พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)  (อ่าน 159174 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ม้าดำดูแปลกๆ
คงจะไม่ใช้ม้าธรรมดาแน่เลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
โลกัสพยักหน้ารับไม่ได้ตื่นตกใจอะไรนักกับราคาที่แพงยิ่งยวด มือล้วงหยิบเงินออกมาอย่างว่าง่ายแต่ก็ต้องเผลอพ่นลมหายใจหงุดหงิดออกมาเพราะเงินที่เตรียมมานั้นไม่ได้มากพอ "ข้ามีอัญมณีของเมืองเอวินด์ ใช้สิ่งนี้แลกเปลี่ยนแทนได้ไหม" 
อัญมณีสีแดงก่ำวางนิ่งอยู่บนฝ่ามือหยาบ แสงตะวันที่เจิดจ้าสะท้อนกับมันจนเปล่งประกายระยิบระยับ ชายคนเลี้ยงม้าแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดไตร่ตรอง

เพราะอัญมณีพวกนี้หากเอาไปเจียระไนหรือขายต่อจะได้ราคาสูงมาก ยิ่งศิลปะเฉพาะของเมืองเอวินด์ที่ปรากฎลวดลายขึ้นมาจางๆ ในอัญมณียิ่งเพิ่มมูลค่าให้มันมากขึ้นไปอีก 

"ได้สิ ข้าเป็นความใจกว้างอยู่แล้ว" พูดจบก็หัวเราะฮ่าๆ กลบเกลือนความโลภภายในดวงตา ร่างกายที่แม้จะแก่ชราไปมากแต่ความว่องไวในการหยิบฉวยอัญมณีในมือโลกัสนั้นไวมากพอๆ กับหนุ่มวัยฉกรรจ์กำลังขโมยของจากร้านรวง

พยัคฆ์ดำทอดมองท่าทีของชายชราอย่างระอาใจ ใช่ว่าโลกัสจะไม่รู้ว่าอัญมณีพวกนี้หากนำไปขายเองจะได้เงินมากขนาดไหน แต่ตอนนี้หากมันนำไปขายคงจะไม่วายถูกจับได้ว่ามาซุกซ่อนตัวที่เมืองนี้ ต่อให้จะเป็นเมืองเวลล์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของเผ่าพันธุ์ก็ตาม

"เจ้าเสือ เจ้าเสือ ม้าน่ารัก น่ารัก คิกๆ" องค์ชายหัวเราะคิกคักเมื่อถูกเจ้าม้าดำเอาหัวถูไถอย่างออดอ้อน

คล้ายกับเข้าใจในสิ่งที่องค์ชายพูดเจ้าม้าดำร้องขานรับสะบัดหูของมันไปมาอย่างกระตือรือร้น 

ไม่รู้เพราะความอารมณ์ดีจัดหรืออะไรที่ดลใจให้ชายชราพูดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับม้าดำออกมา สายตาทอดมองเจ้าม้าดำอย่างเหนื่อยอ่อน "เจ้าม้าดำนี้มันมีนิสัยเสียอยู่อย่าง ถ้ามันเที่ยวเล่นจนพอใจมันก็ชอบกลับมาที่นี่ี่ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรของมัน เจ้าม้าตัวอื่น
ข้าขายไปก็ไม่มีอะไร ไปแล้วไปเลย มีแต่มันเนี่ยแหละที่ชอบกลับมาที่นี่ทั้งๆ ที่เคยถูกซื้อไปหลายครั้งแล้ว"

รอยบาดแผลบนร่างกายเจ้าม้าดำนี่น่าจะกล่าวแทนตัวมันได้ดีว่ามันผ่านประสบการณ์โชกโชนมาขนาดไหน เจ้าม้าดำเชิดหน้าสูงคล้ายกับกำลังอวดรอยเกียรติยศเมื่อเห็นเจ้านายใหม่ทั้งสองมองลำตัวมันอย่างสนใจ   

ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่โลกัสต้องการพอดี สิ่งที่มันต้องการที่สุดสำหรับการเดินทางไปเมืองเอวินด์คือม้าฝีเท้าดีสักตัวและความใจกล้าของมัน หากแค่เห็นซากศพแล้ววิ่งหนีก็คงไม่ใช่ม้าที่มันต้องการเท่าไหร่นัก มันต้องการม้าที่มากไปด้วยประสบการณ์และเชื่อฟัง

มือหนาลูบรอยแผลเป็นน่ากลัวของเจ้าม้าดำ สีหน้านิ่งเรียบจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม 

ม้าตัวนี้มีทั้งบาดแผลจากคมดาบและเวทแต่มันก็สามารถเอาตัวรอดมาได้หลายครั้ง แผลบนร่างกายมันมีทั้งสดที่เพิ่งหายและแผลเก่า

"ข้าซื้อมันแล้ว หากมันกลับมาที่นี้มันก็ยังคงเป็นของข้าใช่ไหม"

ชายชราไม่ได้สนใจโลกัสเท่าที่ควรจึงไม่เห็นสีหน้าเย็นเยียบ

"ถ้าหากเจ้ากลับมาเอามันได้ก็จงเอาไป แต่ถ้าหากเจ้ามาเอาไม่ทันข้าก็จะขายมันต่อให้คนอื่น"  พูดโดยไม่แยแสสักนิดว่าลูกค้าของตัวเองสาวเท้าเข้ามาใกล้

"หากว่ามันกลับมาที่นี่ก็จงดูแลมันทำข้า แล้วข้าจะมาเอาเอง"  โลกัสกระซิบเสียงต่ำข้างหูด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนชายชราสะดุ้งไปทั้งตัว 

ความรู้สึกคล้ายถูกดาบไร้รูปแนบสนิทที่ลำคอหากพูดอะไรไม่ถูกใจเพียงสักนิด คอของมันก็จะถูกสะบั้นทันที! "แน่นอน แน่นอน ข้าจะดูแลมันอย่างดีถ้ามันกลับมาที่แห่งนี้" ยิ้มเลิ่กลั่กมือไม้เย็นเฉียบ 

"จงรักษาคำพูดของท่านให้ดีเพราะข้าไม่เกลียดคนที่ไม่รักษาคำพูด" โลกัสยิ้มเย็นนัยน์ตาลุกวาวจดจ้องชายชราข่มขู่เป็นการส่งท้าย และสาวเท้าไปหาเจ้าม้าดำที่ยังคือตื่นเต้นกับเจ้าของใหม่อยู่

ซึ่งสิ่งที่มันทำไม่หยุดคือการพยายามเอาหัวยัดเข้าไปในชุดองค์ชาย

"นี่ข้าคงไม่ได้ซื้อม้าปัญญาอ่อนมาหรอกนะ" โลกัสคิดอย่างหดหู่เมื่อนึกถึงราคาของมันที่แพงเอามากๆ

"คิกๆ เจ้าเสือ เจ้าดำ เจ้าดำ จะมุดเสื้อข้า" องค์ชายหัวเราะไปพูดไปมา รอยยิ้มระบายเต็มหน้า

พยัคฆ์ดำหลุดยิ้มตามองค์ชาย มันไม่เข้าใจตัวเองทำไมถึงเห็นองค์ชายมีความสุขมันก็อดรู้สึกตามองค์ชายไม่ได้ คำว่าน้องชายคนสำคัญผุดวาบขึ้นในหัวทำให้มันเลิกใส่ใจจะหาคำตอบที่ลึกซึ้งกว่านั้น 

ทั้งๆ ที่บางความรู้สึกของมันก็ไม่ใช่ในสิ่งที่พี่ชายที่ดีควรรู้สึก

แต่มันก็ยังคงคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

ความคิดที่ว่ามันอยากจะจูบองค์ชาย... อยากจะกอดองค์ชายและขังเอาไว้ในห้องสักห้องไม่ให้ออกไปไหน 

มันไม่อยากให้องค์ชายมาผจญในโลกแบบนี้ โลกที่เต็มไปด้วยความอันตรายที่เพียงแต่สาวเท้าออกมาจากบ้านก็อาจจะถูกเขม่น ด่า ใส่ร้าย ทุกอย่างแย่ไปหมดซึ่งมันก็ไม่อยากให้องค์ชายต้องแปดเปื้อนสักนิดเดียว

"เลิกเล่นได้แล้ว องค์ชาย พวกเราต้องเดินทางกันต่อ" มือหนาค่อยๆ ช้อนร่างองค๋ชายขึ้นไปนั่งบนหลังม้าดำ

เวสเปอร์หัวเราะด้วยความสนุกสนาน แขนเล็กๆ คว้าหมับเข้าที่คอเจ้าม้าดำเพราะกลัวว่าตัวเองจะตก

แง้วๆๆ

เสียงคร่ำครวญของฟินน์ดังออกมาจากในเสื้อโลกัส ก่อนที่มันจะกระโดดออกมาจากเสื้อคลุมและบิดขี้เกียจ แมวตัวเล็กจึงคืนร่างเป็นเสือขาวยักษ์ดังเดิม

โฮก

มันอ้าปากหาวหวอดคำรามในลำคอเบาๆ เมื่อปลายจมูกของมันเกือบถูกผีเสื้อสีฟ้าสวยมาเกาะ

"เจ้าแมว เจ้าแมวตื่นแล้ว เจ้าแมวต้องวิ่งให้ทันเจ้าม้านะคิกๆ" องค์ชายหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีและค่อยๆ ปล่อยแขนจากมือเจ้าม้าและเอนหลังพิงกับอกแกร่งของเจ้าเสือ

ร่างกายที่แข็งแกร่งดุจดั่งหินผาของโลกัสยังนิ่งสงบแม้ว่าเจ้าม้าดำจะวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง การเดินทางของมันเป็นไปอย่างเร่งรีบเพราะเจ้าม้าดำดูจะคึกจัดที่ได้วิ่ง มันวิ่งสุดฝีเท้าทำเอาฟินน์ที่แบ่งพลังจากพยัคฆ์ดำไปบ้างแล้วยังหอบแฮ่ก คำรามในลำคอตลอดเวลาที่วิ่ง

องค์ชายที่ดูทิวทัศน์จนเบื่อก็ผลอยหลับไปและพิงอกโลกัสเต็มที่

ทำให้ในตอนนี้ก็เท่ากับว่าองค์ชายตกอยู่ในอ้อมกอดของโลกัสโดยสมบูรณ์

โลกัสพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลั้นใจตัวเองไม่หอมแก้มองค์ชายอีกครั้ง ใบหน้าคมคายเจือหวานน่าเอ็นดูกำลังหลับอยู่ในอกมัน ริมฝีปากทิ่ฉีกยิ้มเล็กๆ คล้ายกับว่ากำลังฝันหวานอีกทั้งยังให้ความรู้สึกเชิญชวนให้ลิ้มลองไม่น้อย.. 

บัดซบ! นี่ข้ากำลังคิดอะไรกันอยู่!?

ร่างนักฆ่าสะบัดหัวตัวเองเรียกสติ ละสายตาจากร่างองค์ชายไปยังทางข้างหน้าที่ล้วนแล้วแต่เป็นป่าทึบ ต้นไม้ข้างทางสูงเสียดฟ้าพงหญ้ารกที่ใช้สำหรับเป็นที่ซุกซ่อนของสัตว์ร้ายต่างๆ นกกลางคืนเริ่มตีปีกขึ้นไปบนฟ้าเมื่อถึงเวลาอาหารของพวกมัน
โลกัสเหยียดยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

มันกำลังจะบุกไปยังเมืองเอวินด์... กลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่มันเจอองค์ชาย หากว่าสิ่งที่เจ้าเมืองเวลล์พูดนั้นเป็นความจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของพยัคห์ทมิฬต้องเกี่ยวข้องกับองค์ราชาแน่นอน.. พยัคฆ์ทมิฬไม่ใช่เสือที่จะมาฆ่าได้ง่ายๆ ตามอำเภอใจแต่เป็นสัตว์ดุร้ายที่พร้อมจะฆ่าคนทุกคนที่รุกล้ำมาในอาณาเขต 

ซึ่งไม่ใช่สำหรับมัน...

พยัคฆ์ทมิฬไว้ชีวิตมัน.. เลี้ยงดูมัน.. ในวันที่มันกำลังจะคืนสู่แผ่นดิน เพลิงกาฬที่เผาผลาญทุกชีวิตกำลังค่อยๆ โลมเลียมาหาตัวมันที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ ชีวิตพ่อแม่มันเพลิงกาฬล้วนช่วงชิงไป.. ก่อนที่เพลิงกำลังจะเผาไหม้มัน มันกลับคิดว่าถ้ามันถูกช่วงชิงไปอีกคนก็คงไม่เป็นไรแม้ว่าร่างกายของมันยังมีแรงเหลือเฟือที่จะวิ่งหนีก็ตาม..

เสือโคร่งสีดำตัวยักษ์กระโจนเขามาหาตัวมัน นัยน์ตาสีแดงก่ำลุกวาวก่อนที่มันจะคำรามใส่เพลิงกาฬจนอากาศสั่นสะเทือน เพียงชั่วพริบตาเพลิงทั้งหมดก็หายไป พยัคฆ์ทมิฬหันกลับมามองมันอีกครั้ง ลิ้นเปียกๆ ค่อยๆ บรรจงเลียบาดแผลเล็กๆ บนตัวมากมาย
ในนาทีนั้นมันรู้สึกถึงความอุ่นวาบในอก ความคิดจะติดตามพ่อแม่ไปหายไปทันที แขนโผกอดใบหน้าสัตว์ร้ายอย่างอ่อนแอ แต่ฉับพลันภาพก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงกู่ร้องคำรามอย่างเจ็บปวด บาดแผลตามลำตัวพยัคฆ์ทมิฬนั้นลึกจนเห็นกระดูก มันในวัยเด็กมองภาพตรงหน้าด้วยน้ำตาคลอเบ้า ความผูกพันระหว่างมันกับพยัคฆ์ทมิฬนั้นราวกับเป็นสายเลือดเดียวกัน พยัคฆ์ทมิฬเหลือบมามองมันครั้งสุดท้ายคล้ายกับกำลังกล่าวลาก่อนที่ซ่อนนัยน์ตาดุร้ายไว้หลังเปลือกตา นอนนิ่งยอมสยบต่ออริโดยมีเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดเป็นคำมั่นถึงความอ่อนแอของมัน 

โลกัสกัดปากตัวเองแน่นหลังพุ่มไม้ เลือดในกายร้อนผ่าว มันรู้ดีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พยัคฆ์ทมิฬตายนั้นมาจากมัน เลือดที่ยังคงหมุนเวียนในร่างกายของมันคงจะเป็นคำตอบได้ดี

พยัคฆ์ทมิฬมอบพลังของมันให้กับโลกัสจนร่างกายอ่อนแอจนไม่สามารถสู้กับทหารกล้าได้

มันไม่ได้มีความคิดโง่ๆ อย่างโผออกไปฆ่าทหารคนนั้นเพราะรู้ดีว่าตัวเองนั้นยังอ่อนแอเกินไป... แววตาไร้เสียงสาของมันเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ 

มันสาบาน.. ว่าจะฆ่าพวกมันเพื่อสังเวยแก่พยัคฆ์ทมิฬ

ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้อง มันก็จะฆ่า!

เพื่อพัฒนาฝีมือของตัวมันและหาค่าอาหาร มันเลือกที่จะเข้าสู่เส้นทางนักล่าฆ่าหัว....

เมื่อถึงเวลาไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขวางการฆ่าของมันไม่ได้ทั้งนั้น! 

นัยน์ตาสัตว์ป่าหลุบมองเวสเปอร์ด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป

"ต่อให้เป็นพ่อของเจ้า ข้าก็ไม่อาจละเว้นได้ เวสเปอร์"
 
----------------------------

 :z13:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หื้มมมมม

พ่อของเวสเปอร์เกี่ยวเหรอ ไม่น่าจะมีพาวเวอร์อะไรปานนั้น ยกเว้นมีบุคคลที่สาม สี่ ห้า....
หรือเปล่าหนออออ?

ว่าแต่ ถ้าพ่อเวสเปอร์ตาย... ใครจะลอบฆ่านอกจากโลกัสล่ะนี่??

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 15

ท้องฟ้ายังคงเป็นผืนผ้าสีดำที่ถูกปูไว้ในอากาศ แสงดาวประดับบนท้องฟ้าอยู่ประปราย แต่ดวงจันทร์กลับเคลื่อนตัวลงต่ำเรื่อยๆ เพราะเวลาที่ใกล้รุ่งเช้าเต็มทน

หลังจากที่คึกมาได้สักพักใหญ่ๆ เจ้าม้าดำก็เริ่มเหนื่อย ฝีเท้าที่เคยจัดจ้านเริ่มเบาบางลงจนเปลี่ยนเป็นหวานจัด โลกัสขมวดคิ้วหงุดหงิด เมื่อเจ้าม้าดำเดินทอดน่องอย่างสบายอกสบายใจ ชมนกไม้ไปตามทาง เรื่องประหลาดก็คือถึงแม้ว่ามันจะวิ่งข้ามวัน แต่มันกลับไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยใดๆ นอกจากเสียงลมหายใจที่ดังถี่ขึ้นกว่าปกติเพียงนิดเท่านั้น

โลกัสเตะเท้าไปที่ท้องของมันเป็นคำเตือน

"ข้ามีสิ่งที่ต้องทำ ถ้าเจ้าขืนยังวิ่งปัญญาอ่อนแบบนี้ ข้าจะฆ่าเจ้า" คำรามลอดไรฟันไม่กล้าตะคอกเสียงดังเพราะเกรงว่าร่างเล็กที่นอนหลับตามพริ้มอยู่จะสะดุ้งตื่นขึ้นมา

เจ้าม้าดำส่งเสียงฮี้ๆ ไม่พอใจ เหลือบสายตาขึ้นมามองเจ้านายใหม่มันด้วยความหงุดหงิดแต่เมื่อสบกับแววตาดุร้ายที่แทบจะฆ่ามันให้ตายด้วยสายตา มันก็ยอมเริ่มเร่งฝีเท้าตัวเองให้ไวมากยิ่งขึ้น มันอ้าปากงับหญ้าเป็นครั้งสุดท้ายเคี้ยวหยับๆ จนพอแหลกจึง
กลืนมันลงไป และเริ่มต้นแสดงฝีเท้าของมันใหม่

กีบเท้าสีดำมันขลับบดลงพื้นดินรุนแรงจนเกิดรอยสึกส่งผลให้ตัวของมันพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หางพวงพุ่มสะบัดไปมาเมื่อความเร็วของมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ถึงแม้จะไม่มากเท่าตอนที่มันยังคึกแต่ก็ยังคงเร็วพอตัว

มันวิ่งไปเรื่อยๆ โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางใดๆ แม้แต่น้อย ความคล่องแคล่วของมันทำให้ทั้งพยัคฆ์ดำและองค์ชายไม่ถูกเถาวัลย์พันเกี่ยวหรือหนามขูดสักนิดเดียว

แต่จู่ๆ มันกลับชะงักฝีเท้าทันที เสียงลมหายใจแผ่วเบา มันหันไปมากระสับกระส่าย

โลกัสไม่ได้พูดตำหนิอะไรมันเพราะรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างเช่นกัน

"ฮื่ออ" ฟินน์ยื่นหน้าออกมาจากอ้อมกอดองค์ชายส่งเสียงขู่คำรามง้องแง้ง หางของมันชี้ฟูด้วยความหวาดระแวง

ฮื่อออ

เสียงคำรามในลำคอดังลั่นมาจากอีกฟากซึ่งมันก็ดังพอจนปลุกองค์ชายได้

"อื้ออ ง่วงง ข้า ง่วงง เสียง เสียงอะไร เจ้าเสือ" เวสเปอร์ขยี้ตางัวเงียบิดขี้เกียจจนมือไปชนหน้าสากๆ หนวดครึ้มของโลกัส

"เสือดาว.." โลกัสกระซิบตอบเสียงเบา ลมที่พัดมานั้นพัดกลิ่นตัวของสัตว์ประเภทมาด้วย ร่างกายที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งกับป่าของโลกัสจึงสามารถแยกออกได้ทันที

เจ้าม้าส่งเสียงฮี้ขัดก่อนที่มันจะค่อยๆ ย่องไปตามต้นเสียงที่ว่า

"เสือ เสือดาว เสือที่เป็นจุด จุดใช่ไหม เจ้า เจ้าเสือ" องค์ชายตบมือดังแปะเมื่อนึกคิดมาได้ ยิ้มจนหยีพยายามพูดอวดเจ้าเสือ

"เก่งมาก เวสเปอร์" โลกัสพูดอย่างขอไปที ความเครียดเขม็งจดจ่ออยู่กับเสียงคำราม 

แต่เมื่อองค์ชายทำท่าจะพูดอีกโลกัสก็จัดการเอามือหนาปิดปากไว้แน่นและบังคับให้ชิดเข้ากับอกตัวเอง

ความร้อนรุ่มของร่างกายพยัคฆ์ดำที่เกิดจากความตื่นเต้นถึงแม้จะถูกเสื้อผ้าหนาปกปิดไว้หนึ่งชั้นแต่ยังรับรู้ถึงความอุ่น เวสเปอร์หัวเราะคิกในลำคอเมื่อไม่ต้องกังวลกับหน้าหนาวเพราะหาเตาผิงเคลื่อนที่ให้ตัวเองได้แล้ว 

องค์ชายหลับตาพริ้มรู้สุกอุ่นวาบไปทั้งตัว

เจ้าเสือตัวอุ่นจัง.. เมื่อกี้ยังไม่อุ่นขนาดนี้เลย

เลือดในกายโลกัสเริ่มเดือดพล่านกระหายหาการฆ่าเมื่อเจ้าของร่างเครียดเขม็ง เนื้อตัวที่เคยมีอุณหภูมิปกติไต่ระดับสูงขึ้นจนแทบจะแผดเผาศัตรูที่ขวางให้เป็นจุล

เจ้าม้าส่งเสียงหายใจฟึดฟัดก่อนที่จะกระโจนพรวดบุกเข้าไปทันที

"ว้ากกก เจ้า เจ้ามาจากไหนเนี่ย ไม่นะไม่ อย่าฆ่าข้าเลย" 

อุทานดังลั่นความตื่นตระหนกเมื่อจู่ๆ ถูกม้าสีดำกระโจนเข้ามา 

"นั่นเจ้ากำลังทำอะไรน่ะ..." โลกัสถามด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

เพราะร่างที่แต่งตัวคล้ายองค์ชายจากเมืองใดเมืองนึงกำลังใช้หวีแปรงขนให้กับเสือดาวที่ขนทั้งตัวของมันพองและมีกลิ่นเหม็นไหม้ อีกทั้งมันยังส่งสีหน้าน่าสงสารมาหาโลกัสคล้ายขอความช่วยเหลือ

คนแปลกหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตรลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นบนตัวออกจนหมดก่อนที่จะยืดอกพูดเพื่อแนะนำตัวเอง "ข้าชื่อไอเรส! เป็นองค์ชายอันดับที่ ๓ ของเมืองเอวินด์"

องค์ชายสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยจึงดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดเจ้าเสือและยื่นหน้าออกมาพูด "ไอ ไอใช่ไหม! ไอ ข้า ข้าคิดถึงไอ"

ไอเรสเลิกคิ้วงุนงงเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ไม่ได้ยินมานานเอามากๆ แต่พอเห็นองค์ชายเวสเปอร์ที่ยิ้มกว้างพยายามลงจากตัวม้าลงมาหาตัวเองก็ดีใจจนเนื้อเต้น

"ท่านพี่!!" ถ้าหากไอเรสมีหูกับหางตอนนี้คงไม่วายกระดิกไปมาอย่างรุนแรงเพื่อความดีใจของเจ้าของร่าง หลังจากเอ่ยร้องเรียกเสร็จก็ไปช่วยเวสเปอร์ลงจากตัวม้า เมื่อลงมาได้ทั้งเวสเปอร์และไอเรสก็สวมกอดกันแน่น

"ข้าคิดถึงท่านมากเลยท่านพี่ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันก็นานมาก ท่านพ่อไม่ยอมให้ข้าไปหาท่านพี่เลย ข้าชอบกินขนมที่ท่านพี่ทำนะ อร่อยมากเลย ท่านพี่ทำให้ข้ากินอีกได้ไหม" ไอเรสพูดเจื้่อยแจ้ว ขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเวสเปอร์เป็นเท่าตัวไม่เป็นอุปสรรค
ใดๆ ในการออดอ้อนของไอเรส พยายามใช้หัวถูไถตัวพี่ชายตัวเองจนหัวเราะคิกคัก

"ข้า ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน ท่านพ่อ พ่อห้าม ห้ามไม่ให้ข้าทำขนม" เวสเปอร์หน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แต่มือเล็กๆ ก็ยังลูบหัวทุยๆ ของน้องชายตัวดีของตัวเอง

ไอเรสชะงักกึกและหัวเราะแห้งๆ "อ่า งั้นเหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้นข้าไม่กินก็ได้ ท่านพี่ ฮะๆ" คำว่าท่านพ่อค่อนข้างมีผลต่อไอเรสพอสมควรเพราะเจ้าตัวกลัวท่านพ่อแทบขึ้นสมอง สั่งขวาไปขวาซ้ายไปซ้าย ต่อให้ตรงหน้าเป็นหน้าผาหากท่านพ่อสั่งให้กระโดดเขาก็จะกระโดด 

"แล้วท่านมาทำอะไรที่นี่ล่ะ ท่านพี่ รู้รึเปล่าว่าพวกเรากำลังตามหาท่านพี่อยู่นะ"

องค์ชายกำลังจะตอบแต่ก็ถือโลกัสรวบเอวกลับเข้ามาตัวเองและตอบแทนเสียงเย็น "นั่นเป็นคำถามของพวกข้ามากกว่า องค์ชายที่มีหน้าที่ปกครองบ้านเมืองอย่างเจ้ามาทำอะไรในที่ป่ารกๆ นี่"

"ข้ามาฝึกใช้เวทไฟน่ะ อาทิตย์หน้ามีสอบแต่ข้ายังใช้ไม่ค่อยคล่องเลยเผลอเผาฟอรัสไปด้วย ฮะๆ" 

กลิ่นเหม็นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งในอากาศเมื่อถูกลมพัดมาพอดี คล้ายกับยืนยันในสิ่งที่ไอเรสพูด

ซึ่งฟอรัสก็ร้องแง้วๆ ออกมาเหมือนกัน เสียงร้องของมันเหมือนจะร้องไห้เหมือนมันใช้อุ้งเท้าแตะหนวดหงิกงอของตัวเองแล้วสะดุ้ง

โลกัสจับจ้องไอเรสด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าว ความเจนจัดทำให้มองออกทะลุปรุโปร่งว่าเอเรสคิดจะทำอะไร "ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ ถ้าเจ้าคิดจะเล่นตุกติก"

"อย่าระแวงนักสิ อย่างน้อยท่านพี่กับข้าก็เป็นพี่น้องเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน ใช่ว่าข้าจะเป็นขายครอบครัวสักหน่อย" ไอเรสเบ้ปากพูด สีหน้าเริ่มจะหงุดหงิดเมื่อถูกสบประมาท

พยัคฆ์ดำเหยียดยิ้ม "ถ้าหากเจ้าหวังดีต่อเวสเปอร์จริงคงไม่ปล่อยให้เขาถูกไล่ฆ่าหรอก ถ้าหากข้าไม่เข้าไปช่วยวันนั้นเวสเปอร์คงจะตายไปแล้ว พวกเจ้ามันน่ารังเกียจ แม้แต่สายเลือดเดียวกันพวกเจ้ายังเมินเฉยได้ลงคอ!! ถึงแม้พวกเจ้าจะไม่ได้ลงมือฆ่าเวสเปอร์แต่สิ่งที่พวกเจ้าทำก็คือยืนมองดูเวสเปอร์ตายชัดๆ" โลกัสพูดเสียงดังขึ้นเรือยๆ และตะคอกออกมาดังลั่นในประโยคสุดท้าย

องค์ชายสะดุ้งเฮือกกับเสียงของโลกัสแต่ก็ยังกอดแขนเอาไว้อย่างเหนียวแน่นไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้ว่าร่างข้างๆ ตัวเองแทบจะกลายร่างเป็นเสือโหยเตรียมจะเข้าไปขย้ำร่างน้องของตัวเอง

ไอเรสจุกจนพูดอะไรไม่ออก ".... ก็ท่านพ่อข้าสั่ง.." พยายามแก้ตัวถึงแม้เขาจะจำเรื่องราวในวันนั้นได้ดี วันที่พ่อเรียกกลุ่มทหารมาเพื่อฆ่าพี่ชายตัวเอง แม้ว่าจะรู้สึกคัดค้านเพียงใดแต่ก็ยังยอมนั่งดูนิ่งๆ ผ่านหน้าต่างบานหนึ่ง

สีหน้าฮึกเหิม เสียงเพลงบรรเลงเกรียวกราว ยังคงดังก้องในหูของไอเรส เมื่อทหารพวกนั้นตะโกนออกมาอย่างมั่นใจ ในอกไม่รู้สึกถึงความสงสารหรืออะไรใดๆ ต่อองค์ชายเวสเปอร์

ความผิดปกติขององค์ชายโด่งดังพอๆ กับความชื่อเสียงของกษัตริย์เอวินด์

พวกเขาเคารพคนที่แข็งแกร่งผู้ใดที่อ่อนแอต้องหลบทางและก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไป พวกเขาเป็นเช่นนั้นมาตลอดหลายร้อยปีจนถึงตอนนี้ก็ยังคงรังเกียจคนอ่อนแอที่ไม่ยอมสู้คน

"ถ้าท่านพ่อสั่งให้เจ้าฆ่าตัวตาย เจ้าจะทำไหมล่ะ เอเรส!" ตะคอกเสียงดังนัยน์ตาขึ้นสีแดงก่ำอย่างควบคุมไม่ได้ เขี้ยวปลายแหลมเริ่มยื่นออกมาจากริมฝีปาก

ไอเรสเม้มปาก "ข้าชอบท่านพี่ก็จริง แต่ข้าไม่เอาจาปฎิเสธพ่อได้หรอกนะ"

----------

มาช้ามาก 5555  :z10:


 
 
 

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ทำไมพ่อของเวสเปอร์เป็นแบบนี้อ่ะ ไม่รักลูกของตัวเองเลยหรอ
อยากรู้จุดจบของพ่อเวสเปอร์แล้วววว

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ในที่สุดก็มาต่อแล้ววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ก็เข้าใจเด็กนะ เพราะพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว จะไปขัดแย้งก็ยังไงอยู่ ยกเว้นเจ้าตัวจะเป็นพวกต่อต้านพ่อตัวเองอ่ะ  :ruready

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
พ่อเวสเปอร์นี่โหดร้ายมาก

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เห้ออออ บ้านนี้มันอะไรกันนะ
ท่านพ่อไม่รักลูกเลยสินะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
 ตาหลุบต่ำลง "แต่ท่านพี่ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะไม่ส่งข่าวของท่านให้ท่านพ่อแน่นอน"
ทั้งๆ ที่ไอเรสพูดด้วยน้ำเสียงหวานหูแต่โลกัสกลับรู้สึกตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง นัยน์ตาดุๆ ยังคงจ้องร่างน้องชายของเวสเปอร์ไม่วางตา ความรู้สึกเกลียดจากเบื้องลึกตีตื้นขึ้นจนรู้สึกอยากเอื้อมมือไปหยิบดาบและฆ่ามันให้รู้แล้วรู้รอด
โลกัสเกลียดพวกนี้เข้าไส้ พวกที่ทำท่าเหมือนจะเป็นคนดีแต่แท้จริงกลับเลวกว่านักโทษประหารในคุก ซึ่งไอเรสสำหรับโลกัสแล้วก็เข้าข่ายนี้พอดี

"… อื้ม" เวสเปอร์พยายามยิ้มให้ไอเรส หลายวันที่ผ่านมาที่โลกัสเอาแต่พาเวสเปอร์หนีหัวซุกหัวซุนทำให้องค์ชายเริ่มจะเข้าใจสถานะของตัวเองในตอนนี้ขึ้นมาอย่างช้าๆ

ฐานะของนักโทษ.. เหมือนในนิทานที่ท่านพ่อเคยเล่าให้ข้าฟัง

ทันทีที่หลับตาก็ปรากฎภาพร่างสูงท่าทางน่าเกรงขามนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองบนตักมีเด็กร่างเล็กวัยซุกซนกำลังใช้มือเล็กๆ เปิดหนังสือภาพสดใสไปทีละหน้า น้ำเสียงทุ้มแฝงอำนาจค่อยๆ เอาเรื่องราวเพื่อถ่ายทอดให้เวสเปอร์ฟังอย่างใจเย็น คาดหวังอย่างยิ่งที่ลูกของตัวเองเมื่อเติบโตมาจะเกรียงไกรยิ่งกว่ารัชสมัยของตนเอง

หนังสือกล่าวถึงช่างตัดฟืนที่จู่ๆ ก็กลายเป็นนักโทษประหาร เรื่องราวมีอยู่ว่าชายคนนั้นในเวลาปกตินั้นจะเป็นช่างตัดฟืนแต่ในเวลาว่างจะเข้าไปในป่าและจับนกมาเลี้ยง ซึ่งนกแต่ละตัวที่ช่างตัดฟืนเลือกมานั้นล้วนโดนขนานนามว่านกเสียงสวรรค์ เมื่อคนอื่นมาได้ยินเข้าชื่อเสียงของช่างตัดฟืนก็ขจรขจายไปทั่วจนระทั่งถึงหูของพระราชา ทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวของชายตัดฟืนพระราชาก็เกิดความคิดอยากครอบครอง พระราชาจึงสั่งทหารไปจับช่างตัดฟืนมาหาตนเองและสั่งให้ไปจับนกที่มีเสียงไพเราะที่สุดมาให้ ซึ่งนกที่เสียงไพเราะที่สุดของช่างตัดฟืนนั้นก็คือนกตัวแรกของเขาเอง ช่างตัดฟืนทั้งรักและหวงนักตัวนี้มากจึงเอ่ยปฏิเสธต่อพระราชาแม้ว่าโทษของการขัดใจคือการประหารก็ตาม ความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของเขาทำให้พระราชารู้สึกประทับใจจึงยอมปล่อยช่างตัดฟืนไป แต่เรื่องแปลกประหลาดหลังจากนั้นก็คือไม่นานช่างตัดฟืนก็ตายส่วนนกของช่างตัดฟืนก็ไปอยู่กับพระราชาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

นิทานที่มีข้อคิดแยบยลถูกนำมาเล่าให้เวสเปอร์ฟังครั้งแล้วครั้งเล่าหวังจะกระตุ้นให้สติปัญญาลูกคนนี้เฉียบแหลมกว่าอาณาจักรใดๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่การคาดหวังมากไปก็มักจะพบกับความผิดหวังรุนแรง

ทั้งๆ ที่ร่างกายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่สติปัญญาขององค์ชายกับไม่ได้เติบโตตาม นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พ่อเวสเปอร์เกลียดเวสเปอร์เข้าไส้

ทุ่มเททุกอย่างแต่สิ่งที่ได้กลับมาคืนความว่างเปล่า 

"ข้า ข้าไม่เป็นไรหรอก ไอ ข้า ข้าไม่เป็นไร" องค์ชายหัวเราะทั้งๆ ที่ตัวสั่นไปทั้งตัว มือเล็กๆ ยึดตัวโลกัสไว้เป็นหลักอย่างเหนียวแน่น "ข้าไม่เป็นไรจริงๆ"

ความรู้สึกโดนเกลียดคล้ายกับรสชาติขมปร่าในปาก 

เวสเปอร์รู้สึกถึงรสชาติขมครั้งแล้วครั้งเล่าจนชินชาและหลอกตัวเองว่ามันเป็นรสหวานของความรัก ไม่ใช่รสขมของความเกลียดชัง

ลึกๆ แล้วเวสเปอร์็ยังคงคาดหวังว่ารสขมปร่าจะแปรเปลี่ยนเป็นรสชาติหวานบ้างแต่องค์ชายก็รู้ดีว่ามันเป็นได้เพียงความฝันเท่านั้นเพราะรสหวานที่ว่านั่นถูกใช้ไปจนหมดแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจดจำความรักที่ท่านพ่อเคยให้กับเขาได้ดี..

ฝ่ามือหยาบอุ่นๆ ที่ลูบหัวอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงดุแฝงอำนาจกลับนุ่มนวลเมื่อพูดกับเขา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สิ่งเหล่านี่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

"ข้าไม่รู้จริงๆ ว่า ข้า ข้าทำอะไรผิด" องค์ชายพูดออกมาเสียงเบากับตัวเอง

ไม่ต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าไม่ว่าใครก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้

โลกัสจิ้ปากไม่พอใจดึงตัวองค์ชายไปกอดและลูบหัวองค์ชายตามความเคยชินซึ่งองค์ชายก็ตอบรับด้วยการกอดเจ้าเสือตอบแน่น
ไม่กล้าสบตาน้องชายที่มีเค้าโครงใบหน้าแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกับพ่อตัวเอง

"จะให้ข้าเชื่อเจ้าทั้งๆ ที่องค์รักษ์ของเจ้ากำลังวิ่งมาทางนี้งั้นเหรอ ไอเรส!" โลกัสคำราม

เพราะในชั่วขณะที่สวมกอดองค์ชายนั้นไอเรสก็ได้แอบร่ายเวทส่งสัญญาณไปยังองค์รักษ์ของตัวเอง ซึ่งถ้าหากไม่ใช่โลกัสที่มีประสาทสัมผัสว่องไวคงไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อยว่าน้องชายของเวสเปอร์กำลังเล่นตุกติกที่สามารถฆ่าพี่ชายของตัวเองได้ถ้าหากสำเร็จ

คนมีชนักติดหลังสะดุ้งเฮือกหน้าซีดเผือด รู้สึกตกใจจนแทบบ้าเมื่อคล้ายจะถูกล่วงรู้สิ่งที่ซ่อนไว้ในใจ ความขลาดกลัวกระตุ้นให้ร่างกายสั่นเป็นเจ้าเข้า "ไม่ ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!"

ฮื่ออออ

เจ้าเสือดาวกระโจนเข้ามาขวางหน้านายของมัน ดวงตาของมันเป็นประกายกร้าวเมื่อรู้ถึงภัยคุกคาม มันสลัดตัวสองสามครั้งก่อนที่ขนของมันจะกลับมาเป็นแบบเดิมพร้อมที่จะเข้าปะทะหากอริทั้งสองตรงหน้ามันขยับตัว

โฮกก

ฟินน์กู่ร้องในลำคอเมื่อกลับเป็นเสือโคร่งสีขาวร่างยักษ์แยกเขี้ยวขู่จ้องกลับด้วยสายตาแบบเดียวกัน กรงเล็บแหลมคมที่กางออกมาทันทีเตรียมจะตะปปเจ้าเสือดาวตัวอ้วนตรงหน้า

"เจ้าแมว.." องค์ชายพูดอย่างเลื่อนลอย นัยน์ตาสั่นระริกเมื่อรับรู้ว่าแม้แต่น้องที่ตัวเองรักก็ยังหักหลังตัวเองได้ลงคอ ถึงแม้จะไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดสักเท่าไหร่แต่ท่าทีไม่เป็นมิตรอย่างรุนแรงของเจ้าเสือก็น่าจะอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ได้ดี

"แย่ แย่จังนะ ไอ" เวสเปอร์หัวเราะขืนๆ หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน 

บางครั้งข้าก็ไม่เข้าใจว่าข้าจะเกิดมาทำไมกัน..

คนที่ปกติมักจะร่าเริงอยู่เสมอเพราะไม่คิดมากถึงการกระทำต่างๆ ที่เข้าใจได้ยากของคนอื่น แต่ตอนนี้กลับส่งสีหน้ารวดร้าวคล้ายกับโลกทั้งใบกำลังจะพังทลาย

เมื่อสิ่งต่างๆ ที่รับรู้มาค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในหัว ละลายและตกตะกอนเป็นความเข้าใจอย่างเชื่องช้าแต่กลับฝังลึกและตรึงแน่นจนไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้ ซึ่งกว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ใช้เวลานานพอสมควร

น่าแปลกจังที่ข้ารู้สึกเหมือนในอกกำลังพังทลาย น้ำ น้ำตาจมอยู่ในร่างกายข้า.. โดยมีข้าเป็นปลาตัวเล็กๆ ที่ถูกหินถ่วงลงไปเรื่อยๆ และมีปลายทางเป็นความมืดมิด

"อย่าร้องไห้องค์ชายของข้า" โลกัสเกลี่ยน้ำตาให้เวสเปอร์แผ่วเบา หน้าขึ้นเลือดฝาดจางๆ เมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดพลุ่งพล่านในอก แต่ไม่นานเจ้าตัวก็สะบัดหัวเรียกสติของตัวเองคืนมา

เพราะตอนนี้ศัตรูกำลังเข้าใกล้เต็มทน!

เสียงฝีเท้าจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

"ท่านพี่ ข้า ข้า" ไอเรสจากหน้าซีดกลายเป็นหน้าเจื่อน ทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าพี่ตัวเองจะเสียใจมากจนร้องไห้ สิ่งที่คาดเดาไว้เป็นแค่ภาพที่ท่านพี่ยอมถูกให้จับง่ายๆ เท่านั้น

"หุบปากเน่าๆ ของเจ้าไปซะ" โลกัสคำรามใส่ไอเรสจนเจ้าเสือดาวสะดุ้งเฮือกผงะกระโดดหลบเข้าข้างหลังนายตัวเอง มันพยายามจะก้าวกลับมายืนที่เดิมอีกครั้งแต่กลับพบว่าควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ มันเบิกตากว้างเมื่อสบเข้านัยน์ตาสัตว์ป่าที่แฝงพลังอำนาจที่คุ้นเคย เจ้าเสือดาวรีบหมอบต่ำลงบนพื้นตัวสั่นทันที

"เฮ้ย ฟอ ฟอรัสเจ้าไปสู้สิ" ไอเรสลนลานพยายามใช้เท้าถีบเสือดาวคู่ใจของตัวเองแต่มันกลับไม่ยอมขยับเขยื้อแม้แต่นิดเดียว

เพราะมันรู้ดีว่ามันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับพลังของอะไร

พลังที่มันเคยพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในตอนนี้ที่มันไปเดินเล่นในอาณาเขตของพยัคฆ์ทมิฬ

พยัคฆ์ดำขบกรามกรอดเมื่อฝีเท้าพวกนั้นใกล้เข้ามาเต็มทน อีกไม่กี่อึดใจคงเข้ามาในระยะสายตาได้ ร่างหนารวบเอวองค์ชายขึ้นมาอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวอีกครั้ง พยายามประมวลผลถึงทางรอดต่างๆ แต่เมื่อหางตาเห็นไอเรสพยายามชะเง้อหน้าหอองค์รักษ์ของตัวเองก็อดโกรธขึ้นมาไม่ได้

"สายสัมพันธ์พี่น้องสำหรับเจ้ามันไม่มีค่าเลยงั้นเหรอ ไอเรส"

เหน็บกัดอย่างเจ็บแสบแม้ว่าจะเหลือเวลาไม่มากก็ตาม

ไอเรสส่ายหน้าเศร้าๆ เมื่อนึกถึงอดีตอันหอมหวาน "มีสิ... ทำไมจะไม่มีล่ะ ข้ากับท่านพี่รักกันจะตาย"

โลกัสหันหน้าไปทางที่มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบแสยะยิ้มเมื่อคิดอะไรออก "ข้ามีข้อเสนอให้เจ้าได้แก้ตัวในสิ่งที่เจ้าทำ ไอเรส"

"ขอเสนออะไรของเจ้า อีกไม่นานทหารของข้าก็มาถึงที่นี้แล้ว" ไอเรสแค่นเสียงหึ มองพี่ชายตัวเองด้วยความรวดร้าว มือเย็นเฉียบเมื่อรับรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ท่านพี่ร้องไห้จนตัวโยนในอ้อมกอดของพยัคฆ์ดำ

ท่านพี่.. ข้าขอโทษ

"แก้ตัวกับทหารว่าเจ้าไม่ได้เจอพวกข้า" นักฆ่าแสยะยิ้มพูดเสียงเย็น 

ไอเรสสะดุ้ง ลืมความรวดร้าวไปหมดเมื่อรู้ว่าพยัคฆ์ดำต้องการให้ตนทำอะไร  "ไม่ ไม่มีทาง เจ้ามันบ้าชัดๆ ถ้าท่านพ่อรู้ว่าข้าเจอท่านพี่แล้วไม่ยอมบอกท่าน ท่านต้องฆ่าข้าแน่ๆ" สีหน้าหวาดกลัวถึงขีดสุด

หากทำตามในสิ่งที่มันต้องการจริง ข้าคงไม่วายต้องถูกท่านพ่อเผาทั้งเป็น!

"เจ้ารักชีวิตของตัวเอง แต่ไม่รักชีวิตของพี่ชายของเจ้าสินะ หึ ตลกชะมัด" นัยน์ตาสัตว์ป่าลุกวาวเดือดดาล เมื่อรับรู้ถึงการสะอื้นที่หนักกว่าเดิมในอ้อมกอดของตัวเอง

คำพูดของโลกัสตอกย้ำถึงความเลวร้ายของสิ่งที่ไอเรสกระทำ

น้องชายของเวสเปอร์จุกจนพูดไม่ออก ไม่สามารถปฏิเสธในสิ่งที่โลกัสพูดได้แม้แต่คำเดียว 

แต่ข้าจะทำอะไรได้ล่ะ... ท่านพ่อสั่งให้ข้ามาดักรอในป่าคอยระวังพวกไม่หวังดีที่อาจจะไปทำลายงานของพี่เฟเนกส์์ซึ่งจริงๆ ควรจะเป็นงานของพี่เวสเปอร์

ข้าก็เป็นแค่องค์ชายที่มีพ่อเป็นกษัตริย์เท่านั้นเอง... ท่านพ่อไม่คาดหวังในตัวข้าว่าจะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่ก็เข้มงวดกับพี่เฟเนกส์กับข้ามาก ทุกสิ่งในชีวิตข้าถูกกำหนดมาหมดแล้ว แม้แต่สัตว์ประจำกายก็ถูกฝึกมาเพื่อข้ามาตั้งแต่แรก พิธีเลือกสัตว์นั่นข้าก็แค่ทำเป็นสู้กับมันก็เท่านั้น

ข้าไม่เคยทำอะไรได้เลย..

บางครั้งข้าก็รู้สึกอิจฉาพี่เฟเนกส์ที่ดูจะชื่นชอบการเดินตามทางที่ท่านพ่อปูไว้ให้ รายนั้นสามารถย่างเท้าบนนั้นได้อย่างสง่างามผิดกับข้าที่มักจะเผลอออกนอกลู่นอกทางจนเท่าพ่อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ถ้าหากครั้งนี้ข้ายอมทำตามสิ่งที่ใจคิดล่ะ...

"ไม่มีเวลาแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เจ้าเลือกนะ ไอเรส"

โลกัสขยับยิ้มเย็นกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ใกล้ๆ โดยมีฟินน์ตามไปติดๆ กิ่งก้านและใบที่ขึ้นดกหนาสามารถอำพรางได้ดีแต่ถ้าหาสังเกตดีๆ ก็คงมองออกทันที ส่วนเจ้าม้าดำก็แสร้งตัวเองเป็นม้าป่าธรรมดาเคี้ยวหญ้าหงุบหงับด้วยท่าทีโง่ๆ อยู่แถวนั้น
ในความเป็นจริงแล้วโลกัสไม่มีความจำเป็นต้องหลบด้วยซ้ำไป กับทหารไม่กี่นายไม่สามารถทำให้เหนื่อยแม้แต่น้อย แต่โลกัสก็ยังเลือกที่จะหลบเพื่อหลอกให้ไอเรสตายใจ

ว่าถ้าหากไม่ยอมพูดปดออกไปก็เท่ากับว่าส่งพี่ชายตัวเองไปตาย!

สิ่งที่โลกัสตั้งใจทำจริงๆ ก็คือดัดนิสัยน้องชายเวสเปอร์

หากยอมพูดปดก็สามารถดึงมาเป็นพวกได้แต่ถ้าไม่

"พวกข้ามาแล้วขอรับ!"

ก็อย่าได้เข้ามาคุยกับเวสเปอร์อีก !

ไอเรสกัดปากจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวฟุ้งในปาก ภายในหัวยุ่งเหยิงจนสรรหาคำมาตอบรับองค์รักษ์ของตัวเองไม่ได้แม้แต่คำเดียว ได้แต่ยืนอ้ำๆ อึ้งๆ ทำอะไรไม่ถูก

หัวหน้าองค์รักษ์มองนายของตัวเองด้วยความสงสัย สีหน้าท่าทางที่แสดงออกไปอยู่ในท่าทีสุภาพ แม้ว่าในใจจะรู้สึกสมเพชองค์ชายคนที่ ๓ นี้เต็มทน พวกเขาเบื่อที่จะมานั่งรับใช้องค์ราชไม่ได้เรื่องคนนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งขององค์ราชา
ซึ่งทุกครั้งที่มององค์ชายไอเรสพวกเขาก็จะคิดถึงองค์ชายเฟเนกส์เสมอ

ท่าทีสง่างาม ฉลาดหลักแหลม เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ส่วนองค์ชายเวสเปอร์อะไรนั่นลืมไปได้เพราะคำสั่งออกมาแล้ว

ถ้าหากพบเห็นที่ไหนให้ลงมือฆ่าได้เลย!

"มีอะไรรึเปล่าขอรับ ท่านไอเรส.. ท่านเจออะไรหรือขอรับ?"

ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังก์คำพูดของท่านพ่อก็ดังแว่วเข้ามาในหู

หากเจ้าขัดคำสั่งข้าอีกครั้ง เห็นทีจะถึงเวลาที่เจ้าต้องอำลาคำว่าองค์ชาย เจ้าคิดว่าที่เจ้าอยู่อย่างสุขสบายเป็นเพราะใคร? ถึงกล้าทำในสิ่งเหลวไหลพรรค์นั้น เจ้าอยากจะเป็นเหมือนพี่เจ้างั้นเหรอ ไอเรสที่วันๆ เอาแต่หัวเราะพูดอยู่คนเดียว ปัญญาอ่อนแบบนั้น เจ้าจะเป็นตามมันงั้นเหรอ ถ้าหากเจ้าต้องการแบบนั้น ก็ฆ่าตัวตายไปซะ เพราะเมืองเอวินด์ไม่ต้องการองค์ชายอ่อนแออย่างเจ้า!!

คำพูดของกษัตริย์องค์ปัจจุบันดูจะดึงสติและความคิดของไอเรสกลับมา

ดวงตากลับมาเป็นประกายกร้าว ยืดอกตะคอกเสียงดัง

ชีวิตของเขามันเป็นของท่านพ่อมาตั้งแต่แรก คนนอกอย่างพยัคฆ์ไม่มีสิทธิ์มาบงการเขา! 

"ไม่ ไม่ ข้าเห็น เห็นมันอยู่บนนั้น!! องค์ชายเวสเปอร์"

เหล่าองค์รักษ์หันขวับคว้าดาบในมือ โดยหนึ่งในนั้นได้ขว้างทวนเหล็กเพลิงใส่ 

ท่าทีขององค์ชายไอเรสถ้าหากคนทั่วไปเห็นคนอาจจะชื่มชมออกไป แต่สำหรับโลกัสแล้ว ไอเรสในตอนนี้กลับน่าสิ้นหวังเกินทน

ความลังเลชั่วขณะนั้นคล้ายกับเป็นสิ่งหลอกลวงให้ดีใจว่าอย่างน้อยองค์ชายไอเรสก็อยู่ฝ่ายเวสเปอร์ แต่เมื่อสิ้นเวลานั้นนิสัยที่แท้จริงก็ปรากฎ

ในสายเลือดนี้ไม่ว่าใครก็ตามล้วนเห็นชีวิตตนเองสำคัญที่สุด ต่อให้ต้องเหยียบย่ำหรือแม้แต่ฆ่าพวกเดียวกันก็สามารถทำได้

โลกัสยิ้มเย็นชา

ดูเหมือนว่าพ่อเวสเปอร์จะสร้างสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกับตัวเองสำเร็จแล้ว...

ตูม!!!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นเมื่อทวนเพลิงถูกด้ามดาบของโลกัสฟันกลับจนแตกกระจาย สะเก็ดไฟรุนแรงก่อเกิดเพลิงไหม้ตามต้นไม้อย่างช้าๆ โลกัสกระโดดลงมาจากต้นไม้โดยมีองค์ชายอยู่ในอก เจ้าม้าดำที่ได้ยินเสียงระเบิดก็รีบวิ่งกลับมานายใหม่ของตัวเอง มันหยุดยืนข้างๆ พยัคฆ์ดำเชิดคอมองศัตรูด้วยสายตาดูแคลน

เสียงเหล็กกระทบกันเป็นเสียงเดียวกันเมื่อมันถูกตั้งชันขึ้นล้อมรอบโลกัส เหล่าองค์รักษ์ที่ถูกฝึกปรือมาอย่างดีจัดทัพอย่างว่องไวรอเพียงสัญญาณของหัวหน้าก็จะเริ่มบุกเข้าไปทันที

บทเรียนครั้งสำคัญของพวกเขาคือเหล่าแม่ทัพที่เหลือเพียงซากศพ 

ทำให้การลงมือแต่ละครั้งต้องเฉียบขาด คอบคอบ และไม่ประมาท

โลกัสจ้องไอเรสนิ่ง ก่อนจะพูดเสียงเรียบออกมา

"นี่คือสิ่งที่เจ้าเลือกสินะ ไอเรส"

ส่ายหน้าเบาๆ รู้สึกเสียดายความรู้สึกเห็นใจจางๆ ในทีแรก

"แต่เอาเถอะ พวกเจ้าในตอนนี้ยังโชคดีเพราะข้ายังไม่มีอารมณ์ฆ่าคนสักเท่าไหร่"

หัวหน้าองค์รักษ์ถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสต่อพวกเขาที่เป็นถึงองค์รักษ์ฝีมือดีที่องค์กษัตริย์ยกย่อง คำพูดดูถูกของโลกัสกระตุ้นให้ตวาดออกไปทันที

"ฆ่ามัน!!"

เหล่าองค์รักษ์กู่ร้องตอบรับอย่างเฮิกเหิมเตรียมจะพุ่งเข้าไปแต่ก็ต้องชะงัก

เมื่ออาชาสีดำที่ดูไม่มีพิษมีภัยในคราแรกกลับกระทืบเท้าเสียงดัง บรรยากาศน่าขนลุกค่อยๆ ลอยฟุ้งในอากาศจากตัวมัน นัยน์ตาของมันหมุนริ้วสีดำอย่างผิดปกติ 

ส่วนโลกัสเก็บดาบเข้าฝักประคององค์ชายขึ้นไปบนม้าก่อนที่จะถีบเท้ากระโจนขึ้นมานั่งตาม ฟินน์ที่เป็นเสือโคร่งมีส่งเสียงขู่ใส่องค์รักษ์แง่งๆ สองสามครั้งก็กลับคืนเป็นร่างแมวกระโดดขึ้นมาบนตัวเจ้ามาและทิ้งตัวลงบนตักขององค์ชาย

"ไปสิ! เจ้าจะรอให้มันหนีรึไงกัน" หัวหน้าองค์รักษ์ตะโกนเสียงสั่นเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาของเจ้าม้าดำ

แล้วจู่ๆ กลับรู้สึกงุนงงจนมองภาพข้างหน้าไม่เห็น ไม่เพียงหัวหน้าองค์รักษ์ เหล่าองค์รักษ์คนอื่นๆ ก็เช่นกัน รู้สึกหายใจลำบากและเจ็บเสียดในอก แต่พวกเขาก็ยังไม่ย่อท้อสูดหายใจแรงๆ ออกมาสองสามครั้งจนหายตาพร่ากลับมามองได้ชัดเจนเหมือนเดิม

แต่ก็ไม่ทันกาล..

เมื่อภาพตรงหน้าคืออาชาสีดำที่มีปีกคู่ยักษ์กำลังบินหนีไปในอากาศอย่างรวดเร็ว!

-----------------------------

ใกล้ฉากปะทะกันแล้ว  :-[

 :man1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า
 
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
T T

ไอเรส ไม่เรียกทหารมาก็จบไปแล้ว ยังจะไปเรียกมาอีก รู้ทั้งรู้ว่าพ่อยังไงก็ฆ่าเวสเปอร์ จะจับตัวพี่ชายส่งไปทำไม เห้อ~



ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชั่วกันทั้งพ่อ ทั้งน้อง2คน
น่าจะให้เจ้าเสือฆ่าให้ตายไปซะ แค้นแทนเวสเปอร์จริงๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โถ่ไอ สุดท้ายก็ทำกันจนได้ เห้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 16

เจ้าม้าดำโผบินขึ้นไปในอากาศส่งเสียงร้องฮื่อๆ คำรามในลำคอ นัยน์ตาสีดำประหลาดของมันจดจ้องไปยังอากาศข้างหน้าอย่างดุร้ายเมื่อเห็นธนูแสงถูกยิงตามขึ้นมา มันคำรามออกมาครั้งหนึ่งซึ่งไม่ใช่เสียงของม้าป่าแต่เป็นเสียงของสัตว์ร้ายในตำนาน!
เสียงคำรามของมันดังกึกก้องจนธนูที่ส่งมาสั่นน้อยๆ แต่เจตนารมณ์ของเหล่าองค์รักษ์ยังคงถูกฝังอยู่อย่างเหนียวแน่นทำให้ลูกธนูยังดันทุรังเข้ามาใกล้ตัวเจ้าม้าดำได้

"ข้าซื้อเจ้ามาแพง เจ้าช่วยแสดงให้ข้าเห็นหน่อยแล้วกันว่าเจ้าคุ้มค่าพอกับเงินของข้า" พยัคฆ์ดำเอ่ยยิ้มๆ มือสากลูบแผงคอสีดำ
ทมิฬเช่นเดียวกับลำตัว

ครั้งแรกที่เห็นมันโลกัสก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่ม้าธรรมดาแต่เป็นเพกาซัส สัตว์กระหายเลือดที่อาศัยอยู่ในป่าลึกโชคดีที่มันมีอยู่ไม่มากนักเพราะอาหารหลักของมันก็คือวิญญาณ โลกัสเคยไปเจอมันเข้าตอนที่เข้าไปในป่าลึกเพื่อหาสมุนไพรหายากมารักษาพิษบาดแผลตัวเอง โชคดีที่ตอนนั้นไม่เกิดการปะทะกันขึ้น ทั้งโลกัสและเพกาซัสจ้องตากันอย่างลองเชิงก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง นักล่าย่อมไม่ล่ากันเอง นั่นอาจจะเป็นอีกนิยามหนึ่งการใช้ชีวิตเพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังอาจจะทำให้ตายทั้งคู่

เพียงแต่ครั้งนั้นที่โลกัสเคยเห็นมันเป็นสีขาวไม่ใช่สีดำทมิฬเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นตาลุงหน้าเลือดนั่นอาจจะพอมองออกอยู่บ้างว่าเจ้าม้าดำนี่ไม่ใช่ม้าที่มีดีแค่ฝีเท้าจัดจ้านอย่างที่มันคิด ส่วนสาเหตุที่เจ้าม้าดำกลับไปหาตาลุงนั่นบ่อยๆ ก็คงเพราะว่ามันได้กลืนกินวิญญาณมนุษย์พวกนั้นไปแล้วและต้องการนายคนใหม่เพื่อเป็นอาหารจานใหม่่ของมัน

แต่ครั้งนี้มันอาจจะไม่ได้ทำเช่นนั้นเพราะเจ้านายครั้งนี้ของมันไม่ใช่มนุษย์ที่มีดีแค่เงินกับเวทย์นิดๆ หน่อยๆ อย่างที่เคยเป็นแต่มันก็ไม่ได้เศร้าโศกเสียใจนักเพราะครั้งนี้มันก็แค่รู้สึกถูกใจกลิ่นอายกระหายเลือดที่เหมือนกับมันกับกลิ่นหอมจางๆ คล้ายลูกม้าของมนุษย์ผมสีขาว

ภายในท้องของมันยังอัดแน่นไปด้วยวิญญาณมนุษย์มากมาย มากเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกินอะไรไปอีกนาน หญ้าที่มันกินก็เป็นแค่การขบเคี้ยวเล่นๆ เท่านั้น รสชาติหวานของหญ้าสำหรับมันแล้วเทียบไม่ได้เลยกับรสชาติหวานจัดของวิญญาณมนุษย์ที่มันได้กัดกินเข้าไปอย่างตะกละตะกลามเมื่อมีโอกาส

เจ้าม้าดำสะบัดหัวมันน้อยๆ เชิงรับรู้ แม้ว่ามันจะยอมรับพยัคฆ์ดำกับเวสเปอร์แต่ก็ไม่ได้หมายความมันจะยอมให้เป็นนายของมัน 
หมอกดำที่แผ่จางๆ ข้างลำตัวของเจ้าม้าดำเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำแล้วพุ่งไปคลุมลูกธนูทั้งหมดอย่างรวดเร็วจนมีเสียดกรีดอากาศและเสียงร้องของอะไรบางอย่างที่น่าสยดสยอง 

แสงกับความมืดแม้นในเวลาปกติมันจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติเฉกเช่นกับท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืนแต่หากมันได้มีโอกาส
ปะทะกันก็..

ตูม!!!

เสียงระเบิดกัมปนาทดังสนั่น ลูกธนูหายไปในพริบตาหมอกสีแดงก่ำส่งเสียงครืดๆ คล้ายกับกำลังขบเคี้ยวของแข็งบางอย่างก่อนที่มันจะลอยล่องกลับมาหาเจ้าม้าดำ

"หึ ขุมพลังจากวิญญาณสินะ" โลกัสกล่าวอย่างไม่ประหลาดใจนัก

เจ้าม้าดำส่งเสียงหึในคำ ปีกคู่ยักษ์บนหลังตีอากาศแรงขึ้นทำให้ร่างของมันโฉบไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มันเบื่อที่จะเล่นสนุกกับพวกลูกธนูไร้สาระพวกนี้แล้ว 

พยัคฆ์ดำคลี่ยิ้มปล่อยให้เจ้าม้าดำนำทางไปโดยไม่กล่าวอะไร เพราะดูเหมือนจะรู้แล้วว่านักฆ่าอย่างเขากำลังคิดจะทำอะไร
ซึ่งการเห็นปลายยอดปราสาทสูงลิบจากตรงนั้นก็น่าจะเป็นหลักฐานได้ดี

"ฮือ..." เสียงร้องครือดังเบาๆ แทบจะถูกเสียงหวีดหวิวของอากาศรอบด้านกลืนไปแต่โลกัสก็ยังได้ยินอยู่ดี มือหนาลูบหัวองค์ชายพยายามปลอบประโลม

"เจ้าเลิกสนใจครอบครัวของเจ้าเถอะเวสเปอร์" โลกัสโน้มตัวลงกระซิบข้างหู 

เวสเปอร์ไม่ได้ตอบรับทำเพียงแค่นั่งสะอื้นเงียบๆ

ที่ผ่านมาใช่ว่าเวสเปอร์จะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เพียงแค่ไม่อยากจะยอมรับเท่านั้นว่าตัวเองโดนเกลียดและทอดทิ้งจริงๆ จึงเลือกที่จะปล่อยผ่านมันไป บางสิ่งที่คิดแล้วเจ็บปวดก็จะไม่ใส่ใจมัน ในหัวพยายามซึมซัมเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อกลบทิ้งความอัดอั้น
ตันใจเลวร้ายในอก

แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว มันชัดและตรึงแน่นในหัวของเวสเปอร์ ต่อให้อยากลบก็ทำไม่ได้ทำได้เพียงแค่ยอมรับความจริงโดยไม่จำยอม

"เจ้าเสือ..." เวสเปอร์พูดเสียงสั่นพร่าก้มมองแผงคอนุ่มๆ ของเจ้าม้าแล้วใช้มือลูบเล่น นัยน์ตาสีทองส่อประกายระริก "เจ้า ไม่

เกลียด.. ข้าใช่ไหม" องค์ชายพูดอย่างแช่มช้าพยายามไม่พูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างที่เคยเป็น

ท่านพ่อบอกว่ามันน่ารำคาญ พี่น้องของเขาเคยกล่าวว่ามันปัญญาอ่อน

ข้ายอมรับแล้ว.... อย่าเกลียดข้าเลยนะ

องค์ชายปล่อยให้น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลอาบใบหน้า

ถ้าข้าไม่ปัญญาอ่อนทุกอย่างจะจบลงแบบนี้รึเปล่านะ..? ท่านพ่อจะยังรักข้าเหมือนเดิมใช่ไหม ท่านแม่ก็ด้วย รวมถึงพี่น้องของข้าด้วย ถ้าข้าไม่ปัญญาอ่อน ทุกอย่างจะไม่จบลงแบบนี้ใช่ไหม..

ทำไมข้าถึงต้องปัญญาอ่อนด้วยนะ?

ข้าไม่เข้าใจเลย.. ไม่เคยเข้าใจสักนิด

แต่ตอนที่ข้ายังเด็กข้าก็ยังปกติดีนะ.. ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ สุดท้ายแล้วข้าก็ต้องตายเหมือนคนอื่นๆ สินะ ในเมื่อองค์ชายที่ปัญญาอ่อนคงจะไม่เป็นที่ต้องการของเมืองเอวินด์สักเท่าไหร่และน้องชายของข้าก็ดูเหมือนว่าจะทำหน้าที่แทนข้าได้ดีด้วย

แล้วเจ้าเสือล่ะ.. คิดยังกับข้า..?

ถ้าหากเจ้าเสือเกลียดข้าอีกคน.. ข้าก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

"ตอบสิ โลกัส" องค์ชายกระซิบ

โลกัสเบิกตาน้อยๆ รู้สึกประหลาดใจที่ชื่อของตัวเองถูกเรียกออกมาครั้งแรกแต่ไม่รู้ทำไมกลับไม่รับรู้ถึงความดีใจของตัวเองแม้แต่นิดเดียว 

การเรียกชื่อครั้งนี้สัมผัสได้ถึงความห่างเหินและสนิทสนม

"เรียกเจ้าเสือสิ" เสียงทุ้มพร่าพูดตอบ "ข้าไม่มีวันกลียดเจ้า เวสเปอร์ ข้าจำได้ว่า ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วนะ"

เวสเปอร์หัวเราะเบาๆ  สีหน้าเศร้าหมอง

"เกลียดได้สิ ท่าน.. พ่อยังเกลียดข้าเลย"

"ไม่เอา ไม่พูดสิ องค์ชายของข้า" มือหยาบกร้านลูบริมฝีปากองค์ชายอย่างอ้อยอิ่ง "ไม่ดีเลย"

เวสเปอร์ปัดมือโลกัสออก "เจ้าทิ้งข้า..ไปเถอะ โลกัส ข้าไม่ ไม่" องค์ชายหยิกเนื้อตัวเองเมื่อเผลอติดอ่างออกไป "ข้าไม่มี
ประโยชน์สำหรับใครหรอก"

หากโลกัสทิ้งตนจริงๆ เวสเปอร์ก็ตั้งใจว่าจะลองพยายามใช้ชีวิตด้วยตัวเองดู กับแค่อาการปัญญาอ่อนของเขาคงจะไม่เป็นปัญหาในเรื่องรับใช้คนอื่นหรอกมั้งหรือต่อให้ต้องทำอย่างอื่นที่หนักหนาสาหัสกว่านี้ก็คงจะไม่เกี่ยง 
เพราะทางเลือกที่รอเขาให้เดินนั้นมีให้เลือกไม่มากนักหรอก

"ทำไมจะไม่มีล่ะ เจ้าลืมเจ้าเสือของเจ้าแล้วงั้นเหรอองค์ชาย" 

เวสเปอร์ยิ้นเฝื่อนๆ

"ท่านไม่ใช่..เจ้าเสือของข้าหรอก ท่าน.. เป็นตัวท่านเอง โลกัส"

โลกัสขมวดคิ้วมุ่นจับตัวองค์ชายพลิกให้นั่งมาหันหน้ามาหาตัวเอง เห็นหน้าซีดเผือดขององค์ชายกับนัยน์ตาแดงก่ำที่มาจากการร้องไห้ซึ่งตอนนี้สีหน้าขององค์ชายเจ็บปวดมากจนคนมองรู้สึกอึดอัด

องค์ชายของข้าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ทำไมเจ้าต้องส่งสีหน้าเจ็บปวดขนาดนี้ สีหน้าที่เหมือนกับสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว แม้แต่หัวใจที่กำลังเต้นตึกตักอยู่ในอก

"ข้ารู้ว่าสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เจ้าต้องผ่านมันไปให้ได้สิองค์ชาย"  น้ำเสียงอ่อนโยนสบมองนัยน์ตาสีทองสั่นระริก จ้องมันอย่างเผลอไผลก่อนจะโน้มคอลงไปบดเบียดริมฝีปากของเวสเปอร์

องค์ชายที่มีความเศร้าสุมอยู่เต็มอกไม่มีกระจิตกระใจมาตกใจมากนักจึงทำเพียงแค่พยายามผลักพยัคฆ์ดำออก แต่ความร้อนรุ่มจากเจ้าเสือที่แผ่เข้ามาในร่างกายทำเอาทุกอย่างในหัวขาวโพลน

ลืมความเศร้า การหักหลัง การโดนทอดทิ้ง

ในหัวมีเพียงความว่างเปล่ากับความรู้สึกแปลกประหลาดที่แทรกแซงเข้ามาในอก ความรู้สึกที่เหมือนกับถูกกระชากเข้าในโลกประหลาดที่มีเพียงแค่เจ้าเสือกับเขา สิ่งที่เห็นอยู่ในโลกประหลาดนั้นไม่ใช่เจ้าเสืออย่างที่เคยเป็น แต่เป็นเสือดำขนาดยักษ์
กระโจนเข้ามาตะครุบบนตัวใช้นัยน์ตาแดงก่ำมองเขาที่อยู่ใต้เท้านิ่งงัน แต่เรื่องแปลกอีกอย่างคือเขาไม่รู้สึกกลัวเจ้าเสือดำนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

องค์ชายส่งเสียงเครือในลำคอเมื่อถูกเจ้าเสือสอดมือเข้าไปในเสื้อและลูบเนื้อตัวอย่างหยาบโลน 

โลกัสขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยริมฝีปากออกมา เริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำ ใจหนึ่งก็อยากดึงตัวเองออกมาเพราะ
คำว่าน้องชายที่ฝังในหัว ถึงแม้พยัคฆ์ดำจะเป็นนักรักแต่ก็ไม่เคยลองกับชายแม้แต่ครั้งเดียว การยอมรับว่าตัวเองลุ่มหลงในตัวองค์ชายอาจจะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากอยู่บ้าง ทำให้ตอนนี้โลกัสยังสองจิตสองใจ

มือไม้ยังเฟ้นฟ้อนไปทั่วตัวเวสเปอร์ ในหัวตีกันวุ่นวายระหว่างคำว่าน้องชายกับกวางของข้าๆๆๆ

เวสเปอร์ที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องพวกนี้ตัวอ่อนยวบเหมือนแมวขี้เซา ใบหน้าแดงก่ำยันลำคอ

ฮื่ออออ

เจ้าม้าดำคำรามออกมาเสียงไม่ดังมากนักอย่างหงุดหงิด เมื่ออาคันตุกะทั้งสองที่อยู่บนหลังมันทำท่าจะพลอดรักกันโดยไม่สนใจมันแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ติดว่ามันไม่อยากโดนตามฆ่ามันคงจะสลัดทั้งสองออกจากหลังแล้วกลับไปหาลุงบ้าๆ นั่นแล้ว

โลกัสขมวดคิ้วมุ่นยอมผละออกมาจากองค์ชาย มือประคองตัวองค์ชายไว้ไม่ให้ตกจากหลัง แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ยังคงรู้สึกถึงรสชาติหวานๆ ขององค์ชาย แต่เมื่อสบกับองค์ชายที่มีสีหน้าประหลาดเหมือนยังตกอยู่ในภวังก์ก็เผลอยิ้มออกมา

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ใช่น้องชายข้าแล้วล่ะ เวสเปอร์"
 

พิธีแต่งตั้งกำลังจะถูกจัดในวันรุ่งขึ้นเพราะคำสั่งจากกษัตริย์เมืองเอวินด์ ท่านต้องการให้มันมีขึ้นให้ไวที่สุดเพื่อทำลายแผนของผู้ไม่หวังดีที่พยายามจะยื้อเวลาให้นานขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นยิ่งเฟเนกส์ขึ้นครองบัลลังก์ไวก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เรื่องการตระเตรียมงานไม่ใช่ปัญหาเพราะทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างเนิ่นนานแล้วรอเพียงแค่กำจัดองค์ชายเวสเปอร์ออกไปอย่างละมุนละม่อม 
การก่อกบฎของพวกทหารที่เกิดขึ้นในวันนั้นล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกคนในรั้วปราสาทล้วนรู้เห็นและปิดปากเงียบ ส่วนพวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบนอกรับรู้เพียงว่าเกิดการก่อกบฎภายในวังแต่องค์ชายเฟเนกส์ก็ควบคุมเอาไว้ได้โดยมีข่าวร้ายอย่างเรื่องการสูญเสียรัชทายาทไปแต่ก็อย่างที่รู้พวกเขาไม่ได้สนใจนัก 

บุคคลภายนอกที่ได้ยินเรื่องราวขององค์ชายเฟเนกส์ก็จะเกิดความเลื่อมใสและศรัทธาโดยไม่รับรู้ความจริงที่ว่าได้เกิดการฆ่าเพื่อแย่งชิงบัลลังก์กันภายในอาณาจักรเอวินด์ ความโหดร้ายของกษัตริย์จะไม่ถูกเปิดเผย ความสัมพันธ์ระหว่างดินแดนอื่นจะไม่สั่นคลอนเพราะความหวาดกลัวในความโหดเหี้ยมของกษัตริย์เมืองเอวินด์ ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปอย่างเรียบนิ่งและมั่นคง รอให้องค์ชายเฟเนกส์เข้ามาครองบัลลังก์

แต่ทุกอย่างที่สร้างมากลับถูกฟินน์พังไม่เป็นท่า

-----

หายไปเกือบ 2 อาทิตย์แน่ะ  o22

ขอโทษค่ะ  :hao5: ช่วงนี้ยุ่งๆ กับต้นฉบับกับการสอบมาก ฮือๆ
 
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
คุ้มกับที่ตาค้างรอ~


กรีดร้องให้เวสเปอร์ น่าสงสารมากๆเลยอ่ะ ยิ่งตอนที่หยิกตัวเองแล้วปวดใจแทน T T

***

กลับมาอึ้งเพกาซัสโหมดนี้ ดุร้ายชะมัดเลย ><

ตอนนี้อยากรู้มาก สาเกตุทำไมเวสเปอร์ถึงปัญญาอ่อน?? ใครวางยาหรือยังไง??

ปอลิง ถึงเจ้าเสือ จงลิ้มรสเวสเปอร์ แล้วหญิงอื่นก็ไร้ความหมาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2016 08:27:37 โดย BlueCherries »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบที่คนแต่งบอกว่าเขาเลื่อนขั้นมารักกัน แล้วตัดไปที่เลื่อนขั้นราชา  :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเวสเปอร์ตอนเด็กๆ แน่เลย ถึงได้กลายเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ felixia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
โอย  เจ้าเสือ กว่าจะรู้ตัวได้นะพ่อคุณ

สงสารเวสเปอร์จังเลยค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
เจ้าม้าดำจะมาเป็นพวกด้วยมั้ยเนี่ยยยย

ออฟไลน์ targetsii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารเวสเปอร์อ่าา โดนคนที่รักหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เจ้าเสือไม่ทำแน่นอนเนอะะะ
ฟินตอนเขานัวกันบนหลังเพกาซัส  :z1:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
องค์ชายเวสเปอร์ถูกลักพาตัวไปและยังรอดชีวิต ทุกหนทุกแห่งในดินแดนมนุษย์รับรู้ถึงข่าวนี้แต่กลับไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์ ในตอนนี้กษัตริย์เอวินด์แทบจะเป็นใหญ่ที่สุดแล้วในดินแดนมนุษย์รองจากกษัตริย์จากเมืองโฮรัส ถ้าหากมีหนอนบ่อนไส้ในวงคาบข่าวไปบอกคงไม่วายถูกตามฆ่าเพราะกษัตริย์แห่งเมืองเอวินด์นั่นเกลียดการถูกกล่าวถึงบุตรชายคนโตของตัวมากถึงมาุกที่สุด

หากจะเล่าถึงสาเหตุการเกลียดคงต้องเท้าความไปเมื่อตอนที่กษัตริย์เมืองโฮรัสได้มาเยือนเมืองเอวินด์ ในเวลานั้นปราสาทของเมืองเอวินด์ถูกตกแต่งอย่างหรูหราเพื่อแสดงถึงอำนาจของเมืองเอวินด์ จุดประสงค์ในการพบปะครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงการเชื่อมสัมพันธไมตรีแต่เป็นการเอ่ยเตือนกษัตริย์แห่งเมืองโฮรัสให้ระวังตำแหน่งของตัวเองให้ดี กษัตริย์เมืองโฮรัสที่รับรู้ถึงเจตนา
แอบแฝงก็เพียงแค่ยิ้มรับไม่กล่าวอะไรเพราะหากพูดอะไรไม่เข้าหูในตอนนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน แม้ว่าจะเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเองก็ตามแต่การอยู่ในถิ่นของศัตรูโดยไม่มีอาวุธครบมือคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะเปิดสงคราม

งานเชื่อมสัมพันธไมตรีเป็นไปอย่างเรียบง่าย หน้ากากอันใหญ่ถูกสวมบนใบหน้ากษัตริย์แห่งเอวินด์ คำพูดแต่ละคำแม้จะสวยหรูแต่เต็มไปด้วยคำเชือดเฉือนหากเปรียบมันกับใบมีดคมๆ เนื้อของกษัตริย์เมืองโฮรัสคงขาดไม่มีชิ้นดี

"ข้าเคยได้ยินว่าท่านมีลูกด้วยนี่ ท่านไซมอนด์" เลฟหรือกษัตริย์แห่งเมืองแสงสว่างพูดด้วยรอยยิ้มไมตรีจิตแต่นัยน์ตาสีทองสว่างกลับเต็มไปด้วยความสะใจเมื่อเห็นท่าทีชะงักไปของอีกฝ่าย 

"มีสิ ท่านเลฟ แต่ลูกข้าเรียนหนักจนไม่สบาย น่าเสียที่ให้มาหาท่านไม่ได้" ไซมอนด์กล่าวตอบด้วยยิ้มแต่สีหน้าแข็งกร้าว แก้วในมือแทบจะร้าวเมื่อรู้ว่ากำลังถูกไล่ต้อนเรื่องอาการป่วยของเวสเปอร์

ข้ารู้ดี รู้ดีที่สุด ถึงอาการป่วยปัญญาอ่อนของมัน! และไม่ต้องการให้ใครเข้ามาสอดเรื่องนี้ ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดในดินแดนมนุษย์ก็ตาม

"ถ้าท่านอยากเจอบุตรชายของข้าจริงๆ ก็คงต้องเป็นเฟเนกส์ ตอนนี้กำลังอยู่ในวัยซุกซนชื่นชอบการเล่นสงครามมาก ข้าพยายามสอนเรื่องการสร้างพันธมิตรแต่ก็ดูลูกข้าจะไม่ชอบมันสักเท่าไหร่"

ในอกของเลฟเต็มไปด้วยคำสบถอย่างหงุดหงิด นานแล้วที่ไม่มีใครกล้าวางท่าใส่ข้าแบบนี้ ไม่ใช่ข้าหรือไงกัน? ที่คอยไกล่เกลี่ยเรื่องระหว่างดินแดน ดูพวกโง่พวกนี้มันจะอยู่อย่างสบายเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั้งเลยคิดจะโค่นบุตรแห่งแสงสว่างอย่างข้าและครองตำแหน่งของข้าแทน คิดจริงๆ งั้นเหรอว่าเมืองแห่งสายลมโง่ๆ อย่างพวกเจ้าจะเอาชนะเมืองแห่งแสงสว่างอย่างข้าได้!

"หึ ข้าอยากเจอบุตรชายปัญญาอ่อนของเจ้า ข้าเคยได้ยินเรื่องตลกระหว่างว่าองค์ชายเวสเปอร์แยกไม่ออกว่าควรทำสิ่งใดและไม่ควรทำสิ่งใด เรื่องที่ข้าชอบที่สุดคงจะเป็นเรื่องที่เวสเปอร์ชวนเจ้าอาบน้ำตอนที่เจ้ากำลังจะออกไปพบปะประชาชน อ้อ บุตรของเจ้า อายุเท่าไหร่นะ? ดูเหมือนว่าจะสิบห้าปีแล้ว น่าเสียดายที่ความคิดยังวนเวียนอยู่ที่สามขวบ ข้าล่ะสงสารเมืองเอวินด์จริงๆ ที่จะต้องได้บุตรชายปัญญาอ่อนของเจ้ามาครองเมือง เอ้ะ หรือว่ามันจะเป็นเรื่องดีนะ กษํตริย์ปํญญาอ่อน ชาวเมืองปัญญาอ่อน ฮ่าๆ ข้าว่าพูดไปมันก็ตลกดีนะ หึหึ" ความหงุดหงิดเริ่มครอบงำกษัตริย์เมืองโฮรัสจนไม่อาจเก็บไว้ซึ่งความสุภาพเหมือนเดิม

แต่เขาก็ไม่คิดจะแก้แต่อย่างใดเพราะสิ่งที่กล่าวมาล้วนเป็นความจริงที่มันไม่มีทางปฎิเสธได้!

กลิ่นความเลือดคลุ้งในปากกษัตริย์แห่งเมืองเอวินด์ เมื่อถูกสบประมาทซึ่งๆ หน้าโดยที่ตัวเองไม่สามารถปฎิเสธได้แม้แต่อย่างเดียว สิ่งที่มันพยายามไม่นึกถึงก็ถูกเลฟขุดคุ้ยขึ้นมาจนปรากฎเต็มหัว ยิ่งเสียงหัวเราะไม่จริงใจยิ่งทำให้มันโมโหมากขึ้นไปอีก มือหนาจิกลงบนเบาะจนเกิดรอยถลอกเป็นแนวยาว ตาขึ้นสีแดงก่ำ 

"เจ้า..!" ไซมอนด์คำรามออกมา

"ท่านพ่อ! ข้า ข้าเก็บดอกไม้มาฝากท่าน ท่านด้วย" เสียงใสๆ ดังขึ้นขัดจังหวะในห้องซึ่งมาพร้อมกับเสียงร้อนรนของคนรับใช้ที่อุทานไล่หลัง

ร่างองค์ชายวิ่งต็อกแต๊กเข้ามาในห้องด้วยชุดมอซอในมือเต็มไปด้วยเศษกลีบดอกไม้สีขาวที่ท่านแม่เคยบอกเอาไว้ว่าท่านพ่อชอบ เวสเปอร์ยิ้มน่ารักเมื่อเข้าไปใกล้พ่อของตัวเองได้และยื่นดอกไม้ให้

เลฟยิ้มอย่างพอใจเมื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินมานั่นเป็นความจริง 

คนเป็นพ่อสบมองเศษซากสวะอย่างดุร้ายในหัวแบ่งแยกไม่ออกว่าสิ่งใดกันแน่ที่เป็นลูกชายของตนเอง สีหน้าสะใจของเลฟทำให้ไซมอนด์ขาดสติ เขาเกลียดความพ่ายแพ้มากที่สุด!! 

ตึง!!

ตัวของเวสเปอร์ถูกกระชากขึ้นและโยนออกจากห้องอย่างรุนแรง

ไซมอนด์มองตามอย่างกราดเกรี้ยว "เจ้าจะเข้ามาทำไม ให้ข้าอับอาย!! ออกไป! ถ้าเจ้าไม่ออกไปข้าจะฆ่าเจ้า!!" คำรามออกมาดังลั่น ความเกลียดในอกเพิ่มขึ้นทวีคูณ

เวสเปอร์คู้ตัวอย่างเจ็บปวดสะอื้นฮักในมือยังกำดอกไม้ไว้แน่นแม้จะว่าร่างกายจะเจ็บไปทั้งร่าง แม้แต่ตอนที่ถูกคนรับใช้พยุงออกไปก็หวีดร้องออกมาด้วยเสียงน่าสงสารเมื่อมื่่นั้นเจ็บเกินกว่าจะกอบกุมดอกไม้เอาไว้ทำให้มันปลิวหายไปในทันที

คนเป็นชนวนเหตุมองตามอย่างไม่เชื่อสายตา "อย่างน้อยเวสเปอร์ก็เป็นลูกของเจ้านะ ไซมอนด์"

"ข้ามีเฟเนกส์เป็นลูกชายคนเดียวเท่านั้น" 

ในขณะที่พูดปลายเท้าก็บดขยี้ดอกไม้สีขาวที่ปลิวมาตกตรงหน้าจนเป็นจุล สีหน้านิ่งเฉยราวกับว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งปรกติไม่ควรค่าแก่การใส่ใจแม้แต่นิดเดียว

เลฟมองกลีบดอกไม้เล็กๆ บนพื้น ในใจเกิดความกลัวในความอำมหิตของไซมอนด์ไม่น้อย ข่าวสารภายนอกกล่าวไว้เพียงไซมอนด์เป็นคนเย็นชาไร้หัวใจแต่สิ่งที่เขาพบมันแย่และเลวร้ายกว่านั้นมาก

"จงรักษามารยาทของการมาเยือนให้ดี เลฟ" ผู้เป็นเจ้าบ้านพูดเสียงเย็น 

เลฟกระตุกยิ้มตอบ "แน่นอน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่มีแค่ข้ากับเจ้ารับรู้"

เรื่องราวความอำมหิตของกษัตริย์จึงยังคงเป็นความลับเช่นเดิม
 

"เฟเนกส์ เจ้าพร้อมหรือยังสำหรับวันพรุ่งนี้?" น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยถามบุตรชายของตนเองในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ในห้องโถงหรูหราในห้องมีทหารอาวุธครบมือยืนเฝ้าระวังจนเต็มพื้นที่

"พร้อมขอรับ ท่านพ่อ" เฟเนกส์ตอบรับสั้นๆ ขึงขัง นัยน์ตาสีทองเป็นประกายเมื่อเห็นท่านพ่อมองตนเองและเห็นภาพของตัวเองสะท้อนอยู่ในตาของท่านพ่อ ความรู้สึกดีใจเต็มตื้นในอกแต่ไม่กล้าแสดงออกมา สีหน้าจึงยังคงนิ่งสงบแม้ว่าใจจริงอยากจะยิ้มกว้างหัวเราะออกมาดังๆ แต่ความดีใจก็ถูกภาพเก่าๆ ซ้อนทับในหัว

นานแค่ไหนแล้วนะ? ที่ท่านพ่อไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตา

เฟเนกส์ชะเง้อหน้ามองจากประตูเห็นพี่ชายตัวเองกำลังหัวเราะคิกคักอยู่บนตักท่านพ่อ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจปนอิจฉาก็เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าจนกลับมามองเวสเปอร์ในรูปของครอบครัวไม่ได้อีกต่อไป เพราะเวสเปอร์เป็นศัตรูตัวฉกาจที่แย่งทุกสิ่งที่ข้าต้องการไป! 

หลังจากนั้นทุกครั้งที่พบปะเวสเปอร์ เฟเนกส์จะวางท่าทีเมินเฉยไม่สนใจไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำดีกับตัวเองมาแค่ไหนก็ตาม ความจงเกลียดจงชังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความรักที่ท่านพ่อให้มัน!

และดูเหมือนวันหนึ่งคำสาปแช่งของข้าก็เป็นจริง จู่ๆ เวสเปอร์ก็กลายเป็นคนปัญญาอ่อน พูดติดอ่าง สติปัญญาไม่ดีทั้งๆ ที่ตอนเด็กๆ นั้นดูจะเก่งกาจไปซะทุกอย่าง 

สิ่งที่ทำให้ข้าดีใจจนแทบคลั่งก็คือท่านพ่อทิ้งมันและกลับมาหาข้า! น่าเสียดายที่ท่านแม่ดูจะรักไอ้พี่เวรนั่นมากกว่าข้าเลยเลือกที่จะไปอยู่บ้านเก่าของพวกข้ารับใช้ แต่ข้าไม่สนใจหรอก ในเมื่อท่านพ่อกลับมารักข้าแล้ว ทุกอย่างมันก็ไม่สำคัญแล้ว ดูตอนนี้สิ ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง ท่านพ่อรักข้าแล้ว ข้ายังจะต้องการอะไรในชีวิตอีก?

ไม่ว่าท่านพ่อของข้าต้องการอะไรข้าก็จะทำ อย่างเรื่องการฆ่าเวสเปอร์ที่ท่านพ่อสั่งมา ข้าก็ยินดีที่จะทำมันมาก ข้าเสียดายโอกาสนั่นชะมัด พยัคฆ์ดำมันไม่น่าเข้ามาขัดจังหวะจริงๆ

"ดี" องค์กษัตริย์เอ่ยชมสั้นๆ ตามความเคยชิน

แต่องค์ชายเฟเนกส์กลับดีใจจนเผลอยิ้มออกมาครั้งหนึ่งและรีบกลบเกลื่อนมันไปด้วยการตัดชิ้นเนื้อใหญ่ๆ เข้าปากตนเอง
 
นัยน์ตาทรงอำนาจที่ไม่ได้สนใจเฟเนกส์ตั้งแต่แรกหันไปให้ความสนใจกับกระจกบานยักษ์ที่ด้านหลังบานเป็นความมืดมิดพระจันทร์เหลือเพียงเสี้ยวเดียวและยังเป็นสีแดงก่ำ

ร่างทรงอำนาจขมวดคิ้วมุ่นทันทีเมื่อรับรู้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง

เพล้ง

กระจกบานใหญ่ถูกทำลายด้วยเหยี่ยวหิมะขนาดยักษ์กางปีกกว้างจนแทบจะบังกระจกทั้งหมด มันอ้าปากกว้างกรีดเสียงร้องบาดหูก่อนจะบินโฉบไปหาราชาแห่งเมืองเอวินด์และรีบบินหนีออกไปทันทีก่อนที่พวกทหารจะไหวตัวทันและจับมันเอาไว้ได้

กระดาษเนื้อดีสีแดงก่ำถูกหย่อนลงตรงหน้าไซมอนด์

คนเป็นราชาหยิบมันขึ้นมาคลี่อ่านทันที

หากแม้นองค์ราชันย์คงคิดทรราชย์ พวกข้าคงนิ่งเฉยไม่ได้

เมื่ออ่านจบกระดาษก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทันที นัยน์ตาสีทองของไซมอนด์ค่อยๆ ถูกแทรกซึมจนกลายเป็นสีแดงก่ำคล้ายกับปีศาจกระหายเลือด! 

ทรราชย์ของพวกมันคงกำลังจะหมายถึงข้าที่กำลังจะทำใหเฟเนกส์เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ ทั้งๆ ที่เวสเปอร์ยังมีชีวิตอยู่สินะ นี่อาจจะเป็นเรื่องผิดประเพณีของเมืองแต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกมัน

ไซมอนด์ขบกรามจนเกิดเสียงบาดหู

"ข้าจะน่าจะฆ่ามันเอง"

แต่ก่อนที่จะหงุดหงิดไปมากกว่านี้ก็มีองค์รักษ์วิ่งหน้าตื่นฝ่าวงทหารเข้ามาหยุดยืนตรงหน้ากษัตริย์ไซมอนด์

"ข่าวด่วนขอรับ! พยัคฆ์ดำบุกเข้าในเมืองขอรับ! แล้วอีกฝั่งหนึ่งของเมืองก็มีผู้แอบอ้างว่ามีองค์ชายเวสเปอร์อยู่และจะพาองค์ชายเวสเปอร์กลับมาทวงบัลลังก์ขอรับ!" 

-------------

บัลลังก์เดือดพล่าน  :katai1:
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
= =

ตกลงใครทำให้เวสเปอร์เป็นแบบนี้??


รู้ตัวแล้วจะกระทืบให้เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด