มาต่อให้และนะค้าบ แต่...อย่าดีใจไป ไม่ใช่จะมาต่อให้ทุกวันนะคับ พร่งนี้จะไปถนนพระอาทิตย์น่ะ (ดริ้งกลิ้งซะโหน่ยยย) เลยมาลงให้ก่อน เด๊ยวหายไปหลายวัน เพื่อนๆจะด่าเอาได้

ปล.ขอบคุณคุณ cj ที่ลงเพลงให้นะค้าบ
ปล.1ใช่ค้าบ ถ้าใครเคยอ่านความรักแบบคับผมในบอร์ดปาล์ม จะรู้ว่าใช้นิคเนม ตัวเล็ก
***********************************************************************
“เฮ้ย เต้ เย็นนี้มึงว่างป่าว” ไอ้ทอปถามผม มันคือเพื่อนสนิทของผมอีกคนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไอ้นี่จะชอบทำหนังมากเป็นพิเศษ มักจะมีโปรเจคใหม่ๆมาเสนอเพื่อนให้ช่วยกันทำแทบทุกอาทิด แต่ได้ทำจริงๆไม่ทุกโปรเจคหรอกคับ ไม่งั้นมีหวังตายแน่ เพราะมันคิดหนังใหม่ได้ทุกเช้า สาย บ่าย ค่ำเลยก็ว่าได้
“ว่าง จะไปถ่ายที่ไหนล่ะมึง” มันทำหน้างงนิดๆว่ารู้ทันได้ไง...มีหรือกูจะไม่รู้
“กูว่าจะไปถ่ายห้องรุ่นพี่กูว่ะ กูบอกเค้าไว้แล้ว นี่ก็บอกไอ้แบงค์ ไอ้ตั้น ไอ้ฟลุค ไว้แล้ว” ไอ้ทอปพูดและเริ่มอธิบายคร่าวๆว่าต้องถ่ายยังไง เป็นฉากอะไร ใครต้องทำอะไรบ้าง
.
.
.
“เออ แล้วห้องพี่เค้าแถวไหนวะ เอารถไอ้แบงค์ไปหรอ” ผมถามเพราะนึกขึ้นได้ รับปากไปยังไม่รู้ที่เลย
ขี้เกียจถ่อไปไกลๆน่ะคับ
“เอารถไอ้แบงค์ไป แล้วเอาเงินกองกลางออกค่าน้ำมัน” ในกลุ่มพวกผมจะมีเงินกองกลางอยู่ เพราะพวกเรา
ทำหนังสั้นหรือพวกโปรเจคงานพวกนี้บ่อยๆ ถ้าไม่มีก็จะต้องมานั่งหารค่าโน่นนี่เวลาไปไหนมาไหน เลยตัดปัญหา
ตั้งกองกลางกันขึ้นมาแล้วเก็บเป็นคราวๆไป ก็เลยจะมีเงินกลุ่มอยู่ มีประโยชน์อีกคือเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ใช้ส่วนนี้แหละ ทุกคนก็จะไม่อยากพลาด
“ไกลป่ะมึง กูจะกลับมาทำงานต่อด้วย”
“ไหนบอกว่างวะ ไม่ไปก็ได้มึง” แม่งพูดงี้ ไม่ไปได้ไงวะ ไปกันเกือบทั้งกลุ่ม
“ไปไป กูก็ถามดู แล้วตกลงไปไหนมึงยังไม่บอกเลย”
“เอ่อ ห้องพี่เค้าหรอ แถวๆลาดกระบังว่ะ”
“โหย ไปทำเหี้ยไร มึงไม่มีห้องคนอื่นใกล้ๆแล้วหรอไง” ผมโวยวายทันที
มหาลัยผมไปลาดกระบังนี่ไม่ใช่ใกล้เลยนะคับ
“ก็พอดีกูจะให้พี่เค้าเล่นด้วยแล้วกูก็อยากได้ฉากทางรถไฟแถวนั้น พี่เค้าหล่อนะมึง อย่าบ่นๆ”
อ้าว ตกลงมันจะไปถ่ายหนังสั้นหรือหนังสดวะเนี่ย
ปล. ในกลุ่มผมที่มหาลัยนี่ จะมีชายแท้คือไอ้แบงค์ ไอ้ฟลุค ไอ้ฝุ่น ที่เป็นชายแท้คับ ส่วนไอ้ทอปนี่เป็นเกย์
ไอ้ตั้น มันก็ยืดอกยอมรับเต็มปากว่าเป็นไบ ส่วนผม เพื่อนๆลงประนามให้ว่าเกย์แอบแมน (ไม่ได้แอบนะเฟ้ย)
ส่วนเพื่อนๆที่เหลือเป็นผู้หญิง ไว้แนะนำทีหลังนะคับ ค่อยๆจำจะได้ไม่ลืมเนอะ
“เออๆ แม่ง พวกมันรู้ยังเนี่ย ไม่มีใครด่ามึงเลยหรอวะ” ใช่คับ ผมว่าไอ้พวกนั้นต้องโวยเหมือนผมแหละ
ไปตั้งไกล พรุ่งนี้ก็ใช่ว่าวันหยุด
“รู้แล้ว แต่มันยอมไปกัน อย่าบ่นมากน่ะมึง ไปเจอพี่เค้าแล้วอย่าหลุดกรี๊ดแล้วกัน อุตส่าห์แอ๊บแมนมาตั้งนาน”
มันพูดแล้วก็ขำ แอบกัดกูอีก เพื่อนชั่ว
“ใครแอบวะ แมนอยู่แล้วเว้ย” เหอะๆ ผมเคยไปเล่าเรื่องเวลาอยู่มหาลัยให้เพื่อนม.ปลายฟัง พวกมันก็บอกว่าให้ผมควงหนุ่มโชว์เพื่อนเลย จะได้ไม่ต้องโดนว่าโดนถามอีก เอาให้กระจ่างไปเลย 55555 แต่ว่ายังไม่มีให้ควงคับ
นั่นแหละปัญหา (ล้อเล่นนะค้าบบบ)
“ไอ้แมน แมนสุดๆ อย่าให้กูจับได้นะมึง โดนกูจับทำเมียแน่” ไอ้เชี่ยทอปไม่พูดป่าว เสือกมากระซิบข้างหูผมด้วย แต่ก็รู้แหละคับ ว่ามันพูดเล่น เพราะพวกผมเคยเมาไปนอนกองรวมกันบ่อยๆ ก็ไม่มีใครโดนกระทำชำเราอะไร
ผมเลือกแล้วก่อนจะคบเพื่อน ผมว่าเพื่อนผมนี่ไม่มีแย่คับ ผ่านมาตรฐาน แต่แฟนนั่นอีกเรื่อง...วะฮ่าฮ่าฮ่า
ราวๆสี่โมงเย็น พวกผมก็ได้ฤกษ์เดินทาง ใช้ระยะเวลาชั่วโมงกว่าๆก็ถึงคับ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถออกต่างจังหวัดอย่างไงไม่รู้ พอใกล้ถึงผมเลยลองโทรหาเพื่อนสนิทสมัยม.ปลายที่มันมาเรียนที่นี่ดู
“แนท ว่างอยู่ป่ะมึง” ผมถามมันเมื่อมันรับสาย
“ว่าง มีไรวะ ชวนแดกเหล้าหรอ” เหอะๆ เห็นกูเป็นคนอย่างไรเนี่ยะ
“ป่าว ให้ทายตอนนี้กูอยู่ไหน”
“อยู่ไหนก็เรื่องของมึง มีไรว่ามาเร็ว” เพื่อนกูหนอพูดแบบไม่สนใจใยดีกันเลย ชิ งอน
“เออ กูอยู่แถวลาดกระบังเนี่ยะ มาถ่ายหนัง”
“เฮ้ยจริงดิ แล้วมึงอยู่อีกนานป่าว” เสียงมันเริ่มดีใจที่จะได้เพื่อนกินเหล้า
“ไม่รู้ว่ะ ก็คงอีกหลายชั่วโมงอยู่”
“เออ แถวไหนวะเดี๋ยวแวะไปหา”
“แถวที่มึงเคยหากูมาร้องเกะ กินส้มตำอ่ะ” จำชื่อไม่ได้เคยมาครั้งเดียวเอง ตอนมาช่วยมันขนของย้ายเข้าหอ
“อ๋อ เกกีหรอวะ เออ เดี๋ยวถึงแล้วโทรหา”
“เออๆ”
“เฮ้ยพวกมึงนี่พี่เกี๊ยง” ไอ้ทอปแนะนำชายหนุ่มสูงโปร่ง ตี๋ๆ ดูเนี้ยบ คุณหนูสุดๆ พวกผมก็ต่างพากันมารยาทดียกมือไหว้พี่เค้ากันสลอนพร้อมประสานเสียง “หวาดเดคร้าบบบพี่”
“นี่ไอ้ฟลุค...ไอ้ตั้น...ไอ้ฝุ่น...ไอ้เต้...ไอ้แบงค์...คับพี่” ไอ้ทอปทำหน้าที่เชื่อมสัมพันธไมตรี
“เออๆ หลายคน จำยากว่ะ แล้วว่าไง จะให้พี่ทำอะไรบ้างเนี่ย หนังมึง” พี่เกี๊ยงพูดแล้วเดินนำพวกผมเข้าไปในซอย
ระหว่างนั้นไอ้ทอปก็อธิบายงานให้พี่เค้าฟัง ไอ้ฟลุคก็อธิบายให้พวกผมฟัง สรุปแล้ววันนี้ผมต้องทำหน้าที่เป็น
แอคติ้งโค้ชให้พี่เกี๊ยง (ก็คือเป็นคนช่วยสอน ฝึก ดูแลการแสดงพี่เขาอ่ะคับ)
พอไปถึงห้องพี่เขาพวกผมก็จัดการเตรียมตัว จัดแจงข้าวของตามที่วางแผนไว้ ผมก็ช่วยซ้อมบทให้พี่เขาไป
“เราชื่อเต้ใช่ป่ะ” พี่เกี๊ยงถาม
“คับ แล้วพี่พอจำบทได้ยังอ่ะคับ”
“ก็พอจำได้ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่ะ ไอ้ทอปมันอธิบายงงๆ” เป็นปกติคับพี่ ถ้าพี่เข้าใจมันแสดงว่าพี่ไม่ปกติ 555
“งั้นมีไรถามผมได้เลยคับตรงไหนยังไม่get”
“อืมม” พี่เกี๊ยงทำหน้างงๆ อ่านบทดู
“คือ ตัวละครตัวที่พี่เล่นอ่ะคับ เป็นผู้ชาย ที่กำลังตามหาดวงอาทิตย์ของตัวเอง แต่ไปๆมาๆ ก็มีเสียงลึกลับมาบอกว่า เจ้าเป็นผู้ชายแห่งเมืองพระจันทร์ เป็นคนที่มีดวงจันทร์เป็นของตนเอง แต่ไม่มีดวงอาทิตย์เหมือนคนอื่น แล้วพี่ เอ่อ ผมหมายถึงผู้ชายในบทอ่ะคับ ก็จะเดินไปบนทางรถไฟ ตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก แล้วพี่ก็ต้องโบกมืออำลาพระอาทิตย์ แล้วเดินข้ามทางรถไฟสายเก่า ไปสู่อีกสายหนึ่งเพื่อตามหาพระจันทร์ของตัวเอง จริงๆพี่ไม่ต้องเน้นอารมณ์อะไรมากเลยคับ แค่รู้สึกสับสนๆนิดหน่อย พี่นึกถึงตอนประมาณว่ากำลังจะขอแฟนพี่คบเป็นแฟนอ่ะคับ ช่วงที่เราลังเลๆ จะขอคบดีมั้ย หรือดูๆกันไปก่อน ไรทำนองนั้นก็ได้พี่ พอ get ป่ะคับ”
“เออ คือพี่ต้องวิ่งตามแสงพระอาทิตย์แบบที่บทเขียน พอเหนื่อยแล้วก็บ้ายบาย กระโดด ข้ามไปอีกทาง แล้ววิ่งกลับแบบเนี่ยะหรอวะ”
“ก็ประมาณนั้นคับพี่ แต่ว่าเดี๋ยวไปที่ทางรถไฟ ผมจะบอกพี่อีกทีว่าวิ่งยังไง กระโดดยังไงดี”
“ว่าไงว่าตามกัน พี่ว่าคนต้องมองแน่เลย ไอ้บ้านี่ไปกระโดดโลดเต้นตรงทางรถไฟ ขออย่าให้กูเจอเพื่อนเล้ยยย”
พี่เกี๊ยงพูด ทำหน้าเซง
สักพักพวกผมก็ย้ายกอง ไปที่รางรถไฟแถวๆนั้น วิวสวยดีเหมือนกันคับ ทุ่งๆดีแท้ อิอิอิ
“ไอ้เต้” เสียงผู้หญิงคนหนึ่ง ตะโกนมาไกลๆ เสียงคุ้นขนาดนี้ ไอ้แนทแน่ๆ ผมหันไปมอง
“เฮ้ย ไงมึง กำลังจะถ่ายฉากนี้เสร็จแล้ว” ผมตะโกนทักมัน ที่กำลังเดินมาหา
“กูผ่านมาพอดี ว่าจะโทรหา แต่เห็นกองถ่ายมึงก่อน” พูดซะดูดี จริงๆคือเด็กนักศึกษาง้องแง้งๆ กำลังเงอะงะกับการใช้อุปกรณ์ถ่ายหนังเสียมากกว่า
“แล้วไงจะเสร็จงานยังวะ”
“ใกล้แล้วมึง เดี๋ยวว่าจะไปกินส้มตำร้านที่มึงเคยพาไปกินอ่ะ”
“อ่อ ได้ๆเดี๋ยวกูรอ” แล้วผมก็แนะนำให้พี่เกี๊ยงรู้จักกับเจ้าแม่ขวดเหล้าแห่งลาดกระบัง...แนทตี้
ส่วนพวกเพื่อนผมมันรู้จักกันอยู่แล้วครับ ก็มันนี่แหละที่จองโต๊ะให้คราวก่อน
…
“พี่อยู่ปีสี่แล้ว” เสียงสนทนาระหว่างพี่เกี๊ยงกะไอ้แนทเริ่มดังอยู่ใกล้ๆผม
“ไม่เคยเห็นเลยอ่ะค่ะ ปกติแนทก็นั่งร้านเหล้าแถวนี้บ่อยนะ” เป็นสาวเป็นนางพูดซะ...เพื่อนรัก
“หรอคับ พี่ไม่ค่อยชอบดื่มหรอก ถ้าเพื่อนไม่ลาก” พี่เกี๊ยงก็สร้างภาพดีนะคับ
ห้องพี่ตอนเข้าไปขวดเบียร์ยังกองเต็มเลย
“แปลกนะพี่ ปกติเด็กวิศวะออกจะกินเหล้าเก่ง”
“อย่าเหมารวมว่าคนอื่นเค้าจะเหมือนมึงดิวะไอ้แนท” ผมแกล้งเบรคมัน มันเลยหันมาค้อนๆไส่ ส่วนพวกเพื่อนผมกำลังหิวโซ พออาหารมาต่างคนก็กินไม่พูดไม่จา ปล่อยให้รุ่นพี่รุ่นน้องเค้าจีบกันไป
พออิ่มกันแล้ว ก็เตรียมถ่ายฉากต่อไป ส่วนไอ้แนทขอแยกตัวกลับไปก่อน จริงๆมันจะลากผมกะเพื่อนอยู่กินเหล้าต่อ แต่ผมมีเรียนและเพลียมาก ไว้งานหน้าดีกว่า ขึ้นมาถ่ายที่ห้องพี่เกี๊ยง ไปๆมาๆ กว่าจะถ่ายเสร็จก็เกือบห้าทุ่ม
ดึกอีกแล้วดิกรุ ...ง่วงเว้ยยยย
“เฮ้ย ทอป เดี๋ยวกลับกันเลยป่าว หรือไปไหนต่อ” พี่เกี๊ยงถามหลังจากถ่ายเสร็จ
“ไม่มีแล้วพี่ กลับเลยแหละ พรุ่งนี้พวกผมมีเรียนน่ะ”ไอ้ทอปตอบ
“งั้น พี่ติดรถไปด้วยได้ป่าววะ จะไปแถวนั้น” คงหมายถึงแถวมหาลัยผมนั่นแหละคับ
“ได้พี่ แต่ว่า นั่งลำบากหน่อยนะ”
“ไม่มีปัญหา พี่ดิ ต้องขอโทษที่จะต้องรบกวนพวกน้อง” พี่เกี๊ยงยิ้ม แล้วไปหยิบเป้ใบเล็กมาสะพาย
เก็บข้าวของกันเสร็จก็พากันมาขึ้นรถกลับ
“เฮ้ย ไอ้เต้ มึงหยิบของมาป่ะ”
ไอ้แบงค์ถามขึ้นขณะขับรถออกมาได้สักพัก
“เออ ใช่ กูลืมว่ะ”ไอ้แบงค์มันบอกผมให้หยิบแฟลชไดรฟ์ที่เอาไปเปิดกับคอมพี่เกี๊ยงมาด้วย
“อ้าว กูว่าแล้วไอ้ห่าหนิ”
“อะไรกันวะ” ไอ้ฟลุคถาม
“ไอ้ห่าเต้ดิ ลืมแฟลชไดรฟ์ กูบอกให้เอาออกมาจากคอมพี่เกี๊ยงด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก รีบป่าวล่ะ ไม่รีบเดี๋ยวพี่ฝากน้องพี่มาให้ เดี๋ยวมันก็จะมาห้องพี่เสาร์นี้” พี่เกี๊ยงพูดขึ้น
“รบกวนป่าวๆพี่ เดี๋ยวผมวนรถกลับไปเอาก็ได้” มาครึ่งทางแล้ว น้ำมันแพงนะเมิงง ไอ้เต้รู้สึกผิดเล็กๆ
“ไม่เป็นไรหรอกมั้งมึง ไว้ก่อนก็ได้ เปลืองน้ำมัน อีกอย่างกูมีไฟล์ในคอมแล้ว” ไอ้ตั้นพูด ไอ้นี่เป็นมือตัดต่อของกลุ่มคับ ถ่ายมาทุกเรื่องก็ฝีมือมันตัดทั้งนั้น
“กูว่าแล้ว ไม่น่าฝากไอ้เต้เลย” ไอ้แบงค์ยังบ่นต่อ เออใช่ กูมันไม่ได้เรื่อง แล้วฝากกูทำไม ไม่หยิบมาเองล่ะวะ งอน
“ไม่มีไรสำคัญใช่ป่ะล่ะ” พี่เกี๊ยงถามอีกรอบ
“ไม่มีหรอกพี่ มีแต่ไอ้เต...” ไอ้จ๊อปยังพูดไม่ทันจบ ปากมันก็ถูกปิดด้วยมือผมแล้ว
แต่ไอ้คนอื่นที่เหลือหัวเราะชอบใจใหญ่
“มีไรวะ หรือมีคลิปโป๊” พี่เกี๊ยงทำเสียงสงสัย อย่านะพี่ อย่าไปเปิดดูล่ะ
“ไม่ใช่หรอกพี่ แค่คลิปไอ้เต้อ้วกโชว์ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เหี้ยแบงค์มึง สาด ถ้าไม่เห็นว่าขับรถอยู่ แมร่งจะถีบคว่ำเลย
และแล้วทั้งรถก็ครึกครื้นกันการเล่าวีรกรรมครั้งนั้นของผมให้พี่เกี๊ยงฟังกันอย่างสนุกสนาน
จนมาถึงแถวๆหอพวกผม คุยกันไปๆมาๆ น้องพี่เกี๊ยงก็อยู่หอเดียวกับผมนี่แหละคับเลยลงพร้อมกัน ไอ้แบงค์
ไอ้ทอป ไอ้ฟลุคมันอยู่หอเดียวกัน แต่คนละห้อง ก็นั่งกันไปต่ออีกหน่อย หอผมถึงก่อน ส่วนไอ้ฝุ่น กับไอ้ตั้น
แวะลงไปก่อนแล้ว เพราะพวกมันไม่ได้อยู่แถวนี้
“พี่เกี๊ยงอย่าเอาไปเผยแพร่ไหนนะคับ คลิปผมเมาอ่ะ” ผมพูดบอกพี่เกี๊ยงตอนเราเดินขึ้นมาบนตึกด้วยกัน
คือว่ากรุยังไม่อยากดัง
“โหย เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นไปได้”พี่เกี๊ยงพูดแล้วหัวเราะเจ้าเล่ห์ เสียงแบบนี้แหละพี่ น่ากลัวนักแล
“แล้วน้องพี่อยู่ห้องไหนอ่ะคับ”
“ห้อง 2046” อ้าวห้องข้างๆกรูเอง
“ผมอยู่ 2047 ข้างๆเลยพี่ แต่ผมเพิ่งย้ายมาอยู่เดือนนี้เอง”
“อ้าวหรอ ไอ้เกียร์มันอยู่มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ดีเลย งั้นพี่ขอเบอร์เต้ไว้แล้วกัน เดี๋ยวฝากของให้น้องพี่มันเอามาให้
เต้เลย มันจะได้ไม่ต้องไปถึงหอไอ้เจ้าทอป (สรุปพี่เกี๊ยงเค้าเป็นเพื่อนพี่ชายไอ้ทอป สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ
ไม่ได้เป็นหนุ่มในสตอคอย่างที่มันอยากให้เป็น 5555)
“ได้เลยคับ 07-2034745” พี่เกี๊ยงเมมเบอร์ แล้วก็แยกกันที่หน้าห้อง ผมเข้าห้องมาก่อน สักพักเสียงประตูห้องข้างๆก็เปิดออก แล้วก็ปิดปัง! เสียงดังโคตร
สองวันผ่านไป ขณะที่ผมกำลังหลับสบายยามบ่ายวันอาทิตย์
Knock Knock Knock…on the door
ใครวะ เคาะประตูห้องกูตอนนี้ รู้ก็รู้ว่าเมื่อคืนเมาซะขนาดนั้น ในใจก็คิดว่าคงเป็นไอ้แบงค์
เพราะมันชอบไปเดินสวนจตุจักรวันนี้
พอเปิดออกไปก็เจอคนหน้าคุ้นๆ
“อ่ะ พี่เกี๊ยงฝากมาให้” ไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องผม ยื่นแฟลชไดรฟ์ให้
“ขอบใจ” ผมงัวเงียๆ เตรียมปิดประตู
“เฮ้ย นายเดี๋ยวดิ นายใช่คนที่หลานผมไปวิ่งชนป่ะ” อ่ะเสียงนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง
อ้าว ไอ้ตี๋เซอร์วันนั้นนี่หว่า ถึงว่าคุ้นหน้า
“อ้าว หวัดดีๆ นายเป็นน้องพี่เกี๊ยงหรอ” สมองผมเริ่มประมวลผลด้วยความง่วง
“เออดิ โธ่ นึกว่าใคร ถึงว่า คนในคลิปหน้าคุ้นๆ” ไรวะ งง...
“คนไหน” ไอ้เต้เริ่มประมวลผลอีกครั้ง เอ๊ะ หรือว่า กุนึกออกแล้วววว
“ฮ่าๆ นึกออกยัง” เสียงไอ้คนตรงหน้ายืนขำ ทำหน้ากวนส้นเท้า
“พี่เกี๊ยงแม่ง” ผมบ่นเบาๆด้วยความอาย
“นอนอยู่หรอ งั้นไม่กวนแล้ว ไว้เจอกัน” พูดจบไอ้หมอนั่นก็เดินเข้าห้องไป พร้อมกับปิดประตู ปัง!
เสียงดังเหมือนเคย แม่ง ไม่มีมารยาทหรือไงวะ เริ่มยั๊วะ บวก อาย ยืนเอ๋อสักพักก็กลับมางีบต่อ
เสียงเพลงห้องข้างๆ ดังแว่วมา
“นอนก็นอนไม่หลับกระส่ายกระสับอยู่ทุกเวลา หมอไม่ยอมสั่งยาบอกว่ารักษาไม่หายสักราย... ... ... ...”