Text_book#2 ภาคผนวก ก.P.32[3/08/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Text_book#2 ภาคผนวก ก.P.32[3/08/2562]  (อ่าน 279329 ครั้ง)

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ฮือออ อ่านอะไรหน่วงๆ เจ็บปวดๆ แล้วมันพาลเจ็บจี๊ดๆ ที่ฝ่ามือทุกทีเลย  :katai1:

ลากันไม่ค่อยดีเลย แบบนี้ :mew2:
พี่วินทร์ก็พูดไม่ออก ฮาร์ฟก็สับสนกับตัวเอง

ฮาร์ฟอย่าไปคิดเยอะเลย ยังไงคนเดียวกันก็คือคนเดียวกัน แค่อยู่ต่างสถานการณ์เอง  :กอด1:


----
เจอที่ผิดค่า~
อ้างถึง
“พี่ชายนายดุฉันล่ะฮาร์ฟ” วินทร์ทำเป็นตีหน้าเศร้า

ตรงนี้น่าจะ “น้องชายดุฉัน...” นะคะ
พี่วินทร์สับสนเล็กน้อย เจอฮาร์ฟฉบับแมวเข้าไป  :hao3:

ขอบคุณค่าาา แก้แล้วนะคะ

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
เศร้าจัง

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เวลาช่วยเยียวยาของจริงละทีนี้  หวังว่าวินทร์กลับมาฮาร์ฟคงมีคำตอบเนอะ :mew6:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สงสารวินทร์ รอมานานแล้วเมื่อไหร่จะสมหวังซะที

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เฮ้ออุตส่าห์คิดว่าจะดีกันแล้วแท้ๆ  สุดท้ายกลายเป็นพี่วินทร์ไปโดยไม่ลา  หวังว่า คุยโทรศัพท์แล้วจะเข้าใจกันนะ   อย่างน้อยๆก็ยังติดต่อกันไว้  แต่สงสัยว่า  แล้วฉากเปิดเรื่อง  เจ้าของดอกไม้น่าจะเป็นพี่วินทร์  แล้วทำไม ฮาร์ฟถึงดูเศร้าในเมื่อรู้ใจตัวเองแล้วก็น่าจะติดต่อกับพี่วินทร์ได้  โทรคุยกันอะไรแบบนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2016 22:18:15 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อึดอัดดจัง สงสารพี่วินทร์

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ฮือออ สงสารทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ฮื่ออออ พี่วินทร์ไปซะแล้ว
 :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เหนื่อยใจ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ciaiw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อืม
พี่วินตัดใจเถอะ
ลองใช้ชีวิตเพื่อนตนเอง
ถ้ายังไม่แน่ใจก็ปล่อยมันไปอย่างนี้แหละ
เจ็บดี

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ง่อออ พี่วินทร์ของน้องงง

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
อืม
พี่วินตัดใจเถอะ
ลองใช้ชีวิตเพื่อนตนเอง
ถ้ายังไม่แน่ใจก็ปล่อยมันไปอย่างนี้แหละ
เจ็บดี

เนอะ  :hao3:
ปล่อยให้ฮาร์ฟทุกข์ระทมไป
หายใจรวยริน ค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ
#ทีมวินทร์ผู้ถูกปล่อยให้ยืนหลังประตู โทษๆ มือลั่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2016 12:34:44 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หน่วงจังเลยตอนนี้ เอาใจช่วยฮาร์ฟให้รู้ใจตัวเองเร็วๆ
พี่วินทร์ทำไมละมุลนุ่มลิ้นขนาดนี้  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เหมือนใจร้ายแต่ก็เข้าใจฮาร์ฟนะ

เพียงแต่ปวดใจแทนวินทร์

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ฮาร์ฟฟ พี่วินทร์ไปใช้ทุนเอง
แปป๊บเดียว เผื่อจะได้รู้ว่าจะเลือกใครดี

สงสารพี่วินทร์จัง
แต่ก้นะ
เฮ้อออ

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เปิดใจจ ฮาร์ฟ แค่เปิดใจจจ

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จบแล้ววววว
ตอนนี้อ่านไปน้ำตาซึมไป
ชอบน้องลลินมาก เข้มแข็งมากๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่านนะคะ
รอตอนพิเศษค่าาาา

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆ ให้อ่านนะคะ
อิ่มใจมากค่ะ
รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ thari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
แวบแรกแอบตกใจเล็กน้อยที่จบ  แต่เป็นการจบที่สวยงามมากค่ะ  ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^^ อ่านไปก็มีน้ำตาซึม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
หาตอนที่ 19 ไม่เจอ ง่าาา

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
หาไม่เจอค่ะ TT

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
หาตอนจบไม่เจอ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
หาย หาย หาย

หาซิหา หรือว่า แก้อยู่นะ

เอเอเอเอเอเอเอเอ

  :katai4:   :katai4:  :katai4:  :katai4: :katai4:

....


ออฟไลน์ ciaiw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รักเลยเรื่องนี้เลย

พี่วินทร์หาที่ไหนได้อีก

อิจฉามากค่ะ

ออฟไลน์ RainingTime

  • ♥ น้องวัวแอนด์เดอะแก๊งค์ ,, :)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาปูเสื่อนั่งรอตอนจบคร้าบบ
... นี่เราลุ้นอยู่ว่าจะ #ฮาร์ฟวินทร์ หรือจะ #วินทร์ฮาร์ฟ
เชียร์อย่างหลัง ลุ้นมานาน 555  :z3: :z3:

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เนื้อเรื่องตอนจบหายค่ะ  เคร้าใจจังอยากอ่านแล้ว

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ง่าาาาาา  ตอนจบหายไปไหนอ่ะ หาไม่เจอ

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
บทที่ 19 Determine

เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ หากร่างโปร่งในชุดกาวน์ยาวสีขาวยังคงนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา หูเสียบสายฟังเพลงเดิมๆ ที่ใครคนหนึ่งเคยร้องให้ฟังเมื่อนานมาแล้ว เนื้อเพลงในท่อนฮุคที่เวียนมาจนถึงรอบสุดท้ายราวกับตั้งคำถามซ้ำๆ กับหัวใจ

คำถาม… ที่เขายังคงครุ่นคิดเพื่อหาคำตอบให้ตัวเองตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

ลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ ทำให้ดอกปีบค่อยปลิวหมุนเป็นวงร่วงลงบนพื้นหญ้า ตรงหน้ารองเท้าหนังของใครคนหนึ่งที่เพิ่งมาถึง

“มานั่งทำอะไรตรงนี้ฮาร์ฟ”

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นปลุกนรกรตื่นจากภวังค์ของเรื่องราวในอดีตกลับมาสู่ความเป็นจริง

นัยน์ตาสีอ่อนทอดมองรองเท้าบนพื้นหญ้าก่อนจะกวาดสายตามองขึ้นไปตามเรียวขายาว แผงอกกว้างที่ถูกคลุมด้วยเสื้อกาวน์ยาวสีขาว ผ่านลำคอหนา ไปจนถึงใบหน้าคมสันประดับด้วยนัยน์ตาอบอุ่นที่กำลังทอดมองมาที่เขาเช่นกัน

แล้วทันใดนั้นเอง นรกรก็ได้พบกับคนที่คิดถึงตลอดเวลา ใคร... คนที่เอาหัวใจของเขาไปด้วยในวันที่จากกัน และไม่ยอมติดต่อกลับมาเลยแม้สักครั้งเดียว

“พี่วินทร์กลับมาแล้วเหรอครับ” กระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่พยายามฝืนไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าตอนนี้เขาดีใจมากแค่ไหนพลางดึงหูฟังออกเก็บใส่กระเป๋าเพื่อฟังเสียงทุ้มนั้นให้ชัดๆ

ร่างสูงในชุดกาวน์ยาวสีขาวระบายยิ้มลงบนเรียวปากพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง “เมื่อกี้เอง”

นัยน์ตาสีอ่อนตวัดกลับมามองช่อดอก Forget me not ในมือเพราะกลัวว่าจะเผลอจ้องคนที่นั่งอยู่ข้างๆ มากเกินไป “ผมนึกว่าพี่วินทร์จะไม่กลับมาซะแล้ว”

“ต้องกลับสิ” วินทร์ตอบ “ก็ฉันติดสัญญาเป็นอาจารย์ที่นี่ไว้นี่นา ไม่งั้นอาจารย์สรวิชญ์เอาฉันตายแน่” เว้นวรรคไปเล็กน้อยเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของนรกร และเมื่อเห็นความผิดหวังที่ฉายชัดขึ้นในแววตาจึงรีบพูดต่อ “ล้อเล่นน่า ฉันจะไม่กลับมาได้ยังไงก็นายเล่นโทรมาพูดแบบนั้น”


‘พี่วินทร์จะกลับมาใช่ไหม ผมจะรอนะไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ’


นั่นยังไม่นับรวมถึงเสียงที่สะอื้นมาตามสาย มันทำให้เขาแทบบ้าจนอยากจะเลี้ยวรถกลับเสียตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะรถกำลังติดแหงกอยู่บนทางด่วน

แก้มขาวซับสีเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย นรกรก็นึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ทั้งที่ตั้งใจจะโทรไปบอกแค่ขอโทษ แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงของวินทร์ผ่านสายโทรศัพท์น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

และในนาทีนั้นเองที่เขาเข้าใจหัวใจตัวเอง บางทีการที่เขาชอบอทิฏฐ์ได้อย่างง่ายดายอาจเป็นเพราะลึกๆ ในใจเขาก็แอบตกหลุมรักนัยน์ตาอบอุ่นที่มองมาอย่างห่วงใยเสมอนั่นอยู่แล้วก็เป็นได้ และไม่ว่าจะวินทร์หรืออทิฏฐ์ตอนนี้เขาก็พร้อมแล้วที่จะตอบคำถาม

วินทร์กวาดตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความคิดถึงก่อนสายตาจะไปหยุดลงที่ช่อดอกไม้ในมือ “ดอกไม้สวยจัง ใครให้มา”

“ไม่รู้สิครับ” นรกรบอกพร้อมกับจับพลิกไปมา “แต่ผมอยากให้เป็นของคนๆ นั้นจัง”

“คนที่นายชอบน่ะเหรอ”

“ครับ”

“ฉันนึกว่านายลืมเขาไปแล้วซะอีก”

“ไม่ลืมหรอกครับ จะลืมได้ยังไง” นรกรบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ทำเป็นมองดอกไม้ในมือด้วยความสนอกสนใจ... เขาจะตอบคำถามของวินทร์ แต่ก่อนหน้านั้นมีอีกเรื่องที่ต้องการพิสูจน์ในแน่ใจ “พี่วินทร์ครับ ผมแอบเข้าไปอ่านในเพจแฟนคลับสมัยที่พี่วินทร์เป็นเดือนคณะ เห็นว่าชื่อวินทร์นี่ได้มาจากคำว่า ‘วิล’ ของอาจารย์วิลเลียมจริงเหรอครับ”

เจ้าของชื่อแปลกใจเล็กน้อยที่นรกรรู้เรื่องนั้นด้วย แต่ก็ไม่นานนัก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องเป็นฝีมือจิงโจ้แน่ๆ ที่เล่าให้ฟัง “เขาเป็นคนโปรดของพ่อฉันเลยล่ะ”

“ฟังดูเท่จัง ไม่เห็นเหมือนชื่อผมเลย จนป่านนี้แล้วยังไม่รู้เลยว่าทำไมพ่อถึงตั้งชื่อผมแบบนี้”

“ชื่อนายก็ไม่ได้มาจากชื่อหมอฮาร์วี่เหรอ” วินทร์บอก “แล้วชื่อจริงก็เป็นคำว่า neuron กลับหัวไง”

“พี่วินทร์รู้เรื่องนั้นได้ไงครับ” นรกรถามกลับทันที

“เอ้า! นายลืมแล้วเหรอก็วันนั้น...” แล้ววินทร์ก็เงียบไปเมื่อนึกอะไรขึ้นได้

นัยน์ตาสีอ่อนจ้องมองคนตรงหน้า “จะบอกว่าเป็นคนอ่านให้ผมฟังเองใช่ไหมครับ”

“...” วินทร์ไม่ตอบ เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดให้ถูกจับได้มาหลายครั้งแล้วสินะ

“เลิกเล่นละครได้แล้วครับ” นรกรเอ่ยเสียงเรียบ ไม่ได้อยากคาดคั้น แค่อยากจะรู้ความจริง “ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ทั้งเรื่องชื่อ อาหาร เกม หมอเบลล์ เจ้าบิชอฟ ทั้งหมดนี่มีแค่คนเดียวที่รู้ แล้วก็ยังดอกไม้นี่อีก ผมไปตามหาร้านที่ส่งและถามจนรู้มาตั้งนานแล้วว่ามันถูกส่งมาจากที่ไหน และใครเป็นคนส่ง ปากบอกให้ลืมไปซะ แต่ส่งดอกไม้ที่มีความหมายว่า ‘อย่าลืมฉัน’ มาให้ทำไม ตกลงคุณเป็นใครกันแน่”

“แล้วนายอยากให้เป็นใครล่ะ อทิฏฐ์หรือวินทร์” วินทร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบกว่า

“อทิฏฐ์ ไม่สิ! พี่วินทร์จำได้จริงๆ ด้วย แล้วทำไมพี่วินทร์ไม่พูด ทำไมถึง...”

“เพราะคนที่นายรักไม่ใช่ฉัน” วินทร์บอก “นายรักอทิฏฐ์ และฉันไม่ใช่อทิฏฐ์ของนาย ฉันแค่อยากให้นายรักวินทร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้านายไม่ใช่เขา และที่ส่งดอกไม้มาให้เพราะนี่เป็นสัญญาที่ฉันให้กับหมอนั่นไว้ เพราะฉันเองก็ไม่ได้อยากให้นายลืมเขา... ผู้ชายแสนดีที่ทำให้นายยิ้มได้เพียงแค่คิดถึง”

มือทั้งสองกำช่อดอกไม้ในมือแน่นเมื่อคำตอบกระแทกหัวใจนรกรจนจุกไปหมด มันคือสิ่งที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

“นั่นคือคำพูดของคนที่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำตอนที่โทรไปหา แถมยังตัดสายทิ้งและไม่ติดต่อกลับมาถึงสองปีเหรอครับ” นรกรถามกลับ “ไม่คิดว่าใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอครับ”

“ถ้าไม่ทำแบบนั้น แล้วฉันจะตัดใจไปได้ยังไงล่ะ” วินทร์ตอบ “ถ้าต้องทนฟังเสียงนายสะอื้นอีกแค่คำเดียวฉันคงยอมเลี้ยวรถกลับมาฉีกสัญญาทิ้งเพื่ออยู่กับนายแล้ว แต่ฉันทำแบบนั่นไม่ได้ ความรักทำให้ฉันพลาดจนเสียทุกอย่างมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นโชคดีที่ได้อาจารย์สรวิชญ์ช่วยไว้ และฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก”

“แล้วไม่คิดว่า 2 ปีนี้ผมจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นเหรอ”

“นั่นมันก็เรื่องของนาย ไม่เห็นเกี่ยวกับฉันสักหน่อย”

คำตอบทำเอานรกรจุกจนพูดไม่ออก จนกระทั่งวินทร์พูดต่อ

“นับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล ฉันก็นับวันรอที่จะเจอนายมา 2 ปีกว่า และเฝ้าดูนายมาอีก 5 ปี กะอีแค่ 2 ปีแค่นี้ทำไมฉันจะรอไม่ได้ ถึงใจนายจะเปลี่ยนไปก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อใจฉันยังไม่เปลี่ยนไปก็พอ”

วินทร์เว้นวรรคไปเล็กน้อยพร้อมทั้งหันไปสบตา

“ฮาร์ฟ ฉันรู้ว่าจนถึงตอนนี้นายยังไม่ลืมเขา แต่ในเมื่อฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วนอกจากนาย นายก็ปล่อยให้ฉันจีบไปเรื่อยๆ แบบนี้จนกว่าจะใจอ่อนเถอะนะ”

นรกรกำช่อดอกไม้ในมือแน่น “เรื่องนั้นเห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะครับ”

วินทร์แอบใจเสียไปเล็กน้อย แม้จะค่อนข้างมั่นใจกับข้อมูลที่จิงโจ้แอบส่งให้อยู่เสมอ “งั้นฉันต้องทำยังไงล่ะ”

“ผมจะให้โอกาสพี่วินทร์สามครั้งเดาใจว่าตอนนี้ผมอยากฟังคำว่าอะไรมากที่สุด ถ้าพี่วินทร์เดาถูกผมจะยอมให้จีบ” จริงๆ ตอนนี้นรกรมีคำตอบไว้ในใจอยู่แล้ว แต่เขารู้... อย่างที่เจ้าตัวบอกเอง สิ่งที่วินทร์ต้องการไม่ใช่แค่คำว่ารัก แต่ต้องการความมั่นใจว่าเขารักวินทร์จริงๆ ไม่ใช่เพราะเป็นเงาของอทิฏฐ์

วินทร์นิ่งคิดอยู่อึดใจ “ขอโทษ”

“ผิดครับ”

“คิดถึง”

“ผิดครับ”

วินทร์พ่นลมออกจมูก นึกไม่ออกแล้วว่าจะพูดอะไรนอกจากคำนี้ “เป็นแฟนกันไหม”

“ผิด” นรกรตอบ “แต่ตกลงครับ”

คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากัน เริ่มไม่แน่ใจว่านรกรจะมาไม้ไหน “แล้ว... ยังไง”

“ก็ตามนั้นพี่วินทร์ตอบผิดก็ไม่มีสิทธิ์จีบผม”

“แต่นายตอบตกลงเป็นแฟน”

“ก็ตามนั้นไง นี่ยังให้ผมต้องพูดอะไรอีกเนี่ย”

แก้มขาวที่เริ่มขึ้นสีทำให้ริมฝีปากค่อยคลี่ยิ้มบาง นรกรไม่เคยโกหกที่บอกว่าจะพยายามคิดเรื่องของเขา และนี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่จะให้ได้ตอนนี้สินะ งั้นคงไม่ผิดถ้าเขาจะขอคว้ามันไว้ก่อนละกัน “พูดว่ารัก พูดได้ไหม”

“พี่วินทร์พูดก่อนสิ”

วินทร์หลุบตาลงมองมือที่กำช่อดอกไว้แน่นแล้วคว้ามากุมไว้ในมือข้างหนึ่ง เขาใช้ปลายนิ้วโป้งไล้วนไปเบาๆ ก่อนจะยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากทั้งที่ยังทิ้งสายตาให้สบกันไว้ “รักนะ”

นรกรดึงมือกลับมากุมไว้พร้อมทั้งก้มหน้าลงต่ำเพื่อซ่อนพวงแก้มที่เริ่มซับสีเข้มขึ้นทุกที

“ฉันพูดแล้วนะ แล้วนายจะพูดได้หรือยังว่ารักฉัน”

“ก็ไม่ได้รัก จะให้พูดได้ยังไงครับ”

“ตกลงมันยังไงกันแน่”

“ก็... ถือว่าเป็นระยะทดลอง” นรกรตอบไปส่งๆ เพราะตอนนี้หูอื้อ ตาลาย สมองชาจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว

และดูเหมือนวินทร์จะดูออกเสียด้วยเมื่อเขาแกล้งกระเซ้าต่อ “แล้วฉันทำอะไรได้บ้าง”

“อะไรที่ว่านี่คืออะไรครับ”

“อ้าว มันก็ต้องชัดเจนสิ นายไม่ให้ฉันจีบ ฉันไม่จีบก็ได้ ทีนี้เป็นแฟนกันแล้วจับมือได้ไหม”

นรกรพยักหน้า “ได้”

“กอดล่ะ” วินทร์ถามต่อ

“ก็โอเค”

“จูบ”

ถึงตรงนี้นรกรเริ่มชะงักไปเล็กน้อย และหูก็เริ่มแดงแล้ว “น่าจะ…”

“อะไรคือน่าจะ แล้วเซ็กซ์ล่ะ”

นรกรหันควับมาทันที “พี่วินทร์!”

“ตอบมาสิครับอาจารย์ ถ้าโจทย์ไม่ชัดเจน นักเรียนก็ทำข้อสอบไม่ถูกนะ”
 
“ก็… ดูก่อน” นรกรตอบตะกุกตะกัก

วินทร์ทำเป็นพยักหน้าจริงจัง ให้นรกรเริ่มตายใจก่อนจะเอื้อมมือไปรวบตัวเข้ามาใกล้ๆ จนแทบจะนั่งลงบนตัก “โอเค งั้นมาดูกัน”

“อะไรครับ พี่วินทร์จะดูอะไรกลางวันแสกๆ”

“กลางวันสิดีจะได้เห็นชัดๆ ไง”

“พี่วินทร์!”

“อะไร”

“ปล่อยครับ”

“ไม่ปล่อย”

“เอ๊ะ!”

“มีอะไร” วินทร์ถามเมื่อจับสังเกตความผิดปกติในน้ำเสียงนั้นได้

“ก็...”

วินทร์เหลียวมองตามนัยน์ตาสีอ่อนที่ไม่ได้หยุดอยู่ที่เขา หากเลยไปยังด้านหลัง “ใคร?” แต่นรกรยังไม่ยอมตอบเขาจึงพูดย้ำลงไปให้ชัดเจน “พูดมาสิฮาร์ฟ มาถึงขั้นนี้แล้วนายก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าฉันรู้ว่านายพิเศษ”

“ลลิน” นรกรตอบ

วินทร์หันควับไปทันที แต่เขาก็ยังคงไม่เห็นอะไรนอกจากความว่างเปล่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

นรกรไม่ตอบคำถาม เขาลุกขึ้นยืนและดึงมือวินทร์ให้ลุกตามไปด้วย

“เล่าเรื่องลลินให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ช่วงที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง” วินทร์ถามในขณะที่กำลังเดินคู่ไปด้วยกัน

“ลลินสอบติดครับ” นรกรเริ่มต้นเล่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดแฟ้มรูปถ่ายและส่งให้ดู มันเป็นภาพเขากับเธอในชุดนักศึกษา เธอผูกผ้าที่ศีรษะเป็นโบดูกิ๊บเก๋และยังมีรอยยิ้มเต็มหน้าแม้บนศีรษะจะไม่มีผมสักเส้นจากการฉายรังสี “เธอได้ไปเรียนตามที่ฝันครับ แต่ก็ยังเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเป็นพักๆ” เขาเลื่อนภาพให้วินทร์ดูไปเรื่อยๆ น่าแปลกในตอนที่ลลินมาขอถ่ายแม้จะไม่ค่อยเต็มใจเพราะความเขิน แต่ตอนนี้เขากลับขอบคุณเธอที่คะยั้นคะยอจนเขายอมและส่งภาพพวกนี้มาให้ เพราะมันช่วยบอกเล่าเรื่องราวของเธอได้ดียิ่งกว่าสิ่งใด “จนเมื่อเดือนก่อนที่อาการกำเริบอีกครั้ง... มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ครั้งนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย มะเร็งมันกินลึกเข้าไปและกดเบียดก้านสมอง การผ่าตัดทำได้แค่ยื้อเวลาออกแต่ไม่ช่วยให้เธอตื่น”

“เธอเก่งมากเลยนะ” วินทร์ชื่นชมจากหัวใจ เมื่อดูมาจนถึงภาพที่เธอชูสองนิ้วสู้ตายให้กล้องทั้งที่นั่งให้ยาเคมีบำบัดอยู่บนเตียงที่หน่วยมะเร็งวิทยา

“เธอไม่ตอบสนองใดๆ แล้ว และเมื่อเช้าผมก็เพิ่งทำการทดสอบสมองตายเป็นครั้งที่สอง” เสียงนรกรสะดุดไปเล็กน้อยเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ “และเธอก็ผ่าน”

วินทร์เข้าใจทุกอย่างในทันที เขาเอื้อมมือไปบีบไหล่นรกรแรงๆ ครั้งหนึ่งและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก

เมื่อทั้งสองไปถึงห้องไอซียูพยาบาลคนเดิมที่เคาน์เตอร์ก็ส่งยิ้มอย่างเศร้าสร้อยมาให้ราวกับรู้อยู่แล้วว่านรกรกลับมาทำไม
เขาเดินไปที่หน้าห้อง บนหน้าจอมอนิเตอร์แสดงตัวเลขความดันที่ต่ำมากและอัตราการเต้นของหัวใจที่ช้ากว่าปกติ ใบหน้าของญาติทุกคนที่อยู่ในห้องเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ไม่มีใครยิ้มออกแม้ว่าผู้ที่กำลังจะไปเคยสั่งเสียไว้แล้วว่าห้ามร้องไห้

“เธอใกล้จะไปแล้วใช่ไหมคะ” ผู้เป็นแม่หันมาถามเสียงสั่น

นรกรพยักหน้าครั้งหนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสหลังคนที่มาด้วยกันเบาๆ 
 
“ขอผมดูเธอหน่อยนะครับ” วินทร์เอ่ยขึ้นเบาๆ เขารอให้พ่อกับแม่ของลลินอนุญาตจึงเดินเข้าไปยืนข้างเตียง “เป็นการพบกันอีกครั้งที่ไม่ค่อยดีเลยนะ” เขากระซิบที่ได้ยินกันแค่สองคนพร้อมกับสอดมือเข้าใต้ผ้าห่มและบีบมือเธอครั้งหนึ่ง “หมายถึงโชคไม่ดีที่ไม่มีเวลาคุยกันให้นานกว่านี้... เธอเก่งมากนะลลิน ขอบคุณมากสำหรับทุกๆ อย่าง”

ไม่รู้ว่าวินทร์คิดไปเองหรือเปล่าว่าเห็นใบหน้าซีดของเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงเหมือนจะอมยิ้มน้อยๆ ให้ เขาบีบมือเธออีกครั้งและทันทีที่ทำเช่นนั้น กราฟแสดงอัตราการเต้นของหัวใจก็ค่อยๆ ยืดออกก่อนจะเหลือเพียงเส้นตรงราบเรียบ เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเธอได้จากทุกคนไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับ

นัยน์ตาสีอ่อนมองสบสายตาร่างโปร่งแสงของเด็กสาวที่ยืนอยู่หัวเตียง

‘ขอบคุณที่ทำให้หนูรักษาสัญญาได้สำเร็จค่ะ’

...จะไม่ยอมแพ้ไปก่อน จนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง...

วินทร์ปล่อยมือเธอและถอยออกมาหานรกร ทั้งสองกำลังจะกลับออกไปเพื่อให้ญาติและเพื่อนสนิทได้อยู่กับเธอในช่วงสุดท้ายของชีวิต เมื่อผู้เป็นพ่อหันมาเรียกไว้

“คุณหมอครับ”

“มีอะไรหรือครับ”

“ลลินฝากสิ่งนี้ไว้ให้คุณหมอในวันที่เธอไม่อยู่แล้วครับ”

นรกรออกแปลกใจไม่น้อยและรับสมุดบันทึกปกหนังเล่มที่เธอใช้อยู่เป็นประจำมาและค่อยๆ เปิดไปหน้าสุดท้ายซึ่งถูกเขียนไว้

มือทั้งสองค่อยสั่นเทาขึ้นเรื่อยๆ และนรกรแทบไม่อาจฝืนแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อความอ่อนแอในหัวใจได้

เพราะนี่คือพินัยกรรมชีวิตที่เด็กสาวคนนี้ได้เขียนไว้อย่างละเอียดละออถึงทุกๆ คนเมื่อเธอจากไป ไม่ว่าจะเป็นคำขอบคุณหรือขอโทษ การจัดงานศพ ชุดที่สวมใส่ ไปจนถึงดอกไม้ที่ขอให้ตั้งประดับในงาน เธอเขียนไว้เป็นข้อๆ อย่างชัดเจนและมีข้อหนึ่งที่มันถูกเขียนถึงเขา


ถึง นายแพทย์นรกร นุศาสตร์ศิลป์ (หมอฮาร์ฟ)

ขอบคุณ คูณหมอที่ดูแลหนูเป็นอย่างดีตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา หนูขอโทษที่ไม่อาจเอาชนะได้ตามที่เคยบอกกับคุณหมอไว้ เมื่อหลายปีก่อน แต่หนูอยากให้คุณหมอรู้ ว่าหนูไม่ได้ยอมแพ้ หนูแค่อยากพักเหมือนกับที่พี่ชายคนนั้นบอกหนู แต่หนูจะไม่ให้การพักนี้เสียเปล่า หนูได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งถึงการต่อสู้กับมะเร็งไว้แจกในงานศพของหนูเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังทุกข์ทรมานและสู้กับโรคนี้อยู่ ในนั้นมีชื่อคุณหมอด้วย ขอโทษที่ไม่ได้บอกล่วงหน้านะคะ

และสุดท้ายนี้ หนูขอฝาก ‘ความฝันสุดท้าย’ ไว้กับคุณหมอเพื่อให้คนไข้มะเร็งคนอื่นๆ ได้รู้ว่าไม่ได้อยู่ลำพัง มีกำลังใจที่จะสู้ต่อและเผชิญกับความตายทั้งรอยยิ้มเหมือนหนู

รักและเคารพ
ลลิน



นรกรเงยหน้าขึ้นมองผู้ปกครองของเด็กสาวที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับซองเอกสารฉบับหนึ่ง เขารับมันมาและเปิดออกดู มันคือรายละเอียดโครงการปันฝันสู่ผู้ป่วยมะเร็ง สำหรับผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ที่เธอทำมาตลอดหลายปีนับตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อมีกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจคอยให้ความช่วยเหลือ

และคนที่เป็นแรงผลักดันให้เธอทำมันขึ้นมาจนสำเร็จก็คือวินทร์ที่ช่วยบอกให้เธอรับรู้ว่าเธอเองก็มีค่าและสามารถช่วยคนอื่นได้เหมือนกันในแบบของเธอ นอกจากเอกสารในนั้นยังมีสมุดบัญชีเงินฝากแสดงเงินจำนวนหนึ่งที่เธอเก็บสะสมเองและได้มาจากการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาที่เป็นจำนวนถึงเลขหกหลัก
   
นรกรกำเอกสารในมือแน่น ฝ่ามือเล็กเซียวแตะเบาๆ ลงบนหลังมือ นัยน์ตาสีอ่อนเหลือบมองก่อนจะพยักหน้าให้ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ปกครองทั้งสอง ไปจนถึงกลุ่มเพื่อนๆ ที่ยืนดูเขาอยู่

“ผมจะนำเสนอโครงการนี้กับทางมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลให้จัดตั้งเป็นมูลนิธิขึ้นมาโดยจะใช้ชื่อของเธอ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรผมจะบอกกับคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบนะครับ”

“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ที่ยอมทำตามใจเธอจนถึงวาระสุดท้าย”

“ผมสิครับต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเธอแทนผู้ป่วยคนอื่นๆ ด้วย”

ร่างโปร่งแสงของเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกันส่งยิ้มกว้างมาให้... ยิ้มกว้างสดใสเหมือนกับวันแรกที่ได้เจอกัน

‘หนูชื่อลลินแปลว่าพระจันทร์... พระจันทร์เต็มดวงโต๊โตด้วยนะคะไม่ใช่จันทร์เสี้ยวเล็กๆ’

นรกรยิ้มตอบ แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆ เลือนหายไป

oooooo

(ต่อด้านล่างค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 03:20:25 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
(ต่อตรงนี้ค่ะ)

“ฮาร์ฟ” วินทร์เรียกอย่างโล่งอก นับตั้งแต่แยกกันที่หน้าห้องไอซียูเพราะเขาต้องไปดำเนินการเรื่องอื่นๆ ก็ติดต่อนรกรไม่ได้อีกเลย “อยู่นี่เอง โทรหาก็ไม่ยอมรับ ฉันก็เดินตามหาตั้งนานแน่ะ มานั่งทำอะไรตรงนี้”

นรกรไม่ตอบ เพราะเขาอยากให้วินทร์มาหา แต่กลัวจะยุ่งและไม่รู้จะพูดร้องขอว่าอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน ในเมื่อตอนนี้เขาเอาแค่ครุ่นคิดถึงเรื่องของลลินไม่หยุดจนกระทั่งต้องพาตัวเองออกมานั่งในสวนเพื่อมองดูท้องฟ้า... มองดูพระจันทร์ที่จากเขาไปแล้ว

วินทร์ทรุดตัวลงนั่งที่อีกฟากของม้านั่งและเฝ้ามองคนที่เอาแต่นั่งเงียบ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมหันมาจึงเริ่มเขยิบเข้าไปใกล้จนชิด ลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง เขาแอบได้ยินเสียงสูดจมูกเบาๆ ของคนข้างๆ จึงขยับตัวเพื่อถอดเสื้อกาวน์ออกแต่กลับโดนห้ามไว้
   
“นั่นพี่วินทร์จะทำอะไรครับ”

“เข้าเดือนกันยาลมฝนเริ่มมาอากาศก็เริ่มหนาวแล้ว” วินทร์บอก “ฉันก็เลย…”

“เสื้อกาวน์มีแต่เชื้อโรค วันๆ ไปขลุกกับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้สกปรกจะตาย ไม่ต้องเอามาคลุมให้ผมเลยนะครับ”

“ไม่เอาก็ไม่เอา” วินทร์บอกเสียงอ่อยพร้อมทั้งใส่เสื้อกาวน์กลับตามเดิม เมื่อศีรษะที่ประกอบด้วยเรือนผมสีอ่อนค่อยขยับพิงลงมาบนหัวไหล่ “ตัวฉันก็ไม่ได้สะอาดไปกว่ากันเท่าไหร่หรอกนะ” เขาแกล้งพูด

“ผมฉีดวัคซีนประจำปีครบแล้วครับ”

วินทร์ระบายลมหายใจออกจมูกอย่างนึกขันพลางค่อยๆ ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ว่าอะไรจึงวางลงบนไหล่ นรกรขยับตัวเล็กน้อยทำให้วินทร์สะดุ้งจนเผลอปล่อยมือ แต่ศีรษะที่ทิ้งน้ำหนักลงมามากขึ้นทำให้เขากล้าที่จะวางมือลงอีกครั้งพร้อมกระชับวงแขนดึงตัวร่างโปร่งเข้ามา

“เป็นอะไร” กระซิบกับเรือนผมนุ่มที่คลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูก “คิดถึงลลินเหรอ”

“ไม่รู้สิครับพี่วินทร์” นรกรบอก “ทั้งที่ผมควรจะดีใจกับเธอแท้ๆ แต่ทำไมถึงอยากร้องไห้ก็ไม่รู้”

วินทร์พยักหน้าเข้าใจและค่อยลูบมือหนักๆ ลงบนเรือนผม “น้ำตาไม่ได้มีความหมายแค่อ่อนแอสักหน่อย ถ้านายเศร้าหรือเสียใจ อยากร้องก็ร้องออกมาเถอะ แล้วฉันจะเป็นคนปลอบเอง”

“แต่น้ำตาจะทำให้คนที่กำลังจะไปมีห่วงนะครับ”

“ทีตอนฉันนายยังร้องเลย”

“ที่ร้องก็เพราะไม่อยากให้ไปน่ะสิครับ”

ริมฝีปากระบายยิ้มกว้าง วินทร์ไม่สนแล้วว่านรกรหมายถึงใคร เมื่อตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาก้มหน้าลงแล้วกดจูบเข้ากลางหน้าผากหนักๆ ครั้งหนึ่ง “สัญญาว่าจะไม่ทำให้ร้องไห้เพราะเรื่องนี้อีกแล้ว”

นรกรเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของอ้อมแขนอบอุ่นที่ประคองกอดตนไว้แล้วก็คิดขึ้นได้ “พี่วินทร์ครับ”

“มีอะไร”

...ว่าชีวิตคนเรามันสั้น ในเมื่อวันนี้ยังมีกันและกันอยู่ในอ้อมแขน เขาก็ไม่ควรจะต้องรออะไรอีกต่อไปแล้ว...

“ผมรักพี่วินทร์นะครับ”

สิ้นคำก็เงยหน้าขึ้นประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นการตอกย้ำความในใจที่เก็บมาตลอดสองปีให้อีกฝ่ายได้รับรู้และมั่นใจ

“ขี้โกงนี่” วินทร์ว่า อายจนหน้าแดงกับคำสารภาพชัดเจนซ้ำยังมีชื่อตนอยู่ในนั้น “ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่จูบนายจนกว่านายจะบอกรัก แต่นี่นายดันจูบก่อนเฉยเลย”

นรกรกำสาบเสื้อกาวน์ของอีกฝ่ายแน่น “แต่ผมก็บอกรักไปแล้วนะครับ” แล้วแก้มขาวก็ซับสีเข้มมากขึ้นอีก

วินทร์สบตาคนในอ้อมแขนแล้วยิ้มกว้างก็ระบายเต็มหน้า มือใหญ่เลื่อนขึ้นสอดเข้าใต้เรือนผมพร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ เขาแตะริมฝีปากเข้าข้างแก้มเบาๆ ทั้งสองข้างอย่างหยอกเย้าก่อนจะหยุดลงบนริมฝีปากแล้วขบเม้มเบาๆ สลับกันทั้งบนและล่างจนริมฝีปากเย็นนั้นเริ่มอุ่นจนร้อนจึงรุกเร้าหนักมากขึ้นด้วยการแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากอีกฝ่าย ทั้งดูดและชิมเพื่อเติมเต็มความห่างไกลที่รอมานานให้หายคิดถึง

ซ้ำแล้ว... ซ้ำอีก...

จนนรกรเริ่มส่งเสียงอุธทรณ์ในลำคอเพราะตอนนี้เริ่มหายใจไม่ทันแล้ว

วินทร์จึงยอมถอนริมฝีปากออกเล็กน้อย และมองคนตรงหน้าให้เต็มตาอีกครั้งว่านี่ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างคือความจริงรวมทั้งความอบอุ่นของอ้อมกอดที่อีกฝ่ายเกาะเกี่ยวเขาไว้เต็มวงแขน ลมหายใจอุ่นชื้นที่แตะลงบนปลายคางและนัยน์ตาสีอ่อนที่สะท้อนภาพเงาของเขาแต่เพียงผู้เดียว เขาเลื่อนมือขึ้นมาประคองใบหน้านั้นไว้แล้วใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆ ไปบนริมฝีปากที่ยังคงร้อนรุ่มและผิวแก้มที่เห็นเป็นสีแดงระเรื่อแม้อยู่ในความมืดสลัวของแสงจันทร์

อยากจะมีคำที่จะถ่ายทอดความรู้สึกในหัวใจได้มากกว่านี้ แต่เขาก็คิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า ‘รัก’

“คิดอะไรอยู่ครับ” นรกรถามคนที่ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่มองจ้องเขาราวกับกลัวว่าจะสลายไป

“นายเคยบอกว่าฉันเหมือนเป็นตำราที่อ่านไม่ออกแต่เข้าใจได้ใช่ไหม”

“ไม่ใช่ครับ นั่นผมพูดถึงอทิฏฐ์” นรกรบอก “พี่วินทร์คือตำราที่ผมอ่านออก แต่ไม่เคยเข้าใจต่างหาก”

วินทร์มองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ

“เพราะฉะนั้นพี่วินทร์ต้องสอนผมนะ ทุกๆ บท ทุกๆ ตัวอักษร จนกว่าจะถึงตอนจบ”

วินทร์คลี่ยิ้มกว้างไปจนถึงนัยน์ตา “งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” แล้วเขารวบตัวอีกคนเข้ามากอดด้วยสองแขนอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าลงสะกดคำแรกของบทนำด้วยริมฝีปาก

ถ้าความรักจะสามารถเขียนเป็นตำราออกมาได้สักเล่ม มันคงเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอรรถรส ทั้งสุข เศร้า เหงา และมีน้ำตา แต่ไม่ว่ามันจะเป็นเช่นไรเขาก็พร้อมที่จะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ตราบที่ยังมีใครอีกคนนั่งอยู่เคียงข้างและอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยกันไปจนถึงบรรทัดสุดท้าย

The End


จบแล้ว
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม ทุกคอมเมนต์ และทุกๆ การรีวิวนะคะ
ไว้พบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ
รัก
leGGyDan






**********************************************************************************************

แถม ถือว่าแทนคำขอโทษในส่วนข้อมูลที่ผิดพลาด รู้ว่าไม่มีอะไรจะทดแทนความรู้สึกที่เสียไปได้ แต่เราก็ไม่รู้จะขอโทษทุกคนด้วยอะไรดี

“พี่วินทร์” เสียงของนรกรที่กระซิบหวานอยู่ในริมฝีปากทำให้วินทร์เริ่มสติกระเจิง เขากดอีกฝ่ายลงกับพนักเก้าอี้ก่อนจะขยับตัวขึ้นทาบทับไว้ ในขณะที่มือใหญ่ค่อยขยับเลื่อนต่ำลงทุกที ผ่านลำคอระหง แผงอก ไปจนถึงขอบกางเกงที่ปลายนิ้วชำแรกผ่านสาบเสื้อเข้าไปหาความอุ่นของผิวเนื้อด้านใน

คนตัวเล็กกว่าสะดุ้งเบาๆ เมื่อมือเย็นแตะลงบนเนินเนื้อที่สะโพก “พี่วินทร์” พยายามเรียกให้ได้สติแต่ก็ดูจะเป็นทางนี้เองเสียด้วยที่ไม่อาจต้านทานอารมณ์หวามที่จุดติดขึ้นภายใน แทนที่จะขยับตัวหนีหรือผลักออกไป นรกรกลับวางมือลงบ่นบ่าลาดแล้วสอดลงไปตามแนวแผ่นหลังที่ทั้งกว้างและแข็งรั้งให้เข้ามาใกล้ราวกับต้องการจะหาไอเย็นจากกายอีกฝ่ายมาดับคลื่นความร้อนในตัว

และนั่นยิ่งเป็นการกระตุ้นให้คนที่ทาบทับอยู่ได้ใจ

วินทร์ไล้ริมฝีปากลงมาจนถึงลำคอขาว ในขณะที่ลูบมือไปตามแนวสะโพกที่เล็กแต่ก็จับถนัดมือ รู้สึกอยากขยำแรงๆ ให้หายมันเขี้ยวสักทีจนมือไม้สั่นไปหมด

สั่น...

นั่นไม่ใช่มือของเขาที่กำลังสั่นแต่เป็นโทรศัพท์มือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อกาวน์และมันมาโดนมือเขาต่างหาก วินทร์หยิบขึ้นมาดูทั้งที่ริมฝีปากยังฝังอยู่ข้างซอกคอเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้า

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน”

วินทร์บอกพร้อมกับถอนริมฝีปากออก เห็นความสงสัยในแววตาสีอ่อนที่ฉายชัดขึ้นมาทันที เขาเองก็เสียดายไม่แพ้กันแต่มันเป็นสายที่เขาต้องรับ

“สวัสดีครับอาจารย์” วินทร์เหลือบตามองลูกชายเจ้าของเบอร์โทรเข้าแล้วช่วยขยับจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ในขณะที่หูก็ฟังเสียงบ่นไปด้วย

[กลับมาแล้วแต่ไม่มารายงานตัวกับฉัน ดีนะ ที่วันนี้อยู่ผ่าตัดดึกแล้วแวะมาที่ภาคเลยเห็นเอกสารน่ะ นี่ใจคอจะยังอยากมาสอนอยู่ไหม]

“ผมไม่เคยบอกสักคำนะครับว่าอยากสอน” วินทร์แกล้งว่าพร้อมทั้งรวบตัวนรกรมานั่งฟังใกล้ๆ พลางไล้ปลายนิ้วเล่นไปตามริมฝีปากที่ยังอุ่นชื้น รู้สึกว่ายังไม่อิ่มทั้งที่จูบไม่ได้พักเลยแท้ๆ

[ยังจะมาย้อนอีก ขึ้นมาหาผมเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้คุณสอนคาบแรกเลย]

“ครับอาจารย์” วินทร์กดวางสายและหันมาหาคนในอ้อมแขน “กลับห้องคนเดียวได้ไหม”

นรกรพยักหน้า

เมื่อเห็นแววตาที่สะท้านอายเพราะถูกตัดอารมณ์ไปเสียเฉยๆ ยิ่งทำให้วินทร์ทั้งรู้สึกเสียดายและอยากแกล้งไปพร้อมๆกัน เขาเขยิบเข้าไปกระซิบที่ข้างหู “ไว้มาต่อวันหลังนะ” พร้อมทั้งขบเนื้ออ่อนที่ปลายติ่งหูเบาๆ ครั้งหนึ่ง

นรกรพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือที่จับสาบเสื้อกาวน์ไว้แน่น วินทร์คลี่ยิ้มกว้างมากขึ้นอีกก่อนจะเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปกดลงที่กลางหน้าผาก “ฝันดีนะ”

ลมเย็นพัดมาผะแผ่วพาเมฆให้เคลื่อนตัวออกเผยให้เห็นพระจันทร์ดวงโตที่ราวกับกำลังส่งยิ้มมาให้จากบนท้องฟ้า ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

นรกรเอนหลังพิงหน้าอกกว้างของวินทร์เต็มที่พร้อมกับกระซิบ “ให้พ่อรอไปก่อนนะครับ ผมขออยู่แบบนี้อีกสักแป๊บ”


**********************************************************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 03:28:15 โดย leGGyDan »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด