▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover  (อ่าน 87546 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
"กันยายน" เร็วๆ นี้



คนนี้น่ารักอ่ะ  :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 16 รักที่ห่างไกล



คานิน...

แปดโมงเช้าแล้วเหรอ!

แย่แล้ว! นี่มันเลยเวลาที่จะต้องออกไปขายหมูปิ้งกับแนนแล้วสิ!

ผมกำลังจะลนลานตื่นก็พลันนึกได้ว่าแนนกลับบ้านไปแล้ว วันนี้ผมเองก็ลาหยุด
อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่นึกได้ก็คือ...มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้ไปไหนซะแล้ว
ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้เงาของใครคนนั้น
เข้าห้องน้ำหรือเปล่า แต่พอยักแย่ยักยันลุกไปดูก็เห็นประตูเปิดอยู่ ไม่มีใคร

'ไปไหนของเขานะ หรือว่าจะกลับบ้านไปแล้ว' ผมคิดในใจ

ผมเดินกลับมาที่เตียงอย่างช้าๆ รอยฟกช้ำดำเขียวตั้งแต่เมื่อวานยังคงปวดระบมอยู่
ดีที่ว่าทายาไปเมื่อคืนนี้ก็เลยดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังเจ็บอยู่และทำอะไรลำบากกว่าเดิม

ความเหนื่อยล้าทำให้ผมคิดว่าควรจะนอนต่ออีกสักหน่อย ไม่เคยนอนตื่นสายนานแล้ว
แต่พอจะล้มตัวลงนอน ผมก็สะดุ้งขึ้นนั่งเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับใครบางคน
เจ้าของร่างสูงโผล่เข้ามายิ้มแฉ่งให้ผม ในมือถือของพะรุงพะรังเต็มไปหมด

"ตื่นแล้วเหรอคานิน ผมออกไปซื้อโจ๊กมาให้ จะได้กินก่อนออกไปทำงาน"

เป็งพูดพร้อมกับชูของที่ซื้อมาในมือให้ดู ก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเอาของไปวางบนโต๊ะ
จากนั้นก็กุลีกุจอเดินไปหยิบจานชามและช้อนที่ผมเก็บไว้ตรงมุมห้องมาด้วย

"คานินกินโจ๊กได้หรือเปล่า พอดีผมก็ลืมถาม เห็นนอนอยู่ก็เลยไม่อยากกวน"

เป็งแกะถุงโจ๊กใส่ชามให้ผมพลางชวนคุยไปด้วย

"ครับ"

เป็งหันมายิ้มแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปแกะกับข้าวต่อ "ผมซื้อน้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืชมาด้วย
น้ำฟักทองก็มี ผลไม้ด้วย มีฝรั่ง สัปปะรดแล้วก็แตงโม ซื้อจากรถเข็นแถวๆ นี้แหละ"

"กินของแบบนี้เป็นด้วยเหรอครับ" จะว่าประชดก็ไม่เชิง แต่จะบอกว่าไม่ประชดก็ไม่ใช่

"ก็ลองกินดู คนอื่นๆ ยังกินได้เลย ทำไมผมจะกินไม่ได้ล่ะ" ตอบโดยไม่หันมามอง

"แล้วไม่กลัวท้องเสียเหรอครับ"

เป็งหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง "ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แรกๆ ก็คงมีบ้าง คงไม่หนักเท่าวันนั้นหรอก
ของแบบนี้มันต้องฝึกให้เคยชินไม่ใช่เหรอ พอเคยชินแล้วก็คงเลิกท้องเสียเองแหละ"

เป็งหันไปจัดการกับกับข้าวที่ซื้อมาต่อ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งดูพร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย

"จัดเสร็จแล้ว คานินจะกินเลยไหม"

หนุ่มตี๋คิ้วหนาแถมยังตาคมหันมาถาม จากนั้นก็เก็บเศษถุงพลาสติกให้เรียบร้อยพร้อมทิ้ง
ผมยังไม่ทันได้ตอบ เป็งก็หันมาถามอีก

"เดินไหวหรือเปล่า ให้ผมช่วยพยุงไหม มา...ให้ผมช่วยพยุงดีกว่า"

เป็งหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดมือแล้วก็เดินมาหาผมที่เตียง ย่อตัวลงให้ผมเกาะไหล่
ผมอิดออดเล็กน้อย แต่พอเห็นความตั้งใจของอีกฝ่ายก็เลยเอื้อมมือไปเกาะคอไว้

"ค่อยๆ ลุกนะ แล้ว...อาการปวดลดลงบ้างไหม"

น้ำเสียงและสายตาห่วงใยที่มองมาทำให้ผมรู้สึกคล้ายกับกำลังมวนท้อง
แต่ผมก็หาได้ละสายตาหนีไม่

"ดีขึ้นิดหน่อยครับ"

"ดีแล้ว"

เป็งพยุงผมมานั่งที่เตียงอย่างระวัง ผมงงตัวเองนิดหน่อยเพราะความจริงพอเดินเองได้
ไม่เห็นจำเป็นต้องให้เป็งช่วยพยุงเลย แต่ช่างเถอะ ดีเหมือนกัน เวลาเดินจะได้ไม่เจ็บมาก

"แล้วคุณเป็งไม่กินด้วยกันเหรอ" ผมถามเมื่อเห็นโจ๊กมีชามเดียว

"ผมกินจากข้างนอกมาแล้ว นั่งกินที่ร้านนั่นแหละ สนุกดี ไม่เคยกินแบบนี้เลย"

เป็งเล่าพลางยิ้ม ประสบการณ์แบบนี้คงเป็นเรื่องแปลกและน่าตื่นเต้นสำหรับคนรวยๆ
ผมยิ้มจางๆ ให้หนุ่มตี๋คิ้วหนา จากนั้นจึงลงมือตักโจ๊กหมูใส่ไข่ขึ้นมาเป่าแล้วส่งเข้าปาก
ส่วนเป็งลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆ ผม นั่งมองผมกินแล้วก็ยิ้ม ไม่รู้ว่ายิ้มอะไร

"อร่อยไหม ผมซื้อของพวกนี้ไม่เป็นหรอก ถามคนแถวนี้เอา เห็นเขาว่าเจ้านี้อร่อย
ตอนที่ผมกินผมก็ว่ามันอร่อยนะ แล้วคานินว่ามันอร่อยหรือเปล่า"

ผมกลืนข้าวลงไปก่อน จากนั้นจึงค่อยตอบคำถาม "ผมเคยกินร้านนี้แล้ว ก็โอเคอยู่"

เป็งเหยียดยิ้มอย่างอารมณ์ดี "งั้นก็กินเยอะๆ นะ"

ผมพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาตักกินต่อไป แต่ก็รู้สึกปวดแขนไม่ใช่น้อย

"อ้อ ผมก็ลืมไป แขนคานินบวม ยังไม่ควรใช้งานมาก เอางี้...เดี๋ยวผมป้อนดีกว่า"

ข้อเสนอของเป็งทำเอาผมชะงักและตาโต "ไม่เป็นไรครับ"

"อย่าดื้อสิ เดี๋ยวแขนอักเสบกว่าเดิมนะ มา...ให้ผมป้อนดีกว่า"

ผมเองก็แปลกคน ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอเป็งตื๊อหน่อยผมก็วางช้อนลงอย่างว่าง่าย
เป็งเลื่อนชามโจ๊กเข้าหาตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตักใส่ช้อนขึ้นมาส่งให้ผม

"อ้าว ทำไมไม่กินล่ะ" เป็งถามอย่างแปลกใจที่ผมไม่ยอมอ้าปาก

"ร้อน จะได้กินได้ไงล่ะ" ผมนิ่วหน้าเล็กน้อย

"อ้อ...ลืมไป" เป็งหัวเราะแหะๆ จากนั้นจึงเป่าโจ๊กในช้อนให้ผม แววตายิ้มมีความสุข

"น่าจะไม่ร้อนแล้ว" เป็งบอกพลางยื่นช้อนจ่อที่ปากผม

ผมเอาริมฝีปากแตะดูก่อน พอเห็นไม่ค่อยร้อนจึงยอมกินลงไป เป็งยิ้มพอใจน่าดู
ส่วนผมจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงจะเกินไปหน่อย โดยเฉพาะความรู้สึกเขิน
ผมมองท้ายทอยของเป็งอย่างสังเกต ผิวขาวตัดกับแนวเส้นผมสีดำดูมีเสน่ห์ดีเหมือนกัน
จะว่าไปผู้ชายคนนี้ก็มีเสน่ห์หลายอย่าง น่าแปลกจริงๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีแฟนเลย

เป็งป้อนโจ๊กให้ผมจนหมดชาม เอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่มาแล้วก็เช็ดปากให้ผมเบาๆ
ผมห้ามไม่ทันก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายอย่างเป็งจะมือเบาเป็นเหมือนกัน
เช็ดเสร็จเป็งก็หยุดมองผม ต่างคนต่างใช้สายตาค้นหาความหมายในแววตาของกันและกัน
เจอแบบนี้ผมก็อดหวั่นไหวไม่ได้ หวังว่าเป็งจะไม่อุตริจูบผมทั้งที่เพิ่งกินโจ๊กหมูใส่ไข่หมาดๆ

"คานินอาบน้ำก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ เอายาแก้อักเสบมากินจะได้หายไวๆ"

เป็งพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่ดูแปลกๆ ไป ผมจึงค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ทายาก็หายแล้ว รบกวนคุณเป็งเปล่าๆ"

ถ้าผมตาไม่ฝาด คำพูดเมื่อครู่นี้ทำให้เป็งสะอึกไปเลย คงไปสะกิดปมบางอย่างเข้าให้
เป็งหน้าเสียจนผมเกือบจะใจอ่อน แต่สักพักเจ้าตัวก็ค่อยๆ คลี่ยิ้ม ช่วยให้ผมรู้สึกผิดน้อยลง

"คานิน...ถ้าคานินจะไม่ยกโทษให้ผมเรื่องที่ผมเคยลังเลใจ...ก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเข้าใจ
แต่เรื่องนั้นที่ผมไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเป็นไปได้...ผมก็อยากให้คานินอภัยให้ผม...ได้หรือเปล่า
ผมเสียใจจริงๆ นะที่เคยทำให้คานินรู้สึกว่าต้องรบกวนผม แต่ผมไม่เคยคิดอย่างงั้นเลยนะ
พอจะยกโทษให้ผมได้หรือเปล่าคานิน ผมขอโอกาสอีกสักครั้ง...ได้ไหม"

กลายเป็นผมที่ต้องเจอกับคำถามที่น่าอึดอัดใจบ้าง ผมสบตากับเป็งด้วยอาการหวั่นไหว
สายตาเศร้าและวิงวอนนั้นดูจะมีพลานุภาพมากเกินกว่าที่ผมจะต้านเอาไว้ได้
สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องใจอ่อนตามเคย ผมจึงพยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย

"งั้นไปโรงพยายาลนะ" เป็งยิ้มดีใจ

ผมพยักหน้าอีกครั้ง เป็งยิ้มกว้างขึ้น แต่ความดีใจคงมีมากเกินกว่าที่จะแสดงออกเพียงแค่นี้
หนุ่มหล่อหน้าตี๋ดึงผมไปกอดไว้เบาๆ ความอบอุ่นที่ผมเรียกหาแผ่ซ่านไปทั่วกายผม

"ผมจะไม่ขอให้คานินเลือกผม ไม่ขอให้คานินอภัยให้ผมที่ผมเคยลังเล ไม่ขอให้เห็นใจ
ผมขอแค่อย่างเดียว...ผมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แล้วไม่ว่าคานินจะตัดสินใจยังไง
ผมก็ยินดีจะยอมรับทุกอย่าง คานินตัดสินใจยังไงผมก็จะยอมรับ ได้ไหมคานิน
ผมขอโอกาสแค่อีกครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นเอง"

ฮึ! ปากก็บอกไม่ให้เห็นใจ แล้วอ้อนซะขนาดนี้ไม่เรียกว่าขอความเห็นใจหรือไงหนอ
ใจแข็งเข้าไว้นะคานิน อย่าใจอ่อนง่ายๆ อีก เรื่องให้โอกาสคงไม่มีปัญหาหรอก ผมให้ได้
แต่ผมสาบานได้เลยว่า...เรื่องอื่นๆ จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน

เพราะว่า...



เป็ง...

นั่งรถออกมาด้วยกันได้ไม่เท่าไหร่ หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมก็คุยโทรศัพท์ไปตลอดทาง
เดี๋ยวคนนั้นก็โทรหา เดี๋ยวคนนี้ก็โทรหา เริ่มต้นจากเพื่อนซี้ผมก่อนที่โทรมาคนแรก

"คุณภูเหรอครับ ตอนนี้แนนกลับบ้านไปแล้ว ผมโทรหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน
สงสัยพ่อกับแม่ยังไม่อยากให้ติดต่อกับใครมั้งครับ"

"ใช่ครับ ผมคิดว่าตอนนี้คุณภูอาจจะต้องรอหน่อย ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังโกรธอยู่
อ๋อ...อยากไปหาแนนเหรอครับ อืม...ผมว่าอีกสักเดือนสองเดือนดีกว่าครับ
เดี๋ยวผมพาไปเอง ไปหลายๆ คนก็ได้ครับ ไปเที่ยวบ้านผม จะได้ไม่ดูน่าสงสัย"

"อ๋อ...ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมว่าพ่อกับแม่คงไม่หาแฟนใหม่ให้แนนหรอก
แฟนเก่าของแนนเหรอ ตอนนี้เขาเลิกติดต่อกันไปเป็นเดือนแล้วครับ คุณภูสบายใจได้
ผมไม่ให้แนนกลับไปหาไอ้หมอนั่นแน่ๆ ครับ คนเลวๆ อย่างมันบ้านผมไม่ต้อนรับครับ"

"เอาอย่างงี้แล้วกันครับ ผมจะพยายามติดต่อแนนเรื่อยๆ ได้ความแล้วผมจะบอกอีกที
ผมว่าพ่อกับแม่น่าจะโกรธไม่นานหรอก วินน่ารักจะตาย ขี้คร้านจะหลงหลานน่ะสิครับ"

"ได้ครับคุณภู ขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วงแนนครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวผม
ยังไงๆ ผมก็เชียร์คุณภูเต็มที่ครับ ขอบคุณที่ไม่รังเกียจน้องสาวผมนะครับ
ได้ครับๆ ไว้คุยกันวันหลัง สวัสดีครับ"

พอคานินวางสายไปไม่ถึงนาที ก็มีอีกสายโทรมา พอฟังดูดีๆ ผมจึงรู้ว่าเป็นใคร

"หวัดดีครับเจ ก็ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ มีอุบัติเหตุนิดหน่อย เรื่องครอบครัวนั่นแหละ
ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แล้วเจตื่นแล้วเหรอ เพิ่งเก้าโมงเอง ทำไมตื่นเช้าล่ะ"

"แหม...ขยันจังนะครับ อ้อ...เรื่องนัดวันนี้ สงสัยต้องขอเลื่อนไปก่อน ไม่ว่ากันนะ
ใช่...ปัญหาครอบครัวนั่นแหละ ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไง เรื่องน้องสาว
ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว ก็ดีแล้วล่ะ พ่อกับแม่เขารักเด็ก เดี๋ยวก็ให้อภัยเองแหละ"

"อืม...สงสัยต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะหยุดอีกที เห็นคุณเป็งบอกว่าเจไม่ดื่มกาแฟ
แล้วทำไมเจอยากเรียนชงกาแฟล่ะ หรือว่าจะชงให้คนพิเศษกิน"

"ฮ่าๆๆ จะให้ผมเป็นคนพิเศษของเจเหรอ ผมว่าเจคงมีคนพิเศษแล้วมั้ง หล่อขนาดนี้
ไม่น่าจะเหลือรอด แหม...อย่ามาพูดเลย ไม่เชื่อหรอกว่ายังโสด ฮ่าๆๆ โสดไม่สนิทล่ะสิ"

"ผมเหรอ...ก็อย่างที่เจรู้ๆ นั่นแหละ จะว่าโสดก็ใช่ จะว่าไม่โสดก็ไม่เชิง ฮ่าๆๆ งงล่ะสิ
แต่ก็ยังพอมีสิทธิ์เลือกอยู่ ทุกคนก็มีสิทธิเลือกแหละ จะเลือกใครน่ะเหรอ...ไม่รู้สิ
ผมก็ไม่ใช่คนหล่อเลือกได้ขนาดนั้น ผมไม่ใช่เจนี่ หล่อเลือกได้ ฮ่าๆๆ"

"อะไรนะ ก็...ถามว่าสนใจไหม ผมก็ไม่เห็นว่าเจจะไม่น่าสนใจตรงไหนนะ
จะเป็นไปได้ไหมน่ะเหรอ อืม...ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้ มีแต่คาดไม่ถึง
ฮ่าๆๆ ผมเหรอ...ไม่รังเกียจหรอก ว่าแต่เจเถอะ รังเกียจคนจนๆ อย่างผมหรือเปล่าล่ะ
เป็นแฟนกับคนไม่มีอะไรไม่สนุกหรอกนะ ไม่เชื่อเหรอ อยากลองดูก่อนเหรอ ฮ่าๆๆ"

"อ้อ จะไปธุระแล้วเหรอ โอเคๆ เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันใหม่ ได้วันแล้วผมจะโทรไปบอกนะ
โอเค แล้วเจอกัน หวัดดีครับ"

ผมนั่งฟังการสนทนาระหว่างคานินกับเจอย่างตั้งใจ อย่าให้ผมพูดเลยว่ารู้สึกยังไง
ถึงพยายามทำเป็นนิ่ง เอาเข้าจริงๆ ก็แค่ดูนิ่งจากภายนอก แต่ใจร้อนรุ่มอิจฉา

คุยกันสนิทสนมเหมือนกำลังจีบกันใหม่ๆ เลย ไม่ช้าก็เร็วคานินต้องหวั่นไหวกับเจแน่
เผลอๆ ก็อาจจะเผลอใจให้เจไปแล้วก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมคงเสียใจไม่น้อยเลย

พอคานินวางสายได้ไม่เท่าไหร่ โทรศัพท์อีกสายก็มาอีก

"อัญเหรอ ใช่ๆ แนนกลับไปแล้ว กลับไปกับพ่อกับแม่เลย อืม...ก็โกรธน่าดูเหมือนกัน
แต่พี่ว่าไม่นานพ่อกับแม่ก็น่าจะให้อภัยแนนเองแหละ ลูกชายของแนนน่ารักจะตาย"

"อ๋อ...พรุ่งนี้ไง เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปทำงาน ถ้าไปทำได้นะ เป็นอะไรน่ะเหรอ...
เดี๋ยวพรุ่งนี้อัญเจอพี่ก็รู้เอง เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
ตอนนี้เหรอ ไปโรงบาล ไปทำไมน่ะเหรอ เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังพรุ่งนี้ทีเดียวละกันนะ"

"จะชวนไปผับอีกเหรอ ช่วงนี้คงไม่ไหวหรอก ไปทำอย่างอื่นดีไหม อืม...ดูหนังไง
ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่พี่อยากดูมากๆ หนังไทยนี่แหละ เรื่องที่มาริโอ้แสดงไง
ไปดูด้วยกันไหมล่ะ แต่ผับ...พี่ขอบายจริงๆ พรุ่งนี้แนนเจอพี่ก็จะรู้เองแหละว่าทำไม"

"เอ...ไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไหม ไปเที่ยวต่างจังหวัดมันหลายวันนะอัญ ลางานไปเหรอ
เดี๋ยวเขาก็ไล่ออกพอดี พี่ขอคิดดูก่อนนะ แต่ใจจริงพี่ก็อยากไปอยู ช่วงนี้เครียดๆ
ไปเที่ยวก็ดีเหมือนกัน คลายเครียดหน่อย พี่เองก็ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดนานแล้ว"

"โอเคๆ อัญทำงานเหอะ เดี๋ยวผู้จัดการว่าเอา เขายิ่งจ้องๆ พวกเราอยู่ ได้ๆ
เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ หวัดดีครับ"

สายที่สามวางไปแล้ว อารมณ์หึงของผมพุ่งจนแทบคลั่ง แต่ยังดีที่ผมยังอยู่นิ่งๆ ได้
ช่างฮอตเสียจริงๆ ทั้งผู้ชาย ทั้งผู้หญิง ตกลงจะเอาแบบไหนกันแน่หนอพ่อหนุ่มเขี้ยว
ถ้าผมอยู่เฉยต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่ ไม่ใครก็ใครในสองคนนี้คงเอาใจคานินไปก่อน

"คานินนี่ฮอตจังเลยนะครับ" ไม่รู้ว่าประชดหรือเปล่า แต่ผมก็พูดไปแล้ว

"ก็...นิดหน่อย"

นั่น! ผมแค่พูดประชด คานินกลับรับสมอ้างอย่าหน้าชื่นตาบานเสียอย่างนั้น
แต่ช่วงเวลานี้ดูจะไม่ค่อยเหมาะที่จะต่อล้อต่อเถียงเพราะกำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้ว
ผมก็เลยหยุดชวนคุย คานินก็นั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาเช่นเดียวกัน

เอาเถอะ ในเมื่อทุกอย่างมันเริ่มมาจากความลังเลใจของผม ผมคงโวยวายไม่ได้
แทนที่จะเสียเวลาน้อยอกน้อยใจ ผมควรต้องแข่งทำคะแนนกับอีกสองคนดีกว่า
ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่าผมได้เปรียบมากกว่าใครอยู่แล้ว!



อยู่ๆ ทั้งเจและแอนก็เกิดไม่ว่างพร้อมกัน ผมก็เลยต้องมาคนเดียวในฐานะหัวหน้าทีม
กัญชพรบอกพวกเราไว้ตั้งแต่ช่วงอบรมแล้วว่าจะขอนัดเลี้ยงอาหารเย็นขอบคุณอีกที
เจกับแอนก็รับปากเสียดิบดีว่าจะมาด้วยกัน แต่ไปๆ มาๆ กลับติดธุระกะทันหันทั้งคู่
ตอนแรกผมว่าจะขอเลื่อน แต่คิดไปคิดมาก็ไม่เลื่อนดีกว่า เสียเวลาทำมาหากิน

วันนี้คานินมีนัดไปสอนเจชงกาแฟที่บ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าเจถึงไม่มา
แต่ก็สอนแค่ตอนกลางวันนี่นา หรือว่าจะพากันไปไหนต่ออีกหรือเปล่า

ผมมาถึงก่อนเวลานัดนิดหน่อย กัญชพรยังมาไม่ถึงร้านอาหารที่เรานัดกันไว้
ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ในไลน์และเฟสบุ๊คของผม

เลื่อนไปเลื่อนมา ผมก็เจอโพสต์ที่ทำให้ผมต้องเพ่งดูจนตาแทบถลน

ที่หน้าเฟสบุ๊คของเจ มีภาพคานินกำลังสอนเจชงกาแฟที่บ้านโพสต์หราเอาไว้
ดูยิ้มระรื่นมีความสุขทั้งคู่ ผมเลื่อนดูไปมือไม้สั่นไป ทั้งโกรธและใจเสียพร้อมกัน
ที่น่าแปลกมากก็คือ ภูริชเพื่อนผมเข้าไปคอมเมนต์ว่าสองคนนี้ดูเหมาะสมกันดีด้วย

เพื่อนรักของผมก็เป็นไปกับเขาอีกคนด้วยเหรอนี่!

หน้าชากับเฟสบุ๊คของเจไปแล้ว ผมก็ต้องชาเพิ่มสองเท่ากับหน้าเฟสบุ๊คของคานินต่อ
คานินโพสต์ภาพที่ตัวเองไปดูหนังกับอัญญาสองคนหราและยิ้มระรื่นเช่นเดียวกัน

นี่มันอะไรกัน ตกลงคานินจะเลือกใคร ทำไมถึงให้ความหวังกับคนนั้นที คนนี้ที
แล้วผมล่ะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้เจอคานินเลย เจอที่ร้านแต่ก็ไม่คุยด้วย
เวลาโทรไปก็บอกว่าไม่สะดวกคุย ไม่ว่าง ติดสาย ติดธุระหรือไม่ก็ทำงาน

นี่สรุปว่า...คานินไม่ให้โอกาสผมแล้วใช่ไหมถึงได้ทำกับผมอย่างนี้

แต่ก่อนที่ผมจะดำดิ่งไปกับความคิดเชิงลบ กัญชพรก็พาร่างสูงโปร่งของเธอมาถึงพอดี
เธอส่งยิ้มหวานมาให้เมื่อเห็นผมนั่งรออยู่ ชุดที่เธอใส่วันนี้ดูสวยอ่อนหวานมากทีเดียว
คงยากที่ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วจะปฏิเสธว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่ารัก ต่อให้เป็นเกย์ก็เถอะ

"ขอโทษทีค่ะ มาช้าไปหน่อย แล้วคุณเจกับคุณแอนล่ะคะ" กัญชพรถามพลางมองหา

"ไม่ช้าหรอกครับ ผมมาก่อนเวลาเอง เจกับแอนติดธุระด่วนนะครับ เลยมาไม่ได้"

ผมบอกแล้วก็ลุกขึ้นไปเลื่อนเก้าอี้ให้สุภาพสตรีที่มาถึงนั่งตามมารยาทของสุภาพบุรุษ

"ขอบคุณค่ะ" กัญชพรส่งยิ้มบางๆ มาให้แล้วก็นั่งลง ก่อนจะเงยหน้ามาคุยต่อ

"น่าเสียดายจัง วันนี้กัญกะว่าจะเลี้ยงเต็มที่เลย สงสัยคุณเป็งต้องกินเผื่อสองคนด้วยแล้วล่ะ"

กัญชพรสัพยอกอย่างอารมณ์ดี

"ครับ" ผมยิ้มบางๆ พร้อมกับแอบแวบมองเขี้ยวเสน่ห์ของเธอไปด้วย

"สั่งอะไรหรือยังคะ" กัญชพรถามขณะที่รับเมนูจากเด็กเสิร์ฟมาดู

"ยังเลยครับ"

"อ้อ...งั้นก็สั่งพร้อมๆ กันเลยค่ะ สั่งได้ตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ"

"ครับ" ผมรับคำแล้วก็หยิบเมนูที่ได้รับมาสักพักแล้วขึ้นมาดูบ้าง

"กัญชอบมากินที่ร้านนี้น่ะค่ะ อาหารเขาอร่อยมาก คุณภาพดี วัตถุดิบก็ดี สะอาดด้วย
แล้วก็ชอบบรรยากาศด้วย คนไม่เยอะดี ว่างเมื่อไหร่กัญก็จะมา ส่วนมากก็มากับเพื่อนๆ"

กัญชพรดูเมนูไปด้วย ชวนผมคุยไปด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากรู้นัก

"ครับ ผมก็ชอบบรรยากาศของร้านเหมือนกัน สงสัยวันหลังต้องแวะมาบ่อยๆ"

ผมตอบไปตามมารยาท ถ้าสามารถยกเลิกนัดวันนี้ได้ผมคงทำไปแล้ว
ยอมรับตามตรงว่าเห็นเฟสบุ๊คของสองคนนั้นแล้วผมอารมณ์พลุ่งพล่านจริงๆ
แทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย อยากจะกลับไปจัดการให้รู้แล้วรู้รอด

ผมกับกัญชพรสั่งอาหารไปแล้วเราก็นั่งคุยกันในระหว่างรอ

"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมคุณเป็งดูเครียดๆ ไม่สบายเหรอคะ"

"เปล่าหรอกครับ พอดี...งานยุ่งนิดหน่อย" ผมยิ้มบางๆ แต่แววตาเศร้า

"ช่วงนี้งานเข้ามาเยอะเหรอคะ"

ผมพยักหน้า "แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมล็อกวันสำหรับการอบรมครั้งต่อไปให้แล้ว"

กัญชพรหัวเราะชอบใจเบาๆ "เรื่องนั้นกัญไม่ห่วงหรอกค่ะ"

ผมกำลังจะอ้าปากคุยต่อ พลันก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเหลือบไปเห็นคนที่เพิ่งเข้ามาในร้าน

นี่ผมตาฝาดไปหรือเปล่า! ไม่งั้นสมองผมก็คงเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ!
เจกับคานิน! สองคนนี้มาทำอะไรด้วยกันที่นี่!

อย่างนี้นี่เองเจถึงปฏิเสธและอ้างว่ามีธุระ ส่วนแอน ถ้าเจไม่มาเธอก็มักจะไม่มาด้วย
ผมไม่ติดใจแอนหรอก แต่คาใจกับสองคนนี้ต่างหาก

"มีอะไรหรือเปล่าคะ" กัญชพรถามพร้อมกับเลิกคิ้ว

"อ๋อ...เปล่าครับ" ผมรีบบอกปัดด้วยอาการคล้ายกับมีพิรุธ

เจกับคานินเลือกไปนั่งที่อีกมุมหนึ่งของห้อง ดูเหมือนจะไม่เห็นผมกับกัญชพร
สั่งอาหารกันไป คุยกันไป ยิ้มกันไป หัวเราะกันไป ดูมีความสุขเสียจริงๆ
ผมชักจะทนไม่ไหวแล้ว กินข้าวเย็นกับกัญชพรเสร็จผมคงต้องจัดการเรื่องนี้เสียที

คานินนะคานิน ผมไม่เคยคิดว่าคานินจะทำอย่างนี้กับผมเลย เพื่อนรุ่นน้องผมด้วย
ผมยังเป็นแฟนของคานินอยู่แท้ๆ ทำไมทั้งสองคนจึงทำเหมือนไม่เห็นหัวผม

ไม่ได้การแล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยให้มันเลยเถิดแบบนี้อีกแล้ว!

อาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟพอดี ผมจึงเปลี่ยนจุดสนใจมาที่อาหารและคนตรงหน้า
ถ้าจะมัวแต่ก้มหน้าก้มตากินให้เสร็จๆ แล้วรีบไปก็คงจะเสียมารยาทมากไปหน่อย
แต่ผมก็แทบไม่มีสมาธิเลย กินไป คุยไปแล้วก็แอบลอบมองสองคนนั้นไปด้วย
มองบ่อยจนกระทั่งกัญชพรเริ่มสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรผมหรอก

ผมแอบมองสองคนนั้นอีกครั้ง แม้ว่าจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ผมคงปล่อยไว้ไม่ได้
แม้ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ผมรู้แต่ว่าถ้าคานินยังทำแบบนี้ไม่เลิก
ความสัมพันธ์ของผมกับคานินก็อาจจะไปต่อไม่ได้ น่าเศร้าจริงๆ

แต่ในเมื่อ...คานินไม่ให้โอกาสผมแล้ว คงไม่ให้โอกาสผมแก้ตัวแล้วจริงๆ
ไม่ยอมพูดด้วย ไม่มาพบหน้า แถมยังไปไหนมาไหนกับคนอื่นอย่างโจ่งแจ้ง
แล้วผมจะคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง

คานินกำลังถอยห่างไปจากชีวิตผมแล้ว ห่างออกไปและไกลออกไปทุกที
และสุดท้าย...ก็อาจจะไกลจนสุดมือผม!!!

TBC...


https://www.youtube.com/v/H7RraH_HIXE


ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
มีแต่คนรุมจีบคานิน เอาละสิเป็ง


หรือว่านี่เป็นวิธีที่ทุกคนร่วมมือกันเพื่อทำให้เป็งมั่นใจความรู้สึกของตัวเองจริงๆ
หุหุ แอบสงสารนิดๆ555+

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
กร๊ากกกกก เริ่มสะใจเป็งเล็กๆ 4 คนนี้รวมหัวกันทำอะไรป่าวเนี่ย ออกนอกหน้ากันมากอ่ะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
สังเกตว่ามีคนที่มาอ่านบางคนอ่านแล้วแต่ไม่คอมเมนต์กันเลย
แสดงว่าไม่ชอบตอนนี้กันแน่ๆ
แต่ไม่ชอบตอนนี้ก็ไม่ได้แปลว่าตอนหน้าจะมาไวนะครับ อิๆ
ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งมาช้าครับ  :laugh: :laugh: :laugh:
ช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะ อาจจะไม่อัปเดตยาวเลย (ยกเว้นมีแรงกระตุ้นดี)

https://www.facebook.com/AllaboutEddiePeng/videos/918910048228235/

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2:

ขำคุณคนเขียนอะ เดี๋ยวมาอ่านนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
สังเกตว่ามีคนที่มาอ่านบางคนอ่านแล้วแต่ไม่คอมเมนต์กันเลย
แสดงว่าไม่ชอบตอนนี้กันแน่ๆ
แต่ไม่ชอบตอนนี้ก็ไม่ได้แปลว่าตอนหน้าจะมาไวนะครับ อิๆ
ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งมาช้าครับ  :laugh: :laugh: :laugh:
ช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะ อาจจะไม่อัปเดตยาวเลย (ยกเว้นมีแรงกระตุ้นดี)

https://www.facebook.com/AllaboutEddiePeng/videos/918910048228235/

โอ้ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เป็งจะทำยังไงต่อไปนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เป็นงัยล่ะ คานินไม่ใช่ของตายนะ ฮ๊อตซ้าาา ขนาดนี้ :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เห็นใจเป็งอ่ะ แต่คานินแค่แกล้งเป็งเองนะ ๕๕๕ เดี่ยวเป็งหายไปบ้างคานินก็คงคิดถึงเป็งเหมือนกัน เป็นใครก็คิดแบบเป็งอ่ะ
  รอ รอ อ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ดีมีคานิน ให้เป็งอกแตกตายไปเลย55555555

ขอบคุรค่ะ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ไม่รู้จะเชียร์ใคร...

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ที่คานินทำแบบนี้เพราะว่าเป็งยังไม่ยอมเคลียร์เรื่องกัญแน่ๆเลยใช่ปะ...จะหวงทำไมในเมื่อตัวเองไม่เคลียร์...จะบอกทำไมว่ายังเป็นแฟนกันแล้วทำไมทำแบบนี้ก็ตัวเองทำก่อน...ถ้าเป็งทำก่อน.. เราทีมคานิน...เชียร์ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
อยากจะเขียนตอนต่อไปมากๆ เลย มันน่าร๊ากกกกน่ารักแหละ
แต่ช่วงนี้มีเวลาแค่วันละชั่วโมงก่อนนอน เขียนได้วันละนิดๆ หน่อยๆ
รอหน่อยนะครับ :)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:

พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้อ่านนะครับ ตอนนี้เขียนเสร็จแล้ว แต่ขอเกลาก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนตอนนี้ได้เร็วขนาดนี้ 555
ตอนที่ 17 อาจจะไม่เท่าไหร่ มีดราม่าอยู่ แต่ตอนที่ 18 นี่เตรียมหมอนมาจิกได้เลย อิๆ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:

พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้อ่านนะครับ ตอนนี้เขียนเสร็จแล้ว แต่ขอเกลาก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนตอนนี้ได้เร็วขนาดนี้ 555
ตอนที่ 17 อาจจะไม่เท่าไหร่ มีดราม่าอยู่ แต่ตอนที่ 18 นี่เตรียมหมอนมาจิกได้เลย อิๆ

อ้ากกกก รอจิกหมอน  :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 17 รักคำแรกของผม



เป็ง...

ผมกับกัญชพรทานอาหารด้วยกันเสร็จก่อนสองคนนั้นที่ยังคงนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน
แม้ว่าจะร้อนรุ่มใจแค่ไหน แต่ด้วยมารยาทของสุภาพบุรุษ ผมก็ต้องไปส่งเธอขึ้นรถ

ก่อนขับรถออกไป กัญชพรก็ไม่ลืมโบกมือลาและยิ้มให้ ไม่ใช่ลาครั้งสุดท้ายหรอก
ผมยังคงมีงานที่ต้องทำกับหน่วยงานของเธออีกอย่างน้อยสองครั้งสำหรับปีนี้

โดยธรรมชาติของผู้ชาย ก็อาจชอบมองผู้หญิงสวยบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แต่สำหรับคนที่รู้หัวใจของตัวเองอย่างผม การมองก็เป็นเพียงแค่การมองแค่นั้น
ผมคิดว่ากัญชพรก็คงพอจะรู้แล้วเพราะผมกันตัวเองไว้ด้วยการทำให้เธอเข้าใจว่า...
ผมน่าจะมีแฟนแล้ว แม้ผมแอบหยอดๆ ไปบ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่ามีเส้นแบ่งกั้นไว้

ผมส่งยิ้มและโบกมือลาพร้อมกับรถของเธอที่ค่อยๆ เคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ
พอรถของกัญชพรหายลับไปตรงทางออกแล้ว ผมก็รีบวิ่งแจ้นกลับมาที่ร้าน
ไม่ได้เข้าไปในร้านอีกครั้งหรอก แต่ทำทีเป็นเดินเล่นไปมาอยู่แถวๆ นั้น
รออยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เจกับคานินก็ยุติอาหารเย็นมื้อพิเศษของทั้งสองคน

ผมแอบหลบตรงร้านหรือน่าจะเรียกว่าซุ้มขายไอศครีมเล็กๆ เพื่อไม่ให้สองคนนั้นเห็น
พอเจกับคานินเดินออกมาแล้วผมจึงย่องตามไป คอยเตือนตัวเองให้ใจเย็นๆ ไปด้วย

จนกระทั่งสองคนนั้นเดินผ่านประตูกระจกออกไปยังลานจอดรถของห้าง
ผมก็เข้าชาร์จด้วยการวิ่งไปดักข้างหน้าทันที

"คุณเป็ง!/พี่เป็ง!" คานินกับเป็งอุทานพร้อมกันอย่างตกใจและหยุดกึกอยู่กับที่

สองคนนั้นหน้าถอดสีจนดูซีดอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังดีที่ยังรู้สึกอะไรกันอยู่บ้าง

"ตกใจมากเหรอ นี่ใช่ไหมที่เจบอกพี่ว่าเจมีธุระ มีธุระกับแฟนพี่เนี่ยเหรอ!"

ผมชักเดือดจึงไม่แทบไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเองได้
จ้องสายตาของทั้งสองคนสลับกันไปมา ทั้งคู่ต่างหลบตาเป็นพัลวัน

"ทำอะไรกันรู้ตัวหรือเปล่า! ไม่เห็นหัวพี่เลยเหรอ! พี่กับคานินยังไม่เลิกกันซะหน่อย"

เจกับคานินทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนคนทำผิดแล้วถูกจับได้เลย หน้าซีดเผือดยังกับไก่ต้ม

"ว่ายังไงล่ะ!" ผมขึ้นเสียงดัง เจกับคานินถอยกรูดไปสองสามก้าว

ผมย่างเท้าตามไปอย่างช้าๆ ดีหน่อยที่แถวนี้คนไม่พลุกพล่านผมจึงไม่ต้องกังวลใดๆ

"คานิน...คานินเห็นผมเป็นอะไรเหรอ ถ้าจะไม่ให้โอกาสผมแก้ตัว...ก็บอกผมตรงๆ สิ
ถ้าจะไม่รักกันแล้ว บอกผมสิ! ถ้าอยากไปจากผมจริงๆ ผมก็คงห้ามไม่ได้อยู่แล้ว"

ผมเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หนุ่มเขี้ยวของผมบ้าง ตอนนี้หน้าหดเหลือสองนิ้วแล้ว

"เอ่อ...ผม..." คานินตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

"ตกลงจะเอายังไง คานิน เจ" ผมมองหน้าทีละคนตามชื่อที่เรียก

"คือผม..." เจอึกอัก ไม่ว่ารู้ว่าผมทำหน้าดุขนาดไหนแต่ดูเจกลัวมากทีเดียว

"ตอบไม่ได้เหรอ!" ผมขึ้นเสียงอีก จ้องหน้าสองคนสลับกันไปมา

"ว่าไงคานิน จะคบกับเจหรืออัญก็เลือกเอาละกันนะ ผมขอแค่ให้เราสองคนจบกันก่อน
แค่บอกผมเท่านั้นแหละ บอกผมมาสิคานิน เราสองคนจบกันแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้ใช่ไหม!"

ผมคาดคั้นด้วยอาการโกรธระคนผิดหวัง มือไม้และริมฝีปากสั่นพอๆ กัน

"คุณเป็ง" คานินทำหน้ารู้สึกผิด ดูเหมือนอยากพูด แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่เอ่ยปาก

"คานินอาจจะโกรธผมที่ผมเคยลังเลใจ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง...
ผมไม่เคยลังเลว่าผมรักคานินหรือเปล่า ผมแค่สงสัยว่าความรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้น...
คืออะไรกันแน่ ใช่ความรักหรือเปล่า หรือว่า...เป็นแค่ความหลงใหลชั่วคราว
ผมพิสูจน์ตัวเองแล้ว ผมเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ผู้หญิงในแบบที่ผมฝังใจ แต่รู้ไหม...
ผมยอมเป็นคนกะล่อน ทำทีเล่นทีจริง ทำเป็นอยากอยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนั้น
ทำเป็นหมาหยอกไก่ ทำเป็นสนใจเขา จ้องตาเขา คอยเฝ้ามองเขี้ยวเสน่ห์ของเขา
แต่คำตอบสุดท้ายของผม...ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น คำตอบสุดท้ายของผมก็คือ...คานิน!"

"คุณเป็ง" คานินอุทานด้วยเสียงเบาหวิวจนผมแทบฟังไม่ได้ยิน

แต่ก่อนที่ผมจะระเบิดอารมณ์ไปมากกว่านี้ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

"ไอ้เป็ง ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน"

ผมหันไปมองตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง พอเห็นว่าเป็นเพื่อนรักก็แปลกใจ
ไม่รู้ว่ามายืนดูตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงได้รู้ว่าผมกำลังระเบิดอารมณ์ใส่สองคนนี้อยู่

"ไอ้ภู"

เพื่อนรักผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทำไมเรื่องต่างๆ ถึงบังเอิญมากขนาดนี้ น่าแปลกจริงๆ
แต่ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกหรอกเพราะกำลังโมโหอยู่ ก็เลยไม่เอะใจแม้แต่น้อย

"มึงมานี่กับกูก่อนไอ้เป็ง"

ภูริชตรงเข้ามาจับแขนแล้วลากผมเดินออกไป

"ไอ้ภู มึงจะพากูไปไหน กูขอจัดการกับสองคนนี้ก่อนได้ไหม" ผมพยายามขืนตัวไว้

"มึงไม่ควรจัดการปัญหาตอนที่มึงกำลังอารมณ์ร้อนนะเว้ยไอ้เป็ง ไปคุยกับกูก่อน"

ภูริชพูดเสียงดังและทำหนักแน่นอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน บวกกับคนเริ่มมอง
สุดท้ายผมจึงยอมให้เพื่อนรักลากไปที่รถ แต่ก็ไม่วายหันไปมองเจกับคานินเป็นระยะๆ

"เดี๋ยวมึงค่อยมาเอารถมึงละกัน ไปกับกูก่อน" ภูริชพูดเหมือนออกคำสั่ง

แม้จะรู้สึกขัดใจพอสมควร แต่การปรากฎตัวของภูริชก็ทำให้ผมได้สติมากขึ้น
ก็จริงอย่างที่เพื่อนรักบอก ผมไม่ควรแก้ปัญหาในขณะที่ตัวเองยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ผมเข้าไปนั่งในรถของเพื่อน พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
พอรถแล่นออกไปแล้ว ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้คุยกันเลยตลอดทาง



ภูริช...

ผมพาเป็งมาที่คอนโดของผมตอนเกือบสามทุ่ม เจ้าตัวยังคงเงียบอยู่
แต่พอเข้ามาในห้องผมแล้วก็เริ่มกระฟัดกระเฟียด ทิังตัวลงนั่งแล้วก็ระเบิดต่อ

"มึงก็เห็นใช่ไหมไอ้ภูว่าคานินทำอะไร เดี๋ยวก็เจ เดี๋ยวก็อัญ แล้วกูเป็นอะไรวะ"

จะว่าสงสารก็สงสารเพราะผมไม่เคยเห็นเป็งเป็นอย่างนี้เลย
แต่ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนใช้อารมณ์ของตัวเองมากนัก

"ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน เดี๋ยวแป๊บนึงนะ กูขอโทรศัพท์ธุระแป๊บนึงก่อน
ไม่เกินครึ่งนาที เดี๋ยวกูจะคุยกับมึงทุกเรื่องเท่าที่มึงต้องการเลย"

เป็งดูจะหงุดหงิดแต่ก็ไม่ว่าอะไรผมหยิบโทรศัพท์มาแล้วกดเบอร์โทรออกไป
พูดคุยสองสามคำแล้วก็ยุติการสนทนา หันมาหาเป็ง พยายามยิ้มให้

"โอเค กูพร้อมจะฟังมึงแล้ว"

ผมนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเพื่อนรัก เป็งนั่งตัวตรงแล้วก็ระบายความรู้สึกต่อ

"กูโคตรเจ็บเลยนะเว้ยไอ้ภู มึงก็รู้ใช่ไหมว่าคานินเป็นรักแรกของกู กูไม่เคยรักใคร
เกิดมาในชีวิตนี้ นอกจากครอบครัว นอกจากเพื่อนอย่างมึง กูก็รักคานินเป็นคนแรก
กูชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น อยากคุย อยากรู้จัก อยากอยู่ใกล้ๆ กูไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
กูไม่เคยคิดว่าจะรักผู้ชายด้วยกันได้ แต่กูก็รักเขาได้ ก็อย่างที่มึงบอกนั่นแหละไอ้ภู...
ถ้ากูไม่รู้สึกกับเขามากขนาดนั้น กูก็ไม่น่าจะบ้าทำไปถึงขนาดนั้นหรอก แต่กูชอบเขา
ชอบเขามากๆ ด้วย อะไรที่ไม่เคยทำกูก็ทำ ทำทุกอย่างเพราะกูอยากมีเขาอยู่ข้างๆ"

เป็งหยุดเว้นจังหวะ ถ้าดูไม่ผิด ดูเหมือนมีหยดน้ำตาเล็กๆ ซึมออกมาจากสองตาด้วย

"ที่กูสับสน ไม่ได้แปลว่ากูไม่รักเขาซะหน่อย กูผิดมากเหรอที่กูแค่สงสัย กูถูกลงโทษ
ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคำตอบของกูคืออะไร ทำไมล่ะไอ้ภู กูผิดเลยมากเหรอ
กูก็เป็นคนธรรมดานะเว้ย ทำไมกูถึงจะสับสนไม่ได้ กูฝังใจกับเรื่องนี้มาตั้งนาน มึงก็รู้
กูแค่ขอเวลาหาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองแค่นั้น ไม่ให้โอกาสกูหน่อยเลยเหรอวะ
ความจริง...กูก็ได้คำตอบตั้งแต่คุยกับมึงวันนั้นแล้ว มึงช่วยพูดให้กูเข้าใจตัวเองแล้ว
กูรู้แล้วว่ามันเป็นแค่...infatuation ไม่ใช่ความรัก แต่คานินไม่ให้โอกาสกูแก้ตัวเลย"

พอเห็นเพื่อนเศร้าและเจ็บปวด ความสงสารที่แท้จริงก็บังเกิดในใจผม
นานๆ ทีผมจะเห็นเป็งบ่นและคิดลบมากขนาดนี้ แม้จะแปลกใจแต่ก็พอเข้าใจได้

"เอางี้...มึงตอบคำถามกูให้ชัดๆ อีกทีได้ไหมไอ้เป็ง"

เป็งหยุดมองหน้าผม ครุ่นคิด อาการดูสงบลงเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้า

"เรื่องกัญชพร ความรู้สึกของมึงกับผู้หญิงคนนี้...คืออะไรกันแน่" ผมยิงคำถามแรก

"กูไม่ได้รักเค้า" เป็งตอบมาแทบจะทันที "เขาสวย เขาน่ารัก กูไม่ปฏิเสธว่าชอบมอง
แต่ชอบมองก็ไม่ได้แปลว่ากูรักเขานะเว้ย ตามประสาผู้ชาย...มันก็ต้องมีบ้าง"

"แน่ใจใช่ไหม" ผมถามย้ำ

"แน่ใจสิวะ กูเคยโกหกมึงเหรอ กูไม่ได้รักเขา...ล้านเปอร์เซ็นต์" ย้ำหนักแน่นแล้วพูดต่อ

"กูทำตามที่มึงกับเจแนะนำแล้ว พยายามอยู่ใกล้ชิดกับคุณกัญ ก้อล้อก้อติกเขา
ไม่รู้ว่าเขามองกูว่าเป็นคนกะล่อนหรือเปล่า แต่มันก็ได้ผล เพราะมันทำให้กูรู้ว่า...
กูไม่ได้รักเขาเลย มันเป็น infatuation อย่างที่มึงว่าจริงๆ"

ผมพยักหน้าเข้าใจอย่างช้าๆ ยิ้มพอใจเล็กน้อยกับคำตอบของเพื่อนรัก

"แล้ว...ตอนที่คานินไปกับเจ อ้อ...ไปกับอัญด้วย มึงหึงเขาหรือเปล่า"

"มึงยังจะถามกูอีกเหรอวะ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ เรายังไม่ได้เลิกกันนะเว้ย ทำไมกูจะไม่หึง
แล้วที่สำคัญ...กูรักคานิน กูไม่อยากให้เขาไปกับคนอื่น กูกลัวว่ากูจะเสียเขาไป
ยิ่งรู้ว่ากูทำให้เขาเสียใจ ยิ่งรู้ว่ากูทำผิดกับเขา กูก็ยิ่งกลัวว่าเขาจะทิ้งกูไป"

"สรุปว่ามึงหึงเขาใช่ไหม" ผมถามย้ำ

"เออสิวะ ถามแปลกๆ นะมึงน่ะ" เป็งค่อนขอดเล็กน้อย

"หึงมากหรือเปล่า" ผมถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจจริงๆ

"อะไรของมึงวะไอ้ภู มึงก็เห็นแล้วนี่ ถ้ามึงไม่ลากกูมา กูคงได้ต่อยกับไอ้เจแน่ๆ"

ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเพื่อนผมจะมีมุมโหดๆ อย่างนี้ด้วย

"แล้วอัญล่ะ มึงหึงคานินกับอัญไหม"

เป็งคงรู้สึกว่าผมชักเริ่มแปลกๆ เพราะขมวดคิ้วและมองผมอย่างสงสัย

"กูก็หึงหมดแหละ มึงรู้ไหมว่าตอนที่กูเห็นรูปคานินกับอัญที่ผับอะไรสักอย่างน่ะ
หัวใจกูแทบสลาย ผู้หญิงกับผู้ชายสองคน เมาขนาดนั้น คงไปถึงไหนกันแล้วมั้ง"

"แสดงว่า...มึงเข้าใจความรู้สึกของคานินตอนที่คานินรู้ว่ามึงสับสนแล้วใช่ไหม"

"ก็เออดิ โคตรจะเข้าใจเลย แต่มึงรู้ไหมว่ากูก็สงสารเขา ช่วงที่กูยังหาคำตอบไม่ได้
กูก็ไม่อยากให้เขารู้หรอก สำหรับกูนะ...รู้ว่าไม่รักยังไม่เจ็บเท่าไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น ตอนที่กูยังไม่มีคำตอบ กูก็ไม่อยากให้เขารู้ แต่คานินก็บังเอิญรู้จนได้"

ผมพ่นลมหายใจ มองหน้าเพื่อนอย่างใช้ความคิด จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าไปใหม่
รวบรวมความกล้าเมื่อมาถึงจุดสำคัญที่สุดที่ผมต้องพูดเสียที

"เรื่องที่คานินไปผับกับอัญ มึงไม่ต้องห่วงหรอก เขาสองคนไม่ได้ทำอะไรเสียหาย"

"แล้วมึงรู้ได้ไงวะ อย่าบอกนะว่ามึงไปกับเขามา" เป็งถามคล้ายประชด

"เออ กูไปกับเขามา แล้วกูก็เป็นคนไปส่งคานินเองถึงอพาร์ทเมนต์ของเขาเลย
เพราะฉะนั้นกูถึงกล้ายืนยันว่าคานินไม่โดนผู้หญิงคนนั้นงาบอย่างแน่นอน"

เป็งขมวดคิ้วแน่น ท่าทางสงสัยสุดขีด ผมทำใจนิ่งๆ สักพักจึงพูดต่อ

"กูไม่รู้ว่ามึงจะโกรธกูหรือเปล่านะ มึงจะโกรธกูก็ได้ แต่อย่าถึงกับเลิกคบกูนะเว้ย
คืออย่างงี้...เรื่องทั้งหมดที่ทำให้มึงหัวเสียอยู่ตอนนี้...เป็นแผนของกูเองแหละ"

เป็งหน้าเหวอและดูงุนงงมากกว่าเดิม "มึงพูดอะไรของมึงวะไอ้ภู กูไม่เข้าใจ"

"ก็กูอยากช่วยมึงสองคนไง" ผมเกริ่นก่อนอธิบายจริง

"ช่วยเหรอ ช่วยยังไง" เป็งยังคงขมวดคิ้ว

ผมรวบรวมความกล้าอีกครั้ง แม้กลัวเพื่อนโกรธแค่ไหนก็ต้องพูดความจริง

"อย่างแรก กูอยากให้มึงแน่ใจตัวเองจริงๆ ว่ามึงรักคานิน และรักเขามากจริงๆ
อย่างที่สอง...กูอยากให้คานินรู้แล้วก็มั่นใจว่ามึงรักคานินจริงๆ เขาจะได้ไม่สงสัยอีก"

"ยังไงวะ" เป็งดูไม่คลายสงสัยลงไปเลยแม้แต่นิด

"ก็...อย่างแรก ที่กูให้มึงทำตามคำแนะนำของเจน่ะ เพราะกูอยากให้มึงค้นพบหัวใจตัวเอง
มึงสับสนว่ามึงรู้สึกยังไงกับกัญชพรใช่ไหม แทนที่มึงจะหนีมันไป มึงต้องวิ่งเข้าหามัน
ไปอยู่ใกล้เขา คุยกับเขา รู้จักกับเขา แต่ก็มีระยะห่างไว้ป้องกันตัวเอง มึงถึงจะรู้ด้วยตัวเองไง
ว่าสุดท้าย...ความรู้สึกที่มึงมีให้เขา...ใช่ความรักหรือเปล่า มึงก็ได้คำตอบแล้วนี่"

ผมหยุดเว้นจังหวะ เพราะเรื่องต่อไปสำคัญมากและเสี่ยงที่ผมจะถูกเพื่อนด่าที่สุด

"ส่วนอีกเรื่อง กูเป็นคนขอให้เจ อัญแล้วก็คานิน...ทำอย่างที่มึงเห็นนั่นแหละ
เจกับอัญเขาไม่คิดจะแย่งแฟนมึงหรอก กูแค่ขอให้สองคนนี้มาช่วยทำให้มึง...หึงคานิน
มึงจะได้รู้ใจตัวเองไงว่ามึง...รักคานินมากแค่ไหน กูไม่มีเจตนาอย่างอื่นเลย"

"มึงหยุดเลยนะเว้ยไอ้ภู!" เป็งพูดสวนขึ้นมาก่อนผมพูดจบ ท่าทางดูโกรธอย่างเห็นได้ชัด

ผมหยุดพูดหรือจะเรียกว่าหยุดชะงักก็ได้ ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ รู้สึกใจคอไม่ดี
เป็งลุกขึ้นยืนแล้วก็พูดใส่อารมณ์เสียงดังกับผม

"พวกมึงเห็นกูเป็นอไรเหรอวะ ไม่เชื่อใจกูกันเลยเหรอถึงต้องทำกันแบบนี้
คำพูดของกูไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างงั้นเหรอ ถ้ากูบอกว่ารัก ไม่มีใครเชื่อใช่ไหมว่ากูรัก
กูไม่สนุกด้วยนะเว้ยไอ้ภู ถึงกูจะเข้าใจความหวังดีของมึง แต่กูก็ไม่สนุก กูเจ็บนะเว้ย
เห็นกูเป็นตัวอะไรวะ ถ้าไม่เชื่อคำพูดกัน ก็บอกมาเลย ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"

พูดจบแล้วเป็งก็พรวดพราดออกไปจากห้องผม ผมทำท่าจะวิ่งตามไปแต่ก็หยุดและนั่งลง
เป็งโกรธผมไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปอธิบายตอนนี้ คงต้องรอให้สงบสติอารมณ์ก่อน
ผมก็เสียใจเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเป็งเน้นย้ำว่า "กูไม่สนุกด้วย"
ด้วยความที่อยากช่วยก็เลยลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย ถ้าผมโดนแบบนี้บ้างก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน

กูขอโทษนะเพื่อน!



คานิน...

ผมได้ยินการสนทนาทั้งหมดแล้วเพราะภูริชโทรศัพท์มาหาผมตอนที่คุยกับเป็ง
จากนั้นก็เปิดสายไว้เพื่อให้ผมได้ฟังว่าเป็งพูดอะไรกับภูริชเรื่องผมบ้าง
ผมรู้สึกผิดมากทีเดียว ถ้าผมเป็นเป็งก็คงรู้สึกแย่ที่โดนคนรักลองใจอย่างนี้
ก็อย่างที่เป็งว่า ถ้าไม่เชื่อใจกันก็บอกกันตรงๆ ไม่ควรทำอย่างนี้ให้เสียความรู้สึก

ผมนึกถึงเรื่องที่ผมคุยกับภูริชวันนั้น ตอนที่เป็งไปจัดงานอบรมที่นครนายกสามวัน
ตอนนั้นผมเองก็เคว้งเพราะกลัวว่าเป็งจะไปจากผมเพราะได้เจอคนที่ใช่มากกว่า
แต่สิ่งที่ภูริชบอกทำให้ผมอยากให้โอกาสตัวเองและเป็งอีกสักครั้ง

"คานินไม่ต้องเสียใจหรอก ผมเป็นเพื่อนเป็งมาเป็นสิบๆ ปี รู้จักเขาดี เขารักคานินนะ
เขาไม่รักผู้หญิงคนนั้นหรอก เข้าใจเป็งเขานิดนึง เขาฝังใจกับผู้หญิงมีเขี้ยวมานาน
เขาเลยแยกไม่ออกว่าความหลงกับความรักต่างกันยังไง แต่คานินคงรู้ว่ามันต่างกัน
อีกอย่าง...เป็งก็ไม่เคยมีความรักมาก่อน ก็เลยสับสนอยางที่เห็นนั่นแหละครับ
ถ้าคานินอยากพิสูจน์ ก็ทำตามที่ผมแนะนำ แล้วคานินจะเห็นด้วยตาของคานินเอง"

ผมยอมรับว่าพอได้ฟังแล้วก็ยังไม่มั่นใจเสียทีเดียว แต่ก็อยากพิสูจน์ให้แน่ใจ
จนวันนี้ผมก็ได้รู้แล้ว เป็งรักผมจริงๆ ด้วย ผมไม่น่าไปลองใจเป็งอย่างนั้นเลย
ไม่ได้การแล้ว ผมต้องไปหาเป็ง ต่อให้เป็งโกรธเกลียดยังไงผมก็ต้องไปหาให้ได้

ว่าแล้วผมก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและลงไปเรียกมอเตอร์ไซค์ไปปากซอย
พอถึงถนนใหญ่ก็นั่งรถเมล์ไปลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ผมแทบไม่เคยใช้บริการเลย
จากนั้นจึงต่อบีทีเอสไปยังสถานีที่อยู่ใกล้ร้านกาแฟที่ผมทำงานอยู่

พอออกจากสถานีบีทีเอส ผมก็เดินลิ่วเข้าไปในซอยที่เป็นที่ตั้งของคอนโดของเป็ง
จนกระทั่งในที่สุดผมก็พาตัวเองมาอยู่ที่ล็อบบี้ของคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองจนได้

ผมพยายามโทรหาเป็งแต่ก็ไม่ติด ส่งไลน์ไปก็ไม่อ่าน ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ
สุดท้ายผมจึงต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ของคอนโดให้ช่วยโทรไปที่ห้องของเป็ง
น้องผู้หญิงจัดการโทรให้ผมอย่างกุลีกุจอ แต่โทรไปหลายรอบก็ไม่มีใครรับสาย

"คุณป้องเกียรติยังไม่ได้ออกไปไหนใช่ไหมครับ" ผมถามย้ำ

"เพิ่งเห็นเข้ามา ยังไม่น่าจะออกไปนะคะ" เจ้าหน้าที่สาวสวยบอก

"ช่วยโทรอีกทีได้ไหมครับ" ผมขอความเห็นใจอีกครั้งเพราะเหลือเพียงทางเลือกเดียว

เจ้าหน้าที่สาวสวยยิ้มให้ แล้วจัดการโทรเข้าเบอร์ห้องของเป็งอีกครั้งตามที่ผมร้องขอ
หลังจากที่พยายามโทรไปสองสามรอบ ในที่สุดก็มีคนรับสายเสียที

"คุณป้องเกียรติคะ มีแขกชื่อคานินมารอพบที่ล็อบบี้ค่ะ"

ผมรู้สึกโล่งใจมากทีเดียวที่เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อเป็งได้และบอกว่าผมมารออยู่

"ขอบคุณมากครับ" ผมยิ้มให้เธอแล้วก็กลับมานั่งรอตรงที่นั่งบริเวณล็อบบี้ตามเดิม

แม้ว่าจะกลัวเป็งโกรธแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมกลัวมากกว่านั้นก็คือการเสียเป็งไป
เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ยอมเสียเป็งไปเด็ดขาด ถ้าจะต้องอ้อนวอนก็ยินดีทำ

ในที่สุดเป็งก็ลงมาหาผมด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แต่ก็ออกจะดูบึ้งตึงไม่น้อย
มาถึงปุ๊บก็พาผมเข้าไปยังบริเวณส่วนในของคอนโดทันทีโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง
พอเข้ามาในห้อง เป็งก็เดินไปยืนกลางห้อง หันหลังให้ผมที่เดินเข้ามาอย่างหวั่นๆ

"สนุกกันมากไหม!" เป็งพูดขึ้นโดยไม่หันมามอง

ผมหยุดชะงักกึก แค่น้ำเสียงก็ทำเอาผมใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว คงโกรธผมน่าดู
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากผมเพราะชักทำตัวไม่ถูก พูดกับคนโกรธใช่เรื่องง่ายที่ไหน

"ไม่เชื่อใจผมเหรอ ผมไม่เคยโกหกสักครั้ง สับสนก็ยอมรับว่าสับสน ทั้งๆ ที่โกหกก็ได้
แต่ผมก็ไม่ทำ รู้อย่างงี้...ผมโกหกซะบ้างก็น่าจะดี แปลกนะ...คนสมัยนี้ชอบคนโกหก"

ผมสะอึกไปเลย เพราะที่ผมทำอยู่ตอนนี้ก็คือการโกหกหลอกลวงดีๆ นี่เอง
แม้ว่าจะมีเจตนาเพื่อพิสูจน์หรือลองใจอีกฝ่ายก็เถอะ

"คุณเป็ง ผมขอโทษ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงและสีหน้ารู้สึกผิด แต่เป็งก็ไม่หันมามอง

"ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมเอง...ก็ทำให้คานินเจ็บตั้งเยอะ แต่ผมจะบอกให้รู้นะ
คนอย่างผม...ไม่เคยลองเชิง ไม่เคยลองใจใคร ผมไม่ทำแบบนี้กับคนที่ผมรัก"

นั่นไงล่ะ เป็งโกรธเรื่องนี้อย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ ด้วย
กระนั้น ผมก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยตอนที่ได้ยินคำว่า "คนที่ผมรัก" นี่แหละ

"เดี๋ยวผมจะกลับไปอยู่เชียงรายสักเดือน ขอเวลาไปสงบจิตใจสักหน่อย"

ใจผมหายวาบ เป็งจะห่างผมไปตั้งหนึ่งเดือนเลยหรือ ผมคงขาดใจตายแน่ๆ เลย
คงยอมปล่อยให้เป็งไปทั้งๆ ที่เรายังไม่เข้าใจกันแบบนี้ไม่ได้หรอก

"คุณเป็ง...อย่าเพิ่งไปเลยนะครับ" ผมทำเสียงอ้อนวอนสุดฤทธิ์

"ผมอยู่ไม่ไหวหรอก ผมยอมรับว่าผมโกรธมาก เหมือนตัวเองเป็นตัวตลกไงไม่รู้
ผมไม่รู้นะว่าคานินเชื่อใจผมแค่ไหน หนึ่งอาทิตย์อาจจะไม่พอที่ผมจะพิสูจน์ตัวเอง
จะลองสักหนึ่งเดือนดูไหมล่ะ เผื่อเราสองคนจะชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองมากกว่านี้
เผลอๆ เราจะได้รู้ว่า...เราสองคน...ไม่ใช่คำตอบของกันและกันอยู่หรือเปล่า"

ใจผมหายวาบอีกครั้ง ผมไม่ต้องการเวลาพิสูจน์หัวใจเพิ่มเพราะผมได้คำตอบแล้ว
คนอย่างเป็งมีทางเลือกที่ดีกว่ามากมาย แต่ก็ยังยืนยันว่ารักผม แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว

ผมค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปหาเป็ง มองดูแผ่นหลังที่ผมเคยกอดกระหวัดในค่ำคืนนั้น
ผู้ชายที่แสนอบอุ่น จริงใจและรักผมจริงอย่างนี้จะไปหาได้ง่ายๆ ที่ไหน
ผมย่างเท้ามาจนเกือบประชิดตัว มือไม้สั่นด้วยความกลัว แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจ...
วงแขนของผมรวบตัวเป็งไว้ กอดแน่นแนบชิดกันจนจมูกได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย

"คุณเป็ง...อย่าไปเลยนะครับ ผมไม่อยากให้คุณเป็งไป"

ผมสัมผัสได้ถึงอาการยืนตัวแข็งทื่อของเป็ง คล้ายกับเจ้าตัวยังไม่พร้อมจะอ่อนลง

"ทำไมล่ะครับ" น้ำเสียงของเป็งฟังดูสั่นไหว

"ผม..." ผมหยุดเว้นจังหวะ รวบรวมความกล้าเท่าที่มีพูดเรื่องสำคัญที่สุดออกไป

"ผมรักคุณเป็ง" สารภาพแล้วผมก็ซบหน้าลงที่แผ่นหลังของเป็งพร้อมกับร้องไห้เบาๆ

"ผมขอโทษที่ผมลองใจคุณเป็ง ผมรู้ว่ามันไม่ดี แต่ผมแค่อยากพิสูจน์ให้มั่นใจ
ผมรู้ว่ามันไม่ใช่วิธีที่ถูกหรอก แต่ตอนนั้น...ผมไม่รู้จะหาวิธีไหน ไม่รู้จะทำยังไง
ผมก็เลยต้องทำอย่างงั้น แต่ถึงมันจะไม่ค่อยดี ผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคุณเป็ง...
รักผมมากแค่ไหน ขอบคุณที่ยังรักผมนะครับคุณเป็ง ผมก็รักคุณเป็งเหมือนกัน
แล้วก็คิดถึงคุณเป็งทุกวันเลย คุณเป็งก็คิดถึงผมใช่ไหมครับ ผมรู้ว่าคุณเป็งคิดถึงผม"

เป็งนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกตะลึงหรืออะไรกันแน่ที่ได้รู้ความในใจจากผม

"ถ้าคุณเป็งโกรธผม คุณเป็งจะเตะ จะต่อย จะทำอะไรผมก็ได้ ผมยอมทุกอย่าง
ขออย่างเดียว...คุณเป็งอย่าเพิ่งไปนะครับ อยู่กับผมก่อน ผมอยากอยู่กับคุณเป็ง"

เป็งยังคงเงียบและไม่แสดงอาการตอบสนอง แต่ก็พอสัมผัสได้ว่าตัวเริ่มอ่อนลงแล้ว
ผมกอดเป็งแน่นขึ้นเพื่อให้เป็งรู้ว่าผมอยากอยู่กับเป็งสองคนมากแค่ไหน

"ผมขอโทษนะครับพี่เป็ง ขอโทษจริงๆ ยกโทษให้ผมได้ไหม"

ผมจงใจเรียกเป็งว่าพี่เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ผมมอบให้ไป
ได้ผลเสียด้วย เป็งตอบสนองด้วยการแกะมือผมออกแล้วหันมาเผชิญหน้ากัน
แต่แล้วผมก็ต้องตกใจที่พบว่าเป็งยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่ บึ้งตึงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

"จะให้ผมทำโทษยังไงก็ได้ใช่ไหม" เป็งถามย้ำด้วยเสียงเข้มและหนักแน่น

"ครับ...ยังไงก็ได้" ผมพยักหน้ายืนยัน แต่ในใจรู้สึกหวั่นๆ อย่างบอกไม่ถูก

"ดี...งั้นก็เตรียมตัวรับโทษให้ดีละกันนะครับ!"

TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2016 18:09:01 โดย inxsara »

ออฟไลน์ sunago

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o18 o18  จัดหนักเลยค่ะ เป็ง :mew3:

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
กะแล้วว่า 4 คนนี้ต้องรวมหัววางแผนกัน 555 :m20: :m20: :m20:

เป็งโกรธแล้วน่ากลัวชะมัด  :m31: :m31: :m31:

รออ่านตอนหน้า คานินจะโดนพี่เป็งทำโทษหนกยังไงน้าาาา เอิ๊กๆๆๆๆๆ :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบบบบ :z2: :z2: :z2:

รออีกเรื่องด้วย อยากอ่านต่อไวๆอ่าาา  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
o18 o18  จัดหนักเลยค่ะ เป็ง :mew3:

เห็นด้วยเลย ^^

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
อ้าว แผนพลิกจ้า5555555 ตายละ ด่าพระเอกไปเยอะเลยเฮ้อ เอาเป็นว่าเราให้เป็งทำโทษคานินจนลุกไม่ขึ้นเลยเอ้า 55555
 :haun4:
ขอบคุณค่ะนักเขียน ^^

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
จริงๆพี่เป็งใจอ่อนตั้งแต่ที่ได้ยินคำรักจากคานินแล้วใช่มั้ย
แต่พอรู้ว่าคานินยอมให้ทำโทษ รีบรับเลยนะเป็ง
มารอลุ้นว่าคานินจะโดนทำโทษอะไร

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ตอนหน้า nc ชัวร์ โดนจัดหนักแน่คานิน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
เออเนอะ ปกติเรื่อวอื่นเค้าไม่เอาเรื่องไม่โกรษเพื่อน เอาให้หนักๆเลยเป็ง

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
ตอนต่อไป จะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพข้างล่างนี้ด้วยแหละ อิๆ แค่คิดก็...


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด