☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 43237 ครั้ง)

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #90 เมื่อ17-02-2016 08:46:31 »

อย่าให้อภัยง่ายๆค่ะ  :katai1:
ไม่ยอมม

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #91 เมื่อ17-02-2016 09:49:05 »

 :เฮ้อ: แมนเอ๊ย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.13 (16/02/59)
«ตอบ #92 เมื่อ17-02-2016 14:46:30 »

สงสารน้องแมนจริงๆ นะ

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #93 เมื่อ18-02-2016 17:35:43 »

Chapter 14 : You left my heart a mess.



แมทธิวจอดรถยุโรปคันหรูของตัวเองที่ใช้มาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย ของขวัญจากการสอบเข้าได้ที่เขาคิดมาตลอดว่าแม่ซื้อมันให้ ก่อนจะได้รู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้ว่าแท้จริงแล้วมันมาจากเอดิสัน คุณพ่อชาวต่างชาติที่ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิดเมืองนอนที่ยุโรปกับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน

ขายาวก้าวลงจากรถแล้วเดินควงกุญแจด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างถือถุงใส่สารพัดของกินที่ตัวเองอุตส่าห์เหยียบรถออกไปซื้อมาจากข้างนอก

ร่างสูงวางข้าวของลงบนโต๊ะกินข้าว แล้วเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนเพื่อปลุกให้คนที่น่าจะยังหลับอยู่ลุกขึ้นมากินข้าวเย็นด้วยกัน


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

แมทธิวเคาะประตูเบาๆ แค่พอเป็นพิธี แล้วผลักประตูเข้าไปในห้อง ดวงตาคมหรี่ลงแล้วเปลี่ยนเป็นเบิกกว้าง...

...เมื่อพบกับความว่างเปล่าในห้อง


“พี่แมน!?”



.
.
.

“พี่แมน!?” ถุงโจ๊กร่วงลงจากมือหนา แมทธิวที่เพิ่งบึ่งรถกลับมาจากซื้อข้าวและยาแทบจะทรุดลงกับพื้นตามถุงใส่โจ๊ก เมื่อเปิดประตูห้องของชายหนุ่มรุ่นพี่เข้ามาเพื่อพบกับความว่างเปล่า

พี่แมนไปไหน!?

แมทธิวตั้งสติ ตรงปรี่ไปกระชากผ้าห่มออกจากเตียง คราบเลือดและน้ำกามบนนั้นยังอยู่ครบถ้วน เสียงหัวใจในอกของหนุ่มลูกครึ่งเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา

ร่างสูงลนลานวิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำ ความว่างเปล่าทำให้ชายหนุ่มกระแทกมันปิดตามเดิม แล้ววิ่งออกจากห้องนอนมาด้านนอก สอดส่องสายตาหาร่างที่ควรนอนซมเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงไปทั่ว


‘ฉันจะย้ายออกพรุ่งนี้’


ประโยคนั้นดังซ้ำขึ้นมาในหัว แมทธิวล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดโทร.หาแมน

ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย....


I’m so sorry but I love you ทา คอจิซมัลอียา มลรัซซอ อีเจยา อารัซซอ~
I’m so sorry but I love you นัลคาโรอุน มัล...~



เสียงเรียกเข้าภาษาประหลาดแต่แมทธิวคุ้นเคยมันเป็นอย่างดีทำให้สีหน้าของหนุ่มลูกครึ่งดีขึ้น ร่างสูงเดินตามเสียงไป... มันดังมาจากในห้องนอน แปลว่าแมนอาจจะยังอยู่ในนั้น

โทรศัพท์ของแมนนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น มือใหญ่ค่อยๆ เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู แล้วกำมันแน่นอย่างไม่รู้ตัว แมทธิวก้มลงหยิบโทรศัพท์ของแมนขึ้นมาดู...

“Fuck!!!”
.
.
.



“ฮัลโหล พี่หมอ...” เสียงของแมนดังมาจากห้องนอน ดึงความสนใจของแมทธิวที่หลงคิดว่าเหตุการณ์กำลังจะซ้ำรอย แมทธิวหันไปมองตามเสียง จังหวะหัวใจที่เต้นรัวค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ ร่างสูงเดินย่องไปหน้าประตูห้องน้ำ หูตั้งใจฟังบทสนทนาที่เล็ดลอดออกมา

“ผมกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว ทำไงดี?”

“...”

“!” แมนผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงเจ้าของห้องนั่งเอาศอกเท้าเข่าอยู่บนเตียง แมทธิวหันมาหาเขาตามเสียงเปิดประตู ก่อนจะลุกขึ้นตรงมาประชิดตัว

“หยุดอยู่ตรงนั้น” แมนชี้นิ้วไปที่หน้าแมทธิว แล้วทิ่มนิ้วลงกับพื้นตรงจุดที่ห่างกับตัวเองไปเกือบเมตร ร่างสูงทำตามอย่างว่าง่าย แต่ไม่วายส่งสายตาอ้อนวอนมาให้

“พี่แมน ฟังผมอธิบายก่อน...”

“ฉันไม่ต้องการฟังคำแก้ตัว พาฉันกลับเดี๋ยวนี้” แมนขมวดคิ้วไม่พอใจกับบทสนทนาที่คล้ายกับตัวเองเป็นนางเอกในละครหลังข่าว แมทธิวทำปากยู่เล็กน้อย แล้วใช้ทีเผลอสวมกอดแมนซึ่งกำลังยืนมึนอย่างรวดเร็ว

“พี่แมน อย่าเพิ่งกลับเลยนะ” แมทธิวก้มหน้าผากลงแตะกับหน้าผากแมน ริมฝีปากอมยิ้มเมื่อเห็นแววตาตระหนกที่อีกฝ่ายแสดงออกมา “พี่แจงอุตส่าห์ให้ลางานตั้ง 7 วัน”


อ๋อ นี่สมคบคิดกันหมดเลยสินะ...


“พาฉันกลับ... เดี๋ยวนี้!” แมนผลักอกแมทธิว ใบหน้าเรียบเฉยและแววตาเอาเรื่อง

“มันมืดแล้วพี่แมน...”

“พาฉันกลับ...”

“ให้โอกาสผมไม่ได้เลยเหรอพี่แมน?” แมทธิวรวบมือแมนที่ปัดป่ายเขาให้ออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะสวมกอดอีกครั้ง แมนทำหน้าหงิกไม่พอใจเมื่อถูกรวบมือ “ผมขอแค่ 7 วัน...”

“...แล้วยังไง?”

“ถ้า 7 วันนี้พี่ไม่รู้สึกอะไรเลย ผมพร้อมจะทำทุกอย่างที่พี่ต้องการ... ไม่เว้นแม้แต่หายไปจากชีวิตพี่ ตลอดไป”

“...”

“...” ความเงียบโรยตัวเมื่อสองสายตาสบประสานเพื่อลองใจกัน แมนเผยอปากคล้ายจะพูด ในหัวพยายามเรียบเรียงประโยคเพื่อต่อรอง

“ฉันขอถามอีกครั้ง ทำแบบนี้... ต้องการอะไร??”

“...ต้องการหัวใจพี่” แมทธิวยกมือแมนมาวางแนบแก้มตัวเอง ชายหนุ่มรุ่นพี่เก็บอาการคันแก้มยุกยิก แล้วเลิกคิ้ว พลางพูดเสียงเรียบ

“เกือบ 3 ปีเลยนะ ไม่สายไปหน่อยหรือไง?”

“มันอาจจะสายไปสำหรับครั้งนั้น แต่ผมกำลังจะเริ่มใหม่ตอนนี้ไงครับ”

“...”

“ความรู้สึกที่พี่เก็บไว้ทั้งหมดตอนนั้น ช่วยให้มันกับผมพร้อมโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีก 7 วันได้ไหมครับ”

“...” แมนกัดริมฝีปากแน่นมาก ก่อนจะกระชากมืออกจากการเกาะกุม แล้วสะบัดหน้าหนี “ฉันไม่ให้!!!”

“ทำไม?...” น้ำเสียงของแมทธิวหล่นวูบ แมนหันกลับมามองหางตาตกๆ ของอีกฝ่ายด้วยอาการยุกยิกหัวใจ
.
.
.
“.....เพราะฉันรู้ว่าถ้าเป็นนาย แค่วันเดียวก็หวั่นไหวแล้วไงโว้ย ไม่เอาหรอก อยู่ด้วยกันตั้ง 7 วัน เขินตายห่าพอดี” แมนทรุดลงนั่งยองๆ แล้วยกมือปิดหน้า เสียงหัวเราะร่วนของแมทธิวที่ดังเข้ามาในโสตประสาทยิ่งทวีความร้อนบนใบหน้าแมนขึ้นไปอีก

สาบานว่าผ่านมาทั้งชีวิตไม่เคยจินตนาการถึงจุดนี้มาก่อน พี่แมนทำตัวไม่ถูกจริงๆ

“ฮ่าๆๆ คนเก่งของผม ไปกินข้าวกันนะ”



“คือจำเป็นต้องจูงมือ?...” แมนก้มมองมือตัวเองแล้วเงยหน้ามองท้ายทอยของร่างที่เดินนำเขาลงบันไดไปที่โต๊ะกินข้าว

“จำเป็นครับ เผื่อพี่หนีผมไปอีก” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ปล่อยมือเขา แล้วเดินหายเข้าไปในครัว แมนมองตามแมทธิวเงียบๆ แล้วเบ้หน้า

ทำมาเป็นพูด... ใครกันแน่ที่หนี

“หาเชือกมาผูกติดกันไว้เลยไหมล่ะ?” แมนบ่นพึมพำคนเดียว แต่คนที่เพิ่งขนถ้วยชามออกจากครัวมาได้ยินชัดแจ๋ว

“เป็นความคิดที่ดีนะครับ”


“พี่แมนกินอะไรดี?” แมทธิวหยิบถุงใส่อาหารออกมาวางเรียงตรงหน้า “มีโจ๊กหมู กับไก่ ผมไม่แน่ใจว่าพี่ชอบกินอะไรเลยซื้อมาทั้งสองอย่าง”

“อือ...” แมนหลุบตามองเมนูที่แมทธิวว่า ก่อนจะเหลือบมองถุงพลาสติกที่อยู่ตรงหน้าแมทธิว

“ฉันอยากกินเกี๊ยวกุ้งตรงหน้านายอะ ได้ไหม?”

“เอ่อ... ครับ” แมทธิวมองถุงข้างชามเปล่าของตัวเอง “ได้สิครับ”

“หึ ล้อเล่น ฉันไม่แย่งของโปรดนายหรอก” แมทธิวมองรอยยิ้มมุมปากของแมน หัวใจชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“พี่จำได้ด้วยว่าผมชอบกินอะไร... ดีใจจัง”

วืด... แมนได้ยินเสียงอย่างนั้นจริงๆ ในหัว ก่อนที่เขาจะแกล้งกระแอมเบาๆ แล้วเป็นเทโจ๊กใส่ถ้วยกลบเกลื่อน

“นานไหมครับ?”

“...ฮึ่ม อะแฮ่ม หืม?” ...นานอะไร? แมนเลิกคิ้วถาม พลางเอาช้อนคนๆ เขี่ยๆ โจ๊ก

“ก็พี่ชอบผมอยู่นานไหมครับ กว่าเราจะรู้จักกัน” แมทธิวเท้าคางจ้องแก้มที่เริ่มขึ้นสีของแมนยิ้มๆ

“...” แมนเม้มปากแน่น

นานไหม... ก็ตั้งแต่แมทธิวยังเป็นเด็กมัธยมกางเกงน้ำเงินเดินร่อนไปร่อนมาให้โดนถ่ายรูปลงเพจเฟซบุ๊กนับครั้งไม่ถ้วนน่ะ


‘นั่งเลยครับพี่’


ภาพความประทับใจแรกที่แมนเจอแมทธิวตัวเป็นๆ สละที่นั่งให้บนรถไฟฟ้าอย่างบังเอิญยังตราตรึงใจมาจนวันนี้ ทุกๆ อีเวนท์ที่แมทธิวทำ แมนตามเก็บไม่มีตกหล่นนับจากวันนั้น และมันช่างเป็นความสุขล้นเหลือที่แมทธิวเปลือยท่อนบนมาเคาะประตูห้องขอบ็อกเซอร์ที่ปลิวมาตกห้องเขาวันนู้น

ทุกเหตุการณ์ชัดเจนในความทรงจำของแมน ยิ่งกว่าบทเรียนที่เคยเรียนบทไหนๆ

“เอ้า พี่แมนหน้าแดงใหญ่แล้ว คิดอะไรอยู่ครับ?”

“มะ... ไม่ ไม่นี่ โจ๊กมันร้อนเฉยๆ” แมนปฏิเสธลิ้นแทบพันกัน แมทธิวยิ้มขำ

“งั้นเปลี่ยนคำถามเป็น... ทำไมพี่ถึงชอบผมเหรอครับ?”

“...” เออ... นั่นสิ มันก็มีหลายปัจจัย ให้แยกย่อยบรรยายเป็นหัวข้ออาจจะต้องขอเวลาสัก 3 วันในการเรียบเรียงและนำเสนอ

เอาเป็นสรุปสั้นๆ ว่ามันเริ่มจากคลั่งไคล้ และกลายเป็นหลงรักเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันพอไหม?

“เพราะนายหล่อและน่ากินมาก” แมนพูดเบาๆ จงใจกวนประสาท แต่ด้วยระยะห่างแค่นี้ มีเหรอแมทธิวจะไม่ได้ยิน

“.......แล้วผมอร่อยจริงๆ ไหมครับ”

“แค่ก... แค่กๆ ฮึ่ม แค่ก” แมนคว้าน้ำมากระดกแก้อาการสำลักโจ๊ก สายตาอาฆาตถูกส่งไปให้คนตรงหน้า

“ฮ่าๆๆ”

“ตาฉันบ้าง นายบอกว่าจะจีบฉัน นายชอบฉันจริงๆ หรือเพราะอะไร!?”

“วนมาเรื่องนี้อีกและ... ถ้าไม่ชอบจะจีบไหมครับ”

แปร๊ด! แมนหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะสำลักหรือเพราะเขิน

“คนอย่างนายจะมาชอบอะไรฉัน”

“ก็ชอบเพราะแบบนี้ไงครับ” แมทธิวยืนนิ้วไปจิ้มแก้มแดงๆ ของแมน เขาชอบตอนเห็นหน้านิ่งๆ ของแมนแสดงสีหน้าที่หลากหลายและแสดงปฏิกิริยาแบบเกินจะคาดเดา มันดึงดูดชวนให้อยากมองไม่รู้เบื่อ “เหคุผลมากกว่านี้ พี่ต้องเปิดโอกาสให้ผมเข้าไปอยู่ในโลกของพี่นะ แล้วจะบอกให้ฟังจนเบื่อเลยว่าทำไมต้องเป็นพี่”

“ถึงวันนั้นนายจะไม่พูดแบบนี้”

“พูดแบบนี้แสดงว่าให้โอกาสผม?”

“เอ๊า ถ้าไม่ให้โอกาสจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ไหม? อุ๊บ!” แมนยกมือขึ้นปิดปาก แล้วหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บใจ ทำไมเดี๋ยวนี้เขากลายเป็นคนพูดอย่างที่คิดไปซะทุกอย่างเลยเนี่ย...

แต่ก็ใช่ ถ้าไม่ให้โอกาสป่านนี้เขาโทร.เรียกใครมารับกลับไปแล้ว

“ฮ่าๆๆ ขอบคุณครับพี่แมน ขอบคุณจริงๆ”

“...” แมนเม้มปากแน่น และเบนหน้าหนี แมทธิวยื่นมือไปหยิกแก้มหนุ่มรุ่นพี่เบาๆ แต่เจ้าตัวเกร็งคอหลบจนคอย่นเป็นชั้น

“กินข้าวเถอะพี่แมน กินให้หมดด้วย พี่ผอมลงไปเยอะเลยนะ รู้ตัวเปล่า”

ผอมบ้าอะไร เหนียงออกไม่เห็นเหรอ... แมนบ่นในใจแต่ก็ยิ้มหวานประชดใส่แมทธิว


ความเงียบโรยตัว แมนนั่งกินโจ๊กพลางเหลือบมองร่างสูงที่กดๆ จิ้มๆ โทรศัพท์อย่างคลางแคลงใจ

นี่ไม่ใช่ฝันซ้อนฝันซ้อนๆๆ ฝันใช่ไหม?

เพราะถ้าใช่มันคงเป็นฝันดีที่เขาจะไม่ขอตื่นขึ้นมาอีกเลยล่ะ



.
.
.
“อุ๊บ! ฮ่าๆๆ” แมทธิวงอตัวขำเมื่อเห็นแมนใส่เสื้อยืดของตัวเองเดินมาหยุดตรงหน้า ร่างสูงบนโซฟาไล่สายตามองแมนที่ดูผอมลงไปอีกเมื่ออยู่ในเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขา

ไหล่เสื้อตกมาอยู่ตรงต้นแขน กับความยาวเกินพอดีจนแทบเป็นเดรส กางเกงบอลตัวโคร่งยาวเลยเข่าลงมานิดหน่อย ภาพรวมของชายหนุ่มรุ่นพี่ตอนนี้เหมือนพวกศิลปินฮิปฮอป

“ขำอะไร เอารหัสไวไฟมา”

“เดี๋ยวผมกดให้ มันยาวครับ” แมนยื่นโทรศัพท์ให้แมทธิวแต่โดยดี ก่อนจะยกแขนยืนกอดอกมองแพขนตาสีอ่อนของรุ่นน้องที่ก้มหน้าจิ้มแป้นพิมพ์ “พี่แมน ให้ผมกลับไปเอาเสื้อผ้าให้ไหมครับ?”

“หืม ก็ดีนะ พาฉันกลับไปส่งด้วย”

“ไม่เอาแบบนั้นสิครับ”

“งั้นก็ไม่ต้อง อ้อ... มีสายชาร์จไหม?” แมนรับโทรศัพท์จากแมทธิว หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้า

“มีครับ อยู่ในห้องนั่นแหละ ลองหาดูนะ” ใบหน้าคมประดับรอยยิ้มไม่พอ แววตายังยิ้มอย่างมีความหมาย

“ยิ้มอะไร?” แมนเอาโทรศัพท์ชี้หน้าแมทธิว ร่างสูงกลั้นยิ้ม ก่อนจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“ก็อันเดอร์แวร์ พี่แมนจะใส่ของผมเหรอครับ?”

“...” มันปรี๊ด... แมนเข่นเคี้ยวฟัน ใบหน้าเห่อร้อนเพราะความเขิน “ไม่รู้!”

เขาก็แค่ไม่อยากให้แมทธิวรู้รหัสเข้าห้อง ไม่ได้จะเนียนใส่เสื้อผ้าร่างสูงนั่นเลยสักนิด

ไม่มี ไม่เล้ย... เชื่อแมนสิ!




.
.
.
“เฮือก!” เสียงหอบหายใจดังมาจากร่างที่นอนหลับอยู่ข้างๆ แมทธิวละสายตาจากแท็บเล็ตในมือก็เห็นแมนลืมตาโพลงท่ามกลางแสงไฟสลัว หนุ่มรุ่นพี่หอบหายใจเบาๆ ก่อนจะเบะปากคล้ายจะร้องไห้ออกมา

“พี่แมน?” แมทธิววางแท็บเล็ตลงข้างตัว ก่อนจะขยับไปประคองให้แมนลุกขึ้นนั่ง แมนทำสีกน้าสงสัย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลายกังวลในเวลาไล่เลี่ยกัน

“แมทธิว...” ชายหนุ่มรุ่นพี่จ้องหน้า และเรียกชื่อเขาเสียงเบา แมทธิวระบายยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปประคองใบหน้าเรียว

“ว่าไงครับ?” แมนมองตามมือที่ไล้กรอบหน้าตัวเองเบาๆ แล้วช้อนตาขึ้นสบกับนัยน์ตาสีประหลาดของแมทธิว “ฝันไม่ดีเหรอ?”

“...อือ” แมนเบือนหน้าหนีสัมผัสนั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ร่างโปร่งพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้แมทธิว มือเรียวข้างหนึ่งแอบยกขึ้นจับหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองที่เต้นตุบๆ จนปวดหนึบ

ไม่รู้ว่ามันเต้นรัวขนาดนี้เพราะฝันร้าย หรือเพราะการกระทำของร่างสูงเมื่อกี้กันแน่

“ฝันเกี่ยวกับผมด้วยใช่ไหม” แมนถูกบังคับให้พลิกตัวมาเจอกับใบหน้าแมทธิวในระยะประชิด เขากัดริมฝีปากแน่น

อัลบั้มภาพความทรงจำถูกเปิดขึ้นทุกครั้งที่เราสบตากัน...

“พี่แมน มีอะไรอยากให้ผมทำไหม?” อย่า... อย่าเอาใบหน้าลูกครึ่งๆ มาใกล้ แล้วทำน้ำเสียงกระเง้ากระงอดใส่กันแบบนี้ “อดีตผมคงกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่ผมจะทำปัจจุบันให้ดีที่สุด..”

แมนยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากของร่างสูง และส่ายหน้าเป็นเชิงให้หยุดพูด

“...แค่ทำให้ฉันแน่ใจว่าทั้งหมดนี้คือความจริงก็พอ” นัยน์ตาสีเข้มของแมนจ้องลึกไปในนัยน์ตาสีอ่อนของแมทธิว ริมฝีปากบางยิ้ม มือใหญ่ยกมือที่ทาบอยู่บนริมฝีปากตัวเองมาสอดประสานนิ้วมือแน่น ก่อนที่แมทธิวจะขยับร่างตัวเองเข้าสวมกอดแมนไว้หลวมๆ

“งั้นผมกอดพี่ไว้อย่างนี้ดีไหม ตื่นมาพี่จำได้รู้ว่าผมไม่ได้หนีไปไหน และทุกอย่างก็ไม่ใช่ความฝัน”

“...” เอ๊ะ... กล้ามเนื้อปากแมนเป็นอะไรมากไหม ทำไมมันควบคุมไม่ค่อยจะอยู่ แล้วยิ่งสบตากับร่างสูงในความมืดยิ่งเกินจะกลั้นยิ้ม สุดท้ายชายหนุ่มจึงตัดสินใจฝังหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง ปากก็บ่นพึมพำอู้อี้ “ขี้โม้จริงๆ”

“ฮ่าๆ ฝันดีครับ” แมทธิวกดริมฝีปากลงบนกลุ่มผมของร่างในอ้อมกอด ก่อนจะร้องโอดโอยเพราะโดนแมนหยิกเข้าที่เอว “โอ๊ยๆ... หยิกผมทำไม?”


“ทีหลังก็อย่าทำแบบนี้สิ มันเขินโว้ย!!!”








ขอบคุณนะคะ
:L1:

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #94 เมื่อ18-02-2016 17:45:24 »

แมททิวสู้ๆนะ ชดเชย3 ปีที่หายไปให้ได้ ขอให้แมนใจอ่อนนะ ภายใน 7 วัน อยากให้เห็นฉากสวีททั้งคู่แล้วง่ะแต่แค่นี้ก็น้ำตาลในกระแสเลือดกระเตื้องขึ้นมานิดนึงแล้วนะ .. :L2: :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #95 เมื่อ18-02-2016 18:49:08 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #96 เมื่อ18-02-2016 18:58:21 »

 :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #97 เมื่อ18-02-2016 19:09:03 »

 :L2: :pig4:

เราชอบพี่แมนแบบนี้ ไม่อึดอัดเหมือนแต่ก่อน เป็นตัวของตัวเองดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2016 12:19:32 โดย Billie »

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #98 เมื่อ18-02-2016 20:32:15 »

ค่อยๆกลับมาจีบกันใหม่ พี่แมนค่อยๆหายนะ เอาความรักของแมทธิวมาเยียวยาเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #99 เมื่อ19-02-2016 00:25:36 »

เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาแมทธิว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
« ตอบ #99 เมื่อ: 19-02-2016 00:25:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.14 (18/02/59)
«ตอบ #100 เมื่อ19-02-2016 03:16:09 »

 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #101 เมื่อ22-02-2016 15:00:29 »

Chapter 15 : It was my fault.

 

 

 

ฝ่ามือของผมเย็บวาบเมื่อสัมผัสกับราวระเบียงโลหะ อากาศยามเช้าวันนี้เย็นขึ้นมากะทันหันเพราะลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่นึกอยากพัดก็พัดลงมาให้หนาวเล่นๆ ผมยืนขนลุกทอดสายตามองพระสงฆ์ 2 รูปที่เดินผ่านหน้าถนนหน้าบ้าน และหยุดรับบิณฑบาตที่บ้านตรงข้ามกัน ภาพความสงบนี้ชวนให้ผมคิดถึงบ้าน ป๊า และแม่

 

คิดถึงแม่ขึ้นมา น้ำตามันก็ไหล... อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่

 

“ฮ้าว...”

 

“ยืนทำอะไรครับ ไม่หนาวเหรอ?” ผมที่กำลังหาวอยู่แทบจะหลุดกรี๊ดออกมาเพราะความตกใจจากแรงสวมกอดข้างหลัง แมทธิวเกยคางบนไหล่ผม ริมฝีปากบ่นออกมาทั้งๆ ที่งัวเงีย “ตื่นเช้าจังเลย ไม่ง่วงบ้างเหรอ?”

 

“...” ...ไม่ง่วงเลยมั้ง ที่หาวนี่ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอเฉยๆ ผมดิ้นยุกยิกพอเป็นพิธี แล้วก็ปล่อยให้คนหน้าทนกอดอยู่อย่างนั้น “นายล่ะ ตื่นมาทำไมแต่เช้า ถ้าง่วงก็ไปนอนต่อไป”

 

“ไม่เอา...” แมทธิวพูดทั้งที่หลับตาพริ้มเอาคางเกยไหล่ผม ผมเหลียวมองรอยยิ้ม แล้วแอบเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะถอนหายใจออกแล้วมองภาพเบื้องล่างต่อไป

 

“เดี๋ยวล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปตลาดกันนะพี่แมน”

 

“หือ...” ผมหันไปมองตามแมทธิวที่ผละออกจากผม แล้วเดินปิดปากหาวเข้าไปในห้อง ก่อนจะหลุบตามองขนแขนตัวเองที่ลุกชันขึ้นเพราะอากาศเย็น

 

พอไม่มีอ้อมกอดนั้นแล้วมันก็หนาวขึ้นมาซะดื้อๆ เลยครับ...

 

 

 

ตลาดสดยามเช้ามีของกินทุกอย่างที่ท่านเรียกหา

 

ร้านหมูปิ้งมองเห็นควันลอยโขมงแต่ไกลส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลายเป็นร้านแรกที่แมทธิวกระตุกแขนผมให้หยุดซื้อ ผมรับถุงใส่หมูปิ้งสิบกว่าไม้พร้อมข้าวเหนียวมาถือในขณะที่ร่างสูงควักเงินในกระเป๋าจ่ายให้แม่ค้า ก่อนเราทั้งคู่จะเดินตรงเข้าไปข้างในตลาด

 

"โจ๊กไหมพี่แมน?" แมทฑิวชะลอฝีเท้า ผมหันไปมองร้านโจ๊ก ก่อนจะเบ้และส่ายหน้ารัวๆ โจ๊กของเมื่อคืนยังไม่ย่อยเลยมั้ง

 

"ข้าวต้มไหม? ใส่ตับใส่ไข่ บำรุงเลือด" แมทธิวถามอีกเมื่อเดินผ่านร้านข้ามต้มตั้งอยู่ข้างๆ กัน ผมส่ายหัวเพราะไม่รู้สึกอยากอะไรทำเหลวๆ แหยะๆ โจ๊กเมื่อคืนยังไม่ย่อยเลยด้วยซ้ำมั้ง

 

"อยากกิน..." ...ข้าวมันไก่ ผมเดินนำไปเรื่อยๆ มองข้างทางซ้ายขวาหาร้านข้าวมันไก่

 

"พี่แมน กินกระเพาะปลากัน" แมทธิวดึงผมให้เดินวกกลับไปร้านกระเพาะปลา น้ำข้นหนืดถูกตักใส่ถุง พร้อมเครื่องของมัน แม่ค้าหยิบเส้นหมี่ขาวแยกใส่ถุงปิดท้าย ก่อนจะยื่นมันให้แมทธิว "ป่ะ หาของที่พี่แมนกินกัน"

 

แมทธิวคว้าถุงข้าวเหนียวหมูปิ้ง และของกินอื่นๆ ไปถือ แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างโอบไหล่ผม

 

งับ!

 

ผมหันไปกัดมือที่วางบนไหล่ตัวเองแรงๆ จนแมทธิวชักแขนออกแทบไม่ทัน ผมเอียงคอแล้วเหลือบตาไปข้างๆ เพื่อให้ร่างสูงตระหนักถึงผู้คนรอบข้าง "ที่นี่ที่ไหน ดูด้วย"

 

"...ไม่มีใครสนใจเราหรอกครับ" พูดเสร็จก็ทำท่าจะคว้าไหล่ผมไปโอบอีก ผมเบี่ยงตัวหลบแล้วให้ไปยักคิ้วแบบผู้มีชัย

 

ถ้าคิดว่าพี่จะง่ายยังเร็วไปสิบปีนะน้อง...

 

"คิดว่าหน้ากับส่วนสูงตัวเองไม่เด่นเลยว่างั้น!?" ผมเลิกคิ้ว แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก

 

"อ๋อ จริงด้วย..." แมทธิวล้วงมือในกระเป๋าเสื้อกันหนาวแล้วยักไหล่ ก่อนจะก้มลงกระซิบเบาๆ ที่ใบหูผม "ขอบคุณที่ชมนะครับ"

 

จะมีสักครั้งที่ผมชนะเด็กคนนี้ไหม ถามใจตัวเอง

 

ผมเดินนำแมทธิวไปยังร้านขนมครก สารพัดหน้าทั้งเผือก ข้าวโพด ต้นหอม ผมหันกลับไปมองหน้าแมทธิว ดูแล้วท่าทางจะกินไม่เลือกเลยสั่งทุกหน้าปนๆ กัน แมทธิวขยับมาประชิดตัวผมเพื่อรับเอาถุงขนมไปถือ

 

"ฉันถือเองก็ได้ไหมล่ะ?" ผมยืนจ้องหน้า แต่พอสิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มกว้าง ผมก็สะบัดก้นเดินหนีแมทธิว ร่างสูงหังเราะในลำคอ ก่อนจะตามมากระตุกเสื้อยืดตัวใหญ่ของตัวเองที่ผมใส่อยู่

 

"พี่แมน กินน้ำเต้าหู้ไหม?"

 

ผมมองร้านน้ำเต้าหู้ที่อยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะหันกลับไปสบตาร่างสูง หัวใจเจ้ากรรมแอบเต้นผิดจังหวะเบาๆ เมื่อสบตากับแมทธิว

 

หรือว่าเจ้าตัวจะจำได้ว่ามื้อแรกของเราคือน้ำเต้าหู้ที่ตัวเองซื้อมา?

 

"จ้องผมนี่หิวแล้วสิครับเนี่ย อยากกินผมแทนข้าวใช่ไหม?" พูดแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก คิดว่าหล่อมากป่ะ เออก็หล่ออะแหละนะ พอดีกันกับที่เราทั้งคู่เดินมาถึงร้านน้ำเต้าหู้ ผมจึงไม่ทันได้ต่อปากต่อคำกับแมทธิว

 

 

 "ซื้อของสดแป๊บนึง" ผมบอกแมทธิวที่เดินขนาบข้าง แล้วพาตัวเองไปเดือนผักและเนื้อสัตว์ด้วยความเร็วแสง เอาจริงๆ ผมเลือกไม่เป็นต่างหากมันเลยเร็ว เพราะปกติถ้าคิดจะทำกับข้าว ถ้าไม่ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็มีวัตถุดิบติดครัวอยู่แล้ว ไม่เคยซื้อที่ตลาดเองซะทีอะ พูดเลย

 

 

 

เรากลับจากตลาดและเริ่มกินข้าวเช้าตอนเกือบสิบโมง แมทธิวซึ่งเป็นมนุษย์ประเภทมีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน สามารถยัดทุกอย่างลงกระเพาะได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่ผมต้องเลือกว่าจะกินอะไรอย่างยากลำบากใจ เพราะทุกอย่างมันน่ากินไปหมดเลย

 

แมทธิวกดโทรศัพท์รัวๆ ก่อนจะยกมันแนบหูแล้วลุกออกจากโต๊ะไป ผมมองตามร่างสูงเงียบๆ แล้วหลุบตามองชามว่างเปล่า หัวใจมันคันยุกยิกเหมือนใครเอาหมามุ่ยมาโรย ก่อนที่ผมจะเก็บถ้วยจานแล้วลุกออกจาไปโต๊ะไปบ้าง

 

 

"พี่แมน" แมทธิวเดินเข้ามาตอนผมตั้งท่าจะล้างซากถ้วยจานชามตรงหน้า ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเจอกับร่างสูงแมทธิวที่เดินมาประชิดตัว "ไม่ต้องล้างหรอก ไว้งั้นแหละ เดี๋ยวผมทำเอง"

 

"ปล่อยฉันทำเถอะ มันว่าง" ผมสะบัดสะบิ้งเล็กน้อยจนปรอยผมยาวๆ ของตัวเองแทบจิ้มตาแมทธิว

 

"...ดื้อ" แมทธิวพูดเสียงเบา ก่อนจะคว้าหนังยางแถวๆนั้นมารวบผมของผมมัดไว้หลวมๆ

 

ผมนี่แข็งเลยครับ... หมายถึงมือเนี่ย แข็งทื่อ จานเจินล้างต่อไม่ได้เลย

 

"วันนี้ของมาลงที่ร้าย ผมจะเข้ากรุงเทพฯ พี่จะไม่เอาเสื้อผ้าจริงๆ ใช่ไหม?" ผมหันขวับไปสบตากับร่างสูง แล้วหันกลับมาจ้องชามในมือ ก่อนจะคว้าน้ำยาล้างจานมาบีบใส่ฟองน้ำ

 

"เอาได้... เอามาสัก 5-6 ชุด เผื่อไม่ซักเลย อ้อ เอาชุดนอนด้วย"

 

"ตามนั้นเลย ถ้างั้นขอรหัสห้องด้วยครับ" ผมปล่อยจานในมือลงซิงค์จนฟองกระจุยกระจาย แล้วเหลียวหน้าไปมองแมทธิวที่ยืนพิงเคาท์เตอร์

 

ถ้าได้รหัสห้องผมแล้วเขาจะเอาไปทำอะไรไหม?

 

เดี๋ยวนะ... แล้วถ้าเดินแมทธิวเกิดอยากดมบ็อกเซอร์ของผมเหมือนที่ผมเคยแอบคิดเมื่อสมัยตอนนู้นล่ะ

 

"ทำหน้าเคร่งเครียดอะไรครับ กลับไปพี่ค่อยเปลี่ยนรหัสก็ได้นะ"

 

...เออว่ะ ยังไงรหัสห้องผมก็เปลี่ยนทุกปี ตามตัวเลขปีที่เปลี่ยนไปอยู่แล้ว คิดได้ดังนั้นผมจึงหันกลับไปล้างจานตามเดิม

 

"25xx เอาโน้ตบุ๊กมาให้ด้วยนะ"

 

"ได้ครับ... เอาอะไรอีกไหม?"

 

"อืม..." ผมครุ่นคิด แค่มีโน้ตบุ๊กก็ครอบจักรวาลแล้วนะ... "อ้อ... เอาลังน้ำพริกในครัวมาด้วย!"

 

"ครับ? อ่า... โอเคครับ"

 

คอยดูนะ... พี่แมนจะทำเมนูผัดพริกเผาให้น้องกินทุกวันเลย

 

 

 

 

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีก ซีรี่ส์ที่ฉายในโทรศัพท์ก็จบแล้ว ทำตัวเข้าข่ายกินแล้วนอนแบบนี้จริงๆ ผมมีจุดประสงค์นะ กะว่าส่วนสูงน่าจะเพิ่มขึ้น เพราะว่าสันหลังยาวไง กร๊าก...

 

ผมหยิบรีโมทมากดปิดโทรทัศน์ เหลียวมองแสงแดดที่สาดผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามาก็เดาๆ เอาว่าคงบ่ายแล้ว แดดนี่ร้อนระดับลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าเคยหนาวด้วย

 

ผมทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้ากับโซฟาทำท่าแพลงกิ้งด้วยความเบื่อหน่าย นอนได้แป๊บเดียวก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ หางตาเหลือบไปเห็นประตูที่เชื่อห้องนั่งเล่นกับสระว่ายน้ำข้างนอก ผมผิวปากเบาๆ แล้วหรี่ตาลง พลางสาวเท้าออกจากห้องนั่งเล่นไป

 

สระว่ายน้ำความกว้างพอดีๆ รายล้อมด้วยไม้ประดับสีเขียว เดินตรงพ้นส่วนที่เทปูนก็เป็นนามหญ้า ผมเดินวนแค่ตรงส่วนที่เป็นปูน ก่อนจะหาที่ร่มๆ เหมาะๆ ทรุดลงนั่งหย่อนขาลงสระว่ายน้ำ ความเย็นของน้ำข้างใต้ทำให้ผมผ่อนคลาย

 

ผมอยากทบทวนและหาข้อสรุปอะไรหลายๆ อย่างให้กับตัวเอง

 

 

.

.

.

ในหัวแมนเงียบสงบกว่าที่เคยเป็น ไม่ต่างจากรอบตัวที่นานๆ จะมีคนเดินผ่านสักคน มือผอมเรียวค่อยวางทาบบนราวเหล็ก หากจะมีใครสังเกต... บนสะพานลอยแดดจัดตอนเที่ยงตรง แมนยืนอยู่อย่างนี้มาสักพักแล้ว

 

หากว่าเขาคือคนที่ทำมันพัง ทุกอย่างก็กำลังจะจบ...

 

ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดรับใคร คนเกลียดความวุ่นวายแบบแมนกำลังเสียใจ และจมอยู่กับความผูกที่เขาพาตัวเองเข้าไปพัน

 

ถ้าตัดสินใจปิดกั้นตั้งแต่แรก เขาคงไม่ต้องถูกเกลียด และกลายมาเป็นยิ่งกว่าคนไม่รู้จักกันแบบนี้

 

ไม่ว่าจะฟังคำพูดจากใคร หรือกำลังใจจะดีแค่ไหน แต่เรื่องราวที่อยู่ในหัวเขามันไม่สามารถจางหายไปได้ง่ายๆ เลยแม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว ความทรงจำเหมือนเทปอัตโนมัติที่ตั้งเวลาเล่นซ้ำในหัว ฉายภาพทุกวัน ทั้งยามหลับและยามตื่น

 

ไม่มีใครช่วยเขาได้ ความทรมานที่เขากำลังเผชิญ ความเศร้า และความผิดพลาดที่เขาได้ทำลงไป แมนไม่รู้ว่าควรบอกใคร เขาเหมือนยืนอยู่ตรงทางตัน

 

แต่วันนี้ เขากำลังจะหลุดพ้นจากมันซะที...

 

"หน้าตาน้องเหมือนคนโดนมีปัญหาในใจนะคะ" แมนละสายตาจากถนนเบื้องล่างที่มีรถราสัญจรไปมาอย่างพลุกพล่านไปยังร่างสมส่วนของหญิงสาวข้างๆ ใบหน้ากลมมีริ้วรอยประปรายแต้มแต่งสีสันอ่อนๆ ฉายรอยยิ้มใจดีมายังเขา "คงไม่ได้กำลังคิดสั้นอยู่ใช่ไหมเอ่ย?"

 

"..."

 

น้ำตาที่อุตส่าห์แห้งเหือดไปหลายวันก็กลับมาไหลพรากอีกครั้งเหมือนเขื่อนพัง แมนปล่อยมือที่เกาะขอบสะพานแล้วทรุดลงนั่ง มือของหญิงสาววางบนบ่าเขา และออกแรงบีบเบาๆ

 

"ลุกเถอะค่ะ หาที่นั่งคุยกันนะ"

 

 

 

 

"นมอุ่นๆ ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นนะ" หญิงสาวแปลกหน้าดันถ้วยนมร้อนมาตรงหน้าเขา แมนยกมันขึ้นจิบช้าๆ พลางสบตากับคนตรงข้าม "พี่ชื่อผึ้งนะคะ เป็นจิตแพทย์"

 

"..." นามบัตรถูกยื่นมาตรงหน้า แมนหยิบมันขึ้นกวาดตาอ่านแล้วเงยหน้ามองใบหน้าของหญิงสาวอีกครั้ง "มันแย่มากเลยใช่ไหมคะ?"

 

"..." แมนพยักหน้าตอบเงียบๆ ริมฝีปากล่างถูกขบเม้มเพื่อกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะร่วงผล็อย

 

"น้องชื่ออะไรคะ?"

 

"......แมน"

 

"โอเค น้องแมน ...รู้อะไรไหม สิ่งที่น้องกำลังเป็นมันไม่ใช่ความผิดของตัวเองเลยนะ"

 

ไม่จริงหรอก ทั้งหมดมันคือความผิดของเขาอย่างชัดเจน

 

"ความผิดปกติทางอารมณ์บางครั้งก็เป็นเรื่องของสารเคมีในร่างกายที่ไม่สมดุล น้องแมนพอจะเข้าใจไหมว่าไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นด้วยซ้ำ"

 

แมนส่ายหัว ไม่ว่าจะคิดทางไหนเขาก็พบแค่คำตอบเดิมๆ คือเขาควรหายไปเท่านั้น

 

"เอาอย่างนี้ดีกว่า เรื่องก่อนหน้านี้ เราอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องรับผิดชอบมันทั้งหมดนะคะ น้องแมนรู้อะไรไหม ถ้าการรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นของน้องคือการฆ่าตัวตาย หลังจากนี้แหละ มันคือความผิดของเราจริงๆ" รอยยิ้มของหมอผึ้งทำให้ทุกอย่างดูไม่กดดันเกินไป แมนกำลังค่อยๆ คิดตามเธออยู่ เธออ่านมันได้จากแววตาสงสัยคู่นั้น "สงสัยใช่ไหมว่ายังไง?"

 

"..." แมนพยักหน้า วางถ้วยนมในมือลงกับโต๊ะ แต่มือยังกุมรับความอุ่นของแก้วที่แผ่ออกมาอยู่อย่างนั้น

 

"เพราะแมนจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องเจ็บปวดตลอดไปไงคะ" หมอผึ้งเลื่อนเค้กไปตรงหน้าแมน แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้กิน แมนสายหน้า สายตาจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้ากลมของเธออย่างตั้งใจ "ลองคิดถึงคนที่เห็นเหตุการณ์แต่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เขาจะฝังใจไหม? ที่ต้องเห็นคนๆ หนึ่งตายไปต่อหน้าต่อตาเขา"

 

"..."

 

"หรือลองคิดถึงคนขับรถที่เราไปตัดหน้ารถเขา แมนว่าเขาจะทุกข์ใจไหมถ้าอยู่ดีๆ ตัวเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนๆ หนึ่งตาย?"

 

"..."

 

"และถ้ามันยังไกลตัวเกินไป แมนก็แค่ลองคิดถึงคนที่เขารักแมน และเป็นห่วงแมน แต่เขาไม่มีสิทธิ์รับรู้และช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่มันรักษาให้หาย เขาจะเสียใจและทุกข์ใจขนาดไหนถ้าหากว่าแมนเป็นอะไรไป..."

 

"........ผม...... ฮึก" น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไหลออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มก้มหน้ามองน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงกระทบพื้นโต๊ะ

 

"พรุ่งนี้พี่ว่างตั้งแต่สิบโมงถึงบ่ายสามนะคะ ถ้าไปคลิกไม่ถูกก็โทร.มาตามเบอร์ที่ให้ไปนะ"

.

.

.

 

 

"ฮัลโหล พี่หมอ"

 

(ว่าไงคะ น้องแมนใช่ไหมเนี่ย?)

 

"ผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ทำไงดี?"

 

(หืม โรคซึมเศร้าน่ะเหรอ... อาการเป็นยังไงบ้างล่ะคะ?)

 

"ก็... อยู่ดีๆ ก็แฟลชแบ็คไปตอนวันที่เกิดเรื่อง ควบคุมสติไม่ได้ แต่ไม่ได้ถึงขั้นอยากตายเหมือนตอนนั้น..." แมนหยุดพูดแล้วพ่นลมหายใจออก "แต่ผมกลัวมันจะหนักขึ้นๆ จนไปอยู่จุดนั้นอีก"

 

(แล้วอยู่ๆ มันก็เป็นเหรอ?)

 

"ก็.... เปล่า ผมเจอเขาอีกครั้ง....."

 

(.....พี่คงต้องบอกว่าพี่ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากให้ยา และรับฟังเป็นที่ปรึกษาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมันเป็นเรื่องของจิตใจแมนเอง)

 

"....ผม .....ผมควรทำยังไง?"

 

(มี 2 ทาง จะหนีแบบสุดขั้ว ตัดกันให้ขาดกันไปข้างหนึ่ง... หรือจะเปิดใจให้ตัวเอง แล้วเผชิญหน้ากับมัน เลือกเอา...)

 

 

 

 

"เฮ้ย!"

 

"แว้ก!"

 

ตูม!

 

"แค่กๆๆ" มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ทันเลยครับ แมทธิวย่องมาแกล้งให้ผมตกใจด้วยการผลักไหล่ตามด้วยเสียงดังข้างหู ส่วนผมก็ดันบ้าจี้ซะจนเสียหลักร่วงลงสระน้ำ แล้วสำลักอย่างที่เห็น ผมส่งสายตาอาฆาตใส่แมทธิวทันทีที่ตั้งตัวตีขาได้

 

"พี่แมน ขอโทษ! เดี๋ยวผมไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้" ร่างสูงวิ่งหายเข้าไปในบ้าน ผมบูบหน้าลูบตา และสูดจมูกด้วยความแสบอย่างหาที่สุดไม่ได้ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นจากสระ พร้อมกับที่แมทธิววิ่งออกมาพร้อมผ้าขนหนู

 

ผมกระชากมันมาห่มตัวเอง แล้วเดินกระแทกเท้าเบี่ยงตัวหลบแมทธิวไป เสียงขอโทษขอโพยของแมทธิวดังไล่หลัง แต่ผมเมินมันอย่างจงใจ

 

ไม่ฟัง ต่อให้พูดอะไร พี่แมนก็จะเอาหูหนีน้องแมทธิว!

 

 

ผมเดินเข้าห้องน้ำข้างล่าง เปิดน้ำใส่อ่าง ในขณะที่ถอดเสื้อผ้าเปียกๆ ออกจากตัวเอง ก่อนจะพาตัวเองไปแช่ในอ่างอาบน้ำเหมือนผักเหี่ยวๆ

 

"พี่แมน เสื้อผ้าพี่อะ..." เสียงแมทธิวดังมาจากข้างนอก ผมหลับตาแล้วเป็นไม่ได้ยิน

 

แกร๊ก!

 

"พี่แมน"

 

"เฮ้ย!!!" ผมร้องลั่นเมื่อแมทธิวเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าคมยิ้มกรุ้มกริ่ม มือวางเสื้อผ้าผมบนเคาท์เตอร์ล้างหน้า ก่อนจะสาวเท้าตรงมายังอ่างอาบน้ำที่ผมนอนแช่อยู่ "เข้ามาทำมะเขืออะไร?!"

 

ผมก็อยากจะลุกขึ้นชี้หน้าด่าอยู่นะ ถ้าไม่ติดว่ามียางอาย และหุ่นพี่แมนก็ไม่ฟิตแอนด์เฟิร์มน่าโชว์เหมือนแต่ก่อนแล้ว สุดท้ายเลยทำได้แค่ไถลตัวลงอ่างให้ลึกกว่าเดิมเท่านั้น

 

"เอาเสื้อผ้ามาให้ไงครับ"

 

"เออ! เสร็จแล้วก็ออกไปสิ"

 

"..." แมทธิวเอาหูทวนลม ร่างสูงทรุดนั่งลงกับพื้น แขนแกร่งยกขึ้นมาเท้ากับขอบอ่าง พร้อมใบหน้าคมที่วางเกยทับบนแขนอีกที สายตาของเจ้าตัวจ้องลงมาในอ่างอย่างตั้งใจราวกับกำลังเพ่งสมาธิให้มองทะลุฟองได้ "พี่แมน แมทธิวขอโทษนะ"

 

"...ร..ระ รู้แล้ว ออกไปเถ๊อะ" ผมนี่แทบจะยกมือไหว้ ดวงตาคนมันทำจากเลนส์นูนไม่รู้หรือไง เนี่ย... มันรวมแสงจนร้อนแรงไปหมด ตอนนี้ร่างผมกำลังจะถูกเผาเป็นไฟแล้ว จะจ้องอีกนานไหม

 

"ไม่เอา จนกว่าพี่จะยกโทษให้" แมทธิวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แขนที่เท้าขอบอ่างของเจ้าตัวปละออก ก่อนมือหนาของแมทธิวจะยื่นมาแตะแก้มผม

 

"โอเคๆๆ ฉันยกโทษให้ ไม่โกรธอะไรนายทั้งนั้นแหละ" ผมหลับตาปี๋ผมคำพูดรัวๆ

 

"...." ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าแมทธิวอยู่ห่างแค่คืบ เห็นแล้วพี่แมนลมจะจับ "ขอบคุณครับ"

 

ริมฝีปากอุ่นรับรู้ได้ชัดเจนที่สุดมือผมนอนแช่อยู่ในน้ำเย็นๆ ประทับลงบนหน้าผากของผม ผมสบสายตาแสดงความขอบคุณที่จริงจังเกินกว่าจะเป็นเรื่องแกล้งผมจนตกน้ำก็เลยรู้ตัวว่าหลวมตัวเข้าให้แล้ว

 

แต่เอาจริงๆ ผมไม่เคยโกรธอะไรเขาด้วยซ้ำ แม้ว่าตัวเองจะเจอสิ่งแย่ๆ แค่ไหน

 

เจ็บแล้วทนอย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรกันนะ...

 

"อย่าแช่นานนะครับ เดี๋ยวเป็นหวัด" ผมมองแมทธิวเดินออกจากห้องน้ำไปโดยไม่ลืมล็อคประตูให้ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้หัวตัวเองจมอยู่ใต้น้ำ

 

ก็แค่หวังว่าน้ำเย็นๆ มันจะดับความร้อนบนใบหน้าผมบ้างเท่านั้นเอง









วันนี้วันมาฆบูชา เห็ดก็เลยมาคะ

ปล. เห็นคำผิด คอมเมนท์ทิ้งไว้ได้เลยค่ะ ขอบคุณที่อ่านและคอมเมนท์กันสม่ำเสมอ ด้วยรัก จากเห็ดหอม

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #102 เมื่อ22-02-2016 15:36:41 »

ไม่อยากให้พี่แมนเลือกหนีไปจนสุดขั้ว สงสารน้องแมทิวลองเปิดใจเถอะนะ :mew2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #103 เมื่อ22-02-2016 16:40:27 »

ช่วงเวลาที่หายไป พี่แมนต้องเผชิญกับความยากลำบากทางจิตใจมากเลยสินะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #104 เมื่อ22-02-2016 18:12:35 »

 :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #105 เมื่อ22-02-2016 18:27:53 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #106 เมื่อ22-02-2016 19:08:26 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.15 (22/02/59)
«ตอบ #107 เมื่อ22-02-2016 22:01:21 »

 :-[

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #108 เมื่อ29-02-2016 17:02:45 »

Chapter 16 : We are stared.

 



"...อายุวัณโณ สุขัง... พลัง" ผมยกมือขึ้นจรดหว่างคิ้ว แล้วสวมอีแตะเบอร์ใหญ่ของแมทธิวที่ถอดวางไว้ข้างตัวก่อนหน้านี้ ก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินเข้าบ้าน เนื่องจากเมื่อวานนั้นผมได้สังเกตการณ์เห็นพระออกบิณฑบาต เช้านี้ผมจึงลุกขึ้นมาทำครัวใส่บาตรเองกับมือ



"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง"



ผมหันขวับไปตามเสียงเห่าตรงแถวๆ พุ่มไม้ที่กั้นทางเดินกับสระว่ายน้ำ เมื่อวานทั้งวันก็ไม่เห็นหมาเลยสักตัวนะ แล้วตัวอะไรเห่า หรือว่าจะเป็น...



งูเห่า!!?



ผมหัวเราะในลำคอขำมุกตัวเอง ก่อนจะเดินลากแตะเดินเช้าบ้าน เสียงเห่าดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนเจ้าตัวการจะโผล่หัวออกมาจากดงต้นไม้เขียว



"โฮ่งๆๆ" น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเฟอร์ใหญ่ ตาแป๋วแหววส่งใบหน้านั้นให้ดูเป็นมิตรต่อสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลก



"เต้าหู้ หยุดเห่า" แมทธิวเดินงัวเงียออกมายืนตรงสระว่ายน้ำ ชะโงกใบหน้าแป้นแล้นผ่านเหล่าต้นไม้ความสูงแค่อกของเจ้าตัวมาคุยกับผม "อรุณสวัสดิ์ครับ"



ผมเดินส่ายหัวอย่างเอือมระอาเข้าบ้าน ก่อนจะมาเผชิญหน้ากับแมทธิวที่เดินเข้ามาในครัวพร้อมๆ กันกับหมาที่เจ้าตัวเรียกว่าเต้าหู้



โอเค แสดงว่าสนิทและไว้เนื้อเชื่อใจกันพอสมควรว่าไม่สกปรก



"ลุกมาทำไม ไปนอนต่อไป" ผมตระเตรียมเครื่องปรุงและส่วนประกอบที่เหลือเพื่อทำมื้อเช้า แมทธิวก้มๆ เงยๆ อยู่แถวตู้บิลด์-อิน ก่อนจะหยิบอาหารสุนัขออกมา แล้วเดินนำสมุนสี่ขาของตัวเองไปที่ประตูหลังบ้าน



"Come on, boy" วุ้ย คุยกับหมาเป็นภาษาอังกฤษด้วย ไม่ได้ยินมานานแล้วนะเนี่ย ผมเหลือบมองร่างสูงที่โดนหมาตัวเขื่องกระโดดตะกุย แล้วหลุดยิ้มออกมา



"Stop! Sit down!" พอสั่งแล้วเต้าหู้มันก็ไม่ทำตาม ผมผละจากระทะที่ตั้งไว้รอน้ำมันเดือด แล้วเดินถือตะหลิวไปยืนค้ำหัวแมทธิว



"หมามันฟังนายไม่รู้เรื่องอะแมทธิว"



"ไม่นะ แอนเดรียสกับป้าแก้วก็ใช้ภาษาอังกฤษคุยกับมันตลอด" ร่างสูงปลุกปล้ำกับเจ้าตัวขนยาวสีทอง ริมฝีปากก็บ่นพึมพำไปด้วย "ไม่ได้กลับมานานทำเป็นดื้อ คราวหน้าจะไม่ให้เข้าบ้านแล้ว..."



ผมขมวดคิ้ว สรุปว่าหมามันคงฟังไม่ออกสักภาษาน่ะแหละ ดูทุลักทุเลชอบกล



"ถ้าไม่นอนแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟันมากินข้าวเช้า..." ผมพูดเสียงเรียบ พอดีกันกับที่อีกฝ่ายปราบพยศสำเร็จ นิ้วชี้สั่งพลางหัวเราะอย่างผู้เหนือกว่า ร่างสูงปัดเนื้อปัดตัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินตรงมาใช้ทีเผลอจับหน้าผมให้หันไปรับแรงกดบนริมฝีปาก



จุ๊บ!



"มอร์นิงคิสครับ"



ฟหกด่าสวง!!!...



ผมกำตะหลิวในมือแน่น ในใจนึกอยากเขวี้ยงตามหลังร่างสูงที่เดินลอยชายขึ้นไปแก้เขิน แต่ก็ทำได้แค่พาลใส่หมาตาดำๆ



"เหมือนกันไม่มีผิดเลยนะ ทั้งหมาทั้งคน!!!"





 

"ไปเที่ยวกันไหมพี่แมน" แมทธิวเดินยิ้มมาหาผมที่ตั้งท่าจะขึ้นบันไดไปเล่นโน้ตบุ๊กบนห้องหลังกินข้าวเสร็จ



"เที่ยว? ที่ไหน?"



"ห้าง ใกล้ๆ นี้"



"นั่นเรียกไปเที่ยวเหรอ?" ผมเดินขึ้นบันได แน่นอนว่าร่างสูงเดินตามขึ้นมาติดๆ



"ไปช็อปปิ้งก็ได้ ไปด้วยกันนะ"



"...ตามใจ" ผมเสร็จก็ปิดประห้องใส่หน้าแมทธิว แล้วกดล็อค "รออยู่ข้างนอกไปละกัน ฉันจะอาบน้ำ!"





 

กว่าจะผมจะจัดการตัวเอง ทำนู่นทำนี่และยุรยาทเยื้องย่างออกจากบ้าน ก็ไปถึงห้างซะบ่าย แมทธิวลงจากรถได้ก็ลากผมไปโรงหนังอย่างไม่รีรอ เราสองคนยืนไล่สายตามองรายชื่อหนังที่เข้าฉาย



"ดูเรื่องอะไรดีพี่แมน"



"ตามใจเลย"



"ได้ไง ต้องตามใจพี่แมนสิ พี่แมนชอบแนวไหนก็ดูอันนั้นแหละ" ผมแทบตาเหลือก อยากจะบอกว่าเรื่องที่เข้าโรงตอนนี้ไม่ชอบสักอย่างแต่ก็กลัวจะเสียน้ำใจเด็กฝรั่งนี่มากเกินไป



"ชอบดูการ์ตูนอะ มีการ์ตูนไหม?"



"โอ้... เหมือนจะออกโรงไปแล้วสิครับเนี่ย ดูอย่างอื่นได้ไหมครับ หนังฮีโร่ แอคชัน พี่แมนชอบอันไหน เลือกเลย"



"..." ผมขมวดคิ้วแน่น ไม่เคยต้องลำบากใจอะไรเยี่ยงนี้มาก่อน ก็คือพี่แมนดูได้หมดไงครับ แต่ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ ทำไมต้องคะยั้นคะยอให้เลือก ขอเลือกไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีแทนได้ ซารังเฮโยอะไรแบบนั้น



"คิ้วแทบผูกกันเป็นโบว์แล้ว คิดอะไรบอกกันบ้างสิครับ สัญญากันแล้วนะว่าจะให้ผมเข้าไปในโลกของพี่"



"....เฮ้อ... ก็คือ ดูได้หมดไง ไม่ได้ชอบหรือไม่ชอบอะไร ก็บอกว่าตามใจๆ มาเซ้าซี้อยู่นั่น" น้ำเสียงติดจะเหวี่ยงนิดหน่อย ผมรีบมองปฎิกิริยาตอบกลับของอีกฝ่าย กลัวว่าแมทธิวจะเข้าใจผิด



ช่วยเข้าใจพี่แมนสายซึนเดเระด้วยครับ...



"โอเคครับ พี่จะบอกว่าอะไรที่ผมชอบพี่ก็ชอบหมดสินะ ได้ๆ งั้นไปซื้อตั๋วกัน"



....เอ๊อ ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรที่น้องแมทธิวชอบอะไรพี่ก็ชอบอันนั้นแหละ



เฮ้ย ไม่ใช่สิ ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้โมเมจริงๆ นะแมทธิว

 



.

.

.

"ขออนุญาตเสิร์ฟเมนูที่สั่งค่ะ" น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะพูนถ้วยถูกวางลงบนโต๊ะ ผมมองมันสลับกับมองหน้าแมทธิว



"ทำไมครับ ไม่ชอบหรอ?" หลังจากดูหนังเสร็จก็ออกมากินข้าวเย็น ก่อนร่างสูงจะพาผมมานั่งกินของหวานล้างปากโดยที่ผมก็ไม่ขัดขืน



แต่บอกตรงๆ... ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดและ...



"เปล่า..." ไม่ใช่ไม่ชอบเว้ย แต่ผู้ชาย 2 คนในร้านน้ำแข็งไสเกาหลี มันมุ้งมิ้งไปนะบางที



"ผมอยากกินมานานแล้ว หาคนมากินด้วยไม่ได้ซะที" พูดพลางยื่นช้อนมาให้ผม ผมรับมาถือ แล้วมองแมทธิวราดซอสสตรอเบอร์รี่ลงบนกองน้ำแข็ง



“งั้นก็กินคนเดียวไปสิ” ผมว่าพลางเอาช้อนช่วยแมทธิวเจาะน้ำแข็ง คนตรงข้ามส่ายหน้า



“ไม่ล่ะครับ เลี่ยน” พูดเสร็จก็ตักน้ำแข็ง แล้วยื่นช้อนมาตรงหน้าผม ผมทำหน้าสงสัยก็ได้คำตอบเป็นเสียงป้อนข้าวเด็กของแมทธิว “เอ้า อ้าม...”



“คือตักกินเองได้” ผมบอกเสียงเรียบ แต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดัน



“ก็ผมอยากป้อนนี่ อ้าปากสิครับ”



งับ! ผมงับน้ำแข็งเข้าปากท่ามกลางใบหน้าพึงพอใจของแมทธิว กับเสียงพูดคุยของโต๊ะข้าง

 



“มะเฟือง!” เสียงเรียกชื่อเพื่อนดังขึ้นเมื่อผมหันไปมอง น้องผู้หญิงผู้ถูกเรียกว่ามะเฟืองเก็บโทรศัพท์หลบแทบไม่ทัน ก่อนจะทำหน้าวีนเหวี่ยงใส่เพื่อน



“จะเรียกดังหาเตี่ยมึงเหรอแตงโม”



เอ่อ... ระดับเสียงที่น้องด่าเพื่อนก็ไม่ได้ได้ต่างกับตอนเพื่อนเรียกน้องเท่าไรเลยนะ



ผมเบนสายตากลับมามองคนตรงข้ามที่ไล่ตักน้ำแข็งไสเรื่อยๆ พลางถอนหายใจ “นายโดนแอบถ่าย รู้ตัวบ้างไหม?”



“เขาแอบถ่ายเราครับ ไม่ได้ถ่ายผม” พูดเสร็จก็ยิ้มบาง ผมประมวลผลอยู่พักหนึ่งก็ถลึงตาใส่แมทธิว



ทำไมเดี๋ยวนี้หน้าด้านหน้าทนจังนะ ทำตัวเหมือนไม่เคยรังเกียจเกย์ รู้อย่างนี้น่าจะจับรวบหัวรวบหางซะตั้งนานแล้ว



และแมทธิวก็ตั้งหน้าตั้งตากินน้ำแข็งไสตรงหน้าแบบไม่ทุกข์ร้อน แม้ว่าสองสาวโต๊ะข้างๆ จะเดินออกจากร้านไปพร้อมรูปของผมกับร่างสูงเป็นอัลบั้ม ผมมองตามไป แอบคิดในใจเหมือนกัน...



ตามออกไปขอรูปน้องเขาดีไหมนะ กร๊าก





 

“หนังสนุกไหมครับวันนี้?” แมทธิวพูดขึ้นขณะเราเดินฝ่าฝูงผู้คนไปลานจอดรถ ผมหันไปสบตาร่างสูง



“ก็ดี” เราเดินข้างกันไปเรื่อยๆ หลังมือแตะกันน้อยๆ ตามแรงเหวี่ยง ก่อนที่แมทธิวจะคว้ามันไปกุมอย่างแนบเนียน



“พี่แมน ไม่ชอบดูหนังเหรอ?” ห้างสรรพสินค้ายามเย็นที่มีผู้คนพลุกพล่าน ท่ามกลางคนที่เดินสวนกันไป และเสียงจอแจ ผมหยุดเดินกลางคัน แล้วเหลือบมองมือของเราที่จับกันอยู่



“...ไม่ต้องฝืนทำอะไรที่ไม่เป็นตัวเองกับฉันหรอก” ผมรู้ เขาทำไปเพราะอยากให้ผมสบายใจ ทั้งหมดทั้งมวล บางทีอาจจะแค่เพื่อชดใช้ความรู้สึกผิด...



แมทธิวปล่อยมือผมออกทันที แล้วเช็ดมือที่ชื้นเหงื่อกับกางเกง…



ก่อนจะคว้ามือผมไปจับอีกครั้ง



ผมเงยหน้า สบตา และมองรอยยิ้มอบอุ่นของอีกฝ่าย



“พี่แมนยังไม่ตอบผมเลยนะ พี่ไม่ชอบดูหนังเหรอ?” มือหนากระตุกให้ผมเร่งฝีเท้าตามตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะชะลอฝีเท้าเมื่อเรากลับมาเดินขนาบข้างกันอีกครั้ง



“...ฉันชอบอยู่บ้าน” ผมก้มหน้ามองพื้น เอาจริงๆ คือหลบสายตาของผู้คนที่มองมายังพวกเรา “หรือที่ไหนก็ได้ที่ไม่วุ่นวาย ที่ๆ ฉันได้เป็นตัวของตัวเอง”



ผมรับรู้ได้ถึงแรงกระชับที่ฝ่ามือ ผมเงยหน้าขึ้น แมทธิวหันไปหน้าเปื้อนรอยยิ้มมาหาผม “งั้นรบกวนพี่เป็นตัวของตัวเองเท่าที่ต้องการกับผมทีนะ... พี่รู้จักผมมามากพอแล้ว ให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวพี่บ้างนะครับ”



“อื้ม...”



เป็นตัวของตัวเองงั้นเหรอ... ถ้าวันหนึ่งที่เขารู้จักผมมากพอ แมทธิวจะยังปฏิบัติกับผมแบบนี้อีกหรือเปล่านะ...



คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นั่นแหละ

 



.

.

.         

“พี่แมน” เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ผมขยับพลิกตัวนิดหน่อย พลางดึงผ้าห่มมาคลุมโปง



“พี่แมนครับ” ผ้าห่มถูกเลิกออก พร้อมๆ กับเสียงเรียกชื่อผมที่ดังซ้ำอีกครั้ง ผมขมวดคิ้วไม่พอใจ สมองสั่งให้เปลือกตาค่อยงัดตัวเองขึ้นมาอย่างยากลำบากเพื่อดูหน้าผู้ก่อการรบกวน



ใบหน้าคมที่มีสันกรามและโหนกแก้มชัดเจนแบบชาวตะวันตกเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมา ผมสีอ่อนยุ่งๆ ของคนตรงหน้าไม่สามารถทำให้เขาดูดีน้อยลงเลย เดี๋ยวนะ... ผมเหมือนเห็นปีกสีขาวเป็นแบ็คกราวน์ หรือนี่จะเป็นเทพเจ้าองค์ไหนหลุดออกมาจากเทพนิยายกันนะ...



“พี่แมน อย่าลืมตาขึ้นมาแล้วหลับต่อแบบนี้สิ” อะไร... ไม่ได้จะหลับ แต่หนังตามันหนักมันเลยตกตามแรงโน้มถ่วงของโลกเว้ย ผมคิดพลางอมยิ้มทั้งๆ ที่ยังหลับตา



“ถ้าไม่ตื่นจะปลุกด้วยปากแล้วนะ” เอ๊า... แล้วที่พูดอยู่ใช้จมูกพูดเราะ!?



ผมรู้สึกได้ถึงเงาที่กำลังทาบลงมา และลมหายใจอุ่นที่รดอยู่ตรงหน้า แม้ว่าเปลือกตาจะปิดอยู่



“จะจูบแล้วนะ”



“อือ...” ผมครางรับในลำคอ จูบเลย... เอาวิญญาณของข้าไปเลยท่านเทพซุส ข้าพร้อมยอมเป็นทาสรองกามารมณ์ของท่านโดยมิขัดขืน



สัมผัสนิ่มหยุ่นบนริมฝีปากชัดเจนจนเกินจริง ผมลืมตาขึ้น และเบิกตากว้างสุดขีด



“อื้อ... หือ!?”



อ้าว ชิบแล้ว ไม่ใช่ฝันเหรอวะเนี่ย!



ริมฝีปากของแมทธิวขยับแรงขึ้น บดเบียด และเคล้าคลึงจนผมยอมเผยอปากให้เจ้าตัวสอดลิ้นเข้ามาอย่างง่ายดาย ลิ้นร้อนเริ่มลุกล้ำเข้าไปในโพรง ยัดเยียด และจับจังหวะไม่ได้จนเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในปากผม ผมคว้าสะเปะสะปะไปตามร่างกายแน่น สัมผัสของกล้ามเนื้อเต็มมือชวนให้ใจผมเต้นระส่ำ





‘แมทธิว!!! จะบ้าหรือไง?!! นายลืมไปแล้วเหรอ นายเกลียดเกย์นะ’






ภาพความทรงจำย้ำเตือนว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมตื่นเต็มตาก็ตอนที่ได้ยินเสียงในอดีตของตัวเองตะโกนก้องด้วยความหวาดกลัวอยู่ในหัว และไม่สามารถทนหลับตาลงได้อีก เพราะภาพอันโหดร้ายอดีตมันชัดเจนสุดๆ ยิ่งประกอบกับสถานการ์ตรงหน้า



ผัวะ!!!



ผมปล่อยหมัดใส่หน้าแมทธิวแทบจะทันที ใบหน้าแมทธิวสะบัดตามแรงหมัด ผมมองมือตัวเองที่ยังกำหมัดอยู่ แล้วหันไปมองแมทธิวที่ยกมือขึ้นกุมใบหน้า ผมหยัดตัวขึ้นนั่ง คลายหมัดที่กำกำอยู่ และยื่นมือไปตรงหน้าเขาช้าๆ



มือของผมสั่น... จะเป็นยังไงถ้าแมทธิวลุกขึ้นมา และชกหน้าผมเหมือนตอนนั้น?



ผมหลับตาลงช้าๆ หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน หูได้ยินเสียงขยับตัวของร่างสูง



บางทีแมทธิวอาจจะแค่ลุกออกไป... ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะผมคงทนไม่ได้ ถ้าต้องเห็นใบหน้าที่แสดงอาการโกรธเกลียดเขา



“ร้องไห้ทำไมครับ?” ผมลืมตาขึ้น เพราะสัมผัสบนแก้ม รอยยิ้มปลอบโยนกำลังส่งมาพร้อมสายตาอ่อนแสง “ผมทำให้พี่กลัวเหรอ?”



“อือ...”



“ไม่ต้องกลัวนะครับคนดี” นิ้วหัวแม่มือปาดเช็ดน้ำตาบนแก้มผม ก่อนอุ้งมือหนาจะกุมแก้มผมอย่างแผ่วเบา ผมหลุบตามอออองฝ่ามือหนา เผลอเอียงแก้มรับสัมผัสที่ขยับลูบแก้มผมเบาๆ “อยากชกผมอีกสักทีไหมครับ?”



“...” ผมส่ายหน้ารัวๆ แมทธิวยกมืออีกข้างขึ้นมาประกบหน้าผม แล้วขับบีบเบาๆ จนปากจู๋



“งั้นอยากลองเตะผมดูไหมครับ?”



“ไอ้(ไม่)...” ผมส่ายหน้า แมทธิวคลายมือที่บีบหน้าผมออก



“ไม่เหรอ... แต่ผมอยากชดใช้ความผิดนะ บอกผมหน่อยได้ไหมว่าต้องทำยังไง?” แววตาจริงจังสะท้อนใบหน้าจืด กับหัวยุ่งๆ ของผม แมทธิวใช้นิ้วมือค่อยๆ ปัดผมที่ปรกหน้าของผมออก แล้วจับมันทัดหู



“หายไปจากชีวิตฉันสิ” ผมบอกเสียงเรียบ เลิกคิ้ว และยิ้มท้าทาย แมทธิวยิ้มกว้าง แล้วแนบหน้าผากตัวเองลงบนหน้าผากผม



เราสบตากัน... ก่อนริมฝีปากบางของเขาจะประทับลงบนหน้าผากผมแรงๆ



“พี่ก็รู้ว่านั่นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน”



“...” ผมมองตามเขาที่ลุกขึ้นเปิดม่านที่ประตูระเบียง บรรยากาศอึมครึมขมุกขมัวทำให้เดาไม่ถูกว่ากี่โมงแล้ว ผมเกาหัวแกรกๆ แล้วขมวดคิ้ว “แมทธิว...”



“ครับ?” ร่างสูงหมุนตัวกลับมาหาผม ผมจ้องหน้าเขาอยู่พักหนึ่ง ตั้งสติว่าตัวเองต้องการอะไร



“นี่กี่โมงแล้ว?”



“สิบโมงกว่าแล้วครับ”



“ฮะ!?” ผมฮะแรงมากจนอ้าปากเป็นตัวโอ แมทธิวทำหน้าสงสัยยิ้มๆ แต่ผมนี่ยกมือยีหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง



หมดกัน... ความคิดที่จะใส่บาตรทุกเช้าของผม!!!













ทุกคนคงลืมเห็ดกันไปหมดแล้ว...

พอดีช่วงนี้ขลุกอยู่กับกู้ไห่ทั้งวันเลยค่ะ(ติดซีรี่ส์เกย์) นี่ก็เพิ่งจะผละออกมาได้ กู้ไห่งอแงใหญ่เลย คงต้องไปแล้ว

ขอบคุณที่ยังอ่านกันอยู่นะคะ ด้วยรัก จากเห็ดหอม

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #109 เมื่อ29-02-2016 19:36:41 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
« ตอบ #109 เมื่อ: 29-02-2016 19:36:41 »





ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #110 เมื่อ29-02-2016 20:15:26 »

งือชอบบบบ รอตอนหน้าค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #111 เมื่อ29-02-2016 21:14:34 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #112 เมื่อ29-02-2016 21:18:00 »

อย่าผลิกเลยนะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #113 เมื่อ01-03-2016 00:29:35 »

รอตอนต่อไปค่า
 :-[

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #114 เมื่อ01-03-2016 11:22:41 »

ผมหลุบตามอออองฝ่ามือหนา >>>> หลุบตามอง นะคะคนดี อ.อ่างเกินซะเยอะเลย


แล้วขับบีบเบาๆ จนปากจู๋ >>จับบีบ ใช่ไหมคะ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #115 เมื่อ01-03-2016 18:18:04 »

แมทธิว เอาใจช่วยนะ
เอาใจช่วยพี่แมนด้วย ขอให้พี่แมนหายเร็วๆ
พี่แมนน่าร้ากกก

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.16 (29/02/59)
«ตอบ #116 เมื่อ01-03-2016 22:07:54 »

รอต่อไปค่ะติดซี่รี่ย์เหมือนกันเลย55555555

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #117 เมื่อ04-03-2016 20:20:37 »

Chapter 17 : Throwback when you were touched.





เกือบเที่ยงวันแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววของแสงอาทิตย์ บรรยากาศภายนอกอึมครึม และอุณหภูมิก็เย็นระดับที่เปิดแอร์นอนในบ้านยังอุ่นกว่า แมนผลักหัวของสุนัขขนยาวสีทองที่พยายามตะเกียกตะกายมาเลียใบหน้าเขา



“อยู่นิ่งๆ บ้างเหอะ ไม่หนาวหรือไง” แมนยกขาขึ้นนั่งชันเข่า และรวบตัวเต้าหู้มากอดแก้หนาว ริมฝีปากอิ่มหาวออกมาเล็กน้อย สายตาทอดมองผิวน้ำในสระว่ายน้ำตรงหน้าที่กระเพื่อมเบาๆ



แมทธิวเดินผ่านห้องนั่งเล่น เตรียมจะเดินเข้าห้องครัว ร่างสูงชะงักไปเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นร่างของชายหนุ่มรุ่นพี่นั่งเหม่อลอยอย่างเงียบงันอยู่กับสิ่งมีชีวิตขนยาวอีกหนึ่งตัว มือเรียวของแมนขยับลูบบนขนของเต้าหูที่นอนหมอบอยู่ข้างๆ อย่างสงบช้าๆ ก่อนที่ดวงตาเหม่อลอยของแมนจะเบิกกว้างขึ้น พร้อมรอยยิ้มกว้างประดับขึ้นใบหน้า



ลมเย็นยะเยือกพัดวูบจนผมยาวระต้นคอของแมนปลิวสะบัดจิ้มหน้าจิ้มตา ใบหน้าที่กำลังมีรอยยิ้มประดับอยู่เปลี่ยนเป็นสีหน้าหงุดหงิดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่แมนจะยกมือขึ้นปัดปรอยผมที่ปลิวมาปรกหน้าด้วยความรำคาญ





มองเพลินจนแมทธิวลืมตัวตนของตัวเองตอนนี้... ลืมว่าคิดจะทำอะไร และกำลังจะไปไหน ริมฝีปากบางของร่างสูงฉายรอยยิ้มของความสุข



เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็พิสูจน์อะไรหลายอย่างให้แมทธิวได้เป็นอย่างดี...



ไม่มีใครที่น่าค้นหาได้เท่าชายหนุ่มรุ่นพี่คนนี้... ไม่มีใครที่ดูเป็นธรรมชาจิและไร้การปรุงแต่งได้เท่าแมน และไม่เคยมีใครทำให้แมทธิวทั้งว้าวุ้นและสงบใจได้มากขนาดนี้มาก่อน



ถ้าการที่เขาอยากเห็นแต่ความสุขและอยากแบ่งปันความรู้สึกอื่นๆ ของแมนมาไว้ที่ตัวเองมันคือ ความรัก เขาก็คงรักชายหนุ่มรุ่นพี่คนนี้สุดใจ





“ทำไมพี่ชอบเหม่อ?” รู้ตัวอีกทีร่างสูงก็สาวเท้าไปนั่งยองๆ ข้างๆ แมนแล้ว ใบหน้าเรียวมีอาการตกใจน้อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็นเรียบเฉยตามเดิม



“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย...” ใบหน้าแมนเชิดขึ้นเล็กน้อย สายตาเบนกลับไปมองผืนน้ำตามเดิม



“แล้วมีผมอยู่ในความคิดพี่บ้างไหมอะ?” แมทธิวยื่นหน้าไปสบตาแมนใกล้ๆ คนถูกจู่โจมยกมือขึ้นดันหน้าผากแมทธิวแทบจะทันที



“ไม่บอก” แมนยกยิ้มบาง พลางใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเขาเบาๆ จนแมทธิวเผยรอยยิ้มกว้าง



“มีอยู่แล้วแหละ แค่มองตาพี่ผมก็เห็นไปถึงของในและ” สายกรุ้มกริ้มจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีเข้มของแมน



“ทะลึ่ง!” แมนยกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเองด้วยท่าทางหวาดกลัวและใบหน้าตกใจเกินจริง ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีหน้าเรียบเฉยอย่างรวดเร็ว “พอใจป่ะ?”



“...” ...น่ารักเกินไปแล้ว แมทธิวอยากรวบแมนมากอดแน่นๆ แต่ก็เกรงใจใบหน้าหงิกงอนั้น ดีไม่ดีโดนชกสวนมาอีก เจ็บตัวเพิ่มเปล่าๆ



“มองได้น่ากลัวมาก”



“ฮึ ฮ่าๆ” แมทธิวยิ้มกว้างรับคำพูดของแมน เขาจะถือว่ามันเป็นคำชมละกัน



“...” แมนคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมออก สายตาจับจ้องไปยังรอยช่ำบนใบหน้าคม มือที่กอดเข่าเอื้อมไปแตะมันเบาๆ “เจ็บมากไหม... ขอโทษนะ”



“ไม่เป็นเป็นไรครับ...” รอยยิ้มกว้างยังคงประดับบนใบหน้า มือของแมนถูกดึงไปถุมแล้วบีบเบาๆ “ไปหาอะไรกินกันเถอะ”



เปลี่ยนเรื่องคุยได้หักมุมมาก แมนผุดลุกตามแรงดึงของแมทธิว พร้อมๆ กับเต้าหู้ที่แลบลิ้น ทำตาละห้อยทันทีที่ทั้งคู่เตรียมจะเดินจากไป



“เราไปหาไรกินข้างนอกบ้านกันนะครับ”



แมนมองร่างสูงที่เดินนำหายเข้าไปในบ้าน แล้วสบตากับเจ้าตัวขนยาวข้างๆ ก่อนจะยักไหล่เบาๆ



นี่จงใจเลี่ยงเมนูผัดพริกแมนใช่ป่ะ ถามจริง?

 





.

.

.

รถจักรยานกลางเก่ากลางใหม่ถูกรื้อออกมาสูบใส่ล้อ เพื่อใช้เป็นยานพาหนะมุ่งสู่ร้านอาหารหน้าหมู่บ้าน แมนยืนกอดอกมองแมทธิวที่ขึ้นคร่อมรถพลางขย่มมันเบาๆ ทดสอบความแข็งแรง แล้วถามเสียงเรียบ



“มันจะไม่พังกลางทางเหรอ?”



“ไม่แน่นอน” พูดพลางตบเบาะหลัง และโยกหัวเชิญชวน “ขึ้นมาเลยครับ เดี๋ยวพาซิ่ง”



ทำอย่างกับจะไปได้ไวสักเท่าไร.. แมนยักไหล่ แต่ก็ขึ้นคร่อมจักรยานอย่างไม่อิดออด





 

ผู้ชายไซส์นำเข้าหนึ่งคนกำลังปั่นจักรยาน โดยมีผู้ชายไซส์มาตรฐานชายไทยยืนซ้อนอยู่ข้างหลังคงเป็นภาพที่ประหลาดตาสำหรับผู้อยู่อาศัย นก หนู และสุนัขที่อยู่ในหมู่บ้าน ระยะทางจากบ้านแมทธิวไปหน้าหมู่บ้านนั้นไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลเท่าไร แต่เพราะจักรยานไม่ได้ออกแบบมาให้ผู้ชายสองคนขึ้นใช้ มันจึงเคลื่อนตัวไปได้ยากลำบากนิดหน่อย



แมนเกาะไหล่แมทธิวแน่นเป็นหลักยึดไม่ให้ร่วงลงไปเพราะท่าซ้อนที่ผาดโผนคือไม่ยอมนั่งซ้อนเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ใบหน้าเรียวเชิดขึ้นน้อยๆ ปล่อยให้ลมเย็นยะเยือกพัดกระทบหน้าเพื่อสัมผัสอากาศหนาวที่ไม่ได้มาบ่อยๆ ให้มากที่สุด แรงลมที่ปะทะกับใบหน้าทำให้เส้นผมปลิวสะบัด ชายหนุ่มรุ่นพี่ตัดสินใจทรุดลงนั่ง เพื่อจะได้ปล่อยมือจากไหล่กว้างของแมทธิว แล้วเอามือนั้นมาปัดผมที่ปรกหน้า



“หนาว” แมนยกมือขึ้นกอดอก พลางเบนสายตาเหลือบมองข้างทาง เสียงทุ้มที่พูดประยคถัดมาทำเอาเขาต้องหันขวับมามองท้ายทอยของแมทธิว



“หนาวก็กอดผมสิครับ” แมนขมวดคิ้วขึ้นไปอีกค้ลายไม่พอใจ แต่แขนกลับยกขึ้นสวมกอดเอวแมทธิวจากด้านหลังซะแน่น



“ไม่เห็นหายหนาวเลยล่ะ!?”



“พี่ต้องเอาหน้าซบไหล่ผมด้วย ถึงจะหายหนาว”



“นี่ ฉันไม่ได้กินหญ้านะ ไปเอานิสัยขี้อ่อยแบบนี้มาจากไหนมิทราบ” แมนตั้งใจจะหยิกพุงแมทธิว แต่ก็เจอแต่กล้ามเนื้อแน่นๆ แมทธิวหัวเราะร่วน ก่อนจะย้ำเสียงทุ้ม



“ลองทำ แล้วจะรู้ว่าอุ่นจริงไหม”



“...” แมนเบ้ปากอยู่ข้างหลังแถมยังแอบพูดล้อเลียน ก่อนจะซบใบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้าง ทั้งๆ ที่มือยังสวมกอดร่างสูงของแมทธิว…



แต่แมทธิวพูดถูก เพราะอันที่จริงมันก็อุ่นขึ้นมาอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ... อบอุ่นในหัวใจน่ะนะ

 





.

.

.

อากาศตอนบ่ายอุ่นขึ้นมานิดหน่อย แมนและแมทธิวขลุกอยู่ในห้องนอนตั้งแต่กลับจากกินมื้อเช้าควบบ่ายนอกบ้าน ร่างสูงพลิกตัวนิดหน่อย มาทำเนียนหนุนตักแมนที่นั่งขัดสมาธิเล่นโน้ตบุ๊ก สร้างความทุลักทุเลจนแมนต้องวางโน้ตบุ๊กลงกับเตียง แล้วก้มหน้าสบดวงตาคมของแมทธิว



“ก่อกวนทำไมครับน้องแมทธิว” แมนทำหน้าตาอือมระอา แต่มือกลับยกขึ้นมาลูบหัวแมทธิวเบาๆ อย่างลืมตัว



ให้ตายเถอะ... สมองกับหัวใจทำงานไม่ค่อยสัมพันธ์กันเอาซะเลย



“ก็พี่แมนไม่สนใจผมเลย” แมทธิวเบะปากน้อยๆ แล้วหัวเราะนำลำคอเบาๆ พลางช้อนตาขึ้นจ้องแมนพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อกี้ดูอะไรอยู่เหรอครับ?”



“ดูสีผม...อยากทำ”



“อ๋อ เหรอ ผมทำบ้างดีไหมพี่แมน? ฮ่าๆ” แมทธิวพูดกลั้วเสียงหัวเราะ ในขณะที่แมนชะงักมือที่ลูบผมแมทธิวไปเพราะประโยคนั้น

 



“ทำอะไรเหรอ?”



“ดูสีผม”



“จะทำเหรอครับ?”



“ไม่ล่ะ”



“เหรอ...” แมทธิวค่อยๆ เหยียดแขนและเลื้อยลงกับโต๊ะ ก่อนจะนอนหนุนแขนยาวๆ ตะแคงหน้ามองมาทางแมน “ผมทำบ้างดีไหม สีผมเนี่ย?”


.

.

.

“ผมอยากมีพี่หรือไม่ก็น้องจัง” มือหนาจับมือของแมนไปแนบแก้มของตัวเอง แล้วหลับตาพริ้ม ใบหน้าเปื้อนยิ้มบางๆ



“ฉันมีพี่ตั้งหลายคน แต่ไม่มีน้องเลย” แมนเอื้อมมือไปลูบหัวแมทธิวเบาๆ “มาเป็นน้องชายฉันดีไหม?”



“มาเป็นน้องชายฉันดีไหม?”



“มาเป็นน้องชายฉันดีไหม?”

 



“ขอโทษนะที่หลอกนาย” แมนก้มลงสบตากับแมทธิว และบอกย้ำด้วยเสียงอันแผ่วเบา



อะไรทำให้แมนพูดอย่างนั้นไปตอนนั้น ในเมื่อใจแมนคิดไม่ซื่อกับร่างบนตักเลยสักนิด



“...” แมทธิวหุบยิ้มทำหน้าจริงจัง “ไม่เลย มันไม่ใช่ความผิดของพี่”



“....ฉันคิดเสมอว่าถ้านายรู้ความจริงขึ้นมานายต้องเกลียดฉันแน่ๆ และฉัน... คงอยู่ไม่ได้”



“...”



“วันที่นายจากฉันไป มันเหมือนข้างในฉันแตกสลาย นายจากฉันไปโดยไม่มีคำลา ไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันก็รู้แล้วว่านายคงจะเกลียดกันแล้ว นายเกลียดฉันแล้ว” แมนก้มลงจนหน้าชิดอก และปล่อยให้หยดน้ำตาร่วงตามแรงโน้มถ่วง แต่แมทธิวที่นอนฟังอยู่กลับทำหน้าประลาดใจ จนต้องผุดลุกนั่ง



“พี่หมายความว่าไง!? พี่พูดเหมือนผมหนีพี่ไป”



“ฉันเข้าใจ แมทธิวฉันได้ยินมาว่านายเกลียดเกย์ มันไม่ผิดที่นายจะคิดว่าฉันเป็นเกย์แบบนั้น”



“ไม่คือ...”



“ถึงฉันจะเข้าใจ แต่ให้ฉันลืมนาย ฉันทำไม่ได้ แมทธิว ฉันจมอยู่กับความคิดพวกนั้น มันตันไปหมด มองไม่เห็นวิธีที่จะลืมเรื่องของเรา ถ้าไม่มีคนมาช่วยฉันเอาไว้ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้ นายเข้าใจเหตุผลที่ฉันไม่อยากรับนายเข้ามาในชีวิตอีกหรือยังล่ะ...”



“พี่แมน คือผม...” แมทธิวสบตาแดงๆ ของแมน แล้วกวาดตามองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของแมน มือทั้งสองข้างเอื้อมไปเพื่อจะคว้าร่างตรงหน้า แต่ถูกแมนยกมือยันไว้



“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกแมทธิว ฉันแพ้ใจตัวเองทั้งนั้น... ครั้งนี้ถ้านายจะไปอีก อย่างน้อยก็ช่วยบอกลากันก็พอ” แววตาเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ และใบหน้าเว้าวอนของแมนอีกทำให้แมทธิวอยากจะจูบปิดปากนั้นให้เงียบไปซะ



“พี่แมน!! ฟังผมก่อนได้ไหม?!!”



“...” แมนสะดุ้งตกใจ ไม่วายยกมือแนบอกอย่างลืมตัว



“ผมคงต้องบอกว่าที่พี่พูดมาทั้งหมดมันไม่ถูกต้อง ผมไม่ใช่คนที่หนีพี่ไป!” แมทธิวกระชากมือแมนออก แล้วใช้แรงยึดข้อมือไว้ แมนทำหน้าเหยเก พลางบิดข้อมือออกเบาๆ ตอนนั้นเองแมทธิวถึงรู้ตัวว่าเผลอใช้ความรุนแรงกับใช้หนุ่มรุ่นพี่ “...ผม... 3 ปีที่ผ่านมา ผมพยายามติดต่อพี่ แต่รู้อะไรไหม พี่นั่นแหละที่หนีผมไป แบบไร้ร่องรอย เหมือนคนหายสาบสูญ”



“...ไม่...!”



“ห้ามเถียง ไม่งั้นผมจะจูบปิดปาก” แมนเบิกตากว้างทำปากพะงาบๆ ใจก็อยากจะท้าทายอีกฝ่าย แต่เห็นท่าทางฉุนเฉียวก็เลยเงียบปากไว้ดีกว่า



“วันนั้นผมอุตส่าห์เหยียบรถเพื่อไปซื้อเข้าเช้ากับยาเพราะเห็นว่าพี่เป็นไข้ อาการแย่ แต่กลับถึงห้องพี่ก็หายไป แล้ว ทางเดียวที่จะติดต่อพี่ได้ก็คือเบอร์ แต่โทรศัพท์พี่ก็ทิ้งไว้ทิ้งห้อง ผมนั่งรอยันเช้าพี่ก็ไม่กลับมา พี่หนีผมทำไม...”



“...” แมนเม้มปากแน่น ก้มหน้าหลบแววตาจริงจังปนเกรี้ยวกราด เขาไม่อาจทนมองมันได้ เพราะมันทำให้... ใจหวาบหวิว?



“ผ่านไปเป็นอาทิตย์... เป็นเดือน... พี่แนทก็ไม่ยอมบอกว่าพี่อยู่ที่ไหน เขาบอกว่าพี่ก็อยู่ห้องเดิม แต่ห้องข้างๆ ผมที่พี่เขาว่ามันมีคนมาเช่าใหม่ตั้งนานแล้ว ผ่านไปเป็นปีผมก็ยังค้างคาใจอยู่กับเรื่องของพี่ ผมเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้เลย รู้ตัวบ้างไหม!?”



“ฮึก...” แมนบ่อน้ำตาแตกอีกรอบ แมทธิวตกใจไม่น้อยที่เห็นแมนสะอื้นตัวโยนจนต้องคลายแรงที่บีบข้อมือออก และดึงร่างโปร่งนั้นมาอยู่ในอ้อมกอด แมนขยับตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่แมทธิวจะอาศัยตัวเองเล่นกล้าม พละกำลังเยอะ ยกตัวแมนมานั่งคร่อมตักตัวเองได้อย่างสบายๆ



“ขอโทษที่ผมตวาด ไม่ร้องนะครับคนเก่ง” แมทธิวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลเลอะไปทั้งหน้า “ดูเหมือนระหว่างเราจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันเยอะเลยนะครับ...”



“ฮือ... เอออะสิ น้ำตาที่เสียไปเป็นพันๆ ลิตรของฉัน...” แมนปัดมือแมทธิวให้หลบ แล้วเอามือตัวเองเช็ดน้ำตาแทน ไม่ใช่อะไร มันมีน้ำมูกไหลปนอยู่ด้วย จะปล่อยให้ร่างสูงเช็ดก็รู้สึกผิดในใจไปอีก



“ไม่ต้องร้องนะครับ ต่อไปนี้มีอะไรเราจะพูดกันตรงๆ ไม่มีปิดเนอะ”



“อือ... ฮึก”



ฟุ่บ!



“เฮ้ย!” แมนหยุดสะอื้นไปชั่วขณะเมื่อจู่ๆ ร่างของตัวเองก็ถูกพลิกไปอยู่ข้าใต้ร่างแมทธิว ใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้



“งั้น.... ก่อนอื่นบอกผมได้ไหม ที่ผ่านมาพี่คิดยังไงกับผม”



“...หือ???” แมนกะพริบตาปริบๆ ไล่น้ำตา



จะให้สาธยายว่ารู้สึกยังไง มันก็เยอะพอๆ กับอธิบายว่าชอบตรงไหนเลยนะ จะฟังจริงๆ น่ะเหรอ...



“นะ... ตั้งแต่ตอนที่เราเจอกัน พี่รู้สึกกับผมยังไงบ้าง?”



“อืม... น้องแมทธิวใจดี...” เหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคลั่งไคล้ แมนดึงตัวเองกลับไปในสถานะแฟนคลับที่แมทธิวไม่รู้จักเขา แถมแมนยังกรี๊ดกร๊าดร่างสูงอยู่เงียบๆ “หล่อ แล้วยังใจดี มีน้ำใจ ไม่เลือกปฏิบัติกับใคร”



พูดง่ายๆ คือเฟรนด์ลี่เหลือหลาย ทำเอาแฟนคลับอย่างแมนเปลี่ยนจากคลั่งไคล้กลายเป็นหลงรักอย่างบ้าคลั่งแค่ได้ใกล้ชิดกัน



“หน้าตาเหมือนนายแบบฝรั่ง ยิ่งโตยิ่งเหมือนจนฉันเชียร์ให้นายไปเป็นนายแบบ แต่ใครจะรู้ๆ อยู่ๆ นายดันมาโผล่เรียนคณะเดียวกันซะได้ โคตรไม่น่าเชื่อ...”



“ครับ...แล้ว...” แมทธิวขยับหน้าลงไปใกล้อีก แมนเบิกตากว้างๆ เพื่อพิจารณาใบหน้าอีกฝ่าย



“จมูกก็สันเป็นคม เส้นผมเหมือนทำไฮไลท์...” จะพูดท่อนต่อไปแต่นึกขึ้นมาได้ว่าแมทธิวไม่ใช่คุณลำไย “แมทธิว ถามจริงๆ จมูกนั่นไม่ได้ทำมาใช่ไหม?”



“หือ... พี่ก็พิสูจน์มาแล้วไม่ใช่เหรอ?” แมทธิวยิ้มกรุ้มกริ่ม แววตามีเลศนัย หลังยกขึ้นแตะแก้มแมนเบาๆ



“ต...ตะ..ตอนไหน?”

 

 



สัมผัสแผ่วเบาบนดั้งทำให้แมทธิวรู้สึกตัว เขาเกือบจะยกมือขึ้นปัดเพราะคิดว่าเป็นยุงหรือแมลงวัน ถ้าไม่ติดว่าสัมผัสมาต่อเนื่อง ลากเรื่อยมายังปลายจมูก และจบลงที่ริมฝีปาก



สัมผัสแบบนี้มันต้องมีคนทำ



และในห้องนี้ก็ไม่มีใครนอกจากชายหนุ่มรุ่นพี่



ก่อนหน้าเจ้าตัวเพิ่งออกปากจะเป็นพี่ชายให้เขา แล้วที่ทำอยู่นี่คือสิ่งที่พี่น้องปกติเขาทำกันหรือไง?



นิ้วมือวางค้างไว้อย่างนั้น แมทธิวเดาไม่ออกหรอกว่าเจ้าของนิ้วกำลังทำสิ่งนี้ด้วยสีหน้าแบบไหน แต่ถ้าเขาลืมตาขึ้นตอนนี้ เขาต้องได้เห็นสีหน้าแปลกๆ ของแมนแน่ๆ...



ไวเท่าความคิด แมทธิวก็ลืมตาขึ้นมา รอยยิ้มของแมนหุบลงทันที และนัยน์ตามีความสุขก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก และสับสนพร้อมๆ กัน



แค่นั้นเองก็ทำให้แมทธิวใจหวิวๆ เหมือนตกจากที่สูง



ร่างสูงคิดอะไรไม่ออกนอกจากส่งยิ้มไป และข่มใจให้สงบ



“ไปนอนกันเถอะ” แมทธิวเผลอคว้ามือแมนมากุมเพราะความต้องการส่วนลึกในใจบอกให้เขาสิ่งแบบนี้ทดแทนสิ่งที่เขาอยากทำแต่ทำไม่ได้...


 



“จำไม่ได้จริงๆ เหรอ ก็ไหนพี่บอกว่าลืมเรื่องของเราไม่ได้ไง...” แมทธิวลากปลายนิ้วไปที่ดั้งของแมน และหยิกปลายจมูกเบาๆ



“อ๋อ เอ่อ... จำได้และ คงไม่ได้ทำและเนอะ พ่อกับแม่ให้มาใช่ม้า...” แมนยิ้มแหยทั้งๆ ที่ปกติเก๊กขรึม แมทธิวหัวเราะขึ้นจมูก ริมฝีปากกระตุกยิ้มชั่วร้าย แววตาแพรวพราวที่ส่งมายิ่งทำให้แมนอยากแทรกตัวเป็นเนื้อเดียวกับผ้าปูที่นอน



“รู้ไหม พี่ทำผมสับสนมากนะ”



“ฉันต้องสับสนมากกว่าไหม รู้ว่าโดนลวนลามยังทำใจเย็น มันให้ความหวังกันชัดๆ”



“ถ้าผมใจร้อนพี่รู้ไหมตอนนั้นผมจะทำอะไร?”



“นายคงจะชกฉันสักทีน่ะสิ ได้ข่าวนายเคยทำ... อื้อ.. อื้ม!!!” ริมฝีปากแมนจำต้องปิดลงเพราะแรงบดขยี้ มือที่ว่างทุบหลังแมทธิวอยู่พักหนึ่งพอเป็นพิธี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบคอตามอารมณ์เคลิ้มของตัวเอง



ใช่แล้ว แมทธิวได้ทำในสิ่งที่อยากทำเมื่อคืนนั้น มีเหรอจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้



ส่วนแมนน่ะเหรอ... โอกาสเป็นของเขาแล้ว จะเล่นตัวไปทำไมเยอะแยะ

 

 

 

เคยไหมคะ แต่งๆ นิยายอยู่ลืมตอนเก่าๆ ที่ตัวเองแต่ง ต้องไปย้อนอ่าน ฮือ เหนื่อย แต่เห็นคอมเมนท์แล้วก็มีกำลังใจจะลงต่อให้จบค่ะ ฮึบ

ช่วงนี้บ้าผู้ชายจีนมากมาย เห็ดเลยใช้เวลาส่วนมากไปกับการตามดูรายการที่ทั้งมีและไม่มีซับที่เขาไปออก ความรักมันมหัศจรรย์ค่ะ ต่อให้เราจะฟังเขาไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม  :mew4:

สุดท้ายนี้ขอบคุณคุณ JustWait (และท่านอื่นๆ)ค่ะ แก้คำผิดให้เห็ดบ่อยมาก แต่เหมือนเดิม เห็ดอ้างคอมเมนท์มาขอบคุณไม่เป็น ถ้าบังเอิญอ่านที่เห็ดบ่นขอขอบคุณด้วยความจริงใจไว้ ณ ตอนนี้

ไปแล้วค่ะ ขอบคุณที่ยังตามอ่านกัน ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ก็ขอให้อยู่ด้วยกันจนจบนะคะ

ด้วยรัก จากเห็ดหอม

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #118 เมื่อ04-03-2016 20:58:45 »

เคลียร์เรื่องเก่าๆ กันไปและ กลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะน้องแมททิว พี่แมน  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #119 เมื่อ04-03-2016 21:44:00 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด