{ เรื่องสั้น } ONE NIGHT STAY 'หนึ่งคืนกับสองเรา' up : 22.48 28/11/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { เรื่องสั้น } ONE NIGHT STAY 'หนึ่งคืนกับสองเรา' up : 22.48 28/11/15  (อ่าน 31227 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
















{ เรื่องสั้น } ONE NIGHT STAY
'หนึ่งคืนกับสองเรา'
 BY : chiffon_cake




เรื่องราวในหนึ่งคืนของคนสองคน





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2015 23:50:15 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Kong : ป้าน คืนนี้เดี๋ยวเจอกันนะครับที่ร้าน Kingsley ตอน 22.30
Kong : แต่งตัวมาหล่อๆ เลยนะ

Mr.Pan : เห้ย จริงอ่ะ
Mr.Pan : มีอะไรรึเปล่าอ่ะ ตื่นเต้นนะเนี่ย

Kong : มีเซอร์ไพรส์ : )
Kong : เดี๋ยวเจอกันนะ
           

Mr.Pan : เดี๋ยวจะรีบไปให้ตรงเวลาเลย
Mr.Pan : เจอกันครับ




18.00



   เพลงชาติเสียงดังกังวาลไปทั่วทั้งรถผม
   ผมเปิดวิทยุไปด้วยและก็ขับรถไปด้วย ตอนนี้ผมกำลังจะกลับบ้านเพื่อที่จะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีคนนัดผมไว้ ให้ตายเถอะ ผมตื่นเต้นชิบหาย นี่เป็นการนัดเจอกันสองต่อสองครั้งแรกกับคนที่ผมคุยด้วยอยู่ ผมชอบเขามาก ชอบจนผมรอคอยให้เขาทักมาหาผมเสมอ ในที่สุดวันนี้เราสองคนก็จะได้เจอกันสองต่อสองสักที!
   ไม่แน่เหมือนกันว่าวันที่ผมรอคอยอาจจะเป็นวันนี้

   วันที่เขากับผมอาจจะได้คบกันอย่างเป็นทางการ!

   แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วล่ะครับ ผมนึกไปถึงชุดที่จะใส่และทรงผมที่จะเซ็ทสำหรับคืนนี้ มันจะต้องเป็นอะไรที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับผม
   ผมกำลังขับรถอย่างอารมณ์ดี อีกไม่นานก็จะถึงซอยเข้าบ้านผม นึกว่าทุกอย่างจะไปได้สวย แต่แล้วก็ถูกขัดด้วยมอเตอร์ไซค์คันเบ้อเริ่มที่แม่งจู่ๆ ก็มาขับตัดหน้าผม
   ผมเกือบหักหลบเข้าข้างทาง เกือบเอาอามิดาล่า (ชื่อรถของผมเอง ผมบ้าสตาร์สวอร์) ไปจูบกับฟุตบาทข้่างทางแล้ว!

   รถมันคันละสี่แสนกว่า แต่รถผมคันละเป็นล้านนะโว้ย!

   ด้วยการที่ผมเองก็รักรถ ชื่นชมในความเร็วของรถ โดนมันขับตัดหน้าแบบนี้อีกทั้งยังขับส่ายตูดรถไปมาต่อหน้าผมนี่ทำเอาฟิวส์แทบขาด อยากจะชนและก็สอยแม่งไปถูกับพื้นถนนให้หายซ่าส์ซะ (มันขับกวนบาทากวนโมโหกวนส้นมากเลยนะครับ!) แต่ก็คงทำได้แค่คิดนั่นแหละครับ ทำแบบนั้นผมติดคุกหัวโตพอดี...

   อย่างน้อยก็ขอโชว์สปริตความที่เป็นเจ้าของรถที่ติดอันดับหนึ่งในสิบรถที่มีความเร็วที่สุดในโลกหน่อยก็แล้วกัน

   มึงอยากมาขับตัดหน้ากู ส่ายตูดรถไปๆ มาๆ ยียวนกูก่อนเองนะ!

   ทันทีที่ผมเหยียบ ให้บิ๊กไบค์ (ขอเรียกอย่างงี้ไปก่อนละกัน) มันก็เหมือนจะรู้ตัวว่าผมไม่อ่อนให้มันง่ายๆ แม่งบิดแข่งกับผมเฉย ตอนนี้ทั้งถนนที่มีรถอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ กลายเป็นสนามแข่งขนาดย่อมระหว่างผมกับมันไปแล้ว...

   *กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ*

   “เชี่ยยยยยย”
   จังหวะอะไรก็มิอาจทราบได้ มีรถคันที่สามมันมาแทรกระหว่างรถผมกับบิ๊กไบค์คันนั้น ผมเสียหลักไปสอยตูดไอ้บิ๊กไบค์ลงข้างทาง คนขับหกคะเมนล้มคะมำทันที

   “ชิบหายแล้วกู...”

   ไม่น่าซ่าส์เลย ใจผมเต้นรัวแรง มือสั่นกลัวความผิด กลัวมันจะเจ็บ กลัวมันจะมีอันตรายถึงชีวิต กลัวไปหมดเลย
   ผมทำอะไรลงไป
   ผมขับรถไปจอดใกล้ๆ เดินไปดูไอ้บิ๊กไบค์ที่ล้มออกไปไม่ห่างจากรถมันเท่าไหร่ มันโคตรโชคดีเพราะมันสวมเซฟตี้อย่างดี อีกทั้งจังหวะที่รถของผมกับมันมาเจอะกันเป็นช่วงที่ผมกับมันลดความเร็วพอดี

   มันดูไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่รถมันน่ะ...อาการน่าเป็นห่วง   

   “เหี้ยเอ๊ย...” เสียงเล็ดลอดออกมาจากหมวกกันน็อค มันขยับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งในขณะที่ผมยืนดูอยู่อย่างเก้ๆ กังๆ
   “เป็นไงบ้าง” ผมค่อยๆ ถาม
   “เจ็บดิไอ้เหี้ย มาลองขับมอ’ไซค์แล้วให้กูขับรถยนต์ชนท้ายลงข้างทางมั้ยล่ะ”

   อืม...เป็นมิตรโคตรๆ
   ผมเห็นมันช่วยเหลือตัวเองด้วยกันลุกขึ้นยืน...

   “มองเหี้ยไรล่ะ” บอกแล้วใช่มั้ยครับ...ว่าแม่งโคตรจะเป็นมิตร
   “ไปโรงพยาบาลมั้ย”
   “ไม่ไป” บิ๊กไบค์ตอบทันควัน “แค่นี้สิวๆ แต่มึงอ่ะ...จ่ายมาเลย เจ็ดแสนห้า!”
   พ่องตาย “ว่าไงนะ”
   “รถกูเพิ่งไปถอยไม่กี่วัน ราคาสี่แสนกว่าบาทเงินสด แล้วโดนมึงทำซะเละแบบนี้ กูขอค่าทำขวัญเพิ่มด้วย” มันยื่นมือออกมาทั้งๆ ที่มันยังไม่ถอดหมวกกันน็อค

   ผมเริ่มฉุน มองดูสภาพรถและก็หันมามองดูหน้าไอ้บิ๊กไบค์ใส่หมวกกันน็อค

   “รถตั้งแพงซ่อมแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ขับได้แล้ว โทรเรียกประกันดิ เดี๋ยวกูจะรีบเคลียร์ รีบไป”
   “ไม่”
   เอ๊ะไอ้เชี่ยนี่... “ว่าไงนะ”
   “กูต้องการเงินสด ตอนนี้ เวลานี้”

   มิจฉาชีพ นักต้มตุ๋นหรือเปล่าวะ ผมมองมันขึ้นลงด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ พอมันเห็นดังนั้นมันจึงได้ถอดหมวกกันน็อคออก

   กรุณานึกภาพตามอย่างสโลโมชั่น ในจังหวะที่มันถอดหมวกกันน็อคออกจนหมด มันสะบัดหัวให้ผมจัดทรงเองโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะตวัดสายตามองผมด้วยสีหน้าหงุดหงิดอารมณ์เสีย

   ผมบอกได้คำเดียวว่า...หล่อเหี้ยเหี้ย

   มันหล่อกว่าคนที่ผมชอบและกำลังจะไปเจอคืนนี้อีกนะ

   “ว่าไง” มันถามย้ำหลังจากที่ผมเงียบไป
   “บ้าเหรอ รถชนแล้วอยู่ดีๆ จะให้หาตังค์มาให้เจ็ดแสนห้า มึงบ้าไปแล้ว”

   หน้าหล่อบิ๊กไบค์มองผมอย่างชั่งใจ...ดวงตาเหมือนลูกครึ่งของมันอยู่ภายใต้ผมดำขลับที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อเล็กน้อย
   มันจ้องผมอยู่นาน หลังจากนั้นจู่ๆ มันก็ละสายตาจากผมไปมองรถที่ขับผ่านมา แล้วมันก็ทำหน้าตาตื่นที่สุดในชีวิต

   “เชี่ย” มันร้อง กระชากแขนผมให้เดินกลับมาหารถตัวเอง “มึงขับหนีไปไกลๆ เลยนะ!” มันสั่งเหมือนมันจะนั่งไปกับผมด้วย
   “เดี๋ยว เหี้ยไรเนี่ย”
   “เร็วๆ อยากโดนพวกแม่งรุมกระทืบหรือไง!” มันร้องดังลั่น
   “กูไม่เข้าใจ เชี่ยอะไร...”
   “ให้ตาย งั้นกูขับเอง!”

   มันโยนหมวกกันน็อคทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จะถือวิสาสะขึ้นรถผมทางฝั่งคนขับ เดี๋ยวนะ! รถกูป่ะวะ มึงทำเหี้ยไร

   “เชี่ย! จะเอารถกูไปไหน!”
   “ขึ้นรถ กูไม่มีเวลาอธิบาย!”
   “มึง ไอ้โจรหน้าหล่อเอ๊ยยยยยยย!”
   “กูบอกให้ขึ้นรถไง!!!”

   ผมยืนเก้ๆ กังๆ จนมานึกขึ้นได้ว่ากลัวมันจะขโมยรถของผมไป ก่อนที่จะมีเรื่องอะไรไปมากกว่านี้ผมจึงตัดสินใจนั่งรถตัวเองไปกับมันเลยดีกว่า

   ทันทีที่ผมปิดประตู มันก็เหยียบไปจนสุดตีนของมันเท่าที่ตีนของมันจะทำได้

   “เชี่ยยยย รถกู!!!!!!!!!!” ผมร้องลั่น “ซิ่งหาพ่อมึงเหรอออออออออ” มันขับหวาดเสียวมาก และกำลังทำท่าเหมือนหนีอะไรอยู่ ผมพยายามเกาะทุกอย่างบนรถเพื่อกันไว้ก่อน
   “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็หุบปากไป” มันตวาด
   “กูจะเจ็บเพราะมึงขับเนี่ยแหละ” ผมร้องลั่น “อะไรวะ ขับมอ’ไซค์ก็ขับกวนตีน มาขับรถก็ขับหวาดเสียวอีก จอดและก็ลงจากรถกูไปเลยนะ ไอ้ห้าร้อย!!!!”
   “หุบปาก เสียงโคตรน่ารำคาญ!”
   “จอด!”
   “กูไม่จอด!”
   “กูบอกให้จอดไง!”
   “ไม่จอดโว้ยยยย กูไม่ใช่ขโมย กูแค่กำลังหนี!”

   ผมนิ่งไปแป๊บหนึ่ง ก่อนที่จะมองดูอย่างไม่ไว้ใจอยู่ดี “มึงเป็นคนร้ายเหรอ...มึงขโมยดูคาติคนอื่นมาขับใช่มั้ย”

   มันมองผมทางหางตาอย่างรำคาญ “ไม่ใช่”
   “แล้วมึงหนีทำไม...”   
   “กูไว้ใจได้ กูไม่ใช่หัวขโมย กูเป็นคนดี!”

   “…”

   “เชื่อใจกูและก็นั่งไปเงียบๆ! พูดมากกูจะพาลูกรักมึงลงข้างทางเดี๋ยวนี้”

   มันพูดแค่นั้นผมถึงกับนั่งเงียบไปเลย...แต่ก็ไม่วายที่จะมองมันอย่างหวาดระแวงอยู่ดี

   แค่เห็นมันหล่อแค่นี้อย่าไปไว้ใจอะไรมันง่ายๆ เลย...

   ผมมองใบหน้าด้านข้างของมันที่ขับรถหนีรถที่ตามมาอย่างเคร่งเครียด อยากจะบอกโลกใบนี้เหลือเกินว่าผมก็กำลังเคร่งเครียดพอๆ กันกับมัน

   ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นคนที่อยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป...

   คืนนี้ของผมกับมันยังอีกยาวไกล

   




   และตอนนี้มันก็เพิ่งเวลา 18.23 น. เท่านั้นเอง







TBC*




Talk : เป็นเรื่องสั้นขนาดหลายตอนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2015 23:34:23 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ Jploiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
พ่อรูปหล่อขับดูคาติ  :hao6:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
เขาจะรออ่านนนนนนนนน
ทำไมการพบกันของสองคนช่างดุเดือดดด
น่าสนใจจ
ตอนหน้าเจอกัน

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่าติดตามมากกกกก ไอ้หนุ่มบิ๊กไบท์ กับ หนุ่มที่นัดเจอ จะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่านะ รอจ้าาาา  :3123:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Mr.Pan : มีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วย
Mr.Pan : กำลังนั่งอยู่บนรถกับคนที่กำลังจะขโมยรถ
Mr.Pan : ตลกเนอะ
Mr.Pan : ทำไมเงียบไปล่ะก้อง?



18.45


   ผมมองกระจกหลังอย่างหวาดระแวง กระจกหลังที่มีรถคันหนึ่งปรากฎอยู่

   เจ้าหนี้เหรอวะ...แม่งตามไม่หยุดเลย ไอ้เชี่ยเอ๊ย

   “มึงขับทางตรงแบบนี้มึงสลัดไม่หลุดหรอก” ผมค่อยๆ พูด
   “มันไม่มีทางให้เลี้ยวหลบเลยนี่หว่า” อีกฝ่ายบ่นอุบ
   “อีกสี่ร้อยเมตรเลี้ยวซ้าย” ผมพูดเรียบๆ

   มันเหลียวกลับมามองหน้าผมนิดหน่อย ก่อนที่จะตัดสินใจทำตามคำที่ผมบอกแต่โดยดี

   ว่าแต่มันจะพาไปผมไปที่เปลี่ยวแล้วขโมยทรัพย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมผมถึงยอมกลายเป็นพวกมันง่ายๆ แบบนี้ล่ะ แต่การที่มันเลี้ยวซ้ายตามที่ผมบอก ทำให้มันสามารถหลบหลีกพวกที่ตามมาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีตรอกซอกซอยเยอะ ผมบอกแค่นั้นก็ทำให้มันสามารถสานต่อการหลบหนีด้วยตัวเองได้

   ในขณะที่มันกำลังตั้งใจขับรถอยู่นั่นเอง ในใจผมกำลังวางแผนอย่างหนักหน่วงว่าถ้ามันเกิดจะปล้นผมขึ้นมา ผมควรทำยังไงดี มือของผมกำลังจะเลื่อนไปกดโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาใครสักคน แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะทำอย่างนั้น

   เพราะเชี่ยแม่งเบรกจนหัวผมเกือบจะโขกเข้ากับเก๊ะหน้ารถ

   “อะไรวะ!!!!!” ผมร้อง

   “คุณยายข้างทาง” มันพูดเสียงเบา “แกข้ามถนนไม่ดูรถ”

   มองตามในสิ่งที่มันพาดพิงถึง คุณยายอยู่ข้างทางจริงๆ ด้วยครับ แกเอามือกุมอกทำท่าเหมือนหัวใจจะวาย ท่าทางตกใจมาก

   ผมเหลือบมองไปที่คนข้างๆ ถ้ามันเป็นโจรจริงๆ มันก็คงเป็นโจรที่มุ้งมิ้ง

   ผมหันไปดูกระจกหลัง ไม่เห็นเงาของรถคันที่ตามมันมาอีกแล้ว แต่ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายมันยังไม่มีทีท่าว่าจะปรับความเร็วลดให้ลดลงเลย

   “เบาๆ ก็ได้มั้ง มันตามมาไม่ทันแล้ว”
   “กูว่าระยะยังไม่ปลอดภัย”

   แล้วแต่มึงเลยครับ มึงเป็นคนขับนี่...ถุย! เรื่องอะไรที่ผมจะยอมตามใจมันง่ายๆ

   “มึงจอดรถได้แล้ว!”
   “แถวนี้เนี่ยนะ” มันมองซ้ายมองขวา “มีแต่หญ้ามีแต่ป่า ถ้าจอดแล้วกูกลับไงอ่ะ!!!”

   ตกลงมันไม่ได้คิดที่จะขโมยรถผมใช่มั้ยครับ “ตกลงมึงชั่วหรือมึงเป็นคนดี กูไม่เข้าใจ”

   “กูเป็นคนดี!”
   “ถ้าเป็นคนดีมึงก็ต้องจอด เพราะที่มึงขับอยู่อ่ะ มันเป็นรถของกู”
   “กูไม่จอด เพราะถ้าจอดแล้วมึงจะทิ้งกูไว้แถวนี้”
   “เอ๊ะมึงนี่!”
   “มึงไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่ามึงเป็นใบ้!”

   จากที่เคยคิดว่ามันหล่อ ผมขอถอนคำพูดออกมาหมดเลย แม่งเอ๊ย ทุเรศสิ้นดี มันทำตัวเหมือนมันเป็นเจ้าของรถผมไปแล้ว

   หลังจากที่ขับไปอีกประมาณ 20 นาที มันก็ชะลอความเร็วลง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปทางไหนแล้ว ผมพยายามหาป้ายอ่าน แต่ผมก็หาไม่เจอ

   ชักน่ากลัวขึ้นไปทุกที...

   “กูชื่อนพ” มันพูดขึ้นมา
   “กูถามมึงหรือไงเล่า” ใครจะอยากไปผูกมิตรกับมันง่ายๆ ล่ะครับ แม้มันจะหล่อก็ตามทีเถอะ แต่มาขโมยรถผมขับง่ายๆ แบบนี้
   “มึงชื่ออะไร”
   “กูไม่บอก”
   “กูรู้ละ” มันเอ่ย “แพน ไม่ก็ ป่าน มั้งนะ”
   “พ่องดิ ชื่ออย่างกับตุ๊ด” ผมร้อง “กูชื่อป้าน มุมป้าน เคยเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสี่เหลี่ยมมั้ย”

   ไอ้นพพูดไม่ออกไปพักใหญ่ๆ ดูมันสะดุดๆ ไปยังไงก็ไม่รู้

   “รู้ได้ไงว่ากูชื่ออะไรประมาณนั้นอ่ะ” สักพักใหญ่ผมจึงเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ
   “มองข้างหลังดิ” ไอ้นพเอ่ย ผมจึงหันไปมองข้างหลัง ชีทเรียนผมหล่นกระจัดกระจายเพราะแรงเหยียบและแรงเบรกที่ไอ้นพมันทำกับรถผม ชีททุกชุดผมเขียนชื่อไว้ข้างหน้าว่า PAN

   มิน่ามันถึงอ่านแพน หรือไม่ก็ป่าน

   ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจ ไม่ได้อยากให้มันได้รู้ถึงชื่อผมเลยครับ

   “กูขอโทษละกันที่ทำให้ตกใจ แต่มันฉุกละหุกจริงๆ และกูก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอารถมึงมาขับ” น้ำเสียงของมันนิ่งเรียบมากขึ้น

   ผมเสมองออกไปนอกหน้าต่าง “มึงหนีอะไรมา”

   “ลูกเจ้าพ่อ” มันตอบสั้นๆ
   “เชี่ย...มึงไปทำไรพวกมันมา”
   “ขโมยของสำคัญ”
   “มันก็เลยตามมึงมาเหมือนหมาตามกระดูกว่างั้น”
   “ใช่”

   “อืม” ผมรับคำ ก่อนที่จะระเบิดโทสะออกมา “ถุย!!!! กูเชื่อก็บ้าแล้ว เรื่องนี้ใครจะแต่งก็แต่งได้ป่ะวะ กูไม่เชื่อมึงหรอก!”

   “มองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่ามึงอ่ะ” นพทำหน้าหงุดหงิด “ที่กูเล่าไปคือความจริงล้วนๆ”
   “กูไม่เชื่อมึง”
   “งั้นก็อยู่ด้วยกันต่อไปด้วยความหวาดระแวงของมึงละกัน”

   ผมไม่สนใจคำพูดมันหรอก แต่ว่า...เมื่อตะกี้มันพูดว่าอะไรนะ “เดี๋ยว...พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ” มันไม่ตอบผม “มึงจะไม่ปล่อยกูกับรถกูไปง่ายๆ งั้นเหรอ”

   “ทำไงได้ รถมึงขับไว ขับดี ทำให้กูหนีพวกมันได้เร็วด้วย”
   “พ่อง หน้าด้าน!”
   “กูว่ากูหล่อมากกว่าด้านนะ”

   งั้นมึงก็เหนือระดับความหน้าด้านขึ้นไปอีกแล้วล่ะ...ผมหงุดหงิดจนไม่รู้จะหงุดหงิดยังไงแล้ว

   ผมหันขวับไปมองใบหน้าด้านข้างของไอ้หล่อที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกครึ่งหรือเปล่าอย่างมุ่งร้าย หึ ถ้ามันแต่งเรื่องเก่งนักก็อยากจะให้มันแต่งให้ผมฟังอีกเหลือเกิน ดูซิว่ามันจะไม่แสดงพิรุธออกมาให้ผมเห็นหน่อยเหรอ

   “ถ้ามึงไว้ใจได้จริงๆ กูก็ต้องรู้หัวนอนปลายเท้าของมึง”

   มันกลอกตา “ต้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

   “เออ! ปัญญาชนเขาทำกันแบบนี้ ไม่ใช่อยากฉกอะไรของใครไปก็ฉกไปเฉยๆ!”

   “ครับ!!!” นพรับคำอย่างประชดประชัน “ถามมาเลย! คุณผู้พิพากษา”

   “อืม” ผมตอบอย่างมาดมั่น “มึงเป็นใคร มาจากไหน ทำไมต้องขโมยของสำคัญของเจ้าพ่อ อายุเท่าไหร่ เรียนจบหรือยัง มีแฟนหรือยัง...”

   “เดี๋ยวๆ หลังๆ มันเกี่ยวด้วยเหรอวะ”

   “ไม่รู้ มันไหลมาเอง” ผมควบคุมปากตัวเองไม่อยู่จริงๆ

   “ตอบมึงก็ได้ น่ารำคาญฉิบ กูชื่อนพ ชื่อจริงนพณัฐ นามสกุลไม่อยากบอกเดี๋ยวมึงตกใจ” แน่ะ มีกั๊กไว้ด้วย “เรียนอยู่ปีสุดท้าย ใกล้จะจบแล้ว แฟนยังไม่มี มาจากกรุงเทพ บ้านอยู่แถวบางแค มีพี่น้อง...”

   “พอ” ผมยกมือห้าม ท่าทางที่มันพูดเหมือนเรื่องที่มันพูดออกมาเป็นเรื่องของมันจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น

   เดี๋ยว...แล้วมันเรียนคณะอะไร ถ้ามันเรียนเอกการแสดงล่ะก็...มันอาจจะเก่งเรื่องแอ็คติ้งและก็ทำให้ผมเชื่อได้โดยง่ายก็ได้นะ

   “แล้วมึงเรียนคณะอะไร”

   “อยากรู้ไปทำไมเนี่ย”

   “เออน่า!”

   “วิศวะปิโตร” อืม...แล้วไป...นึกว่ามันเรียนเอกการแสดงซะอีก “พอใจมึงหรือยังครับน้องมุมป้าน”

   “พ่อง ชื่อป้าน ไม่ได้ชื่อมุมป้าน”

   “กูจะเรียกมุมป้าน”

   “ไอ้บ้า”

   “เล่าเรื่องของมึงมาดิทีนี้ กูไม่ยอมเสียเปรียบคนเดียวหรอกนะ”

   บ้าไปแล้ว...นี่ผมจะต้องไปรู้จักมักจี่กับคนพรรค์นี้จริงๆ เหรอ “กูไม่เล่า”

   “เห้ย แมนๆ หน่อยเด๊”

   “เชี่ยยยย เออ ก็ได้ๆ” น้ำเสียงของผมค่อนข้างขุ่นมัว “ชื่อป้าน เรียนอยู่ปีสาม คณะบัญชี”

   “แค่นี้เองเหรอ” มันถาม

   “เออ แค่นี้ กูให้มึงรู้จักแค่นี้!!!!!”

   อีกฝ่ายไม่พูดอะไรต่อ ยังคงขับรถไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผมเริ่มมองนาฬิกาข้อมืออย่างเป็นกังวล

   ผมมีนัดกับก้องตอนสี่ทุ่มครึ่ง...

   และตอนนี้ก็ทุ่มกว่าเข้าไปให้แล้ว


   
   ไอ้นพมันจะปล่อยผมไปตอนไหน
   



TBC*

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12

Mr.Pan : ถ้าเราไปสายเราต้องขอโทษด้วยนะก้อง
Mr.Pan : เราจะรีบหนีไปจากมันให้เร็วที่สุด
Mr.Pan : หวังว่าเราจะปลอดภัย




19.47




   “คุยกับใครอ่ะ”
   นอกจากเป็นขโมยแล้วมันยังเป็นคนขี้เผือกอีกเหรอ... “เรื่องของกูน่า”
   “แฟนหรือไง” นพเอ่ยเสียงเรียบๆ
   “ใช่!!!” ผมตอบทันควัน “กำลังจะเป็น!!!”
   “มั่นใจจัง ถ้าเขาเปลี่ยนใจขึ้นมากะทันหันล่ะ” นพหัวเราะ
   “มึง...หยะ...อย่ามาทำลายความหวังกูดิ” ผมพยายามจะทำเสียงแข็งใส่ แต่ก็ต้องดรอปลงไปเพราะความไม่มั่นใจของตนเอง

   ชอบกันผ่านตัวอักษร...บางทีมันก็ต้องมีเผื่อใจกันบ้างใช่มั้ยล่ะครับ

   มันแย่ตรงที่ผมไม่เคยเผื่อใจนี่แหละ

   “เห้ย ใจเย็นๆ กูแค่พูดเล่น” เมื่อเห็นผมทำหน้าสลดไอ้หัวขโมยก็เริ่มแสดงความมุ้งมิ้งของมันอีกครั้งหนึ่งด้วยการที่แสดงท่าทีที่แคร์ผม “กูแค่พูดเล่นนะโว้ย”

   ผมเงียบไปเลย...สักพักหนึ่งผมเห็นมันเลี้ยวไปที่ไหนสักที่หนึ่งซึ่งก็คือปั๊มน้ำมัน

   “มึงจะจอดแล้วใช่ป่ะ!” ผมร้องลั่น “เอางี้ ถ้ามึงจอดเดี๋ยวกูให้เงินติดไปกับมึงด้วย แล้วมึงอยากจะไปไหนก็ไปได้เลย ที่ผ่านมากูไม่ได้ถือสาเอาความ”
   “ไม่” ผมปฏิเสธ “ยังไงมึงก็ต้องติดไปกับกู จนกว่าจะเช้า”
   “หา บ้าเหรอ!”
   “กูไว้ใจได้ กูไม่ทำอะไรมึงหรอก”
   “ไม่เอาโว้ย กูมีนัด!!!!”
   “เหรอ” นพยิ้มมุมปาก “ผิดนัดก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
   “มึงนี่เป็นคนยังไงวะฮะ!!!!!!”
   “จะไปเซเว่น มึงจะเอาอะไรป่ะ”

   เหมือนมันจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับความลำบากของผมเลยแม้แต่นิดเดียว ผมทำหน้าไม่อยากเชื่อใส่มันในขณะที่มันไม่ได้สนใจอะไรกับอารมณ์หงุดหงิดของผม

   ว่าแต่...มันจะไปเซเว่นงั้นก็แปลว่า...มันกำลังจะทิ้งรถผมไว้กับผมอ่ะดิ

   ได้เวลาหนีแล้วกู...

   มันจอดรถ...ดับเครื่อง หยิบกุญแจขึ้นมาไว้กับมือของมัน...

   คำว่าหนีบินหนีไปจากผมเหมือนมันเป็นยุงตัวหนึ่ง


   “จะลงไป หรืออยากจะอยู่แบบไม่มีอากาศบนรถ เลือกเอาเองนะ” พูดจบมันก็เปิดประตูลงจากรถไป

   ผมลงจากรถตัวเองอย่างเลือกไม่ได้ อยากจะวิ่งหนีไปเสีย ถ้าไม่ติดว่ากุญแจรถผมอยู่กับมันอ่ะ ผมไปตั้งนานแล้วล่ะครับ

   แม่งน่าหงุดหงิดฉิบหาย...

   ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี ควรจะทิ้งรถไว้แล้วรีบไปหาก้อง หรือว่าควรตามรถตัวเองไปกับไอ้นพคนแปลกหน้าที่หนีห่าอะไรก็ไม่รู้

   เป็นคืนที่แย่ที่สุดในชีวิตของผมเลย!!!!

   ผมนั่งอยู่ตรงม้านั่งที่เซเว่น ในขณะที่ไอ้เชี่ยนพเดินเข้าไปในเซเว่นอย่างสบายใจเฉิบพร้อมกับเขย่ากุญแจรถผมไปด้วย ผมขมุบขมิบปากสาปแช่งมันอยู่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ก้องไลน์มาตอบผมพอดี
   ผมรีบเปิดอ่านอย่างดีอกดีใจ แต่ทว่าผมดีใจได้ไม่ถึงสองวินาทีผมก็ต้องหยุดชะงักไป

   Kong : ป้าน ผมไปไม่ได้แล้วล่ะ
   Kong : ผมติดธุระ ผมขอโทษจริงๆ

   
   ช็อคแป๊บ...
   มือที่ผมถือโทรศัพท์อยู่กำลังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ผมพยายามพิมพ์ทุกคำที่ตอบกลับไปให้มันถูกต้อง

   Mr.Pan : ก้อง ได้อ่านไลน์เราหรือเปล่า
   Mr.Pan : เรากำลังอยู่ในอันตรายนะ
   


   ผมลุ้นมากกับคำตอบของก้อง

   Kong : ผมเชื่อว่าป้านดูแลตัวเองได้

   การที่ก้องพิมพ์กลับมาแบบนั้นทำให้สมองผมตื้อไปเลย แทนที่ผมจะเอาเวลานี้ไปโทรออกหาใครสักคนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่บัดนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้น

   ผมมีเบอร์ก้อง...แต่เราไม่เคยโทรคุยกัน...ผมเคยบอกแล้วใช่มั้ยครับว่าผมตกหลุมรักก้องผ่านตัวอักษร

   แล้วตอนนี้ผมก็เริ่มจะรู้แล้วว่ามันไม่มีอยู่จริง...

   ที่ผ่านมามันคืออะไรล่ะ...
   
   Mr.Pan : ไม่เป็นห่วงเราบ้างเลยเหรอวะ

   ก่อนที่จะยั้งมือและความคิดตัวเองได้ทัน ผมพิมพ์คำนั้นออกไปแล้ว...

   Kong : ขอบคุณที่เป็นเพื่อนแก้เหงานะ
   Kong : จริงๆ แล้วเราเพิ่งเลิกกับแฟน
   Kong : เราคุยกับป้านแก้เหงา

   Kong : และตอนนี้แฟนมาขอคืนดีกับเราแล้วล่ะ
   Kong : ขอโทษนะป้าน


   โทรศัพท์ผมหล่นลงบนพื้น สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ผม ไอ้บ้านี่เป็นอะไรไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็ทำโทรศัพท์หล่นลงไปบนพื้น...
   นี่มันยิ่งกว่าช็อคอีก

   ที่ผ่านมาผมคิดว่าเขาคิดเหมือนผม

   ผมยอมรับว่าผมเป็นพวกงมงาย รักใครรักจริงรักจนถึงที่สุด...แม้ว่าจะไม่เคยเจอก้อง แต่ผมก็ชอบที่จะเข้าไปส่องดูชีวิตของเขาในไอจี ผมตกหลุมรักรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ตกหลุมรักความเจ้าชู้ขี้เล่น ตกหลุมรักความเฟรนด์ลี่ของเขาที่ผมสัมผัสได้หลังจากที่คุยกันทั้งวันทั้งคืนมาเกือบเดือน

   เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของผม ในเวลาที่ผมไม่เหลือใครสักคน ในเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ ในเวลาที่เพื่อนของผมหันความสนใจไปอยู่กับแฟน โดยทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง

   นี่มัน...แย่ที่สุดเลย
   ผมคงให้ความรู้สึกเขามากไปจนลืมใส่ใจความรู้สึกตัวเอง...

   กูนี่มันโง่แท้ๆ











   “เป็นเหี้ยไรมึง” ไอ้เชี่ยนพ บุคคลที่ไม่สมควรมาอยู่ในเวลานี้กลับเดินเข้ามาพร้อมๆ กับส่งเบียร์กระป๋องมาให้ผม “ร้องไห้เหรอวะ”

   ผมรีบปาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาออก ใครจะไปอยากให้คนที่เราไม่ชอบเห็นความอ่อนแอของเราล่ะครับ

   “ร้องก็เหี้ยแล้ว...” ผมพูดเสียงสั่น
   “มันคนนั้น...เปลี่ยนใจอย่างกะทันหันเหรอ”

   สิ่งที่มันพูดเอาไว้ลอยๆ กลับเป็นความจริงซะงั้น...ผมอยากจะบ้าตายเสียจริงๆ “เออ” ผมยอมรับในที่สุด เตรียมใจรับกับการเยาะเย้ยของหัวขโมยแปลกหน้า

   แต่ทว่า...มันกลับไม่เยาะเย้ย อีกทั้งยังยื่นกระป๋องเบียร์ของมันมาชนกับกระป๋องเบียร์ที่ผมถืออยู่

   “ดื่มสิวะ”

   ผมไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นใคร ผมดื่มกับมันเงียบๆ อยู่หน้าเซเว่นในปั๊มที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา...ปล่อยความคิดล่องลอยไปกับการมองดูรถถอยเข้าถอยออกอยู่หน้าเซเว่น มองดูหมาเดินผ่านแล้วนั่งจุมปุกลงพื้นข้างหน้า และก็มองดูไอ้หล่อที่ผมเคยบอกคุณๆ เอาไว้มามันหล่อกว่าก้องที่ผมคุยด้วยสักแปดร้อยเท่า...

   ไอ้นพ...มันเป็นคนที่มองแล้วละสายตาไปทางอื่นไม่ค่อยได้จริงๆ ครับ

   ทุกอย่างดูดีหมด หากมันไม่ขโมยรถผมไปขับอย่างหน้าด้านๆ

   “ตลอดคืนนี้มึงบอกว่ามึงจะทำอะไรนะ” ผมถามลอยๆ
   “หนี” มันยักไหล่ก่อนจะตอบ
   “ตอนนี้ก็สลัดหลุดแล้วไม่ใช่เหรอ กูไม่เห็นมีรถคันไหนเหมือนรถที่ตามมึงมาสักคัน”
   “หึ” นพส่งเสียงดูถูก “มึงกำลังพูดถึงลูกเจ้าพ่อนะ...ถ้าอยากเจอใครล่ะก็ แค่กริ๊งหาตำรวจแป๊บเดียว...รู้เรื่อง”

   ผมทำหน้าเข้าใจ...นี่กูต้องเฝ้ารถและก็ตามรถกูไปทั้งคืนในวันที่กูอกหักจริงๆ เหรอ

   แต่ก็ดีนะครับ...

   “งั้นกูไปด้วยละกัน คราวนี้กูสมัครใจ” ผมพูดตรงๆ
   “หา”
   “มึงจะพากูไปตายยังได้เลย กูไม่แคร์เหี้ยอะไรแล้ว”
   “มึงอย่าพูดแบบนี้ดิวะ”
   “อกหักเป็นสิบๆ ครั้งแล้ว กูเบื่อชีวิตเหี้ยๆ นี่แล้วจริงๆ” ผมบีบกระป๋องเบียร์จนบี้แล้วโยนลงถังขยะอย่างเซ็งๆ
   “ไม่มีใครเขาเอามึงเลยเหรอวะ ฮะฮะ” น้ำเสียงของเชี่ยนพเหมือนเยาะเย้ยนิดๆ ผมเบะปากใส่มันอย่างหมั่นไส้
   “เออ ใครจะไปหล่อเหมือนมึงล่ะ ไอ้เทพบุตร ไอ้ไม่เคยขโมยรถใครอย่างหน้าด้านๆ”

   มันทำหน้างงนิดหน่อย แต่ก็ไม่นึกที่จะใส่ใจกับคำพูดของผม...

   “อยากไปไหนล่ะ” อีกฝ่ายถามคำถามนี้ออกมา
   “มึงไม่มีเป้าหมายหรือไง”
   “คนกำลังหนีนะเว้ย จะไปคิดออกได้ไงว่าสมองมันจะพาไปไหน”
   “ไปไหนก็ได้...” ผมค่อยๆ พูด “ไปไกลๆ...”
   “อืม”
   “…”
   “มึงจ่ายเงินค่าน้ำมันด้วยนะ”

   ไอ้โจรเชี่ยเอ๊ย...









   “กูรู้จักร้านหนึ่ง...ร้านคนรู้จักกู...”

   “…”

   “มึงอยากเมาให้หัวทิ่มมั้ยล่ะ”

   “มึงกำลังหนีอยู่ไม่ใช่หรือไง” ผมพูดออกมาโดยไม่มองหน้าคนขับที่กำลังพูดอยู่ “คนกำลังหนีจะไปอยู่กับที่ได้ยังไง”

   “…”

   “แต่ก็ดีนะ...คืนนี้...กูอยากทำอะไรให้มันสุดๆ ไปเลยว่ะ”

   สองทุ่มครึ่งแล้ว...



   และนี่ก็เพิ่งจะเริ่มต้น...











TBC*

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :really2:

ก้องหาย ไม่ตอบfb

แล้วของที่เขาไปขโมยมา มันคืออะไร??

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Mr.Pan : อืม
Mr.Pan  : ง่ายดีเนอะ
Mr.Pan :เล่นกับหัวใจคนอื่น
Mr.Pan : สนุกมากมั้ย เราถามจริงๆ




21.45





   “เอาโทรศัพท์มา” นพที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ในร้านเหล้าแถบชานเมืองพยายามแย่งโทรศัพท์ไปจากมือผม “ไม่มีประโยชน์หรอก ในเมื่อมันเหี้ยกับมึงขนาดนั้นอ่ะ”
   “กูแค่อยากด่า...”
   “ช่างหัวมันเหอะ มันยังไม่เห็นหัวมึงเลย จริงมั้ยล่ะ...”   

   หากมีคนลืมเรื่องราวของผมล่ะก็...ผมจะเล่าให้ฟัง

   ผมโกรธมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่ขับตัดหน้าผม และผมก็บังเอิญชนตูดมันเข้าทำให้มอเตอร์ไซค์ล้มลงข้างทาง คนขับไม่เป็นไร ต่อมาคนขับเหมือนจะเห็นศัตรูของมันเข้าและมันก็อยากจะหนี แต่หาทางหนีไม่ได้ ก็เลยขึ้นรถผมและก็ขับรถผมออกไป ส่วนผมผู้เป็นห่วงรถและไม่มีทางเลือกกำลังติดแหงกอยู่กับมัน...ตอนแรกผมอยู่กับมันเพราะผมห่วงรถ...แต่ตอนนี้ผมสมัครใจที่จะอยู่

   ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ

   ดีงามพระรามไนน์สเตชั่น...

   คนแปลกหน้ากลายเป็นคนที่อยู่กับเราในช่วงเวลาที่ชีวิตเราดิ่งลงสุดชีวิตได้ยังไงกัน...

   ผมเล่าเรื่องผมกับก้องให้นพฟัง มันทำเหมือนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง พอพูดจบผมก็ดื่มไปด้วย หยิบโทรศัพท์ขึ้นพิมพ์ด่าส่งไปให้ก้อง และตอนนั้นเป็นตอนที่นพกลับมาสนใจผม มันพยายามแย่งโทรศัพท์ของผมไป

   “อย่างี่เง่าเลย”
   “มึงไม่เข้าใจ!” ผมร้องดังลั่น “กูไม่เคยคุยกับใครถูกคอเท่าคนนี้เลยจริงๆ!”
   “ไหนมึงบอกว่าไม่เคยคุยโทรศัพท์กับมันไง”
   “ก็...ไม่เคยอ่ะ แค่อ่านตัวอักษรก็รู้แล้ว มันเข้าใจยากตรงไหนวะ”
   “ไอ้บ้า” มันตวาด “ตอนมึงพิมพ์ 555 ทุกครั้งมึงได้หัวเราะตามที่มึงพิมพ์ป่ะ กูอยากจะถาม”
   “…” ผมไม่มีอะไรไปเถียงมัน
   “เวลาที่มันพิมพ์ว่ารัก มันพิมพ์ว่าชอบมึง มันอาจจะกำลังทำหน้าเบื่อโลกอยู่ก็ได้”
   “…”
   “โตได้แล้วมุมป้าน ปีสามแล้ว อย่าคิดว่าโลกใบนี้จะสดใสเป็นสีชมพูตลอดสิ”

   โอ้ย...ตอนนี้หัวขโมยมันกำลังสั่งสอนผม รู้สึกชีวิตดำดิ่งและก็ตกต่ำลงถึงขีดสุด

   ผมไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีอะไรจะเถียง (เพราะมันจริงที่นพพูดทุกคำผมเถียงไม่ออกจริงๆ) อกหักคราวนี้เหมือนความโง่ของตัวเองไปผสมกับการที่เอาใจไปผูกกับโซเชียลมากเกินไป...

   …แต่ทำไมเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจแบบนี้

   “ชน” ผมยกแก้วขึ้น ไอ้นพยิ้มมุมปากก่อนที่จะยกแก้วของมันมาชนผมเหมือนกัน

   เจ้าของร้านนี้เป็นผู้ชายวัยประมาณสามสิบห้า นพบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของมัน วิศวะปิโตรที่มอมันค่อนข้างมีคนเรียนน้อย จึงรู้จักมักจี่กันทั้งรุ่นและก็ข้ามรุ่น ตอนมันเข้ามาในร้านมันยังบอกพี่เจ้าของร้านเลยว่าถ้ามีใครมาตามหามัน บอกไปเลยว่ามันไม่ได้อยู่ที่นี่...
   บอกตามตรงมันไม่ได้ทำตัวเหมือนมันกำลังหนีอะไรสักอย่างเลย...

   “ถามได้มั้ย” ผมเอ่ย “ไอ้ของสำคัญที่มึงขโมยมา...คืออะไร” อยากจะรู้เหลือเกินว่าที่พวกมึงเล่นหนังบู๊ฮอลลีวู้ดกันอยู่เนี่ยสาเหตุมันมาจากอะไร
   “โทรศัพท์”
   โทรศัพท์...โทรศัพท์เนี่ยนะ... “มีคลิปโป๊ของเจ้าพ่อเหรอ” ผมพูดติดตลก ไอ้นพส่ายหน้า
   “ไม่ใช่ เรื่องมันใหญ่กว่านั้น”
   “…”
   “มันเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น”

   ผมเกือบทำแก้วในมือหล่นลงไปบนโต๊ะ...ไอ้เรื่องแบบนี้ผมบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยจะสนใจและก็ติดตามเท่าไหร่นัก

   “ใหญ่จริงว่ะ” ผมยอมรับ “มิน่ามันถึงตามล่ามึงขนาดนั้น”
   “มันเพิ่งรู้ไงว่าโทรศัพท์มันอยู่ที่กู...ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
   “ตอนนี้อาจจะปลอดภัยแล้วก็ได้นะ มึงกับกูมานั่งอยู่นี่ก็ชั่วโมงกว่าแล้ว ไม่เห็นมีอะไรเลย”
   “ที่นี่ปลอดภัย...” มันยกแก้วขึ้นมาดื่ม “อย่างน้อยก็ตอนนี้...”










   คอผมเริ่มพับแล้ว...
   ไอ้นพคอแข็งมากครับ ไม่ว่าจะดื่มไปเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรมาสะดุ้งสะเทือนคอมันได้เลย มันนั่งอยู่ใกล้ๆ เอาแต่ยิ้มให้ผมและก็คอยพูดคุยกับผม...

   ผมอยู่กับคนแปลกหน้ามานานเกินไปแล้ว

   แปลกเหลือเกินที่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นคนแปลกหน้าอีกต่อไป ไอ้นพมันดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผมมาก มันจะคอยบอกอยู่เสมอเวลาที่ผมคิดจะทำอะไรงี่เง่าใส่ก้อง ไม่ว่าจะเป็นไลน์ไปด่าหรือว่าโทรไปหา ถ้าไม่มีมัน...ก้องอาจจะเกลียดผมไปแล้วก็ได้

   กูให้มึงยืมรถอามิดาล่ากูคืนหนึ่งก็ได้...

   “หน้าอย่างมึงโสดเหรอวะ” ด้วยฤทธิ์น้ำเมาที่มีอยู่ในตัว ผมจึงถามคำถามนี้ออกไป...
   “โสดดิ” นพตอบกลับมา... “กูก็ไม่มีใครเอาเหมือนกัน”
   “เห้ย ไม่จริงน่า”
   “จริงสิ”
   “มึงควรไปหักอกคนอื่นมากกว่า”
   “ทำไมวะ กูหล่อขนาดนั้นเลยหรือไง”
   “เออ หล่อ...” ผมพยักหน้าไปตอบไป...อีกฝ่ายดูอึ้งไปนิดหน่อย ก่อนที่จะหัวเราะชอบใจพลางจิบเครื่องดื่มในมือไปด้วย...
   “หล่อมากมั้ย...”
   “หล่อกว่าไอ้เชี่ยก้องอีกนะ...” ถ้าผมยังสติดีอยู่ผมคงไม่พูดแบบนี้ออกไปหรอก... “ทำไมกูไม่เจอมึงก่อนมันอ่ะ...”
   “…”
   “เสียดายจัง”
   อีกฝ่ายเงียบไปแต่ผมก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากมาย...ผมลุกขึ้นยืนอย่างเซๆ หวังที่จะเข้าห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงวุ่นวายที่หน้าร้านดังขึ้น

   “เชี่ยนพ มึงออกมา!!!!!!!!”


   ลูกเจ้าพ่อ...มาแล้ว

   “เห้ย!” ไอ้นพรีบดึงแขนผมให้นั่งลง ผมที่ยังมึนๆ อยู่ยิ่งมึนหนักเข้าไปใหญ่

   อีกฝ่ายมากันประมาณเจ็ดแปดคนเห็นจะได้ คำว่าเจ้าพ่อมันยังแสดงอำนาจได้อย่างต่อเนื่อง...

   “ถ้ามึงไม่ออกมา กูพังร้าน เอาสิ มึงจะว่ายังไง!!!!!!!”

   โต๊ะตัวหนึ่งถูกพลิกคว่ำไปต่อหน้าต่อตา เสียงแก้วแตกดังระงมและก็เสียงผู้หญิงกรี๊ดดังทั่วไปหมด ผมสะดุ้งตัวสั่นทันที แทบจะสร่างเมาเลยทีเดียว

   “เอาไงดีมุมป้าน” อีกฝ่ายถามผมอย่างขอความคิดเห็น “ถ้าไม่ออกไปมันพังร้านพี่ชัยแน่”
   ผมกระแอมนิดหน่อย “ออกไปเลย...ออกไปอย่างลูกผู้ชาย”
   “หา” นพดูงงๆ นิดหน่อย
   “กูหมายถึงเรา...”
   “…”
   “เราควรหนีออกไปอย่างลูกผู้ชาย”

   นพหัวเราะหึออกมานิดหน่อย ก่อนที่จะดึงมือผมและก็ลากผมออกไปทางหลังร้าน

   “มันอยู่นั่น!!!!!”

   สายตาลูกเจ้าพ่อไวชิบหาย...ผมตกใจในขณะที่ไอ้คนที่ดึงมือผมไปก็เร่งฝีเท้ามากขึ้น มันเร่งจนไม่ได้ดูคนข้างหลังเลยว่าจะชนหรือจะหัวทิ่มอะไรยังไง...

   กูมาอยู่ในจุดนี้ได้ไงวะเนี่ย...จุดที่กูต้องหนีหัวซุกหัวซุนทั้งๆ ที่กูไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรด้วยเลย

   “วิ่งเร็วๆ ดิ มึงอยากเจ็บตัวเหรอ!!!” ไอ้นพร้องลั่น
   “กู...กูพะอืดพะอม”
   “เออ ค่อยไปอ้วกที่อื่น!”
   “โอ้ย กูทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงได้มาเจอมึงในคืนนี้เนี่ย”
   “ไม่ใช่เวรไม่ใช่กรรมหรอก”

   “…”

   “เขาเรียกว่า บุพเพ!”

   มันพูดว่าไงนะ...ผมฟังไม่ถนัด จังหวะนั้นนั่นเองที่หัวของผมชนเข้ากับแผ่นหลังของมันเต็มๆ เพราะจู่ๆ มันก็หยุดชะงักกะทันหัน...

   เกือบอ้วกรดหลังมันแล้วมั้ยล่ะ...

   ไอ้นพจับมือผมแน่นและไม่ยอมให้ผมเห็นว่ามันกำลังเจอกับอะไรอยู่เบื้องหน้า

   พรรคพวกลูกเจ้าพ่อ...ยืนออเรียงกันเป็นแถวอย่างกับหนังแอคชั่นฮ่องกง

   กูคงได้เจ็บตัวแน่ๆ ในคืนนี้

   “มึงจะส่งมาดีๆ หรือจะให้พวกกูต้องใช้กำลัง เอ๊ะ...” ลูกเจ้าพ่อเงียบไป “กูเห็นใครๆ แวบๆ อยู่หลังมึงนะ มึงมาสองคนเหรอไอ้นพ”
   “มันไม่เกี่ยว” นพตอบทันควัน “ปล่อยมันไปแล้วกูจะส่งโทรศัพท์คืนให้มึงดีๆ”

   ใจของผมเต้นตึกๆ ขึ้นมากับคำพูดนั้น...   
   ไอ้หัวขโมยมันบอกว่าผมไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้งั้นเหรอ...

   “อืม...เอาไงดีนะ” เสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงลูกเจ้าพ่อ นอกจากข้างหน้าจะมีพวกลูกเจ้าพ่อแล้ว ข้างหลังมันก็มีด้วยและตามมาสมทบทีหลัง ผมเห็นหน้าโหดๆ ของพวกมัน อีกทั้งยังเห็นอาวุธครบมือที่จะทำให้ผมกับไอ้นพพิการกันได้เลยนับจากนี้ไป...

   ใครก็ได้ช่วยพวกผมด้วย...

   “ปล่อยมันไป...ไม่งั้นกูไม่ให้มึงแน่!” นพร้องเสียงดังลั่น “มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!” นพจับมือผมแน่นขึ้นเมื่อพวกมันเหล่านั้นเริ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมกับมันเรื่อยๆ
   “ตายๆ ไปให้พร้อมกันนั่นแหละดีแล้ว...” ลูกเจ้าพ่อไม่ยอมปล่อยผมไป “จัดการพวกมันซะ!”

   นี่มันอะไรกัน!!!!!!!

   พวกมันหมาหมู่ใส่พวกผมทันทีอย่างไม่นึกถึงความแมนความเป็นลูกผู้ชายอะไรทั้งนั้น ผมเองก็พอจะดูแลตัวเองได้ (บ้าง) ก็พยายามที่จะปกป้องตัวเองจากอาวุธทั้งหลายเหมือนกัน อยากจะบ้าตาย หัวผมมึนมาก...โดนเตะโดนต่อยอะไรตรงไหนผมไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้เลย

   เพิ่งเห็นเดี๋ยวนี้นี่เองว่าไอ้นพแม่งต่อยคนอื่นโคตรเก่งเลย...

   “มุมป้าน! รีบหนีไป!” มันร้องสั่ง
   “แล้วมึงล่ะ ไอ้สัส ถ้าจะหนี หนีไปด้วยกันดิ!!!!”
   “บอกแล้วไงว่ามึงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้!”   
   “ไม่รู้ล่ะ กูเป็นเจ้าของรถที่มึงขับมา!!!!”

   ช่างวุ่นวายอลหม่านดีแท้...   

   ผมโดนเตะโดนต่อยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...ในที่สุดก็มีคนมาช่วยผมกับนพ นั่นก็คือพี่ชัยเจ้าของร้านและก็พรรคพวกนั่นเอง นพอาศัยจังหวะที่วุ่นวายบอกขอบคุณพี่ชัยและก็จับมือผมเพื่อที่จะกลับไปที่รถและก็พากันหนีออกไปอีกครั้ง...

   นพมันพูดถูก ถ้าไม่หนีกันทั้งคืนก็ไม่มีทางที่จะหนีคนๆ นี้พ้น...

   “เจ็บมากป่ะ” ตอนที่ใกล้จะถึงรถ นพมองดูสภาพผมแล้วถามอย่างหวาดๆ “กูขอโทษ กูแม่งแย่จริงๆ พามึงมาเจ็บตัว”
   “ไม่เป็นไรหรอก เริ่มหนีกันเหอะ”
   “มึงไม่เป็นไรแน่เหรอ เดี๋ยวพาแวะหาหมอ”
   “แวะให้พ่อมึงมาต่อยมึงอีกอ่ะดิ บ้าไปแล้ว” ผมประชดประชัน “รีบไป รีบขับไปให้ไกลที่สุดเลย” ผมออกคำสั่ง
   “กูขอโทษนะ กูขอโทษจริงๆ นะมุมป้าน”

   เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไวมาก...

   ไอ้นพจับหัวผมให้เข้าไปใกล้มันและฝังรอยจุมพิตของมันไว้ที่ขมับผมเบาๆ ก่อนที่มันจะผละไปขึ้นรถและนั่งที่ที่นั่งคนขับ

   มึงทำอะไรของมึงเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

   “มุมป้าน ขึ้นรถดิ!”

   สาบานได้ว่าผมเพิ่งรู้จักมันเมื่อสี่ชั่วโมงที่แล้วเองนะ!!!!!!

   เวลา 22.03 น. ของคืนนี้...ผมโดนคนแปลกหน้าจากที่ไหนไม่รู้มาหอมขมับของผม!








TBC*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Mr.Pan : ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ
   




22.48




   “อูยยยยยย...”
   “อยากซ่าส์ดีนัก กูบอกแล้วว่าให้หนีไป หนีไป...”
   “ถ้ากูหนีไปแล้วมึงจะหนียังไงล่ะ มึงขับรถกูมานะ”
   “ไม่ต้องมาพูดเลย...”

   เวลาเกือบห้าทุ่ม...ตอนนี้ผมออกมาไกลจากตัวกรุงเทพมากแล้ว สถานที่ที่ผมกับนพอยู่ในตอนนี้ก็คือศาลาริมทางเก่าๆ เราสองคนซื้อยาจากเซเว่นมาเพียบ ตอนพนักงานเก็บเงินเขาคิดเงิน ท่าทางของเขามีการตกใจมากกว่าความชื่นชอบของเขาต่อใบหน้าของไอ้นพ

   ถือว่าผมกับมันไม่ค่อยเละเท่าไหร่...แต่ที่แน่ๆ คือปากแตกและก็มีรอยฟกช้ำดำเขียวก็แล้วกัน

   “พอแล้ว” ผมปราม “เดี๋ยวกูทำให้มึงบ้าง”
   “ไม่เป็นไรหรอก” มันปฏิเสธ
   “มึงโดนหนักกว่ากูอีก” ผมคุ้ยยาที่ซื้อมาเพื่อที่จะทำแผลให้มัน...

   ตอนที่แตะๆ สำลีที่มุมปากของมันบอกตามตรงว่าผมกำลังคิดว่าผมคิดผิดที่คิดจะทำแผลให้คนอย่างมัน...ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกำลังจ้องมาที่ผม...ยิ่งมันจ้อง มือผมก็ยิ่งสั่น ทำอะไรไม่ถูกไปเลย   

   ผมพยายามควบคุมตัวเองต่อหน้าหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันวันนี้ แต่แล้วก็ทำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ยอมรับว่าไอ้บ้านี่มันหล่อเกินไป มันหล่อจนคนที่มองมันแทบจะละลายกองลงไปตรงนั้น...

   ผมนึกไปถึงสิ่งที่มันทำกับผมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน...

   แค่นึกก็ทำสำลีหล่นแล้ว...

   “มึงเป็นไรเหรอ” คนตรงหน้าถามผม “มือไม้อ่อน หรือว่าพวกนั้นมันตีแขนมึงด้วย”
   คิดได้ไงวะ... “มีแผลตรงอื่นอีกมั้ย” หลังจากที่จัดการกับแผลบนใบหน้ามันเสร็จผมก็ถามหาส่วนอื่นต่อ
   “กูว่า...กูเจ็บที่ท้องว่ะ”
   “ดีเลย พอดีซื้อยาแก้ฟกช้ำมา ไหนมึงเปิดขึ้นมาดูซิ”

   พรึ่บ...มันเปิดเสื้อขึ้น...ซิกส์แพ็คเนื้อๆ เน้นๆ แน่น ๆ เข้ามาเต็มตาของผมอย่างจัง...

   ผมมองไปทางอื่นทันทีพยายามไม่สนใจร่างกายกำยำแข็งแรงสวยงามตรงหน้า...นึกสงสัยในใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทไหนกัน...หน้าดี...หุ่นก็ดีอีกต่างหาก

   กูกลืนน้ำลายทำไม...

   “เอามาเดี๋ยวทาเอง”
   “จับเสื้อไปเหอะ กูทาให้” ไม่ได้อยากสัมผัสอะไรนะครับ เพียงแค่มันจะได้เสร็จๆ ไป ผมหลับหูหลับตาทาส่วนที่ฟกช้ำไป พยายามอย่างยิ่งให้มันเสร็จอย่างรวดเร็ว... “เสร็จละ”

   บอกตามตรงว่าแพ็คของมันแข็งมาก...ไม่นิ่มเลย...

   “ขอบใจนะ” นพเอ่ย “กูว่ายังหนีพวกมันไม่พ้น ตั้งแต่กรุงเทพจนถึงชานเมืองตำรวจเป็นพวกมันหมด...เราต้องไปต่อ”
   “แถวนี้มันที่ไหนเหรอ...” ผมหันซ้ายหันขวา “กูว่ากูรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ นะ”
   “ทะเล...” มันตอบสั้นๆ
   “งั้นก็ไปหลบ...ที่ทะเล”
   “หา”
   “มันหาไม่เจอง่ายๆ หรอกน่า”
   “เหรอวะ”
   “อืม”
   “แล้วแต่เจ้าของรถละกันงั้น” นพเขย่ากุญแจ เตรียมลุกขึ้นยืนเดินไปยังรถของผม “มึงไม่เจ็บอะไรมากใช่มั้ย ไหวแน่ใช่มั้ย”
   “เออ มาถึงขนาดนี้แล้ว”
   “กูขอโทษ กูขอโทษจริงๆ นะ”
   “ไม่เป็นไร...บอกแล้วไง...”
   “…”

   “คืนนี้กูจะเต็มที่กับทุกอย่างให้มันสุดๆ ไปเลย”









   ทะเลใกล้กรุงเทพ...

   ผมไม่ได้มาทะเลนานเท่าไหร่ผมจำไม่ได้แล้ว ครั้งนี้ผมมากับคนแปลกหน้า เออ...มันรู้สึกแปลกดีเหมือนกันนะ...

   คนแปลกหน้าแม่งก็หล่อชิบหาย...ตกลงคืนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

   “โอ้ยยย เย็นสาดดด” ผมร้อง กระโดดเหยงๆ เตรียมทำท่าจะกระโดดลงน้ำ แต่มีมือดีดึงคอเสื้อผมเอาไว้เสียก่อน

   “มึงมีชุดเปลี่ยนเหรอ”

   ผมชะงัก...จริงของมัน...ผมบอกแล้วไงครับว่าไอ้นพนั้นมันเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ...

   “เซ็ง...มาแต่ไม่ได้เล่นน้ำเนี่ยนะ เห้อ” ผมบ่นกระปอดกระแปด
   “ยังจะเล่นลงอีกเหรอ แผลมึงถูกเกลืออาจจะแสบมากขึ้นนะ”
   “ลืมนึกไป...”
   “บ้าบอจริงๆ”

   ผมเดินนำมันมายังโขดหินลับหูลับตาคน...ทิ้งตัวนั่งลงบนทรายที่ค่อนข้างเหลือพื้นที่น้อยเพราะน้ำขึ้นมาสูงมาก พระจันทร์ดวงโตกำลังมองดูผมนั่งอยู่ข้างๆ คนแปลกหน้าที่เพิ่งทิ้งตัวลงนั่งเหมือนกัน

   “ตรงนี้หลบพ้นแน่...”

   หลังจากนั้น...ผมเงียบ...มันก็เงียบ...
   ปล่อยให้เสียงทะเลลอยผ่านเข้าหู ปล่อยให้ทะเลและแสงจันทร์พาดผ่านดวงตา มันเรียบง่าย...แต่ผมบอกเลยว่าผมนั้นค่อนข้างที่จะสงบลงเยอะมาก
   ผมเกือบลืมเรื่องก้องไปแล้ว...
   ทันทีที่นึกขึ้นได้ ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอย่างขมขื่น มองดูมัน นึกไปถึงตอนที่ผมซื้อมันครั้งแรก ปีกว่าเข้าให้แล้วสินะ...
   ผมเงื้อมมือขึ้น เตรียมตัวจะขว้างมันลงทะเล...
   มือไอ้นพมาดึงมือผมไว้ราวกับต้องการจะห้าม... “อย่า”
   “ไม่เป็นไรกูมีปัญญาซื้อใหม่” ผมบอกมัน
   “กูรู้มึงรวย...แต่ในนั้นถึงมีความทรงจำที่แย่ แต่ก็มีความทรงจำที่ดีนะ”
   “…”
   “อย่าให้เรื่องแย่ๆ ไปทับเรื่องดีๆ เลยว่ะ”

   เฮ้อ...ไอ้หัวขโมยทำผมแปลกใจได้เสมอ...ผมถอนหายใจ วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัว ไม่สนใจมันอีกต่อไป

   “อีกอย่าง...กว่ามึงจะเซลฟี่ได้ขนาดนั้นคงใช้เวลาเป็นปี”
   “มึงว่าอะไรนะ” ผมถามสวนมันไปเพราะผมไม่ค่อยได้ยินสิ่งที่มันพูด “มึงกำลังเสียดายรูปเซลฟี่กูในเครื่องกู?”
   “ใช่”
   “รู้ได้ไงว่ากูชอบเซลฟี่”
   นพมองไปที่ทะเล “มนุษย์ติดโซเชียลทุกคนชอบถ่ายเซลฟี่”
   “บางคนก็ชอบถ่ายวิวถ่ายอาหาร”
   “กูมองคนอย่างมึงแป๊บเดียวกูก็รู้แล้ว...”
   “กูเป็นคนยังไงไม่ทราบ” ผมถามด้วยน้ำเสียงแข็ง
   “หึ...” นพส่งเสียงก่อนจะตอบ “มึงเป็นคนคล้ายๆ พวกไบโพลาร์ ถ้าร้อนก็ร้อนมาก ถ้าเย็นก็เย็นมาก...”

   ผมชะงัก...ไอ้นพพูดถูก หลายคนบอกผมเป็นคนแบบนี้ ถ้าเย็นก็เย็นมากจนเย็นเกินไป ถ้าร้อน...ก็ไม่มีอะไรมาฉุดผมอยู่เหมือนกัน

   “ถึงกับอึ้งไปเลยอ่ะดิ ฮ่าๆๆ” นพหัวเราะก่อนที่จะหันหน้าไปมองทะเลอีกครั้ง

   “…”

   “มึงรู้มั้ย...ตอนนี้เหมือนมีกูอยู่กับมึงแค่สองคนบนโลกเลยว่ะ...”

   ผมหันไปมองใบหน้าหล่อๆ ของคนข้างๆ นัยน์​ตาที่เป็นสีอ่อนๆ ของมันกำลังจ้องมองไปยังทะเลและก็ดวงจันทร์ตรงหน้า ท่าทางกำลังอารมณ์ดี...

   “อืม” ผมตอบรับ “เหมือนจริงๆ ด้วย”

   “…”

   “แต่หลังโขดหินนี้ไปประมาณห้าร้อยเมตรคนอยู่กันเต็มเลยนะ ฮ่าๆๆ”

   “มึงจะขัดทำไมเนี่ย” นพแกล้งบ่น “ถ้าเหลือกูแค่คนเดียวบนโลก มึงจะเลือกกูมั้ย”

   “เห้ย” ผมตกใจ นี่คือคำถามของคนที่เพิ่งรู้จักกันวันเดียวจริงๆ เหรอ

   “กูถามเล่นๆ” นพทำท่าไม่ใส่ใจ ทิ้งตัวนอนลงไปบนพื้นทรายอย่างไม่กลัวว่ามันจะเปื้อนอะไรหรือเปล่า “มึงจะตอบจริงๆ หรือว่าตอบเล่นๆ ก็ได้”

   มันคงเป็นแค่สมมติมั้งครับ...ผมทิ้งตัวนอนบนทรายบ้าง โดยทิ้งตัวลงข้างๆ มัน ห่างกันแค่หนึ่งฟุต การที่ผ่านอะไรมามากมายในวันนี้ทำเอาผมเหนื่อยเหมือนกัน ได้นอนลงไปแบบนี้แล้วก็รู้สึกสบายดี

   ส่วนเรื่องที่จะเลือกไอ้นพมั้ย...

   “มึงกับกูไม่เหมือนอดัมกับอีฟนะ จะเลือกได้ไง แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันด้วย”

   “ไม่เอาที่ความถูกต้องดิ เอาที่ใจของมึงอ่ะ ใจมึงเลือกอะไร”

   “กูเพิ่งรู้จักมึงแค่วันเดียวเองนะ”

   “แสดงว่ามึงจะตอบจริงๆ ใช่มั้ย”

   “กูเลือกก็ได้” ผมตอบในที่สุด... “ในเมื่อไม่มีใครมาเป็นคู่แข่งมึงเลยนี่”    

   ดูไอ้นพดูพอใจในคำตอบของผม มันยิ้มให้ท้องฟ้าที่มืดสนิทและหลังจากนั้นมันก็พูดคำๆ หนึ่งที่ทำให้ผมหัวใจเต้นรัวเร็ว...

   “ในเมื่อเราไม่มีใครเอาทั้งคู่...ทำไมเราไม่เอากันเองซะเลยล่ะวะ”

   มันถามอะไรของมันแบบนั้นกันนะ...
   ผมกลืนน้ำลาย... “เอาเหรอ...”

   “กูหมายถึง...เป็นแฟนกัน เป็นคนรักกัน มึงคิดไปถึงไหนเนี่ยยย” อีกฝ่ายเอามือมาดันหน้าผมเบาๆ

   “เหอะ” จะไม่ให้กูคิดได้ยังไงเล่า... “มึงกำลังจีบกูอยู่เหรอ”

   “กูแค่...” นพดูหาถ้อยคำออกมาพูดยากมากมายเหลือเกิน “...ช่างเหอะ”

   เกิดความเงียบขึ้นรอบตัวผมกับมัน...ผมปล่อยให้ความเงียบนั้นดำเนินต่อไปจนกระทั่งผมคิดเรื่องๆ หนึ่งขึ้นมาได้

   ที่จริง...มันอยู่ในหัวของผมตลอดเลยล่ะ

   “ตอนนั้น...มึงมาจูบขมับกูทำไมวะ...” ผมทำใจกล้าถามออกไป

   อีกฝ่ายเงียบ...สายตาที่จ้องมองท้องฟ้าดูสั่นระริก เนิ่นนานกว่าที่มันจะตอบออกมา “ไม่รู้...”

   “…”

   “กูไม่รู้ว่ะมุมป้าน”

   “…”

   “กูรู้สึกผิดกับมึงมั้ง”

   รู้สึกผิดงั้นเหรอ...

   ผมทำหน้างงนิดหน่อย...พยายามเข้าใจในคำตอบ

   “กูรู้สึกผิดกับมึงมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม”

   มันทำอย่างกับมันรู้จักกับผมมาตั้งแต่เด็ก...

   “ถ้าเรื่องมึงขโมยรถอ่ะ...ไม่เป็นไรหรอก...เพราะกูตามรถมาถึงนี่” ผมพยายามพูดให้มันตลก แต่มันไม่ตลกกับผมเลย “เรื่องที่มีคนมาทำให้เจ็บตัว ก็ไม่ใช่ความผิดมึง...เพราะกูเข้าไปเสือกเอง และก็เรื่อง...”

   ฉับพลันทันที...จู่ๆ ร่างสูงของไอ้นพก็มาคร่อมร่างของผมแบบที่ผมตั้งตัวไม่ทัน

   อะไรวะเนี่ยยยยย

   ผมทำหน้าไม่ถูกไปเลยเมื่ออยู่ใต้ตัวของมัน มันบดบังแสงจันทร์ที่ส่องลงมาไปหมดเลย

   “เลิกพูดได้แล้ว...” มันพูด “ดูเหมือนมึงจะเก่งเรื่องให้อภัยกูจังเลยนะ...”

   “มึงจะทำอะไรวะ...” ผมทำอย่างหวาดๆ พยายามเบือนหน้าหนี หน้าหล่อๆ จมูกโด่งๆ ที่ยิ่งใกล้เข้ามาก็เหมือนจะยิ่งใกล้จะสัมผัสใบหน้าของผมเข้าไปทุกทีๆ

   นพที่อยู่บนตัวผมกลืนน้ำลาย ผมพยายามควบคุมไม่ให้หัวใจตัวเองเต้นแรงไปมากกว่านี้้

   รู้จักกันวันแรก
   รู้จักกันวันแรก


   แค่วันแรก...เองนะเว้ย

   “นพ...” ผมพยายามเรียกชื่อมันเผื่อดึงสติมันขึ้นมาได้บ้าง
   “ถ้ากูทำ...มึงจะให้อภัยกูมั้ยล่ะ”

   รู้จักกันวันแรก
   
   “นพ...คือ...ถะ...ถ้ากูเป็นเอดส์ล่ะ”
   “กูไม่สนใจอ่ะ”
   
   โห...

   รู้จักกัน...วันแรกนะเว้ย


   “นพ...มึงเอาจริงเหรอ...”
   “อยู่ที่คำตอบของมึง”

   “…”

   “ถ้ากูจูบ...แล้วมึงหลบ...กูจะไม่แตะต้องอะไรมึงอีก”

   “…”

   “แต่ถ้ากูจูบ แล้วมึงไม่หลบ...กูก็จะไม่หยุดอีกต่อไป”

   ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้...

   บรรยากาศพาไปเหรอ...มันเป็นอย่างงั้นใช่มั้ย...

   ผมกลืนน้ำลาย...พยายามรวบรวมสติตัวเองที่มีอยู่น้อยนิด...ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังโน้มหน้าลงมาเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ แม้วันนี้จะผ่านอะไรมาเยอะ แต่กลิ่นกายของอีกฝ่ายกลับหอมกรุ่นทรงเสน่ห์จนทำให้สติผมแตกกระเจิง

   เวลานั้นเองผมคิดไปถึงก้อง...   

   ก้องที่ตัดผมอย่างไม่เหลือเยื่อใย...
   
   หลังจากนั้นผมก็มาคิดถึงนพ...

   อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วล่ะ
   

   ผมจูบมัน ทั้งๆ มันยังโน้มหน้าลงมาไม่สุดด้วยซ้ำ




   เที่ยงคืนพอดิบพอดี...




TBC*





ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
นพคนบร้าาาาาาาาาา  :hao7:

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ง่าาา คนแปลกหน้ามารักกันซะงั้น นพต้องใจเย็นกว่านี้นะ555  :katai4: :katai5:

ออฟไลน์ QGisuz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ป้านอ่ะเจอนพวันนี้วันแรก แต่นพนี่สิเหมือนรู้จักป้านมานาน
หรือว่านพกับก้องคือคนเดียวกันอ่ะ มันดูมีซัมติงงง
ไม่งั้นนพไม่รุกเร็วขนาดนี้หรอก ใช่มั้ยง่ะ หรือเราคิดไปเอง
ป้านเคลิ้มโคตรเร็ว นี่รู้จักกันวันแรกเองนะ 55555

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
รู้สึกว่านพต้องรู้จักป้านมาก่อนนนน รออ่านต่อน้าาาา :katai5:

ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
สนุกมากกกกกค่ะ ลุ้นๆ  :hao5:

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค้างแรงงงง :z3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
นพนี่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
แสดงว่ายอมใช่ไหมป้าน
ต้องรู้จักป้านมาก่อนแน่เลย

ปล.ในปั้มไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะคะ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
สนุกมากกกกกก ลุ้นจังว่าจะเป็นไงต่อไป  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เขารู้จักกันมาก่อนใช่ไหม???

หรือว่าโทรศัพท์ที่ขโมยมาเป็นของก้อง? (โอ๊ยยย มโนสุดๆแล้วนะ)

ปูเสื่อรอติดขอบจอเลยล่ะ

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
กำลังลุ้นเลยๆๆๆ รอจร้าาาาาาาาาา :hao7:

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อะไร ยังไง นพ กับ ก้อง ต้องมีอะไรในกอไผ่แหงมๆ
นพ ต้แงรู้จัก ป้าน มาก่อนแน่ๆ คิดว่า ไอ้โทรศัพท์ทั่ นพ ขโมยมานั่นและ คือคำตอบขอวเรื่องที่เราคาดเดเากันอยู่  :katai2-1:
รอตอนต่อไปจ้าาาาาา

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ
ตาพี่นพต้องรู้จักมุมป้านมาก่อนแน่ๆ
ในขณะเดียวกันอาจจะรู้จักก้องด้วยก็ได้
 :katai4:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยอมๆพี่เค้าไปเลยค่ะมุมป้านนนน  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
รอลุ้นต่ออออ

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
โอ๊ะ ค้างง หวังว่าจะไม่มีใครมาขัดความสุข  :oo1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    มาตามลุ้นป้านกับนพด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ถ้าวันนึงต้องเจอกับเหตุการณ์ร้อยแปดขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ
ชีวิตโคตรมีสีสัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด