The Save: โกล เซฟสุดใจเพื่อนายไซด์โป้ง ต่อตอนใหม่หน้า4 07/02/2016 "จบแล้วครับ"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Save: โกล เซฟสุดใจเพื่อนายไซด์โป้ง ต่อตอนใหม่หน้า4 07/02/2016 "จบแล้วครับ"  (อ่าน 25105 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
โป้งฝันเห็นผีนะกล้วบ้างก็ได้ชิลด์จนนึกว่าโป้งฝันว่าโกลเอาอมยิ้มลูกฟุตบอลมาให้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราชอบฟุตบอลมากกกกกกกกกกกก
เราดูลีกลาลีกา และบุนเดสลีกา
คุณแต่งได้ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วเพลนมากๆ555
ในทีมชาติญี่ปุ่นชอบมากคือ อุจิดะ ฮัตสึโตะ และ เออิจิ คาวาชิม่า นี่แหละ

นานๆ จะมีเรื่องเกี่ยวกับนักบอลมาให้อ่าน ดีใจมากๆ

ป.ล.คืนนี้มีแดงเดือด(เกี่ยว)

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอนซากิงะฮาระยุคใหม่ กวางสายฟ้าปะทะนักรบแห่งโอซาก้า

          อาการเยือกเย็นขึ้นอย่างรวดเร็วสมกับเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ฤดูการเจลีกดำเนินมาจวนจะผ่านช่วงเวลาแห่งใบไม้สีแดง..

          แต่แม้จะอากาศจะเย็นเท่าไหร่ที่สนามอายิโนะโมโตะ สเตเดียม แห่งนครโตเกียว.. ความร้อนแรงกำลังลุกโชน

โกลมองการเคลื่อนที่ของลูกบอลอย่างไม่วางสายตา ตอนนี้เป็นช่วงท้ายของการแข่งขันแล้ว ในสนามของทีมแห่งเมืองโตเกียวจึงมีบรรยากาศราวกับสนามโคลิเซี่ยมแห่งกรุงโรม เสียงเชียร์ของเจ้าบ้านอึกทึกหนุนให้ทีมสามารถทำประตูคืนจากทีมนาราให้ได้

            โกลเห็นกองหน้าของคู่แข่งวิ่งฉีกออกไปด้านข้างแล้วโยนลูกกลับเข้ามา

            โกลทำท่าจะขยับ แต่ฮิรากิกระโดดขึ้นก่อน เขาโหม่งลูกบอลย้อนกลับไปไกลพอสมควร..

            ไม่พ้นอันตราย.. โกลบอกตัวเอง เพราะที่ลูกบอลไปถึงคือระยะราวสามสิบหลา ตรงนั้นกองกลางทีมชาติญี่ปุ่นที่มีลูกไม้ตายคือการยิงไกลดักลูกบอลเอาไว้ได้

            ฮิโกดะ ไออิจิ แตะลูกไปข้างหน้าจังหวะหนึ่ง เขามองว่าแล้วเพื่อนถูกประกบด้วยตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม..

            แต่ตอนนี้เวลาในการหมดไปแล้ว.. อาจเป็นจังหวะสุดท้าย.. โอกาสสุดท้าย

            ฮิโกดะ ง้างเท้าทันใด..

            เท้าขวาทรงพลังเตะส่งลูกฟุตบอลให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า

            โป้งที่อยู่บนอัฒจันทร์ลุกพรวดขึ้นอย่างลืมตัว

            “โกล..” เขาเรียกออกไป

            โกลกระโดนพุ่งตัวออกไป เขาเหยียดไปสุดแขน ต้องทำให้ได้..

            ลูกบอลที่พุ่งมารุนแรงยิ่ง แต่ท่อนแขนของโกลก็ราวกับท่อนเหล็ก..

            ผู้ชมร้องฮือออกมาอย่างตื่นเต้น..

            ลูกบอลกระแทกมืออย่างแรง แล้วกระดอนกลับ

            ฮิรากิยืนอยู่ตรงที่ลูกบอลตก เขาตัดสินใจเตะออกไปสุดแรงเกิด..

            แล้วนกหวีดยาวของการสิ้นสุดเลกแรกของJ1 ก็ส่งเสียงออกมาจากผู้ตัดสิน

            โป้งกำหมัดชูขึ้นเสมอหน้าแล้วเขย่า

            “ต้องอย่างนี้สิที่รัก.. ไม่ทำให้กูผิดหวังเลยจริงๆ กลับไปต้องจัดหนัก จัดหนักเลย... เฮื้อย..”

 

            ธงรูปกวางสะบัดโบกเหนืออัฒจันทร์ด้านหลังประตูที่โกลอยู่ ฮิรากิเดินมาช่วยโกลให้ลุกขึ้น

            เสียงเรียกชื่อของเขาดังมาจากด้านหลังทำให้เขาหัน

            “โกล Save Goal..” แล้วก็ปรบมือสี่ครั้ง

            “โกล Save Goal..”

            เป็นเพลงทำนองเชียร์ที่แฟนของนารา ธันเดอร์เดียร์ประดิษฐ์เพื่อสดุดีผู้รักษาประตูหนุ่ม เจ้าของสถิติไม่เสียประตูต่อเนื่องสิบนัดที่ลงสนาม..

            โยชินะยิ้มออกมา.. ชัยชนะนัดนี้แม้จะยากลำบากนิดหน่อย เพราะไม่มีไม้ตายของเขาคือนายโป้งจังอยู่ในสนาม เนื่องจากบาดเจ็บที่ข้อเท้าทำให้ต้องพักยาวเป็นเดือน แต่เขาก็ยังมีโกลจัง นายทวารที่วางใจได้.. สิบนัดที่ไม่เสียประตูทำให้นาราชนะไปแปด เสมอเพียงสองนัด.. รวมผลงานทั้งสิ้นในครึ่งฤดูกาลแรก นารา ธันเดอร์เดียร์ชนะ 13 เสมอ 3 และแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น

            42 แต้ม.. นารา ธันเดอร์เดียร์ ตีตั่วไปสู่รอบ Championship Stage ด้วยการเป็นแชมป์ในเลกแรกของฤดูกาล..

 

            หลังจากนั้นก็พักไปสองอาทิตย์ แล้วก็กลับมาแข่งใหม่.. และต้องเริ่มครึ่งแรกของเลกที่สองด้วยการไม่มีโป้งไปสามนัด.. เพราะอาการบาดเจ็บของโป้งแม้จะดีวันดีคืนแต่โยชินะไม่อยากเสี่ยงให้เขาลงสนามเพราะเนื่องจากเกรงว่าจะไม่หายดี

            ดังนั้นการเปิดเลกที่สองจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก นารา เสมอในบ้านให้ทีมจากฮิโรชิม่า และไปแพ้ให้กับไฟเตอร์ โอซาก้าในนัดที่สอง ก่อนจะกลับมาเสมอกับทีมที่ได้อันดับสุดท้ายจากเลกแรกอย่างทีมจากเมืองยามางาตะ..

            และการกลับมาของโป้งก็เหมือนนำเทพธิดาแห่งชัยชนะกลับมายืนในสนามแห่งนาราอีกครั้ง

            “โป้ง โป้ง โป้ง โป้ง” เสียงที่กระหึ่มขึ้นรอบสนามพร้อมท่าที่นำเข้ามาจากเมืองไทยโดยไอศูรย์ เหยียดแขนไปข้างหน้า ชูนิ้วโป้ง..

            โกลมองไปรอบๆแล้วก็คิดถึงบรรยากาศที่สนามยูเนียน ออฟ ภูเก็ต เขากับโป้งตั้งใจว่าเมื่อจบฤดูกาลปีนี้พวกเขาจะกลับไปเยี่ยมเมืองไทยสักระยะ..

            มองลงมาเห็นโป้งที่หันมายืนตำแหน่งแล้วหันมายิ้มให้กับเขา

            นัดนี้โป้งฉลองการกลับมาด้วยการยิงไปสองประตู เขาพาธงกวางสายฟ้าโบกสะบัดฉลองชัยชนะในบ้านด้วยสกอร์สามประตูต่อศูนย์

 

            สุขียิ้มอย่างยินดีกับภาพข่าวในหนังสือพิมพ์กีฬา โป้งภาพโป้งที่กำลังง้าเท้าเพื่อเตะฟรีคิกเป็นภาพที่งดงามจริงๆ สมกับเป็นฝีมือของช่างภาพกีฬาฝีมือดีของญี่ปุ่น

            ตอนนี้แม้ช่วงเริ่มต้นครึ่งฤดูกาลหลัง นารา ธันเดอร์เดียร์ อาจทำได้ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ที่สามของตาราง และน่าจะยึดหัวหาดที่อันดับไม่ต่ำกว่านั้นได้แน่นอน เพราะการแข่งขันดำเนินไปจนเหลืออีกแค่ไม่กี่นัดเท่านั้นในเลกที่สอง

            พวกเขามีคะแนนอยู่ที่30คะแนน ชนะไป 8 นัด เสมอไป 6นัด และแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น

            ตอนนี้โป้งเข้าสู้วัยยี่สิบปีบริบูรณ์ซึ่งถ้านับตามกฎหมายไทยก็คือว่าบรรลุนิติภาวะโดยสมบูรณ์แล้ว...

            สำหรับสายตาของอดีตนักฟุตบอลและผู้คร่ำหวอดในวงการนี้มาแทบทั้งชีวิต สิ่งที่โป้งและโกลก้าวมาถึงเหนือไปกว่านักฟุตบอลหลายคนที่เขารู้จัก

            โป้งกลายเป็นยอดแห่งผู้เล่นเกมรุกในเอเชีย.. และโกลก็กลายเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวแน่นจนมีคนเรียกเขาว่าปราการเหล็กแห่งสยาม แถมL'Équipe หนังสือพิมพ์กีฬาชื่อดังเอาเรื่องราวของทั้งคู่ไปตีพิมพ์ในฐานะดาวดวงใหม่จากตะวันออกไกล

            สุขีถอนหายใจแล้วก็พับหนังสือพิมพ์ก่อนจะหันไปคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบอีเมลใหม่ที่พึ่งเข้ามา

            สุขีที่กำลังนั่งตัวงอแอ่นพุงถึงกับดีดตัวตรง..

            เขากวาดตาไปอ่านอีเมลด้วยความตื่นเต้น..

            “Accordingly, we would like to official submit our offer for Mr. Depporn Sakarayamanee at 12,000,000 Euro and for Mr. Korakot Wannapidhi at 6,000,000 Euro” เขาอ่านที่ละคำเป็นภาษาอังกฤษ..

          สุขีนิ่งเงียบ.. เขาตรวจสอบอีเมลดูอีกรอบ ว่ามันทุกต้องไหม.. ที่มา ผู้ลงนามท้ายเอกสาร.. เอกสารแนบ.. เอกสารอธิบาย.. Digital Signature.. ครบถ้วน..

            แน่นอนอีเมลนี้ก็คงถูกส่งไปหาฝ่ายบริหารของทีมนารา ธันเดอร์เดียร์แล้ว อย่างแน่นอนที่สุด..

 

            โยชินะกอดอกมองโกลพุ่งตัวไปป้องกันประตูในสภาพเหมือนคนไข้โรคจิตในโรงพยาบาลบ้าคือแขนโดนมัดไขว้ไว้ด้านหน้า เจตนาของการฝึกพิลึกนี่ก็คือการให้เขาป้องกันประตูด้วยหัว

            “เราได้รับอีเมลมาเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน แต่ท่านประธานพึ่งจะตัดสินใจลงมา แต่ท่านกำลังติดต่อธุรกิจอยู่ ท่านเลยบอกว่าจะมาร่วมชมเกมนัดที่เราจะเจอกับไฟเตอร์ในรอบที่สองของแชมเปี้ยนชิป สเตจ..” ผู้จัดการฝ่ายฟุตบอลที่เป็นอดีตนักเตะทีมชาติรุ่นอาวุโสกล่าวกับเขาเมื่อวานนี้

            “ราคาของโป้งจังอยู่ที่ 12ล้านยูโร ส่วนของโกลจัง อยู่ที่ 6ล้านยูโร สองคนก็ 18ล้าน หรือก็ประมาณ 2000ล้านเยนได้เลย เทียบกับตอนที่เราซื้อพวกเขามาตอนนั้นแค่ 20กว่าล้านเยนไม่ได้เลย”

            “20ล้านกลายเป็น 2000ล้าน.. สำหรับผมก็ไม่แปลกหรอก ตอนที่พวกเขามาถึงเขาเป็นแค่เด็กไม่มีประสบการณ์แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะระดับคุณภาพของเจลีกไปแล้วเรียบร้อย..” โยชินะตอบไปอย่างนั้น

            “ถ้าสโมสรตัดสินใจยังไงผมก็ถือตามนั้น.. อีกอย่าง.. “ โยชินะกล่าว

“ตอนนี้พวกเขาก็คือนกที่ปีกแข็งแรงมากพอจะบินต่อไปแล้ว ทีมของเราเป็นเหมือนเกาะที่อยู่กลางมหาสมุทร ที่พวกเขามาแวะพัก.. สักวันเขาต้องก็บินไป เกาะเล็กๆอย่างเรามันถ้าขืนไปรั้งเขาไว้ สักวันถ้าพวกเขาเติบใหญ่ไปกว่านี้ ลมพายุจากปีกของพวกเขาก็คงทำลายเกาะเล็กที่เราอุตส่าห์สร้างกันมาท่ามกลางทะเลเจลีกที่กว้างใหญ่”

โยชินะมองไปอีกด้าน โป้งกำลังฝึกการวิ่งถอยหลังแล้วหันมาเตะบอลให้ผ่านระหว่างเสาที่มีช่องว่างห่างกันแค่นิดเดียว

“แล้วเราจะบอกพวกเขาเมื่อไหร่.. ทางโน้นเขาต้องการให้เขาเซ็นสัญญาให้จบก่อนเดือนมกราคม เขาต้องการให้ทั้งคู่ไปช่วยทีมของเขาในช่วงปลายฤดูกาลเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้ผมขอร้องกับทางเอเจนซี่ไม่ให้บอกพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่รู้”

“วันพรุ่งนี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ.. พวกเขาจะได้รู้เรื่องนี้..” โยชินะกล่าวกับตัวเอง

 

สนามซูอิตะ สเตเดียมสะเทือนไหวเมื่อกองเชียร์จำนวนมหาศาลของสองทีมแห่งคันไซส่งเสียงร้องเพลงเชียร์ทีมรักของตนอย่างกึกก้อง

ธงสีน้ำเงินดำของไฟเตอร์ โอซาก้าโบกไสวอยู่ด้านหนึ่ง โดยที่ธงกวางสายฟ้าแห่งนาราก็โบกปลิวท้าทายอย่างไม่หวั่นเกรง..

นี่คือศึกนัดสำคัญที่สุดในฤดูกาล เป็นสงครามที่เสมอได้กับสงครามแห่งซากิงะฮาระที่เคยเป็นศึกตัดสินตำแหน่งโชกุน.. เพราะนี้คือการต่อสู้เพื่อตำแหน่งเจ้าแห่งลีกสูงสุดของแผ่นดินญี่ปุ่น

“นัดที่แล้วที่นารา ไฟเตอร์ตามตีเสมอได้ 2:2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ตอนนี้พวกเขาได้เปรียบตามกฏประตูทีมเยือน.. ซึ่งถ้าหากผลจบลงด้วยการเสมอกัน0:0 หรือ 1:1 พวกเขาก็จะได้เป็นแชมป์อีกสมัยหนึ่งหลังจากห่างหายจากตำแหน่งแชมป์มาชั่วระยะหนึ่ง” ผู้บรรยายกล่าว

ไอศูรย์มองภาพที่กล้องถ่ายทอดสดจับภาพของนักเตะทั้งสองทีมยืนเรียงแถวกันเพื่อร้องเพลงชาติญี่ปุ่น แล้วกล้องก็มาหยุดชั่วขณะที่ ฮิรากิ..

เมื่อตอนเช้าไอศูรย์ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ฮิรากิจอดจักรยานของเขาลงตรงหน้า

สองคนไม่มีคำพูดอะไรเลยจนกระทั้งเนิ่นนาน

“ผมจะเอาแชมป์มาฝากรุ่นพี่ให้ได้ครับ.. ผมจะทำให้ได้” แล้วฮิรากิก็ขี่จักรยานออกไป

ไอศูรย์กำหมัดขึ้นแล้วชูใส่หน้าเด็กหนุ่มในจอทีวี

“ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะต่อยนายให้คว่ำเลย.. เจ้าเด็กแสบ”

 

โยฮาระ ชิราโอะ นั่งอยู่ในบล็อกของนักข่าว เขามองไปที่ด้านบนอัฒจันทร์ก็เห็นเด็กๆจากโกเบที่ได้รับรางวัลพิเศษจากสำนักพิมพ์ให้มาชมเกมนี้ด้วย พวกเขาคือกลุ่มเด็กที่โกลกับโป้งเคยพบที่สนามริมแม่น้ำ

ฮาเซกาวะ คิชิโอะคือหนึ่งในหมู่เด็กที่ได้รับสิทธินั้น ปีนี้เขาอายุสิบสองปี และวาดฝันว่าจะเป็นนักเตะอาชีพ เขามองที่โกลซังที่ยืนบิดกายอยู่หน้าประตูตัวเอง

“โกลซัง..ผมเชียร์คุณนะ.. แสดงให้ผมเห็นหน่อยว่าคุณสุดยอด”

 

พอสิ้นเสียงนกหวีดให้สัญญาณเริ่มเกม ไฟเตอร์ โอซาก้าก็สำแดงความเป็นยอดนักสู้ พวกเขาเริ่มต้นด้วยเกมรุกที่รวดเร็วโจมตีใส่แผงหลังของนารา ธันเดอร์เดียร์อย่างกับพายุ

ฮิรากิต้องทำงานอย่างหนัก เขาต้องวิ่งวุ่นไปตามเกมรุกที่พลิกผันไปมาของทีมคู่แข่ง ยี่สิบห้านาทีแรกจึงเป็นยี่สิบห้านาทีนรกของเขาเลยก็ว่าได้

แล้วทันใดเมื่อฮิรากิโหม่งลูกที่เตะโยนยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษออกไป

แย่แล้ว.. ฮิรากิรีบตั้งหลีกแล้ววิ่งออกไป แต่เทนโด้ อากาชิง้างแล้วยิงสวนทางวิ่งของเขา..

ลูกบอลพุ่งอย่างกับจรวดผ่านหน้าของฮิรากิอย่างรวดเร็ว จนเขารู้สึกถึงแรงลมที่เกิดจากการแหวกอากาศ

กระสุนปืนใหญ่แห่งญี่ปุ่นพุ่งทะยานผ่านแนวรับมาแล้ว โกลแม้จะเห็นมันในระยะประชิด เขาก็ยังขยับออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วตะปบมันไว้ได้ก่อนจะล้มตัวลงกอดแน่น

โยชินะถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ใจหนึ่งก็หวั่นไหว.. ถ้าเขาต้องสูญเสียโกลซังไป.. สถิติการเสียประตูน้อยที่สุดในลีกก็ไม่แน่ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่

           

            “เกมนี้โป้งจังเงียบไปนะครับ” ผู้บรรยายคนที่หนึ่งกล่าว

            “นั่นสิครับ อาจจะเพราะทีมไฟเตอร์เริ่มจะจับทางเขาได้แต่..” ผู้บรรยายคนที่สองยังไม่ทันได้จะจบประโยค

            “โอ๋ะ..จังหวะนี้”

            อย่างที่ไม่คาดคิด เทนโด้ อากาชิเองก็คาดไม่ถึง เพราะโป้งใช้การล้มตัวลงสกัดลูกบอลไปจาการครอบครองของเขาได้..

            หนุ่มวัยยี่สิบปีพรวดขึ้นจากพื้นแล้วพาลูกบอลวิ่งหนีเทนโด้ที่ตามหลังมา ตัวประกบสองตัวของเขาได้แก่กองกลางตัวเก๋าของทีมกับกองหลังก็รีบเข้ามาจะขวางหน้า

            แต่โป้งจึงพลิกกายพาลูกหลบหลีกการสกัดกั่นไปอย่างคล่องแคล่ว แล้วเตะลูกไปทางขวาให้ นิชิโยะ ฮิเดะ ปีกขวาที่วิ่งตัดเข้ามาตรงกลางเพื่อช่วยเหลือ

            ครั้งผู้เล่นของไฟเตอร์หันไปหานิชิโยะ โป้งก็วิ่งต่อไปไม่หยุดโดยมีกองกลางตัวรับของไฟเตอร์วิ่งตามไป

            นิชิโยะมองไปด้านหน้าที่มีศูนย์หน้าของนาราสองคนยืนอยู่ในแนวเดียวกับกองหลังของทีมโอซาก้า

            แทนที่เขาจะเตะเรียดไปข้างหน้าเพื่อให้กองหน้าวิ่งหนีการประกบเข้าไปยิง.. แต่เขากลับทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง เขาเตะโยนโค้งออกไปหาเสาไกล..

            โป้งวิ่งมาถึงพอดี เขากระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วเหยียดร่างกายดังคันธนู ก่อนจะโหม่งกระแทกลูกฟุตบอลไปเต็มแรง

            ผู้รักษาประตูหมดสิทธิ เพราะเขายืนขาตาย.. ได้แต่มองลูกพุ่งผ่านหน้าเขาไป..

            แล้วลูกกระแทกพื้นก่อนกระดอนเปลี่ยนทางเล็กน้อย.. แต่มันเฉี่ยวออกเสาออกนอกกรอบไปอย่างหวุดหวิด..

            เสียงคนดูในสนามร้องดังโอ้..ด้วยความรู้สึกหลากหลาย

            โป้งลุกขึ้นถอนหายใจ แล้วหันไปปรบมือให้นิชิโยะทั้งวิ่งกลับไปแดนตัวเอง

 

            แล้วหลังจากนั้นก็เป็นการแลกหมัดกันอย่างสนุกสนานเหมือนคู่มวยที่สูสี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้จนเข้าสู่ครึ่งหลัง

โมริอากะ โทชิโร่ มองลงไปในสนามจากส่วนที่นั่งของวีไอพี ซึ่งข้างๆเขายังมีสุขี เอเจนซี่ประจำตัวของโป้งและโกลนั่งอยู่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของทีมที่อาจจะเป็นทีมใหม่ของโป้งกับโกลหากว่าเขาตัดสินใจตกปากรับคำ

“สำหรับผม โกลจังและโป้งจังสำคัญมาก เพราะอย่างที่คุณเห็น โป้งจังทำประตูได้ 16ลูก โกลจังก็ทำClean Sheet ได้มากที่สุดของเราคือสิบนัดไม่เสียประตูเลย.. เขาสองคนจึงถือเป็นบุคคลที่ค่ามากกับทีมของเรา แล้วคุณคิดว่าเราจะตอบตกลงกับคุณง่ายๆได้อย่างนั้นเหรอ” ท่านประธานกล่าวเสียงเข้มด้วยภาษาอังกฤษชัดเจน

“แต่คุณก็คงไม่คิดจะรั้งเขาเอาไว้อย่างนี้ใช่ไหมครับ” ผู้บริหารของทีมในอังกฤษกล่าว

“เด็กสองคนนี้มีความสามารถสูงมาก.. เราต้องการพวกเขาเพื่ออนาคตของพวกเขาเอง พวกเขาจะได้เล่นกับนักเตะระดับโลกหลายๆคน ผมเชื่อว่าคุณรักพวกเขาเหมือนลูกเหมือนหลานเช่นกัน ดังนั้นคุณคงไม่ต้องการเห็นเขาอยู่แค่ในเอเชียใช่ไหมครับ.. ทั้งที่เขามีโอกาสจะไปสู่ระดับโลก”

พูดได้ดี.. สุขีนึกชม

แต่สุขีส่งเสียงหึก่อนจะกล่าวออกมา

“ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทั้งสองทราบ” สุขีกล่าวแล้วอ่านข้อความ

“เมื่อเช้าผมพึ่งได้รับอีเมลจาก อูดิเนเซ่ของอิตาลี ลาส พลามาสจากสเปน แล้วก็กาลาตาซารายของตุรกี เรื่องเด็กสองคนนี้.. พวกเขาสนใจจะซื้อในแพคคู่ด้วยราคาอยู่ที่ราวๆยี่สิบล้านยูโรเศษๆทั้งสิ้น..” เขากล่าวแล้วยิ้มเยือกเย็น

“ผมคิดว่าทั้งสองฝ่ายควรจะทบทวนและหาข้อสรุปที่ดีออกมาโดยเร็วนะครับ ผมยังให้เครดิตที่คุณติดต่อมาก่อนนะ มีสเตอร์คราเตอร์”

 

โยชินะกอดอกแน่นจนตัวเองรู้สึกอึดอัด เขาต้องคลายออกแล้วเดินออกไปที่ข้างสนามชี้ไปที่กัปตันทีมแล้วสั่งให้เดินเกมให้เร็วขึ้นอีก

มองนาฬิกาบนสกอร์บอร์ดก็เห็นเวลาเดินไปนาทีที่แปดสิบแปดแล้ว.. ไม่ดีแน่ ไม่ดี.. จบลงด้วยสกอร์นี้ พวกเขาจะแพ้ตามกฏประตูทีมเยือน..


แดนเนียล คราเตอร์ อดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษกดวางหูโทรศัพท์

เขาถอนหายใจกับข้อความที่ได้รับ เขาเดินกลับขึ้นไปสู่อัฒจันทร์ที่อึกทึกด้วยเสียงเชียร์ เพื่อเจรจาในสิ่งที่สโมสรแจ้งให้เขาไปตกลงกับประธานทีมนารา และเอเจนซี่หนุ่มจากไทย


เวลาในสนามเดินผ่านนาทีที่เก้าสิบไปแล้ว โกลรู้จากการที่กองเชียร์ทีมไฟเตอร์ เริ่มต้นร้องเพลงของสโมสร

และกรรมการชูป้ายทดเวลาบาดเจ็บไปอีกสามนาที

โกลกระโดดขึ้นรับลูกเตะมุมที่โยนเข้ากลางมาอย่างง่ายดาย

เขาโบกมือไล่เพื่อนให้วิ่งไปข้างหน้า แต่ก่อนจะวิ่งไป โป้งก็หันมายิ้มให้โกลเหมือนทุกครั้ง..

ไอ้บ้าเอ้ย.. มึงจะสลดเป็นกับเขาไหมนี่.. โกลนึกในใจ แต่ตัวเขาเองก็มีรอยยิ้มเหมือนกัน เมื่อใจของเขาสัมผัสกับรอยยิ้มนั้น

ตอนนี้ทีมไฟเตอร์วิ่งไปอยู่แดนตัวเองกันหมดแล้ว..

โกลจึงกลิ้งลูกออกจากเขตโทษ แล้วเตะออกไป.. เขามองลูกลอยไปในอากาศ แล้วพลันก็เกิดความคิด

เอาวะ.. โกลตัดสินใจ แล้วเขาก็ขยับ..

 

โป้งได้บอลที่นอกกรอบเขตโทษด้วยการโหม่งชงมาของนิชิโยะ

เขาพยายามหาช่องว่างแล้วเพื่อจะเตะส่งให้ศูนย์หน้า แต่มันก็ตันไปเสียทุกทาง  แม้จะจ่ายคืนหลังก็ยังทำได้อย่างยากลำบากเพราะตัวผู้เล่นของคู่แข่งลงมาประกบตัวต่อตัวกับผู้เล่นของนาราทั้งหมด..

โป้งจึงตัดสินใจอย่างบ้าบิ่น  เขาเตะบอลไปทางขวาอย่างฉับพลันด้วยความแรงพอสมควร แต่แล้วก็ยืดขาไปจนสุดดังลูกกลับมา เขาเสียหลักเล็กน้อยกับการกระทำอย่างนั้น

แต่คู่ต่อสู้ที่ร่างกายใหญ่โตกว่าย่อมมีปัญหามากกว่า.. เพราะเขาผวาจะตามลูกบอลไป แต่พอโป้งดึงลูกกลับอย่างรวดเร็วก็เลยเสียหลักเซด้วยอาการชะงักอย่างฉับพลัน

โป้งพลิกกายวิ่งตามลูกที่กลิ้งไปด้านซ้าย.. เพราะการที่กองหลังซึ่งขวางทางเขาอยู่เสียหลักจึงเปิดช่องว่างกว้างขวาง..

โป้งยันเท้าขวาเป็นหลัก เงื้อเท้าซ้าย..

เตะออกไป.. ลูกไซด์โป้ง..

ลูกบอลเดินทางเป็นแนวโค้งเข้าหามุมด้านบนของประตูอย่างรวดเร็ว

ทันควันผู้รักษาประตูของโอซาก้าก็พุ่งตัวออกไป เขาเหินกายไปราวกับบินได้ เหยียดมือหมายจะปัดลูกบอล..

ไม่ถึง.. มือไปไม่ถึงลูกบอลเพราะมันโค้งหนีไป

ตึ๋ง..เสียงโลหะถูกกระทบลั่นสนั่นไปทั้งสนามที่เงียบลงไปชั่วขณะ

ลูกบอลกระแทกคานบนแล้วกระดอนกลับ กองหลังที่เสียท่าไปเมื่อสักครู่ยืนในตำแหน่งลูกตก เขาจึงโหม่งเสยสุดแรงส่งลูกให้ลอยไปไกลพ้นปากประตู

เทนโด้ อากาชิ ที่อยู่บริเวณเกือบถึงวงกลมกลางสนาม มองลูกบอลที่ลอยมา เขาปล่อยให้ลูกตกลงข้างตัว

เขาคิดจะพลิกตัวพาลูกบอลไปทำเกมรุกต่อ

แต่แล้วก็มีร่างสูงปรากฏตัวจากด้านหลัง ใช้เท้าขวาแตะลูกบอลด้วยทักษะที่ดี แล้ววิ่งทะยานผ่านตัวของเทนโด้ไปอย่างเร็ว

โกลเลี้ยงลูกบอลมุ่งเข้าหาประตูคู่แข่ง เขาไม่ได้ฝีเท้าจัดเท่าโป้งแต่ก็ไม่เป็นรองใคร

ถึงเขาจะไม่ได้เล่นในตำแหน่งนี้ไปแสนนาน.. แต่ก็ยังจำได้ขึ้นใจ..

นี่คือทักษะแรกของเขากับลูกฟุตบอล..

“โกลซัง ไปเลย..” ฮาเซกาวะ คิชิโอะร้องสุดเสียงขึ้นบนอัฒจันทร์ที่เงียบเสียงไปด้วยความตื่นเต้น

ถึงจุดที่โกลถนัด..

สิบเอ็ดปีที่แล้ว.. ในสนามฟุตบอลที่มีคนเชียร์แค่หลักร้อย.. เด็กชายกรกฏสับไกยิงจากระยะและตำแหน่งเดียวกันนี้

ระยะยี่สิบห้าหลา เยื้องมาทางขวาของกรอบเขตโทษ...

โกลง้างเท้าถนัดแล้วเตะลงไปด้วยน้ำหนักที่จำได้ขึ้นใจ..

ลูกบอลทะยานออกไปด้วยวิถีของไซด์โป้ง

ผู้รักษาประตูรีบพุ่งไปหมายจะปัดป้องลูกยิงของผู้รักษาประตูด้วยกัน..

สวบ.. ไม่ใช่เสียงโลหะ.. เพราะมันคือเสียงของตาข่ายหลังประตูถูกกระแทกแล้วกระพือ

ผู้ตัดสินมองเวลาบนนาฬิกา แล้วก็ยกแขนขึ้น เขาส่งลมผ่านลิ้นของนกหวีดออกไป..

แล้วเขาก็ชี้ไปที่กลางสนาม..

กองเชียร์กวางสายฟ้าแผดเสียงร้องพร้อมกันด้วยความดีใจ หลายคนกระโดดกอดกันทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ความยินดีชักพาให้พวกเขา หลงลืมอาการหมางเมินเยี่ยงคนไม่รู้จักกันไปเสียสิ้น..

กวางสายฟ้าผงาดขึ้นบนพื้นธงที่ปลิวสะบัด.. นารา ธันเดอร์เดียร์ คือแชมเปี้ยนแห่ง J1..

 

“แปดล้าน แปดล้านยูโร.” แดนเนียลตะโกนออกไปแข่งกับเสียงแฟนบอล

       “แปดล้านสำหรับผู้รักษาประตูคนนี้”

สุขีผงกหัวรับคำ แล้วหันไปมองประธานโมริอากะ

แต่ตอนนี้ประธานคงไม่อยากจะรับฟังอะไรแล้ว.. เขากำลังดีใจสุดขีด..

ขืนบอกตอนนี้เดี๋ยวไม่ได้ซื้อขายกัน.. สุขียิ้ม..



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2016 15:41:31 โดย Andylover »

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
สุดยอด!!! จะได้ไปอังกฤษกันแล้วววว

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
กำลังเพลินกับโป้งเตะบอล แล้วมาหยุดกับโป้งบนอัฒจันทร์ อ่านต่อมา อ้อ..โป้งขาเจ็บ

 สมกับภาคนี้ที่เป็นของโกล พัฒนาฝีมือฝีเท้าจนเด่นเลย o13

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
กำลังเพลินกับโป้งเตะบอล แล้วมาหยุดกับโป้งบนอัฒจันทร์ อ่านต่อมา อ้อ..โป้งขาเจ็บ

 สมกับภาคนี้ที่เป็นของโกล พัฒนาฝีมือฝีเท้าจนเด่นเลย o13

ผมก๊อปจากออกจากต้นฉบับขาดไปสองประโยค แก้ไขแล้วครับ

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เข้ามาเชียร์โป้ง โกล ถึงโป้งจะขาเจ็บนัดนี่ไม่เป็นไร รอเชียร์นัดหน้า ... :mc4: :mc4:
โกลเท่มากเลย  o13 o13 o13  อ่านแล้วมันส์ดี ชอบ ชอบ ... :z2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
โกลอย่างเท่ห์เลย o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน ลาแล้วนารา ความทรงจำที่งดงาม..



แม้ความดีใจจะท่วมท้น และการฉลองในสนามจะเป็นไปอย่างลิงโลด แต่บนรถที่เดินทางกลับสู่นารา ในรถบัสกลับเงียบกริบ..

ฮิรากิหันไปมองเพื่อนๆและรุ่นพี่ ทุกคนหลับตาลงเพื่อพักผ่อนมีแค่นิชิโยะที่กำลังใช้โทรศัพท์คุยChat กับแฟนสาวที่อยู่ต่างแดน

โป้งคุงและโกลคุงนอนหลับโดยโป้งคุงสบหัวลงบนไหล่ที่แข็งแรงของโกลคุง และโกลคุงก็ซบลงบนหัวของโป้งคุง

วันนี้โกลคุงเป็นฮีโร่ แต่ถ้าจะพูดไป จริงๆแล้ว ต้องบอกว่าโกลคุงคือฮีโร่ตัวจริง ผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังในฐานะปราการตัวสุดท้ายของทีมมาตลอดทั้งฤดูกาล.. ปีนี้นาราขาดกองหลังตัวหลักอย่างรุ่นพี่โทจิโด ที่บาดเจ็บหนักจากอุบัติเหตุรถยนต์ก่อนเปิดฤดูกาล ดังนั้นเขาจึงได้รับโอกาสยืนเป็นกองหลังตัวกลางหลักของทีมตลอดทั้งปี ฮิรากิยอมรับว่าเขายังอ่อนด้อย ประสบการณ์ในสนามมีน้อย แม้จะพยายามแล้ว แต่ก็มักจะผิดพลาดบ่อยๆ หากผิดพลาดทีไรก็จะมีโกลคุงคอยป้องกันประตูไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเสมอ

ถ้าหากคนจะชื่นชมโป้งคุงที่เก่งกาจ ก็ต้องชมโกลคุงที่เหนียวแน่นด้วยเช่นกัน..

ผู้รักษาประตูกับกองหน้า.. คู่หูผู้รู้ใจกัน..

ฮิรากิถอนหายใจแล้วหลับตาลง..

ใจของเขาลอยไป.. ที่จริงตอนนี้เขาควรจะคิดถึงมาริจัง แต่เธอคงกำลังขะมักเขม้นอยู่ที่วิทยาลัยดนตรีแห่งนาโงยา แม้การแข่งนัดสำคัญนี้เธอก็ไม่สามารถปลีกตัวมาชมได้เพราะใกล้การทดสอบ..

แต่.. เหตุใดหนอ.. ดวงใจของเขากลับนึกถึงแต่ใบหน้านั้น.. ใบหน้าของรุ่นพี่อิโตะ..

 

แม้จะเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วชายวัยกลางคนยังคงเฝ้าคอย เขามองไปก็เห็นบรรดาเพื่อนร่วมเมืองทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนนั้งลงกับขอบของฟุตบาท บางคนที่บ้านอยู่ใกล้ก็ถึงขนาดลากเก้าอี้มานั่ง และแบ่งเผื่อเพื่อนร่วมเมืองที่สูงอายุคนอื่น

แล้วรถบัสสีแดงสลับน้ำเงินก็วิ่งมา โดยมีรถตำรวจประจำเมืองที่วิ่งไปรอที่รอยต่อระหว่างจังหวัดนำขบวนมา

“มาแล้ว” ชายวัยกลางคนกล่าว กลุ่มคนทั้งหลายก็ลุกขึ้น เด็กหนุ่มหลายคนที่มีธงก็ลุกขึ้นโบกธงกวางสายฟ้า

“บันไซ” ชายวัยกลางคนตะโกนไปเป็นต้นเสียง

แล้วเสียงแซ่ซ้องของผู้คนสองข้างทางก็กึกก้อง โกลเอี่ยวตัวให้โป้งข้ามเบาะมาเกาะกระจกดูบรรยากาศการต้อนรับการกลับมาของพวกเขา

รอยยิ้ม การเปล่งเสียงร้อง แฟนบอลหนุ่มสาวบางคนเพนท์ใบหน้าเป็นสีประจำทีม บางคนเอาเขากวางมาใส่หัว บางคนชูผ้าพันคอของสโมสร

พวกผู้ใหญ่ที่สูงอายุหน่อยก็ปรบมือและตะโกนบันไซ.. ทุกคนกำลังมีความสุขกับความสำเร็จของสโมสร..

ไฟฉุกเฉินของรถตำรวจส่งแสงสีแดงน้ำเงิน รถบัสสีเดียวกันแล่นตามไปอย่างช้าๆโดยมีรถตู้ของเจ้าหน้าที่ของทีม และรถของประธานโมริอากะปิดท้าย

ขบวนผ่านถนนที่มีผู้คนจำนวนมากมายยืนส่งเสียงบันไซ โห่ร้อง และปรบมือ..

            โกลกับโป้งแปลกใจที่พวกเขาต้องเข้ามาพบกับประธานและโค้ชโยชินะที่ห้องทำงาน แต่พอเห็นสุขีอยู่ด้วยพวกเขาก็เริ่มจะหวั่นใจจนมองหน้ากัน

            โกลมั่นใจว่าโป้งต้องรู้สึกเหมือนเขา.. ตอนนี้พวกเขาหลงรักเมืองนาราเสียแล้ว.. ณ.ที่นี้เขาสัมผัสถึงความรักของผู้คนที่มีให้..

            แต่บนเส้นทางของฟุตบอลอาชีพที่ยังอีกยาวไกล.. พวกเขาก็ต้องก้าวเดินไปแม้จะต้องทอดทิ้งสิ่งที่น่าประทับใจเอาไว้เบื้องหลัง.. ซึ่งตอนพวกเขาจากภูเก็ตมาไม่ได้ต่างกัน..

            “ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณที่พวกคุณเป็นกำลังสำคัญของทีมทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้”โมริอากะกล่าว

            “ผมต้องบอกว่าพวกคุณคือการตัดสินใจทีผมชื่นใจและภูมิใจที่สุด..”

            แล้วโมริอากะก็ลุกขึ้น โค้งอย่างต่ำที่สุด พร้อมๆกับโค้ชโยชินะ

            “ขอบคุณมากครับ”

            โกลกับโป้งต้องโค้งตอบด้วยอาการเดียวกัน

            โมริอากะนั่งลง

            “แต่เป็นธรรมดา.. เมื่อพบก็ต้องลาจาก” โมริอากะกล่าวต่อ

            “พวกคุณยังเด็ก.. ยังมีหนทางยาวไกลต้องเดิน.. ผมเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องบอกว่าเรามีเวลาด้วยกันน้อยจริงๆ และแม้จะยากลำบาก ผมก็จำต้องตัดสินใจ.. สโมสรทราบในความสามารถของพวกคุณและตระหนัก.. แต่ผมก็ต้องแจ้งว่า เราได้ตกลงอนุญาตให้คุณย้ายไปทีมเทมส์ไซด์ ยูไนเต็ด ในอังกฤษตามคำร้องขอคุณสุขีที่แจ้งความจำนงเข้ามา”

            สุขีมองตาโป้งกับโกลที่หันมา

            “พี่ตัดสินใจรับข้อเสนอแทนพวกเรา พี่ไม่อยากให้เราปฏิเสธนะ แม้จะมีสิทธิจะเป็นของพวกเรา.. เพราะพวกเราต้องเดินไปข้างหน้า เจลีกเป็นลีกที่ดี แต่ถ้าเธอต้องการพิสูจน์ตัวเอง และพัฒนาต่อไป  เวทีที่ใหญ่กว่าอย่างอังกฤษคือสถานที่ซึ่งเหมาะสมกับพวกเธอ” สุขีกล่าว

            “แต่พวกเธอก็ยังมีสิทธิจะปฏิเสธ”

            โป้งกับโกลสบตากัน

            “โป้งจัง โกลจัง.. ในฐานะของรุ่นพี่ ไม่ใช่โค้ช..ผมไม่ต้องการให้คุณปฏิเสธ” โยชินะกล่าวออกมาเสียหนักแน่น

            สองหนุ่มมองตาของโค้ชโยชินะที่เขานับถือ

            “พวกคุณต้องก้าวไปข้างหน้า.. อย่าลังเล อย่าหวาดกลัว จงเชื่อมั่น.. และถ้าพวกคุณรักพวกเรา และชาวเมืองนารา ก็ขอให้พวกคุณจำไว้ว่า.. พวกเราจะคอยเฝ้ามองพวกคุณเดินไปข้างหน้าต่อไป.. ขออย่างเดียวพวกคุณกรุณาจำพวกเราไว้.. และกล่าวถึงเราบ้างถ้ามีโอกาส เข้าใจไหม”

            แล้วโป้งกับโกลก็ยืนตัวตรงเอามือไขว้หลังยืดอก

            “โอ๊ต..” สองคนเปล่งเสียงตอบรับออกไป

 

            ฮิรากิจอดจักรยานลงหน้าบ้านที่เขาคุ้นเคย แต่บ้านปิดไฟเงียบสนิท รุ่นพี่อิโตะคงเข้านอนแล้ว เขาถอนหายใจแล้วก็ขับจักรยานออกไป

            เมื่อรถจักรยานพ้นไปแล้ว..

            ในความมืดของบ้าน ไอศูรย์ก็ถอนหายใจออกมา  เขาพลิกร่างพิงกับฝาพนังข้างหน้าต่าง

            “ขอบใจนะฮิรากิ.. ขอบใจมาก.. ขอบใจ..”

 

            หลังบรรยากาศการเฉลิมฉลองจืดจางลง และโป้งกับโกลก็เดินทางไปอังกฤษอย่างเงียบๆเพื่อตรวจร่างกายและทดสอบความฟิตจนได้รับการยอมรับเรียบร้อย

            จากนั้นนารา ธันเดอร์เดียร์จึงมีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการ

            นั่นทำให้เกิดกระแสมากมายหลายอย่าง ซึ่งสุขีก็แนะนำให้ทั้งสองหนุ่มเก็บตัวไม่ออกให้สัมภาษณ์ใดๆ

            “ก็ยังดีที่นาราไม่ใช่ทีมใหญ่มากมายอะไร ดังนั้นแฟนบอลก็เลยรับได้เร็วกว่าทีมใหญ่ เพราะอีกอย่างมูลค่าที่ขายพวกนายออกไปก็ยังทำให้สโมสรสามารถเอาไปซื้อนักเตะใหม่มาเสริม แล้วพวกเขาก็ยังดึงตัวเพื่อนของพวกนายคือนายปอ แล้วรุ่นพี่ของพวกเธอคือนายท๊อปมาเสริมทัพ” สุขีเล่าให้ฟัง

            “แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบใจนักข่าวคนนั้น ที่เขาเขียนเรื่องการย้ายทีมของพวกนายว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำและเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคต เพราะพวกนายสมควรจะออกไปสู่โลกกว้างเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทำให้แฟนบอลเริ่มเห็นดีเห็นงามด้วย”

“ฉันได้คุยกับคนที่ตลาด ตอนแรกพอรู้ว่าฉันคือเอเจนซี่ที่ติดต่อเรื่องซื้อขายพวกนาย เกือบจะไม่ขายของให้ด้วยซ้ำ แต่พูดไปพูดมาเขาก็บอกว่า โป้งจังกับโกลจังเป็นคนที่ช่วยให้พวกเขามีความสุขมากขึ้น.. ถ้าการจากไปแปลว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพวกนาย เขาก็ยินดีด้วย” สุขีกล่าวแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงรอยยิ้มของคุณลุงขายอาหารคนนั้น

“โกล โป้ง.. พวกนายจำไว้นะ สิ่งที่พวกนายทำโดยไม่รู้ตัวเพราะอัธยาศัยใจจริงของพวกนายนี่หละ ที่ทำให้แฟนบอลรัก.. ถ้านายได้ใจแฟนบอลแล้ว.. ต่อให้พวกนายจะฟอร์มตก ฟอร์มห่วยแค่ไหน พวกเขาก็จะอยู่ข้างพวกนาย.. และพร้อมจะเดินข้างพวกนายตลอดแม้จะเกิดอะไรขึ้น.. นี่หละประโยชน์ของการทำตัวให้เป็นที่รักของแฟนบอล”

แล้วเขาก็หันมามองหน้าหนุ่มน้อยทั้งสอง

“นายต้องรักษาเอาไว้สามอย่าง เวลาที่ไปอังกฤษ เพราะพี่ไม่ได้ไปดูแลเราแล้ว.. เพราะพวกเราเกินขอบเขตของพี่ไปแล้ว บริษัทจะจัดหาคนใหม่ที่อยู่ยุโรปไปดูแลพวกนายแทน สิ่งที่พี่อยากจะฝากไว้มีแค่สองอย่างในฐานะนักฟุตบอลรุ่นพี่ คือ หนึ่งการรักษาวินัยในการฝึกซ้อม เพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้นที่จะพัฒนาตัวเราได้ สองคือรักษาน้ำใจเอื้อเฟือเผื่อแผ่ และสามคือรักษาความมีสัมมาคารวะแบบคนเอเชียเรา.. แม้ที่โน่นจะมีแต่ฝรั่งแต่เชื่อเถอะ พวกนั้นก็ชมชอบคนมีน้ำใจไม่เย่อหยิ่งและให้เกียรติคนอื่นเหมือนกัน”

สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วขานออกไปพร้อมกันว่า

“ครับ”

 

เครื่องบิน Airbus 380 เร่งเครื่องยนต์เติมกำลัง แรงขับดันมหาศาลของเครื่องนยนต์โรส-รอยส์ Trent 900 ทั้งสี่เครื่องส่งให้เครื่องบินทะยานไปตามทางวิ่งก่อนจะยกตัวขึ้นสู่อากาศ

โป้งมองจากหน้าต่างเห็นสนามบินคันไซในบรรยากาศยามเที่ยง เขาถอนหายใจยาวเหยียดแล้วกอดตุ๊กตากวางที่แฟนฟุตบอลที่ตามมาส่งที่สนามบินให้เอาไว้

แม้พวกเขาจะออกจากนารามาแต่เช้าตรู่โดยมีฮิราอิเท่านั้นที่ตามมาส่ง และไม่คิดว่าจะมีแฟนตามมาส่ง เพราะพวกเขาไม่ได้บอกใครถึงกำหนดการเดินทาง

แต่ปรากฏว่าพอเดินเข้ามาในอาคารสนามบินก็ได้เจอกับแฟนบอลวัยรุ่นและผู้อาวุโสหลายร้อยคนในเสื้อสีแดงน้ำเงินหมายเลขสิบห้า และเสื้อผู้รักษาประตูหมายเลขสิบเจ็ด ป้ายอำลาบ้าง ขอบคุณบ้าง ชูสลอน

แล้วคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนของแฟนก็มอบเจ้าตุ๊กตาสองตัวให้เขากับโกล พร้อมกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้ง

เจ้ากวางน้อยใส่หมายเลขสิบห้า ส่วนโกลเป็นหมายเลขสิบเจ็ดอันเป็นหมายเลขของพวกเขาในทีม

“กูต้องคิดถึงทุกคนแน่ๆเลย.. ที่นี่น่ารักมากเลยว่าไหมโกล”

โกลยิ้ม..

“กูก็เหมือนกัน”

 

ฮิรากิมองเครื่องบินที่บินผ่านฟากฟ้าไปตอนที่เขานั่งรถออกจากสนามบิน.. นั่นจะใช่ลำที่โป้งคุงกับโกลคุงโดยสารหรือไม่เขาก็ไม่รู้

“ฉันต้องคิดถึงพวกนายมากๆแน่เลย” ฮิรากิเปิดโทรศัพท์เพื่อดูภาพที่เขาไปเที่ยวกับสองหนุ่มไทย

“ลาก่อนเพื่อนรัก ถึงเราต้องเจอกันและอยู่คนละฝั่ง ถึงฉันต้องตามประกบโป้งคุง หรือต้องโหม่งใส่โกลคุง แต่ฉันจะไม่ลืมเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันเลย..”

 

เหนือฟ้าเมืองนารา มีเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งบินอยู่  แม้อาจจะไม่ใช่เครื่องบินที่นักฟุตบอลหนุ่มสองคนโดยสาร แต่แม่ของเด็กชายตัวน้อยก็ชี้ให้เด็กชายที่กำลังร้องไห้ให้ดู

“นั่นๆ เครื่องบินที่โป้งจังนั่ง โบกมือให้เร็ว”

เด็กชายตัวน้อยหยุดแล้วเงยมอง เครื่องบินลำโตสี่เครื่องยนต์บินสูงเหนือเมือง

“บาย..โป้งจัง โกลจัง..”

แล้วเด็กชายก็หันมาหาแม่

“แม่ครับผมอยากเป็นนักฟุตบอล”

แม่ปาดน้ำตาให้ลูกแล้วยิ้ม

“ต้องเริ่มจากเข้มแข็งไม่ร้องไห้บ่อย แล้วก็ต้องออกไปฝึก ออกไปวิ่งทุกวันเหมือนพี่ๆทั้งสองคน ชิโนะจังทำได้หรือเปล่าหละ”

เด็กชายรับคำแล้วก็ยิ้ม มารดาจึงพาเด็กชายเดินไปตามถนนผ่านหน้าไอศูรย์ที่ยืนมองมาตั้งแต่ต้น หล่อนหันมาโค้งและยิ้มให้ไอศูรย์เพราะคุ้นเคยใบหน้ากันดี และเป็นเชิงขอโทษที่ลูกชายของเธอรบกวน

มองไปบนฟ้าอีกที เห็นเครื่องบินบินลับไปในหมู่เมฆ

“ลาก่อนโป้งจัง โกลจัง.. ขอให้โชคดี”

แล้วเขาก็นึกถึงเรื่องราวที่โกลสนทนากับเขาในคืนวาน

“ทำไมเซนเซย์ถึงไม่แสดงออกความในใจให้ฮิรากิรู้ ผมรู้ว่าฮิรากิก็มีใจให้เซนเซย์”

เขาเงียบอยู่ครู่แล้วตอบออกไป

“ถ้าแสดงออกแล้ว ฮิรากิสับสนมันจะดีอย่างนั้นเหรอ.. ฮิรากิมีมาริจังอยู่แล้ว มันจะไม่เป็นการทำให้เกิดปัญหาอย่างนั้นเหรอโกล.. ฉันทำไม่ได้หรอกโกล”

“อีกอย่างฉันสัญญาไว้แล้ว.. และฉันจะไม่ผิดคำสัญญาของตัวเองด้วย ฮิรากิเขายังมีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ อย่าให้ฉันกลายเป็นอุปสรรค์ต่อชีวิตและอนาคตของเขาเลยโกลจัง”

ไอศูรย์ถอนหายใจแล้วก็เดินไปตามถนนนารามาจิอย่างโดดเดี่ยว... เขาขยับเสื้อโค้ทให้กระชับ เพื่อปกป้องตัวและหัวใจให้พ้นจากลมหนาวที่พัดพาเอาความอ้างว้างมาปกคลุม...



ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
การจากลาที่น่าจดจำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ใจหายแทนเหมือนกันแต่ต้องก้าวต่อไปจุดหมายปลายทางนะ สู้ๆ โกล โป้ง ตามไปเชียร์ที่อังกฤษต่อ :mc4: :mc4:
แต่งได้น่ารักดีนะ อ่านแล้วเพลินมาก ถ้าทั้งคู่ไปสู่จุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จด้วยกันนี้ เขาคงภูมิใจมากที่เขาเดินฝันฝ่ามันไปด้วยกัน ..รู้สึกฟินเวอร์!!!!

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน  เทมส์ไซด์ ยูไนเต็ด: โป้งโกลสู่อังกฤษ



Themesside United Football Club, คือชื่ออย่างเป็นทางการของสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในลอนดอน ในอดีตสโมสรแห่งนี้เคยเป็นทีมชั้นนำในลีกสูงสุดกระทั้งประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนมีผลกระทบทำให้ทีมตกชั้นไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่า แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังมีแฟนบอลเหนียวแน่นมากทีมหนึ่งในอังกฤษ

สนามคราวน์ เรเวนท์(Crown Raven Stadium)เป็นสนามเก่าแก่ แม้จะมีการปรับปรุงหลายครั้งแต่อัฒจันทร์ด้านหนึ่งยังคงทำเลียนแบบของเก่าที่เป็นโครงไม้ ทำให้สนามแห่งดูเข้มขลังสมกับเป็นทีมเก่าแก่ของอังกฤษ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดฟุตบอล

ในเกมทุกนัดจะมีผู้ชมเกือบเต็มความจุของสนามขนาดสามหมื่นหกพันที่นั่งแห่งนี้

โกลกับโป้งนั่งร่วมกับผู้ชมในเกมนัดเหย้าที่เทมส์ไซด์ ยูไนเต็ดลงสนามเจอกับทีมอันดับสุดท้ายของแชมเปี้ยนชิบลีก หรือก็คือลีกที่รองจากพรีเมียร์ชิปนั้นเอง

แม้สนามจะมีความจุมากกว่านารา สเตเดียม หรือ ยูเนียน ออฟ ภูเก็ต เพียงไม่เท่าไหร่ แต่สนามแห่งนี้กลับมีบรรยากาศการเชียร์ที่เข้มข้นและดูทรงพลังกว่า อาจะเพราะสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เสียงเชียร์กึกก้องอยู่ภายในสนามแทนที่กระจายออกไป

พอจบเกมสองหนุ่มก็เดินออกจากสนามมาร่วมกับแฟนบอลคนอื่น

“มันสุดยอดเลยนะโกล.. ถ้าคิดว่านี่คือเกมระดับสโมสร แถมไม่ได้เป็นเกมใหญ่ด้วย” โป้งกล่าว

“อาจไม่เท่ากับตอนที่คัมป์นู หรือเบอร์นาบิว.. แต่ก็เรียกได้ว่าสุดๆเลยหละ..”

โกลพยักหน้า

“แบบนี้ความคาดหวังแฟนบอลต้องเต็มเปี่ยมแน่ๆ”โกลว่าแล้วกอดคอ

“เราต้องขยัน ต้องตั้งใจ ต้องทุ่มเทให้มากแล้วหละโป้ง.. อาจเป็นงานหนักกว่าที่ผ่านมาหลายเท่าก็ได้นะ”

“อืม..” โป้งรับคำ

“พุร่งนี้ไปวิ่งกันเลย.. รอช้าไม่ได้แล้ว..”

 

แม้อากาศภายนอกจะหนาวเย็นจนลมหายใจของสองหนุ่มดวงหน้าเอเชียที่ระบายออกมาแล้วกลายเป็นไอ แต่ทั้งคู่ก็ยังมุ่งมั่นวิ่งไปตามถนนกลางนครลอนดอน

ผู้คนจำใจต้องออกมาท่ามกล่างความหนาวต่างเดินห่อร่างกายเพราะความหนาวสะท้าน พวกเขาแปลกใจอย่างมากกับสองหนุ่มเอเชียที่วิ่งไปด้วยกันในความเร็วที่สม่ำเสมอ

“สงสัยจะใช่เด็กไทยสองคนที่ทีมเทมส์ไซด์พึ่งได้มา..” ชายคนหนึ่งมองสองหนุ่มที่มาและกำลังจะผ่านไป

“เห็นเขาว่าคนหนึ่งได้โกลเด้นท์บอล อีกคนได้โกลเด้นโกลฟ ในยู20” ชายอีกคนกล่าวและกระโดดเตี้ยอยู่กับที่ไล่ความหนาว

“อืม.. ดูขยันกันดีนะ ดี.. ดีมาก.. อย่างนี้หละ ดีมาก”

 

แดนเนียล คาร์เตอร์ยืนอยู่เคียงข้าง เซบาสเตียน บัลเดอร์ผู้จัดการทีม

“สมใจคุณไหม” แดนเนียล คาร์เตอร์ถาม

“แล้วคุณคิดว่ายังไง”

แดนเนียลกอดอก

“นักฟุตบอลเอเชียมักจะเสียเปรียบเรื่องรูปร่าง แต่กรกฏผ่านเรื่องนี้ได้สบาย ส่วนเทพพร อาจจะดูตัวเล็กไปนิดหนึ่งแต่.. เด็กคนนี้มีความคล่องตัวมาก การเอาตัวรอดก็ดี ฉลาดดี.. ผมก็คิดว่าถ้าเราเอาเขาพัฒนาเรื่องอื่นๆที่จำเป็น.. ไม่แน่เราอาจได้นักเตะระดับเดียวกับฮิเดโดะชิ นากาตะ หรืออาลี ดาอีก็ได้”

เซบาสเตียนยิ้ม

“มักน้อยจัง.. ผมจะสร้างเลโอเนล เมสซี่ต่างหาก”

แล้วในสนามก็เกิดเสียงเฮกันแม้จะไม่เฮกันเต็มที่เหมือนปกติ.. เพราะนี่คือเกมนัดของ U21.. จึงมีผู้ชมแค่หลักพัน

โป้งวิ่งเหยาะๆกลับมาสู่แดนดัวเองโดยมีผู้เล่นคนอื่นเดินมาจับหัวบ้างตบไหล่บ้างเพื่อชื่นชม เพราะเมื่อสักครูโป้งเลี้ยงหลบกองหลังของคู่แข่งเข้าไป แถมยังพลิกตัวหนีผู้รักษาประตูแล้วยิงเข้าไปอย่างง่ายดาย

“สี่ศูนย์..” เซบาสเตียนหันมามองหน้าผู้จัดการฝ่ายฟุตบอลของทีม

“เทพพรยิงแฮตทริก.. ในนัดแรกที่ลงสนามให้กับทีมเรา.. คุณคิดว่าผมคาดหวังเกินไปรึเปล่า.. ผมว่าไม่นะ.. ถ้าเราปั้นเขาดีๆ อาจมีซุปเปอร์สตาร์มาจากเอเชียให้โลกชื่นชมก็ได้นะ”

 

วันนี้เป็นวันซ้อมเรื่องร่างกาย ครูฝึกมองโกลยกดัมเบลอย่างมั่นคงเอามือจับคางพยักหน้าพอใจแล้วก็เดินไป

แล้วมองโป้งที่ยกดัมเบลอันเล็กกว่าแต่เร็วกว่าตามคำสั่งของเขา ก็ทำท่าเดียวกัน

โป้งเป็นนักเตะเพราะประเภทอาศัยความเร็ว เขาไม่ได้ต้องการกล้ามเนื้อใหญ่โต แต่ต้องการกล้ามเนื้อที่ทนทานและส่งพลังออกมาได้ยามต้องการ ส่วนโกลแม้ต้องคล่องแคล่ว แต่การจะรับลูกยิงที่รุนแรงก็ต้องใช้มัดกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง

โกลมองครูฝึกเดินไปดูนักเตะคนอื่น ในขณะที่เขากำลังพักระหว่างเซต

การฝึกที่นี่โหดกว่าที่ญี่ปุ่นนิดหน่อย และอาศัยวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้มข้นกว่า พวกเขาเจอโปรแกรมการฝึกต่างไปจากที่เจอที่ญี่ปุ่นเล็กน้อย ที่นี่มีเจ้าหน้าที่แพทย์คอยยืนดูการซ้อมตลอด แล้วพวกเขายังต้องพบกับนักกายภาพที่จะแนะนำและแก้ไขท่าเคลื่อนไหวที่ถูกต้องให้แบบจำเพาะคน

โกลเลยนึกขอบคุณในการแนะนำของสุขีที่ให้เขาไปญี่ปุ่นก่อนค่อยมา หากกระโดดข้ามาตรฐานแล้ว พวกเขาอาจไม่สามารถปรับตัวได้ดีเท่านี้

“โกลๆ” โป้งเรียก

หันโป้งพักการยกน้ำหนักลงชั่วคราว..

“นี่กูยกจนเมื่อยแล้ว ครูฝึกเขาลืมรึเปล่าวะ แถมกูปวดฉี่ด้วย”

โกลถอนหายใจ มองหน้าโป้งตอนนี้ที่เหงื่อเป็นเม็ดๆ แต่ทำหน้าเหมือนเด็กไร้เดียงสา

“ทำเป็นเด็กไปได้ เรื่องแค่นี้เองไอ้โป้ง.. ปวดก็ไปฉี่ ไม่มีใครห้ามมึงนี่”

ที่อยากจะบอกต่อไปคือ มึงช่วยเอาความฉลาดในสนามมาใช้ในชีวิตจริงหน่อยเถอะไอ้โป้งอย่าซื่อให้มากนัก...

 

สนามคราวน์ ราเวนอื้ออึงไปด้วยสรรพเสียงเมื่อกรรมการเป่านกหวีดว่ามีการฟาลว์ในกรอบเขตโทษ

กองหลังของเทมส์ไซด์ โบกไม้โบกมือว่าไม่ได้ทำอะไร แต่กรรมการก็ยังยืนยัน

โกลไม่สนใจว่ามีการประท้วงหรืออะไรเกิดขึ้น เขาเดินไปยืนตรงเส้นประตูแล้วกระโดดเบา แต่ระหว่างนั้นก็หลับตาลง

ทุกการกระโดด นับพุทธโธ ทำจิตให้สงบ..

ลืมตาขึ้นมา ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามก็เอาลูกมาตั้งที่จุดโทษ

โกลกางแขนออก แต่ใจกำลังภาวนาให้สงบตามวิถีพุทธ..

แล้วสัญญาณนกหวีดก็ดัง ศูนย์หน้าตัวเก๋าอดีตกองหน้าตัวเก่งของทีมในพรีเมียร์ลีก ถอยหลังแล้ววิ่งเข้ายิงโดยทำท่าหลอกหน้าเท้า..

โกลตั้งมั่นอยู่ลูกบอลอยู่แล้ว ไม่สนว่าคนเตะจะทำท่าอะไร พอมันพุ่งออกมาเขาก็ทะยานออกไป

ร่างกายเหินกลางอากาศ มือแข็งแรงความจับลูกบอลที่พุ่งมาอย่างมั่นคง เขาล้มตัวลงกอดลูกบอลไว้..

เสียงเฮสนั่นของแฟนบอลหลังประตูกึกก้องจนโกลแสบแก้วหู เขาหันไปมองแล้วยกมือขึ้นแทนคำขอบคุณในเสียงชื่นชม..

“เป็นการเซฟจุดโทษลูกที่สามของเขานับตั้งแต่ย้ายมา.. เราโดนจุดโทษไปสี่ครั้งในนัดที่เขาลงสนามแต่ โกลดี้เซฟได้สาม.. สถิติดีมาก” ผู้ช่วยของเซบาสเตียน บัลเดอร์ กล่าว

“แต่ที่ผมสนใจคือจังหวะแบบนี้ต่างหาก” ผู้จัดการทีมหนุ่มกล่าวแล้วชี้ไป

โกลมองไกล.. เขาเห็นตัวผู้เล่นคนหนึ่งว่างอยู่.. แล้วเขาก็โยนลูกออกไป ก่อนจะหวดเท้าเตะไปด้วยน้ำหนักที่พอดิบพอดี

“ผู้รักษาประตูที่เปลี่ยนเกมรับเป็นรุกได้มีอยู่ไม่มากเลยนะจอร์จ” เซบาสเตียนกล่าว

ลูกบอลลอยโด่งไปถึงเป้าหมาย บ๊อกดาน ฮีลเตยัน ปีกซ้ายของทีมโหม่งได้พอดิบพอดี ลูกบอลบอลเปลี่ยนทางไปตรงพื้นที่ว่างที่ไม่มีผู้เล่นฝั่งตรงข้ามยืนคุมอยู่

ร่างกายเพรียวพลิ้วกระโดดดักลูกได้กลางอากาศ ลูกบอลตกลงอย่างนิ่มนวล

แล้วเขาก็เตะมันด้วยน้ำหนักพอดีให้ลูกบอลเดินทางไปข้างหน้า จากนั้นก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว

การเลี้ยงที่ไม่ต้องอาศัยความสวยงาม แต่จังหวะเคลื่อนที่ยากจะคาดเดา หนุ่มน้อยแตะลูกเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันด้วยเท้าขวา แล้วเขาก็พาลูกบอลวิ่งไปโดยมีกองหลังที่อยู่ในอาการเสียหลักมองตามอย่างหมดหวัง

ผู้รักษาประตูวิ่งออกมาหา..

โป้งแย้มรอยยิ้ม.. เสร็จหละ..

แม้จะไม่ได้มองเต็มๆก็แค่เหลือบตา แต่เขาก็เห็นว่ามีผู้เล่นในชุดขาวคลิปดำวิ่งตามมา โป้งจึงเตะแปลูกบอลไปข้างๆ

อาริอู เอนิติย์ศูนย์หน้าตัวเก่งของเทมส์ไซด์ เขาไม่ต้องจับบอลให้นิ่ง มาถึงลูกบอลก็เตะทันทีในจังหวะเดียว

ลูกบอลเดินทางอย่างรวดเร็ว แม้ผู้รักษาประตูจะพยายามป้องกันด้วยการยืดแขนมาปัด แต่ลูกบอลก็พุ่งผ่านไป มันชนเสาจังหวะหนึ่งก่อน จะกระดอนผ่านเส้นประตูเข้าไปนอนอยู่ทีก้นตาข่าย

“เจ็ดนัด เจ็ดประตู สิบสองAssist(การส่งลูกไปให้ทำประตู)” เซบาสเตียนยิ้มออกมา

“เรายังต้องการอะไรอีก จอร์จ..”

จอร์จ โทนนิ่งจดลงในสมุด พอเงยหน้าก็พอดีกับเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันดังขึ้น

        “เราควรไปวางแผนสำหรับฤดูกาลต่อไปได้แล้วนะครับ.. พรีเมียร์ลีกรอเราอยู่”

        จอร์จต้องใช้การตะเบ็ง เพราะตอนนี้แฟนทีมเทมส์ไซด์ตะโกนเฮออกมาจนสนั่นไปทั้งสนาม

       นี่คือการฉลองชัยนัดสุดท้ายของเกมในระดับแชมเปี้ยนชิป..

      เพราะฤดูหน้าเทมส์ไซด์ จะกลับไปสู่ลีกสูงสุดแห่งเกาะอังกฤษอีกครั้ง...

 

สองปีแล้วที่พวกเขาจากแผ่นดินไทยไป ดังนั้นแม้โกลจะไม่ค่อยตื่นเต้นกับอะไรง่ายๆเหมือนโป้ง แต่ก็ยังอดรู้สึกว่าใจเต้นแรงมาก ตอนที่เครื่องบินลำที่พวกเขาโดยสารมาตีโค้งทำเห็นทิวทัศน์ของแผ่นดิน และสนามบินสุวรรณภูมิ

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมองหน้าโป้ง มองแล้วมองอีก

“หน้าตาไม่เห็นเหมือนในพาสปอร์ต ของปลอมรึเปล่านี่” เจ้าหน้าที่หนุ่มกล่าวหน้าบึ้งๆ

โป้งหันไปมองหน้าโกล ก่อนจะหันกลับมา

“ไม่นะครับ ผมพูดไทยได้ เกิดที่นี่ สงสัยผมยาวขึ้น.. เอาอย่างนี้ครับ” โป้งรวบผมให้ดู

เจ้าหน้าที่ถอนหายใจ..แล้วก็ยิ้มออกมา

“ตอนไปเป็นเด็กกะโปโล กลับมาเป็นนักบอลค่าตัวห้าสิบกว่าล้าน.. มันจะเหมือนกันได้ยังไง”

โป้งยังไม่เข้าใจ ทำหน้างง จนโกลเข้ามากระซิบบอกตอนเจ้าหน้าที่ลงตราให้

“เค้าล้อเล่น”

โป้งทำหน้าโล่งอกเพราะเขาตกใจจริงๆ

“น้องโป้ง น้องโกลตอนนี้คนเขารู้จักน้องกันหมดแล้วหละ ถ้าอยากเป็นส่วนตัว พี่แนะนำให้ปิดบังตัวเองหน่อยนะ” เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกล่าว


โกลมองโป้งสวมทั้งหมวก ทั้งแว่นตา แถมใส่หน้ากากอนามัยด้วย..

“เอ่อ.. มึง” โกลมองหน้าโป้งจากกระจก..

“กูว่าใส่หมวกไอ้โม่งเลยดีกว่าว่ะ”

โป้งหันมามองหน้าเพราะรู้ว่าโกลประชด

“เอาไอ้นี่ออกก็ได้”

แล้วเขาก็ถอดหน้ากากอนามัยออก แล้วมาทำหน้าบูดๆใส่

“ถ้าโดนรุมอย่าหาว่าไม่เตือนนะ”

โกลหัวเราะ

“พวกเราเป็นนักบอลไม่ใช่ดารา.. อยากมากก็มาขอลายเซ็นมาขอถ่ายรูป.. มึงไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้” โกลกล่าวแล้วล๊อกคอโป้งพาเดินออกจากห้องน้ำ


แล้วก็เป็นอย่างที่โกลพูด คือแม้จะมีคนจำได้ แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ถ่ายรูปเฉยๆ และทักทายด้วยรอยยิ้ม มีแต่แฟนบอลรุ่นเด็กที่กล้าหน่อยถึงจะเข้ามาขอลายเซ็น

แต่ระหว่างที่รอต่อเครื่องบินไปเชียงราย สองคนกำลังนั่งคุยกันเรื่องที่พึ่งได้รับอีเมลจากนวสาครให้ไปช่วยแนะแนวรุ่นน้องเรื่องอาชีพนักฟุตบอล

แล้วโป้งก็หันไปเห็นเด็กคนหนึ่งยืนแอบหลังมารดา

และยิ่งโป้งมองเขาก็ยิ่งแอบมิดไปอีก เด็กคนนั้นใส่เสื้อทีมเทมส์ไซด์ชุดเย้าสีขาวคลิปดำ มีหมายเลขสิบห้าเห็นได้จากหน้าอกขวา

โป้งเลยลุกขึ้นไป โดยโกลกำลังจะหันมาพูดตอบ แต่โป้งลุกไปแล้ว

“นี่ไงพี่เขามาแล้ว.. อยากได้ลายเซ็นพี่เขาไม่ใช่เหรอ” คนเป็นแม่บอกกับลูกชาย

โป้งเลยย่อตัวลง เด็กชายจึงค่อยๆออกมาด้วยอาการขวยเขิน

“ว่ายังไงเทพพร.. อยากได้ลายเซ็นไหม” โป้งถาม

“ผมไม่ได้ชื่อเทพพรครับ พี่ต่างหากชื่อเทพพร” เด็กชายทำตาโต

“ได้ยังไง.. ก็นี่ไงเทพพร” โป้งดึงเด็กชายให้หันหลัง

“ชื่อติดตรงเสื้อตัวเบอร์เริ่ม..”

“ผมชื่อศตวรรษ” เด็กชายหันมาแย้ง..

โป้งหัวเราะเสียงใส

“เอ้า.. ศตวรรษก็ศตวรรษ.. ศตวรรษอยากได้ลายเซ็นเทพพรไหม” โป้งถาม

เด็กชายอ้ำอึ้งมองหน้ามารดา

“เขาชอบน้องโป้งมากเลยค่ะ อายุแค่สี่ขวบแค่นี้แต่บอกอยากจะเป็นนักฟุตบอลเหมือนพี่โป้ง.. พ่อเขาชอบดูฟุตบอลนะค่ะ” ผู้มารดากล่าว

“บอกพี่เขาสิว่าอยากได้ครับ”

เด็กชายก็เลยบอกออกมาด้วยเสียงเล็กๆ

“อยากได้ครับ”

โป้งเอามือลูบหัว

“แต่ก่อนอื่นถ้าพี่โป้งให้ลายเซ็นแล้ว ศตวรรษต้องสัญญากับพี่โป้งนะครับว่าจะออกวิ่งทุกเช้า หัดเดาะลูกบอลทุกวัน หัดเลี้ยงลูกบอลทุกวัน แล้วก็ต้องเรียนเก่งๆ”

คำสุดท้ายนี้ทำให้โกลต้องแอบหัวเราะดังหึๆ

“ครับ”

โป้งก็รับปากกามาจากเด็กชาย

“ตรงไหนดี.. ตรงหน้าผากดีไหม” โป้งทำท่าจะเขียนจริง เด็กชายเลยหลบ

“ไม่เอา.. เอาตรงนี้”

แล้วเขาก็หันหลังให้โป้ง โป้งก็เลยเขียนลงบนเสื้อด้านหลังตรงบริเวณใต้ชื่อตัวเขาเอง

โกลมองภาพโป้งเล่นกับเด็กชายแล้วเขาก็รู้สึกสุขใจ

พอโป้งเดินกลับมาเขาก็เลยกล่าวขึ้น

“ทำไมชอบเด็กๆ”

โป้งมองตามหลังเด็กชายที่เดินไปกับมารดาอย่างร่าเริง

“กูอยากมีน้องโกล.. แล้วก็เคยเกือบมี.. แต่เขาตายไปก่อนจะได้ลืมตาดูโลก” โป้งเล่าแววตาเขาเหม่อมองไปในอดีตมากกว่าภาพตรงหน้า

“มันเป็นจุดแตกหักของแม่กับพ่อเลยหละ ตอนนั้นแม่ท้องได้ประมาณสามเดือนกว่าๆ แต่วันนั้นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน แล้วพ่อก็พลั้งมือผลักแม่จนล้ม เลยเสียน้องไป หลังจากนั้นแม่กูไม่คุยกับพ่ออีกเลย พ่อก็ไม่ค่อยกลับบ้าน หายสองสามวันกลับที ที่สุดก็ต้องเลิกกัน”

“กูอยากมีน้องชาย.. กูอยากให้เขามาเล่นบอลกับกู เล่นกันทั้งวันสนุกดีออก” โป้งหันมายิ้มอย่างแจ่มใส

“แล้วถ้าเป็นน้องสาวหละ” โกลถามต่อ

“ก็ให้เล่นบอลด้วยไง.. นักฟุตบอลหญิงเยอะแยะ.. กูว่าถ้ากูเล่นได้ น้องก็ต้องเหมือนกู.. เรามันเลือดนักบอลเหมือนกัน” โป้งยังคงยิ้มอย่างร่าเริง..

โกลจึงขยับมากระซิบ

“งั้นเรามามีลูกด้วยกันไหม”

โป้งสะดุ้งหันมามองหน้า ตอบเสียงเบา

“เฮ้ยกูไม่มีมดลูกนะ หรือว่ามึงมีโกล”

โกลหัวเราะก่อนเบาๆ

“กูก็ไม่มี.. แต่เรามีลูกด้วยกันได้ ก็ทำแบบหลอดแก้วแบบตัวกูไงโป้ง หรือไม่ก็รับเด็กมาเลี้ยง”

โป้งทำหน้าคิด

“งั้นกูเอาสิบเจ็ดคนเลยนะ” เขากล่าว

“เฮ้ยเอามาทำไมเยอะแยะ เดี่ยวก็เลี้ยงไม่ไหว” โกลแย้ง

“อ้าว..ก็เอามาทำทีมฟุตบอลไง.. ตัวจริงบวกสำรอง.. สิบเจ็ดคนพอดี” โป้งหัวเราะเสียงใส



ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
กลับมาเที่ยวบ้านกันแล้ววว
โป้งนิสัยน่ารักดี 555
เอาเลย รีบๆมีลูกกัน พอเลิกเล่นกับสโมสรแล้ว ก็จะได้ตั้งทีมฟุตบอลของตัวเองเลย

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เขาหยอกกันน่ารักดี ชอบ ชอบ :o8:
จะมีลูกเยอะแบบตั้งทีมฟุตบอล มีทั้งตัวจริงและสำรองเลยหรอค่ะ โป้ง  :hao6:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อ่อย น่ารักเกินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
บวกแค่ตัวจริงกับตัวสำรองไม่ได้ต้องบวกโค้ชบวกสต๊าฟผู้ช่วยผู้จัดการทีมเข้าไปด้วยนะโป้ง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน พรีเมียร์ชิพ มุ่งมั่นเพื่อนัดแรก
            “ครับแม่” โป้งตอบตอนที่กำลังลื้อกระเป๋าเอาของที่ซื้อมาออกมา

            “แล้วข้าวของจะซื้อมาทำไมเยอะแยะ.. เงินน่ะลูก มันเก็บไว้ก็ไม่เสียหลายหรอก เดี่ยวนี้เราได้เงินเดือนเยอะก็จริง แต่อย่าลืมอาชีพนักฟุตบอลมันสั้นนะโป้ง.. เราต้องเก็บไว้เผื่ออนาคตเข้าใจไหม” วราพรกล่าวต่อ

            “โกล.. เราก็ต้องคอยเตือนโป้ง.. ไม่ใช่พากันใช้สุรุ่ยสุร่าย อย่างนั้นไม่ได้นะโกล.. โกลอายุมากกว่าต้องสอนโป้ง ต้องคอยดูแลควบคุมกัน เข้าใจไหม.. ไม่อย่างนั้นแม่จะฝากโป้งไว้กับโกลทำไม.. ก็หวังให้เราคอยดูแลโป้งนี่หละ”

            “ครับน้า” โกลตอบแล้วเอาของทั้งหลายมาวางเรียงกันเป็นระเบียบ

            แล้วจากนั้นสองหนุ่มก็ต้องฟังวราพรบ่นยาวเหยียดตามระเบียบ โดยตอบได้แค่สองคำ”ครับแม่” “ครับน้า”

            แต่โกลกลับรู้สึกอบอุ่นใจกับสิ่งที่วราพรบ่นเพราะนั่นคือการสะท้อนมาจากความเป็นห่วงเป็นใยของเธอ

           

            หลังจากเยี่ยมบ้านเพื่อรับการเติมแรงใจและคำสอนชุดใหญ่จากวราพรแล้ว สองหนุ่มก็เดินทางมากรุงเทพเพื่อมาเยี่ยมโรงเรียนเก่าคือนวสาคร

            บ้านของโกลยังคงเงียบเหงา ตอนที่โกลย่างเท้าลงมาจากแท็กซี่ สองหนุ่มเดินเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งอยู่ในสภาพเดิมไม่ผิดจากตอนที่จากไป แม้แต่ห้องนอนของโกล ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมไม่ผิดแปลกไป

            บ้านหลังนี้ยังคงเหมือนเดิมทั้งในกายภาพและความรู้สึกของโกล คือเป็นแค่ที่ซุกหัวนอน ผิดไปจากบ้านของโป้งที่เชียงราย ที่นั้นโกลรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านจริงๆ ทั้งที่นั้นไม่ใช่บ้านของเขา สุทธิชัยและวราพรก็ไม่ได้เป็นพ่อแม่หรือเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย

            แต่ความรู้สึกอบอุ่นใจที่สองก็มาสู่หัวใจโกลเมื่อเขาได้เข้ามาในห้องแต่งตัวของนวสาครวิทยาลัยอีกครั้ง

            แม้ตอนนี้ล๊อกเกอร์ประจำของเขากลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว ส่วนที่เคยเป็นป้องและกลายเป็นของโป้งต่อ ก็ย่อมต้องกลายเป็นของคนอื่นเช่นกัน

            ดังนั้นสองหนุ่มจึงต้องเอาสัมภาระใส่ไว้รวมกันที่ล๊อกเกอร์สำรองแทน

            โกลมองโป้งที่กำลังสวมร้องเท้า เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบนักฟุตบอลของนวสาคร ชวนให้นึกไปถึงตอนที่เขากับโป้งเข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันครั้งแรก

            “ตอนนั้นกูก็เอะใจนะว่าทำไมมึงต้องเขินกูด้วย” โกลกล่าวออกมา

            “หือ” โป้งหันมาทำหน้างง

            “อ้อ.. หมายถึงตอนเจอกันครั้งแรก” แล้วโป้งก็นึกออกเอง

            “ก็มึงไม่ถามกูกลับเองนี่หว่าว่ากูเป็นเกย์หรือเปล่า.. กูก็เลยไม่ได้บอก”

            “แต่กูชอบมึงตอนนั้นมาก เวลามึงอายแล้วน่ารักดี” โกลยิ้ม

            “ทำไมมึงไม่อายเหมือนเมื่อก่อนบ้างวะ กูอยากเห็น”

            โป้งหัวเราะหึๆ

            “ไม่ละ ตอนนั้นกูอายเพราะกูไม่ชินกับมึง.. เดี่ยวนี้รู้จักกันไปถึงไส้.. ไม่อายแล้ว” โป้งว่า แล้วเขาก็ลุกขึ้นทดสอบความแน่นหนาของรองเท้า

            “ไปเถอะน้องรออยู่”

 

            แม้ลูกที่เตะส่งมาให้จะแรงมากจนโป้งรับด้วยเท้าแล้วกระฉอกออก แต่ตัวผู้เล่นที่วิ่งมาบังทางเขาก็ยังไม่สามารถจะแย่งบอลไปได้  เพราะโป้งตามเข้าเอาตัวบังลูกไปไว้

            เขางัดลูกบอลให้ลอยจากพื้น แล้วเดาะมันข้ามไหล่ไปจากนั้นก็พลิกกายวิ่งหนีไปตามทิศทางที่ลูกบอลลอยไปตก

            โกลยิ้มออกมา เขารู้ว่าไม่ต้องรอนานหรอก เพราะต่อให้กองหลังฝ่ายเขากรูกันเข้าไปหมดทั้งแผงก็หยุดโป้งไม่ได้ เขาจึงเตรียมตัว

            แล้วเดี๋ยวเดียวโป้งก็หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ โกลก็พุ่งตัวออกไปหาทันที

            โป้งเห็นดังนั้นเลยยิงออกไปด้วยเท้าซ้าย แต่โกลก็ดึงตัวเองกลับอย่างฉับไว แล้วกระโจนเข้าตะครุบลูกไว้ได้ก่อนมันจะโค้งหนีมือ

            โค้ชป้อมอมยิ้มแล้วก็เป่านกหวีดยุติการแข่งขันซ้อมพิเศษที่มีสองนักฟุตบอลชื่อดังมาร่วม

            หลังจากนั้นโป้งกับโกลก็สอนเทคนิคต่างๆให้รุ่นน้องซึ่งมีนอกจากจะมี่นักฟุตบอลรุ่นใหม่ของนวสาครแล้วก็ยังมีเด็กในระแวกใกล้เคียงมาด้วย เพราะโรงเรียนเปิดให้พวกเขาได้เข้ามา แต่ก็เป็นไปอย่างเรียบร้อยเพราะทุกคนมาด้วยใจที่อยากเรียนรู้เทคนิคระดับทีมชาติจากโป้งและโกล

            “นายปอกำลังทำผลงานดีเลยหละ ตั้งแต่ไปอยู่ญี่ปุ่นก็ยิงให้ธันเดอร์เดียร์ไปหลายลูกแล้ว ส่วนนายไม้เมืองก็เล่นดีนะ เห็นสื่อเขาชมกันว่าปรับตัวได้ดีทั้งคู่” โค้ชเล่าเมื่อเดินร่วมกับสองลูกศิษย์และลูกทีมออกมาจากห้องพักอาจารย์พละ

            “ส่วนภูเก็ตยูเนียน.. ไม่เล่าดีกว่าไปดูเอง เพราะจะไปภูเก็ตกันอยู่แล้วนี่”

            “แล้ว..โค้ชเมื่อไหร่จะแต่งงานครับ” โป้งถามเป็นการถามรวบยอดถึงแฟนสาวของโค้ชด้วย

            โค้ชป้อมมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา

            “เราเลิกกันแล้วหล่ะ”

            “อ้าว..” ทั้งสองคนร้องออกพร้อมกัน

            “ก็เขามาบอกว่าเราสองคนมีชีวิตต่างกันมาก เขาบอกว่าฉันไม่มีเวลาให้ เพราะมัวแต่ยุ่งกับฟุตบอล” โค้ชป้อมกล่าวแล้วมองไปไกลๆ

            “ก็อ้างไปได้สารพัดนั่นหละนะ  แต่ก็เอาเถอะเขามีคนดูแลใหม่แล้วนี่”

            “ใครครับ” โกลถาม

            “อาจารย์สุรีวัลไง..” ป้อมเพชรตอบ

            สองหนุ่มอึ้ง ไม่แน่ใจว่าป้อมเพชรล้อเล่นหรืออะไรจึงได้แต่มองหน้ากัน

            “นี่ฉันพูดจริงๆ.. เขาสองคนคบกันอยู่ สวีทหวาน เลยหละ  แถมย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่นด้วยกันอีก.. ก็โอเคนะ.. อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปกับผู้ชายอื่น..” ป้อมเพชรพยายามคิดบวก

            “แต่ก็เสียศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ โดนหักเหลี่ยม.. ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆเลย”

            โป้งนิ่งอยู่นานก่อนจะสบตาโกลแล้วกล่าวออกไป

            “แต่โค้ชคือโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผมเลยนะครับ.. โค้ชฮัลเซย์อาจจะเก่ง โค้ชโยชินะก็มีความสามารถ บอสเซบาสเตียนก็เยี่ยม.. แต่โค้ชคือคนที่ผมนับถือนะครับ ที่นายตั้ม นายปอ นายจอม นายฉัตรแล้วก็คนอื่นๆรวมทั้งโกลด้วยกลายเป็นคนเก่งกาจขึ้นมาได้..ก็เพราะโค้ช.. โค้ชเริ่มจากศูนย์ ไม่มีอะไรเลย.. แต่กลับทำทีมเราไปจนชนะเลิศได้ตั้งหลายปี จนตอนนี้ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นนวสาครแล้วก็เพราะโค้ชนะครับ”

            ป้อมเพชรหยุดเท้าหันมามองหน้าลูกศิษย์.. แล้วเขาก็เอื้อมมือไปจับหัวโป้ง

            “เดี่ยวนี้นอกจะฝีเท้าระดับโลก ปากหวานชมคนอื่นเก่งเป็นด้วยนะเราน่ะ”

           

            สองหนุ่มไปข้ามถนนไปสั่งอาหารตามสั่งจากร้านประจำ โดยโป้งสั่งไข่เจียว ส่วนโกลสั่งข้าวผัด

            โป้งราดซอสจนชุ่มเหมือนเดิม

            “สงสารโค้ชนะ..” โป้งกล่าว

            “แต่อย่างว่า อย่างนี้อาจดีกว่า ฝืนแต่งงานกันไป.. เพราะถ้าฝืน.. แล้วไปด้วยกันไม่ได้.. ก็ไม่ดีใช่ไหมหละ” โกลกล่าวแล้วก็ถอนหายใจ

            “มันพูดยากว่ะ เรื่องแบบนี้”

          โป้งพยักหน้าช้าๆ ตักข้าวพร้อมไข่เจียวเข้าปาก

            “โอ๊ย.. ป้าอร่อยจัง.. ฝีมือดีขึ้นหรือเปล่า” โป้งร้องบอกเจ้าของร้านปากก็ยังเคี้ยวหยับๆ

            “เธอไม่ได้กินนานแล้วต่างหากมั้งนายโป้ง” เจ้าของร้านตอบแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

            โกลส่ายหัวแล้วก็ยิ้ม แต่พอเขากินข้าวผัดความรู้สึกมันก็ออกมาแบบเดียวกัน.. รสชาติที่เคยคุ้น.. มันช่างอร่อยนัก..

           

            สนามยูเนียน ออฟ ภูเก็ตแทบจะสะเทือนไหว เมื่อบรรณยิงประตูได้อย่างสุดสวยจากการเตะเปิดเข้ามาอย่างงดงามของก้านเพชร

            “ก้านมันเก่งขึ้นนะเนี่ย” โป้งปรบมือค้างตามองก้านเพชรวิ่งคืนสู่ตำแหน่งตัวเอง

            “หือ..” โกลหันมาทำตาขวาง

            “อะไรเล่า..แค่บอกว่ามันเก่งขึ้น” โป้งท้วง

           

            “ฮ่าๆ ดูๆ มันโตจนลุงจำมันไม่ได้แล้ว” อำนาจหัวเราะอย่างร่าเริงจับตัวโป้งหมุนไปหมุนมา

            “หล่อกว่าพ่อมันสมัยหนุ่มๆอีก.. นี่ตัวสูงขึ้นนิดนึงหรือเปล่า”

            “นิดเดียวเองลุงอ่ำ.. สูงขึ้นสองเซ็นต์” โป้งยกสองนิ้วประกอบ

            “เออๆ ไม่เป็นไร ตัวเล็กๆวิ่งเร็วๆ หลบเก่งๆไม่เป็นไร” อำนาจหัวเราะอีกอย่างมีความสุข

            แต่เดี่ยวก็เงียบไปน้ำตาซึม..

            “ถ้าพ่อเอ็งได้มาเห็นตอนนี้..มันคงดีใจ”

            โป้งหันไปสบตาโกล แล้วก็กล่าว

            “พ่อเขารู้อยู่แล้วหละลุง ที่สวรรค์เขามีถ่ายบอลเจลีก แชมเปี้ยนชิปก็ถ่ายนะ”

            “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ.. ฮ่าๆ” อำนาจหัวเราะออกมาอีก

            “เซบาสเตียน ชมมาว่าเราสองคนตั้งใจฝึกซ้อมมาก และก็มีส่วนทำให้ทีมเลื่อนชั้นได้ง่ายขึ้น..” ฮัลเซย์ที่นั่งอยู่ในใกล้กล่าว

            “เราสองคนต้องรักษาความดีอย่างนี้เอาไว้นะลูก” อำนาจมองหน้าโป้งและโกล

            “นักฟุตบอลน่ะ ขาดไม่ได้คือซ้อม ขาดไม่ได้คือฝึกฝน.. อย่าคิดว่าเราเก่งแล้วไม่ต้องฝึกแล้ว ไม่ได้เด็ดขาดนะ ยิ่งฝึกยิ่งเก่ง ยิ่งซ้อมยิ่งชำนาญ ยิ่งขยันยิ่งฟิต พวกเก่งๆในโลกสมัยนี้ แล้วเล่นได้นานๆอย่างไรอัน กิ๊ก สตีเฟ่น เจอราร์ด โรนันโด้ เมสซี่ พวกนี้เขาประสบความสำเร็จได้ด้วยความขยัน และรักษาร่างกาย”

            “ใช่..” ฮัลเซย์พยักหน้า

            “หมดสมัยนักฟุตบอลปล่อยตัวอ้วน แล้วอาศัยทักษะเฉพาะตัวแล้ว ฟุตบอลสมัยใหม่เขาวัดทีความฟิต ความสามารถและเล่นเป็นทีม”

            โป้งกับโกลมองหน้ากันแล้วตอบรับอย่างมั่นคง

 

            “โป้งที่รัก คิดถึงจังเลย” ก้านเพชรกล่าวแล้วก็เดินตรงเข้าสวมกอดโป้ง

            “โอ้โห ไม่เจอกันนาน พอหัวไม่เกรียนก็ยิ่งหล่อ ผมขอกลับมาจีบโป้งตามเดิมได้ไหม”

            โป้งหัวเราะ

            แต่โกลมองเขม่น แต่ที่เดินมาลากไปคือวู๊ด

            “มานี่ๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ เดี่ยวไอ้โกลมันก็ต่อยเอา” วู๊ดพูดเหมือนธรรมดา แต่ก้านเพชรสัมผัสได้ถึงแรงที่บีบที่แขน และแววตาคมกริบ

            เขาไม่กล้าร้องและถอยออกมาโดยดี

            ฉัตรจึงเดินเข้าไปหาโป้ง

            “เป็นไงบ้างเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกแล้วนี่”

            โป้งทำจมูกยู่..

            “ยังสักหน่อย.. แค่เลื่อนชั้นขึ้นมายังไม่ได้ลงพรีเมียร์เลย” โป้งตอบ

            "ว่าแต่มึงเถอะเดียวนี้เล่นดีมาก สปีดก็เร็วขึ้น จังหวะบอลก็ดีกว่าเก่า"

            “ก็เลียนแบบจากมึงนั่นหละ ทั้งจำเอาจากเมื่อก่อน แล้วก็เอาเทปมาดู..” ฉัตรยิ้ม  สำหรับฉัตร.. โป้งเป็นมากกว่าเพื่อนเก่า เขาเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเหมือนครูอีกคนหนึ่ง


            “ได้แล้วได้แล้ว..” ตั้มวิ่งมา

            “กูได้รถตู้มาแล้วไปเลย ไปคันเดียวไม่ต้องหลายคัน พวกไอ้ตั้นรอกันอยู่ที่ร้านเพื่อนของมึงที่เรียนด้วยกันก็มากันหมด”

                       

            การได้เจอเพื่อนเก่าเป็นสิ่งที่สร้างความสุขและทำให้ใจหายเหมือนกัน เมื่อพบว่าแต่ละคนก็เปลี่ยนแปลงกันไปหมดแล้ว พวกเขาไม่ใช่เด็กกันอีกต่อไป แต่ละคนเติบโตไปอีกระดับหนึ่ง ดังนั้นท่ามกลางบรรยากาศการเฮฮาปาร์ตี้ โป้งกับโกลก็อดนึกถึงความหลังไม่ได้..

            ตั้มขับรถมาส่งทั้งสองที่โรงแรมสไตร์บูติกขนาดเล็ก

            โกลเดินตามหลังโป้งเข้ามาถึงล๊อบบี้ ก็เห็นเขาหยุดดูเปียโนสีขาวหลังหลังหนึ่งอยู่

            “มึงเล่นดนตรีเป็นปะโกล”

            “เคยเล่นนะ มันต้องเรียนสมัยเด็กๆ” โกลตอบ

            “กูชอบดนตรีนะ เป็นอีกอย่างที่กูอยากทำ แต่ก็ไม่เคยทำสักที.. “ โป้งยิ้ม

            “มึงเล่นให้กูฟังหน่อยสิ”

            โกลมองรอยยิ้มนั้นแล้วก็เอามือจับหัวโป้ง

            “เอาไว้กูซ้อมดีๆ แล้วจะเล่นให้ฟัง”

            โป้งยิ้มกว้าง แล้วมองไปรอบๆตัว

            “โรงแรมนี้สวยนะ ตกแต่งน่ารักดี เจ้าของต้องชอบดนตรีแน่ๆเลย ดูของตกแต่งสิมีแต่โน้ต เครื่องดนตรีเยอะแยะเลย”

            “แต่ชื่อไม่ได้เข้ากันเลย.. ชื่อรักสายน้ำ”

            โกลรู้สึกสะดุดหูกับชื่อนั้น แต่พอเดินตามโป้งเข้าเพื่อจะไปยังห้องพัก พอดีเจอกับหญิงสาวที่เปิดประตูออกมา

            “อ้าว.. ก็เห็นเด็กบอกอยู่ว่ามีนักฟุตบอลมาพัก.. คือพวกสองเธอคนนี้เอง” หญิงสาวทักน้ำเสียงฟังดูสนิทใจกับพวกเขามาก

            “ดีใจนะ มีเด็กจากนวสาครมาพักที่นี่.. เดี่ยวลดให้อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลย”

            โกลขมวดคิ้ว..

            “จำน้าไม่ได้หละสิ.. น้าเป็นแม่ของไตรไงจำได้ไหม น้าจำเราสองคนได้ เพราะไปช่วยงานศพอยู่หลายวันเลย”

            โป้งร้องอ้อ..

            “โตขึ้นเยอะเลยนะ น้าไม่ได้เจอพวกเรากี่ปีแล้วเนี่ย..สี่ปีได้ไหม” หญิงสาวกล่าวแล้วพินิจหน้าสองหนุ่ม

           

            โป้งกำลังถอดเสื้อแล้วโยนไปพาดกับราว ก่อนเดินมาเอาผ้าเช็ดตัวคาดพุง

            หันไปเห็นโกลยืนขมวดคิ้ว

            “มีอะไรเหรอ..”

            “ที่มึงบอกว่าโรงแรมชื่อไม่เข้ากับการตกแต่งน่ะ กูว่าผิดวะ” โกลกล่าว เดินไปเปิดตู้เย็นมินิบาร์รินน้ำ

            เขายกแก้วมาเสมอหน้า

            “โรงแรมนี้ชื่อรักสายน้ำ แม่ของพี่ไตรเป็นเจ้าของ ไม่มากก็น้อยพี่ไตรต้องมีส่วนในการตั้งชื่อนี้แน่นอน”

            “รู้ได้ไง..” โป้งเอียงคอ

            “จุ๊ยแปลว่าน้ำ.. ภาษาจีน” โกลตอบ

            “รักสายน้ำ.. คือชื่อโรงแรมนี้ใช่ไหม”

            โป้งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเข้าใจ

            “มิน่าหละ..” โป้งตบมือฉาด

            “รักสายน้ำ ก็คือรักจุ๊ยไง”

            พอโป้งเดินเข้าห้องน้ำไป

            โกลก็เดินไปยืนที่ประตูกระจกมองออกไปที่ทิวทัศน์ภายนอก

            “ได้ยินว่าไอ้จุ๊ยไปเรียนอังกฤษนี่หว่า...”

           

            วันหยุดก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายลมที่พัดผ่าน

            โกลกับโป้งกลับไปถึงอังกฤษก็เริ่มต้นทุ่มเทกับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ตามคำสอนที่ได้รับมาจากอำนาจและฮัลเซ่ย์

            แล้วไม่นานฤดูกาลแรกของพวกเขากับลีกที่เป็นความฝันของเด็กหลายคนว่าจะได้มีโอกาสมาร่วมเล่นก็มาถึง พรีเมียร์ชิพของอังกฤษ

            แถมนัดนี้ยังเป็นนัดที่หนักหนา เพราะพวกเขาต้องไปเยือนทีมที่ถือเป็นอริร่วมเมืองถึงบ้าน.. สังเวียนใหญ่อันดับสามของลอนดอน...

             สนามไวท์ฮาร์ทเลนท์ เรือนเหย้าของท๊อตเน่ม ฮอตสเปอร์ เจ้าไก่เดีอยทองแห่งลอนดอน

            โกลวางขวดน้ำไว้ที่ข้างเสาด้านนอกประตูแล้ว ก็กวาดตาไปรอบสนาม..

            เด็กไทยส่วนใหญ่มักจะพูดถึงทีมอย่างแมนแชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนนอล.. แต่สำหรับโกล เสื้อสีขาวของทอตเน่ม ฮอทสเปอร์คือสิ่งที่โกลอยากจะสวมใส่

            แต่ในเมื่อเส้นทางไม่บรรจบ.. ก็ต้องขออภัยทีมที่รัก.. เพราะเขาจะไม่ยอมให้ลูกยิงของนักเตะคนใดผ่านประตูเข้าได้เด็ดขาด..

            โป้งรู้ดีว่าโกลเชียร์ทีมอะไรในอังกฤษ เขาหันมาเห็นโกลอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะรักแค่ไหน ในสีเสื้อของเทมส์ไซด์ เขาก็คือนายทวารผู้แข่งแกร่งที่จะต้องหยุดทุกลูกยิงให้ได้

            ตัวเขาเองก็เช่นกัน.. วันนี้คือวันแรกของการลงแข่งขันในลีกสูงสุดของอังกฤษ.. เขาจะทำให้ได้ เขาทุ่มเกินร้อย..

            เขาหันไปยิ้มให้โกลอย่างที่ทำประจำแล้วหันกลับมา พอดีกับเมอร์ลิน ดาร์นี่ กัปตันทีมหันมาสบตาเขา เขาก็ตอบรับด้วยการพยักหน้า

            นกหวีดของผู้ตัดสินให้สัญญาณเริ่มต้นการต่อสู้บทใหม่ของโป้งและโกล..

            เกมครึ่งแรกเริ่มต้นอย่างอึดอัด เหมือนนักเตะทั้งสองฝ่ายยังเกร็งกันอยู่  แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ด้านเจ้าบ้านก็เริ่มต้นเข้ามาใกล้ประตูจนกระทั้งโกลต้องออกแรง

            ลูกยิงของกองกลางตัวเก่งของเจ้าบ้านพุ่งมาเร็วจี๋ โกลใช้กำปั้นกระแทกมันจนลอยออกไปด้านหลัง

            นับเป็นการทักทายแรกที่หนักหน่วงใช้ได้เลย..

            “คนนี้ใช่ไหม..” ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ของยอดทีมแห่งลอนดอนถามกับผู้ช่วย

            “ที่บอกว่าเป็นเด็กไทย”

            “ใช่แล้ว.. ตอนเล่นในFIFA U20 เล่นได้โดดเด่นมากป้องกันลูกสำคัญให้ทีมชาติไทยรอดการเสียประตูได้หลายครั้ง” ผู้ช่วยตอบ

            เซบาสเตียนเริ่มนั่งไม่ติดเขาต้องลุกออกมายืนข้างสนาม เพราะยิ่งใกล้หมดครึ่งแรกทีมของเขาก็ยิ่งเสียเปรียบมากขึ้น

            ตอนนี้โกลทำงานหนักมากเพราะผู้เล่นของฝั่งโน้นดาหน้าเข้ามาด้วยวิธีการต่างๆ

            โป้งแทบจะก็ไม่ได้บอลเลย แถมยังต้องลงมาช่วยในเกมรับ แต่พอได้บอลจะสวนกลับ โดยบังทางไว้หมด ตอนนี้ลูกทีมของเขากำลังหลวมตัวไปติดกับดักของผู้จัดการทีมฝั่งตรงข้าม ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดนักวางแผนคนหนึ่ง

            พอได้จังหวะก็เลยเรียกตัวเมอร์ลินมาบอกวิธีแก้ไข แล้วก็ยืนกอดอกอยู่ข้างสนามเพราะเป็นจังหวะเตะมุม

            โกลมองลูกที่ลอยเข้ามาตรงกลางประตู เขาจับจังหวะแล้วอาศัยความสูงกระโดดชกลูกบอลให้ลอยออกไป

            โป้งมองลูกบอลอย่างตั้งมั่น เมื่อมันลอยมาเขาก็เลยคิดจะพักอกเพื่อเอาไปเล่นต่อ แต่ผลันก็มีร่างใหญ่โตเบียดมาอย่างรวดเร็ว

            กองหลังของฝ่ายตรงข้ามเบียดร่างเข้ามาจนโป้งเสียหลัก ลูกบอลจึงกระแทกตัวเขาแล้ว

            โป้งล้มลงแต่พยายามหันไปมองตามลูกบอล มันกระดอนไปเข้าทางของปีกขวาของท๊อดแน่ม

            ปีกขวาจอมยิงประตูได้ลูกก็ไม่รอข้า ง้างยิง..

            มิคาเอล วานโชเป้กองหลังตัวสูงวัยแต่มากประสบการณ์พุ่งเข้าบล็อกลูกยิงนั้นด้วยแผ่นหลัง

            ลูกบอลลอยโด่งขึ้นกลางอากาศ กองหน้าของสเปอร์อยู่ตรงนั้นพอดี จึงสปริงค์ตัวขึ้น

            แต่ก่อนหัวของเขาจะโดนลูกบอล..

            มือสวมถุงมือคว้าลูกไปอย่างรวดเร็ว

            โกลไม่รอช้า เขาขว้างลูกบอลออกไปอย่างแรง

            โป้งที่ลุกขึ้นแล้วเขาพุ่งตัวออกไปตามลูกบอลที่โกลขว้างมาอย่างสุดแรง

            แล้วโป้งก็ทันลูกที่วงกลมกลางสนาม เขาเลี้ยงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงมุ่งสู่กรอบเขตโทษ โดยมีกองหล้งของของทีมคู่แข่งตามมาอย่างสุดฝีเท้าแต่ก็ได้แค่ในระยะห่าง

            ผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้ามพุ่งตัวออกมาจนเลยกรอบเขตโทษเพื่อหมายจะหยุดหรือไม่ก็ชะลอบอล จังหวะนั้นเองโป้งที่อยู่บริเวณประมาณสามสิบหลาก็ง้างเท้าซ้าย

            นายทวารเห็นดังนั้นจึงชะงักเท้า แต่ทว่า

     กลายเป็นว่าโป้งไม่ได้ยิง เขาลดน้ำหน้กเท้าลงฉับพลัน แล้วก็แค่เตะออกไปเบาๆและเลี้ยงบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษ

            “อะไรวะ” ผู้รักษาประตูร้องอย่างหัวเสีย เขาตัดสินใจพุ่งตัวออกไปอีก

            แล้วทันใดโป้งก็สับไกยิงทันทีด้วยเท้าขวา..

            ผู้รักษาประตูจึงได้เพียงสัมผัสถึงแรงลมตอนลูกเดินทางอย่างรวดเร็วผ่านหน้าเขา

            พอเขาหันหลังไปก็เห็นมันกระแทกกับตาข่ายเรียบร้อย และรูดลงมานอนก้นตาข่าย..

            อีกาขาวคือสมญาของทีมเทมส์ไซด์ กองเชียร์อีกาขาวแผดเสียงเฮขึ้นลั่นสนามจนกลบเสียงนกหวีดของกรรมการ

            ไม่ใช่แค่ในสนามไวท์ฮาร์เลนเท่านั้น.. แต่ยังมีเสียงเฮเสียงเล็กๆที่กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี.. เด็กชายในชุดแข่งของเทมส์ไซด์วิ่งไปรอบชุดรับแขกโดยมีคุณพ่อมองตามอย่างมีความสุข

            “พี่โป้งสุดยอดเลย” แล้วเด็กชายศตวรรษก็หันเข้าหาจอทีวี เหยียดแขนยกนิ้วโป้ง..

            “โป้งๆๆ”

            บิดาของเด็กชายหันสบตาภรรยาอย่างมีความสุข..


            ในกรุงเทพมหานคร เด็กชายวัยเพียงสิบสี่เดินเรื่อยๆมาตามถนน เขารู้สึกว่าทุกก้าวอย่างหนักอึ้ง และร่างกายก็อ่อนล้าเหลือกำลัง

            ก็แน่อยู่แล้ว.. เพราะเขาพึ่งจะเลิกจากการเล่นบาสเก็ตบอลอยู่คนเดียวร่วมสามชั่วโมง.. มีแต่มันนี่หละที่ทำให้เขาสงบใจลงได้บ้าง..

            “โง่อย่างมึง เรียนไปก็ไม่มีประโยชน์” นั้นคือเสียงพ่อตวาดเมื่อได้เห็นผลการสอบกลางภาคของเขา

            “โง่ผิดพี่ผิดน้อง..”

            เขาอยากจะเก่งเหมือนพี่ชายและพี่สาว อยากทำให้พ่อมีความสุขเหมือนกัน พี่ชายคนโตเป็นกำลังจะเป็นนายแพทย์ ส่วนพี่สาวก็เรียนด้านเภสัช เขาก็อยากเรียนให้เก่ง แต่เรียนอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักที..

            หัวของเขาคงจะมีแต่ขี้เลื่อยอย่างที่พ่อว่านั่นหละ

            “จังหวะนี้.. เข้าไปแล้วครับ.. สุดยอดเลย.. เป็นหลอกที่ร้ายกาจมากครับ” เมื่อได้ยิน เขาก็เร่งฝีเท้าไปหน้าจอที่ทีวีของร้านขายของชำ

            แล้วภาพที่เขาได้เห็นก็คือชายหนุ่มในชุดสีดำขริบแดงของทีมเยือน วิ่งเหยาะๆกลับมาที่แดนตัวเองโดยมีเพื่อนร่วมทีมมาดีใจด้วย         

            แล้วก็ฉายภาพรีเพลย์ ร่างปราดเปรียววิ่งไปข้างหน้า จังหวะเท้าที่เลี้ยงบอลเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้เขาวิ่งทิ้งคู่แข่งที่ไล่ตามมาจนหมด

            ดังกับนกที่เหินลมอย่างเสรี.. เทพพร.. โป้ง.. ทำไมพี่เขามีความสุขนัก..

            “พี่เขามีความสุขมากเลย..” เด็กชายกล่าวออกมา

            “ก็เพราะพี่เขาได้ทำในสิ่งที่รักไงหละ” เสียงหนึ่งดังจากข้างตัว

            เด็กชายหันไป เขาตาโต.. เขาจำชายคนนี้ได้แม่นยำ.. การุณ วิจิตรประสงค์กุล อดีตนักบาสเกตบอลทีมชาติไทย  เขาอยู่ในชุดวอร์มแสดงว่าพึ่งเสร็จจากการออกกำลังกายเหมือนกัน

            “ถ้าคนเราได้ลองทำในสิ่งที่เรารัก เราก็จะรู้สึกเป็นสุข.. ก็เหมือนกับที่เธอเล่นบาสคนเดียวได้เป็นชั่วโมงนี่อย่างไร..”

            เด็กชายค่อนข้างแปลกใจ

            “พี่เห็นเราเล่นอยู่คนเดียว.. นึกอยากจะเข้าไปเล่นด้วยนะ แต่ดูเหมือนเราจะมีอะไรในใจเลยคิดว่าปล่อยให้เล่นไปคนเดียวดีกว่า..” ชายหนุ่มอธิบายแล้วยิ้ม

            “พี่กำลังจะฟอร์มทีมบาส.. สนใจไหมหละ..”

            เด็กชายมองลูกบาสเก็ตบอลที่ใส่อยู่ในถุงเนตในมือ

            “แต่พ่อคงไม่ชอบ” เขากล่าวออกมาเสียงเศร้าๆ

            “ก็ลองคุยกับท่านดู.. ไม่อย่างนั้นก็คุยกับผู้ใหญ่คนอื่นที่เข้าใจเรา.. ให้ช่วยคุยกับพ่อให้” แล้วชายหนุ่มก็ตบบ่าเด็กชาย

            “พี่เป็นครูอยู่ที่นวสาครนะ ถ้าอยากเล่นก็ไปหาพี่ที่นั้น.. พี่ชื่อ”

            “พี่การุณ..ผมชื่อ แอร์ครับ” เด็กชายตอบออกมาเสียก่อน

(ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้นิดเดียว เพื่อปูพื้นฐานเรื่องใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างพล๊อตครับ นี่จะเป็นงานเขียนเกี่ยวกับกีฬาเรื่องใหม่ที่จะเขียนหลังจากจบเรื่องโป้งกับโกลแล้ว.. วางชื่อไว้คร่าวๆว่า “Air Walker.. เหินฟ้าล่าฝัน” เรื่องนี้วางไว้ว่าพระเอกของเราจะมีความสามารถของอดีตยอดนักบาสเก็ตบอล ไมเคิล จอร์แดน คือท่า Air Walk ที่อัศจรรย์.. แต่คงจะพล๊อดนานหน่อย เพราะผมเป็นแค่ผู้ชมบาสเก็ตบอล ไม่ค่อยได้เล่นจริงๆ ต้องขอเก็บข้อมูลนานนิดหนึ่ง ซึ่งก็พอดีกับเรื่องโป้งจบนั้นหละครับ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2016 09:41:58 โดย Andylover »

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
แมทช์แรก ขอให้ชนะนะโกลโป้ง สุดยอด!

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ฟินมากเลย...เชียร์ โป้ง โกล  :mc4: สู้สู
บรรยายได้เห็นภาพเหมือนนั่งติดข้างสนาม จากที่เฉยๆเริ่มจะชอบฟุตบอลขึ้นมาแล้วซิ  :o8:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน ก้าวย่างของนักเตะอาชีพ..


             

             เข้าสู่ครึ่งหลังทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ก็ส่งตัวรุกลงมาเพิ่มอีกสองคน เพื่อยิงประตูให้คืนได้ แต่แทนที่เซบาสเตียนจะเปลี่ยนตัวรับลงไป เขากับส่งตัวรุกอย่าง ลี กอร์ดอนลงมาแทน  ทำให้เป็นการเปิดเกมแลกกันระหว่างสองทีมแห่งลอนดอนในศึกลอนดอนดาร์บี้แม็ตท์

            ปกติโกลจะนับว่าเขาเซพประตูไปกี่ครั้งแล้ว แต่นัดนี้การนับก็เริ่มจะไร้ประโยชน์

            ช่างแม่ง.. แล้วโกลก็กระโดดทุบลุกยิงที่โค้งข้ามกำแพงมนุษย์ของเพื่อนร่วมทีมกระดอนออกไป

            ไม่นับแม่งแล้ว...

            “กำแพงเหล็กแห่งสยาม..” แดนเนียล คาร์เตอร์กล่าว เขาได้ยินสมญานี้มาจากทีมนารา สมกับสมญานามนี้จริงๆ

           

            เวลางวดเข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว เซบาสเตียนเตรียมจะเก็บโป้งไว้สำหรับนัดต่อไป แต่ระหว่างที่เขากำลังปรึกษากันอยู่นั้นเอง

            เสียงนกหวีดยาว แล้วก็เกิดความวุ่นวายขึ้น

            เมอร์ลีนรีบวิ่งจากกลางสนามไปลี กอร์ดอน ที่ทำท่าฮึดฮัดจะเอาเรื่องคนที่พุ่งเข้าเสียบเขาด้วยสองเท้า

            แต่ยังดีที่โป้งเห็นก่อนเลยขวางเอาไว้

            “ใจเย็นเพื่อนใจเย็นๆ” โป้งกางมือขวางไว้ด้วย เพราะลี กอร์ดอนและกองหลังของสเปอร์ตัวโตกว่าเขาทั้งคู่ทำให้เป็นภาพที่น่าขันอยู่เหมือนกัน เพราะโป้งตัวนิดเดียวแต่ยืนห้ามยักษ์สองตนกำลังทะเลาะกัน

            “จะเปลี่ยนเลยไหมครับ” ผู้ช่วยถามกับเซบาสเตียน

            เซบาสเตียนยกมือห้ามไว้

           

            โป้งยืนอยู่หลังลูกบอล ยืนท้าวสะเอวมองทีมคู่แข่งจัดกำแพง

            พอทุกอย่างเข้าที่ กรรมการก็เป่านกหวีด

            โป้งวิ่งเข้าหาลูก.. แต่แล้วพอถึงลูกบอล เขากลับวิ่งข้ามไป

            กำแพงของท๊อตแน่มไม่หลงทาง ยืนปักหลักรอ

            ลี กอร์ดอนวิ่งตามมาแล้วก็ง้างเท้า.. แต่พอจะโดนลูกเขากลับเตะไปข้างๆ

            หลอกสองชั้น

            ลูกบอลไปถึงโป้งที่วิ่งหลอกแล้วไปยืนอยู่ไม่ห่างไป เขาเตะลูกดัวยเท้าซ้ายส่งลูกบอลทะยานโค้งขวาข้ามหัวกำแพงที่แตกตัวเพราะความสับสน

            “บ้าชะมัด..ไอ้เด็กนี่” ผู้รักษาประตูพุ่งออกไปหมายจะป้องกัน

            มือของเขาถึงระยะของลูกฟุตบอล.. ทว่า.. ลูกบอลไม่ใช่แค่โค้ง แต่ยังมุดลงด้วย..

            ลูกบอลจึงลอดไปใต้มือของผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน มันกระแทกพื้นหลังเส้นประตู แล้วกระดอนไปกระทบตาข่ายทำให้กระพือไหวไปทั้งผืน..

            เหมือนดังอัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือนที่เกิดการกระเพื่อมไหวเพราะแฟนบอลThe White Crow กระโดดโลดเต้นส่งเสียงดีใจอย่างลิงโลด..

            เซบาสเตียน บัลเดอร์กอดอกพอใจ..

            จบเกม.. เสียงเฮเป็นของฝ่ายทีมเยือน ด้วยประตูชัยทั้งสองลูกของโป้ง เทพพร..

           

          ที่สุดสองหนุ่มก็ตัดสินใจย้ายของออกจากอพาร์ทเม้นเก่าที่สองคนอยู่มาตั้งแต่มาถึงลอนดอนเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่ เดวิด โอเลียร์ลี่ เอเจนซี่ที่ดูแลพวกเขาต่อจากสุขีหาให้

            สำหรับโกลกับโป้ง ตอนนี้พวกเขาคือนักเตะพรีเมียร์ชิพอย่างเต็มตัว แม้สามฤดูกาลที่ผ่านมาเทมส์ไซด์จะยังไม่ได้แชมเปี้ยนในรายการใดๆ แต่พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ ก็จบด้วยตำแหน่งที่สิบ ฤดูกาลที่สองอันดับดีขึ้นมาเป็นที่หก และในฤดูกาลที่ผ่านมาสร้างความประหลาดใจด้วยการจบด้วยอันดับสี่ ได้สิทธิไปแข่งยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก รายการฟุตบอลสโมสรถ้วยสูงสุดของยุโรป   

     และก็เช่นกันสัญญาใหม่ของพวกเขาที่มาทดแทนสัญญาฉบับเดิมค่าเหนื่อยของพวกเขาจึงเพิ่มจากเดิมราวๆ 4800 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยโป้งได้ค่าแรงที่ 39000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ส่วนโกลได้ที่ 29000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

            และด้วยค่าแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้พวกเขาตัดสินใจเช่าบ้านหลังที่มีบริเวณเพื่อความเป็นส่วนตัว และอยู่ห่างจากศูนย์กลางกรุงลอนดอนที่แออัด ซึ่งแม้จะไกลออกมาแต่ก็มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่เดิมและเป็นชุมชนที่น่าอยู่ใช้ได้และให้การต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี

            โกลอ่านนิยายแนวสืบสวนที่เขาชอบอยู่ มองไปอีกทีก็เห็นโป้งยังคงเล่นฟุตบอลร่วมกับเด็กท้องถิ่นวัยแปดเก้าขวบอย่างสนุกสนานในลานกีฬาของท้องถิ่น

            ถ้าจะนับจากวันที่พวกเขาก้าวมาเป็นนักเตะอาชีพ นี่ก็เกือบเจ็ดปีแล้ว แต่โป้งยังคงเป็นไอ้โป้งคนเดิมที่ร่าเริงและตื่นเต้นอยู่เสมอ  ยังชอบใช้เวลาในวันหยุดกับฟุตบอลอย่างไม่เบื่อหน่าย

            ซึ่งโกลคิดว่ามันคงขาดใจตายถ้าหากไม่ได้อยู่กับฟุตบอล เพราะแม้ปีก่อนที่โป้งเจ็บไปเดือนเต็มๆ โป้งก็ยังอุตส่าห์ซ้อมทักษะที่ตัวเองขาดคือเล่นลูกบอลด้วยหัว.. นั่นเองกระมั้งที่ทำให้โป้งซึ่งเป็นผู้เล่นแนวรุกแต่ไม่ได้เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า เป็นรองดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก

            ส่วนโกล เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน.. หรือพัฒนาไปหรือเปล่า.. แต่ก็คงจะต้องเก่งขึ้นเพราะปีที่แล้วเขาเป็นผู้รักษาประตูที่มีสถิติClean Sheet มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก และประเทศอังกฤษ

            โกลถอนหายใจแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ แต่สักครู่ใหญ่ก็ถูกขัดจังหวะเพราะกลิ่นเหงื่อกับเสียงที่ดังรอบตัว

            พอเงยหน้าก็เห็นโป้งกับเด็กๆหลายคนมายืนล้อมเขาอยู่

            “โกล.. กูสัญญากับเด็กๆว่าจะพาไปเลี้ยงถ้าหากแพ้.. แล้วกูแพ้เด็กๆ” โป้งกล่าวทั้งเหงื่อเต็มหน้า

            โกลขมวดคิ้ว

            “มึงเนี่ยนะแพ้เด็ก..” โกลถามย้ำ

            “เออ.. สิเด็กๆเขาเก่งนะ.. กูเล่นสู้ไม่ได้เลย” โป้งหัวเราะแล้วเอามือวางบนหัวเด็กคนหนึ่ง

            โกลถอนหายใจ..

            “เอาๆ ไป.. ร้านใกล้ๆแถวนี้ ก็พอนะ.. ไปไกลไม่ไหวหรอก.. หลายคนจัด” โกลตอบเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้เด็กๆฟังกันรู้เรื่อง

            พวกเขาจึงพร้อมใจกันเฮ รวมทั้งนายโป้งด้วย

 

            ในร้านอาหารท้องถิ่น โกลรู้สึกเหมือนตัวเองพาเด็กทั้งโขยงมานั่งกินอาหารกันเพียงลำพัง เพราะเจ้าโป้งก็กลายเป็นเด็กไปด้วยอีกคนหนึ่ง

            “พวกคุณน่ารักจังเลยนะครับ” พนักงานเสริพกล่าวเมื่อเข้าเช็คบิล

            โกลมองหน้าตอนนับเงินตามจำนวนที่แสดง

            “พาเด็กๆมาเลี้ยงทุกเดือนเลย.. คราวนี้ในโอกาสอะไรครับ”

            “นายโป้งเขาเล่นฟุตบอลแพ้เด็ก” โกลตอบแล้วเอาใส่แบงค์เพิ่มไปจากจำนวนเพื่อเป็นทิป

            “ได้ยังไงกัน” พนักงานเสริพหนุ่มเอามือทาบอก เขาเป็นเกย์แสดงออก

            “มิสเตอร์โป้งที่ปราบมากองหลังมาแล้วเกือบทุกทีมในลีกนี่เหรอครับ..”

            โกลหันไปมองโป้งโดนเด็กรุมล้อมแกล้งอย่างสนุกสนาน

            “สกิลมันลดลงเกินครึ่งเวลาเจอเด็กๆ” โกลตอบแล้วก็ยิ้ม

            พนักงานหนุ่มมองแววตาของโกลแล้วก็ยิ้มบ้าง

            ถึงแม้จะไม่เปิดเผย แต่โกลกับโป้งก็มีชีวิตด้วยกันอย่างสนิทสนม.. ชายหนุ่มเชื่อว่าหลายคนรอบตัวเขาน่าจะทราบ

            แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังต้องแอบภาวนาให้เขาสองคนไม่โดนสื่ออังกฤษขุดคุ้ย.. พวกเขาช่างน่ารักกันเหลือเกิน.. ถ้ามีอะไรทำให้ทั้งสองมีปัญหา เขาคงพลอยเศร้าใจไปด้วย..

 

            แต่ปีนี้ฤดูกาลของพวกเขาเริ่มต้นเร็วกว่าทุกปี.. ไม่ใช่แค่เพราะต้องแข่งรอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เพราะหน้าที่ในฐานะทีมชาติไทยเรียกร้องให้พวกเขากลับไปทำหน้าที่

            ป้อมเพชรนั่งดูการถ่ายทอดสดนัดนี้เพียงลำพังในห้องคอนโดมิเนียม

            “เข้าไปแล้วครับ.. ปรเมศวร์ยิงอย่างสุดสวยจากการเปิดเข้ามาของเทพพร.. เป็นการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมของอดีตเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน.. นี่ขนาดไม่ได้เล่นด้วยกันนาน แต่สบตาก็รู้ใจจริงๆ” ผู้บรรยายออกเสียงอย่างตื่นเต้น

            ป้อมเพชรมองภาพลูกทีมเก่าของเขาด้วยหัวใจที่เต็มตื้อ.. โป้งกับโกลไม่ต้องพูดถึง.. ว่าระดับของเขาก้าวไปไกลขนาดไหน ปอก็พิสูจน์ตัวเองในเจลีกด้วยเป็นการติดหนึ่งในสามดาวซัลโวสูงสุดของลีก อัครทำประตูได้มากใด้มากในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกแม้จะยังอยู่ใต้ร่มเงาของบรรณกับท๊อปคู่ศูนย์หน้าของทีมแชมป์ปีที่แล้วภูเก็ต ยูเนี่ยน ซึ่งก็เป็นทีมที่มีวู๊ดกับตั้มเป็นผู้เล่นตัวสำค้ญเช่นกัน..

            ภาพเก่าๆที่เห็นพวกเขาหยอกล้อกันในห้องแต่งตัวยังคงเป็นความทรงจำที่ดี.. ตอนนั้นพวกเขายังเด็กกันมาก แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งและเก่งกาจกว่าตัวป้อมเพชรเองเสียอีก..

            ความภาคภูมิใจสูงสุดของความเป็นครู คือการเห็นลูกศิษย์ก้าวหน้าไปยิ่งกว่าตนเอง.. วันนี้ป้อมเพชรได้ประจักษ์แล้ว...

 

            เสียงเชียร์ที่สะท้านทรวงของแฟนบอลของยอดทีมแห่งอิตาลีดังสนั่นหวั่นไหว

            จูเวนตูส สเตเดียม สังเวียนใหญ่แห่งเมืองตูรินกึกก้องไปด้วยเสียงของกองเชียร์ที่เข้ามาแออัดกันเต็มความจุของสนาม ธงสีขาวสลับดำของจูเวนตูส ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งของอิตาลีโบกสะบัด

            “เทมส์ไซด์ พึ่งจะปฏิเสธข้อเสนอของทีมใหญ่ๆ ที่ยื่นให้สำหรับเทพพร ราวๆ ยี่สิบแปดล้านยูโร ส่วนโกลที่สิบแปดล้านยูโร พวกเขาบอกว่าสองคนนี้มีความสำคัญกับทีมมาก” ชายวัยสี่สิบปีกล่าวกับชายอีกคน สองคนนี้คือผู้บริหารของทีมชั้นนำทีมหนึ่งในพรีเมียร์ลีกที่ติดตามมาดูฟอร์ม

            “แปลว่าถ้าเราต้องการเขาย้าย ก็ต้องเสนอมากกว่านั้นสินะ”

            จูเวนตูสเป็นทีมใหญ่ที่มีเกียรติประวัติยาวนานของลีกกัลโช่ ซีเรียอาร์ แห่งอิตาลี  ที่นี้คือบ้านของพวกเขา และเจอกับเทมส์ไซด์ที่เป็นทีมเล็ก แน่นอนคำว่าปรานีปราศรัยจึงไม่มี

            ด้วยตัวผู้เล่นสุดยอด พวกเขาเดินเกมรุกอย่างกับพายุ โจมตีเข้าใส่เทมส์ไซด์อย่างหนักหน่วงเหมือนเป็นการรับน้องใหม่ให้แก่ทีมที่พึ่งได้สัมผัสกับเกมในระดับยุโรปในสมัยใหม่เป็นครั้งแรก

            แต่การวางหมากของเซบาสเตียนก็เป็นไปอย่างรัดกุม ทำให้แม้จะมีการถ่ายเทลูกบอลไปอย่างแม่นยำและรวดเร็วเพียงไร ก็ยังไม่สามารถเจาะเกมรับของเทมส์ไซด์ แม้ผ่านไปได้ ปราการเหล็กแห่งสยามก็จัดการได้ไม่ยากเย็น

            และเมื่อทำประตูไม่ได้ และเสียงเชียร์เริ่มกลายเป็นการกดดัน.. กองกลางหนุ่มของทีมแห่งตูรินก็ผิดพลาดเสียเอง

            โป้งบังทางของเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถจ่ายลูกบอลไปในทิศทางที่ต้องการ เลยต้องเปลี่ยนใจหันไปเตะออกไปด้านขวาที่เขาคิดว่าโล่งกว่า

            แต่จังหวะที่เขากำลังจะเตะ โป้งก็เขามากดดันด้วยการเข้ามาจะแย่งลูก หนุ่มวัยเท่ากันกับโป้งจึงต้องรีบออกบอล..

            แต่ลูกที่เขาเตะมันสั้นเกินไป.. โซล คันนิ่งเกอร์ กองกลางตัวรุกจับทางได้ วิ่งเขามาตัดทางของลูกบอลแล้วพามันวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

            โซล คันนิ่งเกอร์ มีความเร็วพอสมควร จึงพาลูกไปผ่านวงกลมกลางสนามมาได้อย่างไม่ยากเย็น ทว่าข้างหน้าเขามีกองหลังชองจูเวนตูสขวางอยุ่ โซล คันนิ่งเกอร์ ทำท่าจะเลี้ยงบอลไปทางด้านขวา แต่กลับก้าวข้ามลูกบอลแล้วตอกส้นไป

            ลูกบอลที่กลิ้งมาคือเป้าหมายของผู้เล่นแนวรุกหนุ่ม เขาเตะมันออกไปข้างหน้าด้วยน้ำหนักพอดีกับจังหวะเท้า สร้างการเลี้ยงบอลที่รวดเร็วแต่ไม่ห่างตัวเกินไปจนทำให้คู่ต่อสู้ที่พยายามจะเขาสกัด ไม่กล้าเข้าพลีพลามแย่งเพราะกลัวเป็นการฟาลว์

            รวดเร็วและปราดเปรียว พริบตาก็ถึงเส้นหลัง โป้งเหลือบตาทีเดียวเห็นเพื่อนอยู่ในตำแหน่งแล้ว เขาจึงเตะลูกโด่งโค้งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ

            ฮัน อาริเย่ห์ ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสของเทมส์ไซด์ กระโดดโถมตัวโหม่งเต็มหัว

            ผู้รักษาประตูตั้งหลักได้ ก็บล็อกไว้ด้วยสองแขน แต่แรงของลูกทำให้มันกระดอนไปด้านช้ายของสนาม

            โป้งที่วิ่งตามเข้ามา แตะรับลูกบอลอย่างมั่นคง

     ตัวกองหลังริมเส้นด้านขวาของทีมคู่แข่งก็รีบพุ่งเข้ามาล้มตัวสกัด

            แต่เท้าของโป้งเร็วกว่า เขาเตะลูกออกไปข้างหน้าให้มันพ้นจากการสกัดแล้ว แล้วเขาก็กระโดดข้ามตัวของกองหลังที่ล้มตัวอยู่ไป

            ตรงนี้เป็นจุดที่ยิงได้ยาก.. เพราะเป็นจุดที่เรียกว่ามุมแคบแถมมีผู้รักษาประตูขวาง แต่โป้งก็ตัดสินใจ..

            เขาวางเท้าขวาเป็นหลักแล้วตวัดเท้าซ้ายยิงทันที

            ด้วยความแรงและระยะที่ใกล้.. ลูกบอลจึงผ่านมือของผู้รักษาประตูเข้าไปกระแทกตาข่ายในประตูอย่างรุนแรง

            โกลแม้จะมองอยู่จากระยะไกลก็ยังอดแสดงอาการดีใจไม่ได้  เจ้าโป้งของเขาทำประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ลีกได้แล้ว...

 

            จุ๊ยถือสะพายกล่องแซกโซโฟนออกมาจากโรงมหรสพที่เขาพึ่งจะเสร็จจากการแสดง ในฐานะนักดนตรีฝึกหัดของวงออเครสตร้าระดับโลกแห่งกรุงลอนดอน เขาจึงทุ่มเทกำลังไปเกินร้อยสำหรับการแสดงของเขา

            แต่กระนั้นเมื่อแยกกับชายหนุ่มชาวฮ่องกงที่เป็นเพื่อนร่วมวงแล้ว เขาก็รีบเอาโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูผลฟุตบอล เพราะวันนี้เป็นวันที่มีรายการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

            เขาโปรแกรมทวีตเตอร์ แล้วรีบเลื่อนหน้าจอจนกระทั้งเจอข่าว..

            รูปโป้งที่วิ่งกำลังเตะลูกอยู่หน้าประตูและแคปชั่นที่ว่า

            เทพพรยิงสองประตูสุดสวย เทมส์ไซด์ชนะสองประตูต่อศูนย์..

            จุ๊ยยิ้มออกแล้วก็เดินผิวปากเป็นเพลงคลาสสิกที่ติดปากอย่างสบายใจ..

 

            โกลสะดุ้งขึ้นสุดตัวเพราะโป้งตะโกนออกมาด้วยเสียงดัง..

            แต่พอลุกขึ้นมาปรากฏว่าไอ้ตัวแสบมันละเมอ เขาจึงส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ..

            คงเพราะฝันแฟนตาซีไปตามเรื่องของมันทำให้มันนอนดิ้นจนผ้าห่มหลุด โกลเลยจัดท่านอนให้ใหม่แล้วก็ห่มผ้า

            ก็สมควรแล้วจะเหนื่อย เพราะโปรแกรมช่วงคริสมาสต์ต่อปีใหม่ที่เรียกได้ว่าโหดทมิฬของพรีเมียร์ลีกพึ่งผ่านไป แล้วไอ้โป้งก็ลงเป็นตัวจริงทุกนัด จนกระทั้งนัดสุดท้ายที่โกลพึ่งจะได้เห็นความเหนื่อยอ่อน นี่ถ้าไม่ใช่ไอ้บ้าพลังนี่ ก็คงง่อยเปลี้ยไปแล้ว

            โกลเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา แล้วลงมาเปิดประตูบ้านเพื่อหยิบหนังสือพิมพ์และนมสดที่วางไว้คู่กันอย่างมีระเบียบเพราะคนส่งเป็นเจ้าเดียวกัน

            “ลือหนัก.. ทีมยักษ์ทุ่มสิบห้าล้านแย่งตัวเทพพร” นั่นหัวแรก

            “บาร์ซ่าเสนอสิบล้านหวังดึงกรกฏเฝ้าเสา” นั่นหัวที่สอง

            โกลกับโป้งเป็นข่าวอย่างนี้มาโดยตลอดตั้งแต่พวกเขาเริ่มต้นปรับตัวจนเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้ แต่ข่าวก็ไม่ใช่ไร้สาระซะทีเดียว.. จริงๆเอเจนซี่ก็มักจะแจ้งข่าวแบบนี้เข้ามาก่อนหน้าหนังสือพิมพ์จะทราบ แต่ที่พวกเขายังไม่ได้ย้ายไปไหนเหตุผล หนึ่งคือเซบาสเตียน บัลเดอร์ไม่ต้องการขายพวกเขาไป และสองคือพวกเขาก็ยังไม่ได้อยากย้าย

            เสียงกดกริ่งเรียกโกลกลับมาจากห้วงความคิด

            เขาลุกไปเปิดประตู

            “มิสเตอร์โกลดี้” เด็กชายทักด้วยรอยยิ้ม เขาคือเด็กชายริชาร์ต หนึ่งในเด็กที่มักจะเล่นกับโป้งบ่อยๆ

            “ไฮ รีชชี่” โกลไม่ลืมจะย่อตัวลง เพราะรู้ดีว่าความสูงของเขามักจะทำให้เด็กต้องเงยมองจนเมื่อยคอ

            แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆอีกคน

            “มีสเตอร์โกลดี้ คุณพ่ออยากจะชวนคุณไปร่วมงานของชุมชน”

            โกลเงยหน้ามองบิดาของเด็กชาย เขามีดวงหน้าแบบผู้ชายอังกฤษทั่วไป แต่ยิ้มอย่างสดใส

            “พวกเขาจะจัดงานประจำปีของชุมชน ที่จัดทุกปี.. ก็คงจะเป็นงานแฟร์เล็กๆ วันอาทิตย์นี้หละ..”

            โป้งมองปฏิทินแล้วตักไข่เจียวหมูสับคำใหญ่ใส่ปาก

            อาทิตย์นี้.. มีโปรแกรมเอฟเอคัพ แต่โป้งกับโกลได้พักเพราะเซบาสเตียนบอกว่าจะจัดชุดเด็กลงเนื่องพบกับทีมจากลีกระดับต่ำกว่าถึงสามขั้น แถมเป็นที่คราวน์ ราเวนด้วย พวกตัวจริงที่กรำศึกมานานอย่างโกลที่เป็นผู้รักษาประตูตัวจริงลงสนามทุกนัดอยู่แล้ว และโป้งที่แนวรุกตัวหลักของทีมจึงได้พัก จะมีก็แค่บางคนที่อย่างเช่นกัปตัน และอีกสองสามคนที่ต้องไปลงสนามและจะได้พักในนัดต่อไป

            “ก็เอาสิ.. น่าสนุกดี..” โป้งตอบแล้วก็ยิ้มด้วยแววตาซุกซนเป็นประกาย

            “อืม.. แต่เขาขอให้เราลงสนามเล่นบอลด้วย กูเลยโทรไปถามโค้ช โค้ชอนุญาตแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น เขาก็โอเค” โกลตอบมือก็เช็ดทำความสะอาดบริเวณเตาที่โป้งทำเลอะเอาไว้ตอนทอดไข่

            “โทรไปชวนซัตตันด้วยสิ มันก็ได้พักนี่ โทรไปเรียกมันมาดีกว่า มันฮาดี และมันคงชอบงานแบบนี้ด้วย” โป้งว่า แล้วกล่าวถึงซัดตัน ศูนย์หน้าวัยเดียวกับพวกเขาที่ถือเป็นสหายสนิท ซึ่งปีที่แล้วก็ยังชวนกันไปท่องยุโรป

           

            งานประจำปีของชุมชนเป็นงานรื่นเริงภายในที่จะจัดขึ้นทุกปี โดยจะมีการละเล่นที่ชาวบ้านในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงร่วมกันมาจัด มีการออกร้านขายของแบบพื้นบ้าน และมีปาร์ตี้ดื่มเลี้ยงอาหารสนุกสนาน.. ซึ่งโป้งกับโกลก็สมทบทุนด้วยเงินจำนวนมากพอจะเพิ่มประมาณและคุณภาพอาหารได้

            พอมีโป้งกับโกล และยังมีซัดตันที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพมีชื่อเสียงมาร่วมชาวบ้านก็ดูจะตื่นเต้นกัน

            ซัดตัน ทามเมอร์ เป็นคนผิวดำ แต่เขามีอุปนิสัยตลกและมีบุคลิกคล้ายดาราตลกอเมริกันชื่อดังทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ มุกส่วนใหญ่ของซัดตันจะเป็นการแซวโป้งที่เรียกเสียงหัวเราะให้คู่สนทนาอย่างดี เพราะซัตตันรู้ดีว่าโป้งเป็นคนคิดอะไรช้า และมักไม่ทันสิ่งที่เขาพูดจึงอำไปได้เรื่อยๆ และโป้งมันก็ไม่ถือสาเสียด้วย

            ส่วนโกลกำลังเล่นหมากรุกกับพวกผู้ใหญ่ เงยหน้าหันไปก็เห็นโป้งโดนซัดตันอำโดยมีเด็กๆหัวเราะกันครื้นเครง ใบหน้าโป้งตอนงงมันก็น่าขบขันจริงๆนั้นหละ และยิ่งเวลาอยู่ท่ามกลางเด็กๆเขาก็ยิ่งดูราวจะถอยกลับไปวัยเดียวกัน

            แล้วก็มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมสมัครเล่นของชุมชน และทีมกึ่งอาชีพ เดมเดซี่ เอฟซี ที่เป็นทีมในดีวิชั่นสิบที่อยู่ภายในชุมชน

            โป้งลงสนามแค่ยิ่สิบนาทีก็จริงแต่ ก็จ่ายบอลให้กับทีมสมัครเล่นไปยิงประตูได้หนึ่งลูก และซัตตันยิงหนึ่งลูก ส่วนโกลยืนเป็นผู้รักษาประตูกระทั้งจบครึ่งแรก

            “ยิง.. ยิงเลย” โป้งแสดงอาการลุ้นเหมือนปกติที่เวลาเขานั่งอยู่ม้านั่งสำรอง ซัตตันเห็นแล้วก็ส่ายหัว

            “โป้งนี่มันตื่นเต้นไปได้ทุกเรื่อง” ซัตตันกล่าว

            โกลยิ้ม

            “พวกคุณเป็นกันเองมาก ดีใจจริงๆที่ได้พวกคุณมาร่วมงานชาวบ้านชอบใจกันมาก” คนที่กล่าวเป็นเหมือนผู้แทนชุมชน เขาเป็นนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่ง วิลเลี่ยม แทต นักการเมืองหัวก้าวหน้าที่มีบุคลิกแข็งกร้าวในสภาอังกฤษแต่กลับมีบุคลิกอ่อนโยนนอกสภา วิลเลี่ยม แทตเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากชาวอังกฤษว่ามีจุดยืนเรื่องสวัสดิการสังคม และมนุษยธรรม แต่คนในรัฐสภาอังกฤษชอบมองเขาเป็นแกะดำ

            “พอดีไม่มีโปรแกรม เราก็เลยมาได้.. แต่ปีหน้าไม่รู้จะได้มาร่วมไหม.. งานสนุกๆอย่างนี้พวกเราได้มาร่วมก็รู้สึกดีมากเช่นกันครับ” โกลตอบ

            “เข้าๆ เข้า” โป้งร้องออกมาแล้วลุกขึ้นยืนชูมือ

            “นี่นายเชียร์ใครกันแน่โป้ง” ซัตตันถามเพราะไม่ว่าใครจะยิงประตูโป้งก็แสดงอาการดีใจกับเขาไปด้วย

            “ก็ทั้งสองทีม.. ใครยิงได้ก็ต้องดีใจใช่ไหมหละ..” โป้งตอบ

            “นกสองหัวเอ้ย” ซัตตันส่ายหัว

            “ไม่ใช่ซะหน่อย..” โป้งทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนขัดใจ

            “ฟุตบอลเป็นกีฬานะ.. ดูให้สนุกก็ต้องดูที่การทำประตู การเล่นของนักกีฬา ฉันไม่ได้เชียร์ใครเพราะฉันเชียร์ฟุตบอล”

            ผู้แทนแทตนิ่งไปนิดหนึ่งกับคำตอบของโป้ง

            “คุณรักฟุตบอลมากเลยสินะ” แทตถาม

            โป้งหันมายิ้ม

            “ครับ..” โป้งตอบ

            “มันสนุกที่สุดในโลกเลย”

 

            “ไม่ต้องก็ได้ พวกคุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” แม่บ้านรายหนึ่งกล่าวขึ้นแล้วจะแย่งถุงเก็บขยะมากจากโป้งและโกล

            “ให้พวกเราทำเถอะครับ” โกลกล่าวก่อนจะหันไปไปเก็บขยะ

            “พวกเราไม่ใช่แขกซะหน่อย.. พวกเราเป็นคนในชุมชนนะครับ” โป้งตอบแล้วก็ยิ้ม

            เหล่าแม่บ้านหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ทุกคนก็ยิ้มออกมาแล้วหันไปทำงานของตน เพื่อทำความสะอาดบริเวณสวนสาธารณะของชุมชนที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน

 

           
            กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากหน้าหนาวก็ไปสู่ใบไม้ผลิ... ฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกก็เวียนเข้าสู่ช่วงปลายแล้วเช่นกัน

            เซบาสเตียนมองไปในสนาม ตอนนี้โกลกระโดดขึ้นรับลูกยิงจากฝั่งตรงข้ามไว้ได้ติดมือและกำลังจะมองไปข้างหน้าเพื่อขว้างเปลี่ยนเกม

            ตอนนี้พวกเขาตกรอบยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกไปเรียบร้อย แต่ก็นับว่าทำได้ดีเกินคาด เพราะผ่านเข้าไปถึงรอบสิบหกทีม และแม้จะพ่ายให้ทีมยักษ์ใหญ่แห่งโปรตุเกสไปหวุดหวิดก็นับว่าดีแล้วสำหรับการเล่นในปีแรก

            ปีนี้พวกเขาอยู่ที่สาม มีคะแนนตามหลังทีมอันดับหนึ่งอยู่ห้าแต้ม แต่ทิ้งอันดับสามอยู่ถึงเจ็ดแต้ม.. โอกาสจะเข้าไปเล่นถ้วยยุโรปอีกก็เรียกว่าสดใสมาก เพราะนี่ก็เหลือนัดการแข่งขัดอีกแค่สี่นัดเท่านั้น

            แต่สิ่งที่เซบาสเตียนหนักใจนั้นมีสองอย่าง คืออย่างแรกผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรกำลังจะขายหุ้นให้นักธุรกิจจากเอเชีย และสองคือสัญญาของโป้งกับโกลจะหมดลงในช่วงปิดฤดูกาลนี้

            เพราะตอนที่เขาทำสัญญากับโป้งและโกล เอเจนซี่ของโป้งและโกลขอสัญญาระยะสั้นเนื่องจากเห็นว่าค่าเหนื่อยที่พวกเขาเสนอได้นั้นน้อยเกินไป แต่เพราะเป็นเจตจำนงของโกลและโป้งที่จะอยู่กับทีมทำให้เอเจนซี่ผู้มากประสบการณ์ต้องยอมรับแต่ก็ขอให้ลดระยะเวลาลงแค่สองปีเท่านั้น

            ตอนนี้ข่าวลือข้างนอกหนักมากๆ เรื่องทีมในอังกฤษเสนอค่าเหนื่อยมหาศาลให้กับโป้งและโกล ว่ากันว่าถึงหลักสิบล้านเลยที่เดียว ซึ่งเป็นมูลค่าที่ทีมอย่างพวกเขาไม่สามารถจ่ายให้ได้

            สำหรับเซบาสเตียน โกลกับโป้งมีความสำคัญต่อความสมดุลภายในทีมอย่างมาก ทีมจะไม่มีวันประสบความสำเร็จเท่านี้หากไม่มีการป้องกันของโกล และคงไม่สามารถล้มทีมอย่างจูเวนตูสในถ้วยยุโรปได้ และยังเอาชนะทีมแกร่งในประเทศได้อีกถ้าไม่มีการทำเกมรุกที่ผลิกผันได้ฉับพลันของโป้ง

            แล้วเสียงเชียร์ก็กระหึ่มขึ้นภายในสนามแอนด์ฟิล.. ไม่ใช่ของกองเชียร์เจ้าถิ่น.. แต่เป็นของเดอะไวท์ โคลว์ เพราะตอนนี้โป้งยิงประตูจากระยะไกลเข้าไป.. เป็นประตูที่สองในเกมนี้ของทีม ทว่าเป็นลูกแรกของโป้งในนัดนี้ แต่เป็นลูกที่ยี่เจ็ดของเขาในปีนี้..

            เวลาในสนามใกล้จะหมด เขาหันไปมองหน้าผู้จัดการทีมจากชาติเดียวกันที่ออกอาการหัวเสียออกมาตะโกนสั่งลูกทีม

            “ขอโทษนะเพื่อนยาก” เซบาสเตียนกล่าวออกมาคนเดียว

            “ฉันขอไปชิงเอฟเอคัพก่อนนะ”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2016 17:16:47 โดย Andylover »

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
โอ๊ยยย ลุ้นตลอด สนุกสุดๆ
รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ตอนนี้ทั้งคู่ ต้องเล่น U23 ด้วยไหมคะ หรือว่าอายุเกินแล้ว

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เข้ามาเชียร์โป้ง โกล   :mc4: ทั้งคู่ก้าวหน้าไปได้เร็วมาก และที่ชอบที่สุดคือทั้งคู่ :n1: มือกันเดินไปด้วยแบบนี้ ไปสู้เส้นทางฝันด้วยกัน สู้ สู้ นะ  :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน สิ่งที่กูรักที่สุดในโลกไม่ใช่ฟุตบอล



            สนามเวมบลีย์คือสุดยอดสังเวียนแห่งอังกฤษ เพราะที่นี้คือสนามกีฬาแห่งชาติ และเป็นสถานที่ซึ่งใช้เป็นที่ตัดสินฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นั้นคือ FA Cup อังกฤษ ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ

            นัดนี้แฟนบอลจำนวนมหาศาลหลั่งไหลกันเข้ามาภายในสนามที่มีความจุมหึมา 90000ที่นั้ง เพื่อมาเป็นกำลังใจให้กับทีมของตนเองในนัดชิงชนะเลิศนี้

            เสียงเชียร์จึงอื้ออึงและกึกก้องไปทั่วสนามจนโกลไม่ได้ยินเสียงของมิคาเอล วานโชเป้กองหลังรุ่นพี่ที่สนทนากับเขา มิคาเอลเองก็ไม่ได้ยินเสียงต้วเอง เลยถอนหายใจแล้วตบบ่า ในทำนองว่าเอาไว้ค่อยคุยกัน

            คู่ต่อสู้ของเขาคือทีมที่แข็งแกร่งมาก และเป็นอีกทีมที่อยู่ร่วมกรุงลอนดอน

            อาร์เซนอล เจ้าปืนใหญ่แห่งเมืองหลวงนั้นเอง

            ในเกมลีกปีนี้พวกเขากับอาร์เซนอลกินกันไม่ลงเสมอไปแบบไร้สกอร์  แต่วันนี้จำเป็นต้องมีผู้ชนะ..

            โป้งหันมายิ้มให้เขาแล้วหันกลับไป.. ชั่วขณะเดียวเท่านั้น ดวงใจของทั้งคู่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเรี่ยวแรง..

 

            แตกต่างจากฟุตบอลลีก.. นี่คือนัดชิงชนะเลิศ ด้วยความที่ทีมของเขาก็เป็นรองอยู่ ดังนั้นตามศาสตร์ของฟุตบอลยุคใหม่ การตั้งรับเป็นสิ่งที่รับการยอมรับและใช้กันมากสำหรับทีมที่เป็นรอง.. แต่ไม่ใช่เซบาสเตียน..

            เขาเทหมดหน้าตัก.. วันนี้เขาจึงส่งศูนย์หน้าคู่ของเขาลงไปและมีโป้งเป็นตัวรองลงมาจากศูนย์หน้าทั้งสอง

            การเดินเกมเข้าใส่กันของทั้งคู่จึงเป็นอย่างตื่นเต้น และทำให้ในสนามเกิดเสียงฮือขึ้นเป็นระยะๆ เพราะอาร์เซน่อลเองก็เป็นทีมที่เดินเกมรุกได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

            เป็นการแลกหมัดกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ สมกับเป็นเกมแห่งศักดิศรีและเดิมพันด้วยถ้วยรางวัลอันเก่าแก่..

            แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีประตูเสียที..

            โกลเริ่มรู้สึกว่าเหนื่อย และเขาก็เชื่อว่าผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้ามก็เช่นเดียวกัน เพราะนี่ยี่สิบของครึ่งหลังแล้ว แต่สองคนทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กันมาโดยตลอด ทั้งเขาและผู้ร้กษาประตูต้องออกแรงปัด ทุบ รับ และทำทุกอย่างเพื่อป้องกันประตู

            เจ้าโป้งยังคงแพลงฤทธิ์ มันใช้ความเร็ว ความคล่องตัว และความฉลาดในสนามของมันปั่นป่วนแนวรับของคู่แข่งจนต้องวิ่งวุ่น ไม่แพ้กับนักเตะแนวรุกค่าตัวเกือบร้อยล้านตามการตีราคาตลาดของอาร์เซนอลที่เขย่าแนวรับของเทมส์ไซด์

            แล้วโกลก็ต้องทะยานตัวออกไปอีกครั้ง เขาทุบลูกบอลออกหลังไปด้วยกำปั้น

            นี่การป้องกันครั้งที่ยี่สิบของเขาในเกมนี้

            จุ๊ยที่อุตส่าห์เข้ามาชมเกมในสนามถึงกับถอนหายใจเฮือกตอนโกลสามารถปัดป้องลูกยิงสุดสวยของกองหน้าอาร์เซนนอลได้ เช่นกันกับชายหนุ่มที่มาด้วยกัน

            “โคตรเจ็งวะ จุ๊ยเพื่อนมึงแต่ละคน” ชายหนุ่มว่า

            เขาเป็นเพื่อนคนไทยเหมือนกัน เล่นดนตรีเหมือนกัน ชนิดเดียวกันแต่อยู่กันคนละวงชื่อไนส์ ดวงหน้าของเขามีเหงื่อผุด

            “แหง่อยู่แล้ว นวสาครสุดยอด” จุ๊ยได้ทีอวดอ้าง

            “ไม่เก่งเขาไม่ให้จบเว้ย”

            ไนส์ทำหน้าเหม็นเบื่อ

            “”แต่กูจำได้ว่าสองคนนี้เขาไม่ได้จบที่นั้นนะไอ้จุ๊ย เขาย้ายไปภูเก็ตตอนม.ห้า” ไนส์ว่า

            “กูต่างหากต้องคุย.. เด็กภูเก็ตสุดยอดอยู่แล้ว” ที่พูดเพราะเจ้าตัวเป็นคนภูเก็ตนั่นเอง

            “เด็กเชียงรายต่างหากครับ” คนข้างหลังยื่นหน้ามา
            พอหันไปเห็นเป็นดวงหน้าลูกครึ่งผิวออกเข้มคล้ำเพราะเชื้อสายแอฟริกัน

            “โป้งเขาเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับผมที่เชียงราย แต่ผมจบมาก่อน”

            สามหนุ่มมองหน้ากัน ก่อนจะประสานหัวเราะ..

            “สรุปว่าคนไทยเราเก่งแล้วกัน” จุ๊ยกล่าวออกมา

           

            ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอลยืนขมวดคิ้วเครียด

            นี่เขาก็ทำทุกอย่างไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจะเจาะประตูของเทมส์ไซด์ได้

            แถมแต่ละครั้งที่เทมส์ไซด์ได้ลูก เจ้าเด็กเอเชียตัวบางนั่นก็จะพาลูกไปป่วนกองหลังเขาจนอลหม่านไปหมด แถมเกือบยิงประตูได้หลายครั้ง เคราะห์ดีที่ผู้รักษาประตูของเขายังเหนียวแน่น

            แต่ระหว่างใช้สมองขบคิดนั้นเอง

            กองหน้าผิวเข้มของเขาพึ่งจะได้ลูกบอลมาจากกองกลาง แต่พอพยายามวิ่งทะลวงเข้าไป ก็โดนสกัดล้มลงโดยกองหลังตัวเก๋าของเทมส์ไซด์

            “เฮ้” เขาออกเสียงเพื่อจะท้วงกรรมการ

            แต่กรรมการก็เป่านกหวีดตามหลังมาก่อน และชี้ไปที่จุดโทษ

            แย่หละ.. เซบาสเตียนก้าวออกมาจากม้านั่ง เขาหันไปมองสกอร์บอร์ด

            หมดเวลาการแข่งขันไปแล้ว

            เขาหันไปเห็นผู้ช่วยผู้ตัดสินยกป้ายแสดงการทดเวลาแค่สองนาที

           

            โกลหลับตาลง แล้วกำหนดลงหายใจ..

            สมาธิ.. สมาธิ..

            พอเขาลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าผู้เล่นคนที่ล้มลงไปเอาลูกมาตั้งเอง

            ผู้ชมในสนามเต็มไปด้วยความรู้สึกระทึกใจที่แบ่งเป็นสองด้าน.. อยากให้ยิงเข้า และไม่อยากให้ยิงเข้า.. แต่ไร้เสียงจากทั้งสองฝ่ายเพราะความระทึกใจนั้นจุกแน่น บางคนถึงกับกัดเล็บตัวเองอย่างลืมตัว

            ทั้งจุ๊ยและไนส์ก็จับมือกันอย่างลืมตัว แถมปากขมุบขมิบอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาจากวัดทั่วเมืองไทย

            ยอดศูนย์หน้าผิวเข้มของอาร์เซนอลสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

            กรกฏเป็นสุดยอดผู้รักษาประตูคนหนึ่ง.. สถิติการหยุดลูกจุดโทษของเขาเป็นเลิศ แต่ศูนย์หน้าของทีมเจ้าปืนใหญ่เองก็ใช่ย่อย.. สถิติยิงลูกโทษของเขาคือร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มในฤดูกาลนี้

            เขาวิ่งเข้ามาแล้วตั้งท่ายิงโดยมองเป้าหมายที่มุมบนด้านซ้าย

            แต่ครั้งเมื่อเท่าสัมผัสลูกบอล..ลูกที่พุ่งทะยานไปนั้นไม่ใช่ลูกมุ่งสู่เป้าหมายที่มองแต่อย่างใด.

เป็นการยิงตรงๆแบบวัดใจผู้รักษาประตู..

ลูกบอลเร็วและแรง.. พุ่งไปข้างหน้าอย่างกับจรวด..

หากแต่สิ่งที่รอมันอยู่คืออุ้งมือที่มั่นคงและแข็งแรง..

หมับ.. มันสิ้นฤทธิ์อยู่ในอ้อมกอดที่ราวกับกับดักเหล็กของโกล..

ในขณะที่นั้นเอง..โป้งก็ออกตัววิ่งไป..

โกลก็ขว้างลูกไปหาซัตตัน ทามเมอร์

ซัตตันจับลูกไว้ได้อย่างนิ่มนวลแล้วก็กลับตัวเตะโด่งไปข้างหน้า

ฮันท์ อาริเย่ศูนย์หน้าตัวสูงวิ่งหนีกองหลังที่ประกบเขาออกมาริมเส้นด้านขวา แล้วก็ยังสามารถเบียดเอาชนะจนกระโดดโหม่งลูกบอลที่ลอยเข้ามาให้เปลี่ยนทางย้อนกลับไปกลางสนามตรงหน้ากรอบเขตโทษ

            โป้งเอาเท้าซ้ายแตะรับบอล แต่เขาจงใจให้ลูกกระดอนขึ้นเล็กน้อย จังหวะนั้นมีผู้เล่นแนวรับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อหมายจะสกัดเขา

           เขาจึงใช้เท้าขวาเตะลูกลอยย้อนไปทางซ้าย แล้วเอี้ยวตัววิ่งตามไป ทำให้ทั้งเขาและลูกฟุตบอลพ้นจากการสกัดกั่น

            แล้วโป้งก็เงื้อเท้าซ้าย สับไกยิงออกไป..

            ผู้รักษาประตูอาร์เซนอลที่พุ่งหมายจะสกัด จึงต้องพยายามยั้งตัว

            เขาพยายามเหยียดมือไปปัด..

            แต่ที่มือสัมผัสนั้นคือความว่างเปล่า..

            ลูกบอลเดินทางด้วยวิถีโค้งแค่ผ่านอากาศ แล้วมุ่งเข้าหาเสาประตู

            มันกระแทกเข้ากับเสาประตูอย่างจังจนกรอบประตูสะเทือนเทิ้ม

            ลูกบอลกระเด้ง.. แต่ไม่ใช่การกระเด้งกลับ

     หากแต่มันมุ่งย้อนไปทางซ้ายในทิศทางเข้าสู่ประตู...

            สนามเวมบรีแทบถล่มลงเพราะเสียงและการกระโดดสุดตัวของกองเชียร์เทมส์ไซด์

            เสียงอึกทึกอื้ออึงจนแม้นกหวีดสัญญาณการเป็นประตูของผู้ตัดสินก็ยังสู้ไม่ได้ และกระทั้งนกหวีดยาวของการสิ้นสุดการแข่งขันที่ตามมาก็ไม่มีใครได้ยิน..

            แต่ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสรู้ว่าการต่อสู้จบสิ้นลงแล้ว เขามองนักเตะฝ่ายตรงข้ามวิ่งเข้าหาผู้ทำประตูอย่างชื่นชมยินดี

            เขาตบบ่าตัวสำรองฝ่ายเขาซึ่งออกมายืนถอนหายใจ แล้วเดินไปหาเซบาสเตียนที่ยังยืนนิ่งอยู่

            “คุณยอดเยี่ยมมาก..” เขายื่นมือออกไป

            เซบาสเตียนเหมือนตื่นจากภวังค์ หันมาจับมือด้วย

            “คุณก็เช่นกัน”

 

          เทมส์ไซด์ ฉลองกันสุดเหวี่ยงเพราะนี่คือแชมป์แรกในรอบหลายสิบปีของทีม ซึ่งทำให้ทั้งนักฟุตบอล เจ้าหน้าที่สโมสร แฟนบอลปลาบปลื้มใจกันทั่วหน้า

            แต่หลังการฉลองกับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลจบสิ้นลง โป้งกับโกลก็หวนกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบเหมือนเดิม

            ฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นปีแสนเหน็ดเหนื่อยของทั้งคู่ แต่ก็เป็นที่ดีของพวกเขา

            ทีมของเขาจบลงด้วยอันดับสามและได้แชมป์เอฟเอคัพ ทีมชาติไทยก็ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่สามของการคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

            ปีนี้โป้งกับโกลคิดกันว่าจะกลับบ้าน แต่เพราะแม่ของโป้งบอกว่าจะเดินทางมาทำให้สองหนุ่มตัดสินใจเปลี่ยนแผน เพราะคิดว่ารอแม่ของโป้งกับน้าหมอเดินทางมาก่อนแล้วก็ค่อยพากันเที่ยวให้ทั่วอังกฤษ

           

             วันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส โป้งกับโกลก็เลยชวนกันไปซื้อต้นไม้และของกระจุกกระจิกมาตกแต่งสวนต้อนรับหน้าร้อน

            ระหว่างโป้งกำลังขุดดินอยู่ โกลก็กำลังตอกไม้ทำเป็นรั้วเล็กๆรอบแนวปลูกดอกไม้

            “โป้ง โกล” เสียงเรียกที่ไม่ได้ยินนานแต่ก็คุ้นหูทำให้ทั้งคู่หันไป

            มองผ่านรั้วเห็นจุ๊ยยืนอยู่กับชายสองคนนอกรั้ว

            โกลเอาน้ำชากับขนมมาเสริพแล้วนั่งลงตรงที่ว่างของชุดรับแขก ร่วมฟังจุ๊ยเล่าเรื่องชีวิตของเขาในอังกฤษอย่างออกรส

            ขายสองคนที่มากับจุ๊ย คนหนึ่งชื่อว่าไนส์เป็นนักดนตรีชาวไทยที่เล่นอยู่กับวงดังอีกวงของเมืองลอนดอน ส่วนอีกคนแนะนำตัวว่าชื่ออ่อม โดยเขาบอกว่าเป็นรุ่นพี่ของโป้ง แต่โป้งไม่รู้จักแต่ก็พอจะคุ้นหน้าบ้าง

            “ห่ากูก็เป่า แต่แม่งก็บอกไม่ใช่ๆ” จุ๊ยเล่า

            “มันต้องหวานกว่านี้ มันต้องสวยกว่านี้” เขาเลียนแบบครูฝึกของเขาเอง

            “กูก็เลยบอกว่า ไหนครูลองเป่าดู.. แม่งก็มองหน้ากู แล้วก็ให้เป่าอีกที กูก็เป่าเหมือนเดิมเปี้ยบ.. แม่งเสือกบอกว่าใช้ได้ผ่าน”

            โกลอมยิ้มแต่โป้งหัวเราะดังคิกๆ

            “กูว่ามันก็เป่าไม่ได้หรอก..” ไนส์ยกชามาจิบ

            “มึงเชื่อกู จุ๊ย ฝรั่งแม่ง..บางทีมันก็อยากข่มเราไง.. ยิ่งมึงเก่งมาก  มันก็ยิ่งหมั่นไส้ เลยแกล้ง”

 

            แล้วเมื่อราวๆจะสี่โมงจุ๊ยก็บอกลากลับ ดังนั้นโกลจึงอาสาไปส่ง แล้วก็เตรียมหยิบกุณแจรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูออกจากตัวบ้านมาด้วย

            “ไม่ต้องๆ ไม่ต้อง กูเรียกแท็กซี่ไว้ก่อนแล้ว” จุ๊ยโบกมือ

            แล้วเขาก็เงยขึ้นมองตัวบ้าน

            “แหม่พวกมึงนี่น่าอิจฉา.. บ้านหลังเบ้อเริ่ม.. กูนี่อยู่ห้องเช่าของสถาบันเล็กอย่างกับรูหนู”

            “ก็มานอนที่นี่บ้างก็ได้จุ๊ย.. ยังไงเราต้องไปซ้อมทุกวัน มึงก็ไปเจอเราที่สนามซ้อมแล้วมาด้วยกัน เช้าก็ไปส่งแถวสถาบันดนตรีของมึง” โป้งออกปาก

            จุ๊ยหันมามองหน้า แล้วก็เอื้อมมือมาหยิกแกมโป้ง

            “แหม่ไอ้โป้งนี่น่ารักชะมัด.. มิน่าไอ้โกลรักแทบตาย..” จุ๊ยว่า

            “โกลมึงถนอมโป้งหน่อยนะเว้ย ไม่ใช่รุนแรงกับมัน ตัวมันเล็กกว่ามึงตั้งเยอะ”

            ในนาทีนั้นหูของจุ๊ยเหมือนได้ยินเสียงใครกดอะไรบางอย่าง.. จุ๊ยมีความสามารถของคนที่หูไวมากซึ่งเรียกว่า Absolute Pitch แต่พอเขาจะเริ่มหา

            “มันต่างหากรุนแรงกับกู ไอ้จุ๊ย มึงเห็นตัวมันบางๆอย่างนี้ เวลามันโมโหทุบเอา ทุบเอา ต่อยเอา ต่อยเอา กูนี่น่วมไปหมด” โกลกล่าวตอบเสียก่อน

            จุ๊ยจึงหันมา

            “มึงโอเวอร์ละ.. กูเคยทำร้ายร่างกายมึงที่ไหน” โป้งแย้ง

            โกลถลกแขนเสื้อ แสดงรอยช้ำที่ต้นแขน..

            “นี่อะไรไอ้โป้ง.. อย่าบอกว่ามึงไม่ได้ทำ..”

            “เอ้าๆ พอๆ อย่าทะเลาะกัน..” ไนส์ห้ามทับ

            พอดีแท็กซี่มาจอดหน้าบ้าน

            ทั้งสามหนุ่มจึงอำลา

            โดยคนสุดท้ายที่ออกไปคืออ่อม เขาโบกมือให้โป้งแล้วก็เดินตามเพื่อนอีกสองคนไป

            “กูต้องเรียกพี่อ่อมรึเปล่าวะ” โป้งกล่าว

            “เพราะเขาอายุมากกว่ากู เป็นรุ่นพี่กูนี่หว่า”

            “ไม่ต้องมั้ง..” โกลตอบแล้วก็กอดคอโป้งเดินเข้าบ้าน

            โดยที่สองหนุ่มไม่รู้ กล้องที่ซุกซ่อนไว้ก็ลั่นไกชัตเตอร์อีกครั้ง

 

          อ่อมทิ้งกายลงกับเตียงภายในห้องเช่าแสนซอมซ่อ กี่ปีแล้วนับตั้งแต่เขากระเสือกกระสนดิ้นรนพาตัวเองมาจากเมืองไทยเพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีกว่าในประเทศอังกฤษ

            แต่ถึงตอนนี้เขายังไม่สามารถทำได้อย่างใจฝันสักเรื่องเดียว..

            เขาเอากล้องถ่ายภาพขนาดเล็ก และอีกชิ้นคืออุปกรณ์บันทึกเสียงความไวสูงที่มีขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายที่ติดตัวไปด้วย ทั้งสองชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์รุ่นพี่ของเขาที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันให้ยืมมา

            สองสิ่งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขา.. เพราะมิตรภาพแบบไม่ตั้งใจในสนามฟุตบอลแท้ๆ ที่ทำให้เขาได้รู้จักกับจุ๊ยที่เป็นเพื่อนของโป้งกับโกล..

            และบังเอิญเหลือเกินที่สำนักข่าวออนไลน์ที่เขาทำงานสนใจเรื่องของสองคนนี้ สำนักข่าวที่หากินกับข่าวซุบซิบดาราและคนดัง โดยเฉพาะข่าวฉาว..

            ความสัมพันธ์ที่สนิทสนมเกินไปของโป้งและโกลกลายเป็นเรื่องที่จะขายได้ เพราะตอนนี้สองคนนี้ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากเป็นนักเตะเอเชียที่กำลังสร้างผลงานดี แถมมีทีมใหญ่ให้ความสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมมากมาย..

            “อย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยนะโป้ง โกล.. แต่ฉันก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด.. พวกนายผิดเองที่ปิดบังเรื่องนี้ไว้.. ฉันก็เลยจะนำมันออกไปเผยแพร่ให้ โลกจะได้รู้สึกที่ว่านายสองคนเป็นเกย์”

 

            โป้งแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง แต่ก็ยังมีสติยั้งตัวเองไว้ทัน เขาหลับตาลงชั่วคราวแล้วหันไปหาโกล

            โกลยืนกอดอกพึงขอบประตูระเบียงห้องนอน และมองออกไปด้านนอก

            “เราจะทำยังไงดีโกล” โป้งถาม

            โกลหรี่ตาลงชั่วคราว

            “จะทำอะไรได้โป้ง.. เราก็ต้องรอเท่านั้น.. ป่านนี้เรื่องคงแพร่ไปทั่วแล้วหละ.. เราก็คงต้องรอปฏิกิริยาจากสังคมก็เท่านั้นเอง”

            โป้งวางโทรศัพท์แล้วเดินมาข้างโกล

            โกลจึงดึงโป้งมากอดเอาไว้ โป้งก็ซบลงบนอกของโกล ส่วนโกลก็ซบลงบนหัวของโป้งแล้วถ่ายทอดความอบอุ่น

            โกลคิดเอาไว้แล้ววันนี้จะต้องมาถึง.. แต่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้เท่านั้นเอง

 

            เซบาสเตียน บัลเดอร์นั่งอ่านสิ่งที่ประธานสโมสรเอาให้เขาอ่านจนจบ

            “คุณคิดว่าเรามีเหตุผลไม่พอสำหรับการตัดสินใจนี้เหรอ..” เขาถาม

            “ผมอาจะไม่ใช่คนที่รังเกียจเกย์ แต่สำหรับวงการนี้.. มันยังเป็นสิ่งที่รับไม่ได้.. และผมก็คิดว่าคุณคงจะเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง คุณต้องคิดถึงบรรยากาศภายในทีมด้วย.. พวกนักเตะจะรู้สึกยังไงถ้าหากมีเกย์อยู่ห้องแต่งตัวด้วย มีเกย์ร่วมซ้อมด้วย และพวกเขาอาจต้องพักร่วมกับเกย์ในโรงแรมเวลาเรามีโปรแกรมต่างประเทศ”

            เซบาสเตียนถอนหายใจยาวเหยียด

            “ผมเข้าใจ.. ผมก็แค่ผู้จัดการทีม แต่ท่านเป็นประธานบริหาร ถ้าหากสิ่งนี้รอบครอบแล้วในความคิดของคณะกรรมการ ผมก็ยินดีจะรับฟัง”

           

            ในโลกที่การสื่อสารรวดเร็วฉับไวเช่นนี้ไม่ต้องรอให้นานนัก เรื่องนี้ก็กลายเป็นข่าวใหญ่พาดหัวในประเทศไทย..

            การุนต์ถอนหายใจยาวเหยียดกับโทรศัพท์ที่มาจากผู้ใหญ่ในแวดวงฟุตบอล

            “ผมต้องการให้คุณตัดชื่อเขาสองคนออกจากทีม.. เรื่องแบบนี้เราไม่ได้รังเกียจ แต่พวกเขาเป็นแบบอย่างกับเยาวชน.. เราจะยอมให้เด็กๆมีไอดอลเป็นเกย์ไม่ได้.. แล้วยังจะแฟนบอลอีกหละ.. พวกเขารับไม่ได้แน่นอนที่มีผู้เล่นเป็นเกย์” นั้นคือถ้อยคำที่เขาได้รับมาจากสายที่พึ่งวางไป

            การุนต์ถอนหายใจแล้วก็กดโทรศัพท์หาอำนาจทันที

            “โป้งเอ้ย โป้ง.. ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจนได้..”

 

            “ตอนนี้ข้างนอกมีการตอบโต้กันรุนแรงมาก ในเวปไซด์ของเทมส์ไซด์ถึงขนาดต้องปิดการแสดงความเห็นไปเลย.. ส่วนใหญ่ก็เข้ามาตำหนิ มาล้อเลียน.. ก็ดีแล้วหละที่พวกเธอตัดสินใจไม่รับรู้ แล้วก็เชื่อฉันที่เก็บตัวแต่ในบ้าน” เดวิด นิวฟอร์ด(ขอแก้ไขชื่อของเอเจนซี่คนนี้เป็น นิวฟอร์ด)กล่าวแล้วกว่าดตามองทั้งสองคน

            “บรรดาสโมสรที่ยื่นเสนอมา ก็ถอนตัวออกไปเกือบหมด มีบางสโมสรรั้งรอเอาไว้ แต่ก็คงถอนในไม่ช้า.. ส่วนเทมส์ไซด์.. น่าจะรู้อยู่แล้วนะ เขาคงแจ้งมาแล้วสินะว่าจะไม่เสนอสัญญาให้ ก็แปลว่าถึงจะมีสัญญาถึงเดือนสิงหาคม แต่พวกเธอก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมแล้ว”

            เขามองหน้าโป้งกับโกล

            “เธอต้องเข้าใจนะว่า ประเทศนี้ยังไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น.. ยังมีคนเป็นจำนวนมากเขารับไม่ได้”

            โกลพยักหน้าช้าๆ

            “ผมเข้าใจ” แล้วเขาก็หันไปมองกระจกหน้าต่างที่เขาพึ่งจะเรียกช่างมาเปลี่ยนให้

            “เราโดนเด็กวัยรุ่นก่อกวนมาหลายวันแล้ว โป้งก็หวุดหวิดจะออกไปไล่เอง แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาก่อน พวกนั้นก็เลยหนีไปหมด แล้วก็ยังไม่เห็นกลับมานะ”

            “แค่นี้มันก็วัดได้แล้วว่าแฟนบอลจะคิดยังไง” โป้งถอนหายใจยาวเหยียด เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เดวิดเห็นใบหน้าเศร้าหมองของหนุ่มน้อยคนนี้

            “ผมก็แค่อยากเล่นฟุตบอลเท่านั้นเอง เดวิด ผมรักฟุตบอลมากเลยนะ.. แต่ทำยังไงได้หละ จะให้ผมทำยังไง.. ในเมื่อนี่คือตัวของผม.. ผมผิดใช่ไหมที่เป็นเกย์ แล้วดันรักฟุตบอล.. ผมผิดอย่างนั้นเหรอเดวิด”

            เดวิด นิวฟอร์ดนิ่งเงียบ

            “พวกคุณไม่ได้ผิด.. แต่นี่คือโลก.. เราบังคับให้ทุกคนยอมรับเรื่องที่แตกต่างไปจากอุดมคติของพวกเขาไม่ได้หรอก.. เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะทำตามเขา หรือเดินหนีเขา แล้วก็ไปมีชีวิตต่อไปของเราในแนวทางอื่นๆ เหมือนกับที่หลายคนที่เปิดเผยตัวก่อนหน้า แล้วก็เดินออกไปจากตรงนี้”

 

            เมื่อเดวิด นิวฟอร์ดขอตัวกลับไป โกลก็เดินกลับไปส่งหน้าบ้าน แล้วเขาก็รีบกลับเข้ามาเพราะกลัวว่าจะมีตากล้องหรือนักข่าวมารอดักสัมภาษณ์เขา

            พอเข้ามาก็เห็นโป้งเอาลูกฟุตบอลมากอดอยู่ที่โซฟา

            เขากอดมันเหมือนเด็กที่กอดของเล่นตัวโปรดที่ชำรุดแล้วเอาไว้ ด้วยความเสียดายและหวงแหน

            โกลสูดลมหายใจลึกๆ

            “โป้ง.. เราเลิกกันเถอะ..”

            โป้งหันขวับ เขาปล่อยลูกบอลตกจากอ้อมกอด

            ลูกบอลกลิ้งมาตรงกลางระหว่างทั้งคู่

            “นี่เป็นทางเดียวโป้ง.. เราเลิกกัน.. เราแยกกัน ต่างคนต่างอยู่ มึงไปมีแฟนผู้หญิง ส่วนกูก็จะแถลงข่าวว่าตลอดเวลากูเป็นฝ่ายเดียวที่รักมึง แต่มึงไม่ได้เป็นเกย์ และไม่ได้รักกู แต่อยู่กับกูเพราะมึงสงสารและเห็นแก่มิตรภาพของเรา” โกลกล่าวเขาพยายามจะจ้องตาโป้งแต่กลับสู้สายตาไมได้ ต้องหลบเลี่ยง

            เขาเงยมองเพดานแล้วกล่าวต่อ

            “กูจะเลิกเล่นฟุตบอลแล้วก็กลับเมืองไทย.. กูไปมีชีวิตของกู.. กูเบื่อฟุตบอลเต็มทีแล้ว กูอยากจะไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่ที่กูทนอยุ่นี่ก็เพื่อมึง.. ดังนั้นถ้าเราเลิกกันกูจะได้ไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ”

            โป้งเดินมาตรงหน้าโกล เขาใช้เท้างัดลูกฟุตบอลให้ลอยขึ้นแล้วโหม่งใส่

            โกลก็รับมันได้อย่างง่ายได้แล้วถือมันเอาไว้

            “มึงโกหก.. โกล.. มึงไม่ได้เบื่อฟุตบอล กูรู้มึงรักมันมากไม่น้อยกว่ากู.. มึงอย่ามาพูดแบบนี้.. มึงโกหกตัวเอง” โป้งตะโกนใส่

             แววตาของโป้งที่มองหน้าโกล แข็งกร้าวและจริงจัง..

            โกลหลับตาลง ก่อนจะลืมขึ้นเพื่อสู้สายตากับโป้ง

            “โป้ง..” โกลปล่อยลูกบอลลงพื้น ก่อนเขาจะเดินเข้าไปใกล้ แล้วก็กอดร่างโป้งเอาไว้

            “กูไม่เถียง.. กูโกหกโป้ง กูรักฟุตบอล.. แต่ที่กูรักกว่าคือมึง.. กูอยากเห็นมึงมีความสุขโป้ง.. เวลาที่มึงอยุ่กับฟุตบอลมึงจะมีความสุข.. กูอยากเห็นมึงมีความสุขโป้ง.. นี่คือความสุขที่สุดของกู”

            โป้งสัมผัสได้ถึงน้ำตาที่รินลงมาบนเรือนผมเพราะโกลแนบแก้มกับหัวเขาเอาไว้

            “กูขอร้อง.. มึงไปจากกูซะ กูไม่อยากเป็นต้นเหตุให้มึงเลิกเล่นฟุตบอล..” เขาสะอื้น

            "ถ้าการเลิกเล่นฟุตบอลมันคือความเจ็บปวดของเราทั้งคู่ กูก็ขอเจ็บคนเดียว โป้ง.. กูขอร้อง"

            โป้งนิ่งไปจนโกลรู้สึกหวั่นใจ แต่แล้วเขาก็พูดออกมา

            “โกลมึงเข้าใจผิดแล้ว.. กูไม่ได้รักฟุตบอลที่สุดในโลก.. สิ่งที่กูรักที่สุดคือมึงกับแม่.. กูทิ้งแม่มาแล้วเพื่อฟุตบอล แล้วมึงยังจะให้กูทิ้งมึงไปอีกคนเพื่อมันอีกเหรอ..”

             แล้วโป้งก็ผละออกจากอกโกล

            เขาเตะลูกบอลไปทางหน้าต่าง แล้วก็วิ่งเข้าไป.. ตั้งหลักเท้าขวา สับเท้าซ้ายลงไป..

            เพล้ง.. บานหน้าต่างแตกกระจาย

            ลูกบอลลอยทะลุออกไปตกไกลถึงแนวรั้ว

            โกลหันมามองตามร่างที่กำลังหอบถี่ๆไม่ใช่ความเหนื่อย แต่เพราะความกดดันแน่นอก

            “กูพอแล้ว.. กูจะไม่ทิ้งอะไรไปเพราะฟุตบอลอีก กูเสียพ่อไปเพราะฟุตบอล กูจากแม่มาเพราะฟุตบอล และกูต้องเสียมึงไปเพราะฟุตบอลอีก.. กูทำไมได้..และกูจะไม่ทำอีก”

            โกลปาดน้ำตาของตัวเองแล้วเดินไปหมุนร่างโป้ง พอหันมาจึงได้เห็นสายน้ำตาของโป้ง

            ทั้งสองกอดร่างของกันและกันเอาไว้อย่างแนบแน่น..เพื่อปลอบโยนกันและกัน..

            และเพื่อซับน้ำตาให้กันและกัน..


ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เพิ่งเห็นค่าว่าเอาภาคสองมาลงแล้ว
ยังสนุกเหมือนเดิม อ่านแล้วรักโกลกับโป้งมากขึ้นเรื่อยๆเลย
เจ้าของเรื่องเปลี่ยนหัวข้อเวลาลงนิยายด้วยก็ดีนะคะ
คนอ่านจะได้รู้ว่ามาอัพตอนใหม่แล้ว
ส่วนเรื่องใหม่ที่ว่าจะเขียนเกี่ยวกับบาสเก็ตบอล จองคิวรอเลยค่ะ อยากอ่านมาก  :mew1:

ออฟไลน์ Andylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ตอน บนทางแยกของการตัดสินใจ.. โกลโป้ง.. เสียงสะท้อนของกำลังใจ (20%)

            สุทธิชัยตื่นขึ้นกลางดึกก็ไม่เห็นภรรยา จึงลุกขึ้นมองหา เห็นเธอกำลังเอาจดหมายฉบับหนึ่งมานั่งอ่านที่โต๊ะทำงาน นั่นคือจดหมายของอดีตสามีที่ส่งให้เธอก่อนเสียชีวิต

            แล้วเธอก็ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปหยิบรูปของนายโป้งในวัยเยาว์มาพินิจ

            เจ้าโป้งของเธอเป็นเด็กน่ารัก.. จิตใจดีและมองโลกในแง่ดี.. เขารักฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆ ไปไหนมาไหนกับลูกฟุตบอล.. รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ร้องไห้ โกรธ ดีใจ เสียใจ.. ไม่มีตอนไหนที่วราพรไม่เห็นลูกฟุตบอลประกอบอยู่ในฉากของโป้ง

            มือที่วางลงมาทำให้เธอเงยขึ้นมอง สุทธิพรกล่าวด้วยแววตาแสนอบอุ่น

            “พร..ผมจะลากิจฉุกเฉินพรุ่งนี้เลย.. เราไปอังกฤษกันพรุ่งนี้ โป้งคงต้องการกำลังใจจากคุณด่วนที่สุดเหมือนกัน”

 

            กานต์มองนาฬิกาที่แสดงเวลาหกโมงครึ่ง เขาแปลกใจที่พรรณพงศ์มาที่ทำงานแต่เช้า แถมแต่งตัวเหมือนกำลังจะเดินทางไกล

            “กานต์.. คุณว่างอาทิตย์ไหม” พรรณพงศ์ถามเมื่อเดินมาถึงหน้าโต๊ะทำงาน

            กานต์หันไปหยิบปฏิทิน

            “ผมว่างครับ.. แต่คุณพรรณไม่ว่าง.. คุณมีประชุมสามครั้งในอาทิตย์หน้า” กานต์ตอบ

            “ยกเลิกได้ไหม” พรรณพงศ์ถาม

            “ผมจะไปอังกฤษ”

            กานต์นิ่ง

            “คุณจะไปหาคุณโกลใช่ไหมครับ”

            พรรณพงศ์หันไปทางอื่นก่อนจะตอบ

            “ไอ้ลูกตัวดี.. เรื่องแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ ฉันจะไปดูสักหน่อยสิว่าจะช่วยอะไรมันได้บ้าง.. นายช่วยจองตั๋วเที่ยวบินที่เร็วที่สุดให้ด้วยนะ”

           

            วราพรนั่งอยุ่ที่หน้าประตูโดยสารเครื่องบิน อีกแค่สิบนาทีเธอก็ได้เดินทางไปหาลูกชายของเธอแล้ว

            “รอแม่นะโป้ง อย่าพึ่งตัดสินใจอะไรโง่ๆนะลูก” เธอพิมพ์ข้อความไปทางโปรแกรมไลน์

            สุทธิชัยเดินกลับมาจากห้องน้ำ แล้วนั่งลงข้างๆ

            “พรๆ นั่น..แม่ของโกลใช่ไหม..” สุทธิชัยเรียกให้วราพรดู

            เธอหันไปตามที่สามีชี้ เห็นเปรมิกาเดินมาด้วยมาดอดีตนางแบบ แล้วนั่งลงตรงที่ว่างโดยมีหญิงสาวหน้าตาเชยคนหนึ่งเดินมายืนข้างๆ

            “แล้วนั่นก็คุณพรรณพงศ์” สุทธิชัยชี้ไปอีกทาง

            คงเพราะวราพรไม่ทันได้สังเกตว่าพรรณพงศ์เดินเข้ามาตอนไหน แต่ตอนนี้เขานั่งอยู่กับชายวัยไล่เลี่ยกันในชุดสูทอย่างสุภาพ สมเป็นนักธุรกิจใหญ่

            “พวกเขาจะไปอังกฤษเหมือนกันเหรอ” สุทธิชัยออกจะงง

            “ผมจำได้ว่าโกลบอกว่าพ่อแม่ของเขาไม่ค่อยถูกกันนี่..”

            วราพรยิ้มแล้วหันมา

            “คุณคะ.. นี่หละค่ะ หัวใจของพ่อแม่.. จะมากจะน้อยเด็กคนนั้น ก็เป็นลูกไม่ใช่หรือค่ะ”

           

            “คุณคะคุณพรรณอยุ่ทางโน้นน่ะค่ะ จะไปคุยด้วยหน่อยไหม” ศรีวรรณเลขาของเปรมิกาบอก

            เปรมิกาหันไปมองตาม

            เป็นพรรณพงศ์หันมามองพอดี คงเพราะกานต์ก็บอกเขาเหมือนกัน

            สองคุณลุกขึ้นพร้อมกันแล้วเดินมาเจอกันตรงกลาง

            “คุณจะไปอังกฤษเหมือนกันเหรอ” เปรมิกาถาม

            “ไปเรื่องงานเหรอค่ะ”

            “เปล่า” พรรณพงศ์ยักไหล่

            “ผมจะไปหาเจ้าโกล”

            เปรมิกาพยักหน้าช้าๆ

            “แล้วคุณหละ” พรรณพงศ์ถามกลับ

            “มีงานหรือมีปาร์ตี้อะไรสำคัญที่ลอนดอนหรือไง”

            เปรมิกาหันไปมองเครื่องบินที่เทียบท่าอยู่

            “ฉันก็เป็นแม่ของโกลเหมือนกัน ใจคอคุณจะไม่ให้ฉันได้ไปดูเขาตอนที่เขาลำบากบ้างเลยเหรอคะ ว่าแต่คุณไม่มีนัดกับใครเหรอคะถึงจะไปลอนดอน”

            พรรณพงศ์ถอนหายใจอยากจะตอบ แต่เขาหันมาเจอสายตาของชายหญิงวัยไล่เลี่ยนั่งมองพวกเขาอยู่

            เขาจึงหันกลับไปหาเปรมิกา

            “เราไปคุยกันบนเครื่องตรงนี้คนเยอะ” แล้วเขาก็ทำท่าจะหันกลับ

            “เอ่อ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวที่นั่งอยู่ลุกขึ้น

            เปรมิกากับพรรณพงศ์หันมาพร้อมกัน

            “คุณสองคนคือพ่อแม่ของโกลใช่ไหมคะ” เธอกล่าว

            “ดิฉันเป็นแม่ของโป้งค่ะ”



ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เป็นกำลังให้ทั้งคู่นะ  :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คือไอ้อ่อมนี่เลวสุดๆอ่ะ ขอให้โดนแฟนบอลที่รักโป้งกับโกลจริงๆยำตรีนสักที
กำลังสนุกและลุ้นสุดๆเลยครับ
รอตอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด