☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 43277 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.6 (17/1/59)
«ตอบ #30 เมื่อ17-01-2016 13:49:56 »

 :katai1: :katai1: :katai1: ง่าาาาา. อีทรายนี้ใครอะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.6 (17/1/59)
«ตอบ #31 เมื่อ17-01-2016 13:56:41 »

นายแมน...อย่าร้องไห้อีกนะ น้องแมทธิวเขาคุยกับคนรู้จักเฉยๆ (มั้งนะ)
ป.ล.รักกัน เปิดใจกันเร็วๆ นะทั้งคู่

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.6 (17/1/59)
«ตอบ #32 เมื่อ17-01-2016 14:33:30 »

 :mew4:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.6 (17/1/59)
«ตอบ #33 เมื่อ17-01-2016 17:29:06 »

สนุกดีค่ะ แมทธิวทั้งหล่อ ทั้งอบอุ่น ทั้งนิสัยดี น่ารักมาก
ไม่แปลกที่พี่แมนยิ่งได้รู้จัก จะยิ่งหลงรักอ่ะนะ
ตอนนี้อยากรู้ความรู้สึกทางด้านแมทธิวบ้างจัง
ตกลงเกลียดเกย์จริงเหรอ แล้วที่ว่าชอบแนทนี่ยังไง
คนชื่อทรายเป็นใคร ที่สำคัญ รู้สึกยังไงกับพี่แมนกันแน่จ้ะ
รอตอนต่อไปน้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.6 (17/1/59)
«ตอบ #34 เมื่อ17-01-2016 18:39:30 »

พี่แมนคนเจียมตัว? ไม่รู้ว่าพี่แมนดราม่าเองหรือว่าจริงๆแล้วมันดราม่ากันแน่
ยังไงก็คงต้องตามกันต่อไป อิอิ

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Chapter 7 : Come over me tonight




ผมยืนถือเสื้อยืดย้วยๆ ไว้ในมือตัวเองอยู่หน้ากระจก และจ้องภาพในกระจกที่สะท้อนหน้าท้องที่เริ่มมองไม่เห็นมัดกล้ามเนื้อของผม อันเป็นผลมาจากช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นไปกับเรื่องของแมทธิว

มุมปากผมยกยิ้มขำตัวเอง ก่อนที่ผมจะรีบสวมเสื้อแล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงดิ่งไปยังกองชีทบนโต๊ะหนังสือที่ผมลงทุนรื้อมาเพื่อเอาไปให้คนที่ผมเพิ่งกล่าวถึง

อีกประมาณอาทิตย์นึงก็จะสอบไฟนอลแล้ว เวลาผ่านไปไวจนนึกว่านี่คือนิยาย แต่ผมก็เคลียร์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องการศึกษาของตัวเอง แถมยังเผื่อแผ่ความหวังดีไปให้แมทธิวด้วยกองชีทมหาศาลที่เจ้าตัวขอมา

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะส่งข้อความบอกให้แมทธิวเข้ามาเอาชีท แต่คิดอีกทีห้องก็อยู่ติดกันแค่นี้ ผมเดินเอาไปให้เองก็ไม่ได้ลำบากเท่าไร คิดได้ดังนั้นผมก็ยกมันมาถือไว้แล้วเดินออกจากห้อง



ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ครับๆ” ผมยืนถือชีทรอเจ้าของห้องมาเปิดประตูให้ ใบหน้าของผมเห่อร้อนขึ้นมาทันที เมื่อเห็นร่างสูงที่มีกล้ามเนื้อแน่นขึ้นรูปชัดเจนทุกส่วน ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวอวดหุ่นเฟี้ยวมาเปิดประตูให้

โคตรสะเทือนใจ ผมอยากทำได้แบบนี้แต่ไม่มีปัญญา ดูสิครับ โลกไม่ยุติธรรม ผมแค่หยุดออกกำลังกายแป๊บเดียว จะกลับมาเป็นไอ้ขี้ก้างอยู่แล้ว

อย่างนี้มันต้องลงโทษแมทธิว ด้วยการให้ผมกัดกล้ามแขนแน่นๆ นั้นสักครั้ง

“ได้แล้วเหรอ ขอบคุณครับพี่” แมทธิวรับมันไปถือก่อนจะยิ้มขอบคุณ “เออ เข้ามาก่อนสิ ผมว่าจะคืนนิยาย หาแป๊บนึง”

จะดีเหรอ!? ผมคิดในใจ แต่เท้าก้าวเข้าห้องแมทธิวเร็วกว่าความคิดอีก แถมยังมีน้ำใจปิดประตูห้องให้เจ้าของห้องด้วย เป็นไงล่ะ

“น่าจะอยู่ในห้องนอน ผมไปหาเสื้อใส่ด้วย รอแป๊บ” พูดจบก็เดินถือชีทเดินเข้าห้องนอนไป ผมนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ มองหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ฉายภาพเกมที่เจ้าตัวเล่นค้างไว้ ก่อนจะหลุบตามองจอยสติคที่ว่างอยู่บนโหน้าโซฟา


แกร๊ก!

เสียงแมทธิวปิดประตูห้องทำให้ผมหันไปมองร่างสูงที่สวมเสื้อออกมาเรียบร้อยแล้ว ในมือของเจ้าตัวถือหนังสือออกมาหาผม ก่อนวางมันลงบนโต๊ะข้างๆ จอยสติค ผมนั่งกอดอกมองเงียบๆ ก่อนจะเปิดปากชวนคุยก่อน

“เล่นเกมตอนนี้อะนะ?” ผมถาม เพราะเห็นว่าใกล้สอบ

“ครับ ทำไมเหรอ มันยังไม่ดึกเลย” แมทธิวว่าพลางหยิบจอยสติคขึ้นมาถือ

ครับ พี่อาจจะสื่อสารพลาดเองทำให้แมทธิวเข้าใจผิด

“เอาสักตาไหม?”

“...” ผมยิ้ม แมทธิวทำหน้าสงสัยคงเพราะไม่ได้เห็นผมยิ้มบ่อยๆ “ก็ดี”



.
.
.
KNOCK OUT!!!
   
“อะไรวะ!?” แมทธิววางจอยสติคลงกับโต๊ะไม่แรงนักแต่มันกระเด้งออกจากโต๊ะร่วงลงพื้น ดีว่าพื้นมีพรมไม่งั้นมีพัง ผมเงยหน้ามองน้องที่ยีหัวตัวเองอย่างหัวเสีย

หึ รู้จักพี่แมนน้อยไป เห็นพี่พูดน้อย คิดว่าจะสอยพี่ง่ายๆ ล่ะสิ

“อีกตาไหม?!” ผมเลิกคิ้ว ไม่ได้จงใจจะท้าทาย แต่อยากยื้อเวลาจะได้ใช้กับแมทธิว

ได้เห็นแมทธิวมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจทำความรู้สึกมันดำดิ่งลึกมากกว่าที่เป็นอยู่

แต่ถามหน่อยเถอะครับ ได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบนานๆ ใครจะปฏิเสธล่ะ ผมคนนึงแหละที่ไม่

“ไม่ชนะไม่นอนครับ” แมทธิวหยิบจอยสติคขึ้นมาหมายมั่นปั้นมือ

กลายเป็นว่าผมก็ได้อยู่กับแมทธิวจนดึกดื่นสมใจทีเดียว



.
.
.

“ชนะอีกแล้ว ฮ่าๆๆ” แมทธิวบุกขึ้นยืน ชูแขน เชิดหน้าดีใจ เหมือนนักฟุตบอลตอนทำประตูได้ ร่างสูงหันมายิ้มกว้าง ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผม ผมปรือตามองอีกฝ่ายด้วยความง่วง ก่อนจะพยักหน้าให้ไป

“งั้นพอได้หรือยัง?” ผมเอี้ยวตัวซุกหน้าลงกับแจนที่วางอยู่บนพนักพิงโซฟา หางตาเหลือบเห็นร่างสูงกำลังโน้มตัวลง ชันมือกับหน้าขาของตัวเอง

“ง่วงแล้วแล้วเหรอครับ” เสียงอีกฝ่ายดังชัดอยู่ใกล้หู ผมเงยหน้าอีกทีก็เห็นหน้าของแมทธิวอยู่ห่างแค่คืบ “นอนนี่ก็ได้นะ”

“...!?” ตาปรือแต่สมองผมตื่นมาก ผมซุกหน้าลงกับแขนตามเดิมเพื่อซ่อนรอยยิ้มชั่วร้าย

แมทธิวชวนผมค้าง!!!

“นอนคนเดียวเหงามาก ปกติผมนอนกับแม่ตลอด”

แน้ มีมาอ่อยอีก พูดอย่างนี้พี่แมนรวบหัวรวบหางไม่รู้ด้วยนะ

“โม้... แม่ทูนหัวล่ะสิไม่ว่า” ผมก็บ่นพึมพำของผมเบาๆ เนี่ยแหละ แต่ร่างสูงของแมทธิวอยู่ห่างกับผมแค่นี้เองไง ไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว

“อะไร นี่พี่เห็นผมเป็นพวกชอบนอนกับผู้หญิงไปทั่วเหรอ” แมทธิวดึงแขนผมจนหลุดจากพนักพิงโซฟา ทำเอาผมต้องเงยหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“ก็ไม่เห็นเป็นไร” ผมเอียงคอ แล้วไหวไหล่ “ฝรั่งกับฟรีเซกส์มันเรื่องปกติ”

เดี๋ยวนี้ไม่เกี่ยวกะฝรั่งไม่ฝรั่งด้วย ทำกันทั่วบ้านทั่วเมืองไทยแล้ว

“แต่ผมเป็นลูกครึ่ง ไม่ได้แบบนั้นบ่อยหรอก” แมทธิวยิ้ม ผมหันขวับ ดูรอยยิ้มมีนัยยะนั่นสิ

พี่ฟังทันหรอกนะ ไม่ทำบ่อยแสดงว่าก็เคยทำใช่ไหม!!

ไม่ได้โกรธหรอกครับ ไม่มีสิทธิ์ และก็พอเดาได้ หน้าตาแบบนี้ไม่น่ารอด แต่พอรู้มันก็แอบผิดหวังนิดนึง

ทีผมยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเลย ทั้งๆ ที่เขียนให้คนได้กันไม่รู้กี่ร้อยตอน

“แล้วจะนอนได้เมื่อไร” ผมทำเป็นง่วงจัดกลบเกลื่อนความรู้สึกเหมือนใครมาเกาหัวใจเล่น
 
“จะรีบไปไหน อีกสักตานะ ผมไม่ได้เล่นมันๆ แบบนี้มานานแล้ว”

“เพื่อนมีก็เล่นกับเพื่อนไป”

“เพื่อนไม่ได้เรื่อง ไม่เทพเหมือนพี่” แมทธิวกะพริบตาถี่ๆ แล้วคว้ามือผมไปถือ “นะๆ จะรีบนอนไปไหน”

ผมกระชากมือกลับแล้วค้อนขวับ ปากพูดออกไปทันใจคิด

“ก็กลัวน้องเปลี่ยนใจไล่พี่กลับห้องไงครับ”

ชะอุ๊ย...

“...”

“....” ผมกัดริมฝีปาก ก่อนจะค่อยๆ ระบายยิ้มเฝื่อน “ฮึๆ เหวอเลยเหรอ?”

“พี่แมน...” แมทธิวทำหน้าเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ “งั้นมานอนนี่ทุกคืนเลยดีไหมล่ะ?!”

“ท้าหรือไง?”

“ไม่ท้า นี่ชวนครับ” ไม่พูดเปล่ายังส่งยิ้มละมุนละไมเชิญชวน ผมสบตาคู่นั้นมองหาบางสิ่งอาจซ่อนอยู่ในนั้น

บางสิ่งที่ทำให้หัวใจผมพองฟู เรียกมันว่า ความพิเศษ

“ปกติพวกอังเดร นนท์ บอสก็ค้างกับผมบ่อย แต่พอย้ายมาอยู่นี่มันก็ไม่มาค้างกับผมสักคน” ผมนี่วืด รู้สึกหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ อับอายกับความคิดตัวเองที่คิดว่าแมทธิวชวนค้างด้วยเป็นเรื่องพิเศษ

“เตรียมตัวเลย ฉันจะหอบข้าวของมานอนที่นี่ทุกวัน อย่ามาเสียใจทีหลังจะหาว่าพี่แมนไม่เตือน” แมทธิวยิ้ม กว้างขึ้น และกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนรอยยิ้มนั้นจะเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ

“ฮ่าๆๆ จี้ว่ะ พี่พูดโคตรยาว”




.
.
.

“พี่แมน”

“...” เสียงพลิกตัวดังสวบสาบ ผมที่นอนหงาย เกร็งตัว หลับตาอยู่พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ลืมตาขึ้นดูความเป็นไปของร่างข้างๆ กาย

กลัวเห็นแล้วอดใจไม่ไหว

“หลับแล้วเหรอ?”

“ใช่... โอ๊ย!” ผมโดนแมทธิวหยิกต้นแขนแรงๆ จนต้องร้องออก ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ฝันดีครับ” ผมลืมตา ก่อนจะหันไปสบตากับแมทธิวที่นอนตะแคงจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว แล้วพยักหน้ารับรู้เบาๆ มองอีกฝ่ายค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง ก่อนที่ผมจะกลับเข้าสู่ห้วงนิทราบ้าง

สาบานว่าที่มุมปากยกนี่ไม่ได้ยิ้มนะ กล้ามเนื้อมันกระตุกของมันเอง

แต่รู้อะไรไหม ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้ว ผมยังไม่หลับเลยครับ

ผมค่อยๆ พลิกตัวนอนตะแคงเพราะกลัวแมทธิวจะตื่น ใจเต้นรัวเมื่อได้จ้องใบหน้ายามหลับของแมทธิว และต้องคอยบังคับมือตัวเองไม่ให้ทำในสิ่งที่มันอยากทำ...

ไม่เกี่ยวกับช่วงล่างของผมและของแมทธิวครับ ผมแค่อยากลองไล้สันจมูกโด่งๆ เท่านั้นเอง อะไร คิดไปไกลกันเรื่อย

หรือจริงๆ ผมหลับไปแล้ว แต่คนที่อยู่ตรงหน้าผมนี้คือความฝันกันนะ

มนุษย์ย่อมมีกิเลส และความโลภ ผมรู้ซึ้งก็ตอนที่ใจมันเรียกร้องว่าอยากขยับไปใกล้คนที่นอนหลับอยู่ให้ใกล้กว่านี้

ใกล้กว่านี้ เพื่อให้รู้ว่านี่คือความจริง ที่ผมได้นอนอยู่ข้างๆ คนที่ผมคลั่งไคล้มานาน

เอาน่ะแมน โอกาสดีๆ อาจไม่มีอีกแล้วนะ

ผมค่อยๆ กระดึ๊บๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้แมทธิวที่นอนตะแคงท่าเดิมตั้งแต่ยังไม่หลับ จนอยู่ในระยะห่างที่ผมพอใจคือ 1 คืบกับอีก 2.5 เซนติเมตร

อธิบายอาจไม่เข้าใจ เอาไปว่าใกล้จนได้กลิ่นกายหอม ได้ยินเสียง และสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของแมทธิว....

แค่นี้แหละครับที่ผมต้องการ แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ในที่ของผม ผมจะไม่บุกรุกพื้นที่ของแมทธิวให้อีกฝ่ายลำบากใจ


หมับ!

แขนแกร่งกวาดมากพาดบนตัวผมจนผมสะดุ้งตัวโยน มือหนาไขว่คว้าสะเปะสะปะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะถูกคว้าไปฝังอยู่ในอ้อมกอด


ที่พูดเมื่อกี้... ขอมีข้อยกเว้นในกรณีที่อีกฝ่ายเชิญชวนให้ผมบุกรุกละกันนะครับ


ผมเหลือบตาขึ้นมองสันกรามแมทธิวและกัดปากอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจซุกหน้าลงกับอกแกร่ง หลังจากตัดสินใจเลิกกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมทธิวตื่นมาเห็นสภาพนี้

อนาคตเป็นเรื่องของสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และผมจะไม่กังวลกับมันให้เป็นทุกข์ใจอีกแล้ว

คนเราควรมีความสุขกับปัจจุบันไม่ใช่หรือไงกัน!?



.
.
.

“แมน ไม่ไปกับกูจริงๆ เหรอ?” แนทที่เดินตามหลังผมไม่กี่ก้าววางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งตรงข้ามกับผม

“ไปเป็นก้างขวางคอมึง?” แนทมันชวนผมไปกินข้าวครับ แต่แฟนมันไปด้วย

“ไม่เห็นเป็นไรเลย”แนทยื่นมือมาดึงแก้มผมแรงๆ จนยืดออกอย่างน่าเกลียด ผมกรอกตาอย่างเอือมระอา

“จริงจังเลยนะ กูขี้เกียจ” ผมว่าพลางโยกหัวหลบมือแนทที่ทำท่าจะดึงแก้มอีกรอบ แนทจึงเบะปากใส่ผม แล้วไปกดอะไรยุกยิกกับโทรศัพท์ ผมจึงเข้าโหมดหลับใน

ปกติผมเหม่อต้องคิดพล๊อตนิยายนะ แต่เดี๋ยวนี้เหม่อก็คิดถึงแต่ผู้ชายตลอดเลย


คิดถึงไออุ่นจากอ้อมกอดแกร่ง...


ฮะ!!! เดี๋ยวนี้ผมเพ้อเป็นสำนวนนิยายแล้วเหรอ!?

อย่าว่าผมเวอร์วังเลยนะแต่มันอุ่นจริงๆ ตัวน้องก็หอมเป็นกลิ่นสบู่เย็นๆ กล้ามเนื้อหน้าอกนี่แน้น แน่น โดนทีนี่แข็งปั่ก ไม่รู้จะใช้คำว่าฟินได้ไหม ในเมื่อตอนนี้มันสุขจนล้นอก

“แมน! เหม่ออะไรของมึง!?” ผมสะดุ้งมองแนท ก่อนจะเอามือที่เท้าคางอยู่ออก

“กูก็เหม่อเป็นประจำไม่ใช่หรือไง?!”

“กูก็ถามมึงเป็นประจำไม่ใช่หรือไง?!” แนทมองผมตาเขียว แต่ก็จริง มันเหมือนถามไปงั้นตามความเคยชิน แต่เผอิญวันนี้ผมไม่ได้เหม่อเพราะคิดถึงอะไรเดิมๆ นี่สิ...

“ทำไม!!? หรือมึงคิดเรื่องอะไรที่ไม่ใช่เรื่องจะแต่งให้ผู้ชายได้กันยังไงอย่างทุกที?!”

โอ้โห นี่เจ้าหล่อนมีลูกกรอกหรือผีพรายคอยกระซิบใช่ไหม!? แม่นอย่างกับอ่านใจได้

“หวัดดีแมน” ผมแอบสะดุ้ง เพราะคิดว่ากุมารทองที่แนทอาจจะเลี้ยงไว้ส่งเสียงทุ้มทัก ก่อนที่ความคิดผมจะเตลิดไปไกล เจ้าของเสียงก็ปรากฎตัวขึ้นเป็นร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาด้วยดีกรีอดีตเดือนวิศวะข้างๆ แนท

“หวัดดี” ผมตอบพลางมองแนทยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ ไม่ลืมหันมาถามผมซ้ำอีกรอบ

“ไม่ไปด้วยกันจริงๆ ใช่ป่ะ?”

“อือ”

“โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้”



.
.
.

ผมนั่งอึนอยู่ที่เดิมอีกพักหนึ่งหลังจากแนทออกไปกับก้องแล้ว เดิมทีคิดว่าจะกลับหอ แต่แดดมันร้อนจนสู้ไม่ไหว ผมยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง ในขณะที่อีกข้างกดล็อคโทรศัพท์

น่าจะเอารถมาขับอย่างที่ป๊าบอก แต่มาบ่นตอนนี้ก็สายไปและ เรียนจะจบอยู่แล้วเนี่ย

แต่เอามาขับก็ไม่คุ้มอยู่ดี ไปกลับแค่หอกับมหาลัย ผมแทบไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว...


“พี่แมน”

ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะพบกับแมทธิวและผองเพื่อนยืนเรียงกันเป็นบอยแบนด์ บอกตรงๆ ผมไม่รู้หรอกว่าคนที่เหลือชื่ออะไร บางคนก็คุ้นๆ หน้าว่าเคยเจอกันครั้งที่แล้ว

ทำไมเพื่อนเยอะจังวะ

“ทำอะไรเหรอ?” ถ้าบอกว่านั่งเฉยๆ ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ไม่ใส่ใจเกินไปหน่อย ดังนั้น ผมจึง...

“เปล่า” ...ซึ่งคำตอบก็ไม่เมคเซนส์พอกัน

“ผมกำลังจะไปหาอะไรกิน ไปด้วยกันไหมครับ?”

“...ก็ดี” ผมตอบแบบไม่ลังเล ไม่ได้ใจง่ายนะ แต่เกรงใจ 3 คนข้างหลังที่จะต้องรอถ้าหากผมเล่นตัว



.
.
.

“กรุณารอสักครู่ค่ะ” พนักงานตัวบางเดินจากไป คนกลางอย่างแมทธิวที่นั่งข้างๆ ผมจึงเริ่มแนะนำตัวเพื่อนตัวเองให้ผมรู้จัก

“นี่เพื่อนสนิทผมบอส นนท์ อังเดร” แมทธิวชี้นิ้วไล่ทีละคนเรียงจากซ้ายไปขวา “ส่วนนี่พี่แมน รุ่นพี่คณะเรา อยู่ข้างๆ ห้องกูด้วย”

ผมลอบสังเกตเพื่อนแต่ละคนของแมทธิวเงียบๆ เพราะเจ้าตัวบอกว่าเป็นเพื่อนสนิท ผมเลยคิดว่าอย่างน้อยผมควรจะจำพวกเขาได้

บอสนี่ผมยาวพอๆ กับผมเลยมั้ง เป็นผู้ชายโคตรมีคาริสม่าเพราะหน้าสวย มุมปาก และนัยน์ตายิ้ม ดูเป็นคนอ่านยากเพราะใบหน้าที่ดูเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา และผมคุ้นหน้าเขามากที่สุด

นนท์ ผมอาจต้องถามว่าเหล่ากงลื้อแซ่อะไร หน้าตี๋มาก ตาตี่กว่าผมอีก บางทีอาจจเป็นญาติคนหนึ่งของผมก็เป็นได้

อังเดร ลูกครึ่งที่หน้าออกเอเชียซะมากกว่า แต่ได้ดั้งกับส่วนสูงมาจากตะวันตกเต็มๆ

“ยินดีที่ได้รู้จัก”

สักพักพนักงานก็มาเสิร์ฟของที่สั่งไป ทุกคนช่วยกันเทของลงหม้อ แล้วนั่งกินเงียบๆ ประหนึ่งธาตุอากาศ โดยมีแมทธิวหันมาคุยด้วยเป็นระยะๆ

เออ เด็กพวกนี้คบได้ ไม่ค่อยมาวุ่นวายกับผม




อัตราเร็วในการจ้วงอาหารเข้าปากเริ่มลดลงตามเวลาที่เพิ่มขึ้น ผมอิ่มเกินจะยัดอะไรลงได้อีก จึงเอาโทรศัพท์ออกมานั่งจิ้มๆ เรื่อยเปื่อย

“อิ่มแล้วเหรอพี่?” แมทธิววางเนื้อลงบนจานแล้วยกแก้วน้ำกระดก ผมพยักหน้าแล้วดื่มน้ำบ้าง “กินน้อยจัง”

“...” ผมไม่ตอบ แต่พยักเพยิดหน้าไปทางนนท์ที่นั่งตรงข้ามผมซึ่งหยุดกินได้สักพักแล้วเหมือนกัน เจ้าตัวเบิกตากว้างเท่าที่ดวงตาแคบๆ ของตัวเองจะทำได้เมื่อรู้ตัวว่าโดนกล่าวถึงเงียบๆ ก่อนจะโวยออกมา

“ไม่ไหวโว้ย มึงระวังเหอะ แดกอิ่มมาก หลับก่อนได้อ่านหนังสือแน่ๆ”



.
.
.

สรุปว่ามื้อนี้ผมเลี้ยงทั้ง 4 คนในฐานะพี่ในคณะ และเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่กำลังจะพากันไปติวหนังสือต่อหลังกินข้าวเสร็จ เราทั้งหมดเดินออกจากร้าน ก่อนที่แมทธิวจะหยุดกึก

“พวกมึง เดี๋ยวกูไปส่งพี่แมนกลับหอก่อนนะ” แมทธิวพูด ทุกคนพยักหน้ารับรู้ แผมจับต้นแขนแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของน้องไว้

“ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองได้”

“ไม่เป็นไร พี่อุตส่าห์เลี้ยงข้าวพวกผม นะครับ”

“อืม...”



.
.
.

รถหรูแล่นมาเทียบหน้าประตู ผมเอี้ยวตัวปลดเซฟตี้เบลท์ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับแมทธิวที่จ้องผมอยู่แล้ว

“อะไร?”

“...” ไม่พูดแต่ยิ้มหวานให้ผม ผมจึงถามย้ำไปอีก

“มีอะไร?”


“คืนนี้เจอกันนะครับ”






 :z13: แก้คำผิดเล็กน้อยกับตรงส่วนที่เห็ดอ่านแล้วรู้สึกว่ามันงงๆค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านและคอมเมนท์กันเรื่อยๆ ช่วยกันลุ้นและเป็นกำลังใจให้พี่แมนด้วยนะคะ ด้วยรัก จากเห็ดหอม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2016 16:08:37 โดย เห็ดหอม:) »

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #36 เมื่อ20-01-2016 19:55:21 »

นี้มันคืออารายยย แมททิวไม่ได้แกล้งพี่แมนใช่ม๊ะ!!  แต่ก็ฟินมากอะ ...  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #37 เมื่อ20-01-2016 20:04:01 »

แมทธิวชอบให้ความหวังพี่แมนตลอดๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #38 เมื่อ20-01-2016 21:26:23 »

อิน้องแมทธิวคะ เกลียดเกย์แต่อ่อยขนาดนี้คืออะไร

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #39 เมื่อ20-01-2016 22:56:00 »

 :L2: :pig4:

พี่น้อง แบบแมนๆต้อง เพ่ คืนนี้เจอกัน!
 .คืนนี้เจอกันครับ. นี่ เก็บไปคิดเข้าข้างตัวเองได้เลยพี่แมน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
« ตอบ #39 เมื่อ: 20-01-2016 22:56:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #40 เมื่อ21-01-2016 09:07:08 »

แมทธิว นี่อะไรยังไงกันแน่ อยากรู้ความรู้สึกของแมทธิว  :ling1:
เพื่อน ๆ แมทธิว เหมือนจะไม่ค่อยธรรมดา (คิดไปเองหรือเปล่าเรา 555)
เอาใจช่วยพี่แมน ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #41 เมื่อ21-01-2016 09:47:05 »

คืนนี้เจอกันนะครับ !!!!!!

กัดหมอน นอนรอ แมทธิว พี่พร้อมแล้ว เข้ามาสิคะ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #42 เมื่อ26-01-2016 13:04:59 »



ป้าว่าน้องแมทธิวทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะ...
พูดจาแบบนี้น้องแมนของป้าก็หวั่นไหวไปไม่เป็นกันพอดี
เพราะฉะนั้น คืนนี้ต้องรีบกลับมานอนให้น้องแมนของป้าขบกล้ามอกเล่นเร็ว ๆ ด้วย (เดี๋ยว ๆ !!)

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :mew1:


ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #43 เมื่อ26-01-2016 19:35:08 »

แมทธิวคิดอะไรอยู่วว

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.7 (20/1/59)
«ตอบ #44 เมื่อ27-01-2016 10:39:19 »

ถ้าข่าวลือสลับกัน ก้องไม่ได้เป็นเกย์ แมทธิวก็ไม่เกลียดเกย์สินะ

แมนเอ้ยยยย คืนนี้ขอให้ได้ ขอให้โดนนะ คริคริ

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.8 (28/1/59)
«ตอบ #45 เมื่อ28-01-2016 16:23:02 »

Chapter 8 : This may be the last time


ผมเดินเหงื่อแตกพลั่กออกจากฟิตเนส พลางใช้ผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนบ่าเช็ดหน้า หางตาเหลือบไปเห็นร่างของแมทธิวกำลังเดินผ่านประตูเข้ามา

ร่างสูงยกมือทักผม ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆ มาหา แล้วคว้าแขนผมที่เตรียมจะเดินไปที่ลิฟต์ไว้เป็นเชิงห้าม ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ “ครับพี่ทราย ขอบคุณมากๆ เลยครับ”


“ติวเสร็จแล้วเหรอ?”

“ครับ” ร่างสูงปล่อยมือจากแขนผม แล้วยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินตามผมไปที่ลิฟต์ “เออ พี่แมน พี่รหัสผมเพิ่งให้ชีทแนวข้อสอบมาใหม่ คงเล่นเกมไม่ได้แล้วแหละ”

“ก็ดีแล้ว อ่านก่อน เกมเล่นวันหลังก็ได้” ผมบอกเพื่อให้ร่างสูงข้างๆ ที่เพิ่งจะกดปุ่มลิฟต์เลิกทำอาการหางลู่ หูตก เหมือนหมาน้อยหงอยเหงา

“พี่แมน ช่วยดูให้หน่อยได้ไหม คืนนี้อะ?”

“หือ...” ดูอะไร พูดเคลียร์ๆ ด้วยนะครับ ไม่งั้นพี่แมนไม่ไปนะ

“นะๆ เนี่ย ปวดหัวมากเลย กลัวอ่านเองไม่รู้เรื่อง”

“ปวดหัวก็พักก่อน”

“แต่อีก 3 วันจะสอบแล้วนะ” จะเอาเกียรตินิยมเลยหรือไง นั่นๆ อย่ามาทำหน้าตาน่าสงสารใส่พี่นะ ไม่รู้หรือไงว่าคนอย่างพี่แมนน่ะ...

“งั้นคืนนี้ที่ห้องนายละกัน”


...มันแพ้แมทธิวตลอดอย่างนี้ไงเล่า





.
.
.

กระจกตรงหน้าผมตอนนี้สะท้อนใบหน้าอมยิ้มของตัวเองอยู่ ผมเหลือบมองขวดน้ำหอมที่นานๆ จะได้ใช้สักครั้งอย่างชั่งใจ

ใส่สักนิดดีไหมนะ?!

ผมยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังป้าบกับความคิดชั่ววูบที่แล่นมาในสมอง ก่อนจะหยิบโลชั่นที่ทาตัวประจำขึ้นมาทาแทน

เอาวะ หอมเหมือนกัน ใส่น้ำหอมเดี๋ยวจะชัดไปว่าอ่อยเนอะ




ผมหอบข้างของทั้งโน้ตบุ๊กและหนังสือตัวเองไปห้องแมทธิวด้วย ร่างสูงย้ายตัวเองออกจากห้องนอนมานั่งจุมปุ๊กอยู่บนพื้น ในขณะที่ผมนั่งอยู่บนโซฟา

“กินพาราหรือยัง?”

“กินทำไมอ่ะ?” แมทธิวเงยหน้าจากชีทบนโต๊ะ ผมเปิดฝาพับโน้ตบุ๊ก ก่อนจะหันไปตอบ

“ก็บ่นปวดหัวไม่ใช่เหรอ?” ผมจ้องใบหน้าตั้งใจอ่านชีทของแมทธิว “กินดักไว้ซะหน่อย เผื่อป่วยวันสอบ”

“อ๋อ...” แล้วเด็กฝรั่งตัวโตก็พาตัวเองหายเข้าไปในครัว พักหนึ่งก็กลับมานั่งลงกับพื้นตามเดิม

เออ ดี ให้เจ้าของห้องนั่งกับพื้นซะงั้น



ผ่านไปพักใหญ่แมทธิวก็ไม่ท่าทีจะให้ผมสอนอะไร แค่เรียกถามตรงที่สงสัยเป็นช่วงๆ แล้วปล่อยให้ผมนั่งอ่านหนังสือสอบของผมไปตามเรื่องราวท่ามกลางความเงียบของเราสองคน

ซึ่งผมหลงรักความเงียบที่ไม่โดดเดี่ยวนี้จนอยากหยุดเวลาไว้เลยล่ะครับ....





.
.
.

ดึกแล้ว

ผมเลิกอ่านหนังสือมาเล่นเน็ตได้สักพัก แมทธิวเริ่มออกลายขี้เกียจ ชะเง้อชะแง้มองผมจนอย่างจะเรียกให้มานั่งๆ ข้างๆ กันซะให้หมดเรื่อง

เอ๊ะ! หรือจะมานั่งข้างในใจพี่แมนก็ได้นะ

อ๋อ... ก็นั่งอยู่ในใจผมอยู่แล้วนี่เนาะ

“ทำอะไรเหรอ?”

“ดูสีผม” ผมเลื่อนหน้าจอเรื่อยเปื่อยพลางตอบแบบไม่มองหน้าแมทธิว มองมากแต่จับต้องไม่ได้ ไม่อยากมอง ฮึ!

“จะทำเหรอครับ?”

“ไม่ล่ะ” ผมส่ายหัว คงต้องรอมีงานทำแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะทำดีไหม แต่ก็น่าจะทำสีสว่างๆ ไม่ได้อีกแล้วล่ะครับ

“เหรอ...” แมทธิวค่อยๆ เหยียดแขนและเลื้อยลงกับโต๊ะ ก่อนจะนอนหนุนแขนยาวๆ ตะแคงหน้ามองมาทางผม “ผมทำบ้างดีไหม สีผมเนี่ย?”

แววตาสีสวยสะท้อนแสงจากหลอดไฟเป็นประกายวิบวับ ผมสบดวงตาคู่นั้น และไม่อาจเก็บความรู้สึกหลงใหลนี้ไว้ได้ ไวเท่าความต้องการ มือของผมเลื่อนไปยีผมสีอ่อนแรงๆ อย่างลืมตัว

“โอ๊ย.. โอ๊ยๆๆ ฮ่าๆๆๆ” แมทธิวเอียงหัวหลบ แล้วคว้ามือผมยึดไว้ ใบหน้าคมครบเครื่องมองดูละมุนอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่อาจละสายตาจากแววตาอ่อนโยนคู่นั้นได้เลย


ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายจับมือผมไว้อยู่อย่างนั้น…


“ผมอยากมีพี่หรือไม่ก็น้องจัง” มือหนาจับมือของผมไปแนบแก้มของตัวเอง แล้วหลับตาพริ้ม ใบหน้าเปื้อนยิ้มบางๆ

“อืม...” ผมรู้ว่ามันมากเกินไป อันตรายต่อหัวใจจนต้องค่อยๆ ดึงมืออกจากการเกาะกุม “ไม่ให้พ่อกับแม่มีน้องให้”

“...”

บรรยากาศหวานละมุนหล่นวูบ ใบหน้าเปื้อนยิ้มค่อยๆ คลายลงเป็นความเรียบเฉย และนั่นเองทำให้ผมนึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พ่อแมทธิวเป็นเกย์

“ฉันมีพี่ตั้งหลายคน แต่ไม่มีน้องเลย” ผมเอื้อมมือไปลูบหัวแมทธิวเบาๆ “มาเป็นน้องชายฉันดีไหม?”

“...”แมทธิวช้อนตาขึ้น มันไม่ได้ดูน่ารักโมเอะแบบสาวน้อย แต่ทำให้ผมอยากจะจิกหมอนกรีดร้องด้วยใจที่เต้นรัว เปรียบเทียบเด็กตรงหน้าไม่ต่างกับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ที่ใหญ่แต่ตัว แต่หัวใจมุ้งมิ้ง ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เพื่อระบายความร้อนที่ใบหน้า

ก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะว่าตอนนี้กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่แล้วน่ะ



.
.
.
ผมละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กไปมองคนที่หนุนแขนตัวเองต่างหมอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา จ้องได้สักพักก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นฉุดร่างของผมลงมานั่งจ้องแมทธิวกับพื้นเพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น

ริมฝีปากแมทธิวบางแบบชาวตะวันตก ผมชอบเวลามันฉายรอยยิ้มเพราะดูอบอุ่น และทำให้คนมองเขินได้ทุกครั้งโดยเฉพาะเมื่อมองมันคู่กับแววตาสีสวยภายใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่นั้น

ขนตายาวเป็นสีอ่อนเหมือนสีผมและคิ้วของเขา ผมไล่สายตาลงมาที่สันจมูกโด่งเรื่อยลงถึงปลายจมูก

“แมทธิว”

“...”


“แมทธิว” ผมจับแขนแมทธิวเบาๆ กะปลุกให้ตื่น แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ “แมทธิว ตื่นไปนอนในห้องนะ”

“...” เงียบกริบ

หรือว่าผมต้องจุมพิตเขาเหมือนเจ้าชายจุมพิตเจ้าหญิงนิทรา ร่างสูงถึงจะตื่น

จะดีเหรอ ผมก็เขินนะครับ

“...”

ผมมองดั้งแมทธิวด้วยความอิจฉา ของจริงแน่เหรอ ทำไมมันโด่งได้ขนาดนี้

ผมไล้นิ้วชี้ไปตามสันจมูกโด่งนั้นอย่างแผ่วเบา อยากออกแรงกดอีกนิดเพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยตัวเองนะ แต่ไม่ดีกว่า กลัวแมทธิวตื่น

นิ้วชี้ผมไล่มาถึงปลายจมูก และหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบางสีสดใส ใจผมเต้นแรง ก่อนจะหล่นวูบไปอยู่ที่พื้น...

“!!!” แมทธิวลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วสบตากับผม

“...” ริมฝีปากนั้นระบายยิ้มบางออกมา ก่อนที่มือของผมจะถูกจับไว้ด้วยมือหนาของคนเพิ่งตื่น “ไปนอนกันเถอะ”

ผมปล่อยให้แมทธิวฉุดร่างผมให้ลุกขึ้น และเดินจูงมือผมเข้าห้องนอน เพราะผมสมองผมมันไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว






.
.
.

I’m so sorry but I love you ทา คอจิซมัลอียา มลรัซซอ อีเจยา อารัซซอ~
I’m so sorry but I love you นัลคาโรอุน มัล...~


เสียงโทรศัพท์ดังเป็นรอบที่เท่าไรไม่ได้นับ แนทเงยหน้าจากหน้าจอโน้ตบุ๊กตัวเองมามองผมด้วยแรงอาฆาต ผมหลบตามันด้วยการจ้องไปที่จอโน้ตบุ๊กตัวเอง แต่ไม่ลืมขยับมือไปคว้าโทรศัพท์มาปิดเสียง


ครืด... ครืด... ครืด...

ผมเหลือบมองโทรศัพท์ที่เปลี่ยนจากส่งเสียงร้องมาเป็นสั่น แล้วเหลือบมองแนทที่พับฝาโน้ตบุ๊กด้วยอาการกระแทกกระทั้น ใบหน้าเจ้าสวยพร้อมเหวี่ยงผมทุกเมื่อ

“จะรับก็รับ ไม่รับก็ปิดเครื่องไปสิ”

ครืด... ครืด... ครืด...

ผมมองโทรศัพท์อีกครั้งอย่างลังเลใจ ก่อนจะสบตากลมโตของเพื่อนสนิท

“หรือจะให้กูรับให้ เอาไหม?”

“...” ผมยิ้มหวานแทนคำตอบ ก่อนจะหยิบมันยื่นไปให้ร่างบางตรงหน้า แนทจิ๊ปากด้วยความหมั่นไส้ แล้วกดรับ

“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานฟังดูสดใสร่าเริง ต่างกับตอนคุยกับผมที่เอะอะก็ขู่เข็ญค่อนแคะกันตลอด

“แมนเข้าห้องน้ำค่ะ มีอะไรฝากพี่ไว้แทนได้ไหมเอ่ย?.... ได้ๆ เดี๋ยวพี่บอกให้นะคะ”

“น้องว่าไงบ้าง???” ผมรับโทรศัพท์ที่แนทยื่นคืนมาให้

“รับก็ไม่รับ แต่อยากจะรู้นักนะมึง” แนทกอดอก แล้วเชิดหน้ามองต่ำใส่ผม

น้อยๆ หน่อย ทีตัวเองเล่นตัวกับอดีตเดือนวิศวะคนนั้นตั้งหลายปีผมยังไม่แซวมันเลย

ครับ หมอนั่นมันจีบแนทมาตั้งนานแล้ว แต่แม่ผู้หญิงยิงเรือตรงหน้าผมมันเล่นตัวซะจนฝ่ายนั้นต้องมาเซอร์ไพรส์รวบหัวรวบหางที่ตึกคณะผมวันนั้นนั่นแหละ

“แมทธิวบอกว่าเย็นนี้จะมารับไปช่วยซื้อของเป็นเพื่อน”

“เหรอๆ”

“แหม หมั่นไส้” แนทเบะปากใส่ผม “รู้ว่ามึงไม่มีเรียนซะด้วย นี่ถึงไหนต่อไหนกันแล้วเนี่ย?!”

“พี่น้องกัน” ผมยักคิ้วน้อยๆ กะว่าก็น่าจะหล่อพอตัว

แต่อันที่จริง... ผมกำลังหน้าชื่นอกตรมครับ เพราะยังไม่รู้จะทำตัวยังไงเมื่อเจอหน้าแมทธิวของผม

ก็เมื่อคืนแมทธิวนอนกอดผมทั้งคืน ไม่รู้ว่าเกิดอยากสร้างความสนิทสนมกับพี่ชายนอกสายเลือดอย่างผมหรืออะไรถึงได้ทำแบบนี้ใส่กัน

ไหนจะก่อนหน้านั้นที่จับได้ว่าผมลวนลาม แต่กลับส่งยิ้มมาให้...

ผมจะบ้า!!! ถ้าไม่พูดอะไรให้ชัดเจนกว่านี้พี่แมนจะเข้าข้างตัวเองแล้วนะครับว่าแมทธิวก็มีใจให้พี่

“โหย อีดารา อีเซเลบริตี้” เสียงด่าของแนทกระชากความคิดผมกลับสู่โลกความจริง

“มึงไปกับกูไหม?”

“ไปเป็นก้างขวางคอมึงหรือไง!!?” ประโยคคุ้นๆ เหมือนผมเคยพูดใส่มัน ผมยิ้ม แล้วยักไหล่ แบบว่า ไอ ด๊อนท์ แคร์





.
.
.

ผู้ชายตัวโต 2 คนยืนอยู่ตรงแผนกเครื่องสำอาง หน้าเคาท์เตอร์ที่มีลิปสติกหลากสีวางเรียงรายให้ทดลองใช้คงจะเป็นภาพที่ประหลาดตาพอสมควรสำหรับลูกค้า และพนักงาน รวมถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แมทธิวยืนจิ้มโทรศัพท์ ก่อนจะยกมันแนบหู

“ครับแม่ อยู่หน้าเคาท์เตอร์แล้ว...  โอเคครับ”


และสาเหตุที่พาผมมาอยู่ตรงนี้ก็คือ... แถ่แด้น!  แมทธิวมาซื้อลิปสติกให้แม่นั่นเอง

โธ่... นอกจากอบอุ่นแล้วยังเป็นลูกกตัญญู แมทธิวต้องเป็นพ่อที่ดีของลูกแน่ๆ

แต่แมทธิวคงไม่ได้เป็นพ่อคนแล้วเนอะ เพราะผมมีลูกไม่ได้น่ะสิ

“ยิ้มอะไรพี่แมน”

“ป..ปะ...เปล่า” ผมปฏิเสธตะกุกตะกัก ช่วงนี้ยิ่งทำตัวให้โดนจับได้อยู่ด้วย “แล้วทำไมไม่ชวนเพื่อนนายมา?!”

“ชวนแล้ว มันไม่ยอมมากับผมกันสักคน มันบอกว่าอาย”

เออ ดี แล้วไม่คิดว่าพี่แมนอายบ้างหรือไงครับ

“ก็ชวนเพื่อนผู้หญิงสิ” แค่เอ่ยปากก็ตามมาเป็นพรวนอยู่แล้ว ชิชะ

“เออเนอะ ทำไมผมนึกไม่ถึงนะ” แมทธิวหันมายิ้มให้ผม “แต่มากับพี่ก็ดีแล้ว จะได้อยู่เที่ยวด้วยกันต่อ”

ทำมาปากหวาน อย่าให้รู้ว่าเรียกมาถามเรื่องเมื่อวานที่พี่แมนแอบแต๊ะอั๋งตัวเองละกัน

พี่ยังไม่พร้อมจะให้คำตอบหรอกนะว่าทำไปเพราะมีใจให้!
“พี่แมน ฝากถือโทรศัพท์หน่อยสิ” ผมรับโทรศัพท์มาถืองงๆ ก่อนจะมองร่างสูงที่หยิบลิปสติกสีแดงมาทาบอกหลังมือ แล้วหยิบสีแดงตุ่นๆ อีกแทงข้างๆ กันมาทาทีหลัง

“ขอโทรศัพท์หน่อยครับ” ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้แมทธิวอย่างว่าง่าย นิ้วหัวแม่มือกดถ่ายสีลิปสติกบนหลังมือก่อนจะกดส่งไลน์ไป ครู่เดียวก็มีข้อความตอบกลับมา แมทธิวหันไปหาพนักงานที่ยืนรออยู่สักพักแล้วเพียงแต่ผมไม่ได้เอ่ยถึง เพราะในสายตาพี่แมนนั้นมีแต่แมทธิว

“เอาสีนี้แท่งหนึ่งครับ”

“ได้ค่ะ เชิญชำระเงินด้านนี้ค่ะ” คุณพนักงานสาวยิ้มกว้างที่ขายของได้ ก่อนจะผายมือเชิญแมทธิว มือหนาของร่างสูงคว้าข้อมือผม แล้วออกแรงลากให้เดินตาม

“ขอบคุณค่ะ” พนักงานส่งถุงกระดาษเรียบหรูใส่ลิปสติกให้แมทธิว แล้วยกมือไหว้แต่พองาม ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินออกจากร้าน



“พี่แมน อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?” แมทธิวถามขึ้นขณะเราทั้งคู่กำลังลงบันไดเลื่อนเพื่อไปหาอะไรกิน

“อะไรก็ได้ ฉันไม่ค่อยหิว”

“เหรอๆ งั้นไปหาอะไรเบาๆ กินแล้วกันเนอะ”

“อือ....”


Rrr… Rrr…Rrrrr…

ผมเหลือบมองโทรศัพท์ในมือแมทธิวที่ส่งเสียงร้องกะทันหัน ร่างสูงกดรับแล้วยกมันแนบหู ในขณะที่พากันลงจากบันไดเลื่อน

“ฮัลโหล...” แมทธิวดึงข้อมือผมให้เดินตาม เมื่อเห็นผมชะลอฝีเท้า เพื่อให้เขาคุยโทรศัพท์ก่อน

“อะไรนะ!!? แล้วตอนนี้แก้มอยู่ไหน!?” ผมหยุดเดินความตกใจ เมื่อมือที่กำลังจูงแขนผมกลายๆ ดึงผมให้หยุดเพราะปลายสาย

“....”

“ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวเราไปหา” แมทธิววางสาย ท่าทางดูร้อนรน จนผมต้องจับแขนอีกฝ่ายเบาๆ เผื่อเรียกสติ “...พี่แมน”

“...???”

“เพื่อนผมเพิ่งเลิกกับแฟน โทร.มาร้องไห้หนักมาก”

“...”

“ผมต้องไปดูแก้ม...” สีหน้าแมทธิวเต็มไปด้วยความเป็นห่วงชัดเจน และมันไม่ต่างกับตอนที่เขาคิดว่าผมโดนแนททิ้ง


ผมรู้... ความเป็นห่วงและทุกสิ่งที่เขามีให้กับทุกคนเท่าๆ กัน

เพราะรู้ดี... ถึงได้เจ็บแปล๊บๆ ที่อกเหมือนมีใครมาขยี้หัวใจอยู่อย่างนี้ไง


“ไป...” ผมแกะมือที่จับอยู่ที่ข้อมือผมออก และมันหลุดอย่างง่ายดาย “ไปเถอะ ดูแลเพื่อนด้วย อย่าให้มีผลกับเรื่องสอบล่ะ”


ผมยิ้ม แล้วหมุนตัวเดินไปจากจุดที่เราทั้งคู่ยืนอยู่...

ไม่ใช่อะไร มันขวางทางเดินชาวบ้านเขา

แต่หันหลังไปอีกที แมทธิวก็หายไปจากนั้นแล้วนี่สิ...

ทำไมผมชอบลืมอยู่เรื่อยเลยนะว่ายืนอยู่จุดไหน แล้วมีสิทธิ์อะไรบ้าง





.
.
.

“อ้าว พี่แมน”

บังเอิญ โลกกลม พรมเช็ดเท้า!? หายหน้าหายตาไปหลายวัน แต่มาเดินสวนกันหน้าร้านสะดวกซื้อ!?

แมทธิวที่เพิ่งเดินออกมาร้องทักผมที่กำลังจะเดินเข้าไป ผมมองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงนั้นเข้าไปข้างในแบบไม่สนใจ

“พี่แมน มาซื้ออะไรเหรอ?” แมทธิวเดินตามกลับเข้ามาอีกครั้ง ก่อนจะฉวยเอาถุงขนมในอ้อมแขนผมไปถือ ผมหันขวับมองค้อน แล้วเดินนำอีกฝ่ายไปคิดเงินที่เคาท์เตอร์

คงไม่ต้องตอบหรอกเนอะว่าพี่แมนซื้ออะไร เพราะมันก็อยู่ในถุงที่แมทธิวถือนั่นแหละครับ

ผมจ้ำออกจากร้านโดนมีแมทธิวเดินขนาบข้าง ร่างสูงเดินตามผมสบายๆ ด้วยความที่ขายาว แถมยังชวนคุยสร้างบรรยากาศอันดีระหว่างกันด้วย

“ไม่เจอพี่แมนตั้งหลายวันแน่ะ สอบเสร็จหรือยังครับ?”

ไม่อยากจะบอก พี่สอบเสร็จก่อนแมทธิวเป็นชาติแล้ว แน่ะ เพิ่งสอบเสร็จวันนี้ล่ะสิ

อ๋อ ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ ก็เพราะมันเป็นเรื่องของแมทธิวไง

“อืม...”

“โห พอดีเลย ผมเพิ่งสอบเสร็จวันนี้เอง” ใบหน้าคมเปื้อนยิ้ม ผมเหลือบตามอง ก่อนจะรีบหันก่อนไปมองทางอื่น

กลัวหวั่นไหว แล้วจะทำในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วไม่ลง

“ทำข้อสอบได้ไหม...”

“แน่นอน คนสอนดีนี่นา” พูดพลางหันมายักคิ้วให้ผม ผมยิ้มเฝื่อน ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินมาถึงประตูหน้าหอ แมทธิวผลักประตูให้ผมเดินเข้าไป


Rrr… Rrr… Rrr…

“ฮัลโหล”


นับตั้งแต่วันที่ทิ้งผมไว้กลางห้าง...


“ไปดิ มึงมารับกูด้วย”


ผมก็สงสัยนะ ว่าเขาหายไปไหน


“ไม่ เผื่อเมากูขี้เกียจขับรถกลับหอเอง”


ไม่ว่าเพราะว่ายุ่งๆ เลยไม่มีเวลามาใส่ใจ หรือเพราะผมไม่ได้สำคัญพอที่แมทธิวจะสนใจความรู้สึกกันก็ตาม...


“เออ เจอกันๆ”


แต่เรื่องของเรามาไกลเกินกว่าจะไปต่อได้แล้ว และถึงแม้ว่ามันจะเป็นความรู้สึกของผมข้างเดียว…


“แมทธิว ฉันเรียนจบแล้ว”

“หืม... โอ้ ดีใจด้วยนะครับ รับปริญญาเมื่อไร ติดต่อมา เดี๋ยวเตรียมหน้าม้าไปให้ เอาดอกไม้ช่อโตๆ เนอะพี่แมน ฮ่าๆๆ”


“แมทธิว...”


“ครับ?”


“ฉันจะย้ายออกพรุ่งนี้”



...ผมก็ควรจะจบมันด้วยตัวเอง







สวัสดีค่า คิดถึงเห็ดกันล่ะสิ คิกคิก :-[  มาเป็นกำลังใจให้พี่แมนกันด้วยนะคะ ผู้ชายอะไรเซ้นซิทีฟเกิ๊นนน... เนื้อเรื่องอาจไปเป็นไปอย่างที่คาดหวัง แต่หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์ค่ะ ด้วยรัก จากเห็ดหอม  :กอด1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.8 (28/1/59)
«ตอบ #46 เมื่อ28-01-2016 16:53:05 »

หื้มมมมมมมมมมม

ถ้าพี่แมนไม่บอกน้องแมท จะเป็นยังไง???  :ling1:

เปลี่ยนพระเอกแม่มเลยยยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.8 (28/1/59)
«ตอบ #47 เมื่อ28-01-2016 19:03:29 »

ชอบพี่แมนอ่ะ ซื่อๆดี 5555555555555
กลัวใจน้องแมท กลัวฮีจะมาหลอกอ่ะ

นิยายสนุกมากเลย รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.8 (28/1/59)
«ตอบ #48 เมื่อ28-01-2016 20:06:32 »

กรี๊ดดดดดดดด คุณเห็ด เอามาอีกตอนบัดเดี๋ยวนี้ยยยยยย

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Chapter 9 : Epilogue



เสียงโวยวายกลางดึกเงียบสงัดเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดพอสมควรในหอที่เป็นส่วนตัวแบบนี้ แมนวางโน้ตบุ๊กบนตักไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา และเหลียวไปมองหน้าประตูห้อง

“ไอ้เหี้ย ยืนดีๆ อย่าทิ้งน้ำหนักตัวสิ กูหนัก”

“ฮ่าๆๆ”

“กูบอกแล้วให้ทิ้งแม่งไว้ที่ร้าน ถ้าจะเมาขนาดนี้”

“Who's drunk!? Nooo way!!!”

"ค_ย"

“ฮ่าๆๆ”


เสียงพูดคุยผสมปนเปกันจนจับใจความไม่ได้เลยว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร แต่ที่แน่ๆ แมนมั่นใจว่าไอ้เสียงตะโกนภาษาอังกฤษไม่น่าจะเป็นของใครนอกจากเด็กฝรั่งข้างห้องเขา


แกร๊ก!

“พี่....” หน้ามึนๆ ของลูกครึ่งหัวเกรียนหันมาเห็นเขาเป็นคนแรก อังเดรพยายามนึกชื่อรุ่นพี่ที่เคยเลี้ยงข้าวตัวเอง แต่มันก็ติดอยู่ที่ปาก คงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้สมองทำงานได้ไม่ดีนัก

“พี่แมน หวัดดีครับ” ส่วนเด็กหนุ่มหน้าตี๋คนนี้นี่ก็หน้าแดงแจ๋เหมือนก้นลิงเชียว

“Hi!” แมทธิวส่งสายตาฉ่ำน้ำมาให้เขา พร้อมร้องทักด้วยเสียงแหบพร่า

แต่ละคน อย่างกับไปนอนแช่แอลกอฮอล์…

“ไปไหนกันมา!?” แมนหันไปถามนนท์ที่น่าจะคุยด้วยรู้เรื่องที่สุด แต่แทนที่จะได้คำตอบ กลับถูกแทรกด้วยคำถามของอังเดรที่ร้องถามเพื่อน

“ตกลงกุญแจห้องมึงอยู่ไหนเนี่ย!!?” หางคิ้วแมนกระตุกน้อยๆ หนุ่มรุ่นพี่เฝ้าบอกตัวเองในใจ

อย่าถือคนบ้า อย่าคนเมาโว้ย

“นนท์”   

“ครับ” คนพูกเรียกยืนตัวตรงเด๊ะ แถมยังตะเบ๊ะแสดงความเคารพ ทิ้งอังเดรให้ประคองแมทธิวคนเดียว

เด็กนนท์นี่ก็เวอร์เกิน...

“ให้แมทธิวเข้ามานี่ก่อน” แมนเปิดประตูให้กว้างขึ้นแล้วส่งสายตาบอกให้อังเดรพาเพื่อนตัวเองเข้าในห้อง ร่างสูงไม่ถึงกับไร้สติ ยังพาตัวเองเดินตุ้มปั๊ดตุ้มเป๋เข้ามานั่งบนโซฟาได้



“ไปไหนกันมา?”

“กินเหล้าฉลองจบปีหนึ่งครับ” นนท์ตอบ แล้วยิ้มกว้างเห็นฟันเรียงกันครบทุกซี่ในปาก แมนกระตุกยิ้มมุมปาก

รีบกันจริงนะเด็กพวกนี้ เดี๋ยวเกรดออกรู้เลย!

“แล้วจะกลับกันยังไง?” ที่ถามเพราะเห็นว่าสภาพแต่ละคนเมาแอ๋ไม่ต่างกันเท่าไร อันตรายมากถ้าให้คนใดคนหนึ่งขับรถกลับบ้าน

“บอสรออยู่ข้างล่าง มันไม่เมาเท่าไร อึก” อังเดรตอบ แถมด้วยสะอึกปิดท้าย แมนพยักหน้าส่งๆ ก่อนจะเหลือบมองร่างสูงบนโซฟา

“แมทธิวทิ้งไว้นี่ก็ได้” แมนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย นนท์พยักหน้าเห็นดีเห็นงาม ก่อนจะยกมือท่วมหัวไหว้ลาเขา

“งั้นผมกลับละพี่”

“อืม” แมนกอดอกแล้วพยักหน้ารับ มองสองร่างที่ส่วนสูงต่างกันเป็นช่วงตัวเดินออกจากห้องตัวเองไป



แมนหันกลับมาจ้องใบหน้าที่แดงน้อยๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ใบหน้าเรียวไม่แสดงสีหน้าใดๆ แต่แววตากำลังฉายแววสับสน

ว่าจะไม่ยุ่งด้วยแล้วเชียว...

ความจริงแมนไม่จำเป็นต้องรีบย้ายออกก็ได้ เขายังติดสัญญาเช่าอีกประมาณเดือนหนึ่ง เพราะตอนแรกตั้งใจจะหางานให้ได้ก่อนแล้วค่อยย้ายออก แต่เขาก็จำต้องรีบไป...

เขาไม่อยากจะอยู่นานไปกว่านี้เพื่อรับรู้ว่าตัวเองไม่ได้สำคัญไปกว่าคนอื่นๆ ในชีวิตของร่างบนโซฟา...

ยิ่งไปกว่าการไม่อยากให้ตัวเองเจ็บปวด คือการทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง... หากวันหนึ่งที่เขาเก็บความรู้สึกที่นับวันยิ่งเอ่อล้นไว้ไม่อยู่

ได้เห็นอีกหลายมุมของคนที่เราชอบก็ยิ่งยากที่จะถอนตัว มีแต่จะเข้าใกล้มากไปอีกเรื่อยๆ


แต่แมทธิวสว่างเหมือนแสงไฟ ยิ่งเข้าใกล้เขาเองนี่แหละจะถูกเผา... และเราก็ไม่มีวันมาบรรจบกันได้


เพราะฉะนั้น แมนะจะหยุด... เพื่อตัวเองและคนที่เขารัก

ก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัว ขอให้เหลือแต่ความทรงจำดีๆ ระหว่างเขากับแมทธิวก็พอ...


“แค่กๆ” ร่างสูงปรือตาสบตากับแมน ดึงเขาให้ออกจากวังวนความคิดสู่ความเป็นจริงที่มีคนเมาหนึ่งคนนั่งอยู่ในห้อง แมนคลายปมที่หัวคิ้วแล้วปล่อยมือที่กอดอก ก่อนจะเดินเข้าครัวเพื่อไปเอาน้ำเปล่ามาให้แมทธิวดื่ม


ช่างเถอะ... สร่างเมาเดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว





แมทธิวหลับตาลง แล้วหนุนหัวกับพนักพิงโซฟา ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มที่มุมปาก เมื่อนึกถึงใบหน้ายามแสดงอารมณ์อย่างหลากหลากหลายของคนที่เดินหายเข้าไปในครัว

ใบหน้าเรียวนั้นมักจะเรียบเฉย แต่ก็มีบางทีที่ฉายรอยยิ้มออกมาน้อยๆ ด้วยสาเหตุที่แมทธิวไม่อาจทราบได้ บางครั้งดวงตาเรียวนั้นก็ทำเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และมีบ้างบางเวลาที่มันเก็บซ่อนความหงุดหงิดที่เจ้าตัวมีไว้ไม่มิด

ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เขาชอบมอง และคอยลุ้นว่าร่างโปร่งนั้นจะแสดงสีหน้าแบบไหน


“แมทธิว” เสียงนุ่มๆ ที่ชอบใช้เรียกชื่อเขาดังขึ้น และมันยากสำหรับคนเมาอย่างแมทธิวที่จะแยกว่าเสียงนั้นมาจากความจริง หรือเป็นเพียงความฝัน

ร่างสูงปรือตามองด้วยความมึนเมาและผงกหัวขึ้นมอง

อยู่ตรงนั้น... ร่างของแมนอยู่ตรงหน้าเขา กำลังถือแก้วใส่น้ำเปล่าเดินตรงมาทางนี้

“กินน้ำซะหน่อย” ร่างนั้นขยับเข้ามาใกล้ พร้อมกับยื่นแก้วน้ำมาตรงหน้าแมทธิว

...ดูอย่างตอนนี้สิ แววตาพี่แมนดูสับสน... ใครทำพี่แมนของเขาเป็นแบบนี้นะ แววตาพี่แมนควรเต็มไปด้วยความสุขและประกายของความเพ้อฝันสิ


ริมฝีปากบางของแมทธิวกระตุกยิ้มเมาๆ ขึ้นมา เขายื่นมือไปข้างหน้า ทาบลงบนมือของแมนที่ถือแก้วน้ำ

“เอ่อ...”

...แล้วดูอย่างหน้าพี่แมนตอนนี้สิ ตกใจจนปิดไม่อยู่


แมทธิวออกแรงบีบมือบนแก้วน้ำมากขึ้น แมนสะดุ้งตัวโยน และปล่อยแก้วหลุดจากมือ

ไม่ใช่เพราะแรงบีบบนมือ... แต่เป็นเพราะแววตาสนุกและรู้ทันของแมทธิวต่างหาก


ซ่า!

โชคดีที่แก้วไม่แตกแต่น้ำหกนองเต็มพื้น แมนหลุบตามองน้ำที่พื้น เรื่อยขึ้นมาถึงมือหนาที่ยืดมือของเขาไว้ และหยุดลงที่นัยน์ตาสีประหลาดของแมทธิว

หนุ่มรุ่นพี่จ้องลึกในดวงตาคู่นั้นอย่างลองเชิง แมทธิวฉายรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างชัดเจน แต่แมนไม่สามารถคาดเดาความหมายของรอยยิ้มนั้นได้

ร่างบนโซฟากระชากมือของแมนอย่างแรงจนขยับเข้ามาใกล้ และกระตุกอีกทีจนอีกฝ่ายเสียหลักทรุดลงนั่งบนตักของแมทธิว ดวงตาคมหรี่มองแววตาตระหนกของร่างบนตัก แล้วยกยิ้มพอใจ

กลิ่นหอมหวานเหมือนผลไม้อันเป็นกลิ่นประจำตัวของพี่แมน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เขาเสพติดมัน มือหนายกฝ่ามือในการเกาะกุมขึ้นแตะปลายจมูกตัวเอง สูดกลิ่นหอมที่ชื่นชอบ ก่อนจะแตะริมฝีปากลงบนมือนั้นเบาๆ


ราวกับเกิดกระแสไฟฟ้าแล่นปล๊าบไปทั่วกาย ร่างของแมนสั่นสะท้าน สมองสั่งการให้ชักมืออกเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่าช้าไปกว่าการกระทำของแมทธิวเพียงเสี้ยวเดียว


ริมฝีปากบางส่งลิ้นลิ้มลองสัมผัสเนียนบนนิ้วเรียว มืออีกข้างโอบเอว ล็อคให้ร่างของแมนอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากพรมจูบไปยังหลังมือ และแขนขาว

“แมทธิว!” แมนชักแขนห่างจากริมฝีปากนั้น และขืนตัวออก ร่างสูงไม่พอใจเท่าไรที่ถูกขัด จึงออกแรงกดแมนให้ชิดเข้ามายิ่งกว่าเดิม แล้วดันใบหน้าเรียวให้แนบกับแผ่นอกแกร่งของเขา แล้วซุกจมูกโด่งลงกับซอกคอที่มีปรอยผมปรกอยู่ประปราย

อยากทำแบบนี้มานาน แต่มีบางอย่างที่บอกแมทธิวว่าทำไม่ได้

เหตุผลของการกระทำ คอยยั้งใจแมทธิวอยู่เสมอ

แอลกอฮอล์ปลุกจิตใต้สำนึกส่วนเลวของคนในตื่น ทุกการกระทำล้วนเป็นไปตามสัญชาตญาณ...

ความต้องการของแมทธิวกำลังได้รับการตอบสนอง เขาประทับริมฝีปากลงบนซอกคอหอมกรุ่นนั้น กัดชิมผิวกายไปทั่วร่างของคนบนตัก


มือหนาอยากสัมผัสความเนียนลื่นมือมากกว่าที่ได้รับจากแขนเรียวที่มีเส้นเอ็นพอสมควร...


ไวเท่าความต้องการ เขาแทรกมือเข้าไปในเสื้อยืดย้วยๆ ของแมน ลูบไล้หน้าท้องที่มีมัดกล้ามเนื้อเบาบาง

“แมทธิว!!!” แมนตะโกนออกมาด้วยอาการตื่นตระหนก

เขากลัว... นี่ไม่ใช่แมทธิวที่แมนรู้จัก

“แมทธิว!! ตั้งสติ!!! โอ๊ย!!!” แมนงัดตัวเองออกจากอ้อมกอดแน่นหนา ก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อผิวบริเวณไหปลาร้าถูกขบกัดและดูดเม้มอย่างแรง ไวกว่าสมอง สัญชาตญาณสั่งให้แมนเอื้อมมือไปกระชากผมแมทธิวแรงๆ ให้ร่างสูงหยุดการกระทำ

“....”

ได้ผล... แมทธิวหยุดชะงักและเงยหน้ามองเขา... ด้วยแววตาของนักล่า

มันดุดัน ต้องการ และเอาแต่ใจ

อ้อมแขนของแมทธิวคลายออก แม้เพียงนิดเดียวแต่ก็เป็นโอกาสของแมนที่จะพาตัวเองออกจากสถานการณ์อันตรายนี้ ร่างโปร่งดึงคอเสื้อที่ยืดย้วยลงมาถึงไหล่ให้อยู่ในสภาพเดิม และถอยหลังมาตั้งหลัก สายตายังจ้องมองแมทธิวอย่างหยั่งเชิง

และทันทีที่แมนธิวลุกขึ้นยืน แมนก็ออกตัววิ่งตรงดิ่งไปยังห้องนอนทันที


แต่คนธรรมดาอย่างแมนหรือจะสู้คนเมาและขายาวอย่างแมทธิว ร่างสูงโอบแขนข้างหนึ่งรอบเอวแมนและกระชากมันอย่างแรงจนแมนเซมาชิดแผ่นอกแกร่ง ก่อนแมทธิวจะจรดริมฝีปากลงบนใบหู พลางวางมืออีกข้างที่ว่างตรงหว่างขาแมน

บริเวณเป้า...

ไม่มีใครพูด แต่แมนกลับได้ยินว่า ‘หยุดนะ ไม่งั้นตัวประกันเจ็บตัวแน่’ ดังอยู่ในหัว แมนปล่อยมือที่ลูกบิดประตู และยืนนิ่งๆ ให้แมทธิวลูบคลำ ทั้งๆ ที่หัวใจไม่นิ่งเลยสักนิด….มันเต้นถี่รัว เหมือนจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

...ลมหายใจของแมนก็เริ่มไปไม่เป็นจังหวะ เพราะลมหายใจร้อนๆ ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ที่รดอยู่ตรงต้นคอ



แกร๊ก!

แมทธิวใช้ไหล่ตัวเองดันประตูห้องเบาๆ มันเปิดออกอย่างง่ายดาย แมนเบิกตากว้าง หัวใจที่เต้นระส่ำร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น เมื่อร่างสูงค่อยๆ ดันตัวเขาให้เดินเข้ามาในห้อง และแม้ว่าเขาจะขืนตัวแค่ไหนก็สู้แรงร่างที่มีแต่มัดกล้ามเนื้อของแมทธิวไม่ได้

แม้ว่าเขาจะเก็บของออกเกือบหมดแล้ว แต่ไม่ใช่กับรูปแมทธิวบนผนังห้อง... แมนรู้ตัวว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

จะให้แมทธิวเห็นรูปตัวเองในห้องนี้ไม่ได้!!!

แมนอาศัยทีเผลอที่ริมฝีปากบางอ่อยอิ่งอยู่ตรงติ่งหูของเขา ผลักแมทธิวออกสุดแรงแล้วมองหาทางหนีทีไล่

จะทำยังไงดีๆๆ!?



ฟรึ่บ!!!

“แมทธิว!!!” เสียงพี่แมนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อแมทธิวผลักร่างโปร่งนั้นลงกับเตียง แล้วตามไปคร่อมทับ

เขาไม่ชอบหรอกนะ เวลาที่รอยยิ้มพี่แมนหายไป กว่าจะได้เห็นมันยากเย็นแสนเข็ญจะตาย แถมแมทธิวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายยิ้มเพราะอะไร...

แต่มาขัดขืนซ้ำๆ ซากๆ แมทธิวก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

“แมทธิว!!! จะบ้าหรือไง?!! นายลืมไปแล้วเหรอ นายเกลียดเกย์นะ”

ใช่... เขาเกลียดเกย์ โดยเฉพาะเกย์ที่ชอบมายุ่มย่ามกับเขา น่ารำคาญและน่ารังเกียจที่สุด

พระเจ้าสร้างชายและหญิงให้เกิดมาคู่กัน แล้วคนพวกนั้นยังกล้าทำในสิ่งที่จัดต่อพระเจ้าอีกเหรอ!!?

ที่สำคัญ ไม่ใช่เพราะเกย์หรือไงที่ทำให้คนที่เขารักต้องเจ็บ...

คนๆ นั้นทำให้แม่เขาต้องเจ็บ... มันสมควรแล้วหรือ?!

“แมทธิว นายเกลียดเกย์นะ อย่าลืมสิ...” น้ำเสียงของแมนอ่อนลง แมทธิวส่งยิ้มบางให้ และส่งแววตาเป็นประกายวิบวับ


ใช่ เขาเกลียดเกย์ แต่พี่แมนไม่ใช่เกย์นี่....

คิดแค่นั้นแมทธิวก็ตะโบมจูบ ลิ้มลองรส และสัมผัสที่โหยหา แมนดิ้นรนด้วยความกลัว มือทั้งสองข้างทั้งจิกและดึงทึ้งกลุ่มผมของร่างที่คร่อมตัวเอง

ผัวะ!!!

และปล่อยหมัดลงบนใบหน้าของแมทธิวเมื่อได้โอกาส

แมทธิวที่โดนชกหน้าสะบัด หันกลับมาจ้องเขาด้วยแววตาวาวโรจน์

สองสายตาสบกัน... และมันนานพอที่แมนจะส่งความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านสายตาของเขาถ้าอีกฝ่ายจะรับรู้มันสักนิด

“โอ๊ย!!! โอ๊ะ โอ๊ย อึก...”

แต่มันคงไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น เมื่อสิ่งที่แมนได้รับกลับมาคือการกระทำอันไร้สติตามเป็นสัญชาตญาณ....เหมือนเดียรัจฉานที่ไร้สามัญสำนึก

ก็แค่ถูกข่มขืน ผู้ชายคนหนึ่งจะไปเสียหายอะไร

บางครั้งช่วงชีวิตสักช่วงของเราก็เหมือนกับฉากหนึ่งในนวนิยายนิยายสักเรื่อง...

และแมนก็สงสัยเหลือเกินว่าสิ่งที่เขากำลังเจออยู่นี่มันมาจากนิยายเรื่องไหน





.
.
.

แต่เพราะชีวิตจริงยังไงก็ไม่ใช่นิยาย... ฉากต่อมาหลังการร่วมรักจึงไม่ได้มีพระเอกนอนเคียงข้าง ตระกองกอดแต่อย่างใด...

แผ่นหลังกว้างของแมทธิวที่นั่งอยู่ปลายเตียงคือสิ่งที่แมนเห็ดจากเพดานห้องหลังจากที่ลืมตาตื่นคืนมา ร่างสูงของรุ่นน้องนั้นกำลังเท้าศอกกับต้นขา และรอบตัวมีแต่ความเงียบ

สายไปสินะ...    

แมนรวบรวมสติและความอดทนบังคับให้ตัวเองขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บแปลบแล่นจากส่วนล่างไปทั่วทั้งร่างกาย เขาไม่อยากจะจินตนาการด้วยซ้ำว่าร่างกายภายใต้ผ้าห่มของเขาจะยับเยินขนาดไหน

“แมทธิว” มือสั่นๆ ของแมนยื่นไปข้างหน้า พร้อมกับเสียงเรียกอันแหบพร่าน่าอดสู

แผ่นหลังนั้น... ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่เขากลับรู้สึกว่ามันไกลเหลือเกิน

“!!!” ทันทีที่มือเรียวแตะลงบนบ่าของแมทธิว ร่างสูงก็ปัดมือแมนทิ้ง ก่อนจะผุดลุกขึ้น แล้วเงื้อหมัดขึ้นมา...

“...”

“...” ร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงยีนส์และเปลือยท่อนบนชะงักมือไป โดยที่หมัดแข็งแรงห่างกับหน้าแมนแค่คืบ แมทธิวกัดฟันกรอด จ้องตากับแมนอยู่นาน

“ขอโทษ” เสียงระโหยโรยแรงของแมนที่ แมทธิวได้แต่กัดฟันให้แน่นไปอีกจนเห็นสันกรามนูนเป็นแนวชัดเจนเพื่อข่มใจ...

มือหนาผลักไหล่แมนอย่างแรง ก่อนจะคว้าข้าวของตัวเองที่กองอยู่ตามพื้น แล้วเดินออกจากห้องไป

ริมฝีปากของแมนขยับเบาๆ คล้ายกับอยากจะพูดอะไร แต่ก็ทำได้แค่มองแมทธิวเดินจ้ำออกจากห้อง

แม้ร่างสูงจะเดินออกไปเร็วแค่ไหน แต่ภาพตอนที่แมทธิวเดินจากไปมันช่างเชื่องช้าเหลือเกินในสายตาแมน... ราวกับต้องการให้เขาจดจำมันให้นานที่สุด


ฉากสุดท้ายของเรื่องราวระหว่างเขากับแมทธิว....





.
.
.

รถญี่ปุ่นสีขาวมุกจอดรอรถยุโรปที่แล่นสวนเข้ามาบริเวณทางเข้าหออันคับแคบเกิดกว่ารถสองคันจะวิ่งสวนกันได้ แนทเบนสายตาจากรถหรูคันนั้นมายังร่างของเพื่อนสนิทข้างๆ ก่อนจะพูดเสียงสั่นเครือ

“แมน ไม่ไปหาหมอจริงๆ เหรอ?” แนทเอื้อมมือไปคว้ามือร้อนจี๋เพราะพิษไข้ของแมนมากุมไว้ พลางใช้ดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตามองเพื่อนด้วยความห่วงใย แมนส่ายหัวช้าๆ พร้อมส่งยิ้มฝืนๆ ให้เพื่อน

“แล้วมึงจะบอกเฮียกับเจ๊ไหม?”

“ไม่...”

“แต่ถ้ามึงกลับบ้านทุกคนก็ต้องรู้อยู่แล้วนะแมน”

“กูยังไม่กลับ...” แมนวางมือทับมือของแนทที่กุมกำลังมือเขาอยู่ “กูไม่ได้อาการหนักขนาดนั้น จะร้องไห้ทำไม?”

“แนท...” สารถีที่ทำตัวเป็นธาตุอากาศมานานส่งเสียงแทรกขึ้น แนทละสายตาจากแมนไปสบตากับก้องผ่านกระจกมองหลัง  “ให้แมนไปนอนห้องเราก่อนก็ได้”

“...มันจะรบกวนแกไปไหม”

“ไม่หรอก...” ก้องเบนสายตามาสบตากับแมนที่มองกระจกอยู่แล้ว “ไม่ต้องเกรงใจนะแมน เพื่อนแฟนก็เหมือนเพื่อนผมน่ะแหละ”

“เอางั้นนะแมน” แมนมองใบหน้าคลายกังวลของเพื่อนแล้วก็จำใจพยักหน้า แนทยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะส่งสายตาขอบคุณ และเชื่อใจไปยังหนุ่มคนรัก

ดีใจที่แนทได้เจอคนที่ดี... คนที่ดูแลเพื่อนเขาได้

ถูกแล้วที่ผู้ชายดีๆ ต้องคู่กับผู้หญิงสักคน... เหมือนเจ้าชายต้องคู่กับเจ้าหญิง



และนับจากนี้ก็ถึงเวลาที่ตัวประกอบอย่างแมนจะไปจริงๆ ซะที





.

.

.


END



















ล้อเล่นค่ะ



เดี๋ยวมาต่อนะคะ อาจจะไม่ตรงใจใคร แต่หวังว่าจะชอบกันค่ะ ขอบคุณที่ยังอ่าน และคอยเมนท์กัน ติชมได้เหมือนเดิมน้าา ด้วยรัก จากเห็ดหอม

ปล. แอบมาแก้คำผิดเบาๆ ตกใจกับคำก่นด่าน้องแมทมากมาย ฮ่าๆๆ เรื่องนี้ใสๆ แน่นอนค่ะ เห็ดแต่งดราม่าไม่เป็น แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 17:57:55 โดย เห็ดหอม:) »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #50 เมื่อ01-02-2016 17:52:22 »

 :a5: ตอนอ่านชื่อตอน

ฮือออออ แมทธิวนิสัยไม่ดีมากมาย  :ling1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #51 เมื่อ01-02-2016 20:11:26 »

 :L2: :pig4:
เฮือกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #52 เมื่อ01-02-2016 20:44:35 »

เฮ้อออ อีแมทธิว ทำไรแมนเนี่ยะ เกลียดเกย์แต่ทำแมนเพื่อ  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #53 เมื่อ01-02-2016 20:59:40 »

ตรงลงยังไงกันแน่แมททิว....ทำแบบนี้มารับผิดชอบพี่แมนด้วยนะ ... :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #54 เมื่อ01-02-2016 21:51:34 »

แมทธิวเข้าใจว่าอะไรคะลูกกกกกกกกกกกก
หนูนั้่นแหละขืนใจเค้า พี่แมนเค้าสู้แล้ว
จะโมโหไปเพื่อ?  :z6:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #55 เมื่อ01-02-2016 23:23:58 »

อ่า...แกข่มขืนเขานะได้ข่าว

แล้วจะออกอาการแบบนี้เพื่อ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #56 เมื่อ01-02-2016 23:42:32 »

นังแมทธิว นังเกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #57 เมื่อ02-02-2016 04:15:22 »

โธ่ พี่แมน  :o12:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #58 เมื่อ02-02-2016 13:12:14 »

เหมือนจะรัก แต่เหมือนจะแกล้ง ปมในใจทำให้เป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ อดีตของคนเราแก้ไขไม่ได้

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.9 (01/02/59)
«ตอบ #59 เมื่อ02-02-2016 14:46:43 »



เอ่อ... มันยังไม่จบใช่ไหมคะ?
คือถ้าตัดจบตอนนี้ เนื้อเรื่องจะย้อนแย้งกับชื่อเรื่องในบัดดลเลยนะเอ้า
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^
(หวังว่าจะมีอีกนะ...สงสารแมน)  :mew6:



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด