[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ภมรอ้อนตะวัน *แจ้งข่าวงานหนังสือ* [จบแล้ว] ตะวัน - ริน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ภมรอ้อนตะวัน *แจ้งข่าวงานหนังสือ* [จบแล้ว] ตะวัน - ริน  (อ่าน 131393 ครั้ง)

ออฟไลน์ theglory

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1:
มาติดตามเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกประเดิม user ใหม่เลยจ้า
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ   o13
 

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
:mew1:
มาติดตามเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกประเดิม user ใหม่เลยจ้า
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ   o13

ขอบคุณค่ะมี๊  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 8
.


.

.


.
งานเกษตรของจังหวัดถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บูทของไร่สวนต่างๆดูคึกคักหลังจากประธานในงานกล่าวเปิดงานเสร็จสิ้น ไร่น้ำรินมีผู้คนให้ความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว



รัชพลนั้นออกไปเตรียมตัวและจัดการเรื่องแข่งขันไวน์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวัน



คุณบุรินทร์อยู่คุยกับผู้ใหญ่ของจังหวัดที่ด้านหน้าของเวที หน้าที่ดูแลบูทของไร่น้ำรินจึงตกเป็นของภุมรินโดยมีตะวันพ่วงมาช่วยด้วย




วันนี้ภุมรินอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีเขียวสดและกางเกงยีนส์รัดรูป รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม มีผ้าพันคอเล็กมัดอยู่ที่คอและหมวกหนังสีน้ำตาลใบเก่ง ข้างหลังเสื้อนั้นสกรีนคำว่าไร่น้ำรินอยู่





คนอื่นๆในบูทของไร่น้ำรินก็แต่งตัวเหมือนกันหมดยกเว้นสีเสื้อของแต่ละคนที่ต่างออกไป




ตะวันก็เช่นกัน คนตัวโตนั้นใส่เสื้อสีแดงคอยเป็นลูกมือให้ภุมรินอยู่



คนตัวเล็กตรงหน้าเรียกแขกได้ไม่น้อย จนตอนนี้องุ่นอบแห้งแทบจะขายหมดอยู่แล้วทั้งๆที่ยังไม่ถึงเที่ยงด้วยซ้ำไป




“ยืนบื้ออยู่นั่นแหละพี่ตะวัน หยิบถุงมาให้รินสิ” ภุมรินว่าคนตัวโตข้างๆที่ยืนมองหน้าเขาไม่วางตา



คนมาซื้อของตั้งเยอะแยะ มัวแต่ยืนระลึกชาติอยู่นั่นแหละ




“ครับคุณน้องรินครับ นี่ครับผม” ยกถุงสำหรับใส่สินค้าไปให้ทั้งห่อ



ภุมรินทำหน้ายักษ์ใส่ แบบนี้มันกวนกันชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็หยิบถุงขึ้นมาใส่องุ่นให้ลูกค้าแล้วแจกยิ้มไปอีกหนึ่งที




องุ่นสดของไร่น้ำรินนั้นก็ขายดีไม่น้อยจนต้องยกขึ้นมาอีกสองลัง



ข้างในของบูทไร่น้ำรินนั้นมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกองุ่นและการดูแล




ข้างหน้ามีพนักงานสาวสวยคอยเรียกคนอยู่เนืองๆ



คนงานของไร่น้ำรินนั้นมือไม่ว่างซักคน ไวน์รุ่นใหม่ของรัชพลมีให้ชิมฟรีและได้รับการตอบรับอย่างดี



ในตอนเที่ยงนั้นตะวันและภุมรินปลีกตัวมาทานข้าวกับคุณบุรินทร์และคุณภูผาข้างหน้างาน



ทั้งสองคนรวมทั้งรัชพลเตรียมตัวที่จะขึ้นเสนอไวน์รุ่นใหม่ของไร่น้ำริน การแข่งขันไวน์นี้มีทั้งหมดสิบสามไร่ที่ส่งเข้าแข่งขัน ซึ่งเป็นไวน์รุ่นใหม่ทั้งหมด



ในปีที่แล้วนั้นไร่เพียงระพีชนะไปด้วยไวน์สูตรใหม่ที่รัชพลเองก็ยังต้องยกนิ้วให้




“ตื่นเต้นมั้ยตัวเล็ก เดี๋ยวก็ถึงคิวเราแล้ว” รัชพลกอดคอน้องชาย ต่อจากไร่ธราธารก็ถึงคิวของไร่น้ำรินแล้ว




“ใจนี่เต้นจะทะลุออกจากอกแล้วพี่รัช” ภุมรินตอบพี่ชาย



เป็นครั้งแรกที่ต้องมาพูดอะไรเยอะๆต่อหน้าคนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะรัชพลเขาไม่มีทางช่วยแน่ๆ



“ต่อไปเป็นไวน์ภุมรินจากไร่น้ำรินค่ะ” เสียงพิธีกรสาวประกาศ



ทั้งสามคนขึ้นไปบนเวทีจัดงาน คณะกรรมการและแขกผู้มีเกียตรินั่งอยู่ข้างหน้า



ส่วนบูทต่างๆของงานก็ดำเนินไปตามปกติ 



รัชพลเป็นคนกล่าวเปิดแล้วอธิบายถึงที่มาของไวน์รุ่นนี้มาว่ามาภุมรินน้องชายของเขา



และพูดถึงข้อมูลต่างๆของไวน์ทั้งสองแบบก่อนจะส่งไมค์ให้ตะวันเป็นคนอธิบายไวน์แดงแล้วตามด้วยภุมรินอธิบายไวน์ขาว ปิดท้ายด้วยรัชพลที่กล่าวปิดท้าย



“ถ้าใครอยากลองไวน์ภุมริน เชิญที่บูทของไร่น้ำรินได้เลยนะครับ เรามีให้ชิมฟรี”



รัชพลกล่าวก่อนที่ทั้งสามคนจะพากับโค้งแล้วเดินลงเวทีไป



“ผ่านไปด้วยดี เก่งมากเลยตัวเล็ก มึงด้วยไอ้ตะวัน” รัชพลพอใจกับผลงานไม่น้อย



“แน่นอน น้องพี่รัชเก่งอยู่แล้ว แล้วพี่รัชจะไปดูรินแข่งรถมั้ย” ภุมรินถามพี่ชายเมื่อพากันเดินมาถึงบูทของไร่น้ำริน



“อย่าบอกนะว่าน้องรินแข่งรถด้วยน่ะ”



ตะวันทักขึ้นเมื่อได้ยินคำถามนั้น อย่าบอกว่าที่ภุมรินไปดูสถานที่แข่งรถเมื่อวานเป็นเพราะเจ้าตัวจะลงแข่งด้วย



“ก็ใช่น่ะสิ” เชิดหน้าตอบคนตัวโตอย่างภูมิใจ



“ปีที่แล้วตัวเล็กมันเกือบล้มแชมป์เก่าเชียวนะนั่น” รัชพลเสริม



ตะวันมองหน้าสองพี่น้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ แน่นอนว่าเขาเคยเห็นภุมรินขับเอทีวีมาแล้ว แต่ถึงขั้นมาแข่งนี้มันเกินสิ่งที่เขาคิดไว้มาก



“ทำไม ดูถูกรินอีกล่ะสิ” ภุมรินดักคอไว้ก่อน ตะวันชอบดูถูกเขามาหลายเรื่อแล้ว



“ก็มันน่าคิดนี่ ตัวแค่นี้จะขับเร็วได้แค่ไหนกัน” ตะวันพูดตามที่คิด ดูแล้วน้องรินไม่น่าจะมาแข่งรถคันใหญ่ๆแบบนี้ได้



“เร็วกว่าพี่ตะวันแล้วกันน่า”



“มันใจได้ยังไงว่าเร็วกว่าพี่”




“งั้นก็มาแข่งกันมั้ยล่ะ!” เส้นความอดทนของภุมรินขาดผึง เขาชักจะทนไม่ไหวกับพี่ตะวันแล้วนะ




“ก็เอาสิ อยากรู้เหมือนกันว่าน้องรินจะเร็วได้แค่ไหน” ตะวันเองก็เล่นด้วย



 เขามั่นใจว่ายังไงก็ขับเร็วกว่าภุมรินแน่นอน





“ตกลงคือมึงจะลงด้วยว่างั้น ถ้าอย่างนั้นก็ไปเตรียมตัวทั้งคู่เลยไป” รัชพลระอากับทั้งสองคน




เขานั่งลงบนเก้าอี้ฟางข้าวพร้อมกับไล่ให้ทั้งคู่ไปเตรียมตัวเพื่อแข่งขัน




“รินชนะพี่ตะวันแน่ คอยดู” ภุมรินกระทืบลงบนเท้าของตะวันแรงๆหนึ่งครั้งจนคนตัวโตกระโดดโหยงก่อนจะเดินไปที่รถ




“ไอ้ตัวแสบเอ้ย” ตะวันรีบเดินตามไปติดๆ




ทั้งสองคนเดินมายังรถของรัชพล ภุมรินเข้าไปหยิบเสื้อแจ็คเกตมาใส่ก่อนจะโยนเสื้อของรัชพลให้กับตะวัน




ทั้งคู่สวมพร้อมกับรูดซิบแน่น ภุมรินคว้าเอาหมวกกันน็อคที่เตรียมมาจากบ้านติดมือมาด้วย ส่วนของตะวันนั้นคงต้องไปเอาที่ลานแข่งซึ่งมีไว้ให้ยืม




ตะวันและภุมรินเดินมาหารัชพลที่นั่งรออยู่ก่อนจะพากันเดินไปยังลานแข่งด้านหลังที่จัดงาน ตอนนี้ใกล้จะบ่ายสามแล้วคนในงานก็เริ่มเข้ามารอดูการแข่งขันเยอะมากขึ้น




ผ่านไปครึ่งชั่วโมงการแข่งขันก็เริ่มขึ้น เส้นทางที่ใช้ในการแข่งขันนั้นเป็นทางที่มุ่งขึ้นสู่ผาฟ้าหมอก ซึ่งอยู่บนยอดสุดของเขา



แต่เส้นทางที่ใช้แข่งจะไม่ขึ้นไปถึงข้างบนนั้น จะอ้อมมาอีกฝั่งแล้วลงมาข้างล่างอีกรอบ ใครถึงก่อนถือว่าชนะ การแข่งขันนี้ใครอยากจะลงแข่งก็ได้ เพราะรถที่เตรียมมานั้นมีมากพอต่อการแข่งขัน




ตะวันเดินไปรับหมวกจากเจ้าหน้าที่สาวที่ส่งตาหวานเยิ้มมาให้เขาก่อนจะเลือกรถมาหนึ่งคัน ภุมรินตอนนี้ใส่หมวกพร้อมกับประจำที่อยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว เขาจึงทำตามบ้าง




หมวกสีดำสนิทถูกสวมลงบนหัวก่อนที่ตะวันจะเร่งเครื่องตามภุมรินที่ตอนนี้ขับไปจอดอยู่ตรงจุดเริ่มต้น โดยมีรัชพล บุรินทร์และภูผาที่ตามมาสมทบคอยเชียร์อยู่ข้างสนาม





ตะวันหันไปมองภุมรินพร้อมกับเปิดหมวกแล้วยักคิ้วให้ คนตัวเล็กทำท่าปาดคอแล้วเร่งเครื่องเพื่อเตรียมตัวออก เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดก่อนรถเอทีเกือบสามสิบคันจะออกตัว




ภุมรินเร่งเครื่องขึ้นเขาอย่างชำนาญโดยมีตะวันและคันอื่นๆตามมา มีรถสี่ห้าคันนำไปก่อนแล้ว เป็นแชมป์เก่าจากไร่เพียงระพีและคนอื่นๆ




แต่ภุมรินไม่สนใจเขาสนแค่ว่าเขาต้องชนะตะวันเท่านั้นพอ ไอ้พี่ตะวันจะได้รู้ว่าเขาน่ะไม่ได้เก่งแค่พูด แต่ยังเก่งอย่างอื่นอีกด้วย




ตะวันที่ขับตามมาแปลกใจไม่น้อยที่ภุมรินนั้นขับได้เร็วกว่าที่เขาคาดไว้มาก แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาเร็วกว่าแน่นอน




รถคันใหญ่ที่มีตะวันขับอยู่นั้นเบียดแซงคู่แข่งขึ้นไปขนาบข้างภุมริน




การแข่งขันเริ่มมาเกือบจะถึงครึ่งทางแล้ว บริเวณนี้เป็นจุดสูงสุดของการแข่งขันก่อนที่จะอ้อมลงไปอีกฝั่งแล้ววนกลับไปสถานที่จัดงาน รถที่นำไปก่อนหน้านี้สี่ห้าคนได้อ้อมไปแล้ว



ภุมรินและตะวันเองก็กำลังมุ่งผ่านครึ่งทาง




ลงเขามาได้ไม่นานภุมรินก็รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกของรถ แต่เขาก็ยังขับไปต่อพร้อมกับเร่งเครื่องเมื่อตะวันเข้ามาประชิด




ตะวันเองก็เร่งเครื่องตาม เขาไม่คิดว่าภุมรินจะเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาเองที่กำลังจะแพ้คนตัวเล็กที่เขาเคยสบประมาทไว้




เมื่อมาถึงทางลงที่ชันที่สุด รถทุกคันต้องบังคับตัวเองให้ช้าลงเพื่อลงเขาอย่างปลอดภัย รถของภุมรินสั่นแรงขึ้น ตะวันที่ตามมาข้างๆยังสัมผัสได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ยังพยายามควบคุมรถให้ลงเขาอย่างปลอดภัย





เหมือนจะไม่เป็นผล ล้อข้างหนึ่งของรถหลุดออกไปก่อนที่จะเซแล้วเบี่ยงตัวออกนอกเส้นทาง ภุมรินร้องเสียงหลงโดยมีตะวันตะโกนตามหลัง




รถของภุมรินมุ่งหน้าลงไปข้างทางที่ชันและถูกปกคลุมด้วยต้นไม่น้อยใหญ่ ตะวันรีบเบี่ยงรถตามไป รถคันอื่นๆที่ตามมาด้านหลังก็จอดลงมาดูอย่างตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น






ตะวันจอดรถเมื่อเห็นหมวกกันน๊อคของภุมรินตกอยู่ไม่ไกล เขาแหวกหญ้าไปหาแต่ก็ต้องคอยระวังเพราะเป็นเส้นทางที่ชันมาก เมื่องมองลงไปข้างล่างก็พอเพียงแต่เงาไม้ทึบและเศษกระบังของรถ



“พี่ตะวัน” เสียงหนึ่งดังอยู่ไม่ไกล ตะวันถอดหมวกออก เขาเห็นภุมรินกำลังจับกิ่งต้นไม้ที่โน้มอยู่ ทั้งตัวพร้อมที่จะไถลลงไปข้างล่าง



“น้องริน!” มือใหญ่นั้นรีบคว้าเข้าที่ข้อมือของภุมริน ตัวของตะวันไถลตามเล็กน้อยก่อนที่มืออีกข้างของเขาจะคว้าเอากิ่งไม้ซักกิ่งบริเวณนั้น



“ช่วยรินด้วยพี่ตะวัน” ภุมรินเริ่มร้องไห้เพราะตอนนี้เขาปวดแขนไปหมด แถมข้างล่างนั้นยังไม่รู้ว่ามีอะไร เกิดพลาดตกลงไปไม่รู้จะอยู่หรือรอด




“ไม่ต้องกลัว จับมือพี่ไว้แน่นๆ” ตะวันพยายามดึงร่างนั้นขึ้นมาแต่เหมือนเขาเองก็จะไม่ไหวเพราะมันชันมา ตัวเขาเองยังไถลตาม



“ฮือ... พี่ตะวัน” ภุมรินร้องไห้อย่างไม่อาย ตอนนี้เขาทั้งกลัวและเจ็บแขนไปหมดแล้ว




“พวกคุณ ได้ยินมั้ยครับ” เสียงตะโกนดังมาข้างหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนที่อีกสองสามคนตามมา




“พวกเราอยู่นี่ ช่วยด้วยครับ” ตะวันตะโกนตอบ ไม่นานก็มีคนที่เข้าแข่งขันค่อยๆเดินลงมา




“เอื้อมมือมาครับ เดี๋ยวพวกผมจะช่วยดึงขึ้นมาเอง”



คนที่ลงมาช่วยนั้นมีทั้งหมดสี่คน สองคนอยู่ข้างบนคอยจับแขนของคนที่ลงมาช่วย คนที่ยื่นมือมาให้ตะวันนั้นอยู่ในเขตที่พ้นจากอันตราย ตะวันจับมือภุมรินไว้แน่นแล้วค่อยๆปล่อยมือจากกิ่งไม้ที่ตัวเองเกาะอยู่ แล้วพยายามจะเอื้อมมือไปจับคนด้านบน




“อีกนิดนะครับ” ตะวันพยายามจะเอื้อมสุดแรงแต่ก็ยังไม่ถึงอยู่ดี เท้าทั้งสองข้างก็เริ่มไถลงลงเรื่อยๆ



“พี่ตะวัน รินไม่ไหวแล้ว”



ภุมรินน้ำตาไหลพรากพร้อมกับแขนที่ล้าเต็มที ตะวันก็ยังคงพยายามจะเอื้อมมือไปคว้าคนข้างบน คนที่มาช่วยเองก็ค่อยๆถอยลงมาเพื่อให้จับมือของตะวันไว้ได้




อีกไม่ถึงคืบตะวันก็เกือบจะเอื้อมมือถึงคนตรงหน้าแล้วแต่ดินที่ตะวันเหยียบอยู่นั่นกับไถลงงลงไปก่อนที่ร่างของตะวันกับภุมรินจะหล่นลงไปตามทางที่ลาดชันนั้น




“เฮ้ย!” คนทั้งสี่ที่อยู่ด้านบนร้องเสียงหลงพร้อมกันเมื่อเห็นคนทั้งสองไถลลงไปตามแนวดินที่เต็มไปด้วยต้นไม้นั้น




“น้องริน!” ตะวันรีบคว้าร่างของภุมรินเอาไว้ก่อนจะกอดแน่น หมวกกันน็อคของเขาหลุดออกจากหัวไปเรียบร้อย




ทางที่ตกลงมานั้นเหมือนจะไม่ยอมสิ้นสุด แนวดินยังคงลาดชันลงอย่างน่าใจหาย





ตะวันกอดร่างของภุมรินที่แน่นิ่งไปแล้วแนบกับอก มือทั้งสองข้างกุมหัวน้อยๆนั้นไว้เพื่อไม่ให้ฟาดกับอะไรเข้า แต่หัวของเขากับฟาดเข้ากับกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาอย่างเต็มแรงก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป




****************************************************************************************************





มาแล้วววววววววว ตอนที่แปด ตอนนี้พี่ตะวันกับน้องรินแย่แล้ว  :z10:  :ling1: :katai1: จะเป็นยังไงต่อไปเอาใจช่วยทั้งคู่ด้วยนะคะ อีกไม่กี่วันมอเราจะเปิดเทอมแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้มาอัพเวลาเดิมรึเปล่า ยังไงจะแจ้งอีกทีค่ะ แต่อัพทุกวันแน่นอน  :katai2-1: :katai4:
 

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao5:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ว้ายย หลงป่าด้วยกันเเล้วใช่มั้ย  :-[

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
สงสารตะวันเหมือนกันนะเนี่ย แผลเก่าเพิ่งหายเอาใหม่อีก

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
พี่ตะวันอย่าเป็นอะไรนะ :sad4:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พี่ตะวันกับน้องริน อย่าเป็นอะไรมากน้า  :monkeysad:
คราวนี้เจ็บตัวทั้งคู่เลย แต่พี่ตะวันนี่สิท่าทางหนักน่าดู
พี่ตะวันห่วงน้องรินขนาดนี้ น้องรินต้องดูแลพี่ตะวันดี ๆ เลยนะ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
งือพี่ตะวันกับรินอย่าเป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาา. พี่ตะวันกับน้องริน คงไม่เป็นไรนะ.  :katai1: :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (นิยาย) ภมรอ้อนตะวัน *ตอนที่8 1/01/16*
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-01-2016 14:02:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่ตะวัน ใจสู้มาก ตกไปขนาดนั้นยังห่วงน้องกลัวน้องเจ็บ

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 9

.


.


.


เสียงดังซู่ของน้ำตกดังอยู่ไม่ไกล ตะวันลืมตาขึ้นก่อนจะกระพริบหลายครั้ง



ตอนนี้ฟ้าเริ่มจะมืดลงแล้ว มองไปรอบๆก็พบแต่ต้นไม้และน้ำตกที่ดังอยู่ไม่ไกล



ตะวันยกมือขึ้นกุมหัวแล้วเขาก็ต้องพบกับเลือดที่ติดมือมาด้วย ตะวันเลื่อนตาลงมามอง



เห็นภุมรินที่ยังคงไม่ได้สตินอนซบอกเขาอยู่ ร่างสูงพยายามยันตัวลุกขึ้น หัวยังคงเจ็บจี๊ดไม่หาย



“น้องริน ริน!” จับหัวไหล่บางแล้วเขย่าเบาๆ เขาไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนและตัวเขาและภุมรินตกลงมาไกลมากแค่ไหน



ตะวันและภุมรินนั้นอยู่บริเวณริมน้ำที่เต็มไปด้วยก้อนหินก้อนเล็กๆและน้ำตื้นๆพัดเอ่ย



ช่วงล่างของภุมรินที่ยื่นลงไปในลำธารนั้นเปียกโชก จนตะวันตะวันต้องค่อยๆดึงคนตัวบางขึ้นมาทั้งๆที่ภุมรินยังไม่ได้สติ



แสงสุดท้ายของวันเริ่มลดลงเรื่อยๆ ตะวันตัดสินใจช้อนร่างของภุมรินขึ้นอุ้มก่อนจะมองไปรอบๆ คนตัวโตซวนเซเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลอย่างทุลักทุเล



“ริน ริน” เขย่าเรียกภุมรินอีกรอบ



ตะวันกุมหัวที่มีแผลขนาดใหญ่อยู่ เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า



เขาจำได้ทุกเหตุการณ์ ไม่รู้ว่าตอนนี้คนข้างบนจะตามหาพวกเขามั้ย คนที่มาแข่งด้วยคงจะบอกแล้วว่าพวกเขาตกลงมาที่นี่



เขาเชื่อว่ารัชพลไม่อยู่เฉยแน่นอน ห่วงก็แต่ภุมรินที่ยังไม่ยอมฟื้นเนี่ยแหละ ไม่รู้จะเป็นอะไรมากรึเปล่า



“พี่... ตะวัน” ร่างบางเริ่มได้สติ



“น้องริน” เมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้นก็ยกมือขึ้นเกลี่ยผมของภุมรินออกก่อนจะจูบเบาๆที่หน้าผากอย่างดีใจ



“พี่ตะวัน รินเจ็บ” ภุมรินร้องน้ำตาไหล มือบางเลื่อนไปกุมที่ขาแล้วจับแน่น



“ไหน รินเจ็บตรงไหน” ตะวันก้มสำรวจร่างบาง ภุมรินยังคงร้องไห้ไม่หยุด มีเสียงสะอื้นเบาๆให้ได้ยิน



“เจ็บขา รินเจ็บขา” วาดแขนกอดตะวันไว้ หน้าภุมรินซบลงกับไหล่ของตะวัน



“พี่ขอดูหน่อยนะ” ตะวันบอก ภุมรินพยักหน้าเบาๆ ตอนนี้เขาเจ็บที่ขามากที่สุด



ตะวันเหมือนลืมความเจ็บที่หัวไปพร้อมกับพลิกดูขาของภุมริน



ตอนนี้แสงมืดลงแล้วมีแต่แสงจันทร์ที่ไม่สว่างมากส่องลงมาเท่านั้น



ตะวันเห็นผ้ายีนส์ขาดเป็นทางยาวบริเวณเหนือเข่าของภุมรินลงไปถึงน่อง เมื่อเอามือสัมผัสก็พบว่ามีเลือดอยู่และกางเกงของภุมรินนั้นตอนนี้มันเปียกมากซะจนชุ่มไปหมด



แต่สิ่งที่เขาคิดได้ตอนนี้คืออย่างแรกต้องก่อกองไฟก่อน อย่างน้อยก็ทำให้มีแสงและช่วยเรื่องสัตว์ป่าได้ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าบริเวณนี้มีสัตว์ป่ามั้ย



“รินรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะ” ค่อยๆวางร่างของภุมรินให้พิงต้นไม้ไว้



“พี่ตะวันจะไปไหน” ภุมรินคว้ามือของตะวันไว้เมื่ออีกคนเหมือนจะไปไหนซักที่ ทั้งๆที่ตอนนี้มันมืดมากแล้ว



“ไปหาอะไรมาก่อไฟน่ะ รินรออยู่นี่แหละ เดี๋ยวพี่มา”



ตะวันลูบหัวน้องเบาๆก่อนจะพยายามมองหาเศษไม้หรืออะไรที่พอจะมาก่อไฟได้



อีกด้านหนึ่งนั้น ไร่น้ำรินยังไม่มีใครกลับแม้งานจะเลิกไปนานแล้วก็ตาม รัชพล บุรินทร์และภูผายืนคุยกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ดูแลบริเวณนี้ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด



คนที่เข้าร่วมแข่งขันรถเอทีวีนั้นลงมาบอกกับทางผู้จัดงานว่ามีคนตกเขาไปสองคน เขาภาวนาให้ไม่ใช้ตะวันกับน้องชายของตัวเอง แต่มันก็ไม่เป็นผล เมื่อหมวกกันน็อคที่เอามาด้วยนั้นเป็นของภุมริน




เมื่อขึ้นไปดูข้างบนก็พบรถเอทีวีที่ภุมรินขับล้อหลุดไปหนึ่งข้างโดยมีรถของตะวันอยู่ใกล้ๆ คนที่มาบอกนั้นพูดว่ารถของภุมรินล้อหลุดและเบี่ยงตัวออกนอกเส้นทาง ตะวันจึงตามลงไปช่วย ทำให้ทั้งคู่ค้างอยู่บริเวณที่เป็นทางชันลงเขา




พวกเขาพยายามช่วยแล้วแต่ทางมันชันมากทำให้ทั้งคู่ไถลตกลงไป



ทางจังหวัดยินดีรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากรถของทางงาน



เจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกเรียกตัวมาคุยเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่ายังค้นหาตอนนี้ไม่ได้เพราะมันมืดแล้ว กอปรกับทางที่ทั้งสองคนตกลงไปนั้นเป็นป่าลึกและทางลงชันมาก



รัชพลหัวเสียไม่น้อย เขาอยากจะลงไปหาน้องเองด้วยซ้ำแต่ก็ถูกบุรินทร์ต่อว่าเบาๆ ทุกคนล้วนอยากจะช่วยตะวันกับภุมรินทั้งนั้น แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่รอให้เช้าก่อนเท่านั้น




เป็นอันตกลงว่าทั้งหมดจะนอนที่งานโดยจะเริ่มค้นหาทั้งคู่ในวันรุ่งขึ้น รัชพล บุรินทร์และภูผาเครียดไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าทั้งคู่นั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า




ไหนจะเสี่ยงกับสัตว์ป่าที่ออกหากินตอนกลางคืนอีก ไม่รู้ป่านนี้ตะวันกับภุมรินจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ก็คงได้แต่ภาวนาให้ทั้งคู่ปลอดภัย




ตะวันใช้ก้อนหินทำให้เกิดสะเก็ดไฟก่อนจะจุดลงบนใบไม้แห้งและกิ่งไม้เล็กๆที่กองสุมกันอยู่



ภุมรินเลิกร้องไห้แล้ว เจ้าตัวนั่งพิงต้นไม้มองตะวันก่อไฟโดยที่ยังรู้สึกเจ็บที่ขาไม่น้อย




เจ้าตัวสังเกตเห็นรอยเลือดเป็นทางยาวบนหัวของตะวัน นิ้วเรียวนั้นลูบเบาๆที่แผลนั้น ตะวันหันมามองคนตัวเล็กที่จ้องเขาโดยไม่พูดอะไร



“อะไรน้องริน แต๊ะอั๋งพี่เหรอ” ตะวันพูดติดตลกทำให้ภุมรินตีไหล่แกร่งนั้นเบาๆ



“ยังจะมาพูดเล่นอีก แผลใหญ่ขนาดนั้นไม่เจ็บรึไง” ว่าตะวันที่ไม่รู้จะยิ้มทำไมทั้งๆที่เลือดอาบขนาดนั้น แล้วยังมีกะจิตกะใจมาห่วงเขาอีก



“มันก็ยังเจ็บอยู่ แต่เดี๋ยวมันก็หาย น้องรินล่ะ เจ็บขาไม่ใช่เหรอ”



ตะวันจับเรียวขาของภุมรินพลิกดูอีกครั้ง พอมีแสงก็ทำให้เห็นแผลที่พาดผ่านขานวลของภุมรินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น




“มันตึงๆอ่ะ” ภุมรินบอกอาการ แม้เลือดจะหยุดไหลแล้วแต่เขาก็ยังเจ็บไม่หาย



“ถอดกางเกงได้มั้ย กางเกงรินมันรัดแน่นขนาดนี้ถอดให้พี่ดูแผลหน่อย แล้วจะได้ตากกางเกงด้วย”




ตะวันพูด กางเกงยีนส์รัดรูปของภุมรินนั้นรัดแน่นไปซะหมดแล้วยังจะเปียกอีก



“ถอดเลยเหรอ” ภุมรินไม่อยากจะถอดเลยสักนิด



เขาใส่แค่กางเกงในซ้อนมาเท่านั้น ถึงแม้จะผู้ชายด้วยกันแต่การมาถอดกางเกงต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มันก็น่าอายยู่ดี



“ไม่ถอดแล้วพี่จะดูยังไง” ตะวันไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการดูแผลให้อีกคนเท่านั้น



“แต่มัน...” เจ้าตัวเล็กยังคงอิดออด ตะวันเลิกคิ้วมอง ภุมรินหลบสายตานั้น



“ทำไม อายเหรอ” ตะวันยิ้มล้อๆ ภุมรินหันมาค้อนเมื่ออีกคนจี้ตรงจุด



“ก็ใช่น่ะสิ ใครจะหน้าด้านเหมือนพี่ตะวันล่ะ” คำตอบที่ได้ทำให้ตะวันหัวเราะลั่น



“ทำอายเป็นผู้หญิงไปได้ ถอดมาเถอะน่า พี่จะได้เอาไปผึ่งไฟให้ด้วย ถ้าอายก็เอานี่ไปคลุมไว้”



ตะวันถอดเสื้อแจ็คเกตตัวนอกออกแล้วยื่นให้ภุมริน




ภุมรินมองคนตรงหน้าที่จ้องหน้าพร้อมกับพยักพเยิดให้เขาเอาเสื้อไปจากมือของตัวเอง




มือบางนั้นคว้าเอาเสื้อตัวหนาของตะวันมาคลุมไว้ก่อนจะเริ่มถอดกางเกงออก




ตะวันลุกขึ้นไปหาท่อนไม้แถวนั้นมาก่อนจะเอากางเกงเปียกๆที่ภุมรินยื่นให้มาแขวนไว้แล้วปักลงข้างๆกองไฟ




ภุมรินรู้สึกไม่ชินเลยสักนิดที่อยู่ในสภาพกางเกงในตัวเดียวกับเสื้อแจ็คเกตตัวหนา เจ้าตัวพันเสื้อนั้นรอบเอวก่อนจะขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆกองไฟ



“ไหนดูซิ” ตะวันขยับเข้ามานั่งใกล้ๆคนตัวเล็ก



ภุมรินค่อยๆดึงเสื้อที่คลุมขาอยู่ขึ้นสูงพอที่จะเห็นแผลเท่านั้น



ตะวันดูตกใจไม่น้อยเพราะแผลที่เห็นนั้นมันลึกกว่าที่เขาคิดไว้พอสมควร ภุมรินคงไปเกี่ยวเอากิ่งไม้เข้าแน่ๆ



“รอแป๊บนึงนะ” ตะวันแกะกระดุมก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก




“ทำอะไรน่ะพี่ตะวัน” ภุมรินถามอยากไม่ไว้ใจพร้อมเบี่ยงตัวหนีเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตะวันถอดเสื้อออก



“แค่จะถอดเอาเสื้อกล้ามเนี่ย ทำไมน้องรินต้องร้องเสียงหลงขนาดนั้นด้วยล่ะครับ”



ตะวันยื่นเสื้อกล้ามสีขาวตัวในให้ภุมรินดู ร่างสูงยิ้มกริ่มพร้อมกับยื่นหน้าเข้าใกล้ภุมริน



ภุมรินเบือนหน้าหนี ดวงหน้าหวานนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาคิดอยากจะตบหัวตัวเองดังๆซักที ที่เผลอคิดอะไรเพี้ยนๆเข้า ก็อยู่ๆไอ้พี่ตะวันก็เกิดนึกถอดเสื้อไม่บอกไม่กล่าว



“หึๆ พี่จะเอาเสื้อไปชุบน้ำมาเช็ดเลือดให้ เต็มขาไปหมดแล้วเนี่ย”



ตะวันหัวเราะน้อยๆก่อนจะลุกพรึบเดินไปลำธารที่อยู่ไม่ไกล




ร่างสูงเอาเสื้อกล้ามของตัวเองชุบลงไปในน้ำก่อนจะบิดพอหมาดแล้วเดินมาหาภุมรินที่นั่งรออยู่



มือสากนั้นจับเรียวขาของภุมรินขึ้นมา คราบเลือดยังคงไม่ให้เห็นอยู่ไม่น้อย



“เดี๋ยวก่อนพี่ตะวัน”



ภุมรินรีบผลักมือของตะวันที่กำลังจะเช็ดเลือดให้เขาออกก่อนที่จะเอาผ้าเปียกๆนั้นมาถือไว้เอา




“เลือดเต็มหน้าไปหมดแล้ว เช็ดก่อนสิ เห็นแล้วสยอง”




ภุมรินยกผ้าขึ้นไปเช็ดบริเวณเหนือคิ้วของตะวันที่มีแต่คราบเลือดแห้งกรัง




ตะวันยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยืนนิ่งๆให้คนตรงหน้าเช็ดคราบเลือดนั้นออกให้



ภุมรินเห็นรอยยิ้มนั้นก็เสสายตามองไปที่มือของตัวเองที่กำลังเช็ดเลือดอยู่แค่นั้น




หน้าเห่อร้อนขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ รอยยิ้มที่ตะวันส่งมานั้นทำให้เขารู้สึกวูบวาบกว่าทุกครั้ง เพราะตะวันชอบยิ้มกวนๆหรือไม่ก็ยิ้มแบบล้อเลียนเขา พอมาเจอตะวันยิ้มให้ตรงๆแบบนี้มันก็รู้สึกแปลกไม่น้อย




“เสร็จแล้ว” ภุมรินพูดเมื่อเช็ดหน้าให้ตะวันเสร็จแล้ว ดวงตากลมหันมาสบตากับตะวันที่ยังคงมองไม่วางตา




ตะวันจ้องไปในดวงตาของคนตรงหน้า แสงของกองไฟสะท้อนในนั้น




ภุมรินเองก็ยังมองไม่ละเหมือนถูกสะกดให้มองแต่ดวงตาของตะวัน



ตะวันเอื้อมมือไปจับมือของภุมรินที่ค้างอยู่บนหน้าของเค้า ภุมรินสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยผ้าให้อีกคนถือส่วนตัวเองก็เบือหน้าหนี





“ขอบคุณครับ” ตะวันพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มอยู่คนเดียว




เขาพลิกผ้าอีกด้านมาเช็ดขาให้ภุมรินบ้าง คนตัวบางได้แต่หน้าเห่อร้อนเสมองไปทางอื่นไม่ยอมมองคนตรงหน้าแม้แต่น้อย





เมื่อเช็ดเสร็จภุมรินก็รีบเอาเสื้อมาคลุมไว้เหมือนเดิม ตะวันลุกเอาเสื้อไปขยี้ที่ลำธารก่อนจะเอามาผึ่งข้างๆกางเกงของภุมริน เขาคว้าเสื้อเชิ้ตของตัวเองมาสวม แล้วนั่งลงข้างคนตัวเล็ก





“พี่ตะวันว่าคนอื่นจะตามหาเรามั้ย” ภุมรินหันไปถาม




เขายอมรับว่าตอนแรกนั้นผวาไม่และกลัวไม่น้อย แต่พอมีตะวันอยู่ด้วยก็คลายความกลัวไปได้บ้าง ถ้าเกิดต้องมาอยู่สภาพนี้คนเดียวเขาไม่อยากจะคิดเลย




“ทุกคนต้องตามหาเราอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้มันมืดแล้วคงจะเป็นพรุ่งนี้นู่นแหละ พี่ว่าเรานอนดีกว่ามั้ย เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”




ตะวันพูดให้อีกคนสบายใจก่อนจะไปหักกิ่งไม้ที่เต็มไปด้วยใบไม้บริเวณใกล้ๆมากองๆรวมกันไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆกองไฟเพื่อทำเป็นที่นอนชั่วคราวสำหรับคืนนี้





ภุมรินล้มล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย โดยมีตะวันมาล้มตัวลงนอนข้างๆหลังจากเขาสุมไฟให้ลุกโชนอีกครั้ง




อากาศในป่าตอนดึกๆนั้นเย็นไม่น้อย ยังดีที่มีกองไฟพอให้ความอบอุ่นบ้าง แต่สำหรับคนที่ใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียวเองตะวันความอบอุ่นในกองไฟนั้นช่วยเขาไม่ได้มาก




ร่างบางของภุมรินพลิกตัวหันหน้ามาหาตะวันก่อนจะโอบแขนไปกอดตะวันแล้วซุกหน้าลงกับอกนั้นเพื่อปิดซ่อนใบหน้าที่แดงไปเรียบร้อย




ตะวันตกใจเล็กน้อยก่อนจะเป็นฝ่ายกอดอีกคนเข้าแน่นแทน เขายิ้มกว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน




“รินแค่กลัวพี่ตะวันหนาวตายแค่นั้นแหละ” รีบชิงแก้ตัว




เขาคิดแค่นั้นจริงๆนะ ก็ตะวันเอาเสื้อมาให้เขาคลุมขาเองนี่ ไหนจะเสื้อกล้ามที่เปียกไปเรียบร้อย มีแค่เสื้อตัวเดียวเดี๋ยวก็ได้หนาวตายกันพอดี




“ครับ พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”



ตะวันหัวเราะให้คนที่ร้อนตัว เลยโดนภุมรินกัดลงไปที่หัวไหล่หนึ่งครั้ง แต่นั่นก็ทำให้ตะวันหัวเราะแรงกว่าเดิม





นี่อาจจะเป็นอีกคืนที่ตะวันฝันดีที่สุดก็เป็นได้






**********************************************************************************************





ตอนที่ 9 มาแล้วครับผมมมมมมมมมม  :katai5: :katai5: อิอิ ฝากด้วยนะคะ พี่ตะวันกับน้องรินจะเป็นยังไงต่อไปต้องมาติดตามกัน แล้วพี่รัชของเราจะมาช่วยได้มั้ยน๊า   :mew3: :z2: :hao7:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
โอยยยย เขิลแทนน้องริน ><

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เขินแทนน้อง :o8: :-[

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
น่าติดตาม เขินแล้ววุ้ยยย อยากเห็นตอนหึง

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
พี่ตะวันนี่เป็นสุภาพบุรุษจังเลยน้าาาา :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่รัชจะมาเจอตอนน้องริน กับ พี่ตะวัน นอนกอดกันมั้ยนิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อุต๊ะ. ติดป่ากันสองคน อร๊ายยย โรแมนติกแบบเจ็บตัว อิอิ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
น้องรินเริ่มอ้อนพี่ตะวันแล้ววว  :-[  แต่ขนาดอ้อน ๆ นะ พี่ตะวันยังโดนไปหลายเพียะเชียว 555
แต่ตอนนี้ปลื้มพี่ตะวันมากเลย เป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้มากจริง ๆ หนุ่มนักเรียนนอกนะเนี่ย
แต่พี่ตะวันเหมือนชินกับการอยู่ในป่ามากเลย จุดไฟด้วยก้อนหินได้ด้วยอ่ะ เจ๋งมากก ปลื้ม ๆ
ชื่นชมอีกอย่างคือ พี่ตะวัน พี่บึกบึนและแข็งแรงมากค่ะ โดนไปขนาดเลือดอาบหัว
แต่ยังดูแลน้องรินได้เหมือนคนไม่เป็นอะไรเลย งานนี้ได้ใจน้องรินไปมากโขแน่ ๆ ล่ะ
เรียกว่าถึงจะเจ็บตัว แต่ก็คุ้มเนอะ อิอิ ส่วนเรื่องรถน้องรินที่ล้อหลุดนี่สิ อันตรายมาก ๆ
ขอให้พี่รัชเอาเรื่องคนจัดงานให้หนัก ๆ เลย นี่ชีวิตคนทั้งชีวิตเลยนะ แย่มาก ๆ
รอตอนต่อไปนะจ้ะ ขอบคุณคนเขียนมาก ๆ ค่ะ


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (นิยาย) ภมรอ้อนตะวัน *ตอนที่9 2/01/16*
« ตอบ #79 เมื่อ: 03-01-2016 19:26:03 »





ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
พระเอกเรานิสัยแบบว่าถ้ามีแฟนแบบนีคงดีใจตายเลย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
น้องรินต้องอ้อนพี่ตะวันบ่อย ๆนะ  :hao7:

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 10
.


.


.


แสงแดดของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามายังสองร่างที่นอนกอดกันอยู่ ภุมรินรู้สึกตัวก่อน



ร่างเล็กกระพริบตาเพื่อปรับแสง ภุมรินเงยหน้าขึ้นไปมองตะวันที่กอดเขาแน่น หน้าของตะวันอยู่ไม่ห่างจากเขา



ภุมรินสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ออกมาจากตัวของตะวัน เอายื่นมือไปแตะแก้มของคนตัวโตก็พบว่าตะวันนั้นตัวร้อนมากแค่ไหน





ภุมรินค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดอุ่นนั้น ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นไปหยิบกางเกงที่ยังไม่แห้งดีของตัวเองมาสวมก่อนจะเอาเสื้อกล้ามของตะวันเดินไปชุบน้ำที่ลำธารแล้วบิดหมาด



แจ็คเกตตัวหนาที่ภุมรินใช่คลุมขาเมื่อคืนถูกห่มให้ตะวัน ตะวันรู้สึกตัวเล็กน้อยเมื่อภุมรินแตะเบาๆที่หน้าผาก



“พี่ตะวัน” ภุมรินเรียกเบาๆ ตะวันไข้ขึ้นแน่แล้ว



“น้องริน” ริมฝีปากนั้นแห้งผาก ตะวันจับมือภุมรินไว้แน่น เจ้าตัวดูไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่



“ตัวร้อนจี๋เลย” ภุมรินทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเช็ดตัวให้อีกคน




ผ้าทีเย็นๆนั้นลูบไปตามแขนและใบหน้าของตะวันสลับกับมือของภุมรินที่คอยวัดอุณหภูมิ แผลเหนือคิ้วนั้นยังคงเปิดอยู่ นี่อาจจะเป็นสาเหตุให้ตะวันไข้ขึ้น



“พี่ตะวันได้ยินรินมั้ย” เรียกตะวันอีกรอบ ตะวันอืออาตอบในลำคอพร้อมกับไถตัวไปนอนบนตักของภุมริน



“หนาว” ตะวันพูดเสียงแผ่ว



อากาศในตอนเช้าท่ามกลางป่าลึกนั้นเย็นยะเยือกไม่น้อย ยิ่งตะวันที่ไม่สบายแล้วด้วยนั้นจะหนาวขนาดไหน



ภุมรินกระชับเสื้อแจ็คเกตตัวหนาห่มให้ตะวันพร้อมกับถอดของตัวเองคลุมทับไปอีกชั้น



ไม่รู้ว่าจะมีคนมาเจอพวกเขาเมื่อไหร่ ที่แน่ๆคือตอนนี้ตะวันดูท่าจะไม่ไหวแล้ว ตะวันนั้นตัวร้อนจนน่ากลัว



“หนาว ริน พี่หนาว” ตะวันตัวสั่นน้อยๆแม้มีเสื้อสองตัวคลุมอยู่ก็ตาม



ภุมรินเดินไปหากิ่งไม้แถวนั้นมาก่อใส่กองไปที่ยังมีควันอยู่แม้ไฟจะดับไปแล้วก็ตาม



ร่างบางหาเศษไม้แห้งมาคลุมแล้วเป่ากองไฟนั้น ครู่ใหญ่กว่าไฟจะลุกขึ้นมา ภุมรินเดินไปกอดร่างที่สั่นเทาของตะวันแน่น



“พี่ตะวัน โอเคขึ้นรึยัง” กระซิบถามคนตัวโตกว่า




ตะวันไม่ตอบอะไร ร่างนั้นหยุดสั่นลงแล้ว ตะวันขยับเข้าซุกเข้ากับร่างของภุมริน




ภุมรินเกลี่ยผมของตะวันขึ้นก่อนจะเอาผ้าชุบน้ำมาวางไว้บนหน้าผากของตะวันเพื่อลดไข้



ร่างบางมองหน้าคนป่วยพร้อมกับยกมือขึ้นจับสองข้างแก้มนั้นเพื่อวัดไข้ แต่ครั้งนี้เขากลับไม่ยอมเอามือลง



ภุมรินจ้องมองหน้าของตะวันที่หลับอยู่ เขานึกไปถึงตอนที่ตะวันมาช่วยเขา



ความจริงแล้วตะวันไม่น่าจะตกมาที่นี่กับเขาด้วยซ้ำ ตะวันจะเรียกคนอื่นมาช่วยก็ยังได้ แต่เจ้าตัวกลับเลือกที่จะยื่นมือมาจับเขาไว้ พี่




ตะวันที่ชอบแกล้งเขาตอนเด็กๆจนถึงตอนนี้ที่จริงแล้วก็ห่วงเขาไม่แพ้รัชพลที่เป็นพี่ชายแท้ๆ




ตะวันนั้นคอยเป็นพี่ชายอีกคนเสมอ ถึงแม้จะชอบว่าเขาแต่เวลาเขามีเรื่องอะไรเพื่อนพี่ชายคนนี้ก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยไม่เคยอิดออด 



ยิ่งครั้งนี้ตะวันเกือบจะต้องมาตายเพราะเขา แต่เจ้าตัวกลับไม่บ่นซักคำ ซ้ำยังคอยเป็นห่วงเขาอีก โดยไม่ดูแลตัวเองเลยสักนิด




“ทำเป็นเก่งดีนักนะพี่ตะวัน เป็นไงล่ะ นอนเป็นผักเลย” แอบว่าคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง





ภุมรินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกอดตะวันให้แน่นยิ่งขึ้น หวังว่าตะวันคงไม่ไข้ขึ้นสูงไปมากกว่านี้นะ



“ริน!” เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลังไม่ไกล ภุมรินเงยหน้าขึ้นมอง



รัชพลและเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกสามสี่คนกำลังเดินมุ่งมาทางพวกเขา



ภุมรินผละออกจากร่างของตะวันแล้วตะโกนเรียกชื่อพี่ชายสุดเสียง



“พี่รัช ช่วยพี่ตะวันด้วย” ภุมรินค่อยๆลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล




“ริน เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนมั้ย” รัชพลพุ่งเข้ากอดน้องชายแน่นพร้อมกับจูบหน้าผากของภุมริน




รัชพลและเจ้าหน้าที่ออกตามหาทั้งคู่ตั้งแต่ตะวันขึ้น ทางที่ลงมานั้นลาดชันมากกว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร




บุรินทร์และภูผานั้นรออยู่ด้านบนตรงบริเวณที่ทั้งสองคนตกลงมา ในใจของเขานั้นหวังเพียงว่าน้องชายและเพื่อนรักจะยังคงมีชีวิตอยู่




ระหว่างทางเขาเจอหมวกกันน็อคของตะวันตกอยู่ด้วย ยิ่งเดินลงมาไกลเท่าไหร่เขายิ่งห่วงทั้งคู่เพราะทางมันแสนจะลำบากและชันขึ้นเรื่อยๆ จนมาลงมาถึงข้างลำธารนี่แหละ




เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเห็นกองไฟเข้าเลยรีบบอกให้ดู เขาเห็นภุมรินกำลังนอนกอดตะวันอยู่จึงตะโกนเรียก




“รินไม่เป็นอะไร แต่พี่ตะวัน พี่ตะวันไข้ขึ้น” ภุมรินชี้ไปยังร่างของตะวันที่นอนสั่นอยู่ รัชพลผละออกจากน้องชายแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิท



“ตะวัน ไอ้ตะวัน” เขย่าร่างนั้นสองสามครั้งแต่ตะวันก็ไม่ตอบรับ



“พี่ตะวันตัวร้อนมากเลยพี่รัช”



“ผมว่ารีบพาขึ้นไปข้างบนก่อนเถอะครับ จะได้พาไปหาหมอด้วย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอก




รัชพลและภุมรินช่วยกันพยุงร่างของตะวันขึ้น ภุมรินนั้นเซเล็กน้อยเมื่อทิ้งน้ำหนักลงขาข้างที่เจ็บจนรัชพลสังเกตอาการได้



“เป็นอะไรริน” ถามน้องชายที่กัดริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความเจ็บ




“รินเจ็บขาน่ะพี่รัช” คำตอบนั้นทำให้รัชพลมองไปที่ขาของน้องชาย



เห็นรอยขาดของกางเกงยีนส์เป็นทางยาวพร้อมกับแผลที่ยังสดอยู่ของภุมริน




“ทำไมไม่บอกพี่” รัชพลเอ็ดน้องชายก่อนจะบอกให้เจ้าหน้าที่มาช่วยพยุงร่างของตะวันที่ยังคงไม่ได้สติ




เจ้าหน้าที่สองคนเข้ามาช่วยพยุงตะวัน ส่วนรัชพลนั้นมานั่งยองๆข้างหน้าภุมริน ร่างเล็กเห็นอย่างนั้นก็โอบคอพี่ชายแล้วทิ้งตัวลงไปกับแผ่นหลังของรัชพล




ภุมรินนั้นขี่หลังรัชพลเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก โตมาเขาเองก็ยังชอบแกล้งกระโดดเกาะหลังรัชพลอยู่บ่อยครั้ง




“พี่ตะวันจะเป็นอะไรมั้ยพี่รัช” ภุมรินถามรัชพลเมื่อขึ้นมาบนหลังของพี่ชายแล้ว




“ถ้าถึงมือหมอแล้วมันคงไม่เป็นอะไรหรอก ก่อนอื่นต้องขึ้นไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน”




รัชพลตอบน้องชายพร้อมกับกระชับแขนที่สอดเข้าใต้ขาของภุมรินเข้าแน่น โชคดีที่ภุมรินตัวไม่ใหญ่มาก ถ้าไม่อย่างนั้นมีลำบากกว่านี้แน่นอน



“รินเป็นห่วงพี่ตะวัน” หัวทุยๆนั้นซบลงกับไหล่ของไหล่ของรัชพล




คำพูดของน้องชายทำให้คิ้วของรัชพลกระตุกไม่น้อย ไหนจะเรื่องที่ภุมรินนอนกอดตะวันนั่นอีกล่ะ





เขาไม่อยากจะคิดอะไรมากมาย เพราะตะวันนั้นมีไข้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ใช่ว่าจะโอเค การที่ภุมรินกับตะวันไปถึงเนื้อถึงตัวกันมากขนาดนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีนัก




ทั้งหมดเดินขึ้นเขามาอย่างทุลักทุเล เดินไปครึ่งทางตะวันก็เริ่มได้สติ




คนที่ลำบากที่สุดเห็นจะเป็นรัชพลที่ต้องแบกภุมรินไปพร้อมๆกับขึ้นเขา เชือกที่เจ้าหน้าที่เอาพาดไว้ก่อนหน้าถูกจับแน่นโดยคนทั้งเจ็ด




เมื่อถึงทางที่ชันน้อยลงการเดินก็ง่ายมากขึ้น ไม่นานทั้งหมดก็เห็นบุรินทร์และภูผาที่ตะโกนเรียกชื่ออยู่ไม่ไกล



“ริน เป็นยังไงบ้างลูก พ่อเป็นห่วงมากรู้มั้ย” บุรินทร์เข้ากอดลูกชายเมื่อภุมรินลงจากหลังของรัชพลแล้ว



“รินไม่เป็นอะไร แค่เจ็บขาเท่านั้นเอง” ตอบบิดาที่ยังคงสีหน้าเป็นห่วงไม่หาย



ตะวันเหมือนจะหมดสติไปอีกรอบ ภูผานั้นรีบพาลูกชายขึ้นรถ โดยมีสามพ่อลูกตามไปนั่งข้างหลัง ก่อนจะขับลงเขาไปโดยมีรถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขับตามไป




รถของภูผาก็มาจอดที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ตะวันถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ภุมรินนั้นถูกรัชพลพาไปทำแผลที่ขา ทางจังหวัดที่เป็นคนจัดงานยินดีออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้




ไม่นานครอบครัวรักษ์นทีก็ขอตัวกลับไปไร่น้ำริน ภุมรินมองตะวันที่นอนนิ่งโดยมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ที่หลังมือด้วยสายตาที่ยังคงเป็นห่วง




รัชพลบอกภูผาว่าตอนเย็นๆจะเข้ามาเยี่ยมอีกรอบ และเขาจะเป็นคนมานอนเฝ้าตะวันคืนนี้ให้เอง ภูผากล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้เพื่อนลูกชาย




รถของรัชพลเข้ามาจอดที่ไร่น้ำรินในตอนสายของวัน ป้าจันเข้ามากอดภุมรินพร้อมกับน้ำตาอาบแก้ม




เธอรู้เรื่องจากคนงานที่ไปช่วยที่งาน คนแก่ร้องไห้ทั้งคืนเพราะเป็นห่วงภุมรินกับตะวัน




“ทูนหัวของป้า ขวัญเอ้ยขวัญมานะคะคุณริน” ป้าจันลูบหัวภุมริน ร่างบางก็กอดร่างท้วมนั้นตอบ




“รินไม่เป็นอะไรแล้ว ป้าจันไม่ต้องร้องไห้นะครับ” กลายเป็นว่าเป็นภุมรินที่ต้องปลอบป้าจัน




ยืนคุยกับป้าจันไม่นานภุมรินก็ขึ้นไปอาบน้ำโดยมีรัชพลมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้



หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็หลับยาวจนถึงบ่ายแก่ๆ ป้าจันมาเคาะห้องนั่นแหละถึงจะยอมลงไปกินข้าว



เมื่อลงมาข้างล่างก็เจอรัชพลที่กำลังจะออกไปเยี่ยมตะวันอีกรอบ



“พี่รัชจะไปหาพี่ตะวันเหรอ” ภุมรินถามเมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร เขายังคงเดินได้ไม่สะดวกนัก อาศัยไม่ลงน้ำหนักอีกข้าง




“อือ ว่าจะไปนอนเฝ้ามันด้วย”




รัชพลตอบพร้อมกับเลือกองุ่นใส่กล่องกระดาษอันเล็กเพื่อเอาไปเยี่ยมตะวันที่โรงพยาบาลด้วย



“รินอยากไปด้วย พี่รัชให้รินไปด้วยได้มั้ย พี่ตะวันเค้าเป็นคนช่วยรินไว้” ภุมรินอยากจะไปเยี่ยมตะวันออกรอบ ไม่รู้ว่าตอนนี้อีกคนฟื้นรึยัง   




“ไม่ต้องไปหรอก รินก็ยังไม่หาย และอีกอย่างที่คงไม่สะดวกขับรถกลับมาส่งน่ะ”




รัชพลต้องขับรถเข้าตัวจังหวัด ระยะทางนั้นไกลพอสมควร ถ้าขับไปๆกลับๆคงไม่สะดวกแน่ๆ ไหนภุมรินจะยังเจ็บขาอีก ถ้าไปนอนกับเขาที่โรงพยาบาลคงจะไม่สบายตัวเท่าไหร่





“รินกลับเองก็ได้ นะพี่รัช ให้รินไปด้วยนะ” เข้าไปจับแขนพี่ชาย



รัชพลละมือจากองุ่นแล้วหันมามองหน้าภุมรินที่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้




“จะกลับเองยังไง ขาก็ยังเจ็บอยู่ พี่บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิริน พรุ่งนี้ค่อยไปแล้วกันนะ” ภุมรินหน้าจ๋อยลงเมื่อรัชพลยังคงยืนยันว่าไม่ให้เขาไป






“งั้นพี่รัชสัญญานะว่าพรุ่งนี้จะพารินไปเยี่ยมพี่ตะวัน”




เมื่อรัชพลพูดแบบนี้แล้วภุมรินก็จำเป็นที่จะต้องทำตาม เพราะรู้ว่าเมื่อพี่ชายตัดสินใจแบบนี้แล้วไม่มีทางกลับคำแน่ๆ




“ได้สิครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับ วันนี้ตัวเล็กพักผ่อนก่อนนะ” รัชพลยิ้มให้น้องชายก่อนจะลูบหัวอย่างเอ็นดู




รัชพลหยิบองุ่นใส่กล่องอีกเล็กน้อยก่อนจะออกไปหาตะวันที่โรงพยาบาล





ภุมรินมองตามรถคันสีดำของพี่ชายที่ไกลออกไปแล้วถอนหายใจ ใจจริงเขาอยากจะไปเยี่ยมพี่ตะวันตอนนี้เลย ไม่อยากจะรอให้ถึงพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ






“เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณรัชก็พาไปค่ะ มากินข้าวก่อนนะคุณริน เย็นย่ำขนาดนี้แล้ว”




ป้าเดือนที่ตั้งโต๊ะให้ภุมรินบอกคนตัวเล็กที่ยืนชะเง้อมองรถที่ห่างออกไป




“ครับป้าจัน” ตอบเสียงหงอยแล้วนั่งลงกินข้าวที่ป้าจันนำมาให้



ป้าจันมองนายน้อยอย่างนึกเอ็นดู ถึงแม้คุณรินกับคุณตะวันนั้นจะเถียงกันทุกวันก็ตาม แต่พอมีเรื่องอย่างนี้แล้วคุณรินก็เป็นห่วงคุณตะวันไม่น้อย



เธอเห็นทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก ดูก็รู้ว่ามีความผูกพันกันมากแค่ไหน คุณตะวันนั้นก็เป็นเหมือนพี่ชายของคุณรินอีกคน เห็นอย่างนี้แล้วเธอรู้สึกมีความสุขในใจแปลกๆ อย่างน้อยเวลามีปัญหาพวกเขาก็ไม่ทิ้งกัน




***********************************************************************************************




ตอนที่สิบมากแล้วค่ะ  :z2: :z2:  เราเปิดเทอมแล้ว เราไม่รู้ว่าจะอัพเวลาเดิมมั้ย แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องไม่อัพนะคะ เราแต่งจบแล้ว อัพทุกวันค่ะ (ถ้าไม่มีข้อผิดพลาด) ยังไงฝากด้วนะคะ  :katai2-1: :katai5: :กอด1:

 

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
สนุกค่ะ ชอบบบ อัพรัวๆได้ไหมอยากอ่านนน//โดนเตะข้อหาโลภมาก 55
รออ่านต่อค่า

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
โหย พี่ตะวัน ป่วยหนักเลยน่าสงสาร ดีนะที่พี่รัชไปเจอเร็ว ไม่งั้นอาการแย่แน่ ๆ
แต่ตอนนี้บอกให้รู้เลยว่า พี่รัชหวงน้องรินมากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก
นี่ขนาดพี่ตะวันป่วยนอนหนาว น้องรินกอดให้อุ่นเท่านั้น
แล้วที่น้องรินห่วงพี่ตะวันมาก ๆ เพราะเป็นคนช่วยไว้ก็ไม่แปลก
แต่แค่นี้พี่รัชยังคิ้วกระตุกแล้ว แล้วเกิดสองคนนี้รักกันขึ้นมาจริง ๆ พี่รัชจะขนาดไหนเนี่ย
คิดแล้วก็เอาใจช่วยพี่ตะวันกับน้องรินล่วงหน้า พี่ตะวันหายป่วยเร็ว ๆ น้า
ชอบตอนพี่รัชให้น้องรินขึ่หลังจังเลย พี่น้องน่ารักมาก
รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
เขาเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้กันแล้วววว
ตะวันหายเร็วๆนะ
อยากอ่านต่อแล้ววว

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
พี่ชายเริ่มตะหงิดใจอะไรรึเปล่า

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
พี่รัชขี้หวงน้อง งานนี้ไม่ง่ายแน่ตะวัน 5555
หายไวๆน้า

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เราว่า พี่รัชเริ่มออกอาการหวงน้องแล้วล่ะ
เพราะดันไปเห็นน้องรินกับพี่ตะวันใกล้ชิดกันเกินไป พี่รัชเลยเริ่มระแวงว่า เพื่อนกับน้อง มองกันมากกว่าพี่น้องแน่ๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด