❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 547447 ครั้ง)

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
งืออออออออ น้องจ้าวน่ารักมากกกก เอาแบบนี้1คนนนน

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้ามารออออออราชาข้าวเจ้า  ><

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
วันนี้วันอาทิตย์แหล่ะ

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0

แอบรัก⊰❤⊱วันที่10



สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ช่างภาพอย่างผมถึงกลับทำตัวไม่ถูก...การที่ถูกสายตากว่า10คู่จ้องมาอย่างคาดคั้นนั้นยิ่งทำให้คนที่ถูกจ้องต้องก้มหน้าลงมากกว่าเดิมโดยที่ยังไม่ได้ตอบคำถามของต้นว่าทำไมถึงได้รู้จักอีกฝ่ายได้

นี่ผมหลุดชื่อของต้นออกไปได้ยังไงกัน...คนที่พึ่งเจอกันจะรู้ชื่อกันได้ยังไงแถมยังแยกฝาแฝดออกอีก

ทุกคนคงสงสัยแน่ว่าทำไมผมถึงรู้จักต้นได้...จะไม่ให้รู้จักคงไม่ได้เพราะต้นและเต้ยต่างเป็นฝาแฝดที่เด่นและดังมากในห้องตอนมัธยม อาจเพราะชอบตะโกนเสียงดังเลยกลายเป็นที่รู้จักของทั้งเพื่อนในห้องและนอกห้อง

สำหรับผมไม่ได้สนใจทั้งต้นและเต้ยแต่ที่รู้จักเพราะพวกเขามักอยู่กับราชาต่างหาก

“เอาแล้วไง...สตอล์กเกอร์จริงๆด้วยแบบนี้ก็รู้จักชื่อพวกเราหมดทุกคนแล้วแน่เลย”เสียงของผู้ชายที่นั่งอยู่อีกฝั่งดังขึ้นทำให้ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นแล้วส่ายหัวไปมาเป็นเชิงว่าไม่ใช่เพราะคนที่ผมรู้จักมีแค่3คนเท่านั้นเอง

จริงอยู่ที่ผมอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับราชาเลยเห็นอีกฝ่ายบ่อยๆแต่ก็ไม่ได้เข้าไปใกล้จนรู้จักเพื่อนทุกคนหรอกนะ

“อาร์ตเอาไงดี...จัดการเลยไหม?”เสียงเดิมหันไปถามเจ้าของร่างสูงผิวสีแทนที่นั่งอยู่ข้างราชา

“ใจเย็นก่อน...ราชาแกได้เล่าเรื่องพวกเราให้เขาฟังรึเปล่า?”คนที่ชื่ออาร์ตหันไปถามราชาที่นั่งอยู่ข้างๆ

“...เปล่า”ราชาหันมาสบตาผมก่อนจะบอกออกไปตามตรง

“แปลว่าคุณแอบสืบเรื่องพวกเราเหรอ?”อาร์ตหันมาถามผมพร้อมส่งสายตาดุมาให้

“เปล่านะ...คือ...”ผมรีบปฏิเสธออกไปตามตรงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะบอกความจริงไปดีไหม

ถ้าบอกไปว่ารู้จักราชามาตั้งแต่เรียนมัธยมต้นอีกฝ่ายจะมองผมว่าเป็นคนยังไงล่ะ?

“ถ้าไม่ใช่ก็ควรบอกมาตรงนะ...ถ้าโกหกผมจับพิรุธได้แน่”คนที่ชื่ออาร์ตบอกเสียงแข็งจนผมจำใจต้องเล่าความจริงออกไป

“...ผมเรียนมัธยมที่เดียวกับราชา”

“...”คำตอบนั้นทำให้ทั้งวงถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่เว้นแม้แต่ราชาที่หรี่ตามองมาเหมือนไม่เชื่อในเรื่องที่ผมพูด

“จริงเหรอ?...ผม....โอ้ย!...พูดสุภาพแล้วขนลุก...เอาเป็นว่าฉันไม่เห็นคุ้นหน้านายเลย...อยู่ห้องไหนกัน?”เต้ยที่อยู่ด้านข้างจับไหล่ผมให้หันไปหาก่อนจะขยับหน้าเข้ามามองใกล้ๆ

“เอ่อ...มัธยมต้นอยู่ห้อง6....ส่วนมัธยมปลายก็ห้องเดียวกัน”ผมตอบเสียงเบาแล้วรอดูปฏิกิริยาจากอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะขมวดคิ้วสองข้างจนติดกัน

“ห้องเดียวกัน?...ไม่มั้งฉันไม่คุ้นเลย...โกหกรึเปล่า?”

“ไม่ได้โกหกนะ...เอ่อ...นอกจากต้นกับเต้ยยังมีเพชรอีกคนที่อยู่ห้องเดียวกัน”เมื่อถูกหาว่าโกหกผมก็รีบค้านพร้อมบอกข้อมูลที่รู้ทันที

“รู้จักฉันด้วย?”อีกคนที่ถูกเอ่ยถึงก็ชี้มาที่ตัวเองอย่างงงๆ

“...อืม”

“แบบนี้คงไม่ได้ล้อเล่นแล้วล่ะ”เพชรพูดขึ้น

“เดี๋ยวสิ...เรื่องแค่นี้สืบหาหน่อยก็รู้แล้ว...มีอย่างอื่นอีกไหม?”คนชื่ออาร์ตถามต่อ

“อย่างอื่นอะไร?”ผมถามกลับ

“ก็อย่างเรื่องที่มีแค่คนในห้องเท่านั้นที่รู้น่ะ”

“...เอ่อ...เพชรต้นและเต้ยเป็นเพื่อสนิทของราชา...”

“ง่ายไป...แค่นั้นใครๆก็รู้”ยังไม่ทันพูดจบอาร์ตก็พูดแทรก

“...งั้นชื่อครูประจำชั้น...”

“นั่นก็ยังง่ายอยู่...ไม่มีอะไรเด็ดๆแบบว่าเหตุการณ์ที่น่าตกใจบ้างเหรอ?”

“...ก็พอมี”ผมบอกก่อนจะค่อยๆนึกย้อนไปในอดีต

“ว่ามาเลย”

“ตอนม.5...เต้ยถูกผู้หญิงหักอกหลังโรงเรียน”ผมบอกสิ่งที่พอจะนึกออก

“จริงปะเต้ย?”อาร์ตหันไปถาม

“...จริง...รู้ได้ไง...จำได้ว่าตอนนั้นไม่มีใครอยู่นี่?”เต้ยหันมาถาม

“ก็...วันต่อมาเต้ยหยุดเรียนใช่ไหม?”ผมลองถามกลับ

“ใช่ๆ...อกหักก็ต้องหยุดเรียนสิ”

“อืม...ต้นที่มาเรียนเล่าเรื่องนี้ให้ทั้งห้องฟัง”

“ว่าไงนะต้น!...แกทำอย่างนี้ได้ยังไง?!”เมื่อรู้ความจริงเต้ยก็หันไปหาเรื่องต้นทันที

“หว๋า!...ขอโทษที...แบบว่ามันเป็นความคึกคะนองของวัยรุ่น!”คนที่โดนหาเรื่องก็รีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งหนีเต้ยที่วิ่งตามอย่างไม่ลดละ

“คิก...”ผมหลุดขำท่าทางของคู่แฝดเบาๆ

“ข้าวจ้าว”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากฝั่งตรงข้ามทำให้ผมละสายตาจากคู่แฝดไปมองยังต้นเสียง

“ครับ?”

“ทำไมไม่บอกกัน”

“บอกอะไรเหรอ?”ผมถามกลับไป

“ก็ที่เราอยู่โรงเรียนเดียวกันไง”น้ำเสียงที่ส่งมาเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อยจนผมต้องรีบขอโทษ

“ขอโทษ...คือผมแค่...”

“แค่?”ราชาถามต่อโดยลุกจากเก้าอี้อีกฝั่งมา อาร์ตที่นั่งอยู่ตอนนี้เข้าไปแยกคู่แฝดทำให้ไม่มีใครสนใจพวกเรานัก

“ผม...แค่กลัว...”

“กลัวอะไร?”ราชายังคงถามต่อพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดียวกันแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้

“...กลัวจะโดนเกลียด”ผมตัดสินใจบอกไปเสียงเบาแล้วพยายามถอยหลังแต่อีกฝ่ายก็ตามเข้า

“เกลียด?...ทำไมล่ะ?”

“เพราะผม...ราชาก็รู้อยู่แล้วนี่?”ผมสัมผัสได้เลยว่าดวงตาสีเขียวปนเทาของตัวเองกำลังสั่นระริกใต้อยู่ยิ่งเงยหน้าขึ้นสบดวงตาคมสีน้ำตาลนั่นในระยะใกล้ความเขินอายก็เข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว

“ไม่รู้...ผมไม่รู้”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมขยับเข้ามาใกล้จนใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบเดียว ใบหน้าของผมแดงเถือกด้วยความเขินปนอายที่พรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“...อย่าแกล้งผม...ราชา”แค่นี้ผมไม่รู้จะซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำและหัวใจที่เต้นรัวของตัวเองยังไงแล้ว

“ใครแกล้งคุณกัน...”คำพูดและรอยยิ้มนั่นทำให้ผมต้องเม้มปากตัวเองแน่นเพราะความเท่ของคนตรงหน้า

“อะแฮ่ม!...คงไม่ลืมนะว่ามีเพื่อนอีกเกือบ10ชีวิตนั่งอยู่น่ะ?”เสียงของบุคคลที่สามที่แทรกเข้ามาทำให้ราชาผละออกจากแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง

ผมเองก็กลับมานั่งตัวตรงตามเดิมโดยลอบมองเพื่อนของราชาที่นั่งมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและสนใจ

“อิ้ว!...ราชาหน้าแดง”เสียงแซวจากเพื่อนชายคนหนึ่งทำให้ผมที่ฟังอยู่หันไปมองอย่างสนใจ

ราชาหน้าแดง?

ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

พอหันไปมองคนด้านข้างก็หันหน้าหนีราวกับจะหลบหน้าแต่ก็ไม่เป็นไรถึงจะไม่ได้เห็นใบหน้าแดงๆแต่ก็เห็นหูแดงๆแทน...นี่ราชาเขินผมเหรอ?

หรือว่าแค่อายเพื่อนตัวเองกัน?

“หยุดเลยเบน”ราชาพูดเสียงเข้มแล้วชี้นิ้วไปยังชายที่ย้อมผมสีส้มแปลกตาด้านข้าง

“แค่พูดความจริงนี่หว่า”

“เลิกแกล้งราชาเถอะ...เดี๋ยวได้เป็นลมพอดี”อีกเสียงดังขึ้นเป็นเชิงปราม

“ใครเป็นลมกันภีม!”

“เลิกพูดเรื่องราชาเถอะ...ตอนนี้ฉันอยากรู้เรื่องเพื่อนใหม่เรามากกว่า”เสียงของชายที่ผมไม่รู้จักชื่อพูดขึ้นโดยที่ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมาเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุก

“นายชื่อข้าวจ้าวใช่ไหม?”

“ครับ”

“ผมชื่อเป้...เห็นว่านายเป็นสตอล์กเกอร์ประจำตัวของราชาเหรอ?”คำถามตรงจากเป้ทำเอาผมไปไม่ถูกว่าจะตอบว่ายังไงดี

“...เอ่อ...จะว่าใช่ก็ใช่มั้ง”

“ชอบเพื่อนผมเหรอ?”

“...”คำถามนั่นทำให้ร่างกายผมเกร็งขึ้นอัตโนมัติก่อนจะพยายามสะบัดหน้าไปมาเพื่อซ่อนใบหน้าแดงๆของตัวเอง

“อ้อ...รู้สึกจะได้คำตอบแล้วล่ะ”

“...”คำตอบแบบไหนกัน?

“ฝากเพื่อนเราหน่อยละกันข้าวจ้าว”

“ครับ?”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาเจ้าของคำพูดด้วยความไม่เข้าใจ

“จะพูดอะไรน่ะเป้?”ราชาที่เงียบถามขึ้นทันที

“เงียบก่อนน่าราชา...อยู่นิ่งๆไป”คนที่พูดต่อไม่ใช่เป้แต่เป็นคนที่ได้ยินคนอื่นเรียกว่าโน้ต

“พวกเราขอฝากราชาไว้กับข้าวจ้าวนะ”

“...ทำไม...”ถึงเป็นผม

อยากจะถามคำถามนั้นออกไปแต่สายตาที่มองมาราวกับจะบอกเรื่องราวต่างๆที่ผมก็ไม่เข้าใจแต่ก็เงียบปากลงแล้วนั่งนิ่งๆฟังกลุ่มเพื่อนเริ่มแนะนำตัวพร้อมชวนกันไปเล่นบาสโดยชวนผมไปเล่นด้วย

แต่ด้วยความที่ไม่ถนัดกีฬาเลยนั่งรออยู่ที่ข้างสนามมองดูการแข่งขันตรงหน้าด้วยความรู้สึกสนุก...

เพื่อน

ไม่คิดว่าจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้เร็วถึงขนาดนี้...พวกเขาต่างก็รู้ว่าผมเป็นคนเอาของใส่ไว้ในกระเป๋าของราชาแต่กลับไม่โดนเกลียดหรือปลีกตัวออกห่าง ตรงกันข้ามพวกเขากลับวิ่งเข้ามาเล่นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจนเผลอสนุกตามไปด้วย

กล้องสีดำตัวโปรดที่พกติดตัวมาถูกยกขึ้นไปทางสนามบาสที่มีกลุ่มชายหนุ่ม10คนที่กำลังเล่นบาสกันอย่างจริงจัง ผมลุกจากเก้าอี้แล้วเดินถอยหลังไปจนเห็นได้ทั้งสนามก่อนจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเหล่านั้นเอาไว้หลายรูป

กว่าการแข่งขันจะจบก็ปาไปช่วงเย็นแล้ว พวกเราแยกกันกลับบ้านโดยที่ราชาขับรถมาส่งผมที่ห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะเท่าไหร่...ตลอดการเดินทางกลับราชาไม่ได้พูดคุยเหมือนอย่างขามาทำให้รู้สึกเกร็งเล็กน้อยเหมือนกำลังโดนโกรธ เมื่อไม่รู้จะทำอะไรผมเลยหยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดดูภาพภายในปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ

“ขอโทษ”ความเงียบถูกแทนที่ด้วยเสียงทุ้มจากคนด้านข้างทำให้คนที่ได้ยินถึงกับชะงักแล้วหันไปมองคนที่พูดด้วยความไม่เข้าใจ

“ทำไมต้องขอโทษล่ะ?”

“ที่แกล้งคุณไง...ขอโทษ”

“...ผมไม่ได้โกรธ...”ไม่เลยสักนิด

“จริงเหรอ?”

“อืม...จริงๆ”

“งั้นผมขอรูปภาพหนึ่งใบพร้อมข้อความสั้นๆเหมือนที่เคยได้ไหม?”ราชาถามพร้อมกับหันดวงตาคมสีน้ำตาลมาสบ

“...ได้สิ”ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธนี่

ไม่ช้ารถก็เคลื่อนที่มาจอดตรงหน้าห้องพักตามการบอกทาง...ก่อนที่ผมจะลงรถก็หันไปยื่นรูปภาพใบหนึ่งไปให้ราชาพร้อมกับพูดขอบคุณแล้วออกจากรถสีดำเงานั้นมา สองขาของผมก้าวเข้าไปยังห้องพักโดยไม่หันไปมองรถที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด...ตอนนี้รู้แค่ว่าถ้าหันกลับไปคงจะสะกดความอายไว้ไม่อยู่แน่ๆ

ข้อความที่ผมเขียนไปนั่น...

น่าอายสุดๆ



(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0

(ต่อค่ะ)


RACHA’s part


ผมนั่งมองแผ่นหลังของข้าวจ้าวจนลับสายตาก่อนจะก้มลงมองภาพที่พึ่งได้มาหมาดๆในมือ...ทันทีที่รูปของตัวเองตอนยืนส่งยิ้มส่งให้กล้องปรากฏขึ้นผมก็คลี่ยิ้มออกมาและรอยยิ้มนั้นก็กว้างขึ้นไปอีกเมื่อได้อ่านข้อความสั้นๆที่เห็นอยู่บริเวณด้านข้างหาดทรายสีขาวที่เขียนว่า...

‘รอยยิ้มกว้างของราชา...น่ามองที่สุด’

“...ผมยิ้มกว้างแล้วไง...ไม่หันมามองหน่อยเหรอ?”ผมหันไปมองห้องพักที่ข้าวจ้าวพึ่งเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มที่หุบไม่ลงจนกระทั่งขับรถมาถึงคอนโดของตัวเอง

วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากแต่กลับมีความสุขมากเช่นกัน....ไม่คิดว่าข้าวจ้าวที่ผมพึ่งรู้จักไม่นานจะเป็นเพื่อนร่วมห้องตอนมัธยมปลายมาก่อน ผมยอมรับว่าโกรธนิดหน่อยที่อีกฝ่ายไม่ยอมบอกเรื่องนี้แต่พอมาคิดอีกทีก็ไม่ใช่ความผิดของข้าวจ้าวแต่เป็นผมที่จำไม่ได้ว่าเคยอยู่ห้องเดียวกัน

ขนาดคนที่ความจำดีอย่างต้นกับเต้ยยังจำไม่ได้แล้วประสาอะไรกับผมล่ะ

ผมทิ้งตัวแผ่ลงกลางเตียงโดยที่ใส่พียงเสื้อคลุมสีขาวเท่านั้น...

ใบหน้าแดงๆตอนที่ขยับเข้าไปใกล้นั่นช่างน่าดึงดูดกว่าใครที่เคยเจอมา ดวงตาสีแปลกคู่สวยที่สั่นระริกผ่านเลนส์แว่นทำให้ผมไม่อาจละสายตาออกไปได้

“...คุณทำอะไรกับผมกันข้าวจ้าว?”ผมพึมพำเสียงเบาๆพร้อมกับยกมือก่ายหน้าผากด้วยความไม่เข้าใจ

หลายวันผ่านไปจนถึงวันศุกร์ที่เป็นวันนัดไปเที่ยวนิทรรศการภาพ...ผมตื่นแต่เช้าไปทำงานตามปกติถึงพ่อบอกให้ไปดูแลกิจการหอศิลป์ก็จริงแต่ให้เริ่มอาทิตย์หน้า

อาทิตย์นี้ผมเลยต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทก่อน...การทำงานในช่วงเช้ายังคงรู้สึกสบายๆแต่พอถึงช่วงเที่ยง...

ไม่รู้ว่าทำไมสายตาถึงหันไปมองที่นาฬิกาข้อมือบ่อยนักทั้งที่เวลาก็ยังคงเดินตามปกติ...ยิ่งใกล้เวลานัดมากเท่าไหร่สมาธิในการทำงานก็เหมือนจะหมดลงทุกทีจนในที่สุดรองประธานอย่างผมก็ตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่รถโดยไม่ลืมสั่งงานเลขาถึงงานที่เหลืออยู่

รถคันสีดำเงาแล่นออกจากบริษัทภิพัฒธนมงคลตรงไปยังร้านแกลลอรี่เล็กๆที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักไม่ไกลจากที่บริษัทเท่าไหร่...ใช้เวลาประมาณ10นาทีก็เห็นร้านที่เป็นเป้าหมายอยู่ตรงหน้าทำให้ชะลอความเร็วลงพรางมองนาฬิกาดิจิตอลหน้ารถที่บอกเวลาเที่ยงเกือบครึ่งเท่านั้น

“...มาเร็วไปสินะ”ผมพึมพำบอกตัวเองด้วยน้ำเสียงเซงๆ

ก็รู้อยู่ว่ามาเร็วกว่าเวลานัดแต่จะให้ทำไงได้ล่ะถึงนั่งอยู่ที่บริษัทต่อไปก็ไม่มีสมาธิในการทำงานอยู่ดี...อย่างน้อยมาอยู่นี่จะได้มีเวลาคิดเรื่องของตัวเองอย่างจริงจังสักที

อยากเห็นหน้า

นั่นเป็นความรู้สึกของผมที่ผุดเข้ามาในหัวตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“หื้อ?”ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่หน้าร้านVI&K...พอลองเพ่งงมองดีๆดวงตาคมสีน้ำตาลก็ต้องเบิกกว้างขึ้นที่เห็นข้าวจ้าวยืนรออยู่ทั้งที่ยังไม่ถึงไม่เวลานัดเลย

ท่าทางแบบนั้นไม่รู้ว่ามายืนรอตั้งแต่เมื่อไหร่?

นี่ถ้าผมไม่ออกมาเร็วก็จะยืนรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงเลยเหรอ?

ปริ๊น!

ผมบีบแตรรถเพื่อเรียกคนที่ยืนเอาหลังพิงผนังร้านพลางก้มหน้ามองกล้องของตัวเองจนไม่สนใจว่าผมได้จอดรถอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว...ดวงตาสีสวยเงยขึ้นมามองก่อนจะเบิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่ออย่างน่าสัมผัสเมื่อเห็นรถของผมจอดเรียบอยู่ พออีกฝ่ายจัดการอะไรบางอย่างที่กล้องของตัวเองเสร็จก็วิ่งมาที่รถผม

“...ขอโทษ...รอนานไหม?”คำพูดที่ออกมาจากปากของข้าวจ้าวทำให้ผมหันไปมอง..

ประโยคนั้นผมต่างหากที่ต้องเป็นคนพูด

“ไม่นาน...แล้วข้าวจ้าวล่ะรอนานไหม?”

“...ไม่นาน”

“เท่าไหร่?”ผมถามต่อ

“อะไร?”

“รอมานานเท่าไหร่แล้ว?”ผมถามอีกครั้งด้วยประโยคที่ชัดเจนกว่าเดิม

“...ก็ไม่นานเท่าไหร่”ช่วงจังหวะที่อีกฝ่ายเงียบไปทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าข้าวจ้าวกำลังโกหกผมอยู่

“ผมรู้ว่าคุณโกหก”

“ผะ...ผมเปล่า”

“ข้าวจ้าว”

“...มารอ...ตั้งแต่...”

“ตั้งแต่อะไร?”ผมไม่คิดจะให้อีกฝ่ายได้ยื้อไปนานกว่านี้แล้ว

“...ตั้งแต่11โมงกว่า”

“มารอทำไมเร็ว?”เมื่อได้ยินผมก็ยิงคำถามต่อทันที

ตั้งแต่11โมงกว่า...ให้ตายสิคนคนนี้

“ก็กลัว...ว่าราชาจะรอ”คำตอบนั่นดูจะน่าพอใจอยู่แต่ก็ยังไม่ยกโทษให้หรอกนะ

“ถึงอย่างนั้นก็ออกมาเร็วไป”

“...ขอโทษ”

“คราวหน้าห้ามมารอแบบนี้อีกนะ”

“...คราวหน้า...”เสียงพึมพำเบาๆดังขึ้นทำให้ผมเหล่ไปมองก่อนจะเจอใบหน้าแดงๆที่ก้มลงต่ำเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
พอลองคิดดูดีๆคำพูดของผมคงจะแปลความหมายว่าเราจะได้ออกมาเที่ยวกันอีกทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงได้แบบนี้...ผมไม่ปฏิเสธสิ่งที่พูดออกไปสักนิดเพราะอยากจะหาเวลาพาข้าวจ้าวออกไปเที่ยวด้วยอยู่แล้ว

“ครั้งหน้าผมจะพาคุณไปที่อื่นอีก...เพราะงั้น...”

“เพราะงั้นอะไรเหรอ?”คนด้านข้างถามขึ้นทันทีที่ผมเงียบไป

ผมไม่ได้อยากจะเงียบหรอกแต่เพราะคำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกไปดูเหมือนกำลังจีบอีกฝ่ายอยู่เลยทำให้รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก...จะว่าไม่ชอบก็ไม่ใช่ ความรู้สึกนี้ใกล้เคียงกับคำว่าตื่นเต้น

“...ขอเบอร์โทรศัพท์หน่อยสิ”ผมกลั้นใจเอ่ยประโยคนั้นออกไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นกว่าที่เคย

ทั้งที่เป็นคำพูดธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นหรือเขินอายแต่พอคนตรงหน้าคือข้าวจ้าวผมกลับรู้สึกแตกต่าง...

ข้าวจ้าวแตกต่างกับทุกคนที่เคยเจอมา

ไม่เพียงแค่แตกต่างแต่ผมกำลังรู้สึกว่าเขาพิเศษ...

พิเศษกว่าทุกคนที่เคยรู้จัก

“...จะดีเหรอ?”เสียงนุ่มนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น

“อะไรดีล่ะ?”

“ก็...ไม่กลัวผม...โทรไปกวน...หรือส่งข้อความไปหาเหรอ?”คำตอบนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าของข้าวจ้าวที่หันมามองด้วยใบหน้าแดงๆ

“เอาสิ...ผมจะเปิดเครื่องรอทุกวันเลย”ผมบอกออกไปทันที ไม่คิดว่าข้าวจ้าวจะกล้าโทรมากวนหรือส่งข้อความมาเหมือนพวกสตอล์กเกอร์ที่เคยเจอ...ถ้าอีกฝ่ายโทรมาจริงผมจะตั้งหน้าตั้งตารอรับเลย

“...คนขี้แกล้ง”

“ผมแกล้งข้าวจ้าวตรงไหนกัน?”ผมหันไปถามเมื่อได้ยินเสียงบ่นเบาๆดังขึ้น

“ก็รู้อยู่...”

“ไม่รู้สักหน่อย”

“...ไม่พูดด้วยแล้ว...เอาโทรศัพท์มาสิจะได้เมมเบอร์ให้”ข้าวจ้าวพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆกึ่งเขินอายจนผมยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองส่งไปให้

ได้อยู่กับข้าวจ้าวชั่วโมงเดียวแต่ผมกลับยิ้มมากกว่าหนึ่งปีรวมกันซะอีก

ไม่ว่าจะทำท่าทางอะไรก็น่ามอง น่าดูไปหมด

“...ไม่ปลดล๊อคให้ก่อนล่ะ?”

“รหัส242238”ผมบอกโดยที่สายตายังมองไปยังถนนที่เริ่มมีรถเยอะขึ้น

“ราชา...นายไม่ควรบอกรหัสกับใครก็ไม่รู้แบบนี้นะ”เสียงบ่นนุ่มๆดังขึ้น ถ้าเป็นเสียงบ่นปกติผมคงทำหน้าระอาแล้วเบนหน้าหนีไปแล้วแต่พอเป็นคำบ่นจากปากชมพูๆนั่นผมกลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกห่วงใยอยู่

“ใครก็ไม่รู้ที่ไหนกัน...คนที่ผมบอกรหัสให้รู้คือคุณวรานนท์ เทพภักดี...ชื่อเล่นว่าข้าวจ้าว”

“...ใช่เวลาเล่นไหมเนี่ย?”

“ฮะฮะฮะ”ผมหัวเราะออกไปก่อนจะมุ่งน่าไปยังนิทรรศการที่จัดขึ้นที่ย่านตัวเมือง

รถหรูสีดำเงาขับเข้ามายังสถานที่จอดรถด้านข้างของตัวตึกที่จัดนิทรรศการภาพอยู่...จากที่เห็นรถจำนวนมากจอดอยู่ก็รู้ได้ในทันทีว่าภายในนิทรรศการนั่นต้องอัดแน่นไปด้วยผู้คนแน่ ระหว่างที่กำลังวนหาที่จอดรถฝนก็ดันตกลงมาปรอยๆ

“ฝนตกแล้ว”ข้าวจ้าวพึมพำก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีเทาผ่านกระจกรถ

“ในรถมีร่มอยู่...เดี๋ยวคุณใช้ไปละกัน”ผมพูดขึ้นก่อนจะเห็นที่จอดรถที่ว่างอยู่พอดี ในที่สุดก็ได้จอดรถสักที...ถ้าต้องวนอีกรอบสองรอบคงได้บอกข้าวจ้าวว่าไว้มาใหม่แน่

“ราชาแหละที่ต้องใช้”ข้าวจ้าวไม่ยอมรับร่มที่ผมยื่นไปให้แถมยังดันกลับมาอีก

“งั้นก็ใช้ด้วยกัน”นี่เป็นทางออกเดียวที่คิดได้ในตอนนี้

ในเมื่อต่างคนต่างไม่ยอมที่จะใช้ร่มคันนี้เองก็เหลือแค่ใช้ด้วยกันเท่านั้น

“...ไม่เอา”เสียงพึมพำเบาๆพร้อมกับใบหน้าขาวที่หันไปยังกระจกรถทำให้ผมมองตามไปอย่างไม่เข้าใจ

“ข้าวจ้าว”

“...ผมวิ่งฝ่าฝนไปได้...ไม่เป็นไรจริงๆ”อีกฝ่ายยังคงย้ำโดยที่ไม่ยอมหันหน้ามา

ถึงจะพูดยังไงก็คงไม่ยอมตกลงสินะ...ถ้าไม่ยอมงั้นผมจะทำให้ยอมเอง

ผมรีบดับเครื่องแล้วก้าวลงจากรถไปยังฝั่งข้างคนขับหรือฝั่งที่ข้าวจ้าวนั่งอยู่นั่นเอง...ร่มสีฟ้าถูกกางออกพร้อมๆกับมือผมที่เปิดประตูฝั่งข้างคนขับออก ดวงตาสีเขียวปนเทาเงยขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของผม

“ถ้าไม่ยอมมาด้วยกันก็ไม่ต้องลงจากรถ”ผมบอกพลางคลี่ยิ้มมองไปยังใบหน้าของข้าวเจ้าที่กำลังทำตัวไม่ถูก

ใบหน้าขาวที่เริ่มแดงระเรื่อช่างน่ามอง

น่าแปลกที่ผมอยากจะเห็นใบหน้านั่นใกล้กว่านี้

“...ทำไมชอบแกล้งผม?”ดวงตาสีสวยมองมาด้วยแววตาที่สั่นระริก

“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย”

“ที่ทำอยู่นี่...เขาเรียกว่าแกล้ง”

“ตรงไหนล่ะ?”ที่ทำอยู่นี่มันเรียกว่าแกล้งตรงไหนงั้นเหรอ...

แค่แหย่เท่านั้นเอง

“ราชา”เสียงนุ่มออกแนวเคืองดังขึ้นพร้อมมองมาที่ผมอย่างโกรธๆ

“แค่ใช้ร่มคันเดียวกันทำให้คุณลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไปเพราะข้าวจ้าวดูจะไม่อยากใช้ร่มร่วมกับผมเอามากๆ

“...อืม”

“เกลียดกันเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ”อีกฝ่ายรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็วพร้อมกับศีรษะที่สะบัดไปมาเพื่อย้ำความจริง

“งั้นทำไมล่ะ?”

“...”

“ข้าวจ้าว”

“...ถ้าอยู่ใกล้กันขนาดนั้น...ผมกลัว...”เมื่อโดนคาดคั้นเสียงสั่นๆของข้าวจ้าวก็ค่อยๆดังขึ้น

“กลัวอะไร?”

“...กลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ได้”คำตอบเอาแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบเรียกรอยยิ้มของผมที่ยืนอยู่ได้ในทันที

“ไม่จำเป็นต้องห้ามนี่”

“...ราชา”ดวงตาสีสวยสบมายังดวงตาคมสีน้ำตาลของผมด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย

“ผมไม่เคยบอกให้คุณต้องห้ามใจตัวเองตอนอยู่กับผม...ผมชอบเวลาที่คุณหน้าแดง...ชอบเวลาที่ดวงตาสีสวยของคุณสะท้อนภาพผมเอาไว้...ชอบเวลาที่มีคุณอยู่ข้างๆ”

สิ่งที่พูดออกไปคือความรู้สึกจริงๆของผม

พูดเองก็อายเองแฮะ...พอมานึกดูอีกทีก็ไม่น่าพูดไปแบบนั้นเลย

น่าอายสุดๆ

“...ราชา”

“เข้างานกันเถอะข้าวจ้าว”เจ้าของชื่อต้องรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อนที่ใบหน้าของตนเองจะแดงเพราะความเขินอาย หรือผมติดนิสัยขี้อายมาจากข้าวจ้าวแล้วกันนะ

“อืม”

พอตกลงกันได้เรียบร้อยข้าวจ้าวก็ออกมาจากรถเข้ามาเบียดกับผมในร่มคันสีฟ้า...พวกเราค่อยๆเดินฝ่าฝนไปอย่างไม่รีบร้อน ตลอดเวลาที่เดินไปไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างเรามีเพียงความรู้สึกแปลกๆที่อบอวนจนต้องเผลอยิ้มออกมาตลอดทาง

มีบ้างที่ผมเหลือบไปมองคนด้านข้าง...ใบหน้าขาวที่แรงระเรือทำให้สายตาของผมจับจ้องไปยังอีกฝ่ายจนมาถึงทางเข้าตึกที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นขนาดนี้เพราะราคาของรูปภาพหรือภาพวาดที่อยู่ภายในนั้นบางภาพไม่สามารถตีราคาได้ด้วยซ้ำ...ถึงจะไม่มีความรู้ด้านนี้มากนักแต่ก็เคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง

บรรยากาศภายในเป็นไปอย่างคึกคักอาจเป็นเพราะมีฝนตกอยู่ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกไปไหนได้เลยต้องอยู่รอฝนซาก็เป็นได้...ผมเดินตามหลังของข้าวจ้าวที่ดูจะสนใจภาพถ่ายที่อยู่ในโซนแรกของงานแสดงด้วยรอยยิ้ม

อีกฝ่ายคงไม่รู้ตัวหรอกว่าสายตาที่มองไม่ยังรูปถ่ายพวกนั้นมันเปล่งประกายขนาดไหน

ผมมองรูปภาพมากมายที่จัดแสดงอย่างทำความเข้าใจแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เข้าใจเลยสักภาพผิดกลับคนด้านข้างที่มองผลงานจัดแสดงแทบทุกรูปที่เรียงรายอยู่ตามผนังสีขาวสะอาด

เมื่อผ่านงานถ่ายไปก็มาถึงโซนที่เป็นภาพวาด...ภาพวาดนับร้อยๆค่อยๆปรากฏเข้ามาในสายตา มีหลายรูปที่งดงามจนต้องยืนมองด้วยความชื่นชมทั้งที่ไม่มีความรู้

“ราชาชอบภาพนี้เหรอ?”เสียงนุ่มของข้าวจ้าวดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาให้ผมใกล้ๆ...ดวงตาสีเขียวปนเทามองไปยังภาพของน้ำตกที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีหลากหลายเฉดด้วยความสนใจ

“อืม...สวยดี”

“ภาพนี้ใช้สีอะครีลิค”

“สีอะครีลิค?”ผมหันไปมองใบหน้าด้านข้างของข้าวจ้าวด้วยความไม่เข้าใจ

ก็รู้อยู่ว่าสีแบ่งออกเป็นหลายแบบแต่ไม่เคยได้ยินชื่อสีนั้นมาก่อนเลย

“อืม...สีอะครีลิค เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์จำพวกอะครีลิคหรือ ไวนิลเป็นสีที่มีการผลิตขึ้นมาใหม่ล่าสุดถ้าใช้สีนี้ในการวาดจะได้ลายเส้นที่คมชัดและดูสมจริงมากขึ้น”

“อ้อ...”ผมพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจคำอธิบายที่ได้ยิน

สมแล้วที่เก่งทั้งด้านถ่ายภาพและวาดภาพ

มีความรูปทางด้านนี้แน่นปึกจริงๆ

ยิ่งอยากให้อีกฝ่ายมาเป็นผู้ช่วยมากขึ้นไปอีก

การเดินชมงานผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วแต่ฝนที่คิดว่าน่าจะซาลงกลับตกหนักมากกว่าเดิมทำให้พวกเรายังยืนอยู่ด้านหน้าของตึกที่จัดนิทรรศการ...

“เอายังไงดีข้าวจ้าว?”ผมหันไปถามคนข้างกาย

“นั่นสิ...ถ้าอยู่รอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝนจะซาด้วย”

“งั้นฝ่าไปไหม?”ผมถามความเห็น

“ก็ได้นะ”

เมื่อความเห็นเราตรงกันราชาก็กางร่มคันสีฟ้าโดยที่มีข้าวจ้าวขยับเข้ามาใกล้จนไหล่เราสัมผัสกันเบาๆ...พวกเราค่อยๆเดินฝ่าไปยังรถได้สำเร็จแต่เราทั้งคู่ก็เปียกปอนกันถ้วนหน้าเพราะลมที่แรงมากพัดเอาฝนเข้ามาปะทะร่างของพวกเราเข้าอย่างจัง

“หนาวมากไหมข้าวจ้าว?”ผมหันไปถามคนที่นั่งเอามือกอดตัวเองอยู่ด้วยความเป็นห่วง

“อืม...นิดหน่อย...ราชาล่ะ?”

“ผมไม่เป็นไร...ไม่ต้องเปิดแอร์ละกันจะได้ไม่หนาว”

รถคันสีดำเงาค่อยๆเคลื่อนที่ออกจากนิทรรศการไปยังถนนยามดึกที่มืดกว่าปกติเพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงบ่าย...ตอนที่เราออกมาจากงานก็ปาไปจะสองทุ่มแล้ว ไม่คิดเลยว่าเราจะเดินกันนานขนาดนั้น

ทั้งที่ผมก็ไม่ได้สนใจพวกรูปภาพเป็นพิเศษแต่ผมกลับไม่เบื่อเลยสักนิดที่ได้เดินดูงานพร้อมกับข้าวจ้าว

“บ้านของข้าวจ้าวไปทางไหน?”ผมถามโดยที่สายตายังมองออกไปยังกระจกหน้ารถที่มีที่ปัดน้ำฝนทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงจะเคยไปส่งอีกฝ่ายมาแล้วแต่ด้วยเส้นทางที่ไม่ค่อยคุ้นเคยและฝนที่ตกหนักทำให้ต้องถามให้แน่ใจอีกรอบ

“ไปส่งผมที่ร้านก็ได้”

“ฝนตกหนักขนาดนี้จะขับมอเตอร์ไซค์กลับได้ยังไงล่ะ?”

“...แต่ผมไม่อยากรบกวน”

“ถ้าไม่บอกผมจะขับไปที่คอนโดผมนะ”

“มะ...ไม่เอานะ...เลี้ยวซ้ายแยกหน้าเลย”ข้าวจ้าวรีบบอกแทบจะทันทีที่ได้ยินว่าผมจะพาไปที่คอนโด

“ก็แค่นี้”รถคันสีดำเงาเลี้ยวไปตามทางต่างๆที่คนด้านข้างบอกจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักขนาดเล็กแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานของข้าวจ้าวเท่าไหร่

ครั้งนี้ผมจำทางมาห้องพักของข้าวจ้าวได้อย่างแม่นยำเลยล่ะ

“ที่นี่เหรอ?”ผมหันไปถามเพื่อความแน่ใจ...สายฝนที่ยังคงตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้มองไม่เห็นข้างทางชัดเท่าที่ควร

“อืม...เอ่อ...ราชาไหวไหม?”

“หื้อ?”

“นายตัวสั่นๆนะ...”ข้าวจ้าวพูดพรางขยับตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับยกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะที่ใบหน้าของผมเบาๆ สัมผัสนั่นทำให้ร่างกายของผมเกร็งจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

“...ข้าวจ้าว”

เสียงของหัวใจที่อยู่อย่างสงบมาตลอดเริ่มเต้นเร็วขึ้นเพียงแค่ถูกข้าวจ้าวสัมผัสใบหน้าเท่านั้น

“ตัวเย็นเจี๊ยบเลยนี่...ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวจะไม่สบายแน่...”เสียงนุ่มที่เต็มไปด้วยความห่วงใจนั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกแปลกๆที่มีเริ่มเพิ่มพูนขึ้น

ความรู้สึกอะไรสักอย่างที่ไม่รู้จักมาก่อน

“...ไม่เป็นไร”

“...นี่ราชา”อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนจะเรียก

“หื้ม?”

“...ไปพักที่ห้องผมก่อนไหม?”

...........................................................................................
สวัสดีค่า

มาต่อแล้ว

ช้ากว่าเดิมไปนิดหน่อยเพราะออกไปทำธุระมา

พรุ่งนี้เรามีสอบด้วยล่ะ55

ช่วงสอบเป็นอะไรที่แย่สุดๆเพราะไม่มีเวลาแต่งนิยาย

เวลาเครียดๆจากการอ่านแล้วแต่งนิยายไม่ได้นี่เหมือนสมองจะละเบิดเลย...ที่แต่งไม่ได้เพราะถ้าเริ่มลงมือเมื่อไหร่จะใช้เวลาไปหลายชั่วโมง เคยบางครั้งที่แต่งจนลืมกินข้าว55

แบบนั้นก็จะทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบเลยต้องหยุดการแต่งไว้ก่อน

ยังดีที่มีตอนสำรองไว้

ความจริงก็อยากจะอัพบ่อยแต่ก็ด้วยอะไรหลายๆอย่างเลยได้แค่อาทิตย์ละตอนอย่างที่เคยบอกไป...บางครั้งเองเราก็หมดอารมณ์ในการแต่งแล้วหันมาอ่านนิยายอย่างเดียวก็มี เพื่อกันจากสถานการณ์นั้นเราเลยขอลงแค่อาทิตย์ละตอนเนอะ

มีหลายคนเข้ามาคอมเม้นต์ในเพจว่าชอบเรื่องนี้มาก...บอกเลยว่าปลื้มใจสุดๆ

การแต่งนิยายเรื่องหนึ่งออกมาแล้วมีคนชอบ สนุกและรอคอยตอนต่อๆไปนี่ทำให้คนแต่งมีความสุขมากจริงๆ

ขอบคุณมากนะคะ

ใครที่อยากติดตามการอัพนิยายหรือเรื่องใหม่ๆสามารถเข้าไปกดไลค์ที่เพจได้นะคะ>>nicedog<<

ในตอนนี้ก็เริ่มมีการพัฒนาความสัมพันธ์กันมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ราชาเองก็รู้ตัวแล้วด้วยว่าข้าวจ้าวเป็นคนพืเศษ

สปอยตอนหน้า...

ราชารู้ใจตัวเองแล้วค่าาา

แค่ประโยคเดียวก็คลุมได้ทั้งตอนเลยเนอะ อิอิ

มารอลุ้นกันว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมราชาถึงรู้ใจตัวเองได้...

มีคนช่วย?

รู้เอง?

หรือมีเหตุการณือะไรเกิดขึ้น?

มารอลุ้นในอาทิตย์หน้านะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคะ

ทุกคำติชมจะนำไปปรับปรุงเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุดค่ะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า

บ๊ายบายค่ะ :bye2:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักที่สุด  รอค่ะรอ มาต่อไวไวน๊า

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
หนูข้าวชวนขึ้นห้องแล้วค่ะ!!!  รออะไร ไปเลยราชา 555555555 รอตอนต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กรี้ดดดด  ตอนนี้เขินรัวๆค่ะ

ขอบคุณฟ้าฝนที่เป็นใจ ราชาเซย์เยสสิจ๊ะ รออะไรอยู่
ข้าวจ้าวเป็นห่วงนะอย่าดื้อสิ
ในห้องนั้นเขาจะทำอะไรกันหนอ....
ขอบคุณค่ะ ต้องรออีก7วันสินะ ง่้อออ

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ถ้าเราเป็นราชา จะไม่ทนนนนนนนนนน ทำไมหนูข้าวจ้าวน่าเอ็นดูขนาดเนนนนนนน้ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รอต่อปายยย ^^

ออฟไลน์ Pandora20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รู้ใจเพราะมีอารมณ์กับหนูข้าวใช่ม้ายยยย 55555

เปลี่ยนเสื้อผ้างี้ พาเข้าห้อง ทำนู่นนี่ จูบเลยยยยยยย //อีนี่อัลไล 5555

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
กรี๊ดดดดดด ตื่นเต้นมากกกกกกก ทุกครั้งที่เรื่องนี้อัพจะมีเพื่อนๆคอยทวิตตลอดเลยค่ะแบบ ราชาข้าวจ้าวอัพแล้วววว
กรี๊ดกร๊าดกันแบบรัวๆ 5555555555 คือชอบกันมากเลยทั้งเราแล้วก็เพื่อน ติ่งหนักมากจริงๆค่ะ - / -
น้องน่ารักกกก น่าเอ็นดูมาก เพื่อนราชาแอบน่ากลัวอ่ะ 5555555 เพิ่งไปดู zootopia มานี่น้องเหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวจ้อย
แล้วทุกคนที่เหลือเหมือนเป็นยักษ์อ่ะค่ะ รุมทีน้องแทบจมหายไปเลยอะไรแบบนี้ (ฮา)
ตอนนี้น่ารักมุ้งมิ้งสุดๆ งื้อออ ราชาอย่าให้ความหวังมากดิ ขนาดอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรน้องยังรักมาตั้ง 11 ปีเลยนะ
มาใกล้ขนาดนี้ รับรองให้ตัดใจยังไงก็ไม่มีทางทำได้แน่ๆอ่ะ

/เอ็นดูข้าวจ้าวมากค่ะตอนมารอตั้งแต่ 11 โมงกว่า คือน่ารัก ต่างคนต่างเครซี่ได้อีก > ////////// <
เดี๋ยวอ่านอีกรอบแล้วจะทานคำผิดให้นะคะ ฮิๆ รอตอนต่อไปปปปปป

ปล. เหมือนน้องอ่อยเลยง่ะ ชวนขึ้นห้องด้วย :-[

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เพื่อนๆของราชาฝากราชาไว้กับข้าวจ้าวแล้วน้าา  :impress2:

อยากจะนั่งไทม์แมชชีนไปวันอาทิตย์หน้าจังเลยยย

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อ่านแล้วเขิน คิดว่าตัวเองเป็นน้องข้าวจ้าว โดนพี่ราชาเกี้ยว ตัวหมุนเป็นเกลียว ตีลังกากลับหลังทำราวดอร์ฟสามรอบ  :-[
พี่ราชาคะ ถ้าพี่จะขี้แกล้งอย่างนี้ รีบพาข้าวจ้าวไปทำงานด้วนเถอะค่ะ เค้าจะได้ฟินยิ่งกว่านี้

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เป็นเรื่องที่รอคอยให้ถึงวันอาทิตย์เพื่อจะได้อ่านอะ สนุกมากจริง ๆ

คนเขียนสู้ ๆ นะครับ

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[

เค้าจะไปห้องกันแล้นน ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ PREMIUM_ALMOND

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ราชาอย่าแกล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ uptoboo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมอบอุ่นอย่างนี้

งื้ออออออ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ข้าวเจ้าชวนราชาเข้าห้อง
คนขี้อายอาการจะเป็นยังไงบ้างนะ
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ดีดดิ้น อยากถึงสัปหน้า ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอวันนี้อีกตอนได้มะคะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อ้าวนี่เค้าชอบกันนี่คะคุณ555555

ออฟไลน์ Who-1-13-9

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :impress3: ในที่สุดราชาก็จะรู้ใจตัวเองสักที รอมานานแล้ว

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
เอ้ยย ชวนเข้าห้องอ่ะๆๆ 55555555
ข้าวจ้าวขี้อายแต่ความอดทนสูงมากนะ เป็นเราคงได้เบิ้ดกระโหลกเพื่อนๆของราชาไปสักคนละ หมั่นไส้ :beat:

ออฟไลน์ cocococoa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
ฮือ ค้างมากๆ แอร๊ย   :ling1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เขาไม่เรียกแกล้งนะลูก เขาเรียก " อ่อย" อ่อยแรงงงงง  จ่ะ ข้าวจ้าวววว  :hao3:

ราชาน่ารักขึ้นนะ มีขงมีเขินนะยะเทออออ ราชาเขิน ข้าวจ้าวเขิน แล้วคนอ่านจะเหลือเร้อ? ตัวบิด หน้าแดง กันไปดิ ตัลล้ากกกก :o8:

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
ความรู้สึกเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วนะราชา
แต่ตอนหน้านี่รู้แจ้งเห็นจริงเลยใช่มั้ยยยย :กอด1:

ข้าวจ้าวหน้าแดงตลอดเลย น่ารักมากกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด