❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 547496 ครั้ง)

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ราชาน่ารัก หลงรักพระเอก อึ๋ย มาต่อไวๆนะ
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
อย่าทำอะไรเค้านะราชา

 :laugh:

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอย ประโยคสุดท้าย มันโดนมาก
รีบมาต่อนะ รออยุ่   :-[ :o8:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แอะๆ ชวนราชาไปทำอะไรอ่ะข้าวจ้าว

ออฟไลน์ aommaboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกอะ ข้าวจ้าวเริ่มรุกราชาเลย ไม่ต้องเขินนะ5555

ออฟไลน์ paraprove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้าวจ้าวรุกราชาแบบใสๆ สินะ

ฮ่าๆๆ พลังทำลายล้าง มนุษย์โมเอะคนนี้น่ากลัวมากกกก

อยากวิ่งเข้าไปฟัด   :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Guy_BLove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ราชาขี้แกล้ง 55555555

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อ่านสปอยแล้วแบบ อยากอ่านต่อเลยอ่ะ

ออฟไลน์ 110135T

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบข้าวเจ้ามากกกก น่ารักไปอีก
ราชาก็เอาแต่แกล้ง จนตัวเองโดนบ้าง  :z1:

ออฟไลน์ uptoboo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ราชาอย่าทำอะไรข้าวจ้าวนะ
แค่นี้ก็เขินจะแย่อยู่แล้ว ^^
 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
โอ้ย เมื่อยกราม ยิ้มๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ tonnum18

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เข้ามาอ่านวันนี้ตั้งแต่ตอนแรก  จนถึงตอนปัจจุบัน  ยอมรับค่ะว่าอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นค่ะ

เข้าใจง่าย และหนูข้าวจ้าวก็ขี้เกรงใจด้วย และราชาก็ขี้แกล้ง ทำให้อ่านไปยิ้มไปค่ะ

สรุปคือชอบค่ะ  จะรออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอย... น่ารัก อบอุ่นหัวใจที่สุด เขิลๆๆ

รอตอนหน้าแทบไม่ไหว     :-[

ออฟไลน์ แอลฟาฮาลา~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอค่ะ กำลังสนุกเลย :z2: :ruready

ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
 :-[  ทำดีมากข้าวจ้าว ชวนขึ้นห้องเลยค่ะ

ออฟไลน์ yeelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ๊าก!!!!!!!!!!!! ข้าวจ้าวน่ารัก ราชาขี้แกล้ง เหมาะมาก ชอบอ่านนิยายแนวนี้สุดๆ #ฟินกระจาย  :haun4:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
อย่าเครียดกับการสอบน้าาา
ขอให้ได้เกรดดีๆนะค้า :กอด1:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
จริงๆอ่านไปหลายรอบแล้วค่ะ /สารภาพ 555555 แต่เปิดคอมมาทีทำรายงานปั่นงานตลอดเลย
เพิ่งได้มาทวนคำผิดให้วันนี้เอง ; - ; .. ตามนี้เลยค่า

ถึงกลับ - ถึงกับ
สั่นระริกใต้อยู่
เซงๆ - เซ็ง
จอดเรียบอยู่ - เลียบ
มุ่งน่า - มุ่งหน้า
อบอวน - อบอวล
แรงระเรือ - แดงระเรื่อ
แน่นปึก - ปึ้ก
ห่วงใจ - ห่วงใย

ตอนหน้ารู้ใจตัวเองแล้วววว โอ๊ยเขินอ่ะ - /////// - ราชายิ่งเป็นคนไม่ใส่อะไรนอนอยู่ด้วย แค่คิดก็เขินแล้ว งื้ออออ
ราชาเนียนขอค้างให้ได้นะ!! 555555555555555
จะรอตอนต่อไปค่าาา อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลยจริงๆนะคะ > < เป็นกำลังใจให้เสมอเลยย  :L2:

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นเรื่องที่น่ารัก อ่านแล้วเขินชะมัดเล้ยยยย  :o8:

ออฟไลน์ kkoyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาตามอ่านทีเดียวเลย โอ้ยน่ารักมาก ฟินนนน
รอตอนต่อไปนะคะ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ขี้อ่อยทั้งคู่

ฟินๆๆ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
หวีดแรงมากกกกก อยากอ่านต่อออ

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
เข้ามารอทุกวันเลยค่า

ออฟไลน์ meuy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้ามารอราชาข้าวเจ้า><

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
แอบรัก⊰❤⊱วันที่11



บรรยากาศในช่วงค่ำของผมควรจะเป็นช่วงที่ผ่อนคลายจากการทำงานมาตลอดทั้งวันแต่วันนี้กลับไม่เหมือนเดิมเพราะมีแขกเข้ามาพักที่ห้องด้วย ถ้าแขกที่ว่าเป็นน้าแก้วหรืออาวิก็คงไม่ต้องมานั่งใจสั่นอยู่แบบนี้หรอก

“เป็นอะไรไปข้าวจ้าว?”เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เจ้าของห้องตัวอย่างผมเกร็งขึ้นทันที

“...ราชา”ผมหันไปด้านหลังพร้อมกับเรียกชื่อของคนที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อยืดสีขาวกางเกงสามส่วนสีเทาเข้มตรงหน้า เส้นผมสีดำซอยสั้นที่ลู่ลงจากการสระสร้างความเซ็กซี่ให้คนตรงหน้าอีกเป็นกอง

หลังจากที่ผมชวนราชามาพักที่ห้องของตัวเองก็ได้บอกให้เขาเข้าไปอาบก่อนเพราะตัวของราชาเย็นมากถ้าปล่อยไว้อีกไม่นานต้องป่วยแน่ๆ แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะยอมไปอาบน้ำพวกเราก็เถียงกันอีกรอบเรื่องที่ใครจะเป็นฝ่ายอาบน้ำก่อน

กว่าราชาจะยอมก็ใช้เวลาไปมากทีเดียว

“รีบไปอาบเถอะ...อากาศเย็นๆแบบนี้อาบน้ำอุ่นนะ”ราชาบอกพรางนั่งลงที่โซฟาสีน้ำตาลข้างๆผม

“อืม”

“อย่าลืมสระผมด้วยนะ”เสียงของราชาไล่ตามหลังมาก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้องน้ำไป

ความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้ทำให้ผมรู้สึกแย่มากเพราะตัวเองคิดกับราชามากเกินกว่าเพื่อน...ความรักที่มีให้ตลอด11ปีมันไม่สามารถลบออกไปจากใจได้ง่ายๆเพียงแค่ถูกปฏิเสธ

ยิ่งราชาทำเหมือนให้ความหวังแบบนี้ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

ทำไมต้องยิ้มให้ด้วยสายตาที่มีความสุข...

ทำไมต้องต้องหันมามองด้วยสายตาที่ห่วงใย...

ทำไมต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจผมมันเต้นผิดจังหวะ...

ถ้าเขายังทำแบบนี้แล้วผมจะตัดใจได้ยังไงกัน?!

การอาบน้ำผ่านไปจนผมเปิดประตูห้องน้ำออกในจังหวะเดียวกับที่ราชาหันมาพอดี...ทันทีที่เขาเห็นผมดวงตาคมสีน้ำตาลก็เบิกกว้างขึ้นจนเจ้าของร่างต้องก้มลงมองตัวเองที่ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นที่เผยให้เห็นผิวขาวๆของตัวเองด้วยความตกใจ

“ยะ...อย่ามองนะ!”ผมรีบตะโกนบอกคนตรงหน้าที่ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแล้ววิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าที่วางอยู่ไม่ไกล

ลืมไปเลยว่าหยิบชุดนอนแบบไหนเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ อาจเพราะคิดอะไรหลายๆอย่างในหัวทำให้เผลอหยิบเสื้อผ้าออกมาตามความเคยชินโดยไม่ดูให้ดีก่อน

ให้ราชาเห็นสภาพแย่ๆเข้าแล้วสิ

ทำไงดี

การใส่ชุดแบบนี้ออกมามันก็เหมือน...

ผมกำลังเชิญชวนราชาอยู่น่ะสิ?

เสื้อคอกลมตัวโคร่งสีฟ้าที่อยู่ในตู้ถูกสวมทับเสื้อกล้ามสีเนื้ออย่างรวดเร็ว...แค่เสื้อตัวนี้ก็ยาวเกือบจะถึงหัวเข่าแล้วทำให้ไม่ต้องหยิบกางเกงอีกตัวมาใส่เพิ่ม

ทั้งที่จัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดูได้แล้วแต่ก็ยังไม่กล้าออกไปหาราชาอยู่ดี

ทำเรื่องงามหน้าขนาดนั้นแล้วจะให้ผมเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรได้ยังไงกัน

“ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอ?”ในระหว่างที่กำลังคิดเสียงของราชาก็ดังแทรกเข้ามา

“เสร็จแล้ว”และปากของผมก็ดังตอบกลับไม่โดยไม่คิด

เมื่อเป็นแบบนี้ก็มีแต่ต้องจำใจเดินออกไปเผชิญหน้ากับราชาโดยที่พยายามไปสบกับดวงตาคมคู่นั้น

“ทำไมนั่งห่างขนาดนั้นล่ะ?”อีกฝ่ายถามถามเมื่อเห็นผมเดินมานั่งติดขอบโซฟา

“...เอ่อ...ผมร้อน”คำแก้ตัวบ้าๆถูกเอ่ยออกไปอย่างไม่ทันคิดอีกครั้ง

พายุฝนตกหนักขนาดนี้จะร้อนได้ยังไงล่ะ

อย่างน้อยก็น่าจะเป็นคำแก้ตัวที่ดูดีกว่านี้สักหน่อย

“ร้อน?...ฝนตกหนักขนาดนี้น่ะเหรอ?”ดูเหมือนคำโกหกของผมจะใช้ไม่ได้จริงๆสินะ

“...”

“ก้มหน้าหนีกันอีกแล้ว”เสียงทุ้มของราชาดังขึ้นก่อนจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนของอีกฝ่ายที่ขยับเข้ามาใกล้มาขึ้น

“ขะ...เข้ามาใกล้ทำไม?”ผมรีบหันไปพูดกับแขกที่ยังเคลื่อนที่มาใกล้พร้อมกับพยายามขยับหนีเพียงแต่ถอยหลังไปได้เพียงนิดเดียวก็ถึงขอบโซฟาซะแล้ว

“หมดทางหนีแล้วนะ”อีกฝ่ายคลียิ้มออกมาเมื่อเห็นผมจนมุมทำอะไรไม่ถูกแบบนี้

“...ราชา...”จะทำอะไร

แกล้งกันเหรอ?

“ข้าวจ้าว...คุณกำลังทำให้ผมสับสนรู้ไหม?”

“พูดอะไร?”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

ทำให้สับสนอะไรกัน?

เขาต่างหากที่กำลังทำให้ผมสับสน

การที่เขาเข้ามาใกล้...พูดคำหวานๆแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกดีแต่ก็รู้สึกแย่ในเวลาเดียวกัน

มันเจ็บเวลาที่เหมือนถูกให้ความหวังทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นจริงได้

“ไม่รู้สิ...เพียงแค่...มันแปลก”ราชาบอกพร้อมกับเอื้อมมือข้างหนึ่งมาสัมผัสใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน...ดวงตาคมสีน้ำตาลจ้องมายังดวงตาผมเหมือนกำลังค้นหาคำตอบอะไรอย่าง

“...ราชา”

“เวลาที่ได้อยู่กับข้าวจ้าวผมรู้สึกสบายใจและมีความสุขมาก...”อีกฝ่ายพูดต่อก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น

สายตาของราชาที่มองมาทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะละสายออกมา มันเหมือนถูกดูดเข้าไปในดวงตาคู่นั้น...เพียงแค่เขาจ้องมาผมก็ไม่อาจแม้แต่จะขยับร่างกาย

สิ่งที่ทำได้มีเพียงกำชายเสื้อสีฟ้าของตัวเองแน่นขึ้นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์และเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเท่านั้น

“...ดีใจที่ทำให้ราชาสบายใจ...การมีเพื่อนมันคงดีแบบนี้แหละ”ผมตั้งสติก่อนจะบอกออกไปโดยไม่คิดเข้าข้างตัวเองในคำพูดที่สื่อความหมายออกมาได้หลายแง่

คำพูดของเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่นะ?

เขาต้องการคำตอบแบบไหนจากผมกัน?

“...เพื่อนเหรอ?...ไม่ใช่...ก็จริงที่เวลาอยู่กับเพื่อนเป็นช่วงเวลาที่สนุกและผ่อนคลายมากแต่มันไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับข้าวจ้าว”ราชานิ่งไปสักพักก่อนจะพูดต่อ ใบหน้าขาวของอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงเสียงของลมหายใจจากเราทั้งคู่

ตึก ตัก ตึก ตัก

ไม่เพียงแค่เสียงหายใจ...แต่เสียงหัวใจก็ดังอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน

ทั้งที่เสียงหัวใจนั่นน่าจะเป็นของผมคนเดียวแต่กลับได้ยินเสียงที่ดังไม่ต่างกันจากแขกเพียงคนเดียวของห้องในตอนนี้...

ไม่เข้าใจเลยว่าสถานการณ์ในตอนนี้คืออะไร?

ทำไมราชาถึงหัวใจเต้นแรงขนาดนั้นล่ะ?

“...ราชา...ปล่อย”ผมเริ่มดิ้นเมื่อคนตรงหน้าเข้ามาใกล้เกินไป สองมือของเขาเปลี่ยนมาจับที่บริเวณเอวผมพร้อมกระชับจนร่างกายผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

กลิ่นหอมอ่อนๆที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสอีกครั้งที่จะได้สัมผัสตอนนี้ผมกลับได้สัมผัสมันเต็มๆ

ทั้งที่ข้างนอกเกิดพายุฝนตกอย่างหนักแต่อ้อมกอดของราชาทำให้ความหนาวเย็นนั่นอุ่นขึ้นมาในทันใด...

นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกกอด...

แถมคนที่กอดยังเป็นคนที่แอบรักมาตลอด11ปีอีก

หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับทวีความแรงขึ้นไปอีก...ไม่รู้ว่าด้วยความความตกใจหรือตื่นเต้นกันแน่ที่ทำให้ผมเผลอผลักราชาเต็มแรงจนอีกฝ่ายเซไปอีกด้านด้วยความงุนงง

“...ข้าวจ้าว...”สายตาของราชาที่มองมาดูจะตกใจที่ผมผลักเขาออกเต็มแรงแบบนี้

“ขะ...ขอโทษ”

“...ทำไมต้องขอโทษล่ะ?”

“ก็ผมผลักราชา...”ผลักเต็มแรงเลยด้วย

“คนที่ควรขอโทษควรเป็นผมมากกว่าที่ทำแบบนั้นกับข้าวข้าว...ขอโทษ”

“...ราชา”ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะขอโทษผมทำไม

การที่ถูกราชากอดมันเป็นยิ่งกว่าความฝัน..แม้แต่ในฝันผมยังไม่กล้าคิดขนาดนั้นเลยแต่วันนี้ ที่นี่ผมได้ถูกราชากอด ไม่ใช่แค่คำขอโทษที่ต้องพูดออกไปแต่ยังต้องมีคำว่าขอบคุณด้วย

ดีใจมากจนไม่รู้ว่าจะสามารถกลั้นยิ้มไปได้อีกนานแค่ไหน

 “...ขอบคุณนะราชา”ผมเอ่ยขึ้นเมื่อคิดได้ว่าควรจะบอกคำนี้ออกไป

มันเหมือนตอนนี้ผมกำลังอยู่ในความฝันที่ตัวเองเฝ้าจินตนาการมาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา...

แถมเป็นฝันที่ยาวนานด้วย

“ขอบคุณ?...ทำไมถึง...”

“ราชาทำให้สิ่งที่เหมือนเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อมได้กลายเป็นจริง”ผมรีบพูดแทรกเพราะรู้ถึงคำถามที่อีกฝ่ายต้องการจะถาม
สิ่งที่พูดนั้นไม่ได้เกินไปเลยสักนิด

“ความฝัน...ที่ไกลเกินเอื้อม?”ดูเหมือนราชาจะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ผมต้องการจะบอกสินะ

“...ราชาก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับราชา...การที่ได้มองอยู่ห่างๆมันก็มีความสุขมากแล้ว...ทั้งที่ต้องการเพียงแค่นั้นแต่ราชากลับยอมให้ผมเป็นเพื่อน...ยอมให้ผมเข้าใกล้และได้พูดคุย...แล้ววันนี้มันก็เหมือนอยู่ในความฝัน...”

“ผมได้ยืนรอราชามารับเพื่อไปเที่ยวนิทรรศการด้วยกัน...ได้กางร่มคันเดียวกันและยังได้...พาราชาเข้ามาที่ห้องอีก...แค่นั้นก็เหมือนกับอยู่ในความฝันแล้ว...มันมากเกินพอและมากเกินไปด้วย...ทั้งแบบนั้นราชาก็ยังกอดผมอีกนั่นทำให้ผมอยากขอบคุณ...ถ้ามันเป็นเพียงฝันที่ยาวนานผมก็ไม่อยากตื่นจากความฝันนี่เลยรู้ไหม”



(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)


RACHA’s part


คำพูดนั่นทำให้ผมที่นั่งฟังอยู่ถึงกับทนไม่ไหวคว้าตัวของข้าวจ้าวมากอดไว้อีกครั้งหนึ่งด้วยความสับสนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มจางๆและหยาดน้ำตาที่ไหลรินเมื่อพูดประโยคเหล่านั้นออกมาก็คงจะคิดเหมือนกับผมในตอนนี้...

ไม่อยากให้ใครได้เห็นใบหน้าแบบนั้นของข้าวจ้าว

อยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่ดูมีความสุขนั่น

“ข้าวจ้าว...”ผมเรียกชื่อของคนในอ้อมกอดที่ครั้งนี้ไม่ผลักไสแต่กลับกำเสื้อที่ผมใส่อยู่แน่นราวกับจะไม่ให้ความฝันนั้นมันหายไปต่อหน้า

ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรักผมมากแค่ไหน

ไม่รู้ว่ารักมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง

ที่ผมรู้มีเพียง...เขารักผมมากเหลือเกินแถมยังเป็นรักที่ไม่ต้องการให้รักตอบด้วย เพียงแค่ได้มองหรืออยู่เคียงข้างเขาก็พอใจแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่รับรู้ถึงความรู้สึกรักจากใครสักคนมากขนาดนี้

ไม่รู้ว่าทุกครั้งที่ข้าวจ้าวอยู่ใกล้ผมจะรู้สึกยังไง...อึดอัด...อดกลั้น...พยายาม...หรือเจ็บปวด

อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อคนที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ได้บ้าง...

แม้เพียงสักนิดก็ยังดี...

มีคำพูดหนึ่งที่คิดได้และอยากบอกออกไป...

บอกเพื่อย้ำให้อีกฝ่ายมั่นใจ...

“มันไม่ใช่ความฝันข้าวจ้าว”ผมก้มหน้าลงกระซิบเบาๆที่ใบหูของคนในอ้อมกอด

“...”

“ต่อให้คุณจะหลับและตื่นอีกสักกี่ครั้ง...สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันคือความจริง”ผมบอกคนในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแล้วทำบางสิ่งที่พึ่งเคยทำเป็นครั้งแรกในชีวิต

นั่นก็คือ...

การจูบเบาๆที่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของข้าวจ้าวอย่างอ่อนโยน

อ่อนโยนมากจนตัวเองยังรู้สึกได้

ผมไม่เคยทำแบบนี้กับใครและก็ไม่อยากทำแบบนี้กับใครด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้คิดแต่ร่างกายกลับขยับไปเองพอรู้สึกตัวมันก็เป็นอย่างที่เห็นไปแล้ว...แทนที่ผมจะผละออกแต่กลับกดย้ำสัมผัสนั้นที่เส้นผมนุ่มสลวยที่ยังเปียกชื้นอยู่อีกครั้ง

“...ระ...ราชา”เสียงนุ่มที่เรียกชื่อผมอย่างสั่นๆพร้อมสัมผัสของเสื้อที่ถูกอีกฝ่ายกำไว้จนแน่น

เขาคงจะอาย

ไม่ใช่แค่ข้าวจ้าวหรอกที่อาย...คนที่เป็นฝ่ายทำก็อายไม่ต่างกันหรอก

“ข้าวจ้าว...”

ยิ่งอยู่ใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอ...

ยิ่งอยู่ห่างมากเท่าไหร่กลับยิ่งคิดถึง…

ผมไม่ได้รู้สึกโกรธที่ได้ของจากคนไม่รู้จัก...

ไม่ได้รู้สึกแย่กับคำว่าชอบที่ข้าวจ้าวบอก…

และไม่ได้รู้สึกลำบากใจเมื่ออยู่ใกล้ๆ

ตรงกันข้าม...

รู้สึกดีที่เจ้าของรูปภาพพวกนั้นคือข้าวจ้าว

รู้สึกดีที่ได้เห็บรอยยิ้มกับใบหน้าแดงๆเมื่อถูกแหย่

รู้สึกดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน

ความรู้สึกแบบนี้...มันคืออะไรกัน?

จะบอกว่ามันคือ...รักงั้นเหรอ?

ผมไม่รู้เพราะไม่เคยรักใครมากก่อน

ถ้าถามว่าชอบข้าวจ้าวไหม?

ก็ตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่าชอบ...

ชอบมากด้วย

คำว่าชอบที่มอบให้ข้าวจ้าวนั้นต่างกับที่มอบให้กับเหล่ามิตรสหายที่เรียนมาด้วยกันอย่างสิ้นเชิง

จะบอกว่าพิเศษก็ไม่ผิด

แต่จะมั่นใจได้ยังไงว่ามันคือรัก

ไม่อยากให้ข้าวจ้าวต้องเจ็บเพราะความรู้สึกครึ่งๆกลางๆของตัวเอง

“...ราชา...ขอบคุณ...ขอบคุณ”คำพูเดิมๆถูกพูดซ้ำหลายต่อหลายรอบโดยที่เจ้าของคำพูดขยับตัวเข้าหาผมมากขึ้น...ข้าวจ้าวที่เป็นคนขี้อายกลับเข้าหาผมเอง

แบบนี้จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงกัน

“...ข้าวจ้าว...ผมอยากได้ยินคำคำหนึ่งจากคุณ”หลังจากที่เงียบอยู่นานผมก็ตัดสินใจบอกอีกฝ่ายไปตามตรงพร้อมกับค่อยๆคลายอ้อมกอดนั้นออกด้วยความรู้สึกแปลกเหมือนไม่อยากปล่อยให้คนในอ้อมกอดออกไปตอนนี้

“...อะไรเหรอ?”ดวงตาสีเขียวปนเทามองผ่านเลนส์แว่นที่ขึ้นเป็นไอด้วยความร้อนจากน้ำตาที่ไหลลงมา นั่นทำให้ผมเอื้อมมือไปถอดแว่นสายตาของข้าวจ้าวออกมาแล้วเช็ดฝ้านั่นออกให้

“ราชาไม่ต้องทำก็ได้...ผมทำเอง”เสียงของข้าวจ้าวดังขึ้นก่อนแว่นที่อยู่ในมือผมจะถูกมือขาวนั่นคว้ากลับไปเช็ดเองอย่างรวดเร็ว

ผมที่ถูกอีกฝ่ายคว้าแว่นไปก็เปลี่ยนไปมองใบหน้าขาวที่ปราศจากแว่นด้วยความเผลอไผล...ใบหน้าที่ไม่มีแว่นปกปิดทำให้อีกฝ่ายดูดีขึ้นเป็นกอง...ดวงตาสีสวยแปลกตาเด่นขึ้นมาในทันทีและเส้นผมสีน้ำตาลซอยระต้นคอนั่นยิ่งทำให้ข้าวจ้าวดูมีเสน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่า

ถ้าสาวๆได้มาเห็นคงจะส่งเสียงกรี๊ดเพราะความดูดีนี่ไม่ต่างจากที่เห็นผมแน่นอน

ครั้งแรกที่เห็นใบหน้าที่ไม่มีแว่นก็ตอนที่ไปเกาะทางตอนใต้เพื่อนทำการโปรโมทเกาะเมื่อนานมาแล้ว...ยิ่งเห็นใบหน้านั่นใกล้ๆอีกครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวไม่ถูก

พอข้าวจ้าวสวมแว่นกลับดังเดิมก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมด้วยแววตาสั่นระริกราวกับกำลังต่อสู้กับความเขินอายของตัวเองอยู่...

“เอ่อ...ราชา”

“หื้ม?”

“...จะให้ผมบอกอะไรเหรอ?”คำพูดของข้าวจ้าวทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองมีอย่างหนึ่งที่อยากทดสอบให้แน่ใจนี่นา

“ช่วยบอกว่าคิดยังไงกับผมอีกครั้งได้ไหม?”ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“...อะ...เอ่อ...”ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ผมตรงการแกฝ่ายก็ทำท่ากระอักกระอ่วนพร้อมใบหน้าขาวที่ค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ

“ได้ไหม?”ผมถามย้ำอีกครั้ง

อยากให้ตัวเองแน่ใจในความรู้สึกนี้ก่อนจะบอกกับอีกฝ่าย

“...จะดีเหรอ...ความรู้สึกผมมันยังไม่เปลี่ยนนะ”

“ดีสิ”

 “...อื้อ”ใบหน้าแดงขยับขึ้นลงเล็กน้อยเป็นการตอบตกลง

“...”นั่นทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆเมื่อจะได้ยินคำนั้นอีกครั้ง

“...ผม...ชอบราชา”

“แค่ชอบเหรอ?”ตอนนี้ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าต้องการคำพูดแบบไหนออกมาจากปากของคนตรงหน้าแม้จะรู้สึกดีที่ได้ยินคำว่าชอบแต่ในใจกลับอยากฟังอีกคำที่มันมากกว่านี้...

“...ไม่ได้แค่ชอบ”เสียงนุ่มตอบรับเบาๆพร้อมส่ายหัวไปมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“งั้นอะไรล่ะ?”

“...ผมรักราชา”คำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดังขึ้นราวกับเสียงกระซิบแต่น่าแปลกที่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

คืนนั้นผมได้ค้างที่ห้องของข้าวจ้าวแต่นอนที่โซฟาเท่านั้น...ถึงตอนแรกอีกฝ่ายจะบอกให้ผมไปนอนเตียงแล้วตัวเองจะนอนโซฟาเองแต่คิดเหรอว่าคนอย่างผมจะยอม...ในเมื่อมารบกวนก็ไม่ควรทำให้เจ้าของบ้านลำบาก

ใจหนึ่งก็อยากนอนเตียงเดียวกันเหมือนอย่างเพื่อนคนอื่นแต่ด้วยความสับสนทำให้ไม่กล้าพูดคำขอนั้นออกไป...สิ่งที่รู้ยังคงเหมือนเดิมคือไม่ว่าจะฟังสักกี่ครั้งคำว่าชอบที่ดังออกมาจากปากข้าวจ้าวก็น่าฟังที่สุด...

ไม่สิ...คำที่น่าฟังมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่ชอบแต่เป็น...

รัก

วันต่อมาผมก็กลับไปทำงานที่บริษัทตามปกติ อีกไม่กี่วันก็ถึงเวลายายไปทำงานที่หอศิลป์ขนาดใหญ่ที่พ่อทุ่มทุนไปหลายพันล้านแล้ว...ทั้งที่อยากจะคุยกับข้าวจ้าวเรื่องนี้แต่เพราะความรู้สึกสับสนนี่เลยยังไม่ได้คุยสักที

การทำงานยังคงผ่านไปเรื่อยๆโดยไม่มีอะไรให้น่าจดจำ ชีวิตวัยทำงานเป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับผมเพราะนอกจากนั่งเซ็นเอกสารแล้วก็ยังต้องไปเข้าประชุมอีก...หลายวันที่ผ่านไปสร้างความเบื่อหน่ายให้อย่างมากแม้ว่าจะอยากขับรถไปหาข้าวจ้าวมากแค่ไหนก็ไม่มีเหตุผลดีๆที่จะไปหา

ถ้าเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเมื่อไหร่ผมจะรีบตรงไปหาอีกฝ่ายทันที

ตอนนี้ผมต้องการเวลาเพื่อคิดทบทวนตัวเองแต่ไม่ว่าจะทบทวนเท่าไหร่ก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้สักที

ครืดดดด~

เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟาภายในห้องนอนลุกขึ้นไปยังโต๊ะที่วางโทรศัพท์ไว้และเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นแทบจะทันที

ไม่อยากรับแต่ก็ต้องรับ

“ครับพ่อ”รับสายเสร็จก็ทักทายปลายสายด้วยเสียงเซงๆ

ไม่รู้ว่าที่โทรมาจะมีเรื่องอะไรอีก

(แกรู้รู้ไหมว่าฉันโทรมาเรื่องอะไร?)เสียงเข้มของชายวัยกลางคนดังมาจากปลายสาย

“ไม่รู้ครับ”คำตอบแทบไม่ต้องใช้เวลาคิดเลย

(คงไม่ได้ลืมที่สัญญากันไว้หรอกนะ)

“เรื่องไปดูแลหอศิลป์ของพ่อใช่ไหมครับ?”

มันไม่น่าจะมีเรื่องอื่นแล้ว

(เรื่องนั้นฉันพูดจบไปแล้วไม่มีอะไรต้องพูดอีกนอกจากตั้งใจบริหารงานให้ดีก็พอ)

ตั้งใจเหรอ?

แค่ตั้งใจมันคงไม่เพียงพอกับพ่อหรอกมั้ง

ต้องทำให้ได้

นี่สิถึงจะเป็นสิ่งที่พ่ออยากพูด

“ถ้าไม่ใช่เรื่องงานแล้วเรื่องอะไรล่ะครับ?”

(ลืมจริงด้วยสินะ...แกมีเวลาอีกอาทิตย์เดียวในการหาคนรักถ้าไม่ได้เตรียมไปดูตัวกับหนูมุกได้เลย)คำพูดจากปลายสายทำให้คิ้วผมผูกเข้าหากันโดยอัตโนมัติ

ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย

สองเดือนนี่ผ่านไปเร็วจริงๆ

“ผมขอเวลา....”

(ฉันให้แกมามากแล้ว...ในวันศุกร์หน้าถ้าหามาไม่ได้ก็อย่างที่บอกไป)

“ทำไมต้องบังคับผมขนาดนั้นด้วยพ่อ?!...ทำต้องรีบให้ผมมีคนรัก?!...ต่อให้ไปดูตัวอีกสักกี่ครั้งก็ไม่มีทางที่ผมจะถูกใจพวกเธอเหมือนกับขะ...”ทันทีที่ชื่อของบุคคลที่สามกำลังจะถูกเอ่ยขึ้นร่างกายผมก็ชะงักพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่พึ่งรู้สึกตัวว่ากำลังจะพูดอะไรออกไป

‘ต่อให้ไปดูตัวอีกสักกี่ครั้งก็ไม่มีทางที่ผมจะถูกใจพวกเธอเหมือนกับข้าวจ้าว’

นั่นคือประโยคที่ผมกำลังจะพูดออกไป

ไม่ถูกใจเท่าข้าวจ้าวเหรอ?

ก็จริงที่ถ้าให้เลือกว่าจะอยู่กับใครระหว่างคู่ดูตัวกับข้าวจ้าว

นั่นคงเป็นอีกคำถามที่ผมไม่ต้องเสียเวลาคิดคำตอบเลยสักนิด

(เหมือนกับอะไรราชา?...ที่เงียบไปแปลว่ามีคนที่ถูกใจสินะ)เสียงของพ่อทำให้สติที่ถูกดึงไปเริ่มกลับมาอีกครั้ง

ลืมไปเลยว่ายังถือสายอยู่

“...เปล่าครับ”จะให้เรียกว่าถูกใจก็ไม่ผิดแต่จะให้บอกพ่อก็ไม่กล้าอีก

(...ฉันไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใครแต่ในเมื่อมีคนที่ถูกใจก็พามาพบฉันด้วย)

“พ่อ...ผมบอกว่าเปล่าไง”

(ฉันไม่โง่ขนาดที่จะแยกคำโกหกกับความจริงไม่ได้ราชา)

“...พ่อ”

(สับสนงั้นสิ)

“...”คำพูดจากปลายสายทำให้ผมถึงกับสะอึก

ทำไมถึงรู้ได้

(มีลูกชายคนเดียวก็เป็นคนไม่เอาไหนจริงๆ...จะบอกอะไรแกสักอย่างนะราชา...เชิญแกสับสนซะให้พอเถอะ)

“หมายความว่ายังไงพ่อ?”

(แกจะสับสนได้แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ...ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับคนที่รู้สึกสับสนด้วยฉันบอกได้เลยว่าความสับสนนั่นมีจะปลิวหายไปในชั่วพริบตาแล้วความรู้สึกจริงๆจะออกมาเอง)

“พ่อ...”

(อย่าลืมพามาหาฉันด้วยล่ะ)

“...ขอบ...”

ปิ๊บ!

ยังไม่ทันที่จะได้ขอบคุณปลายสายก็รีบวางไปราวกับไม่อยากได้คำขอบคุณจากผมแต่นั่นไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่สักนิด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้คำแนะนำจากผู้เป็นพ่ออย่างจริงจังแบบนี้

“...ข้าวจ้าว”เมื่อวางสายไปได้สักพักผมก็เดินไปยังเตียงก่อนจะล้มตัวลงแล้วยกมือขึ้นก่ายหน้าผากอย่างใช้ความคิด

นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่สับสนที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

ยิ่งสับสนก็ยิ่งเครียด พอเครียดมากๆก็เริ่มปวดหัว

“โอ๊ย!...เรื่องง่ายๆทำไมถึงไม่เข้าใจนะ!”ผมด่าตัวเองก่อนจะพลิกตัวไปมาบนเตียงกว้างเป็นการทำโทษ ไม่นานดวงตาคมสีน้ำตาลก็หันมาหยุดที่ลิ้นชักข้างหัวเตียงที่ภายในมีภาพถ่ายพร้อมข้อความสั้นๆอยู่หลายใบ

ไม่นานผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะขยับไปยังลิ้นชักที่อยู่ด้านข้างเพื่อนำภาพถ่ายทั้งหมดที่ได้รับจากคนคนเดียวกันออกมาวางเรียงไว้รอบๆตัว รูปถ่ายใบแรกที่ได้รับถูกหยิบขึ้นมามองก่อนจะวางลงแล้วหยิบภาพต่อๆไปขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงรูปภาพใบล่าสุดที่ได้รับ

ระหว่างที่มองรูปถ่ายในมือสลับกับที่วางอยู่รอบเตียงคิ้วคมสีดำของผมก็ค่อยๆขมวดเข้าหากันอย่างเชื่องช้าโดยที่ในหัวเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง...

ถึงจะไม่ใช่มืออาชีพทางด้านการถ่ายรูปแต่ก็พอจะสัมผัสได้ว่ารูปภาพทุกใบที่เรียงรายอยู่ตอนนี้เป็นฝีมือของคนคนเดียวกันถ่าย มันคงไม่แปลกเพราะรูปถ่ายพวกนี้ผมได้รับมาจากมือของเจ้าตัวเอง

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือมีอีกใบที่มีความรู้สึกแบบเดียวกันอยู่

พอคิดได้ผมก็รีบลุกจากเตียงออกไปยังห้องรับแขกที่มีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ด้านข้างก่อนถึงระเบียงห้อง...ภายในเป็นห้องขนาดเล็กที่มีชั้นขนาดใหญ่วางไว้สองข้างทาง บนชั้นมีของต่างๆที่ไม่ได้ใช้นำมาเก็บไว้ตั้งแต่ของที่ได้ตอนชั้นประถม...

เห็นแบบนี้แต่ผมเป็นพวกชอบเก็บของที่มีคนให้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่ละชั้นจะมีเขียนติดไว้ว่าเป็นของตอนช่วงไหนและชั้นที่กำลังมองหาคือของในช่วงจบมหาวิทยาลัย

กล่องขนาดใหญ่สีน้ำตาลเปลือกไม้วางเรียงกันหลายกล่อง...ช่วงมหาลัยเป็นช่วงที่ผมป๊อบมากทำให้มีของที่ได้รับมาไม่เว้นวัน แม้จะตอบรับความรู้สึกของพวกเธอไม่ได้ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่รับของที่ตั้งใจทำมาให้หรอก

กล่องแล้วกล่องเล่าที่ถูกเปิดออกเพื่อค้นหาภาพถ่ายเพียงใบเดียวที่ไม่รู้ว่าตัวเองจำผิดไปรึเปล่า...เรื่องมันเกิดเมื่อนานมาแล้ว นานมากจนลืมไป

ไม่นานมือที่ค่อยๆยกของที่อัดแน่นอยู่ภายในกล่องก็ชะงักเมื่อพบกระดาษอัดรูปที่คว่ำหน้าไว้วางนอนอยู่ที่ก้นกล่อง...ผมหยิบมันขึ้นมาโดยที่ภวนาในใจว่าขอให้เป็นอย่างที่ตัวเองคิดด้วยเถอะ...

และทันทีที่พลิกรูปถ่าย ภาพที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปีก็ปรากฏขึ้น...รูปของตึกคณะที่ผมเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัยถูกถ่ายจากมุมสูงทำให้รู้ว่าคนถ่ายต้องอยู่บนตึกอีกฝั่งหนึ่งแน่ รูปใบนั้นให้ความรู้สึกเหมือนภาพที่วางเรียงรายอยู่บนเตียงผมในตอนนี้

“...Congratulations!...ยินดีด้วยที่จบการศึกษา”ผมอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยปากกาหมึกดำที่จางไปบางด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไป

ลายมือแบบนี้เคยเห็นมาก่อน...ไม่สิ...ต้องบอกว่าภาพนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลายมือของ...

ข้าวจ้าว

จำไม่ผิดจริงๆด้วย

ผมเคยได้ภาพจากข้าวจ้าวมาก่อนในวันจบการศึกษา?!

เรื่องในตอนนั้นจำได้แค่ว่าหลังจากหอบดอกไม้กับตุ๊กตาตัวใหญ่หลายสิบชิ้นกลับห้องก็ได้เจอภาพนี้ใส่อยู่ในกระเป๋าแล้ว ด้วยความที่ไม่คิดอะไรเลยนึกว่าคงเป็นหนึ่งในเพื่อนที่เรียนด้วยกันโดยไม่เอะใจเลยสักนิดว่ามันจะเป็นของคนที่แอบชอบตัวเองมาตลอด

“...นี่คุณชอบผมมาตั้งแต่ตอนไหนกันแน่นะข้าวจ้าว”ผมพึมพำด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะนำรูปถ่ายที่พึ่งหาเจอไปเก็บรวมไว้กับใบอื่นๆ

วันต่อมาผมก็มาทำงานที่บริษัทเหมือนในทุกๆวันแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นความรู้สึกอัดอั้นด้วยความอยากรู้...ตั้งแต่เมื่อคืนที่รู้ว่าข้าวจ้าวเคยให้ภาพถ่ายกับตัวเองมาก่อนคำถามมากมายก็ไหลออกมาราวกับน้ำป่าไหลหลาก...

คุณเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันใช่ไหม?

คุณเรียนคณะอะไร?

คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเรียนอยู่คณะไหน?

คุณเป็นคนเอาภาพถ่ายมาใส่ในกระเป๋าผมตอนวันจบการศึกษาใช่ไหม?

และคำถามที่ผมอยากรู้มากที่สุดก็คือ...

คุณรักผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่...ข้าวจ้าว?

คำถามมากมายดังขึ้นสลับกันไปมาจนไม่มีสมาธิในการทำงานเลยสักนิดผมเลยตัดสินใจลาพักแล้วขับรถออกจากที่บริษัทโดยมีจุดหมายอยู่ที่ร้านแกลลอรี่เล็กๆที่ชื่อVI&Kโดยที่มีใบหน้าของชายหนุ่มที่อายุเท่ากันปรากฏอยู่ในหัวตลอดการขับรถ

รถหรูสีดำเงาเคลื่อนที่มาจนถึงหน้าร้านก่อนจะดับดับเครื่องแล้วเตรียมลงจากรถในขณะเดียวกันกับที่สายตาของผมหันไปเห็นร่างของคนที่คุ้นเคยกำลังเดินมาแต่ในตอนที่จะก้าวเท้าไปหาก็เห็นชายหนุ่มอีกคนที่ดูจะอายุมากกว่าวิ่งตามมาจากด้านหลังแล้วใช้มือคว้าคอของข้าวจ้าวอย่างรวดเร็วจนร่างกายบางๆนั่นเซเข้าไปหาชายด้านข้างทันที

ดวงตาคมสีน้ำตาลของผมมองภาพที่เห็นด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายปีตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น

ความรู้สึกนั้นคือหงุดหงิด

ขาของผมเตรียมจะก้าวไปหาข้าวจ้าวทันทีเพราะคิดว่าเจ้าของดวงตาคู่สวยกำลังถูกชายอีกคนตามรังควานอยู่แน่แต่ฉากต่อมาที่เห็นทำให้ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปช่วยหยุดชะงักในทันที...ภาพที่ข้าวจ้าวหันไปยิ้มกว้างให้ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างพร้อมกระโดดกอดคออีกฝ่ายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม...

ไม่เหมือนกับคนที่ถูกตามรังควานเลยสักนิด

เหมือนเป็นคนที่สนิทหรือรักกันมากๆมากกว่า...

รักเหรอ?

อย่าบอกนะว่าชายคนนั้นเป็นคนรักของข้าวจ้าว?

เพียงแค่คิดความหงุดหงิดที่มีก็เริ่มมีความโมโหเพิ่มเข้ามา...

ทั้งที่วันก่อนยังบอกชอบผมด้วยใบหน้าแดงระเรื่อแบบนั้น...อย่าบอกนะว่าทำหน้าแบบนั้นให้หมอนั่นเห็นด้วยน่ะ?

“บ้าเอ้ย!”ผมถึงกับทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ได้

ภายในใจมันเจ็บไปหมดเพียงแค่เห็นภาพที่ข้าวจ้าวหันไปยิ้มกว้างให้คนอื่น

ไม่อยากให้ใครได้เห็นรอยยิ้มกับน่าทางน่ารักๆนั่น

ผมอยากเป็นคนเดียวที่เห็นมัน

‘ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับคนที่รู้สึกสับสนด้วยฉันบอกได้เลยว่าความสับสนนั่นมีจะปลิวหายไปในชั่วพริบตาแล้วความรู้สึกจริงๆจะออกมาเอง’

คำพูดพวกนั้นที่ได้ยินมา...ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นความจริง

อย่างที่พ่อบอกเลย...

ความสับสนที่มีมันหายไปในพริบตา

เหลือเพียงความรู้เพียงอย่างเดียว...

ดวงตาสีเขียวปนเทานั่นต้องสะท้อนเพียงภาพของผม...

ใบหน้าสีขาวอมชมพูนั่นต้องแดงระเรื่อเพราะคิดเรื่องของผม...

รอยยิ้มสวยนั่นต้องส่งมาหาเพียงผม...

และน้ำเสียงนุ่มหวานนั่นต้องเอ่ยเรียกเพียงชื่อผมเท่านั้น!

ในตอนนี้ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกจริงๆของตัวเองคืออะไร....

ผมรักข้าวจ้าว!

เพราะแบบนั้นจะไม่ยอมให้ใครได้แตะข้าวจ้าวของผมเด็ดขาด!!

..............................................................................................

สวัสดีค่ะ

มายาวๆให้อ่านกันจุใจจจ

อย่างที่สปอยไป...ตอนนี้ราชารู้ตัวแล้วว่าชอบข้าวจ้าว ซึ่งนานมากกกกก...คนอ่านเขารู้กันตั้งแต่ตอนแรกแล้วมีแต่พระเอกเรานี่แหละที่ไม่รู้ตัวสักที

ก็อย่างนี้แหละคนที่ไม่เคยมีความรัก

แต่ตอนนี้พระเอกเราดูเหมือนจะคิดเองเออเองมากไปนิดเนอะ

ข้าวจ้าวของใครนะ...ของผมเหรอนายราชา

อยากบอกว่าถ้ารู้ตัวช้ากว่านี้ข้าวจ้าวคงตกเป็นของคนอ่านแล้วล่ะ555

ในเมื่อราชารู้ตัวแล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นนะ?

แล้วผู้ชายที่อยู่กับข้าวจ้าวเป็นใคร?

ไม่ต้องต้องเตรียมหม้อไว้ต้มมาม่านะคะเพราะไม่มีแจกค่ะ อิอิ

เรื่องนี้อ่านสบายๆไม่ต้องเครียดนะคะ...ในความเป็นจริงอาจไม่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นแต้ถ้าจะให้แต่งตามหลักความจริงทั้งคนแต่งและคนอ่านคงได้กินมาม่ากันจนเบื่อไปข้างแน่

ตอนหน้าพบกับ...อะไรดีนะ?

ในเมื่อความรู้สึกตรงกันแล้วก็ต้อง...

...(เว้นให้คนอ่านคิดเอาเอง)...

เอาเป็นว่าไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า

ขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นต์นะคะ

ถึงจะไม่ได้ตอบคอมเม้นต์แต่อ่านอยู่นะคะ

มีหลายคนที่ตามมาจากเรื่องอื่นๆต้องขอบคุณมากนะคะ(พึ่งมาขอบคุณ?)

บ๊ายบายค่าา :mew3:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ คุณข้าวทอด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ราชาคนซื่อบื้ออ5555 กว่าจะรู้ตัวโถะะ นี่ถ้ารู้ว่าข้าวชอบมาตั้งแต่ตอนไหนคงช็อค5555 เราชอบข้าวจ้าวม่ก ดูเป็นคนที่สตรองมาก5555 พ้าคุณพ่อเห็นหน้าลูกสะไภ้จะตกใจไหมคะเนี่ย5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2016 12:21:28 โดย คุณข้าวทอด »

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ราชาเอ้ยกว่าจะรู้ตัวนะเนี่ย เป้นไงล่ะ พอมาหาข้าวจ้าวนี่ หายสับสนเลยสิเนี่ย  :hao3:

อย่าเพิ่งไปคิดเองเออเองล่ะราชา

รอตอนต่อไปปปป  :katai1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :z3:

ในที่สุดๆๆๆๆๆ :ling1:

ว่าแต่ ผชคนนั้นใครหน้อออออ?

  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด