▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover  (อ่าน 87560 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ตอนต่อไป จะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพข้างล่างนี้ด้วยแหละ อิๆ แค่คิดก็...


  :haun4: :pighaun: :z1: :m25: :jul1: :oo1: :hao7:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ตอนหน้ายังอยู่ที่คอนโดเป็งใช่มั้ยคับ 555 คานินโดนแน่คิดเกินไปแล้ว
  ชอบฉากคานินง้อเป็งคับ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
คานิน เอาตัวเข้าแลกเลย เดี๋ยวเป็งก็ยกโทษให้แน่ๆ :z1:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
คานินมาง้อเป็ง อ่านละเขิล 555+

พี่เป็งทำโทษคานินหนักๆ เลยนะ  :oo1:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ลงทัณฑ์ฉันเถอะๆ กลายเป็นจำเลยรักกันเลยทีเดียว เหอๆ

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง (NC)



เป็งผลักผมลงนอนบนโซฟาที่อยู่ใกล้แล้วโถมตัวตามลงมาอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น ริมฝีปากหยักสวยตามมาประกบกับริมฝีปากของผม
ส่งปลายลิ้นดันพุ่งสวนวาบเข้ามาอย่างรวดเร็ว แถมยังกระดกเลียช่องปากผมอีกด้วย
ผมรู้สึกเหมือนหมดแรงไปดื้อๆ แม้อยากเบือนหน้าหนีเพื่อสูดอากาศหายใจกลับทำไม่ได้
แม้ร่างกายยอมแพ้ แต่กลับติดใจรสชิวหาสวาทของหนุ่มตี๋จนยากจะถอนตัว

ผมปล่อยให้ร่างหนาจูบไซร้และสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตามอำเภอใจ
แรงรัก แรงคิดถึงและแรงปรารถนาต่างช่วยกันโหมกระพืออารมณ์ให้ร้อนฉ่า

ผมกับเป็งมือไม้สั่นเร่งปลดกระดุมและถอดเสื้อตัวเองออกจนเกือบจะฉีกทิ้ง
พอเห็นอกแกร่งผมจึงผวาเข้ากอดแล้วดึงตัวเป็งลงมาทาบทับผมไว้อีกครั้ง
ซุกหน้าลงกับอกแกร่งและกอดเป็งไว้แน่น เนื้อแนบเนื้อช่างวาบหวามหวิวใจดีจริง
กลิ่นกายหอมอุ่นๆ อันเป็นกลิ่นเฉพาะลวงล่อให้ผมฝังจมูกสูดดมตรงอกแกร่ง
ผมสูดกลิ่นกระตุ้นกำหนัดให้เต็มจมูก ก่อนเลื่อนตัวสูงขึ้นพร้อมรับรสจูบอีกคำรบ

"รู้ไหมว่าคิดถึง คืนนี้คานินไปกับผมนะ ผมรักคานินนะครับ"

เป็งพูดเสียงกระเส่า ผมรีบพยักหน้ารับเพราะเวลานี้คงไม่ใช่เวลาคุยกัน
ใบหน้าหล่อเหลาคมสันเคลื่อนลงมาใกล้ ผมเผยอปากรอรับจูบอย่างรู้งาน
เพียงริมฝีปากแตะกันเบาๆ ผมยังสั่นสะท้าน เมื่อจูบเริ่มขึ้นผมพลันแทบขาดใจ
เราดูดปากแลกลิ้นอย่างหิวกระหายและเร่าร้อน แทบกลืนกินกันเลยก็ว่าได้

เป็งถอนลิ้นออกจากริมฝีปากผม อ้อมไปจูบตรงบริเวณหูอ่อนๆ ขบเม้มเบาๆ
พอลิ้นของเป็งฉกชอนเข้าซอกใบหู ทั้งดูดและเลียเล่นอย่างไม่รังเกียจ
ผมจึงได้แต่ครางเสียงสั่น คิดไม่ถึงว่าแฟนหนุ่มตี๋ของผมจะเก่งเล้าโลมอย่างนี้
ไม่รู้ว่าไปหัดมาจากไหน คงไม่พ้นวิดีโอคลิปอีกกระมัง

"อาวววว์ คุณเป็ง อย่างงั้นแหละครับ"

เสียงร้องครวญครางของผมกลับยิ่งกระตุ้นให้เป็นรุกเร้าและเล้าโลมหนักขึ้นเรื่อยๆ
เปลี่ยนจากดูดเลียซอกหูทั้งสองข้างแล้วเลื่อนใบหน้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผม
ปล่อยลมหายใจอุ่นๆ มารดต้นคอเป็นระยะๆ จนผมร้อนวูบวาบไปทั้งเรือนกาย

"อาห์ โอววววว์"

ผมสูดปากร้องครางเมื่อเป็งเลื่อนใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆ และคอยลุ้นว่าจะหยุดตรงไหน
หนุ่มตี๋เผยอปากงับเอาเม็ดทับทิมบนหน้าอกซ้ายของผมพร้อมกับใช้ลิ้นดุนวนไปทั่ว
สลับกับการอมเม้มไว้ในปาก ใช้ฟันหน้าแทะเบาๆ ทั้งด้านซ้ายและขวา วนเวียนไปมา
บางขณะรู้สึกเหมือนเม็ดทับทิมของผมจะขาดหลุดไปกับปากของเป็งเลยทีเดียว
มือผมโอบกอดจนบางทีเผลอขยุ้มหัวของเป็งแน่น เชิดหน้าสูดปากอย่างเสียวซ่าน

ในขณะที่ปากรุกเร้าท่อนบน มือของเป็นสอดเข้าไปภายในกางเกงของผม
ฝ่ามือหนาและอุ่นปลดตะขอออกแล้วลูบไล้อาวุธประจำกายของผมอย่างสนุกมือ
ไม่นานกางเกงขายาวกับชั้นในของผมจึงหลุดออกไปเพื่ออำนวยความสะดวก

ผมไม่สามารถสะกดความเสียวกระสันที่วิ่งขึ้นมาอัดแน่นบริเวณหน้าอกได้เลย
ครางหนักเมื่อมือของเป็งเริ่มรุกล้ำทักทายและกรีดไปมาตามรอยแยกอย่างช้าๆ
รู้สึกเสียบวูบวาบแถวนั้นจนนึกอยากเจอของจริงให้รู้แล้วรู้รอด

มือของผมซุกซนลูบไล้ลงล่างบ้าง ปลดตะขอกางเกงของเป็งแล้วรูดซิปออกอย่างไว
ไม่รอช้าที่จะเข้าจับกุมท่อนลำเขื่องแล้วรูดขึ้นลงทั้งที่ยังอยู่ในชั้นในเนื้อเนียนนุ่ม

"อาห์ คานิน...เร็วอีกนิดนึง" เป็งครางบอกผมให้ขยับรูดเร็วขึ้น ผมก็ว่าง่ายเสียด้วย

เป็งยังคลึงเคล้นเล่นกับหน้าอกผมด้วยชิวหา พร้อมกับมือที่วนเวียนเลื้อยไล้ด้านล่าง
เรือนกายของผมบิดเกร็งสั่นสะท้านไปมาเมื่อทั้งบนทั้งล่างถูกโจมตีพร้อมๆ กัน

"คุณเป็ง...ผมไม่ไหวแล้ว ผมยอมแล้วครับ"

เป็งคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น และโซฟาก็ไม่ใช่ที่ของเรา

การเล้าโลมยุติชั่วคราว เป็งลุกยืนแล้วโน้มตัวลงช้อนผมขึ้นมาอุ้ม เดินตัวปลิวออกไป
ผมถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่มสบาย หนุ่มตี๋มองร่างเปลือยเปล่าของผมอย่างหื่นกระหาย
ร่างหนาโถมตัวลงมาทาบทับ ก่อนจะป้อนจูบให้ผมเป็นเวลาสั้นๆ

เป็งกอดผมแล้วม้วนกลิ้งให้ผมขึ้นไปอยู่ข้างบนบ้าง ถึงคราวที่ผมต้องจัดการเป็งแล้ว
ผมตรงเข้าดูดและขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูขาวสะอาด ลากลิ้นดูดดึงไปตามแนวสันกราม
เมื่อถึงหูอีกข้างจึงขบเลียเช่นเดียวกัน เป็งครางและสูดปากเป็นระยะๆ ด้วยความเสียว

ผมเลื่อนลงต่ำมาที่เม็ดทับทิมทั้งสองข้าง วาดลีลาดูดเลีย ฉกกัดและขบเม้มอย่างสนุก
โลมเล่นลิ้นบนเนินอกจนเปียกชื้น ผิวขาวมีรอยแดงจากมือและปากผมเป็นจ้ำๆ ไปทั่ว
หนุ่มตี๋เผลอครางฮืออย่างถูกอกถูกใจ ขยุ้มหัวผมไว้เหมือนไม่อยากให้เลื่อนไปไหน

พอหนำใจผมจึงเลื่อนต่ำลงหาชั้นในซีเคสีฟ้าที่นูนโป่งและมีน้ำใสซึมเลอะเป็นดวง
กลิ่นยั่วเย้าชวนผมให้ซุกหน้าลงสูดดมและโลมเลียท่อนลำเขื่องใต้ชั้นในจนเปียกชื้น
ผมดึงขอบชั้นในราคาแพงลงมาครึ่งน่องจนเห็นท่อนเขื่องกระดกหงึกๆ อวดเต็มตา
น้ำใสไหลเยิ้มบ่งบอกว่าเจ้าตัวมีอารมณ์ต้องการมากจนแทบกลั้นไม่อยู่

ผมจับท่อนเขื่องรูดขึ้นลง ใช้ลิ้นเลียเล่นชิมรสหัวหยักแดงอมชมพูอย่างเอร็ดอร่อย
เป็งบีบเกร็งและขยำผ้าปูที่นอนแน่น หน้าตาเหยเกบูดเบี้ยวจนต้องร้องครางเสียงหลง
ไม่นานผมจึงครอบปากลงไปกลืนกินท่อนลำเขื่องที่แสนเต็มปากเต็มคำดีเหลือเกิน
ผมรูดปากขึ้นลงเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้คู่ขาหนุ่มตี๋ครวญครางจนเหมือนเพ้อ
เป็งเผลอขยุ้มหัวผมเบาๆ พร้อมกับจับโยกขึ้นลงด้วยความเร็วตามที่พอใจ

"คานิน ลึกๆ เลยได้ไหม อาห์...อย่างงั้นแหละ ลึกอีก อาห์...Throb me!"

เป็งขอให้ผมลอง Throb หรือดูดกลืนให้ลึกสุดท่อนลำ ผมยอมจัดให้ตามที่ขอ
ร่างหนากดหัวผมไว้ เมื่อท่อนลำเข้าไปสุดจึงบิดตัวเร่าๆ ด้วยความเสียวสุดขีด

"คานิน โอวววว์ ซีดสสส์"

เป็งสูดปากคล้ายกับกินของเผ็ดจัด เมื่อชอบมากผมจึงจัดไปสามรอบ

"พอแล้วคานิน เดี๋ยวผมขาดใจตายพอดี ตาผมมั่ง"

เป็งบอกเสียงหอบแล้วพลิกมาอยู่ข้างบน สายตาหื่นกระหายคู่นั้นทำเอาผมร้อนวูบวาบ
เป็งเลื่อนตัวลงต่ำ จ้องดูท่อนลำผมอย่างหิวกระหาย ก่อนเอานิ้วชี้แตะน้ำใสมาชิมดู
เป็งกำท่อนลำผมและรูดขึ้นลงเบาๆ พอเห็นน้ำใสเยิ้มออกมาอีกจึงละเลงลิ้นลงแตะชิม

ผมอยากจะคลั่งเสียให้ได้เมื่อเห็นหนุ่มตี๋สุดหล่อทำอย่างนี้ เซ็กซี่ดีเหลือเกินแฟนหนุ่มของผม
เป็งไล้เลียและขบดูดเบาๆ ลงที่หัวหยักแดงก่ำ แล้วครอบปากดูดกลืนท่อนลำผมหายไป
แต่ไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมองผมขณะปฏิบัติภาระกิจไปด้วย เพิ่มพูนความเสียวจนผมแทบคลั่ง

ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่การดูดธรรมดา เปล่าเลย เป็งกำลัง Throb ผมด้วยต่างหาก
พอสุดโคนผมจึงผวาคราง ขยำผ้าปูที่นอนแน่น จึงโดนจัดไปอีกสามรอบเช่นกัน

เป็งเลื่อนขึ้นมาจูบปากกับผมอีกคำรบ คงเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่ของจริงจะเริ่มขึ้น
หนุ่มตี๋คิ้วหนาเงยหน้ามามองผม ส่งสายตาหวานฉ่ำเยิ้มสุดเซ็กซี่จนผมแทบละลาย
ผมยอมทุกอย่างแล้ว จะทำอะไรก็ทำเสียทีที่รักของผม

"พี่จะทำให้คานินมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย" เสียงพูดปนลมหายใจช่างเซ็กซี่ดีแท้

ฝ่ามือนุ่มๆ ของเป็งจับหมับตรงบริเวณก้อนเนื้อกลมกลึงนวลเนียนตรงก้นกบผม
ลูบไล้สลับกับการบีบขยำเคล้นคลึงราวกับจะบิดให้ขาดออกมากับมือให้ได้
เป็งกดนิ้วกลางเรียวยาวผ่านร่องสวาทเข้าไป ผมเจ็บและเสียวมากจนซี๊ดปาก
คราวที่แล้วไม่สำเร็จเพราะผมทนความเจ็บไม่ไหว แต่ครั้งนี้...ผมต้องทำให้ได้

เป็งหยุดแล้วเดินลงจากเตียงโทงๆ ไปหยิบขวดเจลหล่อลื่นและถุงยางอนามัยมา
บทเรียนครั้งที่แล้วทำให้รู้ว่าไม่ควรพรวดพราด คราวนี้จึงต้องเตรียมความพร้อมก่อน
กระนั้น จำนวนนิ้วจากหนึ่งเป็นสองทำให้ผมเจ็บจนแทบทนไม่ไหวเลยทีเดียว

"เบาๆ ครับคุณเป็ง ผมเจ็บ อาห์..." แม้จะเจ็บแต่ผมยังครางเสียวออกมา

ไม่ทันขาดคำพลันต้องสะดุ้งเฮือกอีกเมื่อเป็งสอดนิ้วเพิ่มเป็นสามและเกร็งนิ้วควานไปมา
ผมขนลุกจนหนาวยะเยือกถึงขั้วหัวใจ แต่ยิ่งคว้านลึก ท่อนลำผมกลับยิ่งผงาดสู้สายตา
อีกครู่ใหญ่เป็งจึงหยุด จับขาผมแยกออกกว้าง สวมถุงยางและบีบเจลหล่อลื่นชโลมจนชุ่ม

"คานินพร้อมหรือยัง" เป็งถามเสียงกระเส่า

"ครับพี่เป็ง เร็วๆ เถอะครับ" ผมบอกอย่างไม่อายเมื่อความต้องการมาถึงขีดสุด

เป็งเลื่อนเข้าหาประตูสวาทของผม ขาสองข้างผมถูกจับยกวางพาดไว้บนบ่า
ผมยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการบุกรุกที่น่าอภิรมย์
เจ้าท่อนลำนั้นจ่ออยู่ที่ทางเข้าแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมนึกอยากให้มันพรวดเข้ามาเลย
แต่พอมันเริ่มเคลื่อนเข้ามาจริงๆ ใบหน้าผมกลับเหยเกด้วยความเจ็บปวด

เป็งก้มลงมางับปลายเม็ดทับทิมที่แข็งเป็นไต มือขวากดไหล่ผมลงแนบกับเตียงนอน
ส่วนมือซ้ายๆ ค่อยๆ เคล้าคลึงเม็ดทับทิมทั้งซ้ายขวาหนักๆ จนผมเผลอตัวแอ่นอกเชิด
ช่วงเวลานี้เอง ท่อนลำเคลื่อนรุกเข้ามากลางลำจนได้ พอผมทำท่าขยับหนีเป็งจึงรีบห้าม

"อย่าขยับสิคานิน"

หน้าเหยเกของผมคงพอบอกเป็งได้ว่าผมเจ็บแค่ไหน แต่ยังต้องสู้จนกว่าจะผ่านไปได้
เป็งก้มลงมาจูบปลอบโยนให้ผมคลายเจ็บ ลิ้นสวาทของคนรักไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย
จังหวะที่ผมเผลอนี่เอง ท่อนลำเขื่องได้ดันตัวเข้ามาจนสุดอย่างรวดเร็ว

"เรียบร้อยแล้วนะที่รัก อาห์..."

ขนาดจอดแช่นิ่งๆ ยังเสียวขนาดนี้ ถ้าเกิดมันขยับเขยื้อนจริงๆ จะเสียวขนาดไหน
เป็งสอดมือเข้าใต้รักแร้ผม กดยึดไว้แน่นไม่ให้ผบขยับเขยื้อนหนีไปไหนได้
แล้วก้มลงมาจัดการกับเม็ดทับทิมของผมอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้าออกด้วย

"คุณเป็ง ทำไมมันแน่นอย่างงี้ครับ ผมไม่ไหวแล้ว" ผมร้องครางหน้าบิดเบี้ยว

"เดี๋ยวก็ดีเองนะคานิน อดทนหน่อยนะครับ เราจะมีความสุขด้วยกันแล้ว"

เป็งพยายามปลอบทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้วยซ้ำ ผมกลับพยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย
กระนั้นก็รู้สึกแน่นตึงไปทั่วบริเวณท้องถึงหน้าอก ราวกับร่างกายถูกฉีกแยกออกจากกัน
แต่ไม่นานร่างกายจึงเริ่มปรับตัวเข้ากับของแปลกปลอมได้ อาการเจ็บจึงค่อยลดน้อยลง
พอเห็นผมหายเกร็ง เป็งจึงเริ่มขยับเร็วขึ้นกว่าเก่า ผมเสียวสุดขีดจนผวากอดเป็งไว้แน่น

"ซี๊ดดดดดส์ พี่เป็ง อาวววววววว์"

ผมเสียววาบแทบขาดใจตายเมื่อเจ้าท่อนลำอัดแน่นขึ้นลงเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ระหว่างนั้นไม่ลืมมองหน้ากันไปด้วยเพื่อบอกกันและกันว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน

"โอวววว์ คานิน มันเสียวมาก อูยยยยย แน่นมากเลย โอวววว์"

เป็งร้องครางเสียงหลง แต่แทนที่จะหยุดกลับยิ่งเพิ่มความเร็วและความแรงขึ้นอีก
ผมหายเจ็บแล้ว รู้สึกเสียวสะท้านจนขนกายลุกซู่ทั่วร่าง แอ่นบั้นท้ายขึ้นสู้อย่างลืมตัว
หนุ่มอาวุธเขื่องมองหน้าผมสลับกับมองผลงานของตัวเองไปด้วย

"พี่เป็ง แรงอีกก็ได้ครับ" ผมสิ้นความอายจนกล้าบอกไปอย่างนั้น

"ได้เลยที่รัก" เป็งตอบกลับมาแทบจะทันที

ผมถูกจับเปลี่ยนท่าให้นอนคว่ำ เรียบร้อยแล้วเป็งจึงส่งท่อนลำเข้ามาใหม่จนมิด
ท่อนลำเริ่มขยับขึ้นลงอีกครั้ง ท่านี้ช่วยเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นได้อีกมากทีเดียว
เป็งจึงกระแทกกระทั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง
พอเปลี่ยนเป็นท่าคลานเข่า เราสองคนยิ่งกระหน่ำใส่กันอย่างไม่ยั้ง

"พี่เป็ง ผมไม่ไหวแล้ว โอววว์ อาวววว์"

ผมรูดมือขึ้นลงจัดการตัวเองเร็วขึ้น ความเสียวสุดขีดทำให้ทำนบผมทลายในไม่ช้า

เป็งหยุดช้าลง แรงตอดรัดของผมทำให้หนุ่มตี๋สูดปาก "โอวว์ อาหหห์"

พอผมหยุดเกร็งเป็งจึงทำต่อไป สักครู่ใหญ่จึงถึงคราวเปลี่ยนท่า
คราวนี้ผมขึ้นไปนั่งโยกข้างบนบ้าง สนุกและเสียวไปอีกแบบเมื่อได้ควบคุมเอง
ผมโยกขึ้นลงอย่างสนุก ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านแข่งกับเป็งระงม

เมื่อมาถึงท่าจบ เป็งให้ผมนอนหงาย จับขายกพาดบ่าแล้วสอดท่อนลำจนสุด
จากนั้นจึงโหมกระหน่ำกระแทกกระทั้นชนิดลืมหายใจจนเหงื่อผุดพราวทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ
ไม่รู้ว่าเราเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน พลังหนุ่มของเราถูกขุดมาใช้ราวกับจะไม่มีวันหมด
เราต่างไม่เหนียมอายและกล้าจะตอบสนองความต้องการของกันและกันทุกรูปแบบ
ปลดปล่อยความรู้สึกและอารมณ์อย่างเต็มที่ เขาถึงว่าผู้ชายด้วยกันย่อมเข้าใจกันดี

ร่างกำยำกระแทกกระทั้นเร็วขึ้น เสียงร้องครางของเราสองคนระงมไปทั่วห้อง
ผมกำผ้าปูที่นอนเกร็งแน่น รู้ดีกว่าอีกไม่นานแฟนหนุ่มตี๋ของผมจะถึงที่หมายแล้ว

"โอวววว์ ผมถึงแล้วครับคานิน อาววววว์"

ใช่แค่เสียงพูดเท่านั้น ความรู้สึกอุ่นวาบในโพรงบอกถึงการปลดปล่อยทะลักทลายด้วย
ร่างขาวกระตุกและค่อยๆ ลดความเร็วในการเคลื่อนไหวลงจนกระทั่งหยุดนิ่งสนิท
เป็งมองหน้าผมที่มีเหงื่อผุดพราว ก้มลงจุมพิตผมเบาๆ และยิ้มให้กันอย่างสุขสม
พอถอดถอนสิ่งนั้นออก เป็งจึงทิ้งตัวลงนอนบนตัวผมอย่างคนหมดแรงข้าวต้ม
ร่างหนักเหนื่อยหอบและหายใจแรง แม้เราจะเหนื่อยแค่ไหนแต่กลับมีความสุข

"ขอบคุณนะครับคานิน แฟนพี่เป็งสุดยอดเลย ทำให้พี่เป็งได้ทุกอย่าง...ทุกท่า
พี่มีความสุขสุดๆ เลยรู้ไหม ขอบคุณนะครับที่รักของพี่"

เมื่อกี้ก็ว่ามีความสุขสุดๆ แล้ว เจอคำชมนี้เข้าไปผมจึงสุขจนแทบลอย ขึ้นสวรรค์

"ก็ผมรักพี่เป็งนี่" ผมบอกเขินๆ

เป็งเงยหน้าขึ้นมามองผม ส่งสายตาเยิ้มและยิ้มระบายสุขทั่วใบหน้า

"พี่เป็งก็รักน้องคานิน"



ผมกับเป็งลุกมาเช็ดทำความสะอาดที่นอนที่เปรอะเปื้อนเล็กน้อยจากกิจกรรมเมื่อกี้
มีรอยเลือดสีแดงเป็นดวงๆ กระจายเป็นจุดๆ คงจะมาจากผมนั่นแหละ

"คานินเจ็บหรือเปล่า" เป็งถามอย่างเป็นห่วง

"ก็นิดหน่อย" ผมบอกเสียงเบา

"แสดงว่าของผมนี่ก็ไม่ใช่เล่นนะเนี่ย" เป็งทำท่าภูมิใจ

"ไปอาบน้ำดีกว่า" ผมเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้เขิน

เป็งหยุดยิ้ม พยักหน้าเห็นด้วย "ก็ดีเหมือนกัน เมื่อกี้เหงื่อออกเยอะเลย
ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน สงสัยคงไม่ต้องไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแล้วล่ะ
ออกกำลังกายกับแฟนดีกว่า"

นั่น...ยังพาวกกลับมาเรื่องนี้จนได้ แถมยังส่งแววตาวิบๆ วับๆ มาให้อีก

"จะอาบน้ำแล้ว"

เป็งหัวเราะอย่างเอ็นดู มองผมที่นอนหลบตาเขินไม่วางตา "โอเค อาบก็อาบ"

หนุ่มตี๋ลุกขึ้นนั่ง แต่พอเห็นผมยังนอนอยู่จึงหันมามองอย่างแปลกใจ


"อ้าว ไม่ไปอาบน้ำเหรอ"

"ไปดิ" ผมตอบ

"แล้วทำไมไม่ลุกล่ะ"

"ก็..." ผมพลิกตัวซุกหน้างุดกับหมอนเพราะอายจัด แต่ไม่กี่อึดใจจึงหันมาเฉลย

"อุ้มไม่ได้เหรอ"

เป็งระเบิดเสียงหัวเราะใหญ่เลยคราวนี้ ผมจึงได้แต่ซุกหน้ากับหมอนหนีอาย

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มา...ไปอาบน้ำกับพี่เป็งนะครับน้องคานินของพี่
เดี๋ยวพี่เป็งจะอุ้มสุดที่รักของพี่เป็งเข้าไปในห้องน้ำเองนะครับ"

"ไหวหรือเปล่า เมื่อกี้ใช้แรงเยอะนะ" ถึงจะเขินแต่ยังมีแก่ใจถาม

"ไหวอยู่แล้ว แค่นี้เอง คานินพร้อมนะ"

เป็งให้สัญญาณก่อนจะค่อยๆ ช้อนตัวผมขึ้นมาอุ้ม เราจ้องหน้ากันชั่วครู่
ปากจู๋ก้มลงมาหอมแก้มผมหนึ่งฟอดใหญ่ก่อนพาเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่นานร่างเปลือยเปล่าของเราจึงมาหยุดยืนมองตากันอยู่ใต้ฝักบัว

"คานินสระผมไหม เดี๋ยวพี่สระให้" เป็งเป็นฝ่ายเริ่มถามก่อน

ผมพยักหน้าตกลง "ครับพี่เป็ง จะได้นอนสบายๆ"

เป็งหยิบแชมพูแบรนด์ต่างประเทศราคาแพงมา เปิดน้ำอุ่นรดไหลบนตัวของเรา
พอเปียกดีแล้วจึงปิดน้ำ บีบแชมพูลงที่มือ แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของท้องตลาด
ผมสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ อย่างลืมตัว ใช้ของแบบนี้ มิน่าล่ะเป็งถึงตัวหอม

"หันหลังสิ!" เป็งพูดโดยไม่ทันคิด เล่นเอาผมตกใจหมดนึกว่าจะเอาอีก

"จะสระผมให้ คานินคิดอะไรเหรอ" เป็งกระเซ้าพลางขำ

"เปล่า" ผมรีบบอกปัดอย่างอายๆ แล้วหันหลังให้หนุ่มตี๋


เป็งใช้นิ้วขยี้เบาๆ วนไปทั่วหัวของผม ฟองสีขาวสะอาดไหลย้อยลงมาตามตัว
ไม่กี่นาทีจากนั้นจึงเปิดน้ำล้างผมให้ผม ก่อนจะสระซ้ำให้อีกรอบเพื่อให้สะอาดหมดจด
คราวนี้ช่วยกดนวดผ่อนคลายให้ผมด้วย แต่สักพักจึงรู้สึกว่าแรงกดนวดไม่ได้อยู่ที่หัวแล้ว
เป็งเข้ากอดผมทางด้านหลัง ซุกหน้าลงตรงซอกคอ สองมือลูบไล้ที่หน้าท้องและอกผม
ท่อนเขื่องกระดกหงึกๆ ชนประตูสวรรค์ของผมจนเสียววาบที่ท้องน้อย

"รักคานินจัง"

เป็งพูดพร้อมกับลูบไล้เล่นหน้าท้องผมเบาๆ แล้วพูดสืบไป

"ผมขอโทษนะที่เคยลังเลใจ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมต้องการคานินคนเดียว
เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเด็ดขาด ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมไปนะคานิน"

ไม่รู้ว่าจะซึ้งหรือจะหื่นดี แต่เอาเป็นว่าผมมีความสุขและดีใจที่ได้ยินละกัน

"ผมต้องขอโทษพี่เป็งด้วยที่แกล้งพี่เป็งหนักเลย ขอบคุณที่ยังรอผมอยู่นะครับ
ผมไม่เคยรู้สึกรักใครอย่างพี่เป็งเลย รักพี่เป็งนะ"

ผมหันไปมองเป็งตรงประโยคท้าย เป็งขโมยหอมแก้มผมหนึ่งฟอดอย่างรักใคร่
ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่บอกรักกัน แต่ฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย

"นวดผมดีกว่า" เป็งเปลี่ยนเรื่องแล้วก็ปล่อยมือออกจากผม

พอสระและนวดผมให้ผมเสร็จแล้ว ผมสลับเป็นฝ่ายช่วยสระและนวดให้เป็งบ้าง
จากนั้นเราจึงอาบน้ำด้วยกัน ถูเนื้อตัวและขัดผิวให้กันอย่างมีความสุขและสบายใจ
แต่สัมผัสลูบไล้สุดสยิวกลับทำให้เราสองคนต้องยืนเคารพธงชาติกันตอนดึกๆ จนได้
จึงกลายเป็นอาบน้ำไป ครางด้วยความเสียวซ่านไป ไม่พ้นจบลงอีหรอบเดิมแน่ๆ

"ยังไม่เหนื่อยอีกเหรอ" ผมถามพลางมองต่ำลงไปดูตรงนั้นของเป็งที่ผงาดอยู่

"ว่าแต่ผม แล้วคานินล่ะ ดึกแล้วตื่นมาเคารพธงชาติทำไม"

เป็งไม่พูดเปล่า เอื้อมมือมาจับของผมกำไว้ด้วย ก่อนจะปล่อยอย่างรวดเร็ว
ผมหัวเราะแหะๆ สักพักจึงนิ่วหน้า "อืม...แต่ว่า...ผมเจ็บน่ะ แสบด้วย"

"ยังไม่ต้องใช้ตรงนั้นก็ได้" เป็งเถียง

"อ้าว แล้วจะให้ใช้ตรงไหนล่ะ" ผมถามพาซื่อ

"ตรงนี้ไง" พูดจบแล้วเป็งเลียริมฝีปากของตัวเองไปมา

ผมยิ้มเขินก็จริง แต่กลับจ้องตาท้าทายหนุ่มตี๋หน้าหื่น บอกให้รู้ว่าผมไม่กลัวอยู่แล้ว
ไม่นานผมจึงค่อยๆ ย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่า แลเห็นท่อนเขื่องอยู่พอดีกับระดับปากผม
ความหฤหรรษ์รอบสองจึงบังเกิดขึ้นในห้องน้ำจนได้!



แสงขาวนวลจากผ้าม่านสีขาวครีมส่งสัญญาณเตือนไปที่สมองว่าถึงเวลาตื่นแล้ว
แสงที่ค่อยๆ แยงเข้ามาทำให้การรับรู้ผมเริ่มกลับมา ไม่นานจึงลืมตาตื่นมองแป๋ว

ผมมองไปข้างตัวด้วยหวังว่าจะเจอใครคนหนึ่ง กลับเห็นแค่รอยยับและผ้าห่มที่เปิดออก
แสดงว่าคงตื่นก่อนแล้วและคงกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่

ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไปดูนอกห้อง ได้ยินเสียงแถวๆ ครัวจึงเดินไปดู
เป็งกำลังทำอาหารเช้าอยู่พอดีเลย ผมจึงเดินย่องเบาๆ ไปหาอย่างนึกสนุก
พอถึงตัวจึงสวมกอดด้านหลังไว้เบาๆ

"น่าทานจัง ทำไมแฟนผมน่ารักอย่างงี้ล่ะเนี่ย ผมคงหลงรักตายเลย"

เป็งหยุดทำอาหารชั่วคราวและยิ้มอย่างพอใจ "ไข่เบเนดิกที่เคยทำให้กินคราวนั้นไง"

"บำรุงกำลังเหรอ" ผมแซว

"ใช่สิ คืนนี้ต้องออกกำลังกายหนักอีกไม่รู้เหรอ"

ผมหัวเราะชอบใจเบาๆ เรื่องต่ำว่าสะดืออย่างนี้เป็งถนัดอยู่แล้ว

"ถูกใช้งานหนักแบบนี้ สงสัยไข่เบเนดิกอย่างเดียวไม่พอแล้วมั้ง"

"ได้" เป็งลากเสียงยาว "เดี๋ยวผมจะไปหาของบำรุงกำลังมาให้กินอีก อ้อ...
เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม ยังปวดอยู่หรือเปล่า"

ผมถอนมือออกจากเป็งแล้วโน้มตัวลงไปมองดูอาหารที่เป็งทำ

"ตื่นซะเกือบเก้าโมง ไม่หลับสบายก็ให้มันรู้ไป น่ากินจังเลยนะครับคุณเป็ง"

"อาหาร...หรือผม" เป็งถามพลางเล่นหูเล่นตา

"ทั้งสองอย่างมั้ง แต่ตอนเช้า...ของดนะ"

เจอคำตอบอย่างนี้เป็งจึงขำใหญ่ "พี่ไม่ได้หื่นขนาดนั้นซะหน่อย"

"ขนาดไม่หื่น...ยังหมดไปตั้งสามน้ำ" ผมเตือนความจำให้

"แหม...แต่คานินก็ร่วมมืออย่างดีไม่ใช่เหรอ" เป็งทำตาวิบวับใส่

"พอแล้ว แล้วนี่ทำเสร็จแล้วเหรอครับ"  ผมรีบชวนเปลี่ยนพลางชะโงกดูอีกรอบ

"เสร็จแล้ว จะกินเลยไหมล่ะ"

"ยัง ผมว่าจะอาบน้ำก่อน อ้อ...คุณเป็งมีชุดทำงานให้ผมยืมหน่อยไหมครับ แล้วก็...
กางเกงในด้วย ผมไม่ได้เอาอะไรสักอย่างติดตัวมาเลย"

"มีสิ รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวพี่ไปหาให้"

เป็งล้างและเช็ดมือให้แห้ง จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า
ถึงครึ่งทางกลับหยุดหันมามองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้

"อ้อ...ทีหลังเรียกพี่ก็ดีนะ พี่เป็งชอบ อบอุ่นดี"

"อ๋อ..." ผมลากเสียงยาวแล้วยิ้ม "ได้ครับพี่เป็ง"

เป็งเดินกลับมากอดผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับเอ่ยปากชม "น่ารักที่สุดเลยคนนี้"

แฟนหนุ่มตี๋ปล่อยผมแล้วกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าตามเดิม จากนั้นจึงลงมือค้นเสื้อผ้าที่จะให้ผมใส่
เพียงไม่กี่อึดใจจึงหยิบเสื้อเชิ๊ตกับกางเกงสแล็คหนึ่งชุดมาวางไว้บนเตียง
ผมเดินมาดูชุดแล้วยิ้มพอใจ เป็นบุญแท้ๆ ที่จะได้ใส่ชุดราคาหลักหมื่นไปทำงาน

"ชอบไหม" เป็งหันมาถาม

"ชอบครับ...พี่เป็ง" ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าต้องเรียกพี่ ติดเรียก "คุณ" จนชิน

หนุ่มตี๋ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงผ้ายืดสีขาวทั้งชุดยิ้มแฉ่ง ตาใสแป๋ว
ก่อนก้มลงค้นหาอะไรสักอย่างต่อ พอยืมก้มๆ เงยๆ ชายเสื้อกล้ามจึงร่นขึ้น
เผยให้เห็นผิวขาวนวลเนียนเหนือเนินก้นกบ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผมก็คือ...
ขอบชั้นในสีเขียวตองอ่อนที่โผล่พ้นออกมา ไม่ยักรู้ว่าชอบใส่ชั้นในสีสันแสบตาด้วย

ผมเดินย่องไปหาเป็งพร้อมกับยิ้มอย่างนึกสนุก ก่อนจะตบลงที่ก้นแน่นๆ ขาวๆ เบาๆ
เป็งสะดุ้งเล็กน้อย หยุดค้นชั่วคราวแล้วดีดตัวขึ้นยืน หันมามองผมอย่างงงๆ

"กางเกงในน่ารักดีนะครับ ไม่เคยเห็นใส่สีแบบนี้มาก่อนเลย"

"อ๋อ..." เป็งลากเสียงยาวแล้วยิ้ม "พี่มีกางเกงในน่ารักๆ เยอะเลยนะคานิน
อยากดูไหม เดี๋ยวพี่เอามาให้ดู"

ว่าแล้วเป็งจึงหอบชั้นในที่มีเกือบทั้งหมดมาวางกองบนเตียงราวสิบกว่าตัว
จากนั้นจับคลี่วาง อธิบายให้ผมฟังไปด้วยว่าตัวเองชอบแต่ละตัวยังไงบ้าง

"ตัวนี้ของทูเอ็กซิสท์ เนื้อผ้ามันดีมากนะ กระชับสัดส่วนดีด้วย ขอบเท่มาก
ตัวนี้ของซีเค สีพื้นๆ ก็จริงแต่ว่าใส่แล้วดูเซ็กซี่สุดๆ ถ้าชอบเดี๋ยวพี่ใส่ให้ดูคืนนี้
ส่วนสีส้มทรงทรังค์ตัวนี้เป็นของฮัชพับพี่ส์ ไม่แพงเท่าไหร่ แต่สีมันสวยดีก็เลยซื้อ
อ้อ...ตัวนี้นะ ผมซื้อมาจากต่างประเทศ..."

เป็งเล่าความชอบเกี่ยวกับชุดชั้นในที่ซื้อมาให้ผมฟังเป็นฉากๆ อย่างภาคภูมิใจ
ผมนั่งฟังไปยิ้มไป หัวเราะบ้าง บอกกับตัวเองในใจดังๆ ว่า 'โคตรมีความสุขเลย'
หัวใจผมแห้งเหี่ยวเฉามาหลายปีแล้ว เพิ่งมีความรักให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเต็มที่ก็วันนี้เอง

พอเป็งเล่าจนครบทุกตัวแล้วผมจึงถือโอกาสถามบ้าง

"แล้วจะให้ผมใส่ตัวไหนล่ะ พี่เป็งใส่หมดนี่แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ที่ยังไม่ใส่ก็มี หาอยู่แต่ยังไม่เจอ เดี๋ยวพี่ไปหาให้นะ คานินไปอาบน้ำก่อนก็ได้"

เป็งพูดแล้วรุนหลังผม ผมจึงลุกขึ้นยืนข้างๆ เตียงเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ

"เอ๊ะ เดี๋ยวนะ" เป็งทำเสียงแปลกใจ "วันนี้คานินจะไปทำงานเหรอ"

"ครับ หมดวันลาแล้ว"

"โธ่...ไม่ไปไม่ได้เหรอคานิน" เป็งทำเสียงอ้อนแล้วลุกมากอดผมทางด้านหลัง

"อยู่กับพี่สักวันนะ ไม่งั้นพี่ต้องคิดถึงคานินแย่แน่ๆ เลย"

"เขาจะได้ไล่ผมออกน่ะสิครับ"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย คานินก็มาทำงานกับผมสิ ผมเลี้ยงคานินได้"

เป็งคลอเคลียตรงไหล่เหมือนแมวแล้วเงยหน้ามองผม น่าเอ็นดูจนผมอดยิ้มไม่ไหว
ไม่คิดว่าจะมีมุมแบบนี้กับเขาด้วย แต่บทจะโกรธก็ทำเอากลัวแทบแย่เลย

"ไม่ได้หรอกครับ เสียประวัติหมด" ผมบ่ายเบี่ยง

"เหรอ...งั้น...วันนี้คานินไปลาออกเลยนะ"

"อ้าว...แล้วจะให้ผมเอาอะไรกินล่ะ" ผมตกใจกับความคิดแผลงๆ ของเป็งเล็กน้อย

"พี่อยู่ทั้งคนกลัวอะไร พี่มองธุรกิจตัวหนึ่งไว้แล้ว ว่าจะให้คานินมาช่วยทำนั่นแหละ
ลาออกวันนี้เลยก็ได้ คานินจะได้พักมั่ง ทำงานแบบนี้มานานแล้วนะ สุขภาพจะแย่เอา
มาทำงานกับพี่ดีกว่า รับรอง..."

"อ้วนเป็นหมูแน่" ผมชิงพูดเสียเอง

"ถึงเป็นหมูพี่ก็รัก นะๆๆ ลาออกวันนี้เลยนะคานิน"

อ้อนหนักขนาดนี้ผมชักเคลิ้ม แต่ยังแข็งใจไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

"ไม่สงสารพี่เป็งเหรอ พี่เป็งไปทำงานคนเดียวเหงาๆ มานานแล้วนะ
พี่เป็งอยากมีใครสักคนเป็นเพื่อนรู้เปล่า ไม่อยากไปทำงานคนเดียวแล้ว"

"คนเดียวที่ไหนล่ะ เจกับแอนก็ไปด้วย" ผมเถียง

"เหมือนกันที่ไหนล่ะ ผมต้องการคนพิเศษกว่านั้นต่างหาก คานินนี่ไง...ใช่เลย"

เป็งขโมยหอมแก้มผมอีกฟอด อ้อนหนักมากอย่างนี้มีหรือผมจะทานทนไหว

"นะๆๆ ลาออกมาอยู่กับพี่นะคานิน หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจของพี่เป็ง" เป็งเล่นเสียงสูงต่ำตรงคำท้ายๆ

ผมหันขวับไปมองแล้วขมวดคิ้ว เปรี้ยวใจคืออะไร? ทำไมเป็งเรียกผมว่าเปรี้ยวใจล่ะ!?

TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2016 08:02:28 โดย inxsara »

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
อีกสองสามตอนก็น่าจะจบแล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้
ตอนนี้เป็นตอนที่ผมเขียนยาวและแก้หลายรอบมาก ลงๆ ลบๆ อยู่พักหนึ่ง
หวังว่าจะถูกใจกันไม่มากก็น้อย
ใครที่ติดตามอ่านแต่ยังไม่เคยคอมเมนต์
หรือคอมเมนต์กะปริบกะปรอยก็ถือว่าตอนนี้เป็นโอากาสดีที่จะเล่าให้คนเขียนฟังบ้าง
คนเขียนอยากฟังจากคนอ่านทุกคนเป็นธรรมดาครับ
ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ขอบคุณครับ :)

ป.ล. พอดีมันใกล้จบ สมองแล่นดีก็เลยเขียนติดต่อกันหลายตอน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ้ากกกกกก เลือดพุ่ง  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

หวาน ฟิน จิกหมอนขาด  :impress2: :impress2: :impress2:

คนเขียนรับผิดชอบเลย หาเลือด หาหมอน มาให้ด่วน 555  :laugh: :laugh: :laugh:

ใกล้จบแล้ว เสียดายจัง อยากอ่านยาวๆ  :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

อ้าาาาาาา รีบไปอ่านก่อน

มาเมนต์ต่อ ... NC (NCCCCCCCC echo)  :pighaun: ใจจะวาย
++ บวกเพิ่มให้ความละมุน ดูฟุ้งฟิ้ง ตัดกับการเคารพธงชาตินี่หล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2016 22:52:57 โดย Billie »

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
พี่เป็งจะให้น้องคานินลาออกเพื่อไปดูแลธุรกิจส่วนตัวและครอบครัวใช่หรือเปล่า

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ลงไปนอนจมกองเลือดดดด

แหม พอมีเมียแล้วขี้อ้อนขึ้นเยอะเลยนะพี่เป็ง แอบอิจฉานินเบาๆ


ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ขอถุงเลือดด่วนๆเลยค่ะะะะะ :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
อ่านตอนนี้แล้วชอบมากๆคับ คิดว่าจะเป็นแบบสวีทหวานๆเหมือนรวมมิตรเดือนเมษาที่ไหนได้ร้อนแรงเป็นต้มยำเดือนเมษาเลยอ่ะ
ในที่สุดก็เสร็จกันจนได้ ๕๕๕
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับว่าจะลาออกแล้วมาทำงานอะไรกับเป็ง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นอกจากเปรี้ยวใจก็ยังได้ใจอีกใช่มั้ยเป็ง
คานินสุดยอดไปเลย เปรี้ยวใจคนอ่านด้วย อิอิ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอเลือดเพิ่มด่วนค่ะ ตอนนี้ฟินมากกกกกกก คุณเป็งน่ารักอ่ะอ้อนคานินอย่างกับลูกหมาเลย ส่วนคานินคงจะใจแข็งได้ไม่นานหรอกค่ะเจอลูกอ้อนแบบนั่นเข้าเดี๋ยวก็คงใจอ่อนแล้วล่ะค่ะ มีความสุขจังที่เห็นคู่นี้เข้าใจกันซะที

ออฟไลน์ มะม่วงแรด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮูยยยยยยยย  เลือดท่วม เป็งไหนนายบอกไม่เคยไง  :haun4:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
น่ารักมากค่ะ บทจะหื่นก็หื่นกระชากอารมณ์ซะเหลือดันนะคูืนี้ กำเดาหมดตัวละจ้าา

นักเขียนแต่งฉากNCเก่งนะเนี่ย ไอ้เราอ่านนึกว่าอยู่นั่งชมติดขอบเตียงไปด้วยเลย เอ...อย่างนี้น่าคิดอยู่ๆ55555 ล้อเล่นค่า

ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ minniekook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่เป็งอ้อนน้องคานินใหญ่เลยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ iaum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เป็งน่ารักมากกก :o8: :-[ :impress2: ชอบหนุ่มมีเขี้ยวอ่าาาา :haun4: :haun4: :z1: :z1:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
น่ารักมากค่ะ บทจะหื่นก็หื่นกระชากอารมณ์ซะเหลือดันนะคูืนี้ กำเดาหมดตัวละจ้าา

นักเขียนแต่งฉากNCเก่งนะเนี่ย ไอ้เราอ่านนึกว่าอยู่นั่งชมติดขอบเตียงไปด้วยเลย เอ...อย่างนี้น่าคิดอยู่ๆ55555 ล้อเล่นค่า

ขอบคุณจ้า

555 นี่ก็ยั้งๆ ไว้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นจะหื่นยิ่งกว่านี้ ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง
ขอบคุณทุกๆ คนที่ชอบตอนนี้นะครับ เขียนไปก็เกร็งไป กลัวจะไม่สมจริงสมจัง 555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ทำไมผมอ่านฉาก nc ละคิดว่ามันน่ารักมากๆ คู่นี้   :hao7:
หื่นๆ ปนน่ารัก อิอิ

ปล.  อยากเห็นเกงในที่ใส่อะ ว่าแบบไหน กร๊ากๆๆ 555+

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
หื่นกันทั้งคู่อะ  น่ารักมากๆเลยครับ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :pighaun: :pighaun: :haun4:ืสุดยอดจัดหนักจัดเต็มกันไปเลย. บทรักดูเป็นธะรมชาติมากชอบมากเลยน่ะ. ดูแบบแมนๆดีน่ะ. นานๆจะเจอแบบนี้สักที ไลค์รัวๆ   :mew1:  กลายเป็นว่าเป็งโดนเอากลัวเต็มๆเลย  คุณภูมาม้ามืดมาก. ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ. ห่างหายไปน่ะ.  เพราะ  เนตบ้านเสีย. เนตออฟฟิตห่วย  ต้องอ้านจากโทร. ตาก้อเจ็บอีก :mew5:

ออฟไลน์ ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คานินเเอบทดสอบเเรงเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย



สวนมะยงชิดของผมเริ่มให้ผลิตผลแล้ว ช่วงนี้พ่อกับแม่จึงต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ
ผลไม้สีและขนาดพอๆ กับไข่ไก่สุกเหลืองอร่ามเต็มสวนขนาดประมาณห้าไร่เศษ
น้องสาวผมแปลงร่างเป็นสาวชาวสวนไปแล้ว เธอช่วยพ่อสอยผลมะยงชิดอย่างคล่องแคล่ว
ให้แม่ช่วยดูหลานในบ้าน ได้อยู่กับพ่อแม่แล้วดูแนนสดใสขึ้นเยอะเลย

ลูกค้าคนพิเศษของสวนมะยงชิดของเราคราวนี้มาไกลถึงกรุงเทพ บุกป่าฝ่าดงมาจนถึงสวน
ผม พ่อ แนนและพี่เหน่งต่างช่วยกันสอยผลมะยงชิดอย่างขะมักเขม้นเพราะลูกค้าสั่งเยอะ
แม้จะมาแค่สองคนกลับสั่งกันคนละห้าสิบกิโล ทั้งจะเอาไปกินเองและฝากคนรู้จัก

ลูกค้าคนพิเศษของเราสองคนไม่ใช่แค่มานั่งรอเท่านั้น แต่กลับลงมาช่วยเก็บด้วย
แม้จะเก้ๆ กังๆ ไปหน่อย แถมยังทำหล่นร่วงเสียหายไปหลายลูก แต่สร้างสีสันให้สวนเราไม่น้อย
เพราะสวนของเราอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง จึงไม่ค่อยมีใครมาซื้อถึงสวนแบบนี้

พอกะว่าได้ครบแล้วพวกเราจึงยกมะยงชิดใส่รถเข็นไม้สองล้อที่มีราวจับสำหรับเข็น
เราเข็นมาตรงทางเข้าสวนแล้วชั่งกิโลดู ปรากฎว่าขาดไปแค่สองกิโลเท่านั้นเอง

"เดี๋ยวผมกับคานินไปสอยเพิ่มเองครับ"

แฟนหนุ่มของผมหันไปบอกคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อตาพลางยิ้ม

"ไหวเหรอคุณ" พ่อผมถาม

"สบายมากครับ ไปคานิน"

ผมเดินตามแฟนหนุ่มไปต้อยๆ แต่แอบหันหลังไปชำเลืองดูพ่อบ่อยๆ เพราะกลัวพ่อสงสัย
จะว่ากลัวคงไม่ถูกนัก ความจริงผมอยากให้สงสัยเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเสี่ยงถูกด่าก็ตาม

"เอาไงดีครับคุณเป็ง" ผมถามเมื่อเห็นว่าเดินออกมาไกลมากแล้ว

"เรื่องพ่อกับแม่เหรอ" เป็งทวน

"ครับ ผมยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ เมื่อกี้ตอนที่เก็บมะยงชิดพ่อก็มองแปลกๆ ไม่รู้ว่าสงสัยหรือเปล่า"

"แต่คานินอยากให้สงสัยไม่ใช่เหรอ" เป็งถามย้ำ

"ครับ แต่ผมกลัวไง"

"อืม...ผมว่านะ ถ้าพ่อกับแม่ของคานินรับเรื่องของแนนได้ เรื่องของเราไม่น่ายากนะ"

"คุณเป็งคิดงั้นเหรอครับ"

"ใช่" เป็งยืนยัน จากนั้นเอื้อมมือมาปัดเศษใบไม้บนผมของผมออกให้อย่างเบามือ

ตั้งแต่เป็นแฟนกับเป็งมาได้สามเดือน ผมยอมรับว่ามีความสุขมาก ยิ่งลาออกจากงานยิ่งมีความสุข
ช่วงนี้ธุรกิจที่เราวางแผนไว้ยังไม่เริ่ม เป็งจึงให้ผมมาช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในงานอบรมไปก่อน
ช่วงไหนไม่มีงานอบรมเราจึงมีเวลาพักผ่อน เป็งพาผมไปเที่ยวหลายที่เลย ผมอยากไปไหนก็พาไป

เป็งเป็นคนใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่กว่าผมพอสมควร ไม่เคยทำให้เรื่องขัดใจเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องใหญ่
ผมจึงมีความสุขราวที่ได้ใช้ชีวิตด้วย ยิ่งเรื่องนั้นของเรายิ่งไม่ต้องพูดถึง มีเป็นประจำไม่เคยขาด
.
.
.
ลูกค้าคนสำคัญของสวนเรากลายเป็นลูกค้าระดับวีไอพีไปแล้วเมื่อแม่ผมชวนกินข้าวกลางวันด้วย
เป็งกับภูริชจึงหน้าบานใหญ่ ยิ้มแล้วยิ้มอีก แถมยังชมแล้วชมอีกว่าอาหารที่แม่ผมทำอร่อยมาก
ความจริงแม่ผมไม่ได้ทำเองหรอก ให้พี่เหน่งช่วยไปสั่งที่ร้านอาหารที่ใช้บริการบ่อยๆ มาให้

ดูเหมือนพ่อกับแม่ผมถูกชะตาลูกค้าสองคนมากทีเดียว ชวนคุยไม่หยุดเลย

"แล้วคานินรู้จักพี่ๆ เขาได้ยังไงล่ะลูก" แม่ผมถามขณะที่เราพูดคุยเรื่องสวนไปพอสมควรแล้ว

ผมทำหน้าเลิ่กลั่กนิดหน่อยเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไง

"อ๋อ...ร้านกาแฟที่คานินทำงานอยู่ตรงหน้าปากซอยคอนโดผมพอดีครับคุณน้า ผมไปกินบ่อยๆ
เห็นคานินเขาขยันขันแข็งดี ผมเลยชวนมาทำงานด้วยกัน"

เป็งถือโอกาสตอบแม่แทนผม ถ้าให้ผมเล่าเองคงไม่ใช่แบบนี้แน่นอน

"แล้วไปทำงานอะไรกันล่ะ" พ่อผมถามบ้าง ตักอาหารมาใส่จานแล้วรอฟังคำตอบ

"อ๋อ...ผมทำงานอบรมครับคุณน้า ส่วนมากก็อบรมให้หน่วยงานรัฐ"

"อบรมเรื่องอะไรล่ะ" เป็งยังพูดไม่จบพ่อผมพลันถามต่ออีก

"การสื่อสารอย่างสันติครับ" เป็งตอบฉะฉาน แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร

"แล้วมันเป็นยังไงล่ะ เผื่อน้าจะให้มาอบรมคนงานในสวนมั่ง เห็นทะเลาะกันทุกวัน"
ว่าที่แม่ยายของเป็งถามอย่างสนใจ

"อ๋อ...ได้นะครับ" เป็งขำเบาๆ "การสื่อสารอย่างสันติก็คือ...การสื่อสารที่ลดความขัดแย้งครับ
อย่างเช่น แทนที่คุณน้าจะด่าคนงานในสวนว่า เก็บผลไม้ยังไงเนี่ย ร่วงอีกแล้ว คุณน้าอาจจะบอกว่า...
มะยงชิดหล่นเสียหายหลายลูก ระวังกันหน่อยนะ"

"อ๋อ...แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ" แม่ผมชักสนุกและอยากรู้มากขึ้น

"อย่างแรก...เราว่าที่คนโดยตรง ถ้าใครมาว่าเราเราก็ไม่พอใจใช่ไหมครับคุณน้า ต่อให้เราผิดก็เถอะ"

แม่ผมพยักหน้าเห็นด้วย เป็งจึงอธิบายต่อ

"แต่อย่างที่สอง เราแค่บอกว่ามะยงชิดมันร่วงเสียหายหลายลูก ให้ระวังหน่อย ไม่ได้ว่าคนตรงๆ
พอไม่ว่าคนตรงๆ เราก็ไม่ขัดแย้งกัน ที่เราขัดแย้งกันในสังคมเพราะว่าเราตำหนิตัวคนนี่แหละครับ
การสื่อสารอย่างสันติสอนให้เราไม่ตำหนิคน พูดถึงแต่ผลที่เกิดขึ้นเฉยๆ ดีไหมครับคุณน้า"

"ดีจ้ะๆ น้าเห็นด้วย น้าดีใจจริงๆ ที่คานินมีเพื่อนดีๆ แบบนี้ ว่าแต่...เป็นเพื่อนกันอย่างเดียวเหรอจ๊ะ"

ผมกับเป็งเกือบสำลักข้าวเลยทีเดียว เราสองคนมองหน้ากันแวบเดียวแล้วจึงหันไปยิ้มกับแม่และพ่อ

"อ้าว...แล้วคุณน้าคิดว่าเป็นอะไรล่ะครับ" เป็งถามใจดีสู้เสือ หัวเราะกลบความกลัวเบาๆ

"ถามคนนี้สิ เทียวถามพ่อกับแม่ทุกวันว่าถ้าพี่ชายไม่เหมือนเดิม พ่อกับแม่จะว่ายังไง
ตอนแรกก็งงๆ ว่าหมายถึงอะไร เขาก็เลยค่อยๆ เผยมาทีละนิดๆ"

ผม เป็งและภูริชนั่งงงกันเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าแม่ผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
ส่วนแนนที่ถูกแม่พาดพิงถึงเมื่อกี้ได้แต่นั่งยิ้มๆ ไม่พูดไม่จา

"เผยอะไรเหรอครับแม่" ผมถามแม่บ้างหลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน

"อยากรู้ก็ไปถามแนนสิลูก" พ่อผมตอบคำถามแทนแม่ สีหน้ายิ้มๆ ทั้งคู่

ผมหันไปมองแนนด้วยสายตามีคำถาม แต่ไม่กล้าถามกลางวงตอนนี้เพราะยังไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่า

"เอาเหอะนะพ่อ ไม่มีลูกสะใภ้ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงๆ ก็มีหลานให้อุ้มเหมือนกัน"

พอแม่ผมพูดอย่างนี้ ผมจึงมั่นใจว่าเรื่องที่ผมสงสัยคงใช่แน่ๆ น้องสาวผมคงบอกพ่อกับแม่ไปแล้ว
ไม่รู้ว่าแนนบอกพ่อกับแม่ยังไง ไม่รู้ทะเลากันหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าพ่อกับแม่โอเคยังไงไม่รู้
แนนไม่เคยบอกผมเรื่องนี้เลย มิน่าล่ะ ก่อนมาแนนถึงบอกผมว่ามี "เซอร์ไพรส์"

"แล้วคุณภูริชทำอะไรล่ะจ๊ะ" แม่ผมหันไปถามเพื่อนของแฟนหนุ่มผมบ้าง

"ผมทำธุรกิจฟิตเนสอยู่ในคอนโดครับ ฟิตเนสก็คือ...สถานที่สำหรับออกกำลังกายครับ
กรุงเทพไม่ค่อยมีที่ออกกำลังกายเท่าไหร่ ก็เลยเอาที่ออกกำลังกายมาไว้ในคอนโด
เวลาคนเลิกงานมาตอนเย็นๆ ก็มาออกกำลังกายได้ ผมก็จะจัดหาอุปกรณ์มาให้ เช่น ลู่วิ่ง
ดัมเบลล์ยกน้ำหนัก อะไรทำนองนี้ครับคุณน้า คนมาใช้งานจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือน"

ภูริชอธิบายง่ายๆ เพื่อให้คนต่างจังหวัดที่ไม่คุ้นเคยวิถีชีวิตแบบคนกรุงเทพพอเข้าใจ

"เหรอลูก แล้วรายได้ดีไหมเดือนๆ นึง" แม่ผมตรงๆ เพราะไม่คิดซับซ้อนตามประสาคนต่างจังหวัด

"ก็หลายแสนอยู่ครับ"

"หา! จริงเหรอลูก เก็บค่าออกกำลังกายอย่างเดียวก็เป็นแสนๆ เลยเหรอ แสดงว่าคนต้องมาใช้เยอะสิ"
แม่ผมถามเสียงสูง ท่าทางดูตื่นเต้นมาก

"ครับ" ภูริชตอบอย่างถ่อมตัว สายตาคอยเหลือบมองดูแนนเป็นระยะๆ

"ไม่เห็นรถที่เขาขับมาหรือไงแม่ รถยุโรปแพงๆ ทั้งนั้นเลย" พ่อผมอธิบายตามที่เข้าใจ

"ยังสู้เป็งไม่ได้หรอกครับคุณน้า เป็งน่ะมีร้านอาหารที่เชียงราย รายได้เดือนนึงเป็นล้านๆ เลยครับ
เนี่ย...ถ้าใครฝากอนาคตไว้กับเป็ง ไม่ผิดหวังแน่นอนเลยครับ สบายไปถึงชาติหน้าเลย"

ภูริชถือโอกาสช่วยโฆษณาเพื่อนไปด้วยในตัว เรียกว่าแอบเชียร์ทางอ้อมเต็มที่

"จริงเหรอลูก แล้วขายอาหารอะไรล่ะถึงได้เงินเยอะขนาดนั้น" แม่ผมตาโตด้วยความสนใจ

"อาหารจีนครับ ช่วงหน้าหนาวขายได้เยอะหน่อยเพราะว่านักท่องเที่ยวเยอะ แต่ขายได้เรื่อยๆ ตลอดปีครับ"
ว่าที่ลูกเขยตอบอย่างฉะฉาน คงนึกดีใจไม่น้อยที่เพื่อนช่วยชงให้

"เป็นลูกคนจีนเหรอ" พ่อผมถาม

"ครับ จีนแท้ๆ ทั้งบ้านเลยครับ เตี่ยกับม๊าผมพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยเพราะว่าคนที่นั่นส่วนมากพูดจีนกัน
พวกเราเป็นจีนที่อพยพมาช่วงสงครามน่ะครับ มาปักหลักเป็นชุมชนอยู่ที่ดอยแม่สะลองห้าสิบกว่าปีแล้ว"
เป็งอธิบายเพิ่มเติมพอให้เข้าใจ ก่อนจะถือโอกาสโฆษณาเพื่อนตัวเองบ้าง

"อ้อ เพื่อนผมคนนี้ยังโสดนะครับคุณน้า กำลังมองหาสาวที่ขยันๆ มาเป็นคู่ชีวิตอยู่ครับ
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ที่สำคัญ...รักเด็กมากๆ ด้วยครับ"

เป็งตบไหล่ภูริชเบาๆ ชงกันเองสองคน แต่ยังไม่มีใครกล้ากระโตกกระตากเรื่องภูริชกับแนนมากนัก
ถึงกระนั้น พ่อกับแม่ของผมใช่ว่าจะดูไม่ออกเพราะต่างก็อาบน้ำร้อนมาก่อนแล้ว

"แล้วช่วงนี้วินเป็นไงบ้างครับ" ภูริชถือโอกาสถามถึงว่าที่ลูกเลี้ยงเสียเลย

ยังไม่ทันมีใครตอบ เด็กน้อยที่ถูกพาดพิงถึงร้องไห้เสียงดังมาจากในบ้านพอดีราวกับรู้ว่าถูกถามถึง

"สงสัยวินจะไม่สบายน่ะค่ะ เมื่อกี้ตอนให้นอนดูเหมือนตัวร้อนๆ อยู่ แนนขอตัวไปดูลูกก่อนนะคะ"

แนนบอกพลางทำท่าจะลุกออกไปแต่หยุดชะงักเมื่อภูริชขอตามไปด้วย

"ถ้างั้นพี่ว่าพาลูกไปหาหมอดีกว่านะแนน เดี๋ยวพี่พาไปเอง" ภูริชอาสาพลางลุกขึ้นตาม
สำเนียงและท่าทางของผู้พูดบ่งบอกความสนิทสนมจนเกินกว่าจะบอกว่าเพิ่งรู้จักกันวันนี้เสียแล้ว

พ่อกับแม่ผมมองหน้าแนนกับภูริชสลับกันไปมา คงสงสัยที่ภูริชทำท่าเหมือนรู้จักแนนมาก่อน
ปกติแล้วไม่น่ามีหนุ่มโสดที่ไหนอาสาพาผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันพาลูกไปหาหมออย่างนี้เลย

เหมือนจะรู้ตัวว่าพลาดเสียแล้ว เพื่อนของแฟนผมหน้าเจื่อนลงทันใดเมื่อเห็นสายตาพ่อกับแม่ผม

"เอ่อ...คือว่า..." ภูริชไม่รู้จะอธิบายยังไง

"แนนไปดูลูกก่อนนะคะ" ด้วยภาระความเป็นแม่แนนจึงไม่สามารถอยู่อธิบายอะไรได้ตอนนี้
ปล่อยให้คนที่เหลือพูดคุยกันเอาเอง

ภูริชจึงได้โอกาสแสดงวิสัยทัศน์และความกล้าหาญอย่างลูกผู้ชายคนหนึ่งเสียที
ถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้คงเสียดายน่าดู นี่แหละที่เขาเรียกว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

"ผมชอบแนนครับ เรารู้จักกันแล้วก็คุยกันมาหลายเดือนแล้ว ผมไม่รังเกียจที่เธอมีลูก
ยินดีรับผิดชอบชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยผิดพลาดมา ผมชื่นชมแนนมากที่สู้ชีวิตต่อ
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็อาจจะทำแท้งหรือคิดสั้น แต่แนนไม่ทำอย่างงั้น ผมชอบผู้หญิงแบบนี้
ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่รังเกียจ...ผมจะอนุญาตขอคบกับแนนได้ไหมครับ"

ภูริชตัดสินใจบอกไปตามตรงอย่างลูกผู้ชายอกสามศอก พ่อกับแม่ของผมอึ้งกันไปเลย
จะว่าไปทุกคนต่างอึ้งไปตามๆ กัน ยกเว้นแนนที่ตอนนี้ไม่รับรู้อะไร

"พ่อคะ แม่คะ วินตัวร้อนมากๆ เลยค่ะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ"

เสียงแนนตะโกนบอกออกมาจากในบ้าน เบนความสนใจไปได้พอดี

"ผมไปส่งแนนให้ก็ได้ครับอา"

หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน พี่เหน่งจึงอาสาเผื่อพ่อกับแม่จะไม่อนุญาตให้ภูริชไปกับแนน

"แต่เหน่งต้องกลับไปดูสวนไม่ใช่เหรอลูก" แม่ผมบอกอย่างเกรงใจ

"ผมขอไปส่งแนนกับลูกนะครับคุณพ่อคุณแม่"
ภูริชยืนกราน แถมยังเน้นย้ำสรรพนามใหม่ที่ใช้เรียกพ่อกับแม่ผมอีกด้วย

พ่อกับแม่ผมมองหน้ากันเหมือนกับไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง แต่ลังเลแบบนี้คงไม่ทันการ
พอแนนอุ้มลูกออกมานอกบ้านตรงลานด้านหน้าที่เรากินข้าว ภูริชจึงรีบเดินแกมวิ่งไปหา
เพื่อนของแฟนผมเอามือแตะหน้าผากวินด้วยความเป็นห่วง พอเห็นอย่างนั้นพ่อกับแม่ผมจึงนั่งนิ่ง

แม้ยังไม่มีใครอนุญาต แต่ความเป็นห่วงลูกทำให้แนนรีบตามภูริชไปขึ้นรถที่จอดไว้หน้าบ้าน
แนนแวบหันมามองพ่อกับแม่เป็นเวลาสั้นๆ พอเห็นพ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรจึงตามภูริชออกไป

พอแนนกับภูริชไปแล้ว ผม เป็งและพี่เหน่งจึงนั่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ผมจะว่ายังไง

"อ้าว ทำไมไม่กินข้าวกันต่อล่ะ กินลูกกิน เหน่งรีบกินลูกจะได้ไปหาพ่อกับแม่ เดี๋ยวรอแย่
คานินยังไม่อิ่มไม่ใช่เหรอลูก คุณเป็งจะเอาข้าวเพิ่มหรือเปล่าครับ คานินตักให้พี่เขาหน่อยสิลูก"

พ่อผมเชื้อเชิญให้ทุกคนกินข้าวกลางวันต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรามองหน้ากันไปมาอย่างเกร็งๆ
พอเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้วจึงค่อยสบายใจและลงมือจัดการอาหารกลางวันของเรากันต่อ

"คุณเป็งส่งจานข้าวมาครับ เดี๋ยวผมตักให้"

ผมบอกพลางชี้ไปที่จานข้าวของเป็งที่พร่องเกือบหมดแล้ว เป็งยกจานมาให้ผมอย่างไว

"ทำไมไม่เรียกพี่เป็งล่ะลูก"

สิ้นเสียงแม่บอก ผมถือจานข้าวเป็งชะงักไว้ รู้สึกงงไปหมดว่าอะไรเป็นอะไร

"อ้อ...ครับแม่" ผมยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันไปถาม "พี่เป็ง" ของผม "เอากี่ทัพพีครับพี่เป็ง"

"ทัพพีเดียว" เป็งบอกด้วยอาการเกร็งๆ เช่นเดียวกัน แม้จะพอรับรู้ได้ว่าพ่อกับแม่ผมโอเคก็เถอะ

"ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ก็มาบอกพ่อกับแม่นะคานิน"

แม่ยิ้มมีเลศนัย ทำเอาผมตักข้าวชะงักค้างไว้อีกรอบ

"พร้อมเรื่องอะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างงงๆ ก่อนจะเคาะข้าวจากทัพพีลงในจาน

"ถามพี่เป็งสิลูก พี่เป็งน่าจะรู้ว่าแม่หมายถึงอะไร" แม่ผมบอกแล้วหันไปหัวเราะกับพ่อเบาๆ กันสองคน

ผมส่งจานข้าวให้เป็งแล้วมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ต่างคนต่างมีคำถามในสายตา

"ถ้าคุณเป็งไม่รังเกียจบ้านเล็กๆ ของเรา พักที่นี่สักคืนก็ได้นะจ๊ะ พักห้องเดียวกับคานินนั่นแหละ
ส่วนคุณภูริช เดี๋ยวแม่ให้ไปนอนบ้านเหน่ง ไม่ไกลหรอก อยู่ถัดไปอีกสองสามหลังเอง"

แม่ผมเหมาการสนทนาช่วงหลังแทนพ่อผมไปเลย ผมกับเป็งมองหน้ากันแล้วยิ้มดีใจ คิดว่าใช่แน่ๆ

"หมายความว่า...พ่อกับแม่...อนุญาตให้ผมกับพี่เป็ง...คบกันเหรอครับ" ผมถามทวนอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"โอ๊ย...มาอนุญาตตอนนี้มันจะทันรื้อ คบกันไปตั้งหลายเดือนแล้วไม่ใช่เหรอลูก"

แต่ละดอกที่แม่ผมซัดมาเล่นเอาเราสองคนตะลึงแล้วตะลึงอีก แต่คราวนี้เราตะลึงด้วยรอยยิ้มดีใจ
ผมอยากขอบคุณแนนเสียจริงๆ ที่แอบช่วยคุยลับๆ กับพ่อแม่ให้ ไม่งั้นผมคงลำบากเหมือนกัน
ผมรู้ว่าแนนอยากทำให้อะไรให้พี่ชายคนนี้บ้างหลังจากทำปัญหาให้ปวดหัวไว้เยอะ
ผมเดาว่าช่วงเวลาที่อยู่บ้าน แนนคงพยายามพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่บ่อยๆ จนท่านเข้าใจ

"ขอบคุณครับ"

ผมกับเป็งพูดเกือบพร้อมกัน เสียงหัวเราะของทุกคนจึงดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูมีความสุข
เป็งกับผมกลัวกันอยู่ตั้งนาน เพิ่งวางแผนกันว่าจะมาซื้อมะยงชิดทุกสัปดาห์ หาของมาฝากพ่อกับแม่ผมบ่อยๆ
ทำตามแผนไปได้หน่อยเดียวกลับได้ผลดีที่เกินคาด ถ้าไม่เรียกว่าทำบุญมาดีก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว!



เรื่องใหม่เรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับเป็งคือ เป็งชอบปั่นจักรยานมาก ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปปั่น
ไปเที่ยวไหนมักเอาจักรยานไปด้วย และต้องใช้จักรยานสำหรับการปั่นแบบมืออาชีพเท่านั้น

เมื่อจบมื้อกลางวัน เป็งจึงพาผมออกมาปั่นจักรยานเล่นไปตามริมคลองส่งน้ำที่ทอดตัวยาวไปตามถนนหลัก
เรามีจักรยานกันคนละคัน พับเก็บใส่รถมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะรถของเป็งมีพื้นที่เยอะ

ภูริชกับแนนยังไม่กลับจากโรงพยาบาลเลย เห็นพ่อกับไม่ว่า เราสองคนจึงอดดีใจกับภูริชด้วยไม่ได้

"คุณภูคงหายเครียดซะทีนะครับคุณเป็ง พ่อกับแม่ผมไม่น่ามีปัญหาแล้ว ปกติ...ถ้าเกิดไม่ชอบแล้ว
พ่อกับแม่ผมไม่ยอมให้คุณภูริชไปเด็ดขาด นี่ไม่เห็นว่าอะไรเลย"

"เรียกพี่สิ แม่บอกให้เรียกพี่ว่าพี่ไม่ใช่เหรอ" แทนที่เป็งจะสนใจกลับหันมาตำหนิเรื่องไม่เรียกพี่ซะงั้น

"อ้อ ผมลืมตัวไง เรียกคุณเป็งซะเคย" ผมนิ่วหน้าอย่างคนรู้สึกผิดนิดๆ เป็งจึงยิ้มชอบใจ

"ตอนแรกพี่ก็กลัวแทนไอ้ภูมันเหมือนกัน แต่เพื่อนพี่มันก็กล้ากว่าที่พี่คิดไว้ซะอีก"

"นั่นสิครับ แล้ว...ถ้าเกิดพ่อกับแม่ผมไม่อนุญาติเรื่องผม พี่เป็งจะทำเหมือนคุณภูริชหรือเปล่า"

"แน่นอนอยู่แล้ว พี่ก็ลูกผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันนะ" เป็งถือโอกาสคุยโวเสียเลย

"ถ้าไม่ได้แนนช่วยคงยากเอาเรื่องเหมือนกัน ผมชักอยากรู้ว่าแนนไปคุยกับพ่อแม่ยังไงถึงได้ยอม"

"แสดงว่าแนนรักพี่ชายมากนะเนี่ย ไม่เสียแรงที่คานินช่วยดูแลตอนที่เขาลำบาก"

"ครับ" ผมเห็นด้วย แม้ไม่เคยคิดอยากทวงบุญคุณหรือต้องการให้น้องทำอะไรตอบแทนเลยก็ตาม

"ต่อไปก็เหลือแค่ม๊าของพี่เท่านั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะยอมหรือเปล่า แต่พี่ว่าเตี่ยยอมแล้ว ม๊าก็ต้องยอม"

สีหน้าของเป็งดูกังวลเล็กน้อย

"สงสัยผมคงจะต้องทำเหมือนคุณภูริชกับหม่าม๊าของคุณเป็งหรือเปล่าครับ"

ผมพูดตลกให้ดูไม่เครียด หนุ่มตี๋ของผมหัวเราะชอบใจใหญ่เลย

"สงสัยผมคงต้องร้องไห้กระซิกๆ บอกม๊าว่า ฮือๆ ม๊า...คานินเป็นของผมแล้ว เอ๊ยไม่ใช่ ม๊า...ฮือๆ
ผมเป็นของคานินแล้ว ผมเสียหายครับม๊า ม๊าต้องให้คานินต้องรับผิดชอบผมด้วย ฮือๆ กระซิกๆ"

เป็งแกล้งทำเสียงสูงๆ ต่ำๆ เหมือนกำลังพากย์ละครอยู่ ผมขำเสียจนต้องจอดรถจักรยานหัวเราะ
แฟนหนุ่มของผมหยุดแล้วหันมามอง ดูท่าจะมีความสุขมากที่เห็นผมหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
เวลาเป็งทำอะไรตลกๆ หน้าตาท่าทางจะไปหมด ผมจึงอดขำไม่ได้ทุกที

"ขำขนาดนั้นเลยเหรอคานิน"

"พี่เป็งน่าจะไปเล่นตลกได้อีกอาชีพนะเนี่ย" ผมบอกพลางพยายามหยุดหัวเราะ

"อย่าดีกว่า พี่กลัวตลกหลายคนจะตกงานเอา"

หนุ่มตี๋เล่นมุกต่อแล้วจูงจักรยานย้อนมาหาผม ผมหยุดขำได้แล้วจึงเปลี่ยนมาชวนคุยให้มีสาระมากขึ้น

"เราขึ้นไปเชียงรายกันดีไหมครับคุณเป็ง เอ๊ย...พี่เป็ง ผมไปบ้านพี่เป็งได้หรือเปล่า"

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่วางแผนไว้แล้ว พอกลับจากที่นี่นะ พี่จะพาคานินไปเชียงรายเลย ดีไหม"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย "อยากกินขาหมูหมั่นโถวมากๆ เลยครับ ไม่เคยกินเลย"

"เห็นแก่กินนี่เอง" เป็งว่าพลางลูบหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู

"เอ๊ะ รถคานินเหมือนจะยางแบนนะ เดี๋ยวๆ หลบเข้าใต้ต้นไม้ก่อนดีกว่า พี่จะสูบลมให้"
เป็งเอามือบีบยางล้อหน้าเพื่อทดสอบอีกที ปรากฎว่าลมยางอ่อนไปจริงๆ ด้วย

"ผมสูบเองก็ได้ แค่นี้เอง"

"น่า...พี่จะมาขอลูกชายเขาแล้ว ต้องดูแลลูกชายเขาดีๆ หน่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่ไม่ให้มาขอจะแย่เอานะ"

ผมกับเป็งขำพร้อมๆ กัน จากนั้นเราจึงจูงรถหลบเข้าร่มใต้ต้นไม้ใหญ่ริมคลองข้างถนน
เป็งหยิบสูบมือที่ติดอยู่กับรถมาแล้วสูบลมให้ ท่าทางทะมัดทะแมงบ่งบอกความชำนาญเป็นอย่างดี
ผมนั่งยองๆ ดูพร้อมกับยิ้มชื่นชม ไม่ว่าเป็งจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด

พอสูบลมเสร็จแล้วแทนที่จะไปต่อ เป็งกลับชวนผมนั่งคุยกันริมคลองเสียอย่างนั้น
แต่ก็ดีเหมือนกัน นั่งคุยกันรับลมเย็นๆ เพลินดี ช่วงหน้าร้อนแดดแรงเหลือใจจนแทบไหม้

"คานิน...อยู่กับผมมาสองเดือนแล้ว เป็นยังไงบ้าง"

สองเดือนที่ว่าของเป็งนั้นคือระยะเวลาที่ผมย้ายมาอยู่กับเป็งที่คอนโด ไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันสองเดือน

"ก็ดีครับ" ผมตอบสั้นๆ

"แค่ดีเองเหรอ" เป็งนิ่วหน้าคล้ายกับจะงอน

"โคตรดีเลยครับ" ผมรีบตอบเอาใจเสียงดังฟังชัด เจ้าตัวจึงยิ้มแป้น "ผมไม่เคยคิดว่าผมจะมีความสุขขนาดนี้
พี่เป็งเป็นคนใจดี ใจเย็น ผมทำอะไรเปิ่นๆ ก็ไม่เคยโกรธ ที่สำคัญนะ เอาใจเก่ง แถมยังหล่ออีกต่างหาก
ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด ผิวก็ขาว จมูกก็โด่ง คิ้วก็หนา ปากก็สวย หุ่นก็ดี"

"แล้วเรื่องนั้นล่ะ" เป็งถามพลางยื่นหน้ามาใกล้ ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผมเขินเล่น

"สุดยอด" ผมทำเสียงสูง เป็งหัวเราะชอบใจใหญ่

"แล้วพี่เป็งล่ะ อยู่กับผมสองเดือนแล้วเป็นไงมั่ง ถ้ามีอะไรไม่ชอบก็บอกผมได้นะ" ผมพูดทีเล่นทีจริง

"เหมือนคานินแหละ...โคตรดีเลย ถึงคานินจะไม่หล่อมาก ไม่เอวบางร่างน้อย แต่น่ารักสำหรับพี่นะ
แถมยังขยัน ช่วยทำงานบ้าน ช่วยทำงานตั้งหลายอย่าง ไม่เคยบ่นเลย คานินยิ้มให้พี่ดูเขี้ยวหน่อยสิ"

ผมรีบทำตามที่แฟนหนุ่มบอกทันที แม้ไม่ต้องบอกคงต้องยิ้มอยู่แล้วเพราะชมซะขนาดนั้น

"นี่แหละคานิน...หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจของพี่เป็ง คนที่พี่รอมาสิบๆ ปี ถึงพี่จะเคยหลงเสน่ห์สาวมีเขี้ยวแค่ไหน
แต่ตอนนี้...เขี้ยวของคานินน่ะ ปักอยู่กลางอกของพี่...จนพี่ไปไหนไม่ได้แล้ว รู้เปล่า"

หนุ่มตี๋ของผมเอามือนิ้วจิ้มที่หน้าอกด้วยตอนที่พูดถึงเขี้ยวปักอก ผมได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดู
ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะ ผมคงให้รางวัลด้วยการหอมแก้มซักสองสามฟอดเป็นแน่!

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2016 20:44:25 โดย inxsara »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ผ่านด่านพ่อแม่คานินมาแบบสบายๆ เลยเพราะมีน้องดีช่วยเคลียร์ทางให้ แต่คงเหลือทางฝั่งม๊าของคุณเป็งว่าจะยอมรับมั้ย แต่ถ้าม๊าเห็นคานินคงต้องยอมรับแน่ๆ เพราะคานินออกจะน่ารักซะขนาดนี้นี่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด