Text_book#2 ภาคผนวก ก.P.32[3/08/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Text_book#2 ภาคผนวก ก.P.32[3/08/2562]  (อ่าน 279395 ครั้ง)

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ภาคผนวก ข.

นรกรกวาดตามองบรรดาน้องๆ แพทย์ประจำบ้านที่ยืนล้อมรอบตัวเองอยู่ทีละคน หลังจากจากที่โดนโทรตามให้มาหาเป็นการด่วน โชคดีที่หมดคาบสอนพอดีทำให้เขาสามารถวิ่งมาได้ทันที และเขาก็คงจะไม่รีบร้อนขนาดนี้เลยถ้าไม่ใช่เพราะประโยคที่รายงานสถานการณ์มายืดยาวนั้นจบลงตรงคำว่า ‘พี่วินทร์’

“เขาอยู่ไหน” ถามทั้งที่ยังหอบหายใจน้อยๆ

จิงโจ้ที่ตอนนี้เลื่อนขึ้นมาเป็นแพทย์ประจำบ้านปีสามพยักเพยิดไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จริงๆ แล้วจะมีล็อกเกอร์แยกต่างหากสำหรับอาจารย์ แต่บางทีก็จะมาใช้รวมกับน้องๆ ด้วยความเคยชินและเหตุผลที่ว่าอยู่ใกล้ห้องผ่าตัดมากกว่า

นรกรพยักหน้าเข้าใจโดยไม่พูดว่าอะไรพลางโบกมือให้ทุกคนแยกย้าย ซึ่งทั้งหมดก็ทำตามแต่โดยดีแม้จะยังแอบเหลียวกลับมามองด้วยความเป็นห่วงเป็นระยะ

เขารอให้ทุกคนไปจนหมดจึงผลักประตูห้องล็อกเกอร์เข้าไป ตรงตู้ที่อยู่ในสุดยังคงเป็นของเขาและวินทร์ ประตูตู้ถูกเปิดค้างไว้ทำให้เขามองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

นรกรกวาดตามองไปรอบห้องเหมือนกับมองหาอะไรบางอย่างครั้งหนึ่ง เขาหยุดสายตาลงตรงหน้าอึดใจก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินไปยืนหน้าประตูโลหะนั้น “พี่วินทร์ครับ นี่ผมเองนะ ขอผมเข้าไปได้ไหม”

ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา แต่นรกรถือว่าขออนุญาตแล้วจึงค่อยๆ แทรกตัวผ่านช่องว่างแคบๆ ระหว่างประตูล็อกเกอร์เข้าไป

ร่างสูงใหญ่คุ้นตายังคงอยู่ในชุดหมีสีเขียวของห้องผ่าตัด วินทร์ยืนหันหน้าเข้าหาล็อกเกอร์ มือทั้งสองที่กำเป็นหมัดแน่นแดงช้ำและมีรอยถลอกเล็กๆ ตรงปุ่มกระดูก

“พี่วินทร์ทำดีที่สุดแล้วครับ” นรกรกระซิบ

“นายจะมารู้อะไร” วินทร์ถามเสียงห้วน “เจ้าพวกนั้นบอกเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ” นรกรพูดต่อถึงจะตกใจเล็กน้อยกับถ้อยคำที่คล้ายกับจะตะคอกใส่ นี่เป็นสาเหตุน้องๆ ต้องโทรตามเขามาเวลาปกติวินทร์อาจเป็นคนง่ายๆ ขี้เล่น แต่บทจะโกรธขึ้นมาหรืออยู่ในภาวะอารมณ์ที่ไม่มั่นคงจะไม่มีใครเอาเขาอยู่ “‘เขา’ บอกครับ… เขายืนอยู่หลังประตูและฝากผมมาขอบคุณ”

คนที่กำลังหงุดหงิดเงียบไปอึดใจ ริมฝีปากเม้มสนิท ฟันขบกันจนเห็นเป็นสันแล้วเขาก็โพล่งสิ่งที่อัดอั้นทั้งหมดในใจออกมา “มันไม่ยุติธรรมเลย! ผู้ชายคนนั้นกำลังจะแต่งงาน… เขาเพิ่งขับรถกลับจากไปเอาชุด พี่ปืนดึงเขากลับมาได้ก่อนจะส่งต่อมาให้ฉัน แต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลยฮาร์ฟ แฟนเขาร้องไห้อ้อนวอนฉันแทบขาดใจ แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลย! นอกจากปล่อยให้เขาตาย” วินทร์สูดลมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะเงียบไปอีกอึดใจ “ตลกดีนะเมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเพิ่งปลอบนายเรื่องนี้ไปแท้ๆ มาวันนี้กลับมาฟูมฟายเสียเอง”

“หมอร้องไห้ได้เพราะเราเองก็มีหัวใจเหมือนกัน” นรกรทวนประโยคที่คนตรงหน้าเคยบอกกับเขา “แต่เราต้องตั้งตัวให้ไวเพราะเรายังมีคนไข้อีกหลายคนที่รอให้เรากลับไปดูแล” พูดจบก็ยื่นมือทั้งสองไปข้างหน้า โอบรอบกรอบหน้าที่พยายามหันหนีเข้าหากำแพงและดึงให้หันมาสบตา นัยน์ตานั้นถึงจะแห้งเหือดแต่ก็แดงก่ำ นรกรไล้ปลายนิ้วเบาๆ จากหัวตาไปหางตาราวกับจะช่วยซับน้ำตาที่มองไม่เห็นนั่น

วินทร์สบนัยน์ตาสีอ่อนที่มองมา และเสี้ยวนาทีที่ความอบอุ่นจากปลายนิ้วเรียวกับความห่วงใยจากแววตาชำแรกมาถึงหัวใจ ความรู้สึกเสียใจยังไม่จาง แต่ตอนนี้เขาก็คิดว่าพร้อมแล้วที่จะหันกลับมาสู้ต่อ วินทร์สูดลมหายใจเข้าแรงๆ สองถึงสามครั้งก่อนจะพยักหน้า “เขาไปหรือยัง”

นรกรเหลียวหลังกลับไปมอง “พี่สาวบอกว่าเขากลับไปหาแฟนแล้ว” พูดจบก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายกลัวผี ถึงจะรับได้เรื่องที่เขามองเห็น แต่คงยังไม่ชินง่ายๆ “ขอโทษนะครับ ผมทำให้พี่วินทร์กลัวหรือเปล่า”

“ไม่กลัวหรอก แค่ตกใจมากกว่าว่าเดี๋ยวนี้สกิลการปลอบนายดีขึ้นนะ เมื่อก่อนแค่จะพูดยังอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วดูตอนนี้สิ” วินทร์บอกพลางเหลือบตาลงมองมือเรียวที่ยังโอบรอบใบหน้าไว้ก่อนจะตวัดกลับมาสบกันอีกครั้ง

นรกรก้มหน้าหนีด้วยความเขินพร้อมกับชักมือกลับ แต่วินทร์กลับประกบฝ่ามือทับลงมาและยื้อเอาไว้ เขาขยับเข้าไปใกล้จนชิด จนได้กลิ่นลมหายใจจากปลายจมูกกับละไอความร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวแก้มที่เริ่มเปลี่ยนสีนั่น

“ขอบคุณนะ” วินทร์บอก “เป็นห่วงฉันเลยรีบวิ่งมาใช่ไหม เหงื่อเต็มเสื้อเลยเนี่ย”

“ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง”

นัยน์ตาคมกวาดมองคนตรงหน้าที่ก้มหน้างุดซ่อนพวงแก้มที่ขึ้นสีเข้มทุกที และนั่นทำให้เขาเอ็นดูจนรู้สึกอยากแกล้งขึ้นมา “จูบได้ไหม”

“ปกติเคยขออนุญาตด้วยเหรอครับ”

รอยยิ้มหยักขึ้นตรงมุมปาก “ฉันก็ไม่ได้ขอนายสักหน่อย” พูดจบก็รั้งใบหน้านั้นขึ้นมาประทับริมฝีปากก่อนจะเลื่อนมือทั้งสองลงโอบรอบเอวแล้วช้อนตัวขึ้นเล็กน้อยดันติดกับกำแพงเพื่อจูบให้ได้ถัดถนี่ และเกิดมุมอับไม่ให้ใครบางคน (?) มาแอบดูได้เหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว ซึ่งครั้งนี้วินทร์มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรตกใส่อีกเพราะหลังจากวันนั้นเขาก็สั่งเคลียร์หลังตู้ทุกตู้และห้ามใครเอาอะไรมาวางไว้เด็ดขาด

“พี่วินทร์” นรกรปรามทันทีที่ได้โอกาสพักหายใจ

ทว่า วินทร์ก็ไม่ยอมปล่อยจังหวะให้นานนัก มือใหญ่คว้าเข้าข้างแก้มและดึงให้หันกลับมาหาอีกครั้ง “ขออีกนิดนะ”

“ตะ… แต่ เดี๋ยวมีคนมา”

“แค่นิดเดียว” วินทร์กระเซ้าเสียงหวานก่อนจะฉกริมฝีปากกลับไปครอบครองอีกครั้ง

มือทั้งสองจิกกำบ่ากว้างแน่น ในขณะที่ทั่วทั้งปากยังหวานในรสสัมผัส ผิวกายร้อนรุ่มตามทางที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายลากผ่านแม้จะยังมีเสื้อผ้าขวางกั้นจนพาให้อารมณ์เริ่มไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาสีอ่อนปรือขึ้นเล็กน้อยมองผ่านร่างสูงไปยังล็อกเกอร์ด้านหลังพลันความรู้สึกสะท้านอายก็พุ่งขึ้นมาในอก นรกรกลั้นใจถอนริมฝีปากออกแล้วก้มหน้าหนีลงซบบนไหล่

วินทร์ผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อย กำลังจะเริ่มต้นนับหนึ่งถึงสิบเพื่อข่มอารมณ์เมื่อเสียงกระซิบดังอู้อี้ออกมาจากคนที่ยังเกาะบ่าไว้แน่น

“เราเปลี่ยนที่กันไหมครับ”

oooooo

ทันทีที่เข้ามาในห้องพักแพทย์ซึ่งวินทร์ยังยึดถือกุญแจไว้ทั้งที่ย้ายไปอยู่กับนรกรแล้ว เขาก็ระดมจูบคนที่มาด้วยกันทุกๆ ที่ที่จะสัมผัสถึง ถึงภายนอกเขาจะดูอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่จริงๆ ความเศร้าและเกลียดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้นั้นยังคงอยู่ น่าแปลกที่เขาค้นพบว่าอุณหภูมิกายที่กำลังขึ้นสูงนั้นแปรผกผันกับความสงบนิ่งของหัวใจ และคนเดียวที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้ก็คือคนในอ้อมแขนนี่แหละ

“พี่วินทร์” นรกรเรียกพร้อมทั้งขืนตัวออกห่าง “ใจเย็นๆ สิครับเดี๋ยวชุดยับ”

เจ้าของชื่อหรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วรั้งเอวคนตัวเล็กกว่าเข้ามาประชิด “มือไม่ว่างน่ะใช้กอดอยู่ ถอดให้หน่อยสิ” บอกหน้าตาเฉย

“พี่วินทร์”

“ก็มันไม่ว่างจริงๆ นี่ หรือจะให้ฉันใช้ปากถอดล่ะ เอาไหม” ไม่พูดเปล่าวินทร์ซุกหน้าลงบนหน้าอกแล้วใช้ปลายลิ้นกับริมฝีปากปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกจากรังทีละเม็ดๆ จนกระทั่งถึงหัวเข็มขัดซึ่งเป็นงานยากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เวลาเพียงแค่อึดใจ วินทร์เหลือบตามองคนที่ไม่ยอมพูดอะไรได้แต่ใช้ปลายเล็บจิกบ่าเขาไว้แน่น เขาแกล้งสบตาทิ้งไว้อย่างนั้นในขณะที่ใช้ปลายลิ้นตวัดหัวซิปกางเกงมากัดไว้ที่ฟันก่อนจะค่อยๆ ลากลงช้าๆ

“เลิกแกล้งผมได้แล้วครับ”

วินทร์ยิ้มยั่ว นัยน์ตาคมพราวระยับ และเพียงแค่ขยับตัวครั้งเดียวเขาก็เหวี่ยงเสื้อที่คลุมตัวอีกฝ่ายลงไปกองกับพื้นแล้วจับคนตัวเล็กกว่าพลิกกดลงบนเตียงโดยเอาตัวเองทาบทับไว้ “ไม่ได้แกล้งสักหน่อย นี่เอาจริงสุดๆ เลยนะ”

“พี่วินทร์ครับ”

“จะบ่นอะไรอีกล่ะ”

“อีกครึ่งชั่วโมงผมมีผ่าตัดนะ”

วินทร์ยิ้มขัน ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะยั่วหรือห่วงงาน หากเขาก็รีบรับคำด้วยการกดจูบลงบนริมฝีปากพร้อมกับขยับตัวพานรกรขึ้นไปสู่จุดสูงสุดก่อนจะดำดิ่งสู่ห้วงหลับลึก แม้ฝ่ามือใหญ่จะสัมผัสลงข้างแก้มพร้อมกับเสียงเรียกชื่อซ้ำๆ ที่ข้างหู “ฮาร์ฟ”

oooooo

นรกรรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าห้องที่เคยสว่างไสวมืดสนิท เขากวาดตามองหาเจ้าของอ้อมกอดที่หายไปแล้วก็พบว่าวินทร์จัดการเช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ว มือเรียวขยับเปะปะหาแว่นที่หัวเตียงมาสวมและทันทีที่ภาพตรงหน้ากลับมาแจ่มชัด เขาก็เห็นเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาที่บอกเวลาเย็นย่ำแล้ว

นัยน์ตาสีอ่อนเบิกโพลงแล้วรีบควานหาโทรศัพท์มาดูให้แน่ใจ และทันทีที่เห็นมิสคอลบนหน้าจอเขาก็ลนลานคว้าเสื้อกาวน์มาสวมทับ หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งเต็มฝีเท้ากลับไปที่ห้องผ่าตัดเพราะตอนนี้เลยเวลานัดมานานแล้ว

ระหว่างที่วิ่งไปก็พยายามโทรหาทั้งวินทร์ทั้งน้องๆ แพทย์ประจำบ้านที่อยู่เวรด้วยความร้อนใจ แต่ก็ไม่มีใครยอมรับสักสาย เขาตัดใจจากการโทรและเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเพื่อวิ่งให้เร็วขึ้น ในใจก็นึกโทษและก่นด่าตัวเองที่ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย ถ้าคนไข้ไม่ได้รับการผ่าตัด ถ้าหากเคสมีปัญหาแล้วน้องๆ ติดต่อเขาไม่ได้ล่ะ

คิดกังวลไปสารพัดจนใจเริ่มเสีย แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องผ่าตัดสิ่งที่เห็นคือคนที่ทิ้งให้เขานอนหลับยาวและไม่ยอมรับโทรศัพท์เดินหัวร่อต่อกระซิกออกมากับแพทย์ประจำบ้านคนอื่นๆ

“พี่วินทร์สุดยอดเลย เย็บแผลโคตรไวแถมยังเนี้ยบอีก”

“ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งน่า กว่าจะได้แบบนี้เมื่อก่อนฉันเย็บเบี้ยวจนโดนอาจารย์สรวิชญ์ใช้ส้นเท้าสะกิดไปไม่รู้กี่รอบ”

“อย่างพี่วินทร์ยังโดนเลยเหรอครับ”

“น้อยไปสิ พวกแกยังไม่เคยโดนไล่ออกจากห้องกลางเคส”

“โหยยยย พี่วินทร์โคตรสตรอง เป็นผมโดนแบบนี้นะลาออกไปแล้ว”

“ก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน” วินทร์ตอบพลางหัวเราะลงคอ

“พี่วินทร์ห้อยพระวัดไหนครับ ผมจะได้ไปบูชามาห้อยบ้าง”

“วัดไหนน่ะเหรอ” วินทร์ทำเป็นนิ่วหน้าคิดอยู่อึดใจ “ก็วัด...” กำลังจะอ้าปากตอบพลันสายตาก็ไปหยุดลงตรงร่างโปร่งที่ยืนกอดอกอยู่กึ่งกลางทางเดิน

“พี่ฮาร์ฟ สวัสดีครับ” แพทย์ประจำบ้านเองก็เห็นเช่นกันและพากันยกมือไหว้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยกมือรับเป็นปกติ

แต่วินทร์รู้ดีว่ามันไม่ปกติ

“พรุ่งนี้เจอกันนะ” เขาตัดบทเป็นการบอกลาทุกคน

“พี่วินทร์ยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่าวัดไหน”

วินทร์ยิ้มให้แทนคำตอบพร้อมกับโบกมือไล่ แพทย์ประจำบ้านเห็นสัญญาณที่ส่งมาจึงยอมหันมายกมือไหว้เขาอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันไป เขารอจนทั้งทางเดินเหลือกันแค่สองคนจึงเดินเข้าไปยืนตรงหน้านรกร “โกรธอะไรเหรอ”

“ผมบอกพี่วินทร์แล้วใช่ไหมว่าให้ปลุก” นรกรพูดเสียงห้วน เขารู้สึกโกรธจริงๆ “ผมไม่อยากเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ นี่มันเป็นงานของผม และพี่วินทร์ไม่จำเป็นต้องมาเอาใจผมด้วยวิธีการแบบนี้”

วินทร์ผ่อนลมหายใจออกจมูกเล็กน้อย และมองคนตรงหน้า คาดไว้แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้มีแค่ไม่กี่เรื่องที่จะทำให้นรกรหงุดหงิดได้หนึ่งก็คือเรื่องโดนขัดตอนอ่านหนังสือ และสองก็คือเรื่องงาน ถึงใครๆ และแม้แต่เจ้าตัวจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าตัวเองไม่เหมือนศาสตราจารย์สรวิชญ์แม้แต่น้อย แต่เขานี่แหละที่ขอยืนกรานเสียงแข็งว่า ‘สองคนนี้เป็นพ่อลูกกันล้านเปอร์เซ็นต์’ “นี่ไม่ใช่การเอาใจ แต่เป็นการขอโทษและการแสดงความรับผิดชอบของฉันต่างหาก” พยายามบอกให้นุ่มนวลที่สุด “นายหลับไปตั้งแต่บ่าย ตอนนี้ทุ่มกว่าแล้วนะ คิดว่าตัวเองหลับลึกแค่ไหนกัน และนั่นก็เป็นเพราะฉันเอง... ขอโทษที่รุนแรงไปหน่อยทั้งที่อยู่ในเวลางานแท้ๆ”

“ผมเองก็ผิดที่ยอม” นรกรพึมพำ เขาไม่ได้ใจเย็นลง แต่เพราะคำพูดของวินทร์ทำให้ภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายที่ดูไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าใดกลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง

วินทร์อมยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วชะโงกหน้าไปกระซิบที่ข้างหู “นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนี่นา”

นรกรเบี่ยงศีรษะหลบ “แล้วพี่วินทร์บอกเหตุผลที่มาแทนผมกับคนอื่นๆ ว่าไงครับ”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ทำไมเหรอ” วินทร์ถามกลับ “ไม่มีใครสงสัยหรอกเพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นแฟนกัน”

นัยน์ตาสีอ่อนเบิกโตขึ้นทันทีด้วยความตกใจ “ทำไมถึงรู้ล่ะครับ หรือว่า…”

“ก็ฉันเป็นคนบอกเอง” วินทร์ตอบ “ทุกคนรู้มาตั้งนานแล้วว่าฉันจีบนาย พอจีบติดก็ขอฉันอวดสักนิดสิ ไม่งั้นวันนี้พอเห็นฉันเป็นแบบนั้นเจ้าพวกนั้นจะโทรตามนายมาทำไม”

นรกรยิ่งพูดไม่ออกกว่าเดิมกับคำรับสารภาพแบบหน้าซื่อตาใส “แล้ววันนั้น… ที่มีนักเรียนแพทย์ถามตอนที่อยู่ในห้องพักละครับ”

วินทร์นิ่วหน้านึกอยู่อึดใจ “กับนักเรียนฉันไม่ได้บอกหรอก แต่ถ้าถามว่ามีแฟนหรือยังฉันก็ยอมรับตรงๆ ว่ามีแฟนแล้ว แต่ดูเหมือนบางคนก็จะรู้นะเพราะตอนนั้นฉันเผลอหันไปหานาย ถึงนายจะไม่สนใจก็เถอะ”

นรกรเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงเสียงโห่ร้องที่ดังกระหึ่มในวันนั้น

“ขอโทษนะถ้านายไม่ชอบใจ” วินทร์รีบบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปและพูดอะไรอีก “แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอาย และไม่เห็นความจำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ เลยในเมื่อความรักของเรามันเป็นเรื่องน่ายินดี หรือนายว่าไง”

“กลับไปคุยต่อที่บ้านละกันครับ”

“ทำไมต้องกลับบ้านล่ะ คุยกันที่นี่ก็ได้นี่”

นรกรส่ายหน้า

วินทร์พยายามจะเดินเข้าหา แต่อีกฝ่ายกลับถอยหนี “ฮาร์ฟ”

“กลับบ้านครับ” นรกรตัดบทพร้อมกับหมุนตัวกลับ

oooooo

“ถึงบ้านแล้วนะ มีอะไรหรืออยากจะให้ฉันทำยังไงก็พูดมาสิ” วินทร์ถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำทั้งที่กลับถึงบ้านตามที่ตกลงกันแล้ว “ฮาร์ฟ อย่าเงียบสิ”

หากยิ่งถามนรกรยิ่งเงียบใส่ เขายกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างอ่อนใจจะง้างปากคนปากแข็ง กำลังจะเดินเข้าไปหาเมื่อจู่ๆ คนที่เอาแต่เงียบก้าวเข้ามายืนตรงหน้า แล้วโดยปราศจากคำตอบใดๆ นรกรโผเข้ากอดเขาพร้อมกับซุกหน้าลงบนหน้าอกกว้าง

“อะไรเนี่ย ตกลงโกรธหรือไม่โกรธ ฉันทำตัวไม่ถูกนะ” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ก็ตอบสนองโดยการสอดแขนเข้ารัดรอบเอวพร้อมทั้งวางคางเกยลงบนศีรษะ จะว่าไปวินทร์ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้วล่ะเพราะเขาแอบเห็นพวงแก้มกับหูที่เริ่มเปลี่ยนสีนิดๆ นรกรยังไม่หายโกรธเขาแต่ก็บังเอิญว่ามีเรื่องมาให้ดีใจหรืออายอะไรสักอย่างอยู่ หากก็น่าเสียดายที่สองเรื่องนี้มันเอามาหักล้างกันไม่ได้ ผลก็เลยจบลงตรงที่เจ้าตัวทำอะไรไม่ถูก

“โกรธที่ไม่ยอมบอกให้เร็วกว่านี้” เสียงอู้อี้ดังออกมาจากคนในอ้อมแขน

เขาดีใจ... มาก มากจนไม่รู้จะถ่ายทอดออกไปได้ยังไง มันเอ่อล้นอยู่ในอก ถ้าการได้รักและได้รักตอบนับว่าเป็นจุดสูงสุดแล้วละก็ การที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นที่รักและยอมรับล่ะเขาจะเรียกความสุขมากมายขนาดนี้ว่าอะไรดี

“เรื่อง?” รอยยิ้มกว้างกระจ่างเต็มหน้า วินทร์กระเซ้าทั้งที่รู้คำตอบอยู่เต็มอกแล้ว แต่เขาแค่อยากฟังให้แน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
แล้วนรกรก็เงียบไปอีก วินทร์เดาได้ทันทีว่าเจ้าตัวกำลังคิดหาถ้อยคำมาบอกเขาแน่ๆ และในขณะที่กำลังคาดเดาคำตอบอยู่นั้นนรกรก็ขยับตัวเล็กน้อย เขาจึงคลายวงแขนออกเพราะคิดว่าหายใจไม่ออก

นรกรเงยหน้าขึ้นและเป็นจังหวะนั้นเดียวกับที่วินทร์ก้มหน้ามา นัยน์ตาสองคู่จึงสบกันนิ่ง

“พี่วินทร์”

...ถ้ายังคิดไม่ออก เรียกแบบนี้ไปก่อนก็ง่ายดี...

แล้วเขาก็เขย่งตัวขึ้นประทับริมฝีปากครั้งหนึ่งก่อนจะมุดหน้าหนีเข้าไปในอกกว้างตามเดิม

วินทร์แทบจะได้ยินเสียงกริ่งสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในหัว เขาต้องฝืนใจเอาไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อไม่ให้รัดตัวคนในอ้อมแขนแน่นจนเกินไป “ไม่เอาน่าฮาร์ฟ อย่ามาทำตัวน่ารักแบบนี้ไม่งั้นฉันจะอดใจไม่ไหวนะ”

“พี่วินทร์ต่างหากที่น่ารัก” นรกรกระซิบ

เจ้าของชื่อกัดริมฝีปากข่มอารมณ์จนช้ำแล้วตอนนี้ “ตอบมาก่อนว่าเรื่องอะไร”

“เลิกแกล้งผมได้แล้วครับ นี่ต้องให้ผมพูดจริงๆ ใช่ไหมว่าทำไมถึงชวนกลับบ้าน”

วินทร์หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับอารมณ์ที่ในที่สุดก็ทนเก็บไว้ไม่ไหว “ไม่ได้แกล้งแค่อยากให้แน่ใจว่าเข้าใจไม่ผิด ว่าแต่นายเติมของในลิ้นชักแล้วเหรอ” ยังไม่วายแกล้งแซว

“แล้วที่พี่วินทร์แอบซื้อยกโหลใส่กระเป๋าไว้นั่นจะเอาไปสอนสุขศึกษาที่ไหนเหรอครับ” นรกรถามกลับ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู แต่ตอนรู้สึกตัวตื่นมาในห้องพัก เห็นกระเป๋าเปิดอ้าไว้ ด้วยความเป็นห่วงกลัวของจะหายเลยช่วยเก็บให้

“เอาไว้สอนนายน่ะแหละพ่อนักเรียนดีเด่น” วินทร์กระซิบ “นายอ่อนวิชานี้เกินไปแล้วนะ ฉันเลยว่าจะติวเข้มเอาให้นายได้เกีรตินิยมเลย” และทั้งที่มันเกิดที่ข้างหู แต่สีผิวกับอุณหภูมิกายถึงสูงขึ้นรวดเร็ว

“แล้วถ้าได้แล้วจะเลิกสอนหรือเปล่าครับ”

“นายไม่เคยได้ยินหรือไงว่า life is long learning” วินทร์รวบตัวอีกฝ่ายเข้าประชิด และเพราะยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่บ่ายเขาก็คิดออกทันทีว่าวันนี้จะเริ่มบทเรียนที่ไหนดี

****************************************TBC**************************************************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2016 17:50:52 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
หวานมากกกก
ชอบบบบบ รอตอนพิเศษค. ง. จ. ฉ. นะคะ555555

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
บทเรียนแบบนี้คงต้องเรียนกันไปยาวๆเลยค่ะ 555555

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
บทเรียนนี้เรียนกันยาวไปเลยค่ะ  :o8:

หวานแบบนี้เค้าชอบอ่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โอ้ยยยย...น่ารัก อยากเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์ในห้องเรียน

ออฟไลน์ yupa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :pig4: :L2: :mew1: :mew1:  น่ารักมากจ้า

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ชอบๆ ชอบมาก กำลังใจดีแถมเก่งอีกด้วย พี่วินทร์โชคดี  :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
หวานแบบกำลังดี หวานกว่านี้อีกได้มั้ย

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ภาคผนวก ข.
. . .
“ก็ฉันเป็นคนบอกเอง” วินทร์ตอบ “ทุกคนรู้มาตั้งนานแล้วว่าฉันจีบนาย พอจีบติดก็ขอฉันอวดสักนิดสิ ไม่งั้นวันนี้พอเห็นฉันเป็นแบบนั้นเจ้าพวกนั้นจะโทรตามนายมาทำไม”
. . .
“แล้วที่พี่วินทร์แอบซื้อยกโหลใส่กระเป๋าไว้นั่นจะเอาไปสอนสุขศึกษาที่ไหนเหรอครับ”

แอบขำ นึกไม่ถึงว่าพี่วินทร์จะมีมุมนี้ แหม ขออวดแฟนหน่อยเถอะ 555

คุณ leGGyDan ขราาาา ยกโหลเนี่ย ขอเป็นยกโหลคละแบบน้าาาา ขรุขระ มีกลิ่น เรืองแสง ฯ แล้วถ้ายกไปสอนวิชาสุขศึกษาต่อในภาคผนวก ค. จะดีงามมากค้าาาา  :impress2:

:pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่วินทร์ ฮาร์ฟ มาเติมความหวาน ให้ชุ่มชื่นหัวใจ :mew1: :mew1: :mew1:
 มาเติมได้บ่อยๆ นะ ชอบบบบบ :3123: :3123: :3123:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
พี่วิ๊นทร์ โง้ยยยยยยย ร้ายกาจจจจ ทำจนพี่ฮาร์ฟไปผ่าไม่ทัน
แต่พี่ฮาร์ฟไม่เบาๆ ฮือ น่ารักมาก อ้อนเก่งมาก
ยิ่งอ่านภาคผนวกเหมือนช่วงคืนกำไรให้พี่วินทร์ที่แพ้ทุกคนมาตลอดแม้กระทั่งตัวเอง
เลิ้บมากๆ มาอีกหล่ยๆภาคผนวกเลยนะคะ

ออฟไลน์ purpleguy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
  :z1: สรุปว่า...มีภาคผนวก ค...... :haun4:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ตอนนี้หวานนนน :-[
จะมีตอนพิเศษต่อไปมั้ยคะ ชอบจัง :katai2-1:

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ haramoonlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นเรื่องราวที่มีครบทุกรสชาดจริงๆค่ะ อยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับหมอที่เขียนชีวิตการทำงานในโรงพยาบาลแบบนี้มานานแล้วค่ะ แต่หายากมากกกกก ส่วนใหญ่ก็แค่ตัวเอกสักคนได้ชื่อว่าเป็นหมอแต่สถานการณ์ในเรื่องแทบจะไม่เกี่ยวกับ รพ. และคนไข้ หรือถ้ามีก็มักต้องอ่านไปบ่นไปกับข้อมูลที่มันไม่ค่อยสมจริงจนสุดท้ายก็ต้องเลิกอ่าน สำหรับเรื่องนี้ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวัง แค่อยากหานิยายอ่านฆ่าเวลา แต่สุดท้ายก็ต้องอ่านรวดเดียวข้ามวันข้ามคืนจนจบ ทั้งโครงเรื่องการวางพล๊อต และการเล่าเรื่อง สนุก น่าสนใจ และน่าติดตามมากกก ความเกี่ยวโยงของตัวละครทุกตัวมันทำให้ต้องลุ้นไปตลอดที่อ่าน ตัวละครทุกตัวคนแต่งเขียนออกมาได้มีมิติ และน่าสนใจแม้กระทั่งตัวประกอบ เราชอบน้องลลินกับคุณผีตู้ล็อคเกอร์มากกกก รองจากพี่วินทร์กับหมอฮาร์ฟ นิยายเรื่องนี้ทำให้เราอ่านไปแล้วร้องไห้ไป ร้องไห้ที่เป็นการร้องไห้จริงๆไม่ใช่แค่น้ำตาไหล และทั้งๆที่ร้องไห้จนตาบวมแต่ก็ยังหัวเราะได้กับมุกเสี่ยวของพี่วินทร์ แล้วความน่ารักของหมอฮาร์ฟที่ถึงจะอายก็ยังอุตส่าห์เตรียมพร้อมกะขนาดของพี่วินทร์ตามทฤษฎีซะงั้น สุดท้ายอยากบอกว่าขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้ได้อ่าน ขอบคุณในความพยายามในการแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆเราเห็นถึงความทุ่มเทและความตั้งใจและความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยที่มันทำให้เราอ่านนิยายของคุณแล้ววางไม่ลง อยากบอกเราเรามีความสุขจริงๆที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนนิยายดีๆออกมาให้ได้อ่านกันต่อไปเรื่อยนะคะ จะรอติดตามภาคผนวกตอนต่อไป แต่ตอนนี้ขอตามไปอ่าน ER ก่อนค่ะ ^^ :mew1:

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เห็นพี่วินมีความสุข ก้อดีใจด้วย

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
นึกว่าจะเศร้าแล้วนะพี่วิน แต่ก็เป็นพี่วินเองจริงๆแฮะ

หวานมากจนน่าอิจฉา

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อ๊ายยยยยยยยยยยยย..เขินแทน :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure
 :mew3: สนุกมาก ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ชอบค่ะ เขินจังงงงง  :hao4:

ออฟไลน์ Theznux

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เพิ่งได้มีโอกาสอ่านเรื่องนี้ เป็นพล็อตฟิคที่เราชอบมากกกก เคยคิดอยากแต่งแบบฟิคที่มีเมะเป็นวิญญาณ
แล้วเคะสามารถเห็นวิญญาณได้ แต่แต่งฟิคไม่ใช่แนวถนัดของเราเลย ถนัดอ่านมากกว่าเลยได้แต่เก็บพล็อต
นี้ไว้ในใจ หวังว่าจะมีคนมาแต่ง แล้วก็มีจริงๆ อ่านบทแรกๆก็รู้เลยว่าเราต้องชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆ
เก็บไว้ในคอลเลคชั่นฟิคน่าประทับใจของเราเลย คนแต่งแต่งละเอียดมากเลย เราชอบรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
ที่คนแต่งพยายามสอดแทรกเข้ามา มันดูมืออาชีพมากเลย อย่างชื่อจริงและชื่อเล่นของหมอฮาร์ฟ
ยอมใจเลยจริงๆ ชื่อมาจากคำว่า neuron กลับหัว อ่านแล้วนั่งร้องว้าวในใจเบาๆ 5555555

ยอมรับว่าแอบอ่านสปอยจากคอมเม้น เรารู้ว่าวินทร์กับอทิฏฐ์คือคนเดียวกันตั้งแต่ตอนแรกๆแล้ว แต่เรานึก
ไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นคนเดียวกันได้ยังไง ถึงจะรู้อยู่แล้วแต่พออ่านไปก็ลุ้นตลอด พออ่านมาถึงตอนที่ปม
เรื่องวินทร์กับอทิฏฐ์ค่อยๆคลายออก แอบเซ็งเบาๆที่พระเอกคือวินทร์ ในความรู้สึกคือวินทร์กับอทิฏฐ์มัน
คนละคนอะ มันไม่ใช่! แต่พอได้อ่านตอนต่อๆมา เห็นความคิดของวินทร์มากขึ้น ทำให้เราแบบ เออ! นี่แหละ
พระเอก วินทร์กับอทิฏฐ์คือคนเดียวกันว่ะ 5555 เราว่าคนแต่งแต่งเก่งมากเลย เราคล้อยตามมากๆ
ทุกอย่างดูมีเหตุมีผลรองรับหมดเลย ทั้งๆที่เราคิดว่าเห้ย! มันจะเป็นไปได้ไง แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้อะ

เรารักเรื่องนี้มากๆ ปกติไม่ชอบอ่านเรื่องผีๆ ถึงจะผีไม่น่ากลัว เราก็กลัวอะ ขี้กลัวมากกกก ช่วงแรกนี่เราไม่อ่าน
ตอนกลางคืนเลย แต่หลังๆเริ่มอดใจไม่ไหว ฉันไม่อ่านไม่ได้! 55555 รออ่านภาคผนวกภาคต่อๆไปนะคะ
ถ้ามีคนให้แนะนำฟิค เราจะแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ! แต่เสียดายที่เพื่อนเราส่วนใหญ่ชอบอ่านแนวรักมหาลัย
กุ๊กกิ๊กๆ เวลาเราแนะนำฟิคแนวผู้ใหญ่ ภาษาสวยให้ทีไรไม่เคยจะอ่านตามเราซักที ขอบอกว่าพลาดมาก!!!
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ NUBTANG

  • Nothing is impossible. "[+++++]"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โฮ้ยยย น่ารักเป็นบ้า

ออฟไลน์ i c u

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ฮาร์ฟน่ารักจัง  นี่คือช่วงคืนกำไรให้พี่วินทร์ใช่ไหมเนี่ยยยยยยย////แอบมีหมอปืนโผล่มาด้วย พลุมาด้วยป่าวค่ะ คิดถึงงงงงงงง

ออฟไลน์ yupa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากแต่งง เรื่องวินทร์กับทิดอ่ะ พยายามเรียบเรียงนะ แต่ยังไม่ชัวร์ คือ ทิดข้ามเวลามาอนาคต จากนั้นก็กลับไปอดีตฟื้นคืนชีพเหมือนเดิมในเวลาอดีต แล้วมันก็จะเป็นความรู้สึก ในบทที่ 17 In my mind ใช่ไหมคะ ซึ่งนั่นก็คือความรู้สึกของวินทร์ในปัจจุบันหลังจากที่วิญญาณเพิ่งกลับมาจากอนาคตแล้วดำเนินเรื่องต่อมาเรื่อยๆใช่ไหมคะ พยายามคิดง่ายๆก็ ทิดที่อยู่ในอดีต คือเวลา A วิญญาณได้ข้ามเวลามา เวลา B ซึ่ง วินทร์ในปัจุบันอยู่ที่พยายามจีบฮาร์ฟ และเป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ต้น พอทิดตัดสินใจจะอยู่ต่อเพราะฮาร์ฟ แม้จะรู้ว่าฮาร์ฟไม่รักวินทร์ก็ตาม(เพราะวินทร์ก็คือทิดนั่นแล) ก่อนกลับก็ไปแวะคุยกับวินทร์ ที่ดูเหมือนรู้ทุกอย่าง ตัวอย่างก็ตอนที่ไม่อยากให้ฮาร์ฟไปส่งเพราะกลัวตัวเองในอดีตน้อยใจ (บทที่ 17) นี้แหละค่ะจุดนี้ ความเชื่อมโยงที่งง และเข้าใจในแบบตัวเองว่า ตอนที่วินทร์ในเวลาปัจจุบัน(ของเรื่อง) เวลา B ตอนฆ่าตัวตายเมื่อ 8 ปีก่อน วิญญาณของวินทร์ในตอนนั้นก็ข้ามเวลาไปในอนาคตเหมือนกัน เป็นอนาคตของเวลาปัจจุบัน คือเวลา C ซึ่งในช่วงเวลา C นั้น เขาได้เจอ ฮาร์ฟ แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็จะเหมือน กับ เหตุการณ์ในเวลา A คือ วินทร์ก็จะจำอะไรไม่ได้ ถูกฮาร์ฟตั้งชื่อว่า ทิด เป็นเหตุการณ์ซำ้ซ้อนกันตามทฤษฎีเวลาเดจาวูมั้ง(หรืออะไรสักอย่างจำไม่ได้) เมื่อตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ก็กลับมาสู่ช่วงเวลาเดิมคือ เวลาB เป็นวินทร์ในปัจุบัน ซึ่งก็จะเป็นตอนบทที่ 17 เพราะไม่งั้นก็จะอธิบายไม่ได้ว่าทำไมวินทร์ถึงรักฮาร์ฟ นั่นก็เพราะทั้งสองเคยเจอกันมาแล้วแต่เป็นการเจอที่เหลื่อมกัน คือ วินทร์ เวลา B เจอฮาร์ฟในอนาคต เวลา C หรือ วินทร์ เวลา A (ทิด) เจอกับฮาร์ฟเวลา B (ปัจุบันในการดำเนินเรื่อง) เนื่องจากทั้งสองไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน เจอกันครั้งแรกคือวันปฐมนิเทศ ที่วินทร์กอดฮาร์ฟด้วยความคิดถึง แม้จะบอกว่า วันลงมีดครั้งแรกของทั้งสองที่ฮาร์ฟให้กำลังใจและรอวินทร์จนหลับหน้าห้องผ่าทำให้รัก แต่วินทร์ขอจีบฮาร์ฟกับอาจารย์พ่อตอนสัมภาษณ์ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นิ นั่นแปลว่ารักมาก่อนแล้ว นี้แหละเป็นอีกจุดที่เอะใจ วินทร์รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วในเวลาC ผ่านฝัน ถึงรู้ว่ายังไม่ใช่เวลาของตัวเอง เพราะในเวลาของตัวเอง คือเวลาB ยังมี ทิด ซึ่งคือตัวเองในเวลา A อยู่ ต้องรอให้ ทิดกลับไปในอดีตเวลา A ก่อน ทิดที่กลับไปช่วงเวลา A ของตัวเองเมื่อลืมตาตื่นเรื่องก็จะเป็นไปตามเนื้อเรื่องบทที่17เป็นต้นมา วินทร์ในอนาคตเวลา C เช่นกัน เขากินยาฆ่าตัวตายวิญญาณก็ข้ามเวลาไปในอนาคตอีกเป็นเวลา D เจอฮาร์ฟเวลา D เป็นทิดในช่วงเวลาD เหตุการณ์ก็เป็นเหมือนเดิมตามต้นเรื่อง จนมาถึงตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ก็กลับมาช่วงเวลาตัวเองคือเวลาC แล้วเรื่องก็จะเป็นตามบทที่17 ไป เป็นคอนเซ็บ รักข้ามเวลาใช่ไหมค่ะ เหตุผลที่วินทร์รักฮาร์ฟเพราะเป็นวิญญาณไปเจอฮาร์ฟในอนาคตให้กำลังใจในการอยู่ต่อและรัก พอคิดอย่างเลยเข้าใจที่ทิด(วินทร์) บอกอ.อินทร์ว่า ถึงจะเป็นกรรมแต่สำหรับผมคือ พรหมลิขิตเลยค่ะ เป็นกรรมที่วินทร์ก็ต้องวนเวียนระหว่างอดีต ปัจุบัน อนาคตแบบนี้ อีกทั้งต้องเจ็บปวดที่ต้องรู้ว่ารักแต่แตะต้องไม่ได้เมื่อเป็นวิญญาณทิด และเป็นวินทร์ฮาร์ฟก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่นั่นคือพรหมลิขิตเพราะได้เจอคนที่รักตัวเองและตัวเองสามารถรักได้ เพียงกล้าที่จะคว้าและแก้ไขความล้มเหลวจากรักครั้งก่อน เหมือนที่ผู้แต่งนิยามไว้ในเรื่องนี้ มันลึกซึ้งมากและให้แง่คิดหลายอย่างมาก เป็นนิยายที่ต้องใช้ความคิดและหัวใจในการอ่านด้วย ใช้อารมณ์จะไม่ได้้ใจความสำคัญที่ผู้แต่งอยากสื่อเลยค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ นิยายสนุกมาก รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะว่าที่คิดถูกหรือเปล่า ถ้าใช่เท่ากับว่า ไม่พลาดสิ่งที่ผู้แต่งต้องการสื่อในทุกๆอย่างค่ะ  จะดีใจมากเลยค่ะ เม้นยาวเพราะคาใจถ้าใช่ก็จะเคลียร์ อิอิ  :L1: ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จะตามเรื่องต่อไปค่ะ  :mew1:
ป.ล.เข้าใจที่เขียนไหมค่ะเขียนเอง อ่านเอง งงเองค่ะ ^^

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ภาคผนวกมีถึง ภาคผนวก ฮ. ใช่ป่ะ
แล้วตามด้วยภาคผนวก A, b, c.....ใช่ป่ะ

วินทร์น่าหมั่นไส้มากกกก พอ ๆ กับที่ฮาร์ฟน่ารักเลย

คำผิดเล็กน้อย

ฉันเลยว่าจะติวเข้มเอาให้นายได้เกีรตินิยมเลย > เกียรตินิยม

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
สนุกมากแต่งง เรื่องวินทร์กับทิดอ่ะ พยายามเรียบเรียงนะ แต่ยังไม่ชัวร์ คือ ทิดข้ามเวลามาอนาคต จากนั้นก็กลับไปอดีตฟื้นคืนชีพเหมือนเดิมในเวลาอดีต แล้วมันก็จะเป็นความรู้สึก ในบทที่ 17 In my mind ใช่ไหมคะ ซึ่งนั่นก็คือความรู้สึกของวินทร์ในปัจจุบันหลังจากที่วิญญาณเพิ่งกลับมาจากอนาคตแล้วดำเนินเรื่องต่อมาเรื่อยๆใช่ไหมคะ พยายามคิดง่ายๆก็ ทิดที่อยู่ในอดีต คือเวลา A วิญญาณได้ข้ามเวลามา เวลา B ซึ่ง วินทร์ในปัจุบันอยู่ที่พยายามจีบฮาร์ฟ และเป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ต้น พอทิดตัดสินใจจะอยู่ต่อเพราะฮาร์ฟ แม้จะรู้ว่าฮาร์ฟไม่รักวินทร์ก็ตาม(เพราะวินทร์ก็คือทิดนั่นแล) ก่อนกลับก็ไปแวะคุยกับวินทร์ ที่ดูเหมือนรู้ทุกอย่าง ตัวอย่างก็ตอนที่ไม่อยากให้ฮาร์ฟไปส่งเพราะกลัวตัวเองในอดีตน้อยใจ (บทที่ 17) นี้แหละค่ะจุดนี้ ความเชื่อมโยงที่งง และเข้าใจในแบบตัวเองว่า ตอนที่วินทร์ในเวลาปัจจุบัน(ของเรื่อง) เวลา B ตอนฆ่าตัวตายเมื่อ 8 ปีก่อน วิญญาณของวินทร์ในตอนนั้นก็ข้ามเวลาไปในอนาคตเหมือนกัน เป็นอนาคตของเวลาปัจจุบัน คือเวลา C ซึ่งในช่วงเวลา C นั้น เขาได้เจอ ฮาร์ฟ แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็จะเหมือน กับ เหตุการณ์ในเวลา A คือ วินทร์ก็จะจำอะไรไม่ได้ ถูกฮาร์ฟตั้งชื่อว่า ทิด เป็นเหตุการณ์ซำ้ซ้อนกันตามทฤษฎีเวลาเดจาวูมั้ง(หรืออะไรสักอย่างจำไม่ได้) เมื่อตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ก็กลับมาสู่ช่วงเวลาเดิมคือ เวลาB เป็นวินทร์ในปัจุบัน ซึ่งก็จะเป็นตอนบทที่ 17 เพราะไม่งั้นก็จะอธิบายไม่ได้ว่าทำไมวินทร์ถึงรักฮาร์ฟ นั่นก็เพราะทั้งสองเคยเจอกันมาแล้วแต่เป็นการเจอที่เหลื่อมกัน คือ วินทร์ เวลา B เจอฮาร์ฟในอนาคต เวลา C หรือ วินทร์ เวลา A (ทิด) เจอกับฮาร์ฟเวลา B (ปัจุบันในการดำเนินเรื่อง) เนื่องจากทั้งสองไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน เจอกันครั้งแรกคือวันปฐมนิเทศ ที่วินทร์กอดฮาร์ฟด้วยความคิดถึง แม้จะบอกว่า วันลงมีดครั้งแรกของทั้งสองที่ฮาร์ฟให้กำลังใจและรอวินทร์จนหลับหน้าห้องผ่าทำให้รัก แต่วินทร์ขอจีบฮาร์ฟกับอาจารย์พ่อตอนสัมภาษณ์ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นิ นั่นแปลว่ารักมาก่อนแล้ว นี้แหละเป็นอีกจุดที่เอะใจ วินทร์รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วในเวลาC ผ่านฝัน ถึงรู้ว่ายังไม่ใช่เวลาของตัวเอง เพราะในเวลาของตัวเอง คือเวลาB ยังมี ทิด ซึ่งคือตัวเองในเวลา A อยู่ ต้องรอให้ ทิดกลับไปในอดีตเวลา A ก่อน ทิดที่กลับไปช่วงเวลา A ของตัวเองเมื่อลืมตาตื่นเรื่องก็จะเป็นไปตามเนื้อเรื่องบทที่17เป็นต้นมา วินทร์ในอนาคตเวลา C เช่นกัน เขากินยาฆ่าตัวตายวิญญาณก็ข้ามเวลาไปในอนาคตอีกเป็นเวลา D เจอฮาร์ฟเวลา D เป็นทิดในช่วงเวลาD เหตุการณ์ก็เป็นเหมือนเดิมตามต้นเรื่อง จนมาถึงตัดสินใจจะมีชีวิตอยู่ก็กลับมาช่วงเวลาตัวเองคือเวลาC แล้วเรื่องก็จะเป็นตามบทที่17 ไป เป็นคอนเซ็บ รักข้ามเวลาใช่ไหมค่ะ เหตุผลที่วินทร์รักฮาร์ฟเพราะเป็นวิญญาณไปเจอฮาร์ฟในอนาคตให้กำลังใจในการอยู่ต่อและรัก พอคิดอย่างเลยเข้าใจที่ทิด(วินทร์) บอกอ.อินทร์ว่า ถึงจะเป็นกรรมแต่สำหรับผมคือ พรหมลิขิตเลยค่ะ เป็นกรรมที่วินทร์ก็ต้องวนเวียนระหว่างอดีต ปัจุบัน อนาคตแบบนี้ อีกทั้งต้องเจ็บปวดที่ต้องรู้ว่ารักแต่แตะต้องไม่ได้เมื่อเป็นวิญญาณทิด และเป็นวินทร์ฮาร์ฟก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่นั่นคือพรหมลิขิตเพราะได้เจอคนที่รักตัวเองและตัวเองสามารถรักได้ เพียงกล้าที่จะคว้าและแก้ไขความล้มเหลวจากรักครั้งก่อน เหมือนที่ผู้แต่งนิยามไว้ในเรื่องนี้ มันลึกซึ้งมากและให้แง่คิดหลายอย่างมาก เป็นนิยายที่ต้องใช้ความคิดและหัวใจในการอ่านด้วย ใช้อารมณ์จะไม่ได้้ใจความสำคัญที่ผู้แต่งอยากสื่อเลยค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ นิยายสนุกมาก รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะว่าที่คิดถูกหรือเปล่า ถ้าใช่เท่ากับว่า ไม่พลาดสิ่งที่ผู้แต่งต้องการสื่อในทุกๆอย่างค่ะ  จะดีใจมากเลยค่ะ เม้นยาวเพราะคาใจถ้าใช่ก็จะเคลียร์ อิอิ  :L1: ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จะตามเรื่องต่อไปค่ะ  :mew1:
ป.ล.เข้าใจที่เขียนไหมค่ะเขียนเอง อ่านเอง งงเองค่ะ ^^


ถูกต้องค่าาาา~ ตามนั้น

แต่ถ้าจะให้เราสรุปง่ายๆ(หรือจะงงกว่าเดิมน้อ555) ก็คือ เรื่องนี้เราแต่งใต้โจทย์ของความสงสัยหลังจากอ่าน/ดูหนัง แนวที่ว่าวิญญาณออกจากร่าง ข้ามเวลามารักกัน (ไม่ใช่ลักษณะของกลับชาติมาเกิด) เพราะเท่าที่ดูมาก็จะเห็นว่ารักกกันได้ง่ายดาย แต่ในความรู้สึกลึกๆ ของเราคือ จริงเหรอ?  รักกันได้เลยจริงเหรอ?
เรื่องนี้จึงแต่งขึ้นมาโดยขยายเส้นเวลาทับซ้อนให้ชัดขึ้น ให้เห็นว่ามันเป็นคนละคน และอยากเขียนให้เห็นพัฒนาการของความรู้สึกในแต่ละตัวละครอีกมุมหนึ่ง ที่ยังมีทั้งความรู้สึกตอนเปนวิญญาณหลงเหลือ และความรู้สึกตอนที่เปนคนที่อยากให้นายเอกรักเราที่อยู่หน้าไม่ใช่รักเพราะเป็นคนเดียวกัน เลยรักกันแล้วจบเลย
ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับกำลังใจ^^

ออฟไลน์ ♥MPEGz♥

  • ชอบดูหนุ่มๆ เขาอยู่ด้วยกัน♥
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยฟินนนน เมื่อกี้อ่านเม้นคุณข้างบนเราก็ยังงงหนักเหมือนเดิม 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด