❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 547470 ครั้ง)

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
แกล้งป่วยเลยย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คิดถึงเรื่องนี้แหล่ะ

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
 :hao4: เดี๋ยวได้เจอกันแล้ว 555

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
พ่อคุณ ยังไม่ทันเจอหน้ากันเลย แกล้งป่วยใส่ซะแล้ว555555 พระเอกน่ารัก สุภาพบุรุษมากค่ะ รักเลย ผู้ชายในอุดมคติ (นักเขียนก็ด้วยค่ะ โนดราม่า เราติดทุกเรื่องเลย ฟินมาก ทำเรายิ้มได้ทุกเรื่องเลย)

ส่วนจ้าว น่ารักเหมือนกันเลยยยย อยากหยิกแก้มยังไงไม่รู้สิ นิสัยก็น่ารัก เป็นคนดีศรีสังคมมากมาย กริ๊ดค่ะ ติดตามๆ

ขอบคุณมากค่ะ ป.ล. รอหนังสือยูเซอยู่น้า55555

ออฟไลน์ KaMTaMl3T

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ละมุนมาก อ่านไปยิ้มไปจนปวดแก้มเลย :o8:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
กลับมาอ่านอีกรอบเลยกลับมาเม้นอีกรอบ (พอดีเพิ่งนึกได้เพิ่มค่ะ /อะไรคือความติ่งแรง 55555555)
คือจริงๆสำหรับเราสองคนนี้ยังไม่ต้องเจอกันก็ได้นะคะ คือเราไม่เบื่อการดำเนินเรื่องเลยซักนิด
อ่านแล้วเป็นแนวลูกกวาด ยิ้มๆ เขินๆ Slice of life สุดๆ ชอบแนวนี้เลยค่ะ ><
ค่อยๆลุ้นตามไปด้วยด้วยซ้ำ .. แต่ถ้าเจอกันก็โอเคนะคะ ยังไงก็จะรออ่านค่าาา <3

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อู้วววววว  คนแต่งคนเดียวกับเซโคร   :impress2:  คนแต่งนี้เก่งจิมๆแต่งเรื่องไหนก็ทำให้เราติดได้   :katai2-1:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
เมื่อไหร่จะมาน้ออ :hao5:

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :mew3:
เมื่อไรจะมา
กลับมาอ่านไปสองรอบแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
สนุกมากกกกกกกกกก อ่านไปยิ้มไป นายเอกเรื่องนี้น่ารักมาก ๆ ค่ะ พระเอกก็นิสัยดีมาก นาน ๆ จะเจอพระเอกนิสัยดี ๆ 5555+

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
น่ารักมากก สนุก บรรยายได้ดี

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :hao7: งื้ออออ อนากอ่านแล้ววว ติดตามมม เนื้อเรื่องน่ารักอ่านไปยิ้มไป

ออฟไลน์ เลิฟมี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เค้ารอตัวเองที่ท่าน้ำทุกวันเลยนร้า 55555555 :hao5: :hao5: คิดถึงราชาา   :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ rasblurry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบมากกกกเลยค่ะ เนื้อเรื่องละมุนมากเลย ดีใจด้วยที่ไม่ค่อยมีดราม่า เราก็ชอบนิยายที่อ่านแล้วยิ้มตามเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้เป็นต้นเลยย

ชอบที่ราชาแอบใจหายตอนนึกว่าจะไม่ได้รูปอีก แต่เราชอบตอนที่เพื่อนๆแซวนางมากเลย อ่านแล้วนึกถึงเด็กๆที่แซวเพื่อนตอนเพื่อนเริ่มจะจีบสาว แถมนึกถึงผู้ชายตัวใหญ่ๆสิบคนป้วนเปี้ยนที่กระเป๋าแล้วฮา

ตื่นเต้นมากที่ตอนหน้าเค้าจะเจอกันแล้วว :hao5: งือวว เขินล่วงหน้าไปแล้ว 5555

ออฟไลน์ omelet

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
รอ วันมาเจอกันๆ ฮิ้วๆ

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
แอบรัก⊰❤⊱วันที่5



การรับงานถ่ายภาพนอกสถานที่เป็นสิ่งที่เหนื่อยที่สุดตั้งแต่ทำงานมาเลย...ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนเช้าเหมือนนักเรียนคนอื่นที่ต้องเข้าแถวตอน8โมงทั้งวรานนท์และเจ้าของร้านอย่างอาวิก็ต้องมาเช้าพอๆกันเพราะพอเลิกแถวก็มีการจัดตารางให้ถ่ายต่อทันทีแถมยังมีเวลาพักแค่ตอนทานข้าวกลางวันเท่านั้นเอง

ทำให้เกือบอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไม่ได้ไปไหนนอกจากมาถ่ายรูปที่โรงเรียนสหศึกษาแล้วกลับไปนอนพักที่บ้านเป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์จนในที่สุดทุกอย่างก็เสร็จหมดแล้วเลยได้แวะไปที่สวนสาธารณะที่ไม่ได้ไปมาเกือบอาทิตย์สักหน่อยแต่ใครจะคิดละว่าในขณะที่กำลังถ่ายภาพสนามเปตองจากด้านข้างของเครื่องขายน้ำอัตโนมัติจะได้เจอคนที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานอย่างราชา

ท่าทางของเขาดูไม่ค่อยดีจนต้องเงี่ยหูฟังจนได้ใจความว่าอีกฝ่ายกำลังปวดหัวและด้วยความโชคดีหรือพระเจ้าประทานพรมาให้ก็ไม่รู้ทำให้ดวงตาสีเขียวปนเทาเหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้สีดำของราชาวางอยู่ด้านข้างพอดี นั่นทำให้ผมตัดสินใจไปซื้อยาพร้อมกับเครื่องดื่มชูกำลังใส่ลงไปให้แต่ถ้าใส่ลงไปเลยก็กลัวกระเป๋าจะเปียกเลยหาถุงใส่ให้พร้อมกับรูปภาพที่ถ่ายจากมุมสูงของโรงเรียนที่พึ่งอัดเสร็จ

ไม่รู้ว่าเขาจะรำคาญผมไหมที่ทำอะไรแบบนี้ไปตั้งหลายครั้ง

อยากจะหยุดแต่พอเห็นบ่นว่าไม่สบายมันก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมา

“อื้ม...สบายตัวจังเลย”ผมพูดเสียงดังพร้อมยืดตัวขึ้นจนสุดหลังจากที่พึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่...เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นที่ถูกใส่แทนชุดนอนจนกลายเป็นเรื่องปกติเลิกขึ้นเล็กน้อยจากการยืดตัว

ครืดดดด~

เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้ดวงตาสีเขียวปนเทาหันไปมองซ้ายขวาเพื่อหาโทรศัพท์ของตนก่อนจะเดินไปยังโต๊ะคอมที่จำได้ว่าวางเครื่องมือสื่อสารไว้ที่นั่น

“ครับแม่”ผมรับสายทันทีเมื่อรู้ว่าใครโทรมาหากลางดึกแบบนี้

(ข้าวจ้าว...เป็นไงบ้างลูกไม่โทรมาตั้งนานแม่เป็นห่วงนะ)เสียงจากปลายสายแสดงถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

“พอดีติดงานนอกสถานที่เลยไม่ค่อยมีเวลา...ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อไปนะครับ”ผมอธิบายให้ปลายสายฟัง

(ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...ข้าวสวยถามถึงพี่ชายว่าเมื่อไหร่จะกลับมาสักที)

ข้าวสวยที่แม่พูดถึงคือน้องสาวที่ผมเคยบอกไปว่าตอนนี้เรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่6...อีกเทมอเดียวก็จะจบแล้วเห็นว่ากำลังจะสอบชิงโควตาที่หมาวิทยาลัยเดียวกับผมอยู่แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไหม

“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างเลยครับ...ถ้าว่างเมื่อไหร่จะติดต่อไปนะครับ”สายตาผมเลื่อนไปมองปฏิทินที่แขวนอยู่ตรงผนังก่อนจะตอบปลายสายไป

(อย่าหักโหมงานมากนักนะลูก...ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องส่งเงินมาให้ทุกเดือนก็ได้)

“พูดอะไรแบบนั้นครับ...ผมอยู่สุขสบายดีแม่ไม่ต้องห่วงนะส่วนเงินที่ผมส่งไปถ้าไม่ได้ใช้ก็เก็บไว้เป็นค่าเทมอข้าวสวยก็ได้”

(จ้าพ่อลูกชาย)

“คิดถึงแม่นะครับ...คิดถึงพ่อกับน้องสาวด้วย”ผมบอกพร้อมกับถอดสายตาไปยังหน้าต่างที่ปรากฏภาพของท้องฟ้ายามราตรีที่มืดมิดจนแทบมองไม่เห็นดาว

(คิดถึงข้าวจ้าวเหมือนกัน...มีอะไรโทรมาบอกแม่บ้างนะ)

“ครับแม่...ฝันดีครับ”

(ฝันดีข้าวจ้าว)

พอวางสายจากแม่ผมก็ล้มตัวลงนอนแผ่บนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า...ความเหนื่อยที่มีมันมากพอจะทำให้สลบไสลไปได้ง่ายๆแต่พอภาพของราชาปรากฏขึ้นมาในหัวความง่วงที่มีก็กลับหายไปซะอย่างนั้น

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ได้อยู่ใกล้ๆโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม...คงไม่บ่อยที่ราชาจะลืมกระเป๋าเป้ไว้โดยที่ผมอยู่แถวนั้นบ่อยๆหรอกยิ่งหลังจากลืมแล้วเจอของที่ใครก็ไม่รู้ใส่เอาไว้เป็นผมก็ผวาจนไม่กล้าลืมไว้ที่ไหนอีกแน่

ความเหนื่อยที่แล่นเข้ามาจู่โจมจนไม่อาจฝืนได้ทำให้ผมหลับไปพร้อมกับภาพของราชาที่ปรากฏอยู่ในหัวตลอดทั้งคืน...อยากขออีกสักครั้งที่มีโอกาสได้ให้ภาพถ่ายของตัวเองกับราชา...

ขอแค่อีกครั้งแล้วผมจะกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองตามเดิม


เช้าวันจันทร์เต็มไปด้วยความวุ่นวายมากสำหรับวรานนท์เริ่มตั้งแต่ตื่นสายเพราะนาฬิกาปลุกที่วางไว้บนหัวเตียงดันไม่เดิน พอจะอาบน้ำ...น้ำก็ดันไม่ไหลจนต้องตักน้ำอาบแทนแถมพอจะออกจากห้องก็ดันลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องอีก...เรียกว่าซวยกันแบบไม่หยุดหย่อนจนเริ่มมีลางสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ

“ขอโทษที่มาสายครับอาวิ...น้าแก้ว”ผมพูดขอโทษพร้อมกับทักทายเจ้าของร้านทั้งสองคนที่อยู่ด้านใน

“มาแล้วเหรอหนูข้าว...หอบมาแบบนี้กินมื้อเช้ามารึยังเอ่ย?”น้าแก้วเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม

“ยังเลยครับ...พอดีนาฬิกาปลุกเสียน่ะครับ”

“งั้นไปกินข้าวผัดที่น้าทำที่ด้านหลังสิกำลังอุ่นๆเลย”น้าแก้วพูดพร้อมกับจับแขนผมลากไป

“อาวิ”เสียงนุ่มรีบหันไปหาเจ้าของร้านที่นั่งจิบกาแฟอย่างขอความเห็น

ผมมาช้าแล้วยังให้ไปกินมื้อเช้าอีกเหรอ?

“ไปกินเถอะ...ตอนนี้ยังไม่มีงานอะไร”

“ขอบคุณครับ”ทันทีที่ได้รับอนุญาตน้าแก้วก็รีบดึงแขนผมให้เดินตามไป

มื้อเช้าในช่วงสายได้ผ่านไปพร้อมกับการทำงานภายในร้านวันนี้มีนักศึกษาหลายคนเข้ามาใช้บริการในการถ่ายรูปด่วน ช่วงเดือนนี้เป็นช่วงก่อนรายงานตัวของมหาวิทยาลัยพอดีเลยมีนักเรียนหลายคนเข้ามาใช้บริการมากกว่าปกติ

งานยุ่งแค่ช่วงเช้าเท่านั้นในช่วงบ่ายผมได้ขอเข้าไปใช้สตูดิโอชั้นสองเพื่อวาดรูปที่ไม่ได้ทำมาหลายเดือน...ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเอาแต่ถ่ายรูปอย่างเดียวจนไม่มีเวลาวาดภาพเหมือนอย่างเคย

ผมชอบการวาดภาพพอๆกับการถ่าย...ทั้งสองอย่างเหมือนเป็นชีวิตของผมถึงแม้รายได้จะน้อยแต่ก็คุ้มค่าที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแบบนี้ ความรู้สึกดีเริ่มแล่นเข้ามาเมื่อจรดปลายพู่กันลงบนกระดาษสีนวลแผ่นใหญ่ตรงหน้ามือเรียวเริ่มใช้ปลายพู่กันปัดป่ายไปทั่วโดยไม่มีแม้แต่การร่างแบบ...

สิ่งที่ทำมีเพียงตะหวัดพู่กันไปมาพร้อมเปลี่ยนสีและขนาดของอุปกรณ์วาดรูปเท่านั้น...ดวงตาสีเขียวปนเทามองผ่านเลนส์แว่นไปยังทุกลายเส้นที่ได้รังสรรค์คออกมาอย่างเหม่อลอยราวกับถูกสิ่งตรงหน้าดึงดูดไปจนไม่เหลือสติอะไรนอกจากการวาดภาพตรงหน้าเท่านั้น


“...จ้าว”

“ข้าวจ้าว!”

กึก!

“...อาวิ”คนที่นั่งวาดภาพอยู่หยุดมือที่กำลังจุ่มปลายพู่กันลงในถาดสีพร้อมหันหลังไปมองตามเสียงเรียกอย่างงงๆ สติที่หายไปค่อยๆกลับเข้าร่างอีกครั้งด้านหลังมีอาวิกำลังยืนกอดอกอยู่

“อาเรียกตั้งนานแล้วนะ...เรานี่เวลาวาดภาพที่ไรเป็นแบบนี้ทุกที”

“ขอโทษด้วยครับ”

“อาไม่ได้ว่าเราจะบอกว่าสุดยอดต่างหาก...หาไม่ง่ายหรอกนะคนที่จะมีสมาธิจดจ่อกับภาพได้มากขนาดนี้”อาวิบอกพรางเดินเข้ามาใกล้โดยที่สายตาจ้องไปยังภาพตรงหน้าที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

“ขอบคุณครับ...แต่อาเก่งกว่าผมอีกนี่”คนถูกชมบอกกลับไป

อาวิเองก็วาดภาพเก่งมากโดยเฉพาะภาพที่ใช้โปรสเตอร์...ทุกภาพที่เคยเห็นราวกับมันมีชีวิตและคนที่ทำให้มันมีชีวิตก็คือคนที่วาดภาพนั้นขึ้นมาหรือก็คืออาวินั่นเอง

“ช่วงนี้อาไม่ค่อยมีอารมณ์ในการวาดแบบนั้นแล้ว...อาจถึงเวลาที่ต้องเลิกแล้วก็ได้”อาวิบอกเสียงเศร้า

“พูดอะไรครับอา...ขอแค่เราชอบและสนุกที่ได้วาดก็พอแล้วไม่จำเป็นต้องวาดออกมาให้ถูกใจใครขอแค่เราพอใจแค่นั้นก็เพียงพอแล้วนี่ครับ”

“...นั่นสินะ...ไว้วันไหนอาจะสอนใช้สีโปรสเตอร์”อาวิหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่ไหวหรอกครับ...ผมวาดได้แค่สีน้ำเท่านั้นอาก็รู้นี่”เสียงนุ่มตอบกลับไปพร้อมส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา

มีหลายคนอาจคิดว่าสีโปรสเตอร์กับสีน้ำเหมือนกันแต่ความจริงมันแตกต่างกันมาก...และมากจนผมไม่สามารถใช้สีโปรสเตอร์ได้ดั่งใจ เคยมีหลายครั้งที่ลองใช้สีโปรสเตอร์แต่รูปที่ออกมาก็ไม่เป็นที่พอใจสักเท่าไหร่จนต้องเลิกใช้ไป

แนวรูปของผมเน้นความอ่อนช้อยของเส้นที่ปัดป่ายไปมาจนเกิดรูปร่างและการประสานของสีอันหลากหลายให้กลมกลืนกันทำให้มองแล้วสบายตาไม่เหมือนกับอาวิที่เน้นไปทางความเข้มของสีที่ถูกแต่งแต้มจนแต่ละรูปมีหลายมิติราวกับมองความจริงที่อยู่ตรงหน้า

“อ่า...นั่นสิ...ครั้งล่าสุดที่จ้าวใช้สีโปรสเตอร์...ภาพก็ดูศิลป์ดี”เสียงที่เอ่ยปากชมนั่นดูจะพยายามใช้คำมากจนคนที่รอฟังอยู่ต้องหลุดขำออกมาอีกรอบ

“ไม่ต้องพยายามชมหรอกครับ...ทุกคนต้องมีสิ่งที่ไม่ถนัดกันทั้งนั้น”

“นั่นสินะเหมือนอาใช้สีน้ำไม่คล่องเท่าสีโปรสเตอร์สินะ”

“ครับ...ว่าแต่อามีเรื่องอะไรเหรอครับ?”เมื่อนึกได้ก็ถามออกไป ค่อยข้างแปลกที่อาวิจะเข้ามาให้ในตอนที่ผมกำลังวาดภาพนี่อยู่

“อ้อ...จะบอกว่าอากับน้าแก้วต้องไปธุระข้างนอกถ้าจ้าวยังอยากวาดต่อพอเสร็จก็ช่วยล๊อคร้านไว้ให้ด้วย”

“ผมกลับเลยดีกว่าครับ”ผมตอบกลับ

“แล้วรูปล่ะ?”

“ไว้มาต่อพรุ่งนี้ครับ”

“ได้ๆ...เจอกันพรุ่งนี้จ้าว”

“ครับอา”

พอจัดการเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ลงไปบอกลาเจ้าของร้านที่ยืนอยู่หน้าร้านอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะออกไปทำธุระกัน ผมมองนาฬิกาข้อมือที่พึ่งบอกเวลาบ่ายสามโมงกว่าอย่างครุ่นว่าจะเอายังไงดีแต่ในจังหวะที่กำลังคิดภาพของสวนสาธารณะและคนที่ตนแอบรักก็ผุดขึ้นมาในหัวจนต้องรีบสะบัดมันทิ้งไปโดยเร็ว

“...อย่าไปเชียวนะ”ผมบอกตัวเองแล้วเดินไปขึ้นมอเตอร์ที่อยู่ข้างร้าน ทั้งที่ในหัวปฏิเสธแทบตายว่าอย่าไปแต่สุดท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองก็หยุดลงตรงที่จอดรถภายในสวนสาธารณะอีกจนได้

ทำไมร่างกายถึงไม่ฟังคำสั่งเจ้าของแบบนี้นะ?

“เฮ่อ...”ร่างโปร่งของข้าวจ้าวเดินไปเรื่อยๆตามทางเดินพรางถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

ในเมื่อมาแล้วก็ควรถ่ายรูปสักหน่อย

พอคิดได้แบบนั้นผมก็เดินไปยังสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ปลายทางของสวนสาธารณะแห่งนี้...สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีดอกบัวบานและฝูงปลาหลายสายพันธุ์กำลังว่ายเล่นอยู่ภายใน บรรยากาศสบายๆทำให้กล้องที่ถูกพกติดตัวมาเสมอถูกยกขึ้นพร้อมถ่ายภาพสระน้ำกว้างตามมุมต่างๆ

แว่นสายตาที่เกะกะเล็กน้อยตอนที่ต้องมองผ่านเลนส์กล้องแต่ถ้าชินแล้วก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไร...มีหลายคนที่ถามว่าทำไมไม่ใส่คอนแทคเลนส์และคำตอบที่ได้รับไปก็เหมือนกันทุกครั้งไป...

อาย

ใช่...ผมอายที่จะโชว์ใบหน้าของตัวเองแบบนั้น

ด้วยสีผมที่แปลกตาก็เด่นพอแล้วแต่ดวงตาสีเขียวปนเทายิ่งเด่นกว่ามากอย่างน้อยถ้าใส่แว่นอยู่ก็ช่วยทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรคอยบังสีตาของตัวเองทำให้ไม่อายมากตอนที่ต้องอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ

ดวงตาคู่สวยมองวิวของสระผ่านทางเลนส์ต่อไปอีกสักพักก่อนจะเลื่อนกล้องไปตามศาลาสำหรับพักผ่อนที่อยู่ด้านข้างไปจนถึงสะพานที่พาดผ่านสระน้ำตรงกลาง...กลุ่มของชายหนุ่มเกือบสิบคนผ่านเข้ามาในเลนส์ก่อนที่ร่างที่แสนคุ้นเคยจะเดินตามหลังมาถึงจะมีหน้ากากอันมัยปิดอยู่ผมก็ยังจำเขาได้อยู่ดี...

คนที่ผมแอบชอบมาตลอด11ปี...

ราชาคนนั้นไง

“...”ผมถึงกับพูดไม่ออกเลยกับภาพที่เห็นตรงหน้า อาจเป็นเพราะมองผ่านเลนส์กล้องทำให้มีความกล้าในการมองตามมากขึ้นละมั้งผมถึงมองใบหน้าของราชาอยู่ตลอดจนกลุ่มของเขาผ่านมาทางนี้

พอเห็นกลุ่มของราชากำลังจะผ่านมาผมก็นั่งลงที่ม้านั่งพรางยกกล้องขึ้นแล้วหันไปยังทิศของสระน้ำเพื่อหลบหน้าอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินผ่านด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นและเขินอาย

บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเขินอายไปทำไม

“เฮ้ยราชาไม่เป็นแน่นะ?”เสียงของชายคนหนึ่งในกลุ่มดังขึ้นที่ด้านหลังของข้าวจ้าว...ฟังจากเสียงน่าจะเป็นหนึ่งในฝาแฝดไม่ต้นก็เต้ย

ชื่อของคนที่อยู่ในบทสนทนาทำให้คนที่กำลังถือกล้องอยู่เกร็งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ...

ราชาเป็นอะไร?

“แค่ก...อืม...พอไหว”เสียงทุ้มไอเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมา

ไอแบบนั้นมันพอไหวที่ไหนกัน?

ผมอยากหันไปถามประโยคนี้กับราชาจริงๆ

“ไม่น่าฝืนเล่นน้ำทั้งที่ไม่สบายเลย”เสียงของชายอีกคนดังขึ้น

เล่นน้ำ?

ทั้งที่ไม่สบายอยู่แต่ดันไปเล่นน้ำเนี่ยนะ?

ถ้าไม่สบายหนักขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ?

แล้วกินยาแก้หวัดกับแก้ไอไปรึยัง?

ไม่สิ...อาการแบบนี้อาจตัวร้อนด้วยต้องกินยาลดไข้

ในหัวของผมตอนนี้กำลังตีกันมั่วไปหมดแล้ว..อยากจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปร้านขายยาซะตอนนี้แต่ถ้าทำแบบนั้นต้องผิดสังเกตแน่และถึงจะไปซื้อก็คงไม่มีโอกาสได้เอายาพวกนั้นไปให้เจ้าตัวหรอก

“...แค่ก...อยากได้ยาลดไข้จัง”

“ทนๆไปก่อนน่าเพื่อน...ไปกินข้าวโรงอาหารกันแล้วพวกเราจะปล่อยให้กลับบ้านไปพักสบายๆ”คำพูดในกลุ่มเพื่อนดูจะไม่ค่อยสนใจราชาสักเท่าไหร่ทำให้คนที่ฟังอยู่ครุ่นคิดหนักกว่าเดิมว่าควรทำยังไงดี

กว่าจะได้คำตอบราชาและเพื่อนกลุ่มใหญ่ก็เดินจากไปไกลแล้วแต่ก็เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้วิ่งไปซื้อยาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

“ขอยาลดไข้...ยาแก้ไอ...อ่อ...แผ่นเจลลดไข้แล้วก็ยาอมแก้เจ็บคอครับ”พอถึงร้ายขายยาผมก็สั่งยาโดยไม่รอแม้แต่คำทักทายจากเจ้าของร้าน

เมื่อได้ยามาแล้วก็กลับเข้ามาในสวนสาธารณะอีกครั้งพร้อมทั้งหันซ้ายขวาเพื่อดูว่าราชาไปอยู่ไหนก่อนจะนึกได้ว่าพวกเขาบอกจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร สองขาของข้าวจ้าววิ่งตรงไปยังสถานที่นั่นอย่างรวดเร็วและชะลอลงเมื่อคิดไม่ออกว่าจะให้ถุงยานี่กับราชายังไง

ขืนตรงเข้าไปหาแล้วยื่นให้ตรงๆก็เป็นการเปิดตัวว่าตัวเองเป็นสตอล์กเกอร์พอดีสิ

ไม่อยากความแตก

แต่ก็อยากให้อีกฝ่ายได้กินยาเหมือนกัน

อาการไม่รู้ว่าจะหนักขนาดไหนถ้าขับรถไหวก็คงดี

ระหว่างที่กำลังหาวิธีดวงตาสีเขียวปนเทาก็เหลอบไปมองเห็นกระเป๋าเป้ใบดำที่แสนคุ้นเคยวางอยู่บนม้านั่งด้านข้างกับโรงอาหาร...ความรู้สึกแรกที่เห็นบอกได้เลยว่าไม่น่าไว้ใจ...

ไม่น่าไว้ใจสุดๆ

ไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้นแต่ความรู้สึกมันบอก...ผมคิดว่าราชาไม่น่าใช่คนขี้ลืมขนาดนั้น

นี่อาจเป็นกับดัก?

“...บ้าแล้ว”ผมพึมพำเสียงเบา

คิดเรื่องเป็นการ์ตูนไปได้...ผมหันไปมองรอบทิศเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีใครมองอยู่ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้กระเป๋าเป้สีดำพร้อมเปิดกระเป๋าออกแล้วใส่ถุงยาที่พึ่งซื้อมาเข้าไปด้านในโดยที่มืออีกข้างก็หยิบรูปที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเองออกมาก่อนจะจรดปากหมึกดำด้ามโปรดลงไปบนภาพนั่นนั่นแล้วเอาใส่ไปไว้ในกระเป๋า

ภาพที่มีข้อความสั้นๆที่เขียนว่า...

‘หายเร็วๆนะราชา’

“เฮ่อ...”ผมถอนหายใจออกมาเมื่อไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหมือนที่ลางสังหรณ์บอก

“ทำอะไรกับกระเป๋าเพื่อนผมน่ะ?”เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ร่างโปร่งที่นั่งอยู่รีบหันไปมองอย่างรวดเร็วก่อนจะเจอชายสองคนที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ

เต้ยกับต้น?

ผมรู้จักสองคนนี้นะเพราะเคยเรียนห้องเดียวกันตอนมัธยมปลายถึงหน้าตาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ผมก็ยังคงจำได้แม่น...แต่ที่ผมควรสนใจตอนนี้คือจะทำยังไงต่อไปดี

นี่ผมกำลังจะถูกจับ?

“...อ่อ...คือผม...”เสียงนุ่มเอ่ยเสียงติดขัดก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วคิดจะวิ่งหนีไปทางโรงอาหาร

“อย่าหนีดีกว่าน่า”เพชรพูดขึ้นแล้ววิ่งเข้ามาขวางหน้าผมไว้

“...”เอาไงดีทั้งด้านหลังด้านข้างถูกคนกันไว้หมดเลย

ที่เหลือก็มีแค่ด้านหน้าที่เป็นทางเดินไปยังที่จอดรถเท่านั้น...พอคิดได้ก็รีบถอยออกมาจากผู้ชายตรงหน้าแล้ววิ่งตรงไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีกคนดักรออยู่แล้ว

ตุบ!

ร่างกายของผมกระแทกเข้ากับร่างกายของคนตรงหน้าเข้าอย่างจังจนเซไปด้านหลัง...สมองเริ่มมึนงงจากการกระแทกเมื่อครู่แต่กลิ่นที่สัมผัสได้ตอนชนทำให้ทั้งร่างแข็งทื่อจนไม่มีแรงขยับไปไหน

“...รา...ชา”ผมเรียกชื่อของคนที่มาขวางหน้าด้วยความตกใจ

ราชายืนล้วงมือสองข้างเข้าในกางเกงสามส่วนสีเขียวขี้ม้าโดยที่ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมาที่ผมเขม็ง...เมื่อถูกสายตานั่นมองมาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกทั้งตื่นเต้นทั้งเขินอายทั้งกังวล ความรู้สึกทุกอย่างเหมือนจะปะทุออกมาภายนอกซะให้ได้

“อืม...ผมชื่อราชา...แล้วคุณล่ะชื่ออะไร?...คุณช่างภาพ”เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนจะคลียิ้มออกมาบางๆ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มหน้าผมก็รีบก้มหน้าตัวเองลงเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเห็นว่าตอนนี้หน้าผมมันแดงมากแค่ไหน

เขาบอกว่าคุณช่างภาพแปลว่าเขารู้ว่าผมเป็นคนใส่ของพวกนั้นลงในกระเป๋า

ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ?

อย่าบอกนะว่านี่เป็นกับดักจริงๆน่ะ

“....”ทำไงดี...นี่ผมจะหลุดออกจากสถานการณ์ในตอนนี้ได้ยังไง

“ว่าไงครับ?”ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มนั้นในระยะประชิดก็ยิ่งทำให้ในหัวว่างเปล่า

“...ขอ...โทษ”ผมเอ่ยคำนั้นออกไปเสียงเบา

อีกฝ่ายต้องโกรธแน่กับสิ่งที่ผมทำลงไป

“เดี๋ยว...คือผมไม่...”

“ผมขอโทษที่ทำแบบนี้!...ผมจะไม่ทำอีก!....ขอโทษจริงๆนะครับ!”ผมรีบพูดต่อเสียงดังพร้อมกลั้นใจวิ่งเข้าหาคนที่ยืนขวางอยู่แล้วผลักราชาให้หลีกทางไปก่อนจะวิ่งหนีออกมาได้สำเร็จ

“เดี๋ยวก่อน!”

เสียงตะโกนที่ตามหลังมาไม่ได้ทำให้คนที่วิ่งหยุดวิ่ง ทันทีที่ถึงมอเตอร์ไซค์ก็รีบขับออกไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น...ตอนนี้ดวงตาสีเขียวปนเทาคลอไปด้วยน้ำตาที่ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกเศร้าแบบนี้

เพียงแค่ไม่สามารถมอบภาพถ่ายของตัวเองให้ราชาได้อีกแล้ว...ความคิดนั่นยิ่งทำให้น้ำตาเอ่อล้นจนแทบมองทางไม่เห็นแต่ด้วยเวลานี้เป็นช่วงยังไม่เลิกงานทำให้รถที่อยู่บนถนนมีน้อยเลยสามารถประคับประคองไปจนถึงห้องพักตัวเองได้


(มีต่อนะคะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)


ร่างกายของวารนนท์ทรุดฮวบอยู่หน้าห้องทันทีที่ปิดประตูลง...น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เหมือนสิ่งที่อัดอั้นถูกระเบิดออกมา...

สิ่งเดียวที่สามารถสื่อไปถึงราชาได้ผมไม่อาจทำมันได้อีกแล้ว

ไม่รู้ว่าเขาจะแจ้งความจับผมรึเปล่าที่ทำแบบนั้นลงไป

ตั้งแต่นี้ไปคงไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เขาอีกแล้ว

ความบังเอิญที่ทำให้เราเจอกัน มันคงดีที่สุดถ้าผมหยุดอยู่ในที่ของตัวเองและไม่ก้าวล้ำเส้นเข้าไปจนเป็นอย่างตอนนี้...ตอนที่ผมไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้อีก

ตลอดทั้งคืนผมเอาแต่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงของตนโดยที่น้ำตายังคงไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย...ผมเฝ้าบอกตัวเองว่าเพียงแค่ได้มองหรือดูแลเป็นบางครั้งก็มากเกินพอแต่ตัวผมกลับโลภมากพอเห็นว่ามีโอกาสก็ทำสิ่งเดิมซ้ำๆกันจนราชาทนไม่ไหวถึงกับต้องวางแผนเพื่อจับผมแบบนี้

อยากย้อนเวลากลับไปได้จะห้ามตัวเองไม่ให้ทำแบบนั้น

“...ผมขอโทษ...จริงๆ”

ควรจะขอโทษดีๆแต่สิ่งที่ทำลงไปคือตะโกนใส่แล้วผลักจนราชาล้มลงไปกองกับพื้นปูน...การกระทำบ้าๆของตัวเองทำให้คนที่แอบรักต้องมาเจ็บตัวทั้งที่เขาไม่ได้ผิดเลยสักนิด

คนที่ผิดคือผมเอง

แสงแดดที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างที่ไม่ได้ถูกปิดม่านไว้ทำให้ร่างของคนบนเตียงค่อยๆขยับตัวอย่างเชื่องช้า...อยากจะลุกขึ้นแต่ตอนนี้ขยับตัวไม่ไหวแล้วทั้งร่างมันหนักเหมือนมีอะไรทับอยู่โดยเฉพาะหัวที่ปวดมากจนไม่กล้าขยับตัว

นี่ผมไม่สบายสินะ

แถมยังดูเหมือนจะหนักน่าดูด้วย

เรื่องของราชาทำให้ผมเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

“...ทำไมต้องมาเจอกันอีกด้วยนะ”เสียงนุ่มที่ตอนนี้แหบพร่าดังขึ้นเบาๆพรางซุกใบหน้าลงบนหมอนใบโตอีกครั้งหนึ่ง

ครืดดดด~

เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารทำให้คนที่สะลึมสะลือพลิกตัวด้วยความยากลำบากก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา เมื่อเห็นว่าปลายสายคือน้าแก้วก็รีบรับทันที...

“...ครับน้าแก้ว”แค่พูดทักทายหัวก็ปวดจี๊ดจนต้องนอนลงกับเตียงอีกครั้ง

(พึ่งตื่นเหรอข้าว?...ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นล่ะไม่สบายเหรอ?)เสียงจากปลายจากดังขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ครับ...ผมปวดหัวนิดหน่อย”

(ไหวไหมข้าว...วันนี้ไม่ต้องมาทำงานนะนอนพักไปเดี๋ยวน้าไปหาที่ห้อง)

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ”

(ไม่ได้ๆ...ดูจากเสียงก็ไม่ไหวแล้ว...กุญแจสำลองยังอยู่ที่เดิมใช่ไหม?)

“ครับน้า”

(เดี๋ยวน้าจะต้มโจ๊กไปให้นะ...พักผ่อนเยอะๆรู้ไหม?)

“ได้ครับ...ขอบคุณมากครับ”

พอวางสายไปผมก็สลบไปอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว...รู้ตัวอีกทีน้าแก้วก็เดินมาปลุกพร้อมกับยกถ้วยข้าวต้มหอมๆมาไว้ตรงหน้าแล้ว น้าแก้วดูแลผมอย่างดีตั้งแต่ช่วงสายจนถึงช่วงเย็นก่อนจะกลับไปที่ร้านโดยก่อนกลับน้าก็ยังให้ผมกินยาลดไข้อีกเม็ด

ผมไม่สบายไปสามวันติดก่อนที่วันที่สี่อาการจะค่อยๆดีขึ้นจนในวันที่ห้าก็หายเป็นปกติ...การป่วยครั้งนี้ดูจะนานกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นอาจเป็นเพราะไม่ใช่ร่างกายที่ป่วยแต่เป็นใจต่างหากที่ป่วย

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมเฝ้าคิดมาตลอดว่าควรจะทำยังไงดีจนในที่สุดก็หาคำตอบให้ตัวเองได้...

ผมจะไปขอโทษราชาตรงๆ

อย่างน้อยถ้าไปขอโทษเรื่องก็อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดแต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะยอมรับฟังมันรึเปล่า...การเอาของไปใส่ไว้ในกระเป๋าของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามถ้าผมไม่ได้ไปขอโทษอีกฝ่ายดีๆผมก็คงคาใจอยู่แบบนี้ต่อไปแน่

เพราะงั้นเลยตัดสินใจว่าจะไปขอโทษ...แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ

ขอทำใจโดนว่าอีกสักหน่อยค่อยไป

“มาแล้วเหรอจ้าว...หายดีแล้วใช่ไหม?”อาวิถามเมื่อเห็นผมขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดข้างร้าน

“สวัสดีครับอา...ผมหายดีแล้วล่ะว่าแต่จะไปไหนกันเหรอครับ?”เสียงนุ่มถามเมื่อเห็นรถเก๋งสีเทาของอาวิจอดอยู่หน้าร้านโดยที่ท้ายรถถูกเปิดอยู่

“มีบริษัทหนึ่งจ้างให้เราไปเป็นช่างภาพของโปรเจคโปรโมทการท่องเที่ยวน่ะ”

“อาวิรับงานแล้วเหรอครับ?”

“อืม...รับตอนที่เรานอนป่วยอยู่น่ะเห็นว่ามีการถ่ายนอกสถานที่ด้วยอาเลยอยากให้เราลองทำดูถือเป็นประสบการณ์ใหม่”

“งานนี้อาไม่ได้ไปคนเดียวเหรอครับ?”ผมถามขึ้นด้วยความสงสัยโดยปกติถ้ารับงานนอกสถานที่จะมีคนหนึ่งที่อยู่เฝ้าร้านเผื่อมีลูกค้ามา

“เราต้องไปเป็นผู้ช่วยด้วย...งานนี้ไม่ใช่ถ่ายภาพธรรมดา”

“...”คำพูดของอาวิทำให้ผมนั่งคิดมาจนรถเก๋งคันสีเทาถึงที่บริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเราเท่าไหร่

บริษัทขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราและมีตึกมากมายตั้งอยู่ภายในแปลว่าบริษัทนี้ต้องเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงแน่...ถือว่าแปลกที่บริษัทยักษ์ใหญ่จะมาจ้างช่างภาพอิสระในร้านเล็กๆมาร่วมทำงานแบบนี้

ภายในหัวคิดไปเรื่อยเปื่อยจนรถคันเทาแล่นผ่านป้ายขนาดใหญ่ที่มีชื่อบริษัทเขียนอยู่...ชื่อบริษัทที่เห็นทำให้ดวงตาสีเขียวปนเทาถึงกับเบิกกว้างผ่านเลนส์แว่นด้วยความตกตะลึง...

ตาฝาดใช่ไหม?

มันไม่มีทางที่บริษัทนั้นจะจ้างพวกเราได้

“อาวิ”

“อะไรจ้าว?”

“ผมขอถามชื่อบริษัทที่เราต้องร่วมงานด้วยได้ไหม?”ผมถามออกไป

“หื้อ?...ป้ายชื่อก็พึ่งผ่านมานี่”

“คือ...”

“อ้อ...อ่านไม่ทันใช่ไหมหรือว่าตกใจล่ะ?...ตอนแรกอาก็ตกใจเหมือนกันที่บริษัทยักษ์ใหญ่มาขอให้อาเป็นช่างภาพให้น่ะ...บริษัทที่จ้างเราคือ...ภิพัฒธนมงคล”ชื่อบริษัทที่ออกมาจากปากของอาวิทำให้คนที่รอคำตอบอยู่แทบสลบ

ภิพัฒธนมงคล...บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของประเทศในด้านการออกแบบและโฆษณาสินค้า...ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการอะไรก็ตามถ้าเพียงได้บริษัทภิพัฒธนมงคลมาเป็นผู้ผลิตโฆษณาให้ก็จะโด่งดังจนมีผู้คนรู้จักกันมากมายภายในไม่กี่วัน ด้วยเทคนิคชั้นยอดในการคิดโฆษณาที่ตรงจุดทำให้คนดูเข้าใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องคิดมากหลายตลบอีกทั้งรูปลักษณ์ของแต่ละโฆษณาจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมตกตะลึงหรอก...

สิ่งที่ทำให้ตกใจคือภิพัฒธนมงคลเป็นทั้งชื่อบริษัทและนามสกุลของท่านประธานที่เป็นคนก่อตั้งบริษัทขึ้นมา...นามสกุลที่ว่าเป็นนามสกุลเดียวกับราชาคนที่ผมพึ่งมีเรื่องด้วยเมื่อหลายวันก่อน

ชื่อจริงของราชาคือ...

ธรณินทร์ ภิพัฒธนมงคล

ตาย...ผมต้องตายแน่ๆถ้าเจอเขาที่บริษัท

“ไปกันเถอะจ้าว”อาวิเรียกผมที่ยืนนิ่งไม่กล้าเข้าไปภายในบริษัท

“...ครับ”

คำขอเพียงคำเดียวของผมคืออย่างให้ได้เจอกับราชาตอนนี้เลย...

ผมยังไม่พร้อมจริงๆ

“สวัสดีครับ...คุณคือวิสุธ แก้วจันทร์ใช่ไหมครับ?”เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยทำเอาคนที่เดินตามหลังอาวิมาถึงกับชะงักในทันที...เสียงแบบนั้นมีแค่คนเดียวเท่านั้น...

ทำไมพระเจ้าถึงต้องใจร้ายกับผมนักนะ!

“ใช่ครับ...แล้วคุณ?”อาวิเริ่มทักทายอีกฝ่ายโดยที่มีผมยืนหลบอยู่ไกลๆ

“ผมธรณินทร์ ภิพัฒธนมงคล...ลูกชายของท่านประธานครับ”

คำแนะนำตัวนั่นเหมือนเป็นการตอกย้ำความคิดของผมมากขึ้น...คนที่ยืนคุยกับอาวิอยู่ตอนนี้คือราชา

“...”ผมอยากกลายเป็นฝุ่นละอองซะตอนนี้เลยจริงๆ

“ขอบคุณที่เลือกเรานะครับ...จ้าวมาแนะนำตัวหน่อยเร็ว”อาวิหันมาบอกพร้อมกับกวักมือเรียก นั่นทำให้ดวงตาคมสีน้ำตาลหันมามองตามเสียงเรียกก่อนที่ดวงตาสีเขียวปนเทาของผมจะประสานเข้ากับชายที่ยืนอยู่ข้างอาวิอย่างพอดิบพอดี

“...คุณ...”ราชาดูจะจำได้ว่าผมเป็นใครเพราะทันทีที่สบตาเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“...อ่อ...ผมชื่อวรานนท์ เทพภักดีครับ”ผมแนะนำตัวเสียงอ่อยพรางหลบสายตาของคนด้านหน้าที่จ้องเขม็งมา

“...ผมธณินทร์...ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณวรานนท์”ราชาแนะนำตัวอีกครั้งพร้อมยืนมือมาด้านหน้า

“...ยินดีที่ได้...รู้จักครับ”ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออก เลยได้แต่ยื่นมือไปจับกับอีกฝ่ายโดยที่ยังก้มหน้ามองพื้นอยู่ทั้งแบบนั้น

“ข้าวจ้าวเขาขี้อายน่ะ”อาวิพูดขึ้นเมื่อผมยังคงก้มหน้าเดินตามทั้งคู่เข้าไปในลิฟต์

“ข้าวจ้าว?”เสียงทุ้มดูเหมือนจะสงสัยว่าใครกันที่ชื่อนั้น

“ก็ชื่อเล่นเต็มๆของวรานนท์ไง...ปกติฉันจะเรียกเขาว่าจ้าว”อาวิบอกด้วยรอยยิ้ม

“อ้อ...”

ตึ๋ง!

พอเสียงลิฟต์ดังขึ้นอาวิก็นำออกไปด้านนอกก่อนทำให้ผมรีบก้าวตามไปแต่ก็ถูกคนด้านหลังจับข้อมือไว้พร้อมดึงเข้าหาตัวเองจนร่างกายผมเซไปด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ประชุมเสร็จแล้วลงไปหาผมที่ร้านคาเฟ่ที่ชั้น1นะครับคุณวรานนท์ เทพภักดี”ชื่อของผมถูกเรียกออกมาจากปากของอีกฝ่ายข้างๆใบหูก่อนที่ราชาจะเดินตามอาวิไปปล่อยให้ผมยืนหัวใจเต้นแรงอยู่หน้าลิฟต์เพียงลำพัง

....................................................................................
สวัสดีค่ะ

วันนี้มาอัพเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย

มีหลายคนที่ยังไม่อยากทั้งคู่เจอกันต้องขอโทษด้วยที่เจอซะแล้วนะคะ

ตอนนี้เรียกว่าเศร้าที่สุดของเรื่องแล้ว(รู้สึกเศร้ากันบ้างไหมคะ?)55

ข้าวจ้าวของเรานี่เล่นพูดไม่รัวไม่ให้ราชาอิบายจนเข้าใจผิดกันไปเต็มๆ

มารอลุ้นกันว่าพวกเขาจะคุยอะไรกัน...ข้าวจ้าวจะกล้ามองหน้าราชาไหม?

บอกเลยค่ะว่าตอนหน้ามีฉากให้ลุ้นแน่ค่ะ

ครั้งนี้ที่เข้ามาดีใจมากเพราะคอมเม้นต์เยอะที่สุดตั้งแต่แต่งเรื่องนี้มา

แถมมีคนแนะนำนิยายเราในกระทู้ด้วย..ปลื้มใจจังค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และกำลังใจที่ส่งมาให้นะ

จะแต่งเรื่องนี้ให้หวานและฟินที่สุดจนคนอ่านยิ้มตามให้ได้เลยค่ะ

ขอพูดเรื่องการอัพนิยายสักนิดนะ...คาดว่าเราคงอัพเรื่องนี้ทุกวันอาทิตย์เพราะเราจะใช้เวลาในวันเสาร์เพื่อแต่งให้จบตอนอาจมีวันอื่นบ้างที่แต่งแต่ก็แต่งได้นิดหน่อยเท่านั้น

มาอัพช้าหน่อยแต่มาอัพสม่ำเสมอเนอะ

สัญญาว่าจะไม่หายไปไหนจนกว่าจะแต่งจบค่ะ^^

เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าวันสิ้นเดือนนะคะ

บ๊ายบาย :bye2:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
กริ๊ดดดดดด ขอกริ๊ดดดดดแรงๆ นักเขียนมาอัพแล้วจ้า ขอบคุณค่า ขอไปอ่านก่อนน้าาาาาา

................

แงงง สงสารน้องข้าวจ้าวจัง พอคิดถึงความรู้สึกถ้าไปอยู่ที่จุดนั้น คงจะรู้สึกแย่เหมือนกัน น้องเป็นเด็กขี้อาย และไม่อยากจะก้าวออกไปจากที่ของตัวเอง แล้วยังเป็นห่วงเขาด้วยความจริงใจอีก ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ เราหลงรักข้าวจ้าวแล้วล่ะเฮ้อ

ส่วนพระเอก อยากโกรธนะที่แผนซ้อนแผนใส่น้อง แต่ก็โกรธไม่ลง เพราะถ้าไม่ทำก็คงไม่ได้เจอกัน55555 แต่ยอมให้ค่ะ เพราะพระเอกดูรักจริงหวังแต่งมากมาย

สรุปแล้วคือ รอวันอาทิตย์หน้าจ้า55555 ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2016 11:54:46 โดย nunnuns »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เสร็จแน่ข้าวเจ้า หนีไม่รอดแล้ว
เจอกันซึ่งๆหน้าอาจจะได้เริ่มต้นอะไรบ้างเนอะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โดนจับตัวได้แล้ว

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ลุ้นอะไร ๆๆๆๆ  :m18:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao5:

ช้ำใจกว่าที่ราชาเจอข้าวจ้าวแล้ว

ตอนหน้ารออีกตั้ง 7 วัน แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(หน้ากากอันมัย = หน้ากากอนามัย)

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ข้าวจ้าวเหมือนกระต่ายเลย ขี้ตกใจฝุดๆ แอบเศร้าที่จ้าวคิดไปเองแง่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทรมาน  :sad4:

เพราะอยากอ่านต่อแล้ววววววว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โปสเตอร์แบบนี้ค่ะ ไม่มีรเรือ
ตอนนี้ราชาลุยกันเปฺนทีมเป็นระบบ. อยากคุยนี่นะได้คุยสมใจแน่
ว่าแต่ข้าวเจ้าหนูตะมีสมาธิกับงานไหมนะ. สู้ๆนะน้อง
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
แผนซ้อนแผน มันน่าจะดีถ้าหนูจ้าวไม่ขี้กังวลจนเกินไป รอลุ้น ๆ ตแนหน้าว่าเค้าจะสารภาพรักกันเปล่า 555

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ขอพลังพิเศษ วาปไปตอนหน้าเลยได้มั๊ยคะ
ลุ้นจนตัวเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ฮือออ เมื่อคืนแอบเข้ามานั่ง Refresh รอเพราะเห็นคุณคนเขียน online แต่ซักพักก็ offline ไป แป้วเลยค่ะ 555555
นี่มากดรอทุกวันเลย อยากเม้นว่ารออีกก็กลัวจะรกไป T T
แต่ชอบเรื่องนี้มากกกกก มากมากจริงๆ ได้ตามไปอ่านเรื่องอื่นๆของคนเขียนแล้วก็ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ ><
(แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเรื่อง Jurassic เลย ไว้จะไปตามนะคะ) เราชอบแนวสบายๆ น่ารักๆแบบนี้ที่สุดเลย
ยกให้เป็นนิยายสายฮีลจริงๆค่ะ ; ___ ;

เกี่ยวกับนิยายซะทีเถอะ 5555555555
อันนี้เป็นคำผิดของตอนนี้นะคะ
เทมอ - เทอม
หมาวิทยาลัย - มหา
โปรสเตอร์ - โปสเตอร์ (มาจาก Poster colour อ่ะค่ะ)
สำลอง - สำรอง

ส่วนเนื้อเรื่อง .. เศร้านะคะ T ____ T .. ฉากที่น้องจ้าวขี่รถหนีทั้งน้ำตานี่เราซึมตามเลย
สงสารทั้งน้องทั้งราชาเลยค่ะ ถูกพูดใส่เข้าแบบนั้นเป็นเราคงเสียใจเสียดายมากแน่ๆ เพราะไม่ได้จะตามมาให้ขอโทษซะหน่อย
แถมยังพูดว่าจะหายไปอีก ใจหายวาบแน่นอน แต่เห็นว่าจ้างมาทำงานที่บริษัทตัวเองได้ก็แปลว่าต้องตามตัวเจอสินะ
ทำงานด้วยกันแบบนี้คราวนี้หนียังไงก็หนีไม่รอดแล้วนะข้าวจ้าว ~ ><
อยากเห็นฉากหวานแล้วค่าาา รอดูนะคะ <3

เป็นกำลังใจให้คนเขียนมากมายเลยค่า จะรออ่านทุกตอนเลยยย :L2:
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายสนุกๆ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด