38 องศา • • • • [แจ้งข่าวเปิดจองหน้าแรก] • . ¸ ¸ ♪ 11/3/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบคู่ไหนที่สุดคะ ><

ครอสxเพลิน
165 (47.1%)
แวนxเคส
60 (17.1%)
นารายณ์xเมเจอร์
125 (35.7%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 350

ผู้เขียน หัวข้อ: 38 องศา • • • • [แจ้งข่าวเปิดจองหน้าแรก] • . ¸ ¸ ♪ 11/3/17  (อ่าน 468096 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
ทำไม พี่นารายณ์มันมุ้งมิ้ง ได้ระดับนี้

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ้ว...เมเจอร์เด็กมีปมชีวิต  พี่นารายณ์ช่วยน้องด้วย  :กอด1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
พรุ่งนี้จะมาลงใช่ไหม รออยู่นะจ๊ะ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 o13สุดยอด แต่งยังไงให้คู่รองเด่นพอๆกับคู่หลักทั้ง2คู่เลยค่ะ
อ่านเพลินก็หลงรักและเอ็นดู คู่เคสก็แซ่บฟิน พอนายเจอร์รักเลย
ขโมยซีนสุดอ่ะ สะดุดใจตั้งแต่ฉากห้องน้ำแล้วว่าเจอร์ไม่น่าเป็นอย่างที่เห็น
ชอบมากๆ สนุกทุกคู่เลย รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
พี่รหัสทุ่มสุดตัว ถ้าคำพูดสุดท้ายยังไม่ซึ้ง
มาอยู่กัยพี่เลยดีไหม จะได้คุมความประพฤติอยู่

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4


SIDE STORY :: พี่รหัส #4



นารายณ์ talk




สองอาทิตย์ที่ผ่านมาแม้กระแสจะซาลงแล้วแต่ยังมีคนเข้ามาทักผมอยู่เนืองๆเรื่องน้องรหัสทำให้ผมคิดถึงมันบ่อยๆ



พอเป็นห่วงจนทนไม่ไหวเลยขับรถตามมอเตอร์ไซค์มันหลังเลิกเรียน...จนมาเจอมันนั่งดื่มกับเด็กช่างกลอยู่



ผมไม่ว่าเรื่องคบเพื่อนหรอก ยังไงก็คนเหมือนกันเห็นมันไม่อยู่คนเดียวผมก็สบายใจ...ถ้าพวกนั้นเป็นเพื่อนที่ดีน่ะนะ แต่ดูแล้วไม่น่าใช่ ผมจึงตัดสินใจไปดักรอมันที่ลานจอดรถ ผลก็คือมันตะโกนใส่หน้าผมว่าเหี้ยดังๆก่อนขี่ฟีโน่กากๆของมันจากไป ก็สมควรละ ผมไปกวนตีนมันไว้นี่นะ



ผมเข้าไปหาพี่นิล เข้าไปขอโทษแทนมัน โดนต่อยไปทีนึงเลือดกลบปาก แต่ถ้ามันทำให้ทุกอย่างโอเคขึ้นผมก็พร้อมทำ
นี่ก็ผ่านมาอีกอาทิตย์กว่าแล้วน้องมันหนีหน้าผมตลอด ไม่กลับไปกินร้านเดิม ไม่รู้ด้วยซ้ำมั้งว่าผมวิ่งเต้นให้มันขนาดไหน



“เห้อ...”ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย หมู่นี้เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมดก็ไม่รู้



“วันนี้มึงถอนหายใจมาแปดรอบแล้วนะ คิดมากเรื่องอะไรอยู่? เรื่องน้องรหัสรึไง”



วันนี้ผมมาอ่านหนังสือในห้องเฟิง ใกล้สอบแล้วปีสองเรียนหนักเลยรีบอ่านแต่เนิ่นๆ แต่เหมือนมันจะไม่เข้าหัวสักกะตัว



“อืม ประมาณนั้น”ผมตอบพลางวางชีท เดินเข้าครัวไปหาน้ำดื่ม



“นายณ์ รู้ตัวรึป่าวว่า...”เฟิงชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่จนผมต้องเลิกคิ้วกระตุ้นมันถึงยอมพูดประโยคถัดมา”มึงน่ะ...เป็นห่วงน้องมันเกินขอบเขตหน้าที่ของพี่รหัสไปนะ”



“ตลกละ! ก็ปกติหนิ”



“ไม่ๆ ไม่เลยสักนิด มันไม่ปกตินายณ์”เฟิงผู้น่ารักของผมส่ายหัวไปมาน่าเอ็นดูผมจึงเดินเข้าไปจับหัวทุยๆนั่น



“ไม่ปกติยังไงล่ะ หืม?”



“วันนี้วันที่เท่าไหร่”มาแปลก อยู่ดีๆมาถามวันที่ จะตรวจหวยรึไงวะ



“วันที่ 28 พฤศจิกา ทำไมวะ”



“วันนี้เมื่อปีที่แล้วมึงทำอะไรอยู่?”



“ห๊ะ จะบ้าเหรอ ใครจะจำได้ไอ้ห่านี่ถามอะไรยากๆ”ผมตบกะโหลกมันไปที เดินกลับไปนั่งที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือต่อ หยิบชีทขึ้นมาและปล่อยมันร่วงลงพื้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของเพื่อนสนิท



“ขนาดใบ้ขนาดนี้มึงยังจำไม่ได้เลยไอ้นายณ์ วันนี้ของเมื่อปีที่แล้วมึงกำลังวิ่งวุ่นเลือกของขวัญวันเกิดให้กูอยู่ ไม่ใช่แค่ปีที่แล้วแต่มันเป็นอย่างงี้มาห้าหกปีแล้วนายณ์ พอใกล้สิ้นเดือนพฤศจิกาในหัวของมึงจะมีแต่เรื่องวันเกิดของกู!”



ผมไม่รู้จะตกใจเรื่องลืมวันกันเฟิงดีหรือตกใจเรื่องที่เฟิงรู้ว่าผมให้ความสำคัญกับวันเกิดมันขนาดไหนดี



ผมตกใจจนพูดอะไรไม่ออกคนตรงหน้าเลยเอ่ยต่อเป็นฉากๆ



“กูรู้มาตลอดว่ามึงรู้สึกยังไงแต่ก็ไม่ได้พูดออกมาเพราะพูดไปก็มีแต่เสียเพื่อน แต่...”



“เฟิง พอเถอะ ได้โปรด อย่าพูดต่อเลย...”มือผมสั่นไปหมดแล้วตอนนี้ คิดว่าที่ผ่านมาจะแอบชอบแบบแนบเนียนเสียอีกแต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวรับรู้มาโดยตลอดเพียงแต่ไม่พูดอะไร



“กับกูมันคือความผูกพันเท่านั้น”



“ไม่ใช่...”มึงจะหายไปเหรอ ไม่เอาสิ อย่าทำแบบนี้



“นายณ์..มึงรู้ไหมว่าทำไมกูที่เก็บเรื่องนี้มาตลอดถึงโพล่งออกมาหมดเปลือกวันนี้”



ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา



“เพราะว่ามึงหาเจอแล้วไง คนที่สำคัญกว่ากูน่ะ”



“หมายถึง...ใครเหรอ เดี๋ยว! มึงจะไปไหน!?”



“เข้าห้องน้ำน่า ไม่หายไปไหนหรอก พวกเรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนี่ แค่มึงรู้ว่ากูรู้ความรู้สึกแค่นี้มันสั่นคลอนมิตรภาพของพวกเราไม่ได้หรอกเว่ย!”แอบงงภาษามันนิดๆแต่ก็ปล่อยเลยตามเลย



ผมไม่มีแก่จิตแก่ใจจะอ่านหนังสือแล้ว ผมบอกลาเพื่อนสนิทหลังจากมันออกมาจากห้องน้ำ มันก็ไม่ได้ว่าอะไร



ผมหอบเอาอกซ้ายที่กลวงโบ๋ลงมายังชั้นล่าง เข้าไปนั่งในรถแต่ไม่ยอมสตาร์ทเครื่อง



ความรู้สึกของเพลินตอนโดนผมปฏิเสธจะเป็นแบบนี้เหมือนกันรึป่าวนะ?



ถ้าอย่างงั้นทำไมผมถึงไม่มีน้ำตาไหลออกมาล่ะ จะบอกว่าด้านชาหรือทำใจไว้แล้วก็ไม่ใช่



มันเหมือนกับ...ผมไม่ได้เสียใจอยู่




วันรุ่งขึ้นผมไปที่ห้างเพื่อเลือกซื้อของขวัญให้เฟิงอย่างที่ควรจะเป็น และที่นั่นผมก็พบกับเพลิน ไม่รู้น้องเขาจะจับสังเกตไอขมุกขมัวของผมได้ไหมนะ แต่ดูท่าคงไม่ได้แหง พูดกับผมแบบปกติเชียว ผมก็บ้านะหยอกเขาเรื่องไอ้ครอสเสร็จเสือกระบายเรื่องของตัวเองให้น้องเขาฟังซะอีก



สุดท้ายเลยโดนเด็กสั่งสอนเข้าให้



...พี่อาจจะยังไม่เคยเจอ แต่ผมว่าในชีวิตคนเราน่ะ...ต้องมีอย่างน้อยสักคนนึงที่เป็นเหมือนหนังสือที่ดูแค่ปกหรืออ่านแค่บทนำแล้วไม่คิดจะเปิดอ่านสักนิด แต่พอรู้ตัวอีกทีก็วางไม่ลงซะแล้ว...และคนคนนั้นแหละจะเข้ามาทำลายทุกกรอบความเชื่อหรือความยึดติดเดิมๆของเรา...



คมสัสบาดใจกูเลือดซิบเลย



น้องมันน่าไปเปิดเพจคำคมเก็บค่าโฆษณาเป็นรายได้เสริมนะ



ผมเก็บคำพูดของน้องและคำพูดของเพื่อนมาครุ่นคิด



ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอก แต่มีสิ่งนึงที่ตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ นั่นก็คือ...



ผมจะเลิกชอบเฟิง



ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าตัดใจไม่ได้แต่เพราะไม่ยอมปล่อยวางเองต่างหาก



ถือทิฐิเป็นพระรองซีรี่ย์เกาหลีรักแท้มั่นคงแม้เธอได้กับเขาสุดท้ายก็กลับมานั่งทนทุกข์วนลูปเดิมๆ ยิ่งเพื่อนที่แอบชอบรู้ตัวแล้วผมยิ่งไม่ควรชอบมันต่อเข้าไปใหญ่



ไม่ใช่ว่ายอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ



มันอาจดูหล่อไปนิดแต่ช่วยเข้าใจหน่อยเถอะ



เมื่อผมเลิกชอบ เฟิงเองก็จะสบายใจขึ้น



ผมทำเพื่ออิสระทางใจของตัวเอง ผมทำเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกผิด และทำเพื่อความรู้สึกบางอย่างหรือเพื่อใครบางคนที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ



“ถึงเวลาวางสักที หนังสือที่ยึดถือเอาไว้แสนนานแต่ไม่เคยเปิดอ่านเล่มนี้”





..............................................................

ตอนนี้สั๊นนนนนนสั้น 55555+ (/คนอ่าน/มิน่าล่ะถึงได้เอามาลงเร็วนัก มีเท่านี้นี่เอง)


ตอนต่อไปมาวันศุกร์จ้าาาาา  :heaven


ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แปะโป้ง วันศุกร์จะเข้ามารอ ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
มาน้อยๆ แล้วทิ้งหลายวันเลย
พี่รหัสเค้าเริ่มรู้ใจตัวเองนิดๆ แล้วใช่ไม๊

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
โอเค ตอนนี้ อ่านได้แบบไม่เกิน 3 นาทีจบ 55

มาสั้น แต่ได้ใจความ  :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
เฮ้ย จบแล้วรึ
เฟิง นายมันสุดยอด

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
วางเล่มเก่าที่ยังไม่เปิดแล้วช่วยเปิดเล่มใหม่จัดหน้ากระดาษให้มันเรียบร้อยทีน่ะค่ะ   


งานนี้ตั้งตารอวันศุกร์เลยจ้า

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ขอบคุณค่ะ รอวันศุกร์ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พอคนเขียนบอกว่าสั้น ก็เลื่อนขึ้นไปดู เออนั่นสิสั้นจริงด้วย กำลังสนุกเลยคะ ชอบคู่รองมากคะ ออกแนวเมะทั้งคู่ อยากเห็นตอนเมะสวีท รอวันศุกร์คะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ชอบเฟิงอ่ะ โผล่มานิดเดียวอย่างน่ารักเลย

 :mew3:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จุดพลิกเกมอยู่ที่เฟิงจริงๆนะ

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เดินหน้ากับเจอร์เลยค่ะพี่นายณ์ T/////T
ไม่รู้ป่านนี้น้องเป็นไงบ้าง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รออีก สั้นไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ฝุ่นเข้าตา ต้องให้คนอื่นช่วยเอาออกจริงๆ
พี่นายณ์จริงๆก็รู้ตัวแหละว่าใจตัวเองไม่เหมือนเดิมแล้ว
แต่การรักเฟิงมันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ
เป็นความเคยชิน ทำไปโดยอัตโนมัติ
ถ้าจะให้เลิกหรือหยุดไปด้วยตัวเอง มันคงจะรู้สึกเหมือนกลัวการเปลี่ยนแปลง
ก็เลยต้องอาศัยเพลินช่วยสะกิดกระตุ้นให้ฉุกคิด
แล้วพอเฟิงชี้ให้เห็นชัดๆอีกว่าเฟิงเป็นความผูกพัน
แต่ความรักนั้นนายณ์ให้เจอร์ไปแล้ว เลยเหมือนกับหัวใจได้รับอนุญาตที่จะสมหวังในรักสักที
คนบางคนนะ ยอมที่จะเจ็บแบบเคยชินกับรักที่ผิดหวังไปเรื่อยๆ
จนไม่กล้าจะลองเสี่ยงมีความสุขกับรักครั้งใหม่ที่มารออยู่ตรงหน้า
โชคดีที่มีเพื่อนฉลาดไม่พอแถมยังดีมากอีก นะนายณ์นะ^^


ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อ่านทันแล้วววว ชอบเรื่องนี้จัง

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
SIDE STORY :: พี่รหัส #5
นารายณ์ talk




คงเป็นโชคดีในโชคร้าย ที่คืนวันนั้นผมตัดสินใจไปตามหาไอ้เจอร์ที่ระบำบาร์



ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอะไรดลใจให้ผมวางมือจากกองหนังสือเรียนและขับรถออกไปหาคนที่ไม่รู้ว่าจะหาไปทำไมในร้านเหล้า แต่ใจผมมันร้อนรุ่มแปลกๆเหมือนสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น และมันก็แม่นยำเสียด้วย



ผมไปถึงร้านแต่ไม่เจอมัน ตอนแรกก็ว่าจะกลับทว่า



“มึงว่าสองคนนั้นจะรอดป่าววะ”



เสียงพูดคุยของโต๊ะๆนึงก็ดังขึ้น ผู้ชายวัยทำงานสามสี่คนกำลังพูดถึงอะไรสักอย่างแบบออกรส



“กูว่าเละว่ะ เด็กสมัยนี้ก็แปลกนะผู้ชายเหมือนกันแต่ได้ยินว่าจะฉุดไปปล้ำด้วยหนิ”




“ฮ่าๆๆๆ นั่นดิวะ แต่กูก็ว่าน่ารักดีนะ คนที่ดูนิสัยนิ่มๆอ่ะ”



ทั้งๆที่บทสนทนานั้นไม่น่ามีอะไรโยงไปถึงคนที่ผมตามหาเลยแท้ๆ แต่ผมกลับออกตัววิ่งตามหาเด็กสองคนที่ผู้ชายกลุ่มนั้นพูดอย่างกระวนกระวาย ผมวิ่งวนดูรอบๆร้านหาที่เปลี่ยวเหมาะกับการทะเลาะวิวาทและผมก็เจอเข้าจนได้ ร่างโปร่งของน้องรหัสกลิ้งคลุกดินอยู่บนพื้น



มีสี่คนรุมยำมันอยู่ เหมือนพยามลากมันไปไหนสักที่แต่มันขัดขืนเลยโดนถีบแบบไม่ยั้ง พอมันหมดแรงขัดขืนก็ลากคอให้เดินตาม
“พวกมึงปล่อยน้องกูนะเว้ย!!”



พระเอกมากกู แม่งหันมามองกันตาเขียวปั๊ด เอาไงดีทีนี้ สี่ต่อหนึ่งฝั่งนั้นมีตัวประกันกับอาวุทครบมือ



“ใครวะ? พี่ชายมึงเหรอ หน้าไม่เหมือนกันเลยหนิ”คนที่ลากคอไอ้เจอร์อยู่ดึงปกเสื้อมันสูงขึ้นและกระชากเสียงถาม



“ถุ้ย!”



ไอ้ห่าเจอร์มึงก็ช่วยทำตัวเรียบร้อยๆหน่อยเหอะ จะโดนลากไปไหนก็ไม่รู้ยังไม่วายถุยน้ำลายใส่หน้าเขาอีก จะอวดเก่งก็รอตอนกูช่วยมึงได้ก่อนนะน้องนะ



“ไอ้เหี้ย!”



ผลั่ก!



“โดนตบหน้าหันเลยเป็นไงมึง สำนึกแล้วก็ยืนนิ่งๆรอกูช่วยได้ยัง?”ผมกล่าวทีเล่นทีจริง หางตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงยืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกล เอ...หน้าคุ้นๆนะ เหมือนว่าจะเป็น “ซันนี่?” คนถูกเรียกผงะ ไม่รู้ว่าเธอตกใจที่ผมจำได้หรืออะไรนะแต่เธอก็รีบกรีดนิ้วสั่งเจ้าสี่คนนั้นวเสียงเฉียบว่า



“มัวยืนโง่อะไรอยู่ล่ะ กระทืบมันสิ”



อ้าวน้อง พูดงี้ก็สวยสิ



พวกมันสี่คนก็ว่าง่ายเนอะ คนนึงล็อคตัวไอ้เจอร์ไว้ส่วนสามคนที่เหลือวิ่งมาล้อมผม พวกเราสบตากันชั่วอึดใจเพื่อคุมเชิง โชคดีที่พวกนั้นไม่คิดจะจับน้องรหัสผมเป็นตัวประกันผมถึงกล้าสู้อย่างสบายใจหน่อย



เห็นอย่างงี้พี่ก็พระเอกนิยายนะครับ แค่สามต่อหนึ่งจะแพ้ได้ไง



มีคนนึงกระโจนเข้ามาผมก็รีบถีบสวนกลับทันที ยันมันกระเด็นไปเป็นเมตรก่อนโยนตัวหลบหมัดอีกคนที่สวนเข้ามา เหมือนพวกมันจะสู้แบบลองเชิงเพราะไม่รู้ว่าผมเป็นใครมาจากไหนอยู่ดีๆก็โผล่มาแบบหล่อๆ



สู้กันได้แค่เดี๋ยวเดียวไอ้คนที่หิ้วคอไอ้เจอร์อยู่ก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง



“เห้ย! ไอ้หล่อ! ถ้ามึงไม่อยากให้น้องมึงไส้ไหลก็หยุดซะ!!”ไม่พูดเปล่า มันกางมีดพับออกมาจี้เอวคนที่มันจับอยู่ ไอ้เจอร์ในสภาพฟกช้ำสติใกล้หลุดเต็มแก่ขมวดคิ้วมองอย่างไม่สบอารมณ์



“พี่มึงก็โง่นะ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง กลับไปเถอะ ทำแบบนี้ไม่มีใครชมว่าหล่อหรอก...”เสียงมึงป้อแป้มากเจอร์ ที่สำคัญคือไอ้งั่งที่เอามีดจ่อมึงอยู่เพิ่งชมกูว่าหล่อครับ



“ถ้ารู้ตัวว่าพูดแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมึงก็เงียบเหอะเจอร์”น้องเวรกูกำลังใช้ความคิดหาวิธีชิงตัวมึงอยู่อย่ารบกวน



“ถ้ารู้ตัวว่าไม่เกี่ยวก็กลับไปเถอะ...พี่มึงหล่อก็ได้ หล่อมากเลย เท่านี้ก็หล่อแล้ว กลับไปเถอะ...”สภาพมึงแบบนั้นจะให้กูตอบว่าไงวะ เออ ดี เริ่มง่วงละ กลับบ้านนอนก่อนนะบาย งี้เรอะ!?



“อ๋อออออ นึกว่าใคร นี่ใช่พี่รหัสมึงรึป่าว ที่เป็นทั้งพ่อทั้งผัวมึงอ่ะ”



“เหี้ย! มึง โอ๊ย!”ร่อแร่แล้วเสือกดิ้น มีดไม่บาดก็บุญแล้วไอ้น้องโง่



ผมติดใจคำพูดของอีกฝ่ายนิดหน่อยแต่มันไม่ใช่เวลามาสงสัย ผมกวาดตามองไปรอบๆสถาการณ์ยังแย่เหมือนเดิม กลางซอยเปลี่ยวแบบนี้ลองผมเล่นตุกติกเพื่อดึงไอ้เจอร์กลับมาอีกฝ่ายต้องเห็นแน่ๆและไอ้เจอร์ก็จะโดนจวกเละ



“...”



ชู่วววว



ด้านหลังของไอ้เจอร์ปรากฏเงาตะคุ่มๆ ทีแรกผมตกใจเพราะนึกว่ามันมีพวกมาเพิ่มแต่ดูให้ดีนั่นมันพวกผมนี่หว่า ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อแวนนะ เดือนคณะแพทย์เอามือจุ๊ปากไม่ให้แสดงอาการพุรุธก่อนมันจะชูนิ้ว หนึ่ง สอง สาม เหมือนให้จังหวะ ทันทีที่มันชู้เลขสาม แวนกับผู้ชายอีกคนก็กระโจนใส่ไอ้คนที่จับเจอร์ไว้!



คนนึงปัดมีดออก อีกคนโดดถีบไอ้ห่านั่นสองตีน!



เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก เกิดความสับสนอลม่านขึ้น ไอ้คนที่รับหน้าที่ปัดมีดออกน่าจะเป็นเพื่อนสนิทเพลินชื่ออะไรสักอย่างจำไม่ได้ มันเข้าไปประคองเจอร์และฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายตกใจวิ่งเหยาะๆมาหาผม มันส่งร่างโปร่งที่โคตรเยินมาให้ก่อนพูดว่า



“พี่รีบพามันไปโรงพยาบาลก่อนเหอะ ผมว่าหนักว่ะ”



จริงอย่างที่ว่า ตอนนี้ไอ้เจอร์หมดสติไปแล้ว



“ไหวเหรอ”ผมหมายถึงสองต่อสี่น่ะไหวเหรอ ไหนจะซันนี่ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงอีก



ผู้มาใหม่สองคนพยักหน้าหงึกหงัก เพื่อนของเพลินชู่นิ้วเป็นเชิงว่าสบายมาก ส่วนไอ้แวนไม่พูดอะไรแต่มันต่อยศัตรูโชว์ว่าแค่นี้เบาะๆ



“ขอบคุณมาก ให้พี่โทรเรียกตำรวจไหม”



“ไม่ต้องพี่ ไอ้ครอสมันอยากเคลียร์แบบส่วนตัว”







“ได้สติแล้วเหรอวะ”หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงผมที่นั่งสัปหงกอยู่ข้างเตียงคนป่วยก็สัมผัสได้ว่าคนป่วยเริ่มขยับตัว เสียงร้องโอดโอยปลุกผมให้ตื่นขึ้น ไอ้เด็กอวดดีมันนิ่วหน้ามองผม เนื้อตัวมีแต่ผ้ากอซกับผ้าพันแผล”หมอเขาให้แอดมิทดูอาการน่ะ”



“อืม...เพลินเป็นไงมั่งวะ”ผมงืมงำถาม



“ปลอดภัยดี พวกครอสมาช่วยไว้”



“เหรอ...ดีแล้วล่ะ...”ตามันจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่



“มึงนอนต่อเถอะ อย่าฝืนเลย”



“อืม...”มันครางในลำคอและปรือตาหลับ เจอร์มันเงียบไปพักใหญ่ๆลมหายใจสม่ำเสมอผมเลยคิดว่ามันหลับไปแล้วทว่า...ก็มีคำพูดแสนแผ่วเบาเล็กลอดออกมาจากกลีบปากแตกๆของร่างบนเตียงว่า



“ขอบคุณมาก”



แผ่วเบาราวกับหูฝาดไป คนพูดเองก็หลับตาอยู่จนนึกกลัวว่าจะเป็นแค่การละเมอ แต่รอยยิ้มเล็กๆมุมปากนั่นก็ทำให้ผมมั่นใจว่าคำพูดนั้น มันมอบให้ผม



เป็นคำขอบคุณจากใจจริงๆ



“พูดจาดีๆกับเขาก็เป็นเหมือนกันดีหว่า ไม่ยากใช่ไหมล่ะ เวลามีคนทำอะไรให้ก็ต้องขอบคุณ เวลาทำผิดก็ต้องขอโทษ เข้าใจไหม”



“ครับพ่อ”



สัส! กวนตีนกูตลอด หลับไปเลยมึง







ผมอยากเอาหัวโขกกำแพงตึกคณะตายห่าให้รู้แล้วรู้รอดไป ไม่ใช่หัวผมนะ หัวน้องรหัสผมต่างหาก!



ไอ้ห่าเจอร์ไม่เจียมสังขาร หมอเขานอนโรงบาลต่ออีกสองสามวันแต่พอเช้าตื่นมาแม่งเสือกหนีออกจากโรงพยาบาล!ไอ้ผมดันหลับลึกไปหน่อยตอนมันหายไปผมเลยไม่รู้ตัว พอตื่นมาเตียงก็ว่างเปล่าแล้ว ผมก็โทรหาคนนู้นคนนี้ให้วุ่นไปดิ รู้ไหมว่ามันไปไหน!?



มัน!ไป!เรียน!



ไอ้ห่า จะรักเรียนอะไรตอนนี้วะ



ไอ้เคนโทรมาบอกว่าเห็นไอ้เจอร์ในสภาพมัมมี่มีผ้าพันรอบตัวนั่งอยู่ใต้ตึกคณะ ผมรีบบึ่งรถออกจากโรงพยาบาลมาทันที(เสียเวลาจ่ายค่ารักษาไปครึ่งชม.)



กว่าจะถึงก็เกือบเที่ยง



“มันไปไหนวะ!?”ผมตรงไปถามไอ้เคนและกลุ่มเพื่อนที่นั่งปั่นการบ้านคาบบ่ายกันอยู่



“น้องรหัสมึงน่ะเหรอ ขึ้นไปเรียนเกือบชั่วโมงละ มึงนั่งดิ มาๆ เล่าด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น มึงกระทืบมันมาเหรอวะ”ไอ้เคนเขยิบที่ให้ผม มันเอ่ยถามแบบเสือกๆ พวกที่เหลือก็หูกระดิกรอฟังกันใหญ่



“กูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่เหมือนไอ้เจอร์มันจะเข้าไปช่วยเพลินจากพวกอันธพาลมา”นับเป็นโอกาสดีเลย ถ้าเล่าวีรกรรมของมันให้คนในคณะฟังทุกคนจะได้เลิกเกลียดมันสักที แต่พอผมพูดออกไปเพื่อนกลับตีหน้ายุ่ง



“พอเหอะมึง กูรู้ว่ามึงห่วงมันนะ แต่แต่งเรื่องมาหลอกพวกกูอย่างงี้มันไม่โอเค”



“จริง คนมันเหี้ยต่อให้มึงพยามแค่ไหนมันก็คือเหี้ยอยู่วันยังคำ”



“...”ผมกลืนคำพูดลงคอ



“พอเถอะไอ้นารายณ์กูรู้ว่าวิ่งตามแบบนี้มึงก็เหนื่อย อย่าทำหน้าเครีดดิ ไปกินข้าวกลางวันกัน ป่ะๆ”ไอ้เคนเห็นผมเริ่มหงุดหงิดจึงพูดไกล่เกลี่ย มันตบบ่าผมและดึงไหล่บังคับให้ลุกขึ้นตาม



มีแค่ผมกับเคนเท่านั้นที่มากินข้าว พวกเราเลือกกินกันที่โรงอาหารคณะ ตอนเที่ยงแบบนี้คนเริ่มแน่น มีแต่พวกผู้ชายในเสื้อช็อปเดินกันให้ควักไม่มีความเจริญหูเจริญตาสักนิด ผมซื้อข้าวราดแกงง่ายๆและนั่งจองโต๊ะรอไอ้เคนที่กระแดะไปสั่งอาหารตามสั่งซึ่งคิวโคตรยาว และหางตาของผมก็เหลือบไปเห็น...มัมมี่



มัมมี่เมเจอร์เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามาในโรงอาหารคณะ มันเดินก้มหน้าเลยไม่เห็นผม มันเลือกที่นั่งถัดออกไปสองโต๊ะ วางกระเป๋าจองไว้ส่วนตัวก็ไปซื้อข้าวราดแกงร้านที่คนน้อยที่สุด



สันดานเดียวกับกูเลย



แปลกนะที่ผมไม่เข้าไปทักมัน



คงเพราะทุกย่างก้าวที่มันย่างผ่านคนที่เห็นมันต่างมองตามและหันไปกระซิบกระซาบ



ผมไม่กลัวว่าจะโดนนินทาไปด้วยหรอก ก็แค่...อยากรู้ว่ามันจะทำยังไง



“โต๊ะนี้ป่าววะ พวกมึงนั่งๆ”มีเสียงนึงดังขั้นใกล้ๆ ไอ้ดิวอดีตเพื่อนสนิทของไอ้เจอร์พาพวกเดินตรงไปยังโต๊ะที่ไอ้เจอร์วางของจองไว้ เมื่อไอ้เจอร์กลับมามันก็ขมวดคิ้วมองผู้มาใหม่แบบงงๆแต่ก็ไม่พูดอะไร มันไม่หนีแต่มันก็ไม่ยิ้มทัก ไอ้ดิวยืนอึกอักมองไอ้เจอร์ที่เริ่มลงมือกินข้าวเงียบๆตรงมุมโต๊ะ



“มองขนาดนี้ไมมึงไม่เข้าไปแดกกะมันเลยวะ”ไอ้เคนกลับมาถึงก็แซะ ไอ้นี่มันลอยตัวเหนือดราม่าทั้งปวงรวมทั้งเรื่องไอ้เจอร์ด้วย



“วันนี้พอก่อน กูโกรธมันที่หนีมาโดยไม่บอกอยู่”ปากบอกว่าโกรธแต่ตานี่จ้องไม่กระพริบเลยกู



ไอ้เคน กูรู้ตัว มึงไม่ต้องอ้าปากเตรียมแซวเลยสัส



“หือ? มึงดูโน่น”ไอ้เคนเพยิดหน้าไปด้านหลังผมอย่างประหลาดใจผสมตื่นเต้น...สีหน้ามันบอกชัดมากว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้น



พอผมหันไปก็เข้าใจ



ครอสกับเพลิน



ชาววิศวะหลายคนเริ่มให้ความสนใจการปรากฏตัวของโจทย์เก่าในครั้งนี้



พอโดนสายตาหลายสิบคู่เพ่งมองเพลินก็เดินสะดุด หน้าตาตื่นๆ ผิดกับไอ้ครอส ไอ้นี่เดินดุ่มๆหันซ้ายหันขวาขวับๆไม่แคร์ใครเหมือนกำลังมองหาใครอยู่ และมันก็หาเจอแล้วด้วย



ร่างสูงของทายาทเดือนมหาลัยเดินเลยโต๊ะผม สาวท้าวฉับๆเข้าไปหาไอ้เจอร์ด้วยสีหน้าจริงจัง



“เช้ดดดด จะมีมวยกลางโรงอาหารให้กูดูกลางวันแสกๆป่ะเนี่ย”ไอ้เคนผู้ลอยตัวเหนือดราม่าทั้งปวงเริ่มลดตัวลงมาเสือก



“มึงไม่เข้าไปช่วยเหรอวะ น้องรหัสมึงจะโดนซ้ำละนะ”



ผมไม่ตอบมัน เพียงแค่นั่งนิ่งๆไม่ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนใจ



จากเสียงพูดคุยจอกแจกเริ่มเงียบลงและกลับมาดังกระหึ่มเหมือนนกกระจอกแตกลังเมื่อไอ้ครอสมันพูดขึ้นแบบโคตรดังว่า



“เจอร์!!” 



ดังจนเด็กเวรอย่างเจอร์ยังสะดุ้ง



พวกดิวที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันทำท่าจะลุกขึ้นเพื่อกันท่า



เพลินเดินตามมาแบบช้าๆและหยุดอยู่ข้างผมพร้อมส่งรอยยิ้มแหะๆมาให้



ชาววิศวะวัยคะนองทั้งหลายหยุดแดกและเดินมาเสือกใกล้ๆอย่างพร้อมเพรียง



“เอาเลยๆๆ!”



“ซัดกันๆ ๆ ๆ!!”



เหี้ยมาก อย่าบอกใครว่ากูอยู่คณะนี้



ไอ้ครอสแม่งถอนหายใจยกมือเกาหัวแกรกๆแต่ไม่ยี่หระต่อวิศวะมุงเกือบร้อยคนสักนิด พอเห็นไอ้เจอร์ลุกขึ้นยืนชาววิศวะมึงก็เงียบปากอย่างลุ้นๆว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไอ้เจอร์ก็แค่ลุกขึ้นยืนมองหน้าไอ้ครอสเฉยๆ



“ขอบคุณมากที่ช่วยเพลินเอาไว้!!”



“!!!!!?”



ผมไม่รู้ว่าเครื่องหมายตกใจหรือเครื่องหมายคำถามในโรงอาหารนี้จะเยอะกว่ากัน รู้เพียงแค่วิศวะมุงอ้าปากค้างกันเป็นแถบ ไอ้เคนหันมามองหน้าผมอย่างต้องการคำอธิบาย เรื่องราวสุดท้ายที่มันรับรู้คือไอ้ครอสแม่งโดนไอ้เจอร์เล่นตุกติกจนบาดเจ็บ




มางี้ก็งงกันดิ



สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ



“หึหึหึ”ผมหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นไอ้เจอร์ทำตัวไม่ถูก หน้ามันแดงนิดๆ กลอกตาไปมา สูดหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนรวบรวมความกล้าเพื่อทำบางสิ่ง



“กูเองก็...ขอโทษที่ทำให้เจ็บมือ กูไม่ได้ตั้งใจ!!”


ดังๆเน้นๆเอาให้พวกวิศวะมุงงงตายกันไปข้าง



ไอ้ครอสคลี่ยิ้มและหันมาพูดกับเพลินว่า”ยืนเด๋ออยู่นั่นแหละ มาขอบคุณมันดิ”



เจอร์หันมามองเพลิน หางตามันคงเห็นผมนิดๆมั้งถึงยักคิ้วส่งมาให้แบบกวนโอ๊ย



“อ่า...ขอบคุณนะ แฮ่ๆ แล้วก็ขอโทษที่เข้าใจผิดด้วย”น้องโรงเรียนผมกล่าวแบบเขินๆ



“โหยยย ไรวะ เบาไป๊ ขอดังกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้เหรอ พวกบนชั้นสองไม่ได้ยินนะ”ไอ้ครอสแม่งแซวเพลินซะอยู่เลย ฮ่าๆๆ



“อ่า...เอิ่มคือ...ขอโทษนะ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ...”ไอ้ดิวที่ยืนเอ๋ออยู่กับกลุ่มเพื่อนอ้ำอึ้งถาม ซึ่งคำถามของมันก็ตรงใจชาววิศวะมุงเป็นอย่างยิ่ง



“อ่อ ไม่มีไรหรอก เพื่อนมึงเป็นคนดีนะดิว รู้เท่านี้ก็พอ”ครอสเป็นคนตอบ



“จะ...จะบ้าเรอะ!? พูดอะไรของมึงน่ะ หมดธุระแล้วไม่ใช่เหรอ กลับคณะมึงไปดิ!”น้องรหัสผมเป็นซึนเดเระรึ? พอมีคนชมมันดันหน้าเหวอบอกปัด



“เอาน่าๆ ไปแดกบุฟเฟ่ต์กะกูมะ ไอ้ดิวมึงก็ไปด้วยกันดิ”ครอสแม่งเผด็จการ ลากคอไอ้เจอร์สภาพซอมบี้ไม่มีปัญญาขัดขืนออกจากโรงอหาร



“ไอ้เหี้ยครอส ปล่อยกู กูยังมีเรียนบ่ายที่สำคัญกูเพิ่งกินข้าวเที่ยงเสร็จ!”



“อย่าคิดมากๆ กูไม่มีเรียนและที่สำคัญยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง เพลินมาเร๊ว ดิวด้วย มาๆๆ มากันให้หมด”



“เหี้ย ย ย ย ย ย”



เสียงก่นด่าสาปแช่งสัตว์เลื้อยคลานค่อยห่างออกไปเรื่อยๆ วิศวะมุงสลายตัวไปแบบงงๆส่วนผมก็เริ่มลงมือทานข้าวเที่ยงของตัวเองบ้าง



แม้ในใจลึกๆจะรู้สึกว่า...



มึงไม่คิดจะชวนกูหน่อยเหรอ?



น้อยใจสัส!



.......................................................................................

และแล้ว SIDE STORY พี่รหัสก็จบลงด้วยประการฉะนี้

กล่าวโดยสรุปคือพี่นารายณ์นกค่ะ....






ล้อเล่น  :katai5:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไอ้เราก็นึกว่าจะยินดี ที่ไหนได้ น้อยใจที่เขาไม่ชวน 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ถถถถ  อิพี่น้อยใจ 555  น้องเจอร์มาปลอยคนแก่ขี้ใจน้อยดิ

ออฟไลน์ gunghan

  • In the end, we must separate, that’s it
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นึกว่าเจอร์จะ...กับพี่นารายณ์ซะแล้ว หว่าาาา  :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด