยห่างอยู่ดี การทู้ซี้ที่จะมาอยู่ในพื้นที่ของเสมอ...คงไม่ใช่เรื่องสมควรอีกต่อไป

“แต่ผมคงจะไม่มาบ่อยๆ แล้วล่ะครับ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรักและเคารพคุณหญิงแม่เหมือนเดิม ถ้าสักวันผมไม่ได้มาที่นี่แล้ว...คุณหญิงแม่อย่าลืมผมนะครับ”

“ไม่ลืมค่ะ...แม่จะลืมเด็กน่ารักอย่างชนะได้อย่างไรคะ ไม่เอานะคะ ไม่พูดอะไรเป็นลางแบบนี้ แม่ใจไม่ดี เย็นนี้รอทานข้าวด้วยกันนะคะ พรุ่งนี้มาไม่ได้ เย็นนี้ก็มาทานข้าวกับแม่กับพี่สมัย”

“ครับ ผมขอเข้าไปช่วยคุณหญิงแม่ในครัวด้วยนะครับ”

“ได้จ้ะ”

ชนะนั่งพูดคุยกับคุณหญิงเสมือนจนเกือบเย็นก็ขอตามเข้าครัวไปช่วยงาน หยิบจับตามคำสั่งของคุณหญิง พร้อมกับสนทนาพาทีกันไปด้วย เรื่องราวส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของเสมอในวัยเด็กที่คุณหญิงหยิบยกมาเล่าเสียจนเจ้าตัวที่อยู่โรงเรียนอาจจะกำลังจามไม่หยุดก็เป็นได้

******************

งานการกุศลในเย็นวันศุกร์ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือของตระกูลโรจนโภคิน ชนะติดตามบิดาไปร่วมงานในครั้งนี้เพราะกลุ่มบริษัทของตระกูลเป็นเจ้าภาพจัดงาน คนรูปหล่อในชุดสูทอาร์มานี่ดูดี ผมทรงเซิร์ฟคัทชะโลมไปด้วยเจลแล้วหวีเสยไปด้านหลัง อวดดวงหน้าหล่อเหลาให้เด่นชัด รูปร่างสมส่วน ท่อนขาเรียวยาว สูงชะลูดไม่แพ้นายแบบนิตยสารที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้

ชนะ โรจนโภคินเป็นที่จับตามองของทุกคนในงาน คุณหญิงคุณนายหลายคนพาบุตรสาวเดินเข้ามาพูดคุยทักทายกับบิดาของเขา อวดอ้างสรรพคุณของบุตรสาวทั้งคนเล็กคนโตให้รู้จัก แต่ชนะก็เพียงยิ้มรับอย่างสุภาพ เขาทำหน้าที่ของทายาทผู้สืบทอดธุรกิจของตระกูลได้ดี พูดคุยทักทายกับผู้หลักผู้ใหญ่ในงานหลายคน ในขณะที่ผู้เป็นบิดาก็แนะนำเขาให้กับหุ้นส่วนหลายๆ คนด้วยความภูมิใจ

ชนะกวาดสายตามองไปทั่วงานหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากบิดาให้มาหาอะไรทานแล้ว เขากำลังมองหาครอบครัวของคุณหญิงเสมือนที่บอกว่าจะเคี่ยวเข็ญลูกชายคนเล็กให้มาร่วมงานด้วย แต่มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จึงหยิบไวน์หนึ่งแก้วเดินเลี่ยงออกมายืนรับลมที่เทอเรซ

ในงานที่มีผู้คนมากเช่นนี้ทำให้ชนะต้องใส่หน้ากากจนเหนื่อย รู้สึกอึดอัดที่ต้องยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา มือใหญ่เอื้อมขึ้นคลายเน็คไท ปลดกระดุมเสื้อสูท แล้วหยิบบุหรี่ยี่ห้อโปรดขึ้นมาจุดสูบให้สมองโล่งปลอดโปร่ง มวนแล้วมวนเล่าก็ยังไม่คลายความอึดอัด พักหลังมานี้ชนะสูบจัดจนชยกับเพี้ยนบ่นให้ฟังถึงโทษของบุหรี่ทุกเช้าเย็น

“เหมอจ๋า อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว” ชนะบอกเสียงแผ่ว ลูบที่กระเป๋าเสื้อ วันนี้เขาพาไอ้เหมอจ๋ามาร่วมงานด้วย มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชนะไปแล้วที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องพามันไปด้วยตลอด

ชนะขยี้ปลายบุหรี่มวนสุดท้ายลงกับที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินกลับเข้างาน ท่อนขาเรียวยาวก้าวไปหาบิดา ทว่า...กลับหยุดชะงักเมื่อเห็นหัวเกรียนๆ ของใครบางคนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่หน้าโต๊ะตัวยาวสำหรับจัดวางบุฟเฟห์อาหารคาวหวานเพื่อบริการแขก ชนะอมยิ้ม ไม่บ่อยที่จะได้เห็นเสมอในชุดสูท สีหน้าประหม่าเหมือนคนที่ไม่ชอบงานสังคม คนรูปหล่อลังเลใจอยู่เพียงครู่ก่อนจะก้าวเข้าไปหา

“อันนี้อร่อย...” ชนะบอกเสียงเรียบ คนหัวเกรียนพอได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่มันจะขยับออกห่าง เลี่ยงเดินไปอีกทาง แต่ชนะก็ยังเดินตาม “ไม่กินแล้วเหรอ”

ไอ้เหมอไม่ตอบ มันก้าวยาวๆ กลับไปหาคุณหญิงแม่กับพี่สมัยของมัน แต่คนรูปหล่อตามมาไม่หยุด ครั้นพอถึงที่หมาย ชนะก็ยกมือไหว้คนในครอบครัวของไอ้เหมอทีละคน คุณหญิงเสมือนกรี๊ดกร๊าดในความหล่อของว่าที่ลูกเขยทันที

“หล่อดูดีขนาดนี้เจอคุณหญิงคุณนายมาจีบให้ไปเป็นลูกเขยกี่คนแล้วล่ะคะเนี่ย” คุณหญิงหยอก ไอ้เหมอถึงกับเบ้ปาก

“ไม่มีหรอกครับ” ชนะตอบถ่อมตน “คุณหญิงแม่ทานอะไรมารึยังครับ”

“แม่ทานข้าวมาแล้วค่ะ” คุณหญิงเสมือนตอบพลางยิ้มใจดี

“งั้นเอาของว่างไหมครับ ผมไปตักให้”

“ก็ดีค่ะ ไอ้เหมอ ไปช่วยน้องนะเขาหน่อย”

“คุณหญิงแม่ทำไมต้องใช้เหมอ ให้พี่หมัยไปสิ” ไอ้เหมอหน้ายุ่ง มันไม่อยากอยู่ใกล้คนรูปหล่อตรงหน้า คุณหญิงแม่ก็ช่างยัดเยียดเสียเหลือเกิน

“พี่กับคุณพ่อจะไปทักทายท่านรัฐมนตรีน่ะครับน้องเหมอ” สมัยรีบอ้าง ทั้งๆ ที่เพิ่งไปทักทายท่านรัฐมนตรีกับท่านนายพลสมานมาเมื่อครู่ แต่สังเกตเห็นสีหน้าของอดีตน้องเขยแล้วก็สงสาร สมัยจึงโกหกน้องชายเป็นครั้งแรก

“ไม่เป็นไรครับ ผมไปคนเดียวคงสะดวกกว่า” ชนะตอบ รอยยิ้มจืดเจื่อน ก่อนจะเดินไปเพียงลำพัง

คล้อยหลังร่างสูงของชนะ คุณหญิงเสมือนก็หยิกเข้าที่แขนของไอ้เหมอ “ไปเดี๋ยวนี้ไอ้เหมอ อย่าให้แม่ต้องโมโห”

ไอ้เหมอหน้าบึ้ง ลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังชนะไปเสียไม่ได้ มันรักษาระยะห่างไว้ ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หลายนาที

“เหมอไปนั่งรอกับคุณหญิงแม่เถอะ” ชนะบอกเมื่อเห็นท่าทีกระอั่กกระอ่วนใจของไอ้เหมอ “ยกจานนี้ไปด้วยก็ได้ ท่านจะได้ไม่ว่าอะไรอีก”

ไอ้เหมอพยักหน้า ยื่นมือไปรับจานขนมหวานที่คนรูปหล่อบรรจงตักใส่จานให้ กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งมากับกลิ่นน้ำหอมจนไอ้เหมอย่นจมูก

“สูบอีกแล้วเหรอ” เผลอตั้งคำถามออกไป แต่ชนะก็เพียงยิ้มละมุนมาให้ ไม่ได้ตอบคำถาม

“รู้ว่าไม่ดีก็ยังสูบ” ไอ้เหมอยังคงพูด ตอนแรกมันหลุดปาก แต่ตอนนี้จงใจ เห็นร่างกายที่ซูบผอมกับใบหน้าอิดโรยของชนะแล้ว...ไอ้เหมอมันอดห่วงไม่ได้ ทว่า...มันก็ทำได้แค่ห่วง จะให้เข้าไปดูแลเหมือนอย่างที่เคยทำ... มันคงทำไม่ได้อีกแล้ว

“เหมอไปที่โต๊ะเถอะ เดี๋ยวผมยกอีกสองจานตามไปทีหลัง”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่อง ไอ้เหมอจึงแค่ยักไหล่แล้วถือจานเดินกลับโต๊ะทันที วางจานของหวานลงตรงหน้าคุณหญิงแม่แล้วนั่งหน้าตูม คุณหญิงเสมือนจึงได้แต่ส่ายหน้าระอากับไอ้เหมอที่ไม่รู้จักโต ก่อนจะยักยิ้มไปให้กับลูกเขยรูปหล่อที่กำลังยกของหวานตามมาให้

“จานนี้ของคุณหญิงแม่ครับ ผมรู้ว่าคุณหญิงแม่ชอบขนมจ่ามงกุฎ”

คุณหญิงเสมือนยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม แต่ไอ้เหมอกลับหมั่นไส้เสียเต็มประดา “กินของหวานเยอะๆ ระวังน้ำตาลขึ้น เป็นเบาหวานไม่รู้ตัว”

“แกแช่งแม่เหรอไอ้เหมอ” คุณหญิงตวัดสายตามองทันที

“เปล่า เหมอเตือนเพราะเป็นห่วง บางคนมันชอบยอ ชอบหลอกล่อด้วยการเอาใจ ไม่ได้คิดถึงสุขภาพของคุณหญิงแม่เหมือนที่เหมอคิดหรอก”

บางคนที่โดนว่าถึงกับหน้าเจื่อน “ผมขอโทษนะครับ”

“น้องนะ แม่ไม่ได้ป่วยเป็นเบาหวาน ไอ้เหมอมันปากพล่อย”

สีหน้าของชนะดีขึ้นเพียงนิด ก่อนมือแกร่งจะขยับเลื่อนจานบราวน์นี่ไปให้ไอ้เหมอ “เหมอลองชิมดู”

“ไม่กิน ไม่ชอบ”

สมัยรีบแทรกขึ้นทันที “น้องเหมอชอบบราวน์นี่มากเลยนี่ครับ ลองทานดูก่อน พี่หมัยรับรองว่าอร่อย”

“เหมอไม่กิน ถ้าอยากกินจะไปตักเอง”

ทั้งสมัยและคุณหญิงเสมือนได้แต่ลอบสบตากัน ก่อนจะพร้อมใจหันมองหน้าคนรูปหล่อด้วยความสงสาร ไอ้เหมอบทมันจะดื้อ ก็ดื้อจนน่าตี ท่านนายพลที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้าจึงแย่งจานไปเอง

“แกไม่กินก็ดี พ่อกินเอง มันไม่หวานมากใช่ไหม” ท่านนายพลหันถามคนรูปหล่อที่นิ่งงันไป ชนะคลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงสุภาพว่า

“ไม่หวานครับ ป๋าไม่ชอบของหวาน เชฟที่ทำก็เลยลดความหวานของขนมทุกชนิดลง”

“อืม” ท่านนายพลพยักหน้า ตักบราวน์นี่เป็นชิ้นพอดีคำเข้าปาก “อร่อยดี”

ไอ้เหมอเม้มริมฝีปาก มองคนในบ้านที่กบฎมันไปเข้าข้างคนรูปหล่อตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ แม้แต่ท่านบิดาที่เคยเอ่ยปากปาวๆ ให้มันเลิกกับชนะก็ยังเข้าข้าง

“ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ พี่หมัย พรุ่งนี้ผมไปด้วยไม่ได้แล้วนะ ต้องตามป๋าไปเชียงราย”

“โอเคไอ้น้องชาย ไว้กลับมาแล้วโทรบอกพี่ ค่อยนัดกันอีกที”

“ครับ”

ชนะผุดลุกขึ้น ยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ ส่งยิ้มให้ไอ้เหมอที่มองเมินจนรอยยิ้มหล่อเหลาเจื่อนลง ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปหาบิดา

“นี่พี่หมัยยังนัดออกไปเที่ยวกับชนะอีกเหรอ” ไอ้เหมอถามเสียงเข้ม “พี่หมัยไม่รู้รึไงว่า...”

“พี่รู้” สมัยตอบ “แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่”

“พี่หมัย!”

“แกโตได้แล้วไอ้เหมอ ไม่ใช่ว่าแกไม่ชอบใครแล้วต้องพาลให้คนอื่นไม่ชอบไปกับแกด้วย” คุณหญิงเสมือนปรามด้วยสายตาดุจัดจนไอ้เหมอหงอลงไป “น้องนะเป็นเด็กน่ารัก แม่ถือว่าเป็นลูกชายอีกคนไปแล้ว ต่อให้แกจะคบหรือจะเลิก แม่ก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดน้องนะไปด้วย แกรักใครแม่รักด้วย แต่ถ้าแกเกลียดใคร แม่ไม่เกลียดไปกับแกด้วยหรอก ต้องดูการกระทำของเขา ว่าเขาจริงใจกับคนในครอบครัวเราแค่ไหน น้องนะดีกับแม่ ดีกับพี่หมัย ดีกับพ่อของแก”

“แม่จะไม่พูดแบบนี้หรอกถ้ารู้ว่าคนดีของแม่แท้จริงแล้วเป็นคนยังไง”

ไอ้เหมอเถียง รู้สึกเหมือนมันกำลังถูกแย่งคนที่มันรักไป

“แล้วเป็นคนยังไงล่ะ แม่ตัดสินแค่เฉพาะที่เขาทำกับแม่ เรื่องของแกแม่ไม่รู้ด้วย” คุณหญิงเสมือนยังคงมีสีหน้าที่จริงจังจนไอ้เหมอมันเถียงอะไรไม่ได้ “ไอ้เหมอ แท้จริงน้องนะเป็นคนยังไง...อาจจะมีแต่แกที่รู้ แต่แม่ถามแกหน่อย... ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำดีกับแกเลยเหรอ ถึงได้ตั้งท่ารังเกียจเขาขนาดนี้”

“มันก็...ไม่ใช่” ไอ้เหมอตอบเสียงแผ่ว มันไม่อยากยอมรับว่าที่ผ่านมา ชนะดีกับมันมากแค่ไหน ถ้าวันนั้น...มันยังไม่รู้ว่าหัวใจของชนะลืมใครอีกคนไม่ได้ วันนี้มันก็คงยังนั่งยิ้มนั่งหัวเราะอยู่กับคนรูปหล่อ คิดถึงเรื่องนี้ทีไรหัวใจของมันก็เจ็บปวด มันไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองต้องกลายเป็นส่วนเกิน ต้องถูกมองเมินจากคนที่มันรักอีกแล้ว

“เลิกกัน ก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดกันเสมอไป มันอาจจะเป็นเพื่อนกันได้ยาก แต่แค่คนที่มีไมตรีที่ดีต่อกัน แม่คิดว่าแกคงทำได้”

“เหมอทำไม่ได้” ไอ้เหมอตอบอย่างดื้อดึง “เหมอเกลียดไปแล้ว เหมอทำใจให้รักอีกไม่ได้หรอก คุณหญิงแม่ พี่สมัย จะรักจะชอบก็แล้วแต่ แต่ไม่ต้องบังคับให้เหมอรู้สึกไปด้วย”

“ไม่มีใครบังคับแกทั้งนั้น หมัย พาแม่ไปเต้นรำที เห็นหน้าไอ้เด็กดื้อแล้วพาลอารมณ์เสีย”

“ให้คุณพ่อพาไปเถอะครับ ผมจะไปทักทายคุณหญิงแม่ของสมายด์”

“โอเค”

ไอ้เหมอถูกทิ้งไว้ที่โต๊ะตามลำพัง สายตาของมันเหม่อมองแผ่นหลังของคนรูปหล่อที่ยืนเคียงข้างกับคุณพ่อไร้พ่าย เห็นคุณหญิงท่านหนึ่งกำลังแนะนำบุตรสาวให้รู้จัก เห็นชนะยิ้มแย้มแล้วไอ้เหมอก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ก่อนมันจะตัดสินใจลุกขึ้น  เดินเลี่ยงออกจากงานไปเดินเล่นที่สวนหย่อมของโรงแรมแทน

สายลมตอนดึกนั้นเย็นสบาย กลิ่นหอมของดอกไม้ก็ฟุ้งกำจายไปทั่วบริเวณ ไอ้เหมอเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาว เอนหลังพิงพนัก หลับตาพักความอ่อนล้าเพราะหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งทุกครั้งที่ได้เห็นดวงหน้าหล่อเหลาของคนที่แม้จะเลิกรากันไป ก็ยังเป็นเจ้าหัวใจอยู่อย่างนั้น

ฟุบ!

สูทอาร์มานี่ตัวใหญ่คลุมลงบนตัวไอ้เหมอ กลิ่นน้ำหอมประจำตัวเจ้าของสูทเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ทำให้ไอ้เหมอลืมตาขึ้น

“นั่งตากน้ำค้าง เดี๋ยวก็ไม่สบาย” ชนะบอกแค่นั้น หมุนตัวจะเดินกลับ แต่ไอ้เหมอร้องเรียกไว้

“ชนะ เอาสูทคืนไป” ไอ้เหมอบอกเสียงเข้ม ยื่นสูทไปให้คนที่หยุดเดินแล้วหันหน้ามาเผชิญ ชนะรับคืนพลางคลี่ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเศร้าสร้อยที่ไอ้เหมอไม่อยากเห็น

“เลิกไปที่บ้านสักทีได้ไหม มันไม่แปลกเหรอที่ยังทำเหมือนตอนที่คบกัน” ไอ้เหมอบอกเสียงเย็นชา “เหมอมีคนใหม่แล้ว เข้าใจหรือเปล่า ถ้าเขารู้ว่าแฟนเก่ายังเทียวไปเทียวมาที่บ้าน เขาก็คงไม่สบายใจ”

ชนะยังคงยิ้ม พยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว ขอโทษที่สร้างปัญหา”

ไอ้เหมอเบ้ปาก มันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “ทำตัวเป็นคนดี ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไมเราถึงจบกัน นะจะทำให้เหมอเหมือนเป็นตัวร้ายใช่ไหม แล้วตัวเองก็รับบทพระเอกที่โดนทำร้ายไป”

“เหมอเห็นว่าผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ”

คำถามของชนะทำให้ไอ้เหมอชะงัก มันอยากตะโกนตอบกลับไปว่าใช่ แต่สีหน้าไม่ยินดียินร้ายของชนะทำให้มันนึกกลัว ไอ้เหมอขยับถอยหลัง ในขณะที่แววตาของชนะมีแต่ความเจ็บปวด

“ไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมไม่ทำอะไรเหมอแน่นอน” ชนะตอบเสียงแผ่ว “ขอโทษที่ผมทำให้กลัว คงฝืนว่าชอบมาตลอดใช่ไหม ...ขอโทษนะที่ผมมันผิดปกติ เหมอได้เจอกับคนดีๆ ผมก็ดีใจ”

“นะ...” ใจหนึ่งไอ้เหมออยากบอกปฏิเสธ แต่อีกใจก็ห้ามไม่ให้มันพูด เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแก้ต่าง

“ขอผมกอดลาเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม”

ไอ้เหมอเงียบ มันไม่พยักหน้าหรือปฏิเสธ ยืนนิ่งนานจนชนะถือวิสาสะคว้าตัวมันเข้าไปกอด “อดทนหน่อยนะ แค่แป๊บเดียว”

เสียงกระซิบอ้อนวอนทำให้ไอ้เหมอปวดแปลบในอก “ผมรักเหมอนะ รักมากอย่างที่ไม่เคยรักใครอย่างนี้มาก่อน ขอบคุณที่อดทนกับคนอย่างผม และขอโทษ...ที่ทำให้ต้องเสียใจ”

เพียงไม่นานอ้อมกอดอบอุ่นนั้นก็เลือนหายพร้อมกับเจ้าของที่หันหลังเดินจากไป ไอ้เหมอรู้สึกราวกับว่ามันจะไม่ได้เจอชนะอีกแล้ว มันอยากจะร้องเรียกไว้ แต่ริมฝีปากไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดได้ เพราะในอกทั้งจุก...ทั้งเจ็บ

ถ้านี่เป็นครั้งสุดท้าย...ก็อยากจะให้เป็นครั้งสุดท้ายที่มันได้เห็นรอยยิ้มของชนะ ไม่ใช่ใบหน้าที่เศร้าสร้อยแบบนั้น

******************


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 37 02/01/2559 Page. 64
«ตอบ #1894 เมื่อ02-01-2016 18:21:07 »

“รู้ปะ ถ้ายะไม่ลดน้ำหนัก ตัวต้องเหมือนหมีแพนด้าแน่ๆ!”

ชโยบินกลับไทยได้ไม่ทันไรก็ถูกแฝดพี่อีกสองคนลากตัวมาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาดูหมีแพนด้าที่ครั้งยังเด็กพ่อของพวกเขาเคยพามา

แฝดสามเป็นที่สะดุดตาของคนที่พบเห็น แฝดพี่คนโตนั้นหล่อเหลาหาตัวจับยาก แฝดคนกลางก็แก้มเยอะ ปากนิดจมูกหน่อย เป็นที่น่ารักต้องตาต้องใจของใครหลายคน ส่วนแฝดคนสุดท้องนั้นอาจจะหล่อไม่เท่าแฝดพี่ แต่ดีกรีนักร้องซุปสตาร์ก็เรียกสายตาจากบรรดาติ่งได้เป็นอย่างดี วันนี้จึงต้องมีพี่จินมาเป็นบอดี้การ์ดด้วย

“งั้นโยก็คงเหมือนลิง”

“ทำไมโยต้องเหมือนลิงด้วย! ไม่เอา โยจะเป็นเสือ แล้วนะอ่ะ ตัวจะเป็นอะไร”

“งู”

“ยังชอบงูไม่เปลี่ยนเลย” ชยบอกพลางยิ้มกว้าง “แต่นะต้องเป็นหมีโคอาล่า เพราะชอบนอน”

“ฮ่าๆๆๆ”

ชโยหัวเราะ ก่อนแฝดน้องทั้งสองจะโดนแฝดพี่จับหัวชนกัน จนต่างฝ่ายต่างร้องโอดโอยแล้วทำหน้ายุ่ง มองค้อนพี่ชายคนละที

“นานแล้วเนอะที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้” ชยสุขใจ เขานั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพี่ชายกับน้องชาย หันมองคนพี่ก็เห็นกำลังยิ้มละมุน หันมองคนน้องก็ได้แต่ยิ้มโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ ที่เมียงมองมา “เสียดายที่เพี้ยนกับป๋าจะมาตอนเย็น ไม่งั้นคงได้เที่ยวสวนสัตว์ด้วยกัน”

“อืม” ชนะพยักหน้าเห็นด้วย “เราไปที่บ้านสัตว์เลื้อยคลานต่อเลยไหม เสร็จแล้วจะได้รีบกลับไร่”

“โอเค” ชยกับชโยตอบรับอย่างร่าเริงก่อนจะพากันลุกจากที่นั่ง เดินออกจากร้านกาแฟมุ่งตรงไปยังบ้านสัตว์เลื้อยคลาน สถานที่ที่ชนะโปรดปรานมากที่สุด

ชนะชอบสัตว์ไม่มีเท้าทุกชนิด แต่เกลียดสัตว์เท้าเยอะอย่างพวกตะขาบกับแมงมุม ส่วนชยนั้นเจาะจงชอบแค่หมีแพนด้ากับสัตว์ตัวเล็กๆ ที่น่ารักเท่านั้น ในขณะที่ชโยชอบสัตว์สี่เท้าดุร้าย ประเภทกินเนื้ออย่างพวกเสือ สิงโต

“นะ ทำไมตัวชอบงูเหรอ” ชโยถามพลางกอดแขนชยไว้แน่น แฝดน้องทั้งสองชอบสัตว์มีเท้ามากกว่าจะชอบพวกเลื้อยคลานขดตัวไปมา แต่ก็ยังยอมตามแฝดพี่เข้ามาในบ้านสัตว์เลื้อยคลาน

“เพราะมันมีพิษ” ชนะตอบพลางจ้องมองงูจงอางตัวสีดำเมื่อมในตู้กระจก “เวลามันจ้องจะจับเหยื่อ ก็น่ามอง”

“น่ากลัวต่างหาก” ชยแก้ต่าง “ตัวอย่าไปใกล้สิ เดี๋ยวมันก็ฉกเอาหรอก”

“มันอยู่ในตู้กระจก” ชนะมองน้องชายอย่างเอ็นดู “ยะมานี่สิ มาดูใกล้ๆ”

“ไม่ๆๆๆ”

“โย” ชนะขยิบตาให้กับแฝดคนสุดท้องที่เข้าใจความนัย ชโยผลักชยให้เข้าไปหาชนะอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ยยย!” ชยหน้าเหวอ โดนแฝดพี่จับไว้แล้วจับหัวกลมๆ ให้มองงูที่กำลังเลื้อยอยู่ใกล้ๆ “นะ ไม่เอา เค้ากลัวววว”

“แค่มองเอง”

“นะขี้แกล้งอ่ะ โย เดี๋ยวตัวโดนดีแน่”

ชโยยักไหล่ ขืนไม่ตามใจแฝดพี่ เขานั่นแหละจะโดนแกล้งเป็นรายถัดไป ชนะเดินดูงูแต่ละชนิด มือก็ล็อคคอให้ชยเดินตามไม่ห่าง แฝดคนกลางถึงกับบ่นงึมงำไม่หยุด มีแฝดคนสุดท้องหัวเราะคิกคักตามหลัง พี่จินบอดี้การ์ดหน้าเข้มที่เดินตามมาห่างๆ ก็พลอยสุขใจไปด้วย เพราะนานแล้วที่ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้

แฝดสามเดินเที่ยวสวนสัตว์จนพอใจแล้วก็ขึ้นรถกลับไร่เทียมตะวัน ที่คุณตาคุณยายซึ่งเป็นพ่อแม่ของเพี้ยนเป็นเจ้าของ มาถึงที่ไร่ก็พบว่าไร้พ่ายกับเพี้ยนมารออยู่ก่อนแล้ว เห็นคุณตาคุณยายกำลังให้เด็กตั้งเตาบาร์บีคิว คนแก้มเยอะก็ตาวาว รีบวิ่งเข้าไปกอดผู้อาวุโสทั้งสอง

“คุณตา คิดถึงงงงง” นายเหนือหัวแห่งไร่เทียมตะวันได้แต่หัวเราะร่วนกับเด็กช่างเอาอกเอาใจอย่างชย ก่อนที่จะกอดรับหลานๆ ไปคนละที นายแม่ของไร่ก็ยิ้มแย้มอย่างสุขใจเช่นกัน เพราะนานๆ ทีหลานๆ จะขึ้นมาเชียงใหม่

“น้องนะผอมไปรึเปล่าลูก ไอ้เพี้ยน ทำไมแกไม่ดูแลหลานฉันให้ดียะ” ถามไถ่กับหลานคนโตสุดที่รักแล้วก็ตวัดไปหาลูกชายที่กำลังเสียบเนื้อตามด้วยมะเขือเทศและสับปะรดเพื่อทำบาร์บีคิว เพี้ยนทำปากขมุบขมิบแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงเพราะกลัวจะโดนปืนผาหน้าไม้ของนายแม่เล่นงานเข้าให้

“อย่าโทษเพี้ยนเลยครับยาย นะแค่อยากลดหุ่น” ชนะรีบแก้ต่าง กอดเอวคุณยายอย่างเอาใจ “ยายทำแค่บาร์บีคิวเหรอ นะอยากกินยำวุ้นเส้นฝีมือยายด้วย”

“ได้จ้ะลูก เดี๋ยวยายทำให้นะ”

“นะไปช่วยด้วยนะครับ”

“จ้า” คุณยายยิ้มแย้มรับคำ ก่อนจะหันมองแฝดคนสุดท้องที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เพี้ยน “โย มากับยายไหม ตรงนี้ปล่อยไอ้เพี้ยนมันทำไป”

“ไม่อ่ะ โยจะช่วยเพี้ยนทำบาร์บีคิว”

ถ้าชนะเป็นหลานรักคุณยาย ชยเป็นหลานรักคุณตาแล้ว ชโยก็คือลูกรักของเพี้ยน ตอนเด็กๆ แฝดสามได้รับความรักมากมายจนไม่มีใครนึกอิจฉาใคร ทว่า...หลังจากที่ชนะถูกส่งไปอเมริกา อะไรหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไป วันนี้เพี้ยนจึงมีความสุขที่สุดที่ได้เห็นภาพบรรยากาศเดิมๆ หวนคืนมาอีกครั้ง

“พี่พ่าย เลิกทำงานได้แล้ว มาช่วยน้องทำบาร์บีคิวเร็ว” คงมีอีตาสามีหน้าดุนี่แหละที่ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ก็ไม่ยอมเปลี่ยน บ้างานอย่างไรก็อย่างนั้น

“ไม่ เดี๋ยวมือกูเปื้อน”

เพี้ยนเบะปาก ฟังข้ออ้างคนตัวใหญ่แล้วก็รู้สึกหมั่นไส้

“โย พี่นะเป็นไงบ้าง สนุกหรือเปล่า” เพี้ยนเลิกสนใจไร้พ่ายแล้ววกกลับมาชวนชโยพูดคุย

“ก็...บอกไม่ถูก โยว่า เหมือนนะคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยิ้มก็หัวเราะปกตินะ”

“อืม...” เพี้ยนพยักหน้า ก่อนจะเหลือบมองไร้พ่ายที่ยอมวางแฟ้มเอกสารลง “ช่วยดูพี่นะด้วย อย่าให้คลาดสายตาเชียว”

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่โยอยู่ไม่นานก็ต้องกลับ ยะก็เรียนหนัก” ชโยบอก ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความกลุ้มใจ “แล้วเพี้ยนได้คุยกับนะบ้างหรือยัง”

“พี่เพี้ยนถามแล้ว แต่น้องนะไม่ยอมบอกอะไร”

“ยะก็ถามแล้วเหมือนกัน โยก็เลยคิดว่าไม่ถามดีกว่า เพราะขนาดยะถามก็ยังไม่บอก”

“อืม” เพี้ยนพยักหน้ารับรู้ “พี่พ่าย แล้วพี่ได้คุยกับลูกหรือเปล่า”

ไร้พ่ายส่ายหน้า “ไม่จำเป็นหรอกมั้ง”

“อย่าพูดแบบนี้สิ บางทีพี่อาจจะเป็นคนเดียวที่น้องนะอยากให้ถามก็ได้”

“โตแล้วก็ดูแลตัวเองบ้าง”

“พี่พ่าย คิดแบบนี้จริงๆ หรือไง ถ้าสักวันมันสายเกินไปแล้วอย่ามาคร่ำครวญให้เห็น ตอนที่แสดงความรักได้กลับไม่ทำ”

ไร้พ่ายทำหูทวนลม เบื่อที่จะฟังเพี้ยนมันบ่น จึงทำทีเปิดแฟ้มเอกสาร พิจารณาโครงการก่อสร้างต่อไป แต่ในใจยังคงเต็มไปด้วยความกังวล

***********

บรรยากาศยามเย็นที่ไร่เทียมตะวันนั้นเย็นสบาย ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวขจีมีโต๊ะตัวยาวตั้งวางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเตาย่างบาร์บีคิว ชนะหัวเราะอย่างสนุกสนานไปกับเรื่องเล่าสมัยก่อนของคุณตา เพี้ยนที่ยืนปิ้งบาร์บีคิวก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง เห็นลูกชายหัวเราะได้อย่างนี้คงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว

บนโต๊ะตัวยาวคราคร่ำไปด้วยอาหารรสเลิศ ทั้งยำวุ้นเส้นฝีมือคุณยายที่ชนะรีเควส ทั้งต้มยำไก่ อาหารเหนือที่ชยชอบทาน และบาร์บีคิวอีกหลายไม้ฝีมือชโยกับเพี้ยน

“น้องนะ ทานเยอะๆ นะลูก” ชนะนั่งข้างคุณยายที่หยิบอาหารใส่จานให้ไม่ขาด ส่วนคนรูปหล่อก็เอาอกเอาใจคุณยายจนคุณตาน้อยใจให้เด็กๆ เห็นไปอีกหลายยก เรียกเสียงฮาครืนจากเพี้ยน แม้กระทั่งไร้พ่ายที่ปกติมักจะหน้านิ่งก็ยังขยับยิ้มตาม

“ป๋า...อันนี้อร่อย” ชนะตักยำวุ้นเส้นใส่จานให้ผู้เป็นพ่อ เพี้ยนยิ้มกว้างจนน้ำตาซึมเพราะนานมากแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้เห็นความใส่ใจระหว่างพ่อลูกคู่นี้

“อืม เราก็กินบ้าง” ไร้พ่ายตอบเสียงเรียบ ยกมือลูบหัวลูกชายอย่างเก้ๆ กังๆ จนสุดท้ายมือใหญ่ที่แสนอบอุ่นนั้นก็ลูบผ่านแผ่วเบาแล้วรีบผละออก ชนะคลี่ยิ้ม ชิมเนื้อไก่ที่พ่ออุตส่าห์ตักมาให้

“ป๋า ตักให้นะคนเดียวเลย พวกเราล่ะ” คนแก้มเยอะทำทีประท้วง เพี้ยนก็ผสมโรงด้วยอีกคน

“น้องด้วยยย ตักให้น้องเลย กินข้าวด้วยกันมาจะยี่สิบปีแล้วไม่เคยตักกับข้าวให้น้องกินบ้าง”

ไร้พ่ายที่กำลังตักแบ่งอาหารให้จานให้ลูกๆ แต่ละคนเหมือนตอนยังเด็กขมวดคิ้วใส่ไอ้เด็กโข่ง “มึงมีมือไหม”

“จิ๊”

“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า” คุณยายหัวเราะสะใจลูกชายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เพี้ยนมันยังเด็ก ก่อนจะยิ้มรับเมื่อลูกเขยหยิบบาร์บีคิวใส่จานให้ “ขอบใจจ้ะลูกเขย”

เห็นเพี้ยนหน้าตูม ชโยที่นั่งใกล้จึงรีบตักยำวุ้นเส้นใส่จานให้ “โยตักให้นะ ป๋าไม่รัก แต่โยรัก”

“ลูกชายของพี่เพี้ยนนนน”

ชนะเห็นชโยรีบขยับหนีจูบจากเพี้ยนก็หัวเราะลั่น ต่อให้โยรักแค่ไหน ก็คงไม่พร้อมให้หน้าหล่อๆ เปื้อนริมฝีปากที่มันวาวเพราะบาร์บีคิวแน่นอน

มื้ออาหารในวันนี้...คงอยู่ในความทรงจำของชนะไปอีกนานเท่านาน เพราะไม่มีอาหารร้านดังร้านไหน จะอร่อยได้เท่าฝีมือของคุณยาย ไม่มีบรรยากาศหรูหราที่ไหน...จะถูกใจได้มากกว่า บรรยากาศที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับครอบครัว ชนะมีความสุขมากเหลือเกิน

ครืด...ครืด....ครืด...

“นะ โทรศัพท์มือถือตัวสั่นรึเปล่าอ่ะ เหมือนได้ยินเสียง” ได้ยินชยพูดดังนั้น ชนะก็รีบควานมือหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองทันที ก่อนจะล้วงมันออกจากกระเป๋ากางเกง เบอร์โทรบนหน้าจอมือถือเป็นตัวเลขหลายหลักราวกับคนโทรอยู่คนละประเทศ

“ผมขอตัวแป๊บนะครับ” ชนะรีบขอตัวแล้วเดินเลี่ยงมารับสาย

“สวัสดีครับ”

“น้องนะ แม่นะคะ” น้ำเสียงหวานหยดของผู้หญิงที่เขาเลี่ยงจะรับสายมาตลอดทำให้ลำตัวเกร็งแข็งขึ้นมา

“ครับแม่”

“หนูรินกลับมาที่บ้านแล้วนะคะ แล้วทำไมลูกไม่กลับมากับหนูรินด้วย ไม่คิดจะมาเยี่ยมแม่บ้างเหรอ”

ชนะกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ใจหนึ่งอยากกดวางสาย แต่อีกใจกลับพร่ำบอกว่าอีกฝ่ายคือมารดาที่ให้กำเนิด

“ผมต้องไปเรียนครับแม่ คงไปเยี่ยมไม่ได้”

“งั้นปิดเทอมมาหาแม่นะคะ แม่จะรอ แม่คิดถึงน้องนะมากเลย”

“ผม...”

“อย่าปฏิเสธแม่เลยนะคะ แล้วนี่อยู่ที่ไหนคะลูก ที่บ้านหรือเปล่า ป๋าอยู่ด้วยไหม”

“ผมมาเชียงใหม่กับป๋ากับเพี้ยนครับ มาที่ไร่ของคุณตาคุณยาย”

ได้ยินเสียงหัวเราะบาดหูจากปลายสาย ชนะจึงได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ

“ลูกไม่ได้เป็นลูกไอ้เพี้ยนมัน ไม่จำเป็นต้องไปนับญาติ น้องนะเป็นลูกของแม่กับป๋านะคะ ไอ้เพี้ยนมันแย่งป๋าไปจากแม่ มันเป็นเกย์โรคจิต แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปใกล้มัน”

“แม่ เพี้ยนไม่ได้เป็นแบบนั้น” เสียงของชนะแข็งกร้าว

“มันเป็นโรคจิตจริงๆ นะลูก ไม่งั้นมันไม่ทำพี่สาวมันท้องหรอก ก่อนที่มันจะมาแย่งป๋าไปจากแม่ มันทำพี่สาวลูกพ่อเลี้ยงของมันท้อง พี่สาวมันน่ะร่าน อยากได้ป๋าของลูกใจจะขาด แต่ยังดีที่ลุงมาวินเขาช่วยกันมันไว้ได้ สุดท้ายก็ได้เสียกับไอ้เพี้ยน แล้วแขวนคอตายหนีอาย”

“แม่...ผมวางนะครับ” ชนะไม่อยากรับฟังเรื่องที่แม่กำลังพูด ราวกับเป็นเรื่องโกหก...ไม่ใช่เรื่องจริง

“เดี๋ยว...น้องนะ ฟังแม่ ถึงเวลาที่ลูกควรรู้สักทีว่าไอ้เพี้ยนมันทำอะไรไว้กับแม่บ้าง”

“ผมไม่ฟัง”

“ถ้าไม่ฟังแม่จะบินไปหาวันพรุ่งนี้เลยดีไหม”

ชนะเงียบกริบ สิ่งสุดท้ายในโลกใบนี้รองจากการเลิกกับเสมอแล้วก็คือการพบเจอกับแม่แท้ๆ ที่เป็นเหมือนฝันร้าย

“ไอ้เพี้ยนมันขับรถชนแม่ มันทำให้พี่ชายของแม่ต้องติดคุกตลอดชีวิตและถูกฆ่าตายในนั้น มันทำให้คุณปู่ของลูกตรอมใจตาย มันทำทุกอย่างเพื่อจะแย่งป๋าของลูกไปจากแม่”

“เพี้ยนไม่ใช่คนแบบนั้น ผมรู้จักเพี้ยนดี แม่อย่าพูดโกหก”

“แม่ไม่ได้โกหก ไอ้เพี้ยนมันชั่ว กี่คนแล้วต้องตายเพราะมัน ทั้งพี่สาวร่านๆ ของมัน ทั้งเมียที่ส่งเสียเลี้ยงดูมันก็ถูกข่มขืนจนตาย ทุกอย่างเพราะมันทั้งนั้น”

“แม่...พอเถอะครับ อย่าใส่ร้ายเพี้ยนอีกเลย”

“น้องนะไม่เชื่อแม่ก็ไม่เป็นไร แต่แม่บอกไว้เลยว่า แม่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกมันพรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากแม่ แม้แต่ลูก...ก็ยังเข้าข้างมันมากกว่าแม่”

ชนะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนล้า ไม่อยากต้องรับรู้กับอะไรทั้งนั้น เขาฟังแม่พูดกรอกหูมามากพอแล้ว ฟังมามากพอจนรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้า แต่ถึงอย่างนั้น...เขาก็ไม่เคยรู้สึกเกลียดเพี้ยนเลยสักนิด เพราะเพี้ยนจริงใจ รักและดูแลเขาเป็นอย่างดีมาตลอด เพี้ยนปกป้องเขา อยู่กับเขาในวันที่เขาไม่เหลือใคร มีแต่เพี้ยนที่เข้าใจเขา

“ถามป๋าดูก็ได้ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง อย่าถามไอ้เพี้ยน เพราะมันจะโกหกลูก”

“แม่ครับ ผมต้องกลับไปทานข้าวต่อแล้ว”

“โอเคๆ แม่กวนลูกแค่นี้ก็ได้ แต่ปิดเทอมต้องมาหาแม่นะ”

ชนะไม่รับปาก กดวางสายแล้วเดินกลับโต๊ะ อยู่ทานไปได้อีกนิดหน่อยก็ขอตัวมาอาบน้ำ รู้สึกร่างกายห่อเหี่ยวเหลือคณา อยากได้น้ำเย็นๆ มาชะโลมร่างกายให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

เรื่องราวในครั้งที่ชนะยังเด็กนั้นเลือนลาง ที่จำได้ชัดเจนก็มีแต่ช่วงเวลาเลวร้ายที่ต้องไปอยู่กับแม่ทุกช่วงปิดเทอมเท่านั้น ชนะไม่รู้เกี่ยวกับคุณปู่ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลุงที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของแม่เลย จำได้ว่าคุณปู่นั้นใจดี และคุณลุงก็รักพวกเขามาก แต่หลังจากนั้นคนทั้งคู่ก็หายไป ชนะรับรู้เอาตอนโตว่าทั้งสองคนตายไปแล้ว ทว่า...สาเหตุการตายนั้นไม่แน่ชัด เพราะไม่มีใครเล่ารายละเอียดให้ฟังแม้แต่คนเดียว

***********

“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันครบรอบวันตายของพี่กิ๊ฟแล้ว น้องว่าจะไปที่บ้านสวนเสียหน่อย” เพี้ยนบอกไร้พ่ายเสียงเบา ขณะนี้ในห้องนั่งเล่นเหลือกันอยู่แค่สองคน เพราะสองผู้อาวุโสเข้านอนแล้วตามประสาคนสูงอายุ ส่วนเด็กๆ ก็แยกย้ายกันเข้าห้องตัวเอง

“อืม พาอ่องไปทำความสะอาดด้วยก็ดี ไม่ไปนาน คงมีแต่ฝุ่น”

“พี่พ่ายไปด้วยกันไหม”

“ทุกปีมึงก็ไปคนเดียวอยู่แล้ว” ไร้พ่ายบอกเสียงเรียบ “ไม่ต้องคิดมาก วันนั้นจะเป็นวันเดียวที่กูอนุญาตให้มึงคิดถึงกิ๊ฟได้เต็มที่”
เพี้ยนพยักหน้า ล้มตัวลงนอนหนุนตักของไร้พ่าย “ขอบคุณที่เข้าใจน้อง”

ภายในห้องเงียบกริบ แต่บรรยากาศเย็นสบายไร้ความอึดอัด คงมีแต่คนที่แอบฟังอยู่นอกห้องที่หัวใจเต้นรัวเร็ว

“นี่ก็นานแล้วเนอะพี่ ตั้งแต่ที่ไอ้มาวินมันตาย ไม่รู้น้องสาวมันทำบุญให้บ้างไหม เห็นตั้งแต่พี่มันตายยันแก่มันก็ยังทำบาปไม่เลิก”

“กูก็ทำบุญให้อยู่คงได้รับบุญบ้าง”

“กรวดน้ำให้นังวิวมันด้วย มันจะได้เลิกตามรังควานน้องนะเสียที คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ขนาดศาลสั่งไม่ให้มันเข้าใกล้ลูกแล้วมันยังกล้าอีก” น้ำเสียงของเพี้ยนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “มันไม่สำนึกบ้างเลยนะนังนี่อ่ะ ร่วมหัวกับพี่ชายมันฆ่าพี่ดรีม ฆ่าลูกในท้องของพี่ชายมันเองไม่พอ ยั้งมาคิดว่าเราทำพี่มันตาย พี่มันทำตัวเองแท้ๆ คดีข่มขืนพี่กิ๊ฟแทนที่มันจะถูกประหารชีวิต แต่กลับแค่ติดคุก พ่อพี่กิ๊ฟสั่งเก็บเองก็มาโทษน้อง ที่ทุกวันนี้น้องไม่มีลูกก็เพราะนังวิวมันไม่ยอมรับความจริงแล้วเอาแต่สาปแช่งนี่แหละ”

ไร้พ่ายหัวเราะ ตบหน้าผากไอ้ติ๊งต๊องไปหนึ่งที “มึงไม่มีมดลูกไหม”

“เออ นั่นแหละ” เพี้ยนทำหน้าทะเล้น “สงสารเด็กๆ ที่มีแม่จิตไม่ปกติแบบมัน เฮ้อ แล้วนี่พี่หาเมียได้ยัง แก่จะลงโลงแล้วนะ ให้มาอยู่ช่วยเลี้ยงลูกจนน้องเบื่อแล้วเนี่ย เหนื่อยด้วย”

“อายุขนาดนี้แล้วยังจะให้กูไปหาเมียที่ไหนอีก มึงก็เป็นไปจนตายซะก็จบ เลี้ยงลูกมึงก็ทำได้ดี ไม่ต้องบ่นให้มาก”

“ชมน้องดีๆ ไม่เคยจะมีหรอก จิ๊”

“แล้วนะเป็นไงบ้าง จินกับลุงแสงรายงานว่าไง”

“ก็ปกติดี เก็บตัวอยู่ในห้องบ้าง แต่พี่ไม่ต้องกังวลเลย น้องนะไม่กลับไปติดของไม่ดีพวกนั้นอีกแล้ว”

“ยังไงมึงก็ดูไว้ด้วย กูไม่ไว้ใจ เกิดกลับไปติดยาขึ้นมาอีกคงยุ่ง”

“จ้าๆ จะดูให้อย่างดีเลย”

แม้ภายในห้องจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่คนฟังที่หน้าประตูกลับตัวแข็งทื่อ คำพูดที่กลับด้านกับคำพูดของแม่ คำพูดที่มาจากเพี้ยนและมีป๋ายืนยันให้กรายๆ และยัง...คำพูดที่เหมือนเขาเป็นตัวปัญหา พ่อไม่เคยไว้ใจเขาจริงๆ เลยสักครั้ง เพี้ยนก็เป็นแค่ผู้คุมตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น คงไม่ได้ห่วงใยลูกของผู้หญิงที่เกลียด ...ผู้หญิงที่ทำลายชีวิตของตัวเองจากใจเป็นแน่

ชนะยกมือลูบหน้า เดินกลับขึ้นห้องอย่างเงียบเชียบ

“เหมอจ๋า...ไปกับผมนะ ไปหาที่...ที่เป็นของเราด้วยกัน”

มีความสุขที่ได้อยู่กับน้องๆ ได้เที่ยวกันอย่างเต็มที่ ได้กลับมาเจอคุณตากับคุณยาย ได้กินข้าวพร้อมหน้ากันแล้ว ชนะไม่มีอะไรติดค้างอีก ไม่มีอะไรให้คาดหวัง...ไม่มีเรื่องที่ต้องเฝ้ารอ...ไม่มีคน...ที่อยากจะอยู่ด้วยอีกแล้ว

มือใหญ่กำตุ๊กตาไม้ไว้แน่น ก่อนจะนอนลงบนเตียงช้าๆ เพราะความมึนเบลอจากฤทธิ์ยานอนหลับที่กินเข้าไปเกินขนาด

ชนะเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว...ไม่มีจดหมายบอกลาใดๆ เพราะอย่างน้อยในครั้งนี้...ก็อยากจากไปจริงๆ ไม่เหมือนครั้งแรกที่ทำไปเพราะเรียกร้องความสนใจ



ก๊อกๆๆๆๆๆ

“นะ...เค้ากับโยจะมานอนด้วยยยย นะ...เปิดประตูหน่อยยยย”

ชยร้องเรียกเสียงร่าเริง กอดหมอนไว้ในอ้อมแขนพลางหันมองแฝดน้องที่ช่วยกันยกมือระดมเคาะประตู แต่ภายในห้องก็ยังคงเงียบกริบ

“นะลงไปเดินเล่นข้างล่างรึเปล่า เราลงไปดูกันไหม” ชโยออกความเห็นหลังจากเคาะจนเจ็บมือแล้วยังไม่มีเสียงตอบรับ ก้มมองลอดช่องแคบไม่กี่มิลลิเมตรด้านล่างประตูก็ไม่มีแสงไฟเล็ดลอดออกมา แต่ในขณะที่กำลังจะตัดสินใจลงไปชั้นล่าง เสียงอะไรบางอย่างก็ตกกระทบพื้นดังมาจากในห้องของพี่ชาย

“นะ อยู่ในห้องเหรอ เปิดประตูให้หน่อย!” ชยเริ่มร้องเรียกเสียงดัง หวาดหวั่นในใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ “นะ!”

“เด็กๆ มีอะไรกัน เสียงดังไปถึงข้างล่าง” เพี้ยนรีบขึ้นมาชั้นบนเพราะเสียงตะโกนลั่นบ้าน คุณตาคุณยายก็ออกจากห้องนอนมาเหมือนกัน

“นะไม่ยอมเปิดประตู เรียกก็ไม่ตอบ”

ไร้พ่ายเดินดิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะทุบประตูเสียงดัง “นะ! ได้ยินป๋าไหม เปิดประตูหน่อย!”

แต่ยังคงไร้เสียงตอบกลับ “โย มาช่วยป๋าหน่อย”

เพราะประตูของบ้านมีกลอนล็อคอีกชั้นไว้ข้างใน ต่อให้มีกุญแจสำรองไขลูกบิดก็ยังต้องพังเข้าไปอยู่ดี ไร้พ่ายกับลูกชายคนสุดท้องจึงช่วยกันกระแทกประตูให้เปิด แต่สุดท้ายก็ยังต้องพึ่งพาแรงของเพี้ยนอีกแรง

ปึง! ปึง!

เสียงกระแทกประตูหลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่กลอนด้านในจะพังหลุดออกไม่เป็นท่า บานประตูตีเปิดด้วยแรงถีบสุดท้ายของไร้พ่าย ชยรีบวิ่งไปหาพี่ชาย เหยียบเข้ากับตุ๊กตาไม้ที่ตกหล่นอยู่ใกล้ๆ ไอ้เจ้าตัวนี่เป็นแน่ที่ตกลงพื้นเสียงดังให้ได้ยิน

“นะ...นะได้ยินไหม!” ชยเขย่าร่างพี่ชายที่แน่นิ่ง รูปหน้าหล่อเหลาเผือดซีด ไร้การตอบสนอง เพี้ยนกัดริมฝีปากแน่น ชโยยืนกอดเพี้ยนไว้แล้วร้องไห้

“แม่...แม่ เรียกรถพยาบาล...” นายแม่ของไร่เทียมตะวันรีบวิ่งหาโทรศัพท์มือถือทันที

ไร้พ่ายรีบเข้าประคองลูกชาย ก่อนจะยกร่างทั้งร่างของลูกขึ้นอุ้ม ใบหน้านิ่งดุเผือดซีดไม่แพ้คนเป็นลูก ดวงตาแดงก่ำเริ่มรื้นไปด้วยน้ำ

“พี่พ่าย รถพยาบาลกำลังมา” เพี้ยนรีบบอก

“กูไม่มีเวลารอรถพยาบาล ลูกกูกำลังจะตาย มึงไปเตรียมรถ เดี๋ยวนี้เพี้ยน ไป!”

เพี้ยนรีบพยักหน้า รีบวิ่งลงบันไดไปทันที พ่อดิวรีบวิ่งตามหลังไปอีกคน “น้องเพี้ยน กุญแจรถลูก”

“ขอบคุณครับพ่อ”

คนลนลานรับกุญแจแล้ววิ่งอย่างสุดกำลังไปเอารถ สตาร์ทเครื่องเสร็จก็เหยียบคันเร่งขับเข้าจอดรอไร้พ่ายที่กำลังอุ้มลูกชายมาขึ้นรถ แฝดอีกสองคนรีบตามขึ้นเบาะหลัง

“ออกรถ!” เสียงเข้มจัดของไร้พ่ายดึงสติเพี้ยนให้กลับคืน จากที่นิ่งงันเพราะสภาพของลูกชายสุดที่รัก จึงได้สติรีบเร่งเครื่องยนต์พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

ภายในรถเงียบเชียบ ชยกอดชโยที่กำลังร้องไห้ ไร้พ่ายกุมมือลูกชายคนโตไว้แน่น กอดร่างที่ซีดเผือดด้วยความปวดร้าว ไม่มีคำพูดใดที่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้ในตอนนี้ มีแต่คำขอโทษที่ดังก้องอยู่ในใจ

“ป๋า โตขึ้นนะอยากเป็นทหาร เป็นทหารแข็งแรง นะจะปกป้องน้องๆ ปกป้องเพี้ยน ปกป้องป๋าด้วย”
“ไม่ได้... ธุรกิจของป๋าต้องมีคนดูแลต่อ”


รอยยิ้มเจื่อนบนใบหน้าเล็ก...ไร้พ่ายจำได้ดีขึ้นใจ

“นะไม่อยากไปหาแม่ นะอยากอยู่กับป๋า อยากอยู่กับเพี้ยน”
“ไม่ได้ชนะ อย่าดื้อกับป๋า”


น้ำตาไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย..ไร้พ่ายก็ไม่เคยลืม

“นะไม่อยากไปอเมริกา นะอยากอยู่กับน้อง อยากอยู่กับป๋า อยากอยู่กับเพี้ยน ป๋าอย่าให้นะไปเลย...นะไม่อยากไป”
“ไม่ได้ โตแล้วอย่างอแง แล้วป๋าจะไปเยี่ยมบ่อยๆ”


ครั้งนั้นชนะนิ่งงัน ไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดให้เห็น และตั้งแต่นั้น...ที่ความสัมพันธ์ของเขากับลูกเปลี่ยนไป

“ป๋า มึงมาเยี่ยมลูกบ้างได้ไหมวะ รู้ว่างานยุ่ง แต่มาหาแกหน่อย”
“โทษทีว่ะไอ้เกม กูต้องคุมโครงการใหญ่ เพี้ยนมันก็ไปไม่ได้ ไว้ตอนปิดเทอมกูไปหาก็แล้วกัน”
“แต่ลูกต้องการเจอมึงนะเว้ย”
“เดี๋ยวกูคุยกับนะเอง ไม่ต้องห่วง”


“นะ...ป๋าขอโทษ ขอโทษนะลูก” น้ำตาของลูกผู้ชายรินไหลไม่ขาดสาย เพราะแก้วตาดวงใจกำลังจะจากไปอย่างไม่หวนคืน เพี้ยนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเปียกชุ่ม เหยียบเร่งเครื่องยนต์จนถึงโรงพยาบาล

ชนะถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินในเวลาต่อมา ไร้พ่ายทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องอย่างอ่อนล้า มีเพี้ยนกอดประคองปลอบโยน

“ลูกต้องไม่เป็นไร” เพี้ยนบอกเบาๆ ปลอบใจทั้งตัวเองและคนรัก เห็นเด็กแฝดอีกสองคนนั่งตาบวมอยู่ใกล้ๆ ก็ผละจากคนพ่อเข้าไปกอดคนลูกไว้

“ทั้งๆ ที่รู้ว่านะมีเรื่องทุกข์ใจ แต่ยะกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย” ชยบอกเสียงเครือ ในมือกำตุ๊กตาไม้ที่ตกอยู่ในห้องของพี่ชายไว้แน่น

“ไม่เอาลูก ไม่ร้องแล้ว พี่นะไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อพี่เพี้ยนสิ แล้วนี่เอาเหมอจ๋ามาจากไหน” เพี้ยนปลอบแล้วก้มลงมองในมือของชย

“มันตกอยู่ใกล้ๆ เตียง นะคงถือมันไว้ พอหมดสติมันคงกลิ้งตกลงมา ดีที่มันไม่หัก เพราะตกลงมาเสียงดัง ยะกับโยเลยได้ยินเสียงจากในห้อง” ชยบอก นึกขอบคุณที่เจ้าตุ๊กตาไม้ตัวนี้ตกลงกระทบพื้น เพราะไม่อย่างนั้นก็คงช้าไม่ทันการ

“ต้องขอบคุณมันซะแล้วเนอะ ไปล้างหน้าล้างตาเถอะเด็กๆ เดี๋ยวพี่เพี้ยนกับป๋าจะอยู่ตรงนี้รอ”

ชยกับชโยพยักหน้า ก่อนจะพากันเดินไปหาห้องน้ำในโรงพยาบาล ไม่ลืมที่จะฝากตุ๊กตาไม้ไว้กับเพี้ยนด้วย

“พี่พ่าย...” เพี้ยนเรียกเสียงเบา นำพาให้คนนิ่งงันขยับตัว ก่อนจะส่งตุ๊กตาไม้ไปให้ “มันช่วยลูกเราไว้”

ไร้พ่ายพยักหน้า “นะเลิกกับเสมอแล้วใช่ไหม”

“ใช่พี่ แต่อย่าโทษน้องเหมอเลย เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ น้องนะก็คงไม่ได้อยากให้เราโทษน้องเหมอหรอก”

“กูรู้” ไร้พ่ายเข้าใจดีว่าเพราะสภาพจิตใจของลูกชายที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไปจนต้องเข้ารับการรักษา คงผิดที่เขาเอง...ที่ใส่ใจลูกไม่ดีพอ “เพี้ยน”

“จ๋าพี่”

“กูจะพานะไปรักษาที่อเมริกาสักพัก กูคงไม่ส่งลูกไปคนเดียวอีกแล้ว ฝากมึงดูแลงานทางนี้ได้ไหม”

“ได้จ้ะ แต่น้องบินไปหาบ่อยๆ ได้ไหมอ่า คงคิดถึงแย่”

“ตามใจมึง ถ้าไม่เหนื่อย”

“ไม่เหนื่อยหรอก แค่เห็นพี่กับลูก น้องก็มีกำลังใจขึ้นมาแล้ว ตอนนี้มาภาวนาให้น้องนะกันดีกว่าเนอะ”

เพราะมีเพี้ยน เรื่องเลวร้ายถึงได้บรรเทาลง ไร้พ่ายคงทำอะไรไม่ถูก ถ้าหากมีแค่เขากับลูกอยู่กันตามลำพัง

..................................................TBC.................................................................

เพราะเราเตรียมคลายปม วันนี้เลยลงสองตอน
ใจคนอยากจะไป  อะไรก็คงรั้งไม่ได้...ชนะ ขอโทษที่ต้องเป็นแบบนี้  :m15:

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1895 เมื่อ02-01-2016 18:22:45 »

 สงสารใครดีนะ สงสารตัวเองก่อนดีกว่า มันหน่วงมาก  :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2016 19:09:04 โดย evilheart »

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36 02/01/2559 Page. 63
«ตอบ #1896 เมื่อ02-01-2016 18:32:46 »

อ่านจบสามตอนรวด


อิดอกกกกกกกกกกกริน นังลำไยสิบสวน มาให้เจ๊ตบซักที


นะจ๋าเจ๊เชื่อนะว่า นะจ๋ารักเหมอจริงๆ
ยังไม่ลืมคนเก่าไม่ได้แปลว่ายังรักคนเก่า และไม่ได้รักคนใหม่นี่น่า

คนเคยรักมาก่อนมันลืมไม่ได้หรอก แต่มันจากกันแล้วความรู้สึกที่หยุดอยู่อย่างเดิมจะเท่าคนปัจจุบันที่รักมากขึ้นทุกวันได้ไง


ลุงเกมลุงเอค่ะ  ขอนิดเดียว พาอิดอกสิบไร่นั่นมาทำไมมมมมมมมมมมม
นังหน้าด้านนั่น


อ่านตอนล่าสุด โอ๊ยยยยยยยยยยยย วิ่งไปตบพ่ายซักทีก่อนค่อยว่ากัน
นี่มันจะสายเกินไปแล้วนะ

ฮือออออ ชนะนี่ลูกต้องเจออะไรมาเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2016 19:20:57 โดย fuku »

ออฟไลน์ ammie_mn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1897 เมื่อ02-01-2016 18:42:06 »

อหหหหห ฆ่าตัวตายจริงๆสินะ บายยยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2016 19:03:10 โดย ammie_mn »

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1898 เมื่อ02-01-2016 18:44:20 »

อ่านตอนนี้ น้ำตาไหล;(

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1899 เมื่อ02-01-2016 18:44:48 »

นี่ทีมเสมอมาตลอด แต่พออ่านตอนที่ 37 แล้วรู้สึกว่าเสมองี่เง่ามากๆ ไม่ฟังอะไรเลยอะ
สงสารนะ สู้ๆนะคะ ผ่านไปให้ได้นะ :ling2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
« ตอบ #1899 เมื่อ: 02-01-2016 18:44:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1900 เมื่อ02-01-2016 18:45:07 »

ชะน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :katai4: :katai4: :katai4: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ salemon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1901 เมื่อ02-01-2016 18:46:51 »

เครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


เกลียดอินังวิว ฆ่ามันนนนน

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1902 เมื่อ02-01-2016 18:58:51 »

รอขุ่นแม่เพี้ยนมาจัดการข่ะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1903 เมื่อ02-01-2016 19:01:01 »

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: ชะน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1904 เมื่อ02-01-2016 19:02:43 »

แง่เค้าจะห่างกันแล้วอย่านานน้าาาาาาาาารีบกลับมาเคลียกันด่วนๆ

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1905 เมื่อ02-01-2016 19:03:18 »

 :sad4: สงสาร
นังวิวนังมารร้าย :angry2:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1906 เมื่อ02-01-2016 19:10:18 »

เห็นใจนะมาก และเข้าใจเหมอมากเหมือนกัน
น่าสงสารทั้งคู่แหละ ขาดใครอีกคนไปก็อยู่ไม่ได้ ร้องไห้ด้วย ฮือออออ ต้องแอบข้ามไปบางส่วนเพราะอ่านไม่ไหวจริงๆ

กลับมารักกันเถอะะะะะะะะะะ

ปล.นิยายเรื่องนี้ความใสมันบินไปไหนแล้วววววว

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1907 เมื่อ02-01-2016 19:14:07 »

ชนะะะะ  ทำไมทำแบบเน้ 

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1908 เมื่อ02-01-2016 19:14:49 »

เพิ่งตอบไปตอนเมื่อกี้ว่ากลัวนะมันคิดสั้น อยากให้ทุกคนดูแลนะดีๆสรุปไม่ทัน ตอนนี้จุกสุดๆอึดอัดใจที่สุดแทบอยากจะปล่อยโฮเลยจริงๆ  :sad4:

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1909 เมื่อ02-01-2016 19:15:02 »

ไม่รู้จะเม้นท์ยังไงเลยค่ะ น้ำตาไหลตั้งแต่เริ่มอ่าน จนตอนนี้ยังหยุดไม่ได้เลย
เป็นสองตอนที่หน่วงที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลย เหมือนหายใจไม่ออก

จะบอกว่าเสมอผิด ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เสมอผิดที่เคยสัญญากันชนะไว้แล้วทำไม่ได้ แต่เสมอก็ไม่ผิดที่รู้สึกแย่ เพราะมันไม่ชัดเจนมาตั้งแต่แรก ชนะมีความลับมากมายที่เสมอไม่รู้ เสมอเลยตั้งรับไม่ทัน เราว่าถ้าเสมอรู้ว่าชนะเป็นคนทำให้รันตาย เสมอคงไม่ทิ้งชนะมาแบบนี้

ส่วนชนะ ชนะผิดที่ปกปิดทุกอย่างไว้ คนรักกันต้องเชื่อใจกันสิ แต่เราก็เข้าใจนะที่นะคงกลัวว่าความสุขที่ไม่เคยเจอจากใครจะหายไป เลยขอเห็นแก่ตัวอีกนิดเพื่อยื้อเสมอให้ถึงที่สุด แต่ด้วยชนะเป็นคนที่มี threshold เรื่องพวกนี้ต่ำเลยจบแบบเจ็บๆ

ขอบอกว่าคุณสนัฟเฟิลบรรยายอารมณ์ของชนะได้เจ๋งมากค่ะ เราร้องไห้แบบแม่ยังตกใจว่าอีนี่เป็นอะไร เล่น iPad ไปร้องไห้ไป

ปล.ขอบคุณนะคะที่เขียนให้พี่พ่ายยอมรับว่าผิดที่เลี้ยงชนะมาแบบนี้ เราดีใจที่พี่พ่ายรู้สึกตัวตอนยังไม่สายนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
« ตอบ #1909 เมื่อ: 02-01-2016 19:15:02 »





ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1910 เมื่อ02-01-2016 19:17:46 »

เหมอไม่ให้โอกาสนะอธิบายอะไรเลยอะ เสีบใจไปกะนะมากอยากอาสาปลอบใจจุง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1911 เมื่อ02-01-2016 19:18:07 »

คนที่ป่วยอยู่มันเลือกไม่ได้หรอก
ที่นะทำไปก็เพราะว่าสำหรับนะมันสุดที่จะทนต่อไปแล้ว
นะไม่ได้เรียกร้องความสนใจ  นะไม่ได้อยากแคร์ไม่ได้อยากรู้สึกอีกต่อไป
คนที่ไม่ป่วยไม่รู้หรอกว่าคนที่ป่วยรู้สึกแบบไหน
สำหรับนะชีวิตไม่มีทางออกอีกต่อไปแล้ว

เดาเอาว่านะป่วยมานานหลายปีแล้ว
ที่ไปหาหมอก็น่าจะเป็นช่วงหลังจากรันตาย
นึกดูดีๆนะ ชนะต้องโตขึ้นมากับนังวิว  ต้องฟังนังวิวพล่ามว่าพ่อ-เพี้ยนไม่ดี
ชนะต้องถูกส่งไปอยู่ที่อื่น โดยที่ชยกับชโยยังได้อยู่กับพ่อ
เราเชื่อว่าวิวมันทำมากกว่าเป่าหูชนะ
ที่ยังไม่รู้ก็คือรันตายยังไง  ชนะติดยาได้ยังไง
จะไม่แปลกใจเลยถ้าหากว่านังวิวเป็นคนซัพพลายให้ชนะเพื่อที่ลูกจะไปไหนไม่ได้

ที่ชนะฆ่าตัวตายครานี้เริ่มจากปัญหาที่มีกับเหมอ   ชนะพยายามเท่าที่จะทำได้แล้วที่จะซ่อมสะพานที่มันหักไป  แต่เหมอปฏิเสธทุกอย่าง   ชนะยังพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปทั้งๆที่ไม่มีเหมอนะ   แต่พอมาเจอนังวิวไซโค   มาได้ยินพ่อกับเพี้ยนคุยกัน  อคติบังเกิดมาตั้งแต่ที่ได้คุยกับวิวแล้ว   ยิ่งมาได้ยินว่าทางแม่ตัวเองทำอะไรไว้   ไม่แปลกหรอกที่ชนะจะเขว

เราไม่เข้าใจไร้พ่ายนะ   คือจะบอกว่านางไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับลูกก็กระไรอยู่   รักลุกแต่ไม่รู้วิธีแสดงออกหรือปฏิบัติ   รักลูกแต่ละเลย   รู้ทั้งรู้ว่านังวิวมันงูพิษขนาดไหนก็ยังส่งชนะไปอยุ่กับมัน ทั้งๆที่มันไม่เอาลูกแฝดอีก 2 คนที่เหลือนี่ก็ยังไม่ผิดปกติอีกหรือ?   แถมพอชนะไปอยุ่เมกาก็ไม่ค่อยไปเยี่ยม    ที่ชนะ Fuck up ขนาดนี้ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกนะ

อยากให้เข้าใจกันนะว่าชนะป่วย   คนป่วยไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือที่นอนแบบอยุ่กับเตียงหรือเป็นบ้า   คนที่ป่วยทางจิตบางคนก็อยุ่ ทำงาน  ฟังก์ชั่นได้เหมือนคนทั่วไป  แต่การนึกคิด  ตัดสินใจ  ไม่เหมือนคนธรรมดา   ถ้าเลือกได้ชนะก็คงไม่อยากป่วย ไม่อยากเป็นแบบนี้ คงอยากลืมรันกับเรื่องร้ายๆ  คงอยากที่จะรักเหมอคนเดียว  มีความสุขกับเหมอต่อไป  แต่ point มันอยุ่ที่ว่าชนะทำไม่ได้   ชนะโหยหาความรักขนาดไหนก็ดูตอนที่ชนะอยุ่กับครอบครัวเหมอหรือคุณยายสิ   เราไม่เชื่อว่าชนะทำไปเพราะว่าวางแผนหรอก

ตอนนี้ก็แค่อยากให้ชนะรักษาตัวเองให้ดีขึ้น   หายก็คงไม่หายหรอกแต่ยังไงก็ขอให้ดีขึ้น   อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ารู้ความจริงของชนะแล้วเหมอจะยังโกรธต่อไปหรือว่าจะกลับไปหาชนะ   ถ้ายังโกรธต่อไปก็ต่างคนต่างอยุ่เถอะ   ชนะเองก็ต้องพยายามให้อยุ่ได้โดยที่ไม่มีเหมอ  เศร้าแต่เข้าใจ   #stay strong

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1912 เมื่อ02-01-2016 19:18:21 »

ชะน้าาาาาาาอย่าเป็นอะไรนะ ร้องไห้ตามป๋าเลย สงสารชะน้า  :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1913 เมื่อ02-01-2016 19:19:10 »

เจ็บไปทั้งใจ มันร้องไม่ออกอะ

ถ้าเราเป็นน้องนะ เราก็คงอยากหลับไม่ตื่นเหมือนกัน  :monkeysad:

แต่เราเชื่อว่าฟ้าหลังฝนจะสวยเสมอ ดังนั้นจึงได้โปรดลืมตาขึ้นมาอีกครั้งนะน้องนะ #รักชนะ กอดแน่นๆ :กอด1:

ส่วนลูกเหมอ งี่เง่านะลูก แต่มันก็เป็นอารมณ์ของคนธรรมดาๆนี่ล่ะนะ ดีเหมือนกันให้เหมอได้เรียนรู้ เพราะนี่เป็นความรักครั้งแรก แฟนคนเเรกนี่นะ #กอดเหมอ

รอคนเขียนค่ะ เจ็บไปทั้งใจเลยเรื่องนี้
เจ็บกว่าเจ็บเรื่องตัวเองอีก #อินจัดนังนี่
รอค่ะ ได้โปรดอย่าพักนานเลยนะคะ หน่วงมาก เจ็บไปหมด เหมือนจะหายใจไม่ออก ฮือ

#ยังยืนยันว่ารักลูกเหมอที่สุด
แต่ตอนนี้สงสารลูกนะที่สุดแล้ว
ได้โปรดคืนเสมอให้ชนะไวๆเถอะนะคะ
ชีวิตชนะมืดมนมามากพอแล้ว
ให้เสมอเป็นของขวัญเป็นแสงสว่างของชนะต่อไปเถอะ  :mew6:


ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1914 เมื่อ02-01-2016 19:30:48 »

ชนะอย่าตายนะลูก
ชนะต้องหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยจากสิ่งที่เคยเป็นในอดีต :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36 02/01/2559 Page. 63
«ตอบ #1915 เมื่อ02-01-2016 19:35:54 »

เอาไงนี้

ไม่รู้จะไปอยู่ทีมใครเลย

ึคืนดีกันไวไวนะคะ รักทั้งคู่เลยค่ะ

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1916 เมื่อ02-01-2016 19:40:03 »

สงสารใครดี ไม่อยากให้มีคนตายในเรื่องนี้นะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1917 เมื่อ02-01-2016 19:40:19 »

เราว่านะเป็นคนน่าสงสารมากๆนะ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องเผชิญคนเดียวผลักดันให้กลายเป็นแบบนี้
ในโลกนี้ใครก็กลัวตายทั้งนั้น แต่คนที่อยากที่จะตายนี่เราว่า
ถ้าไม่รู้สึกว่าสู้ต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ เค้าคงไม่คิดจะไป
ถ้าไม่รู้สึกว่าอยู่ไปก็ไม่ต่างกับตาย เค้าคงไม่ทำ
เราหวังว่านะจะปลอดภัย นะต้องไม่เป็นไร

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1918 เมื่อ02-01-2016 19:44:05 »

เสมองี่เง่า ดื้อ และทำตัวเป็นเด็กๆ
ในตอนแรกที่โกรธชนะนั้นเราเข้าใจดี
เพราะเจ็บปวดจากการรู้ความจริงจากปากของคนอื่น
และชนะใส่ใจไม่พอ ละเลยอยู่บ่อยๆ
แต่เมื่อหลังจากการโกรธแล้ว ก็ควรจะเป็นเวลาของการทบทวนความสัมพันธ์
คิด ไตร่ตรองให้ดีว่าผ่านอะไรกันมาบ้าง
แต่เสมอไม่ได้คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขเลย
แต่ถ้ามองในมุมของเสมอ อาจเพราะเสมอไม่รู้ว่าชนะป่วยด้วยแหละ
ต่างคนต่างไม่รู้ทั้งสองด้านของทั้งคู่ เลยอาจจะไม่เข้าใจกันทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้นะ ชนะสู้ๆ

ออฟไลน์ Zxjmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: +รัก...'เสมอ'+ ตอนที่ 36-37 02/01/2559 Page. 63-64
«ตอบ #1919 เมื่อ02-01-2016 19:58:19 »

สงสารชนะ ขอโทษที่ด่าไปในตอนที่แล้วนะลูก :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด