(จบแล้ว)(6P)I Hate They But I Love They รักของผมคือพวกเขา(Yaoi)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้ว)(6P)I Hate They But I Love They รักของผมคือพวกเขา(Yaoi)  (อ่าน 34560 ครั้ง)

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อูยยยย รู้สึกเจ็บแทนเลยแฮะ

ออฟไลน์ แอลฟาฮาลา~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอ รอ รอ รอ  :katai5:

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่15
        ตอนนี้ผมกับโจวอยู่กันที่เชียงใหม่ครับ เราเดินทางด้วยรถทัวร์แบบปรกติไม่ได้หรูหรามากมาย เราต้องการที่จะเดินทางไปในที่ที่ไม่มีคนรู้จักเราและเราก็ไม่รู้จักเขา ผมสองคนชอบที่จะไปในที่ที่แปลกใหม่เสมอ ผมเป็นนักเขียนชอบอยู่แล้วที่จะเจอโลกใหม่ๆเพื่อเป็นแรงบันดาลใจส่วนไอ้โจวมันออกหาเหยื่อไปเรื่อยมันเลยตามผมมาตลอด
        หลังจากวันนั้นพวกพี่เขาก็มีเรื่องต้องไปจัดการ พวกเขามีหน้าที่ตอนนี้เราเลยเหมือนกับว่าห่างกันออกไปเรื่อยๆโจวบอกว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงพิสูจน์ใจของทั้งสองฝ่ายว่ายังมั่นคงกับความรู้สึกเหมือนเดิมรึเปล่า พวกผมปิดโทรศัพท์กันทั้งคู่เพราะต้องการพักผ่อนจริงๆส่วนงานที่บริษัทผมให้คุณชายช่วยดูเพราะเป็นการง้อจากท่านทั้งคู้ที่ร่วมมือกับพวกพี่เขางานนี้กลัวผมโกรธเลยยอมให้ผมหนีเที่ยวตามใจชอบ ตามจริงผมก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะแต่ตอนนั้นผมเสียใจมากกว่า แต่ผมก็ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลุกของพวกท่านเพราะพวกท่านมักจะเข้าใจผมเสมอและรอให้ผมอธิบายทุกเรื่อง และเรื่องคู่ครองพวกท่านไม่เคยคิดจะเข้ามายุ่งอะไรเลยเพราะท่านบอกว่าผมโตแล้วก็ควรที่จะคิดเป็นได้แล้ว
        ตอนนี้ผมสองคนก็มาเดินกันที่ถนนคนเดินท่าแพครับ ที่นี่มีของมาขายเยอะแยะมากมายส่วนมากเป็นสินค้าพื้นเมือง ผมกับโจวเลือกที่จะเดินดูของมากกว่าการซื้อ เราเดินไปเรื่อยๆก็เริ่มหมดแรงเพราะวันนี้เรามาหลายที่มาก เราสองคนใช้เวลาวันหยุดคุ้มเราจะโทรไปอวดเจ้าเพื่อนสองคนที่อยู่อิตาลีด้วย ลิเลียมอิจฉาผมมากที่ได้มาเที่ยวพักผ่อนเพราะตอนนี้พวกเธอต้องคอยเตรียมงานส่วนอัลโตก็ต้องคอยจัดการงานที่ได้รับ

   “นี่โซฟา พรุ่งนี้ไปไหนกันดีวะ” ตอนนี้ผมกับโจวกำลังเดินทางกลับที่พัก เราพักกันที่โรงแรมชื่อดังของที่นี่ทริปของเราไม่ได้มาแค่จังหวัดเดียวนะครับ เราต้องการเปิดหูเปิดตา ดังนั้นเราต้องไปหลายๆที่
   “อืมกะว่าจะขึ้นไปดอยอินทนนท์ก่อนตอนเช้าแล้วก็ว่าจะลงใต้ไปภูเก็ตเลย ดีปะ”
   “หา ภูเก็ต คิดไงวะ”
   “อยากไปทะเลวะ”
   “กูว่ามึงอินดี้ไปนะน้องฟา”
   “ทำไมกลัวใครตามมาไม่ถูกไง”
   “ปะเปล่า ไม่มี๊”หลบตาแถมยังเสียงสูง ทำเหมือนไม่รู้
   “หึหึ กูจะอินดี้กว่านี้อีกโจวเพื่อนเลิฟ อยากจะรู้ว่าจะตามกันยังไง”
   “มะมึงรู้อะไร”
   “เปล่า หรือมีอะไรที่กูต้องรู้วะ”
   “ไม่มี” มึงโกหกไม่เก่งนะเพื่อนเหงื่อตกขนาดนี้ ไม่รู้หรอกนะว่าไปติดสิ้นบนกันตอนไหนถึงเอามันไปเป็นพวกได้ แต่ก็นะ โซฟาซะอย่าง
   “เออ กูลืมไปกูว่าจะบอกลูกน้องว่างานอันใหม่ต้องเปลี่ยนนิดหน่อย เดี๋ยวกูไปโทรบอกก่อนนะ มึงเข้าไปอาบน้ำก่อนเลยจะได้ไปกินข้าวกัน” แล้วมันก็เดินหลบออกไป สั่งงานลูกน้องหรือโทรฟ้องใครกันแน่ คิดจะเล่นกันแบบนี้หรอ ได้เพื่อนโจวในเมื่อแปรพรรคก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องร่วมทริปกันแล้ว ระหว่างที่อาบน้ำผมก็คิดแผนการไปเรื่อยๆจนตอนนี้เรามาที่ร้านอาหารแถวโรงแรมผมอยากกินข้าวแบบธรรมดาเลยเลือกที่จะมากินตามร้านทั่วไป ผมบอกให้โจวไปสั่งข้าวส่วนผมจะไปตักน้ำเอง ผมเลือกที่จะซื้อน้ำอัดลมมากินด้วยและซื้อกลับไปกินที่ห้องด้วย หลังจากกินข้าวกันเสร็จเราก็ตรงกับมาที่ห้อง ผมเดินไปที่ห้องครัวเอาขนมกับน้ำออกมากินเล่นพร้อมกับดูหนังไอ้โจวไปอาบน้ำเพราะมันบอกว่าร้อนหลังจากอาบน้ำเสร็จมันก็เดินมาแย่งน้ำผมกินพอไม่ให้มันก็เดินไปหยิบเองมันเลือกขวดที่ยังไม่ได้เปิด มันดูระแวงผมอยู่เหมือนกัน แผนนี้ผมมักจะชอบใช้และได้ผลเสมอ เวลาผ่านไปไม่นานมันก็ง่วงบอกว่าจะไปนอนก่อนให้ผมรีบนอนเพราะต้องเดินทางเช้า
        ผ่านไปสิบนาทีทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบได้ยินแต่เสียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ อา สำเร็จ ง่ายๆแค่เปิดฝาก่อนป้ายยาไว้ที่ปากขวดปิดฝาให้สนิทแช่ทิ้งไว้ แค่นี้เพื่อนโจวสุดเลิฟก็หลับถึงเที่ยงพรุ่งนี้แน่นอน ผมเดินไปเก็บของใส่กระเป๋าและหยิบของให้ของผมใส่เข้าไปจัดการเรื่องค่าห้องและกระดาษโน้ตที่มีข้อความสั้นๆ จัดการทุกอย่างเสร็จก็ปิดไฟล็อคห้องจากข้างในเดินจากมา และเริ่มเดินทางอีกครั้งไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราและเราไม่รู้จักใคร ที่ประเทศนี้มีคนรู้จักเรามีคนของพี่เทนอยู่เต็มไปหมด ถ้าคิดจะหนีให้พ้นต้องลองเสี่ยงทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าคิด ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดจะเดินทางออกนอกทั้งทีก็ไปด้วยสายการบินของพี่ดีเลย์เลยเป็นไงกว่าจะรู้ก็เปลี่ยนเครื่องไปหลายที่แล้ว
     ผมจะรอดูนะครับการกระทำที่จะพิสูจน์ว่าพวกพี่รักผมจริงๆ ถึงเวลานั้นผมจะไม่ถามหาเหตุผลอะไรขอแค่พวกพี่ทำได้หัวใจของผมจะเป็นของพวกพี่ทันที

      Perfect Man Talk

        หลังจากวันที่พวกผมได้บอกกับน้องเรื่องการพิสูจน์ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันเราได้สายสืบหรือก็คือโจวเพื่อนของโซฟามาเป็นพวกเรารู้การเคลื่อนไหวของน้องอยู่เสมอ ตอนนี้งานของพวกผมกำลังเร่งเข้ามามีเรื่องต้องสะสาง จนตอนนี้เราแทบจะไม่มีเวลาพักเลย ล่าสุดโจวโทรมาบอกว่าโซฟาอยากไปภูเก็ต ตอนนี้อยู่ที่เชียงใหม่ คิดดูคบมาตั้งนานเพิ่งจะรู้ว่าน้องอินดี้ขนาดนี้ อยู่เชียงใหม่แต่อยากเล่นน้ำเลยจะไปภูเก็ต ผมเหนื่อยแทนโจวเลยงานนี้ และดูเหมือนว่าน้องจะเริ่มระแคะระคายเรื่องของพวกผมกับโจวแล้ว แต่โจวบอกว่ายังรับมือได้
   “เป็นไงพวกมึง จัดการตัวเองเสร็จยัง”
   “อ่าวไอ้เลย์ มึงว่างหรอวะ”
   “เออดิ งานกูเคลียร์หมดแล้วนี่ก็กะจะหยุดสักพักไม่เขาไปดูซักหน่อยไม่ไหวไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว”
   “อ่าวไอ้เลย์ ไอ้ไลฟ์ล่ะ”
   “มึงมาถามกูกูจะรู้หรอว่ะไอ้หมอ ทำไมมึงจะจ้างมันไปว่าความคดีคนไข้ไง”
   “คดีมึงแหละเชี่ยเลย์ เออว่าแต่มึงละไอ้เทน เป็นไงบ้างน้องสบายดีป่ะว่ะ”
   “อืม ตอนนี้คงจะอยู่ภูเก็ตแล้วมั้ง เมื่อวานอยู่เชียงใหม่แต่อยากไปทะเลเลยไปภูเก็ต”
   “หืม น้องโซฟาแมร่งอินดี้ว่ะ”
   “อ่าวไอ้นัล งานเสร็จแล้วหรอว่ะ”
   “เออ กว่าจะจับได้แมร่งเล่นเส้นเยอะเกิน”
   “แล้วไอ้ไลฟ์ล่ะ”
   “มีอะไรกับกูไอ้นัล”
   “อ่าว กูว่าจะถามซะหน่อย เป็นไงชนะป่ะ”
   “อย่างกูมีหรอจะพลาด”
   “โห่”เสียงร้องที่ดังประสานกันของชายหนุ่มทั้ง4คนดังขึ้นลดความตึงเครียดลงไปได้ไม่น้อยเพราะเวลานี้ทุกคนจัดการงานของตัวเองเสร็จแล้วเลยมีเวลามาช่วยกันคิดเรื่องของว่าที่ภรรยากัน
   “อืม มีอะไรโจว”
   “กำลังจะถึงแล้วผมจะเข้าไป เกิดเรื่องแล้ว”
   “มีอะไรว่ะไอ้เทน”
   “ไม่รู้สิ อยู่ดีๆโจวก็บอกเกิดเรื่อง แล้วมานี่น้องล่ะ”
     ก๊อกๆๆ
   “หวัดดีครับพวกพี่”
   “อ่าว มานั่งก่อนมีอะไรทำไมรีบร้อนจัง ไหนว่าภูเก็ต”
   “ขอพักก่อนพี่หมอ เหนื่อยนะเนี่ย”
   “อะน้ำ”
   “ขอบคุณครับพี่ทนาย” หลังจากกินน้ำเสร็จโจวก็หยิบกระดาษออกมามันเป็นโพสต์อิทสีส้มมีรอยเขียนไว้ “ผมขอโทษครับ ผมโดนหลอกอีกแล้ว”
   “ยังไงครับ พี่ไม่เข้าใจ”
   “เมื่อวานไอ้ฟามันดูเหมือนจะสงสัยผม แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรพอกินข้าวเสร็จก็มานั่งเล่นกันแล้วผมก็เริ่มง่วง ตอนนั้นผมคิดว่าเพราะเริ่มดึกเลยขอตัวไปนอน หลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกจนวันนี้ตอนเที่ยงผมตื่นมาก็เจอแต่กระดาษแผ่นนี้ติดอยู่ที่มือถือผม ข้างๆกันมีเงินวางอยู่แต่ผมก็หาไอ้ฟาไม่เจอแล้ว ทั้งที่รู้ว่าโดนหลอกแต่ก็ไม่เคยจำได้สักครั้ง ผมนี่โง่จริงๆ”
   “เดี๋ยวก่อนนะ นายบอกว่าหาน้องไม่เจอ ยังไง”
   “ไอ้นัลมึงดูนี่” ผมยื่นกะดาษไปให้มันอ่านข้อความ
   “หาคำตอบให้กับความรู้สึกตัวเองได้เมื่อไหร่ผมจะรอฟังคำพูดคำนั้นอีกครั้ง คำที่มันออกมาจากใจทั้งการกระทำทั้งคำพูด ผมจะเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นที่นั่น และรอคอยการพบกันอีกครั้ง อย่าปล่อยให้ผมต้องรอเก้อนะครับ เพราะถ้าช้าเกินไปคำตอบของผมอาจจะเปลี่ยนแปลง”
   “ไม่เข้าใจ หมายความว่ายังไง”
   “โจวนายพอจพรู้ไหมว่าโซฟาต้องการสื่อถึงอะไร”
   “ผมไม่มั่นใจ แต่ผมว่าครั้งนี้คงเป็นครั้งตัดสินแล้วครับ”
   “กูรู้แล้วว่าน้องสื่อถึงอะไร”
   “อะไรไอ้เทน”
   “คำว่ารักของเรามันส่งไปไม่ถึงใจของน้องเพราะน้องยังสับสน กูว่าตอนนี้น้องคงหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วและรอให้เราไปพูดอีกครั้ง กูว่าน้องต้องการได้ยินมันอีกครั้ง ได้ยินมันออกมาจากใจของเรา”
   “แล้วการกระทำล่ะไอ้เทน”
   “กูว่ามึงน่าจะเข้าใจง่ายนะไอ้เลย์ ถ้าเราจริงจังจริงๆ เราต้องตามหาน้องเจอ”
   “พวกกูเข้าใจแล้ว แต่ว่าเราจะหาน้องเจอได้ยังไง”
   “กูสงสัยอยู่อย่าง”
   “อะไรไอ้ไลฟ์”
   “มึงดูนะ ผมจะเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นที่นั่น มึงว่ามันเกี่ยวกับที่น้องอยู่รึเปล่า”
   “อืม ก็จริง”
   “งั้นต่อจากนี้ไปเรามาหาคำเฉลยจากคำพูดนี้กัน”
   “สู้ไหมพวกเรา”
   “สู้”
   “เพื่อใคร”
   “เพื่อเมีย” เสียงที่ประสานกันของทั้ง5คนทำเอาชายหนุ่มที่เหลืออยู่อีกคนได้แต่อึ้งเพราะไม่คิดว่าจะเคร่งเครียดกันขนาดนี้ไหนจะเพื่อเมียนั่นอีก ศึกครั้งนี้แลเห็นแล้วว่าจะต้องเสียเอกราชแน่นอนน้องฟา ฮ่าๆๆ

Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่16
        ผ่านไปแล้วเกือบครึ่งเดือนที่ผมมาอยู่ที่นี่ ที่ดินแดนแห่งการเริ่มต้นใหม่ ดินแดนอาทิตย์อุทัย ใช่ครับผมมาที่ญี่ปุ่นถ้าพวกเขาตีความกันได้จะรู้ว่าดินแดนที่เหมาะกับคำพูดของผมดินแดนแห่งแสงอาทิตย์คือที่นี่ แต่มันก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรแต่ถ้ารักกันจริงก็คงทำได้
     ตอนนี้ที่นี่เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วผมเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆสนุกไปกับสีสันความแปลกใหม่ของที่นี่ แม้จะอยู่มานานแต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความเบื่อเลย ที่นี่มีอะไรหลายอย่างทำให้ผมไม่มีเวลาไปคิดฟุ้งซ่านเรื่องอื่นๆ ผมตัดขาดจากทุกคนครั้งล่าสุดผมเจอกับคุณหญิงคุณชายที่มาดูงานโดยบังเอิญเราทักทายกันและโดนคุณชายดุว่าเล่นเป็นเด็กๆแต่พวกท่านก็ไม่ได้บอกให้กลับบอกว่าพวกท่านยังรอผมอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม ผมคิดถึงพวกท่านนะแต่ทุกครั้งผมจะเข้มแข็งแต่วันนั้นกลับปล่อยน้ำตาออกมาแบบไม่รู้ตัว พวกท่านก็เลยหาเรื่องแซวผมกันใหญ่ นี่ล่ะน๊าครอบครัวผมไม่ปรกติจริงๆ
        ผมเดินไปตามทางไปหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะที่ผมจะมานั่งมองผู้คนและธรรมชาติอยู่ที่นี่จนมืดก่อนที่จะกลับห้องพัก มีคนมาออกกำลังกายกันเป็นประจำ เวลาผ่านไปนานขนาดไหนผมก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆตอนนี้รอบข้างผมเริ่มจะมืดแล้วอากาศคล้ายๆฝนกำลังจะตกลมที่พัดมาเย็นจนเกือบหนาว ผมไม่ชอบฝนเพราะมันทำให้ผมอ่อนแอ เวลาเจอฝนผมจะไม่สบายพอไม่สบายผมจะว่าง่ายและชอบอ้อน ผมว่าไม่หล่ออ่ะมันดูตุ๊ดเกินผมรับไม่ได้ อย่ามองผมแบบนั้นผมแมนนะ แมนมาก ไม่เชื่อหรอ เชื่อผมดิผมออกจะหล่อสาวหลงขนาดนี้ ช่างเหอะกลับห้องดีกว่า
        ผมละสายตาจากครอบครัวนกเป็ดน้ำที่อยู่ในสระก่อนที่จะหันกลับผมสะดุดสายตาเข้ากับร่างที่คุ้นเคยที่ผมเฝ้ารอพวกเขามานาน คงตาฝาดไปสงสัยจะคิดมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะตามหาผมเจอเร็วขนาดนี้เพื่อความแน่ใจผมเดินไปหลบอยู่หลังต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆกับที่ผมนั่งเสียงพูดคุยที่คุ้นหูทำเอาใจผมกลับมาเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ หัวใจฟูและเต้นเร็วจนน่ากลัว กลัวว่าพวกเขาจะได้ยิน พวกเขามาแล้วจริงๆใช่ไหม เขามาตามผมหรือว่า แค่มาทำธุระ ใช่สินะเรางี่เง่าขนาดนี้ใครจะมารอเราใครจะมาทนมาตามง้อ ยิ่งคิดยิ่งสมเพสตัวเอง ขอบตาผมเริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง อะไรกันฝนตกแล้วหรอ ทำไมหน้าของผมถึงเปียกได้นะ กลับดีกว่าก่อนที่จะไม่สบาย ผมก้าวถอยหลังเตรียมหมุนตัวกลับแต่เสียงของพี่เทนคนที่คอยแต่จะทะเลาะกับผมดังขึ้นมาก่อน

   “กูมั่นใจว่าน้องอยู่แถวนี้ เมื่อกี้กูเห็นแวบๆ”น้องไหน หมายถึงใคร เราหรอหรือว่า
   “มึงตาฝาดรึเปล่าไอ้เทน กูว่ากลับไปรอที่ห้องโซฟาเหอะ เผื่อน้องจะกลับไปแล้ว”
   “เอาตามที่ไอ้หมอพูดก็ได้ ยังไงน้องก็ต้องกลับห้อง” พวกเขามาตามผมแล้วจริงๆใช่ไหม ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมจากที่รู้สึกเศร้าตอนนี้ผมกับดีใจจนพูดไม่ออกแทน พวกเขาพิสูจน์ให้ผมได้เห็นแล้ว พวกเขารักผมจริง แต่ตอนนี้ผมยังไม่กล้าเจอหน้าพวกเขา ผมยังไม่กล้าพอที่จะเดินเข้าไปหา ผมกลัวที่จะเผลออ่อนแอร้องไห้กับพวกเขา ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าผมคิดถึงขนาดไหน ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของพวกเขา ผมถอยหลังออกไกลจากพวกเขาเรื่อยๆตอนนี้ผมหยุดอยู่ที่ริมฟุตบาตทางเท้าตอนนี้มืดแล้วแต่แสงไฟข้างทางกลับทำให้บริเวณนี้ยังคงสว่างอยู่มีคนเดินไปมาจำนวนมากที่ฝั่งตรงข้ามมีรถราสวนกันไปมา ใจของผมสั่นไหวไม่รู้เพราะอะไรแต่แล้วก็ได้รับคำตอบ

      เอี้ยด โครม

        ร่างของผมลอยขึ้นสูงจากพื้นและตกกระทบลงบนถนนเลือดสีแดงไหลออกมาจาทางศีรษะเสียงผู้คนโดยรอบต่างส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัว

   “โซฟา” ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของผมดังมาจากที่ไกลๆก่อนที่จะมีคนมามุงที่ผมชายหนุ่มห้าคนที่ผมรู้จักต่างอยู่ในอาการที่น่าตกใจ หน้าทุกคนซีดจนน่ากลัว เป็นอะไรกันทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วย
   “โซฟาอย่าหลับนะครับคุยกับพี่หมอนะ” เสียงพี่หมอที่จับมือผมเรียกผมไว้เพื่อเรียกสติของผมที่เริ่มเลือนรางเข้าไปทุกที
   “อึก” ผมกระอักเลือดออกมา “พะ พี่หมอ”
   “ครับโซฟา พวกพี่มารับเราแล้วนะอย่าเป็นอะไรไปนะครับ”
   “ขะ ขอบคุณมากนะครับ แค๊กๆ ทะที่ตามหาผม”
   “พะพอแล้วครับ อย่าเพิ่งพูดอะไรมาก เอาไว้หายค่อยคุยกันครับ” เสียงของพี่โดนัลบอกกับผมผมหันไปมองก็เห็นไปหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา
   “ระร้องไห้ทำไมครับ แค๊กๆ มะไม่หล่อเลยนะครับ อึก” แรงที่จะพูดของผมเริ่มน้อยลง ผมเอือมมือไปเช็ดน้ำตาของพี่โดนัลแต่เพราะมือของผมเปื้อนเลือดเลยทำให้หน้าของพี่โดนัลเปื้อนไปด้วย
   “พอโซฟา ไม่เอา อย่าพูด รถพยาบาลกำลังมาทนอีกนิดนะ” เสียงพีทนายดังขึ้นแม้คำพูดจะเป็นการออกคำสั่งแต่น้ำเสียงของพี่ทนายดูสั่นไหวจนน่ากลัว
   “ผะ ผมอึก แค๊กๆ” ผมกระอักเลือดออกมาอีกครั้งและครั้งนี้เยอะกว่าเดิม “ขะ ขอโทษนะ นะครับ อึก”
   “พะ พอแล้ว ไม่เอาแล้ว อย่าพูดแบบนี้ นายไม่ผิด ไม่ผิดอะไรเลย” เสียงพี่เทนที่สั่นเครือทำให้น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้ง
   “ผะผมขอโทษ กะ กับทุกเรื่อง ขะ ขอบ อึก คุณ ที่ทำเพื่อผม แค๊กๆอึก” ลมหายใจของผมเริ่มสะดุด อ่าจะหมดแรงแล้วหรอ
   “โซฟา” เสียงพวกพี่เขาเรียกผมเสียงสั่นน้ำตาของลูกผู้ชายของพวกเขาไหลลงมาจนน่าสงสารแต่พวกเขากลับไม่คิดที่จะเช็ดออก
   “ขะ ขอให้ผมได้บอกก่อนที่จะไม่มีโอกาส ดะ ได้ไหมครับ”
   “ไม่เอา อย่าพูดแบบนั้น โซฟาของพวกพี่เข้มแข็งจะตาย ไม่เป็นอะไรหรอก” เสียงของพี่หมอทำให้ผมยิ้ม
   “ผะผม อึก แค๊กๆ ระรัก ผมรักพวกพี่นะ รักมาก จนรักใครไม่ได้อีกแล้ว ผมดีใจนะ ทะที่ได้เกิดมะมาเจอกัน รักมาก รักที่สุด ที่รักของผม” แล้วสติของผมก็ดับไปเสียงที่ได้ยินสุดท้ายคือเสียงของพวกพี่เขาที่เรียกชื่อผมด้วยเสียงที่เจ็บปวด
   “โซฟา” ขอโทษนะครับ ที่ผมไม่ไหวแล้ว ถึงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแต่ผมก็ดีใจที่ผมได้บอกพวกพี่แล้ว ความรู้สึกของผม รักมากเลยนะครับ ที่รักของผม

     Perfaceman

        ผมยังไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องจริง ร่างบางที่เราเฝ้าตามหาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่กลับไม่เป็นเรื่องที่น่ายินดี ร่างบางที่ย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด ถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินหลังจากที่น้องหยุดหายใจ ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญช่วยกันรักษาอย่างเต็มที่ ตอนนี้พวกผมเป็นร่างที่ไร้วิญญาณกันแล้ว ไม่มีใครคิดที่จะพูดอะไร แค่แรงที่จะก้าวเดินแทบจะไม่มี เราแจ้งเรื่องนี้ให้กับพ่อแม่ของน้องแล้ว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตอนนี้พวกท่านกำลังเดินทางมา ส่วนคนขับที่ก่อเหตุเจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว ทางตำรวจลงความเห็นว่าเกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจนเกิดอุบัติเหตุและน้องคือผู้เคราะห์ร้ายที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี ตอนนี้ขอแค่น้องปลอดภัยเราก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
        เวลาผ่านไปห้าชั่วโมงทีมแพทย์พากันเดินเข้าออกห้องผ่าตัดกันเป็นว่าเล่นมีหมอออกมาบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงให้แจ้งญาติไว้ก่อนเพราะตอนนี้หัวใจของคนไข้เต้นช้าจนต้องใช้ยากระตุ้นความดันลดต่ำจนน่ากลัวและที่น่ากลัวที่สุดน้องเกิดภาวะช็อคตลอดตอนนี้กำลังผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกเพราะปล่อยไว้จะเป็นอันตรายมาก
พวกเราปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆสายตาของเราจ้องมองที่ประตูเพื่อรอให้คุณหมอเดินออกมาบอกว่าน้องปลอดภัยแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังไม่มีใครออกมาสักคน
     แอ๊ด
     เสียงประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพร้อมกับร่างของน้องที่อยู่บนเตียงตอนนี้หน้าของน้องซีดจนน่าใจหาย
   “ทางเราต้องย้ายผู้ป่วยไปไว้ในห้องปลอดเชื้อ งดเยี่ยมนะครับ เราต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด ถ้าเกินสามวัน คนไข้ไม่ฟื้นทางเราต้องรบกวนญาติคนคนไข้ทำใจด้วยนะครับ” แล้วคุณหมอก็พาร่างของน้องไปทางห้องปลอดเชื้อพวกเราได้แต่เดินตามไป ห้องปลอดเชื้อที่นี่มีกระจกใสกั้นระหว่างคนไข้และคนเยี่ยมทำให้เรามองเห็นว่าน้องนอนอยู่ภายใน ร่างกายที่ซีดอยู่แล้วตอนนี้กลับซีดมากขึ้นจนมองไม่เห็นเลือดเลย
   “ครับแม่” ผมรับโทรศัพท์จากแม่ของน้อง
   “แม่ถึงแล้ว ตอนนี้น้องอยู่ไหน”
   “ห้องปลอดเชื้อครับ”
   “ได้” แล้วแม่ของน้องก็วางสาย ท่านเข้มแข็งมากตอนที่ผมบอกผมกลัวว่าท่านจะเป็นลมแต่เปล่าเลยท่านกลับตั้งสติได้และเร่งเดินทางมาที่ทันที
   “น้องล่ะ” พวกผมที่เอาแต่เงียบเงยหน้ามองผู้มาใหม่ ตอนนี้แม่กับพ่อของน้องมาอยู่ที่ตรงนี้แล้ว ผมหลีกทางให้พวกท่าน พอท่านเห็นน้องน้ำตาของคนเป็นแม่ก็ไหลออกมาแบบไร้สียงสะอื้น เป็นการร้องไห้แบบเงียบๆ
   “ลูกต้องไม่เป็นอะไรแน่คุณ”
   “ค่ะ” แม่ของน้องหันกลับไปซบที่ไหล่ของพ่อน้อง สายตาของพ่อน้องดูเจ็บปวดไม่แพ้ใคร และดูท่าจะมากกว่าด้วยซ้ำ
   “พ่อครับ” ท่านยกมือขึ้นมาห้ามผมที่กำลังจะพูด ผมคิดว่าคนอื่นๆก็เหมือนกันแต่ยังไม่กล้าที่จะพูด
   “ไม่เป็นอะไร มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ พ่อไม่โทษพวกนายหรอก เพราะพวกนายก็เจ็บปวดไม่ได้ต่างกัน”
   “ครับ”พวกผมรับคำกันเบาๆ การที่เราเห็นคนที่เรารักกำลังจะจากไปต่อหน้าต่อตา ใครกันจะทำใจได้ ผมยอมรับว่าผมไม่เคยกลัวหรือร้องไห้ให้กับใครมาก่อน แต่เพราะเป็นน้องเป็นคนที่ผมรักและไม่สามารถรักใครได้อีก ผมจึงไม่เสียใจที่ได้เสียน้ำตาให้กับน้องเลย
   “พวกนายกลับไปพักผ่อนกันก่อนไหม  เอาไว้มาเยี่ยมกันใหม่”
   “ไม่ครับ เราไม่อยากจะห่างไปไหนเลย แม้แต่นาทีเดียว” เสียงของไอ้นัลดูเจ็บปวดมากตอนนี้ ผมเชื่อว่ามันทำใจยากที่เห็นคนที่รักเป็นแบบนี้ พวกมันก็เหมือนผม รักแล้วและรักมาก และสำหรับมัน มันเป็นคนที่อ่อนโยนมากคนหนึ่งมันคงยังช็อคไม่หายเหมือนกัน
   “เอาแบบนี้แล้วกัน กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แบ่งกันไป เพราะเดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปพักก่อนเหมือนกัน”
   “ครับ งั้นเดี่ยวกูไอ้นัลไอ้หมอไปก่อน พวกมึงรออยู่ตรงนี้มีอะไรรีบโทรไปนะ”
   “อืมได้” เสียงไอ้ไลฟ์เป็นคนตอบส่วนไอ้เลย์แค่พยักหน้ารับ เฮ้อ คงต้องปล่อยไปก่อนเพราะผมก็อาการไม่ต่างจากมันสักเท่าไหร่
        ผ่านไปสองวันแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง น้องยังคงนอนนิ่งไม่ขยับตัวมีเพียงเส้นชีพจรที่ยังคงวิ่งอยู่เป็นเครื่องยืนยันว่าน้องยังไม่ได้จากเราไปไหน
   โซฟา นายไปอยู่ที่ไหนกันนะ กลับมาได้แล้ว นายรู้ไหมว่ามีคนที่รอนายจนจะเป็นบ้าตายอยู่ตรงนี้หลายคนเลยนะ กลับมาสักทีสิ พวกพี่ยังไม่ได้ทำตามที่นายต้องการเลย นายบอกรักพวกพี่แต่พวกพี่ยังไม่ได้บอกรักนายแบบที่นายต้องการเลยนะ ตื่นมาฟังกันสิโซฟา อย่าทิ้งกันไปแบบนี้นะครับ พวกพี่จะอยู่กันได้หรอครับ กลับมานะครับ ที่รักของพวกพี่ รักโซฟานะครับ

Tbc.

ออฟไลน์ defer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชื่อเรื่องน่าจะเป็น

Hate Hard But Love Harder นะคะ ถ้าจะสื่อว่าเกลียดมาก แต่รักมากกว่า
หรือถ้ายึดภาษาไทย all I love is them // all i love is you

หรือถ้าชื่อเดิมก็น่าจะเปลี่ยนให้ถูกไปเลย
เป็น I Hate Them But I love Them

อันนี้แค่เสนอเฉยๆนะ เนื้อเรื่องสนุก ถ้าชื่อสะดุดตาคนจะได้เข้ามาอ่านเยอะ ๆ ^^

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
หายไวๆนะน้องฟา พี่ๆเค้ารออยู่ :mew2:

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องฟาน่ารักกกก แอบเชียร์บาร์เทนเป็นพิเศษ หุๆ ฟื้นเร็วๆนะคะะะ

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :monkeysad:น้องหนูฟาหายไวๆนะคะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หายไวไวนะลูก

ออฟไลน์ makone

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สู้ๆๆๆ นะคะน้องฟา รีบกลับมาหาพี่ๆ ได้แล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่17
        เข้าวันที่สามแล้ว อาการน้องไม่ได้ดีขึ้นเลย เรารอเพียงแค่ปาฏิหาริย์เท่านั้น ทีมแพทย์หมดวิธีที่จะช่วยเหลือแล้วพวกเขาทำจนสุดความสามารถแล้ว ตอนนี้พวกเราทุกคนมายืนอยู่ที่หน้าห้องปลอดเชื้อมีพวกผมห้าคน พ่อกับแม่น้อง โจว ลิเลียมและอัลโต กว่าที่ลิเลียมจะฟื้นก็ใช้เวลาไม่ต่างกัน พอได้ข่าวเธอก็สลบไปสองวันเต็มๆ ตอนนี้เธอยังร้องไห้ไม่หยุด ขนาดอัลโตบอสมาเฟียก็ยังคงนิ่งสงบแต่ดวงตาบ่งบอกได้ดีว่าผ่านการร้องไห้มาเหมือนกัน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะครบสามวันแล้ว ไม่มีวี่แววว่าน้องจะฟื้น ทุกคนในที่นี้ต่างเงียบไม่มีใครคิดจะพูดอะไรแม้กระทั่งแม่ของน้องที่คอยดูแลพวกเราตลอดสามวัน
     ผลัวะ
        เสียงประตูกระแทกเปิดออกอย่างเร่งรีบจากภายใน เพราะอาการของน้องน่าเป็นห่วงเลยมีหมอคอยเฝ้าตลอด24ชั่วโมง
   “พยาบาลตามมิสเตอร์เคนตะด่วน”
   “ค่ะ”
   “เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของฉันค่ะ” แม่ของน้องรีบเดินเข้าไปหาคุณหมอสูงวัยที่ดูน่าเชื่อถือ
   “ทางญาติใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้คนไข้เกิดภาวะช็อค ชีพจรหยุดเต้นกะทันหัน ตอนนี้ทางเรากำลังใช้ยากระตุ้น”
   “อะไรนะ” ลิเลียมถามออกมาเสียงสั่นเหมือนไม่อยากจะเชื่อแล้ววิ่งไปเกาะที่กระจกเพื่อมองดูร่างของน้องที่ตอนนี้ถูกทีมแพทย์ฉีดยาพยายามยื้อน้องเอาไว้
   “ใจเย็นๆก่อนครับ ตอนนี้เรากำลังติดต่อไปที่มิสเตอร์เคนตะอยู่ครับ”
   “มิสเตอร์เคนตะ ใครครับ” เสียงของอัลโตดูเรีบยนิ่งแต่ปลายเสียงดูมีความหวัง
   “เขาเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ที่หาตัวจับได้ยาก มีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถบอกอะไรได้มากรอถามเขาเอาได้ครับ แต่เขาจะตอบไหม นั่นเป็นอีกเรื่อง เพราะเราก็เพิ่งได้รับข้อความว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ” หมอคนนั้นดูเลื่อมใสในตัวมิสเตอร์เคนตะอะไรนั่นจัง คงจะเก่งจริงสินะขนาดนายแพทย์ใหญ่ของที่นี่ยังยกย่อง
   “ทางนี้ค่ะ” เสียงของพยาบาลดังเรียกให้พวกเราหันไปมอง ชายหนุ่มร่างโปร่งบางตัวสูงเพรียวแต่ไม่น่าจะเกิน170 ใบหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตากลับส่องประกายเจ้าเล่ห์ดูน่ากลัวดวงตาสีดำเข้มแบบคนเอเชีย ผิวที่ขาว บอกตามตรงดูสวยมากกว่าหล่อ สองมือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงดูไม่ค่อยจะรีบร้อนและไอ้อมยิ้มนั่น คือผมไม่เข้าใจว่านายคนนี้เป็นหมอจริงๆ
   “ทางนี้ครับ” นายแพทย์คนนั้นเดินนำคนที่มาใหม่ก่อนที่จะปิดห้อง เราเห็นนายคนที่ชื่อเคนตะเดินไปที่เตียงของน้องก่อนจะพูดอะไรไม่รู้ฉีดยาที่รับจากนางพยาบาล จากชีพจรที่เต้นช้าเริ่มกลับมาคงที่แต่อยู่ดีๆชีพจรน้องก็หยุดเต้นมีพยาบาลกำลังจะเข้าไปฉีดยาแต่นายเคนตะกลับยกมือห้ามแล้วมองมาที่พวกผมห้าคนก่อนที่จะทำการอุกอาจ มันห้อมแก้มว่าที่เมียผม ผมแทบจะกระโดดไปถีบประตูแต่อัลโตเข้ามาดึงไว้
   “ถ้ามึงไม่ใช่หมอกูไม่เอาไว้แน่ แฟนกูจะตายอยู่แล้วยังมากวนตีนอีก”
   “ใจเย็นไอ้เทน น้องไม่ได้เป็นอะไรแล้ว มึงดูสิ ทุกอย่างเหมือนเดิมแล้ว” ผมมองตามที่ไอ้หมอบอกชีพจรน้องกลับมาเหมือนเดิมแล้ว นายคนที่ชื่อเคนตะยืนมองสักพักก็เดินออกมา
   “แก้มแฟนพวกนายนุ่มเนอะ” หมอนั่นพูดเป็นภาษาไทยกับพวกผม
   “แก”
   “อย่าไอ้เทน” ผมแทบจะเข้าไปต่อยมัน ดูมันยังทำหน้าทำตาอีก
   “ดีครับคุณพ่อคุณแม่” มันหันไปไหว้พ่อกับแม่น้อง ที่กำลังงง
   “อะอืม เออ คุณรู้จัก เออ เราหรอ”
   “รู้จักสิครับ ผมรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟานั่นแหละครับ”
   “หือ ฟา นายเรียกเพื่อนฉันว่าฟาหรอ”
   “อืม ไมอ่ะ”
   “นายเป็นใครกัน ทำไมพวกเราไม่รู้จักนาย แต่นายกลับเรียกน้องฟาแบบสนิทแบบนั้น”
   “น้องฟา นายคงจะเป็นเพื่อนที่ขายเพื่อนคนนั้นสินะ นายนี่เองที่ฟาเล่าให้ฟังว่าเข้าข้างศัตรู หน้าตาก็ดีแต่นิสัย ไม่ๆ”
   “อะ อะไร ขายอะไร แค่ช่วย”
   “หึหึ ช่วยให้แย่กว่าเดิม นึกว่านายจะช่วยได้ดีกว่านี้ สุดท้ายก็ล้มเหลว นี่ถ้าฟาไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมไม่มาหรอก”
     ครืด ครืด
   “ครับ อยู่ญี่ปุ่นครับ ไม่ว่างครับไอดอลป่วยจะดูแล ไม่สนครับ อย่าเยอะครับ น่ารำคาญ” แล้วหมอนั่นก็ตัดสายทิ้ง แต่ก็ยังมีเสียงเรียกเข้ามาเรื่อยๆ ตุ๊บ เพล้ง ทุกอย่างรอบตัวเงียบลงทันที ก็อยู่ดีๆหมอนี่ก็ขว้างไอโฟนใสผนังจนแตกกระจายแบบนั้น
   “เออ คือ”
   “อ่า โทษทีครับ เผลอหงุดหงิดจนได้ พวกคนมีความรู้นี่น่ารำคาญเนอะว่าป่ะ ตื้ออยู่ได้”
   “เออ คือ” นายโจวยังคงพยายามจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด
   “ครับ จะถามอะไรก็ว่ามาอยากรู้ว่าผมเป็นอะไรกับฟาหรอ อืม ตอนแรกผมเป็นแฟนคลับของฟาแต่เพราะเราคุยกันถูกคอเลยเป็นเพื่อนกันครับ แต่ผมยกให้ฟาเป็นไอดอลหน่ะ นิยายเขาสนุกดีผมชอบ” ดูเหมือนหมอนี่จะไม่ธรรมดาซะแล้วสิ ก็เล่นดูออกว่าพวกผมคิดอะไรอยู่แบบนี้
   “มิสเตอร์ เคนตะครับ คนไข้เริ่มขยับตัวแล้วครับ”
   “หรอ แหมพูดแค่นี้ทำให้ฟื้นได้ด้วย ไอดอลผม เหลือเชื่อ”
   “เดี๋ยวนายพูดอะไรกับแฟนฉัน”
   “อยากรู้จริงอ่ะ”
   “เออ”
   “ไม่มีมารยาท ไม่น่าช่วยเลยจริงๆสิ”
   “พวกเราก็อยากรู้นะค่ะ”
   “นี่ถ้าคุณโสดผมจะเข้าไปเช็ดน้ำตาให้นะครับ แต่ดูท่า ถ้าผมเข้าไปคงได้ของขวัญเป็นลูกตะกั่วแน่เลย”
   “หึหึ” เสียงอัลโตหัวเราะชอบใจนายคนนั้น
   “นี่พูดสักทีสิ” โจวคงทนไม่ไหว
   “ก็ได้ๆ ผมบอกว่าถ้าไม่ฟื้นพวกคุณจะมีกิ๊ก ฮ่าๆๆ” แล้วหมอนั่นก็เดินเข้าห้องไปดูอาการน้อง ให้ตายสิ หมอนี่มันปรกติรึเปล่าเนี่ย
........................................................
     ผมไม่รู้ว่าที่ที่ผมอยู่คือที่ไหน รอบๆตัวผมมีแต่สีดำมันดูอ้างว้างและมืดมิด น่ากลัว นี่ผมตายแล้วหรอ
   “โซฟากลับมาหาพวกพี่นะครับ พี่รักเรา” เสียงของพี่เทนที่ดังเข้ามาในหัวของผม อะไรกัน ตกลงผมตายรึยังแล้วพี่เทนอยู่ไหน ผมเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆอยู่ดีๆบรรยากาศรอบข้างก็เย็นลงจนหนาวสั่น หายใจไม่ออก เจ็บไปทั้งตัวเลย อึก ไม่ไหวแล้ว ผมดิ้นอย่างทุรนทุรายบนพื้นที่เย็นเฉียบ ปวดไปหมดแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย พี่เทน พี่หมอ พี่ทนาย พี่ไลฟ์ พี่โดนัล ใครก็ได้ช่วยด้วย ฮึกฮือๆๆ ผมกลัวเหลือเกิน ช่วยผมด้วย พาผมออกไปที
   “ถ้าไม่ตื่น สามีหนีไปมีเมียน้อยนะ ฟาคุง” สะเสียงใครกัน สามีใคร ใครคือเมียน้อย ฟาคุงหรอ หรือว่าริวคุง ริวคุงอยู่ไหน นายอยู่ไหน ช่วยด้วย อยู่ดีๆร่างกายผมก็บิดเกร็ง หายใจไม่ออกแล้วสติของผมก็ดับวูบไป
   “ฟาคุง ฟาคุง นายได้ยินไหม ถ้าได้ยินลืมตาขึ้นมาหน่อย” เสียใครกันมารบกวนผมแบบนี้
   “โอ้ย” ผมขยับแขนเพื่อขยี้ตาแบบที่ทำประจำเวลาตื่น แต่แค่ขยับแขนก็ปวดร้าวไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมมองไปรอบห้องเห็นบุรุษพยาบาลและพยาบาลมองมาที่ผมอย่างลุ้นๆ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าผมต่างหากที่ผมคุ้นเคย ทำไมคุ้นจัง นายเป็นใครกัน
   “เดี๋ยวผมจะย้ายคุณไปที่ห้องพิเศษนะ พวกแฟนคุณจัดการให้แล้ว” แฟนผม ผมมีแฟนด้วยหรอ ผมได้แต่พยักหน้าตอบแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะมันแสบคอไปหมด ไม่มีแรงที่จะพูดเลย
     ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ห้องพิเศษแล้ว มีคนที่คุ้นหน้าหลายคนอยู่ในห้องรวมทั้งคนที่ผมเห็นตอนฟื้นด้วย
   “จะกินน้ำหรอครับ นี่ครับ” นายคนที่ใสแว่นมีกรอบบอกกับผมแล้วยื่นแก้วน้ำให้ ผมรับมาดื่มก่อนที่จะส่งคืน
   “เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บมากไหม” ผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนพูดกับผม เธอเป็นใครกัน ทำไมผมรู้สึกผูกพันขนาดนี้นะ
   “น้องฟา เป็นอะไรครับ บอกคุณชายได้นะ” คุณชาย คุณชาย ทำไมผมถึงคุ้นเคยแบบนี้แต่ผมกลับนึกไม่ออก ผมมองไปรอบๆห้องมองที่หน้าของทุกคน แต่ผมกลับจำไม่ได้ว่าคนพวกนี้เป็นใครกัน ปวดหัวจัง ผมส่ายหัวเพื่อลดอาการปวดแต่ยิ่งนึกว่าทุกคนเป็นใครมันกลับยิ่งปวดมากขึ้น
   “ฟาคุง ฟาคุง” นายคนที่ผมเห็นตอนตื่นมาคนแรกเดินเข้ามาจับมือผมแล้วจับหน้าก่อนที่จะมองเข้ามาที่ตาของผม คุ้นเคยแต่จำไม่ได้  เกิดอะไรขึ้นผมจำอะไรไม่ได้เลย น้ำตาของผมไหลลงมาจนอาบแก้ม ทำไมผมอ่อนแอขนาดนี่นะ
   “น้องฟา ลูก เป็นอะไรไปค่ะ”
   “พยาบาลฉีดยานอนหลับให้คนไข้ด่วน เร็ว”
   “ค่ะ” แล้วพยาบาลก็เข้ามาฉีดยาผม อาการปวดหัวเริ่มหายไปพร้อมกับสติของผม
.......................................
     Jow Talk
        หลังจากที่โซฟาตื่นขึ้นมา มันดูแปลกๆไป ไม่พูดกับใครแถมแววตาที่มองมากลับดูว่าเปล่าบางครั้งก็สับสน อยู่ดีๆก็ร้องไห้ นายคนที่ชื่อเคนตะอะไรนั้นก็เข้าไปห้ามไว้ และเรียกให้พยาบาลฉีดยาโซฟาทันที เพื่อนผมเป้นอะไรไปกันแน่
   หลังจากนั้นไม่นานโซฟาก็หลับเพราะฤทธิ์ยา นายเคนตะก็จัดการห่มผ้า ก่อนจะมองมาที่พวกผมด้วยสายตาว่างเปล่าที่น่ากลัวก่อนที่จะถอนหายใจแววตากลับมาเหมือนเดิมเจ้าเล่ห์ ผมยอมรับว่าตอนที่เห็นหมอนี่ครั้งแรก ใจผมเต้นแรงจนน่ากลัว หมอนี่เป็นใครกันถึงได้ทำเอาผมใจสั่นขนาดนี่
   “ผมเสียใจด้วยครับ”แล้วหมอนั่นก็พูดหลังจากที่เงียบมานาน
   “ระเรื่องอะไรค่ะ” ลิเลียมเป็นคนถามเพราะดูเธอจะตกใจมากเหมือนกันแต่เธอเข้มแข้งขึ้นมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา
   “ตอนนี้ เท่าที่ดูอาการคร่าวๆ ความทรงจำของคนไข้ ไม่มีอยู่เลยครับ”
   “หมายความว่าไง” เสียงของพี่ทนายของไอ้ฟาถามแบบตกใจมากกว่าโกรธ
   “ฟา จำอะไรไม่ได้ เขาลืมทุกอย่าง ลืมทุกคน เท่าที่ดูเขาจำได้เพียงแค่ตัวเองเท่านั้น และดูแล้ว อาการน่าเป็นห่วงครับ”
   “แล้วเราจะช่วยน้องฟายังไงได้บ้างค่ะ”
   “พรุ่งนี้ผมจะพาเข้าไปทดสอบครับ ต้องรอดูผมทดสอบ ว่าอาการของฟาอยู่ในขั้นไหน ตอนนี้ผมตอบไม่ได้ แต่จากประสบการณ์ ผมว่ามีวิธีครับ ขอโทษนะครับ ผมทำอะไรไม่ได้เลย” นายเคนตะก้มหน้าลงแล้วโค้งพ่อกับแม่โซฟาแล้วก็พวกผม
   “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณช่วยชีวิตลูกเราไว้ แค่นี้ก็เป็นหนี้บุญคุณแล้ว คุณพยายามเต็มที่แล้ว”
   “ยังครับ ผมยังทำไม่มากพอ เรื่องแบบนี้ต้องมีทางแก้ มันต้องไม่เป็นแบบนี้ ผมมันอ่อนแอ” เสียงของหมอนั่นสั่น ผมรู้ว่าหมอนั่นเจ็บปวดเหมือนกันที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทั้งทีช่วยให้ฟื้นแล้วแต่ดันมีเรื่องแบบนี้อีก
   “อย่าโทษตัวเอง นายทำดีที่สุดแล้วเอาเวลาที่โทษตัวเองไปหาวิธีช่วยโซฟาดีกว่านะ” ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่กลับเดินเข้าโอบหมอนั่นแล้วดันหน้าให้ซบที่ไหล่ผม ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของหมอนี่ มันปวดใจแปลกๆ
   “ขอบคุณครับ แต่เดี๋ยวก่อน นี่นายคนขายเพื่อนนายกล้าดียังไงไม่กอดผมเนี่ย”
   “เออ คือ แค่ไม่อยากเห็นเด็กร้องไห้หรอก”
   “หึหึ ไม่ใช่เริ่มชอบผมหรอครับ”
   “คะใครชอบนาย อย่ามามั่ว อุตส่าห์ช่วยยังมากวนอีก”
   “ขอบคุณครับ”แค่คำขอบคุณกับน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนกลับทำเอาผมใจสั่น หมอนี่อันตรายกับหัวใจผมเกินไปนะ
   “ไม่เป็นไร” ผมหันหน้าหนีแล้วรีบเดินออกจากห้องพักทันที ใครใช้ให้หมอนั่นยิ้มใส่กันเล่าแค่นี้ก็ใจเต้นแรงจนจะบ้าตายแล้ว
ผมว่างานนี้กว่าโซฟาจะหายผมคงหัวใจวายตายก่อนมันแน่นอน
Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่18
        หลังจากที่อาการของผมดีขึ้นก็ถูกย้ายตัวกลับมาที่ประเทศไทย กลับมาที่บ้าน ผมจำได้ ผมจำของใช้วิธีการอยู่ในอดีตก่อนหน้าได้ทั้งหมด แต่ผมกลับจำบุคคลที่อยู่รอบกายไม่ได้เลย ยิ่งพยายามคิดก็จะยิ่งปวดหัว บางครั้งก็จะฝันแปลกๆ เรื่องฝันผมไม่ได้บอกกับคนที่ชื่อเคนตะที่เป็นหมอระจำตัวผม เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น
        ตลอดเวลาหลังจากที่กลับมา คนพวกนั่นก็ยังคงมาดูแลผมและอาศัยอยู่กับผม แต่ไม่ได้นอนห้องเดียวกันนะ คิดกันไปแล้วใช่ไหม ผมคุ้นเคยพวกเขามากแต่จำไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นร่างกายมักจะสั่งให้ร้องไห้และต้องพูดคำว่าขอโทษ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านั่นผมไปทำอะไรให้กับพวกเขากันแน่
   “คิดอะไรอยู่ครับ” เสียงของคนที่ใส่ชุดกราวนถามก่อนที่คนอื่นจะเดินตามมานั่งที่เก้าอี้ชายหาดที่อยู่ข้างสระน้ำ ตอนนี้ผมกลับมานั่งที่ข้างสระ เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน
   “หลายเรื่องครับ” ผมสนิทใจที่จะพูดแต่กลับกลัวที่จะให้ใจ ผมเป็นอะไรก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
เราปล่อยให้เวลาผ่านไปเงียบๆ แต่ไม่ได้แปลว่าอ้างว้างนะครับ
         ตอนนี้ผมกลับอบอุ่นที่มีพวกเขาข้างๆยังไงก็ไม่รู้ ผมยังคงนั่งเล่นมือถือไปเรื่อยๆ มีหลายอย่างที่ผมสนใจ อย่างเช่นรูปถ่ายที่มักจะมีรูปของพวกเขาทั้งคนในท่าทางที่แปลกตาเหมือนแอบถ่ายมากกว่า ผมเคยใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขามาก่อนใช่ไหมนะ หืม ผมเลื่อนลงมาดูที่ภาพของหนังสือพิมพ์ที่มีการพาดหัวข่าวเรื่องการประกาศอะไรสักอย่าง ภาพของพวกเขา และมีรูปของผมเล็กๆตรงข้างล่างมุมขวา เรื่องอะไรกันนะ ผมเปิดเข้าไปเพื่อขยายดู ยิ่งอ่านเนื้อหายิ่งงง แต่แล้วก็มีภาพของการทะเลาะกันของผมที่ห้างกับคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนผมชื่อโจว เรื่องที่ผมเดินทางไปที่เชียงใหม่ และสุดท้าย ไปที่ญี่ปุ่น เพราะอะไรกันนะ ผมถึงต้องไป ปวดหัว ไม่ไหวแล้ว
      เพล้ง
      มือของผมปัดไปโดนแก้วน้ำที่วางอยู่ใกล้ๆ ทำให้พวกเขาหยุดคุยและกรูเข้ามาหาผม
   “ฟา เป็นอะไรครับ”
   “ปะ ปวดหัว” ผมพยายามที่จะไม่คิดเพราะเวลาที่คิดจะปวดหัวมาก
   “ฟาครับ ปล่อยมือก่อนนะครับ เอามาให้พี่นะครับ” มีใครบางคนพยายามแกะมือผมแล้วหยิบเอามือถือผมไป
   “พี่ว่า พี่พาฟาไปพักก่อนดีกว่านะครับ”
   “อืม” ผมเหนื่อยจังเลย ไม่ไหวแล้ว  แล้วผมก็ไม่รู้ตัวอีก
............................................................
     น้องหลับไปแล้ว อยู่ดีๆน้องก็หลับไป ตอนแรกคิดว่าสลบแต่พอลองดูอาการกลับพบว่าหลับแทน สงสัยจะเพลียมากเกินไป น้องไม่ค่อยจะยอมนอน เพราะอะไรก็ไม่รู้แต่น้องโทรมมากกว่าแต่ก่อน เราสงสารน้องแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

   “เป็นยังไงบ้างไอ้หมอ น้องเป็นไร”
   “น้องแค่เพลียแล้วหลับ ไม่มีอะไร” ไอ้ไลฟ์มันคงจะห่วงน้องมาก แต่ทุกคนก็ห่วงน้องไม่ต่างกัน เพราะพวกเราแทบจะไม่มีสมาธิในการทำงานกันเลย ทุกอย่างดูแย่ไปหมดในตอนนี้
   “น้องทำอะไรอยู่วะ ก่อนหน้านั้น”
   “น้องคงจะพยายามคิดเรื่องพวกเราวะ”
   “กูดีใจนะโว้ยที่น้องพยายามจะจำพวกเรา แต่กูก็สงสารน้องเวลาที่น้องต้องทรมานเพราะคิด ยิ่งตอนที่น้องร้องไห้แล้วบอกขอโทษ ทั้งที่จำไม่ได้แต่ทำเพราะร่างกายมันไปเอง แบบนี้เขาเรียกว่าจิตใต้สำนึกเปล่าวะ”
   “แบบที่ไอ้นัลบอกนั่นแหละ มันเป็นส่วนลึกที่สมองกำลังสั่งการให้ทำ ยังไม่ได้ลบออกไป กูไม่อยากให้น้องโทษตัวเองวะ”
   “แต่เราก็พยายามกันแล้วนะไอ้เลย์”
   “กูเชื่อว่ามันต้องมีวิธี เรายังมีความหวัง แค่เราไม่หมดหวัง เราจะเจอทางออกของปัญหา”
   “นานๆมึงจะดูมีหลักการนะไอ้เทน”
   “อ่าวไอ้หมอ นั่นปากหรอวะ”
   “ฮ่าๆๆ ขำๆ คลายเครียดโว้ย” ตอนนี้พวกเราก็คงต้องเชื่อในความหวังของพวกเราแบบที่ไอ้เทนบอก ตราบใดที่ยังมีความหวัง ทุกอย่างย่อมมีทางออกแน่นอน ผมคิดแบบนั้นนะ รักโซฟานะครับ กลับมาไวไวนะครับ ที่รักของพวกพี่

Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
:call: :call: :pig4: กราบสวัสดีนักอ่านทุกท่าน  ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านผลงานของนักเขียนหน้าใหม่คนนี้ หากผิดพลาดตรงไหนสามารถติชมได้เลยนะคะ ยินดีรับฟังค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้ทางนักเขียนวางพล็อตไว้จนจบแล้ว อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้มากนัก ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ :hao5: :katai4:
ส่วนเรื่องชื่อของนิยายเรื่องนี้ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าทางนักเขียนผูกพันธ์กับชื่อนี้มานาน ไม่ขอเปลี่ยนนะคะ ซึ่งถ้าผิดหลักการหรือสิ่งใด ก็ขอโทษด้วยนะคะ ทางผู้เขียนไม่อยากเปลี่ยนจริงๆ :mew6: :ling2:
ขอบคุณที่เข้ามาติดตาม ขอให้มีความสุขจากทุกตัวอักษรค่ะ

ด้วยรักจากนักเขียน
Cr.Minibear_Secret

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่19
        หลังจากที่หลับไป ผมกลับฝันมันเป็นฝันเดิมๆที่พอหลับตาผมมักจะเห็นมัน ผมเห็นตัวเองในอิริยาบถต่างๆทั้งนั่งนอน และทุกครั้งมีพวกเขา คนที่ช่วงนี้มักจะวนเวียนอยู่ข้างๆผม ผมเห็นเด็กผู้ชายกับคนที่บอกว่าเป็นพ่อแม่ผม เห็นช่วงเวลาเด็กของตัวเอง เห็นช่วงวัยรุ่น เห็นช่วงที่เรียนอยู่นอก เห็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผม ทุกอย่างฉายวนไปมาซ้ำๆเหมือนถูกตั้งค่าไว้ และภาพสุดท้ายก่อนที่จะตื่น ภาพของแสงไฟและแรงกระแทกและผมจะสะดุ้งตื่นเสมอ

   “ฟาครับ ฟา เป็นอะไรครับ ตัวสั่นมากเลย” ผมส่ายหัวให้คนที่บอกว่าเป็นหมอพี่เขาชื่อเลนโว ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจนพครับแต่ภาพในฝันมันทำให้ผมกลัว ผมกลัวการพบเจอพวกเขา
   ผมขยับออกห่างจากพี่หมอ ผมไม่พร้อมจะเจอหน้าใครทั้งนั้น ผมลุกขึ้นเดินหนีเข้ามาในห้องน้ำ ผมรู้ว่ามันดูไม่ดีแต่ผมสับสน ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น

     Lenvo
        น้องมักจะนอนดิ้นไปมาเวลาหลับและจะสะดุ้งตื่นแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง น้องตัวสั่นมากและสายตาที่มองมาอ่านไม่ออกเลย มันดูหวาดกลัว เจ็บปวด สงสาร โหยหา เศร้า และปฏิกิริยาที่แสดงออกมาคือการพยายามห่างจากผม น้องแปลกไป เกินอะไรขึ้นกันแน่

   “เป็นอะไรไปไอ้หมอ ทำไมหน้าเครียด น้องเป็นอะไร”
   “น้องแปลกไปไอ้เทน น้องทำท่าเหมือนกลัวกู”
   “มึงทำอะไรน้องละ”
   “เปล่านะโว้ยไอ้นัล พอน้องตื่นมาก็มองมาใช้สายตาแปลกๆ กูอธิบายไม่ถูก แล้วก็หนีเข้าห้องน้ำไป”
   “อืมแปลกจริงๆ”
   “เอ่อ...คือ” เสียงของน้องดังขัดเรื่องที่พวกผมกำลังพูดกัน พวกเราหันไปมองน้อง สายตาแบบนั้นอีกแร้ว สายตาที่เจ็บปวดแบบนั้น
   “ครับ ฟาจะเอาอะไรรึเปล่า”
   “ปะ...เปล่าครับ” แล้วน้องก็เดินหนีไปที่ห้องนั่งเล่น
   “จริงด้วยไอ้หมอ” ผมหันไปมองไอ้ไลฟ์ที่อยู่ดีๆมันก็พูดขึ้น
   “อะไรมึง”
   “สายตาไง พวกมึงเห็นเหมือนกันใช่ไหม”
   “อืม” ทุกคนตอบเหมือนกัน ผิดปกติจริงๆ พวกผมมองหน้ากันสักพักก็เดินตามน้องไปที่ห้องนั่งเล่น ตอนนี้น้องกำลังดูซี่รีย์อยู่ แต่ผมไม่รู้หรอกเรื่องอะไรนั่งอยู่กับไอ้หมออัจฉริยะนั่งแหละ อ้อ ผมลืมบอกไป ไอ้หมอที่ชื่อเคนตะมันเป็นเด็กอัจฉริยะด้านการแพทย์และนิสัยก็ อืม น่าปวดหัวและดูท่ามันดูมุ้งมิ้งกับไอ้โจวเพื่อนฟาด้วย ปล่อยมันไปเถอะ มาสนใจน้องดีกว่า

   “ทำอะไรครับฟา” ผมถามน้อง น้องหันมามองแล้วขยับตัวไปนั่งชิดเคนตะแทนที่จะนั่งใกล้พวกผม ดูท่าแล้วเจ้าหมอเคนตะก็ยังงงเหมือนกัน

         พวกผมหันมามองหน้ากัน มันผิดปกติเกินไป ไอ้เทนเลยลองเอื้อมมือไปจับแขนน้อง น้องสะดุ้งแล้วปัดออกทันที น้องมองด้วยสายตาตกใจแล้วก็ร้องไห้ออกมาพร่ำบอกแต่คำว่าขอโทษ จนพวกผมที่เอาแต่นิ่งเพราะปฏิกิริยานั้นงงไปตามๆกันรวมไอ้หมอเคนตะด้วย

     Sofa
        ผมกำลังหลบหน้าพวกเขาแต่อยู่ดีๆพี่เทนก็เอื้อมมือมาแตะแขนผม ผมเลยเผลอปัดไป ความรู้สึกต่างๆทั้งในฝันและตอนนี้มันตีรวนไปหมด ผมควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องปล่อยน้ำตาออกมา  พี่หมอทำท่าจะเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ผมแต่ผมกลับขยับตัวหนีไปหาริวคุงแทน ใช่ครับ ผมจำริวคุงและพ่อแม่หรือที่ผมเรียกว่าคุณหญิงคุณชายแต่ก่อนได้แล้ว ผมจำทุกอย่างได้แล้วแม้จะไม่แม่นเท่าไหร่แต่มีเพียงพวกเขาที่ยังคงก้ำกึ่งระหว่างเรื่องของความรู้สึกกับความฝันของผม ร่างกายของผมคงจะรับอะไรไม่ค่อยไหวแล้วมั้ง อาการปวดหัวเริ่มเล่นงานอีกครั้งจนต้องยกมือมากุมเอาไว้ ทุกคนทำสีหน้าเจ็บปวดและเศร้าอยู่ดีๆภาพของเหตุการณ์ที่ผมโดนรถชนที่ญี่ปุ่นก็แทรกเข้ามา ภาพของเลือดของผมและน้ำตาของพวกเขา

   “ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษที่หนีไป ขอบคุณที่มารับผม ขอบคุณที่รักผม รักพวกพี่เหมือนกัน ผมเชื่อในตัวพวกพี่แล้ว ผมเชื่อแล้ว อย่าทิ้งผมนะ ผมขอโทษ” ทุกอย่างถูกกลอกลับเหมือนเทบที่บันทึกไว้ ภาพฉายเข้ามาทั้งคำพูดในวันนั้นของผมและพวกเขา ผมจำได้แล้ว ผมจำพวกเขาได้แล้ว ความรู้สึกของผมที่มีต่อพวกเขาด้วย ผมจำได้แล้ว ผมรักพวกเขาใช่รักจนรักใครไม่ได้อีกแล้ว

   “ฟา” เสียงของใครสักคนหนึ่งในพวกเขาพูดออกมา ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึงก่อนจะร้องไห้ออกมา
   “พี่เทน ผมขอโทษที่งี่เง่า แทนที่ผมจะคิดถึงความรู้สึกของพี่ก่อนที่จะพูดแบบนั้นไป ผมขอโทษ”
   “ไม่เป็นไร ขอแค่ฟาตอบรับรักพี่ แม้ชีวิตของพี่พี่ก็ยอมสละเพื่อเราได้นะ พี่รักฟานะ”
   “ครับพี่เทน” ผมยิ้มรับคำว่ารักของพี่เทนที่ครั้งหนึ่งผมเคยมองข้ามมันไป
   “พวกพี่ครับ พี่โดนัล พี่หมอ พี่ทนาย พี่ดีเลย์ ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจเสียน้ำตา ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้พวกพี่ต้องลำบาก ผมขอโทษ”
   “ไม่ พวกพี่จะไม่โทษเรา เพราะเรื่องของพวกพี่ทำให้เราต้องคิดมากจนต้องหนีไป ทำให้เราต้องเจ็บปวดทั้งตัวและใจ พวกพี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ”เสียงของพี่ทนายเป็นคนที่ตอบแทนพวกพี่ที่เหลือที่ตอนนี้ทุกคนใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแต่ปากของทุกคนกลับยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มอบให้ผมมาตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องและหลังจากนั้น รอยยิ้มที่ผมคิดว่ามันอบอุ่นที่สุด

   “พวกพี่ยังรักผมอยู่ไหม พวกพี่ยังรักฟาอยู่ไหม ฟายังมีสิทธิ์ที่จะเป็นแฟนพวกพี่อยู่ไหมครับ”
   “เป็นสิ่ พวกพี่ยังรักเราเหมือนเดิมและมันจะเพิ่มขึ้นไปทุกวันนะ” พี่เทน บุคคลที่ผมมักจะคอยต่อว่าและหาทางจิกกัดเวลาเผลอตลอดกลับเป็นคนที่ดูแลผมเสมอ ผมรู้ว่าพี่เทนทำงานหนักพี่ทุกคนทำงานหนักแต่พี่เทนมีความเสี่ยงของชีวิตมากกว่าคนอื่น และทุกครั้งพี่เขาจะปกป้องทุกคนและตอนนี้พี่เขาก็เป็คนที่พูดความในใจแทนพวกพี่ที่เหลือ ส่วนพี่ที่เหลือต่างก็มอบรอยยิ้มมาให้ผมเพื่อยืนยันว่าพี่เทนพูดจริง น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้งและครั้งนี้ไม่ใช่ความเสียใจแต่มันเต็มได้วยความดีใจ
“ขอบคุณครับ ผมรักพวกพี่นะ รักมาจนรักใครอีกไม่ได้แล้ว ฮึก รักนะครับ ที่รักของฟา” แล้วสติที่ผมพยายามรั้งไว้ก็หมดไป พอแล้วแค่ได้บอกออกไป พอแล้ว พอแค่นี้และ ดีแร้ว

Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่20
   “เออ...คือ”
   “ครับ นี่ครับเค้ก ฟาอยากได้อะไรอีกไหมครับเดี๋ยวพี่หมอไปหยิบมาให้”
   “พอก่อนครับ  นี่ไม่ให้ฟาเดินเองเลยหรอครับ” ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ หลังจากที่ความจำของผมกลับมา พวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมทำอะไรเองเลย บอกว่าทดแทนช่วงเวลาที่หายไปอะไรก็ไม่รู้
   “ก็พวกพี่เป็นห่วงเรานี่ครับ”
   “ฟาเข้าใจแต่แบบนี้ฟาเกรงใจนะ”
   “เกรงใจทำไมละ เมียคนเดียว”
   “ไอ้พี่เทนบ้า ใครเป็นเมียพี่ไม่ทราบ”
   “งั้นต้องพิสูจน์ก่อนสินะ”
   “ออกไปนะ พี่ทนายช่วยด้วย” ผมรีบหนีไอ้พี่เทนหื่นกามไปหาพี่ทนายที่ตอนนี้กำลังช่วยพี่นัลเตรียมของจัดเลี้ยงอะไรก็ไม่รู้ คุณหญิงกับคุณชายเป็นเจ้าภาพ บอกไม่มีเรื่องแค่อยากจัด ผมไม่เข้าใจหรอกแตแปลกใจที่พวกเขาดันเห็นด้วยนี้แหละ เฮ้อ
   “ไอ้เทน ไปแกล้งน้องทำไม น้องยังไม่หายดีนะ” เสียงพี่หมอที่เข้ามากอดผมจากด้านหลังพูดว่าพี่เทน แต่เดี๋ยวนะ จะมากอดผมทำไมเนี่ย
   “พี่หมอ เนียนนะครับ ปล่อยฟาเลย”
   “พี่หมออุตส่าห์ช่วยนะครับน้องฟา ก็แบบนี้แหละ เรามันคนไม่สำคัญ”
   “โอเคครับ ไม่โกรธนะ ดีกันๆ” ผมว่านะยิ่งอยู่กับพวกเขานานวันผมยิ่งเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที
   “ครับ ดีกัน” ฟอด ดีกันเฉยๆแล้วมาหอมแก้มผมทำไมเนี่ย
   “ไอ้พี่หมอ ฮึ่ย” ผมได้แต่คาดโทษเพราะพี่หมอบ้าเดินออกไปหน้าบ้านหลังจากที่แกล้งผมเสร็จ ผมไม่เข้าใจอีกเรื่อง หลังจากที่ความจำผมกลับมา ตอนนี้ผมว่าผมรู้สึกว่าพวกเขามักจะมาคอยวนเวียนใกล้ผมมากขึ้น ตอดนิดตอดหน่อยก็เอา ไม่เข้าใจพวกเขาคิดอะไรกัน
   “ฟาคุง มานี่หน่อย” ผมหันไปตามเสียงเรียกของริวคุง จากคนรู้จักกลายมาเป็นเพื่อนและตอนนี้ริวคุงคบอยู่กับเจ้าโจวเพื่อนบ้า เหมาะกันดีนะ คนนึงชอบแกล้งอีกคนก็โวยวาย เฮฮาดีนะ ผมว่า
   “มีรัยหรอริวคุง”
   “ฟาคุงเป็นแฟนกับพวกเขามานานยังอ่ะ”
   “อืม นานไหม นานนะ ทำไมหรอ”
   “แล้ว แบบ เคย...เออ..จูบกันยังอ่ะ”
   “เออ....คือ..” เอาแล้วไงถามอะไรเนี่ย เคยจูบไหม มีแต่พี่เทนกับพี่หมอสินะ คนอื่น
   “ยังหรอ”
   “ก็ไม่เชิงนะ แบบว่าไงดี...เคยกับพี่เทนส่วนพี่หมอนี่ถ้านับก็คงใช่แบบแตะปากกันก็ใช่เนอะ” ถามไปร้อนหน้าไปนี่ยังไงกันนะผมเนี่ย
   “จริงหรอ งั้นแปลว่านานแล้วสินะ”
   “อ่าก็ก่อนเกิดเรื่องนั้นแหละ”
   “งั้น ไหนๆก็เป็นแฟนกันแล้ว ทำไมไม่ทำให้เป็นเรื่องปกติละ”
   “ห๋า จะบ้าหรอ นายอย่าเอาความชอบนายมาบอกกันสิริวคุง”
   “ฉันไม่ชอบจูบหรอก ฉันชอบมากกว่านั้น”
   “นายคงไม่เสร็จเจ้าโจวแล้วนะ”
   “หึหึ”
   “จริงอ่ะ”
   “นายก็อีกไม่นานหรอก เชื่อสิ่” ริวคุง ไม่นะ แต่ว่าผมอีกไม่นานนี่มันยังไงกันอ่ะ  ไม่นะ ไม่พร้อมอ่ะ
   “ยืนทำไรคนเดียวครับฟา”
   “ครับ”
   “เป็นอะไรครับ หนีพี่ไปทำไมครับ”
   “เปล่าครับ เออ แล้วพี่ดีเลย์มาทำอะไรตรงนี้หรอครับ”
   “พี่เห็นเราหายไปเลยมาตามครับ พวกนั้นจัดโต๊ะเสร็จแล้ว ไปครับ”
   “เออคือ”
   “ครับ”
   “พี่ดีเลย์ คือ คือว่า”
   “มีอะไรรึเปล่าครับ”
   “ฟาขอถามอะไรได้ไหมครับ”
   “อ่า..ได้ครับ ว่ามาเลย” เสียงที่อ่อนโยนกับสีหน้าที่มีความสุขทำเอาความประหม่าของผมยิ่งมากขึ้นไปอีก
   “พี่ดีเลย์...เออ...ชอบ..จะ..จูบ..ไหมครับ” พอถามเสร็จผมก็ก้มหน้าหนีทันที หน้าของผมตอนนี้ร้อนมากและคงจะแดงมากเลยทีเดียว พี่ดีเลย์เงียบไปนานอสมควร
   “เออ..คือ”
   “ทำไมถึงถามแบบนี้ละครับฟา”
   “ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ” ผมถอยหลังเตรียมเดินหนีแต่พี่ดีเลย์คว้าแขนของผมไว้ซะก่อน ตัวของผมเลยหมุนกลับมาที่เดิม พร้อมกับสัมผัสที่ริมฝีปาก พี่ดีเลย์จูบผม จูบผม ไม่นะ พี่ดีเลย์อาศัยช่วงที่ผมกำลังอึ้งสอดลิ้นเข้ามา ใจของผมเต้นแรงมากไม่ต่างกับตอนของพี่เทนเลย ไม่ตื่นเต้น มันรู้สึกดี จนอธิบายไม่ได้ และ เหนื่อย ใช่ผมหายใจไม่ทันแล้ว เหมือนพี่ดีเลย์จะรู้ตัวเลยผละริมฝีปากออกไปแต่มิวายกดย้ำอีกหลายครั้งจนผมต้องหลบเอาหน้าไปซบที่อกแทน หน้าของผมร้อนมากๆเลย
   “ไม่ใช่พี่ไม่อยากตอบนะครับ เพียงแต่พี่ไม่คิดว่าฟาจะถาม คำตอบของพี่ พี่ไม่ชอบจูบครับ แต่พี่จะชอบก็ต่อเมื่อคนที่พี่จูบคือคนที่พี่รักเท่านั้น แปลว่าที่พี่จูบฟาเพราะพี่รักฟานะครับ”
   “คะ..ครับ” พูดอะไรไม่ออกครับ อายอ่ะ
   “เขินหรอครับ ไหนให้พี่ดูหน่อยเร็ว”
   “ไม่เอา ไปกินข้าวดีกว่า” ผมดันตัวออกจากอ้อมกอดของพี่ดีเลย์แล้วเลี่ยงหนีมาในบ้าน ตอนนี้มีหลายคนเริ่มหาที่นั่งแล้ว ผมหันไปมองที่ริวคุงหมอนั่นยิ้มแบบมีเลศนัยมาให้ผมพร้อมกับจับปากผมเลยเผลอจับตาม
   “ลองแล้วสินะ”
   “ลองอะไร ริวคุงพูดดีๆนะ” ผมรีบเอามือลงแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
   “ถามตัวเองดีกว่า ปากเจ่อแบบนี้ คงไม่ใช่มดกัดหรอกมั้ง ถ้าใช่มดตัวนี้คงตัวใหญ่น่าดู ที่สำคัญนะฟาคุง มดอ่ะบริหารสายการบินไม่ได้นะ”
   “นาย” ผมได้แต่อ้าปากแต่ไม่มีเสียงพูด นี่ริวคุงเห็นหรอ หรือว่าหมอนั่นแค่ทาย หมอนี่น่ากลัวเกินไปแล้วนะ  โซฟากลัวนะครับ

Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่21
     หลังจากที่เสียจูบไปให้กับพี่เทนและพี่ดีเลย์แล้ว ตอนนี้ผมเริ่มที่จะระวังตัวมากขึ้น ก็หลังจากที่พวกพี่เขาซุบซิบกันผ่านมาไม่กี่วันต่อมาพวกเขาพยายามเข้ามาคลอเคลียใกล้ๆและชอบเนียนหอมแก้มผม ตามจริงมันกลายเป็นเรื่องปกตินะตอนหอมเพราะหลังจากที่ผมหายมาก็โดนหอมบ่อยๆแต่ที่ผิดปกติเพราะพวกเขามักจะหอมต่ำลงมาเรื่อยใกล้กับปากผมนี่สิ แต่คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ทำงานดีกว่า
     ตอนนี้ผมกลับเข้ามาทำงานที่บริษัทอีกครั้ง ยอดขายและผลตอบรับดีขึ้นมากกว่าเดิมพอสมควร พนักงานเริ่มที่จะหายเกร็งเวลาที่เจอผมและทำงานเต็มที่กว่าเดิม
วันนี้ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ผมรู้สึกกระวนกระวายใจ เหมือนมีเรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น วันนี้พวกพี่ๆออกไปทำงานกันเหมือนเดิม แต่ช่วงนี้พี่เทนดูเครียดมากขึ้น ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเรื่องงานก็ได้

   “ครับ”ผมรับโทรศัพท์หลังจากที่มีคนโทรเข้ามา
   “ฟาครับ นี่พี่หมอนะครับ”
   “อ่า ครับ พี่หมอมีอะไรหรือเปล่าครับ”
   “คือ ฟาใจเย็นๆนะครับพี่มีเรื่องจะบอก”
   “หืม อะไรหรอครับ”
   “คือว่า ไอ้เทนโดนยิง”
   “ห้ะ พี่เทนโดนยิง แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”
   “คือตอนนี้มันยังอยู่ในห้องผ่าตัดครับ พ่อของพี่กำลังรักษาอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ กระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญ”
   “อยู่ที่ไหนครับ ผมจะรีบไป”
   “ที่โรงพยาบาลที่พี่ทำงานนี่เลยครับ ใจเย็นๆนะครับ”
   “ครับ” ผมวางสายเสร็จก็รีบเดินออกมาจากห้องทำงานและขับรถของผมไปที่โรงพยาบาลทันที พี่หมอบอกให้ผมใจเย็นแต่นี่พี่เทนนะ แฟนของผมทั้งคน จะไม่ให้ห่วงได้ไง เดี๋ยวนะ นี่ผมแรงมากเลยนะ คิดอะไรเนี่ย บ้าไปแล้ว
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ผมลงจากรถแล้วเดินไปที่ห้องผ่าตัดที่พี่หมอบอกไว้ หน้าห้องมีพี่หมอและพี่คนอื่นๆยืนอยู่
   “เป็นยังไงบ้างครับ”
   “ฟา” เสียงของพี่โดนัลทำให้ผมสงสัย จะตกใจทำไม
   “คะ ใครบอกฟาครับ”
   “ทำไมครับ หรือผมไม่ควรรู้”
   “เปล่าครับคือ” พี่โดนัลดูจะสับสนอะไรสักอย่าง
   “นั่นสินะ ผมไม่ควรมา” ผมหันหลังเดินกลับมาทางเดิม ผมรู้ว่าพี่เทนทำงานอะไร แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ผิดนี่ และคนที่นอนเจ็บในนั้นก็เพื่อนพี่เขาและเป็นแฟนผมด้วย ผมไม่มีสิทธิ์รับรู้หรอ ผมผิดสินะที่เข้ามายุ่งในเรื่องที่ไม่สมควร  นี่ผมผิดอะไร ผมไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมน้อยใจเรื่องอะไร ผมน้อยใจที่โดนกันออกจากเรื่องนี้ หรือเพราะสายตาของพี่โดนัลที่มองเหมือนผมไม่มีตัวตนแบบนั้น ผมลองคิดย้อนไปถ้าสิ่งที่ทำให้พี่เทนเป็นแบบนี้มาจากงานตอนนี้อาจจะมีพวกของฝั่งนั้นอยู่ที่นี่และการที่ผมมาอาจจะทำให้ผมอันตรายได้ แต่การมองผมด้วยสายตาแบบนั้นผมว่ายังไงมันก็เจ็บอยู่ดี หรือผมคิดมากไปเอง ช่างเถอะ
     ตอนนี้ผมหยุดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงรถของผมแต่เสียงฝีเท้าที่เดินตามมานี่ทำเอาผมหลอน หรือที่ผมคิดมันจะเป็นจริง ผมรีบก้าวเพื่อไปให้ถึงรถเร็วขึ้น แต่แรงกระชากจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันกลับไป

   “พี่โดนัล”ผมตกใจที่คนที่ดึงแขนผมคือพี่โดนัล คนที่มองผมด้วยสายตาว่างเปล่า
   “ฟาครับ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น”
   “ครับ” ผมรอให้พี่โดนัลอธิบายต่อไป พี่โดนัลเปลี่ยนจากจับแขนเลื่อนมากุมมือของผมแทน
   “พี่ขอโทษตอนนั้นพี่กำลังเครียดเรื่องคู่อริของไอ้เทนแล้วไหนจะเรื่องคดีความอีก พี่ขอโทษที่ทำแบบนั้นออกไป พี่เสียใจที่ห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้ไหม”
   “ฟาไม่ได้โกรธนะครับ เพียงแค่น้อยใจว่าการที่ฟามามันผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ หรือการที่ฟาเป็นห่วงแฟนของฟามันผิด”
   “ฟาครับฟาห่วงเทนมากขนาดนั้นเลยหรอครับ”
   “ครับ”
   “แล้วถ้าคนที่บาดเจ็บไม่ใช่เทนแต่เป็นพี่หรือคนอื่นที่เหลือ ฟาจะห่วงไหมครับ”
   “พี่โดนัลรู้ไหมว่าพี่พูดอะไรออกมา พี่กำลังดูถูกความรู้สึกของฟานะครับ”
   “พี่แค่อยากรู้ อยากรู้ว่าฟารักพี่มากเท่าไอ้เทนรึเปล่า เท่าคนอื่นรึเปล่า ก็แค่นั้น”
   “พี่โดนัลเป็นอะไรไปครับ ฟาไม่รู้ว่าพี่ไปได้ยินหรือทำอะไรมา แต่ฟาจะบอกพี่โดนัลว่าฟารักพี่ไม่ได้น้อยไปกว่าคนอื่นเลย เราะทุกคนคือแฟนของฟา เราผ่านเรื่องราวมามากแล้วนะครับ พี่ไม่เชื่อใจฟาเลยใช่ไหม” ท้ายเสียงของผมสั่นพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วยตาของผม
   “ฟาครับ พี่ขอโทษ พี่เชื่อเพียงแค่พี่อยากได้ยินว่าพี่ก็เป็นคนที่ฟารักเหมือนกัน พี่รักฟานะครับ”
   “ฟาก็รักพี่โดนัลเหมือนกัน”
   “ฟาครับ พี่ ขอจูบได้ไหมครับ”
   “แต่นี่มันลานจอดรถนะครับ”
   “ในรถก็ได้ครับ”
   “ดะเดี๋ยวครับ” อยู่ดีๆพี่โดนัลก็คว้ากุญแจรถผมไปกดปลดล๊อคแล้วดันตัวผมเข้าไปที่เบาะหลังก่อนจะแทรกตัวตามเข้ามา ผมที่ยังมึนๆอยู่เลยไม่ทันได้ท้วงอะไรทั้งสิ้นก็โดนพี่โดนัลประกบปากลงมาทันที ผมที่ตกใจจึงเผลออ้าปากเตรียมจะว่าแต่กลายเป็นเปิดโอกาสให้อีกคนส่งปลายลิ้นเข้ามาหาผมแทน จูบแบบนี้ผมก็ต้านไม่ไหวสิครับ ทำไมพวกพี่ถึงจูบกันเก่งจังเนี่ย ผมไม่เข้าใจ หลังจากนั้นไม่นานพี่โดนัลก็ปล่อยให้ผมได้หายใจ ผมที่เห็นแบบนั้นเลยรีบโกยอากาศเข้าปอดเต็มที่ เกือบตายแล้วไหมล่ะ นี่จูบหรือดูดวิญญาณกันแน่ ผมมองค้อนพี่โดนัลทันที
   “โอ๋ๆ อย่ามองพี่แบบนั้นสิครับ พี่แค่อยากได้กำลังใจเองนะ”
   “เฮอะ” ผมส่งเสียงขัดใจออกไป เหนื่อยยังกับวิ่งมาไกลหลายกิโล
   “ไปเยี่ยมไอ้เทนกันนะ คราวนี้พี่จะแก้ตัวใหม่ ว่าแต่ใครบอกฟาครับว่าเทนโดนยิง”
   “พี่หมอครับ พี่หมอโทรไปบอก”
   “ครับ” ผมเดินกลับมาที่ห้องพักฟื้นหลังจากที่การผ่าตัดผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย
   “พี่หมอครับพี่เทนเป็นไงบ้าง”
   “ถามมันเองก็ได้ครับ แล้วนี่ไปง้อกันถึงไหนถึงมาช้าขนาดนี้”
   “ง้ออะไร ไม่มีใครงอนสักหน่อย” ผมรีบแก้ตัวทันที ก่อนที่จะเดินไปที่พี่เทนที่ตอนนี้กำลังคุยกับใครสักคนอยู่
   “ไงเรา ตัวแสบ ไอ้หมอบอกว่ารีบมาขนาดนั้นเลยหรอ เป็นห่วงพี่รึไง”
   “ห่วงสิ แฟนฟาทั้งคนนะ” พูดออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่สิ่งที่ตามมาคือความเงียบ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
   “ระ หรอ อย่านี้พี่คงตายตา อึก” เสียงของพี่เทนหายไปเพราะผมที่กลัวคำๆนั้น คำว่าตาย ผมกลัวมัน เพราะผมก็เคยเกือบตายมาแล้ว ผมไม่อยากให้ใครพูดแบบนี้ ผมเลยเลือกที่จะปิดปากพี่เทนโดยการใช้ปากของผมปิดมันแทน เพียงแค่ปากแตะกันแต่เรียกเลือดมารวมที่หน้าของเราทั้งคู่ได้
   “ยะ อย่าพูดคำนั้นได้ไหม ฟาไม่อยากได้ยินมัน”
   “ครับ พี่ขอโทษ” พี่เทนกอดผมไว้หน้าของผมซบลงที่ไหล่แกร่งของพี่เทน ผมชอบอยู่ท่านี้จัง อุ่นจังเลย แต่เดี๋ยวนะ
   “อะแฮ่ม อย่าเพิ่งสวีตกันครับ เห็นใจคนที่เหลือด้วยครับ”เสียงพี่ดีเลย์แทรกขึ้นมาผมเลยผละตัวออกมา แต่แรงที่ดันตัวของผมคงจะไปโดนแผลพี่เทนจะอีกฝ่ายทำหน้าเบ้ทันที
   “พี่เทน ฟาขอโทษ”
   “ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่เป็นไร”
   “หึหึ” เสียงหัวเราะของพี่ทนายทำให้เลือดของผมที่รวมอยู่ที่หน้ามันมากกว่าเดิม
   “พี่ทนายหัวเราะทำไมครับ”
   “ไอ้นัล มึงง้อน้องไงว่ะ ทำไมปากน้องดูช้ำๆนะ” ผมรีบยกมือขึ้นมาปิดปากทันที
   “สงสัยกูดูดแรงไปหน่อย”
   “พี่โดนัล ผมงอนแล้วนะ”
   “งอนหรอครับ งั้นคราวนี้พี่ของ้อนานๆนะครับ”
   “ไอ้พี่โดนัลบ้า” เสียงหัวเราะเกิดขึ้นมาบ่งบอกถึงความสุขของพวกเขาที่มีมากกว่าครั้งไหนๆ แม้จะเพิ่งผ่านเรื่องที่ไม่ดีมาก็ตาม แต่ความรักของพวกเขาก็ยังคงทำให้เรื่องราวต่างๆดูเบาลง เพราะความรักมันมีอนุภาพมากมาย

Tbc.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทที่22
     หลังจากวันนั้นพี่เทนก็ออกจากโรงพยาบาลมาพักที่บ้านได้แต่แทนที่เขาจะไปที่บ้านเขากลับมาอยู่ที่บ้านผมแทน คุณหญิงกับคุณชายก็ไม่มีวี่แววจะกลับบ้าน บ้านหลังใหญ่เลยมีเพียงผมกับคนงานในบ้าน พี่เทนเลยขอมาอยู่บอกว่าผมจะได้ดูแลสะดวกใครอยากดูแลกันเนี่ย

   “ดีฟาคุง”
   “อ่าวริวคุง มีอะไรรึเปล่า มาแต่เช้าเลย”
   “เปล่า แค่คิดถึง แล้วทำอะไรอยู่ละ”
   “กำลังทำข้าวต้มให้คนป่วยอ่ะ ร้องอยากจะกิน”
   “ดูแลดีนะ”
   “ก็ฟะ” ผมเงียบก่อนจะพูดจบ เป็นอะไรเนี่ย หมู่นี้ผมมักจะพูดแบบนี้อยู่เสมอ
   “อะไรหรอ ฟาคุง”
   “ปะ เปล่าหรอก” ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้ริวคุง ก่อนจะเริ่มคนข้าวในหม้อต่อ
   “ฟาคุง ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
   “อืม ได้สิ่ ถ้าเราตอบได้นะ” ผมตอบก่อนจะปิดไฟเพราะข้าวเสร็จพอดีก่อนจะหันกลับมาทางริวคุงที่นั่งมองอยู่ตรงโต๊ะวางของ
   “ทำไมฟาคุงถึงเลือกพวกเขาละ”
   “หืม อะไรหรอ”
   “เหตุผมที่ฟาคุงเลือกพวกเขาทุกคน แทนที่จะเลือกแค่ใครคนใดคนหนึ่ง” ผมเงียบไปกับคำถามนี้ ใช่คำถามนี้ผมเคยถามตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นผมให้คำตอบตัวเองไม่ได้และเลิกคิดไป จนมาตอนนี้ผมว่าผมน่าจะให้คำตอบตัวเองได้แล้วและสามารถบอกคนอื่นได้เช่นกัน
   “ถ้าถามถึงเหตุผลที่เราเลือกพวกพี่เขา คำตอบเราคือรัก เพราะเรารักพวกเขา รักจนอธิบายอะไรไม่ได้ ใช่แต่ก่อนเราอาจจะมองว่าความรักเป็นเรื่องไร้สาระแต่มาวันนี้ตั้งแต่วันที่พวกเขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเรา มันทำให้เรารู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญกับเรามาก เมื่อก่อนเรามองว่าความรักเป็นเรื่องล้อเล่น มันจับต้องไม่ได้ทำไมถึงอยากจะเจอทำไมต้องค้นพบ จนมาตอนนี้เรารู้แล้วว่าความรักคืออะไร”   ผมหยุดพูดแล้วยิ้มให้กับริวคุง    “สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าความรักคือเงิน คือหน้าตา คือศักดิ์ศรีหรือคนสองคนที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแต่สำหรับเรา เราคิดว่าความรักของเราตอนนี้คือพวกเขา รูปแบบความรักของเราคือการมีพวกเขาอยู่ตรงนี้ มีความมั่นคง จริงใจ และเชื่อใจกัน คำพูดของเราอาจจะเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่นแต่มันมีคุณค่ากับเราเสมอ ทุกเหตุการณ์ทุกความทรงจำ ทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาให้เรากับพวกเขาได้เรียนรู้และผ่านมันมา ทุกอย่างล้วนมีคุณค่า มีความหมาย”     ผมยิ้มให้กับริวคุงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าคำพูดของผมไปกระตุ้นอะไรของริวคุงหรือเปล่าเพราะตอนนี้ตาของริวคุงกำลังแดงเหมือนใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว
   “แล้วทำไมถึงเลือกพวกเขาทุกคน แทนที่จะเป็นแค่ใครสักคนละ” นั่นเป็นเสียงของโจว ผมไม่รู้ว่าเจ้าเพื่อนคนนี้มาตอนไหน แต่ผมคิดว่าคงจะมานานจนได้ยินเรื่องทั้งหมดเหมือนกัน
   “การคบใครหลายคนพร้อมกัน คำจำกัดความของมันคือหลายใจ เจ้าชู้ จับปลาสองมือ ใช่ในสายตาคนอื่นเราอาจจะเป็นแบบนั้น แต่สำหรับเรา เราเรียกมันว่าโชคชะตา มีไม่กี่คนบนโลกนี้หรอกนะที่เกิดมาแล้วสามารถแบ่งปันความรักของเราให้กับใครอีกหลายคนได้พร้อมๆกันโดยไม่เอนเอียงไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง ในบ้างครั้งมันอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวที่ไม่สามารถเลือกใครได้เพียงคนเดียว เพราะเราไม่สามารถเห็นคนที่เหลือเจ็บได้ ถ้าเราเลือกพวกเขาเพียงคนใดคนหนึ่งอีกสี่คนก็ต้องเจ็บและเราก็จะเจ็บเหมือนกัน พวกเขาทุกคนมีอะไรที่แตกต่างกันไป ทั้งบุคลิก การแสดงออก ความรู้สึกที่เราได้รับ แต่ที่เหมือนกันคือความรักที่พวกเขามอบให้เรา มันทำให้เรามีความสุขเหมือนกัน เราไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่กับใครแล้วดีที่สุดแต่เราสามารถบอกได้ว่าอยู่กับพวกเขาเรามีความสุขที่สุดแล้ว สำหรับพี่เทน พี่เขาเป็นคนที่ชอบกวนเราแต่ก็เรียกเสียงหัวเราะเราได้เสมอ พี่หมอเลนโวเป็นคนที่เจ้าเล่ห์นะในบ้างครั้งเราคิดแบบนั้นแต่เอาเข้าจริงๆพี่หมอเป็นคนดีมากๆพี่หมอจะคอยเป็นห่วงทุกๆคนเสมอเป็นคนที่อบอุ่นเมื่อได้อยู่ด้วย พี่โดนัลเป็นคนสุภาพเสมอต้นเสมอปลายในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะทำอะไรพี่โดนัลจะต้องชอบบอกขอทุกครั้ง และเรื่องที่ขอก็ไม่เคยทำให้เราหนักใจสักครั้ง พี่ดีเลย์เป็นคนเจ้าชู้ ใช่เรารู้สึกแบบนั้นในครั้งแรกที่เจอแต่หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาพี่ดีเลย์ทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมาเขาทำเพื่อตามหาคนที่เขาต้องการจริงๆ พี่ดีเลย์ไม่ได้เจ้าชู้ พี่เขาเป็นคนที่รักจริง และคนสุดท้าย พี่ทนายที่เราไม่เคยจะเรียกชื่อเพราะเรารู้สึกว่าคำๆนี้เหมาะกับพี่ไลฟ์จริงๆ พี่เขาให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบครอบครัว พี่เขาไม่ค่อยพูดแต่จะสื่อออกจากการกระทำเสมอ เราจะรับรู้ได้ว่าพี่เขาต้องการอะไรเมื่อมองที่ตา พี่ทนายจะแสดงทุกอย่างผ่านสายตาตลอด”
   “น้องฟากำลังจะบอกว่าเพราะแบบนี้เลยทำให้ไม่สามารถเลือกใครได้ เพราะพวกเขาทำให้น้องฟามีความสุขที่อยู่ด้วย” ผมพยักหน้าตอบรับโจว
   “แล้วถ้ามีคนอื่นทำให้ฟาคุงรู้สึกดีละ ฟาคุงจะคบด้วยอีกไหม”
   “ตั้งแต่เราโตมาเราบอกได้ว่าเราปกติ ไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงจะไม่เคยมีแฟนแต่เรามั่นใจว่าเราชอบผู้หญิงมาตลอด นี่แหละที่ทำให้เรารู้ว่าถ้าไม่ใช่พวกเขาเราก็ไม่สามารถรักผู้ชายคนไหนได้แบบนี้ เราไม่ได้ชอบผู้ชายนะ เราไม่เคยรู้สึกดีสักครั้งที่มีผู้ชายมองเราด้วยสายตาแปลก แต่เพราะเป็นพวกเขาคนที่เราให้ใจไปแล้ว แค่พวกเขาเท่านั้นที่เราจะให้ใจ” ผมรู้ว่าหน้าของผมร้อนขนาดไหน การบอกรักพวกเขาทำให้ผมอายเสมอแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินก็ตาม
   “ได้ยินหมดแล้วสินะ คราวนี้จะทำไงต่อไปดีล่ะ” ผมไม่เข้าใจที่โจวพูด “ออกไปสิ พวกเขารออยู่ข้างนอก” ผมเดินออกจากห้องครัวก็เจอดอกกุหลาบวางอยู่ตามทางเดิน ผมเดินตามไปพร้อมเก็บไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่ามันมีทั้งหมดกี่ดอกแต่น่าจะเยอะพอสมควรเพราะกว่าจะถึงที่หมายก็เกือบจะกำไม่หมดแล้ว
     ตอนนี้ผมออกมาหยุดอยู่ที่สนามหน้าบ้านแดดยามเช้ากำลังดีไม่แรงมากเกินไป ไม่นานพวกเขาก็เดินเข้ามาผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร อยู่ดีๆพี่ทนายก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าผมก่อนจะก้มลงมาจูบที่ปากของผมเพียงแค่ปากแตะกันแค่นั้นแต่ใจของผมกลับสั่นไหวอย่างน่าประหลาดมันอบอุ่นและอ่อนโยนแต่ก็สามารถเรียกเลือดมารวมที่หน้าของผมได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นพวกเขาก็ก็เดินเข้ามาล้อมผมไว้ก่อนจะคุกเข้าลงพร้อมกัน
   “ขอบคุณที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเรา ขอบคุณที่ทำให้เราเรียนรู้ว่าการรักใครสักคนมันดีขนาดไหน ขอบคุณที่ร่วมกันผ่านเหตุการณ์มากมายมาด้วยกัน และจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะก้าวเดินไปด้วยกันตลอดไป”   เสียงของพี่ทนายที่น้อยครั้งจะได้ยิน คนที่ไม่ค่อยพูดอะไรแต่วันนี้กลับพูดเยอะกว่าใคร
   “เรารักฟานะครับ” พวกเขาพูดขึ้นพร้อมกัน ไม่ว่ากี่ครั้งเมื่อเขาบอกว่ารักผมจะดีใจจนกลั่นน้ำตาไม่ได้เสมอแต่ครั้งนี้คงจะมากกว่านั้นเพราะคำนี้

   “แต่งงานกับพวกพี่นะครับ น้องฟา”

   “ฮึก ครับ ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ”
   ผมไม่รู้ว่าน้ำตาในครั้งนี้มาจากไหนแต่ที่ผมรู้คือน้ำตาพวกนี้มาจากความดีใจไม่ใช้ความเสียใจเลย ไม่ว่าคนอื่นจะมองว่าผมเป็นคนหลายใจหรือจับปลาหลายมือขนาดไหน แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมรักพวกเขารักเกินกว่าจะปล่อยมือไปได้ ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรแต่ผมจะทำทุกวันของพวกเราให้ดีที่สุดผมสัญญา

Tbc.

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
เนื้อเรื่องโดยรวม น่าสนใจอ่านได้เรื่อยๆ แต่เว่นย่อหน้าซักนีดนะจ้ะ มันลายตา อิจฉานายเอกเลกน้อบ o18

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หุหุ แล้วคืนวันเข้าหอจะแบ่งกันยังงัยน๊าาาา

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
บทส่งท้าย
        ในแต่ละวันเราผ่านการทำสิ่งต่างๆไปตามเวลา ทุกอย่างหมุนไปตามวัฏจักรของมัน หน้าที่ของทุกคนนั้นไม่เหมือนกัน ต้นทุนชีวิตของแต่ละคนก็เช่นกัน ซึ่งนั่นไม่แปลกเลยหากถามถึงความรัก ความรักในโลกนี้มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน รักแบบคนสองคน รักข้างเดียว หรือแม้กระทั่งการมีคนรักพร้อมกันหลายคน
         บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสดใสและอบอวลไปด้วยความรัก ไม่ว่าจะมาจาก ครอบครัว ผองเพื่อน และพวกเขา ว่าที่สามีของผม การแต่งงานของเราถึงแม้จะไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างคู่แต่งงานทั่วไปแต่เพราะหน้าตาทางสังคมของเราทำให้การจัดงานในครั้งนี้มีสักขีพยานมากพอที่จะยึดพวกเราเข้าด้วยกันแต่สิ่งที่ยึดพวกเราเข้าด้วยกันจริงๆสิ่งนั้นน่าจะเรียกว่าความรักของพวกเราทั้ง 6 คนมากกว่า

   “มานั่งคิดอะไรคนเดียวครับน้องฟา”
   “น้องฟาตื่นเต้นครับ คุณหญิง คุณชาย”
   “พ่อกับแม่ดีใจนะ ที่เราเจอคนที่รักเราและพร้อมจะก้าวเดินไปพร้อมกัน หน้าที่ของพ่อและแม่จะสมบูรณ์เมื่อเห็นว่าลูกของเราก้าวเดินต่อไปได้ด้วยตนเองแต่จะดีที่สุดเมื่อเราทั้งคู่เห็นว่าคนที่อยู่ข้างกายลูกของเราดีพร้อมและเหมาะสมกับลูกของเราจริงๆ”
   “คุณชาย” ผมน้ำตาคลอกับสิ่งที่พ่อของผมพูด คำพูดของท่านแสดงให้ผมเห็นว่าพวกท่านรักผมมากขนาดไหน
   “ไม่ร้องนะคนเก่งของแม่ วันนี้วันดีวันมงคล ยิ้มเข้าไว้ลูก”
   “ครับ” ผมยิ้มให้พวกท่าน ก่อนที่พวกท่านจะเดินออกมาต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน
   “พร้อมรึยังจ้ะ”
   “พร้อมแล้วครับ ลิเลียม”
   “งั้นไปกันเลย” ผมเดินตามลิเลียมออกมา เธอทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวและริวคุงกับอัลโตทำหน้าที่เดินตามหลังผมอีกที  งานวันนี้จะจัดแบบธรรมเนียมไทยคือการสวมแหวนมั่นในตอนเช้าและจัดงานเลี้ยงยามเย็น  มีคนรู้จักทั้งที่ทำงานเก่าแลพนักงานในเครือบริษัทของผมหลายคน มีหลายคนเดินเข้ามาร่วมแสดงความยินดี และเมื่อถึงเวลา ผมจึงเดินไปนั่งที่ที่เตรียมไว้เพื่อทำพิธี
   “เจ้าบ่าวมาแล้วครับ” เสียงของโจวที่ทำหน้าที่พิธีกรภายในงานพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาทำพิธี พวกเขาทั้ง 5 คนมาในชุดเดียวกันกับผม สูทสีขาวสะอาดตา รองเท้าคัทชูสีขาวยี่ห้อดัง หลังจากเดินมาถึงที่นั่งแล้วเราเริ่มพิธี ตามที่จัดไว้
   หลังจากจบพิธีในช่วงเช้าเราเลยพักผ่อนและเตรียมตัวในช่วงบ่าย วันนี้ช่วงงานตอนเย็นจะมีนักข่าวเข้ามาทำข่าวจากหลายสำนักเนื่องจากหน้าตาทางสังคมของพวกเราทุกคน
   “เหนื่อยไหมครับฟา” ผมหันไปตามเสียงที่มาจากข้างหลังก่อนจะพบกับรอยยิ้มอบอุ่นของพี่ทนาย วันนี้พี่ทนายดูหล่อมากกว่าทุกวัน
   “นิดหน่อยครับพี่ไลฟ์” ผมยิ้มกลับไปให้ตอบแทนกับความห่วงใยที่ส่งมา
   “แต่พี่ว่าคืนนี้ฟาคงจะเหนื่อยอีกเยอะเลยครับ”
   “ทำไมครับพี่เทน คนเยอะหรอครับ แต่เรามีพนักงานแล้วนะครับ”
   “ซื่อจริงๆ” พวกพี่ทุกคนพากันอมยิ้มหลังจากที่ผมทำหน้างงใส่ ซื่อยังไงก็เรื่องจริงนะ
   “มาว่าฟาทำไมครับ”
   “หึหึ ที่พี่บอกว่าฟาจะเหนื่อย เพราะคืนนี้พวกพี่จะไม่ปล่อยให้ฟานอนยังไงครับ”
   “ไม่ได้หรอกครับ เหนื่อยมาทั้งวัน มาห้ามไม่ให้นอน....เอ๊ะ..” แปร๊ด ให้ตายสิลืมไปได้ไง หลังจบงานมันต้องส่งตัวเข้าหอนี่ ถึงว่าทำไมถึงยิ้มกันแบบนั้น
   “ไม่ต้องเขินหรอกครับ เก็บไว้เขินคืนนี้ดีกว่า”
   “พี่หมอเลน พอเลยไม่คุยด้วยแล้ว”
   “ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะของพวกพี่ทั้ง 5 คนดังตามมาทางที่เดินออกมา ขำกันเข้าไป ไม่เผื่อเวลาเตรียมใจเลยรึไงกัน
   “ฟาคุง”
   “อ่าวริวคุง มีอะไรรึป่าว”
   “ฟาคุงพร้อมยัง”
   “เอ๋ พร้อมอะไรอ่ะ”
   “ก็พร้อมทำหน้าที่ภรรยายังไงละ”
   “บะ บ้าหรอ มาถามอะไรแบบนี้กัน”
   “อายหรอ ไม่ต้องอายหรอก คนกันเอง”
   “พอเลย ว่าแต่ริวคุง คือ คือ”
   “ไม่โกหกนะ ครั้งแรกมันต้องเจ็บอยู่แล้ว เพราะตามหลักทฤษฎีแล้วช่องทางนั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำเรื่องแบบนี้หรอกนะ อะไรกันทำหน้าแบบนั้นทำไม ยังพูดไม่จบเลยนะ”
   “ก็ริวคุงบอกว่ามันเจ็บ”
   “ใช่มันเจ็บ แต่หลังจากนั้นจะมีความสุขมากๆเลยนะโดยเฉพาะเมื่อคนที่ทำแบบนั้นกับเรา คือคนที่เรารัก”
   “งั้นแปลว่าริวคุงรักโจว”
   “ใช่ เพราะรักถึงยอมให้ไม่ว่าตัวหรือหัวใจ”
   “หวานมาก เลี่ยนเลยเหอะริวคุง”
   “ฮ่าๆๆ ถ้ายังไงเรียกเราได้ตลอดนะ เรายินดี”
   “บ้า ใครจะเรียกกันเล่า” แล้วผมก็เดินหนีออกมา ใครจะบ้าเรียกริวคุงไปดูเวลานั้นกัน แล้วผมจะมามัวคิดเรื่องอะไรกันเนี่ย
        หลังจากนั้นก็ถึงพิธีการตอนเย็นมีคนมาร่วมงานมากกว่าช่วงเช้าและมีนักข่าวมารอสัมภาษณ์มากหน้าหลายตา จนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธี เมื่อแขกเหรื่อกลับกันไปหมด พนักงานและแม่บ้านจึงเริ่มทำความสะอาดบ้านกัน คุณหญิงคุณชายแยกย้ายกันไปเข้านอนเพราะเริ่มดึกและพรุ่งนี้มีงาน ส่วนเพื่อนๆคนอื่นต่างบอกมีธุระแยกย้ายกันไป แม้กระทั่งริวคุงก็โดนโจวลากออกไป ในเมื่อไม่มีอะไรทำแล้วผมเลยเลือกที่จะเดินเข้าไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จจึงเดินมาที่เตียงว่าจะเดินมาดูโทรศัพท์ที่ชาร์ตไว้ ไม่รู้ป่านนี้ข่าวของผมจะไปถึงไหนกันแล้ว เสียงเปิดประตูดังขึ้นผมที่ยังไม่ได้แต่งตัวถึงกับสะดุ้งและหันไปมอง พวกพี่ทุกคนยังอยู่ในชุดเมื่อตอนเย็น

   “เตรียมพร้อมเลยหรอครับ”
   “เตรียมพร้อมอะไรครับ ฟาไม่เข้าใจ ว่าแต่เข้ามามีอะไรหรอครับ ไม่ไปพักผ่อนกันหรอครับ” ผมหันไปถามด้วยความเป็นห่วง ก็เหนื่อยกับงานมาทั้งวัน
   “เฮ้อ นี่ตกลงมีเมียหรือลูกว่ะ คงไม่ต้องฝึกเขียนเลยหรอว่ะ”
   “มึงจะบ่นทำไมว่ะไอ้เทน หรือจะเปลี่ยนใจ”
   “สัสนัล กวนตีนละ มาขนาดนี้เปลี่ยนใจได้ไง ไม่เอาหรอก”
   “แต่จะว่าไป แบบนี้น่ารักดีนะ กระตุ้นกูโคตร”
   “พวกพี่คุยอะไรกันอ่ะ แล้วกระตุ้นอะไรครับพี่หมอเลน”
   “ฟาครับ พร้อมไหมครับ”
   “พร้อมอะไรครับพี่เลย์”
   “พร้อมทำหน้าที่ภรรยาพวกพี่ไงครับ”
   “พะ พี่ไลฟ์” จะตกใจก็ตกใจ ไม่คิดว่าพี่ทนายที่เงียบขรึมจะพูดแบบนี้ ไหนจะสายตาที่มองมา มันทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งตกใจ ทำอะไรไม่ถูกแล้ว
   “ไม่รอละ เริ่มเลยดีกว่า”
   “เฮ้ย” เสียงร้องของผมคงไม่ดังพอจะห้ามพวกพี่ทุกคนไป เพราะถ้าห้ามได้ตัวผมคงไม่มาอยู่ใต้ร่างของพี่เทนแบบนี้หรอก
   “ไม่ต้องกลัวนะครับ พวกพี่จะอ่อนโยนกันเราที่สุด”
   “แต่”
   “สัญญาด้วยหัวใจของพวกพี่เลยครับ ที่รัก” คำพูดที่ส่งผ่านความอ่อนโยนพร้อมทั้งสายตาของทุกคน ทำให้ความกลัวของผมเริ่มจะลดลง มีแต่ความตื่นเต้นกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นแทน หลังจากที่ผมพยักหน้าตกลง ริมฝีปากของผมก็ถูกเจ้าของร่างด้านบนครอบครองทันที ความอ่อนโยนทำให้ผมเคลิบเคลิ้มจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่รู้ว่าชุดคลุมหลุดไปเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน รู้เพียงแต่ว่าผมมีความสุขมากจริงๆ
        ผมไม่รู้นะครับว่าที่ผ่านมาพวกเขาทำตัวแบบไหน พวกเข้าผ่านใครมาบ้าง พบเจออะไรมา แต่สำหรับตอนนี้เมื่อพวกเขาทั้ง 5 คนพร้อมที่จะหยุดที่ผม พร้อมที่จะมองเพียงแค่ผม ผมก็พร้อมที่จะหยุดและมองเพียงพวกเขาเหมือนกัน ไม่ว่าความรักของพวกเขาคืออะไรรูปแบบไหแต่ความรักและรูปแบบความรักของผมคือพวกเขา ไม่ว่าตอนพบเจอและเริ่มต้นจะเกลียดหรือไม่ชอบกันแค่ไหนแต่วันนี้ผมพบแล้วว่าผมรักพวกเขามากแค่ไหน มากจนไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว

  “ฟารักพวกพี่นะครับ คุณสามี” ผมพูดและยิ้มให้ก่อนที่จะหลับเพราะเหนื่อยจากงานและกิจกรรมที่ผ่านมา
   “พวกพี่ก็รักฟาครับ คุณภรรยาที่น่ารักของพี่” เสียงบอกรักที่ได้ยินทำให้คืนนี้ ผมหลับฝันดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขอบคุณครับ

The End

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
:กอด1: สัวสดีค่ะนักอ่านทุกคน ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ  :L2:
สำหรับนิยายเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว หากผิดพลาดตรงไหน ก็ต้องขออภัยด้วยะคะ เพราะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ ยังไม่สามารถแต่งได้เหมาะสมเท่าที่ควร
 :hao5: ในนิยายตอนจบอาจจะเป็นการสิ้นสุดการนำเสนอเรื่องราวของพวกเขาทั้ง 6 คน แต่สำหรับความรู้สึกของนักเขียน พวกเขากำลังเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ที่สมบูรณ์มากกว่า ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของนักอ่านทุกคนนะคะ :กอด1:
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอผลงานให้ทุกคนได้อ่านนะคะ แล้วพบกันในผลงานครั้งต่อไปค่ะ

ด้วยรักจากนักเขียน
Cr.Minibear_Secret

ออฟไลน์ sawapalm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
มาเร้วไปเร็ว แต่น้องฟาน่ารักค่ะ เสียดายไม่มีเรื่องของริวมาซักหน่อย คู่นี้ื่าจะแซ่บ อิอิ :mew2:

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  ขอบคุณค่ะ

 :-[  อิจน้องฟามากๆ โซฟานี้กว้างพอสำหรับ5คน กรี้ด
ชอบตรงที่เป็น6Pแบบที่ไม่เน้นเรื่องเซ็กส์ค่ะ NC ไม่ดุเดือด ไม่มี ไม่เป็นไร
แต่มันก็เป็นเพียงนิยายและจินตนาการของคนแต่งอะเนาะ
มันยากเหลือเกินที่จะเป็นจริง แค่คนสองคนสามคนจะให้มารักกันยังว่ายากเลย นี่หกคน

ออฟไลน์ fewho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากจิอ่านตอนพิเศษจังหลังจากได้เสียกันไปแล้ว55555 :hao6:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
อยากให้ปรับเรื่องการเว้นบรรทัดอ่ะค่ะ มันติดกันเกินไป อ่านยากค่ะ

 :z10:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อยากอ่านฉากเข้าหอ55555
คงจะลำบากนิดนึงอะนะ

ออฟไลน์ Mayniemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากอ่านฉากเข้าหอ-///-

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ได้อ่านอีกครั้งคือมันจบแล้วอ่านแบบจุใจเต็มอิ่มเลยน้องฟาน่ารักพี่ๆก็น่ารัก :กอด1: ขอบคุณนะคะคนเขียน :กอด1:

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ช่างเป็น 6p ที่อบอุ่น ขอบคุณค่่าสนุกมาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด