ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)  (อ่าน 47132 ครั้ง)

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
เชอเชสสู้ๆ

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
มารอๆ ต่อเลยๆ แหมมาช่วยช้าจังเลยนะ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
สนุกๆๆ อยากอ่านอีก ชอบๆๆ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พระชายาวี คือผู้กุมอำนาจที่แท้จริงสินะ 555
หน้าสิ่วหน้าขวาน แต่น้องวีก็ยังบรรยายให้ฮาได้อีกนะ
เชื่อว่าเจ้ายักษ์นั่น เชอเชสจัดการได้ไม่ยากหรอก แค่นี้จิ๊บ ๆ เนอะ
แต่ต้องมีตัวที่ร้ายกาจกว่านี้ตามมาแน่ ๆ ต้องเตรียมรับมือให้ดี
ชอบองค์รักษ์ฟาฮากับเซริมอ่ะ มีนิสัยเฉพาะตัวดีจัง เก่งมาก ๆ ด้วย
แล้วอีกสองคนที่เหลือจะนิสัยยังไงนะ อยากรู้แล้ว
ตัวละครในเรื่องนี้แต่ละคนนี่นิสัยน่าสนใจทั้งนั้นเลย ยาอุลก็ด้วย
ยังสงสัยเรื่องที่คุณตาณ เป็นราชินีที่ไม่ได้รักราชาอยู่เลย
แต่ขนาดไม่ได้รัก ก็ยังมีลูกด้วยกันตั้งสี่คนเชียวนะ อะไรยังไง
ว่าแต่ พอแต่งเป็นชาวแสงจันทร์แล้ว ผู้ชายก็คลอดลูกได้งั้นเหรอ
แล้วยังติดใจ เรื่องที่คุณตาณให้เชอเชสไปอยู่กับนาเทลชั่วคราว เพราะอะไรอ่ะ
แหม สงสัยหลายเรื่อง ต้องรอติดตามตอนต่อไปเนอะ
สนุกมาก ๆ ชอบมากเลย  ขอบคุณนะคะ  :L1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2015 07:45:35 โดย TIKA_n »

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กรี๊ดด เชอเชสเท่มากกก

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
หวังว่าจะช่วยหนูวีได้นะ ลุ้นนนน
ดูท่าเชอเชสมีแววเคารพเมียนะในอนาคต 555

"ผมรีบซดชาในถ้วยสองอึกเติมพลังก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้
กิน"

>>>>อันตรายมาแกยังห่วงกินอีกเรอะพระชายา ยอมใจจริงๆ 55555

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
นั่นสิ รีบหย่าจังเลยยย ยังไม่แต่งเลยนะท่านวี  :hao3:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
เจ้าม่วงจัดการเลย ...เจ้าชายแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง .... อ่านชื่อเรื่องนี้ทีไรก็อดนึกถึงเซเลอร์มูนไม่ได้ทุกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2015 21:29:54 โดย 2pmui »

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ทันใจจริง เชอเชส. กลัวโดนหย่าว่างั้น555

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
วีเชอเชส
 o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :ruready

ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -10-
«ตอบ #101 เมื่อ25-12-2015 22:40:47 »

-10-
เทพผู้ถูกลักพา




เชอเชสเดินยิ้มอ่อนใจเข้ามาช่วยฉุดผมลุกขึ้นจากพื้น เขาสำรวจตัวผมโดยรอบว่ามีส่วนใดบุบสลายไปบ้างหรือเปล่า พอเห็นว่าร่างกายยังอยู่ดีครบสามสิบสอง ไม่มีบาดแผลตรงไหนให้หนักใจ บ่าทั้งสองข้างของเขาจึงค่อยผ่อนคลายลง

“ขออภัยที่มาช้านะครับ”

เอ่อะ เชอเชส... อย่าเพิ่งส่งตาหวานมาให้ผมตอนนี้ได้ไหม คนอื่นๆ เขามองพวกเราอยู่นะ

ความคิดของผมดูเหมือนจะส่งไปถึงกระต่ายขี้ห่วงตรงหน้า เชอเชสสะดุ้งเบาๆ เหมือนนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ควรจัดการเจ้าพวกวายร้ายที่อาจหาญบุกรุกเข้ามาเสียก่อน เขาจึงได้หันกายไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่แค่นหัวเราะเสียงเย็นเยียบออกมาเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร

“นับเป็นเกียรติของข้ายิ่งนัก ที่เจ้าชายรัชทายาทเสด็จมาประทับตรงหน้าข้าเยี่ยงนี้”

เขาทำทีเป็นค้อมหัวให้ด้วยความเคารพ แต่ดูก็รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำไปงั้น ในฐานะศัตรูที่กล้าบุกเข้ามาชิงตัวคนถึงห้องส่วนตัวของเจ้าชายรัชทายาท ซ้ำยังกล้าต่อปากต่อคำกับเจ้าถิ่นที่พกทหารมาด้วยไม่ต่ำกว่ายี่สิบนายโดยไม่หวั่นไหว นับว่าเป็นวายร้ายที่ใจเด็ดโคตรจนน่ายกนิ้วให้

“จงกลับไปบอกนายของเจ้าซะ ว่าพระชายาไม่ประสงค์จะไปร่วมวงสนทนากับเขาเป็นการส่วนตัว หากต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนพันธไมตรีกัน จงเดินเข้าประตูวังอย่างเปิดเผย มิใช่อำพรางหน้าตาแล้วบุกรุกเข้ามาเยี่ยงโจรถ่อยเช่นนี้!”

เจ้าชายลำดับสามพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก แผ่นหลังของเขาที่ขวางกั้นระหว่างผมกับพวกชายชุดดำเอาไว้ดูยิ่งใหญ่ดุจขุนเขายามที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ผมมองเจ้าม่วงอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่าเชอเชสในมาดเจ้าชายจะสุขุมและดูเด็ดขาดได้ขนาดนี้มาก่อนเลย

“เกรงว่าจะมิได้ แม้ข้าจะต้องตกตายอยู่ที่นี่ก็จำต้องทำงานให้สำเร็จให้จงได้!”

น้ำเสียงอันน่าครั่นคร้ามกดให้อากาศรอบด้านดิ่งลงจนหนาวเยือก แววตาที่ผ่านประสบการณ์มามากมายโชนแสงอันตรายออกมา มือใหญ่ควงดาบในมือด้วยท่วงท่าอาจหาญชำนาญ ทหารหาญที่เชอเชสพามายังไม่ทันจะขยับเท้าเข้าปะทะ เจ้าวายร้ายระดับบิ๊กบอสในความคิดผมก็เหวี่ยงดาบเป็นวงกว้างฟันเครื่องเรือนสุดหรูตรงหน้ากระจายในดาบเดียว

ชุดน้ำชายามบ่ายของผมกลายเป็นเศษแก้วลอยละลิ่ว เซ็ทโซฟารับแขกกลางห้องพลันกลายเป็นกองไม้บินตามไปติดๆ น่ากลัวว่าถ้ายังไม่ถนอมพื้นที่ในบริเวณนี้ให้ดี ห้องของเชอเชสในวันนี้อาจได้เหลือแต่เศษซากในวันหน้า แต่ดูท่าเจ้าชายลำดับสามจะหาได้ใส่ใจห้องนอนของตัวเองที่กำลังจะโดนพังในอีกไม่ช้าไม่ เขาเพียงแต่สั่งให้ทุกคนตั้งท่าเตรียมพร้อมรับมือ

“นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย จงยอมแพ้แล้วกลับไปหานายของเจ้าซะ!” เจ้าชายขี่ม้าขาวของผมชี้ปลายดาบประดับอัญมณีสีม่วงไปทางศัตรู ท่วงท่าห้าวหาญดุจนักรบอาชาศึกที่ผมเคยดูในซีรี่ย์กับแม่ไม่ผิดเพี้ยน

ทางฝั่งวายร้ายก็หาได้สนใจคำขู่แต่อย่างใด ชายร่างใหญ่ยังคงควงดาบพร้อมกวาดทุกคนที่เข้าใกล้ให้ไปสู่ปากทางยมโลกอย่างต่อเนื่อง สายลมกรีดร้องรุนแรงดุจวิญญาณโหยหวน ไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณอันใดต่อกัน เพียงหนึ่งคนขยับ อีกคนก็พุ่งเข้าปะทะโดยพลัน

เชอเชสเป็นฝ่ายประชิดถึงตัวอีกฝ่ายก่อน เขากวาดดาบในแนวราบวาดผ่านกลางลำตัวด้วยความเร็วที่ผมเห็นเป็นเพียงเส้นแสงสีเงินเท่านั้น ดาบใหญ่งัดขึ้นปัดป้องจนเกิดช่องว่างซ้ายขวา สองในสี่องครักษ์ประจำตัวองค์รัชทายาทไม่รอช้ารีบแท็คทีมเข้าฟาดฟันทันที

เคร้ง!

เสียงดาบปะทะดาบดังกังวานจนน่าใจหาย เจ้าพวกลูกกระจ๊อกชุดดำที่เหลืออีกสี่คนไม่ยืนเฉยให้ลูกพี่ของพวกเขาพลาดท่าเสียทีโดยง่าย ต่างฝ่ายต่างงัดอาวุธขึ้นตั้งรับและโต้กลับอย่างรุนแรง ฟันขวาหมายเรียกเลือด ฟาดซ้ายกะเอาถึงชีวิต หน้าผมหันซ้ายบ้างขวาบ้างตามติดสถานการณ์ที่เห็นเป็นเพียงเส้นแสงแว้บว้าบผ่านไปมา ทหารที่เชอเชสพามาด้วยทำได้เพียงยืนคุ้มครองผมเหมือนโล่ชีวิต ไม่คิดจะเข้าไปบู๊ล้างผลาญกับพวกแนวหน้าด้วยเพราะสกิลอาจยังไม่ถึงขั้น เข้าไปก็มีแต่จะเอาชีวิตไปทิ้งลูกเดียว

ว่าแต่... ส่วนสูงของพวกคุณกำลังบังผมอยู่นะรู้มั้ย ย่อตัวลงกันหน่อยสิเฟ้ย เดี๋ยวผมก็พลาดฉากสำคัญหมดหรอก!

“ฝีมือดาบของเจ้าชายสามแห่งอาณาจักรแสงจันทร์ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ วันนี้ตัวข้ามีบุญได้เชยชมสักครั้ง นับว่าเป็นวาสนาแก่ตัวข้าแล้ว”

ผู้บุกรุกที่เลือดกระฉูดซ้ายขวาราวกับน้ำพุกล่าวยกย่องเจ้าม่วงของผมที่กระโดดออกมาคุมเชิงอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง สภาพตั้งแต่หัวจรดเท้าดูเละไม่ได้ด้อยไปกว่าฝ่ายตรงข้ามเลยสักนิด ท่อนแขนเลือดอาบจนเนื้อผ้าสีขาวถูกย้อมกลายเป็นสีแดง โลหิตหยดลงพื้นจนกลายเป็นแอ่งเลือดขนาดย่อม ผมแทบกระโดดเข้าไปกระชากเจ้าม่วงออกมาแล้วพาไปส่งให้ถึงมือหมอ แต่พลทหารในชุดเหลืองกลับรั้งตัวผมเอาไว้ไม่ให้ทำตามที่ใจคิด

เจ้าพวกบ้า เจ้านายของพวกนายใกล้จะตายแล้ว ไม่ช่วยก็อย่ามาขวางได้มั้ย!

ทันทีที่ผมร้องโวยวาย(ในใจ)ออกไปพลางดิ้นหนีจากการกักกุมของคนฝั่งเดียวกัน เสียงของคนที่ผมเพิ่งบอกว่าเขาจะตายก็ดังขึ้นในหัวปลอบให้ผมสงบสติอารมณ์

'บาดแผลแค่นี้เล็กน้อยนัก อย่าได้ร้องไห้เลยครับ ท่านวี'

เล็กน้อยที่ไหนกันเจ้าบ้านี่! เลือดนายจะไหลหมดตัวอยู่แล้ว ยังจะมาทำเป็นเท่ห์อีกนะ! แล้วใครบอกว่าผมร้องไห้ ผมไม่ได้ร้องสักหน่อย นี่น่ะ...เพราะพวกนายฟันกันซะเละขนาดนั้น เศษไม้มันเลยกระเด็นมาทิ่มตาผมต่างหาก!

เชอเชสหัวเราะในลำคอกับคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นของผม ก่อนสั่งเจ้าสีเงินที่ยืนคุมเชิงอยู่อีกด้านผ่านคำพูด

“ฟาฮา มารักษาบาดแผลให้ข้าที”

หนึ่งในสี่องครักษ์รับคำกระโดดกลับมาใช้เวทย์รักษาให้รวดเร็วยิ่งกว่ารถด่วน พลังฟื้นฟูของฟาฮาน่าทึ่งมาก เพียงแค่เขาร่ายคาถาด้วยถ้อยคำนุ่มนวล ทาบทับฝ่ามือที่อาบด้วยลำแสงสีทองเรืองรอง เลือดที่ไหลเป็นน้ำก๊อกพลันหยุดไหล รอยแผลที่เกิดจากคมมีดค่อยๆ สมานตัวจนปิดสนิท เหลือทิ้งไว้เพียงร่องรอยเบาบางที่อีกไม่นานก็คงหายสนิท

ผมที่ดิ้นพราดๆ เหมือนปลาโง่เมื่อครู่ไม่รู้จะเอาหัวไปมุดรูที่ไหนเลย...

เชอเชสหันมายิ้มหล่อให้ผมหนึ่งทีก่อนจะยกปลายดาบชี้ไปที่ชายชุดดำอีกรอบ แม้ตัวจะเต็มไปด้วยคราบเลือดแต่ก็หาได้ลดทอนอำนาจที่มีอยู่ในตัวลงแต่อย่างใด

“หากเจ้ายังยืนกรานไม่ล่าถอยจากไปแต่โดยดี เห็นทีที่นี่คงต้องเป็นที่ฝังศพของเจ้าแล้ว”

น้ำเสียงของเจ้าม่วงไม่มีแววล้อเล่นหรือคิดยั้งมือไว้ไมตรีอีกต่อไป แต่ว่า...เอาจริงหรอเชอเชส นี่ห้องนอนของนายเลยนะ นายคิดจะฝังศพเจ้านั่นที่ห้องนอนของนายรึ? แล้ว...แล้วผมที่ต้องนอนที่นี่เหมือนกันล่ะเฮ้ย!?

เจ้าม่วงดูเหมือนจะอมยิ้มนิดหน่อยก่อนเสียงจากปลายสายที่ยืนเท่ห์อยู่ตรงหน้าจะดังขึ้นมาในหัว

‘ชายาของข้าช่างคิดได้รอบคอบยิ่งนัก เช่นนั้นข้าจะยั้งมือไว้หน่อยแล้วกัน’

ย๊ากกกก เจ้าม่วง...เจ้าม่วงมันเรียกผมว่าชายาของเขาอีกแล้ว! จะต้องให้บอกอีกกี่รอบว่าฉันยังไม่ใช่ของนายน่ะห๊าาาา!

เสียงหัวเราะของเชอเชสดังหลอนในหัว ดูท่าเขาจะสนุกกับการแกล้งผมในเรื่องนี้มาก

‘วันนี้เป็นแค่เพียงในนามไปก่อน ไว้หลังผ่านพ้นพิธีอภิเษกไปแล้ว ข้าจะรอชมว่าท่านยังจะพูดคำนี้ได้อยู่หรือไม่’

'หยุด! เรื่องนี้หยุดพูดไปเลย แล้วไปสู้กันนอกห้องซะ แค่นี้ห้องก็เละจนไม่รู้จะเละยังไงแล้ว!' ผมแทบคำรามออกมาเป็นไฟใส่หัวเจ้าชายรัชทายาทของอาณาจักรนี้ เชอเชสหันมามองยิ้มๆ ก่อนเดินเข้ามารวบตัวผมขึ้นด้วยท่าประจำที่ผมชักจะชินกับมันแล้ว

ซ้อมอุ้มเข้าไป ไอ้ท่าเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเนี่ย!

“ไม่อยากให้ห้องของเรารกเลอะเทอะก็ไม่บอกเสียตั้งแต่แรก” เจ้าม่วงก้มลงยิ้มให้ผมตาแทบปิด ผมนี่เริ่มเหงื่อแตกซิก ไม่ชอบเลยเวลาที่เจ้าม่วงนี่เผยยิ้มโรคจิตออกมา

“ฮ..เฮ้ย นายจะทำอะไรน่ะ อุ้มผมทำไม ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ!”

สี่องครักษ์ยืนคุ้มกันอยู่ตรงหน้า รายล้อมด้วยเหล่าทหารในชุดเหลืองที่ถูกฝึกขึ้นมาให้คุ้มครองราชนิกุลโดยเฉพาะ ตรงหน้าเป็นพวกชายชุดดำที่ยังเหลือกันอยู่สามคน ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้... มันใช่เวลามาอุ้มผมทำตัวสวีทต่อหน้าคนอื่นไหมห๊าาาา!???

“ใช่แบบนั้นเสียเมื่อไหร่เล่า ข้าไม่วางใจปล่อยให้ท่านอยู่ข้างบนนี้คนเดียวต่างหาก”

สองเท้าของเจ้าม่วงเริ่มออกเดิน ย่ำตรงเข้าไปหาเจ้าผู้ร้ายเหมือนจะเสิร์ฟผมให้อีกฝ่ายถึงมือ

“อย่าได้กังวลไป ข้าไม่ยอมให้ชายาของข้าตกไปถึงมือคนอื่นเด็ดขาด” เชอเชสให้คำมั่นกับผม ฟังดูพระเอกม๊ากมาก ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงเคลิ้มไปแล้วกับประโยคเมื่อครู่ที่เขาเอ่ยออกมา

แต่ขอโทษ ผมเป็นผู้ชาย เลยไม่หวั่นไหวไปกับคำหวานที่เจ้าม่วงพูดมาเลยสักกะนิด

“ไม่เลยสักนิดหรือ?”

“ใช่”

“งั้นตอนที่จูบกับข้าเล่า... ตอนนั้นท่านหน้าแดงได้น่ารักมากเลยรู้ตัวไหมครับ”

จ...เจ้าบ้านี่ มาพูดอะไรในเวลานี้ห๊าาาา!

“กำลังใจก่อนออกรบไงครับ” เจ้าม่วงยิ้มตาปิด ก่อนเปลี่ยนเป็นใบหน้าจริงจัง สั่งให้องครักษ์ทั้งสี่เปิดทางให้แล้วออกวิ่งกะปะทะเข้ากับอีกฝ่ายจังๆ ทั้งที่ยังอุ้มผมอยู่ในมือ!

“ย๊ากกกกก เชอเชส นายจะบ้าไปแล้วเร้ออออออออ”

ผมกอดคอเจ้าม่วงแน่น หลับตาปี๋ แอบเห็นแว้บๆ ว่าฝ่ายชายชุดดำเงื้อมือขึ้นสูงหวังฟันพวกเราให้ขาดในดาบเดียว

ในวินาทีที่ความเป็นกับความตายมาจ่ออยู่ตรงหน้า ผมได้ยินเชอเชสร่ายมนต์รัวเร็วก่อนคมดาบสีทองนับร้อยที่จู่ๆ ก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าราวห่าธนู ทิชากับฟาฮาตวัดดาบเก็บชายชุดดำไปได้อีกสอง เหลือแต่ตัวลูกพี่ที่หักเหวิถีดาบปัดป้องคมดาบที่พุ่งเข้ามาหมายไม่ตายก็พรุนเป็นตัวเม่น เจ้าสีม่วงยิ้มเย็นจนผมที่มองเขาจากมุมนี้รู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลัง

พ่อครับ แม่ครับ ต่อไปนี้ผมจะกล้าหือกล้าอือกับสามีคนนี้อีกไหม...

ไม่แค่องครักษ์พี่แกที่โหดสลัด ตัวเจ้าม่วงเองก็สลัดโหดไม่แพ้กันเลยครัช!!!!!!

จาเรลกับเซริมฉวยจังหวะที่เจ้าวายร้ายมัวแต่ปัดป้องคมดาบที่พุ่งเข้าใส่เหวี่ยงดาบเชือดเฉือนอีกฝ่ายจนกลายเป็นแผลยาวเหวอะหวะ ฤทธิ์คมดาบสองมือที่หนึ่งในนั้นเป็นฟันเลื่อยดูจะสร้างดาเมจให้ผู้บุกรุกได้อย่างสาหัส ดวงตาภายใต้เนื้อผ้าสีดำถึงได้ดูบิดเบี้ยวเจ็บปวดยิ่งนัก เขาถอยร่นจนถึงขอบระเบียง ก่อนจะถูกทิชากับฟาฮาไล่ต้อนจนพลัดตกลงไปจากชั้นสามของปราสาท ตามด้วยฝนทองห่าใหญ่ที่มาจากน้ำมือของเชอเชส

เจ้าชายลำดับสามกระโดดขึ้นไปเหยียบตรงขอบระเบียงที่วิวดีชิบหายแต่เวลานี้ก็น่ากลัวชิบหายไม่แพ้กัน ผมมองรอยยิ้มที่เจ้าม่วงจงใจใส่ความโรคจิตลงไปเต็มลิมิต ก็รับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าถึงเวลาดิ่งเวหากันอีกแล้วคร้าบ~

ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก

ผมแหกปากได้ทุเรศไม่มีใครเกิน สองมือกอดคอเจ้าม่วงแน่น ขอเพียงเขาไม่ปล่อยมือผมผมก็จะยังอยู่ดีอวัยวะครบทุกส่วน แต่ต่อให้เขาปล่อยมือผมจริง มือผมก็ไม่ปล่อยหัวเขาให้หลุดมือหรอก ผมมั่นใจในมือที่เหมือนตีนตุ๊กแกของผมอยู่หรอกน่า!

“ท่านวีนี่...”

เชอเชสหลุดขำออกมาได้อย่างน่ารักเมื่อเท้าเหยียบลงพื้น แต่ผมไม่มองว่าเขาน่ารักหรอกนะ ในเมื่อเรายังมีคดีกันอยู่!

“ท่านจะน่ารักเกินไปแล้วนะครับ”

เขาประทับริมฝีปากอุ่นร้อนลงบนหน้าผากผมที่มีเหงื่อผุดซึมเต็มพื้นที่ ได้ยินเสียงตุบๆๆๆ ตามหลังมาไม่ใกล้ไม่ไกล เป็นสี่องครักษ์ที่เบือนหน้าหนีกันไปคนละทางเหมือนไม่อยากเห็นภาพแสลงตาที่กระโดดลงมาก็เห็นผู้ชายสองคนยืนจุ๊บหน้าผากกันอยู่

“พ...พันจันทรา”

เสียงเจ้าวายร้ายเองก็ดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล ในน้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความตะลึงอย่างปิดไม่มิด สี่องครักษ์รุดหน้าเข้าประจำตำแหน่งยืนเหนือใต้ออกตกล้อมชายชุดดำเอาไว้ทุกทิศ สองมือถือดาบมั่น เตรียมพร้อมลงมือได้ทุกเมื่อ

เชอเชสสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างที่นอนแผ่เหมือนหมูที่อยู่บนเขียง ผมถึงได้เห็นสภาพเละตุ้มเปะของเจ้าวายร้ายได้ถนัดตา เขานอนแผ่จมกองเลือด บนตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่สาหัสเอาการ เนื้อตัวบางจุดยังมีเส้นแสงสีทองที่เหมือนคมดาบปักอยู่ ผมมองเจ้าสิ่งนั้นด้วยความสงสัย หรือจะเป็นพันจันทราอะไรนั่นที่อีกฝ่ายพูดถึง?

“หึหึหึ ไม่นึกเลยว่าข้าคนนี้จะประมาทเกินไป ที่แท้เจ้าชายสามแห่งอาณาจักรแสงจันทร์ไม่เพียงแต่อ่านใจคนเก่ง รู้จักใช้คนเป็น ยังมีวิชาพันจันทราอยู่ในกำมืออีกด้วย ฮ่าๆๆๆ สมแล้ว สมแล้วที่ชายาแห่งดวงจันทร์จะเลือกเจ้า!”

เอ่อ... ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาพล่ามอะไรอยู่ บอกตามตรง ตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าม่วงนี่เป็นเจ้าชาย แถมยังบู๊เก่งอย่างกับพระเอกในละคร ไอ้พันจันทราอะไรนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพิ่งรู้เมื่อกี้จากปากนายนี่เอง

“เจ้าเลือกที่จะทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่เอง อย่าได้กล่าวโทษกันเสียล่ะ”

มืออุ่นร้อนเลื่อนขึ้นมาปิดตาผม คล้ายกับไม่อยากให้ผมได้เห็นความเย็นชาที่เจ้าตัวแสดงออกต่อหน้าอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญ

“ในเมื่อรับงานเช่นนี้มาแล้ว ย่อมต้องเตรียมใจรับความตายไว้อยู่แล้ว” เสียงทุ้มใหญ่หัวเราะอย่างรู้ชะตากรรม เสียงหัวเราะนั้นสะเทือนมาถึงใจคนฟังอย่างผมจนเผลอกัดปากแน่น ยกมือขึ้นปิดหูเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป

“หวังว่าเทพแห่งจันทราจะปราณีดวงวิญญาณของเจ้า”

สิ้นเสียงของเชอเชส ผมได้ยินเสียงฉึกๆๆๆ ดังติดต่อกันจนกระทั่งพื้นที่โดยรอบถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นคาวเลือด ผมไม่อาจรู้ได้เลยว่าน้ำตาผมไหลออกมาตอนไหน และเชอเชสพาผมออกมาจากที่นั่นเมื่อไหร่ รู้แต่ตอนที่ผมลืมตาขึ้น ดวงตาสีม่วงได้ทอประกายอ่อนโยนเหมือนเก่า รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลายังคงเป็นเชอเชสคนเดิมที่ผมรู้จัก

“ขออภัยที่ทำให้ท่านกลัวนะครับ”

เขาจับมือผมที่กำแน่นช่วยคลายออก ริมฝีปากสีส้มโน้มลงมาจูบที่ฝ่ามือผมแผ่วเบาราวกับมันจะช่วยให้รอยเล็บที่จิกลึกจนเกือบเรียกเลือดเลือนหายไปได้

ผมตั้งสติก่อนส่ายหัวเบาๆ โดยมีมือใหญ่ของเชอเชสตบหลังคอยปลอบโยน

“กลัวข้าหรือครับ?”

ผมส่ายหน้า

“ท่านวี...”

ในหัวผมคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น ดังนั้นเชอเชสจึงอ่านความคิดที่อยู่ในหัวของผมไม่ได้ ในท่าทีของเขาจึงดูร้อนรนอย่างปิดไม่มิด

“ถ้าไม่ฆ่าเขา เขาก็จะฆ่าพวกเราทั้งหมด”

ผมไม่อยากพูดว่าสิ่งเชอเชสทำมันถูกต้องแล้ว แต่ผมก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เชอเชสทำมันผิด เพียงแต่...บนโลกกับดวงจันทร์นั้นยังมีความต่างกันอยู่มาก ทั้งขนมธรรมเนียมประเพณี ทั้งวัฒนธรรม การดำรงชีวิต แม้แต่การฆ่าฟันกันก็เห็นจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้แพ้นั้นต้องตาย

“ขออภัยที่ต้องให้ท่านมาเห็นอะไรแบบนี้นะครับ” อ้อมกอดของเชอเชสรัดผมแน่นขึ้น มันทั้งอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย

“ผมเคยเห็นเรื่องพวกนี้แต่ในหนัง ไม่เคยคิด...ว่าวันหนึ่งจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ต่อหน้า” ผมหลับตาลง พูดกับเขาอย่างอ่อนแรง และบอกกับเขาอย่างตรงไปตรงมา “เลยรู้สึก...ช็อคนิดๆ ล่ะมั้ง”

“ข้าเข้าใจดีครับ”

เขาปลอบผมจนผมเผลอหลับไปในอ้อมกอดอบอุ่นนั้น ครั้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ต้องมาเจอกับข่าวร้ายที่ว่า

เทพกระต่ายถูกลักพาตัวไปแล้ว



--------------------------------------------------------
แอบดราม่าปิดท้าย มุ้งมิ้งทุกตอนเดี๋ยวเบื่อกัน  :hao7:

ปล. ใครที่แซวชื่อเรื่องนิยายเค้า ระวังเถอะ เชสซิโด้ กับ เซเลอร์วีจะตามไปลงทันฑ์คนแซวเอง! 55555555 
//คลานไปนอนเถอะ ฝันดีก๊าาา :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2015 23:44:59 โดย varirinnara »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เทพกระต่าย หรือ ว่าที่เทพกระต่ายคะนี่

 :ling1:

โดนจับตัวไปจะทำอะไร ไม่นะ ฮืออออออออ  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องส้มเท่จริงๆ
คุณเชษฐ์โดนลักพาตัวซะงั้น

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เชสซิโด้โคตรเจ๋ง!

วีอย่าดื้อกับว่าที่สามีนะ เด๋ยวโดนลงโทษพันจันทราจะเดินไม่ได้เอา
 หืม?

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เกลียดคำว่าเชสซิโด้กะเซเลอร์555555555555

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เทพต่ายไม่น่ะ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
โดนลักพาตัวไปตอนไหนอ่ะ  :katai1: :katai4:

เทพกระต่ายนี่ คนที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่ธาใช่ป่าว?

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
โอเอ็มจี เทพกระต่ายยยยยย คนไหนเนี่ย คนเก่าใช่ไหม ทำไมเป็นแบบนั้น ; _ ; ..
แอบสงสัยเรื่องราชินี(คุณตาณ)เหมือนกันค่ะว่านี่ไม่รักแต่มีลูก 4 คนนี่มียังไงหว่า หรือในดวงจันทร์ผู้ชายจะท้องได้ =O=!
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักวีอ่ะ คนอะไรฮาตลอด ขนาดฉากบุ้หนูยังจะขำลงนะคะ
แล้วยิ่งเห็นคู่นี้สวีทกัน(ผ่านเสียงในหัว)แล้วยิ่งเขินเลย ; /////////// ; .. น่ารักมากกกกกกเลยค่ะ
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า  :L2:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
คู่นี้น่ารักขึ้นทุกตอน อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
วีคิดอะไรรั่วๆ เชอเชสรู้ทันหมด 555
เหมาะสมกันมากคู่นี้อ่ะ.....ว่าแต่ เทพต่ายโดนจับไป
รึว่าองค์ชายอาณาจักรนู้นแอบชอบเทพต่ายกันนะ//มโนล้วนๆ 555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ใครโดนจับนะ เทพต่าย หรือ ว่าที่เทพต่าย

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ปกป้องคนนี้ อีกคนถูกหิ้วซะงั้น

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
อ้าว

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุกอะชอบๆๆๆ
เวลาเขินกันก็น่ารัก
มาต่ออีกนะ รอๆ

ออฟไลน์ VampirezBadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอๆๆๆ ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เทพคนไหนเอ่ย?
เก่าหรือใหม่

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รีบมาต่อเน้อ  :ling1:

ออฟไลน์ bluelatte

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อะหือ ตามนุ้งวีมางับ  :katai5:

ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -11-
«ตอบ #119 เมื่อ27-12-2015 10:14:48 »

-11-
พันธมิตรซ่อนเร้นใต้กลุ่มเงาจันทร์




“คุณว่าไงนะ เทพกระต่าย...ถูกลักพาตัวไป?”

สมองผมมึนเบลอเหมือนประมวลผลไม่ทันอยู่สองวิ ปากพูดทวนคำคล้ายกับไม่เชื่อหู ก่อนหลับเพิ่งจะเจอเรื่องเลือดสาดสะเทือนไตไป ตื่นมาไม่ทันไรก็ดันมีข่าวที่ไม่ส่งผลดีอันใดต่อหัวใจดวงน้อยๆ นี่อีก

การใช้ชีวิตบนดวงจันทร์ของผมดูท่าจะยากและเยอะกว่าที่คิดเสียแล้ว!

“ขอรับ ทางเราเพิ่งได้รับรายงานเมื่อสองชั่วยามก่อนที่ท่านวีจะตื่น กลุ่มผู้บุกรุกได้แบ่งกำลังออกเป็นสองฝ่าย หนึ่งลอบโจมตีหวังจะชิงตัวท่าน อีกหนึ่งบุกเข้าเรือนเทพกระต่ายเพื่อจับตัวท่านเทพเป็นตัวประกันไว้ต่อรองกับทางเราขอรับ”

ทิชา องครักษ์ผมแดงของเชอเชสเอ่ยรายงานที่ทำให้ผมอยากกลับไปนอนต่ออีกสักหนึ่งตื่น ข้างกายเขามีจาเรลองครักษ์คู่หูยืนนิ่งเป็นน้ำแข็งสลักประดับห้องให้บรรยากาศในห้องแลดูติดลบขึ้นไปอีกสามเท่า

“แล้วตอนนี้เชอเชสอยู่ไหนครับ?”

ผมถามถึงคนที่น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ เขาคงสั่งให้ทิชากับจาเรลคอยเฝ้าผมไว้ในห้องนอนใหม่ที่ตกแต่งได้หรูหราไม่แพ้ห้องเก่าขององค์รัชทายาท ส่วนตัวเองก็พาฟาฮากับเซริมแล่นไปไหนสักที่ เพราะตั้งแต่ตื่นมาผมไม่เห็นเงาของเจ้าดำกับเจ้าสีเงินเลย

“ท่านเชอเชสเสด็จไปเข้าเฝ้าพระราชาน่ะขอรับ ท่านมีบอกไว้ด้วยว่าให้ท่านวีพักผ่อนให้มากๆ อย่าได้ทรงกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรทางเราก็ต้องชิงตัวเทพกระต่ายกลับมาได้อย่างปลอดภัย” ทิชาที่พูดด้วยง่ายกว่าเป็นฝ่ายโต้ตอบบทสนทนากับผมแต่เพียงผู้เดียว ส่วนจาเรลที่ประหยัดคำพูดและไร้มนุษยสัมพันธ์ยิ่งกว่าฟาฮาเพียงหลับตาฟังอยู่ข้างๆ ไม่กล่าวสิ่งใดเลยนับตั้งแต่ผมลืมตาตื่นขึ้นมา

“ผมเข้าใจแล้ว ถ้ายังไงให้ยาอุล...”

ผมยังพูดไม่ทันจบว่าจะให้เจ้าสีเทาช่วยเตรียมอะไรร้อนๆ มากลั้วคอเสียหน่อย ก่อนสลบ แค่กๆๆ ก่อนที่ผมจะผลอยหลับไปดันเผลอแหกปากซะลั่นอาจดังไปถึงหน้าประตูวัง ตอนนี้ในคอเลยเหมือนถูกถมด้วยเม็ดทรายจากทะเลทรายซาฮาร่า ถ้าให้ผมเค้นเสียงพูดมากไปกว่านี้มีหวังวันรุ่งขึ้นคงได้เสียงเซ็กซี่ไม่แพ้หญิงใดในโลก แค่คิดก็น้ำตาจะไหล ผมเกลียดอาการเจ็บคอแบบนั้นที่สุด แต่ดูเหมือนสวรรค์จะยังไม่อยากให้ผมได้พักผ่อนอย่างที่ใจปรารถนา จึงได้ส่งมารพจญกระแทกประตูเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อผมด้วยเสียงที่บอกได้เลยว่าโคตรดัง

“ไอ้วี!”

เสียงมาก่อนตัว ผมเบิกตากว้างมองร่างในชุดขาวที่ก้าวไวๆ มาทางนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ไอ้ธา!!!!”

ผมชี้หน้าไอ้ที่วิ่งถลาเข้ามาหา ข้างหลังมีเจ้าชายลำดับสองแห่งอาณาจักรแสงจันทร์เดินหล่อๆ ตามมาด้วย “ทำไมมึงมาอยู่นี่ได้วะ ไม่ใช่ว่าโดนจับตัวไปแล้วเรอะ!?”

ฝ่ามืออรหันต์ตบหัวผมดังป้าบเล่นเอาสององครักษ์สะดุ้งโหยงอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับคนที่เพิ่งทำร้ายพระชายาของพวกเขาไปซะเต็มไม้เต็มมือ เจ็บจี๊ดจนผมต้องยกมือขึ้นกุมหัว วันไหนไม่ใช้แรงทำร้ายกันสงสัยหมาบ้าที่ชื่อไอ้ธาคนนี้คงนอนหลับฝันไม่ดีไปทั้งคืน เฮอะ

“ไอ้เวรนี่! ปากไม่ดีแช่งกูอีกนะ มึงไม่ได้ฟังที่เขารายงานรึไงวะ เขาบอกว่า ‘เทพกระต่าย’ ต่างหากที่ถูกลักพาตัวไป ตำแหน่งกูมันใช่ที่ไหนล่ะ กูยังเป็นแค่ 'ว่าที่' เว้ย!”

ผมลูบหัวป้อยๆ ร้องอ้าวเสียงยาว รู้สึกหน้าม้านขึ้นมานิดหน่อย

แล้วที่กูดราม่าไปตั้งหลายนาทีก่อนหน้านี้นี่คืออะไร...?

“แปลว่าเป็นคุณเชษฐ์ที่ถูกลักพาตัวไป?” ไอ้ธากอดอกผงกหัวแล้วบอกว่าเออ ผมเลยถามต่อ “แล้วมึงรอดมาได้ไงวะ ตอนนั้นไม่ได้อยู่กับคุณเชษฐ์เขารึ?”

เจ้าเพื่อนหัวดำแค่นเสียงหึในลำคอออกมาก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง “นาเทลเขาช่วยกูไว้”

“หืมมมม” ผมปรายตาไปทางเจ้าม่วงคนพี่ที่ระบายรอยยิ้มนุ่มนวลอยู่บนใบหน้าได้ตลอดเวลา “ยังไงครับยังไง ไม่ใช่ว่าตอนนั้นนายนั่งทำงานอยู่กับเชอเชสหรอกเหรอ?” คำถามนี้ผมไม่ได้ถามเพื่อนผม แต่เป็นเจ้าม่วงคนพี่ที่เอาแต่ยืนยิ้มแบบสุภาพชนอยู่ข้างเตียง

“เวลานั้นข้าเอาขนมยามบ่ายไปให้ท่านธาน่ะครับ ประจวบเหมาะกับเวลาที่คนร้ายลงมือพอดี ข้าเลยช่วยท่านธาไว้ได้ทัน”

แห... ตัวผมก็เพิ่งจะรู้นะนี่ว่าเจ้าชายอาณาจักรนี้เขามีบริการส่งน้ำส่งขนมให้แขกกิตติมศักดิ์กันด้วย ปิดเงียบเลยนะครับเพื่อนธา

“แล้วมึงบาดเจ็บตรงไหนป่ะ” ผมเก็บความคิดที่จะแซวเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ขอสำรวจตัวเจ้าเพื่อนสุดเกรียนคนนี้ก่อนว่ามันยังไม่มีส่วนใดเดี้ยง เป็นอัมพาต หรือเป็นง่อย จนต้องมีใครคอยอยู่ดูแลไปชั่วชีวิต แต่ดูจากที่มันวิ่งปรู้ดเข้ามาหาผมได้ในรวดเดียวก็น่าจะปลอดภัยไร้ห่วงได้อยู่มั้ง

“กูโอเคดีทุกอย่างครับ กระดูกทุกท่อนยังอยู่ครบ ฟันไม่หักไม่ตกหล่น หัวไม่แตก มือเท้าไม่ขาด แถมยังไม่เป็นลมหมดสติไปเหมือนคนแถวนี้ด้วย” ได้ทีไม่มีปล่อยโอกาสกัดผมให้หลุดมือ มันหัวเราะเยาะเย้ยผมอยู่ในลำคอ โดยมีนาเทลยืนยิ้มเป็นแบ็คอัพอยู่ข้างหลัง ผมเลยโบกหัวมันไปที เอาคืนเมื่อกี้ที่มันฟาดกระบาลผมมาซะเต็มแรง

“ฟาย กูไม่ได้เป็นลม เค้าเรียกว่านอนหลับพักผ่อนยามบ่ายเหอะ”

“หราาา มึงเห็นกูมีเขางอกอยู่บนหัวรึไง ฟาย” ไอ้ธาแลบลิ้นปลิ้นตาได้น่าถีบมาก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ยังมีคนนอกอยู่อีกสาม ผมคงได้ถลาเข้าไปซัดกับมันซักตั้ง

พวกเราพูดคุยเล่นหัวกันอีกไม่กี่ประโยค เชอเชสที่หายไปปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระราชาก็เดินเฉิดฉายเข้ามาในห้อง เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบสีกรมเต็มยศ ผิดกับนาเทลที่สวมชุดสบายๆ เน้นเคลื่อนไหวได้สะดวก เมื่อเห็นเชอเชสเดินเข้ามาใกล้ ผมกับไอ้ธาจึงรีบหยุดการโต้วาทีที่เหมือนเด็กประถมกำลังทะเลาะแย่งของเล่นกันแต่เพียงเท่านั้น ทั้งห้องจึงกลับมาสงบเงียบอย่างที่มันควรจะเป็นตั้งแต่แรก ไม่ใช่เหมือนกรงเหล็กที่ใช้ขังลิงป่าสองตัวที่กำลังร่ำๆ จะฟัดกันเอาไว้

“เสด็จพี่อยู่ที่นี่นี่เอง” เชอเชสเดินเข้ามาทักนาเทลก่อน ค่อยหันมายิ้มให้ผมที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว

“ได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง?” นาเทลหยุดยิ้มเรี่ยราด เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังจนบรรยากาศในห้องถูกขึงจนเครียดในชั่วพริบตา

“เสด็จพ่อทรงตรัสว่าจะลองติดต่อกับพันธมิตรของเราที่อยู่ฝั่งนู้นดูก่อน ได้ความยังไงจะถ่ายทอดคำสั่งลงมาอีกที เสด็จแม่เองก็ทรงมีรับสั่งให้พวกเราเตรียมตัวกันให้พร้อม ตอนนี้ทรงเรียกหาน้องสี่ให้เข้าเฝ้าแล้ว”

นาเทลผงกหัวรับฟังทุกคำอย่างใจเย็น เชอเชสสั่งการกับทิชาและจาเรลอีกไม่กี่คำ ฟาฮากับเซริมก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับชุดคลุมและสัมภาระพร้อมออกเดินทาง

“ของที่ท่านสั่งเตรียมพร้อมหมดเรียบร้อยแล้วขอรับ” ฟาฮาเป็นคนรายงาน ส่วนเซริมกลายร่างเป็นกรรมกรชั่วคราว แบกข้าวของทั้งหมดนั้นไปกองไว้อีกมุมห้องโดยไม่ปริปากบ่น

“เดี๋ยวๆๆ นี่จะไม่มีใครบอกผมหน่อยเหรอ ว่าเราจะไปไหนอะไรยังไงกัน?”

เจ้าม่วงหันมาคลี่ยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนเหมือนเก่า แต่ทำไมผมสัมผัสได้ถึงช่องว่างบางอย่างที่แทรกขึ้นระหว่างเราสองคนก็ไม่รู้

“ไม่ใช่เรา แต่เป็นข้ากับเสด็จพี่ต่างหากครับ”

คำพูดของเชอเชสทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบกลางหัว

อะไรนะ...

ไม่ใช่ ‘เรา’ ?

ทำไมหัวใจของผมต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตอนที่ได้ยินคำนี้ด้วยนะ...

“ท่านวี อย่าเพิ่งเข้าใจข้าผิดสิครับ” คนอ่านใจผมได้นั่งลงบนขอบเตียง มืออุ่นร้อนของเขาบีบมือผมที่วางอยู่บนผ้าห่มสีขาวผืนหนาเอาไว้เบาๆ “เรื่องคราวนี้มันอันตรายเกินไป อีกฝ่ายมีเป้าหมายคือต้องการชิงตัวท่าน การจะให้ท่านเดินทางไปด้วยนั้นเห็นทีจะมิเหมาะ เสด็จแม่จึงมีรับสั่งให้ข้ากับเสด็จพี่ออกเดินทางไปพร้อมกับผู้ติดตามเพียงไม่กี่คน หาใช่ข้าต้องการกันท่านออกห่างแต่อย่างใดนะครับ”

ผมนิ่งเงียบรับฟัง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยกมือขึ้นเกาะกุมแขนเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่นเหมือนไม่อยากให้เขาทิ้งผมไว้ที่นี่ตามลำพัง

'ทำไมถึงเป็นนายกับนาเทลล่ะ คนอื่นมีตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ'

ผมพูดผ่านความคิด รู้ดีว่านี่อาจเป็นคำพูดที่ฟังดูเห็นแก่ตัว แต่การบุกเข้าไปชิงตัวเทพกระต่ายคืนนั้นหมายความว่าต้องก้าวเข้าไปเหยียบถึงถิ่นศัตรู การให้เจ้าชายถึงสองคนลักลอบเข้าไปทำภารกิจนี้... ทั้งคนหนึ่งยังเป็นถึงรัชทายาทของอาณาจักร ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงซะยิ่งกว่าการปล่อยผมเอาไว้ที่นี่คนเดียวอีกเหรอ

'เพราะเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของเทพกระต่าย เสด็จแม่ถึงได้เอ่ยปากขอร้องด้วยตนเอง ให้ข้ากับเสด็จพี่ช่วยรับหน้าที่นี้อย่างไรเล่า'

“ผมไม่เห็นจะเข้าใจ” ความคิดของผู้ใหญ่ เด็กที่กำลังจะย่างเข้าอายุสิบแปดอย่างผมจะไปทำความเข้าใจได้ยังไง

เจ้าสีม่วงยิ้มจนตาเหลือเพียงเส้นเดียว ท่าทางดีใจมากที่เห็นผมเป็นห่วง

“ในอาณาจักรเงาจันทร์ยังมีคนของเราแฝงตัวอยู่ได้ ใช่ว่าในอาณาจักรของเราจะไร้ซึ่งผู้แฝงกายมา หากใช้คนอื่นทำหน้าที่นี้ อาจทำให้ข่าวการเคลื่อนไหวของฝั่งเราเล็ดลอดไปถึงคนฝั่งนั้นได้ การที่เสด็จแม่ทรงตัดสินพระทัยเลือกใช้ข้ากับเสด็จพี่นับว่าคิดไตร่ตรองรอบคอบดีแล้ว ท่านวีอย่าได้กังวลไปเลย ข้าหาได้มีฝีมือเหมือนเด็กที่เพิ่งหัดจับดาบ ท่านก็เห็นแล้วมิใช่หรือ?”

ใช่ ผมเห็น และรับรู้ด้วยสองตาของตัวเองมาแล้วว่าเชอเชสนั้นเก่งมาก ถึงจะมีเพลี่ยงพล้ำไปบ้างแต่ข้างกายเขาก็ยังมียอดฝีมืออยู่ตั้งสี่คน แถมหนึ่งในนั้นยังสามารถใช้เวทย์ฟื้นฟูรักษาบาดแผลได้อีก เท่ากับหายห่วงได้เลยว่าเจ้าม่วงจะบาดเจ็บจนเสียเลือดตาย

แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ...

“นี่ นาเทลเก่งมากมั้ยมึง?” ผมเบียดเชอเชสออกจนอีกฝ่ายเกือบหน้าทิ่มตกเตียงแล้วพุ่งไปกระซิบกระซาบถามไอ้ธาแทน เจ้าเพื่อนบ้านี่น่าจะได้เห็นฝีมือของเจ้าม่วงคนพี่มาบ้างแล้ว

ไอ้ธารีบพยักหน้าหงึกๆ ยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองข้าง ตอบกลับมาว่าฝีมือของนาเทลร้ายกาจสุดยอดมากกกกก

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเก่งโคตรเลยล่ะมึง! พริบตาเดียวนะ หมอนี่กวาดเจ้าพวกชุดดำหกเจ็ดคนราบในครั้งเดียว กูเห็นแล้วยังขนลุกเลย!”

เพื่อนผมที่ดูเหมือนจะผันตัวกลายเป็นแฟนคลับ No.1 ของเจ้าชายลำดับสองแห่งอาณาจักรแสงจันทร์ไปแล้วเล่าเรื่องย่อให้ฟังอย่างตื่นเต้น สงสัยจะได้ไปเห็นฉากต่อสู้ที่ลุ้นระทึกสุดๆ มาแบบชิดติดขอบสนาม ปากมันขยับขึ้นลงเหมือนจะเล่าทุกฉากทุกตอนออกมาให้ครบแบบไม่มีตกหล่นให้ฟัง ผมเลยรีบปิดปากมันไว้ ไม่ใช่ไม่อยากสอใส่เกือกอยากสอดรู้เรื่องวีรกรรมของคนอื่น แต่คือตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาป่ะวะ?

ผมเลื่อนสายตาไปมองคนที่ยืนยิ้มๆ เหมือนกระต่ายไม่มีพิษมีภัยแล้วทำใจเชื่อไม่ค่อยลง...

‘ถึงภายนอกเสด็จพี่จะดูเป็นเช่นนั้น แต่ได้โปรดเชื่อเถอะครับว่าเขาเป็นจอมเวทย์ที่ฝีมือมิได้ด้อยไปกว่าใครเลย’

เจ้าเด็กติดพี่ช่วยยืนยันอีกแรงเพื่อให้ผมวางใจ แต่ผมมันเป็นคนขี้ห่วงนี่ ต่อให้รู้ว่าคณะเดินทางชุดนี้แต่ละคนมีฝีมือเก่งเทพขนาดไหน แต่ยังไงนั่นก็ถิ่นศัตรู ไม่เคยได้ยินเหรอว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ หากเจอพวกนั้นปิดวงล้อมจนไร้ทางหนี คิดว่าไม่กี่ชีวิตที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันจะยังรับมือไหวอีกไหม

‘แค่รู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า...เท่านี้ก็เกินพอแล้ว’

เดี๋ยวนะ... มันเกี่ยวอะไรด้วย?

‘กำลังใจไงล่ะครับ ไม่เคยได้ยินหรือ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทหารทุกกองเดินหน้าได้ด้วยกำลังใจ’

เพิ่งจะเคยได้ยินก็วันนี้นี่ล่ะ...

ผมขมวดคิ้วเข้าหากันจนแทบจะมัดเป็นปมได้ ตามองเชอเชสที นาเทลที ก่อนมองตรงไปที่ไอ้ธาที่ยักไหล่แสยะยิ้มละเหี่ยใจ

“คิดมากอีกและ บอกไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าสมองอย่างมึงคิดเยอะไปมันก็เท่านั้น อยากทำอะไรก็ทำเลยดิวะ เอาที่มึงสบายใจ และไม่คิดเสียใจที่ได้ทำมัน” คนที่อยู่เคียงข้างผมมาตั้งแต่เด็กดีดหน้าผากผมดังเพียะ ความเจ็บเรียกสติผมให้กระพริบตาปริบๆ มองมันที่นั่งเก๊กท่าว่าหล่อมากอยู่กลางเตียง (เพราะข้างเตียงเจอเชอเชสยึดที่ไปแล้ว...)

พอได้รับคำแนะนำจากมันผมเลยยิ้มออก เชอเชสที่แอบรู้ล่วงหน้าว่าผมจะพูดอะไรรีบลุกขึ้นจากเตียงเตรียมพุ่งออกจากห้อง แต่ไม่ไวเท่ามือผมที่คว้าผ้าคลุมผืนยาวของเขาเอาไว้แล้วดึงให้กลับมานั่งลงตรงตำแหน่งเดิม

“ผมไปด้วย และนายห้ามปฏิเสธ!” มันคือประโยคคำสั่งที่ทำให้เชอเชสถึงกับครางฮือ

“ท่านวี...”

“ถ้าวีไป ฉันก็ไปด้วย!” ส่วนรายนี้เพียงแค่อยากเอี่ยวด้วย ดูก็รู้ว่าอยากออกไปเที่ยวนอกวัง ทั้งยังได้ออกเดินทางไกลไปถึงต่างแดน เรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้มีหรือที่คนรักสนุกอย่างไอ้ธาจะยอมพลาด

“ท่านธา...” นาเทลร้องครางเหมือนอยากปราม แต่พอเจอเจ้าเพื่อนตัวดีของผมย้ำชัดเจนอีกครั้งว่าจะไป เจ้าม่วงตัวพี่ก็ได้แต่งับปากยอมรับชะตากรรมว่างานนี้คงไม่พ้นตัวเองนั่นแหละที่ต้องคอยดูแลเพื่อนซี้ของผมอีกแล้ว

“มันอันตรายนะครับ” เชอเชสย้ำคำนี้อีกครั้งที่ผมเริ่มเบื่อจะฟังมันแล้ว

“คุณเชษฐ์เคยบอกไว้ ว่าถ้ามีผมอยู่ใกล้ๆ นายจะใช้พลังได้มากกว่าเดิม เพราะงั้นเอาผมไปด้วยนั่นแหละดีแล้ว”

“แต่มันอันตราย...”

“ผมดูแลตัวเองได้” ผมยิ้มเผล่ “อีกอย่าง ผมมีดีกว่าที่คุณคิดเยอะ รับรองไม่ไปถ่วงแข้งถ่วงขาพวกนายหรอกน่า”

“หึหึหึ ฉันก็เหมือนกัน” ไอ้ธาควงอาวุธสีขาวปลอดที่ไม่รู้ไปได้มาจากไหนอย่างคล่องแคล่ว ผมกับมันคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แบบรู้กัน มีแต่คนนอกเท่านั้นที่มองหน้ากันอย่างจนใจ

“ถ้าท่านวียืนกรานเช่นนั้น...ข้าจะนำเรื่องนี้ไปทูลขอกับเสด็จแม่เอง”

คุยกันรู้เรื่องอย่างนี้สิถึงจะน่ารัก!

“ไม่ต้องมายิ้มเลยครับ...”



เชอเชสกับนาเทลหน้าบูดหนักกว่าเก่าอีกเมื่อเสด็จแม่ของพวกเขายอมให้พวกผมร่วมเดินทางไปด้วย

พอรู้อย่างนั้น ผมเลยรีบให้ยาอุลเตรียมชุดที่เคลื่อนไหวสะดวกให้สองสามชุด ขอเป็นสีดำไม่ก็สีโทนเข้มทั้งหมด เจ้าสีเทาอ้าปากแย้งอยู่หลายครั้งว่ามันไม่เหมาะสม แต่ก็เจอผมตีกลับไปด้วยคำพูดที่ว่างานนี้พวกเราต้องลักลอบเข้าต่างแดนกัน บางทีอาจต้องมีหลบซ่อนตัวในป่า การแต่งสีสว่างเกินไปจะกลายเป็นจุดเด่นและนำพาอันตรายมาได้ นั่นแล เจ้ายาอุลตัวน้อยถึงได้ยอมจัดชุดสีดำให้ผมสามชุด ไม่ลืมจัดเก็บข้าวของจำเป็นที่จะต้องใช้ไว้ให้ในถุงย่ามอีกด้วย

มนุษย์กระต่ายนี่น่ารักกันจริงๆ เลยน้า~

ขณะที่ผมกำลังตรวจทานว่าลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า เจ้าม่วงที่ดูเหมือนจะทำใจเรื่องผมได้แล้วก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า ในมือยื่นดาบสั้นเล่มหนึ่งไว้ให้ใช้ป้องกันตัว แต่ผมกลับปฏิเสธที่จะรับมันไว้

“ทำไมล่ะครับ” ถ้าหูโผล่ ผมคงเห็นใบหูเรียวยาวสีม่วงของคนตรงหน้าลู่ลงเป็นกระต่ายหงอยที่โดนผมปฏิเสธความหวังดีไป

“ไม่ใช่รังเกียจที่จะรับของที่นายให้มาหรอกนะ แต่ผมมีมีดสั้นเหลือเฟือแล้ว” ผมชูมือข้างขวาให้เขาดู บนนิ้วชี้กับนิ้วกลางมีแหวนสวมอยู่นิ้วละวง วงหนึ่งเป็นสีขาวสะอาดเหมือนหลอมแหวนวงนี้ขึ้นมาจากหิมะ ส่วนอีกวงเป็นสีน้ำเงินเข้มที่ฝังพลอยสีฟ้าใสเอาไว้รอบวง นับรวมกันได้ทั้งหมดสิบสองเม็ด

“ของพวกนี้...” เชอเชสที่เพ่งแล้วเพ่งอีกช้อนตาคมขึ้นมองผมคล้ายกับต้องการคำยืนยัน

“ใช่ แม่นายให้ฉันตั้งแต่วันแรกๆ ที่มาเหยียบที่นี่แล้ว”

มันคืออาวุธเวทย์ที่เทพกระต่ายสร้างขึ้น ในแต่ละรุ่นเทพกระต่ายจะต้องใช้แรงกายและแรงใจหล่อหลอมอาวุธเหล่านี้ขึ้นมาสองชิ้นเพื่อมอบให้แก่ชายาแห่งดวงจันทร์รุ่นต่อไป หนึ่งอาวุธ หนึ่งเครื่องป้องกัน อยู่ในรูปแบบของเครื่องประดับที่แตกต่างกันไปตามความชอบของผู้ผลิต

“เทพกระต่ายสร้างมีดสั้นให้ท่านหรือ?”

เชอเชสลองคาดเดาจากสิ่งที่ผมเกริ่นทิ้งไว้ เขาไม่เคยรู้เรื่องแหวนพวกนี้มาก่อนเพราะคุณเชษฐ์อยากเก็บเอาไว้เซอร์ไพรส์หลานชายคนนี้เป็นพิเศษ น่าเสียดายที่เจ้าตัวดันไม่อยู่ในเวลาแบบนี้ ไว้ผมจะเก็บสีหน้าของเจ้าม่วงตอนนี้ไปใส่สีตีไข่เล่าให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นละกัน

“ใช่ มีถึงสิบสองเล่มแน่ะ ถ้านายเอามาให้พกอีกอันมันก็จะกลายเป็นเลขสิบสาม ไม่มงคลเลย” ว่าแล้วก็ดันมีดสั้นคุณภาพคับฟ้าส่งคืนเจ้าของที่พยักหน้าเข้าใจ เราคุยกันอีกนิดหน่อยเรื่องแผนการเดินทาง ไม่นานนักฟาฮากับเซริมก็เข้ามารายงานว่าเพื่อนผมกับนาเทลเตรียมตัวพร้อมแล้ว ผมกับนาเทลเลยเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ เพื่อคุยเรื่องรายละเอียดกันอีกที

“คณะเดินทางในครั้งนี้นอกจากองครักษ์ของข้ากับเสด็จพี่แล้ว ยังมีอีกสามคนที่ข้าอยากให้ท่านวีทำความรู้จักเอาไว้ เอ่อ...อันที่จริงท่านก็เคยเจอพวกเขาแล้ว... จะว่าอย่างไรดีล่ะ...ท่านพ่อเรียกพวกเขาว่า ‘พันธมิตรซ่อนเร้นใต้กลุ่มเงาจันทร์’ พวกเขาจะช่วยนำทางให้เราไปถึงที่ที่เทพกระต่ายถูกกักคุมตัวอยู่ และช่วยหาทางหนีทีไล่ให้หลังจากที่เราช่วยท่านเทพออกมาได้แล้ว”

ผมย่นคิ้วมองเชอเชสที่พูดตะกุกตะกักเหมือนลังเลที่จะบอกเล่าอะไรบางอย่าง แล้วมันอะไรน่ะ กลุ่มพันธมิตรใต้เงาจันทร์อะไรนั่น ผมเคยเจอพวกเขาด้วยเหรอ?

เชอเชสยิ้มแห้ง เหมือนเจ้าตัวก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ผมเข้าใจ เลยผลักบานประตูตรงหน้าออกให้ผมเข้าไปหาคำตอบด้วยตัวเอง

“ข้าว่าให้ท่านวีเห็นกับตาน่าจะเข้าใจเรื่องราวได้เร็วกว่านะครับ”


------------------------------------------------------------------
ตอบคำถามจากดวงจันทร์ถึงทางโลก(?)

Q : คุณตาณไม่ได้รักพระราชา แล้วทำไมถึงมีลูกด้วยกันถึงสี่คนล่ะคะ?

ตาณ : ใครว่าไม่ได้รักล่ะครับ (ยิ้ม) พวกคุณก็อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เชษฐ์พูดนักเลย ถ้ารู้จักมันดีเหมือนที่ผมรู้จัก คุณจะรู้ว่าคำพูดมันต้องหารเกินครึ่งตลอดครับ ส่วนเรื่องลูก อืม...(ทำท่าคิด) ผมว่ารอลุ้นต่อไปดีกว่าครับ เดี๋ยวคนเขียนก็เฉลยนะ (ยิ้ม)

ปล. ขอยื่นใบลาไปเที่ยวต่างจังหวัด 5 วันนะค้า กลับมาอีกทีหลังวันปีใหม่เลย

H a p p y    N e w   Y e a r ล่วงหน้าก๊าาา  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด