☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 43294 ครั้ง)

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #60 เมื่อ08-02-2016 10:06:09 »

Chapter 10 : Then, He finally found out.




“อึก... ผมกลับก่อนนะเจ๊” เสียงอ้อแอ้ของชายหนุ่มอายุครึ่งห้าสิบดังขึ้นกลางโต๊ะ ผู้หญิงวัยกลางคน อายุอานามห่างกับแมนเป็นรอบผู้ถูกเรียกว่า ‘เจ๊’ หันมามองใบหน้าเรียวขึ้นสีเลือดฝาดของแมนด้วยความสงสัย

“แกมากับหวานไม่ใช่เหรอ?! หวานมันยังไม่กลับเลย แล้วจะกลับยังไง?”


แน้ ยังจะมาถามให้แมนต้องตอบอีก ไม่เห็นเหรอ ลิ้นพันกันขนาดนี้ กว่าจะออกมาเป็นประโยคมันยากนะ


“โบกแท็กซี่เอา”

“เอางั้นเหรอ งั้นดูแลตัวเองดีๆ แล้วกัน” เจ๊แจงพยักหน้าให้เขาส่งๆ ก่อนจะหันไปบอกให้ผู้ ร่วมโต๊ะคนอื่นๆ “ส่วนพวกเรา ไม่เมาไม่เลิก แฮงก์ได้ ออฟฟิศเปิดบ่ายค้า  กรี๊ดดดด!”

“เฮ้!!! / เย้!!!” ทุกคนขานรับด้วยอย่างเฮฮา แมนมองภาพตรงหน้าด้วยอาการหมดคำพูด


เล่นไปด๊าย... ไม่ดูอายุอานามกันเลยแต่ละคน


“งั้นผมไปแล้วนะ” แมนคว้ากระเป๋ามาสะพาย สียงเพื่อนร่วมบริษัทดังล่หลัง


“กลับดีๆ นะน้องแมนของพี่”

“โชคดีค่ะเฮียแมน”

“เจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ”

“อืม” แมนโบกมือลา แล้วพาร่างตัวเองเดินสะโหลสะเหลออกจากร้านอาหาร แขนเรียวของเจ้าตัวถูกยกขึ้นมาดม


อื้อหือ กลิ่นเหล่านี่หึ่งอย่างกับไปนอนอาบมา


ดวงตาเรียวแบบชาวไทยเชื้อสายจีน แต่มี 2 ชั้นอย่างไม่น่าเชื่อกะพริบถี่ๆ สู้แสงไฟจากริมทาง รถคันแล้วคันเล่าวิ่งผ่านไปบนถนน แต็ยังไม่มีวี่แววของแท็กซี่

ไปส่งรถกันหมดหรือไง ทำไมไม่มาสักทีโว้ย ไม่เห็นเหรอว่าพี่ขาไม่มีแรง แถมตาก็จะปิดอยู่แล้วเนี่ย...

...เดี๋ยวก็นอนมันบนฟุตบาทให้รู้แล้วรู้รอดซะนี่


“พี่แมน?”


หือ!?

“พี่แมน!?” คนถูกเรียกหันไปตามต้นเสียง


นั่นมัน... ร่างสูงที่ทำให้เขาผวาตื่นมากว่า 3 ปีอยู่ตรงนั้น!


นี่บอกแมนที ว่าที่เพิ่งกินเข้าไปน่ะเหล้า เขาไม่ได้ไปเสพยาที่ไหนมาใช่ไหม!!?

แล้วทำไมถึงเห็นภาพหลอนออกมาเป็น 3 มิติเลยล่ะวะ!?


“พี่แมน!!?”


รู้แล้วว่าชื่อแมน จะเรียกซ้ำทำไมนักหนา

...เรียกมากๆ ชักเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วนะ!




มือหนาเอื้อมไปคว้าแขนของคนที่ก้าวถอยหลังหนีเขาไปหนึ่งก้าว นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบเขียวจ้องมองใบหน้าคนมองด้วยความรู้สึกหลากหลาย

โกรธ? แปลกใจ!? รู้สึกผิด!?


คิดถึง!!?



แมทธิวค่อยๆ เลื่อนมือตัวเองจากท่อนแขนของแมนมายังมือนิ่ม แมนมองตามอย่างมึนงง ก่อนจะช้อนตาขึ้นสบตาเขา

น้ำใสๆ ที่คลอหน่วยตาของแมนทำให้หัวใจแมทธิวถูกก่อกวนอีกครั้ง...


แม้ว่าอันที่จริงนับจากวันสุดท้ายของการเจอกัน ร่างสูงก็ไม่สามารถทำใจให้นิ่งได้อีกเลยก็ตาม


“...”

“...”

“...!?” แมทธิวรับร่างที่โผกอดตัวเองจนเต็มแรงด้วยความตกใจเล็กน้อย ไหล่กว้างรองรับใบหน้าของแมน ก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ว่าร่างโปร่งนี้ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงที่เขา

“พี่แมน!!?”




.
.
.
แมทธิวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หยิบเสื้อยืดที่พาดบนบ่ามาสวม แล้วทรุดลงนั่งบนเตียง สายตาของเขาจับจ้องใบหน้าของแมน โดยเฉพาะตรงริมฝีปากของชายหนุ่มรุ่นพี่ที่อมยิ้มน้อยๆ

เขาจำได้ว่าชอบรุ่นพี่คนนี้แค่ไหน จนวันที่แมทธิวเห็นรูปตัวเองแปะอยู่เต็มผนังห้องนอนของแมน

หลากหลายอารมณ์เกิดขึ้นในตอนนั้น สิ่งที่แรกที่แมทธิวรู้สึกคือ เขาโกรธ...

โกรธที่เหมือนถูกหลอกตลอดเวลาที่รู้จักกัน…

แต่สิ่งที่เขาทำกับพี่แมน... แน่นอน มันเป็นความผิดของเขาเพราะความเจ็บบนใบหน้า และรอยแผลบนตัวก็เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ารุ่นพี่ที่รักของเขาคงไม่ได้สมยอมเท่าไร


‘ฉันจะย้ายออกพรุ่งนี้’


แมทธิวไม่คิดว่านั่นจะเป็นคำบอกลา ก่อนที่พี่แมนจะหายไปจากชีวิตของเขาอย่างไร้ร่องรอย

ติดต่อไม่ได้ ไม่อาจรับรู้ความเป็นไปของคนๆ นั้นอีก

ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งเหมือนมีอะไรตกตะกอนในใจ และแมทธิวไม่สามารถเอามันออกไปได้สักที



แมทธิวทิ้งตัวลงนอนตะแคงเข้าหาแมน มองเสี้ยวใบหน้าเนียนตรงหน้า ก่อนจะเหลือบมองมือเรียวที่วางหงายอยู่…

ชายหนุ่มรุ่นน้องค่อยๆ วางมือใหญ่ของตัวเองลงบนฝ่ามือนั้นเพราะกลัวแมนจะตื่น ก่อนจะกระชับการเกาะกุมให้สองมือประสานกันแนบแน่น

แมทธิวไม่รู้ว่าตะกอนที่อยู่ในใจตลอดเวลามันคืออะไร แต่มันหายไปเมื่อเขาเจอกับแมนวันนี้


เขาดีใจจริงๆ ที่ได้เจอพี่แมนอีกครั้ง...




.
.
.
“เฮือก” แมนลืมตาโพลงขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ พ่นลมหายใจออกอย่างโล่งอก

แค่ฝันไปสินะ...

“...” ...ทำไมอยู่ๆ ถึงฝันขึ้นมากันล่ะเนี่ย

“อื้ม...” แมนส่งเสียงในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวตะแคง “!!!”


แมทธิวนอนอยู่ตรงหน้าเขา!!!

ฝันซ้อนฝันงั้นเหรอ!?


“...” ใบหน้าแมทธิวจะต้องมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างกับมือของแมนแน่ๆ มือข้างเขาถึงไปงางแปะอยู่บนใบหน้านั้นได้


แมนลากมือลูบไล้แก้มนั้นเบาๆ เรื่อยมาจนถึงสันกรามหยาบมือเพราะไรหนวด

ฝันดีจังเลย...


หมับ!

“เฮ้ย!” แมนร้องขึ้นเสียงดังเมื่อมือของตัวเองถูกทาบด้วยมือใหญ่ของแมทธิว


“พี่แมนเป็นอะไร?!” แมทธิวลุกขึ้นนั่งตามแมนที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง ใบหน้าของหนุ่มรุ่นพี่เหวอหนักจนเขาแทบหลุดขำ แต่ก็ต้องกลั้นมันไว้ ร่างสูงขยับตัวเข้าไปใกล้ และวางมือบนบ่าแมน


เพี๊ยะ!!!


ใบหน้าของหนุ่มรุ่นน้องสะบัดตามแรงตบ อยากจะโกรธที่อยู่ๆ ก็โดนตบแบบไร้สาเหตุ แต่พอหันกลับมาเห็นแววตาของแมน... เขาก็รู้ว่าแมนมีสิทธิ์ทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ


“ไม่ใช่ฝัน!!?”

“ครับ!?”

“...” แววตางุนงงผสมความอึ้งเบาๆ ของแมนทำให้แมทธิวต้องจับไหล่ของเจ้าตัวให้หันมาคุยกัน “พี่คิดว่าตัวเองฝันอยู่งั้นเหรอ!?”

“...” แมนหลบตาแมทธิว ด้วยการแกล้งเสมองไปทางอื่น
...แต่ไม่นานสายตาแมนก็ต้องเบนกลับมาสนใจมือของตัวเองที่ถูกยกขึ้นโดยคนที่นั่งตรงข้าม



แมทธิวจับมือแมนมาวางทาบบนอกเยื้องไปทางซ้าย ใบหน้าคมต้องแสงสีส้มนวลจากโคมไฟมองดูละมุนจนดึงดูดให้แมนต้องจ้องอยู่อย่างนั้น

“ที่พี่จับอยู่คือร่างกาย แล้วที่มันกำลังเต้นอยู่ก็คือหัวใจผม...”

“...”

“พี่ยังคิดว่าพี่ฝันอยู่หรือเปล่า?”

“...”

“...”

“...”

แมนชักมือกลับ แมทธิวลุกขึ้นไปเปิดไฟจนทั้งห้องสว่าง แมนมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะหันไปตามเสียงพูดของแมทธิว

“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะครับ”


“กระเป๋าฉันอยู่ไหน?” แมทธิวชะงักร่างที่ถือแก้วน้ำของตัวเองเมื่อหมุนตัวมาเจอแมนยืนอยู่ข้างหลัง ร่างของแมนในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัวบาง กับกางเกงยีนส์ซีดๆ จ้องหน้าเขานิ่งๆ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“บนโซฟาครับ” แมทธิวมองเลยจากห้องครัวไปยังโซฟาในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเดินนำไปหยิบกระเป๋า แมนเดินตามร่างสูงของรุ่นน้องไปติดๆ ก่อนจะรับกระเป๋ามาถือ แล้วเดินตรงไปยังประตู

“พี่แมน!”

“...!!!” แมนไม่ฟังเสียงเรียก มือเรียวเปิดประตูออกสุดความกว้าง ก่อนจะชะงักไปด้วยความช็อก


...มันจะเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว

ก็ถ้าห้องเขาจะอยู่ตรงข้ามห้องแมทธิวขนาดนี้



“พี่แมน จะกลับแล้วเหรอ?” แมทธิวขยับร่างตัวเองเข้าไปใกล้แมนที่ยืนนิ่งค้างอยู่หน้าประตู แมนหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิดอย่างชัดเจน หนุ่มรุ่นน้องยิ้มขำใบหน้านั้นอย่างควบคุมไม่ได้ มือหนาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะตรงไปหาแมน “เดี๋ยวผมไปส่งละกันนะ”


ปัง!!!

แมทธิวมองประตูที่ถูกกระแทกอย่างแรง ข้างในใจเต้นตึกตักเหมือนเด็กแรกรุ่นเพิ่งเริ่มรัก ทั้งๆ ที่ถูกแมนพาลใส่โดยไม่รู้สาเหตุแท้ๆ

หรือมันจะถึงเวลาที่เขาจะทำลายกำแพงในใจตัวเองสักที




.
.
.
“แมทธิว” เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากหลังร้าน แมทธิวละมือจากโน้ตบุ๊ก และเดินจากหน้าร้านไปตามเสียงเรียก

“ครับแม่” ตรงหน้าแมทธิวคือหญิงวัยกลางคน ใบหน้ามีริ้วรอยประปราย ฉายรอยยิ้มอบอุ่นเป็นพิมพ์เดียวกันกับยิ้มของแมทธิว คุณแม่คนสวยถอดถุงมือกันความร้อนออก ก่อนจะหยิบคุ้กกี้ขึ้นมา

“ลองชิมนี่หน่อย แม่ปรับสูตรใหม่” แมทธิวอ้าปากรับขนมที่คุณแพรวาป้อน ก่อนจะรับตาพริ้ม แสดงอาการเคลิบเคลิ้มออกนอกหน้า

“อื้ม อร่อย แม่แมททำอะไรก็อร่อย”

“ปากหวานจริงนะเรา อร่อยก็ลองชิมคัพเค้กตรงนั้นหน่อยสิ น่าจะเย็นแล้วนะ แม่เอาออกจากเตาได้สักพักแล้ว” แมทธิวเดินตรงไปยังคัพเค้กสีม่วงสวยที่วางเรียงรายบนบนถาด ก่อนจะหยิบชิ้นนึงขึ้นมากัด

“อื้ม อร่อยดีนะครับ”

“จริงหรือเปล่า!? แม่ไม่ค่อยมั่นใจเลย”

“อร่อยจริงๆ นะแมทว่า แต่ถ้าจะวางขายคงต้องเอาไปลองให้ลูกค้าชิมฟรีที่ร้านก่อน ว่าแต่... มันทำมาจากอะไรเหรอครับ?”

“Ube(มันต่อเผือก)น่ะ แอนดี้เอาสูตรมาให้ แม่ว่ามันแปลกดี ไม่เคยเห็นร้านไหนทำเลย”

“...” แมทธิวชะลอความเร็วในการเคี้ยว แววตาครุ่นคิดถึงสิ่งที่ติดอยู่ในใจเป็นหนามยอกอกมานาน “แม่ครับ...”

“หืม?” คุณแพรวาส่งเสียงในลำคอถามลูกชาย พร้อมๆ กับคีบคุ้กกี้ลงโหลแก้ว

“แม่ไม่โกรธเขาแล้วเหรอ!?”

“...” คุณแพรวาละมือจากโหล ก่อนจะหมุนตัวไปคุยกับแมทธิว “เขาไหน?”

“เอดิสัน... ผมหมายถึง แอนดี้...”

“แม่เคยบอกว่าแม่โกรธเขาเหรอแมทธิว???” คุณแพรวาเอียงคอ พร้อมกับสร้อยเงินเส้นเล็กที่ลำคอระหงขยับเล็กน้อย “แล้วทำไมแม่ต้องโกรธเขาด้วยล่ะ!?”

“เขา... เขาหลอกแม่ เขาทำให้แม่ต้องเสียใจ!! ถ้าเขาไม่ได้รักเรา แล้วเขามีแต่งงานกับแม่ทำไม เขามีผมขึ้นมาทำไม!!?”
“แมทรู้ได้ยังไงว่าแอนดี้ไม่รักเรา ทั้งๆ แมทไม่ยอมคุยกับเขามาตั้งนาน”


ใช่แล้ว... ตอนนั้นเป็นช่วงมัธยมต้นปีที่ 2 แมทธิวกำลังอยู่ในวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ ฮอร์โมนพลุกพล่านและ แปรปรวน

เขารับรู้และเข้าใจโลกเพียงด้านเดียว ฝังใจเสมอมาเพียงเพราะรู้ว่าที่เอดิสันจากไป เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่กับใครอีกคน... ที่เป็น ผู้ชาย

ตั้งแต่นั้นก็คิดไปเองไปโดยตลอดว่าตัวเองและแม่ถูกหลอก ถ้าแมทธิวยังรู้สึกแย่ขนาดนี้ แม่จะเสียใจขนาดไหน...

ดังนั้น มันจึงกลายเป็นปมในใจให้แมทธิวตั้งแง่กับเกย์ทุกคน ทั้งกับพ่อตัวเอง...

และกับ พี่แมน!?


 “แล้วแม่ไม่เคยโกรธเลยนะ ที่แอนดี้เลือกที่จะไป แม่ไม่โกรธและเสียใจเลยสักนิด ในเมื่อเขาได้มอบสิ่งวิเศษที่สุดให้ชีวิตแม่แล้ว อยู่ตรงหน้าแม่นี่ไง” คุณแพรวาเอื้อมไปลูบแก้มลูกชายอย่างรักใคร่ แมทธิวมองแววตาที่ไม่มีร่องรอยของความเสียใจ แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจที่มีต่อคนรอบข้างของแม่ตัวเอง

“...”

“แมทรู้อะไรไหม แม่เป็นเพื่อนกับแอนดี้มานานแค่ไหนก่อนที่จะมีเรา แม่รู้เกี่ยวกับเขามาตลอด แอนดี้ไม่เคยหลอกแม่ สิ่งที่เขาทำคือการหลอกตัวเอง”

“...”

“เขาหลอกตัวเองว่าจะรักผู้หญิงได้”

“แม่...”

“แมท รู้ไว้ซะ ความรักบังคับไม่ได้ รักก็คือรัก อย่าหาเหตุผลให้มันเลย”

“...........ครับ” แมทธิวกุมมือแม่ที่กุมใบหน้าเขาอยู่มากุมไว้ คุณแพรวายิ้มบางๆ ให้ลูกชายสุดที่รัก

“แม่หวังว่าแมทธิวจะเข้าใจ จำไว้นะลูก... โลกเรามันกว้าง เราจะยึดความรู้สึกตัวเองเป็นศูนย์กลางไม่ได้”


เราจะยึดความรู้สึกตัวเองเป็นศูนย์กลางไม่ได้


แวบแรกที่ได้ยินประโยคนี้แมทธิวก็นึกถึงชายหนุ่มรุ่นพี่คนนั้นขึ้นมา...

เพราะเขาถูกใจพี่แมนมาก ตอนที่เห็นรูปตัวเองบนผนังห้องนอนพี่แมนจึงรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง

พี่แมนหวังอะไรจากตัวเขามาโดยตลอดเวลาที่รู้จักกันเลยงั้นเหรอ!?

แมทธิวโกรธมากในจุดนั้น โกรธจนมองไม่เห็นความจริงที่ว่าตัวเองนั่นแหละ คือคนที่พาตัวเองไปยุ่งกับหนุ่มรุ่นพี่มาโดยตลอด และเขาโกรธจนเกือบพลั้งมือชกใบหน้าซีดเซียวในตอนนั้นลงไป

แต่ทำไม่ลง แมทธิวทำไม่ได้ แค่ได้ยินเสียงแหบแห้งดังระโหยมาจากปากของพี่แมน


‘ขอโทษ’


ทำไมนะ... ทำไมเขาไม่เคยนึกถึงความเจ็บปวดของพี่แมนเลยสักครั้ง แม้ในวันสุดท้ายก่อนที่ร่างนั้นจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ทำไมในตอนนั้นเขาถึงไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเองกันล่ะ มาตอนนี้ก็ย้อนเวลาไปแก้ไขไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือไง!!?


“แม่!!!” แมทธิวยึดไหล่ทั้งสองข้างของคุณแพรวา ดวงตาคมจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของผู้เป็นแม่ “แมทเจอคนที่แมทตามหามานานแล้วครับ”

“...หือ!?”

“แมทเข้าใจแล้วว่าทำไมแมทถึงต้องอยากเจอเขาอีกครั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา”

“...”

“แมทชอบเขาใช่ไหมแม่!?”

“เดี๋ยว แมทธิว...” คุณแพรวาขยับตัวเล็กน้อย และนั่นทำให้แมทธิวปล่อยมือที่ยึดอยู่บนไหล่ของเธอ “แมทพูดถึงใคร?”

“แมทชอบพี่เขาแน่ๆ เลย แต่มันสายไปแล้ว แมททำร้ายความรู้สึกเขา เขาคงจะเกลียดแมทมากแน่ๆ”

“...” คุณแพรวาฟังลูกชายที่เมินคำถามของตัวเองอย่างตั้งใจ แม้จะไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ก็พอเข้าใจสถานการณ์ได้ “ถ้าเขาเกลียด ก็ทำตัวใหม่ให้เขาเห็นสิ”

“แต่...”

“ถ้าเขาโกรธก็ไปง้อ แล้วถ้าเขาไม่ชอบเราก็แค่ไปจีบเขาใหม่” คุณแม่คนสวยลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู ถึงแม้จะตัวโตและดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน แต่สุดท้ายไม่ว่าใครก็ต้องการคำแนะนำในช่วงที่สับสนกันทั้งนั้น

“...” แมทธิวค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมาช้าๆ คุณแพรวามองใบหน้านั้นด้วยความรัก


“Mathew, You have only one life. DO YOUR BEST!”   









คิดถึงฉันไหมเวลา ที่เธอ ไม่เจอะเจอกัลกับชั้ล... (วิบัติเพื่อเล่นเสียง)  :-[

สวัสดีค่ะ หายไปหลายวัน ลืมเห็ดกันไปหมดแล้วมั้ง เจอคำผิด อ่านแล้วงง ไม่เข้าใจ เมนท์ทิ้งไว้ได้นะคะ ที่สำคัญขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์เสมอมาค่ะ

ด้วยรัก จากเห็ดหอม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2016 16:01:15 โดย เห็ดหอม:) »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #61 เมื่อ08-02-2016 12:04:47 »

โหหห. ไม่เจอกันสามปีเลยอะ นานมากกกกก

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #62 เมื่อ08-02-2016 12:14:33 »

สามปีเลยเนี๊ยะ ..  และแมททิวใช้เวลานานนะกว่าจะรู้ว่าตัวเองก็รักพี่แมน...สงสารพี่แมน
กลับไปง้อพี่แมนเดี๋ยวนี้เลย.... :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #63 เมื่อ08-02-2016 12:27:52 »

 :L2: :pig4:

คิดถึงคุณเห็ด รอพี่แมน
อื้มมม ความรักต้องใช้เวลา .. คนที่โชคไม่ดีความรักก็อาจจะมาไวไป หรือช้าไป
ชอบตอนนี้มากที่สุดเลย

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #64 เมื่อ08-02-2016 12:39:46 »

ว่าจะด่าแมทธิวเยอะ ๆ หน่อยจากตอนที่แล้ว มันน่าโมโหจริง ๆ
แต่พอมาเจอตอนนี้ เห็นว่าสำนึกผิด ก็พอค่อยหายโมโหหน่อย แต่ยังหรอกนะ
ขอให้พี่แมน อย่าเพิ่งยอมให้อภัยง่าย ๆ นะคะ ทำเราฝันร้ายมาสามปีเชียวนะ
แมทธิว ยังต้องพิสูจน์ตัวเองให้มาก ๆ กว่านี้อีก เพราะถ้าเราเป็นพี่แมน เราไม่เชื่อง่าย ๆ แน่
ว่าแต่ เรื่องคุณพ่อกับคุณแม่แมทธิวนี่ แมทธิวไม่เคยคุยกับคุณแม่เลยเหรอนี่ คิดเอาเองหมดเลย
คุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลกดีจริง ๆ นับถือจิตใจคุณแม่เลยล่ะ
ยังคงหมั่นไส้แมทธิว เพราะฉะนั้นขออุปสรรคเยอะ ๆ ให้แมทธิวหน่อย 555
ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #65 เมื่อ08-02-2016 15:51:33 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #66 เมื่อ08-02-2016 16:59:46 »

ชอบอะ  สนุกกกกก

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #67 เมื่อ09-02-2016 10:56:28 »

ขอวาร์ปไปตอนแมทกดพี่แมนใหม่อีกรอบค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ Greens 26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #68 เมื่อ09-02-2016 22:00:41 »

โห้ยยย พี่แมนอย่ายอมง่ายๆนะ เชิดไป เมินได้เมิน เอาให้กระอักเลือดไปเลย!! หมั่นไส้แมททิว ฮึ่ยๆๆ  :m16:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #69 เมื่อ09-02-2016 22:57:14 »

แมทนี่หล่อนรอมากี่ปีถึงจะเข้าใจกันยะ...


คุณเห็ดหอมมอยากอ่านต่อแล้ววว


คำผิดน้า


เขาแทบหลุดเขา >>หลุดขำ ไหมตัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2016 07:39:25 โดย JustWait »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
« ตอบ #69 เมื่อ: 09-02-2016 22:57:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.10 (08/02/59)
«ตอบ #70 เมื่อ10-02-2016 13:42:09 »



เวลาผ่านไปสามปี ก็ใช่ว่าความเจ็บปวดที่แมนได้รับในคืนนั้นจะหายไปเสียหน่อย
แมทต้องทำอะไรอีกเยอะเลยนะเพื่อซื้อใจพี่แมนกลับมาให้ได้

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :pig4:


ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #71 เมื่อ11-02-2016 17:12:23 »

Chapter 11 : I don’t actually really like him anymore.




สวัสดีครับ นี่พี่แมนคนเดิม เพิ่มเติมคืออายุ...

ไม่สิ เรื่องอายุใครเขาเอามาพูดกัน เอาใหม่ๆ

สวัสดีครับ กระผมนายแมนคนเดิม เพิ่มเติมคือมีรถขับแล้ว...


ผมเลี้ยวรถออกจากหมู่บ้านจัดสรรย่านคนรวยใจกลางเมืองหลวง ที่นั่งข้างคนขับมีร่างบางของหญิงสาวรุ่นน้อง

“เมื่อคืนกลับถึงบ้านปลอดภัยดีไหมคะ?” เจ้าตัวถามขณะบรรจงวาดลิปสติกสีสดลงบนปาก ผมลอบชักสีหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน

“ก็ดี... มั้ง”

“อาแจงนะอาแจง ไหนบอกว่าออฟฟิศเปิดบ่าย สุดท้ายก็ต้องเข้าแต่เช้าอยู่ดี” ทรายพูดพลางดันบังแดดหน้ารถพับเก็บตามเดิม ผมเหลือบมองรุ่นน้องที่ทำงานสุดสวยโฉบของตัวเอง

“...” เช้าเหรอ... นี่ก็เข้างานสายกว่าปกติตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะเนี่ย...

แต่ที่ทรายพูดมาก็จริง อย่างว่า คนเมาทำอะไรไปก็จำไม่ค่อยจะได้หรอก ขาดสติกันทั้งนั้น...



“พี่แมนๆ เดี๋ยวแวะซื้อกาแฟก่อนนะ ร้านที่เปิดใหม่ตรงนั้นอะ”

“อือ...” ผมตบไฟเลี้ยวให้สัญญาณ ก่อนจะเปลี่ยนเลนจากที่กำลังจะยูเทิร์นในอีกไม่ร้อยเมตรข้างหน้า

รถจอดเทียบหน้าร้านกาแฟที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น ทรายและผมลงจากรถ ก่อนที่ร่างบางนั้นจะก้าวฉับๆ เข้าร้านไปก่อนผม

ทรายเป็นหลานพี่แจงครับ พ่อของทรายเป็นพี่ชายของพี่แจงที่อายุห่างกันเป็นรอบเหมือนกับผมและพี่น้องของผม

อายุของทรายห่างกับผม 2 ปี ที่สำคัญทรายยังเป็นรุ่นน้องคณะ และมหาวิทยาลัยเดียวกับผมอีกด้วย... และแน่นอนเราไม่รู้จักซึ่งกันและกันสักนิดจนกระทั่งได้มาเจอกันที่บริษัทพี่แจงเนี่ยแหละ


Rrr… Rrrr….

“ฮัลโหลอาแจง... เฮียแมนไปรับ ตอนนี้อยู่ร้านกาแฟที่เปิดใหม่หน้าออฟฟิศค่ะ... อ๋อได้ๆ เดี๋ยวเค้าซื้อไปให้ เจอกันนะ จุ๊บๆ” บทสนทนารวบรัดและปัญญาอ่อนเบาๆ ระหว่างพี่แจงกับทรายจบลงอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากแต่งสีสดนั้นเปลี่ยนมาจีบปากจีบคอสั่งกาแฟกับบาริสต้า

“ลาเต้เย็น 4 แก้ว โกโก้ 1 ชาเขียว 1 ค่ะ ลาเต้เอาหวานน้อยแก้วหนึ่งนะ เฮียกินอะไรไหมอะ” ร่างบางทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ทรงสูง ขาเรียวที่โผล่พ้นกระโปรงเอวสูงความยาวสั้นเลยเข่าขึ้นมาหลายคืบยกขึ้นไขว่ห้างอย่างน่าหวาดเสียว

เห็นเปรี้ยวๆ สเป็กผู้ชายแบบนี้ ใครจะรู้ว่าทรายแต่งนิยายบอยเลิฟนะครับทุกคน

จะว่าไปผมก็สังเกตมาสักแล้วว่าชีวิตตัวเองมักเกี่ยวข้องกับผู้หญิงแนวนี้บ่อยๆ

พวกประเภทสวย แต่นิสัยขัดแย้งกับหน้าตาเนี่ย

ทั้งพี่แจงที่สวย...แต่อายุอานามเลยไปไกลจะหาคู่ตุนาหงัน แนท...ที่คนไม่รู้จักคงมองว่างาม ทั้งรูปลักษณ์และกริยา แถมยังมีว่าที่ซะมีแล้ว...แต่โคตรปากหมา ...และน้องทราย ยังไม่รวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ

บอกให้ พี่แจงน่ะตัวร้ายกาจ รับผมเข้าทำงานในสำนักพิมพ์ด้วยแผนกการเงิน แต่ใช้งานเยี่ยงทาส ช่วงทำงานใหม่ๆ ให้ทำมันทุกอย่างทั้งงานหลักและงานรอง ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ แต่ผมรู้หรอก เหตุผลหลักๆ ที่แกรับผมมาทำงานในออฟฟิศน่ะ... ก็เพราะเจ๊แกจะได้ทวงต้นฉบับได้ง่ายขึ้นไง!!!

พอทรายเข้าบริษัทมาผมก็โล่งใจในตอนแรก เพราะผมก็ไม่ใช่คนที่เด็กสุดในออฟฟิศอีกต่อไป เป้าหมายในการโขกสับจึงน่าจะไปตกอยู่ที่ทราย ที่ไหนได้ ทรายนี่มัน Little Evil ชัดๆ

ทุกคนรังแกแมน แมนจะฟ้องป๊า กับแม่!!!

“ลาเต้ร้อนอีกแก้วหนึ่งครับ” ผมทรุดลงนั่ง ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มกับบาริสต้าอีกคนที่ยืนหันหลังล้างมืออยู่ แทนบาริสต้าคนแรกที่จรลีไปชงเครื่องดื่มตามออเดอร์แล้ว

“ครับ...!!?”

“!!!”

“ไงแมทธิว ลูกค้าเยอะไหม?”

“...ก็พอสมควรครับ แค่รับออเดอร์ไม่ได้หยุดเท่านั้นเอง” ตอบคำถามทราย แต่สายตากับรอยยิ้มกลับส่งมาให้ผม

โม้จริงๆ.... แต่ก็จริงของแมทธิวนั่นแหละ จากการมองไปรอบๆ ร้าน ก็เห็นว่าลูกค้าเต็มเกือบทุกโต๊ะ

“นี่แมทธิวน้องรหัสทรายเอง เป็นเจ้าของร้าน” ทรายหันหน้ามาคุยกับผมสลับกับแมทธิว “แมทธิว นี่เฮียแมน รุ่นพี่ที่ทำงาน เคยเรียนคณะเดียวกับเราด้วยนะ แต่พี่ไม่เคยเห็นล่ะ”

“สวัสดีครับพี่แมน” ทำมาเป็นส่งยิ้มให้ คิดว่าผมจะชอบที่ถูกเรียกว่าพี่แมนหรือไง เสียใจ จะไม่มีใครได้เรียกผมว่าพี่แมนอีกแล้ว เพราะมันเป็นคีย์เวิร์ดที่สะเทือนใจผมทุกครั้งที่ได้ยิน

“กาแฟได้แล้วครับ” ลาเต้ 4 แก้วถูกวางลงบนเคาท์เตอร์ ตามด้วยเครื่องดื่มอื่นๆ แก้วทั้งหมดถูกเรียงใส่กล่องกระดาษที่มีหลุมใส่แก้ว เพื่อให้หิ้วได้ที่ละหลายแก้ว

“กาแฟครับพี่แมน...” แก้วลาเต้ร้อนที่ถูกปิดฝาอย่างดีถูกเลื่อนมาตรงหน้าผม โดยความตั้งใจของหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของร้าน ผมหลบสายตาที่จ้องมาแบบโคตรจะจริงจังของแมทธิวด้วยการจ้องมองแก้วกาแฟ ก่อนจะสะดุดสายตากับรูปหัวใจเบี้ยวๆ ซึ่งถูกวาดด้วยปากกาบนทิชชู่ที่พันอยู่บนแก้ว



ผมเงยหน้าขึ้นก็เจอใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว้าง มันทำให้ผมต้องกรอกตาและมองบน แล้วใช้ความพยายามไม่ให้เผลอเบะปากออกมา

เพื่ออะไรมิทราบครับ หรือฝังใจว่าผมเป็นเกย์ เลยล้อเล่นกันแบบนี้!?

“ได้ของครบแล้วนะครับ” เสียงชายหนุ่มบาริสต้าดังมาจากเครื่องคิดเงิน ผมคว้ากล่องกระดาษและแก้วกาแฟตัวเองมาถือ ก่อนจะเดินไปหาทรายที่ยืนคิดเงินอยู่

“ค่ะ ป่ะ เฮีย เดี๋ยวละลาย”

“เดี๋ยวผมช่วยถือไปส่งละกันครับ” แมทธิวเดินอ้อมออกจากเคาท์เตอร์ก่อนจะฉวยกล่องกระดาษในมือผมไปหิ้วแทน แล้วเดินตามทรายที่ก้าวฉับๆ อย่างกับรีบไปไล่ควายแบบไม่รอเจ้าของรถแบบผม

“พี่ทราย ทำงานแถวนี้ใช่ไหมครับ?” แมทธิวชวนคุยระหว่างที่เดินผลักประตูกระจกให้ทราย ผมใช้จังหวะนั้นปลดล็อกรถ พร้อมๆ กับที่ทรายชี้นิ้วไปอีกฟากถนน

“ใช่ ตรงนั้นไง” นิ้วเรียวชี้ไปยังอาคารซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กันกับร้านกาแฟ ด้านล่างเปิดที่ตั้งสำนักพิมพ์ของพี่แจง

“อ๋อ...” ผมเหลือบมองแมทธิวที่อยู่ๆ ก็หันมาอ๋อใส่ผม ก่อนที่ผมจะกระตุกแขนทรายเบาๆ

“ขึ้นรถเถอะ”

“เจอกันครับ” ไม่รู้ว่าบอกใคร แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ร่างสูงโบกให้ผมน้อยๆ ทันทีที่รถออกตัว นั่นทำให้ผมอารมณ์ติดลบเพิ่มไปอีกเพราะรู้สึกเหมือนถูกกวนประสาท

โชคชะตา จะเล่นตลกกับชีวิตผมเกินไปแล้วมั้ง...





.
.
.
วันรุ่งขึ้น

“อ้าว แมทธิว มาได้ยังไง?” ทรายลุกจากโต๊ะประจำตัว แล้วเดินตรงไปหาร่างสูงที่ยืนเด่นเป็นสง่าเหมือนเสาไฟฟ้าอยู่กลางห้อง

“ใครอะทราย?” พี่หวานเลื่อนเก้าอี้มีล้อของตัวเองออกมามอง สายตาเปลี่ยนเป็นลุกวาวเมื่อเห็นแมทธิว

“น้องรหัสทรายสมัยเรียนมหาลัยค่ะ ชื่อแมทธิว”

“เฮ้ยๆ พี่ว่าพี่เคยเห็นตามเพจในเฟซนะ เป็นเดือนหรืออะไรทำนองนั้นด้วยใช่ไหมเนี่ย?” ผู้ชาย(ไม่แท้)อีกท่านหนึ่งในออฟฟิศนอกเหนือจากผมลุกขึ้นชี้นิ้ว ทำหน้าทำตาเหมือนรู้จักเสียเต็มประดา

“ครับ เป็นเดือนคณะ” แมทธิวยิ้มรับหน้าตาสดใส สายตากวาดไปรอบๆ ก่อนจะหยุดเมื่อเจอผมที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง

“พี่ชื่อกาย ตรงนั้นหวาน พี่แตน พี่ปอ และตรงมุมห้องน้องแมน...” ผมทำเป็นสนใจงานตรงหน้า ทั้งๆ ที่ในโน้ตบุ๊กเปิดการ์ตูนญี่ปุ่นค้างไว้อยู่

“ครับ ผมแมทธิว”

“แกลืมแนะนำฉัน นังกาย” เจ๊แจงเดินออกจาห้องประจำตำแหน่งที่เจ้าตัวทำแยกไว้มายืนพิงกรอบประตู

“อ๋อ ขอโทษทีเจ๊ ที่ยืนดูอาวุโสตรงนั้นคือพี่แจง บอสของพวกเราเอง” เจ๊แจงแยกเขี้ยวใส่พี่กาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานเมื่อสนทนากับแมทธิว

สองมาตรฐานมากครับเจ๊

“ผมเอาขนมมาให้ลองชิมกันครับ ตัวนี้ยังไม่วางขาย อยากรู้ฟีดแบ็คก่อน” แมทธิวชูถุงใส่กล่องขนมในมือขึ้น พี่แจงเดินไปรับมันมาถือ ก่อนที่ทุกคนจะลุกมารุมพี่แจงเหมือนแรงทึ้ง


“พี่แมน ผมขอคุยด้วยแป๊บนึงสิครับ”


“...” ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมที่นั่งนิ่งๆ ทำตัวประหนึ่งลมแอร์ไร้ตัวตน แต่ก็ดันมาถูกจับจ้องโดยสายตาของคนทั้งออฟฟิศเพราะเด็กฝรั่งนั่นคนเดียว

ทรายตวัดหางตาที่กรีดอายไลเนอร์มองมาทางผม พร้อมๆ กับเจ๊แจง และเจ๊คนอื่นๆ ที่ส่งแววตาแฝงความนัยมาให้

“รีบไปสิแมน จะได้รีบกลับมาทำงาน” พี่แจงพนักเพยิดหน้าไปทางประตูหลัง ผมจำใจต้องลุกขึ้นยืน แล้วเดินนำแมทธิวออกจากออฟฟิศไป


แกร๊ก!

ประตูหลังตัวตึกถูกปิดโดยคนที่เดินตามหลังผมมา แมทธิวหมุนตัวมาเจอผมแล้วส่งยิ้มให้แบบที่เจ้าตัวชอบทำจนติดเป็นนิสัย…

ยิ้มให้ความหวังชาวบ้านเขาไปทั่วตั้งแต่เด็กยันโตเรียนจบแล้วก็ยังไม่เปลี่ยน

“พี่แมน...” ผมเบนสายตาที่เหม่ออย่างไร้จุดหมายกลับมายังร่างตรงหน้า แมทธิวขยับเข้ามาใกล้ พร้อมๆ กับที่ผมถอยหลังหนี “คือผม...”

“...”

“...” เราจ้องตากันอย่างลองเชิง ก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความอึดอัด

“ถ้าจะพูดถึงเรื่องเมื่อตอนนั้น ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงนายละกัน ไม่ได้ตั้งใจจะปิดหรอก แค่มันยังหาโอกาสบอกไม่ได้ซะที”

อันที่ก็ตั้งใจจะหายไปจากชีวิตนายเงียบๆ อยู่แล้วเชียวนะ แต่ดันมาเกิดเรื่องซะก่อนไง...

ไม่รู้ว่าความผิดใครเนาะ...


“นายจะยกโทษให้ฉันได้ใช่ไหม?” ที่ถามก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ไม่ยกโทษให้ก็ไม่มีผลต่อชีวิตผมแล้วล่ะ พูดเลย

“ไม่... พี่แมน...” น้ำเสียงติดจะเว้าวอน แต่ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองเท่าไร เลยรีบตัดบท จะได้ไม่เสี่ยงโดนตัดเงินเดือนเพราะอู้งาน

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ที่ผ่านมามันก็แค่อดีต ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นแล้ว จบไหม จะได้แยกย้าย?”

“พี่แมน ฟังผมก่อนได้ไหม!?” แมทธิวขยับประชิดตัวผม ผมเบี่ยงตัวหลบแต่ไม่ทัน จึงถูกมือหนากดทับบนไหล่ทั้งสองข้าง

“...” ผมสบนัยน์สีประหลาด และกวาดตามองทั่วใบหน้าที่เคยหลงใหล ความรู้สึกเก่าๆ ตีตื้นอยู่ในอก แต่ผมจะไม่ปล่อยให้มันล้นออกมาทางสายตาเด็ดขาด “ฉันไม่ชอบนายแล้ว ไม่พอใจอะไรอีกเหรอ?”

“พี่แมน....” แรงกดบนไหล่ผมเบาลง แววตาอ่อนแสงของแมทธิวทำให้ผมต้องค่อยๆ เบือนหน้าหลบสายตา “พี่ไม่ชอบผมแล้วเหรอ?!”

“...”

“จริงเหรอพี่แมน?” มือใหญ่บนบ่าย้ายมากุมใบหน้าของผม ผมดึงมือนั้นออกเบาๆ แล้วจ้องกลับด้วยใบหน้าเย็นชา...

“ใช่”

“แล้วพี่เกลียดผมไหม?”

เกลียดไหม นั่นสิ ทำไมผมไม่เกลียดแมทธิวทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นแบบนั้นล่ะ!?...

“...”

“พี่ไม่ได้เกลียดผมใช่ไหม?” ผมเม้มปาก เมื่อแมทธิวพูดแทรกความคิดของผม

“...” ...ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันจึงไม่ได้ตอบไป

“อย่าเกลียดผมเลยนะ...” แมทธิวคงจับทางได้ว่าทุกทีที่ผมเหม่อจะเผลอปล่อยตัว ร่างสูงดึงผมเข้าไปฝังในอ้อมกอดช้าๆ เพื่อไม่ให้เป็นการบังคับผมจนเกินไป ใบหน้าก้มลงมาชิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ

“เพราะหลังจากนี้ ผมจะจีบพี่เอง”

“!!!”




.
.
.
ผมเดินกลับเข้ามาในออฟฟิศโดยมีแมทธิวด้วยตามหลังเข้ามา ทุกสายตาจับจ้องมายังเราทั้งสอง ก่อนที่แมทธิวจะยิ้มหวาน

“กลับก่อนนะครับ” ร่างสูงยกมือไหว้พี่แจงและคนอื่นๆ ในออฟฟิศ ก่อนจะเดินออกไป ผมมองตามเงียบๆ แล้วเดินกลับไปทำงานที่โต๊ะบ้าง แต่ก็ถูกน้ำเสียงใส่จริตเกินงามขัดเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ” พี่หวานผู้ซึ่งนั่งกลางห้องดึงแขนผมไว้อย่างรู้งาน ผมก้มมองข้อมือตัวเองที่ถูกดึงเบาๆ แล้วเงยหน้าสบตากับคนรอบห้อง

ทำไมซื้อหวยไม่ถูกว้า... ก็แหงล่ะ ผมไม่ได้เล่นหวย กร๊าก ขำจังเลย

“เฮียแมน... รู้จักกับแมทธิวอยู่แล้วเหรอคะเนี่ย ไม่เห็นบอกทรายเลย?” ทรายเหยียดยิ้มร้าย แววตารู้ทัน ทำเอาผมลอบกลืนน้ำลาย

ก็บอกแล้ว ผู้หญิงรอบตัวผมน่ะร้ายกาจ ผมเป็นฝ่ายโดนกระทำย่ำยี ข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้าตลอดๆ

“ก็ทรายไม่ได้ถามพี่”

“แล้วยังไงแมน ที่น้องเขามาที่ออฟฟิศคงไม่ใช่แค่เอาขนมมาให้พวกเจ๊ชิมใช่ไหมจ๊ะ?” เจ๊ปอพูดขึ้น ขณะเดินเฉียดกายผ่านตัวผมในห้องน้ำ ก่อนจะตามด้วยเจ๊แจงที่น็อคผมด้วยประโยคสุดท้าย

“แล้วอีที่เรียกออกไปคุยข้างนอก เพราะแกสองคนมีซัมธิงกัน ถูกไหม!?”

“!!!?”

“ไม่ต้องมาสงสัยว่าพวกเจ๊รู้ได้ไงนะ ฉากแบบนี้เจอในนิยายเป็นพันๆ เรื่องแล้ว บอกไว้ก่อนถ้าคิดจะเล่นตัวพวกเราไม่ยอมแน่” พี่แตนกล่าวปิดท้ายอย่างสวยงาม ก่อนที่ทุกคนยกเว้นพี่กายจะพากันเชิดหน้าจิกตาอย่างพร้อมเพรียง

“แตนพูดถูก เพราะชายได้ชาย คือคติประจำใจของพวกเรา ไป! แยกย้าย!”

แล้วทุกคนก็ประจำที่ตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เว้นเสียแต่รอยยิ้มอันน่าหวาดกลัวของของกลุ่มคนที่ตั้งตัวเป็นสมาคมนิยมชายได้ชายซึ่งยังคงประดับอยู่บนหน้า ผมเหลือบมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะหันไปมองตามแรงตบบนบ่า

“นายน่าจะชินนะ ใช่ไหม?”

“...” ก็จริง ถ้าไม่นับเรื่องพวกนี้ ทุกคนก็ดีกับผมหมด ไม่งั้นผมอยู่มาตั้งเกือบ 3 ปีหรอก ทำใจนะแมนนะ

“...แต่ถ้าเข้าวงการเดียวกับพี่เมื่อไร ขอคำแนะนำได้เสมอนะแมน พี่กายรับสอนฟรีทุกกระบวนท่า จุ๊บ!”

“!” ผมยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้รับแรงกดบนแก้ม ก่อนจะลากร่างตัวเองกลับมานั่งรวบรวมขวัญที่แตกกระเจิงให้กลับมารวมกันตามเดิม

ทำไมชีวิตอันสงบสุขของผมมันมีแต่เรื่องวุ่นวายเข้ามาวะครับ!!?








ขอบคุณสำหรับคนอ่านและคอมเมนท์ที่ทุกท่านมีต่อนิยาย รวมถึงคอมเมนท์ช่วยแก้คำผิดค่ะ (เขินอาย)  :o8:

อาจจะไม่ถูกใจใครไปบ้างหลังจากนี้ แต่หวังจะตามอ่านกันจนจบนะคะ ด้วยรัก จากเห็ดหอม

ปล.เผื่อใครลืมเจ๊แจง ลองย้อนกลับไปอ่านตอน 1 ดูนะคะ เจ๊โผล่มาทสงต้นฉบับตั้งแต่ตอนแรกแล้วววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-02-2016 19:02:00 โดย เห็ดหอม:) »

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #72 เมื่อ11-02-2016 17:33:01 »

มันต้องอย่างนี้ซิแมททิว "ต่อจากนี้ผมจะจีบพี่เอง" เริศค่ะ เป็นกำลังใจนะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #73 เมื่อ11-02-2016 17:44:44 »

อร๊ายยย. อีแมทธิว พยายามจีบละกันนะ

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #74 เมื่อ11-02-2016 19:23:43 »

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #75 เมื่อ11-02-2016 19:29:56 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #76 เมื่อ11-02-2016 20:14:33 »

รู้ตัวช้าไปนะแมท เสียเวลาที่จะได้หวานกันตั้งหลายปี
แต่ก็เอาเถอะ จีบแบบเก๋ๆ หน่อยแล้วกัน คนแถวนั้นจะได้เอาไปเป็นวัตถุดิบเขียนนิยาย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #77 เมื่อ11-02-2016 21:00:29 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wan1222

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #78 เมื่อ11-02-2016 22:20:18 »

"โอ้.. อีแมท นานน้อ" จริงอยากจพพิมยาวๆแต่นักอ่านมันขี้เกียจเพิ่งเลิกงาน :katai4: :katai4: :katai5: :serius2: :เฮ้อ:
แต่ "น่ารักอ่ะ" :o8: :o8: :-[ :-[ เป็นเรื่องที่น่าติดตามนะ สำนวนก็ดีด้วย(นานๆทีจะเม้นเรื่องที่ถูกใจ) o13 o13  o13 นักเขียนรีบมาแต่งเร็วๆนะ ถึงนักอ่านทำงานดึกแค่ไหนเลิกดึกแค่ไหนจะถ่างตารอครับ ฮุๆๆ :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
«ตอบ #79 เมื่อ12-02-2016 00:25:43 »

คำผิด

มันทำให้ผมต้องกรอกตา << กลอกนะคะที่รัก กรอกคือกิริยาแบบเอาน้ำกรอกใส่ขวดน่ะค่ะ


รอตอนต่อน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.11 (11/02/59)
« ตอบ #79 เมื่อ: 12-02-2016 00:25:43 »





ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #80 เมื่อ15-02-2016 16:23:39 »

Chapter 12 : I see you walk away again.



“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ที่ถูกไหล่หนีบแนบไว้กับหูขณะประตูลิฟต์กำลังเปิดออก พลางใช้มือทั้งสองข้างควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋า

“ถึงแล้ว กำลังออกจากลิฟต์ รอแป๊บนะครับ” ผมเดินออกจากลิฟต์ หมุนตัวเตรียมจะเดินกลับเข้าห้อง ตอนนั้นเองที่หางตาเหลือบไปเห็นร่างของคนที่ไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด ณ เวลานี้กำลังเดินตรงมา

“พี่แมน!!?” แมทธิวสังเกตเห็นผมซะก่อนจึงร้องทัก ผมถอนหายใจแรงๆ แล้วกรอกตาเซ็งๆ “พี่แมน อยู่ที่นี่เหรอ??”

“ฮะ...” รู้ได้ไงวะ...ผมเผลอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แล้วมองตามสายตาแมทธิวที่จ้องมายังคีย์การ์ดผม ก่อนที่ผมจะยัดมันใส่กระเป๋ากางเกง

แต่เก็บตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วไหมวะ ทำไมผมต้องเกิดมาหน้าตาดีแต่โง่ด้วยเนี่ย....

“เอ่อ... แค่นี้ก่อนนะครับ” ผมกดวางสายตาโทรศัพท์ ก่อนจะเงยหน้าเพื่อสบตากับแมทธิวที่เดินล้วงกระเป๋าเสื้อกันหนาวเข้ามาใกล้ผมยิ่งขึ้น

ร่างสูงหยุดยืนยิ้มแพรวพราว ผมมองเขา และประเมินสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความอึดอัดใจ เพราะมันเป็นอะไรที่.... กลับตัวก็ไม่ได้(เพราะข้างหลังเป็นลิฟต์) ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง(เพราะโดนขวางทางเดิน)


ติ๊ง!

“พี่แมน หลบ” ไม่ทันได้ถามว่าแมทธิวมองอะไรข้างหลังผม ร่างสูงก็ดึงผมให้หลบพ้นหน้าประตูลิฟต์เพื่อเปิดทางให้คนที่เดินออกจากลิฟต์ ผมเซเบาๆ ไปอยู่ในอ้อมอกคนคนฉวยโอกาส ก่อนจะถูกแขนทั้งสองข้างโอบล็อคไว้อย่างแน่นหนา

แหม... อย่างกับฉากในละครหลังข่าว ถามจริง กับคนที่เพิ่งเดินออกจากลิฟต์เมื่อกี้ เตี๊ยมกันมาป่ะเนี่ย?

“ปล่อยได้แล้ว....” ม้าง... คำสุดท้ายอยากใส่เพื่อประชดประชัน แต่มันจะหลุดภาพลักษณ์เจ้าชายเย็นชาของพี่แมนไปหน่อย เลยได้แต่พูดไปสั้นๆ พร้อมตีหน้าเคร่งขรึม แมทธิวตีมึน กระชับอ้อมแขนแล้วก้มมองผมยิ้มๆ

“ไม่ปล่อย บอกก่อนว่าอยู่ห้องไหน?”

“จะรู้ไปทำไม?”

“....ถามแบบนี้ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยสิ” แมทธิวเงยหน้าเล็กน้อยแล้วกรอกตาครุ่นคิด ก่อนจะก้มลงมาสบตากับผมตามเดิม “แต่ถ้าไม่บอกผมก็จะกอดพี่จนกว่าพี่จะบอกนะ”

ข่นบร้า(วิบัติเพื่อน้ำเสียง) บัดสีบัดเถลิงเป็นที่สุด ที่นี่มีกล้องวงจรปิดนะ ถ้าจะทำอะไรพี่ก็ควรลากเข้าห้องก่อนมิใช่หรือ...

ครับ ขอโทษที่หลุดประเด็น ผมควรเล่นตัวมากกว่านี้เพื่อความสมจริงสินะ...

“…” ผมเอามือกันหน้าอกแน่นๆ และดีดดิ้นเท่าที่พละกำลังของตัวเองจะสู้ไหว

“อย่าดิ้นสิครับ” ใบหน้าแมทธิวขยับเข้ามาใกล้ขึ้นจนเห็นปลายจมูกเราสองคนเฉี่ยวกันเบาๆ สร้างความขนลุกขนชันแต่ผมเป็นอย่างดี ผมเกร็งคอหลบจนเหนียงออก ใบหน้าเหยเกจนเลยคำว่าอุบาศว์ไปไกล “จะไม่บอกจริงๆ เหรอ”

“ไม่วะ...”


“แมน!?”



...โว้ยยยยยย!!?


เสียงทุ้มของบุคคลที่สามดังขึ้นมาจากประตูห้องผมที่อยู่ถัดจากลิฟต์ไปประมาณหนึ่ง ผมที่เตรียมจะตะโกนกลืนคำพูดลงคอแทบไม่ทัน ก่อนที่ทั้งผมและแมทธิวจะหันไปตามเสียงนั้น

“เฮีย” ผมหันไปสบตากับร่างที่ค่อยๆ คลายอ้อมกอดลงช้าๆ จนกลายเป็นปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ผมหันไปมองเห็นสลับกับแมทธิวอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งถลาไปยังห้องตัวเองด้วยความเร็วเสียง แล้วดันหลังเฮียฮวงเข้าห้อง “เข้าห้องเหอะ”


ปัง!!!

ผมปิดประตูแรงๆ ในใจบ่นออดแอดอย่างอารมณ์เสีย

เฮียนะเฮีย โผล่มาไม่รู้จังหวะเล้ย ป่านนี้ไม่บอกเจ้าตัวก็รู้ได้ด้วยตัวเองแล้วแหละว่าห้องผมน่ะอยู่ตรงข้ามห่างกันแค่สามก้าวเดินถึง




.
.
.
“แมน แม่ให้เฮียเอาน้ำพริกมาให้ด้วย อยู่ในห้องครัว เห็นไหม?” เสียงเฮียฮวงประสานกับเสียงโทรทัศน์ดังมาจากห้องนั่งเล่น ผมวางแก้วน้ำลงในซิงก์ล้างจานก่อนจะเหลือบมองลังใส่น้ำพริก แล้วถอนหายใจ...

เฮ้อ... นี่กะให้กินยันชาติหน้าเลยหรือไงครับ

“แล้วเฮียจะค้างไหมครับ?” เฮียฮวงเข้ามาทำธุระอะไรสักอย่างเลยแวะมาหาผม ผมเดินออกจากครัวมานั่งลงบนโซฟาข้างๆ เฮีย

ผมกับเฮียไม่ค่อยสนิทกันหรอกครับ ไม่ได้หมายถึงเราไม่ถูกกันนะ แต่ผมเคารพเขาในฐานะเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเพราะช่วงอายุที่ห่างกันมาก ตอนผมยังเด็กเฮียก็เรียนหมอแล้ว พอจบมาเป็นหมอก็งานยุ่งอีก เรียกได้ว่าช่วงเวลาที่เราใช้ร่วมกันแบบพี่น้องแทบจะไม่มีเลย

อย่าว่าแต่กับเฮียเลย กับเจ๊หยงผมก็ยังไม่ค่อยสนิทกันแบบเพื่อนเล่น ทุกคนในบ้านล้วนเอ็นดูผมเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ไม่รู้ป๊ากะแม่ปลูกฝังอะไรให้พี่ผมนะครับ ความคิดความอ่านถึงได้โตเกินไว ไม่เข้ากับผมเลยสักนิด

คงมีแต่อัครเดช และพรประภาที่เข้าใจผม...

อ้อ... เกือบลืมแนทที่สนิทกันเพราะป๊ากับม๊าแนทส่งน้ำปลามาขายให้โรงงานน้ำพริกของป๊ากับแม่ผม และเพื่อนในอินเทอร์เน็ตตามบอร์ด กระทู้ เกม และแฟนคลับนิยายเท่านั้นแหละ ที่รู้จักและเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของนายแมนคนนี้

“ตอนแรกก็ว่าจะไม่ค้าง แต่เห็นเมื่อกี้แล้ว แมนอยากให้เฮียค้างไหมล่ะ?” เฮียหันหน้ามาคุยกับผม และใช้สายตาแบบคนที่ผ่านโลกมาเยอะจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผม “แมน คนนั้นใคร?”

“....ก็คนรู้จักห้องตรงข้าม” ผมหลบตาเฮียฮวง เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ และถ้าขืนยังจ้อง เฮียต้องรู้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติแน่

“แน่ใจ?...” เฮียฮวงยังไล่ตามมาจ้องตาผม “...เฮียก็นึกว่าเป็นคนที่ทำให้แมนสนิทกับเพื่อนเฮียซะอีก”

เฮียรู้... ได้ยังไง!?

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ?” เฮียฮวงยิ้มบางให้ผม ร่างสูงที่แอบลงพุงเบาๆ เอนหลังพิงกับพนักพิงโซฟา เหลือบตามองผม

“เฮียไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของแมนหรอก แค่อยากให้แมนรู้ว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียวนะ”

“....”

“มีอะไร ถ้าไม่บอกป๊ากับแม่ก็บอกเฮียไม่ก็เฮียหยงแกบ้าง ถ้ามันร้ายแรงจนทนไม่ไหว อย่าให้มันสายเกินแก้เลยนะแมน”

“...ครับ”

“ครับนี่คือเข้าใจ?”

“ครับเฮีย”

“แล้วสรุปจะให้เฮียอยู่เป็นเพื่อนไหม?”

อยู่เป็นพี่ไม่ได้เหรอ? กร๊าก ขำจัง

“....ไม่ครับไม่เป็นไร” ผมส่งยิ้มให้เฮีย แล้วก้มมองตักตัวเอง

เรื่องวันนี้สอนผมว่า... ทุกอย่างจะดีขึ้นแค่เราเปิดใจ





.
.
.
“เฮียแมน” ทรายเดินกระแทกส้นเข็ม 4 นิ้วเข้ามาในออฟฟิศ สายตากวาดหาผมตั้งแต่อยู่หน้าประตู “แมทธิวฝากคุ้กกี้มาให้เฮียด้วยค่ะ”

อืม... ใช่สิ เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วนะ ที่ผมได้เบเกอรี่พวกนี้ 5 หรือ 6 หรือ 7

บางวันก็เข้ามาให้เอง บางก็ฝากคนอื่นมาให้ เข้าออกออฟฟิศเป็นว่าเล่น เส้นใหญ่นักหรือไง เดี๋ยวเจอเส้นหมี่หมกอย่างไอ้แมนซะก่อนเหอะ

“อือ เอาไปกินสิ” ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่ขนมพวกนี้ ถ้าผมอยากกินก็ไปขอเจ๊หยงกินเมื่อไรก็ได้ มันก็คือๆ กัน

“มันมีการ์ดด้วยนะพี่แมน อีพี่กาย เอาไปกินไป เจ๊ปอ เจ๊แตน เจ๊หวาน ลาเต้ได้แล้วค่า”

เออ มันก็มีมาทุกวันไม่ใช่หรือไงแม่คุณ...

ผมหยิบการ์ดใบเล็กๆ ที่ทรายกระชากออกมาจากโหลคุ้กกี้มาวางบนโต๊ะผมขึ้นอ่าน ก่อนจะวางมันบนโต๊ะตามเดิม


‘เย็นนี้กินข้าวกันนะครับ Mathew’


ไม่ดีแก่ใจผมเลย อย่ามาทำอะไรแบบนี้ได้ไหม...





.
.
.
กริ๊งๆ!

เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้นเมื่อประตูถูกเปิด ร้านกาแฟยามเย็นเริ่มมีลูกค้าบางตา ผมเดินไปที่เคาท์เตอร์ที่มีบาริสต้ายืนชงเครื่องดื่มอยู่เสียงดังก๊องแก๊ง

"โทษนะครับ"

"ครับ?"

"แมทธิวอยู่ไหม?"

"อ๋อ เดี๋ยวผมเรียกให้นะ" ชายหนุ่มบาริสต้าเปิดประตูเข้าไปหลังร้าน ผมยืนคอยแค่พักเดียว ร่างสูงของแมทธิวก็เดินออกมา

"พี่แมน" เด็กฝรั่งทำท่าทางเหมือนสุนัขเห็นเจ้าของ ผมมองแมทธิวที่เดินอ้อมเคาท์เตอร์ตรงมา และหยุดยืนยิ้มตรงหน้าผม "ตกลงรับรัก.. เอ้ย นัดผมแล้วเหรอครับ?"

มุกคำผิดถ้าไม่ใช่พี่แมนเล่นไม่ตลกหรอกนะพูดเลย

"..." ผมเงียบ เราทั้งสองเงียบ เป็นแมทธิวที่พยายามจะสานต่อบทสนทนา

"เอ่อ... ฮ่าๆๆ ที่จริงพี่โทร.มาบอกผมก็ได้นะ ผมจะได้ไปรับ"

ใช่ ที่จริงผมเอาเบอร์ที่เจ้าตัวเขียนมาให้ตั้งแต่การ์ดใบแรกๆ ที่แนบมากับขนมเพื่อโทร.ตอบรับนัดเขาก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าผมทิ้งการ์ดใบนั้นไปแล้ว และไม่ได้เมมตัวเลขไว้สักตัว

"ฉันเอารถมาทำงาน" ผมพูดแค่นั้น และหวังว่าแมทธิวจะเข้าใจด้วยตัวเองว่าผมต้องการจะขับมันกลับด้วยตัวเอง

"อ๋อ... ครับๆ งั้นให้ผม..."

"เจอกันที่ห้องฉันละกัน"

"เอ่อ... ครับ?"

"ปิดร้านแล้วค่อยไปก็ได้"

"..." ผมยิ้มมุมปาก และเลิกคิ้วขึ้น

"คงไม่ต้องบอกใช่ไหม ว่าห้องฉันอยู่ไหน?"



.
.
.
ออด...

เสียงออดหน้าห้องดังทั้งๆ ที่เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว เดาได้ไม่ยากว่าเป็นใครในเมื่อร้อยวันพันปีที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่แทบจะไม่มีใครแวะเวียนมาเลย

และวันนี้ผมก็นัดแขกไว้แค่คนเดียว จะเป็นใครถ้าไม่ใช่....

แกร๊ก!

"พิซซ่ามาส่งครับ"


...คนส่งพิซซ่า!!?


"..."

"..."

"ครับๆ รอแป๊บนะ" ผมล้วงกระเป๋าหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา แล้วหยิบแบงค์ห้าร้อยออกมาจ่ายค่าพิซซ่า พนักงานตัวเล็กส่งพิซซ่าให้ผม แล้วหมุนตัวเดินจากไป

"พี่แมน..." คราวนี้ไม่ผิดตัวแน่ ผมละมือจากประตูที่เตรียมจะปิด แล้วปล่อยให้แมทธิวเดินตามเข้ามาเอง ในขณะที่ตัวเองเดินกลับมาปิดฝาโน้ตบุ๊ก เคลียร์ของบนโต๊ะหน้าโซฟาไปกองที่พื้น แมทธิวเดินเข้ามาในห้องชิลๆ ก่อนจะหยุดยืนล้วงกระเป๋า แล้วยืดตัวยืนค้ำหัวผม

"พิซซ่านี่ของนาย?"

"ครับ ผมสั่งเอง กะพลาดไปนิด นึกว่าจะมาทันก่อนมันมาส่ง"

"..." ผมไม่พูดอะไร เพียงแต่จัดการเปิดกล่องพิซซ่า แล้ววางมันไว้บนโต๊ะ

"เหมือนย้อนเวลาไปตอนนั้นเลยนะ" แมทธิวทรุดลงนั่งบนโซฟา ผมเงยหน้ากล่องใส่ไก่ทอด สบตากับแมทธิว แล้วยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง...


แค่บังเอิญพูดออกมาถูกจังหวะ หรือว่าเขาจำได้...?

แต่ภาพเก่าที่กำลังคืนย้อนมา... คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไรสำหรับผม

"แมทธิว..." ผมยืดตัวขึ้นยืน แล้วก้มลงมองใบหน้าแบบฝรั่งๆ นั้น

"ครับ?"

"....กินเถอะ เดี๋ยวชืด"

"พี่แมนเหมือนเดิมเลยนะ..." แมทธิวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบ้าง ทำเอาผมต้องเปลี่ยนจากก้มเป็นเงยหน้าเพื่อให้สบตาเขาได้พอดี "พี่มีอะไรจะบอกผมใช่ไหมครับ?"

ใช่ เป็นเหตุผลที่แมทธิวอยู่ในห้องผมเนี่ยแหละ....

"......ถามอะไรหน่อยได้ไหม?"

"ได้ครับ ถามเยอะก็ได้ถ้าเป็นพี่แมน"

".....ที่พูดคราวที่แล้วนะ ต้องการอะไร?"

"ที่ผมบอกว่าจะจีบพี่น่ะเหรอ?...."

"....อือ"

"ก็หมายความตามที่พูดเลยนี่ครับ มีตรงไหนไม่ชัดเจนด้วยเหรอ?" ผมมองใบหน้าซื่อๆ ที่ประดับด้วยรอยยิ้มสวยอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

"..." เพื่ออะไร? เขาทำแบบนี้ทำไม

"พี่แมนเคยชอบผม ผมก็คิดว่าผมน่าจะยังมีหวังอยู่บ้าง แต่ถ้าพี่ไม่ชอบผมแล้วก็ไม่เป็นไร ผมก็จะจีบพี่ไปเรื่อยๆ จนพี่กว่าพี่จะยอมรับในตัวผม" แมทธิวดึงมือผมขึ้นมากุม "...ขอแค่พี่ให้โอกาสกัน"

โคตรเห็นแก่ตัว...

"คิดบ้างไหมว่าสิ่งที่ตัวเองเคยทำมันสมควรได้รับโอกาสนั้นไหม?" ผมจ้องตาแมทธิวตรงๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุม และไม่แสดงออกอารมณ์ใดๆ บนใบหน้า

มันด้านชาไปหมดแล้วสำหรับคนๆ นี้

"..."

"ฉันไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วนายต้องการอะไร แต่จากนี้ไป เรามาทำเป็นไม่รู้จักกันดีกว่าไหม?"

"..."

"ถือว่าเป็นคำขอโทษจากฉันที่เคยหลอกนายตลอดเวลาที่รู้จักกัน"

"...ไม่เอา อย่าพูดแบบนั้นพี่แมน" แมทธิวขยับเข้ามาหาผม ในขณะที่ผมก้าวถอยหลังหนี แมทธิวจ้องตาผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ผมยิ้มบางแล้วส่ายหน้า...

เพราะต่อให้เขาพูดอะไรออกมาก็ไม่มีประโยชน์อีกแล้ว

กว่าจะรักษาแผลมันต้องใช้เวลานาน ผมไม่ต้องการให้คนๆ เดิมมากรีดซ้ำที่แผลเป็นอีกแล้ว...

แมทธิวยิ้ม... เป็นยิ้มที่ขื่นที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นจากเขา แขนแกร่งทั้งสองยกขึ้นชูระดับเดียวกับหัวเป็นเชิงยอมแพ้ ก่อนร่างสูงนั้นเดินจากห้องช้าๆ สถานการณ์คุ้นๆ อย่างกับเดจาวู ที่ผมต้องมองอีกฝ่ายเดินจากไป...

และผมหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมต้องรู้สึกเจ็บปวดกับคนๆ นี้

ลาก่อน แมทธิว



.
.
.
ผมนั่งนิ่ง ดวงตาเหม่อลอยไปไกลตามความคิดที่โคตรจะฟุ้งซ่านของตัวเอง ท่าทางแบบนี้ไม่ค่อยแปลกประหลาดนักหรอกสำหรับคนที่รู้จักผมดี ถ้าไม่ติดว่างานเอกสารการเงินของออฟฟิศที่ผมรับผิดชอบอยู่มันไม่เดินเลยสักนิด จนทรายต้องเดินมาตบโต๊ะ

ปัง!

"เฮียแมน!!!" ผมสะดุ้งโหยง ก่อนจะเหลือบตามองรุ่นน้องร่วมออฟฟิศ แล้วดึงเศษสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมาตั้งใจฟังที่ทรายพูด "งานเฮียเอามาให้ทรายเถอะค่ะ เหม่อซะขนาดนี้เมื่อไรมันจะเสร็จคะ"

"หา???..." ไม่รอให้ผมอนุญาตมือเรียวก็รวบแฟ้มงานทั้งหมดตรงหน้าผมไป ก่อนจะเดินไปสมทบกับเจ๊แจงที่ออกมาจากห้องประจำตำแหน่งตัวเองสักพักแล้ว

"ไอ้แมนมันเป็นอะไร ทำท่าอย่างกับผัวทิ้ง"

ฉึก! แทงใจดำ ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ผมแกล้งทำหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบที่ดังลั่นออฟฟิศของเจ๊แจงกับทราย

"หน้าตาเหมือนโดนเทตั้งแต่ยังไม่เริ่มคบ อย่าเรียกว่าโดนทิ้งเลยค่ะอาแจง" อาหลานคู่นี้เขาเป็นลูกคู่ที่ดีต่อกันครับ ผมแอบชำเลืองมองพี่แจงกับทรายที่พร้อมใจกันกรีดตาคมเฉี่ยวด้วยอายไลน์เนอร์เส้นเล็ก ยิ่งเสริมมาดนางร้ายขึ้นไปอีก ดวงตาแต่งแต้มสีสบกันอย่างมีความหมาย ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะขี้เกียจออกปากเถียงให้วุ่นวาย

"เฮ้อ น่าสงสาร ไปซื้อกาแฟมาไป ให้คนอื่นด้วยนะ ฉันเลี้ยง"

"พวกเจ๊เอาเหมือนเดิมนะทราย" พี่ปอพูดขึ้นแทนคนอื่นๆ ซึ่งวุ่นอยู่กับหน้าจอคอม แต่พี่กายนั้นเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำเลยทำหน้างง

"เอาอะไรกันอะ?!"

"อาแจงจะเลี้ยงกาแฟค่ะ เอาอะไรป่ะพี่กาย??" ทรายรับเงินมาจากพี่แจง ในขณะที่พี่กายสบตากับผม

“ไม่รู้ดิ แมนกินอะไรอะ?”

“พี่ไม่กินกาแฟได้ไหมอะทราย?”

“ไม่ได้!!/ไม่ได้ย่ะ!!” ทรายกับพี่แจงโพล่งออกมาแทบจะพร้อมกัน ผมขมวดคิ้วเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ

“ทำไมล่ะ ก็จะกินชามะนาว ไม่ได้เหรอ?”

“เออ ผมก็อยากกินนะเจ๊แจง”

“วุ้ย จะกินอะไรก็สั่งๆ มาเหอะ อย่าลีลา” พี่แจงโวยวาย หางตาแอบสบกับทรายเบาๆ นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วมากขึ้นไปอีก...

ท่าทางแบบนั้น ต้องมีอะไรแน่ๆ

“สรุปว่าพี่กับแมนเอาชามะนาวละกัน ป่ะ เดี๋ยวพี่ไปช่วยถือ” พี่กายตัดบทให้

“ไม่ต้องๆๆ ค่ะ ทรายถือกลับมาเองได้” ทรายฉีกยิ้มจนตาปิด ผมมองตามร่างบางที่เดินตัวปลิวออกจากออฟฟิศไป

น่าสงสัย ท่าทางแบบนี้มันน่าสงสัย...




“ลาเต้ค่ะเจ๊ๆ” แก้วกาแฟถูกวางลงบนโต๊ะของแต่ละคนโดยฝีมือของทราย ผมมองร่างบางในชุดรัดรูปที่เดินตรงไปยังโต๊ะพี่กาย “พี่กายอู้ แอบคุยกับสาละมีจะฟ้องอาแจง”

“ใครผัว นี่เมียพี่”

“หน้าตาอย่างแกเนี่ยนะจะกดใคร” เสียงพี่แตนค่อนแคะเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเจ๊คนอื่นๆ ในออฟฟิศ ทรายเดินขำ ถือแก้วชามะนาวมาทางผม ก่อนจะกระแทกมันลงบนโต๊ะ

“อะ! ชามะนาว กินให้หมดแก้วนะคะ”





ขอบคุณที่อ่าน คอมเมนท์ และแก้คำผิดกันเสมอมาค่ะ มีประโยชน์ต่อเห็ดมาก ดีใจที่มีคนชอบนะคะ ด้วยรัก จากเห็ดหอม
ปล. พรุ่งนี้หวยออก ใครซื้อก็ขอให้ถูกรางวัลกันถ้วนหน้านะคะ 
:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2016 20:37:09 โดย เห็ดหอม:) »

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #81 เมื่อ15-02-2016 16:50:19 »

สงสารแมททิวแต่เห็นใจแมนนะ
ส่วนแมททิวใช้เวลานานไปนะกว่าจะค้นพบใจตัวเอง
แล้วเมื่อไหร่จะได้เห็นฉากสวีทซะทีนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #82 เมื่อ15-02-2016 18:56:50 »

แมทธิวยอมแพ้แล้วเหรอออ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #83 เมื่อ16-02-2016 16:14:05 »



อืม มันก็ต้องมีช่วงเวลาแบบนี้บ้างแหละเนอะ
ก็น้องทำแมนเอาไว้หนักนี่ แถมตอนจากก็ดันไม่ได้คุยกันดี ๆ อีก
อดทนหน่อยนะแมธทิว เพื่อพี่แมน... เราต้องผ่านมันไปให้ได้นะพ่อ!

เป็นกำลังใจให้ค่ะ รอติดตามนะคะ ^^  :mew1:


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #84 เมื่อ16-02-2016 16:19:21 »

 :katai2-1:

ปรบมือให้พี่แมน แมนสมชื่อจริง

ปัญหาหัวใจมีแต่ต้องใช้เวลาเยียวยา มาๆกอดสองทีจิ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #85 เมื่อ16-02-2016 16:36:54 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.12 (15/02/59)
«ตอบ #86 เมื่อ16-02-2016 18:19:59 »

สู้ๆ นะแมน  :katai4:

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #87 เมื่อ16-02-2016 18:38:12 »

Chapter 13 : Kidnap!?



หลังจากจัดท่านอนให้แมนเรียบร้อยดีแล้ว แมทธิวก็ปิดประตูรถแรงๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามันปิดสนิท ใบหน้าคมหันกลับไปมองผู้สมรู้ร่วมคิดหลายคนที่ยืนเรียงกันหน้าสลอนอยู่หน้าออฟฟิศ

"ผมไปก่อนนะครับ"

"อือ เร็วเหอะ ก่อนที่เฮียแกจะตื่นขึ้นมา"

โอ้โห... โดนยานอนหลับขนาดนี้กว่าจะตื่นก็เช้าของอีกวันได้มั้ง

"ครับพี่ทราย ขอบคุณทุกคนมากครับ" แมทธิวเดินอ้อมไปยังประตูฝั่งคนขับแล้วขึ้นรถไป ก่อนจะเปิดกระจกรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับเพื่อพยักหน้าขอบคุณเหล่าสมาชิกสมาคมนิยมชายได้ชายอีกรอบ แล้วออกรถไป



"หวานรู้สึกเหมือนส่งเจ้าสาวเข้าหอเลย"

"เจ๊ก็รู้สึกเหมือนกัน โหวงๆ เนอะ”

"จริงค่ะ..." ทุกคนยกมือทาบอกปลื้มปริ่มระคนสุขใจ กายไล่สายตามองแต่ละนางในออฟฟิศ ก่อนน้ำเสียงจิกกัดจะออกมาจากปากเขา

"ระวังน้า... เป็นแม่สื่อแม่ชัก เขาว่าจะขึ้นคานซะเอง"

พรึ่บ!!!

หญิงทั้งสาวและวัยกลางคนหันมามองเขาอย่างพร้อมเพรียง กายทำลอยหน้าลอยตา พลางยักไหล่

"ระวังเถ๊อะ... แมนตื่นมารู้ความจริงเมื่อไร..." กายยกมือขึ้นปาดคอ แล้วหมุนตัวเดินเข้าออฟฟิศไป

"เสร็จเรื่องแล้วก็แยกย้ายกันเถอะ ไปๆ ทำงานค่ะ" ทุกคนยังมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็เดินตามร่างสูงของผู้ชายที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวในออฟฟิศเข้าไปทำงานตามคำสั่งของแจง




.
.
.
ถนนหนทางที่เคยเต็มไปด้วยตึกสูงปลูกเรียงเบียดชิดกันทั้งสองข้างทาง ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอาคารไม่สูงมากสลับกับทุ่งกว้าง แมทธิวขับรถไปอีกไม่นานก็เข้าสู่เขตชุมชนอีกครั้ง

ใช้เวลาอีกไม่นานก็ถึงที่หมาย ร่างสูงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าหมู่บ้านจัดสรร บรรยากาศในหมู่บ้านยามบ่ายเงียบสงบ แมทธิวสะดุ้งเบาๆ เพราะเสียงโทรศัพท์ของตัวเองที่ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะกดหยิบหูฟังบลูทูธมาเสียบหูและกดรับ

"ฮัลโหลครับ"

(แมทธิว... ถึงไหนแล้ว)

"อ๋อ ใกล้ถึงแล้วครับ"

(ทราย อาขอคุยกับแมทธิวหน่อย... ค่ะ แมทธิว อาแจงอยากคุยด้วย)

"ได้ครับ"

(เป็นไงบ้าง แมนตื่นหรือยัง?)

"ยังครับ ฮ่าๆๆ สงสัยใส่ยาลงไปในชาเยอะไปมั้ง"

(แล้วคิดหรือยังว่าถ้าแมนตื่นแล้วจะรับมือยังไง?)

"...." ...ยัง เขาก็ยังไม่ได้คิดไปถึงไว้เลยเหมือนกัน

(น้องแมทธิว... พี่แจงรักแมนเหมือนน้องชายคนนึงนะ สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำให้แมนเสียใจ)

"แน่นอนครับ ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้น..."..อีก

(จ้ะ... ดูแลแมนด้วย อ้อ... อย่าลืม พี่ให้เวลาแค่ 7 วันเท่านั้นนะ)

ติ๊ด!

พี่แจงชิงตัดสายไปก่อน พอดีกับที่แมทธิวจอดรถเทียบหน้าบ้าน แมทธิวเหลือบมองร่างหลับสนิทข้างๆ ความเงียบโรยตัวชั่วขณะ


รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปวันนี้ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่จะทำยังไงในเมื่อดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้โอกาสเขาง่ายๆ ก็ต้องมัดมือชกกันแบบนี้แหละ...


ไม่มีใครไม่เห็นแก่ตัวกับเรื่องความรักหรอก...




.
.
.
แมนลืมตาขึ้นช้าๆ เพื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย ร่างที่สวมเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยยับเยินเพราะถูกแบกขึ้นบ่าครั้งแล้วครั้งเล่าพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นนั่งกุมหัวอย่างมึนงง


ที่นี่ที่ไหน?


มือเรียวตะปบไปตามกระเป๋ากางเกง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อพบว่ากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ยังอยู่ แมนมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง

เขามาอยู่ที่นี่ได้ยัง?!

.....หรือว่า....

เรียกค่าไถ่เหรอ!!?


แมนเบิกตากว้าง พลางยกมือขึ้นปิดปากตัวเองที่เตรียมจะกรีดร้องด้วยความกลัว ก่อนที่จะตั้งสติพาตัวเองมามองโลกตามความเป็นจริง

บ้าสิ ถ้าเรียกค่าไถ่จริงป่านนี้โดนมัดมือมัดเท้าไปแล้ว

แมนสะบัดหัวไล่ความมึน ก่อนจะลุกออกจากเตียงเพื่อเดินสำรวจ มือเรียวแง้มม่านให้เปิดออกเล็กน้อย แสงแดดสีส้มยามเย็นสาดส่องผ่านประตูกระจกมาแยงตาจนแมนต้องปล่อยให้ม่านปิดลงตามเดิม ชายหนุ่มเหลือบมองโต๊ะหนังสือที่วางอยู่ข้างเตียงตรงมุมห้อง ก่อนจะเดินตรงไปหามัน...

มือของแมนหยิบกรอบรูปสีม่วงพาสเทลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมา รูปภายในกรอบทำให้มือของเขาเริ่มสั่นน้อยๆ

รูปของแมนที่ทำหน้าเหมือนท้องผูกใส่กล้องในระยะใกล้ และมีร่างสูงของแมทธิวยืนห่างไกลออกไปหลายร้อยเมตรในเฟรมด้วยกัน เป็นรูปคู่เพียงหนึ่งเดียวที่แมนมีกับแมทธิวตั้งแต่เขายังไม่รู้จักกับเด็กคนนั้น และแนทเป็นคนกดถ่ายให้ แมนจำได้

นั่นก็ชัดเจนพอแล้วว่าเจ้าของห้องนี้คือใคร... ในเมื่อนอกจากเขา กับแนท ก็ไม่มีใครเคยเห็นภาพเหล่านี้แล้วนอกจาก...

.
.
.
ในห้องมืดเหมือนเคย มีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงที่ทำให้เห็นว่ามีร่างของผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง

ใบหน้าเรียวที่เอียงตะแคงหนุนเข่ามีคราบน้ำตาแห้งกรังเปรอะเปื้อนเต็มหน้า ใต้ดวงตาบอบช้ำ และบวมแดงจนดวงตาเรียวเล็กยิ่งแคบไปอีก ริมฝีปากที่กัดกลั่นเสียงสะอื้นค่อยๆ คลายออก และพ่นลมหายใจออกมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

แกร๊ก!

ประตูห้องถูกเปิดทันทีหลังเสียงเคาะประตูโดยไม่รอให้แมนอนุญาต มันเป็นแบบนี้มาร่วมเดือนแล้วนับตั้งแต่แนทให้เพื่อนมาอยู่ห้องแฟนของตัวเอง และเธอไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนได้มากกว่านั้นเลย

"แมน แม่แกโทร.มา" ร่างบางเดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงข้างๆ แมน แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบเพื่อนช้าๆ "...ถามว่าเมื่อไรจะซื้อโทรศัพท์ใหม่"

"..." เหมือนกลับสู่โลกความเป็นจริง แมนสบตากับแนทแล้วเม้มปากแน่น

"แกจะคุยกับแม่ไหม?"

".....อือ" แมนครางรับในลำคอ แนทล้วงโทรศัพท์ออกจากระเป๋า กดโทร.ออก แล้วส่งมันให้เพื่อน


"ครับแม่" แมนขยับตัวนิดหนึ่งออกจากอ้อมแขนเพื่อนสนิท แล้วคลายแขนที่กอดเข่าของตัวเองออก เมื่อได้ยินเสียงนุ่มอันอบอุ่นหัวใจ

(แมนเมื่อไรจะซื้อโทรศัพท์ใหม่ล่ะ มันติดต่อลำบากนะลูก)

"...ครับ... เดี๋ยวซื้อ..."

(แล้วขนของมาไว้บ้านตั้งเป็นเดือนแล้วยังไม่เห็นตัวเราเลย สัญญาเช่าที่นั่นยังไม่หมดอีกเหรอแมน?)

"....ครับ ผม... จะหางานก่อน"

(เอางั้นเหรอ กลับมาช่วยป๊าแกทำงานก็ได้นะแมน)

"ไม่... คือ ครับ ผมอยากหาประสบการณ์ก่อน" แมนยกมือขึ้นขยี้จมูก และกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับรูม่านตาให้เข้ากับความสว่างของห้องที่เพิ่มขึ้นเมื่อแนทลุกไปเปิดไฟ

(จ้า แม่ตามใจลูกหมดนั่นแหละ ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ)

"..."

(มีอะไรขาดเหลือบอกพวกเราได้เสมอนะลูก รักแมนนะ)

"ครับ... ครับ" แมนตอบรับเสียงสั่น และถือโทรศัพท์คาอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ปลายสายตัดไปแล้ว

น้ำตาที่กำลังไหลดึงเขาเข้าสู่วังวนแห่งความทรงจำอีกครั้ง

แนทมองภาพน่าหดหู่ใจของเพื่อน มือเรียวของดึงโทรสัพท์ตัวเองออกจากมือแมน ก่อนจะสวมกอดร่างของเพื่อน แล้วลูบหลังเบาๆ

"ฮึก..." แนทได้ยินเสียงสะอื้น มันดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงียบไป บ่าเล็กของหญิงสาวยังคงเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา และแมนค่อยๆ ผละตัวออกจากอ้อมกอดของแนทช้าๆ

แนทมองใบหน้าอิดโรยและเปื้อนคราบน้ำตาของเพื่อนด้วยความสงสารจับใจ ริมฝีปากแต่งสีสดเบ้น้อยๆ แต่เธอก็กัดมันแน่นเพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมาตามเพื่อน นิ้วเรียวสวยของแนทยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของแมน

สัมผัสของปลายนิ้วที่ใต้ดวงตาทำให้แมนน้ำตาทะลักออกมายิ่งกว่าเดิม...

เพราะมันทำให้เขานึกถึงคนที่อยากลืมมากที่สุดในตอนนี้

ไหนบอกว่าถ้าไม่เหลือใคร เขาจะมีคนๆ นั้นไง ที่ผ่านมามันไม่เคยมีความหมายอะไรเลยใช่ไหม?

เป็นแค่ความใจดีทั่วๆ ไป... มันก็น่าจะชัดเจนตั้งแต่วันที่แมทธิวจากเขาไปอย่างไร้เยื่อใยแล้วไม่ใช่เหรอ?

ภาพของแผ่นหลังกว้างที่เดินออกจากห้องไปชัดเจนในความทรงจำเขาเหมือนมันเกิดขึ้นเมื่อวาน และมันฉายซ้ำในความฝันของแมนอยู่อย่างนั้น

เขาจะโทษใคร... แมนมีสิทธิ์โทษใครในเมื่อคนที่ทำมันพังคือเขาทั้งนั้น เขาหลอกใช้ความใจดีและความใกล้ชิดที่เจ้าตัวมีให้เพื่อสร้างความสุขแค่ชั่วคราวให้ตัวเอง

แมนเข้าใจ แต่ไม่อยากยอมรับมัน...

เราไม่ควรย้อนกลับไปเป็นคนไม่รู้จักกันแบบนี้ เขาอยากให้แมทธิวกลับมา สถานะอะไรก็ได้...


"ฮึก ขอโทษ อย่าไป... ขอโทษ ฮือ...."

.
.
.


เพล้ง!!!

แมนปากรอบรูปในมือทิ้งลงกับพื้น เขาหอบหายใจอย่างแรง และก้มมองมือสั่นๆ ของตัวเอง ริมฝีปากสั่นน้อยๆ ทำท่าจะขยับพูด


“พี่แมน!!?” แมทธิวแทบจะพังประตูเข้าไปในห้อง เมื่อได้ยินเสียงของแตกดังไปถึงข้างล่าง ภาพของแมนที่นั่งกุมหัวร้องไห้กับเศษกระจกจากกรอบรูปที่แตกกระจายทำให้แมทธิวแทบจะถลาไปยังร่างของแมน

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนายนะ...” แมนหันไปมองหน้าแมทธิว ริมฝีปากแมนพึมพำคำพูด นัยน์ตาของชายหนุ่มรุ่นพี่ไร้แววของความรู้สึก “ฮึก อย่าเกลียดฉันนะ ฉันไม่ได้จะหลอกนาย อย่าไปจากฉัน...”

“พี่แมน!?...”

“อย่าไป!!! ฮือ....”

“พี่แมน....” แมทธิวประคองร่างแมนให้ลุกยืนพลางใช้เท้าเขี่ยเศษกระจกให้พ้นทาง

“อึก... แค่กๆ ฮือ....” ฝ่ายใหญ่กุมใบหน้าแมนเบาๆ และจับให้มันเงยขึ้น

“พี่แมน!!” แมทธิวส่งเสียงเข้มเรียกสติอีกฝ่าย แมนหยุดสะอื้น มองใบหน้าแมทธิว ดวงตาของชายหนุ่มรุ่นพี่เบิกกว้าง เท้าก้าวถอยหลังหนีจากการประคองของแมทธิว

“ออกไป!!!...” แมนตะโกนสุดเสียง นัยน์ตาไร้แววเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว ร่างทั้งร่างที่สั่นเทาของแมนทำเอาแมทธิวหน้าเสีย “อย่าทำอะไรฉัน... อย่า....”

“พี่แมน!?”

“อย่าทำอะไรกู... ช่วยกูด้วย ใครก็ได้!! อ๊าก....” แมนยกมือขึ้นกุมหัวแล้วร้องออกมาด้วยความทรมาน ใบหน้าและริมฝีปากซีดเซียวนั้นดูไม่สู้ดีนัก ทันทีที่แมนทรุดลงนั่ง แมทธิวก็ถลาไปประคองร่างนั้นไว้อีกครั้ง

“พี่แมน ใจเย็นๆ ครับ”

“ฮือ...”

“ผมไม่ทำอะไรพี่แล้วครับ นะ ขอโทษนะ อย่าร้องไห้นะคนดีของผม” วงแขนแกร่งโอบกอดร่างของแมน มือหนาค่อยๆ ดันศีรษะของรุ่นพี่ซบลงบนบ่าแล้วลูบไล้กลุ่มผมยุ่งเบาๆ ริมฝีปากบางที่กำลังพึมพำคำปลอบโยนพรมจูบเบาบนหน้าผากแมนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“พี่แมน แมทธิวขอโทษนะครับ”


แมนร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไป แมทธิวบรรจงจัดท่านอนให้ร่างโปร่งนั้น แล้วนั่งมองอีกฝ่ายอยู่นาน เขาจ้องขอบตาบวมของแมน ก่อนจะค่อยๆ ใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดหยดน้ำตาที่ซึมบริเวณหางตาออก ไล้เรื่อยมาถึงใต้ดวงตาบวมอย่างแผ่วเบา ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อนหน้านี้


บาดแผลทั้งหมดของพี่แมน เขาเป็นคนสร้างขึ้นทั้งนั้น แต่กลับรอให้เวลาผ่านมานานโดยไม่รับรู้ความผิดของตัวเองเลย


มันจะสายเกินไปไหม ถ้าเขาจะรักษาแผลที่ตัวเองเคยสร้างไว้ให้กับคนๆ นี้... แมทธิวถามตัวเองท่ามกลางความเงียบงัน







ขอบคุณนะคะ
  :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #88 เมื่อ17-02-2016 00:20:31 »

ง่าา. พยายามเข้านะแมทธิว

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #89 เมื่อ17-02-2016 03:09:23 »

 แมททิวสู้ๆนะ  ลบภาพที่เจ็บนั้นให้ได้ อันที่จริงวันนั้นนายก็ไม่ควรหันหลังออกไปแบบนั้นเลยนะ.. :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด