พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)  (อ่าน 159231 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อ๊ายยยย ตัดฉับ ..
ฮือ มาต่อๆ กำลังมันส์

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
คำตอบที่ได้รับนั้นเหนือความคาดหมายของโฮมส์ไปมาก การคาดเดาของเขาคือพยัคฆ์ดำกับพยัคฆ์ทมิฬมีความแค้นต่อกันแต่คำตอบของพยัคฆ์ดำนั้นกลับหักล้างโดยสิ้นเชิง พยัคฆ์ดำเดินทางเพื่อแก้แค้นให้กับผู้มีพระคุณโดยดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาชีพนักล่าค่าหัวที่มีผลพลอยได้คือฝีมือที่ดุดันขึ้นเรื่อยๆ

" ข้ารับปากว่าจะไม่บอกเรื่องของท่านกับใคร " โฮมส์มองบุคคลที่ขึ้นชื่อว่านักฆ่าด้วยแววตาเห็นใจ ถึงแม้การดำรงชีวิตปกติของเจ้าเมืองเวลล์นั้นจะเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและการฉ้อฉล แต่เรื่องบางเรื่องเขาก็เลือกที่จะทำตามจริยธรรมของตัวเอง " ในช่วงที่อาการของเวสเปอร์ไม่ออกมาก พ่อข้าเห็นว่าการผูกสัมพันธ์กับคนที่น่าจะได้เป็นกษัตริย์ในอนาคตเป็นเรื่องที่ดีจึงส่งข้าไปเรียนอยู่ที่เมืองเอวินด์ "

มือที่กำลังลูบหัวเวสเปอร์ชะงักทันควัน โลกัสก้มมองใบหน้าที่ส่อเค้าคมคายแต่เมื่อผสมรวมกับผมสีขาวแล้วกลับออกมาน่ามองอย่างบอกไม่ถูก หากว่าเจ้าของใบหน้านั้นไม่ได้มีความผิดปกติในเวลานี้อาจจะเป็นกษัตริย์ที่เตรียมจะขึ้นบัลลังก์ในเวลานี้

เพียงเพราะความผิดปกติที่ทำให้เวสเปอร์ต้องถูกไล่ฆ่า..

โฮมส์เห็นภาพที่เกิดขึ้นชัดเจนและเริ่มยอมรับรู้ถึงความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างเวสเปอร์กับโลกัส แม้ในอกจะรู้สึกปั่นป่วนโดยไม่ทราบสาเหตุแต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจ " ข้ากับเวสเปอร์กลายเป็นเพื่อนสนิทกันและเวสเปอร์ก็พาข้าเข้าไปในห้องนอน ข้าเห็นหนัง
เสือโคร่งสีดำยักษ์ถูกพาดอยู่บนเก้าอี้ ข้าไม่แน่ใจว่ามันเป็นเสื้อคลุมหรือเปล่าเพราะข้ามัวแต่สนใจลายของมันอยู่ มันเหมือนกับมีไอเวทสีดำแผ่ออกมาจางๆ แต่ดูได้ม่นานข้าก็ถูกพ่อเวสเปอร์ไล่ตะเพิดออกมา " โฮมส์สูดหายใจลึกเมื่อพูดจนจบ " ที่ข้ามั่นใจว่าเป็นพยัคฆ์ทมิฬเพราะหนังเสือโคร่งธรรมดาไม่มีทางแผ่ไอเวทออกมาได้ "

โลกัสใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ ลำคอแห้งผาก รู้สึกถึงหัวใจที่กำลังเต้นรัวกับความรู้สึกในอกที่ปั่นป่วน ความโกรธความดีใจทุกอย่างมันกำลังปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่งจนต้องขบกรามแน่นเรียกสติของตัวเอง

" อืม.. เป็นเซบนั่นแหละ " 

แต่น้ำเสียงที่พูดออกไปกลับแหบพร่าและเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม..
 

" พรุ่งนี้ข้าจะกลับเมืองเอวินด์ "

" หมายความว่าเจ้าจะกลับไปที่เมืองเอวินด์ทั้งๆ ที่เจ้าเพิ่งออกมาเนี่ยนะ ! " เกลโวยวายเมื่อโลกัสบอกกับตนเช่นนั้นก่อนที่จะปิดประตูห้องดังปังเพื่อยุติบทสนทนาให้คุยกันต่อในวันพรุ่งนี้

สีหน้าของอดีตหญิงงามประจำเมืองเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและถอนหายใจออกมาในความดื้อดึงของเพื่อนสนิทตัวเอง เกลเคยบอกโลกัสหลายต่อหลายครั้งเรื่องที่ว่าต่อให้แก้แค้นยังไงคนที่ตายไปแล้วก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาอยู่ดีแต่ทุกครั้งที่พูดก็ถูกตวาดกร้าวกลับมา

 http://[b]เจ้ากำลังจะบอกให้ข้าลืมในสิ่งที่มันทำกับเซบงั้นเหรอ ! เจ้าไม่เคยแม้แต่จะเจอเซบด้วยซ้ำ อย่ามาพูดพล่อยๆ แบบนี้อีก !! [/b]

แต่เกลก็ไม่เคยละความพยายาม สิ่งที่สุดท้ายที่หล่อนต้องการคือการเห็นโลกัสตายตามพยัคฆ์ทมิฬ ชื่อเสียงของพยัคฆ์ทมิฬมีมานาน บุคคลที่ฆ่าได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา หากโลกัสไปแก้แค้นสิ่งที่ได้รับกลับมาอาจจะไม่ใช่ความสะใจแต่เป็นชีวิตที่เสียไปของเขาแทน

" ท่านเกลขอรับ ! มีคนอยากฟังเสียงท่านร้องเพลงขอรับ " มีแค่เสียงของเจ้ากระต่ายอ้วนที่ดังก้องในทางเดินส่วนตัวของมันกำลังวิ่งวุ่นกับการจดเมนูอาหารลูกค้ารายใหม่

" ได้  ข้ากำลังลงไป "  เกลมองประตูไม้เนื้อดีเป็นครั้งสุดท้ายและยอมเดินออกมา

ด้านหลังของประตูไม้นั้นมีชายร่างยักษ์ยืนพิงบนใบหน้ามีรอยยิ้มเหยียดหยามตัวเองในอ้อมแขนมีชายร่างเล็กกว่าเป็นเท่าตัวกำลังหลับและหายใจอย่างสม่ำเสมอ

มีรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าคล้ายกับกำลังฝันดี

ยิ่งเห็นแบบนั้นรอยยิ้มของพยัคฆ์ดำก็เหยียดมากขึ้นเรื่อยๆ 

" ข้าขอโทษ เวสเปอร์ "

กระซิบเสียงเบา

เขาเลือกที่จะกลับไปยังสถานที่ที่แห่งนั้นเพื่อตัวเองซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป็นเขาเองที่กำลังหยิบยื่นความตายให้กับเวสเปอร์
ทั้งๆ ที่ตัดสินใจว่าจะปกป้องแต่กลับเป็นเขาเองที่กำลังฆ่าเวสเปอร์

" ขอโทษ "

พูดออกมาเสียงแหบพร่า รู้สึกจุกในอก 

หากจะให้เขาทิ้งอุดมการณ์ตลอดชีวิตมันคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จริงๆ..

การกลับไปอยู่ในถิ่นศัตรูก็คล้ายกับก้าวเท้าเข้าไปในกับดักที่เพียงแค่ก้าวเดียวก็สามารถทำให้ตายได้ 

" ข้าขอโทษ องค์ชาย.. "

คนถูกเอ่ยถึงขยี้ตาตัวเองอย่างงัวเงียเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นเจ้าเสือก็อดตำหนิไม่ได้ " อึก ! เจ้าเสือ นอน นอนได้แล้วนะ ! ข้า ข้าง่วงมากเลย " พูดเสียงงึมงำในลำคอก่อนจะผลอยหลับไปอีกครั้ง

โลกัสเผลอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูแต่แววตายังคงเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวังและบรรจงวางองค์ชายลงบนเตียงหลังนุ่มซึ่งทันทีที่หัวแตะหมอนองค์ชายก็กวาดเอาผ้าห่มรอบตัวมากอดแน่นคล้ายหมอนข้าง

หัวเราะหึกับเหตุการณ์ตรงหน้า ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ และรวบตัวองค์ชายมากอดหลวมๆ ฝังหน้าบนกลุ่มผมนิ่มด้วยจิตใจที่อ่อนแอ
 


" จะ เจ้าเสือ ข้าปวดหัวมากเลย " องค์ชายงอแงระหว่างที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม นัยน์ตาส่อประกายขอความเห็นใจกับเจ้าเสือที่นั่งนิ่งเป็นหุ่นอยู่บนเก้าอี้

นั่งมาตั้งแต่ตอนเช้าแล้วนะ ?

เวสเปอร์หน้างอเมื่อหันไปมองนอกหน้าต่างก็พบว่าแสงแดดนั้นแรงมากๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้สายมากแล้ว ! ท้องของข้าเริ่มร้องไห้แต่เจ้าเสือกลับเอาแต่นั่งนิ่งๆ

" เจ้าเสือ ข้า ข้าจะโกรธเจ้าแล้วนะ ! " 

" เจ้าเสือ... "

องค์ชายพูดเสียงเบาค่อยๆ พาร่างตัวเองไปหาเจ้าเสือที่นั่งนิ่งมองไปที่ประตู " เจ้าเสือ ไม่ ไม่สบายเหรอ.. "  ใช้มือเล็กๆ อังที่หน้าผาก

ซึ่งนั่นคล้ายกับกระชากสติของโลกัสให้กลับมา

มือหนากระชากตัวองค์ชายล็อกคอไว้แน่นตามสัญชาตญาณป้องกันตัว นัยน์ตาสีแดงเป็นประกายวาบเมื่อรู้สึกคล้ายกับได้กลิ่นเหยื่อของตัวเอง เผลออ้าปากงับคอกวางหนุ่มเบาๆ

" ฮือออ เจ้าเสือ ! "

โลกัสเบิกตากว้างปล่อยองค์ชายทันควันสะบัดหัวตัวเองหอบหายใจยิ่งเห็นเวสเปอร์ตัวสั่นเทายิ่งตกใจจนทำอะไรไม่ถูกรวบตัวเวสเปอร์มากอดและลูบหัว สีหน้าของโลกัสนั่งยังคงเคร่งเครียดเมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง
 
สิ่งที่เขาพยายามควบคุมมันเริ่มจะควบคุมไม่อยู่แล้ว..

พลังอำนาจที่ไม่ได้มาแต่กำเนิดเป็นสิ่งที่ควบคุมยาก

เพราะมันพร้อมที่จะสำแดงพลังออกมาหากนายของมันไม่มีสติหรืออ่อนแอ

มันมีประโยชน์หากว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวเพราะไม่ต้องสนใจว่าใครจะได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายจากพลังมหาศาลนี่่ แต่เขามีเวสเปอร์...

ซึ่งเขาจะยอมให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาไม่ได้..

" ฮือ เจ้าเสือ ไม่ ไม่สบายเหรอ " ความตกใจกับอาการปวดหัวทำให้องค์ชายอดร้องไห้ไม่ได้แต่ภายในหัวก็ยังมีความเป็นห่วงเจ้าเสืออยู่ไม่น้อย

" ข้าสบายดี เวสเปอร์ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก " โลกัสคลี่ยิ้ม รู้สึกอุ่นวาบในอก องค์ชายสำหรัับพยัคฆ์ดำในตอนนี้คงเปรียบได้กับดวงอาทิตย์ในฤดูหนาวแต่คิดเพียงได้ไม่นานก็ถูกความจริงถาโถมใส

เมฆสีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์จนหายไปเหลือเพียงฤดูหนาวที่โหดร้ายและเดียวดาย

" เวสเปอร์เจ้ายังอยากไปกับเจ้าเสืออยู่ไหม ? "

หากองค์ชายตกลงที่จะไปกับข้า ข้าก็จะพาไปด้วย โดยไม่สนว่าจะเป็นอันตรายกับองค์ชายหรือเปล่า 

เวสเปอร์พยักหน้า

" ไปสิ ไป เจ้าเสือสัญญา สัญญาแล้วว่าจะพาข้าไปด้วย "

ซึ่งมันก็เป็นคำตอบที่โลกัสคาดคะเนเอาไว้ในใจอยู่แล้ว

เขาแค่ถามไปเท่านั้นเพื่อเรียกความตั้งใจอีกอย่างของตัวเอง ว่าจะปกป้ององค์ชายด้วยชีวิตของตัวเอง เขาไม่ไว้ใจให้ใครดูแลองค์ชายแทนตัวเองทั้งนั้น !

ถึงเขาจะสามารถฝากองค์ชายไว้กับเกล

แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำมัน

เวลาที่ใช้ใคร่ครวญสำหรับเรื่องนี้คือครึ่งเช้าจนกระทั่งเวสเปอร์มาสะกิดเรียก

มันอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวของเขาที่อยากเก็บดวงอาทิตย์ของตัวเองไว้ใกล้ตัว แต่หน้าหนาวที่ไร้ดวงอาทิตย์ก็ดูจะหนาวเหน็บเกินไปเช่นกัน

ถึงมันจะเหมือนกับว่าเป็นเขาเองที่ยื่นเวสเปอร์ให้กับอัลฟินด้วยการเข้าไปในถิ่นศัตรู แต่เขาไม่สนใจเพราะไม่อย่างไรอัลฟินก็ไม่มีวันได้แตะต้องเวสเปอร์ตราบใดที่พยัคฆ์ดำยังมีลมหายใจ !

ก็อกๆ

" เจ้าจะนอนไปถึงพรุ่งนี้เลยรึไง โลกัส  "

โลกัสไม่ได้ตะโกนตอบเพียงแค่รวบตัวองค์ชายขึ้นมาอุ้มไปวางบนเตียงอีกครั้งแล้วจึงเดินไปเปิดประตูให้เกลได้เข้ามา

เกลเหลือบมองสภาพผมเพ้ายุ่งเหยิงกับรอยกัดบนคอเวสเปอร์แล้วหัวเราะคิกคัก" คู่ใหม่ปลามันเหรอ เด็กอร่อยไหมล่ะ เจ้าเสือ "

คนโดนแซวแยกเขี้ยวด้วยสีหน้าดุๆ " อร่อยบ้าอะไรของเจ้า หุบปากไป รีบๆ เอายาไปให้เวสเปอร์กิน "

" จ้า จ้า ใช้ข้ายังกับข้าเป็นคนใช้เลย " คนเป็นเจ้าโรงแรมตัดพ้อด้วยสีหน้าชื่นบานยื่นแก้วน้ำเล็กๆ ที่บรรจุยาสำหรับแก้อาการเมาค้างให้กับเวสเปอร์ " กินนี่แล้วจะหายปวดหัว "

เวสเปอร์ยิ้มรับ " ขะ ขอบคุณเจ้านะ ! " รับมากินด้วยท่าทีกระตือรือร้น

" อืม " เกลยิ้มใจดีก่อนจะหันไปหาโลกัส " เจ้ายังจะไปเมืองเอวินด์อยู่หรือเปล่า ? "

" ไป "  โลกัสตอบสั้นๆ ไม่สบตาเพื่อนตัวเอง

ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความหวังดีของเกลล่ะ ? แต่บางครั้งคำพูดสวยหรูกับความเป็นจริงก็ไปด้วยกันไม่ได้ ไม่สิ มันไม่ใช่บางครั้งแต่เป็นทุกครั้งต่างหากเพราะมันไม่มีทางเป็นจริงได้

" ดูเหมือนว่าข้าจะรั้งไม่ได้อีกแล้วสินะ " เกลหัวเราะแห้งๆ " เอาเถอะ ข้าก็อวยพรให้เจ้ารอดกลับมาเหมือนทุกครั้งแล้วกันนะ ร้านของข้ายินดีต้อนรับสหายเก่าเสมอ "

" ขอบใจ "

โลกัสยิ้มบางให้กับเกลอย่างจริงใจ เกลเป็นเพียงเพื่อนไม่กี่คนที่ยังคงจดจำเขาในฐานะเพื่อนสนิทไม่ใช่นักฆ่ากระหายเลือด

" ไม่เป็นไรหรอกน่า แล้วองค์ชายนี่ล่ะ ? ฝากไว้กับข้าก็ได้นะ ข้าไม่แอบกินหรอก " 

พยัคฆ์ดำแค่นยิ้ม

" ของๆ ข้า ข้าดูแลเองได้ "

-------------

เพิ่งออกจากเมืองตอนที่แล้วตอนหน้าก็กลับไปอีกแล้ว   :z2:

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ากอดดด  :man1:

ส่วนตอนหน้าก็หน้าจะอาทิตย์หน้า  :ling3:


ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เวสเปอร์เป็นคนฆ่ารึเปล่าหว่า
ไม่งั้นจะมาอยู่ห้องเวสเปอร์ได้ไง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ฮืออออออ หนักหน่วงมากกกก ไม่กล้าเดาอะไรเลยเนี่ย เดาทางไม่ถูกเลยจริง  :katai1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 13

ห่างไปจากเมืองเวลล์หลายพันก้าวภายในฐานทัพลับกลางป่าซึ่งอยู่เยื้องกับเมืองเอวินด์ได้มีการพูดคุยกันลับๆ ระหว่างบุคคลสองคน หมาป่าลาดตระเวนถูกปล่อยให้วิ่งรอบๆ คอยเฝ้าระวังผู้ไม่เกี่ยวข้องที่อาจจะมาแส่ระหว่างที่นายของมันกำลังคุย พลทหารลับประจำตัวเจ้าเมืองอัลฟินต่างถืออาวุธครบมือแต่ก็แอบวางมันลงและหาวหวอดออกมา เพราะนี่น่าจะเป็นชั่วโมงที่สองแล้วที่นายของมันคุยกันไม่ยอมออกมาสักที 

ซึ่งถ้าหากพวกมันรู้ว่าบรรยากาศข้างในเดือดพล่านขนาดไหนคงจะนึกดีใจที่พวกมันมีหน้าที่แค่เฝ้ายามอยู่ข้างนอกไม่ใช่เป็นผู้ที่ถูกนายของมันไล่ต้อนจนหวาดกลัวจนแทบบ้า

"หมายความว่ายังไง? เจ้าจะบอกว่าสิ่งที่ข้าสั่งไป เจ้าทำผิดพลาดงั้นเหรอ" แม้น้ำเสียงของอัลฟินจะไม่ได้ตวาดกร้าวแต่เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปความเย็นชาและจิตสังหาร 

คล้ายกับเลือดในกายถูกแช่แข็ง นัยน์ตาของมันเบิกค้างและคลอหน่วงด้วยน้ำตาแห่งความกลัวสุดขั้วหัวใจ "องค์รักษ์ขององค์ชายเฟเนกส์มันแข็งเกร่งมาก.... แค่ข้าจะยิงธนูใส่ตัวมันตอนที่องค์ชายกำลังพบปะประชาชน มันก็รู้ตัวทันทีว่ามีผู้บุกรุกแล้ว"

บนหน้าของสิงโตหิมะเส้นเลือดปูดรวมถึงสีหน้าที่นิ่งเรียบค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดุร้าย "โง่เง่า หมาขี้เรือนอย่างเจ้านี่มันโง่จริงๆ ใครใช้ให้เจ้าทำร้ายมันตอนพบปะประชาชน ต่อให้เป็นเห็บโง่ๆ บนตัวเจ้ายังรู้เลยว่าช่วงเวลานั้นจะมีองค์รักษ์มากที่สุดหรือฝีมือดีที่สุด
กำลังเฝ้าระวังภัยให้อยู่!!"

เพล้ง

แก้วทรงเรียวในมืออัลฟินถูกกำแน่นจนแตก 

"ข้า ข้าพยายามแล้วขอรับ ตอนที่มันกำลังจะเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร ข้าแอบเข้าในครัวใส่ยาพิษไปในอาหารของมัน แต่คนที่ตายกลับเป็นสาวใช้ของมัน.."

อัลฟินเหยียดยิ้มเหี้ยมเกรียม "เจ้าจะแก้ตัวอะไรอีก ดันเคล ในเมื่อผิดพลาดก็ต้องยอมรับว่าผิดพลาด ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแล้วหรือไม่ก็ตาม" 

ไอเย็นบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทั่วห้องจนดัลเคลตัวสั่นเทามองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสิงโตหิมะที่คนส่วนใหญ่ให้ความเคารพจากรูปลักษณ์โดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วกลับที่สิงโตกระหายเลือดและอำนาจมากที่สุด

"แต่ แต่ว่า..." ดันเคลพยายามพูดต่อรองแม้ว่าจะรู้สึกถึงขาที่ถูกแช่แข็งและลามขึ้นมาเรื่อยๆ 

มันรู้ดี... ถ้าหากมันขอความเมตตาไม่สำเร็จ จุดจบของมันจะเป็นยังไง 

"หุบปาก เจ้าก็น่าจะรู้จักข้าดี ดันเคล ว่าข้าเกลียดความผิดพลาดขนาดไหน" นัยน์สีเทาเหลือบมองอย่างกราดเกรี้ยว "ข้าไม่น่าทำให้หมาขี้เรื้อนอย่างเจ้ากลายเป็นหมาป่าเลยจริงๆ หมดเวลาสำหรับเจ้าแล้ว เพราะครั้งนี้ไม่มีโอกาสครั้งที่สองสำหรับเจ้า!"

สิ้นคำร่างทั้งร่างของดันเคลก็ถูกแช่แข็งทันที

สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของมันมองนายของตัวเองอย่างตัดพ้อ บาดแผลทั่วกายจากการปะทะกับองค์รักษ์ไม่ได้ทำให้นายของมันเห็นใจแม้แต่นิดเดียว แต่มันก็ต้องยอมรับว่าในวันที่มันยอมมอบชีวิตให้กับท่านอัลฟิน มันได้เลือกไปแล้ว ว่าจะอยู่ใต้การปกครองของคนๆ นี้และจะภักดีจนถึงที่สุด หากมันทำภารกิจสำเร็จก็จะได้รางวัลและคำชม แต่ถ้าหากไม่สำเร็จหลายๆ ครั้งที่สิ่งที่รอมันอยู่ก็คือความตาย!

มันหลับตาลงยอมรับความเจ็บปวดแทบขาดใจเมื่อร่างของมันถูกเพลิงสีฟ้าโลมเลีย ความรู้สึกเย็นเยียบหายไปแล้วเหลือเพียงความร้อนระอุที่แผดเผามันจนกว่าร่างมันจะกลายเป็นจุญ

ก่อนที่สติของมันจะหายไปจริงๆ มันก็พูดพึมพำในสิ่งที่มันท่องทุกเช้าทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาได้

กษัตริย์อัลฟินจงเจริญ

น่าเสียดายที่อัลฟินไม่ได้ใส่ใจที่จะมองหมาในการเลี้ยงดูของตัวเองขนาดนั้น สีหน้ายังคงหงุดหงิดเพราะแผนที่วางไว้ถูกพังไปทีละส่วน ไม่ว่าจะแผนลักพาตัวองค์ชายที่ตั้งใจจะลักพาตัวตั้งแต่วันที่เกิดการไล่ฆ่าองค์ชายแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะถูกพยัคฆ์ดำแย่ง
ไปจนต้องระเห็จตามสืบและตามไปแย่งตัวกลับมาก็ถูกมันเอาไปอีกจนได้แต่หาทางล่อมันกลับมาที่เมืองเอวินด์ระหว่างนั้นก็จะใช้ถ่วงเวลาให้องค์ชายเฟเนกส์ขึ้นครองราชย์ให้ช้าที่สุด แผนของมันคือส่งดันเคลที่พอมีฝีมืออยู่บ้างเข้าไปลอบทำร้ายแต่ใครจะรู้ว่ามันโง่เง่าจนถูกจับได้! ในเวลานี้พวกมันคงจะรู้แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นและสิ่งที่พวกมันจะทำแน่ๆ คือการเพิ่มทหารองค์รักษ์ฝีมือดีที่ทำให้แผนของอัลฟินพังไม่เป็นท่า เพราะมันจะเพิ่มความยุ่งยากในการแย่งชิงบัลลังก์คืน!
ความผิดของดันเคลร้ายแรงมากจนแม้แต่ตัวมันเองก็ไม่รู้ สิ่งที่พอจะชดใช้ความผิดของมันได้นอกจากชีวิตมัน อัลฟินก็คิดอะไรไม่ออกอีก

"บัดซบ ทำไมช่วงนี้ข้าถึงได้ดวงตกนักนะ" สิงโตหนุ่มบ่นพึมพำในลำคอ เหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้นอกจากคำว่าดวงตก อัลฟินก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายก่อนที่จะพ่นลมหายใจเซ็งๆ ลูบแหวนบนข้อนิ้วและเคาะเบาๆ จนเกิดลมพัดวูบในห้องพัดพาเอาฝุ่นที่กองอยู่บนพื้นให้หายไปโดยที่เจ้าตัวไม่มีท่าทีอาลัยโดยแม้แต่น้อย

อัลฟินฆ่าคนไม่บ่อยนักแต่คนที่ตายส่วนใหญ่ล้วนได้รับคำสั่งตรงมาจากเขา บุคคลต้องสงสัยที่อาจจะเป็นขวากหนามในอนาคตล้วนถูกฆ่าอย่างแนบเนียน น้อยครั้งที่จะลงมือเองรวมถึงครั้งนี้ก็เช่นกัน หากความผิดของดันเคลไม่ร้ายแรงจนทำลายแผนของ
เขา สิงโตหนุ่มก็อาจจะใจดีไว้ชีวิตให้ไปทำหน้าที่เป็นพวกซักล้างแทน

เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันได้รับก็สาสมกับความผิดมันแล้ว

การออกแรงใช้เวทย์ทำให้เสื้อผ้าของสิงโตหนุ่มยับย่น อัลฟินจึงจัดคอเสื้อตัวเองลวกๆ ก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นมืออาบเลือดของตัวเอง เพียงชั่วพริบตาเลือดบนมือก็หายไปพร้อมบาดแผลที่สมานกันจนไร้ร่องรอย จึงเริ่มจัดแจงเสื้อคลุมหรูหราที่ทำจากแผงคอนุ่มของสิงโตเผือกต่อจนพอใจและสาวเท้าออกจากกระโจม

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฎบนใบหน้าแทบจะในทันทีที่ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในกระโจมนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ทหารที่หาวหวอดเมื่อกี้รีบกลับเข้าท่าทางปกติ ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่รู้สึกกลัวผู้เป็นนายคนนี้ก็ตามเพราะนายคนนี้ใจดีและสนิทกับพวกมันมาก

"แล้วดันเคลล่ะขอรับ ท่านอัลฟิน" ทหารนายหนึ่งถามอย่างนอมน้อม

"ข้าสั่งให้กลับไปดูลาดเลาแถวเมืองของเราน่ะ ข้ารู้สึกว่ามีลางสังหรณ์แปลกๆ นิดหน่อย" พูดจบก็ยิ้มสว่างสไวขับกล่อมให้คำพูดของอัลฟินดูน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก จนคนที่ได้ฟังไม่มีข้อสงสัยใดๆ

ว่านายของมันได้ฆ่าดันเคลไปแล้ว...

"น่าจะเร่งรีบมากสินะขอรับ ถึงได้ให้มุดออกจากกระโจมเลย" ทหารอีกคนพูดกลั้วหัวเราะจนตาหยี

อัลฟินหัวเราะเบาๆ รับ "ข้าขอแรงพวกเจ้าไปตามพวกขุนนางเมืองเวลล์มาหน่อยแล้วก็เอาไลท์มาด้วย ข้าจะให้มันส่งข่าวให้ไมคัส"

"ขอรับ!" รับคำกันอย่างกระตือรือร้นก่อนที่จะแยกตัวออกไปสองนายโดยไม่มีการเกี่ยงกัน

"ข้าจะรอในกระโจมแล้วกัน" 

"ขอรับ นายท่าน"

เก้าอี้นุ่มสีแดงชาดจึงต้องรองรับร่างของสิงโตหนุ่มอีกครั้ง ใบหน้ายิ้มแย้มถูกถอดราวกับว่าเป็นหน้ากากอันหนึ่ง ความหล่อเหลาคมคายเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นๆ ต่างเชื่อในสิ่งที่อัลฟินต้องการให้เชื่ออย่างสนิทใจ

ในความเป็นจริงหัวใจของสิงโตนั้นด้านชาไปนานมากแล้ว การสนิทสนมผู้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นเพียงหนึ่งในวิธีเลี้ยงคนของอัลฟินเท่านั้น

"ข้านำไวท์มาให้แล้วขอรับ ท่านอัลฟิน" 

"เอาเข้ามา" หน้ากากยิ้มแย้มถูกนำกลับมาสวมทันที 

เมื่อได้รับคำอนุญาตก็เข้ามาในกระโจมทันทีพร้อมกับกรงที่มีเหยี่ยวสีขาวขนาดยักษ์กำลังเกาะนิ่งๆ อย่างสง่างามเมื่อมันเห็นเจ้านายตัวเองก็มีท่าทีนอบน้อมรอจนกระทั่งประตูกรงที่ขังมันไว้ถูกเปิดมันก็ถลาบินมาเกาะแขนของอัลฟิน ใช้หัวซุกไซร้ตัวสิงโตหนุ่มอย่างออดอ้อนและคิดถึง

เกิดรอยยิ้มละมุนละไมยามที่อัลฟินลูบหัวเหยี่ยวของตัวเอง ยิ้มครั้งนี้เกิดขึ้นจากความเอ็นดูจริงๆ ไม่ใช่รอยยิ้มเสแสร้งปกติของอัลฟิน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครดูออกคิดเป็นเพียงรอยยิ้มทั่วไปของอัลฟินเท่านั้น

"ขอบใจ เจ้าไปได้แล้วล่ะ ที่เหลือข้าจัดการเอง" กล่าวไล่อย่างนุ่มนวล เมื่อเหลือเพียงตัวเองกับเหยี่ยวคู่หูที่ได้มาตั้งแต่ตอนที่ขึ้นเป็นเจ้าเมืองใหม่ๆ ก็หยิบกระดาษเนื้อหยาบออกมาเขียนข้อความเพื่อส่งไปยังคนที่กำลังดำรงตำแหน่งแทนตัวเองชั่วคราวโดยอ้างว่าเจ้าเมืองนั้นไปผูกสัมพันธไมตรีกับดินแดนที่อยู่ห่างไกลใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ จึงจะกลับมา

แม้ว่ากระดาษที่ใช้เขียนนั้นเนื้อหยาบเพื่อให้ดูไม่น่าสงสัยแต่ลายมือที่ใช้เขียนนั้นกลับเป็นระเบียบและเต็มไปด้วยความแข็งกร้าววิสัยปกติของเจ้าตัว ลายมือนี้จะถูกใช้เวลาที่เขียนหาคนสนิทที่รู้นิสัยของอัลฟินดีเท่านั้น อย่างคนที่กำลังจะส่งไปหาก็มีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆ ของอัลฟินที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไม่ต่างกัน

'อย่าเคลื่อนไหวเด็ดขาด อันตราย อาจจะรู้ตัว'

มันเป็นข้อความสั้นๆ แต่กระชับที่พอบอกกล่าวได้ว่าในตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างและควรทำอะไร เมื่อเขียนจบก็พับกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ ผูกไว้กับต้นขาของเหยี่ยวคู่หู

"ส่งมันให้กับไมคัสนะ ฝากเจ้าด้วย ไวท์" กล่าวสั้นๆ แต่น้ำเสียงอ่อนโยน   

เหยี่ยวหนุ่มขานรับเสียงดังมันคลอเคลียไหล่เจ้านายของมันอีกครั้งเชิงลาและโฉบบินออกไปข้างนอกทันที
 
-------------------

เอาครึ่งแรกมาเสิร์ฟค่า  :katai5:

หายไปนานเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุบี ตอนนี้ก็ยังไม่หาย  :mew5:

 :o8: ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ ( และหนีไปนอน )
 
 
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
T T

เกิดเป็นเบี้ยเรื่องนี้ โชคไม่ดีพอๆกับตัวประกอบ Until เลย

***
เผามันจนกว่าร่างมันจะกลายเป็นจุญ < จุล

:D มวฟๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
คุณนักเขียนหายป่วยเร็วๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อัลอัลไว้ใจไม่ได้จริงๆ
หายเร็วๆ นะค๊าา

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เมื่อจุดหมายปลายทางแน่ชัดโลกัสจึงไม่มีความจำเป็นต้องหาข้อมูลข่าวสารอีก ทำให้พอมีเวลาพาองค์ชายเดินเล่นรอบตลาดอยู่บ้าง  ถึงแม้ในใจจะอยากกลับแก้แค้นเต็มทนแต่ความรู้สึกผิดลึกๆ ก็กระตุ้นให้ตามใจองค์ชาย
ในครั้งนี้องค์ชายเห็นว่าเจ้าเสืออารมณ์ดีมากจึงแทบจะซื้อทุกอย่างที่ตัวเองอยากกินและอยากได้ ไม่ว่าจะสายไหมที่เป็นต้นเหตุให้ถูกลักพาตัว ตุ๊กตาไหมพรมถักเป็นรูปเสือสีดำ นกที่แกะสลักจากไม้ กล่องไม้โบราณสำหรับใส่เครื่องดนตรีที่ตั้งใจจะเอามาใส่ขลุ่ย และของเล็กๆ น้อยๆ อีกนิดหน่อย

"เจ้าไม่เหนื่อยบ้างเหรอ เวสเปอร์" โลกัสกระซิบข้างหูองค์ชายในระหว่างที่เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ

องค์ชายยิ้มจนตาหยี "ไม่ ไม่เลย ให้ ให้ข้าเดินทุกวัน ข้าก็ไม่เหนื่อย" พูดจบก็หัวเราะคิก อ้าปากงับสายไหมคำหนึ่งก่อนจะยื่นให้เจ้าเสือกัด

โลกัสยิ้ม"ข้าไม่ชอบของหวาน"

เวสเปอร์พยักหน้าหงึกๆ กินต่ออย่างเพลิดเพลิน นัยน์ตาสีดำที่เปล่งประกายด้วยความมีชีวิตชีวากลอกไปมาอย่างซุกซนพยายามหาเป้าหมายในการซื้ออันต่อไปของตัวเองแต่กลับมาสะดุดกับชายที่ร่างพอๆ กับตัวเองสวมชุดที่ทำเลียนแบบหมีจากผ้าหลากสีมาปะชุนกันจนเป็นที่สะดุดตาบริเวณบั้นเอวของเขามีกลองผูกเอาไว้ส่วนในมือทั้งสองข้างมีไม้กลองที่ถูกย้อมเป็นสีขาวสลับดำ

"นักดนตรีล่ะ!" องค์ชายพูดอย่างตื่นเต้นกระตุกชายเสื้อโลกัสให้สนใจ

นอกจากท่านลุงแล้วข้ายังเจอหมีชอบเล่นดนตรีด้วยล่ะ ท่านแม่!

องค์ชายคิดด้วยความดีใจ

การถูกกักขังอยู่ในสถานที่ปิดเป็นเวลานานทำให้องค์ชายไม่ค่อยได้เจอนักดนตรีสักเท่าไหร่ นักดนตรีเพียงหนึ่งเดียวที่องค์ชายน่าจะรู้จักดีก็คงเป็นแม่ของตัวเอง เวลาที่ได้เจอนักดนตรีองค์ชายจึงรู้สึกดีใจมากๆ เพราะจะได้เจอคนที่ชื่นชอบในเสียงดนตรีเหมือนกับตัวเอง ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นเพื่อนกันก็ได้!

ชายในชุดหมีค้อมตัวหนึ่งครั้งก่อนจะเริ่มการตีกลองเป็นจังหวะช้าๆ แล้วจึงค่อยเร่งจังหวะขึ้นพร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ทำนองที่บรรเลงเป็นทำนองธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีความพิเศษอะไรจึงไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจเท่าที่ควรนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก
เล็กๆ ที่ถูกดึงดูดความสนใจด้วยสีสันของเสื้อผ้า

เด็กโข่งเวสเปอร์หันมองโลกัสอ้อนๆ เพราะนักดนตรีเดินไปไกลแล้วแต่องค์ชายกับเจ้าเสือยังยืนอยู่ที่เดิม

"ข้ารู้สึกแปลกๆ กับเจ้าหมีนั่น" โลกัสขมวดคิ้วรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลจึงไม่ยอมขยับตามแรงดึงขององค์ชาย

เวสเปอร์หน้าเสียมองตามตาละห้อย "เจ้าเสือ... " พูดเสียงอ่อน

แต่จนแล้วจนรอดเจ้าเสือก็ใจอ่อนกับองค์ชายอยู่ดี "ก็ได้ เวสเปอร์ จับมือข้าไว้แน่นๆ แล้วกัน" มือหนารวบมือบางมาจับแน่น 

"อื้อ! เจ้าเสือรีบ รีบไปเร็ว เจ้า เจ้าหมีไปนู่นแล้ว" พยายามก้าวไวๆ ไล่หลัง เสียงกลองเป็นจังหวะที่ยังคงดังแว่วเป็นสัญญาณบอกว่าอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก 

เพื่อให้เวสเปอร์สามารถเดินได้ง่ายๆ โลกัสจึงมองตรงไปข้างหน้าด้วยสายตาดุร้ายพยายามแผ่บรรยากาศที่ทำให้ไม่มีใครกล้ามาขวางทางหรืออยากยุ่ง นัยน์ตาแข็งกร้าวกวาดตามองไปรอบๆ

อันตราย!

พยัคฆ์ดำสะดุ้งเมื่อคำบางอย่างผุดวาบในหัวกระชับมือองค์ชายแน่นกว่าเดิม ความรู้สึกร้อนวูบวาบคล้ายกับเตือนให้ระมัดระวังตัว 

"เจ้าเสือ มีจิ้งจอก จิ้งจอกด้วย!" 

จิ้งจอก?

โลกัสเลิกคิ้วมองตามมือองค์ชายทันที 

เห็นชายสวมชุดจิ้งจอกที่ปะชุนจากผ้ากำลังเริ่มต้นเป่าเครื่องเป่าแปลกตาเป็นทำนองผิดเพี้ยนจนผู้คนเริ่มหยุดฝีเท้าเพื่อดูว่าใครกันที่เป็นคนบรรเลงทำนองเสียดหูแบบนี้ ปีศาจตนนึงตะโกนด่าถึงความเพี้ยนอย่างตรงไปตรงมา แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจเป่าเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับเสียงของกลองและเครื่องดนตรีอื่นๆ !

โดยที่ไม่รู้ตัวพื้นที่รอบๆ กลับเต็มไปด้วยมนุษย์ที่สวมชุดสัตว์ต่างๆ ทำจากผ้าสีสดกำลังเล่นดนตรีเสียงเพี้ยนๆ จนคนที่ได้ฟังเริ่มเอามือปิดหู เสียงของมันเสียงแทงเข้าไปคล้ายกับมีดปลายคมจ้วงแทงอย่างไม่ปรานี พวกมันยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับกระทืบเท้าไปด้วยเป็นจังหวะ

"ฮือ..." องค์ชายเอามือปิดหูน้ำตาคลอผิดกับโลกัสที่จับจ้องพวกมันอย่างหวาดระแวง นัยน์ตาสัตว์ป่าวาวโรจน์คล้ายกับกำลังเฝ้ารอโอกาสที่จะฆ่าเหยื่อ

แต่จู่ๆ พวกมันกลับหยุดเล่นพร้อมกัน จนเกิดความเงียบสงัดในพื้นที่ทำให้คนเริ่มกลับมาได้สติสบถด่าพวกนักดนตรีห่วยแตกอย่างไม่ไว้หน้ามีบางส่วนที่ตั้งท่าจะหาเรื่องโดยไม่สนใจกฎของเมืองเวลล์

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ชายในชุดหมีก็ตีกลองเรียกความสนใจมาที่ตัวเอง มันค้อมหัวน้อยๆ อีกครั้งให้กับผู้ชมรอบตัวและตะโกนเสียงดัง 

"คณะละครสัตว์อาร์เดนมาถึงแล้ว "

คนที่ได้ยินต่างเบิกตากว้างอย่างหวาดกลัวตั้งท่าเตรียมจะหนีแต่ก็ไม่ทันการ

ตูม!!

เสียงระเบิดดังลั่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้คน 

คณะละครสัตว์อาร์เดนหรือคณะละครสัตว์ที่ชื่นชอบการฆ่าคนมากที่สุด พวกมันมักจะมีการแสดงหลอกล่อให้ผู้คนสนใจมาที่ตนเองเมื่อพอใจก็จะไล่ฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยม

"บัดซบ!!" โลกัสสบถกระชากดาบออกมาถือส่วนมืออีกข้างก็กระชากตัวองค์ชายให้วิ่งออกจากพื้นที่แห่งนี้ที่เริ่มกลายเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยเลือด พวกมันกระชากเสื้อคลุมสีของตัวเองออกและกระโจนใส่ผู้คนที่อยู่ใกล้ตัวและลงมือทำร้าย ทหารประจำเมืองที่เพิ่งรู้ข่าวพยายามโถมตัวเข้ามาช่วยแต่ก็เข้ามาช่วยไม่ได้เพราะฝูงชนที่พยายามหนีเอาชีวิตรอดออกไป

มีหลายคนที่พยายามขอความช่วยเหลือจากโลกัสแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเจ้าตัวรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่นักบุญและเข้าใจดีว่านี่ไม่ใช่เวลามาสร้างบุญคุณให้ใคร! 

เพราะมือของเวสเปอร์ในตอนนี้เย็นเฉียบเอามากๆ

ความเป็นห่วงตีตื้นในอกโลกัสจนทำให้รู้สึกอยากรวบตัวองค์ชายขึ้นมาอุ้มแล้วกระโจนออกจากตลาดโง่ๆ นี่เต็มทนแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยังคงเป็นพวกมันกระโจนออกมาขวางทางพยายามฆ่าองค์ชายที่หลบอยู่ข้างหลัง หากไม่มีดาบก็คงต้องเสียเวลากับมันไปอีกมาก

สักพักใหญ่ๆ โลกัสจึงพาองค์ชายหนีออกจากฝูงชนมาหลบอยู่ในที่ป่าได้

"เวสเปอร์?" โลกัสเรียกเสียงเบาพยายามเขย่าตัวเรียกสติเวสเปอร์ที่หน้าซีดเผือด

นัยน์ตาสีทองจดจ้องไปในอากาศอย่างเลื่อนลอยแต่น้ำตาที่หยดออกมากลับมากขึ้นเรื่อยๆ เนื้อตัวสั่นเทาจนเห็นได้ชัด พยัคฆ์ดำจึงลูบใบหน้าของเวสเปอร์เบาๆ พยายามเกลี่ยน้ำตาออก

"เวสเปอร์..."

เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองเวสเปอร์ก็เหมือนเพิ่งได้สติสะดุ้งเฮือกผวากอดโลกัสแน่นร้องไห้โฮ

"ฮือออ เจ้าเสือ ฮืออ ข้ากลัว กลัว "

พูดออกมาไม่เป็นภาษา

"ข้า ข้าเห็นมีคนถูกตัด ตัดคอ ฮือ ท่านแม่บอก บอกว่าถ้าไม่มีคอ คนจะตาย เขา เขาตายแล้วใช่ไหม ฮือ"

โลกัสลูบหลังเวสเปอร์

"มันเป็นเรื่องปกติ เวสเปอร์ ใครเกิดมาก็ต้องตายทั้งนั้น"

พยายามพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลเพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

"ตาย ฮืออ เจ้าเสือ ข้าล่ะ ข้าจะตายไหม มันจะฆ่าข้าไหม ข้ากลัว"

 "ไม่มีวัน มันจะไม่มีวันฆ่าเจ้าได้ เวสเปอร์ตราบใดที่ข้ามีชีวิตอยู่"

"ฮึก ฮือ มันต้องฆ่าข้าแน่ ข้าแน่ ท่านแม่บอกว่า ข้าตายๆ ไปได้ซะ็ดี มันต้องตามมาฆ่าข้าแน่ ฮึก ข้ากลัว เจ้าเสือ ข้ากลัวมากเลย ช่วยข้าด้วย"

สีหน้าของโลกัสนิ่งเรียบขณะที่ลูบหลังองค์ชาย

องค์ชายในตอนนี้ไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดสักนิด

อาการในองค์ชายในตอนนี้ก็เหมือนกับครั้งแรกของพยัคฆ์ดำที่เห็นคนตายต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นมันกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้เป็นวันถึงจะกลับมาควบคุมสติตัวเองได้

สิ่งที่โลกัสจะให้องค์ชายในตอนนี้ก็คือเวลา

"เวสเปอร์ ข้าอยากฟังเพลงที่เจ้าเป่า"

หรือลองให้องค์ชายทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ

องค์ชายเบิกตากว้างกรีดร้องเสียงดังลั่น

"ไม่!!! ข้า ข้าจะไม่เล่นดนตรีอีก พวกมันต้องตาม ตามมาแน่!!!"

นอกเหนือจากความหวาดกลัว

พวกมันยังสร้างบาดแผลลึกให้กับองค์ชาย...

ความหวาดกลัวที่จะได้เล่นเครื่องดนตรีอีก..

---------------------------------

ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะะะ   :man1: กอดดด

ช่วงนี้ก็เหลือแค่อาการไอค่ะ ถ้าไม่จิบน้ำเย็นก็ไม่เป็นอะไร (แต่ชอบจิบเพราะช่วงนี้ร้อนเกินไป)

ส่วนตอนหน้าก็  :z10:


 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ฮุฮุ วันนี้อยู่จนมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 :hao7:

เวสเปอร์โดนทำร้ายจิตใจอีกแล้ว เพิ่งจะลัลล้าได้แปปเดียวเอง

ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :katai4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เวสเปอร์น่าสงสารจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :เฮ้อ:สงสารเวสเปอร์ หัวเราะอยู่ดีดีก็ต้องกลับมาร้องไห้อีกแล้ว

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : จูบ

"เจ้าเสือ เจ้าเสือ!" 

เสียงเล็กๆ ร้องเรียกข้างหูซึ่งมาพร้อมกับการเขย่าตัวที่รุนแรงทำให้โลกัสยอมดึงตัวเองออกจากห้วงนิทรา มือหนาขยี้ตาตื่นงัวเงียอ้าปากหาวหวอดจนเผยให้เห็นเขี้ยวคมๆ ในปาก

"มีอะไรเวสเปอร์?" ใบหน้าคมคายของพยัคฆ์ดำอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น

เวสเปอร์ฉีกยิ้มกว้าง "นี่ นี่ ข้า ข้าเก็บหนังสือที่ตกจากรถม้ามาได้! มีรูปอะไรก็ไม่รู้ด้วย!" องค์ชายหยิบหนังสือที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมาเปิดให้โลกัสด้วยท่าทางที่ภูมิใจมากๆ ที่ตัวเองสามารถเก็บมาได้

ซึ่งภาพที่อยู่ในหนังสือก็ทำเอาโลกัสตื่นเต็มตา มือรีบกระตุกแย่งหนังสือให้ออกห่างจากมือเวสเปอร์ราวกับว่าเป็นของแสลง ถึงแม้ภาพที่อยู่ภายในหนังสือนั้นภาพที่โลกัสเห็นจนชินตาแต่มันก็ไม่เหมาะสำหรับองค์ชายที่มีความคิดไม่ต่างไปจากเด็กๆ

องค์ชายหน้าบึ้ง "เจ้าเสือ หนังสือ หนังสือข้า"

"มันไม่ใช่หนังสือของเจ้าเวสเปอร์ เจ้าเก็บมันมาได้" โลกัสพูดเสียงดุๆ เมื่อเด็กที่เขาเก็บมาเริ่มจะมีนิสัยที่ไม่ดี

หนังสือที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลกีย์แบบนี้ไม่มีทางเป็นของเจ้าไปได้หรอก เวสเปอร์

พยัคฆ์ดำคิดด้วยความละเหี่ยใจ

"ฮึก ก็ข้าเห็นมีคนโยนมันออกมา มา เขาต้องไม่ต้องการมันแน่ๆ ข้า ข้าเลยเก็บมาให้เจ้าเสือดู แต่ เจ้าเสือก็แย่งข้า ฮือ" องค์ชายงอแง นัยน์ตาสีทองสว่างคลอไปด้วยน้ำตา

"มันเป็นหนังสือที่ไม่เหมาะกับเจ้า องค์ชาย"

เจ้าเสือพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อรู้ว่าตัวเองผิดเอื้อมมือไปตั้งใจจะดึงตัวองค์ชายมากอดปลอบเหมือนปกติเวลาที่ร้องไห้

องค์ชายถอยกรูดออกมองเจ้าเสือด้วยสายตาตัดพ้อ "ฮึก ข้า ข้าโตแล้ว! เจ้าเสือ เจ้าเสือแย่งข้า ฮือ เจ้าเสือขี้ขโมย!"

เจ้าเสือขี้ขโมย?

โลกัสทวนคำพูดองค์ชายในหัวก่อนจะหัวเราะเบาๆ แต่พอเห็นสีหน้าที่บูดขึ้นเรื่อยๆ ขององค์ชายก็ปรับสีหน้าเป็นสลดทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้รู้สึกถึงคำว่าสลดแม้แต่นิดเดียว 

"เจ้าอยากจะรู้จักมันจริงๆ งั้นเหรอ องค์ชาย"

หากดูจากลักษณะภายนอกองค์ชายก็น่าจะมีอายุประมาณยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองก็เป็นอายุที่ใกล้เข้าสู่วัยเบญจเพสเข้าทุกที หรือข้าควรจะสอนสิ่งนี้ให้องค์ชายจริงๆ ?

พยัคฆ์ดำคิดอย่างวิตก เรื่องขององค์ชายทำให้เขาคิดมากกว่าการจะฆ่าคนซะอีก

"เอามา ฮือ เอามา!"

องค์ชายจ้องหนังสือในมือเจ้าเสือเขม็งสลับกับมองคนถือด้วยสีหน้าผิดหวัง

พอเห็นสีหน้าผิดหวังขององค์ชายก็ทำเอาโลกัสสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงหัวใจที่เจ็บเสียดคล้ายถูกมีดกรีด "ข้าคืนแล้ว องค์ชาย มาเอาสิ ข้าไม่เอาแล้ว"

เมื่อได้รับคำอนุญาตองค์ชายก็ถลาเข้าไปเอาหนังสือขึ้นมากอดแนบอก มองเจ้าเสือนิ่งๆ และหันหน้าหนี

"เวสเปอร์..."

โลกัสเรียกองค์ชายเสียงเบา

พยัคฆ์ดำไม่เคยเลี้ยงเด็กหรือดูแลเด็ก ทำให้มันไม่รู้วิธีที่จะง้อเด็กที่กำลังงอนคนหนึ่งยังไง

"มาสิ เจ้าจะให้ข้าดูรูปอะไรล่ะ"

ยอมลุกขึ้นจากเตียงนุ่มที่เพิ่งซื้อมาเปลี่ยนใหม่และก้าวช้าๆ ไปหาองค์ชาย

เวสเปอร์เหลือบมองเจ้าเสือนิ่งๆ ก่อนจะสาวเท้าผ่านหน้าพยัคฆ์ดำเหมือนกับว่าไม่เห็นอยู่ในสายตา

"เวสเปอร์เดี๋ยวสิ ข้ายังไม่ได้ดูเลย" พยัคฆ์ดำรีบตามองค์ชายที่ออกจากห้องนอนไปแล้ว ช่วงขาที่ยาวกว่าทำให้โลกัสก้าวแค่สองสามก้าวก็ถึงตัวเวสเปอร์ ร่างสูงโถมตัวกอดเวสเปอร์และกดลึกให้จมอยู่ในอกตัวเอง

"ข้า ฮือ ข้าจะเข้าเมือง ไป ไปหาท่านพี่เกล ข้าไม่อยากคุยกับเจ้าเสือแล้ว ฮือ เจ้าเสือขี้ขโมย" องค์ชายพยายามขืนตัวออก

"ข้าขอโทษ เวสเปอร์ ไหนเจ้าอยากให้ข้าดูรูปไหน" โลกัสใช้มือข้างนึงรวบเอวองค์ชายไว้ ส่วนอีกข้างก็แย่งหนังสือในมือองค์ชายมาเปิด

"ฮึก ขโมยอีกแล้ว!" ท้วงด้วยน้ำตาน้องหน้า

สถานการณ์ในตอนนี้ทำเอานักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างโลกัสรู้สึกว่าเป็นสถานการณ์ที่รับมือยากที่สุดในรอบหลายปีของมันเลยทีเดียว

การดูแลเด็กไม่ใช่สิ่งที่มันถนัดจริงๆ ด้วย.. 

"เอาแบบนี้ไหมองค์ชาย ข้าจะเลือกภาพมาภาพหนึ่ง แล้วเจ้ากับข้าลองทำตามในภาพดู เจ้าจะได้หายสงสัยว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน"

"… ฮึก ก็ได้" องค์ชายยอมคล้อยตาม

ซึ่งคำตอบของเวสเปอร์ก็ทำให้หัวใจหนักอึ้งของโลกัสผ่อนคลายลงพอสมควร แต่ใบหน้าของมันก็ยังคงตึงเครียดเพราะภาพแต่ละภาพในหนังสือ ล้วนเป็นภาพที่ไม่เหมาะสำหรับการเลียนแบบเป็นอย่างยิ่ง มันพยายามหาภาพที่ดูจะเบาบางและนุ่มนวลที่สุดในหนังสือภาพลามกนี่

ก่อนที่มันจะมาสะดุดกับภาพๆ หนึ่งในหน้าสุดท้าย

บุรุษสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม

อาจจะเป็นสาเหตุที่หนังสือเล่มนี้โดนโยนทิ้งล่ะมั้ง?

ต่างจากหน้าก่อนๆ ที่เต็มไปด้วยรูปบุรุษกับสตรีกำลังทำในสิ่งที่เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ พยัคฆ์ดำไม่อาจจะกล่าวตำหนิภาพใดๆ เพราะตัวมันก็ทำเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันก็ยังไม่อยากทำให้องค์ชายที่บริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อนกับสิ่งพวกนี้เท่าไหร่นัก

"ข้าเอารูปนี้" ฉีกมันออกมาและยื่นให้องค์ชายดู

เวสเปอร์มองมันด้วยความสนใจ ตาเป็นประกายตื่นเต้น "เจ้าเสือ เจ้าเสือ พวกเขากำลังทำอะไรกันเหรอ"

โลกัสคลี่ยิ้มมุมปาก "เขาเรียกว่า "จูบ" องค์ชาย"

หลังจากได้ฟังคำตอบองค์ชายก็เอียงคองงๆ รู้สึกไม่ค่อยกระจ่างสักเท่าไหร่ "ข้า ข้าอยากทำบ้าง เจ้าเสือ เจ้าเสือ ทำกับข้าบ้างสิ!" 

ความตื่นเต้นในหัวขององค์ชายทำให้องค์ชายลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าตัวเองกำลังโกรธเจ้าเสือ

หลังจากเอ่ยขอโทษองค์ชายในใจ พยัคฆ์ดำก็แสยะรอยยิ้มร้ายตามความเคยชิน นัยน์ตาลุกวาวเมื่อเห็นคล้ายกับเห็นกวางสีขาวย่างเท้าเข้ามาหาและหยุดยืนหน้าตัวเอง กวางหนุ่มสีขาวส่ายเขาของมันไปมาจดจ้องพยัคฆ์ตรงหน้า

โลกัสคำรนในลำคอตามสัญชาตญาณ เลือดในกายร้อนผ่าวคว้าตัวองค์ชายเข้ามาบดจูบรุนแรง ลิ้นร้อนลุกไล่เข้าไปในช่องปากของกวางหนุ่มที่ไม่ประสีประสากับเรื่องโลกีย์ ความนุ่มของริมฝีปากทำเอาพยัคฆ์ดำเคลิบเคลิ้มรุกไล่องค์ชายอย่างไม่หยุดไม่หย่อน ไม่สนใจว่ากวางหนุ่มจะทรุดตัวลงกองบนพื้นหรือไม่เพราะอุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยเล็บแหลมคมตะปปเข้าที่สะโพกคอยประคองเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน

"อื้อ.. !" เวสเปอร์ร้องทักท้วงเมื่อได้สติกลับมาเพราะขาดอากาศหายใจ พยายามดันตัวเจ้าเสือออก นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มเพราะถูกมอมเมาจากพยัคฆ์ดำที่ขึ้นชื่อว่าช่ำชองเรื่องโลกีย์พอๆ กับการฆ่าคน

พยัคฆ์ดำส่งเสียงขู่ในลำคอไม่พอใจแต่ก็ยอมยุติจูบที่ยาวนานและผละออกมาจากองค์ชาย

ก่อนที่มันจะได้สติจนสะดุ้งเฮือกและเบิกตากว้าง

นี่ข้าจูบน้องชายของตัวเองงั้นเหรอ!?
 

---------------------------

รู้สึกเนื้อเรื่องหลักแลเครียดๆ มาอ่านตอนพิเศษคลายเครียดดีกว่าค่ะ  :-[


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หื้มมมมมม

ประโยคสุดท้ายนี่แอบสปอยล์อะไรช่ายม้ายยยยย?????

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ค่ะ น้องชายค่ะ

แหมมมมมมมมม!

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แหมม น้องชายจิงเร้อพ่อเสือ อิอิ

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แบบนี้ไม่น่าใช่น้องชาย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่น้องท้องชนกันใช่มั้ยเจ้าเสือ :z1:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 14

โลกัสลูบหัวองค์ชายที่กอดแขนตัวเองแน่นไม่ยอมพูดอะไรนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น  หัวเล็กๆ ขององค์ชายถูไถกับต้นแขนโลกัสราวกับกำลังหาที่พึ่ง คนที่ได้ชื่อว่านักฆ่าอันดับหนึ่งมองเวสเปอร์ด้วยสีหน้าอ่อนโยนซึ่งถ้าหากศัตรูที่เคยปะทะกับพยัคฆ์ดำแล้วรอดมาเห็นคงต้องตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

ในเวลานี้หากจะนิยามคนที่ฆ่าคนได้ไม่กระพริบตาก็คงเป็น พยัคฆ์ดำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กับขัดแย้งกับคำนิยามไปหมด 
จังหวะในการก้าวเดินเชื่องช้าแม้ใจจริงโลกัสอยากจะเร่งไปให้ถึงเมืองเอวินด์ โลกัสมองเวสเปอร์ด้วยแววตาที่เศร้าหมอง รู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณแขนที่มีท่าทีว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ 

คงจะคล้ายกับยามที่เขาฆ่าคนครั้งแรก... ในตอนนั้นเขาก็โยนมีดนั่นทิ้งเหมือนกัน.. เสียงกรีดร้องอย่างทรมานนั่นยังคงดังก้องในหู แต่ถ้าหากไม่ฆ่าก็ต้องถูกฆ่า มันเป็นกฎง่ายๆ ของโลกใบนี้

"เวสเปอร์ หิวหรือเปล่า" โลกัสถามเสียงนุ่มและได้รับคำตอบเป็นหัวที่ส่ายไปมา

ข้าทำถูกรึเปล่า.. ที่พาเวสเปอร์มาด้วย

พยัคฆ์ดำเริ่มลังเลและไตร่ตรองอีกครั้ง เพียงเวลาไม่นานแววตาคมดุหม่นลงทันตา

การอยู่กับนักฆ่าอย่างเขาเต็มไปด้วยความเสี่ยงและซากศพ หากยังคงดันทุรังเดินทางต่อไปเวสเปอร์ก็ต้องพบเจอกับศพอีกนับไม่ถ้วน เส้นทางสายเลือดเส้นนี้เป็นเส้นที่เขาเลือกและไม่มีวันหลังกลับได้อีก

ข้าทำถูกจริงๆ งั้นเหรอ องค์ชายของข้า..

มือหนายังคงลูบหัวองค์ชายแม้ว่าเจ้าของมือจะมีสีหน้าเศร้าหมอง

"เวสเปอร์ เจ้าอยากอยู่กับข้ารึเปล่า.."

เพราะถ้าหากเจ้าไม่ต้องการที่จะเดินทางต่อ ข้าก็อาจจะยอมตัดใจฝากไว้กับเกล น้องชายของข้า..

เวสเปอร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากแขนของโลกัส นัยน์ตาสีทองแดงก่ำและคลอไปด้วยหยดน้ำตา องค์ชายพยายามฉีกยิ้มให้โลกัส

"ฮึก ข้า ข้าจะอยู่กับเจ้าเสือ เจ้าเสือสัญญาแล้วว่าจะไม่ทิ้งข้า"

คำพูดของเวสเปอร์ทำเอาลมหายใจของพยัคฆ์ดำสะดุด

"ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้า แต่เจ้าเลือกได้นะเวสเปอร์ ว่าจะไปกับข้าไหม"

สักวันก็ต้องมีวันที่เวสเปอร์เห็นเขาฆ่าคนอยู่ดี เวลานั้นเขาคงทำใจยอมรับไม่ได้ถ้าเห็นสายตาหวาดกลัวของเวสเปอร์จับจ้องมาที่ตัวเอง เพราะเพียงแค่คิดภาพในหัวก็รู้สึกร้อนวูบวาบในอก

"ฮึก เจ้าเสือพูดเหมือนท่านแม่เลย ท่านแม่ก็บอกว่าจะไม่ทิ้งข้า แต่ แต่ก็ทิ้งข้า ฮือ" องค์ชายมองอย่างตัดพ้อ นัยน์ตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวว่าตัวเองจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกครั้ง

แม้ว่ายามที่อยู่ในปราสาทนั่นเวสเปอร์ดูจะยังคงสามารถร่าเริงได้ด้วยตัวเองแต่ใครเล่าจะรู้ว่า องค์รัชทายาทคนนี้ซุกซ่อนตัวเองและแอบร้องไห้บ่อยขนาดไหน 

โลกัสกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดซิบ เขี้ยวยาวฝังลงในริมฝีปากอย่างไม่ปราณี "แม้ว่าข้าจะทำแบบเดียวกับพวกมันงั้นเหรอ เวสเปอร์.."

เวลานี้มาไวกว่าที่เขาคิด

พยัคฆ์ดำเหยียดยิ้มให้กับตัวเอง

เวลาที่ต้องบอกความจริงถึงความชั่วช้าของเจ้าเสือ

"ฮึก ทำอะไร เจ้าเสือจะทิ้งข้า ข้า" เวสเปอร์ทำท่าจะมุดลงไปซุกกับแขนอีกครั้งแต่ก็ถูกมือหยาบจับคางเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปไหน

แววตาของโลกัสเต็มไปด้วยความสับสัน ความเศร้า ความกลัว ความหวัง ทุกอย่างผสมปนเปจนมั่วไปหมด มันเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีก่อนที่ดวงตาของนักฆ่าจะกลับมาเด็ดเดี่ยวอีกครั้ง

"ข้าก็ฆ่าคนเหมือนกับพวกมันเวสเปอร์" น้ำเสียงแหบพร่า "ข้าก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกมันเลย"

นัยน์ตาสีทองเบิกกว้างจดจ้องเจ้าสายตาเม้มปากแน่น

"เจ้า เจ้าเสือ.."

"ข้าจะให้โอกาสเจ้าเวสเปอร์ เจ้าจะหนีข้าไปตอนนี้ก็ยังทัน ข้าจะพาเจ้าไปอยู่กับเกล ยัยนั่นถึงจะเพี้ยนๆ แต่ก็ดูจะเอ็นดูเจ้าไม่น้อย" โลกัสขบกรามรับกับความรู้สึกแปลกประหลาดตีตื้นขึ้นมาจนรู้สึกเค็มไปทั่วลำคอ

เวร นี่ข้ากำลังจะร้องไห้...?

โลกัสคิดอย่างตื่นตกใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันน้ำตาไหลไม่ต่างจากองค์ชายตรงหน้าแม้แต่น้อย

มันเคยเชื่อว่าตัวเองความรู้สึกด้านชาไปนานแล้วต่อให้ฆ่าคนอีกสักพันคนมันก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่ไม่ใช่เลยมันยังคงรู้สึก เลือดทุกหยาดหยดที่ถูกดาบมันลิ้มรสคล้ายกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวมัน คอยกระซิบข้างหูยามที่นินทราตลอดเวลาว่ามันไม่มีทางตายดี ลึกๆ มันรู้ตัวดีว่ามันไม่อยากทำแบบนี้ แต่ชีวิตของมันเลือกไม่ได้

เลือกไม่ได้จริงๆ ทั้งๆ ที่หัวใจเจ็บขนาดนี้.. 

"เจ้าเสือ อย่า อย่าร้องไห้" องค์ชายปาดน้ำตาตัวเองลวกๆ แล้วเขย่งตัวขึ้นใช้นิ้วโป้งเล็กๆ เกลี่ยน้ำตาของเจ้าเสือตัวโตแต่ขี้แยอย่างนุ่มนวล

"ข้าไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย องค์ชาย นักฆ่าอย่างข้าไม่เคยหลั่งน้ำตา"

องค์ชายใช้มือสองข้างพยายามดึงปากของเจ้าเสือให้ยิ้มก่อนที่ตัวเองจะยิ้มตาม "ข้า ข้าร้องไห้ได้ แต่ เจ้าเสือห้ามร้องไห้นะ"

"เวสเปอร์ เจ้าไม่กลัวข้างั้นเหรอ ข้าก็ฆ่าคนเหมือนกัน" น้ำตาโลกัสยังคงไหลออกมาเรื่อยๆ

มันไม่ได้อยากเลือกเส้นทางสายนี้จริงๆ...

คงจะดีกว่านี้ถ้ามันเจอองค์ชายในสภาพที่ไม่ใช่นักฆ่า คงจะดีกว่านี้..

"ข้า ข้าไม่กลัวเจ้าเสือ เจ้าเสือใจดีกับข้า" องค์ชายยิ้มทั้งๆ ที่นัยน์ตายังแดงก่ำเนื่องจากผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา "ต่อให้เจ้าเสือ ทำ ทำแบบฮึก นั้น ข้า ข้าก็จะไม่กลัวเจ้าเสือ" พูดจบก็โถกอดโลกัสซึ่งก็กอดได้เพียงระดับอกเท่านั้น แขนสั้นๆ ขององค์ชายไม่พอที่จะโอบตัวมันด้วยซ้ำไป

โลกัสยีหัวองค์ชายจนยุ่งเหยิงรู้สึกเอ็นดูในองค์ชายมากขึ้นไปอีก มันไม่รู้จะเรียกความเอ็นดูนี้ว่าอะไรดี แต่ความคิดบางอย่างที่แล่นในหัวก็สั่งการให้มันโน้มตัวลงหอมแก้มขาวๆ ขององค์ชายจนเกิดเสียงดังฟอดแล้วจึงผละออกมา

คนโดนหอมไม่ได้มีท่าทีเขินอายแต่กลับหัวเราะคิกคักเพราะความจั๊กจี้

"เจ้าเสือ เจ้าเสือทำเหมือนแม่ข้าเลย เอาอีกๆ" 

เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองเพิ่งทำอะไรลงไปโลกัสก็หน้าแดงก่ำ "น้องชาย เจ้าเป็นน้องชายข้าใช่ไหมเวสเปอร์"

องค์ชายเอียงคองงๆ "ข้า ข้าไม่มีพี่ชาย เจ้าเสือ ก็เป็นเจ้าเสือของข้าสิ" 

ได้ยินดังนั้นโลกัสจึงพอยิ้มออกบ้าง ใช้หลังมือปาดตาของตัวเองออกจนหมดและเช็ดเข้ากับเสื้อคลุมเพื่อทำลายหลักฐานและลืมๆ ไปซะว่าตัวเองร้องไห้เพราะต้องทิ้งเวสเปอร์ไว้กับเกล 

เรื่องน่าประหลาดใจคือหัวใจของมันกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่เจ็บแปลบดังเช่นเมื่อกี้ ยิ่งยามที่ถูกมองด้วยแววตาตกอกตกใจมันยิ่งรู้สึกคล้ายหัวใจมันถูกองค์ชายใช้มีดกดเข้าไปจนแผลลึกโชคดีที่แผลลึกนั้นก็ถูกสมานด้วยรอยยิ้มหวานๆ ขององค์ชาย

เวสเปอร์เมื่อเห็นเจ้าเสือเลิกร้องไห้ก็ดีใจจนยิ้มร่า ความทรงจำโหดร้ายเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความภาคภูมิใจที่ทำให้เสือตัวโตกลับมาดุดันเหมือนเดิม มือเล็กๆ กระชับกับมือหนาที่สอดเข้ามา 

เสียงฝีเท้าที่หยุดชะงักไปของนักเดินทางทั้งสองจึงเริ่มต่อเนื่องอีกครั้ง โชคดีที่ระหว่างที่โลกัสกับเวสเปอร์กำลังปลอบโยนกันนั้นอยู่ในตรอกมืดที่ไม่มีใครสนใจหรือต่อให้สนใจก็เพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น นักเดินทางในเมืองเวลล์นั้นมีมากมายหลากหลายเผ่าพันธุ์ไหนเลยที่พวกมันจะว่างมาสนใจนักเดินทางสักคนล่ะ?

บรรยากาศตามทางเดินถึงแม้จะไม่ครึกครื้นดังเช่นที่จัตุรัสการค้าแต่ก็ยังพอมีผู้คนเดินบ้าง รองเท้าคู่หนาของพยัคฆดำที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและสึกกร่อนบดลงบนพื้นหญ้าอ่อน

ม้าสีดำปลอดทั้งตัวเหลือบมองพยัคฆ์ดำอย่างสนใจ นัยน์ตาของมันลุกวาวเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างกายโลกัส ความตื่นเต้นทำเอาเท้าทั้งสี่ข้างมันอยู่ไม่สุขจนต้องยกขาสูงย่ำอยู่กับที่ รอยแผลเป็นเต็มลำตัวบอกกล่าวถึงประสบการณ์อันโชกโชนที่ม้าตัวนี้สามารถนำพาไปยังที่ต่างๆ ได้

นัยน์ตาคมดุของโลกัสกวาดมองคอกม้าเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยม้าพันธุ์ดีและขึ้นชื่อว่าราคาแพงเพราะความจัดจ้านในฝีเท้าของพวกมัน ทำให้ราคาของมันสูงมากในตลาดจนแม้แต่เศรษฐีในเมืองเวลล์ยังต้องคิดหนักหากจะเลี้ยงไว้ดูเล่นเยอะๆ เหมือนกับเจ้าเมืองของมัน

"เจ้าเสือ เจ้าเสือ ข้าชอบตัวนี้" องค์ชายกระตุกชายเสื้อเรียกโลกัสให้มองไปตามมือตัวเอง ที่กำลังชึ้ม้าสีขาวปลอดทั้งตัว แผงคอสีขาวของมันทิ้งตัวลงบนตัวมันอย่างนุ่มนวล ความสง่างามของมันมากจนคล้ายกับราชนิกุลสักคนในร่างของอาชาทีเดียว

"โอ้ ท่านช่างตาถึงนัก ท่านชาย" ชายแก่ที่อายุล่วงเลยมามากกว่าเจ็ดสิบปีหัวเราะหึๆ ในลำคอ มือข้างที่ถือแก้วสุราเขย่าไปมาก่อนจะยกซดและพูดออกมาอีกคำหนึ่ง "น่าเสียดาย ที่มันถูกจองไว้แล้ว แต่ไม่ต้องห่วงมีแค่มันที่ถูกจองเอาไว้ ม้าที่เหลือท่านสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย ข้ารับประกันในฝีเท้าและพละกำลังของพวกมัน"

สีหน้าของเวสเปอร์เจื่อนลงเล็กๆ เพราะความเสียดายที่ไม่ได้ม้าตัวที่หมายตา 

มือหนาลูบหัวองค์ชายเบาๆ "สีดำทั้งตัวก็ไม่เลวนะ ข้าว่า" นัยน์ตาสัตว์ร้ายสบดวงตาของม้าป่าสีดำปลอด ซึ่งเจ้าม้าก็จดจ้องมันกลับมาเช่นกัน ไม่มีสายตาหวาดกลัวเหมือนกับม้าตัวอื่นที่หลบตาหันไปทางอื่นหรือไม่ก็สาวเท้าหนีไปเลย

"ข้าต้องการม้าตัวนั้น ท่านลุง" โลกัสชี้ไปยังเจ้าม้าสีดำ

ซึ่งเจ้าม้าก็คล้ายกับดีใจมากจึงกระโดดโลดเต้นร้องฮี้ๆ ออกมาอย่างพึงพอใจจนม้าตัวอื่นมองมันอย่างเหยียดหยามและขยับหนี

ชายคนเลี้ยงม้าเลียริมฝีปากที่ร้อนผ่าวจากเหล้าฤทธิ์แรงที่ไม่มีวันทำให้มันเมาได้ "อา.. เจ้ามาดำนี่ พละกำลังกับฝีเท้าของมันถือว่าเยอะมากที่สุดในบรรดาม้าที่ข้าฝึกมาเลย แต่น่าเสียดายที่มันดูจะมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ไปหน่อย ไม่สิ นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรที่มากมายนัก เอาเป็นว่าราคาของมันอยู่ที่หนึ่งพันเหรียญทองแล้วกัน นายท่าน"
 
-----------------------

 :z6: ตอนแรกว่าจะลงตั้งแต่วันศุกร์แล้วค่ะ แต่โดนเขียนบทงานละครเวที  :z10:

 :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ไม่ใช่ม้าธรรมดา....หรือเปล่านะ?

เวสเปอร์น่ารักจริง ขอโคลนนิ่งได้ไหมมมมม?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด