(ต่อค่า)
“พอแล้วราชา”ผมส่งเสียงบอกคนที่กำลังเดินเข้าไปยังสนามหญ้า
“พอแล้วเหรอ?”ราชาถามกลับก่อนจะวิ่งเหยาะๆเข้ามาหาผม
“อืม...นี่ก็มืดแล้วถึงจะมีแสงไฟช่วยแต่ภาพที่ออกมาก็ไม่เหมาะจะเอาไปโปรโมทหรอก”ผมตอบกลับ
“งั้นก็มาถ่ายรูปคู่กัน”
“...รูปคู่?”
“ใช่...ผมกับข้าวจ้าวไง”
“...จะให้ใครถ่ายล่ะกล้องผมไม่เหมาะสำหรับถ่าเซลฟี่หรอกนะ”ผมตอบเสียงสั่น ตอนนี้เหมือนตัวเองเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่...
จะได้ถ่ายรูปกับราชาด้วย
รูปคู่กับราชา
แค่คิดก็ใจเต้นแล้ว
“กล้องโทรศัพทผมก็ได้”พูดจบราชาก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วกดเปิดกล้องหน้า
ตัวผมถูกดึงให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของราชาโดยที่หันหน้าเข้าหากล้องที่ปรากฏรูปผมหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อถูกราชาโอบไว้จากด้านหลัง เสียงซัตเตอร์ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งไม่รอให้ผมยิ้มสักนิด
“ราชา...รอก่อนสิ”ผมรีบพูแล้วยกมือขึ้นปิดหน้ากล้องที่ยังกดถ่ายต่อด้วยฝีมือของราชา
“ก็คุณน่ารักผมรอไม่ไหวหรอก...น่าแดงๆนี่จะถ่ายเก็บไว้สักร้อยรูป”ราชากระซิบบอกก่อนจะหอมแก้มผมแรกจนเกิดเสียงดัง
“ระ...ราชา”ผมเรียกเสียงสั่นแต่ดูเหมือนคนถูกเรียกจะไม่สนใจ พอผมลดมือที่ปิดกล้องไว้ลงเสียงซัตเตอร์ก็ดังขึ้นติดๆกันอีกครั้ง
กว่าราชาจะพอใจก็ใช้เวลาไปพอสมควร...รถยนต์สีดำแล้นออกจากหอศิลป์Art of Gobleไปตามถนนใหญ่เหมือนตอนขามา ผมนั่งเงียบๆโดยไม่พูดอะไรเพราะกำลังคิดหนักว่าจะเอายังไงดี
จะย้ายไปอยู่คอนโดราชาดีไหม
แต่ผมก็อยากอยู่ที่ห้องเดิมเหมือนกันนี่
คิดไปคิดมารถของราชาก็มาจอดลงหน้าห้องพักผมซะแล้ว
“...ราชา...”ผมหันไปมองข้างกายงงๆ
นึกว่าถ้าผมไม่ตอบจะพาไปคอนโดเลยซะอีก
“ผมไม่อยากให้คุณคิดมาก...ไม่เป็นไรไว้คราวหน้าก็ได้”ราชาตอบพลางส่งยิ้มมาให้
ผมได้แต่มองรอยยิ้มนั้นพร้อมเม้มปากแน่นอย่างช่างใจ
“...ราชา”ผมเรียกเมื่อตัดสินใจบางอย่างได้
“หื้ม?”
“รอผมสัก5นาทีได้ไหม?”ผมถาม
“ได้สิ...ทำไมเหรอ?”ราชาถามกลับด้วยใบหน้าสงสัย
“ผมขอไปเก็บเสื้อผ้าแป๊บนึง”
“...”คำตอบของผมทำให้ดวงตาคมสีน้ำตาลเบิกกว้างขึ้น
“ผมขอไม่ย้ายนะเพราะยังอยากที่จะอยู่ห้องนี้อยู่แต่ถ้าไปค้างเป็นครั้งคราวก็โอเค...อ๊ะ...”ยังไม่ทันพูดจบประโยคร่างของผมก็ถูกราชาดึงเข้าไปกอดแน่น
“อืม...แค่ค้างบางครั้งก็ได้...ดีใจจังเลย”
“...ผมก็ดีใจ”ผมเอื้อมมือไปกอดตอบอีกฝ่ายแล้วพึมพำออกไป
“ดีใจอะไร?”
“ก็...จะได้มีเวลาอยู่กับราชามากขึ้นไง”
“รีบไปเก็บเสื้อผ้าก่อนที่ผมจะจูบคุณอีกรอบเลย”ราชาบอกก่อนจะคลายอ้อมกอดออก
น้ำเสียงที่ส่งมาฟังก็รู้ว่าเอาจริงผมเลยรีบลงจากรถวิ่งเข้าไปเก็บเสื้อผ้าที่จำเป็นออกมา...ใช้เวลาเกือบ10นาทีก็กลับขึ้นมายังรถของราชาอีกครั้ง รถยนต์คันสีดำแล่นสู่ถนนใหญ่อีกครั้งโดยที่จุดหมายอยู่ที่คอนโดหรูชั้นที่28ห้องของราชานั่นเอง
ทุกอย่างภายในห้องยังคงเหมือนครั้งล่าสุดที่มาตอนช่วงที่ถูกราชาขอเป็นแฟน...ครั้งนั้นว่าหัวใจแต้นแล้วแต่ครั้งนี้กลับเต้นดังกว่า...
ไม่ให้เต้นแรงก็แปลกแล้ว...วันนี้ไม่ใช่แค่มาห้องราชาแต่จะมาค้างด้วย
มาค้างคืนห้องราชา
ยิ่งคิดใบหน้าก็ยิ่งแดงระเรื่อมากขึ้น
“หน้าแดงอะไรข้าวจ้าว?”เจ้าของห้องที่เดินนำเข้ามาหันกลับมามองผม ใบหน้านั่นขยับเข้ามาใกล้จนผมต้องก้าวถอยหลังไป
“...เปล่า”
“ผมรู้ว่าโกหก...คิดอะไรอยู่สินะ”ราชาบอกพร้อมมองมาด้วยแววตาสำรวจ
“...”ผมได้แต่ยืนนิ่งก้มหน้าแล้วเม้มปากตัวเองแน่น
“ให้เดาคงคิดเรื่องที่เราจะนอนด้วยกันใช่ไหม?”
“...ทำไม...”ถึงรู้ล่ะ?
ทั้งที่อยากจะถามออกไปให้เต็มๆแต่เสียงที่ออกกลับได้แค่นั้นจริงๆ
“เพราะผมก็คิดอยู่เหมือนกัน”
“คิดอะไร?”ผมถามกลับด้วยความอยากรู้พร้อมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีน้ำตาลตรงหน้า
“คิดว่าจะนอนกอดคุณยังไงดี”
“ราชา!”เสียงตะโกนอย่างเคืองๆดังขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ
พูดอะไรออกมาเนี่ย
“อ้าว...ข้าวจ้าวไม่คิดเหรอ?...ผมคิดอยู่หลายแบบเลยนะ...ทั้งกอดข้าวจ้าวจากด้านหลัง...ทั้งดึงตัวข้าวจ้าวมากอดไว้แนบอกหรือให้ข้าวจ้าวนอนซบไหล่ผม”ราชาพูดสิ่งที่คิดออกมาโดยไม่อายสักนิด มีแต่คนฟังอย่างผมที่อายเอาๆ
“ใครจะทำกัน?!”แค่คิดก็ตื่นเต้นจนไม่กล้านอนแล้ว
“ถ้าข้าวจ้าวไม่กอดเดี๋ยวผมกอดเอง...ไม่ต้องห่วง”ราชาพูดก่อนจะเดินไปทางห้องครัว
“ใครห่วงกัน!”ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องที่อันตรายต่อหัวใจเลยสักนิด
“ไว้คิดตอนนอนก็ได้ข้าวจ้าว...ตอนนี้เรามาทำมื้อเย็นกันดีกว่า”ประตูตู้เย็นทั้งสองบานถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของเจ้าของบ้านก่อนจะมองเข้าไปหาวุตถุดิบด้านใน
“ราชาจะทำอะไรล่ะ?”ผมถามพลางเดินเข้าไปใกล้เพื่อมองดูของที่มีอยู่ในตู้เย็นบ้าง
ต้องดูก่อนว่ามีวัตถุดิบบ้างจะได้คิดเมนูถูก
“เหลือของไม่มาก...ข้าวจ้าวกินเนื้อวัวได้ไหม?”ราชาหันมาถามพร้อมหยิบถาดเนื้อวัวขึ้นมาให้เห็น
“ได้นะ”ถึงปกติจะไม่ค่อยได้กินเพราะมีราคาค่อนข้างสูงก็ตามแต่ถ้าเป็นช่วงลดราคาผมก็ซื้อมาเก็บไว้บ่อยๆ
“งั้นทำสเต็กกันดีกว่า”
“ก็ดีนะ...งั้นต้องหาอะไรเป็นเครื่องเคียงด้วย”ผมพูดต่อ
“...มีมันฝรั่งกับผักสดอยู่”ราชาหันไปมองในตู้เย็นอีกรอบก่อนจะบอกออกมา
“ทำสลัดมันฝรั่งหรือมันบนกับสลัดดีล่ะ?”ผมถามความเห็นราชาเมื่อนึกเมนูที่จะทำได้
“สลัดมันฝรั่งก็ดีนะ”
“เดี๋ยวผมทำให้”ผมพูดก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ตู้เย็นหยิบมันฝรั่งและผักสดสำหรับใช้ทำสลัดออกมา
“งั้นผมทำสเต็กนะ”ราชาพูดขึ้นบ้าง
“ได้เลย”
พวกเราต่างแยกกันทำอาหารคนละอย่างโดยไม่รีบร้อน...ราชาที่ย่างเนื้อก็ใช้เตาอยู่แต่ผมที่ทำสลัดใช้เตาแค่ตอนต้มมันฝรั่งเท่านั้น พอต้มเสร็จก็ปลอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าก่อนจะนำมาคลุกเข้ากับน้ำสลัดเป็นอันเสร็จ
“ข้าวจ้าวกินเผ็ดมากไหม?”เสียงทุ้มหันมาถามโดยที่ในมือกำลังทำซอสราดสเต็กอยู่
“ได้นะ...เอารสที่ราชาชอบเลย”ผมตอบกลับพร้อมยกจานสลัดที่พึ่งทำเสร็จไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าวขนาดกลางที่อยู่ไม่ไกล
ไม่นานสเต็กชิ้นใหญ่ราดซอสพริกไทดำก็ถูกยกมาวางตรงหน้า...กลิ่นหอมของเนื้อและน้ำซอสลอยคลุ้งห้องจนผมเผลอสูดเข้าปอดไปหลายครั้งระหว่างรอราชาไปหยิบน้ำในตู้เย็นมา
“หอมมากเลย”ผมเอ่ยชมเมื่อราชานั่งลงยังฝั่งตรงข้าม
“ไม่ใช่แค่หอมแต่ยังอร่อยด้วย”ราชาบอกด้วยความมั่นใจ
“แล้วถ้าผมกินแล้วไม่อร่อยล่ะ?”
“ยอมให้ข้าวจ้าวกอดผมแทนหมอนข้างทั้งคืนเลย”ราชาตอบกลับอย่างรวดเร็วเหมือนคิดคำตอบไว้แล้ว
“...ขี้โกงนี่”ผมเสียเปรียบชัดๆเลย
“งั้นให้ผมกอดข้าวจ้าวแทนก็ได้”
“ทำไมถึงมีแต่เรื่องนี้ล่ะ”
“ก็อยากนอนกอดคนรักสักคืนนี่”ราชาตอบพร้อมรอยยิ้ม
มื้อเย็นเกือบค่ำผ่านไปอย่างไม่รีบร้อน...พวกเราใช้เวลาจัดการสเต็กชิ้นโตกับสลัดมันฝรั่งไปพร้อมกับดูโทรทัศน์จอยักษ์ที่ถูกหันมาจากห้องรับแขก ด้วยขนาดจอที่ใหญ่มากทำให้มองเห็นภาพจากระยะที่นั่งได้อย่างชัดเจน
และแล้วเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดก็มาถึง...
นั่นคือการนอนนั่นเอง
ผมพยายามอาบน้ำให้ช้าที่สุดในชีวิตตั้งแต่ที่เกิดมาเผื่อออกไปแล้วจะเห็นราชาหลับไปแล้วแต่ในความเป็นจริงราชากลับนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงโดยที่ภายในห้องมีเพียงแสงจากโคมไฟบนโต๊ะเล็กทั้งสองข้างของเตียงสว่างขึ้นเท่านั้น
แรงของเครื่องปรับอากาศดูจะปรับไว้แรงพอสมควรเพราะเพียงแค่ก้าวออกจากห้องน้ำมาผมก็ต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองเพราะความหนาวของห้อง
“หนาวเหรอข้าวจ้าว?”ราชาที่อยู่บนเตียงละสายตาจากโทรศัพท์แล้วถามขึ้น
“นิดหน่อย...พึ่งออกจากห้องน้ำก็แบบนี้แหละ”วันนี้ที่มาค้างห้องราชาผมเลือกชุดนอนที่มิดชิดที่สึดคือเสื้อแขนสั้นตัวยาวกับกางเกงขาสั้น
“ผมปรับแอร์ให้ไหม?”
“ไม่ต้องหรอก”ผมตอบก่อนจะเดินไปยังเตียงที่ราชานอนอยู่ด้วยความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ทาราบสาเหตุ
จนแล้วจนรอดก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง
“...ผมรู้สึกว่าคิดถูกที่เปิดแค่โคมไฟ”เสียงของราชาทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองสายตาที่มองมา อาจเพราะความมืดเลยบอกไม่ได้ว่าสายตานั้นกำลังสื่ออารมณ์แบบไหนมา
“หมายถึงอะไร?”
“ก็ถ้าเห็นใบหน้าแดงๆของคุณผมคงได้ฉุดคุณขึ้นมาปล้ำบนเตียงแน่”
“บ้าเหรอ!...ใครจะยอมกัน”ผมพูดเสียงสั่น
“ถูกแล้วข้าวจ้าว...อย่ายอมเชียวล่ะไม่งั้นผมทำคุณช้ำแน่”
“ระ...ราชา”ทำไมต้องมาพูดเรื่องลามกตอนนี้ด้วย
“รีบขึ้นมาก่อนที่ผมจะทำให้คำพูดนั้นเป็นจริง...”ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบประโยคเพราะผมรีบกระโดดขึ้นบนเตียงแล้วเอาผ้านวมคลุมร่างไม่เว้นแม้แต่หัวด้วยความเร็วแสง
ไม่เคยคิดว่าจะสามารถเร็วได้ขนาดนี้
“คิก...นี่คุณกลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสียงของราชาดังขึ้นพร้อมๆกับสัมผัสของมือที่วางลงบนผ้านวมแล้วลูบเบาๆ
“...ราชา”
“คุณก็รู้ว่าหลบหน้าผมไม่ได้...อย่าลืมสิว่าผ้านวมที่คุณคลุมอยู่มีผมใช้อยู่ด้วยนะ”
ผมรีบหันไปอีกฝั่งทันทีที่ได้ยิน...เป็นอย่างที่ราชาพูดพอหันไปก็เจอเข้ากับขาของราชาที่เหยียดยาวอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความง่วงนี้รึเปล่าที่ทำให้ผมค่อยๆขยับเข้าหาขานั้นก่อนจะวางหัวลงบนตักของราชาทั้งๆแบบนั้น...
"...ข้าวจ้าว”ราชาดูเหมือนจะอึ้งไปกับการกระทำของผม ผ้านวมผืนหนาถูกยกขึ้น ผมที่นอนอยู่บนตักก็ได้แต่หลับตาแน่นด้วยความเขินอายในการกระทำของตัวเอง
“ทำตัวน่ารักแบบนี้อยากให้หลงรักอีกกี่ครั้งกันฮื้อ”
“...ราชา”คำพูดที่ว่าหลงรักทำให้ผมลืมตาขึ้นแล้วหันไปหาราชา ทันทีที่หันไปดวงตาของเราก็ประสานกันทั้งที่อยู่ในความมืดแต่กลับสามารถเห็นดวงตาที่สั่นระริกของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจ ดวงตาผมเองก็คงไม่ต่างกันหรอก
“ขยับมานอนดีๆเถอะ...”พูดจบราชาก็ขยับให้ผมไปหนุนหมอนโดยที่ดึงร่างผมให้เข้ามาแนบอกจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของราชาได้
“...หัวใจราชา...”
“อย่าพูดนะ...แค่นี้ผมก็เขินจะแย่แล้ว”ราชารีบพูดขัดพร้อมก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ
“...ฝันดีนะราชา”ผมพึมพำออกไป
“ฝันดีเช่นกันข้าวจ้าว”
โคมไฟสองดวงถูกปิดลงพร้อมกันทำให้ภายในห้องมืดสนิทมีเพียงเสียงของลมหายใจและเสียงของหัวใจที่เต้นประสานเป็นเสียงขับกล่อมไปจนถึงเช้าวันต่อมา
......................................................................................
สวัสดีค่า
มาอัพแล้วนะะะ
ตอนก่อนว่าหวานแล้ว...ตอนนี้อาจหวานกว่า
นั่งอ่านทวนไปไล่มดที่ไต่ตามจอไป
ถ้าจะหวานขนาดนี้ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ โฮ่!
ตอนหน้าก็จะถึงฉากจบและบทสรุปของเรื่องราวนี้แล้ว
ตอนนี้เรากำลังแต่งตอนพิเศษอยู่แต่ก็ไม่ได้แตะมานานแล้วเพราะมัวแต่อ่านนิยายที่พึ่งไปซื้อจากงานหนังสือมา555
อย่างที่หลายๆคนอ่านเรื่องนี้เรียกว่าไม่มีดราม่าเลยสักนิดซึ่งเราเองบางครั้งก็รู้สึกว่ามันเบาไปรึเปล่า
แต่จะให้เพิ่มฉสกดราม่ามาเราก็คงแต่งไม่ไหว...เรื่องนี้เลยเน้นอ่านสบายๆแบบไม่ต้องคิดมาก
ยิ่งแต่งยิ่งรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งข้าวจ้าวผ่านตัวอักษร(555)
ข้าวจ้าวนี่เป็นเคะในแบบที่น่าแกล้ง น่าหยิกเป็นที่สุด
ถ้าเจอตัวจริงจะดึงแก้มแรงๆให้หายหมั้นเขี้ยวเลย!
ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้า ตอนสุดท้ายค่ะ^^

nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪