*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 279623 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 14 [100%]



“พี่เขี้ยว พี่เขี้ยว…” คมเขี้ยวที่กำลังยืนมองคนงานทำงานในคอกม้าอยู่ตรงริมรั้วไม้ที่เรียวจันทร์เคยพังจนเละหันไปมองน้อยหน่าที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับอยู่



“มีอะไรน้อย”



“ไปดูคุณนายของพี่หน่อย ตัวแดงเถือกหมดแล้ว” คมเขี้ยวทำหน้าตกใจนิดหนึ่ง



“ใครเอากองฟางไปวางไว้แถวนั้นรึเปล่า” คนถูกถามส่ายหัว



“ไม่มีนะ” ร่างสูงฟังแล้วขมวดคิ้ว ปกติเรียวจันทร์จะมีปฏิกิริยากับกองฟางเป็นพิเศษ แต่ถ้าไม่มีกองฟางแล้วไปโดนอะไรเข้า



คมเขี้ยวเดินนำน้อยหน่าไปทางแปลงดอกไม้ริมรั้วที่อยู่คนละฝั่งกับคอกม้า ใช้เวลาเดินเกือบสิบนาทีก็มาถึงตรงห้องกระจกสำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งรอไปเข้าชมฟาร์ม เขาเห็นคนตัวขาวๆ นั่งอยู่กับคนงานหญิงอีกสองคน ผิวสีขาวเห็นชัดว่าแดงแจ๋ไปทั้งตัว ซ้ำยังลามขึ้นไปลำคอ และคิดว่าอีกไม่นานคงตามไปถึงใบหน้า



“ไปยุ่งกับกองฟางมารึเปล่า” คมเขี้ยวถามทันทีที่เดินไปถึงตัวเรียวจันทร์ แม่คุณนายทำหน้าหยีแล้วสั่นหัวรัวๆ สองมือลูบๆ เกาๆ ตามตัวไม่หยุด



“ฉันว่าคุณเรียวแกแพ้หญ้า ไม่ก็เกสรดอกไม้นะพี่เขี้ยว”



“บอบบางซะจริง ฉันเป็นผู้หญิงยังไม่เห็นเป็นไร” คมเขี้ยวหันไปมองน้อยหน่าด้วยสายตาดุนิดๆ อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งแล้วเดินไปทางอื่น เรียวจันทร์ไม่มีเวลาชักสีหน้าใส่แม่ลูกระเบิด เพราะกำลังคันยิกๆ



“เดี๋ยวไปทายา เดินไหวรึเปล่า” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ ลุกขึ้นเดินตามคมเขี้ยวไป



“ก่อนผื่นจะขึ้นไปจับอะไรมา” ระหว่างทางเดินไปที่บ้านใหญ่ คมเขี้ยวก็หันมาถามคนที่กำลังลูบไปทั่วแขนแดงเถือกของตัวเอง



“ก็ต้นปอเทือง แล้วก็ไปจับดอกไม้อะ”  คมเขี้ยวส่ายหัวหน่อยๆ



“แพ้แค่กองฟางยังไม่พอ ยังจะมาแพ้ดอกไม้ใบหญ้าอีกหรือไง” เรียวจันทร์หน้างอ ปลายนิ้วลูบไปตามตัวเบาๆ



“ใครจะถึกทนเหมือนนายล่ะ ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้นะ”



“ก็เลิกทำแล้วกลับไปเป็นนายแบบซะ จะได้ไม่เป็นแบบนี้” เรียวจันทร์เบะปากหนึ่งที



“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวไม่ได้อยู่ใกล้นายสิแบบนั้น” คนตัวสูงส่ายหัวอย่างระอาแต่ก็ไม่ว่าอะไร รีบพาแม่คุณนายเดินขึ้นบันไดบ้านเพื่อไปทายาแก้คัน



“นั่งรอนี่ก่อน เดี๋ยวไปเอายามาให้” ร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาอย่างว่าง่าย นั่งลูบนั่งเกาเบาๆ เกาแรงไม่ได้ เดี๋ยวผิวเสีย เกิดเกาจนหนังถลอกปอกเปิก ถ่ายแบบจะลำบากตากล้องต้องมารีทัชอีก ไม่ได้หรอก นางไม่อยากโดนหาว่าสวยเพราะรีทัช



“ถอดเสื้อ” เสียงทุ้มดังขึ้น เรียวจันทร์หันไปมองหน้าแหย ไม่ใช่เพราะคำสั่งให้ถอดเสื้อ แต่เพราะมันคันยุบยิบๆ ไม่หยุดเลยต่างหาก



“อย่ามีอารมณ์ทางเพศก่อนทายาเสร็จล่ะ” คมเขี้ยวกลอกตา นึกอยากจะเขกหัวแม่ตัวดีสักทีที่ยังมิวายพูดเล่น



เรียวจันทร์ถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออก คมเขี้ยวทำตาโตเพราะผิวขาวๆ แดงอย่างกับเส้นเลือดแตก เขารีบเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ ร่างเล็ก มองตุ่มแดงๆ ที่ขึ้นหนาแน่นจนน่ากลัว



“หันหน้ามาซิ” เรียวจันทร์หมุนตัวไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย คมเขี้ยวเบิกตากว้างด้วยตกใจเมื่อเห็นว่าเส้นเลือดในตาขาวของเรียวจันทร์แตกเป็นฝอยๆ ใบหน้าขาวผุดผ่องก็เริ่มแดงไปด้วยผื่น



“ไปหาหมอดีกว่า ผมว่าอาการคุณหนักละ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวน้อยๆ



“ไม่ต้องหรอก ทายา กินยาแก้แพ้แบบเดิมก็หายแล้ว” คมเขี้ยวหน้าเข้มขึ้นมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะดื้อ



“ไหนว่าจะไม่ดื้อไง”



“เปล่าดื้อ แต่ฉันเห็นว่ามันไม่ได้ร้ายแรงมาก ทายากินยาแบบเดิมก็น่าจะหาย” ร่างสูงส่ายหัว วางขวดยาทาแก้คันไว้บนโต๊ะ



“ไปหาหมอ ใส่เสื้อซะ” ร่างเล็กถอนหายใจ เห็นว่าวันนี้ใจดีกับนางมากหน่อยหรอกนะเลยยอม ไม่อยากแง่งๆ ใส่มาก






สุดท้ายคมเขี้ยวก็พาแม่ตัวดีมาที่โรงพยาบาลที่เอื้องทำงานอยู่ พอคุณนายแกรู้ก็เบ้ปากไปหนึ่งที แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างก้าวร้าว แค่เบ้นิดๆ หน่อยๆ แบบให้รู้ว่ามาเยือนถิ่นศัตรูหัวใจ จะได้เป็นแพทเทิร์นที่ถูกต้องของนางเอกสู้คนที่ไม่ชอบนางร้ายว่าต้องทำสีหน้าแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วนางควรต้องมาอย่างยิ่งเพราะอาการที่ตอนแรกบอกว่าไม่ร้ายแรง มันเริ่มจะรุนแรงขึ้นระหว่างทางที่นั่งรถมาโรงพยาบาล นางไอค่อกแค่กบ่อยๆ และรู้สึกคันในลำคอยิบๆ



“มีอาการแพ้อย่างอื่นอีกบ้างมั้ยครับ” คุณหมอรูปหล่ออย่างกับหนุ่มเกาหลีเอ่ยถามเสียงนุ่ม เรียวจันทร์เหลือบมองแม่เอื้องเยื้องย่างในชุดพยาบาลสีขาวที่เข้ามาฟังอาการของเขาด้วยนิดหน่อยก่อนเลื่อนสายตาไปมองคุณหมอตามเดิม



“กองฟางอะครับคุณหมอ แล้วล่าสุดก็เพิ่งรู้ว่าเหมือนจะแพ้ดอกไม้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าทุกชนิดรึเปล่านะครับ” คมเขี้ยวที่นั่งอยู่ข้างๆ เอื้อมมือมาดึงมือเขาที่กำลังเกาแขนซ้ายยิกๆ จนเลือดเริ่มซิบซึม



ปฏิกิริยานั้นอัจฉราทันเห็น แต่เนื่องจากอยู่ในหน้าที่ หล่อนเลยเลือกจะเก็บอาการเอาไว้



“หมอคิดว่าน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าคนไข้มีอาการภูมิแพ้ แต่ไม่ใช่แพ้อากาศแบบที่คนไทยฮิตเป็นกัน บางคนแพ้อาหารบางประเภท บางคนแพ้สัตว์ แต่กับคุณเรียวจันทร์น่าจะแพ้พวกละอองเกสร ละอองกองฟาง หรือต้นหญ้าบางชนิดด้วย…” คุณหมอขออนุญาตดึงเปลือกตาล่างของเรียวจันทร์ลงเพื่อดูอาการเส้นเลือดแตกในตา



“…อยู่ให้ห่างของพวกนั้นนะครับ หมอว่าถ้าอยู่กับมันนานๆ มีสิทธิ์ถึงชีวิตได้” คุณหมอก้มหน้าลงจดยิกๆ ในสมุดประวัติคนไข้เล่มใหม่ของเรียวจันทร์



“ยังไงหมอขอให้นอนโรงพยาบาลสักคืนได้มั้ยครับเพื่อดูอาการ เพราะตอนนี้ตาคุณเรียวจันทร์เส้นเลือดแตกเยอะมากจนน่ากลัว แถมมีอาการไออีก” เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดเมื่อได้ยินว่ากับแค่อาการแพ้ดอกไม้ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว



“นอนโรงพยาบาลเลยเหรอครับคุณหมอ” หมอหนุ่มเกาหลีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เรียวจันทร์ยิ้มเฝื่อนหันไปมองคนข้างกายตัวเองที่ทำหน้าเฉยเมย



“นอนไปเถอะ ดีกว่าไปตายในฟาร์ม ตายในโรงพยาบาลยังส่งเข้าห้องดับจิตทัน” เรียวจันทร์เบิกตากว้าง และเพราะเส้นเลือดฝอยแตกจนแดงฉานน่ากลัวอยู่แล้ว พอเบิกตากว้างขึ้นแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ คมเขี้ยวทำท่าทางขนลุกขนชัน เรียวจันทร์เลยยื่นมือไปหยิกต้นแขนของไอ้เขี้ยวกุดแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้



“ไหนว่าจะเชื่อฟังกันไง”



“แล้วดูพูดเข้า!” คมเขี้ยวยิ้มขำ คุณหมอเองยังขำไปด้วย คงมีแต่อัจฉราเท่านั้นที่ขำไม่ออก หล่อนกำลังข่มใจไม่ให้แสดงอาการไม่ดีออกมา



“เอาเป็นว่านอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนนะครับ ถ้าพรุ่งนี้เส้นเลือดฝอยในตาและอาการไอลดลงก็กลับบ้านได้ ส่วนเรื่องผื่นหมอจะให้ยาทา ยาแก้แพ้และยาฆ่าเชื้อไปกิน” เรียวจันทร์พยักหน้ารับอย่างจำยอม หมอเขาคงไม่ให้นอนโรงพยาบาลเล่นๆ หรอกถ้าอาการไม่หนักจริง เขาเองก็รู้สึกร้อนๆ ในจมูกและลำคอเหมือนกัน



“เดี๋ยวก่อนไปที่ห้องพัก ล้างจมูก ล้างตา ล้างคอก่อนนะครับ” คนป่วยพยักหน้านิดหน่อย เหลือบไปมองทางอัจฉราที่กำลังยืนเตรียมของเงียบๆ คุณหมอบอกให้เขาเดินไปนอนบนเตียง พอนอนหงาย คุณหมอก็สั่งให้ลืมตา ก่อนจะเทน้ำยาล้างตาเย็นๆ ใส่ตาขวาของเขา อัจฉรายืนถือถาดสีเงินติดกับโหนกแก้มเขาเพื่อรองรับน้ำยาจากดวงตา



“ข้างซ้ายอีกข้างนะครับ” เรียวจันทร์พยักหน้า เบิกตาซ้ายให้กว้างไว้ ปล่อยให้คุณหมอจัดการเทน้ำยาล้างตาอีกข้าง พอทำเสร็จแล้ว เขาก็ลุกขึ้นนั่ง คุณหมอยื่นสลิงค์ที่ดูดน้ำเกลือให้เขาล้างจมูกหลอดละหนึ่งข้าง ร่างเล็กสำลักน้ำเกลือที่พุ่งเข้าไปในจมูกและทะลุไปถึงลำคอ



“แอ่ก เอิ่ก…” แม่คุณนายทำหน้าหยีเพราะความเค็มของน้ำเกลือ คมเขี้ยวยืนยิ้มขบขันเงียบๆ กับสีหน้าหมดความสวยของแม่ตัวดี



“กลั้วคออีกทีก็โอเคแล้วครับ” คุณหมอยื่นแก้วน้ำที่ใส่น้ำเกลือไว้ให้คนป่วย เรียวจันทร์ยกทิชชูที่อัจฉรายื่นให้ซับน้ำเกลือที่เลอะจมูกและปากสักแปบ ก่อนรับแก้วน้ำเกลือมากระดกใส่ปากและกลั้วในลำคอครู่หนึ่งแล้วบ้วนใส่ถาดสีเงินในมืออัจฉรา



“ยังไม่ต้องอาบน้ำนะครับ เดี๋ยวพยาบาลจะยกอาหารเที่ยงเข้าไปให้เพื่อจะได้กินยา” คนป่วยพยักหน้าพร้อมยกยิ้มเพลียนิดหน่อย คุณหมอนั่งเซ็นเอกสารสำหรับส่งตัวเรียวจันทร์นอนโรงพยาบาล ระหว่างนั่งรอ คมเขี้ยวก็พยายามห้ามมือแม่คุณนายไม่ให้เการุนแรง



หลังจากทำเรื่องให้นอนโรงพยาบาลเสร็จ เรียวจันทร์ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีของคุณนายที่ไม่ต้องเจาะน้ำเกลือ ก็ไม่ได้ว่ากลัวเข็มหรอก แต่มันก็เจ็บเอาเรื่องนะไอ้เข็มน้ำเกลือน่ะ



“เดี๋ยวผมกลับไปฟาร์มก่อน แล้วกลางคืนจะให้ไอ้ดินมานอนเป็นเพื่อน”



“ทำไมนายไม่มาเองล่ะ” คุณนายแกว่าเสียงอ้อน ทำหน้าตาออดอ้อนอีกต่างหาก



“แล้วทำไมผมจะต้องมาด้วย”



“ก็ฉันอยากให้นายมา ฉันอุ่นใจนะเวลามีนายอยู่ใกล้ๆ” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย หน้าตาหงอยๆ แววตาเกือบจะเซื่องซึม คมเขี้ยวมองคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลนิ่งๆ สักแปบ ก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที



“ก็ได้ เดี๋ยวผมมานอนเฝ้า” คุณนายยิ้มกว้าง แม้ตอนนี้จะมีเลือดในตาขาวทั้งสองข้าง แต่ดวงตาดั่งกวางน้อยก็ยังฉายแววสุกใสเมื่อได้ยินว่าคมเขี้ยวจะมานอนเฝ้าตัวเองอย่างที่ขอ



เสียงล้อรถเข็นดังขึ้น ทั้งสองคนหันไปมองตรงประตูทางเข้าก็เห็นอัจฉราเข็นรถอาหารสำหรับผู้ป่วยเข้ามาในห้อง หญิงสาวยิ้มให้คมเขี้ยวบางๆ และหันไปยิ้มจางๆ ให้เรียวจันทร์



“อาหารเที่ยงค่ะ ทานแล้วจะได้ทานยาและหยอดยาที่ดวงตา คุณหมอกำชับมาว่า อยากให้คุณเรียวจันทร์พักผ่อนเยอะๆ” ร่างเล็กพยักหน้า ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง อัจฉราเข็นรถเข้าล็อคกับเตียงพอดี บนโต๊ะสีขาวมีถ้วยข้าวต้มกุ้ง ยาสามเม็ดในถ้วยแก้ว และยาหยอดตาหนึ่งขวด



“ผมฝากเขาแปบนึงนะเอื้อง ผมจะกลับฟาร์ม แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะมาใหม่” อัจฉราประหลาดใจ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าชายหนุ่มจะทำอะไร



“เขี้ยวจะมานอนเฝ้าคุณเรียวเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้านิดหน่อย เรียวจันทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มเงียบๆ



หญิงสาวแทบจะปั้นสีหน้าปกติไม่ได้ แต่ก็ยิ้มบางๆ ให้คมเขี้ยวแล้วพยักหน้ารับรู้ “ไม่ต้องห่วง เป็นหน้าที่เอื้องอยู่แล้ว”



คมเขี้ยวยิ้มเป็นการขอบคุณ แล้วหันไปมองแม่คุณนายที่นั่งกินข้าวต้มเงียบๆ “น้ำอยู่บนหัวเตียงนะ กินข้าวเสร็จกินยาซะ”



เรียวจันทร์ยักคิ้วให้ร่างสูงสองที คมเขี้ยวเดินออกไปจากห้องพัก ทิ้งความเงียบให้ครอบคลุมสองคนที่เหลือ อัจฉราหันกลับมามองคนป่วยด้วยสายตานิ่งสงบ เรียวจันทร์หันไปสบตาแล้วยิ้มอ่อนให้



“อิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณเอื้อง” เรียวจันทร์หันไปหยิบน้ำเปล่ามาเปิดฝา เสียบหลอดเข้าไปแล้วดูดเข้าไปสองสามอึก กะว่ารอสักพักค่อยกินยาตามเข้าไป



“ถ้ามีอะไรกดออดเรียกแล้วกันนะคะ” นายแบบหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ พร้อมรอยยิ้มแฉล้ม



พยาบาลสาวข่มใจแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องพัก หล่อนหลับตาลงในขณะที่ก้าวเท้าเดิน เรียวจันทร์มองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ค่อยๆ เดินทางประตูห้อง นางกำลังลุ้นว่าอีกฝ่ายจะหันมาพูดอะไรหรือไม่ แต่สุดท้ายยัยช่อเอื้องก็เปิดประตูออกไปจากห้อง



ทิ้งให้คุณนายเรียวจันทร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย และคลี่ยิ้มเบาๆ อย่างมีชัย โดยที่ไม่ได้มองสภาพตัวเองเลยว่ายามนี้ไม่ควรนึกสะใจใคร







ตอนที่คมเขี้ยวกลับมาก็เป็นตอนที่คุณหมอเจ้าของไข้ของเรียวจันทร์กำลังตรวจร่างกายของคนป่วยที่ยังหน้าตาสลึมสลือเพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้ หมอรูปหล่อสูงขาวเกาหลีบอกว่าผื่นคันลดลง อาการแดงค่อยๆ หายไปเช่นกัน แต่คุณหมอขอให้เรียวจันทร์หยุดเกา เพราะมันยิ่งทำให้แดงและอาจทำให้เลือดออกเยอะกว่าที่กำลังซึมๆ ตามผิวหนังในตอนนี้ คุณนายแก็ไม่ได้อยากเกานักหรอก เพราะเดี๋ยวผิวเสียแล้วถ่ายแบบไม่สวย แต่พอเผลอทีไรมือไปเองทุกที



“แต่อาการเส้นเลือดฝอยแตกในตายังน่าห่วง แต่ก็ดีที่มันไม่ได้ขยายไปมากกว่าที่เป็นอยู่” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนเพลีย หมดอิทธิฤทธิ์จนคมเขี้ยวนึกขำว่าวันนี้คงเป็นวันดูดวิญญาณของแม่ตัวแสบแน่ๆ



“อาการคันคอยังเป็นอยู่มั้ยครับ”



“ก็มีบ้างครับหมอ แต่ไม่ยุบยิบเท่าตอนแรกแล้ว อาการไอมีค่อกแค่กบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นโก่งคอจะอาเจียน” 



“เรียกว่าโชคดีมากครับที่มาก่อนจะเป็นหนักกว่านี้ อาการแพ้พวกนี้เรามองว่ามันอาจจะไม่เป็นหนักมาก ทายากินยาแก้แพ้ก็หาย แต่ถ้าโดนเข้ามากๆ อาจะถึงชีวิตได้…” คุณนายเบิกตากว้างขึ้นนิดหนึ่งที่ได้ยินว่ากะอีแค่แพ้ดอกไม้ใบหญ้ากองฟางถึงกับจะคร่าชีวิตสวยๆ ของตัวเองไปเลย



 “…ต่อไปนี้ก็อยู่ให้ห่างจากของที่ทำให้คุณอยู่ในสภาพนี้นะครับ” เรียวจันทร์ยิ้มเจื่อน ถึงหมอไม่บอกนางก็ไม่คิดจะไปคลุกคลีกับของพวกนั้นหรอกนะ



“พักผ่อนเยอะๆ งดใช้สายตานะครับ” คุณหมอทิ้งท้ายเรื่องกินยาไว้ก่อนจะเดินนำพยาบาลคนใหม่ที่ไม่ใช่อัจฉราออกไปจากห้อง พออยู่กันสองคนเรียวจันทร์ก็หันไปมองคมเขี้ยวทั้งที่เปลือกตายังหย่อนคล้อยนิดๆ



“กินข้าวเย็นก่อน จะกินของโรงพยาบาลหรือที่ผมเอามาให้” คนป่วยทำหน้าประหลาดใจนิดหนึ่ง



“นายมีน้ำใจซื้อข้าวมาฝากฉันด้วยเหรอเนี่ย”



“เปล่า แม่ทำมาให้ ตอนแรกจะมาเยี่ยม แต่ผมบอกว่าพรุ่งนี้คุณก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เรียวจันทร์พยักหน้านิดหนึ่ง ไม่ได้ติดใจเรื่องข้าวว่าจะมาจากไหน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่ต้องมานั่งคิดหลายตลบ ใครให้ก็ช่าง เพราะสุดท้ายนางก็เอาเข้าปากอยู่ดี



คุณแม่ทำผัดผักกับต้มจืดหมูมะระมาให้ รสชาติอร่อยแสนจะคุ้นเคยเพราะเพิ่งจะกินฝีมือคุณแม่ไปเมื่อเช้านี้นี่เอง ตอนแรกก็กะว่าหลังเสร็จงานจะขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่นั่นแหละ แต่นางดันต้องมานอนแหมะอยู่โรงพยาบาลนี่ไง



“ไม่ต้องอาบน้ำใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามพลางนั่งมองคนตัวเล็กนั่งกินข้าวตุ้ยๆ แล้วก็แอบสงสัยว่ากินก็เก่งแต่ทำไมตัวบางร่างน้อยจริงเชียว



“หมอไม่ให้อาบไง แต่ให้ทายาทุกสองชั่วโมง ก่อนนายมาเพิ่งทาไป น่าจะทาอีกทีตอนสองทุ่มแหละ” คุณนายแกยกมือจะเกาต้นคอที่มันคันยิกๆ แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าเดี๋ยวเป็นแผล เลยเปลี่ยนเป็นลูบแรงๆ แทน ทั้งที่จริงอยากจะจิกเล็บลงไปบนเนื้อตัวเองแล้วครูดขึ้นลงให้หนำใจ



“หมอก็บอกไม่ใช่รึไงว่าอย่าเกา” คุณนายแกนั่งหน้างอในขณะที่ใช้ปลายนิ้วเขี่ยๆ ตรงบริเวณที่คัน



“ก็มันคันอะ คันยิ่งกว่าอาการอยากได้นายเป็นสามีอีก” คมเขี้ยวถลึงตาใส่คนบนเตียง ร่างเล็กยิ้มกว้างตลกขบขัน มือขวาตักอาหารเข้าปาก มือซ้ายลูบไปทั่วคอและอก



“หยุดเกา” คมเขี้ยวว่าเสียงดุเบาๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาตัวยาวสีขาว โทรศัพท์มือถือเขาส่งเสียงดัง เขาหยิบจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นชื่อใครโทรมาเขาก็เหลือบมองเรียวจันทร์ที่กำลังนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แต่มือซ้ายก็ปัดป่ายไปตามลำคอและแขนตัวเอง



“ฮัลโหล”



[เฝ้าคุณเรียวอยู่รึเปล่าเขี้ยว]



“อื้อ ใช่ ทำไมเหรอ”



[เปล่า แค่โทรมาเช็กน่ะ คุณหมอบอกว่าอย่าเพิ่งให้คุณเรียวอาบน้ำนะ]



“เมื่อกี้เจ้าตัวบอกเขี้ยวแล้วแหละ ขอบใจเอื้องมากนะ” หญิงสาวชวนเขาคุยต่ออีกนิด เขาตอบบ้างไม่ตอบบ้างเพราะกำลังพยายามดึงมือไอ้จันทร์ไรที่เกาไม่หยุด



“อ๋อ… โอเค เฮ้ย เรียวจันทร์! บอกว่าอย่าเกาไง…”



“คันอะ ฉันจะตายมั้ยเนี่ย ทำไมมันคันแบบนี้” คนป่วยว่าหน้างอง้ำ เริ่มหวาดกลัวในอกเล็กๆ ว่าทำไมอาการคันมันไม่ลดลงตามผื่นแดงๆ ที่เริ่มจางลงไปแล้ว



“อย่าเว่อร์น่า… เอ่อ เอื้อง เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ”



[อื้ม อย่านอนดึกนะเขี้ยว] ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วตัดสายทิ้ง วางมือถือไว้บนโต๊ะหัวเตียง รวบสองมือเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้แม่ตัวแสบเกา พอโดนยึดมือ แม่คุณนายก็หดคอลงแล้วเอาแก้มถูๆ ไหล่ตัวเอง



“อิ่มรึยัง จะได้กินยา” คนป่วยพยักหน้าหงึกๆ คมเขี้ยวใช้มือซ้ายกดข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไว้บนโต๊ะกินข้าวของโรงพยาบาล เอี้ยวตัวไปหยิบถ้วยยาที่วางอยู่ข้างๆ ยาทามาให้



“ผมรู้ว่าคัน แต่อยากมีรอยแผลบนผิวรึไง เกาก็เกาเบาๆ พอ ไม่ต้องเการุนแรงก็ได้” พอได้ยินคำว่าแผล คุณนายก็หน้าเสียไปนิด เพราะเผลอเกาแควกๆ ไปหลายจุด



คมเขี้ยวปล่อยข้อมือเล็กๆ ออก เรียวจันทร์กำสองมือไว้หลวมๆ สำรวจสองแขนตัวเองก็เห็นว่ามีรอยแดงจากการเกายาวเป้นแถบทั้งสองข้าง คุณนายแกเลยต้องข่มใจในการออกแรงเกา เปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วขยุ้มๆ พอ



“กินยาได้แล้ว” คมเขี้ยวยื่นแก้วน้ำให้ เรียวจันทร์รับไปดื่มแล้วกรอกยาตามลงไป เมื่อเช้ายังไม่ทันหายเบลอ เจอยาแก้แพ้เข้าไปอีกเม็ดคงสลบเป็นตาย



“นอนไปเถอะ เดี๋ยวผมทายาให้” เรียวจันทร์หันไปมองด้วยความประหลาดใจ ปนตกใจและปนดีใจ ปนกันเข้าไป ปนกันไปหมดจนเละเทะ



“จริงอ้ะ? วันนี้นายใจดีกับฉันมากเลยนะ นายรู้ตัวมั้ยเนี่ย” คมเขี้ยวยกสองมือเท้าเอวแล้วยักคิ้วนิดหนึ่ง



“เดี๋ยวคุณตาย ผมก็เสียชื่อเสียงพอดี” เรียวจันทร์มองค้อนควัก แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองจริงจัง



“ถ้าฉันตาย ฉันก็ยังจะมาปล้ำนาย เป็นผีนี่แหละดี นายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”



“ผมจะห้อยพระทุกวัดของทุกจังหวัดในประเทศไทยที่ว่าดี” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก



“ฉันไม่กลัวพระหรอก ต้องมีสักองค์ที่หลงความสวยฉันและเปิดทางให้ฉันได้เข้าไปปล้ำนาย” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วขำพรืด อันนี้เขาขำจริงๆ คนอะไรวะ หลงตัวเองได้แม้กระทั่งกับพระกับเจ้า



“ขำอะไรยะ ขายสวยนะ ไม่ได้ขายตลก” คมเขี้ยวไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยเพราะอีกสักพักคนปากดีจะง่วงนอนและหลับหนีไปเอง เขาเลยเดินไปเปิดทีวีดู แต่ก็เปิดเสียงเบาๆ หันไปมองบนเตียงก็เห็นแม่คุณนายนอนมองจอตาแป๋ว



“หมอบอกให้พักสายตา หลับได้แล้ว”



“อีกไม่ถึงชั่วโมงฉันก็สงบปากสงบคำแล้วน่า” คมเขี้ยวเดินไปนั่งบนโซฟาตัวเล็กอีกตัว ตอนนี้ในห้องพักมีเพียงเสียงทีวีดังกลบความเงียบระหว่างทั้งสองคน



ผ่านไปได้พักใหญ่ๆ เรียวจันทร์ก็ผล็อยหลับไปเพราะฤทธิ์ยา และเพราะฤทธิ์ยาตอนเที่ยงยังไม่ทันจาง โดนตอนเย็นเข้าไปอีกรอบเลยหลับสนิทไม่รู้เรื่องราว



ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคมเขี้ยวตื่นมาทุกสองชั่วโมงเพื่อทายาแก้คันให้ตามที่หมอบอกจนกระทั่งถึงเช้าตรู่ของอีกวัน หลังจากนั้นคมเขี้ยวก็หลับยาวรอเวลาให้หมอเข้ามาตรวจร่างกายคนป่วยตามเวลาเริ่มงานของหมอ 


 :mew3:

คะแนนพี่เขี้ยวสู้เสี่ย สู้ดินได้มั่งยังนิ 55555 ดูแลแม่เรียวทั้งคืนเลยนาาา แม่ก็หลับเป็นตายค่ะ ผู้ชายเทคแคร์อย่างดีไม่มีรู้เรื่อง

เกิดเป็นหญิงสาวบอบบาง โดนอะไรนิดหน่อยก็อ่อนแอ เลยต้องมีผู้ชายมาดูแล คิๆ

เดี๋ยวขอดักก่อน คุณหมอหนุ่มเกาหลีไม่ใช่ผู้ชายคนใหม่ของแม่นะคะ 555555 โนค่า ม่ายช่ายยย เป็นคุณหมอจริงๆ แค่หน้าตาดีเนอะ บรรยายให้รู้เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นิดหน่อยยย แต่ไม่ใช่สามีคนใหม่ของแม่แน่นอนนน 

ตอนนี้ก็เขยิบเข้ามาใกล้กันอีกนิดอีกหน่อย อ้อมกอดเดียวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเชียวเนอะ หุๆ

เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:


ขอบคุณคนอ่านทุกคน ณ เล้าเป็ดที่ติดตามกันอยู่ค่ะ ขอบคุณที่คอยคอมเม้นต์ให้กันเสมอ มีแรงใจก็เพราะมีคนอ่านรออ่านนี่ละค่าาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อะ.  อีเขี้ยวคะแนนขึ้นมาเยอะเลย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อ่านตอนนี้รู้สึกว่าละมุนมากกกกกกกกก แต่เสี่ยยังเป็นที่หนึ่งอยู่

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อุ๊ต๊ะ !!  อิพี่เขี้ยวหล่อขึ้นมาทันทีทันใด
อ่านแล้วรู้สึกคันๆตามแม่เรียวเลยอะ ยุบยิบๆ5555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เปลี่ยนใจไปที่หมอทันมั้ย ชอบคุณหมออปป้าาา 5555

ออฟไลน์ palette_burgundy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอนะครับคุณคนเขียน สนุกมากเลย o13

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z1: งานนี้คมเขี้ยวเริ่มตีตื้นแหละ แต่ขอยาว ๆ อีกนิดน่ะ อยากให้มีช่วงเวลาดี ๆ ระหว่างกันบ้างน่ะ ความโชคดีในความโชคร้ายเลยเนอะ ได้ใจคมเขี้ยวไปเลย  :mew1:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
รอออออออออออออ :-[

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 15 :: One Step Closer. (ใกล้อีกนิดชิดไปอี๊ก) [35%]




 คุณหมอตรวจดูอาการของเรียวจันทร์อย่างถี่ถ้วนและพิจารณาแล้วว่าไม่มีอันตรายอะไรร้ายแรง คนป่วยก็ได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านได้ แม้อาการตาแดงจะยังไม่หายดี แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม อาการคันลดลงจนเกือบจะปกติดี แม่คุณนายยังคงมีเกายิกๆ อยู่บ่อยครั้ง ดีที่ไม่ได้เกาจนเนื้อจะหลุด ผื่นแดงตามตัวยุบลงไปมาก มีหลงเหลือบ้างแต่ก็ไม่ได้หนาหรือลุกลามเท่าตอนแรก

           

 

เรียวจันทร์นั่งคอพับคออ่อนนอนหลับอยู่กับเบาะรถ ไม่หือ ไม่อือ ไม่ส่งเสียงใดๆ เพราะก่อนออกจากโรงพยาบาลแม่ตัวดีกินยาแก้แพ้ไปอีกเม็ดตามคำบอกของหมอ เลยสลบไปอย่างเงียบๆ พอไม่มีเสียงพูดคุยของอีกฝ่าย บรรยากาศรอบตัวคมเขี้ยวก็ดูสงบเสงี่ยมทันที จะว่าดีมันก็ดี แต่ก็แอบไม่คุ้น

           

 

เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์ไอ้ดินโทรมาเลยกดรับ “ว่าไง กูกำลังกลับ”

           

 

[แม่อารียาแย่แล้วพี่ จู่ๆ ก็ล้มลง] คมเขี้ยวใจหายวูบเมื่อได้ยินว่าหนึ่งในแม่นมวัวตัวท็อปของฟาร์มมีอาการป่วย แต่เขาก็ไม่ได้โวยวายขาดสติ แค่ถามกลับไปเรียบๆ แต่ก็แอบร้อนใจ

           

 

“ตามหมอรึยัง”

           

 

[ตามแล้วพี่ หมอกำลังมา]

           

 

“อาการเป็นยังไง”

           

 

[นอนนิ่งไม่ขยับ ถ่ายเป็นของเหลวเป็นพักๆ แล้วก็ก่อนดินมา อ้วกไปเยอะ] จากที่ตอนแรกไอ้ดินบอกว่าตามหมอแล้ว ทำให้เขารู้สึกคลายกังวลไปหน่อย แต่พอได้ยินอาการของแม่วัว คมเขี้ยวก็รีบเหยียบคันเร่งเท่าที่ไอ้บุโร่ถังสีฟ้าน้ำทะเลของเขาจะเร่งไปได้ นึกเคืองตัวเองที่ไม่เอาคันอื่นที่มันเหยียบได้เร็วๆ กว่านี้มา

           

 

“มีเลือดปนออกมากับอุจจาระมั้ย” ดินเงียบไปสักพัก ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมันกำลังขยับเขยื้อนเคลื่อนตัว คาดว่าคงกำลังไปมองแม่วัว

           

 

[มีครับพี่เขี้ยว] คมเขี้ยวหน้าเครียด เขาขบกรามแน่น ใจร้อนแข่งกับอากาศด้านนอก แต่ก็ยังมีสติข่มตัวเองไม่ให้หุนหันพลันแล่นจนเกินไป

           

 

“แล้วตัวอื่นๆ ล่ะเป็นอะไรรึเปล่า”

           

 

[อีกสองตัวสำรอกอาหารออกมาอะพี่ ถ่ายเหลว แต่ไม่เท่ากับอารียา] คมเขี้ยวกัดฟัน เริ่มคิดโกรธไอ้พวกลูกน้องที่ดูแลอาหารการกินของแม่วัว

           

 

“ให้หมอตรวจตัวอื่นไปด้วย ถ้าปกติดี อีกวันสองวันค่อยรีดนมออกมาเช็ก” ดินรับคำ กำลังจะวางสายจากกัน แต่ไอ้หนุ่มรุ่นน้องก็ท้วงขึ้นก่อน

           

 

“มีอะไรอีก” เขาถามเสียงห้วน แต่ไม่ได้รำคาญไอ้ดิน แค่กำลังใจร้อน

           

 

[พวกไร่องุ่นมันมาบอกว่าองุ่นตายไปครึ่งไร่]” คมเขี้ยวขบฟัน มือซ้ายกำพวงมาลัยแน่น

           

 

“มีอย่างอื่นเป็นอะไรอีกมั้ย” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ หักพวงมาลัยเข้าโค้งไปตามทาง ร่างเล็กที่นอนหลับมาตั้งแต่โรงพยาบาล บิดคอมาทางเขาแล้วปรือตามองงงๆ

           

 

[ตอนนี้มีเท่านี้แหละพี่] คมเขี้ยวสบถคำหยาบในลำคอเบาๆ

 

 

ไร่องุ่นอยู่ด้านหลังฟาร์ม ห่างจากบ้านต้นสนของเขาไปอีก เป็นอีกโซนที่นานๆ ทีจะเปิดให้เข้าไปเที่ยวชม เขาไม่ได้ทำเพื่อการท่องเที่ยว เขาทำเพื่อเป็นอีกแหล่งไว้ทำมาหากิน แต่เพราะบรรยากาศดี คนที่เคยไปพากันเช็กอินตามโซเชียลจนเป็นที่พูดถึงย่อมๆ เลยมีหลายคนแห่มาเพื่อขอเข้าไปในโซนไร่องุ่น เคยเปิดให้เข้าชมอยู่พักหนึ่ง แต่มันมีความเสียหายเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเขาเลยไม่ได้เปิดให้เขาเยี่ยมชมอีก

           

 

เขาวางสายจากไอ้ดิน นึกหงุดหงิดที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น องุ่นน่ะไม่เท่าไหร่ มีแรงกำลังเดี๋ยวปลูกใหม่ก็ได้ แต่แม่วัวมันมีชีวิตจิตใจ เกิดมันเป็นอะไรไป มันจะกลายเป็นเรื่องเศร้า

           

 

“มีอะไรเหรอ” คนตัวเล็กพึมพำหน้าตาง่วงนอน คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วแล้วหันไปมอง

           

 

“มีปัญหาที่ฟาร์ม คุณนอนเถอะ กลับถึงฟาร์มก็ไปพักผ่อนซะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมุ่น หน้าตางอง้ำหน่อยๆ

           

 

“ทำไมปัญหามาเกิดตอนนายไม่อยู่ฟาร์มเพราะต้องไปเฝ้าฉันด้วยล่ะ…” คนป่วยแบะปากน้อยๆ “…เหมือนฉันเป็นตัวซวยเลยอะ…”

 

 

ร่างเล็กจิ๊ปากเบาๆ หันไปมองเสี้ยวหน้าหล่อๆ ของพ่อเขี้ยวกุด “…ฉันไม่ใช่นะ ฉันสวย ไม่ใช่ซวย”

           

 

คมเขี้ยวทำหน้าระอา แต่ก็มีรอยยิ้มขบขันด้วย หน้าตาอิดโรยขนาดนั้นยังมาห่วงความสวยตัวเอง เรียวจันทร์ยิ้มเพลีย ก่อนจะอ้าปากหาววอดๆ

           

 

“ไหนหันมาดูตาซิคุณนายว่าหายรึยัง” เรียวจันทร์หันไปแบบมึนๆ งงๆ แต่ก็เบิกเปลือกตาให้กว้างขึ้น คมเขี้ยวหันมองสักพักแล้วก็หันกลับไปมองถนนต่อ

           

 

“มันก็ลดลงนะ หยอดตาแล้วนอนพักผ่อนเดี๋ยวคงดีขึ้น” เรียวจันทร์ระบายยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้าสด (สดจริงๆ ไม่ใช่สดใส)

           

 

“ชอบคุณ เอ้ย จะบอกว่าขอบคุณซะหน่อย…” เรียวจันทร์ยิ้มยิงฟันตาหยีน้อยๆ ให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู 

 

 

“…ใครว่ามีแต่พิมพ์ผิดในโปรแกรมแชท พูดก็ผิดได้เห็นมั้ยล่ะ ขอบกับชอบต่างกันตรงหางนิดเดียวอะเนอะ เบลอยาแก้แพ้ก็เงี้ย” ถึงหน้าคุณนายแกจะเพลียเอาเรื่อง แต่ไอ้เรื่องเต๊าะเขาก็ยังเอาเรื่องอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน แม้จะป่วยอยู่ก็ตาม

           

 

คมเขี้ยวทำปากยื่น เหลือบมองคนข้างๆ ด้วยสายตาระวัง เรียวจันทร์เห็นก็หัวเราะ แต่คงเพราะยังไม่หายดีซะทีเดียว พอหัวเราะมากไปเลยทำให้ไอโคร่กๆ

           

 

“นั่น สม ป่วยแล้วไม่เจียม ตอดผมดีนัก” เรียวจันทร์หยิบน้ำขึ้นมาจิบ อาการไอทุเลาลงจนเหลือไอแห้งๆ

           

 

“ฉันไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก ถ้ายังจับนายทำผัวไม่ได้” คมเขี้ยวส่ายหัวเหนื่อยใจ แต่ไม่ได้คิดโกรธเคือง หรือขุ่นข้องหมองใจเหมือนแต่ก่อน

           

 

เริ่มจะชินแล้ว แม่คุณนายแกก็เต๊าะตอดเขาแบบนี้อยู่เรื่อย

           

 

“อุดมการณ์แน่วแน่จริงนะ กับการเรียนตั้งใจขนาดนี้มั้ย” เรียวจันทร์ยิ้ม คมเขี้ยวเห็นแล้วก็แอบอมยิ้มขำคนเดียว เพราะเป็นรอยยิ้มที่โคตรสะลึมสะลือ

           

 

“ในชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่เคยแน่วแน่กับอะไรมากเท่านี้เลยละ” ทำหน้าซะภาคภูมิใจเชียวนะแม่ตัวดี

           

 

คมเขี้ยวทำปากยื่นอีกที เรียวจันทร์เห็นแล้วก็ยิ้ม “นายทำปากยื่นๆ เหมือนเป็ดน่ารักอะ ฉันเคยคิดว่าตัวเองทำน่ารักแล้วนะ มาเจอนายทำน่ารักกว่าอีก”

           

 

“อยากได้ผม ก็ชมว่าน่ารักไปเรื่อย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหัวสองสามที

           

 

“ไม่นะ น่ารักจริงๆ” คมเขี้ยวหันไปหรี่ตามองคนตัวเล็กที่ยกมือขวาขึ้นมาทำท่าจะเกาต้นคอ

           

 

“อย่าเกานะ…” เรียวจันทร์หันมายิ้มแหย แล้วก็เปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วลูบๆ แทน “…นี่ถ้าได้ผมสมใจแล้ว ยังจะชื่นชมบูชากันอย่างงี้อยู่มั้ย”

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ขยิบตาให้คมเขี้ยวหนึ่งที “ลองได้พี่ก่อนสิคะน้องเขี้ยว…”

           

 

คุณนายแม่ตั้งตัวตรงขึ้น ยกขาซ้ายขึ้นไขว่ห้าง บิดตัวไปทางคมเขี้ยวมากขึ้นอีกนิด ใช้ข้อศอกขวาเท้ากับเบาะ สองมือจับประสานกันอย่างมีมาด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจัง

 

 

“อยู่ทีมพี่สิคะ แล้วพี่จะทำให้น้อง ไม่ต้องกอดใคร นอกจากพี่” คมเขี้ยวยิ้มกว้างแล้วพยายามกลั้นขำจนไหล่ทั้งสองข้างสั่น เรียวจันทร์ยักคิ้ว พยักหน้าหนึ่งทีเป็นเชิงย้ำอีกครั้งว่า มาอยู่ทีมพี่สิคะ

           

 

“นอนไปเลย!” กำลังเก็กท่าโดยใช้ฟีลลิ่งพี่มาช่าก็โดนไอ้เขี้ยวกุดยื่นมือซ้ายมากดหน้าผากให้กลับไปพิงเบาะไว้ตามเดิม

           

 

เรียวจันทร์นั่งหัวเราะเบาๆ ไม่กล้าหัวเราะแรงมากกลัวจะไอโครกอีก คมเขี้ยวหันมามองยิ้มๆ แล้วก็ละสายตาไปมองถนนต่อ เรียวจันทร์หันไปสนใจวิวด้านนอก ภูเขา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เห็นแล้วก็สบายใจ รู้สึกเฟรช มันเหมือนได้เห็นของดีที่ทำให้ปอดโล่ง ซึ่งภาพแบบนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพแน่นอน

           

 

คมเขี้ยวขับรถมาถึงฟาร์มช่วงสายๆ เขาจอดรถไว้ตรงใต้ต้นก้ามปูหน้าบ้านตัวเอง อาศัยร่มเงาที่แผ่กิ่งก้านเป็นตัวบังแดด คมเขี้ยวบอกให้เรียวจันทร์ไปพักผ่อน ส่วนตัวเขารีบวิ่งไปทางคอกวัว คุณนายแกเห็นท่าทางรีบร้อนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร นางเลยตัดสินใจพาสาระร่างเบลอๆ ของตัวเองเดินไปทางคอกวัว

           

 

ภายในคอกไม่ได้มีเหตุวุ่นวายจนน่าตกใจ แต่ก็มีคนหลายคนกำลังล้อมรอบวัวสามตัว ตัวหนึ่งนอนนิ่ง อีกสองตัวยืนอยู่ แต่ก็มีท่าทีงุ่นง่านแปลกๆ ทุกคนไม่ได้ยืนมุงมองเฉยๆ บางส่วนช่วยกันเก็บกวาดซากอึ บางส่วนช่วยหมอจับตัววัว แล้วบางส่วนก็กำลังกรอกอะไรบางอย่างในขวดพลาสติกใส่ปากวัวที่นอนแน่นิ่ง  คมเขี้ยวยืนหน้าเครียด ยืนคุยกับผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวเหลืองคนหนึ่งที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้าของทีมสัตวแพทย์

           

 

“อารียากินเศษเหล็กเข้าไป อาการเลยหนักสุด” คมเขี้ยวตวัดสายตาไปมองลูกน้องที่เป็นคนดูแลอาหารการกินของวัว ไอ้พวกนั้นหน้าตื่นแล้วส่ายหัวทันที

           

 

“พวกผมให้เหมือนเดิมตามปกติเลยนะพี่เขี้ยว สแกนหาโลหะก่อนให้อาหารทุกครั้งด้วย” เขารู้ว่าไอ้พวกนี้ไม่ทำร้ายวัวหรอก มันดูแลของมันมา เชื่อว่ามันก็รักของมันอยู่

           

 

“อีกสองตัวแค่กินของขึ้นราเข้าไปใช่มั้ยหมอ”

           

 

“ครับ ส่วนอารียา…” หมอเม้มปาก สีหน้าลำบากใจ เห็นแบบนั้นคมเขี้ยวก็เกิดใจไม่ดีขึ้นมา

           

 

“…ถ้ามันเป็นเหล็กเพียงชิ้นเดียวก็โชคดีไป ผมไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปมากน้อยแค่ไหน” คมเขี้ยวหันไปมองแม่วัวตัวใหญ่ที่นอนหายใจฟืดฟาดอยู่บนพื้น

           

 

เรียวจันทร์ยืนอึ้งอยู่กับที่ ได้แต่หวังว่าวัวตัวนั้นจะไม่ตาย เพราะนางเคยอาบน้ำ เก็บอึให้มันมาก่อน อันที่จริงนางทำให้ทุกตัวนั่นแหละ เพราะคมเขี้ยวสั่งให้ทำ

           

 

“มันจะตายมั้ย” หลายคนแต่ก็ไม่ทุกคนหันไปมองร่างบางใบหน้าซีดเซียวที่เดินเข้ามามองแม่วัวช้าๆ

           

 

“ถ้าผ่าตัดแล้วเอาเศษเหล็กออกมาจนหมด ก็รอดครับ” คุณหมอตอบเสียงนุ่ม เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวด้วยสีหน้าหวาดหวั่นจนคมเขี้ยวแอบนึกแปลกใจ

           

 

“อาทิตย์ก่อนฉันเพิ่งอาบน้ำให้มันไปเอง เปิดเพลงให้ฟังแล้วก็เต้นให้มันดูด้วย” คุณนายแกพึมพำหน้าเบ้ ตั้งท่าเหมือนจะร้องไห้  คุณหมอสัตว์หลุดยิ้มขำเล็กน้อย คมเขี้ยวถอนใจระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า

           

 

“มันจะตายเพราะคุณร้องไห้นั่นแหละ” พอว่าแบบนั้น คนตัวเล็กก็เม้มปาก พยายามกลั้นน้ำตา เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่พยายามกลั้นสะอื้นเวลาโดนพ่อกับแม่ดุว่าไม่ให้ร้องไห้ตอนโดนขัดใจเรื่องของเล่นที่อยากได้ สร้างยิ้มจางบนใบหน้าทีมงานบางส่วนและทีมสัตวแพทย์

           

 

“ไอ้ดิน พาเขาไปนอนไป เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล คงยังเพลียอยู่” ดินวางคราดสีดำอันใหญ่ที่ถือไว้พิงกับเสาไม้ เดินตรงไปหาคุณเรียวที่ยืนหน้าซีดเซียวอยู่กับที่

           

 

“ไปครับคุณเรียว ดินพาไปนอน” เรียวจันทร์พยักหน้า หมุนตัวเดินตามดินออกไปจากคอกวัวอย่างง่ายดาย ทิ้งให้พวกคมเขี้ยวกับคุณหมอช่วยชีวิตแม่วัวตัวนั้น

           

 

แกอย่าตายนะ ถ้าแกรอดฉันสัญญาว่าจะเต้นเพลงบริทนีย์ สเปียร์ให้แกดูอีก ฉันรู้ว่าแกชอบ เพราะฉันเต้นสวย



 :hao3:


พี่เขี้ยวสนใจจะอยู่ทีมแม่เรียวมั้ยคะ ถ้าอยู่รับรองเลยว่า พี่เขี้ยวจะได้เป็นเดอะเฟซแน่ๆ 5555 เพราะแม่ตั้งใจจะปั้นพี่เขี้ยวเน้นๆ เชียวละ คริๆ -.,-

เขาก็ค่อยๆ เขยิบเข้าหากันเนาะ รวดร้อน รวดเร็วมิด้าย พี่เขี้ยวเป็นผู้ชายยยย อีแม่เราก็เปิดตัวซะแรงด้วยว่าจะเอาเขาทำผัว 55555 แต่ตอนนี้แม่เริ่มเบาลง พี่เขี้ยวเลยไม่ต้องพกพระแล้ว เข้าใกล้แม่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว



ที่หายไปนานอย่างที่ทราบกันเนอะว่า ประเทศเรามีความสูญเสียเกิดขึ้น ตอมก็ลังเลว่าควรจะอัพนิยายดีมั้ย อัพได้หรือไม่ แต่ก็ขอคิดในด้านดีว่า คนอ่านที่ตามอ่านกันอยู่ คงอยากมีรอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ก็เลยขอให้แม่เรียวนำความสุขนิดๆ หน่อยๆ มาให้ในช่วงหม่นๆ แบบนี้ค่ะ



ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ เห็นคอมเม้นแล้วก็มีกำลังใจเขียนและอัพต่อไปนี่แหละค่า ขอบคุณมากนะคะ ^_^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                             
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แม่นางยังคงฮาได้แม้กระทั่งเวลาป่วย แอบสงสัยว่าคนทำต้องเป็นสายขเสี่ยที่แฝงตัวเข้ามาแน่ๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คุณนายมีความหมั่นมากอ่ะ o13 ว่าตัวเองเต้นสวย :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
นิสัยเรียวจันทร์เหมือนตารหัสมาก แม่นางชอบโก๊ะแต่น่ารัก ชอบนิสัยเรียวดูชิลดี

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
ชิบเรียวจันทร์. อยากรู้ว่าแม่นางจะตัดสินปัญหาในชีวิตยังไงดี. 555555

ออฟไลน์ rawinan99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบคุณนายเรียวมากเลยย อิอิ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 15 [70%]




หลังจากหลับคล้ายว่าตายไปนาน คุณนายนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกทีตอนหกโมงเย็น แล้วที่ตื่นก็เพราะดินเข้ามาปลุกด้วย ไม่งั้นคงนอนทะลุมิติไปแล้ว ข้าวเที่ยง ยาเที่ยงก็ไม่ได้กินเพราะหลังจากดินช่วยหยอดตาให้ นางก็หลับยาวๆ แม้ก่อนหลับจะยังนึกกังวลถึงแม่วัวบ้าง แต่ดินก็คลายกังวลว่าหมอที่มา เป็นหมอที่เก่งมาก ช่วยดูแลรักษาสัตว์ในฟาร์มมานานแล้ว

           

 

“นี่ฉันต้องทำอะไรก่อนบ้าง งงไปหมด” คุณนายแกว่าหน้าตาสลึมสลือ

           

 

“ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันครับ คุณเรียวใส่ชุดเดิมตั้งแต่เมื่อวาน ดีนะครับเนี่ยที่มันไม่ทำให้ผื่นขึ้นอีกรอบ” เรียวจันทร์หันไปพยักหน้าให้ดินแบบเบลอๆ ค่อยๆ ลงจากเตียง มีเซเบาๆ แต่ดีที่ดินเข้ามารับไว้ได้ เลยพาประคองเข้าไปในห้องน้ำซะเลย

           

 

พอได้น้ำเย็นๆ คุณนายแกก็ตื่นเต็มตา และรู้สึกตื่นตัวกว่าเก่า สำรวจตามร่างกายก็ยังเห็นผื่นแดง รอยแดงอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะเท่าเมื่อวาน อาการเลือดฝอยแตกในตาลดลง จนเหลือเพียงเล็กน้อย ถ้าไม่ได้สังเกตก็คงไม่เห็น คิดว่าอีกสักสองวันหรือสามวันก็น่าจะหายเป็นปกติแล้ว

           

 

“ดิน แล้วแม่วัวเป็นไงบ้าง”

           

 

“ปลอดภัยแล้วครับ หมอเอาเหล็กออกมาจากท้องมันจนหมดเลย” คิ้วสวยขมวดฉับในขณะที่กำลังนั่งเป่าผมให้แห้งหน้ากระจก

           

 

“มันกินเข้าไปได้ยังไงอะ” ดินทำหน้าตึงเหมือนกำลังโมโหอะไรสักอย่าง ซึ่งก็กำลังโมโหจริงๆ นั่นแหละ

           

 

“มีคนเอาให้มันกินครับ” นางถึงกับปิดเครื่องเป่าผมเพื่อหันไปพูดกับดิน

           

 

“อะไรนะ ประสาทรึเปล่าคนเอาให้กินอะ”

           

 

“ไม่ประสาทหรอกครับ แต่มันเลว ต้องมีใครจงใจอยากให้วัวในฟาร์มเป็นอะไรแน่ๆ” พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าเรียวจันทร์ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเครียด แววตาครุ่นคิดอย่างนึกสงสัย

           

 

“กล้องวงจรปิดล่ะ มีรึเปล่า เอามาเปิดให้เห็นไปเลยว่าใครทำ” ดินทำหน้าไร้อารมณ์ผสมเสียดาย

           

 

“ไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครคิดว่าจะมีใครมาทำอะไรวัวแบบนี้ เพราะฟาร์มเราก็แน่นหนามากพอ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ หน้าตาอึกอัก จะด่าก็ไม่ได้ เพราะเอาเข้าจริง จะติดกล้องวงจรปิดติดตามชีวิตวัวแบบนังหมีแพนด้าก็ดูจะประหลาดไปหน่อย

           

 

“ใครมันทำอะ น่าทุบหน้าจริงๆ ถ้าทำจมูกนะ แม่จะเอาให้หมอแก้ไม่ได้เลยคอยดู” นางบ่นเสียงเหวี่ยง ยกผ้าขนหนูขึ้นเช็ดหัวเร็วๆ

           

 

“ดินว่าคนในฟาร์มนี่แหละ…” คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าชัวร์เหรอ ดินทำหน้าไม่มั่นใจนักแต่ก็พูดต่อ

 

 

“…ไม่งั้นมันไม่เจาะจงอารียากับอีกสองตัวหรอกครับ สามตัวนั้นน่ะ ให้น้ำนมดีจะตาย แต่อารียาน่ะนมแน่นกว่าใคร” กำลังเครียดๆ พอได้ยินดินพูดหน้าซื่อก็หลุดขำ จนคนตัวใหญ่กว่ายิ้มกว้างขำอย่างงงๆ ไปด้วย

 

 

“ถ้างั้นฉันก็ต้องระวังตัวแล้วละ เพราะฉันก็นมใหญ่อยู่นะ” เรียวจันทร์ห่อไหล่ทำท่าบีบหน้าอกเหมือนกำลังถ่ายปกหนังสือปลุกใจเสือป่าอยู่ ไอ้ดินเห็นแล้วก็ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาวเรียงตัวสวยงาม

 

 

กำลังจะอ้าปากพูดกับดินต่อ แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยการเข้ามาในห้องของเจ้าของฟาร์ม คมเขี้ยวกำลังจะอ้าปากพูดกับเรียวจันทร์ พอหันไปเห็นไอ้ดินก็ชะงักไปนิดหนึ่ง

 

 

“อ้าว ไอ้ดิน มึงมายืนดูเขาแก้ผ้ารึไงเนี่ย”

 

 

“ยังไม่ทันแก้เลย ดินยังไม่เห็นสักหน่อย” ร่างบางว่าด้วยรอยยิ้มทะเล้น ขยิบตาให้ดินที่ยิ้มเขิน คมเขี้ยวทำหน้าเอือมนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ขึงขังอะไรมาก

 

 

“รีบแต่งตัว จะได้ขึ้นไปกินข้าว แม่กับพ่อรออยู่”

 

 

“แล้วนายรอฉันด้วยรึเปล่า”

 

 

“รอเสิรฟ์ปลาตีนให้อยู่” คมเขี้ยวยักคิ้วหน้านิ่ง เรียวจันทร์เบ้ปากและย่นจมูกใส่ร่างสูง หันไปเป่าผมต่อ เร่งเบอร์แรงสุดเพื่อให้ผมแห้งเร็วๆ

 

 

เสียงเครื่องเป่าผมดังจนคุณนายแกไม่ได้ยินว่าสองหนุ่มด้านหลังกำลังพูดอะไรกัน แต่พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นเพียงคมเขี้ยวยืนอยู่คนเดียว คุณนายแกชะโงกหน้ามองทางประตูนิดหนึ่ง

 

 

“ดินล่ะ”

 

 

“ไปช่วยแม่ทำกับข้าว” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ๋อแล้วลุกขึ้นยืนไปหาเสื้อผ้าจากในตู้ไม้มาใส่

 

 

“เดี๋ยว ทายารึยัง แขนยังแดงอยู่เลยน่ะ” ร่างเล็กทำหน้าตกใจนิดหนึ่งที่เกือบลืมทายา

 

 

“โอ๊ะ ลืม แต่เอาจริงๆ ทาก่อนนอนก็ได้นะ จะได้หลับไปยาวๆ เลย”

 

 

“ทาไปเลย จะมารอทำไม” เรียวจันทร์หรี่ตามองคมเขี้ยวที่ยืนตีหน้านิ่งแว้บหนึ่ง

 

 

“อยากสัมผัสผิวฉันล่ะซี้” คนโดนแซวยกสองแขนกอดอก กดหน้าลงมองหน้าล้อเลียนอีกฝ่ายอย่างนิ่งเฉย จนแม่คุณนายต้องหยุดทำหน้าตาปัญญาอ่อนไปเอง

 

 

“ยังไม่ทันบอกเลยนะว่าจะทาให้” คมเขี้ยวหันตัวทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง เรียวจันทร์รีบเดินเข้าไปคว้าแขนเอาไว้ แล้วออดอ้อนยกใหญ่

 

 

“อ๊า ทาให้เค้าหน่อยน้า นะๆๆ…” เรียวจันทร์กระตุกแขนล่ำสามสี่ที่ อีกฝ่ายก็หันตัวกลับมา ใบหน้ายังเฉยเมยเหมือนเดิม แต่เรียวจันทร์ไม่สนหรอก

 

 

นางหน้าด้าน

 

 

“…ฉันล่ะช้อบชอบเวลามือของนายสัมผัสไปทั่วร่างของฉัน…” แม่ตัวดีทำปากเผยอ หรี่ตาทำหน้าเซ็กซี่ แหวกเสื้อคลุมตรงช่วงไหล่ออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดราวกับน้ำนมที่ยังมีผื่นแดงจางๆ ติดอยู่

 

 

“…ทาให้หน่อยนะคะคุณคมเขี้ยว แล้วเรียวจันทร์จะเป็นเด็กดี” พูดจบก็ส่งจูบเสียงดัง หมั่ว! ให้พ่อรูปหล่อหนึ่งทีและปิดท้ายด้วยการกัดริมฝีปากล่างแผ่วๆ กะว่าเซ็กซี่ที่สุดแล้ว

 

 

แต่พ่อคาวบอยก็ทำเพียงเบ้ปากนิดหน่อยพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้างหนึ่งที “แอคติ้งจบยัง จะได้ทายา จะได้ไปกินข้าว หิว”

 

 

คุณนายทำหน้าหมดอารมณ์ แต่ก็แค่แปบเดียวนางก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินนำร่างสูงไปทางเตียง หยิบขวดยาที่วางไว้บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาส่งให้คนข้างหลัง

 

 

“อะ! รบกวนด้วยนะคะคุณคมเขี้ยว” เรียวจันทร์ยืนหันหลัง ปลดเสื้อคลุมอาบน้ำออกช้าๆ ปล่อยให้ผ้าลงไปกองตรงช่วงบั้นเอวบางๆ ของตัวเอง แล้วก็นั่งลงบนขอบเตียงโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนตัวสูงกำลังยืนมองแผ่นหลังขาวเนียนกับบั้นท้ายโค้งงอนของตัวเองที่โผล่แพลมๆ จากชุดอาบน้ำอย่างมึนงง

 

 

ผู้ชายอะไรทำไมมันมีทรวดทรงองค์เอวแบบนั้น ไม่เท่าผู้หญิงก็จริง แต่แม่งก็อ้อนแอ้นเกินชายไปมาก

 

 

“นี่ๆ คุณพี่คะ มาค่ะ เย็นมากค่ะตอนนี้” คุณนายนางยกมือขวาขึ้นมากวักมือเรียกโดยไม่ได้หันไปมองพ่อคาวบอย คมเขี้ยวกะพริบตาอีกสองสามทีแล้วก็นั่งลงบนขอบเตียง เทยาใส่ฝามือแล้วค่อยๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนละเอียด

 

 

เมื่อคืนที่โรงพยาบาล มันยังมีไอ้พวกผื่นแดงๆ หนาตึ้บอยู่ไง แต่ตอนนี้มันลดลงแล้ว นี่ถ้าหายดี ผิวทั้งตัวของไอ้จันทร์ไรคงเนียนกริ๊บ

 

 

“ดินบอกว่าวัวปลอดภัยแล้ว ดีใจด้วยนะ สงสัยฉันต้องไปเต้นเพลงบริทนีย์ในคอกวัวแล้วละ” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากในขณะที่มือก็ลูบยาไปตามความยาวของแผ่นหลัง

 

 

“ทำไมต้องไปเต้นด้วย”

 

 

“ก็ฉันภาวนาไว้ ว่าถ้านางรอด ฉันจะไปเต้นให้ดูอีก ฉันรู้ว่านางชอบ ลายเต้นฉันสวยพอๆ กับหน้าฉันเลยนะ” นางว่าอย่างมั่นอกมั่นใจ คมเขี้ยวขำในลำคอ

 

 

“รู้งี้ผมให้คุณภาวนาให้องุ่นผมรอดด้วยดีกว่า” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น เอี้ยวหน้าไปมองหน้าอีกคนผ่านไหล่ตัวเอง

 

 

“ทำไมอะ องุ่นเป็นอะไรเหรอ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คมเขี้ยวนึกอยากพูดปัญหานี้ให้อีกฝ่ายฟัง อาจเพราะแม่คุณนายนางไม่ใช่คนเครียดมั้ง นางมักทำให้ปัญหาเครียดๆ เบาลง ทำให้รู้สึกว่าปัญหาที่มี มันไม่ได้หนักหนาจนหาทางออกหรือทางแก้ไขไม่ได้ ดูได้จากวันนี้

 

 

“องุ่นผมตายไปครึ่งไร่เห็นจะได้”

 

 

“ตายได้ไงอะ” คมเขี้ยวลูบมือช้าๆ บนหลังขาวเนียนฝั่งที่เหลือ

 

 

“มีคนเอายาฉีดให้มันตาย” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว ใบหน้าคิดวกไปวนมา จนลืมรู้สึกว่าคมเขี้ยวไล่มือลงไปต่ำถึงบั้นท้ายของตัวเอง

 

 

และกำลังมองอย่างลืมตัว ถ้าแม่คุณนายไม่หันตัวมา ชายหนุ่มคงมึนกับบั้นเอวงอนๆ ไปพักใหญ่

 

 

“แสดงว่ามีคนจงใจทำให้ทั้งวัวนายและองุ่นนายตาย” คมเขี้ยวกะพริบตาถี่ๆ แล้วตั้งสติสักแปบ ก่อนจะพยักหน้าแบบงงๆ

 

 

“คิดว่างั้น มันดูจงใจไป” เขามองผื่นแดงๆ บนไหล่และอกของเรียวจันทร์แล้วเทยาลงบนฝ่ามือ ก่อนจะยื่นไปลูบตามไหล่ตามอก เรียวจันทร์เหมือนจะรู้ตัวขึ้นมานิดว่าเพลินไปหน่อย เลยรวบเสื้อคลุมปิดๆ ด้านล่างเอาไว้ แต่ด้านบนนางแอ่นให้อีกฝ่ายสัมผัสเต็มที่ค่ะ

 

 

“หน้าอกฉันอาจจะไม่ฟูมาก แต่ขย้ำมันเหมือนกันนะ” คมเขี้ยวยิ้มเพลีย เขาว่าจริงๆ ไม่ใช่เพราะไอ้จันทร์ไรมันทำให้ปัญหาเบาลงหรอก แต่เป็นเพราะมันชอบนอกเรื่อง ชอบพาออกทะเลต่างหาก

 

 

“เสร็จแล้ว ส่วนลึกลับตรงที่อื่นทาเองได้ใช่มั้ย” เรียวจันทร์ทำท่าอิดออดอย่างมีจริต

 

 

“แหม อยากให้ทาให้หมดเลยอะ เนี่ย ขาหนีบด้านในก็มีนะ” นางว่าแล้วแกล้งเลิกชายเสื้อคลุมตรงต้นขาขึ้นมาให้มันสั้นลง เผยให้เห็นความขาวเนียนละเอียดที่ไร้ขนมาบดบัง

 

 

“พอ เอาไปทำเอง เดี๋ยวผมรอข้างนอก” เรียวจันทร์หัวเราะ คมเขี้ยวส่ายหัวน้อยๆ แต่มุมปากก็กระตุกเป็นรอยยิ้ม พอตอนที่พ่อคาวบอยกำลังจะลุกขึ้น เรียวจันทร์ก็กระโดดขึ้นไปนั่งทับตักอีกฝ่ายไว้

 

 

“เฮ้ย!” คมเขี้ยวร้องตกใจ แต่แขนขวาก็รีบโอบรัดเอวเล็กเอาไว้เพราะกลัวแม่ตัวดีจะหงายหลังลงพื้น เรียวจันทร์ยกแขนซ้ายคล้องคอหนาของชายหนุ่มไว้แล้วอมยิ้ม

 

 

“ฉันยังไม่ปล้ำหรอกน่า แค่อยากให้ความอุ่นใจ…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วทำหน้างง เขาไม่ได้คิดผลักไสไล่ส่งแม่คุณนายออก เพราะรู้ว่ายิ่งต่อต้าน นางก็ยิ่งจะบุกหนักขึ้น

 

 

“…เมื่อวานนายให้ฉันกอด ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก วันนี้ฉันจะกอดนายบ้างนะ” คนตัวเล็กยิ้มกว้างแล้วก็โผเข้ากอดคนตัวใหญ่กว่า คางเกยอยู่บนไหล่ขวาของคมเขี้ยว สองมือลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวนั่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจแผ่วเบา เขาไม่ได้กอดตอบ เพราะแขนขวาก็โอบรัดเอวเรียวจันทร์ไว้อยู่แล้ว เขาเลยทำแค่กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกนิดและเอาคางเกยไหล่ขวาของอีกฝ่ายไว้อีกหน่อย

 

 

ไม่มีคำพูดใดๆ หรือการลวนลามใดๆ เพิ่มเติม เรียวจันทร์แค่นั่งกอดเขาไว้แบบนั้นจริงๆ

 

 

เหมือนที่ทำกันเมื่อวาน

 

 


และพอได้กอดกันอีกครั้ง ความผูกพันของทั้งสองคนมันก็เพิ่มขึ้นอีกหลายวินาที 



 :mew3:


อะ เขากอดกันอีกละ -.,- ค่อยๆ เพิ่มความผูกพันกันไปต่อใจทั้งสองคน คริๆ

เขียนมาสองเรื่อง กว่าพระนายจะได้กัน คนอ่านจะขาดใจแทน 55555

เอาหน่าาา ค่อยเป็นค่อยไปเนาะ พี่เขี้ยวมีป้อมปราการมาแต่แรก ได้เท่านี้ ก็น่ารักขึ้นละนา อุอิๆ

สรุปน้องวัวปลอดภัย แม่จันทร์ไรของพี่เขี้ยวเตรียมตัวแก้บนนะคะ เลือกลิสต์เพลงของบริทนีย์ไว้เลยค่ะ  :hao7:



ในช่วงนี้ประเทศไทยเราอาจจะหม่นๆ ไปบ้างด้วยเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนไทยหลายคน ยังไงขอให้แม่เรียวได้ทำให้คนอ่านของขุ่นเจ้อมยิ้มบ้างเนอะ


ขอบคุณคนอ่านที่เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามเรื่องนี้ มีกำลังใจเสมอเมื่อเห็นคอมเม้นต์  :mew1:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แม่เรียวเป็นติช่าปะจ๊ะ องค์แม่บริทลงทีเดียว :katai3:
่ว่าไงคะพี่เขี้ยว ตูดแม่เรียวงอนมากป้ะ :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แหมมม พี่เขี้ยวก็แอบเคลิ้ม ลองได้กินแล้วจะติดใจ  :hao6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ขุ่นแม่นี่สร้างสีสันจริงๆ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ได้กันๆๆๆๆๆ :katai3: อ้ออ ยังๆ แหม อิฉันก็อินไปคมเขี้ยวเริ่มเทใจให้คุณแม่นางหรือยังค่ะ คนอ่านจะขาดใจแล้ว

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
กอดบ่อยๆ ระวังจะอยากกอดไม่ปล่อยนะพี่เขี้ยว ^^

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจลืมความทุกข์โศกบ้างคือ การอ่านนิยายจ้ะ น้ำตาแตกทุกวัน ๆ ละสามเวลาเลย งานนี้แม่เรียวกับพี่เขี้ยวกำลังมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว งวดหน้าอยากเห็นแม่เรียวเต้นจังเลย เอาให้พี่เขี้ยวหลงไปเลยน้า วัวก้อมีนมเยอะ ๆ ด้วย  :mew4:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 15 [100%]




นั่งกอดกันอยู่นาน จนคมเขี้ยวต้องเป็นฝ่ายสะกิดให้คนบนตักรู้ตัว แม่คุณนายดึงหน้าตัวเองออกมามองคนตัวโตด้วยท่าทีสลึมสลือเหมือนจะหลับ นางยอมรับว่าอบอุ่นจนรู้สึกสบายตัว เลยเกือบเคลิ้มหลับทั้งที่ไม่ได้กินยาแก้แพ้เข้าไป

 

 

คมเขี้ยวปล่อยให้อีกฝ่ายทายาในส่วนอื่นๆ ที่เป็นส่วนลับและแต่งตัวให้พร้อม เขาออกไปรอนอกห้องนอน ผ่านไปไม่นานเรียวจันทร์ก็ออกมาในชุดนอนพร้อมกับถือถุงยาออกมาด้วย ทั้งคู่พากันเดินไปทางบ้านใหญ่

 

 

“นี่ แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ยังจะไปเดินป่าอยู่หรือเปล่า” เรียวจันทร์ถามตอนที่กำลังเดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นบน

 

 

“เดี๋ยวดูก่อนว่าสถานการณ์เป็นไง” เรียวจันทร์พยักหน้าและนึกขึ้นได้อีกอย่าง

 

 

“นายคิดว่าจะหาตัวคนทำผิดได้มั้ย” คมเขี้ยวตาวาวนิดหนึ่งก่อนตอบเสียงเรียบ

 

 

“ต้องได้สิ” ร่างเล็กเม้มปาก ไม่ได้ตอบรับอะไร แค่เดินเข้าไปในบ้าน ตรงไปทางครัวก็เจอพ่อ แม่และดินกำลังเตรียมโต๊ะอาหาร เมฆาเดินเข้ามาสำรวจร่างกายเรียวจันทร์ทันที

 

 

“เป็นไงบ้างหนูเรียว ไอ้เขี้ยวว่าผื่นแดงอย่างกับลมพิษ” ร่างเล็กยิ้มก่อนตอบ

 

 

“ก็เกือบเป็นลมพิษอยู่แหละค่ะป๋า แต่ว่าได้หมอดีแล้วก็ได้คนดูแลดี เลยหายไว” เรียวจันทร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม เหลือบไปมองทางคมเขี้ยวที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเดินไปทางโต๊ะอาหาร

 

 

“ต่อไปหนูไม่ต้องไปยุ่งกับงานแบบนั้นอีกแล้วนะลูก ให้คนงานเขาทำไป เดี๋ยวเป็นหนักว่านี้ล่ะแย่เลย” หญิงสาวคนเดียวในบ้านเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วง แอบเหล่มองลูกชายตัวเองที่ทำหน้าเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่

 

 

“แล้วคนดูแลที่ว่าดีน่ะใครเหรอหนูเรียว” บัวบูชาแกล้งถาม

 

 

“ผมไงแม่บัว” ดินว่ายิ้มๆ คมเขี้ยวเหล่มองตาขวางนิดหน่อย

 

 

“อ้าว ดินเองเหรอ มีน้ำใจจริงเชียว” คุณบัวเอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม ตบบ่าหนาของลูกชาย (บุญธรรม) เบาๆ ไอ้ดินยิ้มรับกับคำชมนั้นจนคนพี่อดหมั่นไส้ไม่ได้

 

 

“น้อยๆ หน่อยแม่ ผมไปดูแลมันมาทั้งคืนนะ”

 

 

“อ้าว แกไปดูแลหนูเรียวมาเรอะไอ้เขี้ยว”

 

 

“โถ่ป๋า อย่ามาทำใส ก็เมื่อคืนบอกไว้แล้วไง”

 

 

“โทษทีๆ ปกติแกไม่ค่อยทำเรื่องดีๆ แบบนี้” ทั้งบ้านหัวเราะ มีคมเขี้ยวคนเดียวที่นั่งหน้าบึ้ง แต่ก็ไม่ได้บึ้งโกรธเคืองเป็นเรื่องเป็นราว

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง เดินไปนั่งตรงข้ามกับคมเขี้ยว “พี่เขี้ยวดูแลเรียวดีค่ะ ถ้าไม่ได้เขา เรียวก็แย่เหมือนกัน แต่ดินก็ด้วยนะ”

 

 

เมฆาหัวเราะชอบใจกับลูกหยอดของลูกเพื่อนสนิท เล่นเอาไอ้ดินยิ้มเขิน “จริงๆ หนูเรียวขึ้นมานอนกับเราก็ได้นะลูก เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยทัน”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เรียวชินตรงนั้นแล้ว ส่วนตัวดีด้วย ไม่ได้บอกว่าคุณป๋ากับคุณแม่หรือใครวุ่นวายนะคะ แต่ว่า ชินจนชิลไปแล้ว”

 

 

“เอาตามที่หนูสะดวกเถอะ แม่แค่เสนอ ถ้าอยากขึ้นมานอนด้วยกันก็บอกนะ ตอนนี้พี่เขี้ยวเขาคงไม่ขัดแล้วละมั้ง” คนถูกเมนชั่นถึงทำหน้าเงอะงะนิดหน่อย ก่อนจะยักไหล่หนึ่งทีแล้วก็กินข้าวต่อ เมฆายิ้มกริ่มที่เห็นลูกชายตัวเองไม่ต่อต้านลูกชายเพื่อนสนิทของเขาแบบแต่ก่อน

 

 

“นอนกับดินก็ได้นะครับคุณเรียว”

 

 

“เอ๊ ไอ้ดินนี่ยังไง จะเอาหนูเรียวเป็นเมียเรอะ”

 

 

 

“ได้ก็ดีครับนาย ดินชอบ” สองสามีภรรยาหัวร่อชอบใจ ไอ้ดินยิ้มหวานเขินๆ เรียวจันทร์อมยิ้มแล้วทำปากยื่น เลิกคิ้วขึ้นสูงเพื่อแซวดิน ส่วนคมเขี้ยวยิ้มหึ ไม่ได้ออกความเห็นว่าอะไร แค่นั่งกินข้าวต่อไปเงียบๆ คนเดียว

 

 

เมฆากับบัวบูชารับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์ม แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายมากมาย เพราะเชื่อว่าลูกชายจะแก้ไขได้เอง คมเขี้ยวไม่ได้ปรึกษาอะไรกับพ่อเป็นจริงเป็นจังบนโต๊ะอาหาร แค่เล่าให้ฟังว่าอาการแม่วัวเป็นยังไง หมอให้ดูแลแบบไหน และไร่องุ่นเสียหายไปเท่าไหร่ วิธีการแก้ปัญหาก็ไม่ซับซ้อน แค่ถอนอันเก่าออกแล้วปลูกใหม่ ส่วนที่ยังรอดอยู่ก็ดูแลมันให้ดีต่อไป

 

 

“แล้วมีหลักฐานอะไรมั้ยที่จะชี้ตัวคนทำผิด” หญิงสาวเอ่ยถามพลางตักอาหารใส่จานข้าวตัวเอง

 

 

“ที่คอกวัวไม่เจอ ที่ไร่องุ่นมีกล้องวงจรปิด แต่คนทำมันตัดสายกล้องวงจรปิดเกือบหมด” เรียวจันทร์อ้าปากหวอน้อยๆ ทั้งที่มีข้าวอยู่ในปาก

 

 

“เกือบหมด ก็แสดงว่ายังมีหลงเหลืออยู่” ชายหนุ่มถอนใจเบาๆ กับประโยคของพ่อ

 

 

“มันกวนตีน มันตัดแค่ใกล้ๆ กับที่มันเอายามาฉีด แต่ที่ไกลๆ เหมือนทิ้งไว้ให้เห็นรูปร่างมันแล้วให้เรามาเดากันเอง” คิ้วเรียวสวยของเรียวจันทร์ขมวดคิ้วฉับ นึกอยากจับไอ้คนทำผิดมาตีหน้าให้เลือดอาบ

 

 

“มันต้องใครสักคนในฟาร์มนี่แหละพี่เขี้ยว ไม่งั้นมันไม่รู้มุม รู้ทิศดีขนาดนั้น” ดินว่าอย่างหงุดหงิด

 

 

“อาจจะเป็นคนนอกก็ได้ดิน อย่าด่วนสรุปคนกันเองสิ” บัวบูชาบอกอย่างใจเย็น เรียวจันทร์คิ้วกระตุก ในใจรู้สึกหายว้าบแปลกๆ มันเหมือนมีอะไรมาสะกิดใจ

 

 

คนในฟาร์ม… คนกันเอง…

 

 

“จะนอกจะในฟาร์ม ผมก็จะหาตัวมันให้เจอ” คมเขี้ยวพูดเสียงติดจะเหี้ยม เรียวจันทร์นั่งครุ่นคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

 

“อิ่มแล้วเหรอหนูเรียว” คนถูกทักหันไปมองแม่ของคมเขี้ยวแล้วยิ้มแห้ง

 

 

“อิ่มแล้วค่ะแม่”

 

 

“อิ่มแล้วก็กินยา” เรียวจันทร์กระตุกยิ้มนิดหน่อย หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม หูยังคงได้ยินหนุ่มๆ ทั้งสามคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นในฟาร์ม ผ่านไปได้ห้านาทีคุณนายแกก็กินยาตามที่หมอสั่ง

 

 

“เอ่อ เดี๋ยวเรียวขอตัวก่อนนะคะ พอดีนัดกับเป็ดไว้ว่าจะโทรเม้าท์กัน” นางยิ้มตาหยี แต่รอยยิ้มก็ไม่เต็มปากนัก ผู้ใหญ่ทั้งสองตอบรับคำบอกของเจ้าตัว

 

 

“เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับคุณเรียว” คุณนายนางทำโต ยกสองมือกดไหล่ทั้งสองข้างของดินเอาไว้

 

 

“อู๊ย ไม่ต้องจ้าดิน ยังกินไม่เสร็จเลย ตามสบายๆ” หล่อนยิ้มหวาน พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงยืนยันว่าให้ดินนั่งกินข้าวต่อไป

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ที่ไม่ได้อยู่ช่วยล้างจาน พอดีนังเป็ดมีเวลาเม้าท์ไม่มากน่ะค่ะ”

 

 

“ไม่เป็นไร ไปเถอะจ้ะ พรุ่งนี้เช้ามากินข้าวด้วยกันอีกนะ”

 

 

“แน่นอนค่ะคุณแม่” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง พอหันไปจะลาคุณป๋า ก็แทบยิ้มค้างเมื่อเจอสายตาจับผิดของคมเขี้ยวมองอยู่ นางแอคติ้งเนียนยิ้มต่อและเอ่ยลาเมฆา

 

 

แต่บอกได้เลยว่า แอคติ้งรอบนี้ครูแงะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่

 

 

“เดี๋ยวผมไปส่ง” คมเขี้ยวรวบช้อนไว้บนจาน เรียวจันทร์เกือบจะโวยวายว่าไม่ต้อง แต่สติเตือนอย่างเร็วปรื๋อว่าเมื่อกี้ทำให้ครูแงะเสียชื่อไปแล้วหนึ่งช็อต ฉะนั้นจะพลาดอีกไม่ได้

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันเดินเองได้จริงๆ” นางลดท่าทีตื่นตูมลงจนเป็นปกติ และพยายามบอกอย่างเรียบๆ ว่าเดินกลับห้องได้เองจริงๆ

 

 

“มีพิรุธนะ ปกติถ้าผมจะไปส่งต้องกระดี๊กระด๊าแล้ว” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ หันไปมองผู้ใหญ่อีกสองคนที่นั่งอ้าปากค้างน้อยๆ ก่อนจะขำกันเบาๆ

 

 

“เออๆ ก็ได้ แหม ก็รู้ตัวหรอกนะว่าสวย แต่ไม่เห็นจะต้องหวงขนาดนี้เลย” คมเขี้ยวลุกขึ้นยืนแล้วเอียงคอมองแม่ตัวดีด้วยสีหน้าหาเรื่องแว้บหนึ่งแล้วยกมือชี้หน้าก่อนจะเดินออกไปรอตรงชานระเบียงหน้าบ้าน

 

 

“ไปนะคะคุณป๋าคุณแม่ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ ไปนะดิน ฝันดีจ้ะ จุ๊บๆ” เรียวจันทร์ส่งจุ๊บให้ดินแล้วเดินตัวปลิวไปหาคมเขี้ยวที่ยืนรออยู่

 

 

“เป็นห่วงฉันล่ะสิ ทำมาเป็นปากแข็ง” นางว่าในขณะที่กำลังเดินลงบันไดบ้าน คมเขี้ยวยื่นมือไปผลักหัวร่างเล็กเบาๆ จนแม่นางหน้าเหวอ

 

 

“โห ทำร้ายร่างกายอะ ฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาข่มขืน”

 

 

“ให้ผมข่มขืนจริงๆ ก่อนค่อยไปแจ้ง” เรียวจันทร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม คมเขี้ยวหันไปมองหน้าตื่น เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดแล้วที่พูดไปแบบนั้น

 

 

“มีอารมณ์ทางเพศกับฉันล่ะซี้…” เรียวจันทร์ยื่นมือซ้ายไปจิ้มไหล่คมเขี้ยวเบาๆ “...ถ้าอยากก็บอก ต่อยท้องฉันได้เลยนะ ฉันจะขัดขืนพอเป็นพิธีแบบนางเอกละครไทยอะ ให้ดูไม่ต้องการ แต่จริงๆ แล้วก็แอบร่านอะไรแบบเนี้ยเนอะ”

 

 

เพี๊ย~

 

 

“อุ๊ย!” เรียวจันทร์สะดุ้งตกใจเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาตีปากนางเบาๆ

 

 

“พูดไม่เพราะ” คมเขี้ยวว่าเสียงดุนิด เรียวจันทร์ยิ้มหน้าเคลิ้ม

 

 

“หืมมม เหมือนแฟนหนุ่มดุแฟนสาวเลย… วะ… ว้ายยย!” กำลังฟินเฟ่อกับโมเม้นต์ชายหนุ่มเอ็ดหญิงสาวเบาๆ ก็มีอันต้องสะดุดเพราะนางลื่นบันไดสองขั้นสุดท้าย และไม่มีโมเม้นต์ว่าพระเอกคว้าตัวนางทันใดๆ ทั้งสิ้น ก้นนางจ้ำเบ้าไปสองทีเน้นๆ ก่อนจะนั่งดังตุ้บบนพื้นกระเบื้อง

 

 

“เอ้า บันไดมันอยู่ของมันเฉยๆ ไปล้มทับมันทำไมคุณนาย” คมเขี้ยวหัวเราะชอบใจ นั่งมองแม่คุณนายหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องโอดโอย ตัวบิดไปทางขวา มือซ้ายกุมก้นซ้ายเอาไว้ มือขวากำถุงยาไว้แน่นและใช้พยุงตัวเอง

 

 

“หัวเราะอะไรเล่า ช่วยฉัน ยืนพยุงสิ!” นางว่าหน้างอง้ำ ร้องโอยๆ ว่าเจ็บ คมเขี้ยวหัวเราะแต่ก็ก้มลงไปช่วยพยุงแม่คุณนายให้ยืนขึ้น คนตัวเล็กยืนขัดๆ ยอกๆ เล็กน้อยเพราะก้นกระแทกบันไดและพื้นไปเต็มแรง

 

 

“ปวดตูดเลยอะ”

 

 

“เดินไหวมั้ยเนี่ย”

 

 

“เดี๋ยวลองเดิน” คมเขี้ยวพยุงร่างบางไว้ในอ้อมแขน เรียวจันทร์ก้าวเท้าขวาได้ก้าวเดียวก็เกิดอาการคล้ายเส้นยึด

 

 

“โอ๊ะ… โอ๊ยยย… เจ็บบบ” นางหน้างอคล้ายว่าจะร้องไห้ แขนซ้ายคล้องคอคมเขี้ยวแน่นเพราะกลัวจะล้มลงไปกองกับพื้นอีก

 

 

“เจ็บขนาดนั้นเลย”

 

 

“ขอสาบานด้วยเกียรติของอดีตเนตรนารีหมู่ดอกดาวเรืองว่าฉันไม่ได้โกหก ฉันเจ็บจริงๆ” คมเขี้ยวหัวเราะในลำคอจนไหล่ทั้งสองข้างสั่น เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็หัวเราะด้วยหน้างอด้วย ผสมกันมั่วไปหมด

 

 

“หัวเราะอะไร พี่เกดไม่ได้มาเล่นๆ นะคะน้องเขี้ยว” คมเขี้ยวหมวดคิ้วงงนิดหน่อยว่าพี่เกดไหนวะ

 

 

“ต้องเรียนลูกเสือไม่ใช่เหรอ ไปอยู่เนตรนารีได้ไง”

 

 

“ฉันจะเรียกเนตรนารี” นางว่าหน้าตาย ร่างสูงส่ายหัวยิ้มๆ แล้วตัดสินใจช้อนตัวร่างเล็กขึ้นในท่าเจ้าสาว เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดแต่สักพักก็ยิ้มกว้าง

 

 

“เหยยย ทำให้เองไม่ต้องขอเลยอะ นายน่ารักกับฉันมาสองวันแล้วนะ ทำแบบนี้ฉันยิ่งอยากได้นายมากเข้าไปอีก”

 

 

“พูดมากผมจะปล่อยทิ้งเดี๋ยวนี้แหละ” คนตัวโตแกล้งทำท่าจะปล่อยร่างเล็กลงพื้น แม่คุณนายรีบใช้สองแขนคล้องคอหนาไว้แน่นแล้วเอาหน้าซุกอกพ่อคาวบอยอย่างเร็ว

 

 

“อ๊ะๆๆ ไม่พูดแล้ว อย่าปล่อยฉันนะ ฉันชอบที่นายอุ้มแบบนี้” นางว่าเสียงอ้อนมุ้งมิ้งอยู่ตรงอกของคมเขี้ยว เจ้าของอกแน่นๆ ก้มลงมองเสี้ยวหน้าขาวผ่องแล้วอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าเดิน

 

 

“เมื่อกี้จะรีบไปไหนกันแน่” หลังจากเดินออกมาจากรั้วบ้านใหญ่ได้แล้ว คมเขี้ยวก็เปิดปากถามคนที่ซุกอกเขาอยู่

 

 

เรียวจันทร์ทำหน้าอึกอักแว้บหนึ่งแล้วพูดเสียงปกติ “ก็บอกว่าจะไปเม้าท์กับเป็ดไง”

 

 

คมเขี้ยวก้มลงมองหน้าสวยๆ ของอีกฝ่าย มองด้วยสายตานิ่งจนคนในอ้อมแขนต้องยิ้มเจื่อน “ทำตัวมีพิรุธ”

 

 

“แหม ฉันไม่มีชู้หรอกน่า ฉันมีนายคนเดียว ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะน้องเขี้ยว พี่เรียวเลือกน้องแล้ว พี่จะทำให้น้องเป็นเดอะผัวของพี่ให้ได้” คมเขี้ยวขมวดคิ้วมุ่น มองแม่คุณนายด้วยสายตาดุๆ

 

 

“พูดไม่เพราะอีกแล้ว ผัวๆ เผอๆ อะไร”

 

 

“อ้าว ก็นายไง นายผัว ฉันเมีย คิๆๆๆ”

 

 

“เดี๋ยวจะโดนโยน”

 

 

“อ๊า ล้อเล่น ล้อเล่นค่า” เรียวจันทร์กระชับอ้อมแขนตัวเองที่เกี่ยวคออีกฝ่ายอยู่ เอาแก้มแนบกับอกแน่นๆ และนุ่มๆ ไว้ แหงนหน้ามองเสี้ยวหน้าหล่อของคนตัวสูงแล้วยิ้มกริ่ม

 

 

“ขอบคุณนะนายเขี้ยว ฉันดีใจที่นายใจดีกับฉัน” คมเขี้ยวก้มหน้าลงมองตาแป๋วอย่างกับลูกกวางของแม่ตัวดีแปบหนึ่งแล้วก็เงยหน้าไปมองทางต่อ

 

 

“อืม” ถึงจะพูดน้อยแต่คุณนายแกไม่แคร์หรอก เพราะนี่ถือว่ามีพัฒนาการขึ้นเยอะมากกก นางถือว่านี่คือสัญญาณอันรุ่งโรจน์สำหรับนางเลยละ

 

 

คมเขี้ยวอุ้มเรียวจันทร์จนมาถึงออฟฟิศ เรียวจันทร์ช่วยเปิดประตู ร่างสูงพาร่างเล็กเข้าไปในห้องนอน เขาค่อยๆ วางร่างของแม่ตัวดีลงบนเตียง เรียวจันทร์กระเถิบตัวขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงไว้ นางมองหน้าคมเขี้ยวแล้วยิ้ม

 

 

“ขอบคุณนะ อกนายอุ๊นอุ่น ละมุนละไมมาก” นางวางถุงยาไว้บนโต๊ะหัวเตียง คมเขี้ยวยิ้มมุมปาก เดินไปหยิบรีโมตแอร์ตรงผนังห้องขึ้นมาจากที่เสียบ กดเปิดแอร์ในอุณภูมิมาตรฐานแล้วเสียบกลับเข้าไปตามเดิม

 

 

“หยอดยาแล้วนอนซะ ตอนเช้าอย่าลืมขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่ล่ะ”

 

 

“นายจะมารับฉันรึเปล่า” คราวนี้เรียวจันทร์ไม่ได้แอคติ้ง แต่นางถามด้วยสีหน้ามีความหวังจริงๆ

 

 

ก็สองวันที่ผ่านมามันอบอุ่นหัวใจมากเลยนี่นา

 

 

“อะไร บ้านอยู่แค่นี้ยังจะต้องให้มารับ ไปเองสิ” คนที่นั่งอยู่บนเตียงทำหน้างอน แต่ก็ไม่ได้โวยวายหรือเรียกร้องให้มากความ

 

 

“ก็ได้” คมเขี้ยวยิ้มระอาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปลอบใจ ปลอบโยนอะไรแม่คุณนาย เขาหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง

 

 

“เดี๋ยวก่อน” เขาหมุนตัวกลับไปมอง เรียวจันทร์กระเถิบตัวลงจากเตียง เดินโขยกเขยกเข้ามาหาเขา

 

 

“มีอะไร”

 

 

ฟอด ฟอด จุ๊บ~

 

 

แม่คุณนายเขย่งตัวหอมแก้มทั้งสองข้างของคมเขี้ยวเสียงดังด้วยความชื่นใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจุ๊บริมฝีปากของคนตัวสูงไปหนึ่งที เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับยืนตะลึงไปนิด มองหน้าขาวผ่องที่คลี่ยิ้มด้วยความงง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างสักพัก ก่อนที่จะใช้สองมือประคองใบหน้าคมเขี้ยวเอาไว้ แล้วยื่นหน้าไปกดริมฝีปากตัวเองไว้บนริมฝีปากของอีกฝ่ายครู่สั้นๆ แล้วผละออก

 

 

คมเขี้ยวกะพริบตาสองสามที มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยความสับสน มึนงง ร่างเล็กมองหน้าร่างสูงอย่างชั่งใจ ก่อนจะเขย่งตัวคล้องคออีกฝ่ายแล้วค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปสัมผัสริมฝีปากหนานุ่มอีกครั้ง กดแช่ไว้นานกว่าสองครั้งแรก

 

 

คมเขี้ยวยกสองมือขึ้นมาจับเอวบาง ทำท่าจะผลักออก แต่เรียวจันทร์ดึงหน้าตัวเองออกก่อน ทั้งสองคนมองตากันนิ่ง ลมหายใจเป่ารดปะทะกันแผ่วเบา ปลายจมูกเกลี่ยกันไปมา สายตาทั้งสองคนประสานกัน ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงลมหายใจและสายตาที่เป็นตัวสื่อสาร

 

 

เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจูบคมเขี้ยวอีกรอบ สัมผัสเพียงริมฝีปากเท่านั้น ไม่ได้รุกล้ำจนเกินงาม สองมือของคมเขี้ยวเปลี่ยนจากจับเอวมาเป็นโอบเอวบางไว้แทน ริมฝีปากของทั้งสองคนเริ่มขยับเขยื้อนเข้าหากันช้าๆ แล้วสักพักเรียวจันทร์ก็เป็นฝ่ายบุกมากขึ้นด้วยการใช้ริมฝีปากบางขบริมฝีปากล่างหนาของคมเขี้ยวเบาๆ แล้วค่อยๆ ดึงออกอย่างอ้อยอิ่ง

 

 

ทั้งสองลืมตาขึ้นมองสายตาของอีกฝ่ายหลังจากริมฝีปากหลุดออกจากกัน ปลายจมูกของทั้งสองชนกันเบาๆ ลมหายใจดังผะแผ่ว

 

 

“ฝันดีนะ” คมเขี้ยวมองคนตัวเล็กนิ่งสักพักก่อนจะตอบรับสั้นๆ ในลำคอ เรียวจันทร์ยิ้มบาง ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของคนตัวโตอีกทีแล้วค่อยๆ คลายแขนตัวเองออกจากลำคอหนา ก้าวเท้าถอยหลังหนึ่งก้าว ส่งยิ้มสวยๆ ให้ชายหนุ่มที่กำลังยืนสับสนปนงงอยู่กับที่

 

 

“ไปนอนได้แล้ว” คมเขี้ยวมองสบตากับเรียวจันทร์พักหนึ่ง ก่อนที่จะขบกรามเบาๆ ยกมือเกาจมูกด้วยปลายนิ้วชี้สามสี่ที

 

 

“อืม” เรียวจันทร์ยิ้มอีกที คมเขี้ยวค่อยๆ หมุนตัว แต่ก็มิวายเหลือบมองเรียวจันทร์นิดหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนคนตัวเล็กและดึงประตูปิดตามหลัง

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง ยกสองมือขึ้นมากำแล้วสั่นตรงอกราวกับกำลังสั่นเครื่องดนตรีมาราคัสรัวๆ ท่าทางดีอกดีใจและขวยเขิน ยักไหล่ยึกยัก บิดสะโพกมนไปมาจนลืมอาการเคล็ดขัดยอกก่อนหน้านี้ สองเท้าย่ำคล้ายว่าจะกระโดดอย่างลงจังหวะ ส่งเสียงกรีดร้องในลำคอด้วยความปริ่มใจ

 

 

แกร๊ก~

 

 

วืดดด! เพล้ง!

 

 

คุณนายแกแทบเบรกตัวเองไม่ทันเมื่อประตูห้องนอนเปิดอีกครั้งด้วยฝีมือคนที่เพิ่งปิดประตูห้องไปเมื่อกี้ แต่นางก็เร็วพอที่จะเก็บอาการปลากระดี่ได้น้ำก่อนที่คมเขี้ยวจะทันเห็นรายละเอียดทั้งหมด

 

 

“นายเขี้ยวกุด คือ… มี… เอิ่ม ฮึ?” นางถึงกับไปไม่ถูก เกือบจะหลุดยิ้มขำ แต่นางก็เก็กหน้าเฉยได้ดีจนครูแงะต้องชื่นชม

 

 

คมเขี้ยวมีท่าทีเงอะงะ เหมือนกำลังงงว่าตัวเองเปิดประตูกลับเข้ามาทำไม แต่สุดท้ายเขาก็เปิดปากพูด “อย่าลืมหยอดตาก่อนนอนนะ”

 

 

เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้มๆ สองมือไพล่หลังเอาไว้ ยืนบิดตัวนิดๆ หน่อยๆ คมเขี้ยวมองนางด้วยสายตาเหมือนมีอะไรอยากจะพูด แต่ไฟนอลลี่ชายหนุ่มก็ปิดประตูลงตามเดิม

 

 

เรียวจันทร์รอสักพัก พอแน่ใจว่าอีกคนจะไม่เปิดประตูพรวดเข้ามาอีก นางก็กลับมาดีดดิ้นราวกับเด็กมัธยมที่ได้ให้ดอกไม้กับรุ่นพี่ที่แอบชอบในวันวาเลนไทน์ แล้วเขาก็ทำเพียงขอบคุณครับ แต่สะดีดสะดิ้งประหนึ่งว่าเขาขอมีอะไรด้วยที่ห้องน้ำหลังอาคารใดอาคารหนึ่งของโรงเรียน

 

 

“อุ๊ย!” ดีดดิ้นอยู่สักพักนางก็นึกขึ้นได้ว่า มีสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาทำก่อนหน้านี้ค้างอยู่ นางเลยเดินตัวเอียงไปหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่นางต้องการเจอ

 

 

“ฉันต้องการพบนาย…”



 :katai5:


แนบชิดไปอี๊กเนาะแม่เนาะ ได้เล็มเลียปากพี่เขี้ยวแล้วนะค้า ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเยอะมาก ร่วมดีใจกับแม่ด้วย 55555


บอกกงๆ นะคะพี่เขี้ยว ความปลอดภัยของพี่ มันเริ่มน้อยลง แม่เรียวไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ พี่เขี้ยวมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งเดอะผัวมากค่ะ


วันนี้นั่งเขียนเส้นเรื่องของเรื่องนี้ จากตอนแรกที่คิดว่าน่าจะไม่ยาวมาก พอเขียนเส้นเรื่องไป เอ๊ แลดูยาว 55555 ยาวแต่จะไม่ทำให้แม่ย้อยหรือย้วยค่ะ เพราะแม่เรียวแกไม่ชอบความย้วยย้อยทั้งหลาย นางกลัวหน้าไม่เด้งงง





ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ เห็นคอมเม้นแล้วก็มีกำลังใจเขียนและอัพต่อไปนี่แหละค่า ขอบคุณมากนะคะ ^_^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด