➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14  (อ่าน 70506 ครั้ง)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #30 เมื่อ30-01-2016 15:07:05 »

- บทที่ 6 - ดันจำได้ -



----------------------------


มะนาวตื่นมาทำหน้าเซื่องซึมครับ วันนี้หายากินเอง ไปอาบน้ำแต่งตัวโดยที่ผมไม่ต้องเร่งเลย

“วันนี้ไม่มีเชียร์ พวกชมรมกีฬาให้ไปคัดตัวนักกีฬาไปแข่งกีฬาเฟรสชี่นี่นา” กีฬาเฟรสชี่แยกกับเรื่องชมรมครับ ถึงพี่ๆของพวกชมรมกีฬาจะดูแลซ้อมให้อะไรให้ แต่จะเข้าไม่เข้าชมรมนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

“ก็เห็นพูดอยู่นะ เมื่อวานพี่ก็บอก”

“มึงจะไปคัดตัวบาสมั้ย ไงๆก็จะลงชมรมบาสอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้ว่ะ ขี้เกียจๆ”

“ไปดิ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” มะนาวพูดไปเรื่อย ช่วยผมดูรถทางซ้ายให้ผม ผมขับรถครับ เรากำลังไปเรียนตอนเช้า

“มึงจะลงเล่นด้วย?”

“ไม่อ่ะ ไปให้กำลังใจเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ กูขี้เกียจไปเป็นกระสอบทรายในสนามนะ มีแต่พวกตัวควายๆ เล่นทีไรมือซ้นเข่าแตกแขนช้ำไหล่เขียวตลอด”

“มึงแน่ใจเหรอว่านั่นมาจากเล่นบาส” มะนาวสูงมาตรฐานถึงน้ำหนักจะติดในเกณฑ์น้อยก็เถอะ เขาก็ปกตินะ แต่จะตัวเล็กมาก ถ้าตัวเปรียบเทียบคือผม

“เออดิ กูคงไม่ตั้งใจเอาหน้าไปวัดพื้นเล่นๆ หรอกใช่ไหมล่ะ มึงตัวใหญ่ ไม่เขาใจหมูสนามอย่างกูหรอก”

“งั้นมึงก็นั่งดูอย่างเดียว ไม่ต้องเสนอตัวเลย”

“คร้าบบบบ คุณพ่อ”

“ดีมาก ไอ้ลูกชาย” ผมเอื้อมมือไป แต่ค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนถึงหัวมะนาวแค่คืบเดียว ผมยกมือขึ้นแบบไม่ทันคิดครับ แต่มานึกได้ตอนนี้ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร ผมจะยีหัวมะนาวเล่นเหรอ?

ควร หรือไม่ควร?

มะนาวปิดตาข้างนึงแบบรู้ว่ากำลังจะมีอะไรมาโดนหัว ผมเลี่ยงเปลี่ยนเป็นตบปุๆ เบาๆ สองทีแล้วรีบชักมือกลับมาวางที่พวงมาลัย
บางคนไม่ชอบให้เล่นหัว ผมเข้าใจดี ถ้าเกิดมันไม่พอใจหรือคิดว่าเรายังไม่สนิทกันมากพอจะเล่นหัวเล่นหูกันได้ก็ไม่แปลก เราเพิ่งรู้จักกันได้สองอาทิตย์กว่าๆ เองนี่นะ

“อะไรของมึงว่ะ จะเล่นก็เล่นดิ”

มะนาวหยิบมือผม หยิบจริงๆ ครับ หยิบด้วยนิ้วสามนิ้ว เอามือซ้ายผมไปวางแปะไว้บนหัวมัน ก่อนจะหลับตาทำคอยื่นพูด
“เกาให้หน่อย คันว่ะ ไม่ได้สระมาสองอาทิตย์แล้ว”

“อี๋” ผมทำเสียงรังเกียจ แต่เกาหัวให้มันเบาๆ เพราะผมรู้ว่ามันล้อเล่น มะนาวสระผมทุกครั้งที่อาบน้ำครับ ล่าสุดก็เมื่อเช้านี้ ตอนนี้ผมมันยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำ

มะนาวทำหน้าพอใจแถมเอียงหัวให้เกาด้วย ไม่รู้มันกวนตีนหรือคันจริง

นี่มันแปลได้ว่ากับผมมันไม่ถือการเล่นหัวใช่ไหม?


.......................................


ห้าโมงเย็น ผมมาอยู่ที่ยิมบาส มีคนที่ทำท่าเก้ๆ กังๆ รออยู่สองสามคน กับพี่ที่เล่นบาสรอแค่สี่คน ผมมานั่งรอพี่ๆเรียกอยู่ที่อัฒจันทร์ชั้นสองกับมะนาว เมื่อกี้มันเรียกผมเซลฟี่ ตอนนี้กำลังแต่งภาพลงโซเชี่ยวอยู่ ส่วนผมตอบไลน์พี่โนอาที่ทักมาชวนไปเลี้ยงข้าวเย็น

“น้องๆ ปีหนึ่งวิดวะที่มาคัดตัว มารวมกันทางนี้นะ” พี่ข้างล่างเรียก ผมที่ยังตอบพี่โนอาไม่เสร็จเลยยื่นมือถือให้มะนาว

“ตอบพี่กูแทนที บอกไปเลยว่ามึงคุย กูไม่ว่างคัดตัวบาส มีไรมึงตัดสินใจเลยนะ”

“...” ไม่พูดอะไรแต่มะนาวก็รับไป

มะนาวคงไม่เหงา มีมือถือตั้งสองเครื่อง มองไปรอบๆ โรงยิมก็มีคนมาดูประปราย เพราะมีทีมบาสหญิงมาคัดตัวกันอยู่สนามข้างๆ ด้วย ทั้งเพื่อนทั้งแฟน หรือไม่ก็แฟนคลับพวกพี่ๆ ชมรมบาสล่ะมั้ง ผมเห็นส่วนใหญ่มีแต่สาวๆ ผมวิ่งเหยาะๆ ไปนั่งรวมกับคนอื่นๆ

“1 2 3....11คน อื้ม กำลังดีไม่ต้องคัดตัว ซ้อมเลยแล้วกัน”

“มึงยังไม่ให้น้องรู้จักกันเลยนะ มึงน้องก็ไม่รู้จัก จะรีบไปไหนวะ”

จริงครับ ผมกำลังงง มาถึงจะให้ซ้อมเลยเหรอ ไม่ได้เกี่ยงนะ แค่ข้องใจ

“เออว่ะ พี่ชื่อภาค ปี 4 ประธานชมรมตอนนี้ ไอ้นี่ เสือ ปี 3 ประธานตอนหน้า” ชัดเจนมาก แต่ดูหน้าพี่เสือไม่ค่อยเต็มใจนะ “บอลกับปราณปี 2 ไปลงชื่อกับเบอร์โทรที่สองคนนี้ก่อน” พี่บอลเป็นพี่โรงเรียนผมครับ เขาเอากระดาษในมือมาให้ผมเขียนชื่อคนแรกเลย แถมยังทักทายบอกขอบใจผมที่มา

เริ่มตั้งแต่พื้นฐานวอร์มร่างกายยืดหยุ่นเลี้ยงลูกรับส่งลูกกันตั้งแต่หนึ่งใหม่ พี่บอกให้คุยกันไปด้วยระหว่างซ้อม จะได้เป็นการทำความรู้จักกัน หลังจากถามว่ามีใครไม่เคยเล่นบาสมาเลยบ้างแล้วไม่มีคนยกมือ พี่ๆ เลยให้เราแบ่งเป็นสองทีม แข่งกันทันทีเหมือนจะดูพื้นฐานกับภาพรวม ผมได้ทีมถอดเสื้อ ซึ่งดีเลย กำลังร้อนๆ

พี่เสือกับพี่บอลเป็นคนถือคลิปบอท แล้วตามจดโน้นนี่ตลอดการฝึก

ผมเหลือบไปทางมะนาว มะนาวมีคนนั่งด้วย? ผมเพ่งมองดีๆ จึงเห็นว่าคือพี่โนอา เธอยืนขึ้น ป้องปากทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วตะโกนลั่นยิม

“แม็ตน้องเจ้ สู้ๆน้า” เสียงพี่ผมดังจนแน่ใจว่าทุกคนในยิมได้ยินและหันไปทางพี่โนอา

“เชี่ย ดาวมหาลัย พี่มึงเหรอ”

“อื้ม” ผมเห็นมะนาวกำลังทำหน้าแหยๆ นั่งกินโค้กกระตุกเสื้อช็อปพี่โนอาให้นั่งลง แค่พี่ผมเดินเข้ามาก็เด่นจะแย่ ยังทำเสียงดังอีก ผมล่ะอ้ายอาย

“แล้วข้างๆ อ่ะ น่ารักดี”

“เวลาแบบนี้ต้องมองดาวป่าววะ มึงดันชมผู้ชาย” มีเพื่อนอีกคนท้วงเสียงแรก

“มีคนบอกกูว่าเขามีแฟนแล้ว แฟนโคตรเจ๋งด้วย กูเลยไม่คิดว่ากูจะมีสิทธิ ก็ต้องมองคนไม่มีเจ้าของดิว้า” เสียงแรกที่ใส่เสื้อบาส อบต.ปลวกแดง ชี้แจง

มึงรู้ได้ไงว่าเขาไม่มีเจ้าของว่ะ? อ.ปลวกแดง!

ผมคิดในใจ แต่ก็ต้องสงสัย เออ มันมีเจ้าของไหมล่ะวะ? ผมคุยกับมะนาวได้เรื่อยเปื่อย เรื่อยเปื่อยในที่นี้คือไม่มีแก่นสารและสาระ ไม่เคยถามเรื่องพวกนี้กับมะนาวเลย ว่ามีแฟนหรือไม่มี

ถ้ามี ผมคงรู้สึกผิดมากๆ

“เฮ้ย อย่าเพิ่งทำหูตั้ง เวลายังไม่หมดเว้ย” พี่เสือตะโกนมาทำเราวิ่งหน้าตั้งไปหาลูกบาสเลยครับ

“โนอา อย่าแกล้งน้องสิ” พี่เสือป้องปากตะโกนกลับไป

“พี่เสือแหละ น้องหนูกางเกงดำอย่าแกล้งน้องหนูนะ ถ้าแกล้งจะฟ้องพี่ยีนส์” ผมนี่มองทั้งสนามเลยครับ มองเลยไปฝั่งผู้หญิงด้วย เวร กางเกงดำมีตูคนเดียวเหรอวะเนี่ย

“เออๆ รู้แล้วน่า ใครแกล้งก็ควายแล้วคร้าบ”

กว่าจะซ้อมเสร็จก็เกือบสองทุ่ม ผมนี่หิวจนไส้จะขาด แต่ก็ต้องเซอร์ไพร์เพราะพี่ๆ ชมรมบาสที่เหลือ ยกหม้อข้าวหม้อแกงเข้ามากลางโรงยิม หม้อจริงๆ ครับ หม้อข้าววัดเบอร์ใหญ่สุด มีทั้งแกงเขียวหวานหอมฉุย ต้มยำ แกงจืด ผัดคะน้าหมูกรอบ กับไข่เจียว โหยยยยยยย สวรรค์ ถึงจะเป็นกับข้าวบ้านๆ แต่มาในเวลาที่ต้องการมากๆ

“พี่ ทำไมเยอะเงี้ย” เยอะมากครับเมื่อเทียบกับจำนวนคน

“เดี๋ยวมีบอล บอลเล่ย์ กับรักบี้มาหมดแหละ ทีมด็อทเอก็มา”

เผลอแปปเดียวพี่โนอากับมะนาวลงมาตักแกงแบ่งใส่ถ้วยให้พวกผมลำเลียงไปวางเป็นวงๆ ไว้รอเพื่อนครับ

“พี่บอกแล้วไงว่าวันนี้จะเลี้ยงข้าว” พี่ผมยักคิ้วให้ ทำไมพี่ผมหน้าสวยแต่ผมไม่รู้สึกถึงความอ่อนหวานของพี่ผมเลยนะ

นั่นเป็นถ้วยสุดท้ายและคำสุดท้ายที่ผมได้คุยกับพี่โนอาครับ เพราะเพื่อนๆไปต่อแถวรอรับถ้วยแกงจากพี่แกเยอะมาก ผมเลยเลี่ยงมาทางมะนาวที่แบ่งไข่เจียวใส่จานอยู่

“มึงจะกลับบ้านไหม? เดี๋ยวดึกนะ”

“ยังไม่กลับ กูจะกินข้าวฟรีก่อน” ฮ่าๆๆๆ ผมนับถือเพื่อนจริงๆ พอเรื่องกินฟรีดึกหน่อยลำบากนิดนี่ยอมหมด

มะนาวมีคนช่วยอยู่ครับ เธอเป็นบาสหญิงดูจากชุดกับสภาพที่คงซ้อมมาไม่ต่างจากผม คงปีหนึ่งด้วยกัน เธอมองผมกับมะนาวสลับกัน แล้วทำหน้ายิ้มๆ

“เออ แฟนมะนาวเหรอ?” ผมที่กำลังแยกออกมาได้ยินพอดี แต่ทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาคุยกัน

“ไม่ใช่ ข้างรหัส”

“เหรอ ดูเป็นห่วงนาวจัง”

“ปกติ มันดีกับทุกคน”

“เหรอ ถ้าไม่ใช่แฟนนาว งั้นเราก็จีบได้สิ”

ผมไม่ได้ยินว่ามะนาวตอบว่าอะไร ผมเดินออกมาไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนาต่อจากนั้น

ผมไม่ได้ตื่นเต้นที่จะมีคนมาจีบ เพราะบางทีคนที่จีบกันก็ใช่ว่าจะชอบอีกฝ่ายจริงๆ เสมอไป มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผมมองว่าการเกี้ยวพาไม่ได้แปลว่ารัก อย่างไอ้คนที่มาจีบมะนาววันก่อนยังทำเพราะเงินเลย

ผมเป็นผู้ชายทำไมผมจะไม่รู้ บางทีเขาก็จีบกับเพราะถูกตานิดๆ หน่อยๆ พอรู้จักกันจริงๆ ก็หาว่าเปลี่ยนไป มีคนมาจีบใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี ถ้าอ่อนไหวไปกับลมปากก็อาจเป็นเหยื่อของความผิดหวังซะเอง

ผมเดินเข้าห้องน้ำโรงยิมที่ใหญ่เป็นพิเศษเป็นฝั่งที่นักกีฬาใช้ มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มาล้างหน้าล้างเหงื่อซะหน่อย ถ้าปล่อยตัวแห้งทั้งอย่างนี้ก็คงไม่ไหว

“อาบน้ำมั้ย เดี๋ยวไปเอาผ้าเช็ดตัวที่รถให้” มะนาวเดินตามเข้ามาล้างมือครับ

“ไม? กูตัวเหม็นมากเลยเหรอมึงถึงแนะนำให้กูอาบน้ำเนี่ย?” ผมยกรักแร้ดม แล้วก็คิดได้ว่าแม่ง...ไม่น่าดมเลย

“เปล่า ก็ถามดูเผื่อมึงอยาก อ่ะ นี่” มะนาวส่งผ้าเย็นเซเว่นมาให้ผม

“ใจวะ ไม่อ่ะ ไม่มีชุดเปลี่ยนอาบไปก็เหมือนไม่อาบ”

“มีคนฝากมาให้” มะนาวพยักเพยิกมาทางผ้าเย็นที่ผมกำลังฉีกซอง

“อ้าว พี่โนอาเหรอ?” ของใครไม่รู้ให้มาผมก็ใช้หมดแหละ

“ไม่ใช่ ลูกหวาย เพื่อนโรงเรียนเก่ากู”

“ที่ตักไข่เจียวกับมึงเมื่อกี้ใช่ป่ะ”

“อื้ม มันขอเบอร์มึงด้วย แต่กูบอกไปว่าต้องถามความเห็นมึงก่อน”

“...” ผมเงียบ หันไปมองหน้ามันนิ่งๆ แต่มะนาวหลบตาผม มันปิดก็อกน้ำแล้วมองผมจากเงาที่สะท้อนในกระจกไม่ยอมหันมาสบตากันตรงๆ

“มึงจะว่ายังไง”

“...ให้ไปก็ได้” ผมลังเล แต่ก็เลือกให้ไปเถอะ จะได้ไม่มีปัญหา

“อื้ม โอเค” มะนาวพยักหน้า แล้วกวักน้ำขึ้นล้างหน้าบ้าง

“ขอบใจนะที่มึงยังถามกูว่าจะให้หรือไม่ให้ ดีที่มึงไม่ให้ไปแบบไม่ปรึกษา”

“ถ้ามันทำให้มึงไม่สบายใจ งั้นกูไม่ให้ไหม” มะนาวถามอย่างเกรงใจจริงๆ

“ได้เหรอ แล้วมึงกับเพื่อนจะเป็นไง?”

“อ้าว กูเกี่ยวไร?”

“เดี๋ยวเขาก็หาว่ามึงไม่ช่วยเขาไง”

“เหรอ? เขาจะคิดงั้นเหรอ”

“ที่กูบอกว่าให้มึงให้ไปได้ ไม่ใช่เพราะกูอยากให้ แต่เพราะกูไม่อยากให้มึงกับเพื่อนผิดใจกัน”

“มันจะโกรธเหรอ? จริงดิ กูไม่ทันคิดเลยนะเนี่ย กูคิดแค่ว่า ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรมันคงหาทางอื่นหาเองได้ไม่คิดมาก”

“มึง นั่นผู้หญิง” ผมเตือนความจำ ว่าอย่าเอาความรู้สึกตัวเองไปคิดแทนผู้หญิง มึงไม่ทันเขาหรอก

“กูรู้ แต่ดูแล้วกูว่าก็คงเป็นอย่างที่มึงว่าแหละถ้ากูไม่ให้”

“อื้ม ให้ไปเถอะ กูปฏิเสธเขาเองได้ มึงจะได้ไม่เดือดร้อน”

“มึงจะทำไง?”

“เอาน่าไม่ใช่ปัญหาหรอก ป่ะ ไปกินข้าว กูหิวจะกินควายอย่างมึงได้ทั้งตัว” ผมกอดคอแล้วลากมันออกไปกินข้าว

“เฮ้ยยย!”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะ แต่ต้องชะงักตรงประตูห้องน้ำ ซีกำลังเดินสวนมา เธอหยุดมองผมกับมะนาว

“หวัดดีซี” ผมทักทายตามมารยาท ตอนที่กำลังจะเดินผ่านเขาไป ซีพูดหวัดดีเบาๆ แล้วก็เดินไปทางห้องน้ำหญิง เธอคงซ้อมหลีดเสร็จแล้วมากินข้าวรวมกันที่นี่


พวกชมรมอื่นๆ เริ่มทยอยมากันเยอะแล้วครับ พวกมาก่อนไปตักข้าวเท่าที่ตัวเองกินไหว มารอเพื่อนๆ ตอนนี้เครื่องดื่มขายดีมากๆ มีแต่น้ำอัดลมนะครับอย่าคิดมาก เพราะนี่มันเขตสถาบันไม่เสี่ยงจะดีกว่า

มะนาวเดินไปคุยกับคนที่ชื่อลูกหวายครับ ผมต้องแอบมองหน่อยเดี๋ยววันหลังมาทักแล้วผมจำหน้าพวกเธอไม่ได้ ผู้หญิงจะโกรธเอาครับ

ไม่นานเกินรอก็มีพี่ฟ้ามากล่าวเปิดงานครับ บอกว่าเพื่อตอบแทนพวกเราที่ต่อไปต้องเหนื่อยเพื่อคณะอีกมาก วันนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะแบ่งปันกันได้ วันนี้ได้ร่วมสุข วันหน้าก็จะได้ร่วมทุกข์กันอย่างไม่ต้องกลัวเกรงสิ่งได แพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญคือเราได้ลงมือทำและเต็มที่กับมัน พี่ฟ้าพูดดีมากๆ

“เมื่อถึงเวลาลงสนามแข่งขันพี่ขอแค่สามอย่างเท่านั้น เต็มที่ เต็มที่ แล้วก็เต็มที่” จบประโยค มีเสียงโห่ร้องปลุกใจดังลั่นโรงยิม ไม่รู้ทุกคนคึกคักกับคำพูดพี่ฟ้า หรือดีใจที่จะได้กินข้าว

ได้ข่าวว่าพี่แกเป็นนักกีฬายิงธนูระดับเยาวชนทีมชาติมาก่อน ทำให้ผมปลื้มพี่แกเข้าไปอีก ผมเห็นพี่เทแว้บๆ ด้วย ไม่รู้ว่ารู้รึเปล่าว่าน้องรหัสตัวเองอยู่แถวนี้

เรามานั่งกินข้าวพร้อมกันบนพื้นกลางโรงยิมเนี่ยแหละครับ วงข้าวผมอย่างกะวง All stars รวมดาวจากช่องสาม มีทั้ง ณเดช(พี่ฟ้า) ยาย่า(พี่โนอา) เก้าจิรายุ(มะนาว) และแจ๊สชวนชื่น(พี่เท) แล้วผมนี่ตัวอะไร ปาดเหงื่อเบาๆ มีแต่คนหันมอง

มื้อเย็นที่เกือบจะดึกของเราดำเนินไปอย่างคึกคักและวุ้นวายครับ ส่วนใหญ่จะแกล้งเล่นแย่งอาหารกัน คุยข้ามหัวและแซวกันไปมา

เริ่มอิ่ม พี่บอลพี่โรงเรียนผมก็มากระซิบให้ไปต่อด้วยกัน บอกร้านเสร็จสัพ ไม่น่าเชื่อว่าพวกพี่เขายังไหว

พี่ยังไหวผมก็ต้องไหวใช่ไหมเนี่ย?

ผมมองเห็นมะนาวที่ตาปรือ นี่มันเพิ่งจะสามทุ่มเองนี่หว่า กว่าจะเก็บของได้แยกย้ายคงเกือบสี่ทุ่ม แต่เมื่อเช้ามันตื่นเช้า แฮงค์ แถมนอนน้อย คงง่วง

“มึงง่วงรึเปล่า?” ถ้าง่วงผมไม่ให้กลับจริงๆ

“นิดหน่อย ฮ้าวววว”

“งั้นไม่ต้องขับรถกลับหรอก เอากุญแจมานี่ เดี๋ยวเก็บของเสร็จกูพาไปนอนหอก่อน”

“แล้วมึงไปไหน”

“พี่ชมรมบาสชวนไปต่อ”

“อ้อ”

เก็บของทำความสะอาดไม่นานโรงยิมก็คืนสภาพดีเหมือนเดิมครับ เพราะทุกคนช่วยกัน


มะนาวส่งโทรศัพท์คืนให้ผมก่อนสตาร์ทรถ ผมเปิดดูว่ามีอะไรเคลื่อนไหวบ้าง เห็นมีหนึ่งเบอร์ไม่ได้รับซึ่งมะนาวบอกว่าเป็นลูกหวายยิงมาผมเลยไม่ได้ติดใจสงสัยต่อขับรถออกจากมหาลัยตอนสามทุ่มครึ่ง ไลน์ที่เด้งสามสี่อันนี่ก็คงเป็นลูกหวาย

หวัดดีจ๊ะ สติ้กเกอร์ ลูกหวายนะ ยินดีที่ได้รู้จัก ประมารนั้นมั้งเห็นแว้บๆในแจ้งเตือนแต่ไม่ได้เปิดอ่าน ขับรถกลับหออาบน้ำดีกว่า


ผมอาบน้ำเสร็จก็ไล่มะนาวที่ง่วงเต็มที่ไปอาบน้ำต่อ คิดถูกแล้วที่ไม่ปล่อยมันกลับ ขนาดเดินเข้าห้องน้ำยังไม่ลืมตาเลยคิดดู

ไม่นานมะนาวก็เดินหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำในชุดนอน กางเกงบอลมันเองกับเสื้อยืดตัวโคร่งของผม

“นี่กุญแจห้อง กับคีการ์ดนะ เผื่อมึงลงไปหาไรกินดึกๆ”

“มึงเอาไปเถอะ กูไม่ไปไหนหรอก คงนอนตายยันเช้าโน้นเลย”

“มึงอ่ะเก็บไว้ หมายถึงให้เก็บไว้เลย กูมีอีกชุด”

“แบบนี้กูก็เลี่ยงไม่ช่วยมึงจ่ายค่าหอไมได้แล้วดิเนี่ย” ทำหน้าเซง แต่ผมรู้ว่ามันล้อเล่น

“ไม่ต้องจ่ายหรอก หึหึ” ผมเห็นหน้ามันแล้วตลก

“ไม่ได้ดิ กูมาบ่อยขนาดนี้” มะนาวทิ้งตัวลงกับที่นอน กางแขนกางขาเต็มเตียง ประมารว่าวันนี้กูยึด

“กูค่อยมาเถียงกับมึงต่อวันหลัง ไปและ” ผมขยี้หัวมะนาวแล้วออกลุยต่อ

“เช็ดหัวให้แห้งก่อนนอนด้วยนะมึง เดี๋ยวหวัดกิน”


.............................



ผมกลับมาถึงห้องตอนกี่โมงกี่ยามไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าดึกมาก ร้านเหล้าปิดไปนานแล้ว

ผมยืนโงนเงยอยู่กลางห้อง

พี่ๆ ชมรมกีฬานี่อึดสมชื่อนักกีฬา แถมไม่มีใครยอมใคร ผมที่ไม่เคยเมาจริงๆ จังๆ ก็ได้เมาวันนี้แหละ ยังดีผมไม่ได้ขับรถมะนาวไป เพราะร้านอยู่ใกล้ๆ มีพี่อยู่หอแถวนี้เหมือนกันเขาเลยแวะมาส่ง

ผมถอดเสื้อทิ้งเพราะมันเกะกะ

เป็นไปอย่างที่คิดลูกหวายพยายามเข้าหาผมทันทีที่มีโอกาส ถามผมว่ามีแฟนรึยังผมก็บอกไปทันทีว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธอทำท่าจะเข้าใจและขอบคุณผมที่พูดตรงๆ เธอดูเข้าใจดีจนเล่นเอาผมรู้สึกผิด ผมขอโทษเธอ ที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนนึงอย่างไม่ทันคิด คิดแค่ว่าพูดตรงๆ ไปจะได้จบๆ เธอบอกเธอไม่คิดมาก แค่สงสัยว่าคนที่ผมชอบหน้าตาเป็นยังไง

ผมถอดกางเกงยีนส์ทิ้ง เพราะมันทำให้ไม่สบายตัว

ถึงจะไม่ถึงขั้นชอบแต่ใจผมก็ไม่ว่างจริงๆ ผมอ้างกับลูกหวายไปว่าเธอไม่รู้จักเลยไม่จำเป็นต้องบอกเธอ แล้วผมล่ะ ผมรู้จักคนที่ผมชอบไหม?

ผมปีนขึ้นเตียงตัวเอง

แต่ผมเคยจูบเขานะ ถึงตอนนี้มาจะเมาผมก็จำความหวานจากริมฝีปากเขาได้ หวานนุ่นเหมือนกับตอนนี้เลย

ไออุ่นนี้

เหมือนเสียงลอยมาไกลๆ มะนาวขยับตัวและบอกผมว่าเขาหนัก แต่ผมก็ยังนอนนิ่งๆ ไม่ยอมให้เขาผลักออก

กลิ่นนี้

อะไรหนักเหรอ? ตัวผมหรือความรู้สึกของผมที่ทำให้เขาหนัก ผมไม่สน เพราะผมพอใจที่จะนอนตรงนี้

ผมหลับไปกับไออุ่นที่คุ้นเคย

................................



“มึงควรจะซื้อหมอนข้างนะ” มะนาวที่กำลังขับรถพูดขึ้นโดยไม่หันมามองผม

“ไมอ่ะ?”

“มึงกลับมาแล้วนอนทับพุงกู เกาะไม่ปล่อยเป็นเกาะหมอนข้างเลย”

“เออ โทษที เมื่อคืนกูเมาจริงว่ะ แม่งมีแต่สายโหด” แก้วต่อแก้ว ติดกันเป็นชั่วโมง จะไม่เมายังไงไหว วันนี้โลกร้อนเนอะ แอร์ในรถไม่ช่วยเลย เพราะผมยังเมาค้างวันนี้มะนาวที่นอนเต็มอิ่มจึงเป็นคนขับ

“ขนาดมึงยังเมาไม่รู้เรื่อง ถ้ากูไปจะขนาดไหน”

“อยู่เฉยๆ ไปเถอะมึงอ่ะ”

“จ๊ะพ่อ”

“กวนตีน”

“แล้ว ลูกหวายเป็นไงบ้าง คุยกันถูกคอมั้ย”

“กูปฏิเสธไปแล้ว”

“อ้าว ไมอ่ะ เพื่อนกูนิสัยดีนะเว้ย แก็งนางฟ้าของโรงเรียนเลยนะนั้น”

“ก็กูไม่ได้ชอบเขา คุยไปก็ให้ความหวังเขาเปล่าๆ ยิ่งไปบอกเอาทีหลังตอนคุยไปจนเขาคิดว่ากูมีใจแล้ว กูก็โดนตบเดะ”

“ทำไมมึงมั่นใจจังวะ ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาสวยนะเว้ย”

“ถ้ามึงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แล้วมึงมีคนมาชอบมึง มึงจะมีใจไปคุยกับคนที่มาชอบมึงไหมล่ะ”

“มึงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?”

“อย่างน้อยกูก็คิดว่ากูมี”

“ใครว่ะ?”

“ไม่บอก ถ้าเขาชอบกูมึงคงได้รู้ แต่ถ้าเขาไม่มีท่าทีชอบกู กูขอเก็บมันไว้เป็นความลับ”

“กูเข้าใจ  กูไม่ถามมึงต่อแล้ว แต่พ่อจะแวะซื้อกาแฟดำแก้เมามะ? อันนี้กูถามตอบมาจะได้แวะ”

“ไม่อ่ะ ยิ่งกินยิ่งเมานะกาแฟเนี่ย”




เรียกกูพ่ออีกแล้ว พ่อที่ไหนเขาจะจูบกับลูกวะ?

เชื่อไหมพ่อแม่พี่น้อง ผมรู้ซึ้งเลยว่าการเมาแล้วตื่นมาจำอะไรไม่ได้เลยมันดีขนาดไหน เพราะการเมามากๆ ทำอะไรแบบที่คนเมาเขาทำ ทำบ้าๆ บอๆ เสี่ยงเสี่ยวหรือเสียว หรืออันตรายขาดสติอย่างที่คนเมาเขาทำแล้วปรากฏตื่นมาจำได้ทุกอย่าง มันไม่ดีเลย มันโคตรอาย มันแย่ มันทำหน้าไม่ถูก ทั้งเช้าผมไม่กล้ามองสบตามะนาวเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะผมจำได้น่ะสิว่าเมื่อคืนเปิดประตูเข้ามาเห็นเขานอนหลับอยู่ผมทำอะไรลงไป ผมลักหอมแก้มเขา จูบเขาตอนที่เขาหลับ แล้วมันไม่ใช่การลักหลับเพราะผมจูบเขาแรงมากจนเขาตื่น! จนผมพอใจผมก็ปล่อยริมฝีปากเขา นอนกอดเอวเขาต่อจนรู้สึกตัวตอนเช้าก็ยังอยู่ท่าเดิม

ผมยังจำลมหายใจหอบลึกและอาการตะเกียดตะหายหาอากาศของเขาได้ ผมจูบเขาจนเขาเกือบขาดใจตาย เขาตีผมเบาๆ แต่ไม่ได้ผลักผมออก ผมจำได้ว่าลิ้นอุ่นๆของเขาตอบโต้ผมยังไงด้วยซ้ำ

อยากจำไม่ได้จริงๆ ไปซะเลย จะได้ไม่ต้องแกล้งจำไม่ได้แบบนี้ ต้องแกล้งทำตัวปกติทั้งที่ชีวิตผมเลยคำว่าปกติไปไกลมากแล้ว



----------------------------
TBC.


แม็ตลูกแม่มีพัฒนาการแล้ว *มือทาบอกน้ำตาซึม*

ใครชอบแบบรวดเร็ว รักปั้บจีบปุ้บต่อติดปั้บ คงขัดใจกับนิยายเรื่องนี้พอควร 555 (นี่เบ่งเองยังลุ้นเลยว่าจะได้กันเมื่อไหร่ T T )
เอาเนอะ บางทีความรักก็ต้องการเวลา บางทีอะไรๆก็ไม่ได้เป็นอย่างใจ (นี่คนเขียนกำลังปลอบตัวเองขะ)

สองคนนี้ยังเด็ก เขายังโตได้อีกมาก ช่วยลุ้นไปกับคนเขียนเรื่อยๆ อย่าเพิ่งทิ้งกันน้าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2016 15:13:50 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พูดแบบนี้มะนาวเข้าใจผิดไปไกลแล้วแน่ๆ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ น่ารักดีอะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
บอกความรู้สึกไปเลยแมต

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


โธ่พ่อแม็ตของป้า... ช่วงเวลาแบบนี้นี่แหละที่มันน่ากระอักกระอ่วนเป็นที่สุด
คิดไรชอบไรเค้าก็บอกเค้าไปเถอะพ่อ อย่าให้ต้องมีมือที่สามโผล่เข้ามาสร้างความร้าวรานไปถึงไหน ๆ เลยนะ
สงสารทั้งนาว ทั้งพ่อในคราวเดียวกันไปล่วงหน้าแล้วเนี่ย เฮ่อ!

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :3123:


ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
- บทที่ 7 - เดือนเดือนเดือน -


-------------------------------

“แม็ต” ผมหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อผม พักเที่ยง ผมกำลังเดินไปโรงอาหาร

“ลูกหวาย?”

“ไปกินข้าวด้วยคนสิ”

“อ้อ ไปสิ”

เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนนี้เองครับ จะว่ามองหน้าไม่ติดก็ไม่เชิง กลัวเขาไม่พอใจก็ไม่ใช่ แต่ยังไงดีล่ะ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจที่ผมบอกจริงๆไหม ว่าผมไม่พร้อมศึกษาใคร

แต่ลูกหวายก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก หันไปชวนมะนาวคุยปกติ ผมเลยค่อนข้างสบายใจ


เรามานั่งโต๊ะเดียวกัน ลูกหวายไม่ได้คุยกับผมคนเดียวครับ อย่างที่รู้เธอเป็นเพื่อนมะนาวมาก่อนสองคนนั้นเลยดูมีเรื่องคุยกันเรื่องที่ผมได้แต่ฟัง ไม่อาจร่วมบทสนทนาด้วย

“มะนาวมึงจำพี่ปราณได้ไหม?”

พี่ปราณ? อ้อ พี่ชมรมบาส

“ก็ ได้ ไมเหรอ?”

“เขาฝากหวายขอไลน์มะนาว”

“เฮ้ย! แล้วหวายได้ให้ไปไหม?”

“ยัง ก็รอมาถามก่อนนี่ไง แล้วมึงจะว่าไงนาว?”

“ขอคิดดูก่อนนะ” มะนาวขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด

“อื้ม ไงก็ค่อยบอกกูในไลน์ก็ได้”

“อื้มๆ”

“นี่เขาตามจีบมึงมาตั้งแต่ม.4 เลยนะเว้ย ไม่ใจอ่อนกับเขาหน่อยเหรอ”

จังหวะเคี้ยวข้าวผมชะงักไปวูบหนึ่ง

อะไรนะ จีบเหรอ?

“เขาไม่ได้จีบ แต่คุยแบบพี่น้อง”

“เขารู้กันทั้งสี ตั้งแต่ม.1ยันพี่ม.6ย่ะ มีแต่มึงแหละ ทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่คนเดียว”

“ก็คนมันไม่ชอบจะให้ทำไง อีกอย่างเขาเป็นพี่ใครจะกล้าหักอกเขาตรงๆ ว่ะ”

“กั้กก็บอก วันคัดตัวบาสวันนั้นเขาเห็นมะนาวไปคอยอยู่ข้างสนามเขาคิดเข้าข้างตัวเองไปเรียบร้อยแล้วว่ามึงไปเชียร์เขานะ”

“กูไปรอเพื่อน”

“เขาคิดว่ามึงไปดูเขา”

“กูก้มหน้าเล่นแต่มือถือ”

“อันนี้กูจะขอเดาว่า เขาคงคิดว่ามึงอายไม่กล้าสบตาเขามากกว่า”

“เหี้ย”

“มึงก็บอกเขาไปตรงๆ ก็ได้นี่ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับเขา บางทีการที่มึงพูดตรงๆ ไปเลยมันก็ทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้น มึงดูอย่างกูสิ โดนแม็ตปฏิเสธมาเมื่อคืน ตอนนี้ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เลย”

“เออ เราขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไรแม็ตๆ เราเข้าใจ” หวายโบกไม้โบกมือให้ผม “มึงพี่ปราณเขาเป็นผู้ชาย เขาต้องแมนๆ รับได้อยู่แล้วล่ะ”

“มึง พี่เขาไม่เหมือนมึง”

“ไงว่ะ?”

“กูอธิบายไม่ถูก แต่กูมั่นใจว่าเขาไม่แมนเหมือนมึง”

“ไรของมึงว่ะ?”

ผมอธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง มีคนชอบมะนาวก่อนผมจะเจอเขา ผมมั่นใจว่าคงไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วย แล้วอะไรคือสิ่งที่มะนาวไม่ยอมบอกลูกหวาย

ผมจะถามเขาดีไหม? แล้วเขาจะตอบผมไหม?


“แม็ต มึงช่วยกูคิดหน่อยดิ ว่ากูควรทำยังไงกับพี่เขาดี” ตอนเดินไปเรียนวิชาคาบบ่าย มะนาวก็ยังคิดไม่ตกเรื่องที่เพิ่งรู้มา

“ก็บอกไปตรงๆ อย่างที่ลูกหวายบอกก็ได้นี่นา”

“ทำได้ก็ดีสิ อีกอย่างกูกลัวว่าถ้าเขารู้ว่ามึงสนิทกับกูเขาจะหาเรื่องแกล้งมึงไปด้วย”

“หมายความว่าไง แกล้ง?”

“กูว่าเขาโรคจิต”

“ห่ะ?”

“ตอนนั้นเขาเป็นพี่ในสี ตอนแรกกูก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าเขาแค่เฟรนลี่ปกติ ก็มาตีสนิท ชวนทำนั้นทำนี่สั่งงานผ่านกูไปๆมาๆพยายามชวนกูไปบ้านตอนไม่มีคนอยู่ เคยแอบจับมือกูข้างสนามบาสที่คนเยอะๆ เขาจู่โจมพยายามจะจูบกูตามซอกตึกหลายครั้ง มึงตอนนั้นกลางวันแสกๆ ยังกล้า แม่งต้องไปดูหนังอะไรมาแล้วอินเอามาทำตามแน่”

“...”

“นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันนะมึง กูว่า ถ้าเป็นแฟนแล้วแล้ววันนึงกูบอกเลิก กูว่ากูโดนฆ่าแน่”

“มึงรู้ว่าเขาเป็นงั้นทำไมวันนั้นมึงไม่รีบกลับ” ผมเริ่มเครียด แม่งน่ากลัว

“กูไม่เห็นเขา จนมึงลงไปถึงเห็น แล้วพี่โนอาก็บอกให้กูรอก่อน อีกอย่างกูคิดว่าเขาจะเลิกเล็งกูไปแล้วนี่”

“แม่งน่ากลัวว่ะ มึงอย่าห่างกู”

“...”

“แล้ว เขาเคยจูบมึงไหม?”

“ไม่เคย ขยะแขยงใครจะยอมว่ะ กูก็ผู้ชายนะเว้ย เอ้ะ!?” มาถึงตรงนี้ มะนาวหยุดทุกอย่าง รวมทั้งหยุดหายใจด้วย
ผมก็เหมือนกัน เรานึกบางอย่างได้พร้อมกัน

“มึงจำเรื่องเมื่อคืนได้ใช่มะ?” ชิบหาย มะนาวย้อนถามผม

“เมื่อคืนทำไม?” ผมตีหน้าซื่อ ทำตาปรือเหมือนง่วงนอน

มะนาวจ้องผมตาไม่กระพริบอยู่นาน จนถอดใจ “จำไม่ได้ก็แล้วไป” มะนาวกอดอกอกเดินตรงแล้วไม่พูดอะไรอีก
ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าถ้าเขาซักไซ้มากๆเข้า ผมจะยอมรับออกไปยังไง

ล่าสุดกูจูบมึงจริง แต่ก่อนนั้นมึงจูบกูก่อน กูไม่ผิดๆๆๆ


“จูบนะเว้ย บังคับกันไม่ได้หรอก” ผมได้ยินมะนาวขมุบขมิบปากพูดเบาๆ

ประโยคนั้นของเขาทำให้หัวผมมีเสียงวิ้งๆ อยู่นานเลย


………………………………………….

หลังจากนี้ เราจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเข้าเชียร์ ตอนเย็นแทบไม่มีวันไหนว่าง วันไหนไม่มีเชียร์ก็ไปซ้อมบาส แน่นอนครับผมไม่ให้มะนาวตามมาดู แม้จะมากับพงศ์กับเอ้ก็ไม่ให้มา พวกนั้นเลยไปนั่งใต้ตึกทำการบ้านอ่านหนังสือกัน

พี่ๆ บอกว่าปาตี้ที่ยิ่งใหญ่จะเริ่มหลังจบเชียร์ ผมเลยงงเลย นึกว่าเชียร์จะมีทั้งเทอม หรือทั้งปีเสียอีก เข้าใจผิดมาตลอด

อย่าว่าอย่างโง้นอย่างงี้เลย หลังจากวันนั้นเรายังเหมือนเดิม เหมือนเดิมในที่นี้คือไปไหนมาไหนด้วยกัน ตัวติดกัน เดี๋ยวนี้มันพัฒนาขนาดมีร้านซักรีดประจำข้างๆ หอผม ใช้ผมขับรถให้ตลอดยกเว้นกลับบ้าน มียาสระผมของตัวเองอยู่ในห้องน้ำผม และมะนาวไม่เก็บแปรงสีฟันติดตัวกลับบ้านอีกแล้ว

วันนี้พักเที่ยงพี่ห้องผมเรียกปีหนึ่งประชุมครับ ประชุมในโรงอาหาร กินข้าวไปด้วยฟังไปด้วยได้ บอกว่าจะเลือกดาวเดือนกัน ผมนั่งเฉยๆ รอเวลา มะนาวไม่ให้ผมกินข้าว บอกว่าเสร็จนี่เดี๋ยวพาไปเลี้ยงข้าว เพราะบ่ายเราว่าง

“เราจะเลือกดาวเดือนดาวเทียมกันนะค่าวันนี้” พี่คนที่ดำเนินรายการเป็นคนเดียวกับวันจับสายรหัสครับ “ดาวเดือนห้องทั้ง 7 ห้อง จะต้องหาตัวแทนไปประชันกันในวันศุกร์นี้ เพื่อหาตัวแทนคณะไปฝาดฟันกับคณะอื่นๆต่อไป เราคงรู้อยู่แล้ว ว่าดาวคณะและดาวมหาลัยปีที่แล้ว ตกเป็นของเรา ทะแดนนนน โนอาดาวมหาลัยลัยลัยลัยไล หนูดาวเป็นลูกสาวกกจบชั้นม.6 โรงเรียนบ้านหนองใหญ่ ตึ้งๆ คุณแม่ขายไร่ขายนา ส่งดาวเข้ามาเรียนมหาลัย ตึ้งๆ

“ฮ่าๆๆๆ” ฮากันทั้งห้องครับ เมื่อพิธีกรร้องเพลงดาวมหาลัยต้อนรับพี่โนอา แล้วพี่ผมทำปากขยับลิปซิ้งตามชนิดไม่กลัวหมดสวย แอคติ้งเต็มมาก แถมยังมีท่าไหล่กระตุกตรงตึ้งๆ ด้วย

“รักเธอตรงบ้าบอเนี่ยแหละโนอา ส่วนดาวเทียมปีที่แล้วก็ได้ถึงรองอันดับสองดาวเทียมมหาลัย” ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าหมายถึงตัวเขาเอง เพราะพี่แกขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วโพสท่าเป้ะยิ่งกว่าเดอะเฟสไทยแลน

“ส่วนเดือน เราขอไม่พูดถึงแล้วกัน”

“อ้าว แม่ง ไม่ยุติธรรม” ฮ่าๆๆๆ ผมกับมะนาวหัวเราะกันครับ เพราะดูท่าพี่เทจะเป็นคนที่ถูกมองข้ามอีกแล้ว เมื่อกี้เตรียมตัวรอเก็กเต็มที่ วืดเลย

พงศ์วางจานข้าวลงข้างๆ ผมครับ พงศ์ก็อยู่ห้องเอฟกับผมด้วย บอกว่าจะส่งตัวเองลงประกวดดาวเทียม 55

“เอาล่ะ เรามาเลือกอะไรที่ไม่ต้องมีเกณฑ์วัดมากมายให้ยุ้งยาก ตุ๊ดเล็กเด็กตุ๊ด ออกมาคะ อยากก็ออกมาไม่อยากก็ออกมา หนูเป็นของหายากในคณะนะค่า จงภูมิใจ มาๆๆๆ”

พงศ์ส่งตัวเองออกไปจริงๆ ครับ เขาไม่ได้หุ่นดีสุด หล่อสุดหรือสวยที่สุด แต่เขาน่ารักสุดนะผมว่า มีตัวแทนแค่ 3 คน จากทั้งห้องปีหนึ่งมีร้อยกว่าคน นอกจากสาวๆเขาจะเลี่ยงไม่แอดเข้าคณะแบบนี้แล้ว สาวส่วนใหญ่ที่มาเรียนคณะนี้จะกดดันตัวเองแล้วปิดบังตัวเองไปโดยอัตโนมัติครับ ก่อนเปิดเทอมพงศ์ที่เป็นคนชัดเจนในตัวเองมาตลอดยังลังเลเลยว่าจะยังไงดี จะแสดงออกความเป็นตัวเอง หรือเป็นอย่างที่สังคมอยากให้เขาเป็น มันเป็นความลังเลที่เหมือนจะเลือกง่าย แต่ไม่จริง มันไม่ง่ายเลย

หลังแนะนำตัวแบบเรียกเสียงฮาได้มากมายแล้ว วิธีตัดสินคือให้ตัวแทนทั้งสามหันหลัง แล้วให้พวกที่เหลือยกมือโหวต คนที่โหวตคือทุกคนที่มาวันนี้ ทุกชั้นปี คะแนนสูสีครับ แน่นนอนผมกับมะนาวยกมือให้พงศ์ วัดด้วยสายตาก็พอดูออกว่าใครชนะ พงศ์ถึงกับทำท่าเหมือนได้มงกุฎแล้ว มึงๆ ยังๆ อย่าเพิ่งดีใจ

แล้วก็เลือกดาวครับ คราวนี้ ให้ปีหนึ่งผู้หญิงทุกคนยืนขึ้นจะได้แยกออกระหว่างปีหนึ่งกับปีอื่นๆ ให้เพื่อนหรือพี่เสนอชื่อ หรือชี้ตัวให้ออกไปข้างหน้า มีคนสวยที่ถูกผลักไสออกไปข้างหน้าห้าหกคนครับ ทุกคนดูลังเลและไม่มั่นใจ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ มันหลายๆเหตุผลรวมกันเพราะผู้หญิงในคณะน้อย พวกเธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เหมือนอยู่ในโรงเรียนชายล้วน ตอนเข้ามาใหม่ๆเธอจะขี้อายแต่สวยที่สุด ตอนปีหนึ่งยังดูแลตัวเอง แต่งหน้าทาปากบ้าง ใสๆ ตามวัย แต่อยู่ๆ ไปพวกเธอจะเปลี่ยนจากใส่กระโปรงทรงสอบหรือทรงเอไปใส่ยีนส์กับช็อปทำให้แทบไม่ต่างกับผู้ชายผมยาว(ถ้าหันหลัง) การเรียนและกิจกรรมทำให้เบียดบังเวลาของการดูแลตัวเอง มีการพัฒนาปรับตัวให้เขากับสังคมชายล้วนด้วยการเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายไปทีละน้อย นับวันจะยิ่งเหมือนผู้ชายจนปีสี่จะไม่เหลือเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงเลย กลายเป็นว่าผู้หญิงที่เรียนวิดวะขาดความมั่นใจในตัวเองเรื่องความสวยความงาน เพราะขาดสกิล และกลัวที่จะแสดงความเป็นผู้หญิงท่ามกลางหมู่ผู้ชายที่พร้อมจะปากหมาใส่ทันทีที่เห็นอะไรผิดไปจากที่คุ้นเคย

ที่พูดมาทั้งหมดเพราะพี่โนอาบ่นว่าขี้เกียจแต่งหน้ามาเรียน อยากตื่นสายๆ เหมือนคนอื่น อยากกลับถึงห้องล้มตัวลงนอนได้เลย ไม่ต้องล้างหน้า10ขั้นตอนทุกวันๆ  แต่คณะบดีขอไว้ด้วยตัวเอง ว่าเป็นหน้าตาของคณะและมหาลัย แต่งไว้เพื่อนจะได้กล้าแต่งตาม ผู้หญิงคณะนี้ร้อยคนจะหาที่แต่งหน้ามาเรียนได้ไม่ถึงสิบ จนได้ยินคณะอื่นถามว่าวิศวะห้ามผู้หญิงแต่งหน้าเหรอ? ถึงขนาดมีพวกบริษัทที่รับพนักงานจบใหม่คอมเม้นกลับมาว่า ทำงานดีไหวพริบดีพัฒนาการดีเข้ากับคนง่ายดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องไม่แต่งหน้า

แต่นั้นแหละครับ ผู้หญิงที่เขามาเรียนวิศวะ มีความสามารถปรับตัวง่าย ไม่เป็นเด็กเรียนก็ห้าว ไม่ก็บ้า เหมือนเอ้

เอ๋ ทำไมมีชุดนักศึกษาชายไปยืนตรงกลางหนึ่งคน  มะนาวยังถามผมเลยว่านั่นผู้หญิงเหรอ ผมลังเล ก่อนจะฟันธงว่าเธอเป็นผู้หญิงใจเป็นชาย ก็น่าอยู่หรอก เธอสูงกว่าพี่มีมี่เอ็มซีของงานนี้ซะอีก ผอม ผิวขาว หน้าได้รูปจะหญิงก็เป็นไปได้ จะชายก็ดูหล่อหวานๆ ตัดผมทรงเดียวกับผมเลย เขาดูเก้อเขินและพยายามเดินกลับเข้ามาในหมู่ฝูงคน แต่โดนถีบกลับไปยืนข้างหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก

เสียงกรี้ดกร้าดเรียกชื่อใครสักคนครับ ชัดเจนมากว่าต้องมีคนหนึ่งคะแนนนำโด่ง พี่มีมี่ให้แนะนำตัวทีละคนสั้นๆ ผมถึงได้รู้ว่าเสียงเชียร์ในตอนแรกเป็นของใคร

“เมครับ” กรี้ดๆ ว้ายๆ น้องเมๆ เสียงพี่ๆสาวๆโวยวายครับ ผู้ชายยังร่วมวงด้วย จนพี่มีมี่ต้องปรามเพราะเวลามีจำกัด

“อร้ายยย เก็บอาการหน่อยคะชะนี เก็บเสียงไว้กรี๊ดเดือนบ้าง มาๆต่อค่ะ” แต่ประโยคต่อมาทำเอาหลายคนทำหน้าเซง “หนูหล่อๆอย่างหนูพี่เองก็พร้อมพลีกายนะค่ะ เอ้า แนะนำตัวต่อสิ”

“อริศรา อนันท์สวัสดิ์ ภาคอุตฯครับ” มีเสียงกรี้ดงึมงำแบบเก็บอาการกันเต็มที่ หรือจริงๆอาจจะมั่นไส้พี่มีมี่ที่ทำท่าเอียงคอเอียงตัวซบไหล่เมอยู่ก็เป็นได้

ผลโหวตดาวก็เป็นไปตามเสียงเชียร์ครับ ผมกับมะนาวยังยกให้คะแนนเมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย มองหน้ากันก็ขำ เพราะมันแซวว่าเมหล่อกว่าผมซะอีก ก็คงจริง

“ชายชาตรีปีหนึ่งทั้งหลาย ลุกขึ้นเลยค่ะ ยืนๆ เอ้ะๆๆ หนุ่มแว่นที่ตัวสูงที่สุดตรงนั้นอ่ะ ออกมาเลยค่าอย่าช้าที ข้างๆด้วยค่ะ มาแพคคู่เลยค่ะ” ผมทำตาโต มองหน้ามะนาวกันเลิกลัก พี่โนอาทำท่ากระโดดดีใจแบบไม่มีเสียงอยู่ข้างหลังพี่มีมี่
เอาจริงดิ ไม่ดีมั้ง  แล้วเสียงซุบซิบทำไมยังไม่หายไป?

“หนูขา ฟินกันเบาๆ อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวไก่ตื่น จุ๊ๆๆๆ” ผู้หญิง ทุกชั้นปีทำไมต้องยิ้ม? ปากคนยกมือกุมปาก? นี่อย่าบอกนะว่าเรื่องคู่จิ้นยังไม่เลิกคิดกันอีก “อย่าโลภๆ เลือกได้คนเดียว งานนี้ไม่ได้เลือกเป็นคู่ๆ” หลังจากนั้นก็มีคนถูกเสนอชื่อออกมาอีกสี่คน
คุณคิดว่าใครได้เป็นเดือนห้องเอฟของผมครับ?


ให้เวลาคิดสามบรรทัด









ผมไงครับ ผมกุมขมับ

“มึงจะคิดมากไมว้า ได้เป็นเดือน ดีออก มึงถูกการันตีว่าหล่อ จากคนทั้งห้องเลยนะเว้ย” พูดเหมือนปลอบใจ แต่ท่าทีพูดไปหัวเราะไปนั่นอ่ะไร เขาเรียกเยอะเย้ยเว้ยยย

“กูขี้เกียจ มันวุ้นวาย”

“ชีวิตมึงคงวุ้นวายจริงอ่ะ เพราะมึงปฏิเสธใครไม่เป็น ฮ่าๆๆ” ตอนจ่ายค่าหอ ผมไม่ยอมรับเงินจากมะนาวได้สำเร็จก็จริง บ่ายนี้เขาก็เลยพาผมมาเลี้ยงบุฟเฟ่เอ็มเคในเมืองได้สำเร็จ ไม่รู้อยากเลี้ยงหรืออยากกินเอง เห็นมาถึงก็สั่งโน้นสั่งนี่เยอะจนกลัวว่าสองคนจะกินไม่หมด

“แต่กูเตะคนเป็นนะ” มันกวนตีน ผมเลยยกขาฟาดน่องมันเบาๆ ไปทีใต้โต๊ะ “กินหมดแน่นะ ที่สั่งมาเนี่ย”

“หมดดิ” มะนาวคีบฮะเก๋าเข้าปาก “งี้แฟนมึงคงดีใจถ้ารู้ว่ามึงได้เป็นเดือน”

“แฟนไหน กูมีแฟนคลับเหรอ?” ถ้าแฟนคลับคู่จิ้นกูกับมึงอ่ะรู้ว่าพอมี

“แฟนที่มาจาก Girlfriend อ่ะ Girl-friend”

“มีที่ไหน” ผมหยิบผักใส่หม้อก่อน

“อ้าว”


“มึงเอามาจากไหน”

“ก็... ไม่ใช่อรวรรณเหรอ?”

“หื๋อ”

“ก็ที่เอ้พูดถึง”

“อ้อ รถเครื่อง”

“หา?”

“มอไซย์” ผมทำท่าบิดมอเตอร์ไซค์ประกอบ ด้วยตะเกียบสองข้าง “ถ้ากูมีแฟนมึงอยู่กับกูขนาดนี้จะไม่เคยเจอได้ไง มึงนี่คิดอะไรไปเรื่อย”

“อ้าว ก็นึกว่าแฟน”

“รักกว่าแฟนอีก รักเหมือนลูกเลย”

“เออๆ เข้าใจ พ่อแมตตตตตต ต่อไปกูจะเรียกมึงพ่อ ดีมะ?”

“อะไรของมึง?”

“เดี๋ยวมึงก็ดุ เดี๋ยวก็ใจดี เหมือนพ่อกูเลย”

“ไม่เอาแค่เรื่องเดือนนี่ก็แย่ละ กูไม่อยากมีลูกแบบมึงอีก ปวดหัวตาย”

“เหี้ย”

“ว่าแต่ทำไมต้องมาไกลขนาดนี้วะ มึงชอบเอ็มเคมากเลยเหรอ กูกินหมูกระทะแถวมหาลัยก็ได้นะ”

“ไม่ได้”

“...” ทำไมต้อง ไม่ได้ ชัดเจนขนาดนั้นว่ะ ปกติมะนาวไม่ใช่คนเอาแต่ใจนี่หว่า ออกจะอะไรก็ได้ยังไงก็ได้ด้วยซ้ำ ผมขมวดคิ้ว แต่ปากยังเคี้ยวขนมจีบอยู่

“ถ้ามึงยังไม่อยากหามกูส่งโรงบาล ก็อย่าให้กูกินหมูกระทะตามร้าน ถ้าอยากให้กูกินหมูกระทะมึงต้องทำเอง”

“ไมว่ะ มึงแพ้อะไรในหมูกะทะ?”

“กูเคยโดนหามส่งโรงบาลเพราะอาการเดียวกันสามครั้ง สองในสามคือหลังกูไปกินหมูกระทะ แม่กูนั่งไล่เลยว่ากูกินอะไรไปบ้าง ไม่ซ้ำกันเลยที่กูกินๆ ไป แต่อาการเดียวกัน ของที่กินก็เป็นของที่เคยกินมาแล้วทุกอย่างไม่มีอะไรแปลกใหม่”

“อาการเป็นไงเวลามึงแพ้”

“ปวดท้องมาก ท้องแข็ง เหมือนร่างกายไม่รับอยากขับออก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ไม่มีแรง ตัวบวมแดงเป็นจ้ำๆ”

“ฟังดูน่ากลัวนะ ถ้ามึงมีอาการอีกก็รีบบอก จะได้พาส่งโรงบาลทัน”

“จ้าพ่ออออ” มะนาวลากเสียงยาวล้อเลียน

“มึงคิดว่าตัวเองแพ้อะไร?”

“สารกันบูดมั้ง แม่กุบอกพวกหมูกระทะเขาใส่เยอะ ไม่ก็พวกของไม่สด”

“เหรอ” ผมคงต้องระวังไม่ชวนมันกินอะไรแปลกๆ

“กูเลยไว้ใจเอ็มเคไง ว่าจะไม่พากูไปส่งโรงบาล ฮ่าๆๆ”

มิน่ามะนาวไม่กินกับแกล้มร้านเหล้า มะนาวไม่กินข้าวราดแกงที่นอนนิ่งในถาดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จริงๆ เขาแทบไม่กินอะไรที่ไม่เห็นว่าแม่ครัวปรุงตอนไหน

ตอนนี้เขาถึงดูมีความสุขกับการกินเอ็มเคมากจริงๆ


............................................


“นั่งด้วยดิ”

“อ้าว” เม? “เชิญๆๆ” มะนาวเรียกเมนั่งข้างๆ

“ว่าจะเข้ามาทักมึงสองคนหลายทีแล้ว คลาดกันตลอด” เมครับ เขานั่งลงข้างๆมะนาวตามที่ถูกชวน เช้าวันนี้เช้าวันพุธที่เรามีตารางเรียนแม็ต 1 กัน อาจารย์ยังไม่มาทั้งที่ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว

“เราเหรอ?” มะนาวถาม ผมขมวดคิ้ว

“อื้ม มึงสองคนเด่นจะตาย”

“จริงเหรอ?” มะนาวสงสัยอีก คือด้วยความที่ต่างรู้จักกันอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแนะนำตัวเพิ่ม

“พวกผู้หญิงชอบชวนกูดูมึงสองคนเวลาอยู่ด้วยกัน ก็แปลกนะกูเห็นมึงทีไรต้องเห็นอีกคนตลอด นี่สนิทกันตั้งแต่โรงเรียนเก่าป่ะเนี่ย?”

“เปล่า เป็นข้างรหัส ห้องเรียนเลยตรงกันทุกคาบ”

“อื้ม ทั้งอาทิตย์ไม่ตรงกันแค่วิชาเดียว” ผมเสริม

“ก็กูอยู่กับมันตลอด งี้แปลว่าตลอดเวลาพวกกูโดนจับตา?”

“ถูก” เมเน้นช้าๆ

จะว่าผมเห็นไหมที่คนพากันมอง ผมก็เห็นนะ แต่ก็แค่เห็น ไม่ได้รู้เลยว่าในใจคนอื่นๆเขาคิดอะไรกันอยู่บ้าง

“สวัสดี เช้าที่สดใสของพิ้งพิ้ง ขอนอนพาดพวกเธอได้ไหม หล่อบาดตับบาดไตมากเลยอ่ะ อุ้ย! อยากโดนๆ” มะนาวยกขาจะเตะพงศ์จริงครับ

“อยากโดนไม่ใช่เหรอ หลบทำไม? โน้น นั่งโน้นเลย” มะนาวพยักเพยิกมาทางโต๊ะว่างข้างผม

“หวัดดีเม มะรืนจะเป็นวันประกวดดาวเดือนกันแล้วนะ เตรียมตัวกันยังไง?”

“ต้องเตรียมด้วยเหรอ?” ผมกับเมถามพร้อมกัน

“พี่โนอาคงจัดการให้แหละ เธอก็รุ่นน้องดาวมีหน้าที่ต้องดูแลอยู่แล้ว เธอก็น้องรหัสสุดรักสุดหวง กูสิ พี่มีพาไปร้องเกะ ไม่ได้เกี่ยวกับการประกวดเล้ยยยยย”

“พี่กูไม่ติดต่อมึงบ้างเหรอ?” มะนาวถามผม

“ไม่อ่ะ พี่โนอาซะอีก เย็นนี้นัดไปหา”

“พี่กูแม่งไม่ได้เรื่อง”

“ปกติแหละผู้ชาย พี่กูตื่นเต้นไปเอง”

“มึงไม่ตื่นเต้นเหรอแม็ต” เมถามผมครับ

“ไม่นะ เมตื่นเต้นเหรอ?”

“ตื่นเต้นดิ ต้องใส่กระโปรงเดินบนเวทีนะเว้ย”

โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะเปลี่ยนจากประโปรงเป็นกางเกงวอมทุกครั้งก่อนเข้าเชียร์จะได้นั่งสะดวก

เมผมก็จำหน้าได้มานานแล้ว เพราะเห็นกันบ่อยๆ เท่าที่จำได้เขาใส่แสลคตลอด แอบเดฟนิดๆด้วย

“ต้องใส่คัชชูด้วยแม่ง” เมพูดอย่างขยาดสุดๆ ผมก้มมองเท้าเมพร้อมกันทั้งสามคน เขาใส่รองเท้าหนังถูกระเบียบดี มิน่าเขาถึงไม่โดนจับแต่งกายผิดระเบียง เพราะเขาแต่งตัวถูกระเบียบมาก ผิดอย่างเดียวคืนมันเป็นชุดนักศึกษาชาย ไม่ตรงกับเพศพื้นฐาน

“แล้วปกติเข้าเชียร์มึงทำไงวะ” มะนาวเป็นคนออกปากถามก่อน

“เพื่อนจะเตรียมชุดไว้ให้”

“เพื่อนธรรมดาที่ไหนเขาถึงเตรียมให้ตลอดขนาดนั้น” พงศ์ถามเสียงล้อเลียน “เปลี่ยนทั้งชุดเลยนะค่ะคุณค่ะ”

“ตอนนั้นเขาจีบกูอยู่ค่ะพิ้ง ชัดพอไหมค่ะ”

“โอเค เนี่ยแหละที่ต้องการคะ อิอิ”

“แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำให้แล้วนะ”

“อ้าวไมอ่ะ?”

“เขาหาว่ากูมีกิ๊ก ทั้งที่กูกับเขาไม่เคยตกลงเป็นอะไรกันเลยนะ เขาคิดไปเองทั้งนั้น แล้วพอกูไปคุยกับคนอื่นเขาก็ตามไปวีน ตอนนี้กูนั่งเรียนกับผู้หญิงคนไหนไม่ได้เลยถึงต้องมานั่งกับเดือนเดือนเดือนนี่ไง”

“กูดาวค่ะ” พงศ์ยักไหล่น่ารัก ฮ่าๆๆ

“โอเคครับดาว กูเป็นเดือนเองแล้วกันงั้น”

“ดีค่าดอก มันก็ดูเป็นอย่างนั้นนะ กูสวยสุดในนี้เลยเนี่ย เหนื่อยจัง เห้อ เดี่ยวไปกินข้าวด้วยกันนะ ส่วนใหญ่ก็เรียนด้วยกันอยู่แล้วนี่”

“อื้ม”

“เฮ้ย นี่นั่งเม้ากันจนจะสิบโมงแล้วนะ จารย์ไปไหน ยังไม่มาอีกว่ะ” มะนาวดูนาฬิกาข้อมือผม แล้วโพล่งออกมา

“มึง เพื่อนทยอยออกจากห้องแล้วอ่ะมึงงงง” เมบอก

“กูว่ากูมาสายแล้วนะ อาจารย์ร้ายกว่ากูอีก ชิ”

ผมหยิบหนังสือขึ้น แล้วลุกขึ้นยืน เดินออกจากแถวโต๊ะ ที่เหลือมองผม ไม่ใช่แค่สามคนที่นั่งข้างผมนะ เพราะมันเป็นสโลปลาดละโค้งหลายๆคนที่ยังนั่งเล่นนั่งรออาจารย์อยู่ก็หันมามองผม คงเพราะผมตัวใหญ่มั้งทำอะไรก็เห็นได้จากที่ไกลโพ้น

“มองไร ลุกสิ” ผมบอกมะนาวเมกับพงศ์ แต่ผลที่ได้คืน เพื่อนๆลุกพรึบเกือบทั้งห้อง คนที่ยังไม่ลุกก็กำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวลุกเหมือนกัน

ผมผงะกับผลที่ได้ คือทุกคนรอสันญาณนี้อยู่แล้วใช่ไหม? แค่รอคนกล่าวเปิดงานว่างั้น

“ไปร้านกาแฟข้างตึกโยกัน” เมชวนครับ เราก็ไม่ขัดข้อง เพราะก็ไม่รู้จะไปไหน


มาถึงเมสั่งเค้กมาสองชิ้นอย่างรวดเร็ว เห็นผอมๆ ไม่นึกว่าจะกินเยอะ

“ช็อกโกแลตร้อน กับอเมริก้าโน่ครับ” ผมสั่งบ้าง

“กูอยากกินเย็น”

“คราวหน้าค่อยกิน วันนี้มึงจามสี่ห้าทีแล้ว ไปนั่งโน้นไป” ผมชี้โต๊ะที่ไกลแอร์ที่สุด

มะนาวไม่เถียง แต่สีหน้าออกเต็มที่ว่าไม่เต็มใจเลย

“สองคนนี้มันเป็นอย่างนี้กันตลอดเหรอ?” เมถามพงศ์

“งี้แหละค่ะ”

“มิน่าคนถึงจิ้นกันจริงจัง”

“แรกๆกูก็ไม่อะไร คิดว่าปกติผัว ผัวกูเป็นคนดีค่ะ ที่รู้ดีเพราะได้กันมาตั้งแต่ม.ปลาย ยังไม่ดูแลกูดีเท่านี้เลย กะว่ามานี่จะทำคะแนนค่ะ แป็ปๆโดนผัวที่สามแย่งผัวที่หนึ่งไปตอนไหนไม่รู้”

“ผัวที่หนึ่ง? ผัวที่สาม? แล้วสองอ่ะ”

“ผัวที่สองคือเมียเก่าของผัวที่หนึ่งค่ะ”

“ได้ยินนะเว้ย” ผมพูดยิ้มๆ เหนื่อยไหมเนี่ย มโนไปไกลขนาดนี้ พงศ์ลอยหน้าลอยตาเลือกเค้กกับเมต่อ

“แต่เป็นผัวที่สองของกู ไว้จะแนะนำให้รู้จักกันนะค่ะ ผัวที่สี่ เมียว่าเมียเลือกเค้กผลไม้ดีกว่าเนอะ สวยๆ”


“เมีย เอากล่องจังก้ามาด้วย เล่นกัน”

พงศ์หยิบมาให้อย่างเต็มใจ เพราะผมเรียกเมีย ฮ่าๆๆๆ จะใช้คนต้องมีเทคนิคครับ



-------------------------------
TBC.


ชอบเมเป็นการส่วนตัว เอาคาแรคเตอร์มาจากเพื่อนทอมคนหนึ่ง เพื่อนสมัย ม.ต้น ของเก้าเองฮ่าๆๆ หล่อ สูง ผอม หล่อแบบ หล่ออ่ะ หล่อจริงหล่อแบบคิมใน yes or no แต่สูงกว่าและผอมกว่า แต่บางทีจะตุ้ดแตกเพราะเป็นคนตลก (อันนี้เม้าเพื่อนละ)อยากแปะรูปให้ดูเหลือเกิน
เมจะมีคู่แน่นอน รอลุ้นได้ (คนอ่านบอกอยากรู้เรื่องคู่หลักมากกว่าาาาา) อ่า เจอกันตอนหน้าแล้วกันนะคะ คู่หลักไม่อยากสปอยยย 555555+


ปล. เมไม่มี ย์ นะค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 19:48:45 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่ารักอะแต่ละคน ชอบๆ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ชอบมะนาวนะ นิสัยน่ารักจริง แม็ตด้วย
จริงๆ ชอบทุกคนในเรื่องนี้เลย

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เนื้อเรื่องตัวละครน่ารักๆ
มีพัฒนาการเรื่อยๆโดยเฉพาะผัวที่1ของพงศ์.
ดูแลดี๊ดีแบบนี้. เราเห็นเราก็จิ้นค่ะ >///<

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
คู่นี้ก็ขยันทำจิ้น เมื่อไหร่จะจูนกันล่ะเนี่ย ปล่อยให้จิ้นอยู่ได้ 5555+

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตามๆ หนุกดี มาต่อเรื่อยๆน้า

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต้องมีคนมาตัดหน้าแน่ อย่ามัวช้าสิแม็ตตตตต

ยังรอติดตามเรื่อยๆน้าาาา

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 8 - มะนาว : ผมเป็นคนใจง่าย -


------------------------

สวัสดีครับ

ผมชื่อมะนาว   สูง 175.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 58 กิโลกรัม ผิวขาวเหลืองเกือบแทนแต่ก็ไม่แทน ผมคนไทยแท้ อยู่กรุงเทพตั้งแต่เกิดมีพี่ชายสองคน และหมาอีกหนึ่งตัว

ผมมีอาหารที่แพ้ แต่ทุกครั้งที่เกิดอาการสืบประวัติกลับไปผมไม่เคยกินอะไรซ้ำกันเลย ผ้มก็เลยไม่รู้ว่าสรุปตัวเองแพ้อะไร รู้แต่ว่ามีคนหามส่งโรงบาล เท่เลย

มีหลายอย่างที่ผมไม่ชอบ และมีบางอย่างที่ผมชอบครับ บางวันผมก็ชอบความวุ้นวาย อินกับทุกเทศกาล หาอะไรสนุกๆ ทำกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ในขณะเดียวกันถ้ามีหนังที่ผมอยากดูผมสามารถไปดูหนังคนเดียวได้ ผมชอบขับรถไปนั่งเล่นชายทะเลใกล้ๆ คนเดียว ไม่ก็ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่ใช่ว่าผมไม่มีเพื่อน แต่บางอารมณ์ผมก็ชอบทำอะไรๆ ไปไหนมาไหนคนเดียว ครับ เพราะฉะนั้นตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ผมไม่เคยมีแฟน รู้ตัวเลยว่าเป็นคนไม่มั่นคง แม้ผมบอกรักเขาเองก็อาจจะเป็นฝ่ายหมดรักเขาเองก็ได้ แถมผมไม่แน่ใจว่าถ้าบอกคนที่ผมชอบไป ว่าผมชอบเขา เขาจะรับได้ไหม ผมเลยเลือกเก็บมันไว้เลือกคงสถานะเดิมกับคนที่แอบรักต่อไป

แต่แปลกเมื่อถึงเวลาที่เขาไปมีแฟน ผมกลับแอบเสียใจฟูมฝายอย่างกะคนอกหัก แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน ก่อนจะมองอีกคนที่ผมก็ชอบเขาเหมือนกันต่อทันที ครับ ผมหลงรักคนง่าย แล้วก็เปลี่ยนใจเอาง่ายๆ บางทีคงเป็นผมเองที่รักเขาไม่มากพอถึงไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย ดีแล้วที่ผมไม่ได้บอกรักคนพวกนั้นออกไป

เปิดเทอมใหม่นี่ ผมเคลียร์หัวใจตัวเองจนว่าง(ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานหรอก) และผมก็จัดการเติมหัวใจตัวเองให้เต็มได้ใน 1 วัน ผมตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งในวันแรกของการเปิดเทอม คุณพระคุณเจ้า! ถ้าใครมาเจอแบบผม หินผาก็ยังละลายเชื่อเถอะ

ผมขอยกข้อดีของเขามาให้ชมกับเป็นข้อๆ ก่อน

  1.   เขาหล่อมาก แม้ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัว แต่ผมบอกเลยว่าคนรอบตัวเขาต้องเห็นแน่นอน ลองทรงสั้น ตาโตเพราะเขาตัวโต แต่ตาดันเป็นตาชั้นเดียวเพราะดูมีเชื้อจีน จมูกโด่งอย่างกะสันอีโต้ ปากได้รูป โครงหน้าแบบชายชาตรี กับหนวดที่โกนใหม่ๆ มองใกล้ๆ ผมอยากจะเอาเล็บไปเกลี่ย! หล่อร้ายเกินห้ามใจเลยล่ะทุกคน

  2.   เขาตัวสูงมาก พอถามก็ตอบกวนตีนๆ กลับมาว่าไม่ถึง190อยู่เซ็นฯนึง นั่นทำให้ 175.5 เซนฯของผมดูสาวน้อยไปเลย เซงนิดๆครับ แต่ย้อนไปข้อ 1 ทำให้ ผมยอม!

  3.   เขาเป็นคนดีมากๆ สุภาพบุรุษสุดๆ จนทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ แต่เพื่อนๆ เขาทลายความฝันผมลง พร้อมทั้งยืนยันว่าเขาดีกับทุกคนเป็นปกติ (แต่ยังไงผมก็ยังคิดว่าตัวเองพิเศษโว้ย มองแรงในใจ) ถึงเพื่อนเขาจะมองว่าเขาเป็นคนดีเป็นปกติ แต่ผมซาบซึ้งเกินปกติ พูดเลย!

  4.   เขาไม่รังเกียจผม แม้ผมจะเผลอเชิญชวนเขา (อย่างไม่ตั้งใจ) แถมคงเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เขาก็ยังทำตัวเหมือนปกติ นั่นทำให้ผมได้ใจไปไกลมาก แล้วจะไม่ให้ผมคิดว่าตัวเองพิเศษได้ไงไหว แม้ในขณะเดียวกันผมก็สลดเพราะเขาดูไม่สปาคกับผมเลย เขาดูปกติเกินไป!

นี่แค่ข้อใหญ่ๆยังไม่ได้ไล่ลำดับอะไรยิบย่อยนะ

ทั้งหมดนี้ทำให้เขาพิเศษสำหรับผม เขาดูห่วงใยดูแลผมทุกก้าวที่เดินอยู่กับเขา เขาใส่ใจผมจนผมรู้สึกผิด

ขนาดกูที่ชอบมึงกูยังทำดีอะไรให้มึงได้ไม่เท่ามึงที่ไม่ได้คิดอะไรกับกูเลย สาดดดดดด

ภาวนาให้เขาไม่รู้ว่าผมชอบเขาต่อไปเรื่อยๆ ผมจะได้มีที่นั่งพิเศษอยู่ตรงนี้ต่อไป และพูดถึงสาวๆ ที่จะเข้าหาเขา ผมบอกเลยว่าผมสกัดเต็มกำลัง ฝันไปเถอะ! มันเป็นคนดี ผมเลยใช้ความเป็นคนดีของเขาให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำตัวง่อยแดก ให้มันดูแลอยู่ร่ำไป

ผมฉลาดมั้ยล่ะ?

ตอนนี้ ใจหนึ่งผมสบายใจ เขาไม่รังเกียจผม แค่นี้ก็ดีมากมาย ซ้ำยังเป็นห่วงสวัสดิภาพผมมากผมนี่แสนปลาบปลื้ม แต่อีกใจผมก็ยังพะวงทำเรื่องน่าอายแถมซ้ำหลายครั้ง! เกิดผมบอกชอบมันตอนเมาทำไงอ่ะ ตื่นมาจำอะไรก็ไม่ได้อีกนี่สิ ตอนเมาถ้าผมหลุดความลับอะไรไปนี่ไม่รู้เรื่องเลยนะ คิดแล้วเครียด ผมได้กลัวมันล้อผม มันเป็นคนดีตามข้อ 3 แต่ที่ผมกลัวคือมันจะเปลี่ยนไปไม่ดีกับผมเหมือนตอนนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงใจสลาย อะเฮื้อกกกก

แล้วก็เลิกคิดเรื่องสารภาพรักนะ ผมไม่มีวันจะบอกมัน แม้ลึกๆ ผมจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาต่างจากคนอื่นๆ ที่ผมคิดว่าผมชอบ  ไม่รู้สิทุกวันนี้ผมมีความสุขดี เป็นแฟนเดี๋ยวก็ได้เลิกกัน เป็นเพื่อนเนี่ยแหละ

ค่อยให้ร่างผมตอนเมาแอบกินมันละกัน

ตอนแรกที่ผมยังไม่เจอ ผมมั่นไส้ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ทั้งที่ชื่อเหมือนกันทำไมเขากลับได้เลขสวยอย่าง 888 ไป แต่พอเห็นหน้าเท่านั้นแหละ เลวนั่นกลับขโมยหัวใจผมไป ทีละนิดๆ จดหมดครับพี่น้อง ตอนนี้ใจผมกลวงโจ๋โบ๋ พ่อแม็ตไม่รู้เอาหัวใจผมไปไว้ตรงไหน โคตรซึน ผมไม่ค่อยรู้หรอกว่ามันคิดอะไรอยู่ คือถ้าต้องการอะไรต้องพูดออกมาไม่งั้นผมเดาไม่ถูกจริงๆ

ความเป็นข้างรหัสทำให้ผมอยู่ใกล้ๆ ไปไหนมาไหนกับเขาได้ตลอดแค่บอกว่าเพราะเป็นข้างรหัสทุกคนก็ไม่ถามต่อว่าไปสนิทกันได้ยังไง ขอบอกว่าใกล้ชิดกว่าแฟนซะอีก แล้วคุณยังคิดว่าผมจะต้องการอะไรมากกว่านี้ครับ เราควรจะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีนี่นา จริงมั้ย?

แต่ถ้าวันหนึ่งแม็ตมีคนเข้ามาผูกพันในชีวิต ผมจะไปอยู่ไหน นั่นเป็นอีกเรื่องนึง


........................................

จำเป็นไหมที่ผมต้องเล่าความใจง่ายของผมให้ฟัง

เปิดเทอมวันแรกครับ ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ ชีวิตมหาลัยวันแรกใครๆ ก็ตื่นเต้นล่ะว้า และเพราะกลัวรถติด แต่รถก็ดันไม่ติด เลยกลายเป็นผมมาถึงคณะก่อนเวลาเกือบชั่วโมง ผมเลยไปนั่งกินข้าวเช้า กับรอเวลาอยู่โรงอาหารใต้ตึก B เพราะตอนนั้นเช้ามาก นักศึกษาน้อยมาก โต๊ะข้างหลังเป็นกลุ่มใหญ่ เลยได้ยินชัดบ่นๆ ว่าทำโปรเจคยังไม่ได้นอนเลย มากินข้าวแล้วก็จะไปทำต่อ มันน่ากลัวมากนะ ถ้าทำงานข้ามวันข้ามคืนติดๆ กันหลายๆ วันแบบนั้น ผมเริ่มลังเลว่าตัวเองเลือกคณะถูกไหม แต่ก็เบาใจไปเปราะนึงเพราะดูท่าพวกพี่ๆเขาจะเป็นนักศึกษาป.โท ไม่ใช่ตรี

เริ่มใกล้เวลาคนก็เริ่มทยอนหนาแน่นขึ้น ผมมองคนเดินผ่านไปผ่านมาสลับกับเล่นเกมในมือถือ แห้งเหี่ยว เพราะเพื่อนๆ ที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน ไม่มีคนสนิทๆ เรียนที่นี่เลย คนที่มาเรียนที่นี่ก็มีแต่พวกรู้แต่ชื่อ กับโจทย์เก่า

โต๊ะกับมุมที่ผมนั่ง หันหน้าไปทางประตูทางเข้าครับ คนหน้าตาดีคนแล้วคนเล่าเดินเข้ามา สมกับคำร่ำลือที่ว่า ว่าที่วิศวกรที่นี่ หนุ่มๆหล่อๆหนาแน่นจนติดท็อปทรีของประเทศ ผมมองเพลินตาจนคล้ายเหม่อลอย แต่อยู่ๆหัวใจก็ไปสะดุดกับผู้ชายคนนึงที่สูงสะดุดตาจนถึงกับต้องเอียงคอเพื่อเดินเข้าประตูมา

เขาสูง ขาว ตาเรียวคิ้วเข้ม ใส่แว่น ปากได้รูปเพยอนิดๆ ไหล่กว้างน่าซบ กับเสียงทุ้มที่เรียกใครก็ไม่รู้ตอนเดินผ่านผมพอดี เขาไปนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังผมถัดไปสองโต๊ะ กับเพื่อนคนนึง ผมไม่กล้าหันไปมองอีก ผมได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อน ผมจำเส้นเสียงเสียงนั้นได้ ผมกลืนน้ำลายแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น โดยไม่หันกลับไปมองเขาเลย

ผมเดินออกไปนอกห้องกระจกแล้วนั่งลงตรงโต๊ะหินข้างนอก จากตรงนี้ผมแอบมองเขาได้โดยไม่ผิดสังเกต ผมเห็นเขายืนขึ้น มองซ้ายมองขวาเหมือนเลือกว่าจะกินอะไรจากร้านอาหารมากมาย ก่อนจะหมุนตัวเพื่อนเบี่ยงตัวออกจากโต๊ะที่เรียงติดกันเข้าออกลำบาก หัวสูงๆของเขาเกือบถึงเพดาร เพราะโรงอาหารนี้เพดารเตี้ยมาก คนคนนั้นก้มลงมองโต๊ะที่ผมนั่งเมื่อกี้ เขาเดินมาที่โต๊ะเก่าของผม?

เขาหยิบจากกับแก้วน้ำที่หมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือของผมขึ้น แล้วเดินไปทางชั้นเก็บจานใช้แล้ว!

ผมลืมเก็บจาน ทั้งที่ผมนั่งอ่านสติ๊กเกอร์รณรงค์เก็บแก้วเก็บจานข้าวซ้ำไปแล้วเป็น 10 รอบเมื่อกี้นี้

โคตรอาย

แล้วคนอะไรวะ หน้าหล่อแล้วยังใจหล่ออีก เหี้ย เหี้ยมากๆ ใจผมเนี่ยเหี้ยมาก ไม่รู้ว่าอายหรือตื่นเต้นกับคนหล่อ

ผมทำเป็นเล่นมือถือ โดยหันองศาใบหน้ากับมือถือไปทิศทางที่เขาอยู่ ผมทำอย่างนี้จนเขากินข้าวเสร็จ แล้วลุกขึ้นเดินออกมา ทันทีที่เขาเดินผ่านผมไป ผมนับ 1 2 3 จนถึง 10 แล้วลุกขึ้น เดินตามเขากับเพื่อนไปห่างๆ เดินได้ไม่ไกล เขาเดินไปทักเพื่อนอีกคนแล้วเขาก็แยกกับเพื่อนคนเดิม

ผมก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ จนมารู้ตัวอีกที เขาอยู่หน้าห้องที่ผมเองก็ต้องมาที่นี่ ห้องที่พี่ปี 2  นัดจับสายรหัส ผมไปลงชื่อ แล้วเข้าไปเลือกนั่งต่อแถวแถวเดียวกับเขา แต่มีคนขั้นสองคน

ตอนนั้นผมไม่ได้ชอบเขานะ ผมแค่สนใจผู้ชายคนนี้นิดหน่อยเท่านั้นเอง

ก็เขาเนี่ย เป็นคนแย่งรหัสตองอย่าง 888 ไปจากผม ผมมารู้ตอนพี่เอ็มซีสุดสวยประกาศเลข 888 ที่พี่ดาวมหาลัยจับได้ผมรอดูหนังหน้า คนอะไรว่ะ ดวงดีได้รหัสสวยแล้วยังได้พี่รหัสโคตรสวย แต่พระเจ้ากลั่นแกล้งเพราะดันเป็นเขาที่ลุกขึ้น บอกตรงๆผมโกรธไม่ลง กลายเป็นขอบคุณที่รหัส 888 เป็นของเขา

เจอกูแน่ มึงเจอกูแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ จะใช้เป็นข้องอ้างเข้าตีสนิท ฮ่าๆๆๆ

อันนั้นแค่คิดในใจนะครับคุณไม่รู้หรอกว่าตอนที่ผมสบตาเขาตอนอยู่ในห้องจับสายใจผมสั่นแค่ไหน ขนาดเป็นคิวผมที่ต้องเดินไปหาพี่รหัสผมก็ยังเผลอมองหาเขา ตอนนั้นทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ เขามองผม มองทำไม? อย่ามองโว้ย กูสั่น

แล้วนึกภาพตามนะครับ บ่ายนั้นผมเข้าเรียนสาย คนเกือบร้อยมองผมเป็นตาเดียว แล้วคนที่แสดงความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่น่าอายที่สุดเป็นคนที่คุณแอบมองอยู่ เรียกให้คุณเข้าไปนั่งด้วย

ที่ผมอุทาน “เหี้ยไรว่ะเนี่ย” ไม่ใช่เขินที่มาสายอย่างเดียว แต่คนที่เรียกผมมานั่งข้างๆเขาเนี่ย มองใกล้ๆโคตรหล่อ โคตรตื่นเต้น!

คุณจะว่าผมใจง่ายซะทีเดียวไม่ได้หรอก เพราะยิ่งรู้จักเขาผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองใจง่ายถูกคนแล้ว

แม่ง ดีเหี้ยๆ คนอะไรว่ะ?

เขาบอกผมว่าผมต้องนั่งตรงไหนในเวลาที่แสนฉุกละหุก ตอนรู้ว่ากระเป๋าตังกับโรศัพท์หายเขาเป็นห่วงและตื่นเต้นไปกับความซวยของผม ให้ผมยืมโทรศัพท์ทันทีโดยแทบไม่ต้องเอ่ยปากขอด้วยซ้ำ เขาเสนอตัวออกตังค่าหนังสือให้ผมก่อน

เขาชวนผมเดท เอ้ย พาผมไปหาที่รอพี่รหัสเอากระเป๋าตังกับโทรศัพท์มาให้

เป็นคนตลกร้าย (หลอกผมกินอเมริกาโน่) เห็นผมเหงาๆ ก็ชวนผมเล่นเกมด้วยกัน ชวนผมเข้าเชียร์ผมจะได้ร้องเพลงคณะเป็นเหมือนคนอื่นเขา (คนอื่นคงมองว่ามันไม่ใช่ข้อดีสินะ แต่สำหรับผมเขาดีไปหมด!) คอยมองหาผมตอนที่ผมเดินไม่ทัน รอผมโดยที่ไม่ต้องบอกให้รอ ยื่นมือเข้ามาช่วยทันทีที่มีคนมายุ่งกับผม อันนี้ขอว๊ากแบบพี่แน็ปได้ไหม? วิธีช่วยของเขาคือเอาตัวเข้าแลก อย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะที่สาวๆทำท่ากรี้ดแล้วยกมือถือขึ้นถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ถ่ายเลยๆ จะได้รู้ว่าคนนี้ผมจองงงงงง

สุดท้ายคือเขายอมให้ผมไปค้างด้วยทั้งที่เรารู้จักกันไม่ถึงวัน แม้เขากับพี่รหัสจะดูสนิทสนมกัน ผมเห็นนะแม็ตมองตามพี่รหัสตลอดเวลาเธอสวยมาก น่ารักแถมร่าเริงเข้าหาง่ายไม่มีอะไรที่ผมจะไปเทียบกับเขาได้เลย แต่ผมก็จะถือว่า เขาเพิ่งรู้จักกันไม่ต่างจากผม ผมต้องสู้ได้สิ ฮ่าๆๆๆ (เอ้ะๆ ไหนบอกไม่ได้ชอบ?)

วันต่อมาเขาเสี่ยงเช็คชื่อให้ผม แถมยังแนะนำผมกับเพื่อนๆเขา

รหัสติดกัน ตอนแรกนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันจะมีผลกับชีวิตผมมากขนาดไหน ผมรู้แต่ว่าโชคดีจัง ต่อไปเราคงได้รู้จักกัน ไม่นึกเลยว่าการที่รหัสติดกันจะมีผลให้ตัวติดกันไปด้วย



หลังจากคืนนั้นผ่านไป ตอนตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมา ผมแทบช็อก เพราะตื่นมามีใบหน้าเขาอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสองคืบ ใกล้มาก ใบหน้าด้านข้างของเขาทำให้ผมตกหลุมรักลึกลงไปอีกหลายขุม โหยยยย อย่าว่าแต่สิวเลย ผมเห็นขนอ่อนๆบนแก้มเขาด้วยเถอะ ไรผมดำสนิทตัดกับผิวขาวๆ นี่คือศิลปะ ปติมากรรมชั้นสวรรค์ ผมผมอยู่บนโลกจริงรึเปล่า ผมกลอกตามองซ้ายมองขวาทั้งที่นอนตะแคงอยู่ไม่กล้าแม้ขยับตัว ที่นี้ที่ไหนเหลือบตามองเท่าที่มองได้ คงเป็นห้องแม็ต เพราะตอนตกลงกันว่าผมไปค้างด้วยได้ผมยังไม่เมา แต่หลังจากนั้นผมก็งอนมันเป็นตุ๊ดเลยคิดแล้วอับอายตัวเอง ผมโมโหแม็ตด้วยเหตุผลที่ว่า มันทำใจผมหวั่นไหวแต่ ไม่ได้ตั้งใจ โคตรเศร้า คือถ้าตั้งใจจะกระโจนเข้าใส่ แต่นี่ไม่ตั้งใจไง ไปต่อไม่ถูกไง ความรู้สึกกูเนี่ย มึงมาเขี่ยๆแล้วก็ไป แม่งไม่เมาอย่าเรียกกูมะนาวเลยวันนี้

คิดดูนะ ในขณะที่ชีวิตคุณไม่รู้จะสลัดไอ้ผู้ชายหน้าหื่นกามออกไปยังไง คนที่คุณอยากให้มาอยู่ใกล้ๆเขาก็โพล่มา ยิ้มให้ ใจแม่งโคตรว้าวุ้นตั้งแต่ตอนนั้นเลยขอบอก ผมโทษว่าตัวเองเมา หัวใจเลยเต้นแรงกว่าปกติ และพยายามบอกตัวเองว่า ตั้งสติๆๆๆ เพื่อนๆๆๆ ไม่ๆๆๆ วันนี้เพิ่งจะวันแรกมึงยังไม่ชอบเขาจริงหรอก แค่หน้ามันหล่อมึงเลยหวั่นไหวไปเท่านั้นแหละไอ้มะนาวเอ๋ย เต้นไปๆ ทำตัวปกติ อย่าแสดงออกเด็ดขาดยังต้องใช้ชีวิตร่วมกันอีกนาน ตั้งสติๆๆๆ

แต่มันไม่ได้ทำแค่ยิ้มให้ไง มันล้อเล่นกับหัวใจผม ทำเหมือนหึงหวง(ยอมรับว่ามโน แล้วจะทำไมล่ะ?) เตะเนื้อต้องตัวผม ทำเหมือนไม่แคร์สายตาใครทั้งที่ผมเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกับเขา ความหวังมันพองเต็มใจ แต่ตอนที่เขาบอกว่าทำไปเพราะช่วยผมต่างหากไม่ได้ทำไปเพราะชอบผม ผมเหมือนลูกโป่งที่ถูกแก้มัดแล้วปล่อยให้ลมพุ่งออกเองตามยถากรรมพุ่งไปมาแล้วสุดท้ายก็นอนเหี่ยวเป็นลูกโป่งแฟบๆเสียทรงเพราะเคยยืดออกจนสุดมาแล้ว กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก

ตอนนั้นไม่มีอารมณ์หรอกนะจะมาให้ความหวังตัวเองว่าแบบเออ ยังไงก็ยังดีนะมึงเขาเป็นห่วงยังดีกว่าไม่ห่วง ไม่มี ความรู้สึกนั้นเลย คิดไม่ทัน ก็ผมเมาแล้วจะไปคิดอะไรออก คนเมาเขาคิดแง่ดีไม่เป็นหรอกคุณ ไม่ต่อยหน้ามันซ้ำก็บุญโขแล้ว

ผมเลยมอมตัวเองแบบคนโง่ๆคนนึง ด้วยการเดินเข้าไปให้รุ่นพี่แกล้ง แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีก...

ภาพตัดกลับมาในตอนเช้า ผมนอนอยู่บนเตียงเดียวกับมนุษย์แม็ต แม่งอย่างกะเทวดา นี่ขนาดหลับนะ ถ้าลืมตาแล้วยิ้มให้อีก ตายยย กูตายย

ผมนอนหายใจทิ้งๆไปอย่างนั้น มองคนนอนข้างๆไปเรื่อย จนเขาขยับตัวเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง หันหน้ามาทางผม อื้อหื๋อ จากสองคืบเหลือไม่ถึงคืบแล้วตอนนี้ ผมทนไม่ไหว ลุกขึ้นโวยวายกลบเกลื่อน

“อร้ากกกกก ปวดหัว แม็ต มึงมียาแก้ปวดมั้ยวะ” ตื่นเถอะมึง กูทนมองมึงต่อไม่ไหวแล้ว ผมลุกมานั่งกุมหัวปิดตาอยู่ปลายเตียง

“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นนานยัง”

แม็ตลุกผ่านผมไป ยืนบิดขี้เกียจ แล้วหยิบกล่องยามาเปิดให้ผม แม่งมียาทั้งชุดสามัญเลย คุณหนูเหมือนกันนะมึง

ผมทำสิ่งที่ไม่ควรทำครับ นั้นคือเหลือตามองหน้ามันตอนรับยามา

“เดี๋ยวนี้แหละ ขอบใจ” เสียงผมสั่นๆๆๆ

แม่งพลังทำลายล้างมึงสูงมาก ขนาดเพิ่งตื่น ตาปรือๆ มึงยังขนาดนี้ ถ้าแต่งองครบจะขนาดไหน นอนต่อก็นอนไม่หลับ ผมเลยถามเวลาถามหาของกินไปเรื่อย แล้วก็ขอตัวกลับก่อน เพราะให้นอนต่อยังไงก็นอนไม่หลับ กลับไปตั้งหลักก่อนดีกว่า

ผมกลับบ้านไปร้านทำผมร้านประจำให้เจ้สุดสวยโกรกสีผมให้เข้มขึ้น ไม่ให้พี่ว้ากว่าได้ เพราะดูท่าผมจะได้ตามผู้ชายเข้าเชียร์ทุกครั้งเลยนะเนี่ย ไม่ได้ใจง่ายนะ แต่เขาชวนก็ไปกับเขาหน่อย

“น้องนาวทำสีเข้มแล้วหน้าดูผ่องๆนะ ดูดีอ่ะ”

“เจ้เฟิร์นจะชมผมหล่อก็พูดตรงๆ ก็ได้”

ตอนนี้เจ้เฟิร์นกำลังไดรผมผมให้แห้งอยู่ครับ

“หล่อเหล่ออะไร ฉันไม่เรียกเธอตาหนูเหมือนเมื่อก่อนก็บุญล่ะ” เจ้แกเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กๆครับ บ้านผมอยู่ตรงข้ามบ้านเจ้ ป้อนข้าวป้อนน้ำมาตั้งแต่จำความไม่ได้ รับเลี้ยงผมมาทั้งสามพี่น้องเลยครับ

ผมย่นหน้า ไม่อยากให้เรียกตาหนู ผมโตเป็นควายแล้วนะฮับ!

“เอ้ะ! หรือจะมีความรัก?”

“...” ผมไม่ได้ตอบ แต่เม้มปากใส่กระจก

“น้องนาว อย่าเพิ่งรีบสิ นี่เพิ่งเปิดเทอม ชีวิตนี้ต้องเจออะไรอีกเยอะแยะมากมาย คนที่ชอบวันนี้ วันหน้าเราอาจจะเหม็นขี้หน้าเขาที่สุดก็ได้ คนที่เราเกลียดวันนี้เขาอาจจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีที่สุดของเราก็ได้ คนเราการให้เวลากันเป็นสิ่งสำคัญนะ นาวยังเด็ก พี่ไม่ได้ห้ามมีแฟนหรือมีความรัก เพียงแต่ไม่อยากให้นาวต้องเจ็บเพราะความรัก แบบเจ้”

เจ้เฟิร์นเป็นคนสวยครับ สวยมาก ก่อนเปิดร้านเสริมสวยเมื่อก่อนทำทั้งเอ็มซีทั้งพริตตี้ มีคนเข้าหาเขามากมาย แต่ก็แค่ฉาบฉวย พอเริ่มจะตกลงปลงใจลงหลักปักฐานกับใครสักคน ก็จับได้ว่าผู้ชายมีคนอื่นอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายๆครั้งจบในทำนองเดียวกันคือผู้ชายเข้ามาหลอก ไม่มีคนอื่นอยู่แล้วก็ไปมีคนอื่นอีก ตอนนั้นผมยังเด็กไม่ค่อยเข้าใจหรอก ย้อนคิดตอนนี้คงเพราะเจ้สวยคนที่กล้าเข้าหาก็มีแต่พวกกล้าได้กล้าเสีย เลยไม่พ้นจบลงไม่สวยทุกที เจ้เลยเข็ดกับความรักมาหลายปีแล้ว

“เจ้พูดซะผมไม่กล้ารักใครเลย” ฟังเจ้พูดแล้วผมก็เศร้าตาม

“ไม่เอาน่า ความรักไม่ได้ผิดนะ คนมีความรักต่างหากที่ตาบอดเลือกทำอะไรผิดๆ”

“ผมจะไม่รีบแล้วกัน รอดูกันยาวๆ”

“แสดงว่ามี ว่าแต่ เป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่”

“เจ้อ่ะ...”

“เพื่อน?” พอผมไม่ตอบ เจ้ก็เริ่มเดา

“อื้ม” ผมเชิดคางใส่กระจก

“แล้ว หล่อไหม?”

“มาก” ผมตอบแค่นั้น เจ้ก็เฉดหัวส่งผมลงจากเก้าอี้ทำผม ประมารว่ามั่นไส้ผม ฮ่าๆๆ

เจ้เฟิร์นเป็นคนไม่กี่คนที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ครับ และรู้ด้วยว่าผมใจง่ายชอบคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย เวลาผมเซงๆอกหักมาจะมานั่งนี่ไม่ยอมกลับบ้าน นั่นยิ่งทำให้เจ้เป็นห่วงว่าผมจะเอาตัวไม่รอดถ้าเกิดอะไรขึ้น

  ก่อนไล่ผมกลับไปเรียนยังกำชับผมว่าให้ถ่ายรูปคนที่ผมชอบกลับไปให้ดูด้วย ผมถ่ายไว้นะครับ ตอนเซ็ตผมให้แม็ตเสร็จในเย็นวันนั้นผมก็ถ่ายไว้ เพียงแต่ผมไม่ได้กลับบ้าน เลยไม่ได้ให้เจ้ดู ฮ่าๆๆๆ

จะว่าไปผมไม่น่าเซตผมให้เขาเลย หล่อจนแสบตา หล่อจนเดินเข้าร้านไปมีแต่สาวๆหันมองจนเหลียวหลังตาม พลาดๆ

เพื่อนโรงเรียนเก่าแม็ตวันนั้นที่ผมเจอ น่ารักทุกคนครับ เว้นอยู่คนที่ผมติดใจ คนที่ชื่อน้ำนิ่ง เขามองผมแปลกๆ แล้วก็คอยมองแม็ตอยู่แทบจะตลอดเวลา เขาเป็นคนที่รู้จักแม็ตดี ดีจนผมเข้าไม่ถึง ถ้าใช่อย่างที่ผมคิดผมคงแห้ว ผมเลยภาวนาให้ไม่ใช่ จนผมพลั้งปากถามเขาไปตรงๆ  ว่าน้ำชอบเขาใช่ไหม แล้วเขาชอบน้ำไหม คิดไปคิดมาผมไม่น่าถาม คำถามที่เหมือนจับแฟนที่มีกิ๊กแบบนั้น คิดแล้วกลุ้ม เพื่อนที่ไหนเขาถามคำถามแบบนั้นกันว่ะ แม้คำตอบจะทำให้ผมเบาใจ แต่ผมก็ยังไม่สบายใจ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาอาจจะมีบางอย่างในใจที่ไม่สามารถพูดออกมาก็เป็นได้ ผมยังมีเลย สรุปถามไปก็ไม่สบายใจอยู่ดี!

ผมลังเลมากๆ ว่าจะอยู่อย่างนี้ต่อไป หรือตัดใจปลีกตัวออกมาตั้งแต่เนิ่นๆดี แต่ความพยายามที่จะตัดใจของผมพังลงไม่เป็นท่า เพราะอีกฝ่ายนอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือแล้ว เขายังทำให้ผมได้ใจไปถึงไหนๆ ดูแลผมมากว่าที่ผมรู้ เพราะแน่ๆตอนเมาที่ผมจำอะไรไม่ได้เลยนั้น เขาเป็นคนพาผมกลับมาห้องตามที่ให้สัญญากับผมไว้จริงๆ

เห็นไหมครับ เขาเป็นคนดีจนผมไม่อยากขัดศรัทธา


หลังจากวันนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของมันครับ เนียนๆ กันไป ไม่ได้พยายามปกปิดความในใจ เพียงแต่ผมไม่อยากพูดออกไปตรงๆ การมีข้อผูกมัดอาจจะทำให้ความสัมพันธ์เราจบลงเร็วกว่าที่ควร ผมอยากเรามีเวลาให้เขามีใจให้ผมบ้าง ให้เขาผูกพันกับผมสักหน่อย ให้เขาได้มีช่วงเวลาที่ลังเล ดีกว่าพลีพลามพูดไปแล้วถูกปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่ทันรู้จักกันดี   

ผมไม่ได้กลัวการเดินไปข้างหน้า แต่ผมอยากรักอย่างมีสติอย่างที่เจ้เฟิร์นเตือน เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองหลงเขามากจนโงหัวไม่ขึ้น ไปไหนไม่รอด ผมไม่เคยรู้สึกกับใครมากขนาดนี้เลย มันมากจนผมเองยังกลัว


คุณก็ดูหน้าเขาสิ  น่าหลงน้อยๆ ซะที่ไหน!



-----------------------
TBC.


มาสักที มะนาวพาท
ฝั่งนี้ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงค่ะ ชอบเขาตั้งแต่ก่อนรู้จัก ยอมตั้งแต่หน้าปะกะตู ฮ่าๆๆๆๆ
มาแวะฝั่งมะนาวแปป สักตอนสองตอน ก่อนจะเดินเรื่องต่อเนอะ


ติชมกันได้เหมือนเคยน้าาา ติเยอะๆ หลังไมค์ก็ได้ เค้ารับทุกความคิดเห็นนะจ๊ะ


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มะนาวลูก หนูอ่อยแรงมากอะ~~~

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
โถ มะนาว นึกว่าซื่อๆ ใสๆ ไม่ได้อะไรมาก
ที่จริงจี๊ดสมชื่ออยู่นะ เอาใจช่วยแล้วกัน อย่าไปใจง่ายกับคนอื่นล่ะ

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มะนาวมาแวร้ง แหมมมมม จ้องจะกินเขาอยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่บอก
แบบนี้ไม่หึงหวงเขาแทบจะตลอดเลยเร้อะ ร้ายนะเธอ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


พอได้อ่านเรื่องของมะนาวก็เข้าใจอะไรได้ดีขึ้นมากเลย
อดทนมากเลยนะลูก... ทำแบบนี้แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะไม่เจ็บปวดหากแม็ตโดนสอยไปต่อหน้าต่อตา?

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :pig4:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 9 - มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ -



--------------------------


“เย็นนี้ใครนอนดึกบ้าง”

“ไมเหรอ? อยากเล่นเซ็กซ์โฟนดึกๆ เหรอ เค้าว่างนะตัว”

“ป่าว กูถามไว้เผื่อกูเป็นศพให้เก็บ เย็นนี้มีเลี้ยงสายรหัส มายันพี่บัณฑิต คงยาว”

“ก็กูไปรับไง ยังไงมึงก็มานอนห้องกูอยู่แล้วนี่”

“เผื่อมึงรีบนอน”

“ไม่หรอก กูรอตีฮอน นัดกับพวกไอ้โป่งไว้ น้ำด้วย”

“งั้นกูจะไลน์ไปก่อนเมานะ” 

ผมลอกการบ้านเสร็จ ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปเรียน เหลือผมกับพ่อหล่อสุดใจไปเรียนกันสองคน แค่เดินข้ามถนนพวกผมเลยไม่ขับรถ ขี้เกียจหาที่จอดรถอีกรอบ


“มึง เดี๋ยวนะ ฝากถือนี่ด้วย” ตอนกำลังจะข้ามถนนใหญ่ที่ตัดผ่านกลางมหาลัย ผมรับหนังสือจากมือแม็ตมางงๆ แล้วมองตามพ่อยอดขมองอิ่มเดินเร็วๆออกไปข้างหน้า ไปหารถเข็นไก่ย่างที่ผมจำได้ว่าปกติจะขายอยู่ฝั่งตรงข้ามข้างป้ายรถเมล์

แม็ตไปช่วยคุณป้าเข็นรถข้ามถนนครับ ตัวโตๆประคองรถเข็นคนเดียวได้สบายๆ ผมมองอึ่งๆ ก่อนจะเดินตาม 

แม่งงงง เป็นคนดีซะจนกูดูเหี้ยไปเลย

ผมเลยเนียนๆเข้าไปยืนโบกรถให้ระวังรถเข็นครับ คนอื่นจะได้มองเราคู่ควรกัน อิ

มาถึงฝั่งตรงข้าม มันก็ยังช่วยคุณป้าเข็นขึ้นฟุตบาท เข็นจนถึงที่ประจำ แถมยังช่วยเอาไม้ขัดล้อรถกันรถไหลอีก มันรู้ได้ไงว่าไม้สองท่อนใต้รถนั่นเอาไว้ขัดล้อว่ะ?

“คุณลุงไม่มาด้วยเหรอครับวันนี้?” แน่ะ ยังมีกะจิตกะใจหว่านเสน่ห์ให้คุณป้าอีก

“วันนี้ลุงไม่ค่อยสบาย ป้าเลยไม่ให้แกมาด้วย”

“อ้อ เหรอครับ นาว มึงกินไร หยิบเลยกูเลี้ยง” แม็ตพูดครับ นี่มึงรู้ได้ไงว่ากูคิดจะกินไก่ป้า! ป้าแกย่างไว้บางส่วนแล้วครับ พร้อมขาย ไก่เต็มถาด

“งั้น กูเอานี่ อ่ะ”

ผมหยิบตับสองไม้ ส่วนแม็ตกำลังเลือกไก่มาได้อีกสามไม้ ป้าจัดการใส่ถุงแล้วบอกว่าไม่คิดเงินพยายามยัดเยียดมาให้แล้ว มีหรือพ่อยอดสุภาพบุรุษจะยอม

“ป้ารับไว้นะครับ ของซื้อของขาย กำไรก็ไม่ได้เยอะ ลุงก็ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอครับ”

“ไม่เอาหรอกพ่อหนุ่ม หนูบอกเพื่อนสิว่าป้าไม่คิดตัง” ป้าหันมาให้ผมช่วยพูด

ป้า นี่ป้าสัมผัสได้สินะว่าผมเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เห็นของฟรีแล้วแพ้ราบคาบ 

ผมมองตัง แล้วเงยหน้ามองแม็ตที่ยืนอยู่ข้างๆ มือข้างนึงรับถุงไก่มาแล้ว อีกมือถือเงินจะจ่ายให้ได้

ผมพูดไม่ออกครับ จะรับน้ำใจป้าก็เป็นการขัดจิตใจอันดีของเพื่อน จะขัดศรัทธาป้าก็เป็นการฝืนธรรมชาติของจิตใจผม ผมเลยได้แต่ทำตาปริบๆ ไม่ได้พูดอะไร

ไอ้แม็ตมันหัวเราะในคอ หัวเราะอะไรของแม่งว่ะ

ก่อนมันจะก้มลงมาหาผม

แม่งก้มมาไมว่ะ แม่งอย่าจูบกูตรงนี้นะ กูยังไม่พร้อม!

“เดี๋ยวกูวางตังแล้ววิ่งเลยนะ”

อ้าว มันก้มลงมาข้างหูกระซิบบอกผมครับ ผมที่จิตนาการไปเองเขินไปเองเมื่อกี้ยังไม่ออกจากภวังค์มโนดี มันก็วางตังแปะลงบนถาดว่างๆ แล้วฉุดแขนผมออกวิ่งหนีป้า เขามีแต่วิ่งราว อันนี้จ่ายตังแล้ววิ่งกลัวเขาไม่รับตัง เออ ดี

“ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะร่าเลยนะมึง

ป้าทำท่าถอนหายใจ แต่ก็หยิบแบ้งห้าสิบขึ้นโบกลา

“ขอบใจนะพ่อหนุ่ม วันหลังป้าแถมไก่ให้แล้วกัน” ป้าแกตะโกนตามมา

ออกมาไกลสักระยะผมก็ลากให้มันหยุดวิ่ง มึงๆ กูซี่โครงบานแล้ว ไม่ได้ขายาวแถมเป็นนักกีฬาแบบมึงนะ

“พอ พอ กูเหนื่อย แฮ่กๆ”


ที่เอ้กับพงศ์บอกผมเมื่ออาทิตย์ก่อนท่าจะจริง  “ไม่รู้ฉายาพ่อแม็ตของเราซะแล้ว ขานี้เขาไม่อะไรหรอกค่ะ ใจดีกับทุกคน จนชะนีแท้ชะนีเทียมหลงใหลได้ปลื้มจนคิดว่าคุณพ่อแกมีใจหรืออ่อยนั่นเองค่ะ แต่ไม่จริง คุณพ่อใจดีเป็นปกติ ได้ฉายา แม็ตพ่อทุกสถาบันเลยค่า

นี่ขนาดป้าขายไก่ย่างยังหลงนาง งานพรีเมี่ยมจริงๆ

“เย็นนี้มึงมีเลี้ยงสายรหัสที่ไหน?” แม็ตถามผม ผมหันไปมอง แม่งกำลังกัดตับผมกิน มึงเลือกเนื้อไก่มาทำไมกินตับกูว่ะหา!

ผมแค่คิดจะเถียงว่า ‘มึงกินตับกู’ ก็เปลี่ยนใจไม่พูดอะไรดีกว่า ผมแย่งถุงไก่ย่าง หยิบไม้ที่แม็ตมันเลือกมากินประชด

“ไม่รู้ พี่เทไม่บอกอะไรกูเลย บอกแค่ให้เปลี่ยนชุดไปให้เรียบร้อย กับล้างท้องรอได้เลย พี่บัณฑิตมีแต่สายโหด แล้วเก็บกดด้วย เห็นว่านะ ทำงานมาคงเครียด”

“สายมึงนี่คนเยอะดีเนอะ กูเห็นคนอื่นๆเขาก็เลี้ยงกันยกสายๆ กูไม่เจอใครเลยนอกจากพี่โนอา”

“เออ ไม่เคยเห็นลุงมึงเลย แต่ปู่มึงอยู่ญี่ปุ่นใช่ป่ะ โคตรเจ่ง”

“พี่บอกว่าลุงไทร์”

“โห โหด แต่พี่มึงเทคมึงดีนะ เจอกลางวันก็เลี้ยงข้าว ตอนเย็นก็เรียกไปกินข้าว ดีออก คนเยอะๆใช่จะดีนะมึง ยิ่งแก่ยิ่งรับมือยาก”

“ก็คงงั้น”

เราเข้าห้องเรียนพอดี ก็เป็นการจบบทสนทนา

วันนี้ผมมีเลี้ยงสายรหัสครับ ผมค่อนข้างกังวน ตั้งแต่รู้ว่าพี่เทจะพาไปเลี้ยง มีปีหนึ่งคนเดียว ผมต้องโดนแกล้งแน่ไม่ต้องเดาเลย ที่ผมห่วงก็คือว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะไม่มีแม็ตไปด้วยน่ะสิครับ กระวนกระวายยังไงบอกไม่ถูก จะชวนมันไปด้วยก็ไม่ได้ แล้วพอมันไม่ไปด้วยเมาเสร็จจะไปนอนห้องมันก็แปลกๆ คือไปด้วยกันกลับด้วยกันมันปกติครับ แต่นี่ผมเมาแต่เจ้าของห้องต้องมานั่งรอนอนรอดึกๆดื่นๆ มันก็เกรงใจเป็น เมื่อวันก่อนผมถึงมีความคิดอยากหาหออยู่ แต่ก็โดนทุกคนห้าม ความคิดเรื่องมีหอเป็นของตัวเองจึงตกไป

วันนี้อีก ผมก็ห่วงตัวเองนะ กลัวจะไม่มีที่นอน คือตอนนี้นอนห้องพงศ์ห้องน้ำหรือห้องเอ้ก็ได้เพราะเริ่มสนิทกับทุกคน พอจวนตัวเข้าก็เลยถามทุกคนว่ามีใครว่างมั้ยคืนนี้ ไม่กล้าออกปากบังคับแม็ตรอตรงๆ นั้นเอง ผลก็เป็นอย่างที่คาดครับ พ่อเต็มใจรอผม(มโนล้วน) แต่ผมก็เกรงใจจริงๆนะ คือไม่อยากให้เขารู้สึกว่าผมเป็นภาระมากไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ บางทีคนเราสนิทกันก็ไม่ใช่ว่าจะใช้โน้นใช่นี่ได้ทุกอย่าง ยิ่งเป็นมันผมยิ่งไม่อยากให้รู้สึกว่าผมเป็นภาระของเขา

แต่ในขณะที่ผมพยายามสร้างช่องว่างให้เขาได้หายใจให้เขาใช้ชีวิตของตัวเองโดยไม่มีผมบ้าง ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกตัวเลย เขาทำทุกอย่างให้ผมมากมาย เขาทำดีกับผมทุกวันๆ ความคิดที่จะอยู่ห่างๆจากเขามันทำได้ยากขึ้นทุกทีๆ เขาไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าใจผมมันอ่อนยวบยาบ แค่เขาพยักหน้าเรียกให้ผมเดินตาม ผมก็แทบจะล่องลอยปลิวไปซบอกเขาอยู่แล้วให้ตายสิ


......................................


แล้ววันนั้น พลังแฝงที่ผมนึกว่าตายจากผมไปแล้วก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง พลังแฝงอะไรน่ะเหรอครับ พลังแฝงดึงดูดผู้ชายให้เดินตามไง
อย่างที่รู้ ผมเป็นเกย์ แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นเกย์หรือผู้ชาย เพราะ ผมถูกผู้ชายตามจีบตั้งแต่เด็กจนรู้สึกกลัวพวกคนที่เข้ามาจีบ พอจะเข้าใจไหมครับ ขยาดการถูกจีบ หรือผู้ชายที่เข้ามาคุยแบบแปลกๆ ผมเข็ดไปหมด แปลกนะ กลัวแต่ตัวเองก็เป็น ทำไมอ่ะ ก็ผมยอมรับความจริง ผมเป็นผมก็บอกเป็น ผมไม่ชอบผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ได้อยากมีรูปลักเป็นผู้หญิงด้วย ผมอยากเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ พอ!

อ้าวนอกเรื่อง

กลับเข้าเรื่อง ในวันนั้นที่ผมมีเลี้ยงสายรหัส แค่เดินเข้าร้าน(ผมเดินไปคนเดียวพวกพี่เทรออยู่ พี่บัณฑิตยังไม่มา) ก็มีโต๊ะที่ผมเดินผ่านชวนไปนั่งด้วย พอมานั่งที่โต๊ะกับพี่เทสองคน ก็มีผู้ชายแปลกหน้าสองคนมาขอชนแก้ว ตอนแรกผมนึกว่าเพื่อนพี่เท แต่พอเขาถาม

“สองคนชื่ออะไรเหรอ ไปต่อกับพวกพี่ไหม” ผมถึงเข้าใจว่าไม่ใช่คนรู้จัก

แต่เซ้นส์พี่ผมไวกว่า ตอบไปทันที

“อ้อ พอดีเมียไม่ให้กลับดึก ไอ้น้องผมก็เดี๋ยวแฟนมา ขอโทษนะครับ” ผมแค่พยักหน้าสนับสนุน เล่นเอาหนุ่มหล่อสองคนนั้นมองหน้ากันเลย

 ไล่เขาไปได้ พี่เทใส่ผมทันที

“ปกติกูอยู่คนเดียวมีแต่สาวมาขอไลน์ พออยู่กับมึงนี่ ผู้ชายตามกันเป็นแถว”

“ตามพี่รึเปล่า” ผมโบ้ยพร้อมๆ ยกแก้วขึ้นจิบ จริงๆผมรู้อยู่เต็มอกว่าผมเนี่ยแหละต้นเหตุ

ตอนเด็กๆ สมัยมัธยม ก็มีเพื่อนมาบอกว่าแอบชอบบ้าง รุ่นน้องตามให้ของทำนั่นทำนี่ให้เพื่อเกาะกระแสคู่จิ้นบ้าง รุ่นพี่ตะโกนบอกน้องๆพี่จะจีบน้องจนทำให้ผมรู้สึกอับอายบ้าง ผู้ชายสองคนแข่งกันจีบผมให้ติด ก็เคยมาแล้ว ตอนแรกก็คิดว่า อ้อ โรงเรียนผู้ชายเยอะไง ก็ปกติเล่นๆแซวๆกัน ที่มาก้อร่อก้อติส่วนใหญ่ก็รู้จักกันทั้งนั้น แม่งไม่รู้จีบจริงจีบเล่น หรือจีบกะอิเทรนกัน แต่พอเริ่มโต เสาร์อาทิตย์ไปเรียนพิเศษก็ยังโดน ผมเลยเริ่มแน่ใจ ว่าตัวเองหนังหน้าดีพอตัว แม่งขนาดไม่รู้กูนิสัยยังไงมึงยังกล้าเข้ามาจีบ ไม่คิดบ้างเหรอว่าหน้าดีนิสัยอาจจะเลวก็ได้

“อ้อ วันนี้มึงไม่ได้พกไม้กันหมามาด้วย”

“...ผม ผมลืมกินยาลดความหล่อต่างหาก”

“แถนะมึง”

“วันนี้พี่ที่มาชื่ออะไรกันบ้างนะพี่ เดี๋ยวผมเมาแล้วจำไม่ได้ชัวร์ ขอท่องจำก่อน” ผมเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งพี่เทก็หลอกล่อง่ายครับ พอหลากถามปุ้บก็ตอบปั้บ ฮ่าๆๆ เข้าทาง

“พี่กู ลุงมึงชื่อโจ้ พี่ปีสี่มีสองคนนะ พี่วีกับพี่ขุน นี่ไง พี่ขุนมาพอดีเลย”

“หวัดดีครับพี่ขุน”

“เออ เจอกูจนเบื่อแล้วสิพวกมึง” ก็ไม่เชิงครับ เพราะตั้งแต่เปิดเทอม มาเลี้ยงกับพี่ๆในห้องสองสามครั้ง พี่แกก็มาทุกครั้ง ผมก็ต้องจัดใหญ่จัดเต็มกับแกทุกครั้งไป ไม่ใช่จัดอย่างว่านะ หมายความว่าจัดแก้วไปให้เต็มเพื่อให้แกสั่งเบาๆเสียงเหี้ยมๆว่า หมดแก้ว... อย่า อย่าให้ถึงทีกูเป็นพี่บ้าง “วันนี้กูจะดูน่ารักไปเลยถ้ามึงเจอแก่ๆสายเรา”

“ใครโหดสุดพี่”

“พี่ชนะ รุ่น 44”

“อื้ม จริง แล้ววันนี้แกบอกจะมาด้วย มึงเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย ปีที่แล้วกูได้ถอดเสื้อวิ่งผ่านหน้าเซเว่นตอนเที่ยงคืน สามรอบ เสื้อก็ต้องเหวี่ยงๆรอบหัวไปด้วย” พี่เททำท่าให้ดู ผมนึกภาพตัวเองทำแบบนั้น โห แค่คิดก็สยอง รู้ไหมครับว่าเซเว่นหน้าซอยร้านเหล้าเนี่ย เที่ยงคืนคนเยอะกว่าเที่ยงวันอีกกกกก


แต่วันนั้นเหตุการณ์กลับตาลปัตร เพราะเมื่อพี่ชนะมาถึง ผมแนะนำตัวก่อนตามประเพณีเสร็จสัพ เงยหน้าขึ้นสบตาพี่แกเพื่อขอชนแก้ว ผมเห็นอะไรบางอย่างในตาพี่ชนะครับ

ทำนายไว้เลยถ้าคืนนี้ไม่โดนไอ้หมอนี่จีบ อย่าเรียกผมว่ามะนาว

“น้องมะนาวเหรอ” อย่า มึงรับชนแก้วกูแล้วอย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น!

“ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” ผมแค่พูดตามมารยาท แต่ดูเหมือนเขาจะชอบใจมาก

“อื้มๆ หลานคนเล็กทั้งทีจะดูแลอย่างดีเลย”

“พี่ถืออะไรมา” พี่เททักพี่ชนะ หยิบกล่องที่เขาถือติดมือมาพลิกๆดู

“กล่องเพิ่มความสัมพันธ์ มา เอามือถือทุกคนมาใส่กล่อง” ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายครับ ทุกคนเข้าใจดีว่าแบบนี้แปลว่า วันนี้จะไม่มีสังคมก้มหน้า

“พี่แม่งเผด็จการ”

“...” ผมหยิบมือถือตัวเองออกมา ในหัวหมุนไปหมด จะบอกแม็ตยังไง จะเรียกมันมารับได้ไง ถ้าเรียกไม่ได้กูก็ต้องไม่เมา คิดได้อย่างนั้นก็ตั้งสติบอกตัวเองว่าคืนนี้จะไม่กินจนเมาพับจะต้องครองสติกลับหอเองให้ได้ หรืออย่างน้อยก็จนกว่าวงจะเลิกแล้วโทรตามมันก่อนสิ้นใจ

พี่ชนะถามนั้นถามนี่ผมนิดหน่อยหลังจากนั้นก็หันไปคุยกับรุ่นพี่รุ่นน้องเขาตามประสาคนไม่เจอกันนาน แต่แป็บๆเรียกผมชนแก้วๆ จนผมเริ่มเบลอ แม่ง ยังไม่ห้าทุ่มเลย กูจะไปแล้ว ปลีกตัวก็ไม่ได้ ทำไงดี โทรไม่ได้ ไลน์ก็ไม่ได้

ผมจะทำไงล่ะเนี่ย...

“มะนาวอยู่หอแถวไหนเดี๋ยวเลิกพี่ไปส่ง”

“อ้อ เปล่าครับผมไม่ได้อยู่หอ ปกติผมขับรถกลับบ้านแต่”

“เมางี้จะขับกลับได้ไง”

“มันไม่กลับพี่ มันนอนห้องเพื่อนได้” พี่เทช่วยตอบให้

“จะดีเหรอ ไปคอนโดพี่ก็ได้นะใกล้ๆ”

ไม่ ผมไม่ไป ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมคิดแต่ผมพูดไม่ได้ เพราะผมพยายามส่ายหน้าผมรู้สึกโลกหมุนมาก แม่งงงงง กูยังไม่ได้ไลน์บอกแม็ตเลย แม่งงงงง สติจ๋า ลาก่อน


ครับ หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ไม่ได้จริงๆ เชื่อผมสิ

ในภาพเบลอๆ ผมอยู่ในห้องโทนสีฟ้าที่ไม่คุ้นเคย ที่นอนก็กลิ่นแปลกๆไม่ชิน คนที่กำลังเดินเข้ามาก็ไม่ใช่คนที่ผมหมายตา

“เฮ้ย!” ผมสะดุ้งตื่นสุดตัว ไม่รู้คนในฝันนั่นเป็นใคร แต่มันคือฝันร้าย!

ผมมองไปทั่ว มุมเดิมกับที่มองอยู่ในฝัน ซ้าย ขาว ห้องสีคลีม ตู้เสื้อผ้ามีกระจกบานใหญ่ ใช่หมด แล้วคนล่ะ คนอยู่ไหนเตียงข้างตัวว่างเปล่า คนหาย ผมมองหาแม็ตไปทั่วห้อง

อ้อ

ผมที่คงทำหน้าเหวอสุดขีด หันไปเจอแม็ตนั่งอยู่ตรงโต๊ะหนังสือ เปิดโน้ตบุคใส่หูฟังอยู่แต่มองมาทางผมเหมือนกัน

เออ กูกลับมานี่ได้ไงไม่รู้ แต่กลับมาแล้วก็หมดห่วงเรื่องฝันร้ายเมื่อกี้ล่ะว่ะ แม่ง

“เป็นอะไรรึเปล่า?” แม็ตขมวดคิ้วถามผม

 “เปล่า เห้อ กูนึกว่ากูไม่ได้นอนนี่” ผมเลยถอนหายใจโล่งออกออกมาโคตรยาว

“มึงไม่นอนนี่แล้วจะไปนอนไหน” แม็ตถอดหูฟังลุกขึ้น เดินไปทางตู้เย็น เขาทำสิ่งที่ผมโคตรปลาบปลื้มอีกแล้ว หยิบยากับน้ำมาให้ทันที ผมพยายามก้มหน้าทำเป็นปวดหัวทั้งที่ ที่จริงผมพยายามซ่อนใบหน้าปลื้มปริมไว้

“ก็... ขอบใจว่ะ ก็เมื่อคืนที่กูจำได้อย่างสุดท้ายคือพี่เทจะให้กูไปนอนห้องเขาเพราะเห็นกูเมาแล้ว” จริงๆเป็นพี่ชนะครับ แต่ผมเลือกใช้ชื่อพี่เทแทน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“แล้วมึงบอกพี่เขาว่าไง”

“กูบอกแค่กูไม่ไป กูไปไม่ได้”

“มึงไม่บอกพี่เขาไปเลยวะ ว่าเดี๋ยวกูไปรับมึงให้เขาจะได้ไม่ต้องห่วง ถ้าจะช่วยก็ช่วยโทรบอกกูแทนมึงที่เมา”

“กู กู กูกลัวมึงไม่ไปรับกู”

“...” แม็ตถอนหายใจ ท่าทางอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้รำคาญผมหรือรู้สึกเหนื่อยกับผมกันแน่ ผมนี่หน้าซีด

“กลัวมึงลำบากใจที่กูมาค้างด้วยบ่อยๆ ขนาดเมื่อคืนกูเมาๆ กูยังฝันว่ามึงด่ากูเลย คิดดูคิดจนเก็บไปฝัน กูก็เกรงใจเป็นนะเว้ย” ผมยิ่งพูด มันยิ่งนิ่งครับ มึงพูดอะไรหน่อย กูใจไม่ดี นิ่งแบบนี้ไล่กูออกจากห้องเลยยังดีซะกว่า

“ไม่ใช่เลย”

“กูไม่อยากให้มึงต้องมีภาระ” ผมห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรง คงถึงเวลาเก็บข้าวเก็บของออกจากห้องนี้ถาวร

“มึงฟัง” ผมเหลือบตามองหวาดๆ มันไม่เคยจริงจังกับผมมากเท่านี้เลย

“ต่อไปนี้ ถ้ามึงกินเหล้า ทั้งไปกับกูหรือกูไม่ได้ไปด้วย มึงไม่ต้องขับรถกลับบ้าน อันตราย ถ้ากูปล่อยมึงกลับ กูคงรู้สึกผิดถ้ามึงเป็นอะไรไป และที่สำคัญ ไม่ต้องไปค้างที่อื่น ให้มาค้างกับกู กูมีเหตุผลของกู แต่เชื่อกูเถอะว่ากูหวังดีกับมึงจริงๆ”

ผมที่สติยังไม่ค่อยเต็มดี ไล่เรียงคำพูดมัน นึกถึงความหมายพยายามเข้าใจทีละคำๆ

เถ้าเมา ไม่ให้ขับรถกลับบ้าน ถ้าเมาต้องมานอนนี่ เมานอนนี่?

“ถ้าไม่เมากูนอนห้องคนอื่นได้ป่ะ?”

“ได้ แต่ห้องกูก็ได้ มึงชินกับห้องกูแล้วนี่” ไอ้ชินมันก็ใช่ แต่ความอยากมานอนนี่ของกูมีมากกว่าที่มึงคิดฝันถึงเลยนะ แต่กูไม่บอกมึงหรอก

“แล้วทำไมเมาแล้วค้างที่อื่นไม่ได้?”

“เออน่า ไปกินโน้น ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้”

“...” ผมเดินโซซัดโซเสไปทางที่มันชี้ อะไรอุ่นๆตอนสร่างเมามันดีมากจริงๆ

“ดูโด้ยอิ ต่อลำโพลงๆ”


“สรุป มึงจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าทำไมถ้ากูเมากูไปนอนห้องคนอื่นไม่ได้” ผมยังติดใจ

“...” เงียบไปนานเลยครับ มันหันไปดูหนัง กับมองหน้าผมสลับกันไปมาสามสี่ที นี่ผมเผลอทำอะไรให้มันไม่พอใจอีกรึเปล่า?

“บอกมาเถอะ กูจะได้คอยระวังตัวเองด้วย เพื่อกูจะได้ไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนไง”

แม็ตคิดหนักมากครับ คิดเลขโจทย์แปดบรรทัดมันยังคิดไปยิ้มไป นี่มึงคิดอะไรทำไมหน้าเครียดขนาดนี้?

“แน่ใจนะว่าถ้ามึงรู้แล้วจะทำให้มึงระวังตัวมากขึ้น” มึงลังเลขนาดนี่ กูเลยลุ้นไปด้วยเลยแม่ง

“อื้ม” ใจผมไม่อื้มหรอก แต่ปากก็รับปากไปก่อน ลองฟังเหตุผลของมันก่อน

“มึงเมาแล้วมึงอ้อล้อ”

เชี้ยยยยยยยยยยยย หน้าตาย แต่ผมโคตรเก็ท ภาพพวกนั้น ความรู้สึกพวกนั้นกูนึกว่าเพราะกูชอบมึงเลยเก็บไปฝันมาตลอด ตอนเมาๆ ภาพเบลอๆ จริงเหรอ ใช่เหรอ

ในฝันจูบโคตรดูดดื่ม!

“บ้านมึงคนเหนือทำไมใช้คำใต้ แล้วมันแปลว่าอะไร” ผมตีมึนทำเป็นไม่เข้าใจ แต่มือสั่นมาก ไม่ได้ออกอาการไม่ได้เด็ดขาด อย่านะมึง แต่ผมจะห้ามเลือดไม่ให้สูบฉีดไปที่หน้าได้ไงไหว

ทุกครั้งที่ผมเมา ผมรู้สึกว่าผมหลับฝันดีตลอดบางทีก็จำเรื่องในฝันได้บางทีก็จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่ามันมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น บางอย่างที่ทำให้ผมหลับสบาย บางอย่างที่มีภาพไอ้หมอนี่อยู่ด้วย ถ้าทั้งหมดนั่นไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ความรู้สึกที่ถูกโอบกอดนั่นคืออะไร ความรู้สึกที่ถูกสัมผัสนั่นจริงถึงตรงไหน ผมแยกไม่ออกนั่นแหละปัญหา

“มึงเมาแล้วมึงจะยั่วคนที่อยู่ใกล้ๆ”

หัวผมหมุนเป็นลูกข่าง

มึงพูดจริงหรือมึงพูดให้มันดูไม่ร้ายแรง เพราะในฝันกูร้ายแรงกว่านั้นมากเลยมึงงงงงง มึงหลอกกูแน่ๆ มึงไม่กล้าพูดว่ากูป้ำมึงใช่มั้ยเพื่อน กูขอโทษ ความเมาทำให้กูไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้

“มึงหมายถึง ยั่วโมโห ใช่มะ?” ผมไม่คิดว่ามันจะเลือกใช่คำแบบนี้ แม่ง มึงพูดคำแบบนี้ด้วยหน้าจริงจังมากอ่ะ

“ไม่ใช่... มึงอย่าให้กูต้องขยายความมากกว่านี้เลย” วูบหนึ่งผมเห็นมันหน้าแดง เกาหัวเขิน และหลบตา เป็นภาพที่ สุดๆ

กูเนี่ยอายสุดๆ ความหมายแม่งชัดเจนมาก ชัดเจนว่ากูยั่วมึงงงงงงง คำพูดดูเบาการกระทำกูคงแรงกว่านั้นมากสิน้าาาา

“เชี้ยยย!” ผมแทบแทรกแผ่นดินหนี โคตรของโคตรน่าอาย

“...”

“ที่มึงรู้นี่เพราะว่า กู... กับมึงงั้นสิ ตายๆๆๆๆ กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” โคตรน่าอาย แล้วตลอดเวลา มึงทำตัวปกติกับกูมากๆ ทั้งที่มึงมีความจริงโคตรน่าอายของกูอยู่

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ผมถามโดยที่ไม่มอง ถามทั้งที่อยู่ในผ้าห่ม ตอนนี้ผมคลุมโปงไม่กล้าแม้จะสบตา

“ก็ตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมนั้นแหละ” ร่างกายช่างแสนรู้ไวเท่าจิตใจเชียวนะ แม่งงงงงงง “ไม่เป็นไร กูไม่ถือ คือกูเข้าใจว่ามึงเมาไง” มึงไม่ต้องพยายามปลอบใจกู ถ้ามึงรู้ว่ากูคิดอกุศลกับมึงมากมายกว่านั้นหลายเท่ามึงอาจจะเกลียดกูก็ได้ เก็บความเป็นคนดีของมึงแป็ปนึงเถอะ 

“มึงไม่รังเกียจกูเหรอ”

“มันไม่ถึงขนาดนั้น มึงอย่ามองตัวเองไม่ดี มึงบอกเองว่าก่อนนี้ไม่เคยกินเหล้าหนักๆ เลย เพิ่งมากินตอนเข้ามหาลัย ก็แปลว่ามึงไม่ได้ไป เอ่อ ไปยั่วคนอื่นไม่เลือกหน้า”

แค่คนมาเสนอหน้ามองตากูสุ่มสี่สุ่มห้ากูก็เมินแล้วล่ะ

“ที่กูไม่อยากให้มึงไปค้างกับคนอื่น กูกลัวเขามองมึงไม่ดี ดีไม่ดีมึงอาจจะเจอของจริง มึงจะซวยเอา”

เขาพยายามบอกผมซ้ำๆว่าเขาโอเค เขาไม่รังเกียจ เขาไม่ได้เห็นผมเป็นตัวประหลาด ไม่รู้เขารู้ไหมว่าในสถานการณ์อันน่าขายหน้านี่ เขาได้ให้ความหวังผมก้อนโตเชียว ตายก็ยอม มึงอย่ากลับคำมาไล่กูทีหลังแล้วกัน กูไม่ไปไหนแล้วนะเฟร้ยยย

“กูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่ะเพื่อน ขอบใจจริงๆ กูจะเชื่อฟังมึงทุกอย่างเลยเพราะงั้นมึงอย่าให้กูไปทำเรื่องน่าอายกับคนอื่นเชียวนะเว้ย”

“เออดิ กูก็บอกอยู่นี่ไง ว่าห้ามไปนอนไหนถ้ามึงเมา”

คร้าบพ่อ ผมเข้าใจแล้วคร้าบบบบบ

“อื้ม เข้าใจแล้วๆๆๆๆๆๆ”

กูเข้าใจ แต่กูอายโคตรๆ วันนั้นเลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน  โชคดีที่ติดเสาร์อาทิตย์ กว่าจะถึงวันจันทร์ผมเลยมีเวลาทำใจและฝึกปั้นหน้านิ่งพอสมควร


..................................................

(มีต่อ)

   V
   V

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

(ต่อ ทบที่ 9)


......................................


ดูเหมือนบททดสอบจะประเดประดังเข้าหาผมมากมาย

มีผู้หญิงเข้ามาวุ้นวายกับแม็ตของผมแทบไม่เว้นเช้าเย็น ถ้าไม่สวย หุ่นไม่ดีพี่จะไม่ห่วงเลย แต่แม่ง สาวชมรมเชียร์หลีดเดอร์ ขาวหมวยตัวเล็กลุคเน็ตไอดอล แค่เห็นก็แพ้แล้ว แต่โชคดีที่พงศ์หันตามผมไปเห็นเข้า พงศ์ไม่พูดพล่ามทำเพลงเดินเข้าไปลากแม็ตออกมาเฉย

พงศ์ กูรักมึงมากอ่ะ เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงชาบูตามที่มึงเคยว่าไว้นะ

แต่ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ที่พงศ์พาแม็ตมาไว้กลางวงพี่ๆชมรมสัน เหมือนมันจะโดนตบตูดลูบเป้าสักสองสามทีถ้าผมตาไม่ฝาดคนแรกก็พงศ์เองนั่นแหละ ไอ้นี่ก็ไม่ปัดป้อง ยืนทื่อให้เขาจับโน้นจับนี่ แต่ก็ดีกว่าให้มันนั่งอยู่ที่โต๊ะกับสาวสองต่อสองล่ะว่ะ เอามาไว้นี่ก็ยังดี

แล้วก็นะ เผลอแป็ปเดียวมันก็กลับไปนั่งเฝ้าโต๊ะ เพราะไม่ชอบเต้น ผมเห็นชะนีนางเดินเดินกลับเข้าไปประจำที่อย่างไว ผมไม่สนใจแล้วเวลานี้ มอมตัวเองดีกว่า เมาเมื่อไหร่พ่อแม็ตก็ต้องมาดูแลผม

ว่ะห้าฮ่าๆๆ เป็นไอเดียบรรเจิดของคนเมาไปแล้วครึ่งทางที่ได้ผลดีอย่าบอกใครเชียว

ผมยังไม่ทันเมาจนขาดสติ แค่ทำท่าโซเซพอเป็นกระสัยก็มีคนมาประคองกลับไปนั่งพัก ชีวิตดี๊เด

กว่าแอลกอฮอล์ที่ผมซดเข้าไปจะออกฤทธิ์ ผมก็ควบคุมให้มันหยุดแค่ตรงเกือบเมาไม่ได้ซะแล้ว ไม่นาน ผมก็จำอะไรไม่ได้อีก เหมือนเคย หนังม้วนเดิม



................................



ผมนึกว่าชาตินี้จะไม่ต้องเจอมันแล้วซะอีก ไอ้พี่ปราณ หมอนี่ตามรังควาญผมอยู่เกือบสองปีไม่รู้ติดใจอะไรผมนักหนา ไม่เคยให้ความหวังมึงนะเว้ย


ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเรียนที่นี่ ผมดันมาเจอเขานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างโรงยิมตอนที่จะมาดูแม็ตคัดตัวบาส ผมเห็น แต่ทำเป็นไม่เห็น ทำไม่สนใจให้มากที่สุด เดินพรวดๆผ่านไปให้ไวที่สุด แม่งหน้าตาดี แต่อดีตทำให้ความหล่อของมันติดลบในสายตาผม

“มึงนั่งแถวนี้ล่ะกัน” แม็ตบอกผม พาผมเดินขึ้นมาอัฒจัน นั่งได้แปปเดียวพี่ปราณก็มันก็เดินเลี้ยงลูกบาสไปมาหลบซ้ายหลีกขวากับเพื่อนมันอยู่กลางสนามบาสข้างล่าง ผมไม่สนใจเรียกแม็ตให้เซลฟี่ด้วยเป็นที่ระลึก ผมยิงฟันทำหน้าประหลาด แม็ตผู้น่ารักทำตาโตเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง

นี่ถือเป็นรูปคู่รูปแรกที่ผมถ่ายกับแม็ตเลยนะเนี่ย ตื่นเต้นๆ จะเอาไปอวดเจ้เฟิร์น (ถ้ารูปเดียวผมแอบถ่ายมันไว้ตรึมแล้วครับ)
ผมกำลังหัวเราะรูปที่ออกมา แต่หางตาก็เห็นว่าไอ้พี่ปราณมองผมอยู่ ผมเลยไม่เงยหน้าขึ้น ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือต่อไป

“ตอบพี่กูแทนที บอกไปเลยว่ามึงคุย กูไม่ว่างคัดตัวบาส มีไรมึงตัดสินใจเลยนะ” พอพี่เรียก มันก็ยัดมือถือใส่มือผม ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ลงไปข้างล่าง

ผมพิมพ์บอกพี่โนอา


No+A :    อยู่ไหน เดี๋ยวกินข้าวกัน

Maths :  ผมมะนาวนะพี่ แม็ตมันใช้ผมตอบมันไปคัดตัวบาสแล้ว

Maths :  กินไหน กี่โมง เดี๋ยวผมบอกให้

No+A :   อ้อ หนูอยู่ยิมบาสกันใช่ป่ะ

No+A :   เดี๋ยวไปหา รอนั่นแหละ

Maths :  คร้าบบบ

Maths :  แต่ว่า หิวหนมจุงเบยยยย

No+A :   5555 เข้าใจแล้วๆ


อย่าแปลกใจว่าทำไมผมอ้อนพี่โนอา ทั้งที่เคยอิซซี่พี่เขามาก เพราะผมรู้มาว่าพี่โนอามีแฟนอยู่แล้ว ว่ะฮ่า เพราะฉะนั้นจะหึงไปก็เปล่าประโยชน์ สู้อ้อนไว้มีอะไรก็เข้าทางพี่โนอา แหล่มเลย

ระหว่างรอขนม ผมมองไปรอบๆ อื้มมม ผมเห็นคนรู้จักอีกคน ลูกหวายกำลังยืนโบกมือให้ผมจากอีกฝั่งสนามบาส ลูกหวายเป็นเพื่อนโรงเรียนครับ สวยหวานเป็นคนดังประจำโรงเรียนเย ไม่สนิทมาก แต่ด้วยความที่อยู่ห้องเดียวกัน ก็เคยคุยกันบ้างทำงานด้วยกันมาบ้าง

เธอทำให้ผมต้องฝึกความอดทนของตัวเองอีกครั้ง

“หวัดดีมะนาว มา หวายช่วย” ลูกหวายเข้ามาอาสาช่วยผมตักไข่เจียวแบ่งใส่จานครับ
“มาเลยๆ ถ้าทำคนเดียวไม่น่าได้กิน”

“ฮ่าๆๆ เอ่อ มะนาวไม่ลงบาสเหรอ เมื่อก่อนเคยเล่นนี่”

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ ว่าจะเข้าชมรมอื่น”

“อ้อ” ลูกหวายพยักหน้าเข้าใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้คนหล่อเดินเข้ามา

“มึงจะกลับบ้านไหม? เดี๋ยวดึกนะ” แม็ตเป็นห่วงผมออกหน้าออกตาอีกแล้ว น้ำตาจะไหล คนอะไรว่ะ หล่อแล้วใจยังหล่ออีก

“ยังไม่กลับ กูจะกินข้าวฟรีก่อน” ผมชูจานไข่เจียวที่กำลังตักแบ่งให้แม็ตดู เขาหัวเราะหึหึ ก่อนจะรับจานเดินออกไปวาง

“เออ แฟนมะนาวเหรอ?” ลูกหวายกระซิบถามผมทันที แหม อยากจะตอบใช่ มากมาย แต่ได้แค่ส่ายหน้า

“ไม่ใช่ ข้างรหัส”

“เหรอ ดูเป็นห่วงนาวจัง”

“ปกติ มันดีกับทุกคน” อันนี้ผมบอกตัวเอง มันดีเป็นปกติ มึงอย่าหวั่นไหว อย่าเคลิ้มๆ มึง มะนาว ตั้งสติๆ

“เหรอ ถ้าไม่ใช่แฟนนาว งั้นเราก็จีบได้สิ”

 “เมื่อกี้อ่ะ ตอนเริ่มคัดตัว ทีมหญิงไม่มีสมาธิเลยรู้ป่าว”

“อย่าบอกนะ ว่าเพราะไอ้แม็ต”

“ใช่เลย ทุกคนพากันมอง ขนาดพี่ปีสองปีสามยังถามปีหนึ่งเลยว่ารู้จัดกันไหม”

“เขาว่าไง”

“เมบอกว่าพวกเธอเป็นคู่จิ้นกัน เห็นเดินด้วยกันตลอด พวกในห้องจิ้นกันหนักมาก”

“ไปจิ้นกันตอนไหนว่ะ” ผมตอบปัดๆ แต่ใจจริงผมรู้อยู่เต็มอก แอบร้องว้ากในใจ จิ้นเลยๆ เผื่อมันจะจริงเข้าสักวัน ฮ่าๆๆๆ “สาวๆจ๋อยเลยดิ มีคู่จิ้นเป็นผู้ชายแบบเนี่ย”

“ก็ไม่นะ บางคนที่เฉยๆมากรี้ดเอาตอนบอกว่ามีคู่จิ้นเนี่ยแหละ ฮ่าๆๆ อย่าทำหน้างั้นดิ”

ผมนี่เหวอจริงครับ ผู้หญิงสมัยนี้ ผู้ชายจะชอบกันไม่ว่าแถมยังสนับสนุนอีกแน่ะ

“นี่ เอานี่ไปให้เขาหน่อยสิ สงสัยไปห้องน้ำ” ผมรับผ้าเย็นมา

“อ้อ อื้มได้”

“นาว ขอเบอร์แม็ตหน่อยสิ นี่กะจีบผู้ชายครั้งแรกเลยนะเนี่ย”

“ถ้าเบอร์ ขอถามเจ้าตัวก่อนนะ ว่าไง”

“เหรอ อื้ม งั้นฝากถามด้วยนะนาว”

ถ้ามีคนมาขอเบอร์ขอไลน์แฟนคุณ คุณจะให้ไปไหม? แน่นอนว่าไม่ให้ใช่ไหมล่ะ แต่นี่ผมไม่ใช่แฟนเขาแล้วเขาก็ไม่ใช่แฟนผม ผมเลยได้แต่ตอบลูกหวายไปว่าต้องถามเจ้าตัวก่อน


ซึ่ง แม็ตก็ตัดสินใจในแบบที่ทำให้ผมอึ้งอีกครั้ง เขายอมให้เบอร์กับลูกหวายไปเพราะกลัวว่าเพื่อนจะโกรธผม ที่สุดแล้วเขาก็ยังแสดงออกความห่วงใยต่อผมมากกว่าจะแคร์ว่าคนอื่นจะมองยังไง

คืนนั้นผมห่วงแม็ตมาก ไม่ได้ห่วงว่าเขาจะเมา แต่ห่วงว่าจะไปเสียท่าใครที่ไหนเข้า เพราะรู้สึกว่าทีมบาสหญิงก็ไปด้วยกัน ลูกหวายตอนไม่ได้ใส่ผ้าใบชุดบาสเขาสวยมาก คนที่ชื่อซีที่เจอวันก่อนก็คงหาทางมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆแม็ตอีกแน่ แล้วจะคนอื่นๆ อีก

ผมนอนไม่หลับเลย ผมปิดไฟ นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง จนเลยตีสองแม็ตก็ยังไม่กลับ ผมกระวนกระวายพลิกตัวไปมา จนได้ยินเสียงตึงตังที่ประตูห้อง ผมกดล็อคมือถือรีบวางไว้โต๊ะข้างเตียง แล้วนอนหลับตา

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องแกล้งหลับ แต่เอาเถอะ ตื่นก็ไม่รู้จะคุยอะไร

ผมแอบเปิดตาขึ้นดูที่ประตู ทำไมนานจังว่ะ? ก่อนจะหลับตาทันทีที่ได้ยินเสียงหมุนลูกบิด แสงวาบขึ้นจากการเปิดประตูห้อง และมืดลง เสียงฝีเท่าหนักๆ แต่ไม่สม่ำเสมอ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่ฉุนจนได้กลิ่นตั้งแต่เปิดประตูห้องเข้ามา

แม็ตเมาเหรอ?

ผมนี่แทบอยากเลิกแกล้งหลับเพื่อลืมตาขึ้นดู

เตียงฝั่งที่ว่างยวบลงเพราะน้ำหนักตัวไอ้ตัวสูง

“หื้ม” แม็ตออกเสียงไม่เป็นคำ เขาไม่ได้ล้มตัวลงนอน มีบางอย่างแตะแก้มผม ลมหายใจอุ่นๆที่รดแขนทำให้รู้ว่าเขายื่นหน้ามาใกล้ผมแค่ไหน ผมได้แต่นอนนิ่ง

มือใหญ่ลูบแก้มผมเบาๆ นิ้วมือนิ้วนึงของเขาแตะที่ริ้มฝีปากผม เขาสัมผัสมัน ก่อนเขาจะทำในสิ่งที่ผมไม่คิดไม่ฝัน

แม็ตแตะริมฝีปากลงมาที่ปากผม กลิ่นไอเฉพาะตัวของเขากับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้ผมเมามาย จูบของเขาไม่ได้นุ่มนวลแต่ก็ไม่ได้รุนแรง เขาจูบผมอย่างเชื่องช้า อ่อนหวานจนผมไม่กล้ารับจูบหรือขยับปากจูบตอบ ผมได้แต่นอนนิ่งๆ ไม่กล้าแม้จะหายใจ

แต่ไม่นานจูบของเขาก็เปลี่ยนไป เขาจาบจ้วงและรุกเร้า ลมหายใจเขาถี่กระชั้น จังหวะเขาเร็วและกระชับ เขาสัมผัสไปทั่ว จนผมไม่อาจแกล้งหลับต่อไป ผมขยับปากโต้ตอบอย่างเงอะงะ ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงกับสนานการณ์แบบนี้ ผมตบๆเขาเบาๆเรียกสติ แต่เขากลับจูบผมหนักหน่วงกว่าเดิม จากที่อยากให้เขาหยุด กลายเป็นผมโอบรอบคอเขาให้เราจูบกันไปมา เรียวลิ้น ริมฝีปากเหมือนมีชีวิต

แบบนี้รึเปล่าที่เราทำกันตอนที่ผมเมาครั้งก่อนๆ แบบนี้รึเปล่าที่เขารู้สึก แบบนี้รึเปล่าที่ทำให้นอนฝันหวานทั้งคืนจนเช้า


ที่ผมจูบตอบ ผมแค่หวังว่ามันจะช่วยให้เขาหลับฝันดีแค่นั้น จริงๆนะ



--------------------------------------------
TBC.




หายไปหลายวัน ขอโทษด้วยจ้า กลับมาแล้วน้า คิดถึงกันบ้างไหมมมม คนเขียนคิดถึงคนอ่าน้นาาาาาา

ชดเฉย ตอนนี้ยาวกว่าตอนปกติ 555 เพราะจะยัดมะนาวให้หมด ก่อนจะเดินเรื่องหลักต่อ
ตอนนี้คำผิดอาจจะเยอะนิดนึง เพราะตรวจทานแค่รอบสองรอบ ไว้ว่างๆจะมาแก้ให้นะคะ


ปล. ทำไมไม่มีใครทักว่าคนเขียนจั๋วหัวเรื่องผิด เขียน บท เป็น ทบ แง้ๆ อายอ่ะ ไปแอบแป็ป


ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

รออออออ ติดตาม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พ่อคนดีศรีสังคม

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ถ้าจะเป็นกันขนาดนี้ได้เสียเป็นผัวเมียกันเลยเถอะ คนอ่านลุ้น!!

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แทบักกกกกกกกกก :hao6:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
โอ้ย น่ารักทั้งคู่เลย พ่อแม็ตนี่ก็โคตรดี
เมื่อไหร่จะรักกัน

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ลุ้นเหนื่อยอ่ะ
5555
รีบๆรู้ใจกันไวๆน้า
 :mew1:
สนุกดีค่าเป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มานาววว ลูกกก ลูกเป็นหนักมาก ไหวมั้ยลูก :ling1:
หนูหล่อเลือกได้ขนาดนี้ อย่าไปเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่แมตเชียวนะ ไม่งั้นคนอ่านงอนนนน

สุดท้ายนี้ ขอให้ ได้กันๆๆๆๆๆๆ
55555555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด